The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paintykoc, 2021-05-29 22:08:37

แผนการสอนการงานอาชีพ 4 (ง22103)

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผูท้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ...................................................................
(นางประคอง ศรสี วา่ ง)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

ใบงานท่ี 3

คะแนน

วชิ า การงานอาชีพ 4 (ง 22103) หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่อง รังสรรค์งานประดิษฐ์

ครผู ู้สอน ครูกชพร จริ ะนันทราพร กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ

คำสั่ง : ให้นักเรียนออกแบบงานประดิษฐ์ 1 อย่าง โดยออกแบบตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ของตนเองระบายสใี หส้ วยงาม พร้อมกับตง้ั ชื่อและอธบิ ายประโยชนใ์ ช้สอย

ชอ่ื งานประดิษฐท์ ่ีออกแบบ ......................................................................................................................
การนำไปใช้ประโยชน์....................................................................................................................... .........
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
........................................................................................... .........................................................................

กลุม่ ท่.ี ...............ช้นั ม....../......

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง การประดษิ ฐ์ของใชจ้ ากเศษวสั ดุในโรงเรยี น

กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี รายวชิ า การงานอาชีพ 4 (ง22103)
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เวลา 6 ชั่วโมง
เร่ือง สรา้ งสรรคง์ านประดิษฐ์จากวัสดเุ หลือใช้ เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด

ผลการเรียนรู้
1. ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้เพอ่ื พัฒนาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏบิ ัติงานอยา่ งประหยัดและคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

2.1 เพ่ือใหน้ ักเรยี นอธบิ ายขนั้ ตอนการประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุในโรงเรียนได้
2.2 เพ่ือใหน้ ักเรยี นมีความคิดสรา้ งสรรค์และมีเจตคติท่ดี ตี ่อการประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดใุ นโรงเรยี น
2.3 เพื่อใหน้ ักเรยี นประดิษฐข์ องใชจ้ ากเศษวสั ดใุ นโรงเรียนตามกระบวนการทำงานได้

3. สาระสำคัญ

การประดิษฐข์ องใช้จากเศษวัสดุในโรงเรยี น
– การประดิษฐ์ของใช้จากไม้ไอศกรีม

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

 ความสามารถในการสอ่ื สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

อธิบายข้นั ตอนการประดิษฐ์ของใชจ้ ากเศษวัสดุในโรงเรียนได้อย่างถูกต้อง

ทักษะที่สำคัญ (P)

ทักษะการแสวงหาความรู้ ประกอบดว้ ย การศึกษา คน้ คว้า รวบรวม สังเกต สำรวจ และบันทกึ เพ่อื ใช้

ในการพฒั นาการทำงาน

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซ่ือสัตย์สุจรติ

 มวี ินัย  ใฝ่เรียนรู้

 อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งมน่ั ในการทำงาน

 รกั ความเปน็ ไทย  มจี ิตสาธารณะ

6. จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนทักษะศตวรรษที่ 21

การเรียนรู้ 3R x 8C
 Reading (อา่ นออก)  (W)Riting (เขียนได้) ⬜ (A)Rithemetics (คดิ เลขเปน็ )

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาได้

⬜ Creativity and Innovation: คดิ อย่างสร้างสรรค์ คิดเชงิ นวตั กรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ใหค้ วามรว่ มมือในการทำงานเป็นทีมมภี าวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มที ักษะในการสื่อสาร และรู้เท่าทันสื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มีความเข้าใจความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มีทักษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และร้เู ท่าทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มีทกั ษะทางอาชีพ และกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ
 Compassion: มคี ณุ ธรรม มีเมตตากรณุ า มรี ะเบยี บวินยั

ทักษะดา้ นชีวิตและอาชพี
⬜ ความยืดหยุ่นและการปรับตวั
 การรเิ ริม่ สรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตวั ของตัวเอง
⬜ ทกั ษะสังคมและสงั คมขา้ มวฒั นธรรม
⬜ การเปน็ ผ้สู รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผนู้ ำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility)

คุณลกั ษณะสำหรบั ศตวรรษที่ 21

⬜ คณุ ลักษณะดา้ นการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผูน้ ำ
⬜ คณุ ลักษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง
⬜ คุณลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซื่อสตั ย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา

7.1 ผู้เรยี นเปน็ กุลสตรีไทยสมัยนยิ ม (SSTB School's 4G)

มคี ุณธรรม (Good Moral) นำปัญญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เนน้ มารยาท (Good Manners)

7.2 ผูเ้ รียนมีศกั ยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล

⬜ เป็นเลิศวิชาการ ⬜ สื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา

⬜ ล้ำหน้าทางความคดิ ⬜ ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์

⬜ รว่ มกันรับผิดชอบตอ่ สังคมโลก

8. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน /ร่องรอยแสดงความรู้)

1. แผนผังความคิด เรื่อง การประดษิ ฐ์ชน้ิ งานจากขวดพลาสติก

9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั การเรยี นรู้แบบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ขัน้ สังเกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering)
1. นักเรียนรว่ มกันสังเกตขวดน้ำ จากนนั้ สนทนาและแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถาม ดงั นี้

• ขวดนำ้ ที่ใช้แล้วสามารถนำมาประดษิ ฐเ์ ปน็ ของใช้หรอื ของตกแตง่ ไดห้ รอื ไม่ (ได/้ ไมไ่ ด้)
• ขวดน้ำทีน่ ักเรยี นเห็นมลี ักษณะอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ทรงกระบอก ทรงเหลี่ยม)
• ขวดน้ำใบน้สี ามารถนำมาประดิษฐ์เปน็ อะไรได้บ้าง (ตัวอย่างคำตอบ กระปุกออมสนิ กล่อง
ใส่ดินสอ)
2. นกั เรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาและรวบรวมข้อมูลเก่ยี วกับงานประดษิ ฐ์จากวัสดุในโรงเรียน
จากแหลง่ การเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อนิ เทอร์เน็ต
ขัน้ คิดวเิ คราะห์และสรุปความรู้ (Processing)
3. นกั เรียนแบง่ กลุม่ ตามความเหมาะสม แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั คดิ วสั ดุในโรงเรยี นทสี่ ามารถนำมาประดิษฐ์
ช้นิ งานได้ 1 ชนิด แลว้ เขยี นเปน็ แผนภาพความคิด ดงั ตวั อยา่ ง

บวั รดน้ำ โคมไฟฟ้า

ขวดพลาสติก

แจกัน กระปุกออมสนิ

4. นักเรียนร่วมกันวเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ดังนี้
• ก่อนการลงมือประดิษฐ์ช้นิ งานควรทำอย่างไร เพราะอะไร

(ตวั อยา่ งคำตอบ เลือกวัสดทุ ี่มีมากและหาไดง้ ่าย เพราะจะชว่ ยประหยดั คา่ ใช้จ่ายและเวลา)

ขัน้ ปฏิบตั แิ ละสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
5. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงทีเ่ ข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกัน ดังนี้ งานประดษิ ฐ์จากวัสดใุ นโรงเรยี นชว่ ยให้
นกั เรียนเหน็ ประโยชน์และคุณคา่ ของสิง่ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่สามารถนำกลับมาใชง้ านได้อกี ครงั้ จากการคิด
สร้างสรรค์ประดิษฐ์ชน้ิ งาน
ขั้นสื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
6. ตวั แทนนักเรียนแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอแบบสำรวจเก่ียวกบั วัสดทุ ี่มใี นโรงเรยี นที่สามารถนำมา
ทำงานประดิษฐห์ นา้ ช้นั เรียน
7. นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เกีย่ วกบั วิธกี ารทำงานให้เห็นการคดิ เชงิ ระบบและวิธกี ารทำงาน
ทมี่ ีแบบแผน
ขั้นประเมินเพือ่ เพ่ิมคณุ ค่าบริการสงั คมและจติ สาธารณะ (Self - Regulating)
8. นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม
ในประเด็นต่อไปน้ี

• สิง่ ทนี่ ักเรยี นไดเ้ รียนรู้ในวันนค้ี อื อะไร
• นักเรยี นมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด
• เพือ่ นนกั เรียนในกลุ่มมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด
• นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนในวนั น้หี รือไม่ เพยี งใด
• นักเรยี นจะนำความรู้ทไี่ ด้นี้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป
ได้อย่างไร
จากนน้ั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทกุ ขัน้ ตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสสู่ ังคม
เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมให้มากขน้ึ กว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในคร้งั ต่อไป

