13
(2) เรือกอและ
เรือกอและได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งท้องทะเล เนื่องจาก
ความงามบนลวดลายของตัวเรือ ด้วยสีสันสดใสสะดุดตา อีกทั้งยังทำการประมงได้เหมือนเรือประมง
พื้นบ้านทั่วไป
mr.doughnutt. (2560). ภาคใต้ทางตอนล่างอย่าง ปัตตานี นราธิวาส และในบางพื้นที่
ของสงขลา นครศรีธรรมราช ไล่ไปจนถึงแหลมมลายู จะมีเรือประมงพื้นบ้านสำคัญนาม
“กอและ” ที่เป็นการตกผลึกทางภูมิปัญญามานับแต่บรรพบุรุษจนเกิดการสร้างสรรค์เป็น
นาวาศิลป์อันงดงามวิจิตร จนได้ชื่อว่าเป็นราชินีความงามแห่งท้องทะเลในดินแดนปลาย
ด้ามขวานของเมืองไทย อ.สมมาตร ดารามั่น ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมแห่งเมือง
นราธิวาสให้ข้อมูลกับผม พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า “กอและ” มาจากคำว่า “ฆอและ”
ที่มาจากภาษามลายูว่า “Kolek”(โกเล็ก) หมายถึงโคลงเคลง หรือล่องลอย กอและเป็น
เรือที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการสู้คลื่นลมแรงและสูงได้ดี คว่ำยาก เพราะมีแคมเรือ
ลึก ในอดีตเป็นเรือหาปลาที่มุ่งออกทะเลลึกโดยอาศัยการกางใบ นับเป็นหนึ่งในสุดยอด
ความงามแห่งนาวาศิลป์ แต่หลังจากมีเครื่องยนต์เข้ามา ชาวประมงก็เปลี่ยนมาใช้เรือกอ
ื่
และติดเครื่องยนต์แทนเพอความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว ลวดลายและจิตรกรรมบนเรือ
กอและ เป็นเสน่ห์ที่สร้างความแตกต่างระหว่างเรือกอและกับเรือประมงทั่วไป ลวดลาย
ของเรือกอและจะเป็นการผสมผสานลายจาก 3 วัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ทั้งไทย จีน และ
มลายู ลวดลายที่นิยมใช้เขียนจะแบ่งเป็นส่วนลายที่หัวเรือ นิยมเขียนเป็นรูปสัตว์ใน
ตำนานหรือสัตว์ในจินตนาการเช่นพญานาค นก หนุมาน ราหูอมจันทร์ เมขลาล่อแก้ว
รามสูรขว้างขวาน เป็นต้น ส่วนลายที่ท้ายเรือก็มักจะเป็นลายส่วนท่อนหางของสัตว์นั้นๆ
ภาพที่2.10 สีสันแห่งเรือกอและ นราธิวาส
ที่มา : https://c.mi.com,1 มกราคม 2563.
14
ภาพที่2.11 สีสันแห่งเรือกอและ นราธิวาส
ที่มา : https://c.mi.com,1 มกราคม 2563.
(3) การละเล่นว่าวใต้
การเล่นว่าวเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในภาคใต้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์สองข้าง
ทางถนนจะเต็มไปด้วยร้านขายว่าวสีสันสวยงาม โดยเฉพาะว่าวควาย ว่าววงเดือน ว่าวนก เพราะ
ในช่วงนี้คนใต้นิยมเล่นว่าวกันเนื่องจากลมทะเลพัดแรง การละเล่นว่าวจึงเป็นการละเล่นที่สำคัญของ
ภาคใต้ จนมีการแข่งขันเป็นทางการของจังหวัด
นุรอัฟฟานนีซาร์ รอแม.(2560). ชาวใต้นิยมเล่นว่าวกันเพื่อความสนุกสนานในช่วงฤดูเก็บ
เกี่ยวข้าว กล่าวคือช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ว่าวที่นิยมเล่นกันในท้องถิ่นก็
เป็นพวกว่าววงเดือน ว่าวควาย ว่าวนก ว่าวปักเป้า ว่าวอีลุ้ม ว่าวปลา ว่าวหลา (ว่าว
จุฬา) ว่าวกระบอก เป็นต้น ส่วนว่าวอื่นก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ว่าวจรเข้ ว่าว
คน และว่าวงู แต่ถ้าเป็นว่าวที่นิยมเล่นกันมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นว่าวนกกับว่าววงเดือน
เป็นแน่ อีกอย่าง "นักเลงว่าว" ชาวใต้นิยมเล่นว่าวแบบมีแอก (ธนูว่าว) ประกอบว่าว
เพื่อประชันเสียงด้วยว่าว่าวตัวไหนมีเสียงแอกดังและไพเราะมากกว่ากัน ผู้เล่นมักชักว่าว
ขึ้นในตอนบ่ายแล้วเก็บว่าวลงในรุ่งเช้าของวันถัดมา ถือว่าว่าวตัวใดชักขึ้นไว้ค้างคืนได้
นับว่าว่าวตัวนั้นเป็นว่าวที่ดี
กล่าวถึงการเล่นว่าวพื้นบ้านภาคใต้แล้ว คนรุ่นก่อนจะนิยมเล่นว่าวขนาดใหญ่ที่มีความ
ยาวของปีกประมาณ 3 เมตร ว่าวตัวใหญ่จึงต้องใช้คนส่งว่าวถึง 2-3 คน และก็ใช้คน
ชักประมาณ 3 - 4 คน เมื่อว่าวขึ้นสูงได้ตามต้องการแล้วก็มัดไว้กับต้นไม้ใหญ่
ชื่อของว่าวภาคใต้
15
ว่าวบอก (ว่าวกระบอก) หรือว่าวรางหมูเป็นรูปแบบว่าวของเด็กๆ ที่ทำได้ง่าย
โดยใช้กระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าพับเข้าหากันให้เป็นรูปทรงกล่องที่เปิดด้านที่ 4 ไว้ พบ
ั
ว่าวให้มีสัดส่วนเป็น 4 ส่วน คือส่วนหลังกว้าง 2 ส่วน และส่วนข้างด้านละ 1ส่วน ใช้
เชือกผูกส่วนข้างทั้ง 2 ข้างไว้เป็น (สายพานทรง)บริเวณส่วนบน ว่าวชนิดนี้ทำได้ง่าย
เพราะไม่ต้องมีโครงว่าว เหมาะอย่างยิ่งกับพวกเด็ก ๆ
ว่าวนก ว่าวชนิดนี้ได้รับความนิยมน้อยกว่าว่าววงเดือน นิยมเล่นกันมากใน
จังหวัดพัทลุง ลักษณะคล้ายนกกางปีกร่อนอยู่บนฟ้า
ส่วนหัวอาจทำเป็นรูปหางนกแผ่บานสวยงาม
ว่าววงเดือน ว่าวชนิดนี้บ้างเรียกว่าวเดือน หรือว่าวควาย บางพื้นที่เรียก วาบู
แล (ภาษายาวี)
ทั้งนี้เพราะมีรูปดวงจันทร์เป็นส่วนประกอบบริเวณลำตัวและหางเหมือนเขาควาย
ว่าวหัวควาย ว่าวชนิดนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างว่าวหลา (จุฬา) กับว่าว
วงเดือน
แต่ได้เปลี่ยนส่วนที่เป็นรูปดวงจันทร์ให้เป็นรูปหัวควายแทน และจะติดปีกไว้
เหนือปีก เพื่อให้เสียงดังเหมือนเสียงควายร้อง
ว่าวเป้า (ปักเป้า) ว่าวชนิดนี้แบบไม่มีหาง เรียกว่าวอีลุ้ม มีลักษณะเกือบเป็นรูป
สี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม้ไผ่ 2 ชิ้น ผูกกันเป็นโครงว่าว
โดยปกติแล้วจะต่อหางเป็นแถบยาว เด็กๆ ชอบเล่น เพราะเล่นง่ายการแข่งว่าว
ื่
ที่ภาคใต้ ว่าวที่ชาวใต้นิยมนำมาแข่งขันกันคือ ว่าววงเดือน (แบบไม่มีแอก) ใช้แข่งเพอดู
ว่าว่าวตัวไหนขึ้นสูงกว่ากันโดยการปล่อยว่าวด้วยเชือกที่มีความยาวเท่ากัน แล้วเอาไป
ผูกกับไม้ฉากที่ปักไว้บนพื้นดิน
จากนั้นจึงดูว่าเชือกของว่าวตัวไหนทำองศากับไม้ฉากได้มากกว่ากันก็จะเป็นฝ่าย
ชนะการเล่นว่าวในภาคใต้ยังเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง สังเกตได้จากการจัด
ประเพณีการแข่งว่าวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม ซึ่งมีอยู่ในเกือบทุกจังหวัด
ของภาคใต้อย่างไรก็ตาม การเล่นว่าวพื้นบ้านภาคใต้ยังคงเป็นการละเล่นที่ให้ความ
สนุกสนานและผ่อนคลายจากการทำงานหลังฤดูเก็บเกี่ยวอยู่ดังเดิม
16
ภาพที่2.12 “แข่งว่าว สืบสานประเพณีวัฒนธรรม สร้างสันติ”
ที่มา : https://paaktai.com,13 กุมภาพันธ์ 2560.
