เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 99 ท่ามกลางมหาสมุทรคําและความคิด ปาสน เราเขียนมาตั้งแตจำความได ตอนประถมเรากับเพื่อนๆ เขียนการตูนเปนตอนๆ ลงสมุดโนตของ โรงเรียนแลวเวียนกันอานในหอง เปนชุมนุมนักอานนักเขียนขนาดยอมที่ไมมี กรอบ ไมมีข้อจำกัด จินตนาการโลดแลนไปไดกวางไกล บรรดาเพื่อน นักอ านมักจะเดินวนเวียนมาที่โตะบาง ตะโกนถามจากหลังหองเรียนบาง วาเมื่อไหรตอนใหมจะมา เรื่องจะเปนยังไงตอกันนะ และไมวาจะเขียนอะไร ออกมา เพื่อนเหลานั้นก็ยังรออานอยูเสมอ คงเพราะบรรยากาศแบบนั้น สารพัดเรื่องราว ถอยคำ ภาพวาดจึงถ ายทอดออกไปบนแผ นกระดาษได อยางลื่นไหล แตหลังจากช่วงอายุนั้น การเขียนกลับเหมือนการลอยเทงเตงอยู กลางมหาสมุทรคำและความคิด เราอานมากขึ้น พบเจอเรื่องราวมากขึ้น คิด มากขึ้น แตกลับไมสามารถเขียนไดอยางใจคิด บางครั้งก็รูสึกวาหัวสมอง วางเปลาคิดอะไรไมออก บางครั้งก็ยึดติดกับความสมบูรณแบบมากเกินไป คำนั้นยังไมใช่ เรื่องแบบนี้ยังไมเข้าทีไมวาจะเรียงรอยคำอะไรออกมาก็ดู ขัดใจไปเสียหมด เราไมเคยพอใจกับงานเขียนของตัวเองเลย ถึงจะอยาก เขียนอะไรออกมาบาง แตก็เขียนออกมาไมได ปที่สองของโควิด พรอมกับชีวิตมหาลัยปที่สองหนาจอคอมพิวเตอร เรานั่งลงที่โตะ เปดหนาตาง ลำแสงสองลอดผานช่องมูลี่ตกกระทบลงบน หนาโตะ เรานั่งอยูที่ก้นมหาสมุทรของความคิด ค่อยๆ รอยเรียงถอยคำผาน
100 | นักเรียนเขียนเรื่อง แปนพิมพเพื่อสงจดหมายใหตัวเองในอนาคต เราเขียนปลอบใจตัวเอง โอบ กอดตัวเองล วงหนา และคิดว าถาหากยังเขียนจดหมายต อทายไดอีกสัก หนอย ก็อยากจะเขียนวาในที่สุด เราก็แหวกวายขึ้นมาเหนือมหาสมุทรแหง ความคิดไดแลว ในที่สุด เราก็เขียนไดอีกครั้งหลังจากวางเวนมานาน สวนสำคัญที่ช ่วยใหเราเขียนออกมาไดคือการไดพบกับชุมนุมนัก อานนักเขียนผานหองซูม ถึงจะไมเห็นหนาใครสักคน แตบรรยากาศการ พูดคุย ถกเถียงเกี่ยวกับสิ่งที่อาน พูดถึงสิ่งที่ตัวเองจะเขียน ลองเดาความคิด ของคนอื่นผานภาพ ทำใหมีความคิดละอันพันละนอยที่รวมกันจนกลายเปน วัตถุดิบสำหรับตอยอดเปนงานเขียน เราไดเข้าใจวา การอานไมไดมีเพียงแค่ อานตัวหนังสือเทานั้น แตเรายังสามารถอานภาพ อานสรรพสิ่งรอบตัว และ นำเอาความคิดมาตอยอดตอไปไดอีก นอกจากนี้การไดอานตัวบทหลากหลายแบบ ลองจับความรูสึก ตัวเองในขณะอานวาเปนอยางไรและฟงความคิดเห็นของคนอื่นหลังอาน ไม วาจะเห็นดวยกับสิ่งที่อานหรือไมชอบหรือไมชอบตัวบทอยางไร ก็ลวนทำให มุมมองต อตัวบทขยับขยายออกไปไดมากกว าเดิม เราจึงเรียนรูที ่จะจับ ความรูสึกตัวเองขณะสังเกตสิ่งตางๆ รอบตัวมากขึ้น ไมวาจะเปนตอนที่เดิน ผ านรานขายของชำ เห็นดอกไมบานข้างรั้ว ดูหนังซึ้งชวนรองไหฟงเพลงอก หัก อานการตูนที่ทำใหใจพองฟูคุยเรื่องตลกกับเพื่อนฝูง หรือแมกระทั่งมอง ออกไปนอกหนาตางเพื่อมองกิ่งก้านสาขาของตนไมไหวเอนไปตามแรงลม งานเขียนเรื่องสั้นของเราตอยอดมาจากการจับความรูสึกเหลานี้เอง เราหยิบจับบทสนทนาที่เคยคุยกับเพื่อนในวงปงยาง มารวมกับความอึดอัด คับข้องใจสวนตัวที่มีตอปญหาสังคม การเมือง การควานหาตัวตนในช่วง หัวเลี้ยวหัวตอของชีวิต เราพบว าสิ ่งเหลานั้นทำใหเรารูสึกมีพลัง มีหวัง ไปพรอมกับความหดหูและสิ้นหวัง คงเพราะเปนอารมณที่ซับซ้อน ทำใหเรา
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 101 ไมอาจถายทอดออกมาเปนตัวหนังสือไดดีเทาที่ควร แตอยางนอยงานชิ้นนี้ก็ เปรียบเสมือนบันทึกที่เก็บความรูสึกนึกคิดของเราเอาไว เทคนิคเล็กๆ นอยๆ เหลานี้ช ่วยทลายกำแพงที่ขวางกันการเขียน ของเราลงไปไดเวลาที่สมองวางเปลา เราก็จะมองออกไปนอกหนาตาง ลุก จากหนาคอมพิวเตอรแลวไปพูดคุยกับผูอื่น เวลาที่ยึดติดกับความสมบูรณ แบบก็จะเตือนตัวเองใหเขียนตอไป และทายที่สุด สิ่งที่เราไดนอกจากการ เขียน ก็คือการไดนำเอามวลความคิดที่ลองลอยสะเปะสะปะมารอยเรียง และทำใหเราไดเข้าใจตัวเองมากขึ้น ถาหากมีวันใดวันหนึ่งที่เราหลงลืมสิ่งเหลานี้หรือเปนในวันใดวัน หนึ่งที่เราจมหายไปอยูก้นบึ้งของมหาสมุทรแหงความคิดอีกครั้ง สิ่งที่เราเคย เขียน เคยสัมผัสในหองเรียนเขียนเรื่องในรายวิชาศิลปะการเขียนรอยแก้ว แหงนี้คงช่วยดึงตัวเราขึ้นมาเหนือผิวน้ำอีกครั้ง.
102 | นักเรียนเขียนเรื่อง “สวนสำคัญที่ช่วยใหเราเขียนออกมาได คือการไดพบกับชุมนุมนักอานนักเขียนผานหองซูม ถึงจะไมเห็นหนาใครสักคน แตบรรยากาศการพูดคุย ถกเถียงเกี่ยวกับสิ่งที่อาน พูดถึงสิ่งที่ตัวเองจะเขียน ลองเดาความคิดของคนอื่นผานภาพ ทำใหมีความคิดละอันพันละนอยที่รวมกันจนกลายเปนวัตถุดิบ สำหรับตอยอดเปนงานเขียน เราไดเข้าใจวา การอานไมไดมีเพียงแค่อานตัวหนังสือเทานั้น แตเรายังสามารถอานภาพ อานสรรพสิ่งรอบตัว และนำเอาความคิดมาตอยอดตอไปไดอีก” “ทามกลางมหาสมุทรคำและความคิด” ของ ปาสน
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 103 กวาจะเปน ท่ามกลางมหาสมุทรคําและความคิด หลังจากไดกรอบคราวๆ วาใหเขียนสะทอนความคิด ความรูสึก จากหองเรียนศิลปะการเขียนรอยแก้ว เราเลือกหยิบหวงเวลาขณะที่เรียน เขียนเรื่องสั้นและความเรียงออกมา เพราะระหวางที่เรียนหัวข้อนี้เราเริ่ม เขียนไดลื่นไหลขึ้น หลังจากที่เขียนอะไรก็ติดขัดอยูนานหลายปณ ขณะนั้น จึงสำคัญกับเรามาก ส วนการเปรียบเทียบการคิดเขียนเปนเหมือนการ ลอยคอในมหาสมุทร อิงมาจากความรูสึกสวนตัว ที่ระหวางเขียนเอาแตจม อยูกับความคิด พอเขียนเสร็จ ค่อยรูสึกวาหายใจเข้าปอดไดเต็มที่ นอกจากนี้ มหาสมุทรก็เปนธีมสำคัญในเรื่องสั้นที่เขียนสงในรายวิชาดวย ความเรียงเลย ออกมาในรูปแบบนี้. ปาสน ชอบอาน เขียน ถายภาพ และฟงเรื่องราวของผูคน
104 | นักเรียนเขียนเรื่อง
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 105 บีเดิลยอด(ไม่)กว ี Beedle(Not)the Bard ฉวนหลิน “สูงขึ้นไปบนภูเขาในสวนวิเศษที่ลอมรอบดวยกำแพงสูงและปกปองดวย เวทมนตรกลาแข็ง มีน้ำพุแหงโชคดีทีเดียวไหลรินอยู ครั้งเดียวในแตละป ในวันที่ยาวนานที่สุด ช่วงเวลาระหวางตะวันขึ้นจนตะวันตกดิน ผูโชครายคนหนึ่งจะไดรับโอกาสใหหาหนทางขึ้นไปถึงน้ำพุ จะไดสรงสนานอาบน้ำ และไดรับพรแหงความโชคดีทีเดียวไปตลอดกาล” (“น้ำพุแหงโชคดีทีเดียว,” ใน นิทานของบีเดิลยอดกวี) นานเทาไหรแลวที่เราไมไดพบกัน ผมเปดหนังสือปกสีฟาออนเลม เล็กๆ นิ้วทั้งหาลูบไลไปตามหนากระดาษเพื่อสัมผัสกับสัมผัสที่เคยสัมผัสใน อดีต อดีตอันเปนเวลาประมาณช ่วงปแรกของการศึกษาในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมกําลังสนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงวัยรุนตอนตน สิ่งที่ผมรักมากที่สุด คือการอานนิยายแฟนตาซีโดยเฉพาะอยางยิ่ง แฮรรี่ พอตเตอรนิยายโลก เวทมนตรที่เหลาพอมดแมมดขี่ไมกวาดไปมาอยางอิสระ ผมมั่นใจวาตัวเอง เปนแฟนตัวยงของแฟรนไชสเรื่องนี้ผมจำทุกตัวละคร ทุกเหตุการณ ทุกรายละเอียดปลีกยอย และทุกสิ่งละอันพันละนอย ความหลงใหลนี้ทำใหผมอ านนิยายในเครือ แฮรรี่ พอตเตอรทุก เลมจนครบ ไมเวนแมกระทั่งหนังสือในจักรวาลเดียวกัน อยาง สัตว มหัศจรรยและถิ่นที่อยู ควิชดิชในยุคตางๆ และ นิทานของบีเดิลยอดกวี
