The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tuahuay, 2023-02-19 20:44:50

รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ"

กมธ.1

รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 166 - ตารางที่ 22 แนวทางการรับรองสวนยางพาราตาม มอก. 14061 กิจกรรม หน่วยงานรับผิดชอบ กําหนดเสร็จ 1. มาตรฐาน 1 . 1 ศึกษาข้อกําหนดของมาตรฐานและแนวทางการปฏิบัติที่ มีอยู่ของสวนยางพารา กยท. /สมอ. 8 พ.ย.61 1.2 จัดทําร่างแนวทางปฏิบัติของสวนยางพารา สมอ. 30 พ.ย.61 1.3 จัดทําเอกสารเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคลองก้ ับข้อกําหนด กยท. 15 ธ.ค.61 1.4 เผยแพร่จัดทําเอกสาร แบบฟอร์มต่าง ๆ สําหรับบันทึก ข้อมูล และทําความเข้าใจกับผู้ประกอบการสวนยางพารา กยท. 15 ม.ค.62 1.5 นําร่องให้เกษตรกรชาวสวนยางดําเนินการตามแนว ทางการปฏิบัติ กยท /.เกษตรกร ชาวสวนยาง 1 ก.พ.62 2. การเตรียมหน่วยรับรอง 2.1 ประชาสัมพันธ์เรื่องการรับรองให้หน่วยรับรองที่มี ศักยภาพรับทราบเพื่อเตรียมการรับรอง /หารือแนวทาง การรับรอง ผู้ยื่นขอการรับรองคือใคร พื้นที่การรับรอง เป็นอย่างไร ประเมินค่าใช้จ่ายเพื่อ กยท. สามารถ จัดเตรียมงบประมาณ กยท. กพ. 62 2.2 ศึกษาแนวทางปฏิบัติของสวนยางพารา หน่วยรับรอง 2.3 จัดทําหลักเกณฑ์สําหรับการรับรอง หน่วยรับรอง/ scheme owner


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 167 - กิจกรรม หน่วยงานรับผิดชอบ กําหนดเสร็จ 2.4 พัฒนาผู้ตรวจประเมินสําหรับสาขาการจัดการอย่าง ยั่งยืนสําหรับสวนยางพาราตาม มอก.14061 หน่วยรับรอง/กยท. ก.พ.62 2.5 ดําเนินการตรวจประเมิน หน่วยรับรอง 2.6 ยื่นขอรับการรับรองระบบงาน หน่วยรับรอง 3. การเตรียมหน่วยรับรองระบบงาน 3.1 จัดทําหลักเกณฑ์สําหรับการรับรองระบบงาน สมอ. 3.2 พัฒนาผู้ตรวจประเมินระบบงานสําหรับสาขาการจัดการ อย่างยั่งยืนสําหรับสวนยางพาราตาม มอก.14061 สมอ. 3.3 ดําเนินการตรวจประเมินรับรองระบบงาน สมอ. (2) ยกระดับแนวทางปฏิบัติเข้าสู่การจัดการสวนยางอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล มาตรฐานการรับรองไม้ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล มี 2 มาตรฐาน คือ FSC (Forest Stewardship Council) และ PEFC (Program for the Endorsement of Forest Certification) มีข้อมูลเปรียบเทียบดังนี้ ตารางที่ 23 ตารางเปรียบเทียบการรับรองมาตรฐานป่าไม้สากล ข้อพิจารณา มาตรฐาน PEFC มาตรฐาน FSC การกําหนดมาตรฐาน แต่ละประเทศกําหนดมาตรฐาน ของตนเอง โดยเปิดโอกาสให้ผู้มี ส่วนได้ส่วนเสนอความคิดเห็นและ หาจุดร่วมที่สามารถปฏิบัติงานได้ จริง FSC มีการกําหนดมาตรฐานที่ เป็นสากลและให้ใช้กับประเทศ ต่าง ๆ ทั่วโลก การรับรองไม้จากพื้นที่สวนป่า 1. ให้การรับรองเฉพาะไม้ที่ทราบ ที่แหล่งที่มาอย่างชัดเจนชัดเจน 1. ให้การรับรองเฉพาะไม้ที่ทราบ ที่แหล่งที่มาอย่างชัดเจนชัดเจน


