The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 7 รูปสี่เหลียม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuamme.20, 2022-02-02 09:52:13

บทที่ 7 รูปสี่เหลียม

บทที่ 7 รูปสี่เหลียม

การวัดผลและประเมนิ ผล วิธ/ี เคร่ืองมือการวัดผล เกณฑ์ท่ตี อ้ งการให้
สงิ่ ท่ตี ้องการวัด ผ่าน

1. นกั เรียนสามารถบอกคำตอบพนื้ ทขี่ อง แบบฝึกหัด 7.9 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70
ข้นึ ไป
รูปหลายเหลี่ยมทีก่ ำหนดให้ได้อย่าง
ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
ถกู ต้อง (K) ขึ้นไป

2. นกั เรียนสามารถเขียนแสดงวิธีการหา แบบฝึกหัด 7.9 ผ่านเกณฑ์ระดับ 2
ขน้ึ ไป
พ้นื ท่ขี องรูปหลายเหลี่ยมทก่ี ำหนดใหไ้ ด้

อยา่ งถูกต้อง (P)

3. นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมความมวี ินัย แบบบันทึกการสังเกต

ในตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรยี น

บนั ทกึ ผลหลังการสอน

ผลการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ปญั หาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ..................................................................
( นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี )
ครูผ้สู อน

ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นร้ขู อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเห็นดงั นี้
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางปริยานชุ ภิญญศักด์ิ)
ครูพ่เี ลย้ี ง

ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเห็นดงั นี้
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชื่อ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 54

รายวิชาคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 รปู ส่เี หล่ยี ม จำนวน 24 ชัว่ โมง

เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรปู ของรปู สเี่ หลย่ี ม เวลา 1 ชั่วโมง

ผู้สอน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วนั ที่……..เดอื น…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกบั การวัด วดั และคาดคะเนของสิ่งท่ตี ้องการวัดและ

นำไปใช้
ตัวช้วี ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรปู ของ

รูปสีเ่ หลย่ี มและพน้ื ที่ของรปู สี่เหลยี่ มด้านขนานและรปู สเ่ี หล่ียมขนมเปยี กปูน
สาระสำคญั

การแก้โจทย์ปัญหาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรูปของรูปส่เี หลี่ยมอาจใช้กระบวนการแก้ปัญหา
ตามขัน้ ตอน ดังน้ี

ขน้ั ท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา
ขัน้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา
ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน
ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เม่ือเรียนจบคาบนแ้ี ล้วนกั เรียนสามารถ
1. ด้านความรู้ (K)
บอกคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หลีย่ มที่กำหนดให้

ได้อยา่ งถูกต้อง

2. ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
เขยี นแสดงวธิ กี ารหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลย่ี มท่ี

กำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง

3. ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี นิ ัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
โจทยป์ ญั หารูปส่ีเหลี่ยม

กิจกรรมการเรียนรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
1.1 ครกู ล่าวทกั ทายนักเรียน จากนน้ั แจง้ จุดประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
1.2 ครนู ำสถานการณป์ ัญหา ใหน้ ักเรียนรว่ มกันพิจารณาแล้วใช้การถาม-ตอบ

ประกอบการอธิบายตามขั้นตอนการแกป้ ัญหา ดงั นี้
พจิ ารณาการแก้โจทยป์ ัญหา

แปลงไม้ดอกรปู สี่เหลย่ี มขนมเปียกปนู ยาวด้านละ 6 เมตร
ถา้ ใชต้ าข่ายล้อมแปลงไม้ดอกนี้ จะตอ้ งใช้ตาข่ายยาวเท่าใด

1.3 ครสู นทนากบั นกั เรยี น แลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกันตอบคำถาม ดงั น้ี
1.3.1 สง่ิ ทโ่ี จทยถ์ าม ความยาวของตาขา่ ยทใี่ ช้ลอ้ มแปลงไมด้ อก
1.3.2 ส่งิ ที่โจทยบ์ อก แปลงไมด้ อกเป็นรปู สเี่ หล่ยี มขนมเปียกปูน
ยาวด้านละ 6 เมตร

2. ขน้ั สอน
2.1 ครถู ามตอ่ ว่า เราสามารถหาความยาวของตาข่ายทีใ่ ช้ล้อมแปลงไมด้ อก ได้อย่างไร

(ควรแนะนำให้นกั เรียนวาดรูปประกอบการคดิ เพื่อช่วยในการวางแผนแก้ปัญหา)

หาความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู
โดยนำความยาวของดา้ นทุกด้านมารวมกัน
ซ่ึงรูปส่เี หล่ยี มขนมเปียกปนู มีดา้ นทุกดา้ นยาวเท่ากัน
จงึ อาจหาความยาวรอบรปู ได้จาก 4 × ความยาวของด้าน
ความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หล่ียมขนมเปยี กปนู = 4 × ความยาวของด้าน
นน่ั คือ ความยาวรอบแปลงไม้ดอก 4 × 6 = 24 เมตร
ดังน้นั ตอ้ งใชต้ าข่ายยาว 24 เมตร
2.2 ตรวจสอบไดอ้ ยา่ งไรว่า 24 เมตร เปน็ คำตอบท่ีถูกต้อง
พจิ ารณาการแกโ้ จทยป์ ัญหาโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลย่ี ม
ต้องหาว่า รปู ส่เี หล่ียมขนมเปียกปูน มคี วามยาวดา้ นละเท่าใด
ซง่ึ หาไดจ้ าก 24 ÷ 4 = 6 เมตร พบว่าสอดคล้องกบั โจทย์
แสดงว่า 24เมตร เปน็ คำตอบทถี่ ูกต้อง

2.3 ควรแนะนำให้นกั เรียนวาดรปู ประกอบการคิดเพ่ือช่วยในการวางแผนแก้ปัญหา และ
ควรย้ำให้นักเรยี นตรวจสอบความถกู ต้องหรือพจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบทุกคร้ัง โดยอาจ
ใช้เครอื่ งคดิ เลขช่วยในการคำนวณ

2.4 ครยู กตวั อย่างโจทย์ให้นักเรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ปญั หาจากตวั อยา่ ง และเขียนรปู
ครา่ ว ๆ ประกอบ จากนัน้ ใชก้ ารซักถามเพ่ือนำไปสกู่ ารวางแผนแก้ปญั หาแลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ งหรอื พิจารณาความสมเหตุของคำตอบ ดังน้ี

แอนนำเชือกยาว 66 เมตร มาลอ้ มพืน้ ท่สี นามเปน็ รูปสีเ่ หลี่ยมด้านขนาน ใหด้ ้านทีอ่ ยู่
ตรงขา้ มกันคู่หนง่ึ ยาวดา้ นละ 15 เมตร ด้านท่ีอยตู่ รงข้ามกันอีกคหู่ น่ึงยาวด้านละเท่าไร

15 ม. 15 ม.

วธิ คี ิด เชอื กยาว 66 เมตร
ดา้ นทอ่ี ยตู่ รงขา้ มกนั คหู่ น่งึ ใชเ้ ชือกยาว 2 × 15 = 30 เมตร
เเสดงว่า ด้านทีอ่ ยตู่ รงข้ามกนั อีกคหู่ น่ึงใช้เชือกยาว 66 − 30 = 36 เมตร
ดังน้ัน ดา้ นทีอ่ ยู่ตรงข้ามกันอีกคูห่ นึง่ ยาวดา้ นละ36÷ 2 = 18 เมตร

ตอบ 18 เมตร
3. ขั้นสรปุ

ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปบทเรียน จากนน้ั ให้นักเรยี นสรุปให้ไดว้ ่า

การแกโ้ จทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหล่ียมอาจใช้กระบวนการแกป้ ัญหา
ตามข้นั ตอน ดังน้ี

ขน้ั ที่ 1 ทำความเข้าใจปญั หา
ขั้นท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา
ขั้นที่ 3 ดำเนินการตามแผน
ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบ

4. ขน้ั นำไปใช้
ครใู หน้ ักเรียนทดสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ โดยใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหดั 7.10 จากหนังสือ

แบบฝึกหดั รายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
สอ่ื การเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้

1. สื่อการเรยี นรู้
1.1 หนงั สอื เรียนรายวชิ าคณติ ศาสตร์พื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนงั สือแบบฝึกหดั รายวชิ าคณติ ศาสตร์พื้นฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 ห้องสมุดโรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พมิ พ์คำวา่ รูปส่ีเหลยี่ ม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พิมพค์ ำวา่ รปู สี่เหล่ยี ม ป.5

