ง 4 ซม. ค
3.5 ซม. 3.5 ซม.
ข
ก 65
4 ซม.
2. ข้นั สอน
2.1 ครูแนะนำนกั เรยี นวา่ การสร้างรปู ส่เี หลี่ยมดา้ นขนานจากโจทยข์ ้างต้น สามารถใช้วง
เวยี นมาช่วยในการสรา้ งได้ โดยมขี ้ันตอนดงั น้ี
สรา้ งรูปสเ่ี หล่ยี มด้านขนาน กขคง ให้มีดา้ นยาว 4 เซนตเิ มตร และ 3.5 เซนติเมตร
โดยให้มุมหน่งึ มขี นาด 65 องศา
ขน้ั ท่ี 1เขียนส่วนส่วนของเส้นตรง กข ยาว 4 เซนตเิ มตร
กข
4 ซม.
ขนั้ ที่ 2 สร้างมมุ 65 องศา ทจี่ ุด ก และ ลากสว่ นของเส้นตรง กง
ยาว 3.5 เซนติเมตร
ง
3.5 ซม.
ก 65 4 ซม. ข
ขั้นที่ 3 กางวงเวียนรัศมี 4 เซนตเิ มตร ใช้จดุ ง เปน็ จุดศนู ยก์ ลางเขียนส่วนโค้งของ
วงกลม แลว้ กางวงเวยี นรศั มี 3.5 เซนตเิ มตร ใชจ้ ุด ข เปน็ จุดศนู ยก์ ลางเขยี นส่วนโค้งของวงกลม
โดยให้ส่วนโค้งของวงกลมตัดกบั โค้งแรกทจ่ี ุด ค
ง ค
3.5 ซม.
ก 65 4 ซม. ข
ข้นั ที่ 4 เขยี นสว่ นของเสน้ ตรง งค และ ส่วนของเสน้ ตรง ขค จะได้ กขคง
เปน็ รูปส่เี หลี่ยมดา้ นขนาน
ง ค
3.5 ซม.
ก 65 4 ซม. ข
3. ขนั้ สรุป
ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปบทเรยี น จากน้นั ใหน้ ักเรียนสรุปใหไ้ ดว้ า่
การสร้างรปู สเ่ี หลีย่ ม เป็นการสร้างตามลักษณะหรือสมบัติของรูปสเ่ี หล่ยี มแตล่ ะชนดิ
ซ่งึ ตอ้ งอาศัยทกั ษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอร์หรือวงเวียน
4. ขนั้ นำไปใช้
ครูให้นกั เรียนทดสอบความรู้ความเขา้ ใจ โดยให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั 7.5 ในหนงั สือ
แบบฝกึ หัดรายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
สือ่ การเรียนรูแ้ ละแหลง่ การเรยี นรู้
1. สือ่ การเรียนรู้
1.1 หนังสอื เรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.2 หนังสอื แบบฝึกหดั รายวิชาคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.3 โพรแทรกเตอร์หรือวงเวียน
2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นอนุบาลอดุ รธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พิมพ์คำว่า รูปสีเ่ หลี่ยม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พิมพค์ ำว่า รปู ส่เี หล่ียม ป.5
การวดั ผลและประเมินผล
ส่ิงทีต่ ้องการวดั วิธ/ี เครื่องมือการวัดผล เกณฑท์ ่ีตอ้ งการให้
ผา่ น
1. นักเรยี นสามารถบอกชนิดของรูป แบบฝึกหัด 7.5 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
สีเ่ หลี่ยมทกี่ ำหนดใหไ้ ด้อย่างถูกตอ้ ง (K) ข้นึ ไป
2. นกั เรยี นสามารถสร้างรปู ส่ีเหล่ียมที่ แบบฝกึ หัด 7.5 ผ่านเกณฑ์ระดบั 2
กำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง (P) ข้นึ ไป
3. นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมความมวี นิ ัย แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรียน ขน้ึ ไป
บันทกึ ผลหลังการสอน
ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
..................................................................................................... ...........................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศร)ี
ครผู ู้สอน
ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นร้ขู อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................
ลงชอื่ ..................................................................
(นางปริยานชุ ภญิ ญศักดิ์)
ครูพ่เี ลย้ี ง
ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)
รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 48
รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 รปู สเี่ หลยี่ ม จำนวน 24 ชว่ั โมง
เรอ่ื ง การสร้างรปู สเ่ี หล่ียม เม่ือกำหนดความยาวของเส้นทแยงมมุ โดยแบง่ ครง่ึ กัน เวลา 1 ชัว่ โมง
ผสู้ อน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วนั ที่ 26 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2565
มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต
ความสมั พันธร์ ะหว่างรูปเรขาคณิตและทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนำไปใช้
ตวั ชว้ี ดั ค 2.2 ป.5/3 สรา้ งรูปสเี่ หลย่ี มชนิดตา่ งๆ เม่อื กำหนดความยาวของด้านและ
ขนาดของมุมหรอื เม่ือกำหนความยาวของเส้นทแยงมุม
สาระสำคัญ
การสร้างรปู ส่เี หลย่ี ม เป็นการสร้างตามลกั ษณะหรือสมบตั ิของรูปสีเ่ หลีย่ มแต่ละชนิด
ซึ่งต้องอาศัยทักษะการวัดความยาวการใชโ้ พรแทรกเตอรห์ รือวงเวียน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมอ่ื เรียนจบคาบนี้แลว้ นักเรียนสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกชนดิ ของรูปสี่เหล่ียมท่ีกำหนดให้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2. ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
สรา้ งรปู ส่ีเหลี่ยมที่กำหนดใหไ้ ด้อย่างถูกตอ้ ง
3. ด้านคุณลักษณะ (A)
ทำงานได้อยา่ งเป็นระบบ
สาระการเรียนรู้
การสรา้ งรูปส่ีเหลยี่ ม
กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. (ออนไลน์)
1. ขนั้ นำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1.1 ครแู ละนกั เรยี นเข้าชัน้ เรยี นด้วยโปรแกรม Google meet ครแู จ้งให้นักเรียนพมิ พ์ ชอ่ื
และเลขท่ี ลงในขอ้ ความในสายของโปรแกรม Google meet และให้เตรยี มคำคมเอาไว้สำหรับเชค็ ชอื่
ทา้ ยชว่ั โมง โดยไม่ใหข้ านรบั คำว่า “มาครบั /มาค่ะ” แตจ่ ะใหข้ านรับเป็นคำคม หรอื คำว่าอะไรที่
นักเรยี นอยากจะขานรบั จากน้ันครูเชญิ ชวนใหน้ กั เรียนเปิดกลอ้ ง และไมโครโฟนเพ่ือรว่ มพูดคยุ กระตุน้
ใหน้ ักเรยี นตื่นตัวระหวา่ งรอใหน้ ักเรียนคนอ่ืนๆเข้ารว่ มช้ันเรียน
1.2 ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และขอ้ ตกลงร่วมกันกับนกั เรยี นว่า “ระหว่างท่ีครูสอน
ให้นกั เรยี นปิดไมโครโฟนหากมขี ้อสงสยั หรือต้องการตอบคำถามครูค่อยเปิดไมโครโฟน เพือ่ ลดปัญหา
เสียงแทรกขณะสอน หรือพิมพ์เข้ามาในข้อความสาย” และแจง้ ใหน้ ักเรยี นเตรียมชดุ เรขาคณิตมาให้
พร้อมสำหรบั การเรยี นการสอน (ไม้ฉาก ไมโ้ ปรแทรกเตอร์ชนดิ คร่ึงวงกลม และไมบ้ รรทัด)
1. ครทู บทวนความรู้เดมิ ของนกั เรยี น โดยการเฉลยการบ้านของช่ัวโมงท่ผี ่านมา
2.ขนั้ สอน
2.1 ครูนำเสนอโจทยจ์ ากนัน้ แนะนำวธิ ีสรา้ งรปู สี่เหลี่ยมเม่ือกำหนดความยาวของเส้นทแยง
มุมและขนาดของมมุ โดยจะต้องนำความรเู้ ก่ยี วกบั เสน้ ทแยงมุมของรูปสี่เหลี่ยมมาพิจารณาเพ่ือวาง
แผนการสร้าง ดงั น้ี
พิจารณาการสรา้ งรูปสี่เหลย่ี มด้านขนาน PKUN ท่ีมเี ส้นทแยงมุมยาว 5 เซนติเมตร
