หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๑๙๖ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชา การป้องกันการทุจริต๖ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ รหัสวิชา - เวลา - ชั่วโมง ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนกับผลประโยชน์สํวนรวม การคิดแยกแยะ ระบบ คิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกตํางระหวํางจริยธรรมและการทุจริต ประโยชน์สํวนตนและประโยชน์สํวนรวม การขัดกันระหวํางประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม ผลประโยชน์ทับซ๎อน รูปแบบของผลประโยชน์ทับซ๎อน ความละอายและความไมํทนตํอการทุจริต การท าการบ๎าน การท าเวร การสอบ การแตํงกาย กิจกรรมนักเรียน (ในห๎องเรียน โรงเรียน ชุมชน สังคม) การเข๎าแถว STRONG/จิตพอเพียงตํอต๎านการทุจริต การสร๎างจิตส านึก ความพอเพียงตํอต๎านการทุจริต ความโปรํงใส ความตื่นรู๎/ความรู๎ต๎านทุจริต มุํงไปข๎างหน๎า ความเอื้ออาทร พลเมืองกับความรับผิดชอบตํอสังคม เรื่องการเคารพสิทธิหน๎าที่ตํอตนเองและผู๎อื่นที่มีตํอประเทศชาติระเบียบ กฎ กติกากฎหมาย ความรับผิดชอบ (ตํอประเทศชาติ) ความเป็นพลเมืองในการตํอต๎านการทุจริตโดยใช๎กระบวนการคิด วิเคราะห์จ าแนกแยกแยะการฝึกปฏิบัติจริง การท าโครงงานกระบวนการเรียนรู๎ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก๎ปัญหา ทักษะการอํานและการเขียน เพื่อให๎มีความตระหนักและเห็นความส าคัญของการตํอต๎าน และการปูองกันการทุจริต ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม 2. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 3. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต 4. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม 5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเป็นผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ 7. ปฏิบัติตนเป็นผู้ที่ STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต 8. ปฏิบัติตนตามหน้าที่พลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเห็นความส าคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจริต รวม ๙ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๑๙๗ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี บอกชื่อและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตนเองได้ถูกต้อง ระบุส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ตนเองพอใจ พร้อมเหตุผล และอธิบายวิธีการดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งของตนเองและเพื่อนให้ปลอดภัย ระบุ ความสามารถของตนเองและรับรู๎ความสามารถของผู๎อื่น บอกเหตุผลที่ต๎องมาโรงเรียน บอกอาชีพของพํอแมํ บอกถึงเหตุผลของการท างานเพื่อมีรายได๎ดูแลตัวเอง ในการปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน ท ากิจกรรมรํวมกับเพื่อน ยอมรับสิ่งที่ตนเป็น และเข๎าใจวําสามารถปรับปรุงได๎ บอกอารมณ์และความรู้สึกของตนเองได้ รับรู้ความแตกต่างทางด้านร่างกายของตนเองและเพื่อน ยอมรับ ความแตกต่างทางด้านร่างกายของตนเองและเพื่อน ระบุงานและกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนที่ชอบและไม่ชอบ รวมทั้งการรับรู้ความชอบและไม่ชอบของเพื่อนในชั้นเรียน สื่อสารให๎ผู๎อื่นรับรู๎ถึงความต๎องการของตนเอง สื่อสาร (พูด/ฟัง/ อําน/เขียน) บอกและแสดงความรู๎สึก อารมณ์ที่ดีและไมํดีได๎อยํางเหมาะสม ชํวยเหลืองานบ๎านได๎ ตามโอกาส จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกอวัยวะภายนอกของรํางกายตนเองได๎ ๒. บอกอวัยวะภายนอกที่ชอบพร๎อมเหตุผล ๓. อธิบายวิธีการดูแลรักษาอวัยวะตนเองให๎ปลอดภัยและไมํท าให๎ผู๎อื่นได๎รับอันตราย ๔. ระบุความสามารถของตนเองและรับรู๎ความสามารถของผู๎อื่น ๕. บอกเหตุผลที่ต๎องมาโรงเรียน ๖. บอกสิ่งที่ผู๎ปกครอง ท าแล๎วมีรายได๎ ๗. บอกถึงเหตุผลของ การท างานเพื่อมีรายได๎ ๘. บอกลักษณะภายนอก และยอมรับสิ่งที่ตนเป็น และเข๎าใจวํา สามารถปรับปรุงได๎ ๙. ดูแลตัวเองในการ ปฏิบัติกิจวัตรได๎ ๑๐. ท ากิจกรรมรํวมกับเพื่อนได๎ ๑๑. สื่อสารให๎ผู๎อื่นรับรู๎ถึงความต๎องการของ ตนเองได๎ ๑๒. รับรู๎สิ่งที่ผู๎อื่นสื่อสารได๎ ๑๓. บอกวิธีการในการ สื่อสาร(พูด/ฟัง/ อําน/เขียน) บอกและแสดงความรู๎สึก อารมณ์ที่ดีและไมํดี ได๎อยํางเหมาะสม ๑๔. ชํวยเหลืองานบ๎านได๎ตามโอกาส รวม ๑๔ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๑๙๘ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี บอกการกระท าที่ ท าให๎ตนเองเกิดความ ภาคภูมิใจและ การกระท าที่ท าให๎ผู๎อื่นภูมิใจ บอกอารมณ์ ยอมรับความแตกตําง ด๎านรํางกาย ความ รู๎สึกและความ สามารถของตนเอง และผู๎อื่น และเห็น คุณคําของทุกคน แสดงพฤติกรรมที่เป็นการยอมรับคุณคําของทุกคน บอกวิชาที่ชอบได๎พร๎อมเหตุผลที่ชอบ บอกประโยชน์ของ แตํละวิชา และต๎องให๎ความสนใจกับทุกวิชา บอกความหมายของเครื่องหมาย/ สัญลักษณ์ที่แสดง คุณภาพของผลการเรียน บอกความแตกตํางระหวํางงาน กับอาชีพ บอกอาชีพในท๎องถิ่นที่รู๎จัก มีน้ าใจรู๎จักแบํงปัน (ของกิน ของใช๎ของเลํน) กับเพื่อน บอกวิธีการ แก๎ปัญหาของตนเอง ให๎ความชํวยเหลือผู๎อื่นตามโอกาส ระบุลักษณะของ ตนเองที่ต๎องปรับปรุง และบอกวิธีการ ปรับปรุงลักษณะของตนเอง ใช๎ภาษาและกิริยาที่สุภาพในการสื่อสาร ควบคุมพฤติกรรมที่เกิดจากอารมณ์ได๎อยําง เหมาะสม มีความรับผิดชอบ ชํวยเหลืองานและท างานตามที่ได๎รับมอบหมาย จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกการกระท าที่ ท าให๎ตนเองเกิดความ ภาคภูมิใจและการกระท าที่ท าให๎ผู๎อื่นภูมิใจ ๒. ยอมรับความแตกตําง ด๎านรํางกาย ความ รู๎สึกและความ สามารถของตนเอง และผู๎อื่น และเห็น คุณคําของทุกคน ๓. แสดงพฤติกรรมที่ เป็นการยอมรับคุณคําของทุกคน ๔. บอกวิชาที่ชอบได๎พร๎อมเหตุผลที่ชอบ ๕. บอกประโยชน์ของ แตํละวิชา และต๎องให๎ความสนใจกับทุกวิชา ๖. บอกความหมายของเครื่องหมาย/ สัญลักษณ์ที่แสดง คุณภาพของผลการเรียน ๗. บอกความแตกตําง ระหวํางงานกับอาชีพ ๘. บอกอาชีพในท๎องถิ่น ที่รู๎จัก ๙. แบํงปัน (ของกิน ของใช๎ของเลํน) กับเพื่อนได๎ ๑๐. บอกวิธีการแก๎ปัญหาของตนเอง ๑๑. ให๎ความชํวยเหลือ ผู๎อื่นตามโอกาส ๑๒. ระบุลักษณะของ ตนเองที่ต๎องปรับปรุง และบอกวิธีการ ปรับปรุงลักษณะของตนเองได๎ ๑๓. ใช๎ภาษาและกิริยาที่สุภาพในการสื่อสาร ๑๔. ควบคุมพฤติกรรมที่เกิดจากอารมณ์ได๎อยําง เหมาะสม ๑๕. ชํวยเหลืองานและท างานตามที่ได๎รับมอบหมายได๎ รวม ๑๕ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๑๙๙ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี บอกความสามารถ ความถนัด ความสนใจ ของตนเอง บอกข๎อดีของตนเอง รับรู๎วําทุกคนมีข๎อดีที่ แตกตํางกัน และน าข๎อดีมาใช๎ประโยชน์ บอกวิธีเรียนที่จะท า ให๎ผลการเรียนดีและระบุระดับคุณภาพการอําน การเขียน คิดเลขเป็น ของตนเอง อธิบายได๎วําความหลากหลายของอาชีพเกิดจากความแตกตํางของบุคคล บอกความหลากหลาย ของอาชีพ เอื้อตํอ การด ารงชีวิตในการอยูํรํวมกัน รักษาสิ่งของเครื่องใช๎สํวนตัวและสํวนรวม ชํวยท างานบ๎านที่เหมาะสมกับวัย บอกความคิด อารมณ์ความรู๎สึกที่มีตํอสถานการณ์ตําง ๆ แยกแยะได๎วําความคิด อารมณ์ความรู๎สึกที่ดี เป็นอยํางไร ยอมรับความแตกตํางทางความคิด อารมณ์ความรู๎สึกของแตํละบุคคล ค านึงถึงความรู๎สึก ผู๎อื่นในการสื่อสาร รับรู๎ความรู๎สึกผู๎อื่น ที่แสดงด๎วยความเข๎าใจและใสํใจ จัดการกับ อารมณ์ของตนเองได๎เหมาะสม รู๎เทําทันอารมณ์ของตนเอง รับผิดชอบชํวยเหลืองาน และท างานรํวมกับเพื่อนได๎ และปฏิบัติตามหน๎าที่ของตนโดยไมํละเมิดสิทธิของผู๎อื่น จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกความสามารถ ความถนัด ความสนใจ ของตนเองได๎ ๒. บอกข๎อดีของตนเอง ผู๎อื่นได๎ ๓. รับรู๎วําทุกคนมีข๎อดีที่แตกตํางกัน และน าข๎อดีมาใช๎ประโยชน์ ๔. บอกวิธีเรียนที่จะท า ให๎ผลการเรียนดี ๕. ระบุคุณภาพของผู๎เรียนระดับชั้น ป.