การวดั ผลและประเมินผล วิธ/ี เคร่อื งมือการวดั ผล เกณฑท์ ีต่ อ้ งการให้
สง่ิ ทีต่ ้องการวดั แบบฝึกหดั 7.10 ผ่าน

1. นักเรยี นสามารถบอกคำตอบของโจทย์ แบบฝึกหัด 7.10 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ปัญหาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปของรูป ขึ้นไป
สี่เหลย่ี มทก่ี ำหนดให้ได้อย่างถูกตอ้ ง(K) แบบบันทึกการสงั เกต
2. นกั เรยี นสามารถเขยี นแสดงวธิ กี ารหา พฤติกรรมนักเรยี น ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2
คำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาว ข้นึ ไป
รอบรปู ของรูปสเี่ หลยี่ มที่กำหนดให้ได้อย่าง
ถกู ต้อง (P) ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
3. นักเรยี นแสดงพฤตกิ รรมความมีวินยั ใน ขึน้ ไป
ตนเอง (A)

บันทึกผลหลังการสอน

ผลการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................... ............................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................... .................
................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงชอ่ื ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี)
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของครูพ่เี ล้ียง

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางปรยิ านุช ภญิ ญศักด์ิ)
ครูพเ่ี ลี้ยง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 55

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 รปู ส่ีเหลยี่ ม จำนวน 24 ชั่วโมง

เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั พ้นื ทข่ี องรปู ส่ีเหลยี่ มด้านขนาน (1) เวลา 1 ชัว่ โมง

ผ้สู อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันท…่ี …..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวดั วัดและคาดคะเนของสิง่ ที่ต้องการวดั และ

นำไปใช้
ตัวชว้ี ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรปู ของ

รปู สีเ่ หล่ียมและพนื้ ทข่ี องรปู ส่ีเหลีย่ มดา้ นขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยี กปนู
สาระสำคญั

การแก้โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรปู ของรปู สีเ่ หลยี่ มอาจใชก้ ระบวนการแก้ปัญหา
ตามขั้นตอน ดงั นี้

ข้นั ท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา
ขั้นท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา
ขั้นท่ี 3 ดำเนินการตามแผน
ข้ันที่ 4 ตรวจสอบ
จุดประสงค์การเรยี นรู้ เม่อื เรียนจบคาบนี้แล้วนักเรียนสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับพื้นทีข่ องรปู สีเ่ หลี่ยมด้านขนานที่กำหนดให้

ได้อยา่ งถูกต้อง

2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
เขยี นแสดงวิธกี ารหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั พนื้ ทข่ี องรูปส่เี หล่ียมดา้ นขนาน

ท่กี ำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง

3. ด้านคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมีวนิ ัยในตนเอง

สาระการเรียนรู้
โจทยป์ ญั หารปู สี่เหล่ยี ม

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1.1 ครกู ลา่ วทักทายนกั เรียน จากนน้ั แจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้นกั เรยี นทราบ
1.2 ครนู ำสถานการณ์ปญั หา ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั พิจารณาแลว้ ใช้การถาม-ตอบ

ประกอบการอธบิ ายตามขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา ดงั นี้
พจิ ารณาการเเก้โจทย์ปัญหา

แผน่ ป้ายเตอื นแนวทางมีลักษณะและขนาด ดงั รูป
ส่วนทเ่ี ปน็ สดี ำสามารถแบ่งเป็นรปู ส่ีเหลี่ยมดา้ นขนาน
ที่มีขนาดเท่ากัน 2 รูป ส่วนที่เปน็ สีดำมพี นื้ ท่ีเทา่ ใด

1.3 ครสู นทนากับนกั เรยี น แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตอบคำถาม ดังนี้
1.3.1 สิง่ ท่โี จทยถ์ าม พ้ืนท่สี ว่ นทเ่ี ปน็ สดี ำ
1.3.2 ส่ิงทโี่ จทย์บอก สว่ นท่ีเป็นสีดำสามารถแบง่ เป็นรปู สีเ่ หลีย่ มด้านขนาน
ขนาดเดียวกัน 2 รปู แต่ละรปู มฐี านยาว 27 เซนติเมตร
และผลรวมของความสูงของท้ังสองรปู เปน็ 68 เซนตเิ มตร

2. ขนั้ สอน
2.1 ครถู ามต่อวา่ เราสามารถหาคำตอบ ได้อย่างไร

(ควรแนะนำใหน้ กั เรยี นวาดรูปประกอบการคดิ เพ่อื ช่วยในการวางแผนแก้ปัญหา)
เนอื่ งจากสว่ นทีเ่ ปน็ สดี ำสามารถแบ่งเป็นรูปส่เี หลี่ยมดา้ นขนาน
ขนาดเดยี วกัน 2 รปู โดยแตล่ ะรปู มฐี านยาว 27 เซนตเิ มตร และ
ผลรวมของความสงู ของทง้ั สองรปู เปน็ 68 เซนตเิ มตร
แสดงว่าแตล่ ะรปู มีความสงู 68 ÷ 2 = 34 เซนตเิ มตร

พืน้ ท่ขี องรปู ส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
รูปสีเ่ หล่ียมด้านขนาน 1 รปู มีพ้ืนที่ 34 × 27 = 918 ตารางเซนติเมตร
รูปสี่เหลี่ยมดา้ นขนาน 2 รูป มีพน้ื ท่ี 2 × 918 = 1,836 ตารางเซนติเมตร
ดงั นน้ั สว่ นท่ีเปน็ สีดำมพี นื้ ที่ 1,836 ตารางเซนติเมตร
2.2 ตรวจสอบไดอ้ ย่างไรวา่ 1,836 ตารางเซนติเมตรเป็นคำตอบทถี่ กู ต้อง
รูปส่เี หล่ียมดา้ นขนาน 1 รปู มีฐานยาวประมาณ 30 ซม. เเละสูงประมาณ 30 ซม.
จะได้วา่ รปู ส่ีเหลีย่ มดา้ นขนาน 1 รูป มพี น้ื ทปี่ ระมาณ 30 × 30 = 900 ตร.ซม.

60 ซม. ดังน้ัน ส่วนท่ีเป็นสดี ำมพี ้นื ท่ีประมาณ 2 × 900 = 1,800 ตร.ซม.
ซึง่ ใกล้เคยี ง 1,836 ตร.ซม. แสดงว่า 1,836 ตร.ซม. เป็นคำตอบทีส่ มเหตสุ มผล
2.3 ครแู นะนำใหน้ ักเรียนวาดรูปประกอบการคดิ เพ่ือช่วยในการวางแผนแกป้ ญั หา และ
ควรยำ้ ใหน้ กั เรยี นตรวจสอบความถูกต้องหรือพจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบทุกครั้ง โดยอาจ
ใช้เครือ่ งคดิ เลขช่วยในการคำนวณ
2.4 ครยู กตวั อยา่ งโจทย์ให้นกั เรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ปญั หาจากตัวอย่าง และเขยี นรปู
คร่าว ๆ ประกอบ จากนน้ั ใชก้ ารซักถามเพ่ือนำไปส่กู ารวางแผนแกป้ ญั หาแล้วใหน้ ักเรยี นช่วยกัน
ตรวจสอบความถูกต้องหรอื พิจารณาความสมเหตุของคำตอบ ดงั นี้

ไม้อดั แผ่นหน่ึงเปน็ รูปสีเ่ หล่ยี มดา้ นขนานมฐี านยาว 110 เซนติเมตร และสูง 60
เซนติเมตร

ตอ้ งการทาวสิธไี ีคมิดอ้ ัดทง้ั สองดา้ น สว่ นทที่ าสคี ิดเป็นพืน้ ทเ่ี ทา่ ไร

พ้นื ทข่ี องรูปส่เี หลย่ี มด้านขนาน 1=10ควซามม. สูง × ความยาวของฐาน
ไม้อัด 1 ด้าน มีพื้นท่ี 60 × 110 = 6,600 ตารางเซนติเมตร
ดังนั้น สว่ นท่ที าสคี ิดเปน็ พนื้ ที่ 2 × 6,600 = 13,200 ตารางเซนติเมตร
ตอบ 13,200 ตารางเซนตเิ มตร
3. ข้นั สรุป
ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปบทเรียน จากน้ันใหน้ ักเรียนสรปุ ใหไ้ ด้วา่

การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปของรปู สเี่ หลย่ี มอาจใช้กระบวนการแกป้ ัญหา
ตามข้ันตอน ดงั น้ี

