The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Brands Summer Camp ครั้งที่ 27 วิชาสังคมศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by BS_Library, 2019-12-01 07:04:52

Brands Summer Camp ครั้งที่ 27 วิชาสังคมศึกษา

Brands Summer Camp ครั้งที่ 27 วิชาสังคมศึกษา

Keywords: สังคมศึกษา

2. รัชสมยั สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
2.1 ราชธานี - กรงุ ศรอี ยธุ ยาเปน็ ศูนยก์ ลาง
2.2 การปกครองส่วนกลาง
• จตสุ ดมภ์

กรม เทคนิคครูพี่หมุย ผปู้ กครอง
เวยี ง (เมอื ง) ⇒ นครบาล ขุนเวยี ง ⇒ เจา้ พระยายมราช
วงั ⇒ ธรรมาธิกรณ์ ขนุ วงั ⇒ พระยาธรรมาธิบดี
คลัง ⇒ โกษาธบิ ดี ขนุ คลัง ⇒ พระยาโกษาธบิ ดี
นา ⇒ เกษตราธกิ าร ขุนนา ⇒ พระยาพลเทพ

• การแบง่ การบรหิ ารราชการออกเป็น 2 สว่ น
- สมุหกลาโหม (เจา้ พระยามหาเสนาบด)ี - ควบคุมดแู ลกิจการทหารท่ัวราชอาณาจักร
- สมุหนายก (เจา้ พระยาจักรีศรีองครักษ์) - ควบคุมดแู ลราชการฝ่ายพลเรือน และจตสุ ดมภ์

พระมหากษตั ริย์

สมุหกลาโหม สมุหนายก

กรมอาสา นครบาล (เวยี ง)
กรมม้า ธรรมาธิกรณ์ (วัง)
กรมชา้ ง โกษาบดี (คลงั )
กรมชา่ งสบิ หมู่ เกษตราธิการ (นา)

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 27 _____________________สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (99)

2.3 ปจั จยั ท่ที ําใหส้ มเด็จพระบรมไตรโลกนาถ10 ปฏิรปู ระบบการปกครองและบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ
- อาณาเขตของอยุธยากว้างข้ึน ระบบเศรษฐกิจขยายตัวมากข้ึน และไพร่พลมีจํานวนมากขึ้น

ทําใหจ้ ําเปน็ ต้องมกี ารขยายหนว่ ยงานมากข้นึ ดว้ ย
- ปญั หาการแยง่ ชงิ อํานาจ - ราชวงศ์ท่ีครองเมืองลูกหลวงมักสะสมกําลังเพื่อแย่งชิงอํานาจ

เช่น ในรัชสมัยพระราเมศวรครองราชย์ครั้งท่ี 1 ขุนหลวงพ่องั่วยกทัพมาแย่งชิงพระราชบัลลังก์ หรือภายหลัง
พระเจา้ อนิ ทราชาเสด็จสวรรคต เจา้ อ้าย และเจา้ ย่ี ทําสงครามแย่งชิงราชสมบัติส้ินพระชนม์ท้ังคู่เจ้าสามพระยา
จงึ ไดข้ ้ึนครองราชย์

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (100) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27

2.4. การปกครองส่วนภมู ภิ าค
• เมืองหนา้ ดา่ น หรอื เมอื งลูกหลวง
- ยกเลิกเมอื งหน้าด่าน และการสง่ ราชโอรส หรือราชวงศไ์ ปปกครอง
- ขยายเขตการปกครองราชธานีออกไปถงึ เมอื งท่อี ยู่รายรอบ เรียกว่า “วงราชธาน”ี
• หัวเมอื งชั้นใน11
- มฐี านะเป็นเมืองชนั้ จัตวา
- ผู้ปกครอง คือ ............... ไม่มีอํานาจในการสั่งการด้วยตนเอง ต้องฟังคําส่ังจากเสนาบดี

ในราชธานี
• หัวเมอื งชั้นนอก
- อยู่ถดั เมืองชน้ั ในออกไป แบ่งออกเปน็ ชัน้ เอก โท ตรี ตามขนาดและความสําคญั ของเมือง
- ผ้ปู กครอง คือ ขนุ นาง หรอื เจ้านายท้องถน่ิ
ƒ หัวเมอื งชั้นเอก12 - เมืองขนาดใหญ่ มีความสําคัญทางด้านยุทธศาสตร์ กษัตริย์จะ

แตง่ ต้งั ราชวงศห์ รอื ขนุ นางช้ันสงู ไปปกครอง
ƒ หัวเมืองชน้ั โท13 - ขนาดและความสาํ คัญรองลงมา
ƒ หวั เมืองช้นั ตร1ี 4 - เมอื งเลก็ ๆ

• หวั เมอื งประเทศราช15
- มอี สิ ระในการปกครอง โดยเจา้ ท้องถ่ิน
- สง่ เคร่อื งราชบรรณาการ และกองทพั เม่ือเกิดสงคราม

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (101)

3. รชั สมัยสมเดจ็ พระเพทราชา16
3.1 ปจั จยั ทนี่ าํ ไปสูก่ ารปรบั ปรงุ การปกครอง
• สมุหกลาโหมมักก่อการยึดอํานาจกษตั ริย์ เน่อื งจากเป็นผคู้ วบคุมดูแลฝา่ ยทหารท่วั ราชอาณาจกั ร

ทําใหม้ ีอิทธพิ ลและอาํ นาจ จงึ มักสะสมกาํ ลังและไพรพ่ ล
• เวลาเกิดสงครามเกิดปัญหาในการควบคมุ ไพร่พล เพราะมีการแบ่งแยกหนา้ ทีร่ ะหว่างฝ่าย

ทหารและพลเรอื น
3.2 การปกครองส่วนกลาง - แบง่ เขตและหนา้ ทกี่ ารปกครองใหม่

พระมหากษตั รยิ ์

หัวเมอื งฝ่ายเหนอื หวั เมืองฝา่ ยใต้ หวั เมอื งชายทะเลตะวนั ออก

สมุหนายก สมุหพระกลาโหม โกษาธิบดี (กรมทา่ )
ฝ่ายทหาร ฝา่ ยทหาร ฝ่ายทหาร
และพลเรอื น และพลเรือน และพลเรือน

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (102) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

3. สมยั รตั นโกสนิ ทร์

1. รัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว

1.1 การบริหารราชการสว่ นกลาง

• ราชธานี = กรุงรตั นโกสินทร์
• ยกเลิกจตสุ ดมภ์ และตําแหนง่ สมุหกลาโหม และสมุหนายก
• จัดตั้งสภาที่ปรกึ ษา 2 สภา

- จัดต้งั สภาทป่ี รึกษาสว่ นพระองค์ หรอื องคมนตรีสภา (Privy Council)
ƒ ใหค้ าํ ปรึกษางานราชการ และเรอ่ื งราวตามพระราชดําริ
ƒ ประกอบด้วยพระบรมวงศานวุ งศ์ ขุนนาง และขา้ ราชการชน้ั ผู้ใหญ่

- จัดต้ังสภาทปี่ รกึ ษาราชการแผ่นดนิ หรือ รัฐมนตรสี ภา (Council of State)
ƒ ทําหนา้ ที่ดา้ นนิตบิ ญั ญตั ิ และตุลาการ
ƒ แตง่ ตัง้ จากราชตระกูล ทีม่ คี วามรคู้ วามสามารถ

• จดั ตั้งกระทรวง 12 กระทรวง (ใน พ.ศ. 2435) - มีเสนาบดเี ปน็ ผวู้ า่ การแต่ละกระทรวง

กระทรวง หนา้ ที่
มหาดไทย บังคับบัญชาหวั เมอื งฝ่ายเหนอื และอาณาจกั รลาว (ประเทศราช)
กลาโหม บังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายใต้ ฝ่ายตะวันตก ตะวันออก และหัวเมืองมลายู
(ประเทศราช)
กระทรวงท่า ดูแลการตา่ งประเทศ
กระทรวงวงั ดแู ลเร่อื งราวในขอบเขตพระมหาราชวัง
กระทรวงนครบาล (เมอื ง) - ดูแลภายในพระราชวัง และบรเิ วณใกล้เคียง
- ดแู ลความเรียบรอ้ ยภายในพระนคร
กระทรวงเกษตรพนิชการ (นา) - ควบคุมกาํ ลงั คน และเรอื นจํา
กระทรวงพระคลงั มหาสมบัติ ดูแลการเพาะปลกู การคา้ ขาย ปา่ ไม้ และการทําเหมอื งแร่
กระทรวงยตุ ธิ รรม ดูแลการจัดเกบ็ ภาษี และการใชจ้ า่ ยในราชการแผน่ ดิน
กระทรวงยุทธนาธิการ ดูแลเร่อื งการศาล และการพพิ ากษาคดีทั้งหมด
กระทรวงธรรมการ บังคับบญั ชากรมทหารบก และทหารเรอื
กระทรวงโยธาธิการ ดแู ลดา้ นการศกึ ษา ศาสนา พยาบาล และพิพิธภัณฑ์
กระทรวงมุรธาธกิ าร ดแู ลดา้ นการสร้างถนน ขดุ คลอง การไปรษณยี โ์ ทรเลข และรถไฟ
ดูแลรักษาพระราชลัญจกร พระราชกาํ หนด กฎหมาย และหนังสือราชการ

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปีที่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (103)

• ปฏริ ปู การศาล และกฎหมาย
- ยกเลกิ การสอบสวนและการลงโทษแบบจารตี นครบาล
- โปรดฯ ให้แยกอํานาจตุลาการออกจากฝ่ายทหาร โดยให้ศาล

ทง้ั หมดมาข้ึนตรงแกก่ ระทรวงยุตธิ รรมเพียงทีเ่ ดยี ว
- โปรดฯ ใหต้ ั้งกองร่างกฎหมายเพอื่ ตรวจและชําระกฎหมาย และ

จดั ทาํ ประมวลกฎหมายใหม่
- จ้างชาวต่างประเทศที่เชีย่ วชาญด้านกฎหมายมาเปน็ ท่ปี รึกษา
- โรงเรยี นสอนวิชากฎหมายเกดิ ขึ้นเปน็ ครั้งแรก
- มอบหมายงานปฏิรูปให้ กรมหลวงราชบุรดี ิเรกฤทธ์ิ พระบดิ าแห่งกฎหมาย และ

การศาลไทย
1.2 การบรหิ ารราชการส่วนภูมิภาค
• ยกเลิกหัวเมอื งเอก โท ตรี จัตวา และเมืองประเทศราช และระบบกนิ เมือง (นาํ ไปสกู่ าร

เกิดกบฏ ไดแ้ ก่ กบฏผบี ญุ , กบฏเงยี้ วเมืองแพร,่ กบฏเจา้ แขกเจ็ดตน)
• จัดการปกครองระบบเทศาภบิ าล
- รวมหวั เมอื งต่างๆ ใกลก้ ันจัดตง้ั เป็นมณฑล มีขา้ หลวงเทศาภบิ าลเปน็ ผูป้ กครอง ขึ้นตรง

ตอ่ กระทรวงมหาดไทย
- จัดหน่วยราชการแบบใหม่ แต่ละมณฑล แบง่ เป็น
ƒ เมอื ง - เจ้าเมอื ง
ƒ อาํ เภอ - นายอําเภอ
ƒ ตําบล - กาํ นัน (พนั )
ƒ หมู่บา้ น - ผใู้ หญ่บ้าน
- รวมอาํ นาจไวท้ ่ศี นู ย์กลาง และลดอาํ นาจเจ้าเมอื งตา่ งๆ เพ่อื ปอ้ งกนั การคุกคามของ

ลทั ธิจักรวรรดนิ ยิ ม
1.3 การบรหิ ารราชการส่วนทอ้ งถน่ิ
• จดั ตัง้ สขุ าภิบาล
- จัดตงั้ ข้ึนที่กรงุ เทพฯ เปน็ ครั้งแรก ใน ร.ศ. 116
- จัดตั้งขึน้ นอกเขตพระนครเป็นครง้ั แรก ท่ีตําบลท่าฉลอม จังหวดั สมุทรสาคร นบั เป็น

องค์กรปกครองทอ้ งถ่ิน (สังกัดกระทรวงนครบาล) แรกในไทยทจ่ี ัดต้ังข้นึ ในสมัยสมบรู ณาญาสิทธิราชย์
ƒ มีจุดมุ่งหมายเพื่อวางรากฐานการปกครองตนเอง ให้ชมุ ชนและให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ในการรกั ษาความสะอาด และดูแลชุมชนของตน
- ตราพระราชบัญญัติจัดการสขุ าภิบาลขน้ึ ใน ร.ศ. 127
- ตลอดรัชสมัยรชั กาลท่ี 5 มีการจดั ตง้ั สุขาภบิ าลขึน้ ทั้งหมด 7 แห่ง

สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (104) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27

รู้ช่ะ?

1. สาเหตุของการปฏริ ปู การปกครองในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั
- ความเสอื่ มของระบบไพร่ และมลู นาย
• ขนุ นางมอี ํานาจมาก เพราะสามารถควบคมุ กาํ ลังไพร่พลได้
• กษัตริย์ไม่สามารถใชพ้ ระราชอาํ นาจไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี
- การแบ่งหน้าท่ีการปฏบิ ตั ิราชการออกเปน็ 6 ฝ่าย
• ลา้ หลงั เชอื่ งชา้ ปฏบิ ตั ิราชการไดไ้ มท่ นั ท่วงที เพราะจํานวนประชากร และขนาดของดินแดน

ท่เี พมิ่ ขน้ึ
• อาํ นาจของอคั รมหาเสนาบดี และเสนาบดีจตสุ ดมภ์ มีความซ้าํ ซ้อนกนั

- หัวเมืองชัน้ นอกมีอิสระในการปกครองตนเองมากเกนิ ไป
• ราชธานีมีอํานาจไมท่ ั่วถงึ เพราะการคมนาคมทีไ่ ม่สะดวก

- ภยั คุกคามจากจักรวรรดินิยมตะวันตก (ฝรงั่ เศส และอังกฤษ)
• หาวธิ ีการปอ้ งกนั ภัยจากการล่าอาณานิคม
• การโอนอ่อนผอ่ นตามความต้องการของชาตติ ะวนั ตก
• การปฏิรปู ประเทศตามแบบตะวนั ตก
• ความลา้ หลงั ของไทย เม่อื เปรยี บเทียบกบั ประเทศตะวนั ตก

- แนวคดิ การปกครองแบบประชาธิปไตยของขุนนางร่นุ ใหม่
• เจา้ นาย และขนุ นางจํานวนมากได้รบั การศกึ ษาจากตะวันตก
• การเรียกร้องรฐั ธรรมนญู ของกล่มุ เจา้ นายและข้าราชการจํานวนหน่ึงทร่ี ับราชการอยู่ท่ี

ตา่ งประเทศ (กรงุ ลอนดอน และกรุงปารีส) ใน ร.ศ. 103
• สามญั ชนกลุม่ แรกท่มี บี ทบาท คอื เทยี นวรรณ และ ก.ศ.ร. กุหลาบ

- การขยายตวั ของระบบทุนนิยม
2. ปัจจยั ที่สนบั สนุนการปฏิรปู - เหน็ ความเจริญของชาติตะวันตกจากการเสดจ็ ประพาสต่างประเทศ

• เสด็จประพาสยุโรป 2 ครงั้ คือ พ.ศ. 2440 เพือ่ ทอดพระเนตรความเจริญของยุโรปเพื่อนาํ มา
ปรับปรุงประเทศ และหาพันธมิตร (เจรญิ ไมตรกี ับรสั เซีย, เยอรมนี, ออสเตรีย, ฮงั การี ฝรง่ั เศส, องั กฤษ อติ าลี
และแถบสแกนดเิ นเวีย) และ พ.ศ. 2450 เพอ่ื รกั ษาพระอาการประชวรและเจรจาราชการกับชาติตะวันตก