10. ส่อื การเรียนรู้

- เอกสารประกอบการเรยี น / ใบงาน / หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานการงานอาชีพ
- สื่ออิเลค็ ทรอนิคส์
- ห้องสมดุ ดิจติ อล (DLIT) Digital Library
- สื่อ power point เรือ่ ง การประดิษฐ์ของใชจ้ ากเศษวสั ดุในโรงเรียน

11. แหล่งเรียนร้ใู นหรือนอกสถานสถานศึกษา

- หอ้ งสมดุ / หอ้ งศูนย์การเรยี นรู้
- อินเทอร์เน็ต

12. การวดั ผลและประเมินผลการเรยี นรู้

รายการวดั วิธกี ารวดั ผล เครื่องมอื การวัด เกณฑ์การวัดและ
และประเมนิ ประเมนิ ผล
1. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนจำแนก 1. ตรวจใบงาน
1. แบบบันทึก 1. ผลการตรวจผลงาน
ประเภทของวัสดแุ ละเศษวัสดุ ของนักเรยี น การประเมนิ ผลงาน ผา่ นรอ้ ยละ 60
นกั เรียนโดยใช้เกณฑ์
ในโรงเรียนได้ 2. สงั เกต การประเมินแบบรูบริกส์ 2. ผลการสงั เกต
พฤติกรรม
2. เพ่ือให้นักเรยี นอธบิ ายวธิ กี าร พฤติกรรมการ 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทำงานรายบุคคล
การทำงานรายบคุ คล ผ่านร้อยละ 60
จดั เกบ็ และการนำเศษวัสดใุ น ทำงาน

โรงเรียนไปใช้ประโยชน์ได้ รายบคุ คล

3. เพ่อื ให้นักเรียนรู้จักประหยัด

และเหน็ ความสำคญั ของเศษ

วัสดุในโรงเรยี น

4. เพื่อให้นักเรียนคดั แยกและ

จัดเกบ็ เศษวสั ดุในโรงเรียนไว้

เพอื่ นำไปใชป้ ระโยชน์ได้

13. การบูรณาการการจัดการเรยี นรู้ (เฉพาะที่เกิดในคาบนี้เทา่ น้นั )

⬜ บรู ณาการกระบวนการคิด

⬜ การคดิ วิเคราะห์ ⬜ การคิดเปรียบเทยี บ ⬜ การคดิ สงั เคราะห์
⬜ การคิดประยุกต์
⬜ การคิดวพิ ากษ์ ⬜ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ ⬜ การคดิ แก้ปญั หา

⬜ การคดิ เชงิ มโนทศั น์ ⬜ การคดิ เชิงกลยุทธ์

⬜ การคดิ บรู ณาการ ⬜ การคิดสร้างสรรค์ ⬜ การคิดอนาคต
⬜ บูรณาการอาเซียน
⬜ บรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

⬜ บรู ณาการกับหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศกึ ษา
⬜ บูรณาการกับการจดั การเรยี นรู้ STEM EDUCATION
⬜ บูรณาการกบั การจดั การเรยี นรู้ Active Learning
⬜ บรู ณาการกบั กรอบสาระการเรียนรูท้ ้องถน่ิ

⬜ บรู ณาการกับโครงการการจัดการศึกษาเพอ่ื การมงี านทำในศตวรรษที่ 21
⬜ บูรณาการกบั กลุม่ สาระการเรยี นรู้อน่ื ๆ

1 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ได้แก่ …………………………………
2. กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ได้แก่ ............................................
⬜ บรู ณาการในลกั ษณะอื่นๆ ไดแ้ ก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

15. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

สรุปผลการเรียนการสอน

15.1 นักเรียนทง้ั หมดจำนวน........................คน

จุดประสงค์การเรยี นร้ขู ้อท่ี นักเรียนท่ผี า่ น นักเรียนไมผ่ ่าน
จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ

1.

2.

3.

รายช่ือนกั เรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงคข์ ้อที่........ได้แก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................................. ...................

รายชอ่ื นักเรยี นท่ีไม่ผ่านจดุ ประสงคข์ ้อที่........ได้แก่
................................................................................................................................................
นักเรียนท่มี ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนพิการได้แก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ............................................................................................................................. .............
15.2 นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ
.................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ...................
15.3 นักเรียนมีความรู้เกดิ ทักษะ
........................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................
15.4 นกั เรียนมเี จตคติ คา่ นยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรมจริยธรรม
............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................

16. ปัญหา/อปุ สรรค /แนวทางแกไ้ ข

.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................. .................................

17. ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่อื ....................................................
(นางสาวกชพร จริ ะนนั ทราพร)
ตำแหนง่ ครู

ความเห็นของหวั หน้าสถานศกึ ษา / ผ้ทู ีไ่ ด้รับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคดิ เห็นดังนี้

1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
⬜ ดมี าก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรุง

2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
⬜ เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
⬜ ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป

3. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่อื ...................................................................
(นางประคอง ศรสี ว่าง)

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 6 เรอื่ ง การประดิษฐ์ดอกกระเจียวจากหลอดพลาสตกิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รายวชิ า การงานอาชพี 4 (ง22103)
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เวลา 6 ช่ัวโมง
เรือ่ ง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์จากวสั ดเุ หลือใช้ เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด

ผลการเรยี นรู้
1. ใชท้ กั ษะการแสวงหาความรูเ้ พื่อพฒั นาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ิตสำนึกในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏิบตั ิงานอยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 เพอ่ื ใหน้ ักเรียนอธบิ ายข้นั ตอนการประดษิ ฐ์ของตกแต่งจากเศษวัสดุในโรงเรียนได้
2.2 เพื่อใหน้ ักเรยี นมีความคิดสรา้ งสรรค์และความประณีต รอบคอบในการประดิษฐ์ของตกแต่งจาก
เศษวสั ดุในโรงเรยี น
2.3 เพอื่ ใหน้ ักเรียนประดษิ ฐ์ของตกแต่งจากเศษวสั ดใุ นโรงเรยี นตามกระบวนการทำงานได้

3. สาระสำคญั

การประดิษฐ์ของตกแต่งจากเศษวสั ดใุ นโรงเรยี น
– การประดษิ ฐ์ดอกกระเจยี วจากหลอดพลาสติก

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ความสามารถในการสือ่ สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

อธบิ ายขนั้ ตอนการประดิษฐข์ องตกแตง่ จากเศษวัสดใุ นโรงเรยี นไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

ทักษะทีส่ ำคัญ (P)

ทักษะการแสวงหาความรู้ ประกอบดว้ ย การศึกษา ค้นควา้ รวบรวม สังเกต สำรวจ และบนั ทึกเพ่ือใช้

ในการพัฒนาการทำงาน

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)

 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซือ่ สัตย์สจุ รติ

 มีวนิ ยั  ใฝเ่ รยี นรู้

 อยู่อยา่ งพอเพียง  มุ่งมัน่ ในการทำงาน

 รกั ความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ

6. จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรียนทักษะศตวรรษท่ี 21

การเรียนรู้ 3R x 8C
 Reading (อา่ นออก)  (W)Riting (เขยี นได้) ⬜ (A)Rithemetics (คดิ เลขเปน็ )

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มที ักษะในการคิดวเิ คราะห์ และแก้ไขปัญหาได้

⬜ Creativity and Innovation: คิดอย่างสร้างสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ใหค้ วามรว่ มมือในการทำงานเป็นทีมมีภาวะ
ผูน้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มที ักษะในการส่ือสาร และรู้เทา่ ทนั สื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มีความเข้าใจความแตกต่างทางวฒั นธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มที กั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และร้เู ท่าทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มีทักษะทางอาชพี และกระบวนการเรียนรตู้ ่างๆ
 Compassion: มคี ุณธรรม มีเมตตากรณุ า มรี ะเบยี บวินัย

ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชีพ
⬜ ความยดื หยนุ่ และการปรับตวั
 การริเรมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตวั เอง
⬜ ทักษะสังคมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม
⬜ การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผผู้ ลิต (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเชื่อถือได้ (Accountability)

⬜ ภาวะผ้นู ำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility)

คณุ ลกั ษณะสำหรับศตวรรษท่ี 21
⬜ คณุ ลกั ษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ ำ
⬜ คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง
⬜ คณุ ลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อ่นื ความซอื่ สตั ย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เน้นของสถานศกึ ษา