2.1.1.1 ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
(1) ทางบก
ทรัพยากรธรรมชาติภาคใต้ที่มีชื่อเสียงนอกจากทรัพยากรทางทะเล ทาง
บกก็มีชื่อเสียงเช่นกัน ภาคใต้มีอุทยานแห่งชาติแทบทุกจังหวัด และทุกอุทยานมีพืชพรรณธรรมชาติที่
เป็นพืชหายากแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ได้แก่ ต้นประ ดอกบัวผุด สะตอป่า ซึ่งเป็น
ต้นไม้ที่มีเฉพาะภาคใต้เท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ มีทิวเขาที่สำคัญ ได้แก่ ทิวเขาภูเก็ต
ทิวเขานครศรีธรรมราชเป็นต้น ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้นแถบมรสุม (Am) คือมีฝนตกชุก
สลับกับฤดูแล้งสั้น ๆ และได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้และลมมรสุม
ตะวันออกเฉียงเหนือทำให้ฝนตกชุกตลอดทั้งปีทำให้มีพืชพรรณธรรมชาติเฉพาะถิ่นเกิดขึ้นมากมาย
ด้วยเหตุนี้เองภาคใต้จึงเป็นภาคที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรณ์ธรรมชาติ
ภาพที่2.13 “ดอกบัวผุด ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บานแล้วที่เขาสก”
ที่มา : https://www.thairath.co.th, 18กุมภาพันธ์2560.
17
(1) ทางทะเล
หากพูดถึงภาคใต้ สิ่งแรกที่นึกถึงคือทรัพยากรทางทะเล โดยภาคใต้มี
ทะเลขนานทั้ง2 ฝั่ง ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย เนื่องจากเหตุนี้เองเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยว
จำนวนมหาศาลในแต่ละปี
ราตรี สุขสวรรณ์.(2560). ความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรทางธรรมชาติของภาคใต้
อาทิเช่น ทรัพยากรประมง ป่าไม้ ป่าชายเลน และปะการัง ปะการัง เป็นสิ่งมีชีวิตใน
ระบบนิเวศทะเลเขตร้อน เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์และพืชหลากหลายชนิด มองดูคล้าย
กับหินสี มีหลากหลายรูปร่างและขนาด อีกทั้งทะเลภาคใต้เป็นระบบนิเวศในเขตร้อนทำ
ให้ปะการังเจริญเติบโตได้ดี โดยค้นพบสายพันธุ์ปะการังทั้งหมด 273 สายพันธุ์ แนว
ปะการังที่พบเป็นแบบที่อยู่ชิดติดฝั่ง หรืออยู่ห่างฝั่งไม่เกิน 1 กิโลเมตร กระจัดกระจาย
อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 12,000 ตาราง ปะการังภาคใต้ สร้าง
ชื่อเสียงด้านความสวยงามจนติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก จนได้รับขนานนามว่า
อาณาจักรแห่งบุปผาใต้ทะเล ทำให้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ
สำหรับระบบนิเวศหญ้าทะเล จะปรากฏในบริเวณชายฝั่งที่มีลักษณะพื้นดินที่เป็น
โคลนปนทราย และมีน้ำลึกประมาณ 1-3 เมตร แหล่งหญ้าทะเลมีความสำคัญเป็นอย่าง
มากต่อปริมาณสัตว์น้ำ และความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล เพราะเป็นแหล่งอนุบาล
แหล่งวางไข่ แหล่งหากิน แหล่งเจริญเติบโต และแหล่งหลบภัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งหากินของสัตว์ทะเลหายาก เช่น พยูน และ
เต่าทะเล
พะยูนเป็นสัตว์น้ำที่ชี้ให้เห็นถึงความโดดเด่นเป็นพิเศษของระบบนิเวศชายฝั่งไทย
พะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับปลาโลมาและปลาวาฬ ในบางแห่ง
จะเรียกพะยูนว่า หมูน้ำ วัวทะเล เงือก หรือที่ชาวประมงพื้นบ้านในภาคใต้เรียกว่า
ปลาดูหยง ความสัมพันธ์ของพะยูนกับระบบนิเวศน์นั้น พะยูนจะเป็นส่วนหนึ่งของ
ระบบนิเวศชายฝั่งที่ก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารในระบบนิเวศและส่งผล
ต่อความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ เป็นวงจรต่อเนื่องและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
18
ภาพที่2.14 “6 สวรรค์ใต้ทะเลไทย น้ำสวยใส ปะการังสมบูรณ์....”
ที่มา : https://www.chillpainai.com,18กรกฎาคม2559.
ภาพที่2.15 “มาเรียม พะยูนน้อยแห่งเกาะลิบง”
ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/38491,13 มิถุนายน 2562.
19
2.2 ประเภทของผลงานศิลปกรรม
2.2.1 ผลงานประเภทเดียวกันที่สนใจ
ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปนิพนธ์ที่สื่อถึงวิถีชีวิตคนปักษ์ใต้ด้วยเทคนิคสื่อผสม
ได้รับอิทธิพลในการออกแบบมาจากการใช้วัสดุรีไซเคิล และการถักฟรีฟอร์ม ( Free form) เป็นการ
ถักอิสระ สีสันสดใส โดยในการออกแบบได้นำทัศนศิลป์มาใช้ในการออกแบบ
2.2.1.1 Jackie Abrams
แจ็คกี้ อาบลามส์ ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานสามมิติโดยใช้รูปทรงไห โอ่ง และ
ตะกร้ามาดัดแปลงเปลี่ยนรูปร่าง รูปทรง พื้นผิวและสีที่แปลกตา ใช้เทคนิคการถก การสาน จากวัสดุรี
ั
ไซเคิล (Recycle) กระดาษ ทราย สีอคริลิค(Acrylic paint) ผ้าไหม ฝ้าย(Cotton) เส้นด้าย
ถุงพลาสติก หินและสายไฟรีไซเคิล นำมาผสมกันในผลงาน ใช้เทคนิคสื่อผสมทำให้เกิดพื้นผิวที่น่าใจ
และเกิดมิติหลายชั้น ผลงานของเจ็คกี้ อาบลามส์ เป็นตัวอย่างของการใช้วัสดุรีไซเคิลให้มีมูลค่า
ภาพที่2.16 “ศิลปินแจ็คกี้ อับบลามส์”
ที่มา : https://www.jackieabrams.com/artist-statement.html.
