The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนภาษาไทย ชั้น ม.1
ภาคเรียนที่1
นางสาวณัฐฐินันท์ สิมพา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattinan Simpha, 2021-09-12 05:00:49

แผนการสอนภาษาไทย ชั้น ม.1

แผนการสอนภาษาไทย ชั้น ม.1
ภาคเรียนที่1
นางสาวณัฐฐินันท์ สิมพา

เอกสารประกอบการ
สอน

หมายเลข ๑

นำ้ เคย้ี วยงู ว่าเงยี้ ว ยูงตาม

ทรายเหลอื หางยูงงาม ว่าหญ้า

ตาทรายย่ิงนิลวาม พรายเพริศ

ลิงว่าหวา้ หวังหวา้ ทว่าดนิ้ โดยตาม

เพอื่ นกิน หมายเลข ๒ แหนงหนี
หางา่ ย มากได้
เพอ่ื นตาย ส้นิ ทรพั ยแ์ ล้ว วาอาตม์
หายาก หลายหมื่นมี ยากแท้จักหา
ถา่ ยแทนช-ี
ฝากผีไข้

ใบงานที่ ๒.๒
รูปแบบและลักษณะคำประพันธโ์ คลงโลกนิติ
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนอ่านวรรณคดเี รอ่ื ง โคลงโลกนติ ิ แล้ววเิ คราะห์ตามประเดน็ ทกี่ ำหนด
1. รปู แบบวรรณดีเร่อื ง โคลงโลกนิติ พร้อมยกตัวอยา่ งวรรณคดีที่มรี ปู แบบเดียวกนั

2. ลกั ษณะคำประพนั ธ์วรรณคดเี รื่อง โคลงโลกนติ ิ

เฉลย ใบงานที่ ๒.๒
รปู แบบและลกั ษณะคำประพันธ์โคลงโลกนิติ
คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนอ่านวรรณคดีเร่ือง โคลงโลกนติ ิ แลว้ วเิ คราะหต์ ามประเด็นทกี่ ำหนด
1. รปู แบบวรรณดีเร่อื ง โคลงโลกนิติ พร้อมยกตัวอย่างวรรณคดที ม่ี ีรูปแบบเดียวกนั
โคลงโลกนิติ จดั เป็นวรรณดคี ำสอนที่มมี าตัง้ แต่สมัยโบราณ มีเน้อื หาเปน็ คำสอนประเภทต่างๆ ทง้ั ทางโลก
และทางธรรม ตวั อย่างวรรณคดที ่เี ป็นคำสอนเหมือนกบั วรรณคดีเรือ่ งโคลงโลกนติ ิ คือ สภุ าษติ พระรว่ ง
สภุ าษติ สอนหญงิ เพลงยาวถวายโอวาท อิศรญาณภาษติ

2. ลักษณะคำประพนั ธว์ รรณคดเี รือ่ ง โคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติแต่งด้วยคำประพันธป์ ระเภทโคลงสส่ี ุภาพ บางบทเป็นโคลงกระทู้ คือ โคลงส่ีสุภาพทีม่ กี าร
ตง้ั ขอ้ ความหรือหัวข้อ (กระท)ู้ ไวห้ น้าโคลงทั้ง ๔ บท แล้วแต่งถ้อยคำตอ่ ไปใหม้ เี นือ้ ความอธิบาย หรอื ขยาย
ความกระท้ใู หช้ ัดเจนยงิ่ ข้ึน ในโคลงท่ี ๔๑ และ ๖๙ เป็นกระท้เู ดียว ส่วนโคลงท่ี ๔๐๓ เปน็ โคลงกระทู้ ๒ คำ

(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ท21121 เวลา ๑๐ คาบ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 โคลงโลกนติ ิ

เรอ่ื ง การวเิ คราะหค์ ุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นางสาวณฐั ฐินนั ท์ สิมพา โรงเรยี นบ้านนาดีสรา้ งบง

หมายเหตุ…………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น
คุณค่าและนำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ

ตวั ช้ีวัด
ท ๕.๑ ม.๑/๒ วเิ คราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ
ม.๑/๓ อธบิ ายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ า่ น

สาระสำคญั
โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีเกี่ยวกบั สภุ าษิตคำสอน ควรแก่การวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เพือ่ ให้

เห็นความงามของถอ้ ยคำและเนอ้ื ความท่ีไพเราะ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ความรู้ (K)
๑. วิเคราะหค์ ณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ปข์ องวรรณคดเี รื่อง โคลงโลกนติ ิ พร้อมยกเหตุผลประกอบ
๒. อธบิ ายคุณค่าด้านวรรณศิลปข์ องวรรณคดีเรอื่ ง โคลงโลกนติ ิ
ทักษะ/กระบวนการ (P)
๑. สามารถวิเคราะหค์ ุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดเี รือ่ ง โคลงโลกนิติ พร้อมยกเหตุผล

ประกอบได้
๒. สามารถอธิบายคณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ของวรรณคดเี รอื่ ง โคลงโลกนิติได้
สมรรถนะหลกั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต

๓. มีวินัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
๗. รักความเป็นไทย

๘. มจี ติ สาธารณะ

แนวความคิดเพ่อื การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑

๑. สาระวิชาหลกั (Core Subjects)
๒. ทักษะด้านการเรยี นรู้และนวตั กรรม
๓. ทักษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี

๔. ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชพี

สาระการเรยี นรู้
การวเิ คราะหค์ ุณค่าและขอ้ คดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรม

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ (ขัน้ ตอน/กระบวนการ)
วิธสี อนโดยการจัดการเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิคคตู่ รวจสอบ

ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน

๑. ครนู ำตวั อย่างบทประพนั ธ์มาให้นักเรยี นอ่านออกเสียงพรอ้ มกนั จากนนั้ ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถาม
หรอื แสดงความคดิ เห็น ตามประเด็นท่ีครกู ำหนด ดงั นี้

- บทประพันธห์ มายเลข ๑ และ ๒ มคี วามหมายอย่างไร
- บทประพันธท์ ง้ั ๒ หมายเลข มีการใช้ภาษาอยา่ งไร
- บทประพันธ์ทั้ง ๒ หมายเลข ให้คุณค่าแกผ่ ้อู า่ นอย่างไร

๒. ครสู งั เกตการตอบคำถามหรือการแสดงความคิดเห็นของนกั เรยี น จากนน้ั อธบิ ายให้นักเรียนเข้าใจว่า
การอ่านวรรณคดซี ง่ึ เป็นมรดกของชาตจิ ะตอ้ งรจู้ กั การวิเคราะหค์ ณุ ค่าทางด้านวรรณศิลป์ และสามารถอธิบาย
ไดว้ ่า บทประพนั ธ์จากวรรณคดีดงั กล่าวมีคุณคา่ ทางวรรณศลิ ป์อย่างไร

ขัน้ สอน

๓. ครูให้นักเรยี นศึกษาวรรณคดเี รื่อง โคลงโลกนิติ : คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ จากหนงั สือเรยี น
๔. ครูให้นักเรยี นเลือกโคลงโลกนิตทิ ี่ตนเองชอบมากที่สดุ ๑ บท คดั ลอกลงในสมุด แล้ววิเคราะห์และ
อธบิ ายคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ปข์ องโคลงโลกนิติท่เี ลอื ก
๕. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑) ผลัดกนั อา่ น และสรปุ ผลการ
วเิ คราะห์และอธบิ ายคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ของโคลงโลกนิติที่เลอื ก

๖. สมาชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ หรือซักถามใหส้ มาชกิ ในกล่มุ อธิบายเพ่ิมเตมิ
๗. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ทำใบงานท่ี ๒.๔ เร่ือง คุณค่าด้านวรรณศิลปโ์ คลงโลกนติ ิ โดยใหส้ มาชิกใน
แตล่ ะกลุ่มจับคกู่ ันเปน็ ๒ คู่ แลว้ ใหแ้ ต่ละคปู่ ฏิบตั ิกิจกรรม ดงั น้ี

- สมาชิกคนที่ ๑ อ่านโจทย์คำถาม และเขยี นคำตอบ
- สมาชกิ คนท่ี ๒ เป็นฝ่ายสงั เกต ตรวจสอบคำตอบ
ให้สมาชิกแตล่ ะคู่เปลยี่ นบทบาทกนั ในคำถามข้อต่อไปจนครบทุกข้อ

๘. นักเรียนรวมกลมุ่ เดิม (๔ คน) ใหแ้ ต่ละคู่นำคำตอบของค่ตู นเองมานำเสนอให้เพ่อื นอกี คู่หน่ึงฟงั เพ่อื
ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นนำใบงานที่ ๒.๔ สง่ ครู

ข้นั สรุป
๙. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรุปคณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์จากวรรณคดีเร่ือง โคลงโลกนิติ
๑๐.นักเรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ

สือ่ (วัสดุ-อปุ กรณ์-สิ่งพมิ พ)์ / นวัตกรรม / ICT
๑) หนังสอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๑
๒) ตวั อยา่ งบทประพนั ธ์
๓) ใบงานที่ ๒.๔ เรอื่ ง คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ปโ์ คลงโลกนิติ
แหลง่ การเรยี นรู้
-

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เคร่อื งมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ ีการวัดผลและการประเมนิ ผล -แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ -ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่าน
ทำงานรายบคุ คล เกณฑ์
ด้านความรู้ (K) -สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ -ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ น
รายบุคคล ทำงานกล่มุ เกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม -ใบงานที่ ๒.๔ -รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์

-ตรวจใบงานที่ ๒.๔ -แบบประเมินการนำเสนอ - ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน
ผลงาน เกณฑ์
ดา้ นทักษะ/ -ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
กระบวนการ (P) - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั - ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน
พึงประสงค์ เกณฑ์
ดา้ นคุณธรรม - สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มคี วาม
จรยิ ธรรม และ รบั ผดิ ชอบ และรักความเป็นไทย
คา่ นิยม (A)

กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .....................................................ผเู้ ขยี นแผนการจดั การเรียนรู้
................/.................../................

เอกสารประกอบการสอน

ตัวอย่างบทประพันธ์

หมายเลข  บงั เกดิ ชาติแมลงหวีม่ ใี นไส้
ถึงบางเด่ือโอม้ ะเดื่อเหลือประหลาด อุปไมยเหมือนมะเดอื่ เหลอื ระอา
เหมอื นคนพาลหวานนอกยอ่ มขมใน
(นริ าศภเู ขาทอง)

หมายเลข 

ผลเด่ือเม่ือสกุ ไซร้ มพี รรณ
ภายนอกแดงดฉู นั ชาดบา้ ย
ภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบอ่ น
ดุจดัง่ คนใจร้าย นอกนนั้ ดงู าม

(โคลงโลกนิต)ิ

ใบงานที่ ๒.๔
๒.๔คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ปโ์ คลงโลกนติ ิ

คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์และอธบิ ายคณุ ค่าด้านวรรณศิลปจ์ ากบทประพันธท์ ่กี ำหนด

ผลเดอื่ เมื่อสุกไซร้ มพี รรณ

๑. ภายนอกแดงดูฉนั ชาดบ้าย
ภายในย่อมแมลงวนั หนอนบอ่ น

ดจุ ดง่ั คนใจรา้ ย นอกนัน้ ดงู าม

นกน้อยขนนอ้ ยแต่ พอตวั
๒. รงั แตง่ จเุ มียผวั อยไู่ ด้
ไพเพดิ
มักใหญ่ย่อมคนหวัว อย่าใหค้ นหยัน
ทำแต่พอตัวไซร้

เสยี สินสงวนศกั ดไิ์ ว้ วงศห์ งส์
๓. เสีย ศักด์ิสู้ประสงค์ ส่ิงรู้
ความสัตย์ ไว้นา
เสยี รเู้ รง่ ดำรง ชีพม้วยมรณา
เสยี สตั ยอ์ ยา่ เสยี สู้

เฉลย ใบงานท่ี ๒.๔
๒.๔คณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลปโ์ คลงโลกนติ ิ

