The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมกฎหมาย ข้อบังคับ ข้อกำหนดและประกาศที่เกี่ยวข้อง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by taicoj2559, 2023-02-08 02:23:37

รวมกฎหมาย ข้อบังคับ ข้อกำหนดและประกาศที่เกี่ยวข้อง

รวมกฎหมาย ข้อบังคับ ข้อกำหนดและประกาศที่เกี่ยวข้อง

T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๕๐ Arbitration Act B.E. 2545 Section 42 The party seeking enforcement of the arbitral award shall file an application with the competent court within three years from the day that the award is enforceable. After receipt of the application, the court shall promptly examine and give judgment accordingly. The applicant for enforcement of the award shall produce the following documents to the court: (1) Original or certified copy of the arbitral award; (2) Original or certified copy of the arbitration agreement; (3) Thai translation of the award and of the arbitration agreement by the translator who has taken an oath or who affirmed before the court or in the presence of an official or an authorized person, or certified by an official authorized to certify translations or by a Thai envoy or consul in the country where the award or the arbitration agreement was made. Section 43 The court may refuse enforcement of the arbitral award, irrespective of the country in which it was made, if the person against whom the award will be enforced furnishes proof that: (1) A party to the arbitration agreement was under some incapacity under the law applicable to that party; (2) The arbitration agreement is not binding under the law of the country agreed to by the parties, or failing any indication thereon, under Thai law;


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e Arbitration Act B.E. 2545 ๕๑ (3) The party making the application was not given proper advance notice of the appointment of the arbitral tribunal or of the arbitral proceedings or was otherwise unable to defend the case in the arbitral proceedings; (4) The award deals with a disputed not falling within the scope of the arbitration agreement or contains a decision on matter beyond the scope of the arbitration agreement. However, if the award on the matter which is beyond the scope thereof can be separated from the part that is within the scope of arbitration agreement, the court may set aside only the part that is beyond the scope of arbitration agreement or clause; (5) The composition of the arbitral tribunal or the arbitral proceedings was not in accordance with the agreement of the parties or, if not otherwise agreed by the parties, in accordance with this Act; or (6) The arbitral award has not yet become binding, or has been set aside or suspended by a competent court or under the law of the country where it was made. Save where the setting aside or suspension of the award is being sought from the competent court, the court may adjourn the hearing of this case as it thinks fit; and if requested by the party making the application, the court may order the party against whom enforcement is sought to provide appropriate security. Section 44 The court may dismiss the application for enforcement under Section 43 if it finds that the award involves a dispute not capable of settlement by arbitration under the law or if the enforcement would be contrary to public policy.


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๕๒ Arbitration Act B.E. 2545 Section 45 No appeals shall lie against the order or judgment of the court under this Act unless: (1) The recognition or enforcement of the award is contrary to public policy; (2) The order or judgment is contrary to the provisions of law concerning public policy; (3) The order or judgment is not in accordance with the arbitral award; (4) The judge who sat in the case gave a dissenting opinion; or (5) The order is an order concerning provisional order measures for protection under Section 16. The appeal against the court’s order or judgment under this Act shall be filed with the Supreme Court or the Supreme Administrative Court, as the case may be. CHAPTER 8 Fees, Expenses and Remunerations Section 46 Unless otherwise agreed by the parties, the fees and expenses incidental to the arbitral proceedings and the remunerations for arbitrator, excluding attorney’s fees and expenses, shall be in accordance with that stipulated in the award of the arbitral tribunal.


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e Arbitration Act B.E. 2545 ๕๓ In case where the said fees, expenses or remunerations have not been fixed in the award, any party or the arbitral tribunal may petition a competent court for a ruling on the arbitration fees, expenses and remunerations for the arbitrator as it deems appropriate. Section 47 An institution established for the settlement of the disputes by arbitration may prescribe the fees, expenses and remunerations incidental to the arbitral proceedings. Transitional Provisions Section 48 The provisions of this Act shall not prejudice the validity of the arbitration agreements and arbitral proceedings that have been carried out prior to the date of entry into force of this Act. Any arbitral proceedings which have not been conducted and the time limit thereof under the applicable law has not lapsed, prior to the effective date of this Act, may be conducted within the time limit under this Act. Countersigned Pol.Lt.Col.Thaksin Shinawatra Prime Minister


พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๕๔ พระราชบัญญัติ อนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเด็จพระเจาอยูหัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ใหไว ณ วันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เปนปที่ ๔ ในรัชกาลปจจุบัน สมเด็จพระเจาอยูหัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราช โองการโปรดเกลาฯ ใหประกาศวา โดยที่เปนการสมควรแกไขเพิ่มเติมกฎหมายวาดวยอนุญาโตตุลาการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชบัญญัติขึ้นไวโดยคําแนะนําและ ยินยอมของสภานิติบัญญัติแหงชาติทําหนาที่รัฐสภา ดังตอไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกวา “พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราช กิจจานุเบกษา เปนตนไป มาตรา ๓ ใหเพิ่มความตอไปนี้เปนหมวด ๒/๑ อนุญาโตตุลาการซึ่งเปนคน ตางดาว มาตรา ๒๓/๑ มาตรา ๒๓/๒ มาตรา ๒๓/๓ มาตรา ๒๓/๔ มาตรา ๒๓/๕ และมาตรา ๒๓/๖ แหงพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. ๒๕๔๕


พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ๕๕ “หมวด ๒/๑ อนุญาโตตุลาการซึ่งเปนคนตางดาว มาตรา ๒๓/๑ คูพิพาทอาจตั้งคนตางดาวเปนอนุญาโตตุลาการคนเดียวหรือ หลายคน เพื่อดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการในราชอาณาจักรได ในกรณีที่มีการตั้งอนุญาโตตุลาการตามมาตรา ๑๘ หรือมีการตั้ง อนุญาโตตุลาการตามความตกลงของคูพิพาท อาจมีการตั้งคนตางดาวเปน อนุญาโตตุลาการก็ได มาตรา ๒๓/๒ ในกรณีที่มีการตั้งคนตางดาวผูอยูนอกราชอาณาจักร ทําหนาที่อนุญาโตตุลาการ ในราชอาณาจักรอันเปนการดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการ โดยสวนราชการหรือหนวยงานที่มีกฎหมาย จัดตั้งขึ้นและมีภารกิจที่เกี่ยวเนื่องในดาน การระงับขอพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ คนตางดาวผูนั้น อาจขอหนังสือรับรอง จากสวนราชการหรือหนวยงานดังกลาวเพื่อประกอบการพิจารณาของเจาหนาที่ตาม กฎหมายวาดวยคนเขาเมืองและกฎหมายวาดวยการบริหารจัดการการทํางานของ คนตางดาวได คนตางดาวผูทําหนาที่อนุญาโตตุลาการซึ่งมีสิทธิอยูในราชอาณาจักรอยูแลว อาจขอหนังสือรับรองตามวรรคหนึ่งได มาตรา ๒๓/๓ ใหสวนราชการหรือหนวยงานตามมาตรา ๒๓/๒ ออกหนังสือ รับรองเพื่อใหอนุญาโตตุลาการซึ่งเปนคนตางดาวทําหนาที่ไดตามกฎหรือขอบังคับ การดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการที่ตกลงกันเพื่อดําเนินการตามมาตรา ๒๓/๔ และ มาตรา ๒๓/๕ หนังสือรับรองตามวรรคหนึ่ง ใหมีรายละเอียดอยางนอย ดังตอไปนี้ (๑) ชื่อและที่อยูของสวนราชการหรือหนวยงานที่ออกหนังสือรับรอง (๒) หมายเลขของขอพิพาทหรือรหัสขอพิพาทที่อางอิงได


พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๕๖ (๓) ชื่อตัว ชื่อสกุล และสัญชาติของอนุญาโตตุลาการ (๔) เลขที่หนังสือเดินทางของอนุญาโตตุลาการ (๕) ระยะเวลาประมาณการในการดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่การดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการยังไมแลวเสร็จตามระยะเวลา ที่ไดประมาณการตามวรรคสอง (๕) อนุญาโตตุลาการอาจขอหนังสือรับรองใหมได มาตรา ๒๓/๔ ภายใตบังคับกฎหมายวาดวยคนเขาเมือง ใหอนุญาโตตุลาการ ซึ่งไดรับหนังสือ รับรองตามมาตรา ๒๓/๓ แลว มีสิทธิไดรับอนุญาตใหเขามาและ อยูในราชอาณาจักรเปนการชั่วคราวได ตามระยะเวลาที่กําหนดในหนังสือรับรอง แตไมเกินระยะเวลาตามที่กําหนดไวในกฎหมายวาดวยคนเขาเมือง มาตรา ๒๓/๕ ภายใตบังคับกฎหมายวาดวยการบริหารจัดการการทํางาน ของคนตางดาว ใหอนุญาโตตุลาการซึ่งไดรับหนังสือรับรองตามมาตรา ๒๓/๓ และ ไดรับอนุญาตใหอยูในราชอาณาจักร มีสิทธิทํางานในราชอาณาจักรตามตําแหนง หนาที่ของตน ใหนายทะเบียนตามกฎหมายวาดวยการบริหารจัดการการทํางานของคน ตางดาวออกใบอนุญาต ทํางานใหแกอนุญาโตตุลาการตามวรรคหนึ่ง และในระหวาง ที่ดําเนินการออกใบอนุญาต ใหอนุญาโตตุลาการ ดังกลาวทํางานไปพลางกอนได มาตรา ๒๓/๖ ในการดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการในราชอาณาจักร คูพิพาทอาจตั้งคนตางดาวเปนผูรับมอบอานาจคนเดียวหรือหลายคนเพื่อทําหนาที่ แทนตนได และใหนําบทบัญญัติ ในหมวดนี้มาใชบังคับแกผูรับมอบอานาจดังกลาว โดยอนุโลม” ผูรับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี


พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ๕๗ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปจจุบันการดําเนินการ ทางอนุญาโตตุลาการ ในราชอาณาจักรไดมีการตั้งคนตางดาวทําหนาที่อนุญาโตตุลาการและผูรับ มอบอํานาจของคูพิพาท ซึ่งการเขามา ในราชอาณาจักรเพื่อทําหนาที่ดังกลาวตองดําเนินการตาม ขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวของกับคนตางดาว ดังนั้น เพื่อเปนการอํานวยความสะดวกใหแก บุคคลดังกลาวในการเขามาดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการในราชอาณาจักร และไดรับใบอนุญาต ทํางานของคนตางดาว จึงจําเปนตองตราพระราชบัญญัตินี้


Arbitration Act (No.2) B.E. 2562 T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๕๘ Arbitration Act (No.2) B.E. 2562 ______________ His Majesty King Maha Vajiralongkorn Bodindradebayavarangkun Given this 12th day of April 2019, Being the 4th year of the present Reign. His Majesty King Maha Vajiralongkorn Bodindradebayavarangkun is graciously pleased to proclaim that, Whereas it is deemed expedient to revise the law governing arbitration, Be it, therefore, enacted by H.M. the King, by and with the advice and consent of the National Legislative Assembly acting as the Parliament, as follows: Section 1 This Act shall be called “Arbitration Act (No.2) B.E. 2562”. Section 2 This Act shall be enforced on and from the day following the date of its publication in the Government Gazette1 . 1 Published in the Government Gazette on 14 April 2019.