106 | นักเรียนเขียนเรื่อง โดยเฉพาะเลมสุดทายที่ผมค่อนข้างชอบเปนพิเศษ มันเปนหนังสือเลมบางๆ ปกสีฟาออน มีลายขดหนามลอมรอบตอไมบนหนาปก นิทานของบีเดิลยอดกวีเปนหนังสือรวมนิทานอมตะของ “บีเดิล” กวีแหงโลกเวทมนตรผูมีชีวิตอยูในช่วงศตวรรษที่สิบหา หนังสือประกอบดวย นิทานหาเรื่อง ไดแก่ “พ อมดกับหมอกระโดดได” “น้ำพุแหงโชคดีทีเดียว” “หัวใจขึ้นขนของผูวิเศษ” “แบบบิตตี้แร็บบิตตี้กับตอไมหัวเราะได” และ “นิทานสามพี่นอง” ในบรรดาทั้งหาเรื่องนี้เรื่องที่ผมโปรดปรานมากที่สุดคือ เรื่อง “น้ำพุแหงโชคดีทีเดียว” ที่ผมชอบเรื่องนี้เปนพิเศษก็เพราะมันเปน เรื่องราวการเดินทางของคนอับโชคสี่คนที่แสวงหาการหลุดพนจากน้ำพุวิเศษ ผมมั่นใจวาผมจำรายละเอียดของเรื่องนี้ไดอยางขึ้นใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง ความทรงจำของผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็หายไป วันนั้นเปนวันธรรมดาวันหนึ่ง ของปแรกในการเปนนิสิต มันเปนวันที่ผมไดพบกับ “เขา” เขาเปนรุนพี่ที่ คณะ เราทําความรูจักกัน เริ่มคุยกัน จากหนึ่งวันเปนสองวันและเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ดูเหมือนวา เราจะพัฒนาความสัมพันธไปสูการเปนคนรักไดเราไป ไหนมาไหนดวยกัน เจอกันทุกอาทิตยจนเวลาลวงผานไปประมาณสาม เดือน มันนานพอที่จะทำใหผมวาดฝนถึงอนาคตที่จะไดใช้ชีวิตรวมกันกับเขา แตแลววันหนึ่ง ขณะที่ผมไถหนาจอโทรศัพทดูคอนเทนตทางเฟซบุกอยูนั้น นาย X in relationship with นาย Y นิ้วของผมเลื่อนไปเห็นสเตตัสแสดงสถานะวาไมโสดแลวของคนคน หนึ่ง แนนอนวาการที่ใครสักคนคบกับใครอีกสักคนมันเปนเรื่องที่นายินดีถา เจ้าของสเตตัสไมใช่ “เขา” ผมเหมือนถูกสายฟาฟาดลงที่กลางหัวใจ ตัวเย็น รูสึกชา ทุกสิ่งทุกอยางนิ่งเงียบ ในหัวเริ่มมีคำถามตางๆ ผุดพรายเต็มไปหมด ผมทรุดตัวนั่งลงกับพื้น น้ำใสๆ เริ่มไหลออกจากตาทั้งสองข้าง เกิดอะไรขึ้น เขาที่คุยกับผมทุกวัน แตวันนี้กลับขึ้นสเตตัสคบกับคนอื่น ผมไมอาจ คาดคะเนที่ไปที่มาของสเตตัสนี้ผมไมมีแรงแมแตทักไปถามเขาวามันเกิด
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 107 อะไรขึ้น นับตั้งแตวันนั้นเปนตนมา ผมเปนเหมือนภาชนะวางเปลา เหมือน ขวดใสที่ลอยไปตามคลองน้ำเนาในกรุงเทพมหานคร ผมเริ่มตัดขาดจากโลก ภายนอก จากสิ่งตางๆ และสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมเลิกทำ คือผมเลิกอานนิยาย เรื่องสั้น เลิกฟงเพลงรัก เลิกดูหนัง ดูละคร ดูซีรีสรักๆ ใครๆ ผมอ อนแอ เกินกวาที่จะสัมผัสสิ่งเหลานี้ผมกลัววา ถาเปดอานนิยายขึ้นมาแลว จะไป เจอเรื่องราวของคู่รักที่สมหวัง ผมกลัววา ถาฟงเพลงรักแลวจะนึกถึงเขาอีก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เปนเวลารวมสามปมันนานพอที่จะทำใหผมลืมวา นิยายเปนอยางไร เรื่องสั้นเปนอยางไร เพลงรักเปนอยางไร จนกระทั่งวันนั้น มันเปนวันที่ผมไดรับโจทยจากรายวิชาศิลปะการเขียนรอยแก้วใหเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งโดยมีตัวเลือกใหสามทาง แนว contemporary แนวระทึกขวัญ สยองขวัญ หรือแนวไซไฟ ผมไมรีรอที่จะเลือกหมวดระทึกขวัญสยองขวัญ เพราะดูจะเปนสิ่งที่ผมไมตองแตะเรื่องความรักมากที่สุด ในรายวิชานี้ผมไดรับโจทยใหเขียนงานหลากหลายประเภท แตการ เขียนเรื่องสั้นเปนสิ่งที่ผมรูสึกทาทายและกลัวมากที่สุด ก่อนจะครบกำหนด วันสงหนึ่งสัปดาหผมนั่งจ้องหนาจอไอแพดอยางไรจุดหมาย พลางคิดวา “ผมจะเริ่มอยางไรดี” นับจากเหตุการณวันนั้น วันที่ผมเห็นสเตตัสของเขา วันที่ผมตัดขาดจากสื่อบันเทิงแทบทุกชนิด ผมก็แทบจำไมไดเลยวาเรื่องสั้น หนาตาเปนอยางไร นิยายเขียนแบบไหน ผมคิด คิด และคิด พลางเดินไปที่ หองสมุดแลวสุมหยิบนิยายมาหนึ่งเลมเพื่อทำความรูจักกับมัน เผื่อมันจะช่วย ใหผมเข้าใจการเขียนอะไรแนวๆ นี้ขึ้นมาบาง แตก็พบวามันไมไดช่วยอะไรผม เทาไหรนัก ผมเริ่มคิดไมออก สมองตัน จึงนั่งลงกับเก้าอี้แลวดำดิ่งสูความ เงียบ ในความเงียบนั้นผมหวนนึกถึงอดีตบางอยาง อดีตที่ผมเคยโปรดปราน การอานนิยายและเรื่องสั้นเปนที่สุด อดีตที่ผมใช้เวลาหนึ่งวันขลุกอยูกับ นิยายเรื่องตางๆ และแลว ชื่อ แฮรรี่ พอตเตอรก็ผุดขึ้นมาในหัวผม ชื่อนี้ทำ ใหผมนึกถึง นิทานของบีเดิลยอดกวีซึ่งเปนหนังสือเลมโปรดของ เฮอรไมโอนี่ มันเปนหนังสือรวมนิทานเรื่องสั้นๆ ผมคิดวาเรื่องนี้อาจจะพอ
108 | นักเรียนเขียนเรื่อง ใหผมเอามาเปนแบบในการเขียนเรื ่องสั้นได ผมเดินขึ้นไปที่ชั้นสี ่ของ หอสมุดกลาง ตรงไปที่ชั้นหนังสือหมวดนิทาน แลวหยิบหนังสือเลมเก่าที่ผม คุ้นเคยออกมา ผมเปดอานไปทีละหนาๆ จนถึงเรื่อง “น้ำพุแหงความโชคดี ทีเดียว” ผมจำไดทันทีวามันเปนเรื่องที ่ผมชอบมากที ่สุดในหนังสือเล มนี้ ชอบมากกวาเครื่องรางยมทูตที ่เปนแกนหลักของ แฮรรี่ พอตเตอรภาค สุดทายเสียอีก “น้ำพุแห งโชคดีทีเดียว” เปนเรื ่องราวที ่เล าถึงแม มดสามคนกับ อัศวินอีกหนึ่งคนที่ถูกเลือกใหเข้าไปในสวนวิเศษอันเปนที่ตั้งของน้ำพุแหง โชคดีทีเดียว แมมดคนแรกชื่อ แอชา เธอปวยดวยโรครายที่ไมมีผูบำบัดคนใด จะรักษาไดเธอหวังวาน้ำพุจะช่วยขับไลอาการทั้งหลายใหหมดสิ้นไป แมมด คนที่สองชื่อวา อัลเทดา เธอถูกพอมดชั่วรายขโมยบาน ทอง และไมกายสิทธิ์ ไป เธอหวังวาน้ำพุจะช่วยใหเธอรอดพนจากความยากจนและสภาวะไรพลัง อำนาจไดแมมดคนที่สามชื่อ อมตา เธอถูกชายที่เธอรักอยางดูดดื่มทอดทิ้ง เธอหวังวาน้ำพุจะช่วยปลดปลอยเธอจากทุกข์โศกได สวนอีกคนเปนอัศวิน หนุมตัวผอมกะหรองนามวา เซอรลักเลสสเขาหวังวาน้ำพุจะช ่วยใหเขามี ความโชคดีบางในชีวิต ทั้งสี่ถูกเลือกใหเข้าไปในสวนโดยบังเอิญ ทำใหตอง ตัดสินใจรวมกันวา ใครจะเปนเพียงผูเดียวที่ไดลงไปอาบน้ำพุแหงความโชคดี แตก่อนที่จะตัดสินใจ พวกเขาตองรีบเดินทางไปใหถึงน้ำพุก ่อนอาทิตยจะ ตกดิน ทั้งหมดจึงเรงฝเทาเดินขึ้นไปตามเชิงเขา ระหวางนั้นเอง ทั้งสี่ก็พบกับ หนอนยักษสีขาวตัวหนึ่งมาขวางทางไวมันเอยวาจาออกมาวา “ยื่นหลักฐานพิสูจนความทุกข์ทรมานของเจ้ามา” ทุกคนไมสนใจ พยายามจัดการกับหนอนตัวนี้แตก็ไมมีใครสังหาร มันไดเวลาผานไปนานแสนนาน แอชาที่หมดหวังก็เริ่มรองไหออกมา ทันใด นั้น หนอนยักษยื่นหนามาเหนือใบหนาของเธอแลวดื่มน้ำตาที่ไหลยอยจาก แก้มและหายลับลงไปในรูบนพื้นดิน ทั้งสี่ออกเดินทางตอ แตพอไตขึ้นเนิน
