The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลบเดช พระบรมนาถบพิตร
๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Prateep Chankong, 2022-02-25 10:57:33

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 9

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลบเดช พระบรมนาถบพิตร
๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐

Keywords: ฺหนังสือ งานถวยพระเพลิง ร 9

ราชรถปนื ใหญ/่ ราชรถรางปนื

150

ใช้จ�ำนวนพลฉุดชัก ๗๔ นาย คือด้านหน้า ๕๖ นาย
ดา้ นหลัง ๑๘ นาย องคท์ ่สี าม ขนาดกวา้ ง ๓.๘๖ เมตร ยาว
๑๒.๙๕ เมตร สงู ๖.๘๔ เมตร นำ�้ หนกั ๓.๖๕ ตนั ใชจ้ ำ� นวน
พลฉดุ ชกั ๗๔ นาย คอื ดา้ นหนา้ ๕๖ นาย ดา้ นหลงั ๑๘ นาย
ราชรถปืนใหญ/่ ราชรถรางปืน
ราชรถปืนใหญ่หรือราชรถรางปืน เป็นราชรถเชิญ
พระโกศพระบรมศพ พระศพของพระมหากษัตริย์และ
พระบรมวงศท์ ที่ รงรบั ราชการทหารเมอื่ ครงั้ ดำ� รงพระชนม์
ชีพ แทนพระยานมาศสามล�ำคานตามธรรมเนียมเดิมจาก
พระบรมมหาราชวงั หรอื วงั ของพระบรมวงศพ์ ระองคน์ นั้ ๆ
สู่พระเมรุมาศ หรือพระเมรุ และแห่อุตราวัฏ (เวียนซ้าย)
รอบพระเมรมุ าศ พระเมรุ ๓ รอบ ธรรมเนยี มใหมน่ ้เี กดิ ขน้ึ
ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในการพระ
ราชพธิ พี ระราชทานเพลงิ พระศพจอมพล พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ
กรมหลวงนครไชยศรสี รุ เดชเม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๙ เป็นครัง้ แรก
และคร้ังหลังสุดในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระ
บรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
พระอัฐมรามาธบิ ดินทร เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๓
หมายกำ� หนดการพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรม
ศพ เรียกราชรถนี้วา่ “ราชรถปืนใหญร่ างเกวยี น” ส่วนใน
พระราชพธิ พี ระราชทานเพลงิ พระศพเรยี กวา่ “รถปนื ใหญ”่
“เกวียนรางปนื ” รถปนื ใหญร่ างเกวยี น” และ “รางเกวียน
ปนื ใหญ่”

151

พระท่นี ั่งราเชนทรยาน

152

พระทนี่ ัง่ ราเชนทรยาน
พระท่ีนั่งราเชนทรยาน มีลักษณะเป็นทรงบุษบก
ย่อมมุ ไม้สบิ สอง หลงั คาซ้อน ๕ ชั้น สรา้ งจากไม้แกะสลัก
ลงรกั ปิดทอง ประดบั กระจก พนกั พิงและกระจงั ปฏญิ าณ
แกะสลกั เปน็ ภาพเทพนม ตรงกลางมคี รฑุ ยดุ นาคประดบั ที่
ฐาน ๑๔ ตัว สรา้ งในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้า
จุฬาโลกมหาราช ใช้ส�ำหรับพระมหากษัตริย์ทรงในเวลา
เสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนแห่อย่างใหญ่ ท่ีเรียกว่า
ขบวนพยุหยาตราส่ีสาย อาทิ เสด็จพระราชด�ำเนินจาก
พระราชมณเฑียรไปถวายสักการะพระพุทธมหามณีรัตน
ปฏิมากร ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามในงานพระราชพิธี
พระบรมราชาภิเษก เป็นต้น เนื่องจากพระราชยานองค์
น้ี มีขนาดใหญ่และน้�ำหนักมาก จึงไม่นิยมใช้ส�ำหรับเสด็จ
พระราชดำ� เนนิ ทางไกลไปนอกพระบรมมหาราชวงั นอกจาก
นก้ี ใ็ ชใ้ นการเชญิ พระโกศพระบรมอฐั พิ ระมหากษตั รยิ ์ หรอื
พระโกศพระอัฐิพระบรมวงศ์จากพระเมรุท้องสนามหลวง
เข้าสู่พระบรมหาราชวงั
พระท่ีนั่งราเชนทรยานมีขนาดกว้าง ๑.๐๓ เมตร
ยาว ๕.๔๘ เมตรพรอ้ มคานหาม สงู ๔.๒๓ เมตร ใช้จำ� นวน
พลแบกหาม ๕๖ นาย

153

พระที่น่งั ราเชนทรยานนอ้ ย

พระทนี่ ั่งราเชนทรยานนอ้ ย
พระที่น่ังราเชนทรยานน้อยองค์ใหม่ได้ด�ำเนินการ
จดั สรา้ งขนึ้ ใหม่ โดยศกึ ษารปู แบบ วธิ กี ารเขา้ ไมแ้ ละรปู ทรง
จากพระที่นั่งราเชนทรยานองคเ์ ดิม ที่ดำ� เนินการซ่อมแซม
โดยส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เพื่อใช้เชิญพระบรม
ราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล
อดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระท่ีน่ังราเชนทรยานน้อย
สร้างด้วยไม้สักแกะสลัก ลงรัก ปิดทอง ประดับกระจก
ทัง้ องค์ มคี านหาม ๔ คาน ใช้คนหาม ๕๖ คน

พระยานมาศสามลำ� คาน
พระราชยานใช้เพื่อเชิญพระบรมโกศ สร้างข้ึนใน
สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เพ่ือใช้เชิญ
พระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราชเป็นคร้งั แรก
พระยานมาศสามล�ำคาน เป็นพระราชยานท่ีมี
คานหามขนาดใหญ่ ทำ� ดว้ ยไมจ้ ำ� หลกั ลวดลาย ลงรกั ปดิ ทอง
มีพนกั โดยรอบ ๓ ดา้ น และมคี านหาม ๓ คาน ใช้สำ� หรบั
เชิญพระโกศพระบรมศพจากพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาท
ในพระบรมหาราชวังไปประดิษฐานบนพระมหาพิชัยราช
รถที่จอดเทยี บรออยูใ่ กล้พลับพลายกบรเิ วณทิศตะวันออก
ของวดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม เมอื่ พระมหาพชิ ยั ราชรถ

155

พระยานมาศสามลำ�คาน

156

เชิญพระโกศพระบรมศพไปถึงพระเมรุมาศแล้ว ก็จะ
ใช้พระยานมาศสามล�ำคานเชิญพระโกศพระบรมศพ
จากพระมหาพิชัยราชรถเวียนอุตราวัฏรอบพระเมรุมาศ
ณ ท้องสนามหลวงอีกคร้ังหนึ่ง พระยานมาศสามล�ำคาน
น้ีใช้ครั้งล่าสุดในงานพระเมรุสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ
เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เม่ือ พ.ศ.
๒๕๕๕
พระยานมาศสามลำ� คานน้ีมีสององค์ คือ องค์หน่ึง
มขี นาดยาว ๗.๗๓ เมตรพร้อมคานหาม สูง ๑.๗๘ เมตร
น้�ำหนัก ๗๐๐ กิโลกรัม ใช้จ�ำนวนพลแบกหาม ๒ ผลัด
ผลดั ละ ๖๐ นาย สว่ นอกี องคม์ ขี นาดยาว ๘.๒๔ เมตร พรอ้ ม
คานหาม สงู ๑.๑๐ เมตร นำ้� หนกั ๕๕๐ กโิ ลกรมั ใชจ้ ำ� นวน
พลแบกหาม ๒ ผลดั ผลดั ละ ๖๐ นาย