ขั้นที่ 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา
ขั้นท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา
ข้นั ที่ 3 ดำเนินการตามแผน
ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบ

4. ขน้ั นำไปใช้
ครใู ห้นักเรยี นทดสอบความรู้ความเข้าใจ โดยใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั 7.11 จากหนังสือ

แบบฝึกหดั รายวิชาคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
ส่อื การเรยี นร้แู ละแหล่งการเรียนรู้

1. สื่อการเรียนรู้
1.1 หนงั สือเรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.2 หนังสือแบบฝึกหัดรายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 หอ้ งสมุดโรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี
2.2 เว็บไซต์ www.google.com พมิ พ์คำว่า รูปส่ีเหลย่ี ม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พมิ พ์คำว่า รูปสี่เหลีย่ ม ป.5

การวดั ผลและประเมินผล วิธี/เครอ่ื งมอื การวดั ผล เกณฑท์ ่ีตอ้ งการให้
ส่งิ ทตี่ ้องการวัด ผา่ น

1. นกั เรยี นสามารถบอกคำตอบของ แบบฝึกหดั 7.11 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
ขึ้นไป
โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั พืน้ ทีข่ องรปู สีเ่ หลย่ี มด้าน
ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2
ขนานที่กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (K) ข้นึ ไป

2. นกั เรียนสามารถเขยี นแสดงวิธกี ารหา แบบฝกึ หัด 7.11 ผา่ นเกณฑ์ระดบั 2
ขน้ึ ไป
คำตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกับพน้ื ท่ีของ

รูปส่เี หลี่ยมด้านขนานท่ีกำหนดให้

ได้อย่างถูกต้อง (P)

3. นกั เรียนแสดงพฤตกิ รรมความมวี นิ ัยใน แบบบันทกึ การสังเกต

ตนเอง (A) พฤติกรรมนกั เรียน

บนั ทึกผลหลังการสอน

ผลการจัดการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี)
ครผู ้สู อน

ความคดิ เหน็ ของครพู ีเ่ ลย้ี ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชื่อ..................................................................
(นางปรยิ านชุ ภิญญศกั ดิ์)
ครพู ีเ่ ลยี้ ง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 56

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 รปู ส่ีเหลยี่ ม จำนวน 24 ช่วั โมง

เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั พ้นื ทข่ี องรปู ส่ีเหลยี่ มด้านขนาน (2) เวลา 1 ชัว่ โมง

ผ้สู อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วดั และคาดคะเนของสง่ิ ทต่ี ้องการวดั และ

นำไปใช้
ตัวชว้ี ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรปู ของ

รปู สีเ่ หล่ียมและพนื้ ทข่ี องรปู ส่ีเหลีย่ มดา้ นขนานและรปู สีเ่ หลย่ี มขนมเปียกปูน
สาระสำคญั

การแก้โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรปู ของรูปส่เี หลี่ยมอาจใช้กระบวนการแกป้ ัญหา
ตามขั้นตอน ดงั นี้

ข้นั ท่ี 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา
ขั้นท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา
ขั้นท่ี 3 ดำเนินการตามแผน
ข้ันที่ 4 ตรวจสอบ
จุดประสงค์การเรยี นรู้ เม่อื เรียนจบคาบนี้แล้วนักเรียนสามารถ
1. ดา้ นความรู้ (K)
บอกคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับพื้นทีข่ องรปู ส่ีเหลี่ยมด้านขนานทกี่ ำหนดให้

ได้อยา่ งถูกต้อง

2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
เขยี นแสดงวิธกี ารหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกีย่ วกับพ้ืนท่ีของรปู สี่เหลี่ยมดา้ นขนาน

ท่กี ำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง

3. ด้านคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมีวนิ ัยในตนเอง

สาระการเรียนรู้
โจทยป์ ญั หารปู สี่เหล่ยี ม

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1.1 ครกู ลา่ วทักทายนกั เรียน จากนน้ั แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้นกั เรยี นทราบ
1.2 ครนู ำสถานการณ์ปญั หา ให้นกั เรยี นร่วมกนั พิจารณาแลว้ ใช้การถาม-ตอบ

ประกอบการอธบิ ายตามขน้ั ตอนการแก้ปญั หา ดงั นี้
พจิ ารณาการเเก้โจทยป์ ัญหา

แผน่ ป้ายเตอื นแนวทางมีลักษณะและขนาด ดงั รูป
ส่วนทเ่ี ปน็ สดี ำสามารถแบ่งเป็นรปู ส่เี หลี่ยมดา้ นขนาน
ที่มีขนาดเท่ากัน 2 รูป ส่วนทีเ่ ปน็ สดี ำมพี นื้ ท่ีเทา่ ใด

1.3 ครสู นทนากับนกั เรียน แล้วให้นักเรียนชว่ ยกันตอบคำถาม ดังนี้
1.3.1 สิง่ ท่โี จทยถ์ าม พน้ื ท่สี ว่ นท่ีเป็นสดี ำ
1.3.2 ส่ิงทโี่ จทย์บอก ส่วนท่ีเป็นสีดำสามารถแบง่ เป็นรปู สเ่ี หลีย่ มด้านขนาน
ขนาดเดียวกนั 2 รปู แต่ละรปู มฐี านยาว 27 เซนติเมตร
และผลรวมของความสูงของท้ังสองรปู เปน็ 68 เซนตเิ มตร

2. ขนั้ สอน
2.1 ครถู ามต่อวา่ เราสามารถหาคำตอบ ไดอ้ ย่างไร

(ควรแนะนำใหน้ กั เรยี นวาดรูปประกอบการคดิ เพ่อื ชว่ ยในการวางแผนแก้ปัญหา)
เนอื่ งจากสว่ นทีเ่ ปน็ สดี ำสามารถแบ่งเปน็ รูปส่เี หลี่ยมดา้ นขนาน
ขนาดเดยี วกัน 2 รปู โดยแตล่ ะรปู มฐี านยาว 27 เซนตเิ มตร และ
ผลรวมของความสงู ของทัง้ สองรปู เปน็ 68 เซนตเิ มตร
แสดงว่าแตล่ ะรปู มีความสูง 68 ÷ 2 = 34 เซนตเิ มตร

พืน้ ท่ขี องรปู ส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
รูปสีเ่ หล่ียมด้านขนาน 1 รูป มีพ้ืนที่ 34 × 27 = 918 ตารางเซนติเมตร
รูปสี่เหลี่ยมดา้ นขนาน 2 รูป มีพน้ื ท่ี 2 × 918 = 1,836 ตารางเซนติเมตร
ดงั น้ัน สว่ นท่ีเปน็ สดี ำมพี นื้ ท่ี 1,836 ตารางเซนติเมตร
2.2 ตรวจสอบไดอ้ ย่างไรวา่ 1,836 ตารางเซนติเมตรเป็นคำตอบทถี่ กู ต้อง
รูปส่เี หล่ียมดา้ นขนาน 1 รปู มีฐานยาวประมาณ 30 ซม. เเละสูงประมาณ 30 ซม.
จะได้วา่ รปู ส่ีเหล่ยี มดา้ นขนาน 1 รูป มีพน้ื ทปี่ ระมาณ 30 × 30 = 900 ตร.ซม.

ดังนั้น ส่วนทีเ่ ป็นสีดำมพี ้ืนท่ีประมาณ 2 × 900 = 1,800 ตร.ซม.
ซึง่ ใกลเ้ คียง 1,836 ตร.ซม. แสดงวา่ 1,836 ตร.ซม. เปน็ คำตอบท่สี มเหตุสมผล
2.3 ครแู นะนำให้นักเรียนวาดรูปประกอบการคดิ เพื่อชว่ ยในการวางแผนแกป้ ญั หา และ
ควรยำ้ ใหน้ ักเรียนตรวจสอบความถูกต้องหรือพิจารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบทุกคร้งั โดยอาจ
ใชเ้ คร่ืองคดิ เลขช่วยในการคำนวณ
2.4 ครยู กตวั อย่างโจทย์ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ปญั หาจากตัวอย่าง และเขียนรปู
ครา่ ว ๆ ประกอบ จากนนั้ ใชก้ ารซกั ถามเพ่ือนำไปสู่การวางแผนแก้ปัญหาแล้วให้นักเรียนช่วยกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ งหรอื พิจารณาความสมเหตุของคำตอบ ดังนี้

ไมอ้ ัดแผน่ หน่งึ เปน็ รูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนานมฐี านยาว 110 เซนตเิ มตร และสูง 60 เซนติเมตร
ตอ้ งการทาสไี มอ้ ัดทั้งสองดา้ น ส่วนที่ทาสีคิดเป็นพื้นท่ีเทา่ ไร

วธิ ีคิด

60
ซม.

