The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลบเดช พระบรมนาถบพิตร
๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Prateep Chankong, 2022-02-25 10:57:33

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 9

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลบเดช พระบรมนาถบพิตร
๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐

Keywords: ฺหนังสือ งานถวยพระเพลิง ร 9

คูม่ ือสอ่ื มวลชน

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช

บรมนาถบพติ ร
วันที่ ๒๕-๒๙ ตลุ าคม พุทธศักราช ๒๕๖๐

ค�ำ น�ำ

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตเม่ือวันพฤหัสบดีท่ี ๑๓
ตลุ าคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เวลา ๑๕ นาฬกิ า ๕๒ นาที
สริ พิ ระชนมพรรษาปที ่ี ๘๙ ทรงครองสริ ริ าชสมบตั ไิ ด้ ๗๐ ปี
การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จ
พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร นบั เปน็
ความสูญเสียคร้ังยิ่งใหญ่ส�ำหรับพสกนิกรชาวไทย และ
ประชาคมโลก พระราชกรณียกิจนานัปการตลอดรัชสมัย
ของพระองค์สะท้อนให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณ
พระอัจฉริยภาพ และความมุ่งม่ันพระราชหฤทัยท่ีจะทรง
ครองแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ทรงอุทิศ
พระองค์เพ่ือส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของ
ประชาชนชาวไทยใหพ้ ฒั นาไปอยา่ งยง่ั ยนื จนเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์
แก่สาธารณชน เปน็ ที่ยอมรับและสดุดีของนานาชาติ
คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงาน
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
จัดพิมพ์หนังสือคู่มือส่ือมวลชนเล่มนี้ข้ึน เพ่ือให้ข้อมูล
พน้ื ฐานทสี่ ำ� คญั และจำ� เปน็ ในการปฏบิ ตั งิ าน ไดแ้ ก่ ความรู้
เรอ่ื งพระราชประวตั ิ พระราชกรณยี กจิ โบราณราชประเพณี
การถวายพระเพลงิ พระบรมศพ หมายกำ� หนดการพระราชพธิ ี

ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ระหว่างวันท่ี ๒๕-๒๙
ตลุ าคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ การเชิญพระโกศพระบรมศพ
เพ่ือถวายพระเพลิง ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง
การเชิญพระบรมอัฐิ และพระบรมราชสรีรางคารกลับ
สู่พระบรมมหาราชวัง ซ่ึงล้วนมีแนวทางปฏิบัติสืบต่อกัน
มาเป็นงานมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ
คู่มือส่ือมวลชนเล่มน้ียังได้ให้รายละเอียดเร่ือง
สถานที่ปฏิบัติงานของส่ือมวลชน การให้บริการต่าง ๆ
ในศูนย์สื่อมวลชน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไป
อย่างสะดวกรวดเร็ว เพื่อแสดงความจงรักภักดีและ
เฉลิมพระเกียรติอย่างสูงสุดแด่พระบาทสมเด็จ
พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

คณะกรรมการฝา่ ยประชาสมั พนั ธ์
งานพระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร



สารบัญ

คพพบ�ำรรรนะมะบรำ�นาาาชทถปสบมรพะเดิตว็จรตั พิ ระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช ๒
๑๑

• พระราชประวัติ ๑๓
• พระราชกรณียกิจ ๒๕
• เสดจ็ สวรรคต ๕๗

บพการรระมจบนดั าางทถาสบนมพพเดริตะ็จรรพารชะพปิธรถี มวนิ าทยรพมรหะาเพภลมู งิพิ พลรอะดบลุ รยมเศดพช ๖๑
• โบราณราชประเพณีการถวายพระเพลงิ พระบรมศพ ๖๓
• หมายกำ�หนดการงานพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ ๗๓
• การจัดขบวนพระบรมราชอิสรยิ ยศ ๗๗

พระเมรุมาศและสงิ่ กอ่ สร้าง ๙๓
ภายในมณฑลพิธที อ้ งสนามหลวง ๙๓
• มณฑลพิธี ๙๗
• พระเมรมุ าศ ๑๐๑
• พระเบญจา ๑๐๑
• พระจติ กาธาน ๑๐๓
• ฉากบังเพลิง ๑๐๙
• ซ่าง หรือ สำ�สา้ ง ๑๐๙
• หอเปลอ้ื ง ๑๑๑
• ชาลา ๑๑๑
• พระท่ีนั่งทรงธรรม

• ศาลาลกู ขนุ ๑๑๕
• คด ๑๑๕
• ทับเกษตร ๑๑๕
• ทมิ ๑๑๗
• พลับพลายก ๑๑๗
• ราชวัติ ๑๑๙
• สตั วห์ มิ พานต์ ๑๑๙

สงิ่ กอ่ สร้างภายนอกมณฑลพธิ ที ้องสนามหลวง ๑๒๒
• เกยลา ๑๒๒
• พลบั พลายก ๑๒๓

เครื่องสูงสำ�คญั ส�ำ หรับพระบรมราชอสิ รยิ ยศ ๑๒๔
• ฉตั ร ๑๒๗
• ฉัตรแขวนหรือปัก ๑๒๗
• ฉัตรท่ีใช้ประดับบนยอดพระโกศพระบรมอัฐิ ๑๒๗
• ฉัตรปักพระเบญจา ๑๒๘
• ฉตั รสำ�หรบั ตั้งในพธิ ี ๑๒๘
• นพปฎลมหาเศวตฉัตร ๑๒๘

พระโกศ ๑๓๑
• พระโกศจันทน์ ๑๓๑
• พระโกศทองใหญ่ ๑๓๔
• พระโกศพระบรมอัฐิ ๑๓๕
• ช่อไมจ้ ันทน์ ๑๓๙

ราชรถ ราชยาน ๑๔๑
• ความหมายของราชรถ ราชยาน ๑๔๑
• พระมหาพิชยั ราชรถ ๑๔๕
• เวชยันตราชรถ ๑๔๗
• ราชรถนอ้ ย ๑๔๙
• ราชรถปนื ใหญ/่ ราชรถรางปนื ๑๕๑
• พระที่นั่งราเชนทรยาน ๑๕๓
• พระทีน่ ่งั ราเชนทรยานน้อย ๑๕๕
• พระยานมาศสามลำ�คาน ๑๕๕
• พระเสลี่ยงกลีบบัว ๑๕๙
• พระเสลี่ยงแวน่ ฟา้ ๑๕๙
• เกรนิ บันไดนาค ๑๖๑
• เครอ่ื งแตง่ กายสำ�หรบั รว้ิ ขบวนพระบรมราชอสิ รยิ ยศ ๑๖๒
๑๗๗
ดอกไมจ้ นั ทนแ์ ละจุดถวายดอกไม้จนั ทน์ ๑๘๒
การเกบ็ พระบรมอฐั ิและพระบรมราชสรีรางคาร ๑๘๗
เครือ่ งสังเค็ด ๑๙๑
การแสดงมหรสพสมโภช ๑๙๖
หนงั สอื ทร่ี ะลกึ และจดหมายเหตุ
ศูนย์สื่อมวลชน ๒๐๑
• ศนู ยถ์ ่ายทอดวิทยกุ ระจายเสยี งและ ๒๑๗
ศูนยถ์ ่ายทอดวทิ ยุโทรทศั น์



“เราจะครองแผ่นดนิ โดยธรรม
”เพ่ือประโยชน์สุข

แหง่ มหาชนชาวสยาม

พระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จ
พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี

จกั รีนฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธริ าช บรมนาถบพติ ร
ในพระราชพิธบี รมราชาภิเษก
วนั ท่ี ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓