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 109 สูงชันไปไดเพียงครึ่งทาง ทั้งหมดก็ไดพบกับถอยคำที่สลักไวบนพื้นตรงหนา “ยื่นผลพวงแหงความเหนื่อยยากของเจ้ามา” ไมมีใครเข้าใจปริศนานี้ทุกคนตางเดินหนาตอ แตเดินเทาไหรก็วน กลับมาที่เดิม อัลเทดาไมยอมแพเธอเดินเร็วขึ้น แข็งขันกวาทุกๆ คน เธอ ชักชวนใหคนอื่นๆ ทำตาม แมจะไมไดคืบหนาขึ้นไปถึงบนเขาตองมนตรานี้ เลย ระหวางที่เดินอยูนั้น เธอปาดเหงื่อออกจากหนาผาก ทันทีที่หยาดเหงื่อ ตกลงบนพื้นดิน คำจารึกที่กีดกั้นหนทางก็หายวับไป ทั้งหมดพบวาสามารถ ไตขึ้นเขาไปไดอีกครั้ง ทั้งสี่รีบเดินหนาขึ้นสูยอดเขาเพื่อใหไปถึงน้ำพุอยาง รวดเร็วที่สุดเทาที่จะทำไดแตพวกเขาก็พบวา มีลำธารปดกั้นหนทางไวที่ ก้นลำธารมีก้อนหินเรียบที่มีคำจารึกสลักไววา “ยื่นสมบัติในอดีตของเจ้ามา” ทั้งสี่พยายามกระโดดข้ามลำธารแตไมมีใครทำไดพวกเขาจึงทรุด ตัวลงนั่ง คิดใครครวญถึงความหมายของคําจารึกบนก้อนหินนี้อมตาเปนคน แรกที่เข้าใจ เธอหยิบไมกายสิทธิ์ขึ้นมาลวงดึงความทรงจำจากใจ ทุกนาที แหงความสุขยามเมื่ออยูกับคู่รักผูทอดทิ้งเธอไป เธอปลอยมันลงในสายน้ำที่ ไหลเชี่ยว กระแสน้ำพัดพาความทรงจำไป และก้อนหินสำหรับเหยียบก็ผุด ขึ้นมาเปนแถวในที่สุด แมมดทั้งสามและอัศวินก็ข้ามลำธารไปถึงยอดเขาได นํ้าพุเปนประกายเลื่อมพรายอยูเบื้องหนา ถึงเวลาตองตัดสินใจแลววาใครจะ ไดอาบน้ำพุแตก่อนหนาที่พวกเขาจะตัดสินใจไดแอชาผูออนแอก็ลมลงบน พื้น เธอเหนื่อยออนจากการบุกบั ่นขึ้นมาจนถึงยอดเขาและจวนเจียนจะ สิ้นใจ ทันใดนั้น อัลเทดารีบเรงเก็บสมุนไพรที่เธอคิดวาจะใช้ไดผลผสมมันใน น้ำ ทำเปนยาแลวกรอกใสปากของแอชา ภายในชั่วพริบตาอาการโรครายแรง ทั้งหลายของเธอก็มลายหายไปจนหมดสิ้น เธอไมตองการน้ำพุวิเศษอีก ตอไป ซึ่งก็ไมตางจากอัลเทดา เธอกำลังวุนเก็บสมุนไพรอื่นๆ ใสผากันเปอน
110 | นักเรียนเขียนเรื่อง เพื่อจะนำไปรักษาผูคนแลกเปลี่ยนกับเงินทองที่เธอใฝฝน ฝ ายอมตาก็เช ่นกัน เธอไมตองการน้ำพุอีกแลวเพราะกระแสน้ำได พัดพาความเสียใจเรื่องคู่รักไปจากเธอจนหมดสิ้น เธอจึงใหเซอรลักเลสสไป อาบน้ำพุวิเศษแทนทุกคน เมื่อไดยินเช ่นนั้น อัศวินหนุมก็รีบเดินลงไปอาบ น้ำพุความรุงโรจนจนทั่วกาย เขาอาบไปไดสักพักก็ขึ้นมา อัศวินหนุมในเสื้อ เกราะขึ้นสนิมทรุดลงคุกเข่าแทบเทาอมตาซึ่งเปนหญิงผูใจดีและงดงามที่สุด เทาที่เขาเคยพบ เขาบอกรักและขอแตงงานกับเธอ อมตาเองก็ปติยินดีไมแพ กัน เธอตระหนักวาเธอไดพบชายที่มีค่าคู่ควร แลวแมมดทั้งสามและอัศวินก็ เดินคลองแขนลงจากเขามาพรอมกัน คนทั้งสี่มีชีวิตยืนยาวและผาสุกยิ่งนัก และไมมีคนใดเลยที่ลวงรูหรือคลางแคลงสงสัยในเรื่องที่วา น้ำในน้ำพุนั้น ไมไดมีมนตราศักดิ์สิทธิ์เลยแมแตหยดเดียว ผมอ านเรื่องราวจนจบและไปสะดุดกับตัวละครที่ชื่ออมตา เธอทำ ใหผมยอนคิดถึงชีวิตตัวเองที่ไมตางจากชีวิตของเธอมากนัก พวกเราตองทน ทุกข์ทรมานจากคนรักในอดีต อมตาแสวงหาน้ำพุวิเศษเพื่อหวังจะใหมัน ปลดปลอยเธอจากความทุกข์โศก เช่นเดียวกันกับผมที่ตองการปลดปลอย ตนเองจากความทุกข์ดวยการปฏิเสธการอ านนิยาย เรื่องสั้น หรือฟงสื่อที่ เกี่ยวข้องกับความรัก ในทายที่สุด อมตารูวาเธอไมสามารถหลีกหนีจาก ความทรงจําไดเธอยอมรับมันและลวงดึงเอาความทรงจำระหวางเธอกับคน รักเก ่าทิ้งลงไปในลำธาร เธอกลาหาญมากพอที่จะทำเช่นนั้น ไมเหมือนผม ที่ไมกลาเผชิญหนากับสิ่งใดเลย จนสถานการณบังคับใหผมตองเขียนเรื่องสั้น สงอาจารยเหตุการณนี้ทำใหผมตองกลับมาอานเพื่อเรียนรูแนวทางการ เขียนอีกครั้ง การกลับมาอานในครั้งนี้ไมเพียงเปนการหวนกลับสูอดีตของ ผม หากแตยังเปนการไดกลับมาทบทวนตัวเองตลอดระยะเวลาสามปที่ผม ไมฟงเพลงรัก ไมอานนิยาย ไมอานเรื่องสั้น ไมดูหนัง ไมดูละคร ช่วงเวลาอัน ยาวนานนี้ไดถูกทำใหพังทลายลงไป จากโจทยในคลาสที่ผมตองเขียนเรื่องสั้น
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 111 โจทยนี้กลายเปนสิ ่งที ่ทําใหผมตองออกไปเผชิญหนากับความจริงอยาง กลาหาญ กลาเผชิญกับความทรงจำรายๆ และปลอยมันทิ้งลงในลำธารแหง กาลเวลาที่ไหลผานไปอยางไมอาจหวนกลับ เพื่อสรางหัวใจดวงใหมที่ แข็งแกรงกวาเดิม. บรรณานุกรม โรวลิ่ง, เจ.เค. นิทานของบีเดิลยอดกวี. กรุงเทพฯ: นานมีบุคส, 2561.
112 | นักเรียนเขียนเรื่อง “การไดกลับมาทบทวนตัวเองตลอดระยะเวลาสามป ที่ผมไมฟงเพลงรัก ไมอานนิยาย ไมอานเรื่องสั้น ไมดูหนัง ไมดูละคร ช่วงเวลาอันยาวนานนี้ไดถูกทำใหพังทลายลงไป จากโจทยในคลาส ที่ผมตองเขียนเรื่องสั้น โจทยนี้กลายเปนสิ่งที่ทําใหผมตองออกไปเผชิญหนา กับความจริงอยางกลาหาญ กลาเผชิญกับความทรงจำรายๆ และปลอยมันทิ้งลงในลำธารแหงกาลเวลา ที่ไหลผานไปอยางไมอาจหวนกลับ เพื่อสรางหัวใจดวงใหมที่แข็งแกรงกวาเดิม” “บีเดิลยอด(ไม)กวี” ของ ฉวนหลิน
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 113 กวาจะเปน บีเดิลยอด(ไม่)กว ี งานชิ้นนี้กลั่นกรองมาจากความ suffer ที่ผูเขียนตองประสบ ระหวางการเขียนเรื่องสั้น สิ่งนี้ทำใหผูเขียนพยายามค้นหาตนตอของปญหา ที่เกิดขึ้นในการทำงานของตนเอง จนกระทั่งค้นพบกับปมบางอยางในอดีตที่ ทำใหผูเขียนตองตัดขาดกับสื่อบันเทิงทุกชนิดรวมไปถึงตัวบทประเภทนิยาย เรื่องสั้น การตัดขาดนี้นำไปสูภาวะไรซึ่งความสรางสรรค์จนทำใหเขียนงาน ไมไดผูเขียนจึงตองกลับไปทำความคุ้นเคยกับสื ่อบันเทิงอีกครั้งเพื่อให สามารถสรางสรรค์ผลงานไดครั้งนี้ผูเขียนไดกลับไปอานหนังสือเลมเก่าที่ เคยชอบ และพบวามันช่างตรงกับชีวิตของผูเขียนเหลือเกิน จึงนำเรื่องราวใน หนังสือเลมนั้นมารอยเรียงผนวกเข้ากับเหตุการณที่ไดพบเจอจนเกิดเปน ความเรียงชิ้นดังกลาว “บีเดิลยอด(ไม)กวี” มีที่มาจากคุณสมบัติของตัวผูเขียนที ่ไม เชี่ยวชาญนักในงานดานการประพันธ ทั้งการเขียนบทกวีหรือการแตงนิยาย เลยใช้คำวา “(ไม)กวี” เพื่อใหเกิดความคอนทราสตระหวาง “บีเดิลยอดกวี” บรมครูกวีแหงโลกเวทมนตร. ฉวนหลิน ชอบทองเที่ยวไปตามโบสถเก่า ปลอยใจและ ปลอยจอยกับศิลปะและโบราณวัตถุ
114 | นักเรียนเขียนเรื่อง
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 115 อยากไปสวนรถไฟ ฌอง ปแอร ผมมีโอกาสกลับมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองถึงสาเหตุที่ตัวเองยังปน จักรยานไมเปน แมอายุจะยาง 21 เข้าไปแลว แลวผมก็จำไดวามันเปน เพราะเรื่องในวันนั้น ณ สวนรถไฟ เมื่อสิบกวาปก่อน วันนั้น หลังจากที่ผมฝกปนจักรยานมาหลายวัน ในที่สุดผมก็กลา พอที่จะลองไปลงสนามจริงที่สวนรถไฟ ผมถีบบันไดจักรยานพาตัวเองไป ข้างหนา โดยมีพี่สาวช ่วยประคองอยูดานหลังเปนระยะๆ ทุกอย างเหมือน จะเปนไปไดดวยดีจนกระทั่งผมตกใจที่พี่สาวปลอยมือจนไมสามารถทรงตัว อยูได… ผมลมลงเข ่าถลอก แตผมกลับไมรูสึกเจ็บเลยสักนิด จริงๆ ผมไม รูสึกอะไรเลยดวยซ้ำ เพราะเสียงหัวเราะของเด็กผูชายสองคนที่ปนจักรยาน ผ านไปทำใหผัสสะทั้งหลายของผมดานชาไปหมด ผมลมเลิกการพยายาม ปนจักรยานตั้งแตวันนั้น และสัญญากับตัวเองวาจะไมมีวันกลับไปลมลงให ใครหัวเราะเยาะอีก และนั่นไมใช่ครั้งเดียวที่เสียงหัวเราะทำใหผมลมเลิกความพยายาม ...