คำช้แี จง ให้นักเรียนวเิ คราะห์และอธบิ ายคุณค่าด้านวรรณศิลปจ์ ากบทประพนั ธท์ ่ีกำหนด

ผลเดื่อเมือ่ สุกไซร้ มพี รรณ

๑. ภายนอกแดงดูฉนั ชาดบา้ ย
ภายในย่อมแมลงวัน หนอนบอ่ น

ดุจด่งั คนใจรา้ ย นอกนนั้ ดงู าม

เปน็ การใชภ้ าพพจน์ ในการเปรยี บเทยี บวา่ ส่งิ หน่ึงเหมือนกบั อกี ส่ิงหนง่ึ หรือใช้อุปมาโวหาร
เปรียบเทียบกับสงิ่ ท่ีใกล้ตวั เพื่อให้เขา้ ใจงา่ ยข้นึ

นกนอ้ ยขนนอ้ ยแต่ พอตวั
๒. รังแตง่ จเุ มยี ผวั อยูไ่ ด้
ไพเพิด
มักใหญย่ อ่ มคนหวัว อย่าให้คนหยัน
ทำแตพ่ อตัวไซร้

เป็นการใชภ้ าษาสรา้ งจนิ ตภาพ ทำให้เนอ้ื ความลกึ ซง้ึ สร้างจินตนาการได้อย่างชัดเจน โดย
กล่าวถงึ การทำการต่างๆ อยา่ งเหมาะสม ทำตามพอดี ไมค่ วรทำเกินกำลังที่ตนเองทำได้

เสยี สินสงวนศกั ดิ์ไว้ วงศห์ งส์
๓. เสีย ศกั ดิ์สู้ประสงค์ สิ่งรู้
ความสตั ย์ ไว้นา
เสยี รู้เร่งดำรง ชีพม้วยมรณา
เสยี สัตยอ์ ยา่ เสยี สู้

เปน็ การเล่นคำโดยการซ้ำคำวา่ เสยี เพ่อื ช่วยดา้ นเสียง และเนน้ ยำ้ ความหมายของคำให้
เด่นชดั มากข้นึ

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ท21121 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 โคลงโลกนติ ิ เวลา ๑๐ คาบ

เรื่อง การวเิ คราะหค์ ุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม เวลา 1 ช่วั โมง

ผสู้ อน นางสาวณฐั ฐินนั ท์ สิมพา โรงเรยี นบา้ นนาดสี รา้ งบง

หมายเหตุ…………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น
คณุ ค่าและนำมาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจรงิ

ตวั ช้ีวัด
ท ๕.๑ ม.๑/๔ สรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากการอ่านเพอื่ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง

สาระสำคญั
การอา่ นวรรณคดีสุภาษติ คำสอนเรือ่ ง โคลงโลกนิติ ต้องวิเคราะหค์ ณุ คา่ และขอ้ คิดจากการอา่ น

เพอ่ื นำไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ความรู้ (K)
๑. สรปุ ความรแู้ ละขอ้ คดิ จากการอ่านวรรณคดเี ร่ือง โคลงโลกนิติ เพ่ือประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง
ทักษะ/กระบวนการ (P)
๑. สามารถสรปุ ความร้แู ละข้อคดิ จากการอ่านวรรณคดีเรอ่ื ง โคลงโลกนิติ เพอ่ื ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ

จรงิ ได้สมรรถนะหลัก
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่อื สัตย์สจุ รติ
๓. มีวนิ ัย

๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง

๖. มุ่งม่นั ในการทำงาน
๗. รกั ความเป็นไทย

๘. มีจิตสาธารณะ

แนวความคิดเพื่อการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑

๑. สาระวชิ าหลกั (Core Subjects)

๒. ทักษะด้านการเรียนรู้และนวตั กรรม
๓. ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี

๔. ทกั ษะดา้ นชวี ติ และอาชีพ
สาระการเรยี นรู้

การวเิ คราะห์คณุ ค่าและข้อคดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรม
กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (ขน้ั ตอน/กระบวนการ)

วธิ ีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : ๕E)
ข้ันที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ

๑. ครนู ำตวั อยา่ งบทประพนั ธ์จากโคลงโลกนิติ มาให้นกั เรยี นอา่ นพรอ้ มกัน และใหช้ ่วยกันบอกวา่ บท
ประพันธท์ ่นี กั เรียนอา่ นใหค้ ณุ ค่าหรือเป็นคำสอนในเรอ่ื งใด

ทำบุญบุญแตง่ ให้ เหน็ ผล
คอื ดงั่ เงำตำมตน ตดิ แท้
ผทู้ ำสงิ่ อกุศล กรรมตดิ ตำมนำ
ดุจจกั รเกวยี นเวยี นแล้ ไล่ตอ้ นตนี โค

๒. นกั เรียนร่วมกนั ตอบคำถามและครูช่วยเสนอแนะเพิ่มเตมิ เกย่ี วกบั คุณคา่ ของโคลงโลกนิตทิ สี่ อนให้ตงั้ มั่น
อยูใ่ นความดี เชื่อในกรรมวา่ ทำดไี ด้ดี ทำชั่วได้ชวั่

๓. ครชู แ้ี จงใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ การอา่ นโคลงโลกนติ ใิ หเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ การนำไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวนั
จะต้องรู้จักวเิ คราะห์คุณค่าของโคลงบทนั้นๆ

๔. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
ขั้นที่ ๒ สำรวจความสนใจ

๕. นกั เรยี นกล่มุ เดมิ (จากแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑) ร่วมกนั ศึกษาวรรณคดเี รือ่ ง โคลงโลกนติ ิ จากหนังสอื
เรียน ตามประเดน็ ทคี่ รูกำหนด ดังน้ี

- คุณค่าด้านเน้ือหา
- คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์
๖. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

ขั้นท่ี ๓ อธิบายความรู้

๗. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นว่า ในวัยท่ีกำลงั ศกึ ษาเล่าเรยี น ควรยดึ หลักคำสอนในด้านใด
เพราะเหตุใด

๘. ครูเนน้ ย้ำใหน้ กั เรียนได้ตระหนกั ถงึ คณุ ค่าในด้านการนำไปปรับใช้ในชวี ติ ประจำวัน
๙. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สรุปผลการวเิ คราะหค์ ุณค่าด้านเน้อื หาและคุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ จาก
วรรณคดีเรอื่ งโคลงโลกนติ ิ
๑๐. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทำกิจกรรมจากแบบวดั ฯ ตอนท่ี ๕ กิจกรรมตามตัวชว้ี ดั : กจิ กรรมท่ี ๑.๓
เม่อื ทำเสรจ็ แล้วครูและนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบทถ่ี ูกต้อง

๑๑. นกั เรียนทำใบงานที่ ๒.๕ เร่อื ง ความรู้และขอ้ คดิ โคลงโลกนติ ิ เปน็ รายบุคคล เมอื่ ทำเสร็จแลว้ ให้
ตรวจความเรยี บร้อยกอ่ นนำสง่ ครู

ขั้นที่ ๔ ขยายความเขา้ ใจ

 ครูมอบหมายให้นกั เรยี นแตล่ ะคนเขียนนทิ านเทยี บโคลงโลกนิติ ๑ เรื่อง โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามที่
กำหนด ดงั น้ี

๑) การวเิ คราะห์และอธบิ ายคุณค่า

๒) ความถกู ตอ้ งและสอดคลอ้ งของเรอ่ื ง

๓) การดำเนินเรอื่ ง

๔) ข้อคดิ และประโยชน์ที่ได้รับ

ขน้ั ท่ี ๕ ตรวจสอบผล

๑๒. นักเรยี นแตล่ ะคนนำเสนอผลงานการเขียนนิทานเทยี บโคลงโลกนิติ ที่หนา้ ชัน้ เรียน แลว้ ครูประเมนิ ผล
งาน
สอื่ (วสั ดุ-อุปกรณ์-สิ่งพิมพ์) / นวตั กรรม / ICT

๑) หนังสอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๑
๒) แบบวัดและบนั ทึกผลการเรยี นรู้ ภาษาไทย ม.๑
๓) ตัวอยา่ งบทประพันธ์
๔) ใบงานที่ ๒.๕ เรอ่ื ง ความรแู้ ละข้อคดิ โคลงโลกนิติ
แหล่งการเรียนรู้

-

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ เครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวัด
วิธีการวดั ผลและการประเมินผล -แบบสังเกตพฤติกรรมการ -ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ น
ทำงานรายบคุ คล เกณฑ์
ด้านความรู้ (K) -สังเกตพฤติกรรมการทำงาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน
รายบุคคล ทำงานกล่มุ เกณฑ์
- สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ -ใบงานท่ี ๒.๕ -รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
-แบบประเมนิ นทิ านเทียบโคลง -ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ น
-ตรวจใบงานท่ี ๒.๕ โลกนิติ เกณฑ์
-ตรวจนทิ านเทยี บโคลงโลกนติ ิ
-แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่าน
ดา้ นทักษะ/ -ประเมนิ การนำเสนอผลงาน ผลงาน เกณฑ์
กระบวนการ (P)
- แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอัน - ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ น
ดา้ นคณุ ธรรม - สงั เกตการใฝ่เรียนรู้ มคี วาม พงึ ประสงค์ เกณฑ์

จริยธรรม และ รบั ผิดชอบ และรักความเปน็ ไทย

ค่านิยม (A)

กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .....................................................ผู้เขียนแผนการจดั การเรียนรู้
................/.................../................

ใบงานท่ี 2.4
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นเขียนนิทานเทยี บโคลงโลกนิติ ๑ เร่อื ง โดยนำเรื่องท่พี บเห็นในชีวิตประจำวัน

มาเป็นเค้าโครงในการเขียนและเลือกโคลงโลกนติ ิที่เหมาะสมกบั เนอ้ื หา ๑ บท มาประกอบการ
เขยี น

นทิ านเทียบโคลงโลกนิติ เรอื่ ง

โคลงโลกนติ ทิ ี่เลอื ก

ใบงานท่ี ๒.๕
๒.๕ความร้แู ละขอ้ คิดโคลงโลกนิติ

คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นอา่ นบทประพันธ์ที่กำหนด แล้วตอบคำถาม

คุณแมห่ นาหนักเพ้ียง พสุธา

๑. คณุ บดิ รดุจอา- กาศกว้าง
คุณพี่พา่ งศขิ รา เมรมุ าศ

คุณพระอาจารย์อา้ ง อาจสู้สาคร

 บทประพนั ธ์มีคณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์อยา่ งไร

 นักเรียนเห็นดว้ ยกับบทประพันธ์ข้างตน้ หรือไม่ อยา่ งไร

ความรดู้ ยู ง่ิ ลำ้ สินทรัพย์
๒. คดิ คา่ ควรเมอื งนบั ย่งิ ไซร้
กายอาต- มานา
เพราะเหตุจักอยู่กบั
โจรจักเบยี นบ่ได้ เร่งรู้เรยี นเอา

 บทประพนั ธน์ ้ใี หข้ อ้ คิดอย่างไรกบั ผอู้ า่ น

 นกั เรียนเหน็ ดว้ ยกับบทประพันธข์ ้างต้นหรอื ไม่ อย่างไร

เฉลย ใบงานท่ี
๒.๕ความรแู้ ละข้อคดิ โคลงโลกนิติ

คำชีแ้ จง ให้นักเรียนอ่านบทประพนั ธ์ท่ีกำหนด แล้วตอบคำถาม

คุณแม่หนาหนกั เพ้ยี ง พสุธา

๑. คุณบิดรดุจอา- กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา เมรมุ าศ

คณุ พระอาจารยอ์ ้าง อาจสสู้ าคร

 บทประพนั ธม์ คี ุณค่าด้านวรรณศลิ ป์อย่างไร
มีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ในเรือ่ งการซำ้ คำ เป็นการช่วยซำ้ ด้านเสียง และเน้นความหมายของคำให้