20
ภาพที่2.17 “ผลงานศิลปินแจ็คกี้ อาบลามส์”
ที่มา : https://www.jackieabrams.com/artist-statement.html
ภาพที่2.18 “ผลงานศิลปินแจ็คกี้ อาบลามส์”
ที่มา : https://www.jackieabrams.com
21
ภาพที่2.19 “ผลงานศิลปินแจ็คกี้ อาบลามส์”
ที่มา :https://www.jackieabrams.com
ภาพที่2.20“ผลงานศิลปินแจ็คกี้ อาบลามส์”
ที่มา : https://www.jackieabrams.com/
22
2.2.1.2 Jo Atherton
โจ แอทเทอร์ตอน ศิลปินชาวอังกฤษทำงานจากวัสดุที่พบบริเวณชายหาด
ด้วยเทคนิคสื่อผสม โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากข่าวอุณหภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิด
ปรากฏการณ์น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น เกิดการพัดพาขยะในทะเลมาสู่ริมชายหาดมากขึ้น ศิลปินจึงนำขยะ
บริเวณชายหาด ได้แก่ เชือกของเรือขนาดต่าง ๆ เศษอวน ลูกทุ่นตกปลา เปลือกหอย เศษขยะของ
เล่น ของใช้ เป็นต้น ผ่านเทคนิคกี่เฟรม (weaving loom) ก่อนจะนำวัสดุที่เก็บได้มาเย็บซ้ำบนชิ้นงาน
ด้วยเชือกหลากสี ผลงานของศิลปินมีสีสันสดใสตามวัสดุที่พบบริเวณชายหาด
ภาพที่2.21“ศิลปินโจ แอทเทอร์ตอน”
ที่มา : https://joatherton.com/
ภาพที่2.22 “ผลงานศิลปินโจ แอทเทอร์ตอน”
ที่มา : https://joatherton.com/
23
ภาพที่2.23 “ผลงานศิลปินโจ แอทเทอร์ตอน”
ที่มา : https://joatherton.com/
ภาพที่2.24“ผลงานศิลปินโจ แอทเทอร์ตอน”
ที่มา : https://joatherton.com/
24
2.2.1.3 Aly De Groot
ศิลปิน แอลลี่ ดิ กรู๊ท ศิลปินร่วมสมัยชาวออสเตรเลียทำงานร่วมกับมูลนิธิ
สิ่งแวดล้อมภายใประเทศ วัสดุที่ใช้ในผลงานทั้งหมดเป็นวัสดุรีไซเคิลและวัสดุธรรมชาติ ได้แก่ เศษ
วัสดุประมง แห อวน เชือก เศษไม้ ใบไม้ ที่พบบริเวณแนวชายหาดและในทะเล นำมาสร้างงาน
ประติมากรรมรูปทรงตะกร้า ด้วยเทคนิคสื่อผสม เช่น เย็บ ผูก ย้อมสี ทำให้เกิดมูลค่าของชิ้นงานและ
การตะหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ภาพที่2.25“ศิลปินแอลลี่ ดิ กรู๊ท”
ที่มา : https://www.abc.net.au/news
ภาพที่2.26 “ผลงานศิลปินแอลลี่ ดิ กรู๊ท”
ที่มา : https://www.abc.net.au/news
25
2.2.1.4 Joana Vasconcelos
ศิลปินโจอาน่า วาสคอนซีลอส นักประติมากรรมชาวโปรตุเกส ผลงาน
ประติมากรรมมีขนาดใหญ่ โดดเด่น ชัดเจน สีสันสดใสที่เป็นเอกลักษณ์และมีดีเทล (Detail)
ระยิบระยับ ด้วยเทคนิคสื่อผสม การดัด การถัก การเชื่อม การระบาย และการร้อย จากวัสดุ
สังเคราะห์ ได้แก่ ไหมพรม เหล็ก หลอดไฟ ผ้า และเชือก การทำงานของศิลปินเริ่มจาก การขึ้น
โครงสร้าง ก่อนจะนำไหมพรมมาถักลงบนโครงสร้าง เมื่อทำเสร็จแล้วใส่ดีเทลลงไปเช่น ลูกปัด ติด
เพชร และไฟประดับเป็นต้น
ภาพที่2.27“ศิลปินโจอาน่า วาสคอนซีลอส”
ที่มา : https://joanavasconcelos.guggenheim
ภาพที่2.28“ผลงานศิลปินโจอาน่า วาสคอนซีลอส”
ที่มา : https://www.artsy.net
26
ภาพที่2.29 “ผลงานศิลปินโจอาน่า วาสคอนซีลอส”
ที่มา : https://www.phillips.com
2.2.1.5 คุณ ป้อม-เนติพงศ์ ไล่สาม
นักออกแบบงานคราฟต์ (craft) ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์
Natipong โดยใช้เทคนิคเก่าแก่ของการร้อยลูกปัดชุดมโนราห์ผสมผสานกับความรู้ด้านการออกแบบ
ต่อยอดและตีความให้เป็นลวดลายกราฟิก โดยใช้สีของลูกปัดมโนราห์นำมาปรับเปลี่ยนแพทเทิร์น
(pattern) ให้ทันสมัย เหมาะสมกับทุกช่วงอายุ งานที่ออกมาเป็นสไตล์สดใส ขับสีให้เด่นขึ้นด้วยการ
แทรกลูกปัดสีดำ ลงบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ เชน กระเป๋า โคมไฟ แจกัน กระจกเงา ต่างหู และเทิรดโนราห์
ทำงานร่วมกับชุมชน
ภาพที่2.30 “คุณ ป้อม-เนติพงศ์ ไล่สาม”
ที่มา : https://readthecloud.co/natipong/
27
ภาพที่2.31“ผลงานคุณ ป้อม-เนติพงศ์ ไล่สาม”
ที่มา : https://readthecloud.co/natipong/
ภาพที่2.32“ผลงานคุณ ป้อม-เนติพงศ์ ไล่สาม”
ที่มา : https://readthecloud.co/natipong/
28
2.3 ทัศนธาตุที่ใช้ในผลงานศิลปนิพนธ์
ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปนิพนธ์ที่สื่อถึงวิถีชีวิตของชาวปักษ์ใต้โดยได้รับอิทธิพลมา
จากศิลปวัฒนธรรมวิถีชีวิตและธรรมชาติภาคใต้ โดยการออกแบบใช้ทัศนภาพจากหนังสือ
องค์ประกอบของศิลปะ ของอาจารย์ชลูด นิ่มเสมอ มาประยุกต์ใช้กับแบบร่างทางความคิดและผลงาน
ศิลปนิพนธ์
2.3.1 จุด (Point)
เป็นทัศนธาตุเบื้องต้นมีมิติเป็นศูนย์ไม่มีความกว้างความยาวหรือความลึกเป็น
ทัศนธาตุที่ไม่สามารถแบ่งออกได้อีก แต่ถ้าหากจุด ปรากฏในบริเวณที่ว่างจะทำให้ที่ว่าง
นั้นมีความหมายขึ้น ชะลูด นิ่มเสมอ(น.28-29)
2.3.2 เส้น (Line)
การเริ่มต้นของงานศิลปะจะเริ่มต้นด้วยเส้น เส้นมีมิติเดียว คือ ความยาวมีทิศทาง
และมีขนาดขนาดของเส้น ไม่มีความกว้าง มีแต่เส้นหนา เส้นบาง เส้นใหญ่และเส้นเล็ก
เป็นทัศนธาตุเบื้องต้นที่สำคัญที่สุดเป็นแกนของทัศนศิลป์ทุกทุกแขนงเส้นเป็นพื้นฐาน
ของโครงสร้าง เส้นแสดงความรู้สึกได้ด้วยตัวเองและการสร้างเป็นรูปทรงต่างๆ เส้น
ข้างต้นที่เป็นพื้นฐานมีสองลักษณะคือเส้นตรงและเส้นโค้ง
(1) เส้นเกิดจากจุดที่ต่อกันในเป็นยาวหรือเกิดจากร่องรอยของจุดที่ถูกแรงแรง
หนึ่งผลักให้เคลื่อนที่
(2) เส้นเป็นขอบเขตของที่ว่างขอบเขตของสิ่งของขอบเขตของรูปทรงขอบเขต
ของน้ำหนักและขอบเขตของสี
(3) เส้นเป็นขอบเขตของกลุ่มสิ่งของหรือกลุ่มรูปทรงที่อยู่รวมกัน
ชะลูด นิ่มเสมอ (น.29-39)