• เสด็จประพาสสงิ คโปร์ อินเดีย และชวา (ประพาสชวา 3 ครงั้ คอื พ.ศ. 2413, 2439 และ 2444)
เพอ่ื ทอดพระเนตรความเจริญรุ่งเรือง

3. ข้นั ตอนการปฏิรปู การปกครองของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้า-
เจา้ อยู่หวั

- ระยะแรก
• ข้ึนครองราชยข์ ณะทรงพระเยาว์ ในชว่ งตน้ รัชกาลอํานาจการปกครอง

จงึ อยใู่ นการดแู ลของขนุ นางผสู้ าํ เรจ็ ราชการ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสรุ ยิ วงศ์
(ช่วง บุนนาค)

• เสดจ็ ประพาสต่างประเทศ

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (105)

• เรม่ิ ดงึ อาํ นาจจากมอื ขุนนางและวางรากฐานอํานาจแกส่ ถาบนั พระมหากษตั ริย์
ƒ จดั ตัง้ กรมทหารมหาดเลก็
ƒ บรมราชาภเิ ษกคร้ังท่ี 2 ใน พ.ศ. 2416 เม่อื บรรลนุ ติ ภิ าวะ

ผลคือ ผู้สาํ เร็จราชการแทนหมดอํานาจลง
ƒ ตั้งตําแหน่งสยามมกฎุ ราชกุมาร ยกเลิกตําแหนง่ วงั หน้า เม่อื

กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญทิวงคต
- ระยะท่สี อง - รวมอาํ นาจเขา้ ส่ศู นู ย์กลาง และปรบั ปรงุ ประเทศให้

ทนั สมัยทดั เทียมตะวนั ตก
4. ผลของการปฏริ ูปในรชั สมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว
- อํานาจรวมศนู ย์
- เกิดรัฐชาติ และความมเี อกภาพทางการเมอื ง
- ชะลอภยั คุกคามจากชาติตะวันตก
5. การปฏิรูปกฎหมายและการศาลในรัชสมัยของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั
- มีสาเหตจุ ากการที่ชาติตะวันตกใชเ้ รอ่ื งระบบศาลไทยท่ไี ม่มมี าตรฐานเป็นข้ออ้างทําใหไ้ ทยตอ้ งเสีย

สทิ ธิสภาพนอกอาณาเขตไปในรัชสมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว
- ประมวลกฎหมายแบบตะวนั ตกฉบับแรกของไทย คอื ประมวลกฎหมายอาญา (ร.ศ. 127) ซึ่ง

จัดทาํ ขึ้นในสมัยรชั กาลท่ี 5
- ทีป่ รึกษาชาวตา่ งประเทศด้านกฎหมาย

ชอ่ื ตําแหน่ง ผลงาน

เจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ ที่ปรกึ ษาราชการท่ัวไป - ปรบั ปรุงการศาลยุติธรรมให้
(คุสตาฟ โรแ ลง ยักแม งส์ - (พ.ศ. 2435-2444) ชาวเบลเยียม เป็นที่เชอ่ื ถอื ของตา่ งประเทศ
Gustave Rolin - Jaequemyns) เช่ียวชาญด้านกฎหมายระหว่าง - ปรับปรงุ การปกครองบ้านเมือง
ประเทศ ให้ทัดเทยี มอารยประเทศ
- ปรบั ปรุงปญั หาดา้ นการ
ต่างประเทศ

ริ ช า ร์ ด ยั ก ส์ เ กิ ร์ ก แ พ ต ริ ก ทปี่ รึกษากฎหมายกระทรวง
(Richard Jacques Kirkpatrick) ยตุ ิธรรม ชาวเบลเยยี ม

พระยามหิธรรมนปู กรณโ์ กศลคณุ ผ้ชู ว่ ยทีป่ รกึ ษากระทรวงยุตธิ รรม
(โตคิจิ มาซาโอะ - Tokiji Masao) ชาวญี่ปนุ่

มหาอํามาตย์โท พระยาอรรถการ - พนักงานวา่ ความกรมอัยการใน ทนายความผรู้ บั วา่ ความคดี
ประสทิ ธ์ิ นามเดมิ วิลเลยี ม ศาลกงสุลตา่ งชาติ ชาวลังกา พระยอดเมอื งขวาง
อัลเฟรด คุณะติลเก (William - ตอ่ มาได้รบั แต่งตงั้ เปน็ อธบิ ดกี รม
Alfred Kunatelake) อยั การ ผูพ้ พิ ากษาศาลอทุ ธรณ์
- ตน้ สกลุ “คณุ ะดิลก”

สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (106) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

6. การเลอื กตงั้ ผ้ใู หญบ่ า้ นและกํานนั บ้านครง้ั แรกโดยใชม้ ติเสยี งขา้ งมาก เรม่ิ ขนึ้ ในรชั สมัยของพระบาท-
สมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัวโปรดฯ ในวันท่ี 10 สงิ หาคม พ.ศ. 2435 ท่อี าํ เภอบางปะอนิ จังหวดั พระนคร-
ศรอี ยุธยา เป็นผลจากการท่พี ระองคใ์ ห้ตราพระราชบญั ญตั ิการปกครองท้องที่ ร.ศ. 116 พระราชบัญญตั ิ
ดังกล่าวจงึ ถือเป็นการวางรากฐานการบรหิ ารราชการส่วนภูมิภาคและทอ้ งถนิ่

แบบฝก หัด

1. ในรัชสมัยของพระบรมไตรโลกนาถ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีเหตุการณ์สําคัญใด
เกิดขน้ึ (แนวข้อสอบจรงิ O-NET 58)
1) ชาวตะวนั ตกเขา้ มาทําสัญญาค้าขายกับไทย
2) ชาวตะวนั ตกพยายามเขา้ ยึดครองไทย

3) คนไทยใชส้ นิ คา้ ตา่ งประเทศเพอื่ แสดงระดับฐานะ

4) คนรับนับถือศาสนาคริสต์ตามคาํ สอนของมชิ ชันนารีชาวตะวันตก
5) การปฏิรปู การปกครองครั้งใหญ่

2. ลกั ษณะทเี่ หมอื นกันของการปกครองในสมยั สโุ ขทยั กบั การปกครองในสมยั อยุธยาคอื เรือ่ งใด

(แนวข้อสอบจริง O-NET 57) 2) ลกั ษณะการปกครองหวั เมอื ง
1) ระบบการปกครองสว่ นกลาง

3) สถานภาพของผปู้ กครองสูงสุด 4) ความสัมพนั ธร์ ะหว่างผูป้ กครองกับราษฎร
5) ศนู ย์กลางการใช้อํานาจในการปกครอง

3. การท่ีอคั รมหาเสนาบดี 2 ตาํ แหนง่ แบง่ เขตดแู ลรับผดิ ชอบหัวเมืองฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ทั้งฝา่ ยพลเรอื น

และฝ่ายทหารเกิดข้นึ ในสมยั ใด (O-NET 52) 2) สมยั สมเด็จพระเจา้ ปราสาททอง
1) สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

3) สมยั สมเด็จพระนารายณ์มหาราช 4) สมัยสมเดจ็ พระเพทราชา

4. หลักการสําคัญของการปฏิรูปการปกครองในสมยั พระบรมไตรโลกนาถคือเรอ่ื งใด (Ent’ ต.ค. 45)
1) รวมอํานาจสู่ศูนย์กลางและแบง่ แยกหน้าที่ 2) รวมอํานาจส่ศู นู ย์กลางและถ่วงดุลอํานาจ

3) กระจายอํานาจและแบ่งแยกหน้าที่ 4) รวมอาํ นาจส่ศู ูนยก์ ลาง และรวมหนา้ ท่ี

5. ขอ้ ใดเป็นจดุ มุ่งหมายท่สี าํ คัญที่สุดในการปฏิรูปการปกครองสว่ นภูมิภาคในสมยั รชั กาลท่ี 5 (Ent’ ต.ค. 44)
1) เพอื่ แกป้ ัญหากบฏตามภมู ิภาคทีท่ วีความรุนแรงขน้ึ

2) เพือ่ วางรากฐานการมีสว่ นรว่ มในการปกครองของประชาชน
3) เพือ่ สรา้ งความสมดุลระหว่างอํานาจการปกครองของฝา่ ยทหารกบั ฝา่ ยพลเรอื น

4) เพ่ือสกดั กัน้ ภยั คุกคามจากลทั ธิจกั รวรรดินยิ ม

6. ข้อใดไมใ่ ช่สาเหตสุ ําคัญในการปฏริ ูปการปกครองในรชั สมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั
(Ent’ ม.ี ค. 44)

1) ความเส่อื มของระบบมลู นาย - ไพร่ 2) โครงสร้างการปกครองลา้ สมัย
3) ความว่นุ วายภายในประเทศ 4) ภยั คกุ คามจากมหาอาํ นาจตะวันตก

โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (107)

ศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม

พระเจา สรา ง

อาณาจกั รของพระเจา

พระอัลลอฮ

1. ปัจจัยที่นําไปสู่การเกิดศาสนา - ความกลัว และความไม่รู้ ส่งผลทําให้มนุษย์ต้องการท่ียึดเหน่ียว
และพึ่งพิงทางจิตใจ

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (108) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

2. องค์ประกอบของศาสนา หลกั ธรรม

ศาสดา คําสอนของศาสนา
*ทกุ ศาสนาต้องม*ี
ผูก้ อ่ ตัง้ ศาสนา
ศาสนพธิ ี

พธี กี รรมตาม
ความเชอ่ื
ทางศาสนา

สาวก ศาสนสถาน

ผสู้ บื ทอดคาํ สงั่ สอน สถานที่ประกอบพธิ ี
ปฏิบตั ิและเผยแผ่ หรอื แสดงคําสงั่ สอน

krupmui * แตล่ ะศาสนา ไมจ่ ําเปน็ ต้องมี
krupmui_socithai องค์ประกอบครบทกุ อย่าง*

แบบฝก หดั

1. ศาสนาในข้อใดไม่มีศาสดา (แนวข้อสอบ O-NET 56)
1) ศาสนาคริสต์
2) ศาสนาอสิ ลาม
3) ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู
4) ศาสนาซิกข์
5) ยูดาห์

2. องคป์ ระกอบทม่ี ปี รากฎอย่ใู นศาสนาปัจจุบนั คือข้อใด (O-NET 49)
1) ศาสดาและนกั บวช
2) นักบวชและศาสนพธิ ี
3) รูปเคารพและศาสนสถาน
4) ศาสนพธิ ีและหลักคําสอน

3. คาํ สอนในพระพุทธศาสนาทแ่ี ตกตา่ งจากศาสนาพราหมณ์คือเรอ่ื งใด (O-NET 49)
1) อัตตา
2) อนตั ตา
3) ความหลดุ พน้
4) การเวียนว่ายตายเกดิ

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (109)

3. ศาสนาคริสต์
3.1 พฒั นาการของศาสนาครสิ ต์
- กอ่ นการประสูติของพระเยซู (ศาสนายูดาห)์
1. เดิมชาวยิวเป็นพวกเร่ร่อน ทํามาหากินด้วยการเลี้ยงสัตว์

ต่อมาอับราฮัม17บอกว่าได้พบกับพระเจ้า และพระองค์ได้ทรงตรัสให้อับราฮัม
นําพาชาวยิวไปยังดินแดนศักด์ิสิทธ์ิที่พระองค์จะประทานให้ คือ ดินแดนคานาอัน
หรือ ปาเลสไตน์18 (ดนิ แดนแหง่ พันธสัญญา)

- ตอ่ มาดินแดนคานาอนั เกดิ ความแหง้ แล้ง ชาวยิว
จึงอพยพไปยังอยี ปิ ตแ์ ละตกเปน็ ทาสถกู ใช้แรงงานอยา่ งหนกั

2. พระเจ้าได้มาพบกบั โมเสส ชาวยวิ ทีเ่ กดิ ในอียปิ ต์และมี
โองการใหโ้ มเสสนาํ ชาวยิวอพยพจากอยี ปิ ต์กลบั ไปยังดนิ แดนคานาอันแต่
การเดนิ ทางเตม็ ไปดว้ ยความลาํ บาก ทาํ ให้ชาวยิวแตกความสามคั คีกัน

3. โมเสสจึงข้นึ ไปยงั เขาซีไนลเ์ พือ่ หาความสงบในทางใจ
และหาทางแกไ้ ขสถานการณท์ ี่เกดิ ข้นึ

4. พระเจา้ ได้มาพบโมเสสและพระราชทานบัญญตั ิ 10 ประการ
ใหม้ าแจ้งกบั ชาวยิว โมเสสจึงถือเปน็ ศาสดาพยากรณ์ของศาสนายดู าห์ และเป็น
ผแู้ ต่งส่วนต้นของคมั ภีร์ “พันธสญั ญาเดมิ ” (เกา่ )

รู้ช่ะ?

บญั ญตั ิ 10 ประการ ไดแ้ ก่

1 จงนมสั การพระเจา้ แตเ่ พียงพระองคเ์ ดียว 6 อย่าผดิ ประเวณี
2 อย่าออกนามพระเจ้าโดยไมส่ มเหตุสมผล 7 อยา่ ลกั ทรัพย์
3 จงนับถอื วันพระเจ้า (วนั สะบาโต) เปน็ วันศกั ด์ิสทิ ธิ์ 8 อยา่ นนิ ทาว่ารา้ ยผอู้ น่ื
4 จงนบั ถอื บดิ ารมารดา 9 อยา่ คดิ มชิ อบ
5 อย่าฆา่ คน 10 อยา่ มีความโลภในสิ่งของของผู้อ่นื

สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (110) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

- พระเยซูประสูติ (ศาสนาครสิ ต)์
1. พระเยซู หรอื จซี สั ประสตู ิ ณ เมืองเบธเลเฮม (ครสิ ต์ศักราชนับตั้งแตพ่ ระเยซูประสูต)ิ
2. พระมารดา คือ มารี (ต่อมาไดร้ บั การยกย่องเป็นพระแม่มารี) และบิดา คือ โจเซฟ19
3. ธรรมาจารย์ของกษัตรยิ เ์ ฮโรดทํานายวา่ จะมเี ด็กชายกาํ เนดิ และจะไดเ้ ป็นกษัตรยิ ข์ องชาวยวิ กษตั ริย์
เฮโรดจงึ สง่ั ฆา่ เดก็ ทุกคนในเมือง

4. บดิ าและพระมารดาของพระเยซจู ึงพาหนไี ปทอี่ ยี ปิ ต์ แลว้ เมื่อเจริญวัยขึน้ กไ็ ดร้ ับการบพั ติสมา20จาก
เซนตจ์ อห์น ท่ีแม่น้าํ จอรแ์ ดน

5. พระเยซปู ระกาศศาสนา ทรงสอนหลักธรรมง่ายๆ แตล่ กึ ซง้ึ กินใจ มสี าวก 12 คน21

6. จูดาห์ทรยศ รบั สนิ บน ชี้ตวั พระเยซใู ห้ทหารจับ หลังเหตกุ ารณพ์ ระกระยาหารม้อื สดุ ทา้ ย22 และเปน็
ที่มาของ ศีลมหาสนิท คอื เปรียบใหข้ นมปังแทนร่างของพระองค์ กบั เหลา้ องุ่นเปรียบเสมอื นเลือดของ
พระองค์ สถิตย์สนทิ อยู่ในตัวของเรา

7. พระเยซูทรงถูกตรงึ ไม้กางเขนจนสิ้นพระชนม์ แสดงถงึ
ความเปน็ พระผไู้ ถ่บาปและแสดงถงึ ความรกั ความเมตตาทีพ่ ระองค์
มตี อ่ มวลมนุษยด์ ้วยการทําใหม้ นุษยม์ คี วามสัมพันธ์ทถ่ี กู ต้องกับ
พระเจา้ ในวนั นี้ภายหลงั เรียกว่า “วนั ศกุ ร์ศกั ดสิ์ ิทธ์”ิ

8. แต่อยา่ งไรกด็ ีชาวยวิ ไม่เชอื่ พระเยซูเป็นพระผไู้ ถ่ หรือ
พระเมสสอิ าห์ ทําให้ชาวยวิ ยังคงรอคอยการมาของพระผไู้ ถ่จนถงึ
ทุกวันน้ี

