140 ชุดการสังคายนาภมู ปิ ัญญาการนวดไทย: ๒
ตารางท่ี ๔ กลมุ่ โรค อาการ และความหมายของโรคจากสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ัดตน (ตอ่ )
ล�ำดบั โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษีดัดตน
ท่ี ท่าที่
๔๙. กล่อนปตั คาด ดูใน กล่อนปัตคาด กระษัยเถาเกิดข้ึนเพื่อลม ๓๑, ๔๒
ทำ� ให้มนึ ท้ายทอย สันฑฆาตและลมปัตคาดมนั แล่นเข้าในลำ� เส้นนัน้ ให้
(ตำ� แหนง่ ท่ีเส้น เส้นพองแข็ง ระหว่างหัวหนา่ วมาประจบเกลยี วข้าง
ปัตคาดผ่าน) ถา้ ชายขนึ้ ขวาหญงิ ขนึ้ ซา้ ย เสยี ดมาตามชายโครงถงึ
ยอดอก อาการใหป้ วดขบในอก เสยี วตลอดถงึ ลำ� คอ
เมอ่ื อาเจยี นออก อาการคอ่ ยเบาขนึ้ นำ้� ปสั สาวะแดง
หรือเหลืองเล็กน้อย ถ้าเป็นตะกอนดังปูน น่ันคือ
กระษัยเถา (Urinary stone) (๒/น. ๑๐)
๕๐. ลมอมั พฤกษ์ ลมทีท่ ำ� ให้เกิดอาการเคล่ือนไหวไม่ได้ โดยกระดูกไม่ ๓๒
เคล่ือน (๒/น. ๒๐๖)
๕๑. ลมส้นเทา้ ลมทีท่ �ำให้เจ็บส้นเทา้ (๒/น. ๑๙๙) ๓๓
๕๒. บาทาทึก เส้นท่มี ีทางเดนิ เร่มิ จากสน้ เทา้ ไปตามโค้งฝา่ เทา้ ถงึ ๓๓
ด้านในหัวแม่เท้าและโรคลมชนิดหนึ่งผู้ป่วยมักมี
อาการท้องร่วง อาเจยี น มอื เขยี วเท้าเขียว อาจชกั
สลบ ดังคัมภีร์ชวดาร (๖/น. ๔๓๖) ตอนหน่ึงว่า
“...ขนานหน่ึงชื่อประสรรณี แก้ลมบาทาทึก อันให้
สลบทั้งลงทั้งอาเจียนมิรู้ว่าสันนิบาตสองคลอง ให้
มอื เขียว ให้เท้าเขยี ว ใหช้ กั มิรวู้ ่าป่วงใหล้ งกำ� หนด
๓ วัน...”, บาทาทึบ ก็เรียก เขียนว่า บาทาธึก ก็มี
(๑/น. ๒๔๕)
๕๓. ยอกเอว อาการโรคท่ีรู้สึกเจ็บอย่างมีอะไรท่ิมหรือต�ำ ๓๔
เสน้ สะดุ้ง กลา้ มเน้อื ในรา่ งกายที่บรเิ วณเอว (๕)
๕๔. ลมในขา ลมในขาทำ� ให้เดนิ ไมส่ ะดวก ท�ำให้เม่อื ย ขัดขา (๕) ๓๕, ๖๙
ค�ำ อธบิ ายสมุดภาพโคลงฤๅษีดดั ตน 141
ตารางท่ี ๔ กลมุ่ โรค อาการ และความหมายของโรคจากสมุดภาพโคลงฤๅษีดัดตน (ตอ่ )
ลำ� ดับ โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษีดดั ตน
ท่ี ท่าที่
๕๕. เวยี นศรี ษะ ดูใน เวียน ๑ ก. รสู้ กึ มนึ หัว ตาลาย ใจหวิว มอง ๑๕, ๓๖
เห็นอะไรหมุนไปหมดโดยปริยายหมายถึงอาการท่ี
ทำ� ใหร้ สู้ ึกงง สับสน วนุ่ วาย รำ� คาญ (๔/น. ๑,๑๓๑)
๕๖. จติ ใจเผลอ ดูใน เผลอ ก. อาการหลงลืมไปชั่วขณะ เช่น ๓๖
(จิตระส�่ำระสาย เผลอตวั เผลอสติ เลนิ เลอ่ ไมร่ ะวงั ตวั (๔/น. ๗๘๘)
หวั ใจเต้นผดิ ปกติ
๕๗. ล้นิ กระดา้ ง ก. อาการล้ินแข็งขยับขากรรไกรไม่ได้ เกิดได้จาก ๓๗
หลายสาเหตุ เช่น อาการไขส้ ูง ลมชวิ หาสดมภ์ ลม
อมั พฤกษ์ อมั พาต ลมทักขณิ โรธ (๑/น. ๔๑๒)
๕๘. กล่อนในทรวง อาการรอ้ นในทรวง (๒/น. ๑๐) ๓๘
๕๙. ยอกไหล่ ดใู น ยอก ก. รสู้ กึ เจบ็ แปลบคลา้ ยมอี ะไรมาเสยี ดแทง ๓๙
(๑/น. ๓๖๑)
๖๐. ยอกสะโพก ดใู น ยอก ก. รสู้ กึ เจบ็ แปลบคลา้ ยมอี ะไรมาเสยี ดแทง ๓๙
(๑/น. ๓๖๑)
๖๑. ลมจบั เทา้ เย็น ลมท�ำใหม้ ือเย็นเท้าเยน็ (๒/น. ๑๘๕) ๔๐
๖๒. ใจสวงิ สวาย ก. อาการท่ีรู้สึกใจหวิว วิงเวียน คลื่นไส้ ตาพร่า ๔๐
จะเป็นลม (๑/น. ๔๓๒)
๖๓. เหนบ็ ชา ไหล่ ขา ดูใน เหน็บ ๔ อาการชาและเจ็บแปลบปลาบตาม ๔๑
(ยอก เจ็บ เวลา แขนขา เป็นต้น เกิดจากหลอดเลือดและเส้น
ลุก นง่ั ) ประสาทหรืออย่างใดอย่างหน่ึงบริเวณน้ันถูกกดทับ
ระยะหนึง่ (๔/น. ๑,๓๔๔)
142 ชดุ การสงั คายนาภูมปิ ัญญาการนวดไทย: ๒
ตารางที่ ๔ กลุ่มโรค อาการ และความหมายของโรคจากสมุดภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน (ตอ่ )
ลำ� ดับ โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษีดัดตน
ท่ี ท่าท่ี
๖๔. กล่อนปัตคาด กระษัยเถาเกิดข้ึนเพ่ือลมสันฑฆาตและลมปัตคาด ๓๑, ๔๒
มันแล่นเข้าในล�ำเส้นน้ันให้เส้นพองแข็ง ระหว่าง
หวั หนา่ วมาประจบเกลยี วขา้ ง ถา้ ชายขน้ึ ขวาหญงิ ขนึ้
ซา้ ย เสยี ดมาตามชายโครงถงึ ยอดอก อาการใหป้ วด
ขบในอก เสียวตลอดถึงล�ำคอ เม่ืออาเจียนออก
อาการค่อยเบาขึ้น น้�ำปัสสาวะแดงหรือเหลือง
เล็กน้อย ถ้าเป็นตะกอนดังปูน น่ันคือ กระษัยเถา
(Urinary stone) (๒/น. ๑๐)
๖๕. กลอ่ นแหง้ กลอ่ นแห้ง มี ๔ ชนิด คือ (๒/น. ๑๑) ๔๒, ๖๒
๑. กล่อนแห้งอันบังเกิดเพื่อเส้นมุตฆาตท�ำให้ขัด
ปัสสาวะ บางทีให้ปวดถ่วง ปัสสาวะบ่อย และ
ให้หยดย้อย ให้เม่ือยบ้ันเอวและต้นขาทั้ง ๒
เปน็ ก�ำลัง
๒. กลอ่ นแหง้ อนั บงั เกดิ เพอื่ สนั ฑฆาต ทำ� ใหท้ อ้ งแขง็
เป็นเถาเป็นดาน มกั ให้จุกให้แน่น บรโิ ภคอาหาร
มิได้ อิ่มไปดว้ ยลม ถ่วงฝักคนั เป็นก�ำลัง ตอ่ เกา
จนน�ำ้ เหลืองตกจึงคลาย
๓. กลอ่ นแหง้ อนั บงั เกดิ เพอ่ื ปตั คาด ทำ� ใหเ้ มอื่ ยและ
เหน็บชาเป็นก�ำลัง ตึงไปทั้งตัวให้ถ่วงฝักและ
ตน้ ขา หนงั อณั ฑะนนั้ หนา ชาไปทวั่ สรรพางคม์ ไิ ด้
ร้สู ึกตน
๔. กล่อนแห้งอันบังเกิดเพื่อรัตตฆาต ท�ำให้เสียดสี
ขา้ งและชายโครง ใหข้ บยอก ใหเ้ มอ่ื ยตงึ ใหเ้ สยี ว
ไปท้ังกาย ให้ปวดถ่วง ให้ฝักฟกในองค์ก�ำเนิด
ให้ปสั สาวะมไิ ด้โชน (พุ่ง)
คำ�อธิบายสมุดภาพโคลงฤๅษีดัดตน 143
ตารางท่ี ๔ กลุ่มโรค อาการ และความหมายของโรคจากสมุดภาพโคลงฤๅษีดัดตน (ต่อ)
ล�ำดบั โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษดี ดั ตน
ที่ ท่าที่
๖๖. คอเคลด็ ดูใน เคล็ด ๒ ก. อาการทีก่ ลา้ มเนื้อแพลง ๔๓
(๔/น. ๒๗๓)
๖๗. ไหลข่ ดั น. อาการรู้สึกเจ็บแปลบคล้ายมีอะไรมาเสียดแทง ๔๓
บรเิ วณสว่ นของบา่ ตอนท่ีติดกบั ต้นแขน (๑/น. ๖๕)
๖๘. ปวดคอ ไหล่ - อาการปวดคออยา่ งตอ่ เนอ่ื งเปน็ ระยะเวลานาน (๕) ๔๔
เรือ้ รงั - อาการปวดไหลอ่ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งเปน็ ระยะเวลานาน (๕)
๖๙. ลมอณั ฑวาต ลมท่ที ำ� ให้ถงุ อณั ฑะบวมโต (๒/น. ๒๐๕) ๔๕, ๕๔
(ต�ำรายาวัดโพธ์)ิ
ลมท่ที �ำใหเ้ กิดอาการเสียดชายโครง (๕) ๔๖
๗๐. ลมเสียดข้าง
เสยี ดบริเวณ ดูใน วงิ ก. รสู้ ึกเวียนหวั ดอู ะไรหมุนไปหมด มกั มี ๔๗
ชายโครง อาการคลนื่ ไสด้ ว้ ย (๔/น. ๑,๑๑๖)
(เสยี วสลกั โครง)
๗๑. วิงเวยี น
๗๒. ลมมหาบาทยักษ์ - ลมมหาบาทยักษ์อาจเป็นช่ือเดียวกันกับช่ือลม ๔๘
บาทยักษ์ (๕)
- ชือ่ โรคลมชนดิ หนึ่ง อาการเหมือนลมกุมภัณฑเ์ กดิ
ขึ้นขณะท่ีเด็กเป็นโรคซางโจรอยู่แล้ว มีอาการตัว
รอ้ นจดั ชกั ตาชอ้ นขนึ้ เบอ้ื งบน ใบหนา้ เขยี ว มอื กำ�
เทา้ กำ� หลงั แอน่ หรอื เกดิ จากพษิ บาดแผลทอ่ี กั เสบ
ท�ำใหเ้ กดิ อาการลมบาดทะยักข้ึน (๓/น. ๘๕๔)
๗๓. แขนขัด อาการแขนตงึ ตดิ ขดั เคลอ่ื นไหวไม่ปกติ (๕) ๔๙, ๗๘
144 ชดุ การสงั คายนาภมู ิปัญญาการนวดไทย: ๒
ตารางท่ี ๔ กลุม่ โรค อาการ และความหมายของโรคจากสมุดภาพโคลงฤๅษีดดั ตน (ตอ่ )
ล�ำดบั โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษดี ดั ตน
ท่ี ท่าที่
๗๔. ลมปัตคาด (ท�ำให้ โรคลมชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยมักมีอาการปวดเม่ือยตาม ๕๐
ลมข้นึ ในเอว) แนวเสน้ ปตั คาด เคลอ่ื นไหวไมส่ ะดวก ดงั คมั ภรี แ์ ผน
นวด (๗/น. ๙๖) ตอนหน่ึงวา่ “...ชือ่ วา่ ลมปัตฆาฏก็
ว่าผนู้ ้นั มักนงั่ นกั ลกุ นั่งมไิ ด้กด็ ี ใหแ้ ก้เส้นเอนท้งั ๒
แลแก้เส้นแถวหลังทั้ง ๒ แลแก้เส้นบ้ันเอวท้ัง ๒
ขา้ ง ชือ่ ว่าลมแถกกลออมนนั้ ใหแ้ ก้หวั เหนา่ แลทอ้ ง
แลรอบสดอื แลบนั้ เอวแลสนั หลงั นนั้ คลายแล...”, ลม
ปตั ฆาต กเ็ รยี ก, เขยี นวา่ ปตั คาด ปฏั ฆาต ปตั ะฆาฎ
หรอื ปัตฆาฏ ก็มี (๑/น. ๒๗๖)
๗๕. ลมในเทา้ เจบ็ เท้า ลมท่ีท�ำใหม้ ีอาการเจ็บปวดทีเ่ ท้า (๕) ๕๑
๗๖. ลมในคอ (รู้สกึ ลมทเ่ี กดิ จากศอเสมหะผดิ ปรกติ (๒/น. ๑๙๑) ๕๒
เจ็บแปลบ) ท�ำให้
เสยี ดเสน้ เสยี วคอ
๗๗. ลมขา ขาเมือ่ ย ลมทที่ �ำใหป้ วดเมอื่ ยขา (๕) ๕๓
เจบ็ เทา้ เพราะ
ลมร้าย
๗๘. ลมล�ำลึงค์ ลมทที่ ำ� ใหป้ ัสสาวะขัด (๒/น. ๑๙๘) ๒๙, ๕๔
๗๙. ลมอัณฑะ ลมทท่ี ำ� ให้ถุงอณั ฑะบวมโต (๒/น. ๒๐๕) ๔๕, ๕๔
๘๐. ลมขอ้ มอื ลมทท่ี ำ� ให้ตงึ ปวดฝ่ามอื ขน้ึ มาถงึ แขน (๕) ๕๕
ลมเสียดในมอื
๘๑. ลมอก ลมเสยี ด ดูใน ลมอันเกิดในทรวงอก ลมที่ท�ำให้แน่นหน้าอก ๕๖
ทรวงอก (๒/น. ๒๐๕)
๘๒. ลม เสน้ มหาสนกุ ๑. ลมทที่ ำ� ให้ขากรรไกรแข็ง ๕๗
๒. แรกจับให้หาวนอน ง่วงเป็นก�ำลัง ให้หวาดหว่ัน
อย่แู ต่ในใจ นอนนิ่งแน่ไมร่ ู้สึกกาย (๒/น. ๑๙๖)
คำ�อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน 145
ตารางที่ ๔ กลุ่มโรค อาการ และความหมายของโรคจากสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ัดตน (ตอ่ )
ลำ� ดบั โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษีดดั ตน
ที่ ทา่ ที่
๘๓. เทา้ ขัด - ดูใน เคล็ด ๒ ก. อาการท่ีกล้ามเนื้อแพลง เช่น ๕๘
แพลง เคล็ด ขาเคล็ด คอเคล็ด (๔/น. ๒๗๓)
- ดูใน แพลง ก. บิดไป, พลกิ ตะแคง (๔/น. ๘๕๐)
๘๔. เสน้ ทวั่ สารพางค์ เสน้ ต่าง ๆ ทีอ่ ยู่ทัว่ ทั้งร่างกาย (๕) ๕๙
๘๕. ไหล่ ตะโพก อาการท่ีไหล่ สะโพก เข่า แข้ง กล้ามเน้ือบริเวณ ๖๐
เกลียวขา้ ง เข่า สีข้าง ตึง ตดิ ขัด เคลื่อนไหวไมป่ กติ (๕)
แขง้ ขัด
ลมทำ� ใหเ้ สียดเสน้ ท่เี อว ท�ำใหเ้ อวขด (๕) ๒, ๖๑
๘๖. ลมเอว
- กลอ่ นแห้ง มี ๔ ชนิด คือ ๖๒, ๖๗,
๘๗. กลอ่ น
กลอ่ นแห้ง ๑. กล่อนแห้งอันบังเกิดเพ่ือเส้นมุตฆาต ท�ำให้ขัด ๗๐
กล่อนนำ้�
กล่อนเสน้ ปัสสาวะ บางทีใหป้ วดถ่วง ปัสสาวะบอ่ ย และ
กลอ่ นกระษัย
ให้หยดย้อย ให้เมื่อยบั้นเอวและต้นขาท้ัง ๒
เปน็ ก�ำลัง
๒. กล่อนแห้งอันบังเกิดเพื่อสันฑฆาต ท�ำให้ท้อง
แขง็ เป็นเถาเป็นดาน มักให้จกุ ใหแ้ นน่ บรโิ ภค
อาหารมิได้ อ่ิมไปด้วยลม ถ่วงฝกั คนั เปน็ กำ� ลงั
ตอ่ เกาจนน้�ำเหลืองตกจงึ คลาย
๓. กล่อนแห้งอันบังเกิดเพื่อปัตคาด ท�ำให้เม่ือย
และเหน็บชาเป็นก�ำลัง ตึงไปท้ังตัว ให้ถ่วงฝัก
และต้นขา หนังอัณฑะนั้นหนา ชาไปท่ัว
สรรพางค์มิได้รู้สึกตน
๔. กลอ่ นแหง้ อนั บงั เกดิ เพอื่ รตั ตฆาต ทำ� ใหเ้ สยี ดสี
ข้างและชายโครง ให้ขบยอก ให้เมื่อยตึง ให้
เสียวไปท้ังกาย ให้ปวดถ่วง ให้ฝักฟกในองค์
ก�ำเนิดให้ปัสสาวะมิได้โชน (พุ่ง) ดังกล่าวมาน้ี
(๒/น. ๑๑)
146 ชดุ การสังคายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ตารางท่ี ๔ กลุ่มโรค อาการ และความหมายของโรคจากสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดดั ตน (ตอ่ )
ลำ� ดับ โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษีดดั ตน
ท่ี ทา่ ท่ี
- กล่อนน�้ำ ตามศิลาจารึกวัดโพธ์ิกล่าวลักษณะ ๖๒, ๖๗,
กลอ่ นนำ�้ วา่ บงั เกดิ เพอ่ื ทรุ าวสา มี ๔ ประการ คอื ๗๐
๑. กล่อนน้�ำอันเกิดเพ่ือปัสสาวะขาว กระท�ำให้
ปสั สาวะมไิ ด้โชน (พงุ่ ) และปสั สาวะนน้ั ใส หาก
ลิ่นมิได้ บางทีเป็นเส้นด้าย บางทีเป็นใยบัว
บางทีเป็นประเมหะหยดย้อยออกมาเหม็นคาว
บางทีเป็นเม็ดพรึงข้ึนที่ปลาย ปัสสาวะให้แสบ
ให้ร้อน ให้เสียวไปตามข้ัวอัณฑะ ให้ถ่วงเป็น
กำ� ลงั
๒. กล่อนน้�ำอันบังเกิดเพ่ือปัสสาวะด�ำ กระท�ำให้
ปสั สาวะนน้ั หยดยอ้ ยมริ ตู้ นหาเพลามไิ ด้ ใหป้ วด
ถว่ งล�ำปัสสาวะนั้น ปัสสาวะมสี ีดจุ น้ำ� มนั ดินข้น
บรุ ษุ และสตรกี ด็ จุ กนั ใหแ้ สบในทางปสั สาวะโรค
๓. กล่อนน�ำ้ อันบงั เกิดเพือ่ ปัสสาวะแดง กระทำ� ให้
ปสั สาวะนนั้ บางทแี ดงดจุ นำ้� ดอกคำ� บางทแี ดง
ดุจน�้ำฝาง น้�ำครั่ง ให้ปวดถ่วง แล้วให้น�้ำ
ปัสสาวะนั้นเป็นมัน ให้แสบ ให้ร้อนในล�ำ
ปสั สาวะ กระทำ� ใหด้ บั เป็นเพลา
๔. กล่อนนำ�้ องั บังเกิดเพอ่ื ปสั สาวะเหลือง
(๒/น. ๑๐)
- กล่อนเสน้ เส้นแข็ง เส้นตึง ท้องตงึ เจ็บเอน็ ท้อง
กินอาหารไม่ได้ (๒/น. ๑๐-๑๑)
- กล่อนกระษัย ดูใน กษยั กล่อน น. โรคกษยั กล่มุ
หนงึ่ เกิดจากความผิดปรกติของธาตุทง้ั ๔ ตำ� รา
การแพทย์แผนไทยแบ่งออกเป็น ๕ ชนิด คือ
กษยั กล่อนดิน กษัยกลอ่ นนำ�้ กษยั กลอ่ นลม กษัย
กล่อนไฟ และกษัยเถา (๑/น. ๑๓)
ค�ำ อธิบายสมุดภาพโคลงฤๅษีดัดตน 147
ตารางที่ ๔ กล่มุ โรค อาการ และความหมายของโรคจากสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดดั ตน (ตอ่ )
