การบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เง่อื นไข
ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง คุณธรรม
พอประมาณ
มเี หตุผล
มภี มู คิ มุ้ กันในตัวท่ีดี
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มติ ิ
เศรษฐกจิ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล รายบุคคล
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง
ประสงค์
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา 10 ช่วั โมง
เรือ่ ง อปรหิ านิยธรรม 7 เวลาท่ใี ช้สอน 2 ชว่ั โมง
ครูผูส้ อนชือ่ นางสาวพชั ราภรณ์ กลิน่ เกษร โรงเรยี นพนมศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
สาระสำคญั
การปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมอปรหิ ายธรรม 7 ยอ่ มเปน็ ทางทจี่ ะนำไปสู่ความดับทกุ ข์
มาตรฐานการเรียนรู้
ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ
และศาสนาอ่ืน มศี รัทธาทีถ่ ูกต้อง ยดึ ม่นั และปฏิบัตติ ามหลกั ธรรม เพอ่ื อยรู่ ่วมกนั อย่างสันติสขุ
ตวั ชว้ี ดั ม.4-6/13 วิเคราะหห์ ลักธรรมในกรอบอริยสจั 4 หรือหลกั คำสอนของศาสนาท่ตี นนับถือ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. เขา้ ใจ และสามารถอธิบายถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาได้ (K)
2. วเิ คราะหผ์ ลของการปฏบิ ตั ิตนตามหลกั อปริหานยิ ธรรม 7 และสามารถนำไปประยุกต์ปฏิบตั ไิ ด้ (P)
3. เห็นความสำคญั ในการศึกษาข้อมลู ทางพระพุทธศาสนา ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนิน
ชีวติ ประจำวนั ได้ (A)
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 3) ทักษะการสรุปอา้ งอิง
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
1) กระบวนการปฏบิ ัติ 2) กระบวนการทำงานกลุ่ม
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
- ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎระเบยี บ กตกิ าท่ตี กลงกันในหอ้ งเรยี น
2. ใฝ่เรยี นรู้
- ผ้เู รยี นตัง้ ใจเรยี น เพียรพยายาม ในการเรียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
- ต้งั ใจและพยายามทำงานที่ได้รบั มอบหมาย
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
อริยสัจ 4
- มรรค (ธรรมที่ควรเจรญิ )
(1) อปรหิ านิยธรรม 7
ชิ้นงานหรือภาระงาน
ใบงานท่ี 5 เรือ่ ง อปรหิ านยิ ธรรม 7
ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (ชัว่ โมงท่ี 1)
ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครนู ำข่าวเกี่ยวกบั การทำงานร่วมกนั ของกลุม่ บุคคล สมาคม องค์กรต่างๆ ซง่ึ มผี ลงานทป่ี ระสบ
ความสำเรจ็ มาเลา่ ใหน้ ักเรียนฟงั จากน้นั ใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เหน็ ว่า เพราะเหตุใด การทำกจิ กรรมตา่ งๆ
ดงั กล่าวถึงประสบความสำเร็จ
2. ครอู ธิบายเช่ือมโยงใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่า ความสำเร็จของตัวอย่างนัน้ สอดคล้องกับหลักธรรม
อปรหิ านิยธรรม 7
ข้นั สอน
3. ครใู ห้นักเรยี นกลมุ่ เดิม (จากแผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 7) รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้ เร่ือง
อปริหานยิ ธรรม 7 จากหนงั สือเรียน หนังสอื คน้ คว้าเพิ่มเติม หอ้ งสมดุ หอ้ งจรยิ ธรรม และแหลง่ ข้อมูล
สารสนเทศ
4. นกั เรยี นนำความรทู้ ่ีไดจ้ ากการศึกษามาบนั ทกึ ลงในแบบบันทกึ การอา่ น
5. สมาชกิ แต่ละกลุ่มนำความร้ทู ี่ไดศ้ ึกษามาผลัดกันอธบิ ายแลกเปลยี่ นความรกู้ นั ในสาระสำคัญของอป
ริหานิยธรรม 7 และช่วยกันยกตวั อยา่ งการกระทำของกลมุ่ บคุ คลท่ีสอดคลอ้ งกับหลกั ธรรมอปริหานยิ ธรรม 7
6. ครมู อบหมายให้สมาชกิ แต่ละกลุ่มรวบรวมข้อมูลเกย่ี วกับกลุ่มบุคคลหรอื องค์กรที่มีการกระทำหรือ
กิจกรรมทส่ี อดคล้องกับหลกั ธรรมอปรหิ านิยธรรม 7 เพื่อนำมาเปน็ ข้อมลู ในการทำกจิ กรรมในช่วั โมงตอ่ ไป
ขั้นสรุปผล
5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้เกีย่ วกบั อปริหานยิ ธรรม 7 เพ่ิมเติม
ขน้ั ตอนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ช่วั โมงท่ี 2)
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน
1. ครตู ้ังคำถามเพื่อกระตุ้นความคดิ ของนักเรียนวา่ ในการแข่งขนั กีฬาสีประจำปี ถ้าคณะสีฟา้ ตอ้ งการ
รบั ชัยชนะการประกวดและแข่งขนั ทุกประเภท จะนำหลกั ธรรมอปรหิ านยิ ธรรมมาเป็นหลักในการปฏบิ ตั ิ
อย่างไร จงยกตัวอย่าง (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
ขนั้ สอน
2. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มนำข้อมูลมาผลัดกนั เลา่ เรื่องบุคคลทม่ี กี ารกระทำหรอื กิจกรรมที่สอดคลอ้ งกับ
หลักธรรมอปรหิ านยิ ธรรม 7 แล้วร่วมกนั คัดเลอื กมา 1 เรื่อง จากนนั้ นำมาวิเคราะห์เพื่อตอบตามประเดน็ ที่
กำหนดในใบงานที่ 5 เร่อื ง อปรหิ านิยธรรม 7
3. ตัวแทนกล่มุ นำเสนอคำตอบในใบงานที่ 5 หน้าชนั้ เรียน สมาชกิ กลมุ่ อ่นื ชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็
เพิ่มเติม ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขน้ั สรุปผล
4. นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ ประเด็นสำคญั ของหลกั ธรรมอปริหานิยธรรม 7 และแนวทางการปฏิบตั ิ
ตนอยา่ งเหมาะสม
สอ่ื และแหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น พระพทุ ธศาสนา ม.5
2. ใบงานท่ี 5 เรือ่ ง อปรหิ านิยธรรม 7
3. ห้องจริยธรรม
4. หอ้ งสมุด
การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 หว่ ง 3 เง่ือนไข)
หลักความพอประมาณ ใช้เวลาในการศกึ ษา ค้นควา้ หาความรู้
ทำงานเหมาะกับเวลาความคุ้มคา่ ในอุปกรณก์ ารเรียน
หลกั มเี หตุผล การอธบิ ายโดยการใชห้ ลกั การทางพระพุทธศาสนา
การแก้ปัญหาโดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนา
หลกั สร้างภมู ิค้มุ กันในตัวท่ดี ี การมีน้ำใจ มีความรับผดิ ชอบ การทำงานเปน็ หมู่คณะ
การวางแผนในการทำงาน
เงื่อนไขความรู้ เข้าใจ และสามารถอธบิ ายถงึ หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาได้
เงอื่ นไขคุณธรรม มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ซือ่ สัตย์ ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
การบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เง่ือนไข
ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง คณุ ธรรม
พอประมาณ
มเี หตผุ ล
มีภูมิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มติ ิ
เศรษฐกจิ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 5 เร่ือง ใบงานท่ี 5 เรือ่ ง อปริหานิยธรรม 7 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
อปริหานิยธรรม 7
แบบบันทกึ การอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน
ประเมินการนำเสนอผลงาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
รายบคุ คล ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ใบงานที่ 5
เร่อื ง อปรหิ านิยธรรม 7
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นสืบค้นขอ้ มลู ของกลมุ่ บคุ คล องค์กรทงั้ ภาครัฐและเอกชนที่มีความสามคั คีกัน
ซึง่ นำไปสู่ความเจริญก้าวหนา้ ขององค์กรดงั กลา่ ว แลว้ นำมาเปน็ ข้อมลู ตอบคำถามในประเดน็ ท่ีกำหนด
เร่อื ง..............................................................................
(สาระสำคัญโดยยอ่ )
ทม่ี า : ………………………………………………………………………………………………
คำถาม
1. ชือ่ ขา่ ว
........................................................................................................................................................ ..
2. การปฏิบัตติ ามหลักธรรมอปริหานิยธรรม 7
1) หม่นั ประชมุ กนั เนืองนติ ย์ ตัวอยา่ งการกระทำ คือ
............................................................................................................................. .............................
..................................................................................................... .....................................................
2) พร้อมเพรียงกนั ประชุม ตัวอยา่ งการกระทำ คือ
............................................................................................................................. ............................
............................................................................................................................. .............................
3) ไมบ่ ญั ญัติหรือเลิกล้มขอ้ บัญญัติตามอำเภอใจ ตัวอย่างการกระทำ คือ
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
4) เคารพและรบั ฟังความเห็นของผใู้ หญ่ ตัวอย่างการกระทำ คือ
............................................................................................................................. .............................
............................................................................................................................................... ...........
5) ไม่ข่มเหงหรือฉดุ คร่าสตรี ตัวอยา่ งการกระทำหรอื การละเว้น คอื
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
6) เคารพสักการะเจดีย์ ตัวอย่างการกระทำ คือ
............................................................................................................................. .............................
..........................................................................................................................................................
7) ใหก้ ารอารักขาแก่พระอรหนั ต์ ตัวอยา่ งการกระทำ คอื
............................................................................................................................. .............................
..................................................................................................... .....................................................
3. ผลของการปฏบิ ัติเปน็ ประโยชน์อยา่ งไร
............................................................................................................................. .............................
..................................................................................................... .....................................................
4. นกั เรยี นจะนำตัวอยา่ งท่ดี ีไปปฏิบตั ไิ ดอ้ ยา่ งไรบ้าง
............................................................................................................................. .............................
............................................................................................................................. .............................
ใบงานท่ี 5 เฉลย
เรือ่ ง อปริหานยิ ธรรม 7
คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นสืบค้นขอ้ มลู ของกลุม่ บุคคล องค์กรทั้งภาครฐั และเอกชนท่ีมคี วามสามคั คีกัน
ซง่ึ นำไปสู่ความเจริญก้าวหนา้ ขององค์กรดังกลา่ ว แล้วนำมาเป็นข้อมูลตอบคำถามในประเดน็ ที่กำหนด
เร่อื ง..............................................................................