๓ ของการอํานได๎เขียนได๎ คิดเลขเป็น ๖. อธิบายได๎วําความหลากหลายของอาชีพเกิดจากความแตกตํางของบุคคล ๗. บอกความหลากหลาย ของอาชีพ เอื้อตํอ การด ารงชีวิตในการ อยูํรํวมกันได๎ ๘. รักษาสิ่งของเครื่องใช๎สํวนตัวและสํวนรวม ๙. ชํวยท างานบ๎านที่เหมาะสมกับวัย ๑๐. บอกความคิด อารมณ์ความรู๎สึกที่มีตํอสถานการณ์ตําง ๆ ได๎ ๑๑. แยกแยะได๎วําความคิด อารมณ์ความรู๎สึกที่ดีเป็นอยํางไร ๑๒. ยอมรับความแตกตํางทางความคิด อารมณ์ความรู๎สึกของแตํละบุคคล ๑๓. ค านึงถึงความรู๎สึก ผู๎อื่นในการสื่อสาร ๑๔. รับรู๎ความรู๎สึกผู๎อื่น ที่แสดงด๎วยความเข๎าใจและใสํใจ ๑๕. จัดการกับอารมณ์ของ ตนเองได๎เหมาะสม ๑๖. รู๎เทําทันอารมณ์ของตนเอง๕. รับผิดชอบชํวยเหลืองาน และท างานรํวมกับ เพื่อนได๎ ๑๗. ปฏิบัติตามหน๎าที่ของตน โดยไมํละเมิดสิทธิของผู๎อื่น รวม ๑๗ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๐ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี ระบุลักษณะของ บุคคลที่รู๎จักรักและ เห็นคุณคําในตนเอง และผู๎อื่น บอกแนวทาง การพัฒนาตนเอง ให๎เป็นผู๎ที่รู๎จักรักและ เห็นคุณคําในตนเอง และผู๎อื่น บอกวิชาที่เรียนและท ากิจกรรมได๎อยํางมีความสุข ระบุวิชาที่เรียนได๎ดีและที่เรียนไมํได๎ดียอมรับและใช๎ ประโยชน์จากความ แตกตํางระหวําง บุคคลในด๎านการเรียน บอกอาชีพที่สนใจ พร๎อมอธิบายเหตุผล สรุปได๎วํา การเลือกอาชีพของแตํละคน สอดคล๎องกับความรู๎ความสามารถสภาพ รํางกาย และอุปนิสัย มีความรับผิดชอบ งานตามหน๎าที่ที่ได๎รับมอบหมาย สามารถควบคุมความคิด อารมณ์และความรู๎สึกของตนเองในสถานการณ์ตําง ๆ มีมารยาทในการ สื่อสารกับผู๎อื่น ชื่นชมความส าเร็จ ความสามารถและการกระท าที่ดีงามของผู๎อื่น ด๎วยค าพูด ภาษากาย และสัญญลักษณ์ มีวิธีสร๎างความมั่นคงในอารมณ์ของตนเองได๎อยํางเหมาะสม ให๎ความ รํวมมือและปฏิบัติตามกฎ กติกา ข๎อตกลงของกลุํม จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ระบุลักษณะของ บุคคลที่รู๎จักรักและ เห็นคุณคําในตนเอง และผู๎อื่น ๒. บอกแนวทาง การพัฒนาตนเอง ให๎เป็นผู๎ที่รู๎จักรักและ เห็นคุณคําในตนเอง และผู๎อื่น ๓. บอกวิชาที่เรียนและท ากิจกรรมได๎อยํางมีความสุข ๔. ระบุวิชาที่เรียนได๎ดีและที่เรียนไมํได๎ดี ๕. ยอมรับและใช๎ประโยชน์จากความ แตกตํางระหวําง บุคคลในด๎านการเรียน ๖. บอกอาชีพที่สนใจ พร๎อมอธิบายเหตุผล ๗. สรุปได๎วําการเลือกอาชีพของแตํละคน สอดคล๎องกับความรู๎ความสามารถสภาพรํางกาย และอุปนิสัย ๘. รับผิดชอบงานตามหน๎าที่ที่ได๎รับผิดชอบ ๙. ควบคุมความคิด อารมณ์และความ รู๎สึกของตนเองได๎ ๑๐. มีมารยาทในการ สื่อสารกับผู๎อื่น ๑๑. ชื่นชมความส าเร็จ ความสามารถและ การกระท าที่ดีงามของผู๎อื่นด๎วยค าพูด ภาษากาย และสัญญลักษณ์ ๑๒. มีวิธีสร๎างความมั่นคงในอารมณ์ของตนเองได๎อยํางเหมาะสม ๑๓. ให๎ความรํวมมือและ ปฏิบัติตามกฎ กติกา ข๎อตกลงของกลุํมได๎ รวม ๑๓ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๑ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี บอกสิ่งที่ตนภาคภูมิใจในตนเอง ชื่นชมในคุณคําของตนเองและผู๎อื่น กล๎าแสดงความคิดเห็น ความรู๎สึก และการกระท าที่เหมาะสมด๎วยความมั่นใจ ตรวจสอบความสามารถของตนเอง โดยใช๎เครื่องมือทางการแนะแนว เชํน แบบวัดแวว สามารถ เชื่อมโยงผลการตรวจสอบกับวิชาที่เรียนได๎ดีและมีความสุข ระบุความสามารถของตนเองได๎ชัดเจน ระบุวิชา ที่สนใจและถนัด วางแผนการพัฒนาศักยภาพของตนเองด๎านการเรียน สามารถจัดและบอกลักษณะของอาชีพ แตํละประเภท มีจิตอาสาท างานเพื่อสํวนรวมและสังคม และแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ดีในการอยูํรํวมกับผู๎อื่น รับฟังและยอมรับความ คิดเห็นของกันและกัน ยุติข๎อขัดแย๎งในกลุํมด๎วยสันติวิธี ให๎ความรํวมมือ และชํวยเหลือผู๎อื่นด๎วยความสมัครใจ และปฏิบัติตามกฎ กติกา ข๎อตกลงของโรงเรียน จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกสิ่งที่ตนภาคภูมิใจ ในตนเองได๎ ๒. ชื่นชมในคุณคําของตนเองและผู๎อื่น ๓. กล๎าแสดงความคิดเห็น ความรู๎สึก และการกระท าที่เหมาะสมด๎วยความมั่นใจ ๔. ตรวจสอบความสามารถของตนเอง โดยใช๎เครื่องมือทางการแนะแนว เชํน แบบวัดแวว ๕. สามารถเชื่อมโยงผลการตรวจสอบกับวิชาที่เรียนได๎ดีและมีความสุข ๖. ระบุความสามารถ ของตนเองได๎ชัดเจน ๗. ระบุวิชาที่สนใจและถนัดได๎ ๘. วางแผนการพัฒนาศักยภาพของตนเองด๎านการเรียน ๙. จัดและบอกลักษณะของอาชีพแตํละประเภทได๎(กลุํมรับราชการ ลูกจ๎าง/ พนักงานภาครัฐ เอกชน และสํวนตัว) ๑๐. อาสาท างานเพื่อสํวนรวมและสังคม ๑๑. แสดงออกถึงพฤติกรรมที่ดีในการอยูํรํวมกับผู๎อื่น ๑๒. รับฟังและยอมรับความ คิดเห็นของกันและกัน ๑๓. ยุติข๎อขัดแย๎งในกลุํมด๎วยสันติวิธี ๑๔. ให๎ความรํวมมือและชํวยเหลือผู๎อื่นด๎วยความสมัครใจ ๑๕. ปฏิบัติตามกฎ กติกา ข๎อตกลงของโรงเรียนได๎ รวม ๑๕ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๒ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี ใช๎สิ่งที่เป็นคุณคําในตนเองให๎เกิดประโยชน์ตํอตนเอง และผู๎อื่น พัฒนาสิ่งที่เป็นคุณคําในตนเอง อยํางเต็มที่ ให๎เกิดประโยชน์ตํอตนเองและผู๎อื่น ระบุคุณภาพการเรียนของตนเอง ได๎แกํ อํานคลํอง เขียนคลํอง คิดเลขคลํอง มีทักษะการคิดพื้นฐาน อธิบายวิธีการพัฒนาตนเองในวิชาที่ถนัด และสนใจได๎เต็มศักยภาพ ระบุปัจจัยที่สํงผลให๎บุคคลมีความส าเร็จ ในการประกอบอาชีพ บอกวิธีการสร๎างสุขในการด ารงชีวิตของตน รู๎จักปรับแผนพัฒนาศักยภาพตนเอง ให๎สอดคล๎องกับการเรียน อาชีพสํวนตัว และสังคม ให๎ความรํวมมือ และท างานรํวมกับผู๎อื่นอยํางราบรื่นและผลงานมีคุณคําเกิดประโยชน์ เลือกกิจกรรม ที่ปฏิบัติแล๎วมีความสุข ไมํท าให๎ตนเองและผู๎อื่นเดือดร๎อน มีจิตอาสาและท ากิจกรรมที่เป็นประโยชน์สํวนรวม ปฏิบัติตนเป็นประโยชน์ตํอครอบครัว โรงเรียน และประเทศชาติ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ใช๎สิ่งที่เป็นคุณคํา ในตนเองให๎เกิด ประโยชน์ตํอตนเอง และผู๎อื่น ๒. พัฒนาสิ่งที่เป็นคุณคําในตนเองอยํางเต็มที่ให๎เกิดประโยชน์ตํอตนเองและผู๎อื่น ๓. ระบุคุณภาพผู๎เรียน ระดับชั้น ป.๖ ได๎แกํอํานคลํอง เขียนคลํอง คิดเลขคลํอง มีทักษะการคิดพื้นฐาน ๔. อธิบายวิธีการพัฒนาตนเองในวิชาที่ถนัด และสนใจได๎เต็มศักยภาพ ๕. ระบุปัจจัยที่สํงผลให๎บุคคลมีความส าเร็จ ในการประกอบอาชีพ ๖. บอกวิธีการสร๎างสุข ในการด ารงชีวิต ของตน ๗. ปรับแผนพัฒนา ศักยภาพตนเองให๎สอดคล๎องการเรียน อาชีพ สํวนตัว และสังคม ๘. ให๎ความรํวมมือ และท างานรํวมกับผู๎อื่น อยํางราบรื่นและผลงาน มีคุณคําเกิดประโยชน์ ๙. เลือกกิจกรรมที่ปฏิบัติแล๎วมีความสุข ไมํท าให๎ตนเองและผู๎อื่นเดือดร๎อน ๑๐. มีจิตอาสาและท ากิจกรรมที่เป็น ประโยชน์สํวนรวมได๎ ๑๑. ปฏิบัติตนเป็น ประโยชน์ตํอ ครอบครัว โรงเรียน และประเทศชาติ รวม ๑๑ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๓ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือส ารอง (ดาวดวงที่ ๑) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกอง ด าเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให๎ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู๎ โดยเน๎นระบบหมูํ และปฏิบัติกิจกรรมตามค าปฏิญาณและกฎของลูกเสือส ารอง เรียนรู๎จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช๎สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือส ารองที่มีความเป็นเอกลักษณ์รํวมกัน ศึกษาธรรมชาติ ในชุมชนด๎วยความสนใจ ใฝุรู๎ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง ในเรื่องตํอไปนี้ ๑. เตรียมลูกเสือส ารอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การท าความเคารพหมูํ (แกรนด์ฮาวล์) การท าความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ๎าย ระเบียบแถวเบื้องต๎น ค าปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลูกเสือ ส ารอง ๒. ลูกเสือส ารองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การส ารวจ การค๎นหาธรรมชาติ ความ ปลอดภัย บริการ ธงและประเทศตําง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ๎ง การบันเทิง การผูกเงื่อน ค าปฏิญาณและกฎ ของลูกเสือส ารอง เพื่อให๎มีความรู๎ ความเข๎าใจในกิจกรรมลูกเสือส ารองดาวดวงที่ 1 สามารถปฏิบัติตามค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือส ารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบ วินัย และเห็นอกเห็นใจผู๎อื่น รู๎จักบ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู๎จักท าการฝีมือและฝึกฝนท ากิจกรรม ตําง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและสํงเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม และความมั่นคงของชาติ และสามารถ ประยุกต์ใช๎ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได๎ ๒. มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู๎อื่น ๓. บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๔. ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมตําง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รักษาและสํงเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท๎องถิ่น และความมั่นคงของชาติ ๖. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อม ลดภาวะโลกร๎อน และสามารถประยุกต์ใช๎ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงได๎ รวม ๖ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๔ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือส ารอง (ดาวดวงที่ ๒) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกอง ด าเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามค าปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือส ารอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือส ารองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติ ในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง ในเรื่องต่อไปนี้ ลูกเสือส ารองดาวดวงที่ 2 นิยายเมาคลีประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การท าความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การท าความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว ค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือส ารอง อนามัยความสามารถเชิงทักษะ การส ารวจการค้นหาธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการการผูกเงื่อน ธงและประเทศต่างๆการฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริม สุขภาพกาย สุขภาพจิต และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือส ารองดาวดวงที่ 2 สามารถปฏิบัติตามค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือส ารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์รู้จักท าการฝีมือและฝึกฝนท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติและสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 3. บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 4. ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความมั่นคงของชาติ 6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๖ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๕ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือส ารอง (ดาวดวงที่ ๓) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกอง ด าเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามค าปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือส ารอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือส ารองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติ ในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง ในเรื่องต่อไปนี้ ลูกเสือส ารองดาวดวงที่ ๓ นิยายเมาคลีประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การท าความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การท าความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว ค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือส ารอง อนามัยความสามารถเชิงทักษะ การส ารวจการค้นหาธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการการผูกเงื่อน ธงและประเทศต่างๆการฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริม สุขภาพกาย สุขภาพจิต และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือส ารองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบัติตามค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือส ารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์รู้จักท าการฝีมือและฝึกฝนท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติและสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 3. บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 4. ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความมั่นคงของชาติ 6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๖ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๖ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือสามัญ/เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกอง ด าเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้โดยเน้นระบบหมู่และปฏิบัติกิจกรรมตามค าปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติ ในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง ในเรื่องต่อไปนี้ ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์(Load Baden Powell ; B.P.) พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือไทยและ ลูกเสือโลก การท าความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้ พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสือ การรู้จักดูแล ตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ การท างานอดิเรกและเรื่องที่สนใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ ผู้อื่น บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ และสามารถ ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 3. บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 4. ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความมั่นคงของชาติ 6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๖ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๗ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือสามัญ/เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกอง ด าเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้โดยเน้นระบบหมู่และปฏิบัติกิจกรรมตามค าปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติ ในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง ในเรื่องต่อไปนี้ ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์(Load Baden Powell ; B.P.) พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือไทยและ ลูกเสือโลก การท าความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้ พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสือ การรู้จักดูแล ตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ การท างานอดิเรกและเรื่องที่สนใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอก เห็นใจผู้อื่น บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความ เหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 3. บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 4. ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความมั่นคงของชาติ 6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๖ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๘ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือสามัญ/เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ รหัสวิชา - เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกอง ด าเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้โดยเน้นระบบหมู่และปฏิบัติกิจกรรมตามค าปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติ ในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง ในเรื่องต่อไปนี้ ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์(Load Baden Powell ; B.P.) พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือไทยและ ลูกเสือโลก การท าความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือ ไม้พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสือ การรู้จักดูแล ตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ การท างานอดิเรก และเรื่องที่สนใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามค าปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอก เห็นใจผู้อื่น บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความ เหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. มีนิสัยในการสังเกต จดจ า เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 3. บ าเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 4. ท าการฝีมือและฝึกฝนการท ากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความมั่นคงของชาติ 6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๖ จุดประสงค์การเรียนรู้
