1
แผนการจดั การเรียนท่ี 1 เรื่อง การเปรียบเทยี บทศนิยม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง เศษส่วนและทศนิยม กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
วชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 รหัสวชิ า ค21105 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 เวลา 2 ช่ัวโมง สอนโดย นางสาวกสุ ุมา จันทร์แก้ว
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ี
เกิดข้ึนจากการดาเนินการสมบตั ิของการดาเนินการและนาไปใช้
ตัวชี้วดั
ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจานวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบตั ิของจานวน
ตรรกยะในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
ค 1.1 ม.1/2 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้ีกาลงั เป็นจานวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา
คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
สาระสาคัญ
ในการเปรียบเทียบทศนิยม ใหเ้ ปรียบเทียบตวั เลขในทศนิยมตาแหน่งเดียวกนั จากทศนิยมตาแหน่งท่ี 1, 2,
3, … ตามลาดบั ตวั เลขท่ีแทนจานวนมากกว่าจะทาให้ทศนิยมน้นั มีค่ามากกว่าดว้ ย ถา้ หนา้ จุดทศนิยมเป็ น
จานวนเตม็ ใหเ้ ปรียบเทียบกนั ก่อนตามหลกั การเปรียบเทียบจานวนเตม็
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
เปรียบเทียบทศนิยมได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใชว้ ธิ ีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา
2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์
ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเช่ือมน่ั ในตนเอง
2
สาระการเรียนรู้
การเปรียบเทียบทศนิยม
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
1. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน
2. ครูยกตวั อยา่ งเศษส่วนที่มีส่วนเป็น 10, 100, 1000,... แลว้ ใชก้ ารถามตอบใหน้ กั เรียนช่วยกนั อภิปราย
สรุปการเขียนใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยม
3. ครูเขียนตวั อยา่ งที่ 1-5 ทีละตวั อยา่ งให้นกั เรียนช่วยกนั ทา การเขียนทศนิยมแทนเศษส่วนดว้ ยวิธีหาร
ยาว และจากตวั อยา่ งท่ี 1-2 ครูแนะนาใหน้ กั เรียนรู้จกั ทศนิยมซ้า พร้อมท้งั ใหน้ กั เรียนศึกษาการอ่านทศนิยมซ้า
4. ครูแบง่ นกั เรียนเป็ นกลุ่มๆ ละ 5 คน ร่วมกนั วิเคราะห์กิจกรรมในใบงานท่ี 1 และใบงานท่ี 2 คนละ 1
ขอ้ แลว้ ใหค้ นท่ีทาขอ้ เดียวกนั มารวมกลุ่มกนั ทา เม่ือทาเสร็จแต่ละขอ้ ใหน้ กั เรียนกลบั ไปเขา้ กลุ่มเดิมของตน ให้
นกั เรียนทุกคนในกลุ่มไดซ้ กั ถามขอ้ สงสยั แลว้ ช่วยกนั อธิบายใหท้ ุกคนในกลุ่มเขา้ ใจโจทยท์ ุกขอ้
5. ตวั แทนของแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานท่ีถูกตอ้ ง กลุ่มละ 1 ขอ้ โดยครูเป็นผตู้ รวจสอบ
6. นกั เรียนช่วยกนั สรุปข้นั ตอนการดาเนินงาน
ชั่วโมงที่ 2
1. ทบทวนการเปรียบเทียบทศนิยมท่ีเป็นบวก พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ เช่น ใหเ้ ปรียบเทียบ
น้าหนกั ส่วนสูง ระยะทาง และความยาวท่ีเป็นที่ทศนิยม แลว้ ช่วยกนั สรุปหลกั ในการเปรียบเทียบทศนิยม
ท่ีเป็นบวกวา่ ใหเ้ ปรียบเทียบ จานวนเตม็ ก่อน ถา้ จานวนเต็มเท่ากนั ใหเ้ ปรียบเทียบเลขโดดในตาแหน่งเดียวกนั
คูแ่ รกที่ไมเ่ ท่ากนั เช่น
1) ตอ้ งการเปรียบเทียบ 28.34 กบั 21.35
เนื่องจาก 28 > 21 ดงั น้นั 28.34 > 21.35
2) ตอ้ งการเปรียบเทียบ 9.31 กบั 9.72
เน่ืองจาก จานวนเตม็ เป็น 9 เท่ากนั จึงพิจารณาตวั เลขคูแ่ รกในตาแหน่งเดียวกนั ที่ไม่
เท่ากนั คือ เลขโดดในทศนิยมตาแหน่งที่หน่ึง ไดแ้ ก่ 3 และ 7 ซ่ึง 3 < 7
ดงั น้ัน 9.31 < 9.72 หรือ 9.72 > 9.31
3) ตอ้ งการเปรียบเทียบ 0.567 กบั 0.569 เนื่องจาก เลขโดดคูแ่ รกในตาแหน่งเดียวกนั ท่ีไม่
เท่ากนั คือ เลขโดดในทศนิยมตาแหน่งที่สาม ไดแ้ ก่ 7 กบั 9 ซ่ึง 7 นอ้ ยกวา่ 9 หรือ 9 มากกวา่ 7
ดงั น้ัน 0.567 < 0.569 หรือ 0.569 > 0.567
3
2. กาหนดทศนิยมหน่ึงตาแหน่งที่เป็นลบ 2 จานวน ใหน้ กั เรียน ช่วยกนั เปรียบเทียบวา่ จานวนใด
มากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ กนั โดยการเปลี่ยนใหเ้ ป็นเศษส่วน เช่น
ตวั อย่าง จงเปรียบเทียบ -0.1 และ -0.3
-0.1 = - 1 และ -0.3 = - 3 ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบวา่ จานวนใดมากกวา่ กนั ถา้
10 10
นกั เรียนตอบไม่ได้ หรือจาไมไ่ ดใ้ หเ้ ปรียบเทียบ - 1 กบั - 3 โดยใชเ้ ส้นจานวน จนนกั เรียนตอบไดถ้ ูกตอ้ งวา่
10 10
-1 มากกวา่ - 3 และ -0.1 มากกวา่ -0.3 แลว้ จึงถามวา่ คา่ สมั บูรณ์ของ -0.1 และ -0.3 จานวนใดนอ้ ยกวา่ กนั
10 10
2) กาหนดทศนิยม 2 ตาแหน่งและ 3 ตาแหน่งที่เป็นลบ 2 จานวน ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบและ
สงั เกตวา่ คา่ สัมบูรณ์ของจานวนนอ้ ยกวา่ จะเป็นจานวนท่ีมีคา่ มากกวา่ อีก 2 - 3 ตวั อยา่ ง
3) ครูนานกั เรียนอภิปรายถึงการเปรียบเทียบทศนิยมที่เป็ นลบ 2 จานวน ในตวั อยา่ งที่ผา่ นมา
วา่ มีขอ้ สงั เกตอยา่ งไร แลว้ ช่วยกนั สรุปวา่
ในการเปรียบเทียบทศนิยมท่ีเป็นลบ 2 จานวนใดๆ จานวนท่ีมีคา่ สมั บูรณ์นอ้ ยกวา่ จะเป็น
จานวนท่ีมีคา่ มากกวา่ เช่น
-0.5 > -0.7, -1.8 > -2.9, -0.78 > -0.87
3. ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาเปรียบเทียบทศนิยมท่ีเป็นบวกกบั ทศนิยมท่ีเป็นลบ โดยใชเ้ ส้นจานวน 2 - 3 ขอ้
แลว้ ช่วยกนั สรุปวา่ เนื่องจากทศนิยมที่เป็นบวกอยทู่ างขวาของ 0 และทศนิยมที่เป็นลบอยทู่ างซา้ ยของ 0 ดงั น้นั
ทศนิยมท่ีเป็นบวกยอ่ มมากกวา่ ทศนิยมที่เป็นลบเสมอ เช่น
0.157 > -2.33, 67.36 > -105.39, 2.88 > -2.88
4. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เรียงลาดบั ทศนิยมท่ีกาหนดให้จากมากไปหานอ้ ย 3 ขอ้ เช่น
1) 0.36, 2.55, 1.43, 0.22, 1.58
2) -4.33, -5.22, -5.02, -4.98, -5.45
3) -0.44, 0.36, -0.5, 0.28, -0.7
5. กาหนดทศนิยมขอ้ ละ 5 จานวน อีก 3 ขอ้ ใหน้ กั เรียนออกมาเรียงจากนอ้ ยไปหามาก บนกระดานดา
และใหน้ กั เรียนอื่นๆ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
6. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปหลกั การเปรียบเทียบทศนิยมอีกคร้ังหน่ึง โดยแยกเป็น
1) การเปรียบเทียบทศนิยมท่ีเป็นบวกสองจานวนใดๆ
2) การเปรียบเทียบทศนิยมที่เป็นลบสองจานวนใดๆ
3) การเปรียบเทียบทศนิยมท่ีเป็นบวก กบั ทศนิยมท่ีเป็นลบ
7. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. ใบงาน
2. แบบฝึกทกั ษะ
3. แบบทดสอบก่อนเรียน
4
วดั ผลประเมินผล
การวดั ผล
1. สังเกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกทกั ษะและ
แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ตรวจแบบฝึกทกั ษะ
3. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
การประเมนิ ผล
1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสาหรับผทู้ ่ีไดร้ ะดบั คุณภาพต้งั แต่ 1 ข้ึนไป
2. ถือเกณฑผ์ า่ นสาหรับผทู้ ่ีทาแบบฝึกทกั ษะ ไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ 75 ข้ึนไป
5
บันทึกหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
12.1 สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้
แผนการจดั การเรียนรนู้ ีใ้ ช้กับนักเรยี นช้ัน ………… จานวน …..…… คน ประกอบด้วย
ชนั้ ………. จานวน ……….. คน ชัน้ ………. จานวน ……….. คน ชนั้ ………. จานวน ……….. คน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เปน็ ไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนการจดั การเรียนรู้ เนื่องจาก …………………..…………