9. หลงั จากน้ัน 3 วัน พระเยซไู ด้ฟนื้ คนื ชพี และปรากฏ
กายให้เหลา่ สาวกของพระองคเ์ หน็ หลังจากนนั้ จึงเสดจ็ ขนึ้ สวรรค์
เรยี กวันน้วี า่ วันอสี เตอร์

โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (111)

3.2 เปรียบเทียบความเหมือน และความแตกต่างของนกิ ายโรมนั คาทอลิก โปรเตสแตนต์ และ
ออรธ์ อดอกซ์

นิกาย โรมนั คาทอลกิ โปรเตสแตนต์ ออรธ์ อดอกซ์
คริสตศ์ าสนกิ ชน คริสตงั -
กรงุ โรม ครสิ เตยี น
ศนู ย์กลาง กรงุ คอนสแตนตโิ นเปลิ
ประเทศอิตาลี แคว้นแซกโซนี
ประมขุ พระสนั ตะปาปา ประเทศเยอรมนี พระสงั ฆราช หรือ
พระเพทรอิ ารค์
ถือวา่ พระคัมภีร์
เป็นส่ิงสงู สดุ

นักบวช / x /
นกั บุญและแม่พระ / x /
ศาสนพธิ หี รอื พิธกี รรม ศลี ศักดส์ิ ิทธิ์ 7 ข้อ ให้ความสําคญั ตอ่ ศีลศกั ดิ์สิทธ์ิ 7 ขอ้
ศลี ล้างบาปหรอื
ภาษา ภาษาละติน ศีลจมุ่ และ ภาษากรีก
รูปเคารพ ไม้กางเขนท่พี ระเยซูถูกตรึง ศีลมหาสนิท (แตใ่ นโบสถใ์ ช้ภาษาท้องถ่นิ )
ภาษาท้องถิน่
ภาพ 2 มติ ิ
ไมก้ างเขน

สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (112) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

แบบฝก หดั

1. โมเสสพาชาวยิวอพยพจากที่ใดไปส่ทู ีใ่ ดตามโองการของพระเจ้า (แนวขอ้ สอบ O-NET 54)

1) โรมนั - คานาอัน 2) คานาอนั - อยี ิปต์

3) อยี ปิ ต์ - คานาอัน 4) อยี ิปต์ - โรมัน

2. การทพี่ ระเยซถู ูกตรึงไมก้ างเขนจนสิ้นพระชนม์ แสดงใหเ้ ห็นถงึ สิ่งใด (แนวข้อสอบ O-NET 54)
ตอบมากกวา่ 1 ข้อ
1) ความเสยี สละของพระเจ้า

2) พระเจ้าทรงประทานบตุ รมาเพ่ือสอนศีลธรรมให้มนษุ ย์เพยี งชวั่ คราว
3) การไถม่ นษุ ย์ออกจากบาป
4) มนษุ ย์ได้รับการปลดปลอ่ ยให้มคี วามสัมพันธ์ทถ่ี กู ตอ้ งกบั พระเจา้

3. เรื่องใดปรากฏอยใู่ นคัมภีรไ์ บเบลิ ใหม่ (O-NET 53) ตอบมากกว่า 1 ข้อ

1) เรอื่ งราวชวี ิตของพระเยซู 2) การเทศนาสัง่ สอนธรรมของพระเยซู

3) การเผยแผศ่ าสนาของโมเสส 4) ประวัตศิ าสตรช์ นชาติยวิ ในสมยั อับราฮมั

4. ในตอนแรกชาวยิวเช่ือว่าพระเยซคู อื ใคร (O-NET 52)

1) เมสสิอาห์ 2) พระบุตรของพระเจา้

3) ศาสดาพยากรณ์ 4) พระเจ้า

5. พิธกี รรมใดทค่ี รสิ ตศ์ าสนิกชนได้แสดงความเป็นอนั หนึง่ อนั เดียวกบั พระเจ้า (O-NET 52)

1) ศีลบวช 2) ศลี กาํ ลงั 3) ศีลล้างบาป 4) ศลี มหาสนทิ

6. ดนิ แดนศักดิ์สทิ ธิข์ องศาสนายูดาห์และครสิ ต์คอื ข้อใด (O-NET 51)

1) ไคโร 2) เมกกะ 3) แบกแดด 4) ปาเลสไตน์

7. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ วามเชอ่ื ในคริสตศ์ าสนาเก่ียวกับพระเยซู (O-NET 51)

1) เป็นสภาวะหนึ่งของพระเจา้ 2) เป็นผสู้ ละชีวติ เพื่อไถบ่ าปให้มนษุ ยชาติ

3) เป็นศาสดาผูก้ อ่ ต้ังศาสนาครสิ ต์ 4) เป็นผู้รับมอบบัญญัติ 10 ประการจากพระเจ้า

8. วันศกุ รศ์ ักดสิ์ ทิ ธ์ิ (Good Friday) ของคริสต์ศาสนกิ ชนหมายถงึ วันใด (O-NET 50)

1) วนั ท่พี ระเยซสู ิน้ พระชนม์ 2) วนั ท่พี ระเยซูประกาศศาสนา

3) วันที่พระเยซูคนื พระชนม์ 4) วนั ที่พระเยซูเสดจ็ กลับสูส่ วรรค์

9. พระเยซูทรงสอนวา่ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง” เพอ่ื นบ้านในที่นหี้ มายถึงใคร (O-NET 50)

1) มนษุ ยท์ ุกคน 2) ผู้นับถือศาสนาอนื่ 3) สาวกของพระเยซู 4) คริสตศ์ าสนกิ ชน

10. พิธที ี่ชาวคริสตน์ ิกายโรมนั คาทอลิกกินขนมปังและดม่ื ไวนท์ ีบ่ าทหลวงส่งให้ เรียกว่าพธิ ีอะไร (O-NET 49)

1) ศีลกาํ ลงั 2) ศลี แก้บาป 3) ศีลล้างบาป 4) ศีลมหาสนทิ

โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (113)

4. ศาสนาอิสลาม23
- ไม่แบง่ แยกความเชื่อ ออกจากแง่มุมอ่ืนของชีวิต เพราะอิสลาม คือ ธรรมนูญของชีวิต ผู้นําท้ังทาง
การเมืองและศาสนา เรยี กว่า กาหลบิ

4.1 จุดรว่ มกับศาสนายูดาห์ และศาสนาคริสต์
1. เช่อื ในพระเจา้ องค์เดียวกัน แต่คนละชอื่ 24
2. ใหค้ วามศรัทธาคัมภีรเ์ หมอื นกันหลายเลม่ และเชอ่ื วา่ เกดิ แลว้ ตายครั้งเดียว25
3. ให้ความเคารพและนับถอื โมเสส และพระเยซูในฐานะพระศาสนทตู 26 (รอซูล) ของพระเจา้ ดว้ ย

4.2 จุดต่าง
- เชอื่ ว่า พระศาสนทตู องคส์ ุดท้าย คอื นบมี ูฮมั มัด
- เชื่อว่า คัมภีร์สุดท้ายท่ีพระเจ้าประทานมาให้ซึ่งจะคงอยู่และไม่มีวันเปล่ียนแปลงจนกว่า

จะถงึ วันพพิ ากษา (วันกิยามะห์) คอื คัมภรี ์อลั กรุ อาน
4.3 ศาสดา
- นบมี ฮู ัมมัด เกิดที่นครเมกกะ เป็นชาวเผ่าคเู รซ นิสัยซอื่ สัตยจ์ นได้รับสมญาว่า อลั อามีน (ผซู้ ่ือสตั ย์)
- อายุ 25 ปี แตง่ งานกับทา่ นหญิงคอดีญะห2์ 7 (เจา้ ของรา้ นคา้ ทีน่ บีมฮู มั มัดเปน็ ผู้จดั การ)
- อายุ 40 ปไี ดร้ ับโองการจากพระเจา้ ผ่านมลาอิกะห์ (เทวทูต) ท่ชี ่อื ว่า ญบิ รออลิ ณ ถ้ําฮิรออ์

(นบีมูฮมั มัดเป็นผทู้ ีส่ นใจในการคิด และตั้งปัญหาเก่ียวกับชีวิต บางครั้งจึงข้ึนไปบนยอดเขา หาที่เงียบสงบและ
สงดั เพ่ือใช้ในการตรึกตรองปัญหาดังกลา่ ว วนั หนง่ึ นบมี อู มั มัดกไ็ ด้ขนึ้ ไปบนภูเขาใกล้ภูผารศั มี ซง่ึ มีถํา้ ฮิรอออ์ ยู)่

- การประกาศศาสนาในระยะแรกทําอย่างลบั ๆ โดยเริม่ จากญาติใกล้ชิด
- หลังจากนั้น 3 ปจี งึ ประกาศอย่างเปิดเผย คําส่ังสอนของนบีมูฮัมมัดขัดต่อความเชื่อด้ังเดิม
สง่ ผลใหถ้ กู ตอ่ ตา้ นอย่างหนกั
- นบีมูฮมั มัดจงึ นําพาชาวมุสลมิ อพยพจากนครเมกกะไปยงั เมดินา (เร่มิ ต้นฮิจเราะหศ์ กั ราช)
- ฮจิ เราะห์ที่ 11 นบีมูฮมั มัดเสยี ชวี ติ 28
4.4 นกิ าย
การแยกนิกายไมไ่ ดเ้ กิดจากความขัดแย้งด้านคําสอนหรือหลักปฏิบัติ แต่เป็นความขัดแย้งทางด้าน
การเมืองเรอ่ื งผู้สบื ทอดการเป็นผนู้ ําทางศาสนาต่อจากนบมี ูฮัมมดั
- ซนุ นี29 - ยึดหลกั คาํ สอนของนบีมูฮัมมัด และคัมภีร์อัลกุรอานอย่างเคร่งครัด เคารพกาหลิบ
เป็นนิกายท่ีมีผู้นับถือมากที่สุด รวมถึงภาคใต้ของไทย ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียด้วย ผู้ท่ีนับถือนิกายนี้
จะสวมหมวกสขี าว
- ชีอะห์30 หรือ มะงุ่น (แขกเจ้าเซน) - เชื่อว่าผู้นําทางศาสนาต่อจากนบีมูฮัมมัด เป็นผู้นํา
ทางจิตวิญญาณ และเป็นส่ือกลางในการติดต่อกับพระเจ้า ซึ่งจะต้องได้รับการแต่งต้ังจากพระเจ้าผ่านนบีมูฮัม
มัดเท่านั้น จึงให้ความสําคัญกับผู้ท่ีสืบทอดเชื้อสายมาจากนบีมูฮัมมัด คือ อาลี คอลีฟะห์ หรือกาหลิบคนที่ 4
(ไมน่ ับคนอน่ื กอ่ นหน้า) และลกู หลานของอาลีวา่ เปน็ ผนู้ ํา สัญลกั ษณ์ คือ หมวกสแี ดง
- วาฮาบี - กอ่ ตง้ั โดยมฮู มั มดั อบั ดุล วาฮับ ใหค้ วามสําคัญเฉพาะคําสอนของนบีมูฮัมมัดและ
คัมภีร์อัลกุรอานเท่านั้น ไม่นับถือกาหลิบหรืออิหม่ามคนใดว่าเป็นผู้สืบต่อศาสนา จุดมุ่งหมายคือรักษาศาสนา
อสิ ลามใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิเหมือนในสมยั ท่ีนบีมูฮมั มดั ยงั อยู่

สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (114) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27

เทคนิคครูพห่ี มุย ซนุ นี ......................
ชอี ะห์ ......................
วาฮาบี ......................

แบบฝก หดั

1. ชาวมุสลิมไมเ่ ชอื่ ในเรอื่ งใด (แนวข้อสอบจริง O-NET 54)

1) โมเสสและพระเยซูเปน็ ศาสนทตู 2) การตายแลว้ เกดิ ใหมบ่ นโลกมนุษย์

3) โลกมวี ันสิน้ สดุ 4) เทวทตู มจี ํานวนมาก

2. ความหมายของคาํ วา่ มสุ ลิมในขอ้ ใดถกู ต้องท่ีสดุ (O-NET 52)

1) ผรู้ ักความสงบ 2) ผยู้ อมมอบตนต่อพระเจ้า

3) ผ้มู ีศรัทธาตอ่ พระเจา้ 4) ผปู้ ฏบิ ตั ติ ามโองการของพระเจ้า

3. เทวทตู ที่นาํ โองการของพระเจา้ มาประทานแก่นบีมูฮัมมดั จนเป็นพระคมั ภีรอ์ ลั กุรอานมีช่ือว่าอะไร (O-NET 50)

1) อาลี 2) มาลิก 3) ญบิ รออีล 4) อิซรออลี

4. ชาวมสุ ลมิ ในประเทศไทย มาเลเซีย และอนิ โดนเี ซยี สว่ นใหญน่ บั ถอื นิกายใด (O-NET 50)

1) ซูฟี 2) ชีอะห์ 3) วาฮาบิ 4) ซุนนี

5. พระเยซูตามความเข้าใจของศาสนาอิสลามคอื ใคร (Ent’ ต.ค. 46)

1) บุตรของพระเจ้า 2) นะบีทา่ นหน่ึง

3) ผู้ไถ่บาปมนุษย์ 4) ทตู สวรรคอ์ งคห์ น่ึง

โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (115)

5. พระพุทธศาสนา

ศรทั ธา

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (116) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

5.1 ชาดก
ทศชาติชาดก

คือ เรอ่ื งราวในอดีตชาตขิ องพระพุทธเจา้ การบําเพ็ญบารมี 10 ประการ พระพทุ ธเจ้า บนั ทึกใน
พระสตุ ตนั ตปฎิ ก

ลาํ ดบั ชาติ ทศชาติ เสวยชาติเป็น บารมีท่ีบําเพ็ญ
1. เต เตมยี ์ชาดก เตมยี ใ์ บ้ เนกขมั มบารมี
2. ชะ ชนกชาดก วิรยิ ะบารมี
3. สุ สุวรรณสามชาดก พระมหาชนก31 เมตตาบารมี
4. เน เนมิราชชาดก สวุ รรณสาม อธษิ ฐานบารมี
5. มะ มโหสถชาดก พระเนมิราช ปัญญาบารมี
6. ภู ภูรทิ ตั ชาดก มโหสถ
7. จะ จันทชาดก ศีลบารมี
8. นา นารทชาดก พญานาคภรู ทิ ตั ขันตบิ ารมี
9. วิ วิทรู ชาดก จันทกมุ าร อุเบกขาบารมี
10. เว เวสันดรชาดก สัจจบารมี
พระนารทพรหม ทานบารมี
วธิ รุ บณั ฑิต
พระเวสสนั ดร

เวสันดรชาดก
• เปน็ “มหาชาติ” คอื ชาตสิ ุดทา้ ยของการบําเพญ็ บารมี 10 ประการ บาํ เพ็ญทานบารมี
• กิจกรรมประเพณีที่เกีย่ วเน่ือง ไดแ้ ก่ เทศน์คาถาพัน เทศนม์ หาชาติ บุญผะเหวด

โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (117)

แบบฝกหดั

1. หากท่านตอ้ งการบรรลุความสาํ เรจ็ ดว้ ยความเพียร ท่านคดิ วา่ ท่านควรศึกษาหลักธรรมจากชาดกในเร่อื งใด
(แนวข้อสอบ O-NET 58)
1) ชนกชาดก
2) เวสสันดรชาดก
3) สวุ รรณสามชาดก
4) มโหสถชาดก
5) จนั ทชาดก

2. ชาติสดุ ทา้ ยของพระโพธสิ ตั ว์ในทศชาดกคือใคร (แนวขอ้ สอบ O-NET 54)
1) สวุ รรณสาม
2) พระเวสสนั ดร
3) พระมหาชนก
4) จันทกมุ าร