157

พระเสลี่ยงกลบี บวั

158

พระเสลี่ยงกลีบบวั
เป็นพระเสลี่ยงส�ำหรับสมเด็จพระราชาคณะน่ัง
อ่านพระอภิธรรมน�ำขบวนพระราชอิสริยยศเพ่ือเชิญ
พระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายใน
พระบรมมหาราชวังไปยังพระมหาพิชัยราชรถ ณ บริเวณ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามคร้ังหนึ่ง และที่ขบวนพระ
ราชอสิ รยิ ยศเชญิ พระบรมศพเวยี นพระเมรมุ าศอกี ครง้ั หนงึ่

พระเสล่ยี งแวน่ ฟ้า
เปน็ พระราชยานขนาดเลก็ ใช้ก�ำลงั พลหาม ๘ คน
ส�ำหรับเชิญพระโกศพระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหา
ปราสาทในพระบรมมหาราชวงั ไปยงั เกยเทยี บพระยานมาศ
สามลำ� คานทนี่ อกกำ� แพงแกว้ ดา้ นทศิ ตะวนั ตก มลี กั ษณะเปน็
ฐานแทน่ ไมส้ เี่ หลย่ี มสลกั ลายปดิ ทองประดบั กระจกทง้ั องค์
ตวั แทน่ ฐานเปน็ ฐานสงิ หป์ ากบวั หนา้ กระดานลา่ งลงรกั ปดิ
ทองประดบั กระจกลายดอกประจำ� ยาม ฐานสิงห์สลักลาย
ปิดทองประดับกระจก หัวหลังสิงห์ปิดทองประดับกระจก
เสน้ ลวดเดนิ เสน้ ทอง พนื้ พระเสลย่ี งปดู ว้ ยพรมสแี ดง ทงั้ สม่ี มุ
ติดห่วงเหล็กทาสีแดง คานหามทั้งสองคานทาสีแดงเขียว
ปลายคานเป็นหัวเม็ดทรงมัณฑ์ปิดทองเรียบระหว่างคาน
ทงั้ ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั คลอ้ งเชอื กมนลิ าหมุ้ ผา้ แดง สำ� หรบั
เจ้าพนกั งาน ใชค้ ล้องแขนขณะยกพระเสลยี่ ง

159

เกรินบนั ไดนาค

160

เกรนิ บันไดนาค
เกรนิ บนั ไดนาค คอื อปุ กรณท์ ใี่ ชเ้ ชญิ พระโกศพระบรม
ศพขึ้นหรือลงจากพระมหาพชิ ยั ราชรถหรือเวชยนั ตราชรถ
และพระเมรุมาศ แทนการใช้น่ังร้านไม้ต่อยกสูงแบบสมัย
โบราณ ซ่ึงใชก้ ำ� ลังคนยกขน้ึ ลง ซ่ึงมีความยากล�ำบากและ
ไมส่ ะดวก เกรนิ มลี กั ษณะเปน็ รางเลอื่ นขนึ้ ลงดว้ ยกวา้ นหมนุ
โดยมีแท่นท่ีวางพระโกศเพ่ือสะดวกในการเคลื่อนย้ายขึ้น
หรือลง ลักษณะเป็นแท่นส่ีเหล่ียม ขอบฐานแกะสลักลาย
ปิดทองประดับกระจก ท้ายเกรินเป็นพื้นลดระดับลงมา
ซงึ่ เปน็ ที่สำ� หรับเจ้าพนกั งานภษู ามาลาขึน้ นั่งประคองพระ
โกศพระบรมศพ มีลกั ษณะคลา้ ยทา้ ยส�ำเภา ด้านข้างบผุ ้า
ตาดทอง มีราวทงั้ สองขา้ งตกแตง่ เปน็ รูปพญานาค จงึ เรียก
ว่าเกรนิ บันไดนาค เปน็ อุปกรณ์ทค่ี ิดค้นขึน้ โดยสมเด็จพระ
สัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี (จุ้ย) พระ
โอรสในสมเด็จพระพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์
กบั เจา้ ขรวั เงนิ นำ� มาใชง้ านเปน็ ครงั้ แรกในพระราชพธิ ถี วาย
พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า
จฬุ าโลกมหาราช เม่ือพ.ศ. ๒๓๕๕
เกรินบนั ไดนาคมี ๒ ขนาด คือ ขนาดกว้าง ๑.๕๒๕
เมตร ยาว ๒.๓๖๕ เมตร สงู ๔.๔๐ เมตรฐานกวา้ ง ๑.๗๘๖
เมตร ยาว ๓.๐๖ เมตร ใช้จำ� นวนพล ๒๐ นาย และขนาด
กว้าง ๑.๕๒๕ เมตร ยาว ๒.๓๖๕ เมตร สงู ๔.๔๐ เมตร
ฐานกว้าง ๑.๗๘๖ เมตร ยาว ๓.๑๖ เมตร ใช้จ�ำนวนพล
๒๐ นาย

161

เครอื่ งแตง่ กาย
สำ� หรบั รวิ้ ขบวนพระบรมราชอิสรยิ ยศ

๑. นำ� ร้วิ จำ� นวน ๓ นาย
- หมวกทรงประพาส
โหมดเทศยอดเก้ียว
- เส้อื โหมดเทศสีบานเย็น
- ผา้ เกยี้ วลาย
- รดั ประคดโหมดเทศ
- ถงุ เทา้ ยาวสขี าว
- รองเทา้ หนังสีดำ�

๒ . ธง สา มชาย

จ�ำนวน ๘ นาย
- หมวกหกู ระต่ายแดง
ขลิบลกู ไม้ใบข้าว
- เสอ้ื อตั ลัดสีแดง
- ผา้ เก้ยี วลาย
- รัดประคดโหมดเทศ
- ถุงเท้ายาวสขี าว
- รองเทา้ หนังสีดำ�

162

๓. มโหระทกึ จา่ ป่ี - จา่ กลอง

- มโหระทกึ ๔ นาย
- จ่าป ่ี ๒ นาย
- จา่ กลอง ๒ นาย

จำ� นวน ๘ นาย
- หมวกทรงประพาส
โหมดเทศ ยอดเกย้ี ว
- เสอื้ เข้มขาบไหม
- กางเกงมสั รไู หม
- เขม็ ขัดแถบทองหัวครุฑ
- ถงุ เท้าสีดำ�
- รองเท้าหนังสดี �ำ

163

๔. กลองชนะ ฉดุ ชัก พนกั งานลากเกรนิ

- กลองชนะแดงลายทอง ๑๖๐ นาย
(ผลดั ๑๖๐ นาย)
- กลองชนะเงนิ ๒๐ นาย
(ผลดั ๒๐ นาย)
- กลองชนะทอง ๒๐ นาย
(ผลัด ๒๐ นาย)
- ฉดุ ชกั ราชรถพระนำ� ๗๔ นาย
- ฉดุ ชกั พระมหาพชิ ยั ราชรถ ๒๑๖ นาย
- พนักงานลากเกรินหางนาค ๗๐ นาย

จ�ำนวน ๗๖๐ นาย

- หมวกกลบี ลำ� ดวนแดง
ขลิบเหลอื ง
- เสือ้ ปสั ตแู ดงขลิบเหลอื ง
- กางเกงปสั ตแู ดง
ขลบิ เหลือง
- ถงุ เทา้ สดี �ำ
- รองเทา้ หนังสดี ำ�

164

๕. แตร สงั ข์
- แตรฝรั่ง ๒๐ นาย
- แตรงอน ๒๘ นาย
- สังข์ ๔ นาย

จำ� นวน ๕๒ นาย
- หมวกปัสตแู ดงพขู่ าว
- เสอื้ ปสั ตแู ดงแขนบาน
- กางเกงปสั ตแู ดงขลิบเหลอื ง
- ถุงเท้าสดี ำ�
- รองเท้าหนังสดี �ำ