12.2 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1) ดา้ นความรู้ (Knowledge)
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินกาหนด จานวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ ..........……
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ท่ีกาหนด จานวน ……............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ………...……
เนอื่ งจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินท่ีกาหนด จานวน …….............คน คดิ เป็นร้อยละ …….…..……
เน่ืองจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ที่กาหนดจานวน ……............... คน คดิ เป็นร้อยละ …….….……
เนื่องจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปญั หา / อปุ สรรค
การจดั กิจกรรมการเรียนรไู้ ม่เหมาะสมกับเวลา
มนี กั เรียนทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
อื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
ควรปรับปรุงแผนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ………………………………………………………………………….
แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไี่ มผ่ ่านการประเมนิ …………………………………………………………………….
อ่ืนๆ …………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ...........................................................
(นางสาวกสุ ุมา จนั ทร์แกว้ )
ครูผสู้ อน
6
การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้
ข้อท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
54321
1 แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคล้องสัมพันธ์กับหนว่ ยการเรยี นรทู้ กี่ าหนดไว้
2 แผนการจดั การเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสาคัญครบถ้วน
3 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ คี วามชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ
4 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกับจดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ
5 กจิ กรรมการเรียนร้มู คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ด้จรงิ
6 กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ กจิ กรรมท่ีสง่ เสริมกระบวนการคิดของนักเรียน
7 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดแทรกคุณธรรมและคา่ นิยมทีด่ ีงาม
8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีการสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั
9 ส่อื และแหล่งเรียนรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกับเน้ือหาสาระ
10 การวดั และประเมินผลท่สี อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ 4 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับดีมาก
5 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับดีเยีย่ ม 2 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั พอใช้
3 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดี
1 หมายถึง คุณภาพในระดบั ปรบั ปรุง
ความเหน็ เพ่ิมเติมของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
............................................................................................................................. ......................................
............................................................................................................................................................. ...............
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................................................. ......................................
ลงชื่อ .................................................... ผ้ปู ระเมิน
(นางนติ ยา อภญิ )
หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
7
ความเหน็ รักษาการในตาแหน่งรองผู้อานวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ
องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้สอดคล้องกับมาตรฐานและตวั ชวี้ ดั / ผลการเรียนรู้
กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลาดบั ข้นั ตอน
สื่อและอุปกรณ์สอดคล้องกับกจิ กรรมการเรยี นการสอน
เวลาทใี่ ช้ในการสอนมีความเหมาะสมกับเนื้อหา
การวัดและประเมินผลสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชือ่ ...................................................................
(นางสาวเขมจิรฎั ฐ์ ภัทร์จิโรจนก์ ุล)
รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ
ความเห็นผู้อานวยการโรงเรยี นชานาญสามัคควี ิทยา
ทราบ
ความเหน็ เพมิ่ เตมิ ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชื่อ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)
ผู้อานวยการโรงเรยี นชานาญสามคั คีวิทยา
8
ใบงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. ใหน้ กั เรียนเขียนเศษส่วนต่อไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยม
1) 14
16
2) 3136
3) 27
50
4) 2 7
20
5) 4 13
125
2. ใหน้ กั เรียนเขียนทศนิยมตอ่ ไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปเศษส่วน
1) -0.38
2) 0.45
3) 305.679
4) -3.36
5) 6.002
9
เฉลยใบงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. ใหน้ กั เรียนเขียนเศษส่วนต่อไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยม
1) 14 -0.875
16
2) 3136 -3.1875
3) 27 0.54
50
4) 2 7 2.35
20
5) 4 13 -4.104
125
2. ใหน้ กั เรียนเขียนทศนิยมต่อไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปเศษส่วน
1) -0.38 19
50
2) 0.45 9
20
3) 305.679 305 679
1000
4) -3.36 3 9
25
5) 6.002 61
500
10
ใบงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. จงเขียนเศษส่วนต่อไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยม
1) 7 , 7 , 7 , 7
10 100 10 100
2) 28 , 283 , 33 , 341
10 10 10 10
3) 578 , 4,231 , 313 , 5,214
1,000 1,000 100 1,000
4) 11 , 11 , 11 , 11
20 4 20 4
5) 1 8 , 5 18 , 3 435
1,000
10 100
2. จงเขียนทศนิยมต่อไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปเศษส่วน
1) 0.07 2) -0.125
3) -1.2 4) 21.035
5) -6.096
3. จงเขียนจานวนตอ่ ไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยม
1) 1 2) 4
8 5
3) 8 4) 29
11 18
11
เฉลยใบงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี
1. จงเขียนเศษส่วนตอ่ ไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยม
1) 7 , 7 , 7 , 7
10 100 10 100
0.7, 0.07, -0.7, -0.07
2) 28 , 283 , 33 , 341
10 10 10 10
2.8, 28.3, -3.3, -34.1
3) 578 , 4,231 , 313 , 5,214
1,000 1,000 100 1,000
0.578, 4.231, -3.13, -5.214
4) 11 , 11 , 11 , 11
20 4 20 4
0.55, 2.75, -0.55, -2.75
5) 1180 , 5 18 , 3 435
100 1,000
-1.8, -5.18, -3.435
2. จงเขียนทศนิยมตอ่ ไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปเศษส่วน
1) 0.07 7 2) -0.125 125 1
100 1,000 8
3) -1.2 1 1 4) 21.035 21 7
5 200
5) -6.096 6 12
125
3. จงเขียนจานวนตอ่ ไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยม
1) 1 0.125 2) 4 -0.8
-0.72 -1.61…………………….
