The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนเต็ม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 121 อัญธิชา อินทะจักร, 2024-01-21 01:20:40

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนเต็ม

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนเต็ม

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง จำนวนเต็ม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๙๒ (ชุมชนนาข่า) นางสาวอัญธิชา อินทะจักร รหัสประจำตัวนักศึกษา 63040140121 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 รหัสวิชา ED16401 (INTERSHIP IN SCHOOL 1) คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาราชภัฏอุดรธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง จำนวนเต็ม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๙๒ (ชุมชนนาข่า) นางสาวอัญธิชา อินทะจักร รหัสประจำตัวนักศึกษา 63040140121 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 รหัสวิชา ED16401 (INTERSHIP IN SCHOOL 1) คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาราชภัฏอุดรธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566


ก คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 นี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และให้นักเรียนบรรลุตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ผู้จัดทำจึงได้ศึกษาสาระการเรียนรู้ เทคนิค วิธีการสอน การวัดและ ประเมินผล มาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในครั้งนี้ แผนการจัดการเรียนรู้ในเล่ม 1 นี้ ประกอบไปด้วย ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์ เรียนรู้อะไร ในคณิตศาสตร์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ คุณภาพผู้เรียนเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สมรรถนะ สำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์สำคัญของผู้เรียน ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน โครงสร้างรายวิชา แผนการประเมินผลการเรียนรู้การ วิเคราะห์ตัวชี้วัดเพื่อกำหนดน้ำหนักคะแนน โครงสร้างกำหนดการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วย การเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง จำนวนเต็ม เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพอย่างแท้จริง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ จะสามารถนำไปใช้ประกอบการจัดการ เรียนการสอนรายวิชาคณิตศาสตร์ นำไปสู่การพัฒนาที่ถูกต้องและเกิดผลแก่ผู้เรียนเป็นอย่างดี อัญธิชา อินทะจักร 15 พฤษภาคม 2566


ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ง ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์ ง เรียนรู้อะไรในคณิตศาสตร์ ง สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ จ คุณภาพผู้เรียนเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ฉ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ช สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ช คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการเรียนคณิตศาสตร์ ซ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ฌ คำอธิบายรายวิชา ฎ โครงสร้างรายวิชา ฏ ตารางวิเคราะห์หลักสูตร ฑ แผนการประเมินผลการเรียนรู้ ฒ การวิเคราะห์ตัวชี้วัดเพื่อกำหนดน้ำหนักคะแนน ณ โครงสร้างกำหนดการสอน ต หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนเต็ม แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง จำนวนเต็ม 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม 9 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การบวกจำนวนเต็มชนิดเดียวกัน 18 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การบวกจำนวนเต็มที่ต่างชนิดกัน 27 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การบวกจำนวนเต็มโดยใช้ค่าสัมบูรณ์ 37 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง จำนวนตรงข้าม 47 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การลบจำนวนเต็ม 56 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง โจทย์ปัญหาการลบจำนวนเต็ม 64 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง การคูณจำนวนเต็ม (1) 72


ค สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง การคูณจำนวนเต็ม (2) 82 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณจำนวนเต็ม 91 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง การหารจำนวนเต็ม 99 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม 109 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 เรื่อง โจทย์ปัญหาการหารจำนวนเต็ม 119 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 เรื่อง สมบัติของการบวกและการคูณจำนวนเต็ม 128 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 เรื่อง สมบัติของหนึ่งและศูนย์ 140 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 เรื่อง ทดสอบท้ายบท 149


ง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เนื่องจาก คณิตศาสตร์ช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบมีแบบแผน สามารถ วิเคราะห์ปัญหา หรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่นๆ อันเป็น รากฐานในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพ และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ ทัดเทียมกับนานาชาติ การศึกษาคณิตศาสตร์จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า อย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัตน์ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จัดทำขึ้นโดยคำนึงถึงการ ส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นสำคัญ นั่นคือ การเตรียม นักเรียนให้มีทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี การสื่อสารและการร่วมมือ ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของ ระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ทั้งนี้การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมที่ จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พร้อมที่จะประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้น สถานศึกษาควรจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมตามศักยภาพของนักเรียน เรียนรู้อะไรในคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้จัดเป็น 3 สาระการเรียนรู้ ได้แก่ จำนวนและพืชคณิต การวัดและเรขาคณิต และสถิติและความน่าจะเป็น จำนวนและพืชคณิต เรียนรู้เกี่ยวกับระบบจำนวนจริง สมบัติเกี่ยวกับจำนวนจริง อัตราส่วน ร้อยละ การประมาณค่า การแก้ปัญหาเกี่ยวกับจำนวน การใช้จำนวนในชีวิตจริง แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน เชต ตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหุนาม สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เมทริกซ์ จำนวนเชิงช้อน ลำดับและอนุกรม และการนำความรู้ เกี่ยวกับจำนวนและพืชคณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ


จ การวัดและเรขาคณิต เรียนรู้เกี่ยวกับความยาว ระยะทาง น้ำหนัก พื้นที่ ปริมาตรและความ จุ เงินและเวลา หน่วยวัดระบบต่าง ๆ การคาดคะเนเกี่ยวกับการวัด อัตราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิต และสมบัติของรูปเรขาคณิต การนึกภาพ แบบจำลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิตการแปลง ทางเรขาคณิตในเรื่องการเลื่อนขนาน การสะท้อน การหมุน เรขาคณิตวิเคราะห์ เวกเตอร์ในสามมิติ และการนำความรู้เกี่ยวกับ การวัดและเรขาคณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ สถิติและความน่าจะเป็น เรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งคำถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมข้อมูล การ คำนวณค่าสถิติ การนำเสนอและแปลผลสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลักการนับ เบื้องต้น ความน่าจะเป็น การแจกแจงของตัวแปรสุ่ม การใช้ความรู้เกี่ยวกับสถิติและความน่าจะเป็น ในการอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ และช่วยในการตัดสินใจ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดรายวิชาคณิตศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง2560) มีดังนี้ สาระที่ 1 จำนวนและพืชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และ นำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธ์ หรือช่วยแก้ปัญหาที่ กำหนดให้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และนำไปใช้ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์ รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิตความสัมพันธ์ ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวยการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเป็น และนำไปใช้


