The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลายหลายทางชีวิภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jiraporn.van, 2022-07-20 01:17:15

90 พรรษา บรมราชินีนาถ

พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลายหลายทางชีวิภาพ

Keywords: พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลายหลายทางชีวิภาพ

นอกเหนอื จากพระราชกรณยี กจิ ทน่ี ำ� มากลา่ วนแ้ี ลว้ นนั้ ยงั มพี ระราชภารกจิ อน่ื ๆ อกี มากมายเหลอื
เกนิ ท่ที รงปฏบิ ตั เิ พ่อื ประเทศชาติและประชาชน อนั ไดแ้ ก่ งานด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านความมัน่ คงของ
ประเทศ ดา้ นการทหาร ด้านการเจริญสมั พันธไมตรกี ับนานาประเทศทว่ั โลก เป็นตน้ ในวนั ท่ี ๑๒ สิงหาคม
ศกนี้ พระองค์ท่านจะทรงเจรญิ พระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษาแล้ว แต่เปน็ ทีป่ ระจักษอ์ ยา่ งถอ่ งแทแ้ ก่
ทุกทา่ นวา่ พระองค์ท่านมเิ คยไดท้ รงหยดุ พักเลย ไมเ่ คยแมแ้ ตท่ รงมีพระราชด�ำรัสถึงความเหน็ดเหนอ่ื ย ที่
ต้องทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรของพระองค์แต่อย่างใด ดังที่ทรงมีพระราชด�ำรัสไว้ว่า “…ทุกนาทีมีค่า ก็
อยากจะใช้ทกุ นาทใี หม้ ปี ระโยชน์มากจรงิ ๆ ฉะนน้ั บางครงั้ มผี หู้ วังดเี ตือนให้พักผอ่ น ข้าพเจ้ากเ็ ห็นว่า
ยงั ไมเ่ หนอ่ื ย บางทไี มร่ ตู้ วั วา่ เหนอ่ื ย กย็ งั ทำ� ตอ่ ไป…” พระมหากรณุ าธคิ ณุ ยง่ิ ใหญท่ ที่ รงมตี อ่ พสกนกิ รและ
ประเทศไทยเรานั้นมากล้นร�ำพัน พระเมตตาบารมีปกแผ่ไปทว่ั หลา้ ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทง้ั ชาติ
ทรงประทบั อยเู่ คยี งขา้ งราษฎร ไมเ่ คยวา่ งเวน้ วนั แลว้ วนั เลา่ ผา่ นกาลเวลาอนั แสนยาวนานเคยี งคพู่ ระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงแบ่งเบาความทุกข์ และสร้างเสริมประโยชน์สุขให้แก่เหล่าพสกนิกรของ
พระองคโ์ ดยถว้ นทว่ั จนเปน็ ทก่ี ลา่ วขานไปทวั่ โลกวา่ ทรงเปน็ พระราชนิ ที ท่ี รงงานมากทสี่ ดุ ในโลก ทว่ั ทงั้ โลก
ต่างพากันช่ืนชมยินดีและแซ่ซ้องสดุดี สรรเสริญ พระเกียรติคุณอย่างเนืองแน่นตลอดมา ดังเห็นได้จาก
องคก์ รระหวา่ งประเทศทวั่ โลกไดท้ ลู เกลา้ ฯ ถวายปรญิ ญาและรางวลั เกยี รตยิ ศ เพอ่ื สดดุ พี ระเกยี รตคิ ณุ ตา่ ง ๆ
มากมายหลายสาขา และน่ีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระเมตตา และน้�ำพระราชหฤทัยอันบริสุทธิ์ ที่องค์
สมเด็จแมไ่ ด้พระราชทานแก่พวกเรา ลูก ๆ ทกุ คน อย่างหาทส่ี ดุ มไิ ด้

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 49

50 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

เหรยี ญเซเรส

เพอ่ื เทดิ พระเกยี รตคิ ณุ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ฯิ์ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง ทที่ รงอทุ ศิ พระองค์
มาอยา่ งยาวนานและต่อเน่ือง ในการชว่ ยพฒั นาเหลา่ พสกนิกรในชนบทของไทยทุกหนแหง่ ให้มคี วามเปน็
อยู่ที่ดีข้ึน ท้ังงานด้านส่งเสริมอาชีพและสิทธิสตรี โดยไม่มีการเลือกท่ีรักมักที่ชัง หรือไม่มีการแบ่งชนช้ัน
วรรณะแต่อยา่ งใด จนมีชอื่ เสยี งเลือ่ งลอื ไปในระดบั นานาชาติ

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าฯ
ถวาย “เหรยี ญเซเรส” อนั เปน็ เหรยี ญเกยี รตยิ ศสงู สดุ สำ� หรบั บคุ คลทอ่ี ทุ ศิ ตนเพอื่ มนษุ ยชาตมิ าอยา่ งยาวนาน
ดา้ นหนา้ เปน็ พระบรมฉายาลกั ษณ์ ดา้ นหลงั มอี กั ษรจารกึ มคี วามหมายวา่ การใหโ้ ดยไมเ่ ลอื กทร่ี กั มกั ทชี่ งั

เหรยี ญเซเรส ได้จดั สร้างข้ึนในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ เพ่ือเปน็ เกียรตแิ ก่สตรผี อู้ ุทิศตนบ�ำเพญ็ ประโยชน์
ให้กบั งานด้านเกษตร อาหาร สงั คม สิทธิสตรี และการศกึ ษา ซึ่งสอดคลอ้ งกบั งานขององคก์ ารอาหารและ
เกษตรแห่งสหประชาชาติ ที่จะขจัดความยากจน อดอยาก และหิวโหยให้หมดไปจากโลก และได้น�ำขึ้น
ทลู เกลา้ ฯ ถวายใหส้ มเดจ็ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง ณ พระทน่ี งั่ จกั รมี หาประสาท ในวนั ที่ ๑๑ พฤษภาคม
๒๕๒๒ โดย นายเอควาร์ด ซอม่า เลขาธกิ ารองคก์ ารอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ

สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทรงงานบ�ำเพ็ญประโยชน์เพ่ือมนุษยชาติ มีผลงานเป็นที่
ประจกั ษ์แกช่ าวโลก อาทิ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ มีสงครามฆา่ ล้างเผา่ พันธ์ุในประเทศกัมพูชา พระองคท์ า่ นได้
เสนอแนะให้รัฐบาลเปิดด่านท่ีจังหวัดตราด และจัดต้ังค่ายผู้อพยพ ให้ชาวกัมพูชาได้หลบมาล้ีภัยเพ่ือ
มนษุ ยธรรม ซึง่ เป็นเรือ่ งทีไ่ ดท้ ราบกันต่อมาในภายหลงั

