The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลบเดช พระบรมนาถบพิตร
๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Prateep Chankong, 2022-02-25 10:57:33

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 9

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลบเดช พระบรมนาถบพิตร
๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐

Keywords: ฺหนังสือ งานถวยพระเพลิง ร 9

ดังกล่าว จึงมีพระราชด�ำริให้จัดท�ำโครงการจตุรทิศ
ตะวนั ตก-ตะวนั ออก เพอื่ บรรเทาปญั หาจราจรและเชอื่ มโยง
พื้นที่ชานเมืองฝั่งตะวันตกกับชานเมืองฝั่งตะวันออกของ
กรงุ เทพมหานคร นอกจากนี้ ยงั มโี ครงการขยายถนนคอขวด
ตามจุดต่าง ๆ อีกหลายแหง่
พระองคท์ รงหว่ งใยพสกนกิ รทไี่ ดร้ บั ความเดอื ดรอ้ น
จากปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ในพ.ศ. ๒๕๓๖
ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้กรมต�ำรวจ
นำ� ไปซอ้ื รถจกั รยานยนตเ์ ปน็ หนว่ ยเคลอื่ นทเ่ี รว็ ในโครงการ
“ต�ำรวจจราจรในโครงการพระราชด�ำริ” เพื่อท�ำหน้าท่ี
ช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัด และบริการประชาชนท่ีได้รับ
ผลกระทบจากปญั หาจราจร
ดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตรสนพระราชหฤทัยด้านวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีต้ังแต่ทรงศึกษาอยู่ในต่างประเทศ และ
ทรงนำ� ความรนู้ ม้ี าประยกุ ตใ์ ชพ้ ฒั นาประเทศผา่ นโครงการ
อนั เนื่องมาจากพระราชด�ำรติ ่าง ๆ เช่น โครงการฝนหลวง
โครงการแก้มลิง สงิ่ ประดิษฐก์ งั หันนำ�้ ชัยพฒั นา โครงการ
พฒั นานำ้� มนั ปาลม์ เพอ่ื ใชก้ บั เครอ่ื งยนตด์ เี ซล ทรงตง้ั สถานี
วิทยุ อ.ส. เพ่ือเป็นส่ือประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสาร

50

สู่ประชาชน ทรงศึกษาและทดลองรับ-ส่งวิทยุทางไกล
พระราชทานพระราชด�ำริเกี่ยวกับสายส่งสัญญาณและ
สายอากาศวทิ ยแุ บบตา่ ง ๆ ใหผ้ ทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ งไปพจิ ารณาศกึ ษา
ส่งผลให้มีการปรับปรุงระบบการสื่อสารของทางราชการ
จนได้สมรรถนะสงู
ทรงศกึ ษาคดิ คน้ สรา้ งโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื การ
ประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ทรงสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ส�ำหรับพิมพ์ตัวอักษรเทวนาครี ทรงประดิษฐ์รูปแบบ
ตัวอักษรไทยหลายแบบ เช่น ฟอนตจ์ ิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์
ทรงประดิษฐ์ ส.ค.ส. ด้วยคอมพิวเตอร์เพ่ือทรงอวยพร
ปวงชนชาวไทย และทรงใช้เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ในงานส่วน
พระองคด์ ้านดนตรี
ทรงเช่ียวชาญการแปลความหมายของภาพถ่าย
ทางอากาศ และใช้ข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยาคาดคะเน
แนวเคล่ือนตัวของพายุไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนได้อย่าง
ถกู ตอ้ งใกลเ้ คยี ง ภายในหอ้ งทรงงานจะมเี ครอ่ื งมอื อปุ กรณ์
ตา่ ง ๆ ตดิ ตง้ั ทงั้ เครอ่ื งรบั -สง่ วทิ ยแุ รงสงู ทกุ เครอื ขา่ ย โทรสาร
โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศ
เพ่ือทรงใช้บ�ำบัดทุกขบ์ ำ� รุงสุขของราษฎร

51

52

ประชาคมโลกยกย่อง
ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษท่ีผ่านมาพระบาท
สมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ทรงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ ดา้ นการพฒั นาโดยมปี ระชาชน
เป็นศูนย์กลาง จึงทรงได้รับการยกย่องจากหน่วยงาน
และองค์กรต่าง ๆ ท่ัวโลก และทรงได้รับการทูลเกล้าฯ
ถวายรางวัลต่าง ๆ เปน็ จ�ำนวนมาก
รางวลั ทที่ รงไดร้ บั การทลู เกลา้ ฯ ถวายเปน็ พระองคแ์ รก
รางวัลเหรียญทอง International Rice Award
เม่ือพ.ศ. ๒๕๓๙ จากสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ
(The International Rice Research Institute) ซ่ึงมี
ส�ำนักงานอยู่ท่ีฟิลิปปินส์ เพื่อสดุดีการท่ีทรงพัฒนาชีวิต
ความเป็นอยู่ของเกษตรกรด้วยการส่งเสริมการศึกษา
และวิจัยการปลูกข้าว รางวัลความส�ำเร็จสูงสุดด้านการ
พัฒนามนุษย์ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
(UNDP Human Development Lifetime Achievement
Award) เมื่อพ.ศ. ๒๕๔๙ จากการท่ีได้ทรงพระวิริย
อุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ
เพ่ือประโยชน์และความเจริญยั่งยืนของประเทศไทย
เหรียญรางวัล Dr. Norman E. Borlaug Medallion
จากมูลนิธิ World Food Prize เม่ือพ.ศ. ๒๕๔๙ ด้วย
พระราชกรณยี กจิ อนั โดดเดน่ ดา้ นมนษุ ยชนในการบรรเทา
ความอดอยากของประชาชน รางวัลพระอัจฉริยภาพทาง

53

การประดิษฐ์ (Glory to the Greatest Inventor Award)
ซึ่งสมาพันธ์นักประดิษฐ์นานาชาติ (The International
Federation of Inventors’ Associations: IFIA) ทลู เกลา้ ฯ
ถวายเมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในฐานะทรงมผี ลงานประดษิ ฐค์ ดิ คน้
กวา่ ๑,๐๐๐ ชน้ิ ถอื เปน็ รางวลั แรกและรางวลั เดยี วของโลก
ทรงไดร้ บั การทลู เกลา้ ฯ ถวายรางวลั นกั วทิ ยาศาสตร์
ดินเพื่อมนุษยชาติ (The Human Soil Scientist)
จากสหภาพวทิ ยาศาสตรท์ างดนิ นานาชาติ ประเทศฝรงั่ เศส
เมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๕ เพอื่ สดดุ ที ท่ี รงใหค้ วามสำ� คญั กบั การบรหิ าร
จัดการทรัพยากรดินอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ประจักษ์และ
ยอมรบั ทัง้ ในประเทศและนานาประเทศ และเมือ่ วนั ท่ี ๒๐
ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ สหประชาชาติได้มีมติให้วันที่ ๕
ธนั วาคมของทกุ ปี ซงึ่ ตรงกบั วนั คลา้ ยวนั พระบรมราชสมภพ
ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุยเดช
บรมนาถบพิตร เป็นวันดินโลก (World Soil Day) เพ่ือ
เฉลิมพระเกียรติท่ีทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเก่ียวกับ
การพฒั นาดนิ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง เชน่ สง่ เสรมิ การปลกู หญา้ แฝก
และทรงริเร่มิ ทฤษฎีแกล้งดนิ
โครงการหลวงได้รับรางวัลแมกไซไซเม่ือพ.ศ.
๒๕๓๐ และรางวัลจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
เม่ือพ.ศ. ๒๕๔๙ ขณะท่ีมูลนิธิโครงการหลวงได้รับรางวัล
Colombo Plan Award เม่อื พ.ศ. ๒๕๔๖
54

พ.ศ. ๒๕๓๖ สมาคมควบคุมการกัดเซาะผิวดิน
นานาชาติ (The International Erosion Control Association)
ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล International Merit Award
เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณในการส่งเสริมการใช้หญ้าแฝก
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติทูลเกล้าฯ
ถวายเหรยี ญ Agricola Medal เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๓๘ เพอ่ื สดุดี
พระเกียรติคุณที่ทรงเป็นผู้น�ำการพัฒนาการเกษตรและ
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเหรียญ Telefood Medal เมื่อ
พ.ศ. ๒๕๔๒ จากพระราชกรณยี กจิ เพอ่ื ตอ่ สกู้ บั ความอดอยาก
และความยากจน
สมาคมส่งเสริมและคุ้มครองนักประดิษฐ์ของ
ราชอาณาจกั รเบลเยยี ม ทลู เกลา้ ฯ ถวายรางวลั Brussels Eureka
สำ� หรบั สงิ่ ประดษิ ฐก์ งั หนั นำ้� ชยั พฒั นา เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๓ และ
รางวัลส่ิงประดิษฐ์ดีเด่นรวม ๕ รางวัลในงานนิทรรศการ
Brussels Eureka 2001 ต่อมาเม่อื พ.ศ. ๒๕๔๗ ทรงไดร้ ับ
การทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล Habitat Scroll of Honour
Award เพอื่ สดดุ พี ระราชกรณยี กจิ ดา้ นโครงการการพฒั นา
อนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำรติ า่ ง ๆ
วนั ที่ ๒๘ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สมชั ชาสหประชาชาติ
ที่นครนิวยอร์กได้จัดประชุมวาระพิเศษ เพ่ือสดุดีถวาย
พระเกียรติ และยืนไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคต ซึ่งเป็น
เหตกุ ารณ์พเิ ศษทเี่ กดิ ขึ้นไม่บ่อยนัก

