The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thatchapongpat, 2022-06-07 03:12:38

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่ 2

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่ 2

คูม อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 ส่ิงตาง ๆ รอบตวั เรา 14

6.2 ยกตวั อยางส่ิงทีเ่ ปนวตั ถุ (เส้อื ผา หมอ หอก มดี บาน) การเตรยี มตวั ลวงหนา สําหรับครู
6.3 วัสดุคืออะไร (วสั ดุคอื สิ่งทน่ี าํ มาใชทาํ วตั ถุตา งๆ) เพ่ือจดั การเรยี นรูใ นครง้ั ถัดไป
6.4 วัสดุมอี ะไรบา ง ยกตวั อยา ง (ไม ดนิ โลหะ อฐิ )
7. ครูตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนอีกคร้ัง โดยนําสิ่งของตาง ๆ ที่ใชใน ในครั้งถัดไป นักเรียนจะไดทํา
ข้ันนําเขา สบู ทเรียนมาใหดูทีละชิ้น แลวถามนกั เรียน ดว ยคาํ ถามดังน้ี กิจกรรมท่ี 1 ชนิดของวัสดุมีอะไรบาง
7.1 สงิ่ ของนี้เรยี กวาอะไร (นกั เรยี นตอบตามความเปน จริง) โดยการสังเกตและระบุชนิดของวัสดุท่ี
7.2 สง่ิ ของน้จี ดั เปน วัตถหุ รือไม (จดั เปน วัตถ)ุ นํามาใชทําวัตถุตางๆ นักเรียนอาน
7.3 วตั ถุชิ้นนี้ทาํ จากวสั ดุอะไรบา ง (นักเรียนตอบตามความเปนจรงิ ) หนังสือเรียนหนา 6 เพ่ือศึกษาวาใน
คร้ังตอไปจะไดเรียนเกี่ยวกับเร่ืองอะไร
ครูถามคําถามขอ 7.1 -7.3 จนครบสิ่งของท่ีนํามาใหนักเรียนดู และจะตองเตรียมอุปกรณอะไรบาง
จากนั้นครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ
ครูพิจารณาคําตอบของนักเรียนวาถูกตองหรือไม หากไมถูกตองให 4-5 คน แตละกลุมประชุมแบงหนาที่
กันในการนําอุปกรณมาทํากิจกรรม
แกไ ขใหถ ูกตองทนั ที อุปกรณใดที่นักเรียนไมสามารถเตรียม
ไดใหค รจู ัดเตรยี มมาให เชน ครกหิน
ขน้ั สรปุ จากการอา น (10 นาที)

8. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายจนไดขอสรุปจากการอานวามนุษยใช
สงิ่ ของมากมาย สงิ่ ของตางๆ เปน วตั ถุ ซึง่ ทาํ จากวสั ดตุ า งๆ

9. นกั เรยี นตอบคาํ ถามใน รหู รือยัง ในแบบบนั ทกึ กิจกรรม หนา 6
10. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียน

ในรหู รอื ยังกับคําตอบทเ่ี คยตอบและบนั ทึกไวใ นคดิ กอนอาน
11. ครูเนนย้ํากับนักเรียนเกี่ยวกับคําถามทายเรื่อง ไดแก วัสดุมีอะไรอีก

บาง มีสมบัติอยางไร และเราจัดกลุมวัสดุไดอยางไรเพื่อชักชวนให
นกั เรียนหาคาํ ตอบรว มกันในกจิ กรรมตอ ไป
12. นกั เรียนฝกทกั ษะการเขียนในแบบบันทกึ กิจกรรมหนา 6

สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

15 คูมือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 สิ่งตา ง ๆ รอบตัวเรา

แนวคําตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม

สิ่งของเครื่องใชตา งๆ
ส่ิงทีน่ ํามาใชทําเปน วัตถุตาง ๆ

ไม หนิ อิฐ

วตั ถุ วสั ดุ
วัตถุ วัสดุ

 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 สิ่งตา ง ๆ รอบตัวเรา 16

กิจกรรมที่ 1.1 ชนดิ ของวัสดุมีอะไรบา ง

กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดสังเกตและบอกชนิดของวัสดุ

ทใี่ ชท ําวตั ถุ

เวลา 1 ชว่ั โมง

จดุ ประสงคการเรียนรู

สังเกตและบอกชนิดของวสั ดทุ ใ่ี ชทําวัตถุ

วัสดุ อุปกรณสาํ หรับทาํ กจิ กรรม

สิง่ ท่คี รูตอ งเตรียม/กลุม

1. ผาเช็ดหนา 1 ผนื

2. กลอ งดนิ สอโลหะ 1 กลอง

3. ยางลบ 1 กอน

4. ไมบ รรทัดพลาสตกิ 1 อัน

5. แกวน้ํา 1 ใบ ส่อื การเรียนรแู ละแหลงเรียนรู

6. ยางรัดของ 1 เสน 1. หนังสอื เรยี น ป.1 เลม 2 หนา 6-7

7. จานกระเบ้ือง 1 ใบ 2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.1 เลม 2 หนา 7-10

8. ครกหนิ 1 ใบ 3. ตวั อยางวดี ทิ ัศนปฏิบัตกิ ารวทิ ยาศาสตรเรื่องวัตถุ

9. ตะเกียบไม 1 คู ทําจากวสั ดอุ ะไร http://ipst.me/8042

ส่งิ ทน่ี กั เรียนตองเตรยี ม/กลุม

1. กระดาษวาดเขียน 1 แผน

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร

S1 การสังเกต

S8 การลงความเหน็ จากขอมลู ขอ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ

S13 การตีความหมายขอมลู และลงขอ สรปุ 1. นกั เรียนอาจนาํ สิง่ ของอื่นมาเพ่มิ เติมได
2. ครูอาจเพิ่มเติมจํานวนคําถามในเกม
ทกั ษะแหง ศตวรรษที่ 21
“ลมเพ ลมพัด”
C5 ความรวมมือ

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

17 คมู อื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 สงิ่ ตา ง ๆ รอบตวั เรา