8 5
3) 8 4) 29
11 18
12
ใบความรู้
เร่ือง การเปรียบเทยี บทศนิยม
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาตอ่ ไปน้ี
จงพจิ ารณาเส้นจานวน
-6| -5| -4| -3| -2| -1| 0| 1| 2| 3| 4| 5| 6|
บนเส้นจานวน ถา้ จานวน a อยทู่ างซา้ ยของจานวน b จะไดว้ า่ a < b
เช่น 1 < 2, -1 < 0, -4 < -2 เป็นตน้
สาหรับจานวนในรูปทศนิยม ใชห้ ลกั การเดียวกนั เช่น
0| 0.|1 0.|2 0.|3 0.|4 0.|5 0.|6 0.|7 0.|8 0.|9 1|
จากเส้นจานวน จะพบวา่ 0.1 < 0.3 และ 0.5 < 0.9 เป็นตน้
13
แบบฝึ กทกั ษะ
คาชี้แจง จงเติมเครื่องหมาย > หรือ < ลงใน เพ่ือทาใหค้ ่าท่ีไดส้ อดคลอ้ งกบั ความเป็นจริง
1. 1) 0.65 0.47 2) 0.074 0.069
3) 0.023 0.019 4) 0.06 0.058
5) 7.8 7.6 6) -16.23 -16.45
7) -29.38 -29.47 8) -7.045 -7.036
9) -5.072 -5.063 10) -24.923 -24.913
2. จงเรียงลาดบั จานวนตอ่ ไปน้ีจากนอ้ ยไปหามาก
1) 0.6, 0.4, 0.7 2) 0.69, 0.47, 0.83
3) 0.83, 0.81, 0.86 4) 0.04, 0.045, 0.05
5) -0.07, -0.069, -0.073 6) -0.0303, -0.003, -0.033
7) -7.2, -7.4, -7.3 8) -16.86, -16.84, -16.79
14
เฉลยแบบฝึ กทกั ษะ
คาชี้แจง จงเติมเคร่ืองหมาย > หรือ < ลงใน เพอ่ื ทาใหค้ ่าที่ไดส้ อดคลอ้ งกบั ความเป็นจริง
1. 1) 0.65 > 0.47 2) 0.074 > 0.069
3) 0.023 > 0.019 4) 0.06 > 0.058
5) 7.8 > 7.6 6) -16.23 > -16.45
7) -29.38 > -29.47 8) -7.045 < -7.036
9) -5.072 < -5.063 10) -24.923 < -24.913
2. จงเรียงลาดบั จานวนต่อไปน้ีจากนอ้ ยไปหามาก
1) 0.6, 0.4, 0.7 2) 0.69, 0.47, 0.83
0.4, 0.6, 0.7 0.47, 0.69, 0.83
3) 0.83, 0.81, 0.86 4) 0.04, 0.045, 0.05
0.81, 0.83, 0.86 0.04, 0.045, 0.05
5) -0.07, -0.069, -0.073 6) -0.0303, -0.003, -0.033
-0.073, -0.07, -0.069 -0.033, -0.0303, -0.003
7) -7.2, -7.4, -7.3 8) -16.86, -16.84, -16.79
-7.4, -7.3, -7.2 -16.86, -16.84, -16.79
15
แบบทดสอบก่อนเรียน
ตอนท่ี 1 จงเขียนเคร่ืองหมาย ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว
1. ขอ้ ใดเรียงลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปหามาก ข. -0.75, 0.77, -0.79, -0.81
ก. 0.2, 0.21, 0.022, 0.023 ง. 0.5, 0, -0.5, -1.0
ค. -0.85, -0.75, -0.65, -0.55
2. ขอ้ ใดเรียงลาดบั จานวนจากมากไปหานอ้ ย ข. -1.23, -1.57, -1.59, -1.06
ก. -33.7, -23.8, -15.72, -5.91 ง. -44.31, -44.32, -44.322, -44.333
ค. -7.9, -7.91, -7.99, -7.09
3. -147.302 - (-75.9) ไดเ้ ทา่ กบั ขอ้ ใด ข. 71.402
ก. -71.402 ง. -223.202
ค. -72.402
4. ดวงดาวหนกั 52.5 กิโลกรัม เดด็ ดวงหนกั เป็น 1.2 เท่าของดวงดาว เดด็ ดวงหนกั เทา่ ไร
ก. 53.7 กิโลกรัม ข. 62.0 กิโลกรัม
ค. 63.0 กิโลกรัม ง. 67.0 กิโลกรัม
5. 7 ในจานวน 0.8972 มีค่าเท่าใด
ก. 71 ข. 7 1
10 102
ค. 71 ง. 71
103 104
6. 3 หนา้ จุดทศนิยมและ 3 หลงั จุดทศนิยมในจานวน 357.4239 มีคา่ ต่างกนั เท่าไร
ก. 0 ข. 297
ค. 299.97 ง. 299.997
7. จานวนในขอ้ ใดมีค่านอ้ ยที่สุด ข. 0.0002
ก. 0.00003 ง. 0.01
ค. 0.001
ค. 7.1227
8. 2.9134 + 4.2093 ไดเ้ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 6.1227 ข. 7.1127 ง. 7.2227
16
9. 650.437 - 33.048 ไดเ้ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 616.389 ข. 617.389 ค. 617.399 ง. 617.489
10. สนามหญา้ รูปสี่เหล่ียมมุมฉากกวา้ ง 6.35 เมตร ยาว 10.75 สนามหญา้ น้ีมีพ้ืนที่เท่าไร
ก. 68.0625 ตารางเมตร ข. 68.2525 ตารางเมตร
ค. 68.2625 ตารางเมตร ง. 78.2625 ตารางเมตร
11. 0.6ํ เทา่ กบั เศษส่วนจานวนใด
ก. 1 ข. 2
3 5
3
ค. 2 ง. 5
3
ง. 0.545
12. 6 เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยมไดเ้ ทา่ กบั ขอ้ ใด
11
ก. 0.54 ข. 0.55 ค. 0.56
13. เศษส่วนคา่ ใดมีค่าเทา่ กนั
ก. , -70 70 ข. - ,1 1
100 100 10 100
ค. -2 , -11 37 ง. -1 5 , -1 9
13 13 9 5
14. ขอ้ ใดเป็นจริง
ก. -0.02 = - 2 ข. -3.047 = -3 47
10 100
ค. -1.003 = -1 3 ง. -5.3400 = -5 34
10 100
15. ขอ้ ใดเป็นเทจ็
ก. -5 3 = -5.75 ข. -7 3 = -7.6
4 5
ค. - 77 = -7.7 ง. -1 1 = -1.125
20 8
17
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
ตอนท่ี 1 จงเขียนเคร่ืองหมาย ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว
1. ขอ้ ใดเรียงลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปหามาก ข. -0.75, 0.77, -0.79, -0.81
ก. 0.2, 0.21, 0.022, 0.023 ง. 0.5, 0, -0.5, -1.0
ค. -0.85, -0.75, -0.65, -0.55
2. ขอ้ ใดเรียงลาดบั จานวนจากมากไปหานอ้ ย ข. -1.23, -1.57, -1.59, -1.06
ก. -33.7, -23.8, -15.72, -5.91 ง. -44.31, -44.32, -44.322, -44.333
ค. -7.9, -7.91, -7.99, -7.09
3. -147.302 - (-75.9) ไดเ้ ท่ากบั ขอ้ ใด ข. 71.402
ก. -71.402 ง. -223.202
ค. -72.402
4. ดวงดาวหนกั 52.5 กิโลกรัม เด็ดดวงหนกั เป็น 1.2 เท่าของดวงดาว เด็ดดวงหนกั เทา่ ไร
ก. 53.7 กิโลกรัม ข. 62.0 กิโลกรัม
ค. 63.0 กิโลกรัม ง. 67.0 กิโลกรัม
5. 7 ในจานวน 0.8972 มีคา่ เท่าใด
ก. 71 ข. 7 1
10 102
ค. 71 ง. 71
103 104
6. 3 หนา้ จุดทศนิยมและ 3 หลงั จุดทศนิยมในจานวน 357.4239 มีคา่ ตา่ งกนั เท่าไร
ก. 0 ข. 297
ค. 299.97 ง. 299.997
7. จานวนในขอ้ ใดมีคา่ นอ้ ยที่สุด ข. 0.0002
ก. 0.00003 ง. 0.01
ค. 0.001
ค. 7.1227
8. 2.9134 + 4.2093 ไดเ้ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 6.1227 ข. 7.1127 ง. 7.2227
18
9. 650.437 - 33.048 ไดเ้ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 616.389 ข. 617.389 ค. 617.399 ง. 617.489
10. สนามหญา้ รูปสี่เหล่ียมมุมฉากกวา้ ง 6.35 เมตร ยาว 10.75 สนามหญา้ น้ีมีพ้ืนที่เท่าไร
ก. 68.0625 ตารางเมตร ข. 68.2525 ตารางเมตร
ค. 68.2625 ตารางเมตร ง. 78.2625 ตารางเมตร
11. 0.6ํ เทา่ กบั เศษส่วนจานวนใด
ก. 1 ข. 2
3 5
ค. 2 ง. 3
3 5
12. 6 เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปทศนิยมไดเ้ ทา่ กบั ขอ้ ใด
11
ก. 0.54 ข. 0.55 ค. 0.56 ง. 0.545
13. เศษส่วนคา่ ใดมีค่าเทา่ กนั
ก. , -70 70 ข. - ,1 1
100 100 10 100
ค. -2 , -11 37 ง. -1 5 , -1 9
13 13 9 5
14. ขอ้ ใดเป็นจริง
ก. -0.02 = - 2 ข. -3.047 = -3 47
10 100
ค. -1.003 = -1 3 ง. -5.3400 = -5 34
10 100
15. ขอ้ ใดเป็นเทจ็
ก. -5 3 = -5.75 ข. -7 3 = -7.6
4 5
ค. - 77 = -7.7 ง. -1 1 = -1.125
20 8
19
แผนการจดั การเรียนท่ี 2 เรื่อง การบวกทศนิยม
