The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผน อ31102 ครูอังคณา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2021-11-11 01:15:11

ภาษาอังกฤษ 2 ม 4

แผน อ31102 ครูอังคณา

แผนการจัดการเรยี นรู ้

วชิ าภาษาองั กฤษ 2
(อ31102)

ภาคเรยี นที 2 ปีการศกึ ษา 2564
จดั ทําโดย

นางอังคณา แกว้ เมอื ง
ตําแหน่ง ครชู ํานาญการ

ชนั มธั ยมศกึ ษาปี ที 4

โรงเรยี นพนมศกึ ษา
อําเภอพนม จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี
สาํ นักงานเขตพนื ทกี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี ชมุ พร

สว่ นราชการ โรงเรยี นพนมศึกษา บนั ทกึ ขอ้ ความ
ที่ พิเศษ/2564
เรอ่ื ง ขออนมุ ตั ิใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ วันท่ี 29 ตุลาคม 2564

เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นพนมศึกษา

สงิ่ ทแ่ี นบมาดว้ ย แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า.ภาษาอังกฤษ 2 (อ31102) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4

เนื่องด้วยข้าพเจ้า นางอังคณา แก้วเมือง ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนพนมศึกษา ได้รับมอบหมาย
ให้ปฏบิ ัติหนา้ ทกี่ ารสอนตามคำสง่ั ที่ 228/2564 เรื่องมอบหมายงานสอน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา2564 ซึง่ ทางกลุ่ม
บริหารงานวิชาการได้มอบหมายให้ครูทุกคน จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้อย่างน้อยคนละ 1 รายวิชานั้น ข้าพเจ้าได้
ปฏิบัติงานสายการสอนประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ในรายวิชา
ภาษาอังกฤษ 2 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4

บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว จึงขออนุมัติใช้แผนการ
จัดการเรยี นร้ดู งั กล่าว เพือ่ ใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนในช้นั เรยี น ใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพสงู สุดต่อไป

จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณาอนุมัติ
ลงช่ือ
(นางองั คณา แก้วเมือง)

ครชู ำนาญการ

ลงช่ือ ลงชื่อ

(นางอังคณา แกว้ เมือง) ( นางณฐั ิญา คาโส )

หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ หวั หนา้ กลุ่มบริหารงานวิชาการ

ความคดิ เหน็ ผอู้ ำนวยการ
 อนมุ ตั ิ

 ไม่อนุมตั ิ .................................................................................................................. .............................

ลงช่อื

( นางผกา สามารถ )

ผู้อำนวยการโรงเรยี นพนมศึกษา

........../......../...........

สารบญั หนา้
1
เรอ่ื ง 2
กำหนดการใชแ้ ผน
คำนำ 3
วเิ คราะหห์ ลกั สูตร 4
5
▪ คำอธิบายรายวชิ า
▪ ตารางวเิ คราะหร์ ายวชิ า 6
▪ โครงสร้างรายวชิ า 7
วเิ คราะหผ์ เู้ รยี น 15
▪ ตารางวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี นด้านผลสมั ฤทธิ์
▪ แบบวิเคราะหผ์ ู้เรยี นเป็นรายบคุ คล/ความถนดั /ความสนใจ
การวดั ผลประเมนิ ผล
แผนการจัดการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 11
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 13
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 16

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 17
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 18
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 19
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 20
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 21
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 22
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 24
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 25
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 26
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 27
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 28
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 29
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 30
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 31
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 32
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 33
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 34
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 35
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 36

Page |1

แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวิชาภาษาองั กฤษ 2 รหสั วชิ า อ31102

ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น

จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

การกำหนดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้
รายการตรวจสอบและกล่นั กรอง การใชแ้ ผนการเรยี นรู้

ความคดิ เหน็ ความคดิ เหน็

……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ................................................ ลงชอื่ ................................................
(นางอังคณา แกว้ เมือง) (นางสาวณัฐิญา คาโส)

หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ หัวหน้ากลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………..

.

ลงชื่อ................................................
(นางผกา สามารถ)

ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนพนมศกึ ษา

Page |2

คำนำ

แผนการจัดการเรยี นรู้ เปน็ สงิ่ จำเปน็ อยา่ งยิ่งต่อการพัฒนาประสทิ ธภิ าพการเรยี นการสอน เพราะเป็น
เอกสารหลักสูตร ที่ใช้ในการบริหารงานของครูผู้สอนให้ตรงตามนโยบายในการปฏริ ปู การศึกษา กำหนด ไว้ใน
แผนหลักคุณภาพการศึกษา สนองจุดประสงค์และคำอธิบายรายวชิ าของหลักสูตร ในการบริหารงาน วิชาการ
ถือว่า “แผนจัดการเรียนรู้” เป็นเอกสารทางวิชาการที่สำคัญที่สุดของครู เพราะในแผนจัดการเรียนรู้
ประกอบดว้ ย

๑. การกำหนดเวลาเรยี น กำหนดการสอน กำหนดการสอบ
๒. สาระสำคัญของเนื้อหาวชิ าที่เรียน
๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๔. กจิ กรรมการเรียนการสอน
๕. สอื่ และอุปกรณ์
๖. การวดั ผลประเมินผล
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ถือว่าเป็นการสร้างผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานที่แสดงถึงความ
ชำนาญในการสอนของครู เพราะครูใช้ศาสตร์ทุกสาขาอาชีพของครู เช่นการออกแบบ การสอน การจัดการ
และการประเมินผล ในการจัดทำแผนจัดการเรียนรู้นั้นจะทำให้เกิดความมั่นใจในการสอนได้ตรงจุดประสงค์
การเรียนรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบสูงขึ้น ทั้งยังเป็นข้อมูลในการนิเทศ
ติดตามตรวจสอบและปรับปรุงการเรียนการสอนได้อย่างมีระบบและครบวงจร ยังผลให้คุณภาพการศึกษา
โดยรวมพัฒนาไปอย่างมที ศิ ทางบรรลเุ ป้าหมายของหลกั สูตร

นางองั คณา แก้วเมอื ง
ครผู สู้ อน

Page |3

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

อ31102 ภาษาองั กฤษ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ

............................................................................................................................. .................................................

ปฏิบัติตามคำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงบทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน
อธิบายและเขียนประโยคและข้อความได้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียนรูปแบบต่าง ๆ จับใจความสำคัญ
วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่าน เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และ
กริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาสและสถานที่ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบายความคิด
ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทาง
ภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม อธิบาย เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้าง ประโยค ข้อความ
สำนวน คำพังเพย สุภาษติ และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ค้นควา้ สืบค้น บนั ทกึ สรปุ และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน และใช้ใน
การศึกษาต่อและประกอบอาชีพ ตลอดจนเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ของโรงเรียน ชุมชน และ
ทอ้ งถ่ิน

โดยใช้ทักษะกระบวนการเรียนรู้ทางภาษาที่หลากหลาย การฝึกปฏิบัติตามสถานการณ์ต่าง ๆ
กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการศกึ ษาคน้ คว้า และสบื ค้นข้อมลู

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ เห็นคุณค่าในการเรียนภาษาอังกฤษ สามารถสื่อสาร
ภาษาอังกฤษไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เหมาะสม

รหสั ตัวชี้วัด

ต 1.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/4

ต 1.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/4 ม. 4/5

ต 1.3 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3

ต 2.1 ม.4/1

ต 2.2 ม.4/1

รวมท้งั หมด 12 ตัวชี้วดั

Page |4

ตารางวเิ คราะหร์ ายวชิ า
[วเิ คราะหค์ วามรู้ (K) กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) สมรรถนะ (C)]

ผลการเรยี นรู้ ความรู้ กระบวนการ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ
(K) (P) (A) (C)
1. มีความรู้ ความ
เข้าใจ เกย่ี วกบั (10 คะแนน) (8 คะแนน) (2 คะแนน) (ระดบั 0-3)
เร่ือง You Are ความรู้ ความ - กระบวนการ - มมี ารยาทและมี -มีความสามารถใน
What You Eat… เข้าใจ เก่ียวกบั เขยี น นสิ ยั รักการเขียน การสื่อสาร
เร่อื ง You Are - กระบวนการพูด - มมี ารยาทในการ -มคี วามสามารถใน
2. มคี วามรู้ ความ What You Eat… การฟงั และดู พูด การฟงั และดู การใชท้ ักษะชวี ติ
เข้าใจ เกี่ยวกับ - กระบวนการคิด
เร่ือง They’ve ความรู้ ความ - กระบวนการ - มีมารยาทและมี -มคี วามสามารถใน
Got Talent! เขา้ ใจ เกีย่ วกบั เขยี น นิสยั รกั การเขียน การส่ือสาร
เร่ือง They’ve - กระบวนการพูด - มีมารยาทในการ -มคี วามสามารถใน
3. มคี วามรู้ ความ Got Talent! การฟังและดู พูด การฟงั และดู การใช้ทักษะชวี ติ
เข้าใจ เกยี่ วกับ - กระบวนการคิด
เร่อื ง Love, Love, ความรู้ ความ - กระบวนการ - มีมารยาทและมี -มคี วามสามารถใน
Love… เขา้ ใจ เกี่ยวกับ เขยี น นิสยั รกั การเขียน การสอื่ สาร
เรือ่ ง Love, Love, - กระบวนการพูด - มีมารยาทในการ -มีความสามารถใน
4. มคี วามรู้ ความ Love… การฟงั และดู พูด การฟงั และดู การใชท้ กั ษะชีวิต
เขา้ ใจ เกี่ยวกบั - กระบวนการคิด
เร่ือง Out and ความรู้ ความ - กระบวนการ - มีมารยาทและมี -มีความสามารถใน
About เข้าใจ เกย่ี วกบั เขียน นิสยั รักการเขยี น การสือ่ สาร
เร่อื ง Out and - กระบวนการพูด - มมี ารยาทในการ -มีความสามารถใน
About การฟงั และดู พูด การฟังและดู การใชท้ ักษะชีวิต
- กระบวนการคดิ