10

พระราชประวตั ิ
พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช

บรมนาถบพติ ร

11



พระราชประวัติ

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
มหติ ลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธริ าช
บรมนาถบพติ ร เสดจ็ พระราชสมภพเมอื่ วนั จนั ทร์ ขน้ึ ๑๒ คำ่�
เดอื นอา้ ย ปเี ถาะ จลุ ศกั ราช ๑๒๘๙ ตรงกบั วนั ท่ี ๕ ธนั วาคม
พ.ศ. ๒๔๗๐ เวลา ๐๘.๔๕ น. (ตรงกับเวลา ๒๐.๔๕ น.
ในประเทศไทย) ณ โรงพยาบาลเคมบรดิ จ์ (ภายหลงั เปลย่ี น
ชื่อเป็นโรงพยาบาลเมานท์ ออเบอร์น) เมืองเคมบริดจ์
รฐั แมสซาชเู สตต์ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า เปน็ พระโอรสพระองคเ์ ลก็
ในสมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก
และสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี พระบาทสมเดจ็
พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๗ พระราชทานพระนามวา่
พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ ภมู พิ ลอดลุ เดช มคี วามหมายวา่
“พลงั ของแผน่ ดนิ ” มสี มเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าชและสมเดจ็
พระโสทรเชษฐภคินคี ือ
๑. สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประสูติเม่ือวันท่ี ๖
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖
๒. พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล
พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลท่ี ๘ เสด็จพระราชสมภพ
เม่ือวนั ท่ี ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร โดยเสดจ็ สมเดจ็ พระบรมราชชนก สมเดจ็
พระบรมราชชนนี สมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าช และสมเดจ็

13

พระโสทรเชษฐภคินีนิวัตประเทศไทยเมื่อพ.ศ. ๒๔๗๑
ในขณะมีพระชนมายุ ๑ พรรษาเศษ สมเด็จพระบรม
ราชชนกเสดจ็ สวรรคตวนั ที่ ๒๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๒
การศกึ ษา
ทรงศกึ ษาระดบั อนบุ าลกบั ครมู สิ ซสิ เดวสี ซงึ่ เปดิ สอน
ท่ีบ้าน เมื่อพระชนมายุ ๕ พรรษา ทรงเข้ารับการศึกษา
ชั้นต้น ณ โรงเรียนมาแตร์เดอี ต่อมาเม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๖
เสด็จพระราชด�ำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี
สมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าช และสมเดจ็ พระโสทรเชษฐภคนิ ี
ไปประทับ ณ เมือง โลซานน์ (Lausanne) ประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์ ทรงศึกษาชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียน
เมยี รม์ องต์ (Ecole Miremont) ทรงศกึ ษาวชิ าภาษาฝรง่ั เศส
ภาษาองั กฤษ และภาษาเยอรมนั จากนัน้ ทรงย้ายมาศึกษา
ต่อชั้นประถมศึกษาและช้ันมัธยมศึกษา ณ เอกอล นูแวล
เดอลา สวิส โรม็องด์ (Ecole Nouvelle de la Suisse
Romande) เมอื งไชยี ซรู ์ โลซานน์ (Chailly-sur-Lausanne)
หลงั ทรงไดร้ บั ประกาศนยี บตั รทางอกั ษรศาสตร์ (Diplome
de Bachelier es Lettres) จากยมิ นาส กลาซคี กังโตนาล
เมอื งโลซานน์ (Gymnase Classique Cantonal Lausanne)
แล้ว ทรงเลือกศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโลซานน์ในแขนง
วิชาวทิ ยาศาสตร์

14

ในวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ พระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๗ ทรงสละราชสมบัติ
คณะรฐั บาลไทยไดก้ ราบบงั คมทลู เชญิ พระโอรสพระองคใ์ หญ่
ในสมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก
คอื พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ อานนั ทมหดิ ล พระชนมายุ ๙
พรรษา เสดจ็ ขนึ้ ครองราชยเ์ ปน็ พระมหากษตั รยิ ร์ ชั กาลที่ ๘
แห่งพระบรมราชจกั รีวงศ์ เม่อื สมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าช
เสดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั เิ ปน็ พระมหากษตั รยิ ร์ ชั กาลที่ ๘
ทรงไดร้ บั การสถาปนาเปน็ สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้
ภูมิพลอดลุ ยเดช เมอ่ื วนั ท่ี ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘
เสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการชวั่ คราว
ในพ.ศ. ๒๔๘๑ โดยเสดจ็ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๘
(พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล พระอฐั มรามา
ธบิ ดนิ ทร) นวิ ตั ประเทศไทย พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระบรมราชชนนี
ประทับอยู่ราว ๒ เดือน จึงเสด็จพระราชด�ำเนินกลับ
สวิตเซอร์แลนด์ ช่วงเวลาระหว่าง พ.ศ. ๒๔๘๓-๒๔๙๒
เกิดสงครามแผ่ขยายออกไปทั่วโลก หลังสงครามในทวีป
เอเชยี สน้ิ สดุ ลงเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๘๘ จงึ โดยเสดจ็ พระบาทสมเดจ็
พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล นิวัตประเทศไทยเป็น
ครั้งทส่ี อง

15

เสด็จขนึ้ ครองราชย์
วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ พระบาทสมเด็จ
พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จสวรรคต
ณ พระทน่ี งั่ บรมพมิ าน คณะรฐั บาลจงึ ไดก้ ราบบงั คมทลู เชญิ
สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจ้าฟา้ ภมู ิพลอดลุ ยเดช เสดจ็ ขนึ้
ครองราชสมบัติ สืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์
รชั กาลที่ ๙ แหง่ พระบรมราชจกั รวี งศ์ ขณะนนั้ มพี ระชนมายุ
๑๘ พรรษาเศษ เฉลิมพระนามว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภมู พิ ลอดลุ ยเดช และรฐั บาลไดแ้ ตง่ ตง้ั คณะผสู้ ำ� เรจ็ ราชการ
เพื่อบริหารราชการแผ่นดินแทนพระองค์ เนื่องจากยงั ทรง
พระเยาวแ์ ละยงั ทรงมพี ระราชภารกจิ ดา้ นการศึกษา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จ
พระราชด�ำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อเมื่อวันท่ี ๑๙
สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ณ มหาวิทยาลัยโลซานน์ ประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์เช่นเดิม แต่คร้ังน้ีทรงเลือกศึกษาวิชา
รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ แทนวิชาวิทยาศาสตร์และ
วศิ วกรรมศาสตร์ทท่ี รงศกึ ษาอยู่

16

ทรงหม้นั
ระหว่างประทับอยู่ท่ีเมืองโลซานน์ ทรงพบกับ
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ธิดาในหม่อมเจ้า
นักขัตรมงคล กิติยากร และหม่อมหลวงบัว กิติยากร
ในวันท่ี ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศข่าวทรงหม้ันกับหม่อมราชวงศ์
สิริกิติ์ กิติยากร เม่ือวันท่ี ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒
ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทรงอภิเษกสมรส
พ.ศ. ๒๔๙๓ เสดจ็ นวิ ตั ประเทศไทย ทรงพระกรณุ า
โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล เมอ่ื วนั ท่ี
๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ต่อมาในวันท่ี ๒๘ เมษายน
พ.ศ. ๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระ
ราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร
ณ พระต�ำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี
พระพนั วสั สาอยั ยกิ าเจา้ ณ วงั สระปทมุ ทรงจดทะเบยี นสมรส
ตามกฎหมายเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป มีพระบรม
ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิ
กติ ยิ ากร เป็นสมเด็จพระราชนิ ีสริ ิกติ ์ิ