116 | นักเรียนเขียนเรื่อง ผมจำไดดีวามือตัวเองสั่นขนาดไหนในวันที่ตองเปดงานของตัวเอง ใหเพื่อนรวมคลาสอ านเปนครั้งแรก ผมบอกทุกคนไปวา ที่เสียงผมสั่นเปนเพราะผมไมเคยใหใครอานงานมาก่อน แตความจริงไมไดเปนอยางนั้น… ตอนที่เรียนอยูประมาณ ป. ผมจะตอบคำถาม “โตขึ้นอยากเปน อะไร?” ของครูดวยความมั่นใจเสมอวา “อยากเปนนักเขียนครับ!” เพราะผม ในตอนนั้นรักการอานเปนชีวิตจิตใจ ในขณะที่เพื่อนผูชายไปเตะฟุตบอลกัน ตอนพักเที่ยง ผมและเพื่อนสองสามคนจะไปขลุกตัวกันอยูในหองสมุด จน ไดรับตำแหนงเปนยุวบรรณารักษของโรงเรียน ผมใช้เวลาวางหลังเลิกเรียน ในทุกๆ วันไปกับการอานนวนิยายรักหวานแหววและการพยายามเขียน นิยายสักเรื่องเปนของตัวเอง ทันทีที่นิยายเรื่องแรกของผมจบบริบูรณผมก็ปรินตมันออกมา เย็บ มันอยางตั้งใจดวยแม็กเย็บกระดาษ ใสสันรูดและปกใสอยางดีก่อนจะนำไป ใหเพื่อนคนหนึ่งอาน ดวยหวังวาจะไดรับคำชมกลับมา แตสิ่งที่ผมไดกลับมาคือสิ่งที่ผมเกลียดและกลัวที่สุดในโลก—เสียง หัวเราะ ตั้งแตวินาทีนั้น ผมสัญญากับตัวเองวา จะไมมีวันใหใครไดอานงาน ของผมอีก ... เวลาผ านไปเกือบสิบปผมไมแมแตคิดจะกลับไปเหยียบสวนรถไฟ อีก สวนเรื่องงานเขียน ผมยังคงขีดๆ เขียนๆ สรางงานอยูบางในบางโอกาส (เพราะคงเปนไปไมไดที่จะเรียนคณะอักษรฯ แลวจะไมเขียนงานเลย) แตผม ก็ไมเคยมั่นใจในงานของตัวเองเลยสักนิด และเพราะคำสัญญาที่ใหไวกับ ตัวเองในตอนนั้น ผมจึงไมเคยคิดจะเผยแพรหรือแบงปนงานเหลานั้นใหใคร
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 117 อานเลย จนกระทั่งผมไดมาเรียนวิชาศิลปะการเขียนรอยแก้ว คุณอาจกำลังสงสัยวาทำไมคนที่ไมมั่นใจในการเขียนของตัวเองเลย อยางผมถึงไดลงเรียนวิชาที่มีคำวา “ศิลปะการเขียน” อยูในชื่อวิชา ถาใหผม ตอบอยางตรงไปตรงมาที่สุด ก็คงตอบวา เปนเพราะตารางเวลาวันศุกรบาย มันวางอยูพอดีและเพราะวาเพื่อนในกลุมถึงสองคนก็ลงเรียนวิชานี้ดวย แต เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ เพราะผมไมไดคิดวาจะตองเผยแพรงานใหใครอาน นอกจากครูผมจึงกรอกรหัส 2201432 ลงไปในเว็บลงทะเบียนแบบงงๆ โดยที่ไมมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองเลยแมแตนอย คิดอย างเดียววา อยางนอยก็ไดเก็บหนวยกิตวิชาเอกใหครบไปอีกตัว 14 มกราคม 2565 คลาสวันแรกของวิชาเริ ่มตนขึ้น ผมนั ่งฟง คำอธิบายในประมวลรายวิชาแลวไดแตคิดวา “จะเรียนวิชานี้รอดไดยังไง?” และยิ่งเมื่อเจอเพื่อนรวมคลาสที่แตละคนเหมือนผานสมรภูมิการเขียนงาน มาอยางโชกโชนเหลือเกิน ก็ทำใหผมเริ่มคิดเปรียบเทียบคุณภาพงานของ ตัวเองกับคนอื ่นไปลวงหนา และทำใหผมลังเลวา จะไปต อหรือจะถอน รายวิชาใหสิ้นกังวลไปดี ผมใหโอกาสตัวเองครั้งสุดทายดวยการขอคำปรึกษาจากครูหลังจบ คลาสวันแรก คำพูดของครูที่บอกผมวางานเขียนของผมจากวิชาก่อนๆ ก็มี คุณภาพใช้ไดและบอกผมวาไมจำเปนตองเปรียบเทียบตัวเองกับใคร เพราะ วิชานี้ตัดเกรดอิงเกณฑ นั่นทำใหความมั่นใจของผมเพิ่มมากขึ้น—อาจจะ ไมไดมากนัก แตก็มากพอที่จะทำใหผมบอกกับตัวเองไดวา “ลองดูสักตั้งวะ!” ... เมื่อไดกลับมาเขียนงานอยางเปนจริงเปนจังอีกครั้ง โดยเฉพาะ เรื่องสั้นที่ผมไมไดเขียนมานานหลายป ผมก็เริ่มจำไดวาทำไมตัวเองตอน ป.5 ถึงอยากเปนนักเขียน การเขียนเรื่องสั้นเรื่องแรกในรอบสิบกวาปของผม
118 | นักเรียนเขียนเรื่อง เรื่อง “(ถูก)เลือก”—เรื่องราวของหญิงสาวกับการตระหนักรูถึงภาวะการเปน ผูเลือกของตนเอง ที่ตอยอดจากคำวา “ไดรับเลือก” ของเพื่อนในคลาส—ทำ ใหผมจดจำความสนุกของการจินตนาการถึงฉาก ตัวละคร บทสนทนา และ ความสุขของการไดเปนผูสรางสรรค์โลกแหงจินตนาการใหเปนรูปธรรมผาน ตัวอักษรไดอีกครั้ง แตกระนั้น ผมก็ยังไมมั่นใจในงานของตัวเองมากนัก ผม กดสงงานไปแบบไมไดหวังอะไร จนกระทั่งไดรับฟดแบ็กกลับมา “เปนงานท ี่ empowering มากชิ้นหนึ่ง อยากใหลองปรับแลวสงไป ลงนิตยสารที่ครูเคยโพสตในไลนดูจ้ะ” อาจจะดูเวอรไปหนอย แตผมในตอนนั้นแทบจะไมเชื่อสายตา ตัวเอง ผมไมเคยคิดฝนวางานของตัวเองจะดีพอที่จะสามารถสงประกวด เพื่อลงนิตยสารไดผมกลับมาอานงานของตัวเองดูอีกครั้ง แลวก็เริ่มมองเห็น ข้อดีของมันตามที่ครูใหฟดแบ็กกลับมา “…เลนกับความรับรูของผูอานไดดี” “การพรรณนาอยางละเอียดทำใหงานมีความนาสนใจ” ความมั่นใจของผมทวีคูณเพราะคำพูดเพียงสองสามประโยค…แต มันก็ยังไมมากพอที่จะทำใหผมกลาสงงานตัวเองไปใหคนอื่นอานอยูดี แตแลวจุดเปลี่ยนของทุกสิ่งก็เกิดขึ้นหลังจากที่ผมไดคำชมเปนครั้งที่ สอง ความเรียงเรื ่องแรกในคลาสของผม—“ในวันที ่จุดจบมาถึง”—ไดรับ คะแนนและคำชมที่นาพึงพอใจ ผมจึงเริ่มมั่นใจวางานของตัวเองคงมีคุณภาพ มากพอที่จะไมไดรับเสียงหัวเราะกลับมา และนั่นทำใหผมตัดสินใจลองสง เรื่องสั้นไปประกวดตามคำแนะนำของครู และหลายสัปดาหตอมา เรื่องสั้นของผมก็ไดรับเลือกใหตีพิมพใน นิตยสาร
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 119 ผมคงตัดสินใจถูกแลวจริงๆ ที่ไมถอนวิชานี้ไปก่อน เพราะเมื่อได “ลองดูสักตั้ง” ผมก็พบวาผลลัพธของการลองอาจจะไมไดแยอยางที่คิดไว เสมอไป เพราะนอกจากคำชมและความสำเร็จในงานหลายๆ ชิ้นแลว ใน คลาสที่เปนพื้นที่ปลอดภัย—หรือ หองแหงความลับ—แหงนี้ถางานไหนมี ข้อบกพรอง ผมก็จะไดรับทั้งคำแนะนำและกำลังใจกลับมาจากครูวิทยากร และเพื่อนๆ แตไมมีใครเลยที่ใหเสียงหัวเราะกลับมา ผมในวันนี้จึงรูแลววา อาจไมใช่ทุกคนบนโลกที่มองความพยายามของผมเปนเรื่องตลก 27 พฤษภาคม 2565 ผมเขียนงานชิ้นนี้ขึ้นมาดวยความมั่นใจที่ มากกวาผมในวันที่ 14 มกราคม 2565 หลายเทา ผมมั่นใจวา อยางนอยก็ จะไมมีใครหัวเราะหรือดูถูกความพยายามของผมแลว หรือจริงๆ แลว หาก ในอนาคตตอจากนี้มีใครหัวเราะผลงานหรือความพยายามของผมอีก ผมก็ จะรูแลววา คนพวกนั้น—คนแบบเพื่อนในชั้น ป.5 และคนแบบเด็กผูชายสอง คนนั้นที่ปนจักรยานผ านไป—เปนเพียงคนสวนนอยที่ไมควรค่าพอจะทำให ผมลมเลิกความพยายามในการจะทำอะไรก็ตามในชีวิต ... ขอบคุณตัวผมเองในวันนั้นที่ “ลองดูสักตั้ง” ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ ประคับประคองจิตใจกันดวยคำชื่นชมและกำลังใจเสมอมา ขอบคุณครูสำหรับคำแนะนำ กำลังใจ และคำวา “ขอบใจในความ ทุมเท” และขอบคุณคลาสศิลปะการเขียนรอยแก้วที่ทำใหผมกลากลับมาทำ สิ่งที่รักโดยไมกลัวเสียงหัวเราะอีกครั้ง ผมวา หลังจากเขียนงานนี้จบ ...ผมจะไปสวนรถไฟ.