แนวการจดั การเรยี นรู นักเรียนอาจไมสามารถ
ตอบคําถามหรืออภิปรายไดตาม
1. ครูนําเขาสูกิจกรรม โดยใหนักเรียนอานช่ือกิจกรรมและทําเปนคิด แนวคําตอบ คุณครูควรใหเวลา
เปน ในหนังสือเรียนหนา 6 จากน้ันตรวจสอบความเขาใจของ นักเรียนคิดอยางเหมาะสม รอ
นักเรียนเก่ยี วกบั ส่งิ ทจ่ี ะเรยี น โดยใชคาํ ถาม ดังนี้ คอยอยางอดทน และรับฟง
1.1 กจิ กรรมนีน้ ักเรยี นจะไดเรียนเรื่องอะไร (เรียนเรื่องชนิดของวัสดุ แนวความคิดของนกั เรียน
ทใ่ี ชท าํ วัตถ)ุ
1.2 นักเรยี นจะไดเรียนเรอ่ื งนี้ดวยวธิ ีใด (การสงั เกต)
1.3 เมื่อเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (สามารถบอกชนิดของวัสดุ
ทใ่ี ชทําวัตถไุ ด)
นกั เรียนบันทึกจุดประสงคล งในแบบบนั ทึกกจิ กรรม

2. นักเรียนอาน สิ่งที่ตองใช จากนั้นตรวจสอบส่ิงของท่ีตองใชในการทํา
กิจกรรมโดยครแู สดงส่งิ ของตางๆ ใหน ักเรียนดูทลี ะชน้ิ

3. นักเรียนอาน ทําอยางไร ในหนังสือเรียนหนา 6 โดยใชวิธีการอานที่
เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน และตรวจสอบความเขาใจ
ของนักเรียนเกีย่ วกับวธิ ีทํากจิ กรรม โดยใช คาํ ถามดังน้ี
3.1 นักเรียนตองทําอะไรบาง (สังเกตวัตถุตาง ๆ แลวรวมกัน
อภิปรายวาวตั ถแุ ตละช้นิ ทํามาจากวสั ดุชนดิ ใดบา ง)

4. เม่ือตรวจสอบจนแนใจวานักเรียนเขาใจข้ันตอนการทํากิจกรรม ให
นกั เรียนเร่มิ ทาํ กิจกรรมโดยนักเรียนจะไดทาํ ดังนี้

• สังเกตวตั ถุตาง ๆ (S1)

• บอกชอื่ วสั ดุท่ใี ชทําวัตถุนน้ั (S8)

• บันทกึ ผลลงในแบบบันทึกกจิ กรรม

• นาํ เสนอ อภปิ รายและลงขอสรุป(S13) (C5)
5. ตัวแทนนักเรียนในกลุมนําเสนอผลการสังเกต ครูอาจเตรียมตาราง

บันทึกผลซ่ึงขยายจากแบบบันทึกในหนา 8-9 บนกระดาน ครู
บันทึกผลการสังเกตตามการนําเสนอของนักเรียนลงในแบบบันทึกผล
บนกระดาน จากนั้นครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายผลการสังเกต

 สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 สง่ิ ตา ง ๆ รอบตัวเรา 18

วัตถุแตละช้ินวาทําจากวัสดุอะไร (ผาเช็ดหนาทําจากผา กลองดินสอ
โลหะทําจากโลหะ ยางลบทําจากยาง ไมบรรทัดพลาสติกทําจาก
พลาสติก แกว นํ้าทําจากแกว ยางรัดของทําจากยาง จานกระเบ้ืองทํา
จากกระเบ้อื ง ครกหนิ ทาํ จากหนิ ตะเกยี บไมท าํ จากไม)
6. ครูและนกั เรียนรวมกันอภปิ รายจนไดขอ สรปุ วา วสั ดทุ ่นี าํ มาใชทําวัตถุ
มหี ลายชนิด เชน ผา โลหะ ยาง พลาสติก แกว กระเบือ้ ง หนิ ไม
7. นักเรียนรวมกันอภิปรายคําตอบใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจเพิ่มเติม
คําถามในการอภิปรายเพื่อใหไดแนวคําตอบตามคําถามทายกิจกรรม
น้ี
8. นักเรียนเขียนสรุปส่ิงที่ไดเรียนรูในกิจกรรมน้ีดวยภาษาของตนเอง
จากน้ันครูใหนักเรียนอาน ส่ิงท่ีไดเรียนรู และเปรียบเทียบกับขอสรุป
ของตนเอง
9. ครูประเมินการเรียนรูโดยใหนักเรียนพิจารณาวัตถุชิ้นใหมซ่ึงทําจาก
วัสดุชนิดเดียวกับวัตถุท่ีใชในกิจกรรม เชน หินทับกระดาษ เสื้อ
นักเรยี น จานพลาสติก
10. ครูกระตุนใหนักเรียนตั้งคําถามใน อยากรูอีกวา จากน้ันครูสุม
นักเรยี น 2 -3 คน นําเสนอคาํ ถามของตนเองหนาชั้นเรยี น
11. ครูนําอภิปรายเพื่อใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรและทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในขั้นตอน
ใดบา ง
12.หากมีเวลา ครูอาจใหนักเรียนทํากิจกรรมเพ่ิมเติมเพ่ือเปนการ
ตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนโดยใหนักเรียนแตละคนวาดรูป
วัตถุส่ิงของท่ีชอบลงบนกระดาษวาดเขียนแลวใหระบุวัสดุท่ีนํามาใช
ทําวัตถุนั้นเขียนไวดานหลังภาพ ตอจากนั้นใหตัดรูปเหลานั้นเย็บติด
กับแถบกระดาษที่ทําเปนวงสําหรับสวมหัว จากนั้นใหนักเรียนแตละ
คนสวมหมวกท่ีทําขึ้น ครูควรเตรียมหมวกที่เปนรูปวัตถุอื่นๆ เพื่อ
เปลยี่ นใหนกั เรียนที่วาดรูปซ้ํากับเพอื่ น

สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

19 คมู ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 ส่ิงตา ง ๆ รอบตัวเรา

