สำ นักงานเลขาธิการวุฒิสฒิภา ศส.ปชต. สำ นักกรรมาธิการ 2 รายงานการพิจพิารณาศึกษา เรื่อรื่ง "แนวทางการขับขัเคลื่อนศูนย์ส่ย์ง ส่ เสริมริพัฒพันาประชาธิปธิ ไตย (ศส.ปชต. )" ของคณะกรรมาธิกธิารการพัฒพันาการเมือมืง และการมีส่มีว ส่ นร่ว ร่ มของประชาชน วุฒิสฒิภา
รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “แนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.)” ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ส ำนักกรรมำธิกำร ๒ ส ำนักงำนเลขำธิกำรวุฒิสภำ
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ คณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ ที่ สว ๐๐๑๐.๑๐ / (ร ๖) วันที่ ๑๖ มกรำคม ๒๕๖๖ เรื่อง รำยงำนกำรพิจำรณำศึกษำของคณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วม ของประชำชน วุฒิสภำ กรำบเรียน ประธำนวุฒิสภำ ด้วยในครำวประชุมวุฒิสภำ ครั้งที่ ๑๗ (สมัยสำมัญประจ ำปีครั้งที่หนึ่ง) วันอังคำรที่ ๑๐ กันยำยน ๒๕๖๒ ที่ประชุมวุฒิสภำได้มีมติตั้งคณะกรรมำธิกำรสำมัญประจ ำวุฒิสภำ ตำมข้อบังคับ กำรประชุมวุฒิสภำ พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๗๘ คณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วม ของประชำชน วุฒิสภำ เป็นคณะกรรมำธิกำรสำมัญประจ ำวุฒิสภำคณะหนึ่ง มีหน้ำที่และอ ำนำจ พิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติ กระท ำกิจกำร พิจำรณำสอบหำข้อเท็จจริง หรือศึกษำเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับ กำรส่งเสริมและสนับสนุนกำรพัฒนำกำรเมืองและกำรด ำเนินกำรอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมกำรปกครอง ในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกำรก ำหนด นโยบำย กำรตัดสินใจทำงกำรเมือง กำรวำงแผนพัฒนำทำงเศรษฐกิจ สังคม และกำรเมือง พิจำรณำศึกษำ ติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัดกำรปฏิรูปประเทศ และแผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติที่อยู่ในหน้ำที่ และอ ำนำจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมำธิกำรคณะนี้ประกอบด้วย ๑. นำยเสรี สุวรรณภำนนท์ ประธำนคณะกรรมำธิกำร ๒. นำยจเด็จ อินสว่ำง รองประธำนคณะกรรมำธิกำร คนที่หนึ่ง ๓. นำยวันชัย สอนศิริ รองประธำนคณะกรรมำธิกำร คนที่สอง ๔. นำยดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม รองประธำนคณะกรรมำธิกำร คนที่สำม ๕. ว่ำที่ร้อยตรี วงศ์สยำม เพ็งพำนิชภักดี เลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำร ๖. นำยพลเดช ปิ่นประทีป โฆษกคณะกรรมำธิกำร ๗. นำยสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธำนที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ๘. นำยพิทักษ์ ไชยเจริญ ที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ๙. พลเอก วัฒนำ สรรพำนิช ที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ๑๐. นำยกิตติศักดิ์ รัตนวรำหะ กรรมำธิกำร ๑๑. นำยก ำพล เลิศเกียรติด ำรงค์ กรรมำธิกำร ๑๒. นำยค ำนูณ สิทธิสมำน กรรมำธิกำร ๑๓. นำยจรินทร์ จักกะพำก กรรมำธิกำร ๑๔. พันต ำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมำ กรรมำธิกำร ๑๕. นำยเฉลิมชัย เฟื่องคอน กรรมำธิกำร (ส ำเนำ)
๑๖. นำยประดิษฐ์ เหลืองอร่ำม กรรมำธิกำร ๑๗. นำยสุชัย บุตรสำระ กรรมำธิกำร ๑๘. นำยออน กำจกระโทก กรรมำธิกำร บัดนี้ คณะกรรมำธิกำรได้ด ำเนินกำรพิจำรณำศึกษำ เรื่อง “แนวทำงกำรขับเคลื่อน ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย (ศส.ปชต.)” เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอรำยงำนกำรพิจำรณำศึกษำ เรื่องดังกล่ำวต่อวุฒิสภำตำมข้อบังคับกำรประชุม วุฒิสภำ พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๘ จึงกรำบเรียนมำเพื่อโปรดทรำบและน ำเสนอรำยงำนของคณะกรรมำธิกำรต่อที่ประชุม วุฒิสภำต่อไป ลงชื่อ เสรี สุวรรณภำนนท์ (นำยเสรี สุวรรณภำนนท์) ประธำนคณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมือง และกำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ ส ำเนำถูกต้อง นำยหมวดตรี (ฉัตรชัย ก่อเกิด) (นำงสำวอรทัย แหวนนำค) ผู้ช่วยเลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำร ผู้ช่วยเลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำร กำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่ กำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วมของประชำชน กลุ่มงำนคณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมือง อำภรณ์พิมพ์ และกำรมีส่วนร่วมของประชำชน อรทัย/ภรภัค ทำน ส ำนักกรรมำธิกำร ๒ ส ำนักงำนเลขำธิกำรวุฒิสภำ โทร. ๐๒๘๓ ๑๙๑๘๔ – ๕ - ๒ -
ค ำน ำ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๗๘ ก าหนดบทบาทของรัฐ ในการส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประกอบกับมาตรา ๒๕๘ ก. ด้านการเมือง ที่บัญญัติให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการด าเนินกิจกรรมทางการเมือง รวมตลอดทั้งการตรวจสอบการใช้อ านาจรัฐ รู้จักยอมรับในความเห็นทางการเมืองโดยสุจริตที่แตกต่างกัน และให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชามติโดยอิสระปราศจากการครอบง า ทั้งนี้ เพื่ออนุวัติ ตามความในมาตราดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้ออกระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก าหนดให้มี ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) ขึ้น เพื่อท าหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อีกทั้ง ในการขับเคลื่อนแผนปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ได้ก าหนดให้มีโครงการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยต าบล (ศส.ปชต.) เป็นหนึ่งในโครงการ ของกิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ การส่งเสริมการพัฒนาพรรคการเมือง เป็นโครงการที่จะส่งผลให้เกิด การเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยส าคัญ (Big Rock) ดังนั้น เพื่อให้ ศส.ปชต. เป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและ เกิดประโยชน์สูงสุด คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา จึงก าหนดให้มีการศึกษา เรื่อง “แนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.)” โดยคณะกรรมาธิการมุ่งหวังที่จะน าเสนอผลการศึกษา และให้ข้อเสนอซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนา ศักยภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ ศส.ปชต. เพื่อให้ ศส.ปชต. เป็นกลไกในการส่งเสริม และพัฒนาประชาธิปไตย และพัฒนาความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข อันจะน ามาซึ่งคุณภาพและประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต่อไป คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา
สารบัญ หน้า ค าน า ก สารบัญ ค รายนามคณะกรรมาธิการ ช รายนามคณะอนุกรรมาธิการ ฌ รายนามคณะท างานพิจารณาศึกษาแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริม ญ และพัฒนาประชาธิปไตยต าบล (ศส.ปชต.) บทสรุปผู้บริหาร ฎ บทที่ ๑ บทน า ๑ ๑.๑ ควำมเป็นมำและสภำพปัญหำ ๑ ๑.๒ วัตถุประสงค์ ๔ ๑.๓ ขอบเขตกำรศึกษำ ๔ ๑.๔ นิยำมศัพท์เฉพำะ ๔ ๑.๕ ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ ๔ ๑.๖ กรอบกำรพิจำรณำ ๕ บทที่ ๒ เอกสารและงานวิชาการที่เกี่ยวข้อง ๗ ๒.๑ แนวคิดเกี่ยวกับ ศส.ปชต. ๗ ๒.๑.๑ ควำมเป็นมำของ ศส.ปชต. ๗ ๒.๑.๒ วัตถุประสงค์ในกำรจัดตั้ง ศส.ปชต. ๘ ๒.๑.๓ บทบำท หน้ำที่ และควำมส ำคัญของ ศส.ปชต. ๘ ๒.๑.๔ ภำรกิจหน้ำที่ของคณะกรรมกำร ศส.ปชต. ๑๐ ๒.๑.๕ แนวทำงกำรท ำงำน ๕ ก. ของ ศส.ปชต. เพื่อสร้ำงควำมเข้มแข็งยั่งยืน ๑๒ ๒.๒ แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ๑๓ ๒.๒.๑ ควำมหมำยและหลักกำรประชำธิปไตย ๑๓ ๒.๒.๒ คุณลักษณะกำรเป็นพลเมืองในระบอบประชำธิปไตย ๑๕ ๒.๒.๓ วัฒนธรรมทำงกำรเมืองในระบอบประชำธิปไตย ๑๘ ๒.๒.๔ ประชำธิปไตยแบบมีส่วนร่วมทำงกำรเมือง ๑๙ ๒.๒.๕ กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองโดยตรง ๒๑ ๒.๒.๖ กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองโดยอ้อม ๒๒
สารบัญ (ต่อ) หน้า ๒.๓ กฎหมำยที่เกี่ยวข้อง ๒๓ ๒.๓.๑ รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ ๒๓ ๒.๓.๒ พระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ๒๔ ว่ำด้วยคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒.๓.๓ ระเบียบคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนำ ๒๕ ประชำธิปไตย พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒.๔ บันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือ ๓๐ ๒.๔.๑ บันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือระหว่ำงส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง และส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ๓๐ ๒.๔.๒ บันทึกข้อตกลงว่ำด้วยควำมร่วมมือกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้อง ๓๑ เกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก่ประชำชน ๒.๔.๓ บันทึกข้อตกลงว่ำด้วยควำมร่วมมือกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้อง ๓๓ เกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยแก่ประชำชน ๒.๔.๔ บันทึกข้อตกลงว่ำด้วยควำมร่วมมือระดับนโยบำยกำรสร้ำงเสริม ๓๔ ควำมเป็นพลเมืองคุณภำพและควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระหว่ำงกระทรวงสำธำรณสุขกับส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง ๒.๔.๕ บันทึกข้อตกลงว่ำด้วยควำมร่วมมือระดับนโยบำยกำรสร้ำงเสริม ๓๕ ควำมเป็นพลเมืองคุณภำพและควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระหว่ำงกระทรวงมหำดไทยกับส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง ๒.๔.๖ บันทึกข้อตกลงว่ำด้วยควำมร่วมมือระดับนโยบำยกำรสร้ำงเสริม ๓๖ ควำมเป็นพลเมืองคุณภำพและควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระหว่ำงส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งกับกระทรวงกำรพัฒนำสังคม และควำมมั่นคงของมนุษย์ ๒.๔.๗ บันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือระดับนโยบำยกำรสร้ำงเสริม ๓๗ ควำมเป็นพลเมืองคุณภำพและควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระหว่ำงกระทรวงศึกษำธิกำรกับส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง ๒.๕ แนวคิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๓๘ สถำบันให้กำรศึกษำทำงกำรเมืองประชำธิปไตย ๓๘ (Korean Civic Education Institute for Democracy – KOCEI) ๒.๖ งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ๔๐ ง
สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ ๓ วิธีการศึกษา ๔๓ ๓.๑ กำรก ำหนดคณะกรรมำธิกำรและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ๔๓ ๓.๒ กำรก ำหนดคณะอนุกรรมำธิกำรและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ๔๖ ๓.๓ กำรก ำหนดบุคคลและหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง ๔๘ ๓.๔ เครื่องมือในกำรพิจำรณำศึกษำ ๔๙ ๓.๕ กำรเก็บรวบรวมข้อมูล ๔๙ ๓.๖ กำรจัดท ำข้อมูล ๕๒ ๓.๗ กำรวิเครำะห์ข้อมูล ๕๒ บทที่ ๔ ผลการศึกษา ๕๓ ๔.๑ ผลกำรรับฟังข้อมูลและควำมคิดเห็นจำกหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง ๕๓ ๔.๑.๑ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง ๕๓ ๔.๑.๒ ส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ๖๒ ๔.๑.๓ กรมกำรปกครอง ๖๕ ๔.๑.๔ กรมส่งเสริมกำรปกครองท้องถิ่น ๖๗ ๔.๑.๕ กรมกำรพัฒนำชุมชน ๗๒ ๔.๑.๖ กรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ ๗๕ ๔.๑.๗ กรมกิจกำรผู้สูงอำยุ ๗๖ ๔.๒ ผลกำรศึกษำดูงำน ๗๗ ๔.๒.๑ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดขอนแก่น ๗๗ ๔.๒.๒ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดชลบุรี ๗๘ ๔.๒.๓ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดระยอง ๗๘ ๔.๒.๔ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดเชียงรำย ๗๙ ๔.๒.๕ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดพะเยำ ๘๐ ๔.๒.๖ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดฉะเชิงเทรำ ๘๑ ๔.๒.๗ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดเพชรบุรี ๘๒ ๔.๒.๘ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดสระบุรี ๘๓ ๔.๒.๙ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดปทุมธำนี ๘๖ ๔.๒.๑๐ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดสิงห์บุรี ๘๙ ๔.๒.๑๑ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดนครสวรรค์ ๘๙ ๔.๒.๑๒ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดสตูล ๙๐ ๔.๒.๑๓ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดอุบลรำชธำนี ๙๑ ๔.๒.๑๔ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดเชียงใหม่ ๙๒ ๔.๒.๑๕ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดล ำปำง ๙๓ ๔.๒.๑๖ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดล ำพูน ๙๔ ๔.๒.๑๗ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดนครศรีธรรมรำช ๙๖ จ
สารบัญ (ต่อ) หน้า ๔.๒.๑๘ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดตรัง ๙๗ ๔.๒.๑๙ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดนครพนม ๙๙ ๔.๒.๒๐ กำรศึกษำดูงำน ณ จังหวัดมุกดำหำร ๑๐๐ ๔.๓ ผลกำรสัมมนำเรื่อง “ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย (ศส.ปชต.) : ๑๐๓ ควำมส ำคัญและบทบำทในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ๔.๔ ปัญหำอุปสรรคในกำรขับเคลื่อน ศส.ปชต. ๑๑๖ บทที่ ๕ บทสรุปและข้อเสนอแนะ ๑๑๙ ๕.๑ สรุปผลรำยงำนกำรพิจำรณำศึกษำ ๑๑๙ ๕.๒ ผลกำรพิจำรณำศึกษำและข้อเสนอแนะ ๑๒๑ ๕.๒.๑ ข้อเสนอในระดับปฏิบัติกำร ๑๒๑ ๕.๒.๒ ข้อเสนอเชิงนโยบำย ๑๒๗ บรรณานุกรม ๑๓๗ ภาคผนวก ภำคผนวก ก ค ำสั่งแต่งตั้ง ๑๔๑ ภำคผนวก ข กฎหมำยและบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือ ๑๔๗ ภำคผนวก ค โครงกำรสัมมนำและหนังสือชี้แจงแนวทำงกำรขับเคลื่อนภำรกิจ ๑๕๑ ของหน่วยงำนภำคีเครือข่ำย ภำคผนวก ง ภำพกิจกรรม ๑๕๕ ฉ
คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธำนคณะกรรมำธิกำร นายจเด็จ อินสว่าง นายวันชัย สอนศิริ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม รองประธำนคณะกรรมำธิกำร รองประธำนคณะกรรมำธิกำร รองประธำนคณะกรรมำธิกำร คนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สำม ว่าที่ร้อยตรี วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี นายพลเดช ปิ่นประทีป เลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำร โฆษกคณะกรรมำธิกำร นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ นายพิทักษ์ ไชยเจริญ พลเอก วัฒนา สรรพานิช ประธำนที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ นายก าพล เลิศเกียรติด ารงค์ นายค านูณ สิทธิสมาน กรรมำธิกำร กรรมำธิกำร กรรมำธิกำร นายจรินทร์ จักกะพาก พันต ารวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน กรรมำธิกำร กรรมำธิกำร กรรมำธิกำร นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม นายสุชัย บุตรสาระ นายออน กาจกระโทก กรรมำธิกำร กรรมำธิกำร กรรมำธิกำร นางสาวอรทัย แหวนนาค ผู้ช่วยเลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำร ซ
คณะอนุกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดท าและการด าเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร นายพิทักษ์ ไชยเจริญ นายสุชัย บุตรสาระ นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม รองประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร รองประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร รองประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร คนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สำม และโฆษกคณะอนุกรรมำธิกำร พลเอก วัฒนา สรรพานิช นางสาวศรี ศรีงาม นางสาวธีรพรรณ ใจมั่น นายสาโรช ไพเราะ อนุกรรมำธิกำร อนุกรรมำธิกำร อนุกรรมำธิกำร อนุกรรมำธิกำร นางวัชรีภรณ์ โกสินเจริญชัย นางสาวนงลักษณ์ เรือนทอง นายสมชาย สาโรวาท นายภักดี คงด า อนุกรรมำธิกำร อนุกรรมำธิกำร อนุกรรมำธิกำร อนุกรรมำธิกำร และเลขำนุกำร
คณะท างาน พิจารณาศึกษาแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยต าบล (ศส.ปชต.) นายสุชัย บุตรสาระ ประธำนคณะท ำงำน นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน นายพิทักษ์ ไชยเจริญ พลเอก วัฒนา สรรพานิช นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม ที่ปรึกษำคณะท ำงำน ที่ปรึกษำคณะท ำงำน ที่ปรึกษำคณะท ำงำน รองประธำนคณะท ำงำน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ นายสุวิชชา เพ็งไพบูลย์ นางวัชรีภรณ์ โกสินเจริญชัย นายธงธน เพิ่มบถศรี คณะท ำงำน คณะท ำงำน คณะท ำงำน คณะท ำงำน นางสาววรางคณา อินทรเจริญ นายป้องปราการ โสธรเทวาพิทักษ์ นายสาโรช ไพเราะ นางสาวสุธิดา โชคพระสมบัติ คณะท ำงำน คณะท ำงำน คณะท ำงำนและเลขำนุกำร คณะท ำงำนและผู้ช่วยเลขำนุกำร