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง เศษส่วนและทศนิยม กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 รหัสวชิ า ค21105 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 เวลา 2 ช่ัวโมง สอนโดย นางสาวกสุ ุมา จันทร์แก้ว
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการสมบตั ิของการดาเนินการและนาไปใช้
ตัวชี้วดั
ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจานวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบตั ิของจานวน
ตรรกยะในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
ค 1.1 ม.1/2 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้ีกาลงั เป็นจานวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา
คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวติ จริง
สาระสาคัญ
การบวกและการลบทศนิยม ใชว้ ธิ ีการวางตาแหน่งตวั เลขและตาแหน่งทศนิยมใหต้ รงกนั แลว้ ใชห้ ลกั การ
บวกหรือลบ เช่นเดียวกบั การบวก การลบจานวนเตม็ หลกั การเปรียบเทียบจานวนเตม็
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
บวก ทศนิยมได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใชว้ ธิ ีการที่หลากหลายแกป้ ัญหา
2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์
ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเช่ือมนั่ ในตนเอง
สาระการเรียนรู้
การบวกทศนิยม
20
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1
1. ทบทวนการบวกและการลบทศนิยมที่เป็ นบวกวา่ มีหลกั เกณฑเ์ ช่นเดียวกบั การบวกและการ
ลบจานวนนบั โดยเนน้ วา่ จะตอ้ งจดั เลขโดดท่ีอยใู่ นหลกั เดียวกนั หรือตาแหน่งเดียวกนั ใหต้ รงกนั เสมอ แลว้ จึง
บวก ลบกนั พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ
2. ทบทวนหลกั เกณฑก์ ารบวก ลบ จานวนเตม็ ใดๆ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ
3. กาหนดโจทยก์ ารบวกทศนิยมท่ีเป็นบวกดว้ ยทศนิยมท่ีเป็นบวกใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาคาตอบ 1 - 2
ขอ้ เช่น
ตวั อย่าง จงหาผลบวก 24.37 + 31.541
วธิ ีทา 24.37 + 31.541 = 24.370 + 31.541
24.370 +
31.541
55.911
ดังน้ัน 24.37 +31.541 = 55.911
ตอบ ๕๕.๙๑๑
แลว้ ใหน้ กั เรียนสังเกต อภิปรายร่วมกนั จนสรุปไดว้ า่
การบวกทศนิยมทเี่ ป็ นบวกด้วยทศนิยมทเ่ี ป็ นบวกให้นาค่าสัมบูรณ์มาบวกกนั แล้วตอบเป็ นจานวน
บวก
4. กาหนดโจทยก์ ารบวกทศนิยมที่เป็นลบดว้ ยทศนิยมท่ีเป็นลบใหน้ กั เรียนช่วยกนั พิจารณาหาคาตอบ
บนกระดานดา 2 - 5 ขอ้ เช่น
ตัวอย่าง จงหาผลบวก (-3.79) + (-9.32)
วธิ ีทา -3.79 +
-9.32
-13.11
ตอบ -๑๓.๑๑
แลว้ ใหน้ กั เรียนอภิปรายร่วมกนั จนไดข้ อ้ สรุปวา่
การบวกทศนิยมทเ่ี ป็ นลบด้วยทศนิยมทเี่ ป็ นลบให้นาค่าสัมบูรณ์มาบวกกนั แล้วตอบเป็ นจานวนลบ
21
ช่ัวโมงท่ี 2
5. กาหนดโจทยก์ ารบวกทศนิยมที่เป็นบวกกบั ทศนิยมท่ีเป็นลบ 2 - 5 ขอ้ ใหน้ กั เรียนหาคาตอบ
เช่น
ตัวอย่าง จงหาผลบวก (-37.246) + 24.91
วธิ ีทา -37.246 +
24.910
-12.336
ตอบ -๑๒.๓๓๖
แลว้ ใหน้ กั เรียนอภิปรายกนั จนไดข้ อ้ สรุปวา่
การบวกระหว่างทศนิยมท่ีเป็ นบวกกบั ทศนิยมทเี่ ป็ นลบ ให้นาค่าสัมบูรณ์ท่ีมากกว่า
ลบด้วยค่าสัมบูรณ์ทนี่ ้อยกว่า แล้วตอบเป็ นจานวนบวกหรือจานวนลบตามจานวนทม่ี ีค่าสัมบูรณ์มากกว่า
6. ทบทวนสมบตั ิการบวกจานวนเตม็ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ
7. ใหน้ กั เรียนทุกกลุ่มอภิปรายผลร่วมกนั เพอ่ื สรุปวา่
1) การบวกทศนิยมใดๆ ดว้ ยศูนย์ หรือการบวกศูนยด์ ว้ ยทศนิยมใดๆ จะไดผ้ ลบวกเทา่ กบั
ทศนิยมน้นั เสมอ
2) การบวกทศนิยมสองจานวน สามารถสลบั ท่ีระหวา่ งตวั ต้งั และตวั บวกได้ โดยท่ีผลลพั ธ์ยงั คง
เดิม
3) การบวกทศนิยมสามจานวน สามารถบวกทศนิยมคู่แรกหรือคู่หลงั ก่อนกไ็ ด้ โดยที่ผลลพั ธ์
สุดทา้ ยยงั คงเทา่ กนั
8. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปหลกั เกณฑใ์ นการบวกของทศนิยมใดๆ 2 จานวนดงั น้ี
1) การหาผลบวกระหวา่ งทศนิยมท่ีเป็นบวก ใหน้ าคา่ สมั บูรณ์มาบวกกนั แลว้ ตอบเป็นจานวน
บวก
2) การหาผลบวกระหวา่ งทศนิยมที่เป็นลบ ใหน้ าคา่ สมั บูรณ์มาบวกกนั แลว้ ตอบเป็นจานวนลบ
3) การหาผลบวกระหวา่ งทศนิยมท่ีเป็นบวกกบั ทศนิยมท่ีเป็นลบใหน้ าค่าสมั บูรณ์มาลบกนั แลว้
ตอบเป็ นจานวนบวกหรือจานวนลบ ตามจานวนท่ีมีค่าสัมบูรณ์มากกวา่
9. ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
แบบฝึกทกั ษะ
22
วดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกทกั ษะ
2. ตรวจแบบฝึกทกั ษะ
การประเมินผล
1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสาหรับผทู้ ่ีไดร้ ะดบั คุณภาพต้งั แต่ 1 ข้ึนไป
2. ถือเกณฑผ์ า่ นสาหรับผทู้ ่ีทาแบบฝึก ไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ 75 ข้ึนไป
23
บันทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
12.1 สรุปผลการจัดการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรูน้ ้ีใชก้ บั นกั เรียนช้ัน ………… จานวน …..…… คน ประกอบด้วย
ช้นั ………. จานวน ……….. คน ชัน้ ………. จานวน ……….. คน ชน้ั ………. จานวน ……….. คน
การจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ ไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ มเ่ ป็นไปตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก …………………..…………
12.2 การประเมินผลการเรียนรู้
1) ด้านความรู้ (Knowledge)
นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินกาหนด จานวน ……............... คน คดิ เป็นร้อยละ ..........……
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กาหนด จานวน ……............. คน คดิ เป็นร้อยละ ………...……
เน่ืองจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินที่กาหนด จานวน …….............คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เนื่องจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (Attribute)
นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ที่กาหนดจานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….….……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปัญหา / อปุ สรรค
การจัดกิจกรรมการเรยี นรไู้ ม่เหมาะสมกับเวลา
มนี กั เรยี นทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
อื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
ควรปรบั ปรงุ แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง ………………………………………………………………………….
แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมนิ …………………………………………………………………….
อ่นื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชือ่ ...........................................................
(นางสาวกุสุมา จนั ทร์แก้ว)
ครผู ้สู อน
24
การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้
ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน
54321
1 แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคล้องสมั พันธก์ บั หน่วยการเรยี นร้ทู กี่ าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสาคญั ครบถ้วน
3 จุดประสงค์การเรียนรมู้ คี วามชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ
4 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจดุ ประสงค์และเน้ือหาสาระ
5 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏิบตั ิได้จรงิ
6 กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ กิจกรรมท่ีส่งเสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น
7 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดแทรกคณุ ธรรมและค่านิยมท่ีดงี าม
8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ กี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั
9 สื่อและแหล่งเรยี นรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับเน้ือหาสาระ
10 การวดั และประเมินผลท่ีสอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ 4 หมายถึง คุณภาพในระดับดีมาก
5 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดีเยีย่ ม 2 หมายถึง คณุ ภาพในระดับพอใช้
3 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดี
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรบั ปรุง
ความเห็นเพิ่มเติมของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ......................................
............................................................................................................................................................. ...............
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................................................. ......................................
ลงชอื่ .................................................... ผูป้ ระเมิน
(นางนิตยา อภิญ)
หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
25
ความเหน็ รักษาการในตาแหน่งรองผู้อานวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นร้สู อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้
กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลาดบั ข้นั ตอน
สอื่ และอุปกรณ์สอดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน
เวลาทใ่ี ช้ในการสอนมีความเหมาะสมกับเน้ือหา
การวัดและประเมนิ ผลสอดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ความเหน็ เพ่ิมเติม ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชอ่ื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ัฎฐ์ ภัทรจ์ ิโรจน์กุล)
รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
ความเหน็ ผ้อู านวยการโรงเรียนชานาญสามคั ควี ิทยา
ทราบ
ความเหน็ เพิม่ เติม ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชือ่ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)
ผ้อู านวยการโรงเรียนชานาญสามัคคีวิทยา
แบบฝึ กทกั ษะ 26
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนหาผลบวกในแตล่ ะขอ้ ต่อไปน้ี
วน้ ไว้
1) 0.824 + 0.988 =
2) 6.124+9.56 =
3) (-3.25) + (-1.68) =
4) (-36.9) + (-9.27) =
5) 0.146+15.91+64.228 =
6) 58.34 + 14.672 + 37.6 =
7) 41.5+52.63+67.403 =
8) (-12.76) + (-0.542) + (-2.7) =
9) (-8.726) + (-5.43) + (-9.125) =
10) (-4.01)+(-29.126)+(-58.4)ช่เ =
27
เฉลยแบบฝึ กทกั ษะ
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนหาผลบวกในแตล่ ะขอ้ ต่อไปน้ี
1) 0.824 + 0.988 = 1.812
2) 6.124+9.56 = 15.684
3) (-3.25) + (-1.68) = -4.93
4) (-36.9) + (-9.27) = -46.17
5) 0.146+15.91+64.228 = 80.284
6) 58.34 + 14.672 + 37.6 = 110.612
7) 41.5+52.63+67.403 = 161.533
8) (-12.76) + (-0.542) + (-2.7) = -16.002
9) (-8.726) + (-5.43) + (-9.125) = -23.281
10) (-4.01)+(-29.126)+(-58.4)ช่ องว่ = -91.536 วน้
28
แผนการจดั การเรียนท่ี 3 เรื่อง การลบทศนิยม
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 รหัสวชิ า ค21105 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 เวลา 2 ชั่วโมง สอนโดย นางสาวกสุ ุมา จันทร์แก้ว
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการสมบตั ิของการดาเนินการและนาไปใช้
ตัวชี้วดั
ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจานวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบตั ิของจานวน
ตรรกยะในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
ค 1.1 ม.1/2 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้ีกาลงั เป็นจานวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา
คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
สาระสาคญั
การบวกและการลบทศนิยม ใชว้ ธิ ีการวางตาแหน่งตวั เลขและตาแหน่งทศนิยมใหต้ รงกนั แลว้ ใชห้ ลกั การ
บวกหรือลบ เช่นเดียวกบั การบวก การลบจานวนเตม็ หลกั การเปรียบเทียบจานวนเตม็
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
ลบ ทศนิยมได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใชว้ ธิ ีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา
2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์
ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเช่ือมนั่ ในตนเอง
สาระการเรียนรู้
การลบทศนิยม
29
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
1. ทบทวนจานวนตรงขา้ มของจานวนเตม็ และการลบจานวนเตม็ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ
2. ใหน้ กั เรียนหาจานวนตรงขา้ มของทศนิยมโดยใชเ้ ส้นจานวน 2 - 3 ตวั อยา่ ง และสงั เกตวา่ ทศนิยม
ท่ีเป็นบวกและทศนิยมที่เป็นลบที่มีค่าสัมบูรณ์เท่ากนั จะอยคู่ นละขา้ งของ 0 และอยหู่ ่างจาก 0 เป็นระยะทาง
เท่ากนั เช่น -0.5 กบั 0.5
-0.5 เป็นจานวนตรงขา้ มของ 0.5
และ 0.5 เป็นจานวนตรงขา้ มของ -0.5
ใหน้ กั เรียนหาผลบวกของจานวนตรงขา้ มเป็ นคูๆ่ เช่น 0.5 + (-0.5) = (-0.5) + 0.5 = 0
แลว้ ช่วยกนั สรุปใหไ้ ดว้ า่
ถ้า a เป็ นทศนิยมใดๆ จานวนตรงข้ามของ a มเี พยี งจานวนเดียวเขียนแทนด้วย -a และ
a + (-a) = (-a) + a = 0
ถ้า a เป็ นทศนิยมใดๆ จานวนตรงข้ามของ -a คือ a และเขยี นแทนด้วย -(-a) = a
3. กาหนดทศนิยมใหน้ กั เรียนหาจานวนตรงขา้ มอยา่ งรวดเร็ว 10 ขอ้
4. ใหน้ กั เรียนอภิปรายถึงการหาผลลบของทศนิยมใดๆ วา่ ใชข้ อ้ ตกลงเดียวกนั การหาผลลบของ
จานวนเตม็ ดงั น้ี
ตวั ต้งั - ตัวลบ = ตวั ต้งั + จานวนตรงข้ามของตวั ลบ
เช่น 3.76 - 2.55 = 3.76 + (-2.55)
(-7.92) - 4.07 = (-7.92) + (-4.07)
(-12.43) - (-10.71) = (-12.43) + 10.71
88.75 - (-46.39) = 88.75 + 46.39
ช่ัวโมงท่ี 2
5. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่มละ 3 - 4 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มหาผลลบของทศนิยมใดๆ กลุ่มละ 10 ขอ้ เสร็จ
แลว้ อภิปรายร่วมกนั เพื่อหาคาตอบท่ีถูกตอ้ ง และสรุปหลกั เกณฑก์ ารหาผลลบของทศนิยม
30
6. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มช่วยกนั พิจารณาวา่ ทศนิยมมีสมบตั ิการสลบั ท่ีสาหรับการลบ และสมบตั ิการเปล่ียน
หมูไ่ ดส้ าหรับการลบหรือไม่ แลว้ ส่งตวั แทนออกมารายงานผล และสรุปผลร่วมกนั
7. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
แบบฝึกทกั ษะ
วดั ผลประเมินผล
การวดั ผล
1. สังเกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกทกั ษะ
2. ตรวจแบบฝึกทกั ษะ
การประเมินผล
1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสาหรับผทู้ ่ีไดร้ ะดบั คุณภาพต้งั แต่ 1 ข้ึนไป
2. ถือเกณฑผ์ า่ นสาหรับผทู้ ี่ทาแบบฝึก ไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ 75 ข้ึนไป
31
แบบฝึ กทกั ษะ
จงหาผลลบ
1) 25.15 - 10.5
………………………………………………………
………………………………………………………
2) 8.1 - (-3.92)
………………………………………………………
………………………………………………………
3) (-8.1) - (-3.09)
………………………………………………………
………………………………………………………
4) (-0.011) - 0.39
………………………………………………………
………………………………………………………
5) (-99.9) - 9.1
………………………………………………………
………………………………………………………
32
เฉลยแบบฝึ กทกั ษะ
จงหาผลลบ
1) 25.15 - 10.5 = 25.15 + (-10.50)
25.15 +
-10.50
14.65
ดงั น้ัน 25.15 - 10.5 = 14.65
ตอบ ๑๔.๖๕
2) 8.1 - (-3.92) = 8.10 + 3.92
8.10 +
3.92
12.02
ตอบ ๑๒.๐๒
3) (-8.1) - (-3.09) = (-8.10) + 3.09
-8.10 +
3.09
-5.01
ดังน้ัน -8.1 - (-3.09) = -5.01
ตอบ -๕.๐๑
4) (-0.011) - 0.39 = (-0.011) + (-0.390)
-0.011 +
-0.390
-0.401
ดงั น้ัน (-0.011) - 0.39 = -0.401
ตอบ -๐.๔๐๑
33
5) (-99.9) - 9.1 = (-99.9) + (-9.1)
-99.9 +
- 9.1
-109.0
ดังน้ัน (-99.9) - 9.1 = -109
ตอบ -๑๐๙
34
แผนการจดั การเรียนที่ 3 เรื่อง การคูณทศนิยม
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 รหสั วชิ า ค21105 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 เวลา 2 ชั่วโมง สอนโดย นางสาวกสุ ุมา จนั ทร์แก้ว
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการสมบตั ิของการดาเนินการและนาไปใช้
ตวั ชี้วดั
ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจานวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบตั ิของจานวน
ตรรกยะในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
ค 1.1 ม.1/2 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้ีกาลงั เป็นจานวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา
คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
สาระสาคัญ
การคูณทศนิยม ต้งั คูณเช่นเดียวกบั จานวนเต็มโดยทวั่ ไป ไม่ตอ้ งคานึงถึงตาแหน่งของจุดทศนิยม ส่วนผลลพั ธ์
จะเป็นทศนิยมที่มีจานวนตาแหน่งของทศนิยมเท่ากบั จานวนทศนิยมของตวั ต้งั รวมกบั ทศนิยมของตวั คูณ
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
คูณ ทศนิยมได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใชว้ ธิ ีการที่หลากหลายแกป้ ัญหา
2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์
ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชื่อมนั่ ในตนเอง
สาระการเรียนรู้
การคูณทศนิยม
35
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
1. ครูทบทวนการคูณทศนิยมท่ีเป็นบวกวา่ มีวธิ ีการเช่นเดียวกนั กบั การคูณจานวนเตม็ บวกหรือ
จานวนนบั แลว้ ใส่จุดทศนิยมใหถ้ ูกท่ีโดยนบั จานวนตาแหน่งทศนิยมของตวั ต้งั และตวั คูณรวมกนั เป็นจานวน
ตาแหน่งทศนิยมของผลคูณ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งใหน้ กั เรียนทาดู
2. ทบทวนการคูณจานวนเตม็ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ
3. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาผลคูณของทศนิยมท่ีเป็ นบวกดว้ ยทศนิยมท่ีเป็นบวก 1 - 2 ขอ้ อภิปรายผล
เพอ่ื สรุปวา่
การคูณทศนิยมทเ่ี ป็ นบวกด้วยทศนิยมทเ่ี ป็ นบวก จะได้คาตอบเป็ นทศนิยมทเ่ี ป็ นบวก และมีค่า
สัมบูรณ์เท่ากบั ผลคูณของค่าสัมบูรณ์ของ 2 จานวนน้ัน
4. ใหน้ กั เรียนหาผลคูณของทศนิยมท่ีเป็นลบดว้ ยทศนิยมที่เป็นลบ 3 - 4 ขอ้ เช่น
ตัวอย่าง จงหาผลคูณ (-3.45)×(-0.017)
วธิ ีทา 345 ×
17
2415
345
5865
ดังน้ัน (-3.45)×(-0.017) = 0.05865
แลว้ อภิปรายเพ่อื สรุปวา่
การคูณทศนิยมทเี่ ป็ นลบด้วยทศนิยมทเี่ ป็ นลบ จะได้คาตอบเป็ นทศนิยมทเ่ี ป็ นบวก และมคี ่า
สัมบูรณ์เท่ากบั ผลคูณของค่าสัมบูรณ์ของสองจานวนน้ัน
ชั่วโมงที่ 2
5. กาหนดโจทยก์ ารคูณทศนิยมที่เป็นบวกดว้ ยทศนิยมท่ีเป็นลบ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาคาตอบ 3 - 4 ขอ้
แลว้ อภิปรายกนั เพื่อสรุปใหไ้ ดว้ า่
การคูณทศนิยมทเี่ ป็ นบวกด้วยทศนิยมทเี่ ป็ นลบ จะได้คาตอบเป็ นทศนิยมทเี่ ป็ นลบ และมคี ่า
สัมบูรณ์เท่ากบั ผลคูณของค่าสัมบูรณ์ของสองจานวนน้ัน
6. กาหนดโจทยก์ ารคูณทศนิยมท่ีเป็นลบดว้ ยทศนิยมที่เป็ นบวก 3 - 4 ขอ้ แลว้ อภิปรายกนั เพอ่ื สรุปวา่
การคูณทศนิยมทเี่ ป็ นลบด้วยทศนิยมทีเ่ ป็ นบวก จะได้คาตอบเป็ นทศนิยมทเ่ี ป็ นลบและมีค่า
สัมบูรณ์เท่ากบั ผลคูณของค่าสัมบูรณ์ของสองจานวนน้ัน
7. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เขียนสรุปหลกั เกณฑก์ ารคูณทศนิยมบนกระดานดา ใหไ้ ดใ้ จความดงั น้ี
หลกั เกณฑก์ ารคูณทศนิยม
1) การคูณระหวา่ งทศนิยมที่เป็นบวกใหน้ าค่าสมั บูรณ์มาคูณกนั แลว้ ตอบเป็นจานวนบวก
36
2) การคูณระหวา่ งทศนิยมที่เป็นลบใหน้ าคา่ สมั บูรณ์มาคูณกนั แลว้ ตอบเป็นจานวนบวก
3) การคูณระหวา่ งทศนิยมท่ีเป็นบวกกบั ทศนิยมที่เป็นลบ ใหน้ าค่าสัมบูรณ์มาคูณกนั แลว้ ตอบ
เป็ นจานวนลบ
8. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
แบบฝึกทกั ษะ
วดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกทกั ษะ
2. ตรวจแบบฝึกทกั ษะ
การประเมนิ ผล
1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสงั เกตพฤติกรรมสาหรับผทู้ ่ีไดร้ ะดบั คุณภาพต้งั แต่ 1 ข้ึนไป
2. ถือเกณฑผ์ า่ นสาหรับผทู้ ี่ทาแบบฝึก ไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ 75 ข้ึนไป
37
บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
12.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้
แผนการจดั การเรยี นรู้นี้ใช้กับนกั เรียนชน้ั ………… จานวน …..…… คน ประกอบด้วย
ชนั้ ………. จานวน ……….. คน ชนั้ ………. จานวน ……….. คน ชัน้ ………. จานวน ……….. คน
การจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ ไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
การจดั กิจกรรมการเรียนรไู้ ม่เป็นไปตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก …………………..…………
12.2 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1) ด้านความรู้ (Knowledge)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ..........……
นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินที่กาหนด จานวน ……............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………...……
เนอ่ื งจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เป็นร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินที่กาหนด จานวน …….............คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ท่ีกาหนดจานวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ …….….……
เน่อื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปญั หา / อุปสรรค
การจัดกิจกรรมการเรยี นรไู้ มเ่ หมาะสมกับเวลา
มนี ักเรียนทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
อื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
ควรปรบั ปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง ………………………………………………………………………….
แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ ่านการประเมิน…………………………………………………………………….
อ่นื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ...........................................................
(นางสาวกสุ ุมา จนั ทร์แก้ว)
ครผู ู้สอน
38
การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้
ขอ้ ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
54321
1 แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคล้องสัมพันธก์ ับหนว่ ยการเรยี นร้ทู กี่ าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสาคัญครบถ้วน
3 จุดประสงค์การเรียนรมู้ ีความชดั เจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ
4 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกบั จดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ
5 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัติได้จริง
6 กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ กจิ กรรมที่สง่ เสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น
7 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดแทรกคุณธรรมและค่านิยมทด่ี งี าม
8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ กี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
9 สื่อและแหล่งเรยี นรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ
10 การวดั และประเมินผลทส่ี อดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
5 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดีเยีย่ ม 2 หมายถึง คณุ ภาพในระดับพอใช้
3 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดี
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรับปรุง
ความเห็นเพิ่มเติมของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. ....................................
...................................................................................................................................................................
ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
(นางนิตยา อภิญ)
หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
39
ความเหน็ รักษาการในตาแหน่งรองผู้อานวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นรูส้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้
กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลาดบั ข้นั ตอน
สอื่ และอุปกรณ์สอดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน
เวลาทใ่ี ช้ในการสอนมีความเหมาะสมกับเน้ือหา
การวัดและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ความเหน็ เพ่ิมเติม ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชอ่ื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ัฎฐ์ ภทั ร์จิโรจน์กลุ )
รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ
ความเหน็ ผ้อู านวยการโรงเรียนชานาญสามัคควี ิทยา
ทราบ
ความเหน็ เพิม่ เติม ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชือ่ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)
ผ้อู านวยการโรงเรียนชานาญสามัคควี ทิ ยา
40
แบบฝึ กทกั ษะ
คาชี้แจง จงหาผลคูณในแต่ละขอ้ ตอ่ ไปน้ี
1) 6.1 × 2.1 =
2) 3.9 × 4.1 =
3) 7.05 × 9.8 =
4) (-0.78) ×4.12 =
5) 0.86 × (-6.89) =
6) (-17.4) × (-0.96) =
7) 13.3 × 0.94 =
8) (-4.9) × (-3.11) =
9) (-3.6) ×2.9 =
10) 6.04 × (-9.2) =
41
เฉลยแบบฝึ กทกั ษะ
คาชี้แจง จงหาผลคูณในแตล่ ะขอ้ ต่อไปน้ี
1) 6.1 × 2.1 = 12.81
2) 3.9 × 4.1 = 15.99
3) 7.05 × 9.8 = 69.09
4) (-0.78) × 4.12 = -3.2136
5) 0.86 × (-6.89) = -5.9254
6) (-17.4) × (-0.96) = 16.704
7) 13.3 × 0.94 = 12.502
8) (-4.9) × (-3.11) = 15.239
9) (-3.6) × 2.9 = -10.44
10) 6.04 × (-9.2) = -55.568
42
แผนการจดั การเรียนท่ี 5 เร่ือง โจทย์ปัญหาหรือสถานการณ์เกยี่ วกบั การคูณทศนิยม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
วชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 1 รหัสวชิ า ค21105 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 เวลา 2 ช่ัวโมง สอนโดย นางสาวกสุ ุมา จนั ทร์แก้ว
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการสมบตั ิของการดาเนินการและนาไปใช้
ตวั ชี้วดั
ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจานวนตรรกยะและความสัมพนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบตั ิของจานวน
ตรรกยะในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
ค 1.1 ม.1/2 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้ีกาลงั เป็นจานวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา
คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง
สาระสาคัญ
การคูณทศนิยม ต้งั คูณเช่นเดียวกบั จานวนเตม็ โดยทวั่ ไป ไม่ตอ้ งคานึงถึงตาแหน่งของจุดทศนิยม ส่วน
ผลลพั ธ์จะเป็นทศนิยมที่มีจานวนตาแหน่งของทศนิยมเท่ากบั จานวนทศนิยมของตวั ต้งั รวมกบั ทศนิยมของตวั
คูณ
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
คูณ ทศนิยมได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใชว้ ธิ ีการที่หลากหลายแกป้ ัญหา
2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์
ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชื่อมน่ั ในตนเอง
43
สาระการเรียนรู้
โจทยป์ ัญหาหรือสถานการณ์เก่ียวกบั การคูณทศนิยม
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
1. นกั เรียนทากิจกรรมเพอ่ื ทบทวนการบวก ลบ คูณ และหารทศนิยมจากแบบฝึกทกั ษะพฒั นาการเรียนรู้
ครูใชก้ ารถามตอบเฉลยคาตอบ
2. ครูใชก้ ารสนทนาพดู คุยเกี่ยวกบั โจทยป์ ัญหาทศนิยมท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ชีวติ ประจาวนั เช่น ปี น้ีเด็กชาย
องอาจมีส่วนสูง 1.65 เมตร ถา้ ปี ท่ีแลว้ เดก็ ชายองอาจสูง 1.61 เมตร แสดงวา่ เดก็ ชายองอาจมีส่วนสูงเพ่ิมข้ึนก่ี
เมตร
3. ครูเขียนโจทยป์ ัญหาตวั อยา่ งท่ี 1, 2, 3 ทีละตวั อยา่ งฝึกใหน้ กั เรียนแกโ้ จทยป์ ัญหา ดว้ ยแผนผงั เช่น
โจทยก์ าหนด : ก่อนเดินทางหนา้ ปัดเป็ น 123,755.5 กม.
ถึงที่หมายหนา้ ปัดเป็น 124,239.5 กม.
ระยะทางที่ใช้ 124,239.5 – 123,755.5 = 484 กม.
โจทยก์ าหนด : ขบั รถดว้ ยความเร็ว 60.5 กม./ชม.
ใชเ้ วลา 484 = 8 ชม.
60.5
จากแผนผงั ครูใชก้ ารถามตอบใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปการแสดงวธิ ีทาดว้ ยการทาพร้อมๆ กบั ครู
ชั่วโมงท่ี 2
4. นกั เรียนทาใบงาน ดว้ ยการช่วยเหลือกนั ภายในกลุ่ม เสร็จแลว้ ตวั แทนกลุ่มนาผลงานกลุ่มมาติดบน
กระดาน โดยมีเพอื่ นกลุ่มอื่นๆ และครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง
5. นกั เรียนช่วยกนั สรุปวธิ ีการแกโ้ จทยป์ ัญหาทศนิยม
6. นกั เรียนทาแบบฝึกเป็นการบา้ น
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
แบบฝึกทกั ษะ
44
วดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกทกั ษะ
2. ตรวจแบบฝึกทกั ษะ
การประเมินผล
1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสาหรับผทู้ ่ีไดร้ ะดบั คุณภาพต้งั แต่ 1 ข้ึนไป
2. ถือเกณฑผ์ า่ นสาหรับผทู้ ่ีทาแบบฝึก ไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ 75 ข้ึนไป
45
บันทึกหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
12.1 สรุปผลการจัดการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรนู้ ้ใี ช้กบั นกั เรียนชัน้ ………… จานวน …..…… คน ประกอบด้วย
ชนั้ ………. จานวน ……….. คน ชน้ั ………. จานวน ……….. คน ชัน้ ………. จานวน ……….. คน
การจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ ป็นไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนร้ไู ม่เป็นไปตามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก …………………..…………
12.2 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1) ด้านความรู้ (Knowledge)
นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินกาหนด จานวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ ..........……
นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ที่กาหนด จานวน ……............. คน คิดเป็นร้อยละ ………...……
เนอ่ื งจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กาหนด จานวน …….............คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เนื่องจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กาหนด จานวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ท่ีกาหนดจานวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ …….….……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปญั หา / อปุ สรรค
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
มนี ักเรียนทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
อื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
ควรปรบั ปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง ………………………………………………………………………….
แนวทางแก้ไขนักเรียนทีไ่ มผ่ า่ นการประเมิน…………………………………………………………………….
อ่นื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ...........................................................