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 168 - ข้อพิจารณา มาตรฐาน PEFC มาตรฐาน FSC พื้น ที่สวนป่า ที่ถูก ต้องตาม กฎหมายไม่บุกรุกพื้นที่ป่า 2. ให้การรับรองพื้นที่ปลูกขนาด เล็ก เช่น ไม้จากหัวไร่ปลายนา เ ป็นการเปิดโอกาสให้กับ ผู้ประกอบการได้เข้าถึงมาตรฐาน การรับรองและเปิดตลาดให้กับ ผู้ประกอบการรายย่อยสู่ตลาด สากล เป็นต้น พื้น ที่สวนป่า ที่ถูก ต้องตาม กฎหมายไม่บุกรุกพื้นที่ป่า 2. ยังไม่ให้การรับรองถึงพื้นที่ปลูก ขนาดเล็ก เช่น คันนา คันคลอง ริมทาง โครงสร้างพื้นฐานในการตรวจ ประเมิน การตรวจประเมินทําขึ้นโดยหน่วย รับรองของไทย ภายใต้การรับรอง ระบบงานของไทยโดยสํานักงาน มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (สมอ.) การตรวจประเมินส่วนใหญ่ต้องใช้ ผู้ตรวจประเมินต่างชาติและรับรอง ระบบงานที่เป็นหน่วยงานจาก ต่างชาติ ค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการใน การขอการรับรองมาตรฐาน ค่าการตรวจประเมินโดยหน่วย รับรองของไทยที่ไม่สูงมาก จึงช่วย ส่งเสริมขีดความสามารถการ แข่งขันของผู้ประกอบการ ค่าการตรวจประเมินจากผู้ตรวจ ประเมินต่างชาติค่อนข้างสูง ทําให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น พื้นที่ในการรับรอง มากกว่า 300 ล้านเฮกตาร์ 200.8 ล้านเฮกตาร์ ประเทศที่ได้รับการรับรอง พื้นที่ 42 ประเทศ 86 ประเทศ การรับรอง Chain of Custody (COC) 19,800 บริษัท 34,636 บริษัท ประเทศที่ได้รับการรับรอง COC 70 124 ประเทศ ประเทศ


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 169 - 4. การดําเนินการของการยางแห่งประเทศไทย 4.1 การยางแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งคณะทํางานกําหนดนโยบายการจัดการสวนยาง อย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากลของการยางแห่งประเทศไทย โดยมีหน้าที่กําหนดนโยบาย กําหนด แนวทาง เงื่อนไขและวิธีการในการดําเนินงานการจัดการสวนยางอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล ของการยางแห่งประเทศไทย 4.2 ปรับปรุงหลักปฏิบัติการปลูกแทนการยางแห่งประเทศไทยให้สอดคล้องกับ มอก.14061 เพ่อเป ื ็นการจัดการสวนยางอย่างยั่งยืนของประเทศไทย 4.3 จัดทําระบบสารสนเทศในการให้การรับรองเพื่อความรวดเร็วในการดําเนินการ 4.4 เกษตรกรชาวสวนยางเข้าร่วมโครงการโดย 4.4.1 ภาคบังคับ แก่เกษตรกรชาวสวนยางที่ขอรับการปลูกแทนกับการยางแห่งประเทศไทย 4.4.2 ภาคสมัครใจแก่เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย 4.5 จัดประชุมผู้ประกอบการเพื่อหาความต้องการสวนยางที่ผ่านการรับรอง 4.6 ดําเนินการขอการรับรองสวนยาง และตรวจรับรองสวนยาง โดยหน่วยรับรอง (CB) 4.7 ค่าใช้จ่ายสําหรับการขอการรับรอง เป็นค่าใช้จ่ายของการยางแห่งประเทศไทย ใช้งบประมาณจากกองทุนพัฒนายางตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 49 (3)


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 170 - หลักปฏิบัติตามมาตรฐานแนวทางการรับรองสวนยางพาราตาม มอก.14061 ร่างข้อกําหนดมาตรฐานสวนยาง มอก.14061 กยท. กําหนดเสร็จ พ.ย. 61 สมอ / .CB ) ( ตรวจ (กําหนดเสร็จ พ.ย. 61) ทําประชาพิจารณ์ / ฝ่ายท/ี่เครือข่าย ร่างข้อกําหนดมาตรฐานายาง มอก.14061 (กําหนดเสร็จ 6 ธ.ค. 61) จัดทําเป็นเอกสาร (กําหนดเสร็จ ม.ค.62) จัดอบรมพนักงานเขต / ถ่ายทอด ผู้บริหาร / ประกาศใช้ (กําหนดเสร็จ 6 ก.พ. 62) ถ่ายทอดให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ สมอ / .CBรับรอง สวนดําเนินการปลูกแทน งบประมาณ ตามมาตรา 49 (2) สวนของเกษตรกรชาวสวนยาง งบประมาณ ตามมาตรา 49 (3) แก้ไข CAR ตามแนวทางการรับรองสวนยางพาราตาม มอก.14061 สวนยางที่ได้รับมาตรฐานตาม มอก.14061 ยกระดับเข้าสู่มาตรฐาน FSC / PEFC