17

18

พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
วันท่ี ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ทรงพระกรุณา
โปรดเกลา้ ฯ ใหม้ พี ระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกตามโบราณราช
ประเพณี ณ พระทน่ี งั่ ไพศาลทกั ษณิ ในพระบรมมหาราชวงั
เฉลิมพระปรมาภิไธยตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า
“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหติ ลาธิเบศรรามาธบิ ดี จักรีนฤบดนิ ทร สยามินทราธิราช
บรมนาถบพติ ร” และพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการ
ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุข
แห่งมหาชนชาวสยาม” ทรงหล่ังทักษิโณทก ต้ังพระราช
สัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจปกครอง
ราชอาณาจักรโดยทศพิธราชธรรม ขณะประทับเหนือ
พระทน่ี ่ังภทั รบิฐภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉตั ร ในโอกาสนี้
ทรงสถาปนาสมเดจ็ พระราชนิ สี ริ กิ ติ ิ์ เปน็ “สมเดจ็ พระนางเจา้
สริ ิกิติ์ พระบรมราชินี”
วันท่ี ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยูห่ วั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ พร้อม
ด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี กลับไป
สวิตเซอร์แลนด์อีกครั้งเพื่อรักษาพระพลานนามัยตามท่ี
คณะแพทย์ถวายค�ำแนะน�ำ และเสด็จนิวัตประเทศไทย
เป็นการถาวรเม่ือวันท่ี ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ ประทับ
ณ พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐาน และพระทน่ี ั่งอมั พรสถาน

19

20

พระราชโอรส พระราชธิดา
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรม
ราชินนี าถ มีพระราชโอรสและพระราชธดิ า ๔ พระองค์คอื
๑. ทลู กระหมอ่ มหญงิ อบุ ลรตั นราชกญั ญา สริ วิ ฒั นา
พรรณวดี ประสูติเม่ือวันท่ี ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔
ณ เมอื งโลซานน์ ประเทศสวติ เซอร์แลนด์
๒. สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร
เทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชสมภพเมอื่ วนั ที่ ๒๘ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๔๙๕ ณ พระทน่ี ่ังอัมพรสถาน พระราชวังดุสติ
๓. สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี
เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันท่ี ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๘
ณ พระท่ีนงั่ อมั พรสถาน พระราชวังดุสติ
๔. สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์
อัครราชกมุ ารี ประสตู เิ มอ่ื วนั ที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
ณ พระท่ีนง่ั อัมพรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ

21

22

ทรงพระผนวช
วันท่ี ๒๒ ตุลาคม-๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร ทรงพระผนวช ณ วดั พระศรรี ตั นศาสดาราม
ทรงจ�ำพรรษา ณ พระต�ำหนักปั้นหย่า วัดบวรนิเวศวิหาร
และปฏิบัติพระศาสนกิจเป็นเวลา ๑๕ วัน ระหว่างนั้น
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติ
พระราชกรณียกิจแทนพระองค์เป็นท่ีเรียบร้อยสมกับที่
ทรงไว้วางพระราชหฤทัย จึงทรงมีพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้าฯ สถาปนาพระราชอิสริยศักดิ์สมเด็จพระนางเจ้า
สิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ นับเป็นพระองค์ที่ ๒ ในพระบรม
ราชจักรีวงศ์

23

24

พระราชกรณยี กิจ

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ตลอดรัชสมัยของ
พระองค์ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปยงั ทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ ทกุ ภมู ภิ าค
ของประเทศ โดยเฉพาะในพน้ื ที่ชนบททุรกนั ดาร เพ่ือทรง
เย่ียมเยียนและซักถามเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน
ดว้ ยนำ้� พระราชหฤทยั มงุ่ หวงั ใหป้ ระชาชนของพระองคพ์ น้
จากความทกุ ข์ยากในการดำ� เนินชวี ิต กลา่ วกนั ว่าไมม่ แี หง่
หนต�ำบลใดในประเทศไทยท่ีพระองค์ไม่เคยย่างพระบาท
ไปถึง การทรงงานในแต่ละพ้ืนท่ีก่อให้เกิดโครงการอัน
เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รกิ วา่ ๔,๐๐๐ โครงการ ครอบคลมุ
การพัฒนาชวี ิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกด้าน
ด้านการเกษตร การชลประทาน และการพัฒนา
คุณภาพชีวิต
พ.ศ. ๒๔๙๖ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยยี่ มราษฎร
ในเขตทรี่ าบภาคกลางเปน็ ครง้ั แรก และเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ
ขน้ึ ไปยงั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ซง่ึ ถกู ทอดทง้ิ และไมไ่ ดร้ บั
การพฒั นา พน้ื ทเี่ ตม็ ไปดว้ ยความแหง้ แลง้ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๘
การเกษตรถอื เปน็ รากฐานชวี ติ ของคนไทย นำ้� คอื ชวี ติ
ของประชาชนชาวไทยสว่ นใหญซ่ ง่ึ ประกอบอาชพี เกษตรกรรม
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร จึงทรงให้ความสนพระราชหฤหัย

25

ในโครงการพฒั นาทรพั ยากรนำ�้ เปน็ พเิ ศษ ดงั พระราชดำ� รสั
ณ พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐานเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๒๙ ความตอนหน่งึ ว่า
“หลกั สำ� คญั ตอ้ งมนี ำ�้ บรโิ ภค นำ้� ใชเ้ พอ่ื การเพาะปลกู
เพราะว่าชีวิตอยู่ท่ีนั่น ถ้ามีน�้ำ คนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้�ำคนอยู่
ไมไ่ ด้ ไมม่ ไี ฟฟา้ คนอยไู่ ด้ แตถ่ า้ มไี ฟฟา้ ไมม่ นี ำ�้ คนอยไู่ มไ่ ด”้
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริเกี่ยวกับ
แหล่งน้�ำโครงการแรกเกิดขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๙๖ เมื่อเสด็จ
พระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านเขาเต่า ต�ำบล
หนองแก อำ� เภอหวั หนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เกดิ เหตกุ ารณ์
รถยนตพ์ ระทนี่ ง่ั ตดิ หลม่ ทรงเหน็ ชาวบา้ นหาบนำ้� ดว้ ยความ
เหนอ่ื ยยาก จงึ พระราชทานพระราชดำ� รใิ หส้ รา้ งอา่ งเกบ็ นำ้�
เขาเต่า เพอ่ื บรรเทาความแหง้ แลง้ และความเดอื ดรอ้ นของ
ราษฎรจากการขาดแคลนนำ�้ อปุ โภคบรโิ ภค อา่ งเกบ็ นำ้� แหง่ นี้
สรา้ งเสรจ็ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๐๖
ตอ่ มามโี ครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รเิ กย่ี วกบั
น้�ำเกิดข้ึนเปน็ จ�ำนวนมากเพื่อแก้ไขปญั หาภยั แล้ง อุทกภยั
และเพอื่ บำ� บดั นำ้� เสยี โครงการพฒั นาแหลง่ นำ้� มที ง้ั โครงการ
ขนาดใหญ่ เพ่อื ช่วยแกไ้ ขปัญหาท้ังภัยแลง้ และน�ำ้ ทว่ ม ไป
จนถึงโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก ขึ้นอยู่กับสภาพ
ภมู ปิ ระเทศ สภาพเศรษฐกจิ และประโยชนท์ ป่ี ระชาชนจะ
ได้รับ โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริเกี่ยวกับน้�ำ ยงั
รวมถึงโครงการพัฒนาพ้ืนท่ีลุ่มน�้ำส�ำคัญ โครงการแก้มลิง
และโครงการฝนหลวง
26

