๑๘๕
เอาอกเอาใจสิง่ ศกั ดส์ิ ิทธิ์ หรอื รอคอยฤทธ์ิเดชของคนอื่น ตัวเองไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา
หรอื ความสามารถ หรือคณุ ธรรมความดี มแี ตจ่ มลงถอยลง เลยไม่ไดฝ้ ึกฝนพฒั นาตน๒๑
(๓) เกิดการปฏิรูปคาสอนหรือหลักการ ในพระพุทธศาสนา เช่น อัตตา-อนัตตา ของ
ส้านักวดั พระธรรมกาย, การตีความยึดอัตตวิสัยของส้านักสันติอโศก, การไม่ไปปฏิสนธิวิญญาณ กรณี
กลุ่มทรงเจ้า ท่ีสามารถน้าวิญญาณ ผี มาใช้งานได้ตามใจปรารถนาตลอดเวลา มุมหน่ึงพฤติกรรม
ดังกล่าวเป็นการคัดค้าน ต่อหลักการทางพระพุทธศาสนาในเร่ืองกรรม หรือรวมไปถึงการไม่ปฏิสนธิ
จติ ในภายหลงั จากการ “ส้นิ ภพ” ตายไปจากอกี ภพหนง่ึ
(๔) ตกเป็นเคร่ืองมือหรือถูกหลอกลวง จากความเชื่อ ศรัทธา ที่ผิดแผกออกไป เช่น ให้
เชื่อในครูบาอาจารย์ ให้เชื่อในวัตถุศักด์ิสิทธิ์ ที่ไปเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงิน ซ่ึงเป็นผลให้เกิดการใช้
จ่าย เงนิ ทอง รวมถงึ ปฏิบตั ิผดิ ไปจากหลักการทางพระพทุ ธศาสนา เปน็ ตน้
ดงั ทัศนะของ ส.ศิวรกั ษ์ ๒๒ทว่ี า่
สมเด็จพุฒาจารย์(โต) วัดระฆังก็ดี กรมสมเด็จพระปวเรศวิริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศก็ดี
ตลอดจนสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ก็ดี ล้วนสร้างพระเครื่องข้ึนด้วยความเคารพใน
พระรตั นตั ยธิคณุ แม้จะใช้ไสยเวทวทิ ยาเขา้ ประกอบด้วยบ้าง ก็เป็นการเอาไสยศาสตร์มารับใช้
พุทธศาสน์ เพราะปราศจากโลภจริต โทสจรติ และโมหจริตเป็นที่ตั้ง ท่านสร้างขึ้นเพ่ือมอบให้
ศิษย์หาจ้านวนน้อย หรือเพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์ ส้าหรับสืบอายุพระพุทธศาสนาในอนาคต
กาลเป็นประการสา้ คญั ..
เม่ือถึงยุคสมัยแห่งการป้ัมพระขายกัน อย่างพุทธพาณิชย์นั้น สมเด็จพระสังฆราช (อยู่) วัด
สระเกศ ซงึ่ ทรงเช่ยี วชาญทางด้านไสยศาสตรแ์ ละโหราศาสตร์ไม่น้อยไปกว่าพุทธศาสน์ รับส่ัง
อย่างชัดเจนวา่ จกั ไม่ทรงสร้างพระเครือ่ งพระพมิ พ์เปน็ อนั ขาด ตรสั ว่า “ฉนั ไม่ขายพอ่ กิน” นับว่า
เป็นมธุรสวาจาท่ีนา่ สา้ เหนยี กย่งิ นัก..”
สอดรับกบั แนวคดิ ของ โยฮัน กัลป์ตุงที่มองพิธีกรรมว่า “...พิธีกรรมนิยม อันเป็นท่าทีของ
ฐานะแห่งกฎเกณฑ์ทางสังคม เมื่อเน้นหนักไปในพิธีกรรมปฏิบัติบูชาภายนอก เช่น การไปวัด พิธีการ
ไหว้ ศาสนกิ ก็อาจจะละเลยความหมายทแ่ี ทจ้ ริงภายใน...”๒๓
๒๑ พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต), อิทธิปาฎิหารย์เทวดา : ทัศนะของพระพุทธศาสนาต่อเร่ือง
เหนอื สามญั วสิ ัย, (กรงุ เทพมหานคร : ส้านกั พิมพพ์ มิ พส์ วย, ๒๕๕๓), หน้า ๑๓๕.
๒๒ ส.ศวิ ลกั ษณ์, พทุ ธกับไสยในสังคมไทย, (กรุงเทพมหานคร : คณะกรรมการศาสนาเพื่อการพฒั นา
,สถาบนั สันติประชาธรรม, ๒๕๓๘), หนา้ ๘๔-๘๕.
๒๓ฉัตรสุมาล กบลิ สิงห์ ษัฎเสน, สสู่ นั ติ : บทสนทนาระหวา่ งโยฮัน กลั ป์ตุง และไดซากุ อิเคดะ,
(กรงุ เทพมหานคร : เคลด็ ไทย, ๒๕๔๐), หน้า ๑๒๐.
๑๘๖
(๕) เกิดการสังเคราะห์ คัดกรอง ยึดโยงอยู่กับคัมภีร์หลัก เพื่อกลับไปสู่ “แก่นแท้” ทั้งใน
ส่วนหลักการ และแนวปฏิบัติ ประหนึ่งเป็นการสร้างชุดค้าอธิบายเพ่ือยืนยันถึงความเป็น
พระพุทธศาสนาในมิติดั้งเดิม เพื่อตรวจสอบ และให้ค้าอธิบายเพ่ิมอย่างมีนัยแยกส่วน เช่น หลวงพ่อ
พุทธทาส พระพรหมคุณาภรณ์ ว.วชิรเมธี ศ.ศิวรกั ษ์ เปน็ ตน้
(๖) เกิดการออกแบบองค์กร หมายถึง การออกแบบองค์กรที่หลากหลายเป็นระบบ และมี
ความซับซ้อนมากขน้ึ นัยหน่งึ เพ่ือความเทา่ ทนั และมมุ หน่ึงโต้แย้งอย่างมีเงื่อนไข ซึ่งปรากฏชัดในส่วน
ของธรรมกาย และสนั ติอโศก เปน็ ต้น
(๗) ขาดเจตนารมณ์ต่อองค์กรพระพุทธศาสนาหรือขาดเป้าหมายต่อหลักการ
พระพุทธศาสนา กรณีการจัดสร้างวัตถุมงคล มิติหน่ึงเป็นการแสวงหาค้าตอบท่ีชัดเจนต่อ
พระพุทธศาสนา นัยหน่ึงเป็นการเดินออกจากพระพุทธศาสนา ซ่ึงสะท้อนให้เห็นว่าอุดมการณ์ทาง
พระพุทธศาสนาได้แปรเปลยี่ นไป
ดังน้ัน แนวคิดน้ีจึงต้องการอธิบายว่า เม่ือชาวพุทธในทุกภาคส่วนขาดความใจ ต่อตัว
หลักการพระพุทธศาสนาท่ถี ูกตอ้ งเสียแลว้ ผลก็จะกระทบต่อพระพทุ ธศาสนาโดยตรง
(๘) พระพุทธศาสนาในภาพรวมเกิดความอ่อนแอ หมายถึง เม่ือชาวพุทธอ่อนแอท้ังในตัว
หลักการ อุดมการณ์ และระบบโครงสร้างทางพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ไม่สามารถจัดการต่อ
ปัญหาท่ีทับโถมต่อองค์กรที่เกิดข้ึนได้ ซึ่งหมายความว่า องค์กรปกครองคณะสงฆ์ขาดความเข้าใจต่อ
ปัญหาขององค์กรท่ีเกิดข้ึนด้วยเหตุผลของการขาดความรู้ ความเข้าใจต่อเจตนารมณ์ขององค์กรจึง
นา้ ไปสกู่ ารดา้ เนินการที่ไมต่ ้องตามวตั ถปุ ระสงค์ จนกลายเปน็ ความอ่อนแอไป
สถานการณ์ทใี่ นอดตี สถานการณ์ที่ปจั จบุ นั แนวโน้มในอนาคต
๑. เป็นศาสนาแบบจารีต ๑.เกิดความหลากหลาย ๑. มีความหลากหลาย
ท่ีเคยปฏิบัติกันมาเช่น มีพลวัฒน์ในแต่ละกลุ่ม และมีความเป็นเอกเทศ
ไ ร ก็ ป ฏิ บั ติ เ ช่ น น้ั น ๒ . ย้ อ น ก ลั บ ไ ป ห า / แยกจากกันอย่างชัดเจน
๒.สอดคล้องกบั ค้าสอน ห่างไกลกับฐานของค้า ๒ใช้คัมภีร์เป็นหลัก /
ต า ม พ ร ะ ไ ต ร ปิ ฎ ก ส อ น คั ม ภี ร์ เ ดิ ม แ ล ะ แ ย ก ข า ด ต่ อ ห ลั ก
๓ . ไ ม่ ป ร า ก ฏ เ ป็ น ๓ . เ กิ ด ขึ้ น เ ป็ น ปฏิบัติตามคัมภีร์จะไป
ปรากฏการณม์ ากนัก ปรากฏการณใ์ นวงกวา้ ง อิ ง กั บ ผู้ ก่ อ ตั้ ง ห รื อ เ จ้ า
ส้านกั มากขึ้น ยดึ ครูแทน
.
แผนภาพท่ี ๔.๑ ทศิ ทางแนวโนม้ ของขบวนการพุทธใหม่ในป๓ร.ะเทศไทย
๑๘๗
๔.๗ แนวโนม้ ของขบวนการพทุ ธใหมใ่ นประเทศไทย
ปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึนได้ก่อให้เกิดผลต่อสังคมในวงกว้าง ที่ความหมายหน่ึงเป็น
ปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้ึนจริงและด้าเนินไปอยู่ และในอีกความหมายหนึ่งเป็นแนวโน้มหรือทิศทางใน
ความน่าจะเปน็ และจะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตตอ่ ไป
๑. แนวโน้มด้านหลักคาสอน หมายถึง ในอนาคตค้าสอนจะมีความหลากหลายมากข้ึน ถ้า
เอาเกณฑ์จากหลักค้าสอนท่ีปรากฏในพระไตรปิฎกมาพิจารณา กลา่ วคอื (ก) มกี ารตีความที่สอดคล้อง
กับแนวปฏิบัติของแต่ละส้านักมากข้ึน ดังกรณีปรากฏของส้านักธรรมกาย สันติอโศก สวนโมกข์ ที่
เน้นการสื่อธรรมและการอธิบายที่เน้นเป้าหมายต่อการปฏิบัติของศาสนิกที่นับถือ หรือรวมไปยังชั้น
หลัง ๆ เช่น ส้านักสงฆ์ถ้ากระบอก พระปราโมช ปาโมชโช ส้านักสงฆ์วัดสามแยก จังหวัดเพชรบูรณ์
วัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี หรืออีกแนวปฏิบัติหนึ่งคือการอ้างอิงค้าสอนที่เหมือนมาจาก
พระพุทธศาสนา ของกลุ่มส้านักทรง กลุ่มระดมทนุ ผา่ นวตั ถมุ งคล วัตถมุ ีฤทธิ์ ที่สะท้อนถึงการน้าพระ
ศาสนามาอธิบาย แต่กม็ ีบางทศั นะมองว่าไม่ใช่แก่นแท้ และเป้าหมายท่ีแท้จริงของพระพุทธศาสนา จึง
ไดย้ ินชูชกที่ถกู ตคี วามวา่ เป็นผทู้ า้ ใหเ้ วสสันดรชาดก ได้บา้ เพ็ญทานบารมีและไปสู่การเป็นพระพุทธเจ้า
ในทส่ี ดุ กุมารทองที่จัดสร้างจ้าหน่ายในแต่ละวัดมีอยู่ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น (ข) แนว
ค้าสอนถูกตรวจสอบ โดยอิงอยู่กับฐานของคัมภีร์มากขึ้น กรณีพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) กับ
การยกข้อเท็จจริงท่ีปรากฏในคัมภีร์ มาให้ค้าอธิบายพร้อมสะท้อนเจตนารมณ์ท่ีแท้จริง สร้างความ
ชดั เจนตอ่ ประเดน็ ธรรมกาย สันติอโศก ภิกษุณี๒๔ การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า แนวคิดการท้าแท้ง
การฆา่ ตัวตาย หรอื ประเด็นอ่ืนใดท่ีอิงอยู่หลักการทางพระพทุ ธศาสนา เป็นต้น เป็นการย้อนกลับไป
หาหลักการเดิมเพ่ือตรวจสอบ และทา้ ความเขา้ ใจตอ่ ประเดน็ ทางศาสนาท่เี กิดขน้ึ ในแต่ประเดน็
๒. การปฏิบัติที่มีความหลากหลายมากขึน ซ่ึงสอดคล้องกับวัตรปฏิบัติท่ีผู้ปฏิบัติพึงใจ
ชอบใจ เช่น การปฏิบัติ จัดการ บริหารท่ีเป็นระบบ เรียบร้อย สะอาด ของวัดพระธรรมกาย ซึ่ง
สอดคล้องกับการด้าเนินชีวิตของคนชนชั้นกลาง เป็นต้น หรือกรณีของส้านักสันติอโศกท่ี มี
ลกั ษณะสอดคลอ้ งกับกลมุ่ ชาวนาในภาคการเกษตรและกลุ่มปัญญาชนท่ีมองเป้าหมายหลักของการ
ใช้ชีวิต รวมไปถงึ แนวคา้ สอนของส้านกั ตีความ กลุม่ วัตถมุ ีฤทธิ์ พระเคร่ือง วัตถุมงคล ท่ีจะสัมพันธ์
กับรายได้ การระดุมทุน และเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาพรวม เป็นต้น ซ่ึงสื่อให้เห็นถึงความ
หลากหลาย ในความเป็นพระพทุ ธศาสนา จนไดร้ ับการยอมรับและแผข่ ยายกว้างขวางขึน้
๒๔ประเด็นข้อโตแ้ ย้งตอ่ การ “บวชภกิ ษุณี” จนคณะสงฆว์ ัดหนองปา่ พง และสาขามมี ิตขิ บั “พรหมว้โส”
ศิษย์พระชาวองั กฤษ ของหลวงพ่อชา สภุ ัทโท ทจี่ ดั ใหม้ ีการบวชภิกษุณีที่วดั โพธญิ าราม ท่อี อสเตรเลยี จนเป็นเหตุ ให้
คณะสงฆ์วัดหนองป่าพง และสาขากว่า ๑๕๐ สาขาได้มีมติปัพพชานียกรรมท่านออกจากการเป็นวัดสาขา ดู
รายละเอียดประเด็นข้อโต้แย้งดังกล่าวใน [ส่ือออนไลน์],แหล่งที่มา : http://www.dhammalight.com/th/th-
correspondence.html (๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๔).