ค�ำประกาศเกียรติคุณยังได้กล่าวถึงงานของพระองค์ท่าน ในการจัดตั้งหน่วยแพทย์อาสา
สภากาชาดไทย เพ่อื ชว่ ยดูแลรักษาโรคภยั ตา่ ง ๆ ให้ประชาชนในทอ้ งถน่ิ ชนบท และสรา้ งงานศลิ ปาชีพอัน
เป็นการช่วยสร้างรายได้และยกระดบั ความเปน็ อยขู่ องชาวบ้านให้ดขี ึน้

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 51

52 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

พรรณไมอ้ นั เกี่ยวเนอ่ื ง
กับ

สมเดจ็ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีความสนพระราช
หฤทัยในความหลากหลายของธรรมชาติ ทรงปฏิบตั ิพระราชกรณยี กิจดว้ ยพระวิริยอตุ สาหะอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
ยาวนาน ในการทจ่ี ะอนรุ ักษ์ ฟ้ืนฟู พฒั นา และค้มุ ครองความหลากหลายของทรพั ยากรธรรมชาติ ป่าไม้
พันธุ์พืช สัตว์ป่า และส่ิงแวดล้อม เพ่ือความเจริญและผาสุกของปวงเหล่าพสกนิกร เม่ือมีการพัฒนา
ปรบั ปรงุ พันธุพ์ ชื ได้มีลกั ษณะเด่น สวยงาม เป็นทป่ี ระจักษ์ หรอื มกี ารคน้ พบพรรณไม้ชนิดใหม่ หนว่ ยงาน
และสถาบันตา่ ง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง จงึ ขอพระราชทานพระราชานญุ าต อญั เชิญพระนามาภิไธย มาต้งั เปน็ ชอ่ื
ของพรรณไม้ เพ่ือเทิดพระเกยี รตแิ ละเผยแพรพ่ ระมหากรุณาธคิ ณุ ใหเ้ ปน็ ท่ีประจกั ษ์ อยา่ งกวา้ งขวาง

พรรณไมใ้ นพระนามาภไิ ธย

ด้วยพระสิริโฉมอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง กอปรกับความสนพระราชหฤทัยในพืชพรรณต่าง ๆ และการที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราช
กรณียกิจในการท่ีจะอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนา และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทาง
ชีวภาพ เม่ือมีการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชท่ีมีลักษณะเด่น สวยงาม เป็นท่ีประจักษ์ หรือมีการค้นพบ
พรรณไมช้ นดิ ใหม่ หนว่ ยงานและสถาบนั ตา่ ง ๆ ทงั้ ในและนอกประเทศ จงึ ขอพระราชทานพระราชานญุ าต
อัญเชิญพระนามาภิไธย มาตั้งเป็นชื่อของพรรณไม้ เพื่อเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณ
ใหก้ วา้ งไกลแผไ่ พศาล จำ� นวน ๗ ชนิด

พระมารดาแหง่ การคุ้มครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 53

54 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

แคทลยี าควนี สริ ิกิต์ิ

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Cattleya ‘Queen Sirikit’
วงศ์ Orchidaceae

แคทลียาควีนสิริกิติ์ เป็นกล้วยไม้ลูกผสม
ระหว่าง Cattleya ‘Bow Bells’ และ Cattleya
obrieniana ‘Alba’ ซ่ึงบริษัท Black & Flory
เป็นผู้ผสมข้ึน และจดทะเบียนช่ือพันธุ์ว่า
Exquisite เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๐๑ มีความสวยงาม
มาก และได้รางวัลยอดเยี่ยมจาก The Royal
Horticultural Society สหราชอาณาจกั ร จงึ ได้มี
การขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระ
น า ม า ภิ ไ ธ ย ข อ ง ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ง เ จ ้ า สิ ริ กิ ติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เป็นช่ือกล้วยไม้พันธุ์ดังกล่าวว่า “แคทลียาควีน
สริ ิกิต์”ิ

เป็นกล้วยไม้ สูง ๒๐–๔๐ ซม. ลําลูกกล้วย
รูปทรงกระบอก ใบรูปขอบขนาน ดอกออกเด่ียว
หรือเป็นช่อ ๑–๔ ดอก สีขาวนวล กลีบปากแผ่
กว้าง ขอบกลีบย่นเป็นคล่ืน ตรงกลางกลีบมีแต้มสี
เหลืองด้านใน เม่ือบานเต็มท่ีขนาดผ่านศูนย์กลาง
๑๒–๑๔ ซม. มีกล่ินหอมหวานอ่อน ๆ ออกดอก
ตลอดปี

พระมารดาแห่งการคุม้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 55

56 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

กุหลาบควีนสริ ิกิติ์

ช่อื วิทยาศาสตร์ Rosa ‘Queen Sirikit’
วงศ์ Rosaceae

กุหลาบควีนสิริกิติ์ เป็นกุหลาบลูกผสม
ระหว่างกุหลาบพันธุ์ Königin der Rosen และ
พันธุ์ Golden Giant ซึ่งลูกผสมใหม่ที่ได้ มีช่ือ
เรียกสายพันธุ์ว่า Peer Gynt มีความสวยงาม
ตระการตา ได้รับการนําออกเผยแพร่ในปี พ.ศ.
๒๕๑๑ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ กุหลาบพันธุ์น้ี
ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดกุหลาบท่ีกรุง
Belfast ไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร ใน
เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ นาย André
Hendrickx ชาวเบลเยี่ยม ผู้อํานวยการเรือน
กหุ ลาบ Grandes Roseraies du Val de la Loire
ประเทศฝรงั่ เศส ไดข้ อพระราชทานพระราชานญุ าต
อัญเชิญพระนามาภิไธย ควีนสิริกิต์ิ เป็นชื่อของ
กหุ ลาบพนั ธุน์ ี้

ลกั ษณะเดน่ เปน็ กหุ ลาบทใ่ี หด้ อกสเี หลอื งสด
ขอบกลีบเป็นสีส้มแกมชมพูชัดเจน และให้กลิ่นที่มี
ความหอมเย็นชื่นใจในช่วงเวลาเช้า แต่ไม่ทนต่อ
อากาศร้อนจดั

พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 57

58 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

ดอนญ่าควนี สิริกติ ์ิ

ชื่อวิทยาศาสตร์ Mussaenda ‘Queen Sirikit’
วงศ์ Rubiaceae

ดอนญ่าควีนสิริกิต์ิ เป็นดอนญ่าลูกผสม
ระหว่าง Mussaenda ‘Dona Luz’ และ
Mussaenda philippica A. Rich. var.
aurorae Sulit ซึ่งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ได้ผสม
ข้ึนและขอพระราชทานพระราชานุญาต อัญเชิญ
พระนามาภิไธย ควีนสิริกิต์ิ เป็นชื่อดอนญ่าพันธุ์
ใหม่นี้ เมื่อคราท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชด�ำเนิน
เยือนประเทศฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖

ไม้พุ่ม สูง ๑–๓ เมตร ใบเด่ียว เรียงตรง
ข้าม รูปรี ปลายใบแหลม แผ่นใบอ่อนมีขนนุ่ม
ดอกออกเป็นช่อท่ีปลายยอด กลีบเล้ียง ๕ กลีบ
มีขนาดใหญ่ สีชมพูอ่อนขลิบขอบด้วยสีแดง กลีบ
ดอกสีเหลือง ส่วนโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด
ปลายแยกเป็น ๕ แฉก รูปสามเหล่ียม ปลูกเล้ียง
ง่าย ราคาไม่แพง จึงนิยมน�ำมาปลูกเป็นไม้ประดับ
กนั ท่วั ไป

พระมารดาแห่งการคุม้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 59

60 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

โมกราชินี

ชอื่ วิทยาศาสตร์ Wrightia sirikitiae
D. J. Middleton & Santisuk
วงศ์ Apocynaceae

เปน็ ไมถ้ น่ิ เดยี ว พบเฉพาะในประเทศไทย พบ
ครั้งแรกบริเวณเขาหินปูน อ�ำเภอพระพุทธบาท
จังหวัดสระบุรี มีสถานภาพเป็นไม้หายากและใกล้
สูญพันธ์ุ

ศ.ดร.ธวัชชัย สันติสุข ได้ค้นพบและเก็บ
ตัวอย่างโมกราชินี จากบริเวณเขาหินปูน อ�ำเภอ
พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ต่อมาได้มีการ
ตรวจสอบเอกลักษณ์พืชชนิดนี้ร่วมกับ Dr. David
J. Middleton ผู้เชี่ยวชาญพันธุ์ไม้สกุลโมก ได้รับ
การยืนยันว่าเป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก จึงได้
ขอพระราชทานพระนามาภิไธย เป็นช่ือพันธุ์ไม้
ชนิดใหม่น้ี ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ และได้มีพระมหา
กรุณาธิคุณ พระราชทานนามอันเป็นมงคลยิ่ง
“โมกราชินี” ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๔
เพื่อเป็นขวัญก�ำลังใจแก่นักพฤกษศาสตร์ไทย ที่
ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และเพ่ือช่วย
อนุรกั ษ์พืชชนิดนี้ไว้มิให้สญู หาย

ไม้ต้น สูงได้ถึง ๖ เมตร ทุกส่วนมีน้�ำยาง
ขาว ดอกสีขาว ออกเป็นช่อส้ัน ๆ ตามปลายยอด
ดอกยอ่ ยมี ๕ กลบี ขนาด ๓–๕ ซม. มีกระบงั หน้า
กลบี ดอกสขี าว ปลายแยกเปน็ แฉกคลา้ ยรศั มี ผลเปน็
ฝักคู่ สีน้�ำตาล ผิวมีแผลจุดระบายอากาศ เม่ือแก่
จะแตกตามยาว เมล็ดแบนรี ตรงขั้วมีขนยาว ท�ำ
ให้ปลวิ ไปไดไ้ กล

พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ 61

62 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

มหาพรหมราชินี

ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Mitrephora sirikitiae
Weeras., Chalermglin & R. M. K. Saunders
วงศ์ Annonaceae

พันธุ์ไม้หายาก มีถิ่นก�ำเนิดในประเทศไทย
พบที่เขตอุทยานแห่งชาติน�้ำตกแม่สุรินทร์ จังหวัด
แมฮ่ อ่ งสอน บริเวณชายปา่ ดบิ เขา ที่ระดบั ความสงู
ประมาณ ๑,๑๐๐ เมตร ดร.ปิยะ เฉลิมกล่ิน และ
ผเู้ ชยี่ วชาญพชื สกลุ นค้ี อื Dr. Aruna Weerasooriya
และ Dr. R.M.K. Saunders จากมหาวิทยาลัย
ฮ่องกง ได้ร่วมกันตรวจสอบเอกลักษณ์เป็นพืชชนิด
ใหม่ และได้ขอพระราชทานช่ือ มหาพรหมราชินี
เป็นชื่อของพันธุ์ไม้ชนิดน้ี และได้พระราชทาน
พระราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธย เป็นชื่อ
พันธุ์ไม้ มหาพรหมราชินี มีชื่อวิทยาศาสตร์
Mitrephora sirikitiae เพื่อช่วยอนุรักษ์พืชชนิดน้ี
ไว้ให้คงอยู่ย่ังยืนเป็นสมบัติของลูกหลานไทยต่อไป
เม่ือวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗

ไมต้ น้ สงู ๔–๖ เมตร ใบเดย่ี ว รูปรีแกมขอบ
ขนาน ผิวใบเกล้ียง ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม
ดอกสขี าวแกมมว่ ง ออกเดย่ี วหรอื เปน็ ชอ่ ๑–๓ ดอก
ใกลป้ ลายยอด ดอกบานเต็มท่กี ว้าง ๘–๑๐ ซม. มี
๖ กลีบ เรียงเป็น ๒ วง วงนอกกลีบดอกแผ่กว้าง
ปลายแหลม วงในส่วนโคนสเี ขียวออ่ น ตอนปลายสี
ม่วงเข้ม และม้วนงอประกบกันเป็นกระเช้าตรง
กลางดอก ผลเป็นผลกลุ่ม มีผลย่อย ๑๐–๑๕ ผล
รูปทรงกระบอก ขนาดผา่ นศูนยก์ ลาง ๒–๒.๕ ซม.