3. หากทา่ นจะไปฟงั เทศน์มหาชาติ ทา่ นจะไดฟ้ ังเร่อื งราวในขอ้ ใด (O-NET 51)
1) พุทธประวัติ
2) มโหสถชาดก
3) เวสสนั ดรชาดก
4) มหาชนกชาดก

4. “เวสสันดรชาดก” ใหแ้ นวคดิ สําคญั ในเร่ืองใด (O-NET 49)
1) ทานบารมี
2) ปญั ญาบารมี
3) วริ ิยบารมี
4) ศรัทธาบารมี

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (118) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27

5.2 พุทธประวัติ
ประสตู ิ

- พระนามเดิม เจ้าชายสิทธตั ถะ แปลว่า สําเรจ็ ตามความต้องการ
- พระบิดา-พระมารดา พระเจ้าสุทโธทนะ (ศากยะวงศ์) กษัตริย์ผู้ครองแคว้นกบิลพัสด์ุ
(ปจั จบุ ันตงั้ อยใู่ นประเทศเนปาล) กับพระนางสิริมหามายา (โกลิยวงศ์) พระราชธดิ าของกษตั ริย์แหง่ กรุงเทวทหะ
- สถานท่ปี ระสูติ สวนลุมพินีวัน ณ ใต้ต้นสาละ พระนางสิริมหามายาเสด็จสวรรคตภายหลัง
จากพระประสตู กิ าล เจา้ ชายสิทธตั ถะจงึ ถกู เลี้ยงดูโดยพระนางปชาบด3ี 2
- คําทํานาย พราหมณ์ 8 คนมาทํานายอนาคตของเจ้าชายสิทธัตถะ ว่าจะได้เป็นศาสดาเอก
ของโลก หรือพระมหาจักรพรรดิ แต่หน่ึงในนั้น คือ พราหมณ์โกณฑัญญะ ทํานายว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็น
พระพุทธเจ้าเทา่ น้ัน หลงั จากน้นั 7 วัน พระนางสิริมหามายาก็ส้นิ พระชนม์

ตีความการประสูติ
- อาสภวิ าจาอย่างอาจหาญทันทีที่ประสูติว่า “เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นผู้ใหญ่ย่ิงแห่งโลก
เราเป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก”33 การประสูติของพระพุทธเจ้าจึงถือเป็นการปฏิวัติคร้ังสําคัญ เพราะคือ
การประกาศอิสรภาพของมนุษย์ ทมี่ คี วามหมายว่า มนุษย์มีศักยภาพในการพัฒนาตนเองได้สูงสุด เม่ือมนุษย์
พัฒนาตนเองแล้วก็เป็นผู้ประเสริฐสุด และปฏิเสธแนวคิดที่ว่าชีวิตของมนุษย์ถูกพระเจ้าลิขิตไว้แล้วว่าจะเป็นไป
ในทางไหน

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (119)

การออกผนวช
- อภเิ ษกสมรส อภิเษกสมรสกบั พระนางพิมพา (ยโสธรา) เจา้ หญงิ แหง่ กรุง เทวทหะ และมี
พระราชโอรส พระนามว่า พระราหลุ แปลว่า บ่วง
- ระหว่างเสด็จออกนอกพระราชวัง พบกบั เทวทตู ทัง้ 4 ทแ่ี ปลงกายมาเปน็ คนแก่ คนเจ็บ
คนตาย และสมณะ34 ทาํ ใหท้ รงคิดได้ว่าส่งิ ตา่ งๆ ในโลกนี้ลว้ นไม่เท่ยี ง

การตรัสรู้35
- การบาํ เพญ็ ช่วง 6 ปแี รก

♦ ปฏบิ ตั ิโยคะ อาฬารดาบส กบั อุทกดาบส บรรลุฌานสมาบัติ 8 เหน็ ว่าไมใ่ ช่ทางเลย
บาํ เพญ็ เอง

♦ บําเพญ็ ทุกรกริ ิยา 3 อยา่ ง คือ การกระทําทีท่ าํ ได้ยากยิง่ กัดฟนั เอาลิ้นดุนเพดานนานๆ
จนเหงื่อออกรักแร้ กล้ันลมหายใจ จนปวดหวั จกุ และอดอาหาร ยาวนานถงึ 6 ปี

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (120) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

- การบําเพญ็ ชว่ งหลงั
♦ พระอินทร์จึงสั่งให้ปัญจสิขเทพบุตร บอกใบ้พระโพธิสัตว์ โดยการดีดพิณ 3 สาย36

ทาํ ให้พระพุทธเจ้าทรงระลึกถึง ทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) กลับมาเสวยอาหาร รับข้าวมธุปายาสของ
นางสชุ าดา

♦ ทําให้ปญั จวคั คยี ์ เส่อื มศรทั ธา เพราะหาวา่ ละความเพียรมักมากในกาม
♦ ใช้ ฌาณ 4 เป็น บาท คือเป็นฐาน หรือ สมถกรรมฐาน แล้วพิจารณาตามจริง หรือ
วิปสั สนากรรมฐาน37 จนได้ วิปสั นาฌาณ
♦ เกิดอภิญญา 6 อิทธิวิธี (แสดงฤทธิ์ได้ จําว่า อิทธิฤทธ์ิ) ทิพพโสต (หูทิพย์ จําว่า โสต
เหมือนห้องโสต) เจโตปรยิ ญาณ (หยงั่ รู้จิตผอู้ ื่น จาํ ว่า เจโต คือ จติ ) ปุพเพนวิ าสานสุ ตญิ าณ (ระลึกชาตไิ ด้ จาํ ว่า
บพุ เพสนั นวิ าส) ทิพพจกั ขุ (มีตาทิพย์ จําว่า จักขุ คือ ตา) **อาสวักขยญาณ (การทําให้กิเลสสิ้นไป จําว่า ขย
คือ ขยะ) ในวันเพญ็ เดอื น 6 วนั วิสาขบชู า
♦ ส่ิงที่ตรัสรู้ คือ อริยสัจ 4 คือ กระบวนการเกิดข้ึนของทุกข์และการดับทุกข์ ซ่ึงพระองค์
ไม่ได้คิดเองเพยี งแต่ไปคน้ พบความจริงท่มี ีอยู่ ดังนัน้ พุทธเจา้ คน้ พบทางสายกลางก่อนแลว้ จึงคน้ พบอริยสัจ 4

ปฐมเทศนา
- ตอนแรกไม่ทรงคดิ สง่ั สอน เพราะธรรมลกึ ซง้ึ เกินปุถุชนจะเข้าใจได้ แตเ่ มอื่ ทรงพิจารณาแล้ว
ก็พบวา่ สัตวโ์ ลกมสี ตปิ ัญญาแตกตา่ งดจุ บวั 4 เหล่า38
- เริ่มจากกลุ่มบัวเหล่าแรกก่อนเพื่อให้การเผยแพร่เร็ว จึงนึกถึงอาฬารดาบสและอุทกดาบส
ก่อน แต่ท้ังสองถึงแก่กรรมไปแล้ว
- ต่อมาจึงนึกถึง ปัญจวัคคีย์ จึงเสด็จไปโปรดท่ี ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แสดงธรรมะ
เรียกว่า ธัมมจักกปั ปวัตตนสตู รเก่ียวกบั ทางสุดโต่งสองทาง ทางสายกลาง และ อริยสจั 4
- การแสดงปฐมเทศนาน้ันอุปมาเหมือน การประกาศสงครามกับกิเลส เสมือนล้อของรถศึก
ใหเ้ รม่ิ หมนุ ไปขา้ งหนา้
- โกณฑญั ญะ ดวงตาเหน็ ธรรมบรรลุโสดาบัน แลว้ ขอบวชแบบเอหภิ ิกขุอปุ สัมปทา เป็นภิกษุ
องค์แรกในพุทธศาสนา จึงเป็นคร้ังแรกที่ พระรัตนตรัยครบสามดวง ในวันเพ็ญเดือน 8 วันอาสาฬหบูชา
(อาสา มาเป็นพระ) ต่อมาในวนั แรม 5 คาํ่ เดือน 8 ปัจจวคั คยี ์ ได้ฟังอนัตตลักขณสูตร (เก่ียวกับอนัตตาในขันธ์
5) จึงบรรลอุ รหนั ต3์ 9

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (121)

การประดษิ ฐ์พระพทุ ธศาสนาทีแ่ คว้นมคธ
- ตอ่ มาโปรดชฎิลสามพ่นี ้องมี อรุ เุ วลกัสสปะ ภายหลงั ได้รับการยกย่องว่าเปน็ เอตทคั คะใน
ด้านผมู้ บี รวิ ารมาก ซ่งึ เปน็ พระอาจารย์ของพระเจา้ พมิ พิสารและเป็นหัวหน้ากล่มุ ส่งผลใหอ้ ุรเุ วลกัสสปะขอบวช
ดังนน้ั เมอื่ หัวหนา้ บวชคนอืน่ ที่เป็นศษิ ย์ จงึ ขอบวชตาม40
- หลังจากน้ันจงึ พากันไปโปรดพระเจา้ พิมพสิ าร โดยพระพุทธเจา้ ไดท้ รงแสดงธรรมเร่อื งอนุปุพพกิ ถา
และอรยิ สัจ 4 ส่งผลทาํ ให้พระเจ้าพิมพสิ ารและบริวารบรรลโุ สดาบนั พร้อมประกาศตัวเป็นพุทธมามกะ
- พระเจ้าพิมพสิ ารจงึ ถวายวดั เวฬุวนั มหาวิหารใหเ้ ปน็ วัดแห่งแรกในพุทธศาสนา
ข้อสังเกต ระยะเวลาสว่ นมาก พระพทุ ธเจา้ ประทบั ทีว่ ัดพระเชตวนั มหาวิหาร41ท่อี นาถบิณฑกิ เศรษฐีสร้าง

วิเคราะห์การแสดงโอวาทปาฏโิ มกข์
- หลังจากนน้ั 9 เดอื น กม็ กี ารประชุมสงฆค์ ร้ังแรกและสําคัญที่สดุ มีจาตุรงคสนั นิบาต ณ
วดั เวฬุวนั มหาวหิ าร เป็นวนั เพญ็ เดอื น 3 หรือ มาฆบชู า ทรงแสดง โอวาทปาตโิ มกข์ (หวั ใจพระพุทธศาสนา)
เพ่ือการเผยแพรศ่ าสนา แบ่งเป็น 3 ตอน วา่ ดว้ ยอดุ มการณ์ วา่ ดว้ ยหลักการ ว่าดว้ ยวธิ กี าร
 ตอนแรก อุดมการณ์ 3 ขอ้ 1) หากไมม่ ี ขันติ นําไปส่สู งคราม 2) นพิ พาน คือ ความพ้นจาก
กเิ ลส ไมใ่ ชส่ วรรคไ์ มใ่ ชพ่ รหม 3) บรรพชติ สมณะในพุทธศานา คือ สญั ลกั ษณ์แห่งความร่มเย็น ความไมม่ ภี ยั
 ตอนสอง การปฏบิ ตั ิ สรุปลงได้ 3 อยา่ ง เวน้ ชั่ว ทาํ ดี และทําจติ ใหบ้ รสิ ุทธ์ิ
 ตอนสาม เพอื่ ผูไ้ ปประกาศศาสนา42
ขอ้ ควรจาํ จาตุรงคสันนิบาต ประกอบดว้ ย
1. วนั ทีพ่ ระสงฆ์มา 1,250 รูปมไิ ดน้ ดั หมาย
2. พระสงฆท์ มี่ าลว้ นเปน็ เอหภิ ิกขุอปุ สมั ปทา
3. พระสงฆ์ทม่ี าล้วนเป็นพระอรหันต์
4. วนั เพ็ญเสวยมาฆฤกษ์

สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (122) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27

ปรินิพพาน
- พระพทุ ธเจ้าบาํ เพ็ญพุทธกจิ 5 ประการ เป็นกจิ วัตร43 พระพทุ ธเจ้ามโี รคประจําตัว คือ
โรคปักขนั ทิกาพาธ โรคบิด ดับขนั ธ์ปรนิ พิ พานทีส่ วนสาละ สาลวโนทยาน เมืองกสุ ินารา แสดงธรรม ปจั ฉมิ
โอวาท อยา่ ประมาท44 และรบั สุภทั ทะปรพิ าชกเปน็ สาวกองคส์ ดุ ทา้ ย

วิเคราะหต์ อนปรนิ ิพพาน
- พระธรรม พระวินยั เป็นเสมอื น ศาสดา หลังจากการปรินพิ พาน
- การบูชาพระพุทธเจ้าอยา่ งแทจ้ ริง คือ การปฏบิ ัตธิ รรมใหส้ มควรแกธ่ รรม

สรปุ พทุ ธโอวาท

ช่ือหลกั ธรรม สาระ วัน
ปฐมโอวาท หรอื ธรรมจกั กปั ปวตั นสตู ร อาสาฬหบชู า
ทางสุดโต่ง ทางสายกลาง อริยสัจ 4
โอวาทปาติโมกข์ ละชวั่ ทาํ ดี ทําใจให้บรสิ ทุ ธิ์ มาฆบูชา
ปจั ฉมิ โอวาท หรือ อปั ปมาทธรรม ความไม่ประมาท วิสาขบชู า

เพราะสงั ขารเส่อื มไปเปน็ ธรรมดา

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (123)

5.3 วนั สาํ คัญทางพระพทุ ธศาสนา
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (124) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 27

แบบฝก หัด

1. “เราเป็นผูเ้ ลิศแหง่ โลก เราคือผเู้ ปน็ ใหญ่แหง่ โลก เราเป็นผปู้ ระเสริฐแหง่ โลก” การเปล่งอาสภวิ าจาอยา่ ง
อาจหาญของเจา้ ชายสิทธัตถะทันทที ีป่ ระสูติ เปน็ สญั ลักษณ์ส่ือความหมายตามขอ้ ใด (แนวข้อสอบ O-NET 58)
1) มนุษยม์ คี วามสามารถเหนือกวา่ สัตวอ์ นื่ ๆ ในโลก
2) มนษุ ยม์ ีศักยภาพทจ่ี ะอวดอ้างตนเองได้ทุกเม่อื
3) เจ้าชายสิทธัตถะมคี วามม่งุ ม่นั ท่ีจะเป็นผู้ยง่ิ ใหญท่ ีส่ ุดในโลก
4) มนุษย์มีศักยภาพในการพฒั นาตนเองได้สงู สุด
5) การพฒั นาตนเองให้เป็นเลิศกวา่ ศาสนาอื่นๆ เป็นส่ิงทศ่ี าสนาพุทธมงุ่ เนน้

2. หลังจากตรัสรพู้ ระพทุ ธเจา้ ทรงเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาอย่างไรเป็นอนั ดับแรก (แนวข้อสอบ O-NET 57)
1) เสด็จไปโปรดพระอาจารย์อาฬารดาบส กาลามโคตร และอุทกดาบส รามบุตร
2) เสด็จไปโปรดปญั จวคั คีย์ทีป่ ่าอสิ ิปตนมฤคทายวนั
3) แสดงธรรมอาทติ ตปรยิ ายสตู รโปรดชฎิล 3 พี่นอ้ ง
4) เสดจ็ ไปโปรดพระเจ้าพมิ พสิ ารทีก่ รุงราชคฤห์
5) เสด็จไปโปรดพระญาตทิ กี่ รุงกบิลพัสด์ุ

3. ในวนั อาสาฬหบชู าพระพุทธเจ้าแสดงธรรมเทศนาเร่อื งใด (แนวข้อสอบ O-NET 57)
1) ธัมมจกั กัปปวัตตนสตู ร
2) อนันตลักขณสตู ร
3) อาทิตตปริยายสตู ร
4) มหาสาโรปมสูตร
5) โลกวิปตั ตสิ ูตร

4. วนั สําคัญทางพระพุทธศาสนาวันใดทพ่ี ระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเกี่ยวกบั อริยสจั 4 และมัชฌิมาปฏิปทา
(แนวข้อสอบ O-NET 57)
1) วันอาสาฬหบชู า
2) วันมาฆบชู า
3) วันวิสาขบูชา
4) วันอัฏฐมบี ูชา
5) วันเทโวโรหณะ

