99
ช่อื รายวชิ า ชีววิทยา4 รหัสวิชา ว33242
คาอธิบายรายวชิ า
ศกึ ษาวิเคราะห์เกยี่ วกับโครโมโซม สารพนั ธุกรรม การควบคุมกระบวนการตํางๆของสาร
พันธกุ รรม การค๎นพบกฎการถํายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมของเมนเดล และการถาํ ยทอดลักษณะ
ทางพนั ธุกรรม ทนี่ อกเหนอื จากกฎของเมนเดล ความสัมพันธ์ระหวาํ งยนี ในออโทโซม ยนี ในออโทโซม
เพศ ฝึกทากจิ กรรมเก่ยี วกบั สัดสวํ นจีโนไทปแ์ ละฟโี นไทป์ของการถํายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
ลักษณะทางพันธกุ รรมทเ่ี ก่ยี วเนือ่ งกับเพศ มลั ติปิลแอลลีล พอลิยนี การแปรผนั ทางพนั ธกุ รรม การเกิด
มวิ เทชนั โรคทางพนั ธกุ รรม ความสัมพันธร์ ะหวาํ งลักษณะทางพนั ธกุ รรมกบั สิง่ แวดล๎อม พนั ธุ
วศิ วกรรม การคัดเลือกพนั ธหุ์ รอื การโคลนนิ่ง พนั ธุศาสตร์ และเทคโนโลยีชวี ภาพกับการประยกุ ต์
ใช๎ประโยชน์ตํอมนษุ ย์ ในการเพ่มิ ผลผลติ ทางการเกษตร การแพทย์ การอตุ สาหกรรม ปัจจยั ท่ีทาให๎
เกดิ ววิ ฒั นาการ หลักฐานเกย่ี วกับววิ ฒั นาการ แนวคดิ เกีย่ วกับววิ ัฒนาการของส่ิงมชี วี ติ ววิ ฒั นาการกบั
ความอยํูรอดของมนุษย์ การสูญพนั ธ์ขุ องสิง่ มชี วี ติ และการอนรุ ักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ
การจดั หมวดหมขํู องสิง่ มีชวี ติ ชอ่ื ของสงิ่ มชี ีวิต อาณาจักของสิ่งมีชีวติ
การสืบคน๎ และการอภิปรายเพือ่ ให๎เกิดความรู๎ ความคดิ ความเขา๎ ใจ สามารถส่อื สารสิ่งที่
เรียนร๎มู ีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นาความรไู๎ ปใชใ๎ นชีวติ ประจาวนั มีจิตศาสตร์ คุณธรรมและ
คํานิยมทเี่ หมาะสม ตลอดจนตระหนกั ถึงผลกระทบของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที ม่ี ตี ํอการดารงชีวติ
ของมนุษย์
ตวั ชีว้ ดั
ว 1.2 ม.4-6/1-2
ว 1.2 ม.3/1-3
ว 2.1 ม.4-6/2-3
ว 1.2 ม.4-6/3-4
100
ช่อื รายวิชา ชีววิทยา5 รหัสวิชา ว33242
คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษา วเิ คราะห์ความรู๎พ้ืนฐานและทากิจกรรมเก่ียวกับระบบนิเวศ ความสมั พันธ์ระหวําง
สง่ิ มีชีวิตกบั ส่งิ แวดลอ๎ มทางกายภาพ ความสมั พนั ธ์ระหวาํ งสง่ิ มชี วี ติ กบั ส่ิงมีชวี ติ การถาํ ยทอดพลงั งาน
ในระบบนิเวศ การหมุนเวียนสารท่สี าคญั ในระบบนเิ วศ การเปลย่ี นแปลงแทนที่ของส่ิงมีชวี ติ ความ
หลากหลายทางชีวภาพ การรักษาดลุ ยภาพของระบบนเิ วศ ประชากร มนษุ ย์กบั ความย่ังยนื ของ
สง่ิ มีชวี ิต มนุษยก์ ับทรัพยากรธรรมชาติ
โดยใชก๎ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู๎ การสารวจตรวจสอบ
การสังเกต การสบื ค๎นข๎อมลู วางแผน การอภปิ ราย สรุป
เพอื่ ให๎เกดิ ความร๎ู ความคิด ความเข๎าใจ ส่ือสารในสงิ่ ท่ีรู๎ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ นา
ความร๎ูไปใช๎ในชีวติ ตนเอง ดูแลและรกั ษาสิง่ แวดลอ๎ ม สามารถแก๎ปัญหา วางแผนเสนอแนวทางในการ
แกป๎ ญั หาและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติได๎อยํางมปี ระสิทธิภาพ มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จรยิ ธรรมและคาํ นยิ ม ตลอดจนตระหนกั ถึงผลกระทบของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่มี ตี ํอสิ่งแวดล๎อม
ตวั ช้วี ัด
ว 2.1 ม.4-6/1-2
ว 2.1 ม.3/1-4
ว 2.2 ม.4-6/1-3
101
คาอธิบายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา
ศาสนาและวฒั นธรรม
102
โครงสร้างการจัดการเรียนรกู้ ลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
โรงเรียนบ้านตรวจ อาเภอศรณี รงค์ จงั หวัดสุรินทร์
..................................................................................................................................................
รายวิชาพนื้ ฐาน
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
ภาคเรียนท่ี 1 ส21101 สงั คมศกึ ษา1 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จานวน 1.5 หนวํ ยกิต
ส21103 ประวตั ศิ าสตร์1 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกติ
ภาคเรียนที่ 2 ส21102 สงั คมศึกษา2 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จานวน 1.5 หนํวยกติ
ส21104 ประวตั ิศาสตร์2 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2
ภาคเรยี นที่ 1 ส22101 สังคมศึกษา3 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 1.5 หนํวยกิต
ส22103 ประวตั ิศาสตร์3 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกิต
ภาคเรยี นที่ 2 ส22102 สงั คมศึกษา4 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 1.5 หนวํ ยกิต
ส22104 ประวตั ศิ าสตร์4 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1 ส23101 สังคมศึกษา5 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 1.5 หนํวยกติ
ส23103 ประวัตศิ าสตร์5 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรยี นที่ 2 ส23102 สงั คมศกึ ษา6 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 1.5 หนวํ ยกติ
ส23104 ประวตั ศิ าสตร์6 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
รายวิชาเพมิ่ เติม ส21201 อาเซียนศึกษา1 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกติ
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ส21231 หน๎าที่พลเมือง1 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ส21202 อาเซียนศึกษา2 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรียนท่ี 1 ส21232 หนา๎ ที่พลเมือง2 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกิต
ภาคเรยี นท่ี 2 ส22231 หน๎าท่ีพลเมือง3 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ส22232 หน๎าที่พลเมือง4 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกติ
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
ภาคเรียนท่ี 1
ภาคเรียนท่ี 2
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
ภาคเรยี นที่ 1 ส23231 หน๎าท่ีพลเมือง5 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรยี นที่ 2 ส23232 หนา๎ ทพี่ ลเมือง6 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
103
รายวชิ าพนื้ ฐาน
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ส31101 สังคมศึกษา1 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หนวํ ยกิต
ส31103 ประวตั ศิ าสตร1์ 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกติ
ภาคเรียนท่ี 2 ส31102 สังคมศกึ ษา2 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หนวํ ยกติ
ส31104 ประวตั ศิ าสตร2์ 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกติ
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5
ภาคเรียนท่ี 1 ส32101 สังคมศกึ ษา3 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หนํวยกติ
ส32103 ประวตั ศิ าสตร์3 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกิต
ภาคเรียนที่ 2 ส32102 สงั คมศึกษา4 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หนวํ ยกติ
ส32104 ประวัติศาสตร์4 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกิต
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
ภาคเรียนท่ี 1 ส33101 สงั คมศึกษา5 2 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หนวํ ยกิต
ภาคเรียนท่ี 2 ส33102 สังคมศึกษา6 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หนวํ ยกิต
รายวิชาเพมิ่ เติม จานวน 0.5 หนํวยกิต
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน 0.5 หนํวยกิต
ภาคเรยี นท่ี 1 ส31201 อาเซียนศึกษา1 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกติ
ภาคเรียนที่ 2 ส31202 อาเซียนศกึ ษา2 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5
ภาคเรียนท่ี 1 ส32201 หนา๎ ท่ีพลเมือง1 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรยี นท่ี 2 ส32202 หนา๎ ที่พลเมือง2 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรียนที่ 1 ส33201 หน๎าท่พี ลเมือง3 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์
ภาคเรยี นท่ี 2 ส33202 หน๎าที่พลเมือง4 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์
104
ช่อื รายวิชา สังคมศึกษา1รหัสวชิ า ส21101
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏบิ ัติ สร๎างความคดิ รวบยอด นาภมู ปิ ญั ญาท๎องถิ่น สภาพปัญหาชีวิต
สภาพแวดล๎อม เข๎ามาเปน็ สํวนหนึ่งของกระบวนการเรียนร๎ู เพ่อื ให๎มีความร๎ูความเข๎าใจตระหนกั เห็น
คณุ คําในเรื่องตํอไปน้ี
ประวตั แิ ละความสาคัญขอพระพุทธศาสนา เรอ่ื งการสังคายนาการเผยแผํ
พระพุทธศาสนาเขา๎ สูปํ ระเทศไทย ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาตํอสงั คมไทยในฐานะเป็นศาสนา
ประจาชาติ สถาบนั หลกั ของสังคมไทย สภาพแวดลอ๎ มทก่ี วา๎ งขวางและครอบคลมุ สังคมไทย
พระพทุ ธศาสนากับการพัฒนาตนและครอบครวั พุทธประวตั ิ สรุปและวิเคราะหพ์ ุทธประวัติ เร่อื ง
ประสตู ิ เทวทูต 4 การบาเพ็ญทกุ รกริ ิยา การแสวหาความรู๎
ประวตั พิ ุทธสาวก พุทธสาวิกา พระมหากัสสปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกะ นางวสิ าขา
ชาวพทุ ธตัวอยา่ ง พระเจ๎าสอโศกมหาราช พระโสณะและพระอตุ ตระ ชาดกเรื่องอัมพชาดก ตติ ติร
ชาดก
หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เร่ืองพระรตั นตรยั (พุทธคุณ 9) อริยสัจ 4 ทุกข์ (ธรรมท่ีควร
ร๎ู) : ขนั ธ์ 5 – ธาตุ 4 , สมุทัย : (ธรรมทีค่ วรละ) หลกั กรรมอบายมุข 6 นโิ รธ (ธรรมทีค่ วรบรรลุ) : สุข
2 (กายกิ , เจสติ ) คหิ สิ ุข . มรรค (ธรรมทีค่ วรเจริญ) : ไตรสกิ ขากรรมฐาน 2 ปธาน 4 โกศล 3 มงคล
38 ในเรอ่ื งไมํคบคนพาลคบบณั ฑิต บชู าผู๎ควรบชู า พุทธศาสนสภุ าษติ คือ ยงั เว เสวติ ตาทโิ ส
(คบคนเชนํ ไรเปน็ เชํนน้นั ) อัตตนา โจทยตั ตานัง (จงเตอื นตนด๎วยตน) นสิ มั ม กรณัง เสยโย (ใคร
ครวญกอํ นทาจึงดี) ทุราวาสา ฆราทกุ ขา (เรือนทค่ี รองไมํดี นาทกุ ขม์ าให๎)
การบรหิ ารจติ และเจริญปัญญา สวดมนต์แปลและแผํเมตตา วิธปี ฏบิ ตั แิ ละประโยชน์ของการ
บริหารจติ และเจรญิ ปญั ญา ฝึกการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปฏั ฐาน เน๎น อานา ปานสติ
นาวิธีการบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญาไปใชใ๎ นชีวิตประจาวนั พฒั นาการเรียนรดู๎ ว๎ ยวิธีคดิ แบบ โยนิโส
มนสิการ 2 วธิ ี คอื วิธคี ดิ แบบคุณคําแท๎ – คณุ คาํ เทียม – โทษและทางออก
เพื่อให๎เกดิ ศรัทธาอยํางย่งิ ตํอพระรตั นตรัยและรกั การเรียนร๎ูพระพุทธศาสนา ประพฤติ
ปฏบิ ัตติ นเป็นพุทธศาสนิกชนทีด่ ี มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการอยูํรวํ มกนั ในสังคมและสามารถนา
หลกั ธรรมไปใชเ๎ ปน็ เคร่ืองมือในการเรียนร๎ู การทางานอยํางมีคณุ คําตํอชีวิตตนเองและสังคมโดย
สวํ นรวม
หลักการสาคัญของประชาธิปไตย คณุ ลักษณะของสมาชิกในสังคมประชาธิปไตย
ความสาคญั และแนวทางการปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย สถานภาพ บทบาท สิทธิ
เสรภี าพและหนา๎ ท่ีในฐานะพลเมืองดีของสังคมและประเทศชาติ ภูมปิ ญั ญาและวนั ธรรมไทย ความ
คล๎ายคลงึ และความแตกตาํ งระหวํางวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมของประเทศในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออก
เฉยี งใต๎ สทิ ธิมนุษยชน กฎหมายที่เกยี่ วข๎องกบั ตนเอง โครงสร๎างทางการเมืองการปกครองของไทย
อานาจอธปิ ไตยและความสมั พนั ธร์ ะหวาํ งอานาจบริหาร นิติบญั ญตั ิ ตุลาการ รัฐธรรมนูญแหํง
ราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกบั ที่มา หลกั การ เจตนารมณ์ โครงสรา๎ งและสาระสาคัญ
เพ่ือให๎มคี วามร๎ู ความเข๎าใจเกี่ยวกบั การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทย
เหน็ ความสาคัญของการปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดีในวิถีประชาธิปไตยและปฏิบัตติ น บทบาทหน๎าท่ขี อง
คนและปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมายได๎อยํางถูกต๎องและมีสํวนรวํ มในการอนุรกั ษ์ภูมปิ ญั ญาและวัฒนธรรมอนั
105
เป็นเอกลักษณ์ของท๎องถนิ่ และชาติ
วเิ คราะห์ความหมาย ความสาคญั หลักเศรษฐศาสตรเ์ บอ้ื งตน๎ คํานิยม พฤติกรรมการ
บริโภคของคนในสงั คม ซ่งึ สํงผลกระทบตํอเศรษฐกจิ ของชุมชนและประเทศ อธิบายความหมายของคา
วํา ทรัพยากรท่มี ีจากดั สนองความต๎องการทีไ่ มจํ ากดั ความขาดแคลน การเลอื กและการเสยี โอกาส
อธิบายความสาคัญของการบรโิ ภคอยาํ งมีประสิทธภิ าพ หลกั การบรโิ ภคที่ดี ปจั จัยทีม่ ี
