แผนการจัดการเรียนรู้ศิลปะ ศ33102 ม.6 ภาคเรียนที่2/64

แผนการจดั การเรยี นรู้

ศลิ ปะ ศ33102
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 6
ภาคเรยี นท่ี 2 ปี การศกึ ษา 2564

นตธดิ า ชมุ พงษ์
ครชู ำนำญกำร
โรงเรยี นมธั ยมพัชรกติ ยิ ำภำ ๓ สรุ ำษฎรธ์ ำนี
สำนักงำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำสรุ ำษฎรธ์ ำนี ชมุ พร

ความสัมพันธ์ของการพัฒนาคณุ ภาพนักเรียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน

วสิ ัยทศั น์

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนานักเรียนทุกคน ซึ่งเป็นกาลังของชาติให้เป็นมนุษย์ท่ีมี
ความสมดุลท้ังด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครอง
ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมท้ังเจตคติ ที่จาเป็นต่อ
การศึกษา ตอ่ การประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชีวิต โดยมงุ่ เน้นนักเรียนเปน็ สาคัญบนพ้นื ฐานความเชอื่ วา่ ทกุ
คนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้เต็มตามศกั ยภาพ

จุดหมาย

1.มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม
หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ตี นนบั ถอื ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

2. มคี วามรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยแี ละมี
ทักษะชีวติ

3. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ดี ี มีสขุ นสิ ยั และรกั การออกกาลังกาย
4. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองใน
ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ
5. มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม
มจี ติ สาธารณะทม่ี งุ่ ทาประโยชน์และสร้างสง่ิ ท่ดี งี ามในสังคม และอย่รู ่วมกันในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น
2. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
3. มีวนิ ัย 1. ความสามารถในการสื่อสาร
4. ใฝ่เรียนรู้ 2. ความสามารถในการคดิ
5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
7. รักความเปน็ ไทย 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
8. มีจติ สาธารณะ

คุณภาพของนักเรียนระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

ทาไมต้องเรียนศลิ ปะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ มี

จินตนาการทางศิลปะ ช่ืนชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซ่ึงมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กิจกรรม
ทางศิลปะช่วยพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจน การนาไปสู่การพัฒนา
สิ่งแวดลอ้ ม ส่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รียนมีความเชือ่ มนั่ ในตนเอง อนั เปน็ พ้นื ฐาน ในการศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชพี ได้

เรยี นรอู้ ะไรในศิลปะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะวิธีการทางศิลปะ เกิด

ความซาบซ้ึงในคุณค่าของศิลปะ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงออกอย่างอิสระในศิลปะแขนงต่าง ๆ ประกอบด้วย
สาระสาคัญ คอื

• ทัศนศิลป์ มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ สร้างและนาเสนอผลงาน ทางทัศนศิลป์
จากจินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณ์ท่ีเหมาะสม รวมท้ังสามารถใช้เทคนิค วิธีการ ของศิลปินในการสร้าง
งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง
ทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างานศิลปะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน
ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล ช่ืนชม ประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้

สาระท่ี 1 ทศั นศิลป์

มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทัศนศิลปต์ ามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์

วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ

ช่นื ชม และประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน

ทศั นศิลปท์ เี่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ัญญาไทย และสากล

คุณภาพผ้เู รียน
จบชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

• รู้และเข้าใจเก่ียวกับทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการสื่อความหมาย สามารถใช้ศัพท์ทาง
ทัศนศิลป์ อธิบายจุดประสงค์และเน้ือหาของงานทัศนศิลป์ มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ์และ
กระบวนการที่สูงขึ้นในการสร้างงานทัศนศิลป์ วิเคราะห์เน้ือหาและแนวคิด เทคนิควิธีการ การแสดงออกของ
ศิลปนิ ทง้ั ไทยและสากล ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการออกแบบสร้างสรรค์งานทเี่ หมาะสมกบั โอกาส
สถานท่ี รวมท้ังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมด้วยภาพล้อเลียนหรือการ์ตูน ตลอดจนประเมินและ
วิจารณค์ ุณคา่ งานทศั นศิลป์ด้วยหลักทฤษฎีวจิ ารณ์ศลิ ปะ

• วิเคราะห์เปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวันออกและรูปแบบตะวันตก เข้าใจอิทธิพลของ
มรดกทางวัฒนธรรมภมู ปิ ญั ญาระหวา่ งประเทศท่มี ผี ลตอ่ การสร้างสรรค์ งานทัศนศลิ ป์ในสงั คม

• รู้และเข้าใจรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีแต่ละประเภท และจาแนกรูปแบบ ของวงดนตรีท้ังไทย
และสากล เขา้ ใจอิทธพิ ลของวัฒนธรรมต่อการสร้างสรรค์ดนตรี เปรยี บเทียบอารมณแ์ ละความรู้สึกท่ีได้รับจาก
ดนตรีทมี่ าจากวัฒนธรรมต่างกัน อา่ น เขยี น โน้ตดนตรีไทยและสากล ในอตั ราจังหวะตา่ ง ๆ มีทักษะในการร้อง
เพลงหรือเล่นดนตรีเดี่ยวและรวมวงโดยเน้นเทคนิค การแสดงออกและคุณภาพของการแสดง สร้างเกณฑ์
สาหรบั ประเมินคุณภาพการประพนั ธ์ การเล่นดนตรขี องตนเองและผ้อู ื่นได้อย่างเหมาะสม สามารถนาดนตรีไป
ระยุกต์ใชใ้ นงานอนื่ ๆ

ตวั ช้วี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง

สาระที่ 1 ทัศนศิลป์

มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์

วจิ ารณค์ ณุ คา่ งานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศลิ ปะอย่างอิสระ

ชน่ื ชม และประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั

ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

1. วเิ คราะหก์ ารใชท้ ัศนธาตุ และหลักการ • ทัศนธาตุและหลักการออกแบบ

ออกแบบในการส่อื ความหมายในรปู แบบตา่ ง ๆ

2. บรรยายจุดประสงคแ์ ละเน้ือหาของงาน • ศัพทท์ างทศั นศลิ ป์

ทศั นศิลป์ โดยใชศ้ ัพทท์ างทัศนศลิ ป์

3. วเิ คราะหก์ ารเลือกใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์ และเทคนิค • วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิคของศลิ ปิน ในการ

ของศิลปินในการแสดงออกทางทัศนศลิ ป์ แสดงออกทางทัศนศิลป์

4. มีทักษะและเทคนิคในการใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ และ • เทคนิค วัสดุ อุปกรณ์ กระบวนการในการ

กระบวนการทส่ี ูงข้ึน ในการสร้างงานทศั นศิลป์ สรา้ งงานทศั นศลิ ป์

5. สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปด์ ้วยเทคโนโลยตี ่าง ๆ • หลักการออกแบบและการจัดองค์ประกอบ

โดยเนน้ หลกั การออกแบบและการจดั ศลิ ป์ดว้ ยเทคโนโลยี

องคป์ ระกอบศิลป์

ม.4-6 6. ออกแบบงานทัศนศิลป์ไดเ้ หมาะกับโอกาสและ • การออกแบบงานทัศนศลิ ป์
สถานที่

7. วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายจุดมุง่ หมาย ของศิลปินใน • จุดมุ่งหมายของศิลปนิ ในการเลือกใชว้ ัสดุ

การเลอื กใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ เทคนคิ และเนื้อหา เพ่อื อปุ กรณ์ เทคนิคและเน้ือหา ในการสรา้ งงาน

สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ ทศั นศลิ ป์

8. ประเมนิ และวจิ ารณ์งานทัศนศลิ ป์ โดยใช้ • ทฤษฎีการวิจารณ์ศลิ ปะ

ทฤษฎกี ารวจิ ารณ์ศลิ ปะ - ชุดการแสดงประจาโรงเรียน

9. จดั กลุม่ งานทัศนศิลปเ์ พ่ือสะท้อนพัฒนาการ • การจัดทาแฟม้ สะสมงานทัศนศิลป์

และความก้าวหน้าของตนเอง

10. สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์ไทย สากล โดย • การสร้างงานทัศนศลิ ป์จากแนวคดิ และ

ศึกษาจากแนวคิดและวธิ ีการ สร้างงานของศลิ ปนิ วธิ ีการของศิลปนิ

ท่ตี นชน่ื ชอบ

11. วาดภาพ ระบายสเี ป็นภาพลอ้ เลยี น หรือภาพ • การวาดภาพล้อเลียนหรือภาพการต์ นู

การ์ตนู เพื่อแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั สภาพ

สงั คมในปจั จุบนั

สาระท่ี 1 ทัศนศลิ ป์ เข้าใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่า งาน
มาตรฐาน ศ 1.2 ทัศนศิลปท์ ี่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ภมู ปิ ัญญาไทย และสากล

ชนั้ ตัวช้วี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง

1. วิเคราะห์ และเปรียบเทยี บงานทัศนศิลป์ • งานทัศนศลิ ปร์ ูปแบบตะวนั ออกและ

ในรปู แบบตะวันออกและรูปแบบตะวันตก ตะวนั ตก

ม.4-6 2. ระบุงานทศั นศลิ ป์ของศลิ ปินทีม่ ีช่อื เสยี ง • งานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปินทีม่ ีชอ่ื เสยี ง
และบรรยายผลตอบรบั ของสังคม

3. อภิปรายเกีย่ วกบั อิทธิพลของวัฒนธรรม • อิทธิพลของวัฒนธรรมระหวา่ งประเทศ ที่มี
ระหว่างประเทศที่มีผลต่อ งานทศั นศลิ ป์ใน ผลตอ่ งานทศั นศลิ ป์
สงั คม

คาช้แี จงแผนการจัดการเรียนรูก้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

รายวชิ าศิลปะ(ทศั นศิลป์) รหสั วชิ า ศ33102 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6

โรงเรียนมธั ยมพัชรกิตยิ าภา ๓ สุราษฎร์ธานี รายวชิ าศลิ ปะ รหสั วชิ า ศ33102 สาระทัศนศิลป์

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 จานวน 20 ช่วั โมง

1. แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ า ศลิ ปะ รหัสวิชา ศ33102 สาระทศั นศลิ ป์จานวน 0.5 หน่วยกิต

เวลาจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 20 คาบ/ภาคเรียน มีรายละเอียดดังน้ี

แผนท่ี เร่อื ง จานวนคาบ/ชวั่ โมง

- ปฐมนิเทศ 1

1 ศลิ ปะคืออะไรและประเภทของศิลปะ 1

2 ทศั นศิลป์ (Visual Art) 1

3 คุณคา่ ของงานศิลปะ (คุณคา่ ทางเรอ่ื งราวและรูปทรง) 1

4 คาศัพทท์ างทศั นศิลป์ 1

5 ศลิ ปนิ คอื ใคร 1
6 ศลิ ปินท่ีร้จู ัก 1
7 สรา้ งงานตามรอยศลิ ปิน 1
8 วสั ดุ อปุ กรณใ์ นการสรา้ งงานจิตรกรรม 1