ล�ำดบั โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษดี ดั ตน
ที่ ท่าที่
๘๘. ลมมอื เทา้ ลมทท่ี ำ� ใหม้ ือและเท้าปวดเมื่อย (๕) ๖๓
๘๙. สลกั ไหล่ หวั ดุมไหล่ (๒/น. ๒๒๘) ๑๐, ๖๔
๙๐. ลมรดิ สดี วง ลมทีท่ �ำให้เกดิ กอ้ นในทอ้ ง (๒/น. ๑๙๗) ๖๕
๙๑. แนน่ หน้าอก - Abdominal discomfort. (๒/น. ๑๐๗) ๑๔, ๖๖
- ว. มอี าการ มอี าการจกุ เสยี ดบรเิ วณทรวงอกทำ� ให้
หายใจไมส่ ะดวก (๔/น. ๖๔๔)
๙๒. กล่อน ดใู น กษยั กลอ่ น น. โรคกษยั กลมุ่ หนง่ึ เกดิ จากความ ๖๒, ๖๗,
ผดิ ปรกตขิ องธาตทุ ง้ั ๔ ตำ� ราการแพทยแ์ ผนไทยแบง่ ๗๐
ออกเป็น ๕ ชนดิ คอื กษัยกลอ่ นดนิ กษยั กล่อนนำ้�
กษยั กลอ่ นลม กษยั กลอ่ นไฟ และกษยั เถา (๑/น. ๑๓)
๙๓. ลมจกุ เสียด ลมทที่ ำ� ใหแ้ น่นจกุ เสยี ด (๒/น. ๑๘๖) ๖๘, ๗๖
๙๔. ขาตงึ เม่ือย อาการเพลยี ของกลา้ มเนอ้ื ขา เกดิ จากลมในขา ทำ� ให้ ๓๕, ๖๙
เพราะลมเป็นเหตุ เดิน เคลอื่ นไหวไม่สะดวก (๕)
๙๕. กระษัยกล่อน - ดูใน กษัยกล่อน น. โรคกษัยกลุ่มหน่ึงเกิดจาก ๗๐, ๑๔
ท�ำให้แนน่ ทอ้ ง ความผิดปรกติของธาตุทั้ง ๔ ต�ำราการแพทย์
แผนไทยแบง่ ออกเปน็ ๕ ชนดิ คือ กษยั กล่อนดิน
กษัยกล่อนน้ำ� กษยั กล่อนลม กษยั กลอ่ นไฟ และ
กษยั เถา (๑/น. ๑๓)
- แน่นท้อง Stomach discomfort (๒/น. ๑๐๗)
๙๖. ปวดทอ้ งน้อย อาการปวดบีบทท่ี อ้ งน้อยเป็นระยะ ๆ (๒/น. ๑๑๙) ๗๑
๙๗. เสน้ สะบกั จม ดูใน สะบักจม น. อาการปวดตึงบริเวณสะบัก บา่ ๗๑
และไหลข่ า้ งขวา มกั จะเกดิ เรอ้ื รงั อาจเนอ่ื งจากการ
ใช้งานที่แขนมาก และเป็นเวลานาน ทำ� ให้เลือดลม
ตามแนวเส้นปงิ คลาเดินไม่สะดวก (๑/น. ๔๓๖)
148 ชดุ การสงั คายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๒
ตารางที่ ๔ กล่มุ โรค อาการ และความหมายของโรคจากสมุดภาพโคลงฤๅษีดดั ตน (ตอ่ )
ล�ำดับ โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษีดดั ตน
ท่ี ท่าท่ี
๙๘. ลมในอก ดูใน ลมอันเกิดในทรวงอก ลมท่ีท�ำให้แน่นหน้าอก ๗๒, ๗๗
แนน่ ในอก (๒/น. ๒๐๕)
๙๙. ขัดตะโพกต้นขา อาการที่สะโพกต้นขาตึง ติดขัด เคลื่อนไหวไม่ปกติ ๗๓
(๕)
๑๐๐. เหนบ็ เยน็ เท้า ดใู น เหนบ็ ๔ น. อาการชาและเจบ็ แปลบปลาบตาม ๗๔
แขนขา เปน็ ตน้ เกดิ จากหลอดเลอื ดและเสน้ ประสาท
หรอื อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ บรเิ วณนนั้ ถกู กดทบั ระยะหนง่ึ
(๔/น. ๑,๓๔๔)
๑๐๑. ปัตคาด น. โรคลมชนดิ หนง่ึ ผปู้ ว่ ยมกั มอี าการปวดเมอื่ ยตาม ๗๕
แนวเส้นปัตคาด เคลื่อนไหวไม่สะดวก ดังคัมภีร์
แผนนวด (๗/น. ๙๖) ตอนหน่ึงว่า “...ช่ือว่าลมปัต
ฆาตก็วา่ ผ้นู ้นั มกั น่ังนัก ลกุ นั่งมิไดก้ ด็ ี ใหแ้ ก้เสน้ เอน
ท้ัง ๒ แลแก้เส้นแถวหลังท้ัง ๒ แลแก้เส้นบั้นเอว
ทง้ั ๒ ขา้ ง ชื่อว่าลมแถกกลออมนัน้ ใหแ้ กห้ ัวเหน่า
แลท้องแลรอบสดือ แลบั้นเอวแลสันหลังนั้นคลาย
แล...”, ลมปตั ฆาต กเ็ รยี ก, เขยี นวา่ ปตั คาด ปฎั ฆาต
ปัตะฆาฏ หรอื ปัตฆาฏ กม็ ี (๑/น. ๒๗๖)
๑๐๒. ตะคริว น. อาการหดเกร็งตัวของกล้ามเน้ือ และค้างอยู่ ๑๙, ๗๕
ท�ำให้กล้ามเนื้อขาดเลือด เกิดอาการเจ็บปวด
๑๐๓. ลมจุกเสียด (๑/น. ๑๙๓)
๑๐๔. ลมในไหล่
๑๐๕. ลมในท้อง ลมท่ที ำ� ใหแ้ น่นจกุ เสยี ด (๒/น. ๑๘๖) ๖๘, ๗๖
๑๐๖. ลมในอก (อุระ)
ลมทขี่ ัดในไหล่ (๕) ๗๗
ลมในและนอกลำ� ไส้ (๒/น. ๑๙๑) ๗๗
ดูใน ลมอันเกิดในทรวงอก ที่ท�ำให้แน่นหน้าอก ๗๒, ๗๗
(๒/น. ๒๐๕)
คำ�อธิบายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดดั ตน 149
ตารางที่ ๔ กลมุ่ โรค อาการ และความหมายของโรคจากสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ัดตน (ตอ่ )
ลำ� ดบั โรค/อาการ ความหมายของโรค ฤๅษดี ัดตน
ที่ ท่าที่
๑๐๗. ขดั แขน ยอกแขน - อาการที่แขนตึง ติดขดั เคลื่อนไหวไม่ปกติ (๕) ๗๘, ๔๙
- Arm discomfort. (๒/น. ๒๔)
๑๐๘. ขดั แขง้ ขดั ขา - อาการท่ีแขง้ ขาตงึ ติดขดั เคลอ่ื นไหวไม่ปกติ (๕) ๗๙, ๑๖
- Leg discomfort. (๒/น. ๒๔)
๑๐๙. สลกั ทรวง แนน่ ขัดในทรวงอก (๕) ๘๐
150 ชุดการสงั คายนาภมู ปิ ัญญาการนวดไทย: ๒
๑.๒ สรปุ การศึกษาวิเคราะห์โรคและอาการจากสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน
จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ วิ เ ค ร า ะ ห ์ โ ร ค แ ล ะ อ า ก า ร จ า ก โ ค ล ง ภ า พ ฤ ๅ ษี ดั ด ต น ข อ ง
คณะท�ำงานฯ พบว่า ท่าฤๅษีดัดตนท่ีมีท้ังหมด ๘๐ ท่า ซ่ึงปรากฏอยู่ในสมุดโคลงภาพ
ฤๅษีดัดตนนั้น สามารถจ�ำแนกการรักษาโรคและอาการได้ทั้งหมด ๑๐๙ ชนิด เหตุที่มี
จ�ำนวนโรคและอาการมากกว่าจ�ำนวนท่าดัดตนของฤๅษี เนื่องจากว่าท่าฤๅษีดัดตนบางท่า
น้นั สามารถแก้โรคและอาการไดม้ ากกวา่ ๑ ชนดิ อาทิ ทา่ ท่ี ๒๒ แก้โรคลมได้ ๔ ชนิด
ได้แก่ ลมจันทฆาฏ ลมเข่า ลมขา ลมหน้าอก เป็นต้น และหากอ่านโคลงส่ีสุภาพใน
บางท่า กจ็ ะพบว่ามีโรคและอาการอ่ืน ๆ ที่ถกู กลา่ วถึงอยู่ในโคลงด้วย แมว้ ่าจะไมป่ รากฏ
ในช่อื โคลงภาพฤๅษดี ัดตนกต็ าม อาทิ ท่าที่ ๑๖ ชอ่ื แก้เข่า แกข้ า แต่ในโคลงสีส่ ภุ าพก็ได้
กล่าวถงึ การรักษาอาการไหลข่ ดั ไวอ้ ีกด้วย
ท้ังน้ีเพื่อให้มีความชัดเจนและความเข้าใจมากยิ่งขึ้น คณะท�ำงานฯ จึงได้ท�ำการ
สรปุ การวเิ คราะห์โรคและอาการจากโคลงภาพฤๅษดี ัดตน ท้ัง ๑๐๙ ชนิด๑๔ โดยแบง่ ออก
เปน็ ๔ ประเภท ดังตอ่ ไปนี้
๑. กลุม่ ทา่ ฤๅษีดดั ตนทีแ่ กอ้ าการผิดปกตขิ องอวัยวะและส่วนตา่ ง ๆ ในร่างกาย
มที ัง้ หมด ๕๐ ชนิด โดยแบ่งเป็น ๓ กลมุ่ อาการยอ่ ย ได้แก่
๑.๑ แกอ้ าการผดิ ปกตขิ องร่างกายสว่ นศีรษะ ใบหนา้ และคอ มที ้งั หมด ๘
ชนดิ อาทิ เสมหะในล�ำคอ ขดั คอ ไออกแหง้ เวียนศีรษะ ลนิ้ กระด้าง คอเคล็ด ปวด
คอไหลเ่ รอ้ื รัง และวิงเวยี น
๑.๒ แกอ้ าการผดิ ปกตขิ องรา่ งกาย ลำ� ตวั มที ง้ั หมด ๒๓ ชนดิ อาทิ เอวขด
ลมในอกในเอว ขัดเอว ปวดท้อง สะบักหน้าจม ปวดขดั สลกั ไหล่ แนน่ หน้าอก แน่นทอ้ ง
(นาภี) ขดั ไหล่ เสยี ดอก สะโพกสลกั เพชร เปน็ ต้น
๑๔ จ�ำนวนโรคและอาการจากสมุดโคลงภาพฤๅษีดัดตนถ้านับเรียงตามล�ำดบั ต้ังแต่ท่าท่ี ๑-๘๐ จะมที ั้งหมด ๑๐๙ ชนิด
แต่หากนับจากผลรวมของการจ�ำแนกโรคและอาการ ทั้ง ๔ ประเภท จะได้ทั้งหมด ๑๑๑ ชนิด ท้ังนี้เน่ืองจากมี
อาการ ๒ ชนดิ คอื ปวดคอไหล่เรือ้ รงั และเหนบ็ ชาไหล่ ขา ทถี่ กู นบั รวมซ้�ำ เพราะแก้อาการในร่างกายไดม้ ากกวา่
หนง่ึ สว่ น
คำ�อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน 151
๑.๓ แกอ้ าการผิดปกติของแขนและขา มีท้งั หมด ๑๙ ชนิด อาทิ แกเ้ กียจ
กาย (บิดแขน) ตึงเมือ่ ย ขา เข่า เข่าคู้ เดินโขยกเขยก ขดั ขอ้ เทา้ ขัดขา ขดั เขา่ ตะครวิ
แขน ตะคริวขา เหน็บชามือเท้า เป็นตน้
๒. กลุม่ ทา่ ฤๅษดี ัดตนทแี่ กอ้ าการผิดปกตขิ องลม โรคลมตา่ ง ๆ และเส้นต่าง ๆ
มีทัง้ หมด ๕๑ ชนดิ โดยแบ่งเปน็ ๒ กลุ่ม ไดแ้ ก่
๒.๑ แก้อาการผิดปกติของลมและโรคลมต่าง ๆ มีทั้งหมด ๔๗ ชนิด อาทิ
ลมปวดศรี ษะ ลมขังส้นเทา้ ลมในแขน ลมท่ัวสารพางค์ ลมเขา่ ขาตาย ลมเวียนศรี ษะ
ลมตะครวิ ลมจนั ทฆาฏ ลมขา ลมหนา้ อก เปน็ ต้น
๒.๒ แก้อาการผิดปกติของเส้น มีท้ังหมด ๔ ชนิด ได้แก่ เส้นเอ็นขด
เสน้ มหาสนุก เส้นทัว่ สารพางค์ และเสน้ สะบักจม
๓. กลุ่มท่าฤๅษีดัดตนท่ีรักษาอาการโรคกล่อนชนิดต่าง ๆ มีทั้งหมด ๗ ชนิด
ได้แก่
กล่อนปัตคาด (ท�ำให้มึนท้ายทอย) กล่อนในทรวง กล่อนแห้ง กล่อน (กล่อน
ท้งั ๔ ชนดิ กลอ่ นแหง้ กล่อนน�้ำ กล่อนเสน้ กลอ่ นกระษยั ) กล่อน (ลมกล่อน) และ
กระษยั กล่อน
๔. กลุ่มทา่ ฤๅษีดดั ตนเพอื่ รกั ษาอาการอืน่ ๆ มที งั้ หมด ๓ ชนิด
ได้แก่ จติ ใจเผลอ ใจสวิงสวาย และชว่ ยดำ� รงกายให้อายยุ นื
152 ชดุ การสงั คายนาภูมปิ ัญญาการนวดไทย: ๒
๑.๓ การสังคายนาเบอ้ื งต้นสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดัดตน
การสังคายนาเบ้ืองต้นสมุดภาพโคลงฤๅษีดัดตน ภาพต้นฉบับสมุดไทยด�ำ จาก
สมดุ ภาพโคลงฤๅษีดัดตน กรมศิลปากร ๒๕๕๐ มรี ายละเอยี ดดงั นี้
ภาพ ชื่อภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษีดดั ตน แผนดดั /วธิ กี ารดดั ตน
(ชื่อฤๅษ)ี โคลงภาพ การสังคายนา
“เหยียดยดื หัตถ์ ทา่ นงั่ ขดั สมาธิ ลำ� ตัวยดื
๑ แกเ้ กียจ สงั กะสีดบี กุ เขา้ รคนเจือ ดดั ได้” ตรง ประสานน้ิวมือ
(กามันตะกี) หลอ่ คณะนงุ่ หนังเสือ สถิตย์ไว้
กามนั ตะกีเขอื ขอ้ ยหนุม่ นกั นอ เหยียด ยืดแขน ดัดน้ิว
เหยียดยดื หตั ถ์ดดั ได้ แต่แกเ้ กยี จกาย มอื บดิ ตัวไปทงั้ ทางซา้ ย
และขวา
๒ แกเ้ อว ขาขดั ชฎลิ ดดั ตนนีน้ า่ นึกเอะ ใจเอย “ถวัดเท้าท่ามวย ทา่ ยนื ถวดั เทา้ ใชม้ อื หนง่ึ
(สงั ปติเหงะ) ชชี้ ่ือสงั ปตเิ หงะ หง่อมงอ้ ม เตะ” จับปลายเท้า มืออีกข้าง
ถวดั เท้าท่ามวยเตะ ตึงเมอ่ื ย หายฮา หนง่ึ กดหวั เข่าไว้
แกก้ ะเอวขดค้อม เขา่ คู้โขยกโขยง
๓ แก้ลมในอกในเอว อายนั ญาณยง่ิ ผู้ ผนวดแขก “แอ่นอกเอี้ยว ท่ายืนก้าวขาข้างหนึ่งไป
(อายันญาณ) เนาพนัศฝา่ แฝก หาบห้ิว เอวสยว้ิ แสยะ ขา้ งหนา้ งอเขา่ มอื หนง่ึ
โรคลมแล่นดุแดก วางหาบ ดดั แฮ หน้าเงยหงาย” เท้าสะเอว แอ่นอก มือ
แอ่นอกเอีย้ วเอวสย้วิ แสยะหน้าเงยหงาย
อีกข้าง ตั้งศอกยกข้ึน
๔ แกข้ ดั เอว วัจนขั เนาพนสั ห้วย หุบเหว แบมอื บดิ หนา้ เงยข้นึ ไป
(วัจนัข) นอบนบเพลงิ เปล่งเปลว คำ�่ เชา้ ด้านหลัง
อาพาธขบขัดเอว โอเ้ ทวษ ฉังเอย “เกง็ ข้อกด ท่าน่ังแยกต้นขา ไขว้ข้อ
เกง็ ขอ้ กดตะคากเข้า ศอกคูข้ มึงทึง ตะคากเขา้ เทา้ ยดื เอวและอก เกรง็
ศอกคู้ขมงึ ทึง” ข ้ อ ส ะ โ พ ก แ ล ะ หั ว
๕ แก้ลมปวดศรี ษะ พระมโนชสำ� นกั นดิ์ า้ ว ดงยงู ยางแฮ ตะคาก พร้อมกับกาง
(พระมโนช) จิตรพรน่ั หว่นั หวาดฝงู มฤครา้ ย ข ้ อ ศ อ ก ขึ้ น ร ะ ดั บ อ ก
กำ� เริบโรคขบสูง สังเวช องค์เอย พร้อมออกแรงเกร็ง
นง่ั ดดั หัตถข์ วาซา้ ย นบเกลา้ บริกำ� “นงั่ ดดั หตั ถข์ วา ทา่ นงั่ แยกตน้ ขา แลว้ ชนั
ซา้ ย นบเกลา้ เขา่ ซา้ ยขนึ้ ลำ� ตวั ยดื ตรง
บรกิ �ำ” พนมมือแล้วค่อย ๆ ยก
เกร็งข้ึนเหนือศรี ษะ
ค�ำ อธิบายสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน 153
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
คร้าน ไม่อยากท�ำการงานใด ๆ ในที่น้ีหมายถึง ร่างกาย
โคลงภาพ การสงั คายนา ออ่ นเปล้ีย ไมม่ แี รง อาการปวดเมื่อยขบทงั้ ตวั (๕)
“แตแ่ กเ้ กยี จกาย” ๑. แก้เกียจกาย
“ตึงเมือ่ ย หายฮา แก้ ๒. ตงึ เมื่อย ขา เขา่ - ก. อาการเพลียของกล้ามเน้ือ เม่ือท�ำส่ิงใดส่ิงหน่ึงซ�้ำ ๆ
กะเอวขดคอ้ ม เข่าคู้โขยก ๓. เอวขด อย่เู ป็นเวลานาน (๔/น. ๙๒๑)
โขยง” ๔. เขา่ คู้
- เส้นเอวขด (๕)
๕. เดนิ โขยกเขยก - อาการเขา่ คด เขา่ งอ (๕)
- ดูใน โขยก ว. กะโผลกกะเผลก (๔/น. ๒๑๘)
“โรคลมแลน่ ดแุ ดก” ๖. ลมในอกในเอว (ลมแล่น อาการท่ีลมในท้องดันขึ้นในอก ในเอว ท�ำให้แน่นในอก
แดกขึ้นไปจุกอก) ในเอว (๕)
“อาพาธขบขัดเอว” ๗. ขดั เอว ๑. อาการปวดเมื่อยหลงั บริเวณเอว (๒/น. ๒๕)
“จติ รพร่ันหว่ันหวาดฝงู ๘. ลมปวดศีรษะ ลมขน้ึ เบอ้ื ง - อาการปวดหวั [vi.] to have a headache (๘)
มฤคร้าย ก�ำเริบโรคขบ สงู ทำ� ให้ปวดศีรษะ - ดูใน ลม ๑ ลมข้ึน ก. อาการที่ลมดันออกจากภายใน
สูง” เนือ่ งจากความกลัว รา่ งกาย ทําให้หาวเรอหรือใหเ้ กดิ อาการวงิ เวียน หนา้ มืด
ความเครยี ด วติ กกังวล และอาเจยี น ในกรณีหลงั นบ้ี างทกี เ็ รยี กว่า ลมขน้ึ เบ้อื งสงู
(๔/น. ๑,๐๓๕)
154 ชุดการสงั คายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชอื่ ภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษดี ดั ตน แผนดัด/วิธีการดัดตน
(ชือ่ ฤๅษ)ี โคลงภาพ การสงั คายนา
“เอนกายกรกด ท่านั่งพับขา อกแอ่น
๖ แก้สน้ เทา้ เอนกายกรกดเทา้ พกั ตรเ์ หิน หาวแฮ เทา้ พักตรเ์ หนิ แหงนหน้า ให้ส้นมือกด