๑๘๘
๓. การขยายตัวของแต่ละกลุ่มในวงกว้าง เทคโนโลยี ได้เข้ามามีส่วนในการเผยแผ่
อุดมการณ์ แนวคิด แนวปฏิบัติของส้านักนั้น ๆ โดยเฉพาะกรณีของวัดพระธรรมกาย๒๕ และสันติ
อโศก ท่ีใช้ส่ือเข้ามาเป็นแนวทางและเคร่ืองมือในการเผยแผ่ศาสนา รวมไปถึงกรณีกลุ่มภิกษุณีกับ
บทบาทนักวิชาการด้านสื่อส่ิงพิมพ์และสื่ออื่น ๆ บทบาทของแม่ชีในการสร้างการยอมรับกรณี
เสถยี รธรรมสถาน รวมไปถงึ การใช้สอ่ื ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่อกลุ่ม “ระดมทุน” ผ่านพระ
เคร่อื ง ที่ใชเ้ ทคนคิ การโฆษณาประชาสัมพันธ์เชื้อเชิญต่อกิจกรรมนั้น ๆโดยใช้แนวทาง “บุญ” หรือ
สาธารณะสงเคราะห์เป็นเคร่ืองน้าแรงจูงใจในการบริจาคเพ่ือสร้าง ถาวรวัตถุในศาสนา นัยหน่ึงท้า
ให้อดุ มการณ์ของแตล่ ะกลุ่มได้รบั การตอบรับและปฏบิ ตั ิรว่ ม ตามความสนใจต่อแนวปฏิบัติของแต่
ละกลุ่มนัน้ ๆ
๔. แนวโน้มด้านปรากฏการณ์ของกลุ่มศาสนาและการมีส่วนร่วมทางสังคม อาทิ
บทบาทของกล่มุ ศาสนาเขา้ มามีสว่ นรว่ มทางการเมืองมากขึ้นอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผย๒๖ เช่น
พระสงฆ์กับการเมือง “กรณีเส้ือเหลืองเสื้อแดง”๒๗ การเทศนาท่ีเข้าไปส่งเสริมกิจการภาครัฐกรณี
การระดมทุน “ทอง” ท่ีเรียกว่า “ผ้าป่าช่วยชาติ” เป็นต้น และรวมไปถึงการเข้าไปมีบทบาทในเชิง
ของการช้ีน้า หรือสนับสนุนให้เกิดการเลือกฝ่ายหรือไม่เลือก กรณีหลวงพ่อคูณ เป็นต้น อาจเป็น
ปรากฏการณ์เฉพาะคราว แต่สะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา รวม
๒๕ ส่ือของส้านักวัดพระธรรมกาย เช่น รายการทีวี ๒๔ ช่ัวโมง ทางช่อง DMC [http://www.dmc.tv/] ท่ี
ครอบคลุมทุกทวีป กว่า ๑๕๐ ประเทศท่ัวโลก สื่อสิ่งพิมพ์ท้ังหนังสือ และวารสาร ด้วยการบริหารงานในระบบเครือข่าย
สถานวี ิทยุท้ังในระบบAMและFMที่มีเครือขา่ ยในแต่ละจงั หวัดครอบคลุมทง้ั ประเทศดรู ายละเอยี ดในฝ่ายประชาสัมพันธ์
ส้านักสื่อสารองคก์ รวดั พระธรรมกาย[ออนไลน์],แหลง่ ท่ีมา: http://www.dmc.tv (๒๗สิงหาคม๒๕๕๔).
๒๖ บทบาทที่เป็นปรากฏของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยคือบทบาทของพระสงฆ์กับการเมือง
ซึ่งมองมุมหน่ึงเป็นบทบาทร่วมระหว่างพระสงฆ์กับการเมือง อีกบทบาทหนึ่งเป็นบทบาทเชิงแฝงว่า ตกลง
พระสงฆค์ วรมีบทบาทอย่างไรในสังคมไทย เปน็ สว่ นหน่งึ ของการเมืองในฐานะเป็นพลเมือง อยู่เหนือการเมืองชี
น้าการเมืองบนฐานคิดที่เหมาะสม ซึ่งตรงน้ีนัยหนึ่งยังเป็นประเด็นท่ีถกเถียงกันอยู่ แต่ก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์
ร่วมของสังคมไทยกับการเมือง ส่วนจะเป็นปรากฏการณ์ในระยะยาวและมีผลต่อการการเปล่ียนแปลง เช่น
พระสงฆ์กบั การเข้าไปเปน็ นักเลือกต้งั แบบศรีลงั กา หรอื ผู้เลือกตัง้ แบบศรลี งั กา และมีบทบาทในการเลอื กต้งั แบบ
กัมพชู า หรอื มีสว่ นตอ่ การประทว้ งชี้น้าอย่างเช่นพระสงฆ์พมา่ เป็นอกี เร่ืองหนึ่ง ดรู ายละเอียดแนวคดิ ปรากฏการณ์
พระสงฆ์กับการมีส่วนร่วมทางการเมืองใน วุฒินันท์ กันทะเตียน, “บทบาทพระสงฆ์กับกรแสดงธรรมทาง
การเมือง”, สารนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,
๒๕๔๙), หน้า ก-ข.
๒๗สุรพศ ทวศี ักดิ์ งานวจิ ยั ชอ่ื “ความคิดทางจริยธรรมกับการเลือกฝ่ายทางการเมืองของพระสงฆ์ใน
สังคมไทยปจั จบุ ัน”, (ศนู ยพ์ ุทธศาสนศ์ กึ ษา จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั สนบั สนุนทนุ วจิ ยั ), [ออนไลน์] แหล่งที่มา ;
http://www.go6tv.com/2010/09/blog-post_7947.html (๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๔).
๑๘๙
ไปถึงกลุ่มพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม เช่น พระสงฆ์กับเอดส์ พระสงฆ์กับการจัดการทรัพยากร
ท้องถ่นิ พระสงฆ์นกั อนรุ ักษ์ พระสงฆ์นกั พัฒนาหรอื การสร้างอาชีพกรณีวัดสวนแก้ว เปน็ ตน้
นอกเหนือจากการเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชนและสังคมโดยตรงแล้ว บทบาทของกลุ่ม
พระพุทธศาสนาเพ่ือสังคมยังได้รับการยอมรับ เช่น กลุ่มพระพุทธศาสนาที่น้าพระพุทธศาสนาไป
พัวพันกับสังคม ดังเช่น กลุ่มวัดพระพุทธบาทกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย วัดสวนแก้วกับการ
ส่งเสริมภาคเกษตรและอาชีพ รวมไปถึงกลุ่มสัจจะออมทรัพย์กลุ่มต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ในหลาย ๆ จังหวัด
ลว้ นไดร้ บั การยอมรับและตอบรับด้วยดจี ากชมุ ชนและสังคมในภาพรวม
๕. แนวโน้มต่อการยอมรับของกลุ่มศาสนาต่าง ๆ ปรากฏการณ์ท่ีเป็นแนวโน้มต่อกลุ่ม
ขบวนการพระพุทธศาสนา เท่าที่ปรากฏและพบเห็นได้ในปัจจุบัน คือการที่กลุ่มขบวนการทาง
พระพุทธศาสนาน้ัน ๆ นัยหน่ึงได้รับการยอมรับมากขึ้น แม้บางอย่างจะยังไม่ได้รับการ
ยอมรับกรณีกลุ่มภิกษุณี๒ ที่ยังไม่มีการยอมรับในทางคณะสงฆ์ และกฎหมาย รวมไปถึงกลุ่ม
ส้านักสันติอโศกกับภาพแนวจารีต แต่ตอบโจทย์บางประเด็นของสังคมได้ กรณีแนวทางเศรษฐกิจ
พอเพยี งทีต่ อบรับกบั ความเปลีย่ นแปลงต่อเศรษฐกิจที่มีผลกระทบในวงกว้าง หรือธรรมกายกับการ
จัดองค์กรท่ีมีประสิทธิภาพ กับภาพคณะสงฆ์ในนามของรัฐที่ตรงกันข้าม แต่ภาพของการจัดการ
รูปแบบของคณะสงฆ์ในนามวัดธรรมกายกับฉายชัดประหน่ึงเป็นของคณะสงฆ์ทั้งประเทศ ได้รับ
การยอมรับ ดังน้ันแนวโน้มของกลุ่มขับเคล่ือนพระพุทธศาสนาใหม่ในประเทศไทย ในภาพรวมจึง
ได้รบั การยอมรับและมีผลตอ่ การปฏบิ ตั ิในวงกว้างมากข้นึ
๖. แนวโนม้ ของแตล่ ะสานักต่อการเปลย่ี นแปลง ปรากฏการณ์หน่ึงท่ีเกิดขึ้นกรณีส้านัก
หรือแนวทางของพุทธใหม่ ๆ ในแต่ละช่วงเวลา จะมีการเปลี่ยนแปลงและอาจหายไปจากวงสังคม
ประหน่ึงเป็นองค์กรหรือขบวนการท่ีเกิดข้ึนเพ่ือตอบรับความเปล่ียนแปลงของสังคมในช่วงเวลา
๒๘ จากการเข้าร่วมรับฟังงานเสวนาทางวิชาการ “"สังคมไทยจะได้หรือเสียอะไร?...หากมีภิกษุณี
สงฆ์" วิทยากร พระดุษฎี เมธังกุโร วัดทุ่งไผ่ จังหวัดชุมพร, ภิกษุณีธัมมนันทา วัตรทรงธรรมกัลยาณี จังหวัด
นครปฐม, ดร.วลิ าสนิ ี พิพิธกลุ นกั วชิ าการดา้ นสตรศี ึกษา ด้าเนินรายการโดย รศ.ดร. ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ณ
ห้องประชุมคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ท่าพระจันทร์) ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๔ เวลา ๑๓.๐๐ น –
๑๖.๓๐ น. ผู้เสนอทัศนะในเวที ส่วนใหญ่มองว่ากลุ่มภิกษุณีมีประโยชน์ต่อสังคมในภาพรวม ทั้งในระยะยาวจะ
ได้รับการยอมรับมากข้ึน แต่อยู่ที่กระบวนการของสตรีในเพศภิกษุณีเองว่าจะยอมรับต่อพัฒนาการและในเวลา
เดียวกัน จะเป็นการวางรากฐานความคิดในเร่ือง “การยอมรับ” ต่อความเป็นเพศของกลุ่มพระพุทธศาสนาใน
สังคมไทย สอดรับกับสภาพข้อเท็จของการขยายตัวของจ้านวนภิกษุณีฝ่ายเถรวาที่ท่ีปัจจุบันมีจ้านวน ๒๘+ รูป/
องค์ และภกิ ษุณฝี ่ายมหายานกวา่ ๒๐๐ + รปู /องค์ เปน็ ต้น.