Page |5

โครงสรา้ งรายวชิ า

อ31102 ภาษาอังกฤษ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2
เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หน่วยกติ
Unit ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้
มาตรฐานตวั ชวี้ ดั /ตวั ชว้ี ดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร/ู้ เวลา นำ้ หนกั
5 You Are What You สาระสำคญั /ความคดิ รวมยอดและสาระการเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
Eat…
แกนกลาง 7 10
6 They’ve Got Talent!
มฐ ต 1.1 (7) 7 10
7 Love, Love, Love… มฐ ต 1.2 (5)
มฐ ต 1.3 (1) 7 10
8 Out and About มฐ ต 1.1 (7)
มฐ ต 1.2 (4) 7 10
9 Is it Chance? มฐ ต 1.3 (2)
มฐ ต 2.1 (1) 8 10
คะแนนกอ่ นสอบกลางภาค มฐ ต 1.1 (8)
สอบกลางภาค มฐ ต 1.2 (3) 20
คะแนนหลงั สอบกลางภาค มฐ ต 2.1 (1) 2 20
สอบปลายภาค มฐ ต 1.1 (8)
รวมคะแนนตลอดภาคเรยี น มฐ ต 1.2 (3) 30
มฐ ต 2.2 (1) 2 30
มฐ ต 1.1 (9) 40 100
มฐ ต 1.2 (4) ช่ัวโมง คะแนน
มฐ ต 1.3 (3)

Page |6

โรงเรียนพนมศกึ ษา

ตารางวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นดา้ นผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น

วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื นำไปออกแบบการเรียนรู้ ใหส้ อดคลอ้ งกับความสามารถของนักเรยี น

2. เพ่ือเปน็ แนวทางในการแกไ้ ขปัญหาและพัฒนาผู้เรยี นดา้ นผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นกลมุ่

สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 2 รหสั วชิ า อ31102 ภาคเรยี นท่ี 2/2564

ชอื่ ผสู้ อน นางอังคณา แกว้ เมอื ง

สรปุ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นพน้ื ฐานทใ่ี ชใ้ นการเรยี นวิชานี้

ระดบั คณุ ภาพของ GPA ของกลมุ่ จำนวนคน รอ้ ยละ
ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น
ตำ่ กวา่ 2.00
ปรับปรงุ 2.00 – 2.50
พอใช้ สงู กวา่ 2.50

ดี

แนวทางการจดั กจิ กรรม

ผลสมั ฤทธ์ิ รอ้ ยละ กิจกรรมแกไ้ ขหรอื จำนวน เครอื่ งมอื /
ทางการ เดิม เปา้ หมาย พฒั นาในแผนการ วธิ กี ารประเมนิ
เรยี น
เรยี นรู้
ดี
ปรบั ปรงุ

Page |7

แบบวเิ คราะหน์ กั เรยี นเปน็ รายบุคคล
เกยี่ วกบั ความถนดั / ความสนใจ / ภาษาอังกฤษ

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หอ้ ง 1

เลขท่ี ชอื่ -สกลุ ระดบั ความถนดั / ความสนใจ หมายเหตุ
1 นายชยตุ รา สาคร 3210
2 นายธนพัฒ สารจิตต์
3 นายปรญิ ญา นุ้ยยอ่ ง
4 นายปณุ ณตั ถ์ นรารักษ์
5 นายพงษ์นรนิ ทร์ กองกุล
6 นายภูมพิ ัฒ สัมพันธ์
7 นายภรู ณิ ัฐ รินเกลื่อน
8 นายสทุ ธวิ งค์ ทพิ ยม์ าก
9 นางสาวกชกร แก้วนพคณุ
10 นางสาวกนกวรรณ สม้ เมือง
11 นางสาวกฤติยาวรรณ จนั ทรแ์ สงกุล
12 นางสาวกณั ฐกิ า ถาพร
13 นางสาวเกตนส์ ิรี ทพิ ย์เดช
14 นางสาวเกศรา ศรัทธาสขุ
15 นางสาวขวัญตมิ า รกั สที อง
16 นางสาวชมพนู ทุ ชยั ธรรม
17 นางสาวณฏั ฐนนั ท์ ทรพั ย์เรอื งเนตร
18 นางสาวณฐั ธิดา คงเดมิ
19 นางสาวทพิ วลั ย์ ปจู่ นั ทร์
20 นางสาวธิดารัตน์ พลลอื
21 นางสาวบุษกร ทองจนั ทร์
22 นางสาวใบเงิน ช่วยศรี
23 นางสาวพมิ พ์ชนก กองแกว้
24 นางสาวภัทรติกา ขาวจิตต์

Page |8

25 นางสาวรตริ ส รักกะเปา
26 นางสาวรมิดา เรอื งไชย
27 นางสาวลดาวัลย์ ชูไทย
28 นางสาววริษฐา แสงจง
29 นางสาววลั ยล์ ิกา ดำพันธ์
30 นางสาวศลิษา มากแก้ว
31 นางสาวสวรินทร์ รตั นพนั ธ์
32 นางสาวสายธาร จรรยท์ ัน
33 นางสาวสุภาวดี ศรีนิล
34 นางสาวสวุ คนธ์ สงเคราะห์
35 นางสาวโสรยา ฉมิ ฤทธ์ิ
36 นางสาวไอลดา วรรณศรี

Page |9

แบบวเิ คราะหน์ กั เรยี นเปน็ รายบคุ คล

เกยี่ วกับความถนัด / ความสนใจ / ภาษาองั กฤษ

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 หอ้ ง 2

เลขท่ี ชอื่ -สกลุ ระดบั ความถนดั / ความสนใจ หมายเหตุ
1 นายก้องภพ อดุ มวงศ์ศิริ 3210
2 นายจลุ จักร ดารณุ ภกั ดี
3 นายชนาธปิ ฉัตรทอง
4 นายชวลั กร นาคสวาท
5 นายธนพัฒน์ สาเรศ
6 นายภูตะวนั ทองตำลึง
7 นายภรู ิณัฐ ชูทรัพย์
8 นายภรู ทิ ตั เกดิ ชูกุล
9 นายภรู พิ ฒั น์ โภคัย
10 นายเมธสั เวชพราหมณ์
11 นายศักดิส์ ทิ ธ์ิ วงศส์ วัสด์ิ
12 นายศกั รินทร์ ชูพนม
13 นายศริ วิ ฒั น์ บญุ ชุม
14 นายสิปปกร จินดาพล
15 นางสาวคุณญั ญา ทองชนะ
16 นางสาวชญานิษฐ์ อนิ ทอง
17 นางสาวธิมาภรณ์ พพิ ธิ เสมา
18 นางสาวนชุ วรา วาดวงปราง
19 นางสาวบษุ ราคมั คงวุธ
20 นางสาวปณิดา ชาตวิ งษ์
21 นางสาวประภาภรณ์ เเสนภูมี
22 นางสาวรญั ชดิ า รกั โคตร
23 นางสาววิภาวดี เหมือนใจ
24 นางสาววลิ าวัณย์ สวุ รรณคง
25 นางสาวศธิตา ซุยจนิ า
26 นางสาวศศิกาญจน์ อภโิ มทย์

P a g e | 10

27 นางสาวศศภิ า ปนั้ ทอง
28 นางสาวศภุ มาศ ราชสมบัติ
29 นางสาวสริ ภิ ทั ร จุ้ยทองคำ
30 นางสาวสชุ านรี คงเดมิ
31 นางสาวสธุ ิตา ดาศรี
32 นางสาวสนุ ษิ า ทองจาร
33 นางสาวสมุ ินตรา ศรสี งิ ห์
34 นางสาวอนุสรา ฤกษ์อ่อน
35 นางสาวอริสรา เวชวานชิ
36 นางสาวอาทิมา ปรึกษาเหตุ