ฉ คุณภาพผู้เรียนเมื่อจบขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เมื่อผู้เรียนจบการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้เรียนควรจะมีความสามารถดังนี้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจำนวนจริง ความสัมพันธ์ของจำนวนจริง สมบัติของจำนวน จริง และใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง 2. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ และใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ใน การแก้ปัญหาในชีวิตจริง 3. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม และใช้ความรู้ความ เข้าใจนี้ ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง 4. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมการเชิงส้นตัวแปรเดียว ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร และอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว และใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง 5. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพหุนาม การแยกตัวประกอบของพหุนามสมการกำลังสอง และใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ 6. มีความรู้ความเข้าใจและใช้ความรู้เกี่ยวกับคู่อันดับ กราฟของความสัมพันธ์ และฟังก์ชัน กำลังสอง และใช้ความรู้ความเข้าใจเหล่านี้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง 7. มีความรู้ความเข้าใจทางเรขาคณิตและใช้เครื่องมือ เช่น วงเวียนและสันตรง รวมทั้ง โปรแกรม The Geometer's Sketchpad หรือโปรแกรมเรขาคณิตพลวัตอื่นๆ เพื่อสร้างรูปเรขาคณิต ตลอดจนนำความรู้เกี่ยวกับการสร้างนี้ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง 8. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปเรขาคณิตสองมิติ และรูปเรขาคณิตสามมิติ และความรู้ ความเข้าใจนี้ในการหาความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติ และรูปเรขาคณิตสามมิติ 9. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตรของปริซึม ทรงกระบอก พีระมิด กรวย และทรงกลม และใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง 10. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมบัติของเส้นขนาน รูปสามเหลี่ยมที่เท่ากันทุกประการ รูป สามเหลี่ยมคล้าย ทฤษฎีบทพีทาโกรัสและบทกลับ และนำความรู้ความเข้าใจนี้ไปใช้ในการแก้ปัญหา ในชีวิตจริง 11. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการแปลงทางเรขาคณิต และนำความรู้ความเข้าใจนี้ไปใช้ใน การแก้ปัญหาในชีวิตจริง 12. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องอัตราส่วนตรีโกณมิติและนำความรู้ความเข้าใจนี้ไปใช้ในการ แก้ปัญหาในชีวิตจริง 13. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องทฤษฎีบทเกี่ยวกับวงกลมและนำความรู้ความเข้าใจนี้ไปใช้ใน การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์


ช 14. มีความรู้ความเข้าใจทางสถิตีในการนำเสนอข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และแปลความหมาย ข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับแผนภาพจุด แผนภาพต้น-ใบ ฮิสโทแกรม ค่ากลางของข้อมูล และแผนภาพกล่อง และใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ รวมทั้งนำสถิติไปใช้ในชีวิตจริงโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม 15. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความน่าจะเป็นและใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ในการแก้ปัญหา ในชีวิตจริง ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เป็นความสามารถที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในที่นี้ เน้นที่ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ที่จำเป็นและ ต้องการพัฒนาให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ได้แก่ความสามารถต่อไปนี้ 1. การแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผน แก้ปัญหาและเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ พร้อมทั้ง ตรวจสอบความถูกต้อง 2. การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ เป็นความสามารถในการใช้รูปภาษา และสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน 3. การเชื่อมโยง เป็นความสามารถในการใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือใน การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ เนื้อหาต่าง ๆ หรือศาสตร์อื่น ๆ และนำไปใช้ในชีวิตจริง 4. การให้เหตุผล เป็นความสามารถในการให้เหตุผล รับฟังและให้เหตุผลสนับสนุนหรือโต้แย้ง เพื่อนำไปสู่การสรุป โดยมีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ 5. การคิดสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการขยายแนวคิดที่มีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิดใหม่ เพื่อปรับปรุง พัฒนาองค์ความรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจา ต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล


ซ และความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อ ตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อ ตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความ ขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมและ การรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยี ด้าน ต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้การ สื่อสารการทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์สำคัญของผู้เรียน ในหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ทักษะ และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ดังต่อไปนี้ 1. ทำความเข้าใจหรือสร้างกรณีทั่วไปโดยใช้ความรู้ที่ได้จากการศึกษากรณีตัวอย่างหลาย ๆ กรณี 2. มองเห็นว่าความสามารถใช้คณิตศาสตร์แก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ 3. มีความมุมานะในการทำความเข้าใจปัญหาและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 4. สร้างเหตุผลเพื่อสนับสนุนแนวคิดของตนเองหรือโต้แย้งแนวคิดของผู้อื่นอย่างสมเหตุสมผล 5. ค้นหาลักษณะที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และประยุกต์ใช้ลักษณะดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจหรือ แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ


ฌ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สาระที่ 1 จำนวนและพืชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลัง เป็นจำนวนเต็มในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และ ปัญหาในชีวิตจริง จำนวนตรรกยะ - จำนวนเต็ม - สมบัติของจำนวนเต็ม - การนำความรู้เกี่ยวกับจำนวนเต็มไปใช้ในการ แก้ปัญหา 2. เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้ กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกในการแก้ปญหา คณิตศาสตร์และปญหาในชีวิตจริงในชีวิตจริง จำนวนตรรกยะ - เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก - การนำความรู้เลขยกกำลังไปใช้ในการ แก้ปญหา 3. เข้าใจและประยุกต์ใช้อัตราส่วน สัดส่วน และร้อย ละ ในการแก้ปญหาคณิตศาสตร์และปญหาใน ชีวิตจริง อัตราส่วน - อัตราส่วนของจำนวนหลาย ๆ จำนวน - สัดส่วน - การนำความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และ ร้อยละไปใช้ในการแก้ปญหา


