The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 7 รูปสี่เหลียม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuamme.20, 2022-02-02 09:52:13

บทที่ 7 รูปสี่เหลียม

บทที่ 7 รูปสี่เหลียม

1

แผนการจัดการเรยี นรู้

วิชาคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน ค15101
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรียนอนบุ าลอดุ รธานี

นางสาวมณีทพิ ย์ ยางศรี
รหัสประจำตัวนักศึกษา 60100140202

สาขาวิชาคณติ ศาสตร์

การปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา 2
รหสั วชิ า ED18502 (INTERNSHIP IN SCHOOL 2)

คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอดุ รธานี
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 256



คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่มนี้
จัดทำขน้ึ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรยี นการสอนให้มีประสิทธิภาพ และให้นกั เรียนบรรลุตามมาตรฐาน
การเรียนรู้/ตัวชี้วัด ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
2560) ผู้จัดทำจึงได้ศึกษาสาระการเรียนรู้พื้นฐานให้เข้าใจ จากนั้นนำปัญหาที่พบจากประสบการณ์ และ
ความรทู้ ี่ได้จากการอบรมสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เทคนิค วธิ ีการสอน การวดั ผลประเมินผล จิตวิทยาการ
เรยี นรู้ ตลอดจนความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง มาจดั ทำแผนการจดั การเรียนรใู้ นคร้ังน้ี

แผนการจัดการเรียนรู้ในเล่มนี้ ประกอบไปด้วยหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 บัญญัติไตรยางศ์ หน่วยการ
เรียนร้ทู ี่ 5 รอ้ ยละ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เส้นขนาน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 รปู สีเ่ หลย่ี ม และหน่วยการเรียนรู้ท่ี 8
ปริมาตรและความจุของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก จะมีรายละเอียดของกิจกรรมการเรียนการสอน สื่อ แหล่งการ
เรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมทั้งยังมีใบกิจกรรมประกอบด้วย สามารถนำไปให้นักเรียนทำประกอบกับ
การสอนได้ นอกจากน้ียงั มเี ฉลยใบกิจกรรมไวใ้ ห้สำหรับครูผูส้ อน ซึง่ จะทำให้การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
เป็นไปอย่างราบรื่น เพอื่ ให้ผ้เู รียนบรรลมุ าตรฐานการเรยี นรูไ้ ดเ้ ตม็ ศักยภาพอยา่ งแท้จรงิ

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้สอนเอง รวมทั้งเป็น
ประโยชนต์ อ่ ผู้สอนในรายวิชาเดยี วกัน และผูส้ อนแทนเปน็ อยา่ งมาก

มณีทิพย์ ยางศรี
มกราคม 2565

สารบัญ ข

เรอื่ ง หน้า

คำนำ ข

สารบญั 1
6
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 รอ้ ยละ 11
18
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 40 ทดสอบกอ่ นเรยี นบทท่ี 7 27
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 41 ชนิดของรปู สเ่ี หลีย่ ม (1) 33
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 42 ชนดิ ของรปู ส่เี หลย่ี ม (2) 39
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 43 เส้นทแยงมุมของรูปสเี่ หลยี่ ม (1) 46
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 44 เสน้ ทแยงมุมของรูปสี่เหลยี่ ม (2) 53
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 45 สมบตั ขิ องรูปสเี่ หล่ียม (1) 66
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 46 สมบตั ิของรปู สี่เหลย่ี ม (2) 72
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 47 การสรา้ งรปู สเ่ี หลี่ยม (1) 79
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 48 การสร้างรูปสีเ่ หลีย่ ม (2) 86
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 49 การสรา้ งรูปส่เี หลีย่ ม (3) 93
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 50 การสรา้ งรูปส่ีเหลีย่ ม (4) 100
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 51 พน้ื ท่ีรูปสเี่ หล่ียมด้านขนาน (1) 108
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 52 พน้ื ท่ีรูปสเ่ี หลีย่ มด้านขนาน (2) 114
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 53 พื้นที่รปู ส่ีเหล่ยี มขนมเปยี กปนู (1)
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 54 พน้ื ทร่ี ปู สเี่ หลี่ยมขนมเปยี กปนู (2) 121
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 55 พน้ื ท่ีของรูปหลายเหล่ียม (1)
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 56 พืน้ ที่ของรูปหลายเหลี่ยม (2) 128
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 57 โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรปู
135
ของรปู สี่เหล่ยี ม (1) 139
143
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 58 โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับความยาวรอบรูป 149
157
ของรูปส่ีเหล่ียม (2)

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 59 โจทยป์ ญั หา (1)
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 60 โจทยป์ ัญหา (2)
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 61 โจทย์ปญั หา (3)
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 62 โจทยป์ ญั หา (4)
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 63 สอบประจำบทท่ี 7

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 40

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 รูปสเี่ หลี่ยม จำนวน 24 ช่ัวโมง

เร่ือง ทดสอบก่อนเรียน เวลา 1 ชวั่ โมง

ผสู้ อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ค 2.1เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนของส่งิ ท่ีต้องการวัดและ

นำไปใช้
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสัมพันธ์

ระหว่างรูปเรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรูปของ
รปู สีเ่ หล่ียมและพื้นทข่ี องรปู สี่เหลยี่ มดา้ นขนานและรูปสเี่ หล่ยี ม
ขนมเปยี กปูน
ค 2.2 ป.5/2 จำแนกรปู สเ่ี หล่ียมโดยพจิ ารณาจากสมบตั ิของรปู
ค 2.2 ป.5/3 สร้างรูปสี่เหลีย่ มชนิดต่างๆ เม่ือกำหนดความยาวของด้านและขนาด
ของมมุ หรอื เม่ือกำหนความยาวของเสน้ ทแยงมุม

สาระสำคญั
รปู ส่เี หลีย่ มมี 6 ชนิดไดแ้ ก่ รปู สี่เหลี่ยมจตั รุ ัส รูปสเ่ี หล่ยี มผนื ผา้ รูปสีเ่ หลี่ยมขนมเปียกปนู

รปู สเ่ี หลีย่ มด้านขนาน รปู สเี่ หล่ียมคางหมู รปู ส่ีเหลยี่ มรูปว่าว
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เมือ่ เรียนจบคาบน้แี ล้วนกั เรยี นสามารถ

1. ด้านความรู้ (K)
บอกชนิดของรปู สี่เหลย่ี มที่กำหนดให้ไดอ้ ย่างถูกต้อง

2. ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงชนิดของรูปส่เี หลย่ี มทกี่ ำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง

3. ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี นิ ัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
ชนดิ รปู สี่เหลยี่ ม

กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้วิธีการสอนแบบปกติ)

1. ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1.1 ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรียน จากนน้ั แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ให้นกั เรียนทราบ
1.2 ครูตดิ รูปสเ่ี หลยี่ มชนิดต่าง ๆ บนกระดาน จากน้ันให้นกั เรียนตอบคำถามรว่ มกันว่า

เปน็ รปู ส่เี หล่ียมชนิดใด (รปู ส่เี หลี่ยมจตั ุรสั รูปส่เี หลี่ยมผนื ผา้ รปู สี่เหลยี่ มขนมเปยี กปูน
รปู ส่เี หลี่ยมด้านขนาน รูปส่เี หลีย่ มคางหมู รูปสเี่ หลย่ี มรปู วา่ ว)

2. ขั้นสอน
2.1 ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอื่ ง รปู สีเ่ หลย่ี ม เปน็ ปรนยั จำนวน 20 ขอ้

ใชเ้ วลา 40 นาที
3. ขนั้ สรปุ
ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปบทเรยี น จากน้ันให้นักเรยี นสรุปใหไ้ ดว้ ่า

รูปส่เี หลี่ยมมี 6 ชนดิ ได้แก่ รูปส่เี หลีย่ มจตั รุ ัส รูปสี่เหล่ียมผืนผา้ รปู สี่เหลีย่ มขนมเปยี กปูน
รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน รูปสเี่ หล่ยี มคางหมู รปู ส่เี หลยี่ มรูปว่าว

ส่ือการเรยี นรู้และแหลง่ การเรียนรู้

1. ส่ือการเรียนรู้

1.1 หนงั สอื เรียนรายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

1.2 รปู สี่เหล่ยี มชนิดตา่ ง ๆ

2. แหลง่ การเรียนรู้

2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นอนุบาลอุดรธานี

2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พิมพ์คำว่า รูปส่เี หลยี่ ม ป.5

2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พมิ พค์ ำว่า รูปสเ่ี หลี่ยม ป.5

การวดั ผลและประเมินผล

สงิ่ ที่ต้องการวัด วิธี/เคร่ืองมือการวดั ผล เกณฑ์ท่ีต้องการให้

ผา่ น

1. นกั เรยี นสามารถบอกชนิดของรปู แบบสังเกตการถาม-ตอบ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70

สีเ่ หลยี่ มทีก่ ำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (K) ขน้ึ ไป

2. นกั เรยี นสามารถเขยี นแสดงชนิดของ แบบสังเกตการถาม-ตอบ ผ่านเกณฑร์ ะดบั 2

รปู สีเ่ หลีย่ มท่ีกำหนดให้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง ขึ้นไป

(P)

3. นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมความมวี ินัย แบบบันทกึ การสังเกต ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2

ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรียน ขน้ึ ไป

บนั ทึกผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................... .
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงชือ่ ..................................................................
( นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี)
ครผู สู้ อน

ความคิดเหน็ ของครูพี่เลย้ี ง

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรูข้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงและพฒั นาต่อไป
3. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................................ ..................