(อิษีศุขวัฒน์ หายทส่ี น้ ลมเดนิ ขดั ข้อง หาวแฮ” ลงบนฝ่าเท้า ท�ำให้ลม
ชาวบ้านเรยี ก นามอษิ ีศุขวฒั นเ์ จรญิ ฌานเกอด ไผ่ฤๅ
ทา่ นว่า “ษศี ขุ ”) โลกยเ์ รียกสีสุกพ้อง ชื่อผเู้ จริญญาณ เดินท่สี ้นเทา้
(ค�ำอธบิ ายใน
หนังสอื โคลงภาพ)
๗ แกป้ วดท้อง ฤๅษีส่ีชือ่ ให้ นามนคร รามเอย “พบชงฆ์เทิด ทา่ นง่ั พบั ขา ทบั แขง้ หลงั
แก้ข้อเท้า อัจนะคาวอี ักษร อะตั้ง ถวดั กร สองไปล่ เท้าแนบพื้น ยืดแอ่นอก
(อัจนะคาวี) พบชงฆ์เทิดถวดั กร สองไปล่ หลงั นา หลังนา” ยกมือขึ้น ตวัดแขนทั้ง
แกข้ ัดข้อเทา้ ทง้ั ป่วยทอ้ งบรรเทา
สองไขว้ไปด้านหลัง ยก
ขนึ้ ระดับหัวไหล่ ให้แขน
ยดื ตรงหงายฝา่ มอื ขน้ึ
๘ แกเ้ สมหะในลำ� คอ พระยทุ ธอักขระไว้ นามยทุ “น่ังสมาธ์ิหัตถ์ ท่าน่ังขัดสมาธิ มือข้าง
(พระยทุ อกั ขระ) สบื อักษรตราบสุด ส่ีสิ้น สปั ระยทุ ธ์ หนึ่งดันศีรษะ ให้ศีรษะ
นั่งสมาธหิ ตั ถส์ ัประยทุ ธ์ เศียรอีก แขง้ นา เศียรอีก ดันสู้มือ มืออีกข้างหน่ึง
เสมหะปะทะต้นลนิ้ ลง่ ล้างล�ำศอ แข้งนา” ดึงขาข้ึนพร้อมกับให้ขา
ออกแรงต้านมอื
๙ แก้ลมในแขน เหยยี ดหตั ถด์ ดั น้ิวนงั่ ชนเพลา “เหยยี ดหตั ถด์ ดั ท่านั่งชันเข่า ให้ต้นขา
(ยาคะ) แก้เมอ่ื ยขดั แขนเบา โทษได้ นว้ิ น่งั ชนเพลา” แนบชิดกัน เหยียดแขน
ยาคะรูปน้เี อา ยาชอ่ื ใส่เฮย
ผสมสนี่ ักสทิ ธิให้ ช่อื อา้ งอยุทธยา ทั้งสองข้างไปข้างหน้า
แล้วใช้มือข้างหน่ึง ดัด
๑๐ แก้สบกั หนา้ จม หัตถ์หน่วงนิ้วเทา้ พบั ชงฆช์ ดิ เพลงเฮย ปลายนว้ิ มอื อีกขา้ งหนง่ึ
(วะตันตะ) แกส้ ลักไหล่เพ่ือพิศม ์ ผอ่ นน้อย “หตั ถห์ นว่ งนิ้ว ท่านั่งพับขา ต้นขาทับ
วะตนั ตะตบะฤทธ ิ์ มฤครักษ์ ทา่ นแฮ เท้าพับ ชงฆช์ ิด แข้ง ใช้มือทั้งสองข้าง
มีแม่โคห้ารอ้ ย หยาดน้ำ� นมถวาย เพลาเอย” ดึงปลายเท้าทั้งสองขึ้น
พรอ้ มยดื อก แอ่นแหงน
๑๑ แก้ลมทว่ั สารพางค์ เสลขกามนามวสิ ทุ ธกิ อ้ ง ไตรภพ หน้าขน้ึ
(วิสุทธิ) องค์แอ่นแหงนพกั ตรข์ บ เขมน้ ฟา้ “องค์แอ่นแหงน ท่านั่งคุกเข่า ให้เข่าชิด
กลับแขนกดขาทบ เน้นนิ่ง อยนู่ า ภักตร์ขบ กัน หลังเท้าท้ังสองราบ
ลมเสยี ดสารพางคก์ ล้า ดับดว้ ยดดั เอง ขะเมน่ ฟ้า กลบั แนบพ้ืน เหยียดแขนทั้ง
แขนกดขาทบ สองข้างไปข้างหน้า ใน
เน้นนิง่ อยนู่ า” ท่าหงายฝ่ามือกดปลาย
นว้ิ มอื ไวบ้ นหนา้ ตกั ลำ� ตวั
แอ่น แหงนหน้า
คำ�อธิบายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดัดตน 155
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
ลมท่คี งั่ อย่ทู ีบ่ ริเวณส้นเทา้ ทำ� ใหเ้ ท้าบวม (๕)
โคลงภาพ การสงั คายนา
“หายท่สี ้นลมเดินขัดข้อง” ๙. ลมขงั ส้นเท้า
“แกข้ ัดขอ้ เท้าท้ัง ๑๐. ขดั ขอ้ เท้า - ดูใน ขัดขอ้ มอื ข้อเท้า อาการขัดตามข้อ (๒/น. ๒๔)
ปว่ ยทอ้ งบรรเทา” ๑๑. ปวดทอ้ ง - [N] ankle กระดูกขอ้ ตอ่ ระหว่างเทา้ กบั ขา (๘)
- อาการปวดท้อง [v.] have a stomachache (๘)
“เสมหะปะทะต้นลิน้ ๑๒. เสมหะในลำ� คอ เสมหะ เสมหะที่ล�ำคอ ถ้าพิการท�ำให้ไอ เจ็บคอ คอแห้ง ต�ำรา
ลง่ ล้างลำ� ศอ” ปะทะตน้ ลน้ิ เวชศาสตร์ฉบับหลวง ได้กลา่ ววา่ หนาประมาณ ๗ นิ้ว เป็น
แผ่นอยู่ เม่อื กนิ อาหารจงึ เปดิ ออก อาหารนัน้ จงึ ไดเ้ ล่ือนลง
ไป เมื่ออาหารเลื่อนลงไปแล้วก็กลัดเข้าดังเก่า เหมือนดัง
เอากระเบ้ืองท้ิงในแหน ก็แหวกออกแล้วปิดเข้าดังเก่า
(๒/น. ๒๓๙)
“แกเ้ มือ่ ยขดั แขนเบา โทษ ๑๓. ลมในแขน-ท�ำให้เมอ่ื ยขัด ลมในแขนเดนิ ไมส่ ะดวก ท�ำใหเ้ มื่อย ขัดแขน (๕)
ได”้ แขน
“แกส้ ลกั ไหลเ่ พอ่ื พศิ ม์ ๑๔. สะบกั หนา้ จม (ตำ่� จาก - ดใู น สะบกั จม น. อาการ ปวดตึงบริเวณสะบัก บ่า และ
ผ่อนน้อย” รากขวญั ลงมารอ่ งซี่โครง ไหล่ข้างขวามักจะเกิดเร้ือรัง อาจเนื่องจากการใช้งานท่ี
“ลมเสยี ดสารพางค์กล้า ที่ ๑ และ ๒) แขนมาก และเป็นเวลานาน ท�ำให้เลือดลมตามแนวเส้น
ดับดว้ ยดัดเอง” ๑๕. ปวดขัดสลักไหล่เพราะ ปิงคลาเดนิ ไม่สะดวก (๑/น. ๔๓๖)
พิษลม - ลมขัดในไหล่ (๕)
๑๖. ลมท่วั สารพางค์ ลมท่ัวร่างกาย ลมท่ีท�ำให้มีอาการรู้สึกเจ็บแทงเข้าไปในเนื้อ
ลมเสียดทวั่ ทง้ั ตัว (๕)
156 ชุดการสงั คายนาภูมปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชื่อภาพ ค�ำโคลงภาพฤๅษีดัดตน แผนดัด/วธิ ีการดัดตน
(ชื่อฤๅษ)ี โคลงภาพ การสังคายนา
๑๒ แก้เข่าขาตาย ฤๅษีวชิระรู้ศาสตร ์ สฤษดิก์ าย กบแฮ “ทา้ วหัตถช์ ันเข่า ทา่ น่งั ไขว้ขา เท้าแขนท้งั
(วชริ ะ) ชอื่ เทพมณโทชาย มากชู้ คู้ ทา่ แมน้ สองข้างไว้ ใต้พับเข่า
แกล้ มเขา่ ขาตาย ตึงเมอ่ื ย มึนเอย ละม้ายสงิ ห”์ แขนยืดตึง แล้วยกเข่า
ท้าวหัตถช์ ันเข่าคู้ ทา่ แม้นละมา้ ยสงิ ห์
ขึน้ ทัง้ สองข้าง
๑๓ แก้ขดั ขาขดั คอ คกุ เขา่ ส้นตดิ เข้า เขา่ ขยาย “คกุ เข่าสน้ ตดิ ท่านั่งคุกเข่า แยกเข่า
(โรมสงิ ค)์ มอื ประทับกับเพลาหมาย มุง่ ฟ้า เข้า เขา่ ขยาย ออก มอื วางท่ตี ัก ยืดตัว
ขัดขาขัดคอหาย ห่างเมือ่ ย ลงแฮ มอื ประทับกับ ตรง และอกแอ่นแหงน
โรมสงิ ค์สิทธ์ิศกั ด์กิ ล้า กล่าวนนี้ ามขนาน เพลาหมาย หน้าข้ึนมองฟา้
มุ่งฟา้ ”
๑๔ แก้แน่นหน้าอก โคดมมหาราชน้ ี หนวดยาว ยุง่ นา “แหงนหนา้ ท่า ท่ายนื ยอ่ เขา่ แอ่น
(โคดมมหาราช) นกกระจาบท�ำรงั ราว กะวะไม้ เรอหาว ยืนดัด หนา้ อก แหงนหนา้
แหงนหน้าทา่ เรอหาว ยนื ดัด หลงั เอย หลังเอย” ท�ำให้เรอหาว
แกแ้ น่นนาภไี ด ้ อกด้วยดเี หลอื
๑๕ แก้ลมเวียนศีรษะ สมาธขิ ัดหัตถ์ยุดทงั้ เพลาเศียร “สมาธิขดั หัตถ์ ท่านั่งขัดสมาธิ ไขว้ข้อ
(ธะหะ) สระสวา่ งแสลงลมเวยี น ศิระเกล้า ยุดทั้ง เพลา เท้า มือข้างหน่ึงดันตัก
นามธะหะพระผู้เพยี ร ผนวดเน่ิน นานแฮ เศยี ร” มืออีกข้างหนึ่งดันศีรษะ
ธะอักษรควบเขา้ เพ่มิ ใหน้ ามกรงุ
(ลักษณะต้านกัน)
๑๖ แกเ้ ขา่ แก้ขา อิษีสงิ ห์หน้ามฤค ฌานมอด ม้วยแฮ “ยนื ยอ่ บาทบีบ ทา่ ยืน กา้ วขาขวาไปข้าง
(อิษีสงิ ห์) สลบเพอื่ นางฟ้ากอด ทา่ นนั้น คนั้ เขา่ ทง้ั โคน หนา้ ยอ่ เขา่ ลง ขาซา้ ยยอ่
ฟนื้ องค์ครั่นครางออด ขาไหล่ ขดั เอย ขา” ลง ใหเ้ ทา้ ทง้ั สองเหยยี บ
ยืนยอ่ บาทบีบคนั้ เข่าทัง้ โคนขา
พ้ืนเต็มฝา่ เท้า เอีย้ วล�ำ
ตวั พรอ้ มกบั เหลยี วมอง
ไหลซ่ า้ ย ใชส้ น้ มอื ขวากด
เหนือเข่าขวา พร้อมท้ัง
ใชม้ ือ บบี กดขย�ำ นวด
ตั้งแต่หัวเข่า ข้ึนมาถึง
โคนขา ใช้ส้นมือซ้ายยัน
ท่ีขอบสะโพก
๑๗ แก้โรคในอก วรเชษฐแปลงเปล่ียนข้อ ลิขติ สาร “ไสยาสนเ์ หยียด ทา่ นอนหงาย เทา้ ชดิ กัน
(วรเชษฐ) พระรถเร่ืองโบราณ บอกแจง้ เครียดปาน หายใจเข้า เหยียดแขน
ไสยาสน์เหยยี ดเครยี ดปาน ฉุดชัก ไว้แฮ ฉุดชกั ไวแ้ ฮ” ทงั้ ๒ ขา้ งขนึ้ เหนอื ศรี ษะ
แก้โรคไออกแหง้ เหอื ดให้เห็นคุณ
หงายฝ่ามือข้ึนให้ปลาย
นว้ิ หนั เขา้ หากนั พรอ้ มทง้ั
เหยียดปลายเท้าทั้งสอง
ขา้ ง ให้ปลายเทา้ งุม้ ลง
คำ�อธิบายสมุดภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน 157
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
ลมท�ำใหต้ ีนมอื ตาย แก้หวั ไหล่ บน้ั เอว สน้ เทา้ ทัง้ ๒ ขา้ ง
โคลงภาพ การสังคายนา ใหย้ อกขดั อยู่ทั้งตัว ให้แกท้ เ่ี กลยี วปัตคาดทงั้ สองข้าง (๕)
“แก้ลมเข่าขาตาย ๑๗. ลมเข่าขาตายมีอาการ
ตงึ เม่ือย มนึ เอย” ตึงเม่ือย ชา
“ขดั ขาขัดฅอหาย ๑๘. ขดั ขา อาการขา คอ ตงึ ติดขัด เคลอ่ื นไหวไม่ปกติ (๕)
ห่างเมือ่ ย ลงแฮ” ๑๙. ขัดคอ
“แก้แน่นนาภไี ด้ ๒๐. แนน่ หนา้ อก - Abdominal discomfort (๒/น. ๑๐๗)
อกด้วยดีเหลอื ” ๒๑. แน่นทอ้ ง (นาภ)ี - ว. มอี าการจกุ เสยี ดบริเวณทรวงอกท�ำใหห้ ายใจไมส่ ะดวก
“สระสวา่ งแสลงลมเวยี น
ศริ ะเกลา้ ” (๔/น. ๖๔๔)
“ฟน้ื องค์ครน่ั ครางออด - อาการแน่นทอ้ ง Stomach discomfort (๒/น. ๑๐๗)
ขาไหล่ ขัดเอย”
๒๒. ลมเวยี นศรี ษะ ดูใน เวยี น ๑ ก. รู้สกึ มึนหัว ตาลาย ใจหวิว มองเห็นอะไร
หมนุ ไปหมด, โดยปรยิ ายหมายถงึ อาการทที่ ำ� ใหร้ สู้ กึ งง สบั สน
วนุ่ วาย รำ� คาญ เปน็ ตน้ จนทำ� อะไรไมถ่ กู หรอื จบั ตน้ ชนปลาย
ไม่ติด (๔/น. ๑๑๓๑)
๒๓. ขดั เขา่ ขัดขา - อาการ เขา่ ขา ตงึ ติดขดั เคล่ือนไหวไมป่ กติ (๕)
๒๔. ขดั ไหล่ (ทำ� ให้ขดั ราวข้าง - น. อาการ รสู้ กึ เจบ็ แปลบคลา้ ยมอี ะไรมาเสยี ดแทง บรเิ วณ
ตง้ั แต่หัวตะคากถึงรกั แร้) สว่ นของบ่าตอนทีต่ ิดกบั ต้นแขน (๑/น. ๖๕)
“แก้โรคไออกแหง้ เหอื ด ๒๕. ไออกแหง้ ดูใน ไอแห้ง ท่ีไม่มีเสมหะ ไม่มีน้�ำลาย เพียงแต่ลม
ใหเ้ หน็ คุณ” อยา่ งเดยี ว (๒/น. ๒๖๒)
158 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชื่อภาพ ค�ำโคลงภาพฤๅษดี ดั ตน แผนดัด/วิธกี ารดดั ตน
(ชื่อฤๅษ)ี โคลงภาพ การสงั คายนา
“ยนื แย่อย่าง ท่ายืน กางขาให้ห่างกัน
๑๘ แก้ตะคริวมอื อัคนีเนตรนอ้ี ัค- คโี ชน เนตรฤๅ ยักษ์โขน เท่าระยะหัวไหล่ แบะ
ตะครวิ เท้า ยืนแย่อย่างยักษ์โขน ออกเต้น ออกเต้น กาง เท้าให้หันส้นเท้าเข้าหา
(อคั นเี นตร) กางกรกดสองโคน ขานดี เนน้ นอ กรกดสองโคน กัน ย่อตัวแยกเข่าคล้าย
แก้ตะครวิ ร้วิ เส้น แต่แข้งตลอดแขน ขานดี เนน้ นอ” ท่ายักษ์โขน วางมือบน
๑๙ แกล้ มตะครวิ สวามติ คุกเขา่ แลว้ เหลย่ี วพกั ตร์ ผนิ แฮ โคนขาให้ปลายมือหัน
(สวามิต, วสิทธิ) วสทิ ธิเหยยี บยนั สลัก เพชรเคลน้ เข้าหากัน ใช้ส้นมือท้ัง
(มีฤๅษี ๒ ตน) กรขวาจับบาทชกั เฉวียงฉุด แขนแฮ สองข้างกดเน้นลงน�้ำ
โรคตะคริวกลอ่ นเส้น หย่อนได้หลายเดือน ห นั ก ล ง ไ ป แ ล ้ ว น่ิ ง ไ ว ้
(หายใจเข้ากด หายใจ
ออกคลาย)
“สวามติ คกุ เขา่ ผู้ถูกดดั น่งั คกุ เขา่
แล้วเหลียว เหยยี ดขาขวาไปด้าน
ภักตร์ ผินแฮ หลงั เอนตัวลงลักษณะ
วสทิ ธิเหยียบยัน ทา่ นอนตะแคงซา้ ย
สลักเพชเคล้น ผู้นวด ใช้ส้นเทา้ เหยียบ
กรขวาจบั บาท ยนั ท่ีสลกั เพชร พร้อม
ชกั เฉวยี งฉดุ กับใช้มอื จบั ข้อเท้าและ
แขนแฮ” ข้อมอื ดึงข้ึนพรอ้ มกัน
๒๐ แก้ลมทัว่ อิษีอุศัพเนตรเจา้ ต�ำหรับ “ทา้ วแขนพับ ท่านั่งพับเพียบ (ขวา)
สารพางค์ สรรพวา่ นประกอบกบั เวทใช้ เพียบทับ เท้าแขน คว่�ำมือท้ัง ๒
(อษิ ีอุศัพเนตร) ทา้ วแขนพับเพียบทบั หัตถ์แอน่ องคเ์ อย หัตถ์แอน่ สอดใต้เข่า (ซ้าย) ให้
แก้ท่ัวสารพางค์ให้ เสอื่ มสิน้ สรรพลม องค์เอย” ปลายมือชนกัน พร้อม
๒๑ แกเ้ สยี ดอก “ยนื เหนี่ยวขอ้ ท้ังเหยียดแขนตรงและ
(นารท) ยนื เหน่ียวคอ่ เท้าเชดิ หดั ถเ์ หน็ ยากแฮ เท้าเชิด หัตถ์ แอ่นตวั ขน้ึ
แกเ้ สียดทรวงเส้นเอน็ ขอดได้ เหน็ ยากแฮ” ท่ายืน ยกขาซ้ายไปด้าน
นารทเสกไมเ้ ปน็ ปลงิ เกาะ กระบี่พ่อ หลัง มือซ้ายจับข้อเท้า
ยมิ้ เยาะวานรให้ เหอื ดร้ายรงั แก แขนขวายกขน้ึ ระดบั ไหล่
เหยียดตรง กระดกข้อ
มือข้ึน เชิดหน้ามอง
ปลายมือ
ค�ำ อธิบายสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน 159
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
น. อาการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ และค้างอยู่ ท�ำให้
โคลงภาพ การสงั คายนา กล้ามเนอื้ ขาดเลือด เกดิ อาการเจ็บปวด (๑/น. ๑๙๓)
“แก้ตะคริวร้วิ เสน้ ๒๖. ตะคริวแขน ตะคริวขา
แตแ่ ขง้ ตลอดแขน”
“โรคตะคริวกล่อนเสน้ ๒๗. ลมตะคริว-กล่อนเส้น - ลมตะคริว
หย่อนได้หลายเดือน” เสน้ ในรา่ งกายชกั ขมวด ๑. ลมตะครวิ ขนึ้ ทำ� ใหม้ อี าการเจบ็ ปวดดงั เอามดี มาเชอื ด
“แก้ทัว่ สารพางค์ใหเ้ ส่ือม และลมกระตกุ ท�ำให้เจ็บ เฉือนสุดที่จะทนได้ ให้แก้ทีก่ ลางทอ้ งน่อง ใหว้ ดั ตัง้ แต่
สน้ิ สรรพลม” ปวด สน้ เทา้ ขนึ้ ไปถงึ กลางทอ้ งนอ่ งกง่ึ กลางพอดหี รอื วดั จาก
ส้นเท้าขึ้นมาประมาณหกนิ้วฟุต เอาน้ิวหัวแม่มือกด
หน่วง ๆ ลงไป พอถึงเส้นแล้วให้หยุดนิ่งอยู่สัก ๑-๒
นาทีแลว้ จงึ ยกนวิ้ หัวแม่มือออก ลมตะคริวกจ็ ะหายไป
ทนั ที
๒. ลมทพี่ ดั เขา้ ไส้ใหญไ่ สน้ อ้ ย ทำ� ใหช้ กั มอื ชกั เทา้ แขง็ งอจะ
เปบิ ข้าวไมไ่ ด้ จะจับสง่ิ ใดก็ไมไ่ ด้ (๒/น. ๑๘๗)
- กล่อนเส้น เส้นแข็ง เส้นตึง ท้องตึง เจ็บเอ็นท้อง