๑๙๐
หน่ึง ๆ เท่าน้ัน ดังกรณีส้านักหุบผาสวรรค์๒๙ ที่คร้ังหน่ึงเคยเป็นปรากฏการณ์ทางสังคม รวมไปถึง
ส้านักสงฆ์ถ้ากระบอกที่แนวทางและวัตรปฏิบัติเป็นเอกเทศ ไม่ข้ึนต่อคณะสงฆ์๓๐ เม่ือผู้ก่อต้ังได้
มรณภาพหรอื เสียชีวติ ไป แนวทางและเปา้ หมาย แนวทางของสา้ นกั นน้ั กอ็ ่อนแอลงและอาจหายไป
ในที่สุด๓๑ ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ของส้านักกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาท่ีเกิดขึ้นในสังคมไทย
ตา่ งกรรมตา่ งวาระกนั
เมื่อกล่าวโดยสรุป การที่พระพุทธศาสนามีลักษณะต่าง ๆ จนก่อให้เกิดความ
เปลี่ยนแปลง โดยมีผลเป็นความเคลื่อนไหวจากเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรม ใน
ความหมายหนึ่ง พระพุทธศาสนาในประเทศไทยปรับตัวเพ่ือรองรับการเปลี่ยนแปลง ในอีก
ความหมายหน่ึงพระพุทธศาสนา ท่ีเป็นองค์กรจัดต้ังภายใต้กฎหมาย ไม่สามารถตอบรับกับการ
เปลีย่ นแปลงได้ จึงท้าให้เกิดการไหล่บ่าตามกระแสที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นกระแสโลกานุวัติ ทุนนิยม
หรือการท้าให้ทันสมัย ที่มาพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าในแบบของ “โลก” ซ่ึงมีแนวคิดและ
เจตนารมณ์แตกต่างจาก “ศาสนา” เมื่อเป็นดังนั้น ภาพการปะทะ ขัดแย้ง ตัดกัน จึงเกิดข้ึนผ่านมิติ
ทางศาสนาอย่างท่ปี รากฏในการศกึ ษาวจิ ยั น้ี และเกดิ อยภู่ ายใต้พระพทุ ธศาสนาในประเทศไทย
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นมีหลายลักษณะไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
ไปสู่การปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ท่ีเปลี่ยนแปลง อันจะเห็นได้จากส้านักวัด
พระธรรมกายและสาขา หรือการปรับเพ่ือยืนยันเจตนารมณ์เดิม ซ่ึงจะพบได้ในกรณีของส้านัก
สนั ตอิ โศก การปรบั ตัวไปตามกระแสธาร โดยไม่มีกรอบคิดหรือเจตนารมณ์ในการเปล่ียนแปลง ท่ี
๒๙เหตผุ ลของกฎหมาย และกระแสของสอ่ื ส้านกั หบุ ผาสวรรค์ ทา้ ให้เกดิ การเปลย่ี นแปลง จนกระทัง่
ต้องปิดส้านักไปในท่ีสุด ดูรายละเอียดใน จุมพล สวัสดิยากร, ประวัติศาสนาต้องจารึกกาทาลายหุบผาสวรรค์
เมืองศาสนา , (กรุงเทพมหานคร : โครงการธรรมไมตรี, ๒๕๓๖) และใน สายหยดุ ดฐิ การภักดี, ท่านผู้หญิง, การ
โค่นล้มสานักปู่สวรรค์และหุบผาสวรรค์ : บันทึกเหตุการณ์ในอดีตท่ีควรแก่การใคร่ครวญ, (กรุงเทพมหานคร :
บริษทั อมรนิ ทร์พรนิ้ ติ้งกรพุ๊ จา้ กัด, ๒๕๓๘).
๓๐ ณัฐญา ลิปิพันธ์, “ส้านักสงฆ์ถ้ากระบอกกับการช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ในทัศนะของวิชาชีพ
สังคมสงเคราะห์”, วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต, (คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ :
มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๒๒).
๓๑ ในรายงานการประชุมแจ้งให้รายละเอียดว่า ส้านักสงฆ์ถ้ากระบอก ประสงค์เข้ามาอยู่ภายใต้การ
ปกรองคณะสงฆ์สระบุรี และยกสถานะเป็นวัดตามกฎหมายคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๕๐๕ รายงานการประชุมคณะ
สงฆ์ประจ้าเดือนของคณะสงฆ์สระบุรี, ระเบียบวาระการประชุมของคณะสงฆ์อาเภอพระพุทธบาท ครังท่ี ๑/
๒๕๕๔, ประชุมร่วมกับส้านักงานวัฒนธรรมจังหวัด และส้านักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด วันจันทร์ ๑๐
มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ วัดซับชะอม ต้าบลขุนโขลน อ้าเภอพระพุทธบาท จังหวัด
สระบรุ ี, หน้า ๒๗-๓๒. (เอกสารถ่ายส้าเนา/เยบ็ เล่ม).
๑๙๑
เกิดขึ้นภายใต้ความเปลี่ยนแปลงในบรบิ ทใหญ่ซง่ึ ชดั เจนในส่วนของส้านักทรง และกลุ่มวัตถุมีฤทธ์ิ
ท่มี เี จตนารมณ์ในการระดมทุนเพ่ือสร้าง ประดิษฐ์ ผลติ ซึง่ เปน็ แนวศาสนาที่ประชาชนส่วนใหญ่พึง
ใจ ตอบสนองสังคมในเชงิ จิต แตข่ าดวิญญาณแหง่ การต่ืนรู้ตามหลักทางพระพุทธศาสนา จึงได้ภาพ
ประหน่ึงพระพทุ ธศาสนาในปจั จุบนั
แต่ภาพของคณะบุคคลที่พยายามส่งเสริมแนวทางศาสนาในอีกมิติหน่ึง ที่เรียกว่า
พระพุทธศาสนาเพื่อสังคม หรือหลักพุทธธรรมเพื่อสังคม หรือกลุ่มอ่ืน ๆ ท่ีเป็นรายกรณีไปที่
พยายามส่งเสริมให้มีการศึกษาแสวงหาความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งน้าไปประพฤติปฏิบัติต่อหลัก
ทางพระพุทธศาสนาได้อย่างเป็นระบบ ที่จะต้องมีความชัดเจนต่ออุดมการณ์และเป้าหมายทาง
พระพุทธศาสนา แต่ในเวลาเดียวกันเม่ือเช่ือมไปยัง องคาพยพใหญ่ ก็เป็นภาพสะท้อน
พระพุทธศาสนาท่ีหลากหลาย และมีมิติเฉพาะในประเด็นทางพระพุทธศาสนาที่ปรากฏอยู่ใน
ปัจจุบันด้วยเช่นกนั
ดังนัน ปรากฏการณ์ของพระพุทธศาสนาท่ีเกิดข้ึนจึงมีลักษณะเฉพาะ หลากหลาย มี
กลไกของการเคลื่อนไหวในลักษณะท่ีแตกต่างและมีนัยอย่างส้าคัญต่อประเด็นท่ีเกิดขึ้น และ
ก่อให้เกิดพลังของการขับเคล่ือนอย่างเป็นระบบและมีพลวัฒน์ต่อความ เป็นพระพุทธศาสนาใน
ภาพรวมดว้ ย
บทท่ี ๕
สรุป แนะนำ
๕.๑ สรปุ
การศึกษาเชิงสารวจขบวนการพุทธใหม่ ของกลุ่มพระพุทธศาสนาต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนใน
สังคมไทย มีสภาพของเหตุปัจจัยอันซับซ้อน ส่งผลให้เกิดความหลากหลาย ถูกออกแบบมาเพ่ือ
ตอบสนองความเปน็ ปัจเจกบคุ คล หรือไม่ก็กลุ่มบุคคล ตามความเช่ือ ศรัทธา ที่เกิดข้ึนภายใต้ความ
หลากหลายเฉพาะ แต่ในมุมกลับ กลายเป็นภาพความขาดตอนจากพระพุทธศาสนา เป็นกลุ่ม
ผลประโยชน์อิงอาศัยความเป็นพระพุทธศาสนา กัดเซาะหลักการอันเป็นเน้ือแท้ของศาสนา และ
สร้างความอ่อนแอ รวมทงั้ ความเช่ือท่ีอยูน่ อกเหนือคาสอนใหก้ ับพระพุทธศาสนา
ในการศกึ ษานี้ ได้ผลอนั เปน็ ขอ้ สรปุ วา่
(๑) ควำมเปลี่ยนแปลงในด้ำนต่ำง ๆ ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และ
ประชาสังคมในภาพรวม ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงต่อกลุ่มพระพุทธศาสนาในลักษณะต่าง ๆ ทั้ง
การปรับตัวไปกับการเปลี่ยนแปลงน้ัน และ/หรือตีโต้ต่อการเปล่ียนแปลงอย่างมีเงื่อนไข ดังกรณี
กล่มุ ที่ระดมทุนผ่านพธิ ีกรรมทางพระพทุ ธศาสนาในลักษณะต่าง ๆ หรือกลุ่มตีโต้ดังกรณีของสานัก
สันตอิ โศก และสานักวดั พระธรรมกายเปน็ ตน้
(๒) เกิดควำมหลำกหลำยเฉพำะ หมายถึง เกิดความหลากหลายของแต่ละกลุ่ม อันเกิดจาก
การปรบั ตวั เพ่ือตอบรบั ต่อการเปลี่ยนแปลง ในลกั ษณะทแี่ ตกต่างกัน ซ่งึ เกิดขน้ึ โดยการเตรียมพร้อม
รู้เทา่ ทัน หรือไมก่ ต็ าม แต่ผลที่เกิดในภาพรวม คอื เกดิ ความหลากหลาย ทัง้ การตีความ การสอน การ
นิยามถือปฏิบัติพระพุทธศาสนาท่ีแตกต่างกันออกไปในลักษณะต่าง ๆ มากข้ึน ท้ังการแยกตัว
ออกไปเป็นกลมุ่ เฉพาะไม่เกี่ยวข้องกัน ดังกรณีกลุ่มสานักปฏิบัติ หรือสานักทรงท่ีล้วนแยกขาดกับ
โครงสร้างเชงิ ระบบ แตม่ พี ลังความเคลือ่ นไหวในเชิงสงั คมอยู่ในภาพรวม
(๓) ละเมิด/ วิวำท / ขัดแย้ง กล่าวคือ ในความหลากหลายท่ีเกิดขึ้น ได้ส่งผลเป็นความ
แตกต่าง ในการตีความ กระท่ังการปฏิบัติ ที่อาจเป็นได้ทั้งการละเมิด “ธรรมวินัย” อันเป็นหลักการ
กลางของพระพทุ ธศาสนา ทง้ั ยงั ก่อให้เกดิ ความขัดแย้ง พิพาท ในเชิงหลักการ หลักคิด หลักปฏิบัติ
จะดว้ ยเหตุผลของการตคี วาม ใหค้ าอธิบาย และจริตของผูป้ ฏิบตั ิเปน็ กรอบในการปฏบิ ตั ิด้วยเช่นกนั
(๔) ควำมเข้มแข็งเป็นเอกภำพเฉพำะกลุ่ม กล่าวคือ ในแต่ละกลุ่มของพระพุทธศาสนา มี
ความเข้มแข็งเป็นเอกภาพเฉพาะ เป็นปัจเจก เป็นตีความย้อนกลับไปหา คาสอนดั้งเดิมตามคัมภีร์
หรือบางกลุ่มกล่าวอ้างว่าเป็นพระพุทธศาสนา แต่มีการกระทา ห่างไกลจากกับคาสอนในทาง
๑๙๓
พระพุทธศาสนา ภาพตัดกันเหล่าน้ีเป็นภาพของพระพุทธศาสนา ท่ีมีลักษณะที่ซับซ้อนและ
หลากหลายมากข้ึน และกลายเป็นความอ่อนแอของพระพุทธศาสนาในระบบโครงสร้าง และเป็น
การเดนิ ออกจากพระพทุ ธศาสนาในเชิงหลักการแท้จรงิ
(๕) มิติท่ีซับซ้อนเฉพำะ หลำกหลำย กล่าวคือ พระพุทธศาสนามีลักษณะเฉพาะมากข้ึนมี
ความซับซ้อนมากข้ึน ในการวิจัยพบว่าชาวพุทธ มีมุมของการศึกษา แสวงหา ทาความเข้าใจต่อ
พระพุทธศาสนาที่แตกต่างกัน บนเหตุผลของความแตกต่างหลากหลาย อาทิ ความพึงใจ ความรู้
การศึกษา เป็นต้น คือมีมุมของการหยิบจับเฉพาะ แต่ก็มีพัฒนาการต่อพระพุทธศาสนาในองค์รวม
ที่อาจหมายถึงเป็นไป และ/หรือไม่เป็นไปเพื่อการส่งเสริมต่อหลักการ และ/หรือเป้าหมายของ
พระพทุ ธศาสนาดว้ ยเชน่ กนั
(๖) หลักกำรของพระพทุ ธศำสนำได้รับผลกระทบ กล่าวคือหลักการท่ีเป็นหลักปฏิบัติและ
เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาได้รับผลกระทบ ท้ังหลักการ (ธรรมะ)ในฐานะหลักเกณฑ์ เครื่องมือ
ในการปฏิบัติ ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคาสอน หรือปลอมปนเป็นท้ังพระพุทธศาสนาและไม่ใช่