สภาพแวดล้อมในพื้นที่หลายส่วนของประเทศไทย
ถกู ทำ� ลาย เนอื่ งมาจากการตดั ไม้ หรอื การปลกู พชื ชนดิ เดยี ว
ซำ�้ ๆ บนทด่ี นิ เดมิ พน้ื ทน่ี บั ลา้ นไรใ่ นภมู ภิ าคตา่ ง ๆ มปี ญั หา
เร่ืองดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ราษฎรเพาะปลูกได้
ผลผลิตต่�ำจงึ มีฐานะยากจน พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร
มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ
ใหจ้ ดั ตงั้ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ ขน้ึ
ในพน้ื ทที่ ม่ี ปี ญั หาสภาพดินเส่อื มโทรม เพอ่ื เผยแพร่ความรู้
ดา้ นการพฒั นาการเกษตร และเปน็ ศนู ยก์ ลางสง่ ตอ่ เทคโนโลยี
ดา้ นการเกษตรและฝกึ อบรมอาชพี เพอื่ เกษตรกร ศนู ยศ์ กึ ษา
การพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ
จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการจัดตั้งข้ึนเป็นแห่งแรก
เมอื่ พ.ศ. ๒๕๒๒ จากนน้ั จงึ มกี ารจดั ตง้ั ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นา
อน่ื ๆ ตามมา ไดแ้ ก่ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาอา่ วคงุ้ กระเบนอนั เนอ่ื ง
มาจากพระราชด�ำริ จังหวดั จนั ทบุรี ศูนย์ศกึ ษาการพฒั นา
พิกุลทอง อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดนราธิวาส
ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไครอ้ นั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ
จงั หวดั เชยี งใหม่ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านอนั เนอ่ื งมาจาก
พระราชด�ำริ จังหวัดสกลนคร และศูนย์ศึกษาการพัฒนา
ห้วยทรายอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดเพชรบุรี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร มพี ระราชประสงคใ์ หศ้ นู ยศ์ กึ ษาการพฒั นา
ท้ัง ๖ แห่ง ท�ำหน้าท่ีเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต”

27

เพ่ือให้บทเรียนด้านการพัฒนาท่ีประชาชนสามารถมา
ศึกษา และน�ำไปประยุกต์ใชก้ ับชีวิตและงานของตนเองได้
พระองค์มีพระราชด�ำริให้ทดลองแก้ปัญหาดินเปร้ียว
ในแนวทางทที่ รงเรยี กวา่ “แกลง้ ดนิ ” และโครงการหญา้ แฝก
เพื่อป้องกนั การเส่ือมโทรมและการพังทลายของหนา้ ดนิ
เมื่อครั้งเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเย่ียมราษฎร
ชาวไทยภูเขาบนดอยสูงในพ้ืนท่ีจังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้ง
แรกเม่ือพ.ศ. ๒๕๑๒ ได้ทอดพระเนตรเห็นคุณภาพชีวิต
ของราษฎรชาวไทยภเู ขาทลี่ ำ� บากยากจน ดำ� รงชวี ติ ดว้ ยการ
ท�ำไร่เล่อื นลอยและปลูกฝนิ่ จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดตั้งโครงการหลวงเพื่อพัฒนาชีวิตชาวไทยภูเขา
โดยใหห้ นั มาปลกู พชื อนื่ ทดแทนฝน่ิ ละทงิ้ การทำ� ไรเ่ ลอื่ นลอย
และการถางป่า ซ่ึงเป็นการท�ำลายสิ่งแวดล้อม ในช่วง
เรมิ่ แรกจะไมบ่ งั คบั ใหช้ าวไทยภเู ขาเลกิ ปลกู ฝน่ิ แตจ่ ะนำ� พชื
เมอื งหนาวไปใหท้ ดลองปลูก หากเหน็ ว่าดี ก็ค่อยใหข้ ยาย
พ้ืนท่ีปลูกต่อ ๆ ไป ส่งผลให้ชาวไทยภูเขามีคุณภาพชีวิต
ที่ดีข้ึน ป่าที่เคยถูกบุกรุกกลับมาสมบูรณ์เขียวขจีอีกคร้ัง
ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งมูลนิธิโครงการ
หลวงเพ่ือรวบรวมหน่วยงานต่าง ๆ กลายเป็นศูนย์พัฒนา
โครงการหลวง
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เกิดขึ้นใน
บรเิ วณพระตำ� หนกั จติ รลดารโหฐาน ซงึ่ ทรงใชเ้ ปน็ ทท่ี ดลอง
วิจัยโครงการตามพระราชด�ำริทางการเกษตร เพื่อน�ำผล
28

การศึกษาพระราชทานแก่ประชาชน บริเวณพระต�ำหนัก
จะมีโครงการต่าง ๆ เช่น ปา่ ไม้สาธิต (พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๐๔)
นาข้าวทดลอง (พ.ศ. ๒๕๐๔) โรงโคนมสวนจิตรลดา
(พ.ศ. ๒๕๐๕) บอ่ เพาะพนั ธป์ุ ลานลิ (พ.ศ.๒๕๐๘) โรงนมผง
สวนดุสิต (พ.ศ.๒๕๑๒) โรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา
(พ.ศ. ๒๕๑๔) โรงบดแกลบ (พ.ศ. ๒๕๑๘) งานผลิตภัณฑ์
บรรจุกระป๋อง (พ.ศ. ๒๕๓๕) โครงการไบโอดีเซล (พ.ศ.
๒๕๔๖) การสาธิตการใช้ประโยชน์จากพลังงานลม
เพอ่ื ผลติ พลงั งานไฟฟา้ (พ.ศ. ๒๕๕๐) ฯลฯ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้
ทีเ่ ข้าถงึ ได้ง่าย สามารถนำ� ความรไู้ ปประยุกต์ใช้ได้จรงิ
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพติ ร ไดพ้ ระราชทานแนวทางรปู แบบการจดั การ
ทดี่ นิ และนำ�้ เพอ่ื การเกษตรในทดี่ นิ ขนาดเลก็ ใหเ้ กดิ ประโยชน์
สูงสุด ที่เรียกว่า ทฤษฎีใหม่ ซ่ึงจะช่วยให้ประชาชนมีกิน
ตามอัตภาพ คืออาจไม่รวยมาก แต่ก็พอกิน ไม่อดอยาก
ทฤษฎีน้คี ือการแบง่ ที่ดินออกเป็นอตั ราส่วน ๓๐, ๖๐ และ
๑๐ ท่ีดิน ๓๐ เปอร์เซ็นต์แรกขุดสระเก็บกักน้�ำไว้ใช้และ
เล้ียงปลา ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ต่อมาแบ่งเป็นพ้ืนที่ท�ำนาข้าว
และปลูกผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์อย่างละคร่ึง ท่ีเหลือ
อีก ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นท่ีอยู่อาศัย ลานบ้านและถนน
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นท่ีวัดมงคลชัยพัฒนา
ต�ำบลห้วยบง อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สระบุรี เป็นแปลงสาธติ
ถา่ ยทอดทฤษฎใี หมน่ ี้อยา่ งเปน็ รปู ธรรม

29

“ เศรษฐกิจพอเพียง

เป็นเสมอื นรากฐานของชีวิต
รากฐานความมัน่ คงของชวี ติ
รากฐานความมัน่ คงของแผ่นดนิ
เปรียบเสมือนเสาเข็มท่ีถกู ตอกรองรบั
บา้ นเรอื นตวั อาคารไว้น่ันเอง
ส่งิ ก่อสร้างจะมั่นคงไดก้ อ็ ยูท่ ่เี สาเขม็
แต่คนส่วนมากมองไมเ่ หน็ เสาเขม็