5. ขอ้ ใดไม่ได้แสดงถึงความมงุ่ มั่นของพระพทุ ธเจ้าในการแสวงหาทางพน้ ทกุ ข์ (แนวขอ้ สอบจริง O-NET 56)
1) ทรงสังเกตเห็นว่า การเกิด แก่ เจบ็ และตายเป็นสาเหตทุ ีท่ ําใหม้ นษุ ยเ์ ป็นทุกข์
2) ทรงละทง้ิ ราชสมบตั ิออกผนวชเม่ือพระชนมายุ 29 พรรษา
3) ทรงศกึ ษาเล่าเรียนกับอาฬารดาบสและอทุ กดาบสจนหมดสน้ิ
4) ทรงทรมานพระวรกายตนเองด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ
5) ทรงบําเพญ็ เพยี รสมาธทิ างจิตจนบรรลเุ ปา้ หมาย

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (125)

6. พระพุทธเจ้าสอนอรยิ สัจ 4 ในวนั ใด (แนวข้อสอบ O-NET 54)
1) วันจาตุรงคสันนิบาต
2) วันอาสาฬหบูชา
3) วนั อัฏฐมีบชู า
4) วันมาฆบชู า

7. พระพุทธเจา้ ทรงบรรลุญาณใดที่ทําใหต้ รัสรูอ้ ริยสจั 4 (O-NET 52)
1) จุตูปปาต
2) อาสวักขย
3) อานาปานสติ
4) ปุพเพนวิ าสนุสสติ

8. ในวนั อาสาฬหบูชา พระพุทธเจา้ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาเร่ืองใด (O-NET 52)
1) อนตั ตา และนพิ พาน
2) มชั ฌิมาปฏปิ ทา และอริยสจั 4
3) ไตรลกั ษณ์ และรัตนตรยั
4) โพธิปักขิยธรรม และอปริหานิยธรรม

9. ขอ้ ใดคอื ศาสดาทพ่ี ระพทุ ธเจ้าระบุไว้ให้เปน็ ตัวแทนหลังจากเสด็จปรินพิ พาน (O-NET 49)
1) พระอุบาลี
2) พระอานนท์
3) พระธรรมวนิ ัย
4) พระมหากสั สปะ

10. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมคร้ังแรกให้แกใ่ คร (O-NET49)
1) ปัญจวคั คีย์
2) ชฎิล 3 พ่ีน้อง
3) พระเจ้าสทุ โธทนะ
4) อาฬารดาบสและอทุ กดาบส

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (126) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 27

5.4 การบริหารจิตและเจริญปัญญา

แบบฝก หัด

1. การฝกึ สตปิ ฏั ฐานขน้ั พจิ ารณาเวทนาคอื อย่างไร (O-NET 54)
1) รเู้ ทา่ ทันความรู้สกึ สขุ ทกุ ข์ หรอื เฉยๆ
2) กําหนดรู้ว่าทกุ อริ ิยาบถขณะนนั้ เปน็ อาการใด

3) กาํ หนดรู้วา่ ขนั ธ์ 5 คอื อะไร เกิดดบั ได้อย่างไร
4) พจิ ารณาดจู ิตของตนว่ามรี าคะ โทสะ โมหะ หรอื ไม่

2. ขอ้ ใดคือความหมายของ “จิต” ในจติ ตานุปสั สนาสตปิ ัฏฐาน (O-NET 53)

1) ธรรม 2) อารมณ์ 3) ความรสู้ ึก 4) ความนกึ คิด

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (127)

5.5 พทุ ธบรวิ าร เพลงพทุ ธสาวก (PART 1)

ทาํ นอง : เพลงคิดมาก ปาลม์ ม่ี

พระอญั ญาโกณฑัญญะ พระสาวกองคแ์ รกในพทุ ธศาสนา
เดมิ เป็นโหรทีม่ าทํานายอนาคตของเจา้ ชายสิทธัตถะ

หน่งึ พระสงฆใ์ ช่ไหม คือโกณฑัญญะโหรเราไม่ตอ้ งคิดมาก

พระอสั สชิ มีลักษณะเดน่ คือ ความออ่ นนอ้ มถ่อมตน
ถ่อมตนเร่ิมจะหวัน่ ไหว อสั สชใิ ห้เรานนั้ ได้คําตอบ

พระโมคคลั ลานะ เปน็ อคั รสาวกเบือ้ งซา้ ย (มีฤทธ์ิมาก) พระพทุ ธเจา้ สอนอบุ ายแกง้ ว่ งให้ และเด่นดา้ นก่อสรา้ ง
โมคคลั ลานะเบื้องซ้าย บอกใหร้ ู้แกง้ ่วงกอ่ สรา้ งนนั่ ไง

พระสารบี ตุ รเป็นอคั รสาวกเบื้องขวา (มปี ญั ญามาก) คณุ ธรรมเดน่ คอื ความกตัญญู
เบอ้ื งขวาประชิดเคียงขา้ งกนั สารีนน้ั กตัญญูมากใชไ่ หม

พระมหากสั สปะ เอตทคั คะดา้ นออกธุดงค์มาก
และเป็นประธานการสังคายนาพระไตรปฎิ กครั้งท่ี 1
กสั สปะธุดงคร์ ู้ ประธานสงั คายนากันแคไ่ หน

พระเจ้าพิมพิสารเปน็ ผูถ้ วายอุทยานเวฬุวนั ให้เปน็ วัดแห่งแรกในพทุ ธศาสนา
พมิ พสิ ารวดั แรกสร้างมา เวฬวุ นั ให้เธอสัญญา ว่าจะไม่ทําใหเ้ ธอตอ้ งเสยี ใจ

พระอานนทเ์ ป็นพุทธอปุ ัฏฐาก เปน็ ลกู พ่ลี ูกนอ้ งของเจ้าชายสทิ ธตั ถะ)
อุปฏั ฐากพระอานนทใ์ ช่ไหม ความจรงิ นัน้ เปน็ พี่นอ้ งกันใชไ่ หม

และเป็นสหชาติ (เกิดวนั เดยี ว เดอื นเดยี ว ปเี ดยี วกนั
สหชาตินนั้ ยังไมไ่ ด้เปลยี่ นไป และความรักของเรายงั คงเหมือนเดมิ

พระเจ้าอโศกมหาราชเปน็ องค์อปุ ถัมภก์ ารสงั คายนาพระไตรปฎิ กครง้ั ท่ี 3 และส่งทตู 9 สายไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา
ทูต 9 สาย สงั คายนาคร้ังน้ี คร้งั ที่สามพระเจ้าอโศกคนน้ี

อนาถบณิ ฑกิ กะเศรษฐี มหาอุบาสกเป็นผูถ้ วายเชตวันมหาวิหาร วดั แหง่ ที่ 2 ในพุทธศาสนา
เชตวนั ทา่ นบณิ ฑกิ กะเศรษฐี อุบาสกนับถอื มน่ั คงเหมอื นเดิม ใช่หรือเปลา่

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (128) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

พทุ ธสาวก

พุทธสาวก ความสําคญั

พระอัญญาโกณฑัญญะ - พระสงฆอ์ งค์แรก (ปฐมสาวก) ในพระพทุ ธศาสนา
- เอตทคั คะในดา้ นรตั ตญั ญู เป็นผรู้ ธู้ รรมและมอี ายุพรรษามากกวา่ ผอู้ ่นื

พระอัสสชิ - พระอาจารย์ของพระสารีบุตร
- มคี วามออ่ นนอ้ มถอ่ มตนแมจ้ ะบรรลุแลว้ กย็ งั ถ่อมตน (สมถะ)
- เป็นครูท่ดี ี (นาํ คําสอนท่ลี ึกซึง้ มายอ่ ไดอ้ ยา่ งกะทดั รัด)
- เป็นผ้เู คารพในพระพุทธเจา้
- ยึดมน่ั ในหลกั การ ไม่ชอบเทศนาแบบพิสดารเน้นแก่น

พระสารีบตุ ร - เอตทคั คะในด้านผู้มปี ัญญามาก
- อัครสาวกเบ้อื งขวา
- เป็นผู้มีจติ สาธารณะทําประโยชน์เพ่อื ส่วนรวม
- ธรรมเสนาบดี
- มคี วามใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน
- มคี วามรกั ความซอื่ ตรง และยกยอ่ งใหเ้ กียรตเิ พอ่ื น
- มีความกตญั ญูท้งั ต่ออาจารย์ ตอ่ พระศาสดา ต่อมารดา และตอ่ ผ้ถู วายข้าวสกุ

แมเ้ พียงทัพพเี ดียว

พระโมคคัลลานะ - เอตทคั คะในด้านผมู้ ีฤทธมิ์ าก
- อคั รสาวกเบือ้ งซา้ ย
- ถนัดงานดา้ นก่อสรา้ ง (ดูแลการสรา้ งวหิ ารบพุ พารามที่นางวสิ าขาบรจิ าคทรัพย์

ถวาย)
- ใจกวา้ ง ไม่ยกตนข่มผูอ้ ื่น
- ยกยอ่ งผูอ้ น่ื ไม่ถือโอกาสชิงความดคี วามชอบจากผู้อ่นื

พระอานนท์ - หนึ่งในสหชาติ
- เอตทัคคะ 5 ด้าน พหสู ตู ร จาํ คําสอนไดม้ ากสุด เป็นผู้มสี ติ เปน็ ผู้มคี ติ แนวการจํา

เปน็ ผมู้ ีความเพียร เปน็ พุทธอปุ ัฏฐาก
- เปน็ ผูว้ สิ ัจฉนาพระธรรมในการสงั คายนาครง้ั ที่ 1
- เปน็ ผ้เู สยี สละ
- เปน็ ผูร้ ูจ้ ักกาลเทศะ
- เป็นผกู้ ตญั ญู (ปกปอ้ งพระพทุ ธเจา้ ดว้ ยชวี ติ ตอนพระเทวทัต)
- มบี ทบาทในการสง่ เสรมิ สทิ ธสิ ตรี และนกั สิทธิมนุษยชน (ถามเรอื่ งการบรรลุ

ธรรมของสตรี ชว่ ยใหน้ ้าของท่านบวชเป็นภิกษุณไี ด้)

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (129)

พุทธสาวก ความสําคญั
พระอบุ าลี
พระมหากสั สปะ - เอตทคั คะผ้เู ลศิ ในทางผทู้ รงพระวินยั
- ในการสงั คายนาพระธรรมวนิ ยั คร้งั แรกเป็นผูว้ ิสัชชนาพระวนิ ัย
พระองคุลิมาล
พระมหากัจจายนะ - เป็นบุตรทดี่ ีของบิดา มารดา (เคารพ และเชอื่ ฟัง)
- เป็นผ้รู กั ษาสัจจะ และมีความกตญั ญู
พระสวิ ลี - ใช้ชีวิตเรียบงา่ ย มกั นอ้ ย สนั โดษ
พระอนรุ ุทธ - เคร่งครัดในขอ้ ปฏิบตั หิ รอื วินยั สงฆ์
พระเจ้าอโศกมหาราช - เอตทคั คะด้านการเดนิ ธุดงคม์ าก
- ประธานในการสังคายนาพระธรรมวนิ ัยครั้งท่ี 1
หมอชวี กโกมารภัจจ์
- เปน็ ผูใ้ ฝร่ ้วู า่ นอนสอนงา่ ย
- เปน็ ผู้อดทน ไมต่ อบโต้
- เปน็ ผมู้ ักนอ้ ย

- เป็นคนรอบคอบ
- เปน็ ผ้ยู ดึ ม่นั ต่อคําสัง่
- เป็นผมู้ ีความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์
- ตงั้ ใจทําหนา้ ท่ที ่ีได้รบั มอบหมาย
- เอตทัคคะดา้ นผู้อธิบายความย่อให้พสิ ดาร

- เอตทัคคะดา้ นผเู้ ลิศดว้ ยลาภและเลิศดว้ ยยศ

- เป็นผมู้ ีนาํ้ ใจนกั กีฬา
- เป็นแบบอยา่ งที่ดีในการทําบญุ
- มคี วามเพียร มีสติ มีจิตใจทม่ี ่นั คง และมีปญั ญา

- อปุ ถมั ภ์การสงั คายนาครั้งท่ี 3 นาํ ไปส่กู ารสง่ สมณทตู ออกไปเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนา 9 สาย

- สร้างเสาอโศก ทําใหร้ ้สู ถานทต่ี า่ งๆ ในพุทธประวตั ิ
- เปลี่ยนหลกั นโยบายการต่างประเทศจากการรบมาเป็นการประกาศศาสนา

- ถวายสวนมะมว่ งเพือ่ เป็นสถานพยาบาลสงฆแ์ ห่งแรก (ชีวกัมพวัน)
- เอตทัคคะผู้เลิศกว่าอุบาสกทงั้ ปวงดา้ นเปน็ ทร่ี กั ของปวงชน และบรมครแู ห่ง

การแพทยแ์ ผนโบราณ
- มีแรงจงู ใจใฝส่ ัมฤทธิ์สงู เปลยี่ นสงิ่ ลบเปน็ บวก
- มีความพากเพยี รสูง
- เปน็ อบุ าสกที่ดี มศี รทั ธาในพระพุทธเจ้า
- เปน็ ผมู้ ีนํา้ ใจ เสียสละอย่างยงิ่

สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (130) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

พุทธสาวก ความสาํ คัญ
นายสุมนมาลาการ
- กล้าหาญในการทาํ สงิ่ ที่ถกู
จิตตคหบดี
- ไดร้ บั ยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจา้ ว่า เปน็ อบุ าสกตวั อยา่ ง เป็นอคั รอบุ าสก
อนาถบิณฑิกเศรษฐี - เอตทัคคะดา้ นการแสดงธรรม
- เป็นผู้อุปถมั ภ์พระศาสนา
- เป็นผเู้ คารพพระสงฆแ์ ม้บรรลธุ รรมแลว้
- เปน็ นักเผยแผศ่ าสนาที่ดี

- อปุ ัฏฐากศาสนาเปน็ เวลานาน
- ใหบ้ ริวารถอื ศลี 8 ในวนั ธรรมสวนะ
- ไม่ท้อแทเ้ มือ่ ประสบปัญหาในชีวิต
- สละทรพั ย์เพือ่ ศาสนาจนได้ช่ือว่า มหาอุบาสก คู่กับนางวสิ าขา
- บาํ เพญ็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้อน่ื
- ถวายพระเชตวนั (เชตวันมหาวิหาร) เปน็ อารามแห่งที่ 2 ในพทุ ธศาสนา

พทุ ธสาวิกา

พทุ ธสาวิกา ความสําคัญ

พระมหาปชาบดี - พระมารดาเลยี้ งของเจา้ ชายสทิ ธตั ถะ
โคตมีเถรี - ภิกษุณอี งคแ์ รกในพทุ ธศาสนา
- เป็นผูท้ เี่ รม่ิ การถวายสังฆทานเป็นคนแรก
- เป็นผูม้ คี วามอดทนและตง้ั ใจ
- เป็นผมู้ คี วามเพียรพยายาม
- เป็นผทู้ เ่ี ห็นแก่ประโยชนส์ ว่ นรวม
- เปน็ ผมู้ ปี ระสบการณใ์ นชวี ติ มาก และได้รบั ยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจ้าว่าเปน็ เอตทัคคะ

ดา้ นรัตตัญญูภาพ

พระภทั ทากัจจานาเถรี - เดิมคอื พระนางพิมพายโสธรา
พระกสี าโคตมเี ถรี - หนึ่งในสหชาติ
- เอตทัคคะด้านผูท้ รงอภญิ ญา

- เป็นผมู้ ีชีวติ เรยี บงา่ ย
- เขา้ ใจความจริงของชีวติ ดว้ ยตนเอง
- เป็นครทู ี่ดสี าํ หรบั สตรี
- มีจิตใจเขม็ แขง็
- เอตทคั คะด้านผ้ทู รงจวี รเศร้าหมอง

โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (131)

พทุ ธสาวกิ า ความสาํ คญั
พระนางเขมาเถรี
- เปน็ ผู้มเี หตผุ ล
พระอุบลวรรณาเถรี - เป็นผ้ทู ่มี ไี หวพริบปฎภิ าณ
พระปฏาจาราเถรี - เอตทคั คะด้านมีปัญญามาก
พระธรรมทินนาเถรี - พระอัครสาวกิ าเบือ้ งขวา

เจา้ หญิงมลั ลกิ า - เอตทคั คะด้านผู้มีฤทธิ์มาก
- พระอัครสาวิกาเบ้ืองซ้าย
นางวสิ าขามหา
อบุ าสิกา - เป็นผใู้ ชส้ ตปิ ญั ญาแกไ้ ขปญั หาชวี ิต
- เปน็ ตวั อย่างผู้ปฏิบตั อิ ปั ปมาทธรรม
นางจูฬสุภัททา - เอตทัคคะด้านผู้เป็นเลิศในฝ่ายผู้ทรงวนิ ยั
นางขุชุตตรา
- มีความศรทั ธาเลือ่ มใสในพระพทุ ธศาสนา
- มคี วามกตัญญูกตเวที
- มปี ัญญาเฉลียวฉลาด
- เอตทัคคะด้านธรรมกถกึ

- เปน็ สาวิกาที่ดี
- เขา้ ใจโลกและชวี ติ
- มขี ันติ
- เปน็ ภรรยาทด่ี ี
- มใี จกว้างและมเี มตตา

- บุคคลแรกที่รเิ ร่ิมการถวายผ้าอาบนา้ํ ฝน
- เปน็ บตุ รที่ดขี องบิดามารดา เชอื่ ฟังคาํ ส่งั สอน
- เปน็ ภรรยาที่ดี
- เป็นผเู้ ข้าใจวนิ ัยสงฆอ์ ยา่ งดี
- เอตทัคคะในฝา่ ยผ้เู ปน็ ทายกิ า

- อุบาสกิ าผู้มีศรทั ธามั่นคงในพระรัตนตรัย
- เปน็ ผู้กตัญญูกตเวที

- เป็นผเู้ ลิศทางพหูสตู คอื การไดย้ นิ ไดฟ้ งั มามาก หมายถึง เรียนรหู้ ลายอย่าง
- เอตทคั คะด้านผูแ้ สดงธรรม

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (132) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีที่ 27

ชาวพุทธตัวอย่าง

ชาวพทุ ธตัวอยา่ ง ความสําคัญ

พระนาคเสน - ปญั หาทพ่ี ระนาคเสนและพรยามลิ นิ ทโ์ ต้กันถูกบันทึกไว้ในหนงั สือ มิลนิ ทปญั หา
และพระยามลิ ินท์

สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ - ทรงตัง้ มหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย และฝ่าย
กรมพระยาวชิรญาณ - ทรงจดั ตง้ั ธรรมศกึ ษา และจัดสอบฝา่ ยบาลี

วโรรส นักธรรม
- ทรงแก้ไขตําราเรยี นพระปริยัติธรรม
- จัดให้มีโรงเรยี นในวดั ท่วั ราชอาณาจกั ร

สมเดจ็ พระวันรัต - เป็นนกั การศกึ ษา ซ่งึ ท่มุ เทจิตใจและสตปิ ญั ญาใหก้ บั การ

(เฮง เขมจาร)ี จดั การศกึ ษาของมหาธาตวุ ทิ ยาลยั (มหานกิ าย)

พระครูวนิ ัยธร - บรมครู (พระอาจารย์ใหญ่) สายวดั ปา่ สายกรรมฐาน
(พระอาจารยม์ ัน่ - ปฏบิ ัติตนตามสมณวสิ ยั คอื สอนใหค้ นมศี ีลธรรมไมว่ า่

ภรู ทิ ตั โต) ไทยลาว
- เปน็ แบบอย่างของพระสงฆ์
- การกระทําประโยชน์แกช่ าติ เทศนาให้คนเป็นคนดี

พระโพธญิ าณเถร - เป็นพระทีเ่ คร่งครัดในพระธรรมวนิ ยั มาก
(หลวงพอ่ ชา สุภัทโท) - ผ้รู เิ ร่มิ สรา้ งวัดหนองปา่ พง เน้นกลมกลนื ธรรมชาติ และ

เผยแผ่ธรรมในต่างประเทศ
- สามารถสอนชาวต่างประเทศได้ แมจ้ ะไม่รภู้ าษาองั กฤษ

พระธรรมโกศาจารย์ - ผ้กู อ่ ตง้ั สวนโมกขพลาราม และ สวนโมกขน์ านาชาติ
(พุทธทาสภิกข)ุ - ออกหนังสือพมิ พพ์ ุทธเล่มแรกของไทยราย 3 เดอื น และ

หนังสือชดุ ธรรมโฆษณ์
- ไม่ว่าศาสนาใดกป็ รารถนาความพน้ ทุกข์ จึงต้องการให้เกิด

ความเขา้ ใจระหว่างศาสนา ดงึ คนออกจากวตั ถุนิยม
- ได้รับการยกย่องว่าเปน็ เสมอื นเสนาบดีแห่งกองทัพธรรม

ในยคุ ก่ึงพุทธกาล

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (133)

ชาวพุทธตวั อยา่ ง ความสําคัญ

พระพรหมมังคลาจารย์ - ทํางานเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาร่วมกับท่านพุทธทาสภกิ ขโุ ดยเฉพาะภาคใต้และ
(ปัญญานันทภิกข)ุ มาเลเซีย
- ไดร้ ับฉายาวา่ นักเทศนฝ์ ปี ากกลา้
- เปน็ พระไทยทเี่ ผยแผ่พุทธศาสนา ณ ต่างประเทศอย่างกว้างขวาง
- อบรมพระใหเ้ ปน็ นกั เผยแผธ่ รรมที่ดี
- เปดิ โรงเรยี นพุทธศาสนาวันอาทติ ย์
- จัดคา่ ยต่างๆ เช่น ค่ายพุทธบตุ ร
- ฟ้นื ฟูประเพณีตา่ งๆ ให้ถูกตอ้ ง เชน่ การบวชอยา่ งเรยี บงา่ ย
- มีความมุ่งหวังสรา้ งพระ สร้างคน เยาวชน
- สร้างวัดปญั ญานันทาราม

พระพรหมคุณาภรณ์ - เดน่ ด้านการปกปอ้ งคุ้มครองพระศาสนา เม่อื เกดิ ความสบั สน
(ป.อ.ปยตุ โต) ในการตีความพระวินัยท่านชว่ ยแกไ้ ข

- ได้รับรางวัลการศึกษาเพ่ือสันติภาพจากยูเนสโก จากงาน
ป ร ะพั น ธ์ม ากก ว่า 100 เร่ือ ง เ ช่น พุ ทธธรรม แ ล ะ
พจนานกุ รมพุทธศาสน์

- เจา้ ของคําคม ชาวพุทธต้องเลิกเป็นผู้มองแคบ คิดใกล้ ใฝต่ ํ่า
ตอ้ งเป็น ผมู้ องกวา้ ง คิดไกล ใฝส่ งู

พระมหาธรรมราชาที่ 1 - ทรงนาํ ธรรมะมาใชใ้ นการปกครอง ทรงเปน็ พระธรรมิกราช ดงั พระพทุ ธพจน์
(ลิไท) ท่ีว่า “พระราชาเป็นเคร่อื งปรากฏของรัฐ”

- ทรงจดั ระเบยี บสงฆ์ข้นึ คร้ังแรก โดยแบ่งเป็น 2 ฝา่ ย คือ คามวาสี และอรญั วาสี
- ทรงอัญเชิญพระบรมสารรี ิกธาตุจากลังกามายงั สุโขทัย
- ทรงสร้างพระพทุ ธรูปจาํ นวนมาก เช่น พระพทุ ธชนิ ราช พระพุทธชนิ สหี ์ พระศรี-

ศาสดา เป็นตน้ และโปรดให้ประดษิ ฐานรอยพระพุทธบาท
- ทรงนพิ นธห์ นงั สือเตภูมิกถา หรือไตรภูมพิ ระรว่ ง ซึง่ ถือเปน็ วรรณกรรมทาง

พระพุทธศาสนาเลม่ แรกของไทย
- โปรดใหส้ ร้างและบูรณะวัดหลายวัด เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (ในจัดหวดั พิษณโุ ลก)
- ทรงอาราธนาคณะสงฆ์ลงั กาวงศจ์ ากเมืองนครศรธี รรมราชมาประดษิ ฐาน

พระพทุ ธศาสนาขน้ึ เป็นศาสนาประจาํ อาณาจกั รสุโขทัย

สมเดจ็ พระนารายณ์ - บรู ณะวดั พระศรีรตั นมหาธาตุ วดั ใหญ่ พษิ ณุโลก วดั เสาธงทอง วัดตองปุ และ

มหาราช พระพทุ ธบาทจาํ ลอง วดั จฬุ ามณี เมอื งพิษณโุ ลก

- อัญเชญิ พระพทุ ธสิหงิ ค์จากเชยี งใหมไ่ ปวดั พระศรสี รรเพชญ์ และหล่อพระพุทธรปู
ช่อื พระบรมไตรโลกนาถ

- ให้พระสงฆ์มบี ทบาทในการบริหารบ้านเมอื ง
- ทูตฝรง่ั เศสชวนใหน้ บั ถือคริตส์แต่ก็คงยดึ มนั่ และมขี ันตธิ รรมทางศาสนา ยอม

ใหม้ ีการเผยแผ่ได้

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (134) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

ชาวพุทธตวั อย่าง ความสาํ คัญ
พระบาทสมเดจ็
พระจลุ จอมเกลา้ - ทรงสรา้ งวัดหลายวัด เช่น วัดจุฑาทศิ ธรรมสภาราม วดั อษั ฎางคน์ ิมติ ร
วัดเบญจมบพิตร วัดนิเวศธรรมประวตั ิ วดั ราชาธิวาส วัดเทพศิรนิ ทราวาส
เจ้าอยู่หวั
- ทรงสร้างพระปฐมเจดยี ต์ ่อจากพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัวจนเสรจ็
หมอ่ มเจ้าหญิง - ปกครองโดยธรรม หรือ ธรรมิกราช
พนู พิศมัย ดศิ กลุ - ชาํ ระ และพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทยครงั้ แรก
- ตราพระราชบญั ญัติสงฆ์ ร.ศ.121
ศาสตราจารยส์ ัญญา - ตั้งพระสงั ฆราชเป็นประมขุ และพระราชาคณะทงั้ 4 และ
ธรรมศักดิ์
ใหม้ ีสมณศกั ด์ิ
สุชีพ ปุญญานุภาพ - ตั้งมหาวทิ ยาลัยสงฆ์ มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย

มหานิกายและ มหามกฎุ ราชวิทยาลยั ธรรมยตุ ิ
- ทรงดํารงตนอยูใ่ นพทุ ธธรรม
- ทรงเปน็ ศาสนูปถัมภก

- ทรงเปน็ ผนู้ พิ นธ์หนงั สือสอนพระพุทธศาสนาแกเ่ ด็ก เรือ่ ง
ศาสนคณุ

- ทรงร่วมกอ่ ตง้ั องค์การพระพทุ ธศาสนิกสมั พันธแ์ ห่งโลก (พ.ส.ล.)
- ทรงเปน็ ผใู้ ฝเ่ รียนใฝ่รู้
- ทรงเปน็ ผูท้ ีเ่ อาใจใสแ่ ละเลือ่ มใสศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา

อย่างแท้จรงิ

- เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และขยนั หมั่นเพียร
- เปน็ ผทู้ ี่ทรงคณุ ธรรม (คนเรียกท่านว่า หลวงตาคุณธรรม ท่ีควรยดึ ถือเปน็

แบบอย่าง โดยเฉพาะเรอื่ งความเมตตาและความซือ่ สตั ย)์
- เปน็ ผู้ทมี่ คี วามคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ (รเิ ริ่มกอ่ ตงั้ พุทธสมาคม

แหง่ ประเทศไทย)
- เปน็ ผ้มู คี วามกตัญญกู ตเวที
- เปน็ ผใู้ ฝ่ธรรม
- เปน็ ผจู้ งรกั ภักดีตอ่ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์

- มคี วามสามารถแสดงธรรมเปน็ ภาษาอังกฤษเปน็ คนแรก
- เปน็ ผกู้ อ่ ต้ังโรงเรยี นพระพทุ ธศาสนาวันอาทิตย์ ยวุ พทุ ธกิ

สมาคม องค์การพทุ ธศาสนกิ สมั พนั ธแ์ หง่ โลก และสภา
การศึกษามหามกุฏราชวิทยาลยั
- เปน็ พหูสูต (ตู้พระไตรปฎิ กเดนิ ได)้
- เป็นชาวพทุ ธตัวอย่างในแง่การดําเนนิ ชวี ิต
- นักศาสนทด่ี ีศกึ ษาเปรียบเทยี บศาสนาไดด้ ี

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (135)

ชาวพทุ ธตัวอยา่ ง ความสําคัญ
อนาคารกิ ธรรมปาละ
- เดมิ ช่อื ดอน เดวติ เทวะ วติ ถรณะ เปน็ ชาวศรีลงั กา
ดร.บาบาสาเหบ - ฟนื้ ฟพู ทุ ธศาสนาจากลังกามาอินเดยี (เป็นผูจ้ ดุ ประกายการศกึ ษาพุทธศาสนา
เอ็มเบดการ์
ในอินเดีย)
- ต่อสู้เพือ่ ขอคืนพทุ ธคยาจากพวกมหนั ตะ
- บรู ณะสังเวชนยี สถาน
- เปน็ ผทู้ ่ียดึ มนั่ นบั ถือพุทธศาสนา และมุ่งม่ันทาํ งานเพื่อพระพทุ ธ-

ศาสนา

- กอ่ ตงั้ วิทยาลยั ทางพุทธศาสนาช่อื สิทธัตถวิทยาลยั
- พยายามลม่ ระบบวรรณะและผลกั ดนั ใชห้ ลักธรรมปกครอง

อนิ เดยี
- พยายามกอบกู้ศาสนาพทุ ธในอนิ เดีย

แบบฝกหดั

1. พระสาวกองคใ์ ดท่ีมคี วามโดดเด่นในเร่ืองสตปิ ญั ญาจนไดร้ บั ยกย่องใหเ้ ป็นพระธรรมเสนาบดี และมหี น้าที่
อธิบายเน้อื ความของธรรมสภุ าษติ (แนวข้อสอบ O-NET 58)
1) พระสารบี ุตร
2) พระโมคคัลลานะ
3) พระอสั สชิ
4) พระอานนท์
5) พระมหากัสสปะ

2. พระอานนทม์ ีหน้าท่ีอะไรในการสงั คายนาพระไตรปิฎกคร้งั ที่ 1 (แนวขอ้ สอบ O-NET 58)
1) ผ้อู ปุ ถัมภ์การทําสงั คายนา
2) ผ้เู ล่าชาดก
3) ประธานและผสู้ อบถาม
4) ผวู้ ิสัชนาพระวนิ ัย
5) ผวู้ สิ ัชนาพระธรรม

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (136) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27

3. พระสาวกองคใ์ ดเป็นพระญาติ และสหชาตขิ องพระพุทธเจ้า และยังได้รับการยกย่องใหเ้ ป็นเอตทคั คะถงึ 5 ด้าน
(แนวขอ้ สอบ O-NET 56)
1) พระอานนท์
2) พระอนุรทุ ธ
3) พระอบุ าลี
4) พระมหากัจจายนะ
5) พระมหากสั สปะ

4. พระเจา้ อโศกมหาราชทรงส่งสมณทูตออกเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในดนิ แดนตา่ งๆ ภายหลังสิ้นสุดการสงั คายนา
พระไตรปฎิ กครง้ั ใด (แนวข้อสอบ O-NET 56)
1) ครั้งที่ 5
2) ครง้ั ท่ี 4
3) คร้ังที่ 3
4) ครัง้ ท่ี 2
5) คร้ังที่ 1