ญ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิตสมบัติของรูปเรขาคณิตความสัมพันธ์ ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. ใช้ความรู้ทางเรขาคณิตและเครื่องมือ เช่น วง เวียนและสันตรง รวมทั้งโปรแกรม The Geometer’s Sketchpad หรือ โปรแกรมเรขาคณิต พลวัตอื่น ๆ เพื่อสร้าง รูปเรขาคณิต ตลอดจนนำ ความรู้เกี่ยวกับ การสร้างนี้ไปประยุกต์ใช้ในการ แก้ปญหาในชีวิตจริง การสร้างทางเรขาคณิต - การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต - การสร้างรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช้กา สร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต - การนำความรู้เกี่ยวกับการสร้างพื้นฐานทาง เรขาคณิตไปใช้ในชีวิตจริง 2. เข้าใจและใช้ความรู้ทางเรขาคณิตในการวิเคราะห์ หาความสัมพันธ์ระหว่าง รูปเรขาคณิตสองมิติและรูป เรขาคณิต สามมิติ มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต - หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ - ภาพที่ได้จากการมองด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบนของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบ ขึ้นจากลูกบาศก์


ฎ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101 คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาเรียน 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ ฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ อันได้แก่ การ แก้ปัญหาการให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ การเชื่อมโยง ความรู้ต่างๆทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่นๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในสาระต่อไปนี้ จำนวนเต็ม สมบัติของจำนวนเต็ม การนำความรู้เกี่ยวกับจำนวนเต็มไปใช้ในการแก้ปัญหา การสร้างทางเรขาคณิต การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต การสร้างรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช้การ สร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต การนำความรู้เกี่ยวกับการสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิตไปใช้ในชีวิตจริง อัตราส่วน อัตราส่วนของจำนวนหลาย ๆ จำนวน สัดส่วน การนำความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละไปใช้ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ ภาพที่ได้จากการมอง ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบนของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศก์ เลขยกกำลังเข้าใจและอธิบายเกี่ยวกับเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มคูณและ หารเลขยกกำลังที่มีฐานเดียวกันและเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มได้เขียนแสดงจำนวนในรูปสัญกรณ์ วิทยาศาสตร์ โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริงทดลองสรุปรายงานเพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง สร้างสรรค์รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงานอย่างเป็นระบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีระเบียบวินัยมุ่งมั่นในการ ทำงานอย่างมี ระบบ ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวิจารณญาณ รู้จักนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต ได้อย่างพอเพียง รวมทั้งมี เจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 2.2 ม.1/1, ม.1/2 รวมทั้งหมด 4 ตัว


ฏ โครงสร้างรายวิชา รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.5 หน่วยกิ หน่วย ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 1 จำนวน เต็ม ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและ ความสัมพันธ์ของจำนวน ตรรกยะ และใช้สมบัติของ จำนวนตรรกยะในการแก้ ปญหาคณิตศาสตร์และ ปญหาในชีวิตจริง - จำนวนเต็ม - สมบัติของจำนวนเต็ม - การนำความรู้ เกี่ยวกับจำนวนเต็มไป ใช้ในการแก้ปัญหา 17 15 2 การสร้าง ทาง เรขาคณิต ค 2.2 ม.1/1 ใช้ความรู้ทางเรขาคณิตและ เครื่องมือ เช่น วงเวียนและ สันตรง รวมทั้งโปรแกรม The Geometer’s Sketchpad หรือ โปรแกรม เรขาคณิตพลวัตอื่น ๆ เพื่อ สร้าง รูปเรขาคณิต ตลอดจน นำความรู้เกี่ยวกับ การสร้าง นี้ไปประยุกต์ใช้ในการ แก้ปญหาในชีวิตจริง - การสร้างพื้นฐานทาง เรขาคณิต - การสร้างรูป เรขาคณิตสองมิติโดย ใช้กาสร้างพื้นฐานทาง เรขาคณิต - การนำความรู้ เกี่ยวกับการสร้าง พื้นฐานทางเรขาคณิต ไปใช้ในชีวิตจริง 11 12 สอบกลางภาค 1 15


ฐ หน่วย ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 3 เลขยก กำลัง ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบัติของเลข ยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็น จำนวนเต็มบวกในการ แก้ปญหาคณิตศาสตร์และ ปญหาในชีวิตจริง - เลขยกกำลังที่มีเลขชี้ กำลังเป็นจำนวนเต็ม บวก - การนำความรู้เลขยก กำลังไปใช้ในการแก้ป ญหา 9 8 4 อัตราส่วน สัดส่วน และร้อย ละ ค 1.1 ม.1/3 เข้าใจและประยุกต์ใช้ อัตราส่วน สัดส่วน และร้อย ละ ในการแก้ปญหา คณิตศาสตร์และปญหาใน ชีวิตจริง - อัตราส่วนของจำนวน หลาย ๆ จำนวน - สัดส่วน - การนำความรู้ เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละไป ใช้ในการแก้ปญหา 17 15 5 รูป เรขาคณิต สองมิติ และสาม มิติ ค 2.2 ม.1/2 เข้าใจและใช้ความรู้ทาง เรขาคณิตในการวิเคราะห์หา ความสัมพันธ์ระหว่าง รูป เรขาคณิตสองมิติและรูป เรขาคณิต สามมิติ - หน้าตัดของรูป เรขาคณิตสามมิติ - ภาพที่ได้จากการมอง ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบนของรูป เรขาคณิตสามมิติที่ ประกอบขึ้นจาก ลูกบาศก์ 6 5 สอบปลายภาค 1 30 รวม 60 100