(สาระสำคัญโดยย่อ)
ทม่ี า : ………………………………………………………………………………………………
คำถาม
1. ช่อื ขา่ ว
........................................................................................................................................................ ..
2. การปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมอปริหานิยธรรม 7
1) หม่นั ประชมุ กันเนืองนิตย์ ตัวอยา่ งการกระทำ คือ
.................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ ..............................................
2) พร้อมเพรยี งกันประชมุ ตัวอยา่ งการกระทำ คือ
............................................................................................................................. ............................
.................................................................................................................................... ......................
3) ไมบ่ ัญญตั ิหรือเลิกล้มขอ้ บัญญัตติ ามอำเภอใจ ตัวอย่างการกระทำ คือ
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
4) เคารพและรับฟังความเหน็ ของผใู้ หญ่ ตวั อยา่ งการกระทำ คือ
............................................................................................................................. .............................
..................................................................................................... .....................................................
5) ไมข่ ่มเหงหรอื ฉุดครา่ สตรี ตัวอยา่ งการกระทำหรือการละเว้น คอื
............................................................................................................................. .............................
............................................................................................................................. .............................
6) เคารพสักการะเจดีย์ ตัวอย่างการกระทำ คือ
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
7) ให้การอารักขาแก่พระอรหันต์ ตวั อย่างการกระทำ คือ
............................................................................................................................. .............................
..................................................................................................... .....................................................
3. ผลของการปฏิบัติเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งไร
............................................................................................................................. .............................
.................................................................................................................................... ......................
4. นักเรียนจะนำตวั อย่างท่ดี ีไปปฏบิ ัตไิ ด้อย่างไรบา้ ง
..........................................................................................................................................................
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 12
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 10 ชั่วโมง
เร่ือง ปาปณิกธรรม 3 และ ทิฏฐธมั มิกัตถสงั วตั ตนกิ ธรรม 4 เวลาท่ีใช้สอน 2 ชวั่ โมง
ครูผ้สู อนช่ือ นางสาวพชั ราภรณ์ กลิน่ เกษร โรงเรยี นพนมศึกษา
.................................................................................................................................................... ..........................
สาระสำคญั
การปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมปาปณกิ ธรรม 3 และทฏิ ฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม 4 ย่อมส่งผลตอ่ การ
อยรู่ ว่ มกันในสงั คมอย่างสันติสุข
มาตรฐานการเรียนรู้
ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ
และศาสนาอื่น มศี รัทธาท่ีถูกต้อง ยึดม่ัน และปฏบิ ตั ติ ามหลักธรรม เพอื่ อยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติสขุ
ตัวช้วี ัด ม.4-6/13 วิเคราะห์หลักธรรมในกรอบอริยสจั 4 หรอื หลักคำสอนของศาสนาทต่ี นนบั ถอื
ตัวช้ีวดั ม.4-6/16 เช่อื มน่ั ต่อผลของการทำความดี ความชั่ว สามารถวิเคราะหส์ ถานการณท์ ตี่ ้องเผชญิ
และตัดสินใจเลอื กดำเนนิ การหรอื ปฏิบัติตนได้อยา่ งมีเหตุผลถกู ต้องตามหลกั ธรรม จรยิ ธรรม และกำหนด
เปา้ หมาย บทบาทการดำเนนิ ชีวิตเพ่อื การอยรู่ ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ขุ และอยูร่ ว่ มกันเป็นชาติอยา่ งสมานฉันท์
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. เข้าใจ และสามารถอธิบายถึงหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาได้ (K)
2. วเิ คราะหผ์ ลของการปฏิบตั ิตนตามหลกั ปาปณิกธรรม 3 และทฏิ ฐธัมมกิ ัตถสังวัตตนิกธรรม 4
พรอ้ มกับสามารถนำไปประยุกต์ปฏบิ ตั ไิ ด้ (P)
3. เหน็ ความสำคัญในการศึกษาข้อมูลทางพระพทุ ธศาสนา ทสี่ ามารถนำไปใช้ประโยชนใ์ นการดำเนนิ
ชีวติ ประจำวนั ได้ (A)
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 3) ทักษะการสรุปอ้างอิง
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2) ทักษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
1) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2) กระบวนการทำงานกลุม่
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
- ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎระเบียบ กตกิ าทต่ี กลงกนั ในหอ้ งเรียน
2. ใฝเ่ รียนรู้
- ผู้เรียนต้ังใจเรยี น เพียรพยายาม ในการเรยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
- ตั้งใจและพยายามทำงานที่ได้รบั มอบหมาย
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง (2) ทฏิ ฐธมั มกิ ัตถสงั วตั ตนกิ ธรรม 4
อรยิ สัจ 4
- มรรค (ธรรมท่ีควรเจรญิ )
(1) ปาปณิกธรรม 3
ชิ้นงานหรือภาระงาน
1. ใบงานท่ี 6 เร่ือง ปาปณิกธรรม 3
2. ใบงานท่ี 7 เรื่อง ทฏิ ฐธมั มิกัตถสงั วตั ตนกิ ธรรม 4
ขัน้ ตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (ชั่วโมงท่ี 1)
ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูนำข้อมลู ของบุคคลทที่ ำธุรกจิ ประสบความสำเร็จ และบุคคลท่ีประกอบอาชีพสจุ ริตแลว้ ประสบ
ความสำเรจ็ มาเลา่ ใหน้ ักเรียนฟัง แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นถึงคุณธรรมสำคญั ท่ีพวกเขานำไป
เปน็ หลกั ปฏิบตั ิ ซงึ่ สง่ ผลให้ชวี ติ ของเขาประสบความสำเรจ็
2. ครอู ธบิ ายเชื่อมโยงใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า การกระทำของบุคคลดังกลา่ วสอดคล้องกบั หลักธรรม
ปาปณกิ ธรรม 3 และทฏิ ฐธมั มิกตั ถสังวัตตนิกธรรม 4
ข้ันสอน
3. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่ม (กลุ่มเดมิ จากแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7) แบง่ ออกเป็น 2 กลมุ่ ย่อย ให้แต่
ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รื่อง ปาปณิกธรรม 3 และทฏิ ฐธัมมกิ ัตถสงั วัตตนิกธรรม 4 จากหนงั สอื เรยี น หรอื
หนงั สือคน้ คว้าเพมิ่ เติม หอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ โดยแบ่งหนา้ ท่กี นั ศึกษากลุ่มยอ่ ยละ 1 เรื่อง
4. สมาชกิ กลุ่มย่อยของแต่ละกลุ่มนำความรู้ทไ่ี ด้ศึกษาคน้ คว้ามาอภปิ รายสนทนาแลกเปลีย่ นความรู้
กัน โดยยกตัวอยา่ งประกอบหลักธรรมทีไ่ ด้ศึกษามา หากมีข้อสงสยั ให้สอบถามครผู สู้ อน
ขั้นสรปุ ผล
5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปความร้เู ก่ียวกบั ปาปณิกธรรม 3 และทิฏฐธัมมกิ ัตถสงั วตั ตนิกธรรม 4
เพมิ่ เติม
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ชั่วโมงที่ 2)
ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูตั้งคำถามเพ่ือกระตุ้นความคิดของนักเรียนวา่ ผ้ทู ปี่ ฏิบัตติ นตามหลกั ทฏิ ฐธมั มิกัตถสงั วัตตนกิ -
ธรรม 4 นั้น สง่ ผลดตี อ่ ตนเองอย่างไร (ได้รบั ประโยชน์จากการประกอบกจิ การที่ตนทำอยู่เหน็ ได้ทันตา)
ขน้ั สอน
2. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มแบง่ หน้าทก่ี ันทำใบงาน ดงั นี้
- กลุ่มย่อยที่ 1 วเิ คราะหภ์ าพแล้วตอบคำถามในใบงานที่ 6 เรื่อง ปาปณิกธรรม 3
- กลุ่มย่อยที่ 2 วิเคราะหข์ า่ วแล้วตอบคำถามในใบงานท่ี 7 เรื่อง ทฏิ ฐธมั มิกตั ถสังวตั ตนกิ ธรรม 4
3. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มย่อยผลัดกนั เล่าผลงานให้เพื่อนในกลมุ่ ฟัง พร้อมท้ังผลดั กนั ซักถามข้อสงสัย
4. ครใู หต้ วั แทนกลุ่มนำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียนครูตรวจสอบความถูกต้องและใหข้ ้อเสนอแนะ
ขั้นสรุปผล
5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสำคัญของหลักธรรมปาปณกิ ธรรม 3 และทิฏฐธัมมิกตั ถสังวัตตนกิ
ธรรม 4 และแนวทางการปฏบิ ตั ติ น
ส่ือและแหล่งเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น พระพทุ ธศาสนา ม.5
2. ใบงานท่ี 6 เรื่อง ปาปณกิ ธรรม 3
3. ใบงานที่ 7 เรือ่ ง ทฏิ ฐธมั มกิ ัตถสงั วตั ตนกิ ธรรม 4
4. หอ้ งจรยิ ธรรม
5. ห้องสมุด
การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 หว่ ง 3 เงื่อนไข)
หลักความพอประมาณ ใชเ้ วลาในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้
ทำงานเหมาะกบั เวลาความคุ้มคา่ ในอุปกรณก์ ารเรียน
หลักมีเหตผุ ล การอธบิ ายโดยการใช้หลกั การทางพระพุทธศาสนา
การแก้ปัญหาโดยใชห้ ลักการทางพระพุทธศาสนา
หลกั สร้างภมู คิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี การมนี ำ้ ใจ มีความรบั ผิดชอบ การทำงานเปน็ หมู่คณะ
การวางแผนในการทำงาน
เงื่อนไขความรู้ เข้าใจ และสามารถอธบิ ายถงึ หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาได้
เงื่อนไขคุณธรรม มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ ซอ่ื สตั ย์ มุง่ มัน่ ในการทำงาน
การบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข
ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง คณุ ธรรม
พอประมาณ
มีเหตุผล
มีภูมิคมุ้ กันในตวั ทีด่ ี
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มติ ิ
เศรษฐกจิ สังคม ส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 6 เรือ่ ง ปาปณิก ใบงานท่ี 6 เรอ่ื ง ปาปณิกธรรม 3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ธรรม 3
ใบงานที่ 7 เร่อื ง ทิฏฐธัมมกิ ัตถสงั วตั ตนิก รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 7 เร่ือง ทิฏฐธมั - ธรรม 4
มิกัตถสังวตั ตนิกธรรม 4
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบุคคล
รายบุคคล
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ใบงานที่ 6
เรอ่ื ง ปาปณกิ ธรรม 3
คำช้แี จง ให้นักเรียนวิเคราะห์ภาพ แล้วตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 ภาพที่ 3
คำถาม
1. ทำไมการคา้ ขายในภาพทั้ง 3 จงึ มคี วามแตกต่างกนั
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ฐานะของผทู้ ่ีไปซอ้ื ของในรา้ นท้งั สามร้านมคี วามแตกต่างกนั หรอื ไม่ อธิบายเหตผุ ล
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. ผ้ปู ระกอบการคา้ หรอื พอ่ คา้ ทีด่ ี ควรมีคณุ ลักษณะอยา่ งไร
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
4. นักเรยี นเคยไปซ้ือสินค้าทใ่ี ด ที่แสดงว่า ผปู้ ระกอบการค้าหรือพอ่ คา้ มคี ณุ ลกั ษณะของ
พ่อคา้ ทดี่ ี จงยกตัวอยา่ ง
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. นักเรียนคดิ วา่ การเป็นพอ่ คา้ ท่ีดีนน้ั ส่งผลดตี ่อตนเอง สงั คม และประเทศชาติอยา่ งไร
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
คำชแ้ี จง ใบงานท่ี 6 เฉลย
เร่ือง ปาปณิกธรรม 3 ภาพท่ี 3
ให้นกั เรยี นวิเคราะหภ์ าพ แล้วตอบคำถามต่อไปนี้
ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2
คำถาม
1. ทำไมการค้าขายในภาพทงั้ 3 จึงมคี วามแตกตา่ งกัน
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ฐานะของผทู้ ไ่ี ปซื้อของในร้านทั้งสามรา้ นมคี วามแตกต่างกันหรอื ไม่ อธบิ ายเหตผุ ล
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. ผ้ปู ระกอบการคา้ หรอื พ่อคา้ ท่ดี ี ควรมีคณุ ลกั ษณะอย่างไร
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
4. นกั เรยี นเคยไปซือ้ สนิ คา้ ท่ีใด ท่ีแสดงวา่ ผู้ประกอบการค้าหรอื พอ่ ค้ามีคณุ ลกั ษณะของ
พอ่ คา้ ท่ีดี จงยกตวั อยา่ ง
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. นกั เรยี นคดิ ว่า การเปน็ พ่อคา้ ท่ดี นี ัน้ สง่ ผลดตี อ่ ตนเอง สังคม และประเทศชาตอิ ยา่ งไร
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. ................................................