5. ผู้ท่ไี ด้รบั ยกยอ่ งว่าเป็นเสมือนเสนาบดแี ห่งกองทพั ธรรมในยคุ ก่ึงพุทธกาลคือใคร (O-NET 52)
1) พระอาจารยม์ ่นั ภรู ทิ ตฺโต
2) พระพรหมมงั คลาจารย์ (ปญั ญานันทภิกขุ)
3) พระธรรมโกศาจารย์ (พทุ ธทาสภิกขุ)
4) สมเดจ็ พระวันรตั (เฮง เขมจารี)

6. ผทู้ ต่ี อ่ ส้กู บั ระบบวรรณะในอินเดยี จนกลายเปน็ ชาวพุทธตวั อย่างคอื ใคร (O-NET 51)
1) คานธี
2) เอ็มเบดการ์
3) พระนาคเสน
4) พระยามลิ นิ ท์

7. พระปัญจวัคคยี ์องค์ใดมคี ณุ ลกั ษณะเป็นผู้ทีอ่ อ่ นน้อมถ่อมตน (O-NET 49)
1) พระอญั ญาโกณฑัญญะ
2) พระมหานามะ
3) พระอัสสชิ
4) พระวปั ปะ

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (137)

แนวขอสอบเขามหาวทิ ยาลัย

1. หลกั ธรรมใดในพระพุทธศาสนา มีความหมายวา่ การเป็นผู้รจู้ กั ประมาณ (แนวขอ้ สอบ O-NET 58)
1) มตั ตัญญตุ า
2) อัตตัญญตุ า
3) กาลญั ญตุ า
4) ปริสญั ญุตา
5) อตั ถัญญุตา

2. ดินแดนชมพทู วีปในสมยั พทุ ธกาล คอื พน้ื ท่ีในประเทศใดในปจั จบุ ัน (แนวขอ้ สอบ O-NET 57)
1) บงั กลาเทศ ปากีสถาน และศรลี งั กา
2) ภฏู าน เนปาล และคีร์กซี
3) เนปาล และอนิ เดยี
4) อินเดยี และศรีลงั กา
5) อินเดีย

3. ขอ้ ปฏบิ ตั ิในขอ้ ใดที่ไมไ่ ดอ้ ยู่ในศีล 8 (แนวขอ้ สอบ O-NET 56)
1) งดเว้นจากการประพฤตผิ ิดพรหมจรรย์
2) งดเว้นจากการนอนบนท่นี อนอันสงู ใหญ่ หรหู ราฟมุ่ เฟือย
3) งดเว้นจากการฟอ้ นราํ ขบั ร้อง บรรเลงดนตรี
4) งดเว้นจากการรับเงนิ ทอง
5) งดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล

4. ความเพยี รมีการสอนอยใู่ นหลักธรรมใด (แนวขอ้ สอบ O-NET 54) ตอบมากกว่า 1 ขอ้
1) สปั ปรุ สิ ธรรม
2) อรยิ วฑั ฒิ 4
3) พละ 5
4) อทิ ธบิ าท 4

5. คัมภรี ท์ ีอ่ ธิบายพระไตรปิฎกเรียกวา่ อะไร (แนวขอ้ สอบ O-NET 53)
1) สสั ทาวเิ สส
2) อรรถกถา
3) บาลี
4) ตัพพินิมุตต์

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (138) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 27

6. ทกุ ขอ้ เปน็ อสังหาริมทรัพย์ยกเวน้ ขอ้ ใด (แนวขอ้ สอบ O-NET 58)
1) สะพานลอยขา้ มถนน
2) ตน้ มะขามรอบสนามหลวง
3) กระเบ้อื งมุงหลงั คาทจ่ี ะนาํ ไปตดิ ตง้ั ทพ่ี พิ ิธภณั ฑ์แห่งชาติ
4) กระเบอ้ื งที่ติดผนังหอ้ งนํ้า
5) วงกบประตูหอศลิ ปะวฒั นธรรมแห่งกรงุ เทพมหานคร

7. ประเทศไทยมรี ูปแบบของรฐั และลกั ษณะการปกครองคลา้ ยคลงึ กับประเทศใดมากที่สดุ (แนวข้อสอบ O-NET 57)
1) บรูไน
2) แคนาดา
3) สหรฐั อเมริกา
4) รสั เซยี
5) ญี่ปุ่น

8. มาตรฐานด้านสิทธิมนษุ ยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติขัดแย้งกับกิจกรรม
ในข้อใดมากทสี่ ุด (แนวขอ้ สอบ O-NET 56)
1) การคา้ ทาส
2) การเนรเทศ
3) การยึดทรัพย์สนิ
4) การประหารชีวิต
5) การวสิ ามัญฆาตกรรม

9. ความสามารถพิเศษของมนุษย์ท่แี ตกตา่ งจากสัตว์อ่ืนคอื ข้อใด (แนวขอ้ สอบ O-NET 54)
1) การใชส้ ญั ลกั ษณ์
2) การตอบสนองต่อส่ิงเร้าตามพนั ธกุ รรม
3) การตอบสนองสิง่ เร้าตามสญั ชาตญาณ
4) การตอบสนองส่ิงเรา้ โดยอัตโนมตั ิ

10. ผมู้ ีอาํ นาจสูงสดุ ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ คือใคร
(แนวขอ้ สอบ O-NET 52)
1) รฐั สภา
2) ประชาชน
3) พระมหากษัตรยิ ์
4) นายกรฐั มนตรี

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (139)

11. ผลผลิตใดมถี ิ่นกาํ เนดิ จากต่างประเทศ แต่ไดก้ ลายเปน็ สนิ คา้ สง่ ออกสําคญั มากของไทยหลังไทยเข้าส่รู ะบบ
เศรษฐกจิ สมยั ใหม่ใน ร.4 (แนวข้อสอบ O-NET 58)
1) ยางพารา
2) พริกไทยดาํ
3) ขา้ ว
4) ฝา้ ย
5) ไม้สัก

12. การสํารวจและขุดค้นเพือ่ ศึกษาด้านโบราณคดขี องไทยเรม่ิ ขึน้ ในรัชสมัยใด (แนวข้อสอบ O-NET 57)
1) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยู่หัว
2) พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว
3) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั
4) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั
5) พระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอยู่หวั

13. ธรรมยตุ ินกิ ายจดั ตงั้ ขน้ึ โดยบคุ คลใด (แนวขอ้ สอบ O-NET 56)
1) สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช เจ้าฟ้ามหาวชิรณุ หิศ สยามมกฎุ ราชกุมาร
2) สมเด็จพระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ จุฬาลงกรณ์ กรมขนุ พนิ ติ ประชานาถ
3) สมเด็จพระเจ้าลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ มงกุฎสมมตวิ งศ์ พงอิศวรกระษตั ริย์ ขตั ยิ ราชกุมาร
4) สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมสมเดจ็ พระปรมานุชิตชิโนรส
5) สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

14. เอกสารทางราชการของไทยฉบับใดเปน็ ฉบบั แรกที่ตพี ิมพโ์ ดยเคร่ืองพมิ พ์สมยั ใหม่ (แนวขอ้ สอบ O-NET 54)
1) กฎหมายตราสามดวง
2) ราชกิจจานเุ บกษา
3) ประกาศห้ามสูบฝ่ิน
4) ประมวลกฎหมายอาญา

15. การคา้ กบั ต่างประเทศในสมัยอยุธยามีลักษณะแบบใด (แนวข้อสอบ O-NET 51)
1) เป็นการผูกขาดโดยพระคลงั สินคา้
2) เปน็ การผกู ขาดโดยพระราชวงศ์
3) เป็นการคา้ เสรโี ดยไม่กีดกันชาวต่างชาติ
4) เป็นการคา้ เสรีภายใต้การควบคมุ ของกรมทา่

16. ทกุ ขอ้ เป็นประเทศท่เี ข้ายึดครองดนิ แดนตา่ งๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นข้อใด (แนวขอ้ สอบ O-NET 58)
1) สเปน
2) โปรตุเกส
3) ฝร่งั เศส
4) เยอรมนั
5) สหราชอาณาจักร

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (140) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27

17. วิถชี ีวติ ของชาวจีนในเรือ่ งใดไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากปรัชญาขงจอ้ื (แนวข้อสอบ O-NET 57)
1) การยึดหลักความสมั พนั ธข์ องคน
2) การเขา้ ใจและยอมรบั กฎธรรมชาติ
3) การยดึ ถงึ ความรกั เปน็ หลักคณุ ธรรมสงู สุด
4) การปฏบิ ตั ติ นตามวิถีธรรมชาติ
5) การใชช้ วี ติ สันโดษ

18. การไปอญั เชิญพระไตรปฎิ กทีอ่ นิ เดยี ของหลวงจีนเหี้ยนจงั เกดิ ขึน้ ในสมัยราชวงศใ์ ดของจนี (แนวขอ้ สอบ
O-NET 56)
1) ราชวงศโ์ จว
2) ราชวงศ์ฮั่น
3) ราชวงศ์หมงิ
4) ราชวงศ์ซอ้ ง
5) ราชวงศ์ถงั

19. โลหะชนดิ ใดท่ีชาวอนิ คาเปรยี บเป็น “หยาดเหง่อื แห่งพระอาทิตย”์ และ “นํ้าตาแห่งพระจนั ทร์ (แนว
ขอ้ สอบ O-NET 54)
1) ทองคาํ และเงนิ
2) ดีบุก และทองแดง
3) สําริด และทงั สเตน
4) ยปิ ซมั และทองคํา

20. ชาวตะวันตกเข้าสู่สมยั ประวัติศาตร์โดยชนชาติใด (แนวข้อสอบ O-NET 52)
1) สเุ มเรียน
2) เปอรเ์ ซีย
3) ดราวเิ ดยี น
4) อียิปต์

21. ทกุ ขอ้ เป็นปัจจัยท่ีเป็นตัวกําหนดอุปสงค์ต่อเครื่องรับโทรทศั น์ ยกเวน้ ขอ้ ใด (แนวข้อสอบ O-NET 58)
1) ราคาของเครอื่ งรบั โทรทศั น์
2) รสนยิ มของผบู้ รโิ ภค
3) ราคาของเครื่องเล่นดวี ีดี
4) เทคโนโลยขี องผผู้ ลิตโทรทศั น์
5) รายไดข้ องผูบ้ รโิ ภค

โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 27 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (141)

22. ตลาดสินคา้ ประเภทใดแทบไมม่ อี ยู่เลยในโลกแห่งความจริง (แนวขอ้ สอบ O-NET 57)
1) ตลาดก่งึ ผูกขาด
2) ตลาดแขง่ ขนั ไมส่ มบรู ณ์
3) ตลาดผู้ขายน้อยราย
4) ตลาดแข่งขนั สมบูรณ์
5) ตลาดผกู ขาด

23. ข้อใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งทนี่ กั เรยี นนําไปประยกุ ต์ใช้ (แนวขอ้ สอบ O-NET 56)
1) มคี วามม่นั คง
2) มีเหตุผล
3) มคี วามรู้
4) มีคุณธรรม
5) มภี ูมคิ ุ้มกัน

24. ประเทศไทยมีความสัมพันธท์ างเศรษฐกจิ กบั ประเทศใดมากขนึ้ เมอ่ื มกี ารจดั ตัง้ APEC (แนวข้อสอบ O-NET 54)
(ตอบมากกว่า 1 ข้อ)
1) เกาหลใี ต้
2) ออสเตรเลยี
3) เวียดนาม
4) กัมพชู า

25. ทุกข้อเป็นเหตุผลทที่ าํ ใหร้ ัฐบาลก่อหน้ีสาธารณะยกเว้นขอ้ ใด (แนวข้อสอบ O-NET 49)
1) เพอ่ื ใชร้ ักษาและเพิม่ ทุนสํารองระหว่างประเทศ
2) เพ่ือใช้ในยามสงคราม
3) เพอ่ื ชดเชยงบประมาณท่ีขาดดุล
4) เพ่ือรักษาเสถยี รภาพของรัฐบาล

26. กฎหมายในขอ้ ใดทป่ี ระชากรโลกควรจะยดึ ถือเพอื่ ลดปัญหาสภาวะโลกร้อน (แนวข้อสอบ O-NET 58)
1) อนุสัญญาแรมซาร์
2) อนสุ ญั ญาบาเซลิ
3) อนุสญั ญารอตเตอร์ดัม
4) พธิ ีสารมอนทรอี อล
5) พิธสี ารเกียวโต

27. ถ้านักเรยี นต้องการศึกษาโพลเดอร์ (Polder) ตอ้ งเดนิ ทางไปทีป่ ระเทศใด (แนวขอ้ สอบ O-NET 57)
1) สวเี ดน
2) เบลเยยี ม
3) เดนมาร์ก
4) ฟนิ แลนด์
5) เนเธอร์แลนด์

สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (142) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

28. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศแบบใดแสดงโดยเสน้ ชั้นความสูงทเ่ี รียงชิดกันเป็นระยะสม่าํ เสมอ (แนวขอ้ สอบ O-NET 56)
1) ลาดชนั
2) ลาดนนู
3) หน้าผาชัน
4) ภูเขารูปโต๊ะ
5) ภูเขายอดแหลม

29. บุคคลในขอ้ ใดใชเ้ คร่อื งมอื หาข้อมลู ภูมศิ าสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม (แนวข้อสอบ O-NET 54) ตอบมากกว่า 1 ข้อ
1) ภรณ์ทิพยใ์ ช้ barometer วดั อณุ หภมู ภิ ายในหอ้ งเรียน
2) กวนิ ตราใช้ stereoscope มองภาพสามมิตใิ นรปู ถ่ายทางอากาศ
3) อาภสั ราใช้ planimeter หาพื้นที่ของจังหวดั ในแผนท่ี 1:250,000
4) นนธวรรณใช้ anemometer วดั ปรมิ าณน้ําฝนในหมบู่ า้ น

30. ภาคใดของไทยมเี ขตภมู ิลกั ษณท์ เี่ ป็นทิวเขาและท่รี าบระหว่างภเู ขา (แนวขอ้ สอบ O-NET 52)
1) ภาคใต้
2) ภาคกลาง
3) ภาคเหนอื
4) ภาคตะวันออก

เฉลย

แนวขอ สอบเขามหาวทิ ยาลัย

1. 1) 2. 3) 3. 4) 4. 3), 4) 5. 2)
8. 1) 9. 1) 10. 2)
6. 3) 7. 5) 13. 3) 14. 3) 15. 1)
18. 5) 19. 1) 20. 1)
11. 1) 12. 5) 23. 1) 24. 1), 2) 25. 4)
28. 5) 29. 2), 3) 30. 3)
16. 4) 17. 1)

21. 4) 22. 4)

26. 4) 27. 5)

โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (143)

พเิ ศษสาํ หรบั น้องๆ โดยเฉพาะ
พี่หมุยมีเน้ือหาเพ่มิ เตมิ ทีอ่ อกขอ้ สอบบ่อยๆ ไดแ้ ก่

9 เน้อื หาเรือ่ ง ประวัตศิ าสตร์
- พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยที่สําคญั
- การปฏิวัติครั้งสาํ คัญในประวัตศิ าสตร์สากล

9 เนื้อหาเรือ่ ง ศาสนา ศลี ธรรม และจรยิ ธรรม
- หลกั ธรรม (ศาสนาพุทธ, พราหมณ์ - ฮนิ ด,ู ครสิ ต์, อสิ ลาม)

นอ้ งๆ สามารถเขา้ ไปดาวนโ์ หลดเอกสารดงั กลา่ วได้ท่ี
www.socithai.com

PASSWORD : Brand_2015

และมาพดู คุยสอบถามปญั หากับพีห่ มุยไดท้ ่ี www.facebook.com/KruPMui นะครับ

สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (144) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 27

เชงิ อรรถ

1 ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องราวท่ีได้จากการรวบรวมและเรียบเรียงด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์แล้วนําออก
เผยแพร่

