7.9 ร่างภาพลายเส้นในส่วนของใบหน้าโดยขยายจุดเด่นให้โตขึ้น หรือปรับให้เล็กลง และ
สดั ส่วนของรา่ งกายใหเ้ ลก็ กว่าใบหนา้
1) กาหนดนา้ หนักออ่ น แก่ บนใบหน้า และระบายสใี นส่วนที่เปน็ ผวิ เนื้อ
2) ใชส้ ที เ่ี ข้มกวา่ สรา้ งนา้ หนักออ่ น แก่
3) ระบายสีรายละเอยี ดบนใบหนา้ และสว่ นร่างกาย
4) ตกแตง่ เกบ็ รายละเอยี ดของภาพใหส้ วยงาม
7.10 นักเรียนใช้เทคนิคในการสร้างสรรค์ที่ตนเองสนใจ โดยครูคอยให้คาแนะนาเพ่ิมเติมจน
นกั เรยี นสามารถปฏิบัติได้ดว้ ยตนเอง
7.11 นกั เรียนแบ่งปนั วสั ดอุ ปุ กรณ์ทีส่ ามารถใชร้ ว่ มกนั ได้กบั เพ่ือน
ขนั้ นาเสนอผลงาน (5 นาที)
7.12 นกั เรยี นออกมานาเสนอผลงานของตนเองหน้าชนั้ เรียน พรอ้ มอธบิ ายแนวคิด เทคนิค วสั ดุ
และอปุ กรณ์ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน
7.13 เพ่อื นในชัน้ เรยี นทายว่าบคุ คลต้นแบบทเ่ี พ่อื นวาดภาพลอ้ เลียนคือใคร
7.14 นักเรยี นเฉลยบคุ คลตน้ แบบอธบิ ายว่าทาไมจึงเลอื กบคุ คลนม้ี าเป็นตน้ แบบในการวาด
ขน้ั วัดและประเมินผล (5 นาที)
7.15 นักเรียนออกมาเขยี นความรู้ที่ได้จากการทากจิ กรรมคนละ 1 ข้อ
7.16 นกั เรยี นประเมินการทากิจกรรมของตนเอง และหาจดุ ดี จุดด้อย และหาแนวทางในการพัฒนา
ตนเอง
7.17 ครปู ระเมินผลงานของนกั เรียน และใหค้ าแนะนาเพิม่ เติม
ขน้ั เผยแพร่ผลงาน (5 นาท)ี
7.18 นักเรยี นนาผลงานไปจัดนทิ รรศการภายในบรเิ วณโรงเรียนเพื่อเผยแพรผ่ ลงาน
7.19 นกั เรยี นถา่ ยภาพผลงานและบรเิ วณการจดั นทิ รรศการไปเผยแพรบ่ นส่ือออนไลน์
8. สื่อและวสั ดุอุปกรณก์ ารเรยี น
8.1 หนังสอื เรียนรายวิชาทัศนศลิ ป์ 4-6 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เรือ่ ง ภาพลอ้ เลยี น
8.3 ตัวอย่างงานลอ้ เลียน
8.4 วัสดแุ ละอปุ กรณ์ท่ีใช้ในงานวาดภาพลอ้ เลียน
9. การวัดการประเมนิ ผลการเรียนรู้วดั และประเมนิ ผล
เปา้ หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน เครือ่ งมือ วิธีวัดผล เกณฑก์ าร
การเรยี นรู้ 1. นาเสนอผลงาน ประเมนิ
ความรู้ ความ 1. แบบประเมินการ 1. ประเมนิ การ 1. ได้คะแนนไมต่ า่
ภาพวาดลอ้ เลยี น นาเสนอหนา้ ชน้ั นาเสนอหนา้ ช้ัน กวา่ ร้อยละ 60
เขา้ ใจ เรียน เรยี น
(K) 1. ผลงานภาพวาด 1. ได้คะแนนไมต่ ่า
ทักษะ/ ล้อเลียน 1. แบบประเมนิ ผล 1. ประเมินผลงาน กวา่ รอ้ ยละ 60
กระบวนการ งานทศั นศิลป์ ทัศนศิลป์
(P) 1. พฤติกรรม 1. ได้คะแนนไม่ต่า
คุณลกั ษณะ ในชน้ั เรยี น 1. แบบประเมิน 1. สังเกตพฤตกิ รรม กว่า รอ้ ยละ 60
อันพงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ ในชั้นเรียน
(A) 1. พฤติกรรม อนั พงึ ประสงค์ . ได้คะแนนไม่ตา่
สมรรถนะทส่ี าคัญ ในชัน้ เรยี น 1. สงั เกตพฤตกิ รรม กว่า รอ้ ยละ 60
1. แบบประเมิน ในช้ันเรยี น
สมรรถนะท่ี
สาคัญ
บันทึกหลงั การสอน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 11 ภาพลอ้ เลียน
รายวชิ าศลิ ปะ รหสั วชิ า ศ33102 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์
1. ผลท่ีเกดิ กับผเู้ รียน
1.1 การประเมินด้านความรู้(K) พบวา่
นกั เรียนผา่ นการประเมนิ จานวน 88 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑข์ นั้ ตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นรอ้ ยละ -
1.2 การประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ(P) พบว่า
นกั เรยี นผ่านการประเมนิ จานวน 88 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100
นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าที่กาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -
1.3 การประเมินด้านคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์(A) พบวา่
นักเรียนผา่ นการประเมนิ จานวน 88 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ข้ันตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นรอ้ ยละ -
2. ปัญหาและอุปสรรค ในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
มีนักเรียนทีไ่ ม่สนใจเรียน
อื่น ๆ ในขน้ั ตอนของการสร้างผลงาน นักเรียนบางกลุ่มขาดอุปกรณ์ในการสรา้ งผลงาน
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
ควรนาแผนไปปรบั ปรุง เร่อื ง ........................................................................................
แนวทางแก้ไขนกั เรยี นที่ไม่ผ่านการประเมิน
- ครใู ห้นักเรยี นยมื อปุ กรณ์การสรา้ งผลงานจากเพ่ือนต่างกลุ่ม พร้อมตกั เตือนนักเรียน
เก่ยี วกับการเตรยี มอปุ กรณ์การทางานให้พร้อมทีจ่ ะเรยี น
ลงชอื่ ครผู สู้ อน
(นางสาวนตธดิ า ชุมพงษ์)
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
รายวชิ าศิลปะรหสั วิชา ศ33102 สาระทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง สร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ จานวน 6 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 12 เรอ่ื ง วสั ดุอปุ กรณ์ในการสรา้ งสรรค์งานประติมากรรม จานวน 1 ชัว่ โมง
-------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์
วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และ
ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน
ตัวชวี้ ัด
ศ 1.1 ม.4-6/4 มที กั ษะและเทคนิคในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และกระบวนการที่สงู ขนึ้ ในการ
สรา้ งงานทศั นศลิ ป์
2. สาระสาคญั
งานประติมากรรมเป็นผลงานทัศนศิลป์ 3 มิติที่เกิดจากการป้ัน การแกะสลัก และการหล่อ การ
สร้างงานมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบนูนต่า แบบนูนสูง และแบบลอยตัว วัสดุท่ีใช้ในการสร้างงานมีหลาย
ชนิด เช่น ดินเหนียว ดินน้ามัน ขี้ผ้ึง ข้ีเล่ือยผสมกาว กระดาษแช่น้าจนเป่ือยผสมกาว ดินญ่ีปุ่น ไม้
โลหะ น้าแข็ง ปูน อปุ กรณ์ท่ใี ช้จะเป็นเครือ่ งมือปนั้ และเคร่ืองมือแกะสลักตา่ ง ๆ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
3.1.1 นักเรียนสามารถอธิบายการใชว้ ัสด/ุ อปุ กรณแ์ ละกระบวนการสรา้ งงานประติมากรรมได้
3.2 ดา้ นกระบวนการ/ทกั ษะ (P)
3.2.1 นักเรยี นสรา้ งสรรคง์ านประติมากรรมด้วยวัสด/ุ อุปกรณท์ ี่เหมาะสม
3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A)
3.3.1 มวี ินยั
3.3.2 ใฝ่เรยี นรู้
3.3.3 มงุ่ มัน่ ในการทางาน
4. สาระการเรียนรู้
4.1 วสั ดุ อุปกรณใ์ นการสร้างสรรค์งานประติมากรรม
5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น (C)
5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6. ชิ้นงาน / ภาระงาน
6.1 ป้ันรูปลอยตัวตามจินตนาการ
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : เทคนิคการจดั การเรยี นรู้เพอื่ สง่ เสรมิ ความคดิ
สรา้ งสรรค์
ขน้ั สรา้ งความตระหนัก (5 นาที)
7.1 ครูสอบถามนักเรียนว่าเห็นงานประติมากรรมในเทศกาลหรือประเพณีของไทยและ
ต่างประเทศอะไรบ้าง (เทศกาลสงกรานต์ งานประติมากรรมท่ีเกย่ี วข้อง คอื กอ่ เจดียท์ ราย ประเพณแี ห่เทียน
พรรษา งานประติมากรรมที่เก่ียวข้อง คือ แกะเทียน เทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร (Sapporo Snow
Festival) ประตมิ ากรรมที่เกยี่ วขอ้ งคอื การป้นั หิมะและแกะสลกั นา้ แข็ง
7.2 ครูสอบถามนักเรยี นว่าประตมิ ากรรมมีความสาคญั ตอ่ เทศกาล ประเพณี วัฒนธรรมอย่างไร
บ้าง
ขั้นกระดมพลงั ความคิด (10 นาท)ี
7.3 ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี
- งานประตมิ ากรรมมีลักษณะอย่างไร
