The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paintykoc, 2021-05-29 22:08:37

แผนการสอนการงานอาชีพ 4 (ง22103)

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

15. บนั ทึกผลหลงั การสอน

สรุปผลการเรียนการสอน

15.1 นักเรยี นทั้งหมดจำนวน........................คน

จุดประสงค์การเรียนรูข้ ้อท่ี นักเรยี นทีผ่ ่าน นักเรยี นไมผ่ า่ น
จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) ร้อยละ

1.

2.

3.

รายช่อื นักเรียนที่ไมผ่ ่านจุดประสงคข์ ้อท่ี........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................................. ...................

รายช่อื นกั เรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงคข์ ้อที่........ไดแ้ ก่
................................................................................................................................................
นักเรยี นทีม่ ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนพิการไดแ้ ก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ............................................................................................................................. .............
15.2 นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ
.................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ...................
15.3 นกั เรียนมคี วามรู้เกิดทักษะ
........................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................
15.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านิยม 12 ประการ คณุ ธรรมจริยธรรม
............................................................................................................................. ...................

16. ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

17. ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ....................................................
(นางสาวกชพร จริ ะนันทราพร)
ตำแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางประคอง ศรีสว่าง)

หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง การใชบ้ รกิ ารกบั หน่วยงานตา่ ง ๆ

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รายวชิ า การงานอาชีพ 4 (ง22103)
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เวลา 6 ชั่วโมง
เร่ือง การตดิ ตอ่ ส่ือสาร เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด

ผลการเรียนรู้
1. ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้เพ่อื พัฒนาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใชท้ กั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ิตสำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั ิงานอย่างประหยดั และคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 อธบิ ายการใชบ้ รกิ ารกับหนว่ ยงานต่าง ๆ
2.2 จัดทำแผ่นพับเล็กเก่ียวกับการใช้บริการกับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ
2.3 เห็นความสำคัญของประโยชน์ของการใช้บรกิ ารกบั หน่วยงานตา่ ง ๆ

3. สาระสำคัญ

เทคโนโลยีในปจั จบุ ันทำให้การติดตอ่ สอ่ื สารเป็นไปได้ง่าย สะดวกและรวดเรว็ มหี นว่ ยงานตา่ ง ๆ ทั้ง
ภาครัฐและเอกชนได้เปดิ ให้บรกิ ารการตดิ ต่อสอ่ื สารทั้งทางเครือข่ายโทรศพั ท์ ไปรษณยี ์ และอินเทอรเ์ น็ต

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

 ความสามารถในการส่อื สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

อธิบายการใชบ้ ริการกับหน่วยงานตา่ ง ๆ

ทกั ษะทีส่ ำคญั (P)

จัดทำแผ่นพบั เล็กเก่ียวกบั การใชบ้ รกิ ารกบั หน่วยงานต่าง ๆ

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซอ่ื สัตย์สุจริต

 มวี ินยั  ใฝ่เรยี นรู้

 อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง  ม่งุ มั่นในการทำงาน

 รักความเป็นไทย  มจี ิตสาธารณะ

6. จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนทักษะศตวรรษท่ี 21

การเรยี นรู้ 3R x 8C
 Reading (อา่ นออก)  (W)Riting (เขียนได้) ⬜ (A)Rithemetics (คิดเลขเป็น)

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มีทักษะในการคดิ วิเคราะห์ และแก้ไขปญั หาได้

⬜ Creativity and Innovation: คดิ อย่างสร้างสรรค์ คิดเชงิ นวัตกรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ให้ความรว่ มมอื ในการทำงานเปน็ ทีมมีภาวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มที กั ษะในการสื่อสาร และรู้เทา่ ทันสื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มคี วามเข้าใจความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มที กั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และรู้เทา่ ทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มที ักษะทางอาชีพ และกระบวนการเรียนรตู้ า่ งๆ
 Compassion: มีคุณธรรม มีเมตตากรุณา มีระเบียบวินยั

ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชพี
⬜ ความยืดหยุ่นและการปรับตวั
 การรเิ ร่ิมสร้างสรรค์และเป็นตัวของตวั เอง
⬜ ทักษะสงั คมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม
⬜ การเป็นผสู้ ร้างหรือผูผ้ ลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชอื่ ถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผนู้ ำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility)

คุณลกั ษณะสำหรับศตวรรษที่ 21
⬜ คุณลักษณะด้านการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตวั ความเป็นผนู้ ำ
⬜ คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การช้ีนำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง
⬜ คุณลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อ่นื ความซอ่ื สัตย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เน้นของสถานศึกษา

7.1 ผ้เู รยี นเปน็ กลุ สตรีไทยสมยั นยิ ม (SSTB School's 4G)

มีคุณธรรม (Good Moral) นำปญั ญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เนน้ มารยาท (Good Manners)

7.2 ผู้เรยี นมีศกั ยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) เทียบเคียงมาตรฐานสากล

⬜ เป็นเลศิ วิชาการ ⬜ ส่ือสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา

⬜ ล้ำหน้าทางความคิด ⬜ ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์

⬜ รว่ มกันรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมโลก

8. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน /ร่องรอยแสดงความรู้)

1. ใบงานที่ 4 เร่ือง การใช้บริการกับหน่วยงานต่าง ๆ
2. แผ่นพับเล็ก เรื่อง การใช้บรกิ ารกบั หนว่ ยงานต่าง ๆ

9. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ การจดั การเรียนรู้แบบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ข้ันสงั เกต รวบรวมขอ้ มูล (Gathering)
1. นักเรียนสังเกตภาพการใช้บริการกับหน่วยงานต่าง ๆ แลว้ ร่วมกันสนทนาและแสดงความคิดเหน็

โดยตอบคำถาม ดงั น้ี

• จากภาพเป็นการใช้บรกิ ารหนว่ ยงานใด (ไปรษณยี ์ไทย)
• นกั เรียนเคยใช้บริการหนว่ ยงานนี้หรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย)

• หน่วยงานน้มี ีบริการประเภทใดบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ รบั -สง่ จดหมาย พัสดุ ธนาณตั ิ)
2. นกั เรยี นรว่ มกันศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับการใช้บรกิ ารกับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ จากแหล่งการ
เรียนรูท้ ่ีหลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อนิ เทอร์เน็ต และจัดทำใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง การใชบ้ รกิ ารกับหน่วยงานตา่ ง

ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing)
3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม แลว้ รว่ มกันวิเคราะห์ โดยตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ ดังนี้

• การใชบ้ ริการกับหน่วยงานต่าง ๆ รูปแบบใดท่ปี ระหยัดค่าใช้จา่ ยมากท่สี ุด เพราะเหตใุ ด
(ตัวอยา่ งคำตอบ ใชบ้ รกิ ารทางอินเทอร์เน็ต เพราะสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงข้อมูลไดง้ ่าย
ประหยดั เวลา และคา่ ใช้จา่ ย)
4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั อ่านสถานการณ์ แลว้ ร่วมกนั วเิ คราะห์และเลือกใชร้ ูปแบบการ
ติดตอ่ สอื่ สารทเ่ี หมาะสม พร้อมอธิบายเหตุผล
ตัวอย่างสถานการณ์

ถ้าตกอยใู่ นสถานการณ์อนั ตราย เชน่ กำลังมคี นตาม
เพอ่ื จะทำร้ายหรือชิงทรัพย์ นกั เรียนจะขอความชว่ ยเหลือ
จากผอู้ ่นื ดว้ ยวธิ ีใด เพราะเหตุใด

เลอื กใช้โทรศัพท์ เพราะใช้เวลาในการแจ้งขา่ ว
น้อยทสี่ ดุ และอาจได้รับการช่วยเหลอื ไดท้ นั

ขัน้ ปฏิบัติและสรุปความรูห้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ออกแบบและจัดทำแผ่นพับเก่ียวกบั การใช้บริการกบั หนว่ ยงานต่าง ๆ
โดยรวบรวมบริการใหไ้ ด้มากทส่ี ดุ
6. นักเรียนรว่ มกนั สรุปสิง่ ท่ีเข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกัน ดังน้ี เทคโนโลยีในปจั จบุ นั ทำใหก้ ารติดต่อสอ่ื สาร
เป็นไปได้งา่ ย สะดวกและรวดเร็ว มีหน่วยงานตา่ ง ๆ ท้งั ภาครัฐและเอกชนไดเ้ ปิดใหบ้ ริการการติดต่อสื่อสารท้งั
ทางเครือข่ายโทรศพั ท์ ไปรษณีย์ และอนิ เทอร์เนต็
ข้ันส่ือสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงานแผ่นพับเกี่ยวกับการใช้บรกิ ารกบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ของกลุม่
ตนเอง ประกอบการอธิบายหนา้ ชนั้ เรยี น

8. นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรุปเก่ยี วกบั วธิ ีการทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ กี ารทำงานทีม่ ี
แบบแผน

ขั้นประเมนิ เพอื่ เพ่ิมคุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
9. นักเรียนร่วมกันรวบรวมผลงานแผ่นพบั เกยี่ วกบั การใชบ้ รกิ ารกบั หน่วยงานต่าง ๆ ไปมอบให้
หอ้ งสมดุ โรงเรียนหรอื ชุมชน เพ่อื เผยแพรค่ วามรู้ให้ผอู้ น่ื ได้ศึกษา
10. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรูส้ กึ หลงั การเรยี นและหลงั การทำกิจกรรม ใน
ประเด็นต่อไปนี้