55

56

เสด็จสวรรคต

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล อดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชด�ำเนินจากพระต�ำหนัก
จติ รลดารโหฐานไปประทบั ณ โรงพยาบาลศริ ริ าช เพอ่ื รกั ษา
พระอาการประชวรอันเน่ืองมาจากพระโรคไข้หวัด และ
พระปปั ผาสะ (ปอด) อกั เสบในเดอื นกนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๒
ตอ่ มาในเดอื นสงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ไดเ้ สดจ็ พระราชดำ� เนนิ
แปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระต�ำหนักเปี่ยมสุข
วงั ไกลกงั วล อำ� เภอหวั หนิ  จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เพอ่ื เปลยี่ น
พระอิริยาบถ ในระหว่างท่ีเสด็จประทับที่วังไกลกังวล
ราว ๑ ปี ระหวา่ งนนั้ ไดเ้ สดจ็ พระราชดำ� เนนิ ทอดพระเนตร
โครงการตา่ ง ๆ เป็นคร้ังคราว
วันท่ี ๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ
มาประทบั ณ โรงพยาบาลศิรริ าชเน่อื งจากมพี ระอาการไข้
คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนพระอาการท่ัวไปดีขึ้น
ตามลำ� ดบั ตลอดระยะเวลาทป่ี ระทบั ณ โรงพยาบาลศริ ริ าช
ส�ำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับพระอาการ
ประชวรใหท้ ราบเป็นระยะมาโดยตลอด
วันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ส�ำนักพระราชวัง
ออกแถลงการณ์เร่ือง พระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สวรรคต ความว่า
“พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
มหติ ลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธริ าช

57

บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชด�ำเนินไปประทับรักษา
พระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราชต้ังแต่วันศุกร์
ที่ ๓ ตุลาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ ตามที่สำ� นกั พระราชวงั
ได้แถลงใหท้ ราบเปน็ ระยะแลว้ นนั้
แมค้ ณะแพทยไ์ ดถ้ วายการรกั ษาอยา่ งใกลช้ ดิ จนสดุ
ความสามารถแต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุด
หนกั ลงตามลำ� ดบั ถงึ วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๓ ตลุ าคม พทุ ธศกั ราช
๒๕๕๙ เวลา ๑๕ นาฬิกา ๕๒ นาที เสด็จสวรรคต ณ
โรงพยาบาลศริ ริ าชดว้ ยพระอาการสงบ สริ พิ ระชนมพรรษา
ปที ี่ ๘๙ ทรงครองราชย์สมบัตไิ ด้ ๗๐ ป”ี
วนั ศกุ รท์ ่ี ๑๔ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สมเดจ็ พระบรม
โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชด�ำเนิน
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ไปโรงพยาบาลศิริราช
เพอื่ เคลอ่ื นพระบรมศพไปยงั พระบรมมหาราชวงั มพี ระราช
พิธีสรงน้�ำพระบรมศพ ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา อัญเชิญ
พระบรมโกศประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
รัฐบาลประกาศให้สถานที่ราชการ รฐั วสิ าหกิจ หน่วยงาน
ของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา ๓๐ วัน และ
ให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่รัฐ ไว้ทุกข์
๑ ปี ต้ังแต่วนั ที่ ๑๔ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๙
58

หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศล
สตมวาร (๑๐๐ วนั ) ถวายพระบรมศพ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล
องคมนตรี คณะรฐั มนตรี กระทรวง ทบวง กรม องคก์ รอสิ ระ
รฐั วสิ าหกจิ และภาคเอกชน รว่ มเปน็ เจา้ ภาพในการบำ� เพญ็
กุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ นอกจากนี้ประชาชน
จากจังหวัดต่าง ๆ ท่ัวประเทศ พร้อมใจกันเดินทางมา
กราบสกั การะพระบรมศพดว้ ยความจงรกั ภกั ดี และระลึก
ในพระมหากรณุ าธคิ ุณอย่างหาท่สี ุดมิได้

59

60

การจัดงานพระราชพธิ ีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช

บรมนาถบพติ ร

61

พระเมรมุ าศพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อย่หู วั พ.ศ. ๒๔๕๓

62

โกบารราถณวารยาพชประรเะพเพลิงณพี ระบรมศพ

ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทยตงั้ แตส่ มยั สุโขทัยเปน็ ต้นมา
นนั้ พระมหากษตั รยิ ์นอกจากจะทรงเปน็ ผ้นู �ำในการก่อตัง้
พระราชอาณาจกั รแลว้ ยงั ทรงทำ� นบุ ำ� รงุ สรา้ งศลิ ปวฒั นธรรม
และระเบียบประเพณีต่าง ๆ ในการดำ� รงชวี ิตให้เปน็ มรดก
ของชาตสิ ืบทอดมา หลกั ฐานที่กล่าวถงึ การจดั พระราชพธิ ี
พระบรมศพที่เก่าแก่ที่สุดปรากฏอยู่ในหนังสือไตรภูมิกถา
หรอื ไตรภูมพิ ระรว่ ง หนังสือวรรณคดที างพระพุทธศาสนา
เล่มแรกของชาติไทย ซึ่งพระมหาธรรมราชาท่ี ๑ หรือ
พญาลิไท แห่งกรุงสโุ ขทัย ทรงพระราชนพิ นธ์ไวเ้ มอ่ื ปีระกา
พุทธศักราช ๑๘๘๘ พรรณนาการจัดการพระศพพระยา
มหาจักรพรรดิราชไว้
ครน้ั ถงึ สมยั อยธุ ยาตอนตน้ ไมป่ รากฏหลกั ฐานเรอื่ งการ
พระบรมศพ เชน่ เดยี วกบั สมยั รปู แบบของอยธุ ยาตอนกลาง
ในพระราชพงศาวดารกล่าวถึงเฉพาะลักษณะพระเมรุ
มิได้กล่าวถึงรายละเอียดพระราชพิธี ต่อมาในสมัยอยุธยา
ตอนปลายปรากฎหลกั ฐานในจดหมายเหตพุ ระบรมศพ สมเดจ็
พระเจา้ อยหู่ วั ทา้ ยสระ พรรณนาเฉพาะการถวายพระเพลงิ
และการแหพ่ ระบรมอฐั ิและพระบรมราชสรรี างคารไปประดษิ ฐาน
ณ พระอารามหลวง และงานพระบรมศพสมเดจ็ เจา้ ฟา้ สดุ าวดี
กรมหลวงโยธาเทพ พระราชธดิ าสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชา
พรรณนารายละเอียดการพระราชพิธีพระบรมศพไว้
ค่อนขา้ งละเอียด

63

พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรมมีพระมหา
กรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและประชาชน
ชาวไทย ทรงได้รับการเทิดทูนเสมอด้วยสมมติเทพ
ตามคติพราหมณ์เม่ือเสด็จพระราชสมภพ ถือเป็นเทพ
อวตาร คือ เทวดาจุติลงมาอุบัติบนโลกมนุษย์ ครั้นเมื่อ
เสดจ็ สวรรคตจงึ ถอื เปน็ การเสดจ็ กลบั สสู่ วรรค์ พระราชพธิ ี
อนั เกย่ี วเนอื่ งกบั พระบรมศพจงึ ถอื เปน็ พระราชพธิ ที จี่ ดั ขน้ึ
เพ่ือเฉลิมพระเกียรติอยา่ งสูงสุด
การพระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์
ในสมยั รัตนโกสินทรเ์ ป็นโบราณราชประเพณีทมี่ ีแบบแผน
ธรรมเนียมมาแตค่ รง้ั สมัยอยุธยาตอนปลาย มคี วามสำ� คญั
ทดั เทยี มกบั พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก แมว้ า่ จะมกี ารปรบั
เปลย่ี นในรายละเอยี ดปลกี ยอ่ ยของพระราชพธิ ตี า่ ง ๆ อยบู่ า้ ง
ตามยคุ สมยั และสภาวะของสงั คม แตย่ งั คงยดึ ถอื คตติ ามทก่ี ลา่ ว
ในไตรภมู กิ ถาอยอู่ ยา่ งมนั่ คง มกี ารประดษิ ฐานพระบรมศพ
บนพระเมรุมาศซึ่งเปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุล้อมรอบ
ด้วยเขาสัตตบริภัณฑ์ เพื่อเป็นการส่งดวงพระวิญญาณ
กลับสู่สรวงสวรรค์อันเป็นที่สถิตของเทพยดาท้ังหลาย
มกี ารประกอบพระราชพธิ อี ยา่ งยง่ิ ใหญอ่ ลงั การ เรม่ิ ตง้ั แตก่ าร
สรงนำ�้ พระบรมศพการเชญิ พระบรมศพประดษิ ฐานในพระบรมโกศ
การบ�ำเพ็ญพระราชกุศล การเชิญพระบรมศพจาก
พระบรมมหาราชวงั มาประดษิ ฐานณพระเมรมุ าศทอ้ งสนามหลวง
การถวายพระเพลิงพระบรมศพการเชิญพระบรมอัฐิและ
พระบรมราชสรรี างคารกลบั สพู่ ระบรมหาราชวงั ลำ� ดบั พระราชพธิ ี
เหลา่ นมี้ แี บบแผนทำ� เนยี มปฏบิ ตั สิ บื ทอดมาแตโ่ บราณ และ
การเตรยี มการต้องใช้เวลานานหลายเดือน
64