บทสรุปผู้บริหาร รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ มำตรำ ๗๘ บัญญัติว่ำ “รัฐพึงส่งเสริม ให้ประชำชนและชุมชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข...” ประกอบกับมำตรำ ๒๕๘ ก. ด้ำนกำรเมือง (๑) ที่บัญญัติให้ “ด ำเนินกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง ให้ประชำชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครอง ในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมในกำรด ำเนินกิจกรรม ทำงกำรเมืองรวมตลอดทั้งกำรตรวจสอบกำรใช้อ ำนำจรัฐ รู้จักยอมรับในควำมเห็นทำงกำรเมืองโดยสุจริต ที่แตกต่ำงกันและให้ประชำชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชำมติโดยอิสระปรำศจำกกำรครอบง ำ ไม่ว่ำด้วยทำงใด” ซึ่งควำมมุ่งหมำยของบทบัญญัติดังกล่ำวถูกอนุวัติในพระรำชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่ำด้วยคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ ๒๒ (๕) ให้คณะกรรมกำร กำรเลือกตั้งมีหน้ำที่และอ ำนำจ “ส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงำนของรัฐ สถำบันกำรศึกษำ และองค์กร เอกชน ในกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องให้แก่ประชำชนเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบ ประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของประชำชน หรือให้ประชำชนมีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบกำรเลือกตั้ง และควำมรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ” คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งได้ออกระเบียบคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำด้วยศูนย์ส่งเสริม พัฒนำประชำธิปไตย พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๕ ก ำหนดให้มีศูนย์ส่งเสริม พัฒนำประชำธิปไตย (ศส.ปชต.) ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลำงในกำรส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงำนภำครัฐ ในกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องให้แก่ประชำชนเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปัจจุบันมี ศส.ปชต จ ำนวน ๗,๕๑๗ แห่ง ครอบคลุมทุกต ำบล ทั่วประเทศ ท ำหน้ำที่กำรสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุขแก่ประชำชนและส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของประชำชน ให้เป็นไปตำมเจตนำรมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ ยุทธศำสตร์ชำติ และแผนกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกำรขับเคลื่อนกำรท ำงำนของ ศส.ปชต. อย่ำงเป็นรูปธรรมและจริงจัง คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งได้สร้ำงภำคีเครือข่ำยร่วมมือกับหน่วยงำน ภำครัฐขับเคลื่อนกำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. ผ่ำนกำรท ำบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือ (MOU) กับส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย กรมกำรปกครอง กรมกำรพัฒนำ ชุมชน กรมส่งเสริมกำรปกครองท้องถิ่น กรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ กรมกิจกำรผู้สูงอำยุ และบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือระดับนโยบำยกับกระทรวงสำธำรณสุข กระทรวงมหำดไทย กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงศึกษำธิกำร ดังนั้น เพื่อให้ ศส.ปชต. เป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศให้เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ และเกิดประโยชน์สูงสุด คณะอนุกรรมำธิกำรติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัดกำรปฏิรูปประเทศ และกำรจัดท ำและกำรด ำเนินกำรตำมยุทธศำสตร์ชำติ ในคณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมืองและ กำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ จึงมุ่งหวังที่จะให้ข้อเสนออันเป็นแนวทำงกำรพัฒนำศักยภำพ และเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งให้ ศส.ปชต. เพื่อให้ ศส.ปชต. เป็นกลไกในกำรส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตย และพัฒนำควำมเป็นพลเมืองในระดับต ำบล โดยได้ก ำหนดให้มีกำรศึกษำ เรื่อง “แนวทำงกำรขับเคลื่อน ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยต ำบล (ศส.ปชต.)” มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษำแนวทำงกำรด ำเนินกำร
ของ ศส.ปชต. (๒) เพื่อศึกษำสภำพ ปัญหำ และอุปสรรค ในกำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. และ (๓) เพื่อจัดท ำ ข้อเสนอแนะส ำหรับเป็นแนวทำงกำรพัฒนำศักยภำพและเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งของ ศส.ปชต. กำรด ำเนินกำรศึกษำครั้งนี้ เป็นกำรศึกษำเชิงคุณภำพโดยมีกำรศึกษำจำกเอกสำรที่เกี่ยวข้อง (documentary research) อำทิ กำรศึกษำแนวคิด ทฤษฎีและหลักกำรเกี่ยวกับประชำธิปไตย กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมือง กฎหมำยที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ ระเบียบคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง กำรศึกษำจำกเอกสำร ที่เกี่ยวกับกำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. นอกจำกนี้ ยังได้จัดให้มีกำรประชุมปรึกษำหำรือร่วมกันระหว่ำง คณะอนุกรรมำธิกำร คณะกรรมำธิกำร กับผู้แทนของส่วนรำชกำรที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลำง และในระดับจังหวัด และจัดให้มีกำรศึกษำดูงำนกำรด ำเนินงำนและร่วมสนทนำแลกเปลี่ยนกับ คณะกรรมกำร ศส.ปชต. ในจังหวัด ๒๐ จังหวัด อีกทั้ง ได้มีกำรจัดสัมมนำเพื่อรับฟังควำมคิดเห็นเกี่ยวกับ บทบำทของ ศส.ปชต. ในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ศส.ปชต. เป็นกลไกส ำคัญในกำรสร้ำงพลเมืองคุณภำพ โดย ศส.ปชต. เป็นศูนย์กลำงหรือ ศูนย์รวมของพลเมืองในกำรท ำกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตยในต ำบล หมู่บ้ำน และมีบทบำท ให้ควำมรู้เรื่องประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้งแก่ประชำชน ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมประชำธิปไตย ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตประจ ำวัน ตลอดจนพัฒนำต่อยอดกำรเสริมสร้ำงและขยำยเครือข่ำยพลเมือง และสร้ำงกำรมีส่วนร่วมในกระบวนกำรเลือกตั้ง อย่ำงไรก็ตำมจำกกำรศึกษำพบว่ำ ในกำรด ำเนินกำร ขับเคลื่อน ศส.ปชต. นั้น ยังคงพบปัญหำในหลำยประกำร อันได้แก่ ๑) ปัญหาอุปสรรคด้านงบประมาณ ซึ่งพบว่ำ งบประมำณส ำหรับกำรด ำเนินกิจกรรม โครงกำรของ ศส.ปชต. ส ำหรับกำรด ำเนินงำนรณรงค์ ส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตยในระดับหมู่บ้ำน ต ำบล ไม่เพียงพอส ำหรับกำรด ำเนินกิจกรรม อย่ำงต่อเนื่อง ๒) ปัญหาอุปสรรคด้านความรู้ ความเข้าใจ ของหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ ที่ประชำชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก และไม่เข้ำใจในบทบำท อ ำนำจหน้ำที่ กำรด ำเนินกิจกรรม ของ ศส.ปชต. และขำดกำรมีส่วนร่วมในกำรด ำเนินโครงกำรกิจกรรมร่วมกับ ศส.ปชต. ๓) ปัญหา อุปสรรคด้านการบูรณาการการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ เพรำะแม้ว่ำจะมีกำรจัดท ำบันทึกข้อตกลง ควำมร่วมมือระหว่ำงส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง และหน่วยงำนภำคีเครือข่ำย ๖ หน่วยงำนแล้ว แต่ส่วนรำชกำรในระดับพื้นที่ยังมีกำรบูรณำกำรควำมร่วมมือกันค่อนข้ำงน้อย ไม่มีกำรประสำนงำน กำรขับเคลื่อน ศส.ปชต. กันอย่ำงจริงจัง ๔) ปัญหาอุปสรรคด้านความรู้ ความเข้าใจของคณะกรรมการ ศส.ปชต. คณะกรรมกำรของ ศส.ปชต. บ ำงแห่งยังคงไม่เข้ ำใจในบทบำท ภ ำ รกิจหน้ำที่ ของ ศส.ปชต. จึงท ำให้ไม่สำมำรถด ำเนินงำนให้บรรลุตำมเจตนำรมณ์ของส ำนักงำนคณะกรรมกำร กำรเลือกตั้งได้ครบถ้วน และยังไม่สำมำรถท ำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงในกำรรณรงค์ ส่งเสริมและเผยแพร่ ประชำธิปไตยไปยังระดับหมู่บ้ำน ต ำบล ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ๕) ปัญหาอุปสรรคด้านการขับเคลื่อน ภารกิจของ ศส.ปชต. เนื่องจำกส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งมีหน่วยงำนขับเคลื่อน ศส.ปชต. ในระดับจังหวัดเพียงหน่วยงำนเดียว ได้แก่ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจ ำจังหวัด ท ำให้บุคลำกรไม่เพียงพอในกำรขับเคลื่อนงำน ศส.ปชต. ในระดับหมู่บ้ำน ต ำบล จึงส่งผลต่อ กำรขับเคลื่อน ศส.ปชต. ให้มีประสิทธิภำพ ๖) ปัญหาอุปสรรคด้านการติดตามผลการปฏิบัติงาน พบว่ำ ปัจจุบันขำดกำรติดตำมและประเมินผลกำรปฏิบัติงำนของ ศส.ปชต. อย่ำงเป็นระบบและเป็นรูปธรรม ในระดับอ ำเภอ และระดับจังหวัด ๗) ปัญหาอุปสรรคด้านการส่งเสริมประชาธิปไตยในสถานศึกษา กำรส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตยในกลุ่มเยำวชนในสถำนศึกษำมีควำมส ำคัญอย่ำงยิ่ง แต่ปัจจุบัน พบว่ำ ศส.ปชต. ยังมีบทบำทในกำรเสริมสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับประชำธิปไตย และกำรเลือกตั้ง ฎ
ในสถำนศึกษำน้อยมำก และ ๘) ปัญหาอุปสรรคด้านขวัญก าลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จำกกำรศึกษำ พบว่ำ คณะกรรมกำร ศส.ปชต. ขำดขวัญก ำลังใจในกำรปฏิบัติงำน ซึ่งอำจส่งผลต่อประสิทธิภำพ ประสิทธิผลในกำรปฏิบัติงำนของ ศส.ปชต. ดังนั้น คณะกรรมำธิกำรจึงได้มีข้อเสนอในระดับปฏิบัติกำร และข้อเสนอเชิงนโยบำย ดังนี้ ข้อเสนอระดับปฏิบัติการ ๑.การแก้ไขปัญหาด้านงบประมาณ: ควรจัดงบประมำณจำกกองทุนพัฒนำพรรคกำรเมือง ส ำหรับโครงกำรกิจกรรมขับเคลื่อน ศส.ปชต. รวมทั้ง ควรจัดให้มีกำรชี้แจง ท ำควำมเข้ำใจเกี่ยวกับ หลักเกณฑ์ แนวปฏิบัติ และเงื่อนไขเกี่ยวกับเงินอุดหนุนจำกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำมระเบียบ กระทรวงมหำดไทยว่ำด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๙ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๓ อีกทั้งควรจัดท ำเป็นคู่มือให้แก่ ศส.ปชต. เพื่อเป็นแนวทำงในกำรขอรับ กำรจัดสรรเงินอุดหนุนจำกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒.การแก้ไขปัญหาด้านความรู้ ความเข้าใจ ของหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่: ควรสั่งกำร ให้ผู้อ ำนวยกำรส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจ ำจังหวัด น ำระเบียบคณะกรรมกำร กำรเลือกตั้งว่ำด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๕ แจ้งให้ที่ประชุมประจ ำเดือนหัวหน้ำส่วนรำชกำรประจ ำจังหวัดได้รับทรำบถึงบทบำทภำรกิจหน้ำที่ ของ ศส.ปชต. และควรเร่งประชำสัมพันธ์เผยแพร่ให้ประชำชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ได้เข้ำใจในบทบำท อ ำนำจหน้ำที่ ภำรกิจ และกำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. ๓.การแก้ไขปัญหาด้านการบูรณาการการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่: ควรประชำสัมพันธ์ ชี้แจง และแจ้งให้หน่วยงำน ข้ำรำชกำรในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ตระหนักและให้ควำมส ำคัญกับ กำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. และอำจจะให้มีกำรลงนำมควำมร่วมมือในรูปของบันทึกควำมเข้ำใจร่วมกัน ระหว่ำงหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด อีกทั้ง ควรมีกำรผลักดันให้มีกำรจัดท ำแผนกำรปฏิบัติงำน ของทุกภำคส่วนร่วมกัน โดยบรรจุในแผนพัฒนำจังหวัดและแผนพัฒนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๔.การแก้ไขปัญหาด้านความรู้ ความเข้าใจ ของคณะกรรมการ ศส.ปชต.: ควรจัดให้มี กำรสัมมนำ ฝึกอบรม เพื่อให้ควำมรู้แก่กรรมกำร ศส.ปชต. และควรจัดท ำสื่อควำมรู้ต่ำง ๆ และเผยแพร่ ผ่ำนช่องทำงต่ำง ๆ ที่หลำกหลำยที่เกี่ยวข้องกับบทบำท ควำมส ำคัญ ภำรกิจ อ ำนำจหน้ำที่ กำรด ำเนิน กิจกรรมของ ศส.ปชต. และให้ควำมส ำคัญกับกำรนิเทศกำรท ำงำนของ ศส.ปชต. เพื่อกำรพัฒนำ กำรท ำงำนอย่ำงต่อเนื่อง ๕.การแก้ไขปัญหาด้านการขับเคลื่อนภารกิจของ ศส.ปชต.: ควรให้มีกำรจัดตั้งคณะท ำงำน ขับเคลื่อน ศส.ปชต. ในระดับจังหวัด และระดับอ ำเภอ รวมทั้งควรก ำหนดวำระกำรพิจำรณำว่ำด้วย กำรติดตำมกำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. เป็นประจ ำ ๖.การแก้ไขปัญหาด้านการติดตามผลการปฏิบัติงาน : ควรก ำหนดให้มีกำรติดตำม กำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. อย่ำงเป็นระบบ เป็นรูปธรรม และให้มีกำรรำยงำนผลกำรติดตำม เพื่อน ำเข้ำสู่กำรพิจำรณำของคณะท ำงำนในระดับอ ำเภอ และระดับจังหวัด ๗.การแก้ไขปัญหาด้านการส่งเสริมประชาธิปไตยในสถานศึกษา: ควรท ำบันทึกข้อตกลงว่ำด้วย ควำมร่วมมือในกำรเสริมสร้ำงควำมเป็นพลเมืองคุณภำพและควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรปกครอง ในระบบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุขกับส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน (สพฐ.) ฏ
๘. การแก้ไขปัญหาด้านขวัญก าลังใจในการปฏิบัติหน้าที่: ควรจะได้พิจำรณำจัดสรร ค่ำเบี้ยประชุม ค่ำตอบแทน ให้แก่กรรมกำร ศส.ปชต. ตำมสมควรเหมำะสม และพิจำรณำ สร้ำงขวัญก ำลังใจให้แก่ ศส.ปชต. ที่ได้รับรำงวัลชนะเลิศในระดับจังหวัดให้ได้รับโอกำส ในกำรไปศึกษำดูงำนใน ศส.ปชต. อื่น ในต่ำงจังหวัด อีกทั้ง ควรจัดท ำเกียรติบัตร ประกำศเกียรติคุณ ให้แก่กรรมกำร ศส.ปชต. เพื่อสร้ำงควำมภำคภูมิใจให้แก่กรรมกำร ศส.ปชต. ๙. การแก้ไขปัญหาด้านการตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม: ควรรณรงค์ประชำสัมพันธ์ให้มีกำรจัดตั้งหมู่บ้ำนรณรงค์ไม่ขำยเสียงขึ้นทั่วประเทศ โดยประสำนงำนกับ ภำคีเครือข่ำยในพื้นที่อย่ำงใกล้ชิด โดยเฉพำะก ำนัน ผู้ใหญ่บ้ำน และ อสม. พร้อมทั้งควรมีกำรติดตั้ง ป้ำยประชำสัมพันธ์ขนำดใหญ่ที่มีข้อควำมเกี่ยวกับโทษของกำรทุจริตกำรเลือกตั้ง ช่องทำง กำรร้องเรียนเมื่อพบกำรกระท ำผิด รวมทั้งเงินสินบนน ำจับที่จะได้รับ และนอกจำกนี้ควรแต่งตั้งกรรมกำร ศส.ปชต. ซึ่งเป็นบุคลำกรและผู้ช่วยเหลือส ำนักงำน กกต. ซึ่งผ่ำนกำรอบรมหลักสูตรพลเมืองคุณภำพ มำแล้ว เป็นกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้งและเป็นผู้สังเกตกำรณ์กำรเลือกตั้ง รวมทั้งมอบหมำย ให้เป็นผู้หำข่ำวในพื้นที่และเป็นแหล่งข่ำวที่ส ำคัญด้วย ข้อเสนอเชิงนโยบำย ๑. การก าหนดให้ศส.ปชต. มีบทบาทในการพัฒนาประชาธิปไตยในระดับพื้นที่เป็นวาระแห่งชาติ: เพื่อให้เกิดเป้ำหมำยที่ชัดเจนในระดับนโยบำย อันจะน ำไปสู่กำรปฏิบัติ กำรบูรณำกำรควำมร่วมมือ ระหว่ำงภำคส่วนต่ำง ๆ ในพื้นที่อย่ำงเป็นรูปธรรม ๒. การขับเคลื่อนการท างานของ ศส.ปชต. โดยเน้นการบูรณาการการท างานและให้ถือเป็น ความรับผิดชอบร่วมกัน: ระเบียบคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๕ ข้อ ๒๖ ก ำหนดให้คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง แต่งตั้งคณะกรรมกำรคณะหนึ่ง เรียกว่ำ “คณะกรรมกำรขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย” และก ำหนดให้มีกำรประชุม คณะกรรมกำรอย่ำงน้อย ๑ ครั้ง ในช่วงเวลำ ๓ เดือน ดังนั้น จึงควรมีกำรส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนกำรท ำงำนของ ศส.ปชต. ในระดับนโยบำยให้ชัดเจน เพื่อเป็นกลไกในกำรขับเคลื่อน วำระแห่งชำติว่ำด้วยกำรส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตยในระดับพื้นที่ ๓. การก าหนดบทบาทและความรับผิดชอบร่วมกันระหว่าง ๓ หน่วยงานหลักให้ชัดเจน: โดยหน่วยงำนหลักดังกล่ำว ได้แก่ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง กระทรวงมหำดไทย และกระทรวงศึกษำธิกำร โดยก ำหนดบทบำทที่เป็นรูปธรรมของทั้ง ๓ หน่วยงำนให้ชัดเจน เพื่อให้สำมำรถเกิดกำรท ำงำนและบูรณำกำรเพื่อขับเคลื่อนภำรกิจของ ศส.ปชต. ๔. การแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การบริหารงบประมาณของ ศส.ปชต. มีประสิทธิภาพ และเกิดความคล่องตัว: ควรแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ ศส.ปชต. มีแหล่งงบประมำณสนับสนุน กำรด ำเนินงำน และสำมำรถบริหำรงบประมำณได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ และควรพิจำรณำทบทวน ระเบียบคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๕ เพื่อให้ ศส.ปชต. สำมำรถรับเงินอุดหนุนจำกหน่วยงำนอื่นได้ และสำมำรถเป็นหน่วยเบิกจ่ำยงบประมำณ ได้ด้วยตนเอง ๕. ก าหนดให้ศส.ปชต. มีบทบาทส าคัญในช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ใน พ.ศ. ๒๕๖๖: ควรเร่งสร้ำงควำมเข้มแข็ง กำรยอมรับในบทบำทของ ศส.ปชต. โดยให้ ศส.ปชต. มีบทบำทในกำรจัดกิจกรรมรณรงค์ ส่งเสริมกำรเลือกตั้งคุณภำพผ่ำนโครงกำรหมู่บ้ำนไม่ขำยสิทธิ ขำยเสียงในทุกพื้นที่ ฐ
๖. ก าหนดให้ความส าเร็จในการขับเคลื่อน ศส.ปชต. เป็นเกณฑ์เพิ่มเติมในการประเมินผล การปฏิบัติหน้าที่ของก านัน ผู้ใหญ่บ้าน และการคัดเลือกก านัน ผู้ใหญ่บ้านดีเด่น: ควรให้มีกำรเพิ่ม เกณฑ์ หรือตัวชี้วัดเรื่องควำมส ำเร็จในกำรขับเคลื่อน ศส.ปชต. ในกำรพิจำรณำผลกำรด ำเนินงำน หรือพิจำรณำคัดเลือกก ำนัน ผู้ใหญ่บ้ำนดีเด่น เพื่อสร้ำงแรงจูงใจในกำรท ำหน้ำที่ขับเคลื่อนบทบำท ของ ศส.ปชต. ๗. การติดตาม เร่งรัดให้มีการแต่งตั้งกรรมการ ศส.ปชต. ตามระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้ครบในทุกต าบล: ควรส ำรวจถึงปัญหำ อุปสรรค และข้อจ ำกัดต่ำง ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อกำรแต่งตั้งกรรมกำร ศส.ปชต. และเร่งด ำเนินกำรแก้ไขปัญหำโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งจัดอบรมสร้ำงควำมเข้ำใจบทบำทหน้ำที่ ศส.ปชต. ก่อนช่วงที่จะมีกำรประกำศพระรำชกฤษฎีกำให้มีกำรเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรเป็นกำรทั่วไป ในกำรเลือกตั้งที่จะมีขึ้นใน พ.ศ. ๒๕๖๖ ทั้งนี้ เพื่อให้ ศส.ปชต. เป็นกลไกส ำคัญในกำรสร้ำงพลเมืองคุณภำพเป็นศูนย์กลำงหรือศูนย์รวม ของพลเมืองในกำรท ำกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตยในหมู่บ้ำน ต ำบล และมีบทบำท ให้ควำมรู้เรื่องประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้งแก่ประชำชน ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมประชำธิปไตย ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตประจ ำวัน ตลอดจนพัฒนำต่อยอดกำรเสริมสร้ำงและขยำยเครือข่ำยพลเมือง และสร้ำงกำรมีส่วนร่วมในกระบวนกำรเลือกตั้งต่อไป ฑ
รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการขับเคลื่อนศูนยสงเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ------------------------------------------- ด้วยในครำวประชุมวุฒิสภำ ครั้งที่ ๑๗ (สมัยสำมัญประจ ำปีครั้งที่หนึ่ง) วันอังคำรที่ ๑๐ กันยำยน ๒๕๖๒ ที่ประชุมวุฒิสภำได้มีมติตั้งคณะกรรมำธิกำรสำมัญประจ ำวุฒิสภำ ตำมข้อบังคับกำรประชุมวุฒิสภำ พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๗๘ คณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ เป็นคณะกรรมำธิกำรสำมัญประจ ำวุฒิสภำคณะหนึ่ง มีหน้ำที่และอ ำนำจพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติ กระท ำกิจกำร พิจำรณำสอบหำข้อเท็จจริง หรือศึกษำเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับกำรส่งเสริมและสนับสนุน กำรพัฒนำกำรเมืองและกำรด ำเนินกำรอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกำรก ำหนดนโยบำย กำรตัดสินใจ ทำงกำรเมือง กำรวำงแผนพัฒนำทำงเศรษฐกิจ สังคม และกำรเมือง พิจำรณำศึกษำ ติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัดกำรปฏิรูปประเทศ และแผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติที่อยู่ในหน้ำที่และอ ำนำจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง บัดนี้ คณะกรรมำธิกำรได้ด ำเนินกำรพิจำรณำศึกษำรำยงำนดังกล่ำวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอรำยงำนผลกำรพิจำรณำศึกษำต่อวุฒิสภำตำมข้อบังคับกำรประชุมวุฒิสภำ พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๘ ดังนี้ ๑. การด าเนินงาน ๑.๑ คณะกรรมำธิกำรได้มีกำรเลือกต ำแหน่งต่ำง ๆ ดังนี้ ๑.๑.๑ นำยเสรี สุวรรณภำนนท์ เป็นประธำนคณะกรรมำธิกำร ๑.๑.๒ นำยจเด็จ อินสว่ำง เป็นรองประธำนคณะกรรมำธิกำร คนที่หนึ่ง ๑.๑.๓ นำยวันชัย สอนศิริ เป็นรองประธำนคณะกรรมำธิกำร คนที่สอง ๑.๑.๔ นำยดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เป็นรองประธำนคณะกรรมำธิกำร คนที่สำม ๑.๑.๕ ว่ำที่ร้อยตรีวงศ์สยำม เพ็งพำนิชภักดี เป็นเลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำร ๑.๑.๖ นำยพลเดช ปิ่นประทีป เป็นโฆษกคณะกรรมำธิกำร ๑.๑.๗ นำยสถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธำนที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ๑.๑.๘ นำยพิทักษ์ ไชยเจริญ เป็นที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ๑.๑.๙ พลเอกวัฒนำ สรรพำนิช เป็นที่ปรึกษำคณะกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๐ นำยกิตติศักดิ์ รัตนวรำหะ เป็นกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๑ นำยก ำพล เลิศเกียรติด ำรงค์ เป็นกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๒ นำยค ำนูณ สิทธิสมำน เป็นกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๓ นำยจรินทร์ จักกะพำก เป็นกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๔ พันต ำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมำ เป็นกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๕ นำยเฉลิมชัย เฟื่องคอน เป็นกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๖ นำยประดิษฐ์ เหลืองอร่ำม เป็นกรรมำธิกำร