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ใบงานที่ 7
เรื่อง ทิฏฐธัมมิกตั ถสงั วตั ตนิกธรรม 4
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นวิเคราะห์ข่าว แลว้ ตอบคำถามต่อไปน้ี
ตอ๊ บ อทิ ธพิ ทั ธ์ กุลพงษ์วณชิ ย์ ก่อนจะเป็นเศรษฐรี อ้ ยลำ้ นคนน้ี เขำถกู ตรำหน้ำว่ำเป็นคนไม่เอำถ่ำน เขำ
เรมิ่ เล่นเกมออนไลน์มำตงั้ แต่ ม.4 ถงึ ขนำดสะสมแตม้ จนรวยทส่ี ดุ ในเซริ ฟ์ เวอร์ กลำยเป็นผทู้ ม่ี ชี อ่ื เสยี งอยำ่ ง
มำกในเกมดงั กลำ่ ว และนนั่ กเ็ ป็นกำรเรม่ิ ตน้ สรำ้ งรำยไดใ้ หเ้ ขำเป็นกอบเป็นกำ
ในช่วงจงั หวะทเ่ี กมออนไลน์เรมิ่ ไมเ่ ป็นทน่ี ยิ มเหมอื นเคย เขำกห็ ำรำยไดจ้ ำกช่องทำงอน่ื ทงั้ ขำยเคร่อื ง
เล่นวซี ดี ี ดทู ำเลเปิดรำ้ นกำแฟ แต่กไ็ ม่เป็นทป่ี ระสบควำมสำเรจ็ จนกระทงั่ เขำไดไ้ ปเดนิ งำนแฟรช์ ่องทำงธรุ กจิ
และไดเ้ ขำ้ ไปขอเชำ่ ตูค้ วั ่ เกำลดั แลว้ มำสรำ้ งเฟรนไชสเ์ ป็นของตวั เอง โดยใชเ้ วลำเพยี งแค่ปีกว่ำๆ ขยำยเฟรน
ไชสเ์ กำลดั เถำ้ แกน่ ้อย ไดก้ วำ่ 30 สำขำ นอกจำกน้แี ลว้ เขำยงั ไดล้ องนำอยำ่ งอ่นื มำวำงขำยในรำ้ น ไม่ว่ำจะ
เป็นลูกทอ้ ลำไยอบแหง้ และสำหร่ำย ซง่ึ สนิ คำ้ ทข่ี ำยดที ส่ี ุดในตอนนนั้ กลบั ไม่ใชเ่ กำลดั แตก่ ลำยเป็นสำหร่ำย
ทอดกรอบ ซง่ึ นนั ่ เป็นแรงบนั ดำลใจทท่ี ำใหเ้ ขำอยำกตอ่ ยอดธุรกจิ ในกำรทำสำหร่ำยทอดตรำ "เถำ้ แกน่ ้อย"
อย่ำงจรงิ จงั โดยกำรพยำยำมศกึ ษำหำควำมรเู้ กย่ี วกบั สำหร่ำย และไดล้ องผดิ ลองถูกอย่หู ลำยครงั้
เขำอยำกใหผ้ บู้ รโิ ภคจดจำสนิ คำ้ ของเขำไดท้ นั ทที แ่ี รกเหน็ เขำจงึ ทำโลโก้เป็นเดก็ หน้ำยม้ิ ดนู ่ำรกั มี
ควำมสุข อกี ทงั้ ถอื ธงเพอ่ื ใหร้ วู้ ่ำ ถงึ จะเป็นของกนิ เลน่ แตม่ คี ุณคำ่ ทำงอำหำรสงู รวมไปถงึ เพม่ิ รสชำตติ ำ่ งๆ ให้
หลำกหลำย และเมอ่ื เขำไดป้ รบั ปรุงสนิ คำ้ เรยี บรอ้ ยแลว้ เขำจงึ นำสำหร่ำยเถำ้ แก่น้อยไปเสนอแก่ 7-11 อกี ครงั้
และจำกนนั้ กไ็ ดร้ บั กำรตดิ ตอ่ กลบั มำในทนั ทวี ำ่ "ภำยใน 3 เดอื น สนิ คำ้ คุณพรอ้ มจะวำงขำยในรำ้ น 7-11
จำนวน 3,000 สำขำทวั่ ประเทศ หรอื ไม่" ทงั้ ๆ ทต่ี อนนนั้ มคี ำถำมอยเู่ ตม็ หวั ไปหมด แตเ่ ขำกต็ อบกลบั
7-11 ไปเกอื บจะทนั ทวี ำ่ พรอ้ มครบั !!!
หลงั จำกทต่ี อบตกลงไปแลว้ เขำกต็ อ้ งกบั มำนงั่ กุมขมบั กบั ปัญหำ และสง่ิ ทต่ี ำมมำ เพ่อื ผลติ สนิ คำ้ ใหไ้ ด้
มำตรฐำน พรอ้ มสง่ ขำยแก่ 7-11 กวำ่ 3,000 สำขำ ในระยะเวลำเพยี ง 3 เดอื นเท่ำนนั้ เขำจงึ เดนิ หน้ำดว้ ยกำร
เรม่ิ ตน้ หำทุนสรำ้ งโรงงำน โดยกำรไปขอกยู้ มื จำกธนำคำรแห่งหน่งึ แต่กไ็ ดร้ บั กำรปฏเิ สธ เขำจงึ ยอมตดั ใจขำย
ธุรกจิ เฟรนไชสเ์ กำลดั
เขำไดต้ ดั สนิ ใจพกั กำรเรยี นเพ่อื นำเวลำมำทำธรุ กจิ ส่วนตวั อย่ำงเตม็ ตวั นำเงนิ ทข่ี ำยเฟรนไชสเ์ กำลดั มำ
ลงทนุ กบั สำหร่ำยทงั้ หมด โดยกำรสรำ้ งโรงงำนผลติ สำหร่ำยทอด ซง่ึ มพี นักงำนกค็ อื ครอบครวั ของเขำทุกคน
และคนงำนอกี เพยี งแค่ 6-7 คนเทำ่ นนั้ ทุกคนทำงำนอยำ่ งหนัก แทบไม่ไดห้ ลบั ไดน้ อน ทอดสำหร่ำย และบรรจุ
ภณั ฑ์ แต่กส็ ำเรจ็ เขำสำมำรถบรรทกุ สำหร่ำยเถำ้ แกน่ ้อยเตม็ คนั ขบั ไปสง่ ศนู ยจ์ ำหน่ำย 7-11 ไดท้ นั เวลำ
จำกนนั้ เป็นตน้ มำ สำหร่ำย "เถำ้ แกน่ ้อย" กท็ ะยำนสตู่ ลำดวยั รุน่ และผบู้ รโิ ภคทช่ี น่ื ชอบสำหร่ำยทอด
กรอบไดส้ ำเรจ็ สว่ น ต๊อบ กก็ ลำยเป็นนักธรุ กจิ หนุ่มใหม่ไฟแรง เปล่ยี นสถำนะจำกเศรษฐรี อ้ ยลำ้ น กลำยเป็น
เศรษฐพี นั ลำ้ นไดอ้ ยำ่ งสงำ่ งำม
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/อทิ ธพิ ทั ธ_์ กลุ พงษว์ ณชิ
คำถาม
1. บคุ คลในข่าวนี้ ประสบความสำเรจ็ ในชีวิตอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. จากการศกึ ษาประวตั ขิ องเขา ทำใหน้ ักเรียนคิดว่าสอดคลอ้ งกบั หลักทิฏฐธัมมิกัตถสังวัต
ตนิกธรรม 4 อย่างไร พร้อมยกตวั อย่างประกอบให้ชัดเจน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. จากการกระทำของเขา นอกจากจะสง่ ผลดีต่อตนเองแล้ว ยงั ส่งผลดีตอ่ สังคมและ
ประเทศชาตอิ ยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ใบงานที่ 7 เฉลย
เรือ่ ง ทิฏฐธมั มกิ ตั ถสังวตั ตนกิ ธรรม 4
คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนวิเคราะห์ข่าว แล้วตอบคำถามต่อไปน้ี
ตอ๊ บ อทิ ธพิ ทั ธ์ กลุ พงษว์ ณชิ ย์ ก่อนจะเป็นเศรษฐรี อ้ ยลำ้ นคนน้ี เขำถูกตรำหน้ำว่ำเป็นคนไม่เอำถ่ำน เขำ
เรมิ่ เลน่ เกมออนไลน์มำตงั้ แต่ ม.4 ถงึ ขนำดสะสมแตม้ จนรวยทส่ี ดุ ในเซริ ฟ์ เวอร์ กลำยเป็นผทู้ ม่ี ชี อ่ื เสยี งอย่ำง
มำกในเกมดงั กล่ำว และนนั่ กเ็ ป็นกำรเรมิ่ ตน้ สรำ้ งรำยไดใ้ หเ้ ขำเป็นกอบเป็นกำ
ในชว่ งจงั หวะทเ่ี กมออนไลน์เรม่ิ ไม่เป็นทน่ี ยิ มเหมอื นเคย เขำกห็ ำรำยไดจ้ ำกช่องทำงอน่ื ทงั้ ขำยเคร่อื ง
เล่นวซี ดี ี ดทู ำเลเปิดรำ้ นกำแฟ แต่กไ็ ม่เป็นทป่ี ระสบควำมสำเรจ็ จนกระทงั่ เขำไดไ้ ปเดนิ งำนแฟรช์ อ่ งทำงธุรกจิ
และไดเ้ ขำ้ ไปขอเชำ่ ตคู้ วั ่ เกำลดั แลว้ มำสรำ้ งเฟรนไชสเ์ ป็นของตวั เอง โดยใชเ้ วลำเพยี งแคป่ ีกว่ำๆ ขยำยเฟรน
ไชสเ์ กำลดั เถำ้ แก่น้อย ไดก้ วำ่ 30 สำขำ นอกจำกนแ้ี ลว้ เขำยงั ไดล้ องนำอยำ่ งอ่นื มำวำงขำยในรำ้ น ไมว่ ำ่ จะ
เป็นลูกทอ้ ลำไยอบแหง้ และสำหร่ำย ซง่ึ สนิ คำ้ ทข่ี ำยดที ส่ี ดุ ในตอนนนั้ กลบั ไมใ่ ช่เกำลดั แตก่ ลำยเป็นสำหร่ำย
ทอดกรอบ ซง่ึ นนั ่ เป็นแรงบนั ดำลใจทท่ี ำใหเ้ ขำอยำกตอ่ ยอดธุรกจิ ในกำรทำสำหร่ำยทอดตรำ "เถำ้ แกน่ ้อย"
อย่ำงจรงิ จงั โดยกำรพยำยำมศกึ ษำหำควำมรเู้ กย่ี วกบั สำหร่ำย และไดล้ องผดิ ลองถูกอย่หู ลำยครงั้
เขำอยำกใหผ้ บู้ รโิ ภคจดจำสนิ คำ้ ของเขำไดท้ นั ทที แ่ี รกเหน็ เขำจงึ ทำโลโก้เป็นเดก็ หน้ำยม้ิ ดนู ่ำรกั มี
ควำมสุข อกี ทงั้ ถอื ธงเพ่อื ใหร้ วู้ ่ำ ถงึ จะเป็นของกนิ เลน่ แตม่ คี ุณคำ่ ทำงอำหำรสงู รวมไปถงึ เพม่ิ รสชำตติ ำ่ งๆ ให้
หลำกหลำย และเมอ่ื เขำไดป้ รบั ปรงุ สนิ คำ้ เรยี บรอ้ ยแลว้ เขำจงึ นำสำหรำ่ ยเถำ้ แก่น้อยไปเสนอแก่ 7-11 อกี ครงั้
และจำกนนั้ กไ็ ดร้ บั กำรตดิ ต่อกลบั มำในทนั ทวี ่ำ "ภำยใน 3 เดอื น สนิ คำ้ คณุ พรอ้ มจะวำงขำยในรำ้ น 7-11
จำนวน 3,000 สำขำทวั่ ประเทศ หรอื ไม"่ ทงั้ ๆ ทต่ี อนนนั้ มคี ำถำมอย่เู ตม็ หวั ไปหมด แตเ่ ขำกต็ อบกลบั
7-11 ไปเกอื บจะทนั ทวี ำ่ พรอ้ มครบั !!!