ทาให้เกิดความสับสน ไขว้เขวต่อหลักการทถี่ ูกต้อง
(๗) ผลเปน็ ควำมแตกแยก แตกตำ่ ง อันเกิดจากการตีความ ให้คาอธิบายท่ีผิดพลาด จนเกิด
ประเด็นวิวาทะ กันในหลาย ๆ คราวท้ังในเชิงหลักการและกฎหมาย กลายเป็นความแตกแยก
จนกระท่ังแยกสานัก แยกแนวปฏิบัติ อันมีผลเป็นการบั่นทอนต่อความเป็นพระพุทธศาสนาใน
ภาพรวมด้วยเชน่ กัน
(๘) แนวโนม้ ของแตล่ ะกลุ่มพระพุทธศำสนำ กล่าวคือ ในแต่ละกลุ่มมีท้ังได้รับการยอมรับ
ตาม “จริต” ความพึงพอใจของแต่ละกลุ่มท่ีนับถือและยอมรับต่อการปฏิบัติ โดยเจ้าสานักเป็นผู้มี
สว่ นสร้างพัฒนาการของแต่ละกลุ่มสานัก กล่าวคือการคงอยู่ของเจ้าสานักย่อมมีผลต่อปรากฏการณ์
ของกลุ่ม น้ัน ๆ ทั้งในวงกว้าง และแคบ กล่าวคือเม่ือเจ้าสานักยังอยู่ กลุ่มขบวนการทาง
พระพุทธศาสนาอาจจะได้รับการยอมรับนับถืออย่างสูง แต่เม่ือผู้ก่อตั้งสิ้นไปอาจเพิ่มหรือลด
ตามแต่ผู้สืบต่อ บางกลุ่มก็พยายามย้อนกลับไปหาคาสอนด้ังเดิมเพ่ืออธิบายถึงที่มาและ
ปรากฏการณท์ ่ีเป็นตน้ รากเดมิ แท้ แตก่ ็มีไมน่ อ้ ยท่ปี ลอมปนจนหาความเปน็ พุทธศาสนาไมไ่ ด้ ตาม
พัฒนาการเชิงสงั คม ส่วนกลุ่มศาสนาบางกลุ่มเช่น เพศวิถี อาจได้รับการยอมรับและส่งเสริมให้เกิด
มมี ากขนึ้ ดังพฒั นาการของกล่มุ แมช่ ี ภกิ ษณุ ี ในสงั คมไทยท่เี พิม่ ข้นึ และมบี ทบาทมากขึ้น
ดังนน้ั ความหลากหลายของกลุ่มพระพุทธศาสนาต่าง ๆ นัยหนึ่งยึดอยู่กับหลักการอันเป็น
ตวั บท “บญั ญัต”ิ จะโดยทงั้ หมดหรอื เพียงภาพลักษณก์ ็ตาม แตเ่ มอ่ื พิจารณาจากส่วนใหญ่ ถือว่าเป็น
เรื่องที่เหมาะควรและถือวา่ เปน็ การรักษาความเป็นพระพทุ ธศาสนาไว้ ดังทัศนะของพระพรหมคุณาภรณ์
(ป.อ.ปยุตฺโต) ท่ีว่า ปัจจัยสาคัญอย่างยิ่งในการแก้ปัญหา คือ จิตสานึกและท่าทีแห่งความรู้สึกของ
๑๙๔
ชาวพุทธต่อพระพุทธศาสนา ชาวพุทธทุกคนจะต้องมีความรู้สึกว่าตนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ
พระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาเป็นสมบัติร่วมกัน ของพุทธบริษัททุกคน จะต้องไม่มองเห็น
ตนเองเป็นคนนอก แล้วเข้าใจผิดว่า พระภิกษุเป็นตัวพระพุทธศาสนาหรือเป็นเจ้าของ
พระพุทธศาสนา ยิ่งภิกษุท่ีประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย หรือทาพระธรรมวินัยให้วิปริตด้วย
แลว้ ยิง่ ไมม่ สี ทิ ธ์เิ ปน็ เจ้าของพระพุทธศาสนาได้เลย ถ้าเขามองเห็นพระพุทธศาสนา เป็นสมบัติที่มีค่า
ของเขาแล้ว เขาจะต้องไม่ทากับพระพุทธศาสนาอย่างนั้น เขาเป็นคนร้าย ท่ีลักลอบทาลายทรัพย์
สมบัตขิ องชาวพุทธต่างหาก ชาวพุทธจะต้องมองว่าคนทั้งสองพวกน้ัน เป็นคนร้ายที่แอบแฝงเข้ามา
ทาลายสมบัติส่วนรวมของชาวพุทธทุกคน ชาวพุทธจะต้องไม่ยกสมบัติคือพระพุทธศาสนาให้แก่
คนร้ายเหล่าน้นั แตจ่ ะตอ้ งชว่ ยกันปอ้ งกันแกไ้ ขขับไล่คนร้ายเหล่านน้ั ออกไป
๕.๒ เสนอแนะ / แนะนำ
๕.๒.๑ ข้อเสนอแนะเพื่อกำรปฏบิ ัติ / นโยบำย
การศึกษาน้เี ปน็ เพียงการสารวจ และจัดกลุ่มเพื่อให้เห็นภาพรวมของพระพุทธศาสนาใน
มิติองค์รวม ที่สะท้อนคิดและชี้ให้เห็นว่าเมื่อถึงท่ีสุดมองมุมหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียง
ปรากฏการณ์ทางพระพุทธศาสนา ท่ีเป็นได้ท้ังพัฒนาการ และความคาดหวังต่อความเป็นชาวพุทธ
ในองค์รวม ซ่ึงจากการศึกษานี้สามารถให้คาแนะนาเป็นเครื่องมือเพ่ือการกาหนดนโยบายเพ่ือ
ปฏิบตั ไิ ด้คอื
๑. กำหนดเป็นนโยบำยเชิงกลุ่มต่อหลักกำรท่ีถูกต้อง กล่าวคือคณะสงฆ์ หรือรัฐ ที่มี
หน้าท่ีในการควบคุมนโยบายภาพรวมของพระพุทธศาสนา ต้องทันต่อข้อมูลข่าวสาร และ
พัฒนาการและในเวลาเดียวกันกาหนดเป็นนโยบายต่อการศึกษา เข้าใจ และปฏิบัติที่ถูกต้องตาม
หลกั พระพุทธศาสนา
๒. มุ่งส่งเสริมให้เกิดควำมเข้ำใจอันต่อกัน ระหว่างกลุ่มขบวนการพุทธใหม่ เพ่ือทาให้
เ กิ ด ก า ร ท า ง า น ร่ ว ม กั น โ ด ย มี เ ป้ า ห ม า ย เ พ่ื อ ป ร ะ โ ย ช น์ สุ ข ข อ ง ช า ว พุ ท ธ ผู้ ป ฏิ บั ติ แ ล ะ ก ลุ่ ม
พระพุทธศาสนาในประเทศไทย
๓. ส่งเสริมให้ศำสนิกในแต่ละกลุ่มได้เข้ำใจ หมายถึง เข้าใจต่อกระบวนการ
พระพุทธศาสนาท้ังในส่วนหลักการและหลักปฏิบัติที่จะเป็นการสร้างกระบวนการพัฒนาการทาง
พระพุทธศาสนาท่ีเหมาะสม ถูกต้องและมีผลเป็นการปฏิบัติเพ่ือไปสู่เป้าหมายสูงสุดทาง
พระพุทธศาสนาได้
๑๙๕
๕.๒.๒ ข้อเสนอแนะเพอ่ื กำรวจิ ยั
๑. วิจัยต่อในพัฒนาการของแต่ละกลุ่มขบวนการพระพุทธศาสนาใหม่อย่างชัดเจน
หมายถึง มีการเข้าไปศึกษาวิจัยเพ่ือมองให้เห็นพัฒนาการของแต่ละกลุ่ม ในลักษณะของพัฒนาการ
ด้านคาสอน ความชัดเจนของคาสอน และเจตนารมณ์องค์กรต่อการกาหนดเป็นยุทธศาสตร์ในองค์
รวมทง้ั เชิงลกึ เชิงกว้างของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย
๒. กำรศึกษำวิจัยในองค์รวมเฉพำะ หมายถึง เลือกกรณี หรือประเด็นในการศึกษาวิจัย
เช่น แนวทางการสร้างศรัทธา การตีความหลักคาสอน รูปแบบการปฏิบัติของแต่ละสานัก เป็นต้น
โดยมีเปา้ หมายเพ่ือการศึกษากลุ่มขบวนการพุทธใหม่ในองค์รวม เพ่ือให้เห็นพัฒนาการในด้านต่าง
ๆ ของพระพุทธศาสนาในสังคมไทยท้ังในเชิงลึก เชิงกว้างเฉพาะกรณีไป โดยมีเป้าหมายปลายทาง
เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ กิดภาพลักษณ์ทด่ี ีและงดงามต่อพระพุทธศาสนาในองคร์ วม
๓. ศึกษำวิจัยองค์ควำมรู้อันเป็นเหตุนำไปสู่ข้อขัดแย้ง โดยหลักการแนวคิด อันเกิดจาก
การให้คาอธิบาย ตีความ ต่อประเด็นทางพระพุทธศาสนาในแง่คาสอน แนวปฏิบัติ ท่ีเป็นเหตุแห่ง
ข้อขัดแย้งเพื่อให้เกิดความเข้าใจท่ีถูกต้อง และเป็น “มาตรกลาง” เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อประเด็น
ทางพระพุทธศาสนาอย่างเป็นระบบ และความเข้าใจต่อองค์รวมอย่างสูงสุด โดยเป็นการลดข้อ
ขัดแยง้ ส่งเสรมิ เปน็ ความเข้าใจทถ่ี กู ต้องตอ่ ประเดน็ ตา่ ง ๆ ในพระพทุ ธศาสนา
กำรทำวิจัยน้ีเป็นการวิจัยท่ีมีเป้าหมายเพื่อศึกษากลุ่มพระพุทธศาสนาในภาพรวม ซ่ึงมี
กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาค่อนข้างกว้าง จึงสัมพันธ์กับเวลา งบประมาณ และการศึกษาอย่าง
ครอบคลุม รอบด้านเพียงพอ แต่ผู้วิจัยก็หวังว่าการศึกษานี้จะนาไปสู่การศึกษาในเชิงลึก เชิงกว้าง
ของนกั ปรากฏการณ์วิทยาต่อกล่มุ พระพุทธศาสนาในประเทศไทยตอ่ ไป
บรรณานุกรม
๑. ภาษาบาลี - ไทย
ก.ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ
มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปฎิ กภาษาบาลี. ฉบับมหาจฬุ าเตปิฎกํ. กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพร์ ุง่ เรอื งธรรม, ๒๕๐๖.
_________. พระไตรปฎิ กภาษาไทย. ฉบบั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . กรุงเทพมหานคร:
โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๙.
_________. พระไตรปฎิ กภาษาไทย. ฉบบั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั . กรุงเทพมหานคร :
โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๓๙.
_________.ปกรณวเิ สสภาษาบาลี ฉบบั มหาจฬุ าปกรณวเิ สโส. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พว์ ิญญาณ
๒๕๓๙-๒๕๔๓.
_________.อรรถกถาบาลี ฉบับมหาจฬุ าอัฎฺฐกา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจฬุ าลงกรณราช
วทิ ยาลัย, โรงพมิ พ์วิญญาณ, ๒๕๓๓-๒๕๓๔.
ข.ขอ้ มูลทตุ ยิ ภมู ิ
(๑) หนังสอื :
คะนงึ นติ ย์ จนทบุตร. การเคลอื่ นไหวของยุวสงฆไ์ ทยรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๗-๒๔๘๘.
กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๒๘.
จานง อดวิ ฒั นสิทธิ์ และคณะ. สังคมวิทยา. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์,
๒๕๔๐.
ฉัตรสมุ าลย์ กบิลสงิ ห์. ผพู้ ลิกฟื้นภกิ ษณุ สี งฆ์. กรงุ เทพมหานคร : ร่วมด้วยชว่ ยกนั , ๒๕๔๗.
________. ภกิ ษณุ ียงั มอี ยู่หรือ ?. นครปฐม : พระโพธสิ ัตว์วัตรทรงธรรมกลั ยาณี, ๒๕๑๘.
ฉตั รสุมาลย์ กบลิ สิงห์, วริ ะดา สมสวสั ดิ์. ภกิ ษุณกี ับบทบาทเร่อื งเพศสภาพใน
สงั คมไทย. เชยี งใหม่ : ศูนยส์ ตรีศกึ ษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๔๗.
ชัยวฒั น์ คปุ ระตกุล. วิถแี หง่ ปญั ญา . กรงุ เทพมหานคร : สถาบนั วิถที รรศน์, ๒๕๓๒.
ชลิดาภรณ์ สง่ สัมพันธ์. ประวัติศาสตร์ของเพศวิถี : ประวตั ิศาสตร์เรอื่ งเพศ/เรื่องเพศในไทย.
กรุงเทพมหานคร : มลู นิธสิ รา้ งความเข้าใจเรื่องสขุ ภาพผู้หญงิ (สคส),
๑๙๗
สถาบันวจิ ยั ประชากรและสังคม, มหาวิทยาลยั มหดิ ล, ๒๕๕๑.
บรรจบบรรณรจุ .ิ ภิกษณุ ี พทุ ธสาวิกาครั้งพทุ ธกาล. กรุงเทพมหานคร : มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๓๙.