Arbitration Act (No.2) B.E. 2562 สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ๕๙ Section 3 The following shall be added as Chapter 2/1, Foreign Arbitrator, Section 23/1, Section 23/2, Section 23/3, Section 23/4, Section 23/5, and Section 23/6, of the Arbitration Act B.E. 2545 (2002): “Chapter 2/1 Foreign Arbitrator Section 23/1 The parties to the dispute may appoint one or several foreigners as arbitrators for the arbitration proceedings in the Kingdom. In the case there is an appointment of arbitrator under Section 18, or there is an appointment of arbitrator under an agreement of the parties to the dispute, a foreigner may be appointed as an arbitrator. Section 23/2 In the case where there is an appointment of a foreigner who resides outside the Kingdom to act as an arbitrator in the Kingdom, which is an arbitration proceedings by a government agency or by an agency established by law and there are missions in connection with settlement of disputes by arbitration, the said foreigner may apply for a certificate from said government agency or agency for consideration by the competent officers under the law governing immigration and the law governing management of working of aliens. A foreigner who performs the duty of an arbitrator and who is already entitled to reside in the Kingdom may apply for the certificate under paragraph one.


Arbitration Act (No.2) B.E. 2562 T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๐ Section 23/3 The government agency or the agency under Section 23/2 shall issue a certificate so that the foreign arbitrator may perform his/her duties under the rules or regulations of arbitration proceedings as agreed upon under Section 23/4 and Section 23/5. The certificate under paragraph one shall at least contain the following details: (1) Name and address of the government agency or the agency issuing certificate. (2) Reference no. of the dispute or code of dispute. (3) Name, surname, and nationality of the arbitrator. (4) Passport no. of the arbitrator. (5) Estimated period of arbitration proceedings. In the case the arbitration proceedings is not yet complete within the estimated period of time under paragraph two (5), the arbitrator may apply for a new certificate. Section 23/4 Subject to the law governing immigration, the arbitrator who has received the certificate under Section 23/3 shall be entitled to being permitted to enter and reside in the Kingdom temporarily according to the period specified in the certificate, but it must not exceed by the period specified in the law governing immigration. Section 23/5 Subject to the law governing management of working of aliens, the arbitrator who has received the certificate under Section 23/3 and permitted to reside in the Kingdom shall be entitled to work in the Kingdom according to his/her position and duties.


Arbitration Act (No.2) B.E. 2562 สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ๖๑ The registrar under the law governing management of working of aliens shall issue a work permit to the arbitrator under paragraph one, and during the period of processing of work permit, the arbitrator may perform his/her duties for the time being. Section 23/6 For arbitration proceedings in the Kingdom, the parties to the dispute may appoint one or several foreigners to be their attorneys to act on their behalf, and the provisions of this Chapter shall apply to the said attorneys mutatis mutandis.” Countersigned by General Prayuth Chan-ocha Prime Minister


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๒ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรม วาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ _________________ โดยที่สถาบันอนุญาโตตุลาการ สํานักงานศาลยุติธรรม ไดกอตั้งมานับตั้งแต ป ๒๕๓๓ เพื่อสงเสริมและพัฒนาการอนุญาโตตุลาการเปนวิธีระงับขอพิพาททางแพง และพาณิชย ใหเปนที่แพรหลายและยอมรับในระดับสากลควบคูไปกับระบบ ศาลยุติธรรม ตอมารัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ใหศาลยุติธรรมมีหนวยงานธุรการที่แยกเปนอิสระจากฝายบริหาร ประกอบกับพระราช บัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดจัดตั้งสํานักงาน ศาลยุติธรรมขึ้น โดยมีสถาบันอนุญาโตตุลาการเปนหนวยงานในสังกัด เพื่อให สอดคลองกับพัฒนาการของระบบอนุญาโตตุลาการระหวางประเทศในปจจุบัน จึงสมควรปรับปรุงขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรม วาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบัน อนุญาโตตุลาการ ดังตอไปนี้


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๓ หมวด ๑ บททั่วไป ขอ ๑ ใหสถาบันอนุญาโตตุลาการ สํานักงานศาลยุติธรรม เปนหนวยงาน ที่ดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการตามขอบังคับนี้ โดยมีผูอํานวยการบริหาร เปนผูกระทําการแทนและมีคําสั่งตามขอบังคับนี้ ในการดําเนินงานของสถาบัน ใหผูอํานวยการสํานักอนุญาโตตุลาการ และ สํานักอนุญาโตตุลาการ สํานักงานศาลยุติธรรมชวยดําเนินงานทางธุรการของสถาบัน และคณะอนุญาโตตุลาการใหเปนไปดวยความเรียบรอย ผูอํานวยการบริหารอาจมอบหมายใหเจาหนาที่ของสํานักอนุญาโตตุลาการ ดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวของกับการดําเนินกระบวนพิจารณาตามขอบังคับนี้ไดตามที่ เห็นสมควร คํานิยาม ขอ ๒ ในขอบังคับนี้ (๑) “สถาบัน” หมายถึง สถาบันอนุญาโตตุลาการ สํานักงานศาลยุติธรรม (๒) “ผูอํานวยการบริหาร” หมายถึง บุคคลที่เลขาธิการสํานักงาน ศาลยุติธรรมมอบหมายใหกระทําการแทนสถาบันและมีคําสั่งตามขอบังคับนี้ (๓) “คณะอนุญาโตตุลาการ” หมายถึง อนุญาโตตุลาการคนเดียวหรือ คณะอนุญาโตตุลาการ ที่ประกอบดวยอนุญาโตตุลาการหลายคน (๔) “ขอบังคับอนุญาโตตุลาการ” หมายถึง ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรม วาดวยอนุญาโตตุลาการสถาบันอนุญาโตตุลาการ


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๔ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๑ (๕) “เงินคาปวยการ” หมายถึง เงินคาตอบแทนการปฏิบัติหนาที่ของคณะ อนุญาโตตุลาการ ตามอัตราและวิธีการที่สถาบันประกาศกําหนด ๒ (๖) “เงินคาใชจาย” หมายถึง เงินคาใชจายในการดําเนินกระบวนพิจารณา ในชั้นอนุญาโตตุลาการ ตามอัตราและวิธีการที่สถาบันประกาศกําหนดคาใชจาย ในการดําเนินกระบวนพิจารณาในชั้นอนุญาโตตุลาการ หมายความรวมถึงคาบริการ ของผูแทนหรือบุคคลเพื่อชวยเหลือในการดําเนินกระบวนพิจารณา ซึ่งไดรับการแตง ตั้งตามขอ ๑๒ ของขอบังคับนี้ การใชขอบังคับอนุญาโตตุลาการ ขอ ๓ ใหใชขอบังคับนี้แกการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งคูพิพาทตกลงหรือ ยินยอมใหระงับขอพิพาทดวยวิธีการนี้ตามขอบังคับดังกลาวหรือซึ่งจัดการโดยสถาบัน เวนแตคูพิพาทจะตกลงเปนอยางอื่น ในกรณีที่สัญญาใดกําหนดใหระงับขอพิพาทที่เกิดขึ้นโดยการ อนุญาโตตุลาการ แตมิไดระบุใหใชขอบังคับของสถาบันใดโดยเฉพาะ และคูพิพาท ฝายใดเสนอขอพิพาทตอสถาบัน หากคูพิพาทอีกฝายหนึ่งยินยอม ไมวาโดยชัดแจง หรือโดยปริยาย ใหใชขอบังคับนี้แกการอนุญาโตตุลาการดังกลาวดวย ในกรณีที่คูพิพาทอีกฝายหนึ่งดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการ โดยมิไดโตแยงหรือคัดคานการใชขอบังคับอนุญาโตตุลาการโดยชัดแจง ใหถือวาคูพิพาท ทั้งสองฝายยินยอมใหดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการตามขอบังคับนี้ ๑ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓ ๒ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๕ ๓ การใชขอบังคับอนุญาโตตุลาการนี้ ใหหมายความรวมถึง การใชระบบการ อนุญาโตตุลาการทางอิเล็กทรอนิกสตามที่สถาบันกําหนดดวย ๔ ขอ ๓/๑ การอนุญาโตตุลาการตามขอบังคับนี้ หากไดดําเนินการผานระบบ การอนุญาโตตุลาการทางอิเล็กทรอนิกสตามที่สถาบันกําหนดแลว ใหถือวา กระบวนการดังกลาวมีผลใชบังคับตามขอบังคับนี้” ๕ ขอ ๓/๒ กอนที่มีคณะอนุญาโตตุลาการครบถวนคูพิพาทฝายใดฝายหนึ่ง อาจยื่นคําขอใชกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัดตามภาคผนวก ๑ สถาบันอาจอนุญาตใหมีการดําเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัด ก็ตอเมื่อเขาหลักเกณฑ ดังตอไปนี้ (๑) คูพิพาทตกลงกันใหใชกระบวนพิจารณาแบบเรงรัด หรือ (๒) จํานวนทุนทรัพยในขอเรียกรองและขอเรียกรองแยงแหงขอพิพาทนั้น ไมเกินหาลานบาท ใหคูพิพาทฝายที่ยื่นคําขอใชกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัดตาม ภาคผนวก ๑ สงสําเนาคําขอใหแกคูพิพาทอีกฝายหนึ่งแจงวาตนประสงคขอใช กระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัด โดยเร็วภายหลังจากยื่นคําขอตามวรรคหนึ่ง ๓ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๖ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ การที่คูพิพาทตกลงใชขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ในการดําเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ใหถือวา คูพิพาทยินยอมที่จะผูกพันและดําเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัด ตามที่กําหนดไวในภาคผนวก ๑ ไมวาขอสัญญาอนุญาโตตุลาการจะมีขอความที่ แตกตางจากหลักเกณฑการดําเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการตามภาคผนวก ดังกลาวหรือไม การสงเอกสาร ขอ ๔ การสงคําเสนอขอพิพาท คําคัดคาน คํารอง หนังสือแจงความ เอกสารหรือขอมูลอื่นใด อาจสงโดยทางไปรษณียลงทะเบียน บริการจัดสงเอกสาร โทรสารหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส หรือวิธีการอื่นใดที่ปรากฏหลักฐานการสง หรือแจง การสงหรือแจงความตามวรรคหนึ่งใหถือวามีผลสมบูรณ เมื่อไดสง (๑) ใหแกคูพิพาทอีกฝายหนึ่ง ผูแทนหรือทนายความ หรือบุคคลซึ่งคูพิพาท แตงตั้งหรือกําหนดใหมีอํานาจรับเอกสารแทนตน หรือ (๒) ไปยังภูมิลําเนา สถานที่ประกอบธุรกิจ หรือสถานที่ที่คูสัญญา กําหนดในสัญญาที่พิพาทวาเปนที่รับสงเอกสาร หรือสถานที่ที่สถาบันหรือ คณะอนุญาโตตุลาการอนุญาต หรือ (๓) ไปยังถิ่นที่อยูหรือสถานที่ประกอบธุรกิจที่ทราบครั้งสุดทายของบุคคลนั้น หากไมสามารถสืบหาภูมิลําเนาหรือสถานที่ประกอบธุรกิจที่แทจริงได หรือ (๔) ไปยังที่อยูทางอิเล็กทรอนิกสที่คูพิพาทหรือผูรับเอกสารไดแจงไวตอ สถาบัน เมื่อคูพิพาทฝายใดฝายหนึ่งรองขอ หรือในกรณีที่สถาบัน หรือ คณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควร สถาบันหรือคณะอนุญาโตตุลาการอาจกําหนดให