P a g e | 11

แบบวเิ คราะหน์ กั เรยี นเปน็ รายบคุ คล

เกยี่ วกับความถนัด / ความสนใจ / ภาษาองั กฤษ

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หอ้ ง 3

เลขที่ ชอ่ื -สกลุ ระดบั ความถนดั / ความสนใจ หมายเหตุ
1 นายกฤษฎา คงเรอื ง 3210
2 นายชลภทั ร พูลเงิน
3 เดก็ ชายดลุ ยว์ ฒั น์ พัฒนบ์ ตุ ร
4 นายธีรพงศ์ ปาลคะเชนทร์
5 นายปรวทิ ย์ ศิรวิ ฒั น์
6 นายป้องรักษ์ ลม้ิ วชิ ิต
7 นายพลธกร เสนาประชาราษฎร์
8 นายภาณวุ ัตร สัมพนั ธ์
9 นายวรทิ ธ์ิ มุกดา
10 นายวรภัทร วราชัย
11 เดก็ ชายสบุ รรณ วฒุ พิ งศ์
12 นางสาวกรนันท์ สิทไชย
13 นางสาวจิรวรรณ มีมาก
14 นางสาวจันทกานต์ พนาลี
15 นางสาวจริ ชั ญา รามวงศ์
16 นางสาวชนกนารี ขันทอง
17 นางสาวฌัชชฎาภา เจรญิ
18 นางสาวณัฏฐณชิ า คนโอ
19 นางสาวธัญสินี นฤมิตรพรสุข
20 นางสาวธารทพิ ย์ เขียวดำ
21 นางสาวธิดารตั น์ ทองเนยี ม
22 นางสาวเบญจรตั น์ บัวแก้ว
23 นางสาวปวันรตั น์ ชรู ักษ์
24 นางสาวพิมพว์ ภิ า ละออ
25 นางสาวภาวิณี สขุ ขี
26 นางสาวมนทิรา ศกั ดา

P a g e | 12

27 นางสาวมาติกา รฐั แฉล้ม

P a g e | 13

แบบวเิ คราะหน์ กั เรยี นเปน็ รายบุคคล

เกยี่ วกับความถนัด / ความสนใจ / ภาษาองั กฤษ

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หอ้ ง 4

เลขที่ ชอ่ื -สกลุ ระดบั ความถนดั / ความสนใจ หมายเหตุ
1 นายกรวทิ อึกทองจอม 3210
2 นายกติ ติภพ ปลอดภัย
3 นายจิรวัฒน์ บญุ ลกึ
4 นายโชคชยั ทองยวน
5 นายณัฐภัทร พลเย่ียม
6 นายทินกร ชะบากาญจน์
7 นายแทนไท แสงทอง
8 นายธรี พล ศรุ ชนะ
9 นายนรวิชญ์ วงแหวน
10 นายปยิ ศสั น์ ปลอดทุกข์
11 นายภาณพุ งศ์ ชูพนม
12 นายเมธพี ฒั น์ สาคร
13 นายศรณั ยู พนิ เศษ
14 นายศภุ กร รตั นละออ
15 นายศภุ ณฐั จามจุรีย์
16 นายสุภวัทน์ ทิพย์เดช
17 นายอตั ถชัย วงศรี
18 นางสาวกัลยาณี บวรสวุ รรณ์
19 นางสาวขจพี รรณ ศรีพทิ ักษ์
20 นางสาวจนั ทร์จิรา เทยี มยม
21 นางสาวจิรชั ญา นาคสัน
22 นางสาวชนาพร ทับแกว้
23 นางสาวชลธชิ า หล่ยุ จ๋ิว
24 นางสาวณฐั ณชิ า แคลว่ คล่อง
25 นางสาวธญั ญลกั ษณ์ พรหมชาติ
26 นางสาวนฤมล โอภาสะ

P a g e | 14

27 นางสาวปรยี าภรณ์ สขุ ขัง
28 นางสาวปิยมาส เยน็ ใจ
29 นางสาวพรกนก แก่นงเู หลือม
30 นางสาวพรธิตา หนบู ญุ
31 นางสาวพรรณนพิ า วิชติ ชู
32 นางสาวลลิตภัทร กนั คง
33 นางสาวสิริกร คงไล่
34 นางสาวสุนันทา หลวงปลอด
35 นายศภุ ชยั ทองสุข

P a g e | 15

การวดั ผลประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ / รายวิชา ในแต่ละตัวชี้วัดชั้นปี ซึ่ง
สถานศึกษา วิเคราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด การประเมินสาระการเรียนรู้รายวิชา ให้ตัดสินผล
การประเมินเปน็ ระดบั ผลการเรยี น 8 ระดบั ดังน้ี คะแนน 80 – 100 ระดับผลการเรียน “4” หมายถึง ผล
การเรยี นดีเยี่ยม

คะแนน 75 – 79 ระดบั ผลการเรียน “3.5” หมายถงึ ผลการเรยี นดีมาก

คะแนน 70 – 74 ระดบั ผลการเรียน “3” หมายถงึ ผลการเรยี นดี

คะแนน 65 – 69 ระดบั ผลการเรียน “2.5” หมายถึง ผลการเรยี นคอ่ นขา้ งดี

คะแนน 60 – 64 ระดับผลการเรียน “2” หมายถงึ ผลการเรยี นปานกลาง

คะแนน 55 – 59 ระดบั ผลการเรยี น “1.5” หมายถึง ผลการเรียนพอใช้

คะแนน 50 – 54 ระดบั ผลการเรียน “1” หมายถึง ผลการเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินขัน้ ต่ำ

คะแนน 0 - 49 ระดับผลการเรียน “0” หมายถึง ผลการเรยี นต่ำกว่าเกณฑก์ าร ประเมนิ

ในกรณีที่ไม่สามารถให้ระดับผลการเรียนเป็น 8 ระดับได้ให้ใช้ตัวอักษร ระบุเงื่อนไขของผลการเรียน
ดังน้ี

“มส” หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีเวลาไม่ถึงร้อย ละ
๘๐ ของเวลาเรียนในแตล่ ะรายวิชา และไม่ได้รับการผอ่ นผันให้เข้ารบั การ วดั ผลปลายภาคเรียน

“ร” หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจากผู้เรียนไม่มีข้อมูลการเรียน
รายวิชาน้ันครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่ง งานที่มอบหมายให้ทำ ซึ่งงาน
น้ันเป็นสว่ นหนึง่ ของการตดั สินผลการเรยี น หรอื มี เหตุสุดวิสัยทีท่ ำให้ประเมินผลการเรยี นไม่ได้

การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการ
ประเมินเปน็ ดีเยยี่ ม ดี และผ่าน

ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนที่มีคุณภาพ ดี
เลศิ อยเู่ สมอ

ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคุณภาพ เป็นที่
ยอมรับ

P a g e | 16

ผา่ น หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี นทมี่ ีคุณภาพ เปน็ ท่ี
ยอมรับ แตย่ ังมีข้อบกพร่องบาง ประการ

ไมผ่ า่ น หมายถึง ไม่มผี ลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น หรอื ถ้ามี
ผลงาน ผลงานนน้ั ยังมขี ้อบกพร่องทีต่ ้องได้รับการปรับปรงุ แกไ้ ขหลายประการ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
จำนวน 1 ชวั่ โมง
รายวชิ า อ 31102 ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 You Are What You Eat…
เรอื่ ง British food sucks! Fact or fiction?

1. สาระสำคัญ
ฟงั อา่ นและตอบคำถามบทความเกี่ยวกบั การรบั ประทานอาหารของชาวอังกฤษ และพูดอธิบาย

วถิ ีชีวิตการรบั ประทานอาหารของชาวอังกฤษ

2.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ีฟงั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล

ตัวช้วี ดั ต 1.1 ม.4/4 จับใจความสำคญั วิเคราะห์ความ สรุปความ ตคี วาม และแสดงความคดิ เหน็
จากการฟังและอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและ
ยกตัวอย่างประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ กึ และ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ช้วี ดั ต 1.2 ม.4/2 เลือกและใช้คำขอร้อง ใหค้ ำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายอยา่ งคล่องแคลว่

3.สาระการเรยี นรู้ - suck (adj.) be very bad or unpleasant (เลวร้าย แย่มาก)
Vocabulary - fact (n.) a thing that is known or proved to be true (ข้อเท็จจรงิ )
- fiction (n.) a story that is invented or untrue (เรื่องที่แตง่ ขึ้น)
- fish and chips (n.) a dish of fried fish fillets served with chips (ปลาชุบแป้ง

ทอดรบั ประทานกบั มนั ฝรง่ั )
- chicken tikka masala (n.) an Indian dish of small pieces of meat or

vegetables marinated in a spice mixture (อาหารอินเดีย แกงกะหรี่ไก่ใส่
เครื่องเทศ รสชาตเิ ข้มข้น ไม่เผด็ แต่มีรสชาติร้อนแรงเพราะใสเ่ คร่ืองเทศ ไม่ใชก้ ะทิ
แต่ใช้นมสดแทน ขายดีจนได้ชื่อว่าเป็น 'Britain's true national dish'(อาหาร
ประจำชาตสิ หราชอาณาจักร)
- roast (v.) cook (food, especially meat) by prolonged exposure to heat
in an oven or over a fire (ปิ้ง ยา่ ง)

Function/Speaking - Yorkshire pudding (n.) a baked batter pudding typically eaten with roast
beef (ขนมที่ชาวอังกฤษนิยมรับประทาน เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อย่าง หรืออาจจะทาน
Grammar เป็นของหวานคู่กับไอศกรมี และแยม)

Listening - curry (n.) a dish of meat, vegetables, etc., cooked in an Indian-style
Reading sauce of strong spices (แกง)
Writing
Culture - spicy (adj.) flavoured with spice (มเี คร่ืองเทศ เผด็ ร้อน มรี สจดั )
- diet (n.) the usual food and drink of a person or animal (ควบคุมอาหาร

เพื่อลดน้ำหนกั )
- ready-made dish (n.) (of food) sold ready or almost ready to be served