๑.๑.๑๗ นำยสุชัย บุตรสำระ เป็นกรรมำธิกำร ๑.๑.๑๘ นำยออน กำจกระโทก เป็นกรรมำธิกำร ๑.๒ คณะกรรมำธิกำรได้มีมติแต่งตั้งผู้ช่วยเลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำรตำมข้อบังคับ กำรประชุมวุฒิสภำ พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๘๗ ดังนี้ - นำงสำวอรทัย แหวนนำค ผู้บังคับบัญชำกลุ่มงำนคณะกรรมำธิกำร กำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วม ของประชำชน ๑.๓ คณะกรรมำธิกำรได้ตั้งคณะอนุกรรมำธิกำรติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัดกำรปฏิรูป ประเทศ และกำรจัดท ำและกำรด ำเนินกำรตำมยุทธศำสตร์ชำติ เพื่อท ำหน้ำที่พิจำรณำติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัดกำรปฏิรูปประเทศ และกำรจัดท ำและกำรด ำเนินกำรตำมยุทธศำสตร์ชำติที่อยู่ในหน้ำที่และอ ำนำจ ของคณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ พิจำรณำศึกษำ ร่ำงพระรำชบัญญัติ กระท ำกิจกำร หรือศึกษำเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับกำรติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัดกำรปฏิรูป ประเทศ และกำรจัดท ำและกำรด ำเนินกำรตำมยุทธศำสตร์ชำติ และตำมที่คณะกรรมำธิกำรมอบหมำย โดยคณะอนุกรรมำธิกำรประกอบด้วย ๑.๓.๑ นำยเฉลิมชัย เฟื่องคอน เป็นประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๒ นำยพิทักษ์ ไชยเจริญ เป็นรองประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร คนที่หนึ่ง ๑.๓.๓ นำยสุชัย บุตรสำระ เป็นรองประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร คนที่สอง ๑.๓.๔ นำยประดิษฐ์ เหลืองอร่ำม เป็นรองประธำนคณะอนุกรรมำธิกำร คนที่สำม และโฆษกคณะอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๕ พลเอก วัฒนำ สรรพำนิช เป็นอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๖ นำงสำวศรี ศรีงำม เป็นอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๗ นำงสำวธีรพรรณ ใจมั่น เป็นอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๘ นำยสำโรช ไพเรำะ เป็นอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๙ นำงวัชรีภรณ์ โกสินเจริญชัย เป็นอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๑๐ นำงสำวนงลักษณ์ เรือนทอง เป็นอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๑๑ นำยสมชำย สำโรวำท เป็นอนุกรรมำธิกำร ๑.๓.๑๒ นำยภักดี คงด ำ เป็นอนุกรรมำธิกำรและเลขำนุกำร คณะอนุกรรมำธิกำรก ำหนดพิจำรณำศึกษำเรื่อง แนวทำงกำรขับเคลื่อนศูนยสงเสริม พัฒนำประชำธิปไตย (ศส.ปชต.) และได้เสนอรำยงำนกำรพิจำรณำศึกษำต่อคณะกรรมำธิกำร กำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ พิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ ด
๒. วิธีพิจารณาศึกษา วิธีพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดท าและการด าเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติปรากฏรายละเอียดในบทที่ ๓ วิธีการศึกษา ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้มีการประชุมเพื่อรับรองรายงานการพิจารณาศึกษา ในคราวประชุมคณะกรรมาธิการ ครั้งที่ ๒๗/๒๕๖๕ วันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ ๓. ผลการพิจารณาศึกษา คณะกรรมำธิกำรขอรำยงำนผลกำรพิจำรณำศึกษำเรื่อง “แนวทำงกำรขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริม พัฒนำประชำธิปไตย (ศส.ปชต.)” ซึ่งคณะอนุกรรมำธิกำรติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัดกำรปฏิรูปประเทศ และกำรจัดท ำและกำรด ำเนินกำรตำมยุทธศำสตร์ชำติได้ด ำเนินกำรศึกษำโดยคณะกรรมำธิกำร ได้พิจำรณำรำยงำนของคณะอนุกรรมำธิกำรด้วยควำมละเอียดรอบคอบแล้วและได้มีมติให้ควำมเห็นชอบ กับรำยงำนดังกล่ำวโดยถือเป็นรำยงำนกำรพิจำรณำศึกษำของคณะกรรมำธิกำร คณะกรรมำธิกำรจึงขอเสนอรำยงำนกำรพิจำรณำศึกษำของคณะกรรมำธิกำร พร้อมทั้งข้อเสนอแนะโดยมีรำยละเอียดตำมรำยงำนท้ำยนี้เพื่อให้วุฒิสภำได้พิจำรณำ หำกวุฒิสภำ ให้ควำมเห็นชอบด้วยกับผลกำรศึกษำของคณะกรรมำธิกำรขอให้โปรดแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรี คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง กระทรวงศึกษำธิกำร ส ำนักงำนส่งเสริม กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กระทรวงมหำดไทย กรมกำรปกครอง กรมส่งเสริมกำรปกครองท้องถิ่น กรมกำรพัฒนำชุมชน กระทรวงสำธำรณสุข กรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจกำรผู้สูงอำยุและหน่วยงำนอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจำรณำและด ำเนินกำรตำมแต่จะเห็นสมควรต่อไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของประเทศชำติและประชำชนสืบไป ว่ำที่ร้อยตรี (วงศ์สยำม เพ็งพำนิชภักดี) เลขำนุกำรคณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมือง และกำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ ต
1 บทที่ ๑ บทน า ๑.๑ ความเป็นมาและสภาพปัญหา รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ มำตรำ ๗๘ บัญญัติให้รัฐพึงส่งเสริม ให้ประชำชนและชุมชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำประเทศด้ำนต่ำง ๆ กำรจัดท ำบริกำร สำธำรณะ ทั้งในระดับชำติและระดับท้องถิ่น กำรตรวจสอบกำรใช้อ ำนำจรัฐ กำรต่อต้ำนกำรทุจริต และประพฤติมิชอบ รวมตลอดทั้งกำรตัดสินใจทำงกำรเมือง และกำรอื่นใดบรรดำที่อำจมีผลกระทบ ต่อประชำชนหรือชุมชน และหมวด ๑๖ กำรปฏิรูปประเทศ มำตรำ ๒๕๗ บัญญัติให้กำรปฏิรูปประเทศ ต้องด ำเนินกำรเพื่อบรรลุเป้ำหมำย ดังต่อไปนี้ (๑) ประเทศชำติมีควำมสงบเรียบร้อย มีควำมสำมัคคีปรองดอง มีกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืน ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และมีควำมสมดุลระหว่ำงกำรพัฒนำด้ำนวัตถุกับกำรพัฒนำ ด้ำนจิตใจ (๒) สังคมมีควำมสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกำสอันทัดเทียมกันเพื่อขจัดควำมเหลื่อมล้ ำ (๓) ประชำชนมีควำมสุข มีคุณภำพชีวิตที่ดีและมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำประเทศและกำรปกครอง ในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยให้ด ำเนินกำรปฏิรูปประเทศอย่ำงน้อยในด้ำนต่ำง ๆ ให้เกิดผลตำมมำตรำ ๒๕๘ ก. ด้ำนกำรเมือง ซึ่งจะต้องด ำเนินกำรดังต่อไปนี้ (๑) ให้ประชำชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมในกำรด ำเนินกิจกรรมทำงกำรเมืองรวมตลอดทั้ง กำรตรวจสอบกำรใช้อ ำนำจรัฐ รู้จักยอมรับในควำมเห็นทำงกำรเมืองโดยสุจริตที่แตกต่ำงกัน และให้ประชำชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชำมติโดยอิสระปรำศจำกกำรครอบง ำไม่ว่ำด้วยทำงใด (๒) ให้กำรด ำเนินกิ จกรรมของพรรคกำรเมื องเป็นไปโดยเปิดเผยและตรวจสอบได้ เพื่อให้พรรคกำรเมืองพัฒนำเป็นสถำบันทำงกำรเมืองของประชำชนซึ่งมีอุดมกำรณ์ทำงกำรเมืองร่วมกัน มีกระบวนกำรให้สมำชิกพรรคกำรเมืองมีส่วนร่วมและมีควำมรับผิดชอบอย่ำงแท้จริงในกำรด ำเนินกิจกรรม ทำงกำรเมืองและกำรคัดเลือกผู้มีควำมรู้ควำมสำมำรถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม จริยธรรม เข้ำมำเป็นผู้ด ำรงต ำแหน่งทำงกำรเมืองที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ฯลฯ จึงมีควำมจ ำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องด ำเนินกำรปฏิรูปประเทศให้เกิดผลตำมที่ก ำหนดอย่ำงเป็นรูปธรรม โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเพื่อให้บรรลุแผนกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง (ฉบับปรับปรุง) ซึ่งมีเป้ำประสงค์ เพื่อสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจแก่ประชำชนเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมให้ประชำชนเข้ำมำมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองและกระบวนกำรนโยบำยสำธำรณะ กำรเมืองมีเสถียรภำพและควำมมั่นคงและเกิดควำมสำมัคคีปรองดองสมำนฉันท์ของคนในชำติ ตลอดจนเพื่อให้พรรคกำรเมืองและนักกำรเมืองยึดมั่นในประโยชน์ของประเทศชำติและประชำชน เป็นหลัก ทั้งนี้ ได้ก ำหนดกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่ส่งผลให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงต่อประชำชนอย่ำงมี นัยส ำคัญ ๕ กิจกรรม ประกอบด้วย
2 กิจกรรมปฏิรูปที่ ๑ กำรส่งเสริมควำมรู้ทำงกำรเมืองในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข กิจกรรมปฏิรูปที่ ๒ กำรส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกระบวนกำรนโยบำยสำธำรณะ ทุกระดับ กิจกรรมปฏิรูปที่ ๓ กำรสร้ำงควำมสำมัคคีปรองดองสมำนฉันท์ของคนในชำติ กิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ กำรส่งเสริมกำรพัฒนำพรรคกำรเมือง กิจกรรมปฏิรูปที่ ๕ กำรปรับปรุงโครงสร้ำงและเนื้อหำของรัฐธรรมนูญเพื่อกำรปฏิรูป แผนปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง (ใช้ควบคู่กับแผนปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง (ฉบับปรับปรุง)) ประเด็นกำรปฏิรูปที่ ๔ กำรเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อกำรปฏิรูป ได้ก ำหนดกลยุทธ์ ให้มีมำตรกำรสร้ำงอำสำสมัครเพื่อรณรงค์ให้ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเลือกตั้งและให้ประชำชนออกมำใช้สิทธิ เลือกตั้ง ทั้งนี้ต้องจัดกำรฝึกอบรมให้อำสำสมัครมีควำมรู้และควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรเลือกตั้งให้ทั่วถึง ทุกครัวเรือนและก ำหนดเป้ำหมำยตัวชี้วัดให้มี ศส.ปชต. และให้ ศส.ปชต. ร่วมรณรงค์กำรใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่ำ ต ำบลหรือแขวงละ ๒ หมู่บ้ำนหรือชุมชน ต่อปี แผนปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง (ฉบับปรับปรุง) กิจกรรมปฏิรูปที่ ๑ ได้ก ำหนดเป้ำหมำย ให้ประชำชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ให้ประชำชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภำพ หน้ำที่ ควำมรับผิดชอบ มีส ำนึก ควำมเป็นพลเมือง และเสริมสร้ำงวัฒนธรรมกำรมีส่วนร่วมของประชำชน เพื่อให้ประชำชน เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำประเทศด้ำนต่ำง ๆ โดยก ำหนดให้หน่วยงำนต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ ด ำเนินกำรเพื่อให้บรรลุเป้ำหมำยกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง และกิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ กำรส่งเสริม กำรพัฒนำพรรคกำรเมือง ได้ก ำหนดเป้ำหมำยให้พรรคกำรเมืองเป็นสถำบันทำงกำรเมืองของประชำชน สุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ มีกระบวนกำรคัดเลือกผู้มีควำมรู้ควำมสำมำรถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม จริยธรรมเข้ำมำเป็นผู้ด ำรงต ำแหน่งทำงกำรเมืองที่ประชำชนมีส่วนร่วมอย่ำงแท้จริง โดยมีขั้นตอนและวิธีด ำเนินกำรปฏิรูปให้มีกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมเป็น พลเมืองคุณภำพ นักกำรเมืองคุณภำพ กำรเลือกตั้งระดับชำติและกำรเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ตลอดจนกำรมีส่วนร่วมของพรรคกำรเมืองและกำรเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคกำรเมืองให้แก่ทุกภำคส่วน อำทิ พรรคกำรเมือง ประชำชน และหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น พระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ ๒๒ (๕) ก ำหนดให้คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งมีหน้ำที่และอ ำนำจส่งเสริม สนับสนุนให้หน่วยงำนของรัฐ สถำบันกำรศึกษำ และองค์กรเอกชน ในกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องให้แก่ประชำชนเกี่ยวกับ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมือง ของประชำชน หรือให้ประชำชนมีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบกำรเลือกตั้ง ตลอดจนควำมรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เพื่อให้กำรด ำเนินกำรบรรลุเป้ำหมำยในพื้นที่ต ำบล หมู่บ้ำน จึงได้มีระเบียบ คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย พ.ศ. ๒๕๖๐ ขึ้น เพื่อสร้ำง ควำมเข้มแข็งให้พลเมืองอำสำพัฒนำประชำธิปไตย เป็นกลไกช่วยเหลือกำรปฏิบัติงำนของส ำนักงำน คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง (ส ำนักงำน กกต.) และหน่วยงำนอื่นที่เกี่ยวข้องในกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรส่งเสริม กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของประชำชน กำรบูรณำกำร ขยำย และพัฒนำศักยภำพเครือข่ำย
3 ภำคพลเมือง กำรส่งเสริมให้ประชำชนใช้สิทธิเลือกตั้งโดยสุจริตและเที่ยงธรรม กำรส่งเสริมกำรมีส่วนร่วม ในกระบวนกำรเลือกตั้งในระดับพื้นที่ โดยในระยะแรกได้ร่วมมือกับส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำ นอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย (ส ำนักงำน กศน.) ท ำบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือ โครงกำรศูนย์ส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตยต ำบล (ศส.ปชต.) ถูกก ำหนดเป็นหนึ่ง ในกำรขับเคลื่อนแผนปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง ในกิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ กำรส่งเสริมกำรพัฒนำ พรรคกำรเมือง ให้เป็นโครงกำรที่จะส่งผลให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงต่อประชำชนอย่ำงมีนัยส ำคัญ (Big Rock) ท ำให้ ศส.ปชต. เป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมืองให้เป็นไป อย่ำงมีประสิทธิภำพและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโครงกำรดังกล่ำวได้ถูกก ำหนดให้เป็นโครงกำร ที่มีควำมส ำคัญจ ำเป็นเร่งด่วนที่สุดที่จะต้องด ำเนินกำรให้บรรลุผลส ำเร็จภำยในปี ๒๕๖๕ คณะกรรมำธิกำรกำรพัฒนำกำรเมืองและกำรมีส่วนร่วมของประชำชน วุฒิสภำ ในฐำนะ คณะกรรมำธิกำรสำมัญประจ ำวุฒิสภำ ที่มีหน้ำที่และอ ำนำจพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติ กระท ำกิจกำร พิจำรณำสอบหำข้อเท็จจริงหรือศึกษำเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับกำรส่งเสริมและสนับสนุนกำรพัฒนำกำรเมือง และกำรด ำเนินกำรอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข กำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกำรก ำหนดนโยบำย กำรตัดสินใจทำงกำรเมือง กำรวำงแผนพัฒนำทำงเศรษฐกิจ สังคม และกำรเมือง พิจำรณำศึกษำ ติดตำม เสนอแนะ และเร่งรัด กำรปฏิรูปประเทศ และแผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติ ที่อยู่ในหน้ำที่และอ ำนำจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมำธิกำรได้ให้ควำมส ำคัญกับกำรส่งเสริมให้ประชำชนและชุมชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยคณะอนุ กรรมำธิกำรติดตำม เสนอแนะและเร่งรัดกำรปฏิรูปประเทศ และกำรจัดท ำและกำรด ำเนินกำร ตำมยุทธศำสตร์ชำติ พิจำรณำเห็นว่ำ ภำรกิจของ ศส.ปชต. เป็นโครงกำรจ ำเป็นเร่งด่วนที่ส่งผล ต่อกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง ที่จะสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมเป็นพลเมืองคุณภำพ นักกำรเมืองคุณภำพ กำรเลือกตั้งระดับชำติ และกำรเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ตลอดจนกำรมีส่วนร่วม ของพรรคกำรเมืองและกำรเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคกำรเมืองให้แก่ทุกภำคส่วน ดังนั้นจึงจ ำเป็นต้อง พัฒนำศักยภำพของ ศส.ปชต. ให้เป็นศูนย์กลำงกำรพัฒนำประชำธิปไตยระดับหมู่บ้ำน ต ำบล อย่ำงต่อเนื่อง ยั่งยืน และเป็นไปในทิศทำงเดียวกัน สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมเป็นพลเมือง คุณภำพ สร้ำงกำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของประชำชนเกิดกำรปฏิบัติอย่ำงเป็นรูปธรรม และเร่งรัด ติดตำมกำรปฏิรูปประเทศให้เกิดผลสัมฤทธิ์ จึงจ ำเป็นต้องศึกษำแนวทำงกำรขับเคลื่อน ศส.ปชต. รวมทั้ง แนวทำงกำรพัฒนำศักยภำพ พัฒนำทักษะ วิธีกำรถ่ำยทอด องค์ควำมรู้ กำรบูรณำกำรท ำงำนในพื้นที่ และประเมินมำตรฐำนกำรด ำเนินกำรอย่ำงเป็นระบบ เพื่อให้สำมำรถเป็นกลไกในกำรขับเคลื่อน และประสำนงำนในพื้นที่ต ำบล หมู่บ้ำน อย่ำงเป็นรูปธรรม บรรลุตำมเจตนำรมณ์ของรัฐธรรมนูญ แห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ และแผนกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง
4 ๑.๒ วัตถุประสงค์ ๑.๒.๑ เพื่อศึกษำแนวทำงกำรด ำเนินกำรของ ศส.ปชต. ๑.๒.๒ เพื่อศึกษำสภำพ ปัญหำ และอุปสรรค ในกำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. ๑.๒.๓ เพื่อเสนอแนะแนวทำงกำรพัฒนำศักยภำพและเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งของ ศส.ปชต. ๑.๓ ขอบเขตการศึกษา ๑.๓.๑ ศึกษำแนวคิด หลักกำร และควำมส ำคัญของกำรพัฒนำประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ๑.๓.๒ ศึกษำแนวคิด หลักกำร และควำมส ำคัญของ ศส.ปชต. ๑.๓.๓ ศึกษำกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กำรศึกษำนี้เป็นกำรศึกษำเชิงคุณภำพ (Qualitative Research) ภำยใต้กรอบกำรศึกษำ ถึงแนวทำงกำรขับเคลื่อน ศส.ปชต. เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนำรมณ์ในกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ ๑.๔ นิยามศัพท์เฉพาะ “ศส.ปชต.” หมำยควำมว่ำ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย หรือศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย และกำรเลือกตั้งต ำบล “คณะกรรมกำร ศส.ปชต.” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยต ำบล “กรรมกำร ศส.ปชต.” หมำยควำมว่ำ กรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยต ำบล “ส ำนักงำน กกต.” หมำยควำมว่ำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง “ส ำนักงำน กกต.จว.” หมำยควำมว่ำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจ ำจังหวัด “ส ำนักงำน กศน.” หมำยควำมว่ำ ส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย “ส ำนักงำน กศน.จว.” หมำยควำมว่ำ ส ำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัยจังหวัด ๑.๕ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑.๕.๑ ได้รับทรำบแนวทำงกำรด ำเนินกำร สภำพปัญหำ อุปสรรค ที่ส่งผลต่อกำรด ำเนินงำนของ ศส.ปชต. ๑.๕.๒ มีแนวทำงกำรด ำเนินกำรส่งเสริมและพัฒนำ ศส.ปชต. ให้เป็นศูนย์กลำงกำรพัฒนำ ประชำธิปไตย และเป็นกลไกประสำนกำรท ำงำนเป็นทีมร่วมกับเครือข่ำยภำคประชำชนในพื้นที่ต ำบล ให้เกิดผลอย่ำงเป็นรูปธรรม ตำมเจตนำรมณ์ในกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรเมือง ๑.๕.๓ มีข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทำงกำรบูรณำกำรควำมร่วมมือขับเคลื่อนกำรสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมี ศส.ปชต. เป็นกลไกกำรด ำเนินกำร
5 ๑.๖ กรอบการพิจารณา - รัฐธรรมนูญ มำตรำ ๗๘ - แผนปฏิรูปประเทศ ด้ำนกำรเมือง - กำรให้ควำมรู้กำรปกครอง ระบอบประชำธิปไตยอันมี พระมหำกษัตริย์ทรงเป็น ประมุข กำรสัมมนำระดม ควำมคิดเห็นแนวทำง กำรขับเคลื่อน ศส.ปชต. บทบาทการขับเคลื่อน ศส.ปชต. ตามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือของหน่วยงาน ภาคีเครือข่าย การประชุมหารือกับ คณะกรรมการ ศส.ปชต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ใน พื้นที่ ข้อเสนอแนะ แนวทาง การขับเคลื่อน ศส.ปชต.