- งานประตมิ ากรรมและงานปฏมิ ากรรมมคี วามเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
- ใหน้ กั เรยี นยกตัวอย่างงานประติมากรรมทีเ่ คยพบเหน็ ในชีวิตประจาวัน คนละ 1 ชิ้นงาน
7.4ครูนาตัวอย่างของจริงหรือภาพงานปั้น งานแกะสลัก และงานหล่อ มาให้นักเรียนดู จากน้ัน
ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่าผลงานตัวอย่างท้ัง 3 ช้ิน มีความเหมือนและแตกต่าง
กนั เร่อื งใดบ้าง (รปู แบบ เทคนคิ วิธกี าร และวสั ดอุ ุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการสร้างผลงาน)
7.5 ครสู นทนากับนกั เรยี นเก่ียวกบั การสรา้ งสรรคง์ านประติมากรรม ดงั นี้
- งานปน้ั งานแกะสลกั และงานหลอ่ เปน็ งานทศั นศิลปป์ ระเภทประตมิ ากรรมทั้งหมด
- มีลกั ษณะเป็นงาน 3 มติ ิ คอื ความกว้าง ความยาว และความลึกหรอื ความหนา
- วัสดุท่ีใช้ในการสร้างงานมีหลายชนิด เช่น ดินเหนียว ดินน้ามัน ขี้ผ้ึง ข้ีเลื่อยผสมกาว
กระดาษแช่นา้ จนเปอื่ ยผสมกาว ดนิ ญปี่ ุ่น ไม้ โลหะ น้าแขง็ ปนู เป็นต้น
- อปุ กรณ์ในการสรา้ งงานจะมคี วามแตกตา่ งกันในงานป้ันและงานแกะสลกั
- การสร้างงานมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบนูนต่า แบบนูนสูง และแบบลอยตวั
7.6นักเรียนร่วมกันศึกษาและสืบค้นความรู้เกี่ยวกับงานประติมากรรมในด้านอ่ืน ๆ ท่ีสนใจ
เพมิ่ เตมิ แล้วออกมาอธิบายหนา้ ช้ันเรยี น
ขัน้ สร้างสรรค์ชน้ิ งาน (20 นาท)ี
7.7 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ทากิจกรรม ปั้นรูปลอยตัวตามจินตนาการ โดยสร้างสรรค์
ผลงานจากดินนา้ มนั
7.8 สมาชกิ ในกลมุ่ วางแผนการสร้างสรรค์ผลงาน
7.9 นักเรียนเตรียมวัสดุและอปุ กรณ์ใหเ้ หมาะสมกบั การทางานของกลุ่มตนเอง
7.6 นกั เรียนสร้างสรรคผ์ ลงานตามแผนที่วางไว้
7.7 ครูคอยสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นและคอยแนะนากับกลุ่มท่ีเกิดปญั หาหรือไม่สามารถปฏบิ ัติ
กิจกรรมได้ จนนกั เรยี นสามารถปฏบิ ัตกิ จิ กรรมได้ด้วยตนเอง
ขน้ั นาเสนอผลงาน (5 นาที)
7.8 นักเรียนออกมาจบั สลากลาดบั ในการออกมานาเสนอ
7.9 นักเรียนออกมานาเสนอผลงาน พร้อมบอกชื่อผลงาน เทคนิค วัสดุ อุปกรณ์ในการ
สรา้ งสรรคผ์ ลงาน
7.10 ครสู อบถามนักเรยี นว่ากลุ่มใดบ้าง ที่เจออปญั หาในการทางาน แลว้ แกป้ ัญหาในการทางาน
อย่างไร แล้วให้เพ่ือนในชั้นเรียนร่วมกันเสนอแนวทางแก้ปัญหาเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาใน
การทากจิ กรรมครง้ั ตอ่ ไป
ข้ันวัดและประเมนิ ผล (5 นาท)ี
7.11 นกั เรียนร่วมกนั โหวตผลงานทีต่ นเองช่ืนชอบ และให้คะแนนเพ่ือน
7.12 ครูให้กลุ่มท่ีได้คะแนนมากที่สุดออกมาบอกแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้
นักเรียนคนอืน่ ๆ นาไปปรบั ใช้ในการสรา้ งผลงานของตนเอง
7.13 ครูประเมินผลงานของนักเรียนทีละกลุ่ม และให้คาแนะนาเพิ่มเติม พร้อมสอบถาม
นักเรยี นวา่ พอใจกับการประเมินของครูหรือไม่ เพราะเหตุผล (เปดิ โอกาสในการให้นักเรียนแสดงความ
คิดเห็น และฝกึ ใหน้ กั เรียนยอมรับในคาตดั สินของผอู้ นื่ )
ข้นั เผยแพร่ผลงาน (5 นาที)
7.14 นกั เรยี นนาผลงานไปจดั นิทรรศการร่วมกับเพอื่ นหอ้ งอ่ืน
8. สอื่ และวัสดุอุปกรณ์การเรยี น
8.1 หนังสอื เรียนรายวิชาทศั นศิลป์ 4-6 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิควิธีการในการสร้างงาน
ประตมิ ากรรม
8.3 ตัวอยา่ งของจริงหรือภาพงานปั้น งานแกะสลกั และงานหลอ่
8.4 วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานประติมากรรม
9. การวัดการประเมนิ ผลการเรียนรู้วัดและประเมนิ ผล
เปา้ หมาย ภาระงาน/ชน้ิ งาน เครอื่ งมือ วิธีวดั ผล เกณฑก์ าร
การเรียนรู้ 1. นาเสนอผลงาน ประเมนิ
ความรู้ ความ 1. แบบประเมนิ การ 1. ประเมินการ 1. ไดค้ ะแนนไม่ตา่
รูปปน้ั ลอยตวั กว่า ร้อยละ 60
เข้าใจ นาเสนอ นาเสนอ
(K) 1. ผลงานรูปปน้ั 1. ไดค้ ะแนนไม่ตา่
ทักษะ/ ลอยตัว หน้าช้ันเรยี น หน้าชน้ั เรยี น กว่า รอ้ ยละ 60
กระบวนการ
(P) 1. พฤติกรรม 1. แบบประเมินผล 1. ประเมนิ ผลงาน
คุณลกั ษณะ ในช้ันเรียน
อันพงึ ประสงค์ งานทัศนศิลป์ ทัศนศิลป์
(A) 1. พฤติกรรม
สมรรถนะทสี่ าคัญ ในชัน้ เรียน 1. แบบประเมิน 1. สังเกตพฤติกรรม 1. ไดค้ ะแนนไม่ตา่
คุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์ ในชน้ั เรยี น กว่า รอ้ ยละ 60
1. แบบประเมนิ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1. ได้คะแนนไมต่ ่า
สมรรถนะที่
สาคัญ ในช้ันเรยี น กว่า รอ้ ยละ 60
บนั ทกึ หลงั การสอน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 วสั ดอุ ปุ กรณ์ในการสร้างสรรคง์ านประตมิ ากรรม
รายวิชาศิลปะ รหัสวิชา ศ33102 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เร่อื ง สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์
1. ผลท่ีเกิดกับผูเ้ รียน
1.1 การประเมนิ ดา้ นความรู้(K) พบวา่
นกั เรียนผา่ นการประเมนิ จานวน 88 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100
นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑข์ ัน้ ต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -
1.2 การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ(P) พบว่า
นกั เรียนผ่านการประเมิน จานวน 88 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ขั้นต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -
1.3 การประเมินด้านคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์(A) พบวา่
นกั เรียนผ่านการประเมนิ จานวน 88 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑข์ น้ั ตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นรอ้ ยละ -
2. ปญั หาและอุปสรรค ในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
มีนักเรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
มนี กั เรียนที่ไมส่ นใจเรยี น
อ่ืน ๆ....................................................................................................................... ....
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
ควรนาแผนไปปรบั ปรงุ เร่อื ง ........................................................................................
แนวทางแก้ไขนกั เรียนทไี่ ม่ผา่ นการประเมนิ
...................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
ลงชื่อ ครูผสู้ อน
(นางสาวนตธดิ า ชมุ พงษ)์
แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
รายวิชาศลิ ปะ รหัสวิชา ศ33102 สาระทัศนศลิ ป์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่ือง สรา้ งสรรค์งานทัศนศิลป์ จานวน 6 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 13 เรื่อง วัสดุ อปุ กรณใ์ นการสรา้ งสรรคง์ านภาพพมิ พ์ จานวน 1 ช่วั โมง
-------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์
วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และ
ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั
ตวั ช้ีวัด
ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และกระบวนการทส่ี งู ขนึ้ ในการ
สรา้ งงานทศั นศลิ ป์
2. สาระสาคญั
ภาพพิมพ์แกะไม้ (woodcut) เป็นกระบวนการทาภาพพิมพ์ท่ีสร้างแม่พิมพ์โดยการแกะให้เป็น
ร่องลึกเข้าไป และใช้ผิวบนของสว่ นนูนเป็นท่ีสร้างใหเ้ กิดรปู ในการพิมพ์ต้องใช้ลูกกลิ้ง ท่ีกลิ้งหมึกแล้ว
มากลิ้งผ่านไปบนแม่พิมพ์ หมึกพิมพ์จากลูกกลิ้งจะติดเฉพาะผิวบนของส่วนนูนเท่านั้น ส่วนท่ีลึกลงไป