• สิ่งท่ีนักเรยี นไดเ้ รียนรู้ในวนั นี้คืออะไร
• นักเรยี นมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• เพ่อื นนกั เรียนในกลุ่มมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั นี้หรอื ไม่ เพียงใด
• นักเรียนจะนำความรู้ทไ่ี ดน้ ี้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทวั่ ไป
ได้อยา่ งไร
จากน้ันแลกเปลีย่ นตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทุกขั้นตอนวา่ จะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม เกิด
ประโยชนต์ ่อสงั คมใหม้ ากข้ึนกว่าเดิมในขน้ั ตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในครง้ั ต่อไป

10. สื่อการเรยี นรู้

- เอกสารประกอบการเรียน / ใบงาน / หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานการงานอาชีพ
- ภาพบริการไปรษณยี ์
- ตวั อย่างสถานการณ์
- สอ่ื power point เร่ือง การใชบ้ รกิ ารกับหนว่ ยงานต่าง ๆ
- กระดาษสำหรับทำกิจกรรม
- สีไม้

11. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานสถานศึกษา

- หอ้ งสมดุ / ห้องศนู ย์การเรยี นรู้
- อินเทอร์เน็ต

12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวัด วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมอื การวดั เกณฑ์การวัดและ
และประเมนิ ประเมินผล
1. ประเมินความรู้ เร่ือง การใช้ 1. ตรวจใบงาน
บรกิ ารกบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ของนักเรยี น 1. แบบบันทกึ 1. ผลการตรวจ
2. ประเมินกระบวนการทำงาน 2. สงั เกต การประเมินผลงาน แบบทดสอบผา่ นร้อยละ
กลุ่ม พฤติกรรมการ นกั เรียนโดยใชเ้ กณฑ์ 60
3. ประเมินชิน้ งาน ทำงานกลุ่ม การประเมินแบบรูบริกส์ 2. ผลการสงั เกต
3. ตรวจชิน้ งาน พฤติกรรม การทำงาน
ของนักเรยี น 2. แบบสังเกตพฤติกรรม รายกลมุ่ ผา่ นรอ้ ยละ 60
การทำงานรายกลมุ่ 3. ผลการประเมินชน้ิ งาน
ผา่ นรอ้ ยละ 60
3. แบบประเมนิ ชิ้นงาน

13. การบูรณาการการจัดการเรียนรู้ (เฉพาะท่เี กดิ ในคาบนเี้ ท่านนั้ )

⬜ บูรณาการกระบวนการคิด

⬜ การคดิ วิเคราะห์ ⬜ การคิดเปรียบเทียบ ⬜ การคดิ สังเคราะห์
⬜ การคดิ ประยุกต์
⬜ การคิดวิพากษ์ ⬜ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ ⬜ การคิดแก้ปญั หา
⬜ การคิดอนาคต
⬜ การคิดเชงิ มโนทัศน์ ⬜ การคิดเชิงกลยทุ ธ์

⬜ การคดิ บูรณาการ ⬜ การคิดสร้างสรรค์

⬜ บรู ณาการอาเซยี น

⬜ บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

⬜ บรู ณาการกับหลักสูตรต้านทจุ รติ ศกึ ษา

⬜ บูรณาการกับการจดั การเรยี นรู้ STEM EDUCATION

⬜ บรู ณาการกบั การจัดการเรียนรู้ Active Learning

⬜ บูรณาการกับกรอบสาระการเรียนรูท้ ้องถิน่

⬜ บรู ณาการกบั โครงการการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำในศตวรรษท่ี 21

⬜ บูรณาการกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อืน่ ๆ
1 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ไดแ้ ก่ …………………………………
2. กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ได้แก่ ……………………………….

4. กลุม่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ไดแ้ ก่ ............................................
⬜ บรู ณาการในลักษณะอ่ืนๆ ไดแ้ ก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

15. บนั ทึกผลหลงั การสอน

สรปุ ผลการเรียนการสอน

15.1 นักเรียนท้ังหมดจำนวน........................คน

จดุ ประสงค์การเรียนรขู้ ้อท่ี นกั เรยี นทีผ่ า่ น นักเรียนไม่ผา่ น
จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ

1.

2.

3.

รายช่ือนกั เรยี นท่ีไมผ่ ่านจุดประสงคข์ ้อท่ี........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................................. ...................

รายชอื่ นกั เรียนที่ไมผ่ ่านจุดประสงคข์ ้อที่........ได้แก่
................................................................................................................................................
นกั เรียนท่ีมีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรยี นพิการได้แก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ........................................................................................................................... ...............
15.2 นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

15.3 นักเรียนมีความรเู้ กิดทักษะ
............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................

15.4 นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านิยม 12 ประการ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม
................................................................................................ ................................................
............................................................................................................................. ...................

16. ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

17. ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ....................................................
(นางสาวกชพร จิระนนั ทราพร)
ตำแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนร้ขู อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางประคอง ศรีสวา่ ง)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

ได้__________คะแนน

ใบงานที่ 4 คะแนนเตม็ 10 คะแนน

วิชา การงานอาชีพ 4 (ง 22103) หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่ือง การใช้บรกิ ารกับหน่วยงานตา่ ง ๆ

ครูผูส้ อน ครูกชพร จิระนันทราพร กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ

คำสง่ั : นักเรียนเลือกใชบ้ ริการกบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ เช่น การใช้บริการโทรศพั ท์ การใช้บริการไปรษณยี ์และการ
ใช้บริการอนิ เทอร์เนต็ มา 1 บริการ แล้วบันทกึ ข้อมูลจากการใชบ้ รกิ าร ลงในแบบบันทึก

แบบบนั ทึกการใช้บรกิ ารหน่วยงานตา่ ง ๆ

1. หน่วยงานที่ใชบ้ ริการ คือ
(บริษัท ไปรษณยี ์ไทย จำกัด)
(น้ำฟักทองและน้ำผลไมผ้ สมสมนุ ไพร)

2. บริการทีใ่ ช้ คือ
(สง่ พัสดทุ างไปรษณยี )์
(น้ำฟักทองและน้ำผลไม้ผสมสมนุ ไพร)

3. ขนั้ ตอนการใช้บริการ ได้แก่
(นำพสั ดทุ ่ีต้องการส่งไปท่ีไปรษณยี ห์ รือทท่ี ำการไปรษณีย์ ซ้ือบรรจภุ ัณฑ์สำหรบั ใส่พัสดุ
ตามขนาดทเ่ี หมาะสม ปดิ ผนึกให้เรยี บรอ้ ย และเขยี นช่ือ-ที่อยู่ผ้สู ง่ และผรู้ ักใหค้ รบถว้ น ชดั เจน
เลอื กวีการส่งและชำระเงิน โดยเกบ็ ใบเสรจ็ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน เพ่อื ใชใ้ นการตรวจสอบสถานะ
การสง่ พสั ดุ)
กวกี ารสง่ และชำระเงนิ โดยเกบ็ ใบเสรจ็ ไว้เปน็ หลักฐาน เพอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบสถานะ
การส่งพสั ด)ุ

เลือกวีการส่งและชำระเงิน โดยเก็บใบเสรจ็ ไว้เปน็ หลักฐาน เพอ่ื ใช้ในการตรวจสอบสถานะ
4. ปญั หาจากการใชบ้ รกิ าร คือ

(-)
(น้ำฟักทองและน้ำผลไม้ผสมสมนุ ไพร)
5. แนวทางการปรับปรงุ การใชบ้ ริการ คอื
(-)
(น้ำฟักทองและน้ำผลไมผ้ สมสมนุ ไพร)

ชื่อ_____________________________เลขท_่ี _____ชนั้ __________

เฉลย :ใบงานท่ี 4

วชิ า การงานอาชีพ 4 (ง 22103) หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง การใช้บริการกับหน่วยงานต่าง ๆ

ครูผ้สู อน ครูกชพร จิระนันทราพร กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ

คำส่ัง : นกั เรยี นเลือกใชบ้ ริการกับหน่วยงานตา่ ง ๆ เชน่ การใชบ้ รกิ ารโทรศพั ท์ การใช้บริการไปรษณยี แ์ ละการ
ใช้บรกิ ารอนิ เทอร์เนต็ มา 1 บรกิ าร แล้วบันทกึ ข้อมลู จากการใช้บรกิ าร ลงในแบบบนั ทึก (ตัวอย่างคำตอบ)

แบบบันทึกการใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ

1. หนว่ ยงานที่ใช้บรกิ าร คือ
(บรษิ ัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด)

2. บริการที่ใช้ คือ
(ส่งพสั ดทุ างไปรษณยี ์) (สง่ พัสดุทางไปรษณีย)์
(น้ำฟักทองและน้ำผลไม้ผสมสมนุ ไพร)

3. ขั้นตอนการใชบ้ ริการ ไดแ้ ก่
(นำพัสดทุ ่ตี ้องการส่งไปท่ีไปรษณียห์ รือท่ีทำการไปรษณยี ์ ซ้ือบรรจภุ ัณฑ์สำหรบั ใส่พสั ดุ

ตามขนาดทีเ่ หมาะสม ปิดผนึกให้เรยี บรอ้ ย และเขยี นช่ือ-ท่ีอยผู่ ้สู ง่ และผู้รับให้ครบถ้วน ชัดเจน

เลือกวธิ ีการส่งและชำระเงิน โดยเก็บใบเสรจ็ ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใชใ้ นการตรวจสอบสถานะ