6
7 บทที่ ๒ เอกสารและงานวิชาการที่เกี่ยวข้อง จำกกำรพิจำรณำศึกษำเอกสำรและงำนวิชำกำรที่เกี่ยวข้อง สำมำรถสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กำรส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย ดังนี้ ๒.๑ แนวคิดเกี่ยวกับ ศส.ปชต. ๒.๑.๑ ความเป็นมาของ ศส.ปชต. ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง (ส ำนักงำน กกต.) ได้ด ำเนินกำรฝึกอบรมพลเมือง อำสำพัฒนำประชำธิปไตย โดยมีเป้ำหมำยสร้ำงพลเมืองอำสำ กกต. ประจ ำทุกหน่วยเลือกตั้ง หน่วยละ ๑ คน ภำยในปี ๒๕๕๘ (พ.ศ. ๒๕๕๔ – พ.ศ. ๒๕๕๘) เพื่อท ำหน้ำที่ส่งเสริมควำมรู้ประชำธิปไตย กำรเลือกตั้งในต ำบล และเป็นกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้ง ต่อมำจึงมีแนวคิดจัดตั้ง ศส.ปชต. เพื่อเป็นศูนย์กลำงกำรติดต่อประสำนงำนระหว่ำง พลเมืองอำสำ กกต. กับส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจ ำจังหวัด(ส ำนักงำน กกต.จว.) ให้สำมำรถ ติดตำม สนับสนุนกำรปฏิบัติงำนได้โดยสะดวก มีสถำนที่ติดต่อประสำนงำน และสำมำรถน ำกิจกรรม กำรให้ควำมรู้ประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้งไปสู่ต ำบลและหมู่บ้ำน ผ่ำนกำรจัดเวทีให้ควำมรู้ควบคู่ไปกับ กำรจัดกิจกรรมของชุมชน เพื่อให้กิจกรรมกำรให้ควำมรู้เป็นรูปธรรมทั่วถึง ควบคู่ไปกับวิถีชีวิตมำกขึ้น รวมทั้งให้ศส.ปชต. เป็นศูนย์กลำงในกำรสรรหำบุคคลเข้ำมำท ำหน้ำที่เป็นกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้ง ทั้งในภำวะปกติและภำวะที่เกิดวิกฤตโดยไม่กระทบต่อกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้งที่ปฏิบัติหน้ำที่ อยู่เดิมและท ำหน้ำที่มำอย่ำงดีแล้ว ตลอดจนท ำหน้ำที่ในกำรช่วยสอดส่องสังเกตกำรณ์และแจ้งข่ำว กำรทุจริตกำรเลือกตั้ง (ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง, ๒๕๕๗ : ๑ - ๒) ศส.ปชต. ได้ริเริ่มและจัดตั้งในปี ๒๕๕๗ โดยควำมร่วมมือระหว่ำงส ำนักงำน กกต. และส ำนักงำน กศน. ด้วยกำรจัดท ำบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือ เมื่อวันที่ ๙ มีนำคม ๒๕๕๗ ก ำหนดให้มี กำรจัดตั้ง ศส.ปชต. จังหวัดละ ๑ ต ำบล (๑ ศูนย์) และมีเป้ำหมำยจัดตั้งให้ครบทุกต ำบลในปี ๒๕๕๙ โดยมีกำรสรรหำคณะกรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้ง จำกพลเมืองอำสำ กกต. ในพื้นที่ต ำบล เพื่อเป็นผู้ที่ท ำหน้ำที่ขับเคลื่อนกิจกรรมเกี่ยวกับกำรส่งเสริมพัฒนำ ให้ควำมรู้ เกี่ยวกับประชำธิปไตย และกำรเลือกตั้งในต ำบล ต่อมำคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งได้ออกระเบียบคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำด้วย ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย พ.ศ. ๒๕๖๐ ก ำหนดให้มีกำรตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย (ศส.ปชต.) ขึ้น ๓ ระดับ คือ ศส.ปชต.ต ำบล ศส.ปชต.อ ำเภอ และ ศส.ปชต.จังหวัด สถานที่จัดตั้ง ศส.ปชต. สถำนที่ท ำกำรของ ศส.ปชต. ในระยะแรกใช้อำคำรของศูนย์กำรศึกษำนอกระบบ และกำรศึกษำตำมอัธยำศัยต ำบล มีบุคลำกรทำงกำรศึกษำ (ครู กศน. ต ำบล) เป็นที่ปรึกษำ เป็นพี่เลี้ยง ในกำรปฏิบัติงำนของคณะกรรมกำร ศส.ปชต. ตลอดจนเป็นกรรมกำรและเลขำนุกำรโดยต ำแหน่ง
8 ๒.๑.๒ วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง ศส.ปชต. ๒.๑.๒.๑ เพื่อให้ศส.ปชต. เป็นศูนย์กลำงกำรปฏิบัติงำนและประสำนงำนเครือข่ำย ในกำรพัฒนำประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้งระดับต ำบล พลเมืองอำสำพัฒนำประชำธิปไตย ในรูปแบบ คณะกรรมกำร ศส.ปชต. ๒.๑.๒.๒ เพื่อให้สำมำรถเสริมสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบ ประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข และให้ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเลือกตั้งในชุมชน ได้ในทุกรูปแบบ เพื่อปลูกจิตส ำนึกให้เยำวชน นักเรียน นักศึกษำ และประชำชน อันเป็นกำรพัฒนำ ประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้งในระยะยำวอย่ำงมั่นคงและยั่งยืน ๒.๑.๒.๓ เพื่อให้ศส.ปชต. เป็นศูนย์กลำงในกำรเก็บรวบรวมข้อมูลกำรสรรหำกรรมกำร ประจ ำหน่วยเลือกตั้งทั้งในภำวะปกติและภำวะวิกฤต เพื่อเป็นหลักประกันว่ำจะมีกรรมกำรประจ ำ หน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้ำที่ได้ในทุกสถำนกำรณ์ ๒.๑.๒.๔ เพื่อเป็นเครือข่ำยในกำรช่วยสอดส่องสังเกตกำรณ์ และแจ้งข่ำวกำรทุจริตฝ่ำฝืน กฎหมำยเลือกตั้ง ซึ่งจะท ำให้คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งมีเครือข่ำยทุกชุมชน ๒.๑.๒.๕ เพื่อเป็นกำรพัฒนำต่อยอดกำรสร้ำงพลเมืองอำสำพัฒนำประชำธิปไตย ไปสู่กำรปฏิบัติอย่ำงเป็นรูปธรรม ๒.๑.๓ บทบาท หน้าที่และความส าคัญของ ศส.ปชต. หัวใจหลักในกำรสร้ำงพลเมืองคุณภำพอยู่ที่ “กำรสร้ำงต้นน้ ำให้ใสสะอำด” ประชำชน ทุกระดับในฐำนะเจ้ำของอ ำนำจอธิปไตยจะต้องเป็นพลเมืองคุณภำพ จึงต้องมีกำรปลูกฝังแนวคิด ควำมเป็นพลเมือง เพื่อสร้ำงควำมตระหนักถึง “หน้ำที่” และ “ควำมรับผิดชอบ” โดยมีศส.ปชต. เป็นกลไกในกำรด ำเนินกำรและสร้ำงพลเมืองคุณภำพขึ้น โดยมุ่งหวังให้ศส.ปชต. เป็นศูนย์กลำงหรือ ศูนย์รวมของพลเมืองในกำรท ำกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนำประชำธิปไตยในต ำบล หมู่บ้ำน อย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยมีบทบำทหน้ำที่ ดังนี้ ๒.๑.๓.๑ กำรบริหำรจัดกำรศส.ปชต. เตรียมพร้อมในกำรท ำกิจกรรมส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยอย่ำงต่อเนื่อง สม่ ำเสมอ เป็นที่ยอมรับของประชำชนและหน่วยงำนต่ำง ๆ เช่น ๒.๑.๓.๑ (๑) จัดที่ท ำกำร ศส.ปชต. ให้มีควำมพร้อม เช่น มีควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อย มีกำรจัดเอกสำรเป็นหมวดหมู่ สะดวกต่อกำรค้นหำ เป็นต้น ๒.๑.๓.๑ (๒) จัดประชุมคณะกรรมกำร ศส.ปชต. โดยมีกำรจัดท ำบันทึกรำยงำน กำรประชุม จัดท ำแผนปฏิบัติงำนของ ศส.ปชต. เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทำงกำรท ำงำน เช่น แผนประจ ำเดือน แผนประจ ำไตรมำส และแผนประจ ำปี เป็นต้น ๒.๑.๓.๑ (๓) ประสำนและบูรณำกำรแผนกำรปฏิบัติงำนกับผู้น ำกลุ่มองค์กรเครือข่ำย รวมทั้งอำสำสมัครหน่วยงำนในพื้นที่ เช่น คณะกรรมกำรหมู่บ้ำน คณะกรรมกำรชุมชน คณะกรรมกำร พัฒนำสตรีหมู่บ้ำน อำสำสมัครสำธำรณสุขประจ ำหมู่บ้ำน ชมรมผู้สูงอำยุ เป็นต้น ๒.๑.๓.๑ (๔) บันทึกผลกำรปฏิบัติงำน และรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำน เพื่อใช้ประโยชน์ ในกำรจัดท ำแผนประสำนงำน และประเมินผลกำรปฏิบัติงำน
9 ๒.๑.๓.๒ กำรให้ควำมรู้เกี่ยวกับประชำธิปไตย หน้ำที่ให้ควำมรู้เกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข สร้ำงจิตส ำนึกควำมเป็นพลเมืองแก่ประชำชนให้เห็นแก่ประโยชน์ของสังคมและส่วนรวม ต่อต้ำนพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันและกำรซื้อสิทธิขำยเสียง โดยด ำเนินกำรให้ควำมรู้ในรูปแบบต่ำง ๆ เช่น ๒.๑.๓.๒ (๑) ให้ควำมรู้ตำมกิจกรรมที่ ศส.ปชต. ได้รับมอบหมำย เช่น เป็นวิทยำกร ให้ควำมรู้ตำมหลักสูตรพลเมืองคุณภำพ และหลักสูตรผู้จัดกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้งมืออำชีพ เป็นต้น ๒.๑.๓.๒ (๒) ให้ควำมรู้ตำมโครงกำร กิจกรรม โดยบูรณำกำรร่วมกับหน่วยงำนอื่น ๒.๑.๓.๒ (๓) ให้ควำมรู้สอดแทรกไปกับวิถีชีวิตประจ ำวันของประชำชน ๒.๑.๓.๓ ขยำยเครือข่ำยพลเมือง หน้ำที่แสวงหำบุคคลที่มีควำมประสงค์เข้ำมำร่วมปฏิบัติงำน เพื่อมำเป็นเครือข่ำย โดยจัดท ำทะเบียนสมำชิกที่เป็นเครือข่ำย แล้วถ่ำยทอดแนวคิดและควำมรู้ในกำรปฏิบัติงำน เมื่อมีภำรกิจ จะประสำนงำนให้เข้ำร่วมในกำรปฏิบัติงำน รวมทั้งจัดท ำทะเบียนพลเมืองอำสำที่ผ่ำนกำรฝึกอบรม หลักสูตรพลเมืองคุณภำพเพื่อประสำนงำนและร่วมปฏิบัติหน้ำที่ในฐำนะสมำชิก ศส.ปชต. ๒.๑.๓.๔ ส่งเสริมหมู่บ้ำนชุมชนประชำธิปไตย พัฒนำหมู่บ้ำนหรือชุมชนประชำธิปไตยต้นแบบเพื่อเป็นตัวอย่ำงให้เห็นว่ำ ประชำชนในชุมชนสำมำรถบริหำรจัดกำรแก้ปัญหำชุมชนได้ด้วยกระบวนกำรประชำธิปไตย และกำรมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เป็นกำรบริหำรจัดกำรปัญหำที่เกิดขึ้นในชุมชนด้วยพลัง ของพลเมืองในชุมชน และขยำยผลถ่ำยทอดประสบกำรณ์ไปยังหมู่บ้ำนหรือชุมชนอื่น เพื่อยืนยันว่ำ ปัญหำที่เกิดขึ้นนั้นสำมำรถแก้ไขได้ด้วยกระบวนกำรประชำธิปไตย และสำมำรถพัฒนำสู่กำรเป็นหมู่บ้ำน พลเมืองดีวิถีประชำธิปไตย ๒.๑.๓.๕ ส่งเสริมกิจกรรมประชำธิปไตย หน้ำที่ในฐำนะผู้น ำทำงควำมคิดและมีวิถีชีวิตแบบประชำธิปไตย ส่งเสริมพลเมือง ให้มีกิจกรรมประชำธิปไตยในชุมชน หมู่บ้ำน ต ำบล เช่น ถ้ำชุมชนมีปัญหำควรระดมควำมคิดเห็นจำก สมำชิก เสนอแนวทำงแก้ไขที่มำจำกควำมเห็นพ้องต้องกัน ยึดหลักเหตุผลโดยยอมรับเสียงส่วนใหญ่ และรับฟังเสียงข้ำงน้อย ไม่ใช้เสียงข้ำงมำกลำกไป หรือใช้อิทธิพลหรือสิ่งจูงใจที่ท ำให้กำรออกเสียงไม่ได้ เป็นไปตำมเหตุและผล เมื่อได้กฎกติกำร่วมกันทุกคนก็ต้องยึดถือปฏิบัติโดยไม่มีกำรฝ่ำฝืนหรือหลีกเลี่ยง ไม่ปฏิบัติถ้ำเห็นว่ำกฎกติกำไม่เหมำะสมก็ควรน ำมำพิจำรณำในที่ประชุมของสมำชิกเพื่อปรับปรุงแก้ไข โดยมี ศส.ปชต. เป็นศูนย์กลำงกำรเรียนรู้ประชำธิปไตย ร่วมคิด ร่วมท ำ เพื่อพัฒนำ ศส.ปชต. ให้เป็น ศูนย์เรียนรู้วิถีประชำธิปไตย ๒.๑.๓.๖ มีส่วนร่วมในกระบวนกำรเลือกตั้ง มีบทบำทในกำรส่งเสริมให้กำรเลือกตั้งในต ำบล หมู่บ้ำน เป็นของประชำชน โดยประชำชน และเพื่อประชำชนอย่ำงแท้จริง และเป็นกำรเลือกตั้งที่สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม ชอบด้วย กฎหมำย โดยเข้ำร่วมกระบวนกำรเลือกตั้ง เช่น กำรให้ควำมรู้เกี่ยวกับเลือกตั้ง กำรรณรงค์ให้ออกมำใช้ สิทธิเลือกตั้ง กำรรณรงค์ป้องกันกำรทุจริตซื้อสิทธิขำยเสียง กำรสมัครเป็นกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ตรวจสอบกำรหำเสียงของผู้สมัคร กำรป้องกันไม่ให้มีกำรฝ่ำฝืนกฎหมำยเลือกตั้ง
10 ๒.๑.๔ ภารกิจหน้าที่ของคณะกรรมการ ศส.ปชต. คณะกรรมกำร ศส.ปชต. ถือเป็นบุคคลส ำคัญในกำรขับเคลื่อนภำรกิจในอ ำนำจหน้ำที่ของ ส ำนักงำน กกต. ในระดับพื้นที่ จึงมีบทบำททั้งกำรบริหำร กำรประสำนงำน กำรพัฒนำชุมชน ด้ำนประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้ง และเป็นผู้ถ่ำยทอดควำมรู้กำรขับเคลื่อนภำรกิจ ศส.ปชต. โดยยึดหลักกำร “ไม่มีงบประมำณก็สำมำรถขับเคลื่อนภำรกิจได้” และมีหน้ำที่ส ำคัญที่ต้องด ำเนินกำร ดังนี้(ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง, ๒๕๖๕ : ๒๒ – ๒๔) ๒.๑.๔.๑ การบริหารจัดการ ศส.ปชต. ให้มีประสิทธิภำพในกำรปฏิบัติงำนในต ำบลเพื่อให้ สำมำรถเป็นแบบอย่ำงแก่ต ำบลอื่น ๆ เช่น ๒.๑.๔.๑ (๑) จัดที่ท ำกำร ศส.ปชต. ให้มีควำมพร้อมในกำรปฏิบัติงำน ๒.๑.๔.๑ (๒) ประชุมคณะกรรมกำรบริหำร ศส.ปชต. อย่ำงน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง และจัดท ำบันทึกรำยงำนกำรประชุม ๒.๑.๔.๑ (๓) ประสำนกำรปฏิบัติกับหน่วยงำนในพื้นที่ และจัดท ำแผนปฏิบัติงำน ๒.๑.๔.๑ (๔) บันทึกกำรปฏิบัติงำน ในนำม ศส.ปชต. ในนำมคณะกรรมกำร ศส.ปชต. และในนำมของพลเมืองอำสำพัฒนำประชำธิปไตยที่เป็นเครือข่ำยของ ศส.ปชต. ๒.๑.๔.๑ (๕) จัดท ำรำยงำนกำรปฏิบัติงำนตำมรูปแบบที่ก ำหนดเป็นประจ ำ ๒.๑.๔.๒ การขยายเครือข่ายภารกิจพลเมืองอาสาพัฒนาประชาธิปไตย เพื่อให้ กำรบริหำรจัดกำรขับเคลื่อนภำรกิจของพลเมืองอำสำพัฒนำประชำธิปไตย เกิดผลเป็นรูปธรรม และต่อเนื่อง ทั้งภำรกิจเรื่องกำรเป็นนักประชำธิปไตย นักประชำสัมพันธ์ นักรณรงค์เลือกตั้ง นักจัดกำรเลือกตั้ง และนักสร้ำงเครือข่ำยมีกำรจัดท ำทะเบียนสมำชิกที่เข้ำมำเป็นเครือข่ำยพลเมืองอำสำ พัฒนำประชำธิปไตย ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในกำรประสำนเข้ำร่วมกิจกรรมที่เกิดขึ้นในต ำบล หมู่บ้ำน ๒.๑.๔.๓ การให้ความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ใน ๓ รูปแบบ คือ ๒.๑.๔.๓ (๑) ให้ควำมรู้ตำมโครงกำร กิจกรรม ร่วมกับหน่วยงำนอื่น ๆ ที่จัดขึ้น ๒.๑.๔.๓ (๒) ให้ควำมรู้ตำมโครงกำร กิจกรรมที่คณะกรรมกำร ศส.ปชต. ได้รับ มอบหมำยให้ด ำเนินกำรในพื้นที่ ๒.๑.๔.๓ (๓) ให้ควำมรู้ควบคู่ไปกับวิถีชีวิตประจ ำวันของชุมชน แม้ไม่มีโครงกำร โดยวำงแผนในแต่ละเดือนว่ำสำมำรถออกร่วมกิจกรรมกับหน่วยงำน องค์กรใดบ้ำง เช่น ร่วมกับ ครู กศน. ต ำบล พัฒนำกำรต ำบล เครือข่ำยของโรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพต ำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือเข้ำร่วมประชุมประจ ำเดือนของก ำนัน ผู้ใหญ่บ้ำน กองทุนหมู่บ้ำน กลุ่มผู้น ำสตรี อสม. ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดเวทีกำรพูดคุยเกี่ยวกับควำมส ำคัญของกำรพัฒนำประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้ง สอดแทรกไปในทุกกิจกรรมของต ำบล หมู่บ้ำน ตลอดจนสอดแท รกไปใน วงสนทน ำทั่วไป ทั้งที่เป็นทำงกำรและไม่เป็นทำงกำร โดยถือเป็นกำรให้ควำมรู้ประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้งสอดแทรก อยู่ในวิถีชีวิตประจ ำวัน พร้อมบันทึกกำรให้ควำมรู้เพื่อเป็นข้อมูลในกำรปฏิบัติงำนในเดือนต่อไป ๒.๑.๔.๔ การสร้างผู้จัดการประจ าหน่วยเลือกตั้งมืออาชีพ (กปน.มืออำชีพ) โดยรวบรวม และจัดท ำทะเบียนกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ ทั้งกำรเลือกตั้งระดับชำติ และระดับท้องถิ่น รวมทั้งจัดท ำทะเบียนผู้ที่มีควำมพร้อมที่จะเป็นกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้ง จัดให้มีกำรอบรม ให้ควำมรู้และฝึกปฏิบัติกำรเป็นกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้งให้แก่บุคคลดังกล่ำว ทั้งนี้ เพื่อเป็นกำร