ลงช่อื ..................................................................
(นางปริยานุช ภิญญศักด์ิ)
ครพู เ่ี ลี้ยง

ความคดิ เห็นของผ้บู ริหาร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................

ลงช่ือ..............................................................
(นายสุชาติ เข็มทอง)

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนอนุบาลอดุ รธานี

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 41

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 รูปสี่เหล่ียม จำนวน 24 ชว่ั โมง

เรือ่ ง เตรยี มความพร้อม เวลา 1 ช่ัวโมง

ผ้สู อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วนั ที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ค 2.1เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกบั การวดั วัดและคาดคะเนของส่ิงท่ีต้องการวัดและ

นำไปใช้
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณติ ความสัมพันธ์

ระหว่างรปู เรขาคณิตและทฤษฎบี ททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตวั ช้วี ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปของ
รปู สี่เหล่ียมและพนื้ ทข่ี องรูปส่ีเหล่ยี มดา้ นขนานและรปู สี่เหลย่ี ม
ขนมเปยี กปนู
ค 2.2 ป.5/2 จำแนกรปู ส่ีเหลีย่ มโดยพจิ ารณาจากสมบตั ิของรปู
ค 2.2 ป.5/3 สร้างรูปสี่เหลยี่ มชนดิ ตา่ งๆ เมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาด
ของมมุ หรือเมอื่ กำหนความยาวของเส้นทแยงมมุ

สาระสำคญั
รูปสีเ่ หลีย่ มมี 6 ชนดิ ไดแ้ ก่ รปู สี่เหลยี่ มจตั รุ ัส รปู ส่เี หลีย่ มผนื ผา้ รูปส่ีเหลยี่ มขนมเปยี กปูน

รูปสีเ่ หล่ยี มด้านขนาน รูปส่เี หลยี่ มคางหมู รูปสีเ่ หลีย่ มรูปวา่ ว
จุดประสงค์การเรยี นรู้ เม่ือเรียนจบคาบนี้แล้วนกั เรยี นสามารถ

1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกชนิดของรปู ส่ีเหลี่ยมท่ีกำหนดให้ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

2. ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
เขยี นแสดงชนดิ ของรูปสี่เหลย่ี มที่กำหนดให้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง

3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี ินัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
ชนิดรปู สเ่ี หล่ียม

กจิ กรรมการเรียนรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
1.1 ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรียน จากนน้ั แจง้ จุดประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
1.2 ครตู ดิ รปู สี่เหล่ียมชนิดตา่ ง ๆ บนกระดาน จากนนั้ ให้นกั เรยี นตอบคำถามร่วมกนั วา่

เป็นรูปสเ่ี หลีย่ มชนดิ ใด (รปู สเ่ี หลย่ี มจตั รุ สั รูปส่ีเหลย่ี มผืนผา้ รปู ส่เี หลยี่ มขนมเปยี กปนู
รูปสเี่ หลีย่ มด้านขนาน รูปสเ่ี หลี่ยมคางหมู รปู ส่ีเหล่ียมรปู ว่าว)

2. ขั้นสอน
2.1 ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกันทำกิจกรรม เตรยี มความพร้อม จากหนังสอื เรียนรายวชิ า

คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.) หน้า 90 – 91
2.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปราย และตรวจสอบความถูกต้องทีละข้อไปพร้อมกนั

3. ข้นั สรปุ
ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรยี น จากนัน้ ใหน้ ักเรียนสรปุ ให้ได้วา่

รูปส่ีเหลี่ยมมี 6 ชนิดได้แก่ รปู ส่ีเหลี่ยมจัตรุ สั รปู สเี่ หลีย่ มผืนผ้า รปู สีเ่ หลย่ี มขนมเปยี กปูน
รูปส่เี หล่ยี มดา้ นขนาน รปู สี่เหล่ียมคางหมู รปู สเี่ หลีย่ มรปู วา่ ว

4. ข้นั นำไปใช้
ครใู ห้นกั เรียนทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ โดยให้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั 7.1 ในหนังสอื
แบบฝกึ หัดรายวิชาคณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

สื่อการเรียนรู้และแหลง่ การเรียนรู้
1. ส่ือการเรยี นรู้
1.1 หนังสือเรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.2 รูปสเ่ี หล่ียมชนิดตา่ ง ๆ
2. แหลง่ การเรียนรู้
2.1 หอ้ งสมุดโรงเรยี นอนบุ าลอุดรธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พิมพ์คำวา่ รูปสีเ่ หล่ยี ม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พมิ พค์ ำว่า รปู สเี่ หลยี่ ม ป.5

การวัดผลและประเมินผล วิธ/ี เครื่องมอื การวดั ผล เกณฑ์ทตี่ อ้ งการให้
สิ่งท่ตี ้องการวัด ผ่าน

1. นกั เรยี นสามารถบอกชนิดของรูป แบบฝึกหดั 7.1 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ส่ีเหลี่ยมทกี่ ำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง (K) แบบฝกึ หดั 7.1 ข้ึนไป
2. นักเรียนสามารถเขยี นแสดงชนิดของ ผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2
รูปสเี่ หล่ียมท่ีกำหนดให้ไดอ้ ย่างถูกต้อง แบบบันทึกการสังเกต ขนึ้ ไป
(P) พฤติกรรมนักเรียน
3. นกั เรียนแสดงพฤติกรรมความมีวนิ ัย ผา่ นเกณฑ์ระดบั 2
ในตนเอง (A) ข้นึ ไป

บนั ทกึ ผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................... ......................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................

ลงชือ่ ..................................................................
( นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี)
ครูผู้สอน

ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นร้ขู อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางปริยานชุ ภญิ ญศักดิ์)
ครูพ่เี ลย้ี ง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนร้ขู อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเห็นดังนี้
1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................

ลงชอื่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลอุดรธานี

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 42

รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 รปู ส่ีเหลีย่ ม จำนวน 24 ชวั่ โมง

เร่ือง ชนิดและสมบตั ิของของรูปสเี่ หลยี่ ม เวลา 1 ชัว่ โมง

ผู้สอน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันท่ี……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณติ สมบตั ิของรูปเรขาคณิต

ความสัมพันธร์ ะหว่างรปู เรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตัวชว้ี ดั ค 2.2 ป.5/2 จำแนกรูปสเี่ หลย่ี มโดยพจิ ารณาจากสมบัติของรูป

สาระสำคญั
1. รูปสเ่ี หลี่ยมจตั รุ ัส เปน็ รปู สเ่ี หลีย่ มท่มี มี ุมทุกมมุ เป็นมุมฉากด้านทุกด้านยาวเทา่ กนั ดา้ นตรง

ข้ามขนานกนั 2 คู่
2. รูปสเ่ี หลย่ี มผนื ผ้า เป็นรูปสเ่ี หลยี่ มทีม่ ีมุมทกุ มมุ เป็นมุมฉากดา้ นตรงข้ามยาวเทา่ กนั และ

ขนานกัน 2 คู่ ด้านทีอ่ ยู่ติดกันยาวไม่เทา่ กนั
3. รปู สี่เหลีย่ มขนมเปียกปนู เป็นรปู ส่ีเหลย่ี มทีม่ มี มุ ทุกมมุ ไม่เปน็ มุมฉากมมุ ท่ีอยตู่ รงขา้ มกันมี

ขนาดเท่ากัน ด้านทุกด้านยาวเท่ากันดา้ นตรงขา้ มขนานกนั 2 คู่
4. รูปส่เี หลย่ี มด้านขนาน เป็นรปู สเ่ี หล่ยี มทม่ี ีมมุ ทีอ่ ยู่ตรงข้ามกันมีขนาดเทา่ กัน ดา้ นตรงข้าม

ยาวเท่ากนั และขนานกนั 2 คู่
5. รปู สเ่ี หลี่ยมคางหมู เปน็ รปู สเ่ี หล่ียมทม่ี ีดา้ นขนานกัน 1 คู่
6. รูปสเี่ หล่ยี มรูปวา่ ว เป็นรูปสี่เหล่ยี มทมี่ ีมุมที่อยตู่ รงขา้ มกันมีขนาดเท่ากัน 1 คู่ และด้านที่