110 ซม.

พ้นื ทขี่ องรปู สีเ่ หลีย่ มดา้ นขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
ไม้อัด 1 ดา้ น มีพื้นท่ี 60 × 110 = 6,600 ตารางเซนติเมตร
ดังนน้ั ส่วนทีท่ าสีคดิ เปน็ พ้ืนที่ 2 × 6,600 = 13,200 ตารางเซนติเมตร
ตอบ 13,200 ตารางเซนตเิ มตร
3. ขัน้ สรปุ
ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปบทเรียน จากนั้นให้นักเรยี นสรุปให้ไดว้ ่า

การแกโ้ จทย์ปัญหาเกีย่ วกับความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หลี่ยมอาจใชก้ ระบวนการแกป้ ญั หา
ตามขัน้ ตอน ดังน้ี

ขน้ั ที่ 1 ทำความเขา้ ใจปญั หา
ขนั้ ที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา
ขน้ั ที่ 3 ดำเนนิ การตามแผน
ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบ

4. ขนั้ นำไปใช้
ครูให้นกั เรยี นทดสอบความรู้ความเขา้ ใจ โดยให้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั 7.11 จากหนังสือ

เรียนรายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
ส่อื การเรียนรู้และแหลง่ การเรยี นรู้

1. สือ่ การเรยี นรู้
1.1 หนงั สือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.2 หนังสือแบบฝกึ หดั รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)

2. แหล่งการเรยี นรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรียนอนุบาลอดุ รธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พมิ พ์คำว่า รูปส่ีเหลย่ี ม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พิมพ์คำวา่ รปู สเี่ หล่ยี ม ป.5

การวดั ผลและประเมินผล

สง่ิ ทต่ี ้องการวดั วธิ /ี เคร่ืองมือการวดั ผล เกณฑ์ทตี่ ้องการใหผ้ ่าน
ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70
1. นักเรยี นสามารถบอกคำตอบของ แบบฝึกหัด 7.11 ข้ึนไป

โจทย์ปัญหาเก่ียวกับพ้นื ท่ขี องรปู สีเ่ หลย่ี มดา้ น ผ่านเกณฑ์ระดับ 2
ข้นึ ไป
ขนานท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (K)
ผ่านเกณฑร์ ะดับ 2
2. นักเรยี นสามารถเขยี นแสดงวธิ ีการหา แบบฝกึ หดั 7.11 ข้นึ ไป

คำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับพื้นท่ีของ

รปู สี่เหลย่ี มดา้ นขนานท่ีกำหนดให้

ได้อยา่ งถูกต้อง (P)

3. นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมความมีวินยั ใน แบบบนั ทึกการสงั เกต

ตนเอง (A) พฤติกรรมนกั เรยี น

บันทึกผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................ ........................
.......................................................................................................... ......................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชอ่ื ..................................................................
(นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี)
ครผู สู้ อน

ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นร้ขู อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มีความเหน็ ดงั นี้
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
......................................................................................................... .........................................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางปริยานชุ ภิญญศักด์ิ)
ครูพเี่ ลี้ยง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 57

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์

ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 รูปส่ีเหลยี่ ม จำนวน 24 ชวั่ โมง

เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพืน้ ทข่ี องรูปสี่เหลยี่ มขนมเปียกปูน (1) เวลา 1 ชัว่ โมง

ผสู้ อน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วนั ท่ี……..เดอื น…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวดั วดั และคาดคะเนของสงิ่ ท่ตี ้องการวัดและ

นำไปใช้
ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับความยาวรอบรปู ของ

รปู ส่ีเหล่ยี มและพื้นที่ของรปู สี่เหล่ียมดา้ นขนานและรูปส่ีเหล่ยี มขนมเปยี กปูน
สาระสำคญั

การแกโ้ จทย์ปญั หาเกี่ยวกบั พ้ืนที่ของรูปส่เี หล่ียมขนมปยี กปูนอาจใช้กระบวนการแกป้ ญั หา
ตามขนั้ ตอน ดังน้ี

ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจปญั หา
ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา
ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน
ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เมอ่ื เรียนจบคาบนีแ้ ล้วนักเรียนสามารถ
1. ด้านความรู้ (K)
บอกคำตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั พน้ื ที่ของรปู สี่เหลี่ยมขนมปียกปนู ท่ีกำหนดให้

ได้อยา่ งถูกต้อง

2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงวิธกี ารหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกับพน้ื ทีข่ องรูปสเ่ี หล่ยี มขนมปียกปนู

ท่ีกำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง

3. ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี ินัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
โจทย์ปญั หารปู ส่เี หลีย่ ม

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน
1.1 ครกู ล่าวทักทายนกั เรียน จากนัน้ แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ
1.2 ครนู ำสถานการณ์ปัญหา ให้นกั เรียนรว่ มกันพิจารณาแล้วใชก้ ารถาม-ตอบ

ประกอบการอธบิ ายตามข้นั ตอนการแก้ปัญหา ดังนี้
พิจารณาการเเก้โจทย์ปญั หา

แผ่นปา้ ยเตือนแนวทางมีลักษณะและขนาด ดังรูป
ส่วนทเี่ ป็นสีดำสามารถแบ่งเปน็ รูปส่ีเหลยี่ มด้านขนาน
ท่มี ีขนาดเทา่ กัน 2 รูป สว่ นทเี่ ป็นสีดำมีพ้ืนทีเ่ ท่าใด

1.3 ครูสนทนากบั นกั เรียน แล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบคำถาม ดังน้ี
1.3.1 ส่งิ ที่โจทยถ์ าม พนื้ ที่สว่ นที่เป็นสีดำ
1.3.2 สิ่งทโ่ี จทยบ์ อก สว่ นทเี่ ป็นสีดำสามารถแบง่ เป็นรูปสีเ่ หลีย่ มดา้ นขนาน
ขนาดเดียวกัน 2 รปู แต่ละรูปมฐี านยาว 27 เซนติเมตร
และผลรวมของความสูงของท้ังสองรปู เป็น 68 เซนตเิ มตร

2. ข้ันสอน
2.1 ครูถามตอ่ ว่า เราสามารถหาคำตอบ ได้อยา่ งไร

(ควรแนะนำให้นักเรียนวาดรปู ประกอบการคิดเพอื่ ช่วยในการวางแผนแกป้ ัญหา)
เนื่องจากสว่ นท่เี ปน็ สดี ำสามารถแบง่ เป็นรปู สเี่ หลี่ยมดา้ นขนาน
ขนาดเดยี วกัน 2 รปู โดยแตล่ ะรปู มฐี านยาว 27 เซนติเมตร และ
ผลรวมของความสงู ของทง้ั สองรปู เป็น 68 เซนติเมตร
แสดงวา่ แต่ละรปู มีความสูง 68 ÷ 2 = 34 เซนตเิ มตร

พ้นื ทีข่ องรปู สเี่ หล่ยี มด้านขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
รูปสเ่ี หล่ยี มดา้ นขนาน 1 รปู มีพ้ืนท่ี 34 × 27 = 918 ตารางเซนติเมตร
รปู สเ่ี หลย่ี มด้านขนาน 2 รูป มพี ื้นที่ 2 × 918 = 1,836 ตารางเซนติเมตร
ดังน้ัน สว่ นทีเ่ ปน็ สีดำมีพน้ื ท่ี 1,836 ตารางเซนติเมตร

2.2 ตรวจสอบได้อย่างไรว่า 1,836 ตารางเซนติเมตรเปน็ คำตอบท่ถี ูกต้อง
รูปสี่เหลย่ี มดา้ นขนาน 1 รปู มฐี านยาวประมาณ 30 ซม. เเละสูงประมาณ 30 ซม.