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๗ คูพิพาทเปนผูสงคําเสนอขอพิพาท คําคัดคาน คํารอง หนังสือแจงความ เอกสารหรือ ขอมูลอื่นใดไปยังคณะอนุญาโตตุลาการ และคูพิพาทอีกฝายหนึ่งก็ได การนับระยะเวลา ขอ ๕ เพื่อประโยชนในการคํานวณระยะเวลาตามขอบังคับ อนุญาโตตุลาการ มิใหนับวันแรกแหงระยะเวลานั้นรวมคํานวณเขาดวย ถาวันสุดทาย แหงระยะเวลาเปนวันหยุดซึ่งตามประเพณีงดเวนการงาน หรือมิใชวันทําการใน ประเทศของผูรับการแจงกําหนดระยะเวลาขางตน ใหขยายระยะเวลาดังกลาวจนถึง วันที่เริ่มทํางานใหม วันหยุดซึ่งตามประเพณีงดเวนการงานหรือมิใชวันทําการ และอยูในระหวาง ระยะเวลาดังกลาวตามวรรคหนึ่ง ใหรวมคํานวณเขาไปในระยะเวลาดังกลาว ยนหรือขยายระยะเวลา ขอ ๖ หากสถาบันเห็นสมควร หรือเมื่อคณะอนุญาโตตุลาการหรือคูพิพาท รองขอ สถาบันอาจยนหรือขยายระยะเวลาตามขอบังคับนี้ได หมวด ๒ การเสนอขอพิพาท คําเสนอขอพิพาท ขอ ๗ ใหคูพิพาทเสนอขอพิพาทของตน (ซึ่งตอไปนี้เรียกวา “ผูเรียกรอง”) โดยทําเปนหนังสือยื่นตอสถาบัน คําเสนอขอพิพาทตองประกอบดวยรายละเอียด ดังตอไปนี้ (๑) คําขอใหระงับขอพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ (๒) ชื่อและที่อยูของคูพิพาท รวมถึงที่อยูทางอิเล็กทรอนิกส (ถามี) (๓) ขอสัญญาอนุญาโตตุลาการ หรือสัญญาอนุญาโตตุลาการ


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๘ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (๔) สัญญาหรือนิติสัมพันธอันกอใหเกิดหรือที่เกี่ยวของกับขอพิพาท (๕) ขอเท็จจริงอันเปนฐานแหงขอเรียกรองและจํานวนเงินที่เรียกรอง (๖) ขอเรียกรองและคําขอบังคับ (๗) จํานวนอนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่ไมไดกําหนดไวใน (๓) ในกรณีที่สัญญาอนุญาโตตุลาการกําหนดใหมีอนุญาโตตุลาการเกินกวาหนึ่งคน ใหเสนอชื่อบุคคลเพื่อแตงตั้งเปนอนุญาโตตุลาการ และหนังสือแสดงความยินยอม ของบุคคลดังกลาวมาพรอมขอเรียกรองนั้นใหผูเรียกรองแนบสําเนาคําเสนอขอพิพาท ในจํานวนที่เพียงพอเพื่อสงใหคูพิพาทอีกฝายหนึ่ง (ซึ่งตอไปนี้เรียกวา “ผูคัดคาน”) และคณะอนุญาโตตุลาการ ขอ ๘ เมื่อสถาบันเห็นวาคําเสนอขอพิพาทมีรายการครบถวนตามขอ ๗ ใหสถาบันสงสําเนาคําเสนอขอพิพาทดังกลาวไปยังผูคัดคานโดยพลัน หากสถาบันเห็นวาคําเสนอขอพิพาทไมถูกตอง หรือมีรายการไมครบถวน สถาบันอาจมีคําสั่งไมรับหรือคืนคําเสนอขอพิพาทนั้นไปใหทํามาใหม หรือแกไขเพิ่มเติม ใหถูกตองครบถวนภายในระยะเวลาและกําหนดเงื่อนไขใด ๆ ตามที่เห็นสมควร ขอ ๙ เมื่อผูคัดคานไดรับสําเนาคําเสนอขอพิพาทแลว ใหยื่นคําคัดคานและ ขอเรียกรองแยง (ถามี) โดยทําเปนหนังสือภายใน ๑๕ วันนับแตวันที่ไดรับสําเนา คําเสนอขอพิพาท คําคัดคานและขอเรียกรองแยงตองประกอบดวยรายละเอียด ดังตอไปนี้ (๑) ชื่อและที่อยูของผูคัดคาน รวมถึงที่อยูทางอิเล็กทรอนิกส (ถามี) (๒) ขอเท็จจริงที่เกี่ยวกับขอพิพาท ตลอดจนเหตุแหงการยอมรับหรือปฏิเสธ ขออางของผูเรียกรอง (๓) ขอคัดคานเกี่ยวกับขอเรียกรองและคําขอบังคับ


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๖๙ (๔) ขอเท็จจริงอันเปนฐานแหงขอเรียกรองแยง ตลอดจนขอเรียกรองแยง จํานวนเงินที่เรียกรองแยงและคําขอบังคับ (ถามี) (๕) จํานวนอนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่ไมไดกําหนดไวในสัญญา อนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่สัญญาอนุญาโตตุลาการกําหนดใหมีอนุญาโตตุลาการเกินกวาหนึ่งคน ใหเสนอชื่อบุคคลเพื่อแตงตั้งเปนอนุญาโตตุลาการตามที่สัญญาดังกลาวกําหนด และ หนังสือแสดงความยินยอมของบุคคลดังกลาวมาพรอมคําคัดคานนั้น ใหผูคัดคานแนบ สําเนาคําคัดคานและขอเรียกรองแยง (ถามี) ในจํานวนที่เพียงพอที่จะสงใหแก ผูเรียกรองและคณะอนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่มีขอเรียกรองแยง ใหผูเรียกรองยื่นคําคัดคานแกขอเรียกรองแยง โดยทําเปนหนังสือภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ไดรับสําเนาคําคัดคานและขอเรียกรองแยง ใหนําความในวรรคหนึ่ง (๒) (๓) มาใชบังคับแกการทําคําคัดคานแกขอเรียกรองแยง และใหนําความในขอ ๘ มาใชแกคําคัดคานและขอเรียกรองแยงดวยโดยอนุโลม ขอ ๑๐ ในกรณีที่สัญญาอนุญาโตตุลาการไมไดกําหนดภาษาในการดําเนิน กระบวนพิจารณาและคูพิพาทยังไมไดตกลงกําหนดเปนอยางอื่น ใหจัดทําคําเสนอ ขอพิพาท คําคัดคานและขอเรียกรองแยง และคําคัดคานแกขอเรียกรองแยงเปนภาษา ที่ใชทําสัญญาอนุญาโตตุลาการ ทั้งนี้ ไมกระทบถึงอํานาจคณะอนุญาโตตุลาการตาม ขอ ๓๐ ที่จะกําหนดภาษาที่จะใชในการดําเนินกระบวนพิจารณา ในกรณีที่สัญญาอนุญาโตตุลาการกําหนดภาษาที่ใชในการดําเนินกระบวน พิจารณาไวมากกวาหนึ่งภาษาและคูพิพาทไดจัดทําคําเสนอขอพิพาท คําคัดคานและ ขอเรียกรองแยง และคําคัดคานแกขอเรียกรองแยงเปนภาษาอื่นตามที่กําหนดไว สถาบันอาจกําหนดใหคูพิพาทจัดทําคําแปลเปนอีกภาษาหนึ่งตามที่กําหนดไวใน สัญญาอนุญาโตตุลาการก็ได


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๐ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ขอ ๑๑ ในกรณีที่คูพิพาทอางวาไมมีสัญญาอนุญาโตตุลาการที่มีผลผูกพันอยู ขอพิพาทไมอยูในขอบเขตของสัญญาอนุญาโตตุลาการ หรือกระบวนพิจารณา อนุญาโตตุลาการไมอยูภายใตการจัดการของสถาบัน ใหสถาบันแจงใหคูพิพาทอีก ฝายทราบขออางดังกลาวและสอบถามความเห็นตลอดจนขอคัดคานตอขออาง ดังกลาว (ถามี) หากคูพิพาทอีกฝายหนึ่งประสงคจะยื่นความเห็นตลอดจนขอคัดคาน ใหทําเปนหนังสือยื่นภายใน ๑๕ วันนับแตวันที่ไดรับแจง หากสถาบันพิจารณาจากหลักฐานในสํานวนแลว มีมูลเหตุที่อาจเชื่อไดใน เบื้องตนวาอาจมีสัญญาอนุญาโตตุลาการระหวางคูพิพาทเกี่ยวกับขอพิพาทที่เขาสู กระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการอยู ใหสถาบันมีคําสั่งใหดําเนินกระบวนพิจารณา อนุญาโตตุลาการตอไป หากสถาบันเห็นวาไมปรากฏมูลเหตุที่อาจเชื่อไดในเบื้องตน ดังกลาว ใหมีคําสั่งจําหนายขอพิพาทในสวนที่เกี่ยวของออกจากสารบบความ คําสั่งของสถาบันตามวรรคสองไมกระทบตออํานาจของคณะ อนุญาโตตุลาการที่จะวินิจฉัยถึงความมีอยูหรือความสมบูรณของสัญญา อนุญาโตตุลาการและขอบอํานาจของคณะอนุญาโตตุลาการ การตั้งผูแทนหรือบุคคลเพื่อชวยเหลือในการดําเนินกระบวนพิจารณา ขอ ๑๒ คูพิพาทอาจตั้งผูแทนหรือบุคคลใดเพื่อชวยเหลือตนหรือทําการแทน ตนในการดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการก็ได ใหคูพิพาทแจงชื่อและที่อยู รวมถึงที่อยูทางอิเล็กทรอนิกสสําหรับการจัดสงเอกสารโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส ของผูแทนหรือบุคคลซึ่งตนตั้งใหเปนผูทําหนาที่ดังกลาวเปนหนังสือตอสถาบัน การรวมกระบวนพิจารณา ขอ ๑๓ ในกรณีที่ประเด็นขอพิพาทในกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการ เรื่องหนึ่งเกี่ยวพันกับประเด็นขอพิพาทในกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการอีก เรื่องหนึ่ง ไมวาสัญญาอนุญาโตตุลาการที่เกี่ยวของกับประเด็นขอพิพาทดังกลาวจะ แตกตางกันหรือไม หากสถาบันเห็นวาการรวมกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการที่