อยตู่ ิดกันยาวเทา่ กัน 2 คู่
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่อื เรียนจบคาบนแี้ ลว้ นกั เรียนสามารถ

1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกชนิดและสมบัตขิ องรปู สีเ่ หลยี่ มทีก่ ำหนดใหไ้ ด้อย่างถูกต้อง

2. ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงชนดิ และสมบัติของรูปสี่เหลย่ี มท่ีกำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง

3. ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมวี นิ ัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
ทบทวนเศษส่วน

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ใช้วธิ ีการสอนแบบปกติ)
1. ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน
1.1 ครกู ล่าวทักทายนักเรียน จากน้ันแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรใู้ ห้นักเรยี นทราบ
1.2 ครตู ดิ แถบรูปเรขาคณติ หลายชนิดคละกนั เช่น รูปสามเหลี่ยม รูปส่ีเหลี่ยม

รูปหา้ เหลีย่ ม รปู วงกลม ให้แตล่ ะชนดิ มหี ลายสีหลายขนาด ดงั น้ี

1.3 ครูใหน้ ักเรยี นฝึกทักษะการจำแนกโดยเริ่มจากครูกำหนดเกณฑใ์ ห้ จากน้ันให้นักเรียน
กำหนดเกณฑ์เอง ตัวอยา่ งเกณฑก์ ารจำแนก เชน่

สี : จำแนกไดเ้ ป็น 4 พวก คือ สีเขียว สแี ดง สีเหลอื ง สมี ่วง
ชนิด : จำแนกไดเ้ ป็น 4 พวก คอื รปู สามเหล่ยี ม รปู สี่เหล่ยี ม รปู ห้าเหลีย่ ม
รูปวงกลม
ขนาด : จำแนกไดเ้ ปน็ 2 พวก คอื ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่
ด้าน : จำแนกไดเ้ ป็น 2 พวก คือ พวกท่มี ขี อบของรปู เป็นส่วนของเส้นตรง
(รปู สามเหลยี่ ม รปู สเ่ี หลี่ยม รูปห้าเหล่ยี ม) และพวกท่มี ีขอบของรปู เปน็ ส่วนโคง้ (รปู วงกลม)
2. ข้นั สอน
. 2.1 ครูนำแถบรูปสเ่ี หลยี่ ม มาเป็นแบบแล้วสนทนากับนักเรียนเกย่ี วกับลักษณะทรี่ ่วมกนั
ของรูปสเ่ี หลีย่ มทัง้ สาม ซึ่งจะได้วา่ รปู สเ่ี หล่ยี มเปน็ รปู ปดิ มี 4ด้าน 4 มมุ

2.2 ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน ให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกันทำกิจกรรม
สำรวจรปู ส่เี หล่ยี ม จากน้นั ให้แตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน

2.3 ครูและนกั เรียนอภปิ รายและตรวจสอบความถูกต้อง ดังน้ี

1. รปู สเ่ี หลี่ยมจัตรุ สั เปน็ รูปสเี่ หลย่ี มท่ีมมี ุมทุกมุมเป็นมุมฉากด้านทุกด้านยาว
เทา่ กนั ดา้ นตรงข้ามขนานกนั 2 คู่

2. รปู สี่เหลี่ยมผนื ผา้ เป็นรูปสเ่ี หลยี่ มทีม่ มี มุ ทกุ มุมเป็นมุมฉากด้านตรงข้ามยาว
เท่ากันและขนานกัน 2 คู่ ด้านที่อยตู่ ดิ กันยาวไม่เท่ากนั

3. รูปสเ่ี หลี่ยมขนมเปียกปูน เป็นรูปสีเ่ หลย่ี มที่มมี มุ ทกุ มมุ ไม่เปน็ มมุ ฉากมุมทอ่ี ยู่
ตรงขา้ มกันมขี นาดเทา่ กนั ด้านทกุ ดา้ นยาวเท่ากนั ด้านตรงข้ามขนานกนั 2 คู่

4. รปู สี่เหลย่ี มดา้ นขนาน เปน็ รูปสีเ่ หลยี่ มที่มีมมุ ท่ีอย่ตู รงข้ามกันมีขนาดเทา่ กัน
ดา้ นตรงขา้ มยาวเทา่ กนั และขนานกนั 2 คู่

5. รูปสเ่ี หลย่ี มคางหมู เป็นรูปส่เี หลย่ี มทม่ี ดี า้ นขนานกัน 1 คู่
6. รปู สีเ่ หล่ียมรูปว่าว เป็นรูปสเี่ หลี่ยมทีม่ ีมุมที่อยตู่ รงข้ามกันมีขนาดเท่ากนั 1 คู่
และด้านที่อยู่ตดิ กนั ยาวเทา่ กัน 2 คู่

3. ขน้ั สรปุ
ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปบทเรียน จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นสรปุ ให้ไดว้ ่า

1. รปู สเี่ หลยี่ มจตั ุรสั เป็นรูปสเี่ หล่ียมทีม่ ีมมุ ทุกมุมเป็นมุมฉากด้านทุกดา้ นยาว
เทา่ กนั ดา้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่

2. รูปสี่เหลี่ยมผืนผา้ เป็นรปู สเี่ หลยี่ มทมี่ มี มุ ทกุ มมุ เป็นมุมฉากดา้ นตรงข้ามยาว
เทา่ กนั และขนานกนั 2 คู่ ด้านท่อี ย่ตู ิดกันยาวไม่เทา่ กัน

3. รปู สี่เหล่ียมขนมเปียกปูน เป็นรปู ส่ีเหลีย่ มทมี่ มี มุ ทกุ มุมไม่เปน็ มุมฉากมุมทีอ่ ยู่
ตรงข้ามกันมีขนาดเท่ากัน ดา้ นทกุ ด้านยาวเทา่ กนั ดา้ นตรงข้ามขนานกนั 2 คู่

4. รูปส่เี หลี่ยมด้านขนาน เป็นรูปสเ่ี หล่ียมที่มมี ุมทีอ่ ยตู่ รงขา้ มกันมีขนาดเทา่ กัน
ด้านตรงข้ามยาวเทา่ กนั และขนานกัน 2 คู่

5. รปู สี่เหลย่ี มคางหมู เป็นรปู ส่ีเหลยี่ มที่มดี า้ นขนานกัน 1 คู่
6. รปู ส่เี หลย่ี มรปู วา่ ว เป็นรปู สเี่ หลี่ยมทม่ี มี มุ ทอี่ ยู่ตรงข้ามกันมขี นาดเท่ากนั 1 คู่
และด้านที่อย่ตู ดิ กันยาวเท่ากัน 2 คู่

4. ขั้นนำไปใช้
ครใู ห้นักเรยี นทดสอบความร้คู วามเข้าใจ โดยให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด 7.2 ในหนงั สือ

แบบฝกึ หดั รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)

ส่อื การเรียนรูแ้ ละแหลง่ การเรียนรู้

1. สื่อการเรยี นรู้

1.1 หนังสือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)

1.2 หนงั สอื แบบฝึกหดั รายวิชาคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)

1.3 แถบรปู เรขาคณติ

2. แหลง่ การเรยี นรู้

2.1 หอ้ งสมุดโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

2.2 เว็บไซต์ www.google.com พมิ พ์คำวา่ รูปส่เี หล่ยี ม ป.5

2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พมิ พ์คำวา่ รปู ส่เี หลย่ี ม ป.5

การวัดผลและประเมินผล

ส่ิงทตี่ ้องการวัด วิธี/เครื่องมือการวดั ผล เกณฑท์ ่ตี อ้ งการให้

ผา่ น

1. นกั เรียนสามารถบอกชนิดและสมบตั ิ แบบฝึกหัด 7.2 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70

ของรูปสีเ่ หล่ียมท่ีกำหนดให้ได้อยา่ ง ขน้ึ ไป

ถกู ต้อง (K)

2. นักเรียนสามารถเขยี นแสดงชนิดและ แบบฝกึ หัด 7.2 ผ่านเกณฑ์ระดบั 2

สมบัติของรูปสเี่ หลยี่ มท่ีกำหนดให้ได้ ข้ึนไป

อยา่ งถูกต้อง (P)

3. นักเรยี นแสดงพฤติกรรมความมีวินัย แบบบันทึกการสงั เกต ผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2

ในตนเอง (A) พฤติกรรมนกั เรียน ข้นึ ไป

บันทกึ ผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี)
ครผู ู้สอน

ความคิดเหน็ ของครพู ่เี ลย้ี ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ไดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางปรยิ านุช ภญิ ญศักด์ิ)
ครูพี่เล้ียง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 43

รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 รูปสีเ่ หลยี่ ม จำนวน 24 ชว่ั โมง

เร่อื ง ชนดิ และสมบตั ิของของรปู ส่ีเหลย่ี ม เวลา 1 ชัว่ โมง

ผสู้ อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วนั ที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชี้วัด
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณติ สมบตั ิของรูปเรขาคณิต

ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตัวช้วี ัด ค 2.2 ป.5/2 จำแนกรปู สเ่ี หลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของรปู

สาระสำคัญ
1. รูปสี่เหลี่ยมจตั ุรสั เปน็ รูปสเ่ี หลย่ี มทีม่ ีมุมทุกมมุ เปน็ มุมฉากดา้ นทุกดา้ นยาวเทา่ กัน ด้านตรง

ขา้ มขนานกัน 2 คู่ เส้นทแยงมมุ ยาวเทา่ กนั แบ่งครึ่งซึง่ กันและกนั และตัดกันเปน็ มมุ ฉาก
2. รปู สเ่ี หลี่ยมผืนผ้า เป็นรูปสเ่ี หล่ียมทมี่ มี มุ ทุกมมุ เปน็ มุมฉากด้านตรงข้ามยาวเทา่ กันและ

ขนานกัน 2 คู่ ด้านทีอ่ ย่ตู ิดกันยาวไมเ่ ท่ากัน เสน้ ทแยงมุมยาวเท่ากนั และแบ่งครึ่งซึ่งกนั และกนั
3. รปู สี่เหลย่ี มขนมเปยี กปูน เป็นรูปส่เี หลย่ี มท่ีมีมมุ ทกุ มมุ ไม่เป็นมุมฉากมมุ ทอ่ี ยตู่ รงข้ามกันมี

ขนาดเท่ากัน ดา้ นทุกดา้ นยาวเทา่ กนั ด้านตรงขา้ มขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ ครึ่งซง่ึ กันและกนั
และตัดกนั เปน็ มุมฉาก

4. รปู สเ่ี หลย่ี มดา้ นขนาน เป็นรปู สี่เหลย่ี มที่มมี มุ ท่ีอยตู่ รงขา้ มกันมีขนาดเท่ากนั ดา้ นตรงข้าม
ยาวเท่ากันและขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ คร่ึงซึ่งกนั และกัน

5. รปู สี่เหลยี่ มคางหมู เปน็ รูปสเี่ หล่ียมทมี่ ีดา้ นขนานกัน 1 คู่
6. รปู ส่ีเหล่ียมรปู ว่าว เปน็ รูปส่ีเหล่ยี มท่ีมีมมุ ที่อยตู่ รงข้ามกันมขี นาดเท่ากนั 1 คู่ และดา้ นท่ี
อยูต่ ดิ กนั ยาวเทา่ กัน 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมตดั กันเป็นมมุ ฉาก และมเี สน้ ทแยงมุมเพียงเส้นเดียวทถี่ ูกแบง่
คร่ึงด้วยเส้นทแยงมุมอีกเส้นหนึ่ง
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เมอื่ เรียนจบคาบนีแ้ ล้วนักเรยี นสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)

บอกชนิดและสมบัติของรปู สีเ่ หลยี่ มที่กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง

2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงชนิดและสมบตั ิของรูปสเี่ หลยี่ มท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง

3. ด้านคณุ ลักษณะ (A)

แสดงพฤตกิ รรมความมีวนิ ัยในตนเอง
สาระการเรยี นรู้

ชนดิ และสมบัตขิ องของรปู ส่เี หลย่ี ม
กจิ กรรมการเรียนรู้ (ใช้วิธีการสอนแบบปกติ)

1. ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน
1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน จากนนั้ แจง้ จุดประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ กั เรยี นทราบ
1.2 ครูให้นักเรียนอภิปรายและร่วมกันสรุปว่า การจำแนกรูปสี่เหลี่ยม โดยพิจารณาจาก

ขนาดของมุม ความยาวของดา้ น และการขนานกนั ของดา้ น สามารถจำแนกได้ดงั นี้

1. รูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส เป็นรูปสเ่ี หลย่ี มท่มี ีมมุ ทกุ มมุ เปน็ มุมฉากด้านทุกดา้ นยาว
เทา่ กัน ด้านตรงข้ามขนานกัน 2 คู่

2. รปู สเ่ี หลีย่ มผนื ผ้า เป็นรปู สเี่ หล่ียมทม่ี มี ุมทกุ มมุ เปน็ มุมฉากดา้ นตรงข้ามยาว
เทา่ กนั และขนานกนั 2 คู่ ด้านทอ่ี ย่ตู ดิ กันยาวไม่เทา่ กนั

3. รูปสี่เหลย่ี มขนมเปยี กปนู เป็นรูปสเ่ี หล่ยี มทมี่ ีมุมทกุ มุมไม่เปน็ มมุ ฉากมมุ ที่อยู่
ตรงขา้ มกันมขี นาดเทา่ กนั ดา้ นทกุ ดา้ นยาวเทา่ กนั ดา้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่

4. รปู สี่เหลี่ยมด้านขนาน เปน็ รปู สเ่ี หล่ยี มทมี่ ีมมุ ทอ่ี ย่ตู รงขา้ มกนั มีขนาดเทา่ กนั
ด้านตรงข้ามยาวเทา่ กนั และขนานกัน 2 คู่

5. รปู สี่เหลีย่ มคางหมู เป็นรูปส่เี หลีย่ มท่ีมีดา้ นขนานกนั 1 คู่
6. รูปสเ่ี หลย่ี มรูปวา่ ว เปน็ รูปส่ีเหลี่ยมทม่ี ีมมุ ท่ีอยู่ตรงข้ามกันมีขนาดเท่ากัน 1 คู่
และดา้ นที่อยตู่ ิดกันยาวเทา่ กัน 2 คู่

2. ขัน้ สอน
2.1 ครใู หน้ กั เรียนพิจารณาว่า รูปสีเ่ หลี่ยมชนดิ ใดมเี สน้ ทแยงมมุ ทัง้ สองเป็นแกนสมมาตรบา้ ง

เพราะเหตุใด ซ่งึ จะได้วา่ มีรปู สเี่ หลีย่ มจัตุรัส และรปู สเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู เพราะเมื่อพับตามเสน้ ทแยง
มมุ แล้ว ท้งั สองขา้ งของรอยพับจะทับกนั สนิท จากนัน้ ครสู นทนาเกี่ยวกบั รูปที่ทับกันสนิทซง่ึ จะเหน็ ไดว้ ่า
เปน็ รปู สามเหล่ียม แสดงวา่ เส้นทแยงมมุ ของรูปส่ีเหล่ียมจัตุรัส และรปู สเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปูน แบง่ รปู
สเี่ หลี่ยมออกเปน็ รูปสามเหลยี่ มท่เี ท่ากนั 2 รปู

2.2 ครใู หน้ ักเรยี นพจิ ารณารปู สีเ่ หลย่ี มผนื ผา้ และรูปสีเ่ หลีย่ มด้านขนาน ซ่ึงเส้นทแยงมุมไม่ได้
เป็นแกนสมมาตร แตเ่ มื่อตดั ตามแนวเสน้ ทแยงมุม แลว้ นำรปู สามเหล่ยี มท้ังสองรปู มาวางซอ้ นทับกนั จะ
ทบั กันสนทิ แสดงว่าเสน้ ทแยงมมุ ของรปู สี่เหลยี่ มผนื ผ้าและรูปสเ่ี หลย่ี มด้านขนาน จะแบ่งรปู ทเ่ี หลยี่ ม
ออกเปน็ รูปสามเหล่ยี ม 2 รปู ทม่ี ีขนาดเทา่ กนั ดังตวั อย่าง

2.3 ครใู หน้ ักเรียนทำกจิ กรรมทำนองเดียวกนั โดยใช้รปู สเ่ี หลย่ี มรปู ว่าว และรปู ส่เี หลีย่ มคาง
หมู ซึง่ จะพบว่า รปู สีเ่ หลย่ี มรปู วา่ ว มีเสน้ ทแยงมมุ เพียงเสน้ เดยี ว ทแ่ี บ่งรปู สี่เหลี่ยมรูปวา่ ว ออกเป็นรปู
สามเหลี่ยม 2 รูปท่มี ขี นาดเท่ากัน สว่ นรปู สเ่ี หลยี่ มคางหมู เสน้ ทแยงมมุ แตล่ ะเส้น แบ่งรูปสเี่ หลยี่ มคางหมู
เปน็ รูปสามเหลย่ี ม 2 รูป ขนาดไม่เท่ากนั