จะไดว้ ่า รปู สเ่ี หลี่ยมด้านขนาน 1 รูป มพี นื้ ท่ีประมาณ 30 × 30 = 900 ตร.ซม.
ดงั น้นั สว่ นทเี่ ปน็ สีดำมีพ้ืนท่ีประมาณ 2 × 900 = 1,800 ตร.ซม.
ซงึ่ ใกลเ้ คียง 1,836 ตร.ซม. แสดงว่า 1,836 ตร.ซม. เป็นคำตอบทส่ี มเหตสุ มผล
2.3 ครแู นะนำใหน้ ักเรียนวาดรูปประกอบการคดิ เพ่ือช่วยในการวางแผนแก้ปญั หา และ
ควรยำ้ ให้นกั เรยี นตรวจสอบความถูกต้องหรอื พิจารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบทุกคร้ัง โดยอาจ
ใชเ้ คร่อื งคิดเลขชว่ ยในการคำนวณ
2.4 ครยู กตัวอยา่ งโจทย์ให้นกั เรยี นพิจารณาสถานการณ์ปัญหาจากตวั อยา่ ง และเขียนรูป
ครา่ ว ๆ ประกอบ จากนั้นใช้การซกั ถามเพ่ือนำไปส่กู ารวางแผนแกป้ ัญหาแลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ งหรือพิจารณาความสมเหตุของคำตอบ ดังนี้

ไมอ้ ัดแผน่ หน่งึ เป็นรูปสี่เหลีย่ มดา้ นขนานมีฐานยาว 110 เซนตเิ มตร และสูง 60 เซนติเมตร
ตอ้ งการทาสไี มอ้ ดั ทัง้ สองด้าน สว่ นท่ีทาสคี ดิ เป็นพนื้ ท่ีเทา่ ไร

วิธคี ดิ

60 ซม.

110 ซม.

พ้ืนท่ีของรปู สีเ่ หลีย่ มด้านขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
ไมอ้ ัด 1 ดา้ น มีพื้นท่ี 60 × 110 = 6,600 ตารางเซนติเมตร
ดงั นน้ั สว่ นที่ทาสคี ิดเป็นพืน้ ท่ี 2 × 6,600 = 13,200 ตารางเซนตเิ มตร
ตอบ 13,200 ตารางเซนตเิ มตร
3. ขัน้ สรุป
ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรียน จากนัน้ ให้นักเรียนสรปุ ใหไ้ ด้วา่

การแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกบั การหาพ้นื ทขี่ องรปู สเ่ี หลีย่ มขนมปยี กปูนอาจใช้กระบวนการ
แก้ปญั หาตามข้นั ตอน ดังนี้

ข้นั ที่ 1 ทำความเข้าใจปญั หา
ขน้ั ที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา
ขั้นท่ี 3 ดำเนินการตามแผน
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบ

4. ขนั้ นำไปใช้
ครใู ห้นักเรยี นทดสอบความรู้ความเข้าใจ โดยใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั 7.12 จากหนังสือ

เรียนรายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
สอื่ การเรียนรู้และแหล่งการเรยี นรู้

1. สอ่ื การเรยี นรู้
1.1 หนังสอื เรยี นรายวชิ าคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
1.2 หนงั สือแบบฝกึ หดั รายวิชาคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พิมพ์คำว่า รปู สี่เหล่ียม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พมิ พ์คำวา่ รูปสีเ่ หลีย่ ม ป.5

การวัดผลและประเมินผล วธิ ี/เครอ่ื งมือการวดั ผล เกณฑท์ ่ตี อ้ งการใหผ้ ่าน
ส่ิงท่ีต้องการวดั แบบฝกึ หดั 7.12 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70
ข้นึ ไป
1. นักเรยี นสามารถบอกคำตอบของ แบบฝกึ หดั 7.12
โจทย์ปญั หาเก่ียวกบั พื้นท่ขี องรูปสเ่ี หลย่ี ม ผ่านเกณฑร์ ะดับ 2
ขนมปียกปนู ที่กำหนดใหไ้ ด้อย่างถูกต้อง (K) แบบบันทกึ การสังเกต ขน้ึ ไป
2. นักเรียนสามารถเขยี นแสดงวิธกี ารหา พฤติกรรมนักเรียน
คำตอบของโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั พ้ืนที่ของ ผ่านเกณฑ์ระดบั 2
รูปสีเ่ หลย่ี มขนมปียกปูนทกี่ ำหนดให้ ขน้ึ ไป
ได้อย่างถูกต้อง (P)
3. นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมความมวี ินยั ใน
ตนเอง (A)

บันทึกผลหลังการสอน

ผลการจัดการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................... ............................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................... .................
................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงช่อื ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี)
ครูผสู้ อน

ความคดิ เหน็ ของครูพ่เี ล้ียง

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางปรยิ านุช ภญิ ญศักด์ิ)
ครูพเ่ี ลี้ยง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 57

รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค15101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 รูปส่ีเหลยี่ ม จำนวน 24 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพืน้ ทขี่ องรปู ส่ีเหลี่ยมขนมเปยี กปูน (1) เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี วันท่ี……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกบั การวดั วดั และคาดคะเนของส่ิงท่ีต้องการวัดและ

นำไปใช้
ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรปู ของ

รปู ส่ีเหล่ยี มและพื้นที่ของรปู สี่เหล่ยี มดา้ นขนานและรูปสีเ่ หล่ยี มขนมเปยี กปนู
สาระสำคญั

การแกโ้ จทย์ปญั หาเกี่ยวกบั พื้นทข่ี องรปู สเ่ี หล่ยี มขนมปียกปูนอาจใชก้ ระบวนการแก้ปญั หา
ตามขนั้ ตอน ดังน้ี

ขั้นที่ 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา
ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา
ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน
ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เมอ่ื เรียนจบคาบนีแ้ ลว้ นักเรียนสามารถ
1. ด้านความรู้ (K)
บอกคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั พ้ืนท่ีของรปู สี่เหล่ียมขนมปียกปนู ที่กำหนดให้

ได้อยา่ งถูกต้อง

2. ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงวิธกี ารหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั พนื้ ทีข่ องรูปสี่เหลี่ยมขนมปยี กปูน

ท่ีกำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง

3. ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
แสดงพฤติกรรมความมวี นิ ัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
โจทย์ปญั หารปู ส่เี หลีย่ ม

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1.1 ครกู ลา่ วทักทายนกั เรียน จากนน้ั แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้นกั เรยี นทราบ
1.2 ครนู ำสถานการณ์ปญั หา ให้นกั เรยี นร่วมกนั พิจารณาแลว้ ใช้การถาม-ตอบ

ประกอบการอธบิ ายตามขน้ั ตอนการแก้ปญั หา ดงั นี้
พจิ ารณาการเเก้โจทยป์ ัญหา

แผน่ ป้ายเตอื นแนวทางมีลักษณะและขนาด ดงั รูป
ส่วนทเ่ี ปน็ สดี ำสามารถแบ่งเป็นรปู ส่เี หลี่ยมดา้ นขนาน
ที่มีขนาดเท่ากัน 2 รูป ส่วนทีเ่ ปน็ สดี ำมพี นื้ ท่ีเทา่ ใด

1.3 ครสู นทนากับนกั เรียน แล้วให้นักเรียนชว่ ยกันตอบคำถาม ดังนี้
1.3.1 สิง่ ท่โี จทยถ์ าม พน้ื ท่สี ว่ นท่ีเป็นสดี ำ
1.3.2 ส่ิงทโี่ จทย์บอก ส่วนท่ีเป็นสีดำสามารถแบง่ เป็นรปู สเ่ี หลีย่ มด้านขนาน
ขนาดเดียวกนั 2 รปู แต่ละรปู มฐี านยาว 27 เซนติเมตร
และผลรวมของความสูงของท้ังสองรปู เปน็ 68 เซนตเิ มตร

2. ขนั้ สอน
2.1 ครถู ามต่อวา่ เราสามารถหาคำตอบ ไดอ้ ย่างไร

(ควรแนะนำใหน้ กั เรยี นวาดรูปประกอบการคดิ เพ่อื ชว่ ยในการวางแผนแก้ปัญหา)
เนอื่ งจากสว่ นทีเ่ ปน็ สดี ำสามารถแบ่งเปน็ รูปส่เี หลี่ยมดา้ นขนาน
ขนาดเดยี วกัน 2 รปู โดยแตล่ ะรปู มฐี านยาว 27 เซนตเิ มตร และ
ผลรวมของความสงู ของทัง้ สองรปู เปน็ 68 เซนตเิ มตร
แสดงว่าแตล่ ะรปู มีความสูง 68 ÷ 2 = 34 เซนตเิ มตร

พืน้ ท่ขี องรปู ส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
รูปสีเ่ หล่ียมด้านขนาน 1 รูป มีพ้ืนที่ 34 × 27 = 918 ตารางเซนติเมตร
รูปสี่เหลี่ยมดา้ นขนาน 2 รูป มีพน้ื ท่ี 2 × 918 = 1,836 ตารางเซนติเมตร
ดงั นน้ั สว่ นท่ีเปน็ สดี ำมพี นื้ ท่ี 1,836 ตารางเซนติเมตร
2.2 ตรวจสอบไดอ้ ย่างไรวา่ 1,836 ตารางเซนติเมตรเป็นคำตอบทถี่ กู ต้อง
รูปส่เี หล่ียมดา้ นขนาน 1 รปู มีฐานยาวประมาณ 30 ซม. เเละสูงประมาณ 30 ซม.
จะได้วา่ รปู ส่ีเหล่ยี มดา้ นขนาน 1 รูป มีพน้ื ทปี่ ระมาณ 30 × 30 = 900 ตร.ซม.