อทิ ธพิ ลตํอพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมปัจจบุ นั รวมท้งั ผลดีผลเสยี ของพฤติกรรมดงั กลําว
อธบิ ายความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา๎ อยหํู ัว รวมท้งั หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง การประยุกตป์ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงของสังคมไทย
วิเคราะห์บทบาทหน๎าท่ีและความแตกตาํ งของแตํละประเภทและยกตัวอยํางสะทอ๎ นใหเ๎ หน็
การพึ่งพาอาศัยกนั และการแขงํ ขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ ระบปุ ัจจัยทม่ี ีอิทธิพลตํอการกาหนดอุป
สงคอ์ ุปทานและอธิบายผลของการมีกฎหมายเกี่ยวกับทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา
อธิบายความหมาย ประเภทความสาคญั ของธนาคาร การหารายได๎ รายจาํ ย การออม
การลงทนุ ซึง่ แสดงความสมั พันธร์ ะหวํางอปุ สงค์ของผูบ๎ ริโภคและสถาบนั การเงิน ยกตัวอยาํ งทสี่ ะท๎อน
ใหเ๎ หน็ ถงึ การพึ่งพาอาศยั กนั การแขํงขันทางเศรษฐกิจในประเทศ เสนอแนะแนวทางการแกไ๎ ขปญั หา
เศรษฐกจิ ในชมุ ชน ประเทศ เสนอแนวทางแก๎ไข ระบุปจั จัยท่ีมีอิทธพิ ลตอํ การกาหนดอุปสงค์อุปทาน
อภปิ รายผลการมีกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สนิ ทางปัญญา กฎหมายเกีย่ วกบั ความคมุ๎ ครองทรพั ยส์ นิ ทาง
ปญั ญา บทลงโทษการละเมดิ ทรัพยส์ ินทางปัญญา เนน๎ กระวนการคิด วิเคราะห์ ความร๎ูความเขา๎ ใจ
กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการปฏิบตั ิให๎มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีความรคู๎ วาม
เขา๎ ใจหลกั เศรษฐศาสตร์ เป็นตน๎ มีคํานิยมท่ีดีในการผลิต การบรโิ ภค เหน็ คุณคาํ ตระหนักใน
ความสาคญั และสามารถนาไปประยกุ ต์ใช๎ในชีวติ ประจาวัน เพอื่ แกป๎ ญั หาเศรษฐกจิ ในครอบครัว ชุมชน
และระดับประเทศ
ตัวชว้ี ัด
ส 1.1 ม.1/1-11
ส 2.1 ม.1/1-4
ส 2.2 ม.1/1-2
ส 3.1 ม.1/1-3
ส 3.2 ม.1/1-4
รวมท้ังหมด 24 ตวั ชว้ี ัด
106
ชื่อรายวชิ า สังคมศกึ ษา2รหัสวชิ า ส21103
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏบิ ตั ิ สรา๎ งความคิดรวบยอด นาภูมิปญั ญาท๎องถ่ิน สภาพปญั หาชวี ิต
สภาพแวดล๎อม เข๎ามาเปน็ สวํ นหนึง่ ของกระบวนการเรียนรู๎ เพื่อใหม๎ ีความรค๎ู วามเข๎าใจตระหนกั เห็น
คณุ คาํ ในเรอ่ื งตอํ ไปน้ี
ประวัตแิ ละความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา เรือ่ งการสังคายนาการเผยแผํ
พระพุทธศาสนาเข๎าสํูประเทศไทย ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาตํอสังคมไทยในฐานะเปน็ ศาสนา
ประจาชาติ สถาบันหลกั ของสังคมไทย สภาพแวดลอ๎ มที่กว๎างขวางและครอบคลมุ สงั คมไทย
พระพทุ ธศาสนากับการพัฒนาตนและครอบครัว พุทธประวัติ สรปุ และวิเคราะหพ์ ุทธประวตั ิ เรอื่ ง
ประสตู ิ เทวทูต 4 การบาเพ็ญทุกกิรยิ า การแสวหาความรู๎
ประวัติพุทธสาวก พทุ ธสาวิกา พระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกะ นางวิสาขา
ชาวพุทธตัวอย่าง พระเจ๎าอโศกมหาราช พระโสณะและพระอตุ ตระ ชาดกเรอื่ งอัมพชาดก ตติ ตริ
ชาดก
หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เรือ่ งพระรตั นตรัย (พุทธคณุ 9) อริยสัจ 4 ทุกข์ (ธรรมทคี่ วร
ร๎ู) : ขนั ธ์ 5 – ธาตุ 4 , สมทุ ัย : (ธรรมที่ควรละ) หลักกรรมอบายมุข 6 นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ) : สขุ
2 (กายกิ , เจสิต) คหิ สิ ขุ . มรรค (ธรรมทีค่ วรเจรญิ ) : ไตรสิกขากรรมฐาน 2 ปธาน 4 โกศล 3 มงคล
38 ในเร่อื งไมํคบคนพาลคบบณั ฑิต บูชาผคู๎ วรบูชา พุทธศาสนสภุ าษติ คือ ยงั เว เสวติ ตาทิโส
(คบคนเชํนไรเปน็ เชนํ นัน้ ) อัตตนา โจทยัตตานัง (จงเตือนตนดว๎ ยตน) นิสมั ม กรณัง เสยโย (ใคร
ครวญกํอนทาจึงดี) ทุราวาสา ฆราทุกขา (เรอื นที่ครองไมดํ ี นาทกุ ข์มาให๎)
การบรหิ ารจติ และเจริญปญั ญา สวดมนต์แปลและแผํเมตตา วิธีปฏิบตั ิและประโยชนข์ องการ
บริหารจติ และเจริญปัญญา ฝึกการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลกั สติปัฏฐาน เนน๎ อานา ปานสติ
นาวิธีการบรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญาไปใชใ๎ นชีวติ ประจาวนั พฒั นาการเรยี นร๎ดู ว๎ ยวธิ คี ิดแบบ โยนโิ ส
มนสกิ าร 2 วธิ ี คือ วิธีคดิ แบบคุณคาํ แท๎ – คุณคําเทยี ม – โทษและทางออก
เพ่อื ให๎เกดิ ศรัทธาอยํางยิง่ ตํอพระรตั นตรยั และรกั การเรยี นร๎พู ระพทุ ธศาสนา ประพฤติ
ปฏบิ ัตติ นเปน็ พุทธศาสนิกชนที่ดี มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการอยํรู วํ มกนั ในสังคมและสามารถนา
หลกั ธรรมไปใชเ๎ ป็นเครื่องมือในการเรยี นร๎ู การทางานอยาํ งมีคณุ คําตํอชีวิตตนเองและสังคมโดย
สวํ นรวม
หลกั การสาคัญของประชาธิปไตย คณุ ลักษณะของสมาชิกในสงั คมประชาธิปไตย
ความสาคญั และแนวทางการปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธปิ ไตย สถานภาพ บทบาท สทิ ธิ
เสรภี าพและหน๎าที่ในฐานะพลเมืองดีของสังคมและประเทศชาติ ภมู ิปัญญาและวันธรรมไทย ความ
คล๎ายคลงึ และความแตกตํางระหวํางวฒั นธรรมไทยกบั วฒั นธรรมของประเทศในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออก
เฉยี งใต๎ สทิ ธิมนษุ ยชน กฎหมายทีเ่ ก่ยี วข๎องกบั ตนเอง โครงสร๎างทางการเมืองการปกครองของไทย
อานาจอธปิ ไตยและความสัมพันธร์ ะหวาํ งอานาจบรหิ าร นิติบัญญตั ิ ตุลาการ รัฐธรรมนญู แหํง
ราชอาณาจักรไทยเก่ียวกบั ที่มา หลักการ เจตนารมณ์ โครงสร๎างและสาระสาคัญ
เพื่อให๎มีความร๎ู ความเข๎าใจเกี่ยวกบั การเมืองการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยของไทย
เหน็ ความสาคญั ของการปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดีในวิถีประชาธิปไตยและปฏิบัตติ น บทบาทหน๎าทีข่ อง
คนและปฏบิ ัติตนตามกฎหมายได๎อยาํ งถูกต๎องและมีสํวนรํวมในการอนุรักษภ์ มู ิปัญญาและวัฒนธรรมอัน
107
เป็นเอกลักษณ์ของท๎องถนิ่ และชาติ
วเิ คราะห์ความหมาย ความสาคญั หลักเศรษฐศาสตรเ์ บอ้ื งตน๎ คาํ นิยม พฤติกรรมการ
บริโภคของคนในสงั คม ซ่งึ สงํ ผลกระทบตํอเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ อธิบายความหมายของคา
วํา ทรัพยากรท่มี ีจากดั สนองความต๎องการทีไ่ มํจากัด ความขาดแคลน การเลอื กและการเสยี โอกาส
อธิบายความสาคัญของการบรโิ ภคอยํางมีประสทิ ธภิ าพ หลกั การบรโิ ภคที่ดี ปจั จัยทีม่ ี
อทิ ธพิ ลตํอพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมปัจจบุ นั รวมท้งั ผลดีผลเสยี ของพฤติกรรมดงั กลําว
อธบิ ายความเปน็ มาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลักการทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา๎ อยหํู ัว รวมท้งั หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง การประยกุ ต์ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงของสังคมไทย
วิเคราะห์บทบาทหน๎าทีแ่ ละความแตกตาํ งของแตลํ ะประเภทและยกตัวอยํางสะทอ๎ นให๎เหน็
การพึ่งพาอาศัยกนั และการแขงํ ขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ ระบปุ ัจจยั ทม่ี ีอทิ ธิพลตํอการกาหนดอปุ
สงคอ์ ุปทานและอธิบายผลของการมีกฎหมายเกี่ยวกบั ทรัพย์สินทางปญั ญา
อธิบายความหมาย ประเภทความสาคัญของธนาคาร การหารายได๎ รายจาํ ย การออม
การลงทนุ ซึง่ แสดงความสมั พันธร์ ะหวํางอปุ สงค์ของผ๎บู รโิ ภคและสถาบนั การเงิน ยกตัวอยาํ งทสี่ ะท๎อน
ใหเ๎ หน็ ถงึ การพึ่งพาอาศยั กนั การแขงํ ขันทางเศรษฐกจิ ในประเทศ เสนอแนะแนวทางการแกไ๎ ขปัญหา
เศรษฐกจิ ในชมุ ชน ประเทศ เสนอแนวทางแก๎ไข ระบุปจั จัยทม่ี อี ิทธพิ ลตอํ การกาหนดอุปสงค์อุปทาน
อภปิ รายผลการมีกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สนิ ทางปัญญา กฎหมายเกีย่ วกบั ความคมุ๎ ครองทรพั ยส์ นิ ทาง
ปญั ญา บทลงโทษการละเมดิ ทรัพยส์ นิ ทางปัญญา เนน๎ กระวนการคิด วิเคราะห์ ความร๎ูความเข๎าใจ
กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการปฏิบตั ิใหม๎ ีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีความรคู๎ วาม
เขา๎ ใจหลกั เศรษฐศาสตร์ เป็นตน๎ มีคํานยิ มท่ีดีในการผลิต การบรโิ ภค เห็นคุณคาํ ตระหนักใน
ความสาคญั และสามารถนาไปประยุกต์ใช๎ในชีวติ ประจาวัน เพ่ือแกป๎ ญั หาเศรษฐกจิ ในครอบครัว ชุมชน
และระดับประเทศ
ตัวชว้ี ัด
ส 1.1 ม.1/1-11
ส 2.1 ม.1/1-4
ส 2.2 ม.1/1-2
ส 3.1 ม.1/1-3
ส 3.2 ม.1/1-4
รวมท้ังหมด 24 ตวั ชว้ี ัด
108
ชือ่ รายวชิ า สงั คมศึกษา3รหัสวชิ า ส22101
คาอธิบายรายวชิ า
ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝกึ ปฏิบัติ สร๎างความคดิ รวบยอด นาภมู ปิ ัญญาท๎องถ่ิน สภาพปัญหาชีวิต
สภาพแวดลอ๎ ม เข๎ามาเปน็ สวํ นหน่ึงของกระบวนการเรยี นร๎ู เพือ่ ใหม๎ ีความรค๎ู วามเขา๎ ใจตระหนกั เหน็
คณุ คําในเรือ่ งตอํ ไปนี้
ประวัติและความสาคัญของพระพุทธศาสนา เร่ืองการเผยแผํพระพทุ ธศาสนาเขา๎ สูํ
ประเทศเพื่อนบ๎าน การนบั ถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพื่อนบา๎ นในปจั จุบนั ความสาคัญของ
พระพทุ ธศาสนาในฐานะที่ชวํ ยเสริมสร๎างความเข๎าใจอนั ดีกับประเทศเพื่อนบ๎าน ความสาคญั ของ
พระพุทธศาสนาตํอสงั คมไทยในฐานะเป็นรากฐาน วัฒนธรรม เอกลกั ษณแ์ ละมรดกของชาติ
พระพทุ ธศาสนากบั การพัฒนาชมุ ชนและการจดั ระเบยี บสังคม พทุ ธประวตั ิ สรุปและวเิ คราะห์พุทธ
ประวัติ เร่ืองการผจญมาร การตรสั ร๎ู การสง่ั สอน
หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เรื่องพระรัตนตรัย (ธรรมคณุ 6) อริยสัจ 4 ทกุ ข์ (ธรรมท่ี
ควรรู๎) : ขันธ์ 5 อายตน , สมทุ ัย : (ธรรมทค่ี วรละ) หลกั กรรม – สมบัติ 4 วิบตั ิ 4 อกุศลกรรมบถ 10
อบายมุข 6 นิโรธ (ธรรมท่ีควรบรรลุ) : สขุ 2 (สามสิ , นริ าสามิส) คหิ ิสุข . มรรค (ธรรมทีค่ วรเจรญิ )
: บพุ พนิมิตของมัฌชมิ าปฏปิ ทา ดรุณธรรม 6 กุลจริ ัฏฐิตธิ รรม 4 กุศลกรรมบถ 10 สตปิ ฏั ฐาน 4
มงคล 38 ในเร่ืองประพฤติธรรม เวน๎ จากความช่ัว เว๎นจากการดื่มนเ๎ มา พุทธศาสนสุภาษิต คอื
ยักัมมนุ า วัตตี โลโก (สตั ว์โลกยอํ มเป็นไปตามกรรม) กัลป์ยาณการี กลั ปย์ านัง ปาปการี จปาปกัง
(ทาดไี ด๎ดี ทาชว่ั ได๎ช่ัว) สุโข ปุญญัสส อจุ จโย (การสงั่ สมบญุ นาสขุ มาให๎) ปชู โก ลภเต ปชู ัง วนั ท
โกปฏวิ นั ทนัง (ผูบ๎ ชู าเขา ยํอมไดร๎ บั การบชู าตอบ ผไู๎ หวย๎ ํอมได๎รับการไหว๎ตอบ) พระไตรปิฎก
โครงสร๎างช่ือคัมภรี แ์ ละสาระสังเขปของพระสุตันตปฎิ ก พระอภิธรรมปิฎก ศพั ทท์ างพระพุทธศาสนา
คอื ฌาน – ญาณ การบริหารจิตและเจริญปญั ญา สวดมนต์แปลและแผเํ มตตา วธิ ปี ฏบิ ตั ิและ
ประโยชนข์ องการบริหารจิตและเจริญปญั ญา ฝกึ การบริหารจิตและเจริญปญั ญาตามหลักสติปฏั ฐาน
เนน๎ อานา ปานสติ นาวธิ กี ารบริหารจิตและเจรญิ ปัญญาไปใชใ๎ นชีวติ ประจาวัน พัฒนาการเรียนรูด๎ ว๎ ย
วธิ ีคดิ แบบ โยนิโสมนสิการ 2 วธิ ี คือ วิธีคดิ แบบอบุ ายปลกุ เรา๎ คุณธรรมและวธิ ีคิดแบบอรรถธรรม
สมั พนั ธศ์ กึ ษาภูมิปญั ญาท๎องถ่ินในการ
นาหลกั ธรรมไปใช๎ในชวี ติ ประจาวนั
ประวัติพุทธสาวก พทุ ธสาวิกา พระสารีบตุ ร พระโมคคัลลานะ นางขชุ ชุตตราพระ
เจ๎าพมิ พิสาร ชาดกเร่อื งมติ ตวินทกุ ชาดกราโชวาทชาดก
เพอื่ ให๎เกดิ ศรัทธาอยํางย่ิงตํอพระรตั นตรัยและรักการเรียนร๎ูพระพทุ ธศาสนา ประพฤติ
ปฏิบตั ติ นเป็นพุทธศาสนิกชนท่ีดี มคี ุณธรรม จริยธรรมในการอยํรู ํวมกันในสังคมและสามารถนา
หลักธรรมไปใชเ๎ ปน็ เครื่องมือในการเรียนร๎ู การทางานอยาํ งมีคุณคาํ ตํอชวี ิตตนเองและสังคมโดย
สํวนรวม
หลกั การสาคัญของประชาธิปไตย แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมืองดีตามวิถปี ระชาธิปไตย
สถานภาพ บทบาท สิทธิเสรีภาพและหน๎าที่ในฐานะพลเมืองดีของสงั คมและประเทศชาติ ภูมปิ ญั ญา
และวนั ธรรมไทย ความคล๎ายคลงึ และความแตกตาํ งระหวํางวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมของประเทศใน
ภูมภิ าคเอเชยี กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ๎ งกับตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและประเทศชาติ กระบวนการในการ
ตรากฎหมายและการมีสํวนรํวม วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์การเปล่ียนแปลงทสี่ าคัญของระบบการปกครอง
109
ของไทย เลอื กรับข๎อมลู ขาํ วสาร เพอ่ื นามาวเิ คราะห์ได๎อยาํ งถูกต๎อง
เพอ่ื ให๎มีความรู๎ ความเข๎าใจเก่ยี วกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เกิด
ความศรทั ธา ยดึ มนั่ และธารงไวซ๎ ึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ ประมขุ
และการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดีตามกฎหมาย เห็นคณุ คาํ ของวฒั นธรรม ดารงชีวติ อยํูรวํ มกันใน
สังคมไทย
ร๎ู เข๎าใจ สามารถวเิ คราะห์ สงั เคราะห์เศรษฐศาสตรเ์ บ้อื งต๎นเกย่ี วกับเการบริหาร