2.4 ครตู ิดรปู สเี่ หลยี่ มท้งั 6 ชนิด ทมี่ รี ปู เสน้ ทแยงมุมดว้ ย แล้วให้นกั เรียนจัดกลุ่มรูปสี่เหลย่ี มที่
เสน้ ทแยงมุมแต่ละเสน้ แบ่งรูปสีเ่ หล่ียมรปู น้ัน เป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดเทา่ กนั 2 รปู ไว้ด้วยกัน ซ่งึ จะพบวา่
มรี ูปส่เี หลยี่ มจตั ุรสั รปู สีเ่ หลยี่ มขนมเปียกปนู รปู สีเ่ หลี่ยมผนื ผา้ และรปู สเ่ี หลยี่ มด้านขนาน

2.5 ครเู ขยี นสว่ นของเส้นตรง 2 เส้นตัดกนั ดังรปู

รปู ท่ี 1 รปู ที่ 2 รปู ท่ี 3
แล้วให้นกั เรยี นปฏบิ ตั จิ รงิ เพื่อตอบคำถามต่อไปนี้

2.5.1 รปู ใดบ้างที่ส่วนของเส้นตรงท้งั 2 เสน้ ยาวเทา่ กัน (นักเรียนวัดความยาวของ
สว่ นของเสน้ ตรงแต่ละรปู พบวา่ รูปท่ี 1 และรูปที่ 3 สว่ นของเสน้ ตรงทง้ั สองจะยาวเท่ากัน)

2.5.2 รูปใดบา้ งทสี่ ่วนของเส้นตรงทงั้ 2 เส้นตดั กนั เป็นมุมฉาก (นกั เรยี นวัดมุมทเ่ี กิดจาก
ของสว่ นของเส้นตรงแต่ละเส้นตดั กนั พบว่า รปู ที่ 2 และรูปท่ี 3 ส่วนของเส้นตรงทั้งสองจะตดั กนั เปน็
มมุ ฉาก) ซึง่ จะสรปุ ได้ว่า รปู ท่ี 2 และรปู ท่ี 3 สว่ นของเส้นตรงทง้ั 2 เส้น ตัดกันเปน็ มุมฉาก

2.5.3 รูปท่ี 1 สว่ นของเส้นตรงท้งั สองตัดกนั เปน็ มมุ เทา่ ใด (วัดมมุ ท่ีเกดิ จากสว่ นของ
เสน้ ตรงตดั กนั ซ่งึ มีอยู่ 4 มุม จะพบว่า มีมุมที่มขี นาดเท่ากัน 2 คู่ ซง่ึ เป็นมมุ ตรงข้ามนั่นเอง)

2.5.4 รปู ใดบ้างท่ีสว่ นของเส้นตรงแบ่งครึ่งซึ่งกนั และกนั หมายความวา่ ถา้ ส่วนของ
เส้นตรงเส้นทหี่ นึ่ง แบ่งส่วนของเสน้ ตรงเส้นทส่ี อง ออกเปน็ สองส่วนเท่าๆกัน และสว่ นของเส้นตรงเสน้
ที่สอง ก็แบ่งส่วนของเสน้ ตรงเส้นทห่ี นึ่งออกเปน็ สองส่วนๆกันแล้ว จะเรยี กว่า สว่ นของเส้นตรงแบง่ ครง่ึ
ซง่ึ กนั และกนั เช่น รปู ที่ 1 และรูปท่ี 3 สว่ นรูปที่ 2 สว่ นของเสน้ ตรงเส้นท่ี 1 (เสน้ แนวต้ัง) แบง่ ครึง่ สว่ น
ของเสน้ ตรงเส้นที่สอง แตส่ ่วนของเสน้ ตรงเส้นที่สอง(แนวนอน) ไม่ได้แบง่ ครึ่งสว่ นของเสน้ ตรงเสน้ ทหี่ น่งึ
อย่างนจ้ี ึงไมเ่ รียกว่าแบง่ ครงึ่ ซึ่งกันและกนั

2.6 ใหน้ ักเรยี นลากเส้นตอ่ จดุ ปลายของสว่ นของเส้นตรงของรูปในกจิ กรรมข้อ 2.5 ให้ทุกรูป
เป็นรปู สเ่ี หลีย่ ม จะเหน็ ได้วา่ ส่วนของเสน้ ตรงท้ังสองเส้น จะเปน็ เสน้ ทแยงมุมของรูปสี่เหล่ียมน้ัน แล้วให้
นักเรียนบอกชนิดของรูปส่เี หลีย่ มดงั กล่าว จะได้ดังนี้

รปู ท่ี 1 เปน็ รูปสีเ่ หล่ยี มผืนผา้ รูปที่ 2 เป็นรูปสเ่ี หล่ียมรปู วา่ ว รปู ที่ 3 เป็นรปู สีเ่ หลย่ี มจัตุรสั
2.7 ครูวาดรปู สีเ่ หล่ียมพรอ้ มเสน้ ทแยงมุม เพม่ิ อีก 2 ชนิด คือ รูปสเี่ หล่ยี มขนมเปยี กปูน และรปู

ส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน แล้ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิเพื่อตอบคำถามตอ่ ไปน้ี

2.7.1 เส้นทแยงมุมทั้งสองเส้นของรปู สีเ่ หลี่ยมยาวเท่ากนั หรือไม่ (ไม่เท่ากนั )
2.7.2 เส้นทแยงมมุ ทั้งสองแบ่งครง่ึ ซง่ึ กนั และกันหรือไม่ (แบง่ ครึ่งซึ่งกันและกนั )
2.7.3 เสน้ ทแยงมมุ ท้ังสองตัดกนั เปน็ มุมฉากหรือไม่ (รูปสเี่ หลี่ยมขนมเปียกปูน
มีเส้นทแยงมุมตัดกันเปน็ มมุ ฉาก แต่รูปสเ่ี หล่ยี มดา้ นขนาน เส้นทแยงมุมตัดกันไมเ่ ป็นมุมฉาก)
3. ขนั้ สรุป
ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปบทเรยี น จากนั้นใหน้ ักเรียนสรปุ ใหไ้ ดว้ ่า

1. รปู สเ่ี หลี่ยมจตั รุ ัส เป็นรปู สเ่ี หล่ยี มท่มี ีมุมทกุ มุมเป็นมุมฉากด้านทุกด้านยาวเท่ากนั
ดา้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่ เส้นทแยงมุมยาวเท่ากัน แบ่งครึ่งซ่ึงกันและกนั และตัดกนั เปน็ มุมฉาก

2. รปู สีเ่ หลี่ยมผนื ผ้า เปน็ รปู สเี่ หลี่ยมทีม่ มี มุ ทุกมุมเป็นมุมฉากด้านตรงข้ามยาวเทา่ กนั
และขนานกัน 2 คู่ ด้านท่ีอยู่ติดกนั ยาวไม่เทา่ กนั เสน้ ทแยงมุมยาวเทา่ กัน และแบ่งคร่งึ ซึ่งกันและ
กนั

3. รปู สี่เหลี่ยมขนมเปียกปนู เป็นรูปสี่เหล่ยี มทม่ี ีมมุ ทุกมุมไม่เป็นมมุ ฉากมมุ ที่อยูต่ รงขา้ ม
กันมขี นาดเทา่ กัน ด้านทุกด้านยาวเท่ากันดา้ นตรงข้ามขนานกัน 2 คู่ เส้นทแยงมุมแบ่งครง่ึ ซงึ่ กัน
และกนั และตัดกันเปน็ มมุ ฉาก

4. รูปสี่เหลยี่ มด้านขนาน เป็นรปู สี่เหล่ียมที่มมี ุมที่อยู่ตรงขา้ มกันมีขนาดเท่ากนั ดา้ นตรง
ขา้ มยาวเทา่ กันและขนานกนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมแบง่ คร่งึ ซึ่งกันและกัน

5. รปู สเ่ี หล่ยี มคางหมู เป็นรูปสี่เหลี่ยมทม่ี ีด้านขนานกนั 1 คู่
6. รูปสเี่ หลี่ยมรปู วา่ ว เปน็ รูปส่เี หลยี่ มท่ีมีมมุ ที่อยู่ตรงขา้ มกันมีขนาดเท่ากนั 1 คู่ และ
ด้านท่ีอยตู่ ดิ กนั ยาวเท่ากนั 2 คู่ เสน้ ทแยงมุมตดั กันเปน็ มุมฉาก และมเี สน้ ทแยงมมุ เพียงเสน้ เดียว
ที่ถกู แบง่ คร่งึ ดว้ ยเสน้ ทแยงมุมอกี เสน้ หนึ่ง

4. ขัน้ นำไปใช้
ครใู หน้ กั เรยี นทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ โดยให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั 7.3 ในหนังสือ

แบบฝึกหัดรายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
ส่ือการเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้