กินอาหารไม่ได้ (๒/น. ๑๐-๑๑)
๒๘. ลมทว่ั สารพางค์ (ลมท้งั ลมท่ัวทั้งร่างกาย ลมท่ีท�ำให้มีอาการรู้สึกเจ็บแทงเข้าไป
ปวงท่ัวรา่ งกาย) ในเนอื้ (๕)
“แก้เสยี ดทรวงเส้นเอน็ ๒๙. เสยี ดอก - อาการท่รี สู้ กึ เจ็บแทงเขา้ ไปในอก (๕)
ขอดได”้ ๓๐. เสน้ เอน็ ขอด - เส้นเอ็นขอด
๑. Varicose vein และ
๒. Stiffness of muscles and tendons (๒/น. ๒๓๘)
160 ชดุ การสงั คายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชือ่ ภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษีดัดตน แผนดัด/วิธกี ารดดั ตน
(ชอื่ ฤๅษ)ี โคลงภาพ การสังคายนา
“ฉวยเทา้ ท่ายนื ท่ายืน ยกขาซ้ายไปด้าน
๒๒ แก้ลมจันทฆาฏ พระนารอทวายุเร้า ทรวงรัน ท�ำนา หนั เหนิ เยีย่ ง หลัง มือซ้ายจับข้อเท้า
ลมเขา่ ลมขา ขัดเขา่ ขาและจันท- ฆาฏรา้ ย เหาะแฮ” ย่อเข่าขวา มือขวาบีบ
ลมหน้าอก ฉวยเทา้ ทา่ ยนื หนั เหนิ เยี่ยง เหาะแฮ
(พระนารอท) มอื หน่ึงคน้ั เขา่ ซา้ ย เส่อื มส้นิ สีล่ ม ค้นั บรเิ วณหวั เขา่ ยืดอก
เชดิ หนา้ คล้ายทา่ เหาะ
๒๓ แก้เขา่ ขดั ชฎิลดาบสเบอ้ื ง แบบฉบับ “ยนื ยกขาขวา ท่ายืน ยกขาขวาทับเข่า
(ชฎลิ ดาบส) ยืนยกขาขวาทับ เขา่ ซา้ ย ทับ เขา่ ซา้ ย ซ้ายพนมมือออกแรง
ประนมหตั ถด์ ดั กายกลับ เบอื นบดิ ตนแฮ ประนมหตั ถ์ดดั ต้านมือ พร้อมกบั บดิ ตวั
ลมขัดข้อเขา่ รา้ ย เร่งร้างหา่ งสูญ กายกลบั ไปทางขวา
เบือนบดิ
๒๔ ด�ำรงกายอายุยนื ทศิ ไภยโพ้นผนวชข้าง เขาเขิน ตนแฮ”
(ทศิ ไภย) ทวิ พนสั ชายณิน ท่านำ�้ “กมุ กดธารกรคำ�้ ท่ายืนจับกระบอง กาง
ประนบิ ัติดัดองคเ์ จริญ ชนม์ชีพ พระนา พา่ งพนื้ ยืนยัน” ขาใหห้ า่ งกนั เทา่ ระยะหวั
กุมกดธารกรค�้ำ พา่ งพนื้ ยืนยัน
ไหล่ แบะเท้าให้หันส้น
๒๕ แก้ลมปะกัง กาลชฎลิ ดดั มลา้ ง ลมดุะ เทา้ เขา้ หากนั ยอ่ ตวั แยก
(กาลชฎลิ ) ไคลขมบั จับหน ุ นวดเน้น เขา่ คล้ายทา่ ยกั ษ์โขน
มนึ เศยี รมืดจกั ษุ เสือ่ มสว่าง ไซแ้ ฮ “ไคลขมับจับหนุ ท่านั่งขัดสมาธิ มือซ้าย
ไวฉ้ บับบอกเส้น ประสิทธ์ิแกล้ มปะกงั นวดเน้น” คลงึ ไคลขมับ มือขวาจับ
คางดึงไปทางขวาเล็ก
นอ้ ย
๒๖ แกต้ ะโพกสลกั เพชร สระภังค์ดาบศต้ัง ตนตรง “ถ่างบาททัง้ ท่ายืนแยกขา ถ่างขา
(สระภังค์ดาบส) ถา่ งบาททั้งสองทรง แยแ่ ต้ สองทรง แย่แต้ ยอ่ ตวั ลง มอื ทง้ั สองขา้ ง
กำ� หมัดดดั กรผจง กดคู่ ขานา ก�ำหมดั ดัดกร ก�ำหมัดใช้สันหมัดกด
ตะโภกสลักเพชรแม้ เม่ือยลา้ ชาหาย ผจง กดคู่ ต้ั ง แ ต ่ ข อ บ ก ร ะ ดู ก
ขานา” เชงิ กรานลงมาถงึ สะโพก
๒๗ แกล้ มชกั ปากเบ้ียว ผิวลมเขา่ ขอ้ ข้งั เหนบ็ นัก
ลมลนิ้ ตาย ลมเท้า กายส่ันฟันชดิ ชกั ปากเบย้ี ว สลกั เพชร
เหน็บ ลมมอื เหนบ็ พระกาฬสทิ ธ์แิ ถลงลกั ษณ ์ เลศทา่ แก้นอ “เหนย่ี วไหล่ ท่านั่งพับขา มือซ้ายดึง
(พระกาฬสิทธ์)ิ เหนี่ยวไหล่หนว่ งเท้าเอ้ยี ว อกโออ้ นิจจัง หน่วงเท้าเอีย้ ว ข้อเท้าข้ึน มือขวาดึง
อกโอ้อนจิ จัง” เหนยี่ วไหลซ่ า้ ย เอยี้ วอก
พรอ้ มทง้ั หนั หนา้ ทางขวา
ค�ำ อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดดั ตน 161
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
โคลงภาพ การสังคายนา - ชอื่ ลมชนดิ หนึ่งตามต�ำราแพทย์แผนโบราณ ลมทเ่ี ข้าไปใน
เข่า ลมท่ีเขา้ ไปในขา ลมที่เขา้ ไปในอก (๕)
“เส่ือมสน้ิ ส่ีลม” ๓๑. ลมจนั ทฆาฏ
๓๒. ลมเข่า - ลมทที่ ำ� ให้ เข่าตึง ตดิ ขัด เคล่ือนไหวไม่ปกติ (๕)
๓๓. ลมขา - ลมท่ีทำ� ให้ ขาตงึ ตดิ ขัด เคลอ่ื นไหวไม่ปกติ (๕)
๓๔. ลมหน้าอก - ลมท่ีท�ำให้มีอาการจุกเสียดบริเวณทรวงอก ท�ำให้หายใจ
“ลมขัดขอ้ เขา่ ร้าย ๓๕. เข่าขัด ไมส่ ะดวก (๕)
เรง่ รา้ งห่างสูญ” ๓๖. ลมขัดข้อเข่า - เขา่ ตงึ ตดิ ขัด เคล่อื นไหวไมป่ กติ (๕)
- ดูใน ลมขัด ลมท่ีท�ำให้เกิดอาการผิดปกติของส่วนต่าง ๆ
ของร่างกาย (๒/น. ๑๘๓)
“ประนบิ ัตดิ ดั องค์เจริญ ๓๗. ช่วยด�ำรงกายให้อายุยนื ทา่ ดัดตนท่ีช่วยท�ำให้สุขภาพแขง็ แรง อายยุ ืนยาว (๕)
ชนมช์ ีพ พระนา”
“มึนเศียรมดื จกั ษุ ๓๘. ลมปะกัง มนึ ศีรษะ ตา น. โรคชนิดหนึง่ ผูป้ ว่ ยมอี าการปวดศรี ษะมาก อาจจะปวด
เสอ่ื มสวา่ ง ไซแ้ ฮ” มืดมัว ข้างเดียวหรือ ๒ ข้างก็ได้ บางต�ำราว่ามักเป็นเวลาเช้า
ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่ืนร่วมด้วย เช่น ตาพร่า วิงเวียน
“ตะโภกสลกั เพชรแม้ ๓๙. สะโพกสลักเพชร ชา อาเจียน, ลมตะกัง หรือสันนิบาตลมปะกัง ก็เรียก
เม่ือยล้าชาหาย” เมอ่ื ยลา้ (๑/น. ๓๙๖)
- ชาและเจบ็ แปลบปลาบทสี่ ะโพกสลกั เพชร (๕)
“ผวิ ลมเขา่ ขอ้ ขั้ง เหนบ็ นกั ๔๐. ลมชักปากเบ้ียว - ดูใน สลักเพชร น. โครงสร้างของกระดุกบริเวณข้อ
กายสั่นฟันชดิ ชกั ปาก ๔๑. ลมลิน้ ตาย
เบย้ี ว” ๔๒. ลมขังในข้อเข่า บางข้อ ท่ีเมื่อสวมด้วยกันและท�ำให้เคล่ือนไหวได้ เช่น
ข้อต่อขอบกระดูกเชิงกรานตรงสะโพกกับหัวกระดูก
๔๓. เหนบ็ ชามือเทา้ ต้นขาท�ำให้ขากางออกได้ เรียกว่า ตะโพกสลักเพชร
(๑/น. ๔๓๒)
- ลมที่ทำ� ให้มอี าการชกั และปากเบ้ยี ว (๒/น. ๑๘๖)
- แรกจับให้หาวเรอ คลื่นเหียน ขากรรไกรแข็งลิ้นแข็ง
อ้าปากขึ้นแล้วหุบไม่ลง นิ่งแน่ไม่รู้สึกกาย ปลุกไม่ต่ืน
กำ� หนด ๓ ถึง ๗ วนั (๒/น. ๑๙๘)
- ดใู น ลมขงั ลมทค่ี ง่ั อยทู่ ข่ี อ้ เทา้ ทำ� ใหเ้ ทา้ บวม (๒/น. ๑๘๓)
- ชื่อโรคชนิดหน่ึง เกิดจากขาดวิตามินบี ๑ ท�ำให้มีอาการ
ชาปลายมือปลายเทา้ (๔/น. ๑๓๔๔)
162 ชดุ การสงั คายนาภมู ิปญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ช่ือภาพ ค�ำโคลงภาพฤๅษดี ดั ตน แผนดดั /วธิ กี ารดดั ตน
(ชอ่ื ฤๅษ)ี โคลงภาพ การสงั คายนา
“เท้าเหยยี ดยืด ท่านั่ง เทา้ เหยยี ดตรง
๒๘ แก้เข่าขัด นกั สทิ ธิ์โสภาคพร้อม พรหมจรรย์ หตั ถ์ยัน ขยำ� ส้นมอื ยนั เหนือขอบ
(มหาสุธรรม์) ช่ือมหาสุธรรม์ เลศิ แท้ เขา่ สองนา” สะบา้ เข่า แขนเหยยี ด
เทา้ เหยยี ดยดื หัตถย์ ัน ขยำ� เข่า สองนา
ขบขัดขอ้ เข่าแก ้ เมอ่ื ยลา้ ลมถอย ตรง พร้อมทัง้ ใชม้ ือ
ขยำ� เข่าทงั้ สองขา้ ง
๒๙ แก้ลมในลำ� ลงึ ค์ อัคะตะตบะเพย้ี ง เพลงิ ผลาญ ภพฤๅ อกแอน่ แหงนหน้า
(อคั ะตะ) ถวายเกราะองค์อวตาล ทา่ นนน้ั “นั่งดดั หตั ถส์ อง ท่านั่งขัดสมาธิ พนมมือ
นงั่ ดดั หตั ถ์สองผสาน พนมนง่ิ อย่นู า ผสาน พนมนง่ิ ระหว่างอก ออกแรง
๓๐ แก้มอื แกเ้ ท้า เพ่อื ขัดปัสสาวะอ้นั ออกได้โดยใจ อย่นู า” ตา้ นมือ
(พระสทุ ศั น)์
พระสทุ ัศนส์ ถิตยถ์ �้ำ เถอ่ื นระหง “นั่งกระหย่งยุด ทา่ นง่ั กระหยง่ บนสน้ เทา้
ครองเคร่อื งนักสิทธท์ิ รง หอ่ เกล้า เท้า หตั ถช์ อ้ ย ส้นเท้าชิด แยกเข่า
ลมคัง่ ขอ้ หัตถช์ งฆ ์ หัตถ์ช่วย ดดั แฮ เช่นร�ำ” มือขวาจับหน้าแข้งขวา
นงั่ กระหย่งยุดเทา้ หัตถช์ ้อยเช่นร�ำ
ยกมอื ซา้ ยขนึ้ กระดกขอ้
๓๑ แก้กล่อน แยกขายืนเข่าต้งั ตนตรง มือข้นึ คลา้ ยท่ารำ�
แก้ปตั คาด แขนแนบหนบี สะเอวองค ์ แนน่ แฟ้น “แยกขายนื เขา่ ทา่ นง่ั กระหยง่ บนสน้ เทา้
(คาวนิ ทร)์ คาวนิ ทร์ ธ ด�ำรง กายดดั นฤี้ ๅ ตั้ง ตนตรง ส้นเท้าชิด แยกเข่า มือ
แกก้ ลอ่ นปัตคาดแมน้ แพทย์แกม้ วยมนึ แขนแนบหนีบ ทั้งสองข้างแนบชิดตาม
สะเอวองค์ แนวลำ� ตัว
แน่นแฟ้น”
๓๒ แก้ลมอัมพฤกษ์ โควนิ ทรแ์ นะกกให้ รามแผลง อสูรฤๅ “ต้ังส้นสองมอื ทา่ นงั่ กระหยง่ บนสน้ เทา้
(โควินทร)์ สาปไก่นนทรีแรง ฤทธ์ิเฝ้า เขา้ ประทับข้าง ส้นเท้าชดิ แยกเข่า กาง
อมั พฤกพบิ ตั ิแสดง ดัดดับ คลายนอ ขืนองค์” ศอก แบะไหล่ให้ส้นมือ
ตง้ั สน้ สองมอื เข้า ประทับขา้ งขืนองค์
ทั้งสองข้างกดดันเข้า
บรเิ วณใต้ชายโครง
๓๓ แกล้ มส้นเทา้ นาไลยไกรเกริกฟ้า ดินขาม “กดเข่าเหนยี่ ว ท่ายืนย่อเข่า แบะเท้า
(นาไลย) หมู่แพทย์พงึ นบั นาม ทา่ นไหว้ แขง้ ให”้ ออก มอื ซา้ ยเหน่ยี วแขง้
บาทาธึกกะทกตาม ตาตุม่ แลพอ่ ขวาขนึ้ มอื ขวากดเขา่ ลง
กดเขา่ เหนี่ยวแขง้ ให ้ สน้ เท้ามะละลม เอยี้ วหนา้ ไปทางไหลข่ วา
คำ�อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน 163
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
- ดูใน ลมขัด ลมท่ีท�ำให้เกิดอาการผิดปกติของส่วนต่าง ๆ
โคลงภาพ การสังคายนา
ของรา่ งกาย (๒/น. ๑๘๓)
“ขบขดั ขอ้ เขา่ แก้ ๔๔. ลมขดั ขอ้ เข่า - ดูใน เม่อื ย อาการท่เี มอื่ ยมากทำ� ใหเ้ ดนิ เคล่อื นไหวได้
เมื่อยล้าลมถอย” ทำ� ใหเ้ มื่อยลา้
ชา้ ลง (๔/น. ๙๒๒)
“เพ่ือขัดปัศสาวะอ้ันออกได้ ๔๕. ลมในล�ำลึงค์ - ลมทท่ี �ำให้ปสั สาวะขดั (๒/น. ๑๙๘)
โดยใจ” ๔๖. ขัดปสั สาวะ - Dysuria (๒/น. ๒๔)
“ลมคง่ั คอ่ หตั ถ์ชงฆ”์ ๔๗. ลมขังขอ้ มือ ดใู น ลมขัง ลมท่ีคงั่ อย่ทู ข่ี อ้ เทา้ ทำ� ใหเ้ ทา้ บวม (๒/น. ๑๘๓)
๔๘. ลมขังหนา้ แขง้
“แกก้ ล่อนปัตคาดแมน้ ๔๙. กลอ่ นปัตคาด กระษยั เถาเกดิ ขนึ้ เพอ่ื ลมสนั ฑฆาตและลมปตั คาดมนั แลน่ เขา้
แพทย์แก้มวยมึน” ท�ำให้ มนึ ทา้ ยทอย ในล�ำเส้นนั้น ให้เส้นพองแข็ง ระหว่างหัวหน่าวมาประจบ
“อัมพฤกพิบตั ิแสดง (ต�ำแหน่งท่ีเสน้ ปัตคาด เกลยี วขา้ ง ถา้ ชายขนึ้ ขวาหญงิ ขนึ้ ซา้ ย เสยี ดมาตามชายโครง
ดัดดบั คลายนอ” ผา่ น) ถงึ ยอดอก อาการใหป้ วดขบในอก เสยี วตลอดถงึ ลำ� คอ เมอื่
อาเจยี นออก อาการคอ่ ยเบาขนึ้ นำ้� ปสั สาวะแดงหรอื เหลอื ง
๕๐. ลมอมั พฤกษ์ เล็กนอ้ ย ถ้าเปน็ ตะกอนดงั ปูน น่นั คือกระษยั เถา (Urinary
stone) (๒/น. ๑๐)
ลมท่ีท�ำให้เกิดอาการเคลื่อนไหวไม่ได้ โดยกระดูกไม่เคล่ือน
(๒/น. ๒๐๖)
“สน้ เท้ามะละลม” ๕๑. ลมส้นเทา้ - ลมท่ที ำ� ใหเ้ จ็บส้นเทา้ (๒/น. ๑๙๙)
๕๒. บาทาทกึ - เสน้ ทมี่ ที างเดนิ เรม่ิ จากสน้ เทา้ ไปตามโคง้ ฝา่ เทา้ ถงึ ดา้ นใน
หัวแม่เท้าและโรคลมชนิดหน่ึงผู้ป่วยมักมีอาการท้องร่วง
อาเจยี น มอื เขยี วเทา้ เขียว อาจชักสลบ ดังคมั ภรี ์ชวดาร
(๖/น. ๔๓๖) ตอนหนึ่งวา่ “...ขนานหน่งึ ช่ือประสรรณี แก้
ลมบาทาทึก อันให้สลบทั้งลงทั้งอาเจียนมิรู้ว่าสันนิบาต
สองคลอง ให้มอื เขียว ให้เท้าเขียว ใหช้ กั มิรวู้ า่ ป่วงใหล้ ง
ก�ำหนด ๓ วัน...”, บาทาทึบ ก็เรียก เขียนว่า บาทาธึก
ก็มี (๑/น. ๒๔๕)
164 ชุดการสังคายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ช่อื ภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษีดดั ตน แผนดดั /วิธกี ารดดั ตน
(ชื่อฤๅษี) โคลงภาพ การสงั คายนา
๓๔ แกเ้ อว พระวัชมฤคเลีย้ ง บุตรลบ “นั่งหย่องสอง ท่าน่งั ยอง เท้าชดิ ศอก
(พระวัชมฤค) นงั่ หยอ่ งสองมือจบ เจดิ หนา้ มือจบ เจดิ หนา้ ” หนีบเข่าท้ังสองข้าง
แกเ้ ส้นสะดุ้งขบ เอวยอก หายนอ
ใครอยา่ หมน่ิ ประหมาทถ้า ทา่ นท้าใหล้ อง ยกมอื พนม
๓๕ แกล้ มในขา รูปมนษุ ย์หนา้ ประหนง่ึ เนอื้ นามกระไลย โกฏแฮ “น่ังหยอ่ งสอง ท่าน่ังยอง แบะขาออก
(กระไลยโกฏ) บุตรอิษีสิงค์ไสย สาตรรู้ หตั ถค์ ้”ู งอข้อศอกทั้งสองข้าง
ระบอบระบลิ ไตร- ดายคุ โพ้นพ่อ ดนั เขา่ ออก มอื อยรู่ ะดบั
นง่ั หยอ่ งสองหัตถค์ ู้ ศอกแกล้ มขา ราวนม
๓๖ แก้เวียนศรี ษะ แบะขาค้เู ข่าเขา้ ส้นเสมอ “แบะขาคเู้ ข่า ท่านงั่ บนส้นเท้า แบะขา
(พระสธุ ามันต์) บิดไหล่หงายแขนเผยอ ยดื ไว้ เข้า สน้ เสมอ ออก เหยยี ดแขนทงั้ สอง
เวยี นเศยี รจติ รใจเผลอ พลนั เสอื่ ม สา่ งนอ บดิ ไหล่หงาย ข้าง หงายแขน มือชิด
พระสุธามนั ต์ได ้ ดดั แลว้ อยา่ ฉงน แขนเผยอ กัน บดิ ไหล่ไปดา้ นขา้ ง
ยืดไว้”
๓๗ แก้ลิน้ กระดา้ ง พระภาระทวาชะเชือ้ ชีดง “คกุ เข่าหตั ถ์ไคว่ ทา่ น่ังคุกเข่าขา้ งขวา ขา
(พระภาระทวาชะ) อย่ปู า่ อาศัยพง พุ่มไม้ ตรง อุระภาค ซ้ายกระดกข้อเท้าข้ึน
คุกเข่าหัตถ์ไคว่ตรง อรุ ะภาค ตนนา ตนนา” แขนซ้ายเหยียดตรงไป
แกก้ ระดา้ งลิ้นได้ ทา่ น้ีดีจริง
ด้านข้าง ควำ�่ มอื กระดก
ขอ้ มือข้ึน งอศอกขวาไว้
ใต้แขนซ้าย คว�่ำมือ
กระดกข้อมือขึ้น (แขน
ออกแรงต้านกัน) เอี้ยว
ล�ำตัวไปทางขวา
๓๘ แกก้ ลอ่ นในทรวง พระวัชอัคนศิ น ี้ เชิญนารายน์ มานอ “แยกเข่าแยย่ ่อ ท่าน่ังยอง แบะขาออก