สะดุดตาสะดดุ หผู ูอ้ ่าน ทำใหผ้ อู้ า่ นได้ตระหนกั และไตรต่ รองบทประพันธม์ ากยิ่งขึ้น
 นักเรยี นเห็นด้วยกบั บทประพนั ธ์ขา้ งต้นหรอื ไม่ อย่างไร

เห็นด้วย เพราะพ่อแม่เป็นบคุ คลท่ีมีพระคุณต่อลูก ไม่สามารถที่จะนำสิ่งใดมาเปรียบเทียบพระคุณ
ได้

ความรู้ดูยง่ิ ลำ้ สินทรัพย์

๒. คิดค่าควรเมอื งนับ ยิ่งไซร้
เพราะเหตจุ ักอยกู่ บั กายอาต- มานา
เร่งร้เู รยี นเอา
โจรจกั เบียนบไ่ ด้

 บทประพันธน์ ีใ้ หข้ อ้ คิดอย่างไรกับผ้อู า่ น
ไดข้ อ้ คิดและตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ ใหข้ วนขวายหาความรู้

 นักเรียนเห็นดว้ ยกับบทประพนั ธข์ า้ งตน้ หรือไม่ อย่างไร
เห็นดว้ ย เพราะวิชาความรูม้ ีคา่ มากกว่าสินทรัพย์ใด และวิชาความรเู้ ป็นเครื่องมือสำคญั ในการหา

เล้ยี งชพี

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 5

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ท21121 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 โคลงโลกนิติ เวลา ๑๐ คาบ

เรือ่ ง การอา่ นบทอาขยาน เวลา 1 ช่วั โมง

ผสู้ อน นางสาวณัฐฐนิ นั ท์ สิมพา โรงเรียนบ้านนาดสี ร้างบง

หมายเหตุ…………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณค่าและนำมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง

ตัวชี้วัด
ท ๕.๑ ม.๑/๕ ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทร้อยกรองทีม่ ีคณุ ค่าตามความสนใจ

สาระสำคญั

โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดสี ุภาษิตคำสอนทม่ี ีคุณค่า มีข้อคิด จงึ ควรนำบทอาขยานตามทกี่ ำหนดมาท่องจำ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๑. ท่องจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนดจากวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนติ ิ

2. สามารถท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดจากวรรณคดีเรอ่ื ง โคลงโลกนิติ ได้

สมรรถนะหลกั
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)

๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

๒. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ

๓. มีวินัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
๗. รักความเป็นไทย

๘. มจี ิตสาธารณะ

แนวความคิดเพอ่ื การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑
๑. สาระวิชาหลัก (Core Subjects)
๒. ทักษะดา้ นการเรียนร้แู ละนวัตกรรม
๓. ทักษะด้านสารสนเทศ สือ่ และเทคโนโลยี

๔. ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชพี

สาระการเรียนรู้

บทอาขยานตามที่กำหนดจากวรรณคดีเร่ือง โคลงโลกนิติ

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (ขัน้ ตอน/กระบวนการ)

วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ

ขน้ั ที่ ๑ สงั เกต รับรู้

๑. ครเู ปิดซีดกี ารอ่านโคลงโลกนิติ ให้นกั เรยี นฟงั เพ่ือใหน้ ักเรียนศึกษาตวั อยา่ งการอ่านโคลงโลกนิตทิ ี่

ถูกตอ้ ง

๒. นักเรยี นสังเกตวา่ การอา่ นท่ถี ูกตอ้ ง ใหม้ ีความไพเราะน่าฟงั มลี ีลาการอา่ นตามเนือ้ หาอารมณน์ ้นั

เปน็ อย่างไร

๓. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

ขน้ั ท่ี ๒ ทำตามแบบ

๔. ครเู ปดิ ซีดีการอา่ นโคลงโลกนติ ใิ ห้นกั เรียนฝกึ อา่ นตามตัวอยา่ ง

๕. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ

ขัน้ ท่ี ๓ ทำเองโดยไมม่ ีแบบ

๖. นักเรียนฝึกอา่ นโคลงโลกนิตเิ องต้งั แตต่ น้ จนจบ โดยไมต่ อ้ งฟงั ตวั อยา่ งจากซีดี

ขั้นท่ี ๔ ฝึกทำใหช้ ำนาญ

๗. นกั เรยี นร่วมกนั ฝกึ ทอ่ งจำบทอาขยานที่กำหนดจากวรรณคดี เร่อื ง โคลงโลกนติ ิ

๘. นักเรียนทอ่ งจำบทอาขยานท่ีกำหนดจากวรรณคดีเรอ่ื ง โคลงโลกนิติให้เกดิ ความชำนาญ แลว้ ทดสอบ

การท่องจำกับครูเปน็ รายบุคคล

๙. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๒

ส่อื (วัสดุ-อุปกรณ์-ส่ิงพิมพ)์ / นวตั กรรม / ICT

๑) ซีดกี ารอา่ นโคลงโลกนติ ิ

๒) บทอาขยานตามทีก่ ำหนดจากวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนติ ิ

แหลง่ การเรียนรู้

-

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

วธิ ีการวัดผลและการประเมินผล เครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด

ด้านความรู้ (K) - สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ -ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ น

ทำงานกล่มุ เกณฑ์

-ตรวจใบงานท่ี ๒.๕ -ใบงานที่ ๒.๕ -รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์

-ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วย -แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ย -(ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )

การเรียนรู้ที่ ๒ การเรยี นรู้ที่ ๒

ดา้ นทักษะ/ -ประเมินการทอ่ งจำบทอาขยาน -แบบประเมนิ การท่องจำบท - ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน
กระบวนการ (P) อาขยาน เกณฑ์

ด้านคุณธรรม - สังเกตการใฝเ่ รียนรู้ มีความ - แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั - ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน
พึงประสงค์ เกณฑ์
จริยธรรม และ รบั ผดิ ชอบ และรักความเปน็ ไทย

คา่ นยิ ม (A)

กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .....................................................ผเู้ ขยี นแผนการจดั การเรียนรู้
................/.................../................

เอกสารประกอบการสอน

บทอาขยานตามที่กำหนดจากวรรณคดเี ร่อื ง โคลงโลกนิติ

พระสมทุ รสุดลกึ ล้น คณนา
สายด่ิงทง้ิ ทอดมา หยั่งได้
เขาสงู อาจวัดวา กำหนด
จิตมนษุ ย์น้ีไซร้ ยากแท้หยั่งถงึ

กา้ นบัวบอกลึกต้นื ชลธาร
มรรยาทสอ่ สนั ดาน ชาตเิ ช้ือ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
หย่อมญ่าเหีย่ วแห้งเรอ้ื บอกร้ายแสลงดนิ

โคควายวายชีพได้ เขาหนัง
เป็นสงิ่ เป็นอนั ยงั อยู่ไซร้
คนเดด็ ดับสูญสงั - ขารร่าง
เป็นชอ่ื เปน็ เสียงได้ แต่ร้ายกบั ดี

เพือ่ นกิน ส้ินทรพั ย์แลว้ แหนงหนี

หาง่าย หลายหมน่ื มี มากได้

เพ่ือนตาย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์

หายาก ฝากผีไข้ ยากแทจ้ กั หา

(สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)

แบบประเมนิ การท่องจำบทอาขยาน

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมการอา่ นออกเสียงของนกั เรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับ

คะแนน

ถูกตอ้ ง ความ

ลำดับ ท่ี ชอ่ื -สกลุ ตามหลกั การแบ่ง ออกเสยี ง ถกู ต้องของ รวม
ของผรู้ บั การ คำ วรรคตอน ชดั เจน บท ๑๖

ประเมิน ประพันธ์ อาขยาน คะแนน

๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑

ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ

............../.................../................

ปฏบิ ัติได้ถูกต้อง เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบตั ิมีข้อบกพรอ่ งเล็กนอ้ ย ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏิบตั ิมีข้อบกพรอ่ งปานกลาง ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ัติมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ ๒ คะแนน ๑๔ - ๑๖ ดีมาก
ให้ ๑ คะแนน
๑๑ - ๑๓ ดี

๘ - ๑๐ พอใช้

ตำ่ กว่า ๘ ปรับปรงุ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 6

กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ท21121 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 โคลงโลกนติ ิ เวลา ๑๐ คาบ

เร่ือง การอ่านจบั ใจความจากสื่อต่างๆ เวลา 1 ชัว่ โมง

ผ้สู อน นางสาวณฐั ฐินนั ท์ สิมพา โรงเรียนบ้านนาดีสรา้ งบง

หมายเหต…ุ ………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพือ่ นำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาใน

การดำเนนิ ชวี ิตและมีนิสัยรกั การอ่าน

ตัวชวี้ ัด
ท ๑.๑ ม.๑/๒ จับใจความสำคญั จากเร่อื งที่อ่าน

สาระสำคญั

การรู้หลกั ในการอา่ นจะช่วยให้สามารถจบั ใจความสำคญั จากเรือ่ งที่อ่านที่เป็นบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ย
กรองได้

จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑) หลักการจบั ใจความสำคญั จากบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองทอ่ี า่ น
๒) การจับใจความสำคญั จากบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองที่อ่าน
3) สามารถอธิบายหลกั การจับใจความสำคญั จากบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองที่อ่านได้
4) สามารถจับใจความสำคญั จากบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองทีอ่ า่ นได้
สมรรถนะหลกั

๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ

 ๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

๗. รกั ความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ

แนวความคดิ เพ่ือการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ ๒๑

๑. สาระวิชาหลัก (Core Subjects)
๒. ทักษะด้านการเรียนรูแ้ ละนวัตกรรม
๓. ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สอื่ และเทคโนโลยี

๔. ทักษะดา้ นชีวิตและอาชีพ

สาระการเรยี นรู้
การอา่ นจบั ใจความจากส่อื ตา่ งๆ

กระบวนการจดั การเรียนรู้ (ข้ันตอน/กระบวนการ)
วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรยี นความรคู้ วามเขา้ ใจ
- นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๒

ขนั้ ที่ ๑ สงั เกต ตระหนัก
๑.ครูใหอ้ าสาสมัครนักเรียน ๒-๓ คน เล่าเรื่องจากหนังสอื ที่นกั เรยี นอา่ นเลม่ ลา่ สุดใหเ้ พอื่ นฟัง
๒. ครูถามนกั เรียนวา่ นกั เรียนชอบหรอื สนใจเรือ่ งราวจากหนังสอื เล่มใดทเ่ี พื่อนเลา่ ให้ฟงั เพราะเหตุใด

จึงชอบ
๓. ครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่า การอา่ นแลว้ จับใจความสำคัญได้ จะชว่ ยให้ผูอ้ ่านเล่าเรอื่ งราวได้

น่าสนใจ เพราะจะเลอื กเลา่ เฉพาะใจความทส่ี ำคญั หรือนา่ สนใจของเรอ่ื ง
๔. ครใู ห้นักเรยี นรวมกลมุ่ กลุ่มละ ๓-๔ คน ตามความสมัครใจ จากนัน้ ใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรู้เร่ือง

การอา่ นจับใจความสำคญั โดยครกู ำหนดประเดน็ ในการศกึ ษาความรู้ ดังนี้
๑) หลกั การอา่ นจับใจความสำคัญของบทร้อยแก้ว พรอ้ มยกตวั อย่างการจบั ใจความสำคญั
ประกอบ
๒) หลกั การอ่านจับใจความสำคัญของบทรอ้ ยกรอง พร้อมยกตัวอย่างการจบั ใจความสำคัญ
ประกอบ

ขั้นที่ ๒ วางแผนปฏบิ ตั ิ
๕. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มวางแผนการศึกษาความรเู้ รื่อง การอ่านจบั ใจความสำคัญ และกำหนดแนวทางในการ