1. สอ่ื การเรยี นรู้
1.1 หนังสือเรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนังสือแบบฝกึ หัดรายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.3 รูปเรขาคณติ

2. แหล่งการเรียนรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรียนอนบุ าลอดุ รธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พิมพ์คำวา่ รูปส่เี หลย่ี ม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พิมพ์คำว่า รปู สีเ่ หลยี่ ม ป.5

การวดั ผลและประเมินผล วิธี/เครื่องมอื การวัดผล เกณฑ์ทีต่ ้องการให้
สิง่ ท่ตี ้องการวัด ผ่าน

1. นักเรียนสามารถบอกชนิดและสมบตั ิ แบบฝกึ หัด 7.3 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
ของรูปสเี่ หล่ียมท่ีกำหนดให้ได้อยา่ ง ขึ้นไป
ถูกต้อง (K) แบบฝกึ หัด 7.3
2. นกั เรยี นสามารถเขียนแสดงชนดิ และ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
สมบตั ิของรูปส่ีเหล่ียมท่ีกำหนดให้ได้ แบบบันทึกการสังเกต ขน้ึ ไป
อยา่ งถูกต้อง (P) พฤติกรรมนกั เรียน
3. นกั เรียนแสดงพฤติกรรมความมวี นิ ัย ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
ในตนเอง (A) ข้นึ ไป

บนั ทกึ ผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
ปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................ ....................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ..................................................................
( นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี )

ความคิดเหน็ ของครูพ่เี ลี้ยง

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรูข้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเห็นดังน้ี
1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงและพฒั นาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จริง
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................

ลงช่ือ..................................................................
(นางปรยิ านุช ภิญญศักดิ์)
ครพู ่เี ล้ยี ง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหาร/ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 44

รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 รูปส่ีเหล่ยี ม จำนวน 24 ชวั่ โมง

เรอื่ ง ทบทวนการสร้างรูปสีเ่ หลี่ยมมุมฉาก เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณติ สมบัติของรปู เรขาคณิต

ความสมั พันธ์ระหว่างรูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตวั ชีว้ ัด ค 2.2 ป.5/3 สรา้ งรปู สเ่ี หล่ียมชนดิ ต่างๆ เมอ่ื กำหนดความยาวของดา้ นและ

ขนาดของมุมหรือเมื่อกำหนความยาวของเสน้ ทแยงมุม
สาระสำคญั

การสร้างรูปส่เี หลยี่ ม เป็นการสรา้ งตามลกั ษณะหรือสมบัติของรูปสี่เหล่ียมแต่ละชนิด
ซึ่งตอ้ งอาศัยทกั ษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอร์หรือวงเวียน
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เมอื่ เรียนจบคาบน้แี ล้วนักเรยี นสามารถ

1. ด้านความรู้ (K)
บอกชนิดของรปู สี่เหลยี่ มที่กำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง

2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
สรา้ งรูปสี่เหลี่ยมท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง

3. ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี นิ ยั ในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
การสรา้ งรปู สีเ่ หลี่ยม

กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้วิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น
1.1 ครกู ล่าวทักทายนกั เรียน จากน้ันแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นักเรียนทราบ
1.2 ใหน้ ักเรยี นแขง่ ขนั กันปฏิบัติตามคำส่ังต่อไปน้ี
1.2.1 เขยี นส่วนของเสน้ ตรง กข ยาว 4 เซนตเิ มตร
1.2.2 สรา้ งมุมฉากท่จี ดุ ก แล้วสว่ นของเสน้ ตรง กง ยาว 3 เซนตเิ มตร
1.2.3 ใช้จุด ง และ จดุ ข เป็นจดุ ศูนย์กลาง แล้วกางวงเวียนรศั มี 4 เซนติเมตร และ

3 เซนติเมตร ตามลำดับ เขยี นสว่ นโคง้ ของวงกลมตดั กนั ที่จดุ ค
1.2.4 ลากส่วนของเสน้ ตรง งค และ ส่วนของเส้นตรง ขค

2. ข้ันสอน
2.1 ครูสนทนากบั นกั เรยี นเก่ยี วกับรปู ท่เี กดิ ข้นึ วา่ เปน็ รูปส่เี หล่ยี มผนื ผา้ กขคง ท่ีมีด้าน

กวา้ ง 3 เซนตเิ มตร และด้านยาว 4 เซนติเมตร หลงั จากน้นั ให้นกั เรียนรวมกลุม่ กนั กลุ่มละ 8 คน แลว้
คัดเลอื กผลงานทีด่ ีที่สุดมาแสดงหนา้ ชน้ั เรยี น พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลดว้ ยว่าทำไมจึงใหผ้ ลงานช้ินนัน้ ดที ่ีสุด

2.2 ครเู สนอแนะเพม่ิ เติมว่า การสรา้ งรูปเรขาคณิตที่ดีน้ัน นอกจากจะมีความยาวของดา้ น
และขนาดของมุมท่ถี กู ต้องแลว้ จะต้องมีความประณตี ใชด้ ินสอท่ีแหลมคม และลากเส้นให้เรียบร้อย

2.3 ครูกำหนดโจทยใ์ หน้ ักเรยี นสรา้ งรปู สเ่ี หล่ียมจตั รุ สั ใหม้ ีความยาวด้านละ 4 เซนตเิ มตร
แลว้ สนทนาซักถามเก่ยี วกับข้ันตอนการสรา้ ง ซึ่งอาจจะไดว้ ่า สามารถทำเชน่ เดยี วกันกับการสร้างรูป
สเี่ หลย่ี มผนื ผ้า นอกจากน้ีครคู วรเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นเสนอแนวคิดในการสรา้ งรปู สเี่ หลี่ยมมมุ ฉากท่ี
แตกตา่ งออกไปหลายๆวธิ ี แลว้ ใหน้ ักเรียนลองสรา้ งรูปสี่เหล่ียมตามแนวคดิ ทเ่ี สนอแนะเหล่านัน้ และ
อภปิ รายร่วมกันว่าเป็นวิธที ีใ่ ช้ได้หรอื ไม่ และเหมาะสมเพยี งใด

2.4 ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรุปข้ันตอนการสรา้ งรูปส่เี หล่ียมมุมฉาก ทีละข้นั ตอนดงั น้ี

สรา้ งรูปสเ่ี หลีย่ มผืนผ้า ยรลว ให้มดี า้ นยาว 5 เซนติเมตร และดา้ นกวา้ ง 3 เซนติเมตร

ขนั้ ท่ี 1 เขียนสว่ นสว่ นของเส้นตรง ยร ยาว 5 เซนตเิ มตร

ยร
5 ซม.

ขัน้ ที่ 2 สร้างมมุ ฉากทจี่ ดุ ย ลากส่วนของเสน้ ตรง ยว ยาว 3 เซนติเมตร



3 ซม.

ยร
5 ซม.

ขน้ั ที่ 3 สร้างมุมฉากทจี่ ดุ ร ลากส่วนของเส้นตรง รล ยาว 3 เซนติเมตร

วล
3 ซม. 3 ซม.

ย ร
5 ซม.

ขัน้ ท่ี 4 เขียนสว่ นของเสน้ ตรง วล และสว่ นของเส้นตรง รล จะได้รปู สี่เหลย่ี มผืนผ้า ยรลว
วล

3 ซม. 3 ซม.

ยร
5 ซม.

3. ขั้นสรุป
ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปบทเรยี น จากนั้นใหน้ ักเรียนสรุปให้ไดว้ ่า

การสรา้ งรูปสีเ่ หล่ียม เป็นการสรา้ งตามลกั ษณะหรือสมบตั ิของรปู ส่เี หลยี่ มแตล่ ะชนิด
ซ่งึ ตอ้ งอาศัยทกั ษะการวดั ความยาวการใชโ้ พรแทรกเตอร์หรอื วงเวียน

4. ขั้นนำไปใช้
ครใู หน้ ักเรยี นทดสอบความร้คู วามเข้าใจ โดยให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั 7.4 ในหนงั สือ

แบบฝึกหดั รายวิชาคณติ ศาสตรพ์ ้ืนฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

สอ่ื การเรยี นรู้และแหล่งการเรยี นรู้
1. สื่อการเรยี นรู้
1.1 หนงั สอื เรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนงั สอื แบบฝกึ หดั รายวชิ าคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.3 โพรแทรกเตอรห์ รือวงเวียน

2. แหล่งการเรียนรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นอนบุ าลอุดรธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พมิ พ์คำวา่ รูปสเี่ หล่ยี ม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พิมพค์ ำวา่ รูปสี่เหลีย่ ม ป.5

การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ /ี เคร่อื งมือการวดั ผล เกณฑ์ท่ตี อ้ งการให้
สงิ่ ทีต่ ้องการวดั ผ่าน