การส่งพสั ด)ุ (นำพสั ดุที่ตอ้ งการสง่ ไปทีไ่ ปรษณยี ห์ รือท่ที ำการไปรษณีย์ ซ้ือบรรจุภณั ฑส์ ำหรับใสพ่ ัสดุ
ตามขนาดทเี่ หมาะสม ปิดผนึกใหเ้ รยี บร้อย และเขียนชื่อ-ที่อย่ผู ูส้ ง่ และผู้รักใหค้ รบถ้วน ชดั เจน
4. ปญั หาจากการใช้บรกิ าร คือ
(-) (-)
(นำ้ ฟักทองและน้ำผลไม้ผสมสมนุ ไพร)
5. แนวทางการปรบั ปรงุ การใชบ้ ริการ คอื
(-) (-)
(นำ้ ฟักทองและน้ำผลไม้ผสมสมุนไพร)

ชือ่ _____________________________เลขท_ี่ _____ชนั้ __________

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 เรือ่ ง การใชโ้ ทรศัพท์เคลอื่ นท่ี

กล่มุ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี รายวชิ า การงานอาชพี 4 (ง22103)
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เวลา 6 ช่ัวโมง
เร่ือง การตดิ ต่อส่ือสาร เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด

ผลการเรยี นรู้
1. ใชท้ ักษะการแสวงหาความรเู้ พือ่ พฒั นาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มีจติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั ิงานอยา่ งประหยัดและคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 อธบิ ายวิธกี ารใชโ้ ทรศพั ท์เคล่ือนที่
2.2 มีทักษะในการใช้โทรศัพทเ์ คลอ่ื นท่ีอย่างถูกวธิ ี
2.3 เห็นประโยชนแ์ ละความสำคญั ของการใชโ้ ทรศพั ท์เคลื่อนท่ี

3. สาระสำคัญ

การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นที่นิยมมากเนื่องจากราคาและการให้บริการที่จัดขึ้นตอบสนองความ
ต้องการ ของผูใ้ ช้ทกุ กลมุ่ การใชบ้ รกิ ารโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่สะดวกและรวดเรว็ กวา่ การใช้โทรศัพทส์ ว่ นบุคคล

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

 ความสามารถในการสื่อสาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรียนรู้  ซือ่ สัตยส์ จุ รติ
 ใฝ่เรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)  มุ่งมน่ั ในการทำงาน
อธบิ ายวิธกี ารใช้โทรศัพท์เคลื่อนท่ี  มจี ิตสาธารณะ
ทักษะท่สี ำคญั (P)
มที ักษะในการใช้โทรศัพท์เคลือ่ นที่อยา่ งถูกวิธี
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
 มวี ินัย
 อยู่อยา่ งพอเพียง
 รกั ความเป็นไทย

6. จุดเน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นทักษะศตวรรษท่ี 21

การเรยี นรู้ 3R x 8C
 Reading (อา่ นออก)  (W)Riting (เขยี นได้) ⬜ (A)Rithemetics (คิดเลขเปน็ )

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มีทักษะในการคดิ วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาได้

⬜ Creativity and Innovation: คิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ให้ความร่วมมอื ในการทำงานเป็นทีมมภี าวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มีทกั ษะในการส่ือสาร และรเู้ ทา่ ทันสื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มคี วามเข้าใจความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มที ักษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และรู้เท่าทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มีทกั ษะทางอาชีพ และกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ
 Compassion: มีคณุ ธรรม มีเมตตากรณุ า มีระเบียบวินยั

ทกั ษะดา้ นชวี ิตและอาชพี
⬜ ความยดื หย่นุ และการปรับตวั
 การรเิ รม่ิ สร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง
⬜ ทกั ษะสงั คมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม
⬜ การเปน็ ผ้สู รา้ งหรอื ผผู้ ลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเช่อื ถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผ้นู ำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility)

คณุ ลักษณะสำหรับศตวรรษท่ี 21
⬜ คณุ ลักษณะดา้ นการทำงาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเป็นผ้นู ำ
⬜ คณุ ลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง
⬜ คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผ้อู ืน่ ความซอื่ สัตย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เน้นของสถานศึกษา

7.1 ผู้เรียนเปน็ กลุ สตรไี ทยสมยั นยิ ม (SSTB School's 4G)

มีคุณธรรม (Good Moral) นำปญั ญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เน้นมารยาท (Good Manners)

7.2 ผเู้ รยี นมศี กั ยภาพเปน็ พลโลก (World Citizen) เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล

⬜ เปน็ เลิศวิชาการ ⬜ สื่อสารไดอ้ ย่างนอ้ ย 2 ภาษา

⬜ ล้ำหนา้ ทางความคิด ⬜ ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์

⬜ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก

8. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน /รอ่ งรอยแสดงความรู้)

1. แผนภาพความคิด เรื่อง การใช้โทรศัพทเ์ คลอื่ นท่ี
2. โปสเตอร์ เรอ่ื ง ส่ิงทีค่ วรปฏบิ ัติและไม่ควรปฏิบัติ เมือ่ ใช้โทรศัพทเ์ คลือ่ นท่ี

9. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ขัน้ สังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)
1. นกั เรียนชมวิดีโอเกย่ี วกบั วิวัฒนาการของโทรศัพทเ์ คล่ือนท่ี แล้วรว่ มกันสนทนาและแสดงความ
คิดเหน็ โดยตอบคำถาม ดังน้ี

• การใช้โทรศพั ท์เคลือ่ นท่ใี นปัจจุบันมปี ระโยชนห์ รอื ไม่ (ม)ี
• การพัฒนาโทรศัพท์เคลือ่ นท่ีจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ นั มีการเปล่ยี นแปลงอย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ มีการพฒั นาเพิ่มขึ้นอย่างมาก โทรศัพทเ์ คล่ือนท่ีในปัจจุบันไม่ได้มีไว้แค่
ติดตอ่ สื่อสาร แต่ยังสามารถสรา้ งความบันเทงิ หลายรปู แบบใหก้ ับผู้ใช้ได้อกี ด้วย)
2. นกั เรยี นรว่ มกันศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกย่ี วกับการใช้โทรศพั ทเ์ คลอื่ นที่ จากแหล่งการเรยี นรู้
ที่หลากหลาย เชน่ หนงั สือเรียน อนิ เทอร์เน็ต

ข้นั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing)
3. ตวั แทนนักเรียนถือภาพการใชโ้ ทรศัพท์เคลื่อนท่ีในสถานการณแ์ ละสถานทตี่ ่าง ๆ ทีละภาพ
จากน้นั เพื่อน ๆ ร่วมกันวเิ คราะหแ์ ละสง่ เสียงเหมาะสม/ไม่เหมาะสม และร่วมกนั เฉลยคำตอบที่ถูกต้อง จนครบ
ทกุ ภาพ
4. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะหส์ ิง่ ที่ควรปฏบิ ตั ิและไม่ควรปฏบิ ตั ิ
เม่ือใช้โทรศัพทเ์ คล่อื นท่ี เขยี นเปน็ แผนภาพความคดิ และสรุปเปน็ ความคิดรวบยอด ดังตัวอย่าง

การใชโ้ ทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี

สง่ิ ที่ควรปฏิบัติ ส่งิ ทีไ่ มค่ วรปฏิบตั ิ
ปดิ โทรศัพท์เคลือ่ นท่ี เมื่ออยู่ ไม่ควรใช้โทรศัพท์เคลือ่ นที่ในสถานการณ์ ดังนี้
1. ในชัน้ เรียน 1. ในที่เปล่ียว
2. ในห้องประชุม 2. ในสถานีบริการนำ้ มันหรือแกส๊
3. ในห้องสมดุ 3. ขณะขับขย่ี านพาหนะบนถนน
4. ในโรงภาพยนตร์

5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบการใช้บริการโทรศพั ท์เคล่ือนที่แบบรายเดอื นกับ
แบบเตมิ เงนิ และสรุปเป็นความคดิ รวบยอด

6. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดงั นี้
• การใชโ้ ทรศพั ทเ์ คล่อื นทม่ี ปี ระโยชน์ตอ่ การศกึ ษาอย่างไร
(ตัวอย่างคำตอบ ใช้โทรศัพทเ์ คลอ่ื นทีใ่ นการหาข้อมูลตา่ ง ๆ เพ่ือเสรมิ สร้างความรู้)

ขัน้ ปฏบิ ตั ิและสรุปความรหู้ ลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
7. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกแบบและจดั ทำโปสเตอรเ์ กีย่ วกบั สงิ่ ทีค่ วรปฏบิ ัติและไม่ควรปฏิบตั ิ เมอ่ื ใช้
โทรศพั ท์เคลือ่ นท่ี
8. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่งิ ท่เี ข้าใจเป็นความร้รู ่วมกนั ดังนี้ การใช้โทรศัพท์เคลอื่ นที่ เปน็ ท่ีนิยมมาก
เนื่องจากราคาและการให้บรกิ ารที่จัดขึ้นตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทุกกลุม่ การใช้บรกิ าร
โทรศพั ท์เคลื่อนทส่ี ะดวกและรวดเร็วกว่าการใชโ้ ทรศพั ทส์ ว่ นบุคคล
ขั้นสอื่ สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
9. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั นำเสนอผลงานโปสเตอรเ์ กยี่ วกับสิ่งที่ควรปฏิบตั ิและไม่ควรปฏบิ ัตเิ ม่ือใช้
โทรศพั ท์เคลื่อนท่ี ประกอบการอธิบายหนา้ ชั้นเรียน

10. นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายสรุปเก่ยี วกับวิธกี ารทำงานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวธิ ีการทำงานท่มี ี
แบบแผน