และ 4 เซนตเิ มตร มุมทีจ่ ดุ ตัดของเส้นทแยงมุมมุมหน่งึ มีขนาด 60 องศา (รูปสเ่ี หลี่ยมดา้ นขนาน มเี ส้น
ทแยงมุมยาวไม่เท่ากัน แบ่งคร่ึงซง่ึ กนั และกันและตดั กันไม่เปน็ มมุ ฉาก)จากโจทยเ์ ขยี นรปู ครา่ วๆ ได้
ดังนี้
ขนั้ ที่ 1 เขยี น ̅P̅̅U̅ ยาว 5 เซนตเิ มตร แลว้ แบ่งครึ่ง ̅P̅̅U̅ ทจี่ ุด E จะได้ P̅̅̅E̅ และ ̅E̅̅U̅ ยาว
2.5 เซนติเมตร
ขั้นที่ 2 ทจ่ี ุด E สรา้ ง NÊUขนาด 60 องศา โดยให้ ̅N̅̅E̅ยาว 2 เซนติเมตร โดยใช้ไมโ้ ปร
แทรกเตอร์
ข้ันท่ี 3 เขียน ̅E̅̅K̅ ยาว 2 เซนติเมตรโดยใหอ้ ยใู่ นเเนวเดียวกันกับ N̅̅̅E̅ จะได้ N̅̅̅K̅ ยาว
4 เซนติเมตร
ขน้ั ที่ 4 เขยี น ̅P̅̅K̅ K̅̅̅U̅ U̅̅̅N̅และ N̅̅̅P̅จะได้ PKUN เปน็ รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน
2.2 ครแู ละนกั เรยี นพจิ ารณาการสรา้ งรปู ส่เี หลี่ยม STUV โดยมีส่วนของเส้นตรง SU ยาว 4
เซนตเิ มตร และสว่ นของเสน้ ตรง TV ยาว 6 เซนตเิ มตร เป็นเสน้ ทแยงมมุ แบ่งครงึ่ และตง้ั ฉากซ่งึ กัน
และกัน
ขนั้ ท่ี 1 เขียน S̅U ยาว 4 เซนติเมตร เส้นทแยงมุมแบ่งครึ่งซง่ึ กันและกันทจี่ ดุ x จะได้
S̅X และ X̅U ยาว 2 เซนติเมตร
ขน้ั ท่ี 2 เสน้ ทแยงมมุ ตั้งฉากซึ่งกนั และกนั ใชไ้ มฉ้ ากทำมุมฉากที่จดุ x
ทำจุดแสดงขนาดของมุม 90° ลากสว่ นของเสน้ ตรงเพื่อแสดงขนาดของมมุ 90°
ขน้ั ที่ 3 เขียน T̅̅V̅ ยาว 6 เซนติเมตร และแบง่ ครง่ึ ซง่ึ กนั และกนั จะได้ T̅X และ X̅̅V̅
ยาว 3 เซนตเิ มตร
ขัน้ ท่ี 4 เขยี น S̅T T̅U U̅V และ V̅S จากภาพทเ่ี ราพงึ่ สร้ามมานกั เรยี นคดิ ว่าเป็นรปู
ส่ีเหลย่ี มชนดิ ใด (รูปสเ่ี หลย่ี มขนมเปยี กปูน)
3. ขั้นสรุป
3.1 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ บทเรยี น จากนั้นใหน้ กั เรยี นสรปุ ให้ได้ว่า
การสร้างรูปส่เี หลี่ยม เปน็ การสร้างตามลักษณะหรือสมบตั ิของรปู สเี่ หลี่ยมแต่ละชนิด
ซึ่งต้องอาศัยทกั ษะการวดั ความยาวการใช้โพรแทรกเตอร์หรอื วงเวียน
3.2 ครเู ช็คช่อื นักเรียนตามรายชอ่ื ทีน่ ักเรียนพิมพไ์ วใ้ นกลอ่ งขอ้ ความต้งั แต่ต้นช่วั โมง
4. ขั้นนำไปใช้
ครูให้นักเรยี นทดสอบความรู้ความเขา้ ใจ โดยใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 7.5 ในหนังสือ
แบบฝกึ หดั รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. (ออนดิมานด)์
ชว่ั โมงที่ 1
ข้นั ที่ 1 ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน
1.1 ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียนโดยการโพสต์ขอ้ ความแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ กั เรยี น
ทราบ พรอ้ มแนบลงิ้ กว์ ิดิทศั น์ผา่ นกล่มุ Facebook/Line
ขัน้ ที่ 2 ข้ันสอน
2.1 ครูใหน้ กั เรียนตรวจการบา้ นของชัว่ โมงที่แลว้ โดยดเู ฉลยจากท่คี รูสง่ เฉลย
แบบฝึกหัดที่ 7.5 ข้อที่ 1 และ 5 ในหนังสือแบบฝกึ หัดรายวชิ าคณิตพน้ื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท)
ให้ทำการตรวจคำตอบด้วยตนเอง ทำความเขา้ ใจ ถา้ ผดิ ให้แก้ตามเฉลยให้ถูกตอ้ งโดยใช้ปากกาสแี ดง
ตรวจ
2.2 ใหน้ ักเรยี นดูวีดีทศั น์การสร้างรปู สี่เหลีย่ มดา้ นขนานจากโจทย์ท่ีกำหนดความยาว
ของเส้นทแยงมุม และขนาดของมมุ มาให้ ซ่งึ เนื้อหาจะอธบิ ายตัวอยา่ งสถานการณ์ทส่ี อดคล้องกับ
เนื้อหาในหนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เลม่ ที่ 2 บทที่ 7 ของ
สสวท หน้าท่ี 109 ซง่ึ นกั เรียนจะดซู ้ำหรือเลอื กเข้าดูเวลาใดก็ได้ (On-Demand)
ขน้ั ที่ 3 ขน้ั สรุป และฝึกทกั ษะ
3.1 ครูใหน้ กั เรียนทดสอบความรู้ความเข้าใจโดยใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดท่ี 7.5
ในหนงั สือแบบฝึกหดั รายวิชาคณิตพืน้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท) ข้อท่ี 2,3 และ 4 หน้าที่ 51 - 53 (On-
hand) ซง่ึ นกั เรยี น
จะเลอื กทำ และสง่ งานเวลาใดก็ได้ ชอ่ งทางการส่งงาน เพื่อประเมนิ ผล และติดตามงานนักเรยี น
1. ผา่ นช่องทางกลมุ่ ในFacebook โดยสง่ ภาพช้นิ งานพร้อมระบชุ ่ือ เลขที่ ในช่องแสดงความคดิ เห็น
ของโพสต์ท่ีครโู พสต์ไว้/เพ่ิมภาพลงในอลั บ้ันสว่ นตวั ของตนเองใลไลนก์ ล่มุ คณติ ศาสตร์
2.นำสมุดและแบบฝึกหดั มาส่งที่โรงเรียนในวันเปดิ เรียนแบบปกติ (On-site)
สอ่ื การเรียนรูแ้ ละแหล่งการเรยี นรู้
1. ส่อื การเรยี นรู้
1.1 หนงั สอื เรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์พื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนังสือแบบฝกึ หดั รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ้นื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.3 โพรแทรกเตอรห์ รือวงเวียน
2. แหล่งการเรียนรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พมิ พ์คำวา่ รูปส่เี หลีย่ ม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พมิ พ์คำวา่ รปู ส่เี หล่ยี ม ป.5
การวัดผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ที่ต้องการวดั วิธ/ี เครื่องมือการ เกณฑท์ ่ีตอ้ งการให้
วดั ผล ผา่ น
1. นักเรยี นสามารถบอกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมท่ี
กำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง (K)
2. นักเรียนสามารถสร้างรูปส่ีเหลีย่ มที่กำหนดให้ แบบฝึกหดั 7.5 ผ่านเกณฑ์ระดบั 2
ได้อยา่ งถูกต้อง (P) ข้นึ ไป
3. นกั เรียนทำงานไดอ้ ย่างเป็นระบบ (A)
บันทึกผลหลังการสอน
ผลการจัดการเรยี นรู้
นกั เรยี นสามารถบอกชนดิ ของรปู สเ่ี หล่ียมทีก่ ำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง
นกั เรียนสามารถสรา้ งรูปส่ีเหลย่ี มที่กำหนดให้ได้อยา่ งถกู ต้อง
นกั เรียนทำงานได้อยา่ งเปน็ ระบบ
ปัญหาและอปุ สรรค
เนือ่ งจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในปัจจบุ ันทำใหต้ อ้ งจัดการเรยี นการสอนในรูปแบบ
ผสมผสานเน่อื งจากนักเรียนบางคนยังมีไม่มีความพร้อมในด้านเทคโนโลยี ทำให้นกั เรียนหลายคน
เรยี นไมท่ ันเพอ่ื นคนท่ีมีอุปกรณ์พร้อม
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
จดั การเรียนการสอนแบบผสมผสานระหว่างออนไลน์และออนดมิ านด์ ไม่ไดน้ ดั เรยี นออนไลน์
ทุกวัน และทุกครง้ั ทีจ่ ะขึ้นเร่อื งถัดไปจะทำการทบทวนความรู้เดมิ ของเร่ืองที่เรยี นก่อนหน้าให้
ลงชอื่
(นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี)
ครผู สู้ อน
ความคดิ เหน็ ของครพู เ่ี ล้ยี ง
ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรูข้ อง นางสาวมณีทพิ ย์ ยางศรีแลว้ มคี วามเห็นดังนี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงและพฒั นาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................