ฑ ตารางวิเคราะห์หลักสูตร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปีการศึกษา 2566 รหัสวิชา ค21101 คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาเรียน 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน สาระหลัก หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด ลำดับ ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต 1 3 4 จำนวนเต็ม เลขยกกำลัง อัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ค 1.1 ม.1/1 ค 1.1 ม.1/2 ค 1.1 ม.1/3 สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต 2 5 การสร้างทางเรขาคณิต รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ค 2.2 ม.1/1 ค 2.2 ม.1/2


ฒ แผนการประเมินผลการเรียนรู้ อัตราส่วนคะแนน ก่อนสอบกลางปี : สอบกลางปี : ก่อนสอบปลายปี : สอบปลายปี : คุณลักษณะและจิตพิสัย 20:20:20:30:10 แผนการประเมินผลการเรียนรู้และการมอบหมายภาระงาน 1. ก่อนสอบกลางปี 20 คะแนน 1.1 ทดสอบเก็บคะแนนท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 10 คะแนน 1.2 ทดสอบเก็บคะแนนท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 5 คะแนน 1.3 สมุดและใบกิจกรรมวิชาคณิตศาสตร์ 5 คะแนน 2. ประเมินจากการสอบกลางภาค 20 คะแนน 3. ก่อนสอบปลายปี 20 คะแนน 3.1 ทดสอบเก็บคะแนนท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 5 คะแนน 3.2 ทดสอบเก็บคะแนนท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 5 คะแนน 3.3 ทดสอบเก็บคะแนนท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 5 คะแนน 3.4 สมุดและใบกิจกรรมวิชาคณิตศาสตร์ 5 คะแนน 4. ประเมินจากการสอบปลายภาค 30 คะแนน 5. ประเมินจากคุณลักษณะและจิตพิสัย 5.1 ความสนใจและความตั้งใจในการเรียน 4 คะแนน 5.2 การมีส่วนร่วมในการเรียนและการทำงาน 3 คะแนน 5.3 ความรับผิดชอบ 3 คะแนน รวม 100 คะแนน


ณ การวิเคราะห์ตัวชี้วัดเพื่อกำหนดน้ำหนักคะแนน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 รหัสวิชา ค21101 เวลา 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.5 หน่วยกิตลำดับที่ ตัวชี้วัด ลำดับชั่วโมงที่สอน จำนวนชั่วโมงที่สอน คะแนนตัวชี้วัด คะแนนเก็บ ด้านความรู้ ( K) ด้านทักษะ ( P) คุณลักษณะ ( A) กลางภาค ปลายภาค 1 ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธ์ของ จำนวนตรรกยะ และใช้สมบัติของจำนวน ตรรกยะในการแก้ปญหาคณิตศาสตร์และป ญหาในชีวิตจริง 1- 17 17 15 6 6 3 2 ค 2.2 ม.1/1 ใช้ความรู้ทางเรขาคณิตและเครื่องมือ เช่น วงเวียนและสันตรง รวมทั้งโปรแกรม The Geometer’s Sketchpad หรือ โปรแกรม เรขาคณิตพลวัตอื่น ๆ เพื่อสร้าง รูป เรขาคณิต ตลอดจนนำความรู้เกี่ยวกับ การ สร้างนี้ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปญหาในชีวิต จริง 18- 28 10 10 5 3 2 สอบกลางภาค 1 20 3 ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลัง ที่มีเลข ชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกในการแก้ปญหา คณิตศาสตร์และปญหาในชีวิตจริง 29- 37 9 5 2 2 1


ด ลำดับที่ ตัวชี้วัด ลำดับชั่วโมงที่สอน จำนวนชั่วโมงที่สอน คะแนนตัวชี้วัด คะแนนเก็บ ด้านความรู้ ( K) ด้านทักษะ ( P) คุณลักษณะ ( A) กลางภาค ปลายภาค 4 ค 1.1 ม.1/3 เข้าใจและประยุกต์ใช้อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ ในการแก้ปญหาคณิตศาสตร์ และปญหาในชีวิตจริง 38- 54 17 15 7 6 2 5 ค 2.2 ม.1/2 เข้าใจและใช้ความรู้ทางเรขาคณิตในการ วิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่าง รูป เรขาคณิตสองมิติและรูปเรขาคณิต สามมิติ 55- 59 5 5 3 2 สอบปลายภาค 1 30 รวม 58 60 50 20 20 10 20 30


ต โครงสร้างกำหนดการสอน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 รหัสวิชา ค21101 เวลา 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.5 หน่วยกิต หน่วยการเรียนรู้ ลำดับที่ของแผน จำนวน ชั่วโมง วันที่สอน หน่วยที่1 จำนวนเต็ม 1. ปฐมนิเทศและเตรียมความพร้อม 1 16/05/2566 2. การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม 1 17/05/2566 3. การบวกจำนวนเต็มชนิดเดียวกัน 1 18/05/2566 4. การบวกจำนวนเต็มที่ ต่างชนิดกัน 1 23/05/2566 5. การบวกจำนวนเต็มโดยใช้ ค่าสัมบูรณ์ 1 24/05/2566 6. จำนวนตรงข้าม 1 25/05/2566 7. การลบจำนวนเต็ม 1 30/05/2566 8. โจทย์ปัญหาการลบจำนวนเต็ม 1 31/05/2566 9. การคูณจำนวนเต็ม (1) 1 01/06/2566 10. การคูณจำนวนเต็ม (2) 1 06/06/2566 11. โจทย์ปัญหาการคูณจำนวนเต็ม 1 07/06/2566 12. การหารจำนวนเต็ม 1 08/06/2566 13. การบวก ลบ คูณ หาร จำนวนเต็ม 1 13/06/2566 14. โจทย์ปัญหาการหารจำนวนเต็ม 1 14/06/2566 15. สมบัติของการบวกและการคูณ จำนวนเต็ม 1 15/06/2566 16. สมบัติของหนึ่งและศูนย์ 1 20/06/2566 17. ทดสอบท้ายบท 1 21/06/2566 รวม 17 ชั่วโมง