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๐๙ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมชุมนุม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ รหัสวิชา - เวลา ๓๐ ชั่วโมง/ปี ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจความถนัด และความต้องการ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถด้านการคิด วิเคราะห์สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ทั้งด้านวิชาการและพื้นฐานอาชีพ ทักษะชีวิต และสังคม ตามศักยภาพ อย่างรอบด้าน เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์มีความสามารถในการสื่อสาร มีทักษะการคิด แก้ปัญหา ความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยีพัฒนาทักษะในการท างานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข รักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ด ารงชีวิตอย่างพอเพียง มีความมุ่งมั่นในการ ท างาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทักษะทางวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต และสังคมตามศักยภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ท าได้ท างานร่วมกับผู้อื่นได้ ตามวิถีประชาธิปไตย และประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเหมาะสม
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๑๐ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ค าอธิบายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ รหัสวิชา - เวลา ๑๐ ชั่วโมง/ปี ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ฝึกการท างานที่สอดคล้องกับชีวิตจริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ทักษะ และประสบการณ์ส ารวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็นระบบ เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์และใช้ความคิดสร้างสรรค์การบริการด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ าใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม คิดออกแบบกิจกรรมบ าเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแนวทางวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ผู้เรียนบ าเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความสนใจ ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการด าเนินชีวิต
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๑๑ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู๎เป็นกระบวนการส าคัญในการน าหลักสูตรสูํการปฏิบัติ หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐาน โรงเรียนอนุบาลร๎อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู๎ สมรรถนะส าคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู๎เรียน เป็นเปูาหมายส าหรับพัฒนาผู๎เรียนให๎มีคุณสมบัติ ตามเปูาหมายหลักสูตร ผู๎สอนพยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู๎จัดการเรียนรู๎โดยชํวยให๎ผู๎เรียนเรียนรู๎ ผํานการประเมินตามสาระที่ก าหนดไว๎ในหลักสูตร ๘ กลุํมสาระการเรียนรู๎ รวมทั้งปลูกฝังเสริมสร๎างคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ พัฒนาทักษะตําง ๆ อันเป็นสมรรถนะส าคัญให๎ผู๎เรียนบรรลุตามเปูาหมาย ๑. หลักการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู๎เพื่อให๎ผู๎เรียนมีความรู๎ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู๎ สมรรถนะส าคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่ก าหนดไว๎ในหลักสูตร โดยยึดหลักวํา ผู๎เรียน มีความส าคัญที่สุด เชื่อวําทุกคน มีความสามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเองได๎ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู๎เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู๎ต๎องสํงเสริมให๎ ผู๎เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ค านึงถึงความแตกตํางระหวํางบุคคลและพัฒนาการ ทางสมอง เน๎นให๎ความส าคัญทั้งความรู๎ และคุณธรรม ๒. กระบวนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู๎ที่เน๎นผู๎เรียนเป็นส าคัญ ผู๎เรียนจะต๎องอาศัยกระบวนการเรียนรู๎ที่หลากหลาย เป็นเครื่องมือที่จะน าพาตนเองไปสูํเปูาหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู๎ที่จ าเป็นส าหรับผู๎เรียน อาทิ กระบวนการเรียนรู๎แบบบูรณาการ กระบวนการสร๎างความรู๎ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก๎ปัญหา กระบวนการเรียนรู๎ จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือท าจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู๎การเรียนรู๎ของตนเอง กระบวนการพัฒนา ลักษณะนิสัย กระบวนการเหลํานี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู๎ที่ผู๎เรียนควรได๎รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ สามารถชํวยให๎ผู๎เรียนเกิดการเรียนรู๎ได๎ดี บรรลุเปูาหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู๎สอน จึงจ าเป็นต๎องศึกษา ท าความ เข๎าใจในกระบวนการเรียนรู๎ตําง ๆ เพื่อให๎สามารถเลือกใช๎ในการจัดกระบวนการเรียนรู๎ได๎อยํางมีประสิทธิภาพ ๓. การออกแบบการจัดการเรียนรู้ ผู๎สอนต๎องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให๎เข๎าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู๎ ตัวชี้วัด สมรรถนะส าคัญ ของผู๎เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู๎ที่เหมาะสมกับผู๎เรียน แล๎วจึงพิจารณาออกแบบ การจัดการเรียนรู๎โดยเลือกใช๎วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหลํงเรียนรู๎ การวัดและประเมินผล เพื่อให๎ผู๎เรียน ได๎พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเปูาหมายที่ก าหนด ๔. บทบาทของผู้สอนและผู้เรียน การจัดการเรียนรู๎เพื่อให๎ผู๎เรียนมีคุณภาพตามเปูาหมายของหลักสูตร ทั้งผู๎สอนและผู๎เรียน ควรมีบทบาท ดังนี้ ๔.๑ บทบาทของผู้สอน ๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู๎เรียนเป็นรายบุคคล แล๎วน าข๎อมูลมาใช๎ในการวางแผน การจัดการเรียนรู๎ ที่ท๎าทายความสามารถของผู๎เรียน ๒) ก าหนดเปูาหมายที่ต๎องการให๎เกิดขึ้นกับผู๎เรียน ด๎านความรู๎และทักษะ กระบวนการ ที่เป็นความคิดรวบยอด หลักการ และความสัมพันธ์ รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๑๒ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ๓) ออกแบบการเรียนรู๎และจัดการเรียนรู๎ที่ตอบสนองความแตกตํางระหวํางบุคคล และพัฒนาการทางสมอง เพื่อน าผู๎เรียนไปสูํเปูาหมาย ๔) จัดบรรยากาศที่เอื้อตํอการเรียนรู๎และดูแลชํวยเหลือผู๎เรียนให๎เกิดการเรียนรู๎ ๕) จัดเตรียมและเลือกใช๎สื่อให๎เหมาะสมกับกิจกรรม น าภูมิปัญญาท๎องถิ่น เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช๎ในการจัดการเรียนการสอน ๖) ประเมินความก๎าวหน๎าของผู๎เรียนด๎วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกับ ธรรมชาติของวิชาและระดับพัฒนาการของผู๎เรียน ๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช๎ในการซํอมเสริมและพัฒนาผู๎เรียน รวมทั้ง ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ๔.