๖. เครอ่ื งสูง ฉัตรทองแผ่ลวด ฉัตรหักทองขวาง
จำ� นวน ๒๒๔ นาย
- หมวกลอมพอกหาง
เหยยี่ วแดง
- เส้ือเขม้ ขาบไหม
- กางเกงมัสรูไหม
- รดั ประคดโหมดเทศ
- ถุงเท้าสีดำ�
- รองเท้าหนังสีดำ�

165

๗. พนักงานจูงม้า พนักงานหามเสล่ียง พนักงาน
หามพระราชยาน พนกั งานหามมโหระทึก
ผู้บังคับราชรถพระน�ำ ผู้บังคับพระมหาพิชัยราชรถ
ผู้บังคบั ราชรถปนื ใหญ่

- พนักงานจูงม้าพระทน่ี ง่ั ๑๖ นาย
- พนักงานหามเสลี่ยงกลีบบวั พระนำ� ๑๖ นาย
- พนกั งานหามพระราชยานมาศสามลำ� คาน
๑๒๐ นาย (๒ ผลดั )
- พนกั งานหามพระที่นัง่ ราเชนทรยาน ๕๖ นาย
- พนักงานหามราเชนทรยานนอ้ ย ๕๖ นาย
- พนกั งานหามมโหระทึก ๑๖ นาย
- ผู้บงั คับราชรถพระนำ� ๒ นาย
- ผ้บู งั คบั พระมหาพชิ ัยราชรถ ๒ นาย
- ผูบ้ ังคบั ราชรถปืนใหญ่ ๔ นาย
จ�ำนวน ๒๘๘ นาย

- หมวกทรงประพาสโหมด
เทศยอดจกุ
- เสือ้ เข้มขาบไหม
- กางเกงมัสรไู หม
- รดั ประคดโหมดเทศ
- ถุงเทา้ สีด�ำ
- รองเทา้ หนงั สดี ำ�

166

๘. พนักงานถือบังพระสูรย์ พนักงานถือพระกลด
พนกั งานถือพัดโบก พนักงานภษู า ประคองพระบรม
โกศพนกั งานถอื พระกลดถวายพระบรมโกศ
พนักงานถือพระสรู ย์ หักทองขวาง
สารถถี อื แพนหางนกยูง
- พนักงานถือบงั พระสูรย ์ ๑ นาย
- พนกั งานถือพระกลด ๑ นาย
- พนักงานถือพดั โบก ๒ นาย
- พนกั งานภูษาประคองพระบรมโกศ ๕ นาย
- พนักงานถือพระกลดถวายพระบรมโกศ ๒ นาย
- พนกั งานถือบงั พระสูรย์หกั ทองขวาง ๒ นาย
- สารถีถอื แพนหางนกยูงนัง่ หน้าราชรถพระน�ำ ๑ นาย
- สารถีถอื แพนหางนกยูงนั่งหน้า ๑ นาย
พระมหาพิชยั ราชรถ

จ�ำนวน ๑๕ นาย
- หมวกลอมพอกขาว
มดี อกไมไ้ หว
- เสอื้ นอกขาวแบบราชการ
- เสื้อครยุ เทวดาแถบใหญ่
มดี อก
- ผา้ เกี้ยวลาย
- ถุงเท้ายาวสีขาว
- รองเท้าหนงั สดี ำ�

167

๙. อินทร์ เชิญจามร
จำ� นวน ๓๒ นาย

- หมวกทรงประพาส
โหมดเทศ ยอดเกยี้ ว
- เสือ้ อัตลดั สีเขยี ว (อนิ ทร์)
- กางเกงสนบั เพลา
- ผ้าเกยี้ วลาย
- รดั ประคดโหมดเทศ
- ถงุ เทา้ ยาวสขี าว
- รองเท้าหนังสดี �ำ

๑๐. พรหม เชิญจามร

จ�ำนวน ๓๒ นาย
- หมวกทรงประพาส
โหมดเทศ ยอดเกีย้ ว
- เส้ืออตั ลัดสแี ดง (สแี ดง)
- กางเกงสนับเพลา
- ผ้าเก้ียวลาย
- รดั ประคดโหมดเทศ
- ถุงเทา้ ยาวสีขาว
- รองเท้าหนังสีดำ�

168

๑๑. ผบู้ อกกระบวน

จ�ำนวน ๑ นาย

- หมวกทรงประพาสเยยี รบบั
ยอดเกยี้ ว
- เส้ือเยียรบับ
- ผา้ เก้ียวลาย
- รดั ประคดโหมดเทศ
- ถุงเทา้ ยาวสขี าว
- รองเทา้ หนังสีดำ�

169

๑๒. มหาดเลก็ หลวง

- มหาดเล็กหลวงเชญิ คูแ่ ห ่ ๔๖ นาย
- มหาดเลก็ หลวงเชิญพระแสงระหว่าง
เครือ่ ง (หนา้ พระน�ำ) ๔ นาย
- มหาดเลก็ หลวงเชญิ พระแสงระหวา่ ง
เครื่อง (หลังพระน�ำ) ๓ นาย
- มหาดเลก็ หลวงเชญิ พระแสงระหว่าง
เครอื่ ง (หนา้ พระบรมศพ) ๖ นาย
- มหาดเลก็ หลวงเชิญพระแสงระหวา่ ง
เครื่อง (หลังพระบรมศพ) ๔ นาย
- มหาดเลก็ หลวงเชิญพระแสงรายตีตอง ๘ นาย
- มหาดเล็กหลวงเชญิ เครอ่ื ง ๒๔ นาย
- มหาดเล็กหลวงเชญิ เคร่อื งทองนอ้ ย ๑ นาย
- ผูก้ �ำกับเชญิ พระแสง ๔ นาย

รวม ๑๐๐ นาย

- หมวกทรงประพาสก�ำมะหยี่
สีนำ�้ เงนิ ยอดเก้ียว
- เสอ้ื นอกขาวแบบราชการ
ตดิ แขนทกุ ข์
- ผ้ามว่ งเชงิ
- รัดประคดนำ้� เงินดอกขาว
- ถงุ เทา้ ยาวสีขาว
- รองเท้าโบว์

170

๑๓. อนิ ทร์ เชิญพุ่มเงิน
จำ� นวน ๔๐ นาย

- หมวกทรงประพาส
ก�ำมะหยสี่ ีเขียว
ทรงเทริด (อนิ ทร์)
- เส้ือกำ� มะหยี่สีเขียว
คอบัวติดขลิบ (อินทร์)
- กางเกงสนบั เพลา
- ผ้าเกยี้ วลาย
- รัดประคดโหมดเทศ
- ถงุ เทา้ ยาวสีขาว
- รองเทา้ หนงั สีด�ำ
๑๔. พรหม เชญิ พมุ่ ทอง
จำ� นวน ๔๐ นาย
- หมวกทรงประพาส
ก�ำมะหย่สี แี ดง
ทรงเทรดิ (พรหม)
- เสือ้ กำ� มะหย่สี ีแดง
คอบวั ติดขลิบ (พรหม)
- กางเกงสนับเพลา
- ผ้าเกยี้ วลาย
- รดั ประคดโหมดเทศ
- ถุงเท้ายาวสีขาว
- รองเทา้ หนงั สดี �ำ

171

๑๕. ตำ� รวจหลวงคูแ่ ห่

จ�ำนวน ๔๖ นาย

- หมวกทรงประพาส
ก�ำมะหยส่ี ีด�ำ ยอดเกี้ยว
- เสือ้ สักหลาดสีเทา
- ผา้ ม่วงเชงิ
- เขม็ ขัดพไู่ หมแดง
- สายกระบี่แถบทองใหญ่
- ถุงเท้ายาวสีขาว
- รองเทา้ โบว์