หลังจากเชิญพระบรมโกศข้ึนประดิษฐานบน
พระที่น่ังดุสิตมหาปราสาทแล้ว จึงจัดให้มีการพระราชพิธี
บ�ำเพ็ญพระราชกุศลเป็นประจ�ำทุกวัน และพระราชพิธี
บ�ำเพญ็ พระราชกุศล ครบ ๗ วัน (สัตตมวาร) ครบ ๑๕ วนั
(ปณั รสมวาร) ครบ ๕๐ วนั (ปญั ญาสมวาร) และครบ ๑๐๐ วนั
(สตมวาร) การบ�ำเพญ็ พระราชกศุ ล ณ พระทนี่ ่ังดุสิตมหา
ปราสาทภายใน พระบรมมหาราชวังในแต่ละวัน จะมี
พระบรมวงศานวุ งศเ์ สดจ็ มาบำ� เพญ็ พระกศุ ล จนครบ ๑๐๐ วนั
แต่ละวันมีการสวดพระอภิธรรมโดยพระพิธีธรรมจาก
พระอารามหลวง ๑๐ แหง่ ไดแ้ ก่ วดั มหาธาตยุ วุ ราชรงั สฤษฏิ์
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสุทัศนเทพวราราม
วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดสระเกศ วัดระฆังโฆสิตาราม
วัดประยุรวงศาวาส วัดอนงคาราม วัดราชสิทธาราม
และวัดบวรนิเวศวิหาร โดยสับเปล่ียนหมุนเวียนกันไป
พระพธิ ธี รรมแตล่ ะพระอารามจะใชท้ ำ� นองสวดแตกตา่ งกนั
ปัจจบุ นั มี ๔ ท�ำนอง คอื ท�ำนองกะ ทำ� นองเลอ่ื น ทำ� นอง
ลากซงุ และท�ำนองสรภัญญะ
นอกจากน้ี ยงั มกี ารประโคมยำ�่ ยามในงานพระบรมศพ
หรอื พระศพ ซง่ึ เป็นราชประเพณีโบราณ เพอื่ เปน็ สญั ญาณ
ใหข้ า้ ราชการรกู้ ำ� หนดเวลาในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี การประโคม
ย่�ำยามนี้ใช้ในงานมีพระบรมศพ และพระศพพระราชวงศ์
ขุนนางผู้ใหญ่ แต่เดิมดนตรีท่ีใช้ประโคมย�่ำยามมีเฉพาะ
วงแตรสังข์ และวงปี่ไฉน กลองชนะ โดยก�ำหนดประโคม
ยำ่� ยามทกุ สามชวั่ โมง คอื เวลา ๐๖.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น.
๒๑.๐๐ น. และ ๒๔.๐๐ น. การประโคมน้จี ะท�ำทุกวันจน
ครบกำ� หนดไวท้ กุ ข์ ๑๐๐ วนั ๒ เดอื น ๑ เดอื น ๑๕ วนั ๗ วนั

65

ตามพระเกยี รตยิ ศพระบรมศพ หรอื พระศพ การประโคมยำ่�
ยามพระบรมศพพระมหากษตั รยิ ์ เครอ่ื งประโคมจะประกอบ
ด้วยมโหระทกึ - สงั ข์ - แตรงอน - เปงิ - และกลองชนะ -
หากเปน็ พระศพ ไม่มีมโหระทกึ
เมอื่ ถงึ กาลอนั ควรคอื สรา้ งพระเมรมุ าศ หรอื พระเมรุ
ท่ีท้องสนามหลวงเสร็จพร้อมท่ีจะถวายพระเพลิงได้ ก็จะ
เชญิ พระบรมศพ พระศพจากพระบรมมหาราชวงั ไปยงั ทอ้ ง
สนามหลวงเพอ่ื ถวายพระเพลงิ ณ พระเมรมุ าศ ซง่ึ สรา้ งเปน็
พเิ ศษดังกล่าวแล้ว เรยี กวา่ “งานออกพระเมรุ”
การเชิญพระบรมศพ พระศพ สู่พระโกศ
การบ�ำเพ็ญพระราชกุศล ตลอดจนการสร้างพระเมรุมาศ
พระเมรุ ณ ท้องสนามหลวง การเคลื่อนพระบรมศพ
พระศพจากพระบรมมหาราชวงั สพู่ ระเมรุ ทท่ี อ้ งสนามหลวง
การตกแต่งพระจิตกาธาน การเชิญพระบรมอัฐิ พระอัฐิ
พระบรมราชสรรี างคาร และพระสรรี างคารกลบั เขา้ สพู่ ระบรม
มหาราชวงั ลว้ นมแี บบแผนกำ� หนดไวเ้ ปน็ แนวทางใหป้ ฏบิ ตั ิ
ขนั้ ตอนพระราชพธิ ใี นแตล่ ะขนั้ ตอนดงั กลา่ วตอ้ งใช้
เวลาเตรยี มการเปน็ แรมเดอื น นบั ตง้ั แตก่ ารสรา้ งพระเมรมุ าศ
หรอื พระเมรุ การดแู ลและตกแตง่ ราชรถ ราชยาน คานหาม
สำ� หรบั เชญิ พระโกศพระบรมศพ พระศพ พระบรมอฐั ิ พระอฐั ิ
ตลอดทง้ั เครอื่ งประกอบอนื่ ๆ ในการออกพระเมรุ เชน่ พระ
โกศไมจ้ นั ทน์ เครอ่ื งฟนื ไมจ้ นั ทน์ พระโกศบรรจพุ ระบรมอฐั ิ
พระอัฐิ ผอบบรรจุพระสรรี างคาร หรอื พระราชสรีรางคาร
ทั้งน้ีไม่รวมเครื่องสดที่ประดับพระเมรุมาศ และงานแทง
หยวกเปน็ ลวดลายประดบั พระจติ กาธาน ซงึ่ ตอ้ งทำ� ใหแ้ ลว้
66

เสรจ็ ก่อนการถวายพระเพลิงเพยี งไม่ก่ีช่วั โมง นอกจากนั้น
ยงั ต้องมกี ารซ้อมรว้ิ ขบวนในแตล่ ะจุด แตล่ ะพิธีการด้วย
ตามโบราณราชประเพณี พระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ
พระบรมศพ หรือเรียกว่า “งานออกพระเมรุ” มีขั้นตอน
การปฏิบัติท่ีถูกก�ำหนดไว้อย่างมีแบบแผน การเตรียม
การแต่ละข้นั ตอนใชเ้ วลาหลายเดอื นหรือนานนบั ปี เพอ่ื ให้
สง่างามสมพระเกียรติ โดยเฉพาะศูนย์กลางของพระราช
พธิ ถี วายพระเพลงิ คือการก่อสรา้ งพระเมรุมาศ และเครอื่ ง
ประกอบอื่น ๆ ในการออกพระเมรุต้องมีการออกแบบให้
เหมาะสม หากพระเจา้ อยหู่ วั ในพระบรมโกศเคยมรี บั สง่ั ไว้
เช่นไร จะต้องถือปฏิบัติตามน้ัน ดังเช่นพระบาทสมเด็จ
พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานกระแสพระราชดำ� ริ
และมีพระบรมราชโองการให้จัดการพระเมรุพระบรมศพ
ของพระองคไ์ วว้ า่ “แตก่ อ่ นมา ถา้ พระเจา้ แผน่ ดนิ สวรรคต
ลงก็ต้องปลูกเมรุใหญ่ ซึ่งคนไม่เคยเห็นแล้วจะนึกเดา
ไม่ถูกว่าใหญ่โตเพียงใด เปลืองทั้งแรงคน และเปลืองท้ัง
พระราชทรัพย์ ถ้าจะท�ำในเวลาน้ีก็ดูไม่สมควรกับการ
ที่เปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ไม่เป็นเกียรติยศยืนยาว
ไปได้เท่าใด ไม่เป็นประโยชน์แก่คนท้ังปวง กลับเป็น
ความเดือดร้อน ถ้าเป็นการศพท่านผู้ที่มีพระคุณ หรือมี
บรรดาศักด์ิใหญ่อันควรจะได้เป็นเกียรติยศ ฉันก็ไม่อาจ
จะลดทอน ด้วยเกรงวา่ คนจะเขา้ ใจวา่ เพราะผนู้ นั้ ประพฤติ
ไมด่ อี ยา่ งหนง่ึ อยา่ งใด จงึ ไมท่ ำ� การศพใหส้ มเกยี รตยิ ศซงึ่ ควร
จะได้ แต่เมื่อถงึ ตวั ฉันเองแล้ว เหน็ วา่ ไมม่ ีข้อขดั ขวางอันใด
เปน็ ขอ้ ค�ำท่จี ะพดู ไดถ้ นัด จงึ ขอใหย้ กเลกิ งานพระเมรใุ หญ่

67

นั้นเสีย ปลูกแตท่ ี่เผาพอสมควรในทอ้ งสนามหลวง แลว้ แต่
จะเห็นสมควรกันต่อไป” พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจา้ อยหู่ วั ทรงอนวุ ตั ตามรบั สง่ั ของสมเดจ็ พระบรมชนกนาถ
งานพระเมรพุ ระบรมศพในครั้งนน้ั จึงต่างจากธรรมเนยี มท่ี
เคยมีมา พระองค์ทรงให้ประกาศการพระราชพิธีพระเมรุ
พระบรมศพในราชกิจจานุเบกษาเพ่ือให้ประชาชนทราบ
การเปลี่ยนแปลงน้ีโดยทั่วกัน โดยอัญเชิญพระราชด�ำรัส
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมาประกอบ
ดว้ ย ทง้ั นง้ี านพระเมรพุ ระบรมศพในครง้ั นนั้ นบั เปน็ ตน้ แบบ
ของการสร้างพระเมรุมาศในสมยั ต่อมา
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเร่ิมจาก
งานพระราชกศุ ลออกพระเมรุ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระองค์
ใหมจ่ ะเสด็จพระราชดำ� เนินไปทรงบ�ำเพญ็ พระราชกศุ ลใน
เวลาเยน็ วนั รงุ่ ขน้ึ เจา้ พนกั งานเปลอื้ งพระบรมโกศออกแลว้
ถวายตาด (ผา้ ตาดทอง) คลุมพระลองเงินทรงพระบรมศพ
แล้วเชิญลงจากพระแท่นแว่นฟ้าทอง ออกพระทวาร
ด้านทิศตะวันตกลงจากพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาทไป
ประดิษฐานเหนือพระยานมาศสามล�ำคานที่หน้าประตู
กำ� แพงแกว้ ดา้ นตะวนั ตก เจา้ พนกั งานประกอบพระบรมโกศ
ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเชิญพระบรมโกศ
ออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตเู ทวาภริ มย์ ยาตรา
กระบวนพระบรมราชอิสริยยศไปตามถนนมหาราช ถนน
พระเชตพุ น ถนนสนามไชย เมอ่ื กระบวนถงึ หนา้ พลบั พลายก
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม อัญเชิญพระบรมโกศข้ึน
68