ขนั้ ประเมนิ เพื่อเพิ่มคณุ ค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
11. นกั เรียนร่วมกนั รวบรวมผลงานโปสเตอร์เกย่ี วกบั สิ่งที่ควรปฏบิ ตั ิและไม่ควรปฏิบัติ เมอ่ื ใช้
โทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ ไปติดป้ายนิเทศบรเิ วณหนา้ ชั้นเรยี นหรือบรเิ วณโรงเรียน เพ่ือเผยแพร่ความรใู้ ห้นักเรียนชนั้
อน่ื ได้ศึกษา
12. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรยี นและหลงั การทำกิจกรรม ใน
ประเดน็ ต่อไปน้ี

• สิง่ ท่ีนักเรียนไดเ้ รยี นรใู้ นวันน้ีคืออะไร
• นกั เรยี นมสี ่วนร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• เพ่อื นนักเรียนในกลุ่มมีสว่ นรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรยี นในวนั นี้หรอื ไม่ เพียงใด
• นกั เรยี นจะนำความรู้ทไ่ี ดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมท่วั ไป
ไดอ้ ย่างไร
จากน้นั แลกเปลีย่ นตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทกุ ข้ันตอนว่าจะเพมิ่ คณุ คา่ ไปสู่สังคม เกิด
ประโยชน์ตอ่ สงั คมใหม้ ากข้นึ กว่าเดมิ ในขนั้ ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครัง้ ต่อไป

10. ส่ือการเรยี นรู้

- เอกสารประกอบการเรียน / ใบงาน / หนงั สือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานการงานอาชีพ
- วดิ โี อเกี่ยวกับววิ ฒั นาการของโทรศัพท์เคลอื่ นที่
- ภาพการใช้โทรศพั ท์เคลื่อนทใ่ี นสถานการณแ์ ละสถานทตี่ ่าง ๆ
- สื่อ power point เร่อื ง การใช้โทรศัพทเ์ คลอื่ นที่
- กระดาษสำหรบั ทำกจิ กรรม
- สไี ม้

11. แหล่งเรียนรใู้ นหรือนอกสถานสถานศกึ ษา

- ห้องสมดุ / ห้องศูนย์การเรยี นรู้
- อนิ เทอรเ์ นต็

12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวดั วิธีการวดั ผล เครื่องมอื การวัด เกณฑก์ ารวัดและ
และประเมิน ประเมนิ ผล
1. ประเมินความรู้ เร่ือง การใช้ 1. ตรวจใบงาน
1. แบบบันทึก 1. ผลการตรวจ
โทรศัพท์เคลื่อนท่ี ของนักเรยี น การประเมินผลงาน แบบทดสอบผา่ นร้อยละ
นักเรยี นโดยใชเ้ กณฑ์ 60
2. ประเมนิ กระบวนการทำงาน 2. สงั เกต การประเมินแบบรบู ริกส์ 2. ผลการสังเกต
พฤติกรรม การทำงาน
กล่มุ พฤติกรรมการ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม รายกล่มุ ผา่ นรอ้ ยละ 60
การทำงานรายกลุ่ม
ทำงานกลมุ่

13. การบูรณาการการจัดการเรียนรู้ (เฉพาะทเี่ กดิ ในคาบนเี้ ท่านน้ั )

⬜ บูรณาการกระบวนการคิด

⬜ การคิดวเิ คราะห์ ⬜ การคิดเปรียบเทียบ ⬜ การคิดสังเคราะห์
⬜ การคดิ ประยุกต์
⬜ การคิดวิพากษ์ ⬜ การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ ⬜ การคดิ แก้ปญั หา
⬜ การคดิ อนาคต
⬜ การคิดเชิงมโนทัศน์ ⬜ การคิดเชิงกลยทุ ธ์

⬜ การคดิ บรู ณาการ ⬜ การคดิ สรา้ งสรรค์

⬜ บรู ณาการอาเซยี น

⬜ บรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

⬜ บูรณาการกบั หลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษา

⬜ บรู ณาการกับการจดั การเรียนรู้ STEM EDUCATION

⬜ บรู ณาการกบั การจัดการเรยี นรู้ Active Learning

⬜ บูรณาการกับกรอบสาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ

⬜ บูรณาการกับโครงการการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทำในศตวรรษที่ 21

⬜ บรู ณาการกบั กลุม่ สาระการเรียนรอู้ ่นื ๆ
1 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ไดแ้ ก่ …………………………………
2. กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ได้แก่ ............................................

⬜ บูรณาการในลกั ษณะอ่ืนๆ ไดแ้ ก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

15. บนั ทึกผลหลงั การสอน

สรปุ ผลการเรยี นการสอน

15.1 นักเรยี นทั้งหมดจำนวน........................คน

จุดประสงค์การเรียนรขู้ ้อท่ี นกั เรยี นท่ีผา่ น นักเรยี นไมผ่ ่าน
จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ

1.

2.

3.

รายช่ือนกั เรยี นท่ีไม่ผ่านจุดประสงค์ข้อท่ี........ได้แก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................................. ...................

รายชอ่ื นกั เรียนที่ไม่ผา่ นจุดประสงคข์ ้อท่ี........ไดแ้ ก่
................................................................................................................................................
นักเรียนท่มี ีความสามารถพิเศษ/นักเรยี นพิการได้แก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ........................................................................................................................... ...............
15.2 นกั เรยี นมีความรู้ความเข้าใจ
................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................
15.3 นักเรียนมคี วามรู้เกิดทักษะ
............................................................................................................................. ...................
.................................................................................... ............................................................
15.4 นักเรยี นมีเจตคติ ค่านยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม
............................................................................................................................. ...................

16. ปัญหา/อปุ สรรค /แนวทางแก้ไข

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

17. ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวกชพร จิระนันทราพร)
ตำแหน่ง ครู

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางประคอง ศรีสว่าง)

หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 12 เร่ือง การใชบ้ รกิ ารไปรษณีย์

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รายวชิ า การงานอาชพี 4 (ง22103)
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เวลา 6 ช่ัวโมง
เรอ่ื ง การตดิ ตอ่ ส่ือสาร เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั

ผลการเรียนรู้
1. ใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้เพื่อพฒั นาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มีจติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยา่ งประหยัดและคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 อธบิ ายรูปแบบและวธิ กี ารติดต่อสื่อสารทางไปรษณยี ์
2.2 ใช้บริการไปรษณีย์ในการติดต่อสือ่ สารกบั หน่วยงานต่าง ๆ
2.3 เหน็ ความสำคญั ของวิธีการใช้บริการไปรษณยี ์ในการติดต่อสอื่ สารกับหนว่ ยงานต่าง ๆ

3. สาระสำคัญ

บริการของไปรษณีย์เป็นวธิ ีการติดต่อสือ่ สารทเ่ี ก่าแก่ทสี่ ดุ และยังคงใช้อยจู่ นถงึ ปจั จุบนั บรษิ ัท
ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปน็ บริษัททีเ่ ปิดใหบ้ ริการไปรษณีย์มาตัง้ แตพ่ ุทธศักราช 2423 ซง่ึ ในสมัยก่อน เปน็ การฝาก
สารหรือข้อความถึงพระเจ้าแผ่นดนิ แตต่ ่อมามีการเปิดใหบ้ รกิ ารแก่สาธารณะท่ีบุคคลทกุ ชนชน้ั สามารถใช้
บรกิ ารได้

4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

 ความสามารถในการส่ือสาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)

อธิบายรูปแบบและวธิ ีการติดต่อสอื่ สารทางไปรษณยี ์

ทกั ษะท่สี ำคัญ (P)

ใช้บรกิ ารไปรษณีย์ในการติดต่อสื่อสารกับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซ่อื สัตยส์ ุจริต

 มีวินยั  ใฝ่เรียนรู้

 อยู่อย่างพอเพยี ง  มุ่งมั่นในการทำงาน

 รักความเปน็ ไทย  มีจิตสาธารณะ

6. จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นทกั ษะศตวรรษที่ 21

การเรียนรู้ 3R x 8C
 Reading (อ่านออก)  (W)Riting (เขยี นได้) ⬜ (A)Rithemetics (คิดเลขเปน็ )

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มีทักษะในการคดิ วิเคราะห์ และแก้ไขปญั หาได้

⬜ Creativity and Innovation: คดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ใหค้ วามร่วมมือในการทำงานเปน็ ทีมมภี าวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มที ักษะในการสื่อสาร และรู้เท่าทนั สื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มคี วามเข้าใจความแตกต่างทางวฒั นธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มที กั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และรเู้ ทา่ ทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มที ักษะทางอาชีพ และกระบวนการเรยี นร้ตู า่ งๆ
 Compassion: มคี ณุ ธรรม มีเมตตากรุณา มีระเบียบวินัย

ทักษะด้านชีวติ และอาชีพ
⬜ ความยดื หยุ่นและการปรับตัว
 การรเิ ร่มิ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตวั เอง
⬜ ทักษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม
⬜ การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเช่อื ถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผนู้ ำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility)

คณุ ลกั ษณะสำหรับศตวรรษท่ี 21
⬜ คุณลักษณะด้านการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผนู้ ำ
⬜ คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การช้ีนำตนเอง การตรวจสอบการเรียนร้ขู องตนเอง
⬜ คุณลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผูอ้ น่ื ความซ่ือสัตย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เน้นของสถานศึกษา

7.1 ผู้เรยี นเป็นกุลสตรไี ทยสมยั นยิ ม (SSTB School's 4G)

มีคณุ ธรรม (Good Moral) นำปญั ญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เน้นมารยาท (Good Manners)