ลงชื่อ
(นางปรยิ านุช ภญิ ญศกั ด์ิ)
ครพู ีเ่ ล้ียง
ความคิดเหน็ ของผู้บริหาร/ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเห็นดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จริง
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
ลงชอื่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เข็มทอง)
รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี
แบบบนั ทึกคะแนน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ ระดบั ชน้ั ป. 5/5
คำชี้แจง ให้ใส่ ✓ ลงในช่องทตี่ รงกบั พฤติกรรมของนักเรียน ซง่ึ มเี กณฑก์ ารให้คะแนนดังน้ี
4 = ดีมาก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้, 1 = ควรแกไ้ ข 0 = ควรปรบั ปรงุ
เลขที่ ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคณุ ลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
0 1 2 3 4 สรุปผล 0 1 2 3 4 สรปุ ผล 1 2 3 สรปุ ผล
ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่
(✓) ผา่ น (✓) ผ่าน (✓) ผา่ น
() () ()
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
เลขที่ ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
0 1 2 3 4 สรปุ ผล 0 1 2 3 4 สรปุ ผล 1 2 3 สรปุ ผล
ผ่าน ไม่ ผ่าน ไม่0 ผา่ น ไม่
(✓) ผ่าน
(✓) ผา่ น (✓) ผ่าน
()
() ()
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
เลขท่ี ดา้ นความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
0 1 2 3 4 สรุปผล 0 1 2 3 4 สรุปผล 0 1 2 3 สรปุ ผล
ผ่าน ไม่ ผ่าน ไม่ ผ่าน ไม่
(✓) ผา่ น (✓) ผ่าน (✓) ผา่ น
() () ()
46
47
48
49
50
51
เกณฑ์การประเมินพทุ ธพิ ิสัย ( k )
ระดบั คะแนน/ระดับ พฤติกรรมท่ีปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ
3 (ดีมาก) ตอบคำถามได้ถูกต้อง แสดงวิธกี ารหาคำตอบได้ถูกต้องครบถว้ น ท้งั 3
ขอ้
2 (ดี) ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง แสดงวิธกี ารหาคำตอบได้ถกู ต้อง แต่ไม่
ครบถว้ น ทั้ง 3 ข้อ
1 (พอใช้) ตอบคำถามไมถ่ ูกต้อง แสดงวิธกี ารหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน
0 (ปรับปรุง) ตอบคำถามไม่ถูกต้อง ไม่มกี ารแสดงวิธีหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมินทกั ษะพิสัย ( P )
ระดบั คะแนน/ระดับ พฤติกรรมท่ีปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ
3 (ดีมาก) แสดงวิธีแกป้ ัญหาที่ชัดเจน มีความถูกตอ้ ง เสนอแนวคดิ ประกอบการ
ตดั สินใจอยา่ งสมเหตุสมผล ทัง้ 3 ขอ้
2 (ดี) ดำเนนิ การแก้ปญั หาถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการ
ตัดสินใจไม่สมเหตุสมผล ท้งั 3 ขอ้
1 (พอใช้) มีความพยายามในการแก้ปญั หา และเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ
0 (ปรับปรงุ ) ไมม่ ีความพยายามในการแกป้ ัญหา
เกณฑก์ ารประเมนิ เจตพสิ ัย ( A )
ระดบั คะแนน/ พฤติกรรมท่ีปรากฏให้เห็น
ระดับคุณภาพ
3 (ดีมาก) สามารถปฏบิ ตั ิได้ดว้ ยตนเองหรือเปน็ แบบอย่างให้แกผ่ ูอ้ นื่ ได้ในการปฏิบัตงิ าน
ทางคณิตศาสตร์อยา่ งเปน็ ระบบ มีความรอบครอบ มีความรับผิดชอบ
2 (ดี) สามารถปฏิบตั ิตนตามคำแนะนำ หรอื ช้ีแนะในการปฏบิ ตั ิงานทางคณิตศาสตร์
อย่างเป็นระบบ มีความรอบครอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ
1 (พอใช้) ไมส่ ามารถปฏบิ ัติตนตามคำแนะนำด้วยตนเอง แตต่ ้องมีการกำกับติดตามอยู่
เสมอการปฏบิ ัติงานทางคณิตศาสตร์ไม่เป็นระบบ ขาดความรอบครอบ ขาด
ความรบั ผดิ ชอบ
** เกณฑก์ ารผา่ น
9 – 12 คะแนน ระดับคุณภาพ ดมี าก
5 – 8 คะแนน ระดบั คุณภาพ ดี (ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ )
0 – 4 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 49
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ค15101 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 รปู สเ่ี หลี่ยม จำนวน 24 ชัว่ โมง
เรอื่ ง ทบทวนการหาความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หลย่ี ม เวลา 1 ชวั่ โมง
ผ้สู อน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วนั ท่ี……..เดอื น…………………………..พ.ศ……………
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเกี่ยวกบั การวดั วัดและคาดคะเนของส่งิ ท่ตี ้องการวดั และ
นำไปใช้
ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปของ
รปู สเี่ หลยี่ มและพน้ื ที่ของรปู สี่เหลี่ยมดา้ นขนานและรปู ส่ีเหลยี่ มขนมเปียกปนู
สาระสำคญั
ความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลี่ยมเท่ากับผลรวมของความยาวทุกด้านของรูปสเ่ี หล่ยี มนั้น
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่อื เรียนจบคาบนแี้ ล้วนกั เรยี นสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกความยาวรอบรปู ของรูปสเ่ี หลยี่ มที่กำหนดให้ได้อยา่ งถกู ต้อง
2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
เขยี นแสดงวิธกี ารหาความยาวรอบรูปของรปู สี่เหลยี่ มที่กำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง
3. ด้านคุณลักษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมีวินัยในตนเอง
สาระการเรียนรู้
พื้นที่ของรปู สเี่ หล่ยี ม
กจิ กรรมการเรียนรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน
1.1 ครกู ลา่ วทักทายนักเรียน จากนน้ั แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ หน้ กั เรียนทราบ
1.2 ครูตดิ แผนภาพบนกระดาน พร้อมใช้คำถามว่า เปน็ รปู สีเ่ หลี่ยมชนิดใด
(รูปสเี่ หลี่ยมดา้ นขนาน และรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปียกปนู )
2. ขน้ั สอน
2.1 ครตู ดิ แผนภาพรูปสี่เหลยี่ มจตั ุรัส และรูปสเี่ หลีย่ มขนมปียกปูน ดงั นี้
15 ซม. 11 ซม.
15 ซม. 15 ซม. 11 ซม. 11 ซม.
15 ซม. 11 ซม.