172

๑๖. สารวตั รกลอง สารวตั รแตร พนกั งานกำ� กบั เครอื่ งสงู
ผู้ควบคุมคนหามเสล่ียง พนักงานก�ำกับเสลี่ยง
พนกั งานคมุ ฉตั รเครอื่ งสงู พนกั งานกำ� กบั พระยานมาศ
พนกั งานกำ� กบั คนฉดุ ชกั ราชรถ ผคู้ วบคมุ ราชรถพระนำ�
ผู้ควบคุมพระมหาพิชัยราชรถ พนักงานฉุดชักพระ
มหาพชิ ยั ราชรถ พนกั งานกำ� กบั พระทน่ี ง่ั ราเชนทรยาน
พนกั งานคมุ พระทนี่ งั่ ราเชนทรยาน พนกั งานคมุ คนหาม
พระราเชนทรยาน พนกั งานกำ� กบั พระราเชนทรยานนอ้ ย
พนกั งานคมุ คนหามพระราเชนทรยานนอ้ ยสนมพลเรอื น
เชิญพัดโบก ประตูหนา้ -ประตูหลัง
- สารวัตรกลอง ๕ นาย
- สารวัตรมโหระทึก ๑ นาย
- สาวัตรแตร ๒ นาย
- พนักงานก�ำกับฉตั รเคร่อื งสงู ทองแผ่ลวด
(หน้าพระนำ� ) ๒ นาย
- ผคู้ วบคุมคนหามเสล่ยี งกลบี บวั พระนำ� ๑ นาย
- พนกั งานกำ� กับเสล่ียงกลีบบวั พระน�ำ ๑ นาย
- พนักงานคมุ ฉตั รเครอ่ื งสูงทองแผ่ลวด
(หลงั พระน�ำ) ๒ นาย
- พนักงานคุมฉตั รเครอื่ งสงู หักทองขวาง ๒ นาย
(หนา้ )
- พนักงานกำ� กับพระยานมาศสามล�ำคาน ๑ นาย

173

- คนควบคุมพระยานมาศสามลำ� คาน ๔ นาย
- พนกั งานควบคมุ คนหามพระยานมาศ
สามลำ� คาน ๑ นาย
- พนักงานคมุ ฉตั รเคร่อื งสงู หักทองขวาง
(หลัง) ๒ นาย
- ผูก้ �ำกับคนฉดุ ชักราชรถพระนำ� ๒ นาย
- พนกั งานควบคุมราชรถพระนำ� ๒ นาย
- พนักงานควบคุมพระมหาพิชยั ราชรถ ๔ นาย
- พนกั งานกำ� กับฉดุ ชักพระมหาพิชัยราชรถ ๒ นาย
- พนกั งานก�ำกบั พระที่นง่ั ราเชนทรยาน ๑ นาย
- พนักงานคมุ พระทนี่ ั่งราเชนทรยาน ๔ นาย
- พนักงานคุมคนหามพระทน่ี ง่ั ราเชนทรยาน ๑ นาย
- พนักงานก�ำกบั พระราเชนทรยานนอ้ ย ๑ นาย
- พนกั งานคุมคนหามพระราเชนทรยานนอ้ ย ๑ นาย
- สนมพลเรอื นเชญิ พระยศ ๑ นาย
- ประตหู น้า ๒ นาย
- ประตูหลงั ๒ นาย
จำ� นวน ๔๘ นาย
174

- หมวกทรงประพาสก�ำมะหยี่
สีด�ำ ยอดเกยี้ ว
- เส้ือนอกขาวแบบราชการ
ติดแขนทกุ ข์
- ผ้าเกย้ี วลาย
- รดั ประคดแดงดอกขาว
- ถุงเท้ายาวสีขาว
- รองเทา้ หนงั สีด�ำ

175

ดอกไมจ้ นั ทน์

176

ดอกไมจ้ นั ทน์ และจดุ ถวายดอกไมจ้ ันทน์

สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพย
วรางกรู ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั กจิ กรรม “โครงการ
จติ อาสาประดษิ ฐด์ อกไมจ้ นั ทนพ์ ระราชทาน” เพอื่ ทลู เกลา้ ฯ
ถวายในพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็
พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ดว้ ยทรง
พระราชอนสุ รณถ์ งึ สมเดจ็ พระราชบดิ า ทรงเขา้ พระทยั ถงึ ความ
รสู้ กึ ของประชาชนชาวไทยวา่ ยงั คงรำ� ลกึ ถงึ พระองคไ์ มเ่ สอื่ ม
คลาย และมีความประสงค์จะท�ำส่ิงท่ีแสดงถึงความจงรัก
ภักดี โดยไดเ้ ชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหลา่ เข้าร่วมกิจกรรม
ดงั กลา่ ว ตง้ั แตเ่ ดอื นพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ทอ่ี าคาร ๖๐๖
สนามเสือป่า ส�ำนักพระราชวัง และพระลานพระราชวัง
ดสุ ติ โดยมเี จา้ หนา้ ทจี่ ากโรงเรยี นชา่ งฝมี อื ในวงั (หญงิ ) และ
เจา้ หนา้ ท่จี ากโรงเรียนชา่ งฝีมอื ในวัง (ชาย) เจา้ หน้าทฝี่ ่าย
พระราชฐานชน้ั ในและพลอาสาสมคั รหญงิ ทหารมหาดเลก็
รกั ษาพระองคฯ์ เปน็ ผ้อู ำ� นวยการสอน
ดอกไมจ้ นั ทนท์ งั้ ๗ แบบ ไดแ้ ก่ ดอกดารารตั น์ ดอก
กหุ ลาบ ดอกพดุ ตาน ดอกลลิ ล ี่ ดอกกลว้ ยไม้ ดอกชบาทพิ ย์
และดอกชบาหนู
ความหมายของดอกไม้ตา่ ง ๆ มีดงั นี้
ดอกดารารตั น์ หรอื ดอกแดฟโฟดลิ เปน็ ดอกไมท้ รง
โปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร และพระราชทานให้กบั สมเดจ็ พระนางเจา้
สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถอยเู่ สมอเมอ่ื ครงั้ ยงั ทรงศกึ ษาและ

177

ประทบั อยทู่ ป่ี ระเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ ดอกดารารตั นน์ ยิ มใช้
มอบให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก เพ่ือบอกว่าไม่เคยหวังส่ิงใด
ตอบแทน และยงั หมายถงึ เกยี รตยิ ศ ความกลา้ หาญ สญั ลกั ษณ์
ของความหวัง ชื่อดอกดารารัตน์ยังมีความหมายที่ลึกซึ้ง
โดยคำ� ว่า ดารา หมายถึง ดวงดาว คือสิง่ ทีอ่ ยูส่ งู สดุ ค�ำวา่
รัตน์ หมายถงึ แกว้ คือ สิ่งท่มี ีคา่
ดอกกหุ ลาบ เปน็ สญั ลกั ษณแ์ หง่ ความรกั อนั บรสิ ทุ ธ์ิ
ดว้ ยอานภุ าพแหง่ ความจงรกั ภกั ดขี องทวยราษฎรท์ ร่ี ะลกึ ถงึ
พระมหากรุณาธิคุณในองค์พระประมุขของชาติเพื่อถวาย
ความอาลยั เปน็ ครงั้ สดุ ทา้ ยแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
ภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ผูเ้ ป็นกษัตริยท์ ี่รกั ย่ิงของ
ปวงชนชาวไทย
ดอกพุดตาน เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและ
ความอุดมสมบูรณ์ ชาวจีนเชื่อว่าเป็นไม้มงคลเพราะดอก
พุดตานเปล่ียนสีได้ถึงสามสีภายในวันเดียวกัน ซึ่งเปรียบ
เสมือนวัฏจักรของชีวิตมนุษย์ท่ีเริ่มต้นเปรียบเหมือนเด็ก
ที่เป็นผ้าขาวเติบโตข้ึนพร้อมกับสีสันท่ีแต่งแต้มขึ้นมา จน
กระทงั่ สงู อายมุ ากขนึ้ พรอ้ มกบั สที เ่ี ขม้ ขน้ึ จนกระทงั่ รว่ งโรย
จากไป เพอ่ื เปน็ การระลกึ ถงึ พระมหากรณุ าธคิ ณุ และพระราช
กศุ ลอทุ ศิ ถวายครง้ั สดุ ทา้ ยแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
ภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ดอกลิลลี่ แสดงออกถึงความรักที่บริสุทธิ์เช่นเดียว
กบั ดอกกุหลาบสขี าว อกี ทง้ั ดอกลลิ ล่สี ขี าวยังแสดงออกถงึ
ความซอ่ื สตั ยแ์ ละเทดิ ทนู ดว้ ยอานภุ าพแหง่ ความจงรกั ภกั ดี
178