ถ หน่วยการเรียนรู้ ลำดับที่ของแผน จำนวน ชั่วโมง วันที่สอน หน่วยที่ 2 การสร้างทาง เรขาคณิต 18. จุด เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง รังสี และมุม 1 22/06/2566 19. การสร้างส่วนของเส้นตรง 1 27/06/2566 20. การแบ่งครึ่งส่วนของเส้นตรง 1 28/06/2566 21. การสร้างมุม 1 29/06/2566 22. การแบ่งครึ่งมุม 1 04/07/2566 23. การสร้างเส้นตั้งฉากที่จุดจุดหนึ่งบน เส้นตรงที่กำหนดให้ 1 05/07/2566 24. การสร้างเส้นตั้งฉากจากจุดภายนอก มายังเส้นตรงที่กำหนดให้ 1 06/07/2566 25. การสร้างมุมขนาดต่าง ๆ 1 11/07/2566 26. การสร้างเส้นขนาน 1 12/07/2566 27. การนำการสร้างพื้นฐานไปใช้ ในชีวิตจริง 1 13/07/2566 28. ทดสอบท้ายบท 1 18/07/2566 รวม 11 ชั่วโมง


ท หน่วยการเรียนรู้ ลำดับที่ของแผน จำนวน ชั่วโมง วันที่สอน หน่วยที่ 3 เลขยกกำลัง 29. ความหมายของเลขยกกำลัง 1 19/07/2566 30. การหาค่าของเลขยกกำลัง 1 20/07/2566 31. การเขียนจำนวนใด ๆ ในรูปเลขยกกำลัง 1 25/07/2566 32. การคูณเลขยกกำลังเมื่อเลขชี้ กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 1 26/07/2566 33. การคูณเลขยกกำลังที่มี ฐานต่างกัน 1 27/07/2566 34. การหารเลขยกกำลังเมื่อเลข ชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก (1) 1 01/08/2566 35. การหารเลขยกกำลังเมื่อเลข ชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก (2) 1 02/08/2566 36. การเขียนจำนวนที่มีค่ามากๆ ให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ 1 03/08/2566 37. ทดสอบท้ายบท 1 08/08/2566 รวม 9 ชั่วโมง


ธ หน่วยการเรียนรู้ ลำดับที่ของแผน จำนวน ชั่วโมง วันที่สอน หน่วยที่4 อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ 38. การเขียนอัตราสวน 1 09/08/2566 39. การหาอัตราสวนที่เทากับ อัตราสวนที่กำหนด 1 10/08/2566 40. การเขียนอัตราสวนแทนจำนวนท หลาย ๆ จำนวน 1 15/08/2566 41. การหาจำนวนมาแทนที่ตัวแปรใน สัดสวนที่กำหนด 1 16/08/2566 42. การแกโจทยปญหาสัดสวนทั่วไป 1 17/08/2566 43. การแกโจทยปญหาสัดสวนของ จำนวนหลายๆจำนวน 1 22/08/2566 44. การแกโจทยปญหาสัดสวนผกผัน 1 23/08/2566 45. หลักการแกโจทยปญหาสัดสวน 1 24/08/2566 46. การเขียนอัตราสวนใหอยู่ใน รูปร้อยละ 1 29/08/2566 47. การคํานวณเกี่ยวกับร้อยละ 1 30/08/2566 48. โจทยปญหาเกี่ยวกับร้อยละ 1 31/08/2566 49. โจทยปญหาการซื้อขายกับการ หาร้อยละ (1) 1 05/09/2566 50. โจทยปญหาร้อยละเกี่ยวกับการ ซื้อขาย (2) 1 06/09/2566 51. โจทยปญหาร้อยละเกี่ยวกับการ ซื้อขาย (3) 1 07/09/2566 52. โจทยปญหาร้อยละเกี่ยวกับการ ซื้อขายมากกวา 1 ครั้ง 1 12/09/2566 53. โจทยปญหาร้อยละเกี่ยวกับ ภาษีมูลคาเพิ่ม 1 13/09/2566 54. ทดสอบท้ายบท 1 14/09/2566 รวม 17 ชั่วโมง


น หน่วยการเรียนรู้ ลำดับที่ของแผน จำนวน ชั่วโมง วันที่สอน หน่วยที่5 รูปเรขาคณิตสองมิติ และสามมิติ 55. ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต สองมิติและสามมิติ 1 19/09/2566 56. ส่วนประกอบของรูปเรขาคณิต สามมิติ 1 20/09/2566 57. หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ 1 21/09/2566 58. ภาพที่ได้จากการมองทางด้านหน้า ด้านข้างและด้านบนของ รูปเรขาคณิตสามมิติ 1 26/09/2566 59. รูปเรขาคณิตที่ประกอบขึ้น จากลูกบาศก์ 1 27/09/2566 60. ทดสอบท้ายบท 1 28/09/2566 รวม 6 ชั่วโมง


1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนเต็ม เวลาเรียน 17 ชั่วโมง เรื่อง จำนวนเต็ม เวลา 1 ชั่วโมง สอนวันที่........เดือน.....................พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางสาวอัญธิชา อินทะจักร 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธ์ ของจำนวนตรรกยะ และใช้ สมบัติ ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ จำนวนเต็มสามารถจำแนกออกได้ คือ จำนวนเต็มบวก ศูนย์ และจำนวนเต็มลบ ซึ่งจำนวน เต็มบวกหรือจำนวนนับ ได้แก่ 1, 2, 3, ... ศูนย์ ได้แก่ 0 และจำนวนเต็มลบ ได้แก่ –1, –2, –3, ... 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อจบบทเรียนนี้แล้วนักเรียน 1. สามารถระบุหรือยกตัวอย่างจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้ (K) 2. สามารถจำแนกจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้ (P) 3. ทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง (A) 4. สาระการเรียนรู้ จำนวนเต็ม