9 สรา้ งสรรคง์ านจติ รกรรม 1

10 ภาพการ์ตนู 1

11 ภาพล้อเลียน 1

12 วัสดุ อุปกรณใ์ นการสรา้ งสรรค์งานประติมากรรม 1

13 วสั ดุ อุปกรณใ์ นการสร้างสรรค์งานภาพพิมพ์ 1

14 ทัศนศลิ ปต์ ะวันตก 1
15 สมั ผสั ลทั ธทิ างศิลปะ 1
16 ทศั นศลิ ป์ตะวันออก 1
17 วเิ คราะห์และเปรียบเทยี บงานทัศนศิลป์ 1
- สอบวดั ผลสัมฤทธ์กิ ลางภาค 1
- สอบวัดผลสัมฤทธป์ิ ลายภาค 1

รวม 20

2. รายละเอยี ดของแผนประกอบด้วย 3 สว่ น ดงั นี้

ส่วนประกอบตอนต้น ประกอบด้วย ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง , จุดประสงค์การ

เรยี นรูแ้ ละเนอื้ หาสาระ , โครงสรา้ งการจัดการเรยี นรู้ , คาอธิบายรายวิชา , กาหนดการสอน

ส่วนประกอบตอนกลาง แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย ตัช้วี ัด , สาระสาคญั ,

จุดประสงค์การเรียนรู้ , สาระการเรียนรู้ , สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น , ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอย

การเรยี นรู)้ , กระบวนการจัดการเรียนรู้ , ส่ือและวัสดุอปุ กรณ์การเรียนรู้ , การวัดการประเมินผลการเรียนรู้ ,

แหลง่ ขอ้ มูลเพิม่ เตมิ และข้อเสนอแนะ

ส่วนประกอบตอนท้าย ประกอบดว้ ย ความคดิ เห็นของผู้บริหารหรือผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย

บันทึกหลังสอน ภาคผนวกเอกสารประกอบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

เกณฑ์ผา่ นการประเมินการเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ พิจารณาคะแนนรวมคิดเปน็ ร้อยละ

50 ข้นึ ไป

4 หมายถงึ ดีมาก ไดค้ ะแนนรวมคิดเป็นรอ้ ยละ 80-100

3 หมายถึง ดี ได้คะแนนรวมคิดเป็นรอ้ ยละ 70-79

2 หมายถึง ปานกลาง ได้คะแนนรวมคิดเปน็ รอ้ ยละ 60-69

1 หมายถึง พอใช้ ได้คะแนนรวมคิดเปน็ รอ้ ยละ 50-59

0 หมายถึง ควรแก้ไข ไดค้ ะแนนรวมตา่ กวา่ ร้อยละ 50

ตัวชี้วัดและจุดประสงค์การเรียนรู้

รายวชิ าศลิ ปะรหัสวิชา ศ33102 สาระทัศนศลิ ป์ ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 1 คาบ/สปั ดาห์

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 จานวน 0.5 หน่วยกติ จานวน 20 คาบ/ชวั่ โมง : ภาคเรียน

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 ความเขา้ ใจในศลิ ปะ

ตัวชี้วัด จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ความเขา้ ใจใน

ศิลปะ

ศ 1.1 ม.4-6/2 บรรยายจดุ ประสงค์ 1. อธิบายความหมายของศลิ ปะ

และเนื้อหาของงานทัศนศิลป์ โดยใช้ 2. อธบิ ายความสมั พันธข์ องศลิ ปะ ธรรมชาตแิ ละ

ศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์ สง่ิ แวดลอ้ ม

ศ 1.1 ม.4-6/3 วิเคราะห์การเลือกใช้ 3. จาแนกประเภทของศลิ ปะ

วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิคของศิลปินใน 4. รวบรวมและสรุปเกยี่ วกบั งานศิลปะประเภทวิจติ ร

การแสดงออกทางทศั นศลิ ป์ ศิลป์และประเภทประยุกตศ์ ิลป์

ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคใน 5. อธิบายลกั ษณะเฉพาะของงานทัศนศิลป์แขนงต่าง ๆ

การใช้วัสดุ อุปกรณ์ และกระบวนการที่ 6. จาแนกแขนงงานทัศนศลิ ป์

สูงข้ึนในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ 7. รวบรวมและผลงานทัศนศลิ ป์

ศ 1.1 ม.4-6/7 วิเคราะห์และอธิบาย 8. สร้างสรรค์สมุดภาพงานทัศนศิลป์

จุดมุ่งหมายของศิลปินในการเลือกใช้ 9. วเิ คราะหค์ ุณค่าผลงานทศั นศลิ ป์ของศิลปนิ โดยใช้

วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและเนื้อหา เพื่อ ศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์

สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ 10. สรปุ คณุ คา่ ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปนิ จากการ

ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบุงานทัศนศิลป์ของ วเิ คราะห์

ศิลปินที่มีชื่อเสียงและบรรยายผลตอบ 11.อธิบายความหมายของศัพทท์ างทัศนศิลป์

รบั ของสังคม 12.นาคาศัพทท์ างทศั นศลิ ป์มาประยุกตใ์ ชใ้ นการอธิบาย

ผลงานทัศนศิลป์

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ตามรอยศลิ ปนิ

ตวั ชีว้ ัด จุดประสงค์การเรียนรู้

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ตามรอยศิลปิน

ศ 1.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์การใช้ทศั น 1. อธบิ ายความหมาย คุณสมบตั ิ และหน้าท่ีของศลิ ปิน

ธาตุ และหลักการออกแบบในการสื่อ 2. วิเคราะหร์ ูปแบบการสรา้ งงานของศลิ ปนิ

ความหมายในรปู แบบต่าง ๆ 3. สรา้ งงานทัศนศิลปแ์ บบเหมอื นจรงิ แบบลดตดั ทอน

ศ 1.1 ม.4-6/2 บรรยายจุดประสงค์ และแบบตามความร้สู กึ นึกคดิ ของตนเอง

และเน้อื หาของงานทัศนศิลป์ โดยใช้ 4. บอกชีวประวัติและผลงานของศลิ ปิน

ศัพท์ทางทัศนศิลป์ 5. จัดทาโครงงานทัศนศิลป์

ศ 1.1 ม.4-6/3วเิ คราะห์การเลอื กใช้วัสดุ 6. อธบิ ายรูปแบบและเทคนิคการสรา้ งสรรคผ์ ลงานของ

อุปกรณ์ และเทคนิคของศิลปินในการ ศิลปนิ

แสดงออกทางทศั นศลิ ป์ 7. สรา้ งงานทศั นศลิ ปต์ ามรอยศิลปนิ

ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคใน 8. นาหลักการหรือแนวทางในการสร้างงานของศิลปินมา
การใช้วัสดุ อุปกรณ์ และกระบวนการที่ ประยุกตใ์ ช้ สร้างสรรค์ผลงานของตนเอง
สงู ข้ึนในการสร้างงานทัศนศิลป์

ศ 1.1 ม.4-6/6 ออกแบบงานทัศนศิลป์

ไดเ้ หมาะกับโอกาสและสถานที่

ศ 1.1 ม.4-6/7 วิเคราะห์และอธิบาย

จุดมุ่งหมายของศิลปินในการเลือกใช้

วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและเนื้อหา เพ่ือ

สรา้ งสรรค์งานทัศนศิลป์

ศ 1.1 ม.4-6/10 ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ง า น

ทัศนศิลป์ไทย สากล โดยศึกษาจาก

แนวคิดและวิธกี ารสร้างงานของศิลปนิ ท่ี

ตนชื่นชอบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์

ตัวช้วี ัด จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 สรา้ งสรรคง์ าน

ทศั นศลิ ป์

ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคใน 1. อธบิ ายการใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ และกระบวนการสรา้ ง

การใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และกระบวนการที่ งานจติ รกรรม

สงู ข้นึ ในการสร้างงานทัศนศิลป์ 2. วเิ คราะหว์ สั ดุอุปกรณ์ และกระบวนการสร้างงาน

ศ 1.1 ม.4-6/11 วาดภาพระบายสีเป็น จิตรกรรม

ภาพล้อเลียนหรือภาพการ์ตูนเพื่อแสดง 3. สรุปความรู้เกี่ยวกับวสั ดุ อุปกรณ์ และกระบวนการ

ความคิดเห็นเก่ียวกับสภาพสังคมใน สรา้ งงานจิตรกรรม

ปจั จุบัน 4. สรา้ งสรรคผ์ ลงานจิตรกรรม

5. เลือกใช้อุปกรณส์ าหรบั การสร้างสรรคง์ านจติ รกรรม

ไดเ้ หมาะสม

6. อธบิ ายการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และกระบวนการวาด

ภาพการ์ตูน

7. วาดภาพการ์ตนู ดว้ ยวัสดุ อุปกรณ์ทีเ่ หมาะสม

8. วาดภาพการต์ นู ดว้ ยวสั ดุ อุปกรณ์ทเี่ หมาะสม

9. อธิบายการใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และกระบวนการวาด

ภาพล้อเลยี น

10. วาดภาพล้อเลียนด้วยวสั ดุ อุปกรณท์ ี่เหมาะสม

11. อธบิ ายการใช้วัสดุ/อุปกรณแ์ ละกระบวนการสรา้ ง

งานประติมากรรม

12. สรา้ งสรรคง์ านประติมากรรมด้วยวัสด/ุ อุปกรณ์ที่

เหมาะสม

13. อธิบายการใชว้ ัสดุ อุปกรณแ์ ละเทคนคิ การ

สร้างสรรค์งานภาพพิมพ์

14. สร้างสรรค์งานภาพพิมพด์ ว้ ยวสั ดุ อุปกรณท์ ่ี

เหมาะสม

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 รูปแบบยคุ สมัยทัศนศลิ ปต์ ะวันตกและตะวันออก

ตัวชว้ี ดั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รปู แบบยุคสมัย

ทัศนศิลปต์ ะวนั ตกและตะวันออก

ศ 1.2 ม.4-6/1 วเิ คราะห์และ 1. วเิ คราะห์รปู แบบยุคสมยั ทศั นศิลป์ตะวนั ตก

เปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ในรูปแบบ 2. อธบิ ายลกั ษณะรูปแบบงานทศั นศลิ ป์ตะวนั ตก

ตะวนั ออกและรูปแบบตะวนั ตก 3. รวบรวมข้อมูลและสรุปเก่ยี วกับทัศนศิลป์ตะวันตก

ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบุงานทัศนศิลปข์ อง 4. อธบิ ายรูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานลทั ธิทางศิลปะ

ศิลปินทมี่ ชี ่อื เสียง และบรรยายผลตอบ 5. สบื คน้ ขอ้ มลู เก่ยี วกับรปู แบบการสรา้ งสรรค์ผลงาน