”และลมื เสาเข็มเสยี ด้วยซำ้� ไป
พระราชดำ�รสั
พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร

พระราชทานเนอ่ื งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสดิ าลยั สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต
วนั ท่ี ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

30

หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency
Economy) เป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงชี้แนะแนวทาง
ในการด�ำเนินชีวิตให้แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด
นานกว่า ๒๕ ปี เม่ือเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๔๐
พระราชด�ำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” ได้รับความสนใจจาก
ประชาชน ทรงเนน้ ยำ�้ วา่ เศรษฐกจิ พอเพยี งจะเปน็ แนวทาง
แก้ไขเพ่ือให้ประเทศไทยรอดพ้นและสามารถด�ำรงอยู่ได้
อย่างม่ันคงและย่ังยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ และการ
เปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ของโลก หลักใหญ่ของทฤษฎีน้ี
อยทู่ ก่ี ารใหเ้ ดนิ ทางสายกลาง การคำ� นงึ ถงึ ความพอประมาณ
ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดี ตลอดจนให้มี
ความร้คู วามรอบคอบ และคุณธรรมประกอบการวางแผน
การตดั สินใจ และการกระทำ�
ด้านการแพทย์และสาธารณสขุ
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงมีความห่วงใยเร่ืองสุขภาพอนามัย
ของประชาชน เม่ือแรกเสด็จข้ึนเถลิงถวัลยราชสมบัติ
ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยอยู่ในสภาพย่�ำแย่
การเข้าถึงสาธารณสุขเกือบจะเป็นไปไม่ได้ในแถบ
ชนบทห่างไกล และยังมีโรคระบาดเกิดข้ึน พระองค์
ทรงพัฒนาการสาธารณสขุ โดยทรงริเร่มิ โครงการทม่ี ุง่ เนน้

31

การควบคมุ และรกั ษาโรคตดิ ตอ่ ไดพ้ ระราชทานพระราชทรพั ย์
สว่ นพระองคแ์ กห่ อ้ งทดลองผลติ และจดั เกบ็ วคั ซนี เพอ่ื ยบั ยง้ั
การระบาดของวณั โรคในประเทศไทย พระราชทานทนุ ทรพั ย์
แกโ่ ครงการขจดั โรคเรอื้ น ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตงั้
สถาบันราชประชาสมาสัยเพ่ือดูแลผู้ป่วยโรคเร้ือน และ
ทรงเป็นพลังส�ำคัญในการเปล่ียนแปลงทัศนคติต่อผู้ป่วย
โรคเรอื้ น พระราชทานความชว่ ยเหลอื จดั ตง้ั กองทนุ สงเคราะห์
ผปู้ ว่ ยโรคโปลโิ อ การผลติ น�้ำเกลอื เพอื่ ผูป้ ่วยอหวิ าตกโรค
เมอื่ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยยี่ มราษฎรตามทอ้ ง
ที่ต่าง ๆ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีหน่วยแพทย์
ตามเสดจ็ พระราชดำ� เนินเพอ่ื ใหก้ ารรักษาพยาบาลราษฎร
ผปู้ ว่ ยไข้ พระราชทานกลอ่ งยาแกว่ ดั ทเ่ี สดจ็ พระราชดำ� เนนิ
ไปทรงเยยี่ มเพอ่ื ภกิ ษอุ าพาธ ในเดอื นมกราคม พ.ศ. ๒๔๙๘
พระราชทานเรือเวชพาหน์ เป็นหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออก
รักษาพยาบาลประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น�้ำโดย
ไม่คิดมูลค่า ทรงริเร่ิมโครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน
โครงการแพทยห์ ลวงเคลอื่ นทพี่ ระราชทาน หนว่ ยทนั ตกรรม
เคล่ือนที่พระราชทาน โครงการฝึกอบรมหมอหมู่บ้านใน
พระราชประสงค์ โครงการน�ำร่องเพื่อป้องกันภาวะขาด
สารไอโอดีน ทรงสง่ เสรมิ สุขภาพประชาชนใหม้ อี าหารทีม่ ี
คณุ คา่ ทางโภชนาการรบั ประทานมากขนึ้ ผา่ นโครงการตาม
พระราชดำ� รเิ รอ่ื งเลยี้ งโคนมและผสมพนั ธป์ุ ลา พระราชทาน
ทุนการศึกษาและรางวัลต่าง ๆ เพ่ือสนับสนุนการศึกษา
ทางการแพทยช์ ้นั สูง
32

พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร ไดร้ บั การยกยอ่ งจากนานาประเทศ องคก์ ร
ต่างประเทศหลายแหง่ ทูลเกลา้ ฯ ถวายรางวลั เช่น รางวลั
เหรยี ญทองสาธารณสขุ เพอื่ มวลชนจากองคก์ ารอนามยั โลก
เม่อื วันที่ ๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๓๕ รางวัล Partnering
for World Health จากวิทยาลัยแพทย์โรคทรวงอก
แห่งสหรัฐอเมริกาส�ำหรับพระราชกรณียกิจด้านการ
ต่อต้านวัณโรคเมื่อวันท่ี ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙
รางวลั เหรยี ญทองจากองคก์ ารสภานานาชาตเิ พอื่ การควบคมุ
โรคขาดสารไอโอดนี (International Council for Control
of Iodine Deficiency Disorder: ICCIDD) เมื่อวันท่ี
๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ในฐานะที่ทรงเป็นผู้น�ำทาง
แก่สภานานาชาติในการเผยแพร่เกลือเสริมไอโอดีนและ
การก่อตั้งกระบวนการขจัดการขาดสารไอโอดีน รางวัล
เหรียญทองจากสหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและ
โรคปอดนานาชาติ (International Union Against
Tuberculosis and Lung Disease: IUATLD) เม่ือวันที่
๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ในฐานะท่ีทรงอุทิศพระองค์
เพอื่ รณรงค์เกี่ยวกับปญั หาสขุ ภาพปอดระดบั โลก

33

ดา้ นการศกึ ษา
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงเปน็ ครูแห่งแผ่นดนิ สมดังที่กระทรวง
ศกึ ษาธกิ ารไดถ้ วายพระราชสมญั ญาน้ี เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รติ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ทรงมพี ระวสิ ยั ทัศน์ดา้ น
การศกึ ษาแบบการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ซง่ึ การแสวงหาความรู้
สามารถเกดิ ขนึ้ ไดใ้ นสภาพแวดลอ้ มทหี่ ลากหลาย ทงั้ ในระบบ
และนอกระบบโรงเรยี น มไิ ดถ้ กู จำ� กดั ดว้ ยเวลาและสถานท่ี
ในรัชสมัยของพระองค์ การศึกษาของไทยพัฒนา
ก้าวหน้าครอบคลุมท้ังการศึกษาในระบบ การศึกษานอก
ระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ
ให้ตงั้ โรงเรยี นจติ รลดา ส�ำหรบั พระราชโอรส พระราชธิดา
บุตรข้าราชบริพารในพระราชวัง ตลอดจนเปิดโอกาสให้
บุคคลท่ัวไปได้เข้าศึกษาด้วย เมื่อเสด็จพระราชด�ำเนินไป
ทรงเยยี่ มราษฎรบรเิ วณชายแดนทรุ กนั ดาร ทรงไดร้ บั ทราบ
ปัญหาการขาดแคลนสถานศึกษาของเด็กและเยาวชน
จึงมีพระราชด�ำริให้จัดสร้างโรงเรียนแก่เด็กและเยาวชน
ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา นอกจากน้ี ยังมีโรงเรียนที่จัด
ตั้งตามพระราชประสงค์ พระราชด�ำริ และท่ีทรงรับไว้
ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยพระราชทานพระราชทรัพย์
ชว่ ยเหลอื ทรงอปุ ถมั ภ์ หรอื ทรงใหค้ ำ� แนะนำ� เชน่ โรงเรยี น