ปรีชา เปย่ี มพงศ์สานต์ และคณะ. สังเคราะห์องคค์ วามรู้เกี่ยวกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง.
กรงุ เทพมหานคร : สานกั งานกองทนุ สนบั สนุนการวิจยั , ๒๕๔๙.
ประเวศ วะสี. สวนโมกข์ สันตอิ โศก ธรรมกาย. กรุงเทพมหานคร : หมอชาวบ้าน, ๒๕๓๐.
ทองย้อย แสงสนิ ชยั ,รอ. และชานาญนิศารัตน์.ไขปริศนาปัญหาภิกษุณี. กรุงเทพมหานคร:
สหธรรมิก, ๒๕๔๔.
ทองยอ้ ย แสงสนิ ชยั . รอ. วิเคราะห์ ว.ชยั ภัคกรณีวเิ คราะห์พระเทพเวที. กรุงเทพมหานคร :
มหาจฬุ าบรรณาคาร กองบริการการศกึ ษา มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๓๓.
ทองศรี กาภู ณ อยุธยา.ผู้นําทางสาธารณประโยชน์และประชาสงั คม แมช่ ีศันสนีย์ เสถียรสตุ .
กรงุ เทพมหานคร : ศนู ยส์ าธารณประโยชน์และประชาสังคม
สถาบนั บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, ๒๕๔๖.
พรเพญ็ ฮน่ั ตระกูล, อัจฉราพร กมทุ พิสมยั , บรรณาธกิ าร. ความเช่อื พระศรีอาริย์ และกบฏผู้มีบุญใน
สังคมไทย. กรุงเทพมหานคร : สรา้ งสรรค์, ๒๕๒๗.
พระธรรมปฎิ ก (ป. อ. ปยุตฺโต). กรณีธรรมกาย : เอกสารเพือ่ พระธรรมวินัย. กรุงเทพมหานคร
: มลู นิธพิ ทุ ธธรรม, ๒๕๔๒.
________. พุทธวิธีแก้ปญั หาเพอ่ื ศตวรรษที่ ๒๑ :A Buddhist solution for the
twenty-first century. กรุงเทพมหานคร : บริษัท สหธรรมิก จากดั , ๒๕๓๗.
________. พุทธศาสนากบั สังคมไทย. กรงุ เทพมหานคร : มูลนิธิโกมลคมี ทอง, ๒๕๓๒.
________. ทางออกของสงั คมไทย .กรงุ เทพมหานคร : มูลนิธพิ ทุ ธธรรม, ๒๕๓๑.
________. กรณธี รรมกาย. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสาร, ๒๕๔๒.
________. พุทธธรรม. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา, ๒๕๔๖.
________. กรณธี รรมกาย : บทเรียนเพ่ือการศกึ ษาพระพุทธศาสนา และสรา้ งสรรคส์ งั คมไทย .
กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ธรรมสาร จากดั , ๒๕๔๒.
________. นพิ พาน อนตั ตา. กรงุ เทพมหานคร : มลู นิธพิ ุทธธรรม, ๒๕๔๒.
________. กรณเี งือ่ นงํา : พระพุทธเจา้ ปรินิพพานด้วยโรคอะไร. กรงุ เทพมหานคร :
มูลนิธิพทุ ธธรรม, ๒๕๔๓.
________. ทัศนะของพระพทุ ธศาสนาต่อสตรีและการบวชเป็นภิกษุณี. กรุงเทพมหานคร :
มูลนธิ ิพทุ ธธรรม, ๒๕๔๔.
๑๙๘
________. ปัญหาภิกษณุ ี : บททดสอบสงั คมไทย. กรงุ เทพมหานคร : สขุ ภาพใจ, ๒๕๔๔.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโฺ ต) . พจนานกุ รมพุทธศาสตร์ ฉบบั ประมวลธรรม.
กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิพทุ ธธรรม, ๒๕๕๑.
พระราชวรมุนี (ประยทุ ธ์), แรงจงู ใจในการเขียน กรณสี ันติอโศก. กรุงเทพมหานคร :
คณะพุทธบรษิ ทั , ๒๕๓๒.
________. ทศั นะของพระพุทธศาสนาต่อสตรีและการบวชเปน็ ภกิ ษุณี. กรงุ เทพมหานคร :
มูลนิธพิ ุทธธรรม, ๒๕๔๔.
พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุตโุ ต). กรณสี นั ติอโศก. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิพทุ ธธรรม, ๒๕๓๑.
________. เพอื่ ความเขา้ ใจปญั หาโพธิรกั ษ์ : รวมท้ังบทความพเิ ศษและบทพสิ จู น์. กรุงเทพมหานคร
: มูลนิธพิ ุทธธรรม, ๒๕๓๓.
พระไพศาล วสิ าโล. พุทธศาสนาไทยในอนาคต แนวโน้มและทางออกจากวิกฤติ, กรุงเทพมหานคร
: มูลนิธสิ ดศรี-สฤษดว์ิ งศ์, ๒๕๔๖.
พระอนนั ต์ เสนาขันธ์. ภิกษมุ หาโจร. กรุงเทพมหานคร : บูรพาสาส์น, ๒๕๒๐.
________. คําสอนเดยี รถ์ ีย์. กรุงเทพมหานคร : องค์การพิทักษพ์ ุทธศาสน์ อภธิ รรมมูลนธิ ิ,
๒๕๒๒.
ภทั รพร สริ ิกาญจน.์ พระพทุ ธศาสนาในประเทศไทย : เอกภาพในความหลากหลาย,
กรงุ เทพมหานคร : คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๕๓.
มนทิรา จูฑะพทุ ธิ. ประวตั ชิ วี ติ แม่ชศี นั สนยี ์ เสถียรสุต : กา้ วยา่ งแห่งปัญญา. กรงุ เทพมหานคร :
สามสี,๒๕๔๘.
เมตตานนฺโท ภกิ ขุ. เหตเุ กิด พ.ศ.๑ = B.E.๐๐๐๑. กรุงเทพมหานคร : พระอาทิตย์, ๒๕๔๕.
แม่ชีศันสนีย์ เถียรสตุ . สาวกิ า. กรุงเทพมหานคร : แปลนพริน้ ทต์ ้ิง, ๒๕๔๗.
________. เพอ่ื นนอกเพ่อื นใน. กรงุ เทพมหานคร : สามสีการพมิ พ์, ๒๕๔๐.
ระเบียบรตั น์ พงษพ์ านชิ . การปะทะกนั ของความรรู้ ะหว่างปติ าธปิ ไตยกบั สตรนี ยิ มตอ่ การสถาปนา
ภิกษณุ ใี นประเทศไทย . สานกั บณั ฑติ อาสาสมคั ร มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๖.
ระเบียบรตั น์ พงษพ์ านชิ , วิษณุ เครืองาม. การบวชเป็นภกิ ษณุ ใี นประเทศไทย, โดยระเบยี บรตั น์
พงษพ์ านชิ เปน็ ผู้ตั้งคาถาม วษิ ณุ เครืองาม เป็นผูต้ อบ . กรงุ เทพมหานคร : กลุ่มงาน
คณะกรรมาธกิ ารกิจการสตรี เยาวชนและผสู้ งุ อายุ สานักกรรมาธกิ าร ๒ สานักงาน
เลขาธกิ ารวุฒสิ ภา, ๒๕๔๖.
วรยิ า ชนิ วรรโณ และคณะ. วิวฒั นาการการตคี วามคําสอนเร่อื งสมาธิในพระพทุ ธศาสนาฝ่ายเถร
๑๙๙
วาทในประเทศไทย. พมิ พ์ครัง้ ที่ ๓. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ,
๒๕๔๘.
วศิน อนิ ทสระ. ลลี ากรรมของสตรีสมัยพทุ ธกาล. พระนคร : โรงพิมพ์ส่วนท้องถนิ่ , ๒๕๑๓.
วรทัศน์ วชั รวสี. แมช่ ีศันสนีย์ เสถียรสุต สาวิกาแห่งสวนสนั ติภาพ. กรงุ เทพมหานคร : ดอกโมกข์,
๒๕๔๕.
วโิ รจน์ สารรัตนะ.บทวิเคราะห์องคก์ ารทางการศึกษาไทย : จากกรอบแนวคิดเชิงทฤษฎเี พ่ือความ
เข้าใจในปรากฎการณ์. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษราพพิ ฒั น์, ๒๕๔๔.
ศรศี ักด์ิ วัลลโิ ภดม. มองอนาคต : บทวิเคราะห์เพอ่ื ปรบั เปลีย่ นทศิ ทางสงั คมไทย. พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๕,
กรงุ เทพมหานคร : มลู นิธภิ มู ิปญั ญา, ๒๕๔๔.
ศุภกิจ วงศ์วิวัฒนนุกิจ.พจนานุกรมศัพท์การวิจัยและสถิติ. กรุงเทพมหานคร :
จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๐.
ส. ศิวรักษ์. พทุ ธกับไสยในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร : คณะกรรมการศาสนาเพอ่ื การพฒั นา :
สถาบันสนั ติประชาธรรม, ๒๕๓๘.
สมบัติ จนั ทรวงศ์. ชมุ ชนปฐมอโศก : การศึกษาพทุ ธยูโทเปยี . กรงุ เทพมหานคร : มลู นิธธิ รรมสนั ติ,
๒๕๓๑.
สมณะโพธิรกั ษ์. ถอดรหัส นพิ พาน-อตั ตา-อนตั ตา-นริ ัตตา. กรงุ เทพมหานคร : ฟ้าอภยั . ๒๕๔๒.
สนิท สมัครการ. ความเชอื่ และศาสนาในสังคมไทย. กรงุ เทพมหานคร :โอเดียนสโตร์, ๒๕๓๙.
สรุ ยิ า สมทุ คุปต์ิและคณะ. ทรงเจ้าเข้าผี : วาทกรรมของลัทธิพิธีและวิกฤติการณ์ของความทันสมัย
ในสังคมไทย. นครราชสีมา : สานักวิชาเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
สรุ นารี, ๒๕๒๔.
สลุ กั ษณ์ ศิวลักษณ์. มหาสาวิกาสมัยพุทธกาล. พระนคร : ศกึ ษติ สยาม, ๒๕๑๖.
สุนัย เศรษฐ์บุญสร้าง. การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของพทุ ธศาสนาในสงั คมไทย. กรงุ เทพมหานคร :
กล่ันแกน่ , ๒๕๔๒.
อมรา พงศาพชิ ญ์. เพศสถานะ และเพศวิถีในสังคมไทย. กรงุ เทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๘.
๒๐๐
(๒) บทความ :
กฤษฎา พิณศรี. “จตุคามรามเทพ การถือกาเนิดของเทพเจ้าองค์ใหม่ในสังคมไทย”, วารสารศิลปะ
และวฒั นธรรมลมุ่ แม่น้ํามลู มหาวิทยาลยั ราชภัฏสรุ ินทร์,ปีท่ี ๒ ฉบับที่ ๑, (๒๕๕๐).
คามหโุ ณ. “มหาเถรสมาคมมิใช่สมาคมภาคเอกชน” ในสยามรัฐสัปดาหว์ จิ ารณ์ ๓๕, ๑๒ (กันยายน
๒๕๓๑).
ฉตั รสุมาลย์ กบลิ สงิ ห์. “พระนางสงั ฆมติ ตาเถรี พระภิกษุณรี ปู สดุ ท้าย ?” ในมตชิ นสดุ สปั ดาห์.
ปที ี่ ๒๔ ฉบับที่ ๑๒๕๘ (กันยายน ๒๕๔๗).
________. “ภิกษุณีสงฆใ์ นไตห้ วนั ” ในมตชิ นสุดสัปดาห์, ปที ี่ ๒๖ ฉบับที่ ๑๓๕ ( กรกฎาคม
๒๕๔๙) : ๔๘.
________. “ คณะสงฆท์ ิเบตพจิ ารณาการบวชภกิ ษุณี” ในมติชนสดุ สัปดาห์. ปที ่ี ๒๖ ฉบับที่
๑๓๔๙ (๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ ) : ๔๘.
________. “ ภิกษณุ ีที่วดั โพธิ์” ในมตชิ นสดุ สัปดาห์ วนั ท่ี ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ปที ี่ ๒๖ ฉบับ
ท่ี ๑๓๔๘ : ๗๕.
________. “จะบวชภิกษุณีอย่างไร (๑),” ในมติชนสดุ สัปดาห์. ปที ่ี ๒๖ ฉบับที่ ๑๓๔๖ มถิ นุ ายน
๒๕๔๙ ) : ๔๘.
________. “ ทาไมภิกษุณีมสี ิกขาบทมากกว่าพระภกิ ษุ” ในมตชิ นสดุ สปั ดาห์. ปีที่ ๒๖ ฉบับที่
๑๓๒๙ (กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๙) : ๔๘.
________. “ภิกษณุ พี ม่าถกู จบั ,” ในมตชิ นสดุ สปั ดาห์. ปที ่ี ๒๕ ฉบับที่ ๑๓๐๗ ( กนั ยายน ๒๕๔๘)
: ๗๕.