ทรัพยากร การผลิต ต๎นทนุ การผลิต การบรหิ ารจดั การแนวทางการบโิ ภค หลักกฎหมายคุ๎มครองสิทธิ
ผ๎บู ริโภค การออมทรัพยใ์ นระบบธนาคาร ระบบเศรษฐกิจ กลไกตลาดและการรวมกลุํมทางเศรษฐกจิ
ในภมู ภิ าคเอเชีย ร๎ูและเข๎าใจหลักการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใช๎ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงใน
การผลติ สินคา๎ และบริการในท๎องถ่นิ
ตวั ชว้ี ดั
ส 1.1 ม.1/2-10
ส 2.1 ม.1/1-4
ส 2.2 ม.1/1-2
ส 3.1 ม.1/1-4
ส 3.2 ม.1/1-4
รวมท้ังหมด 23 ตัวชวี้ ัด
110
ชื่อรายวิชา สังคมศึกษา4รหัสวชิ า ส22103
คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษา วิเคราะห์ ฝึกปฏบิ ตั ิ สรา๎ งความคดิ รวบยอด นาภูมปิ ญั ญาท๎องถน่ิ สภาพปัญหาชวี ติ
สภาพแวดลอ๎ ม เขา๎ มาเปน็ สํวนหนงึ่ ของกระบวนการเรยี นร๎ู เพ่ือให๎มีความรูค๎ วามเข๎าใจตระหนักเห็น
คณุ คาํ ในเรือ่ งตอํ ไปน้ี
ประวตั แิ ละความสาคญั ของพระพุทธศาสนา เร่ืองการเผยแผํพระพทุ ธศาสนาเข๎าสํู
ประเทศเพ่ือนบา๎ น การนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพื่อนบา๎ นในปัจจุบนั ความสาคญั ของ
พระพุทธศาสนาในฐานะทช่ี วํ ยเสริมสร๎างความเข๎าใจอนั ดีกับประเทศเพ่ือนบ๎าน ความสาคัญของ
พระพทุ ธศาสนาตํอสังคมไทยในฐานะเปน็ รากฐาน วฒั นธรรม เอกลักษณ์และมรดกของชาติ
พระพุทธศาสนากับการพฒั นาชุมชนและการจัดระเบยี บสังคม พุทธประวตั ิ สรปุ และวเิ คราะห์พุทธ
ประวตั ิ เรอ่ื งการผจญมาร การตรัสร๎ู การส่งั สอน
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เรอ่ื งพระรัตนตรัย (ธรรมคณุ 6) อริยสัจ 4 ทกุ ข์ (ธรรมท่ี
ควรร๎ู) : ขนั ธ์ 5 อายตน , สมทุ ยั : (ธรรมทค่ี วรละ) หลักกรรม – สมบตั ิ 4 วบิ ัติ 4 อกศุ ลกรรมบถ 10
อบายมุข 6 นโิ รธ (ธรรมท่ีควรบรรลุ) : สุข 2 (สามสิ , นริ าสามิส) คิหิสขุ . มรรค (ธรรมท่ีควรเจรญิ )
: บพุ พนิมติ ของมัฌชิมาปฏปิ ทา ดรุณธรรม 6 กลุ จริ ฏั ฐิติธรรม 4 กุศลกรรมบถ 10 สตปิ ฏั ฐาน 4
มงคล 38 ในเรอื่ งประพฤตธิ รรม เวน๎ จากความช่วั เว๎นจากการด่ืมน๎เมา พุทธศาสนสุภาษติ คือ
ยกั ัมมนุ า วัตตี โลโก (สัตว์โลกยอํ มเปน็ ไปตามกรรม) กลั ป์ยาณการี กลั ปย์ านัง ปาปการี จปาปกัง
(ทาดไี ด๎ดี ทาชว่ั ไดช๎ ่วั ) สโุ ข ปุญญสั ส อจุ จโย (การสั่งสมบญุ นาสขุ มาให๎) ปูชโก ลภเต ปูชงั วันท
โกปฏวิ นั ทนัง (ผู๎บชู าเขา ยอํ มได๎รบั การบูชาตอบ ผ๎ไู หว๎ยํอมไดร๎ ับการไหวต๎ อบ) พระไตรปิฎก
โครงสรา๎ งชื่อคัมภีร์และสาระสงั เขปของพระสตุ นั ตปฎิ ก พระอภิธรรมปิฎก ศัพท์ทางพระพทุ ธศาสนา
คอื ฌาน – ญาณ การบรหิ ารจิตและเจริญปญั ญา สวดมนต์แปลและแผํเมตตา วิธีปฏบิ ตั แิ ละ
ประโยชน์ของการบรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญา ฝกึ การบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญาตามหลักสติปัฏฐาน
เนน๎ อานา ปานสติ นาวธิ กี ารบริหารจติ และเจรญิ ปัญญาไปใชใ๎ นชวี ิตประจาวัน พฒั นาการเรียนร๎ูด๎วย
วธิ ีคดิ แบบ โยนิโสมนสกิ าร 2 วธิ ี คือ วธิ ีคิดแบบอุบายปลุกเร๎าคณุ ธรรมและวธิ ีคิดแบบอรรถธรรม
สมั พันธ์ศึกษาภมู ปิ ัญญาท๎องถ่ินในการ
นาหลักธรรมไปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวัน
ประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวกิ า พระสารีบตุ ร พระโมคคลั ลานะ นางขุชชตุ ตราพระ
เจ๎าพิมพสิ าร ชาดกเรื่องมติ ตวินทกุ ชาดกราโชวาทชาดก
เพื่อใหเ๎ กิดศรัทธาอยํางย่ิงตํอพระรตั นตรัยและรักการเรียนร๎ูพระพุทธศาสนา ประพฤติ
ปฏบิ ัติตนเปน็ พทุ ธศาสนิกชนที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรมในการอยูํรํวมกนั ในสังคมและสามารถนา
หลักธรรมไปใช๎เป็นเครื่องมือในการเรียนร๎ู การทางานอยํางมีคุณคาํ ตํอชวี ิตตนเองและสังคมโดย
สํวนรวม
หลักการสาคัญของประชาธิปไตย แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย
สถานภาพ บทบาท สิทธิเสรีภาพและหน๎าท่ีในฐานะพลเมืองดขี องสงั คมและประเทศชาติ ภูมิปญั ญา
และวันธรรมไทย ความคลา๎ ยคลึงและความแตกตาํ งระหวํางวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมของประเทศใน
ภมู ภิ าคเอเชีย กฎหมายทเี่ ก่ยี วข๎องกับตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและประเทศชาติ กระบวนการในการ
111
ตรากฎหมายและการมสี ํวนรํวม วเิ คราะหเ์ หตุการณ์การเปล่ยี นแปลงท่ีสาคัญของระบบการปกครอง
ของไทย เลอื กรับข๎อมูลขาํ วสาร เพื่อนามาวเิ คราะห์ได๎อยํางถกู ต๎อง
เพือ่ ใหม๎ คี วามรู๎ ความเข๎าใจเก่ยี วกบั การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เกิด
ความศรทั ธา ยดึ ม่ันและธารงไว๎ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตรยิ เ์ ปน็ ประมขุ
และการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามกฎหมาย เหน็ คณุ คาํ ของวฒั นธรรม ดารงชวี ิตอยรูํ ํวมกันใน
สังคมไทย
ร๎ู เขา๎ ใจ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะหเ์ ศรษฐศาสตรเ์ บอื้ งต๎นเกย่ี วกบั เการบริหาร
ทรัพยากร การผลติ ต๎นทนุ การผลิต การบรหิ ารจัดการแนวทางการบิโภค หลกั กฎหมายคุ๎มครองสิทธิ
ผบู๎ ริโภค การออมทรพั ยใ์ นระบบธนาคาร ระบบเศรษฐกิจ กลไกตลาดและการรวมกลุํมทางเศรษฐกิจ
ในภมู ภิ าคเอเชีย ร๎แู ละเขา๎ ใจหลกั การปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงประยุกต์ใชป๎ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียงใน
การผลติ สนิ ค๎าและบริการในท๎องถิ่น
ตวั ชี้วัด
ส 1.1 ม.1/2-10
ส 2.1 ม.1/1-4
ส 2.2 ม.1/1-2
ส 3.1 ม.1/1-4
ส 3.2 ม.1/1-4
รวมท้ังหมด 23 ตัวชวี้ ดั
112
ช่ือรายวิชา สงั คมศึกษา5รหัสวชิ า ส23101
คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏบิ ตั ิ สร๎างความคดิ รวบยอด นาภูมปิ ัญญาท๎องถิ่น สภาพปญั หาชีวติ
สภาพแวดลอ๎ ม เขา๎ มาเปน็ สํวนหนงึ่ ของกระบวนการเรยี นร๎ู เพือ่ ใหม๎ ีความรค๎ู วามเข๎าใจตระหนกั เห็น
คุณคาํ ในเรื่องตอํ ไปน้ี
ประวตั แิ ละความสาคญั ของพระพุทธศาสนา เรอื่ งการสงั คายนาการเผยแผพํ ระพทุ ธศาสนา
เขา๎ สปํู ระเทศตาํ ง ๆ ท่วั โลก การนบั ถือพระพุทศาสนาของประเมศเหลํานั้นในปจั จุบันความสาคัญของ
พระพทุ ธศาสนาในฐานะท่ชี ํวยสร๎างสรรค์อารยธรรมและความสงบสขุ ใหแ๎ กชํ าวโลก พระพุทธศาสนา
กับเศรษฐกจิ พอเพยี ง พุทธประวัติ สรุปและวเิ คราะหพ์ ุทธประวัติเรอื่ ง ปฐมเทศนาโอวาทปาฏิโมกข์
ศกึ ษาพทุ ธประวัตจิ ากพระพทุ ธรูปปางตาํ ง ๆ ชาดก เร่ืองนันทวิ สิ าลชาดก สวุ ณั ณหงั สชาดก
หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เรอื่ งพระรัตนตรัย (สังฆคณุ 9) อริยสัจ 4 ทุกข์ (ธรรมที่
ควรร๎ู) : ขนั ธ์ 5 ไตรลกั ษณ์ , สมทุ ัย : (ธรรมทคี่ วรละ) หลกั กรรมวฏั ฏะ 3 ปปัญจธรรม 3 ตัณหา
ทฏิ ฐิ มานะนิโรธ (ธรรมท่ีควรบรรลุ) อรรถะ 3 มรรค (ธรรมทีค่ วรเจรญิ ) : มรรคมีองค์ 8 ปญั ญา 3
สัปปรุ ิสธรรม 7 บญุ กริยาวัตถุ 10 อุบาสกธรรม 7 มงคล 38 ในเร่อื งมีศลิ ปวิทยา พบสมณะ ฟัง
ธรรมตามกาล พุทศาสนสุภาษติ คอื อัตตา หเว ชิตัง เสยโย (ชนะตนนนั้ แลดีกวํา) ธมั มจารี สขุ ัง
เสติ (ผู๎ประพฤติธรรมยํอมอยํูเปน็ สขุ ) ปมาโท มจั ุโน ปทงั (ความประมาทเปน็ หนทางแหํงความตาย)
สสุ สสู ัง ลภเตปญั ญงั (ผฟู๎ งั ดว๎ ยดยี อํ มไดป๎ ญั ญา) พระไตรปิฎก โครงสรา๎ งช่ือคมั ภรี แ์ ละสาระสงั เขป
ของพระอภิธรรมปฎิ กเรือ่ งนํารจ๎ู ากพระไตรปิฎก พุทธปณธิ านในมหาปรินพิ พานสตู รศพั ทท์ าง
พระพทุ ธศาสนา คอื อัตตา – อนตั ตา การบรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญา สวดมนต์แปลและแผเํ มตตา
วธิ ีปฏบิ ัติและประโยชนข์ องการบริหารจติ และเจรญิ ปัญญา ฝกึ การบรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญาตามหลัก
สติปัฏฐาน เนน๎ อานา ปานสติ นาวิธกี ารบรหิ ารจิตและเจรญิ ปัญญาไปใชใ๎ นชวี ิตประจาวนั พัฒนาการ
เรยี นรู๎ด๎วยวธิ คี ดิ แบบ โยนโิ สมนสิการ 2 วิธี คอื วิธคี ดิ อรยิ สจั และวธิ ีคิดแบบสบื สาวเหตปุ จั จยั
ศึกษาภูมปิ ัญญาท๎องถน่ิ ในการนาหลักธรรมไปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวนั
ประวตั ิพุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า เรือ่ งพระอัญญาโกณฑัญญะ พระมหาประชาบดเี ถรี พระ
เขมาเถรี พระเจา๎ ปเสนทโิ กศล สมั มนาพระพุทธศาสนากับการแกป้ ัญหาและการพัฒนา เรอ่ื ง
พระพุทธศาสนากับเศรษฐกจิ พอเพยี งเพอื่ ใหเ๎ กดิ ศรทั ธาอยํางย่งิ ตอํ พระรัตนตรยั และรักการเรียนรู๎
พระพทุ ธศาสนา ประพฤตปิ ฏิบัตติ นเป็นพุทธศาสนิกชนท่ีดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการอยรูํ วํ มกนั ใน
สังคมและสามารถนาหลักธรรมไปใชเ๎ ปน็ เคร่ืองมือในการเรียนรู๎ การทางานอยาํ งมีคณุ คําตํอชีวิตตนเอง
และสังคมโดยสํวนรวม
ร๎ถู ึงสทิ ธิของผูบ๎ รโิ ภค มีคณุ ธรรม เลือกใช๎ทรพั ยากรเพื่อผลผลติ อยํางมีคุณภาพ เขา๎ ใจ
ระบบสหกรณ์ เศรษฐกิจพอเพียง ระบบธนาคาร วิเคราะหแ์ ผนพัฒนาเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ
ระบบเศรษฐกิจ การซ้ือขายแลกเปลี่ยน กลไกของรัฐในการแทรกแซงราคาและสถาบันการเงินใน
ประเทศ เพ่ือให๎มคี วามรู๎ความเขา๎ ใจสามารถวเิ คราะห์สภาพภมู ิศาสตร์ ทรัพยากร ระบบเศรษฐกิจ
การประกอบอาชีพของประชากรในประเทศและในท๎องถน่ิ และสามารถนามาใช๎ในการดารงชวี ติ
การเมืองการปกครองของไทยในระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็น
ประมขุ เข๎าใจสาระกฎหมายรัฐธรรมนญู ทีค่ วรรู๎ โดยเน๎นในด๎านมนษุ ยชนและวิถีประชาธิปไตย
113
ตระหนกั ถึงสภาพ บทบาท สิทธเิ สรภี าพ เข๎าใจเหน็ ความสาคญั การจัดระเบียบสงั คม รบั รู๎ เขา๎ ใจ
เลอื กรบั ความเช่ือในจริยธรรม วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาของประเทศเพื่อนบา๎ นและประเทศตะวนั ตก
ศึกษากฎหมายรฐั ธรรมนญู กฎหมายท่ีเกย่ี วข๎องกบั ตนเอง ครอบครวั ชุมชนและประเทศชาติ เพอื่ ให๎
เกดิ ความรู๎ความเข๎าใจ ศรทั ธา ยึดมน่ั การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริยเ์ ป็น
ประมขุ เข๎าใจตระหนัก มสี วํ นรํวมในกิจกรรมการเมืองในทอ๎ งถิน่ เคารพเทดิ ทูนสถาบนั ชาติ ศาสนา
พระมหากษัตรยิ ์ เคารพและปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย วิถปี ระชาธิปไตย รวมทง้ั นาไปใช๎ในการดาเนนิ ชวี ิตใน
สงั คมอยาํ งสงบสุข
ตัวชี้วดั
ส 1.1 ม.1/1-10
ส 2.1 ม.1/1-5
ส 2.2 ม.1/1-4
ส 3.1 ม.1/1-3
ส 3.2 ม.1/1-6
รวมท้ังหมด 28 ตวั ชว้ี ัด
114
ช่ือรายวิชา สงั คมศึกษา6รหสั วิชา ส23103
คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษา วเิ คราะห์ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ สรา๎ งความคิดรวบยอด นาภูมปิ ัญญาท๎องถ่นิ สภาพปัญหาชีวติ
สภาพแวดลอ๎ ม เขา๎ มาเปน็ สํวนหนงึ่ ของกระบวนการเรยี นร๎ู เพ่อื ใหม๎ ีความรค๎ู วามเข๎าใจตระหนกั เห็น
คุณคาํ ในเรื่องตอํ ไปน้ี
ประวตั แิ ละความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา เรอื่ งการสังคายนาการเผยแผํพระพทุ ธศาสนา
เขา๎ สูปํ ระเทศตาํ ง ๆ ท่วั โลก การนบั ถือพระพุทศาสนาของประเมศเหลํานัน้ ในปัจจุบนั ความสาคญั ของ
พระพทุ ธศาสนาในฐานะท่ชี ํวยสรา๎ งสรรค์อารยธรรมและความสงบสขุ ใหแ๎ กํชาวโลก พระพุทธศาสนา
กับเศรษฐกจิ พอเพยี ง พุทธประวัติ สรุปและวิเคราะหพ์ ุทธประวัติเร่ือง ปฐมเทศนาโอวาทปาฏิโมกข์
ศกึ ษาพทุ ธประวัตจิ ากพระพทุ ธรูปปางตาํ ง ๆ ชาดก เรอ่ื งนันทิวสิ าลชาดก สวุ ณั ณหังสชาดก
หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เร่อื งพระรัตนตรยั (สงั ฆคุณ 9) อริยสัจ 4 ทุกข์ (ธรรมท่ี
ควรรู๎) : ขนั ธ์ 5 ไตรลกั ษณ์ , สมทุ ัย : (ธรรมท่ีควรละ) หลกั กรรมวฏั ฏะ 3 ปปัญจธรรม 3 ตัณหา
ทฏิ ฐิ มานะนิโรธ (ธรรมท่ีควรบรรลุ) อรรถะ 3 มรรค (ธรรมทีค่ วรเจริญ) : มรรคมอี งค์ 8 ปญั ญา 3
สัปปรุ ิสธรรม 7 บญุ กริยาวัตถุ 10 อุบาสกธรรม 7 มงคล 38 ในเร่ืองมีศลิ ปวิทยา พบสมณะ ฟัง
ธรรมตามกาล พุทศาสนสุภาษติ คอื อัตตา หเว ชติ งั เสยโย (ชนะตนนน้ั แลดีกวาํ ) ธมั มจารี สุขัง
เสติ (ผู๎ประพฤติธรรมยํอมอยูํเปน็ สขุ ) ปมาโท มัจุโน ปทงั (ความประมาทเป็นหนทางแหํงความตาย)
สสุ สูสัง ลภเตปญั ญงั (ผฟู๎ งั ดว๎ ยดยี อํ มไดป๎ ญั ญา) พระไตรปิฎก โครงสร๎างช่ือคัมภรี ์และสาระสังเขป
ของพระอภิธรรมปฎิ กเรือ่ งนํารจู๎ ากพระไตรปฎิ ก พุทธปณิธานในมหาปรินิพพานสูตรศพั ท์ทาง
พระพทุ ธศาสนา คอื อัตตา – อนตั ตา การบริหารจิตและเจรญิ ปัญญา สวดมนตแ์ ปลและแผํเมตตา
วธิ ีปฏบิ ัติและประโยชนข์ องการบริหารจติ และเจรญิ ปัญญา ฝกึ การบรหิ ารจิตและเจริญปญั ญาตามหลกั
สติปัฏฐาน เนน๎ อานา ปานสติ นาวิธีการบริหารจิตและเจรญิ ปญั ญาไปใชใ๎ นชวี ิตประจาวัน พัฒนาการ
เรยี นรู๎ด๎วยวธิ คี ดิ แบบ โยนโิ สมนสิการ 2 วธิ ี คือ วิธีคดิ อรยิ สัจและวธิ คี ดิ แบบสบื สาวเหตปุ จั จยั