ประดษิ ฐานบนพระมหาพชิ ยั ราชรถ เคลอื่ นสทู่ อ้ งสนามหลวง
โดยยาตราไปตามถนนสนามไชย ถนนราชดำ� เนินเล้ียวเขา้
ถนนพระจันทร์เทียบพระมหาพิชัยราชรถตรงถนนด้าน
ทิศเหนือประตูราชวัตรของพระเมรุมาศ แล้วอัญเชิญ
พระบรมโกศลงจากพระมหาพชิ ยั ราชรถประดษิ ฐานบนราชรถ
ปืนใหญ่เวียนอุตตราวัฏรอบพระเมรุมาศ จากนั้นอัญเชิญ
พระบรมโกศขึ้นสู่พระเมรุมาศเปล้ืองพระโกศทองใหญ่
แล้วอัญเชิญพระลองทรงพระบรมศพประดิษฐาน
ณ พระจิตกาธานยอดพระมหาเศวตฉัตร ประกอบพระ
โกศจนั ทน์
จากนนั้ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไป
ถวายพระเพลงิ ในชว่ งเยน็ วนั รงุ่ ขนึ้ อญั เชญิ พระโกศพระบรม
อัฐิประดิษฐานบนพระที่นั่งราเชนทรยานและพระบรม
ราชสรีรางคารประดิษฐานบนพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย
ยาตราดว้ ยกระบวนพระบรมราชอสิ รยิ ยศจากพระเมรมุ าศ
ไปประดิษฐานในพระบรมมหาราชวงั
คนไทยแต่เดิมยึดถือไตรภูมิตามคติทางพระพุทธ
ศาสนาทก่ี ล่าวถงึ จักรวาล ซึ่งมเี ขาพระสเุ มรเุ ป็นศนู ย์กลาง
ของภูมิท้ังสามที่รายล้อมด้วยสรรพสิ่งนานาต้ังแต่วิมาน
ท้าวจตุโลกบาล เขาสัตตบริภัณฑ์จึงน�ำคติดังกล่าวมา
เป็นแนวทางประกอบพิธีถวายพระเพลิง เพื่อให้ได้ถึง
ภพแหง่ ความดงี ามอนั มแี ดนอยู่ท่เี ขาพระสเุ มรนุ ัน้ เอง ด้วย
เหตุนี้ ส่ิงก่อสร้างในการพระราชพิธีถวายพระเพลิง จึงมี
สว่ นจำ� ลองใหค้ ลา้ ยกบั ดนิ แดนเขาพระสเุ มรุ เชน่ การสรา้ ง

69

พระเมรุมาศในสมัยโบราณนับแต่สมัยอยุธยาเป็นต้นมา
จะมีรูปสัตว์หิมพานต์นานาชนิด บนหลังตั้งสังเค็ด ผ้าไตร
ถวายพระสงฆ์อยู่ในขบวนอิสริยยศเชิญพระบรมศพ
สพู่ ระเมรมุ าศ
การสรา้ ง “พระเมรมุ าศ” จะมขี นาดและแบบงดงาม
วิจิตรแตกต่างกันตามยุคสมัยและตามความบันดาลใจ
ของช่างที่มีปรัชญาในการออกแบบว่าเป็นพระเมรุของ
กษัตริย์ นักรบ หรือฝ่ายสตรี ซึ่งจะประกอบข้ึนเป็น
พระเมรุมาศและปริมณฑลโดยยึดคติโบราณที่สืบทอด
กันมา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา
นรศิ รานวุ ัดติวงศ์ ทรงสนั นิษฐานคตกิ ารสรา้ งพระเมรุมาศ
หรือพระเมรุว่า ได้ชื่อมาจากการปลูกสร้างปราสาทอัน
สูงใหญ่ท่ามกลางปราสาทน้อยที่สร้างข้ึนตามมุมทิศ
มีโขลนทวาร (โคปุระ) ชักระเบียงเช่ือมถึงกัน ปักราชวัติ
เปน็ ชน้ั ๆ ลกั ษณะเหมอื นเขาพระสเุ มรตุ ง้ั อยทู่ า่ มกลางมเี ขา
สตั ตบรภิ ณั ฑล์ อ้ ม จงึ เรยี กเลยี นชอื่ วา่ “พระเมร”ุ ภายหลงั ทำ�
ยอ่ ลง แม้ไมม่ อี ะไรลอ้ ม เหลือแค่ยอดแหลม ๆ กย็ ังคงเรียก
เมรดุ ว้ ย
แผนผังพระเมรุมาศเป็นรูปส่ีเหลี่ยมจัตุรัส พระ
เมรุมาศอยู่กลาง แวดล้อมด้วยอาคารรายรอบเป็น
ปริมณฑล ประดุจโบสถ์หรือวิหารซ่ึงมีระเบียงล้อมรอบ
คือ ทับเกษตร เป็นท่ีพัก ซ่างหรือส�ำส้าง คือมุมคด
ของทับเกษตร ทั้ง ๔ มุม เป็นที่พระสวดพระอภิธรรม
ตรงข้ามพระเมรุมาศจะเป็นพระที่นั่งทรงธรรมส�ำหรับ
พระมหากษตั รยิ ป์ ระทบั ในการถวายพระเพลงิ บรเิ วณองค์
70

พระเมรุมาศจะประดับตกแต่งด้วยราชวัติฉัตรธง เสา
ดอกไม้พุ่ม สรรพสัตว์ตกแต่งให้ประดุจเขาพระสุเมรุราช
ในเร่ืองไตรภูมิ กล่าวกันว่าในสมัยโบราณพระเมรุ
มีขนาดสูงใหญ่โอฬารมาก เช่น พระเมรุมาศของสมเด็จ
พระนารายณม์ หาราชในสมยั อยธุ ยา
การถวายพระเพลิง หรือ “ออกพระเมรุ” ในสมัย
โบราณจะทำ� เปน็ งานใหญแ่ ลว้ แตก่ ำ� หนดตงั้ แต่ ๓ วนั ๕ วนั
๙ วัน ถงึ ๑๕ วัน สุดแต่สะดวก ซึง่ ในปจั จุบนั พระราชพธิ ี
จะมีขอบเขต คอื
วันแรก เชญิ พระบรมศพออกสู่พระเมรุ
ด้วยขบวนพระบรมราชอิสริยยศข้ึน

ประดิษฐานบนพระเมรมุ าศ
วนั ทสี่ อง ถวายพระเพลิงพระบรมศพ
มเี ครื่องประกอบพระราชพิธแี ละวิธี
ปฏบิ ตั ิเฉลิมพระเกียรติยงิ่ ใหญ่
วนั ท่สี าม สมโภชพระบรมอัฐิ
เม่ือถวายพระเพลิงแล้วจะประกอบพระราช
พิธีสามหาบตามหลักพระพุทธศาสนาแล้วเชิญ
พระบรมอัฐิ พระอัฐิ ด้วยขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
พระอสิ รยิ ยศสมโภชภายในพระบรมมหาราชวงั พระบรมอฐั ิ
พระอัฐิจะบรรจุในพระโกศทองค�ำ แล้วประดิษฐานไว้
บนพระมหาปราสาท จัดให้มีการบ�ำเพ็ญพระราชกุศล
สว่ นพระบรมราชสรรี างคาร พระสรรี างคารจะนำ� ไปประดษิ ฐาน
ไวย้ งั พุทธสถาน พระอารามหลวงตามราชประเพณี

71

72

หมายก�ำหนดการ
งานพระราชพธิ ีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร

ระหว่างวันท่ี ๒๕-๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

วนั พุธที่ ๒๕ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๐
เวลา ๑๗.๓๐ น.
พระราชกุศลออกพระเมรุ
สถานท ่ี พระทน่ี ั่งดสุ ติ มหาปราสาท
การแต่งกาย เตม็ ยศ ไว้ทุกข์ มงกฎุ ไทย
วันพฤหสั บดที ่ี ๒๖ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๐
เวลา ๐๗.๐๐ น.
เชิญพระบรมศพไปพระเมรมุ าศ
สถานท่ี พระท่ีน่ังดสุ ิตมหาปราสาท
พลบั พลายก วดั พระเชตพุ นฯ
ถนนสนามไชย ถนนราชด�ำเนนิ ใน
พระเมรมุ าศ ท้องสนามหลวง
ถนนตดั กลางสนามหลวง
หนา้ พลับพลายก พระเมรมุ าศ
การแตง่ กาย เต็มยศ ไวท้ กุ ข์ สายสะพายจักรี
หรือช้างเผือก