2.3.3 สี ( Color)
สีมีอยู่สองชนิดคือสีที่เป็นแสง Spectrum ได้แก่สีที่เกิดขึ้นจากการหักเหของแสง
กับสี่ที่เป็นวัตถุ pigment ได้แก่สีที่มีอยู่ในวัดถุธรรมชาติทั่วไปเช่นพืชสัตว์แร่ธาตุ สี่เป็น
ทัศนธาตุที่สำคัญและมีบทบาทมากที่สุดในงาน สี่ทำหน้าที่เช่นเดียวกับน้ำหนักทุก
ประการแต่เพิ่มหน้าที่พิเศษที่สำคัญที่สุดคือการให้อารมณ์ความรู้สึก การใช้สี การใช้สี่มี
อยู่สองวิธีคือการใช้สีให้กลมกลืนกับการใช้สีให้ตัดกัน ชะลูด นิ่มเสมอ(น.54-61)
29
2.3.4 พื้นผิว ลักษณะผิว (Texture)
หมายถึงลักษณะของบริเวณพื้นผิวของสิ่งต่างๆที่เมื่อสัมผัสจับต้องหรือมองเห็น
แล้วรู้สึกได้ว่าหยาบ ละเอียด มัน ขรุขระเป็นเส้นเป็นจุด ลักษณะผิวโดยทั่วไปไม่ถือว่า
เป็นทัศนธาตุที่เป็นหลักในการสร้างรูปทรงเพราะลักษณะผิวมีข้อจำกัดแต่มีความสำคัญ
ในการสร้างงานเพื่อประกอบให้เป็นรูปทรงที่สมบูรณ์ได้ ชะลูด นิ่มเสมอ(น.62)
2.3.5 จังหวะ
จังหวะมีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติความเคลื่อนไหว ดังนั้นจังหวะจึงเข้ามามีบทบาท
ในงานทัศนศิลป์การซ้ำของทัศนธาตุในงานศิลปะ จังหวะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการ
แสดงออกให้ความรู้สึกหรือความพึงพอใจทางสุนทรียภาพในงานศิลปะ
การซ้ำคือการปรากฏตัวบนที่ว่างตั้งแต่สองหน่วยขึ้นไปโดยมีที่ว่างขั้นอยู่ จังหวะ
ของลายที่เป็นจังหวะง่ายๆ ให้ความรู้สึกผิวเผินให้ความสบายตาเพียงชั่วครู่แต่กทำให้เบื่อ
็
ได้ง่ายเพราะขาดโครงสร้างที่มีความหมายเป็นเอกภาพที่ไม่มีการขัดแย้ง หรือรูปทรงที่แม้
จะน่าสนใจและมีความหมายในตัวเท่าไหร่ก็ตามหากนำมาวางซ้ำกันจะทำให้ความสำคัญ
ของรูปทรงนั้นลดลงแต่จะไปเพิ่มความสำคัญได้แก่จังหวะหรือรูปแบบของการซ้ำ
ในงานศิลปะจังหวะคือการสลับการของการเน้นและการผ่อนคลายในการทำงาน
ของทัศนภาพเพื่อให้เกิดเอกภาพที่มีชีวิตขององค์ประกอบและรูปทรง
ชะลูด นิ่มเสมอ(น.145-162)
2.3.5 ที่ว่าง
ที่ว่างเป็นทัศนธาตุที่มองไม่เห็นจะปลุกปรากฏตัวต่อเมื่อมีทัศนะธาตุอื่นมากำหนดรูปร่าง
ทัศนศิลป์แต่ละประเภทจะใช้ที่ว่างต่างกันไปตามลักษณะของงาน ที่ว่างบางครั้งจะ
เรียกว่าช่องไฟ
ลักษณะของที่ว่าง
(1) ที่ว่างจริงและที่ว่างลวงตา physical space and pictorial space ที่ว่างของ
งานสถาปัตยกรรมและประติมากรรมเป็นพื้นที่ว่างจริงๆที่สัมผัสได้เราเรียกว่า
ที่วางจริง ส่วนที่ว่างในงานจิตรกรรมภาพพิมพ์ที่แสดงความลึกตื้นเป็นที่ว่าง
ลวงตา
(2) ที่ว่างแบบสองมิติ Two- dimensional space คือที่ว่างแบบสองมิติคือที่ว่าง
ที่กำหนดไว้ความกว้างและความยาวเท่านั้น
ที่ว่างแบบสามมิติ
30
(3) พี่ว่างแบบสามมิติ Tree- dimensional space คือที่ว่างที่กำหนดด้วยความ
กว้างความยาวและความลึกที่เป็นที่ว่างปริมาตรเช่นปริมาตรของที่ว่างในห้อง
ห้องหนึ่ง
แบบรูปของที่ว่าง
ความสำคัญของที่ว่างที่มีต่อรูปทรง
เมื่อมีสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นบนที่ว่างจะเกิดเป็นรูปกับพื้นหรือรูปทรงที่ว่างขึ้นและที่ว่างนั้นจะ
มีรูปร่างขึ้นเป็นอย่างเดียวกับรูปร่างของรูปทรงที่ปรากฏ ที่ว่างเป็นบวกและที่ว่างเป็นลบ
ในหนึ่งภาพต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ที่ว่าหมวกและที่ว่างลบที่ว่างบวกคือที่ว่างที่มีการ
กำหนดขอบเขตให้เป็นรูปส่งและที่ว่างลบคือที่ว่างที่เหลืออยู่รอบๆที่ว่างบวก
2.4 วสดุ อปกรณ์และเทคนิควิธีการ
ุ
ั
2.4.1 วัสดุที่ใช้ในผลงานศิลปนิพนธ์
2.4.1.1 วัสดุสังเคราะห ์
วัสดุสังเคราะห์หรือวัสดุที่ถูกปรุงแต่งขึ้นใหม่ วัสดุสังเคราะห์หรือวัสดุที่ถูกปรุงแต่งขึ้น
ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ ที่เกิดจากการสังเคราะห์สารเคมีหรือวัสดุธรรมชาติ
ด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ
(1) แห
็
แห คือ เครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่ง ที่ใช้เส้นใยสังเคราะห์ เช่นเส้นเอน
หรือในบางครั้งจะเป็นเส้นด้ายไนลอน นำถักเป็นตาข่ายใช้ทอด (เหวี่ยง) ให้แผ่เป็นวงลงในน้ำโดยมีลูก
ตะกั่วถ่วงอยู่ที่ปลายของแห เมื่อทอดแหเสร็จต้องดึงขึ้นมาจากน้ำ ให้ขอบชายแหรวบปลาเข้ามาใน
เพา (ขอบถุงตาข่ายแห)
ภาพที่2.33 เครื่องมือประมง แห
ที่มา : https://www.thainews.easybranches.com.2 มิถุนายน 2563.
31
(2) อวน
อวน คือ เครื่องมือจับปลาขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นตาข่ายผืนยาวทำจาก
เส้นเอ็น ใช้ขึงและกางเป็นวงล้อมปลาหรือทิศทางของปลา โดยมีลูกทุ่นทำหน้าที่พยุงอวนให้คงรูป
ภาพที่2.34 เครื่องมือประมง อวน
ที่มา : https://www.tummengtravel.com ,16 มิถุนายน 2560.
(3) เชือก
เชือก มีหน้าที่พยุงอวนให้คงรูปแข็งแรง อีกทั้งเมื่อวางอวนเสร็จสามารถ
ดึงอวนขึ้นมาได้ภายในครั้งเดียว เชือกที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเชือกไนลอนที่มีคุณสมบัติเหียวและทนต่อ
แสงแดดความร้อน หรือแม้แต่ความเค็มของน้ำทะเล
ภาพที่2.35 เครื่องมือประมง เชือก
ที่มา : https://m.mgronline.com, 29 กุมภาพันธ์ 2559.
32
(4) ไหมพรม
ไหมพรม คือเส้นใยที่นำมาตีเกลียวเป็นเส้น มีขนาดใหญ่กว่าเส้นด้าย
ออาจทำจากขนสัตว์หรือเส้นใยธรรมชาติ เช่นเส้นใยไผ่ หรือเส้นใยสังเคราะห์ เช่นเส้นใยไนลอน เส้น
ใยอคริลิค เป็นต้น
ภาพที่2.36 ไหมพรม
ที่มา : https://www.baanlaesuan.com, 20 มิถุนายน 2562.