หลงั จำกทต่ี อบตกลงไปแลว้ เขำกต็ อ้ งกบั มำนงั่ กุมขมบั กบั ปัญหำ และสงิ่ ทต่ี ำมมำ เพ่อื ผลติ สนิ คำ้ ใหไ้ ด้
มำตรฐำน พรอ้ มส่งขำยแก่ 7-11 กว่ำ 3,000 สำขำ ในระยะเวลำเพยี ง 3 เดอื นเท่ำนนั้ เขำจงึ เดนิ หน้ำดว้ ยกำร
เรม่ิ ตน้ หำทุนสรำ้ งโรงงำน โดยกำรไปขอกยู้ มื จำกธนำคำรแหง่ หน่งึ แตก่ ไ็ ดร้ บั กำรปฏเิ สธ เขำจงึ ยอมตดั ใจขำย
ธุรกจิ เฟรนไชสเ์ กำลดั
เขำไดต้ ดั สนิ ใจพกั กำรเรยี นเพอ่ื นำเวลำมำทำธรุ กจิ สว่ นตวั อยำ่ งเตม็ ตวั นำเงนิ ทข่ี ำยเฟรนไชสเ์ กำลดั มำ
ลงทนุ กบั สำหร่ำยทงั้ หมด โดยกำรสรำ้ งโรงงำนผลติ สำหรำ่ ยทอด ซง่ึ มพี นกั งำนกค็ อื ครอบครวั ของเขำทุกคน
และคนงำนอกี เพยี งแค่ 6-7 คนเทำ่ นนั้ ทกุ คนทำงำนอยำ่ งหนกั แทบไม่ไดห้ ลบั ไดน้ อน ทอดสำหรำ่ ย และบรรจุ
ภณั ฑ์ แตก่ ส็ ำเรจ็ เขำสำมำรถบรรทกุ สำหร่ำยเถำ้ แก่น้อยเตม็ คนั ขบั ไปสง่ ศูนยจ์ ำหน่ำย 7-11 ไดท้ นั เวลำ
จำกนนั้ เป็นตน้ มำ สำหร่ำย "เถำ้ แก่น้อย" กท็ ะยำนสตู่ ลำดวยั รนุ่ และผบู้ รโิ ภคทช่ี น่ื ชอบสำหร่ำยทอด
กรอบไดส้ ำเรจ็ สว่ น ต๊อบ กก็ ลำยเป็นนกั ธรุ กจิ หนุ่มใหมไ่ ฟแรง เปลย่ี นสถำนะจำกเศรษฐรี อ้ ยลำ้ น กลำยเป็น
เศรษฐพี นั ลำ้ นไดอ้ ย่ำงสงำ่ งำม
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/อทิ ธพิ ทั ธ_์ กลุ พงษ์วณชิ
คำถาม
1. บคุ คลในขา่ วน้ี ประสบความสำเร็จในชีวติ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. จากการศกึ ษาประวัตขิ องเขา ทำใหน้ ักเรียนคิดวา่ สอดคลอ้ งกับหลักทิฏฐธมั มกิ ัตถสงั วตั
ตนกิ ธรรม 4 อยา่ งไร พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้ชัดเจน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. จากการกระทำของเขา นอกจากจะส่งผลดีต่อตนเองแล้ว ยังส่งผลดตี อ่ สังคมและ
ประเทศชาติอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13
กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรื่อง หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 10 ชัว่ โมง
เร่อื ง โภคอาทิยะ 5 และอริยวัฑฒิ 5 เวลาทีใ่ ชส้ อน 1 ช่ัวโมง
ครูผูส้ อนชอ่ื นางสาวพัชราภรณ์ กล่นิ เกษร โรงเรียนพนมศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
สาระสำคัญ
การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมโภคอาทยิ ะ 5 และอรยิ วัฑฒิ 5 ย่อมเป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และ
ประเทศชาติ
มาตรฐานการเรียนรู้
ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ
และศาสนาอนื่ มศี รัทธาทีถ่ ูกต้อง ยดึ มนั่ และปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรม เพื่ออยูร่ ่วมกันอยา่ งสนั ติสขุ
ตวั ช้ีวดั ม.4-6/13 วเิ คราะห์หลกั ธรรมในกรอบอริยสจั 4 หรือหลกั คำสอนของศาสนาทีต่ นนบั ถือ
ตวั ชวี้ ัด ม.4-6/16 เช่อื ม่นั ตอ่ ผลของการทำความดี ความช่ัว สามารถวิเคราะหส์ ถานการณท์ ีต่ ้องเผชิญ
และตดั สินใจเลอื กดำเนนิ การหรือปฏิบตั ติ นได้อย่างมีเหตผุ ลถกู ตอ้ งตามหลกั ธรรม จรยิ ธรรม และกำหนด
เป้าหมาย บทบาทการดำเนนิ ชวี ติ เพอ่ื การอย่รู ่วมกันอย่างสันติสขุ และอยรู่ ่วมกนั เปน็ ชาติอย่างสมานฉนั ท์
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. เข้าใจ และสามารถอธบิ ายถึงหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาได้ (K)
2. วเิ คราะห์ผลของการปฏบิ ัติตนตามหลกั โภคอาทยิ ะ 5 และอรยิ วัฑฒิ 5 (P)
3. เห็นความสำคัญในการศึกษาข้อมูลทางพระพทุ ธศาสนา ทส่ี ามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนิน
ชวี ิตประจำวนั ได้ (A)
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 2) ทักษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ 3) ทกั ษะการสรปุ อา้ งองิ
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวเิ คราะห์
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
1) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2) กระบวนการทำงานกล่มุ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
- ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎระเบียบ กติกาท่ตี กลงกนั ในหอ้ งเรยี น
2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ผูเ้ รยี นตง้ั ใจเรยี น เพยี รพยายาม ในการเรียนรู้
3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
- ตัง้ ใจและพยายามทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง (2) อรยิ วฑั ฒิ 5
อรยิ สจั 4
- มรรค (ธรรมท่ีควรเจริญ)
(1) โภคอาทยิ ะ 5
ชนิ้ งานหรือภาระงาน
1. ใบงานท่ี 8 เร่อื ง โภคอาทยิ ะ 5
2. ใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง อรยิ วฑั ฒิ 5
ขั้นตอนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครนู ำภาพมาใหน้ ักเรียนดู แล้วให้นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์ ดังนี้
- ภาพลูกดแู ลบิดามารดาซงึ่ ชราภาพ
- ภาพคนชว่ ยเหลือกนั ทำงาน
- ภาพการทำบญุ
- ภาพการสงเคราะหเ์ ด็ก คนยากไร้
2. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั ตอบคำถาม ดังนี้
- ภาพน้เี ปน็ การทำความดีอย่างไร
- ข้อคดิ ท่ีได้จากภาพ คืออะไร
ขั้นสอน
3. ครูอธบิ ายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจวา่ การกระทำดงั กล่าวเป็นสว่ นหนง่ึ ของการปฏิบัตติ าม
หลกั ธรรมโภคอาทยิ ะ 5 และอรยิ วฑั ฒิ 5
4. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ (กลุม่ เดมิ จากแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7) รว่ มกนั ศึกษาความรู้เร่ือง โภค
อาทยิ ะ 5 และอรยิ วัฑฒิ 5 จากหนังสอื เรยี น หรอื หนงั สือค้นคว้าเพ่ิมเติม หอ้ งสมุด และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ
ตามประเด็น ดังนี้ 1) ความหมาย ความสำคญั
2) องคป์ ระกอบของหลักธรรมและสาระสำคญั
3) ตัวอยา่ งบุคคลท่ีมกี ารกระทำสอดคล้องกับหลกั ธรรม
5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั หาข้อมูลบุคคลตัวอย่างทม่ี ีการกระทำสอดคล้องกับหลักธรรม
โภคอาทยิ ะ 5 และอรยิ วฑั ฒิ 5 จากหนงั สอื คน้ ควา้ เพิ่มเติม ห้องสมุด และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ แล้วนำมา
วเิ คราะหแ์ ละประเมินคณุ ค่าตามประเดน็ ท่ีกำหนดในใบงานท่ี 8 เรื่องโภคอาทยิ ะ 5 และใบงานท่ี 9 เรื่อง