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๑ เกี่ยวของกันดังกลาวซึ่งอยูภายใตการจัดการของสถาบันเขาดวยกันจะเปนการสะดวก หรือคูพิพาทฝายใดฝายหนึ่ง หรือคณะอนุญาโตตุลาการรองขอและสถาบันเห็นสมควร สถาบันอาจมีคําสั่งใหรวมกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการดังกลาวก็ได ๖ ในกรณีที่สัญญาอนุญาโตตุลาการที่เกี่ยวของมีขอแตกตางกัน หรือมีปญหา ขอขัดของเกี่ยวกับการดําเนินกระบวนพิจารณาชั้นอนุญาโตตุลาการ ใหสถาบันเปน ผูกําหนดกระบวนพิจารณาตามที่เห็นสมควร กรณีคณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควรใหรวมกระบวนพิจารณา อนุญาโตตุลาการ ใหเสนอความเห็นตอสถาบัน เพื่อพิจารณาและมีคําสั่งตอไป หมวด ๓ คณะอนุญาโตตุลาการ ขอ ๑๔ ในกรณีที่คูพิพาทไมไดตกลงกําหนดจํานวนอนุญาโตตุลาการ ใหมี อนุญาโตตุลาการเพียงคนเดียว การเสนอชื่ออนุญาโตตุลาการคนเดียว ขอ ๑๕ ในกรณีที่มีอนุญาโตตุลาการคนเดียว หากคูพิพาทประสงคจะตกลง เสนอชื่ออนุญาโตตุลาการรวมกัน ใหเสนอชื่อบุคคลดังกลาวไปยังสถาบันภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ไดรับสําเนาคําคัดคาน หรือในกรณีที่มีขอเรียกรองแยง ภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ไดรับสําเนาคัดคานคําแกขอเรียกรองแยง มิฉะนั้นใหดําเนินการดังนี้ ๖ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๒ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (๑) ใหคูพิพาทแตละฝายเสนอรายชื่ออนุญาโตตุลาการจํานวน ๓ รายชื่อ ไปยังสถาบันภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ไดรับแจง (๒) เมื่อสถาบันไดรับรายชื่ออนุญาโตตุลาการแลว สถาบันอาจเสนอราย ชื่ออนุญาโตตุลาการอีก ๓ รายชื่อ แลวสงกลับใหคูพิพาท (๓) ใหคูพิพาทคัดเลือกรายชื่ออนุญาโตตุลาการเรียงตามลําดับความ พึงพอใจทั้ง ๙ รายชื่อสงกลับไปยังสถาบันภายใน ๑๕ วันนับแตวันที่ไดรับรายชื่อ (๔) ใหสถาบันดําเนินการติดตอบุคคลที่คูพิพาทมีความพึงพอใจตรงกัน สูงสุดไมเกินหาอันดับแรกเพื่อเปนอนุญาโตตุลาการ กรณีที่มีบุคคลที่ไดความพึงพอใจ ลําดับที่หาเทากันเกินกวา ๑ คน ใหสถาบันเปนผูกําหนดวาจะใหติดตอบุคคลใด เวนแตกรณีมีเหตุจําเปนเพื่อประโยชนแหงความยุติธรรม สถาบันจะกําหนดใหติดตอ บุคคลลําดับถัดจากนั้นก็ได หากคูพิพาทฝายใดฝายหนึ่งหรือทั้งสองฝายไมดําเนินการเสนอหรือคัดเลือก รายชื่อเรียงลําดับตามที่กําหนดหรือดําเนินการตามวิธีการขางตนแลวไมมีบุคคลใด รับเปนอนุญาโตตุลาการ สถาบันอาจมีคําสั่งแตงตั้งอนุญาโตตุลาการเองหรือใหดําเนิน การตามวรรคหนึ่งใหมก็ได การเสนอชื่ออนุญาโตตุลาการหลายคน ขอ ๑๖ หากคูพิพาทตกลงใหมีอนุญาโตตุลาการจํานวน ๓ คน ใหคูพิพาท เสนอชื่ออนุญาโตตุลาการฝายละ ๑ คน หากคูพิพาทฝายใดฝายหนึ่งไมเสนอชื่อ อนุญาโตตุลาการภายในกําหนด สถาบันอาจมีคําสั่งแตงตั้งอนุญาโตตุลาการเองก็ได ใหอนุญาโตตุลาการที่ไดรับการเสนอชื่อและแตงตั้งตามวรรคหนึ่งรวมกันเสนอชื่อ บุคคลภายนอกอีกคนหนึ่งเปนประธานคณะอนุญาโตตุลาการ หากอนุญาโตตุลาการ ที่คูพิพาทเสนอชื่อนั้น ไมสามารถรวมกันตกลงเกี่ยวกับบุคคลที่จะเปนประธาน คณะอนุญาโตตุลาการไดภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ไดรับแจงใหดําเนินการคัดเลือก ผูที่จะเสนอชื่อ ใหนําความในขอ ๑๕ มาใชแกการตั้งประธานคณะอนุญาโตตุลาการ โดยอนุโลม


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๓ ในกรณีที่กําหนดใหคณะอนุญาโตตุลาการประกอบดวยอนุญาโตตุลาการ มากกวา ๓ คน ใหคูพิพาทเสนอชื่ออนุญาโตตุลาการฝายละเทากัน และใหนําความ ในวรรคหนึ่งและวรรคสองมาใชบังคับโดยอนุโลม การเสนอชื่ออนุญาโตตุลาการกรณีมีคูพิพาทมากกวาสองฝาย ขอ ๑๗ ในกรณีที่มีคูพิพาทมากกวาสองฝาย การแตงตั้งอนุญาโตตุลาการให ทําดังตอไปนี้ (๑) กรณีมีอนุญาโตตุลาการคนเดียว ใหฝายผูเรียกรองและฝายผูคัดคาน เสนอรายชื่อและคัดเลือกรายชื่อเรียงตามลําดับความพึงพอใจตามขอ ๑๕ รวมกันใน ฝายตน (๒) กรณีมีอนุญาโตตุลาการเกินกวาหนึ่งคน ใหคูพิพาทแตละฝายเสนอ รายชื่อตามขอ ๑๖ รวมกันในฝายตน (๓) กรณีที่ไมสามารถแบงแยกไดวาคูพิพาทรายใดควรดําเนินการเสนอ ชื่ออนุญาโตตุลาการรวมกับคูพิพาทฝายใด สถาบันอาจมีคําสั่งแตงตั้งอนุญาโตตุลาการ ทั้งหมดเองก็ได การแตงตั้งอนุญาโตตุลาการ ขอ ๑๘ การแตงตั้งอนุญาโตตุลาการคนเดียวหรือประธานคณะ อนุญาโตตุลาการ ใหอนุญาโตตุลาการที่จะไดรับการแตงตั้งลงลายมือชื่อใหความ ยินยอมในหนังสือแตงตั้ง แลวใหเสนอตอสถาบันพิจารณาแตงตั้ง การแตงตั้งอนุญาโตตุลาการที่คูพิพาทเสนอชื่อตามขอ ๑๖ ใหคูพิพาทที่เสนอ ชื่อดําเนินการใหผูที่ไดรับการเสนอชื่อลงลายมือชื่อใหความยินยอมในหนังสือแตงตั้ง แลวใหเสนอตอสถาบันพิจารณาแตงตั้ง บุคคลใดยินยอมในการแตงตั้งใหตนเปนอนุญาโตตุลาการถือวายอมรับ คาปวยการตามที่สถาบันกําหนดดวย


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๔ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ คุณสมบัติและการปฏิบัติหนาที่ของอนุญาโตตุลาการ ขอ ๑๙ อนุญาโตตุลาการตองมีความเปนกลางและเปนอิสระ รวมทั้งตองมี คุณสมบัติตามที่กําหนดไวในสัญญาอนุญาโตตุลาการและมีความพรอมที่จะปฏิบัติ หนาที่ใหเสร็จสิ้นไปดวยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในการเสนอชื่อบุคคลที่จะ ทําหนาที่เปนอนุญาโตตุลาการตามขอ ๑๖ วรรคหนึ่ง คูพิพาทตองตรวจสอบคุณสมบัติ และความพรอมที่จะปฏิบัติหนาที่ของบุคคลที่จะเสนอชื่อกอน อนุญาโตตุลาการตองดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการตามที่ กําหนดในขอบังคับนี้เพื่อใหกระบวนพิจารณาเสร็จสิ้นไปดวยความรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพ และไมปฏิบัติตนเสมือนเปนทนายความหรือผูแทนของคูพิพาท ฝายหนึ่งฝายใด ทั้งตองถือปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมอนุญาโตตุลาการที่สถาบันกําหนด การเปดเผยขอเท็จจริงของอนุญาโตตุลาการ ขอ ๒๐ เมื่อไดรับการติดตอใหทําหนาที่อนุญาโตตุลาการ หรือเมื่อไดรับการ แตงตั้งและตลอดระยะเวลาที่ดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการ หากมี ขอเท็จจริงอันอาจทําใหคูพิพาทเกิดความสงสัยอันควรในความเปนกลางและเปนอิสระ ของตน ใหอนุญาโตตุลาการเปดเผยขอเท็จจริงดังกลาวใหคูพิพาทและสถาบันทราบ การคัดคานอนุญาโตตุลาการ ขอ ๒๑ การคัดคานอนุญาโตตุลาการ ใหดําเนินการดังตอไปนี้ (๑) คูพิพาทฝายหนึ่งอาจคัดคานอนุญาโตตุลาการ ซึ่งตั้งโดยคูพิพาทอีก ฝายหนึ่งได หากมีความสงสัยอันควรในความเปนกลางและเปนอิสระของ อนุญาโตตุลาการ (๒) การคัดคานใหทําเปนหนังสือแสดงโดยแจงชัดซึ่งเหตุแหงการคัดคาน ยื่นตอสถาบันภายใน ๑๕ วัน นับแตวันไดรับแจงชื่อและรายละเอียดของ อนุญาโตตุลาการผูนั้น หรือรูถึงขอเท็จจริงแหงการคัดคาน แลวแตกรณี


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๕ (๓) เมื่อไดรับหนังสือแจงเหตุแหงการคัดคานแลว ใหสถาบันสงหนังสือ แจงเหตุแหงการคัดคานไปยังคณะอนุญาโตตุลาการและคูพิพาทอีกฝายหนึ่ง ขอ ๒๒ หากคูพิพาทอีกฝายหนึ่งเห็นชอบกับการคัดคานอนุญาโตตุลาการ หรือผูเปนอนุญาโตตุลาการขอถอนตัวหลังจากการคัดคาน ใหดําเนินการแตงตั้ง อนุญาโตตุลาการใหมแทนอนุญาโตตุลาการที่ถูกคัดคานตามขอ ๑๕ ถึงขอ ๑๗ แลว แตกรณี ทั้งนี้ แมคูพิพาทจะมิไดใชสิทธิในการเสนอชื่ออนุญาโตตุลาการตั้งแตแรก ก็ตาม การที่คูพิพาทอีกฝายหนึ่งเห็นชอบกับการคัดคานอนุญาโตตุลาการหรือการ ที่ผูเปนอนุญาโตตุลาการขอถอนตัวมิไดหมายถึงการยอมรับถึงความถูกตองแหงเหตุ แหงการคัดคานอนุญาโตตุลาการ ขอ ๒๓ ถาคูพิพาทอีกฝายหนึ่งไมเห็นดวยกับการคัดคาน หรือหาก อนุญาโตตุลาการซึ่งถูกคัดคานมิไดถอนตัวจากการเปนอนุญาโตตุลาการ ใหคณะอนุญาโตตุลาการเปนผูวินิจฉัยคําคัดคานนั้น เวนแตสถาบันเห็นสมควรแตงตั้ง ผูชี้ขาดหรือคณะผูชี้ขาดจํานวนไมเกิน ๓ คน ใหทําหนาที่พิจารณาและวินิจฉัย การคัดคาน และใหผูชี้ขาดหรือคณะผูชี้ขาดวินิจฉัยคําคัดคานใหเสร็จสิ้นภายใน ๑๕ วัน คําวินิจฉัยของผูชี้ขาดหรือคณะผูชี้ขาดใหเปนที่สุด คาปวยการและคาใชจายของผูชี้ขาดหรือคณะผูชี้ขาดใหเปนไปตามที่สถาบัน กําหนด และใหถือวาเปนคาปวยการและคาใชจายสวนหนึ่งของกระบวนพิจารณา อนุญาโตตุลาการ ถาคณะอนุญาโตตุลาการ หรือผูชี้ขาดเห็นวาอนุญาโตตุลาการขาดความ เปนกลางหรือเปนอิสระ ใหการเปนอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลง สําหรับการแตงตั้ง อนุญาโตตุลาการแทนอนุญาโตตุลาการที่ขาดคุณสมบัติดังกลาว ใหนําขอ ๒๒ วรรคหนึ่ง มาใชโดยอนุโลม