ของพสกนิกรชาวไทยทมี่ ีต่อพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว
ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และความส�ำนึกใน
พระมหากรณุ าธิคุณเป็นล้นพน้
ดอกกลว้ ยไม้ เปน็ สญั ลกั ษณข์ องความมน่ั คง ความรกั
และความสงา่ งามสมดงั พระมหากรณุ าธคิ ณุ ในการบำ� เพญ็
พระราชกรณยี กจิ นานปั การของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
ภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ใหข้ จรขจายไปทงั้ แผน่ ดนิ
ไทยตลอดถึงนานาประเทศทว่ั โลก
ดอกชบาทพิ ย์ เปน็ ดอกไมท้ ส่ี รา้ งสรรคป์ ระดษิ ฐข์ น้ึ
เพอ่ื สอื่ ถงึ การดบั สญู และความเปน็ ทพิ ยแ์ ละเพอ่ื เปน็ การถวาย
ความอาลยั เปน็ ครงั้ สดุ ทา้ ยแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
ภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร พระผ้ทู รงสถติ ในดวงใจ
ของประชาราษฎรช์ ัว่ นิรันดร์
ดอกชบาหนู เปรยี บเสมอื นความอาลยั ในการสญู เสยี
ของพสกนิกรทกุ หมเู่ หล่า เป็นสัญลักษณท์ ี่แทนดวงใจไทย
ทุกดวงในการน้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพระราชพิธีถวาย
พระเพลงิ พระบรมศพ
ในส่วนภาคเอกชนและประชาชนเองก็ได้ร่วมมือ
ร่วมใจกันท�ำดอกไม้จันทน์ทั่วประเทศ กรุงเทพมหานคร
ได้ออกแบบดอกไม้จันทน์ จ�ำนวน ๓๖ แบบ ดอกบานชน่ื
ดอกจำ� ปา ดอกกลว้ ยไม้ ดอกดารารตั น์ ดอกบวั สาย กหุ ลาบ
พุดซ้อน ฯลฯ เพอื่ เปน็ ต้นแบบใหป้ ระชาชนนำ� ไปประดษิ ฐ์
ได้เองด้วยวัสดุธรรมชาติในท้องถ่ิน เช่น ใบตองแห้ง กาบ
กลว้ ย ผกั ตบชวา และเปลอื กข้าวโพด เป็นตน้

179

จุดถวายดอกไมจ้ ันทน์
คณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานพระราชพิธีถวาย
พระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล
อดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ใหด้ ำ� เนนิ การจดั พธิ ถี วายดอกไม้
จนั ทนภ์ าคประชาชนในพน้ื ทก่ี รงุ เทพมหานคร โดยจดั ทำ� ซมุ้
ถวายดอกไมจ้ นั ทน์ จำ� นวน ๑๐๑ ซมุ้ ประกอบดว้ ยซมุ้ ขนาด
ใหญ่ ๑๖ ซมุ้ ซมุ้ ขนาดกลาง ๒๖ ซมุ้ และซมุ้ สำ� หรบั วดั ตา่ ง ๆ
ในพื้นท่ีเขตของกรุงเทพมหานคร รวม ๕๙ จุดเพื่อ
ความสะดวกของประชาชนในการร่วมพิธี ท้ังน้ี ได้จัด
เตรียมดอกไม้จันทน์ส�ำหรับประชาชน จ�ำนวนทั้งส้ิน
๓ ล้านดอก โดยโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร
โรงเรยี นฝกึ อาชพี ในสงั กดั กรงุ เทพมหานคร รวมทง้ั ประชาชน
บรษิ ทั หา้ งร้านตา่ ง ๆ อาสาร่วมกนั จดั ทำ� ดอกไม้จันทน์
การจดั พธิ ถี วายดอกไมจ้ นั ทนข์ องประชาชนมที ง้ั ใน
ส่วนกลาง สว่ นภมู ิภาค และตา่ งประเทศ โดยในส่วนกลาง
มีกรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลัก ในส่วนภูมิภาค
มีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักโดยแจ้งทุก
จังหวัดและอ�ำเภอด�ำเนินงาน และในต่างประเทศมี
กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลัก โดยแจ้ง
สถานเอกอคั รราชทตู ไทยในตา่ งประเทศด�ำเนินงาน
ซมุ้ ถวายดอกไมจ้ นั ทนข์ องประชาชนทก่ี รมศลิ ปากร
ดำ� เนนิ การออกแบบมี ๓ ขนาด ไดแ้ ก่ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง
และขนาดเลก็

180

การจดั พธิ ถี วายดอกไมจ้ นั ทนใ์ นสว่ นภมู ภิ าคมอบให้
กระทรวงมหาดไทยแจ้งทุกจังหวัดและอ�ำเภอด�ำเนินการ
จดั พิธี จ�ำนวน ๘๗๘ แหง่
นอกจากนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
บดินทรเทพยวรางกูร ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
สร้างพระเมรุมาศจ�ำลอง รัฐบาลจึงได้ด�ำเนินการจัด
สร้างพระเมรุมาศจ�ำลอง ทั่วประเทศรวม ๘๕ แห่ง
โดยจดั สรา้ งในสว่ นภมู ภิ าค ๗๖ แหง่ สว่ นกรงุ เทพมหานคร
และปรมิ ณฑลตั้งอยทู่ ่ีต่างๆ รวม ๙ แห่ง ไดแ้ ก่ สำ� นกั งาน
สลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม ลานคนเมือง ศาลาว่าการ
กรุงเทพมหานคร ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาท
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และในพ้ืนที่
ส่ีมุมเมือง ได้แก่ ทิศเหนือที่สนามกีฬาธูปะเตมีย์
กองทัพอากาศ ทิศใต้ท่ีศูนย์นิทรรศการและการประชุม
ไบเทคบางนา ทิศตะวันออกที่สถาบันเทคโนโลยี
พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และทิศ
ตะวันตกที่พุทธมณฑล ทั้งน้ีเพื่อให้พสกนิกรชาวไทย
มีส่วนร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรโดย
พรอ้ มเพรยี งกนั