ศึกษาภูมปิ ัญญาท๎องถน่ิ ในการนาหลักธรรมไปใช๎ในชวี ติ ประจาวนั
ประวตั ิพุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า เร่อื งพระอญั ญาโกณฑญั ญะ พระมหาประชาบดีเถรี พระ
เขมาเถรี พระเจา๎ ปเสนทโิ กศล สมั มนาพระพุทธศาสนากบั การแก้ปัญหาและการพัฒนา เรือ่ ง
พระพุทธศาสนากับเศรษฐกจิ พอเพยี งเพ่ือใหเ๎ กดิ ศรัทธาอยํางย่งิ ตํอพระรัตนตรยั และรักการเรียนร๎ู
พระพทุ ธศาสนา ประพฤตปิ ฏิบัตติ นเป็นพทุ ธศาสนิกชนที่ดี มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการอยูํรํวมกันใน
สังคมและสามารถนาหลักธรรมไปใชเ๎ ป็นเครื่องมือในการเรียนรู๎ การทางานอยาํ งมีคุณคําตํอชีวติ ตนเอง
และสงั คมโดยสํวนรวม
ร๎ถู ึงสทิ ธิของผูบ๎ รโิ ภค มีคณุ ธรรม เลอื กใชท๎ รัพยากรเพื่อผลผลติ อยาํ งมีคณุ ภาพ เขา๎ ใจ
ระบบสหกรณ์ เศรษฐกิจพอเพียง ระบบธนาคาร วเิ คราะหแ์ ผนพัฒนาเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ
ระบบเศรษฐกิจ การซ้ือขายแลกเปลี่ยน กลไกของรัฐในการแทรกแซงราคาและสถาบันการเงนิ ใน
ประเทศ เพ่ือให๎มคี วามรู๎ความเขา๎ ใจสามารถวเิ คราะหส์ ภาพภูมศิ าสตร์ ทรัพยากร ระบบเศรษฐกิจ
การประกอบอาชีพของประชากรในประเทศและในทอ๎ งถิ่นและสามารถนามาใชใ๎ นการดารงชีวติ
การเมืองการปกครองของไทยในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็น
ประมขุ เข๎าใจสาระกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ควรร๎ู โดยเนน๎ ในดา๎ นมนษุ ยชนและวิถีประชาธปิ ไตย
115
ตระหนกั ถึงสภาพ บทบาท สิทธเิ สรภี าพ เข๎าใจเห็นความสาคัญการจดั ระเบียบสงั คม รับรู๎ เข๎าใจ
เลอื กรบั ความเช่ือในจริยธรรม วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาของประเทศเพื่อนบา๎ นและประเทศตะวนั ตก
ศึกษากฎหมายรฐั ธรรมนญู กฎหมายท่ีเกย่ี วข๎องกบั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและประเทศชาติ เพอื่ ให๎
เกดิ ความรู๎ความเข๎าใจ ศรทั ธา ยึดมน่ั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์เป็น
ประมขุ เข๎าใจตระหนัก มสี วํ นรํวมในกิจกรรมการเมืองในท๎องถ่ิน เคารพเทดิ ทูนสถาบนั ชาติ ศาสนา
พระมหากษัตรยิ ์ เคารพและปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย วถิ ปี ระชาธปิ ไตย รวมทง้ั นาไปใชใ๎ นการดาเนินชวี ิตใน
สงั คมอยาํ งสงบสุข
ตัวชี้วดั
ส 1.1 ม.1/1-10
ส 2.1 ม.1/1-5
ส 2.2 ม.1/1-4
ส 3.1 ม.1/1-3
ส 3.2 ม.1/1-6
รวมท้ังหมด 28 ตวั ชว้ี ัด
116
ช่อื รายวิชา ประวตั ิศาสตร์1 รหสั วิชา ส21102
คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาความสาคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ เทยี บศกั ราชตามระบบตาํ งๆท่ใี ช๎ศกึ ษา
ประวตั ิศาสตรน์ าวิธีการทางประวัตศิ าสตร์มาใช๎ศึกษาเหตกุ ารณท์ างประวัติศาสตร์
ศึกษาพฒั นาการทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมืองของประเทศตําง ๆ ในภูมภิ าคเอเชีย
ตะวันออกเฉยี งใตร๎ ะบคุ วามสาคญั ของแหลํงอารยธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต๎
ศกึ ษาเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์สมัยกอํ นสโุ ขทยั ในดนิ แดนไทยโดยสงั เขปวิเคราะห์พฒั นาการ
ของอาณาจักรสุโขทยั ในด๎านตําง ๆ อิทธพิ ลของวัฒนธรรม และภมู ิปัญญาไทยสมยั สโุ ขทัยและสังคมไทย
ในปัจจบุ ัน
เพื่อให๎เกิดความร๎ู ความเขา๎ ใจ ความหมาย ความสาคญั ของเวลา และยคุ สมยั ทาง
ประวตั ิศาสตร์ สามารถใช๎วิธกี ารทางประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตาํ ง ๆ อยาํ งเป็นระบบเขา๎ ใจ
พฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจั จุบนั ในดา๎ นความสัมพันธ์และการเปล่ยี นแปลงของ
เหตุการณ์อยํางตํอเน่อื ง ตระหนักถึงความสาคญั และสามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบที่เกดิ ข้ึนเขา๎ ใจความ
เป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจและธารงความเป็นไทย
ตัวชีว้ ดั
ส 4.1 ม.1/1-3
ส 4.2 ม.1/1-2
ส 4.3 ม.1/1-3
รวมท้ังหมด 8 ตัวช้วี ดั
117
ช่ือรายวชิ า ประวัตศิ าสตร์2 รหัสวชิ า ส21104
คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษาความสาคัญของเวลาในการศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ เทยี บศกั ราชตามระบบตาํ งๆท่ใี ช๎ศึกษา
ประวัติศาสตรน์ าวธิ ีการทางประวัติศาสตร์มาใช๎ศึกษาเหตกุ ารณ์ทางประวตั ิศาสตร์
ศึกษาพฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของประเทศตําง ๆ ในภมู ิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใตร๎ ะบุความสาคัญของแหลงํ อารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต๎
ศกึ ษาเรื่องราวทางประวตั ิศาสตร์สมยั กอํ นสโุ ขทยั ในดนิ แดนไทยโดยสังเขปวิเคราะห์พฒั นาการ
ของอาณาจักรสุโขทยั ในด๎านตําง ๆ อิทธิพลของวฒั นธรรม และภูมิปัญญาไทยสมัยสโุ ขทัยและสังคมไทย
ในปัจจบุ นั
เพอ่ื ให๎เกดิ ความร๎ู ความเข๎าใจ ความหมาย ความสาคญั ของเวลา และยุคสมัยทาง
ประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช๎วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ตําง ๆ อยํางเป็นระบบเขา๎ ใจ
พัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจบุ ัน ในด๎านความสัมพันธแ์ ละการเปล่ียนแปลงของ
เหตกุ ารณ์อยํางตํอเนือ่ ง ตระหนกั ถงึ ความสาคัญและสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ เขา๎ ใจความ
เป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรัก ความภูมิใจและธารงความเป็นไทย
ตวั ชวี้ ัด
ส 4.1 ม.1/1-3
ส 4.2 ม.1/1-2
ส 4.3 ม.1/1-3
รวมทั้งหมด 23 ตัวชี้วดั
118
ช่ือรายวิชา ประวตั ศิ าสตร์3 รหัสวชิ า ส22102
คาอธิบายรายวิชา
ศึกษาความนําเช่ือถอื ของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะตําง ๆ วิเคราะห์ความแตกตําง
ระหวาํ งความจรงิ กบั ข๎อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์ เห็นความสาคญั ของการตคี วาม
หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ที่นาํ เชือ่ ถอื
ศึกษาพฒั นาการทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมืองของภูมิภาคเอเชยี ระบุความสาคญั ของ
แหลํงอารยธรรมโบราณในภมู ิภาคเอเชีย
ศกึ ษาและวิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยธุ ยา และธนบุรใี นดา๎ นตํางๆ วเิ คราะหป์ ัจจยั ที่
สํงผลตํอความม่ันคงและความเจริญรํงุ เรอื งของอาณาจักรอยธุ ยา
ศึกษาและระบุภมู ิปัญญาและวฒั นธรรมไทยสมยั อยธุ ยาและธนบรุ ี และอิทธิพลของภูมปิ ัญญา
ดงั กลาํ ว ตํอการพฒั นาชาติไทยในยุคตํอมา และอิทธพิ ลของภูมปิ ญั ญาดังกลาํ ว ตอํ การพฒั นาชาติ
ไทยในยุคตอํ มา
เพอ่ื ใหเ๎ กิดความเข๎าใจความหมาย ความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์
สามารถใชว๎ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตาํ ง ๆ อยาํ งเป็นระบบ เข๎าใจพฒั นาการ
ของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถึงปจั จุบนั ในด๎านความสมั พันธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์อยาํ ง
ตํอเน่อื ง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดข้ึน เขา๎ ใจความเป็นมาของชาติ
ไทย วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจและธารงความเปน็ ไทย
ตวั ชว้ี ัด
ส 4.1 ม.2/1-3
ส 4.2 ม.2/1-2
ส 4.3 ม.2/1-3
รวมทั้งหมด 8 ตวั ช้วี ดั
119
ช่ือรายวชิ า ประวัติศาสตร์4 รหัสวิชา ส22104
คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาความนาํ เชอื่ ถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลกั ษณะตาํ ง ๆ วิเคราะห์ความแตกตาํ ง
ระหวาํ งความจรงิ กบั ข๎อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ เห็นความสาคญั ของการตคี วาม
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่นําเชือ่ ถือ
ศึกษาพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของภมู ิภาคเอเชยี ระบคุ วามสาคญั ของ
แหลํงอารยธรรมโบราณในภมู ิภาคเอเชยี
ศึกษาและวิเคราะห์พฒั นาการของอาณาจักรอยธุ ยา และธนบรุ ีในดา๎ นตาํ งๆ วเิ คราะหป์ ัจจยั ท่ี
สํงผลตํอความม่ันคงและความเจรญิ รุงํ เรืองของอาณาจักรอยธุ ยา
ศึกษาและระบภุ ูมิปญั ญาและวฒั นธรรมไทยสมยั อยธุ ยาและธนบรุ ี และอิทธพิ ลของภูมปิ ัญญา
ดงั กลาํ ว ตํอการพฒั นาชาตไิ ทยในยคุ ตํอมา และอิทธพิ ลของภมู ปิ ญั ญาดงั กลาํ ว ตํอการพฒั นาชาติ
ไทยในยุคตํอมา
เพื่อใหเ๎ กดิ ความเข๎าใจความหมาย ความสาคัญของเวลา และยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์
สามารถใช๎วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตําง ๆ อยาํ งเป็นระบบ เขา๎ ใจพฒั นาการ
ของมนุษยชาติจากอดีตจนถงึ ปจั จุบัน ในด๎านความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์อยําง
ตํอเนอื่ ง ตระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถ วิเคราะห์ผลกระทบทเี่ กิดข้นึ เขา๎ ใจความเปน็ มาของชาติ
ไทย วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มีความรกั ความภูมิใจและธารงความเป็นไทย
ตวั ชว้ี ดั
ส 4.1 ม.2/1-3
ส 4.2 ม.2/1-2
ส 4.3 ม.2/1-3
รวมทั้งหมด 8 ตัวช้วี ัด
120
ชอื่ รายวชิ า ประวัติศาสตร์5 รหสั วชิ า ส23102
คาอธิบายรายวิชา
ศกึ ษาเรื่องราวเหตุการณส์ าคัญทางประวัติศาสตรไ์ ด๎อยาํ งมีเหตผุ ลตามวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ใช๎
วธิ กี ารทางประวัติศาสตรใ์ นการศึกษาเรอื่ งราวตาํ ง ๆ ทต่ี นสนใจ
ศกึ ษาการพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ิภาคตาํ งๆ ในโลกโดยสงั เขป
ศึกษาผลของการเปล่ยี นแปลงทนี่ าไปสํคู วามรวํ มมือ และความขดั แย๎ง ในคริสต์ศตวรรษที่ 20
ตลอดจนความพยายามในการขจัดปญั หาความขัดแยง๎
ศึกษาพัฒนาการของไทย สมัยรตั นโกสนิ ทรใ์ นด๎านตาํ งๆ วเิ คราะห์ปัจจัยที่สงํ ผลตํอความมน่ั คง
และความเจรญิ รุํงเรอื ง ภูมปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทยของไทยในสมัยรตั นโกสินทร์และอิทธพิ ลตอํ การ
พฒั นาชาติไทย
ศกึ ษาวเิ คราะหบ์ ทบาทของไทยในสมยั ประชาธิปไตย
เพ่ือใหเ๎ กิดความเขา๎ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา และยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช๎
วิธีการทางประวตั ศิ าสตรม์ าวเิ คราะห์เหตุการณต์ าํ ง ๆ อยาํ งเป็นระบบ เขา๎ ใจพฒั นาการของ
มนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจุบัน ในด๎านความสัมพันธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์อยาํ งตํอเนื่อง
ตระหนักถึงความสาคญั และสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดข้นึ เขา๎ ใจความเป็นมาของชาตไิ ทย
วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มคี วามรัก ความภมู ใิ จและธารงความเป็นไทย
ตวั ช้ีวดั
ส 4.1 ม.3/1-2
ส 4.2 ม.3/1-2
ส 4.3 ม.3/1-4
รวมทั้งหมด 8 ตัวชวี้ ัด
121
ชอื่ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์6 รหัสวิชา ส23104
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาเร่ืองราวเหตุการณส์ าคัญทางประวัติศาสตรไ์ ด๎อยาํ งมีเหตผุ ลตามวธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์
ใช๎วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ในการศกึ ษาเรื่องราวตําง ๆ ที่ตนสนใจ
ศึกษาการพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของภมู ิภาคตาํ งๆ ในโลกโดยสงั เขป
ศกึ ษาผลของการเปลย่ี นแปลงท่นี าไปสคํู วามรํวมมอื และความขัดแยง๎ ในครสิ ต์ศตวรรษที่ 20
ตลอดจนความพยายามในการขจดั ปญั หาความขดั แย๎ง
ศกึ ษาพฒั นาการของไทย สมัยรัตนโกสินทรใ์ นดา๎ นตาํ งๆ วิเคราะหป์ จั จยั ที่สงํ ผลตํอความมัน่ คง
และความเจริญรํุงเรือง ภูมิปัญญาและวฒั นธรรมไทยของไทยในสมัยรัตนโกสินทรแ์ ละอิทธิพลตํอการ
พัฒนาชาตไิ ทย
ศึกษาวิเคราะหบ์ ทบาทของไทยในสมยั ประชาธปิ ไตย
เพื่อใหเ๎ กิดความเขา๎ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลา และยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ สามารถใช๎
วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณต์ าํ ง ๆ อยํางเปน็ ระบบ เข๎าใจพัฒนาการของ
มนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปจั จุบัน ในด๎านความสมั พนั ธ์และการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณอ์ ยํางตํอเน่ือง
ตระหนกั ถึงความสาคัญและสามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ เขา๎ ใจความเปน็ มาของชาติไทย
วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จและธารงความเปน็ ไทย
ตวั ชวี้ ัด