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 171 - ภาคผนวก ค. การหาปริมาณเน ื ้ อยางแห ้ ง DRC เกษตรกรชาวสวนยางของประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยมีโอกาสที่จะนํายาง เข้าไปขายในโรงงานหรือตลาดกลางค่อนข้างน้อยด้วยข้อจํากัดเรื่องเวลาและระยะทาง ทําให้การขาย ยางของเกษตรกรจึงไปตกอยู่ที่พ่อค้าในท้องถิ่น ปัญหาคือเกษตรกรไม่สามารถต่อรองกับพ่อค้าได้ โดยเฉพาะการขายยางก้อนถ้วยซึ่งมักจะถูกประเมินด้วยสายตาทําให้เกษตรกรถูกเอาเปรียบ แนวทางการแก้ปัญหา 1. การหาเนื้อยางแห้งแบ่งยางออกเป็นเป็น 2 กลุ่ม คือ น้ํายางสดและน้ํายางข้น โดยวิธี หาเนื้อยางแห้งของน้ํายางหาได้ 3 วิธีคือ 1.1 การใช้เครื่องวัดเมโทรแลค (Metrolac) 1.2 การอบแห้งใช้ตู้อบไอร้อน (Hot air oven) เป็นวิธีหาค่าเปอร์เซ็นเนื้อยางแห้งได้ อย่างถูกต้องแม่นยํา อบน้ํายางให้แห้งให้เหลือแต่เฉพาะเนื้อยางแล้วนําไปชั่งน้ําหนักเปรียบเทียบ ระหว่างน้ํายางสดก่อนที่จะทําให้แห้งกับเนื้อยางที่อบแห้งแล้วว่าต่างกันเท่าไหร่เมื่อคิดออกมาเป็น เปอร์เซ็นก็จะได้ค่าเปอร์เซ็นเนื้อยางแห้งของน้ํายางสด เช่น ชั่งน้ํายางสดมา 10 กรัม อบ 70 องศา เวลา 16 ชั่วโมง แห้งแล้วเหลือ 3.50 กรัม นํามาคํานวณ DRC DRC = น้ําหนักแห้งx100/น้ําหนักเปียก= 3.50กรัมx100/10กรัม = 35% 1.3 การอบยางให้แห้งสามารถใช้ตู้ไมโครเวฟอบไล่น้ําโดยเปิดความร้อนสูงสุด 3 นาที แล้วนําผลมาเข้าสูตร DRC (ข้อ1.2) 2. ยางแห้ง ได้แก่ยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน ยางเครป ยางก้อนถ้วย ยางแท่ง เป็นต้น วิธีหาเนื้อยางแห้งของยางหาได้โดยวิธีการอบแห้งในตู้อบเป็นวิธีหาค่าเปอร์เซ็นเนื้อยางแห้งโดยการ เก็บตัวอย่างสุ่มชั่งน้ําหนักยางมาอบให้แห้ง ให้เหลือแต่เฉพาะเนื้อยางแล้วนําไปชั่งน้ําหนัก เปรียบเทียบระหว่างก่อนที่จะนําไปอบให้แห้งกับเนื้อยางที่อบแห้งแล้วเข้าสูตร DRC=น้ําหนักแห้งx100/น้ําหนักเปียก จะได้ค่าเปอร์เซ็นเนื้อยางแห้ง การหา DRC ของยางก้อนถ้วยได้ข้อมูลจากคุณโกศล จริงสูงเนิน นักวิจัยด้าน เทคโนโลยีโรงงานยางพาราแนะนําไว้คือ ให้สุ่มยางก้อนถ้วยมา 50 ก้อนแล้วมารีดเครปจนบางแล้ว ตัดชิ้นตัวอย่างมา 50 กรัมมาอบในตู้อบ (1.2) แล้วนําค่าน้ําหนักมาใส่สูตร DRC=นํ้าหนักแห้งx100/ น้ําหนักเปียก


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 172 - ภาคผนวก ง. แนวคิดผ ู ้ แทนการตลาดแก่เกษตรกร รูปภาพ : แนวคิดผู้แทนการตลาดแก่เกษตรกร