รบั ของสังคม ลทั ธทิ างศิลปะ

ศ 1.2 ม.4-6/3 อภปิ รายเก่ยี วกบั 6 สร้างงานตามลทั ธทิ างศลิ ปะ
อิทธพิ ลของวัฒนธรรมระหวา่ งประเทศที่ 7. อธบิ ายลักษณะงานของแต่ละสกลุ
8. เขียนบทความเกยี่ วกับทัศนศิลป์ตะวนั ออก
มผี ลตอ่ งานทัศนศลิ ป์ในสังคม 9. วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทียบ รูปแบบของงานทัศนศิลป์

แต่ละสกลุ

10. อธบิ ายรปู แบบตะวันออกและรูปแบบตะวันตก

11. ศกึ ษางานทศั นศลิ ป์ตะวนั ออกและตะวันตกแล้ว

เปรยี บเทยี บความเหมอื นความและแตกต่าง

คาอธิบายรายวชิ า

รายวชิ าศิลปะ รหัสวิชา ศ33102 สาระทศั นศิลป์ ภาคเรยี นที่ 2 จานวน 1 คาบ/สปั ดาห์

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 จานวน 0.5 หน่วยกติ จานวน 20 คาบ/ชั่วโมง : ภาคเรยี น

มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับศิลปะ หลักการทัศนศิลป์ การออกแบบสร้างสรรค์งานศิลปะ รวมไปถึง
รปู แบบของทัศนศิลป์ตะวนั ตกและตะวนั ออก และอิทธพิ ลของวฒั นธรรมตา่ งประเทศ

มีทักษะความสามารถในการวาดภาพการ์ตูน ภาพล้อเลียน การสร้างสรรค์รูปปั้นจากจินตนาการ
ศิลปะภาพพมิ พแ์ กะไม้ รวมทัง้ ศลิ ปะการออกแบบสร้างสรรคผ์ ลงานตา่ ง ๆ โดยใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ ตวั ช่วย

ชื่นชมและเห็นคุณค่าผลงานศิลปะของตนเองและผู้อื่น ชื่นชอบการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์
หลากหลายรปู แบบ และนาความรู้และความสามารถทไี่ ดม้ าประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

รหัสตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/10, ม.4-6/11
ศ 1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3

รวม 11 ตัวช้ีวดั

โครงสร้างการจดั การเรยี นร

รายวิชาศิลปะ รหัสวชิ า ศ33102 ช้ันมธั ยมศกึ ษาป
จานวน 0.5 หน่วยกิต จานวน 1 คาบ/สัป

หน่วยการเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด

ปฐมนเิ ทศ -

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ศ 1.1 ม.4-6/2 บรรยายจดุ ประสงค์ และเน้อื หาของงาน
ความเขา้ ใจในศิลปะ ทัศนศลิ ป์ โดยใชศ้ ัพท์ทางทศั นศลิ ป์
ศ 1.1 ม.4-6/3 วิเคราะห์การเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ แล
เทคนคิ ของศิลปินในการแสดงออกทางทัศนศลิ ป์
ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ
และกระบวนการทีส่ ูงขึน้ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์
ศ 1.1 ม.4-6/7 วิเคราะห์และอธิบายจดุ มุ่งหมายของศิลปิ
ในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและเน้ือหา เพื่
สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ป์
ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบุงานทัศนศิลป์ของศลิ ปนิ ทม่ี ีชอ่ื เสียง
และบรรยายผลตอบรับของสังคม

ร้กู ลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ปที ่ี 6 โรงเรียนมธั ยมพัชรกิตยิ าภา ๓ สุราษฎร์ธานี
ปดาห์ จานวน 20 คาบ/ชั่วโมง : ภาคเรียน

สาระการเรยี นรู้ จานวน น้าหนัก
คาบ/ช่วั โมง คะแนน
1. ทดสอบก่อนเรยี น
2. วิเคราะหผ์ ู้เรียนเปน็ รายบุคคล 1 -
1. ศิลปะคืออะไร
2. ประเภทของศลิ ปะ 4 10
ละ 3. ทศั นศลิ ป์ (Visual Art) K:5
4. คุณคา่ ของงานศลิ ปะ P:3
ณ์ - คุณค่าทางเร่อื งราว (Content Value) A:2

- คุณค่าทางรปู ทรง (Form Value )
น - คาศพั ทท์ างทัศนศิลป์
อ

หนว่ ยการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 ศ 1.1 ม.4-6/1 วิเคราะหก์ ารใช้ทัศนธาตุ และหลักการ
ตามรอยศลิ ปนิ ออกแบบในการสอ่ื ความหมายในรูปแบบต่าง ๆ
ศ 1.1 ม.4-6/2 บรรยายจดุ ประสงค์ และเนอ้ื หาของงาน
ทศั นศิลป์ โดยใช้ศัพทท์ างทศั นศิลป์
ศ 1.1 ม.4-6/3วิเคราะห์การเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ แล
เทคนคิ ของศลิ ปนิ ในการแสดงออกทางทัศนศิลป์
ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ
และกระบวนการท่สี ูงขึน้ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์
ศ 1.1 ม.4-6/6 ออกแบบงานทัศนศิลป์ได้เหมาะกับโอกา
และสถานที่
ศ 1.1 ม.4-6/7 วเิ คราะห์และอธิบายจดุ มุ่งหมายของศิลปิน
ในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและเน้ือหา เพื่
สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ป์
ศ 1.1 ม.4-6/10 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ไทย สากล โด
ศึกษาจากแนวคิดและวิธีการสร้างงานของศิลปินท่ีตนชื่น
ชอบ

สาระการเรยี นรู้ จานวน นา้ หนกั
1. ศิลปนิ คือใคร คาบ/ชวั่ โมง คะแนน
2. ศลิ ปนิ ทร่ี จู้ ัก
3 20
- ศลิ ปินไทย
- ศลิ ปนิ ตา่ งประเทศ K:5
ละ 3. สรา้ งงานตามรอยศลิ ปิน
P : 10
ณ์
A:5
าส

น
อ

ดย
น

หนว่ ยการเรยี นรู้ ตวั ช้ีวัด

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนคิ ในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ
สร้างสรรค์งาน และกระบวนการท่ีสงู ข้นึ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์
ทศั นศิลป์ ศ 1.1 ม.4-6/11 วาดภาพระบายสีเป็นภาพล้อเลียนหร
ภาพการ์ตูนเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมใน
ปจั จบุ นั

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 ศ 1.2 ม.4-6/1 วิเคราะห์และเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ใน
รปู แบบยุคสมัย รูปแบบตะวนั ออกและรูปแบบตะวันตก
ทศั นศลิ ปต์ ะวันตก ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบุงานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปินทีม่ ชี อ่ื เสียง และ
และตะวันออก บรรยายผลตอบรับของสังคม
ศ 1.2 ม.4-6/3 อภปิ รายเก่ยี วกับอิทธพิ ลของวฒั นธรรม
ระหวา่ งประเทศที่มผี ลต่องานทัศนศิลปใ์ นสงั คม

สอบกลางภาค+สอบปลายภาค
รวมตลอดภาคเรียน

สาระการเรยี นรู้ จานวน นา้ หนัก
คาบ/ช่ัวโมง คะแนน

ณ์ 1. วัสดุและอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ทัศนศิลป์ 6 20
K:5
แขนงต่าง ๆ P : 10
A:5
รือ 2. วัสดุและอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์งาน
10
น จิตรกรรม K:3
P:2
3. วัสดุ อปุ กรณแ์ ละเทคนคิ วิธีการในการสรา้ ง A:5

งานประติมากรรม 40
100
4. วัสดุ อปุ กรณใ์ นการสรา้ งสรรค์งานภาพพิมพ์

1. ทศั นศิลปต์ ะวันตก 4

- ทศั นศิลป์สมัยใหม่

ะ - ลทั ธทิ างศิลปะ

2. ทัศนศลิ ปต์ ะวันออก

- ทศั นศิลป์ในประเทศไทย

- วิเคราะห์และเปรยี บเทยี บงานทัศนศลิ ป์

ค2

20





แผนการจัดการเรียนรู้

กลุม่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

รายวชิ าศลิ ปะ รหัสวิชา ศ33102 สาระ(ทัศนศิลป)์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2

แผนการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง ปฐมนเิ ทศ จานวน 1 ชั่วโมง

-------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้

-

ตวั ชี้วัด

-

2. สาระสาคญั
การมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล

ระหว่างนกั เรียนละครู ทาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางดา้ นการเรียนการสอนและชว่ ยให้นักเรียนเปน็ คนดี คน
เก่ง และมีความสุขในการเรียนอยา่ งแทจ้ ริง

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
3.1.1 นักเรียนสามารถบอกลกั ษณะวิชาศลิ ปะ ศ33102 สาระท่ี 1 ทศั นศิลป์ได้
3.1.2 นักเรียนสามารถเสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน วิธีการวัดผล
ประเมินผลอย่างหลากหลายตามสภาพจริง และสอดคลอ้ งกบั ความต้องการได้
3.2 ดา้ นกระบวนการ/ทักษะ (P)
3.2.1 นกั เรยี นสามารถทาแบบทดสอบทักษะพนื้ ฐานได้
3.3 ด้านคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A)
3.3.1 มีวนิ ยั
3.3.2 ใฝเ่ รยี นรู้
3.3.3 มุ่งมั่นในการทางาน

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ลกั ษณะวิชาศิลปะ ศ33102 สาระท่ี 1 ทศั นศิลป์
4.2 หน่วยการเรียนรู้ ตวั ช้วี ัด กิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล
4.3 การวดั ทกั ษะพืน้ ฐานของผเู้ รยี น

5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น (C)
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. ช้ินงาน / ภาระงาน
6.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
6.2 ใบงาน แบบทดสอบทักษะพ้นื ฐาน

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขน้ั นา
7.1ทดสอบก่อนเรยี นโดยใชเ้ นื้อหาท้งั 4 หนว่ ย จานวน 20 ข้อ เพือ่ วัดความรู้พ้ืนฐาน
7.2 นักเรียนดตู ัวอย่างผลงานทัศนศิลป์ แลว้ ใชค้ าถามใหน้ ักเรียนคิดวา่ ภาพนา่ สนใจอยา่ งไร

วิเคราะหเ์ รอ่ื งความงามของผลงาน
7.3 แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนร้ใู ห้นักเรียนทราบ
ข้นั สอน
7.4 นกั เรยี นทากจิ กรรมตามใบงาน เรื่องทดสอบทักษะพ้นื ฐาน ให้นกั เรยี นสรา้ งงานทัศนศิลป์

ตามความคิดสรา้ งสรรค์ และจิตนาการตามความถนัดของตนเอง โดยตงั้ ช่ือภาพและเขียนแนวความคิด
7.5 สมุ่ นกั เรยี นออกมาแสดงความคดิ เห็น เกยี่ วกับผลงานทีท่ าเปน็ การฝกึ ใหน้ กั เรยี นกล้า

แสดงออก โดยครูให้คาชแ้ี นะ
ขัน้ สรปุ
7.6 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปกิจกรรม และแนวปฏิบัติในการเรียนรู้ วิชาศิลปะ ศ33102