ส 4.1 ม.3/1-2
ส 4.2 ม.3/1-2
ส 4.3 ม.3/1-4
รวมทั้งหมด 8 ตัวชีว้ ัด
122
ชือ่ รายวิชาหนา้ ที่พลเมือง 1 รหสั วชิ า ส21231
คาอธบิ ายรายวิชา
มีสวํ นรํวมอนุรกั ษ์มารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตํงกาย การมีสมั มา
คารวะ แสดงออกถงึ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผํ และเสยี สละตอํ สงั คม เหน็ คุณคาํ และอนรุ ักษข์ นมธรรมเนียม
ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาไทย ปฏิบตั ติ นเป็นผ๎มู ีวนิ ัยในตนเองในเรื่องความซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต
ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทนใฝหุ าความร๎ู ตัง้ ใจปฏบิ ัติหน๎าที่ และยอมรบั ผลทีเ่ กิดจากการกระทาของตนเอง
ปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอยํางของความรกั ชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถานบนั
พระมหากษัตริย์ ประยกุ ต์และเผยแพรํพระบรมราโชวาท ในเร่ืองทมี่ ีเหตผุ ล รอบคอบ หลกั การทรงงาน
ในเร่อื งการใชธ๎ รรมชาตชิ ํวยธรรมชาติ การปลูกปุาในใจคน และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปฏบิ ัติ
ตนเปน็ ผวู๎ ินัยในตนเอง ในเร่ืองความซ่ือสัตย์ สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝหุ าความรู๎ ตั้งใจปฏิบัติ
หน๎าท่ี
โดยใช๎กระบวนการกลํุม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความร๎ู กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการ
สร๎างคํานยิ ม และกระบวนการสร๎างเจตคติ
เพอ่ื ให๎ผู๎เรียนมีลกั ษณะท่ดี ีของคนไทย ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติ
ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทิดทูนในสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตย อันมี
พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ มสี ํวนรํวมทางการเมืองการปกครอง อยํูรํวมกับผูอ๎ ่นื อยํางสันติ จัดการ
ความขดั แย๎งดว๎ ยสนั ติวิธี และมีวินัยในตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. มสี วํ นรวํ มในการอนรุ กั ษม์ ารยาทไทย
2. แสดงออกถงึ การเออื้ เฟื้อเผือ่ แผํ และเสียสละตํอสงั คม
3. เหน็ คุณคําและอนุรักษ์ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมปิ ัญญาไทย
4. เป็นแบบอยํางของความรักชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทิดทูนในสถาบันพระมหากษตั ริย์
5. ปฏิบตั ติ นตามพระบรมราโชวาทหลกั การทรงงานและหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
6. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู๎ วี ินยั ในตนเอง
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้
123
ชอื่ รายวชิ า หนา้ ทพ่ี ลเมือง 2 รหัสวิชา ส21232
คาอธิบายรายวิชา
ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองทด่ี ตี ามวิถปี ระชาธิปไตย ในการมสี ํวนรวํ มในกิจกรรมตํางๆ ของสงั คม
การตัดสินใจโดยใช๎เหตผุ ล มสี ํวนรํวมและรบั ผิดชอบในการตดั สินใจในกจิ กรรมของหอ๎ งเรียนและ
โรงเรียน ตรวจสอบข๎อมลู เพ่อื ใช๎ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมตาํ งๆ ปฏิบตั ิตนเป็นผ๎ูมีวินยั ในตนเอง
ในเรอื่ งความซื่อสัตยส์ จุ รติ อดทน ขยันหมนั่ เพยี ร ใฝหุ าความร๎ู ตั้งใจปฏิบตั ิหนา๎ ท่ี และรับผลที่เกดิ จาก
การกระทาของตนเอง
ยอมรบั ความหลากหลายของสังคมวัฒนธรรมในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ ในเรอื่ งวถิ ีชีวิต
วฒั นธรรมศาสนา ส่ิงแวดล๎อม อยํูรวํ มกันอยํางสันตแิ ละพ่ึงพาซ่ึงกนั และกันในสงั คมวตั ถุวัฒนธรรม ดว๎ ย
ความเคารพซงึ่ กนั และกนั ไมํแสดงกริ ยิ าและวาจาดูหม่ินผอ๎ู ่ืน ชวํ ยเหลือซงึ่ กนั และกนั แบํงปัน มสี ํวนรวํ ม
ในการแก๎ปญั หาความขัดแยง๎ โดยสันตวิ ิธี ในเรือ่ งการทะเลาะววิ าท ความคดิ เหน็ ไมตํ รงกัน ดว๎ ยการ
เจรจาไกลํเกล่ีย การเจรจาตอํ รอง การระงบั ความขดั แย๎ง ปฏิบตั ิตนเป็นผู๎มวี นิ ยั ในตนเอง ในเร่อื งความ
ซือ่ สตั ย์สจุ รติ อดทน ใฝหุ าความร๎ู ตง้ั ใจปฏิบตั ิหน๎าทยี่ อมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง
โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป๎ ัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู๎ กระบวนการสรา๎ งความตระหนกั กระบวนการ
สร๎างคํานยิ ม และกระบวนการสร๎างเจตคติ
เพื่อใหผ๎ เู๎ รียนมลี ักษณะทด่ี ขี องคนไทย ภาคภมู ิใจในความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ
ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนในสถาบนั พระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย อันมี
พระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข มีสํวนรวํ มทางการเมืองการปกครอง อยูรํ ํวมกับผ๎อู ื่นอยํางสันติ จัดการ
ความขัดแย๎งด๎วยสนั ตวิ ธิ ี
และมวี ินัยในตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตย
2. มีสวํ นรํวมและรับผิดชอบในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบข๎อมูลเพื่อใชป๎ ระกอบการตัดสินใจ
ในกจิ กรรมตํางๆ
3. ยอมรับความหลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต๎ และอยํูรวํ มกนั อยาํ ง
สันติ และพงึ่ พาซึง่ กันและกัน
4. มีสํวนรํวมในการแกป๎ ัญหาความขดั แย๎งโดยสันติวิธี
5. ปฏิบัตติ นเป็นผู๎มวี ินยั ในตนเอง
รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้
124
ชอ่ื รายวชิ าหนา้ ที่พลเมือง 3 รหสั วิชา ส22233
คาอธบิ ายรายวิชา
มสี ํวนรํวมและแนะนาผ๎ูอืน่ ให๎อนรุ ักษ์มารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การ
แตงํ กาย การมสี มั มาคารวะ แสดงออกและแนะนาผ๎ูอน่ื ให๎มคี วามเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผํและเสยี สละตอํ สังคม
เห็นคณุ คํา อนรุ ักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย
ปฏบิ ัติตนเป็นผมู๎ วี ินยั ในตนเอง ในเรอื่ งความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ขยันหมน่ั เพยี ร อดทน ใฝหุ าความร๎ู ตงั้ ใจ
ปฏบิ ตั ิหนา๎ ท่ี และยอมรบั ผลทีเ่ กิดจากการกระทาของตนเอง
ปฏิบตั ติ นเป็นแบบอยํางและแนะนาผูอ๎ ื่นให๎มกี ารปฏิบัติตนท่แี สดงออกถึงความรักชาติ ยึดมน่ั
ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์ ประยกุ ต์และเผยแพรํพระบรมราโชวาท ในเร่อื งมีสติ
ความขยัน อดทน หลกั การทรงงาน ในเรอื่ งภูมสิ ังคม ขาดทุนคือกาไร และหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง ปฏบิ ัติตนเป็นผ๎ูมีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ขยนั หมน่ั เพยี ร อดทน
ใฝุหาความรู๎ และตัง้ ใจปฏบิ ตั หิ น๎าที่
โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู๎ กระบวนการสรา๎ งความตระหนัก กระบวนการ
สรา๎ งคาํ นยิ ม และกระบวนการสรา๎ งเจตคติ
เพ่ือใหผ๎ ู๎เรยี นมลี กั ษณะท่ีดขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ
ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์และมีวนิ ยั ในตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. มีสวํ นรวํ มและแนะนาผูอ๎ ่ืนใหอ๎ นรุ กั ษ์มารยาทไทย
2. แสดงออกและแนะนาผ๎ูอื่นให๎มคี วามเอ้อื เฟ้ือเผอื่ แผํ และเสียสละตอํ สังคม
3. เห็นคุณคํา อนุรกั ษ์ และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมิปัญญาไทย
4. เปน็ แบบอยํางของความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
5. ประยุกต์และเผยแพรํพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. ปฏิบัติตนเปน็ ผม๎ู วี นิ ยั ในตนเอง
รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้
125
ชื่อรายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมอื ง 4 รหัสวชิ า ส22234
คาอธบิ ายรายวิชา
ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย ในเรื่องการติดตามขาํ วสารบ๎านเมือง ความกล๎า
หาญทางจรยิ ธรรม การเปน็ ผู๎นาและการเปน็ สมาชกิ ทดี่ ี มีสํวนรวํ มในการตัดสินใจตํอกจิ กรรมของ
หอ๎ งเรยี นและโรงเรียน ตรวจสอบข๎อมูลเพื่อใช๎ประกอบการตดั สนิ ใจในกิจกรรมตาํ ง ๆ และรท๎ู ัน
ขาํ วสาร ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผม๎ู วี นิ ัยในตนเอง ในเร่ืองความซอื่ สัตย์สุจรติ อดทน ขยันหมน่ั เพยี ร ใฝุหา
ความร๎ู ตงั้ ใจปฏบิ ัตหิ น๎าที่ และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง
เหน็ คณุ คาํ ของการอยูํรํวมกนั ในภมู ภิ าคเอเชียอยํางสนั ติ และพึง่ พาอาศัยซึ่งกนั และกัน โดย
คานึงถงึ ความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ในเรอ่ื งวถิ ีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา
สิ่งแวดลอ๎ ม การอยูํรวํ มกนั สังคมพหุวฒั นธรรมและการพงึ่ พาซง่ึ กนั ในเร่ืองการเคารพซ่ึงกันและกัน
ไมแํ สดงกริ ิยาและวาจาดหู ม่นิ ผูอ๎ ืน่ ชวํ ยเหลือซ่ึงกนั และกัน แบงํ ปนั มสี วํ นรํวมในการแก๎ปญั หาความ
ขดั แย๎งโดยสันตวิ ธิ เี กี่ยวกับการละเมิดสิทธิ การใช๎ของสํวนรวม ด๎วยการเจรจาไกลเํ กล่ีย การเจรจา
ตอํ รอง การระงบั ความขัดแย๎ง ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู๎มีวินัยในตนเอง ในเร่อื งความซ่ือสัตย์สุจริต อดทน
ใฝหุ าความร๎ู ต้งั ใจปฏบิ ัติหน๎าท่ี ยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง
โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป๎ ญั หา กระบวนการสบื เสาะหาความร๎ู กระบวนการสรา๎ งความตระหนัก กระบวนการ
สรา๎ งคาํ นยิ ม และกระบวนการสรา๎ งเจตคติ
เพื่อให๎ผเู๎ รียนมลี ักษณะเป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข มสี วํ นรํวมทางการเมือง การปกครอง อยูรํ วํ มกบั ผ๎อู ่นื อยาํ งสนั ติ จัดการความขัดแยง๎ ดว๎ ยสันติ
วธิ ี และมวี นิ ัยในตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
2. มีสํวนรวํ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข๎อมูลเพอื่ ใช๎ประกอบการตัดสนิ ใจในกิจกรรม
ตําง ๆและร๎ูทนั ขาํ วสาร
3. เห็นคุณคาํ ของการอยํรู วํ มกนั ในภูมภิ าคเอเชยี อยาํ งสันติ และพ่ึงพาซงึ่ กันและกนั
4. มีสํวนรวํ มและเสนอแนวทางการแก๎ปญั หาความขดั แย๎งโดยสันติวธิ ี
5. ปฏิบัตติ นเป็นผ๎มู วี ินยั ในตนเอง
รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้
126
ชอื่ รายวิชาหน้าทพี่ ลเมือง 5 รหสั วชิ า ส23235
คาอธบิ ายรายวชิ า
มีสํวนรวํ มแนะนาผอ๎ู ่ืนให๎อนุรักษแ์ ละยกยํองผม๎ู มี ารยาทไทยในเรอื่ งการแสดงความเคารพ การ
สนทนาการแตงํ กาย การมสี ัมมาคารวะ แสดงออก แนะนาผู๎อน่ื และมสี ํวนรํวมในกจิ กรรมเกย่ี วกบั ความ
เอื้อเฟ้ือเผือ่ แผํและเสียสละตํอสงั คม เห็นคุณคํา อนุรักษ์ สบื สานและประยุกตข์ นบธรรมเนยี มประเพณี
ศลิ ปวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ๎ูมวี ินยั ในตนเอง ในเรื่องความซอ่ื สตั ย์สุจริต
ขยนั หมน่ั เพยี ร อดทน ใฝหุ าความรตู๎ ัง้ ใจปฏิบตั หิ นา๎ ที่ และยอมรบั ผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง
ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยําง และมสี วํ นรวํ มในการจดั กิจกรรมท่ีแสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มัน่ ใน
ศาสนาและเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ประยุกต์และเผยแพรํพระบรมราโชวาทในเรื่องการเสียสละ
ความซ่อื สตั ย์ หลกั การทรงงานในเรือ่ งศึกษาขอ๎ มูลอยาํ งเป็นระบบ แก๎ปัญหาทจ่ี ุดเลก็ ปฏิบตั ิตนเป็นผม๎ู ี
วินยั ในตนเองในเรื่องความซอื่ สัตย์สุจริต ขยันหม่นั เพยี ร อดทน ใฝุหาความร๎ู และต้ังใจปฏิบตั ิหน๎าท่ี
โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหากระบวนการสืบเสาะหาความร๎ู กระบวนการสรา๎ งความตระหนัก กระบวนการ
สร๎างคาํ นยิ ม และกระบวนการสร๎างเจตคติ
เพอ่ื ใหผ๎ ๎เู รียนมลี ักษณะทด่ี ีของคนไทย ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ
ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์และมีวินัยในตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. มีสวํ นรวํ ม แนะนาผู๎อื่นให๎อนรุ ักษ์และยกยํองผ๎ูมีมารยาทไทย
2. แสดงออก แนะนาผู๎อน่ื และมีสํวนรํวมในกิจกรรมเก่ียวกับความเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผํและเสียสละ
3. เห็นคณุ คาํ อนุรักษ์ สืบสาน และประยุกต์ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญา
ไทย
4. เป็นแบบอยํางและมสี ํวนรํวมในการจดั กจิ กรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และ
เทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์