181

การเก็บพระบรมอฐั ิ
และพระบรมราชสรีรางคาร

เป็นพิธีที่กระท�ำขึ้นหลังจากการถวายพระเพลิง
พระบรมศพเสรจ็ สน้ิ แลว้ โดยประกอบพธิ ี ณ พระจติ กาธาน
เมื่อเสด็จขึ้นพระเมรุมาศเจ้าพนักงานภูษามาลาเปิดผ้า
คลุมพระบรมราชสรีรางคาร ทรงสรงพระบรมอัฐิด้วยน้�ำ
พระสคุ นธ์ เจา้ พนกั งานแจงพระบรมอฐั ิ โดยเชญิ พระบรมอฐั ิ
พระบรมราชสรีรางคาร เรียงเป็นล�ำดับให้มีลักษณะ
เหมือนรูปคน หันพระเศียรไปทางทิศตะวันตก จากน้ัน
หันพระบรมอัฐิ พระบรมราชสรีรางคารที่แจงไว้มาทาง
ทิศตะวันออกเรียกว่า แปรพระบรมอัฐิ แล้วจึงถวาย
คลุมด้วยผ้า เช่น พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั ถวายคลุมดว้ ย
ผ้า ๓ ช้ัน คือ แพรขาว ผ้าตาด และผ้ากรองทอง ทรง
จุดเทียนเครื่องนมัสการทองน้อย ทรงกราบถวายบังคม
พระบรมอฐั ิ แลว้ เสดจ็ ลงมาประทบั พระทนี่ ง่ั ทรงธรรม ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เหล่าราชนิกุล ข้าราชการ เดิน
สามหาบ ตอ่ มาเปลยี่ นเปน็ การทำ� สำ� รบั ภตั ตาหารสามหาบ
ต้งั ถวาย พระสงฆ์สดบั ปกรณ์พระบรมอฐั ิ ทรงจดุ ธปู เทียน
เครือ่ งนมัสการทองนอ้ ย ทรงทอดผ้าไตร สมเดจ็ พระราชา
คณะและพระราชาคณะสดับปกรณ์ ทรงโปรยเหรยี ญทอง
เหรยี ญเงนิ พระราชทาน เจา้ พนกั งานภษู ามาลาเปดิ ผา้ คลมุ
พระบรมอัฐิ ทรงเก็บพระบรมอัฐิลงสรงในขัน ทรงพระ

182

สคุ นธ์ การเก็บพระบรมอัฐจิ ะเลือกเก็บแต่ละสว่ นของพระ
สรีระอย่างละเล็กน้อย พร้อมกันน้ันทรงพระกรุณาโปรด
เกลา้ ฯ ใหพ้ ระบรมวงศานวุ งศฝ์ า่ ยในทไ่ี ดร้ บั พระบรมราชา
นุญาตข้ึนรับพระราชทานพระบรมอัฐิไปสักการบูชา แล้ว
ทรงประมวลพระบรมอัฐิบรรจุพระโกศ หลังจากน้ันเชิญ
พระโกศพระบรมอฐั ิ ไปยงั พระทนี่ ง่ั ทรงธรรม ทรงประกอบ
พธิ บี ำ� เพญ็ พระราชกศุ ลถวาย สว่ นพระบรมราชสรีรางคาร
เชิญลงบรรจุในพระผอบโลหะปิดทองประดิษฐานบน
พานทองสองชัน้ คลมุ ผา้ ตาดพักรอไว้บนพระเมรุมาศ
ส�ำหรับพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร น้ัน จะเชิญโดย
พระที่น่ังราเชนทรยานไปประดิษฐานยังพระที่น่ังจักรี
มหาปราสาท
พระบรมราชสรรี างคาร
คือเถ้าถ่านท่ีปะปนกับพระบรมอัฐิชิ้นเล็กช้ินน้อย
ของพระบรมศพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี และ
สมเด็จพระบรมราชบพุ การที เ่ี ผาแลว้ ซง่ึ อาจเรยี กวา่ พระ
สรีรางคาร ตามลำ� ดบั พระอสิ รยิ ยศของพระบรมวงศ์ และ
เรียกวา่ อังคารสำ� หรับสามญั ชน
การบรรจุพระบรมราชสรีรางคารเป็นข้ันตอน
สุดท้ายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของ
พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชบุพการี และสมเด็จ

183

พระบรมราชินี เกิดข้ึนครั้งแรกในคราวพระราชพิธีถวาย
พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจา้ อยูห่ วั เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ
เกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกธรรมเนียมการลอย
พระบรมราชสรีรางคาร และโปรดให้เชิญพระบรม
ราชสรรี างคารมาประดษิ ฐาน ณ รตั นบลั ลงั กพ์ ระพทุ ธชนิ ราช
ภายในพระอุโบสถวัดเบญจมบพติ รดสุ ิตวนาราม จงึ กลาย
เป็นธรรมเนียมในการเชิญพระบรมราชสรีรางคาร พระ
สรีรางคารไปประดิษฐานในสุสานหลวงหรือสถานที่อัน
ควรแทน โดยเจ้าพนักงานจะเชิญพระบรมราชสรีรางคาร
จากสถานที่ที่พักไว้แล้วตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศไป
ยังสถานท่บี รรจุอันเหมาะสม
พระบรมราชสรรี างคารพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร น้ันจะเชิญไปบรรจุ
ณ วดั ราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร
ส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้รับมอบหมาย
ให้ออกแบบผอบอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารองค์ใหม่
เพื่อใช้ทรงพระบรมราชสรีรางคารไปประดิษฐานในพระ
ถำ้� ศลิ าทฐ่ี านชกุ ชพี ระประธานพระอโุ บสถวดั ราชบพธิ สถติ
มหาสมี าราม และทฐี่ านองคพ์ ระพทุ ธชนิ สหี ท์ ว่ี ดั บวรนเิ วศวหิ าร
โดยไดศ้ กึ ษารปู แบบจากผอบองคเ์ ดมิ ทม่ี อี ยแู่ ลว้ และนำ� มา
ประยุกต์ออกแบบใหม่ให้มีรูปทรงและลวดลายชั้นเชิง
ต่าง ๆ งดงามสมพระเกียรติย่ิงขึ้น ผอบองค์น้ีแบ่งส่วน
184

ประกอบเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ ส่วนท่ีเป็นฐาน ส่วนตัวผอบ
และส่วนทเ่ี ป็นฝา ซึ่งส่วนฐานจะมีชัน้ หนา้ กระดานบัวคว�่ำ
รองรับช้ันลูกแก้ว มีลวดและท้องไม้สลับค่ันระหว่างช้ัน
ลูกแก้ว โดยลวดลายลูกแก้วหรือชั้นเกี้ยวตามโบราณราช
ประเพณีจะใช้ออกแบบเคร่ืองสูงส�ำหรับพระมหากษัตริย์
และเปน็ หนึ่งในลวดลายประดบั พระมหาพชิ ยั มงกฎุ
ตัวผอบเป็นทรงดอกบัวบาน มีลักษณะทรงกลม
ลักษณะพิเศษของผอบองค์ใหม่มีกลีบบัวขนาดเล็กรองรับ
สลับกันไป ส่วนกลีบบัวของผอบมีจะขนาดเล็กกว่าองค์
เดมิ และมเี สน้ เดนิ รอบกลีบ ด้านในกลบี เพ่ือให้เกิดนำ�้ หนัก
และมิตขิ องงานสลกั ดุน ตรงกลางกลบี บวั จะทำ� เปน็ สนั ข้ึน
มาเมื่อเวลาแสงตกกระทบจะท�ำให้เกิดแสงเงาท่ีสวยงาม
มีขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ๑๐ นิว้ สว่ นฝาเปน็ ลกั ษณะยอด
ทรงมัณฑ์ มีช้ันหน้ากระดานถัดข้ึนไป ถัดขึ้นมาใช้เป็น
ชั้นบัวคว�่ำ ๓ ชั้น ลักษณะบัวคว่�ำชั้นแรกจะมีขนาดใหญ่
ชั้นถัดไปจะลดหลั่นไปตามสัดส่วนและรูปทรง โดยจะมี
การสลักดุนเหมือนกับกลีบบัวท่ีตัวผอบเพื่อให้เกิดมิติของ
แสงเงาเพือ่ ให้เกดิ ความสวยงาม ถดั จากชัน้ กลีบบวั จะเป็น
ปลยี อด และชั้นบนสดุ จะเปน็ ลูกแกว้ หรอื เม็ดน้�ำคา้ ง โดย
มีรูปแบบทรงกลมและส่วนปลายจะเรียวแหลมเล็กน้อย
ลักษณะเป็นดอกบัวตูม