อริยวัฑฒิ 5
6. ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอคำตอบในใบงานที่ 8 และ 9 กล่มุ ละ 1 ใบงาน และให้กลุม่ อน่ื แสดง
ความคิดเหน็ เพม่ิ เติม ครูตรวจสอบความถูกต้องและใหข้ ้อเสนอแนะ
ขั้นสรุปผล
5. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ ความร้เู กย่ี วกับหลักสำคญั ของหลักธรรมโภคอาทิยะ 5 และอรยิ วัฑฒิ 5
ส่อื และแหล่งเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น พระพุทธศาสนา ม.5
2. ใบงานท่ี 8 เรือ่ ง โภคอาทยิ ะ 5
3. ใบงานที่ 9 เร่อื ง อริยวฑั ฒิ 5
4. หอ้ งจริยธรรม
5. หอ้ งสมดุ
การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 ห่วง 3 เงื่อนไข)
หลักความพอประมาณ ใชเ้ วลาในการศึกษา คน้ คว้าหาความรู้
ทำงานเหมาะกบั เวลาความคุ้มคา่ ในอุปกรณ์การเรยี น
หลักมเี หตผุ ล การอธบิ ายโดยการใชห้ ลักการทางพระพุทธศาสนา
การแกป้ ัญหาโดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนา
หลักสรา้ งภูมิคุ้มกันในตวั ท่ีดี การมนี ำ้ ใจ มีความรับผดิ ชอบ การทำงานเป็นหมู่คณะ
การวางแผนในการทำงาน
เงื่อนไขความรู้ เขา้ ใจ และสามารถอธิบายถงึ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาได้
เงื่อนไขคุณธรรม มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ซ่ือสตั ย์ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
การบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เงอื่ นไข
ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง คุณธรรม
พอประมาณ
มเี หตุผล
มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ท่ีดี
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มิติ
เศรษฐกิจ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม
การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 8 ใบงานที่ 8 เร่อื ง โภคอาทยิ ะ 5 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เรอื่ ง โภคอาทยิ ะ 5
ตรวจใบงานที่ 9 เรื่อง อริยวัฑฒิ 5 ใบงานที่ 9 เรื่อง อริยวฑั ฒิ 5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล รายบคุ คล
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ใบงานท่ี 8
เรือ่ ง โภคอาทิยะ 5
คำช้แี จง ให้นักเรยี นหาขอ้ มลู หรอื ขา่ ว หรือกรณีศึกษาของบคุ คลหรือกลุ่มบคุ คลท่รี ้จู ักใชโ้ ภค
ทรพั ย์ท่พี อเหมาะพอควร แลว้ นำมาวเิ คราะห์ในประเดน็ ทีก่ ำหนด
เรอ่ื ง……………………………………………………………..
(สาระสำคัญโดยยอ่ )
ที่มา : ……………………………………………………………………………………………
1. ชื่อขา่ ว / กรณีศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. การปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมโภคอาทิยะ 5
1) เลย้ี งตวั เอง บดิ ามารดา และคนในความดแู ล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2) บำรุงมติ รสหายและผรู้ ่วมงาน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3) ใช้ปอ้ งกันภัยอันตรายที่อาจจะเกิดข้นึ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4) ทำพลี 5 อย่าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5) อุปถมั ภบ์ ำรงุ สมณพราหมณผ์ ู้ประพฤติชอบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ผลของการปฏบิ ตั เิ ปน็ ประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. นักเรียนสามารถนำแบบอยา่ งทดี่ ไี ปประยุกตป์ ฏบิ ัติไดอ้ ยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ใบงานที่ 8 เฉลย
เรื่อง โภคอาทิยะ 5
คำช้แี จง ให้นักเรยี นหาขอ้ มลู หรอื ขา่ ว หรอื กรณีศึกษาของบุคคลหรอื กลุ่มบุคคลท่ีร้จู ักใชโ้ ภค
ทรพั ย์ท่พี อเหมาะพอควร แลว้ นำมาวเิ คราะห์ในประเด็นทก่ี ำหนด
เร่อื ง……………………………………………………………..
(สาระสำคญั โดยย่อ)
ทีม่ า : ……………………………………………………………………………………………
1. ชอ่ื ขา่ ว / กรณศี ึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. การปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมโภคอาทิยะ 5
1) เลี้ยงตัวเอง บดิ ามารดา และคนในความดูแล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2) บำรุงมติ รสหายและผูร้ ่วมงาน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3) ใช้ปอ้ งกนั ภัยอันตรายท่ีอาจจะเกิดข้นึ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4) ทำพลี 5 อยา่ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5) อปุ ถมั ภ์บำรงุ สมณพราหมณผ์ ปู้ ระพฤตชิ อบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ผลของการปฏิบัติเป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง สังคม และประเทศชาตอิ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. นักเรียนสามารถนำแบบอยา่ งทดี่ ไี ปประยกุ ตป์ ฏบิ ตั ิได้อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)
ใบงานที่ 9
เร่ือง อริยวฑั ฒิ 5
คำช้แี จง ให้นักเรียนหาข้อมูล หรือขา่ ว หรอื กรณศี ึกษาของบคุ คลหรอื กลุ่มบุคคลท่ีปฏบิ ตั ิตนตาม
หลักธรรมอริยวฑั ฒิ 5 แล้วนำมาวิเคราะห์ในประเด็นทีก่ ำหนด
เรื่อง……………………………………………………………..
(สาระสำคญั โดยยอ่ )
ทม่ี า : ……………………………………………………………………………………………
1. ช่ือข่าว / กรณศี กึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. การปฏิบตั ิตามหลักธรรมอรยิ วฑั ฒิ 5
1) ศรทั ธา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2) ศีล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3) สตุ ะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
4) จาคะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5) ปญั ญา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ผลของการปฏบิ ตั เิ ปน็ ประโยชนต์ ่อตนเอง สังคม และประเทศชาตอิ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. นักเรยี นสามารถนำแบบอยา่ งท่ีดไี ปประยกุ ตป์ ฏบิ ตั ิไดอ้ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ใบงานที่ 9 เฉลย
เร่ือง อรยิ วัฑฒิ 5
คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนหาข้อมลู หรอื ข่าว หรือกรณศี ึกษาของบุคคลหรอื กล่มุ บุคคลทปี่ ฏบิ ตั ติ นตาม
หลักธรรมอริยวฑั ฒิ 5 แล้วนำมาวิเคราะหใ์ นประเด็นที่กำหนด
เรอ่ื ง……………………………………………………………..