________. “การอุปสมบทภิกษณุ สี งฆ์ในสยามวงศ์,” ในมติชนสุดสปั ดาห์. ปีที่ ๒๕ ฉบับที่ ๑๓๐๕
(๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๘) : ๗๕.
________. “ขบวนการฆา่ ตดั ตอน ภกิ ษุณีสงฆ์” ลาดับที่ ๘: ในมตชิ นสดุ สัปดาห์ : ปที ่ี ๒๕ ฉบับที่
๑๒๖๗ (๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗) : ๒๕.
________. สาระของการเปน็ พระภกิ ษณุ ี ในมตชิ นสดุ สัปดาห์ , ปีที่ ๒๖ ฉบับที่ ๑๓๓๗ ( มนี าคม
๒๕๔๙) .
ชาญณรงค์ บุญหนุน. "กฎพระสงฆใ์ นกฎหมายตราสามดวง", ใน พุทธศาสนาและสถาบนั สงฆ์กับ
สังคมไทย, ๑-๑๕๒. วินยั พงศ์ศรีเพียร และวรี วรรณ งามสันติกลุ บรรณาธกิ าร.
กรงุ เทพมหานคร : ห้างหนุ้ ส่วนจากดั สามลดา, ๒๕๔๙ : ๑-๑๕๓.
๒๐๑
________."พระธรรมสาสตร." ใน นิติปรัชญาไทย : ประกาศพระราชปรารภ หลักอินทภาษ พระ
ธรรมสาสตร และ On the Laws of Mu’ung Thai of Siam, ๖๕-๑๕๗. วินัย พงศ์ศรี
เพียร และวีรวรรณ งามสันติกุล, บรรณาธิการ. กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นส่วนจากัด
สามลดา, ๒๕๔๙.
นิธิ เอียวศรีวงศ์. “อนาคตองค์กรสงฆ์” ใน มองอนาคตบทวิเคราะห์เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทาง
สังคมไทย, เอกวิทย์ ณ ถลาง, บรรณาธิการ.กรงุ เทพมหานคร : มลู นิธิปญั ญา, ๒๕๓๖.
________. “แม่ชกี บั ภกิ ษุณี,” มตชิ นสดุ สัปดาห์, ปีที่ ๒๑ ฉบับที่ ๑๑๐๔ (๑๕ ตุลาคม
๒๕๔๔ ) : ๔๗.
บรรจบ บรรณรุจิ. “สถานภาพของสตรีในคมั ภรี ์พระพทุ ธศาสนาเถรวาท”, ในรวมบทความ
วิชาการทางพระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราช
วิทยาลยั , (๒๕๔๘) : ๒๖๓-๒๘๔.
พระมหาสมบูรณ์ วฒุ ิกโร. “แนวคิดพระพทุ ธศาสนาเพอื่ สังคมในประเทศไทย” ใน พระพุทธศาสนา
กบั การฟ้ืนตัวจากวิกฤติโลก. รวมบทความประชุมวิชาการทางพระพุทธศาสนา
นานาชาติ ครั้งที่ ๗ เน่ืองในวันวิสาขบูชา วันสาคัญสากลของโลก (พฤษภาคม
๒๕๕๓).
พฒั นา กติ ิอาษา. “ความเปน็ อนจิ จงั ของพุทธไทย :จากส่ิงตกทอดผูกพันจากอดีต ถึงความทนั สมัย
แตกตัวออกเป็นเสี่ยง” ใน วารสารสงั คมศาสตร์ฉบบั พิเศษ มานษุ ยวิทยา อษุ าคเนย์ และ
ชาร์ลส์ คายส์, วารสารสังคมศาสตร์ : ปีท่ี๑๙ ฉบับที่ ๑ : (๒๕๕๐).
พุทธิสาโร. “พทุ ธศาสนา ชาตพิ นั ธ์ุ และเครอื ข่ายชาวพุทธ” ใน “พระอาทิตย์ชงิ ดวง : รวมบทความ
ทางวิชาการและบทคัดย่อปริญญานิพนธ์ที่ระลึกในวาระ ๖๐ ปีและเกษียณอายุราชการ
พลับพลึง คงชนะ”, [ผู้เขียน, พลับพลึง คงชนะ และคณะ. กรุงเทพมหานคร: คณะ
สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ], ๒๕๔๙.
________. “บัณเฑาะย์ กะเทย เกย์ : ประเด็นปัญหาวา่ ด้วยบวชในสงั คมไทย” ใน“เพศวถิ ศี กึ ษาใน
สงั คมไทย : วพิ ากษ์องค์ความร้แู ละธรรมเนยี มปฏบิ ตั เิ รอ่ื งเพศวิถีศึกษาใน สังคมไทย”
สานักงานเลขานุการจัดการประชุมประจาปีเพศวิถีศึกษาในสังคมไทย ครั้งท่ี ๑ คณะ
สังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศ์ าสตรม์ หาวทิ ยาลัยมหดิ ล, ๒๕๕๑.
________. “เอดส์ : กระบวนการยกจิต ตายกอ่ นตาย” วารสารสังคมศาสตร์มนษุ ย์ศาสตร์
มหาวิทยาลยั ราชภัฎพระนคร, ปที ่ี ๒ ฉบับที่ ๑, (มกราคม-มิถนุ ายน, ๒๕๕๐) : ๕๔-๖๐.
๒๐๒
วินัย พงษ์ศรีเพียร. “การพระศาสนากับการจัดระเบียบสังคมไทยต้ังแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระ
พุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ใน
พระพุทธศาสนาและสถาบันสงฆ์กบั สังคมไทย. วนิ ัย พงศศ์ รเี พยี ง,วีรวัลย์ งามสันติกุล.
บรรณาธิการ. กรุงเทพมหานคร : สานักงานสนับสนุนกองทุนวิจัย (สกว.), ๒๕๔๙ :
๒๗๕-๒๘๐.
(๓).วิทยานพิ นธ์ :
กฤษณา รักษาโฉม. “การศึกษาปัญหาเร่ืองการเสื่อมสูญของภิกษุณีสงฆ์ในพระพุทธศาสนาเถร
วาท”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬา
ลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๕๐.
กุลวีร์ ประภาพรพิพัฒน์. “แนวคิดและจริยศาสตร์ที่เกี่ยวกับเพศในพุทธศาสนาเถรวาท”.
วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. คณะศิลปศาสตร์ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,
๒๕๔๕.
ขัตตยิ า ขัติยวรา. “การกอ่ รปู ทางอัตลักษณ์ของขบวนการเคล่ือนไหวทางศาสนา : กรณีศึกษาชุมชน
สั น ติ อ โ ศ ก ” . วิ ท ย า นิ พ น ธ์ ศิ ล ป ศ า ส ต ร ม ห า บั ณ ฑิ ต . บั ณ ฑิ ต วิ ท ย า ลั ย :
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๔๗.
เจริญ ธชิ ากรณ์. “การทางานของแมช่ ีไทยในฐานะผใู้ หบ้ ริการในโครงการต่าง ๆ ของสถาบันแมช่ ี
ไทย”. วทิ ยานพิ นธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบณั ฑิต. คณะสงั คมสงเคราะห์ศาสตร์ :
มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๔.
เจษฎา ววิ ัฒน์ภัทรกุล. “ปจั จัยสคู่ วามสาเร็จของผปู้ ระกอบการพระเคร่อื งยา่ นเยาวราช”. สารนพิ นธ์
บริหารธรุ กิจมหาบัณฑติ . คณะเศรษฐศาสตร์ : มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ,
๒๕๔๘.
ชนิดา ดงั ก้อง. “ปัจจยั ภายนอกท่ีมอี ิทธิพลต่อการบูชาวัตถุมงคลจตุคามรามเทพในจังหวัดร้อยเอ็ด”.
วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยขอนแก่น,
๒๕๕๑.
ชาญณรงค์ บญุ หนนุ . “รายงานการวิจยั เรื่อง สิทธิสตรใี นพระพทุ ธศาสนาเถรวาท”. รายงานวิจยั
กรงุ เทพมหานคร : โครงการวจิ ยั พุทธศาสนากบั สังคมไทยและความเป็นคนไทยของ
ศูนย์พทุ ธศาสน์ศกึ ษาจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๔๔.
๒๐๓
________. “รายงานขอ้ สังเกตเบ้ืองต้นเก่ียวกับแนวโนม้ จานวนและ คุณภาพพระสงฆ์ในชนบท
ประเทศไทย”. รายงานวจิ ัย. กรงุ เทพมหานคร : ศูนยม์ านุษยวทิ ยาสิรินธร (องคก์ าร
มหาชน), ๒๕๕๐.
________. “รายงานวจิ ัยเร่ือง "ความเปน็ ธรรมในพระไตรปิฎก". รายงานวจิ ยั . กรงุ เทพมหานคร :
สานักงานกองทนุ สนับสนุนการวจิ ยั (สกว.), ๒๕๕๐.
ชายนา ภาววิมล. “พุทธพาณิชย์ ผลกระทบจากการใช้ส่ือสารมวลชนในการโฆษณา
ประชาสมั พันธเ์ พ่ือจาหน่ายพระเคร่ืองทม่ี ีตอ่ ทศั นคติ และความเชื่อของพุทธศาสนิกชน
ในเรื่องสัญลักษณ์ของศาสนา”. วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต. คณะนิเทศ
ศาสตร์ : จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๓๗.
ฐิติรัตน์ รักษ์ใจตรง. “ศึกษาการใช้อานาปานาสติภาวนาเพือ่ พัฒนาคุณภาพชวี ิตของเสถยี รธรรม
สถาน”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑติ . บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวิทยาลยั
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๐.
ณัฐธมิ า ไชยสิทธ.์ิ “รัฐไทยกับไสยเวทย์”. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑติ . คณะรัฐศาสตร์ :
มหาวิทยาลยั รามคาแหง, ๒๕๔๖ .
ณัฐหทัย ฉตั รทินวัฒน์. “สถานภาพของแมช่ ี : กรณีศึกษาแมช่ วี ดั ปากนา้ ภาษีเจริญ”.
วิทยานพิ นธ์ศลิ ปศาสตร์มหาบัณฑิต. วทิ ยาลยั สหวทิ ยาการ :
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๕๒.
ตะวัน เกยี รตบิ ญุ ญาฤทธิ์. “การศึกษาเปรียบเทยี บศีลวตั รและบทบาททางสังคมของ "พระชาว
อโศก" กับพทุ ธบญั ญัติว่าด้วยจลุ ศีล มัชฌิมศีล มหาศีล : ศึกษาเฉพาะกรณี พุทธ
สถานสนั ตอิ โศก กรุงเทพมหานคร”. วิทยานพิ นธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑติ .
คณะอักษรศาสตร์ : มหาวิทยาลัยมหดิ ล, ๒๕๒๕.
ธัญญา สนทิ วงศ์ ณ อยุธยา. “โครงสรา้ งอานาจของชุมชน : ศึกษากรณีชมุ ชนชาวอโศก”.
วทิ ยานิพนธ์พฒั นบริหารศาสตรมหาบัณฑติ . คณะพัฒนบรหิ ารศาสตร์ :
สถาบนั บัณฑิตพฒั นบริหารศาสตร์, ๒๕๓๖.
นภิ าวรรณ วิรชั นิภาวรรณ. “รา่ งทรง : บทบาททม่ี ตี ่อสงั คมปจั จบุ นั กรณศี กึ ษาท่ีอาเภอเมือง
จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา”. วิทยานิพนธศ์ ิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑติ วทิ ยาลัย :
มหาวทิ ยาลัยศิลปากร, ๒๕๓๒.
บุญมี ปาริชาติธนกลุ . “ความเชอื่ เรอื่ งผีในพิธกี รรมของชาวไทยโซ่งบ้านไผ่หชู ้าง อาเภอบางเลน
จงั หวดั นครปฐม”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑติ . บณั ฑติ วทิ ยาลัย :
๒๐๔
มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง, ๒๕๔๖.
บศุ รา สวา่ งศร.ี “พทุ ธพาณิชย์ : พระเครื่อง”. วิทยานิพนธ์ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ . บณั ฑติ วทิ ยาลัย
: มหาวิทยาลัยศลิ ปากร, ๒๕๕๐.
เบญจรัชต์ เมอื งไทย. “พธิ ีทรงเจา้ : พธิ กี รรมกบั โครงสร้างสงั คมทห่ี นองขาว”. วทิ ยานิพนธ์
ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑิต. บัณฑติ วิทยาลยั : มหาวิทยาลัยศลิ ปากร, ๒๕๔๓.
ประคอง สงิ หนาทนติ ิรักษ์. “บทบาทของแม่ชีไทยในการพัฒนาสังคม”. วทิ ยานพิ นธ์สงคม
สงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ :
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๑๖.
ประเสริฐ ทองเกต.ุ “เหตุผลการตดั สนิ ใจบวชชีและความตอ้ งการการศึกษาของแมช่ ไี ทย”.
วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑติ . บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ,
๒๕๓๔.