จะไม่ติดหมึก แล้วใช้กระดาษทาบปิดลงไปบนแม่พิมพ์ และกดอัดด้วยเคร่ืองมือ หรือแท่นพิมพ์ หมึกก็
ติดกระดาษเกดิ เป็นรูปข้นึ มา ภาพท่ีไดจ้ ะเหมอื นกนั ทกุ ประการและมจี านวนต้งั แต่ 2 ชน้ิ ขน้ึ ไป
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
3.1.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายการใช้วัสดุ อปุ กรณ์และเทคนิคการสร้างสรรค์งานภาพพิมพ์ได้
3.2 ด้านกระบวนการ/ทักษะ (P)
3.2.1 นกั เรียนสร้างสรรคภ์ าพพมิ พ์ด้วยวัสดุ อุปกรณ์ท่เี หมาะสม
3.3 ด้านคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A)
3.3.1 ความซ่ือสัตยส์ ุจริต
3.3.2 มีวนิ ัย
3.3.3 ใฝเ่ รียนรู้
3.3.4 มุ่งมนั่ ในการทางาน
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 วสั ดุ อปุ กรณใ์ นการสร้างสรรค์งานภาพพมิ พ์
5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน (C)
5.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6. ชนิ้ งาน / ภาระงาน
6.1 ภาพพิมพ์แกะไม้
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : เทคนิคการจดั การเรยี นรู้เพื่อสง่ เสริมความคิด
สรา้ งสรรค์
ขน้ั สรา้ งความตระหนัก (5 นาที)
7.1 ครูและนักเรยี นสนทนาถึงประสบการณ์เดมิ เกย่ี วกบั การทางานภาพพิมพ์ของนักเรยี น
- นักเรยี นเคยพมิ พ์ภาพหรอื ไม่ พมิ พ์อะไร มีกระบวนการอยา่ งไร
- ในชวี ิตประจาวันนักเรยี นเคยเหน็ มนุษยเ์ ราใชก้ ระบวนการพิมพ์ภาพในสิง่ ใดบา้ ง
ขัน้ ระดมพลงั ความคดิ
7.2 นักเรียนชมผลงานการสร้างสรรค์ภาพพิมพ์แกะไม้หลาย ๆ ภาพ เช่น อาหารค่า ของอาจารย์
ชะลูด นิ่มเสมอ ภาพแม่ลูก ของศาสตราจารย์ประหยัด พงษ์ดา หรือภาพอ่ืน ๆ แล้วให้นักเรียน
สนั นษิ ฐานการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน
7.3 นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ออกเป็น 4 กลุ่ม ศกึ ษาและสืบคน้ กลวิธีการสร้างงานพมิ พ์ และอปุ กรณ์
ในการสร้างงานพมิ พ์ ดงั นี้
กลมุ่ ที่ 1 และ ศึกษากระบวนการพมิ พผ์ วิ นนู
กลมุ่ ที่ 2 และ ศกึ ษากระบวนการพมิ พแ์ บบร่องลึก
กลุ่มที่ 3 และ ศึกษากระบวนการพิมพ์แบบพน้ื ราบ
กลุ่มที่ 4 และ ศกึ ษากระบวนการพมิ พ์แบบสเตนซิล
7.4 นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมในหนังสือเรียนรายทัศนศิลป์ 4-6 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6
อินเทอรเ์ นต็ หรือแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ
7.5 นักเรียนออกมานาเสนอการศกึ ษาหน้าชน้ั เรียน แลว้ เปดิ โอกาสใหเ้ พื่อนในช้ันเรียนสอบถาม
ในสว่ นทไี่ ม่เข้าใจ
7.6 นกั เรียนรว่ มกันสรปุ กลวธิ ีการสรา้ งงานภาพพมิ พ์ วัสดุและอปุ กรณใ์ นการสรา้ งสรรค์งานภาพพิมพ์
ขั้นสรา้ งสรรค์ช้นิ งาน
7.7 นักเรียนแบ่งกลุ่ม ตามเดิม ทากิจกรรม ภาพพิมพ์แกะไม้ โดยให้นักเรียนร่วมกันเสนอ
แนวคิดในการทากิจกรรม นักเรียนสรุปแนวคิดในการทางาน ออกแบบผลงานและวางแผนการทางาน
อย่างรอบคอบ
7.8 นกั เรยี นเตรียมวสั ดุและอปุ กรณใ์ หเ้ หมาะสมกบั การออกแบบของกลุม่ ตนเอง
7.9 ครูสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ให้คาแนะนาการใช้อุปกรณ์ที่แหลมคมในการทางาน และ
ใหค้ าแนะนาจนนักเรยี นสามารถปฏบิ ัตกิ รรมได้ตามแผนทีว่ างไว้
7.10 นักเรียนแบ่งปนั วสั ดแุ ละอปุ กรณท์ ี่สามารถใชร้ ว่ มกันไดก้ ับกลุม่ อื่น ๆ
ขั้นนาเสนอผลงาน (5 นาที)
7.11 นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน พร้อมบอกช่ือผลงาน เทคนิค วัสดุและ
อปุ กรณใ์ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน
7.12 ครสู อบถามนกั เรียนวา่ หลังจากการสรา้ งสรรคผ์ ลงานนักเรียนเกบ็ วสั ดุและอปุ กรณ์อย่างไร
ขั้นวัดและประเมินผล (5 นาท)ี
7.13 นักเรียนแลกเปลี่ยนผลงานกันประเมิน (เช่น กลุ่มที่ 1 และกลุ่มท่ี 2 แลกผลงานกัน) ตาม
หลกั การประเมินและวิจารณผ์ ลงานศิลปะ อย่างซอื่ สตั ย์และตามความเปน็ จรงิ
7.14 นกั เรยี นร่วมกนั โหวตผลงานท่ตี นเองชน่ื ชอบและใหค้ ะแนนเพื่อน
7.15 ครปู ระเมนิ ผลงานของนักเรียนทีละกลมุ่ และให้คาแนะนาเพ่ิมเติม
ข้นั เผยแพร่ผลงาน (5 นาท)ี
7.16 นักเรียนนาผลงานไปจัดนทิ รรศการภายในบริเวณโรงเรยี นเพือ่ เผยแพรผ่ ลงาน
7.17 นักเรยี นถา่ ยภาพผลงานและบริเวณการจดั นทิ รรศการไปเผยแพร่บนอินเทอร์เนต็
8. สื่อและวสั ดอุ ปุ กรณ์การเรียน
8.1 หนังสอื เรยี นรายวิชาทศั นศลิ ป์ 4-6 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เรอ่ื ง วสั ดุและอุปกรณใ์ นการสรา้ งสรรคง์ านภาพพมิ พ์
8.3 ตัวอย่างผลงานการสร้างสรรคภ์ าพพิมพ์แกะไม้ เชน่ อาหารค่า ของอาจารยช์ ะลดู
นิ่มเสมอ ภาพแม่ลกู ของศาสตราจารยป์ ระหยดั พงษ์ดา
9. การวัดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้วดั และประเมนิ ผล
เปา้ หมาย ภาระงาน/ชนิ้ งาน เครอ่ื งมือ วิธีวดั ผล เกณฑก์ าร
การเรียนรู้ ประเมิน
ความรู้ ความ 1. นาเสนอผลงาน 1. แบบประเมนิ การ 1. ประเมินการ 1. ได้คะแนนไม่ตา่
ภาพพมิ พแ์ กะ กว่า ร้อยละ 60
เขา้ ใจ ไม้ นาเสนอหน้าชนั้ นาเสนอหนา้ ชั้น
(K) 1. ไดค้ ะแนนไม่ต่า
ทักษะ/ 1. ผลงานภาพ เรยี น เรียน กว่า ร้อยละ 60
กระบวนการ พมิ พ์แกะไม้
(P) 1. แบบประเมินผล 1. ประเมนิ ผลงาน
คณุ ลกั ษณะ 1. พฤติกรรม
อนั พึงประสงค์ ในชน้ั เรียน งานทศั นศิลป์ ทัศนศิลป์
(A)
สมรรถนะทสี่ าคญั 1. พฤติกรรม 1. แบบประเมนิ 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. ไดค้ ะแนนไม่ตา่
ในชั้นเรียน คณุ ลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์ ในชนั้ เรียน กว่า ร้อยละ 60
1. แบบประเมนิ 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. ได้คะแนนไม่ต่า
สมรรถนะที่
สาคญั ในช้นั เรียน กว่า รอ้ ยละ 60
บันทึกหลงั การสอน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 13 วสั ดุอปุ กรณ์ในการสร้างสรรคง์ านภาพพมิ พ์
รายวิชาศิลปะ รหสั วิชา ศ33102 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์
1. ผลทเี่ กดิ กับผู้เรยี น
1.1 การประเมินดา้ นความร้(ู K) พบวา่
นกั เรยี นผ่านการประเมิน จานวน 88 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑข์ ัน้ ต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -
1.2 การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ(P) พบว่า
นักเรยี นผา่ นการประเมนิ จานวน 88 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ขั้นต่าที่กาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นรอ้ ยละ -
1.3 การประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์(A) พบว่า
นักเรียนผ่านการประเมิน จานวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 100
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ขัน้ ตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นรอ้ ยละ -
2. ปญั หาและอปุ สรรค ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
มีนักเรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
มีนักเรียนท่ไี มส่ นใจเรียน
อ่นื ๆ....................................................................................................................... ....
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
ควรนาแผนไปปรับปรุง เรอื่ ง ........................................................................................
แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมิน
...................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
ลงชื่อ ครผู ้สู อน
(นางสาวนตธดิ า ชมุ พงษ์)
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
รายวชิ าศิลปะ รหสั วิชา ศ33102 สาระทศั นศลิ ป์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง รูปแบบยุคสมัยทัศนศลิ ปต์ ะวันตกและตะวันออก จานวน 4 ช่วั โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 14 เร่ือง ทัศนศิลปต์ ะวนั ตก จานวน 1 ช่ัวโมง
-------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทศั นศลิ ป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
ตัวชว้ี ดั
ศ 1.2 ม.4-6/3 อภิปรายเก่ียวกับอิทธิพลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศที่มีผลต่องาน
ทศั นศลิ ปใ์ นสงั คม
2. สาระสาคญั
งานทัศนศลิ ปต์ ะวันตกเกดิ ขน้ึ บรเิ วณดินแดนพน้ื ทล่ี มุ่ แมน่ ้าไทกรสิ และยูเฟรทีส ในดินแดนตะวันออก
กลางเป็นต้นไป จนถึงทั่วท้ังยุโรป งานทัศนศิลป์สมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นงานเขียนเลียนแบบ
ธรรมชาติ พิธีกรรมต่างๆ ซ่ึงปรากฏอยู่ตามผนังถ้า งานทัศนศิลป์สมัยประวัติศาสตร์เริ่มต้ังแต่สมัย
โบราณจนถึงหลังสมัยใหม่รปู แบบของงานศิลปกรรมจะเกี่ยวข้องกับการด้ารงชีวติ การประกอบอาชีพ
มกี ารสร้างงานสถาปัตยกรรมทีย่ งิ่ ใหญ่ ซง่ึ คงอยมู่ าจนถึงปจั จบุ ัน
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
3.1.1 นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์รูปแบบยุคสมยั ทศั นศลิ ป์ตะวนั ตกได้
3.1.2 นักเรยี นสามารถอธิบายลักษณะรูปแบบงานทศั นศลิ ป์ตะวนั ตกได้
3.2 ดา้ นกระบวนการ/ทักษะ (P)
3.2.1 นักเรียนรวบรวมข้อมูลและสรปุ เก่ียวกับทัศนศิลป์ตะวันตกได้
3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A)
3.3.1 ความซื่อสัตย์สุจริต
3.3.2 มีวนิ ยั
3.3.3 ใฝเ่ รียนรู้
3.3.4 มงุ่ ม่นั ในการท้างาน
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ทัศนศิลป์ตะวนั ตก
5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น (C)
5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
6.1 ภาพวาดทัศนศลิ ปต์ ะวนั ตก
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : เทคนคิ การจดั การเรียนรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้
ขั้นสร้างความสนใจ (5 นาที)
7.1 นกั เรียนดูภาพงานทัศนศิลปต์ ะวันตก เชน่ วนี สั แห่งวิเลนดอร์ฟ สโตนเฮนจ์ จติ รกรรมบน
ผนงั ถ้า ภาพสวนลอยแห่งบาบิโลน ภาพสุสานในประเทศอียปิ ต์ ภาพสถาปตั ยกรรมแบบกรกี และโรมัน
เพ่ือกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นไดเ้ ห็นผลงานศลิ ปะในรูปแบบต่าง ๆ ของทัศนศลิ ป์ตะวนั ตก และสนทนากับ
นักเรยี นเก่ียวกบั รปู แบบและความเป็นมาของงานทศั นศลิ ป์ตะวนั ตกทีน่ ักเรียนเคยรู้จัก
เพือ่ เชื่อมโยงความรู้
ขัน้ สารวจค้นหา (25 นาที)
7.2 ครใู ห้นกั เรยี นดูแผนท่โี ลก และให้นกั เรียนช้ตี ้าแหน่งการแบง่ พ้ืนท่ีของทศั นศิลป์ตะวันตก
ตามหลกั วชิ าการทางดา้ นประวัติศาสตร์ โดยแบ่งเขตแดนด้านพื้นทตี่ ้ังแต่แผ่นดินลุ่มแมน่ ้าไทกริสและ
ยเู ฟรทีส ในดินแดนตะวันออกกลางเปน็ ต้นไป จนถึงท่ัวท้ังยโุ รป
7.3 ครสู นทนากบั นกั เรียนถึงรูปแบบงานทศั นศลิ ป์ตะวันตกว่าแบ่งออกเป็น 2 ยคุ สมัยโดยกว้างๆ
คือทัศนศิลป์ตะวันตกสมัยก่อนประวัติศาสตร์ (Prehistory Art) และทัศนศิลป์ตะวันตกสมัย
ประวัติศาสตร์ (History Art) พร้อมเขียนเป็นแผนผังความคิดบนกระดานถึงยุคสมัยของทัศนศิลป์
ตะวนั ตกบนกระดาน
- ทัศนศิลปต์ ะวันตกสมัยก่อนประวตั ิศาสตร์
ยคุ หนิ เก่า
ยุคหนิ ใหม่
- ทศั นศิลปต์ ะวันตกสมยั ประวัติศาสตร์
ทศั นศิลปอ์ ียิปต์ ทศั นศลิ ป์เมโสโปเตเมีย ทศั นศิลป์กรกี ทศั นศลิ ปโ์ รมัน ทศั นศิลปไ์ บ
แซนไทน์ ทัศนศิลป์สมัยกลาง ทัศนศิลป์โกธิค ทัศนศิลป์สมัยฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการ ทัศนศิลป์บาร็อค
และร็อคโคโค ทัศนศลิ ปส์ มัยใหม่
7.4 นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ท้ากิจกรรม ทศั นศลิ ป์ตะวนั ตก โดยใหน้ ักเรยี นส่งตัวแทน
ออกมาจับสลากหัวข้อในการสืบค้น (ยุคสมัยของทัศนศิลป์ตะวันตก) ร่วมกันศึกษาค้นคว้า
ยคุ สมยั ของทัศนศิลป์ตะวนั ตกทีน่ ักเรียนจับสลากได้ จากหนงั สอื เรยี นทัศนศิลป์ 4-6 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี
4-6 อินเทอร์เน็ต หรอื แหลง่ เรียนต่าง ๆ แล้วสรุปความรูท้ ีไ่ ด้ถา่ ยทอดเปน็ ภาพวาด พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม
ขัน้ อธิบายและสรุป (10 นาที)
7.5 นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาน้าเสนอผลการศึกษาหน้าช้นั เรียน โดยครชู ่วยเสริมเพิ่มเตมิ ให้
สมบรู ณ์
7.6 นักเรียนร่วมกันเปรียบเทียบยุคสมัยของทัศนศิลป์ตะวันตกและทัศนศิลป์ไทย ว่ามีความ
เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร แล้วส่งตัวแทนออกมาอธิบายหน้าชั้นเรียน เพื่อนในชัน้ เรยี นอธิบายเพิ่มเติม
จากท่เี พื่อนเสนอ
7.7 นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ทัศนศิลป์ตะวันตก โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่
นกั เรยี นไม่เข้าใจหรอื สรปุ ไมต่ รงองค์ความรู้
7.8 นักเรยี นจดความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการน้าเสนอทุกกล่มุ ลงสมุดของตนเอง
ข้นั ขยายความรู้ (5 นาที)
7.9 นักเรยี นร่วมกนั ศกึ ษาและสบื ค้นผลงานทัศนศลิ ป์ตะวันตกท่ีชื่อเสยี งหรือไดร้ บั การยกย่องว่า
เปน็ มรดกโลก
7.10 นกั เรียนท่สี ืบค้นขอ้ มูลไดอ้ อกมาน้าเสนอข้อมูลเพ่ือแบง่ ปนั ความรู้กับนกั เรยี นคนอื่น ๆ
ขนั้ ประเมนิ ผล (5 นาที)
7.11 นักเรียนประเมินการท้ากิจกรรมของตนเองและหาแนวทางในการพัฒนาตนเองเพื่อให้การท้า
กิจกรรมในคร้ังต่อ ๆ ไปดียิ่งขนึ้
7.12 ครปู ระเมนิ การท้ากิจกรรมและผลงานของนักเรยี น
7.13 ครปู ระเมนิ การนา้ เสนอผลงานของนักเรยี น
8. สื่อและวัสดอุ ุปกรณ์การเรียน
8.1 หนังสอื เรียนรายวชิ าทัศนศิลป์ 4-6 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6
8.2 โปรแกรมน้าเสนอ (PowerPoint) เร่ือง ทศั นศิลป์ตะวนั ตก
9. การวดั การประเมนิ ผลการเรียนรู้วดั และประเมินผล
เป้าหมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน เครอื่ งมือ วธิ วี ดั ผล เกณฑ์การ
การเรียนรู้ ประเมนิ
ความรู้ ความ 1. น้าเสนอผลงาน 1. แบบประเมนิ การ 1. ประเมนิ การ 1. ได้คะแนนไมต่ ้า่
ภาพวาด นา้ เสนอหน้าชั้น น้าเสนอหนา้ ชั้น กว่า รอ้ ยละ 60
เขา้ ใจ ทศั นศิลป์ เรยี น เรียน
(K) ตะวันตก
1. แบบประเมนิ 1. ประเมนิ 1. ได้คะแนนไม่ต่้า
ทกั ษะ/ 1. ภาพวาด
กระบวนการ ทศั นศลิ ป์ งานทศั นศลิ ป์ งานทัศนศิลป์ กว่า ร้อยละ 60
ตะวันตก
(P) 1. แบบประเมนิ 1. สังเกตพฤตกิ รรม 1. ไดค้ ะแนนไม่ต้า่
คณุ ลักษณะ 1. พฤตกิ รรม คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ ในชน้ั เรยี น อนั พึงประสงค์ ในช้นั เรยี น กวา่ ร้อยละ 60
(A) 1. พฤตกิ รรม 1. แบบประเมิน 1. สงั เกตพฤติกรรม 1. ไดค้ ะแนนไม่ต่า้
สมรรถนะทส่ี าคญั ในชน้ั เรียน สมรรถนะที่
ส้าคัญ
ในชั้นเรยี น กว่า รอ้ ยละ 60
บนั ทึกหลงั การสอน
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 14 ทศั นศิลปต์ ะวนั ตก
รายวชิ าศิลปะ รหสั วิชา ศ33102 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรือ่ ง รปู แบบยุคสมยั ทศั นศิลป์ตะวันตกและตะวนั ออก
1. ผลท่เี กิดกับผู้เรยี น
1.1 การประเมนิ ด้านความร(ู้ K) พบวา่
นักเรยี นผา่ นการประเมิน จ้านวน 75 คน คดิ เป็นร้อยละ 85.22
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ข้ันต่า้ ท่ีก้าหนดไว้ จา้ นวน 13 คน คดิ เป็นร้อยละ 14.78
1.2 การประเมินด้านทักษะกระบวนการ(P) พบว่า
นกั เรียนผา่ นการประเมิน จา้ นวน 88 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑข์ น้ั ต่้าที่กา้ หนดไว้ จา้ นวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -
1.3 การประเมนิ ด้านคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์(A) พบวา่
นักเรียนผา่ นการประเมิน จา้ นวน 88 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ขน้ั ต้่าท่ีกา้ หนดไว้ จา้ นวน - คน คิดเป็นร้อยละ -
2. ปัญหาและอปุ สรรค ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
มีนกั เรียนทา้ ใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกา้ หนดเวลา
มีนักเรียนทไ่ี มส่ นใจเรียน
อ่ืน ๆ นักเรยี นยงั ไม่เข้าใจหนา้ ทข่ี องตัวเองเม่ือท้างานกลมุ่ ใช้เวลานานในการน่ังเรียนไป
กลมุ่ นักเรยี นไม่มีความพร้อมในการเรยี น
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
ควรนา้ แผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ........................................................................................