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 173 - ภาคผนวก จ. ต ้ นท ุ นการผลิต การวิเคราะห์ต้นทุนสถานการณ์การผลิตยางพารา โครงสร้างสวนยางของประเทศไทย เป็นสวนยางขนาดเล็กถึงร้อยละ 83 ทําให้มีปัญหา ด้านเงินทุน ปัญหาขาดความรู้ด้านวิชาการและเทคโนโลยีทําให้ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตต่อไร่ต่ํา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรชาวสวนยางในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นเขต ปลูกยางใหม่ขาดความพร้อมทั้งเงินทุนและการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ต้นทุนการผลิตจึงสูงกว่า ภาคอื่น ๆ ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยต้นทุนต่อไร่ของทั้งประเทศต่ํา ข้อมูลต้นทุนการผลิตของเกษตรกร มีความสําคัญต่อการวางแผนยุทธศาสตร์ของประเทศปรากฏว่าข้อมูลต้นทุนการผลิตของเกษตรกร มีการศึกษาวิเคราะห์และรายงานสู่สาธารณะหลายหน่วยงานกล่าวคือ หน่วยงานในสังกัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ได้แก่สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตรกรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นต้น ซึ่งแนวคิดในการคํานวณต้นทุนการผลิตของแต่ละหน่วยงานอาจมีความแตกต่างกัน กลุ่มตัวอย่างและวิธีเก็บตัวอย่างอาจต่างกันวิธีการประเมินก็อาจต่างกัน เหล่านี้เป็นข้อมูลในเชิงสถิติ ความเชื่อถือของข้อมูลที่มีต่อการหาต้นทุนการผลิตเพียงไรดังเช่นข้อมูลของสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งประกาศต้นทุนการผลิตยางพาราของเกษตรกรชาวสวนยางกิโลกรัมละ 62.97 บาท ( ณ ธันวาคม 2559) เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายหรือไม่จึงจําเป็นต้องศึกษาโครงสร้าง ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงของแต่ละสภาพพื้นที่ซึ่งต้นทุนจะแตกต่างกัน นําไปสู่การแก้ปัญหาการปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมหรือเหมาะสมน้อยซึ่งต้นทุนการผลิตจะสูง และเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบในช่วงต้นทางจะเป็นต้นทุนที่สําคัญของกระบวนการผลิตแปรรูปกลาง ทางและปลายทางและเมื่อเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตของไทยกับอินโดนีเซีย และมาเลเซียแล้ว ไทยยังสูงกว่าแต่ราคาขายในตลาดต่างประเทศขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกไม่ได้ขึ้นกับต้นทุนการผลิตแต่ อย่างใดเมื่อราคาที่ขายได้ต่ํากว่าต้นทุนการผลิตจะเกิดผลขาดทุนดังนั้นประเทศไทย จึงควรต้อง ประเมินให้ได้ว่าต้นทุนที่แท้จริงเป็นเท่าใดเพื่อจะได้หามาตรการในการลดต้นทุนเพื่อแข่งขันกับ ประเทศผู้ปลูกยางที่ต้นทุนต่ํากว่า คณะอนุกรรมาธิการ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้แก่สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การยางแห่งประเทศไทย นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ตัวแทนเกษตรกรภาคเอกชนและผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อร่วมกันศึกษา วิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนการผลิตโดยสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 174 - เป็นหน่วยงานหลักที่ประเมินต้นทุนการผลิตยางเช่นเดียวกับพืชอื่น ทั้งนี้จะต้องอาศัยนักสถิติ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยและการยางแห่งประเทศไทยร่วมกันศึกษาข้อมูลจริงประกอบกับข้อมูล เชิงสถิติและต้องอาศัยประสบการณ์ด้วยคณะอนุกรรมาธิการได้มีการประชุมเรื่องนี้ 3 ครั้งมีข้อสรุป คือขณะนี้พบว่า มีหน่วยงานสําคัญที่เป็นแหล่งการเก็บข้อมูลต้นทุนการผลิตยางพาราอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ 1. สถาบันวิจัยยางเป็นข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ในขณะนั้นสังกัดกรม วิชาการเกษตร จัดทําต้นทุนการผลิตยางแผ่นดิบของสวนยางขนาดเล็กเฉลี่ยของประเทศไทย ปี 2553 / 2554 โดยให้เจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยยางภาคสนามแต่ละจังหวัด และแต่ละภาคเก็บข้อมูล ตัวอย่างจากเกษตรกรในพื้นที่ทุกภาครวม 17 จังหวัด ต้นทุนการผลิตยางแผ่นดิบ ณ ระดับราคาต่าง ๆ ตั้งแต่กิโลกรัมละ 50 – 120 บาท ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ในอัตรา 276 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปีต้นทุนแยกเป็น ต้นทุนก่อนคิดค่าเสียโอกาส และต้นทุนรวมค่าเสียโอกาสเช่น ถ้าราคายางแผ่นดิบกิโลกรัมละ 55 บาท จะเป็นต้นทุนก่อนคิดค่าเสียโอกาส 56.50 บาท ต้นทุนที่คิดค่าเสียโอกาสแล้วกิโลกรัมละ 59.89 บาท เป็นหลักการคิดที่ถูกต้องเพราะค่าจ้างกรีดยางเป็นต้นทุนที่ผันแปรตามราคายางโดยปกติเป็นอัตรา ร้อยละ 40 ของรายได้ค่าขายผลผลิตยางและต้องมีการปรับต้นทุนทุก ๆ ปีให้ทันกับสถานการณ์ที่มี การเปลี่ยนแปลงทางด้านค่าใช้จ่ายและรายไดัจากราคายาง ต่อจากปี 2554 จนถึงปัจจุบันแม้โอนมา สังกัดการยางแห่งประเทศไทยแล้วก็ตาม สถาบันวิจัยยางก็มิได้มีการปรับต้นทุนการผลิตใหม่แต่อย่างใด โดยถือว่าสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการประกาศต้นทุนการผลิตของพืชทุก ชนิดอยู่แล้ว 2. สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ประเมินต้นทุนการผลิตครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นทุนเฉลี่ยต่อไร่ต่อปี 14,230.32 บาท ผลผลิต ณ เดือนมิถุนายน 2560 เฉลี่ย 226 กิโลกรัม ต้นทุนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.97 บาท ซึ่งหลักคิดมิได้ผันแปรตามราคายางอีกประการหนึ่งผลผลิตต่อไร่ สํารวจได้ต่ํากว่าของสถาบันวิจัยยางถึงร้อยละ 18 3. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ทําการสํารวจข้อมูลเมื่อปี 2557 โดยตั้งข้อสมมุติฐาน ในการศึกษาไว้ 2 ประการ คือ 3.1 สวนยางพาราที่อยู่ในเขตนิเวศน์ต่างกันจะมีต้นทุนการผลิตแตกต่างกัน 3.2 รูปแบบผลผลิตที่เกษตรกรผลิตที่แตกต่างกันจะมีต้นทุนการผลิตที่แตกต่างกัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้สรุปต้นทุนการผลิตยางเป็น 6 มิติเฉลี่ยทั้ง ประเทศกิโลกรัมละ 59.34 บาท และแยกเป็นต้นทุนยางแผ่นดิบน้ํายางสดและยางก้อนถ้วย