120 | นักเรียนเขียนเรื่อง “เมื่อได‘ลองดูสักตั้ง’ ผมก็พบวา ผลลัพธของการลองอาจจะไมไดแยอยางที่คิดไวเสมอไป... ในคลาสที่เปนพื้นที่ปลอดภัย—หรือ หองแหงความลับ—แหงนี้ ถางานไหนมีข้อบกพรอง ผมก็จะไดรับทั้งคำแนะนำและกำลังใจกลับมา จากครูวิทยากร และเพื่อนๆ แตไมมีใครเลยที่ใหเสียงหัวเราะกลับมา ผมในวันนี้จึงรูแลววา อาจไมใช่ทุกคนบนโลก ที่มองความพยายามของผมเปนเรื่องตลก” “อยากไปสวนรถไฟ” ของ ฌอง ปแอร ----------------------------------------- หมายเหตุบรรณาธิการ 1. เรื ่องสั้นเรื่อง “(ถูก)เลือก” ของผูเขียน ไดรับการตีพิมพครั้งแรกใน นิตยสารเพื่อเยาวชน ขอนแก่น (Khon Kaen Youth Magazine) ฉบับที่ 35 เดือนมิถุนายน 2565 ผูสนใจสามารถ อานนิตยสารฉบับ free copy ไดที่ https://online.anyflip.com/levtk/pvzl/ 2. ความเรียงเรื่อง “ในวันที่จุดจบมาถึง” ของผูเขียน ตอมา ไดตีพิมพในรวมความเรียงชุด ในวันที่ 17 ของทุกเดือน ไมปรากฏป(2565) จัดพิมพและเผยแพรในนาม อาน-คิด-เขียน -- พื้นที ่สำหรับการเผยแพรผลงานสรางสรรค์ของนักเรียน(ฝกหัด)สรางเรื ่องจากจุฬาฯ ผูสนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดไดทาง LINE Official Account @readthinkwrite 2559 หรือ อานหนังสือไดทางแอปพลิเคชัน Meb
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 121 กวาจะเปน อยากไปสวนรถไฟ เมื่อไดรับคำถามตั้งตนของความเรียงเรื่องนี้วา “ตั้งแตเริ่มจนปด คอรสไดเรียนรูอะไรที่สำคัญในการใช้ชีวิตบาง?” ผมก็เลยลองยอนกลับไป มองตัวเองเมื่อเริ่มคอรส และไดพบวาตัวเองในตอนนั้น มีความมั่นใจใน ผลงานที่เขียนเข้าใกลศูนยซึ่งค่อนข้างตางจากผมในวันนี้ที่กำลังจะเผยแพร ผลงานชิ้นสุดทายในรายวิชาสูสายตาสาธารณชน เมื่อถามตัวเองถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ผมก็ไดคำตอบ วา อาจจะเปนเพราะรายวิชานี้สอนใหผมรูวา “อาจไมใช่ทุกคนบนโลกที่มอง ความพยายามของผมเปนเรื่องตลก” และบางครั้งเราอาจจะตองมองข้าม เสียงหัวเราะของบางคน เพื่อใหเรากลาจะทำในสิ่งที่รักตอไป สิ่งที่ผมไดเรียนรูนี้เองที่จุดประกายความคิดวา ยังมีอีกหลายสิ่ง— หนึ่งในนั้นคือการปนจักรยาน—ที่ผมลมเลิกไปเพราะเสียงหัวเราะ และคงถึง เวลาแลวที่ผมจะกลับไป “ลองดูสักตั้ง” อีกครั้ง ดวยแนวคิดแบบนี้จึงเกิด เปน “อยากไปสวนรถไฟ” ขึ้นมา. ฌอง ปแอร นิสิตเอกไทย ผูเสพติดกาแฟ การซื้อนิยาย(มาดอง) และภาพยนตรแฟนตาซี
122 | นักเรียนเขียนเรื่อง
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 123 พื้นที่ของตัวอักษร เร ื่องราว และนัก(เร ียน)เขียนเร ื่อง ปรดา มองทองฟาผานกระจกหนาตางใสอยูนาน ราวกับวาจะมีเรื่องราว ทะลุผานเมฆสีขาวบนฟาสีสดใสในวันแดดจ้า พลางครุนคิดถึงเรื่องที่จะเขียน แลวกลับมาเคาะแปนพิมพฉันพิมพแลวลบ พิมพแลวลบ วนอยูอยางนั้น ความโลงเปลามักผุดขึ้นในสมองพรอมความตื่นเตนเล็กๆ ในใจ ทุกครั้งที่ การเดินทางของเรื่องราวใหมในแบบฉบับของฉัน ฉบับของ “นัก(เรียน)เขียน เรื่อง” ไดเริ่มตนขึ้น การเดินทางของเรื่องเลาและชีวิตอาจเหมือนวงกลมสองวงที ่ทับ ซ้อนกันบางสวน ก่อนออกเดินทาง เริ่มออกเดินทาง ระหวางการเดินทาง และถึงจุดหมายปลายทาง การเขียนมีความสามารถพิเศษที่พาผูคนทองไป ในเรื่องราวเหลานั้นไดแมมิไดไปเยือนสถานที่จริง จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง อาจเปนสถานที ่ที่คุ้นเคย ผานตา หรือไมรูจัก นำพาไปพบผูคนและ ประสบการณดวยหัวใจที่กำลังตื่นเตนกับเรื่องราวที่ไมมีทางรูวามีสิ่งใดรออยู ก่อนออกเดินทาง สำหรับบางคน ขั้นตอนก่อนเริ่มออกเดินทางดูเหมือนไมจำเปนตอง ใช้เวลามากนัก เพียงจัดเสื้อผาใสกระเปาก็พรอมเดินทาง แตสำหรับฉัน ช ่วงเวลานี้กลับเปนขั้นตอนที่ค่อนข้างใช้เวลามาก โดยเฉพาะการหาข้อมูล สำหรับสถานที่ที่จะไปเยือน ที่พัก และวิธีการเดินทาง การเตรียมตัวรับมือ
124 | นักเรียนเขียนเรื่อง กับเหตุฉุกเฉินที่ไมไดคาดการณไวรวมถึงเตรียมแผนสำรอง หากสถานที่ ทองเที่ยวนั้นปดหรือหยุดกะทันหัน เหลานี้ลวนเปนขั้นตอนที่สำคัญอยางยิ่ง เพราะสงผลตอความคลองตัวในการเดินทางครั้งนั้นๆ โดยเฉพาะอยางยิ่ง การเตรียมตัวไปยังสถานที่ที่ไมคุ้นเคย ไมวาจะเปนสภาพอากาศ อาหารการ กิน เมือง และผูคน การเขียนก็เช่นกัน บางทีอาจใช้เวลาในช่วงนี้มากกวาตอนที่เตรียม ตัวก่อนออกเดินทางเสียดวยซ้ำ ก ่อนเริ ่มเขียนเปนขั้นตอนที่ฉันใช้เวลา ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีไอเดียนอยจึงทำใหตองทำการบานเยอะก่อนลงมือ เขียนจริง ตางจากคนที่มีภาพเรื่องราวในหัวสมบูรณอยูแลว อันที่จริง หาก สังเกตรายละเอียดเล็กนอยในแตละวัน ไอเดียเปนสิ่งที่หาไดรอบตัว การ อ านเปนวิธีหนึ่งที่ฉันใช้ทั้งหนังสือ บทสัมภาษณเนื้อเพลง แคปชัน อาน โดยพิจารณาคำที่ผูเขียนเลือกใช้เพื่อสื่อความหมาย คำอมความ สั้นกระชับ แตถ ายทอดความหมายไดครบถวน คำที่มีสัมผัสอักษร เหลานี้เปนคำที่ฉัน ชอบ อีกวิธีคือการจด ฉันเลือกจดคำที่ชอบและถูกใจใหเยอะที่สุดเทาที่จะ ทำไดสะสมไวเปนคลังแลวเลือกหยิบมาใช้ในการเขียนเรื่องแตละครั้ง ไอเดีย ที่ผุดขึ้นระหวางวันในอากาศ ระหวางอาบน้ำหรือตอนกินข้าว เหลานี้ก็ช่วย เพิ่มมิติใหเรื่องราวไดบางครั้งฉันในฐานะผูเขียนเรื่องก็เกิดความงุนงง มี ช ่วงเวลาที่ตองตบตีกับตัวเอง เอาหัวโขกกำแพง(ในเชิงอุปมา)เพราะเรื่องที่ จะเขียนอยูบาง ดวยเหตุนี้สิ่งสำคัญอีกอย างสำหรับฉันก็คือ การใหพื้นที่ ตัวเองไดคุยกับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องที่เขียน ไดลองทำความเข้าใจผูอาน คิดถึง ใจความสำคัญที่อยากถายทอดใหผูอ านตกตะกอนภายหลังเรื่องราวจบลง ลองใช้หัวใจสัมผัสพื้นที่ที่เสียงของฉันสะทอนไปมา เพื่อดิ่งสูหวงความคิด ข้างในอยางลึกซึ้ง และลองมองมุมกลับสลับบทบาท วาหากแทนตนเองเปน ผูอานแลว เราตองการอารมณความรูสึกแบบไหนในงานเขียน พื้นที่และ เวลาที่มากพอในการพูดคุยกับตัวเองนี้จะทำใหเราสามารถเดินทางผ าน
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 125 ความคิดของตัวเองออกไปหาความคิดของผูอื่น หรือผานมุมมองของผูอื่น เข้ามาหาตัวเอง และสามารถนำสิ่งที่ไดออกมาถายทอดในหลากหลายมิติ เร่มิออกเดินทาง การเริ่มตนเรียบเรียงคำใหเปนเรื่องราวที่สมบูรณยากง ่ายตางกัน ขึ้นอยู กับหลายปจจัย คลายการเริ ่มตนเดินทาง หากสถานที ่ที ่จะไปมี สนามบิน ขนสงสาธารณะที่เข้าถึงง่าย การเริ่มตนนี้ก็ช่างง่ายดาย ทวาหาก เปลี่ยนจุดหมายเปนยอดเขาสักยอด ตองเดินปาขึ้นไปบนทางสูงชัน อีกทั้งยัง มีก้อนหินเล็กใหญเปนอุปสรรคตลอดทาง การเดินทางนั้นย อมลำบากกวา เปนเทาตัว กวาที่จะสามารถปนขึ้นไปชื่นชมดวงดาวที่รอคอยอยูบนยอดเขา นั้นไดการเดินทางของเรื่องเลาก็ไมตางกันเทาใดนัก หากเรื่องราวไหนที่ฉัน ไดเผชิญดวยตนเองหรือมีประสบการณรวม ก็มักจะเริ่มเขียนไดอยางเปนขั้น เปนตอน เพราะสามารถเห็นลำดับภาพของเรื่องราวจึงทำใหถายทอดไดไม ยาก บางครั้งความอึดอัด ความคับข้องในใจก็เปนแรงผลักดันที่ดีในการเขียน การเขียนจึงเปนการระบายความขุ่นข้องในทางหนึ่ง การเขียนอาจเกิดขึ้น จากความสงสัยในเรื่องสามัญทั่วไปของชีวิตมนุษย ความกลัว ความตาย ความงาม ความดีจึงเกิดการสรางพื้นที่บนหนากระดาษใหผูคนไดตั้งคำถาม และถกเถียงกันผานเรื่องราวนั้น แนนอนวา มิใช่ทุกวันที่ฉันจะอยากเขียน สำหรับฉัน อารมณก็เปน ตัวแปรสำคัญในการเริ ่มเขียนงาน โดยเฉพาะงานเขียนที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง ตองการเวลา และการดำดิ่งในเรื่องราวซึ่งตองใช้ใจในการเขียนเปนพิเศษ แต สุดทาย เดดไลนก็จะปลุกไฟในการเขียนเอง หากรอเวลาใหมีอารมณเขียน คงไมทันการ ดังนั้น ตอใหแรงใจจะเฉื่อยชาเพียงใดก็สามารถคั้นและเค้น งานเขียนนั้นไดภายในกำหนด