2.4.1.2 วัสดุธรรมชาติ
วัสดุที่เก็บได้จากธรรมชาติในท้องถิ่นภาคใต้ ได้แก่ ลูกประ ลูกสนทะเล ลูก
ยางพารา ลูกมะกล่ำตาหนู และลูกหมาก
(1) ลูกประ
ลูกประ เป็นภาษาถิ่น ตามพจนานุกรมจะเรียกว่า ลูกกระ มีลักษณะคล้ายลูกยางพารา
เวลาสุกก็จะแตกตกลงพื้นเช่นเดียวกันกับลูกยางพารา พบได้มากในภาคใต้ ประ เป็น
ต้นไม้ขนาดใหญ่และสูง ลูกประ ส่วนมากมักนิยมนำมาทำเป็นอาหารโดยการ ต้ม ดอง
คั่ว ลักษณะทั่วไป ผลประ มีเปลือกหุ้ม ลักษณะเป็นพู มี 3 พู ภายในมี 3 เมล็ด รูปร่าง
แบบรีๆ ผลอ่อนเป็นสีเขียว แต่เมื่อแก่จะเป็นสีดำปนน้ำตาล โดยมีเปลือกแข็งหุ้มผิวมัน
ขณะที่เนื้อข้างในจะเป็นสีขาวนวล พิชญาดา เจริญจิต(2562)
33
ภาพที่2.37 ลูกประ อาหารพื้นเมืองคนใต้
ที่มา : https://www.technologychaoban.com11572,29 กรกฎาคม 2562.
ภาพที่2.38 ลูกประ อาหารพื้นเมืองคนใต้
ที่มา : https://goodlifeupdate.com/healthy-food/114038.html,16 ตุลาคม 2561.
(2) ลูกสนทะเล
ต้นสนทะเล จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลักษณะของทรง
พุ่มเป็นรูปกรวยแคบ ปลายแหลม มีความสูงของลำต้นประมาณ 10-20 เมตร กิ่งย่อย
เป็นสีเขียวเรียวเล็กมากคล้ายรูปเข็มต่อกันเป็นปล้อง ๆที่เจริญเติบโตได้ในดินร่วนซุย มี
ความชื้นหรือเป็นดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี
ใบสนทะเล ใบเป็นใบประกอบ แบบลดรูปลง มีขนาดเล็กแหลม ลักษณะคล้ายฟน
ั
เลื่อยหรือซี่ฟันหรือเกล็ดเล็กละเอียด มีสีขาวแกมเขียว ติดอยู่รอบข้อของกิ่งย่อย
34
ผลสนทะเล ผลมีลักษณะเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเล็ก เรียงชิดกันเป็นรูปกรวยหรือรูป
รี มีขนาดกว้างประมาณ 0.4 นิ้ว และยาวประมาณ 0.5 นิ้ว เปลือกผลแข็ง แต่ละผลจะ
ประกอบไปด้วยผลย่อยเรียงตัวแทรกอยู่ในผลใหญ่ ผลอ่อนจะเป็นสีเขียวนวล เมื่อแก่จะ
เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และแตกออกตามรอยประสาน มองเห็นเมล็ดภายในมากมาย โดย
เมล็ดจะมีลักษณะเป็นปีกบาง ๆ และมีจำนวนมาก MedThai (2557)
ภาพที่2.39 สนทะเล
ที่มา : https://medthai.com, 2 สิงหาคม 2560.
ภาพที่2.40 สนทะเล
ที่มา : https://medthai.com, 2 สิงหาคม 2560.
35
(3) ลูกมะกล่ำตาหนู
มะกล่ำตาหนู มีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่อินเดียไปจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย
จัดเป็นไม้เถาเลื้อยมีอายุได้หลายปี มีความสูงของต้นได้ถึง 5 เมตร โดยจัดเป็นไม้เถา
เนื้ออ่อนสีเขียวขนาดเล็ก เถามีลักษณะกลมเล็กเรียวและมีขนสีขาวขึ้นปกคลุม ที่โคน
เถาช่วงล่างจะแข็งและมีขนาดใหญ่ ขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดิน
ทุกประเภท เป็นพรรณไม้ที่ชอบขึ้นตามบริเวณที่มีความชื้น คนในภาคใต้จะเรียก
มะกล่ำตาหนูว่า เมล็ดลูกตาวัว เพระมีลักษณะคล้ายลูกตาของวัว
ผลมะกล่ำตาหนู ออกผลเป็นฝัก ลักษณะของฝักเป็นรูปกระบอกแกมรูปไข่ โดยจะ
ออกเป็นพวง ๆ ฝักมีลักษณะแบนยาว ปลายฝักแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 1.2-1.4
เซนติเมตรและยาวได้ประมาณ 2-4.5 เซนติเมตร ฝักมีขนสีน้ำตาล เปลือกฝักเหนียว
ฝักอ่อนเป็นสีเขียว ส่วนฝักแก่แตกได้ตามแนวยาว ภายในฝักมีเมล็ดประมาณ 3-6
เมล็ด ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปกลมรี มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-5
มิลลิเมตร เมล็ดเป็นสีแดง บริเวณขั้วมีแถบสีดำ ผิวเรียบเงามัน ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณ
ธรรม (2542,น.590-591)
ภาพที่2.41 มะกล่ำตาหนู
ที่มา : https://medthai.com, 3 สิงหาคม 2560.
36
ภาพที่2.42 มะกล่ำตาหนู
ที่มา : https://medthai.com, 3 สิงหาคม 2560.
(4) ลูกหมากแห้ง
หมากจัดเป็นไม้ยืนต้นจำพวกปาล์ม มีความสูงของต้นประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นตั้ง
ตรง เป็นต้นเดี่ยวไม่แตกกิ่งก้าน ลักษณะของลำต้นเป็นรูปทรงกระบอก มีขนาดเส้นผ่าน
ศูนย์กลาง 8-15เซนติเมตร เปลือกลำต้นเป็นรอยขวั้นรอบ ๆ ขึ้นไปตลอดลำต้น
ผลออกเป็นทะลาย ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม รูปกลมรี รูปไข่ รูปไข่ปลาย
แหลม หรือเป็นรูปกระสวยขนาดเล็ก โดยเฉลี่ยแล้วผลที่รวกมันเป็นทะลาย ในหนึ่ง
ทะลายจะมีผลอยู่ประมาณ 10-150 ผล ผิวผลเรียบ มีกลีบเลี้ยงติดเป็นขั้วผล ผลมีขนาด
กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ผลดิบหรือผลสดเปลือกผล
จะเป็นสีเขียวเข้ม เรียกว่า “หมากดิบ” ผลเมื่อแก่เปลือกผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มทั้ง
ผลหรือสีแดงแกมส้ม เรียกว่า “หมากสุก” หรือ “หมากสง” ผลประกอบไปด้วย 4 ส่วน
คือ เปลือกชั้นนอก , เปลือกชั้นกลาง, เปลือกชั้นใน, และส่วนของเมล็ดหรือเนื้อหมาก เมื่อ
อ่อนจะนิ่ม เนื้อส่วนผิวจะมีลายเส้นสีเหลืองถึงสีน้ำตาล ส่วนเนื้อจะเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ
ถึงสีเหลืองเข้มอมแดง ภายในผลมีเมล็ดเดียว
37
ภาพที่2.43 ผลหมาก
ที่มา : https://www.disthai.com,
ภาพที่2.44 หมากแห้ง
ที่มา : https://www.disthai.com,
(5) ลูกยางพารา
กรมวิชาการเกษตร.(2558.) ยางพาราเข้ามาปลูกในประเทศไทย เกิดขึ้นเมื่อพระ
ยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีเดินทางไปดูงาน ในประเทศมลายู เห็นชาวมลายูปลูกยาง
กันมีผลดีมากก็เกิดความสนใจที่จะนำยางเข้ามาปลูกในประเทศไทยบ้าง แต่พันธุ์ยาง