1. นักเรยี นสามารถบอกชนิดของรูป แบบฝึกหดั 7.4 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70
สเี่ หลย่ี มท่กี ำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง (K) ขึ้นไป
2. นกั เรียนสามารถสร้างรปู ส่ีเหลย่ี มท่ี แบบฝกึ หัด 7.4 ผ่านเกณฑร์ ะดบั 2
กำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง (P) ขนึ้ ไป
3. นกั เรียนแสดงพฤติกรรมความมีวินัย แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรยี น ข้นึ ไป

บนั ทึกผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

ลงช่อื ..................................................................
( นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี )
ครผู ้สู อน

ความคิดเห็นของครพู เี่ ลีย้ ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..................................................................
(นางปรยิ านชุ ภิญญศกั ดิ์)
ครพู ีเ่ ลยี้ ง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหาร/ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดังนี้
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 45

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 รูปสี่เหลย่ี ม จำนวน 24 ชว่ั โมง

เรือ่ ง การสรา้ งรปู สี่เหลี่ยมมมุ ฉากเมื่อกำหนดความยาวของดา้ นโดยใช้วงเวยี น เวลา 1 ชั่วโมง

ผ้สู อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วนั ที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณติ สมบตั ิของรูปเรขาคณิต

ความสัมพนั ธร์ ะหว่างรูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตวั ชี้วดั ค 2.2 ป.5/3 สร้างรูปสีเ่ หลี่ยมชนิดตา่ งๆ เมื่อกำหนดความยาวของด้านและ

ขนาดของมุมหรือเม่ือกำหนความยาวของเส้นทแยงมุม
สาระสำคญั

การสรา้ งรปู สี่เหลยี่ ม เป็นการสร้างตามลักษณะหรือสมบตั ิของรูปสีเ่ หลี่ยมแต่ละชนิด
ซงึ่ ต้องอาศยั ทกั ษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอรห์ รือวงเวยี น
จุดประสงค์การเรยี นรู้ เม่ือเรียนจบคาบนี้แลว้ นกั เรียนสามารถ

1. ด้านความรู้ (K)
บอกชนิดของรูปสี่เหล่ียมท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง

2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
สร้างรปู สเ่ี หลย่ี มท่ีกำหนดใหไ้ ด้อยา่ งถูกต้อง

3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี ินัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
การสร้างรูปสเ่ี หลยี่ ม

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ธิ ีการสอนแบบปกติ)
1. ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน จากนน้ั แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรูใ้ ห้นักเรยี นทราบ
1.2 ครูใหน้ ักเรียนทบทวนขนั้ ตอนการสรา้ งรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉาก เม่ือกำหนดความยาวของ

ดา้ นมาให้ พร้อมกบั เสนอแนะนกั เรียนวา่ การสรา้ งรูปเรขาคณิตนอกจากใช้โพรแทรกเตอร์แลว้
เราสามารถใชว้ งเวยี นมาช่วยในการสรา้ งได้

2. ข้นั สอน

2.1 ครูแนะนำขัน้ ตอนการสรา้ งรปู ส่เี หล่ยี มมุมฉาก โดยใชว้ งเวียนมาชว่ ยในการสรา้ งทีละ
ข้ันตอนดังนี้

สร้างรปู ส่ีเหลีย่ มผนื ผ้า ยรลว ให้มดี ้านยาว 5 เซนติเมตร และดา้ นกว้าง 3 เซนตเิ มตร

ขัน้ ท่ี 1 เขียนส่วนส่วนของเส้นตรง ยร ยาว 5 เซนติเมตร

ยร
5 ซม.

ข้ันที่ 2 สรา้ งมุมฉากท่ีจดุ ย ลากสว่ นของเสน้ ตรง ยว ยาว 3 เซนติเมตร


3 ซม.

ย ร
5 ซม.

ขน้ั ที่ 3 กางวงเวยี นรศั มี 5 เซนติเมตร ใชจ้ ุด ว เป็นจุดศูนยก์ ลางเขียนส่วนโคง้ ของ

วงกลม แลว้ กางวงเวียนรศั มี 3 เซนตเิ มตร ใช้จุด ร เปน็ จดุ ศนู ยก์ ลางเขยี นสว่ นโคง้ ของวงกลม

โดยใหส้ ว่ นโค้งของวงกลมตัดกบั โคง้ แรกท่ีจดุ ล ล


3 ซม.

ย ร
5 ซม.

ขนั้ ที่ 4 เขยี นส่วนของเส้นตรง วล และสว่ นของเส้นตรง รล จะได้
รูปส่เี หลีย่ มผนื ผา้ ยรลว

วล

3 ซม.

ยร
5 ซม.

3. ขน้ั สรุป
ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปบทเรยี น จากนั้นให้นักเรียนสรุปให้ได้วา่

การสรา้ งรปู ส่ีเหลยี่ ม เป็นการสร้างตามลกั ษณะหรือสมบตั ิของรปู ส่เี หลีย่ มแตล่ ะชนดิ
ซึง่ ตอ้ งอาศัยทักษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอร์หรอื วงเวยี น

4. ข้นั นำไปใช้

ครใู หน้ กั เรยี นทดสอบความรู้ความเข้าใจ โดยให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด 7.5 ในหนงั สือ

แบบฝึกหดั รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

สอ่ื การเรยี นรู้และแหลง่ การเรยี นรู้

1. ส่อื การเรยี นรู้

1.1 หนงั สือเรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

1.2 หนังสือแบบฝึกหัดรายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

1.3 โพรแทรกเตอร์หรือวงเวียน

2. แหลง่ การเรยี นรู้

2.1 หอ้ งสมุดโรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี

2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พมิ พ์คำวา่ รปู สีเ่ หล่ยี ม ป.5

2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พิมพ์คำวา่ รปู สเ่ี หลย่ี ม ป.5

การวัดผลและประเมินผล

สิ่งทต่ี ้องการวัด วธิ /ี เครอื่ งมือการวดั ผล เกณฑท์ ่ตี ้องการให้

ผ่าน

1. นกั เรยี นสามารถบอกชนิดของรูป แบบฝกึ หัด 7.5 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70

สี่เหลี่ยมทีก่ ำหนดใหไ้ ด้อย่างถูกต้อง (K) ข้ึนไป

2. นักเรยี นสามารถสรา้ งรูปสี่เหลี่ยมท่ี แบบฝึกหดั 7.5 ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2

กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (P) ขน้ึ ไป

3. นักเรียนแสดงพฤติกรรมความมวี ินัย แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2

ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรยี น ขึน้ ไป

บนั ทึกผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................... .
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงชือ่ ..................................................................
( นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี )
ครผู สู้ อน

ความคดิ เหน็ ของครพู ่ีเลย้ี ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................................ ..................

ลงชือ่ ..................................................................
(นางปรยิ านชุ ภิญญศักด์ิ)
ครพู ีเ่ ลี้ยง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 46

รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 รปู สเ่ี หลีย่ ม จำนวน 24 ช่ัวโมง

เรอื่ ง การสรา้ งรูปส่ีเหลยี่ ม เม่ือกำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุม เวลา 1 ชวั่ โมง

ผสู้ อน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วันที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณิต

ความสมั พันธ์ระหว่างรปู เรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตัวชีว้ ัด ค 2.2 ป.5/3 สร้างรูปสีเ่ หล่ียมชนดิ ตา่ งๆ เม่ือกำหนดความยาวของด้านและ

ขนาดของมุมหรอื เมื่อกำหนความยาวของเสน้ ทแยงมุม
สาระสำคัญ

การสร้างรูปสเ่ี หลยี่ ม เป็นการสรา้ งตามลกั ษณะหรือสมบตั ิของรูปส่เี หลี่ยมแต่ละชนดิ
ซึง่ ตอ้ งอาศยั ทักษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอรห์ รอื วงเวียน
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่ือเรียนจบคาบนแี้ ล้วนกั เรยี นสามารถ

1. ด้านความรู้ (K)
บอกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง

2. ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
สร้างรูปสีเ่ หลีย่ มท่ีกำหนดให้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง

3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมีวนิ ัยในตนเอง

สาระการเรียนรู้
การสรา้ งรูปสี่เหล่ียม

กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้วิธีการสอนแบบปกติ)
1. ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น
1.1 ครกู ลา่ วทักทายนักเรียน จากนัน้ แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรใู้ ห้นักเรยี นทราบ
1.2 ครูให้ทบทวนขน้ั ตอนการสรา้ งรูปส่เี หล่ียมมมุ ฉาก โดยครกู ำหนดโจทย์ ดงั น้ี
จงสร้างรปู สเี่ หลีย่ มผืนผ้า กขคง ให้มีดา้ นยาว 5 เซนตเิ มตร และมดี า้ นกวา้ ง

4 เซนติเมตร โดยครูคอยเสริมวา่ เราสามารถใชว้ งเวียนมาช่วยในขน้ั ตอนการสร้างรูปสเี่ หลี่ยมได้
2. ขน้ั สอน

2.1 ครกู ำหนดโจทย์ ให้นกั เรยี นสรา้ งรปู สี่เหลีย่ มด้านขนาน กขคง ให้มีด้านยาว
5 เซนติเมตร และ 4 เซนตเิ มตร โดยให้มุมหนง่ึ มีขนาด 60 องศา แล้วให้นักเรยี นช่วยกนั พิจารณาว่า
โจทย์ท่คี รูกำหนดให้น้ันมีลักษณะของการกำหนดให้เหมือนหรอื ต่างกนั อยา่ งไร ซงึ่ จะไดว้ ่าต่างกนั
โดยโจทย์ขอ้ หลงั มีการกำหนดขนาดของมุมมาให้ดว้ ย จากน้ันใหน้ กั เรยี นลองเขยี นภาพคร่าวๆ เพ่อื ให้
มองเหน็ ชดั เจนขน้ึ ว่าโจทย์กำหนดอะไรมาใหบ้ ้าง และรปู ที่สรา้ งไดจ้ ะเปน็ อย่างไร

ง 5 ซม. ค

4 ซม. 4 ซม.