5. ประยกุ ตแ์ ละเผยแพรํพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
6. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ๎ูมวี นิ ัยในตนเอง
รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้
127
ชอ่ื รายวชิ าหน้าท่ีพลเมือง 6 รหสั วชิ า ส23236
คาอธบิ ายรายวิชา
ปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย ในเร่ืองการใชส๎ ิทธิและหน๎าท่ี การใชเ๎ สรีภาพ
อยาํ งรับผดิ ชอบ การมสี วํ นรํวมในกิจกรรมการเลือกต้ัง มสี ํวนรํวมและรบั ผดิ ชอบในการตัดสินใจตอํ
กิจกรรมของห๎องเรยี นและโรงเรยี น ตรวจสอบข๎อมลู ตรวจสอบการทาหน๎าทข่ี องบุคคล เพ่ือใช๎
ประกอบการตัดสนิ ใจ ปฏิบตั ิตนเป็นผ๎ูมีวินัย ในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ขยนั หม่ันเพยี ร ใฝุหา
ความร๎ู ตัง้ ใจปฏิบตั หิ นา๎ ทแี่ ละยอมรับผลทีเ่ กิดจากการกระทาของตนเอง
เห็นคุณคาํ ของการอยูรํ ํวมกนั อยาํ งสนั ติทาํ มกลางความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมใน
ภูมิภาคตํางๆของโลกในเรื่องวิถชี ีวติ วัฒนธรรมศาสนาสิ่งแวดล๎อมการอยํรู วํ มกนั ในสงั คมพหุวัฒนธรรม
และพ่ึงพาซ่ึงกนั และกันในเรอ่ื งการเคารพซง่ึ กนั และกันไมํแสดงกิรยิ าและวาจาดูหม่ินผูอ๎ ื่นชํวยเหลอื ซึง่
กันและกนั แบํงปนั มีสํวนรวํ มและเสนอแนวทางการปูองกนั ปัญหาความขดั แย๎งในเรื่องทัศนคตคิ วามคิด
ความเชื่อชสู๎ าวปฏบิ ัติตนเป็นผม๎ู ีวนิ ยั ในตนเองในเร่ืองความซือ่ สัตยส์ จุ ริตอดทนใฝุหาความร๎ตู ้ังใจปฏิบัติ
หน๎าที่และยอมรับผลทเ่ี กิดจากการกระทาของตนเอง
โดยใชก๎ ระบวนการกลุํมกระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ัติกระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแกป๎ ัญหากระบวนการสบื เสาะหาความรู๎กระบวนการสร๎างความตระหนกั กระบวนการสร๎าง
คาํ นิยมและกระบวนการสรา๎ งเจตคติ
เพื่อให๎ผเ๎ู รียนมลี กั ษณะที่ดขี องคนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทยแสดงออกถึงความรักชาติยึดมนั่ ใน
ศาสนาและเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ เ์ ป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์
ทรงเปน็ ประมุขมีสํวนรํวมทางการเมืองการปกครองอยูํรวํ มกับผอ๎ู ่นื อยํางสันตจิ ดั การความขดั แยง๎ ดว๎ ย
สันตวิ ิธแี ละมวี นิ ยั ในตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย
2. มสี ํวนรวํ มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สินใจตรวจสอบข๎อมูลตรวจสอบการทาหน๎าที่ของบคุ คลเพ่ือใช๎
ประกอบการตัดสินใจ
3. เห็นคณุ คาํ ของการอยูํรํวมกันในภมู ภิ าคตําง ๆ ของโลกอยํางสนั ติ และพึ่งพาซ่ึงกนั และกัน
4. มีสํวนรํวมและเสนอแนวทางการปูองกันปัญหาความขดั แยง๎
5. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ๎ูมีวินัยในตนเอง
รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้
128
ชื่อรายวิชา สังคมศกึ ษา1 รหสั วชิ า ส31101
คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษากฎหมายท่เี ก่ยี วขอ๎ งกบั ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน ประเทศชาติและสงั คมโลก
โครงสรา๎ งทางสังคม การขดั เกลาทางสงั คม การเปล่ยี นแปลงทางสังคม การแกป๎ ัญหาและแนวทาง
พัฒนาสังคม พลเมืองดขี องประเทศชาติและสังคมโลก สทิ ธมิ นุษยชน แนวทางการพฒั นาอนุรกั ษ์
วัฒนธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากล ปัญหาการเมืองทส่ี าคัญในประเทศ แนวทางทางการเมือง
การปกครองท่นี าไปสํูความเข๎าใจและการประสานประโยชน์รํวมกนั ระหวาํ งประเทศ การธารงรักษาไว๎
ซึ่งการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ และการตรวจสอบการ
ใชอ๎ านาจรัฐ
เพ่ือใหร๎ แู๎ ละเข๎าใจ สามารถวเิ คราะห์และปฏบิ ัติตนตามกฎหมาย วิเคราะห์ความสาคญั ของ
โครงสรา๎ งทางสังคม สามารถปฏบิ ัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ประเมนิ สถานการณ์สิทธิ
มนษุ ยชนในประเทศไทยและเสนอแนวทางการพฒั นา วิเคราะหค์ วามจาเป็นท่ีต๎องมีการปรบั ปรุง
เปลี่ยนแปลงและอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยและเลือกรบั วฒั นธรรมสากล ปญั หาการเมืองทีส่ าคญั ใน
ประเทศจากแหลํงข๎อมูลตาํ ง ๆ พรอ๎ มท้ังเสนอแนวทางแก๎ไข เสนอแนวทางทางการเมืองการปกครองท่ี
นาไปสคํู วามเขา๎ ใจและการประสานประโยชน์รวํ มกนั ระหวาํ งประเทศ วเิ คราะห์ความสาคัญและความ
จาเปน็ ที่ตอ๎ งธารงรักษาไวซ๎ ึ่งการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็น
ประมุข และสามารถเสนอแนวทางและมีสวํ นรํวมในการตรวจสอบการใชอ๎ านาจรฐั
ตัวชีว้ ดั
ส2.1 ม.4-6/1-5
ส2.2 ม.4-6/1-4
รวมท้ังหมด 9 ตวั ชี้วดั
129
ชอ่ื รายวิชา ประวัติศาสตร์1 รหัสวิชา ส31103
คาอธิบายรายวิชา
ศกึ ษาความสาคัญของเวลาและ ยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตร์ทแี่ สดงถงึ การเปลย่ี นแปลงของ
มนษุ ยชาติสร๎างองคค์ วามรใู๎ หมทํ างประวตั ศิ าสตร์โดยใช๎วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์อยาํ งเป็นระบบ
ศกึ ษาวิเคราะห์อิทธิพลของอารยธรรรมโบราณ และการติดตอํ ระหวํางโลกตะวนั ออกกับโลก
ตะวันตกท่ีมผี ลตอํ พฒั นาการและการเปลีย่ นแปลงของโลก เหตุการณ์สาคัญตาํ งๆที่สงํ ผลตํอการ
เปล่ียนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและการเมอื ง เขา๎ สํูโลกสมยั ปจั จุบนั
ศึกษาวิเคราะหผ์ ลกระทบของการขยายอิทธพิ ลของประเทศในยุโรปไปยังทวีปอเมรกิ า
แอฟริกาและเอเชีย สถานการณข์ องโลกในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21
ศึกษาวเิ คราะหป์ ระเด็นสาคัญของประวัติศาสตร์ไทย ความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
ตํอชาติไทย ปจั จยั ทีส่ งํ เสรมิ ความสร๎างสรรค์ภมู ิปัญญาไทย และวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีผลตํอสงั คมไทยใน
ยคุ ปจั จุบนั
ศึกษาวิเคราะห์ผลงานของบุคคลสาคัญทัง้ ชาวไทยและตํางประเทศ ทีม่ ีสํวนสรา๎ งสรรค์
วัฒนธรรมไทย และประวตั ิศาสตร์ไทย วางแผนกาหนดแนวทางและการมสี วํ นรวํ มการอนุรักษภ์ มู ิ
ปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย
เพ่ือให๎เกิดเข๎าใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มคี วามรัก ความภมู ใิ จ
และธารงความเป็นไทย เข๎าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจั จุบัน ในดา๎ นความสัมพันธ์
และ การเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์อยาํ งตํอเนอ่ื ง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถวเิ คราะห์
ผลกระทบที่เกดิ ข้นึ เขา๎ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ
และธารงความเปน็ ไทย
ตัวช้วี ัด
ส 4.1 ม.4-6/1-2
ส 4.2 ม.4-6/1-4
ส 4.3 ม.4-6/1-5
รวมทั้งหมด 11 ตวั ชี้วดั
130
ช่ือรายวิชา ประวัติศาสตร์ 2 รหัสวิชา ส31104
คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษา ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ อารย
ธรรมของโลกยคุ โบราณ การตดิ ตํอระหวํางโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตกและอิทธิพลทางวฒั นธรรมท่ีมี
ตํอกัน เหตกุ ารณ์สาคัญตําง ๆ ทส่ี ํงผลตํอการเปลย่ี นแปลงของโลกในปจั จบุ ัน การขยายอิทธิพลของ
ประเทศในยุโรปไปยังทวปี อเมริกา แอฟรกิ าและเอเชีย สถานการณ์ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21
ประเดน็ สาคญั ของประวตั ศิ าสตรไ์ ทย บทบาทของสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ํอการพัฒนาชาตไิ ทย ภมู ิ
ปัญญาและวฒั นธรรมไทย การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวฒั นธรรมไทย ผลงานของบุคคลสาคญั ทัง้ ชาว
ไทยและตํางประเทศ ท่ีมสี ํวนสร๎างสรรคว์ ัฒนธรรมและประวตั ิศาสตร์ไทย
เพือ่ ให๎ร๎แู ละเข๎าใจ ตระหนักถึงความสาคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์ ที่แสดง
ถงึ การเปล่ียนแปลงของมนุษยชาติสามารถสร๎างองคค์ วามรูใ๎ หมํทางประวตั ิศาสตรโ์ ดยใช๎วิธกี ารทาง
ประวัติศาสตรอ์ ยํางเปน็ ระบบ วิเคราะห์อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณและการติดตํอระหวํางโลก
ตะวันออกกบั โลกตะวนั ตก ท่ีสํงผลตอํ การเปล่ียนแปลงของโลก เหตกุ ารณส์ าคัญตาํ ง ๆ ทีส่ ํงผลตํอการ
เปล่ยี นแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมืองเข๎าสโูํ ลกสมัยปัจจุบัน ผลกระทบของการขยายอิทธิพล
ของประเทศในยโุ รปไปยงั ทวีปอเมริกา แอฟริกาและเอเชยี สถานการณ์ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี
21 วเิ คราะห์ประเด็นสาคญั ของประวตั ิศาสตร์ไทย ความสาคญั ของสถาบันพระมหากษัตริย์ตอํ ชาตไิ ทย
วิเคราะห์ปัจจยั ทสี่ ํงเสรมิ การสรา๎ งสรรคภ์ ูมิปัญญาและวฒั นธรรมไทย การอนรุ ักษ์ภมู ปิ ัญญาและ
วฒั นธรรมไทย ซึ่งมีผลตํอสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ผลงานของบุคคลสาคัญทง้ั ชาวไทยและตํางประเทศ
ทมี่ ีสวํ นสรา๎ งสรรคว์ ฒั นธรรมและประวัติศาสตรไ์ ทยและสามารถวางแผนกาหนดแนวทางการมีสํวนรํวม
ในการอนรุ ักษภ์ มู ปิ ัญญาและวัฒนธรรมไทย
ตัวชว้ี ัด
ส4.1 ม.1/1-2
ส4.2 ม.2/1-4
ส4.3 ม.4-6/1-5
ส5.1 ม.4-6/1-5
รวมทง้ั หมด 16 ตวั ช้วี ัด
131
ช่อื รายวชิ า ประวัติศาสตร์3 รหัสวชิ า ส32103
คาอธิบายรายวชิ า
ศึกษาความสาคัญของเวลาและ ยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ทแ่ี สดงถงึ การเปลยี่ นแปลงของ
มนุษยชาติสร๎างองค์ความร๎ใู หมํทางประวตั ศิ าสตร์โดยใชว๎ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์อยาํ งเปน็ ระบบ
ศึกษาวิเคราะห์อทิ ธพิ ลของอารยธรรรมโบราณ และการติดตํอระหวํางโลกตะวนั ออกกบั โลก
ตะวันตกที่มผี ลตอํ พัฒนาการและการเปลย่ี นแปลงของโลก เหตุการณ์สาคัญตํางๆท่สี งํ ผลตอํ การ
เปล่ยี นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและการเมอื ง เข๎าสูํโลกสมัยปจั จบุ ัน
ศกึ ษาวเิ คราะหผ์ ลกระทบของการขยายอทิ ธพิ ลของประเทศในยโุ รปไปยังทวีปอเมรกิ า
แอฟริกาและเอเชีย สถานการณ์ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 21
ศกึ ษาวิเคราะหป์ ระเด็นสาคัญของประวตั ศิ าสตร์ไทย ความสาคญั ของสถาบันพระมหากษตั รยิ ์
ตํอชาติไทย ปัจจัยทส่ี ํงเสริมความสรา๎ งสรรค์ภูมิปญั ญาไทย และวัฒนธรรมไทย ซึง่ มผี ลตอํ สงั คมไทยใน
ยุคปัจจุบนั
ศกึ ษาวเิ คราะห์ผลงานของบุคคลสาคญั ทัง้ ชาวไทยและตํางประเทศ ที่มสี ํวนสร๎างสรรค์
วัฒนธรรมไทย และประวัติศาสตรไ์ ทย วางแผนกาหนดแนวทางและการมีสํวนรํวมการอนุรักษภ์ ูมิ
ปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย
เพอ่ื ให๎เกดิ เขา๎ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มคี วามรัก ความภูมิใจ
และธารงความเป็นไทย เข๎าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดตี จนถงึ ปจั จุบนั ในด๎านความสัมพนั ธ์
และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์อยํางตํอเนอ่ื ง ตระหนกั ถงึ ความสาคัญและสามารถวิเคราะห์
ผลกระทบทเี่ กดิ ขึ้น เขา๎ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มีความรัก ความภูมใิ จ
และธารงความเป็นไทย
ตัวช้วี ดั
ส 4.1 ม.4-6/2
ส 4.2 ม.4-6/1-4
ส 4.3 ม.4-6/1-5
รวมท้ังหมด 16 ตวั ชวี้ ดั
132
ช่อื รายวชิ า สังคมศกึ ษา3 รหสั วิชา ส32101
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการรวบรวม วิเคราะห์และนาเสนอขอ๎ มูลขาํ วสารภมู ลิ กั ษณ์
ภูมอิ ากาศ ภูมิสงั คมของไทยและภมู ิภาคตาํ ง ๆ ท่วั โลก ปัญหาทางกายภาพหรือภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ
ในประเทศไทยและภมู ภิ าคตาํ ง ๆ ของโลก การเปล่ยี นแปลงลกั ษณะทางกายภาพในสํวนตาํ ง ๆ ของ
โลก การเกิดภมู สิ ังคมใหมขํ องโลก การเปล่ยี นแปลงของพ้ืนทซี่ ง่ึ ได๎รับอทิ ธิพลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์
ในประเทศไทยและทวีปตาํ ง ๆ การเปล่ยี นแปลงธรรมชาติในโลก สถานการณ์และวิกฤตการณด์ ๎าน
ทรพั ยากรสง่ิ แวดลอ๎ มทางการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ๎ มในภมู ิภาคตําง ๆ การใช๎
ประโยชน์จากสิ่งแวดลอ๎ มในทางสร๎างสรรค์วัฒนธรรม อนั เปน็ เอกลักษณ์ของทอ๎ งถ่นิ ท้ังในประเทศไทย
และโลก การแก๎ปัญหาและการดาเนินชีวิตตามแนวทางการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ๎ มเพอ่ื การ
พัฒนาทยี่ ั่งยนื
เพ่ือให๎รูแ๎ ละเข๎าใจ สามารถใช๎เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการรวบรวม วเิ คราะห์และนาเสนอ
ขอ๎ มูลสานสนเทศอยํางมีประสิทธิภาพ วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของสภาพภูมิอากาศซึง่ ทาให๎เกิดปัญหาทาง