34

จิตรลดา โรงเรียนราชวินิต โรงเรียนวังไกลกังวล โรงเรียน
ราชประชานุเคราะห์ โรงเรยี นราชประชาสมาสัย โรงเรียน
ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียน
สงเคราะห์เด็กยากจนในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้ง
โรงเรียนที่จัดตั้งข้ึนเพ่ือเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ แม้แต่ใน
สมัยท่ียังมีความรุนแรงจากการต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย
คอมมวิ นสิ ต์ กท็ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตงั้ โรงเรยี น
ในพื้นทีส่ รู้ บ พระราชทานนามวา่ โรงเรยี นรม่ เกลา้
ดา้ นการศกึ ษานอกระบบ ทรงพระราชดำ� รใิ หจ้ ดั ตงั้
โครงการพระดาบส เพ่ือให้ผู้ต้องการแสวงหาความรู้
แต่ขาดโอกาสในการศึกษาเรียนรู้ ได้ศึกษาวชิ าแขนงต่าง ๆ
จนสามารถไปประกอบอาชีพได้
สว่ นการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ไดพ้ ระราชทานความรู้
ผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ
ท่ีทรงตั้งข้ึนให้เป็นแหล่งรวมสรรพวิชา การค้นคว้า
การทดลอง และการสาธิตด้านเกษตรกรรม เพื่อเผยแพร่
ความรู้สำ� หรับน�ำไปสู่การปฏบิ ัติจริงของเกษตรกร
นอกจากนี้ ได้ทรงริเร่ิมโครงการส่งเสริมการศึกษา
เช่น โครงการสารานุกรมไทยส�ำหรับเยาวชน และการ
จัดการศึกษาระดับมัธยมด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม
เพอ่ื เปน็ ประโยชนส์ ำ� หรบั นกั เรยี นในชนบทหา่ งไกลใหม้ คี วามรู้
และประสบการณ์ที่มีคุณภาพ ไม่ด้อยกว่าโรงเรียนท่ีได้

35

มาตรฐานอน่ื ๆ ทรงสละพระราชทรพั ยจ์ ดั ตงั้ กองทนุ ตา่ ง ๆ
เพอ่ื สง่ เสรมิ การศกึ ษาของชาติ เชน่ ทนุ มลู นธิ อิ านนั ทมหดิ ล
ทุนเล่าเรียนหลวง ทุนพระราชทานแก่นักเรียนชาวเขา
ทุนปริญญาเอกกาญจนาภิเษก เสด็จพระราชด�ำเนิน
ไปพระราชทานปริญญาบัตรและมีพระบรมราโชวาท
แกบ่ ณั ฑิต
36

ด้านศาสนา
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพติ ร ทรงพระราชศรทั ธาในพทุ ธศาสนาโดยทรง
พระผนวชเป็นเวลา ๑๕ วัน ระหว่างวันท่ี ๒๒ ตุลาคม-
๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙ นับเป็นคร้ังที่ ๒ ในสมัย
กรุงรัตนโกสินทรท์ พ่ี ระมหากษตั รยิ ์ทรงพระผนวชระหวา่ ง
ทรงครองราชย์ นบั แตช่ ว่ งตน้ รชั กาลพระองคใ์ สพ่ ระราชหฤทยั
สืบทอดพระราชพิธีอันเก่ียวเน่ืองกับพุทธศาสนา เช่น
พระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พระราช
พิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา เม่ือพ.ศ. ๒๕๐๑
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธี
ทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลอาสาฬหบูชารวมเข้าไว้กับการ
พระราชกุศลเข้าพรรษา เรียกว่า พระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญ
พระราชกุศลอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา
ในพ.ศ. ๒๕๐๒ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหฟ้ น้ื ฟกู ารเสดจ็
พระราชด�ำเนินไปทรงถวายผ้าพระกฐินโดยขบวน
พยุหยาตราชลมารค ทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นในโอกาส
ส�ำคญั และพระราชทานใหก้ ับวัดในจงั หวัดตา่ ง ๆ
ในโอกาสครบ ๒๕ พุทธศตวรรษเมื่อ พ.ศ.
๒๕๐๐ ไดม้ พี ระมหากรณุ าธคิ ณุ ในการจดั สรา้ งพทุ ธมณฑล
จังหวัดนครปฐม จนส�ำเร็จลุล่วงและพระราชทาน
นามพระพุทธรูปลีลา ประธานพุทธมณฑลว่า

37

พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑล สุทรรศน์
ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี เม่ือ
พ.ศ. ๒๕๒๕ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหบ้ รู ณปฏสิ งั ขรณ์
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง
เป็นงานส�ำคัญของแผ่นดิน ต่อมาในพ.ศ. ๒๕๓๘ มี
พระราชด�ำริให้สร้างวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ขึ้นใน
บริเวณชุมชนบึงพระราม ๙ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็น
ศูนย์รวมจิตใจและศรัทธา เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้
ทางศาสนา ศีลธรรมจรรยาแก่เยาวชนและประชาชน
ตามแนวคดิ เรอ่ื ง “บวร” (บา้ น วดั โรงเรยี น) อนั เปน็ ความสมั พนั ธ์
ตามวิถไี ทยมาแตอ่ ดตี
ทรงสืบสานพระพุทธศาสนาด้วยการส่งเสริม
การศึกษาของพระสงฆ์ พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์
แกส่ ามเณรทสี่ อบไลไ่ ดเ้ ปรยี ญธรรม ๙ ประโยค เพอ่ื อปุ สมบท
นาคหลวง ทรงสถาปนาพระราชาคณะ พระราชทาน
สมณศักด์ิและพัดยศแก่พระภิกษุ ทรงโปรดสนทนา
และศึกษาธรรมกับพระเถระผู้ใหญ่ พระราชทาน
พระราชทรัพย์ปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม และปูชนียสถาน
ต่าง ๆ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้จดั ตัง้ โครงการแปลง
พระไตรปิฎก เป็นไฟล์ดิจิทัลข้ึนที่ศูนย์คอมพิวเตอร์
มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล
ในฐานะที่ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก
ทรงอปุ ถมั ภบ์ ำ� รงุ ศาสนาทกุ ศาสนาทป่ี ระชาชนนบั ถอื อยา่ ง
38

ทวั่ ถงึ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยย่ี มผนู้ ำ� ศาสนาอสิ ลาม
ในจงั หวดั ภาคใต้ ณ มสั ยดิ กลาง จังหวดั ปัตตานี เมอ่ื วนั ที่
๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ พระราชทานพระราชทรัพยส์ ่วน
พระองค์จัดต้ังและปรับปรุงมัสยิด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จุฬาราชมนตรีในขณะนั้น
แปลพระมหาคมั ภรี อ์ ลั กรุ อานจากภาษาอาหรบั เปน็ ภาษาไทย
เพื่อให้อิสลามิกชนในประเทศไทยท่ีไม่รู้ภาษาอาหรับ
ศึกษาเล่าเรียนได้สะดวก และจัดพิมพ์พระราชทานไปยัง
มสั ยดิ ต่าง ๆ ท่วั ราชอาณาจักร วันท่ี ๑๐-๑๑ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๒๗ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลท่ี ๒
ประมขุ แหง่ ครสิ ตจกั รโรมนั คาทอลกิ เสดจ็ เยอื นประเทศไทย
อย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะ แสดงถึง
ความช่ืนชมของประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก
ตอ่ พระประมขุ ของประเทศไทยทที่ รงพระกรณุ าทำ� นบุ ำ� รงุ
คริสต์ศาสนาตลอดมา ทรงส่งเสริมให้ทุกศาสนา
ดำ� เนินกจิ กรรมเพื่อประโยชน์ตอ่ สังคม