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๖ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ การมีคําสั่งใหการเปนอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลง ขอ ๒๔ สถาบันอาจมีคําสั่งใหการเปนอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลง หากสถาบัน เห็นวาอนุญาโตตุลาการผูใด (๑) ไมสามารถปฏิบัติหนาที่ได ไมวาดวยผลทางกฎหมายหรือขอเท็จจริง ที่เกิดขึ้น (๒) ไมดําเนินกระบวนพิจารณาตามขอบังคับนี้ หรือไมดําเนินการภายใน เวลาที่กําหนดโดยปราศจากเหตุอันสมควร หรือ (๓) มีพฤติกรรมที่ไมปฏิบัติหนาที่ใหเสร็จสิ้นไปดวยความรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพ เชน การไมเขารวมกระบวนพิจารณาที่นัดไวโดยไมมีเหตุอันสมควร กอนที่จะมีคําสั่งตามวรรคหนึ่ง สถาบันอาจใหคูพิพาท อนุญาโตตุลาการที่ เกี่ยวของและอนุญาโตตุลาการคนอื่นเสนอความเห็น ขอมูล และขอเท็จจริงเปน หนังสือภายในเวลาตามที่สถาบันเห็นสมควร การตั้งอนุญาโตตุลาการแทน ขอ ๒๕ การตั้งอนุญาโตตุลาการแทน ใหดําเนินการดังตอไปนี้ (๑) หากอนุญาโตตุลาการตายหรือคูพิพาทตกลงกันใหการเปน อนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลง หรือกรณีตามขอ ๒๔ (๑) ใหดําเนินการตั้งอนุญาโตตุลาการ แทนตามวิธีการที่ไดกําหนดไวสําหรับการแตงตั้งอนุญาโตตุลาการ (๒) ในกรณีที่อนุญาโตตุลาการขอถอนตัว การเปนอนุญาโตตุลาการของ ผูนั้นสิ้นสุดลงเมื่อสถาบันเห็นชอบใหถอนตัวได การแตงตั้งอนุญาโตตุลาการแทนให ดําเนินการตามวิธีการที่ไดกําหนดไวสําหรับการแตงตั้งอนุญาโตตุลาการ (๓) ในกรณีที่การเปนอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลงตามขอ ๒๔ (๒) (๓) หรือ ในกรณีที่เปนการถอนตัวตามขอ ๒๕ (๒) ของอนุญาโตตุลาการที่คูพิพาทฝายหนึ่ง


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๗ เสนอชื่อ และการถอนตัวนั้นมีลักษณะที่ทําใหกระบวนพิจารณาลาชาเกินสมควร สถาบันอาจแตงตั้งอนุญาโตตุลาการเองแทนการใชวิธีการที่ไดกําหนดไวสําหรับการ แตงตั้งอนุญาโตตุลาการก็ได ขอ ๒๖ เมื่อมีการตั้งอนุญาโตตุลาการแทนผูที่การเปนอนุญาโตตุลาการได สิ้นสุดลงไมวาดวยเหตุใด ๆ ก็ตาม ใหคณะอนุญาโตตุลาการเปนผูวินิจฉัยวาจะให ดําเนินกระบวนพิจารณาที่ไดทําไปแลวใหมหรือไม หรือใหดําเนินกระบวนพิจารณา ใหมเพียงใด การติดตอกับอนุญาโตตุลาการ ขอ ๒๗ หามมิใหคูพิพาทหรือบุคคลที่ทําการแทนคูพิพาทติดตอกับ อนุญาโตตุลาการหรือบุคคลที่ประสงคจะเสนอชื่อใหเปนอนุญาโตตุลาการโดยไมเปดเผย การติดตอนั้นใหคูพิพาทฝายอื่น สถาบันและคณะอนุญาโตตุลาการทราบ เวนแต เปนการใหขอมูลแกบุคคลที่ประสงคจะเสนอชื่อนั้นเกี่ยวกับสภาพทั่วไปแหงขอพิพาท โดยสังเขป กระบวนพิจารณาที่จะทําตอไป คุณสมบัติและความพรอมที่จะปฏิบัติ หนาที่ใหเสร็จสิ้นไปดวยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ความเกี่ยวพันกับคูพิพาท หรือขอพิพาท หามมิใหคูพิพาทหรือบุคคลที่ทําการแทนคูพิพาทติดตอกับบุคคลที่ไดรับการ เสนอชื่อหรือประสงคจะเสนอชื่อใหเปนประธานคณะอนุญาโตตุลาการโดยไมเปดเผย การติดตอนั้นใหคูพิพาทฝายอื่น สถาบันและคณะอนุญาโตตุลาการทราบ


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๘ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ หมวด ๔ กระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการ ขอ ๒๘ คณะอนุญาโตตุลาการมีอํานาจดําเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ตาม ที่เห็นสมควร โดยคํานึงถึงหลักแหงความยุติธรรม ความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเปดโอกาสใหคูพิพาทเสนอขอเท็จจริงเพื่อสนับสนุนขออางขอตอสูของตน ไดตามควรแกพฤติการณแหงขอพิพาทนั้น เวนแตในกรณีที่คูพิพาทไดกําหนดไวเปน อยางอื่น ภายใน ๓๐ วันนับแตวันแตงตั้งอนุญาโตตุลาการคนสุดทาย ใหคณะ อนุญาโตตุลาการหารือกับคูพิพาท เพื่อกําหนดกรอบระยะเวลาเบื้องตนในการ ดําเนินกระบวนพิจารณาจนแลวเสร็จ อันมีกําหนดไมเกิน ๑๘๐ วัน แลวเสนอให สถาบันเห็นชอบ หากคณะอนุญาโตตุลาการแกไขเปลี่ยนแปลงกรอบระยะเวลาตามวรรคสอง ใหเสนอสถาบันพิจารณา ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุจําเปนหรือมีเหตุอันสมควร สถาบัน อาจอนุญาตใหขยายกรอบระยะเวลานั้นก็ได ขอ ๒๙ ประธานคณะอนุญาโตตุลาการมีอํานาจวินิจฉัยและมีคําสั่งใน ประเด็นใด ๆ เกี่ยวกับกระบวนพิจารณาซึ่งมิใชเปนการวินิจฉัยชี้ขาดเนื้อหาแหง ขอพิพาท ทั้งนี้ หากปรากฏขอเท็จจริงแกคณะอนุญาโตตุลาการวาพฤติการณแหงคดี เปลี่ยนแปลงไป คณะอนุญาโตตุลาการอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงคําสั่งดังกลาว ไดในภายหลัง ภาษาที่จะใชในการดําเนินกระบวนพิจารณา ขอ ๓๐ เวนแตคูพิพาทจะกําหนดไวเปนอยางอื่น คณะอนุญาโตตุลาการ มีอํานาจกําหนดภาษาที่ใชในการดําเนินกระบวนพิจารณา


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๗๙ คณะอนุญาโตตุลาการหรือสถาบันในกรณีที่ยังไมมีคณะอนุญาโตตุลาการ ครบถวน อาจกําหนดใหคูพิพาทจัดทําคําแปลเอกสารใด ๆ ที่คูพิพาทอางสงเปนภาษาอื่น ตามที่เห็นสมควร สถานที่สําหรับการดําเนินกระบวนพิจารณา ขอ ๓๑ เวนแตคูพิพาทจะกําหนดไวเปนอยางอื่น ใหถือวาสถานที่ดําเนินการ ทางอนุญาโตตุลาการ ไดแก กรุงเทพมหานคร แตเมื่อคํานึงถึงพฤติการณแวดลอม แหงคดี คณะอนุญาโตตุลาการอาจกําหนดสถานที่ดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการ เปนสถานที่แหงอื่นก็ได คณะอนุญาโตตุลาการอาจกําหนดสถานที่ดําเนินกระบวนพิจารณาเพื่อ ดําเนินการปรึกษาหารือ เพื่อสืบพยานบุคคลหรือผูเชี่ยวชาญ หรือเพื่อตรวจสอบวัตถุ สถานที่หรือเอกสารใด ๆ ก็ได ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการพิจารณา คณะอนุญาโตตุลาการ อาจกําหนดใหมีการดําเนินกระบวนพิจารณาทางจอภาพ หรือวิธีการอื่นตามที่ เห็นสมควร การสืบพยานหลักฐาน ขอ ๓๒ ในกรณีที่คูพิพาทมิไดตกลงกันไวเปนอยางอื่น ใหคณะ อนุญาโตตุลาการเปนผูกําหนดวาจะสืบพยานหรือรับฟงพยานหลักฐานใดบาง ในกรณีที่คูพิพาทตกลงกันใหดําเนินกระบวนพิจารณาโดยรับฟงเพียงพยาน เอกสารใหคณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาและชี้ขาดจากพยานเอกสารที่คูพิพาท นําสืบใหคณะอนุญาโตตุลาการแจงกําหนดนัดสืบพยานและนัดพิจารณาเพื่อ ตรวจสอบวัตถุ สถานที่ หรือเอกสารอยางอื่นใหคูพิพาททราบ ขอ ๓๓ ในกรณีที่มีการสืบพยานบุคคล คณะอนุญาโตตุลาการอาจกําหนด ใหคูพิพาทระบุพยานที่ประสงคจะนําเขาสืบขอเท็จจริงหรือเรื่องที่พยานจะเบิกความถึง และความเกี่ยวพันของคําเบิกความของพยานกับประเด็นขอพิพาทที่จะตอง วินิจฉัยชี้ขาด


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๐ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ คณะอนุญาโตตุลาการอาจกําหนดใหคูพิพาทสงคําใหการพยานเปน ลายลักษณอักษร หากพยานที่ไดสงคําใหการพยานเปนลายลักษณอักษรไมมา เบิกความตามที่กําหนด คณะอนุญาโตตุลาการอาจไมรับฟงคําใหการนั้นเปนพยาน หลักฐานหรือจะใหนํ้าหนักในการรับฟงหรือไม เพียงใดก็ได ขอ ๓๔ ในระหวางพิจารณา คณะอนุญาโตตุลาการอาจเรียกใหคูพิพาทแสดง เอกสารหรือพยานหลักฐานใด ๆ ตามประเด็นที่คณะอนุญาโตตุลาการกําหนด ภายใน ระยะเวลาที่คณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควร ขอ ๓๕ คณะอนุญาโตตุลาการมีอํานาจอนุญาต ปฏิเสธหรือจํากัดการนํา พยานหลักฐานเขาสืบหรือการเบิกความของพยานบุคคลไดตามที่เห็นสมควร เพื่อให กระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการเสร็จสิ้นไปดวยความเปนธรรม รวดเร็วและมี ประสิทธิภาพ ขอ ๓๖ กระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการทั้งปวง ตลอดจนคําเสนอ ขอพิพาท คําคัดคาน เอกสารโตตอบ พยานหลักฐาน การสืบพยาน คําสั่ง และคําชี้ขาด ถือเปนความลับ คูพิพาท คณะอนุญาโตตุลาการ หรือสถาบัน ไมอาจเปดเผยกระบวนพิจารณา อนุญาโตตุลาการ ไมวาทั้งหมดหรือแตบางสวน เวนแต (๑) คูพิพาทยินยอม (๒) เปนการเปดเผยเพื่อการคุมครองหรือการใชสิทธิตามกฎหมายหรือ เพื่อการบังคับหรือเพิกถอนคําชี้ขาด หรือ (๓) เปนกรณีที่มีหนาที่ตองเปดเผยตามกฎหมาย ขอ ๓๗ คณะอนุญาโตตุลาการอาจมอบหมายใหเจาหนาที่ของสถาบันชวย ดําเนินการเกี่ยวกับกระบวนพิจารณาอยางหนึ่งอยางใดตามที่เห็นสมควรก็ได