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 175 - ภาคผนวก ฉ. ยางสังเคราะห ์ 1. ยางสังเคราะห์ - ในบทบาทของสินค้าคู่แข่งขันและสินค้าใช้ประกอบกัน 1.1 คู่แข่งยางธรรมชาติ (Natural Rubber) ต้นยางมีแหล่งกําเนิดจากประเทศบราซิล สภาวะที่เหมาะสมในการปลูกยางคือพื้นที่ที่มีฝน ตกชุกและอากาศอบอุ่นตลอดปีสําหรับประเทศไทย คือ ภาคใต้จากสภาวะอากาศดังกล่าวส่งผลดี ต่อคุณภาพของผลผลิตน้ํายางปัจจุบันมีพันธุ์ยางท่ีปลูกไดัในพื้นที่ภาคอื่น ๆ ด้วยซึ่งมีฝนตกชุกเช่นกัน แต่ก็อยู่ในระดับที่น้อยกว่าภาคใต้ ยางพาราเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ที่หลากหลายสําหรับคู่แข่งที่สําคัญเป็นทั้งพืชและเป็นทั้งยางสังเคราะห์ที่มีสมบัติบางอย่างดีกว่า สมบัติของยางพารานอกจากนั้นยังมียางรีไซเคิลที่เรียกว่า ยางรีเคลมเข้ามาในอุตสาหกรรมยางล้อ เพื่อลดต้นทุนก็เปรียบเสมือนคู่แข่งเช่นกัน 1.1.1 วายยูเล่ (Guayule) เป็นไม้พุ่มพื้นเมืองพบในแถบเม็กซิโกและทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเท็กซัส เจริญเติบโตในดินทุกสภาพโดยเฉพาะดินเลวในพื้นที่แห้งแล้งที่มีอุณหภูมิ 36 องศาเซลเซียส มีปริมาณน้ําฝนต่ํา 200 - 400 มิลลิเมตรซึ่งยางพารา (Hevea Brasilliensis) ไม่สามารถเจริญเติบโต ได้มีลําต้นสูงประมาณ 60-90 เซนติเมตร สามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 2 ปีมีส่วนของเนื้อยางประมาณ ร้อยละ 10 (ยางธรรมชาติประมาณร้อยละ 35) มีปริมาณโปรตีนต่ํากว่าร้อยละ1 (ยางธรรมชาติ ร้อยละ 1- 1.5) จึงไม่เกิดการแพ้เหมือนโปรตีนในยางธรรมชาติผลผลิตน้ํายาง 120 – 200 กิโลกรัมต่อไร่ ปี 2555 - 2559 บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ร่วมกับสถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกา ได้ทุ่มงบวิจัยกว่า 200 ล้านบาท ทําการวิจัยและพัฒนาใช้ยางวายยูเล่แห้งผลิตยางล้อบริษัท Bridgestone มีแผนพัฒนาการใช้ยางวายยูเล่ควบคู่ไปกับยางพาราโดยตั้งเป้าในปี 2593 (ค.ศ. 2050) วัสดุทุกอย่างที่ใช้จะต้องมาจากวัสดุธรรมชาติ 100% 1.1.2 รัสเซียนแดนดิไลออน (Russian dandelion) เป็นวัชพืชไม้พุ่มพบในคาซัคสถานมากว่า 80 ปีแล้วขึ้นอยู่ในเขตอบอุ่นแถบ เอเชียกลางมีลําต้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตรดอกสีเหลืองขนาดประมาณ 1 นิ้ว ให้ผลผลิตได้ 2 คร้ังต่อปี รากเป็นแหล่งให้น้ํายางมีน้ํายางประมาณร้อยละ 10 - 20 มากกว่าวายยูเล่แต่น้อยกว่ายางธรรมชาติ ขั้นตอนการผลิตน้ํายางโดยนํารากมาแช่ในน้ําร้อนแล้วบดให้ผิวของรากออกนําไปแช่ในน้ํายางจาก