รปู ที่ 1 รปู ท่ี 2
ให้นักเรียนชว่ ยกันคดิ วิธีหาความยาวรอบรูป ซง่ึ จะได้ 2 วิธี ดังนี้
วธิ ที ี่ 1 นำความยาวทกุ ด้านของรปู สเ่ี หล่ยี มมาบวกกนั
- รปู ที่ 1 จะได้ความยาวรอบรปู เทา่ กับ 60 เซนติเมตร ( 15+15+15+15= 60)
- รปู ท่ี 2 จะไดค้ วามยาวรอบรปู เท่ากับ 44 เซนตเิ มตร ( 11+11+11+11= 44)
วิธีท่ี 2 เนื่องจากรูปส่ีเหล่ยี มจตั รุ สั และรูปสี่เหลยี่ มขนมเปียกปนู
มีดา้ นทกุ ดา้ นยาวเทา่ กัน
ดังน้ัน จึงสามารถใชว้ ิธคี ณู เพ่ือช่วยให้หาคำตอบได้เรว็ ข้นึ
- รูปที่ 1 จะได้ความยาวรอบรปู เท่ากบั 60 เซนตเิ มตร ( 415 = 60)
- รูปท่ี 2 จะได้ความยาวรอบรปู เทา่ กบั 44 เซนตเิ มตร ( 411= 44)
2.2 ครูตดิ แผนภาพรูปสเี่ หลย่ี มผืนผา้ และรูปส่เี หลี่ยมด้านขนาน ดังนี้
12.5 ซม. 14 ซม.
8 ซม. 8 ซม. 9.5 ซม. 9.5 ซม.
12.5 ซม. 14 ซม.
รูปท่ี 1 รปู ท่ี 2
ครูและนกั เรยี นรว่ มอภปิ รายถึงวธิ หี าความยาวรอบรูปสี่เหล่ียมผืนผ้า
และรปู สี่เหลย่ี มด้านขนาน ซ่ึงจะได้ 3 วธิ ี ดงั นี้
วธิ ที ี่ 1 นำความยาวทุกดา้ นของรปู สเี่ หล่ียมมาบวกกัน
- รูปท่ี 1จะได้ความยาวรอบรูปเทา่ กบั 41 เซนตเิ มตร ( 8+12.5+8+12.5= 41 )
- รูปท่ี 2 จะได้ความยาวรอบรปู เทา่ กับ 47 เซนตเิ มตร ( 9.5+14+9.5+14= 47 )
เน่อื งจากรูปสีเ่ หลีย่ มผืนผา้ และรปู สี่เหลย่ี มดา้ นขนาน มดี ้านที่อยู่ตรงข้ามยาวเทา่ กนั
เพ่ือให้หาคำตอบไดเ้ ร็วขึน้ เราสามารถใชว้ ธิ คี ูณซ่งึ สามารถทำได้อกี 2 วิธี
วธิ ีท่ี 2 นำความยาวของด้านแตล่ ะด้านของดา้ นคู่ขนานคณู สอง แล้วบวกกัน
- รปู ที่ 1จะไดค้ วามยาวรอบรูปเท่ากับ 41 เซนตเิ มตร
( (28) + (212.5) = 41 )
- รปู ที่ 2 จะไดค้ วามยาวรอบรปู เทา่ กบั 47 เซนตเิ มตร
( (29.5) + (214) = 47 )
วธิ ที ่ี 3 นำความยาวของด้านทอ่ี ยตู่ ิดกันบวกกัน แลว้ คูณสอง
- รปู ที่ 1จะได้ความยาวรอบรูปเท่ากบั 41 เซนติเมตร ( 2 (8+12.5) = 41 )
- รูปที่ 2 จะได้ความยาวรอบรูปเทา่ กับ 47 เซนตเิ มตร ( 2(9.5+14) = 47 )
3. ขั้นสรปุ
ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปบทเรยี น จากนน้ั ให้นักเรียนสรปุ ให้ไดว้ า่
ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหล่ียมเท่ากับผลรวมของความยาวทุกด้านของรปู สี่เหลีย่ มนั้น
4. ขั้นนำไปใช้
ครูใหน้ ักเรยี นทดสอบความรูค้ วามเข้าใจ โดยให้นกั เรียนทำใบกิจกรรม เรอื่ ง การหาความ
ยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลีย่ ม
สื่อการเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้
1. ส่ือการเรียนรู้
1.1 หนงั สอื เรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์พื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 ใบกจิ กรรม เร่ือง การหาความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลยี่ ม
1.3 รูปสีเ่ หลยี่ ม
2. แหล่งการเรียนรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นอนบุ าลอุดรธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พมิ พ์คำว่า รูปส่ีเหลย่ี ม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พิมพ์คำวา่ รูปสเ่ี หล่ยี ม ป.5
การวัดผลและประเมินผล
สิง่ ท่ตี ้องการวดั วธิ ี/เครื่องมือการวดั ผล เกณฑท์ ี่ตอ้ งการให้ผา่ น
1. นักเรยี นสามารถบอกความยาวรอบรูป ใบกจิ กรรม เร่ือง การหาความ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
ของรูปส่เี หล่ียมที่กำหนดให้ได้อย่าง ยาวรอบรูปของรปู สี่เหลยี่ ม ข้ึนไป
ถกู ต้อง (K)
2. นกั เรยี นสามารถเขยี นแสดงวธิ กี ารหา ใบกจิ กรรม เร่ือง การหาความ ผ่านเกณฑ์ระดบั 2
ความยาวรอบรูปของรูปสเี่ หล่ยี มที่ ยาวรอบรปู ของรูปส่เี หลีย่ ม ขน้ึ ไป
กำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง(P)
3. นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมความมวี นิ ยั ใน แบบบนั ทกึ การสังเกต ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2
ตนเอง (A) พฤติกรรมนกั เรยี น ข้ึนไป
บันทึกผลหลังการสอน
ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
........................................................................................................................................ ........................
.......................................................................................................... ......................................................
ลงชือ่ ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศร)ี
ครูผสู้ อน
ความคดิ เหน็ ของครพู ่ีเลย้ี ง
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................................ ..................
ลงชือ่ ..................................................................
(นางปรยิ านชุ ภิญญศักด์ิ)
ครพู ีเ่ ลี้ยง
ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดงั น้ี
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 50
รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 รูปส่เี หลี่ยม จำนวน 24 ชว่ั โมง
เรือ่ ง ทบทวนการหาพืน้ ท่ีของรปู สเี่ หล่ียมมุมฉาก เวลา 1 ช่วั โมง
ผสู้ อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………
มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพน้ื ฐานเกย่ี วกบั การวดั วดั และคาดคะเนของสงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั และ
นาไปใช้
ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกับความยาวรอบรูปของ
รปู สีเ่ หลยี่ มและพ้ืนท่ีของรปู ส่ีเหล่ยี มดา้ นขนานและรูปสีเ่ หล่ียมขนมเปยี กปูน
สาระสำคัญ
พืน้ ทข่ี องรูปสเี่ หลยี่ มมุมฉาก คือ บริเวณที่อยู่ภายในของรูปสเ่ี หล่ยี มมมุ ฉาก
มสี ตู รในการพน้ื ทดี่ งั น้ี
พน้ื ที่ของรปู สีเ่ หลย่ี มผืนผา้ = ความยาวของด้านกวา้ ง × ความยาวของด้านยาว
พนื้ ที่ของรปู สเี่ หลยี่ มจัตุรสั = ความยาวของดา้ น × ความยาวของด้าน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมอื่ เรียนจบคาบนี้แลว้ นกั เรียนสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกคำตอบพน้ื ท่ขี องรปู สเี่ หลยี่ มทก่ี ำหนดให้ได้อยา่ งถกู ต้อง
2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงวิธกี ารหาพ้ืนท่ีของรูปสเ่ี หล่ียมท่กี ำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง
3. ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมวี นิ ัยในตนเอง
สาระการเรยี นรู้
พ้ืนทข่ี องรูปสเี่ หล่ียม
กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใช้วธิ ีการสอนแบบปกติ)
1. ขัน้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนักเรียน จากนนั้ แจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ให้นกั เรยี นทราบ
1.2 นกั เรยี นทบทวน เร่ือง การหาพืน้ ท่ีรูปสเี่ หลีย่ ม โดยการนับตารางโดยครูติดตาราง
พืน้ ที่บนกระดานดังน้ี
A BL I
N O
I
D C
W X
Z HJ R
Q S
YK
T
กำหนด แทน 1 ตารางหนว่ ย
ให้ผู้แทนนักเรียนครงั้ ละ 2 คนแข่งขันกนั หาพน้ื ท่ีของรูปสี่เหล่ียมบนกระดานคนละ 1 รปู
( ABCD มีพื้นที่ 9 ตารางหนว่ ย LION มีพืน้ ท่ี 8 ตารางหน่วย
WXYZ มพี นื้ ท่ี 15 ตารางหนว่ ย HIJK มพี ้นื ที่ 4 ตารางหนว่ ย)
1.3 ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
2. ข้นั สอน
2.1 จากกิจกรรมข้อ 1 ให้นกั เรยี นพจิ ารณารูปสเ่ี หลยี่ มแลว้ ถามคำถามนักเรียน ดงั น้ี
รปู ใดเปน็ รูปส่เี หลี่ยมจตั รุ ัส ( ABCD)
รปู ใดเปน็ รูปสเี่ หล่ยี มผนื ผ้า ( QRST)
รปู ส่เี หลี่ยมจัตุรสั และรูปสเ่ี หลีย่ มผนื ผ้ามีมุมทุกมุมเป็นมุมก่ีองศา (90 ํ)
เรยี กว่ามมุ อะไร(มุมฉาก)
ดงั นน้ั รูปสเี่ หล่ียมท่ีมมี ุมทุกมุมเป็นมมุ ฉากเรียกวา่ รปู สี่เหลย่ี มอะไร (สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก)
ABCD มดี ้านยาวด้านละกี่หน่วย (3 หน่วย)
ABCD มีพื้นที่เท่าไร (9 ตารางหน่วย)
คำนวณได้อย่างไร (3 × 3)
ดงั นน้ั สามารถหาพนื้ ทีข่ องรปู สี่เหลยี่ มจตั รุ ัสโดยใชส้ ูตรไดอ้ ยา่ งไร
(พื้นท่ขี องรูปส่เี หล่ียมจัตรุ สั = ความยาวของด้าน × ความยาวของดา้ น)
QRST มดี ้านยาวยาวเทา่ ไร (3 หนว่ ย)
QRST มดี า้ นกวา้ ง ยาวเท่าไร(2 หน่วย)
QRST มีพื้นท่เี ท่าไร(6 ตารางหนว่ ย)
คำนวณได้อยา่ งไร(2 × 3)
ดังนัน้ สามารถหาพ้ืนท่ขี องรูปส่ีเหลีย่ มผืนผา้ โดยใชส้ ูตรได้อยา่ งไร
(พื้นทข่ี องรปู สเ่ี หลย่ี มผืนผา้ = ความยาวของด้านกวา้ ง × ความยาวของด้านยาว)
2.2 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
2.3 ครตู ิดรปู สเ่ี หลีย่ มบนกระดานแล้วใหน้ ักเรยี นครงั้ ละ 2 คนแข่งขนั กนั ออกมาหา
พ้ืนทขี่ องรูปส่ีเหล่ียมบนกระดานดงั ตัวอย่าง 1
1) 2) 0
นิ้ 4
5 ว นิ้
ซ
ม ว
(พน้ื ท่ี จัตุรัส = ค. วามยาวด้าน × ความยาวดา้ น (พ้ืนท่ี ผืนผา้ = ความกว้าง × ความยาว
= 5×5 = 4 × 10
= 25 ตารางเซนตเิ มตร) = 40 ตารางนว้ิ )
2.4 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
2.5 ครแู บ่งนกั เรียนออกเปน็ 2 กล่มุ แจกบัตรข้อความให้กลมุ่ ท่ี 1 และบัตรภาพรูป
สี่เหลย่ี มทีร่ ะบุความยาวและความกวา้ งให้นักเรียนกลุ่มท่ี 2 แลว้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั เล่นเกม
“คูห่ คู ู่ฮา” ดงั นี้
นักเรยี นกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ยืนสลบั กนั เป็นวงกลม
นกั เรียนถือบตั รของตนเองเดนิ เป็นวงกลมเม่ือครูบอกวา่ “จับคู่” ให้นักเรยี นท่ีมี
บัตรภาพรูปสเี่ หล่ยี มจับคกู่ ับเพ่อื นทม่ี ีบัตรข้อความตรงกับบัตรภาพแล้วชว่ ยกันหาพนื้ ท่ีของ
รูปสเ่ี หล่ยี ม
ดำเนินกิจกรรมน้ีอีก 3-4 ครัง้ โดยแจกบตั รใหม่เพ่ิมเติม
2.6 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
ตัวอยา่ งบัตรข้อความและบตั รภาพ
7
ความกวา้ ง 5 เซนติเมตร ซ5
ความยาว 7 เซนตเิ มตร มซ
.ม
.
3. ขัน้ สรุป
ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปบทเรยี น จากนัน้ ให้นักเรียนสรปุ ใหไ้ ด้วา่
พนื้ ทข่ี องรปู ส่ีเหลย่ี มมุมฉาก คือ บรเิ วณที่อย่ภู ายในของรูปสเี่ หลยี่ มมุมฉาก
มีสตู รในการพืน้ ท่ีดังนี้
พ้นื ท่ีของรปู สีเ่ หลย่ี มผืนผ้า = ความยาวของด้านกวา้ ง × ความยาวของด้านยาว
พื้นทขี่ องรปู สี่เหลย่ี มจตั รุ สั = ความยาวของดา้ น × ความยาวของด้าน
4. ขั้นนำไปใช้
ครูให้นกั เรยี นทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ โดยใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 7.7 จากหนงั สอื
แบบฝกึ หดั รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
ส่ือการเรยี นรู้และแหล่งการเรียนรู้
1. สือ่ การเรยี นรู้
1.1 หนงั สอื เรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนังสอื แบบฝกึ หัดรายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ้นื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.3 บัตรขอ้ ความและบัตรภาพ
2. แหลง่ การเรียนรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นอนุบาลอุดรธานี
2.2 เว็บไซต์ www.google.com พิมพ์คำว่า รูปสีเ่ หลย่ี ม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พมิ พค์ ำว่า รปู ส่ีเหล่ียม ป.5
การวัดผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ทตี่ ้องการวดั วธิ ี/เครื่องมอื การวดั ผล เกณฑ์ทีต่ อ้ งการให้
ผ่าน
1. นกั เรียนสามารถบอกคำตอบพืน้ ที่ของ แบบฝกึ หดั 7.7 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
รปู สี่เหลยี่ มทีก่ ำหนดให้ได้อย่างถกู ต้อง ขึ้นไป
(K)
2. นักเรยี นสามารถเขียนแสดงวิธกี ารหา แบบฝึกหดั 7.7 ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
พ้ืนทีข่ องรปู สเ่ี หลย่ี มท่ีกำหนดใหไ้ ดอ้ ยา่ ง ขนึ้ ไป
ถูกต้อง (P)
3. นกั เรียนแสดงพฤติกรรมความมวี ินยั แบบบนั ทกึ การสังเกต ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรยี น ขึ้นไป
บันทึกผลหลังการสอน
ผลการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................... .............................
..................................................................................................... ...........................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ลงช่อื ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศร)ี
ครูผู้สอน
ความคิดเห็นของครพู เ่ี ล้ยี ง
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นร้ขู อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเห็นดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใช้ไดจ้ รงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................... ...................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
ลงช่อื ..................................................................