13.นกั เรยี นฝกรอ งเพลง ลมเพ ลมพัด 2-3 รอบ ครูอธิบายกติกาการเลน
เกม “ลมเพ ลมพัด” โดยช้ีแจงใหทุกคนทราบวาแตละคนมีบทบาท
สมมติตามวัตถุส่ิงของท่ีแตละคนวาดรูปไวซ่ึงทุกคนจะตองจําใหไดวา
วัตถุน้ันทํามาจากวัสดุอะไร เริ่มเลนเกมโดยใหทุกคนรองเพลงลมเพ
ลมพัด เมื่อเพลงจบครูจะสั่งใหวัสดุชนิดใดชนิดหนึ่ง ทําสิ่งใดส่ิงหน่ึง
นักเรียนที่รูตัววาตนเองมีวัสดุอะไรก็จะตองทําตามคําส่ังนั้น เม่ือครู
ตรวจสอบวานักเรียนทุกคนเขาใจกติกาแลวใหเร่ิมเลนเกมโดยรอง
เพลงดงั น้ี
เนือ้ เพลง ลมเพ ลมพดั
“ลมเพ ลมพัด ลมสะบัดพัดมาไกลๆ ลมเพ ลมพัดอะไร ลมเพ ลมพัด
อะไร ฉันจะบอกให ลมพดั พลาสตกิ ใหวิง่ ไปหลังหอ ง;*”

* คือ ขอกําหนดที่ครูจะเปล่ียนแปลงเมื่อรองเพลงรอบใหม โดยครู

จะตองเปลยี่ นขอกาํ หนดใหครบทกุ ขอ กําหนด

เม่ือรองเพลงจบแตละคร้ัง ครูตรวจสอบดูวามีนักเรียนคนใดว่ิงไป

รวมตัวกันหลังหอ งบาง จากน้นั ครูตรวจสอบเหตุผลท่ีนักเรียนมารวมตัว

กันท่หี ลงั หอง

ครูเปล่ียนขอกําหนดท่ีใหนักเรียนทํา หรืออาจใหนักเรียนแตละ

คนผลัดกนั รอ งเพลงโดยเปลยี่ นขอกําหนดท่ีจะใหเ พ่ือนทํา เชน

ใหไ มวงิ่ ไปทีห่ นาหอ ง หรือ

ใหแกว นัง่ ลง หรอื

ใหหินจบั มอื กนั ไว เปน ตน

ทุกคร้ังท่ีนักเรียนปฏิบัติตามขอกําหนด ครูตองใหเวลานักเรียน

อธบิ ายวา เพราะอะไรตนเองจงึ ทาํ หรอื ไมทําตามส่งิ ท่ีกําหนดในเพลง

14. ครูและนักเรียนสรุป รวมกันอีกครั้งวา วัตถุ คือ สิ่งของตาง ๆ ท่ีอยู

รอบตัวเรา และวสั ดุ คือสิง่ ท่ีใชทําวตั ถุ

 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 สิ่งตา ง ๆ รอบตัวเรา 20

แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม

สงั เกตและบอก




สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

21 คูมือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 สง่ิ ตาง ๆ รอบตวั เรา







 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 สงิ่ ตา ง ๆ รอบตัวเรา 22





ผา โลหะ ยาง พลาสตกิ แกว กระเบื้อง
หิน ไม

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

23 คมู ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่งิ ตาง ๆ รอบตัวเรา

ผา โลหะ ยาง พลาสติก แกว กระเบ้ือง

แกว กระเบือ้ ง หิน ไม

วสั ดุ หลายชนิด

คาํ ถามของนกั เรยี นท่ีต้ังตามความอยากรขู องตนเอง

 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูม ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 สิ่งตาง ๆ รอบตวั เรา 24

แนวการประเมินการเรียนรู

การประเมนิ การเรียนรูของนกั เรียนทําได ดงั น้ี
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภปิ รายในชัน้ เรยี น
2. ประเมนิ การเรยี นรูจากคาํ ตอบของนกั เรยี นระหวา งการจัดการเรียนรูแ ละจากแบบบนั ทึกกิจกรรม
3. ประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ ละทกั ษะแหง ศตวรรษท่ี 21 จากการทํากิจกรรมของนกั เรียน

การประเมินจากการทาํ กิจกรรมที่ 1.1 ชนดิ ของวัสดมุ ีอะไรบา ง

ระดับคะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง
3 คะแนน หมายถึง ดี

รหัส สิง่ ท่ีประเมนิ คะแนน
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสงั เกต
S8 การลงความเหน็ จากขอมลู
S13 การตคี วามหมายขอ มลู และลงขอ สรปุ
ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21
C5 ความรว มมือ

รวมคะแนน

สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

25 คูม อื ครรู ายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่ิงตา ง ๆ รอบตัวเรา

ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรตามระดบั ความสามารถของนักเรียน

โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดงั นี้

ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดับความสามารถ
ทางวิทยาศาสตร
ดี (3) พอใช (2) ควรปรบั ปรุง (1)

S1 การสงั เกต ส่งิ ทีส่ งั เกตได สามารถใชป ระสาทสัมผัสเกบ็ สามารถใชประสาทสัมผัสเก็บ ไมสามารถใช
ประกอบดว ย
-ลกั ษณะของวสั ดุ รายละเอยี ดลักษณะของวัสดไุ ด รายละเอียดลักษณะของวสั ดุได ประสาทสัมผัสเก็บ

ถกู ตองดว ยตนเองโดยไมเ พมิ่ ถกู ตองโดยตองอาศัยการช้แี นะ รายละเอียดลักษณะ

ความคดิ เห็น จากครูหรือผูอน่ื หรือเพมิ่ เติม ของวสั ดไุ ดถูกตอง

ความคิดเห็น ดวยตนเอง หรอื มี

การเพิ่มเตมิ ความ

คิดเห็น แมว า ครหู รือ

ผอู นื่ ชว ยแนะนาํ หรือ

ชีแ้ นะ

S8 การลง การบอกชนิดของ เพม่ิ เติมความคิดเหน็ เกี่ยวกับ เพ่ิมเติมความคิดเห็นเกีย่ วกับ ไมสามารถแสดงความ
ความเหน็ จาก วสั ดทุ ใ่ี ชทําวัตถุ
ขอมูลที่มอี ยูจากการสังเกตชนิด ชนดิ ของวสั ดไุ ดอยา งถูกตอง คดิ เหน็ เก่ียวกบั ขอมลู
ขอ มูล
ของวัสดไุ ดอยา งถกู ตอง มเี หตุผล บางสว น พยายามใหเ หตผุ ลจาก ทม่ี ีอยู หรือเพิ่มเตมิ