สาระท่ี 1ทัศนศลิ ป์

8. สอ่ื และวสั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรียน
8.1 ใบความรู้ เรอ่ื ง ประมวลรายวชิ าศลิ ปะ สาระท่ี 1 ทัศนศลิ ป์
8.2 ใบงาน เรือ่ ง ทดสอบทกั ษะพน้ื ฐาน
8.3 ภาพตัวอยา่ งผลงานทัศนศลิ ปป์ ระเภทต่างๆ
8.4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

9. การวัดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

เป้าหมาย ภาระงาน/ชิน้ งาน เครื่องมอื วิธวี ัดผล เกณฑ์การ
การเรียนรู้ 1. แบบสังเกต ประเมิน

ความรู้ ความ 1. บอกลกั ษณะ พฤติกรรม 1. สังเกตพฤติกรรม 1. ไดค้ ะแนนไมต่ ่า
ในชนั้ เรยี น
เขา้ ใจ วชิ าศิลปะ ในชน้ั เรยี น กว่า รอ้ ยละ 60
1. แบบประเมนิ
(K) ศ33102 และ ใบงาน

เสนอแนะแนว 1. แบบประเมนิ
คุณลักษณะ
ทางการจัดการ อันพงึ ประสงค์

เรียนการสอน 1. แบบประเมิน
สมรรถนะท่ี
ทกั ษะ/ 1. ใบงานเรือ่ ง สาคัญ 1. ประเมนิ ใบงาน 1. ไดค้ ะแนนไม่ต่า
กว่า ร้อยละ 60
กระบวนการ แบบทดสอบ

(P) ทักษะพืน้ ฐาน

คณุ ลักษณะ 1. พฤติกรรม 1. สงั เกต 1. ได้คะแนนไมต่ า่

อนั พึงประสงค์ ในช้นั เรียน พฤติกรรม กว่า ร้อยละ 60

(A) ในช้ันเรียน

สมรรถนะทส่ี าคญั 1. พฤตกิ รรม 1. สังเกตพฤตกิ รรม 1. ไดค้ ะแนนไมต่ า่

ในชนั้ เรยี น ในช้นั เรยี น กวา่ รอ้ ยละ 60

แบบทดสอบก่อนเรยี น

รายวิชาศิลปะ(ทัศนศิลป์) รหัสวิชา ศ33102 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

๑. ข้อใดจดั อยู่ในวสั ดทุ ่ใี ชใ้ นการสร้างสรรค์งานท้ังหมด 6. ภาพพิมพ์ (Graphic Art ) ตามพระราชบัญญัติเก่ียวกับ

ก. เฟรมผ้าใบ ดินสอดาเกรดต่าง ๆ พกู่ นั การพมิ พ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ให้คาจากัดความไว้วา่ อะไร

ข. ปากกาลกู ลน่ื ถ่ายชาร์โคล ขาหยั่ง ท่ีหนีบ ก. ทาใหเ้ ป็นตัวหนงั สอื หรือรูปรอยตา่ งๆโดยการกดหรือ

ค. ปากกาปลายสกั หลาด หมึก สตี า่ ง ๆ วธิ กี ารอ่นื ใดอันก่อเกิดให้เป็นส่ิงพมิ พ์ขน้ึ หลายสาเนา

ง. กระดานรองวาด กระดาษ เฟรมผ้าใบ ข. การสร้างสรรคภ์ าพต่างๆโดยมีแม่แบบ
๒. เมื่อเราต้องการร่างภาพ ควรใช้ดินสอแบบใดจึงจะ ค. การขดี / เขยี นให้เกดิ เปน็ ภาพและกดทับลงบนวตั ถุ
เหมาะสมทีส่ ุด ง. ถกู ท้ังข้อ ก และขอ้ ค

ก. ๒H ,๓H ๗. กลวิธใี นการสรา้ งงานประติมากรรม คือข้อใด
ข. HB ก. เป็นการเอาสว่ นย่อยเพ่ิมเข้าเพ่อื ให้ได้สว่ นรวมที่
ค. ๒B , ๔B ตอ้ งการ

ง. ๕B ข. เปน็ การเอาสว่ นย่อยออกจากสว่ นรวม โดยการแกะ
๓. “พู่กัน” รปู แบบใด เหมาะสาหรับเขยี นภาพสีน้ามัน ออก

ก. พกู่ ันจีน ค. เป็นการเอาส่วนย่อยและส่วนรวมมาผสมผสานเข้า

ข. พู่กันแบน ด้วยกัน
ค. พกู่ ันกลม ง. ถูกท้งั ข้อ ก และ ข
ง. พ่กู ันเหล่ียม ๘. ข้อใดเปน็ วัสดทุ ีใ่ ช้ในการสร้างสรรค์งานประติมากรรม

๔. คุณสมบัติของสีในข้อใด แตกต่างจากพวก ก. ดนิ นา้ มัน
ก. สีน้ามัน ข. ขีผ้ ้งึ
ข. สีน้า ค. แปง้ ขนมปัง

ค. สโี ปสเตอร์ ง. ถกู ทุกขอ้

ง. สีอะคลิลิก ๙. ขอ้ ใดคือข้ันตอนแรกของการเขยี นภาพล้อเลียน

๕. ข้อใดคือกลวิธีในการสร้างงานพิมพ์โดยกระบวนการ ก. ร่างภาพ ลายเส้น ในส่วนของใบหนา้ โดยขยาย

พิมพผ์ ิวนูน (Relief Process) จุดเดน่ ให้โตขึน้ หรือเลก็ ลง
ก. เป็นการสรา้ งแม่พมิ พจ์ ากพิมพท์ ี่แกะหรือขูดเนือ้ ข. จับจุดนา่ สนใจ หรือจดุ เด่น บนใบหน้าของแบบวาด
วัสดุที่ไม่ต้องการให้ติดหมกึ ใหล้ ึกลงไป ค. กาหนดน้าหนกั อ่อน แก่ บนใบหนา้

ข. เป็นการสรา้ งแม่พิมพใ์ หเ้ ปน็ รอ่ งลกึ ลงไปจากผิวพืน้ ง. ใชส้ ีเขม้ กวา่ ผวิ เน้ือสรา้ งน้าหนักแก่

และใชส้ ีอัดลงไปตามร่องรอยต่าง ๆ 1๐. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วตั ถปุ ระสงค์ ของการเขียนภาพลอ้ เลยี น

ค. ไม่มกี ารขดู ขีด แกะสลกั ใด ๆ การพมิ พ์ภาพวิธนี ้ีจะ ก. เพอ่ื มอบให้แกค่ นทรี่ กั เพอ่ื นสนิท มติ รสหายใน

ได้ภาพทม่ี ลี กั ษณะแบบเดียวกนั เพียงภาพเดียว โอกาสตา่ ง ๆ

เท่านัน้ ข. เพ่อื ใชเ้ ปน็ ภาพประกอบข่าวสาร เรอื่ งราว

ง. เปน็ การทาแมพ่ ิมพด์ ว้ ยวิธีงา่ ย ๆ โดยการฉลุ วรรณกรรม
แม่พมิ พ์ แลว้ พน่ สลดั สี และทาสลี งไปในแมพ่ ิมพท์ ่ี ค. เพอื่ ประชดประชันสงั คม ต่อต้าน รณรงค์ ฯลฯ
ฉลนุ นั้ ง. เพอ่ื ให้รปู มคี วามเหมอื นจรงิ มากท่สี ุด

11. ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับศิลปะก่อนสมัย 16. งานทัศนศลิ ป์แบบกรีก มีลักษณะอย่างไร

ประวตั ิศาสตร์ ก. บอกเล่าเร่ืองราว วิถี ความเชื่อเรอื่ งหลังความตาย

ก. แสดงออกถึงการดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน การล่า ข. ยึดมั่นในเหตผุ ล ความสมบูรณข์ องมนษุ ย์เป็นความ

สตั ว์ ความเชือ่ กบั ความตาย งาม

ข. การบนั ทกึ เรอ่ื งราวการต่อสู้ สงคราม ความเชอ่ื ค. เน้นการบูชา เซน่ สรวง เทพเจ้าตา่ ง ๆ

ชวี ิตและความตาย ง. บอกเล่าเรื่องราวการต่อส้ใู นสมยั ก่อนผ่านงาน

ค. ถ่ายทอดเรือ่ งราวความอดุ มสมบูรณ์ในชวี ิต ทศั นศิลป์

ประจาวนั 17. จากภาพเปน็ หวั เสาแบบใด

ง. ถ่ายทอดเร่ืองราวในสงั คม วีชีวิตในการอยู่ร่วม

กันของคนในชนเผ่า

12. ถา้ อัลตามิรา (Alitanira ) ตัง้ อย่ทู ี่ประเทศอะไร

ก. ฝรั่งเศส ก. ดอรกิ

ข. สเปน ข. ไอโอนิก

ค. ออสเตรยี ค. โครนิ เทียน

ง. องั กฤษ ง. มโิ ดนิก

13. ศิลปะสมยั ใดมีการประดษิ ฐ์อักษรภาพหรืออักษร 18. วิหารพาร์เทนอน เปน็ งานสถาปตั ยกรรมในสมัยใด

เฮยี โรกลิฟิก ( Heiroglyphic ) ก. กรีก

ก. อยี ิปต์ ข. โรมนั

ข. เมโสโปเตเมีย ค. โกธิค

ค. เปอรเ์ ซีย ง. ไบแซนไทม์

ง. ไบแซนไทม์ 19. ขอ้ ใดคอื วตั ถุประสงค์ในการสรา้ งเสาของทราจัน

14. มาสตาบา (Mastaba) ไดม้ ีวิวัฒนาการมาเปน็ สงิ่ ใด ก. เพอ่ื บนั ทึกประวัตกิ ารต่อสู้ของชาวโรมันกับศัตรู

ก. พรี ะมิด ข. เพอ่ื บนั ทึกและประกาศชัยชนะในการตอ่ สู้ของชาว

ข. สฟิงซ์ โรมนั กับศตั รู

ค. วหิ ารคาร์นกั ค. เพอ่ื ราลึกและเปน็ การบชู าเทพเจา้

ง. ซกิ ูรดั ง. เพ่อื เป็นสญั ลักษณค์ วามเชอ่ื และการบูชายกย่อง

15. “ทัศนศิลปท์ ่ีมักแสดงความเกง่ กล้าของนักรบ และ เหลา่ เทพเจ้า

กษัตรยิ ์ ซง่ึ จะแสดงใหร้ ้วู ่าเปน็ กษัตรยิ ด์ ้วยการเน้นใบหนา้ 20. ผลงานของเฉลิมชยั โฆษิตพิพฒั น์ เป็นแบบอย่างท่ีดีใน