ก 60
5 ซม.

2.2 ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรา้ งรปู ส่เี หลยี่ มด้านขนานจากโจทย์ข้างตน้ ทีละขนั้ ตอนดังน้ี

สรา้ งรูปส่ีเหล่ยี มด้านขนาน กขคง ให้มีด้านยาว 5 เซนติเมตร และ 4
เซนติเมตร โดยใหม้ ุมหน่งึ มีขนาด 60 องศา

ขนั้ ท่ี 1 เขียนส่วนส่วนของเส้นตรง กข ยาว 5 เซนตเิ มตร
กข
5 ซม.

ขนั้ ที่ 2 สร้างมุม 60 องศา ทจี่ ุด กและ ลากส่วนของเสน้ ตรงกง ยาว 4 เซนตเิ มตร


4 ซม.

ก 60 5 ซม. ข

ขั้นท่ี 3 ท่ีจุด ง สรา้ งมุม กงค ขนาด 120 องศา และ ลากสว่ นของเสน้ ตรง งค

ยาว 5 เซนตเิ มตร จะได้ ง̅ค// ก̅ข (มมุ ภายในท่ีอยูบ่ นข้างเดยี วกนั ของเสน้ ตดั ขวางรวมกันได้

180 องศา) ง 5 ซม. ค
120

4 ซม.

ก 60 5 ซม. ข

ขั้นท่ี 4 เขยี นสว่ นของเส้นตรง ขค จะได้  กขคง เป็นรูปสเี่ หล่ียมดา้ นขนาน

ง 5 ซม. ค
120

4 ซม.

ก 60 5 ซม. ข

2.3 ครูนำสนทนาเพ่ือเปิดโอกาสให้นกั เรียนคดิ หาวิธสี รา้ งรูปสเี่ หลี่ยมแบบอนื่ ๆอีกแล้วให้
นักเรียนทดลองสร้างตามความคดิ เหลา่ นั้น อภิปรายร่วมกันวา่ วิธดี ังกล่าวเปน็ วิธที ่ใี ชไ้ ดห้ รือไม่
เหมาะสมเพยี งใด พรอ้ มทั้งยกตวั อยา่ งโจทย์การสร้างรปู สเี่ หล่ียมอื่นๆ ซง่ึ มีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป
อกี 2-3 ข้อ เช่น จงสร้างรปู ส่เี หลี่ยมคางหมู สปทร ให้ ส̅ป ยาว 6 เซนติเมตร ปส̂ร และ สป̂ท มี
ขนาดมุมละ 55 องศา ส̅ร และ ป̅ท ยาวดา้ นละ 3 เซนตเิ มตร ครูเนน้ ย้ำใหน้ ักเรยี นฝกึ เขียนรูปครา่ วๆ
ตามเงอื่ นไขของโจทยก์ ่อนท่จี ะลงมือสร้าง รปู ส่เี หลีย่ ม

3. ข้นั สรุป
ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปบทเรยี น จากนน้ั ใหน้ ักเรียนสรปุ ให้ได้วา่

การสร้างรปู ส่เี หล่ยี ม เป็นการสร้างตามลักษณะหรือสมบัติของรูปสีเ่ หลีย่ มแต่ละชนดิ
ซงึ่ ตอ้ งอาศยั ทกั ษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอรห์ รอื วงเวยี น

4. ขั้นนำไปใช้
ครูให้นักเรียนทดสอบความรู้ความเข้าใจ โดยใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัด 7.5 ในหนังสือ

เรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.) ลงสมดุ รายบคุ คล
ส่ือการเรยี นร้แู ละแหลง่ การเรียนรู้

1. สือ่ การเรียนรู้
1.1 หนงั สือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 โพรแทรกเตอรห์ รือวงเวยี น

2. แหล่งการเรยี นรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พิมพ์คำว่า รปู สเี่ หลี่ยม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พมิ พค์ ำว่า รปู สี่เหลี่ยม ป.5

การวัดผลและประเมนิ ผล วิธี/เคร่อื งมือการวดั ผล เกณฑท์ ี่ตอ้ งการให้
ส่ิงทต่ี ้องการวัด ผา่ น

1. นกั เรยี นสามารถบอกชนิดของรูป แบบฝึกหดั 7.5 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
สเี่ หลี่ยมท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง (K) ขน้ึ ไป
2. นักเรยี นสามารถสรา้ งรปู ส่ีเหลี่ยมท่ี แบบฝกึ หัด 7.5 ผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2
กำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง (P) ขน้ึ ไป
3. นักเรียนแสดงพฤติกรรมความมวี ินัย แบบบันทกึ การสงั เกต ผ่านเกณฑร์ ะดับ 2
ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรยี น ข้นึ ไป

บันทึกผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................... .
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................... ......................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่อื ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศร)ี
ครูผสู้ อน

ความคดิ เห็นของครูพเี่ ลีย้ ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................

ลงชื่อ..................................................................
(นางปรยิ านชุ ภิญญศักดิ์)
ครพู ี่เลีย้ ง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหาร/ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แล้ว มีความเห็นดังน้ี
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายสุชาติ เขม็ ทอง)

รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 47

รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 รูปส่ีเหลย่ี ม จำนวน 24 ชวั่ โมง

เรื่อง การสรา้ งรปู สเ่ี หลี่ยม โดยใชว้ งเวยี น เวลา 1 ชัว่ โมง

ผู้สอน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วันท่ี……..เดอื น…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณติ

ความสมั พันธร์ ะหว่างรูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิตและนำไปใช้
ตวั ชีว้ ัด ค 2.2 ป.5/3 สรา้ งรปู สเ่ี หลย่ี มชนิดตา่ งๆ เมอ่ื กำหนดความยาวของด้านและ

ขนาดของมุมหรือเมื่อกำหนความยาวของเสน้ ทแยงมุม
สาระสำคญั

การสร้างรปู สี่เหลีย่ ม เปน็ การสร้างตามลักษณะหรือสมบัติของรูปส่ีเหลย่ี มแตล่ ะชนิด
ซ่งึ ตอ้ งอาศยั ทักษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอรห์ รอื วงเวียน
จุดประสงค์การเรียนรู้ เมอ่ื เรียนจบคาบนแ้ี ล้วนักเรยี นสามารถ

1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกชนิดของรูปส่ีเหลยี่ มท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง

2. ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
สรา้ งรปู สี่เหลย่ี มที่กำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง

3. ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมีวนิ ัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
การสร้างรูปส่เี หลีย่ ม

กจิ กรรมการเรียนรู้ (ใช้วธิ ีการสอนแบบปกติ)
1. ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1.1 ครูกลา่ วทักทายนักเรียน จากน้ันแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ
1.2 ครใู ห้นักเรียนทบทวนขัน้ ตอนการสรา้ งรูปส่เี หลย่ี ม เม่อื กำหนดความยาวของดา้ น

และขนาดของมมุ โดยครูกำหนดโจทยด์ ังน้ีจงสร้างรปู สี่เหล่ียมด้านขนาน กขคง ใหม้ ีด้านยาว 4
เซนตเิ มตร และ 3.5 เซนติเมตร โดยใหม้ ุมหน่ึงมีขนาด 65 องศา แลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกนั เขยี นภาพ
คร่าวๆ เพอื่ ให้มองเหน็ ชัดเจนขึ้นว่าโจทย์กำหนดอะไรมาให้บ้าง และรูปที่สรา้ งไดจ้ ะเปน็ อย่างไร


Click to View FlipBook Version