73

เวลา ๑๗.๓๐ น.
ถวายพระเพลงิ พระบรมศพ
สถานท่ี พระทน่ี ง่ั ทรงธรรม
พระเมรุมาศ
การแตง่ กาย เต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายจักรี
เวลา ๒๒.๐๐ น.
ถวายพระเพลงิ พระบรมศพ
สถานที่ พระทีน่ ่ังทรงธรรม
พระเมรมุ าศ
การแต่งกาย ปกติขาว ไวท้ กุ ข์
วันศกุ ร์ที่ ๒๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๐
เวลา ๐๘.๐๐ น.
พระราชกศุ ลพระบรมอัฐิ
สถานที ่ ตกึ ถาวรวัตถุ (ตกึ แดง)
พระจิตกาธาน
พระท่ีน่งั ทรงธรรม
วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม
(พระศรรี ัตนเจดีย์)
พระทีน่ ่ังดสุ ิตมหาปราสาท
การแต่งกาย เตม็ ยศ ไวท้ กุ ข์ สายสะพายจลุ จอมเกลา้


74

วนั เสาร์ท่ี ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
เวลา ๑๗.๓๐ น.
พระราชกุศลพระบรมอฐั ิ
สถานท ่ี พระที่นง่ั ดสุ ิตมหาปราสาท
การแต่งกาย เตม็ ยศ สายสะพายจกั รี
วันอาทติ ย์ท่ี ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
เวลา ๑๐.๓๐ น.
เลยี้ งพระและอญั เชญิ พระโกศพระบรมอฐั ิ
ขนึ้ ประดษิ ฐานพระวิมาน
สถานท ี่ พระทนี่ ง่ั ดสุ ติ มหาปราสาท
พระทน่ี ง่ั จักรมี หาปราสาท
การแตง่ กาย เต็มยศ จุลจอมเกล้า
เวลา ๑๗.๓๐ น.
บรรจุพระบรมราชสรรี างคาร
สถานที ่ วัดราชบพิธสถติ มหาสมี าราม
วดั บวรนเิ วศวหิ าร
การแตง่ กาย เต็มยศ จุลจอมเกล้า

75

การจดั ซอ้ มขบวนพระบรมราชอสิ รยิ ยศ

76

การจัดขบวนพระบรมราชอสิ รยิ ยศ
การเชิญพระบรมศพจากพระมหาปราสาทไปสู่
พระเมรุมาศหรือเชิญพระบรมอัฐิจากพระเมรุมาศมาสู่
พระบรมมหาราชวัง พระบรมราชสรีรางคารไปบรรจุหรือ
ลอยพระอังคาร ตามโบราณกาลจะเชิญไปด้วยขบวนพระ
ราชอิสริยยศ ซง่ึ เรยี กว่า “ร้ิวขบวน” ซงึ่ ในแตล่ ะรว้ิ ขบวน
มีคนหาม คนฉุดชักจ�ำนวนมาก พรอ้ มดว้ ยเครอื่ งประกอบ
พระบรมราชอิสริยยศ ได้แก่ เครื่องสูง พระกลด บังสูรย์
พดั โบก บงั แทรก พ่มุ เงิน พ่มุ ทอง จามร พระอภริ มุ ชมุ สาย
แวดล้อมตามพระราชฐานันดรศักด์ิแห่งพระบรมศพ หรือ
พระศพน้นั ๆ พรงั่ พรอ้ มดว้ ยเคร่ืองประโคม เช่น สังขแ์ ตร
ปี่ กลองชนะพร้อมสรรพด้วยโขลนพลโยธาแห่น�ำตามแซง
เสด็จ ทัง้ คแู่ ห่ ค่เู คยี ง เปน็ จ�ำนวนมาก ซง่ึ จะเขา้ ขบวนและ
เคล่อื นขบวนไปอยา่ งมรี ะเบียบและสง่างาม
การจดั รว้ิ ขบวนเครอื่ งประกอบพระบรมราชอสิ รยิ ยศ
ในพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพเปน็ สงิ่ สำ� คญั จงึ
ตอ้ งบรู ณะและตกแตง่ ราชรถ รวมทง้ั ราชยาน คานหาม ให้
พรอ้ มสำ� หรบั การเชญิ พระบรมศพ พระบรมอฐั ิ และพระบรม
ราชสรีรางคาร รวมท้ังซักซ้อมการเคลื่อนขบวนให้งดงาม
ประหน่ึงราชรถเคล่อื นบนหมู่เมฆสง่ เสด็จส่สู รวงสวรรค์
การจดั ขบวนพระบรมราชอสิ รยิ ยศงานพระราชพธิ ี
ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร มี ๖ รว้ิ ขบวน กำ� ลงั พล
จ�ำนวน ๕,๖๑๓ นาย ดังน้ี

77

วนั พฤหสั บดที ี่ ๒๖ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เวลา ๐๗.๐๐ น.
ริ้วขบวนที่ ๑ เชิญพระบรมโกศโดยพระยานมาศ
สามล�ำคานจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระมหา
พิชัยราชรถ หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เส้นทาง
จากประตูเทวาภิรมย์ - ถนนมหาราช - ถนนท้ายวัง - ถนน
สนามไชย ระยะทาง ๘๑๗ เมตร ใชเ้ วลา ๓๐ นาที เดินตาม
จังหวะเสียงกลอง โดยการเดินปกติ จัดก�ำลังพล จ�ำนวน
๙๖๕ นาย
รวิ้ ขบวนที่ ๒ เชญิ พระบรมโกศโดยพระมหาพชิ ยั ราช
รถจากหนา้ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลารามไปยงั พระเมรมุ าศ
เส้นทางจากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม - ถนน
สนามไชย - ถนนราชดำ� เนนิ ใน - ถนนเสน้ กลางสนามหลวง
ระยะทาง ๘๙๐ เมตร ใชเ้ วลา ๒ ชวั่ โมง เดนิ แบบเปลยี่ นเทา้
ประกอบเพลงพญาโศก จัดกำ� ลังพลจำ� นวน ๒,๔๐๖ นาย
ร้ิวขบวนท่ี ๓ เชิญพระบรมโกศโดยราชรถปืนใหญ่
เวียนรอบพระเมรุมาศ โดยอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) ๓ รอบ
แลว้ เชญิ พระบรมโกศประดษิ ฐานบนพระเมรมุ าศ ระยะทาง
๒๖๐ เมตร ตอ่ รอบ ใช้เวลา ๓๐ นาที เดินตามจงั หวะเสียง
กลอง โดยการเดนิ ปกติ จดั กำ� ลังพลจ�ำนวน ๗๘๑ นาย
วนั ศกุ รท์ ี่ ๒๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เวลา ๐๘.๐๐ น.
รวิ้ ขบวนที่ ๔ เชญิ พระบรมอฐั โิ ดยพระทนี่ งั่ ราเชนทรยาน
และเชญิ พระบรมราชสรรี างคารโดยพระทน่ี ง่ั ราเชนทรยานนอ้ ย

78

จากพระเมรมุ าศเขา้ สพู่ ระบรมมหาราชวงั เสน้ ทางจากถนน
กลางสนามหลวง - ถนนราชดำ� เนนิ ใน - ถนนหนา้ พระลาน - เขา้
ประตวู เิ ศษไชยศรพี ระบรมมหาราชวงั ระยะทาง ๑,๐๗๔ เมตร
ใชเ้ วลา ๓๐ นาที เดนิ ตามจงั หวะเสยี งกลอง โดยการเดนิ ปกติ
จดั กำ� ลงั พลจำ� นวน ๘๓๔ นาย
วนั อาทติ ยท์ ี่ ๒๙ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๓๐ น.
และเวลา ๑๗.๓๐ น. ตามล�ำดบั
รวิ้ ขบวนที่ ๕ เชญิ พระบรมอฐั โิ ดยพระทน่ี ง่ั ราเชนทร
ยานจากพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาทขึ้นประดิษฐานท่ีพระ
วมิ านบนพระทน่ี ง่ั จกั รีมหาปราสาท เสน้ ทางจากพระทน่ี ่ัง
ดสุ ิตมหาปราสาท - พระท่นี ั่งจกั รีมหาปราสาท ระยะทาง
๖๓ เมตร ใชเ้ วลา ๑๐ นาที เดินตามจังหวะเสียงกลอง โดย
การเดินปกติ จัดกำ� ลงั พลจำ� นวน ๕๕๐ นาย
รวิ้ ขบวนท่ี ๖ เชญิ พระบรมราชสรรี างคารจากพระศรี
รตั นเจดยี ์ วดั พระศรรี ตั นศาสดาราม ไปบรรจุ ณ วดั ราชบพธิ
สถติ มหาสมี าราม และวดั บวรนเิ วศวหิ าร โดยรถยนตพ์ ระทนี่ งั่
เสน้ ทางจากวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม - ประตวู เิ ศษไชยศรี
- ถนนหน้าพระลาน - ถนนสนามไชย - วัดราชบพิธสถิต
มหาสมี าราม และจากวดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม - ถนน
อัษฎางค์ - ถนนสนามไชย - ถนนราชดำ� เนนิ กลาง - ถนน
พระสุเมรุ - วดั บวรนเิ วศวหิ าร จัดขบวนม้าจำ� นวน ๗๗ ม้า