หนวด และขนาดของรปู ในภาพ” จากข้อความดงั กลา่ ว คือ เร่ืองใด

งานทัศนศิลป์ของชนเผ่าใด ก. ผลงานด้านศาสนา มคี วามเหมือนจริง

ก. เปอรเ์ ซยี ข. ผลงานดา้ นศาสนา ปรชั ญา เน้นความเป็นไทย

ข. สเุ มเรยี น โบราณ

ค. ปาบโิ ลเซยี ค. ผลงานดา้ นศาสนา มคี วามวจิ ิตรผสมผสานความ

ง. อัสซเี รีย เป็นสากล

ง. ผลงานดา้ นศาสนา มคี วามอ่อนชอ้ ย เนน้ ความเปน็

ไทยร่วมสมัย

ใบงาน
เรื่อง ทดสอบทกั ษะพน้ื ฐาน

คาชีแ้ จง ให้นักเรียนสรา้ งงานทัศนศิลป์ตามความคิดสร้างสรรค์และจิตนาการ โดยตง้ั ชือ่ ภาพและเขยี น
แนวความคิด

ชอ่ื ภาพ...........................................................................................................................................
แนวความคิด...................................................................................................................................
...........................................…………………………………………………………………………………………………
...........................................…………………………………………………………………………………………………

ใบความรู้
เรื่อง รายวชิ า ศลิ ปะ รหสั วิชา ศ33102

สาระท่ี 1 ทัศนศลิ ป์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สรุ าษฎรธ์ านี

ประกอบแผนการจดั การเรียนรูป้ ฐมนิเทศ

คาอธิบายรายวชิ า
มีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับศิลปะ หลักการทัศนศิลป์ การออกแบบสร้างสรรค์งานศิลปะ รวมไปถึง

รูปแบบของทัศนศิลป์ตะวันตกและตะวันออก และอิทธิพลของวัฒนธรรมตา่ งประเทศ
มีทักษะความสามารถในการวาดภาพการ์ตูน ภาพล้อเลียน การสร้างสรรคร์ ูปปน้ั จากจินตนาการ ศิลปะ

ภาพพิมพ์แกะไม้ รวมท้ังศิลปะการออกแบบสร้างสรรคผ์ ลงานต่าง ๆ โดยใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ ตวั ชว่ ย
ชื่นชมและเห็นคุณค่าผลงานศิลปะของตนเองและผู้อ่ืน ชื่นชอบการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์

หลากหลายรปู แบบ และนาความรู้และความสามารถท่ไี ด้มาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน
ช่นื ชมและประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั - ทกั ษะกระบวนการ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
นักเรียนสามารถทางาน
หนว่ ยการเรียนรู้ - รว่ มกนั เปน็ กลุ่มได้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ความสามารถในการคิด
1. ใฝเ่ รยี นรู้
นักเรยี นสามารถบอกลักษณะวิชา 2. กลา้ แสดงออก 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
ศลิ ปะ ศ33102สาระท่ี 1ทศั นศลิ ป์ 3. มีจติ สาธารณะ
มาตรฐานการเรียนรู้และสาระการ 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะ
เรียนรู้ สาระที่ 1 ทศั นศิลป์ หน่วยการ ชีวิต
เรียนรู้ และเสนอแนะวธิ กี ารวดั ผล
ประเมินผลอย่างหลากหลายตาม 5. ความสามารถในการใช้
สภาพจริงและสอดคลอ้ งกับความ เทคโนโลยี
ตอ้ งการได้



บนั ทกึ หลงั การสอน
แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง ปฐมนเิ ทศ

รายวชิ าศิลปะ รหสั วชิ า ศ33102 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6

1. ผลท่ีเกิดกับผู้เรยี น
1.1 การประเมนิ ดา้ นความร(ู้ K) พบวา่
นักเรยี นผ่านการประเมิน จานวน 49 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 55.68
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ขน้ั ตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน 39 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 44.32
1.2 การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ(P) พบวา่
นกั เรียนผา่ นการประเมิน จานวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 80.68
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑข์ ้นั ตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน 17 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 19.32
1.3 การประเมินด้านคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์(A) พบวา่
นักเรียนผา่ นการประเมิน จานวน 71 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 80.68
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ข้นั ตา่ ที่กาหนดไว้ จานวน 17 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 19.32

2. ปญั หาและอปุ สรรค ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรียนทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
 มีนกั เรยี นท่ีไม่สนใจเรยี น
 อืน่ ๆ นักเรียนไมเ่ ขา้ เรียนใน google classroom และไม่ไดเ้ ขา้ มาทาแบบทดสอบก่อน
เรยี น จานวน 39 คน

3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข

 ควรนาแผนไปปรบั ปรุง เรอื่ ง ........................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นทไ่ี มผ่ ่านการประเมิน

สร้างกลมุ่ สนทนาเฟซบุ๊ค สาหรับหรบั ตดิ ตามนักเรยี น และส่งส่อื การสอน และใบงาน
เพ่ิมเติม

ลงชอ่ื ครูผู้สอน
(นางสาวนตธดิ า ชมุ พงษ)์

แผนการจดั การเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

รายวชิ าศิลปะรหัสวิชา ศ33102 สาระทัศนศลิ ป์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ความเขา้ ใจในศิลปะ จานวน 4 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง ศิลปะคืออะไรและประเภทของศิลปะ จานวน 1 ช่วั โมง

-------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้

ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์

วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และ

ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน

ตวั ชว้ี ัด

ศ 1.1 ม.4-6/2 บรรยายจุดประสงค์ และเน้อื หาของงานทศั นศลิ ป์ โดยใชศ้ ัพท์ทางทัศนศิลป์

2. สาระสาคญั

ศิลปะเป็นส่ิงท่ีมนุษย์สร้างสรรค์ข้ึนจากการรับรู้ความงามของธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม โดยอาศัยวัสดุ
ต่าง ๆ ในการแสดงออก เพ่ือสนองความต้องการทางด้านอารมณ์และจิตใจ ซ่ึงแบ่งออกได้เป็น 2
ประเภท คอื วจิ ติ รศลิ ป์ (Fine Art) และประยกุ ตศ์ ลิ ป์ (Applied Art)

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
3.1.1 นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของศิลปะได้
3.1.2 นักเรยี นสามารถอธิบายความสมั พนั ธข์ องศลิ ปะ ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มได้
3.1.3 นกั เรยี นสามารถจาแนกประเภทของศลิ ปะได้
3.2 ดา้ นกระบวนการ/ทักษะ (P)
3.2.1 นกั เรียนรวบรวมและสรปุ เกีย่ วกบั งานศิลปะประเภทวจิ ิตรศลิ ป์และประเภท
ประยุกต์ศิลป์
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A)
3.3.1 มวี ินัย
3.3.2 ใฝ่เรยี นรู้
3.3.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ศลิ ปะคืออะไร
4.2 ประเภทของศลิ ปะ

5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน (C)
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. ช้นิ งาน / ภาระงาน
6.1 ใบงาน เรอ่ื ง เข้าใจศิลปะ
6.2 แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง เขา้ ใจศิลปะ

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : การจัดการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้

ขน้ั สร้างความสนใจ (5 นาท)ี
7.1 นักเรยี นใชม้ ือขา้ งท่ีไมถ่ นดั จบั ดนิ สอแลว้ วาดภาพเพ่ือนในชัน้ เรยี น
7.2 ครูขอตัวแทนนกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น
ขัน้ สารวจค้นหา (15 นาท)ี
7.3 ครูให้นักเรียนชมภาพ แลว้ ถามคาถามต่อไปน้ี

ข้อท่ี 1 ภาพใดเปน็ งานศลิ ปะ (ภาพงานศลิ ปะ ภาพธรรมชาติ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม)
ขอ้ ท่ี 2 นักเรียนคิดว่าในการสร้างผลงานศิลปะควรได้แนวคิดจากสิ่งใด (ธรรมชาติและ
สิง่ แวดลอ้ ม)
ข้อที่ 3 นักเรียนคดิ วา่ ศลิ ปะ ธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ มมีความสมั พันธ์กันหรอื ไม่
อยา่ งไร (มีความสัมพันธก์ ัน เพราะความงามของธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมเปน็ แรงบนั ดาล
ใจใหม้ นษุ ยส์ ร้างงานศลิ ปะ)

7.4 นักเรียนชมภาพงานศิลปะประเภทต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง แล้วครูสอบถามนักเรียนว่าศิลปะคือ

อะไร

7.5 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ทากิจกรรม ประเภทของศิลปะ ศึกษาประเภทของศิลปะ

ท้ังวิจิตรศิลป์ และประยุกต์ศิลป์ โดยนักเรียนศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือเรียนทัศนศิลป์ 4-6 ชั้น

มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 อนิ เทอรเ์ นต็ หรอื แหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ

7.6 ครสู งั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นและคอยใหค้ าแนะนานกั เรยี นในการศึกษาข้อมูล

7.7 นกั เรยี นออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียนทีละกลมุ่

ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (15 นาท)ี

7.8 นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความหมายของศิลปะ ตามความเข้าใจของตนเอง แลว้ บันทึกลงสมดุ

ของตนเอง

7.9 นักเรียนร่วมกันสรุปประเภทของงานศิลปะ ประเภทวิจิตรศิลป์ ถึงสรุปลักษณะและรูปแบบ

ของงานแตล่ ะแขนง พร้อมยกตัวอย่างผลงานโดยเขยี นแขนงต่าง ๆ บนกระดาน ดังนี้

1) จิตรกรรม 2) ประตมิ ากรรม

3) สถาปตั ยกรรม 4) ภาพพมิ พ์หรอื เลขนศลิ ป์

5) สื่อผสม 6) ภาพถ่าย

7) ศลิ ปะท่ีอยูเ่ หนอื กฎเกณฑ์ 8) วรรณกรรม

9) นาฏศิลปแ์ ละดุรยิ างคศลิ ป์

7.10 นักเรียนร่วมกันสรุปประเภทของงานศิลปะ ประเภทประยุกต์ศิลป์ ถึงสรุปลักษณะและ

รปู แบบของงานแตล่ ะแขนง พรอ้ มยกตัวอย่างผลงานโดยเขยี นแขนงตา่ ง ๆ บนกระดาน ดงั น้ี

1) พาณิชยศ์ ิลป์ 2) อุตสาหกรรมศิลป์

3) มัณฑนศิลป์ 4) ศิลปหัตถกรรม

5) ศิลปะพนื้ บา้ น 6) คหกรรมศาสตร์

7.11 นักเรียนทากิจกรรมใบงานเรือ่ ง เขา้ ใจศิลปะ

7.12 นกั เรยี นแลกเปลยี่ นใบงานกับเพอื่ นตรวจความถูกตอ้ ง

ข้นั ขยายความรู้ (10 นาที)

7.13 นกั เรียนรว่ มกนั ศึกษาและสบื ค้นว่าศิลปะมีอิทธิพลตอ่ การดารงชวี ติ และสังคมอยา่ งไร

7.14 นักเรียนสง่ ตวั แทนออกมาอธิบายหนา้ ช้ันเรียน และนักเรียนในชัน้ เรยี นร่วมกันเสนอ