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๑ ผูเชี่ยวชาญที่คณะอนุญาโตตุลาการแตงตั้ง ขอ ๓๘ เมื่อไดหารือกับคูพิพาทแลว คณะอนุญาโตตุลาการอาจให ผูเชี่ยวชาญทํารายงานความเห็นเสนอตอสถาบัน โดยใหคูพิพาทแจงขอเท็จจริง ที่เกี่ยวของตามที่ผูเชี่ยวชาญสอบถาม เมื่อไดรับรายงานความเห็นของผูเชี่ยวชาญแลว ใหสถาบันสงสําเนาความ เห็นแกคณะอนุญาโตตุลาการและคูพิพาททราบ หากคูพิพาทรองขอและ คณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควร อาจอนุญาตใหคูพิพาทซักถามผูเชี่ยวชาญได ตามสมควร มาตรการเพื่อคุมครองประโยชนของคูพิพาทระหวางพิจารณา ขอ ๓๙ หากคูพิพาทรองขอ คณะอนุญาโตตุลาการอาจมีคําสั่งหรือคําชี้ขาด กําหนดมาตรการเพื่อคุมครองประโยชนของคูพิพาทระหวางพิจารณาตามที่เห็น สมควร คณะอนุญาโตตุลาการอาจมีคําสั่งใหคูพิพาทฝายที่รองขอหาประกันมาวาง เพื่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใชมาตรการดังกลาวก็ได การรองขอตามวรรคหนึ่งไมกระทบสิทธิของคูพิพาทที่จะยื่นคํารองตอศาล ใหมีคําสั่งใหใชวิธีการชั่วคราวเพื่อคุมครองประโยชนของตน การยื่นคํารองตอศาล ดังกลาวไมถือเปนการขัดหรือแยงกับการดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการ ตามขอบังคับนี้ การไมดําเนินกระบวนพิจารณาที่กําหนด ขอ ๔๐ หากผูเรียกรองไมเขารวมกระบวนพิจารณาหรือไมดําเนินการตามที่ คณะอนุญาโตตุลาการหรือสถาบันกําหนด คณะอนุญาโตตุลาการอาจมีคําสั่งยุติการ พิจารณาและแจงใหสถาบันทราบ สถาบันอาจมีคําสั่งใหจําหนายขอพิพาทนั้น ออกจากสารบบความ เวนแตมีประเด็นที่ควรไดรับการวินิจฉัยชี้ขาดและ คณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควรที่จะวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นดังกลาว


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๒ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ หากผูคัดคานไมยื่นคําคัดคานโดยไมมีเหตุอันสมควร ไมเขารวมกระบวน พิจารณาหรือไมดําเนินการตามที่คณะอนุญาโตตุลาการหรือสถาบันกําหนด คณะอนุญาโตตุลาการหรือสถาบันอาจมีคําสั่งใหดําเนินกระบวนพิจารณาตอไป หากผูคัดคานไดยื่นขอเรียกรองแยงไวดวย คณะอนุญาโตตุลาการอาจมีคําสั่งงด การพิจารณาในสวนที่เกี่ยวกับขอเรียกรองแยงและแจงใหสถาบันทราบ สถาบันอาจ มีคําสั่งใหจําหนายขอพิพาทในสวนที่เกี่ยวกับขอเรียกรองแยงนั้นออกจากสารบบ ความก็ได การพิจารณาโดยคณะอนุญาโตตุลาการเสียงสวนใหญ ขอ ๔๑ หากอนุญาโตตุลาการคนใดปฏิเสธหรือมีพฤติกรรมที่จะไมเขารวม การพิจารณาหรือทําคําชี้ขาด ซึ่งจะทําใหกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการลาชา โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร คณะอนุญาโตตุลาการสวนใหญอาจพิจารณาและทํา คําชี้ขาดไปไดโดยไมจําตองมีอนุญาโตตุลาการดังกลาวเขารวมก็ได ในกรณีนี้ให คณะอนุญาโตตุลาการแจงใหสถาบัน คูพิพาท และอนุญาโตตุลาการดังกลาวทราบ ในการพิจารณากรณีตามวรรคหนึ่ง ใหคณะอนุญาโตตุลาการเสียงสวนใหญ คํานึงถึงขั้นตอนของกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการในขณะดังกลาว คําชี้แจง ของอนุญาโตตุลาการที่ไมเขารวมหรือขอเท็จจริงอื่นใดที่เห็นสมควร ใหคณะ อนุญาโตตุลาการระบุเหตุผลของการดําเนินกระบวนพิจารณาตอไปตามวรรคหนึ่ง ไวในคําสั่ง คําชี้ขาด หรือคําวินิจฉัยใด ๆ ที่กระทําโดยคณะอนุญาโตตุลาการเสียง สวนใหญดวย ในกรณีที่ปรากฏพฤติการณตามวรรคหนึ่งและคณะอนุญาโตตุลาการ เห็นวาไมควรดําเนินกระบวนพิจารณาตอไปโดยไมมีอนุญาโตตุลาการดังกลาว ใหคณะอนุญาโตตุลาการแจงใหสถาบันทราบ หากสถาบันเห็นสมควรอาจมีคําสั่ง ใหการเปนอนุญาโตตุลาการของผูนั้นสิ้นสุดลงตามขอ ๒๔ ขอ ๔๒ การที่คูพิพาทไมคัดคานโดยพลันถึงเหตุแหงการไมปฏิบัติตาม ขอบังคับนี้หรือการไมปฏิบัติตามขอสัญญาอนุญาโตตุลาการใหถือวาคูพิพาทนั้นสละสิทธิ ในการคัดคาน เวนแตสามารถพิสูจนถึงเหตุอันสมควรแหงการไมคัดคาน


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๓ หมวด ๕ คําชี้ขาด กฎหมายที่ใชบังคับ ขอ ๔๓ ใหคณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาดขอพิพาทไปตามกฎหมายที่คูพิพาท กําหนดใหนํามาใชบังคับแกขอพิพาท หากคูพิพาทไมไดกําหนดกฎหมายที่จะใชบังคับไว ใหคณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาดขอพิพาทนั้นตามกฎหมายที่เห็นสมควรเปนกฎหมาย ที่ใชบังคับแกขอพิพาท หากคูพิพาทตกลงไวอยางชัดแจง คณะอนุญาโตตุลาการอาจวินิจฉัยชี้ขาด ขอพิพาทไปตามหลักสุจริตและเปนธรรม ในการตีความสัญญาใหพิจารณาถึง ธรรมเนียมปฏิบัติทางการคาตามสัญญาประกอบ การชี้ขาด ขอ ๔๔ คําชี้ขาดใหเปนไปตามเสียงขางมากของคณะอนุญาโตตุลาการ แต คณะอนุญาโตตุลาการจะกําหนดหรือชี้ขาดการใดใหเกินขอบเขตแหงสัญญา อนุญาโตตุลาการหรือคําขอของคูพิพาทไมได เวนแตจะเปนการกําหนดคาธรรมเนียม และคาใชจายในชั้นอนุญาโตตุลาการหรือคาปวยการอนุญาโตตุลาการ หรือเปนการ ชี้ขาดใหเปนไปตามขอตกลงหรือการประนีประนอมยอมความกันระหวางคูพิพาท ระยะเวลาทําคําชี้ขาด ขอ ๔๕ คําชี้ขาดจะตองทําใหเสร็จภายใน ๓๐ วันนับแตวันเสร็จการพิจารณา หรือครบกําหนดยื่นคําแถลงการณปดคดี เวนแตสถาบันจะอนุญาตใหขยายระยะเวลา ตามสมควรเมื่อไดรับคํารองขอจากคณะอนุญาโตตุลาการ


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๔ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ แบบของคําชี้ขาด ขอ ๔๖ คําชี้ขาดจะตองทําเปนหนังสือลงลายมือชื่อของคณะ อนุญาโตตุลาการ ระบุวัน เดือน ป และสถานที่ดําเนินการทางอนุญาโตตุลาการไว โดยชัดแจง ในกรณีที่อนุญาโตตุลาการคนใดไมลงลายมือชื่อไว ใหอนุญาโตตุลาการอื่น จดแจงเหตุขัดของในคําชี้ขาดและใหสถาบันรับรองถึงเหตุดังกลาว คําชี้ขาดจะตอง ระบุเหตุผลแหงขอวินิจฉัยทั้งปวงไวโดยชัดแจง การตรวจรางคําชี้ขาด ขอ ๔๗ กอนลงนามในคําชี้ขาด ใหคณะอนุญาโตตุลาการสงรางคําชี้ขาดให สถาบันพิจารณาเห็นชอบรูปแบบคําชี้ขาดภายในระยะเวลาตามขอ ๔๕ หรือเมื่อครบ กําหนดยื่นคําแถลงการณปดคดี แลวแตกรณี ผลของคําชี้ขาด ขอ ๔๘ คําชี้ขาดเปนที่สุดและมีผลผูกพันคูพิพาทตั้งแตวันที่สําเนาคําชี้ขาด ไปถึงคูพิพาทฝายนั้น ใหคูพิพาทปฏิบัติตามคําชี้ขาดโดยไมชักชา การชี้ขาดตามยอม ขอ ๔๙ หากคูพิพาทตกลงระงับขอพิพาทกอนที่คณะอนุญาโตตุลาการ มีคําชี้ขาด คณะอนุญาโตตุลาการอาจมีคําสั่งใหยุติกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการนั้น หากคูพิพาทรองขอคณะอนุญาโตตุลาการอาจทําคําชี้ขาดตามสัญญาประนีประนอม ยอมความนั้นก็ได คําชี้ขาดดังกลาวไมจําตองระบุเหตุผล การตีความคําชี้ขาด ขอ ๕๐ ภายใน ๓๐ วันนับแตวันที่สําเนาคําชี้ขาดไปถึง เมื่อเกิดความสงสัย ตามควรเกี่ยวกับขอความในคําชี้ขาด คูพิพาทฝายใดฝายหนึ่งอาจรองขอให คณะอนุญาโตตุลาการตีความหรืออธิบายความนั้นได คําตีความหรืออธิบายความนี้ ใหถือเปนสวนหนึ่งของคําชี้ขาด