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 176 - รากจะลอยขึ้นไปด้านบน จากนั้นตักยางนําไปล้างน้ําอีกครั้งเพื่อล้างสิ่งสกปรกจะได้ยางที่พร้อมจะ นําไปใช้ผลิตยางล้อรถยนต์ได้ 80 กิโลกรัมต่อไร่และจะพัฒนาให้ได้ผลผลิต 240 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งเป็นผลผลิตที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ 1.1.3 ยางสังเคราะห์ (Synthetic Rubber) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบยางธรรมชาติแต่มีความยืดหยุ่นน้อย กว่ายางธรรมชาติส่วนจุดอ่อนของยางธรรมชาติคือ ไม่ทนต่อสารเคมีน้ํามัน ความร้อน ออกซิเจน โอโซนมีสิ่งสกปรกเจือปนและมีโปรตีนที่ทําให้เกิดการแพ้ซึ่งตรงข้ามกับยางสังเคราะห์ ผลที่ได้จากการสังเคราะห์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยการกลั่นน้ํามันดิบหรือการแยกก๊าซ ธรรมชาติจะได้สารตั้งต้นหลักคือ บิลทาไดอิน (Buta diene) และนําสารดังกล่าว มาใช้ในการสังเคราะห์ ได้เป็นยางสังเคราะห์ขึ้นมาหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีความเหมาะสมในการใช้งานของผลิตภณฑ์ แตกต่างกันยางสังเคราะห์หลัก ๆ มี 8 ชนิด ชนิดที่สําคัญใช้ในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เป็นหลัก คือยางเอสบีอาร์ Styrene Butadiene Rubber (SBR) มีปริมาณการใช้ร้อยละ 49.6 ของการใช้ยาง สังเคราะห์ของโลก รองมาเป็นยางบีอาร์ Butadiene Rubber (BR) มีปริมาณการใช้ร้อยละ 21.4 ของการใช้ยางสังเคราะห์ของโลก 1.1.4 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ยางสังเคราะห์ 1.1.4.1 ยางล้อรถยนต์ประกอบด้วยหลายส่วนรวมทั้งแก้มยางและดอกยางใน ส่วนของดอกยางนิยมใช้ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติเพราะยางธรรมชาติมีสมบัติเด่นในเรื่อง ความยืดหยุ่นและการถ่ายเทความร้อนส่วนยางสังเคราะห์ช่วยทนการสึกหรอดีขึ้น 1.4.1.2 ผลิตภัณฑ์ยางที่ต้องทนทานต่อสภาพแวดล้อมในบรรยากาศ เช่น แสงแดดโอโซนหรือความร้อนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้แก่ขอบกระจกรถยนต์อาคารต่าง ๆ อะไหล่ในห้อง เครื่องยนต์มีความจําเป็นต้องใช้ยางสังเคราะห์ผสมกับยางธรรมชาติในอัตราส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้มี อายุการใช้งานที่ยืนยาวขึ้นแม้ว่ายางธรรมชาติจะมีสมบัติทางกายภาพที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการฉีกขาด ทนต่ออุณหภูมิต่ําเช่นที่ -40 องศาเซลเซียส หรือทนทานต่อการขัดสีต่าง ๆ แต่สมบัติที่ด้อย คือ ความทนทานต่อโอโซนและแสงแดดค่อนข้างต่ํา 1.4.1.3 ผลิตภัณฑ์ยางที่ต้องทนทานต่อน้ํามันปิโตรเลียม ยางสําเร็จรูป จําเป็นต่องทนทานต่อน้ํามันปิโตรเลียม ได้แก่แหวนยางพื้นรองเท้ายางที่ใช้ในอุตสาหกรรม ท่อลําเลียงน้ํามัน อะไหล่ยางอื่น ๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับน้ํามันปิโตรเลียม เช่น น้ํามันเครื่อง จารบี น้ํามันเบนซิน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องใช้ยางสังเคราะห์ที่มีสมบัติทนทานต่อน้ํามัน เช่น ยางเอ็นบีอาร์เป็นต้น