อา่ นจบั ใจความสำคัญของบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง พร้อมยกตัวอยา่ งการจบั ใจความสำคัญประกอบ
ขนั้ ที่ ๓ ลงมอื ปฏิบตั ิ
๖. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาความร้เู ร่อื ง การอ่านจับใจความสำคญั จากหนงั สือเรยี นและแหล่งข้อมลู
สารสนเทศ จากน้นั ปฏบิ ตั ติ ามแนวทางในการอา่ นจับใจความสำคญั ของบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง พร้อม
ยกตัวอย่างการจบั ใจความสำคญั ประกอบตามท่รี ่วมกันวางแผนไว้
ขน้ั ที่ ๔ พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ

๗. นกั เรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ
๘. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันสรุปหลกั การอ่านจับใจความสำคญั และตรวจสอบความเรียบรอ้ ยของ
ตัวอย่างการจบั ใจความสำคัญของบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง แลว้ สรุปความรู้ลง ในแบบบันทึกการอา่ น
๙.ตวั แทนนักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอความรเู้ รอ่ื ง หลักการอา่ นจบั ใจความสำคญั
และยกตัวอยา่ งประกอบ ท่หี นา้ ช้นั เรียน

๑๐. นกั เรยี นทำใบงานท่ี ๒.๑ เรือ่ ง การอา่ นจบั ใจความสำคญั และแบบวดั ฯ ตอนท่ี ๑ (การอ่านใน
ชวี ติ ประจำวัน) กจิ กรรมตามตัวชี้วัด : กิจกรรมท่ี ๒.๑ เปน็ รายบุคคล เมื่อนกั เรียนทำเสรจ็ แลว้ ให้ตรวจความ
เรยี บรอ้ ยก่อนนำส่งครตู รวจ K

ขน้ั ท่ี ๕ สรปุ
๑๑. นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการอ่านจับใจความสำคัญ A K
๑๒. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ หลกั การอา่ นจบั ใจความสำคญั K

สื่อ(วสั ดุ-อุปกรณ์-สง่ิ พมิ พ์) / นวัตกรรม / ICT
๑) หนงั สอื เรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใชภ้ าษา ม.๑
๒) แบบวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.๑
๓) ใบงานท่ี ๒.๑ เร่อื ง การอ่านจบั ใจความสำคญั

แหล่งการเรียนรู้
-  แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ

- http://www.st.ac.th/bhatips/tip๔๙/reading๑.html
- http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=
๑๕๔๘

การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ เครือ่ งมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวัด
-แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ -ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ น
วิธีการวดั ผลและการประเมินผล ทำงานรายบุคคล เกณฑ์
- แบบสังเกตพฤติกรรมการ -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน
ดา้ นความรู้ (K) -สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน ทำงานกล่มุ เกณฑ์
รายบุคคล - แบบบนั ทกึ การอา่ น -ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่าน
- สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ -แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วย เกณฑ์
การเรยี นรทู้ ่ี ๒ -(ประเมินตามสภาพจรงิ )
-ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน
-ใบงานที่ ๒.๑ -ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
-ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วย
การเรยี นร้ทู ี่ ๒ -ประเมนิ การอ่านจบั ใจความ - ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ น
-ตรวจใบงานที่ ๒.๑ สำคญั เกณฑ์

ดา้ นทักษะ/ -ประเมินการอา่ นจบั ใจความสำคัญ - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอัน - ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ น
กระบวนการ (P) พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ดา้ นคณุ ธรรม -สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้
จริยธรรม และ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน
ค่านยิ ม (A)

กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .....................................................ผเู้ ขยี นแผนการจดั การเรียนรู้
................/.................../................

ใบงานท่ี ๒.๑

๑ การอ่านจับใจความสำคญั
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นสรปุ ใจความสำคญั ใหถ้ ูกต้อง

ลกู แกะหลงฝูงกับหมาปา่
ลูกแกะตัวหนึ่งหลงฝูงว่ิงเตลดิ ไปพบกบั หมาปา่ ขณะกำลงั จะถกู จบั กินลกู แกะเห็นจวน
ตัวไมม่ ีทางหนพี ้น จึงแข็งใจยนื เผชญิ หนา้ พรอ้ มออกอบุ ายว่า
“ไหนๆ ขา้ กจ็ ะตอ้ งกลายเป็นอาหารของท่านอยา่ งไม่มที างหลกี เลี่ยงได้แล้ว กอ่ นตายขา้
อยากฟังเสยี งป่ี และเต้นรำเป็นคร้ังสดุ ท้าย ขอท่านช่วยอนเุ คราะห์ดว้ ยเถดิ ”
หมาปา่ นกึ สนุกจึงเป่าป่ีด้วยทำนองเรา้ ใจ หมาเฝ้าฝงู แกะตัวหน่ึงวงิ่ มาตามเสยี ง ครน้ั เห็น
ลกู แกะกำลังตกอยใู่ นอนั ตรายจงึ เหา่ เรียกพรรคพวกของมัน ดว้ ยเหตุนีห้ มาป่าต้องรบี ท้ิงป่วี ่งิ หนไี ปดว้ ย
ความเสยี ดาย

ท่ีมา http://www.nitarn.com/index.php/นทิ านอีสป-๑๒.html

เพอื่ นกนิ สน้ิ ทรัพยแ์ ลว้ แหนงหนี

หาง่าย หลายหมื่นมี มากได้
เพ่ือนตาย
หายาก ถา่ ยแทนชี- วาอาตม์

ฝากผไี ข้ ยากแท้จักหา

(โคลงโลกนิติ : กรมพระยาเดชาดศิ ร)

เฉลย ใบงานท่ี ๒.๑

๑ การอา่ นจบั ใจความสำคญั

คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนสรุปใจความสำคญั ใหถ้ ูกตอ้ ง

ลกู แกะหลงฝงู กบั หมาปา่
ลูกแกะตวั หนึง่ หลงฝูงวงิ่ เตลิดไปพบกับหมาป่า ขณะกำลงั จะถูกจับกินลกู แกะเห็นจวน
ตัวไม่มีทางหนพี น้ จงึ แข็งใจยืนเผชญิ หน้า พร้อมออกอุบายวา่
“ไหนๆ ขา้ ก็จะต้องกลายเป็นอาหารของทา่ นอยา่ งไมม่ ที างหลกี เล่ียงไดแ้ ล้ว กอ่ นตายข้า
อยากฟงั เสียงป่ี และเตน้ รำเปน็ คร้ังสุดท้าย ขอทา่ นชว่ ยอนุเคราะหด์ ว้ ยเถดิ ”
หมาปา่ นึกสนุกจงึ เป่าปี่ด้วยทำนองเร้าใจ หมาเฝ้าฝงู แกะตัวหน่ึงวงิ่ มาตามเสยี ง ครัน้ เหน็
ลกู แกะกำลังตกอย่ใู นอันตรายจึงเห่าเรียกพรรคพวกของมนั ดว้ ยเหตนุ ห้ี มาป่าต้องรีบทง้ิ ปี่วิง่ หนไี ปดว้ ย
ความเสยี ดาย

ทม่ี า http://www.nitarn.com/index.php/นทิ านอีสป-๑๒.html

ลูกแกะตวั หนึง่ หลงฝูงวง่ิ เตลดิ ไปพบหมาป่า ลูกแกะออกอบุ ายว่า กอ่ นตายอยากฟงั
เสียงปีแ่ ละเต้นรำกอ่ น หมาป่าหลงกลจงึ เป่าป่ใี ห้ฟัง หมาเฝา้ ฝูงแกะไดย้ นิ จึงวงิ่ ตามหาเสยี งแลว้
เหา่ เรียกพรรคพวกของมนั มาชว่ ยลูกแกะ จากนนั้ หมาปา่ จึงรบี ทง้ิ ป่แี ลว้ วิง่ หนีไป

เพอ่ื นกิน สน้ิ ทรพั ยแ์ ลว้ แหนงหนี
หาง่าย
เพื่อนตาย หลายหม่นื มี มากได้

หายาก ถา่ ยแทนชี- วาอาตม์

ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา

(โคลงโลกนติ ิ : กรมพระยาเดชาดิศร)

เมือ่ มีทรพั ยส์ ินมากมายกจ็ ะมีเพ่ือนฝงู เยอะ เม่อื ทรพั ยส์ นิ หมดเพอื่ นฝูงก็จะจากไปดว้ ย แต่เพือ่ น
ตายคือเพือ่ นแทท้ ยี่ อมตายแทนกนั ได้และคอยชว่ ยเหลอื เก้ือกูลเมอ่ื เพ่อื นตกยาก

ชือ่ หนังสือ ช่อื ผแู้ ต่ง นามปากกา แบบบนั ทึกการอ่าน
สำนกั พมิ พ์
จำนวนหนา้ ราคา สถานทพ่ี ิมพ์ ปีทพ่ี ิมพ์
บาท อ่านวันท่ี เดือน พ.ศ. เวลา
๑. สาระสำคญั ของเรอ่ื ง

๒. วิเคราะหข์ ้อคดิ /ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากเรอื่ งทีอ่ ่าน

๓. สิ่งทส่ี ามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั

๔. ข้อเสนอแนะของครู

ลงชือ่ นักเรยี นลงช่ือ ผปู้ กครอง

( )( )

ลงชื่อ ครูผ้สู อน
()

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน
ผลงานมคี วามสมบูรณ์ชัดเจน ให้ ๒ คะแนน
ผลงานมีขอ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่
ให้ ๓ คะแนน
ผลงานมขี อ้ บกพรอ่ งเพียงเลก็ นอ้ ย ให้ ๑ คะแนน
ผลงานมีข้อบกพรอ่ งมาก

แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทำงานรายบคุ คล

คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่อง
ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน

ลำดั ช่อื -สกลุ ความมี ความมี การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
บ ท่ี ของผู้รบั การ วนิ ัย น้ำใจ ความ ความ เวลา ๒๐
เอ้อื เฟอ้ื คิดเหน็ คดิ เห็น คะแน
ประเมนิ ๔๓๒๑ เสยี สละ ๔๓๒๑
๔๓๒ ๑ ๔๓๒๑ น
๔๓๒๑

ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ ๒ คะแนน ๑๘ - ๒๐ ดีมาก
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน
๑๔ - ๑๗ ดี

๑๐ - ๑๓ พอใช้

ตำ่ กวา่ ๑๐ ปรบั ปรงุ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ท21121 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 โคลงโลกนิติ เวลา ๑๐ คาบ

เรื่อง การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ ท่ีเปน็ บทบรรยาย เวลา 1 ชวั่ โมง

ผสู้ อน นางสาวณฐั ฐินนั ท์ สิมพา โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบง

หมายเหตุ…………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพือ่ นำไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ญั หา
ในการดำเนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รักการอา่ น

ตวั ชี้วัด
ท ๑.๑ ม.๑/๑ สรปุ เนอื้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี า่ น

สาระสำคญั
การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ ท่ีเป็นบทบรรยาย ต้องฝึกอ่านใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ แบบบรรยาย
2. อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ ท่เี ป็นบทบรรยาย ต้องฝกึ อา่ นให้ถกู ต้องเหมาะสม

สมรรถนะหลัก
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด

๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่ือสตั ย์สุจรติ

 ๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

๗. รักความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ

แนวความคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑

๑. สาระวชิ าหลัก (Core Subjects)
๒. ทกั ษะดา้ นการเรยี นร้แู ละนวตั กรรม
๓. ทักษะดา้ นสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี

๔. ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี

สาระการเรียนรู้
การอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วท่ีเปน็ บทบรรยาย

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (ข้นั ตอน/กระบวนการ)
วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : ๕E)
- นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑

ขนั้ ท่ี ๑ กระตุน้ ความสนใจ
๑. นักเรียนชมวีดทิ ัศน์งานพระราชพิธตี า่ งๆ แลว้ ครสู นทนากบั นักเรียนเกย่ี วกับการใช้ภาษาในการ

ดำเนนิ รายการของพธิ ีกรรายการ
๒. นกั เรยี นยกตัวอย่างพธิ กี รบรรยายรายการตา่ งๆ ท่ีสามารถเปน็ แบบอย่างการอา่ นทด่ี ีและบอกเหตุผล
๓. นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ข้อ ๑-๒