2 ฮจิ เราะหศ์ ักราชใช้วธิ กี ารคาํ นวณตามระบบจนั ทรคติ ซึง่ ทาํ ให้ในทกุ ๆ 32.5 ปี ฮิจเราะหศ์ ักราชจะเพ่มิ ข้ึน
1 ปเี สมอ

3 ล้านนา เปน็ ศูนย์กลางสงั คายนาพระไตรปฎิ กครงั้ ที่ 8 ทวี่ ดั โพธารามวหิ าร พ.ศ. 2020 จังหวดั เชยี งใหม่
สมัยพระเจ้าตโิ ลกราช เพราะคําสอนเร่ิมคลาดเคลอื่ นตามกาลเวลาทีผ่ า่ นไป

4 ว่าอยู่ที่ อ.ไชยา จ.สรุ าษฎ์ธานี (หลกั ฐานพระบรมธาตุไชยา) หรอื เมอื งปาเล็มบัง อินโดนีเซยี (หลกั ฐาน
บุโรพทุ โธ)

5 ได้แก่ เมอื งศรีสัชนาลยั , เมืองสระหลวง, เมืองสองแคว (พษิ ณุโลก), เมอื งบางจัน และบางพาน, เมอื ง
ชากังราว และเมอื งนครชมุ

6 เชน่ เมืองพระบาง, เมอื งเชียงทอง และเมืองบางฉลงั เป็นตน้
7 ได้แก่ เมอื งแพร่, เมอื งนา่ น, เมืองชวาง (หลวงพระบาง), เมืองเวียงจันทร,์ เมืองพัน (เมาะตะมะ), เมือง

หงสาวดี และเมืองนครศรีธรรมราช เป็นตน้
8 เชน่ เมืองลพบรุ ,ี นครนายก, เข่อื นขณั ฑ์ และสพุ รรณบรุ ี
9 เมอื งสิงหบ์ ุร,ี ปราจนี บรุ ี, เพชรบุรี และราชบุรี เปน็ ตน้
10 หลักในการปฏริ ปู การปกครองของพระบรมไตรโลกนาถมอี ยู่ 3 ประการ คือ

- การดงึ อาํ นาจเข้าส่ศู ูนยก์ ลาง - การขยายระบบการบรหิ ารราชการของส่วนกลาง
- การแบ่งแยกหนา้ ท่ี - แบง่ ฝ่ายทหารและฝา่ ยพลเรือน รวมทัง้ แบ่งเป็นไพร่พล ฝา่ ยทหารและฝา่ ย

พลเรือน
- การถว่ งดุลอาํ นาจ - แบง่ แยกอาํ นาจหน้าทีข่ องขุนนางออกเป็น 2 ฝ่าย เพ่ือความม่นั คงของสถาบัน

กษตั รยิ ์ ทาํ ใหร้ ะบบขนุ นางมีอํานาจมากขน้ึ และกลุ่มเจ้านายมีอํานาจลดลง
11 เชน่ เมอื งราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร สมทุ รสงคราม นครนายก เป็นต้น
12 เชน่ เมืองพษิ ณุโลก และเมืองนครศรธี รรมราช
13 เชน่ เมอื งสวรรคโลก สโุ ขทยั กาํ แพงเพชร เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ตะนาวศรี
14 เชน่ เมืองพชิ ยั พจิ จติ ร นครสวรรค์ จันทบูรณ์ ไชยา พทั ลุง ชมุ พร อินทรบ์ ุรี พรหมบรุ ี สงิ หบ์ รุ ี สระบรุ ี

อทุ ัยธานี เปน็ ตน้
15 หวั เมืองเขมร หัวเมอื งมอญ และหวั เมอื งมลายู
16 ปลายสมยั อยุธยา ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นการเมืองท่สี าํ คญั ไดแ้ ก่

- ลดทอนอํานาจของสมุหกลาโหม เนอื่ งจากกระทําความผิด - ใหเ้ ป็นท่ีปรึกษาแผ่นดนิ (ได้อํานาจ
กลบั คืนในสมยั รัชกาลที่ 1 แหง่ กรงุ รัตนโกสินทร์)

- ใหเ้ สนาบดกี ารคลงั (โกษาธิบด)ี คมุ หวั เมอื งฝา่ ยใต้
17 อับราฮัม ไดช้ ่อื ว่าเป็น ปฐมบรรพบุรษุ ของชาวยิว

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 27 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (145)

18 ปัจจุบัน คอื ประเทศอสิ ราเอล
19 พระแมม่ ารแี ละโจเซฟไม่ไดม้ ีความสมั พนั ธ์กนั พระแมม่ ารีตัง้ ครรภ์โดยประสงค์ของพระเป็นเจา้ โจเซฟ

ยอมรบั เพราะทูตสวรรค์กาเบรียลมาปรากฏให้เห็น
20 ตน้ กําเนิดศีลลา้ งบาป (1 ใน 7 ศีลศกั ด์ิสิทธข์ิ องศาสนาคริสต)์
21 สาวก 12 คน ได้แก่ ซมี อนเปรโต อันดรูว์ ยาโคโบ ยอห์น ฟิลปิ ส์ บาโธโลมาย โธมัส มทั ธาย ยาโคโบ

(บตุ รของอาละฟาย) เลบบายส์ หรือธาดาย ซมี อน (ชาวคานาอนั ) ยดู าห์ หรือจูดาห์ อสั การิโอส (ทรยศ
พระเยซ)ู
22 ที่มาของพธิ ีมิสซาหรอื ศลี มหาสนทิ ทีจ่ ะทาํ การระลกึ ถึงคุณของพระเจ้า โดยการรับพระองค์เขา้ มาสถติ ใน
กาย
23 อสิ ลามมาจากรากศพั ท์ภาษาอาหรบั คําวา่ อสั ลมะ แปลวา่ การสวามภิ กั ด์ิ การยอมจํานน การเขา้ หาสันติ
และการปฏิบตั ิตาม ดังนน้ั ศาสนาอิสลาม จงึ หมายถงึ ศาสนาของผสู้ วามภิ กั ดิแ์ ละนอบนอ้ มตอ่ พระเจา้
(พระอัลลอฮ)์ เพื่อแสวงหาสันติ
เพมิ่ เตมิ มุสลมิ มาจากรากศพั ท์ภาษาอาหรับ หมายถึง ผยู้ อมศิโรราบต่อพระเจา้
24 พระเจ้าในศาสนาอสิ ลามทรงพระนามว่า พระอลั ลอฮ์
25 คมั ภีรท์ ี่พระเจ้าประทานมาให้ท่ปี รากฏในคมั ภรี ์อลั กอุ าน มีดงั น้ี คมั ภรี ์เตารอด (คมั ภีร์โตราห์ในศาสนายูดาห์
หรอื คมั ภรี ์ไบเบิล ภาคพนั ธสัญญาเดิม) คัมภีรอ์ ินญลี (คัมภีร์ไบเบลิ ภาคพนั ธสญั ญาใหม่) คมั ภีร์ซาบลู
(ประทานแด่นบีดาวดิ ) และคัมภรี อ์ ัลกรุ อาน
26 ศาสนทตู ที่ปรากฏช่ืออย่ใู นคมั ภีร์อัลกรุ อาน มี 25 ทา่ น คือ นบีแอดัม (แอดมั ), นบอี ีดรสิ (เอโนค),
นบีนูฮ์ (โนอาห)์ , นบีฮูด, นบซี อลฮิ ์, นบีอบิ รอฮีม (อับราฮัม), นบีลฎู (โลท), นบอี สิ ฮาก (อิสอคั ), นบีอสิ
มาอีล, นบยี ะอก์ บู (ยาโคบ), นบียูซุฟ (โยเซฟ บุตรยาโคบ), นบซี ลุ กิฟล,์ นบอี ัยยบู , นบมี ูซา (โมเสส),
นบีฮารูน (อาโรน), นบีอิลยาส (เอลยี าห์), นบยี นู สุ (โยนาห)์ , นบีชอุ ัยบ์, นบดี าวูด (ดาวดิ ), นบสี ุลยั มาน
(โซโลมอน), นบอี ัลยะซะอ์ (เอลีชา), นบซี ะกะรียา (นกั บญุ เศคาริยาห์), นบยี ะฮ์ยา (เซนต์จอห์น), นบอี ซี า
(พระเยซู) และนบีมูฮัมมดั
27 ทา่ นหญิงคอดีญะหเ์ ป็นบุคคลคนแรกทีห่ ันมานบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม
28 ชาวมุสลมิ เชื่อว่านบีมฮู ัมมัดขนึ้ สวรรค์บริเวณนครเยรซู าเลม็
29 ซนุ นีมาจากภาษาอาหรับ คาํ วา่ ซุนนะห์ แปลวา่ จารตี
30 ชอี ะห์ แปลวา่ ผปู้ ฏิบตั ติ าม หรอื สาวก
31 พบสัจธรรมว่าต้นมะม่วงรสดี “ตน้ ไม้ทม่ี ีผลโอชะเหมอื นกบั ราชบังลังก์ท่มี แี ตจ่ ะนาํ ภยั มา เพราะมแี ต่คน
หวังช่วงชงิ แต่การบวชเหมอื นต้นไม้ทีไ่ ม่มีผล” จึงออกผนวช (บาํ เพญ็ เนกขมั มบารมี) และสรุปวา่ “การบวช
เป็นสุขแทห้ นอ”
32 ภายหลงั รับครุธรรม 8 และเปน็ พระภิกษุณีองค์แรก หลังจากท่ีพระอานนท์ทูลขออนุญาตพระพทุ ธเจา้
33 อคโฺ คหมสมฺ ิ โลกสฺส เชฏโฺ ฐหมสฺมิ โลกสฺส เสฆฺโฐหมสฺมิ โลกสสฺ
34 เน่อื งจากพระบิดาไม่ต้องการใหเ้ จ้าชายสทิ ธตั ถะออกบวชจึงพยายามให้พบเหน็ แตส่ ง่ิ ทมี่ คี วามสุข

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (146) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 27

35 ธรรมทีเ่ ป็นองคแ์ ห่งการตรัสรู้ หรือองค์ของผู้ตรัสรู้ 7 ประการ (โพชฌงค์) คือ สติสัมโพชฌงค์ (ความระลึกได้)
ธมั วจิ ยะโพชฌงค์ (ความเฟน้ ธรรม) วิริยสัมโพชฌงค์ (ความเพียร) ปีติสัมโพฌงค์ (ความอ่ิมใจ) ปัสสัทธิ
สัมโพฌงค์ (ความสงบกายใจ) สมาธิสัมโพชฌงค์ (ความมีใจตั้งม่ัน) และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ (ความมีใจ
เป็นกลาง)

36 การปฏิบตั ิเหมือนสายพิณ คือ ตึงไปสายก็จะขาด (ตงึ ไป เปรียบกบั อตั ตกลิ มัตถานโุ ยค คือ การบังคับกาย
บังคับใจ) หย่อนไปเสียงก็ไม่เพราะ (หย่อนไป เปรียบกับ กามสุขลิกานุโยค คือ การปล่อยตัวตามกิเลส)
ต้องพอดีๆ พบทางสายใหม่เรียก มัชฌมิ าปฏิปทา (ทางสายกลาง)

37 ในการบําเพ็ญเพียร พระองค์ได้ทรงเจริญจิตภาวนาจนบรรลุญาณ 3 ซ่ึงเป็นองค์ปัญญาช้ันสูงตามลําดับ
คือ ในปฐมยาม ทรงบรรลุปุพเพนิวาสนุติญาณ (ทรงระลึกชาติในอดีตของตนได้) มัชฌิมยาม ทรงบรรลุ
จุตูปปาตญาณ (ตาทิพย์ หูทิพย์ รู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ท้ังหลาย) และปัจฉิมยาม ทรง
บรรลุอาสวักขยญาณ (รู้วิธีกําจัดกิเลส) แล้วบรรลุอริยสัจ 4 เป็นเรื่องสุดท้าย การตรัสรู้ธรรมดังกล่าว
ด้วยตวั ของพระองค์เอง ทําใหพ้ ระองคไ์ ด้รับพระนามวา่ “พระอรหันตสัมมาสมั พุทธเจ้า”

38 บัว 4 เหล่า ประกอบด้วย อุคคฏิตัญญู (พวกท่ีมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ฟังธรรมก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
เปรียบเสมือนดอกบัวท่ีอยู่พ้นนํ้า) วิปจิตัญญู (สติปัญญาปานกลาง ฟังธรรม และฝึกอบรมเพ่ิมเติมก็
สามารถเข้าใจได้ เสมือนบัวที่อยู่ปร่ิมนํ้า) เนยยะ (มีสติปัญญาน้อย ฟังธรรม และฝึกอบรมโดยไม่ย่อท้อ
สักวันก็สามารถเขา้ ใจได้ เปรยี บเหมือนบัวทอ่ี ยใู่ ต้น้าํ ) และปทปรมะ (พวกท่ีไร้สติปัญญา ฟังธรรมก็ไม่อาจ
เขา้ ใจ เสมอื นบวั ท่อี ยใู่ ต้โคลนตม)

39 ก่อนหน้านั้นพระพุทธเจ้าทรงแสดงปกิณณกเทศนาให้ปัจจวัคคีย์ฟังจนบรรลุโสดาบันไปและขอบวชแบบ
เอหิภกิ ขุอปุ สัมปทาไปแลว้

40 ภายหลังทั้งหมดสําเร็จพระอรหันต์เมื่อพระพุทธเจ้าแสดงอาทิตตปริยายสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรท่ีแสดงถึง
ความร้อนรุ่มของจิตใจ [อินทรีย์ 5 - ความสามารถหลักทางจิต 5 ประการ ได้แก่ สัทธินทรีย์ (ความ
ศรัทธา) วิรยิ นิ ทรยี ์ (ความเพียร) สตนิ ทรยี ร์ (ความระลึกได้) สมาธนิ ทรยี ์ (ความตง้ั มนั่ ) และปญั ญิณทรีย์
(ความเข้าใจ)] ด้วยกิเลส

41 สวนเจา้ เชต
42 คือ ไม่กล่าวร้าย ไม่ทําร้าย ความสํารวมในพระปาติโมกข์ (รักษาความประพฤติให้น่าเล่ือมใส) รู้จัก

ประมาณในเรอื่ งอาหาร สนั โดษ พฒั นาจิตใจเสมอ
43 พุทธกิจของพระพุทธเจ้า 5 ประการ คือ เวลาเช้าเสด็จออกบิณฑบาตเพ่ือโปรดสัตว์โลก เวลาบ่าย ทรง

แสดงธรรมแก่อุบาสกอุบาสิกา ทรงแสดงธรรมให้แก่ผู้ที่สนใจ เวลาเย็นทรงประทานพระโอวาทให้
กรรมฐานแก่พระภิกษุ เวลาเที่ยงคืนทรงแสดงธรรมและตอบปัญหาเทวดา และเวลาเช้ามืดจนสว่าง (ใกล้รุ่ง)
ทรงตรวจดูสตั ว์โลกท่ีสามารถรธู้ รรม โดยทรงแสดงธรรมใหเ้ หมาะกบั ลกั ษณะนสิ ยั ของบคุ คลนั้นๆ
44 “สง่ิ ทั้งหลายท่เี กดิ จากปจั จัยปรุงแต่งข้ึน ล้วนมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงทําหน้าท่ี
ให้สาํ เร็จดว้ ยความไมป่ ระมาทเถดิ ”

————————————————————

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 27 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (147)

ประวตั ศิ าสตรโ ลกตะวนั ตก

1. การแบง ยคุ ทางประวตั ิศาสตรตะวันตก

สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ สมยั ประวตั ศิ าสตร์

หนิ เกา่ หนิ ใหม่ สมยั โบราณ สมยั กลาง สมัยใหม่ รว่ มสมยั

การเพาะป ูลก TUTON WWII
ัอกษร + โลหะ R.W R.E R.W R.E TURK

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (148) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 27


Click to View FlipBook Version