2 5. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้(การสอนแบบปกติ) ขั้นนำ 1. ครูและนักเรียนสนทนาและทำความรู้จักกัน 2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และแจ้งการเก็บคะแนนให้นักเรียนได้ทราบ ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนนับเลข 1 – 10 พร้อมๆกัน 4. ครูอธิบายว่าจำนวนที่นักเรียนนับ1 – 10เป็นจำนวนเต็มบวกหรือจำนวนนับแล้วถาม คำถาม ดังนี้ 1) จำนวน 10 – 100 เป็นจำนวนเต็มบวกหรือไม่ เพราะอะไร 2) จำนวนที่ 101, 102, … เรียกว่าจำนวนอะไร 5. ให้นักเรียนนับจำนวนลดทีละ 2 เช่น จำนวนหลัง 0 จะได้เป็น -2, -4,… เรียกว่าจำนวนเต็มลบ และเรียกจำนวนศูนย์ ว่าศูนย์ 6. ครูเขียนเส้นจำนวนบนกระดาน และถามคำถาม ดังนี้ จำนวนเต็มลบ ศูนย์ จำนวนเต็มบวก 1) จากภาพเส้นจำนวนแบ่งออกเป็นกี่ส่วน และมีอะไรบ้าง (3 ส่วน คือ จำนวนเต็มลบ ศูนย์และจำนวนเต็มบวก) 2) จำนวนเต็มลบได้แก่ จำนวนใดบ้าง (-1 -2 -3 -4 และ -5) 3) จำนวนเต็มบวกได้แก่จำนวนใดบ้าง (1 2 3 4 5 และ 6) 4) 0 เป็นจำนวนนับหรือไม่ (0 ไม่ใช่จำนวนนับ) 5) 0 เป็นจำนวนเต็มที่เป็นจำนวนเต็มบวกหรือไม่ (0 ไม่ใช่จำนวนเต็มบวก) 6) 0 เป็นจำนวนเต็มลบหรือไม่ (0 ไม่ใช่จำนวนเต็มลบ) ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ค้นพบ 1) บนเส้นจำนวน จำนวนทางขวาจะมากกว่าจำนวนทางซ้ายเสมอ 2) 0 ไม่ใช่จำนวนเต็มบวก ไม่ใช่จำนวนเต็มลบ และไม่ใช่0 ไม่ใช่จำนวนนับ 3) จำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบไม่มีที่สิ้นสุด เป็นอนันต์ 4) เศษส่วนบางจำนวนใช้แทนจำนวนเต็มได้ เช่น 6 3 แทนด้วย 2 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5


3 ขั้นฝึกทักษะและการนำไปใช้ 8. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.1 ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐาน สสวท. 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 2. แบบฝึกหัดที่ 1.1 ข้อที่ 1 และข้อที่ 2 ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐาน สสวท. 6.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๙๒ (ชุมชนนาข่า) 2. สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต www.google.co.th 7. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. ระบุหรือยกตัวอย่างจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้ (K) การตอบคำถามในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. จำแนกจำนวนเต็มบวก ศูนย์ และ จำนวนเต็มลบได้ถูกต้อง (P) แบบประเมินแบบฝึกหัด 1.1 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 3. ทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง (A) แบบสังเกตพฤติกรรม รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป


4


5


6 จุดประสงค์การเรียนรู้ เกณฑ์การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. ระบุหรือยกตัวอย่างจำนวนเต็ม บวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้ (K) ระบุหรือ ยกตัวอย่าง จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้ ถูกต้องครบถ้วน ระบุหรือ ยกตัวอย่าง จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้ถูกต้อ บางส่วน ระบุหรือ ยกตัวอย่าง จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ไม่ได้ 2. จำแนกจำนวนเต็มบวก ศูนย์ และ จำนวนเต็มลบได้ถูกต้อง (P) จำแนกจำนวน เต็มบวก ศูนย์ และจำนวนเต็ม ลบได้ถูกต้อง จำแนกจำนวน เต็มบวก ศูนย์ และจำนวนเต็ม ลบได้ถูกต้อง บางส่วน จำแนกจำนวน เต็มบวก ศูนย์ และจำนวนเต็ม ลบไม่ได้ 3. ทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชื่อมั่นใน ตนเอง (A) ทำงานเป็น ระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมี ความเชื่อมั่นใน ตนเอง ทำงานเป็น ระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ แต่ไม่มี ความเชื่อมั่นใน ตนเอง ทำงานไม่เป็น ระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และไม่ มีความเชื่อมั่นใน ตนเอง เกณฑ์การผ่าน 7-9 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 4-6 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(ผ่านเกณฑ์การประเมิน) 1-3 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้


7 แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะและกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ เลขที่ รายการประเมิน ด้านความรู้(K) ด้านทักษะและ กระบวนการ (P) ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์(A) คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17


8 เลขที่ รายการประเมิน ด้านความรู้ ด้านทักษะและ กระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน 18 19 20 จำนวนนักเรียนที่ผ่าน ด้านความรู้ (K) ……………………………………..คน คิดเป็นร้อยละ.................... จำนวนนักเรียนที่ผ่าน ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) …………………..คน คิดเป็นร้อยละ.................... จำนวนนักเรียนที่ผ่าน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) …………………..คน คิดเป็นร้อยละ.......... ลงชื่อ....................................................ผู้ประเมิน (นางสาวอัญธิชา อินทะจักร) วันที่...........เดือน............................พ.ศ...............


