The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2022-05-26 10:26:14

สังคมศึกษา

ส 32101

ภาพชุดท่ี 2

คำถาม

1. ควรต้งั ชื่อภาพชุดนี้ วา่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. การเขา้ ร่วมกจิ กรรมในภาพชดุ นี้ มปี ระโยชนอ์ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. กจิ กรรมในภาพน้มี สี ่วนสำคญั ต่อการพัฒนาสังคมอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 2

เฉลยเรื่อง แนวทางการจัดกจิ กรรมเพือ่ แก้ปัญหาและพฒั นาสงั คม

ตอนที่ 1

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนดูภาพ แล้ววิเคราะห์ภาพและตอบคำถาม

ภาพชุดท่ี 1

คำถาม

1. ควรตงั้ ชอื่ ภาพชุดน้ี ว่าอยา่ งไร

2. กิจกรรมในค่ายพุทธบุตรท่ีสำคัญ ไดแ้ ก่อะไรบ้าง

1) การปลูกฝังคณุ ธรรม
2) การสรา้ งความสามคั คี
3) ความรกั ในสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
4) กจิ กรรมกลุ่มสมั พนั ธ์
5) การทาตนเป็นประโยชน์
6) การฝึกความอดทน
7) การฝึกจติ ใหส้ งบ

3. การเข้าค่ายพุทธบุตรเปน็ การแก้ปญั หาและพฒั นาสงั คมอยา่ งไร

1) การแกป้ ัญหาสงั คม เช่น เยาวชนไดใ้ ชเ้ วลาในการเขา้ ค่ายพทุ ธบุตรใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อ
ตนเอง ไมท่ าสงิ่ ทกี่ ่อใหเ้ กดิ ปัญหาต่างๆ ซงึ่ อาจจะเนอื่ งจากความไม่รเู้ ท่าทนั ต่อเหตุการณ์ เชน่
เสพยาเสพตดิ ก่ออาชญากรรมเล่นการพนนั ฯลฯ
2) การพฒั นาสงั คม คอื การรว่ มมอื กนั ทากจิ กรรมต่างๆ ใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ สงั คม เชน่

- การปลูกตน้ ไมร้ อบบรเิ วณวดั หรอื ชมุ ชนใกลเ้ คยี ง
- การทาความสะอาดบรเิ วณวดั หรอื ชุมชนใกลเ้ คยี ง
- การสรา้ งสรรคง์ านต่างๆ ทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ วดั หรอื ชมุ ชน เชน่ การทาป้ายคตธิ รรม
เตอื นใจหรอื ป้ายโปสเตอร์
- การทาวารสาร สงิ่ พมิ พใ์ นการใหค้ วามรดู้ า้ นต่างๆ ทเี่ ป็นประโยชน์ของสงั คม

(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

ภาพชุดท่ี 2

คำถาม
3. ควรต้ังชอ่ื ภาพชุดนี้ วา่ อย่างไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. การเขา้ ร่วมกิจกรรมในภาพชุดนี้ มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร

1) เป็นการสบื ทอดพระพทุ ธศาสนา
2) เป็นการสรา้ งความสามคั คี
3) ทาใหเ้ กดิ ความสบายใจ

3. กิจกรรมในภาพน้ีมีส่วนสำคญั ต่อการพฒั นาสังคมอยา่ งไร

1) ทาใหส้ งั คมอย่รู ว่ มกนั ดว้ ยความสามคั คปี รองดองกนั
2) ทาใหส้ งั คมมคี วามเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย
3) มกี ารเสยี สละแบง่ ปันระหวา่ งสมาชกิ
4) เป็นการสรา้ งสรรคศ์ ลิ ปวฒั นธรรม
5) ทาใหจ้ ติ ใจสงบ ทากจิ กรรมตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 25

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 เร่ือง พระพุทธศาสนากบั การแก้ปญั หา และการพัฒนา เวลา 5 ชว่ั โมง

เร่ือง หลักธรรมทางศาสนากับการอยู่ร่วมกัน เวลาทใ่ี ช้สอน 2 ช่วั โมง

ครูผูส้ อนชอ่ื นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร โรงเรยี นพนมศึกษา

.............................................................................................................................. ................................................