แนวทางแก้ไขนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมิน
- ครอู ธบิ ายหนา้ ท่แี ละบทบาทของสมาชิกในกลมุ่ การทา้ งานรว่ มกนั
ลงชือ่ ครูผู้สอน
(นางสาวนตธิดา ชุมพงษ์)
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ
รายวิชาศิลปะ รหัสวิชา ศ33102 สาระทศั นศิลป์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง รปู แบบยคุ สมยั ทัศนศิลป์ตะวนั ตกและตะวันออก จานวน 4 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15 เรื่อง สัมผสั ลัทธิทางศิลปะ จานวน 1 ชั่วโมง
-------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทศั นศิลปท์ ่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
ตัวช้ีวัด
ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบุงานทัศนศิลปข์ องศิลปินท่มี ีชื่อเสยี ง และบรรยายผลตอบรบั ของสงั คม
ศ 1.2 ม.4-6/3 อภิปรายเก่ียวกับอิทธิพลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศท่ีมีผลต่องานทัศนศิลป์
ในสงั คม
2. สาระสาคญั
ทัศนศิลป์สมัยใหม่เป็นยุคท่ีมีความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมและการ
ดาเนินชีวิตมีการเปล่ียนแปลง รูปแบบงานทัศนศิลป์จึงต้องเปล่ียนแปลงตามวิถีชีวิตความเป็นอยู่
ศิลปินใช้ความรู้สึกนึกคิดในการสร้างงานมากกว่าการรับใช้ศาสนา และมีความเช่ือว่าศิลปะควรมี
อิสระในการแสดงออก ดังนั้นในยุคทัศนศิลป์สมัยใหม่จึงมีความเคลื่อนไหวทางด้านทัศนศิลป์และเกิด
ลัทธิต่าง ๆ มากมาย
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
3.1.1 นักเรียนสามารถอธบิ ายรปู แบบการสรา้ งสรรคผ์ ลงานลทั ธทิ างศลิ ปะได้
3.2 ด้านกระบวนการ/ทกั ษะ (P)
3.2.1 นักเรยี นสร้างงานตามลัทธิทางศลิ ปะได้
3.3 ด้านคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A)
3.3.1 มีวินยั
3.3.2 ใฝเ่ รยี นรู้
3.3.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
3.3.4 มีจิตสาธารณะ
4. สาระการเรียนรู้
4.1 ทัศนศลิ ป์สมยั ใหม่
- ลทั ธิทางศิลปะ
5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น (C)
5.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ชิ้นงาน / ภาระงาน
6.1 ผลงานสร้างสรรค์ตามลัทธิทางศลิ ปะ
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : เทคนิคการจัดการเรยี นรแู้ บบร่วมมือ
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (5 นาท)ี
7.1 ครูนาภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงในแต่ละลัทธิทางศิลปะหลาย ๆ ลัทธิ มาให้นักเรียนดู
แล้วรว่ มกนั สนทนา ในเร่ืองเก่ียวกบั
- นักเรยี นเคยเหน็ ภาพเหล่านหี้ รือไม่
- ลักษณะการเขียนภาพในรปู แบบน้ีทางศลิ ปะเรียกวา่ อะไร (ภาพ Portrait)
- นักเรยี นคดิ ว่าศิลปนิ มแี นวทางการสร้างงานเหมือนหรอื แตกต่างกนั อย่างไร
- นกั เรียนชอบหรือไม่ แบบไหน เพราะอะไร
ฟนิ เซนต์ ฟาน ก๊อก ปาโบล ปกี สั โซ อองลี มาติส
ลัทธิโพสอิมเพรสช่ันนิสม์ ลัทธคิ วิ บสิ ม์ ลัทธโิ ฟวสิ ม์
ขั้นสอน (35 นาที)
7.2 ครูสนทนากับนักเรียนว่า ทัศนศิลป์สมัยใหม่เป็นยุคที่มีความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี สังคม และการดาเนินชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง รูปแบบงานทัศนศิลป์จึงต้องเปลี่ยนแปลง
ตามวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ศิลปินใช้ความรู้สึกนึกคิดในการสร้างงานมากกว่าการรับใช้ศาสนา และมี
ความเชื่อว่าศิลปะควรมีอิสระในการแสดงออก ดังนั้นในยุคทัศนศิลป์สมัยใหม่จึงมีความเคล่ือนไหว
ทางดา้ นทศั นศลิ ป์และเกิดลัทธติ ่าง ๆ มากมาย
แผนผังแสดงลัทธทิ างศลิ ปะของทัศนศลิ ปส์ มัยใหม่
ลทั ธิโรแมนติก ลทั ธิเรียลิสม์
ลทั ธินีโอคลาสสิค ลทั ธิอิมเพรสชน่ั
ลทั ธิเพอร์ฟอร์แมนซ์อาร์ต นิสม์ ลทั ธิโพสอิมเพรสชน่ั นิสม์
ลทั ธิคอนเซปชวลอาร์ต ทศั นศิลป์ สมัยใหม่ นิสมลท์ั ธิโฟวิสม์ นิสม์
ลทั ธิออ๊ ปอาร์ต ลทั ธิเอก็ เพรสชนั่ นิสม์
ลทั ธิป๊ อปอาร์ต ลทั ธิคิวบิสม์
ลทั ธิดาดา
ลทั ธิโครงสร้าง ลทั ธิเซอร์เรียลิสม์
ลทั ธิฟิ วเจอร์ริสม์ ลทั ธิแอบสแตรคชน่ั นิสม์
7.3 นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน ทากจิ กรลริสมมส์ ัมผัสลทั ธทิ างศลิ ปะ ดงั นี้
7.3.1 ส่งตวั แทนออกมาจับสลากช่อื ลทั ธิตา่ ง ๆ แล้วแบง่ หน้าทศี่ ึกษาค้นควา้ ลัทธทิ ี่
นักเรยี นจับสลากได้ ท้ังดา้ นประวตั ศิ าสตร์ แนวคดิ ทฤษฎี เทคนคิ ในการสร้างสรรค์
ผลงาน ศิลปนิ ท่สี าคญั ผลงานทีม่ ชี อ่ื เสยี ง และอนื่ ๆ ท่ีนา่ สนใจ จากหนังสอื เรียน
ทศั นศลิ ป์ 4-6 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 หรืออินเทอรเ์ น็ต
7.3.2 นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้ แล้วสร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการโดยยึดแนวลัทธิที่
ศึกษา บนกระดาษวาดเขียนขนาด A3 นักเรียนแบ่งปันอุปกรณ์ท่ีสามารถใช้ด้วยกันได้
กับกลมุ่ อืน่ ๆ
7.4 ครสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี น และใหค้ าแนะนานกั เรียนในการทากิจกรรม
7.5 ขณะนักเรยี นทากิจกรรมครเู ปิดเพลงเบา ๆ เพื่อใหน้ ักเรียนผ่อนคลายและมีความสุนทรียะ
ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน
7.6 นักเรียนทากิจกรรมเสร็จ ทาความสะอาดอุปกรณ์ด้วยวิธีการที่เหมาะสมเพื่อรักษา
ระยะเวลาของอุปกรณใ์ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน
7.7นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ันเรียนทีละกลุ่ม โดยให้เพ่ือนในชั้นเรียนคาดเดาก่อน
ว่านกั เรยี นสรา้ งสรรคผ์ ลงานโดยยดึ แนวลทั ธิใด แล้วนกั เรยี นจึงอธบิ ายแนวคิด
ข้ันสรปุ (10 นาที)
7.8 นักเรียนร่วมกันสรุปและเปรียบเทียบเอกลักษณ์ของแต่ละลัทธิ แล้วบันทึกลงสมุดของ
ตนเอง
7.9 นักเรยี นรว่ มกันโหวตผลงานท่ีช่นื ชอบมาท่สี ุด พรอ้ มอธบิ ายเหตผุ ลว่าทาไมถึงชนื่ ชอบ
7.10 นกั เรียนนาผลงานไปจดั แสดงภายในบรเิ วณโรงเรียนเพือ่ เผยแพร่ผลงาน
8. ส่ือและวสั ดอุ ุปกรณก์ ารเรียน
8.1 หนงั สอื เรียนรายวิชาทัศนศิลป์ 4-6 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เร่ือง ลทั ธิทางศลิ ปะ
9. การวดั การประเมินผลการเรียนรู้วัดและประเมินผล
เปา้ หมาย ภาระงาน/ชนิ้ งาน เครอื่ งมอื วธิ ีวัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ
การเรยี นรู้
ความรู้ ความ 1. นาเสนอผลงาน 1. แบบประเมนิ 1. ประเมินการ 1. ไดค้ ะแนนไมต่ า่
สร้างสรรคต์ าม การนาเสนอ นาเสนอ กว่า รอ้ ยละ 60
เขา้ ใจ ลัทธทิ างศลิ ปะ หนา้ ช้นั เรียน หน้าชนั้ เรียน
(K) 1. ไดค้ ะแนนไม่ตา่
ทกั ษะ/ 1. ผลงาน 1. แบบประเมินผล 1. ประเมินผลงาน กว่า รอ้ ยละ 60
กระบวนการ สรา้ งสรรคต์ าม งานทศั นศลิ ป์ ทัศนศลิ ป์
(P) ลทั ธิทางศิลปะ
คุณลักษณะ 1. แบบประเมิน 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. ได้คะแนนไมต่ า่
อนั พงึ ประสงค์ (A) 1. พฤติกรรม คณุ ลกั ษณะ
ในช้ันเรยี น อนั พึงประสงค์ ในชน้ั เรยี น กวา่ รอ้ ยละ 60
สมรรถนะทส่ี าคัญ 1. พฤติกรรม 1. แบบประเมิน 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. ได้คะแนนไม่ต่า
ในชั้นเรยี น สมรรถนะที่
สาคญั ในช้ันเรยี น กวา่ ร้อยละ 60
บันทึกหลงั การสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 สมั ผัสลทั ธิทางศิลปะ
รายวิชาศลิ ปะ รหัสวชิ า ศ33102 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง รูปแบบยคุ สมัยทัศนศลิ ปต์ ะวันตกและตะวนั ออก
1. ผลทเ่ี กิดกับผเู้ รยี น
1.1 การประเมนิ ดา้ นความรู้(K) พบวา่
นกั เรยี นผ่านการประเมิน จานวน 88 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑข์ ้ันตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คดิ เปน็ ร้อยละ -
1.2 การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ(P) พบว่า
นักเรยี นผ่านการประเมนิ จานวน 88 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑข์ นั้ ตา่ ที่กาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ ร้อยละ -
1.3 การประเมินด้านคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์(A) พบวา่
นกั เรยี นผา่ นการประเมนิ จานวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 100
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ข้ันต่าที่กาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นร้อยละ -
2. ปัญหาและอปุ สรรค ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
มนี ักเรียนทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
มนี กั เรยี นท่ีไม่สนใจเรยี น
อื่น ๆ....................................................................................................................... ....
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
ควรนาแผนไปปรบั ปรงุ เรือ่ ง ........................................................................................