จากความรูหรอื ประสบการณเดมิ ความรูห รือประสบการณเดมิ ได ความคดิ เห็นอยางไมมี

ไดด ว ยตนเอง โดยการชีแ้ นะจากครูหรือผูอ่นื เหตผุ ล แมว าครูหรอื

ผอู ื่นชว ยแนะนําหรอื

ชแี้ นะ

S13 การ การลงขอสรปุ สามารถตคี วามหมายจากการ ครูหรือผอู ่นื ตองชวยแนะนําหรือ ไมสามารถ

ตคี วามหมายขอมูล เก่ียวกบั ชนิดของ สงั เกต และลงขอสรุปไดดว ย ชีแ้ นะจึงจะสามารถตีความหมาย ตีความหมายจากการ

และลงขอสรปุ วสั ดทุ ใี่ ชทําวัตถุ ตนเองวา วสั ดมุ หี ลายชนิด เชน จากการสังเกต และลงขอ สรุปได สงั เกต และลงขอสรปุ

ผา ไม แกว ยาง พลาสติก โลหะ วาวัสดมุ ีหลายชนิด เชน ผา ไม ไดดวยตนเองวา วัสดุมี

กระเบื้อง หนิ แกว ยาง พลาสติก โลหะ หลายชนดิ เชน ผา ไม

กระเบื้อง หิน แกว ยาง พลาสตกิ

โลหะ กระเบื้อง หนิ

แมว า ครหู รือผูอ่ืนชว ย

แนะนาํ หรอื ชี้แนะ

 สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูม อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 สง่ิ ตา ง ๆ รอบตวั เรา 26

ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนักเรยี น
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดงั น้ี

ทกั ษะแหง รายการประเมนิ ระดับความสามารถ

ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)

C5 ความ การทํางานรวมมือ สามารถทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับผูอ่ืน ไ ม ส า ม า ร ถ ทํ า ง า น

รวมมอื กันในกลมุ ผู อื่ น แ ล ะ รั บ ฟ ง ค ว า ม และรับฟงความคิดเห็นของ ร ว ม กั บ ผู อ่ื น อ ย า ง

คิดเห็นของผูอื่นอยาง ผูอื่นอยางสรางสรรคในการ สรางสรรคในการทํา

ส ร า ง ส ร ร ค ใ น ก า ร ทํ า ทํากจิ กรรมเกีย่ วกับชนดิ ของ กิจกรรมเกี่ยวกับชนิด

กิจกรรมเกี่ยวกับชนิดของ วั ส ดุ ท่ี ใ ช ทํ า วั ต ถุ ไ ด เ ป น ของวัสดุที่ใชทําวัตถุ

วัสดุที่ใชทําวัตถุตั้งแต บางครั้งทั้งน้ีตองอาศัยการ แมวาครูหรือผูอ่ืนชวย

เ ริ่ ม ต น จ น เ ส ร็ จ ส้ิ น กระตุนจากครหู รือผูอ่ืน แนะนาํ หรือชี้แนะ

กจิ กรรม

สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

27 คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่งิ ตาง ๆ รอบตวั เรา

กิจกรรมท่ี 1.2 วัสดแุ ตล ะชนดิ มีสมบตั ิอยา งไร

กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดสังเกตสมบัติของวัสดุที่ใชทํา

วัตถุโดยการใชมือกดวานุมหรือแข็ง ใชมือดึงวายืดไดหรือ

ยืดไมได มองผานวัสดุเพื่อระบุวาใส ขุนหรือทึบ มองผิว
วัสดุวามันวาวหรือไมมันวาว และใชประสาทสัมผัสอื่นๆ

เพือ่ ระบุสมบตั ิของวัสดุ

เวลา 1 ชว่ั โมง

จดุ ประสงคก ารเรยี นรู

1. สงั เกตและอธิบายสมบตั ขิ องวสั ดุ

2. จัดกลุมวัสดตุ ามสมบตั ขิ องวสั ดุ

วัสดุ อปุ กรณส าํ หรบั ทาํ กจิ กรรม

ส่ิงท่ีครตู องเตรียม/กลุม สือ่ การเรยี นรูและแหลง เรียนรู

1. ตุกตาผา 1 ตัว

2. แทง ไม 1 แทง 1. หนังสือเรียน ป.1 เลม 2 หนา 8-10

3. จานพลาสติก 1 ใบ 2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ป.1 เลม 2 หนา 11-16

4. แกวน้าํ 1 ใบ 3. ตัวอยางวีดิทัศนปฏิบัติการวิทยาศาสตรเร่ืองวัสดุแตละ

5. ชอนโลหะ 1 คัน ชนิดมีสมบตั อิ ยา งไร http://ipst.me/8043

6. กอนหิน 1 กอ น 4. ตัวอยางวีดิทัศนปฏิบัติการวิทยาศาสตรเรื่องจัด

7. ลกู บอลยาง 1 ลกู กลุม วตั ถไุ ดอยางไร http://ipst.me/8044

สิง่ ที่นกั เรยี นตอ งเตรยี ม/กลุม

-

ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร

S1 การสังเกต

S4 การจาํ แนกประเภท ขอ เสนอแนะเพิ่มเติม

S8 ลงความเหน็ จากขอมลู 1. นกั เรยี นอาจนาํ สง่ิ ของอื่นๆ มาเพ่ิมเตมิ ได
2. ครูอาจใหน กั เรยี นสังเกตสิ่งของตาง ๆ ใน
S13 การตคี วามหมายขอมูลและลงขอ สรุป
หองเรียน
ทักษะแหง ศตวรรษที่ 21 3. ครูอาจเปล่ียนรายการวัสดุอุปกรณโดย