(นางปรยิ านุช ภิญญศักดิ์)
ครูพ่เี ล้ียง
ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเห็นดงั นี้
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
ลงชื่อ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 51
รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 รูปสเี่ หล่ยี ม จำนวน 24 ชว่ั โมง
เร่อื ง การหาพ้ืนที่ของรูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน เวลา 1 ชว่ั โมง
ผู้สอน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันท่ี……..เดอื น…………………………..พ.ศ……………
มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้ืนฐานเกี่ยวกบั การวดั วัดและคาดคะเนของสง่ิ ท่ตี ้องการวดั และ
นำไปใช้
ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปของ
รูปส่ีเหล่ียมและพนื้ ที่ของรูปส่ีเหล่ยี มด้านขนานและรปู สี่เหลีย่ มขนมเปยี กปนู
สาระสำคัญ
พื้นท่ขี องรูปส่เี หลยี่ มด้านขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เมอ่ื เรียนจบคาบน้แี ลว้ นักเรยี นสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกคำตอบพื้นท่ีของรปู ส่เี หลีย่ มด้านขนานที่กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง
2. ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
เขยี นแสดงวธิ กี ารหาพืน้ ท่ีของรูปสเ่ี หล่ยี มด้านขนานที่กำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง
3. ด้านคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี นิ ัยในตนเอง
สาระการเรยี นรู้
พ้ืนทีข่ องรปู สเ่ี หลีย่ ม
กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น
1.1 ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรียน จากน้นั แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
1.2 ครแู นะนำให้นักเรยี นรู้จักฐาน และสว่ นสูงของรูปส่ีเหลย่ี มดา้ นขนาน โดยตดิ แผนภาพ
รปู สีเ่ หล่ยี มดา้ นขนานประกอบการอธบิ าย ว่าเม่ือกำหนดด้านใดดา้ นหน่งึ ของรปู สเ่ี หลยี่ มดา้ นขนานให้
เปน็ ฐานสว่ นของเสน้ ตรงทล่ี ากจากดา้ นทีอ่ ยู่ตรงขา้ มกบั ฐาน มาตั้งฉากกบั ฐานหรอื แนวของฐาน
เรียกว่า สว่ นสูง ความยาวของสว่ นสูง เรยี กว่า ความสงู และใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาแผนภาพ แล้วช่วยกนั
ระบฐุ านและสว่ นสูงของรูปสเ่ี หลี่ยมด้านขนานทงั้ 3 แบบ ดังนี้
1.3 ครอู ธิบายเพมิ่ เติมเก่ยี วกบั การระบุส่วนสงู และฐานของรูปส่ีเหลย่ี มABCD จากนน้ั
แนะนำพร้อมสาธิตวธิ ีวัดความสงู ของกระดาษรูปสี่เหล่ยี มด้านขนานขา้ งตน้ โดยใช้ความรูเ้ ก่ยี วกับการ
วดั ระยะหา่ งของเส้นขนาน
2. ขนั้ สอน
2.1 ครใู ห้นกั เรียนพจิ ารณาการหาพื้นทีข่ องรปู ส่ีเหลี่ยมด้านขนาน อปพร
พร้อมการถาม-ตอบ ประกอบการอธบิ าย ดงั น้ี
กำหนดด้าน ร̅พ เป็นฐาน ยาว 5 เซนตเิ มตร มี ร̅ก เปน็ ส่วนสงู ยาว 2 เซนตเิ มตร
หาพ้ืนทโ่ี ดยการนบั ตารางได้ 10 ตารางเซนตเิ มตร
เมื่อตัดรปู สีเ่ หลย่ี มด้านขนาน อปพร ตามแนว ร̅ก แล้วต่อให้เป็นรปู ส่ีเหลยี่ มผนื ผ้า
ดังรปู
จะได้ รปู สี่เหล่ียมด้านขนาน อปพร มีพื้นทเ่ี ทา่ กบั รูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ กมพร
พ้ืนที่ของรปู ส่เี หล่ียมผืนผ้า = ความกว้าง × ความยาว
พน้ื ทขี่ องรปู สเี่ หล่ยี มผนื ผา้ กมพร = 2 × 5 ตารางเซนติเมตร
= 10 ตารางเซนติเมตร
ดงั นั้น พ้ืนทข่ี องรปู สเี่ หลี่ยมด้านขนาน อปพร = 10 ตารางเซนตเิ มตร
ซง่ึ จากรูป พบวา่ ความสูงของรูปสเี่ หลย่ี มดา้ นขนาน อปพร เท่ากับ ความกว้าง
ของรูปสีเ่ หลี่ยมผืนผา้ กมพร และความยาวของฐานของรปู ส่ีเหลี่ยมด้านขนาน อปพรเทา่ กบั ความยาว
ของรปู สี่เหล่ยี มผืนผ้า กมพร ซึ่งจะสังเกตเห็นวา่ พนื้ ท่ีของรูปสีเ่ หลย่ี มดา้ นขนาน สามารถหาได้จาก
พน้ื ท่ขี องรปู ส่ีเหลย่ี มด้านขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
2.2 ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ และอภปิ รายเกีย่ วกบั ขั้นตอนการหาพน้ื ที่ของรปู สีเ่ หลี่ยม
ด้านขนาน เพื่อให้ไดข้ ้อสรปุ ว่าพื้นที่ของรปู ส่เี หล่ียมด้านขนาน= ความสูง × ความยาวของฐาน
2.3 ครยู กตัวอย่างรปู ส่ีเหลี่ยมดา้ นขนาน แล้วใหน้ กั เรียนหาพน้ื ที่โดยใชส้ ูตร ดงั นี้
หาพนื้ ทขี่ องรูปส่ีเหลีย่ มดา้ นขนาน กขคง
5 ซม.
3 ซม.
วิธีทำ พน้ื ที่ของรปู สี่เหลี่ยมดา้ นขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
พ้ืนทข่ี อง กขคง = 5 × 3 ตารางเซนติเมตร
= 15 ตารางเซนติเมตร
ดังน้ัน รูปสเี่ หลี่ยมด้านขนาน กขคง มีพนื้ ท่ี 15 ตารางเซนติเมตร
ตอบ 15 ตารางเซนตเิ มตร
3. ข้นั สรปุ
ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรียน จากนั้นให้นักเรียนสรุปใหไ้ ด้ว่า
พืน้ ทข่ี องรปู สเ่ี หล่ยี มด้านขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน
4. ขน้ั นำไปใช้
ครใู หน้ กั เรยี นทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ โดยให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั 7.7 จากหนงั สอื
แบบฝึกหัดรายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
สอ่ื การเรยี นรู้และแหล่งการเรยี นรู้
1. สอื่ การเรียนรู้
1.1 หนังสือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.2 หนงั สอื แบบฝกึ หดั รายวิชาคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.3 บตั รขอ้ ความและบัตรภาพ
2. แหล่งการเรยี นรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี
2.2 เว็บไซต์ www.google.com พิมพ์คำว่า รปู สี่เหล่ียม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พิมพค์ ำว่า รูปส่ีเหลยี่ ม ป.5
การวัดผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ที่ต้องการวัด วธิ ี/เคร่อื งมือการวดั ผล เกณฑ์ที่ตอ้ งการให้
ผ่าน
1. นักเรียนสามารถบอกคำตอบพนื้ ที่ของ แบบฝึกหัด 7.7 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
รูปสเ่ี หลี่ยมด้านขนานท่ีกำหนดให้ได้อยา่ ง ข้นึ ไป
ถูกต้อง (K)
2. นักเรยี นสามารถเขียนแสดงวิธกี ารหา แบบฝกึ หดั 7.7 ผ่านเกณฑร์ ะดบั 2
พ้ืนท่ีของรูปส่ีเหลยี่ มดา้ นขนานท่ี ข้นึ ไป
กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (P)
3. นักเรยี นแสดงพฤติกรรมความมวี ินัย แบบบันทกึ การสงั เกต ผ่านเกณฑร์ ะดับ 2
ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรยี น ข้ึนไป
บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ปญั หาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................... ......................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ลงช่อื ..................................................................
( นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี )
ครผู ู้สอน
ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นร้ขู อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................
ลงชอื่ ..................................................................