แนวทางแก้ไขนกั เรยี นท่ไี มผ่ ่านการประเมิน
...................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
ลงช่ือ ครูผู้สอน
(นางสาวนตธิดา ชุมพงษ)์
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ
รายวิชาศิลปะ รหสั วิชา ศ33102 สาระทัศนศิลป์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 เรื่อง รูปแบบยุคสมัยทศั นศิลปต์ ะวนั ตกและตะวันออก จานวน 4 ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 16 เรื่อง ทศั นศลิ ปต์ ะวันออก จานวน 1 ช่ัวโมง
-------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทัศนศลิ ป์ทีเ่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ตวั ช้วี ดั
ศ 1.2 ม.4-6/3 อภิปรายเก่ียวกับอิทธิพลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศท่ีมีผลต่องาน
ทศั นศิลปใ์ นสงั คม
2. สาระสาคญั
ทัศนศิลป์ตะวันออก หมายถึง ประเทศท่ีอยู่แถบเอเชีย อารายธรรมดั้งเดิมของชาวตะวันออกท่ี
จัดว่ามคี ณุ คา่ ทางประวตั ศิ าสตร์และหลักฐานทางโบราณคดีมากมาย เกดิ สกุลศลิ ปะทส่ี าคัญขนึ้ ดังน้ี สกุล
ศลิ ปะเมารยะ สกลุ ศิลปะคันธาราฐ สกลุ ศลิ ปะอันทราหรืออมรวดี สกุลศิลปะคปุ ตะ สกลุ ศิลปะปาละวะ
สกลุ ศิลปะปาละเสนา สกุลศลิ ปะโจฬะ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
3.1.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายลกั ษณะงานของแต่ละสกุลได้
3.2 ด้านกระบวนการ/ทกั ษะ (P)
3.2.1 นักเรยี นเขยี นบทความเก่ยี วกบั ทัศนศลิ ป์ตะวันออกได้
3.2.2 นักเรียนวเิ คราะห์และเปรยี บเทียบ รูปแบบของงานทัศนศิลป์แต่ละสกุลได้
3.3 ด้านคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A)
3.3.1 มีวนิ ัย
3.3.2 ใฝ่เรยี นรู้
3.3.3 มุง่ มัน่ ในการทางาน
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ทัศนศิลปต์ ะวนั ออก
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน (C)
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ชนิ้ งาน / ภาระงาน
6.1 เขยี นบทความเรื่อง ทัศนศิลปต์ ะวันออก
6.2 กจิ กรรมทัศนศิลป์ตะวนั ออก
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : เทคนคิ การจัดการเรียนรแู้ บบโมเดล ซิปปา
ข้นั ที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม (5 นาท)ี
7.1 ครูเขียน “ทัศนศิลป์ตะวันออก” บนกระดาน แล้วให้นักเรียนออกมาเขียนความรู้ท่ีมี
เกี่ยวกับทัศนศิลป์ตะวันออกทั้งในด้านประวัติศาสตร์ จิตกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม หรืออ่ืน
ๆ ท่นี ่าสนใจ คนละ 1 ข้อบนกระดาน
7.2 นักเรียนร่วมกันโหวตข้อความท่ีน่าสนใจ แล้วให้นักเรียนเจ้าของข้อความออกมาอธิบาย
เพมิ่ เติมหน้าช้นั
7.3 นักเรยี นเขยี นความรู้ของตนเองทมี่ เี กยี่ วกบั ทัศนศลิ ปต์ ะวันออกบนกระดาษท่ีครูแจกให้
ขัน้ ที่ 2 การแสวงหาความรู้ใหม่ (10 นาที)
7.4 นักเรียนแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม เท่า ๆ กัน ทากิจกรรมทัศนศิลป์ตะวันออก ศึกษาและสืบค้น
ทศั นศลิ ป์สกลุ ตา่ ง ๆ ดงั นี้
1) สกุลศิลปะเมารยะ
2) สกลุ ศิลปะคันธาระ
3) สกุลศิลปะอมราวดี
4) สกลุ ศลิ ปะคุปตะ
5) สกุลศิลปะปาละเสนา
6) สกุลศลิ ปะโจฬะ
โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากหวั ขอ้ สกุลศิลปะในการศึกษา
7.5 นักเรียนสืบค้นสกุลศิลปะท่ีนักเรียนจับสลากได้จากหนังสือเรียนทัศนศิลป์ 4-6 ชั้น
มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 อนิ เทอร์เน็ต หรอื แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
ข้ันท่ี 3 การศึกษาทาความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม
(10 นาที)
7.6 นักเรียนศึกษาทาความเข้าใจกับผลการศึกษาท่ีได้จากการสืบค้น และเขียนความรู้ลงบน
กระดาษทค่ี รแู จกให้
7.7 นักเรียนวิเคราะห์และเปรียบเทียบความรู้เดิมท่ีเขียนลงในกระดาษแผ่นที่ 1 และความรู้ใหม่ที่
เขยี นลงในกระดาษแผ่นที่ 2
7.8 นักเรียนวเิ คราะหแ์ ละเปรียบเทียบความสัมพนั ธ์ของความรู้เดมิ และความรู้ใหม่เป็นความรู้ที่
เปน็ อันหน่งึ อนั เดยี วกัน
ขน้ั ท่ี 4 การแลกเปลีย่ นความรูค้ วามเข้าใจกบั กลุ่ม (10 นาที)
7.9 สมาชกิ ในกลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายความรูท้ ไี่ ด้ทีละคน จนครบทกุ คน
7.10 สมาชิกในกล่มุ อธบิ ายเสรมิ ความรู้ทเ่ี พ่ือนอธิบาย
ข้นั ท่ี 5 การสรุปและจัดระเบียบความรู้ (5 นาท)ี
7.11 สมาชกิ ในกล่มุ ร่วมกนั สรุปความรูท้ ่ีได้จากการอภิปรายร่วมกนั
7.12 นกั เรยี นนาผลการสรปุ ท่ไี ด้มาจัดทาเป็นบทความความยาวหนึ่งหน้ากระดาษ A4
ข้นั ที่ 6 การแสดงผลงาน (5 นาที)
7.13 นกั เรียนออกมานาเสนอผลงานทลี ะกลุ่มหนา้ ชน้ั เรยี น
7.14 ขณะนักเรียนนาเสนอผลงานให้เพ่ือนในช้ันเรียนบันทึกวิดีโอไว้ด้วยเพื่อนากลับไปทบทวน
และนาไปเผยแพร่
ขัน้ ที่ 7 การประยุกต์ใชค้ วามรู้ (5 นาที)
7.15 ครูสอบถามนักเรียนว่า นักเรียนจะนาความรู้และทักษะจากการศึกษาเรื่องทัศนศิลป์
ตะวันออกไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับวิชาอ่นื ๆ ไดห้ รอื ไม่ อย่างไร
7.16 นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคาถามพรอ้ มอธิบายแนวทางในการนาความร้ไู ปประยุกตใ์ ช้
7.17 นักเรียนร่วมกันเสนอแนวทางการนาความรู้และทักษะท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ในด้านอ่ืน ๆ
เพม่ิ เติม (เช่น การสร้างสรรคผ์ ลงานศิลปะ การประกอบอาชีพ)
8. ส่ือและวสั ดุอปุ กรณ์การเรยี น
8.1 หนังสือเรียนรายวชิ าทศั นศิลป์ 4-6 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เรอ่ื ง ทัศนศลิ ปต์ ะวนั ออก
9. การวัดการประเมนิ ผลการเรียนรู้วดั และประเมินผล
เป้าหมาย ภาระงาน/ชน้ิ งาน เครอื่ งมอื วิธวี ดั ผล เกณฑก์ าร
การเรยี นรู้ ประเมิน
ความรู้ ความ 1. นาเสนอ 1. แบบประเมิน 1. ประเมนิ การ 1. ได้คะแนนไมต่ ่า
บทความเร่อื ง การนาเสนอ นาเสนอหน้าช้นั กวา่ รอ้ ยละ 60
เข้าใจ ทัศนศลิ ป์ หนา้ ช้ันเรยี น เรียน
(K) ตะวันออก
1. แบบประเมิน 1. ประเมินการ 1. ไดค้ ะแนนไม่ต่า
ทกั ษะ/ 1. บทความเรอื่ ง การเขยี น เขยี นบทความ กวา่ รอ้ ยละ 60
กระบวนการ ทัศนศิลป์ บทความ
ตะวนั ออก 2. ประเมนิ การทา 2. ไดค้ ะแนนไมต่ า่
(P) 2. แบบประเมิน
2. กจิ กรรม การทากิจกรรม กิจกรรมกลุม่ กวา่ รอ้ ยละ 60
คุณลักษณะ ทศั นศิลป์ กล่มุ
อนั พงึ ประสงค์ ตะวันออก 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. ได้คะแนนไมต่ า่
1. แบบประเมนิ
(A) 1. พฤติกรรม คณุ ลักษณะ ในชน้ั เรยี น กวา่ รอ้ ยละ 60
สมรรถนะทสี่ าคญั ในชั้นเรียน อนั พึงประสงค์
1. สังเกตพฤตกิ รรม 1. ได้คะแนนไมต่ า่
1. พฤติกรรม 1. แบบประเมิน
ในชั้นเรยี น สมรรถนะที่ ในชน้ั เรียน กว่า รอ้ ยละ 60
สาคญั
บันทึกหลงั การสอน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 16 ทัศนศลิ ป์ตะวนั ออก
รายวิชาศิลปะ รหสั วิชา ศ33102 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง รูปแบบยคุ สมยั ทัศนศลิ ป์ตะวันตกและตะวนั ออก
1. ผลท่เี กดิ กับผเู้ รยี น
1.1 การประเมนิ ด้านความรู้(K) พบว่า
นักเรยี นผ่านการประเมิน จานวน 80 คน คิดเป็นร้อยละ 90.90
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน 8 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 10.10
1.2 การประเมินดา้ นทักษะกระบวนการ(P) พบว่า
นักเรียนผา่ นการประเมนิ จานวน 88 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑข์ นั้ ต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ ร้อยละ -
1.3 การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์(A) พบว่า
นกั เรยี นผา่ นการประเมิน จานวน 88 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ขนั้ ต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นร้อยละ -
2. ปัญหาและอุปสรรค ในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
มีนกั เรยี นทไี่ มส่ นใจเรยี น
อนื่ ๆ นักเรียนไม่ให้ความรว่ มมอื ในการตอบคาถาม ไมห่ าขอ้ มูลเพ่ิมเติม
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
ควรนาแผนไปปรบั ปรุง เร่อื ง เพิ่มส่อื การเรยี นรูท้ ่นี า่ สนใจ
แนวทางแก้ไขนักเรยี นท่ีไม่ผา่ นการประเมนิ
ครูให้นักเรียนในกลุม่ ท่ีเป็นคนเก่ง อธบิ าย เนื้อหาทีเ่ รยี น แล้วนัดนักเรียนที่ไมผ่ ่านมา
สอบเกบ็ คะแนนอกี คร้งั
ลงชอื่ ครูผู้สอน
(นางสาวนตธิดา ชมุ พงษ)์
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