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๕ การแกไขคําชี้ขาด ขอ ๕๑ ถาในคําชี้ขาดสวนใดมีขอผิดพลาดหรือขอผิดหลงเล็กนอย เมื่อคณะ อนุญาโตตุลาการเห็นสมควรภายใน ๓๐ วันนับแตวันมีคําชี้ขาด หรือเมื่อคูพิพาท ฝายใดฝายหนึ่งรองขอภายใน ๓๐ วัน นับแตวันที่สําเนาคําชี้ขาดไปถึงแลวแตกรณี คณะอนุญาโตตุลาการอาจแกไขใหถูกตองได และใหถือวาความที่ไดแกไขนั้นเปนสวนหนึ่ง ของคําชี้ขาด การทําคําชี้ขาดเพิ่มเติม ขอ ๕๒ ภายใน ๓๐ วันนับแตวันที่สําเนาคําชี้ขาดไปถึง เมื่อคูพิพาทฝายใด เห็นวามิไดชี้ขาด ในขอประเด็นสาระสําคัญใด ก็อาจรองขอใหคณะอนุญาโตตุลาการ ทําคําชี้ขาดเพิ่มเติมในประเด็นขอนั้นได ในกรณีที่คณะอนุญาโตตุลาการเห็นวาขอประเด็นนั้นเปนขอสาระสําคัญและ ยังมิไดชี้ขาดไว ก็ใหทําการชี้ขาดในประเด็นนั้นใหเสร็จสิ้นภายในเวลา ๓๐ วัน นับแต วันที่คูพิพาทฝายนั้นไดยื่นคํารองขอ ขอ ๕๓ ใหนําขอ ๔๗ ถึงขอ ๔๙ มาใชบังคับแกการแกไข การตีความ การอธิบายความ หรือการทําคําชี้ขาดเพิ่มเติม โดยอนุโลม ขอ ๕๔ ใหคูพิพาทรับเอกสารในสํานวนคืนภายใน ๙๐ วัน นับแตวันที่ไดรับ สําเนาคําชี้ขาด หากไมมารับคืนภายในเวลาดังกลาว สถาบันอาจเรียกเก็บคารักษาเอกสาร ในอัตราที่สถาบันประกาศกําหนดทั้งนี้ ไมตัดอํานาจสถาบันในการทําลายเอกสารนั้น เสียก็ได ในกรณีที่มีการทําคําตีความ คําแกไขขอผิดพลาดหรือขอผิดหลงเล็กนอย หรือคําชี้ขาดเพิ่มเติม ใหอนุญาโตตุลาการสงมอบสํานวนทั้งหมดใหแกสถาบันเมื่อทํา คําตีความ คําแกไขขอผิดพลาดหรือขอผิดหลงเล็กนอยหรือคําชี้ขาดเพิ่มเติมแลวแต กรณีเสร็จสิ้นแลว


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๖ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ หมวด ๖ คาธรรมเนียม คาใชจาย และคาปวยการ ขอ ๕๕ ใหคูพิพาทวางเงินคาปวยการอนุญาโตตุลาการและคาใชจายในการ ดําเนินกระบวนพิจารณาตามที่สถาบันกําหนด หากคูพิพาทมิไดวางเงินใหครบถวน สถาบันอาจมีคําสั่งไมรับคําเสนอขอพิพาท คําคัดคานหรือขอเรียกรองแยง หรือมี คําสั่งอื่นใดตามที่เห็นสมควร ขอ ๕๖ คาปวยการอนุญาโตตุลาการและคาใชจายในการดําเนินกระบวน พิจารณาใหเปนไปตามอัตราที่สถาบันประกาศกําหนด ๗ ขอ ๕๗ ใหอนุญาโตตุลาการกําหนดไวในคําชี้ขาดเรื่องคาธรรมเนียมและ คาใชจายในชั้นอนุญาโตตุลาการ ตลอดจนคาปวยการอนุญาโตตุลาการ รวมถึงคาบริการ ของผูแทนหรือบุคคลเพื่อชวยเหลือในการดําเนินกระบวนพิจารณา ซึ่งไดรับการ แตงตั้งตามขอ ๑๒ ของขอบังคับนี้ ทั้งนี้ อัตราคาบริการดังกลาวใหเปนไปตามประกาศ สํานักงานศาลยุติธรรม วาดวยคาบริการของผูแทนหรือบุคคลเพื่อชวยเหลือในการ ดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการ ขอ ๕๘ กอนที่จะมีการดําเนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการไมวาใน ขั้นตอนใด หากเห็นสมควร สถาบันอาจเรียกใหคูพิพาทวางเงินประกันคาใชจาย คาธรรมเนียม และคาปวยการได คูพิพาทฝายหนึ่งอาจวางเงินประกันทั้งหมดหาก คูพิพาทอีกฝายหนึ่งไมไดวางเงินประกันตามกําหนด ถาคูพิพาทไมชําระหรือชําระไมครบถวนซึ่งเงินประกันคาใชจาย คาธรรมเนียม หรือคาปวยการ แลวแตกรณี ภายในระยะเวลาตามที่สถาบันกําหนด สถาบันอาจแจงใหคณะอนุญาโตตุลาการมีคําสั่งงดการดําเนินกระบวนพิจารณาไว ภายในระยะเวลาที่กําหนด หากสถาบันไมไดรับชําระเงินประกันคาใชจาย ๗ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๗ คาธรรมเนียมหรือคาปวยการครบถวนเมื่อครบกําหนดระยะเวลาที่ใหงดการดําเนิน กระบวนพิจารณาไว สถาบันอาจถือวาไดมีการถอนขอพิพาทและมีคําสั่งจําหนาย ขอพิพาทออกจากสารบบความก็ได ในกรณีที่มีการชําระเงินประกันขางตนครบถวนในสวนที่เกี่ยวกับคําเสนอ ขอพิพาทหรือขอเรียกรองแยง สถาบันอาจถือวามีการถอนขอพิพาทเฉพาะในสวนที่ ชําระเงินประกันไมครบถวน และมีคําสั่งใหจําหนายขอพิพาทเฉพาะสวนดังกลาวออก จากสารบบความ ในกรณีนี้ ใหสถาบันแจงใหคณะอนุญาโตตุลาการดําเนินกระบวน พิจารณาตอไปเฉพาะสวนที่คงเหลือ หมวด ๗ บทเฉพาะกาล ขอ ๕๙ เวนแตคูพิพาทจะตกลงกันเปนอยางอื่น ขอสัญญาหรือสัญญา อนุญาโตตุลาการ หรือการอางอิงใด ๆ ที่กําหนด ใหใชขอบังคับกระทรวงยุติธรรมวา ดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการกับขอพิพาทใด ใหถือวาขอสัญญา หรือสัญญาอนุญาโตตุลาการ หรือการอางอิงนั้นกําหนดใหใชขอบังคับ อนุญาโตตุลาการนี้ ขอ ๖๐ เวนแตคูพิพาทจะตกลงกันเปนอยางอื่น กระบวนพิจารณา อนุญาโตตุลาการที่ไดเริ่มตนกอนวันที่ขอบังคับนี้มีผลบังคับใชใหดําเนินกระบวน พิจารณาตอไปตามขอบังคับที่มีผลในขณะที่ยื่นคําเสนอขอพิพาท โดยใหขอบังคับนี้ มีผลเมื่อครบกําหนด ๓๐ วันนับแตวันประกาศ ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ (อธิคม อินทุภูติ) เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๘ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘ ภาคผนวก ๑ กระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัด คณะอนุญาโตตุลาการ ขอ ๑ ใหมีอนุญาโตตุลาการเพียงคนเดียวเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดขอพิพาทตาม ภาคผนวกนี้ เวนแตสถาบันเห็นวาตามพฤติการณแหงคดี มีเหตุจําเปนที่จะกําหนด เปนอยางอื่น และใหสถาบันเปนผูดําเนินการแตงตั้งอนุญาโตตุลาการตามขอนี้ ในกรณีที่คูพิพาทฝายใดฝายหนึ่งไดมีการแตงตั้งอนุญาโตตุลาการไวกอน มีการขอใหดําเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัดตามขอ ๓/๒ แหงขอบังคับ สํานักงานศาลยุติธรรม วาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ใหถือวา การแตงตั้งอนุญาโตตุลาการนั้นเปนอันสิ้นผลไปเมื่อสถาบันมีคําสั่งอนุญาตใหดําเนิน กระบวนพิจารณาแบบเรงรัดกระบวนพิจารณา กระบวนพิจารณา ขอ ๒ ใหคณะอนุญาโตตุลาการกําหนดประเด็นขอพิพาท รวมถึงกําหนด กระบวนพิจารณาชั้นอนุญาโตตุลาการและดําเนินกระบวนพิจารณาใหแลวเสร็จ ภายใน ๖๐ วัน นับแตวันแตงตั้งอนุญาโตตุลาการ หากไมสามารถดําเนินการตาม กําหนดระยะเวลาได ใหคณะอนุญาโตตุลาการเสนอสถาบันเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุจําเปนอยางยิ่งหรือมีเหตุอันสมควรประการอื่น สถาบัน อาจอนุญาตใหขยายระยะเวลานั้นก็ได ๘ แกไขเพิ่มเติมโดยขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๘๙ ขอ ๓ ภายหลังจากที่คณะอนุญาโตตุลาการหารือกับคูพิพาท คณะ อนุญาโตตุลาการอาจกําหนดใหชี้ขาดขอพิพาทนี้โดยใชพยานเอกสารแตเพียงอยางเดียว เวนแตคณะอนุญาโตตุลาการเห็นวาควรที่จะใหมีการสืบพยานบุคคล หรือพยาน ผูเชี่ยวชาญเพิ่มเติม ทั้งนี้ คณะอนุญาโตตุลาการจะตองใหโอกาสคูพิพาทเสนอพยาน หลักฐานอยางเทาเทียมกันตามสมควร ขอ ๔ คูพิพาทจะขอขยายระยะเวลาที่กําหนดตามภาคผนวกนี้ไมได เวนแตกรณีมีเหตุจําเปนอยางยิ่งหรือมีเหตุสุดวิสัย ระยะเวลาทําคําชี้ขาด ขอ ๕ ใหคณะอนุญาโตตุลาการทําคําชี้ขาดใหแลวเสร็จภายใน ๑๕ วัน นับแตวันครบกําหนดวันยื่นพยานเอกสารในกรณีที่พิจารณาชี้ขาดโดยใชพยานเอกสาร เพียงอยางเดียว หรือวันเสร็จการพิจารณาแลวแตกรณี เวนแตสถาบันเห็นสมควร อนุญาตใหขยายระยะเวลา เมื่อไดรับคํารองจากคณะอนุญาโตตุลาการวามีเหตุจําเปน ที่ทําใหไมสามารถทําคําชี้ขาดภายในกําหนดเวลาดังกลาวได คณะอนุญาโตตุลาการอาจทําคําชี้ขาดโดยระบุเหตุผลโดยยอ เวนแตคูพิพาท ไดตกลงใหคําชี้ขาดไมตองระบุเหตุผล การไมใชกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัด ขอ ๖ ไมวาในระยะเวลาใด หากสถาบันเห็นสมควรหรือคูพิพาทฝายใด ฝายหนึ่งยื่นคํารองขอไมใชกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัดตอสถาบัน และ ภายหลังสถาบันไดหารือกับคณะอนุญาโตตุลาการและคูพิพาทแลวมีพฤติการณพิเศษ ที่ทําใหกระบวนการอนุญาโตตุลาการแบบเรงรัดไมเหมาะสมจะใชกับขอพิพาทหรือ อาจสงผลกระทบตอความยุติธรรม สถาบันอาจสั่งใหดําเนินกระบวนพิจารณาตอไป ตามขอบังคับแบบปกติ ในกรณีที่สถาบันมีคําสั่งตามวรรคหนึ่ง ใหคณะอนุญาโตตุลาการเดิมที่ได แตงตั้งแลวทําหนาที่ตอไป เวนแตสถาบันจะมีคําสั่งเปนอยางอื่น และใหถือวา