พระมารดาแห่งการคมุ้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 63

64 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

บัวศรีกติ ตยิ า

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Nymphaea ‘Srikittiya’
วงศ์ Nymphaeaceae

บวั ศรกี ติ ตยิ า เปน็ บวั สายลกู ผสมทเี่ กดิ ขนึ้ เอง
ตามธรรมชาติ ดร.เสริมลาภ วสุวัต ผู้เช่ียวชาญ
บัว สังเกตพบในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ท่ีคลองน�้ำใน
บ้านปางอุบล ลักษณะดอกมีขนาดใหญ่ สีแดง
แกมชมพูเข้ม กลีบดอกมีจ�ำนวน ๓๒–๓๔ กลีบ
เรียงซ้อนกันหลายชั้น ดอกบานกลางคืนและหุบ
ตอนสาย แตกต่างจากบัวชนิดอื่น ด้วยความงาม
โดดเด่น จึงได้มีการปรับปรุงบัวพันธุ์น้ีจนมีสีและ
รปู ลักษณส์ มำ่� เสมอคงท่ี ไม่ผนั แปร

นายเนาวรตั น์ พงษไ์ พบลู ย์ ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ ได้
เป็นผู้ต้ังช่ือบัว ศรีกิตติยา ตามพระมงคลนาม
สิริกิติ์ จากนั้น ดร.เสริมลาภ และครอบครัว ได้
น�ำต้นพันธุ์บัวศรีกิตติยาน้ี ข้ึนทูลเกล้าฯ ถวาย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเดือนพฤศจิกายน
พ . ศ . ๒ ๕ ๕ ๒ เ นื่ อ ง ใ น โ อ ก า ส ม ห า ม ง ค ล
เฉลิมพระชนมพรรษา ๗๗ พรรษา ที่สวนสมเด็จ
พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ กรงุ เทพฯ และตน้ แมพ่ นั ธท์ุ ถี่ วาย
ไดร้ บั การนำ� ไปปลกู ไวท้ พี่ ระตำ� หนกั จติ รลดารโหฐาน
กรงุ เทพฯ

พระมารดาแหง่ การค้มุ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 65

66 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

บวั ควนี สิรกิ ติ ิ์

ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Nymphaea ‘Queen Sirikit’
วงศ์ Nymphaeaceae

บัวควีนสิริกิติ์ เป็นบัวลูกผสมระหว่างบัว
นางกวักสีฟ้าเป็นต้นพ่อ กับบัวพันธุ์เพอร่ีส์ไฟร์โอ
ปอล (Perry’s Fire Opal) ดอกสีชมพูเป็นต้นแม่
ได้ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ท่ีมีลักษณะงดงามโดด
เด่นกว่าบัวสายพันธุ์อื่น มีลักษณะเด่น คือมีดอก
สีม่วงอมฟ้าสดใส ส่วนปลายกลีบเป็นสีม่วงเข้ม
ชัดเจน เกสรในวงดอกสีเหลือง ตรงปลายยอด
เป็นสีม่วงอมฟ้า ดอกบานเต็มท่ีในช่วงเช้าและจะ
ค่อยห่อตัวลงในช่วงบ่าย โดยจะมีอายุการบาน
ประมาณ ๓ วนั จึงโรย

ในการน้ี สมาคมพฤกษศาสตร์ในพระบรม
ราชินูปถัมภ์ ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต
อัญเชิญพระนามาภิไธย เป็นชื่อของบัวพันธุ์ใหม่น้ี
ในปลายปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ และ ได้มีพระมหา
กรุณาธิคุณ พระราชทานชื่อ “บัวควีนสิริกิติ์”
ให้กับบัวสายพันธุ์ใหม่น้ี ในวันท่ี ๑๑ มิถุนายน
๒๕๕๕ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นเกียรติ
ประวัติ ตลอดจนเป็นขวัญก�ำลังใจแก่นักวิชาการ
ของไทย ผู้มีความวิริยอุตสาหะ ค้นคว้าวิจัยเพ่ือ
การอนุรักษ์และปรับปรุงพันธุ์บัว จนมีชื่อเสียง
เป็นท่ียอมรับในระดับนานาชาติ

พระมารดาแหง่ การคมุ้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 67

68 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

พรรณไมพ้ ระราชทานนาม

ดว้ ยสายพระเนตรอนั ยาวไกล และพระอัจฉริยภาพในองคส์ มเด็จพระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง ที่
ทรงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสัมพันธ์ของธรรมชาติ และการด�ำรงอยู่ของสรรพส่ิงท่ีเกื้อกูลกัน
ทรงตระหนักว่าทุ่งดอกไม้ป่าเป็นระบบนิเวศเฉพาะที่เปราะบางและก�ำลังจะสูญส้ิน สมควรจะต้องมีการ
อนุรักษ์ให้ฟื้นคืนเป็นพิเศษอย่างเร่งด่วน จึงทรงมาทอดพระเนตรและพระราชทานนามพรรณไม้น้อยที่มี
ความสวยงามในทุ่งดอกไม้เหล่านี้ เพ่ือเป็นการประกายน�ำความสนใจให้เกิดขึ้นในกลุ่มนักวิชาการและ
ประชาชนทวั่ ไป สรา้ งใหเ้ กดิ กระแสตน่ื ตวั ในการอนรุ กั ษ์ ทำ� ใหท้ งุ่ พรรณไมป้ า่ ไดร้ บั การดแู ลทงั้ ระบบ มกี าร
ขยายพนั ธ์ุและจดั การพื้นทีอ่ ย่างเหมาะสม จนเป็นทีแ่ น่ใจได้ว่าทงุ่ ดอกไม้ปา่ เหล่านยี้ ังคงอยูอ่ ยา่ งย่งั ยนื

นับเป็นพระมหากรณุ าธิคุณอนั หาท่สี ุดมไิ ด้ ทไี่ ดท้ รงอนรุ กั ษท์ ุ่งดอกไม้และพรรณไม้น้อยเหล่านีไ้ ว้
เพื่อใหอ้ นุชนรนุ่ หลงั ของไทย ไดช้ น่ื ชมในคุณค่าและความงามของดอกไม้ปา่ เหลา่ นต้ี ลอดไป

พระมารดาแห่งการคมุ้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 69

สรัสจนั ทร

ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Burmannia coelestis D. Don
วงศ์ Burmanniaceae

ไมล้ ้มลุก ขนาดเลก็ ล�ำต้นตง้ั ตรง สงู ๑๐–๒๐ ซม. เป็นแกนบอบบางเล็กเรียว ใบเด่ียว ออกเปน็
กระจุกท่โี คนตน้ รปู ใบหอกแกมรูปแถบ ยาว ๕–๑๐ ซม. ดอกออกเปน็ ช่อกระจุกทป่ี ลายยอด มี ๑–๓ ดอก
สีม่วงอ่อนอมฟ้า รูปรีแกมขอบขนาน ด้านข้างมี ๓ ครีบ ท่ีปลายยอดมีสีเหลืองอมเขียว ผลเป็นผลแห้ง
รปู ไขก่ ลบั ไม่แตกเมือ่ แก่

ประเทศไทยพบตามบริเวณลานหินทราย ท่ีมีน�้ำขัง พ้ืนท่ีชุ่มน้�ำช้ืน และตามท่ีโล่งใกล้ป่าเต็งรัง
ออกดอกชว่ งเดือนกนั ยายน–ธันวาคม