(อาหารสำเรจ็ รปู )
- fast food (n.) easily prepared processed food served in snack bars and

restaurants as a quick meal or to be taken away (อาหารจานดว่ น)
- tasty (adj.) (of food) having a pleasant, distinct flavour (อร่อย)

- Talking about British food

- Listen to dish in the UK
- Read to dish in the UK

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1.ดา้ นความรู้ (K)
- นักเรยี นสามารถพูดและเขา้ ใจวิถชี วี ติ เกย่ี วกบั อาหารการกินของชาวอังกฤษได้
2. ด้านกระบวนการ (P)
- นักเรยี นสามารถเขยี นตอบคำถามเกยี่ วกับเร่ืองที่ฟงั และอา่ นได้อย่างถูกต้อง
3. ด้านเจตคติ (A)
- นกั เรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมดว้ ยความกระตือรอื ร้น

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

7. การบรู ณาการหลักปรัชญา

หลักความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศึกษาหาความรแู้ ละทำงานเหมาะกับเวลา
หลักมเี หตผุ ล
นักเรียนสามารถพูดและเข้าใจวิถีชีวิตเกี่ยวกับอาหารการกินของชาวอังกฤษ
หลกั สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี ได้
การเลือกศกึ ษาจากแหล่งเรียนรูโ้ ดยมีความถกู ต้อง
เงอื่ นไขความรู้ การวางแผนในการทำงาน
เงอ่ื นไขคุณธรรม นักเรียนสามารถเขยี นตอบคำถามเกยี่ วกบั เรอื่ งทฟ่ี ังและอ่านไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

นักเรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมดว้ ยความกระตือรือรน้

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครแู ละนักเรยี นกล่าวคำทักทายกัน
Teacher : Good afternoon students.
Students : Good afternoon teacher.
Teacher : How are you today?
Students : I’m fine. Thank you and you?
Teacher : I’m very well. Thank you

2. ครูนำสนทนาเกี่ยวกับอาหารที่นักเรียนรับประทานในแต่ละมื้อ แต่ละวันว่าเป็นอาหารประเภท
ใดบ้าง

3. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ว่า ในคาบนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องอาหารที่ชาวอังกฤษ
รบั ประทานกนั

4. ใหน้ ักเรียนเปิดหนังสือ Flash on English Elementary Student’s Book หนา้ 60 แลว้ รว่ มกัน
อภปิ รายในหวั ข้อเรอ่ื ง You Are What You Eat… และ British food sucks! Fact or fiction?

5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ 1และ2 เพื่อทดสอบว่านักเรียนมีความรู้เดิมเกี่ยวกับอาหารของ
ชาวองั กฤษอย่างไรบา้ ง

ขั้นนำเสนอเนอ้ื หา (Presentation)

6. ครูเปิดเสียงจากซีดีประกอบบทเรียน CD2.02 ให้นักเรียนฟัง และดูเนื้อหาตามเพื่อหาคำตอบ
ตอบโจทยใ์ นแบบฝกึ หัดขอ้ 2 ใน Flash on English Elementary Student’s Bookหน้า 60 (ดเู ฉลย)

7. ครูอธิบายคำศัพท์ยาก เช่น cuisine, spicy, ready-made, tasty และลักษณะของอาหารบาง
ชนิด เชน่ chicken tikka masala, Yorkshire pudding เพอื่ ช่วยให้นกั เรียนเข้าใจบทอา่ นได้ดยี ่งิ ขึน้
ข้ันฝึก (Practice)

8. ครูสุ่มนักเรียนอาสาสมัคร อ่านบทความเพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง คนละ 1 ย่อหน้า แล้วเขียน
ตอบคำถามในแบบฝึกหัดขอ้ 4 ใน Flash on English Elementary Student’s Book หน้า 60

ข้ันนำไปใช้ (Production)

9. ครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั พดู อธบิ ายเกี่ยวกบั อาหารการกินของชาวอังกฤษว่าเป็นอยา่ งไร

ขัน้ สรุป (Warp up)
10. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned

from today?”
9. สอื่ / อปุ กรณ์

ส่ืออุปกรณ์
1. หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐานภาษาอังกฤษ Flash on English ม.4 (หนา้ 60)
2. คอมพิวเตอร์
3. ลำโพง
4. พจจนานุกรม

10. การวดั ประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
การวดั และการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และการประเมนิ ผล

(K) –สามารถพูดและเข้าใจ - สงั เกตจากการพดู อธบิ าย - คำถามเกย่ี วกับอาหาร -รอ้ ยละ 60 ผา่ น
วิถชี วี ิตเกีย่ วกับอาหารการ เกย่ี วกับอาหารการกนิ ของ การกนิ ของชาวอังกฤษ เกณฑ์
กินของชาวองั กฤษได้ ชาวองั กฤษ
(P)- สามารถเขยี นตอบ - ตรวจแบบฝกึ หัดขอ้ 4 ใน - แบบฝกึ หัดข้อ 4 ใน - รอ้ ยละ 60 ผ่าน
คำถามเกย่ี วกบั เรื่องท่ีฟัง Flash on English Flash on English เกณฑ์
และอา่ นได้อย่างถูกต้อง Elementary Student’s Elementary Student’s
Book หนา้ 60 Book หน้า 60 -ระดบั คุณภาพ 2
(A) -ใฝเ่ รียนรู้ -สังเกตพฤตกิ รรมเปน็ -แบบสงั เกตพฤติกรรมเป็น ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล รายบุคคล

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
จำนวน 1 ชว่ั โมง
รายวชิ า อ 31102 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 You Are What You Eat…
เรอ่ื ง Have you eaten breakfast?

1. สาระสำคญั
ฟงั และฝึกออกเสยี งคำศัพทห์ มวดอาหารเชา้ ของประเทศองั กฤษ และเรียนร้หู ลกั การใช้

countable /uncountable nouns

2.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ม.4/1 ปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำในคมู่ อื การใช้งานตา่ ง ๆ คำชแี้ จง คำอธิบาย และคำ
บรรยายทีฟ่ ังและอา่ น

3.สาระการเรยี นรู้ - toast (n.) sliced bread browned on both sides by exposure to radiant
Vocabulary heat, such as a grill or fire (ขนมปงั ปงิ้ )

- cereal (n.) grain used for food, for example wheat, maize, or rye (ธัญพชื )
- bacon (n.) cured meat from the back or sides of a pig (ส่วนเนื้อด้านหลัง

และขา้ งของหมูท่ีใสเ่ กลอื รมควัน)
- sausage (n.) an item of food in the form of a cylindrical length of minced

pork or other meat encased in a skin, typically sold raw to be grilled or
fried before eating (ไสก้ รอก)
- pasta (n.) a dish originally from Italy consisting of dough made from
durum wheat and water, extruded or stamped into various shapes and
typically cooked in boiling water (อาหารชนดิ หนง่ึ ของอติ าลี (พาสตา้ ))
- pastry (n.) a dough of flour, fat and water, used as a base and covering
in baked dishes such as pies (ขนมป้ิงรสหวาน ทำดว้ ยแป้งลกั ษณะคล้ายพาย)
- biscuit (n.) a small baked unleavened cake, typically crisp, flat, and
sweet (ขนมปังกรอบ)
- yoghurt (n.) a semi-solid sourish food prepared from milk fermented by
adding bacteria (นมเปรยี้ ว)

Function/Speaking - Talking about English breakfast
- Countable /uncountable nouns
Grammar - Listen to English breakfast

Listening
Reading
Writing
Culture

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1.ด้านความรู้ (K)
- นกั เรยี นสามารถแยกคำนามนับได้ และคำนามนบั ไม่ได้ ได้อย่างถูกต้อง
2. ดา้ นกระบวนการ (P)
- นักเรียนสามารถแต่งประโยค โดยใช้คำศัพท์ที่เปน็ countable /uncountable nouns มา
แตง่ ในประโยครว่ มด้วยไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
3. ด้านเจตคติ (A)
- นกั เรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมดว้ ยความใฝเ่ รยี นรู้

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

7. การบรู ณาการหลกั ปรชั ญา

หลกั ความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศึกษาหาความรูแ้ ละทำงานเหมาะกับเวลา
หลกั มเี หตผุ ล
หลกั สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ท่ีดี นกั เรียนสามารถแยกคำนามนบั ได้ และคำนามนบั ไม่ได้ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

เงอ่ื นไขความรู้ การเลอื กศึกษาจากแหลง่ เรยี นรโู้ ดยมคี วามถูกตอ้ ง
การวางแผนในการทำงาน
เงอ่ื นไขคุณธรรม นักเรยี นสามารถแต่งประโยค โดยใช้คำศัพทท์ ีเ่ ป็น countable
/uncountable nouns มาแต่งในประโยครว่ มดว้ ยได้อย่างถูกต้อง
นักเรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมดว้ ยความใฝ่เรยี นรู้

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครแู ละนกั เรยี นกลา่ วคำทักทายกนั
Teacher : Good morning students.
Students : Good morning teacher.
Teacher : How are you today?
Students : I’m fine. Thank you and you?
Teacher : I’m very well. Thank you

2. ครูนำสนทนาโดยถามนักเรยี นวา่ “Have you eaten breakfast?”

3. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือ Flash on English Elementary Student’s Book หน้า 61
Vocabulary: Food and drink แบบฝึกหัดข้อ 5 ดูคำศัพท์รายการอาหารเช้าของชาวอังกฤษกับภาพอาหาร
เชา้ ท่ีอยดู่ ้านล่าง

4. ครูเปิดเสียงจากซีดีประกอบบทเรียน CD 2.03 ให้นักเรียนใส่เครื่องหมาย ( ✓)
หน้าชื่อส่วนประกอบของอาหารเช้าของชาวอังกฤษตามที่ได้ยินจากซีดี เพื่อทดสอบว่านักเรียนมีความรู้เดิม
เกี่ยวกบั คำศัพทห์ มวดอาหารหรอื ไม่

ข้นั นำเสนอเนื้อหา (Presentation)

5. ครนู ำเสนอคำศพั ท์เก่ียวกับหมวดอาหาร

6. ครูกล่าวถึงคำนาม มีทั้งเป็นนามนับได้ และนามนับไม่ได้ และเขียนตัวอย่างประโยคบนกระดาน
ดงั นี้

There are two pens, a book, a bag, and three pencils on the desk.

My mother buys milk, salt, sugar, chicken, bacon and sauce at the market.
ใหน้ กั เรยี นอ่านประโยคบนกระดาน แลว้ บอกวา่ ประโยคใดมี countable noun และประโยคใด
มี uncountable noun นักเรียนมวี ิธีการสงั เกตอยา่ งไร ได้ขอ้ สรปุ ดงั นี้
หลักการใช้คำนามนบั ได้ (countable noun)
1. นับจำนวนได้ เช่น 2 cups, 3 cars
2. ใช้ a/an นำหนา้ คำนามได้ เชน่ a bag, an apple
3. ทำเปน็ รปู พหูพจน์ได้ เช่น fans, boxes เปน็ ต้น
หลักการใชค้ ำนามนับไมไ่ ด้ (Uncountable noun)
1. นบั จำนวน (1, 2, 3,...) ไม่ได้ เช่น Oil, water
2. ใช้ a /an นำหน้าไมไ่ ด้ เช่น chocolate, tea
3. ทำเป็นรปู พหูพจน์ (เตมิ s)ไมไ่ ด้
7. ครูให้นักเรยี นทบทวนหลกั การใช้ Countable /uncountable nouns อีกครง้ั
ข้ันฝึก (Practice)
8. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ 7 โดยแยกคำนามในแบบฝึกหัดข้อ 5 ในช่อง Countable และ
Uncountable noun ให้ถกู ตอ้ ง หลงั จากน้ันช่วยกันตรวจความถูกตอ้ ง (ดเู ฉลย)
ขนั้ นำไปใช้ (Production)
9. ครูให้นักเรียนฝึกแต่งประโยคง่ายๆ ลงในสมุด โดยใชค้ ำศพั ท์ท่ีเป็น Countable /uncountable
nouns มาแต่งในประโยคด้วย
ตวั อยา่ งเช่น

My mom drinks milk every day.
I have got an egg.
ขนั้ สรุป (Warp up)
10. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned
from today?”

9. สอ่ื / อปุ กรณ์
สอื่ อปุ กรณ์
1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ Flash on English ม.4 (หน้า 61)
2. คอมพวิ เตอร์
3. ลำโพง
4. พจจนานุกรม

10. การวดั ประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
การวดั และการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และการประเมนิ ผล

(K) –สามารถแยกคำนามนบั - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหดั ข้อ 7 ใน -ร้อยละ 60 ผา่ น
ได้ และคำนามนับไม่ได้ ได้ Flash on English เกณฑ์
อยา่ งถูกต้อง Elementary Student’s
Book หนา้ 61 - ร้อยละ 60 ผ่าน
(P)- สามารถแตง่ ประโยค - ตรวจการแต่งประโยคใน - การแตง่ ประโยคในสมุด เกณฑ์

โดยใช้คำศพั ท์ทเี่ ป็น สมดุ

countable

/uncountable nouns มา

แต่งในประโยคร่วมด้วยได้

อยา่ งถูกต้อง

(A) -ใฝ่เรียนรู้ -สังเกตพฤตกิ รรมเปน็ -แบบสังเกตพฤติกรรมเปน็ -ระดบั คุณภาพ 2

รายบคุ คล รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
จำนวน 1 ชวั่ โมง
รายวชิ า อ 31102 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 You Are What You Eat…
เรอื่ ง Are there any tomatoes?

1. สาระสำคญั
เรยี นรหู้ ลักการใช้ some/any และสามารถนำหลักการท่ีไดเ้ รยี นรูม้ าปรับใช้ในการแต่งประโยค

สนทนาได้อยา่ งถูกต้อง

2.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอื่ งท่ีฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล

ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.4/1 ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใชง้ านต่าง ๆ คำชี้แจง คำอธบิ าย และคำ
บรรยายที่ฟังและอา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึกและ
ความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ตวั ชวี้ ัด ต 1.2 ม.4/5 พดู และเขยี นบรรยายความรูส้ กึ และแสดงความคดิ เห็นของตนเองเกยี่ วกบั เรือ่ ง
ตา่ ง ๆ กจิ กรรมประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณอ์ ยา่ งมเี หตุผล

3.สาระการเรยี นรู้ - Talking about the amount of food in the refrigerator
- Some/any
Vocabulary
Function/Speaking - Write a description of your favorite breakfast.

Grammar

Listening
Reading
Writing
Culture

4. จุดประสงค์การเรียนรู้

1.ด้านความรู้ (K)
- นกั เรียนเข้าใจหลักการใช้ some/any ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

2. ด้านกระบวนการ (P)
- นกั เรยี นสามารถเขียนอธิบายเก่ยี วกบั อาหารเช้าทน่ี ักเรียนโปรดปราน โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค

ทเี่ รียนมาแลว้ ได้อยา่ งถกู ต้อง
3. ด้านเจตคติ (A)

- นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมดว้ ยความใฝ่เรยี นรู้

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการส่อื สาร
2.ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

7. การบูรณาการหลักปรัชญา

หลกั ความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา
หลักมเี หตผุ ล
หลกั สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี นักเรียนเขา้ ใจหลักการใช้ some/any ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

เงอ่ื นไขความรู้ การเลอื กศึกษาจากแหล่งเรยี นรูโ้ ดยมีความถกู ต้อง
การวางแผนในการทำงาน
เงอ่ื นไขคณุ ธรรม - นักเรียนสามารถเขียนอธบิ ายเกีย่ วกับอาหารเชา้ ทน่ี กั เรียนโปรดปราน โดย
ใชโ้ ครงสร้างประโยคท่ีเรียนมาแล้วได้อยา่ งถกู ต้อง
นักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมด้วยความใฝ่เรียนรู้

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครแู ละนักเรียนกล่าวคำทักทายกัน
Teacher : Good morning students.
Students : Good morning teacher.
Teacher : How are you today?
Students : I’m fine. Thank you and you?
Teacher : I’m very well. Thank you

2. ครูเปิดรูปภาพเกี่ยวกับอาหารที่อยู่ในตู้เย็น แล้วถามนักเรียนว่า “What can you see in this
picture?”

ขน้ั นำเสนอเนือ้ หา (Presentation)

3. ครนู ำเสนอประโยคเกี่ยวกบั การใช้ some และ any บนกระดาน ดังนี้

Are there any apples in the fridge?

There are some apples left.

Mary wants to buy some orange juice at the supermarket.

She doesn’t buy any eggs or milk.

4. ให้นักเรียนสงั เกตการใช้ some และ any จากประโยคบนกระดาน แลว้ ชว่ ยกนั สรุปวิธกี ารใช้ ซึ่ง
จะได้ข้อสรปุ ดังนี้

Some ใชไ้ ดก้ ับ countable noun (plural) และ uncountable noun ในประโยคบอกเล่า

Any ใช้ไดก้ บั countable noun (plural) และ uncountable noun ในประโยคคำถามและปฏิเสธ

5. ครใู ห้นกั เรยี นยกตวั อย่างประโยคการใช้ some/any ในรูปประโยคตา่ งๆ คนละ 1 ประโยค

ขั้นฝกึ (Practice)

6. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ 8 Flash on English Elementary Student’s Book หน้า 61
แลว้ ชว่ ยกนั เฉลย

ขน้ั นำไปใช้ (Production)

7. ในแบบฝึกหัดข้อ 9 Say it! Flash on English Elementary Student’s Book หน้า 61 ครูให้
นกั เรียนพูดเรื่องอาหารเชา้ ทนี่ ักเรียนโปรดปราน โดยใช้โครงสรา้ งประโยคที่เรียนมาแลว้ เชน่ การใช้ Adverbs

of frequency ในประโ ยค Present Simple Tense, การใช ้ Expression of preferences-love, like,
don’t like เป็นตน้

ขนั้ สรปุ (Warp up)

8. ครใู ห้นกั เรียนทบทวนเร่อื งทีไ่ ด้เรยี นไปวันนโี้ ดยถามนักเรยี นวา่ “What have you learned from
today?”