(สาระสำคญั โดยย่อ)
ที่มา : ……………………………………………………………………………………………
1. ช่อื ข่าว / กรณีศึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. การปฏิบตั ติ ามหลักธรรมอริยวฑั ฒิ 5
1) ศรัทธา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2) ศีล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3) สตุ ะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
4) จาคะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5) ปญั ญา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ผลของการปฏิบัตเิ ปน็ ประโยชนต์ ่อตนเอง สงั คม และประเทศชาตอิ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. นกั เรยี นสามารถนำแบบอย่างทด่ี ีไปประยกุ ต์ปฏบิ ัตไิ ดอ้ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน)
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 10 ช่วั โมง
เรือ่ ง มงคล 38 เวลาท่ใี ช้สอน 1 ชั่วโมง
ครผู ู้สอนช่อื นางสาวพัชราภรณ์ กลิ่นเกษร โรงเรียนพนมศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
สาระสำคัญ
การปฏิบัติตนตามมงคล 38 เก่ยี วกบั ถูกโลกธรรมจติ ไม่หวัน่ ไหว จติ ไม่เศร้าโศก จติ ไม่มัวหมอง
จิตเกษม ย่อมทำให้จติ ใจมีความมัน่ คง สงบ จิตบริสทุ ธิ์ปราศจากกเิ ลส
มาตรฐานการเรียนรู้
ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ
และศาสนาอืน่ มีศรัทธาทถ่ี ูกต้อง ยดึ มั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพือ่ อยูร่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสุข
ตวั ชว้ี ดั ม.4-6/13 วเิ คราะห์หลกั ธรรมในกรอบอรยิ สจั 4 หรอื หลกั คำสอนของศาสนาที่ตนนบั ถือ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เขา้ ใจ และสามารถอธบิ ายถึงหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาได้ (K)
2. วิเคราะห์ผลของการปฏบิ ัติตนตามหลักมงคล 38 (P)
3. เหน็ ความสำคญั ในการศึกษาข้อมูลทางพระพุทธศาสนา ทสี่ ามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ในการดำเนนิ
ชีวติ ประจำวันได้ (A)
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 3) ทกั ษะการสรปุ อ้างอิง
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
1) กระบวนการปฏิบตั ิ 2) กระบวนการทำงานกล่มุ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
- ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎระเบียบ กติกาทีต่ กลงกันในห้องเรยี น
2. ใฝ่เรยี นรู้
- ผ้เู รียนตง้ั ใจเรยี น เพียรพยายาม ในการเรยี นรู้
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน
- ตง้ั ใจและพยายามทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ➢ จิตไมเ่ ศร้าโศก
อริยสัจ 4 ➢ จิตเกษม
- มรรค (ธรรมท่คี วรเจรญิ )
(1) มงคล 38
➢ ถกู โลกธรรมจิตไมห่ วน่ั ไหว
➢ จติ ไม่มวั หมอง
ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน
-
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูใหน้ ักเรียนตอบคำถามดังต่อไปนี้
- นกั เรยี นรู้สึกอย่างไร เม่ือรวู้ า่ ถูกนนิ ทา
- นักเรยี นรสู้ กึ อยา่ งไร เม่ือมคี นพูดชมเชยตอ่ หน้า
- นักเรยี นรู้สกึ อยา่ งไร เมื่อผลการสอบตกตำ่ กว่าเดิม
- นักเรยี นร้สู ึกอย่างไร เมื่อมีคนพูดว่าเราตอ่ หน้าคนอืน่ หลายคน
2. นกั เรยี นแตล่ ะคนจะมีความคิดเหน็ และความรู้สึกแตกต่างกันไป ครอู ธิบายเชอื่ มโยงให้นักเรยี น
เข้าใจว่า ความรสู้ กึ ตา่ งๆ ทเี่ ราหว่นั ไหว หรอื เศรา้ โศก มวั หมอง หรือยนิ ดีนน้ั ยอ่ มทำใหเ้ ราไมม่ ีความสุข ดังนนั้
เราจงึ ควรศึกษามงคล 38 ซงึ่ เป็นสง่ิ ท่ีทำให้เรามีโชค เปน็ ธรรมอนั นำมาซง่ึ ความสุขความเจรญิ มี 38 ขอ้ ธรรม
ทน่ี กั เรยี นควรศึกษาในช้ันน้มี ี 4 ขอ้ คือ 1) ถกู โลกธรรมจติ ไม่หว่นั ไหว
2) จิตไม่เศร้าโศก
3) จิตไม่มวั หมอง
4) จิตเกษม
ขั้นสอน
3. นกั เรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 7) รว่ มกนั ศึกษาความรู้เรื่อง มงคล 38 จากหนงั สือ
เรียน หนังสอื คน้ ควา้ เพมิ่ เติม ห้องสมดุ และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ตามหัวข้อทค่ี รูกำหนดให้ แลว้ สมาชกิ ของ
แต่ละกลุ่มรว่ มกนั วางแผนจดั ทำเคา้ โครงเร่ือง ของบทบาทสมมติ กำหนดตวั ละครในการแสดง และช่วยกนั
เรียบเรยี งบทพูดของผู้แสดงแต่ละคน
4. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มเลอื กผู้แสดงใหเ้ หมาะสมกับบทบาทที่กำหนดและมีการฝึกซอ้ มการแสดง เพ่ือให้
การแสดงเป็นไปอย่างราบรื่น ปรึกษากันเพื่อแบ่งหนา้ ทรี่ ับผิดชอบกันทุกคน เชน่ ฝ่ายแสดง ฝา่ ยกำกับการ
แสดง ฝ่ายบรรยาย ฝา่ ยสถานที่และอุปกรณ์การแสดง เป็นตน้ ทกุ ฝ่ายเตรียมการให้พรอ้ มก่อนกำหนดวันแสดง
โดยครูเปน็ ผู้ชว่ ยช้ีแนะตามความเหมาะสม
5. สมาชกิ แต่ละกลุ่มเตรยี มผู้สังเกตการณ์ เพ่ือสังเกตและวิเคราะห์ปรับปรงุ การแสดงให้เหมาะสม
นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ซักซ้อมบทก่อนการแสดงเป็นการเตรียมความพร้อมและปรบั ปรงุ แกไ้ ข เม่ือพบปญั หาและ
อุปสรรคหรือขอ้ บกพร่อง
6. สมาชิกแต่ละกลุ่มจับสลากเพือ่ แสดงบทบาทสมมติตามท่ีได้เตรยี มความพร้อมไว้โดยให้แสดงกล่มุ
ละ 5-8 นาที (ตามความเหมาะสม) สมาชิกแตล่ ะกลุม่ ร่วมมือกันแสดงตามบทบาทในวันเวลาที่กำหนดเม่ือจบ
การแสดงของแตล่ ะกลุ่มแล้วใหน้ ักเรยี นร่วมกนั วเิ คราะห์ การแสดงบทบาทสมมติในประเดน็ ต่อไปน้ี
- การแสดงแตล่ ะกลุ่มมีความคล้ายคลึงกนั อย่างไร แตกต่างกันอยา่ งไร
- ขอ้ คดิ ที่ได้จากการแสดงบทบาทสมมติ เรื่อง มงคล 38 คืออะไร
ขน้ั สรุปผล
5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความสำคญั และความจำเป็นทจี่ ะต้องปฏบิ ตั ิตนตามมงคล 38
สือ่ และแหล่งเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น พระพุทธศาสนา ม.5
2. หอ้ งจริยธรรม
3. ห้องสมุด
การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (2 ห่วง 3 เง่ือนไข)
หลกั ความพอประมาณ ใช้เวลาในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้
ทำงานเหมาะกับเวลาความคุ้มคา่ ในอุปกรณก์ ารเรียน
หลกั มเี หตุผล การอธิบายโดยการใช้หลักการทางพระพุทธศาสนา
การแก้ปัญหาโดยใชห้ ลักการทางพระพุทธศาสนา
หลกั สร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ท่ดี ี การมีน้ำใจ มีความรับผิดชอบ การทำงานเปน็ หมู่คณะ
การวางแผนในการทำงาน
เง่ือนไขความรู้ เขา้ ใจ และสามารถอธบิ ายถงึ หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาได้
เงื่อนไขคุณธรรม มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ซ่อื สัตย์ มุ่งมัน่ ในการทำงาน
การบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เงื่อนไข
ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง คณุ ธรรม
พอประมาณ
มีเหตุผล
มภี มู คิ ้มุ กันในตัวท่ีดี
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มิติ
เศรษฐกิจ สังคม ส่งิ แวดล้อม วฒั นธรรม
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล รายบคุ คล
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง พระไตรปฎิ ก และพุทธศาสนสุภาษติ เวลา 4 ชว่ั โมง
เรอ่ื ง พระไตรปิฎก เวลาที่ใช้สอน 2 ชั่วโมง
ครผู ู้สอนช่อื นางสาวพชั ราภรณ์ กล่นิ เกษร โรงเรยี นพนมศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
สาระสำคัญ
การสังคายนาพระไตรปฎิ กมคี ุณคา่ และความสำคัญตอ่ พระพุทธศาสนาและการเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนา
มาตรฐานการเรียนรู้
ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือ
และศาสนาอื่น มศี รัทธาท่ถี ูกตอ้ ง ยึดมน่ั และปฏิบัตติ ามหลักธรรม เพ่อื อยู่ร่วมกนั อย่างสันตสิ ขุ
ตัวชวี้ ัด ม.4-6/15 วเิ คราะห์คุณค่าและความสำคัญของการสงั คายนาพระไตรปฎิ ก หรอื คัมภรี ์ของ
ศาสนาที่ตนนับถือ และการเผยแผ่
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายวธิ ีการศึกษาและค้นคว้าพระไตรปิฎกได้ (K)
2. วิเคราะห์คุณคา่ และความสำคญั ของการสังคายนาพระไตรปฎิ กได้ (P)
3. เห็นความสำคญั ในการศกึ ษาข้อมูลทางพระพุทธศาสนา ท่สี ามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ในการดำเนนิ
ชวี ติ ประจำวันได้ (A)
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
1) กระบวนการปฏิบตั ิ 2) กระบวนการทำงานกลุ่ม
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินยั
- ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎระเบียบ กตกิ าท่ตี กลงกนั ในห้องเรยี น
2. ใฝ่เรียนรู้
- ผู้เรยี นต้ังใจเรยี น เพียรพยายาม ในการเรยี นรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน
- ตัง้ ใจและพยายามทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1. วธิ กี ารศกึ ษาและค้นควา้ พระไตรปฎิ กและคัมภรี ข์ องศาสนาอื่นๆ การสังคายนาและการเผยแผ่
พระไตรปฎิ ก
2. ความสำคัญและคุณค่าของพระไตรปิฎก
ชิ้นงานหรอื ภาระงาน
ใบงานท่ี 1 เรือ่ ง พระไตรปฎิ ก
ใบงานท่ี 2 เร่ือง เรอื่ งนา่ รจู้ ากพระไตรปฎิ ก
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ช่วั โมงที่ 1)
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูตงั้ คำถามถามนกั เรยี นเพอื่ เป็นการทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเกยี่ วกับพระไตรปฎิ ก ดังน้ี
- พระไตรปิฎก หมายความว่าอยา่ งไร
- พระไตรปิฎก แบง่ ออกเปน็ ก่ีปฎิ ก อะไรบา้ ง
- เพราะเหตุใด จงึ ตอ้ งมกี ารสังคายนาพระไตรปิฎก
- วธิ ีการแก้ไขปญั หาทถ่ี ูกวิธี คืออะไร
2. ครอู ธิบายเช่ือมโยงใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวา่ ในการสงั คายนาพระไตรปิฎกนั้น ได้มกี ารทำมาจนถึง
ปจั จบุ นั น้ี 10 ครัง้ แต่ละครั้งน้นั มสี าเหตหุ รอื เหตุผลในการกระทำแตกต่างกันไป ในแต่ละครงั้ จะมปี ระธานใน
การทำสงั คายนา พระสงฆผ์ ู้เข้ารว่ มประชมุ ผู้อปุ ถัมภ์ สถานที่ และระยะเวลาในการสงั คายนาแตกตา่ งกนั ไป
ขน้ั สอน
3. ครูแบ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง
ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาความรเู้ รื่อง พระไตรปิฎก จากหนังสือเรยี น
หนงั สอื ค้นคว้าเพมิ่ เติม ห้องสมุด และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ ฉ,ซนกั เรียนนำความรู้ทีไ่ ด้มาบันทึกลงในแบบ
บนั ทกึ การอา่ น
4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทำใบงานที่ 1 เรอ่ื ง พระไตรปิฎก ตอนที่ 1 โดยแบง่ หนา้ ทกี่ ันตอบ
คำถามในแต่ละข้อ หรอื ตอบประเด็นในการสังคายนาแตล่ ะครง้ั ดงั น้ี
- สมาชิกหมายเลข 1 อ่านประเดน็ ทจ่ี ะตอ้ งตอบ ประเด็นที่ 1-4
- สมาชกิ หมายเลข 2 วิเคราะหค์ ำตอบและตอบ ประเดน็ ที่ 1-4
- สมาชกิ หมายเลข 3 อา่ นประเด็นทจ่ี ะตอ้ งตอบ ประเด็นท่ี 5-7
- สมาชิกหมายเลข 4 วิเคราะห์คำตอบและตอบ ประเด็นท่ี 5-7
- สมาชิกหมายเลข 5 ตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบในแตล่ ะประเดน็ หากไม่ถูกต้องใหแ้ ก้ไขให้
ถูกต้อง
5. สมาชิกแต่ละกลุ่มหมุนเวียนเปลีย่ นหน้าที่กันในการตอบคำถามในประเด็นทีก่ ำหนดให้จนเสร็จทั้ง
10 ข้อ เชน่ ในการทำสังคายนาครั้งที่ 2 หรือข้อ 2
- สมาชิกหมายเลข 2 เล่อื นขน้ึ มาทำหน้าท่ีแทนสมาชกิ หมายเลข 1
- สมาชิกหมายเลข 3 เล่อื นขนึ้ มาทำหนา้ ท่ีแทนสมาชกิ หมายเลข 2
- สมาชกิ หมายเลข 4 เลอื่ นขน้ึ มาทำหนา้ ท่แี ทนสมาชิกหมายเลข 3
- สมาชกิ หมายเลข 5 เล่ือนข้ึนมาทำหนา้ ทแี่ ทนสมาชิกหมายเลข 4
- สมาชกิ หมายเลข 1 เลอ่ื นขน้ึ มาทำหน้าที่แทนสมาชิกหมายเลข 5
6. สมาชิกทุกคนชว่ ยกันตอบคำถามในใบงานท่ี 1 ตอนที่ 2 ในหวั ข้อตอ่ ไปนี้
1) ในสมัยพุทธกาลมีพระไตรปฎิ กหรอื ไม่ อธบิ ายเหตุผล
2) การทำสังคายนา หมายถึงทำอย่างไร
ขน้ั สรุปผล
7. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 1 และร่วมกนั สรุปประเดน็ สำคญั ของการทำ