9 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนเต็ม เวลาเรียน 17 ชั่วโมง เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม เวลา 1 ชั่วโมง สอนวันที่........เดือน.....................พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางสาวอัญธิชา อินทะจักร 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธ์ ของจำนวนตรรกยะ และใช้ สมบัติ ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ การเปรียบเทียบจำนวนเต็มสองจำนวนบนเส้นจำนวน จำนวนเต็มที่อยู่ทางด้านขวาของเส้น จำนวนจะมีค่ามากกว่าจำนวนเต็มที่อยู่ทางด้านซ้ายของเส้นจำนวนเดียวกันเสมอ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อจบบทเรียนนี้แล้วนักเรียน 1. สามารถเปรียบเทียบจำนวนเต็มได้ (K) 2. สามารถระบุหรือแสดงการเปรียบเทียบจำนวนเต็มได้ (P) 3. สามารถมีความกระตือรือร้น สนใจและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน (A) 4. สาระการเรียนรู้ การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม


10 5. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้(การสอนแบบปกติ) ขั้นนำ 1. ครูทบทวนจำนวนเต็มบวก จำนวนศูนย์ และจำนวนเต็มลบ 2. ครูสนทนาเกี่ยวกับจำนวนและการเปรียบเทียบจำนวนในชีวิตจริง เช่น - การเปรียบเทียบราคาสินค้าชนิดเดียวกันจากร้านต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ - การเปรียบเทียบอุณหภูมิของอากาศในประเทศต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการ เดินทาง ขั้นสอน 3. ครูนำเสนอการเปรียบเทียบจำนวนเต็มโดยการใช้เส้นจำนวน ดังนี้ 1) เปรียบเทียบ 1 กับ 4 4 อยู่ทางขวาของ 1 แสดงว่า 4 > 1 หรือ 1 อยู่ทางซ้ายของ 4 แสดงว่า 1 < 4 2) เปรียบเทียบ 0 กับ 5 5 อยู่ทางขวาของ 0 แสดงว่า 5 > 0 หรือ 0 อยู่ทางซ้ายของ 5 แสดงว่า 0 < 5 3) เปรียบเทียบ -2 กับ 3 3 อยู่ทางขวาของ -2 แสดงว่า 3 > -2 หรือ -2 อยู่ทางซ้ายของ 3 แสดงว่า -2 < 3 4) เปรียบเทียบ -1 กับ -5 -1 อยู่ทางขวาของ -5 แสดงว่า -1 > -5 หรือ -5 อยู่ทางซ้ายของ -1 แสดงว่า -5 < -1 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5


11 5) จงเรียงลำดับ 3, 0, -4, 2, 1, -2 จากน้อยไปหามาก เรียงจากน้อยไปมากได้ดังนี้ -4, -2, 0, 1, 2, 3 4. จากนั้นให้นักเรียนเปรียบเทียบจำนวนเต็มโดยใช้เส้นจำนวน เพื่อฝึกการนึกภาพ เกี่ยวกับตำแหน่งของจำนวนเต็มต่าง ๆ บนเส้นจำนวน บนหน้ากระดาน ขั้นสรุป 5. ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันดังนี้ อาจใช้เส้นขำนวนในการเปรียบเทียบจำนวนเต็มสองจำนวนที่ไม่เท่ากัน โดยการลง จุดบน เส้นจำนวน แล้วใช้หลักการ พิจารณาที่ว่า จำนวนเต็มที่อยู่ทางขวาจะ มากกว่าจำนวนเต็มที่อยู่ทางซ้ายเสมอ ขั้นฝึกทักษะและการนำไปใช้ 6. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.1 ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐาน สสวท. 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 2. แบบฝึกหัดที่ 1.1 ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 และข้อที่ 5 ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐาน สสวท. 6.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๙๒ (ชุมชนนาข่า) 2. สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต www.google.co.th -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5


12 7. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. เปรียบเทียบจำนวนเต็มได้ (K) การตอบคำถามในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 2. ระบุหรือแสดงการเปรียบเทียบ จำนวนเต็มได้ (P) แบบประเมินแบบฝึกหัด 1.1 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 3. มีความกระตือรือร้น สนใจและเข้า ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน (A) แบบสังเกตพฤติกรรม รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป


13


14


15 จุดประสงค์การเรียนรู้ เกณฑ์การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. สามารถเปรียบเทียบจำนวนเต็ม ได้ (K) เปรียบเทียบ จำนวนเต็มได้ ถูกต้องครบถ้วน เปรียบเทียบ จำนวนเต็มได้ถูก ต้อบางส่วน เปรียบเทียบ จำนวนเต็มไม่ได้ 2. สามารถระบุหรือแสดงการ เปรียบเทียบจำนวนเต็มได้ (P) ระบุหรือแสดง การเปรียบเทียบ จำนวนเต็มได้ ถูกต้อง ระบุหรือแสดง การเปรียบเทียบ จำนวนเต็มได้ ถูกต้อง บางส่วน ระบุหรือแสดง การเปรียบเทียบ จำนวนเต็มไม่ได้ 3. มีความกระตือรือร้น สนใจและ เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้น เรียน (A) มีการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นใน ชั้นเรียนกับเพื่อน ร่วมชั้นและ คุณครู มีการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นใน ชั้นเรียนกับเพื่อน ร่วมชั้น ไม่มีการ แลกเปลี่ยนความ คิดเห็นในชั้น เรียน เกณฑ์การผ่าน 7-9 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 4-6 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(ผ่านเกณฑ์การประเมิน) 1-3 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้


16 แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะและกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ เลขที่ รายการประเมิน ด้านความรู้(K) ด้านทักษะและ กระบวนการ (P) ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์(A) คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17


17 เลขที่ รายการประเมิน ด้านความรู้ ด้านทักษะและ กระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน 18 19 20 จำนวนนักเรียนที่ผ่าน ด้านความรู้ (K) ……………………………………..คน คิดเป็นร้อยละ.................... จำนวนนักเรียนที่ผ่าน ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) …………………..คน คิดเป็นร้อยละ.................... จำนวนนักเรียนที่ผ่าน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) …………………..คน คิดเป็นร้อยละ.......... ลงชื่อ....................................................ผู้ประเมิน (นางสาวอัญธิชา อินทะจักร) วันที่...........เดือน............................พ.ศ...............