เพ่มิ เติมจากที่เพื่อนนาเสนอในสว่ นที่ไมส่ มบรู ณห์ รือต้องการอธบิ ายเพิ่มเติม

7.15 นกั เรียนจดบันทึกความรูท้ ี่ได้ลงสมุดของตนเอง

ขั้นประเมนิ ผล (5 นาที)
7.16 นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน
7.17 ครสู ังเกตพฤติกรรมและประเมนิ การทากิจกรรมของนกั เรียน
7.18 ครูประเมินผลงานกิจกรรม ศลิ ปะคืออะไร
7.19 ครปู ระเมนิ การนาเสนอของนกั เรียน
7.20 ครูประเมนิ ใบงานเร่อื ง เข้าใจศิลปะ

8. สอ่ื และวัสดอุ ปุ กรณก์ ารเรยี น
8.1 ภาพงานศิลปะ ภาพธรรมชาติ ภาพส่งิ แวดล้อม
8.2 ใบงานเรื่อง เขา้ ใจศลิ ปะ
8.3 แบบทดสอบ เร่ือง เข้าใจศลิ ปะ
8.4 หนงั สือเรยี นทัศนศลิ ป์ 4-6 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6

9. การวัดการประเมินผลการเรยี นรู้

เปา้ หมาย ภาระงาน/ชน้ิ งาน เครอ่ื งมือ วิธีวดั ผล เกณฑก์ ารประเมิน
การเรยี นรู้
1. ได้คะแนนไมต่ ่ากวา่
ความรู้ ความเขา้ ใจ 1. นาเสนอ กิจกรรม 1. แบบประเมนิ การ 1. ประเมนิ การ ร้อยละ 60
(K) ศลิ ปะคอื อะไร
นาเสนอ นาเสนอ 2. ได้คะแนนไม่ตา่ กวา่
รอ้ ยละ 60
หนา้ ชั้นเรียน หนา้ ชั้นเรยี น
1. ได้คะแนนไม่ต่ากว่า
2. แบบทดสอบ 2. แบบประเมนิ 2. ประเมนิ รอ้ ยละ 60
หลงั เรียน แบบทดสอบ แบบทดสอบ
2. ได้คะแนนไม่ตา่ กว่า
ทักษะ/กระบวนการ 1. กิจกรรม ศิลปะ 1. แบบประเมนิ การ 1. ประเมินการทา ร้อยละ 60
(P) คอื อะไร
ทากิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมกลุ่ม 1. ได้คะแนนไมต่ ่ากว่า
คณุ ลกั ษณะ 2. ใบงานเรื่อง รอ้ ยละ 60
อันพึงประสงค์ (A) เขา้ ใจศิลปะ 2. แบบประเมนิ 2. ประเมินใบงาน
1. ได้คะแนนไมต่ ่ากว่า
1. พฤตกิ รรม ใบงาน รอ้ ยละ 60
ในช้นั เรยี น
1. แบบประเมิน 1. สงั เกตพฤติกรรม 1. ได้คะแนนไม่ต่ากว่า
รอ้ ยละ 60
คณุ ลักษณะ ในชนั้ เรยี น
อันพงึ ประสงค์

สมรรถนะท่ีสาคัญ 1. พฤตกิ รรม 1. แบบประเมิน 1. สงั เกตพฤติกรรม
ในช้นั เรียน
หลักปรชั ญา สมรรถนะท่ีสาคัญ ในช้ันเรียน
เศรษฐกิจพอเพียง 1. พฤตกิ รรม
ในชัน้ เรยี น 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 1. สังเกตพฤติกรรม

หลกั ปรชั ญาของ ในช้นั เรียน

เศรษฐกิจพอเพยี ง

ใบงาน

เร่ือง เขา้ ใจศลิ ปะ

ช่อื ............................................................นามสกลุ .....................................................เลขที.่ ............

มฐ. ศ 1.1 ตัวชว้ี ดั 2

1. ภาพใดเปน็ งานศลิ ปะ

2. นกั เรียนคดิ วา่ ในการสรา้ งผลงานศิลปะควรได้แนวคิดจากสิ่งใด
............................................................................................................................. ....................................
.............................................................................................................................................................. ...
3. นักเรียนคิดว่าศลิ ปะ ธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อมมคี วามสมั พันธ์กันหรอื ไม่ อย่างไร
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................
4. ศลิ ปะ หมายถงึ
............................................................................................................................. ....................................
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................................................. ....................................

5. ให้นกั เรียนนาคาศัพทท์ ่ีกาหนดให้มาจดั กลุ่มแบง่ ประเภทงานศลิ ปะพร้อมท้ังออกแบบจัดวาง
แผนผังตามแนวคิดของตนเองใหถ้ กู ต้องและสวยงาม
สถาปตั ยกรรม ศิลปะส่ือผสม ศลิ ปะท่ีอยเู่ หนอื กฎเกณฑ์ วรรณกรรม พาณิชยศิลป์

อตุ สาหกรรมศลิ ป์ ภาพพิมพ์ มัณฑนศิลป์ นาฏศิลป์และดุริยางคศลิ ป์ ประติมากรรม
ศลิ ปหตั ถกรรม ศิลปะภาพถา่ ย ศลิ ปะพนื้ บา้ น คหกรรมศาสตร์ จิตรกรรม

วจิ ิตรศิลป์ (Fine Art) หรือ ประณตี ศิลป์ ประยกุ ต์ศิลป์ (Applied Art) หมายถึง
(Minor Art) หมายถึง ศิลปะที่ตอบสนอง ศิลปะท่ีตอบสนองความตอ้ งการทางร่างกาย
ความตอ้ งของมนุษยท์ างดา้ นจิตใจและ จิตใจ โดยวดั คุณคา่ การจากประโยชน์ใช้
อารมณ์ สอยและความงาม

วจิ ติ รศิลป์

ประยุกต์ศิลป์

แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง เข้าใจศิลปะ
คาสั่ง 1. มขี ้อสอบจานวน 10 ข้อ

2. ใหน้ กั เรียนเขียนเครอื่ งหมาย X ข้อท่ีถูกต้องมากทสี่ ุดเพียงข้อเดยี ว

1. ข้อใดเป็นความงามในธรรมชาติ
ก. ความสวยงามของดอกไม้
ข. ภาพวาดพระอาทติ ย์ตกดนิ
ค. ภาพวาดทวิ ทัศนธ์ รรมชาติ
ง. ภาพจติ รกรรมฝาผนงั ตามวดั

2. ข้อใดเปน็ งานศิลปะ
ก. ท้องฟา้ ในเวลาเช้า
ข. หาดทรายทส่ี วยงาม
ค. ลวดลายบนเทยี นพรรษา
ง. หางนกยูงท่ีหลากหลายสี

3. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของศิลปะไดถ้ กู ต้อง
ก. ศลิ ปะเปน็ สงิ่ ท่ีสวยงาม
ข. ศิลปะเป็นส่งิ ท่ีมนุษย์สรา้ งขึน้
ค. ศิลปะเป็นผลจากการสรา้ งสรรค์
ง. ศลิ ปะเป็นสิง่ ท่ีมนษุ ย์สร้างข้ึนจากความพงึ พอใจ

4. ขอ้ ใดเปน็ ส่ิงแวดล้อมทีม่ นุษย์สรา้ งข้ึน

ก. ข

ค. ง.

5. ข้อใดถกู ต้องท่สี ดุ
ก. ธรรมชาตทิ ส่ี วยงามเป็นงานศิลปะที่มีคุณคา่
ข. ผลงานศลิ ปะของคนพิการมีคุณคา่ มากกวา่ ผลงานคนปกติ
ค. ผลงานศิลปะต้องมาจากผูจ้ บการศึกษาดา้ นศิลปะเท่านน้ั
ง. สิง่ ทมี่ นุษยส์ รา้ งข้นึ จากจากการรับรู้ความงามเพื่อความพึงพอใจเปน็ งานศลิ ปะ

6. ศิลปะคือการเลียนแบบธรรมชาติ หมายถึงอะไร
ก. ศิลปนิ จะต้องผลติ งานใหเ้ หมือนธรรมชาติ
ข. ศิลปนิ จะต้องไปเขียนตรงหนา้ ธรรมชาติโดยตรง
ค. ศิลปนิ จะถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากธรรมชาติให้เหน็ เป็นรูปทรง
ง. ศลิ ปินจะต้องเคารพธรรมชาติและปรับปรุงดดั แปลงธรรมชาติ

7. วิจิตรศลิ ปเ์ รยี กอีกอยา่ งหนึ่งวา่ อะไร
ก. ทศั นศลิ ป์
ข. มัณฑนศลิ ป์
ค. ประณีตศิลป์
ง. ประยุกต์ศิลป์

8. ศิลปะประเภทใดที่มงุ่ ประโยชนใ์ ช้สอย แตย่ ังคงคณุ คา่ ทางความงามอยู่
ก. วจิ ติ รศลิ ป์
ข. นาฏศิลป์
ค. วาทศลิ ป์
ง. ประยุกต์ศิลป์

9. ศิลปะทางการชา่ งท่ีทาดว้ ยมือเปน็ สว่ นใหญ่ มุ่งเน้นประโยชน์ใชส้ อย ความงามและความประณีตคือ
ข้อใด

ก. พาณชิ ยศ์ ิลป์
ข. มณั ฑนศิลป์
ค. ศิลปหตั ถกรรม
ง. อตุ สาหกรรมศลิ ป์
10. ศิลปะพื้นบ้าน หมายถึงศิลปะในข้อใด
ก. ศลิ ปะท่ีทาในท้องถ่นิ สบื ต่อกันมา
ข. ศิลปะท่ใี ชว้ สั ดใุ นการทาราคาถูก
ค. ศลิ ปะทใี่ ช้บุคคลในท้องถิ่นเป็นผผู้ ลิต
ง. ศลิ ปะที่มีรปู ทรงของชาวบา้ นในท้องถ่ิน



บนั ทกึ หลงั การสอน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง ศิลปะคอื อะไรและประเภทของศิลปะ

รายวิชาศลิ ปะ รหัสวิชา ศ33102 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง ความเขา้ ใจในศิลปะ

1. ผลท่ีเกดิ กับผู้เรยี น
1.1 การประเมินด้านความรู้(K) พบวา่
นกั เรยี นผา่ นการประเมนิ จานวน 73 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 82.95
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑข์ นั้ ตา่ ที่กาหนดไว้ จานวน 15 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 17.05
1.2 การประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ(P) พบวา่
นักเรยี นผา่ นการประเมนิ จานวน 73 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 82.95
นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑข์ ั้นต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 17.05
1.3 การประเมนิ ด้านคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์(A) พบว่า
นกั เรียนผ่านการประเมนิ จานวน 73 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 82.95
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑข์ ั้นตา่ ที่กาหนดไว้ จานวน 15 คน คดิ เป็นร้อยละ 17.05