11 เตรียมเจ้ำพนักงำนผู้ด ำเนินกำรเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งให้มีผู้ที่มีควำมรู้ในกำรท ำหน้ำที่เป็นกรรมกำร ประจ ำหน่วยเลือกตั้งเข้ำมำเสริมทันที ๒.๑.๔.๕ การสร้างเครือข่ายข่าว ศส.ปชต. ในฐำนะตัวแทนส ำนักงำน กกต. ภำคประชำชน ศส.ปชต. จึงต้องมีจิตส ำนึกสำธำรณะและทัศนคติที่ต้องป้องกันและแก้ปัญหำกำรซื้อสิทธิขำยเสียงในพื้นที่ ร่วมกันจัดตั้งหมู่บ้ำนหรือชุมชนต้นแบบรณรงค์ปลอดกำรซื้อสิทธิขำยเสียงแล้ว และเป็นเครือข่ำยในกำร สอดส่องสังเกตกำรณ์แจ้งข่ำวกำรทุจริตและฝ่ำฝืนกฎหมำยเลือกตั้งให้คณะกรรมกำรกำ รเลือกตั้งท รำบ ๒.๑.๔.๖ การจัดตั้งหมู่บ้านหรือชุมชนต้นแบบ ถือเป็นภำรกิจส ำคัญที่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ำ คณะกรรมกำร ศส.ปชต. ผู้น ำชุมชน และประชำชนในชุมชน มีศักยภำพร่วมกันในกำรบริหำรจัดกำร ขจัดปัญหำที่เกิดขึ้นด้วยกระบวนกำรของชุมชนเอง แล้วสำมำรถถ่ำยทอดประสบกำรณ์ไปยังหมู่บ้ำนหรือ ชุมชนอื่นได้ ซึ่งจะเป็นกำรยืนยันว่ำปัญหำที่เกิดขึ้นจนเป็นปัญหำระดับชำตินั้นสำมำรถแก้ได้ด้วย กระบวนกำรของชุมชน เช่น ปัญหำกำรซื้อสิทธิขำยเสียง แก้ไขโดยจัดตั้งหมู่บ้ำนหรือชุมชนต้นแบบ รณรงค์ปลอดกำรซื้อสิทธิขำยเสียง ปัญหำควำมแตกแยกในชุมชนแก้ไขโดยจัดตั้งเป็นหมู่บ้ำนหรือชุมชน ต้นแบบประชำธิปไตยที่สำมำรถขจัดควำมขัดแย้งด้วยกระบวนกำรประชำธิปไตย หรือเป็นหมู่บ้ำนที่ บริหำรจัดกำรหมู่บ้ำนหรือชุมชนด้วยกระบวนกำรประชำธิปไตยเพื่อขับเคลื่อนภำรกิจต่ำง ๆ ของชุมชน ๒.๑.๔.๗ การจัดท าทะเบียนและรายงานผลการด าเนินงาน ที่เกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติงำน ของ ศส.ปชต. เพื่อประโยชน์ในกำรบริหำรจัดกำรภำรกิจ ให้เป็นไปตำมวัตถุประสงค์ของกำรจัดตั้ง ประกอบด้วย ๒.๑.๔.๗ (๑) ทะเบียนคณะกรรมกำร ศส.ปชต. ๒.๑.๔.๗ (๒) ทะเบียนสมำชิก ศส.ปชต. ๒.๑.๔.๗ (๓) ทะเบียนเครือข่ำยพลเมืองอำสำพัฒนำประชำธิปไตย ๒.๑.๔.๗ (๔) ทะเบียนกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้ง ๒.๑.๔.๗ (๕) ทะเบียนกำรให้ควำมรู้ประชำธิปไตยและกำรเลือกตั้ง ๒.๑.๔.๗ (๖) รำยงำนกำรประชุมประจ ำเดือน ๒.๑.๔.๗ (๗) รำยงำนกำรปฏิบัติงำนประจ ำเดือน ๒.๑.๔.๘ การประเมินผลการด าเนินกิจกรรม แบ่งกำรประเมินออกเป็น ๒ ส่วน คือ ๒.๑.๔.๘ (๑) ส ำนักงำน กกต.จว. ลงพื้นที่ นิเทศ ติดตำมกำรปฏิบัติงำนของ ศส.ปชต. เพื่อรับทรำบปัญหำและร่วมวิเครำะห์แก้ไขปัญหำข้อขัดข้องในกำรปฏิบัติงำน เพื่อขับเคลื่อน ให้บรรลุวัตถุประสงค์ ๒.๑.๔.๘ (๒) เมื่อสิ้นปีงบประมำณ จัดให้มีกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนของ ศส.ปชต. ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เพื่อน ำผลกำรประเมินมำใช้ในกำรพัฒนำปรับปรุงกำรด ำเนินภำรกิจ ของ ศส.ปชต. กำรบริหำรจัดกำร ตลอดจนกำรสนับสนุน ศส.ปชต. ในปีต่อไป
12 ๒.๑.๕ แนวทางการท างาน ๕ ก. ของ ศส.ปชต. เพื่อสร้างความเข้มแข็งยั่งยืน (ส ำนักงำนคณะกรรมกำร กำรเลือกตั้ง, ๒๕๖๕ : ๑๖๗ – ๑๖๙) ก๑ – กลุ่ม ศส.ปชต. ต้องสร้ำงเครือข่ำยโดยกำรแสวงหำสมำชิกจำกเครือข่ำยกลุ่มองค์กรต่ำง ๆ ที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งที่ต้องแสวงหำเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นอำสำสมัครพัฒนำกำรเมืองที่พร้อมจะร่วมกับ ศส.ปชต. ในกำรส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยและมีส่วนร่วมในกระบวนกำรเลือกตั้ง เช่น - มีที่มำจำกกลุ่มที่หลำกหลำย ทั้งปริมำณ และคุณภำพ และพร้อมที่จะสนับสนุนกำรปฏิบัติงำน - มีกำรจัดท ำทะเบียนสมำชิกเครือข่ำยไว้ในฐำนข้อมูลอย่ำงเป็นระบบ - มีควำมเข้ำใจบทบำทหน้ำที่และวัตถุประสงค์ของกำรเป็นเครือข่ำย มีกำรประชุมวำงแผน กำรท ำกิจกรรม สรุปผล เสนอแนะ เพื่อประโยชน์ในกำรด ำเนินกิจกรรมต่อไป ก๒ – กรรมการ กรรมกำรเป็นกลไกส ำคัญที่จะขับเคลื่อน ศส.ปชต. คือ ผู้ที่ได้รับมอบหมำยจำก “กลุ่ม” ให้ท ำหน้ำที่เป็นกรรมกำร ต้องมีควำมเสียสละ มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ในบทบำทหน้ำที่ของตนเอง มีกำรประชุมร่วมกัน ขยำยผลสู่เครือข่ำยสมำชิกกลุ่ม องค์กรของตน และประสำนงำนภำคีเครือข่ำยอื่น ในพื้นที่ โดยบูรณำกำรกำรท ำงำนร่วมกัน มีกำรเผยแพร่ผลกำรด ำเนินงำน ก๓ – กฎ กติกำ กฎ ข้อตกลง จรรยำบรรณ ซึ่งใช้ในกำรท ำงำนร่วมกันของกรรมกำร ศส.ปชต. และเครือข่ำย ต้องเกิดจำกกำรตกลงร่วมกันและมีกำรประชำสัมพันธ์ให้คนในชุมชนได้รับทรำบโดยทั่วกัน ก๔ – กองทุน กองทุน มิได้หมำยถึง ศส.ปชต. มีเงินทุนก่อนหรือต้องมีกำรจัดตั้งเป็นกองทุนสนับสนุน จึงจะสำมำรถท ำงำนได้ แต่หมำยรวมถึงกำรขับเคลื่อนกิจกรรมอำจต้องอำศัยควำมรู้เป็นทุน หรือแรงงำน เป็นทุน แม้บำงกิจกรรมอำจต้องใช้งบประมำณหรือจ ำเป็นต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ต่ำง ๆ จึงควรมีกำร ระดมทุน กองทุนจึงเป็นทั้งที่เป็นเงินและทรัพยำกรอื่น ๆ จำกภำยในและภำยนอกชุมชน ทั้งภำครัฐ เอกชน และประชำชน เพื่อมำใช้ในกำรด ำเนินงำนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและเกิดควำมสะดวกคล่องตัว ในกำรท ำกิจกรรม ก๕ – กิจกรรม กำรด ำเนินกิจกรรม ประชำชนในชุมชนต้องมีส่วนร่วมอย่ำงทั่วถึง ต่อเนื่อง สม่ ำเสมอ เพื่อให้ บรรลุภำรกิจและบทบำทหน้ำที่ของ ศส.ปชต. ได้แก่ การส่งเสริมวิถีประชาธิปไตยในต าบล ชุมชน หมู่บ้าน ของตน - กำรขยำยผลควำมรู้ควำมเข้ำใจเรื่องวิถีประชำธิปไตยในชีวิตประจ ำวัน และขยำยผล กำรสร้ำงพลเมืองคุณภำพ - กำรส่งเสริมให้หมู่บ้ำนที่ประชำชนส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตแบบประชำธิปไตย เช่น มีควำมรัก ควำมสำมัคคีขยันท ำกิน ใช้หลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงในกำรด ำเนินชีวิต พึ่งพำตนเอง และช่วยเหลือ เกื้อกูล แบ่งปันกัน ไม่มีปัญหำอำชญำกรรม ยำเสพติด หรือ ควำมขัดแย้งแตกแยกรุนแรง รวมทั้งไม่มี พฤติกำรณ์กำรทุจริตซื้อสิทธิขำยเสียงในกำรเลือกตั้ง ฯลฯ เพื่อพัฒนำเป็น “หมู่บ้ำนพลเมืองดีวิถี ประชำธิปไตย”
13 การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง - รณรงค์สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเพื่อให้ประชำชนรู้เท่ำทันกำรเลือกตั้ง สำมำรถ ตัดสินใจ เลือกตัวแทนที่ดีมีควำมสำมำรถมำท ำหน้ำที่ ทั้งในระดับชำติและระดับท้องถิ่น/ท้องที่ - รณรงค์กำรมีส่วนร่วมในกระบวนกำรเลือกตั้ง เช่น เป็นอำสำสมัครสังเกตกำรณ์ กำรเลือกตั้ง กรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้ง ฯลฯ ช่วยเหลือรณรงค์ให้เพื่อนบ้ำนมำใช้สิทธิเลือกตั้ง ป้องปรำมกำรทุจริตซื้อสิทธิขำยเสียง โดยมีกำรเฝ้ำระวังตรวจสอบกำรเลือกตั้ง ให้สุจริตเที่ยงธรรม รวมทั้งรณรงค์ลดจ ำนวนบัตรเสีย ฯลฯ กิจกรรมอื่น ๆ ตามความเหมาะสม โดยประสำนควำมร่วมมือกับเครือข่ำยพันธมิตรสอดแทรกคุณลักษณะพลเมืองในระบอบ ประชำธิปไตย เช่น กำรน ำควำมรู้สอดแทรกในกำรประชุม หรือกำรท ำงำนของกลุ่มองค์กร เช่น ใช้หลัก เหตุผลในกำรพิจำรณำตัดสินใจ หลักสิทธิและเสรีภำพโดยรับฟังควำมเห็นผู้อื่น ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น หลักนิติธรรมโดยเคำรพกฎกติกำ เคำรพกฎหมำย ท ำให้ถูกต้องตำมระเบียบข้อบังคับ หลักเสมอภำค โดยเคำรพศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ ให้โอกำสผู้ด้อยโอกำสกว่ำ รวมถึงหลักภรำดรภำพ สำมัคคีปรองดอง ไม่ทะเลำะใช้ควำมรุนแรงต่อกัน หลัก ๕ ก. เป็นเกณฑ์มำตรฐำนที่จะใช้ควบคุมคุณภำพของกำรปฏิบัติงำนของ ศส.ปชต. เช่นเดียวกับกำรควบคุมคุณภำพของอำหำรและยำ (อย.) หรือมำตรฐำนสินค้ำอุตสำหกรรม (มอก.) หรือ คิว.ซี. ในกำรผลิตสินค้ำและบริกำรในระบบธุรกิจ หรือระบบธรรมำภิบำลในระบบรำชกำร ทั้งนี้ เพื่อเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่จะน ำมำประเมินผลกำรปฏิบัติงำนของ ศส.ปชต. ว่ำมีประสิทธิภำพและผลงำนอยู่ใน เกณฑ์ดีเด่นหรืออยู่ในระดับใด ๒.๒ แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ๒.๒.๑ ความหมายและหลักการประชาธิปไตย ๒.๒.๑.๑ ความหมายของประชาธิปไตย พจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตยสถำน พุทธศักรำช ๒๔๙๓ ให้ควำมหมำยของค ำว่ำ “ประชำธิปไตย” ว่ำเป็น “แบบกำรปกครองที่ถือมติปวงชนส่วนใหญ่” ประชำธิปไตย หมำยถึง กำรปกครองที่เป็นของประชำชน โดยประชำชน และเพื่อประชำชนตลอดจนเป็นหลักในกำรด ำเนินชีวิตของคนในกำรอยู่ร่วมกันโดยสันติ ภำยใต้ควำมเชื่อที่ว่ำ คนเรำเกิดมำเท่ำเทียมกันคือ ได้รับกำรคุ้มครองจำกรัฐตำมกฎหมำยและโอกำสที่จะได้รับกำรบริกำร ต่ำง ๆ โดยเสมอกัน มีสิทธิเสรีภำพในกำรด ำเนินชีวิตภำยใต้ขอบเขตของกฎหมำย ซึ่งจะก ำหนดไว้ แน่นอนในกฎหมำยรัฐธรรมนูญ ประชำธิปไตยเป็นรูปแบบกำรปกครองและวิธีกำรด ำเนินชีวิตรูปแบบหนึ่ง ซึ่งค ำว่ำ “ประชำธิปไตย” ประกอบด้วย ๒ ค ำ คือ ค ำว่ำ “ประชำ” (demos) หมำยถึง หมู่คน หรือปวงชน และค ำว่ำ“อธิปไตย” (kratos) หมำยถึง “อ ำนำจ” ดังนั้น “ประชำธิปไตย” จึงหมำยถึง “อ ำนำจเป็นของ ประชำชน” “ประชำธิปไตย” ที่คนเข้ำใจกันทั่วไปในบริบทสำกล คือ รูปแบบกำรเมือง กำรปกครองที่มีประชำชนเป็นเจ้ำของอ ำนำจอธิปไตย อ ำนำจอธิปไตย หมำยถึง อ ำนำจสูงสุดในกำร ปกครองประเทศ ภำยใต้ระบอบประชำธิปไตยนี้ประชำชนเป็นเจ้ำของร่วมกัน ตลอดจนมีสิทธิเสรีภำพ ตำมกฎหมำยอย่ำงเท่ำเทียมกัน” ทั้งนี้ในแต่ละประเทศมีกำรเรียกระบอบกำรปกครองที่แตกต่ำงกัน
14 ตำมบริบทและวัฒนธรรมทำงกำรเมือง ส ำหรับประเทศไทยเรียกระบอบกำรปกครองนี้ว่ำ “กำรปกครอง ระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข” มีลักษณะที่ส ำคัญ ๓ ประกำร กล่ำวคือ ประการแรก อ านาจการปกครองของประชาชน หลักกำรส ำคัญของกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยถือว่ำ อ ำนำจสูงสุด ในกำรปกครองประเทศหรือที่เรียกว่ำ “อ ำนำจอธิปไตย” นั้นเป็นของประชำชนทุกคนร่วมกัน และในกำรใช้อ ำนำจอธิปไตยนั้นสำมำรถแบ่งเป็น ๓ ฝ่ำยคือ ฝ่ำยนิติบัญญัติ คือ รัฐสภำมีอ ำนำจหน้ำที่ ในกำรออกกฎหมำย พิจำรณำงบประมำณ และตรวจสอบกำรปฏิบัติงำนของรัฐบำล ฝ่ำยบริหำร คือ รัฐบำลมีหน้ำที่น ำกฎหมำยมำบังคับใช้ และออกกฎหมำยบำงส่วน ตลอดจนป้องกันประเทศ ดูแลกิจกำร ระหว่ำงประเทศ ระบบเศรษฐกิจ และกำรจัดบริกำรสำธำรณะ และฝ่ำยตุลำกำร คือ ศำลมีหน้ำที่ ตีควำมตำมตัวบทกฎหมำยและรัฐธรรมนูญรวมทั้งตัดสินพิพำกษำคดีควำมต่ำง ๆ ประการที่สอง การใช้อ านาจของประชาชน ประชำชนผู้เป็นเจ้ำของอ ำนำจกำรปกครองสำมำรถใช้อ ำนำจนั้นได้ทั้งทำงตรง และทำงอ้อม ในทำงตรงประชำชนสำมำรถใช้สิทธิในกำรได้รับบริกำรและกำรปกป้องคุ้มครองจำกรัฐ มีเสรีภำพในกำรแสดงออกและเรียกร้องสิทธิที่ตนและชุมชนพึงมีพึงได้ในเรื่องต่ำง ๆ ประชำชนสำมำรถ เข้ำไปมีส่วนร่วมในกระบวนกำรนิติบัญญัติและกระบวนกำรตัดสินใจก ำหนดนโยบำยด้วยตนเอง ผ่ำนช่องทำงต่ำง ๆ เช่น กำรเข้ำชื่อเสนอกฎหมำย กำรมีส่วนร่วมในกระบวนกำรนโยบำยสำธำรณะ และกำรจัดท ำงบประมำณ กำรออกเสียงประชำมติ เป็นต้น ส่วนทำงอ้อม คือกำรใช้อ ำนำจผ่ำนกำรเลือกตั้ง ผู้แทนเพื่อท ำหน้ำที่ในฝ่ำยนิติบัญญัติ และฝ่ำยบริหำรทั้งในระดับชำติและระดับท้องถิ่น ประการที่สาม บทบาทและสถานะของพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทรงเป็น ประมุขของรัฐภายใต้รัฐธรรมนูญ ประเทศไทยมีกำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองเป็นระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ รัฐธรรมนูญฉบับถำวรของไทยทุกฉบับ ได้มีกำรระบุถึงพระรำชอ ำนำจตำมรัฐธรรมนูญของพระมหำกษัตริย์ไว้ ได้แก่ ทรงเป็นประมุขของรัฐ เป็นที่เคำรพสักกำระผู้ใดจะละเมิดมิได้ทรงเป็นพุทธมำมกะและอัครศำสนูปถัมภก ทรงเป็นจอมทัพไทย และพระรำชอ ำนำจเฉพำะ ได้แก่ กำรสถำปนำฐำนันดรศักดิ์และพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ กำรแต่งตั้งและถอดถอนข้ำรำชกำรในพระองค์ กำรแต่งตั้งผู้ส ำเร็จรำชกำรแทนพระองค์ กำรสืบรำชสันตติวงศ์ กำรแต่งตั้งองคมนตรีและกำรพระรำชทำนอภัยโทษ และทรงมีพระรำชอ ำนำจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ฝ่ำยนิติบัญญัติ ฝ่ำยบริหำร และฝ่ำยตุลำกำร นอกจำกนี้ยังทรงเป็นต้นแบบทำงวัฒนธรรม ศิลปะ และประเพณีของประเทศไทย ทรงเป็นแบบอย่ำงที่เป็นรูปธรรมที่สุดของควำมเป็นไทย ทรงเป็นต้นคิด และเป็นแบบอย่ำงของกำรด ำเนินชีวิตตำมหลักเศรษฐกิจพอเพียงและยังทรงด ำรงพระรำชสถำนะ เหนือกำรเมือง อันท ำให้พระองค์ทรงด ำเนินพระรำชสถำนะเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชำติ ๒.๒.๑.๒ หลักการประชาธิปไตย ๒.๒.๑.๒ (๑) หลักอ ำนำจอธิปไตยเป็นของประชำชน (Popular sovereignty) อ ำนำจสูงสุดในกำรปกครองประเทศเป็นของประชำชำชน ประกอบด้วย อ ำนำจนิติบัญญัติ บริหำร ตุลำกำร ซึ่งประชำชนสำมำรถใช้อ ำนำจเหล่ำนี้ได้ทั้งทำงตรงและทำงอ้อม โดยเฉพำะประชำชนมีอ ำนำจ ในกำรเลือกตั้งผู้น ำเข้ำมำปกครองประเทศ
15 ๒.๒.๑.๒ (๒) หลักสิทธิ (Rights) เสรีภำพ (Liberty) คือ กำรมีสิทธิ เสรีภำพ ทั้งในทำงกำรเมือง เศรษฐกิจ สังคม ประชำชนมีอ ำนำจอันชอบธรรมที่บุคคลพึงมีภำยใต้กฎหมำย ในฐำนะพลเมืองของประเทศ และมีอิสระในกำรกระท ำอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งภำยใต้กรอบกฎหมำย และไม่รุกล้ ำสิทธิเสรีภำพของผู้อื่น ๒.๒.๑.๒ (๓) หลักควำมเสมอภำค (Equality) คือ ควำมเท่ำเทียมกันในเรื่อง ต่ำง ๆ ภำยใต้กฎหมำยฉบับเดียวกัน ไม่มีผลกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกัน รวมถึงควำมเท่ำเทียมในโอกำส ๒.๒.๑.๒ (๔) หลักภรำดรภำพ (Fraternity) คือ กำรมองมนุษย์ทุกคนเท่ำเทียมกัน เคำรพในศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ และปฏิบัติต่อกันดุจพี่น้องไม่แบ่งแยกกันด้วยผิวพรรณ หรือเผ่ำพันธุ์ ๒.๒.๑.๒ (๕) หลักเหตุผล (Majority Rules Minority Rights) กำรยอมรับมติ ของคนในสังคมส่วนใหญ่ ไม่ใช้กำรตัดสินใจโดยคนหรือกลุ่มคนเพียงคนเดียว อย่ำงไรก็ตำม จ ำเป็นต้อง ให้ควำมส ำคัญกับเสียงส่วนน้อย กล่ำวคือ ต้องเปิดโอกำสให้เสียงส่วนน้อยแสดงควำมคิดเห็น หรือสงวนควำมเห็นต่ำงได้โดยเป็นธรรม ๒.๒.๑.๒ (๖) หลักนิติธรรม (Rule of law) ประชำชนมีอ ำนำจในกำรบัญญัติ กฎหมำย เพื่อให้กฎหมำยสะท้อนควำมต้องกำรที่แท้จริงของประชำชน และทุกคนจะต้องเสมอกัน ในกำรบังคับใช้กฎหมำย เพื่อกำรอยู่ร่วมกันของผู้คนในสังคมอย่ำงสงบสุข ๒.๒.๒ คุณลักษณะการเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ค ำว่ำ “พลเมือง” มีปรำกฏอยู่ในทุกระบอบกำรปกครองของแต่ละประเทศ แต่พลเมือง จะมีบทบำท หน้ำที่ และบุคลิกภำพอย่ำงไรนั้น จะขึ้นอยู่กับระบอบทำงกำรเมืองของรัฐนั้น ๆ ด้วย ควำมเป็นพลเมืองมีหลำยระดับด้วยกัน ในสมัยโบรำณนั้นประชำชนมีสถำนะเป็นไพร่หรือทำส เกือบทั้งหมด แต่กำรเมืองสมัยใหม่ได้ปลดปล่อยพวกไพร่หรือทำสให้กลำยเป็นรำษฎร ค ำว่ำ “รำษฎร” หมำยถึง ผู้ที่ต้องเสียภำษีให้กับรัฐและต้องปฏิบัติตำมกฎหมำย ของบ้ำนเมือง ค ำว่ำ “ประชำชน” หมำยถึง กำรเป็นเจ้ำของประเทศและเจ้ำของอ ำนำจอธิปไตยมำกกว่ำ รำษฎร ค ำว่ำ “พลเมือง” หมำยถึง ประชำชนที่มีสิทธิหน้ำที่อย่ำงพร้อมบูรณ์ เป็นบุคคลที่ปฏิบัติ ตำมกฎหมำยบ้ำนเมือง มีบทบำทที่เกี่ยวข้องกับอ ำนำจทำงกำรเมือง มีสิทธิไปเลือกตั้ง เสนอควำมคิดเห็น และเข้ำร่วมกิจกรรมทำงกำรเมือง สำมำรถเรียกร้องกฎหมำย นโยบำย และกิจกำรของรัฐ ตำมที่ตนเห็นพ้อง จำกควำมหมำยของพลเมืองตำมวิถีประชำธิปไตยข้ำงต้น สรุปได้ว่ำ พลเมืองในระบอบ ประชำธิปไตย หมำยถึง สมำชิกของสังคมที่มีอิสรภำพในกำรด ำเนินวิถีชีวิต รู้จักเคำรพสิทธิ ใช้เสรีภำพ ควบคู่ไปกับควำมรับผิดชอบ ไม่ละเมิดต่อผู้อื่น รับผิดชอบต่อสังคม มีจิตสำธำรณะ และกระตือรือร้น ที่จะเข้ำมำมีส่วนร่วมต่อกิจกำรสำธำรณะที่มุ่งเน้นพัฒนำสังคมส่วนรวมให้ดีขึ้น พลเมืองตำมวิถีประชำธิปไตย จึงเป็นผู้ที่มีค่ำนิยมประชำธิปไตย มีควำมเชื่อในระบอบ ประชำธิปไตยว่ำเป็นสิ่งที่มีคุณค่ำ ปฏิบัติตนให้ด ำรงอยู่ในกฎเกณฑ์ของประชำธิปไตย และแสดงออก ได้ถึงลักษณะกำรมีวัฒนธรรมทำงกำรเมืองแบบประชำธิปไตย คือ