สาระสำคัญ
หลกั ธรรมในการอยรู่ ่วมกันอย่างสนั ติสุขของทุกศาสนาน้นั มคี วามสอดคล้องกนั ศาสนิกชนทุกคนพึง

รว่ มมอื กนั และสนับสนุนใหผ้ ู้อ่ืนเห็นความสำคัญของการทำความดีต่อกนั

มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือ

และศาสนาอน่ื มศี รัทธาท่ีถูกตอ้ ง ยึดมน่ั และปฏบิ ัติตามหลกั ธรรม เพอ่ื อยู่รว่ มกนั อย่างสนั ติสุข
ม.4-6/21 วเิ คราะห์หลักธรรมสำคญั ในการอย่รู ่วมกนั อยา่ งสันตสิ ุขของศาสนาอนื่ ๆ และชักชวน สง่ เสรมิ

สนบั สนุนใหบ้ ุคคลอ่ืนเหน็ ความสำคัญของการทำความดีต่อกัน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายหลักธรรมทางศาสนากับการอยู่ร่วมกันในสงั คมได้ (K)
2. วิเคราะหผ์ ลการปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนาในการอยรู่ ว่ มกนั อย่างสันติสขุ ได้ (P)
3. เหน็ ความสำคญั ในการศึกษาข้อมูลทางพระพทุ ธศาสนา ท่สี ามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนนิ

ชวี ิตประจำวันได้ (A)

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
1) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2) กระบวนการทำงานกล่มุ

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินยั
- ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎระเบยี บ กติกาทีต่ กลงกันในห้องเรยี น

2. ใฝ่เรยี นรู้
- ผเู้ รียนต้ังใจเรยี น เพยี รพยายาม ในการเรยี นรู้

3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
- ต้งั ใจและพยายามทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
หลกั ธรรมสำคญั ในการอยูร่ ่วมกนั อย่างสนั ติสุข
- หลักธรรมในพระพุทธศาสนา เชน่ สาราณียธรรม 6 อธปิ ไตย 3 มจิ ฉาวณชิ ชา 5

อรยิ วัฑฒิ 5 โภคอาทิยะ 5
- คริสต์ศาสนา ไดแ้ ก่ บัญญัติ 10 ประการ (เฉพาะทเ่ี กย่ี วข้อง)
- ศาสนาอิสลาม ได้แก่ หลักจริยธรรม (เฉพาะท่ีเกีย่ วขอ้ ง)

ช้ินงานหรือภาระงาน
ใบงานท่ี 3 เรอื่ ง หลักธรรมทางศาสนาในการอย่รู ่วมกนั

ข้นั ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ชั่วโมงที่ 1)
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันเล่าประสบการณ์ความรเู้ ดิมของนักเรียนเก่ียวกบั หลกั ธรรมของศาสนาอื่นท่ี

ส่งผลให้ผปู้ ฏบิ ัตอิ ยรู่ ว่ มกันอย่าง สนั ตสิ ขุ พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ซ่ึงนกั เรียนอาจยกตัวอย่างหลากหลาย

2. นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นว่า ทำไมการปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนาจึงส่งผลดตี ่อ
การอย่รู ว่ มกนั อย่างปกติสขุ ซึง่ นักเรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ อย่างหลากหลาย

ขัน้ สอน
3. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5-7 คน ตามความสมัครใจ แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง
ความสำคญั ของการอยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ขุ หลกั ธรรมทางศาสนาของศาสนาอน่ื ทสี่ ่งผลในการอยู่รว่ มกันอย่าง
สันตสิ ขุ จากหนังสือเรียน หนังสอื คน้ ควา้ เพม่ิ เติม หอ้ งสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศพร้อมยกตวั อยา่ ง
ประกอบ โดยจับสลาก กลมุ่ ละ 1 หัวข้อ ดงั นี้

1) หลักธรรมในการอยรู่ ่วมกันของศาสนาคริสต์
2) หลักธรรมในการอยรู่ ว่ มกนั ของศาสนาอิสลาม
3) หลักธรรมในการอยรู่ ว่ มกันของศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู

4) หลกั ธรรมในการอยู่รว่ มกนั ของศาสนาสขิ โดยครูแนะนำหนงั สือในการศกึ ษาหาความรู้
จากหอ้ งสมุด หรอื แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ หรือบคุ คลผู้มีความรู้ชัดเจนของแต่ละศาสนา

ข้นั สรุปผล
4. นักเรียนร่วมกันสรปุ ความสำคัญของศาสนาและความจำเปน็ ของการปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมของ
พระพุทธศาสนา แลว้ ให้ตัวแทนนำความรทู้ ี่ไดไ้ ปเขียนบนกระดานหน้าช้ันเรียน แลว้ นกั เรียนนำความรทู้ ่ไี ดม้ า
บันทึกลงในแบบบันทึกการอ่าน

ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ชัว่ โมงท่ี 2)
ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครกู ระต้นุ ความคิดของนักเรียนโดยตัง้ คำถามวา่ นักเรียนคดิ ว่า จะนำหลกั ธรรมใดของศาสนาอ่นื มา