79

พระที่น่งั ดุสติ มหาปราสาท

80

พระท่ีนั่งดสุ ติ มหาปราสาท
พระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาทสร้างขึ้นในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็น
หมู่พระท่ีน่ังประธานคู่กับหมู่พระมหามณเฑียรที่ได้รับ
การยกย่องว่าเป็นอาคารสถาปัตยกรรมไทยชิ้นเอก
ของกรุงรัตนโกสินทร์และเป็นพระท่ีนั่งทรงไทยแท้เพียง
องค์เดียวในพระบรมมหาราชวัง สร้าง ณ บริเวณเดิมท่ี
เปน็ พระทน่ี งั่ อนิ ทราภเิ ษกทถ่ี กู ฟา้ ผา่ ไฟไหมเ้ สยี หายทง้ั หมด
ตงั้ อยทู่ างทศิ ตะวนั ตกของพระราชฐานชน้ั กลาง ดา้ นหนา้ สดุ
ทางตะวันตกของพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทมีพระที่น่ัง
พิมานรัตยา พระปรัศว์ซ้าย พระปรัศว์ขวา เรือนบริวาร
หรือเรือนจันทร์ต่อเน่ือง ถัดเข้าไปทางด้านหลังในเขต
พระราชฐานชน้ั ในมมี ุขเดจ็ เป็นมขุ คดอีกชน้ั รวมด้านหน้า
เปน็ ๕ ชนั้ แตล่ ะชน้ั มงุ ดว้ ยกระเบอ้ื งเคลอื บสพี นื้ เขยี วอมสม้
ประดับด้วยช่อฟ้าใบระกาและนาคเบือนแทนหางหงส์
พระบญั ชรและพระทวารมซี มุ้ ยอดมณฑปทกุ องค์ สว่ นหนา้ บนั
ทม่ี ขุ ทงั้ ๔ ทศิ เปน็ ไมจ้ ำ� หลกั ลายลงรกั ปดิ ทองรปู พระนารายณ์
ทรงสุบรรณบนพ้ืนกระจกสีน้�ำเงินล้อมรอบด้วยลายกนก
กา้ นเทพนม มขุ ดา้ นใตข้ องพระทนี่ งั่ ดสุ ติ มหาปราสาทเชอื่ ม
ต่อกับพระที่น่ังพิมานรัตยาด้วยมุขกระสัน ส่วนมุขด้าน
ทิศตะวันออกมีทางเดินเช่ือมกับพระที่น่ังอาภรณ์พิโมกข์
ปราสาท และมขุ ด้านทศิ ตะวนั ตกมีทางเดินเช่ือมกบั ศาลา

81

เปล้ืองเครื่อง มีอัฒจันทร์ทางข้ึนพระที่น่ังสองข้างมุขเด็จ
และทางข้ึนด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกด้านละ
๑ แหง่ ซงึ่ สรา้ งเพมิ่ เตมิ ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้
เจ้าอยหู่ ัว
พระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาทใช้เป็นสถานท่ีประกอบ
พระราชพธิ สี ำ� คญั ๆ ตา่ ง ๆ มาโดยตลอด เชน่ ใชเ้ ปน็ ทเ่ี สดจ็
ออกวา่ ราชการของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก
มหาราช ต่อมาเม่ือพระบรมวงศ์ฝ่ายในช้ันสูงสิ้นพระชนม์
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหน้ ำ� พระศพมาประดษิ ฐาน
ไว้บนพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาทเพื่อบ�ำเพ็ญพระราชกุศล
เชน่ สมเดจ็ พระเจา้ พน่ี างเธอ เจา้ ฟา้ กรมพระยาเทพสดุ าวดี
สมเดจ็ พระเจา้ พ่นี างเธอ เจา้ ฟ้ากรมพระศรสี ดุ ารกั ษ์ และ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงศรีสุนทรเทพ
เป็นตน้ ครัน้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราชเสดจ็ สวรรคตเมอื่ พ.ศ. ๒๓๕๓ ไดเ้ ชญิ พระบรมศพ
มาประดษิ ฐานบนพระมหาปราสาทแห่งน้ี ภายหลังจงึ เปน็
ธรรมเนยี มในการประดษิ ฐานพระบรมศพพระมหากษตั รยิ ์
พระองคต์ ่อ ๆ มา รวมทงั้ พระอัครมเหสี และบางโอกาสก็
ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานใหต้ ง้ั พระบรมศพ
พระศพพระบรมวงศ์ชน้ั สงู บางพระองค์ดว้ ย
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเคยใช้เป็นสถานที่
ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชของพระบาท
สมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว ในรชั กาลพระบาทสมเด็จ
82

พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรเคยใช้
เปน็ ทปี่ ระกอบพระราชพธิ พี ระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์
จลุ จอมเกลา้ เนอื่ งในวนั ฉตั รมงคล เปน็ ทปี่ ระดษิ ฐานพระบรมศพ
สมเดจ็ พระศรสี วรนิ ทริ าบรมราชเทวี พระพนั วสั สาอยั ยกิ าเจา้
สมเดจ็ พระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชนิ ใี นรชั กาลท่ี ๗
สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี และสมเดจ็ พระเจา้
พน่ี างเธอ เจา้ ฟา้ กลั ยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครนิ ทร์
และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา
สริ โิ สภาพณั ณวดี จงึ เปน็ ธรรมเนยี มประดษิ ฐานพระบรมศพ
พระมหากษตั รยิ ์ พระมเหสแี ละพระศพพระบรมวงศานวุ งศ์
ช้ันสูงสบื มา

83

วดั ราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม

84

วดั ราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
วดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม เปน็ พระอารามหลวงชน้ั
เอกชนดิ ราชวรวหิ าร พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
ทรงพระกรณุ า โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งขน้ึ เพอื่ เปน็ วดั ประจำ� รชั กาล
และเป็นท่ีบรรจุพระอัฐิและพระสรีรางคารของเจ้านายใน
ราชตระกลู ภายในวดั แบง่ ออกเปน็ ๓ สว่ น คอื เขตพทุ ธาวาส
เขตสงั ฆาวาส และเขตสสุ านหลวง
พระอุโบสถภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทยแท้
ประกอบด้วยกระเบ้ืองเคลือบเบญจรงค์รูปเทพประนม
ภายในเปน็ สถาปตั ยกรรมแบบโกธคิ พระประธานคอื พระพทุ ธ
อังคีรส ซึ่งฐานบัลลังก์บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จ
พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้า
เจา้ อยหู่ วั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระบรม
ราชสรีรางคารพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั และ
สมเดจ็ พระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชนิ ใี นรชั กาลท่ี ๗
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามนับเป็นพระอาราม
หลวงสุดท้ายท่ีพระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราช
ประเพณที มี่ กี ารสรา้ งวดั ประจำ� รชั กาล ทรงพระกรณุ าโปรด
เกลา้ ฯ พระราชทานนามวา่ วัดราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม
หมายถึงวดั ทพ่ี ระมหากษัตรยิ ์ทรงสรา้ ง และมีมหาสมี าคอื
เสาศิลาจ�ำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร ๘ เสา ตั้งเป็น
สีมาที่กำ� แพง ๘ ทศิ ล้อมรอบอาณาเขตของวัด

85

วดั บวรนิเวศวหิ าร

86

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามมีสุสานหลวงตั้ง
อยู่นอกเขตก�ำแพงมหาสีมาธรรมจักรของวัดด้านติด
กับถนนอัษฎางค์ ริมคลองคูเมืองเดิม พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างข้ึนเป็นที่บรรจุพระอัฐิและพระสรีรางคารของ
พระบรมราชเทวี พระราชเทวี เจา้ จอมมารดา พระราชโอรส
และพระราชธดิ าในพระองค์ รูปแบบสถาปตั ยกรรมตา่ ง ๆ
ทงั้ พระเจดยี ์ พระปรางค์ วหิ ารแบบไทย แบบขอม และแบบ
โกธคิ โดยตง้ั ในสวนทมี่ ีพรรณไม้ตา่ ง ๆ งดงาม
วดั บวรนเิ วศวิหาร
วัดบวรนิเวศวิหารที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร
ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร เปน็ พระอารามหลวงชน้ั เอกชนดิ ราชวรวหิ าร
ฝ่ายธรรมยุต สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ
กรมพระราชวงั บวรสถานมงคล ในรชั กาลที่ ๓ ทรงสรา้ งขน้ึ
เพอ่ื ปลงศพเจา้ จอมมารดา (นอ้ ย) ของพระองคเ์ จา้ ดาราวดี
พระราชชายา ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๖๗ และ พ.ศ. ๒๓๗๕
วัดบวรนิเวศวิหาร อยู่ใกล้กับวัดรังษีสุทธาวาสท่ีสมเด็จ
เจา้ ฟา้ กรมขนุ อศิ รานรุ กั ษท์ รงสถาปนาขน้ึ เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๖๖
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๙ พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้า
เจา้ อยหู่ วั ทรงอาราธนาสมเดจ็ พระอนชุ าธริ าช เจา้ ฟา้ มงกฎุ ฯ