16 ๒.๒.๒.๑ ประชำชนต้องมีจิตใจต้องกำรกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยมำกกว่ำ กำรปกครองแบบระบอบอื่น และมองว่ำกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยเป็นกำรปกครองของประชำชน โดยประชำชน และเพื่อประชำชน ๒.๒.๒.๒ เชื่อมั่นในศักดิ์ศรีและคุณค่ำของควำมเป็นมนุษย์ในตนเองและผู้อื่น มีควำมเสมอภำค ในโอกำส เพศ กำรเมือง กำรศึกษำ กำรรักษำพยำบำล เศรษฐกิจ เพื่อให้บุคคลพัฒนำศักยภำพที่แตกต่ำง ได้อย่ำงเท่ำเทียม ยอมรับควำมคิดเห็นที่ขัดแย้งกับตนเองและมีควำมอดทนอดกลั้นจำกควำมหลำกหลำย ในพฤติกรรม ๒.๒.๒.๓ เคำรพในกฎหมำยและกฎเกณฑ์ตำมประชำธิปไตย มีกำรรับฟังเสียงข้ำงมำก และคุ้มครอง เสียงข้ำงน้อยเพื่อเป็นหลักประกันว่ำกำรกระท ำนั้นเป็นไปเพื่อแก้ปัญหำและ เพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ รวมถึงต้องท ำตำมหลักข้อตกลงที่ต้องปฏิบัติตำมของทั้งสองฝ่ำย อย่ำงยุติธรรม และไม่กระท ำกำรละเมิดต่อผู้อื่น ๒.๒.๒.๔ มีส่วนร่วมทำงกำรเมืองโดยกำรติดตำมข่ำวสำรและแสดงควำมคิดเห็น ๒.๒.๒.๕ มีส ำนึกในสิทธิและหน้ำที่พลเมืองของตน มีกำรบ ำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม และเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจำกสิ่งที่ท ำ ๒.๒.๒.๖ มองโลกในแง่ดีไว้ใจว่ำผู้อื่นก็มีควำมสำมำรถ เชื่อมั่นในเจ้ำหน้ำที่หรือสถำบัน ของรัฐเพรำะกำรเมืองเป็นเรื่องของควำมไว้ใจ ควำมร่วมมือกัน และใฝ่ฝันในสันติภำพ ๒.๒.๒.๗ วิพำกษ์วิจำรณ์อย่ำงมีเหตุผลและเป็นไปในทำงสร้ำงสรรค์ นอกจำกนี้ค่ำนิยม ประชำธิปไตยที่พึงประสงค์ยังต้องมีลักษณะของควำมเป็นพลเมือง (Citizenship) กล่ำวคือ พลเมือง ตำมวิถีประชำธิปไตย ซึ่งจะเป็นก ำลังส ำคัญในกำรพัฒนำประชำธิปไตยนั้น มีนักวิชำกำรและนักกำรศึกษำ เช่น ส ำนักงำนโครงกำรพัฒนำแห่งสหประชำชำติประจ ำประเทศไทยได้ก ำหนดลักษณะพลเมือง ในระบอบประชำธิปไตย ดังนี้ - รู้สังคม รู้ทันโลก - ถือประโยชน์ส่วนรวม - คิด วิเครำะห์อย่ำงมีเหตุผล - ยึดหลักนิติรัฐ - เข้ำใจสิทธิมนุษยชน - ตกลงกันอย่ำงสันติวิธี - มีเสรีภำพและรับผิดชอบ - มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ มีส่วนร่วมทำงกำรเมือง - เคำรพควำมเสมอภำค ยุติธรรม
17 ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร ได้กล่ำวถึงลักษณะพลเมืองในระบอบ ประชำธิปไตย ไว้ ๖ ประกำร ดังนี้(ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร, ๒๕๕๙) - รับผิดชอบและพึ่งตนเองได้ - รับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม - เคำรพกติกำ - เคำรพสิทธิผู้อื่น - เคำรพควำมแตกต่ำง - เคำรพควำมเสมอภำค ส ำนักงำน กกต. ได้เรียบเรียงเอกสำรของคณะกรรมกำรด้ำนกำรสื่อสำรทำงกำรเมือง ของรัฐสภำ โดยคณะอนุกรรมกำรกำรเผยแพร่องค์ควำมรู้ด้ำนควำมเป็นพลเมืองในระบอบประชำธิปไตย สรุปเป็นคุณลักษณะของควำมเป็นพลเมืองในระบอบประชำธิปไตย ๓ ประกำร (ส ำนักงำนคณะกรรมกำร กำรเลือกตั้ง, ๒๕๕๘) ได้แก่ คุณลักษณะที่ ๑ การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้แก่ กำรยอมรับในเกียรติภูมิ ของแต่ละบุคคล โดยไม่ค ำนึงถึงสถำนภำพทำงสังคม หลักกำรนี้มีองค์ประกอบย่อย ดังนี้ - ส ำนึกรู้ในคุณค่ำศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ - ตระหนักในควำมเสมอภำคของควำมเป็นมนุษย์ - เคำรพในควำมหลำกหลำยทำงสังคมวัฒนธรรม - ยึดหลักขันติธรรม กล่ำวคือ แม้ว่ำคนเรำจะมีควำมแตกต่ำงกัน เช่น มีอำยุต่ำงกัน ควำมรู้ต่ำงกัน เป็นคนรวย คนยำกจน เป็นหญิง หรือชำย ผู้ใหญ่ คนแก่ ผู้พิกำร หรือเด็ก แต่อย่ำงหนึ่งที่ทุกคน มีเหมือนกันคือ “มีควำมเป็นคนเหมือนกัน” มีศักยภำพ มีควำมสำมำรถที่จะเรียนรู้ได้ เปลี่ยนแปลงได้ ต่ำงช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จนท ำให้สังคมอยู่รอดจนทุกวันนี้ แต่ละคนล้วนมีคุณูปกำรต่อสังคมตำมก ำลัง และควำมสำมำรถของตน รักชีวิต รักเกียรติศักดิ์ของตน และต้องกำรมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย มีควำมสุข ตำมวิถีของตน จึงต้องเคำรพในคุณค่ำของควำมเป็นคน เคำรพในศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์อย่ำงเท่ำเทียมกัน คุณลักษณะที่ ๒ การเคารพสิทธิ เสรีภาพและกฎกติกาของสังคม และกฎหมาย ได้แก่ กำรเคำรพและปกป้องสิทธิและเสรีภำพของตนเอง ของผู้อื่น และของชุมชน โดยไม่ให้ผู้ใดล่วงละเมิด อันขัดต่อกฎกติกำของสังคมและกฎหมำย ตัวอย่ำงเช่น กำรตักเตือนหรือแจ้งเจ้ำหน้ำที่เมื่อพบกำรกระท ำผิดกฎหมำย เช่น ทิ้งขยะ ในแม่น้ ำล ำคลองกำรรุกล้ ำที่สำธำรณะกำรท ำร้ำยร่ำงกำยขับรถชนแล้วหนีหรือกำรลักขโมย ปล้นจี้ฯลฯ ขณะเดียวกันเรำต้องไม่ฝ่ำฝืนกฎหมำยเสียเองแม้เป็นเรื่องเล็กน้อยอย่ำงกำรลัดคิวซื้อของ กำรไม่สวมหน้ำกำกอนำมัยช่วงเชื้อไวรัสระบำด กำรฝ่ำฝืนกฎจรำจร เช่น จอดรถในที่ห้ำมจอด หรือกำรใช้ระบบเส้นสำยฝำกลูกเข้ำเรียน กำรวิ่งเต้นขอต ำแหน่ง เลื่อนขั้น เป็นต้น คุณลักษณะที่ ๓ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ต่อสังคมและประเทศชาติได้แก่ กำรตระหนักในบทบำทหน้ำที่ และพันธกิจของกำรเป็นพลเมืองในระบอบประชำธิปไตยในฐำนะสมำชิก ของสังคม เช่น กำรท ำหน้ำที่เป็นลูก พ่อแม่ สำมีภรรยำที่ดีในครอบครัว กำรมีส่วนร่วมในกำรแก้ปัญหำ และพัฒนำชุมชนของตน ตัวอย่ำงเช่น กำรช่วยกันก ำจัดขยะ ขุดลอกคลอง ไม่ท ำน้ ำขังให้เป็นบ่อเกิด ของยุงลำย กำรเสียภำษีอย่ำงถูกต้อง กำรให้ควำมร่วมมือแก่เจ้ำหน้ำที่หรือตำมประกำศของส่วนรำชกำร
18 เช่น กำรตรวจวัดอุณหภูมิและลงทะเบียนเมื่อต้องเดินทำงเข้ำ – ออก ในสถำนที่สำธำรณะต่ำง ๆ เพื่อลดกำรแพร่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เป็นต้น จำกกำรศึกษำควำมส ำคัญของคุณลักษณะพลเมืองตำมวิถีประชำธิปไตย สรุปได้ว่ำ หำกสังคมใดมีสมำชิกที่มีควำมเป็นพลเมืองตำมวิถีประชำธิปไตยย่อมจะส่งผลท ำให้สังคมนั้น มีควำมมั่นคง ผู้คนในสังคมสำมำรถอำศัยอยู่ร่วมกันด้วยควำมเป็นระเบียบเรียบร้อย มีควำมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีน้ ำใจต่อกัน มีกำรปฏิบัติหน้ำที่ของตนเองตำมบทบำทและสถำนภำพทำงสังคม รู้จักกำรค ำนึงถึง กำรใช้สิทธิเสรีภำพ เพื่อให้เกิดควำมเท่ำเทียมกันตำมกฎหมำย น ำไปสู่สังคมที่มีควำมเป็นธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดสังคมที่มีควำมเป็นประชำธิปไตยอย่ำงแท้จริง ๒.๒.๓ วัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ลิขิต ธีรเวคิน กล่ำวถึงวัฒนธรรมทำงกำรเมือง ว่ำหมำยถึง ค่ำนิยม ควำมเชื่อ ปทัสถำนและ พฤติกรรมของคนในกระบวนกำรหรือวิถีทำงทำงกำรเมือง Lucien W. Pye นักวิชำกำรรัฐศำสตร์ได้ให้ค ำนิยำมของ วัฒนธรรมทำงกำรเมืองว่ำ ทัศนคติ ควำมเชื่อ ควำมรู้สึกเกี่ยวกับกระบวนกำรทำงกำรเมือง ถือเป็นสิ่งที่ก ำหนด พฤติกรรม ของบุคคลในระบบกำรเมืองโดยครอบคลุมทั้งอุดมกำรณ์ทำงกำรเมือง และปทัสถำนในทำงปฏิบัติของบุคคล ในระบอบกำรเมืองนั้น วัฒนธรรมทำงกำรเมืองจึงเป็นรูปแบบรวมของมิติทำงด้ำนจิตวิทยำ และควำมรู้สึก นึกคิดของกำรเมือง แนวคิดดังกล่ำวก็ครอบคลุมไปถึงประเด็นของแนวคิดทำงกำรเมือง คือ อุดมกำรณ์ ทำงกำรเมือง ควำมชอบธรรมในกำรปกครองอ ำนำจอธิปไตย ควำมเป็นชำติ กำรปกครองโดยยึดหลัก กฎหมำย และมติมหำชน Gabriel Almond นักวิชำกำรรัฐศำสตร์ ได้ให้นิยำมของวัฒนธรรมทำงกำรเมืองว่ำ หมำยถึง รูปแบบของทัศนคติส่วนบุคคลและควำมโน้มเอียงของบุคคลที่มีต่อกำรเมืองในฐำนะที่บุคคลนั้น เป็นสมำชิกของระบบกำรเมือง โดยอธิบำยว่ำ ควำมโน้มเอียงมี ๓ ด้ำน ดังนี้ - ควำมโน้มเอียงด้ำนควำมรู้หรือกำรรับรู้ (Cognitive Orientations) คือ ควำมรู้ควำมเข้ำใจ และควำมเชื่อของประชำชนที่มีต่อระบบกำรเมือง - ควำมโน้มเอียงด้ำนควำมรู้สึก (Affective Orientations) คือ ควำมรู้สึกทำงอำรมณ์ ที่ประชำชนมีต่อระบบกำรเมือง เช่น ควำมชอบหรือควำมไม่ชอบ ควำมพอใจหรือควำมไม่พอใจ - ควำมโน้มเอียงด้ำนกำรประเมินค่ำ (Evaluative Orientations) คือ กำรใช้ดุลพินิจ ตัดสินใจให้ควำมเห็นต่ำง ๆ เกี่ยวกับกิจกรรม และปรำกฏกำรณ์ทำงกำรเมือง Almond และ Verba ได้แบ่งวัฒนธรรมทำงกำรเมืองเป็น ๓ ประเภท ดังนี้ - วัฒนธรรมทำงกำรเมืองแบบคับแคบ (Parochial Political Culture) วัฒนธรรม ทำงกำรเมืองรูปแบบนี้ ประชำชนขำดควำมรู้สึกเป็นพลเมืองของชำติ มักจะนิยำม หรือยึดโยงตัวตน เข้ำกับพื้นถิ่นหรือท้องถิ่นที่ตนอำศัยอยู่ใกล้ตัว ด้วยเหตุนี้จึงมองกำรเมืองเป็นเรื่องที่ไกลตัว ไม่มีควำมสนใจใคร่รู้ จนแทบจะไม่มีกำรถกเถียง แลกเปลี่ยน แสดงควำมคิดเห็นทำงกำรเมืองใด ๆ เมื่อถำมถึงกำรเข้ำไปมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองคนเหล่ำนี้จึงแสดงท่ำทีถึงควำมไม่ต้องกำรเข้ำไปยุ่งเกี่ยว หรือเห็นว่ำตนไม่มีศักยภำพ หรือควำมสำมำรถที่จะเข้ำไปเกี่ยวข้องได้ ดังนั้น หำกในสังคมผู้คนส่วนใหญ่ มีวัฒนธรรมทำงกำรเมืองรูปแบบนี้ก็ย่อมเป็นเรื่องยำกล ำบำกในกำรพัฒนำกำรเมืองในระบอบ ประชำธิปไตยให้เจริญก้ำวหน้ำได้ เพรำะสิ่งส ำคัญที่จ ำเป็นต้องท ำไปพร้อม ๆ กับกำรสร้ำงสถำบัน
19 ทำงกำรเมืองใหม่ก็คือ กำรปลูกฝังควำมรู้สึกเรื่องควำมเป็นพลเมือง ( Citizenship) ให้เกิดขึ้น ในหมู่ประชำชน ตัวอย่ำงสังคมที่มีวัฒนธรรมทำงกำรเมืองรูปแบบนี้ เช่น สังคมเผ่ำ หรือชำวเขำ - วัฒนธรรมทำงกำรเมืองแบบไพร่ฟ้ำ (Subject Political Culture) วัฒนธรรมทำงกำรเมือง ในรูปแบบนี้ ประชำชนมีส ำนึกควำมเป็นพลเมืองมำกกว่ำรูปแบบแรก อีกทั้งยังให้ควำมสนใจต่อกำรเมือง เพียงแต่รูปแบบควำมสนใจมีลักษณะเชิงตั้งรับมำกกว่ำเชิงรุก ก ล ่ำ ว คือ เมื่อมีปัญหำคับข้องใจ ต้องกำรเรียกร้องหรือแสดงออกทำงกำรเมือง พวกเขำรู้สึกว่ำสำมำรถเจรจำหำรือกับเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ ในระดับท้องถิ่นที่เขำอำศัยอยู่ แต่ส ำหรับกำรเมืองในระดับชำติพวกเขำยังคงเกิดควำมรู้สึกว่ำไม่สำมำรถ เข้ำไปมีบทบำทหรือมีอิทธิพลกดดันให้รัฐบำลสนองตอบต่อข้อเรียกร้องควำมต้องกำรของพวกตนได้ เพรำะรู้สึกว่ำตนไม่มีอ ำนำจ (Powerless) เฝ้ำแต่รอคอยรับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบจำกระบบ กำรเมืองที่จะน ำมำให้กำรรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อแสดงบทบำททำงกำรเมืองจึงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นปกติโดยทั่วไป สังคมที่ผู้คนมีวัฒนธรรมทำงกำรเมืองในรูปแบบนี้กำรพัฒนำประชำธิปไตยให้ดียิ่งขึ้น คงเป็นเรื่องที่ยำกพอสมควรแต่ก็ยังดีกว่ำสังคมที่มีวัฒนธรรมในรูปแบบแรก - วัฒนธรรมทำงกำรเมืองแบบมีส่วนร่วม (Participant Political Culture) วัฒนธรรม ทำงกำรเมืองรูปแบบนี้ ประชำชนจะตระหนักถึงควำมเป็นพลเมืองของตนและให้ควำมสนใจสูงต่อกำร เข้ำไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทำงกำรเมืองของประเทศในระดับต่ำง ๆ เพรำะเชื่อมั่นว่ำตนสำมำรถ มีอิทธิพลต่อกำรเมือง หำกเห็นว่ำมีบำงสิ่งบำงอย่ำงไม่สมเหตุสมผลก็จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อประท้วง ต่อต้ำนควำมไม่ชอบมำพำกลนั้น วัฒนธรรมทำงกำรเมืองในรูปแบบนี้ประชำชนจึงมีระดับ ของควำมสำมำรถทำงกำรเมือง (Political Competence) และรู้สึกว่ำมีอ ำนำจที่จะก่อให้เกิด กำรเปลี่ยนแปลงทำงกำรเมืองสูง (Political Efficacy) นอกจำกนี้วัฒนธรรมทำงกำรเมืองรูปแบบนี้ ประชำชนยังมีควำมไว้เนื้อเชื่อใจผู้อื่น เห็นว่ำทุกคนมีสิทธิในกำรร่วมแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น ในประเด็นต่ำง ๆ แม้กระทั่งเด็ก ๆ ในครอบครัวก็เช่นเดียวกัน ส ำนักวิชำกำร ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร กล่ำวว่ำ วัฒนธรรมทำงกำรเมือง ที่ปรำกฏอยู่ในสังคมต่ำง ๆ นั้น เป็นกำรยำกที่จะชี้ให้เห็นชัดลงไปว่ำ ประชำชนในสังคมกำรเมือง ทั้งประเทศจะมีวัฒนธรรมทำงกำรเมืองแบบหนึ่งแบบใดโดยเฉพำะ อย่ำงไรก็ตำม ในสังคมกำรเมือง ที่ประชำชนยังคงมีควำมแตกต่ำงกันด้ำนฐำนะทำงเศรษฐกิจและสังคม กำรเมือง จะมีผลต่อควำมรับรู้ ทำงกำรเมืองหรือจิตส ำนึกทำงกำรเมืองต่ำงกัน รวมทั้งควำมเข้ำใจทำงกำรเมืองของแต่ละบุคคลด้วย ๒.๒.๔ ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมทางการเมือง นรนิติ เศรษฐบุตร ให้ควำมเห็นว่ำ กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมือง หมำยถึง กำรมีส่วนร่วม ในกำรกระท ำ (Activity) ของแต่ละคน ซึ่งมีอิทธิพลต่อกำรตัดสินใจนโยบำยของรัฐบำล กำรมีส่วนร่วม จะมำจำกแต่ละบุคคลโดยตรงต่อกำรตัดสินใจนโยบำยของรัฐบำล เรียกว่ำ กำรมีส่วนร่วมโดยตนเอง (Autonomous Participation) และกำรมีส่วนร่วมซึ่งมีอิทธิพลต่อกำรตัดสินใจนโยบำยทำงอ้อม นอกเหนือจำกแต่ละบุคคลโดยตรง เรียกว่ำ กำรมีส่วนร่วมโดยกำรถูกระดม (Mobilized Participation) ซึ่งมีผลโดยตรงต่อกำรพัฒนำกำรเมืองในระบอบประชำธิปไตย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และถวิลวดี บุรีกุล กล่ำวถึงกำรมีส่วนร่วมในระบอบประชำธิปไตย แบบมีส่วนร่วมว่ำ หมำยถึง กำรที่อ ำนำจในกำรตัดสินใจไม่ควรเป็นของกลุ่มคนจ ำนวนน้อย แต่อ ำนำจ ควรได้รับกำรจัดสรรในระหว่ำงประชำชนเพื่อทุก ๆ คนได้มีโอกำสที่จะมีอิทธิพลต่อกิจกรรมส่วนรวม