ประยุกต์ใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ รว่ มกบั ศาสนา ทน่ี ักเรียนนับถอื จงอธิบาย (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น
โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

ขนั้ สอน
2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มแบ่งหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบในการค้นคว้าหาข้อมลู และนำผลงานจากการ
ค้นคว้ามาสรุปตามประเดน็ ที่กำหนดใหใ้ นใบงาน เรอื่ ง หลักธรรมทางศาสนาในการอยู่ร่วมกัน
3. ตวั แทนของแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอผลงานในใบงานหน้าชัน้ เรียน โดยใหส้ มาชกิ ทเี่ ปน็ กลมุ่ ผ้ฟู ัง
ชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติม

ขัน้ สรปุ ผล
4. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรุปคำสอนของทุกศาสนาทีม่ ีความสอดคล้องกนั ในเรือ่ ง การอยู่ร่วมกัน
อย่างสันตสิ ุข และแนวทางการนำหลกั คำสอนของศาสนาไปปฏิบตั ิในการดำเนนิ ชวี ิต

สื่อและแหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น พระพทุ ธศาสนา ม.5
2. ใบงานท่ี 3 เร่อื ง หลักธรรมทางศาสนาในการอยู่รว่ มกนั
3. หอ้ งจรยิ ธรรม
4. หอ้ งสมุด

การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 ห่วง 3 เงื่อนไข)

หลกั ความพอประมาณ ใช้เวลาในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้

ทำงานเหมาะกบั เวลาความคุ้มค่าในอุปกรณ์การเรยี น

หลักมีเหตุผล การอธบิ ายโดยการใชห้ ลกั การทางพระพุทธศาสนา

การแกป้ ัญหาโดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนา

หลักสรา้ งภูมคิ ุม้ กันในตวั ทด่ี ี การมีนำ้ ใจ มีความรับผดิ ชอบ การทำงานเป็นหมู่คณะ

การวางแผนในการทำงาน

เงือ่ นไขความรู้ อธบิ ายหลักธรรมทางศาสนากับการอยูร่ ว่ มกันในสังคมได้

เงอ่ื นไขคุณธรรม มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ ซื่อสัตย์ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

การบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เง่อื นไข
ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง คณุ ธรรม
พอประมาณ
มีเหตผุ ล
มีภมู คิ ุ้มกนั ในตัวที่ดี

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มิติ

เศรษฐกิจ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ตรวจใบงานที่ 3 เรอ่ื ง หลกั ธรรม ใบงานที่ 3 เรื่อง หลักธรรมทางศาสนา ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ทางศาสนาในการอยรู่ ว่ มกนั ในการอย่รู ่วมกนั

ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล รายบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนใน
การเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ กิจกรรมรายกลุ่ม

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประสงค์

ใบงานที่ 3
เรอื่ ง หลักธรรมทางศาสนาในการอย่รู ว่ มกัน

คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรู้เก่ยี วกบั หลกั ธรรมทางศาสนาในการอยู่ร่วมกัน จากแหล่งขอ้ มลู
ต่างๆ แลว้ นำมาสรปุ เป็นประเดน็ สำคัญ

ช่ือศาสนา ..................................................

หลกั ธรรมในการอย่รู ่วมกนั ตวั อย่างการกระทำ

สรุปผลของการปฏิบัตติ นตามหลักธรรมดังกล่าว ส่งผลดีตอ่ ส่วนรวม ดงั นี้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 3 เฉลย
เร่อื ง หลกั ธรรมทางศาสนาในการอยรู่ ว่ มกนั

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เก่ียวกบั หลกั ธรรมทางศาสนาในการอยรู่ ่วมกัน จากแหล่งขอ้ มูล
ตา่ งๆ แลว้ นำมาสรปุ เป็นประเดน็ สำคัญ

ชอ่ื ศาสนา ..................................................

หลักธรรมในการอย่รู ว่ มกนั ตัวอยา่ งการกระทำ

สรปุ ผลของการปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมดงั กล่าว สง่ ผลดตี ่อสว่ นรวม ดังน้ี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ภาคผนวก

แบบประเมินใบงาน

คำช้แี จง: ใหผ้ ู้สอนประเมินผลงานของนักเรยี นตามรายการท่กี ำหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับ
คะแนน

ระดบั คณุ ภาพ

ประเด็นการประเมนิ 321

(8-10 คะแนน) (5-7 คะแนน) (1-4 คะแนน)

1. เน้ือหามคี วามถกู ต้อง

2. เนื้อหาอา่ นแล้วสามารถเข้าใจไดง้ ่ายไมซ่ บั ซอ้ น

3. ความเรียบรอ้ ยและความสะอาดของชิน้ งาน

รวม

ลงชอื่ ..........................................ผู้ประเมิน
.................. /................... /..................