C2 การคิดอยางมวี ิจารณญาณ เปล่ียนมาใชวัสดุอุปกรณที่หาไดงายใน
ทองถ่ิน
C4 การสอ่ื สาร

C5 ความรว มมอื

 สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 สิ่งตาง ๆ รอบตัวเรา 28

แนวการจดั การเรียนรู

1. ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใชคําถามเพื่อทบทวนส่ิงท่ีนักเรียนไดเรียนมาแลว ในการตรวจสอบความรู
เกี่ยวกับชนิดของวัสดุจากกิจกรรมท่ี 1.1 วามีอะไรบาง (ผา ไม แกว ยาง ค รู เ พี ย ง รั บ ฟ ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง
พลาสติก โลหะ กระเบ้ือง หนิ ) นักเรียน และยังไมเฉลยคําตอบ
ใด ๆ แตชักชวนใหไปหาคําตอบ
2. ครูเชื่อมโยงความรูพ้ืนฐานสูเร่ืองสมบัติของวัสดุโดยใหนักเรียนฟงนิทาน ดว ยตนเองจากการทํากิจกรรม
เรื่องลูกแกะ 3 ตัว แลวเขียนประเด็นท่ีตองการหาคําตอบบนกระดานเชน
บานที่ลูกแกะ 3 ตัว สรางทําจากวัสดุอะไรบาง มีสมบัติตางกันอยางไร นิทานเรื่องลูกแกะ 3 ตัว
หลังจากอา นนิทานครตู รวจสอบความเขาใจโดยถามนักเรยี นดงั ตอไปนี้
2.1 จากนิทานเร่ืองลูกแกะ 3 ตัว ลูกแกะสรางบานโดยใชวัสดุอะไรบาง (ใน กาลครั้งหนึ่ง นานมาแลว มีลูกแกะ 3
การสรางบาน ลูกแกะใชฟ าง ไมและอิฐ) ตัวพี่นองอาศัยอยูดวยกันกับพอและแม
2.2 ฟาง ไมและอิฐมีลักษณะแตกตางกันอยางไรบาง (ฟางเบา มีลักษณะ เม่ือโตขึ้น พอและแมแกะบอกลูกๆท้ังสาม
เปนเสน ไมหนักกวาฟางแตเบากวาอิฐ ผิวหยาบ มีลักษณะเปนแผน วา ถึงเวลาท่ีจะตองไปสรางบานของตนเอง
สวนอิฐหนักที่สุด มีลักษณะเปนกอน ผิวขรุขระ ฟางและไมมีสีนํ้าตาล แลว ลูกแกะท้ังสามจึงตัดสินใจสรางบาน
สวนอิฐมสี ีแดง) ใกลๆกัน ลูกแกะตัวท่ีหนึ่ง สรางบานดวย
ครูใหความรเู พิ่มเติมวา วัสดุตา ง ๆ มลี ักษณะเฉพาะของสิ่งของตาง ๆ เชน ฟางซ่ึงมีลักษณะเปนเสน น้ําหนักเบา เมื่อ
ใชม ือลูบ รูสึกหยาบ ลูกแกะตัวท่ีสอง สราง
เบา มีสี นุม ขรขุ ระ เรยี บ เราเรียกลกั ษณะเฉพาะของสง่ิ นนั้ วา สมบตั ิของส่งิ นน้ั บานดวยไมซ่ึง มีลักษณะเปนแผน น้ําหนัก
3. ครชู กั ชวนใหนักเรียนทํากิจกรรมที่ 1.2 วัสดุแตละชนิดมีสมบัติอยางไร โดย เบา เม่ือใชมือลูบรูสึกหยาบ ใชมือกดแลว
รูสึกแข็ง สวนลูกแกะตัวที่สาม สรางบาน
อานช่ือกิจกรรมและ ทําเปนคิดเปน ในหนังสือเรียนหนา 8 ตรวจสอบ ดวยอิฐซ่ึงมีน้ําหนักมาก สัมผัสแลวรูสึก
ความเขาใจของนักเรยี นเกีย่ วกบั ส่งิ ที่จะเรยี น โดยใชค ําถามดงั นี้ ขรขุ ระ
3.1 กิจกรรมนน้ี ักเรยี นจะไดเ รียนเรอ่ื งอะไร (สมบตั ขิ องวัสดแุ ตละชนิด)
3.2 นักเรียนจะไดเ รยี นเรื่องนีด้ วยวิธใี ด (การสงั เกต)
3.3 เมื่อเรียนแลว นกั เรียนจะทาํ อะไรได (อธิบายสมบตั ิของวสั ดุและจัดกลุม

วัสดุได)
4. นักเรียนอาน สิ่งที่ตองใช แลวตรวจสอบรายการส่ิงของที่ตองสังเกตโดยครู

แสดงส่ิงของตา งๆ ใหน กั เรียนดทู ีละช้นิ
5. นักเรยี นอาน ทําอยางไร โดยใชวิธีการอานท่ีเหมาะสมกับความสามารถของ

นกั เรยี น และตรวจสอบความเขา ใจของนักเรียนเก่ียวกับวิธีทํากิจกรรม โดย
อาจใชค าํ ถามดังน้ี

สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

29 คมู อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 สงิ่ ตาง ๆ รอบตัวเรา

5.1 นักเรียนสังเกตวัตถุเพ่ือตองการทราบเกี่ยวกับอะไร (ชนิดของวัสดุท่ีใช นักเรียนอาจไมสามารถ
ทําวัตถุนนั้ ) ตอบคําถามหรืออภิปรายไดตาม
แนวคําตอบ คุณครูควรใหเวลา
5.2 การสงั เกตวา วัสดนุ น้ั มสี มบัตินมุ หรอื แขง็ ควรทําอยางไร (ใชมือกด) นักเรียนคิด อยางเหมาะสม
5.3 การสังเกตวา วัสดุน้ันยดื ไดห รอื ยดื ไมได ทําอยางไร (ออกแรงดึงวัสด)ุ รอคอยอยางอดทน และรับฟง
5.4 การสังเกตวาวัสดุนั้นมีสมบัติใส ขุนหรือทึบ ทําอยางไร (มองสิ่งของ แนวความคดิ ของนกั เรียน