70 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ ีนาถ

ทพิ เกสร

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Utricularia minutissima Vahl
วงศ์ Lentibulariaceae

ไม้ลม้ ลุก กนิ แมลง อายปุ เี ดียว ขนึ้ เปน็ กอเลก็ สงู ๘–๒๐ ซม. ลำ� ต้นขนาดเลก็ มากอยู่ใต้ดิน ใบมี
ทั้งเป็นใบเดี่ยว รูปแถบ และใบที่เปล่ียนเป็นถุงส�ำหรับดักจับแมลงน้�ำขนาดเล็กเป็นอาหาร ดอกสีชมพู
แกมมว่ งออ่ น แทงชอ่ ออกจากต้นใตด้ นิ ช่อดอกสูง ๑๐–๓๐ ซม. มี ๓–๑๐ ดอก ผลเปน็ ผลแหง้ ชนิดแตก
เมอ่ื แก่ เมลด็ ขนาดเลก็ จ�ำนวนมาก

ประเทศไทยพบกระจายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตามพ้ืนที่ลานหินทรายโล่งและ
ชุม่ ชื้นมนี �้ำขงั ออกดอกชว่ งเดือนกนั ยายน–ธนั วาคม

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 71

มณเี ทวา

ช่ือวิทยาศาสตร์ Eriocaulon smitinandii Modenke
วงศ์ Eriocaulaceae

ไมล้ ้มลกุ ขนึ้ เปน็ กอลักษณะคล้ายหญา้ สูง ๒–๖ ซม. ใบรปู แถบ เรียงเปน็ วงรอบโคนต้น ดอกสีขาว
ออกเป็นชอ่ ตง้ั จากโคนกอ ก้านชอ่ ดอกสงู ๕–๑๕ ซม. ลักษณะเปน็ กอ้ นกลมท่ีปลายยอด ผลเปน็ ผลแหง้
รูปรี เมอ่ื แก่ไมแ่ ตก

ประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณที่ชุ่มช้ืน
ตามลานหนิ ชมุ่ นำ�้ และทีโ่ ลง่ น�้ำขงั ตามชายป่าโปรง่ ออกดอกชว่ งเดอื นกนั ยายน–ธันวาคม

72 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

สร้อยสุวรรณา

ชือ่ วิทยาศาสตร์ Utricularia bifida L.
วงศ์ Lentibulariaceae

ไม้ล้มลุก กินแมลง อายุปีเดียว ขึ้นเป็นกอเล็ก สูง ๘–๒๐ ซม. ไหลและส่วนรากลักษณะคล้าย
เส้นด้าย ใบเดย่ี ว รูปแถบ ยาว ๑–๒ ซม. เรยี งเวยี นรอบโคนต้น มอี วัยวะจบั แมลงตามขอ้ ของไหล รูปไตถึง
รูปกลมขนาดเล็ก มกี ้านชูสน้ั ๆ ดอกสีเหลอื ง ออกเป็นชอ่ ตงั้ จากโคนกอ สูงได้ถงึ ๒๐ ซม. มี ๓–๗ ดอก
กลีบเล้ียงแฉกขนาดไมเ่ ทา่ กัน ผลแบน รูปรแี กมไข่ เมลด็ ขนาดเล็ก จำ� นวนมาก

ประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตามพ้ืนที่ลานหินทรายโล่งและชุ่มช้ืน
มนี ้ำ� ขงั ออกดอกชว่ งเดอื นกนั ยายน–ธนั วาคม

พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 73

74 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

ดสุ ติ า

ช่อื วทิ ยาศาสตร์ Utricularia delphinioides Thorel ex Pellegr.
วงศ์ Lentibulariaceae

ไม้ลม้ ลุก กินแมลง อายปุ ีเดียว ขึ้นเปน็ กอเล็ก สูง ๘–๒๐ ซม. ล�ำตน้ เล็กมากอยู่ใต้ดิน ใบมีท้งั เป็นใบ
เดี่ยว รปู แถบ และใบทีเ่ ปลีย่ นเปน็ ถงุ ส�ำหรับดักจับแมลงน�้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร ดอกสีม่วงเข้มหรอื นำ้� เงิน
ม่วง ออกเด่ียว หรือเปน็ ชอ่ ๑–๓ ดอก แทงชอ่ ออกจากโคนกอ กา้ นช่อดอกสงู ๑๐–๒๐ ซม. กลบี ดอกเชอื่ ม
กัน ปลายแยกเปน็ ๒ ปาก กลบี ล่างแผ่ใหญก่ ว่ากลบี อ่ืน ตรงกลางมแี ถบสีอ่อนถึงสเี หลอื ง ๒ แถบ ผลเป็น
ผลแห้งชนดิ แตกเม่อื แก่ ทรงกลม ขนาดเล็ก

ประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตามพ้ืนท่ีลานหินทรายโล่งและชุ่มชื้นมี
นำ้� ขัง ออกดอกชว่ งเดอื นกันยายน–ธันวาคม

พระมารดาแหง่ การคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ 75

76 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

นมิ มานรดี

ชอื่ วิทยาศาสตร์ Pinalia amica (Rchb. f.) Kuntze
วงศ์ Orchidaceae

กลว้ ยไม้องิ อาศัย ลำ� ลกู กล้วยรปู ทรงกระบอก ใบรูปขอบขนานแกมรี อวบนำ�้ ดอกออกเป็นชอ่ ยาว
๑–๑๕ ซม. ก้านดอกมีขนนุ่มสีขาว กลีบเลี้ยงและกลบี ดอกสีขาว มีขีดตามยาวสีแดงเขม้ กลีบปากท่ีปลาย
มพี ้นื สเี หลอื งเขม้ และมแี ตม้ สีแดงเข้มทโี่ คนกลบี

นิมมานรดี เปน็ ชื่อพระราชทานโดยสมเด็จพระนางเจา้ สิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนี
พนั ปีหลวง เมอื่ ครงั้ เสด็จฯ ทอดพระเนตรพรรณไม้ ณ บรเิ วณโคกนกกะบา เขตรักษาพนั ธสุ์ ตั ว์ป่าภหู ลวง
จังหวัดเลย เม่ือเดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๔ ด้วยมีพระราชประสงค์ท่ีจะช่วยอนุรักษ์กล้วยไม้ป่า
หายากชนดิ น้ีไว้ให้คงอยเู่ ปน็ สมบัติของปวงชนชาวไทยสืบไป