สมัยนั้น ฝรั่งซึ่งเป็นเจ้าของสวนยาง หวงมาก ทำให้ไม่สามารถนำพันธุ์ยางกลับมาได้ ใน
การเดินทางครั้งนั้น จนกระทั่ง พ.ศ. 2444 พระสถล สถานพิทักษ์ เดินทางไปที่ประเทศ
อินโดเซีย จึงมีโอกาสนำกล้ากลับมาได้ โดยเอากล้ายางมาหุ้มรากด้วยสำลีชุบนน้ำ แล้ว
38
หุ้มทับด้วยยกระดาษหนังสือพิมพ์อีกชั้นหนึ่งจึงบรรจุลงลังไม้ฉำฉา ใส่เรือกลไฟซึ่งเป็น
เรือส่วนตัวของพระสถลฯ รีบเดินทางกลับประเทศไทยทันที
ยางที่นำมาครั้งนี้มีจำนวน ถึง 4 ลัง ด้วยกันพระสถลสถานพิทักษ์ ได้นำมาปลูกไว้
ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งปัจจุบันนี้ยังเหลือให้เห็นเป็น
หลักฐานเพียงต้นเดียว อยู่บริเวณหน้าสหกรณ์การเกษตรกันตัง และจากยางรุ่นแรกนี้
พระสถลสถานพิทักษ์ ได้ขยายเนื้อที่ปลูกออกไป จนมีเนื้อที่ปลูกประมาณ 45 ไร่ นับได้
ว่า พระสถลสถานพิทักษ์ คือผู้เป็นเจ้าของสวนยางคนแรกของประเทศไทย
ยางเป็นพวกไม้ยืนต้น ถ้าปลูกจากเมล็ดจะมีลักษณะเป็นรูปกรวย แต่ถ้าปลูกโดย
ใช้ต้นติดตาจะมีลักษณะเป็นทรงกระบอก ความสูง 30-40 เมตร ต้นอ่อนเจริญเร็วมากทำ
ให้เกิดช่วงปล้องยาว เมื่ออายุน้อยเปลือกสีเขียว แต่เมื่ออายุมากขึ้นสีของเปลือก
เปลี่ยนเป็นสีเทาอ่อน เทาดำ หรือน้ำตาล
ใบยางพารามีคุณสมบัติเหนียวคงทนกว่าใบไม้ชนิดอื่น ประกอบโดยทั่วไป 1 ก้าน
ใบจะมีใบย่อย 3 ใบ มีหน้าที่หลักในการปรุงอาหารหายใจและคายน้ำ ใบยางจะแตก
ออกมาเป็นชั้น ๆ เรียกว่า "ฉัตร" ระยะเวลาเริ่มแตกฉัตรจนถึงใบในฉัตรนั้นแกเต็มที่จะใช้
่
เวลาประมาณ 2-3 เดือน ยางจะผลัดใบในฤดูแล้งของทุกปี ยกเว้นยางต้นเล็กที่ยังไม่แตก
กิ่งก้านสาขาหรือมีอายุไม่ถึง 3 ปี จะไม่ผลัดใบ
ผลเป็นแบบ capsule โดยทั่วไปมี 3 เมล็ด เมื่อแก่ผลจะแตกออก เกิดเสียงดัง
เปลือกหุ้มเมล็ดจะมีลาย
ภาพที่2.45 ยางพารา
ที่มา : http://www.eculture.rbru.ac.th/ID121.
39
ภาพที่2.46 ลูกยางพารา
ที่มา : https://www.thaikasetsart.com.
2.4.2 อุปกรณ์ที่ใช้ในผลงานศิลปนิพนธ์
2.4.2.1 อุปกรณ์การถัก
(1) เข็มโครเชต์ คือ เข็มที่มีตะขอตรงปลายสำหรับถักไหมพรมมีหลายขนาด
2.4.2.2 อุปกรณ์การตอก
(1) ตุ๊ดตู่ตอกหนัง คือ เหล็กขึ้นรูปตรงปลาย มีหลายรูปทรง ทั้งวงกลม สี
เหลี่ยม ใช้คู่กับค้อนเพื่อตอกลายบนเหล็กลงบนแผ่นหนัง
(2) ค้อน คือ เครื่องมือช่างสำหรับเคาะ ตอก ตีทุบ มีหัวทำจากเหล็กหรือไม้
และด้ามจับ
(3) กรรไกร คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับตัดวัสดุบาง ๆ โดยใช้แรงกดเล็กน้อย
โดยใช้ตัดวัสดุเช่น กระดาษ
(4) เขียงไม้ คือ ไม้เป็นแผ่นกลม หรือแบนสำหรับรองรับการสับหั่น มีความ
หนาแตกต่างกันไปตามการใช้งาน
(1) คัตเตอร์ คือ มีดขนาดเล็กสำหรับตัด กรีด ใบมีดบางเลื่อนออกจากด้ามที่
ครอบอยู่
40
2.4.2.3 อุปกรณ์การระบายสี
(1) พู่กัน คือ เครื่องเขียนอย่างหนึ่งใช้ระบายสี ส่วนปลายทำจากขนสัตว์หรือ
ขนสังเคราะห์เพื่อไว้ซับน้ำสีก่อนนำมาระบาย
(2) แปรง คือ เครื่องมือสำหรับทาสีและระบายสี มีขนาดใหญ่กว่าพู่กัน หัว
แบน สำหรับทาบนพื้นที่กว้างไม่เน้นความละเอียด
(3) สีผสมอาหาร คือวัตถุเจือปนอาหาร (food additive) ที่ผสมในอาหาร มี
ลักษณะโปร่งใส ละลายน้ำได้ สีสันสดใส
2.4.2.4 อุปกรณ์การร้อย
(1) เส้นเอ็นร้อยลูกปัด คือ เส้นพลากสติกเส้นเดี่ยว มีหลายขนาด มีทั้งแบบ
แข็ง แบบยืดและหลากสี
(2) เข็ม คือ เหล็กแหลมที่หัวมีรูสำหรับสอดด้าย หรือเชือก ใช้เย็บ หรือร้อย
(3) ตัวปิดปม(Stopper) คือ ตัวช่วยที่ทำให้งานเรียบร้อยและแข็งแรงขึ้น
วิธีการใช้ คือ ร้อยตัวปิดปมลงไป แล้วใช้คีมปากจระเข้บีบเก็บงานให้แน่น มีหลายขนาดตามขนาดเส้น
เชือกร้อยลูกปัด
2.4.3 เทคนิคที่ใช้ในผลงานศิลปนิพนธ์
กระบวนการทำงานในผลงานศิลปนิพนธ์ทำงานด้วยเทคนิคการสื่อผสม เช่นการถัก
รัด มัด ตอก และการร้อย
2.4.3.1 เทคนิคสื่อผสม
ศิลปะสื่อผสม (Mixed Media Art)คำว่า ศิลปะสื่อประสม หรือ ศิลปะสื่อผสม หมายถึง
ผลงานที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นโดยใช้เทคนิคและวิธีการของศิลปะทางด้านทัศนศิลป์หลาย
ๆ แขวงมาผสมผสานทำให้เกิดผลงานที่อยู่ในชิ้นเดียวกัน เน้นหลักการจัดองค์ประกอบ
ศิลป์ โดยนำสิ่งที่มีอยู่มาประยุกต์ผสมผสานกันเพื่อให้เกิดเป็นผลงานทางด้านศิลปะที่มี
รูปแบบออกมาเป็นรูปเป็นร่างเพอให้คนดูได้สามารถรับรู้ถึงความหมายของผลงานศิลปะ
ื่
ที่เราสร้างขึ้นมา นภกุล จันทรานุวงศ์(2559)
(1) การถักโครเชต์
โครเชต์ เป็นภาษาฝรั่งเศษ หมายถึง “ตะขอ” เป็นกระบวนการในการสร้างโครเชต์ มา
จากคำว่า croc หรือ croche แปลว่าตะขอ ด้วยการนำด้าย ไหม ขนสัตว์มาถักทอเป็น
ห่วงโซ่ร้อยต่อกันจนเป็นผืนผ้าลวดลายงดงาม และได้รับความนิยมในยุโรปราว ค.ศ.
1800 สมัยแรกมนุษย์ใช้เพียงนิ้วชี้งอเป็นรูปตะขอถักเส้นไหม จึงไม่มีหลักฐานเป็น
41
เครื่องมือ มาให้คนรุ่นหลังได้เห็น ภายหลังมีการพัฒนาเครื่องมือโครเชต์แทนนิ้วจาก
งาช้าง ทองเหลืองหรือไม้เนื้อแข็ง โครเชต์ในยุคแรกเริ่มเป็นงานกลุ่มแม่บ้าน
โดยใช้ไม้หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ และนิ้วมือตามความถนัด เกี่ยวเส้นใยเป็นลวดลายทีละแถว
ี
ด้านหนึ่งไปสู่อกด้านหนึ่ง สลับกันไปมาจนได้ความยาวหรือลวดลายตามต้องการ การถัก
เส้นใยจะมีลักษณะเป็นห่วงโซ่ยืดหยุ่นได้ สามารถสร้างเทคเจอร์ (texture) หรือวอลลุ่ม
(volume) ได้ตามต้องการ ปวันณา ธารีจิตร(2560)
ภาพที่2.47 การถักโครเชต์
ที่มา :http://jobathomeandparttime.blogspot.com.