60 ซม. ดงั น้ัน สว่ นท่เี ปน็ สดี ำมีพ้นื ท่ีประมาณ 2 × 900 = 1,800 ตร.ซม.
ซึ่งใกล้เคยี ง 1,836 ตร.ซม. แสดงว่า 1,836 ตร.ซม. เปน็ คำตอบทสี่ มเหตสุ มผล
2.3 ครแู นะนำให้นักเรียนวาดรูปประกอบการคดิ เพื่อชว่ ยในการวางแผนแกป้ ญั หา และ
ควรยำ้ ใหน้ ักเรียนตรวจสอบความถูกต้องหรอื พจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบทุกครัง้ โดยอาจ
ใชเ้ ครือ่ งคิดเลขช่วยในการคำนวณ
2.4 ครูยกตวั อย่างโจทย์ให้นักเรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ปัญหาจากตวั อย่าง และเขยี นรูป
คร่าว ๆ ประกอบ จากนั้นใช้การซักถามเพื่อนำไปสู่การวางแผนแก้ปญั หาแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ งหรอื พิจารณาความสมเหตุของคำตอบ ดังนี้

ไม้อัดแผ่นหนึ่งเปน็ รูปส่ีเหลยี่ มด้านขนานมฐี านยาว 110 เซนติเมตร และสงู 60
เซนตเิ มตร
ต้องการทาสีไวมธิ อ้ คี ัดดิ ท้งั สองด้าน ส่วนทที่ าสคี ิดเป็นพน้ื ท่เี ท่าไร

110 ซม.

พ้นื ทขี่ องรปู สเ่ี หล่ียมด้านขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน
ไมอ้ ัด 1 ด้าน มีพ้ืนท่ี 60 × 110 = 6,600 ตารางเซนตเิ มตร
ดังนนั้ ส่วนท่ที าสคี ดิ เปน็ พน้ื ท่ี 2 × 6,600 = 13,200 ตารางเซนตเิ มตร
ตอบ 13,200 ตารางเซนตเิ มตร
3. ขน้ั สรปุ
ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรียน จากน้นั ใหน้ ักเรยี นสรปุ ใหไ้ ดว้ า่

การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั การหาพื้นทข่ี องรูปสเ่ี หลย่ี มขนมปยี กปูนอาจใชก้ ระบวนการ
แกป้ ัญหาตามข้นั ตอน ดังนี้

ขน้ั ท่ี 1 ทำความเข้าใจปญั หา
ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปญั หา
ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน
ขน้ั ท่ี 4 ตรวจสอบ

4. ข้ันนำไปใช้
ครใู ห้นักเรียนทดสอบความรูค้ วามเข้าใจ โดยใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั 7.12 จากหนังสอื

แบบฝกึ หดั รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)
ส่ือการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้

1. สอื่ การเรยี นรู้
1.1 หนังสอื เรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)
1.2 หนังสอื แบบฝึกหดั รายวชิ าคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)

2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 ห้องสมดุ โรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี
2.2 เวบ็ ไซต์ www.google.com พมิ พ์คำวา่ รปู สเ่ี หล่ียม ป.5
2.3 เวบ็ ไซต์ www.youtube.com พิมพค์ ำว่า รูปส่เี หลี่ยม ป.5

การวัดผลและประเมนิ ผล วธิ /ี เคร่อื งมอื การวดั ผล เกณฑ์ท่ีต้องการให้
สิ่งท่ีต้องการวัด แบบฝึกหดั 7.12 ผ่าน

1. นกั เรียนสามารถบอกคำตอบของ แบบฝกึ หัด 7.12 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
โจทย์ปญั หาเก่ียวกับพ้ืนท่ีของรปู สเ่ี หลี่ยม ขน้ึ ไป
ขนมปยี กปนู ท่ีกำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (K) แบบบนั ทกึ การสังเกต
2. นกั เรียนสามารถเขยี นแสดงวิธกี ารหา พฤติกรรมนักเรยี น ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2
คำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับพนื้ ท่ีของ ข้นึ ไป
รปู สเี่ หลี่ยมขนมปียกปูนทกี่ ำหนดให้
ได้อยา่ งถูกต้อง (P) ผา่ นเกณฑ์ระดบั 2
3. นักเรยี นแสดงพฤตกิ รรมความมวี ินัยใน ขน้ึ ไป
ตนเอง (A)

บันทึกผลหลังการสอน

ผลการจัดการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................... ............................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................... .................
................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงช่อื ..................................................................
(นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี)
ครูผสู้ อน

ความคดิ เหน็ ของครูพ่เี ล้ียง

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................................
(นางปรยิ านุช ภญิ ญศักด์ิ)
ครูพเ่ี ลี้ยง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณที ิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 59

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ค15101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 รูปส่เี หลีย่ ม จำนวน 24 ช่วั โมง

เรอื่ ง โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั พื้นทีแ่ ละความยาวรอบรูปของรูปสีเ่ หลี่ยมดา้ นขนาน (1) เวลา 1 ชว่ั โมง

ผสู้ อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันท…่ี …..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเกี่ยวกบั การวดั วดั และคาดคะเนของสง่ิ ทต่ี ้องการวดั และ

นำไปใช้
ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรูปของ

รูปสีเ่ หลีย่ มและพืน้ ท่ขี องรูปส่ีเหลยี่ มดา้ นขนานและรปู สีเ่ หลยี่ มขนมเปยี กปูน
สาระสำคญั

การแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกับพ้ืนทแี่ ละความยาวรอบรปู ของรปู สีเ่ หล่ียมด้านขนาน อาจใช้
กระบวนการแก้ปญั หาตามข้ันตอน ดังนี้

ขน้ั ท่ี 1 ทำความเข้าใจปญั หา
ข้นั ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา
ขั้นท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน
ข้นั ท่ี 4 ตรวจสอบ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เม่อื เรียนจบคาบนีแ้ ล้วนักเรียนสามารถ
1. ด้านความรู้ (K)
บอกคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั พืน้ ที่และความยาวรอบรูปของรูปส่เี หลีย่ มด้านขนาน ที่

กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง

2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงวิธีการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับพ้นื ท่แี ละความยาวรอบรูปของรูปส่เี หล่ียม

ด้านขนานท่ีกำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง

3. ดา้ นคุณลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมีวินัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
โจทยป์ ญั หารูปส่เี หลย่ี ม

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใชว้ ิธีการสอนแบบปกติ)
1. ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน
1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน จากนน้ั แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ
1.2 ครูนำสถานการณ์ปัญหา ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั พิจารณาแลว้ ใช้การถาม-ตอบ

ประกอบการอธบิ ายตามข้ันตอนการแก้ปญั หา ดงั น้ี
พจิ ารณาการแก้โจทย์ปัญหา

สวนหย่อมแหง่ หน่งึ เป็นรูปสเ่ี หลี่ยมขนมเปียกปนู มีความยาวโดยรอบ 80 เมตร
1.3ดา้ คนรทสู อ่ี นยทูต่ นรางกขับา้ มนกกั ันเรหีย่านงกแนั ลว้ 1ใ0ห้นเมกั ตเรรยี สนว่ ชนว่ หยยกอ่ันมตแอหบง่คนำม้ีถีพามื้นทด่ีเังทน่าี้ ไร

1.3.1 สง่ิ ทโี่ จทยถ์ าม พนื้ ทข่ี องสวนหยอ่ ม
1.3.2 ส่ิงทโ่ี จทย์บอก สวนหย่อมเปน็ รปู สี่เหลี่ยมขนมเปยี กปูน มีความยาวโดยรอบ