126 | นักเรียนเขียนเรื่อง ระหว่างการเดินทาง ทุกการเดินทางสูจุดหมายเปนสิ่งสำคัญ แตเสนทางระหวางนั้นก็ สำคัญไมแพกัน การเก็บเกี่ยวเรื่องราวที่พบ ผูคนที่ผานเข้ามาและจากไป ระหวางการเดินทาง ช่วยทำใหเรื่องราวพิเศษมากขึ้น แมวาระหวางทางอาจ พลัดหลง อานแผนที่ผิด แตความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็อาจพาเราใหไปพบ สถานที่แหงใหมที่สวยงามยิ่งกวา บางครั้งการเดินออกนอกเสนทางที่วางไว ก็ช่วยทำใหรูสึกตื่นเตนและทาทาย เปนการเดินทางที่ไมราบเรียบจนเกินไป นอกจากนี้การพักเติมพลังก่อนออกเดินทางต อก็อาจทำใหสามารถยืด ระยะเวลาการเดินทางไดนานขึ้น จึงมิใช่เปนการเสียเวลา กลับกัน กลับทำ ใหการเดินทางนั้นมีประสิทธิภาพ เพราะนักเดินทางไดมีเวลาในการดื่มด่ำ บรรยากาศสถานที่ตางๆ ที่พบเห็น ไดมีเวลาทบทวนการเดินทางตั้งแตตน จึงนับวาคุ้มค่า เช่นเดียวกับงานเขียน รายละเอียดของเนื้อหาเปนสิ่งสำคัญระหวาง การดำเนินเรื่อง ทั้งบรรยากาศ แสง อุณหภูมิอารมณสถานการณอุปสรรค ที ่ตัวละครไดพบเจอ และอื่นๆ รายละเอียดเหล านี้มิใช ่สิ ่งเล็กนอยแตมี ความสำคัญในฐานะเครื่องมือที่ทำหนาที่สรางประสบการณที่แตกตางของ เรื่องราว แมมีโครงเรื่องเหมือนกันก็ตาม นอกจากนี้บางครั้งความไมเปน ระเบียบในงานเขียนก็อาจเปนเรื่องดีเพราะทำใหตัวละครใกลเคียงกับ มนุษยมากขึ้น อันที่จริง ชีวิตของมนุษยก็ไมไดเรียบง่ายดั่งใจนึกทุกวัน บาง วันไดกินอาหารอรอย บางวันอาหารก็จืดชืดไมถูกปาก บางวันไดรับคำชม บางวันโดนตำหนิบางวันอากาศดีบางวันเจอพายุ บางวันทำของหาย บาง วันสูญเสียคนที่รัก ชีวิตมนุษยตางพบเรื่องไมคาดคิดในทุกๆ วันที่ดำเนินไป ฉันเห็นวา บางครั้งความสะอาดเรียบรอยอาจสื่อสารอารมณไดไม ดีเทา ความยุงเหยิงที่ช่วยมาเติมเต็มงานเขียนใหมีมิติและมีชีวิตมากขึ้น
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 127 อยางไรก็ตาม การหยุดพักจากเรื่องราวในหัวก็เปนสิ่งจำเปน พัก เพื่อไดกลับมายอนมองอีกครั้ง พักเพื่อฟงเรื่องราวของผูอื่นบาง เผื่อจะทำให ไดเห็นมุมมองที่ตางออกไป เพราะบางครั้ง ตอนจบหรือจุดหมายปลายทาง อาจไมใช่สิ่งที่ผูอานประทับจิตหรือจำไดขึ้นใจที่สุด หากแตเปนเรื่องราว ระหวางทางของการเดินทางนั้น ถึงจุดหมายปลายทาง หลังจากออกเดินบนเสนทางก็มาถึงสถานที่ซึ่งเปนเปาหมายที่นัก เดินทางแสวงหา ความรูสึกภูมิใจที่ไดบรรลุเปาหมายเกิดขึ้น ความเหนื่อย ระหวางทางหายไปราวไมเคยปรากฏ ณ ปลายทางแหงนั้น นักเดินทางแตละ คนอาจรูสึกตางกันออกไปเมื่อพบสถานที่จริง อาจพอใจที่ไดชื่นชมความ สวยงามดังที่เห็นในภาพถาย หรืออาจไมพอใจอยางที่ไดหวังไวบางคนอาจ เคยไปสถานที่ที่สวยกวาจึงมองวาธรรมดา ผลลัพธของการเดินทางนั้นขึ้นอยู กับมุมมองและประสบการณของนักเดินทางแตละคน จุดหมายปลายทาง เหลานั้นถูกใหคะแนนตางกันไป เมื่อเรื่องราวไดรับการเผยแพรถึงมือนักอาน ผูเขียนจะไดรับแรงปะทะ ไดรับความคิดเห็นตองานอยางหลากหลาย อาจมี ทั้งผูชื ่นชอบผลงานและไมถูกใจ เพราะนักอานแตละคนก็มีมุมมองและ ประสบการณชีวิตที่ตางกัน ซึ่งสงผลตอการตีความเรื่องราวที่ไมเหมือนกัน เปนเรื่องนายินดีที่การทำความเข้าใจงานเขียนไมจำเปนตองสรุปไดในหนึ่ง ประโยค ไมจำเปนที่ผูอานทุกคนจะตองไดข้อคิดเหมือนกันดังบทสรุปใน นิทานสอนใจ บางเรื่องราวอาจสื่อใจความอยางตรงตัว แตคนอานตีความได หลากหลายลึกซึ้ง ซึ่งมิใช่เรื่องผิดแตอยางใด การเผชิญหนาระหวางผลงานและนักอ านทำใหฉันในฐานะผูรอย เรียงเรื่องราวไดเห็นมุมมองที่ตางออกไป ไดแลกเปลี่ยนความเห็นผ านการ วิจารณเหลานั้น อาจคลายกับการเดินทางที่ตางกันระหวางการเดินทางคน
128 | นักเรียนเขียนเรื่อง เดียวกับการเดินทางไปกับเพื่อน ในฐานะผูเขียน ฉันเปนคนเดียวที่ทำหนาที่ จัดการเรื่องราว ตัดสินใจเลือกใหตัวละครมีจุดจบอย างไรใหสมเหตุสมผล ในมุมของฉัน คลายการเดินทางคนเดียวที ่ทาทายใหตัวเองไดลงมือทำ ตัดสินใจ วางแผนทุกอยางดวยตนเองวาจะเลือกเดินไปทางไหน และเลือก จะไปเจอกับอะไรบนเสนทางข้างหนา กลับกัน การเดินทางที่มีเพื่อนรวม ทางทำใหมีผูคนที่คอยแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องราวเดียวกันระหวางทางที่ เหมือนหรือตางออกไป มีผูคนที่มาช่วยเสนอวามีทางอื่นใดอีก นอกจากทาง ที ่ตัวฉันเลือกเพื่อเดินไปยังจุดหมายแห งนั้น สุดทายแลว ผลตอบรับจะ เปนไปดังหวัง หรือตรงข้ามกับสิ่งที่คิดไวในตอนแรก ในฐานะผูเขียนก็ตอง ทำความเข้าใจและไมยึดติด เรียนรูที่จะปลอยวาง ไมปลอยใหตัวเลข จำนวน ความคิดเห็น ยอดแชรที่ปรากฏบนหนาจอ ทำใหรูสึกไมดีกับงานเขียนของ ตัวเอง สิ่งสำคัญกวาตัวเลขเหลานั้น คือการตระหนักถึงความพยายามที่จะ ใช้ประสบการณที ่ไดจากการถายทอดเรื ่องราวเหล านั้นตางหาก เพราะ ความสำเร็จใดๆ ก็ตาม มิไดวัดดวยผลลัพธและไมบรรทัดเดียวกันเสมอไป ขีดจํากัดในการเดินทาง ในโลกความจริง ใช ่วาทุกคนจะสามารถเดินทางไปที่แหงหนใดบน โลกนี้ไดตามใจหวัง บางคนอาจมีเงื่อนไขที่ตางกันออกไป ไมวาจะเปนดาน การเงิน เวลา หรือสุขภาพ แมปรารถนาจะออกไปเผชิญโลกใหม อัน กวางขวางก็ไมอาจทำได ในโลกของงานเขียนก็ใช่วาทุกเรื่องราวจะไดรับ การถายทอด บางครั้ง ฉันในฐานะผูเขียนก็ปรารถนาจะโบยบินไปใหไกล ไป อีกฝงของโลก ตองการสรางความแตกตางโดยเปดฝากลองออกมา ดำดิ่งไป ในจินตนาการ
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 129 ทวาทายที่สุด แมวางานเขียนรอยแก้วจะใหอิสระในการเขียน มากกวา ไมมีแบบแผนเปนฉันทลักษณแบบรอยกรองที่กำหนดไวชัดเจน แต ในโลกของการทำงาน โดยเฉพาะอยางยิ่งงานเขียนเพื่อการตลาด บางทีเราก็ อาจตองยอมลดตัวตนและความคิดสรางสรรค์ลงเพื่อเขียนตามโจทยที่ลูกค้า ปรารถนาใหเปน หรือในโลกของการทำงานหนังสือ ที่มีตลาดของนักอาน และอัตลักษณของสำนักพิมพกำกับอยู ก็มีปจจัยหลายอยางนอกจากเรื่อง คุณภาพงานที่ทำใหตนฉบับของเราไมไดรับคัดเลือกอยูดี เสนทางการเดินทางของงานเขียนเหลานี้เปนเพียงมุมมองหนึ่งจาก ประสบการณอันนอยนิดที่ฉันไดลองทำงานในฐานะนัก(เรียน)เขียนเรื่อง เทานั้น มิไดเปนมาตรฐานหรือมีเจตนาสอนผูใดวา การเขียนตองเปนไปตาม นี้เพราะมนุษยตางมีเสนทางของชีวิตตนเอง หวังวาในหวงเวลาหนึ่ง เราจะสามารถสรางพื้นที่ของตัวอักษรสำหรับ เรื่องราวในแบบของเราไดในที่สุด.