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๙๐ ขอบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมวาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ กระบวนพิจารณาที่ดําเนินการไปกอนแลวเปนการดําเนินการตามขอบังคับแบบปกติ โดยอนุโลม บทอนุโลม ขอ ๗ บรรดากระบวนพิจารณาหรือบทบัญญัติใดที่ไมไดกําหนดไวโดย เฉพาะภายใตภาคผนวกนี้ ใหนําบทบัญญัติในหมวดอื่นของขอบังคับสํานักงาน ศาลยุติธรรม วาดวยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ มาใชบังคับโดยอนุโลม


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e The TAI Arbitration Rules ๙๑ The Arbitration Rules The Thai Arbitration Institute Office of the Judiciary The Thai Arbitration Institute, the Office of the Judiciary was established, in 1990, to promote and develop arbitration as a dispute settlement mechanism for civil and commercial matters, and bring arbitration in Thailand to meet international expectation, alongside the judicial proceedings. Subsequently, the Constitution of the Kingdom of Thailand, B.E. 2540 provided that the Court of Justice shall have its administrative division independent from the Executive Branch. The Judicial Administration Act B.E. 2543 hence established the Office of the Judiciary with the Thai Arbitration Institute as one of its agencies. In order to respond to the current development in the international arbitration, it is deemed expedient to provide the Arbitration Rules of the Thai Arbitration Institute, the Office of the Judiciary, as follows: SECTION I GENERAL PROVISIONS Article 1 The Thai Arbitration Institute (TAI), Office of the Judiciary, shall be the institution empowered to administer arbitral proceedings under these Rules. The Executive Director shall be the person who is entitled to act on its behalf, and render orders pursuant to the Rules.


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๙๒ The TAI Arbitration Rules In discharging responsibilities of TAI, the director and the Office of Arbitration, Office of the Judiciary shall assist the administrative works of TAI as well as those of Arbitral Tribunals in order to properly carrying out arbitral proceedings. The Executive Director may assign officials of the Office of Arbitration to carry out any work relating to the proceedings under these Rules, as deemed appropriate. Definition Article 2 In these Rules: (1) “Institute” means the Thai Arbitration Institute, Office of the Judiciary; (2) “Executive Director” means the person(s) whom the Secretary-General of the Office of the Judiciary designates to act on behalf of TAI, and render orders pursuant to these Rules; (3) “Arbitral Tribunal” means a sole arbitrator or a panel of arbitrators; (4) “Arbitration Rules” means the Arbitration Rules of the Thai Arbitration Institute, Office of the Judiciary; 1 (5) “Arbitrator fee” means an arbitration committee remuneration for performing theirduties based on the rates and methods determined by the institute; 1 amended by The Arbitration Rules, The Thai Arbitration Institute Office of the Judiciary (No.3) B.E. 2563


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e The TAI Arbitration Rules ๙๓ 2 (6) “Cost” means expense in arbitration proceedings based on the rates and methods determined by the institute. Cost in arbitration proceedings shall also mean a service charge of representative or coordinator for the proceedings as appointed by 12 herein. Application of the Rules Article 3 Unless the parties agree otherwise, the Arbitration Rules shall apply to arbitral proceedings in which the parties agree or give a consent to have their dispute settled by arbitration under these Rules, or which are under the auspices of the Institute. In case where an agreement stipulates that the dispute arising from the said agreement shall be settled by arbitration without providing for specific arbitration rules, and a party submits a dispute to INSTITUTE, if another party agrees, either explicitly or implicitly, then these Rules shall apply to the arbitration. In case where a party proceeds with the arbitration without explicitly stating any disagreement or objection against application of the Arbitration Rules, it is deemed that both parties consent to the applicability of the Arbitration Rules to the arbitration. 3 The use of these Rules also includes the use of the Electronic Arbitration System as stipulated by the Thai Arbitration Institute. 2 amended by The Arbitration Rules, The Thai Arbitration Institute Office of the Judiciary (No.3) B.E. 2563 3 amended by The Arbitration Rules, The Thai Arbitration Institute Office of the Judiciary (No.2) B.E. 2562


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๙๔ The TAI Arbitration Rules 4 Article 3/1 Any Electronic Arbitration which performs under these Rules, shall be considered to become effective under these Rules 5 Article 3/2 Prior to having a complete Arbitral Tribunal, each party may submit a Statement of Request for expedited arbitration as prescribed in Appendix 1. The Thai Arbitration Institute, Office of the Judiciary may allow expedited arbitration proceedings when the following requirements are met: (1) Parties mutually agree to conduct expedited arbitration or; the amount in dispute representing the aggregate of any claim and counterclaim of such dispute shall not exceed 5 million baht. The party requesting for expedited arbitration as prescribed in Appendix 1 shall instantly deliver a copy of Statement of Request to the other party after submitting such Statement of Request, informing that it wishes to conduct expedited arbitration. In case where parties mutually agree to apply the Arbitration Rules, the Thai Arbitration Institute, Office of the Judiciary, it shall be deemed that parties agree to be bound and to conduct expedited arbitration as prescribed in Appendix 1, irrespective of the difference between arbitration clause and arbitral proceedings rules written in such Appendix. 4 amended by The Arbitration Rules, The Thai Arbitration Institute Office of the Judiciary (No.2) B.E. 2562 5 amended by The Arbitration Rules, The Thai Arbitration Institute Office of the Judiciary (No.4) B.E. 2564


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e The TAI Arbitration Rules ๙๕ Service of Process Article 4 Statement of Claims, Statement of Defense, pleadings, notices, documents or other information may be served by registered mail, courier service, facsimile or any form of electronic communication, or other means that provides records of the delivery or notification. The service of process referred to in Paragraph 1 shall become effective when they are delivered to (1) The other party, its representative or attorney, or any person designated to receive such documents on the party’s behalf; (2) The domicile, place of business, or address designated in the contract in dispute, by the party for the purpose of receiving any document, or the address that the Institute or the Arbitral Tribunal permits to be used for such purpose; (3) The last known domicile or place of business of the addressee, if the current domicile or place of business cannot be found; (4) The address designated by a party or its representative to the Institute for the purpose of receiving documents via electronic means. The Institute or the Arbitral Tribunal may, upon a request of any party or by its own initiative, order any party to deliver the Statement of Claims, Statement of Defense, pleading, notice, document or information to the Arbitral Tribunal or the other party.


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๙๖ The TAI Arbitration Rules Calculation of periods of time Article 5 For the purpose of calculating a period of time under these Rules, the first day of such period shall not be calculated. If the last day of such period is a non-business day in the country of the person notified of such period, the period shall be extended until the first business day which follows. Any non-business day occurring during the running of the period of time shall be included in the calculation of such period. Abridging or extending period of time Article 6 The Institute may, by its own initiative or upon a request by the Arbitral Tribunal or any party, abridge or extend any period of time prescribed under these Rules. SECTION II Submission of Dispute Statement of Claim Article 7 A party may initiate recourse to arbitration by submitting a Statement of Claim to TAI. (Hereinafter the party shall be referred to as the “Claimant”) The Statement of Claims shall consist of the following particulars: (1) A request to have the disputes settled by arbitration; (2) Name and address of the parties including electronic address (if any);


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e The TAI Arbitration Rules ๙๗ (3) Applicable arbitration clause or agreement; (4) The contract or legal relationship which gives rise to the disputes; (5) The facts which form the basis of the claims and the amount claimed; (6) The relief or remedy sought; (7) A proposal as to the number of arbitrator(s), if the parties have not previously agreed upon in (3). Where the arbitration agreement provides for more than one arbitrator, the Claimant shall nominate a person to be appointed as an arbitrator together with his or her letter of consent. The Claimant shall attach sufficient copies of the Statement of Claim to be delivered to the other party (hereinafter referred to the “Respondent”) and the Arbitral Tribunal. Article 8 If the Institute is satisfied that the Statement of Claim conforms with the requirement set forth in Article 7, the Institute shall, without delay, dispatch a copy of the aforesaid Statement of Claim to the other party. If the Institute is of the opinion that the statement of claim does not conform with the conditions nor contain any particular required by these Rules, the Institute may issue an order rejecting or returning it for modification or amendment within a specified period of time or under any condition as it deems appropriate.


T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e สถาบันอนุญาโตตุลาการ ๙๘ The TAI Arbitration Rules Article 9 When the Respondent has been served with the statement of claim, the Respondent shall submit a Statement of Defense and a Counterclaim (if any) in writing within 15 days from the date of receipt of the Statement of Claim. The Statement of Defense and the Counterclaim shall consist of the following particulars: (1) Name and address of the Respondent including electronic address (if any); (2) The facts relating to the disputes as well as the reasons for admitting or refusing the claims made by the Claimant; (3) Objections regarding the relief and remedy sought; (4) The facts which form the basis of the counterclaim, the counterclaims, the amount claimed and the relief or remedy sought (if any); (5) A proposal as to the number of arbitrator(s), if the parties have not previously agreed upon in the arbitration agreement. In case where the arbitration agreement provides for more than one arbitrator, the Respondent shall, at the time of submission of the Statement of Defense, nominate a person to be appointed as an arbitrator together with his or her letter of consent. The Respondent shall attach sufficient copies of the Statement of Defense and Counterclaim (if any) to be delivered to the Claimant and the Arbitral Tribunal. In case where there is a Counterclaim, the Claimant shall submit the Answer to the Counterclaim in writing within 15 days from the date of receipt of the Statement of Defense and counterclaim.


สถาบันอนุญาโตตุลาการ T h a i A r b i t r a t i o n I n s t i t u t e The TAI Arbitration Rules ๙๙ The provision of paragraph 1 (2) (3) shall apply to the Answer to the counterclaim. Article 8 shall also apply to the Statement of Defense and counterclaim mutatis mutandis. Article 10 Where the arbitration agreement does not provide for the language of the arbitral proceedings and the parties have not agreed otherwise, the Statement of Claim, the Statement of Defense and the Counterclaim, and the Answer to Counterclaim shall be in the language used in the arbitration agreement. However, this provision shall not affect the Arbitral Tribunal’s power to determine the language of the arbitral proceedings under Article 30. Where the arbitration agreement provides for more than one language to be used in the arbitral proceedings and the parties submitted the Statement of Claim, the Statement of Defense and the Counterclaim, and the Answer to Counterclaim in one of the languages, TAI may order the party to submit a translation of the documents in another language specified in the arbitration agreement. Article 11 Where a party objects that there is no valid arbitration agreement binding the parties, the disputes do not fall with the scope of the arbitration agreement, or the arbitral proceeding should not be under the auspices of the Institute, the Institute shall inform the other party of such objection and inquire their comments and the opposition regarding the objection (if any). The other party shall submit such comments or opposition in writing within 15 days from the date of receipt of the notification.


Click to View FlipBook Version