สังคายนาพระไตรปฎิ กในแตล่ ะครง้ั
ข้ันตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ช่ัวโมงท่ี 2)
ขั้นนำเข้าส่บู ทเรยี น
1. ครูถามคำถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรยี นว่า นกั เรียนมีความประทับใจในข้อความนา่ รจู้ าก
พระไตรปฎิ กในเรื่องใด จงยกตวั อย่าง พร้อมอธบิ ายเหตุผล (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ น
ดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน)
ข้ันสอน
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษาความร้เู รอื่ ง เร่อื งนา่ รู้จากพระไตรปิฎก จากหนังสือเรียน แล้วตอบ
คำถามในใบงานที่ 2 เรอื่ ง เร่ืองน่ารจู้ ากพระไตรปฎิ ก เสร็จแลว้ ตรวจสอบความถกู ต้อง
3. ครูสุ่มตัวแทนกลุ่ม 2-3 กลมุ่ นำเสนอคำตอบในใบงานที่ 2 หนา้ ชั้นเรียน และให้กลุ่มอ่ืนทมี่ ผี ลงาน
แตกตา่ งนำเสนอเพ่ิมเติม
ข้นั สรุปผล
4. ครูตรวจสอบความร้คู วามเขา้ ใจของนกั เรียนจากการทำใบงานท่ี 1 และ 2 การนำเสนอผลงานหนา้
ชั้นเรียน และจากการสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรว่ มกันเป็นกลุม่
5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เรื่อง พระไตรปิฎก และเรื่องน่ารจู้ ากพระไตรปฎิ ก
สื่อและแหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน พระพุทธศาสนา ม.5
2. ใบงานท่ี 1 เร่อื ง พระไตรปิฎก
3. ใบงานที่ 2 เร่ือง เร่ืองนา่ รู้จากพระไตรปฎิ ก
4. หอ้ งจริยธรรม
5. ห้องสมดุ
การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 หว่ ง 3 เงื่อนไข)
หลักความพอประมาณ ใช้เวลาในการศกึ ษา คน้ คว้าหาความรู้
ทำงานเหมาะกบั เวลาความคุ้มคา่ ในอุปกรณก์ ารเรยี น
หลกั มเี หตผุ ล การอธิบายโดยการใช้หลักการทางพระพุทธศาสนา
การแกป้ ัญหาโดยใชห้ ลักการทางพระพุทธศาสนา
หลักสร้างภูมคิ ุม้ กันในตัวที่ดี การมีน้ำใจ มีความรบั ผดิ ชอบ การทำงานเป็นหมู่คณะ
การวางแผนในการทำงาน
เงอ่ื นไขความรู้ อธบิ ายวิธีการศึกษาและค้นคว้าพระไตรปิฎกได้
เงือ่ นไขคุณธรรม มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ ซอื่ สตั ย์ มุ่งมั่นในการทำงาน
การบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เงอื่ นไข
ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง คุณธรรม
พอประมาณ
มีเหตผุ ล
มีภูมคิ ุ้มกนั ในตัวทด่ี ี
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มิติ
เศรษฐกิจ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1 เรอื่ ง
พระไตรปฎิ ก แบบประเมนิ ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2 เรื่อง เรื่องน่ารู้
จากพระไตรปิฎก พระไตรปฎิ ก
ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน
แบบประเมินใบงานท่ี 2 เร่ือง เร่อื งน่า ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นใน รจู้ ากพระไตรปฎิ ก
การเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
กจิ กรรมรายกลมุ่
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประสงค์
ใบงานที่ 1
เร่อื ง พระไตรปฎิ ก
ตอนท่ี 1
คำชีแ้ จง ให้นักเรียนสรุปสาระสำคัญของการสังคายนาพระไตรปฎิ ก
1. การทำสงั คายนาครั้งที่ 1
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาทก่ี ระทำ และเวลาท่ีสำเรจ็ .........................................................................................................
ผูเ้ ป็นประธาน...................................................................................................................................
ผตู้ อบปญั หา ผูซ้ กั ถาม......................................................................................................................
พระสงฆผ์ ูเ้ ขา้ ประชุม........................................................................................................................
สถานท่ี..............................................................................................................................................
ผู้อปุ ถัมภ์...........................................................................................................................................
2. การทำสังคายนาคร้ังที่ 2
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาท่กี ระทำ และเวลาที่สำเรจ็ .........................................................................................................
ผู้เป็นประธาน...................................................................................................................................
ผตู้ อบปญั หา ผซู้ กั ถาม......................................................................................................................
พระสงฆ์ผ้เู ขา้ ประชมุ ........................................................................................................................
สถานที่..............................................................................................................................................
ผ้อู ปุ ถมั ภ์...........................................................................................................................................
3. การทำสังคายนาคร้ังท่ี 3
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาทก่ี ระทำ และเวลาท่ีสำเร็จ.........................................................................................................
ผเู้ ปน็ ประธาน...................................................................................................................................
ผตู้ อบปญั หา ผูซ้ ักถาม......................................................................................................................
พระสงฆ์ผูเ้ ข้าประชมุ ........................................................................................................................
สถานที่..............................................................................................................................................
ผอู้ ปุ ถมั ภ์...........................................................................................................................................
4. การทำสังคายนาคร้งั ท่ี 4
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาท่กี ระทำ และเวลาท่ีสำเรจ็ .........................................................................................................
ผู้เปน็ ประธาน...................................................................................................................................
ผู้ตอบปญั หา ผซู้ กั ถาม......................................................................................................................
พระสงฆผ์ เู้ ข้าประชมุ ........................................................................................................................
สถานที่..............................................................................................................................................
ผู้อุปถมั ภ์...........................................................................................................................................
5. การทำสังคายนาครัง้ ที่ 5
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาทก่ี ระทำ และเวลาที่สำเร็จ.........................................................................................................
ผู้เปน็ ประธาน...................................................................................................................................
ผตู้ อบปัญหา ผูซ้ ักถาม......................................................................................................................
พระสงฆ์ผเู้ ข้าประชมุ ........................................................................................................................
สถานที่..............................................................................................................................................
ผู้อุปถมั ภ์...........................................................................................................................................
6. การทำสังคายนาครง้ั ที่ 6
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาท่กี ระทำ และเวลาที่สำเรจ็ .........................................................................................................
ผู้เปน็ ประธาน...................................................................................................................................
ผู้ตอบปญั หา ผซู้ ักถาม......................................................................................................................
พระสงฆ์ผู้เข้าประชุม........................................................................................................................
สถานที่..............................................................................................................................................
ผอู้ ปุ ถมั ภ์...........................................................................................................................................
7. การทำสงั คายนาครงั้ ท่ี 7
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาที่กระทำ และเวลาที่สำเร็จ.........................................................................................................
ผูเ้ ปน็ ประธาน...................................................................................................................................
ผู้ตอบปัญหา ผู้ซกั ถาม......................................................................................................................
พระสงฆ์ผเู้ ขา้ ประชุม........................................................................................................................
สถานท่ี..............................................................................................................................................
ผอู้ ปุ ถมั ภ์...........................................................................................................................................
8. การทำสงั คายนาคร้งั ท่ี 8
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาที่กระทำ และเวลาที่สำเรจ็ .........................................................................................................
ผเู้ ป็นประธาน...................................................................................................................................
ผตู้ อบปัญหา ผซู้ ักถาม......................................................................................................................