พระมารดาแห่งการคมุ้ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 77

78 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

ทงุ่ ดอกไมผ้ าแตม้

ณ ลานโล่ง กลางป่า ทงุ่ ผาแตม้ ผกาแซม แยม้ สะพร่งั ทวั่ ท้ังป่า
หลากสสี นั เริงระรื่น ชน่ื อรุ า ต้องมนตรา ไม่อยาก จะจากไกล
สเี ยน็ ตา ฟ้าคราม งามสดใส
สรัสจันทร ออ่ นช้อย ลอยลอ่ งฟา้ ทุกขห์ ายคลาย เมื่อไดช้ ม สมจนิ ตนา
ลมโชยมา หนาวเหน็บ เจบ็ แปลบใจ สวยเดน่ ล้�ำ ชมพูนุจ ดุจหยาดฟา้
สวยเกนิ กว่า ธรรมชาติ ได้วาดไว้
ทพิ เกสร โอนอ่อนไหว ยามใกล้ค่�ำ เทพประดิษฐ์ นวลผ่อง ยองใยใส
ให้ลุ่มหลง วาบหวาม งามตรงึ ตา คลา้ ยอยู่ใน เมฆา นา่ ภิรมย์
จรัสรุ่ง ตระการตา พาสขุ สม
มณีเทวา พาชนื่ ระร่ืนจิต สขุ สมครา สนธยา ใกลส้ ายณั ห์
ดุจเมฆหมอก พราวระยับ ประทับใจ ได้เพง่ พศิ มว่ งสดใส พาใจฉงน
สวยเสยี จน ท่วมท้น ล้นหัวใจ
สร้อยสุวรรณา เหลืองอร่าม งามท่วั ทุ่ง หลากสี ละลานตา พาหลงใหล
เปน็ ริ้วทอง เรืองรอง ผอ่ งอารมณ์ เหมือนอยู่ใน แว่นแควน้ แดนวิมาน
ช่วยปกปักษ์ รักษไ์ ว้ ใหล้ กู หลาน
ดุสิตา ดจุ เทวา มานิรมติ ร ขอวิมาน นีจ้ งอยู่ คูป่ ฐพี
ใหส้ ุขกาย สขุ ใจ เมอ่ื ได้ยล

เทพสรา้ งพรม ผนื ใหญ่ ใตแ้ ผน่ ฟา้
แมห้ ลบั ตา ยังหวานซ้ึง ตรงึ ฤทัย

ทุ่งดอกไม้ แห่งนี้ ตอ้ งพิทักษ์
เมื่อเที่ยวชม ต้องไม่ย�ำ่ ชำ้� แหลกราญ

จากการตามเสด็จฯ ทงุ่ ดอกไมผ้ าแต้ม ตลุ าคม ๒๕๔๕
นายวีระชยั ณ นคร ประพันธ์

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 79

80 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

พรรณไม้ท่ีทรงโปรด

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง ได้เสด็จฯ ทรงงานเพ่ือ
บ�ำบัดทุกข์ บ�ำรุงสุข อาณาประชาราษฎร์ ท่ัวทุกเขตแคว้นแดนไทย จึงทรงพบเห็นความสวยงามและ
ความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ สิ่งแวดล้อม และนานาพฤกษาพรรณ ท่ีสมควรจะ
อนรุ กั ษ์ใหด้ ำ� รงไว้

มีพรรณไม้หลายชนิดท่ีทรงโปรดเป็นพิเศษ ท้ังที่สวยงาม ดอกหอม และท่ีเคยมีผู้น�ำมาถวาย
โดยเฉพาะมีบางชนิดที่ได้ทรงพระราชนิพนธ์เป็นค�ำกลอนที่มีความไพเราะสละสลวยไว้ด้วย พรรณไม้ท่ี
ทรงโปรด อาทิ กุหลาบไกลกังวล สายหยดุ นางแยม้ บัวสุทธาสโิ นบล บัวหลวงพระราชนิ ี บังสตั ตบงกช
พลองใหญ่ จนั ทน์กะพอ้ เออื้ งแซะ รองเทา้ นารอี นิ ทนนท์ ดารารัตน์ ใบสที อง ฯลฯ

พระมารดาแห่งการคมุ้ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 81

82 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

กหุ ลาบไกลกังวล

ไกลกังวล หอมฟุ้ง จรงุ จติ ต์ หวานสนิท ซง้ึ ทรวง เฝา้ หว่ งหา
ชมพอู ่อน งามนุ่ม ตดิ นัยนา ดจุ ลอยลอ่ ง จากฟ้า มาเยือนดนิ
สดุ แสนเศร้า อีกวนั หน่ึง มลายหาย
ยามอาทิตย์ อสั ดง ลบั เหลย่ี มเขา คอ่ ยๆสลาย กลายเปน็ หมน่ สลัวลง
ทั่วแผ่นฟ้า ฉาบสี ฉาดฉานพราย หอมระร่ืน ช่ืนจิต ตดิ นาสา
งามตดิ ตา ตรงึ อยู่ มิรจู้ าง
รวยระริน มวลกล่นิ มาลีช่ืน
หวลระลกึ ถึงเจา้ ยอดจนั ทรา

พระราชนพิ นธ์
สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง

๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๓

กุหลาบไกลกังวล

ช่อื วิทยาศาสตร์ Rosa x damascena Herrm.
วงศ์ Rosaceae

เป็นกุหลาบมอญพันธ์ุหนง่ึ ทรงพุ่มขนาดกลาง มกั ไมเ่ ลอ้ื ยพัน ใบเปน็ ใบประกอบปลายคี่ รปู รี ขอบ
ใบจักเปน็ ซีเ่ ล่ือย ปลายใบแหลม ดอกสชี มพอู ่อน ออกเป็นช่อหลายดอก ขนาดค่อนขา้ งใหญ่ กวา้ ง ๖–๙
ซม.กลบี ดอกหลวมโปรง่ ไมแ่ นน่ ใหก้ ลนิ่ ทมี่ คี วามหอมแรงชน่ื ใจ ผลสนี ำ�้ ตาลแดง ลกั ษณะทรงกลม ผวิ เรยี บ
มนั ออกดอกเกอื บตลอดปี ทนแดดไดด้ ี ชอบทโ่ี ปรง่ น�้ำไมข่ ัง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเชา้ จะใหก้ ลนิ่ หอมแรง
กว่ากหุ ลาบสายพนั ธอ์ุ ืน่ ๆ

ชื่อกุหลาบไกลกังวล เปน็ ช่ือที่ สมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี
หลวง พระราชทานใหก้ หุ ลาบทม่ี คี วามสวยงามและหอมมาก ปลกู ประดบั อยใู่ นพระราชวงั ไกลกงั วล อำ� เภอ
หัวหนิ จงั หวัดประจวบครี ีขันธ์ ซง่ึ เปน็ ดอกไมช้ นดิ หนึง่ ท่ที รงโปรดปรานมาก