(นางปริยานชุ ภญิ ญศักดิ์)
ครูพ่เี ลย้ี ง
ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)
รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 52
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ค15101 กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 รูปส่เี หล่ียม จำนวน 24 ชัว่ โมง
เรอ่ื ง การหาพ้นื ที่ของรปู สเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู เวลา 1 ชว่ั โมง
ผูส้ อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วนั ที่……..เดอื น…………………………..พ.ศ……………
มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเก่ียวกบั การวัด วัดและคาดคะเนของสงิ่ ท่ีต้องการวัดและ
นำไปใช้
ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับความยาวรอบรูปของ
รูปสีเ่ หลีย่ มและพนื้ ทข่ี องรูปส่ีเหลย่ี มด้านขนานและรูปสเ่ี หล่ียมขนมเปยี กปูน
สาระสำคญั
พน้ื ที่ของรูปส่ีเหลยี่ มขนมเปียกปูน = ความสงู × ความยาวของฐาน
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เม่อื เรียนจบคาบนี้แลว้ นักเรยี นสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกคำตอบพืน้ ทขี่ องรปู สี่เหลีย่ มขนมเปียกปนู ที่กำหนดใหไ้ ด้อย่างถูกต้อง
2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงวิธีการหาพ้ืนที่ของรูปส่เี หล่ียมขนมเปียกปูนท่กี ำหนดให้ได้อย่างถกู ต้อง
3. ดา้ นคุณลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมวี ินัยในตนเอง
สาระการเรียนรู้
พ้นื ที่ของรปู ส่เี หล่ียม
กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ธิ ีการสอนแบบปกติ)
1. ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น
1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน จากนั้นแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ
1.2 ครแู นะนำใหน้ ักเรยี นว่าฐาน และสว่ นสูงของรปู สเ่ี หลีย่ มขนมเปียกปูน จะมีลกั ษณะ
เหมือนกันกบั รูปสีเ่ หล่ยี มดา้ นขนาน พร้อมกบั ตดิ แผนภาพรูปสี่เหล่ยี มประกอบการอธบิ าย วา่ เม่ือ
กำหนดดา้ นใดด้านหนึ่งของรูปสเ่ี หลีย่ มขนมเปยี กปูนใหเ้ ป็น ฐานสว่ นของเส้นตรงท่ีลากจากด้านท่ีอยู่
ตรงขา้ มกับฐาน มาตง้ั ฉากกบั ฐานหรือแนวของฐานเรยี กวา่ สว่ นสูง ความยาวของส่วนสงู เรียกวา่
ความสูงและใหน้ ักเรียนพจิ ารณาแผนภาพ แล้วชว่ ยกนั ระบุฐานและสว่ นสูงของรูปส่เี หล่ียมขนมเปียก
ปูนท้ัง 3 แบบ ดงั น้ี
1.3 ครอู ธิบายเพ่มิ เติมเกี่ยวกับการระบุส่วนสูงและฐานของรปู สี่เหล่ยี มABCD ว่าต้องใช้
ความรู้เก่ียวกับการวัดระยะห่างของเสน้ ขนานมาช่วยในการพจิ ารณา
2. ข้นั สอน
2.1 ครใู หน้ ักเรยี นพิจารณาการหาพ้ืนทขี่ องรูปส่ีเหลย่ี มขนมเปียกปูน โดยตดิ แผนภาพรูป
สเ่ี หลีย่ มด้านขนมเปียกปนู YMCK พร้อมการถาม-ตอบประกอบการอธิบาย ดังน้ี
กำหนดให้ K̅̅̅C̅เปน็ ฐาน ยาว 4 เซนตเิ มตร มี C̅Jเปน็ ส่วนสูง ยาว 4 เซนตเิ มตร
หาพื้นที่โดยการนบั ตารางได้ 16 ตารางเซนติเมตร
เมอ่ื ตัดรปู สี่เหลย่ี มด้านขนาน YMCK ตามแนว C̅Jแลว้ ตอ่ ให้เป็นรปู สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก
ดังรูป
พ้ืนทขี่ องรปู สี่เหลีย่ มดา้ นขนาน YMCK มีพื้นที่เท่ากบั พื้นที่ของรปู สเ่ี หลยี่ มจตั ุรัส HJCK
พืน้ ทีข่ องรปู สีเ่ หลย่ี มจัตุรสั = ความยาวของด้าน × ความยาวของด้าน
พื้นทข่ี องรูปส่เี หล่ยี มจตั รุ ัส HJCK = 4 × 4 ตารางเซนติเมตร
= 16 ตารางเซนตเิ มตร
ดังน้นั พ้นื ท่ขี องรปู สเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู YMCK = 16 ตารางเซนติเมตร
จากรูป พบว่า ความสงู และความยาวฐานของรปู ส่ีเหล่ยี มขนมเปียกปนู YMCKเท่ากบั
ความยาวด้านของรูปส่เี หลีย่ มจตั รุ ัส HJCK
ดงั น้นั พ้นื ทข่ี องรูปสเี่ หลยี่ มขนมเปียกปนู หาได้จากสูตรดังนี้
พ้ืนทข่ี องรูปสเ่ี หล่ียมขนมเปียกปนู = ความสูง × ความยาวของฐาน
2.2 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ และอภิปรายเกย่ี วกับข้ันตอนการหาพื้นที่ของรูปสี่เหล่ยี ม
ขนมเปยี กปูน วา่ ใชส้ ตู รเดยี วกนั กับพ้ืนท่ขี องรูปส่ีเหลีย่ มด้านขนานคือ ความสูง × ความยาวของฐาน
2.3 ครยู กตัวอย่างรปู สี่เหลยี่ มขนมเปียกปูน แลว้ ใหน้ กั เรียนหาพนื้ ทโ่ี ดยใช้สตู ร ดังน้ี
หาพื้นทขี่ องรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยี กปนู กขคง
กข
งค
วธิ ที ำ พน้ื ท่ขี องรปู ส่ีเหลี่ยมขนมเปียกปูน = ความสงู × ความยาวของฐาน
พื้นที่ของ กขคง = 3 × 4 ตารางเซนติเมตร
= 12 ตารางเซนตเิ มตร
ดงั นน้ั รูปสีเ่ หลี่ยมขนมเปียกปนู กขคง มีพื้นท่ี 12 ตารางเซนตเิ มตร
ตอบ 12 ตารางเซนตเิ มตร
3. ขน้ั สรุป
ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรยี น จากนั้นใหน้ ักเรยี นสรปุ ให้ได้ว่า
พนื้ ทขี่ องรูปสเี่ หลยี่ มขนมเปียกปูน= ความสูง × ความยาวของฐาน
4. ข้นั นำไปใช้
ครใู ห้นักเรยี นทดสอบความร้คู วามเข้าใจ โดยใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด 7.8 จากหนังสอื
แบบฝึกหดั รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
สอื่ การเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้
1. สอื่ การเรยี นรู้
1.1 หนงั สือเรยี นรายวชิ าคณติ ศาสตร์พื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนังสือแบบฝกึ หดั รายวิชาคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
2. แหลง่ การเรียนรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นอนุบาลอุดรธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พิมพ์คำวา่ รปู สเ่ี หล่ียม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พมิ พค์ ำวา่ รูปสีเ่ หล่ยี ม ป.5
การวัดผลและประเมนิ ผล
ส่ิงทีต่ ้องการวดั วธิ ี/เครื่องมือการวดั ผล เกณฑท์ ตี่ ้องการให้
ผ่าน
1. นักเรยี นสามารถบอกคำตอบพ้นื ทข่ี อง แบบฝกึ หัด 7.8 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70
รปู สีเ่ หลย่ี มขนมเปยี กปูนที่กำหนดใหไ้ ด้ ขึ้นไป
อย่างถูกต้อง (K)
2. นักเรียนสามารถเขียนแสดงวธิ กี ารหา แบบฝึกหดั 7.8 ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2
พื้นทขี่ องรูปสี่เหล่ียมขนมเปียกปูนท่ี ขน้ึ ไป
กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (P)
3. นกั เรียนแสดงพฤตกิ รรมความมวี ินยั แบบบนั ทึกการสงั เกต ผ่านเกณฑร์ ะดับ 2
ในตนเอง (A) พฤติกรรมนกั เรียน ขนึ้ ไป
บันทกึ ผลหลังการสอน
ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................... .............................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ..................................................................
( นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี )
ครผู ูส้ อน
ความคดิ เห็นของครูพเี่ ลีย้ ง
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................
ลงชื่อ..................................................................
(นางปรยิ านชุ ภิญญศักดิ์)
ครูพี่เลีย้ ง
ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหาร/ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แล้ว มีความเห็นดังน้ี
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. .....................
ลงชอ่ื ..............................................................