39

40

ด้านการตา่ งประเทศ

ในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จ
พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พรอ้ ม
ดว้ ยสมเด็จพระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ ไดเ้ สดจ็
พระราชดำ� เนนิ ไปเยอื นประเทศตา่ ง ๆ ทง้ั ในทวปี เอเชยี ยโุ รป
และอเมรกิ าเหนอื รวม ๒๗ ประเทศ เพอ่ื เจรญิ ทางพระราชไมตรี
กบั บรรดามติ รประเทศเหลา่ นน้ั ใหม้ คี วามสมั พนั ธแ์ นน่ แฟน้
และเพอ่ื นำ� ความปรารถนาดขี องประชาชนชาวไทยไปมอบให้
กบั ประชาชนในประเทศตา่ ง ๆ โดยทรงเยอื นสาธารณรฐั เวยี ดนาม
อยา่ งเปน็ ทางการเปน็ ประเทศแรกและภายหลงั จากการเสดจ็
พระราชดำ� เนนิ ไปเยอื นประเทศแคนาดาในพ.ศ. ๒๕๑๐ แลว้

41

ก็มิไดเ้ สด็จพระราชดำ� เนนิ ไปเยือนประเทศใดอกี ด้วยทรง
เห็นว่าพระราชกรณียกิจภายในประเทศน้ันยังมีอีกมาก
จนกระทั่งระหว่างวันที่ ๘-๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ จึงได้
เสด็จพระราชด�ำเนินไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนลาว นับเป็นการเสด็จพระราชด�ำเนินไปเยือน
ตา่ งประเทศครง้ั สดุ ทา้ ย พระองคไ์ ดม้ พี ระราชดำ� รสั ตอนหนงึ่
เก่ียวกับพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชด�ำเนิน
ไปเยอื นตา่ งประเทศวา่
“....... การไปตา่ งประเทศคราวนก้ี ไ็ ปเปน็ ทางราชการ
แผน่ ดนิ เปน็ การทำ� ตามหนา้ ทขี่ องขา้ พเจา้ ในฐานะประมขุ ของ
ประเทศ เป็นที่ทราบกันอย่แู ล้วว่า ในสมยั นป้ี ระเทศตา่ ง ๆ
ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ต้องพ่ึงพาอาศัยกันอยู่เสมอ จะว่าชน
ทุกชาติเป็นญาติพ่ีน้องกันก็ว่าได้ จึงควรพยายามให้รู้นิสัย
ใจคอกนั ทงั้ ตอ้ งผกู นำ้� ใจกนั ไวใ้ หด้ ดี ว้ ย การผกู นำ้� ใจกนั ไวน้ น้ั
ธรรมดาญาตพิ นี่ อ้ งกไ็ ปเยย่ี มเยยี นถามทกุ ขส์ ขุ ซง่ึ กนั และกนั
แตส่ ำ� หรบั ประเทศไทยนนั้ ประชาชนนบั แสนนบั ลา้ นจะไป
เยยี่ มเยยี นกนั กย็ าก เขาจงึ ยกใหเ้ ปน็ หนา้ ทขี่ องประมขุ ของ
ประเทศในการเยยี่ มเยยี นประเทศตา่ ง ๆ ขา้ พเจา้ กจ็ ะแสดง
ต่อประชาชนของประเทศเหล่าน้ันว่า ประชาชนชาวไทย
มีมิตรจิตมิตรใจต่อเขา และข้าพเจ้าจะพยายามเต็มท่ี
เพอ่ื ใหฝ้ า่ ยเขารจู้ กั เมอื งไทย และเกดิ มนี ำ�้ ใจทด่ี ตี อ่ ชาวไทย”
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงต้อนรับพระราชอาคันตุกะจาก
42

ประเทศต่าง ๆ ท่ีเดินทางมาเยือนประเทศไทยหลายครั้ง
พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้บรรดาทูตานุทูต
เข้าเฝ้าฯ ถวายสาส์นตราตั้งในการเข้ามารับต�ำแหน่ง
ในประเทศไทย และกราบถวายบงั คมทลู ลาเมอ่ื ครบวาระ รวมทงั้
มีพระราชสาส์นถงึ ผู้น�ำประเทศตา่ ง ๆ ทัง้ แสดงความยนิ ดี
และแสดงความเสยี พระราชหฤทยั สำ� หรบั การกราบบงั คม
ทลู เชญิ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปเยอืิ นตา่ งประเทศ หลงั จากนน้ั
ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระราชโอรสหรอื พระราชธดิ า
เสดจ็ พระราชด�ำเนินแทนพระองค์
ในพระราชพิธีฉลองสริ ริ าชสมบัตคิ รบ ๖๐ ปี วนั ที่
๑๒ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๙ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร
มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ
ไปทรงรบั การถวายพระพรชยั มงคลจากพระราชอาคนั ตกุ ะ
ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และผู้แทน
พระองค์จาก ๒๕ ประเทศ ที่เสด็จพระราชด�ำเนินมาร่วม
พระราชพิธีเฉลิมฉลอง ณ พระท่ีนั่งอนันตสมาคม การท่ี
พระราชวงศท์ วั่ โลกเสดจ็ พระราชพระราชดำ� เนนิ มารวมกนั
ล้วนเป็นผลจากพระราชไมตรีที่มีต่อกนั มาช้านาน

43

ด้านการทหาร
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพติ ร ทรงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ ดา้ นการทหาร
มาอย่างต่อเนื่อง เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเย่ียมทหาร
ทป่ี ฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นพน้ื ทต่ี า่ ง ๆ แมใ้ นระหวา่ งทม่ี เี หตกุ ารณส์ รู้ บ
เพอื่ ทรงเปน็ มงิ่ ขวญั และพระราชทานกำ� ลงั ใจ ทรงเยย่ี มทหาร
ท่ีบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าท่ีพร้อมท้ังพระราชทาน
พระบรมราชานเุ คราะหแ์ กค่ รอบครวั ผบู้ าดเจบ็ หรอื เสยี ชวี ติ
เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปพระราชทานเพลงิ ศพทหาร ตำ� รวจ
พลเรอื น และอาสาสมคั รทเ่ี สยี ชวี ติ ในการสรู้ บ พระราชทาน
พระราชดำ� รแิ ละพระบรมราชวนิ จิ ฉยั เกยี่ วกบั กจิ การทหาร
เชน่ การตอ่ เรอื ตรวจการณใ์ กลฝ้ ง่ั เพอื่ การพง่ึ พาตนเองของ
กองทพั เรอื และทอดพระเนตรการฝึกของกองทพั
ในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๑๒ ประเทศไทย
ประสบปัญหาภัยจากการก่อการร้ายของฝ่ายคอมมิวนิสต์
ในเขตชนบทหลายแห่ง ประกอบกับประเทศไทยได้ส่ง
ทหารไปชว่ ยสหรฐั อเมรกิ ารบในสงครามเวยี ดนาม เปน็ เหตใุ ห้
ต้องสูญเสียทหาร ต�ำรวจ และพลเรือนจากความขัดแย้ง
ดงั กลา่ ว ใน พ.ศ. ๒๕๒๐ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตงั้
ศูนย์ฝึกอาชีพส�ำหรับทหารผ่านศึกที่พิการในสงคราม
ข้ึนท่ีโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเพื่อเป็นศูนย์กลาง
การสงเคราะหแ์ ละฟนื้ ฟทู หารผ่านศกึ ทพุ พลภาพมาต้งั แต่