7.2 ผเู้ รียนมศี กั ยภาพเปน็ พลโลก (World Citizen) เทียบเคยี งมาตรฐานสากล

⬜ เป็นเลิศวชิ าการ ⬜ สือ่ สารได้อย่างน้อย 2 ภาษา

⬜ ลำ้ หน้าทางความคดิ ⬜ ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์

⬜ รว่ มกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก

8. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน /รอ่ งรอยแสดงความรู้)

1. การแสดงบทบาทสมมุติ เร่ือง การใชบ้ ริการไปรษณีย์

9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั การเรยี นร้แู บบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ข้ันสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)
1. นักเรียนสังเกตภาพ แล้วร่วมกนั สนทนาและแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถาม ดงั นี้

• นักเรยี นเคยใชบ้ ริการไปรษณยี ์หรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
• นักเรยี นเคยส่งจดหมายหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)
• นกั เรียนเคยเหน็ จดหมายในภาพหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)
• ภาพที่ 1 คือ ภาพอะไร (จดหมาย)

• ภาพท่ี 2 คอื ภาพอะไร (จดหมายอากาศ)

2. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาและรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับการใช้บริการไปรษณีย์ จากแหลง่ การเรยี นรูท้ ่ี

หลากหลาย เช่น หนงั สอื เรียน อินเทอรเ์ น็ต

ข้ันคิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing)
3. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม แต่ละกล่มุ รว่ มกนั อ่านสถานการณ์ความต้องการส่งเอกสาร
หรือส่งิ ของผ่านบรกิ ารไปรษณยี ์หลายรูปแบบ แล้วรว่ มกนั วเิ คราะห์เลอื กใช้วธิ ีการส่งท่ีเหมาะสม พรอ้ มอธบิ าย
เหตผุ ลประกอบ ดังตัวอย่าง

แมวต้องการส่งหนงั สือไปให้ญาตทิ ่ีตา่ งจังหวดั

เลอื กใช้ของตีพิมพ์ เพราะสง่ิ ของทีจ่ ะส่งมนี ำ้ หนักเบา
และมขี นาดเลก็

ไก่ต้องการสง่ จดหมายไปถงึ เพ่ือนท่ีอยู่ประเทศอิตาลี

เลอื กใช้บรกิ ารจดหมายอากาศ เพราะเป็นบรกิ าร
สง่ จดหมายไปตา่ งประเทศที่ไม่มีเงื่อนไขในการ
ให้บรกิ าร

ม้าตอ้ งการส่งฝาชงิ โชครางวลั ตามประกาศในโทรทัศน์

เลือกใชข้ องตีพมิ พ์ เพราะอนุญาตใหส้ ่งส่งิ ของ
ลักษณะนไี้ ด้

4. นักเรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามกระต้นุ
ความคดิ ดงั น้ี

• ไปรษณียไ์ ทยในอดตี แตกตา่ งจากไปรษณยี ไ์ ทยในปัจจุบนั อยา่ งไร
(ตัวอยา่ งคำตอบ ไปรษณยี ์ไทยในอดีตมแี ค่บริการส่งจดหมาย โทรเลข และธนาณัติ
การให้บริการเปน็ ไปไดช้ า้ แตใ่ นปจั จบุ ันมรี ะบบการใหบ้ รกิ ารทที่ นั สมยั ดว่ นพิเศษ และไปรษณยี ์
ออนไลน์ ทำให้ได้รับความสะดวกรวดเรว็ มากขึน้ )

ข้ันปฏิบตั ิและสรุปความรู้หลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกแบบและจำลองสถานการณ์การใช้บริการไปรษณีย์ เพ่ือแสดงบทบาทสมมตุ ิ
หน้าชัน้ เรยี น
7. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่เี ข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกนั ดังนี้ บริการของไปรษณยี ์เปน็ วิธกี าร
ติดตอ่ ส่ือสารท่ีเก่าแกท่ ี่สดุ และยงั คงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน บรษิ ัท ไปรษณยี ์ไทย จำกัด เปน็ บรษิ ัทที่เปดิ ใหบ้ ริการ
ไปรษณีย์มาต้งั แต่พุทธศักราช 2423 ซ่งึ ในสมัยก่อนเป็นการฝากสารหรือข้อความถึงพระเจ้าแผ่นดนิ แตต่ อ่ มามี
การเปดิ ให้บริการแก่สาธารณะทีบ่ คุ คลทุกชนชนั้ สามารถใช้บรกิ ารได้
ขน้ั ส่ือสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
8. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันแสดงบทบาทสมมตุ ิการใชบ้ รกิ ารไปรษณยี ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ หนา้ ช้ัน
เรียน
ขั้นประเมินเพอ่ื เพ่ิมคณุ ค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
9. นักเรยี นรว่ มกนั นำความรู้ท่ีไดจ้ ากเร่ือง การใช้บริการไปรษณยี ไ์ ปแนะนำให้นกั เรียนชนั้ อนื่ ๆ ได้
ศึกษา
10. นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ กึ หลงั การเรยี นและหลงั การทำกิจกรรม ใน
ประเดน็ ต่อไปน้ี

• ส่ิงทนี่ กั เรียนได้เรยี นร้ใู นวนั น้คี อื อะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• เพ่อื นนักเรยี นในกลุ่มมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• นักเรียนพงึ พอใจกบั การเรยี นในวนั น้หี รอื ไม่ เพยี งใด
• นักเรยี นจะนำความรู้ท่ีได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมท่วั ไป
ได้อย่างไร
จากน้ันแลกเปลย่ี นตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทกุ ข้นั ตอนวา่ จะเพมิ่ คุณค่าไปสสู่ งั คม เกิด
ประโยชนต์ ่อสงั คมให้มากขน้ึ กว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในคร้งั ต่อไป

10. ส่อื การเรยี นรู้

- เอกสารประกอบการเรยี น / ใบงาน / หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐานการงานอาชีพ
- ภาพจดหมาย
- ส่ือ power point เรื่อง การใชบ้ รกิ ารไปรษณีย์
- กระดาษสำหรับทำกิจกรรม
- สีไม้

11. แหลง่ เรยี นรูใ้ นหรอื นอกสถานสถานศกึ ษา

- ห้องสมุด / หอ้ งศูนย์การเรียนรู้
- อนิ เทอรเ์ นต็

12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวดั วธิ กี ารวดั ผล เคร่อื งมอื การวัด เกณฑก์ ารวัดและ
และประเมิน ประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การใช้ 1. ตรวจใบงาน
1. แบบบันทึก 1. ผลการตรวจ
บรกิ ารไปรษณยี ์ ของนักเรียน การประเมินผลงาน แบบทดสอบผ่านร้อยละ
นกั เรยี นโดยใชเ้ กณฑ์ 60
2. ประเมนิ กระบวนการทำงาน 2. สงั เกต การประเมนิ แบบรบู ริกส์ 2. ผลการสังเกต
พฤติกรรม การทำงาน
กลมุ่ พฤติกรรมการ 2. แบบสงั เกตพฤติกรรม รายกลุ่ม ผ่านรอ้ ยละ 60
การทำงานรายกล่มุ
ทำงานกลุ่ม

13. การบรู ณาการการจดั การเรยี นรู้ (เฉพาะทีเ่ กดิ ในคาบน้ีเทา่ น้นั )

⬜ บูรณาการกระบวนการคิด

⬜ การคิดวิเคราะห์ ⬜ การคดิ เปรยี บเทยี บ ⬜ การคิดสังเคราะห์
⬜ การคดิ ประยุกต์
⬜ การคดิ วพิ ากษ์ ⬜ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ⬜ การคดิ แก้ปญั หา
⬜ การคิดอนาคต
⬜ การคิดเชิงมโนทศั น์ ⬜ การคิดเชิงกลยทุ ธ์

⬜ การคิดบูรณาการ ⬜ การคดิ สรา้ งสรรค์

⬜ บรู ณาการอาเซียน

⬜ บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

⬜ บรู ณาการกับหลกั สูตรต้านทจุ ริตศึกษา

⬜ บรู ณาการกับการจัดการเรียนรู้ STEM EDUCATION

⬜ บรู ณาการกบั การจดั การเรยี นรู้ Active Learning

⬜ บรู ณาการกับกรอบสาระการเรยี นร้ทู ้องถ่นิ

⬜ บรู ณาการกบั โครงการการจัดการศึกษาเพอ่ื การมีงานทำในศตวรรษที่ 21

⬜ บรู ณาการกบั กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ น่ื ๆ
1 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ได้แก่ …………………………………
2. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ไดแ้ ก่ ............................................

⬜ บูรณาการในลักษณะอื่นๆ ไดแ้ ก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................

15. บันทกึ ผลหลงั การสอน

สรปุ ผลการเรยี นการสอน

15.1 นักเรยี นทง้ั หมดจำนวน........................คน

จุดประสงค์การเรียนรูข้ ้อท่ี นักเรยี นทผ่ี ่าน นกั เรียนไม่ผ่าน
จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) รอ้ ยละ

1.

2.

3.

รายช่ือนักเรียนที่ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์ข้อที่........ได้แก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

รายชอื่ นกั เรียนที่ไม่ผ่านจดุ ประสงคข์ ้อที่........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
นกั เรยี นทีม่ ีความสามารถพิเศษ/นักเรียนพิการไดแ้ ก่
1) ........................................................................................................................... ...............
2) ..........................................................................................................................................
15.2 นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................
15.3 นักเรียนมคี วามรู้เกิดทักษะ
............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................
15.4 นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม
............................................................................................... .................................................
............................................................................................................................. ...................