๒ บทบาทของผู้เรียน ๑) ก าหนดเปูาหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนรู๎ของตนเอง ๒) เสาะแสวงหาความรู๎ เข๎าถึงแหลํงการเรียนรู๎ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข๎อความรู๎ ตั้งค าถาม คิดหาค าตอบหรือหาแนวทางแก๎ปัญหาด๎วยวิธีการตําง ๆ ๓) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได๎เรียนรู๎ด๎วยตนเอง และน าความรู๎ไปประยุกต์ใช๎ ในสถานการณ์ตําง ๆ ๔) มีปฏิสัมพันธ์ ท างาน ท ากิจกรรมรํวมกับกลุํมและครู ๕) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู๎ของตนเองอยํางตํอเนื่อง สื่อการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู๎เป็นเครื่องมือสํงเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู๎ ให๎ผู๎เรียนเข๎าถึงความรู๎ ทักษะ กระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได๎อยํางมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู๎มีหลากหลาย ประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือขําย การเรียนรู๎ตําง ๆ ที่มีในท๎องถิ่น การเลือกใช๎ สื่อควรเลือกให๎มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู๎ที่หลากหลายของผู๎เรียน การจัดหาสื่อการเรียนรู๎ ผู๎เรียนและผู๎สอนสามารถจัดท าและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช๎อยํางมี คุณภาพจากสื่อตํางๆ ที่มีอยูํรอบตัวเพื่อน ามาใช๎ประกอบในการจัดการเรียนรู๎ที่สามารถสํงเสริมและสื่อสาร ให๎ผู๎เรียนเกิดการเรียนรู๎ โดยสถานศึกษาควรจัดให๎มีอยํางพอเพียง เพื่อพัฒนาให๎ผู๎เรียนเกิดการเรียนรู๎อยํางแท๎จริง สถานศึกษา และผู๎มีหน๎าที่จัดการศึกษา ควรด าเนินการดังนี้ ๑. จัดให๎มีแหลํงการเรียนรู๎ ศูนย์สื่อการเรียนรู๎ ระบบสารสนเทศการเรียนรู๎ และเครือขํายการเรียนรู๎ที่มี ประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค๎นคว๎าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู๎ ระหวํางสถานศึกษา ท๎องถิ่น ชุมชน สังคมโลก ๒. จัดท าและจัดหาสื่อการเรียนรู๎ส าหรับการศึกษาค๎นคว๎าของผู๎เรียน เสริมความรู๎ให๎ผู๎สอน รวมทั้งจัดหา สิ่งที่มีอยูํในท๎องถิ่นมาประยุกต์ใช๎เป็นสื่อการเรียนรู๎ ๓. เลือกและใช๎สื่อการเรียนรู๎ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล๎องกับวิธีการ เรียนรู๎ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู๎ และความแตกตํางระหวํางบุคคลของผู๎เรียน ๔. ประเมินคุณภาพของสื่อการเรียนรู๎ที่เลือกใช๎อยํางเป็นระบบ ๕. ศึกษาค๎นคว๎า วิจัย เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู๎ให๎สอดคล๎องกับกระบวนการเรียนรู๎ของผู๎เรียน ๖. จัดให๎มีการก ากับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช๎สื่อการเรียนรู๎ เป็นระยะๆ และสม่ าเสมอ
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๑๓ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ในการจัดท า การเลือกใช๎ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู๎ที่ใช๎สถานศึกษาในควรค านึงถึง หลักการส าคัญของสื่อการเรียนรู๎ เชํน ความสอดคล๎องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู๎ การออกแบบกิจกรรม การเรียนรู๎ การจัดประสบการณ์ให๎ผู๎เรียน เนื้อหามีความถูกต๎องและทันสมัย ไมํกระทบความมั่นคงของชาติ ไมํขัด ตํอศีลธรรม มีการใช๎ภาษาที่ถูกต๎อง รูปแบบการน าเสนอที่เข๎าใจงําย และนําสนใจ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู๎ แบํงออกเป็น ๔ ระดับ ได๎แกํ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอียดดังนี้ ๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยูํในกระบวนการจัดการเรียนรู๎ ผู๎สอน ด าเนินการเป็นปกติและสม่ าเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช๎เทคนิคการประเมินอยํางหลากหลาย เชํน การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ๎าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟูมสะสมงาน การใช๎แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู๎สอนเป็นผู๎ประเมินเองหรือเปิดโอกาส ให๎ผู๎เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมิน เพื่อน ผู๎ปกครองรํวมประเมิน ในกรณีที่ไมํผํานตัวชี้วัดให๎มี การสอนซํอมเสริม การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบวํา ผู๎เรียนมีพัฒนาการความก๎าวหน๎าในการเรียนรู๎ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไมํ และมากน๎อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต๎องได๎รับการพัฒนา ปรับปรุงและสํงเสริมในด๎านใด นอกจากนี้ยังเป็นข๎อมูลให๎ผู๎สอนใช๎ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนให๎มีความ สอดคล๎องกับมาตรฐานการเรียนรู๎และตัวชี้วัด ๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาด าเนินการเพื่อตัดสินผลการเรียน ของผู๎เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอําน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู๎เรียน นอกจากนี้เพื่อให๎ได๎ข๎อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา วําสํงผลตํอการ เรียนรู๎ของผู๎เรียนตามเปูาหมายหรือไมํ ผู๎เรียนมีจุดพัฒนาในด๎านใด รวมทั้งสามารถน าผลการเรียนของผู๎เรียน ในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข๎อมูลและสารสนเทศ เพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดท าแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษา ตํอคณะกรรมการสถานศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู๎ปกครองและชุมชน ๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู๎เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู๎ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช๎เป็นข๎อมูลพื้นฐานในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถด าเนินการโดยประเมินคุณภาพ ผลสัมฤทธิ์ของผู๎เรียนด๎วยข๎อสอบมาตรฐานที่จัดท าและด าเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด๎วยความรํวมมือกับ หนํวยงานต๎นสังกัด ในการด าเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได๎จากการตรวจสอบทบทวนข๎อมูลจากการประเมิน ระดับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ๔. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู๎เรียนในระดับชาติตามมาตรฐาน การเรียนรู๎ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาจัดให๎ผู๎เรียนทุกคนที่เรียน ในระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เข๎ารับการประเมินผล จากการประเมินใช๎เป็นข๎อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับตําง ๆ เพื่อน าไปใช๎ในการวางแผน ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข๎อมูลสนับสนุน การตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๑๔ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ สถานศึกษาในฐานะผู๎รับผิดชอบจัดการศึกษา ได๎จัดท าระเบียบวําด๎วยการวัดและประเมินผล การเรียนของสถานศึกษาให๎สอดคล๎องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข๎อก าหนดของหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให๎บุคลากรที่เกี่ยวข๎องทุกฝุายถือปฏิบัติรํวมกัน เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน ๑. การตัดสิน การให้ระดับและการรายงานผลการเรียน ๑.๑ การตัดสินผลการเรียน (๑) ผู๎เรียนต๎องมีเวลาเรียนไมํน๎อยกวําร๎อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด (๒) ผู๎เรียนต๎องได๎รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผํานตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด (๓) ผู๎เรียนต๎องได๎รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา (๔) ผู๎เรียนต๎องได๎รับการประเมิน และมีผลการประเมินผํานตามเกณฑ์ที่ สถานศึกษาก าหนด ในการอําน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู๎เรียน ๑.