7.1 ผู้เรยี นเป็นกลุ สตรไี ทยสมยั นิยม (SSTB School's 4G)

มคี ุณธรรม (Good Moral) นำปญั ญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เน้นมารยาท (Good Manners)

7.2 ผู้เรยี นมศี ักยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล

⬜ เป็นเลิศวชิ าการ ⬜ ส่อื สารไดอ้ ย่างนอ้ ย 2 ภาษา

⬜ ลำ้ หน้าทางความคดิ ⬜ ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์

⬜ รว่ มกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก

8. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน /ร่องรอยแสดงความรู้)

1. ชิ้นงานการประดิษฐ์ดอกกระเจียวจากหลอดพลาสตกิ

9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั การเรยี นรแู้ บบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ข้นั ปฏิบตั แิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
1. นักเรยี นรว่ มกนั การศกึ ษาข้ันตอนการประดิษฐ์ดอกกระเจยี วจากหลอดพลาสติก จากนั้นสนทนา
และแลกเปล่ียนความคิดเห็นกนั
2. นกั เรยี นรว่ มกันจดั เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการประดิษฐ์ดอกกระเจียวดังน้ี

วสั ดุ อุปกรณ์
• หลอดพลาสติก
• ลวดกา้ นดอกไม้
• กรรไกร คตั เตอร์
• สก๊อตเทป
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มลงมือปฏิบัตกิ ารประดิษฐ์ดอกกระเจียว ตามขัน้ ตอนในใบความรู้เร่ือง การ
ประดิษฐ์ดอกกระเจียวจากหลอดพลาสติก

ข้นั สื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
4. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอชน้ิ งานประดิษฐ์ดอกกระเจียว ของกลุ่มตนเองหน้าช้นั เรยี น เพ่ือ
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้กัน
5. นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรปุ เกีย่ วกับวธิ กี ารทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชงิ ระบบและวธิ กี ารทำงาน
ท่มี แี บบแผน
ขน้ั ประเมนิ เพ่อื เพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ (Self - Regulating)
6. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความร้สู ึกหลงั การเรียนและหลงั การทำกิจกรรม
ในประเด็นต่อไปนี้

• สง่ิ ทนี่ ักเรยี นไดเ้ รียนร้ใู นวนั นค้ี ืออะไร
• นักเรียนมีสว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพยี งใด
• เพอื่ นนกั เรยี นในกลมุ่ มสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพยี งใด
• นักเรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นห้ี รอื ไม่ เพียงใด
• นกั เรยี นจะนำความรู้ทีไ่ ดน้ ี้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมท่วั ไป
ได้อย่างไร
จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขัน้ ตอนการทำงานทกุ ข้ันตอนว่าจะเพม่ิ คณุ คา่ ไปสสู่ งั คม
เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คมให้มากขึน้ กวา่ เดิมในขั้นตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครงั้ ต่อไป

10. สือ่ การเรยี นรู้

- เอกสารประกอบการเรยี น / ใบงาน / หนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานการงานอาชีพ
- สอ่ื อเิ ลค็ ทรอนิคส์
- ห้องสมุดดิจติ อล (DLIT) Digital Library
- สือ่ power point เร่ือง การประดิษฐ์ดอกกระเจียวจากหลอดพลาสตกิ
- วสั ดุ อปุ กรณ์ในการประดิษฐ์ดอกกระเจียว
- ใบความรู้ เรอ่ื ง การประดิษฐด์ อกกระเจยี วจากหลอดพลาสติก

11. แหล่งเรยี นร้ใู นหรือนอกสถานสถานศกึ ษา

- หอ้ งสมุด / หอ้ งศูนย์การเรียนรู้
- อินเทอร์เนต็

12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้

รายการวัด วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมือการวดั เกณฑก์ ารวัดและ
และประเมิน ประเมนิ ผล
1. เพือ่ ให้นักเรียนจำแนก 1. ตรวจใบงาน
1. แบบบนั ทกึ 1. ผลการตรวจผลงาน
ประเภทของวัสดแุ ละเศษวสั ดุ ของนักเรียน การประเมนิ ผลงาน ผา่ นร้อยละ 60
นกั เรยี นโดยใชเ้ กณฑ์
ในโรงเรียนได้ 2. สังเกต การประเมินแบบรูบริกส์ 2. ผลการสงั เกต
พฤตกิ รรม
2. เพ่ือใหน้ ักเรียนอธบิ ายวธิ ีการ พฤติกรรมการ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทำงานรายบคุ คล
การทำงานรายบุคคล ผ่านรอ้ ยละ 60
จัดเก็บ และการนำเศษวัสดใุ น ทำงาน

โรงเรียนไปใช้ประโยชน์ได้ รายบคุ คล

3. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนรจู้ ักประหยัด

และเหน็ ความสำคัญของเศษ

วสั ดใุ นโรงเรยี น

4. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนคดั แยกและ

จัดเก็บเศษวัสดุในโรงเรยี นไว้

เพือ่ นำไปใช้ประโยชนไ์ ด้

13. การบูรณาการการจัดการเรียนรู้ (เฉพาะที่เกดิ ในคาบนี้เท่านน้ั )

⬜ บรู ณาการกระบวนการคิด

⬜ การคิดวิเคราะห์ ⬜ การคิดเปรยี บเทยี บ ⬜ การคิดสังเคราะห์
⬜ การคิดประยุกต์
⬜ การคดิ วิพากษ์ ⬜ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ⬜ การคิดแก้ปัญหา
⬜ การคิดอนาคต
⬜ การคดิ เชงิ มโนทศั น์ ⬜ การคิดเชิงกลยุทธ์

⬜ การคิดบูรณาการ ⬜ การคิดสรา้ งสรรค์

⬜ บรู ณาการอาเซียน

⬜ บูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

⬜ บูรณาการกับหลกั สูตรต้านทุจริตศกึ ษา

⬜ บูรณาการกับการจัดการเรยี นรู้ STEM EDUCATION

⬜ บรู ณาการกับการจดั การเรยี นรู้ Active Learning

⬜ บรู ณาการกับกรอบสาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่

⬜ บูรณาการกับโครงการการจัดการศึกษาเพอื่ การมีงานทำในศตวรรษท่ี 21

⬜ บูรณาการกบั กลุม่ สาระการเรียนร้อู นื่ ๆ
1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ได้แก่ …………………………………
2. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ไดแ้ ก่ ............................................

⬜ บูรณาการในลกั ษณะอื่นๆ ไดแ้ ก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

15. บันทกึ ผลหลงั การสอน

สรุปผลการเรยี นการสอน

15.1 นกั เรยี นทั้งหมดจำนวน........................คน

จุดประสงค์การเรยี นร้ขู ้อที่ นักเรียนที่ผ่าน นักเรียนไมผ่ ่าน
จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) ร้อยละ

1.

2.

3.

รายช่ือนักเรียนที่ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์ข้อที่........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................................. ...................

รายชอื่ นักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงค์ข้อที่........ไดแ้ ก่
................................................................................................................................................
นกั เรยี นทมี่ ีความสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นพิการได้แก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ............................................................................................................................. .............

15.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจ
.................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ...................
15.3 นักเรียนมคี วามร้เู กิดทักษะ
........................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................
15.4 นกั เรียนมเี จตคติ ค่านิยม 12 ประการ คณุ ธรรมจริยธรรม
............................................................................................................................. ...................

16. ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

17. ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวกชพร จิระนันทราพร)
ตำแหน่ง ครู

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผูท้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ...................................................................
(นางประคอง ศรสี วา่ ง)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

ใบความรู้ เร่ืองการประดษิ ฐด์ อกกระเจยี วจากหลอดพลาสติก
อปุ กรณ์

1. หลอดพลาสตกิ
2. กรรไกร
3. เทปใส
4. ไมบ้ รรทดั

ข้ันตอนการประดิษฐด์ อกกระเจียวจากหลอดพลาสติก

1. นำหลอดสำหรบั ประดษิ ฐ์ส่วนดอกมาตดั เปน็ ช่องๆ ขนาดชอ่ งแต่ละชอ่ งประมาณ 0.5
เซนติเมตร

2. ตดั เปน็ ช่องๆ จนถึงสว่ นท่เี ป็นรอยพับ (ตามรปู )

3. เมอ่ื ตัดเสรจ็ แลว้ นำมามว้ น โดยม้วนลงมาจนสดุ หลอด
4. ตดั ช่องสดุ ท้ายออก (ตามรูป) เน่ืองจากต้องติดเทปใส
5 เสร็จเรยี บรอ้ ยสำหรับส่วนของดอกกระเจียว

6. นำหลอดสเี ขียวมาฝา่ ครึง่ สำหรับทำก้านของดอกกระเจียว
7. นำหลอดที่ฝ่าครึ่งมามว้ นและนำไปใสใ่ นช่อดอกพรอ้ มทั้งตดิ เทปใส (ตามรปู )
8. นำหลอดสีเขียวที่สำหรบั ทำใบ มาวัดขนาด 6 เซนติเมตร จำนวน 2 อัน

9. จากนน้ั นำหลอดท่ีตัด 2 อนั มาตดั แนวเฉียงให้เป็นรูปทรง 3 เหลี่ยมคลา้ ยใบไม้ (ตามรูป)
10. หลอด 2 อันจะไดใ้ บจำนวน 4 ใบ (ตามรูป)
11. นำใบทง้ั 4 ใบใส่ในก้านดอกกระเจยี ว โดยใสแ่ บบสลบั ไปมา และตดิ เทปใส (ตามรปู )

12. เสรจ็ สมบรู ณ์ “ดอกกระเจยี วจากหลอดพลาสตกิ ”

แบบบนั ทกึ สรุปผลการเรียนรสู้ ำหรบั ผ้เู รยี น
ชื่อ-นามสกุล _______________________________ เลขที่ _________ ชน้ั ___________
วนั ที่ _________________________ เดอื น _______________________ พ.ศ. ___________
คำชี้แจง นักเรียนบันทึกสรปุ ผลการเรยี นรู้จากหน่วยการเรียนรู้นี้

นกั เรียนยังไมเ่ ขา้ ใจเร่ืองใดอีกบ้าง นกั เรยี นมคี วามรสู้ กึ อยา่ งไร นักเรยี นได้รับความรเู้ รือ่ งใดบา้ ง
ท่เี ก่ียวกบั หน่วยการเรยี นรนู้ ี้ หลังจากท่เี รยี นหนว่ ยการเรยี นรู้นแี้ ล้ว จากหนว่ ยการเรยี นรูน้ ้ี
ซง่ึ ตอ้ งการให้ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ
________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
________ห___น__่ว__ย__ก__า_ร__เ_ร_ยี__น___ร_ทู้ __่ี _4_______ ________________________________________
________________________________________ _____________ง__า__น__ป__ร_ะ__ด__ิษ__ฐ__์__________
นกั เรียนได้ทำกจิ กรรมอะไรบ้าง
________________________________________ ผลงานท่ีนกั เรยี นชอบและตอ้ งการ ในหนว่ ยการเรยี นรู้นี้
คัดเลือกเป็นผลงานดีเด่น
________________________________________ จากหนว่ ยการเรยี นรู้นคี้ ือผลงานใดบ้าง ________________________________________
เพราะอะไร ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
น__กั __เร__ีย_น__จ_ะ__ส_า_ม__า_ร_ถ__น_ำ__ค_ว_า__ม_ร_้คู__ว_า_ม__เ_ข_า้ _ใ_จ_ ________________________________________ ________________________________________
จากหนว่ ยการเรียนรู้นไี้ ปใชป้ ระโยชน์ ________________________________________
ในชีวิตประจำวันได้อยา่ งไรบา้ ง

________________________________________

________________________________________

________________________________________

แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics)

ตารางที่ 1 แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ
กระบวนการ 4321
ทำงานกลุ่ม
มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด

สมาชิกชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ

และมกี ารช้ีแจง มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย ไมม่ ีการช้ีแจง และไมม่ กี ารชแี้ จง

เป้าหมาย อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏิบตั ิงานรว่ มกนั อยา่ งชัดเจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน

มกี ารปฏิบตั ิงาน แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั

รว่ มกัน เป็นระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน

อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ

พรอ้ มกับการประเมนิ

เป็นระยะ ๆ

ตารางท่ี 2 แบบประเมินชิ้นงาน เรื่อง การปฏบิ ัติการประดิษฐ์ดอกกระเจียวจากหลอดพลาสตกิ

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ

ประเมนิ 4 3 2 1
อธิบายวิธีการเลอื ก
การปฏิบตั ิ อธบิ ายวิธีการเลือก อธบิ ายวธิ กี ารเลือก อธบิ ายวิธีการเลือก วสั ดุ
ทน่ี ำมาประดษิ ฐ์
การประดิษฐ์ช้ินงาน วัสดุ วสั ดุ วสั ดุ ชน้ิ งานและอธบิ าย
ขนั้ ตอน
ตามความสนใจ ท่ีนำมาประดษิ ฐ์ ท่ีนำมาประดษิ ฐ์ ทนี่ ำมาประดษิ ฐ์ การทำงานได้
เกือบครบทกุ ขัน้ ตอน
ชิ้นงานและวสั ดุ ชิ้นงานและวัสดุ ช้นิ งานและวสั ดุ

อุปกรณ์ทใี่ ช้ได้ อปุ กรณ์ทีใ่ ชไ้ ด้ อุปกรณ์ทใี่ ช้ได้

อธิบายขัน้ ตอนการ อธบิ ายข้ันตอนการ อธิบายขน้ั ตอนการ

ทำงานและการนำ ทำงานและการนำ ทำงานและการนำ

สงิ่ ประดษิ ฐ์ไปใช้ ส่งิ ประดษิ ฐไ์ ปใช้ สิ่งประดิษฐ์ไปใช้

ประโยชน์ สามารถ ประโยชน์ สามารถ ประโยชน์

ปฏิบัติงานกบั เพื่อน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกับ

และชว่ ยกันแก้ปัญหา เพือ่ นได้

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5
เรื่อง การตดิ ตอ่ สอื่ สาร

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง การติดตอ่ ส่ือสาร

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รายวชิ า การงานอาชพี 4 (ง22103)
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เวลา 6 ช่ัวโมง
เรอื่ ง การตดิ ต่อส่ือสาร เวลา 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด

ผลการเรยี นรู้
1. ใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้เพ่อื พัฒนาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏิบัติงานอยา่ งประหยัดและคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 อธิบายองค์ประกอบของการติดต่อส่อื สาร
2.2 เขียนแผนภาพความคิดเก่ียวกบั องคป์ ระกอบในการติดต่อส่ือสาร
2.3 เหน็ ความสำคัญของการติดต่อสอ่ื สาร

3. สาระสำคัญ

การติดต่อสอ่ื สารเป็นสง่ิ สำคัญมากในชีวิตประจำวัน มนษุ ยเ์ ราใช้การสื่อสารเป็นการแลกเปล่ียนข้อมูล
การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งการติดต่อสื่อสารในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ จึงต้องศึกษาวิธีใช้
ท่ีถูกต้อง และเลอื กใชว้ ิธที เี่ หมาะสม เพอ่ื ให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ และเสยี คา่ ใช้จ่ายน้อยทส่ี ดุ

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

 ความสามารถในการส่อื สาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

อธบิ ายองค์ประกอบของการติดต่อสื่อสาร

ทักษะทส่ี ำคัญ (P)

เขียนแผนภาพความคิดเก่ียวกับองค์ประกอบในการตดิ ต่อสื่อสาร

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

 รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซ่ือสัตยส์ จุ ริต

 มวี นิ ยั  ใฝ่เรยี นรู้

 อยู่อย่างพอเพียง  มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

 รักความเป็นไทย  มจี ติ สาธารณะ

6. จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนทักษะศตวรรษที่ 21

การเรียนรู้ 3R x 8C
 Reading (อ่านออก)  (W)Riting (เขียนได้) ⬜ (A)Rithemetics (คิดเลขเปน็ )

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มที ักษะในการคิดวเิ คราะห์ และแก้ไขปญั หาได้

⬜ Creativity and Innovation: คิดอย่างสรา้ งสรรค์ คิดเชงิ นวัตกรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ให้ความร่วมมอื ในการทำงานเป็นทีมมภี าวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มีทกั ษะในการส่ือสาร และร้เู ทา่ ทันสื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มคี วามเข้าใจความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มที ักษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และรเู้ ทา่ ทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มีทักษะทางอาชีพ และกระบวนการเรียนรตู้ ่างๆ
 Compassion: มคี ณุ ธรรม มีเมตตากรุณา มรี ะเบียบวินัย

ทักษะดา้ นชีวติ และอาชพี
⬜ ความยดื หยุ่นและการปรับตัว
 การรเิ รมิ่ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตัวเอง
⬜ ทักษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม
⬜ การเป็นผูส้ ร้างหรือผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่อื ถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility)