(นางสาวกสุ มุ า จนั ทรแ์ กว้ )
ครูผู้สอน
46
การตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้
ขอ้ ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน
54321
1 แผนการจดั การเรยี นรู้สอดคล้องสัมพันธก์ บั หนว่ ยการเรยี นร้ทู ก่ี าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสาคญั ครบถ้วน
3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชดั เจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ
4 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ
5 กิจกรรมการเรยี นรูม้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิไดจ้ ริง
6 กิจกรรมการเรยี นรูเ้ ป็นกจิ กรรมที่สง่ เสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น
7 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดแทรกคุณธรรมและคา่ นิยมท่ีดีงาม
8 กจิ กรรมการเรยี นรูม้ ีการสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั
9 สื่อและแหล่งเรยี นรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกับเน้ือหาสาระ
10 การวดั และประเมินผลทส่ี อดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ 4 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
5 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดีเยย่ี ม 2 หมายถงึ คุณภาพในระดับพอใช้
3 หมายถงึ คุณภาพในระดบั ดี
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรับปรุง
ความเห็นเพิ่มเติมของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
............................................................................................................................. ......................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................
............................................................................................................................. ......................................
ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
(นางนติ ยา อภิญ)
หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
47
ความเหน็ รักษาการในตาแหน่งรองผู้อานวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้
กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลาดบั ข้นั ตอน
สอื่ และอุปกรณ์สอดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน
เวลาทใ่ี ช้ในการสอนมีความเหมาะสมกับเน้ือหา
การวัดและประเมนิ ผลสอดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ความเหน็ เพ่ิมเติม ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชอ่ื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ัฎฐ์ ภัทรจ์ ิโรจน์กุล)
รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
ความเหน็ ผ้อู านวยการโรงเรียนชานาญสามคั ควี ิทยา
ทราบ
ความเหน็ เพิม่ เติม ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
ลงชือ่ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)
ผ้อู านวยการโรงเรียนชานาญสามัคคีวิทยา
48
ใบงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนแกโ้ จทยป์ ัญหาตอ่ ไปน้ี
1. ซ้ือสับปะรดมา 250 ผล ราคาผลละ 12.25 บาท ถา้ ตอ้ งการกาไร 562.50 บาท ตอ้ งขายสับปะรด
ผลละก่ีบาท
2. วภิ ามีริบบิ้นยาว 50 เมตร ตอ้ งการตดั เป็นชิ้นส้ันๆ ยาวชิ้นละ 7.5 เมตร จงหาวา่ จะตดั ไดท้ ้งั หมดก่ี
ชิ้น และเหลือเศษยาวก่ีเมตร
3. ขายหนงั สือพิมพเ์ ก่า 103.5 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 1.50 บาท นาเงินที่ขายไดท้ ้งั หมดมาซ้ือ
หนงั สือพิมพใ์ หม่ วนั ละหน่ึงฉบบั ราคาฉบบั ละ 8 บาท จะซ้ือไดท้ ้งั หมด กี่วนั และเหลือเศษ กี่
บาท
4. ถา้ ราคาขายส่งไขไ่ ก่ลดลงจากฟองละ 1.83 บาท เหลือฟองละ 1.75 บาท จงหาวา่ ขายไขจ่ านวน
1,155 ฟองเท่ากนั เมื่อราคาขายลดลงแลว้ จะไดเ้ งินนอ้ ยกวา่ เดิมก่ีบาท
49
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนแกโ้ จทยป์ ัญหาตอ่ ไปน้ี เฉลยใบงาน
งาน
1. ซ้ือสบั ปะรดมา 250 ผล ราคาผลละ 12.25 บาท ถา้ ตอ้ งการกาไร 562.50 บาท ตอ้ งขายสับปะรด
ผลละก่ีบาท
ซ้ือสบั ปะรดมา 250 ผล ราคาผลละ 12.25 บาท เป็นเงิน 250×12.25 = 3,062.50 บาท
ถา้ ตอ้ งการกาไร 562.50 บาท ตอ้ งขายใหไ้ ดเ้ งิน 3,062.50 +562.50 = 3,625 บาท
ดงั น้นั ตอ้ งขายผลละ 3,625÷250 = 14.50 บาท
2. วภิ ามีริบบิน้ ยาว 50 เมตร ตอ้ งการตดั เป็นชิ้นส้นั ๆ ยาวชิ้นละ 7.5 เมตร จงหาวา่ จะตดั ไดท้ ้งั หมดก่ี
ชิ้น และเหลือเศษยาวกี่เมตร
มีริบบิ้นยาว 50 เมตร ตอ้ งการตดั ยาวชิ้นละ 7.5 เมตร
ดงั น้นั ตดั ไดท้ ้งั หมด 50÷7.5 = 6 ชิ้น เหลือเศษ 5 เมตร
3. ขายหนงั สือพิมพเ์ ก่า 103.5 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 1.50 บาท นาเงินที่ขายไดท้ ้งั หมดมาซ้ือ
หนงั สือพมิ พใ์ หม่ วนั ละหน่ึงฉบบั ราคาฉบบั ละ 8 บาท จะซ้ือไดท้ ้งั หมด กี่วนั และเหลือเศษ ก่ี
บาท
ขายหนงั สือพิมพเ์ ก่า 103.5 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 1.50 บาท
ขายไดเ้ งิน 103.5×1.50 = 155.25 บาท
นาเงินไปซ้ือหนงั สือพมิ พใ์ หม่ ฉบบั ละ 8 บาท ได้ 155.25÷8 = 19 ฉบบั เศษ 3.25 บาท
ดงั น้นั ซ้ือได้ 19 วนั และเหลือเศษ 3.25 บาท
4. ถา้ ราคาขายส่งไข่ไก่ลดลงจากฟองละ 1.83 บาท เหลือฟองละ 1.75 บาท จงหาวา่ ขายไข่จานวน
1,155 ฟองเทา่ กนั เม่ือราคาขายลดลงแลว้ จะไดเ้ งินนอ้ ยกวา่ เดิมกี่บาท
ราคาไข่ไก่ลดลงจากฟองละ 1.83 บาท เหลือฟอง 1.75 บาท
ราคาไขล่ ดลงฟองละ 1.83-1.75 = 0.08 บาท
ดงั น้นั ไข่ 1,155 ฟอง เมื่อราคาขายลดลงจะไดเ้ งินนอ้ ยกวา่ เดิม 1,155×0.08 = 92.40บาท
50
าแบบฝึ กทกั ษะ
1. สนามรูปส่ีเหลี่ยมผนื ผา้ มีความยาวโดยรวม 172.6 เมตร ถา้ ดา้ นหน่ึงยาว 48.4 เมตร อีกดา้ นหน่ึง
จะยาวก่ีเมตร
2. สิตาตรวจดูใบเสร็จค่าไฟฟ้าประจาเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2545 เป็นเงิน 1,217.25 บาท
และ 912.75 บาท บา้ นของสิตาประหยดั ค่าไฟฟ้าไดเ้ ป็ นเงินกี่บาท
3. นารีมีสร้อยคอทองคาซ่ึงหนกั เป็น 2.5 เทา่ ของน้าหนกั สร้อยขอ้ มมือ ถา้ สร้อยขอ้ มือหนกั 0.35
บาท จงหาวา่ สร้อยคอและสร้อยขอ้ มือชุดน้ีมีน้าหนกั รวมกนั เทา่ ไร
4. สุดาหนกั 42.8 กิโลกรัม จงหาน้าหนกั ของสมาชิกของครอบครัวสุดาท่ีมีความสมั พนั ธ์กบั น้าหนกั
ของสุดา ดงั น้ี
5. 1) แมข่ องสุดาซ่ึงหนกั กวา่ สุดา 21.2 กิโลกรัม
6. 2) พอ่ ของสุดาซ่ึงหนกั กวา่ สุดา 1.5 เท่าของสุดา
5. กล่องใบหน่ึงเมื่อชงั่ รวมท้งั กล่องและน้าผลไมจ้ านวน 8 ขวด จะหนกั 3.7 กิโลกรัม ถา้ ชงั่ เฉพาะ
กล่องจะหนกั 0.5 กิโลกรัม จงหาวา่ น้าผลไมห้ นกั ขวดละกี่กิโลกรัม