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 83

84 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

สายหยุด

หอมสายหยดุ สุดหอม ดัง่ จอมขวญั หอมหวาน ปานสวรรค์ สรรสร้าง
หอมไกลลิบ ทพิ ยส์ คุ นธ์ ปนกล่นิ นาง โอ้…อา้ งว้าง ยามสาย จางหายไป
หอมกรนุ่ ระทวยกา้ น สะท้านไหว
คอยเวลา สายัณห์ พลันอรุณ แสนชนื่ ใจ ใยกลนิ่ วาย สายหยดุ เอย
กลีบบาง ดังโอษฐง์ าม ของทรามวยั

พระราชนิพนธ์
สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง

๓๑ ตลุ าคม ๒๕๔๔

สายหยดุ

ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Desmos chinensis Lour.
วงศ์ Annonaceae

ไมพ้ ุม่ รอเลื้อย ลกั ษณะทรงพุ่มโปรง่ ใบเดี่ยว รปู ขอบขนาน แผ่นใบเป็นคลื่น ขอบใบเรยี บ ปลาย
แหลมเรียว หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างซีด ใบยาว ๑๔–๒๔ ซม. ดอกสีเหลืองทอง หรืออมเขียว
ออ่ น ออกเด่ียว มีกา้ นยาว ๒–๓ ซม. กลีบดอก ๖ กลบี ขอบขนาน บิดงอ ยาว ๗–๘ ซม. เกสรเพศผูแ้ ละ
เพศเมียเรยี งติดอยู่บนฐานกลางดอก

เป็นไม้ดอกหอม นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับท่ัวไป ออกดอกเกือบตลอดปี มีความหอมแรง
ในช่วงเชา้ และเยน็

พระมารดาแห่งการคมุ้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 85

86 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

นางแย้ม

นางแยม้ แย้มโอษฐ์เอ้อื น พาที
แผว่ หวาน ซา่ นฤดี โหยไห้
งดงาม ดัง่ เทวี ลอยเลอ่ื น
มาลี แยม้ กลนิ่ ใกล ้ หอมดั่ง เนอ้ื นวล
ด่งั ไฟ
ยามไกล อุรารอ้ น ย่อมรู้
รกั เจ้า มากเพยี งใด ครวญคร�่ำ
คดิ ถึง ดว้ ยหวั ใจ สุดแสน เน่ินนาน
หา่ งกัน แมเ้ พียงครู่

พระราชนพิ นธ์
สมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นางแยม้

ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Clerodendrum chinense (Osbeck) Mabb.
วงศ์ Lamiaceae

ไม้พุ่มขนาดเลก็ ทรงพ่มุ โปรง่ ใบเดี่ยว ออกเรยี งตรงข้ามเปน็ คู่ ใบรูปแผก่ ว้าง ขอบใบจกั เปน็ ซ่ี ใบ
ยาว ๑๒–๑๕ ซม. โคนใบสอบหรือตดั ดอกสีขาวนวล ออกเป็นช่อแน่นทป่ี ลายก่งิ ดอกบานไมพ่ รอ้ มกัน
ขนาดผ่านศูนย์กลาง ๓ ซม. กลีบเรยี งซอ้ นกนั แนน่ กลบี ดา้ นนอกมสี ีม่วงออ่ นแกมแดง ดอกมีกล่นิ หอมเย็น

เปน็ ไมด้ อกหอม นยิ มปลกู เปน็ ไมด้ อกไมป้ ระดบั ทว่ั ไป และตามบรเิ วณหมบู่ า้ น ออกดอกงา่ ย มคี วาม
หอมแรงในช่วงเช้าและเยน็

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 87

88 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

กลางบึง

กลางบงึ ใหญ่ บวั บาน ยามใกล้คำ่� แสนสขุ ล้�ำ ใกลช้ ิด สนทิ สนม
แดดรำ� ไร ลบั เหล่ียมเขา สุขอารมณ ์ ร่ืนภิรมย์ กลางบึงใหญ่ ไดช้ มบัว
นกน้อยใหญ่ โผผิน บนิ ระรัว
บวั ม่วงกษตั ริย์ ชูช่อ บานไสว สดช่นื ทวั่ อ่างใหญ่ ใกล้บ้านเรา
เขาตนั หยง ดูสูงใหญ่ ยามฟา้ มวั

พระราชนพิ นธ์
สมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง

พระต�ำหนกั ทกั ษณิ ราชนิเวศน์
๕ ตุลาคม ๒๕๔๔

บัวสุทธาสิโนบล – ม่วงกษตั รยิ ์

ชือ่ วิทยาศาสตร์ Nymphaea capensis Thunb. var. zanzibariensis (Casp.) Conard
วงศ์ Nymphaeaceae

ไม้น�้ำ ล้มลุก ล�ำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ใบเด่ียว ก้านใบกลม แผ่นใบรูปไข่ ปลายใบมน ฐานใบหยัก
แหลมลึก ขอบใบหยักแหลมไม่เป็นระเบียบ ผิวใบด้านบนสีเขียว เป็นมัน มีจุดกระสีน้�ำตาลเล็ก ๆ ดอก
ออกเดย่ี ว อยเู่ หนอื นำ�้ บานตอนกลางวนั มกี ลนิ่ หอมหวาน กลบี ดอกจำ� นวนมาก สมี ว่ งชมพหู รอื มว่ งนำ�้ เงนิ
ผลเป็นผลเดย่ี ว แบบผลสด

ถ่ินก�ำเนิดจากเกาะแซนซิบาร์ ประเทศแทนซาเนีย น�ำมาปลูกท่ีประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็น
อาณานคิ มของประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ พระวิมาดาเธอ กรมพระสทุ ธาสินนี าฏ ไดน้ �ำบวั พันธุ์น้จี ากประเทศ
อินโดนเี ซยี มาปลกู ในประเทศไทยในชว่ งทตี่ ามเสด็จฯ พระพทุ ธเจา้ หลวง รัชกาลท่ี ๕ ไปท่ีหม่เู กาะชวา