16. ปัญหา/อุปสรรค /แนวทางแก้ไข

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

17. ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่อื ....................................................
(นางสาวกชพร จิระนันทราพร)
ตำแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา / ผูท้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
⬜ ดีมาก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
⬜ นำไปใช้ไดจ้ ริง
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ...................................................................
(นางประคอง ศรสี วา่ ง)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

ตารางท่ี 1 แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
กระบวนการ 4321
ทำงานกล่มุ
มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด

สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ

และมกี ารช้แี จง มีการช้แี จงเป้าหมาย ไม่มีการชีแ้ จง และไมม่ ีการชแ้ี จง

เป้าหมาย อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชกิ

การทำงาน ปฏิบัติงานร่วมกัน อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน

มกี ารปฏิบัติงาน แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกัน

รว่ มกนั เป็นระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน

อย่างร่วมมือร่วมใจ

พรอ้ มกับการประเมนิ

เป็นระยะ ๆ

ตารางท่ี 2 แบบประเมินชนิ้ งาน เร่ือง การใชบ้ รกิ ารกับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

การใชบ้ ริการ 4321
กบั หน่วยงานต่าง ๆ
อธิบายการใช้บริการกบั อธิบายการใชบ้ รกิ ารกับ อธิบายการใช้บริการกับ อธิบายการใช้บริการกบั

หนว่ ยงานตา่ ง ๆ หน่วยงานต่าง ๆ หน่วยงานตา่ ง ๆ หน่วยงานต่าง ๆ ได้

ได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ไดอ้ ย่างถกู ต้อง อธิบายขั้นตอน

อธบิ ายขัน้ ตอน อธบิ ายขน้ั ตอน อธบิ ายขนั้ ตอน การใชบ้ ริการได้

การใช้บริการ การใชบ้ ริการ การใชบ้ ริการได้ โดยไมเ่ รียงลำดับขนั้ ตอน

ไดอ้ ย่างชดั เจน ได้อยา่ งชัดเจน และบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ใน สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้

เป็นลำดับขัน้ ตอน เป็นลำดับ การติดต่อสื่อสาร โดยมผี ้อู ื่นแนะนำ

และบรรลวุ ตั ถุประสงค์ใน และบรรลุวตั ถปุ ระสงคใ์ น

การติดตอ่ สื่อสารสามารถ การติดตอ่ สอ่ื สารสามารถ

ปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั ิ

ไดด้ ้วยตนเอง ไดด้ ้วยตนเอง

และแนะนำผอู้ ่นื ได้

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6
เร่ือง การเรียนรู้ สอู่ าชีพ

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13 เรือ่ ง สถานการณ์แรงงาน

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รายวิชา การงานอาชีพ 4 (ง22103)
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เวลา 6 ชั่วโมง
เรือ่ ง การเรยี นรสู้ ู่อาชพี เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั

ผลการเรียนรู้
1. ใช้ทักษะการแสวงหาความร้เู พอ่ื พฒั นาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั ิงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 อธบิ ายอาชพี ดา้ นเกษตรกรและด้านอตุ สาหกรรม
2.2 จัดทำแผนภาพความคดิ เกี่ยวกับสถานการณ์แรงงาน
2.3 เห็นประโยชนข์ องสถานการณ์แรงงาน

3. สาระสำคัญ

การทีจ่ ะประกอบอาชีพใดนั้นจำเปน็ ตอ้ งมีประสบการณเ์ กี่ยวกับอาชีพทจ่ี ะทำด้วยการเรียนรูฝ้ ึกปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมในอาชพี ทตี่ นเองถนัดและสนใจ จงึ จะเขา้ สกู่ ารประกอบอาชีพได้อยา่ งม่นั ใจ

4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

 ความสามารถในการสอื่ สาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

อธบิ ายอาชพี ดา้ นเกษตรกรและดา้ นอุตสาหกรรม

ทักษะทีส่ ำคัญ (P)

จัดทำแผนภาพความคิดเกี่ยวกับสถานการณ์แรงงาน

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)

 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซื่อสัตย์สุจริต

 มวี ินยั  ใฝ่เรยี นรู้

 อย่อู ยา่ งพอเพยี ง  มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

 รักความเปน็ ไทย  มีจิตสาธารณะ

6. จุดเน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรยี นทักษะศตวรรษที่ 21

การเรียนรู้ 3R x 8C
 Reading (อา่ นออก)  (W)Riting (เขยี นได้) ⬜ (A)Rithemetics (คดิ เลขเปน็ )

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มที ักษะในการคิดวิเคราะห์ และแก้ไขปญั หาได้

⬜ Creativity and Innovation: คิดอย่างสรา้ งสรรค์ คิดเชงิ นวัตกรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ใหค้ วามรว่ มมือในการทำงานเป็นทีมมภี าวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มีทักษะในการสื่อสาร และรเู้ ท่าทันสื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มีความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มที กั ษะการใช้คอมพิวเตอร์ และรู้เทา่ ทนั เทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มีทกั ษะทางอาชพี และกระบวนการเรยี นรตู้ ่างๆ
 Compassion: มคี ุณธรรม มเี มตตากรุณา มีระเบียบวินัย

ทกั ษะด้านชีวิตและอาชพี
⬜ ความยดื หยุ่นและการปรับตวั
 การรเิ ร่มิ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง
⬜ ทักษะสังคมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม
⬜ การเป็นผู้สร้างหรือผู้ผลิต (Productivity) และความรบั ผิดชอบเช่ือถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility)

คุณลกั ษณะสำหรับศตวรรษท่ี 21
⬜ คณุ ลักษณะด้านการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรับตวั ความเป็นผนู้ ำ
⬜ คณุ ลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง
⬜ คณุ ลกั ษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ืน่ ความซ่ือสัตย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เนน้ ของสถานศึกษา

7.1 ผู้เรียนเป็นกลุ สตรีไทยสมยั นิยม (SSTB School's 4G)

มีคุณธรรม (Good Moral) นำปญั ญา (Good Wisdom)

 จติ อาสาเด่น (Good Service)  เน้นมารยาท (Good Manners)

7.2 ผเู้ รยี นมศี กั ยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล

⬜ เปน็ เลศิ วชิ าการ ⬜ ส่ือสารไดอ้ ยา่ งน้อย 2 ภาษา

⬜ ลำ้ หน้าทางความคิด ⬜ ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์

⬜ รว่ มกนั รับผิดชอบตอ่ สังคมโลก

8. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน /รอ่ งรอยแสดงความรู้)

1. แผนภาพความคิด เร่ือง สถานการณ์แรงงาน

9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ การจดั การเรียนรู้แบบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ขัน้ สงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)
1. นกั เรยี นรว่ มกันสนทนา โดยตอบคำถาม ดงั น้ี

• นักเรียนจะทำอยา่ งไรให้ตนเองมีประสบการณเ์ กย่ี วกบั อาชพี ทสี่ นใจ
(ตวั อยา่ งคำตอบ ศึกษาขอ้ มูลจากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เชน่ สือ่ บุคคลฝกึ งานทส่ี นใจ)
• อาชพี ในฝันของนักเรยี นคอื อาชพี ใด เพราะอะไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ แพทย์ เพราะอยากรักษาคนป่วยและดแู ลคนในครอบครวั ได้)
• ถ้านกั เรยี นไม่ได้ประกอบอาชพี ในฝัน อาชพี สำรองท่ีอยากเป็นคืออาชีพใด
(ตัวอยา่ งคำตอบ ขายเสื้อผ้า เพราะเป็นอาชีพอสิ ระ เป็นเจ้านายตวั เอง)
2. นกั เรียนรว่ มกนั ศึกษาและรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับสถานการณแ์ รงงาน จากแหล่งการเรยี นรู้
ท่หี ลากหลาย เชน่ หนังสือเรียน อนิ เทอรเ์ น็ต

ขน้ั คิดวเิ คราะห์และสรุปความรู้ (Processing)
3. นกั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะหภ์ าพและแถบข้อความ จากนั้นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยการจับคู่

ภาพกับแถบข้อความให้สมั พันธก์ ัน

อาชพี ด้านอตุ สาหกรรม

อาชพี ด้านเกษตรกรรม

4. นกั เรียนรว่ มกันวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้
• นกั เรยี นจะประกอบอาชพี ใดเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ครอบครัว (ตัวอยา่ งคำตอบ ครู พยาบาล)

ขน้ั ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรู้หลังการปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
5. นักเรียนแบ่งกลุม่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวิเคราะหแ์ นวทางทจ่ี ะทำใหต้ นเอง
รสู้ ถานการณ์แรงงานในปัจจบุ ันเกีย่ วกับสถานการณแ์ รงงาน ดังตัวอยา่ ง

อ่านบทความในเว็บไซต์ อ่านหนังสือพมิ พ์

แนวทางที่จะทำใหร้ ู้
สถานการณแ์ รงงาน

ในปัจจุบนั

ฟังวิทยุ ดโู ทรทัศน์

6. นักเรียนสรปุ สง่ิ ท่ีเข้าใจเปน็ ความร้รู ว่ มกัน ดงั น้ี การทีจ่ ะประกอบอาชีพใดน้ันจำเป็นต้องมี
ประสบการณ์เกี่ยวกับอาชีพที่จะทำ ดว้ ยการเรียนรู้ ฝึกปฏิบตั กิ ิจกรรมในอาชีพทต่ี นเองถนดั และสนใจ จงึ จะ
เขา้ สกู่ ารประกอบอาชีพได้อย่างม่นั ใจ

ขนั้ ส่ือสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)