ปารชิ าด สวุ รรณบบุ ผา. “แม่ชกี บั ภารกิจทางการศึกษาในประเทศไทย”. รายงานวิจยั .
กรุงเทพมหานคร : สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, ๒๕๔๕.
ปณุ ยนุช ชุติมา. “ปรชั ญาการส่ือสารในธรรมสารของพุทธทาสภิกขุ”. วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตร
มหาบณั ฑิต. คณะนเิ ทศศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๓.
พรศักด์ิ ธนพฒั นพงศ์, “มหาเถรสมาคมกบั การยอมรบั การมีสว่ นร่วมของพระสงฆ์ ในการปฏิรูป
การปกครองคณะสงฆ์ ในการปฏิรปู การปกครองคณะสงฆ์”. วิทยานพิ นธ์นิติศาสตร
มหาบัณฑติ . คณะนิติศาสตร์ : จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย, ๒๕๔๑.
พระครปู ระคุณสรกจิ (สชุ าติ ชโิ นรโส). “การศกึ ษาการสอนวปิ สั นากัมมฎั ฐานตามแนวทางของ
สานักวปิ ัสสนาวเิ วกอาศรม”. วทิ ยานิพนธพ์ ุทธศาสตรมหาบณั ฑิต. บณั ฑติ วิทยาลยั :
มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๓๘.
พระเฑยี รวทิ ย์ อตฺตสนฺโต (โอชาวัฒน์). “การศกึ ษาความเชื่อและพธิ ีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา
ของร่างทรง : กรณีศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร”. วทิ ยานพิ นธ์พุทธศาสตร
มหาบณั ฑิต. บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๘.
พระประเสริฐ ชุตินุธโร. “การศกึ ษาเชิงวิเคราะห์ เร่ือง ไสยศาสตร์กบั พุทธศาสตรต์ ามทรรศนะของ
พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยตุ ฺโต)”. วิทยานพิ นธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑติ . บณั ฑิตวิทยาลยั
: มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๔๓.
พระฟอง อภิวณฺโณ (สวสั ดี). “การศกึ ษาเชงิ วิเคราะหแ์ นวคดิ เรื่อง จิตวา่ ง ของทา่ นพุทธทาส”.
วิทยานพิ นธ์พุทธศาสตรมหาบณั ฑติ . บณั ฑติ วิทยาลัย : มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณ
๒๐๕
ราชวิทยาลัย, ๒๕๓๕.
พระมหากมล ถาวโร. “สถานภาพสตรีในพระพุทธศาสนา”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต.
บณั ฑิตวิทยาลยั : มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๓.
________. “การศกึ ษาวเิ คราะห์บทบาทของสตรีในพระพุทธศาสนา : ศกึ ษาเฉพาะกรณี
บทบาทของสตรีในสังคมไทยปจั จบุ ัน”. วิทยานพิ นธ์พุทธศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ .
บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาจุฬาลงกรราชวิทยาลยั , ๒๕๕๐.
พระมหาจรูญโรจน์ กวิวโส. “การประยุกต์ใช้พุทธธรรมกับการทากิจกรรมในชุมชนของพระสงฆ์
กลุ่มเสขิยธรรม”. วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต. คณะสังคม
สงเคราะหศ์ าสตร์ : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๔๕.
พระมหาจิระศักด์ิ ธมฺมเมธี (สังเมฆ). “การศึกษาวิเคราะห์เรื่องปัญหาภาษาในพระพุทธศาสนา
ศึกษาเฉพาะกรณีและแนวคดิ เรอ่ื งภาษาคนภาษาธรรมของพุทธทาสภิกขุ”. วิทยานิพนธ์
พุทธศาสตร์มหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,
๒๕๔๔.
พระมหาชินวัฒน์ แสงชาตรี. “ศึกษาวิเคราะห์บทบาทของภิกษุณีในสมัยพุทธกาล”. รายงาน
ก า ร ศึ ก ษ า อิ ส ร ะ ศิ ล ป ศ า ส ต ร ม ห า บั ณ ฑิ ต ( ป รั ช ญ า ) . บั ณ ฑิ ต วิ ท ย า ลั ย :
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น, ๒๕๔๘.
พระมหาทวศี ักด์ิ ใครบุตร. “ดริ จั ฉานวิชชา : ศกึ ษาเชงิ วเิ คราะห์ทรรศนะและแนวปฏบิ ัตใิ น
สังคมไทย”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑติ . คณะศิลปศาสตร์ :
มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๔๔.
พระมหาทองคณู ธีรปญโฺ ญ (ขนนั ไทย). “การศกึ ษาเปรียบเทียบเร่ือง นพิ พานในพระพุทธศาสนา
เถรวาทมหายานนิกายโยคาจารและวัดพระธรรมกาย”. วทิ ยานิพนธ์พุทธศาสตร
มหาบัณฑติ . บัณฑติ วทิ ยาลยั : มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๒.
พระมหานรากร ชา่ งบุ. “ ‘อคต’ิ กับปัญหาอธกิ รณ์ในพทุ ธศาสนา : กรณศี กึ ษาสานักสันตอิ โศก”.
วทิ ยานพิ นธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑติ . คณะศิลปศาสตร์ : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์,
๒๕๕๑.
พระมหานิพนธ์ มหาธมมฺ รกขฺ ิโต (แสงแก้ว). “การศึกษาเปรยี บเทียบแนวการปฏิบัตกิ รรมฐานของ
หลวงพ่อเทยี น จิตตฺ สุโภ และพุทธทาสภกิ ขุ”. วิทยานพิ นธ์พทุ ธศาสตรมหาบัณฑติ .
บณั ฑติ วทิ ยาลยั : มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๔๖.
๒๐๖
พระมหาบูรณ์เชน สณิกปุญโญ (สุขคุ้ม). “การศึกษาวิเคราะห์มโนทัศน์เร่ืองพระเจ้าใน
ทรรศนะของท่านพุทธทาส”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (ปรัชญา),
บัณฑิตวทิ ยาลยั : มาหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๔๔.
พระมหามนตรี วลฺลโภ. “อิทธิพลของวัตถุมงคล ท่ีมีต่อสังคมไทยในปัจจุบัน”. วิทยานิพนธ์
พทุ ธศาสตรมหาบณั ฑติ . บัณฑิตวิทยาลัย มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๒.
พระมหามาโนช ศกึ ษา. “พระพุทธศาสนากบั การพฒั นาสงั คม : ศกึ ษาความคดิ เห็นของพระสังฆาธิ
การตอ่ การพฒั นาสังคมของพระพยอม กัลยาโณ”. วทิ ยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตร
มหาบัณฑิต. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ : มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๓๙.
พระมหาวชิ าญ สวุ ชิ าโน (บัวบาน). “ศึกษากระบวนการฝึกอบรมบคุ ลากรทางพระพทุ ธศาสนาของ
พระโพธิญาณเถระ (ชา สุภทโฺ ท)”. วทิ ยานิพนธพ์ ุทธศาสตรมหาบัณฑิต.
บัณฑติ วิทยาลยั : มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๔๓.
พระมหาวีรพันธ์ ชุติปญฺโญ (สุปัญบุตร). “ศึกษาวิเคราะห์การตีความและวิธีการสอนธรรมะของ
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ”.วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั . ๒๕๔๖.
พระมหาสมัคร งามแสง. “ศึกษาบทบาทของสตรีในองค์กรพุทธศาสนาในสังคมไทยปัจจุบัน :
ศึกษาเฉพาะกรณีวัดปทุมวนาราม วัดสังฆทาน สานักปฏิบัติธรรมเสถียรธรรมสถาน
และสานักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว ”. วิทยานิพนธ์สังคมศาสตรมหาบัณฑิต .
คณะสังคมศาสตร์ : มหาวทิ ยาลยั มหิดล, ๒๕๒๗.
พระมหาสังเวย ธมมเนตติโก (เนตรนมิ ิต). “การศกึ ษาเชงิ วิเคราะห์เรื่อง ชวี ิตภิกษุณีกับการบรรลุ
อรหันต์ผล : เฉพาะทีป่ รากฏในเถรีคาถา”. วทิ ยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต.
บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๓๖.
พระมหาไสว โชติโก. “การศกึ ษาวเิ คราะหธ์ รรมกายในพระพทุ ธศาสนา”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตร
มหาบัณฑติ . บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๓.
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส. “รูปแบบการจัดการความขัดแย้งโดยพุทธสันติวิธี : ศึกษาวิเคราะห์
กรณีลุ่มนา้ แมต่ าชา้ ง จ. เชียงใหม่”. วิทยานิพนธพ์ ุทธศาสตรดษุ ฎีบัณฑิต.
บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๘.
พลเผา่ เพง็ วิภาศ. “ศึกษาวิเคราะหป์ ระโยชน์จากการมีภกิ ษุณีในสงั คมไทย”. รายงานการศึกษาอิสระ
ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ . บัณฑติ วทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ , ๒๕๔๘.
๒๐๗
พนู ศักดิ์ ชตู าภา. “ปัญหาการบรหิ ารงานของมหาเถรสมาคม : ศึกษาปัญหาด้านการจัดโครงสรา้ ง
องค์การ”. วิทยานพิ นธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑติ . คณะรฐั ศาสตร์ :
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๔๔.
ไพศาล เอกบญุ เขต. “ปัจจยั ท่ีมอี ทิ ธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรมการเช่าพระเครื่องของผู้บริโภคทีศ่ ูนย์พระ
เคร่ือง ตลาดนัดจตุจกั ร”. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑติ . คณะเศรษฐศาสตร์ :
มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ, ๒๕๔๗.
ยพุ นิ ดวงจันทร์. “สตรีกบั การบวชในพระพทุ ธศาสนา : ศึกษาเปรยี บเทียบสถานะภาพและทศั นะ
ของแมช่ ีวดั ปากนา้ ภาษีเจรญิ กรงุ เทพมหานคร และสานักปฏบิ ัติธรรมแดนมหามงคล
กาญจนบุรี”. วทิ ยานพิ นธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (พทุ ธศาสนาศกึ ษา).
คณะสังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศ์ าสตร์ : มหาวิทยาลยั มหิดล, ๒๕๔๒.
รตพร ปัทมเจริญ . “กระบวนการเข้าสู่การเป็นร่างทรง : กรณีศึกษาร่างทรงในเขต อ.เมือง
จ.นครปฐม”. วิทยานิพนธ์สังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาบัณฑิต. คณะสังคมวิทยา
และมานุษยวิทยา : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๓.
ระเบยี บรัตน์ พงษ์พานิช. “การปะทะกันของความรรู้ ะหวา่ งปติ าธปิ ไตยกบั สตรนี ยิ มต่อการสถาปนา
ภกิ ษณุ ใี นประเทศไทย”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สตรีศกึ ษา).
คณะศิลปศาสตร์ : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๔๖.
รัตน ล้ิมตระกุล. “อัตชีวประวัติและแนวคิดทางการศึกษาของท่านอาจารย์พุทธทาส”. วิทยานิพนธ์
การศกึ ษามหาบัณฑติ . บัณฑิตวิทยาลยั : มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ, ๒๕๔๗.
รัตนชัย บญุ ศรี. “อทิ ธพิ ลของพระพทุ ธศาสนานกิ ายเซนในงานของท่านพุทธทาสภกิ ขุ”.
วทิ ยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บณั ฑติ วทิ ยาลัย : มหาวิทยาลยั มหาจุฬา
ลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๕.
เรไร สืบสุข. “ไสยศาสตรใ์ นวรรณคดีไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น (พ.ศ. ๒๓๒๕-๒๓๙๔)”.
วิทยานพิ นธ์การศกึ ษามหาบัณฑิต. บณั ฑติ วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ,
๒๕๒๑.
ลลติ า ยาวงั เสน. “การต่อรองเชิงพน้ื ทข่ี องนักบวชหญงิ :กรณศี ึกษาสามเณรใี นสานกั ปฏบิ ตั ธิ รรม
หนงึ่ ในจังหวดั เชียงใหม่”. วิทยานพิ นธ์ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต (สตรศี กึ ษา).
บัณฑติ วทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่, ๒๕๕๑.
ลัดดาวลั ย์ ต๊ะมาฟู. “แม่ชี : โลกของผหู้ ญิงที่ถกู ลมื ”. วทิ ยานพิ นธ์ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต.
บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่, ๒๕๔๘.
๒๐๘
วรารัตน์ วีระเทศ. “วิเคราะห์หลักอนัตตาในทัศนะพุทธทาสภิกขุ”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร
มหาบัณฑติ (ปรชั ญา). บัณฑติ วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์, ๒๕๔๐.
วีระพงษ์ ภูมลู . “ปจั จยั ท่ผี ลตอ่ พฤตกิ รรมการเช่าพระเคร่ืองของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร”. สาร
นิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. คณะเศรษฐศาสตร์ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ,
๒๕๕๑.
สมชาย ไมตรี, พระครูปลัดเช่ียว ชิตินฺทฺริโย, เสรี แก้ววรรณา. “การศึกษาความเป็นไปได้ของการ
บวชภิกษุณีในประเทศไทย”. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ :
มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณร์ าชวิทยาลยั , ๒๕๔๖.