รายวิชาศิลปะ รหัสวชิ า ศ33102 สาระทศั นศิลป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง รปู แบบยุคสมัยทัศนศลิ ปต์ ะวนั ตกและตะวนั ออก จานวน 4 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 17 เรื่อง วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทียบงานทศั นศิลป์ จานวน 1 ช่ัวโมง
-------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทศั นศลิ ปท์ ี่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล
ตัวชี้วัด
ศ 1.2 ม.4-6/1 วิเคราะห์และเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวันออกและรูปแบบ
ตะวันตก
2. สาระสาคัญ
งานทัศนศลิ ป์จะมีรปู แบบท่ีแตกต่างกันข้ึนอย่กู ับบรบิ ททางสังคม วัฒนธรรม ความเช่อื และการ
รับอิทธิพลอื่น ๆ เข้ามาการวิเคราะห์และเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ช่วยให้ทราบถึงความเหมือนและ
ความแตกต่างของงานทศั นศลิ ป์ที่อยู่ในยุคเดียวกันแตค่ นละวฒั นธรรม
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
3.1.1 นักเรยี นสามารถอธิบายรูปแบบตะวนั ออกและรปู แบบตะวันตกได้
3.2 ดา้ นกระบวนการ/ทักษะ (P)
3.2.1 นกั เรยี นเปรยี บเทยี บความเหมือนความและแตกต่างของงานทัศนศลิ ปต์ ะวนั ออกและ
ตะวนั ตกได้
3.3 ด้านคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A)
3.3.1 มีวนิ ยั
3.3.2 ใฝ่เรยี นรู้
3.3.3 มุ่งมั่นในการทางาน
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ทัศนศิลปต์ ะวนั ตก
4.2 ทัศนศลิ ปต์ ะวนั ออก
4.3 ทศั นศลิ ป์ในประเทศไทย
- วิเคราะห์และเปรียบเทียบงานทศั นศิลป์
5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น (C)
5.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5.2 ความสามารถในการคิด
6. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
6.1 แผนผงั ความคิดเร่ือง วเิ คราะห์และเปรยี บเทียบงานทศั นศลิ ป์
6.2 วเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บงานทศั นศลิ ป์
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : เทคนคิ การจดั การเรียนรู้ดว้ ยแผนผงั ความคดิ
ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น (5 นาท)ี
7.1 นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่าถ้าโลกเราไม่มีศิลปะนักเรียนคิดว่าจะส่งผล
อย่างไร
7.2 นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถามจากความคดิ เห็นของนักเรียนเอง
ขัน้ สอน (10 นาที)
7.3 ครูเขียน “ทัศนศิลป์ตะวันออก” และ “ทัศนศิลป์ตะวันตก” บนกระดาน แล้ว ให้นักเรียน
รว่ มกนั บอกเอกลกั ษณ์ของแต่ละรูปแบบ โดยโยงเส้นออกมาจากหัวข้อท่ีครเู ขียน บนกระดาน
……………………………… ………………………………
……………………………… ………………………………
……………………………… ทศั นศิลป์ ………………………………
……………………………… ตะวนั ออก ………………………………
……………………………… ………………………………
……………………………… ………………………………
……………………………… ………………………………
……………………………… ………………………………
……………………………… ทัศนศิลปต์ ะวนั ตก ………………………………
……………………………… ………………………………
……………………………… ………………………………
……………………………… ………………………………
7.4 ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้ท่ีเคยเรียนมาเก่ียวกับทัศนศิลป์รูปแบบตะวันออก
และรูปแบบตะวนั ตก พร้อมทงั้ ดูภาพงานทศั นศลิ ปร์ ูปแบบตะวนั ออกและตะวันตกประกอบ
7.5 นักเรียนร่วมเปรียบเทียบลักษณะงานทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวันออกและรูปแบบตะวันตกบน
กระดาน
ทศั นศิลปต์ ะวันออก เหมอื นกัน ทศั นศิลป์ตะวนั ตก
...................................... …………………….... . ………………………..
...................................... ……………………...... ………………………..
..................................... …………………… ……………………….
................................... ………… ……………………….
7.6 นักเรียนจับคู่ทากิจกรรม วิเคราะห์และเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ โดยให้นักเรียนเลือกงาน
ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตกในแขนงเดียวกัน (เช่น ประติมากรรมตะวันออกและประติมากรรม
ตะวนั ตก) มาอยา่ งละ 1 ช้นิ มาวิเคราะหแ์ ละเปรียบเทยี บงานทัศนศิลป์ท่กี าหนดใหต้ ามหัวขอ้ ต่อไปน้ี
1) ระบชุ อ่ื งานทัศนศลิ ป์
2) สถานท่อี ย่ปู ัจจุบนั (เช่น พิพธิ ภัณฑ์ ประเทศ)
3) งานทศั นศลิ ป์แขนงใด
4) อยู่ในยุคสมัยใด
5) งานทัศนศลิ ปม์ ีลกั ษณะอยา่ งไร
6) มีงานทัศนศิลปใ์ ดท่ีมีเอกลกั ษณค์ ล้ายกบั งานทัศนศิลป์น้ี
7) ความรูส้ กึ ต่องานทศั นศลิ ปน์ ี้
โดยนักเรียนทาเป็นแผนผังความคิด โดยติดภาพผลงานแล้วโยงเส้นหัวข้อออกมาจากภาพ
ผลงาน เมื่อนักเรียนวิเคราะห์ผลงานแล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบผลงานท่ัง 2 ว่ามีความเหมือนหรือ
แตกต่างกันอยา่ งไร โดยใช้หัวข้อขา้ งต้นทก่ี าหนดให้
7.7 นกั เรยี นออกมานาเสนอผลการศึกษาหน้าชน้ั เรียน แล้วใหเ้ พ่อื นในชัน้ เรยี นสอบถามเพม่ิ เตมิ
ในสว่ นที่ไมเ่ ข้าใจหรอื ต้องการรเู้ พม่ิ เตมิ
7.8 ครูอธิบายเพ่ิมเติมในส่วนที่ไม่สมบูรณ์ โดยต้ังคาถามให้นักเรียนได้คิดและได้หาคาตอบได้
ด้วยตนเอง
ขนั้ สรุป (5 นาท)ี
7.9 ครูเขียน “ทัศนศิลป์ตะวันออก” และ “ทัศน์ศิลป์ตะวันตก” บนกระดาน แล้วให้นักเรียน
ออกมาเขียนข้อความที่นักเรียนทุกคนมีร่วมกัน เพ่ือสรุปและเปรียบเทียบเอกลักษณ์ของทัศนศิลป์
ตะวนั ออกและทศั นศลิ ป์ตะวนั ตก
7.10 ครูสอบถามว่าการวิเคราะห์และเปรียบเทียบทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก ให้
ประโยชน์ในด้านใดบ้าง และสามารถนาความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน
ทัศนศลิ ป์ไดอ้ ยา่ งไร
7.11 นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคาถามแลว้ ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจย่ิงข้ึน
8. ส่อื และวสั ดอุ ุปกรณก์ ารเรียน
8.1 หนังสือเรียนรายวิชาทัศนศลิ ป์ 4-6 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6
8.2 โปรแกรมนาเสนอ (PowerPoint) เร่อื ง วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทียบงานทัศนศลิ ป์
9. การวัดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้วดั และประเมินผล
เป้าหมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน เครอื่ งมือ วธิ วี ดั ผล เกณฑก์ าร
การเรียนรู้ ประเมิน
ความรู้ ความ 1. นาเสนอการ 1. แบบประเมนิ การ 1. ประเมินการ 1. ไดค้ ะแนนไม่ต่า
กวา่ รอ้ ยละ 60
เขา้ ใจ วิเคราะห์และ นาเสนอ นาเสนอ
(K) 1. ได้คะแนนไมต่ ่า
เปรียบเทยี บงาน หนา้ ชนั้ เรียน หน้าชน้ั เรยี น กว่า รอ้ ยละ 60
ทกั ษะ/
กระบวนการ ทศั นศิลป์ 2. ไดค้ ะแนนไม่ตา่
กวา่ ร้อยละ 60
(P) 1. แผนผงั ความคดิ 1. แบบประเมิน 1. ประเมนิ แผนผัง
1. ได้คะแนนไมต่ ่า
คณุ ลกั ษณะ เรื่อง วเิ คราะห์ แผนผังความคดิ ความคิด กว่า รอ้ ยละ 60
อนั พงึ ประสงค์
และเปรียบเทยี บ 1. ไดค้ ะแนนไมต่ ่า
(A) กวา่ ร้อยละ 60
สมรรถนะทสี่ าคัญ งานทศั นศิลป์
2 กิจกรรม 2. แบบประเมินการ 2. ประเมินการทา
วเิ คราะห์และ ทากิจกรรมกลุ่ม กจิ กรรมกล่มุ
เปรียบเทยี บงาน
ทศั นศิลป์
1. พฤติกรรม 1. แบบประเมนิ 1. สังเกต
ในช้ันเรียน คณุ ลกั ษณะ พฤตกิ รรม
อนั พงึ ประสงค์ ในชั้นเรยี น
1. พฤติกรรม 1. แบบประเมนิ 1. สังเกต
ในช้ันเรียน สมรรถนะที่ พฤตกิ รรม
สาคญั ในช้นั เรยี น
บนั ทึกหลงั การสอน
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 17 วเิ คราะหแ์ ละเปรียบเทียบงานทศั นศลิ ป์
รายวิชาศิลปะ รหัสวิชา ศ33102 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง รปู แบบยคุ สมยั ทัศนศลิ ป์ตะวันตกและตะวนั ออก
1. ผลที่เกดิ กับผู้เรียน
1.1 การประเมนิ ดา้ นความร(ู้ K) พบวา่
นักเรียนผา่ นการประเมนิ จานวน 88 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑข์ นั้ ต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -
1.2 การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ(P) พบว่า
นกั เรียนผา่ นการประเมิน จานวน 88 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑข์ ัน้ ตา่ ท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเป็นร้อยละ -
1.3 การประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์(A) พบวา่
นักเรียนผ่านการประเมิน จานวน 88 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ต่าท่ีกาหนดไว้ จานวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -
2. ปัญหาและอุปสรรค ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
มีนักเรียนท่ไี ม่สนใจเรียน
อน่ื ๆ....................................................................................................................... ....