(พระวชั อัคนศิ ) มลา้ งเหลา่ อสูรหลาย เลยี่ นหล้า กาย สองหัตถ์ และย่อลง มือทั้งสอง
แยกเข่าแย่ย่อกาย สองหัตถ์ ท้าวแฮ ท้าวแฮ” ข้างเท้าพื้น หันส้นมือ
แก้กล่อนร้อนอุระกล้า เกลือ่ นสิน้ เส่ือมสญู
เข้าหากัน ปลายน้ิวมือ
อยู่บริเวณส้นเท้า
๓๙ แก้ไหล่ ตะโพก พระชนกนักสิทธนิ์ ี้ ชนะมาร “คูเ้ ขา่ ศอกกด ท่านั่งคู้เข่าไขว้ขา ศอก
(พระชนก) ไตรเพทไตรพธิ ญาณ ย่อมแจง้ แข้ง หัตถเ์ คล้น ท้ั ง ส อ ง ข ้ า ง ก ด แ ข ้ ง
ยอกไหล่ยอกตะโพกปาน ปืนปกั อยู่นอ ไคลทรวง” เข้าหาล�ำตัวมือไคลคลึง
คเู้ ขา่ ศอกกดแขง้ หัตถ์เคล้นไคลทรวง
บริเวณหนา้ อก
๔๐ แกเ้ ทา้ เย็น นักพรตประพฤตสิ ร้าง จรรยา “เทา้ ซ้ายไขว่ ท่านง่ั ไขวห่ ้างบนพ้นื มอื
ใจสวิงสวาย เชิดช่ือกระบลิ ดา บศเจา้ เพลาขวา มอื ขา้ งหนงึ่ จบั เทา้ ดงึ ไปขา้ ง
(กระบิลดาบส) เทา้ ซ้ายไขวเ่ พลาขวา มือหนว่ ง เข่าเอย หนว่ ง เขา่ เอย” หลัง มืออีกข้างดันหัว
ลมระงับจับเย็นเท้า อีกท้ังสวงิ สวาย
เข่าไว้ ดันหัวเข่าให้มาก
ทีส่ ุด หายใจเขา้ -ออก
ค�ำ อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดดั ตน 165
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
อาการโรคที่รู้สึกเจ็บอย่างมีอะไรทิ่มหรือต�ำกล้ามเนื้อใน
โคลงภาพ การสงั คายนา รา่ งกายทบี่ รเิ วณเอว (๕)
“แกเ้ สน้ สะดุ้งขบ ๕๓. ยอกเอว เสน้ สะดุ้ง
เอวยอก หายนอ”
“ศอกแกล้ มขา” ๕๔. ลมในขา ลมในขาท�ำให้เดนิ ไมส่ ะดวก ทำ� ให้เมื่อย ขดั ขา (๕)
“เวียนเศยี รจติ รใจเผลอ ๕๕. เวียนศรี ษะ - ดใู น เวยี น ๑ เวยี นหวั ก. รสู้ กึ มนึ หวั ตาลาย ใจหววิ มอง
พลนั เสอ่ื ม สา่ งนอ” ๕๖. จิตใจเผลอ เห็นอะไรหมุนไปหมดโดยปริยายหมายถึงอาการที่ท�ำให้
“แก้กระดา้ งลน้ิ ได้ ร้สู ึกงง สบั สน วนุ่ วาย ร�ำคาญ เปน็ ตน้ (๔/น. ๑๑๓๑)
ทา่ นดี้ จี ริง” (จิตระส่ำ� ระสาย หัวใจ
เต้นผดิ ปกติ - ดูใน เผลอ ก. หลงลืมหลงลืมไปชั่วขณะ เช่น เผลอตัว
๕๗. ลนิ้ กระด้าง เผลอสติ เลนิ เล่อ ไมร่ ะวังตัว (๔/น. ๗๘๘)
ดูใน ลน้ิ กระดา้ งคางแข็ง ก. อาการลิน้ แข็งขยับขากรรไกร
ไม่ได้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการไข้สูง ลมชิวหา
สดมภ์ ลมอมั พฤกษ์ อัมพาต ลมทักขณิ โรธ (๑/น. ๔๑๒)
“แก้กล่อนร้อนอุระกล้า ๕๘. กล่อนในทรวง อาการรอ้ นในทรวง (๒/น. ๑๐)
เกลือ่ นส้ินเส่อื มสูญ”
“ยอกไหล่ยอกโตภกปาน ๕๙. ยอกไหล่ ดูใน ยอก ก. รู้สกึ เจบ็ แปลบรูส้ กึ เจบ็ แปลบคล้ายมอี ะไรมา
ปืนปกั อยูน่ อ” ๖๐. ยอกสะโพก เสยี ดแทงบริเวณไหล่ (๑/น. ๓๖๑)
- ดใู น ลมจกั โก ลมทที่ ำ� ใหม้ อื เยน็ เทา้ เยน็ (๒/น. ๑๘๔-๑๘๕)
“ลมรงับจับเยน็ เท้า ๖๑. ลมจบั เท้าเย็น - ดใู น สวงิ สวาย ก. อาการที่รูส้ ึกใจหวิว วิงเวยี น คลน่ื ไส้
อกี ทัง้ สวิงสวาย” ๖๒. ใจสวงิ สวาย
ตาพร่า จะเปน็ ลม (๑/น. ๔๓๒)
166 ชดุ การสังคายนาภมู ิปัญญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชือ่ ภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษดี ดั ตน แผนดัด/วิธีการดดั ตน
(ช่ือฤๅษี)
โคลงภาพ การสงั คายนา
๔๑ แก้ไหล่ แกข้ า สุกทันต์นกั สิทธ์เิ ถ้า เทย่ี วเกบ็ ยานา “ยนื ยดึ เอวองค์ ท่ายืน มือเท้าสะเอว
(สกุ ทันต์) ทาไหลข่ าชาเหน็บ บอ่ เปล้อื ง เย้ืองย่างเทา้ ท่า (ซ้าย) เย้ืองตัวไปด้าน
ลกุ นั่งยิ่งยอกเจบ็ จึงดดั ตนแฮ หนงั ” หน้า ก้าวเท้าขวาแล้ว
ยนื ยดึ เอวองค์เย้ือง ยา่ งเท้าท่าหนงั
ย่อขา่ ลง เหมือนท่าหนงั
ตะลงุ
๔๒ แกก้ ล่อนปัตคาด สชั นาไลยลหี้ ลัก ละสง สารแฮ “ยืนย่างหยดั ท่ายืน ก้าวเท้าข้างหน่ึง
(สชั นาไลย) ยืนยา่ งหยดั เหยียดองค์ ออ่ นแล้ เหยียดองค์ ไปข้างหน้า ย่อเข่าลง
สองหัดถ์ทา่ ทที รง ศรสาตร ไปเอย ออ่ นแล้ เทา้ หลงั ใชส้ ว่ นปลายเทา้
บำ� บัดปัตคาดแก้ กล่อนแหง้ หดื หาย สองหตั ถ์ทา่ ที เหยียบพื้น ในลักษณะ
ทรง ศรสาตร ย่างเท้าเดิน เหยียด
ไปเอย” ล�ำตัวให้ตรง กางแขน
ลกั ษณะตั้งท่านา้ วคนั ธนู
๔๓ แก้คอเคลด็ นกั พรตพกั ตร์เพศมา้ มแี ผน พม่านา “ทา่ อัดดดั ท่ายืนกางขาให้ห่างกัน
แก้ไหลข่ ัด ชื่ออศั วมุขแี ขน คคู่ ู้ เหลย่ี มแบน เท่าระยะหัวไหล่ แบะ
(อศั วมขุ )ี ท่าอดั ดดั เหลีย่ มแบน แบะเข่า แบะเขา่ ” เท้าออก (๑๘๐ องศา)
คอเคลด็ แคลงไหลห่ ล ู้ โฉลกแกต้ ลอดกนั ใหห้ นั สน้ เทา้ เขา้ หากนั ยอ่
ตัวแยกเขา่ คล้ายทา่ ยกั ษ์
โขน งอข้อศอกทั้ง ๒
ข้างยกแขนขึ้นระดับอก
กระดกข้อมือข้ึน งอน้ิว
มอื ลง
ค�ำ อธบิ ายสมุดภาพโคลงฤๅษดี ัดตน 167
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
โคลงภาพ การสังคายนา
“ทาไหลข่ าชาเหนบ็ ๖๓. เหนบ็ ชา ไหล่ ขา ดใู น เหน็บ ๔ น. อาการชาและเจ็บแปลบปลาบตามแขนขา
บ่อเปลอ้ื ง” (ยอก เจ็บ เวลาลกุ น่งั ) เป็นต้น เกิดจากหลอดเลือดและเส้นประสาทหรืออย่างใด
อย่างหนง่ึ บริเวณนั้นถกู กดทบั ระยะหนึ่ง (๔/น. ๑๓๔๔)
“บำ� บัดปัศฆาฏแก้ กลอ่ น ๖๔. กลอ่ นปตั คาด - ดูใน กระษัยกล่อน กระษัยเถา เกิดข้ึนเพ่ือลมสันฑฆาต
แห้งหดื หาย” ๖๕. กล่อนแหง้ และลมปัตคาดมันแล่นเข้าในล�ำเส้นนั้นให้เส้นพองแข็ง
ระหว่างหัวหน่าวมาประจบเกลียวข้างถ้าชายข้ึนขวาหญิง
“คอเคลด็ แคลงไหลห่ ลู้ ๖๖. คอเคลด็ ขึ้นซ้าย เสียดมาตามชายโครงถึงยอดอก อาการให้ปวด
โฉลกแกต้ ลอดกัน” ๖๗. ไหล่ขัด ขบในอก เสียวตลอดถึงล�ำคอ เม่ืออาเจียนออก อาการ
ค่อยเบาขึ้น น้�ำปัสสาวะแดงหรือเหลืองเล็กน้อย ถ้าเป็น
ตะกอนดังปูนนั่นคือ กระษัยเถา (Urinary stone)
(๒/น. ๑๐)
- กลอ่ นแหง้ มี ๔ ชนิด คอื
๑. กล่อนแห้งอันบังเกิดเพื่อเส้นมุตฆาตท�ำให้ขัดปัสสาวะ
บางทีให้ปวดถ่วง ปัสสาวะบ่อย และให้หยดย้อย ให้
เม่อื ยบนั้ เอวและต้นขาท้งั ๒ ขา้ ง เปน็ กำ� ลงั
๒. กล่อนแห้งอันบงั เกดิ เพ่ือสนั ฑฆาต ทำ� ใหท้ ้องแข็ง เปน็
เถาเป็นดาน มกั ใหจ้ กุ ใหแ้ นน่ บริโภคอาหารมไิ ด้อ่มิ ไป
ดว้ ยลม ถว่ งฝกั คนั เปน็ กำ� ลงั ตอ่ เกาจนนำ้� เหลอื งตกจงึ
คลาย
๓. กล่อนแห้งอนั บงั เกดิ เพอื่ ปตั คาด ทำ� ให้เมอ่ื ยและเหนบ็
ชาเป็นก�ำลัง ตึงไปทั้งตัวให้ถ่วงฝักและต้นขาหนัง
อณั ฑะนน้ั หนา ชาไปทั่วสรรพางคม์ ิได้รู้สกึ ตน
๔. กลอ่ นแหง้ อนั บงั เกดิ เพอ่ื รตั ตฆาต ทำ� ใหเ้ สยี ดสขี า้ งและ
ชายโครงใหข้ บยอกใหเ้ มอื่ ยตงึ ใหเ้ สยี วไปทง้ั กายใหป้ วด
ถ่วงให้ฝักฟกในองค์ก�ำเนิดให้ปัสสาวะมิได้โชน (พุ่ง)
(๒/น. ๑๑)
- ดูใน เคลด็ ๒ ก. อาการกล้ามเนอ้ื แพลง เชน่ ขาเคล็ด
คอเคลด็ (๔/น. ๒๗๓)
- ดูใน ขัดไหล่ น. อาการรู้สึกเจ็บแปลบคล้ายมีอะไรมา
เสียดแทงบริเวณส่วนของบ่าตอนท่ีติดกับต้นแขน
(๑/น. ๖๕)
168 ชดุ การสงั คายนาภูมิปญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ช่ือภาพ ค�ำโคลงภาพฤๅษีดัดตน แผนดัด/วธิ ีการดดั ตน
(ชื่อฤๅษี) โคลงภาพ การสงั คายนา
๔๔ แก้คอ แก้ไหล่ อสิ งิ คด์ าบสหนา้ เปน็ มนษุ ย์ “ยืนดัดหตั ถ์สอง ท่ายืนดัด ลักษณะก้าว
(อิสิงคด์ าบส) เขางอกแงเ่ ศียรดจุ ดั่งเน้ือ ยุด กันกด เท้าซ้ายไปด้านหน้า มือ
ยืนดัดหัตถ์สองยุด กันกด เอวนา เอวนา” ท้ังสองไพล่หลัง จับยึด
คอไหล่ไข้รงั้ เรือ้ โรคร้ายรึงถอย
ข้อมอื ท้ังสอง ยอ่ เข่าทั้ง
สองข้าง ดึงมือไปด้าน
ซ้ายกดมอื ลงทบ่ี น้ั เอว
๔๕ แก้ลมอัณฑวาต โยคีอะแหมแ่ ม้น แขกพราหม พรตแฮ “คู้เขา่ เทา้ สอง ทา่ นง่ั คเู้ ขา่ ไขวข้ าทงั้ สอง
(โยคอี ะแหม)่ มือสิบเบ็ดน้วิ สลาม ศวิ ะไท้ ไขว้ หตั ถเ์ คลน้ ต้ังขึ้น ต้ังศอกท้ังสอง
แกล้ มอัณทวาตตาม ลำ� แล่น เสียวนา ไคลคอ” หนีบเข่า (ให้ส้นเท้าใกล้
คู้เข่าเท้าสองไขว ้ หัตถเ์ คลน้ ไคลคอ
ฝเี ยบ็ มากทส่ี ดุ ) ใหม้ อื ทงั้
สองข้างบีบนวด และ
คลงึ ไปมาทลี่ ำ� คอ
๔๖ แก้เสยี ดขา้ ง พระองคอ์ มรเมศร์แก ้ กายโกง “ส้นเหน่ยี วเกย่ี ว ท่านั่งขัดสมาธิ ยกเท้า
(อมรเมศร์) ลมเสยี ดเสยี วสลักโครง ปวดอู้ ไหลช่ ะโลง ลม ขา้ งหนงึ่ ขนึ้ เกยี่ วไหล่ มอื
สน้ เหนีย่ วเกีย่ วไหลช่ ะโลง ลมแบ่ง เบาเฮย เบง่ เบาเฮย ขา้ งหนง่ึ จบั ขาขา้ งที่ไมไ่ ด้
มือหนงึ่ เหนี่ยวขาค้ ู ขยาดถ้าระอาท�ำ มือหน่งึ เหนีย่ ว ยก มืออีกข้างหนึ่ง
ขาคขู้ ยาดถ้า เหน่ียวขาข้างท่ียกไว้ไม่
ระอาทำ� ” ให้ตก
๔๗ แก้วงิ เวยี น ฤๅษสี เุ มธนีน้ ัง่ ไมถ่ นัด “กระหย่งเท้า ทา่ นง่ั กระหยง่ บนสน้ เทา้
(ฤๅษีสุเมธ) กระหยง่ เทา้ เข่าขดั เหล่ยี มถ้า เข่าขดั เหลีย่ ม กางเขา่ ออก (ทา่ เหลยี่ ม)
เอี้ยวองคอ์ ีกสองหัตถ์ ไหวเ้ หวย่ี ง อยู่เฮย ถ้า เอ้ียวองค์ เอย้ี วลำ� ตวั พรอ้ มพนมมอื
แหงนพกั ตร์ที่เพ่งฟ้า บอกแกว้ ิงเวียน อกี สองหตั ถ์ ขนึ้ ระดบั คาง แหงนหนา้
ไหว้เหวย่ี ง อยู่ ขนึ้ มองฟา้
เฮย แหงนพกั ตร์
ที่เพง่ ฟา้ ”
๔๘ แก้ลม ดาบศบรเมศร์แก ้ ลมหลัก “น่ังสมาธิหัตถ์ ท่าน่ังขัดสมาธิ แบบขา
มหาบาดทะยกั เรยี กมหาบาดทะยกั ย่ิงร้าย สองชัก ฉดุ แขง้ เรียง มือข้างหนึ่งดึง
(ดาบสบรเมศร)์ นง่ั สมาธิหัตถ์สองชกั ฉุดแข้ง ขาแฮ ขาแฮ อกแอน่ หลงั เท้า มืออีกข้างหนึ่ง
อกแอ่นอดึ อัดย้าย โยกเยอื้ งอินทรยี ์ แอน่ อดึ อดั ย้าย ดึงหน้าแข้ง แขนตรง
๔๙ แก้แขนขดั โยกเย้อื ง แอน่ หน้าอกโยกตัวไปมา
(โคบุตร) อนิ ทรยี ์”
ระบอื นามโคบุตรกอ้ ง กูณธส์ รรค์ สฤษด์เิ ฮย “ท่าดดั พับเพยี บ ทา่ นั่งพบั เพยี บ เท้าแขน
ถอดหทัยทศกรรฐ ์ เกบ็ ไว้ ผัน พกั ตร์นอ่ ย ข้างที่ขัด ใช้มืออีกข้าง
ทา่ ดดั พบั เพียบผัน พักตรน์ อ่ ย ณแฮ ณแฮ” หน่งึ นวด หันหน้าไปทาง
แขนใดขดั ท้าวให ้ หัตถบ์ ไขน้ วดแขน แขนข้างทีป่ วด
คำ�อธิบายสมุดภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน 169
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
- อาการปวดคออยา่ งตอ่ เน่ืองเป็นระยะเวลานาน (๕)
โคลงภาพ การสงั คายนา - อาการปวดไหลอ่ ยา่ งต่อเน่อื งเป็นระยะเวลานาน (๕)
“ฅอไหลไ่ ข้รง้ั เร้อื ๖๘. ปวดคอ ไหล่เรื้อรัง
โรครา้ ยรึงถอย”
“แก้ลมอัณทวาตตามล�ำ ๖๙. ลมอัณฑวาต (ตำ� รายาวดั ดูใน ลมอัณฑะ ลมท่ีท�ำให้ถงุ อณั ฑะบวมโต (๒/น. ๒๐๕)
แล่น เสยี วนา” โพธ)์ิ
“ลมเสยี ดเสยี วสลกั โครง ๗๐. ลมเสียดขา้ ง เสยี ด ลมทท่ี �ำใหเ้ กดิ อาการเสียดชายโครง (๕)
ปวดอ้”ู บริเวณชายโครง
(เสียวสลักโคลง)
“บอกแกว้ ิงเวยี น” ๗๑. วงิ เวยี น ดูใน วิงเวียน ก. รู้สึกเวียนหัว ดูอะไรหมุนไปหมด มักมี
อาการคลืน่ ไส้ดว้ ย (๔/น. ๑,๑๑๖)
“ดาบศบรเมศร์แก้ ๗๒. ลมมหาบาดทะยกั - ลมมหาบาทยกั อาจเป็นชื่อเดียวกนั กบั ช่ือลมบาทยกั ษ์ (๕)
ลมหลกั เรียกมหา - ช่ือลมชนิดหน่ึง อาการเหมือนลมกุมภัณฑ์เกิดข้ึนขณะที่
บาดทะยัก ยงิ่ รา้ ย”
เดก็ เปน็ โรคซางโจรอยแู่ ลว้ มอี าการตวั รอ้ นจดั ชกั ดาชอ้ น
“แขนใด่ขัดท้าวใหห้ ัดถ์บไข้ ๗๓. แขนขัด ข้ึนเบ้ืองบน ใบหน้าเขียว มือก�ำ เท้าก�ำ หลังแอ่น
นวดแขน” หรือเกิดจากพิษบาดแผลท่ีอักเสบ ท�ำให้เกิดอาการลม
บาดทะยักข้นึ (๓/น. ๘๕๔)
อาการแขน ตงึ ติดขัด เคลื่อนไหวไม่ปกติ (๕)
170 ชดุ การสงั คายนาภมู ปิ ัญญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ช่อื ภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษีดัดตน แผนดัด/วิธกี ารดัดตน
(ชอื่ ฤๅษี) โคลงภาพ การสงั คายนา
๕๐ แก้ลมปตั คาด จุลพรหมสพี่ ักตรน์ ้ ี แผลงฤทธิ์ “ยกเขา่ เหยียด ทา่ นง่ั เหยยี ดขาขา้ งหนง่ึ
ลมในเอว ยกเขา่ เหยียดแขนอิสติ เสอื กเทา้ แขนอิสติ ออกและให้ขาข้างหนึ่ง
(จุลพรหม) แผนแพทยพ์ ัตโหนดพิศ- ดารบอก ไว้นา เสือกเท้า” ยกเขา่ ชนั ขนึ้ ในทา่ นงั่ ไขว่
แก้ปตั คาดขึน้ เรา้ อกบัน้ เอวหาย
ห้าง ใช้มือข้างเดียวกัน
โอบจับเหนือข้อเท้า ยก
แขนอีกข้างข้ึนพร้อม
เอ้ียวล�ำตัว วาดแขนไป
ด้านหลังจนสุด หันหน้า
มองตามแขน
๕๑ แก้ลมในเท้า อัศทศิ น่ังแอน่ เอย้ี ว องค์เปร “อัศทศิ นัง่ แอ่น ท่านั่งหลังแอ่น ขาข้าง
(อัศทิศ) ทบั แข้งขาหน่งึ เฉ เฉยี ดลม้ เอ้ียว องค์เปร ซ้ายเหยียดไปทางด้าน