สมศักดิ์ เนียมเล็ก. “วิเคราะห์ความคิดทางการเมืองของพุทธทาสภิกขุ”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร
มหาบณั ฑติ (รัฐศาสตร์). บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง, ๒๕๔๔.
สรกานต์ ศรีตองอ่อน. “คาสอนเร่ืองการสร้างบารมีของวัดพระธรรมกาย”. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตร
มหาบณั ฑติ . บณั ฑติ วทิ ยาลัย : จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๔๗.
สโรชา คณุ าธปิ พงษ์. “การศึกษาวเิ คราะหก์ ารพัฒนาสตรีตามทัศนะของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสตุ ”.
วทิ ยานพิ นธพ์ ุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บณั ฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณ
ราชวิทยาลยั , ๒๕๕๑.
สายธาร อินทวาดี. “บทบาทมหาเถรสมาคมในการแก้ปัญหาคณะสงฆ์ไทย (พ.ศ.๒๔๔๕-
๒๕๓๐)”. วทิ ยานพิ นธศ์ ิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ประวัติศาสตร์ไทย). บัณฑิตวิทยาลัย
: มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ, ๒๕๓๘.
สขุ ใจ พุทธวิเศษ. “สถานภาพและบทบาทของ แมช่ ีในสงั คมไทย ศึกษากรณีวดั สร้อยทอง”.
วิทยานิพนธ์สังคมวทิ ยามหาบัณฑิต. คณะสงั คมวทิ ยา : จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย,
๒๕๒๗.
สุขสันต์ จันทะโชโต. “การศึกษาวิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติคณะแม่ชีไทย : กรณีศึกษาการ
พัฒนาองค์กรและการพัฒนาสถานภาพแม่ชีไทยในมิติของพระพุทธศาสนาเถรวาท”.
วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ
ราชวิทยาลัย, ๒๕๔๙.
สชุ าติ จันทรมณ.ี “ทศั นคติและพฤตกิ รรมของผู้บรโิ ภคที่มีต่อการเชา่ บูชาองค์จตุคามรามเทพ”. สาร
นพิ นธบ์ ริหารธุรกิจมหาบณั ฑิต. คณะเศรษฐศาสตร์ : มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ,
๒๕๕๑.
๒๐๙
สุทธิวรรณา นนท์ชะสิริ. “สถานภาพและบทบาทของแม่ชีในด้านการให้การศึกษาและการบริการ
สังคม”. วิทยานพิ นธ์สังคมศาสตรมหาบัณฑิต. คณะสังคมศาสตร์ : มหาวิทยาลัยศิลปากร,
๒๕๔๑.
สมุ าลี อนิ ทรวนิช. “กรณศี ึกษาวธิ ีปฏบิ ัตธิ รรมและผปู้ ฏบิ ตั ิธรรมตามแนวของคณุ แมส่ ริ ิ กรินชยั ”.
วทิ ยานิพนธ์ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ (ปรชั ญา). บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาวิทยาลยั เชยี งใหม,่
๒๕๓๑.
สุริยา สมุทคุปติแ์ ละคณะ. “ทรงเจา้ เข้าผี : วาทกรรมของลัทธิพธิ ีและวกิ ฤตกิ ารณข์ องความทนั สมยั
ในสังคมไทย”. รายงานวจิ ยั . สานกั วิชาเทคโนโลยสี ังคม : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
สุรนารี, ๒๕๒๙.
สวุ ดี ธนประสิทธ์ิพัฒนา. “สถานภาพทางสังคมของสตรไี ทยสมยั ปฏริ ูปประเทศ”. วิทยานพิ นธ์
อักษรศาสตรมหาบัณฑติ . คณะอักษรศาสตร์ : จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๕.
เสมอ บุญมา. “ภิกษณุ ใี นพระพุทธศาสนา”. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย
: จฬุ าลงกรณมหาวิทยาลยั , ๒๕๒๑.
โสภา อ่อนโอภาส, อภิชาติ ศิวิโรจน์. “แม่ชี : วิถีผู้หญิงใต้ร่มเงาพุทธศาสนา”. รายงานวิจัย. ศูนย์
ศึกษาเศรษฐศาสตรก์ ารเมอื ง คณะเศรษฐศาสตร์ : จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๔๖.
อธิเทพ ผาทา. “การศึกษารูปแบบและกระบวนการแก้ปัญหาในพระพุทธศาสนาเถรวาท : ศึกษา
เฉพาะกรณีอธิกรณสมถะ ๗ และกฎนิคหกรรมของมหาเถรสมาคมในพระราชบัญญัติ
คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕”. วิทยานิพนธ์พุทธ
ศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,
๒๕๕๐.
อภิรักษ์ จุฬาศินนท์. “แรงจูงใจในการบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่ออุตตมะ จังหวัดกาญจนบุรี”.
วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต,
๒๕๔๙.
อมรรัตน์ สีเหนี่ยง. “การปรับตัวทางสังคมภายหลังจบการศึกษาของ"ธรรมจารินี" : กรณีศึกษา :
โรงเรียนธรรมจารินีวิทยา”. วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต. คณะ
สังคมสงเคราะหศ์ าสตร์ : มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๘.
อรรถพันธ์ุ สงวนเสริมศรี. “ปัจจัยท่ีมีผลต่อความนิยมพระเครื่อง”. วิทยานิพนธ์พัฒนบริหารศาสตร
มหาบณั ฑติ (พัฒนาสังคม). คณะพัฒนบริหารศาสตร์ : สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์,
๒๕๔๐.
๒๑๐
อัคคี ศรที ราชัยกุล. “ความยึดมั่นผูกพันในศาสนาของชาวพุทธ : ศึกษาเฉพาะกรณีชาวพุทธในกลุ่ม
วัดพระธรรมกายพุทธสถานสันติอโศก และวัดชลประทานรังสฤษฏ์”. วิทยานิพนธ์
สังคมสงเคราะหศ์ าสตรมหาบัณฑติ . คณะสงั คมสงเคราะห์ : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์,
๒๕๓๖.
อัชรา ม่ันคง. “การศึกษาเจตคติและความสนใจพระเคร่ืองในฐานะท่ีเป็นสื่อของชาว
กรุงเทพมหานคร”. วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต. คณะนิเทศศาสตร์ :
มหาวทิ ยาลัยสยาม, ๒๕๓๖.
อชั วนั หงิมรักษา . “กระบวนการขดั เกลาทางสังคมและพัฒนาบคุ ลากรของวัดพระธรรมกาย”.
วิทยานิพนธ์ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลยั : จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย,
๒๕๔๖.
๒. หนงั สอื ภาษาองั กฤษ
(I) Book :
Ann Heirmann. The Discipline in four Parts Rules for Nuns according to the Dharmagupta-
kavinaya. India : Jainendra Prakash Jain at Shri Jainendra Press, 2002.
Arnold Kotler. Engaged Buddhist Reader. California : Parallax Press, 1996.
Acariya Boowa Nanasampanno. Venerable Acariya Mun Bhuridatta Thera.
Taiwan : The Corparate Body of the Buddha Education Foundation, ๒๐๐๔.
Buddha Priya Mahathera,Dr. Dr.Bongkot Sitthipol : Life dedicated to World Peace.
Kolkata, India : Priyanka Printers, ๒๐๐๕.
B.J.Terwiel. Monks and Magic An Analysis of Religious Ceremonies in Central Thailand.
Bangkok White Lotus, 1994
Christopher S. Queen. Editor. Engaged Buddhism in West. Boston : Wisdom
Publications, 1999.
Chales Wei-hsun Fu,Sandra. A. Wawrytko. Buddhist Behavioral Codes and the Modern
World : An Interantional Symposium. London : Greenwood Press, 1994.
Charles S. Prebish and Damien Keown, Introducing Buddhism . London and New York:
Rutledge Curzon, 2006.
๒๑๑
Ellison Banks Findly, Editor. Women’s Buddhism : Buddhism’s Women.
Tradition,Revision,Renewal. Wisdom Publications , Boston, 2000.
Hirakawa Akira. A History of Indian Buddhism : from Sakyamuni to Early Mahayana.
India :Jainendra Prakash Jain at Shri Jainendra Press, 1993.
Juliana Essen .Right Development” : The Santi Asoke Buddhist Reform Movement of
Thailand. New York : Lexington Books, 2005.
J. M. Cadet. Monks, mountains and magic:explorations of Thailand. Chiang Mai : Browne,
1990.
Kathryn R. Blackstone. Women in Footsteps of the Buddha Struggle for Liberation in The
Therigatha.Britain : Curzon Press, 2000.
Marja-Leena Heikkilä-Horn.Buddhism with Open Eyes : Belief and Practice of Santi Askok.
Bangkok : Fah Apai Co.Ltd., 1977.
Phassarapha Phaisarnariyasap. A Study of Most Venerable Mun Bhūridatta Thera’s
Method of Citta Bhāvanā “Buddho” Practice .Master of Arts ( Master of Arts
(Budd ) Mahachulalongkornvidayalay Buddhist University, 2006.
Peter A. Jackson. Buddhist, Legistamation and Conflict, The Political Functoin of Urban
Thai Buddhist. Singapore. 1989.
Revision Renewal. Women’s Buddhism Buddhism’s Women. Boston : Wisdom
Publications.2000.
Rory Mackenzie . New Buddhist Movements in Thailand : Towards an understanding of
Wat Phra Dhammakaya and Santi Asok. London and New York : Routledge
Taylor&Francis Group, 2007.
Sunai Setbunsang . Political Ideology in Buddhism : A Case Study of Santi Asoke's
Paradigm.Thesis (M.A.). Thammasat University, 1990.
Terwiel,Berend Jan. Monks and magic : an analysis of religious ceremonies in central
Thailand. London : Curzon, (c.1979)
(II)Thesis :
๒๑๒
Apinya Feungfusakul. “Buddhist Reform Movements in Contempory Thai Urban Context :
Thammmakai and Santi Asok”. Dissertation of Doctoral Degree. Philosoply :
University of Bielefeld, 1993.
Roderick Mackenzie. “An Analysis of the Wat Phra Dhammakaya and Santi Asoke Movements
and their Approaches to Spiritual Development”. Dissertation of Doctoral Degree.
Philosoply : University of , 2005.
(III) Articles
Donald Rothberg, "Responding to the Cries of the World: Socially Engaged Buddhism in North
America" in The Faces of Buddhism in America, Edited by Charles S. Prebish
andKenneth K. Tanaka .Berkeley and Los Angeles, California: University of
California Press, 1998.
Jim L.Taylor. The New Buddhist Movment in Thailand : An Individualistic Revolution,
Reform and Politic Dissonnance, Journal of Southeast Asian Studies March 1990.
Phra Maha Somboon Vutthikaro. “The Concept of Socially Engaged Buddhism in Thailand”,
in Global Recovery The Buddist Perspective. The 7 Th International Buddhist
Conference, 23-25 May 2553/2010 Thailand (Bangkok : Thairaiwanprinting,2010)
Phra Maha Somphong Santacitto. New Buddhist Movement in Thailand : Mainstream
Socially Engage Buddhism ? in Global Recovery The Buddist Perspective.
The 7 Th International Buddhist Conference, 23-25 May 2553/2010, Thailand
๓. สอื่ ออนไลน์
http://www.thaibhikkhunis.org/a๐๑/a๐๗_๔.htm (วัตรทรงธรรมกัลยาณี)
http://www.apsw-thailand.org/nun_th.htm (สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี)
http://www.aidstemple.th.org/Historytemple.html ( วดั พระพุทธบาทน้าพุ จ.ลพบุรี)
http://www.buddhadasa.org/html/word/poem/handwriting_๒๕.html (พทุ ธทาสศึกษา)
http://www.aidstemple.th.org/Alongkot'sbrography.html (ประวัติพระอาจารยอ์ ลงกต)
http://www.komchadluek.net/column/pra/๒๐๐๔/๐๗/๑๔/๐๑.php (นสพ.คม ชดั ลกึ )
http://www.dhammathai.org/watthai/northeast/watnongpahpong.php (วดั หนองปา่ พง จ.อุบลราชธานี)
๒๖๔
ชื่อ สกลุ ประวตั ผิ วู้ จิ ยั
ประวตั กิ ารศกึ ษา
พระระพิน พทุ ธฺ สิ าโร (ด้วงลอย/พลอยบุตร)
ที่อยปู่ จั จบุ ัน
Certificate of Khmer Language, University of Phnom Penh, Cambodia
พุทธศาสตรบณั ฑติ (ครุศาสตร์) มหาจุฬาลงกรณาราชวิทยาลัย
ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ (ประวตั ิศาสตร์) มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
วดั บงึ ทองหลาง แขวงคลองจ่ัน เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร
๒๖๕
มุมคดิ จงอยา่ ฝนื ทาในสิ่งทีไ่ มช่ อบ เพราะนอกจากมันทาใหช้ ีวิตของท่านไมม่ ี
ความสขุ แล้ว ยังเป็นการนาความทกุ ขม์ าสู่ตนเองอย่างยิ่ง