คณุ ลักษณะสำหรบั ศตวรรษที่ 21
⬜ คณุ ลักษณะด้านการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผูน้ ำ
⬜ คณุ ลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชน้ี ำตนเอง การตรวจสอบการเรียนร้ขู องตนเอง
⬜ คณุ ลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ืน่ ความซ่อื สตั ย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เน้นของสถานศกึ ษา

7.1 ผเู้ รียนเปน็ กุลสตรไี ทยสมัยนิยม (SSTB School's 4G)

มีคุณธรรม (Good Moral) นำปัญญา (Good Wisdom)

 จติ อาสาเด่น (Good Service)  เนน้ มารยาท (Good Manners)

7.2 ผูเ้ รียนมีศกั ยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล

⬜ เป็นเลศิ วิชาการ ⬜ ส่ือสารได้อยา่ งนอ้ ย 2 ภาษา

⬜ ลำ้ หนา้ ทางความคิด ⬜ ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์

⬜ รว่ มกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก

8. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน /รอ่ งรอยแสดงความรู้)

1. แผนภาพความคดิ เรื่อง องค์ประกอบการติดต่อสื่อสาร
2. ใบความรู้ เรื่อง องค์ประกอบการตดิ ตอ่ ส่ือสาร

9. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ การจดั การเรียนรแู้ บบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ขัน้ สงั เกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering)
1. นักเรยี นร่วมกนั สนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยตอบคำถาม ดงั น้ี

• ในชีวิตประจำวัน นักเรียนใชอ้ ปุ กรณช์ นดิ ใดในการติดตอ่ สอ่ื สารกับผู้อนื่ มากทสี่ ุด
(ตัวอยา่ งคำตอบโทรศพั ท์เคล่ือนที่)
• การติดต่อสื่อสารกบั ผู้อนื่ ให้เกดิ ประสิทธิภาพ นักเรียนมีแนวทางอย่างไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ใช้อปุ กรณ์ส่อื สารให้เหมาะสมกับสถานการณ์)
2. นักเรยี นรว่ มกันยกตัวอย่างวธิ กี ารสือ่ สารท่รี ู้จักและเคยใช้งาน พรอ้ มทง้ั บอกเล่าวา่ การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร
สว่ นใหญท่ ก่ี ลา่ วมานัน้ ประสบความสำเร็จหรอื ไม่ อยา่ งไร
3. นกั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกับการติดต่อส่ือสาร จากแหล่งการเรยี นรทู้ ่ี
หลากหลาย เช่น หนังสอื เรยี น อินเทอร์เน็ต
ขนั้ คิดวเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing)
4. นกั เรียนแบง่ กล่มุ ตามความเหมาะสม แล้วรว่ มกันตอบคำถามกระตุน้ ความคิด ดงั นี้

• การตดิ ตอ่ ส่ือสารมคี วามสำคญั ตอ่ การดำเนนิ ชีวติ ประจำวันอย่างไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ทำให้สื่อสารกันเขา้ ใจ มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ทำให้อย่รู ่วมกนั
อยา่ งมีความสุข)
5. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั เขยี นแผนภาพความคิดเก่ียวกับองคป์ ระกอบของการติดต่อสอ่ื สารดงั
ตัวอยา่ งท่ีมีแบบแผน

ผูร้ ับสาร ผู้ส่งสาร
คือ ผู้ท่รี บั สารหรอื ข้อมลู เหล่านนั้ ทผี่ ้สู ง่ สาร คือ ผทู้ ่คี รอบครองสาร หรือข้อมูลเพ่ือสง่ ต่อ
ส่งผา่ นส่ือมาในช่องทางการส่ือสารต่าง ๆ

องค์ประกอบ
ในการติดต่อส่อื สาร

สารหรือข้อมูล สอ่ื
คือ สง่ิ ท่ีผู้ส่งต้องการจะสง่ ออกไป เช่น คือ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยในการสอ่ื สาร เช่น
ภาพ เสยี ง สญั ลกั ษณ์ ข้อความ โทรศพั ท์ คอมพิวเตอร์ ทีเ่ ชื่อมตอ่ อนิ เทอร์เนต็
แต่การส่อื สารบางครั้งไม่จำเป็นตอ้ งผ่านส่ือ

เชน่ การพดู คุยแบบพบหน้า

6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันอ่านสถานการณ์แลว้ ร่วมกนั วิเคราะห์องคป์ ระกอบในการติดตอ่ สื่อสาร
ในสถานการณ์ ดังตัวอยา่ ง

สาวิตรีกำลงั ศกึ ษาตอ่ อยทู่ ่ปี ระเทศองั กฤษ จึงสง่ ภาพสถานทีท่ ่องเทย่ี วสำคัญของประเทศอังกฤษทางอเี มล
มาให้คุณพ่อและคุณแม่

(ตวั อย่างคำตอบ)
1. สาวติ รีเปน็ (ผู้ส่งสาร)
2. ภาพ เปน็ (สารหรือข้อมลู )
3. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีเชื่อมต่อกบั เครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ เปน็ (สือ่ )
4. คุณพ่อและคุณแม่ เปน็ (ผู้รับสาร)

ขนั้ ปฏิบัตแิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
7. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทำใบความร้เู รื่ององคป์ ระกอบในการตดิ ต่อส่ือสาร

8. นักเรียนรว่ มกันสรปุ ส่ิงทีเ่ ข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดังนี้ การติดต่อสอื่ สารเปน็ สง่ิ สำคญั มากใน
ชีวิตประจำวนั มนุษย์เราใช้การส่ือสารเป็นการแลกเปลยี่ นข้อมลู การเชื่อมความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ คล ซ่งึ การ
ตดิ ตอ่ สื่อสารในปจั จุบันมีหลายรปู แบบ จึงต้องศึกษาวธิ ีใช้ที่ถกู ต้อง และเลือกใช้วธิ ีท่เี หมาะสม เพ่ือใหเ้ กดิ
ประโยชน์สูงสุด และเสียคา่ ใช้จ่ายน้อยทีส่ ุด

10. สอื่ การเรียนรู้

- เอกสารประกอบการเรียน / ใบงาน / หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานการงานอาชีพ
- ส่อื อิเล็คทรอนคิ ส์
- ห้องสมุดดิจติ อล (DLIT) Digital Library
- ส่อื power point เรือ่ ง การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร
- ตวั อยา่ งสถานการณ์
- กระดาษสำหรบั ทำกจิ กรรม
- สไี ม้

11. แหลง่ เรยี นรูใ้ นหรือนอกสถานสถานศกึ ษา

- ห้องสมุด / หอ้ งศนู ย์การเรยี นรู้
- อินเทอร์เน็ต

12. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวัด วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมอื การวัด เกณฑก์ ารวดั และ
และประเมนิ ประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การ 1. ตรวจใบงาน
ตดิ ตอ่ สื่อสาร ของนักเรียน 1. แบบบันทกึ 1. ผลการตรวจ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงาน 2. สงั เกต การประเมินผลงาน แบบทดสอบผ่านร้อยละ
กล่มุ พฤติกรรมการ นกั เรียนโดยใช้เกณฑ์ 60
ทำงานกลุ่ม การประเมนิ แบบรูบริกส์ 2. ผลการสงั เกต
พฤติกรรม การทำงาน
2. แบบสงั เกตพฤติกรรม รายกล่มุ ผา่ นร้อยละ 60
การทำงานรายกลมุ่

13. การบูรณาการการจัดการเรยี นรู้ (เฉพาะทเี่ กิดในคาบน้เี ท่านัน้ )

⬜ บูรณาการกระบวนการคดิ

⬜ การคดิ วเิ คราะห์ ⬜ การคดิ เปรยี บเทยี บ ⬜ การคิดสงั เคราะห์
⬜ การคิดประยุกต์
⬜ การคิดวิพากษ์ ⬜ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ⬜ การคดิ แก้ปญั หา
⬜ การคิดอนาคต
⬜ การคดิ เชงิ มโนทัศน์ ⬜ การคดิ เชงิ กลยุทธ์

⬜ การคิดบูรณาการ ⬜ การคดิ สรา้ งสรรค์

⬜ บูรณาการอาเซยี น

⬜ บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

⬜ บรู ณาการกบั หลกั สตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา

⬜ บูรณาการกับการจดั การเรยี นรู้ STEM EDUCATION

⬜ บูรณาการกับการจัดการเรียนรู้ Active Learning

⬜ บูรณาการกบั กรอบสาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่

⬜ บรู ณาการกับโครงการการจัดการศึกษาเพื่อการมงี านทำในศตวรรษท่ี 21

⬜ บูรณาการกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื ๆ
1 กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ได้แก่ …………………………………
2. กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ได้แก่ ............................................