พระสงฆผ์ ู้เข้าประชมุ ........................................................................................................................
สถานท่ี..............................................................................................................................................
ผู้อุปถัมภ์...........................................................................................................................................
9. การทำสังคายนาคร้ังที่ 9
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาทก่ี ระทำ และเวลาท่ีสำเร็จ.........................................................................................................
ผเู้ ปน็ ประธาน...................................................................................................................................
ผู้ตอบปัญหา ผู้ซกั ถาม......................................................................................................................
พระสงฆผ์ ้เู ข้าประชมุ ........................................................................................................................
สถานที่..............................................................................................................................................
ผอู้ ปุ ถัมภ์...........................................................................................................................................
10. การทำสงั คายนาครง้ั ท่ี 10
สาเหตุ ..............................................................................................................................................
เวลาท่ีกระทำ และเวลาท่ีสำเร็จ.........................................................................................................
ผเู้ ปน็ ประธาน...................................................................................................................................
ผู้ตอบปัญหา ผซู้ กั ถาม......................................................................................................................
พระสงฆ์ผ้เู ขา้ ประชมุ ........................................................................................................................
สถานที่..............................................................................................................................................
ผู้อปุ ถมั ภ์...........................................................................................................................................
ตอนที่ 2
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ในสมัยพุทธกาลมีพระไตรปฎิ กหรอื ไม่ อธบิ ายเหตุผล
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
2. การทำสังคายนา หมายถึงทำอยา่ งไร
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ใบงานที่ 1 เฉลย
เรอื่ ง พระไตรปิฎก
ตอนท่ี 1
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนสรุปสาระสำคญั ของการสังคายนาพระไตรปฎิ ก
1. การทำสงั คายนาครง้ั ที่ 1
สาเหตุ พระขรวั ตาชอ่ื สุภัททะกลา่ ววาจาดหู มิ่นพระธรรมวินัย
เวลาทก่ี ระทำ และเวลาท่ีสำเรจ็ หลงั จากพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 3 เดอื น ใช้เวลา 7 เดอื น
ผเู้ ปน็ ประธาน พระมหากัสสปะ
ผ้ตู อบปญั หา ผูซ้ ักถาม พระมหากัสสปะเปน็ ผู้สอบถาม พระอุบาลตี อบด้านพระวนิ ัย พระอานนท์
ตอบดา้ นพระธรรม
พระสงฆผ์ เู้ ขา้ ประชุม 500 รูป
สถานท่ี ถำ้ สตั ตบรรณคูหาใกล้กรุงราชคฤห์ เมืองหลวงของแคว้นมคธ
ผู้อปุ ถมั ภ์ พระเจ้าอชาตศตั รู
2. การทำสงั คายนาคร้งั ท่ี 2
สาเหตุ พระวชั ชบี ุตรปฏิบตั หิ ย่อนทางวินยั 10 ประการ
เวลาทีก่ ระทำ และเวลาท่ีสำเรจ็ หลังจากพระพุทธเจ้าปรนิ ิพพานได้ 100 ปี ใช้เวลา 8 เดอื น
ผู้เป็นประธาน พระยสกากณั ฑกบุตร
ผตู้ อบปัญหา ผซู้ กั ถาม พระเรวตะเป็นผูซ้ กั ถาม พระสัพพกามีเป็นผู้ตอบปัญหา
พระสงฆผ์ ู้เข้าประชุม 700 รปู
สถานที่ วาลิการาม เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี
ผอู้ ุปถัมภ์ พระเจ้ากาฬาโศก
3. การทำสงั คายนาครง้ั ท่ี 3
สาเหตุ พวกนอกศาสนาปลอมเขา้ มาบวชในพระพุทธศาสนามากขึ้น
เวลาทก่ี ระทำ และเวลาท่ีสำเร็จ หลงั จากพระพุทธเจ้าปรินพิ พานได้ 234 ปี (บางแหง่ ว่า 235 ปี)
ใช้เวลา 9 เดอื น
ผเู้ ป็นประธาน พระโมคคัลลีบตุ รติสสเถระ
ผู้ตอบปัญหา ผูซ้ ักถาม –
พระสงฆผ์ ูเ้ ขา้ ประชมุ 1,000 รปู
สถานที่ อโศการาม เมืองปาฏลีบุตร
ผู้อปุ ถัมภ์ พระเจ้าอโศกมหาราช
4. การทำสงั คายนาครั้งท่ี 4
สาเหตุ ตอ้ งการวางรากฐานพระพุทธศาสนาในประเทศศรีลังกา
เวลาทกี่ ระทำ และเวลาที่สำเรจ็ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 238 ปี ระยะเวลาท่ีสำเร็จไม่
ปรากฏ
ผ้เู ป็นประธาน พระมหินทเถระ
ผ้ตู อบปัญหา ผูซ้ กั ถาม พระอริฎฐะเป็นผู้สวดวนิ ยั
พระสงฆผ์ ูเ้ ข้าประชุม 68,000 รูป
สถานท่ี ถปู าราม เมืองอนุราธบรุ ี
ผอู้ ปุ ถมั ภ์ พระเจ้าเทวานัมปิยตสิ สะ
5. การทำสังคายนาครงั้ ที่ 5
สาเหตุ พระพุทธวจนะทีถ่ ่ายทอดกนั มาโดยระบบทอ่ งจำ ต่อไปภายภาคหน้าอาจขาดตกบกพรอ่ ง
เวลาท่กี ระทำ และเวลาที่สำเร็จ กระทำหลงั จากพระพุทธเจา้ ปรนิ พิ พานได้ 433 ปี ระยะเวลาท่ี
สำเรจ็ ไมป่ รากฏ
ผเู้ ป็นประธาน –
ผ้ตู อบปญั หา ผซู้ กั ถาม –
พระสงฆ์ผ้เู ขา้ ประชุม คณะสงฆ์ชาวลังกา
สถานท่ี อาโลกเลณสถาน มตเลณชนบท
ผู้อปุ ถัมภ์ พระเจ้าวฏั ฏคามณอี ภยั
6. การทำสงั คายนาครงั้ ท่ี 6
สาเหตุ ประเทศอินเดยี มีเพยี งพระไตรปฎิ ก ไมม่ ีอรรถกถา
เวลาที่กระทำ และเวลาท่ีสำเร็จ พ.ศ. 956 ไมป่ รากฏระยะเวลา
ผู้เปน็ ประธาน พระพทุ ธโฆษาจารย์
ผตู้ อบปัญหา ผซู้ กั ถาม –
พระสงฆ์ผเู้ ขา้ ประชมุ พระเถระจำนวนหนึง่
สถานที่ วัดมหาวิหาร ประเทศศรลี งั กา
ผู้อุปถัมภ์ พระเจ้ามหานาม
7. การทำสังคายนาคร้งั ที่ 7
สาเหตุ ลงั กาขาดคมั ภีรฎ์ กี า
เวลาทกี่ ระทำ และเวลาที่สำเรจ็ พ.ศ. 1587 ไมป่ รากฏระยะเวลา
ผู้เป็นประธาน พระกัสสปเถระ
ผตู้ อบปัญหา ผู้ซกั ถาม –
พระสงฆผ์ เู้ ข้าประชมุ คณะสงฆช์ าวลงั กา 1,000 รูป
สถานท่ี ประเทศศรลี งั กา
ผู้อปุ ถัมภ์ พระเจ้าปรากรมพาหมุ หาราช
8. การทำสังคายนาครัง้ ที่ 8
สาเหตุ พระไตรปิฎกขาดตกบกพร่องผิดเพีย้ นและไม่ครบ
เวลาที่กระทำ และเวลาที่สำเร็จ พ.ศ. 2020 ใช้เวลา 1 ปี
ผเู้ ป็นประธาน พระธรรมทนิ นเถระ
ผู้ตอบปัญหา ผูซ้ กั ถาม –
พระสงฆ์ผูเ้ ข้าประชุม พระเถระหลายร้อยรูป
สถานที่ วัดโพธาราม ประเทศไทย
ผู้อุปถัมภ์ –
9. การทำสงั คายนาครง้ั ท่ี 9
สาเหตุ พระผใู้ หญ่ถกู จับศึก เพราะความประพฤตยิ ่อหยอ่ นในพระธรรมวินยั
เวลาท่กี ระทำ และเวลาท่ีสำเรจ็ พ.ศ. 2331 ใชเ้ วลา 5 เดือน
ผู้เปน็ ประธาน –
ผตู้ อบปัญหา ผซู้ กั ถาม –
พระสงฆ์ผูเ้ ข้าประชุม พระเถระ 218 รูป และราชบัณฑิตคฤหัสถ์ 32 คน
สถานที่ ประเทศไทย
ผู้อุปถัมภ์ สมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช
10. การทำสังคายนาคร้ังท่ี 10
สาเหตุ ฉลองในวโรกาสพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั รัชกาลปจั จุบันพระชนมายุ 60 พรรษา
เวลาท่กี ระทำ และเวลาท่ีสำเรจ็ พ.ศ. 2538 ระยะเวลาทสี่ ำเร็จไม่ปรากฏ
ผู้เปน็ ประธาน สมเด็จพระสงั ฆราช
ผตู้ อบปญั หา ผซู้ กั ถาม –
พระสงฆ์ผู้เข้าประชุม พระสงฆ์ทงั้ ฝา่ ยมหานกิ าย และธรรมยุต
สถานที่ วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ผู้อปุ ถมั ภ์ รัฐบาล
ตอนที่ 2
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ในสมัยพุทธกาลมีพระไตรปฎิ กหรือไม่ อธิบายเหตุผล
ไม่มีพระไตรปิฎก แตค่ ำสอนของพระพทุ ธเจ้าก็มีการแบง่ หมวดหม่คู รา่ วๆ มีหลักฐาน
วา่ พระสารีบุตร อัครสาวก ไดร้ ิเรม่ิ จัดพระพุทธวจนะเป็นหมวดๆ เรม่ิ ตั้งแตห่ มวด 1 ถึง หมวด 10
และหมวดเกนิ 10 ชือ่ ว่า สงั คีติสูตร และทสุตตรสูตร.
2. การทำสงั คายนา หมายถงึ ทำอยา่ งไร
การทำสังคายนา หมายถึง สวดรว่ มกัน สวดพร้อมกัน การทำสงั คายนานน้ั พระสงฆจ์ ะ
ประชุมสวดซักซอ้ มกนั มรี ะบบท่องจำกันเป็นหมูค่ ณะ