๒ การให๎ระดับผลการเรียน ในการตัดสินเพื่อให๎ระดับผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให๎ระดับผลการเรียนหรือ ระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู๎เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอักษร ระบบร๎อยละ และระบบที่ใช๎ค าส าคัญ สะท๎อนมาตรฐาน เป็นระดับผลการเรียน ๘ ระดับ ดังนี้ คะแนนร๎อยละ ระดับผลการเรียน ความหาย ๘๐ – ๑๐๐ ๔ ดีเยี่ยม ๗๕ – ๗๙ ๓.๕ ดีมาก ๗๐ – ๗๔ ๓ ดี ๖๕ – ๖๙ ๒.๕ คํอนข๎างดี ๖๐ – ๖๔ ๒ นําพอใจ ๕๕ – ๕๙ ๑.๕ พอใช๎ ๕๐ – ๕๔ ๑ ผํานเกณฑ์ขั้นต่ า ๐ - ๔๙ ๐ ต่ ากวําเกณฑ์ขั้นต่ า การประเมินการอําน คิดวิเคราะห์และเขียน ให๎ระดับผลการประเมินเป็น ๔ ระดับ คือ ดีเยี่ยม ดี ผําน และไมํผําน การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยก าหนดเกณฑ์การประเมินพฤติกรรมของผู๎เรียน เป็น ๔ ระดับ คือ ดีเยี่ยม ดี ผําน และไมํผําน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู๎เรียน จะต๎องพิจารณาทั้งเวลาการเข๎ารํวมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผู๎เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด และให๎ผลการเข๎ารํวมกิจกรรมเป็นผําน และไมํผําน ๑.๓ การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให๎ผู๎ปกครองและผู๎เรียนทราบความก๎าวหน๎าในการเรียนรู๎ ของผู๎เรียน ซึ่งสถานศึกษาต๎องสรุปผลการประเมินและจัดท าเอกสารรายงานให๎ผู๎ปกครองทราบเป็นระยะ ๆ หรือ อยํางน๎อยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู๎เรียน ที่สะท๎อนมาตรฐานการเรียนรู๎กลุํมสาระการเรียนรู๎
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล ๒๑๕ | โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด พุทธศักราช ๒๕๖๓ ๒. เกณฑ์การจบการศึกษา ๒.๑ ผู๎เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร๎างเวลาเรียน ที่หลักสูตร ก าหนด ๒.๒ ผู๎เรียนต๎องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผํานเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษาก าหนด ๒.๓ ผู๎เรียนมีผลการประเมินการอําน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผํานเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด ๒.๔ ผู๎เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผํานเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนด ๒.๕ ผู๎เรียนเข๎ารํวมกิจกรรมพัฒนาผู๎เรียนและมีผลการประเมินผํานเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษาก าหนดทุกกิจกรรม เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารส าคัญที่บันทึกผลการเรียน ข๎อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข๎องกับ พัฒนาการของผู๎เรียนในด๎านตําง ๆ แบํงออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ ๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการก าหนด ๒. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษาก าหนด การเทียบโอนผลการเรียน การพิจารณาการเทียบโอน สามารถด าเนินการได๎ ดังนี้ ๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอื่น ๆ ที่ให๎ข๎อมูลแสดงความรู๎ ความสามารถ ของผู๎เรียน ๒. พิจารณาจากความรู๎ ความสามารถของผู๎เรียนโดยการทดสอบด๎วยวิธีการตําง ๆ ทั้งภาคความรู๎ และภาคปฏิบัติ ๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัติในสภาพจริง การเทียบโอนผลการเรียนให๎เป็นไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏิบัติ ของกระทรวงศึกษาธิการ การบริหารจัดการหลักสูตร ให๎หนํวยงานตําง ๆ ที่เกี่ยวข๎องตั้งแตํระดับชาติ ระดับท๎องถิ่น จนถึงระดับสถานศึกษามีบทบาทหน๎าที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน สํงเสริม การใช๎และพัฒนาหลักสูตรให๎เป็นไปอยํางมีประสิทธิภาพ สถานศึกษามีหน๎าที่ส าคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและด าเนินการใช๎หลักสูตร การเพิ่มพูน คุณภาพการใช๎หลักสูตรด๎วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร จัดท าระเบียบการวัด และประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต๎องพิจารณาให๎สอดคล๎องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน และรายละเอียดที่เขตพื้นที่การศึกษา หรือหนํวยงานต๎นสังกัดอื่น ๆ ในระดับท๎องถิ่นได๎จัดท าเพิ่มเติม รวมทั้งสถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในสํวนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท๎องถิ่น และความ ต๎องการของผู๎เรียนโดยทุกภาคสํวนเข๎ามามีสํวนรํวมในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
เอกสารอ้างอิง กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๕๑). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ . กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๐). มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ,ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๖๑). หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม “การป้องกันการทุจริต”. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๖๐). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๖๐). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๖๐). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระภูมิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และแนวทางการจัด กิจกรรมการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (๒๕๔๗). ข้อเสนอยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ: เซ็นจูรี่. ส านักนายกรัฐมนตรี, ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (๒๕๔๒). พระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.). ส านักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย. (๒๕๕๕). แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน มาตรฐานสากล ฉบับปรับปรุง. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๔). แนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนว ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๓). แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๓). แนวทางการจัดการเรียรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด.
ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๓). แนวทางการบริหารจัดการหลักสูตร ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๔). แนวทางการพัฒนา การวัดและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. พิมพ์ครั้งที่ ๓ กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๗). แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. พิมพ์ครั้งที่ ๔ กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๖๑). เอกสารประกอบการประชุมปฏิบัติการ พัฒนาบุคลากรหลัก เพื่อสร้างความเข้าใจ เรื่อง น ามาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สาระภูมิศาสตร์ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สู่การปฏิบัติ. ครั้งที่ ๓. ขอนแก่น: วันที่ ๒๕ – ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๑. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๔๘ ข.). รายงานการวิจัยโครงการวิจัยเชิงทดลอง กระบวนการ สร้างหลักสูตรสถานศึกษาแบบอิงมาตรฐาน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.). สุวิมล ว่องวาณิช และ นงลักษณ์ วิรัชชัย. (๒๕๔๗). การประเมินผลการปฎิรูปการเรียนรู้ ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ พหุกรณีศึกษา. เอกสารการประชุมทาง วิชาการการวิจัยเกี่ยวกับการปฏิรูปการเรียนรู้ โดยส านักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวง ศึกษาธิการ วันที่ ๑๙- ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๗.