80 เมตร และด้านที่อยู่ตรงขา้ มกนั หา่ งกนั 10 เมตร
2. ขั้นสอน

2.1 ครูถามต่อว่า เราสามารถหาคำตอบ ได้อยา่ งไร
(ควรแนะนำใหน้ ักเรียนวาดรูปประกอบการคิดเพือ่ ช่วยในการวางแผนแกป้ ัญหา)

วิธคี ิด

• ความยาวโดยรอบสวนหยอ่ ม เปน็ ความยาวรอบรปู ของรูปสีเ่ หลี่ยมขนมเปยี กปูน
• ระยะห่างของดา้ นท่ีอย่ตู รงข้ามกนั เป็นความสงู
สวนหย่อมรปู ส่ีเหล่ียมขนมเปียกปูนยาวด้านละ 80 ÷ 4 = 20 เมตร
พืน้ ทข่ี องรปู สีเ่ หล่ียมขนมเปยี กปูน = ความสงู × ความยาวของฐาน
ดงั นัน้ สวนหย่อมมีพ้นื ที่ 10 × 20 = 200 ตารางเมตร
2.2 ตรวจสอบไดอ้ ย่างไรวา่ 200 ตารางเมตรเป็นคำตอบท่ถี ูกต้อง
ต้องหาวา่ รปู ส่เี หลยี่ มขนมเปียกปนู มคี วามยาวรอบรปู เท่าใด ซึง่ หาไดจ้ าก
4 คณู กบั ความยาวของดา้ น โดยความยาวของดา้ นหาไดจ้ าก
พ้นื ท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปยี กปนู หารด้วย ความสงู จะได้ 200 ÷ 10 = 20 ม.
ดงั นั้น รปู สี่เหลย่ี มขนมเปยี กปูนมคี วามยาวรอบรปู 4 × 20 = 80 ม.
พบว่าสอดคล้องกบั โจทย์ แสดงว่า 200 ตร.ม. เป็นคำตอบที่ถกู ต้อง

2.3 ครแู นะนำใหน้ กั เรยี นวาดรปู ประกอบการคิดเพือ่ ช่วยในการวางแผนแกป้ ัญหา และควร
ย้ำให้นกั เรยี นตรวจสอบความถูกต้องหรอื พจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบทกุ คร้ัง โดยอาจใช้
เครอื่ งคดิ เลขช่วยในการคำนวณ

2.4 ครูยกตวั อยา่ งโจทย์ใหน้ กั เรยี นพิจารณาสถานการณ์ปัญหาจากตวั อย่าง และเขียนรูป
ครา่ ว ๆ ประกอบ จากน้ันใช้การซกั ถามเพื่อนำไปสูก่ ารวางแผนแกป้ ัญหาแล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ งหรือพิจารณาความสมเหตุของคำตอบ ดงั นี้

กระดาษรปู สี่เหล่ียมดา้ นขนานแผ่นหน่ึงมพี ืน้ ที่ 600 ตารางเซนตเิ มตร
ดา้ นขนานคหู่ นง่ึ มคี วามยาวด้านละ 25 เซนติเมตร ด้านคทู่ ่ีเหลอื หา่ งกัน 20 เซนติเมตร
กระดาษแผน่ นี้มีความยาวรอบรูปเท่าไร

ความยาวรอบรปู ของรปู ส่เี หลี่ยมดา้ นขนาน
หาได้จาก 2 × ผลบวกของความยาวของด้าน 2 ดา้ นที่อยตู่ ิดกัน

วธิ ที ำ พืน้ ทข่ี องรปู สเ่ี หลย่ี มดา้ นขนาน = ความสูง × ความยาวของฐาน

ความยาวของฐาน = พ้ืนท่ี ÷ ความสงู

= 600 ÷ 20 เซนตเิ มตร

= 30 เซนติเมตร

เเสดงว่า ดา้ นที่เหลอื ยาวด้านละ 30 เซนติเมตร

ดังนั้น กระดาษแผน่ น้ีมีความยาวรอบรปู 2 × (25 + 30) = 110 เซนติเมตร

ตอบ 110 เซนตเิ มตร

3. ข้นั สรุป

ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปบทเรยี น จากน้ันใหน้ ักเรยี นสรุปให้ไดว้ า่

การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ียวกับพ้ืนที่และความยาวรอบรปู ของรูปส่ีเหลีย่ มดา้ นขนาน
อาจใช้กระบวนการแก้ปญั หาตามข้ันตอน ดงั นี้

ขน้ั ที่ 1 ทำความเขา้ ใจปัญหา
ขั้นท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา
ข้นั ที่ 3 ดำเนินการตามแผน
ขน้ั ท่ี 4 ตรวจสอบ

4. ข้ันนำไปใช้
ครูให้นกั เรยี นทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ โดยให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด

ตรวจสอบความเขา้ ใจ จากหนังสือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.) หนา้ 130
สื่อการเรยี นร้แู ละแหล่งการเรียนรู้

1. สอ่ื การเรียนรู้
1.1 หนงั สือเรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ป.5 เล่ม 2 (สสวท.)

2. แหล่งการเรยี นรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นอนุบาลอดุ รธานี
2.2 เว็บไซต์ www.google.com พมิ พ์คำว่า รปู สีเ่ หล่ียม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พมิ พค์ ำว่า รูปสเี่ หลยี่ ม ป.5

การวัดผลและประเมินผล วธิ /ี เครื่องมือการวัดผล เกณฑ์ท่ตี ้องการให้
ส่ิงทตี่ ้องการวัด ผ่าน

1. นักเรยี นสามารถบอกคำตอบของ ตรวจสอบความเข้าใจ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70
ขึ้นไป
โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั พืน้ ท่ีและความยาว
ผ่านเกณฑร์ ะดบั 2
รอบรูปของรูปสี่เหล่ยี มดา้ นขนาน ทก่ี ำหนดให้ ข้ึนไป

ได้อย่างถูกต้อง (K) ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2
ข้นึ ไป
2. นกั เรียนสามารถเขยี นแสดงวธิ ีการหา ตรวจสอบความเข้าใจ

คำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับพื้นท่ีและ

ความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หลี่ยมด้านขนาน

ที่กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง (P)

3. นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมความมีวนิ ยั ใน แบบบันทึกการสงั เกต

ตนเอง (A) พฤติกรรมนักเรียน

บันทกึ ผลหลังการสอน

ผลการจัดการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
ปัญหาและอปุ สรรค
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ ....................................................
............................................................................................................................. ...................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงชื่อ..................................................................
(นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี)
ครผู ูส้ อน

ความคดิ เหน็ ของครพู ่ีเลย้ี ง

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แลว้ มคี วามเหน็ ดังน้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่

ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ และพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................................ ..................

ลงชือ่ ..................................................................
(นางปรยิ านชุ ภิญญศักด์ิ)
ครพู ีเ่ ลี้ยง

ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี แล้ว มคี วามเหน็ ดงั นี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....................
............................................................................................................. .....................................

ลงชือ่ ..............................................................
(นายสชุ าติ เขม็ ทอง)

รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลอดุ รธานี

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 61

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ค15101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 รูปส่เี หลีย่ ม จำนวน 24 ช่วั โมง

เรอื่ ง โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั พื้นทีแ่ ละความยาวรอบรูปของรูปสีเ่ หลี่ยมดา้ นขนาน (3) เวลา 1 ชว่ั โมง

ผสู้ อน นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี วันที่……..เดือน…………………………..พ.ศ……………

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเกี่ยวกบั การวดั วดั และคาดคะเนของสง่ิ ทต่ี ้องการวดั และ

นำไปใช้
ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรูปของ

รูปสีเ่ หลีย่ มและพืน้ ท่ขี องรูปส่ีเหลยี่ มดา้ นขนานและรปู ส่เี หลยี่ มขนมเปยี กปูน
สาระสำคญั

การแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกับพ้ืนทแี่ ละความยาวรอบรปู ของรปู สีเ่ หล่ียมด้านขนาน อาจใช้
กระบวนการแก้ปญั หาตามข้ันตอน ดังนี้

ขน้ั ท่ี 1 ทำความเข้าใจปญั หา
ข้นั ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา
ขั้นท่ี 3 ดำเนนิ การตามแผน
ข้นั ท่ี 4 ตรวจสอบ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เม่อื เรียนจบคาบนีแ้ ล้วนักเรียนสามารถ
1. ด้านความรู้ (K)
บอกคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั พืน้ ที่และความยาวรอบรูปของรูปส่เี หลีย่ มด้านขนาน ที่

กำหนดให้ได้อย่างถูกต้อง

2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
เขียนแสดงวิธีการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับพ้นื ท่แี ละความยาวรอบรูปของรูปส่เี หล่ียม