87

มาครองวดั นข้ี ณะทรงผนวชอยทู่ ว่ี ดั สมอราย (วดั ราชาธวิ าส
ปัจจบุ ัน) เจา้ ฟ้ามงกฎุ ฯ ทรงปรับปรุงวางหลักเกณฑ์ความ
ประพฤตปิ ฏบิ ตั พิ ระสงฆใ์ หเ้ ปน็ ไปโดยถกู ตอ้ งตามพระธรรมวนิ ยั
โดยมพี ระสงฆป์ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามอยา่ งพระองคเ์ ปน็ อนั มาก
ในคราวที่พระองค์เสด็จมาครองวัดก็ได้น�ำการประพฤติ
ปฏบิ ตั นิ นั้ มาใชใ้ นการปกครองพระสงฆ์ ณ วดั บวรนเิ วศวหิ าร
ดว้ ย ซง่ึ ในครงั้ เดมิ เรยี กพระสงฆค์ ณะนว้ี า่ “บวรนเิ วศาทคิ ณะ”
อนั เปน็ ชอื่ สำ� นกั วดั บวรนเิ วศวหิ าร ตอ่ มาจงึ ไดช้ อ่ื วา่ “คณะธรรม
ยตุ กิ นกิ าย” ซงึ่ แปลวา่ คณะสงฆผ์ ซู้ ง่ึ ปฏบิ ตั ติ ามพระธรรมวนิ ยั
จึงถอื ว่าวดั บวรนิเวศวหิ ารเปน็ สำ� นักเอกเทศแห่งคณะสงฆ์
ธรรมยตุ ิกนิกายเป็นวัดแรก
ในรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั
ทรงพระราชดำ� รวิ า่ วดั รงั ษสี ทุ ธาวาสซงึ่ อยตู่ ดิ กบั วดั บวรนเิ วศ
วหิ ารนนั้ มสี ภาพทรดุ โทรมมาก จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ
ให้ยุบรวมเข้าเป็นวัดเดียวกับวัดบวรนิเวศวิหาร เรียกว่า
คณะรงั ษี และหลงั จากถวายพระเพลงิ พระบรมศพ พระบาท
สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว พระบาทสมเด็จ
พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหอ้ ญั เชญิ
พระบรมราชสรรี างคารมาบรรจไุ ว้ ณ ใตบ้ ลั ลงั กพ์ ระพทุ ธชนิ สหี ์
ในพระอุโบสถ เมือ่ วนั ที่ ๒๕ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๘
วัดบวรนิเวศวิหาร นับเป็นพระอารามที่มีความ
ส�ำคัญทั้งในทางคณะสงฆ์และในทางบ้านเมือง กล่าวคือ
ในทางคณะสงฆ์ วัดบวรนิเวศวิหารเป็นจุดก�ำเนิดของ
88

คณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย เพราะเป็นท่ีเสด็จสถิตของ
พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู ัวขณะทรงผนวชอยู่
และขณะทรงดำ� รริ เิ รมิ่ ปรบั ปรงุ วตั รปฏบิ ตั ขิ องพระสงฆ์ อนั
เปน็ เหตุให้เกิดเป็นพระสงฆ์คณะธรรมยตุ ข้นึ ในเวลาต่อมา
วัดบวรนิเวศวิหารเป็นท่ีสถิตของสมเด็จ
พระสังฆราช องค์ประมขุ ของคณะสงฆ์ไทยถึง ๔ พระองค์
คอื สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาปวเรศวรยิ าลงกรณ์
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ สมเด็จ
พระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆราช
วัดบวรนิเวศวิหารเป็นแหล่งก�ำเนิดการศึกษาของ
คณะสงฆค์ อื เปน็ ทก่ี ำ� เนดิ มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั สถานศกึ ษา
สำ� หรบั พระภกิ ษสุ ามเณร ซงึ่ ไดพ้ ฒั นามาเปน็ มหาวทิ ยาลยั
มหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่ง
แรกของไทยในปัจจุบัน เป็นท่ีก�ำเนิดการศึกษาพระปริยัติ
ธรรมแผนกธรรมทเี่ รยี กกนั สน้ั ๆ วา่ “นกั ธรรม” อนั เปน็ การ
ศึกษาข้นั พนื้ ฐานของคณะสงฆ์ไทย
วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธ
รูปส�ำคัญคือพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา ซ่ึงสร้าง
โดยพระมหาธรรมราชาลิไทย สมัยกรุงสุโขทัย สมัย
เดียวกับพระพุทธชินราช พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์เคย
ประดิษฐานอยูด่ ้วยกัน ณ วัดพระศรีรตั นมหาธาตุ จังหวดั

89

พิษณุโลก นอกจากน้ียังเป็นท่ีประดิษฐานพระพุทธบาท
คบู่ นศลิ าแผน่ ใหญส่ มยั สโุ ขทยั และพระไสยา (คอื พระนอน)
ทง่ี ดงามสมยั สโุ ขทัยด้วย
ในทางบ้านเมือง วัดบวรนิเวศวิหารได้เคยเป็นท่ี
ต้ังกองบัญชาการศึกษาหัวเมืองเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดให้มีการ
จดั การศกึ ษาหวั เมอื งทวั่ พระราชอาณาจกั รเมอื่ พ.ศ. ๒๕๔๑
โดยทรงอาราธนาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยา
วชิรญาณวโรรสขณะทรงด�ำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้า
น้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ให้ทรงอ�ำนวยการ
ในการจดั การศกึ ษาในหวั เมอื ง อนั เปน็ การวางรากฐานการ
ประถมศึกษาของไทย
วดั บวรนเิ วศวหิ าร เปน็ ทป่ี ระทบั ของพระมหากษตั รยิ ์
ที่เสด็จออกทรงผนวชทุกพระองค์ ได้แก่พระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และพระบาทสมเดจ็
พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ตลอดถงึ
พระบรมวงศช์ นั้ สงู ทที่ รงพระผนวชเกอื บทกุ พระองคต์ งั้ แต่
รัชกาลท่ี ๔ ต่อเนอื่ งมาจนถึงปัจจบุ ัน
วดั บวรนเิ วศวหิ ารมพี ระพทุ ธรปู สำ� คญั ๒ องคท์ สี่ รา้ งขนึ้
ในรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร ได้แก่ พระพุทธสยามาภิวัฒนบพิตร
90

ภูมิพลนริศทสสหัส สทิวัสรัชการี ปัณณาสวรรษศรีอุภัย
มหามงคล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อในลีลาปาง
หา้ มแก่นจนั ทน์ขนาดเท่าพระองค์ (๑๗๒ เซนติเมตร) เมื่อ
วันท่ี ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐ และทรงพระกรุณา
โปรดเกลา้ ฯ ใหอ้ ัญเชญิ ขนึ้ ประดิษฐานไวบ้ นฐานชุกชีเบอ้ื ง
พระหตั ถข์ วาพระพทุ ธชนิ สหี ภ์ ายในพระอโุ บสถ และพระพทุ ธ
วิโลกนญาณบพิตร สิริกิติธรรมโสตถิมงคล ซึ่งสมเด็จพระ
นางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ในรชั กาลที่ ๙ ทรงพระกรณุ า
โปรดเกลา้ ฯ ใหห้ ลอ่ พระพทุ ธรปู ประจำ� พระชนมวาร (ปางรำ� พงึ )
ขนาดเทา่ พระองคข์ นึ้ เมอ่ื วนั ท่ี ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๐
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชญิ ขนึ้ ประดิษฐาน
ไว้บนฐานชุกชีเบ้ืองพระหัตถ์ซ้ายพระพุทธชินสีห์ภาย
ในพระอโุ บสถ

91

พระเมรมุ าศ

92

พระเมรุมาศและส่ิงกอ่ สรา้ งภายใน
มณฑลพิธีทอ้ งสนามหลวง

มณฑลพิธี

หมายถึงบริเวณท่ีใช้ประกอบพระราชพิธี พิธี ซึ่งมี
สญั ลกั ษณห์ รอื สง่ิ กอ่ สรา้ งเปน็ เครอ่ื งหมายแสดงอาณาบรเิ วณ
หรือขอบเขตที่แนช่ ดั เชน่ มณฑลพธิ ีท้องสนามหลวงใช้ใน
การประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ รวมทั้งพระราชพิธีถวาย
พระเพลิงพระบรมศพและพระราชทานเพลิงพระศพมา
ตง้ั แตค่ รง้ั รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก
มหาราช จึงเรียกว่า “ทุ่งพระเมรุ” โดยองค์ประกอบของ
สถาปตั ยกรรมและสง่ิ ปลกู สรา้ งภายในมณฑลพธิ พี ระราชพธิ ี
ถวายพระเพลงิ พระบรมศพ และพระราชทานเพลงิ พระศพ
มดี ังน้ี องคพ์ ระเมรมุ าศหรือพระเมรุสร้างขน้ึ ตรงกลางของ

93

มณฑลพิธีตามคติการเป็นศูนย์กลางของโลกและจักรวาล
รายล้อมด้วยพระทน่ี ่งั ทรงธรรม ศาลาลกู ขนุ พลับพลายก
หอเปลื้อง ซ่าง ทับเกษตร ทิม คด และประดับด้วยสัตว์
หิมพานต์ กินนร กินรี รอบพระเมรุมาศ ช้ันนอกสุดล้อม
รอบด้วยราชวัติซ่ึงเป็นแนวร้ัวก�ำหนดขอบเขตมณฑลพิธี
ประดบั ตกแต่งดว้ ยฉตั รและธงเปน็ ระยะ
คตคิ วามเชอื่ เรอื่ งโลกและจกั รวาลตามทก่ี ลา่ วถงึ ใน
เตภมู กิ ถา หรอื ไตรภมู พิ ระรว่ ง ซงึ่ เปน็ ทรี่ จู้ กั กนั อยา่ งแพรห่ ลาย
ในสังคมไทยได้บรรยายไว้ว่า โลกและจักรวาลมีลักษณะ
เป็นวงกลม มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ใต้
เขาพระสุเมรุเป็นเมืองอสูร บนเขาพระสุเมรุเป็นที่ต้ังของ
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีไพชยนต์ปราสาทอยู่กลางเมือง เขา
พระสเุ มรุล้อมรอบด้วยทะเล ๗ ชน้ั เรยี กวา่ ทะเลสีทันดร
สลับดว้ ยภเู ขา ๗ ลกู เรยี กวา่ สตั ตบรภิ ัณฑ์ หรอื สัตตภัณฑ์
คอื ยคุ นธร อสิ นิ ธร กรวกิ สทุ สั สนะ เนมนิ ธร วนิ นั ตกะ และ
อสั สกัณณะ ถดั ออกมาเป็นมหาสมุทรทง้ั ๔ และทวปี ทงั้ ๔
กลางทะเลนั้นมีเกาะอยู่ ๒,๐๐๐ เกาะ มนุษย์เราน้ีอาศัย
อยใู่ นชมพทู วปี อนั เปน็ ทต่ี ง้ั ของปา่ หมิ พานต์ ชนั้ นอกสดุ เปน็
กำ� แพงจกั รวาลลอ้ มรอบเป็นเขตสดุ ขอบจกั รวาล
คตคิ วามเชอื่ เรอ่ื งโลกและจกั รวาลในเตภมู กิ ถาดงั กลา่ ว
ข้างต้นเป็นท่ีมาในการสร้างพระเมรุมาศอันมีปริมณฑล
รายลอ้ มดว้ ยสงิ่ กอ่ สรา้ งตา่ ง ๆ พระเมรมุ าศจงึ เปน็ การจำ� ลอง
โลกและจกั รวาล มอี งคพ์ ระเมรมุ าศเปน็ เสมอื นเขาพระสเุ มรุ
94

อันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ส่วนอาคารรายล้อมองค์
พระเมรมุ าศเปรยี บเสมอื นสงิ่ ตา่ ง ๆ ทอ่ี ยรู่ ายลอ้ มจกั รวาล เชน่
สตั ตบริภัณฑ์ ทวปี ท้ัง ๔ ปา่ หมิ พานต์ และก�ำแพงจกั รวาล
อยา่ งไรกต็ าม เปน็ เรอ่ื งยากทจ่ี ะระบคุ วามหมายอยา่ งแนช่ ดั ใน
แบบแผนของพระเมรมุ าศทงั้ หมด เพราะสง่ิ กอ่ สรา้ งบางอยา่ ง
สร้างขึ้นตามประโยชน์ใช้สอย เช่น ศาลาทรงธรรม เป็น
พระทน่ี งั่ โถงสำ� หรบั พระมหากษตั รยิ ป์ ระทบั เมอ่ื เสดจ็ ฯ ไป
งานถวายพระเพลงิ และอกี ประการหนงึ่ คอื ในสมยั หลงั ลง
มานนั้ พระเมรมุ าศสรา้ งยอ่ ใหเ้ ลก็ ลงและเปน็ ไปโดยประหยดั
ซง่ึ เปน็ แบบแผนของงานพระเมรใุ นสมยั ตอ่ มา อยา่ งไรกต็ าม
ก็ยังคงไว้ซ่ึงโบราณราชประเพณีอันยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
ตามพระราชอสิ ริยยศของพระบรมศพหรือพระศพ

95

พระเมรุมาศ

พระเมรุมาศ

96

พระเมรมุ าศ
พระเมรุมาศเป็นสถาปัตยกรรมช่ัวคราวส�ำหรับ
ประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหา
กษัตริย์หรือพระราชทานเพลิงพระบรมศพพระบรมวงศ์
เชน่ พระบรมราชนิ ี พระบรมราชชนนี พระบวรราชเจา้ (วงั
หน้า) เป็นต้น ตามรูปศัพท์ “พระเมรุมาศ” แปลว่า พระ
เมรุที่ประดับตกแต่งด้วยทองหรือวัสดุอ่ืนที่ให้สีเรืองอร่าม
ดุจด่ังทอง ส่วนของพระบรมวงศานุวงศ์เรียก “พระเมรุ”
และของสามัญชนเรียก “เมรุ”
นอกจากน้ี ยงั เปน็ เครอื่ งประกอบพระราชอสิ รยิ ยศ
ส�ำหรับการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าแผ่นดิน
โดยเป็นโบราณราชประเพณีที่ท�ำสืบต่อกันมาตั้งแต่สมัย
อยธุ ยา การสรา้ งพระเมรมุ าศในพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ
พระบรมศพ คอื การแสดงความเคารพอยา่ งสงู สดุ ทสี่ มเดจ็
พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ทรงถวายแด่พระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยหู่ วั ในพระบรมโกศ
โครงสรา้ งพระเมรมุ าศของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร
มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร มขี นาดสงู ๕๐.๔๙ เมตร
ประกอบด้วย อาคารทรงบษุ บกจ�ำนวน ๙ องค์ ตั้งอย่บู น
ฐานชาลารปู ส่ีเหลีย่ มจัตรุ ัส ๓ ชัน้ มบี นั ไดทางข้ึนทัง้ ๔ ทศิ
ทิศตะวันตกหันหน้าเข้าพระท่ีน่ังทรงธรรม ทิศตะวันออก
ติดต้ังลิฟต์ ทิศเหนือติดตั้งสะพานเกรินส�ำหรับเชิญพระ
บรมโกศจากราชรถปืนใหญ่ขน้ึ บนพระเมรุมาศ

97

บษุ บกองคป์ ระธานตงั้ อยทู่ จ่ี ดุ กงึ่ กลางฐานชาลาชน้ั
บนสดุ เปน็ อาคารทรงบษุ บกยอดมณฑป ชนั้ เชงิ กลอน ๗ ชน้ั
ที่ยอดบนสุด ประดิษฐานนพปฎลมหาเศวตฉัตร ผนังโดย
รอบเปดิ โลง่ ตดิ ตงั้ พระวสิ ตู ร และฉากบงั เพลงิ เขยี นภาพพระ
นารายณอ์ วตารตอนบน และภาพโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระ
ราชดำ� รติ อนลา่ ง ฐานบษุ บกประธานประดบั ประตมิ ากรรมเทพ
ชมุ นมุ โดยรอบ รองรบั ดว้ ยฐานสงิ หซ์ งึ่ ประดบั ประตมิ ากรรม
ครุฑยดุ นาคโดยรอบอกี ชั้นหนงึ่ มมุ ทัง้ ส่ีของฐานช้นั ที่ ๓ นี้
เปน็ ทต่ี งั้ ของซา่ งทรงบษุ บกยอดมณฑปชน้ั เชงิ กลอน ๕ ชนั้
ใชเ้ ปน็ ทสี่ ำ� หรบั พระพธิ ธี รรม ๔ สำ� รบั นงั่ สวดพระอภธิ รรม
สลับกันไปตลอดนับตั้งแต่พระบรมศพประดิษฐานบน
พระจติ กาธาน จนกระทั่งถวายพระเพลงิ พระบรมศพเสรจ็
ฐานชาลาชั้นที่ ๑ ซ่ึงเป็นช้ันล่างสุด ล้อมด้วยรั้ว
ราชวัติ มีเทวดาเชิญฉัตรและบังแทรก มีองค์มหาเทพ ๕
พระองค์ คอื พระพฆิ เนศวร พระอนิ ทร์ พระพรหม พระศวิ ะ
และพระนารายณ์ ทีม่ มุ ทั้งสี่ของฐาน มปี ระติมากรรมทา้ ว
จตโุ ลกบาลประทบั ยนื หนั หนา้ เขา้ สบู่ ษุ บกประธาน รายรอบ
พระเมรุมาศชั้นลานอุตราวรรตมีสระอโนดาตท้ังสี่ทิศ มี
นำ�้ ไหลจากสตั วม์ งคลประจำ� ทศิ สสู่ ระอโนดาต มเี ขาจำ� ลอง
ประดับดว้ ยประติมากรรมสตั ว์หมิ พานตต์ ระกลู ต่าง ๆ
ฐานชาลาช้ันที่ ๒ มีหอเปลื้องทรงบุษบกรูปแบบ
เดยี วกนั ตง้ั อยทู่ มี่ มุ ทง้ั สี่ ใชส้ ำ� หรบั จดั เกบ็ พระโกศทองใหญแ่ ละ
พระโกศไมจ้ ันทน์รวมถงึ อปุ กรณ์ส�ำหรบั งานพระราชพิธี
98

ส่วนประดับตกแต่งราวบันไดทางข้ึนของฐานไพที
แตล่ ะขน้ั ประดบั เปน็ รปู พญานาค ซง่ึ เปน็ แบบเดยี วกบั ทาง
ข้ึนอาคารซ่างและหอเปลือ้ งเครื่อง
การกอ่ สรา้ งพระเมรุมาศรวมถึงอาคารหรือส่งิ ปลกู
สรา้ งประกอบในพระราชพธิ จี ะอาศยั กรรมวธิ แี ละเทคนคิ ของ
งานสถาปตั ยกรรมแบบลำ� ลอง (ชวั่ คราว) กลา่ วคอื เปน็ การ
สรา้ งโดยใชโ้ ครงเหลก็ รปู พรรณ ทสี่ ามารถประกอบไดง้ า่ ยและ
รวดเรว็ ตงั้ แตห่ ลงั คาของบษุ บกซงึ่ ใชโ้ ครงเหลก็ ถกั (Truss)
ถา่ ยน้ำ� หนักลงสู่เสาเหลก็ ประกอบ ๔ ชุด รองรบั ด้วยโครง
เหลก็ ถักขนาดใหญ่ (Super truss) โครงสรา้ งทง้ั หมดนจ้ี ะ
ตงั้ อยบู่ นฐานรากแผค่ อนกรตี หลอ่ ในทซ่ี งึ่ รบั นำ�้ หนกั บษุ บก
แยกกนั ท้ัง ๙ องค์ ส่วนชาลาและบนั ไดจะวางบนฐานราก
คอนกรีตส�ำเร็จรูป โครงเหล็กท้ังหมดจะกรุด้วยแผ่นวัสดุ
ส�ำเร็จรูปและไมอ้ ดั ตกแต่งดว้ ยผา้ ทองย่นฉลุลายสอดแวว
ซงึ่ เปน็ วสั ดชุ ว่ั คราว รวมทง้ั งานประตมิ ากรรมทป่ี ระดบั โดย
รอบพระเมรมุ าศกข็ น้ึ รปู ดว้ ยการถอดพมิ พต์ น้ แบบและหลอ่
เรซนิ แลว้ ตกแตง่ สีใหเ้ หมือนโลหะ

99


Click to View FlipBook Version