2. ปญั หาและอปุ สรรค ในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 มีนักเรียนท่ไี มส่ นใจเรยี น
 อ่ืน ๆ นักเรียนไม่เข้าเรียนใน google classroom จานวน 15 คน

3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เร่อื ง ........................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทีไ่ มผ่ า่ นการประเมนิ
- ครคู วรเพิ่มเวลาในขนั้ สารวจค้นหาและข้ันนาเสนอให้มากข้ึน
- สง่ ใบงานให้ในนักเรียนในกลุ่มสนทนาเฟซบุ๊ค

ลงชอื่ ครูผสู้ อน
(นางสาวนตธดิ า ชุมพงษ)์

แผนการจดั การเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

รายวิชาศิลปะรหัสวิชา ศ33102 สาระทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง ความเข้าใจในศลิ ปะ จานวน 4 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่ือง ทัศนศิลป์ (Visual Art) จานวน 1 ชั่วโมง

-------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั

มาตรฐานการเรียนรู้

ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์

วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และ

ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั

ตัวชี้วดั

ศ 1.1 ม.4-6/2 บรรยายจดุ ประสงค์ และเนอื้ หาของงานทศั นศลิ ป์ โดยใชศ้ พั ท์ทางทัศนศิลป์

ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และกระบวนการท่ีสูงข้ึนในการ

สร้างงานทศั นศลิ ป์

2. สาระสาคญั

ทัศนศลิ ปเ์ ปน็ ผลงานศิลปะทีม่ นุษยส์ ร้างสรรค์ข้ึน สามารถสัมผสั รบั รู้ ช่นื ชมความงามดว้ ยการ
มองเห็น ผลงานทัศนศิลป์มีหลายแขนงและมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไปตามวัสดุ อุปกรณ์ และ
วิธีการสร้างงาน ซึ่งสามารถจาแนกแขนงต่าง ๆ ได้ดังนี้ จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม
ศิลปะภาพพมิ พ์ ศิลปะภาพถ่าย ทัศนศลิ ป์สื่อผสม และทศั นศิลป์ประเภททอี่ ย่เู หนือกฎเกณฑ์

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
3.1.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายลักษณะเฉพาะของงานทัศนศลิ ป์แขนงต่าง ๆได้
3.1.2 นกั เรยี นสามารถจาแนกแขนงงานทัศนศลิ ป์ได้
3.2 ดา้ นกระบวนการ/ทกั ษะ (P)
3.2.1 นกั เรียนสร้างสรรคส์ มดุ ภาพงานทัศนศิลป์
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ (A)
3.3.1 มวี นิ ัย
3.3.2 ใฝ่เรียนรู้

3.3.3 มุ่งมนั่ ในการทางาน
3.3.4 มจี ิตสาธารณะ

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ทศั นศิลป์ (Visual Art)

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น (C)
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
6.1 ใบงาน เรือ่ ง เขา้ ใจศลิ ปะ
6.2 แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง เขา้ ใจศลิ ปะ

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : เทคนิคการจดั การเรยี นรโู้ ดยการศึกษาดว้ ยตนเอง

ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน (5 นาที)
7.1 นกั เรยี นชมวดิ โี อชา่ งสบิ หมู่ แลว้ แสดงความคดิ เห็นต่อลักษณะงานอย่างอิสระ
7.2 ครนู าภาพทัศนศลิ ป์แขนงต่าง ๆ มาให้นกั เรียนร่วมกนั สังเกตและอภปิ รายเกย่ี วกับเรอ่ื ง
ลกั ษณะของงาน วสั ดุอุปกรณ์ที่ใช้ วิธีการสรา้ งงาน และผู้สรา้ งงาน
ขน้ั สอน (40 นาที)
7.3 นกั เรียนร่วมกันศึกษาแขนงต่าง ๆ ของทศั นศิลป์ แลว้ ส่งตวั แทนออกมาเขียนผลการศกึ ษาท่ี
ได้บนกระดาน (จติ รกรรม ประตมิ ากรรม สถาปตั ยกรรม ภาพพิมพ์หรือเลขนศลิ ป์ ภาพถ่าย
สือ่ ผสม และศิลปะที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ)์
7.4 นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ทากิจกรรม งานทัศนศิลป์ การจัดทาสมุดภาพงาน
ทัศนศลิ ป์ โดยใหน้ กั เรยี นหาภาพงานทัศนศิลป์ นามาจดั ทาสมดุ ภาพโดยแยกประเภทแขนงต่าง ๆ โดย
นักเรยี นอาจจะตัดภาพมาจากนติ ยสารต่าง ๆ หรืออนิ เทอรเ์ นต็ มาติดลงในสมุด ขนาด A4 ไมต่ า่ กว่า
10 หน้ากระดาษ
7.5 ครสู งั เกตพฤติกรรมนักเรยี น และใหค้ าแนะนากับกลมุ่ ที่ไมส่ ามารถปฏิบตั ิกจิ กรรมได้ จน
นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิไดด้ ้วยตนเอง
7.6 นักเรยี นออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนทลี ะกลมุ่
7.7 เพ่อื นในช้นั เรยี นประเมินกล่มุ ที่ออกมานาเสนอวา่ ผลงานมีความสวยงามและถูกตอ้ งมาก
นอ้ ยเพยี งใด

7.8 ครูสอบถามนกั เรยี นว่า นักเรียนแบ่งแขนงงานทัศนศิลปอ์ ยา่ งไร และแต่ละลกั ษณะเปน็
อยา่ งไร

7.9 ครูประเมินผลงานนักเรียนและใหค้ าแนะเพิ่มเติม เพือ่ ใหน้ ักเรยี นนาไปเป็นแนวทางในการ
พฒั นาตนเอง

ข้นั สรุป (5 นาที)
7.10 นักเรียนร่วมกันสรุปความหมายของคาวา่ ทศั นศลิ ปแ์ ละแขนงต่าง ๆ ของงานทัศนศลิ ป์ โดย
ออกมาเขียนผลสรปุ บนกระดาน
7.11 นักเรียนบอกประโยชน์ที่ได้จากการเรียนเรื่อง เข้าใจทัศนศิลป์ วา่ มีประโยชน์ และสามารถ
นาไปปรับใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้อย่างไร
7.12 นกั เรียนนาผลงานไปจัดแสดงผลงานภายในบริเวณโรงเรียนเพื่อเผยแพรผ่ ลงาน

8. ส่อื และวสั ดุอปุ กรณก์ ารเรยี น

8.1 หนงั สือเรียนรายวิชาทศั นศลิ ป์ 4-6 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เรอื่ ง ทัศนศลิ ป์
8.3 ตัวอย่างการจดั ทาสมุดภาพงานทัศนศลิ ป์
8.4 รปู ภาพงานทัศนศิลปแ์ ขนงตา่ ง ๆ

9. การวดั การประเมินผลการเรียนรู้

เป้าหมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน เคร่อื งมือ วธิ วี ดั ผล เกณฑก์ ารประเมิน
การเรียนรู้
1. ได้คะแนนไม่ต่ากว่า
ความรู้ ความเขา้ ใจ 1. นาเสนอ กจิ กรรม 1. แบบประเมินการ 1. ประเมินการ รอ้ ยละ 60
(K) ศลิ ปะคอื อะไร นาเสนอ นาเสนอ
หนา้ ช้ันเรยี น หน้าชั้นเรยี น 2. ได้คะแนนไม่ต่ากว่า
ร้อยละ 60
ทกั ษะ/กระบวนการ 2. แบบทดสอบ 2. แบบประเมิน 2. ประเมิน
(P) หลังเรยี น แบบทดสอบ แบบทดสอบ 1. ได้คะแนนไมต่ ่ากว่า
ร้อยละ 60
คุณลกั ษณะ 1. กิจกรรม ศลิ ปะ 1. แบบประเมินการ 1. ประเมินการทา
อนั พงึ ประสงค์ (A) คอื อะไร ทากจิ กรรมกลุ่ม กิจกรรมกล่มุ 2. ได้คะแนนไมต่ า่ กวา่
ร้อยละ 60
2. ใบงานเรื่อง 2. แบบประเมิน 2. ประเมินใบงาน
เขา้ ใจศิลปะ ใบงาน 1. ได้คะแนนไม่ตา่ กวา่
รอ้ ยละ 60
1. พฤตกิ รรม 1. แบบประเมิน 1. สงั เกตพฤติกรรม
ในช้นั เรียน คณุ ลกั ษณะ ในชัน้ เรยี น 1. ได้คะแนนไม่ตา่ กว่า
อันพึงประสงค์ ร้อยละ 60
สมรรถนะท่ีสาคัญ 1. พฤตกิ รรม 1. สงั เกตพฤติกรรม
ในชน้ั เรียน 1. แบบประเมิน ในชั้นเรยี น 1. ได้คะแนนไม่ต่ากว่า
หลักปรชั ญา สมรรถนะท่สี าคัญ รอ้ ยละ 60
เศรษฐกิจพอเพียง 1. พฤตกิ รรม
ในชน้ั เรยี น 1. แบบสังเกตพฤติกรรม 1. สังเกตพฤติกรรม

หลักปรชั ญาของ ในชน้ั เรยี น

เศรษฐกิจพอเพียง



บนั ทึกหลงั การสอน
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง ทัศนศิลป์ (Visual Art)

รายวชิ าศลิ ปะ รหัสวิชา ศ33102 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง ความเข้าใจในศิลปะ

1. ผลทเี่ กดิ กับผเู้ รียน
1.1 การประเมินดา้ นความร้(ู K) พบว่า
นักเรยี นผ่านการประเมิน จานวน 72 คน คดิ เป็นร้อยละ 81.81
นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ขั้นต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน 16 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 18.19
1.2 การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ(P) พบวา่
นักเรยี นผ่านการประเมิน จานวน 72 คน คิดเปน็ ร้อยละ 81.81
นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑข์ น้ั ต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน 16 คน คดิ เป็นร้อยละ 18.19
1.3 การประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์(A) พบวา่
นักเรยี นผา่ นการประเมิน จานวน 72 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 81.81
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑข์ ้ันต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน 16 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 18.19

2. ปัญหาและอุปสรรค ในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี ักเรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 มนี กั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อ่นื ๆ - มีนกั เรียนบางกลมุ่ ไม่สามารถแยกประเภทของงานทศั นศลิ ปไ์ ด้
- นกั เรยี นไม่เข้าเรียนใน google classroom จานวน 16 คน

3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรุง เร่อื ง ........................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นทไี่ ม่ผ่านการประเมิน
- ครคู วรสร้างสือ่ การเรยี นรู้ที่น่าสนใจ และสามารถทบทวนเนือ้ หาได้งา่ ยและตลอดเวลา
- สง่ ใบงานให้ในนักเรียนในกลุ่มสนทนาเฟซบุ๊ค

ลงชอ่ื ครผู สู้ อน
(นางสาวนตธิดา ชุมพงษ์)