20 บวรศักดิ์ อุวรรณโณ กล่ำวถึงประชำธิปไตยแบบมีส่วนร่วม (Participatory Democracy) ว่ำ เป็นกำรเรียกร้องประชำธิปไตยแบบผู้แทนที่เปิดโอกำสให้ประชำชนมีส่วนร่วมในทำงกำรเมือง กำรปกครองและในกำรตัดสินใจต่ำง ๆ มำกขึ้น มิใช่ว่ำประชำชนจะสำมำรถท ำได้แต่เพียงเลือกตั้ง อย่ำงเดียวยังเปิดโอกำสให้ประชำชนมีส่วนร่วมในกระบวนกำรตัดสินใจเรื่องต่ำง ๆ เช่น กำรเปิดช่องทำง ให้ประชำชนมีส่วนร่วมในกำรรับรู้ข้อมูลข่ำวสำร ควำมเคลื่อนไหว และควำมคืบหน้ำกำรบริหำรจัดกำร ประเทศโดยผู้ที่ท ำหน้ำที่แทนประชำชน หรือกำรเปิดโอกำสให้ประชำชนร่วมแสดงควำมคิดเห็น และให้ข้อมูลแก่ผู้ที่ท ำหน้ำที่แทนตนเพื่อใช้ประกอบกำรตัดสินใจในเรื่องต่ำง ๆ รวมทั้งกำรที่ประชำชน เข้ำไปมีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบและถอดถอนผู้ที่ท ำหน้ำที่แทนประชำชนซึ่งขำดประสิทธิภำพ บกพร่องต่อหน้ำที่ หรือไม่สุจริต แล้วแต่กรณี สรุปได้ว่ำ เป็นประชำธิปไตยที่ผสมผสำนแนวควำมคิด โดยเปิดโอกำสให้ประชำชนเลือกตัวแทนเข้ำมำท ำหน้ำที่แทนประชำชน และให้สิทธิแก่ประชำชน ในกำรเข้ำมำมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองได้ เช่น กำรถอดถอน กำรเสนอร่ำงกฎหมำย หรือกำรประชำมติ เป็นต้น รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ มำตรำ ๓ บัญญัติไว้ว่ำ “อ ำนำจ อธิปไตยเป็นของปวงชนชำวไทย...” พระมหำกษัตริย์ในฐำนะองค์พระประมุขของประเทศทรงใช้อ ำนำจ นิติบัญญัติผ่ำนทำงรัฐสภำ (สภำผู้แทนรำษฎรและวุฒิสภำ) อ ำนำจบริหำรผ่ำนรัฐบำลหรือคณะรัฐมนตรี และทรงใช้อ ำนำจตุลำกำรผ่ำนทำงศำล “อ ำนำจอธิปไตย” หมำยถึง อ ำนำจกำรปกครองสูงสุดเป็นของประชำชน ดังนั้น ประชำชน จึงย่อมต้องรักและหวงแหนในอ ำนำจอธิปไตยของตนและใช้ประโยชน์จำกอ ำนำจนั้นเพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภำพ ชีวิต ทรัพย์สิน และผลประโยชน์ของตน ทั้งที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัว และผลประโยชน์ ของส่วนรวม โดยกำรเข้ำไปมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองทั้งโดยทำงตรงและทำงอ้อม กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของพลเมือง หมำยถึง กำรที่พลเมืองได้เข้ำไปมีสิทธิ มีส่วนร่วม แสดงออกทำงกำรเมืองและกำรบริหำรจัดกำรในเรื่องที่มีผลกระทบต่อตนเองและชุมชน กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองโดยตรง คือ กำรใช้สิทธิและเสรีภำพตำมที่รัฐธรรมนูญ มีบทบัญญัติ รองรับและคุ้มครองให้ประชำชนสำมำรถด ำเนินกำรด้วยตนเอง หรือด ำเนินกำรร่วมกับผู้อื่น ดังที่เรียกว่ำ “กำรเมืองภำคพลเมือง” หรือ “กำรเมืองภำคประชำชน” กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองโดยอ้อม หรือที่เรียกว่ำ “กำรเมืองระบบตัวแทน” นั้น ประชำชนสำมำรถด ำเนินกำรผ่ำนทำงตัวแทนที่เลือกเข้ำไปให้ท ำหน้ำที่แทนตน ซึ่งมีทั้งตัวแทนระดับชำติ ได้แก่กำรเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร และกำรเลือก(ตั้ง)สมำชิกวุฒิสภำ และตัวแทนระดับท้องถิ่น ได้แก่ กำรเลือกตั้งสมำชิกสภำท้องถิ่นและผู้บริหำรท้องถิ่น ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบต่ำง ๆ เช่น องค์กำรบริหำรส่วนต ำบล เทศบำล องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด เมืองพัทยำ และกรุงเทพมหำนคร เป็นต้น นอกจำกนั้นในฐำนะเจ้ำของอ ำนำจอธิปไตยประชำชน ส ำม ำ รถเข้ ำมีส่วน ร่ วม ในกระบวนกำรเลือกตั้งตัวแทนระดับต่ำง ๆ ได้ ทั้งช่วงก่อนกำรเลือกตั้ง ระหว่ำงกำรเลือกตั้ง และหลังจำกกำรเลือกตั้ง ประชำชนก็ยังสำมำรถเข้ำมีส่วนร่วมได้
21 ๒.๒.๕ การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรง ๒.๒.๕.๑ กำรมีส่วนร่วมในกำรตัดสินใจ หรือก ำหนดนโยบำยสำธำรณะ เช่น - เข้ำชื่อเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงำนรัฐ ให้ด ำเนินกำรอันจะเป็นประโยชน์ ต่อประชำชน หรือชุมชนหรืองดเว้นกำรด ำเนินกำร - ร่วมแสดงควำมคิดเห็น ในกรณีที่รัฐจัดให้มีกำรรับฟังควำมคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย ประชำชนและชุมชนที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะพิจำรณำด ำเนินกำรหรืออนุญำตให้ผู้ใดด ำเนินกำร ที่อำจมีผลกระทบต่อทรัพยำกรธรรมชำติ คุณภำพสิ่งแวดล้อม สุขภำพอนำมัย คุณภำพชีวิต หรือส่วนได้เสีย ส ำคัญอื่นใด - ร่วมออกเสียงประชำมติในเรื่องส ำคัญ ๆ ที่คณะรัฐมนตรีขอควำมเห็นจำก ประชำชนเพื่อประกอบกำรพิจำรณำตัดสินใจ - กำรกระจำยอ ำนำจสู่ท้องถิ่น - กำรเข้ำร่วมชุมนุมโดยสงบและปรำศจำกอำวุธ เพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรม หรือแสดงควำมไม่เห็นด้วยกับนโยบำยสำธำรณะเรื่องต่ำง ๆ เช่น นโยบำยกำรแปรรูปรัฐวิสำหกิจ นโยบำยด้ำนสิ่งแวดล้อม ด้ำนพลังงำน นโยบำยเรื่องที่ดินท ำกิน หรือเกี่ยวกับค่ำจ้ำงแรงงำน เป็นต้น ๒.๒.๕.๒ กำรมีส่วนร่วมในกำรสร้ำงกติกำ และกฎหมำยระดับต่ำง ๆ ประชำชนในฐำนะที่เป็นเจ้ำของอ ำนำจอธิปไตย มีสิทธิมีส่วนร่วมในกำรสร้ำง กติกำและกฎหมำยระดับต่ำง ๆ ได้ เช่น - ประชำชนสำมำรถเข้ำร่วมเสนอควำมเห็นในกำรตรำกฎหมำย - ประชำชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จ ำนวนไม่น้อยกว่ำ ๑๐,๐๐๐ คน มีสิทธิเข้ำชื่อร้องขอ ต่อประธำนรัฐสภำเพื่อให้รัฐสภำพิจำรณำกฎหมำยในหมวด ๓ สิทธิเสรีภำพของชนชำวไทย และหมวด ๕ หน้ำที่ของรัฐ ได้ - ประชำชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จ ำนวนตำมที่กฎหมำยก ำหนดมีสิทธิเข้ำชื่อร้องขอ ต่อประธำนสภำท้องถิ่นเพื่อให้ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นได้ - ประชำชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จ ำนวนไม่น้อยกว่ำ ๕๐,๐๐๐ คน มีสิทธิเข้ำชื่อร้องขอ ต่อประธำนรัฐสภำเพื่อให้รัฐสภำพิจำรณำแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ ๒.๒.๕.๓ กำรมีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบกำรท ำงำนของนักกำรเมืองและเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ เจ้ำหน้ำที่ของรัฐ เช่น ข้ำรำชกำร พนักงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ นักกำรเมือง ระดับชำติและระดับท้องถิ่น หำกกระท ำกำรทุจริตประพฤติมิชอบ ไม่ปฏิบัติหน้ำที่ด้วยควำมยุติธรรม สร้ำงควำมเสียหำยเดือดร้อนแก่ประชำชน ประชำชนในฐำนะเจ้ำของอ ำนำจอธิปไตย มีสิทธิมีส่วนร่วม ในกำรตรวจสอบควบคุมกำรท ำงำนของเจ้ำหน้ำที่ของรัฐได้ เช่น - กำรตรวจสอบกำรเลือกตั้ง และร้องต่อคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง กรณีพบว่ำ มีกำรทุจริตในกำรจัดกำรเลือกตั้ง หรือกำรเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือพรรคกำรเมือง มีกำรด ำเนินกำรไม่ถูกต้องตำมกฎหมำยและระเบียบต่ำง ๆ - กำรตรวจสอบกำรทุจริตคอร์รัปชันหรือกำรใช้จ่ำยเงินของแผ่นดิน โดยร้องต่อ คณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ และคณะกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดิน หรือผู้ว่ำกำรตรวจเงินแผ่นดิน - กำรตรวจสอบกำรละเมิดสิทธิ และร้องต่อคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
22 - กำรตรวจสอบว่ำเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ หน่วยงำนของรัฐมีกำรใช้อ ำนำจหน้ำที่ ไม่ถูกต้อง ไม่ปฏิบัติตำมกฎหมำย ประชำชนได้รับควำมเดือดร้อน หรือไม่ได้รับควำมเป็นธรรม และร้องต่อผู้ตรวจกำรแผ่นดิน - กำรตรวจสอบว่ำมีกำรใช้อ ำนำจทำงกำรปกครอง (ค ำสั่งทำงปกครอง สัญญำ ทำงปกครอง) ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตำมกฎหมำย และร้องต่อศำลปกครอง - ตรวจสอบกำรท ำงำนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภำท้องถิ่น และผู้บริหำร ท้องถิ่น โดยในกำรด ำเนินงำนต่ำง ๆ นั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภำท้องถิ่นและผู้บริหำรท้องถิ่น ต้องเปิดเผยข้อมูล ค ำชี้แจง และเหตุผลก่อนด ำเนินงำน และรำยงำนผลให้ประชำชนทรำบ รวมตลอดทั้ง มีกลไกให้ประชำชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วม นอกจำกนั้นหำกเห็นว่ำสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือผู้บริหำรท้องถิ่น ผู้ใดไม่สมควรด ำรงต ำแหน่งต่อไป ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในท้องถิ่นนั้น ๆ สำมำรถเข้ำชื่อขอให้มีกำรลงคะแนนเสียง เพื่อถอดถอนออกจำกต ำแหน่ง - เข้ำชื่อเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงำนรัฐให้ด ำเนินกำรหรือให้งดเว้นกำรด ำเนินกำร อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชำชนหรือชุมชน - ประชำชนและชุมชน มีสิทธิฟ้องหน่วยงำนของรัฐให้รับผิดเนื่องจำกกำรกระท ำ หรือละเว้นกำรกระท ำของข้ำรำชกำร พนักงำนหรือลูกจ้ำงของหน่วยงำนของรัฐ - ประชำชนและชุมชน มีสิทธิที่จะติดตำมและเร่งรัดให้รัฐด ำเนินกำรตำมหน้ำที่ เพื่อให้ประชำชนและชุมชนได้รับประโยชน์ ๒.๒.๖ การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยอ้อม ประชำชนสำมำรถมีส ่วนร ่วมทำงกำรเมืองโดยอ้อมผ ่ำนตัวแทน โดยกำรเลือกตั้ง ตัวแทนทั้งระดับชำติ คือ กำรเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร (ส.ส.) และกำรเลือกสมำชิกวุฒิสภำ (ส.ว.) และตัวแทนระดับท้องถิ่น คือ กำรเลือกตั้งสมำชิกสภำท้องถิ่นและผู้บริหำรท้องถิ่นในองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภท ได้แก่ องค์กำรบริหำรส่วนต ำบล (อบต.) เทศบำล องค์กำรบริหำร ส่วนจังหวัด (อบจ.) เมืองพัทยำ และกรุงเทพมหำนคร เพื่อให้ไปท ำหน้ำที่ตำมที่ประชำชนมอบหมำย นอกจำกกำรมีส่วนร่วมกำรเมืองระบบตัวแทนซึ่งเป็นกำรมีส่วนร่วมโดยอ้อมแล้ว ประชำชน สำมำรถเข้ำมีส่วนร่วมในกระบวนกำรเลือกตั้งได้ ทั้งในช่วงก่อน ระหว่ำง และหลังกำรเลือกตั้ง เช่น ช่วงก่อนกำรเลือกตั้ง กำรรณรงค์ประชำสัมพันธ์กำรเลือกตั้ง ศึกษำและให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบำยของผู้สมัคร และพรรคกำรเมือง กำรศึกษำและสังเกตกำรณ์กำรหำเสียงของผู้สมัครและพรรคกำรเมือง กำรสอดส่อง ดูแลเฝ้ำระวังกำรทุจริตท ำผิดกฎหมำยเลือกตั้ง กระตุ้นเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่ำงมีคุณภำพ ช่วงระหว่ำงกำรเลือกตั้ง กำรไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่ำงมีคุณภำพและรู้เท่ำทัน โดยเลือกผู้ที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถ เหมำะสมกับกำรเป็นตัวแทน ซื่อสัตย์สุจริต และหำเสียงโดยไม่ฝ่ำฝืนกฎหมำย กำรสังเกตกำรณ์ กำรท ำหน้ำที่ของกรรมกำรประจ ำหน่วยเลือกตั้ง กรรมกำรนับคะแนนให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ปฏิบัติหน้ำที่ถูกต้องตำมระเบียบกฎหมำย ทั้งในระหว่ำงกำรลงคะแนนและกำรนับคะแนน สังเกตกำรณ์ กำรลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สังเกตพฤติกรรมของผู้สนับสนุน (หัวคะแนน) ผู้สมัครและ
23 พรรคกำรเมือง (หัวคะแนน) ทั้งนี้ในกำรสังเกตกำรณ์ดังกล่ำวต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นกำรฝ่ำฝืน กฎหมำยเลือกตั้ง เช่น ก้ำวก่ำยหรือเป็นอุปสรรคต่อกำรปฏิบัติงำนของเจ้ำหน้ำที่ ช่วงหลังกำรเลือกตั้ง เมื่อเลือกตัวแทนแล้วประชำชนต้องติดตำมตรวจสอบกำรท ำงำนของตัวแทนว่ำได้ท ำหน้ำที่ อย่ำงเหมำะสมกับควำมเป็นตัวแทนของประชำชนหรือไม่ เช่น กำรเข้ำประชุมประจ ำสม่ ำเสมอ กำรอภิปรำยและกำรลงมติในสภำ กำรท ำหน้ำที่กรรมำธิกำร กำรรับฟังปัญหำควำมเดือดร้อน ของประชำชนเพื่อเสนอฝ่ำยบริหำรแก้ไข กำรท ำหน้ำที่ฝ่ำยบริหำร และฝ่ำยค้ำนในสภำ โดยกำรศึกษำ หำข้อมูลจำกสื่อมวลชนสื่อออนไลน์ แหล่งข้อมูลต่ำง ๆ เช่น กำรสนทนำพูดคุยกับเพื่อนบ้ำน รับฟัง กำรถ่ำยทอดเสียงกำรประชุมสภำ นอกจำกนั้นประชำชนสำมำรถสนับสนุนเสนอแนะกำรท ำงำน ของตัวแทน รวมทั้งหำกพบว่ำตัวแทนท ำงำนขำดประสิทธิภำพ ทุจริตคอร์รัปชัน หรือไม่สมควรด ำรง ต ำแหน่งต่อไปก็สำมำรถคัดค้ำน ต่อต้ำนตำมสิทธิเสรีภำพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมำยต่ำงๆได้ รวมถึงยื่นเรื่องต่อประธำนสภำเพื่อร้องเรียนกล่ำวหำได้ ๒.๓ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๒.๓.๑ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หมวด ๔ หน้าที่ของปวงชนชาวไทย มาตรา ๕๐ ให้บุคคลมีหน้ำที่ ดังนี้ (๑) พิทักษ์รักษำไว้ซึ่งชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ และกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข (๒) ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษำเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชำติ และสำธำรณสมบัติ ของแผ่นดิน รวมทั้งให้ควำมร่วมมือในกำรป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย (๓) ปฏิบัติตำมกฎหมำยอย่ำงเคร่งครัด (๔) เข้ำรับกำรศึกษำอบรมในกำรศึกษำภำคบังคับ (๕) รับรำชกำรทหำรตำมที่กฎหมำยบัญญัติ (๖) เคำรพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภำพของบุคคลอื่น และไม่กระท ำกำรใดที่อำจ ก่อให้เกิดควำมแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม (๗) ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและลงประชำมติโดยอิสระโดยค ำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ของประเทศเป็นส ำคัญ (๘) ร่วมมือและสนับสนุนกำรอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยำกรธรรมชำติ ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ รวมทั้งมรดกทำงวัฒนธรรม (๙) เสียภำษีตำมที่กฎหมำยบัญญัติ (๑๐) ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนกำรทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ หมวด ๖ แนวนโยบายแห่งรัฐ มาตรา ๗๘ มาตรา ๗๘ รัฐพึงส่งเสริมให้ประชำชนและชุมชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำ ประเทศด้ำนต่ำง ๆ กำรจัดท ำบริกำรสำธำรณะทั้งในระดับชำติและระดับท้องถิ่น กำรตรวจสอบ กำรใช้อ ำนำจรัฐกำรต่อต้ำนกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมตลอดทั้งกำรตัดสินใจทำงกำรเมือง และกำรอื่นใดบรรดำที่อำจมีผลกระทบต่อประชำชนหรือชุมชน