18 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนเต็ม เวลาเรียน 17 ชั่วโมง เรื่อง การบวกจำนวนเต็มชนิดเดียวกัน เวลา 1 ชั่วโมง สอนวันที่........เดือน.....................พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางสาวอัญธิชา อินทะจักร 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ ของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการและการนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธ์ ของจำนวนตรรกยะ และใช้ สมบัติ ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ 1. การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก สามารถทำได้โดยการนำค่าสัมบูรณ์ของ จำนวนเต็มบวกมาบวกกันแล้วตอบเป็นจำนวนเต็มบวก 2. การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ สามารถทำได้โดยการนำค่าสัมบูรณ์ของจำนวน เต็มลบมาบวกกันแล้วตอบเป็นจำนวนเต็มลบ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อเรียนจบบทเรียนนี้แล้วนักเรียน 1. สามารถหาผลบวกของจำนวนเต็มที่กำหนดให้ได้ (K) 2. สามารถแสดงวิธีการหาผลบวกจำนวนเต็มได้ (P) 3. มีความมุ่งมั่นในการหาผลบวกจำนวนเต็ม (A) 4. สาระการเรียนรู้ การบวกจำนวนเต็ม


19 5. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้(การสอนแบบปกติ) ขั้นนำ 1. ครูทบทวนความรู้เรื่องการบวกจำนวน และการลบจำนวนนับ โดยใช้เส้นจำนวนดังนี้ หาผลบวก 4 + 3 โดยใช้วิธีการนับต่อ หาผลลบ 8 – 5 โดยใช้วิธีการนับถอยหลัง ขั้นสอน 2. ครูนำเสนอวิธีการบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก และการบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบดังนี้ 1) การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวกทำได้เช่นเดียวกับการบวกจำนวนนับ ด้วยจำนวนนับซึ่งสามารถใช้เส้นจำนวนแสดงการหาผลบวกโดยวิธีการนับต่อไปทางขวา 2) การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ สามารถใช้เส้นจำนวน แสดงการหา ผลบวกโดยวิธีการรนับต่อไปทางซ้าย 3. ครูยกตัวอย่างการบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก และการบวกจำนวนเต็ม ลบด้วยจำนวนเต็มลบโดยใช้เส้นจำนวน ดังนี้ 3.1 การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก ตัวอย่างที่ 1 4 + 3 วิธีทำ เริ่มต้นที่ 0 แล้วนับไปทางขวาถึง 4 และเมื่อบวกด้วย 3 ให้นับต่อไปทางขวา อีก 3 หน่วย ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ 7 ดังนี้ 3.2 การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8


20 ตัวอย่างที่2 (-4) + (-2) วิธีทำ เริ่มต้นที่ 0 แล้วนับไปทางซ้ายถึง -4 และเมื่อบวกด้วย -2 ให้นับต่อไปทางซ้าย อีก 2 หน่วย ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ -6 ดังนี้ 4. ครูย้ำวิธีการบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก และการบวกจำนวนเต็มลบด้วย จำนวนเต็มลบดังนี้ 1) การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวกทำได้เช่นเดียวกับการบวก จำนวนนับ ด้วยจำนวนนับซึ่งสามารถใช้เส้นจำนวนแสดงการหาผลบวก โดยวิธีการนับต่อไป ทางขวา 2) การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ สามารถใช้เส้นจำนวน แสดงการหา ผลบวกโดย วิธีการรนับต่อไปทางซ้าย ขั้นสรุป 5. ครูและนักเรียนสรุปบทเรียนร่วมกัน ขั้นฝึกทักษะและการนำไปใช้ 6. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 1.1 การบวกเลขจำนวนเต็ม 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 2. แบบฝึกหัด 1.1 การบวกเลขจำนวนเต็ม -9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1


21 6.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๙๒ (ชุมชนนาข่า) 2. สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต www.google.co.th 7. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. สามารถหาผลบวกของจำนวนเต็มที่ กำหนดให้ได้ (K) การตอบคำถามในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์ ระดับดีขึ้นไป 2. สามารถแสดงวิธีการหาผลบวก จำนวนเต็มได้(P) แบบประเมินแบบฝึกหัด 1.1 เรื่อง การบวกเลขจำนวนเต็ม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 3. มุ่งมั่นในการหาผลบวก จำนวนเต็ม(A) แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ ระดับดีขึ้นไป


22


23


24 จุดประสงค์การเรียนรู้ เกณฑ์การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. สามารถหาผลบวกของจำนวน เต็มที่กำหนดให้ได้ (K) หาผลบวกของ จำนวนเต็มที่ กำหนดให้ได้ ถูกต้องครบถ้วน หาผลบวกของ จำนวนเต็มที่ กำหนดให้ได้ ถูกต้องบางส่วน หาผลบวกของ จำนวนเต็มที่ กำหนดให้ไม่ได้ 2. สามารถแสดงวิธีการหาผลบวก จำนวนเต็มได้ (P) แสดงวิธีการหา ผลบวกจำนวน เต็มได้ถูกต้อง แสดงวิธีการหา ผลบวกจำนวน เต็มได้ถูกต้อง บางส่วน แสดงวิธีการหา ผลบวกจำนวนเต็ม ไม่ได้ 3. มีความมุ่งมั่นในการหาผลบวก จำนวนเต็ม (A) มีความมุ่งมั่นและ มีการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นใน ชั้นเรียนกับเพื่อน ร่วมชั้นและ คุณครู มีความมุ่งมั่นและ มีการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นใน ชั้นเรียนกับเพื่อน ร่วมชั้น ไม่มีความมุ่งมั่นและ การแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นในชั้น เรียน เกณฑ์การผ่าน 7-9 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 4-6 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(ผ่านเกณฑ์การประเมิน) 1-3 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้


25 แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะและกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ เลขที่ รายการประเมิน ด้านความรู้(K) ด้านทักษะและ กระบวนการ (P) ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์(A) คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการ ประเมิน คะแนนที่ ได้ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17


Click to View FlipBook Version