ขนั้ ที่ ๒ สำรวจค้นหา
๔. นักเรียนศึกษาความร้เู รือ่ ง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว : วธิ กี ารอา่ นแบบบรรยาย จากหนังสอื

เรยี นและแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ แลว้ บันทึกความรู้ท่ไี ด้จากการศึกษาลงในแบบบันทกึ การอ่าน
๕. นกั เรยี นอา่ นบทบรรยายตำนานดอกกุหลาบ และทำเครอื่ งหมายแบง่ วรรคตอนในการอ่าน เพ่อื ให้

ฝึกอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง
๖. นกั เรยี นฝึกอ่านบทบรรยายท่ีทำเครอื่ งหมายไว้ โดยใหจ้ ับคู่กับเพอ่ื นเพือ่ ฝึกอ่านตามหลกั เกณฑ์
๗. ครสู งั เกตการอ่านออกเสยี งของนกั เรยี น แล้วเสนอแนะ ในสว่ นที่บกพรอ่ งเพอื่ ใหน้ กั เรียนนำไป

ปรับปรุงแก้ไขการอา่ นใหถ้ กู ต้อง
๘. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ

ขั้นที่ ๓ อธบิ ายความรู้

๙. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั วธิ ีการอา่ นแบบบรรยาย ไมเ่ น้นการแสดงอารมณ์ และวธิ ีการอา่ น
แบบบรรยายเนน้ การแสดงอารมณ์

๑๐. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกับวิธีการอา่ นแบบบรรยายไม่เนน้ การแสดงอารมณ์ และ
วิธีการอ่านแบบบรรยายเน้นการแสดงอารมณ์

๑๑. ครอู า่ นเปน็ ตวั อย่างใหน้ กั เรยี นเห็นความแตกต่างของวธิ กี ารอา่ นทง้ั ๒ แบบ ตามตวั อย่างจาก
หนังสือเรยี น

ขน้ั ท่ี ๔ ขยายความเข้าใจ
๑๒. นกั เรียนจบั คู่กับเพ่อื นคนเดมิ เพอื่ ฝกึ อา่ นตามตวั อยา่ งจากหนงั สือเรยี น ดังนี้
- การฝกึ อ่านออกเสยี งแบบบรรยายไม่เน้นการแสดงอารมณ์
- การฝึกอา่ นออกเสยี งแบบบรรยายเน้นการแสดงอารมณ์

โดยให้เพอ่ื นประเมินการอา่ นออกเสียงของคู่ตนเอง
๑๓.ครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี น ๓ คน ออกมาอ่านออกเสียงหน้าชั้นเรียน แล้วครเู สนอแนะในสว่ นท่ีควร

ปรบั ปรุงเพ่อื เป็นประโยชน์ในการนำไปปรบั แกไ้ ข
๑๔.นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด

ขนั้ ที่ ๕ ตรวจสอบผล
๑๕.นกั เรยี นเลอื กขอ้ ความที่เป็นบทรอ้ ยแกว้ แบบบรรยายตาม ท่ีนกั เรยี นสนใจ คนละ ๑ ตอน มา

ทดสอบการอ่านกับครนู อกเวลาเรียน
๑๖. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

ส่ือ(วสั ดุ-อุปกรณ์-สงิ่ พิมพ)์ / นวตั กรรม / ICT
๑) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลักภาษาและการใชภ้ าษา ม.๑

๒) วดี ิทศั น์งานพระราชพธิ ตี า่ งๆ
๓) บทบรรยายตำนานดอกกหุ ลาบ
แหล่งการเรียนรู้
 แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ

- http://werapon๒๒๒.tripod.com/thai๑.htm
- http://www.kr.ac.th/wai/show.php?id=๑๒๗

- http://school.obec.go.th/niboog/thai๓๓๑๐๑_๑.html

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

วิธกี ารวัดผลและการประเมนิ ผล เครอื่ งมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัด

ด้านความรู้ (K) - สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ -ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่าน

ทำงานกลุ่ม เกณฑ์

-สังเกตพฤติกรรมการทำงาน -แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ -ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ น

รายบุคคล ทำงานรายบคุ คล เกณฑ์

-ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ย -แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วย -(ประเมนิ ตามสภาพจริง)

การเรียนรทู้ ี่ ๑ การเรียนรู้ที่ ๑

-ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน -แบบบันทกึ การอา่ น -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน

เกณฑ์

ด้านทักษะ/ ประเมนิ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ -แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่าน
กระบวนการ (P) บทรอ้ ยแก้ว เกณฑ์
- ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ น

เกณฑ์

ด้านคณุ ธรรม - สังเกตการใฝ่เรยี นรู้ มคี วาม - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั - ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน

จรยิ ธรรม และ รบั ผิดชอบ และรักความเปน็ ไทย พงึ ประสงค์ เกณฑ์

ค่านยิ ม (A)

กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.....................................................ผูเ้ ขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้
................/.................../................

เอกสารประกอบการสอน

บทบรรยายตำนานดอกกุหลาบ

เคยไดย้ นิ คำเปรียบเปรยไหมทวี่ ่า ผู้หญิงสวยแต่เต็มไปดว้ ยเล่ห์เหลี่ยมก็เปรยี บไดด้ ัง “ดอก
กหุ ลาบ” เพราะดอกกหุ ลาบนั้น แมจ้ ะมรี ูปร่างภายนอกท่ีสวยงามรวมถึงกลิ่นทห่ี อมชวนดม แตม่ นั ก็มี
หนามแหลม หากไมร่ ะวังอาจโดนบาด ได้ง่ายๆ

กุหลาบนน้ั มีชอ่ื สามัญวา่ “Rose” ช่ือทางพฤกษาศาสตรว์ า่ “Rosa hybrids” และมีชอ่ื วงศ์วา่
“Rosaceae” ขยายพนั ธ์ุโดยการตอนกงิ่ ลักษณะของกุหลาบน้นั มีทั้งไมพ้ มุ่ และไม้เล้ือย ลำตน้ และกง่ิ
จะมหี นาม ส่วนดอกของกหุ ลาบ จะมที งั้ ดอกเดยี่ วและเป็นช่อ กลบี ดอกมีลักษณะใหญ่ มไี ม่ตำ่ กวา่ ๕
กลีบ กหุ ลาบนนั้ มกี ลนิ่ หอมชวนดม และมหี ลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทง้ั ยังมหี ลาย
ชนิดดว้ ย

ซึง่ คำวา่ กุหลาบนน้ั มาจากคำวา่ “คุล” ทใ่ี นภาษาเปอร์เซยี แปลวา่ “สีแดง ดอกไม้ หรือดอก
กหุ ลาบ” โดยในภาษาฮินดีกม็ คี ำวา่ “คุล” แปลวา่ “ดอกไม”้ และคำวา่ “คุลาพ” ก็หมายถงึ กุหลาบ
อยา่ งท่ไี ทยเราเรียกกนั แตอ่ อกเสียงเป็น “กุหลาบ” สว่ นคำว่า “Rose” ในภาษาองั กฤษนั้นมาจากคำ
ว่า “Rhodon” ทีแ่ ปลวา่ กหุ ลาบในภาษากรกี

กหุ ลาบเปน็ ดอกไมท้ ่นี ยิ มปลกู มาแตโ่ บราณวา่ กันวา่ กหุ ลาบเกิดขน้ึ เมือ่ ๗๐ ล้านปีมาแลว้ และ
เคยมีการค้นพบ ฟอสซลิ ของกุหลาบท่ีประเทศสหรฐั อเมรกิ า โดยแต่กอ่ นกหุ ลาบนน้ั เปน็ กุหลาบป่าและ
มีรูปร่างไมเ่ หมือนในทกุ วนั น้ี แต่เนือ่ งจากมนษุ ย์ได้นำเอากุหลาบปา่ มาปลกู และผสมพันธ์จุ นขยายเป็น
พนั ธ์ุต่างๆ มากมาย

ตามประวตั ิศาสตรเ์ ลา่ ว่ากุหลาบปา่ ถกู นำมาปลกู ไวใ้ นพระราชวังของจักรพรรดิในสมยั ราชวงศ์
ฮน่ั ราว ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว ขณะทีอ่ ยี ปิ ต์เองกป็ ลกู กุหลาบเปน็ ไม้ดอกสง่ ไปขายให้แก่ชาวโรมนั เพราะ
ชาวโรมันเปน็ ชาติท่ีรักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะส่ังซื้อจากประเทศอยี ิปตแ์ ล้วก็ตาม แตก่ ็ยงั ลงทุนสร้าง
สถานท่ขี นาดใหญส่ ำหรับปลกู ดอกกหุ ลาบอกี ดว้ ย เพราะสำหรบั ชาวโรมนั แลว้ ดอกกหุ ลาบน้ันมี
ความสำคญั ต่อชวี ติ ประจำวัน อีกทัง้ ชาวโรมันถอื วา่ ดอกกหุ ลาบเปน็ สัญลกั ษณ์ของความรัก เปน็ ทั้ง
ของขวญั และเป็นดอกไม้สำหรบั ทำมาลยั ต้อนรบั แขก รวมถงึ เป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่างๆ แถมยงั
เป็นส่วนประกอบสำหรบั ทำขนม ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย

เมอ่ื เอ่ยถงึ ดอกกหุ ลาบแล้ว หลายๆ คนกค็ งจะนึกถึงเรือ่ งความรัก เพราะกหุ ลาบถอื เปน็
สญั ลกั ษณข์ องความรกั และความโรแมนตกิ โดยมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกหุ ลาบเปน็ เสมือนเคร่ืองหมาย
แทนการกำเนิดของ เทพธิดาวนี ัส ซึง่ เป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนสั เป็นทรี่ จู้ ักกันในชอื่ อโฟร
ไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไวว้ ่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนสิ คนรกั ของ
เธอที่ถกู หมูป่าฆา่ เลือดและนำ้ ตาหยดลงสู่พนื้ แลว้ กลายเป็นดอกไมส้ แี ดงเข้มหรือดอกกุหลาบนัน่ เอง
แตบ่ างตำนานกเ็ ลา่ วา่ ดอกกหุ ลาบเกิดจากเลอื ดของอโฟรไดทเ์ องท่ีหยดลงสพู่ ืน้ เมื่อเธอแทงตวั เองดว้ ย
หนามแหลม

แม้จะไมม่ ีการบนั ทึกอย่างชดั เจนว่าดอกกุหลาบนั้นเขา้ มาเก่ยี วขอ้ งกับบ้านเราตอนไหน แตจ่ าก
บันทกึ ของ ลา ลแู บร์ ราชทตู ฝรั่งเศสในสมยั สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บนั ทึกไว้วา่ เห็นกุหลาบท่ี

กรุงศรอี ยธุ ยา และในกาพย์หอ่ โคลงนิราศธารโศกสมยั กรุงศรอี ยธุ ยา ซ่งึ เป็นพระราชนิพนธ์ของเจา้ ฟา้
ธรรมธิเบศร ก็ได้มกี ารกล่าวถึงกหุ ลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกหุ ลาบของไทยทีเ่ ปน็ บทละครพระ

ราชนพิ นธข์ องรัชกาลท่ี ๖ เรอ่ื ง มทั นะพาธา ในเร่อื งเล่าถึงเทพธดิ าองค์หนง่ึ ชอ่ื “มัทนา” ซึง่ ได้มี
เทพบตุ รองคห์ นึง่ ชอ่ื “สเุ ทษณะ” ซึ่งพระองคท์ รงหลงรกั เทพธิดา “มัทนา” มาก แตน่ างไม่มีใจรักตอบ

จงึ ถูกสาปให้ไปเกดิ เป็นดอกกหุ ลาบ จึงกลายเปน็ ตำนานดอกกหุ ลาบแตน่ ัน้ มา
ทีม่ า http://hilight.kapook.com/view/๑๗๕๘๓องครผู ู้สอน)