ผานวัสดุนั้น โดยนําวัสดุท่ีจะทดสอบมาวางคั่นระหวางตา กับส่ิงของ
แลวมองไปท่ีสิ่งของผานวัสดุนั้นๆ และดูวามองเห็นส่ิงของชัดเจน ไม
ชดั เจนหรือมองไมเ หน็ )
5.5 การสังเกตวาวัสดุน้ันมีผิวมันวาว หรือไมมันวาว ทําอยางไร (ดูผิวของ
วัสดุ) ครูอาจนําวัสดุตัวอยางที่นอกเหนือกิจกรรมมาใหนักเรียนฝก
วเิ คราะห เชน ชอนสเตนเลส กับชอนพลาสติก ทัพพีสเตนเลสกับดาม
ทพั พี เปน ตน
5.6 นอกจากใชมือกด ออกแรงดึง มองสิ่งของผานวัสดุและ มองผิววัสดุ
แลว สามารถตรวจสอบสมบัติของวัสดุอยางไรไดอีก (ใชประสาทสัมผัส
อื่น ๆ ในการสงั เกต)
5.7 นกั เรยี นจัดกลุมวัสดุไดอยางไร (จัดกลมุ วัสดุตามสมบัตทิ ่ีเหมอื นกนั )
นักเรียนดูแบบบันทึกกิจกรรม หนา 11 แลวอานออกเสียงคําพรอมๆ
กัน จากนั้นรวมกันอภิปรายรความหมายของคําซ่ึงเปนสมบัติของวัสดุ โดย
ครชู วยเพ่มิ เติมดังน้ี
นุม คือ เมอื่ กดแลวยบุ
แขง็ คือ เมือ่ กดแลวไมย ุบ
ยดื คือ เมื่อออกแรงดึง สามารถทําใหวสั ดยุ ืดยาวขน้ึ จากเดิม
ไมย ืด คอื เม่ือออกแรงดงึ ไมสามารถทําใหวัสดุยืดยาวข้ึนจากเดิม
ใส คือ เมื่อมองสิ่งของโดยมีวัสดุนั้นมาก้ันแลวสามารถมองเห็นสิ่งของ
ชดั เจน วสั ดนุ ั้นมีสมบัติใส
ขุน คือ เมื่อมองสิ่งของโดยมีวัสดุนั้นมากั้นแลวเห็นส่ิงของแตไมชัดเจน
วสั ดุนัน้ มสี มบตั ิขนุ
ทึบ คอื เมือ่ มองส่ิงของโดยมีวัสดุน้ันมากั้นแลวมองไมเห็นส่ิงของเลย วัสดุ
นัน้ มสี มบตั ขิ นุ

 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่งิ ตา ง ๆ รอบตัวเรา 30

มันวาว คือ ผิววสั ดทุ ่มี ลี กั ษณะขึ้นเงาเปน มันวาว
ไมม ันวาว คือ ผิววสั ดทุ ีไ่ มม ลี ักษณะเปนมนั วาวหรือผิวดา น
6. ตวั แทนนกั เรยี นรบั อปุ กรณจากครูแลวเรมิ่ ทาํ กจิ กรรม ดงั นี้
• สังเกตวัตถุ บันทกึ ชนดิ ของวัสดทุ ีน่ ํามาใชท าํ วตั ถุนัน้ (S1) (S8)
• ใชมือกดเพอ่ื สังเกตวา วัสดุนน้ั มสี มบัตนิ มุ หรือแข็ง (S1)
• ออกแรงดงึ วัสดุเพอ่ื สงั เกตวา วัสดนุ ้ันยดื ไดหรือยดื ไมได (S1)
• มองสิ่งของผานวัสดุเพ่ือสังเกตวาวัสดุนั้นมีสมบัติใส ขุนหรือทึบ
(S1)
• มองวัสดเุ พือ่ สังเกตวา วัสดนุ ั้นมีผวิ มันวาวหรอื ผวิ ไมมนั วาว (S1)
• ใชป ระสาทสัมผสั อ่นื ๆ สงั เกตสมบตั ิของวสั ดุ (S1)
• เลอื กสมบัตขิ องวัสดแุ ละจดั กลุม วสั ดตุ ามสมบตั ิน้นั (S4)
• นําเสนอและอภิปรายเพ่ือลงขอสรุปเกี่ยวกับสมบัติของวัสดุที่
นํามาใชท ําวตั ถุ (S13) (C2) (C4) (C5)
7. นักเรียนเก็บอุปกรณใหเรียบรอยเม่ือเสร็จสิ้นกิจกรรม และเตรียมนําเสนอ
ผลงาน
8. นักเรียนอภปิ รายผลการทํากจิ กรรมตามแนวคาํ ถามดงั น้ี
8.1 วัตถุท่ีนํามาสังเกตมีอะไรบาง (วัตถุท่ีนํามาสังเกตมี ตุกตาผา แทงไม

จานพลาสติก แกวนํ้า ชอนโลหะ กอนหิน ลูกบอลยาง คําตอบอาจมี
นอกเหนือจากน้ี ข้ึนอยูกับสง่ิ ของทีน่ กั เรยี นนาํ มาเพิม่ เติม)
8.2 วัตถุแตละชนิดทําจากวัสดุชนิดใด (ตุกตาผาทําจากผา แทงไมทําจาก
ไม จานพลาสติกทําจากพลาสติก แกวน้ําทําจากแกว ชอนโลหะ
ทําจากโลหะ กอ นหนิ ทําจากหนิ ลูกบอลยางทาํ จากยาง)
8.3 วสั ดแุ ตล ะชนดิ มสี มบัตเิ ปนอยางไร (ผานุม ยืดได ทึบ ไมม นั วาว ไมแข็ง
ยดื ไมไ ด ทึบ ไมมันวาว พลาสติกแข็ง ทึบ ยืดไมได ไมมันวาว แกวแข็ง
ยืดไมได ใส ไมมันวาว โลหะ แข็ง ยืดไมได ทึบ มันวาว หิน แข็ง ยืด
ไมไ ด ทบึ ไมมนั วาว ยาง นุม ยืดได ทึบ ไมม ันวาว)
8.4 นักเรียนใชสมบัติใดในการจัดกลุมวัสดุและจัดไดก่ีกลุม อะไรบาง
(คําตอบข้ึนอยูกับสมบัติท่ีนักเรียนเลือกมาจัด เชน จัดกลุมตามสมบัติ

สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

31 คูม อื ครรู ายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 ส่งิ ตาง ๆ รอบตัวเรา

แข็งหรือนุม จัดได 2 กลุม ไดแกกลุมที่มีสมบัติแข็งและกลุมท่ีมีสมบัติ
นุม)
9. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายและลงขอสรุปวา วัสดุแตละชนิดมี สมบัติ
บางอยางเหมือนกัน บางอยางแตกตางกัน สามารถนําสมบัติท่ีเหมือนกันมา
จัดกลมุ วัสดไุ ด
10.นักเรียนรวมกันอภิปรายคําตอบใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจเพ่ิมเติมคําถามใน
การอภิปรายเพอ่ื ใหไดแ นวคําตอบตามคําถามทายกจิ กรรมนี้
11.นกั เรียนสรปุ สงิ่ ท่ไี ดเ รียนรูในกิจกรรมน้ีดวยภาษาของตนเอง จากน้ันอาน ส่ิง
ท่ไี ดเ รยี นรู และเปรยี บเทยี บกับขอ สรปุ ของตนเอง
12. ครูชักชวนนักเรียนตอบคําถามใน นําเรื่อง วาวัสดุแตละชนิดมีสมบัติ
บางอยางเหมือนกัน บางอยางแตกตางกัน เราสามารถนําสมบัติท่ีเหมือนกัน
มาจดั กลุม วสั ดไุ ด
13. ครูกระตุนใหนักเรียนต้ังคําถามใน อยากรูอีกวา ซ่ึงเปนคําถามที่นักเรียน
สงสัยหรอื อยากรเู พิ่มเติม ลงในแบบบันทึกกิจกรรม จากนั้นครูสุมนักเรียน 2-
3 คน นําเสนอคําถามของตนเองหนาชั้นเรียน
14. ครนู าํ อภปิ รายเพ่ือใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตรแ ละทักษะการเรียนรใู นศตวรรษที่ 21 ในขน้ั ตอนใดบาง
15. นักเรียนรวมกันอานรูอะไรในเร่ืองนี้ ในหนังสือเรียน หนา 11 จากน้ัน
อภิปรายเพื่อนําไปสูขอสรุปเก่ียวกับส่ิงที่ไดเรียนรูในเร่ืองนี้ ครูกระตุนให
นักเรียนตอบคําถามในชวงทายของเนื้อเร่ือง ดังนี้ “นอกจากวัสดุที่ได
เรียนมาแลว มีวัสดุอื่นๆ อีกหรือไม และแตละชนิดมีสมบัติอยางไร” ครู
และนักเรียนรวมกันอภิปรายแนวทางการตอบคําถาม เชน วัสดุอ่ืน ๆ
ไดแก เงิน มีผิวมันวาว แข็ง ยืดไมได ทึบ ครูควรเนนใหนักเรียนตอบ
คําถามพรอ มอธิบายสมบตั ิของวสั ดุนนั้
16. ครขู ยายความรูโดยใชคําถามดังน้ี นอกจากโลหะที่เปนเหล็ก อะลูมิเนียม
ทองแดง ยังมีโลหะอ่ืนอีกหรือไม และโลหะเหลานั้นมีสมบัติอยางไร
นกั เรียนรว มกนั อภิปรายเพอ่ื หาคําตอบ

 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 สิง่ ตา ง ๆ รอบตัวเรา 32

แนวคําตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม

สังเกต อธบิ าย
จดั กลุม

 ขึน้ อยกู ับคาํ ตอบ

ผา  ของนกั เรยี น

 


ไม 




สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

33 คมู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 สิง่ ตาง ๆ รอบตวั เรา

พลาสตกิ  ขึ้นอยกู ับคาํ ตอบ
 ของนักเรียน
โลหะ

 

แกว 


 
ยาง 








 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 สง่ิ ตาง ๆ รอบตัวเรา 34

หิน  ข้ึนอยูกับคาํ ตอบ
โลหะ แกว หิน  ของนกั เรียน




คําตอบข้ึนอยูกบั นกั เรียน เชน นุม แข็ง

นุม ผา ยาง

แขง็ ไม พลาสตกิ

แข็ง
นุม

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

35 คูมือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่งิ ตา ง ๆ รอบตวั เรา

ยืดได
ยดื ไมไ ด

ใส
ทึบ
ขนุ

มันวาว
ไมมนั วาว

 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่งิ ตาง ๆ รอบตวั เรา 36

นักเรียนตอบตามสมบตั ิทีท่ ดสอบเพิ่มเติม



นุม แข็ง ทบึ
ยดื ได
ยดื ไมได
ใส
ขุน มนั วาว
ไมม ันวาว

จดั กลุม

สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

37 คูม ือครูรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 ส่งิ ตา ง ๆ รอบตวั เรา

สมบัติ
แตกตา งกนั

จัดกลุม

คําถามของนักเรียนทต่ี ั้งตามความอยากรูของตนเอง

 สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูม ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 สง่ิ ตาง ๆ รอบตวั เรา 38

แนวการประเมินการเรียนรู

การประเมินการเรยี นรขู องนกั เรยี นทําได ดังน้ี
1. ประเมินความรเู ดิมจากการอภิปรายในชนั้ เรยี น
2. ประเมนิ การเรียนรูจากคําตอบของนกั เรยี นระหวางการจัดการเรียนรูแ ละจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ ละทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 จากการทํากจิ กรรมของนกั เรยี น

การประเมนิ จากการทาํ กิจกรรมที่ 1.2 วสั ดแุ ตละชนิดมีสมบัตอิ ยางไร

ระดับคะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง
3 คะแนน หมายถึง ดี

รหสั สงิ่ ท่ีประเมนิ คะแนน
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสังเกต
S4 การจําแนกประเภท
S8 การลงความเหน็ จากขอมลู
S13 การตคี วามหมายขอ มลู และลงขอ สรุป
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
C2 การคดิ อยางมวี ิจารณญาณ
C4 การส่ือสาร
C5 ความรว มมอื