แผนการจดั การเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

รายวิชาศิลปะรหสั วิชา ศ33102 สาระทศั นศิลป์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง ความเขา้ ใจในศลิ ปะ จานวน 4 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง คุณคา่ ของงานศลิ ปะ (คณุ ค่าทางเรื่องราวและรปู ทรง) จานวน 1 ช่ัวโมง

-------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด

มาตรฐานการเรียนรู้

ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์

วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และ

ประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน

ศ 1.2 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งทศั นศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณคา่ งาน

ทศั นศิลป์ทีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรมภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่

ภมู ิปญั ญาไทยและสากล

ตัวชวี้ ัด

ศ 1.1 ม.4-6/2 บรรยายจดุ ประสงค์ และเนื้อหาของงานทศั นศิลป์ โดยใช้ศัพท์ทางทัศนศลิ ป์

ศ 1.1 ม.4-6/3 วิเคราะห์การเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิคของศิลปนิ ในการแสดงออก

ทางทศั นศลิ ป์

ศ 1.1 ม.4-6/7 วเิ คราะหแ์ ละอธิบายจดุ มุ่งหมายของศลิ ปินในการเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์

เทคนคิ และเนื้อหา เพื่อสรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ป์

ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบุงานทัศนศลิ ป์ของศิลปนิ ทมี่ ีชือ่ เสียงและบรรยายผลตอบรับของสังคม

2. สาระสาคญั

การศึกษาหรือชื่นชมผลงานทัศนศิลป์ควรมีความเข้าใจในเร่ืองคุณค่าต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ในผลงาน
น้ัน ๆ ซ่ึงคุณค่าของงานศิลปะสามารถแบ่งออกได้เป็น ๒ ลักษณะ ได้แก่ คุณค่าทางเร่ืองราว
(Content Value) เป็นคุณค่าที่ส่ือสารกับผู้ชมว่าผลงานน้ีมีเรื่องราวและเน้ือหาเกี่ยวกับอะไร และ
คุณค่าทางรูปทรง (Form Value ) รูปทรงในทางทัศนศิลป์ประกอบไปด้วย เส้น สี รูปร่าง รูปทรง
ทศิ ทาง ขนาด ตาแหนง่ นา้ หนัก พืน้ ผิว สว่ นประกอบตา่ ง ๆ เหลา่ นี้ทาให้ผลงานมคี วามแตกตา่ งกัน

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
3.1.1 นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์คุณค่าผลงานทัศนศลิ ป์ของศลิ ปนิ โดยใช้ศพั ทท์ าง

ทศั นศลิ ป์ได้
3.2 ด้านกระบวนการ/ทกั ษะ (P)
3.2.1 สรปุ คณุ คา่ ผลงานทัศนศลิ ปข์ องศลิ ปนิ จากการวเิ คราะห์
3.3 ดา้ นคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ (A)
3.3.1 มีวินัย
3.3.2 ใฝ่เรียนรู้
3.3.3 มุ่งม่นั ในการทางาน

4. สาระการเรียนรู้
4.1 คณุ คา่ ของงานศิลปะ
- คุณค่าทางเรอื่ งราว (Content Value)
- คณุ คา่ ทางรปู ทรง (Form Value )

5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น (C)
5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. ชนิ้ งาน / ภาระงาน
6.1 แผนผงั ความคิดเรื่อง วเิ คราะห์คุณคา่ ทางทศั นศลิ ป์

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : เทคนิคการจดั การเรียนร้ดู ว้ ยแผนผังความคดิ

ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น (5 นาที)
7.1. นกั เรียนชมภาพ งานจติ รกรรมท่มี ชี ่ือเสียง แลว้ รว่ มกันบอกคณุ ค่าของผลงานชิ้นทน่ี ักเรยี น
ได้ชมตามความเข้าใจของนกั เรยี นเอง โดยขีดเส้นออกมาจากภาพ พร้อมเขยี นคาอธิบายของนักเรยี น
เป็นแผนผังความคดิ (ไม่คานงึ ถงึ ความถกู ต้อง เป็นการใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ก่อนเรียน)

ข้ันสอน (40 นาที)
7.2 ครูสนทนากบั นักเรียนวา่ ในการศกึ ษาหรอื ชื่นชมผลงานทัศนศิลปค์ วรมีความเข้าใจในเรอ่ื ง
คณุ คา่ ต่าง ๆ ทแ่ี ฝงอย่ใู นผลงานน้นั ๆ ซ่ึงคณุ ค่าของงานศิลปะสามารถแบง่ ออกเปน็ 2 ลกั ษณะได้แก่
คณุ ค่าทางเรื่องราว (Content Value) และคณุ ค่าทางรูปทรง (Form Value)
7.3 นกั เรยี นร่วมกันศึกษาและสืบคน้ คุณค่าทางทัศนศิลป์ แล้วครูขออาสาสมคั รนักเรยี นออกมา
อธบิ ายหน้าชั้นเรียน 2-3 คน
7.4 ครูยกตวั อย่างภาพงานจติ รกรรม ประตมิ ากรรม สถาปัตยกรรม และภาพพิมพ์ ให้นักเรยี น
ชม แลว้ สาธิตการวิเคราะหค์ ุณค่าทางเรื่องราวและคุณค่าทางรูปทรงของภาพ
7.5 ครยู กตวั อยา่ งภาพงานจติ รกรรม ประตมิ ากรรม สถาปัตยกรรม และภาพพิมพ์ทมี่ ชี อื่ เสยี ง
ติดบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นร่วมกนั วิเคราะห์คุณค่าทางเรื่องราวและคณุ ค่าทางรปู ทรงของภาพ
รว่ มกันแลว้ ออกมาเสนอผลการวิเคราะหเ์ ปน็ แผนผงั ความคิดบนกระดาน
ตัวอยา่ ง

.................................. ..................................
................................. .................................

.................................. ..................................
................................. .................................

..................................
.................................

7.6 นักเรียนทากจิ กรรมเด่ยี ว วิเคราะหค์ ุณค่าทางทัศนศิลป์ แบง่ นกั เรยี นเปน็ 4 กลุ่ม เท่า ๆ กนั
(แบ่งตามหัวข้อ แตป่ ฏิบตั ิกิจกรรมเดยี่ ว)

กลมุ่ ที่ 1 วิเคราะห์คุณค่าทางทศั นศลิ ป์ ประเภทงานจิตรกรรม
กลุ่มที่ 2 วิเคราะห์คณุ คา่ ทางทัศนศลิ ป์ ประเภทงานประติมากรรม
กล่มุ ที่ 3 วเิ คราะห์คณุ คา่ ทางทศั นศิลป์ ประเภทงานสถาปัตยกรรม
กลมุ่ ท่ี 4 วิเคราะห์คณุ คา่ ทางทัศนศลิ ป์ ประเภทงานภาพพิมพ์
โดยนักเรียนเลอื กภาพงานทัศนศลิ ป์ทีม่ ชี อื่ เสยี งหรือที่นักเรียนชนื่ ชอบประเภททีต่ นเองได้ คนละ
1 ภาพ จากหนังสือเรียนทัศนศิลป์ 4-6 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 หรืออนิ เทอรเ์ นต็ มาวเิ คราะห์ผลงาน
ทัศนศิลป์เกยี่ วกบั คุณคา่ ทางเร่ืองราวและคุณค่าทางรูปทรงเป็นแผนผังความคิด นกั เรียนติดภาพที่
ตนเองเลือก แล้วใช้เส้นโยงข้อความอธบิ ายออกมาจากภาพ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม

7.7 นกั เรียนที่ไดร้ ับมอบหมายงานทัศนศลิ ปป์ ระเภทเดียวกนั ให้คาปรึกษาและแนะนากันใน
การทากจิ กรรม

7.8 นกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น พร้อมอธิบายความคิดเห็นส่วนตวั ต่อผลงาน
เพ่ิมเติม

ขน้ั สรุป (5 นาท)ี
7.9 นักเรียนรว่ มกนั สรุปหลักการวเิ คราะห์คุณคา่ ทางเร่ืองราวและคุณค่าทางรปู ทรง
7.10 ครูสอบถามนกั เรยี นว่า การวเิ คราะห์คณุ ค่าทางทัศนศิลปใ์ หป้ ระโยชนอ์ ะไรบา้ ง นักเรยี น
ออกมาเขียนเปน็ แผนผังความคิดบนกระดาน
7.11 นักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรทู้ ี่ได้จากการเรียนเรื่อง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าทางทศั นศิลป์
นกั เรยี นออกมาเขยี นคนละ 1 ข้อบนกระดานเปน็ แผนผังความคดิ

8. สื่อและวสั ดุอุปกรณก์ ารเรียน
8.1 หนงั สอื เรียนรายวิชาทศั นศิลป์ 4-6 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เรื่อง คุณค่าของงานศลิ ปะ
8.3 ภาพงานจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปตั ยกรรม และภาพพมิ พ์

9. การวดั การประเมนิ ผลการเรียนรู้

เปา้ หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน เครอื่ งมอื วธิ วี ดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ
การเรยี นรู้
ความรู้ ความเขา้ ใจ 1. นาเสนอ 1. แบบประเมิน 1. ประเมินการนาเสนอ 1. ได้คะแนนไมต่ ่ากว่า
การวเิ คราะห์คุณคา่ การนาเสนอ
(K) ทางทศั นศิลป์ หนา้ ชัน้ เรยี น หน้าชนั้ เรียน รอ้ ยละ ๖๐
ทกั ษะ/กระบวนการ
2. แผนผงั ความคิด 2. แบบประเมนิ 2. ประเมินใบงาน 2. ได้คะแนนไมต่ า่ กวา่
(P) เรอ่ื ง วเิ คราะห์ แผนผงั ความคดิ
คณุ คา่ ทาง แผนผังความคดิ ร้อยละ 60
คณุ ลักษณะ ทัศนศลิ ป์
อันพึงประสงค์ (A) 1. แบบประเมนิ 1. แบบประเมิน 1. ได้คะแนนไมต่ า่ กว่า
1. กจิ กรรม
การวเิ คราะหค์ ุณค่า การทากจิ กรรมกลุม่ การทากจิ กรรมกลุ่ม รอ้ ยละ 60
ทางทัศนศิลป์

2. พฤติกรรม 2. แบบประเมนิ 2. สังเกตพฤติกรรม 2. ได้คะแนนไม่ต่ากวา่
ในชั้นเรียน ร้อยละ 60
คุณลักษณะ ในชน้ั เรยี น
1. ได้คะแนนไม่ตา่ กวา่
อันพึงประสงค์ รอ้ ยละ 60

สมรรถนะท่ีสาคญั 1. พฤติกรรม 1. แบบประเมิน 1. สังเกตพฤติกรรม 2. ได้คะแนนไม่ตา่ กว่า
ในชนั้ เรียน รอ้ ยละ 60
หลักปรัชญา สมรรถนะทส่ี าคญั ในชน้ั เรยี น
เศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. พฤติกรรม
ในชนั้ เรยี น 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 2. สังเกตพฤติกรรม

หลักปรชั ญาของ ในช้ันเรียน

เศรษฐกจิ พอเพยี ง