7. ตวั แทนนักเรยี นแต่ละกล่มุ นำเสนอแผนภาพความคิดเกี่ยวกับสถานการณแ์ รงงานหน้าชน้ั เรยี น
เพื่อแลกเปลีย่ นเรียนรูก้ ัน
8. นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปเก่ียวกบั วธิ ีการทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชงิ ระบบและวิธกี ารทำงาน
ทมี่ แี บบแผน
ข้ันประเมินเพ่ือเพ่ิมคุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
9. นักเรียนนำผลงานแผนภาพความคิดติดป้ายนิเทศหน้าช้ันเรยี นเพอื่ ประชาสัมพันธ์
สถานการณ์แรงงาน และนำความรูไ้ ปเผยแพร่ในชมุ ชน
10. นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรียนและหลังการทำกจิ กรรม
ในประเดน็ ต่อไปน้ี

• สงิ่ ที่นักเรยี นไดเ้ รียนรู้ในวนั นีค้ อื อะไร
• นักเรียนมีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด
• เพือ่ นนักเรียนในกลมุ่ มีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพยี งใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรยี นในวันน้ีหรอื ไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนำความรู้ทีไ่ ดน้ ้ีไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทว่ั ไป
ได้อย่างไร
จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทุกขน้ั ตอนวา่ จะเพ่มิ คณุ คา่ ไปสูส่ งั คม เกิด
ประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากข้ึนกว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในคร้ังต่อไป

10. ส่อื การเรยี นรู้

- เอกสารประกอบการเรียน / ใบงาน / หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานการงานอาชีพ
- ภาพอาชพี เกษตรกรรมและอตุ สาหกรรม
- สอ่ื power point เรื่อง สถานการณแ์ รงงาน
- กระดาษสำหรับทำกิจกรรม
- อินเทอร์เน็ต

11. แหลง่ เรยี นรู้ในหรือนอกสถานสถานศกึ ษา

- ห้องสมุด / ห้องศนู ย์การเรยี นรู้
- อนิ เทอรเ์ นต็

12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวดั วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมือการวัด เกณฑ์การวัดและ
และประเมนิ ประเมนิ ผล
1. ประเมินความรู้ เร่ือง 1. ตรวจใบงาน
สถานการณ์แรงงาน ของนักเรยี น 1. แบบบันทกึ 1. ผลการตรวจ
2. ประเมินกระบวนการทำงาน 2. สังเกต การประเมินผลงาน แบบทดสอบผ่านร้อยละ
กลุ่ม พฤติกรรมการ นักเรียนโดยใช้เกณฑ์ 60
ทำงานกลุ่ม การประเมนิ แบบรบู ริกส์ 2. ผลการสังเกต
พฤติกรรม การทำงาน
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม รายกล่มุ ผ่านรอ้ ยละ 60
การทำงานรายกลมุ่

13. การบูรณาการการจดั การเรียนรู้ (เฉพาะที่เกิดในคาบนเ้ี ทา่ น้นั )

⬜ บูรณาการกระบวนการคดิ

⬜ การคดิ วเิ คราะห์ ⬜ การคดิ เปรยี บเทยี บ ⬜ การคิดสังเคราะห์
⬜ การคิดประยุกต์
⬜ การคดิ วพิ ากษ์ ⬜ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ ⬜ การคิดแก้ปัญหา
⬜ การคดิ อนาคต
⬜ การคิดเชิงมโนทัศน์ ⬜ การคดิ เชิงกลยทุ ธ์

⬜ การคิดบรู ณาการ ⬜ การคิดสร้างสรรค์

⬜ บรู ณาการอาเซียน

⬜ บรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

⬜ บูรณาการกบั หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา

⬜ บรู ณาการกับการจัดการเรยี นรู้ STEM EDUCATION

⬜ บรู ณาการกับการจดั การเรยี นรู้ Active Learning

⬜ บรู ณาการกบั กรอบสาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน

⬜ บรู ณาการกบั โครงการการจัดการศึกษาเพอ่ื การมงี านทำในศตวรรษที่ 21

⬜ บูรณาการกบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อืน่ ๆ
1 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ได้แก่ …………………………………

2. กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ได้แก่ ............................................

⬜ บรู ณาการในลกั ษณะอื่นๆ ได้แก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

........................................................................................................ ........................................
............................................................................................................................. ...................

15. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

สรปุ ผลการเรียนการสอน

15.1 นกั เรียนทงั้ หมดจำนวน........................คน

จดุ ประสงค์การเรยี นรขู้ ้อท่ี นกั เรียนที่ผ่าน นกั เรยี นไม่ผ่าน
จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) รอ้ ยละ

1.

2.

3.

รายชอื่ นักเรียนท่ีไมผ่ ่านจุดประสงค์ข้อที่........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................

รายชอื่ นกั เรยี นที่ไม่ผ่านจุดประสงคข์ ้อที่........ได้แก่
.............................................................................................................. ..................................
นักเรยี นทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ/นักเรียนพิการได้แก่
1) ........................................................................................................................... ...............
2) ..........................................................................................................................................
15.2 นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

15.3 นักเรยี นมีความรเู้ กดิ ทักษะ
............................................................................................................................. ...................
................................................................................................................................................
15.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านิยม 12 ประการ คุณธรรมจรยิ ธรรม
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................... .................................

16. ปญั หา/อุปสรรค /แนวทางแกไ้ ข

............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................... ....................................
.............................................................................................. ................................................................................

17. ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวกชพร จิระนันทราพร)
ตำแหน่ง ครู

ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา / ผูท้ ่ีได้รบั มอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง………………………………………………….. ตำแหนง่ …………………
แล้วมคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี

1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
⬜ ดมี าก
⬜ ดี
⬜ พอใช้
⬜ ควรปรับปรุง

2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
⬜ เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
⬜ ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
⬜ นำไปใชไ้ ด้จรงิ
⬜ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................

ลงช่อื ...................................................................
(นางประคอง ศรีสว่าง)

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
…….……./……………/…………..

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 14 เรือ่ ง ประกาศรบั สมัครงาน

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รายวิชา การงานอาชพี 4 (ง22103)
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เวลา 6 ช่ัวโมง
เร่อื ง การเรียนรู้สู่อาชีพ เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั

ผลการเรียนรู้
1. ใช้ทักษะการแสวงหาความร้เู พ่อื พัฒนาการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/1)
2. ใช้ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หาในการทำงาน (ง 1.1 ม. 2/2)
3. มจี ติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏบิ ตั ิงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า (ง 1.1 ม. 2/3)

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 อธิบายสอื่ ต่าง ๆ ที่สามารถใหข้ ้อมูลประกาศรบั สมัครงาน
2.2 จัดทำโปสเตอร์เกยี่ วกับประกาศรบั สมคั รงาน
2.3 เห็นประโยชน์ของการประกาศรบั สมคั รงาน

3. สาระสำคญั

ปัจจบุ นั นอกจากจะมีผู้มองหางานเพ่ือตอ้ งการทำงานแลว้ ยังมผี ูป้ ระกอบการหรอื นายจา้ งท่มี องหา
คนทำงานเชน่ เดียวกนั โดยจะประกาศรบั สมคั รงานเพื่อค้นหาผ้รู ว่ มงานในรูปแบบตา่ ง ๆ

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

 ความสามารถในการสื่อสาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

อธบิ ายสือ่ ต่าง ๆ ท่สี ามารถให้ข้อมูลประกาศรบั สมคั รงาน

ทักษะทีส่ ำคญั (P)

ออกแบบโปสเตอร์เก่ียวกบั ประกาศรับสมัครงาน

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซ่ือสตั ยส์ ุจริต

 มีวนิ ยั  ใฝเ่ รยี นรู้

 อยอู่ ย่างพอเพียง  มงุ่ ม่ันในการทำงาน

 รักความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ

6. จุดเน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนทกั ษะศตวรรษท่ี 21

การเรียนรู้ 3R x 8C
 Reading (อ่านออก)  (W)Riting (เขยี นได้) ⬜ (A)Rithemetics (คิดเลขเป็น)

⬜ Critical Thinking and Problem Solving: มที ักษะในการคิดวเิ คราะห์ และแก้ไขปญั หาได้

⬜ Creativity and Innovation: คดิ อย่างสร้างสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม

⬜ Collaboration Teamwork and Leadership: ใหค้ วามร่วมมือในการทำงานเป็นทีมมีภาวะ
ผนู้ ำ

⬜ Communication Information and Media Literacy: มที กั ษะในการสื่อสาร และร้เู ท่าทนั สื่อ

⬜ Cross-Cultural Understanding: มคี วามเข้าใจความแตกต่างทางวฒั นธรรม

⬜ Computing and ICT Literacy: มีทกั ษะการใช้คอมพิวเตอร์ และรเู้ ท่าทันเทคโนโลยี
 Career and Learning Skills: มีทักษะทางอาชีพ และกระบวนการเรียนรตู้ า่ งๆ
 Compassion: มีคณุ ธรรม มีเมตตากรุณา มรี ะเบียบวินัย

ทกั ษะดา้ นชวี ติ และอาชีพ
⬜ ความยดื หยุ่นและการปรับตวั
 การรเิ ริม่ สรา้ งสรรคแ์ ละเป็นตัวของตัวเอง
⬜ ทักษะสงั คมและสังคมข้ามวฒั นธรรม
⬜ การเป็นผสู้ ร้างหรือผ้ผู ลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชื่อถือได้ (Accountability)
⬜ ภาวะผ้นู ำและความรับผิดชอบ (Responsibility)