9. สอื่ / อปุ กรณ์
สื่ออุปกรณ์
1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ Flash on English ม.4 (หน้า 61)
2. พจจนานกุ รม
3. คอมพวิ เตอร์
4. ลำโพง

10. การวดั ประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
การวดั และการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และการประเมนิ ผล

(K) –เข้าใจหลักการใช้ - ตรวจแบบฝกึ หดั ขอ้ 8ใน - แบบฝึกหดั ขอ้ 8 ใน -รอ้ ยละ 60 ผ่าน
some/any ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง Flash on English Flash on English เกณฑ์
Elementary Student’s Elementary Student’s
(P)- สามารถเขียนอธบิ าย Book หน้า 61 Book หน้า 61 - รอ้ ยละ 60 ผา่ น
เก่ยี วกบั อาหารเช้าที่ - ตรวจแบบฝกึ หดั ขอ้ 9 ใน - แบบฝึกหดั ขอ้ 9 ใน เกณฑ์
นกั เรยี นโปรดปราน โดยใช้ Flash on English Flash on English
โครงสร้างประโยคทเี่ รยี น Elementary Student’s Elementary Student’s -ระดับคุณภาพ 2
มาแลว้ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง Book หนา้ 61 Book หน้า 61 ผา่ นเกณฑ์
(A) -ใฝเ่ รียนรู้
-สงั เกตพฤตกิ รรมเป็น -แบบสังเกตพฤติกรรมเป็น
รายบุคคล รายบุคคล

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
จำนวน 1 ชว่ั โมง
รายวชิ า อ 31102 ภาษาองั กฤษ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 You Are What You Eat…
เรอื่ ง How many eggs are there?

1. สาระสำคัญ
ฟังและอา่ นบทสนทนา และตอบคำถามจากเรือ่ งทฟี่ ังและอ่านเก่ียวกับส่วนประกอบท่ีใชท้ ำอาหาร

และเขียนบอกสว่ นประกอบท่ีนกั เรียนใชท้ ำอาหาร
2.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่อื งที่ฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล

ตัวช้ีวัด ต 1.1 ม.4/1 ปฏบิ ัติตามคำแนะนำในคู่มือการใชง้ านตา่ ง ๆ คำชแ้ี จง คำอธิบาย และคำ
บรรยายทฟี่ งั และอา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

ตัวช้วี ดั ต 1.2 ม.4/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรอื่ งตา่ ง ๆใกลต้ ัว ประสบการณ์
สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่าง
ตอ่ เนอ่ื งและเหมาะสม

3.สาระการเรยี นรู้

Vocabulary - yuk (interj.) (slang) an exclamation indicating contempt, dislike, or
disgust (คำอุทาน แสดงความไม่ชอบใจ หรือรงั เกียจ)

- swap (v.) take part in an exchange of (เปลยี่ นที่ แลกเปล่ียน)
- dozen (n.) a group or set of twelve (หนง่ึ โหล)
- boss (n.) a person who is in charge of a worker or organization ( น า ย

เจา้ นาย)

- teapot (n.) a pot with a handle, spout, and lid, in which tea is brewed
and from which it is poured (กานำ้ ชา)

- carton (n.) a light box or container, typically one made of waxed
cardboard or plastic in which drinks or foodstuffs are packaged ( กล ่ อง
บรรจอุ าหาร)

Function/Speaking - slice (n.)a thin, broad piece of food, such as bread, meat, or cake, cut
from a larger portion (แผน่ เฉอื นบางๆ)
Grammar
- loaf (n.) a quantity of bread that is shaped and baked in one piece and
Listening usually sliced before being eaten (ก้อนขนมปัง ขนมปงั แถวหนึง่ )
Reading
Writing - pie (n.) a baked dish of fruit, or meat and vegetables, typically with a
Culture top and base of pastry (ขนมพาย ขนมยดั ไสท้ มี่ เี ปลอื กกรอบ)

- measurement (n.) the action of measuring something (การวดั )
- gramme (n.) a metric unit of mass equal to one thousandth of a

kilogram (หนว่ ยช่งั นำ้ หนักเปน็ กรมั )

- Talking about quantity

- Listen to how many eggs are there?
- Read to how many eggs are there?
- Write about the typical ingredients use in cooking

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.ด้านความรู้ (K)
- นักเรียนสามารถอ่านจบั ใจความและตอบคำถามจากเรอ่ื งท่ีอา่ นได้
2. ดา้ นกระบวนการ (P)
- นกั เรียนสามารถเขียนบอกส่วนประกอบทน่ี กั เรียนใชใ้ นการทำอาหารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3. ดา้ นเจตคติ (A)
- นกั เรยี นปฏิบัติกิจกรรมดว้ ยความกระตือรือรน้

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2.ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

7. การบรู ณาการหลักปรชั ญา

หลกั ความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรูแ้ ละทำงานเหมาะกับเวลา
หลกั มเี หตผุ ล
หลักสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ท่ีดี นกั เรียนสามารถอ่านจับใจความและตอบคำถามจากเร่ืองที่อ่านได้

เงอื่ นไขความรู้ การเลือกศกึ ษาจากแหลง่ เรยี นรู้โดยมคี วามถูกต้อง
การวางแผนในการทำงาน
เงอื่ นไขคณุ ธรรม - นักเรยี นสามารถเขยี นบอกส่วนประกอบทนี่ ักเรียนใช้ในการทำอาหารได้
อยา่ งถูกต้อง
นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมดว้ ยความกระตือรอื ร้น

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครูและนักเรยี นกลา่ วคำทักทายกนั
Teacher : Good morning students.
Students : Good morning teacher.
Teacher : How are you today?
Students : I’m fine. Thank you and you?
Teacher : I’m very well. Thank you

2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือ Flash on English Elementary Student’s Book หน้า 62
ดูภาพของบุคคล 2 คน แล้วถามนกั เรียนวา่

“Who are these people?” (Anna and Antonio.)

“Where are they?” (They are in the kitchen.)

“What is Antonio doing?” (He is writing something.)

ขัน้ นำเสนอเน้อื หา (Presentation)

3. ครใู หน้ กั เรยี นดูหัวขอ้ เรื่อง “How many eggs are there?” แล้วถามนกั เรยี นวา่

Teacher : Why do you think they need eggs?

Student : Because this is a B&B and they need eggs for the guests’ English
breakfast.

4. ครูเปิดเสียงจากซีดปี ระกอบบทเรยี นCD 2.04 ให้นักเรยี นฟังและอ่านบทสนทนาคร่าวๆ ตาม เพื่อหา
คำตอบวา่ Antonio กำลงั เขียนอะไร (ดูเฉลย)

ขั้นฝึก (Practice)

5. ครขู ออาสาสมคั รนักเรียน 3 คน อา่ นบทสนทนา โดยคนหนงึ่ เป็น Anna คนหนง่ึ เปน็ Antonio และ
อีกคนหน่ึงเป็น Henry พอ่ ของ Anna โดยฝกึ ออกเสยี งให้ถูกตอ้ ง และใหน้ ักเรียนขดี เส้นใตส้ ิง่ ที่ Anna และ
Antonio ตอ้ งการ

6. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ 2 ใน Flash on English Elementary Student’s Book หน้า 62 ใส่
เคร่อื งหมาย (✓) ทา้ ยรายการท่ี Anna และ Antonio ต้องการ และใสเ่ ครือ่ งหมาย () ท้ายรายการที่พวกเขาไม่
ต้องการ (ดูเฉลย)

ข้นั นำไปใช้ (Production)

7. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Flash Forward หน้า 62 เขียนบอกเกี่ยวกับส่วนประกอบที่นักเรียนใช้
ทำอาหาร

ขัน้ สรุป (Warp up)

8. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned from
today?”

9. สอื่ / อปุ กรณ์
สื่ออุปกรณ์
1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ Flash on English ม.4 (หน้า 62)
2. Power point เกี่ยวกับบทสนทนา how many eggs are there?
3. คอมพวิ เตอร์

10. การวดั ประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
การวดั และการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และการประเมนิ ผล

(K) –สามารถอ่านจบั - สงั เกตจากการอ่านจบั - บทสนทนา how many -รอ้ ยละ 60 ผ่าน
eggs are there? หนา้ 62 เกณฑ์
ใจความและตอบคำถามจาก ใจความและตอบคำถาม

เรือ่ งท่ีอ่านได้

(P)- สามารถเขียนบอก - ตรวจแบบฝึกหดั Flash - แบบฝึกหัด Flash - รอ้ ยละ 60 ผ่าน
Forward หน้า 62 เกณฑ์
สว่ นประกอบท่ีนักเรียนใชใ้ น Forward หนา้ 62

การทำอาหารได้อยา่ ง

ถูกต้อง

(A) -กระตือรือร้น -สงั เกตพฤตกิ รรมเป็น -แบบสังเกตพฤติกรรมเปน็ -ระดบั คุณภาพ 2

รายบุคคล รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
จำนวน 1 ชวั่ โมง
รายวชิ า อ 31102 ภาษาองั กฤษ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 You Are What You Eat…
เรอ่ื ง How much/many + quantities

1. สาระสำคัญ
เรยี นรหู้ ลักการและฝึกใช้คำบอกปรมิ าณ ซงึ่ ประกอบด้วย How much..?/ How many..? /too

much / too many /not much /not many/ a lot of / a little/ a few/ enough และสามารถนำไปปรับใช้
ในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสม

2.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล

ตวั ชว้ี ดั ต 1.1 ม.4/1 ปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำในคมู่ อื การใชง้ านต่าง ๆ คำช้ีแจง คำอธิบาย และคำ
บรรยายท่ฟี งั และอา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึกและ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตัวชว้ี ัด ต 1.2 ม.4/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความ
คิดเห็นเกี่ยวกับเรอื่ ง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณท์ ฟี่ งั และอ่านอยา่ งเหมาะสม