ด้านขนานท่ีกำหนดให้ได้อยา่ งถูกต้อง

3. ดา้ นคุณลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมความมีวินัยในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
โจทยป์ ญั หารูปส่เี หลย่ี ม

กจิ กรรมการเรียนรู้ (ใช้วธิ ีการสอนแบบปกติ)
1. ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน
1.1 ครกู ล่าวทักทายนักเรียน จากนน้ั แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้นกั เรยี นทราบ
1.2 ครนู ำสถานการณ์ปัญหา ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั พจิ ารณาแลว้ ใช้การถาม-ตอบ

ประกอบการอธิบายตามขนั้ ตอนการแก้ปัญหา ดังนี้
พจิ ารณาการแก้โจทยป์ ัญหา

สวนหยอ่ มแหง่ หนึง่ เปน็ รูปสี่เหล่ียมขนมเปียกปูนมีความยาวโดยรอบ 80
เมตร
ด้านท่ีอยู่ตรงข้ามกนั ห่างกัน 10 เมตร สว่ นหยอ่ มแห่งนีม้ ีพน้ื ทเี่ ทา่ ไร

1.3 ครสู นทนากบั นักเรียน แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันตอบคำถาม ดงั น้ี
1.3.1 ส่งิ ที่โจทยถ์ าม พนื้ ที่ของสวนหย่อม
1.3.2 สิ่งทีโ่ จทย์บอก สวนหย่อมเปน็ รูปสเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู มีความยาวโดยรอบ
80 เมตร และด้านที่อย่ตู รงขา้ มกันห่างกัน 10 เมตร

2. ข้นั สอน
2.1 ครูถามต่อวา่ เราสามารถหาคำตอบ ได้อยา่ งไร
(ควรแนะนำใหน้ กั เรยี นวาดรูปประกอบการคดิ เพือ่ ช่วยในการวางแผนแกป้ ัญหา)
วธิ คี ิด

• ความยาวโดยรอบสวนหยอ่ ม เป็นความยาวรอบรูปของรูปส่ีเหลยี่ มขนมเปียกปนู
• ระยะหา่ งของด้านที่อยูต่ รงขา้ มกันเปน็ ความสงู
สวนหย่อมรปู ส่ีเหลย่ี มขนมเปียกปนู ยาวด้านละ 80 ÷ 4 = 20 เมตร
พ้นื ที่ของรูปสีเ่ หล่ียมขนมเปียกปนู = ความสูง × ความยาวของฐาน
ดังนั้น สวนหย่อมมพี นื้ ท่ี 10 × 20 = 200 ตารางเมตร
2.2 ตรวจสอบได้อย่างไรว่า 200 ตารางเมตรเป็นคำตอบทถ่ี ูกต้อง
ต้องหาว่า รปู สเี่ หลย่ี มขนมเปียกปูนมีความยาวรอบรูปเทา่ ใด ซึ่งหาได้จาก
4 คูณกบั ความยาวของด้าน โดยความยาวของดา้ นหาไดจ้ าก
พนื้ ทีข่ องรูปสเี่ หลี่ยมขนมเปียกปูน หารดว้ ย ความสงู จะได้ 200 ÷ 10 = 20 ม.

ดงั นน้ั รปู สเี่ หลี่ยมขนมเปยี กปูนมีความยาวรอบรูป 4 × 20 = 80 ม.
พบว่าสอดคล้องกบั โจทย์ แสดงวา่ 200 ตร.ม. เป็นคำตอบที่ถกู ต้อง
2.3 ครแู นะนำให้นกั เรียนวาดรูปประกอบการคิดเพื่อช่วยในการวางแผนแก้ปัญหา และควร
ยำ้ ใหน้ ักเรียนตรวจสอบความถกู ต้องหรอื พิจารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบทกุ ครั้ง โดยอาจใช้
เครอื่ งคิดเลขช่วยในการคำนวณ
2.4 ครูยกตวั อย่างโจทย์ให้นักเรยี นพิจารณาสถานการณ์ปญั หาจากตัวอย่าง และเขียนรปู
ครา่ ว ๆ ประกอบ จากน้นั ใชก้ ารซกั ถามเพื่อนำไปสู่การวางแผนแกป้ ญั หาแลว้ ให้นักเรียนช่วยกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ งหรือพิจารณาความสมเหตุของคำตอบ ดงั นี้

กระดาษรปู ส่ีเหลี่ยมดา้ นขนานแผ่นหน่ึงมพี น้ื ที่ 600 ตารางเซนติเมตร
ดา้ นขนานคหู่ นึ่งมคี วามยาวด้านละ 25 เซนติเมตร ดา้ นคู่ที่เหลอื หา่ งกนั 20 เซนติเมตร
กระดาษแผน่ น้ีมีความยาวรอบรปู เท่าไร

ความยาวรอบรปู ของรปู สเ่ี หลี่ยมดา้ นขนาน
หาไดจ้ าก 2 × ผลบวกของความยาวของด้าน 2 ด้านท่ีอยูต่ ิดกัน

วิธที ำ พื้นท่ขี องรูปส่ีเหลยี่ มดา้ นขนาน = ความสงู × ความยาวของฐาน

ความยาวของฐาน = พนื้ ท่ี ÷ ความสงู

= 600 ÷ 20 เซนตเิ มตร

= 30 เซนตเิ มตร

เเสดงว่า ด้านทเ่ี หลอื ยาวดา้ นละ 30 เซนติเมตร

ดังนน้ั กระดาษแผน่ นมี้ ีความยาวรอบรปู 2 × (25 + 30) = 110 เซนตเิ มตร

ตอบ 110 เซนตเิ มตร

3. ขัน้ สรุป

ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปบทเรยี น จากนัน้ ให้นักเรยี นสรปุ ให้ได้ว่า

การแกโ้ จทย์ปญั หาเกี่ยวกับพ้ืนท่แี ละความยาวรอบรูปของรูปสีเ่ หลย่ี มด้านขนาน
อาจใชก้ ระบวนการแกป้ ญั หาตามขั้นตอน ดงั นี้

ข้นั ท่ี 1 ทำความเข้าใจปัญหา
ขน้ั ที่ 2 วางแผนแก้ปญั หา
ขั้นท่ี 3 ดำเนินการตามแผน
ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบ

4. ขั้นนำไปใช้
ครใู หน้ ักเรยี นทดสอบความร้คู วามเข้าใจ โดยใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั

ส่ิงท่ไี ดเ้ รียนรู้ จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์พื้นฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.) หนา้ 130
ส่ือการเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรียนรู้

1. สอื่ การเรียนรู้
1.1 หนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน ป.5 เลม่ 2 (สสวท.)

2. แหล่งการเรยี นรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นอนุบาลอดุ รธานี
2.2 เว็บไซต์ www.google.com พิมพ์คำวา่ รปู สเี่ หลี่ยม ป.5
2.3 เว็บไซต์ www.youtube.com พิมพ์คำว่า รปู สี่เหลยี่ ม ป.5

การวัดผลและประเมนิ ผล วิธ/ี เครอื่ งมอื การวดั ผล เกณฑท์ ต่ี ้องการให้
สิง่ ทีต่ ้องการวัด ผ่าน

1. นักเรยี นสามารถบอกคำตอบของ สิ่งทไี่ ดเ้ รยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70
ขึ้นไป
โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับพน้ื ทแี่ ละความยาว
ผ่านเกณฑร์ ะดับ 2
รอบรปู ของรปู ส่ีเหลย่ี มดา้ นขนาน ทก่ี ำหนดให้ ข้ึนไป

ได้อย่างถูกต้อง (K) ผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2
ขึน้ ไป
2. นักเรียนสามารถเขียนแสดงวธิ ีการหา ส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรู้

คำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั พน้ื ท่ีและ

ความยาวรอบรูปของรปู ส่ีเหลี่ยมด้านขนาน

ท่ีกำหนดให้ได้อยา่ งถกู ต้อง (P)

3. นักเรยี นแสดงพฤติกรรมความมวี นิ ยั ใน แบบบนั ทกึ การสังเกต

ตนเอง (A) พฤติกรรมนกั เรยี น

บนั ทึกผลหลังการสอน

ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................. ..............................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.......................................................................................................................................................... ......
............................................................................................................................ ....................................

ลงชือ่ ..................................................................
(นางสาวมณีทิพย์ ยางศรี)
ครผู ูส้ อน


Click to View FlipBook Version