กรขวากดอกเอ เอยี งเหยยี ด ซา้ ยเอย ทบั แขง้ ขาหนึ่ง หน้า งอเข่า ฝ่าเท้าติด
แกเ้ จบ็ บาทบก่ ม้ พกั ตรพ์ ลิว้ แพลงหงาย เฉ เฉียดล้ม พื้น มือด้านขวางอศอก
กรขวากดอกเอ กดอก มือข้างซ้าย
เอียงเหยียด เหยยี ดไปขา้ งหนา้ ตง้ั ขอ้
ซ้ายเอย” มือขึ้น พร้อมกับเอนตัว
หันหน้ามองไปตามมอื
๕๒ แก้ลมในคอ พระกาญจน์ลมเสียดเสน้ ศอเสยี ว “ค้เู ข่าขา ท่าน่ังขัดสมาธิ คู้เข่า
(พระกาญจน)์ เพือ่ นด่ืนบเดนิ เทยี ว เท่ยี วง้อ ก่อมกอ้ หัตถ์ เท้าซ้ายทับเท้าขวา มือ
แกค้ อบิดคอเหลยี ว ลมเหือด หายแฮ เคล้นไคลขา” ท้ังสองข้างอยู่ด้านหลัง
๕๓ แกล้ มขา ค้เู ข่าขาก่อมก้อ หตั ถเ์ คล้นไคลขา หงายฝ่ามือ สอดไว้ใต้
(ขทุ ธากะ) โคนขา ใช้มือบีบนวด
ค ลึ ง ที่ แ น ว ข า ด ้ า น ใ น
๕๔ แก้ลมล�ำลงึ ค์ เอยี งนวดทลี ะข้าง
แกล้ มอณั ฑะ
(โยคอี ังคด) ขุทธากะเจ้า เจ็บบาท “มือหนงึ่ นวดอก ทา่ นงั่ น่ังทา่ กบ (นัง่ พับ
เพื่อพิกาลลมกาจ กบั เส้น เนน้ หนง่ึ คำ�้ คาง ขาให้ปลายเท้าออกด้าน
ดดั ตนตดั ลมขาด ขาเมอ่ื ย มว้ ยแฮ แหงน” นอก) มือซ้ายใช้ส้นมือ
มือหน่งึ นวดอกเนน้ หนึง่ คำ�้ คางแหงน
กดเน้นท่ีหน้าอก อีกมือ
หนง่ึ คำ�้ คางแหงนหนา้ ขนึ้
โยคีองั คดกล้า สมาบตั ิ “น่งั สมาธิ์นวด ท่านั่งสมาธิ เท้าขวาทับ
รู้ชาตเิ นาวรัตนช์ ดั ชอื่ น้ัน คอคนั้ ขบเขีย้ ว เท้าซ้าย สองมือนวดที่
แกล้ มเสียดเสียวขดั ล�ำฝกั หายแฮ ตาขมงึ ” คอ กัดฟนั ตาขมึง
น่ังสมาธน์ิ วดคอค้นั ขบเข้ียวตาขมึง
ค�ำ อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดัดตน 171
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
โคลงภาพ การสังคายนา ๑. โรคลมชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยมักมีอาการปวดเม่ือยตามแนว
เส้นปัตคาด เคลื่อนไหวไม่สะดวก ดังคัมภีร์แผนนวด
“แก้ปศั ฆาฏขึน้ เรา้ ๗๔. ลมปตั คาด (๗/น. ๙๖) ตอนหน่ึงว่า “...ชื่อว่าลมปัตฆาฏก็ว่าผู้นั้น
อกบั้นเอวหาย” (ทำ� ให้ลมขน้ึ ในเอว) มักนั่งนัก ลุกน่ังมิได้ก็ดี ให้แก้เส้นเอนท้ัง ๒ แลแก้เส้น
แถวหลังท้ัง ๒ แลแก้เส้นบั้นเอวทั้ง ๒ ข้าง ช่ือว่าลม
“แก้เจ็บบาทบก้ม ๗๕. ลมในเท้า เจบ็ เท้า แถกกลออมน้ัน ให้แก้หัวเหน่าแลท้องแลรอบสดือ แล
ภักตร์พล้วิ แพลงหงาย” บ้ันเอวแลสันหลังนั้นคลายแล...”, ลมปัตฆาฎ ก็เรียก,
เขียนว่า ปัตคาด ปัฏฆาต ปัตะฆาฏ หรือปัตฆาฏ ก็มี
(๑/น. ๒๗๖)
ลมทที่ ำ� ใหม้ อี าการเจ็บปวดทเ่ี ทา้ (๕)
“แกค้ อบิดฅอเหลียว ๗๖. ลมในคอ (รสู้ ึกเจ็บแปบ๊ ) ดูใน ลมในกองเสมหะ ลมท่ีเกิดจากศอเสมหะผิดปรกติ
ลมเหือด หายแฮ” ทำ� ให้เสียดเสน้ เสยี วคอ (๒/น. ๑๙๑)
“ดัดตนตัดลมขาด ๗๗. ลมขา ขาเมอื่ ย เจบ็ เทา้ ลมท่ที ำ� ให้ปวดเมอ่ื ยขา (๕)
ขาเม่ือย ม้วยแฮ” เพราะลมรา้ ย
“แกล้ มเสียดเสียวขดั ลำ� ฝกั ๗๘. ลมล�ำลึงค์ - ลมทที่ �ำใหป้ ัสสาวะขดั (๒/น. ๑๙๘)
หายแฮ” ๗๙. ลมอณั ฑะ - ลมท่ที ำ� ให้ถงุ อณั ฑะบวมโต (๒/น. ๒๐๕)
172 ชุดการสงั คายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ช่ือภาพ ค�ำโคลงภาพฤๅษีดัดตน แผนดดั /วิธีการดัดตน
(ชื่อฤๅษี)
โคลงภาพ การสงั คายนา
๕๕ แก้ลมขอ้ มอื อนติ ถคิ ันธ์ทา่ นนว่ิ หน้า ตาถลงึ “พบั เข่านง่ั ทา่ นงั่ พบั ขา บดิ กายออ่ น
(อนติ ถิคนั ธ์) ลมเสยี ดสองหัตถ์ดงึ ปวดติว้ คำ� นึง นกึ ดดั ช้อย พนมมือแล้วดัด
พบั เขา่ นง่ั ค�ำนึง นึกดดั ดงั่ ฤๅ ดง่ั ฤๅ กายชด ปลายนวิ้ และขอ้ มือ
กายชดชระดัดน้วิ นบถ้าเทพนม ชระดดั น้ิว
นบถา้ เทพนม”
๕๖ แกล้ มอก สจั พนั ธ์นกั สิทธิผ์ ู้ สถติ ยส์ ัจ-พัณฑ์เอย “ประจงสอง ทา่ นง่ั งอเขา่ ใหเ้ ทา้ ชดิ กนั
(สัจพันธ์) ลมเสียดทรวงอกอัด โรคเรอื้ พระหตั ถ์ดัด ใช้มือทั้งสองค่อย ๆ ดัน
ประจงสองพระหัตถด์ ดั ดนั เข่า สองนา ดนั เขา่ สองนา เข่าท้ังสองข้าง เหยียด
นรชาติใครไ่ ดเ้ ชื้อ นวดเทา้ อธิษฐาน นรชาติใคร่ได้ แขน ยดื อกแอน่ พรอ้ ม
เชอ้ื นวดเทา้ กบั นวดเท้าไปดว้ ย
อธษิ ฐาน”
๕๗ แกเ้ ส้นมหาสนกุ กามินทรม์ อื ยุดเท้า เหยียดหยัด “กามินทร์มือยุด ท่านั่ง เหยียดขาซ้ายให้
ระงบั มอื หนงึ่ ท้าวเขา่ ขดั สมาธิค์ ู้ เท้า เหยยี ดหยัด ตึงท่ีสุด ใช้มือซ้ายยึด
(กามินทร)์ เขา้ ฌานชว่ ยแรงดัด ทกุ ค�่ำ คืนนา มอื หนง่ึ ท้าวเข่า เทา้ ดงึ เขา้ มาหาตวั สน้
รงับราคยากจะส ู้ โรครา้ ยภายใน ขดั สมาธค์ิ ู”้ มอื ขวาดนั เขา่ ขาขา้ งขวา
ท่ีท�ำท่าขัดสมาธิ พร้อม
กบั ทำ� สมาธชิ ่วยเพ่ิมแรง
ในการดัดตน ท�ำประจ�ำ
ทุกคนื
๕๘ แก้เท้าขัด มคิ าชินทรม์ กั ไตเ่ ตา้ เตรเ่ ตร็จ “เข่าหนง่ึ ชันมือ ทา่ นง่ั งอเขา่ ใหเ้ ทา้ ชดิ กนั
(มคิ าชนิ ทร)์ ลม้ พลาดแพลงแคลงเคล็ด ขอดเส้น เน้น นวดแขง้ หงายฝา่ เทา้ ขา้ งหนง่ึ ขา
ดดั แก้กอบกละเมด็ น่งั แบะ บาทเฮย ขยำ� คลำ� ” อีกข้างที่แพลง หรือ
เขา่ หนึง่ ชันมอื เนน้ นวดแขง้ ขยำ� คลำ�
เคล็ดยอกใหย้ กขึ้น แลว้
ใชม้ อื นวดไปตามสนั หนา้
แขง้
๕๙ แกเ้ สน้ ท่วั อลั ทปิ ะกะโพ้น พงษ์กษัตรยิ ์ “กรทอดระทวย ท่านั่งพับขา ให้ขาแบะ
สารพางค์ ออกผนวชพนสั ลดั หลกี เรน้ ดดั องคอ่อน ออกดา้ นขา้ งทงั้ สองขา้ ง
(อลั ทปิ ะกะ) กรทอดระทวยดดั องค์อ่อน งามเอย งามเอย” แล้วเท้าแขนท้ังสองไว้
แก้ท่วั สารพางคเ์ สน้ รงับได้โดยเพยี ร
ข้างล�ำตัวพร้อมยืดอก
แอน่
๖๐ แก้ไหล่ขัด พระอัลกัปะกะเบ้อื ง บรรพ์รบิน นนั้ ฤๅ “เศียรหกหัตถ์ ทา่ ยนื ขาขา้ งหนง่ึ กา้ วไป
ตะโพกขดั รูฤ้ กษบ์ นมนต์พณิ ผะเหลาะช้าง จรดดิน ยนื หย่ง ขา้ งหนา้ ใหเ้ ขยง่ เทา้ ขา้ ง
(พระอลั กปั ะ) เศยี รหกหตั ถจ์ รดดิน ยืนหย่ง แยน่ า แยน่ า” หลัง แล้วห้อยศีรษะลง
แก้ไหล่ตะโพกเกลียวขา้ ง เขา่ แขง้ ขาหาย
ไปใหม้ ากทสี่ ดุ พรอ้ มกบั
ใชส้ น้ มอื ทงั้ สองยนั บนพน้ื
คำ�อธิบายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดัดตน 173
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
โคลงภาพ การสงั คายนา
“ลมเสยี ดสองหัดถต์ งึ ปวด ๘๐. ลมข้อมอื ลมเสยี ดในมือ ลมทท่ี �ำใหต้ ึง ปวดฝา่ มือขน้ึ มาถงึ แขน (๕)
ตวิ้ ”
“ลมเสียดทรวงอกอดั โรค ๘๑. ลมอก ลมเสยี ดทรวงอก ดูใน ลมอนั เกิดในทรวงอก ลมที่ทำ� ให้แนน่ หนา้ อก
เรอ้ื ” (๒/น. ๒๐๕)
“รงับราคหยากจสู้ ๘๒. ลม/เสน้ มหาสนุก - ดใู น ลมมหาสดมภ์ ลมท่ีทำ� ให้ขากรรไกรแข็ง
โรครา้ ยพายใน” - แรกจบั ใหห้ าวนอน งว่ งเปน็ กำ� ลงั ใหห้ วาดหวน่ั อยแู่ ต่ในใจ
นอนนงิ่ แน่ไมร่ ูส้ กึ กาย (๒/น. ๑๙๖)
“ล้มพลาดแพลงแคลง ๘๓. เทา้ ขัด/แพลงเคล็ด เกดิ จากเอน็ พงั ผดื หรอื กลา้ มเนอ้ื ทยี่ ดึ รอบ ๆ ขอ้ ถกู ยดื ออก
เคล็ด ขอดเสน้ ” (ข้อเคล็ด) หรือมีอาการฉีกขาด (ข้อแพลง) เพราะหกล้ม
ขอ้ บิด ถูกกระแทกหรือยกของหนกั มกั เปน็ ทข่ี ้อเทา้ (๕)
“แกท้ ัว่ สารพางคเ์ ส้น ๘๔. เส้นทว่ั สารพางค์ เสน้ ต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ทวั่ ท้ังร่างกาย (๕)
รงับได้โดยเพยี ร”
“แก้ไหลต่ ะโภกเกลียวข้าง ๘๕. ไหล่ สะโพก เกลยี วข้าง อาการที่ไหล่ สะโพก เข่า แข้ง กล้ามเน้ือบริเวณสีข้าง
เข่าแข้งขาหาย” เข่า แข้งขดั ตึง ติดขดั เคล่อื นไหวไมป่ กติ (๕)
174 ชุดการสังคายนาภูมปิ ัญญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชอ่ื ภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษีดดั ตน แผนดดั /วิธีการดัดตน
(ช่อื ฤๅษ)ี โคลงภาพ การสังคายนา
๖๑ แก้ลมเอว พระไชยาทิศเช้อื ชฎลิ ดง “นั่งสมาธิถวัด ทา่ นงั่ ขดั สมาธิ วงแขนขา้ ง
(พระไชยาทศิ ) ลมเสยี ดเส้นสะเอวองค์ ขดคอ้ ม วง กรเวียด หนงึ่ โอบเหนย่ี วเอว แขน
น่งั สมาธิถวดั วง กรเวียด เอวแฮ เอวแฮ เหยียด อีกข้างหนึ่งยกข้ึนข้าง
เหยียดหัตถด์ ดั ตนน้อม เหนี่ยวแกส้ กนธก์ าย หตั ถด์ ดั ตน ลำ� ตวั ตวดั ปลายมอื เหยยี ด
นอ้ ม” ขนึ้ คลา้ ยทา่ ตงั้ วงรำ� แลว้
หันหน้าไปทางปลายมือ
๖๒ แก้ลมกลอ่ น สทิ ธกิ รรมน่งั หนว่ งเทา้ ไขวค่ อ “สทิ ธกิ รรมน่ัง ท่านงั่ พับขา ขาข้างหนึง่
(สิทธิกรรม) หลงั ขดคู้ตัวงอ งบู งำ้� หน่วงเทา้ ไขว่ พับไปด้านข้าง หลังเท้า
ตงึ ตลอดสอดมอื พอ โชะลงเขา่ ไว้แฮ คอ” ราบไปกบั พน้ื ขาอกี ข้าง
แก้กล่อนแหง้ กล่อนนำ�้ กล่อนเสน้ กล่อนกระษยั หนง่ึ ยกข้นึ ไขวท้ ค่ี อ โดย
ใช้มือข้างเดียวกับขาท่ี
ยกประคองหัวเข่าขึ้น
มืออีกข้างหน่ึงจับขาขึ้น
ไขวค้ อ พรอ้ มกบั งอหลงั
ค�ำ อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดัดตน 175
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
ลมท�ำให้เสียดเสน้ ที่เอว ทำ� ให้เอวขด (๕)
โคลงภาพ การสงั คายนา
“เหน่ียวแกส้ กลกาย” ๘๖. ลมเอว
“แก้กลอ่ นแหง้ กลอ่ นน�้ำ ๘๗. กลอ่ น กลอ่ นแหง้ - กลอ่ นแห้ง มี ๔ ชนิด คือ
กล่อนเส้นกล่อนไกษย” กล่อนน�้ำ กลอ่ นเสน้ ๑. กล่อนแห้งอันบังเกิดเพื่อเส้นมุตฆาตท�ำให้ขัดปัสสาวะ
กลอ่ นกระษยั
บางทีให้ปวดถ่วง ปัสสาวะบ่อย และให้หยดย้อย ให้
เมื่อยบนั้ เอวและต้นขาท้ัง๒ข้าง เปน็ ก�ำลัง
๒. กล่อนแหง้ อนั บังเกดิ เพือ่ สันฑฆาต ท�ำใหท้ ้องแขง็ เปน็
เถาเป็นดาน มกั ใหจ้ กุ ให้แนน่ บรโิ ภคอาหารมไิ ดอ้ ม่ิ ไป
ดว้ ยลม ถว่ งฝกั คนั เปน็ กำ� ลงั ตอ่ เกาจนนำ�้ เหลอื งตกจงึ
คลาย
๓. กลอ่ นแหง้ อนั บังเกิดเพื่อปัตคาด ท�ำให้เม่อื ยและเหนบ็
ชาเป็นก�ำลัง ตึงไปทั้งตัวให้ถ่วงฝักและต้นขาหนัง
อณั ฑะนนั้ หนา ชาไปท่วั สรรพางคม์ ไิ ดร้ สู้ กึ ตน
๔. กลอ่ นแหง้ อนั บงั เกดิ เพอื่ รตั ตฆาต ทำ� ใหเ้ สยี ดสขี า้ งและ
ชายโครงให้ขบยอกให้เมื่อยตึงให้เสียวไปท้ังกายให้
ปวดถ่วงให้ฝักฟกในองค์ก�ำเนิดให้ปัสสาวะมิได้ โชน
(พุ่ง) (๒/น. ๑๑)
- กล่อนน�้ำ ตามศิลาจารึกวัดโพธิ์กล่าวลักษณะกล่อนน�้ำ
ว่าบังเกดิ เพ่ือทุราวสา มี ๔ ประการ
๑. กล่อนน�้ำอันเกิดเพื่อปัสสาวะขาว กระท�ำให้ปัสสาวะ
มิได้โชน (พงุ่ ) และปัสสาวะนน้ั ใส หากล่นิ มไิ ด้ บางที
เปน็ เสน้ ด้าย บางทเี ปน็ ใยบวั บางทเี ป็นประเมหะหยด
ย้อยออกมาเหม็นคาว บางทีเป็นเม็ดพรึงขึ้นที่ปลาย
ปสั สาวะใหแ้ สบใหร้ อ้ นใหเ้ สยี ว ไปตามขวั้ อณั ฑะ ใหถ้ ว่ ง
เปน็ ก�ำลัง
๒. กลอ่ นน�้ำอันบังเกดิ เพื่อปสั สาวะดำ� กระท�ำใหป้ ัสสาวะ
นนั้ หยดยอ้ ยมิรตู้ นหาเพลามิได้ ให้ปวดถว่ งล�ำปสั สาวะ
น้ัน ปัสสาวะมีสีดุจน้�ำมันดินข้น บุรุษและสตรีก็ดุจกัน
ให้แสบในทางปัสสาวะโรค
๓. กลอ่ นนำ้� อนั บงั เกดิ เพอื่ ปสั สาวะแดง กระทำ� ใหป้ สั สาวะ
นั้น บางทีแดงดุจน้�ำดอกค�ำ บางทีแดงดุจน้�ำฝาง น�้ำ
ครง่ั ใหป้ วดถว่ ง แลว้ ใหน้ �ำ้ ปสั สาวะนน้ั เปน็ มัน ให้แสบ
ให้ร้อนในล�ำปัสสาวะ กระทำ� ให้ดบั เปน็ เพลา
๔. กล่อนน�้ำอังบังเกิดเพ่ือปัสสาวะเหลือง (๒/น. ๑๐)
เส้นแข็ง เสน้ ตึง ท้องตงึ เจ็บเอ็นทอ้ ง กนิ อาหารไม่ได้
(๒/น. ๑๑)
176 ชุดการสงั คายนาภูมปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชื่อภาพ คำ� โคลงภาพฤๅษีดดั ตน แผนดดั /วธิ ีการดดั ตน
(ช่ือฤๅษ)ี โคลงภาพ การสงั คายนา
๖๒
๖๓ แกล้ มมือ ลมเท้า สิทธาหอ้ ยเทา้ นั่ง เนินไศล “ชหู ตั ถ์หัตถห์ น่ึง ทา่ นงั่ ห้อยขา ขาท้งั สอง
พยาธิประไลย ช่อื พยาธิประไลย เลอ่ื งหล้า ไคล คลึงศอก ชิดกัน ให้ปลายเท้าจิก
ชูหัตถ์หตั ถห์ นง่ึ ไคล คลึงศอก ไซ้นา ไซ้นา” พื้น ยกส้นเท้าข้ึน แขน
ดดั ไล่ลมกลดั กลา้ เม่อื ยเทา้ มือคลาย
ข้างหน่ึงตั้งศอกยกข้ึน
๖๔ แก้สลกั ไหล่ เพ็ชรโองการยอ่ เท้า เบือ้ งขวา ยืนเฮย อีกมือหน่ึงคลึงที่บริเวณ
เพ็ชญโองการ เท้าหน่งึ ยกยันขา กดเสน้ ใตศ้ อก
หัดถ์หนึ่งเหนี่ยวอังสา นวิ้ รดี เสน้ แฮ “เพช็ รโองการ ท่ายืน ขาขวาย่อเข่าลง
กรหนึง่ กมุ ศอกเคลน้ ไหล่เท้าลมถอย ยอ่ เทา้ เบอ้ื งขวา ขาซ้ายยกขึ้นยันและกด
ยนื เฮย เท้า ที่ต้นขาด้านใน มือซ้าย
๖๕ แกล้ มรดิ สดี วง อดุ มนารอทร ู้ กลดัด กายเฮย หนง่ึ ยกยนั ขา เหน่ียวบ่าและใช้นิ้วรีด
(นารอท) ขาไควไ่ พลช่ งฆ์ขัด เข่าเขา้ กดเสน้ หตั ถ์ เส้นตามแนวบ่า มืออีก