24 หมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ มาตรา ๒๕๗ กำรปฏิรูปประเทศตำมหมวดนี้ต้องด ำเนินกำรเพื่อบรรลุเป้ำหมำย ดังต่อไปนี้ (๑) ประเทศชำติมีควำมสงบเรียบร้อย มีควำมสำมัคคีปรองดอง มีกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืน ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และมีควำมสมดุลระหว่ำงกำรพัฒนำด้ำนวัตถุกับกำรพัฒนำ ด้ำนจิตใจ (๒) สังคมมีควำมสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกำสอันทัดเทียมกันเพื่อขจัดควำมเหลื่อมล้ ำ (๓) ประชำชนมีควำมสุข มีคุณภำพชีวิตที่ดีและมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำประเทศ และกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาตรา ๒๕๘ บัญญัติให้ด ำเนินกำรปฏิรูปประเทศอย่ำงน้อยในด้ำนต่ำง ๆ ให้เกิดผล ดังต่อไปนี้ ก. ด้ำนกำรเมือง ๑) ให้ประชำชนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมในกำรด ำเนินกิจกรรมทำงกำรเมืองรวมตลอดทั้ง กำรตรวจสอบกำรใช้อ ำนำจรัฐ รู้จักยอมรับในควำมเห็นทำงกำรเมืองโดยสุจริตที่แตกต่ำงกัน และให้ประชำชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชำมติโดยอิสระปรำศจำกกำรครอบง ำไม่ว่ำด้วยทำงใด ๒) ให้กำรด ำเนินกิจกรรมของพรรคกำรเมืองเป็นไปโดยเปิดเผยและตรวจสอบได้ เพื่อให้พรรคกำรเมืองพัฒนำเป็นสถำบันทำงกำรเมืองของประชำชนซึ่งมีอุดมกำรณ์ทำงกำรเมืองร่วมกัน มีกระบวนกำรให้สมำชิกพรรคกำรเมืองมีส่วนร่วมและมีควำมรับผิดชอบอย่ำงแท้จริงในกำรด ำเนิน กิจกรรมทำงกำรเมืองและกำรคัดเลือกผู้มีควำมรู้ควำมสำมำรถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรมจริยธรรม เข้ำมำเป็นผู้ด ำรงต ำแหน่งทำงกำรเมืองที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ๓) มีกลไกที่ก ำหนดควำมรับผิดชอบของพรรคกำรเมืองในกำรประกำศโฆษณำนโยบำย ที่มิได้วิเครำะห์ผลกระทบ ควำมคุ้มค่ำ และควำมเสี่ยงอย่ำงรอบด้ำน ๔) มีกลไกที่ก ำหนดให้ผู้ด ำรงต ำแหน่งทำงกำรเมืองต้องปฏิบัติหน้ำที่ด้วยควำมซื่อสัตย์สุจริต และรับผิดชอบต่อประชำชนในกำรปฏิบัติหน้ำที่ของตน ๕) มีกลไกแก้ไขปัญหำควำมขัดแย้งทำงกำรเมืองโดยสันติวิธีภำยใต้กำรปกครองระบอบ ประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฯลฯ ฯลฯ ๒.๓.๒ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๒ (๕) คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งมีหน้ำที่และอ ำนำจในกำรส่งเสริม สนับสนุน ให้หน่วยงำนของรัฐ สถำบันกำรศึกษำ และองค์กรเอกชน ในกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องให้แก่ ประชำชนเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรมีส่วนร่วม ทำงกำรเมืองของประชำชน หรือให้ประชำชนมีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบกำรเลือกตั้ง และควำมรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขที่คณะกรรมกำรก ำหนด
25 มาตรา ๓๕ เพื่อประโยชน์ในกำรด ำเนินกำรเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมำย คณะกรรมกำรอำจแต่งตั้งบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กรชุมชน หรือสถำบันกำรศึกษำซึ่งสมัครใจปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้ช่วยเหลือกำรปฏิบัติงำนหรือเป็นผู้สังเกตกำรณ์ ในกำรเลือกตั้งเพื่อรำยงำนต่อคณะกรรมกำรหรือกรรมกำรทรำบได้ตำมสมควร หลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขกำรปฏิบัติงำน กำรสนับสนุนทำงกำรเงิน กำรรำยงำน และกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน ให้เป็นไปตำมระเบียบที่คณะกรรมกำรก ำหนด และให้เผยแพร่ ผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรประเมินให้ประชำชนทรำบเป็นกำรทั่วไปด้วย ๒.๓.๓ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒.๓.๓.๑ การจัดตั้ง ศส.ปชต. ข้อ ๖ ให้ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย มีหน้าที่ช่วยเหลือคณะกรรมการ การเลือกตั้ง ส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจ าจังหวัด ในการเผยแพร่วิชาการ การให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และการศึกษาแก่ประชาชน ร วมทั้งผู้สมัค ร รับเลือกตั้ง ก า รพัฒน าก า รเมืองและก า รปกค รอง ระบอบป ระช า ธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ส่งเสริมการตรวจสอบการเลือกตั้ง การส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยสุจริต และเที่ยงธรรม การขยายและพัฒนาเครือข่ายให้เข้ามาช่วยเหลือการเลือกตั้ง รวมทั้งสร้างจิตส านึกสาธารณะ ให้เกิดขึ้นกับประชาชน ตลอดจนท าหน้าที่พลเมืองดีพิทักษ์รักษาสิทธิของตนเอง ของผู้อื่น ของชุมชน ตามรัฐธรรมนูญ ด้วยวิถีทางระบอบประชาธิปไตยและด าเนินการอื่นตามที่ผู้อ านวยการส านักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งประจ าจังหวัดมอบหมาย ข้อ ๘ เมื่อมีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย ให้ผู้อ านวยการส านักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งประจ าจังหวัดออกประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการตามแบบท้ายระเบียบนี้ ประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการ (๒) รองประธานกรรมการ หนึ่งคน (๓) กรรมการอื่นอีกไม่น้อยกว่าสองคน (๔) ผู้แทนคณะกรรมการหมู่บ้าน (๕) ผู้แทนคณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้าน (๖) ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (๗) ผู้แทนชมรมผู้สูงอายุ (ถ้ามี) (๘) กรรมการและเลขานุการ การได้มาซึ่งกรรมการ ให้ผู้อ านวยการส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจ าจังหวัด ด าเนินการสรรหาด้วยวิธีการตามที่เห็นสมควร โดยมีตัวแทนจากประชาชนทุกหมู่บ้าน ชุมชน เป็นกรรมการ ในการสรรหากรรมการให้พิจารณาจากผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรที่ส า นักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งก าหนดที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๑๒ และข้อ ๑๓ ส าหรับกรรมการตามวรรคแรก (๔) (๕) (๖) และ (๗) ให้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานระดับจังหวัด ของที่ท าการปกครองจังหวัด ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ส านักงานสาธารณสุขจังหวัด และส านักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด คัดเลือกตัวแทนของต าบลหน่วยงานละหนึ่งคน
26 ในกรณีพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ประสานขอความร่วมมือกรุงเทพมหานครด าเนินการแต่งตั้งกรรมการ ตามวรรคแรก (๔) (๕) (๖) และ (๗) โดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้ประสานขอความร่วมมือบุคลากรทางการศึกษา ของส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือบุคคลที่เห็นสมควร หนึ่งคน เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ผู้อ านวยการส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจ าจังหวัดอาจแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมเป็นผู้ช่วยเลขานุการขึ้นอีกจ านวนไม่เกินสองคน ตามค าแนะน าของคณะกรรมการ ข้อ ๒๒ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยอ ำเภอ มีคณะกรรมกำรศูนย์ส่งเสริม พัฒนำประชำธิปไตยอ ำเภอ โดยให้ประธำนกรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยต ำบลหรือชุมชน ทุกศูนย์เป็นกรรมกำรโดยต ำแหน่ง ในกรณีอ ำเภอใดมีจ ำนวนศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยต ำบล น้อยกว่ำห้ำศูนย์ ให้พิจำรณำแต่งตั้งคณะกรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยระดับอ ำเภอ ให้ครบจ ำนวนห้ำคน ทั้งนี้ให้น ำควำมในข้อ ๕ วรรคห้ำ ข้อ ๗ วรรคสำม ข้อ ๘ ข้อ ๑๐ ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ ข้อ ๑๔ ข้อ ๑๗ ข้อ ๑๘ วรรคสอง และวรรคสำม และข้อ ๑๙ มำใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ ๒๔ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยจังหวัด มีคณะกรรมกำรศูนย์ส่งเสริม พัฒนำประชำธิปไตยจังหวัด โดยให้ประธำนกรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยอ ำเภอทุกศูนย์ เป็นคณะกรรมกำรโดยต ำแหน่ง เว้นแต่เลขำนุกำร ให้ผู้อ ำนวยกำรส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง ประจ ำจังหวัดแต่งตั้งจำกพนักงำนของส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจ ำจังหวัด ให้ผู้อ ำนวยกำรส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจ ำจังหวัดแต่งตั้ง ผู้ช่วยเลขำนุกำรสองคน โดยแต่งตั้งจำกพนักงำนของส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประจ ำจังหวัด หนึ่งคน และแต่งตั้งจำกกรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยต ำบล โดยค ำแนะน ำของประธำน กรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยจังหวัดหนึ่งคน ในกรณีจังหวัดใดมีจ ำนวนศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยอ ำเภอน้อยกว่ำ ห้ำศูนย์ให้พิจำรณำแต่งตั้งคณะกรรมกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยระดับจังหวัดจำกกรรมกำร ศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยอ ำเภอให้ครบจ ำนวนห้ำคน ทั้งนี้ ให้น ำควำมในข้อ ๕ วรรคท้ำย ข้อ ๗ วรรคท้ำย ข้อ ๑๐ ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ ข้อ ๑๔ ข้อ ๑๗ ข้อ ๑๘ วรรคสอง และวรรคท้ำย และข้อ ๑๙ มำใช้บังคับโดยอนุโลม ๒.๓.๓.๒ การก าหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ ศส.ปชต. ข้อ ๑๒ กรรมกำรต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ (๑) มีสัญชำติไทย (๒) มีอำยุไม่ต่ ำกว่ำสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ได้รับกำรแต่งตั้ง (๓) มีควำมรู้ ควำมสำมำรถเหมำะสมในกำรปฏิบัติหน้ำที่ (๔) มีควำมสมัครใจและเสียสละเพื่อช่วยเหลือกำรด ำเนินกำรของศูนย์ส่งเสริม พัฒนำประชำธิปไตยต ำบล (๕) มีควำมประพฤติอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดี ได้รับควำมไว้วำงใจและยกย่อง จำกประชำชน (๖) มีภูมิล ำเนำหรือถิ่นที่อยู่ในเขตท้องที่ต ำบลรับผิดชอบของศูนย์ส่งเสริมพัฒนำ ประชำธิปไตยต ำบล
27 (๗) เป็นผู้มีควำมเลื่อมใสในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ข้อ ๑๓ กรรมกำรต้องไม่มีลักษณะต้องห้ำมในวันที่ได้รับกำรแต่งตั้ง ดังต่อไปนี้ (๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (๒) ติดยำเสพติดให้โทษ (๓) เป็นผู้มีควำมประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็น ผู้ได้กระท ำกำรใดซึ่งแสดงให้เห็นว่ำไม่น่ำไว้วำงใจในควำมซื่อสัตย์สุจริต (๔) เป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (๕) เป็นผู้ด ำรงต ำแหน่งในพรรคกำรเมือง ๒.๓.๓.๓ หน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ศส.ปชต. ข้อ ๑๕ คณะกรรมกำร มีหน้ำที่รับผิดชอบกำรปฏิบัติงำนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนำ ประชำธิปไตยต ำบลเฉพำะในเขตท้องที่ต ำบลรับผิดชอบของศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยต ำบล และมีหน้ำที่ ดังต่อไปนี้ (๑) ประชุม วำงแผน เพื่อบริหำรจัดกำรศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยให้มี ควำมพร้อมในกำรปฏิบัติหน้ำที่สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องแก่ประชำชนเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบ ประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่ำงมีประสิทธิภำพ (๒) จัดท ำแผนงำน โครงกำร กิจกรรม ตำมภำรกิจของศูนย์ส่งเสริมพัฒนำ ประชำธิปไตย หรือให้กำรสนับสนุนกำรจัดท ำแผนงำน โครงกำร กิจกรรม เพื่อขอรับกำรสนับสนุน ทำงวิชำกำร งบประมำณในกำรด ำเนินกำรส่งเสริมกำรสร้ำงวิถีชีวิตประชำธิปไตยในหมู่บ้ำนพลเมืองดี วิถีประชำธิปไตย (๓) เป็นวิทยำกรแกนน ำในกำรรณรงค์ เผยแพร่ และสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจ ที่ถูกต้องแก่ประชำชนเกี่ยวกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของประชำชน กำรมีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบกำรเลือกตั้ง ควำมรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และกำรเสริมสร้ำงหมู่บ้ำนพลเมืองดีวิถีประชำธิปไตย (๔) ให้กำรสนับสนุน หรือฝึกอบรม หรือพัฒนำควำมรู้เกี่ยวกับกระบวนกำร จัดกำรเลือกตั้งแก่สมำชิกหรือผู้ซึ่งสนใจ หรืออำสำสมัคร เป็นเจ้ำพนักงำนผู้ด ำเนินกำรเลือกตั้ง ประจ ำหน่วยเลือกตั้งหรืออำสำสมัครสังเกตกำรณ์กำรเลือกตั้ง (๕) ส่งเสริมให้ประชำชนมีจิตส ำนึกควำมเป็นพลเมือง ใช้สิท ธิเลือกตั้ง และออกเสียงประชำมติโดยอิสระปรำศจำกกำรครอบง ำไม่ว่ำทำงใด มีส่วนร่วมในกระบวนกำรเลือกตั้ง หรือสังเกตกำรณ์กำรเลือกตั้ง หรือช่วยเหลือกำรปฏิบัติในกำรเลือกตั้งทุกระดับ (๖) ประสำนกำรท ำงำนเป็นเครือข่ำยร่วมกับอำสำสมัครหน่วยงำนของรัฐ สถำบันกำรศึกษำ องค์กรเอกชน และองค์กรชุมชน ในภำรกิจของศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตย (๗) สรุป รวบรวม และจัดท ำรำยงำนกำรปฏิบัติงำนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนำ ประชำธิปไตย (๘) พิจำรณำด ำเนินกำรอื่นตำมที่ผู้อ ำนวยกำรส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง ประจ ำจังหวัดมอบหมำย