กายภาพหรอื ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตใิ นประเทศไทยและภมู ิภาคตาํ ง ๆ ของโลก การเปล่ียนแปลงของ
พน้ื ทซ่ี ่งึ ได๎รับอทิ ธิพลจากปัจจัยทางภมู ิศาสตรใ์ นประเทศไทยและทวีปตาํ ง ๆ ประเมินการเปล่ยี นแปลง
ธรรมชาตใิ นโลก วําเปน็ ผลมาจากการกระทาของมนุษยแ์ ละหรือธรรมชาติ วเิ คราะหส์ ถานการณแ์ ละ
วิกฤตการณด์ ๎านทรัพยากรส่ิงแวดลอ๎ มของไทยและโลก ระบมุ าตรการปูองกันและแกไ๎ ขปญั หา บทบาท
ขององค์กรและการประสานความรวํ มมอื ท้ังในและนอกประเทศ เก่ยี วกบั กฎหมายสงิ่ แวดลอ๎ ม การ
จัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล๎อม ระบแุ นวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดล๎อมในภมู ิภาคตําง ๆ ของโลก อธิบายการใชป๎ ระโยชน์จากสิ่งแวดลอ๎ มในการสร๎างสรรค์
วฒั นธรรม อันเปน็ เอกลกั ษณข์ องท๎องถิ่นทั้งในประเทศไทยและโลก และมสี วํ นรวํ มในการแก๎ปัญหา
และการดาเนนิ ชวี ิตตามแนวทางการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล๎อมเพ่ือการพฒั นาท่ีย่ังยนื
ตัวชี้วัด
ส5.1 ม.4-6/1-5
ส5.2 ม.4-6/1-5
133
ชือ่ รายวิชา ประวตั ศิ าสตร3์ รหสั วชิ า ส32103
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาความสาคัญของเวลาและ ยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลยี่ นแปลงของ
มนุษยชาติสร๎างองค์ความรใ๎ู หมํทางประวัตศิ าสตรโ์ ดยใชว๎ ิธีการทางประวัตศิ าสตร์อยํางเป็นระบบ
ศึกษาวิเคราะห์อทิ ธพิ ลของอารยธรรรมโบราณ และการติดตอํ ระหวาํ งโลกตะวนั ออกกบั โลก
ตะวันตกท่ีมผี ลตอํ พฒั นาการและการเปลีย่ นแปลงของโลก เหตกุ ารณ์สาคัญตํางๆทสี่ งํ ผลตํอการ
เปลย่ี นแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมือง เข๎าสโํู ลกสมยั ปัจจบุ ัน
ศกึ ษาวเิ คราะหผ์ ลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยโุ รปไปยังทวีปอเมรกิ า
แอฟริกาและเอเชยี สถานการณ์ของโลกในคริสตศ์ ตวรรษที่ 21
ศกึ ษาวิเคราะห์ประเดน็ สาคัญของประวตั ิศาสตร์ไทย ความสาคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์
ตํอชาตไิ ทย ปจั จยั ทีส่ งํ เสริมความสร๎างสรรค์ภูมปิ ัญญาไทย และวฒั นธรรมไทย ซง่ึ มีผลตอํ สังคมไทยใน
ยุคปัจจบุ ัน
ศกึ ษาวิเคราะห์ผลงานของบุคคลสาคญั ทัง้ ชาวไทยและตํางประเทศ ท่มี สี วํ นสรา๎ งสรรค์
วัฒนธรรมไทย และประวตั ิศาสตรไ์ ทย วางแผนกาหนดแนวทางและการมีสวํ นรํวมการอนรุ ักษ์ภมู ิ
ปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย
เพือ่ ใหเ๎ กดิ เข๎าใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มคี วามรัก ความภมู ใิ จ
และธารงความเปน็ ไทย เข๎าใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปัจจุบัน ในดา๎ นความสัมพนั ธ์
และการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์อยาํ งตํอเนอื่ ง ตระหนกั ถึงความสาคัญและสามารถวิเคราะห์
ผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ เขา๎ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจ
และธารงความเป็นไทย
ตวั ชีว้ ัด
ส 4.1 ม.4-6/1-2
ส 4.2 ม.4-6/1-4
ส 4.3 ม.4-6/1-5
134
ช่ือรายวชิ า สังคมศึกษา 4 รหสั วชิ า ส32102
คาอธิบายรายวชิ า
ศกึ ษา ระบบเศรษฐกิจของโลกในปจั จบุ นั ตลาดในระบบเศรษฐกิจ การกาหนดราคาตามอปุ
สงคแ์ ละอปุ ทาน การกาหนดคาํ จ๎าง กฎหมายทีเ่ กี่ยวข๎องกับอัตราคําจา๎ งแรงงานในสังคมไทย ปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพียง การประยุกต์ใชห๎ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาเนินชวี ติ ตนเองและ
ครอบครวั การประยกุ ต์ใช๎หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในภาคการเกษตร ภาคอตุ สาหกรรม การคา๎
และบรกิ าร การพฒั นาประเทศโดยใชห๎ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความร๎เู กย่ี วกับระบบสหกรณ์ใน
ประเทศไทย ปญั หาทางเศรษฐกิจในชุมชนและแนวทางแกไ๎ ข นโยบายทางการเงนิ การคลงั ในการ
พฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศ การเปิดเสรที างเศรษฐกจิ ในยุคโลกาภวิ ัตน์ของสงั คมไทย ความรํวมมือ
ทางเศรษฐกิจระหวาํ งประเทศในรปู แบบตําง ๆ
เพอ่ื ให๎รู๎และเข๎าใจ สามารถอภปิ รายการกาหนดราคาคาํ จา๎ งในระบบเศรษฐกจิ ตระหนักถงึ
ความสาคญั ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงท่ีมตี ํอเศรษฐกิจ สงั คมของประเทศ ตระหนักถงึ ความสาคัญ
ของระบบสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกจิ ในระดบั ชุมชนและระเทศ วิเคราะห์ปัญหาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน
และเสนอแนวทางแก๎ไข อธบิ ายบทบาทของรฐั บาลเกย่ี วกับนโยบายทางการเงินการคลัง ในการพัฒนา
เศรษฐกจิ ของประเทศ วิเคราะห์ผลกระทบของการเปิดเสรที างเศรษฐกิจในยุคโลกาภวิ ัตน์ทมี่ ีผลตํอ
สงั คมไทยและสามารถวเิ คราะหผ์ ลดี ผลเสยี ของความรํวมมือทางเศรษฐกิจระหวํางประเทศในรูปแบบ
ตําง ๆ
ตัวชี้วัด
ส3.1 ม.4-6/1-4
ส3.2 ม.4-6/1-3
รวมท้งั หมด 7 ตวั ชว้ี ัด
135
ช่อื รายวิชา ประวตั ิศาสตร์4 รหัสวชิ า ส32104
คาอธิบายรายวชิ า
ศึกษาความสาคัญของเวลาและ ยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลยี่ นแปลงของ
มนษุ ยชาตสิ รา๎ งองคค์ วามรใู๎ หมํทางประวตั ศิ าสตรโ์ ดยใช๎วิธีการทางประวตั ศิ าสตร์อยาํ งเปน็ ระบบ
ศึกษาวเิ คราะห์อิทธิพลของอารยธรรรมโบราณ และการตดิ ตํอระหวาํ งโลกตะวนั ออกกบั โลก
ตะวนั ตกท่ีมผี ลตอํ พัฒนาการและการเปลยี่ นแปลงของโลก เหตุการณ์สาคัญตํางๆทีส่ ํงผลตอํ การ
เปลีย่ นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและการเมอื ง เข๎าสโํู ลกสมยั ปัจจบุ ัน
ศกึ ษาวิเคราะห์ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปไปยงั ทวปี อเมริกา
แอฟริกาและเอเชีย สถานการณ์ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 21
ศกึ ษาวิเคราะหป์ ระเดน็ สาคัญของประวัตศิ าสตร์ไทย ความสาคัญของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
ตํอชาติไทย ปัจจยั ทส่ี ํงเสริมความสรา๎ งสรรค์ภมู ิปญั ญาไทย และวฒั นธรรมไทย ซง่ึ มผี ลตํอสังคมไทยใน
ยุคปจั จุบัน
ศึกษาวเิ คราะหผ์ ลงานของบุคคลสาคญั ทั้งชาวไทยและตํางประเทศ ที่มีสวํ นสร๎างสรรค์
วฒั นธรรมไทย และประวัติศาสตรไ์ ทย วางแผนกาหนดแนวทางและการมสี วํ นรํวมการอนุรกั ษภ์ มู ิ
ปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทย
เพอื่ ให๎เกิดเขา๎ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มีความรัก ความภูมใิ จ
และธารงความเปน็ ไทย เข๎าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถงึ ปัจจุบนั ในด๎านความสัมพันธ์
และการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์อยาํ งตํอเนอื่ ง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถวเิ คราะห์
ผลกระทบทเี่ กิดขึ้น เขา๎ ใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจ
และธารงความเปน็ ไทย
ตัวช้ีวดั
ส 4.1 ม.6/1-2
ส 4.2 ม.6/1-4
ส 4.3 ม.6/1-5
รวมทัง้ หมด 11 ตัวชว้ี ดั
136
ชอื่ รายวิชา สงั คมศกึ ษา5 รหสั วิชา ส33101
คาอธิบายรายวิชา
ศึกษา ลักษณะของสงั คมชมพูทวปี และคตคิ วามเช่อื ทางศาสนาสมยั กํอนพระพุทธเจา๎
ประวตั ขิ องพระพุทธศาสดา ในฐานะเปน็ มนุษยผ์ ฝ๎ู กึ ตนได๎อยํางสงู สดุ ในการตรสั รู๎ การกํอตั้ง วธิ กี าร
สอนและการเผยแผพํ ระพุทธศาสนาตามแนวพุทธจรยิ า พุทธประวัตดิ ๎านการบริกหารและการธารง
รักษาศาสนา ทฤษฎแี ละวธิ ีการท่ีเปน็ สากลของพทุ ธศาสนา ขอ๎ ปฏิบัติท่ียึดทางสายกลางใน
พระพทุ ธศาสนา การพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถกู ต๎องในพระพุทธศาสนา หลักประชาธิปไตยใน
พระพุทธศาสนา หลักการของพระพุทธศาสนากบั หลักวทิ ยาศาสตร์ การฝึกฝนและพัฒนาตนเองและ
การมงํุ อิสรภาพในพระพทุ ธศาสนา พระพุทธศาสนาเปน็ ศาสตร์แหงํ การศึกษา มุํงเนน๎ ความสัมพันธ์
ของเหตุ ปัจจยั และวิธกี ารแก๎ปัญหา การฝกึ ตนไมํให๎ประมาท การมุงประโยชนแ์ ละสนั ตภิ าพบคุ คล
สังคมและโลก พระพุทธศาสนากับปรชั ญาหลักเศรษฐกจิ พอเพยี งและการพฒั นาประเทศแบบยงั่ ยนื
ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาเกีย่ วกบั การศกึ ษาท่สี มบูรณ์ ความสาคญั ของพระพุทธศาสนากบั
การเมือง ความสาคญั ของพระพุทธศาสนากับสันตภิ าพ หลกั ธรรมในกรอบอริยสจั 4 (ธรรมทค่ี วรรู๎
ธรรมทคี่ วรละ ธรรมที่ควรบรรลุ ธรรมท่ีควรเจริญ มงคล 38 พทุ ธศานสภุ าษิต) ข๎อคิดและแบบอยําง
การดาเนนิ ชีวติ จากประวัติสาวก ชาดก เรือ่ งเลาํ และศาสนกิ ชนตวั อยาํ งท่ีกาหนด การสงั คายนาและ
เผยแผพํ ระไตรปฎิ ก
เพ่ือใหร๎ ู๎และเขา๎ ใจ สามารถวเิ คราะห์ประวตั ิความเป็นมา หลักการ แนวคิด แนวทางการ
ปฏิบตั ติ น วิธีการพัฒนาตนเองและหลักธรรมคาสอนของพทุ ธศาสนา เพื่อใหเ๎ กิดความเชอื่ ม่นั ตํอผล
ของการทาดี ความช่ัว สามารถตัดสนิ ใจเลอื กดาเนนิ การปฏิบตั ิตนไดอ๎ ยาํ งมีเหตุผลในสถานการณท์ ่ี
ตอ๎ งเผชิญ ถกู ต๎องตามหลกั จรยิ ธรรม สามารถกาหนดเปูาหมายและบทบาทในการดาเนินชีวิตเพื่อการ
อยูํรวํ มกันอยาํ งสนั ติสุขและอยรํู ํวมกันเปน็ ชาติ อยาํ งสมานฉนั ท์
ตวั ชวี้ ัด
ส1.1 ม.4-6/1-22
ส1.2 ม.4-6/1-5
รวมทัง้ หมด 27 ตัวชวี้ ัด
137
ช่ือรายวชิ า สงั คมศึกษา6 รหสั วิชา ส33102
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาประวัตศิ าสดาของศาสนาอนื่ โดยสงั เขป (ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ศาสนาพทุ ธ
ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม) คณุ คาํ และความสาคญั ของคาํ นิยมและจริยธรรม การขจัดความขดั แย๎ง
เพ่อื อยํรู วํ มกนั ในสงั คมอยาํ งสันตสิ ุข การพฒั นาจิตและพฒั นาการเรยี นรูด๎ ว๎ ยวธิ คี ดิ แบบโยนโิ สมนสกิ าร
การสวดมนตแ์ ปล แผเํ มตตา การบริหารจติ และเจรญิ ปัญญาตามหลกั สตปิ ัฏฐาน หลกั ธรรมสาคญั ใน
การอยูรํ วํ มกันอยําสงสันติสขุ ของศาสนาตาํ ง ๆ (ศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดู ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์
ศาสนาอิสลาม) สภาพปัญหาในชุมชนและการพัฒนาสังคม การปฏิบตั ิตนเป็นศาสนิกชนที่ดตี ํอ
พระภกิ ษุ การปฏิบัตติ นเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและสังคม การปฏิบตั ิตนถูกต๎องตามศาสนพธิ ี
พิธีกรรมตามหลักศาสนาทต่ี นนบั ถอื การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ หลักธรรมคติธรรมทเ่ี ก่ียวเน่อื งกับ
วนั สาคญั ทางศาสนาและเทศกาลทีส่ าคญั ของพุทธศาสนา การปฏบิ ตั ติ นในวันสาคัญทางพทุ ธศาสนาที่
ถกู ต๎อง การสัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรกั ษาศาสนาท่ีตนนับถือ อนั สงํ ผลถงึ การพัฒนา
ตน พฒั นาชาติและโลก
เพือ่ ให๎รูแ๎ ละเข๎าใจ สามารถอธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอ่นื โดยสังเขป ตระหนกั ใน
คุณคําและความสาคญั ของคาํ นยิ มและจริยธรรมทเ่ี ป็นตวั กาหนดความเช่ือและพฤติกรรมที่แตกตาํ งกนั
ของศาสนกิ ชนศาสนาตําง ๆ เพอื่ ขจัดความขดั แย๎งและอยรูํ ํวมกนั ในสังคมอยาํ งสันตสิ ุข เหน็ คณุ คํา
เช่ือม่นั และมุงํ มน่ั พัฒนาชวี ติ ดว๎ ยการบรหิ ารจิตและพัฒนาการเรยี นรดู๎ ว๎ ยวธิ ีคดิ แบบโยนโิ สมนสิการ
การสวดมนตแ์ ปล แผํเมตตา การบริหารจติ และเจริญปัญญาตามหลักสติปฏั ฐาน วเิ คราะห์หลักธรรม
สาคญั ในการอยรูํ วํ มกนั อยํางสันตสิ ุขของศาสนาอืน่ ๆ และชักชวน สํงเสรมิ สนบั สนนุ ให๎บุคคลอนื่ เห็น
ความสาคัญของการทาดีตํอกัน เสนอแนวทางการจัดกิจกรรมความรวํ มมือของทุกศาสนาในการ
แก๎ปัญหาและการพัฒนาสงั คม ปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ทด่ี ีตํอสาวก สมาชิกในครอบครัวและคนรอบข๎าง
ปฏบิ ตั ติ นถูกต๎องตามศาสนพิธี พิธีกรรมตามหลักศาสนาท่ีตนนับถอื สามารถแสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ
หรอื แสดงตนเป็นศาสนกิ ชนของศาสนาทีต่ นนับถือ วเิ คราะหห์ ลักธรรม คติธรรมทเี่ กย่ี วเน่ืองกับวัน
สาคัญทางศาสนาและเทศกาลทสี่ าคญั ของพุทธศาสนาที่ตนนบั ถอื และปฏบิ ัติตนได๎ถูกต๎องละสามารถ
จดั การสัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษาศาสนาที่ตนนบั ถือ อนั สงํ ผลถึงการพฒั นาตน
พฒั นาชาติและโลก
ตัวช้วี ัด
ส1.1 ม.4-6/1
ส1.2 ม.4-6/1-3
รวมท้ังหมด 4 ตวั ชว้ี ดั
138
คาอธิบายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาพลศึกษา
139
โครงสรา้ งการจัดการเรียนร้กู ลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาพลศึกษา
โรงเรยี นบา้ นตรวจ อาเภอศรณี รงค์ จังหวดั สุรนิ ทร์
...................................................................................................................................................