130 | นักเรียนเขียนเรื่อง “การเดินทางของเรื่องเลาและชีวิตอาจเหมือนวงกลมสองวง ที่ทับซ้อนกันบางสวน…การเขียนมีความสามารถพิเศษที่พาผูคนทองไปใน เรื่องราวเหลานั้นไดแมมิไดไปเยือนสถานที่จริง จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง อาจเปนสถานที่ที่คุ้นเคย ผานตา หรือไมรูจัก นำพาไปพบผูคน ประสบการณดวยหัวใจที่กำลังตื่นเตนกับเรื่องราว ที่ไมมีทางรูวามีสิ่งใดรออยู” “พื้นที่ของตัวอักษร เรื่องราว และนัก(เรียน)เขียนเรื่อง” ของ ปรดา
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 131 กวาจะเปน พื้นที่ของตัวอักษร เร ื่องราว และนัก(เร ียน)เขียนเร ื่อง ในตอนที่เริ่มเขียนงานชิ้นนี้จินตนาการไมออกเลยวาจะเขียน ออกมาอยางไรดี(ซึ่งก็เปนเหมือนทุกครั้งที่เริ่มตนเขียนงานในครั้งที่ผานๆ มา) เพราะหัวข้อ “สะทอนคิด (Reflection) จากการเรียนและการทำงานที่ ผานมา” ค่อนข้างกวางจนทำใหไอเดียกระจัดกระจาย จึงรวบรวมฟดแบ็ค จากแตละงานแลวนั่งทบทวนความรูสึกของตนเองที่มีตอผลงานที่ผ านมา ทั้งที่เปนความรูสึกก่อนและหลังเขียนงาน งานแตละชิ้นสอนอะไรเราบาง ใน ฐานะผูเขียน เราใช้วิธีการใดบางในการจัดการกับเรื่องราว จากนั้นจึงเริ่มคิด วา จะทำอยางไรใหงานชิ้นนี้มีศิลปะ มิใช่การสรุปอยางตรงไปตรงมา จนเกินไป การเปรียบเปรยเปนอีกวิธีที ่ผุดขึ้นมา เราจึงคิดตอไปวา จะ สามารถเทียบกับสิ่งใดไดบาง ลักษณะของงานเขียน วิธีการ ทับซ้อนกับสิ่ง ใดบาง เราเห็นวา การเดินทางเปนตัวเลือกที่ดีและอธิบายใหผูอานเห็นภาพ ไดไมยาก ในที่สุดจึงเขียนออกมาในคอนเซปตการเดินทางของงานเขียนใน ฉบับของนัก(เรียน)เขียนเรื่องที่เพิ่งเริ่มฝกเขียนงานแบบตางๆ ในคลาสนี้. ปรดา สนใจความหลากหลาย ผูคน เฉดสีทองฟา อุณหภูมิระหวางวัน ไอศกรีมรสมินต และเพลงฮิปฮอป
132 | นักเรียนเขียนเรื่อง
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 133 III. เรื่องสั้น ที่กลั่นจากประสบการณณ ขณะเขียน จนเปนเรื่อง (FICTION)
134 | นักเรียนเขียนเรื่อง
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 135 A Little Bit Esther -- “ถาพรอมแลวบอกไดเลยนะคะ” เมื่อเห็นวาคนตรงหนาพยักหนารับ หญิงสาวผูดำเนินรายการก็ นำเข้าบทสนทนาในช่วงที่สองทันที “สวัสดีค่ะ สำหรับช่วงนี้ก็จะเปนช่วงที่สองของการสัมภาษณคุณทิม เจ้าของสเตจเนม ‘เต’ นักแตงเพลงที่กำลังมาแรงในขณะนี้นะคะ ขอถามตอ จากที่เราคุยกันไปเมื่อสักครูนี้อยากใหคุณเตช่วยเลาวาทำไมคุณถึงไดมาเริ่ม ทำงานทางดานนี้จุดเริ่มตนเปนยังไงเหรอคะ” “จริงๆ มันไมมีอะไรเลยครับ แค่เพราะชอบฟงเพลง ผมก็เลยรูสึก อยากจะทำเพลงบางครับ” เขาตอบพลางหัวเราะ “ตอนแรกๆ ไมไดคิดวาจะ มาทำเปนอาชีพหรอกครับเพราะกระแสตอบรับมันแยมาก อันที่จริงถาพูดให ถูก ตองบอกวาไมมีฟดแบ็กเลยมากกวา ไมมีใครรูจักผม ก็เลยไมมีใครฟง เพลงผมเลย เพราะแบบนั้นเลยคิดจะเลิกทำไปหลายครั้งเหมือนกันครับ” หญิงสาวพยักหนารับพลางสงยิ้มให “ถาอยางนั้นขอถามไดไหมคะวา มีช่วงไหนที่เปนจุดเปลี่ยนที่ทำให คุณเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา” เขาใช้เวลาครุนคิดอยูครูหนึ่งแลวเอยปากตอบไปวา
136 | นักเรียนเขียนเรื่อง “เทาที่ผมจำไดมันนาจะเปนช่วงที่...” ... เขาไมแนใจนักวาวันนั้นคือวันที่เทาไหรจำไมไดกระทั่งวามันเปน ช ่วงเดือนไหนหรือปอะไร สิ่งเดียวที่เขาจำไดแมนยำคือมันเปนวันที่ทองฟา ปลอดโปรง พระอาทิตยทอแสงเจิดจ้า และเปนวันที่ลมสงบในรอบหลาย สัปดาหเขารูสึกพึงพอใจสภาพอากาศในวันนี้เพราะมันช่างเหมาะกับสิ่งที่ เขาหมายมั่นวาจะทำในวันนี้เหลือเกิน หลังจากตัดสินใจวาถึงเวลาที่เขาควรจะทำภารกิจของตนใหเสร็จ สักทีเขาจึงเดินตรงไปที่หองนอนของตัวเอง หยิบเอาหนังสือเลมหนาที่ หนาปกของมันเปอยย นเสียจนแทบจะขาดออกจากตัวเลมขึ้นมาเปดไปที่ หนากระดาษหนาหนึ ่งที ่เขาพับมุมเอาไวเขาอานเนื้อความที่ปรากฏบน หนากระดาษออกมาเบาๆ ราวกับกำลังพึมพำอะไรบางอยางกับตัวเอง และ หลังจากที่อานจนจบยอหนา เขาก็วางหนังสือเลมนั้นทิ้งไวบนเตียงแลวรีบ เดินลงไปยังชั้นลางของบานในสวนที่เปนหองนั่งเลน ก่อนจะหลุดยิ้มเมื่อเห็น วาสิ่งที่เขารอคอยปรากฏตัวออกมาจริงๆ “สวัสดี” เขาทักทายอีกฝายที่กำลังนั่งหันหลังใหอยู พยายามอยาง หนักที่จะไมหลุดยิ้มออกมา แตมันคงจะไมแนบเนียนนัก เพราะแทบจะ ในทันทีที่สายตาทั้งสองคู่สบกัน ชายหนุมอีกคนก็เอยขึ้นวา “ฉันยังไมทันจะเริ่มงาน นายก็มีความสุขแลวเหรอ” คนที่กำลังยึด ครองพื้นที่บนโซฟาพูดดวยน้ำเสียงเนือยๆ เขาหัวเราะกับทาทางนั้น ก่อนจะ เดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ชายหนุมผูมาใหมถามตอ “รูใช่ไหมวานายจะตองตอบแทนฉันดวย อะไร”
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 137 เขาพยักหนารับ “ทิม” เจ้าของบานแนะนำตัว “ที” อีกฝ ายแนะนำตัวบางแลวจึงถามคำถามกลับไปวา “มีอะไรที่ นายอยากจะสั่งฉันเพิ่มก่อนที่ฉันจะเริ่มงานหรืออีกเปลา” ทิมนิ่งไปครูใหญก่อนจะเอยออกมา “ถามีคนมาถามวาคุณเปนใคร คุณช่วยตอบเขาไปวาเปนแฟนผมได หรือเปลา” -- ผูดำเนินรายการ: ฟดแบ็กที่คุณเตไดรับในช ่วงแรกๆ ที่เริ่มปลอย เพลงออกมาเปนประมาณไหนเหรอคะ พอจะเลาใหฟงไดหรือเปลา คุณเต: โห ก็แยครับ แยมากๆ เลยละ (หัวเราะ) ผูดำเนินรายการ: แลวตอนนั้นจัดการกับฟดแบ็กลบๆ แบบนั้นยังไง คะ คุณเต: จัดการอารมณตัวเองยังไง อืม อันนี้พูดยาก เพราะที่ผม ชอบทำมันไมนาจะเรียกวาเปนการจัดการกับอารมณหรือเปลานะ คือถา เพลงไหนที่ไดรับฟดแบ็กวามันไมดีผมก็จะไมกลับไปฟงมันอีก เพราะฟง ทีไร ในหัวมันก็เอาแตนึกถึงคำตำหนิออ อีกวิธีนึงที่ผมทำบอยๆ คือระบาย กับคนที่สนิทดวยครับ สวนมากก็จะเปนแฟนผมนี่แหละ ผูดำเนินรายการ: คุณเคยใหสัมภาษณไววาเนื้อเพลงที่คุณเขียน สวนหนึ่งไดรับแรงบันดาลใจมาจากแฟนของคุณ แบบนี้แปลวาเขาเปนทั้ง แรงบันดาลใจและกำลังใจใหคุณเลยใช่ไหมคะ ถาจะพูดวาแฟนของคุณมี สวนสำคัญที่ทำใหคุณกลายมาเปนนักแตงเพลงชื่อดังจะไดหรือเปลาคะ
138 | นักเรียนเขียนเรื่อง คุณเต: ครับ ใช่เลย เขามีความสำคัญมากๆ เลยละ ถาไมมีเขาผมก็ คงไมประสบความสำเร็จ ... หลังจากที่นั่งพูดคุยทำความรูจักกันเพิ่มเติมอีกเล็กนอย ทิมก็เดิน เข้าไปหยิบเอาโนตบุกกับสมุดโนตจากหองนอนของเขามายื่นใหทีดูเหมือนวา ทีจะเข้าใจชัดเจนดีอยูแลววาทิมตองการใหตัวเขาช่วยเรื่องอะไร เพราะทันที ที่รับสมุดมา ชายหนุมก็เปดอ านในทันทีและหลังจากเวลาผ านไปครูหนึ่ง เขาก็เงยหนาขึ้นสบตากับทิมที่นั่งอยูตรงข้าม คลายจะสงสัญญาณวาตนได อานจนจบแลว “ในโนตบุกของผมก็มีเนื้อเพลงอยูเหมือนกัน” ทิมบอกเพิ่ม ทีพยักหนา แลวก้มกลับไปสนใจโนตบุกที่วางอยูบนตักตัวเองครูใหญ แลวเอยขึ้นวา “ลองแก้อีกสักรอบก็ใช้ไดแลว” ทิมยิ้มกวาง เขารีบรับเอาโนตบุกมาแก้ไขงานตามที่อีกฝายบอก เวลาผานไปครูใหญ “ผมแก้เสร็จแลว” เขาวาพลางสะกิดไหลทีที่ลมตัวลงนอนอยูบนโซฟาตัวเดียวกัน ทีมี ทาทีไมค่อยพอใจนักที่ถูกรบกวนการนอน แตก็ไมไดบนอะไรออกมา “ชอบแลวใช่ไหม ไดสงใหหัวหนานายไปแลวหรือยัง” ทีถามพลาง ขยับตัวบิดขี้เกียจ “สงแลวละ” เขาวา “แตผมก็กลัวอยูวาคนฟงเขาจะไมชอบ” “มันก็ตองมีคนที่ไมชอบอยูแลวละ ฉันช่วยมากี่คนก็เปนแบบนี้ทั้งนั้น”
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 139 ทิมถอนหายใจเฮือกใหญ “นายสนใจแค่ตัวเองก็พอ นายชอบงานของตัวเองหรือเปลา” และเมื่อเห็นวาทิมไมยอมตอบกลับมาสักทีเขาก็ถามตอ “ทำไมคิด นานขนาดนั้น ก็แค่ชอบหรือไมชอบเอง ไมนาจะเลือกยากนะ” “ยากสิคุณ” ทิมบอก “ก็ชอบอยูนะ แตก็อืม...” “แตอะไร” ทีรบเรา “มันมีหลายจุดที่คงทำไดดีกวานี้แตผมก็ไมรูเหมือนกันวาจะตอง ทำยังไง ที่ทำไปก็ทำเต็มที่แลวละ” ทีหัวเราะเบาๆ “สรุปคือนายไมชอบใช่หรือเปลา” “ชอบสิแตก็แค่คิดวาถาเปนคนอื่นก็คงจะทำไดดีกวานี้แนๆ” คราวนี้เปนทีที่โคลงหัวกับคำตอบของเขา -3- ผูดำเนินรายการ: ถานับจากเพลงแรกที่คุณปลอยออกมา ใช้เวลา นานไหมคะ กวาจะเริ่มมีคนสนใจงานของคุณ คุณเต : นานนะครับ คิดวานาจะประมาณสามสี่ปเลยละ คือก่อน หนานั้นก็พอจะมีคนติดตามผม ฟงเพลงของผมอยูบาง แตวานอยมากๆ เลยครับ เพิ่งจะช่วงสามสี่ปมานี้นี่แหละที่มีคนเริ่มสนใจมากขึ้น