ชอ่ื หนงั สอื ชื่อผแู้ ต่ง นามปากกา แบบบนั ทึกการอ่าน
สำนกั พิมพ์
จำนวนหน้า ราคา สถานทพี่ มิ พ์ ปที ีพ่ ิมพ์
บาท อ่านวันท่ี เดือน พ.ศ. เวลา
๑. สาระสำคญั ของเร่ือง

๒. วเิ คราะหข์ ้อคิด/ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเรอ่ื งท่อี ่าน
๓. ส่ิงที่สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั
๔. ข้อเสนอแนะของครู

ลงชื่อ นกั เรยี น ลงชื่อ ผปู้ กครอง

( )( )

ลงชอื่ ครผู ้สู อน
()

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน
ผลงานมีความสมบูรณ์ชัดเจน ให้ ๒ คะแนน
ผลงานมีข้อบกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่
ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งเพียงเล็กนอ้ ย ให้ ๓ คะแนน
ผลงานมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ ๑ คะแนน

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 8

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ท21121 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 โคลงโลกนติ ิ เวลา ๑๐ คาบ

เรื่อง การอา่ นจับใจความจากบทความ เวลา 1 ชัว่ โมง

ผู้สอน นางสาวณฐั ฐนิ นั ท์ สิมพา โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบง

หมายเหตุ…………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพื่อนำไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหา
ในการดำเนินชวี ิตและมีนสิ ยั รักการอ่าน

ตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ม.๑/๓ ระบุเหตุและผล และขอ้ เท็จจริงกบั ข้อคดิ เห็นจากเรอื่ งทอ่ี ่าน

สาระสำคญั
การอ่านจบั ใจความจากบทความ ต้องระบุเหตแุ ละผล และข้อเทจ็ จรงิ กับขอ้ คดิ เห็นจากบทความ

ทีอ่ ่าน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๑. ระบุเหตแุ ละผล และข้อเทจ็ จริงกบั ขอ้ คดิ เหน็ จากบทความทอ่ี า่ น
2. สามารถระบเุ หตุและผล และขอ้ เทจ็ จรงิ กบั ขอ้ คดิ เห็นจากบทความท่อี า่ นได้
สมรรถนะหลกั
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซื่อสัตย์สจุ ริต

 ๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มุ่งมั่นในการทำงาน

๗. รกั ความเป็นไทย
๘. มจี ิตสาธารณะ

แนวความคดิ เพ่อื การเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
๑. สาระวิชาหลัก (Core Subjects)
๒. ทักษะดา้ นการเรียนรแู้ ละนวัตกรรม
๓. ทกั ษะด้านสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี

๔. ทกั ษะด้านชีวติ และอาชีพ

สาระการเรยี นรู้
การอา่ นจับใจความจากส่ือต่างๆ เชน่ บทความ

กระบวนการจดั การเรียนรู้ (ขน้ั ตอน/กระบวนการ)
วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

ข้นั ที่ ๑ สังเกต
๑. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกับหลกั การพจิ ารณาข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็
๒. ครูใหน้ กั เรยี นศกึ ษาเรอื่ ง ข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็น จากใบความรู้และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ
๓. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด

ขัน้ ที่ ๒ จำแนกความแตกต่าง
๔. นักเรียนเลอื กอา่ นบทความจากหนังสือพมิ พ์รายวันทต่ี นเองสนใจ คนละ ๑ ข่าว
๕. นกั เรยี นสงั เกตและจำแนกประโยคท่เี ปน็ ขอ้ เท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ จากบทความในหนังสอื พิมพ์

ทอ่ี ่าน ลงในแบบบนั ทึกการจำแนกข้อเท็จจรงิ และข้อคดิ เห็น ตอนที่ ๑
๖. นกั เรยี นบอกข้อแตกต่างของขอ้ เทจ็ จริงกบั ขอ้ คดิ เห็นว่ามลี ักษณะแตกต่างกันอย่างไร
๗. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

ขัน้ ที่ ๓ หาลักษณะร่วม
๘. นกั เรียนพจิ ารณาภาพรวมของขอ้ เทจ็ จริงกับข้อคดิ เห็นว่ามอี ะไรท่เี หมือนกันหรือคล้ายคลงึ กัน
๙. นักเรยี นสรุปผลการพจิ ารณาความเหมือนหรอื ความคล้ายคลงึ กนั ของขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นลงใน

แบบบันทึกการจำแนกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็น ตอนที่ ๒
๑๐.นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด

ขัน้ ที่ ๔ ระบชุ ่อื ความคดิ รวบยอด
๑๑.นกั เรียนระบหุ ลกั การพจิ ารณาขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็ ลงในแบบบันทกึ การจำแนกขอ้ เทจ็ จริงและ

ขอ้ คดิ เหน็ ตอนที่ ๓
๑๒. นกั เรียนแตล่ ะคนนำเสนอผลงานในแบบบันทกึ การจำแนกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ ตามประเดน็ ท่ี

ครูกำหนด ดังนี้
๑) อ่านรายละเอียดของบทความท่เี ลือก
๒) จำแนกความแตกต่างของขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเหน็ จากบทความ
๓) สรปุ ความเหมอื นและความคล้ายคลงึ กันของข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็นจากบทความ
๔) ระบุหลักการพจิ ารณาข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็น

ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนำไปใช้
๑๓. นักเรยี นทำใบงานที่ ๒.๓ เรือ่ ง การพิจารณาขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เห็น
๑๔. นกั เรียนนำเสนอใบงานท่ี ๒.๓ หน้าชน้ั เรียน ครปู ระเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี น
๑๕. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปหลักการพิจารณาข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ จากการอา่ นจับใจความจาก

บทความ
๑๖. นักเรยี นแต่ละคนทำแบบวัดฯ ตอนท่ี ๑ (การอ่านในชีวติ ประจำวัน) กิจกรรมตามตัวช้ีวัด :

กิจกรรมท่ี ๒.๔ เม่อื ทำเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ ให้นำส่งครูตรวจ

สือ่ (วสั ดุ-อปุ กรณ์-ส่ิงพมิ พ)์ / นวตั กรรม / ICT
๑) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.๑

๒) ใบความรู้ เรือ่ ง ข้อเท็จจริงและขอ้ คิดเห็น
๓) หนงั สือพมิ พ์รายวัน

๔) แบบบันทึกการจำแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเหน็
๕) ใบงานที่ ๒.๓ เรอ่ื ง การพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็

แหลง่ การเรยี นรู้
 แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=๔๗๑๑๖
- http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=๔๗๗๐๗

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวัด

วธิ กี ารวดั ผลและการประเมินผล -แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ -ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ น
ทำงานรายบคุ คล เกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) -สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน - ใบงานท่ี ๒.๓ - ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล
-ตรวจใบงานท่ี ๒.๓

ด้านทกั ษะ/ ประเมนิ การนำเสนอผลงาน -แบบประเมินการนำเสนอ - ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ น
กระบวนการ (P) ผลงาน เกณฑ์

ด้านคุณธรรม - สังเกตการใฝ่เรยี นรู้ มคี วาม - แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั - ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ น

จริยธรรม และ รบั ผดิ ชอบ และรกั ความเป็นไทย พึงประสงค์ เกณฑ์

ค่านยิ ม (A)

กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื .....................................................ผเู้ ขยี นแผนการจดั การเรียนรู้
................/.................../................

เอกสารประกอบการสอน

แบบบนั ทกึ การจำแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็น

(ตดิ บทความจากหนงั สอื พมิ พ)์

ตอนท่ี ๑ จำแนกประโยคทเ่ี ป็นข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากบทความ ข้อคดิ เห็น
ขอ้ เทจ็ จรงิ

ตอนท่ี ๒ สรปุ ความเหมอื นหรือความคล้ายคลงึ กนั ของขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็นจากบทความ

ตอนที่ ๓ หลกั การพจิ ารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากบทความ

ใบความรู้ ข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็น

ความหมายของข้อเท็จจริง

ข้อเทจ็ จรงิ คือ ขอ้ ความหรือเหตุการณ์ท่ีมีความเป็นไปได้ มคี วามสมจริง มีหลกั ฐาน

เชอ่ื ถอื ได้ มีความสมเหตุสมผล เช่น วันข้นึ ๑๕ ค่ำ จะมองเหน็ พระจันทร์เตม็ ดวง ขอ้ ความนี้

เปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ เพราะมคี วามสมจรงิ เปน็ ไปได้ พิสจู น์ได้

ลักษณะของขอ้ เท็จจริง

๑. มคี วามเปน็ ไปได้เสมอ

๒. มีความเป็นจรงิ

๓. มหี ลกั ฐานอ้างอิงพิสจู น์ได้

๔. มคี วามสมเหตุสมผล

ความหมายของขอ้ คดิ เหน็

ขอ้ คิดเห็น เปน็ ขอ้ ความที่แสดงความรู้สกึ แสดงความคาดคะเน หรอื ข้อความที่แสดง

ทัศนะของผู้พูดท่ีสอดแทรกเข้าไปในข้อความทพ่ี ูด เพอื่ แสดงความคิดเหน็ ส่วนตวั เชน่ ชาย

ชราคนน้นั น่าสงสารมากเขาตอ้ งทำงานเหน่ือยตลอด ทง้ั ข้อความนี้เป็นข้อคิดเหน็ เพราะเปน็

ความรู้สึกหรือความคิดเหน็ สว่ นตัว

ลกั ษณะของขอ้ คิดเหน็

๑. เปน็ การแสดงความรสู้ ึก

๒. แสดงการคาดคะเน

๓. เป็นขอ้ เสนอแนะ

๔. เปน็ การแสดงความคดิ เหน็

๕. เปน็ ความเชอ่ื ท่ไี มส่ มเหตุสมผล

ความแตกตา่ งระหว่างขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น

ขอ้ เท็จจริง ขอ้ คดิ เหน็

๑. มคี วามเปน็ ไปไดเ้ สมอ ๑. แสดงความรู้สึก

๒. มคี วามเปน็ จรงิ ๒. แสดงการคาดคะเน

๓. มหี ลักฐานอา้ งองิ พิสูจน์ได้ ๓. เปน็ ขอ้ เสนอแนะ

๔. มีความสมเหตุสมผล ๔. เป็นการแสดงความคดิ เหน็

๕. เปน็ ความเชอื่ ทีไ่ มส่ มเหตุสมผล

การอ่านเพอื่ แยกข้อเท็จจริงและขอ้ คิดเหน็
การอ่านเพอ่ื แยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ เปน็ การอ่านอยา่ งไตรต่ รองพิจารณา

เหตุผลแล้วตีความหมายของขอ้ ความหรอื เร่อื งเพ่ือแยกให้ได้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง สว่ นใด
เป็นข้อคิดเห็น อะไรถกู อะไรผิด ถา้ ผิดต้องทราบว่าผดิ อย่างไร

การอา่ นเพือ่ แยกข้อเท็จจริงและขอ้ คิดเหน็ หมายถงึ การอา่ นอย่างละเอียดทุกตวั อักษร และ
เมือ่ อ่านจบแลว้ ต้องแยกแยะได้วา่ อะไรคอื ขอ้ เท็จจรงิ อะไรคือข้อคิดเหน็ อะไรถูก อะไรผิด ถ้าผิดก็
ตอ้ งทราบว่าผิดอย่างไร
ตวั อย่าง การแยกข้อเท็จจริงและข้อคดิ เห็น

พอ่ แมห่ ลายคนอยากให้ลกู เป็นเด็กเกง่ มอี ัจฉรยิ ภาพ ความสามารถเฉพาะด้าน บ้างก็ให้
เรยี นพิเศษเสริมความรู้ความสามารถต่างๆ ขณะท่ีเจา้ ลกู น้อยไมม่ คี วามสนใจในสงิ่ น้ี สรา้ งความปวดหัว
ใหก้ ับพอ่ แม่ กระนัน้ กย็ ังไมว่ ายต้องการใหล้ กู เปน็ ทห่ี นึ่ง เป็นเด็กอัจฉริยะ สรา้ งช่ือเสยี งใหก้ ับทางโรงเรยี น
เป็นทย่ี อมรับของสังคม เมือ่ ลกู ไมม่ คี วามสามารถ ขาดอัจฉริยภาพ พ่อแม่บางคนรบั ไม่ได้ พยายามยดั เยยี ด
ให้ลกู เป็นในสง่ิ ที่ตนต้องการ สง่ิ เหลา่ นถี้ กู ต้องแล้วหรอื