รายวิชาพ้ืนฐาน
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1
ภาคเรยี นที่ 1 พ21101 สุขศกึ ษา1 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกิต
พ21102 พลศึกษา1 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรยี นท่ี 2 พ21103 สขุ ศกึ ษา2 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
พ21104 พลศึกษา2 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2
ภาคเรียนท่ี 1 พ22101 สขุ ศกึ ษา3 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
พ22102 พลศึกษา3 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรยี นท่ี 2 พ22103 สุขศึกษา4 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์จานวน 0.5 หนํวยกติ
พ22104 พลศึกษา4 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์จานวน 0.5 หนํวยกิต
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3
ภาคเรียนท่ี 1 พ23101 สุขศึกษา5 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์จานวน 0.5 หนํวยกติ
พ23102 พลศึกษา5 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรียนท่ี 2 พ23103 สขุ ศึกษา6 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์จานวน 0.5 หนํวยกติ
พ23104 พลศึกษา6 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์จานวน 0.5 หนํวยกติ
รายวิชาเพม่ิ เติม
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
ภาคเรียนท่ี 1 -
ภาคเรยี นท่ี 2 -
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2
ภาคเรยี นที่ 1 -
ภาคเรียนท่ี 2 -
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
ภาคเรยี นท่ี 1 -
ภาคเรยี นท่ี 2 -
140
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 รายวชิ าพื้นฐาน จานวน 0.5 หนํวยกติ
ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
ภาคเรยี นท่ี 2 พ31101 สุขศึกษา1 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์
พ31102 สุขศึกษา2 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 0.5 หนํวยกติ
ภาคเรียนท่ี 1 พ32101 สขุ ศกึ ษา3 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์
ภาคเรยี นท่ี 2 พ32102 สุขศึกษา4 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 6 พ33101 สุขศึกษา5 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
ภาคเรียนท่ี 1 พ33102 สุขศกึ ษา6 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์
ภาคเรยี นท่ี 2
รายวชิ าเพมิ่ เติม พ31201 พลศึกษา1 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกติ
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 พ31202 พลศึกษา2 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกิต
ภาคเรยี นที่ 1 พ32201 พลศกึ ษา3 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ภาคเรียนท่ี 2 พ32202 พลศกึ ษา4 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5
ภาคเรียนที่ 1 พ33201 พลศึกษา5 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนํวยกิต
ภาคเรียนท่ี 2 พ33202 พลศึกษา6 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หนวํ ยกิต
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรยี นท่ี 1
ภาคเรยี นท่ี 2
141
ชื่อรายวิชา สุขศกึ ษา1 รหัสวิชา พ21101
คาอธิบายรายวิชา
อธบิ ายเกี่ยวกับสํวนประกอบของระบบประสาทและตํอมไร๎ทอํ ทีเ่ ก่ยี วกับการเจรญิ เตบิ โตทาง
ราํ งกาย พัฒนาการทางเพศ ความสาคญั และการดแู ลรักษา การดารงประสทิ ธิภาพของระบบประสาท
และระบบตํอมไรท๎ ํอรปู รํางลกั ษณะการเปลย่ี นแปลงทางรํางกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม พัฒนาการทาง
เพศของวยั รุํน การยอมรบั และการปรบั ตวั ตํอการเปลยี่ นแปลงทางราํ งกาย จิตใจ สังคม ปัญญาและ
พัฒนาการทางเพศของวัยรนํุ ภาวการณเ์ จรญิ เติบโตของวัยรํนุ การเปรยี บเทียบการเจรญิ เตบิ โตของ
วัยรนุํ กบั เกณฑ์มาตรฐาน แนวทางการปฏบิ ัติตนเพ่ือการพัฒนาการเจรญิ เตบิ โตใหส๎ มวยั การถูกลํวง
ละเมิดทางเพศ สาเหตุการถูกลํวงละเมิดทางเพศ ผลกระทบจากการถูกลํวงละเมิดทางเพศ การปูองกัน
และหลกี เล่ียงสถานการณ์เสย่ี งตอํ การถูกลวํ งละเมดิ ทางเพศ หนํวยงานท่ใี หก๎ ารชวํ ยเหลอื แกํผู๎ถูกลวํ ง
ละเมิดทางเพศ อาหารและโภชนาการ ความหมายอาหารและโภชนาการ คณุ คาํ ของอาหารและ
โภชนาการตํอสขุ ภาพ ข๎อแนะนาในการบรโิ ภคอาหารตามหลักโภชนบัญญตั ิ การบริโภคอาหารที่
เหมาะสมกับวยั ความหมายของภาวะทุพโภชนาการ ปัญหาทีเ่ กิดจากภาวะโภชนาการที่มีผลตํอสขุ ภาพ
การปฏบิ ัติตวั เพ่ือแก๎ไขปัญหาโภชนาการ นา้ หนักตัวกับสุขภาพ ความสาคญั ของการดูแลและควบคมุ
นา้ หนกั ตัว วธิ ีการประเมนิ และวิเคราะหน์ า้ หนักตวั วธิ ีการดแู ลและควบคุมนา้ หนักตัวให๎อยูํในเกณฑ์
มาตรฐาน การแก๎ไขน้าหนักตัว สมรรถภาพทางกาย ความหมายและความสาคัญของการสรา๎ งเสรมิ
สมรรถภาพทางกาย ประเภทของสมรรถภาพทางกาย วิธกี ารทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ
วธิ กี ารสร๎างเสริมและปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกายตามผลทดสอบ การปฐมพยาบาล ความหมายและ
ความสาคญั ของการปฐมพยาบาล หลกั ท่ัวไปในการปฐมพยาบาล วิธกี ารปฐมพยาบาลผปู๎ ุวยอยําง
ปลอดภยั การเคล่ือนย๎ายอยาํ งปลอดภัย ความสาคัญของการเคล่อื นยา๎ ยผู๎ปวุ ยหรือผ๎ูบาดเจ็บอยําง
ปลอดภัย หลกั ท่วั ไปในการเลื่อนย๎ายผป๎ู ุวยหรอื ผูบ๎ าดเจบ็ วิธกี ารเคล่ือนยา๎ ยผ๎ปู ุวยแบบตํางๆ สารเสพติด
ความหมายสารเสพติด ประเภทสารเสพติด ลกั ษณะอาการของผตู๎ ิดสารเสพตดิ ความสัมพนั ธข์ องการใช๎
สารเสพติดกับการเกดิ โรคและอุบตั เิ หตุ แนวทางปูองกนั และแก๎ไขปัญหาสารเสพตดิ สถานการณ์เส่ยี ง
ตอํ การติดสารเสพตดิ ทักษะชีวติ เพ่ือปูองกันและแกไ๎ ขปญั หาสารเสพตดิ
ตัวช้ีวดั
พ.1.1ม.1/1-8
พ.2.1ม.1/1-8
พ.3.1ม.1/1-8
พ.4.1ม.1/2-8
รวมท้ังหมด 24 ตวั ช้ีวัด
142
ชื่อรายวิชา สุขศกึ ษา2 รหัสวชิ า พ21103
คาอธบิ ายรายวิชา
สามารถปฏิบัตติ ามความสามารถของตน ตามหลักการเคล่ือนไหว ท่ใี ชท๎ ักษะทางกลไกและ
ทักษะพนื้ ฐานที่นาไปสํูการพัฒนาทกั ษะการเลํนกีฬา เลนํ กีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและทีม
โดยใชท๎ ักษะพน้ื ฐานตามชนดิ กฬี าอยาํ งละหน่ึงชนดิ รํวมกจิ กรรมนันทนาการอยํางนอ๎ ยน่ึงกิจกรรมและ
นาหลักความรท๎ู ่ีไดไ๎ ปเชอื่ มสมั พันธก์ ับวชิ าอนื่ อธิบายความสาคัญของการออกกาลงั กายและเลํนกีฬาจน
เป็นวิถีชีวิตที่มสี ุขภาพที่ดี เลือกเข๎ารํวมเลนํ กีฬาตามความถนดั ตามความสนใจอยาํ งเต็มความสามารถ
พรอ๎ มปฏิบัติตามกฎ กตกิ า มีนา้ ใจนักกีฬา เปน็ ผ๎เู ลํน เปน็ ผช๎ู มทีด่ ี มคี วามสามัคคี สามารถประเมิน
ความสามารถตนเองและ ผู๎อื่นได๎ ทางานเปน็ ระบบ เป็นทีมอยาํ งสนุกสนาน วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และ
ยอมรบั ความแตกตํางระหวํางเลํนกีฬาของตนเองและผ๎อู ืน่ ได๎
ตวั ชว้ี ดั
พ 3.1 ม.1/1-7
พ 3.1 ม.1/8
พ 3.2 ม.1/1-8
รวมทงั้ หมด 23 ตวั ชี้วัด
143
ชอื่ รายวิชา สุขศกึ ษา3 รหัสวิชา พ22101
คาอธิบายรายวิชา
ศกึ ษา ลักษณะการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของวยั รํนุ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาทางกาย
การดแู ลการเจรญิ เตบิ โตของตนเอง ปจั จัยทม่ี ผี ลตํอการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการวยั ตํางๆ วัยรํุนและ
การเปลีย่ นแปลงทางรํางกาย จติ ใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ ชีวติ วยั รุํนและการปรับตัว การ
เปล่ยี นแปลงทางราํ งกาย จิตใจอารมณ์และพัฒนาการทางเพศของวยั รนํุ การเปล่ยี นความเสมอภาคทาง
เพศ การวางตวั ตอํ เพศเดยี วกันและเพศตรงข๎าม องค์ประกอบของอนามยั การเจริญพนั ธ์ุ สขุ ภาพทาง
เพศ การวางแผนครอบครัว อนามยั แมํและเดก็ การปอู งกนั โรคเอดส์ การปูองกันโรคตดิ เช้อื ในระบบ
สบื พันธุ์ สาเหตทุ ี่ทาให๎เกดิ การมีเพศสมั พันธ์ วิธีปฏิบัติตนเพ่ือหลีกเล่ียงการมีเพศสัมพันธว์ ิธีปูองกนั
ตนเองจากสถานการณ์ทีเ่ สี่ยงตอํ การมเี พศสัมพนั ธ์ พฤติกรรมทเี่ สย่ี งตอํ การตงั้ ครรภ์ทีไ่ มํพึงประสงค์ การ
หลีกเลยี่ งและปูองกนั ตนเองจากพฤติกรรมทเ่ี สย่ี งตํอการต้งั ครรภท์ ีไ่ มํพงึ ประสงค์
ตวั ชี้วดั
พ 1.1 ม.2/1-8
พ 2.1 ม.2/1-8
รวมท้ังหมด 16 ตัวชว้ี ดั
144
ชอ่ื รายวิชา สุขศกึ ษา4 รหสั วชิ า พ22103
คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษา ปัจจัยและพฤตกิ รรมเส่ียงตํอสขุ ภาพเก่ยี วกับการใชย๎ า พฤติกรรมสขุ ภาพท่ีมผี ลดตี ํอ
สุขภาพ ปญั หาสง่ิ แวดล๎อมที่สํงผลกระทบตํอสขุ ภาพ ปัจจยั และพฤติกรรมเสยี่ งตํอสุขภาพและความ
ปลอดภัย คุณคาํ ของการมีพฤติกรรมสุขภาพทีด่ ี ปญั หาและผลกระทบจากพฤติกรรมสุขภาพ การ
ตัดสินใจใช๎บริการสขุ ภาพ การใชส๎ ถานบริการสาธารณสุข สทิ ธิพ้นื ฐานของผ๎ูบริโภคด๎านผลิตภัณฑ์
สุขภาพ กฎหมายทเ่ี กีย่ วข๎องกับการค๎ุมครองผูบ๎ ริโภคดา๎ นผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพ อาหารตามวัย อาหาร
เฉพาะโรค หลักการวิเคราะห์ข๎อมลู โภชนาการบนฉลากผลิตภณั ฑอ์ าหารคณุ คาํ และความสาคญั ของ
สุขภาพกาย สขุ ภาพจิต สุขภาพสงั คมและสขุ ภาพทางปัญญา การปฏบิ ตั ิตนเพื่อเสริมสร๎างสุขภาพกาย
สุขภาพจิต สขุ ภาพสงั คมและสขุ ภาพทางปัญญา การจัดการอารมณ์และความเครยี ด การฝกึ จติ คณุ คาํ
ของการจัดการกับอารมณ์และความเครยี ด คณุ คําของการฝกึ จติ แผนการออกกาลงั กาย การสรา๎ งเสรมิ
สมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกาย แผนการพักผํอนและการเข๎ารํวมกจิ กรรม
นนั ทนาการ ประโยชน์จากการฝกึ สมรรถภาพจากการออกกาลงั กายและการเลํนกีฬา การทดสอบและ
ประเมินสมรรถภาพทางกายและทางกลไกของตนเอง
ตัวชี้วัด
พ 4.1 ม.2/-8
พ 5.1 ม.2/-8
รวมทง้ั หมด 16 ตวั ชี้วัด
145
ช่อื รายวชิ า สุขศกึ ษา5 รหัสวิชา พ23101
คาอธิบายรายวชิ า
ศึกษา ปัจจัยที่มีผลตํอการเจริญเติบโตและพฒั นาการของวัยทารก วัยกํอนเรยี น วยั เรยี น วัยรนํุ
วัยผใู๎ หญํ วัยผ๎สู ูงอายุ การสรา๎ งเสริมการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของวัยทารก วัยกํอนเรยี น วยั เรยี น
วัยรุนํ วยั ผู๎ใหญํ วยั ผส๎ู ูงอายุ การติดตามดูแลและพัฒนาการของวยั ทารก วัยกอํ นเรียน วัยเรียน วัยรุํน
วัยผใ๎ู หญํ วัยผ๎สู ูงอายุ การเปล่ียนแปลงทางรํางกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการของวยั รํนุ การปรับตวั
ตอํ การเปล่ียนแปลงทางราํ งกาย จิตใจ อารมณ์ อทิ ธพิ ลทางวัฒนธรรมท่มี ผี ลตอํ วยั รุํน สอ่ื ที่มผี ลตํอ
พฤติกรรม การเจริญเติบโตและพฒั นาการของวยั รํุน อนามัยแมํและเดก็ การวางแผนชวี ติ การวางแผน
ครอบครวั อารมณเ์ พศ ปัจจัยเสย่ี งท่มี ีผลตอํ การตง้ั ครรภท์ ่ีไมํพึงประสงค์ การแก๎ไขปญั หาการตงั้ ครรภท์ ่ี
ไมพํ ึงประสงค์ สถานการณ์ท่ีเสยี่ งตอํ การมเี พศสัมพนั ธ์ท่ีไมํพรอ๎ ม ผลกระทบและส่ิงแวดล๎อมเกีย่ วกบั
ครอบครวั
ตัวช้ีวัด
พ.1.1ม.3/1-8
พ.2.1ม.3/1-8
รวมทั้งหมด 16 ตัวชีว้ ัด
146
ชือ่ รายวิชา สุขศึกษา6 รหสั วิชา พ23103
คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษา อาหารท่ีเหมาะสมตามวยั หลกั การบริโภคทีถ่ ูกต๎อง ปจั จยั ที่มผี ลกระทบตอํ พฒั นาการ
ทางราํ งกาย สาเหตุการตายของคนไทยตํอปญั หาสาธารณสุขของประเทศ โรคติดตํอ โรคทีเ่ กิดจากการมี
เพศสมั พันธ์ โรคเอดส์ โรคไข๎หวดั นก การปอู งกันโรคตดิ ตํอ การแก๎ปญั หาโรคท่เี ป็นปัญหาสาธารณสขุ
ของประเทศ โรคที่ไมตํ ิดตํอ โรคหัวใจ โรคความดันโลหติ สูง เบาหวาน มะเรง็ ส่ิงแวดล๎อมทเี่ ปน็ ปัญหา
ในชุมชน ปัจจัยทีม่ ีอิทธติ ํอส่ิงแวดล๎อม การวางแผนการออกกาลงั กาย การพักผํอนและการสร๎างเสรมิ
สมรรถภาพทางกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ปจั จัยเสี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงตํอสขุ ภาพตํอสุขภาพ
แนวทางการปูองกนั ความเสีย่ งตํอสขุ ภาพ ปัญหาและผลกระทบจากการใช๎ความรุนแรง วิธีการหลีกเลยี่ ง
การใชค๎ วามรนุ แรง อทิ ธพิ ลของสอ่ื ตํอพฤติกรรมสขุ ภาพและความรุนแรง ปจั จัยเสีย่ งท่ีผลตอํ ความปลอด
ชนดิ ของปัจจยั เส่ียงที่กอํ ใหเ๎ กิดอบุ ัติเหตุ กฎหมายท่ีเกีย่ วข๎องกบั อบุ ัตเิ หตุ การชวํ ยใหฟ๎ ืน้ คืนชีพ วธิ ีการ
ชํวยการฟ้ืนคืนชพี
ตัวชีว้ ดั
พ.1.1ม.3/1-8
พ.2.1ม.3/1-8
รวมทง้ั หมด 16 ตัวช้วี ดั
147
ชื่อรายวิชา พลศึกษา1 (เทเบลิ เทนนสิ ) รหัสวิชา พ21102
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาเกย่ี วกับประวตั ิ คุณคํา สนาม อุปกรณ์ กฎ กติกา ทักษะเบือ้ งต๎น การเคล่ือนไหว วธิ กี าร
รกุ วิธีการปอู งกนั การรุก การปอู งกันการบาดเจบ็ และการปฐมพยาบาลเบื้องตน๎ การเสริมสรา๎ งความ
แขง็ แรงรํางกาย สรา๎ งความเร็ว ความคลอํ งแคลวํ วํองไว การสรา๎ งความสมั พนั ธใ์ นทมี การมีนา้ ใจ
นักกีฬา การแขํงขัน การตัดสิน กระบวนการทางานเป็นทีม การสรา๎ งเสริมลกั ษณะนสิ ัยในการออกกาลงั
กาย สงํ เสริมกีฬาตามความถนดั สามารถนาไปประยุกตใ์ ช๎ในชวี ิตประจาวัน
ตวั ช้ีวัด
พ 3.1 ม.1/8
พ 3.2 ม.1/8
พ 4.1 ม.1/8
รวมทั้งหมด 24 ตวั ช้ีวัด
148
ชื่อรายวิชา พลศกึ ษา2 (เซปักตะกร๎อ) รหสั วิชา พ21104
คาอธิบายรายวิชา
ศกึ ษาเกีย่ วกับประวัติ คุณคํา สนาม อปุ กรณ์ กฎ กติกา ทักษะเบอื้ งตน๎ การเคล่ือนไหว วิธีการ
รุก วธิ ีการปูองกนั การรุก การปอู งกนั การบาดเจบ็ และการปฐมพยาบาลเบื้องต๎น การเสริมสรา๎ งความ
แข็งแรงราํ งกาย สรา๎ งความเร็ว ความคลํองแคลํววํองไว การสรา๎ งความสัมพันธใ์ นทีม การมนี ้าใจ
นักกฬี า การแขํงขนั การตัดสิน กระบวนการทางานเป็นทีม การสร๎างเสริมลักษณะนสิ ยั ในการออกกาลัง
กาย สํงเสรมิ กีฬาตามความถนดั สามารถนาไปประยุกตใ์ ช๎ในชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชีว้ ดั
พ 3.1 ม.1/8
พ 3.2 ม.1/8
พ 4.1 ม.1/8
รวมทงั้ หมด 24 ตัวชว้ี ัด