3.สาระการเรียนรู้

Vocabulary -

Function/Speaking - Talking about quantity

Grammar - How much..?/ How many..? /too much / too many /not much
/not many/ a lot of / a little/ a few/ enough
Listening
Reading -
Writing -
Culture
-

-

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.ด้านความรู้ (K)
- นักเรียนสามารถเข้าใจหลักการใช้คำบอกปริมาณไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
2. ดา้ นกระบวนการ (P)
- นักเรียนสามารถแต่งประโยคโดยใช้คำบอกปรมิ าณได้อยา่ งถกู ต้อง
3. ด้านเจตคติ (A)
- นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมดว้ ยความกระตือรอื รน้

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุง่ ม่ันในการทำงาน

7. การบูรณาการหลักปรัชญา

หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรแู้ ละทำงานเหมาะกับเวลา
หลักมเี หตผุ ล นักเรยี นสามารถเข้าใจหลกั การใช้คำบอกปริมาณได้อย่างถูกต้อง
หลักสรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี การเลือกศกึ ษาจากแหลง่ เรยี นรู้โดยมคี วามถกู ตอ้ ง
การวางแผนในการทำงาน
เงอื่ นไขความรู้ นักเรยี นสามารถแตง่ ประโยคโดยใช้คำบอกปริมาณได้อยา่ งถกู ต้อง
เงอ่ื นไขคุณธรรม นกั เรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมด้วยความกระตือรอื ร้น

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครูและนักเรยี นกล่าวคำทักทายกัน
Teacher : Good morning students.
Students : Good morning teacher.

Teacher : How are you today?
Students : I’m fine. Thank you and you?
Teacher : I’m very well. Thank you

2. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเนื้อหาที่เรียนในคาบที่แล้ว จากนั้นครูก็เกริ่นว่า “ในบทสนทนา หน้า
62 พูดเกี่ยวกับการบอกปริมาณของส่วนประกอบที่ใช้ในการทำอาหาร ดังนั้นคาบนี้นักเรียนจะได้รียนรู้เกี่ยวกับ
หลักการใช้คำบอกปรมิ าณ”
ขั้นนำเสนอเนอ้ื หา (Presentation)

3. ครูเขยี นตารางการใช้คำทีแ่ สดง Quantity กบั countable/uncountable nouns ดงั น้ี

Noun How much How many a lot of a little a few enough

too much/ too many/

not much not many

countable - ✓✓ ✓✓

uncountable ✓ ✓✓ ✓

4. ครูอธิบายความหมายของ Quantity - How much..?/ How many..? /too much / too many
และ not much /not many และยกตวั อย่างประโยคประกอบ

5. ใหน้ ักเรียนอ่านประโยคบนกระดาน แล้วช่วยกันสรปุ วิธกี ารใช้ How much..?/ How many..? /too
much/ too many และ not much /not many ทีส่ มั พนั ธ์กบั countable/uncountable nouns

6. ครูเขยี นประโยค Quantity - a lot of / a little/ a few/ และ enough บนกระดาน

7. ให้นักเรียนอ่านประโยคบนกระดานแล้วช่วยกันสรุปวิธีการใช้ a lot of / a little/ a few/
และ enough

8. ครูอธิบายว่า คำนามท่ีนับไม่ได้ (uncountable noun) หากจะทำให้นับได้ จะต้องทำให้อยู่ในรูป
ของ container และ package เชน่

a loaf of bread a cup of tea a glass of water

a piece of cheese a bottle of wine a kilo of sugar

a slice of cake a jar of jam a can of beer

ข้นั ฝกึ (Practice)

9. ใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสอื Flash on English Elementary Student’s Book หนา้ 63 ขอ้
3 โดยขีดเสน้ ใต้ตวั เลือกที่ถูกต้องในประโยค

ขัน้ นำไปใช้ (Production)

10.นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื Flash on English Elementary Student’s Book หนา้ 63 ข้อ 4
โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับรูปภาพโดยใช้ How much/many….? แล้วตอบด้วย a little/a few, not much/many,
a lot of, enough

ขนั้ สรุป (Warp up)

11. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องท่ีได้เรียนไปวันนี้โดยถามนกั เรียนว่า “What have you learned from
today?”

9. สือ่ / อปุ กรณ์

ส่ืออปุ กรณ์

1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานภาษาองั กฤษ Flash on English ม.4 (หน้า 63)

2. Power point เกยี่ วกับ Quantity

3. คอมพวิ เตอร์

10. การวดั ประเมินผล

การวดั และการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และการประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์

(K) –สามารถเข้าใจหลกั การ - ตรวจแบบฝึกหัด ข้อ 3 ใน - แบบฝึกหัด ข้อ 3 ใน -รอ้ ยละ 60

ใช้คำบอกปริมาณได้อย่าง หนงั สอื เรียน หนา้ 63 หนงั สอื เรียน หนา้ 63 ผา่ นเกณฑ์

ถูกตอ้ ง

(P)- สามารถแต่งประโยค - ตรวจแบบฝึกหัด ข้อ 4 ใน - แบบฝึกหัด ข้อ 4 ใน - รอ้ ยละ 60

โดยใช้คำบอกปริมาณได้ หนงั สือเรียน หน้า 63 หนังสือเรยี น หน้า 63 ผ่านเกณฑ์

อย่างถูกตอ้ ง

(A) -กระตอื รือรน้ -สงั เกตพฤติกรรมเป็นรายบุคคล -แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเป็น -ระดับคุณภาพ 2

รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
จำนวน 1 ชว่ั โมง
รายวชิ า อ 31102 ภาษาองั กฤษ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 You Are What You Eat…
เรอ่ื ง Online shopping

1. สาระสำคญั
ฝกึ อ่านออกเสยี งเนน้ เสียงหนัก-เบา คำ 2 พยางค์ ฟัง อา่ นและตอบคำถามจากเรือ่ งท่ีฟงั ฝกึ การ

สนทนาส่งั ซ้อื อาหาร online และสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้อยา่ งเหมาะสม

2.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟงั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.4/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครส้นั
(skit) ถกู ต้องตามหลักการอ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวช้ีวดั ต 1.2 ม.4/1 สนทนาและเขยี นโต้ตอบขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเอง เรือ่ งตา่ ง ๆใกล้ตัว ประสบการณ์
สถานการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และส่ือสารอย่าง
ตอ่ เนือ่ งและเหมาะสม

3.สาระการเรยี นรู้ - slice (n.) a thin, broad piece of food, such as bread, meat, or cake, cut
Vocabulary from a larger portion แผ่นเฉอื นบางๆ

- carton (n.) a light box or container, typically one made of waxed
cardboard or plastic in which drinks or foodstuffs are packaged ก ล ่ อง
บรรจอุ าหาร

- loaf (n.) a quantity of bread that is shaped and baked in one piece and
usually sliced before being eaten ก้อนขนมปัง ขนมปงั แถวหน่ึง

- measurement (n.) the action of measuring something การวดั
- gramme (n.) a metric unit of mass equal to one thousandth of a kilogram

หน่วยช่ังนำ้ หนกั เป็นกรัม
- pound (n.) a unit of weight equal to 1 2 oz. troy (0 . 3 7 3 2 kg) used for

precious metals นำ้ หนกั เป็นปอนด์

Function/Speaking - kilogram (n.) the SI unit of mass, equivalent to the international standard
kept at Sèvres near Paris (approximately 2.205 lb). นำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรัม
Grammar
- litre (n.) a metric unit of capacity, formerly defined as the volume of 1
Listening kilogram of water under standard conditions, now equal to 1,000 cubic
Reading centimeters (about 1.75 pints). ลิตร หน่วยวัดปริมาณ 1 ลิตรเท่ากับ 0.264
Writing แกลลอน
Culture
- milliliters (n.) one thousandth of a liter (0.002 pint). มิลลิลิตร ชื่อมาตรา
ตวงตามวิธีเมตริก มอี ตั ราเท่ากับ 1 ใน 1,000 ของ 1 ลิตร

- online delivery service (n.) a transport service organised by a supplier or
a shop to take goods to customers การบริการสง่ ถงึ บ้าน

- Talking about online shopping

- Listen to Fresco’s online delivery service
- Read to Fresco’s online delivery service
- Write an online food order

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1.ดา้ นความรู้ (K)
- นกั เรียนสามารถอ่านออกเสียงเน้นเสยี งหนกั -เบา คำ 2 พยางค์ได้
2. ด้านกระบวนการ (P)
- นกั เรียนสามารถสนทนาสงั่ ซือ้ อาหาร online ได้
3. ดา้ นเจตคติ (A)
- นกั เรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมด้วยความตง้ั ใจ

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2.ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

7. การบูรณาการหลกั ปรัชญา

หลกั ความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา
หลักมเี หตผุ ล นกั เรียนสามารถอ่านออกเสียงเนน้ เสยี งหนัก-เบา คำ 2 พยางคไ์ ด้
หลกั สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี การเลอื กศกึ ษาจากแหลง่ เรยี นร้โู ดยมคี วามถกู ตอ้ ง
การวางแผนในการทำงาน
เงอ่ื นไขความรู้ นกั เรียนสามารถสนทนาส่ังซื้ออาหาร online ได้
เงอื่ นไขคุณธรรม นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดว้ ยความต้ังใจ