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
ควรนาแผนไปปรับปรุง เรื่อง ........................................................................................
แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน
...................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
ลงชื่อ ครผู ู้สอน
(นางสาวนตธิดา ชุมพงษ์)
๑๘๖
ภาคผนวก
๑๘๗
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
พฤตกิ รรม
ลาดับท่ี ชือ่ -สกลุ ความสนใจ การแสดง การตอบ การรบั ฟงั ทางาน รวม
ความคิดเห็น คาถาม ความคดิ เห็น ตามที่ได้รับ
มอบหมาย
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20
ลงชือ่ ……………………………….ผู้สังเกต
(………………………….……)
…………/…………/………..
เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
คะแนนรอ้ ยละ 80-100 ได้เกรด 4
3.5
คะแนนรอ้ ยละ 75-79 ไดเ้ กรด 3
2.5
คะแนนรอ้ ยละ 70-74 ไดเ้ กรด 2
1.5
คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ได้เกรด 1
0
คะแนนรอ้ ยละ 60-64 ได้เกรด
คะแนนรอ้ ยละ 55-59 ได้เกรด
คะแนนรอ้ ยละ 50-54 ได้เกรด
คะแนนรอ้ ยละ 0-59 ได้เกรด
หมายเหตุ : ใช้แบบประเมนิ นีท้ ุกแผนการจัดการเรียนรู้
๑๘๘
แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
กลุ่มท…่ี ……..ชนั้ /แผนก……………….
คาส่งั ให้สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นตามพฤตกิ รรมที่กาหนด
คาชแ้ี จง ให้ผู้สอนประเมินและใสเ่ ครือ่ งหมาย ลงในช่องทีต่ รงกับพฤตกิ รรมของนักเรยี นในแต่ละกลุม่
พฤติกรรม
ลาดบั ที่ หัวขอ้ เรอ่ื ง ความ การแสดง ความตง้ั ใจใน ทางานเสร็จ การนาเสนอ รวม
รว่ มมือกนั ความคิดเหน็ การทางาน ตามเวลา ผลงาน
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20
เกณฑ์การให้คะแนน ไดเ้ กรด 4
ได้เกรด 3.5
คะแนนร้อยละ 80-100 ได้เกรด 3
คะแนนร้อยละ 75-79 ไดเ้ กรด 2.5
คะแนนร้อยละ 70-74 ไดเ้ กรด 2
คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ไดเ้ กรด 1.5
คะแนนร้อยละ 60-64 ไดเ้ กรด 1
คะแนนร้อยละ 55-59 ไดเ้ กรด 0
คะแนนรอ้ ยละ 50-54
คะแนนร้อยละ 0-59
ลงช่ือ…………………………….ผู้ประเมนิ
(……..……………………..)
………./………../.……….
๑๘๙
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
กลุม่ เชี่ยวชาญท…่ี ..……..ชนั้ ……………….
คาส่ัง ให้ประธานกลมุ่ สังเกตพฤติกรรมสมาชิกในกลมุ่ ตามพฤติกรรมที่กาหนด
คาชี้แจง ใหป้ ระธานกลมุ่ ประเมนิ และใสเ่ ครื่องหมาย ลงในช่องท่ีตรงกบั พฤตกิ รรมของสมาชิกในกลมุ่
พฤตกิ รรม
ลาดับท่ี ช่อื -สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตงั้ ใจ การมีสว่ นร่วม รวม
สมาชิกกลุ่ม รว่ มมอื กนั ความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ ในการ ในการอภปิ ราย
ทางาน
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20
เกณฑก์ ารให้คะแนน ไดเ้ กรด 4
ไดเ้ กรด 3.5
คะแนนร้อยละ 80-100 ได้เกรด 3
คะแนนรอ้ ยละ 75-79 ไดเ้ กรด 2.5
คะแนนร้อยละ 70-74 ได้เกรด 2
คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ได้เกรด 1.5
คะแนนรอ้ ยละ 60-64 ไดเ้ กรด 1
คะแนนร้อยละ 55-59 ไดเ้ กรด 0
คะแนนรอ้ ยละ 50-54
คะแนนร้อยละ 0-59
ลงช่ือ…………………………….ผ้ปู ระเมนิ
(……..……………………..)
………./………../.……….
๑๙๐
แบบรวมคะแนนการประเมิน
สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น ตลอดภาคการศกึ ษา
ช่ือ-สกลุ …………………………………………………………....รหัสประจาตัว…………………………………
ระดบั ช้นั …………………………………………...เลขท…ี่ ………………….……………………………………
ครง้ั ท่ปี ระเมนิ
1
สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
คะแนนรวม
หารจานวนค ั้รง ี่ทประเมิน
คะแนน ี่ทได้
คะแนนที่ได้
1.ความสามารถในการสื่อสาร
2.ความสามารถในการคดิ
3.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ลงชอ่ื ……………………………….ผปู้ ระเมนิ
(………………………….……)
…………/…………/………..
๑๙๑
แบบสรปุ ผลการประเมิน
สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น
ภาคเรียนที่…………………….ปีการศึกษา…………………
รหสั วิชา………………………………………………………….. 1. ความสามารถในการสื่อสาร
ชอ่ื วิชา…………………………………………………………… 2. ความสามารถในการคิด
ชัน้ …………………………………………………………..…… 3. ความสามารถในการแ ้กปัญหา
กลุม่ …………………………………………..……………….…. 4. ความสามารถในการใช้ ัทกษะ
ชี ิวต
5 ความสามารถในการใช้เทคโนโล ีย
รวมคะแนน
ลาดบั รหสั ชือ่ -สกุล 4 4 4 4 4 20
ท่ี ประจาตวั
๑๙๒
แบบรวมคะแนนการประเมนิ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ลอดภาคการศกึ ษา
ชือ่ -สกลุ …………………………………………………………....รหสั ประจาตัว…………………………….…..…
ระดับชน้ั ………………..……………………………...เลขท…่ี ………………….……………………………..….……
คะแนนเฉลี่ยตามเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั พฤติกรรม หมายเหตุ
ดมี าก ดี พอใช้ ควรแกไ้ ข
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 321 0
3. มีวนิ ัย
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
7. รักความเป็นไทย
8.มจี ติ สาธารณะ
หมายเหตุ : คะแนนรวมภาคเรียนได้จากการนาคะแนนแต่ละคุณลักษณะอันพึงประสงค์มารวมกัน แล้วหารด้วย 8
(คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์)
คะแนนรวม 8 ค่านยิ มไทย = …………………..
คะแนนเฉลยี่ = …………………..
ลงช่ือ……………………………….ผู้ประเมนิ
(………………………….……)
…………/…………/………..
๑๙๓
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตามค่านิยมหลัก 12 ประการ
ชอ่ื -สกลุ …………………………………………………………................รหสั ประจาตวั …………………………...……………...
ระดับชัน้ ………………..……..……………………………………….....เลขท…ี่ ………………….………………………………………
คะแนนเฉลี่ยตามเกณฑ์
ค่านยิ มไทย ระดับพฤตกิ รรม หมายเหตุ
ดีมาก ดี พอใช้ ควรแกไ้ ข
321 0
1. มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
2. ซือ่ สตั ย์ เสียสละ อดทน
3. กตญั ญูตอ่ พอ่ แม่ ผ้ปู กครอง ครอู าจารย์
4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศกึ ษาเล่าเรยี นทงั้ ทางตรง และทางออ้ ม
5. รักษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอันงดงาม
6. มศี ลี ธรรม รักษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผูอ้ นื่
7. เขา้ ใจเรยี นร้กู ารเปน็ ประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็น
ประมุขท่ีถูกต้อง
8. มีระเบยี บวินัย เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรู้จกั การเคารพผใู้ หญ่
9. มีสตริ ูต้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รู้ปฏบิ ัติตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยหู่ วั
10. ร้จู ักดารงตนอยู่โดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
11. มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ ร่างกาย และจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออานาจฝ่ายต่า
12. คานงึ ถงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวมและของชาติมากกว่า
ผลประโยชน์ของตนเอง
คะแนนเฉล่ียรวม
หมายเหตุ : คะแนนรวมภาคเรียนไดจ้ ากการนาคะแนนแตล่ ะค่านิยมมารวมกนั แล้วหารดว้ ย 12 (คา่ นิยมไทย)
คะแนนรวม 12 คา่ นยิ มไทย = …………………..
คะแนนเฉลย่ี = …………………..
ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมนิ
(………………………….……)
…………/…………/………..
ลาดั รหัสวิชา ……………………..…...........
บท่ี ช่ือวิชา………………………….............
ชน้ั ………………………………...........
รหัส
ประจา
ตัว
ชื่อ-สกลุ ๑๙๔
2 2 2 2 1 2 2 1 1 1 2 2 20 1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แบบสรุปผลการประเมิน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามค่านิยมหลัก 12 ประการ
2. ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน
ภาคเรียนท…ี่ ………………….ปีการศึกษา…………………
3. กตัญญตู ่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครอู าจารย์
4. ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศึกษาเลา่ เรียน ฯ
5. รกั ษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
6. มศี ลี ธรรม รักษาความสตั ย์ หวังดีต่อ
ผ้อู นื่
7. เขา้ ใจเรียนรู้การเปน็ ประชาธปิ ไตย ฯ
8 มีระเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ฯ
9. มีสติรตู้ วั รูค้ ิด ร้ทู า รู้ปฏบิ ตั ิ ฯ
10. รูจ้ ักดารงตนอยู่โดยใช้หลักปรชั ญา ฯ
11. มคี วามเข้มแข็งทัง้ รา่ งกาย และจิตใจ ฯ
12. คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวม ฯ
รวมคะแนน