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 177 - ภาคผนวก ช. หลักเกณฑ ์ มาตรฐานการวัดกลิ่นและมลพิษอ ื่น ๆ ของโรงงานยางพารา 1. ข้อมูลเบื้องต้น 1.1 คณะกรรมการนโยบายของยางธรรมชาติแห่งชาติมีมติเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ จังหวัดอุดรธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางเพื่อแก้ไข ปัญหากรณีโรงงานแปรรูปยางพาราขั้นต้นในจังหวัดอุดรธานีถูกสั่งให้หยุดโรงงานชั่วคราวเนื่องจาก ปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อม 1.2 กรมควบคุมมลพษิรายงานนายกรัฐมนตรีดังนี้ 1.2.1 ระยะเร่งด่วน แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีมีกลิ่นเหม็นจากโรงงานยางพารา ที่จังหวัดอุดรธานีแล้ว 1.2.2 ระยะยาว เสนอให้มีการกําหนดมาตรฐานการควบคุมการระบายกลิ่นจาก การประกอบกิจการยางพารา 1.3 โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมค่าความเข้มกลิ่น และใช้วิธีการตรวจวิเคราะห์ค่า ความเข้มกลิ่นด้วยการดม มี 23 ประเภท ซึ่งไม่รวมโรงงานยางพารา 1.4 กรมควบคุมมลพิษ ประชุมหารือเพื่อกําหนดแนวทางแก้ปัญหากลิ่นเหม็นจาก การประกอบกิจการยางพารา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2560 มีมติให้การยางแห่งประเทศไทยหารือ ผู้ประกอบกิจการยางพาราทั้งหมด แล้วนําเสนอคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติแห่งชาติต่อไป 1.5 วันที่ 27 มิถุนายน 2560 การยางแห่งประเทศไทย จัดประชุมผู้ประกอบกิจการ ยางพารา 4 ราย และสมาคมยางพาราไทย สมาคมน้ํายางข้นไทย และสถาบันสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม (สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) มีข้อสรุปคือ 1.6 โรงงานผลิตยางธรรมชาติตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานประเภท 52 (3) ควรจําแนก เป็น 3 ประเภท คือ โรงงานยางแท่ง น้ํายางข้น และยางแผ่นรมควัน โรงงานยางแท่งมีปัญหาการ ร้องเรียนมากกว่าโรงงานประเภทอื่น จึงควรสํารวจโรงงานยางแท่งก่อนเป็นอันดับแรก 1.7 โรงงานประเภท 52 (3) สมควรกําหนดเป็นโรงงานชนิดพิเศษแทนประเภท 24 เพื่อให้การดําเนินงานของโรงงานและระเบียบในการกํากับการดูแลไม่เข้มงวดมากเกินไป 1.8 วิธีการตรวจวัดกลิ่นจากโรงงานสมควรใช้วิธีตรวจวัดโดยการดมกลิ่น ร่วมกับการ ตรวจวัดกลิ่นทางเคมีหรือกรณีมีทางเลือกอื่น ให้ใช้ร่วมกันเป็นแนวทางที่ 3


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 178 - 1.9 การตรวจเก็บข้อมูลในเรื่องกลิ่นของโรงงาน ควรมีการนํามาวิเคราะห์แยก ส่วนประกอบของกลิ่นว่าประกอบด้วยก๊าซชนิดใด ก๊าซที่ส่งผลกระทบก่อให้เกิดปัญหามลพิษ/ความ รําคาญ มีกี่ชนิด สามารถวัดได้เป็นค่าตัวเลข รวมทั้งมาตรฐานของกลิ่นที่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษ/ ความรําคาญ เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงงาน และหน่วยงานภายนอกสามารถติดตามและร่วม ตรวจสอบ 1.10 สํารวจโรงงานในการตรวจวัดกลิ่น ควรมีหน่วยงานภายนอกที่มีความรู้ ความชํานาญเข้าร่วมในการตรวจวัดกลิ่น โดยให้หน่วยงานภายนอกเสนอแนวทาง วิธีการและเทคนิค ในการตรวจวัดค่าความเข้มของกลิ่น 1.11 เนื่องจากการบังคับใช้มาตรฐานควบคุมค่าความเข้มข้นของกลิ่นในอนาคต จะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบด้วยหลายหน่วยงาน เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริม คุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ ดังนั้น ก่อนออกเป็น มาตรฐาน สมควรให้ดําเนินงานสอดคล้องกันของทุกหน่วยงาน 1.12 การสุ่มตัวอย่างโรงงาน จํานวนโรงงาน สถานที่ตั้งของโรงงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลเป็น ภาพรวมอย่างถูกต้อง สมควรมีแนวทางในการกําหนดตัวอย่างร่วมกัน 2. โดยสรุปในภาคของโรงงานยางพารา 2.1 โรงงานร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีประเด็นคือ การใช้ ผลการตรวจค่าวิเคราะห์ค่าความเข้มกลิ่น ด้วยการดมจากโรงงานไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจาก โรงงานยางพาราไม่อยู่ในบัญชีกฎหมายยางที่ได้กําหนดมาตรฐานและวิธีการตรวจสอบกลิ่นในอากาศ โรงงาน พ.ศ. 2548 2.2 ผลการตรวจวัดค่าความเข้มข้นกลิ่นด้วยการดมขาดความน่าเชื่อถือ 2.3 ขณะนี้โรงงานได้ขออนุญาตเปิดทํากิจการตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา39 (2) โดยมีการลงนาม MOU ถ้าหากมีการร้องเรียนเรื่องกลิ่นก็ต้องปิดกิจการชั่วคราว ควรหาแนวทางแก้ไขป้องกันมิให้เกิดกลิ่น จะเหมาะสมกว่าการใช้วิธีการดมกลิ่นแล้ว นําไปสู่การปิดโรงงาน โดย ดร.วราภรณ์ขจรไชยกูล อดีตผู้อํานวยการโครงการวิจัยแห่งชาติ : จึงสมควรให้สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเผยแพร่เรื่องนี้ไห้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมต่อไป