ขอ้ เท็จจรงิ : พ่อแมห่ ลายคนอยากให้ลูกเป็นเด็กเก่ง มอี ัจฉริยภาพ ความสามารถเฉพาะดา้ น
ขอ้ คิดเห็น : เม่ือลูกไมม่ คี วามสามารถ ขาดอัจฉริยภาพ พอ่ แม่บางคนรบั ไมไ่ ด้ พยายามยัดเยียดให้
ลูกเปน็ ในสง่ิ ทต่ี นต้องการ สงิ่ เหล่าน้ีถกู ต้องแล้วหรือ

ที่มา http://www.ahph๙thi.gotoknow.org/assets/media/files/๐๐๐/.../original_งานแก้
ไทย.doc?...-

ใบงานท่ี ๒.๓
๒.๓การพิจารณาขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็
คำชี้แจง ให้นกั เรียนอา่ นบทความตอ่ ไปนี้ แล้วตอบคำถาม

เดก็ หญงิ ๕ ขวบถูกหามส่งรพ.เหตโุ รคคล่ังผอม
เว็บไซต์แท็บลอยด์เดล่ี เมล รายงานว่า มเี ดก็ ผหู้ ญิงวัยเพียงแค่ ๕ ขวบ ถกู นำตัวสง่
โรงพยาบาล หลังจากป่วยเปน็ โรคอะนอเร็กเซีย หรอื โรคคล่ังผอมอยา่ งรนุ แรง ซง่ึ สร้างความต่นื ตกใจ
ไปท่ัวประเทศ พรอ้ มกับการต้ังคำถามว่า ความคดิ ห่วงสวยไดเ้ ข้าไปครอบงำจติ ใจของเด็กตงั้ แต่อายุ
เทา่ ใด
จากสถิตทิ อี่ อกโดยกระทรวงสาธารณสุขขององั กฤษระบุวา่ มเี ดก็ จำนวนไม่นอ้ ยโดยเฉพาะ
เด็กผู้หญงิ กำลังคลัง่ ไคล้ความผอมกันอย่างรนุ แรง บางคนเลียนแบบนางแบบทผี่ อมจนเกนิ เหตุ หรอื ไม่
กพ็ วกคนทม่ี ชี ่ือเสยี งท่พี วกเขาเห็นในนิตยสารหรอื โทรทัศน์ และพยายามจะผอมเลยี นแบบคนเหลา่ น้ี
แพทยแ์ ละผู้เชยี่ วชาญด้านโภชนาการหลายคนเตือนวา่ มเี ดก็ ทีอ่ ายุน้อยกำลังพฒั นาไปสู่
ความสัมพันธก์ ับอาหารในแบบท่ีผิดหลักอนามยั เพราะนำตัวเองไปเปรยี บเทียบกบั เพ่ือน และบางครง้ั
ยงั แข่งกันดว้ ยว่า ใครลดนำ้ หนกั ไดม้ ากกว่ากัน
โรคน้มี คี วามเกยี่ วขอ้ งกับปัญหาทางด้านจติ ใจดว้ ย สว่ นใหญจ่ ะพบในกลุ่มทีข่ าดความมน่ั ใจ
ในตัวเองอยา่ งมาก หรอื กลุ่มท่แี สวงหาความสมบูรณแ์ บบ บางคนเคยถกู ทารุณกรรมทางรา่ งกายหรอื
ทางจติ ใจ หรือมกั รสู้ ึกว่าตวั เองขาดความรกั อย่ตู ลอดเวลา

การรักษานอกจากรกั ษาทางการแพทยแ์ ลว้ วิธีครอบครวั บำบดั กม็ ีความจำเปน็ อยา่ ง
ยงิ่ โดยคนในครอบครัวตอ้ งเป็นผูเ้ ยียวยาสำคญั ที่สุด ตอ้ งให้ความรัก ความเขา้ ใจ เพอื่ สร้าง
ความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วย อย่าใช้วธิ ีบงั คับใหก้ ินตามมื้ออาหาร แตเ่ ปลย่ี นเปน็ การสรา้ งบรรยากาศ
การกนิ เปล่ยี นสถานทก่ี นิ หรอื ชกั ชวนให้รว่ มกันทำอาหาร ในขณะเดียวกนั พอ่ แม่อาจชวนลูก
ไปออกกำลังกายรว่ มกัน เพ่ือให้ลกู ลดความวติ กกังวลเก่ยี วกับเร่อื งนำ้ หนัก และต้องเอาตวั เอง
เข้าไปปรับแก้พฤตกิ รรมของลกู ดว้ ยจึงจะไดผ้ ล

ท่ีมา http://www.mumuu.com/news-show-เดก็ หญิง-๕-ขวบถกู หามสง่ รพ-เหตุ
โรคคล่งั ผอม-๑๒-๕๕๒๔๑-

คำถาม
๑. บอกสาเหตทุ ี่ทำใหเ้ กดิ เรือ่ งน้ี

๒. บอกผลท่เี กิดข้นึ จากเรื่องนี้

๓. สรุปขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็นที่ไดจ้ ากการอ่านเรื่องน้ี

เฉลย ใบงานท่ี ๒.๓
๒.๓การพิจารณาขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็น

คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นอ่านบทความตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคำถาม

เดก็ หญิง ๕ ขวบถูกหามสง่ รพ.เหตโุ รคคล่ังผอม
เวบ็ ไซต์แทบ็ ลอยด์เดลี่ เมล รายงานวา่ มเี ดก็ ผู้หญิงวยั เพยี งแค่ ๕ ขวบ ถูกนำตัวสง่
โรงพยาบาล หลังจากปว่ ยเปน็ โรคอะนอเรก็ เซีย หรือโรคคล่งั ผอมอยา่ งรนุ แรง ซ่งึ สรา้ งความตื่นตกใจ
ไปทั่วประเทศ พร้อมกบั การตงั้ คำถามว่า ความคดิ หว่ งสวยได้เขา้ ไปครอบงำจิตใจของเดก็ ตง้ั แตอ่ ายุ
เท่าใด
จากสถิติที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสขุ ขององั กฤษระบุวา่ มเี ด็กจำนวนไมน่ ้อยโดยเฉพาะ
เด็กผูห้ ญิงกำลังคล่งั ไคล้ความผอมกนั อย่างรุนแรง บางคนเลยี นแบบนางแบบทีผ่ อมจนเกินเหตุ หรือไม่
ก็พวกคนทีม่ ชี อื่ เสยี งท่พี วกเขาเหน็ ในนิตยสารหรอื โทรทศั น์ และพยายามจะผอมเลียนแบบคนเหลา่ นี้
แพทย์และผู้เช่ียวชาญด้านโภชนาการหลายคนเตือนว่า มีเด็กท่อี ายุนอ้ ยกำลงั พัฒนาไปสู่
ความสัมพนั ธ์กับอาหารในแบบทผี่ ิดหลกั อนามัย เพราะนำตวั เองไปเปรียบเทียบกบั เพอ่ื น และบางครั้ง
ยงั แขง่ กนั ด้วยวา่ ใครลดน้ำหนกั ได้มากกว่ากัน
โรคนม้ี คี วามเก่ยี วขอ้ งกับปญั หาทางด้านจติ ใจดว้ ย สว่ นใหญจ่ ะพบในกลุม่ ท่ขี าดความมนั่ ใจ
ในตัวเองอย่างมาก หรือกลุ่มทแี่ สวงหาความสมบูรณ์แบบ บางคนเคยถกู ทารณุ กรรมทางร่างกายหรอื
ทางจิตใจ หรือมักรู้สึกว่าตัวเองขาดความรักอยตู่ ลอดเวลา

การรักษานอกจากรักษาทางการแพทยแ์ ล้ว วิธคี รอบครัวบำบดั กม็ ีความจำเปน็ อย่าง
ยิง่ โดยคนในครอบครัวต้องเป็นผู้เยยี วยาสำคญั ที่สุด ต้องให้ความรกั ความเข้าใจ เพอ่ื สรา้ ง
ความมั่นใจให้แกผ่ ้ปู ่วย อย่าใช้วิธบี ังคบั ให้กินตามม้อื อาหาร แต่เปลยี่ นเป็นการสร้างบรรยากาศ
การกิน เปล่ียนสถานท่ีกิน หรือชักชวนให้ร่วมกนั ทำอาหาร ในขณะเดียวกันพอ่ แมอ่ าจชวนลูก
ไปออกกำลังกายร่วมกัน เพอื่ ให้ลูกลดความวิตกกังวลเกย่ี วกับเรอ่ื งนำ้ หนกั และตอ้ งเอาตวั เอง
เขา้ ไปปรบั แกพ้ ฤติกรรมของลกู ดว้ ยจงึ จะได้ผล

ทม่ี า http://www.mumuu.com/news-show-เด็กหญงิ -๕-ขวบถูกหามส่งรพ-เหตุ
โรคคลัง่ ผอม-๑๒-๕๕๒๔๑-

คำถาม
๑. บอกสาเหตุท่ีทำใหเ้ กดิ เรอ่ื งน้ี
สาเหตทุ ี่ทำให้เกดิ เรื่องนี้ คอื เดก็ ผูห้ ญิงในประเทศอังกฤษ กำลงั คลั่งไคล้ความผอมกนั อยา่ ง
รุนแรง บางคนเลียนแบบ นางแบบท่ีผอมจนเกนิ เหตุ หรือไม่ก็พวกคนที่มชี ือ่ เสียงทพ่ี วกเขาเห็น
ในนติ ยสารหรอื โทรทศั น์ และพยายามจะผอม เลียนแบบคนเหล่าน้ัน

๒. บอกผลท่เี กดิ ข้นึ จากเรอื่ งน้ี
เดก็ ผู้หญิงวยั เพยี งแค่ ๕ ขวบ ถูกนำตวั สง่ โรงพยาบาล หลงั จากปว่ ยเปน็ โรคคล่งั ผอมอย่างรุนแรง

๓. สรุปข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ ท่ไี ด้จากการอา่ นเรอื่ งน้ี
ขอ้ เท็จจริง คือ โรคนม้ี คี วามเกี่ยวขอ้ งกบั ปญั หาทางด้านจิตใจด้วย ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มที่ขาดความ

ม่นั ใจในตวั เองอย่างมาก หรอื กลุม่ ท่แี สวงหาความสมบรู ณแ์ บบ บางคนเคยถกู ทารุณกรรมทางรา่ งกาย
หรือจติ ใจ หรอื มักรู้สึกว่าตวั เอง ขาดความรกั อยู่ตลอดเวลา

ขอ้ คิดเห็น คือ การรักษานอกจากรกั ษาทางการแพทย์แล้ว วิธีครอบครวั บำบัดกม็ ีความจำเปน็ อยา่ ง
ยง่ิ โดยคนในครอบครัวต้องเป็นผู้เยยี วยา สำคญั ที่สดุ ตอ้ งให้ความรกั ความเข้าใจ เพื่อสร้างความมนั่ ใจ
ใหแ้ กผ่ ู้ป่วย

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9

กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ท21121 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 โคลงโลกนิติ เวลา ๑๐ คาบ

เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความจากสารคดี เวลา 1 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวณัฐฐินนั ท์ สิมพา โรงเรียนบา้ นนาดีสรา้ งบง

หมายเหต…ุ ………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพอื่ นำไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หา
ในการดำเนินชีวติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน

ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ม.๑/๒ จบั ใจความสำคญั จากเร่ืองทอี่ า่ น
ม.๑/๓ ระบเุ หตแุ ละผล และข้อเท็จจรงิ กบั ขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งทอี่ ่าน