พระมารดาแห่งการค้มุ ครองความหลากหลายทางชวี ภาพ 89

90 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

บวั หลวงพระราชินี

ช่ือวิทยาศาสตร์ Nelumbo nucifera Gaertn.
วงศ์ Nelumbonaceae

ไม้น�้ำ ล้มลุก มีเหง้าและไหลอยู่ใต้ดิน ใบเด่ียว ก้านใบแข็งแรง ชูใบเหนือน้�ำได้สูงถึง ๒ เมตร
แผน่ ใบแผก่ ว้างรปู เกือบกลม กว้าง ๕๐–๙๐ ซม. ขอบเรียบและเป็นคลน่ื ผิวใบด้านบนเรยี บ สีเขยี วนวล
ด้านล่างมีเส้นใบนนู ชดั เจน ก้านใบแขง็ มีตุ่มเลก็ ๆ อยูท่ ัว่ ไป ดอกสชี มพู ออกเดย่ี ว กลนิ่ หอม ชูเหนอื นำ�้
ได้สงู กลีบดอกจ�ำนวนมาก เรียงเวยี นซอ้ นกันหลายชั้น เมือ่ บานขนาดผา่ นศนู ย์กลาง ๑๕–๓๐ ซม. เกสร
เพศผจู้ �ำนวนมาก สีเหลือง ผลเป็นฝัก รูปกรวย มีเมลด็ รปู กลม จำ� นวนมาก

บัวหลวงพันธุ์น้ีมีความเด่นท่ีใบและดอกมีขนาดใหญ่มาก ก้านใบและก้านดอกแข็งแรง ท�ำให้ชูใบ
และดอกขึ้นได้สูงพน้ น�้ำกว่าบัวหลวงสายพันธอ์ุ ืน่ ออกดอกเกือบตลอดปี

ด้วยความสนพระทัยในพันธุ์บัวต่าง ๆ ได้ทรงร�ำลึกถึงบัวหลวงปทุม ที่เคยข้ึนอยู่บริเวณสวนสน
ปฏิพัทธ์ อ�ำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบัวที่มีลักษณะดีเด่น และได้สูญพันธุ์ไป จังหวัด
ทหารบกเพชรบุรีจึงได้เสาะหาตามพระราชปรารภ และพบว่ายังมีอยู่ท่ีสระวัดหนองจอก อ�ำเภอท่ายาง
จังหวัดเพชรบุรี เพ่ืออนุรักษ์พันธุ์บัวชนิดนี้ไว้ จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้เก็บพันธุ์บัวดังกล่าวไป
ขยายพันธุ์ในพ้ืนท่ีอ่างเก็บน�้ำ “ใกล้บ้าน” ใกล้กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จังหวัดนราธิวาส
นับเป็นพระราชด�ำริท่ีส�ำคัญ ที่เป็นพลังกระตุ้นให้มีการศึกษาวิจัยเร่ืองบัวหลวงของประเทศไทยให้
เกิดผลสัมฤทธ์ิต่อไป ชมรมผู้รักบัวแห่งประเทศไทยจึงได้เรียกช่ือบัวหลวงสายพันธุ์น้ีเป็นการภายในว่า
“บัวหลวงพระราชนิ ี”

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 91

92 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

บวั สตั ตบงกช

ช่อื วิทยาศาสตร์ Nelumbo nucifera Gaertn.
วงศ์ Nelumbonaceae

ไม้น้�ำ ล้มลุก มีเหง้าและไหลอยู่ใต้ดิน ใบเด่ียว แผ่นใบรูปร่างกลม ขอบเรียบและเป็นคลื่น ผิวใบ
เรียบ ก้านใบเป็นแกนกลมแข็งแรง มีหนามเป็นตุ่มเล็ก ๆ ดอกสีชมพู ออกเด่ียว กล่ินหอม กลีบดอก
จ�ำนวนมาก เรียงเวียนซ้อนกันหลายชั้น เกสรเพศผู้จ�ำนวนมาก ผลเป็นแบบกลุ่ม ประกอบด้วยผลย่อย
จำ� นวนมากเจรญิ อยู่ภายในรงั ไขร่ ปู กรวย ท่เี รียกว่า ฝกั บวั ภายในมีเมล็ด เนอ้ื ในรับประทานได้

พบตามแหล่งน�้ำทั่วไป สายพันธุ์นี้มีความเด่นเฉพาะที่ดอกมีขนาดใหญ่ สีชมพู สวยงาม เมื่อบาน
แผม่ ีกลีบซอ้ นจ�ำนวนมาก และออกดอกเกือบตลอดปี

พระมารดาแห่งการคมุ้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 93

94 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

พลองใหญ่

ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Memecylon ovatum Sm.
วงศ์ Melastomataceae

ไม้ต้น สูงได้ถงึ ๕ เมตร ใบเด่ียว เรียงตรงขา้ ม แผน่ ใบหนา รปู ไข่ ปลายแหลม หลงั ใบสีเขยี วเข้ม
เป็นมัน ใต้ใบสีอ่อน ดอกเม่ือตูมสีชมพูออกแดง เมื่อบานเป็นสีม่วงน้�ำเงิน ออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง
ดอกย่อยมี ๔ กลบี ดอกบานพรอ้ มกนั เกอื บทั้งตน้ ผลรูปทรงกลม เมอ่ื ดบิ สีเขียว เมือ่ สกุ เปล่ยี นเปน็ สมี ว่ ง
เข้มถงึ ด�ำ มีเนอ้ื บาง ๆ ห้มุ เมล็ด

การกระจายและนเิ วศวทิ ยา พบตามปา่ เบญจพรรณแลง้ ทว่ั ไป ออกดอกชว่ งเดอื นสงิ หาคม–กนั ยายน

พระมารดาแห่งการคุม้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 95

96 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ

จันทน์กะพอ้

ชือ่ วิทยาศาสตร์ Vatica diospyroides Symington
วงศ์ Dipterocarpaceae

ไม้ต้น สูงได้ถึง ๑๕ เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีถึงรูปขอบขนาน โคนใบสอบ ปลายใบแหลม
ดอกออกเปน็ ชอ่ ตามก่ิง กลีบเล้ียง ๕ กลบี มีขนสนี ำ�้ ตาล กลีบดอก ๕ กลีบ สขี าวนวลหรอื อมชมพู เรียง
เวียนซ้อนเกยกนั เล็กนอ้ ย มกี ลิน่ หอมแรง ผลรูปไข่ ทรงกลม เปลือกหนา

การกระจายและนิเวศวิทยา เป็นพืชเฉพาะถ่ินของไทย พบตามป่าดิบช้ืนระดับต่�ำริมล�ำธาร ทาง
ภาคใต้ ออกดอกช่วงเดอื นธนั วาคม–เมษายน ติดผลชว่ งเดือนกมุ ภาพันธ–์ สงิ หาคม

พระมารดาแหง่ การคุม้ ครองความหลากหลายทางชีวภาพ 97

98 ๙๐ พรรษา บรมราชนิ นี าถ


Click to View FlipBook Version