⬜ บูรณาการในลกั ษณะอ่ืนๆ ได้แก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

15. บนั ทึกผลหลงั การสอน

สรุปผลการเรียนการสอน

15.1 นักเรยี นทั้งหมดจำนวน........................คน

จุดประสงค์การเรียนรูข้ ้อท่ี นักเรยี นทีผ่ ่าน นักเรยี นไมผ่ า่ น
จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) ร้อยละ

1.

2.

3.

รายช่อื นักเรียนที่ไมผ่ ่านจุดประสงคข์ ้อท่ี........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................................. ...................

รายช่อื นกั เรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงคข์ ้อที่........ไดแ้ ก่
................................................................................................................................................
นักเรยี นทีม่ ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนพิการไดแ้ ก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ............................................................................................................................. .............
15.2 นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ
.................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ...................
15.3 นกั เรียนมคี วามรู้เกิดทักษะ
........................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................
15.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านิยม 12 ประการ คณุ ธรรมจริยธรรม
............................................................................................................................. ...................

16. ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

17. ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ....................................................
(นางสาวกชพร จริ ะนันทราพร)
ตำแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางประคอง ศรีสว่าง)

หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 เร่ือง รูปแบบของการตดิ ต่อส่ือสาร

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ รายวิชา การงานอาชีพ 4 (ง22103)
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เวลา 6 ช่ัวโมง
เรอื่ ง การติดต่อส่ือสาร เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั

ผลการเรียนรู้
1. ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรูเ้ พ่อื พัฒนาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏบิ ัติงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 อธบิ ายรูปแบบของการติดตอ่ สือ่ สาร
2.2 แสดงบทบาทสมมุติเกี่ยวกับการใช้รูปแบบของการติดต่อสื่อสาร
2.3 เหน็ ความสำคัญของรูปแบบของการตดิ ต่อส่อื สาร

3. สาระสำคัญ

การติดต่อสื่อสารมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป จึงควรเลือก
รูปแบบการส่อื สารใหเ้ หมาะสมและถูกวธิ เี พื่อประโยชน์สงู สุด

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ความสามารถในการสอ่ื สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

อธบิ ายรูปแบบของการตดิ ต่อสื่อสาร

ทกั ษะท่ีสำคัญ (P)

แสดงบทบาทสมมุตเิ ก่ยี วกับการใชร้ ปู แบบของการติดต่อส่ือสาร

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต

 มีวนิ ัย  ใฝเ่ รยี นรู้

 อยอู่ ยา่ งพอเพียง  มุ่งม่ันในการทำงาน

 รกั ความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ

6. จุดเนน้ สกู่ ารพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี นทักษะศตวรรษที่ 21

การเรยี นรู้ 3R x 8C
 Reading (อา่ นออก)  (W)Riting (เขียนได้) ⬜ (A)Rithemetics (คิดเลขเป็น)

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มที ักษะในการคิดวเิ คราะห์ และแก้ไขปญั หาได้

⬜ Creativity and Innovation: คิดอยา่ งสร้างสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ใหค้ วามร่วมมอื ในการทำงานเปน็ ทีมมภี าวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มที ักษะในการสื่อสาร และรเู้ ทา่ ทันส่ือ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มีความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มีทักษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และรู้เท่าทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มที ักษะทางอาชพี และกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ
 Compassion: มีคุณธรรม มเี มตตากรณุ า มีระเบียบวินัย

ทกั ษะด้านชีวิตและอาชีพ
⬜ ความยดื หยุน่ และการปรับตัว
 การริเรมิ่ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง
⬜ ทกั ษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม
⬜ การเปน็ ผูส้ รา้ งหรือผู้ผลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผนู้ ำและความรับผิดชอบ (Responsibility)

คุณลกั ษณะสำหรับศตวรรษท่ี 21
⬜ คุณลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นำ
⬜ คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชน้ี ำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรูข้ องตนเอง
⬜ คุณลกั ษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซ่ือสัตย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จุดเนน้ ของสถานศกึ ษา

7.1 ผู้เรียนเปน็ กลุ สตรไี ทยสมัยนยิ ม (SSTB School's 4G)

มคี ณุ ธรรม (Good Moral) นำปญั ญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เน้นมารยาท (Good Manners)

7.2 ผเู้ รยี นมศี กั ยภาพเปน็ พลโลก (World Citizen) เทียบเคียงมาตรฐานสากล

⬜ เปน็ เลศิ วิชาการ ⬜ สือ่ สารได้อยา่ งนอ้ ย 2 ภาษา

⬜ ลำ้ หนา้ ทางความคดิ ⬜ ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์

⬜ ร่วมกนั รบั ผดิ ชอบต่อสังคมโลก

8. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน /รอ่ งรอยแสดงความรู้)

1. แผนภาพความคดิ เร่ือง รูปแบบการติดต่อสอ่ื สาร
2. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ เร่ือง รปู แบบการตดิ ต่อสื่อสาร

9. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ การจัดการเรียนรแู้ บบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ข้ันสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)
1.นกั เรยี นสงั เกตภาพ แล้วรว่ มกันสนทนาและแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถาม ดงั นี้

• เปน็ การติดตอ่ สื่อสารรปู แบบใด (การติดต่อส่ือสารทางไปรษณีย์)

• บริการทน่ี ักเรยี นเคยใชม้ ีอะไรบา้ ง (สง่ จดหมายและพัสดุ)

• ลักษณะของการติดต่อสอื่ สารเปน็ อย่างไร (สารจะอยู่ในรูปแบบของข้อความหรือภาพ)

2. นกั เรียนร่วมกันศกึ ษาและรวบรวมข้อมูลเกย่ี วกับรปู แบบของการติดต่อสื่อสาร จากแหลง่ การ
เรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หนงั สอื เรยี น อนิ เทอร์เนต็

ขั้นคดิ วิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing)
3. นักเรียนแบง่ กล่มุ ตามความเหมาะสม แล้วร่วมกันวเิ คราะห์ โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ดังนี้

• การสอื่ สารไรพ้ รมแดนมีประโยชนแ์ ละโทษอยา่ งไร
(ตัวอย่างคำตอบ มปี ระโยชน์ คือ ประหยัดเวลา แรงงาน ค่าใชจ้ า่ ย ได้รับข้อมลู ข่าวสารต่าง
ๆรวดเรว็ โทษ คือ หากใชโ้ ดยไมร่ ะมดั ระวังอาจถูกล่อลวงจากมจิ ฉาชีพได้)
4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวเิ คราะหเ์ ปรียบเทยี บการตดิ ต่อสอ่ื สาร 2 รปู แบบ เขยี นลงในแผนภาพ
ความคิดและสรุปเป็นความคิดรวบยอด ดังตัวอย่าง

ไปรษณีย์ อินเทอร์เน็ต

ส่งสารไปยงั ผูร้ ับสาร การตดิ ต่อสื่อสาร มกี ารรบั สง่ สารหลายรปู แบบ
ดว้ ยการเขยี นข้อความ เป็นการพิมพ์โตต้ อบแบบประโยค
และส่งไปในรูปจดหมาย ต่อประโยค
การใชไ้ ปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์

5. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันวิเคราะหป์ ระโยชน์และโทษของการติดตอ่ ส่ือสารอยา่ งถกู วิธี แลว้ สรุป
เป็นความคดิ รวบยอด

ขั้นปฏบิ ตั แิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มจบั สลากหวั ข้อรปู แบบของการติดต่อส่อื สารทางโทรศัพท์ ทางไปรษณยี ์ และ
ทางอนิ เทอร์เน็ต แล้วรว่ มกันวางแผนและฝกึ ซ้อมการแสดงบทบาทสมมุตใิ นหวั ขอ้ นั้น ๆ
ข้นั สอื่ สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติตามหัวข้อท่ีกลมุ่ ตนเองจบั สลากได้ หนา้ ชน้ั เรยี น
ขั้นประเมินเพ่อื เพ่ิมคุณค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
10. นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สกึ หลงั การเรียนและหลังการทำกจิ กรรม
ในประเดน็ ต่อไปนี้