ม.๑/๖ ระบขุ อ้ สงั เกตและความสมเหตุสมผลของงานเขยี นประเภทชกั จูงโน้มน้าวใจ

สาระสำคัญ
การอา่ นจับใจความจากสารคดี ต้องระบเุ หตแุ ละผล และขอ้ เทจ็ จรงิ กบั ข้อคิดเห็นจากสารคดีเรื่อง

ทอี่ ่าน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๑. อธบิ ายหลักการการจับใจความสำคัญจากสารคดเี รือ่ งทอี่ า่ นได้
๑. สามารถจับใจความสำคัญจากสารคดีเรื่องทอี่ า่ นได้
สมรรถนะหลัก
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซือ่ สัตยส์ จุ ริต

 ๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มีจิตสาธารณะ

แนวความคิดเพ่อื การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ ๒๑

๑. สาระวิชาหลัก (Core Subjects)
๒. ทกั ษะดา้ นการเรียนรแู้ ละนวตั กรรม
๓. ทักษะด้านสารสนเทศ สือ่ และเทคโนโลยี

๔. ทกั ษะดา้ นชวี ิตและอาชพี

สาระการเรยี นรู้

การอา่ นจับใจความจากสอ่ื ต่างๆ เชน่ สารคด,ี งานเขียนประเภทชกั จงู โนม้ นา้ วใจเชงิ สร้างสรรค์

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ (ขัน้ ตอน/กระบวนการ)

วิธีสอนแบบ SQ๔R

ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

๑. ครูจัดบรรยากาศสง่ เสรมิ การอ่านในห้องเรียน จากน้นั ครูเลา่ ถงึ งานเขยี นสารคดีเรื่องทอี่ า่ น

ล่าสุดให้นกั เรยี นฟัง
๒. ครใู ห้นักเรยี นยกตัวอยา่ งสารคดีเรอ่ื งท่ีชอบมากท่ีสดุ หรอื เรอ่ื งลา่ สุดทอ่ี ่าน ๑ เรื่อง จากนนั้

ครูสุ่มเรียกนักเรยี น ๑-๒ คน ออกมาเล่าเร่อื งราวจากสารคดีเร่อื งนัน้ ๆ ใหเ้ พือ่ นฟงั

๓. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

ขนั้ สอน

๔. Survey (S) นักเรยี นอ่านสารคดีเรือ่ งทค่ี รูกำหนดอยา่ งคร่าวๆ เพื่อหาจดุ สำคญั ๕.
Question (Q) นักเรียนต้งั คำถามเกีย่ วกับสารคดเี รอ่ื งที่อา่ น

๖. Read (R) อา่ นเรือ่ งซำ้ อยา่ งละเอยี ดและในขณะเดยี วกนั ก็ค้นหาคำตอบสำหรับคำถามท่ไี ด้
ต้ังไว้

๗. Record (R) นักเรยี นจดบนั ทกึ ข้อมูลในส่วนทส่ี ำคัญและสิง่ ทจ่ี ำเปน็ ที่ได้จากการอา่ นใน
ขนั้ ตอนที่ ๓ โดยใช้ข้อความ อยา่ งรดั กมุ หรือยอ่ ตามความเข้าใจของนักเรยี น

๘. Recite (R) นกั เรยี นเขียนสรุปใจความสำคัญของเร่ือง โดยพยายามใชภ้ าษาของตนเอง หาก
นักเรียนยังไม่แน่ใจใหก้ ลบั ไปอา่ นซ้ำใหม่

๙. Reflect (R) นกั เรยี นพจิ ารณาคุณคา่ ขอ้ คิดจากงานเขยี น ในด้านวธิ ีการเขยี น การใช้ภาษา
ภาพสะท้อน แล้วแสดงความคิดเห็นในประเดน็ ทผ่ี ู้เรยี นมคี วามคิดเห็นสอดคล้อง หรือมีความคดิ เห็นไม่

สอดคลอ้ ง จากนนั้ สรุปผลลงในแบบบันทึกการอ่าน

ข้นั สรุปและประเมินผล
๑๐. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด

๑๑. ครูตรวจประเมินผลการบนั ทึกใจความสำคัญจากสารคดี ตามที่ครกู ำหนดแลว้ นำผลมาพัฒนา
และปรับซ่อมเสรมิ นักเรียนทเี่ รียนออ่ น

สอื่ (วัสดุ-อุปกรณ์-ส่ิงพิมพ)์ / นวัตกรรม / ICT
- สารคดีเรอื่ ง ถนนคนเดนิ ทาง อรสม สุทธิสาคร – แมน่ ้ำสองสาย ลมหายใจแห่งความคิดถึง

แหลง่ การเรียนรู้

-

การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
-ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ น
วิธกี ารวดั ผลและการประเมนิ ผล -แบบสังเกตพฤติกรรมการ เกณฑ์
ทำงานรายบคุ คล - ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ น
ดา้ นความรู้ (K) -สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน - บนั ทึกการอ่าน เกณฑ์
รายบคุ คล
-ตรวจบนั ทกึ การอ่าน -แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ น
ผลงาน เกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/ ประเมินการนำเสนอผลงาน - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอัน
กระบวนการ (P) พงึ ประสงค์ - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ น
เกณฑ์
ด้านคุณธรรม - สังเกตการใฝ่เรียนรู้ มคี วาม

จรยิ ธรรม และ รับผิดชอบ และรักความเป็นไทย

คา่ นยิ ม (A)

กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื .....................................................ผู้เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้
................/.................../.............

เอกสารประกอบการสอน

ถนนคนเดินทาง อรสม สทุ ธิสาคร – แมน่ ำ้ สองสาย ลมหายใจแหง่ ความคดิ ถึง

“แกง๊ ...แก๊ง...แก๊ง...”
เสยี งระฆงั จากโบสถด์ งั กงั วานบอกโมงยาม เด็กเล็กๆ อยา่ งฉันท่หี า่ งบา้ นจากอกพอ่ แม่มาไกลได้
ยินเสียงนีท้ กุ วัน นานนับสิบกวา่ ปี เหมือนเปน็ ส่วนหนงึ่ ของชวี ิตวยั เยาว์
ฉนั ชอบฟงั เสยี งระฆงั โบสถ์เหมือนเสียงนมี้ พี ลงั เปล่งประกายของความสงบ เยอื กเยน็ เปน็
สัญลักษณ์ของความศกั ดส์ิ ิทธ์ิ ฉนั ตอบตนเองไม่ได้วา่ ทำไมฉันถึงสัมผสั อารมณห์ รือบรรยากาศเชน่ นีไ้ ด้
แต่ฉนั เชอื่ วา่ สมั ผัสของเดก็ เล็กๆ วัยบริสทุ ธมิ์ ักจะไวต่อสิง่ ตา่ งๆ รอบตวั เสมอ เพราะในหวั ใจดวงเล็กๆ
ของเดก็ ทกุ คนมีจนิ ตนาการ มคี วามฝัน
โรงเรียนของฉนั เปน็ โรงเรียนคาทอลิกอยู่ใกลโ้ บสถ์รมิ แมน่ ำ้ จันทบุรี หรอื แม่น้ำจนั ท์ โบสถ์หลังน้ี
เปน็ ศิลปะโกธกิ เกา่ แก่ สวยงาม รอบโบสถ์กรุกระจกในสสี วยรูปแมพ่ ระ พระเยซแู ละนักบญุ ตา่ งๆ พวก
เดก็ ๆ เดินจากโรงเรียน เพ่ือมาเรยี นคำสอนทโ่ี บสถ์เสมอ การเรียนคำสอนเหมือนการได้ฟังนิทาน หาก
เปน็ นทิ านทมี่ กี ล่นิ อายอันสวยงาม ศกั ด์ิสทิ ธ์ิ และไมช่ วนเบ่อื เลยสำหรับเดก็ ช่างฝนั ชอบจินตนาการวาด
วิมานในอากาศอยา่ งฉัน
นานๆ ครง้ั ซิสเตอร์จะใหข้ น้ึ บนั ไดเวียน เปน็ บนั ไดไมส้ วยทอดโค้งขึ้นไปยงั ชั้นสองของโบสถ์
เดก็ ๆ ชอบมองลงมายังโถงโบสถ์ชั้นล่างสวยสุดใจ แก้เบอ่ื ยามที่ตอ้ งทำเวรใช้กะลามะพรา้ วลงน้ำมนั ขดั ถู
พื้นกระดานบนชั้นสองของโบสถ์ กว่าจะเอย่ี มอ่องขน้ึ มนั วบั กก็ นิ เวลานานนบั ชวั่ โมง
แม่นำ้ จันทย์ ามนน้ั ยังไม่มสี ะพานทอดขา้ มไปยงั ฝ่ังตรงขา้ ม เราตอ้ งใชบ้ รกิ ารเรอื ข้ามฟากของลงุ
หวัด คา่ โดยสารคนละสลงึ ใครไมจ่ ่ายกไ็ ม่มีใครวา่ บรรยากาศริมน้ำยงั คงมีภาพอันสนุกสนาน ตน้ ไทรกิ่ง
ย้อยห้อยระยา้ เรี่ยน้ำ เด็กๆ ละแวกน้ันท่มี ีบ้านอยูร่ ิมน้ำไดอ้ าศัยกระโดดโจนลงนำ้ ดำผดุ ดำว่ายหยอก
เยา้ กนั เป็นความบันเทิงของเด็กๆ ลกู แมน่ ำ้ ทกุ ถนิ่ ที่
บา้ นหลงั ใหญ่ เรอื นจำหลักลายสวยอ่อนช้อยหลายหลงั ของคหบดีผู้เป็นคริสต์ศาสนกิ ชนเชอ้ื
สายญวนปลูกอยรู่ อบวดั คนเฒ่าคนแกเ่ คยเล่าให้ฟงั เป็นตำนานปรัมปรานา่ ต่นื ใจว่า เจ้าของบ้านบางหลงั
มฐี านะร่ำรวย เคยไปค้าพลอยทีเ่ มืองญวน ขนพลอยมาจากญวนเปน็ กระสอบๆ มาข้นึ ทท่ี ่าน้ำ ชุมชนชาว
ญวนแห่งน้อี พยพหนภี ยั ศาสนามาต้ังรกรากอยทู่ ่ีนนี่ านนับร้อยปแี ลว้ และยงั คงพดู ภาษาญวนเป็นภาษา
หลัก
ริมนำ้ ฝ่งั ตรงขา้ ม คอื ย่านทา่ หลวงและตลาดลา่ งๆ เปน็ ย่านการคา้ เกา่ ของเมอื งจันท์ ถนนแคบๆ
สองฟากฝ่งั เรียงรายด้วยห้องแถว เรอื นจำหลักลายงดงาม อายเุ ก่าแก่รว่ มรอ้ ยปี หากเข้าไปนั่งเลน่ ใน
บ้านหลงั ใด ลมเย็นจากแมน่ ้ำจะโชยช่นื มาให้ชน่ื ใจ เรือนแต่ละหลงั ล้วนมีตำนานอดตี แต่หนหลงั เป็น
เร่ืองราวเกา่ แกข่ องวนั เวลาใหไ้ ดเ้ ลา่ ขาน เปน็ สีสันอนั เหลอื รปู รอยใหไ้ ด้จดจำรำลึกถึงวันคนื เก่าๆ อัน
ร่มเย็นเป็นสุข
นานๆ ครัง้ เมอ่ื ฉันกลับไปเย่ียมเยือนอดีตวัยเยาว์ ฉนั มกั จะเขา้ ไปนัง่ เงียบๆ ในโบสถ์ฟงั เสียง
ระฆงั กอ้ งกงั วาน แล้วชีพจรอันวา้ วุน่ เหนด็ เหนื่อยของปจั จุบันกร็ าวจะหยดุ นงิ่ สงบเย็นดุจได้รบั การปลอบ
ประโลม


Click to View FlipBook Version