(นายสุชาติ เขม็ ทอง)
รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 53
รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 รูปสี่เหลยี่ ม จำนวน 24 ชว่ั โมง
เรือ่ ง การหาพ้ืนที่ของรูปหลายเหลี่ยม เวลา 1 ชั่วโมง
ผสู้ อน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วันท่ี……..เดอื น…………………………..พ.ศ……………
มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้ืนฐานเก่ียวกบั การวดั วดั และคาดคะเนของสิง่ ทตี่ ้องการวดั และ
นำไปใช้
ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรูปของ
รปู สีเ่ หลีย่ มและพื้นทข่ี องรูปสี่เหล่ยี มดา้ นขนานและรปู สเี่ หล่ยี มขนมเปียกปนู
สาระสำคญั
การหาพน้ื ที่ของรูปหลายเหล่ยี ม โดยใช้ความรเู้ กยี่ วกบั การหาพื้นทข่ี องรปู สเ่ี หล่ยี มด้านขนาน
ทำไดโ้ ดยการนำรปู หลายเหลีย่ มมาต่อกนั ใหเ้ ปน็ รูปสเ่ี หลี่ยมดา้ นขนาน หรือแบ่งรปู หลายเหลย่ี มให้
เปน็ รปู สเ่ี หลย่ี มดา้ นขนาน แล้วจึงหาพน้ื ท่จี ากรูปส่เี หล่ยี มด้านขนานน้นั
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เมื่อเรียนจบคาบน้ีแล้วนักเรียนสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกคำตอบพนื้ ท่ขี องรูปหลายเหลี่ยมทกี่ ำหนดให้ได้อย่างถกู ต้อง
2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
เขยี นแสดงวิธีการหาพื้นที่ของรปู หลายเหลีย่ มท่กี ำหนดใหไ้ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง
3. ด้านคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมีวินัยในตนเอง
สาระการเรียนรู้
พ้นื ทขี่ องรูปส่ีเหลี่ยม
กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใช้วธิ ีการสอนแบบปกติ)
1. ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรียน
1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนักเรียน จากน้ันแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ ักเรียนทราบ
1.2 ครทู บทวนการหาพืน้ ท่ีของรปู สีเ่ หล่ยี มดา้ นขนาน โดยยกตัวอยา่ งรูปสี่เหลีย่ มด้าน
ขนานแล้วใหน้ ักเรยี นหาพน้ื ท่ีโดยใช้สูตร ดังนี้
หาพนื้ ทข่ี องรปู ส่ีเหลีย่ มดา้ นขนาน กขคง
กข
ง = ควคามสงู × ความยาวของฐาน
วธิ ีทำ พ้ืนท่ีของรปู ส่ีเหลี่ยมดา้ นขนาน
พ้นื ที่ของ กขคง = 2.8 × 3.5 ตารางเมตร
= 9.8 ตารางเมตร
ดังน้ัน รูปสี่เหลยี่ มดา้ นขนานกขคง มีพ้นื ท่ี 9.8 ตารางเมตร
ตอบ 9.8 ตารางเมตร
1.3 ครวู าดรปู ส่เี หลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหลยี่ มขนมเปียกปนู อีก 2-3 ข้อ โดยมลี ักษณะ
ของความสงู และฐานแตกต่างกนั แลว้ ให้นักเรียนฝึกหาพื้นท่ี
2. ข้ันสอน
2.1 ครตู ิดแผนภาพรูปสี่เหล่ยี มคางหมู กขคง แล้วให้นักเรียนพิจารณา ว่าเป็นรปู สี่เหล่ยี ม
ชนดิ ใด เพราะเหตุใด แลว้ รว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกบั การหาพืน้ ทข่ี องรปู ส่เี หล่ียมดงั กลา่ วโดยใชค้ วามรู้
เกยี่ วกบั การหาพ้นื ท่ีของรปู ส่ีเหลย่ี มดา้ นขนาน โดยครใู ชก้ ารถาม-ตอบประกอบการอธิบายเกย่ี วกับ
การหาพืน้ ทขี่ องรปู ส่เี หล่ียมคางหมู ดงั น้ี
พจิ ารณาการหาพ้ืนท่ขี อง กขคง ท่มี ี ข̅ค // ก̅ง และห่างกนั 2 หนว่ ย
นำรูปสเ่ี หลย่ี มทมี่ ีขนาดเทา่ กับ รูปส่ีเหล่ียมกขคง มาวางชิดติดกัน ดงั รูป
จะได้ รูปสเี่ หลีย่ มดา้ นขนาน กขจฉ มีฐานยาว 8 หนว่ ย สงู 2 หนว่ ย
และมีพน้ื ทเ่ี ป็น 2 เท่าของรปู สเ่ี หลยี่ ม กขคง หรือ กขคง
มีพนื้ ท่ีเป็น 1ของพน้ื ที่ของกขจฉ
2
เนอ่ื งจาก กขจฉ มีพื้นท่ี 2 × 8 = 16 ตารางหนว่ ย
ดงั น้ัน กขคง มีพน้ื ท่ี 1 × 16 = 8 ตารางหน่วย
2
ซ่ึงจะไดว้ า่ พื้นท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมคางหมู กขคง เป็นคร่งึ หน่ึงของพ้ืนที่ของรูปสเ่ี หลย่ี ม
ดา้ นขนาน กขจฉ
2.2 ครตู ดิ แผนภาพรูปสเ่ี หลยี่ มคางหมทู ี่มมี ุมฉาก 2 มมุ ดงั รูป พรอ้ มทัง้ แนะนำนักเรยี น
เกี่ยวกบั วิธกี ารหาพน้ื ที่ ว่าสามารถทำได้หลายวธิ ี เชน่
วธิ ที ี่ 1 นำรูปมาต่อกันให้เป็นรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉาก
วธิ ีท่ี 2นำรปู มาต่อกนั ให้เป็นรูปสเี่ หลยี่ มด้านขนาน
2.3 ครใู หน้ กั เรียนนำเสนอวิธคี ดิ ท่ีแตกตา่ งกันพรอ้ มอธบิ ายเหตุผล และครูคอยอธิบายวิธีคดิ อื่น
ที่แตกตา่ งจากวิธีคิดของนักเรียนเพื่อให้เหน็ วธิ คี ิดที่หลากหลาย
2.4 ครยู กตวั อยา่ งรูปหลายเหล่ยี ม โดยตดิ แผนภาพบนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นนำเสนอวธิ ีคดิ ที่
แตกตา่ งกนั พร้อมอธิบายเหตุผล และครคู วรอธบิ ายวธิ ีคดิ อื่นทีแ่ ตกต่างจากวธิ คี ิดของนักเรยี นเพอ่ื ใหเ้ ห็นวิธคี ิดท่ี
หลากหลายดังน้ี
พจิ ารณาการหาพ้นื ทข่ี องรปู ที่กำหนด
4 ซม.
3 ซม.
จะเหน็ ว่ารปู ท่ีกำหนดให้ เป็นรปู ที่ประกอบดว้ ยรูปสี่เหลย่ี มขนมเปยี กปนู
ทมี่ ีฐานยาว 4 เซนตเิ มตรและ สูง 3 เซนตเิ มตร จำนวน 6 รูป
รูปสเ่ี หล่ยี มขนมเปยี กปนู 1 รูป มพี นื้ ที่ 3 × 4 = 12 ตารางเซนติเมตร
ดงั นนั้ พน้ื ที่ของรูปทีก่ ำหนด จะหาได้จาก
6× พื้นทข่ี องรูปสเี่ หลย่ี มขนมเปียกปูน 1 รปู
ดังนนั้ รูปทก่ี ำาหนดใหม้ พี ืน้ ที่ 6 × 12 = 72 ตารางเซนติเมตร
3. ข้นั สรุป
ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปบทเรยี น จากน้ันให้นักเรยี นสรุปใหไ้ ดว้ า่
การหาพื้นที่ของรูปหลายเหล่ยี ม โดยใช้ความรเู้ กี่ยวกบั การหาพน้ื ทีข่ องรปู สเี่ หลยี่ มดา้ นขนาน
ทำไดโ้ ดยการนำรปู หลายเหลี่ยมมาต่อกันให้เปน็ รปู สเี่ หลี่ยมดา้ นขนาน หรอื แบ่งรูปหลายเหลยี่ มใหเ้ ปน็
รูปสเ่ี หล่ยี 4ม.ดข้าน้ั นนขำนไาปนใชแ้ลว้ จงึ หาพื้นที่จากรปู สี่เหลีย่ มดา้ นขนานนัน้
ครใู ห้นักเรยี นทดสอบความรู้ความเขา้ ใจ โดยใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัด 7.9 จากหนังสือ
แบบฝึกหดั รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้
1. สอ่ื การเรยี นรู้
1.1 หนงั สือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนังสอื แบบฝึกหัดรายวิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นอนุบาลอดุ รธานี
2.2 เว็บไซต์ www.google.com พมิ พ์คำว่า รูปสี่เหลี่ยม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พมิ พ์คำว่า รปู สีเ่ หลี่ยม ป.5