44

พ.ศ. ๒๔๙๓-๒๕๐๒ เมื่อสงครามในคาบสมุทรอินโดจีน
และการก่อความไม่สงบในประเทศไทยทวีความรุนแรงข้ึน
ทรงริเริ่มโครงการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เป็นจุดเร่ิมต้น
ของมูลนิธิสายใจไทย ซ่ึงก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒ เมษายน
พ.ศ. ๒๕๑๘ เพ่ือช่วยเหลือและฝึกสอนอาชีพแก่ทหาร
ต�ำรวจ พลเรือน และอาสาสมัคร ผู้บาดเจ็บ หรือพิการ
จากการสรู้ บ รวมท้ังครอบครวั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ
ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงด�ำรงต�ำแหนง่ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ในฐานะทรงเป็นจอมทัพไทย ทรงเป็น
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทหารทั้งปวง ทรงประกอบพิธี
ตรงึ หมดุ ธงชยั เฉลมิ พลในพระอโุ บสถวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม
เพ่อื พระราชทานแกห่ น่วยทหารทงั้ กองทัพบก กองทพั เรือ
และกองทพั อากาศ พระราชทานกระบแ่ี กผ่ สู้ ำ� เรจ็ การศกึ ษา
จากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ
โรงเรียนนายเรืออากาศ ทรงตรวจพลสวนสนามและ
รับการถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม
ณ ลานพระราชวังดุสิต

45

46

ด้านสวสั ดกิ ารสงั คม
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้จัดต้ังมูลนธิ ิ
หลายแห่งเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของราษฎรเมื่อเกิด
มหันตภัยทางธรรมชาติ อุบัติเหตุหรือเกิดโรคระบาด
รา้ ยแรง เชน่ มลู นธิ ิราชประชาสมาสัย เพือ่ ช่วยเหลือบุตร
ของผปู้ ว่ ยโรคเรอ้ื นไมใ่ หต้ ดิ เชอื้ จากพอ่ แม่ ใหไ้ ดร้ บั การศกึ ษา
และสามารถประกอบอาชีพได้โดยไม่เป็นภาระแก่สังคม
และทรงรับมูลนิธิน้ีไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เม่ือวันที่ ๑๐
เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๔
ในพ.ศ. ๒๕๐๕ เมื่อเกิดวาตภัยและอุทกภัย
ในจงั หวดั ภาคใต้ ทรงชักชวนประชาชนใหช้ ว่ ยเหลอื พนี่ ้อง
ร่วมชาติผู้ประสบเคราะห์ภัย มีผู้โดยเสด็จพระราชกุศล
จ�ำนวนมาก เม่ือพระราชทานความช่วยเหลือแล้ว ยังมี
เงินเหลืออยู่อีก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดต้ัง
มลู นธิ ริ าชประชานเุ คราะห ์ พรอ้ มพระราชทานทนุ ประเดมิ
เพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยโดยฉับพลัน นอกจาก
การชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบสาธารณภยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทว่ั ประเทศแลว้
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์
ยังให้ทุนการศึกษาแก่เด็กก�ำพร้า อนาถาท่ีครอบครัว
ประสบภยั อีกดว้ ย

47

ในพ.ศ. ๒๕๐๔ ทรงรับสมาคมสงเคราะห์
แห่งประเทศไทยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระราชทาน
พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนประเดิมสร้างตึก
ที่ท�ำการและเป็นค่าเช่าท่ีดินของสมาคมฯ พระราชทาน
พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่โรงพยาบาลเพ่ือ
คนพิการและเพื่อจัดต้ังศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ พระราชทาน
เพลงพระราชนิพนธ์ “ย้ิมสู้” เพ่ือเป็นขวัญและก�ำลังใจ
แก่ผู้พิการทางสายตา พระราชทานพระบรมราชวโรกาส
ใหค้ นพกิ ารเขา้ เฝา้ ฯ อยา่ งใกลช้ ิด ทรงฝึกให้พระราชโอรส
และพระราชธดิ าคนุ้ เคยกบั คนพกิ ารประเภทตา่ ง ๆ มาตงั้ แต่
ยงั ทรงพระเยาวด์ ว้ ยการพระราชทานเลยี้ งอาหารคนพกิ าร
อยเู่ สมอ
ดา้ นการจราจรและคมนาคมขนสง่
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงสนับสนุนการสร้างเส้นทางคมนาคม
สาธารณูปโภคพื้นฐานแก่ราษฎรในชนบทห่างไกลท่ีเสด็จ
พระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยม ในพ.ศ. ๒๔๙๕ มี
พระราชด�ำริให้สร้างถนนบ้านห้วยมงคล อ�ำเภอหัวหิน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการแรกท่ีท�ำให้ราษฎร
สามารถสญั จรไปมาไดส้ ะดวก
โครงการสรา้ งถนนในทอ้ งถนิ่ ชนบท เรม่ิ ตงั้ แต่ พ.ศ.
๒๕๒๑ เป็นต้นมา ลักษณะของถนนในโครงการอันเนื่อง

48

มาจากพระราชดำ� รแิ บง่ ไดเ้ ปน็ ๔ ประเภท คอื ถนนทปี่ รบั ปรงุ
จากเส้นทางเดิม ถนนที่สร้างใหม่ เพื่อช่วยให้มีการน�ำ
ทรัพยากรในท้องถ่ินที่เกี่ยวข้องมาใช้ประโยชน์ ถนนท่ี
สร้างเพ่ือรองรบั การจราจรที่เพ่มิ ขน้ึ เน่ืองจากการขยายตวั
ทางเศรษฐกจิ การเพม่ิ ของประชากรและกจิ กรรมในชนบท
และถนนที่สร้างเพื่อเชื่อมต่อชุมชนท่ีอยู่ในระหว่างพัฒนา
ไปบ้างแล้วกับชุมชนที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงศึกษาและวางแผนปรับปรุง
การคมนาคมและขนส่งในชนบท โดยพิจารณาประโยชน์
ที่จะเกิดแก่ท้องถิ่นเป็นหลัก เสด็จพระราชด�ำเนินไป
ทรงเก็บข้อมูลในพื้นที่เพื่อประกอบการพิจารณาลักษณะ
เช่ือมต่อและแนวของถนน จากนั้นพระราชทานให้
หน่วยงานทีเ่ หมาะสมรับไปดำ� เนนิ การตอ่ ไป
ในพ.ศ. ๒๕๑๔ มีพระราชด�ำริให้สร้างถนนใน
เขตกรุงเทพฯ - ธนบุรี เป็นคร้ังแรก โดยสร้างถนน
รัชดาภิเษกเป็นถนนวงแหวน เพื่อพระราชทานเป็นของ
ขวัญแก่ประชาชนแทนการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์
เนอื่ งในพระราชพธิ รี ชั ดาภเิ ษก ตอ่ มาระหวา่ งพ.ศ. ๒๕๓๔ -
๒๕๓๘ เม่ือครั้งเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมสมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งประทับรักษา
พระอาการประชวรทโี่ รงพยาบาลศริ ริ าช ไดท้ อดพระเนตร
เห็นปัญหาการจราจรที่ติดขัดคร้ังละนาน ๆ ในบริเวณ

49


Click to View FlipBook Version