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 179 - ภาคผนวก ซ. ภาพการศึกษาดูงานของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 181 - การเดินทางไปศึกษาดูงานด้านการเกษตร ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ณ จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 10 – 11 ตุลาคม 2560 ศึกษาดูงานการใช้ยางและการแปรรูปยางพาราโดยเฉพาะกระบวนการผลิตยางสังเคราะห์ ณ บริษัทอูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) จํากัด


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 182 - การประชุมเพื่อสรุปผลการพิจาณาศึกษาการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ร่วมกับการยางแห่งประเทศไทย กรมวิชาการเกษตรกรมพัฒนาที่ดินสํานักงานเศรษฐกิจ การเกษตรกรมโรงงานอุตสาหกรรมกรมควบคุมมลพิษ นักวิชาการ เกษตรกร และผู้ประกอบการ


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 183 - เยี่ยมชมการผลิตน้ํายางข้น การหาค่า DRC การผลิตยางสกริมเครปและการกําจัดกลิ่นของ โรงงาน ณ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็ก คอร์ปเรชั่น ประเทศไทย จํากัด (มหาชน)


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 184 - เยี่ยมชมศึกษาดูงานกระบวนการผลิตยางแท่ง STR 20 และกระบวนการกําจัดกลิ่นที่ทันสมัย โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ณ บริษัทมารวยรับเบอร์จํากัด


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 185 - เยี่ยมชมการดําเนินกิจการโรงรมควันยางพาราของชุมนุมสหกรณ์จังหวัดระยองจํากัด


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 186 - รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมการดําเนินกิจการตลาดกลางยางพาราภาคตะวันออก


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 187 - การเดินทางไปศึกษาดูงานด้านการเกษตรและสหกรณ์ ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ณ จังหวัดอุดรธานีและบึงกาฬในวันที่ 20 - 21 มีนาคม 2561


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 188 - การประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราการส่งเสริมการใช้ยางพารา และมาตรฐานการวัดกลิ่นร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคเกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ จังหวัดบึงกาฬ


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 189 - การประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราการส่งเสริมการใช้ยางพารา และมาตรฐานการวัดกลิ่นร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคเกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ จังหวัดอุดรธานี


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 190 - เยี่ยมชมโรงงานผลิตหมอนยางพาราของชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยาง จังหวัดบึงกาฬ


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 191 - เยี่ยมชมถนนยางพาราดินซีเมนต์ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการสร้างถนนรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มปริมาณ การใช้ยางพาราภายในประเทศ ณ อําเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 192 - เยี่ยมชมและศึกษาดูงานเกี่ยวกับการดําเนินงานของโรงงาน 5 พร้อมทั้งรับฟังปัญหาอุปสรรค ในการดําเนินงานและแนวทางในการแก้ไขปัญหา การเดินทางไปศึกษาดูงานด้านการเกษตรของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติณ จังหวัดสุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช และสงขลา ระหว่างวันที่ 7 – 9 กรกฎาคม 2561


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 193 - รับฟังการบรรยายสรุปผลการดําเนินการจัดการสวนยางอย่างยั่งยืนด้วยระบบ FSC ณ บริษัท เมโทร เอ็ม.ดี.เอฟ. จํากัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี เยี่ยมชมการผลิตยางแผ่นรมควัน การผลิตแผ่นปูพื้นสนามฟุตซอล และตลาดเครือข่าย ณ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านพ่วงพรมคร จังหวัดสุราษฎร์ธานี


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 194 - เยี่ยมชมสวนยางของเกษตรกรที่ใช้ฮอร์โมน เอทธิลีน เพื่อลดต้นทุน/เพิ่มผลผลิตยาง ณ อําเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 195 - เยี่ยมชมการทําสวนยางพาราของกลุ่มเกษตรกรทําสวนบ้านนาปรังพัฒนา จังหวัดสงขลา


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 196 - เยี่ยมชมดําเนินงานของสหกรณ์ชุมนุมสหกรณ์อุตสาหกรรมยางพาราภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 197 -


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 198 - เยี่ยมชมโรงงานการยางแห่งประเทศไทย (กองจัดการโรงงาน 3) และตลาดกลางยางพารา อําเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 199 - เยี่ยมชมโรงงานการยางแห่งประเทศไทย (กองจัดการโรงงาน 2) อําเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 200 - ศึกษาดูงานการบริหารงานของตลาดกลางยางพารา อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา


รายงานการพิจารณาศึกษา ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ - 201 - เยี่ยมชมโครงการปากแม่น้ําเทพา จุดเชื่อมโยงเศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่าง อําเภอเทพา จังหวัดสงขลา


รายงานคณะกรรมาธิการสามญัเรื่อง ภาพรวมของยางพาราทั้งระบบ ผู้ รับผิดชอบ : คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปีที่พิมพ ์ : พ.ศ. 2562 เบอร ์โทร : 0 2831 9150 – 1 จัดพิมพ ์โดย : สํานักการพิมพ์ สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภา โทรศัพท 0 2831 5829, 0 2831 9471-2, 0 2831 9475-6 ์


Click to View FlipBook Version