ภาคผนวก
คำสั่งโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด ที่ ๙๕ / ๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ............................................................................ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกคำสั่งที่ สพฐ.๑๒๓๙/๒๕๖๐ เรื่อง การใช้มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สภาพแวดล้อมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นการเสริมสร้าง ศักยภาพคนของชาติ ยกระดับคุณภาพการศึกษาในระดับสากล สอดคล้องกับประเทศไทย ๔.๐ โลกในศตวรรษที่ ๒๑ และทัดเทียมกับนานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขันและดำรงชีวิตอย่างสร้างสรรค์ ในประชาคมโลก ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อาศัยอำนาจความตามในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ให้ครบทุกระดับชั้นในปีการศึกษา ๒๕๖๓ ดังนั้น เพื่อให้หลักสูตรสถานศึกษามีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้ โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด จึงแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการ ประกอบด้วย ๑. นายสุวิทย์ วงษาไฮ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด ประธานกรรมการ ๒. นางลัดดา อินทร์สา รองฯ ฝ่ายบริหารวิชาการ รองประธานกรรมการ ๓. นายบุญศิลป สีทำมา รองฯ ฝ่ายบริหารงบประมาณ รองประธานกรรมการ ๔. นายวิชัย ขจรมณี รองฯ ฝ่ายบริหารงานบุคคล รองประธานกรรมการ ๕. นายปรีดิ์ เปรมภูษิตานนท์ รองฯ ฝ่ายบริหารทั่วไป รองประธานกรรมการ ๖. นายสุวิชชา จัตุรโพธิ์ ครู กรรมการและเลขาฯ มีหน้าที่ จัดประชุม ให้คำปรึกษา แนะนำช่วยเหลือ สนับสนุนงบประมาณ อำนวยความสะดวกในการดำเนินงานวิชาการ และแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ๒. คณะกรรมการดำเนินงาน ประกอบด้วย ๑. นางลัดดา อินทร์สา รองฯ ฝ่ายบริหารวิชาการ ประธานกรรมการ ๒. นางสาวคัทรีภรณ์ อุทุมภรณ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กรรมการ ๓. นายมนูเวทย์ เพชรโต หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กรรมการ ๔. นางเสาวนีย์ แดงน้อย หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฯ กรรมการ ๕. นางสาวมารยาท โคตะโน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ กรรมการ ๖. นายวิศิษฏ์ กิ่งโสดา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาฯ กรรมการ ๗. นายชัยณรงค์ มังคะวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กรรมการ ๘. นายไพฑูรย์ ชินสุทธิ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กรรมการ ๙. นางวลัยลักษณ์ ทุมแสน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กรรมการ ๑๐. นางฉวีวรรณ นาสมใจ หัวหน้างานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กรรมการ ๑๑. นางปุญญิสา ผาสุก หัวหน้างานปฐมวัย กรรมการ ๑๒. นางนันทิยา แก้วกิจติ หัวหน้าโครงการ English Program กรรมการ ๑๓. นางปฐมาพร แก้วตั้งขึ้น หัวหน้าโครงการ Gifted Program กรรมการ ๑๔. นายสุวิชชา จัตุรโพธิ์ หัวหน้างานหลักสูตรสถานศึกษา กรรมการและเลขาฯ
มีหน้าที่ ๑. กำหนดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา ๒. ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมข้อมูลจากคณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตรประจำกลุ่มสาระ การเรียนรู้ ๓. จัดทำร่างหลักสูตรสถานศึกษา เสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔. ปรับปรุงแก้ไขจัดพิมพ์และเข้ารูปเล่มให้เรียบร้อย ๓. คณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตร ประกอบด้วย ๓.๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๑. นางสาวคัทรีภรณ์ อุทุมภรณ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประธานอนุกรรมการ ๒. นางประภัสสร วันโพนทอง ครู อนุกรรมการ ๓. นางบุญส่ง มงคลชู ครู อนุกรรมการ ๔. นางวัจนา นามน้าวแสง ครู อนุกรรมการ ๕. นางคำพู ไชยฮะนิจ ครู อนุกรรมการ ๖. นางบุณยาพร วิเศษวงษา ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ๑. นายมนูเวทย์ เพชรโต หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางนันทิยา แก้วกิจติ ครู อนุกรรมการ ๓. นางสุภาวดี มุลาลี ครู อนุกรรมการ ๔. นางช่อติมา อาวรณ์ ครู อนุกรรมการ ๕. นางวงเดือน วรรณชิต ครู อนุกรรมการ ๖. นางสาวสุดารัตน์ แพงสมล ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑. นางเสาวนีย์ แดงน้อย หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฯ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางยุพาพร สมุทรศรี ครู อนุกรรมการ ๓. นายสุชาติ พรมมร ครู อนุกรรมการ ๔. นางอัจฉรา มีสวัสดิ์ ครู อนุกรรมการ ๕. นางสาวปริยภัทร เวียงพล ครู อนุกรรมการ ๖. นางสาวภาวิณี จุรีมาศ ครู อนุกรรมการและเลขาฯ
๓.๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑. นางสาวมารยาท โคตะโน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางอุรารัตน์ จันทร์โทภาส ครู อนุกรรมการ ๓. นางอรุณรัตน์ จันทร็ศรี ครู อนุกรรมการ ๔. นางสาวแจ่มใส กรมรินทร์ ครู อนุกรรมการ ๕. นางสาวจุฑาณัฐ สุภาพ ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ๑. นายวิศิษฏ์ กิ่งโสดา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาฯ ประธานอนุกรรมการ ๒. นายสราวุธ สุริยพงศ์พรรณ ครู อนุกรรมการ ๓. นางมณีรัตน์ เอี่ยมสะอาด ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ๑. นายชัยณรงค์ มังคะวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางวิศรุต ศรีคะเณย์ ครู อนุกรรมการ ๓. นางมยุรี ลิ้มรัตนพันธุ์ ครู อนุกรรมการ ๔. นางสาวภษมน ทองเพียร ครู อนุกรรมการ ๕. นายสุวิชชา จัตุรโพธิ์ ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ๑. นายไพฑูรย์ ชินสุทธิ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ประธานอนุกรรมการ ๒. นายปรเมนทร์ พันธุมาตย์ ครู อนุกรรมการ ๓. นายอาจหาญ นระราช ครู อนุกรรมการ ๔. นายณัฐวุฒิ นามสง่า ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ๑. นางวลัยลักษณ์ ทุมแสน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางลภัสลดา นามสง่า ครู อนุกรรมการ ๓. นางกฤติยา มโนธรรม ครู อนุกรรมการ ๔. นางอรพิน ผดุงกิจ ครู อนุกรรมการ ๕. นางศุลีพร อุดมตะคุ ครู อนุกรรมการ ๖. นางจุไรรัตน์ ขนันแข็ง ครู อนุกรรมการและเลขาฯ
๓.๙ งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑. นางฉวีวรรณ นาสมใจ หัวหน้างานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ประธานอนุกรรมการ ๒. นางจตุพร โพธิ์คล้าย ครู อนุกรรมการ ๓. นางสุภาภรณ์ จัตุรโพธิ์ ครู อนุกรรมการ ๔. นางสาวดารารัตน์ อุตรมาตย์ ครู อนุกรรมการ ๕. นางชลิดา อิโน ครู อนุกรรมการ ๖. นางสาวอมลวรรณ รุ่งวิสัย ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๑๐ โครงการ English Program ๑. นางนันทิยา แก้วกิจติ หัวหน้าโครงการ English Program ประธานอนุกรรมการ ๒. นางมยุรี ลิ้มรัตนพันธุ์ ครู อนุกรรมการ ๓. นางพรสวรรค์ พรมมร ครู อนุกรรมการ ๔. นางรสธร อำมะเหียะ ครู อนุกรรมการ ๕. นางศิริพร ช่างยันต์ ครู อนุกรรมการ ๖. นางสาวอุบลพร ทองสตา ครู อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๑๑ โครงการ Gifted Program ๑. นางปฐมาพร แก้วตั้งขึ้น หัวหน้าโครงการ Gifted Program ประธานอนุกรรมการ ๒. นายมนูเวทย์ เพชรโต ครู อนุกรรมการ ๓. นางณิชาภัทร ศรีสุระ ครู อนุกรรมการ ๔. นางอัจฉรา มีสวัสดิ์ ครู อนุกรรมการ ๕. นายชัยรักษ์ พลหาญ ครู อนุกรรมการ ๖. นางกนกวรรณ บุญอเนก ครู อนุกรรมการและเลขาฯ มีหน้าที่ ๑. ศึกษาโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา วิเคราะห์ความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อนำมาจัดทำหลักสูตรของกลุ่มสาระ การเรียนรู้ ๒. จัดประชุมคณะทำงาน เพื่อแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ จัดพิมพ์และจัดทำไฟล์ข้อมูลให้เรียบร้อย และนำส่ง ที่ประธานคณะกรรมการดำเนินการ
๔. คณะกรรมการจัดพิมพ์ ทำสำเนา และจัดทำรูปเล่ม ประกอบด้วย ๔.๑ นายสุวิชชา จัตุรโพธิ์ หัวหน้างานหลักสูตรสถานศึกษา ประธานกรรมการ ๔.๒ นางสาวสุดารัตน์ แพงสมล หัวหน้างานทะเบียนวัดผล กรรมการ ๔.๓ นางสุภาวดี มุลาลี หัวหน้างานทะเบียนนักเรียน กรรมการ ๔.๔ นางสาวชญาดา วงศ์กาไสย ครูฝ่ายวิชาการ กรรมการ ๔.๕ นายปรเมนทร์ พันธุมาตย์ ผู้ดูแลระบบเว็บไซต์สถานศึกษา กรรมการ ๔.๖ นางสาวรุ่งจิตร แซ่ตั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ กรรมการและเลขาฯ มีหน้าที่ พิสูจน์อักษร ความถูกต้องขององค์ประกอบต่าง ๆ จัดพิมพ์ข้อมูล ออกแบบและจัดทำรูปเล่ม จัดทำสำเนา เอกสารหลักสูตรสถานศึกษา ให้มีจำนวนครบตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ขอให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้ง ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และทันประกาศใช้ในปีการศึกษา ๒๕๖๓ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ (นายสุวิทย์ วงษาไฮ) ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด
๑๒. นางวลัยลักษณ์ ทุมแสน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กรรมการ ๑๓. นางฉวีวรรณ นาสมใจ หัวหน้างานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กรรมการ ๑๔. นางปุญญิสา ผาสุก หัวหน้างานปฐมวัย กรรมการ ๑๕. นางนันทิยา แก้วกิจติ หัวหน้าโครงการ English Program กรรมการ ๑๖. นางปฐมาพร แก้วตั้งขึ้น หัวหน้าโครงการ Gifted Program กรรมการ ๑๗. นางลัดดา อินทร์สา รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ฝ่ายบริหารวิชาการ กรรมการและเลขาฯ ใหคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษา มีหนาที่ดังต่อไปนี้ ๑. วางแผนการดําเนินงานวิชาการ กําหนดสาระรายละเอียดของหลักสูตรระดับสถานศึกษา และแนวการ จัดสัดสวนสาระการเรียนรูและกิจกรรมพัฒนาผูเรียนของสถานศึกษาใหสอดคลองกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน สภาพเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปญญาของทองถิ่น ๒. จัดทําคูมือการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กํากับ ติดตาม ใหคําปรึกษา เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรูการวัดและประเมินผล และการแนะแนว ใหสอดคลองและเปนไป ตามมาตรฐานหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวน การเรียนรู้ การวัด และประเมินผลและการแนะแนวให้เป็นไปตามจุดหมายและแนวทางการดำเนินการของหลักสูตร ๔. ประสานความรวมมือจากบุคคล หนวยงาน องคกรตางๆ และชุมชน เพื่อใหการใชหลักสูตรเปนไป อยางมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพ ๕. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เกี่ยวข้องและนำข้อมูล ป้อนกลับจากฝ่ายต่าง ๆ มาพิจารณาเพื่อปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา ๖. ส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร และกระบวนการเรียนรู้ ๗. ติดตามผลการเรียนของนักเรียนเป็นรายบุคคล ระดับชั้น และช่วงชั้น ระดับวิชา กลุ่มวิชา ในแต่ละ ปีการศึกษา เพื่อปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษา ๘. ตรวจสอบทบทวน ประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครู และการบริหารหลักสูตรระดับสถานศึกษา ในรอบปีที่ผ่านมา แล้วใช้ผลการประเมินเพื่อวางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการบริหารหลักสูตรปีการศึกษา ต่อไป ๙. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบริหารหลักสูตรของสถานศึกษา โดยเนนผลการพัฒนาคุณภาพ นักเรียนตอคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับเหนือสถานศึกษา สาธารณชน และผูเกี่ยวของ ใหดําเนินการประชุมคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาอยางนอยภาคเรียน ละ ๒ ครั้ง การดำเนินการประชุมคณะกรรมการให้เป็นไปตามระเบียบและวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด โดยให้มี คณะกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการที่มีอยู่
๓. คณะอนุกรรมการระดับกลุ่มวิชา ประกอบดวย ๓.๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๑. นางสาวคัทรีภรณ์ อุทุมภรณ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประธานอนุกรรมการ ๒. นางประภัสสร วันโพนทอง ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางบุญส่ง มงคลชู ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางวัจนา นามน้าวแสง ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นางคำพู ไชยฮะนิจ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๖. นางบุณยาพร วิเศษวงษา ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ๑. นายมนูเวทย์ เพชรโต หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางนันทิยา แก้วกิจติ ครูโรงเรียนอนุบาลลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางสุภาวดี มุลาลี ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางช่อติมา อาวรณ์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นางวงเดือน วรรณชิต ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๖. นางสาวสุดารัตน์ แพงสกล ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑. นางเสาวนีย์ แดงน้อย หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฯ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางยุพาพร สมุทรศรี ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นายสุชาติ พรมมร ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางอัจฉรา มีสวัสดิ์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นางสาวปริยภัทร เวียงพล ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๖. นางสาวสิริญชา สุทธิจันทร์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๗. นางสาวภาวิณี จุรีมาศ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑. นางสาวมารยาท โคตะโน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางอุรารัตน์ จันทร์โทภาศ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางอรุณรัตน์ จันทร็ศรี ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางสาวแจ่มใส กรมรินทร์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นางสาวจุฑาณัฐ สุภาพ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ๑. นายวิศิษฏ์ กิ่งโสดา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาฯ ประธานอนุกรรมการ ๒. นายสราวุธ สุริยพงศ์พรรณ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางมณีรัตน์ เอี่ยมสะอาด ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ
๓.๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ๑. นายชัยณรงค์ มังคะวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางวิศรุต ศรีคะเณย์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางมยุรี ลิ้มรัตนพันธุ์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางสาวภษมน ทองเพียร ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นายสุวิชชา จัตุรโพธิ์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ๑. นายไพฑูรย์ ชินสุทธิ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ประธานอนุกรรมการ ๒. นายปรเมนทร์ พันธุมาตย์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นายอาจหาญ นระราช ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นายณัฐวุฒิ นามสง่า ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ๑. นางวลัยลักษณ์ ทุมแสน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ประธานอนุกรรมการ ๒. นางลภัสลดา นามสง่า ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางกฤติยา มโนธรรม ครูโรงเรียนอนุบาลลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางอรพิน ผดุงกิจ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นางศุลีพร อุดมตะคุ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๖. นางจุไรรัตน์ ขนันแข็ง ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๙ งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑. นางฉวีวรรณ นาสมใจ หัวหน้างานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ประธานอนุกรรมการ ๒. นางจตุพร โพธิ์คล้าย ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางสุภาภรณ์ จัตุรโพธิ์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางสาวดารารัตน์ อุตรมาตย์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นางชลิดา อิโน ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๖. นางสาวอมลวรรณ รุ่งวิสัย ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ ๓.๑๐ โครงการ English Program ๑. นางนันทิยา แก้วกิจติ หัวหน้าโครงการ English Program ประธานอนุกรรมการ ๒. นางมยุรี ลิ้มรัตนพันธุ์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางพรสวรรค์ พรมมร ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางรสธร อำมะเหียะ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นางศิริพร ช่างยันต์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๖. นางสาวอุบลพร ทองสตา ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ
๓.๑๑ โครงการ Gifted Program ๑. นางปฐมาพร แก้วตั้งขึ้น หัวหน้าโครงการ Gifted Program ประธานอนุกรรมการ ๒. นายมนูเวทย์ เพชรโต ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๓. นางณิชาภัทร ศรีสุระ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๔. นางอัจฉรา มีสวัสดิ์ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๕. นายชัยรักษ์ พลหาญ ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการ ๖. นางกนกวรรณ บุญอเนก ครูโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด อนุกรรมการและเลขาฯ