คณุ ลักษณะสำหรับศตวรรษที่ 21
⬜ คณุ ลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ ำ
⬜ คุณลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชน้ี ำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง
⬜ คณุ ลกั ษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ่ืน ความซอ่ื สัตย์ ความสำนึกพลเมือง

7. จดุ เน้นของสถานศึกษา

7.1 ผูเ้ รียนเป็นกุลสตรไี ทยสมัยนยิ ม (SSTB School's 4G)

มีคุณธรรม (Good Moral) นำปัญญา (Good Wisdom)

 จิตอาสาเดน่ (Good Service)  เนน้ มารยาท (Good Manners)

7.2 ผเู้ รยี นมศี กั ยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) เทียบเคียงมาตรฐานสากล

⬜ เปน็ เลิศวิชาการ ⬜ สอื่ สารได้อยา่ งน้อย 2 ภาษา

⬜ ลำ้ หนา้ ทางความคิด ⬜ ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์

⬜ รว่ มกนั รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมโลก

8. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน /ร่องรอยแสดงความรู้)

1. ใบงานท่ี 5 เรือ่ ง การออกแบบโปสเตอร์ประกาศรับสมัครงาน

9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจัดการเรยี นรแู้ บบบรรยาย (LECTURE METHOD)

ขั้นสังเกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering)
1. นักเรียนร่วมกนั สังเกตภาพและแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถาม ดังนี้

AB

• ภาพ A เปน็ ภาพเกี่ยวกับอะไร (ประกาศรบั สมคั รงานทางหนังสือพิมพ์)

• ภาพ B เป็นภาพเกี่ยวกบั อะไร (ประกาศรบั สมัครงานทางอินเทอรเ์ น็ต)

• นกั เรียนเคยพบเหน็ ประกาศรบั สมัครงานหรอื ไม่ ถ้าเคยคืองานอะไร

(ตวั อยา่ งคำตอบ ไม่เคย/เคย เป็นงานบริการในร้านอาหาร)

2. นกั เรียนร่วมกันศึกษาและรวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับประกาศรบั สมัครงาน จากแหล่งการเรียนร้ทู ี่
หลากหลาย เช่น หนังสอื เรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต

ขน้ั คิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing)
3. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุ่มร่วมกันวเิ คราะหส์ ื่อตา่ ง ๆ ที่สามารถใหข้ ้อมลู
ประกาศรับสมคั รงานได้ เขียนเปน็ แผนภาพความคดิ
4. ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันเรียงลำดับสอ่ื ต่าง ๆ ตามปริมาณการให้ข้อมลู ประกาศรับสมคั รงาน
เขยี นเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตัวอย่าง

น้อย

วทิ ยุ

โทรทัศน์

หนงั สือพมิ พ์

อนิ เทอรเ์ นต็ มาก

5. นกั เรยี นร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้
• นักเรียนเคยพบเหน็ การประกาศรบั สมัครงานผ่านชอ่ งทางใด
(ตัวอยา่ งคำตอบ อนิ เทอรเ์ น็ต)

ขน้ั ปฏิบตั แิ ละสรปุ ความร้หู ลังการปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
6. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนมาจบั สลากบัตรคำช่องทางการรับสมคั รงานเก่ียวกับประกาศรับสมัคร
งาน จากน้นั ร่วมกันจัดทำใบงานท่ี 5 เร่ือง การออกแบบโปสเตอร์ประกาศรบั สมัครงานประชาสมั พันธต์ าม
ช่องทางที่กลมุ่ ตนเองจับได้

วิทยุ โทรทศั น์ หนังสอื พิมพ์ อินเทอร์เนต็

7. นักเรยี นสรปุ สง่ิ ทีเ่ ข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกนั ดงั นี้ ปัจจุบันนอกจากจะมผี ู้มองหางานเพื่อต้องการ
ทำงานแล้วยงั มีผปู้ ระกอบการหรอื นายจ้างที่มองหาคนทำงานเช่นเดยี วกนั โดยจะประกาศรับสมัครงานเพื่อ
ค้นหาผู้ร่วมงานในรูปแบบต่าง ๆ

ขั้นส่อื สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
8. ตวั แทนนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอโปสเตอร์เกยี่ วกับประกาศรับสมัครงานหน้าชัน้ เรียน เพ่ือ
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กัน

ขัน้ ประเมินเพ่อื เพ่ิมคุณค่าบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
10. นกั เรยี นนำผลงานโปสเตอร์ตดิ ป้ายนิเทศหน้าชนั้ เรียนหรอื มมุ ความรู้ในบรเิ วณโรงเรียน
เพื่อประชาสัมพนั ธ์และเปน็ แหล่งความรูแ้ ก่ผู้สนใจ
11. นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลังการทำกิจกรรม
ในประเด็นต่อไปน้ี

• ส่งิ ทนี่ ักเรยี นไดเ้ รียนรใู้ นวันน้ีคอื อะไร
• นกั เรียนมสี ่วนร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• เพ่ือนนักเรียนในกลุม่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด
• นักเรยี นพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นห้ี รอื ไม่ เพยี งใด
• นกั เรยี นจะนำความรู้ทไ่ี ดน้ ี้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป
ไดอ้ ย่างไร
จากนั้นแลกเปลยี่ นตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทกุ ขั้นตอนว่าจะเพม่ิ คณุ คา่ ไปสสู่ ังคม เกิด
ประโยชนต์ อ่ สังคมใหม้ ากขึน้ กว่าเดมิ ในขน้ั ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครงั้ ต่อไป

10. สื่อการเรยี นรู้

- เอกสารประกอบการเรยี น / ใบงาน / หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานการงานอาชีพ
- ภาพประกาศรบั สมัครงานทางหนังสือพิมพ์และทางโทรทัศน์
- สื่อ power point เรอื่ ง ประกาศรบั สมัครงาน
- บตั รคำชอ่ งทางการประกาศรบั สมคั รงาน
- กระดาษสำหรับทำกจิ กรรม
- อนิ เทอร์เน็ต

11. แหล่งเรียนรใู้ นหรอื นอกสถานสถานศึกษา

- ห้องสมุด / หอ้ งศนู ย์การเรียนรู้
- อินเทอร์เนต็

12. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวัด วิธกี ารวดั ผล เครอ่ื งมือการวดั เกณฑ์การวดั และ
และประเมิน ประเมินผล
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง 1. ตรวจใบงาน
ประกาศรบั สมคั รงาน ของนักเรยี น 1. แบบบันทกึ 1. ผลการตรวจ
2. ประเมินกระบวนการทำงาน 2. สังเกต การประเมนิ ผลงาน แบบทดสอบผา่ นร้อยละ
กลมุ่ พฤติกรรมการ นักเรียนโดยใช้เกณฑ์ 60
ทำงานกลุ่ม การประเมินแบบรบู ริกส์ 2. ผลการสงั เกต
พฤติกรรม การทำงาน
2. แบบสังเกตพฤติกรรม รายกลมุ่ ผา่ นรอ้ ยละ 60
การทำงานรายกลมุ่

13. การบูรณาการการจดั การเรยี นรู้ (เฉพาะท่ีเกดิ ในคาบน้เี ทา่ นนั้ )

⬜ บูรณาการกระบวนการคดิ

⬜ การคิดวเิ คราะห์ ⬜ การคิดเปรียบเทียบ ⬜ การคดิ สงั เคราะห์
⬜ การคดิ ประยุกต์
⬜ การคดิ วพิ ากษ์ ⬜ การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ ⬜ การคิดแก้ปญั หา
⬜ การคิดอนาคต
⬜ การคดิ เชิงมโนทศั น์ ⬜ การคิดเชงิ กลยทุ ธ์

⬜ การคดิ บรู ณาการ ⬜ การคิดสร้างสรรค์

⬜ บรู ณาการอาเซยี น

⬜ บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

⬜ บูรณาการกบั หลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษา

⬜ บูรณาการกับการจัดการเรยี นรู้ STEM EDUCATION

⬜ บรู ณาการกบั การจดั การเรยี นรู้ Active Learning

⬜ บรู ณาการกับกรอบสาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ

⬜ บูรณาการกบั โครงการการจัดการศึกษาเพือ่ การมีงานทำในศตวรรษที่ 21

⬜ บูรณาการกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ ๆ
1 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ไดแ้ ก่ …………………………………
2. กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ได้แก่ ……………………………….
3. กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ได้แก่ ……………………………….
4. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ไดแ้ ก่ ............................................

⬜ บรู ณาการในลักษณะอื่นๆ ได้แก่........................................................

14. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................

15. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

สรุปผลการเรียนการสอน

15.1 นกั เรยี นท้ังหมดจำนวน........................คน

จุดประสงค์การเรยี นรูข้ ้อที่ นักเรียนที่ผ่าน นักเรยี นไม่ผ่าน
จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) รอ้ ยละ

1.

2.

3.

รายชอ่ื นักเรียนท่ีไมผ่ า่ นจุดประสงคข์ ้อที่........ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. ...................
............................................................................................................................. ...................

รายช่ือนกั เรียนที่ไม่ผา่ นจุดประสงค์ข้อที่........ได้แก่
................................................................................................................................................
นักเรียนท่มี ีความสามารถพเิ ศษ/นักเรียนพิการไดแ้ ก่
1) ..........................................................................................................................................
2) ........................................................................................................................... ...............
15.2 นกั เรยี นมคี วามร้คู วามเขา้ ใจ
................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................
15.3 นกั เรยี นมีความร้เู กดิ ทกั ษะ
............................................................................................................................. ...................
...................................................................................... ..........................................................


Click to View FlipBook Version