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครูและนกั เรียนกล่าวคำทักทายกนั
Teacher : Good morning students.
Students : Good morning teacher.
Teacher : How are you today?
Students : I’m fine. Thank you and you?
Teacher : I’m very well. Thank you

2. ครูแจง้ นักเรียนวา่ คาบนี้จะเรียนเกีย่ วกบั การสั่งอาหารทางออนไลน์ แตก่ ่อนอ่ืนนกั เรียนตอ้ ง
เรียนรคู้ ำศัพทเ์ กย่ี วกบั ภาชนะ บรรจภุ ัณฑ์และหน่วยการวดั ระหว่าง British English และ American English
ก่อน

3. ครูให้นักเรยี นเปดิ หนังสือ Flash on English Elementary Student’s Book หนา้ 63 ให้
นกั เรียนดูภาพและคำทใี่ หไ้ ว้ ในแบบฝกึ หัดข้อ 5 จากนนั้ ครูเปดิ เสยี งจากซดี ปี ระกอบบทเรียน CD 2.05 ให้
นกั เรียนฟงั แล้วเลอื กคำทใี่ ห้ไว้ เติมลงในลงช่องวา่ งใต้ภาพให้ถูกต้อง

ขน้ั นำเสนอเนอื้ หา (Presentation)

3. ครูเฉลยคำตอบ และนำเสนอคำศพั ท์ในในแบบฝึกหัดข้อ 5 ที่นักเรยี นไดท้ ำไปในข้างตน้

4. ครอู ธบิ ายหนว่ ยการวัด ระหวา่ ง British English และ American English เพราะจะมีการใชค้ ำ
จะแตกต่างกนั ดงั นี้

British English American English

Grammes grams

litres liters

millilitres mililiters

สว่ นรูปยอ่ ของคำวา่ pounds ถา้ เป็นน้ำหนกั จะใช้ lbs แต่หน่วยของเงิน ใชร้ ูปย่อ £

5. ครูอธิบายการออกเสียงหนักเบาเมื่อคำนัน้ มี 2 พยางค์ หากออกเสียงเน้นหนักพยางคแ์ รก คำนั้น
มกั จะเป็นคำนาม แตห่ ากออกเสยี งเน้นหนกั พยางค์หลงั คำน้ันมักจะเปน็ คำกริยา

ข้ันฝกึ (Practice)

6. ครูเปิดเสยี งจากซีดีประกอบบทเรียน CD 2.07 แบบฝกึ หดั ขอ้ 7 ใหน้ กั เรียนฟังและออกเสียงตาม
(ดูเฉลย)

7. ครูเปิดเสียงจากซีดีประกอบบทเรียน CD 2.08 แบบฝึกหัดข้อ 8 ให้นักเรียนฟัง แล้วเขียนคำท่ี
กำหนดใหล้ งในคอลมั น์ ในแบบฝึกหดั ขอ้ 7 ใหถ้ ูกต้อง

8. ในแบบฝึกหัดข้อ 2 ในหนังสือ Flash on English Elementary Student’s Book หน้า 64
ให้นกั เรียนจับคหู่ น่วยการวดั กับชอ่ื ย่อให้ถกู ต้อง

9. ครูเปิดเสียงจากซีดีประกอบบทเรียน CD 2.06 จากหนังสือ Flash on English Elementary
Student’s Book หน้า 64 แบบฝึกหัดข้อ 4 เปน็ บทสนทนาท่ี Mrs Granger สง่ั ซื้อของ online ใหน้ กั เรียนฟัง
แล้วเติมคำใหส้ มบรู ณ์ จากบทสนทนาเดียวกนั นั้นใหน้ กั เรียนเตมิ คำในส่วนที่ขาดหายไปในแบบฝกึ หดั ข้อ 5

ข้นั นำไปใช้ (Production)

10. ในแบบฝึกหดั ข้อ 6 ใหน้ ักเรียนเขยี นสั่งอาหาร online จากน้นั จบั คู่กับเพื่อน ใหเ้ พื่อนเขยี นตาม
คำบอกของนักเรยี น เมอ่ื เขยี นเสร็จแล้ว นำสงิ่ ทีเ่ พอ่ื นเขียนกบั ส่งิ ทนี่ ักเรยี นบอก มาเปรียบเทียบดูความถกู ต้อง

ขั้นสรปุ (Warp up)

11. ครูให้นักเรียนทบทวนเรื่องที่ได้เรียนไปวันนี้โดยถามนักเรียนว่า “What have you learned
from today?”

9. สอ่ื / อปุ กรณ์
สือ่ อปุ กรณ์
1. หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ Flash on English ม.4 (หนา้ 63-64)
2. Power point เกีย่ วกบั คำศัพท์
3. คอมพวิ เตอร์
4. ลำโพง

10. การวดั ประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
การวดั และการประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และการประเมนิ ผล

(K) –สามารถอา่ นออกเสยี ง - สงั เกตจากการออกเสียง - แบบฝึกหดั ขอ้ 7ใน Flash -รอ้ ยละ 60 ผ่าน
เน้นเสยี งหนัก-เบา คำ 2
พยางค์ได้ - สังเกตจากการสนทนาและ on English Elementary เกณฑ์
(P)- สามารถสนทนาสัง่ ซ้ือ ตรวจแบบฝึกหดั ข้อ 6 ใน
อาหาร online ได้ Flash on English Student’s Book หนา้ 64
Elementary Student’s
(A) -ความตง้ั ใจ Book หน้า 64 - แบบฝึกหัดขอ้ 6 ใน - รอ้ ยละ 60 ผ่าน
-สังเกตพฤติกรรมเป็น
รายบุคคล Flash on English เกณฑ์

Elementary Student’s

Book หนา้ 64

-แบบสงั เกตพฤติกรรมเป็น -ระดบั คุณภาพ 2

รายบุคคล ผ่านเกณฑ์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
จำนวน 1 ชว่ั โมง
รายวชิ า อ 31102 ภาษาองั กฤษ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 You Are What You Eat…
เรอื่ ง GM Foods

1. สาระสำคญั
อา่ น และตอบคำถามจากเรื่อง GM foods ฝึกอา่ นจับใจความสำคญั ของเร่ืองที่อา่ น และร่วม

แสดงความคดิ เหน็

2.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมีเหตุผล

ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.4/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคดิ เห็น
จากการฟังและอา่ นเรอื่ งท่ีเป็นสารคดแี ละบนั เทงิ คดี พรอ้ มท้งั ให้เหตุผลและ
ยกตวั อยา่ งประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการ
พดู และการเขยี น

ตัวช้วี ดั ต 1.3 ม.4/1 พดู และเขียนนำเสนอข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ เร่อื ง
และประเดน็ ต่างๆทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

3.สาระการเรียนรู้ - genetically modified organism (n.) containing genetic material that has
Vocabulary been artificially altered so as to produce a desired characteristic (ส่ิงมชี วี ติ
ดัดแปลงพันธุกรรม (Genetically Modified Organisms - GMOs) คือ สิ่งมีชีวิตท่ี
ได้รับการตัดต่อยีนที่ควบคุมลักษณะที่ต้องการโดยใช้เทคโนโลยีพันธุวิศวกรรม
เพื่อใหไ้ ด้สงิ่ มชี วี ติ ทม่ี ีคุณสมบัตทิ ี่ดีตามต้องการ)

- ham (n.) meat from the upper part of a pig’s leg salted and dried or
smoked (เน้อื ขาหมูรมควนั )

- controversy (n.) prolonged public disagreement or heated discussion
(ความขดั แยง้ การโต้เถียงกนั อย่างรุนแรง)

- basically (adv.) In the most essential respects; fundamentally ( โ ด ย
พนื้ ฐาน)

- gene (n.) a unit of heredity which is transferred from a parent to offspring
and is held to determine some characteristic of the offspring (ลักษณะท่ี
ถ่ายทอดทางพันธกุ รรม)

- organism (n.) an individual animal, plant, or single-celled life form
(อินทรยี ์ ส่งิ มชี วี ติ )

- crop (n.) a cultivated plant that is grown on a large scale commercially,
especially a cereal, fruit, or vegetable (พชื ผล)

- stay fresh (v.) fail to spoil or rot; remain in a certain state; keep (ยังคง
รกั ษาสภาพความสด)

- environment (n.) the surroundings or conditions in which a person,
animal, or plant lives or operates (ส่ิงแวดล้อม)

- pesticide (n.) a substance used for destroying insects or other organism
harmful to cultivated plants or to animals (ยาฆา่ แมลง)

- fertilizer (n.) a chemical or natural substance added to soil or land to
increase its fertility (ปยุ๋ )

Function/Speaking - Talking about GM foods

Grammar

Listening

Reading - Read to GM foods

Writing

Culture

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1.ด้านความรู้ (K)

- นักเรยี นสามารถอ่านวิเคราะหเ์ รอื่ ง GM foods และแสดงความคดิ เห็นได้

2. ด้านกระบวนการ (P)

- นกั เรียนสามารถจับใจความสำคัญทีไ่ ด้จากการวเิ คราะหเ์ รื่อง GM foods ได้

3. ดา้ นเจตคติ (A)

- นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วยความใฝ่เรียนรู้

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2.ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ


Click to View FlipBook Version