42
ภาพที่2.48 เข็มโครเชต์
ที่มา :http://www.klungmai.com/product.
(2) การรัด และ การมัด
การรัด คือการโอบรอบหรือพันให้กระชับ ด้วยเชือก หรือสิ่งของที่มี
ลักษณะเป็นเส้น
การมัด คือผูกรัดเข้าด้วยกัน ผูกรัดให้แน่น ด้วยวัสดุนั้นเองหรือเชือก
ภาพที่2.49 การรัดการผูก
ที่มา :https://rtnakm.com,11พฤษภาคม 2561.
43
(2) การตอก
ั
การรตอกหนังตะลุง นับเป็นภูมิปัญญาที่เคียงคู่กับศิลปะการแสดง “หนังตะลุง” อนเป็น
เอกลักษณ์ท้องถิ่นที่สะท้อนวิถีชีวิตบอกกล่าวเล่าเรื่องราวผ่านหน้าจอผ้าขาวที่มีมากกว่า
200 ปี “ตัวหนัง” ที่ใช้เชิดแสดงนั้นแฝงไว้ด้วยศาสตร์และศิลป์ในการสร้างสรรค์เพอเป็น
ื่
สีสันและอรรถรสของการชมหนังตะลุงที่ต้องอาศัยการเชิดตัวหนังไปพร้อมกับบทพากย์
่
อันสนุกสนาน การสร้างสรรค์ “ตัวหนัง” จึงต้องอาศัยช่างตอกหนังที่ต้องเป็นที่ผู้ที่เปียม
ไปด้วยทักษะและความชำนาญตั้งแต่การเลือกหนัง ฟอกหนัง วาดรูปตัวหนังด้วยเหล็ก
จาร
การแกะและตอกตัวหนังตะลุง ด้วยการเผื่อระยะการมองจากแสงที่ส่องผ่านเกิด
เป็นความงามที่น่าประทับใจ (หากตอกหนังตะลุงเพื่อใช้เป็นของประดับตกแต่งสถานที่
ช่างจะใช้เทคนิคการแกะและตอกหนังที่ละเอียดและทรวดทรงสัดส่วนที่เสมือนจริง
มีดแกะสลัก ที่ทำขึ้นเฉพาะตามความถนัดของช่างแต่ละคน หรือใช้เหล็กขุด
แกะสลักตามรอยที่ได้วาดไว้ การตอกจะใช้เหล็กตอกลาย (ตุ๊ดตู่) ตอกลงไปบนหนังที่
เตรียมไว้ ตอกเดินลายให้ได้รูปตามที่ต้องการ ปัจจุบันมีเหล็กตอกลายหลากหลาย
รูปแบบและหลายขนาด ทั้งรูปสี่เหลี่ยม รูปหัวใจ รูปดอกไม้ จะต้องตอกลายด้วยค้อนบน
เขียงไม้นิยมใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ลูกหยี เนื่องจากเมื่อตอกลงไปแล้วเนื้อไม้จะไม่ยุ่ย ไม่
เป็นขุย และ เครื่องมือตอกจะไม่ชำรุดง่าย เขียงสำหรับใช้ตอกนั้นต้องหมั่นดูแลให้มีผิวที่
เรียบเพื่อให้เมื่อตอกลายลงไปแล้วลายที่ตอกจะมีความเสมอกัน เทคนิคสำคัญใน
ขั้นตอนการตอกลาย คือ ใช้เหล็กตอกลายที่มีขนาดรูที่ใหญ่มองดูจากระยะไกลแล้ว
ลวดลายจะมีความชัด เมื่อใช้เหล็กตอกลายลงบนหนัง สวน หนุดหละ ,กิจ คชรัตน์
(2561)
ภาพที่2.50 การตอกหนังตะลุง
ที่มา :https://oer.learn.in.th/search_detail/result/2887.
44
(3) การร้อย
เครื่องทรงโนราห์ เป็นเครื่องแต่งกายของโนราห์ ใช้แทนเสื้อหรือที่เรียกว่าเครื่องลูกปัด
สาเหตุที่เรียกเครื่องลูกปัด เพราะได้มีการนำลูกปัดสีเม็ดเล็กๆ หลายๆสีมาร้อยกับเชือก
ให้เป็นลวดลาย เช่น ลายลูกแก้วหรือลายข้าวหลามตัด ลายดอกดวง เป็นต้น กว่าลูกปัด
ี
เม็ดเล็กๆที่ถูกร้อยถักมัดเข้ากันจนเป็นชุด ต้องใช้เวลาและความพยายาม อิงมณ(2559)
การร้อยลูกปัดมโนราห์ต้องร้อยทีละเม็ด ทีละเส้นบนเชือกโดยแต่ละการ
ร้อยจะมีแพทเทิร์น (pattern) ของแต่ละลาย ร้อยทับไปทับมาเหมือนการทอผ้า
ภาพที่2.51 การร้อยลูกปัดมโนราห์
ที่มา :http://oknation.nationtv.tv/blog/turning-point, 7 ธันวาคม 2559.
45
บทที่ 3
กระบวนการศึกษาและสร้างสรรค์
3.1 การกำหนดแนวคิดของการสร้างสรรค์
การศึกษาและสร้างสรรค์ศิลปนิพนธ์นี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ สู่
แนวความคิดในการสร้างสรรค์สร้างสรรค์ผลงานศิลปนิพนธ์ประเภทผลงานศิลปกรรมประเภทสื่อผสมที่
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ตกแต่งสถานที่ต่างๆได้ ด้วยเทคนิคการเทคนิคการถักโครเชต์ด้วยเข็มและบล็อก
ไม้ การร้อย การผูก มัด รัด และการตอก โดยเลือกใช้วัสดุพื้นถิ่นและวัสดุสังเคราะห์อาทิเช่น วัสดุอปกรณ์
ุ
ที่ชาวประมงใช้จับสัตว์น้ำ ขยะจากชายหาด และวัสดุธรรมชาติอาทิเช่น ลูกสน ลูกมะกล่ำตาหนู ลูก
ยางพารา ลูกประ เป็นต้น โดยผลงานศิลปนิพนธ์แขวนผนังทั้งหมดจำนวน 2 โครงการ โครงการแรก
จำนวน2 ชิ้น และโครงการที่2 จำนวน3 ชิ้น
3.2 การสืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (Relate Research)
3.2.1 การศึกษาทบทวนวรรณกรรมและการสืบค้นข้อมูลจากหนังสือ
การสืบค้นข้อมูลจากหนังสือ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อความความรู้ ทฤษฎีที่ถูกต้อง
รวบรวมในรูปแบบของเล่ม มีหลากหลายเรื่องจัดแบ่งหมวดหมู่ชัดเจน ข้อมูลที่ได้รับเป็นข้อมูลเชิงลึกที่
ถ่ายทอดจากผู้อยู่ในเหตุการณ์และส่งต่อมาถึงปัจจุบัน
3.2.1.1 สารานุกรมภาคใต้
มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้คนและวัฒนธรรมในเขต 14 จังหวัดภาคใต้ครบถ้วนทุก
สาขา เช่น ประวัติศาสตร์ ชุมชนโบราณ แหล่งโบราณคดี โบราณสถาน ศาสนา คติความเชื่อ อาชีพ
เครื่องมือเครื่องใช้ ศิลปกรรม กีฬาพื้นเมือง และบุคลลสำคัญ
46
ภาพที่3.1 สารนุกรมภาคใต้
3.2.2 การศึกษาทบทวนวรรณกรรมและการสืบค้นข้อมูลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซด์เพื่อทราบข้อมูลเชิงลึกพร้อมภาพประกอบที่ทันสมัย
อาทิเช่น
3.2.2.1 หนังตะลุงพื้นบ้านเรา
https://sites.google.com/site/hnangtalungphunbanrea/withi-kar-
thataw-hnang-talung เป็นเว็บไซด์ที่รวบรวมกระบวนการทำหนังตะลุงตั้งแต่ขั้นตอนแรก รวมไปถึงวัสดุ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำหนังตะลุงทั้งหมด
ภาพที่ 3.2 เว็บไซด์หนังตะลุงพื้นบ้านเรา https://sites.google.com
47
3.2.2.2 ร้อยรักมโนราห์
https://readthecloud.co/natipong/ เป็นเว็บไซด์ที่นำลูกปัดมโนราห์มา
ประยุกต์ใช้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ การใช้โทนสีที่สวยงาม ลวดลายของการร้อยที่ทันสมัย อีกทั้งวิธีการร้อย
ลูกปัด
ภาพที่ 3.3 เว็บไซด์ https://readthecloud.co/natipong/
ู
3.3 การจัดเก็บข้อมลและบันทึกภาพ