• สง่ิ ท่นี กั เรยี นได้เรยี นรใู้ นวนั นค้ี อื อะไร
• นักเรียนมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด
• เพือ่ นนกั เรียนในกลมุ่ มสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด
• นกั เรยี นพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นี้หรอื ไม่ เพยี งใด
• นกั เรยี นจะนำความรู้ที่ได้น้ีไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสังคมท่ัวไป
จากนัน้ แลกเปล่ยี นตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทกุ ขั้นตอนวา่ จะเพมิ่ คณุ ค่าไปสสู่ ังคม เกิดประโยชน์
ต่อสงั คมให้มากข้ึนกว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป

10. สือ่ การเรยี นรู้

- เอกสารประกอบการเรียน / ใบงาน / หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานการงานอาชีพ
- ภาพการติดต่อสื่อสาร
- สลากวิธีการติดต่อส่ือสาร
- ส่ือ power point เร่ือง รปู แบบของการตดิ ต่อส่ือสาร
- กระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม
- สไี ม้

11. แหลง่ เรียนรู้ในหรือนอกสถานสถานศกึ ษา

- หอ้ งสมุด / ห้องศนู ย์การเรียนรู้
- อนิ เทอรเ์ นต็

12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวัด วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมอื การวดั เกณฑ์การวัดและ
และประเมิน ประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง 1. ตรวจใบงาน
รูปแบบของการตดิ ต่อส่ือสาร ของนักเรยี น 1. แบบบันทึก 1. ผลการตรวจ
2. ประเมินกระบวนการทำงาน 2. สังเกต การประเมนิ ผลงาน แบบทดสอบผ่านร้อยละ
กลมุ่ พฤติกรรมการ นักเรยี นโดยใช้เกณฑ์ 60
ทำงานกลุม่ การประเมินแบบรบู ริกส์ 2. ผลการสังเกต
พฤติกรรม การทำงาน
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม รายกล่มุ ผา่ นรอ้ ยละ 60
การทำงานรายกลมุ่

13. การบูรณาการการจัดการเรียนรู้ (เฉพาะทเี่ กิดในคาบนเ้ี ท่านน้ั )

⬜ บูรณาการกระบวนการคิด

⬜ การคดิ วเิ คราะห์ ⬜ การคดิ เปรยี บเทยี บ ⬜ การคิดสงั เคราะห์
⬜ การคิดประยุกต์
⬜ การคิดวิพากษ์ ⬜ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ⬜ การคดิ แก้ปญั หา
⬜ การคิดอนาคต
⬜ การคดิ เชิงมโนทัศน์ ⬜ การคดิ เชิงกลยุทธ์

⬜ การคิดบูรณาการ ⬜ การคดิ สร้างสรรค์

⬜ บูรณาการอาเซยี น

⬜ บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

⬜ บรู ณาการกบั หลกั สตู รต้านทจุ ริตศึกษา

⬜ บูรณาการกับการจดั การเรียนรู้ STEM EDUCATION

⬜ บูรณาการกับการจัดการเรียนรู้ Active Learning

⬜ บูรณาการกบั กรอบสาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น

⬜ บรู ณาการกับโครงการการจัดการศึกษาเพือ่ การมีงานทำในศตวรรษที่ 21

⬜ บูรณาการกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่ ๆ
1 กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ไดแ้ ก่ …………………………………
2. กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ได้แก่ ............................................

⬜ บูรณาการในลกั ษณะอ่ืนๆ ไดแ้ ก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................

15. บันทึกผลหลงั การสอน

สรุปผลการเรียนการสอน

15.1 นักเรยี นทงั้ หมดจำนวน........................คน

จดุ ประสงค์การเรยี นรขู้ ้อท่ี นกั เรียนทผี่ า่ น นักเรียนไม่ผ่าน
จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) ร้อยละ

1.

2.

3.

รายชือ่ นกั เรียนท่ีไม่ผ่านจุดประสงคข์ ้อท่ี........ได้แก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

รายชื่อนกั เรียนที่ไม่ผ่านจดุ ประสงค์ข้อที่........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
นกั เรียนทมี่ ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนพิการไดแ้ ก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ........................................................................................................................... ...............
15.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ
............................................................................................................................. ...................
................................................................................................. ...............................................
15.3 นักเรยี นมีความรูเ้ กดิ ทักษะ
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................
15.4 นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านิยม 12 ประการ คุณธรรมจรยิ ธรรม
............................................................................................................................. ...................

16. ปญั หา/อปุ สรรค /แนวทางแก้ไข

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

17. ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... ...............................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวกชพร จริ ะนันทราพร)
ตำแหน่ง ครู

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผูท้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ...................................................................
(นางประคอง ศรสี วา่ ง)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 9 เรือ่ ง ประโยชน์ของการติดตอ่ ส่ือสารอยา่ งถูกวธิ ี

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รายวชิ า การงานอาชีพ 4 (ง22103)
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เวลา 6 ช่ัวโมง
เร่อื ง การตดิ ตอ่ สื่อสาร เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั

ผลการเรยี นรู้
1. ใชท้ ักษะการแสวงหาความรูเ้ พอ่ื พัฒนาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ติ สำนกึ ในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั ิงานอยา่ งประหยัดและคมุ้ ค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 อธิบายประโยชน์ของการติดต่อสอ่ื สารอย่างถูกวธิ ี
2.2 ทำสมุดเล่มเล็กเกย่ี วกับประโยชน์ของการติดต่อสือ่ สารอยา่ งถูกวิธี
2.3 เห็นความสำคญั ของประโยชนข์ องการตดิ ตอ่ สื่อสารอย่างถูกวิธี

3. สาระสำคัญ

การติดต่อสื่อสารมีความสำคัญมากในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งการติดต่อสื่อสารอย่างถูกวิธี จะทำให้
เกดิ ประโยชน์หลายประการ

4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น

 ความสามารถในการสอ่ื สาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

อธบิ ายประโยชน์ของการตดิ ต่อสอื่ สารอย่างถูกวิธี

ทกั ษะท่สี ำคญั (P)

ทำสมดุ เล่มเล็กเก่ียวกบั ประโยชน์ของการตดิ ต่อสื่อสารอย่างถกู วธิ ี

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซอ่ื สัตย์สุจริต

 มวี นิ ัย  ใฝเ่ รยี นรู้

 อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งม่นั ในการทำงาน

 รกั ความเป็นไทย  มีจติ สาธารณะ

6. จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทักษะศตวรรษที่ 21

การเรยี นรู้ 3R x 8C
 Reading (อ่านออก)  (W)Riting (เขยี นได้) ⬜ (A)Rithemetics (คดิ เลขเป็น)

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาได้

⬜ Creativity and Innovation: คดิ อย่างสรา้ งสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ใหค้ วามรว่ มมือในการทำงานเปน็ ทีมมีภาวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มีทกั ษะในการสื่อสาร และรเู้ ท่าทันส่ือ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มคี วามเข้าใจความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มที กั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และรู้เทา่ ทนั เทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มีทักษะทางอาชีพ และกระบวนการเรียนรูต้ ่างๆ
 Compassion: มีคณุ ธรรม มเี มตตากรณุ า มรี ะเบียบวินยั

ทกั ษะด้านชีวิตและอาชีพ
⬜ ความยดื หยุ่นและการปรับตัว
 การริเริม่ สร้างสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง
⬜ ทกั ษะสงั คมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม
⬜ การเป็นผ้สู ร้างหรือผผู้ ลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผนู้ ำและความรับผิดชอบ (Responsibility)

คณุ ลักษณะสำหรับศตวรรษท่ี 21
⬜ คณุ ลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรบั ตวั ความเป็นผนู้ ำ
⬜ คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชนี้ ำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง
⬜ คณุ ลักษณะดา้ นศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผูอ้ น่ื ความซอ่ื สัตย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เน้นของสถานศึกษา

7.1 ผูเ้ รยี นเป็นกลุ สตรีไทยสมยั นิยม (SSTB School's 4G)

มคี ณุ ธรรม (Good Moral) นำปญั ญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เนน้ มารยาท (Good Manners)

7.2 ผเู้ รียนมีศักยภาพเปน็ พลโลก (World Citizen) เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล

⬜ เปน็ เลิศวชิ าการ ⬜ สอื่ สารไดอ้ ย่างนอ้ ย 2 ภาษา

⬜ ล้ำหนา้ ทางความคิด ⬜ ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์

⬜ รว่ มกนั รับผิดชอบตอ่ สังคมโลก

8. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน /ร่องรอยแสดงความรู้)

1. สมดุ เล่มเลก็ เร่อื ง ประโยชนข์ องการติดต่อสือ่ สารอยา่ งถูกวธิ ี

9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ การจดั การเรียนรูแ้ บบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ขน้ั สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล (Gathering)
1. นกั เรียนชมวิดีโอเก่ยี วกบั การติดตอ่ สอื่ สาร แล้วร่วมกันสนทนาและแสดงความคิดเหน็ โดยตอบ
คำถาม ดังนี้

• จากวิดโี อ บคุ คลในภาพกำลังทำอะไร
(ตัวอย่างคำตอบ คุยโทรศัพท์ )
• นกั เรียนคดิ วา่ การตดิ ต่อส่อื สารดว้ ยวิธีนมี้ ีประโยชนอ์ ยา่ งไร
(ตัวอย่างคำตอบ รวดเร็วและประหยัดค่าใชจ้ ่าย)
• การติดต่อส่ือสารผ่านโทรศัพทม์ ีข้อเสยี หรือไม่ อยา่ งไร
(ตัวอย่างคำตอบ มี เพราะอาจทำใหข้ ้อความคลาดเคลื่อนได้หากสญั ญาณขาดหาย)
2. นกั เรยี นรว่ มกนั ศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับประโยชนข์ องการติดต่อส่ือสารอยา่ งถูกวิธี จาก
แหล่งการเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย เชน่ หนังสอื เรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต
ข้นั คดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing)

3. นกั เรียนแบง่ กล่มุ ตามความเหมาะสม แลว้ ร่วมกนั วิเคราะห์ โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ดงั นี้
• การติดตอ่ สื่อสารชว่ ยเชือ่ มความสมั พันธ์ระหวา่ งบุคคลอย่างไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ทำใหไ้ ด้แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ กระชบั ความสัมพันธร์ ะหวา่ งบุคคล)

4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะหป์ ระโยชน์ของการติดต่อสื่อสารอย่างถกู วธิ โี ดยเขียนเป็น
แผนภาพความคิด ดงั ตัวอย่าง

ประโยชนข์ องการตดิ ตอ่ สือ่ สารอย่างถูกวิธี

1) ประหยดั ทรพั ยากร เวลา แรงงาน และค่าใช้จ่าย 2) เช่ือมความสัมพันธ์ระหว่างบคุ คล
การเลือกประเภทของการตดิ ตอ่ ส่ือสารอย่างถูกวิธี การตดิ ต่อสอื่ สารเปน็ การเช่อื มความสัมพันธร์ ะหวา่ ง
จะชว่ ยประหยัดได้ทั้งทรัพยากร เวลา แรงงาน บคุ คลทางหนง่ึ ซึ่งผ้สู ่งสารและผู้รบั สารจะได้รับทราบ
และคา่ ใชจ้ ่าย ขอ้ มลู ข่าวสารรว่ มกนั มกี ารแบ่งปัน แลกเปลยี่ นข้อมลู
และความคดิ เห็นต่าง ๆ การติดตอ่ ส่ือสารอย่างถกู วธิ ี
จะช่วยกระชบั ความสัมพนั ธร์ ะหว่างบุคคลให้แนบแนน่
ย่ิงขนึ้

ขัน้ ปฏิบตั ิและสรปุ ความรู้หลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันออกแบบและจัดทำสมุดเล่มเล็กเกย่ี วกับประโยชน์ ของการตดิ ตอ่ ส่ือสาร
โดยไม่จำกัดรปู แบบ
6. นกั เรยี นร่วมกันสรุปสงิ่ ที่เข้าใจเป็นความรูร้ ว่ มกัน ดังนี้ การตดิ ตอ่ สื่อสารมคี วามสำคญั มากใน
ปัจจบุ ันและอนาคต ซ่ึงการติดต่อส่ือสารอย่างถกู วธิ ี จะทำให้เกดิ ประโยชนห์ ลายประการ
ขนั้ ส่อื สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
7. นักเรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานสมดุ เล่มเลก็ เก่ยี วกับประโยชนข์ องการติดต่อสือ่ สารของกลุ่ม
ตนเอง ประกอบการอธิบายหนา้ ช้นั เรยี น
ข้นั ประเมนิ เพ่อื เพิ่มคณุ คา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
8. นกั เรียนร่วมกนั รวบรวมผลงานสมุดเล่มเลก็ เกย่ี วกับประโยชนข์ องการติดตอ่ สื่อสารไปมอบให้
ห้องสมุดโรงเรยี นหรือชุมชน เพ่อื เผยแพร่ความรู้ใหผ้ อู้ ืน่ ได้ศึกษา
9. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรูส้ ึกหลงั การเรยี นและหลงั การทำกิจกรรมในประเดน็
ต่อไปนี้

• ส่ิงที่นกั เรยี นไดเ้ รียนรู้ในวันนคี้ ืออะไร
• นักเรียนมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด

• เพ่อื นนกั เรียนในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั นี้หรือไม่ เพยี งใด
• นักเรยี นจะนำความรู้ท่ไี ดน้ ี้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทว่ั ไป
จากนน้ั แลกเปลยี่ นตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทกุ ขัน้ ตอนวา่ จะเพิม่ คณุ คา่ ไปสูส่ งั คม เกิดประโยชน์
ต่อสงั คมใหม้ ากขน้ึ กวา่ เดมิ ในขนั้ ตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในคร้งั ต่อไป

10. ส่ือการเรียนรู้

- เอกสารประกอบการเรียน / ใบงาน / หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐานการงานอาชีพ
- วิดโี อการตดิ ต่อส่ือสาร
- สื่อ power point เรอื่ ง ประโยชนข์ องการตดิ ต่อส่อื สารอยา่ งถูกวิธี
- กระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม
- สไี ม้

11. แหล่งเรียนรใู้ นหรือนอกสถานสถานศกึ ษา

- หอ้ งสมุด / หอ้ งศนู ย์การเรยี นรู้
- อนิ เทอรเ์ นต็

12. การวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้

รายการวดั วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือการวดั เกณฑ์การวัดและ
และประเมนิ ประเมินผล
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง 1. ตรวจใบงาน
1. แบบบันทกึ 1. ผลการตรวจ
ประโยชนข์ องการตดิ ต่อส่อื สาร ของนักเรยี น การประเมนิ ผลงาน แบบทดสอบผา่ นร้อยละ
นักเรยี นโดยใชเ้ กณฑ์ 60
อย่างถูกวธิ ี 2. สงั เกต การประเมนิ แบบรูบริกส์ 2. ผลการสังเกต
พฤติกรรม การทำงาน
2. ประเมนิ กระบวนการทำงาน พฤติกรรมการ 2. แบบสังเกตพฤติกรรม รายกลมุ่ ผ่านรอ้ ยละ 60
การทำงานรายกลุม่
กลมุ่ ทำงานกลุ่ม

13. การบูรณาการการจัดการเรยี นรู้ (เฉพาะทเี่ กิดในคาบน้ีเท่านัน้ )

⬜ บูรณาการกระบวนการคดิ

⬜ การคดิ วเิ คราะห์ ⬜ การคดิ เปรียบเทียบ ⬜ การคิดสงั เคราะห์
⬜ การคิดประยุกต์
⬜ การคิดวิพากษ์ ⬜ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ ⬜ การคิดแก้ปญั หา
⬜ การคดิ อนาคต
⬜ การคดิ เชงิ มโนทัศน์ ⬜ การคิดเชิงกลยุทธ์

⬜ การคิดบูรณาการ ⬜ การคดิ สร้างสรรค์

⬜ บูรณาการอาเซยี น

⬜ บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

⬜ บรู ณาการกบั หลกั สตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา

⬜ บูรณาการกับการจดั การเรยี นรู้ STEM EDUCATION

⬜ บูรณาการกับการจัดการเรียนรู้ Active Learning

⬜ บูรณาการกบั กรอบสาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่

⬜ บรู ณาการกับโครงการการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำในศตวรรษท่ี 21

⬜ บูรณาการกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื ๆ
1 กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ได้แก่ …………………………………
2. กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ได้แก่ ............................................

⬜ บูรณาการในลกั ษณะอ่ืนๆ ได้แก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................


Click to View FlipBook Version