เหยยี ดกรออ่ นเอาหัตถ์ หนึง่ สง่ ศอกนา หนึ่งเหนี่ย ขา้ งกุมคลงึ ขอ้ ศอกไว้
ลมโรคริดสดี วงเรา้ ชอบถ้าทำ� หาย วองั ษา นิว้ รดี
เสน้ แฮ”
๖๖ แก้แนน่ หน้าอก ฤๅษีสำ� มิทธ์ิแม้น ครูหมอ นวดนา “ขาไคว่ไพล่ชงฆ์ ท่าน่ังคล้ายท่าเทพบุตร
(สำ� มทิ ธ์ิ) ยืนหยดั ยกเท้างอ ไคว่ไว้ ขัด เขา่ เข้า ขาขวาไขว้ขาซ้าย หน้า
สองมือดัดคางคอ เขย่งยืด ตวั แฮ เหยียดกรออ่ น แ ข ้ ง จ ะ พ า ด บ น เ ข ่ า
แก้แน่นหน้าอกได ้ เสยี ดเส้นลมหาย เอาหตั ถ์ หนงึ่ เหยยี ดแขนขวาตรง มือ
สง่ ศอกนา” ซา้ ยดนั ศอกขนึ้
๖๗ แกก้ ล่อน วาสุเทพทอดอกขว้ำ� ลงกับ อาสน์เอย “ยนื หยัดยกเท้า ทา่ ยนื ขาขวางอขน้ึ พาด
(วาสเุ ทพ, นกั สิทธ์สิ พุ รหมทับ ไหลแ่ ล้ งอ ไคว่ไว้ สอง บนเข่าซ้าย ใช้ส้นมือทั้ง
สุพรหม) เหยยี บยนั ตะโพกจับ ตนี เหนี่ยว นาพ่อ มอื ดัดคางคอ สองข้างดันคางและคอ
(มฤี ๅษี ๒ ตน) วาสเุ ทพวานแก ้ กลอ่ นร้ายเรวหาย เขย่งยดื ขึ้น พร้อมกับเขย่งและ
ตวั แฮ” ยดื ลำ� ตวั
“วาสุเทพทอ ทา่ นฤี้ ๅษี ๒ ตน ผปู้ ว่ ยทา่
ดอกขวำ้� ลงกับ นอนคว�่ำหน้าอกราบกับ
อาสน์เอย พ้ืน ผู้ดัดหันหน้าไปทาง
นกั สิทธิ์สพุ รหม ปลายเท้าผู้ป่วย นั่งทับ
ทับ ไหลแ่ ล้ ไหลไ่ ว ้ ขาขา้ งหนงึ่ เหยยี บ
เหยยี บยนั ยันท่ีสะโพกพร้อมกับใช้
ตะโพกจับ ตนี มือทั้งสอง จับข้อเท้า
เหนยี่ ว นาพอ่ ” เหนย่ี วโนม้ มาหาตวั
คำ�อธบิ ายสมุดภาพโคลงฤๅษดี ัดตน 177
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
โคลงภาพ การสงั คายนา
- ดูใน กษยั กลอ่ น น. โรคกษัยกลุ่มหนึง่ โรคกษัยกลุ่มหนงึ่
เกดิ จากความผดิ ปรกตขิ องธาตทุ งั้ ๔ ตำ� ราการแพทยแ์ ผน
ไทยแบง่ ออกเป็น ๕ ชนิด คอื กษัยกลอ่ นดิน กษยั กล่อน
น้ำ� กษยั กล่อนลม กษยั กลอ่ นไฟ และกษัยเถา (๑/น. ๑๓)
“ดดั ไล่ลมกลัดกล้า ๘๘. ลมมอื เทา้ ทำ� ให้เมือ่ ยมอื ลมทีท่ ำ� ให้มือและเท้าปวดเม่อื ย (๕)
เมอ่ื ยเทา้ มอื คลาย” เท้า
“กรหนง่ึ กุมศอกเคล้น ๘๙. สลักไหล่ หวั ดุมไหล่ (๒/น. ๒๒๘)
ไหลเ่ ท้าลมถอย”
“ลมโรคริศดวงเร้า ชอบถา้ ๙๐. ลมรดิ สีดวง ดูใน ลมชะดวง ลมที่ทำ� ใหเ้ กดิ ก้อนในทอ้ ง (๒/น. ๑๙๗)
ทำ� หาย”
“แก้แน่นหนา้ อกได้ เสยี ด ๙๑. แน่นหน้าอก - Abdominal discomfort (๒/น. ๑๐๗)
เส้นลมหาย” - ก. มอี าการจกุ เสยี ด บรเิ วณทรวงอกทำ� ใหห้ ายใจไมส่ ะดวก
“วาสุเทพวานแก้ ๙๒. กลอ่ น (๔/น. ๖๔๔)
กล่อนรา้ ยเรวหาย” ดใู น กษยั กลอ่ น น. โรคกายชนดิ หนง่ึ เกดิ จากความผดิ ปกติ
ของธาตุท้ัง ๔ ต�ำราการแพทย์แผนไทย แบ่งออกเป็น ๕
ชนดิ คือ กษยั กลอ่ นดิน กายกล่อนนำ�้ กายกล่อนลม กษัย
กลอ่ นไฟ และกษยั เถา (๑/น. ๑๓)
178 ชดุ การสังคายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ชอื่ ภาพ ค�ำโคลงภาพฤๅษีดดั ตน แผนดัด/วิธีการดดั ตน
(ชอื่ ฤๅษี) โคลงภาพ การสังคายนา
๖๘ แก้ลมจกุ เสยี ด นกั สิทธิ์สนั โดษฐด้น แดนดง “ไคว่หัตถ์รดั อก ทา่ นง่ั ขดั สมาธเิ พชร ไขว้
(พุทธชฎิล) นามพทุ ธชฎลิ ทรง ตำ� หรับแหร้ องค์ สมาธเ์ิ พช็ ร แขนทง้ั สองรดั อก พรอ้ ม
ไควห่ ัตถร์ ดั อกองค ์ สมาธเ์ิ พช็ ร นั่งนา น่ังนา” มือจับต้นแขน ล�ำตัวยืด
จุกเสยี ดสรรพางค์แก ้ กอปรดว้ ยดัดหาย
ตรง
๖๙ แก้ขา สุธาวาศชาติทกุ ขแ์ จง้ มรณะ เทีย่ งแฮ “ยกเขา่ คู้บาท ทา่ นงั่ ไขวข้ า มอื สอดไวท้ ี่
(สทุ ธาวาศ) ผนวดหน่ายไอยสรู ย์สละ เสลขได้ ไขว้ หตั ถน์ า้ ว พบั เขา่ ยกเขา่ และขาขนึ้
อาพาธเพ่อื วาตะ ตงึ เม่ือย ขาเฮย เหนยี่ วขา” ใชม้ อื เหนยี่ วขาไว้
ยกเข่าคบู้ าทไขว้ หัตถ์นา้ วเหน่ียวขา
๗๐ แกก้ ลอ่ น ธาระ นีพฒั นง่ั น้อม โน้มกาย “ธารนีพฒั นัง่ ท่านั่งเหยียดขาตึง โน้ม
(ธาระนีพัฒ) เท้าเหยยี ดมอื หยบิ ปลาย แมเ่ ท้า น้อม โน้มกาย ตัวและเหยียดแขนตึง
ลมกลอ่ นเหือดห่างหาย เหนประจกั ษ์ เทา้ เหยียดมือ ใหม้ อื มาจบั ปลายเทา้
อีกแน่นนาภีเร้า ระงับเสน้ กล่อนกระษยั หยิบปลาย
แม่เท้า”
๗๑ แกป้ วดท้อง ธรงนามยามหณนุ ้ี เนาพนา-เวศนา “ชเู ชดิ สอง ท่านั่งขัดสมาธิ หงาย
แก้สะบกั จม ชูเชดิ สองพาหา หตั ถช์ อ้ ย พาหา หตั ถช์ อ้ ย ฝ่าเท้า ยกแขนขึ้นทั้ง
(ยามหณ)ุ นั่งแบะฝา่ บาทา ซ้อนทับ กนั แฮ นง่ั แบะฝ่าบาทา สองขา้ ง ลกั ษณะตง้ั ศอก
แกป้ ว่ นปวดท้องน้อย อีกเสน้ สบักจม ซ้อนทบั กันแฮ” เสมอไหล่หงายฝ่ามือ
มืออ่อนช้อย ล�ำตัวยืด
ตรง (คลา้ ยทา่ รำ� พรหม
ส่หี นา้ )
๗๒ แก้ลมในอก พระโสมะยาคะโอ้ อัดอก “เหยยี ดแขนยึด ท่าน่ังพับขาไปด้านข้าง
(โสมะยาคะ) อาพาธแน่นในอก อดั อ้นั เข่าผงกแหงน เหยียดแขนตึง จับเข่า
เหยียดแขนยดึ เขา่ ผงก แหงนพกั ตร์ อยู่พอ่ พกั ตร์ อยู่พ่อ ลำ� ตวั ตงึ แอน่ แหงนหนา้
เอวแอ่นอึดใจกล้ัน ดดั แล้วลมถอย เอวแอน่ อึดใจ
กล้ัน ดัดแลว้
ลมถอย”
๗๓ แก้ตะโพก พระสมทุ ร์ท�ำถา้ ดัด ประหลาดหลกี เพือ่ นแฮ “ขาแยกยก ท่าน่ังแยก (กาง) ขา
ตน้ ขาขดั หาย ขาแยกยกเฉยี ดฉกี ครากแท้ เฉยี ดฉีก คราก ออก แล้วยกขาข้ึนพาด
(พระสมทุ ร์) ใครเห็นจกั หัดอกี ระอาออก โอษฐเ์ อย แท”้ ไหล่จากข้างหลัง
แต่ท่านเดยี วดัดแก้ ตะโพกตน้ ขาแคลง
๗๔ แก้เท้าเหน็บ
(พระมาฆะ) เห็นทุกขเ์ ห็นแท้โทษ เบญจขันธ์ “มอื ยุดฝ่าเทา้ ทา่ ยนื ขาเดยี ว ยกขาขา้ ง
คือพระมาฆะนกั ธรรม์ สถิตถ�้ำ ยัน ยืนยอ่ หน่ึงข้ึนใช้มือจับปลาย
มือยุดฝ่าเท้ายนั ยนื ย่อ ตวั นา ตวั นา” เท้า แล้วค่อย ๆ เหยยี ด
เท้าเหน็บเยน็ ยิ่งนำ�้ เหนีย่ วแกเ้ หน็บหาย ขาออกให้ตรง จากนั้น
ค่อย ๆ ย่อ และยืดตัว
ขน้ึ ลง
ค�ำ อธบิ ายสมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ัดตน 179
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
ลมทที่ �ำให้แนน่ จกุ เสียด (๒/น. ๑๘๖)
โคลงภาพ การสงั คายนา
“จุกเสยี ดสรรพางคแ์ กก้ อ ๙๓. ลมจกุ เสยี ด
ปดว้ ยดัดหาย”
“อาพาธเพ่อื วาตะ ๙๔. ขาตงึ เม่อื ย เพราะลม อาการเพลียของกล้ามเน้ือขา เกิดจากลมในขาท�ำให้เดิน
ตึงเมอ่ื ย ขาเฮย” เปน็ เหตุ เคลอื่ นไหวไม่สะดวก (๕)
“ลมกล่อนเหอื ด หา่ งหาย ๙๕. กระษยั กลอ่ น - กระษัยกลอ่ นมอี ยู่ ๕ จ�ำพวก เกิดข้ึนเพ่อื ธาตทุ ้งั ๔ และ
เหนประจักษ อกี แน่นนาภี ทำ� ใหแ้ นน่ ทอ้ ง เสน้ เอ็น คอื กษยั กล่อนดิน กษยั กล่อนนำ�้ กษยั กลอ่ นไฟ
เรา้ รงบั เสน้ กล่อนไกษย์” กษัยกลอ่ นลม และกษัยกล่อนเถา (๑/น. ๑๗๗)
- ดูใน แนน่ เฟ้อ Stomach discomfort (๒/น. ๑๐๗)
“แกป้ ว่ นปวดทอ้ งน้อย อีก ๙๖. ปวดท้องนอ้ ย - ดใู น ปวดขบทอ้ งน้อย อาการปวดบบี ทีท่ ้องนอ้ ยเป็น
เส้นสบกั จม” ๙๗. เส้นสะบักจม ระยะ ๆ (๒/น. ๑๑๙)
- ดูใน สะบักจม น. อาการปวดตงึ บรเิ วณสะบัก บา่ และ
ไหลข่ ้างขวา มกั จะเกิดเรอ้ื รงั อาจเน่ืองจากการใช้งานที่
แขนมาก และเปน็ เวลานาน ทำ� ใหเ้ ลอื ดลมตามแนวเส้น
ปิงคลาเดนิ ไมส่ ะดวก (๑/น. ๔๓๖)
“เอวแอ่นอึดใจกลัน้ ๙๘. ลมในอก แน่นในอก ดูใน ลมอันเกดิ ในทรวงอก ลมทท่ี ำ� ให้แน่นหนา้ อก
ดัดแล้วลมถอย” (๒/น. ๒๐๕)
“แต่ท่านเดียวดัดแก้ตะโภก ๙๙. ขดั สะโพกตน้ ขา อาการที่สะโพกต้นขา ตงึ ติดขัด เคลือ่ นไหวไมป่ กติ (๕)
ตน้ ขาแคลง”
“เทา้ เหน็บเยนย่งิ นำ้� เหน่ยี ว ๑๐๐. เหนบ็ เยน็ เทา้ อาการชาและเจ็บแปลบปลาบท่ีเท้า เกิดจากหลอดเลือด
แกเ้ หน็บหาย” และเส้นประสาทหรืออย่างใดอย่างหนึ่งบริเวณนั้นถูกกดทับ
ระยะหน่งึ (๕)
180 ชดุ การสังคายนาภมู ปิ ัญญาการนวดไทย: ๒
ภาพ ช่อื ภาพ ค�ำโคลงภาพฤๅษดี ดั ตน แผนดดั /วธิ ีการดัดตน
(ช่ือฤๅษ)ี
โคลงภาพ การสังคายนา
๗๕ แก้ปตั คาด ดาบสเทวบฐิ นี้ นกั งาน นำ�้ นา “ยนื ดดั เศียร ท่ายืนด้วยขาข้างเดียว
ตะครวิ ตักสง่ สรงศวิ ญาณ อยูเ่ กล้า เยอ่ เท้า” พบั เขา่ ขนึ้ ขา้ งหนงึ่ โดยใช้
(ดาบสเทวบิฐ) กายปม่ ปว่ ยพิการ ปัตคาด ตะคริวเฮย มือเหน่ียวข้อเท้าขึ้น มือ
ยนื ดัดเศียรเย่อเท้า ท่านแกก้ ลหมอ อีกข้างหนึ่งออกแรงดัน
บริเวณขมับ ต้านศีรษะ
ให้หนั ไปดา้ นตรงขา้ ม
๗๖ แกจ้ ุก พระภะรัตะดาบสโพน้ พากเพยี ร นักนอ “น่งั คกุ กดเขา่ ค้ ู ท่านั่งคุกเข่า เข่าข้าง
(พระภรตั ตะดาบส) ต�ำหรับปรอทเรยี น รอบรู้ หตั ถ์ค้�ำคาง หน่งึ อยู่ด้านหน้า เขา่ อกี
โรคลมจุกเสียดเบยี น บำ� บัด องค์เฮย หงาย” ขา้ งหนง่ึ อยขู่ า้ งหลงั ให้
นงั่ คกุ กดเขา่ ค้ ู หตั ถ์คำ้� คางหงาย
แขนขา้ งหนง่ึ เหยยี ดตรง
๗๗ แก้ไหล่ แก้ท้อง นักสทิ ธสิ มาบัติสร้าง สรา่ งกเลส ใชม้ อื ยนั ทเ่ี ขา่ มอื อกี ขา้ ง
แกอ้ ก กาละกุรกั ข์ระบอื เดช เพรยี กพรอ้ ง ดนั คางให้หนา้ หงายข้นึ
(กาละกรุ ักข์) กดผากกดท้ายเกศ บาทขดั คุกแฮ “กดผากกดท้าย ท่านั่งขัดขา เท้าไขว้กัน
รงับโรคลมไหลท่ ้อง อรุ ะดว้ ยดังแผน เกศ บาทขดั ยนื ดว้ ยเขา่ ลำ� ตวั ยดื ตรง
คุกแฮ” มือข้างหนึ่งกดดันหน้า
๗๘ แกข้ ดั แขน พระโสณสนั โดษด้าว ดงครึม ผาก มืออีกข้างหน่ึงดัน
(พระโสณ) ภตู โขมดโฆษครหมึ่ กกู่ ้อง ทา้ ยทอย ออกแรงตา้ นกนั
ล้มไขข้ บเศียรซึม ยอกขดั แขนนา “ยกศอกข้ึนเข่า ทา่ นงั่ ยอง ใชม้ อื ขา้ งหนง่ึ
ยกศอกขึน้ เขา่ จ้อง จรดซา้ ยเปล่ียนขวา จอ้ ง จรดซา้ ย จับศอกของแขนอีกข้าง
เปลย่ี นขวา” หนงึ่ ดงึ ศอกเขา้ หาลำ� ตวั
๗๙ แก้ขดั แข้ง ขัดขา ปริพภาชกน้ีชื่อ โยฮัน แลเฮย พร้อมบิดล�ำตัวและหัน
(โยฮัน) (นักบวชท่ี นำ้� พ่ึงตักแตนฉัน เช่นเขา้ หนา้ ไปทางเดยี วกนั แลว้
อยูร่ ิมฝั่งแม่นำ้� อยู่ยังฝง่ั โยระดัน หนงั อูฐ ครองนา สลบั ทำ� อกี ขา้ ง
จอร์แดน นงั่ ดัดหัตถถ์ า่ งเทา้ ขดั แขง้ ขาหาย “นง่ั ดดั หัตถ์ถ่าง ท่านั่งเหยียดขา กางขา
ค�ำอธิบายในต�ำรา หลเี จง๋ เท้า” ออกท้ังสองข้าง (๑๘๐
โอสถพระนารายณ)์ ตึง่ สิ้ว องศา) ใช้มือจับต้นขา
เมืองทา่ น ถอื ฮอ เหนย่ี วไว้
๘๐ แก้เสน้ สลกั ทรวง ผผู้ นวชจีนแจ้งช่ือ ระงบั เส้นสลักทรวง
(หลเี จ๋ง) อยเู่ ขตเขาซา่ เหลง็ “มอื เหวย่ี งผวา ทา่ นงั่ ขาขา้ งหนง่ึ เหยยี ด
ลทั ธทิ ่านเคร่งเขมง็ ทา่ ง้วิ ” ตรง ขาอีกข้างหนึ่งงอ
มือเหวย่ี งผวาท่างิ้ว
เขา่ มอื ทง้ั สองเหวยี่ ง รำ�
ไปมา คลา้ ยทา่ รำ� ของงวิ้
ค�ำ อธิบายสมดุ ภาพโคลงฤๅษีดดั ตน 181
แก้โรค/อาการ ความหมายของโรค/อาการ
โคลงภาพ การสังคายนา - โรคลมชนิดหนึง่ ผปู้ ว่ ยมักมีอาการปวดเมอื่ ยตามแนวเส้น
ปตั คาด เคลอื่ นไหวไมส่ ะดวก ดงั คมั ภรี แ์ ผนนวด (๗/น. ๙๖)
“กายป่มปว่ ยพิกาล ๑๐๑. ปตั คาด ตอนหนึ่งว่า “...ชื่อว่าลมปัตฆาฏก็ว่าผู้นั้นมักน่ังนัก ลุกน่ัง
ปัศฆาฏ ตครวิ เฮย” ๑๐๒. ตะคริว มิไดก้ ็ดี ให้แกเ้ สน้ เอนท้ัง ๒ แลแก้เสน้ แถวหลงั ทงั้ ๒ แล
แกเ้ สน้ บัน้ เอวท้งั ๒ ขา้ ง ชื่อว่าลมแถกกลออมนนั้ ใหแ้ ก้
“โรคลมจุกเสยี ดเบียน ๑๐๓. ลมจกุ เสียด หวั เหนา่ แลทอ้ งแลรอบสดอื แลบนั้ เอวแลสนั หลงั นนั้ คลาย
บ�ำบัด องค์เฮย” แล...” ลมปัตฆาฏ ก็เรียก, เขียนว่า ปัตคาด ปัฏฆาต
ปตั ะฆาฏ หรือปัตฆาฏ กม็ ี (๑/น. ๒๗๖)
- น. อาการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ และค้างอยู่ ท�ำให้
กล้ามเนอื้ ขาดเลือด เกดิ อาการเจบ็ ปวด (๑/น. ๑๙๓)
ลมทีท่ �ำให้แน่นจกุ เสยี ด (๒/น. ๑๘๖)
“รงบั โรคลมไหลท่ ้อง ๑๐๔. ลมในไหล่ - ลมทีข่ ัดในไหล่ (๕)
อุระดว้ ยด่งั แผน” ๑๐๕. ลมในท้อง - ลมในและนอกลำ� ไส้ (๒/น. ๑๙๑)
“ลม้ ไขข้ บเศยี รซึม ๑๐๖. ลมในอก (อรุ ะ) - ดูใน ลมอันเกดิ ในทรวงอก ลมทที่ �ำใหแ้ น่นหนา้ อก
ยอกขัด แขนนา” ๑๐๗. ขัดแขน ยอกแขน
(๒/น. ๒๐๕)
- อาการทีแ่ ขน ตงึ ติดขัด เคล่ือนไหวไม่ปกติ (๕)
- Arm discomfort. (๒/น. ๒๔)
“ขัดแขง้ ขาหาย” ๑๐๘. ขดั แข้ง ขดั ขา - อาการท่ีแข้ง ขา ตึง ติดขดั เคลื่อนไหวไมป่ กติ (๕)
- Leg discomfort. (๒/น. ๒๔)
“รงับเสน้ สลกั ทรวง” ๑๐๙. สลักทรวง แนน่ ขัดในทรวงอก (๕)
182 ชุดการสงั คายนาภมู ปิ ญ ญาการนวดไทย: ๒
เอกสารอ้างองิ
๑. กรมศลิ ปากร. จดหมายเหตเุ รอ่ื งการปฏสิ งั ขรณว์ ดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วดั โพธ)ิ์