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

8 – 10 ดี

7 – 5 พอใช้

ต่ำกวา่ 4 ปรบั ปรุง

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่

กลมุ่ ........................................................................................................................ ช้นั ....................

คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น

แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน

ลำดับ ชือ่ -สกลุ ของผู้รับ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแกไ้ ข รวม 15

ที่ การประเมนิ รว่ มมือกัน ความ ความคิดเห็น ทำงาน ปัญหาหรือ คะแนน

ทำกิจกรรม คิดเห็น ปรับปรุง

ผลงานกล่มุ

32 13 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1

1

2

3

4

5

6

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ระดบั คุณภาพ
ดี
ชว่ งคะแนน พอใช้
12-15
8-11 ปรับปรงุ

ต่ำกวา่ 8

แบบประเมินสมุด

คำชีแ้ จง: ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานของนักเรยี นตามรายการท่กี ำหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับ
คะแนน

ระดับคณุ ภาพ

ประเดน็ การประเมิน 3 2 1

(8-10 คะแนน) (5-7 คะแนน) (1-4 คะแนน)

1. ความถูกต้อง

2. องคค์ วามรู้ท่ีสรปุ อา่ นแล้ว
สามารถเข้าใจไดง้ ่ายไม่ซบั ซ้อน

3. ความเรียบรอ้ ย (ลายมือ)
ความสะอาดของสมดุ

รวม

ลงชื่อ..........................................ผ้ปู ระเมนิ
.................. /................... /..................

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

8 – 10 ดี

7 – 5 พอใช้

ตำ่ กวา่ 4 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5/..... ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

คำชี้แจง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดบั คะแนน

รายการประเมิน สรุปการประเมิน

เลขที่ ชือ่ -สกลุ รกั ชาติ ศาสน์ มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อย่อู ย่าง มงุ่ มนั่ ในการ เฉลี่ย ผ่าน ไมผ่ ่าน

กษตั ริย์ พอเพียง ทำงาน

43214321432143214321

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

26

27

28
29
30

เกณฑก์ ารประเมนิ
ระดับ 4 (ดมี าก), ระดบั 3 (ดี), ระดบั 2 (พอใช้), ระดับ 1 (ปรบั ปรงุ )
หมายเหตุ : เกณฑ์การผา่ น ต้องไดค้ ะแนนเฉล่ียระดบั 2 (พอใช้) ขนึ้ ไป

ลงชอื่ ……………………………………………………………………………..ผู้ประเมนิ

แบบประเมินสมรรถนะของผูเ้ รียน

นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/........ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
คำชแ้ี จง :ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน แล้วขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน

รายการประเมนิ รวม

เลขที่ ชื่อ-สกุล ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ

ในการสื่อสาร ในการคิด ในการ ในการใช้ทักษะ ในการใช้ 20

แกป้ ัญหา ชวี ติ เทคโนโลยี คะแนน

43214321432143214321

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

26

27

28

29

30

เกณฑ์การประเมิน : ระดับ 4 (ดมี าก), ระดับ 3 (ด)ี , ระดบั 2 (พอใช)้ , ระดับ 1 (ปรับปรุง)
หมายเหตุ : เกณฑก์ ารผา่ น ต้องไดค้ ะแนนเฉลี่ยระดับ 2 (พอใช้) ขนึ้ ไป

ลงชอ่ื ………………………………………………………………………..ครผู ู้ประเมนิ

แบบประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคล

นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5/........ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

คำชี้แจง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดับ

คะแนน

รายการประเมิน สรปุ การประเมิน

เลขท่ี ชือ่ -สกุล ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) เจตคติ (A) เฉลย่ี ผา่ น ไม่ผา่ น

เข้าใจ/ความ การแสดงความ การแก้ปญั หา สนใจใฝ่รู้ รับผิดชอบ >10 <10

ถกู ตอ้ ง คิดเห็น

43214321432143214321

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

26

27

28

29

30

31

เกณฑก์ ารประเมนิ : ระดับ 4 (ดมี าก), ระดบั 3 (ด)ี , ระดบั 2 (พอใช้), ระดบั 1 (ปรบั ปรุง)
หมายเหตุ : เกณฑก์ ารผ่าน ต้องไดค้ ะแนนเฉลี่ยระดบั 2 (พอใช้) ขน้ึ ไป

ลงช่ือ……………………………………………………………………………..ผปู้ ระเมนิ


Click to View FlipBook Version