185

การจัดสร้างผอบเชิญพระบรมราชสรีรางคารได้ใช้
วัสดุโลหะเน้ือเงินมาท�ำการขึ้นรูป เทคนิควิธีการเกี่ยวกับ
การจัดสร้างพระโกศทองค�ำเป็นวิธีการแบบช่างโบราณ
โดยการกลึงหุ่นแบ่งเป็นส่วนฐาน ส่วนตัวผอบ และส่วน
ฝาผอบ หลังจากกลึงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะน�ำมาถอด
พิมพ์ด้วยยางซิลิโคน เมื่อได้พิมพ์ยางซิลิโคนแล้ว จะน�ำ
เรซ่ินมาเทในพิมพ์ยางซิลิโคน เม่ือเสร็จจากขั้นตอนนี้ก็
จะได้หุ่นเพื่อการเคาะขึ้นรูป โดยน�ำโลหะเงินมาหลอมรีด
ใหเ้ ป็นรปู ทรงส่วนฐานตวั ผอบและฝา จากนนั้ ชา่ งจะน�ำมา
สลักดุนตามแบบและลวดลายที่ออกแบบไว้จนส�ำเร็จออก
มา แล้วจงึ นำ� แต่ละส่วนประกอบเขา้ ดว้ ยกันจนสำ� เร็จเป็น
ผอบเชิญพระบรมราชสรีรางคาร
186

เคร่อื งสงั เคด็

สงั เคด็ มากจากคำ� วา่ สงั คตี แปลวา่ การสวด ดงั นนั้
ที่ซง่ึ พระสงฆ์ขน้ึ ไปนั่งสวดได้ ๔ รปู จึงเรียกว่า เตียงสงั คตี
อันเดยี วกบั เตียงสวด หรือร้านสวดในการศพ เวน้ แตท่ ำ� ให้
ประณีตขึน้ มยี อดดจุ ปราสาทกม็ ี ไม่มยี อดก็มี ทั้งนี้เครื่อง
สังเค็ดอันหมายถึงสิ่งของท่ีใช้ในการท�ำบุญศพ มีที่มาจาก
แต่เดิมนิยมน�ำสังเค็ดอันเป็นเตียงสวดของพระสงฆ์น้ันมา
ใส่ของหามเข้าขบวนแห่ศพ ต่อมาภายหลังของเหล่าน้ีไม่
ไดจ้ ดั ใสใ่ นสงั เคด็ แลว้ แตผ่ คู้ นยงั เรยี กของทำ� บญุ ในการศพ
วา่ เครอื่ งสงั เค็ดอยู่
เครื่องสังเค็ดมีหลายชนิดตามแต่จะเห็นว่าสิ่งใด
จำ� เปน็ แกพ่ ระสงฆ์ เชน่ ตพู้ ระธรรม โตะ๊ หมู่ เปน็ ตน้ ครนั้ ถงึ
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรง
เปลยี่ นธรรมเนยี มการถวายเครอ่ื งสงั เคด็ โดยมงุ่ ประโยชนแ์ ก่
สาธารณะมากขนึ้ จำ� แนกเปน็ ๓ ประเภท คอื ถวายพระภกิ ษุ
มพี ดั รอง หรอื พดั สงั เคด็ ยา่ ม ผา้ กราบ ถวายวดั มธี รรมาสน์
ตู้พระธรรม และสำ� หรับโรงเรียน ไดแ้ ก่ เคร่อื งใช้ต่าง ๆ ใน
ปจั จบุ นั ยงั คงยดึ ธรรมเนยี มการถวายเครอ่ื งสงั เคด็ ดงั กลา่ ว
อยู่ แต่ได้มีการถวายหนังสืออันเป็นแหล่งเกิดปัญญา
เพ่ิมเข้ามา ดังในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จ
พระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลท่ี ๗
ได้สร้างตู้สังเค็ดบรรจุพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐซึ่งเป็น
พระไตรปิฎกท่ีจัดพิมพ์ขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั

187

เครอื่ งสังเคด็

188

ในงานพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาท
สมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร
ส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้รับภารกิจในการออก
แบบเคร่ืองสังเค็ด ส่วนการจัดสร้างส�ำนักพระราชวังเป็น
ผู้ด�ำเนินการ โดยให้ทางกรมศิลปากรช่วยควบคุมดูแลให้
เป็นไปตามรปู แบบ รายการเครอื่ งสงั เค็ดทจ่ี ดั ท�ำข้นึ ได้แก่
• พดั รองสำ� หรบั พระราชพธิ บี ำ� เพญ็ พระราชกศุ ล
การออกพระเมรุ
• พัดรองส�ำหรบั พระราชพธิ ีทรงบำ� เพญ็ กุศล
พระบรมอฐั ิ
• พดั รองส�ำหรับถวายพระจนี นิกาย
และอนัมนกิ าย
• ตสู้ งั เคด็ หรือตู้ใสห่ นังสือประดบั ดว้ ยภาพ
พระราชนิพนธ์ พระมหาชนก
• ธรรมาสน์ปาตโิ มกข์
• หบี พระปาติโมกขพ์ รอ้ มตา่ ง

189

การแสดงมหรสพสมโภช

190

การแสดงมหรสพสมโภช

การถวายพระเพลิงพระบรมศพแต่คร้ังโบราณจัด
เปน็ งานใหญ่ มมี หรสพสมโภชงานออกพระเมรพุ ระบรมอฐั ิ
เปน็ แบบแผนประเพณสี บื ทอดกันมาแต่คร้ังกรงุ ศรอี ยุธยา
เป็นราชธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้ชมและ
ถือว่าเป็นงานออกทุกข์ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังถือเสมือน
เป็นการแสดงพระกฤดาธิการของพระมหากษัตริย์ ใน
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการจัดมหรสพสมโภชงานออก
พระเมรุตามแบบแผนประเพณีเป็นครั้งแรกในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในงาน
ออกพระเมรุพระบรมอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
พ.ศ. ๒๓๓๙ ครน้ั ถงึ รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้
เจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๖ ได้มีประกาศงดการแสดงมหรสพ
สมโภชในงานออกพระเมรุ ตอ่ มาในสมยั รชั กาลที่ ๙ ในการ
พระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพสมเดจ็ พระศรนี ครนิ
ทราบรมราชชนนี พ.ศ. ๒๕๓๙ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ
สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการ
รอ้ื ฟน้ื การประโคมดนตรี หรอื การประโคมยำ�่ ยาม และการ
มหรสพ เนอ่ื งจากทรงเหน็ วา่ เพอื่ ไมใ่ หบ้ รรยากาศเงยี บเหงา
เหมือนครั้งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จ
พระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชนิ ี ในรชั กาลท่ี ๗ เมอื่ ปี
พ.ศ. ๒๕๒๘ ทงั้ ยงั เปน็ การรกั ษาโบราณราชประเพณไี วด้ ว้ ย

191

การแสดงมหรสพสมโภชเนื่องในงานพระราชพิธี
ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรประกอบดว้ ย
๑. การแสดงโขนหน้าพระท่ีน่ังทรงธรรม (หน้า
พระเมรุมาศ) ที่เรียกกันว่า โขนหน้าไฟ จัดการแสดงโขน
เรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร-ยกรบ-ร�ำลึกใน
พระมหากรณุ าธคิ ณุ ผแู้ สดงคอื นาฏศลิ ปนิ สำ� นกั การสงั คตี
นักเรยี น นักศกึ ษา วทิ ยาลัยนาฏศิลปทวั่ ประเทศ ๑๒ แห่ง
และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ผู้แสดง ผู้พากย์-เจรจา
ผู้บรรเลง ขับร้องและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ
๓๐๐ คน
๒. การแสดงมหรสพ ณ เวทกี ลางแจง้ บรเิ วณสนาม
หลวงดา้ นทศิ เหนอื มี ๓ เวที ประกอบดว้ ย
เวทที ่ี ๑ เวทกี ารแสดงหนงั ใหญเ่ บกิ หนา้ พระ และโขน
เรอื่ งรามเกยี รต์ิ โดยนาฏศลิ ปนิ สำ� นกั การสงั คตี กรมศลิ ปากร
รว่ มด้วยครู อาจารย์ นักเรยี น นกั ศึกษา วิทยาลยั นาฏศลิ ป์
๑๒ แห่ง และสถาบนั บณั ฑติ พฒั นศลิ ปจ์ ำ� นวน ๑,๐๒๐ คน
และผปู้ ฏิบตั ิงานทเ่ี กีย่ วข้องประมาณ ๑๐๐ คน รวมท้ังสิน้
๑,๑๒๐ คน นอกจากน้ี ยังมีการแสดงโขนพระราชทาน
ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ คน
การแสดงมี ๓ สว่ น ได้แก่