ื่
การจัดเก็บข้อมูลโดยการลงพื้นที่จริงเพอสัมภาษณ์และบันทึกภาพด้วยกล้องโทรศัพท์ไอโฟน
7+ (IPhone7+) สัมภาษณ์คนในพื้นที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวประมง โดยเดินทางไปที่หมู่บ้านชาวประมง ณ
หาดท่าสูงบน ปากน้ำกลาย และหาดปากดวด อำเภอท่าศาลา อีกทั้งเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ของทะเล
ื่
โบราณ ณ หาดทรายแก้ว อำเภอท่าศาลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดนครศรีธรรมราช เพอศึกษาวิถี
์
วิตและการละเล่นของคนภาคใต้โบราณ และบ้านศิลปินแห่งชาติ หนังสุชาติ ทรัพย์สิน เพื่อศึกษาประวัติ
ความเป็นมารวมไปถึงกระบวนการทำหนังตะลุง
48
ภาพที่ 3.4 อุปกรณ์การบันทึกภาพ
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 12 ตุลาคม 2562
ภาพที่ 3.5 วิถีชิวิตชาวประมง ณ หาดท่าสูงบน อำเภอท่าศาลา
49
ภาพที่ 3.6 วิถีชิวิตชาวประมง ณ หาดท่าสูงบน อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 12 ตุลาคม 2562
ภาพที่ 3.7 วิถีชิวิตชาวประมง ณ หาดท่าสูงบน อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 12 ตุลาคม 2562
50
ภาพที่ 3.8 วิถีชิวิตชาวประมง ณ หาดท่าสูงบน อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 12 ตุลาคม 2562
ภาพที่ 3.9 วิถีชิวิตชาวประมง ณ หาดปากน้ำกลาย อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2564
51
ภาพที่ 3.10 วิถีชิวิตชาวประมง ณ หาดปากน้ำกลาย อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2564
52
ภาพที่ 3.11 หาดปากดวด อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 22 พฤษภาคม 2564
ภาพที่ 3.12 หาดปากดวด อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 22 พฤษภาคม 2564
53
ภาพที่ 3.13 พิพิธภัณฑ์ของทะเลโบราณ ณ หาดทรายแก้ว อำเภอท่าศาลา
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2562
ภาพท 3.14 พิพิธภัณฑ์ของทะเลโบราณ ณ หาดทรายแก้ว อำเภอท่าศาลา
ี่
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2562
54
ภาพที่ 3.15 พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 31 กรกฎาคม 2562
ภาพที่ 3.16 พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 31 กรกฎาคม 2562
55
ภาพที่ 3.17 บ้านศิลปินแห่งชาติ หนังสุชาติ ทรัพย์สิน
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2562
ภาพที่ 3.18 บ้านศิลปินแห่งชาติ หนังสุชาติ ทรัพย์สิน
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2562
56
ภาพที่ 3.19 บ้านศิลปินแห่งชาติ หนังสุชาติ ทรัพย์สิน
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2562
ภาพที่ 3.20 บ้านศิลปินแห่งชาติ หนังสุชาติ ทรัพย์สิน
ที่มา: กิ่งไผ่ ปาลรังษี 4 สิงหาคม 2562
57
3.4 การวาดแบบร่างความคิด
เป็นการลำดับความคิดหรือจินตนาการเป็นขั้นตอน การถ่ายทอดความคิดจากแนวคิด
นามธรรมมาเป็นรูปธรรม เพื่ออธิบายและสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ
3.4.1 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้วาดแบบร่างความคิด
3.4.1.1 เครื่องเขียน
เครื่องเขียนที่ใช้ในการออกแบบร่างทางความคิด ประกอบไปด้วย ดินสอ
ยางลบ และกระดาษร้อยปอนด์
้
ภาพที่ 3.21 วัสดุอุปกรณ์ทีใชในการวาดแบบร่างความคิด
58
3.4.1.2 สี
สีที่ใช้ในการระบายสีแบบร่างทางความคิด คือ โปสเตอร์ซากุระ (Sakura
poster color) โดยการระบายเลือกใช้ กลุ่มสีร้อน ประกอบด้วย สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีม่วง และกลุ่มสี
เย็น ประกอบด้วย สีน้ำเงิน สีฟ้า สีเขียว
ภาพที่ 3.22 สี
3.4.1.3 โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับปรับแต่งผลงานให้น่าสนใจยิ่งขึ้นโดยใช้วิธี
ตัดแปะ(Collage) และการตกแต่งเพิ่ม( Decoration) ด้วยโปรแกรมไอแพด โปรคลิเอท (Procreate
Application app)
ภาพที่ 3.23 โปรแกรมไอแพด โปรคลิเอท (Procreate Application app)
59
3.4.2 การออกแบบร่างทางความคิด
3.4.2.1 วิธีการวาดแบบร่างความคิด
เมื่อลำดับความคิดอย่างชัดเจน นำมาสู่ขั้นตอนการวาดแบบร่างทางความคิด การ
วาดต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ของผลงานจริงที่จะออกมา โดยการวาดเริ่มจากร่างเส้นด้วยดินสอที่มี
ความเข้มไม่เกิน2B ลงบนกระดาษร้อยปอนด์
ภาพที่ 3.24 แบบร่างความคิดโครงการที่1 (เส้นโครงร่าง)
60
ภาพที่ 3.25 วิธีการวาดแบบร่างความคิดโครงการที่2 (เส้นโครงร่าง)
ภาพที่ 3.26 วิธีการวาดแบบร่างความคิดโครงการที่2 (เส้นโครงร่าง)
61
3.4.2.2 การลงสีแบบร่างทางความคิด
นำผลงานที่ร่างเสร็จแล้วมาระบายสีโดยคำนึงถึงสีโดยรวมของผลงาน และคละสี
โทนร้อนและเย็นสลับกันไป การลงสีจะลงครั้งเดียวด้วยสีโปสเตอร์ซากุระ ความเข้มของสีขึ้นอยู่กับ
ปริมาณน้ำที่ผสม การผสมสีจะเจือสีคู่ตรงข้ามเล็กน้อยเพื่อลดความเข้มของสีลง การระบายสีจะเริ่ม
ระบายจากสีโทนเย็นก่อน สังเกตค่าน้ำหนักของสี ก่อนจะระบายสีโทนร้อนเพื่อกระจายสี เมื่อลงสีพื้นเสร็จ
หยดสีเหลืองให้เป็นจุดเพื่อสร้างพื้นผิว(texture) บางพื้นที่ของแบบร่างจะเว้นที่ว่างไว้ เพื่อสร้างพื้นที่ว่าง
ในกระบวนการตอกและถักสำหรับผลงานจริง
ภาพที่ 3.27 วิธีการระบายสีแบบร่างความคิดโครงการที่1 เริ่มระบายจากสีโทนเย็น
62
ภาพที่ 3.28 วิธีการระบายสีแบบร่างความคิดโครงการที่2 เริ่มระบายจากสีโทนเย็น (ลงสี รายละเอียด)
ภาพที่ 3.29 วิธีการระบายสีแบบร่างความคิดโครงการที่2 เริ่มระบายจากสีโทนเย็น (ลงสี รายละเอียด)