140 | นักเรียนเขียนเรื่อง ผูดำเนินรายการ: คนติดตามมากขึ้นมาพรอมกับความกดดันที่มาก ขึ้นไหมคะ คุณเต: ใช่นะ คือผมมีความสุขที่ผลงานของเราไดรับคำชม มีคน ชื่นชอบ แตในเวลาเดียวกันผมก็เครียดมากๆ เพราะกลัววางานชิ้นตอไปของ เรามันจะแยลง เพราะถาเปนแบบนั้นคนก็คงจะเลิกติดตามเรากัน ... ทิมคิดวาถาไมมีทีเขาก็คงไมประสบความสำเร็จหรอก ความสำเร็จก้าวแรกของเขาเกิดขึ้นหลังจากที่ทีบอกใหเขาแก้ไขเนื้อ เพลงในคืนนั้น เมื่อเพลงนั้นถูกปล อยออกมา มันก็ไดรับความสนใจอย าง ลนหลาม เพลงที่เขาปลอยตามมาอีกสองเพลงหลังจากนั้นก็เช่นกัน ตอนนี้ ทั้งสามเพลงที่เขาปลอยออกมากลายเปนเพลงที่ติดอันดับตนๆ ในชารตของ แอปพลิเคชันยอดนิยม เพราะแบบนั้นทิมเลยตัดสินใจวา เขาควรที่จะทำอะไรพิเศษๆ เพื่อ ขอบคุณทีแบบในตอนนี้ที่พวกเขากำลังนั่งอยูบนมานั่งในสวนหลังบาน ใน มือถือเครื่องดื่มคนละกระปอง “ที่จริงนายไมตองทำแบบนี้ก็ไดนะ” ทีบอก “ยังไงฉันก็ไดค่าจ้างจาก นายอยูแลว” “ผมรูนา ก็แค่รูสึกวาควรจะตอบแทนคุณบาง” “ฉันไมไดทำอะไรเยอะแยะสักหนอย” คราวนี้ทิมหลุดหัวเราะ
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 141 “เพิ่งรูวา พวกแบบคุณ ก็ใจดีเปนดวย” คำพูดของเขาเรียกใหทีแยก เขี้ยวใส “ฉันก็แค่พูดตามที่เห็น แลวจริงๆ นายก็ทำไดดีอยูแลวละ แค่ อืม แบบที่ฉันเคยบอก นายจะหวังใหทุกคนชอบงานนายไมไดหรอก” “แลวคุณชอบหรือเปลา” จู่ๆ ทิมก็ถามขึ้น เขาหันหนามาประสานสายตากับอีกคนอยูครูหนึ่ง ก่อนที่ทีจะเปนฝายเบือนหนาหนี “ก็เพิ่งพูดไปเองไมใช่หรือไง วานายทำไดดี” ทิมยิ้มเมื่อไดยินคำตอบ ก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่น “ถามไดหรือเปลา วาก่อนจะมาเจอผม คุณไดช่วยคนแบบผมมาแลวกี่คนเหรอ” “จำไมไดหรอก แตก็เยอะ เยอะมากเลยละ คนที่กลัววาตัวเองจะทำ ไมไดหรือจะไมประสบความสำเร็จนะ มีเยอะจะตายไป มนุษยนี่เปนสิ่งมี ชีวิตที่ขี้กลัวกันจังเลยนะ” “เถียงไมไดเลย เพราะผมเองก็เรียกคุณมาเพราะกลัววาถาใช้แค่ ความสามารถของตัวเองเท าที ่มีอยู ตอนนี้ชีวิตนี้ก็คงจะไม ประสบความ สำเร็จสักทีผมพยายามเองมานานแลวนะ แตเหมือนมันก็ไมไดพัฒนาไปสู จุดไหนเลย หรือบางทีมันอาจจะแยลงเรื่อยๆ ดวยซ้ำมั้ง” เขาเวนจังหวะ ก่อนจะพูดตอไปดวยน้ำเสียงหยอกลอ “หวังวาคุณจะไมบอกใหผมไปทุมเทกับการฝก แบบวาเดี๋ยวคุณก็ จะเก่งเองแหละ อะไรแบบนี้นะ” “ไมหรอก เพราะถึงจะฝกเยอะแค่ไหน มันก็ไมไดการันตีวางานของ นายจะออกมาดีนี่นา” ทีวาพลางสายหัว “แลวอีกอยางถาพูดแบบนั้น นายก็ ตองเลิกทำสัญญากับฉันนะสิฉันไมไดเปนคนดีขนาดนั้นสักหนอย”
142 | นักเรียนเขียนเรื่อง ทิมดูเหมือนจะอารมณดีขึ้นเมื่อไดยินประโยคนั้น เขาหลุดหัวเราะ ออกมาก่อนจะหันมาสบตาคนพูด “คุณไมใช่มนุษยสักหนอย ตองบอกวา ไมไดเปนปศาจที่ดีขนาดนั้น ตางหากละ” -4- ผูดำเนินรายการ: แลวถาอยางนั้นคุณเตมีวิธีจัดการกับความเครียด ความกังวลที่เกิดขึ้นไหมคะ คุณเต: ผมก็จะพยายามบอกตัวเองใหเชื่อมั่นในตัวเองมากๆ เรา อาจจะทำใหทุกคนชอบงานของเราไมไดก็ไมเปนไร อาจจะมีคนที่เลิกชอบ เราแลวก็ไมเปนไร คิดแค่วา ตอนนี้ยังมีคนที่ชอบเราอยูและเราชอบงานที่ เราทำ แค่นี้พอครับ (หัวเราะ) แตกวาจะคิดแบบนี้ไดก็นานเลยละ เพราะ จริงๆ แลวประโยคนี้แฟนผมก็เปนคนบอกผมนะ ถาเขาไมเตือน ผมก็คงเลิก คิดไมไดหรอก ... ทิมไดยินเสียงฝเทาที่เดินเข้ามาใกลก่อนจะรูสึกถึงวัตถุบางอยางที่ ตกลงข้างใบหนาตัวเอง เขาปรือตาขึ้นมามองอยางงุนงง ภาพตรงหนา ปรากฏใหเห็นวา ทีกำลังยืนกอดอกมองเขาอยู “นายกำลังจะไมไหวแลว” ทีบอก “นายควรจะฉีกหนังสือที่ใช้เรียก ฉันทิ้งซะนะ ถาไมทำลายสัญญาซะตั้งแตตอนนี้นายจะแยกวานี้อีก”
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 143 “ไหนคุณบอกวาคุณไมใช ่ปศาจที่ดีไง ไหงถึงมาหวงมนุษยขนาดนี้ ได” “เลิกพูดลอเลนก่อนไดไหม” “โอเคๆ ผมไหวนา” เขาพยายามจะเปลงเสียงออกมา แตมันก็ดูจะ ไมดังไปกวาการพึมพำสักเทาไรนัก ทีสายหัว “นายไมไหวแลว ไมใช่แค่สภาพรางกายดวย จิตใจของ นายนะ รูตัวหรือเปลา วาถึงตอนนี้เพลงของนายจะดังขึ้นเรื่อยๆ แตความสุข ของนายมันไมเพิ่มขึ้นเลย มันจะไมพอจ่ายใหฉันอยูแลวนะ” ทิมพยักหนารับแตก็ไมไดพูดอะไรออกมาเพิ่ม “เพราะแบบนั้น ยกเลิกสัญญาเถอะ” ทีวาพลางทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆ ทิม “ไมอยางนั้นจากที่เคยจ่ายฉันดวยความรูสึกดานบวก นายไดขายวิญญาณ ใหฉันแน” ทิมหัวเราะเบาๆ แลวจึงถามตอ “แลวถาแบบนั้นเราจะไดเจอกันอีกหรือเปลา” “ก็ถานายหายดีแลว ยังอยากจะเชิญปศาจมาช่วยงานอีก เราก็คง จะไดเจอกัน” ทีบอก “แตฉันไมอยากเจอนายแลวละ ไมใช่วานายไมดีอะไร แบบนั้นหรอกนะ แค่” เขานิ่งไปครูหนึ่งแลวจึงพูดตอ “เฮอ! นายทำใหฉันตองทำตัวไมสมกับที่เปนปศาจอีกแลว โอเค คือ ฉันไมอยากใหนายตองขอใหปศาจตนไหนช่วยอีก เพราะฉันอยากใหนาย เชื่อมั่นในตัวเองมากกวานี้ก็แบบที่ฉันเคยพูดนั่นแหละ นายทำไดดีอยูแลว ถึงไมมีฉันนายก็ทำไดนา” “ผมก็อยากจะรับปากอยูหรอก แตมันยากนะ”
144 | นักเรียนเขียนเรื่อง ทีทิ้งตัวลงมานอนข้างเขา แลวดึงมือของอีกคนมาจับเอาไว “ถานายยังทำไมไดก็ไมเปนอะไรหรอก แค่จำไววายังมีฉันคนนึงที่ เชื่อในตัวนายเสมอแบบนี้ก็พอ” -- “แบบที่ผมเคยโพสตลงในทวิตเตอรเลยครับ ผมกับแฟนเลิกกันไป นานแลวละ ตอนนี้ก็เลยตองใหกำลังใจตัวเองเอา” พูดจบทิมก็สงยิ้มใหกับ หญิงสาวที่กำลังสัมภาษณเขา “ไดยินมาวาเพลงใหมของคุณเตที่จะปลอยออกมาอาทิตยหนานี้ ก็ จะเปนเรื่องเกี่ยวกับแฟนเก่าใช่ไหมคะ ไดแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ สวนตัวเลยหรือเปลาคะ” เขาพยักหนารับ “ใช่ครับ” “ถาอยางนั้นก่อนที่จะปดการสัมภาษณนี้อยากใหคุณเตช่วยแนะนำ เพลงที่กำลังจะปลอยสักหนอยไดไหมคะ” “ครับ จะพูดยังไงไมใหสปอยลดีเพลงนี้ก็เปนเพลงที่เจ็ดของผม แลวครับ เปนเรื่องของแฟนเก่าที่ไมไดเจอกันนานมากๆ พอไดมาเจอกันก็ เลยมีเรื่องอยากพูดเต็มไปหมด สวนเขาจะพูดเรื่องอะไรกันบางก็ตองรอ ติดตามนะครับ” “ไดเลยค่ะ ขอบคุณคุณเตมากๆ นะคะ วาแตสวนที่บอกวาคู่รักคู่นี้ ไดกลับมาเจอกันเนี่ย มาจากชีวิตจริงดวยไหมคะ” “ไมครับ ไมใช่ๆ” ทิมหัวเราะ
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 145 ถึงจริงๆ แลวเขาจะคิดวาเขาคงจะตองไดเจอทีอีกครั้งแนนอนก็ เถอะนะ คงจะอีกไมนานหรอก.
146 | นักเรียนเขียนเรื่อง “ผมจะพยายามบอกตัวเองใหเชื่อมั่นในตัวเองมากๆ เราอาจจะทำใหทุกคนชอบงานของเราไมไดก็ไมเปนไร อาจจะมีคนที่เลิกชอบเราแลวก็ไมเปนไร คิดแค่วา ตอนนี้ยังมีคนที่ชอบเราอยู และเราชอบงานที่เราทำ แค่นี้พอครับ” “A Little Bit” ของ esther
เมื่อฉันรอยเศษทรายใหกลายเปนแก้ว | 147 กวาจะเปน A Little Bit ปญหาหนึ่งที่เราเผชิญขณะอยูในชุมชนนักเขียนในหองเรียนเขียน เรื่องคือความคิดวางานที่เราเขียนมันหวยมากๆ จะพยายามเขียนใหมยังไง มันก็ยังหวยอยูดีค่ะ ฮือ ซึ่งพอนานวันไปความคิดนี้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น เราโกรธ ตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ในงานชิ้นนี้เราเลยเลือกถ ายทอดความรูสึกพวกนี้ ออกมาในตัว “ทิม” นักแตงเพลงที่คิดวาตัวเองหวยเกินกวาจะประสบความ สำเร็จไดและถึงในตอนจบทิมจะเลิกใหปศาจแบบทีมาช่วยเขียนงานตัวเอง แลว แตเราเชื่อวาความกลัวที่ฝงรากลึกแบบนั้นคงไมหายไปง่ายๆ เรื่องก็เลย จบแบบปลายเปดวา การพบกันครั้งตอไปของทิมกับทีจะมีสาเหตุมาจาก ความรัก หรือความกลัว (วาตัวเองจะทำตามฝนไมได) กันแน หวังวาทิมและทุกคนที่กำลังคิดแบบทิม (เช่นเรา ฮา) จะสามารถ ขยับออกหางจากความรูสึกแยๆ พวกนั้นไดนะคะ แค่ a little bit ก็ดีมากๆ แลวค่ะ เนอะ. esther สนใจภาพยนตรและวรรณกรรมไทย ทั้งไทยและตางประเทศ เชื่อวาแมวทุกตัวเปนเด็กดี
148 | นักเรียนเขียนเรื่อง