192

- การแสดงหนงั ใหญเ่ บกิ หน้าพระ และการแสดง
เบิกโรงหนังใหญ่ ชุดจับลิงหัวค�่ำ ผู้แสดงเป็นครูอาวุโส
ส�ำนักการสังคีต กรมศิลปากร ร่วมกับครูอาวุโสสถาบัน
บัณฑติ พฒั นศิลป์
- การแสดงโขนหน้าจอและโขนชักรอก เรื่อง
รามเกียรต์ิ ชุดพระรามข้ามสมุทร ชุดศึกทศกัณฐ์ครั้งแรก
ทัพสิบขุนสิบรถ ชุดท้าวมาลีวราชว่าความ ชุดนางมณโฑ
หุงน�้ำทิพย์ ชุดศึกทศกัณฐ์ ขาดเศียรขาดกร และชุดสีดา
ลยุ ไฟ พระรามคนื นคร เปน็ การแสดงของกรมศลิ ปากร
- การแสดงโขนหน้าจอและโขนชักรอก เร่ือง
รามเกียรต์ิ ชุดรามาวตารทศกัณฐ์รบสดายุ หนุมานถวาย
พล พิเภกสวามิภักดิ์ เป็นการแสดงของโขนพระราชทาน
(มลู นิธิส่งเสริมศลิ ปาชีพ)
เวทีท่ี ๒ เวทีการแสดงละคร หุ่นหลวง และหุ่น
กระบอก ประกอบดว้ ย ละครเรอ่ื งพระมหาชนก การแสดงหนุ่
หลวงตอนหนมุ านเขา้ หอ้ งนางวานรนิ การแสดงหนุ่ กระบอก
เรื่องพระอภัยมณี ตอนกำ� เนิดสดุ สาคร จนถึงพระฤาษชี ่วย
สุดสาคร ร�ำก่ิงไม้เงินทอง ละครในเร่ืองอิเหนาตอนบุษบา
ชมศาล-อิเหนาตัดดอกไม้-ฉายกริช-ท้าวดาหาบวงสรวง
และละครเรื่องมโนหร์ า ผแู้ สดง บรรเลง ขับร้อง จากส�ำนกั
การสังคีต กรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
๓๒๒ คน และผู้ปฏิบตั งิ านท่เี กี่ยวข้อง ประมาณ ๑๐๐ คน
รวมทัง้ สิ้น ๔๒๒ คน

193

เวทกี ารบรรเลงดนตรสี ากล “ธ คอื ดวงใจไทยทั่วหลา้ ”

เวทที ี่ ๓ เวทกี ารบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจ
ไทยทวั่ หลา้ ” เปน็ การบรรเลงและขบั รอ้ งเพลงพระราชนพิ นธ์
ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร เพลงเทดิ พระเกยี รติ บทเพลงทป่ี ระพนั ธข์ นึ้
เพอื่ ถวายอาลยั และบทเพลงทสี่ อ่ื ความหมายสอดคลอ้ งกบั
การแสดงแตล่ ะองก์ ๗ องก์ ไดแ้ ก่
องกท์ ่ี ๑ ดจุ หยาดทิพย์ชโลมหล้า
องก์ท่ี ๒ ใตฟ้ ้าร่มเยน็ เพราะพระบารมี
องก์ท่ี ๓ ทวยราษฎรน์ อ้ มสดุดี
องก์ท่ี ๔ ถวายภกั ดีองคร์ าชนั
องกท์ ี่ ๕ สถิตนิรนั ดรใ์ นใจราษฎร์
องก์ที่ ๖ ปวงข้าบาทบังคมถวาย
องกท์ ี่ ๗ สูส่ วรรคาลัยในทพิ ยว์ มิ าน

194

และการแสดงบลั เลต่ เ์ รอ่ื งมโนหร์ า ผบู้ รรเลง ขบั รอ้ ง
และผูแ้ สดง มาจากสำ� นกั การสงั คีต กรมศิลปากร สถาบัน
ดนตรีกัลยาณิวัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ วงดนตรี
อ.ส.วันศกุ ร์ วงสหายพฒั นา โรงเรยี นราชนิ ี กรมดุรยิ างค์
ทหารบก กองดุรยิ างค์ทหารเรอื กองดุริยางคท์ หารอากาศ
กองสวสั ดกิ ารสำ� นกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ กรมประชาสมั พนั ธ์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Royal Bangkok Symphony
Orchestra ซึ่งใช้ผู้บรรเลง ขับร้องและผู้แสดง ๗๕๓ คน
ผูป้ ฏิบตั ิงานท่เี กีย่ วข้อง ๑๘๙ คน รวมทั้งสิ้น ๙๔๒ คน
การแสดงทกุ เวทกี ำ� หนดเวลาเริม่ แสดง ๑๘.๐๐ น.
ในวนั พระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็
พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จนถงึ
เวลา ๐๖.๐๐ น.ของวันร่งุ ขน้ึ โดยการแสดงของทกุ เวทีจะ
หยดุ การแสดงเมอ่ื มีพระราชพิธีในพระเมรุมาศ

195

หนงั สอื ท่รี ะลึกและจดหมายเหตุ

คณะกรรมการฝ่ายจัดท�ำหนังสือที่ระลึกและ
จดหมายเหตุงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร ได้จดั ท�ำหนงั สอื ท่ีระลกึ จำ� นวน ๔ รายการ
ได้แก่
• หนงั สือ “พระเมรมุ าศสมัยรตั นโกสนิ ทร”์
• หนังสือ “พระเมรุในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
พระปรมทิ รมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร”
• หนังสือ “เครื่องประกอบพระราชอิสริยยศงาน
พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล
อดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร”
• หนังสือ “นวมินทราศิรวาทราชสดุดี ร้อยกรอง
เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล
อดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร”
หนงั สอื จดหมายเหตุ มจี �ำนวน ๖ รายการ ไดแ้ ก่
• หนังสือจดหมายเหตุ งานพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหติ ลาธิเบศรรามาธบิ ดี จกั รีนฤบดินทร สยามนิ ทราธริ าช
บรมนาถบพิตร (จดหมายเหตุฉบบั หลกั )
• หนังสือจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาท
สมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร
ฉบบั ประชาชน

196

• หนังสือจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาท
สมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ฉบบั สื่อมวลชน
• หนังสือ “พระเสด็จสู่ฟ้า ราษฎร์ล้วนอาลัย”
ในโครงการกานท์กวีคีตการปวงประชาน้อมร�ำลึกใน
พระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร
• หนังสือและซีดีบทเพลงแสดงความอาลัยแด่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
• หนังสือจดหมายเหตุฉบับวีดิทัศน์ “ทรงสถิตใน
ดวงใจ ไทยนริ ันดร”์

197

198

ศนู ย์ส่ือมวลชน
ศูนยถ์ ่ายทอดวทิ ยกุ ระจายเสียง
และศูนยถ์ า่ ยทอดวิทยโุ ทรทัศน์

199


Click to View FlipBook Version