ถอดความจากโคลงด้ันพระนิพนธ์กรมสเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส. ในประชุมจารึก
วัดพระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม (วัดโพธิ์) เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: ราชบณั ฑิตยสภา; ๒๔๗๒.
หนา้ ๒๖.
๒. กรมศลิ ปากร. โคลงด้นั เรอื่ งการปฏิสังขรณ์ วัดพระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
พระนิพนธ์ กรมสเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส. ในประชุมจารึกวัดพระเชตุพนวิมล
มังคลาราม (วดั โพธิ์) เล่ม ๒. กรุงเทพฯ: ราชบณั ฑิตยสภา; ๒๔๗๒. หน้า ๔๖.
๓. กรมศิลปากร. สมดุ ภาพโคลงฤๅษดี ดั ตน. กรงุ เทพฯ: อมรินทร์พรน้ิ ตง้ิ แอนด์พบั ลิชช่ิง;
๒๕๕๐.
๔. ก่องแก้ว วีระประจักษ์. ฤๅษีดัดตน: สุขอนามัยไทย สุขอนามัยโลก. ใน อรวรรณ
ทรัพย์พลอย (บรรณาธิการ). จารึกวัดโพธ์ิมรดกความทรงจ�าของโลก. กรุงเทพฯ:
อมรนิ ทรพ์ รนิ้ ตง้ิ แอนดพ์ ับลชิ ชิ่ง; ๒๕๕๔. หนา้ ๖๐-๑.
๕. พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั . ตา� รายาศลิ าจารกึ ในวดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม
(วัดโพธ์)ิ พระนคร. นครปฐม: โรงพมิ พม์ หามกุฏราชวิทยาลยั ; ๒๕๐๕.
ภาคผนวก
๑. ค�าสั่งกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ ๕๙๕/๒๕๕๗
เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยในต�ารา
การแพทย์แผนไทยแห่งชาติ
๒. ค�าส่ังกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ ๗๗/๒๕๕๘
เรอ่ื ง แตง่ ตงั้ คณะทา� งานเพอื่ ดา� เนนิ การสงั คายนาภมู ปิ ญั ญาดา้ นฤๅษดี ดั ตนใน
ต�าราการแพทยแ์ ผนไทยแห่งชาติ
๓. ประวัติย่อคณะทา� งานสงั คายนาภูมิปัญญาด้านฤๅษดี ัดตน
๔. ดัชนีค�าศัพท์ตามต�าราท่ีใชป้ ระกอบการคน้ คว้าอา้ งอิง
๕. คา� อธบิ ายศพั ท์เพิม่ เติมจากคณะท�างาน (๕)
ภาคผนวก 185
คาสง่ั กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
ที่ 595/๒๕๕7
เรอ่ื ง แตง่ ต้งั คณะอนุกรรมการสงั คายนาภูมปิ ญั ญาการนวดไทยในตาราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ
อนสุ นธิ ตามคาส่ังกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1546/2557 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอานวยการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
(Thai Traditional Digital Knowledge: TTDK) โดยมีบทบาทหน้าที่เพ่ือกาหนดทิศทางและนโยบายในการ
พัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของประเทศไทย กาหนดกรอบ และ
แนวทางการดาเนินงานการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของ
ประเทศไทย เพื่ออานวยการ กากับ ติดตามการดาเนินการ แต่งต้ังคณะอนุกรรมการ และคณะทางานต่างๆ
เพอ่ื ดาเนนิ งานตามความเหมาะสม
เพ่ือให้การดาเนินการ ดาเนินไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ จึงขอแต่งต้ัง
คณะอนกุ รรมการสังคายนาภูมปิ ญั ญาการนวดไทยในตาราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ โดยมีองค์ประกอบและ
อานาจหน้าท่ี ดังนี้
๑. องค์ประกอบ
1.1 เภสชั กรปรดี า ต้ังตรงจติ ร ทีป่ รึกษา
สมาคมแพทยแ์ ผนโบราณและอายุรเวท วัดพระเชตพุ นวิมลมงั คลาราม
1.2 ดร.อษุ า กลนิ่ หอม ที่ปรกึ ษา
ผูท้ รงคุณวฒุ ิภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินดา้ นสุขภาพ
1.3 นางสาวพมิ พพ์ รรณ ไพบลู ยห์ วังเจริญ ทีป่ รกึ ษา
ผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์ สานกั หอสมุดแหง่ ชาติ กรมศิลปกร
1.4 นายชบุ แป้นคุ้มญาติ ท่ปี รกึ ษา
แพทยแ์ ผนไทย จังหวดั นครปฐม
1.5 นายแพทยป์ ระพจน์ เภตรากาศ ประธาน
มูลนิธพิ ัฒนาการแพทย์แผนไทย
1.6 นายสันติสุข โสภณศริ ิ อนุกรรมการ
แพทยแ์ ผนไทย มูลนิธสิ ุขภาพไทย
1.7 ดร.เภสัชกรยงศกั ด์ิ ตนั ติปิฎก อนกุ รรมการ
สานกั วิจัยสังคมและสุขภาพ
1.8 นายสาอาง เสาวมาลย์ อนุกรรมการ
ชมรมแพทย์แผนไทย วัดหนองหญ้านาง จังหวดั อุทัยธานี
1.9 นางสาวติ รี ศริ วิ ฒุ ิ อนุกรรมการ
สมาคมเภสชั และอายุรเวชโบราณแหง่ ประเทศไทย
1.10 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กุสุมา ศรยี ากูล อนกุ รรมการ
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ศูนย์รงั สติ
1.11 นายวรี พงษ์ เกรียงสินยศ มลู นธิ ิสุขภาพไทย อนุกรรมการ
1.12 เภสัชกร...
186 ชุดการสงั คายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย: ๒
-2-
1.12 เภสชั กรพนิ ติ ชินสร้อย อนุกรรมการ
โรงพยาบาลวงั นา้ เยน็ จงั หวดั สระแกว้
1.13 ผแู้ ทนโรงเรยี นแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม อนกุ รรมการ
1.14 ผู้แทนสมาคมวิชาชีพการนวดไทย อนุกรรมการ
1.15 ผ้แู ทนสมาคมแพทย์แผนไทย จงั หวดั ชุมพร อนกุ รรมการ
1.16 ผแู้ ทนโรงเรยี นเพ็ญแขแพทยแ์ ผนไทย อนุกรรมการ
1.17 ผแู้ ทนมูลนิธิเพ่ือเด็กพกิ าร อนุกรรมการ
1.18 ผู้แทนสมาคมส่งเสริมการนวดแผนไทยคนตาบอด อนกุ รรมการ
1.19 ผแู้ ทนศนู ย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอดปากเกร็ด อนกุ รรมการ
1.20 ผแู้ ทนโรงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร อนุกรรมการ
1.21 ผู้แทนศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาสขุ ภาพภาคประชาชน ภาคใต้ อนุกรรมการ
1.22 หวั หนา้ กลุ่มงานนวดไทยหรอื ผแู้ ทน อนกุ รรมการ
1.23 ผ้อู านวยการสานักค้มุ ครองภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทยหรอื ผ้แู ทน อนุกรรมการ
กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก
1.24 ผอู้ านวยการสานกั งานขอ้ มูลและประเมนิ ผล อนุกรรมการ
กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
1.25 นายวิชยั จนั ทร์กติ วิ ัฒน์ อนุกรรมการ
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
1.26 นางสดุ ารัตน์ สุวรรณพงศ์ อนกุ รรมการ
นกั วิชาการอสิ ระ และเลขานกุ าร
1.27 นางกัญญา อินแพง อนกุ รรมการ
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก และเลขานกุ ารร่วม
1.28 นางสาวศรัณยา จนั ษร อนุกรรมการ
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร
1.29 นางสาวสนุ ิสา สมโรย อนกุ รรมการ
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผู้ชว่ ยเลขานุการ
๒. อำนำจหน้ำท่ี
2.1 ร่วมกันจดั ทากรอบการจาแนก วเิ คราะห์ แผนภาพนวดไทย รปู ปั้น/ภาพฤๅษีดดั ตน
2.2 ร่วมกันสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยในคัมภีร์แผนนวดและจารึกฯ และภูมิปัญญา
ฤๅษดี ดั ตน
2.3 จดั ทาตน้ แบบระบบสังคายนาองค์ความรู้ภมู ปิ ญั ญาการนวดไทยของประเทศ
2.4 จดั ทาข้อเสนอแนะในการขยายผลการดาเนินการอย่างตอ่ เนอื่ ง
2.5 ร่วมกันพัฒนาเครือขา่ ยการสังคายนาภมู ปิ ญั ญาการนวดไทย
2.6 นๆ ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
ทัง้ นี้ ต้ังแตบ่ ดั นเี้ ปน็ ตน้ ไป
สงั่ ณ วันท่ี 19 ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕7
(นายธวัชชัย กมลธรรม)
อธบิ ดกี รมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทย
และการแพทยท์ างเลือก
ภาคผนวก 187
คาส่งั กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
ท่ี 7๗7๗//๒๒๕๕๕๕7๘
เรือ่ ง แตง่ ต้งั คณะทางานเพอ่ื ดาเนนิ งานสังคายนาภูมิปญั ญาด้านฤๅษดี ดั ตนในตาราการแพทยแ์ ผนไทยแห่งชาติ
อนสุ นธิ ตามคาสั่งกระทรวงสาธารณสุข ท่ี 1546/2557 ลงวันท่ี 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอานวยการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
(Thai Traditional Digital Knowledge: TTDK) โดยมีบทบาทหน้าท่ีเพื่อกาหนดทิศทางและนโยบายในการ
พัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของประเทศไทย กาหนดกรอบ และ
แนวทางการดาเนินงานการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของ
ประเทศไทย เพ่ืออานวยการ กากับ ติดตามการดาเนินการ แต่งต้ังคณะอนุกรรมการ และคณะทางานต่างๆ
เพื่อดาเนนิ งานตามความเหมาะสม
เพ่ือให้การดาเนินการ ดาเนินไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ จึงขอแต่งต้ัง
คณะอนุกรรมการสงั คายนาภมู ิปญั ญาการนวดไทยในตาราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ โดยมีองค์ประกอบและ
อานาจหน้าที่ ดงั นี้
๑. องคป์ ระกอบ
1) นายแพทยป์ ระพจน์ เภตรากาศ ประธาน
มูลนธิ ิพัฒนาการแพทย์แผนไทย
2) นายสนั ตสิ ขุ โสภณศิริ คณะทางาน
แพทย์แผนไทย มูลนธิ สิ ขุ ภาพไทย
3) ดร.เภสัชกรยงศักด์ิ ตนั ติปิฎก คณะทางาน
สานักวิจัยสังคมและสขุ ภาพ
4) นายระวี รกั ษ์แก้ว คณะทางาน
ผแู้ ทนโรงเรยี นแพทย์แผนโบราณ วดั พระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม
5) นายวดิโรรจจนน ์ มณฑา คณะทางาน
สมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแหง่ ประเทศไทย
6) นางสาวิตรี ศริ วิ ุฒิ คณะทางาน
สมาคมเภสชั และอายุรเวชโบราณแหง่ ประเทศไทย
7) นางกรกมล เอ่ียมธนะมาศ คณะทางาน
ผแู้ ทนมูลนิธิเพือ่ เดก็ พกิ าร
8) นายสนทิ วงษก์ ะวัน คณะทางาน
ผูแ้ ทนสมาคมสง่ เสริมการนวดแผนไทยคนตาบอด
9) นายถวลิ อภัยนคิ ม คณะทางาน
ผู้แทนมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
10) นายธงชยั ออ่ นนอ้ ม คณะทางาน
ผแู้ ทนโรงเรียนเพ็ญแขแพทย์แผนไทย
11) นางรัชน.ี ..
188 ชดุ การสังคายนาภมู ปิ ญ ญาการนวดไทย: ๒
-2-
11) นางรชั นี ราษฎรจ์ าเริญสขุ คณะทางาน
หัวหน้ากลมุ่ งานนวดไทย สถาบันการแพทยแ์ ผนไทย
12) นางสุดารัตน์ สวุ รรณพงศ์ คณะทางาน
นักวิชาการอิสระ และเลขานกุ าร
13) นางสาวสนุ ิษา สมโรย คณะทางาน
นักวิชาการอิสระ และผู้ชว่ ยเลขานกุ าร
๒. อำนำจหน้ำที่
2.1 การจาแนก วเิ คราะห์ รูปปั้น/ภาพฤๅษดี ัดตน ในตาราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ
2.2 การสงั คายนาภมู ิปัญญาฤๅษีดัดตน 80 ท่า
2.3 การออกรหสั มาตรฐานและการบนั ทึกรหัสมาตรฐาน
2.4 อื่นๆ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
ท้ังนี้ ตงั้ แตบ่ ัดน้เี ป็นต้นไป
ส่ัง ณ วันที่ 9 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕8
(นายปภัสสร เจยี มบุญศรี)
รองอธบิ ดี รักษาราชการแทนอธบิ ดี
กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก
ภาคผนวก 189
ประวตั ิยอ่ คณะทำ�งานสงั คายนาภมู ิปัญญาด้านฤๅษีดัดตน
๑. นายแพทยป์ ระพจน์ เภตรากาศ ประธานคณะท�ำงาน
สถานท่ีปฏบิ ัติงาน อดีตรองอธิบดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก
รกั ษาการในต�ำแหนง่ นายแพทย์ ๑๐ วช.
(ดา้ นสาธารณสุข สาขาพฒั นาระบบบริการทางการแพทย)์
ประวัติการรบั ราชการ
๒๕๓๖ รองผอู้ ำ� นวยการ ฝ่ายการแพทย์
โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ
๒๕๔๒ นายแพทย์ ๙ วช. สาขาเวชกรรมฟ้ืนฟู
โรงพยาบาลเลิดสนิ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ
๒๕๔๖ นายแพทย์ ๙ วช. (ด้านสาธารณสขุ )
กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
๒๕๕๐ รองอธบิ ดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก
๒๕๕๑ รองอธิบดี รักษาการในตำ� แหน่ง นายแพทย์ ๑๐ วช.
(ดา้ นสาธารณสขุ สาขาพฒั นาระบบบริการทางการแพทย์)
ประวัตกิ ารทำ� งานอ่ืน ๆ
• ประธานสมาพันธแ์ พทยแ์ ผนไทยแหง่ ประเทศไทย
• ประธานมูลนิธเิ พอ่ื เด็กพิการ
• ประธานมลู นิธสิ ขุ ภาพไทย
• รองประธานมูลนธิ ิพฒั นาการแพทย์แผนไทย
• กรรมการมูลนธิ หิ มอชาวบา้ น
• กรรมการมลู นิธิเพื่อการพัฒนาเดก็
• กรรมการมูลนธิ โิ กมล คมี ทอง