รวมคะแนน

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

39 คมู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 สิง่ ตา ง ๆ รอบตัวเรา

ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดบั ความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้

ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร พอใช (2)

S1 การสงั เกต การสังเกต สามารถใชประสาทสมั ผสั สามารถใชป ระสาทสมั ผัสเก็บ ไมสามารถใชป ระสาทสัมผัส
สมบตั ติ าง ๆ ของ
วสั ดุแตละชนดิ เก็บรายละเอยี ดสมบตั ิตางๆ รายละเอียดสมบตั ิตางๆ ของ เก็บรายละเอยี ดสมบตั ติ างๆ

ของวัสดแุ ตล ะชนดิ ได วสั ดุแตล ะชนิดไดถ ูกตองโดย ของวัสดแุ ตล ะชนดิ ได

ถูกตองดวยตนเองโดยไม ตองอาศยั การชีแ้ นะจากครู ถกู ตองดวยตนเอง หรือมี

เพม่ิ ความคิดเห็น หรอื ผูอนื่ หรอื เพมิ่ เติมความ การเพ่ิมเติมความคดิ เหน็

คิดเหน็ แมว า ครหู รอื ผูอนื่ ชว ย

แนะนาํ หรือชแี้ นะ

S4 การจําแนก การจดั กลมุ วสั ดุ สามารถจัดกลุมวสั ดุตาม สามารถจดั กลุม วัสดุตาม ไมสามารถจดั กลุมวสั ดุตาม

ประเภท ตามสมบัตขิ องวสั ดุ สมบัตขิ องวัสดุไดอยาง สมบัตขิ องวัสดุไดอ ยาง สมบตั ิของวัสดแุ มว า ครหู รอื

ถกู ตองดว ยตนเอง ถกู ตอง โดยการช้ีแนะจาก ผูอ่ืนชว ยแนะนาํ หรือช้ีแนะ

ครูหรอื ผอู นื่

S8 การลง การระบุชนดิ ของ สามารถเพิ่มเติมความคดิ เห็น สามารถเพิ่มเตมิ ความคิดเหน็ ไมสามารถแสดงความคดิ เหน็

ความเหน็ จาก วัสดทุ ใี่ ชท ําวัตถุและ เกี่ยวกับขอมลู ท่ไี ดจ ากการ เกยี่ วกบั ขอมลู ที่ไดจากการ เก่ียวกบั ขอมูลที่ไดจากการ

ขอมูล ระบุสมบัตขิ องวสั ดุ สังเกตเพ่อื ระบชุ นิดของวสั ดุ สงั เกตเพ่ือระบชุ นดิ ของวัสดุที่ สังเกตเพื่อระบุชนิดของวสั ดุ

จากการสงั เกต ที่นาํ มาใชทาํ วัตถแุ ละระบุ นาํ มาใชท ําวตั ถุและระบุ ที่ใชท ําวัตถุและระบุสมบัติ

สมบตั ิของวัสดจุ ากการสังเกต สมบัตขิ องวัสดุจากการสงั เกต ของวัสดจุ ากการสงั เกตได

ไดอยางถกู ตอ ง มีเหตผุ ล จาก ไดถูกตอ ง มเี หตุผลโดยอาศยั แมว า ครหู รือผูอน่ื ชว ยแนะนํา

ความรหู รอื ประสบการณเดมิ การช้แี นะจากครูหรอื ผูอื่น หรือชี้แนะ

ไดด ว ยตนเอง

S13 การ การอธิบายสมบัติ สามารถตีความหมายจากการ ครหู รือผูอ่ืนตองชวยแนะนํา แมว าครหู รือผูอ่ืนชวยแนะนํา

ตีความหมายขอมูล ของวสั ดุแตละชนิด สังเกต และลงขอสรปุ ไดด วย หรือชแี้ นะจึงจะสามารถ หรือช้แี นะก็ไมสามารถ

และลงขอสรปุ ตนเองวา วัสดแุ ตล ะชนดิ มี ตคี วามหมายจากการสังเกต ตีความหมายจากการสงั เกต

สมบัติบางอยางเหมือนกัน และลงขอสรุปไดวาวสั ดุแตล ะ และลงขอสรุปไดด วยตนเองวา

บางอยางแตกตางกัน สามารถ ชนดิ มสี มบัติบางอยาง วสั ดุแตละชนิดมีสมบัติ

นําสมบัติมาจัดกลุม วัสดุได เหมือนกัน บางอยา งแตกตาง บางอยางเหมือนกนั บางอยา ง

กัน สามารถนาํ สมบัติมาจัด แตกตา งกัน สามารถนาํ สมบัติ

กลุมวสั ดุได มาจัดกลุมวสั ดุได

 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 ส่ิงตา ง ๆ รอบตัวเรา 40

ตาราง แสดงการวเิ คราะหทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ตามระดบั ความสามารถของนักเรยี น
โดยอาจใชเกณฑก ารประเมิน ดงั นี้

ทักษะแหง รายการประเมนิ ระดับความสามารถ

ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช (2) ควรปรบั ปรงุ (1)

C2 การคิด การรวบรวมขอมูลท่ี สามารถเลือกสมบัติของ สามารถเลือกสมบัติของวัสดุ ไมสามารถเลือกสมบัติ

อ ย า ง มี ไดจากการสังเกต วสั ดนุ ํามาจดั กลมุ วัสดุและ นํามาจัดกลุมวัสดุและจัดกลุม ของวัสดุนํามาจัดกลุม

วจิ ารณญาณ สมบัติตาง ๆ ของ จัดกลุมวัสดุตามสมบัติที่ วัสดุตามสมบัติที่เลือกไดอยางมี วัสดุและจัดกลุมวัสดุตาม

วัสดุเพ่ือเลือกสมบัติ เลือกไดอยางมีเหตุผลและ เหตผุ ลและถูกตองโดยอาศัยการ สมบัติท่ีเลือกแมวาครู

จัดกลุมวัสดุและจัด ถกู ตอ งดวยตนเอง ช้ีแนะจากครหู รือผูอนื่ หรือผูอ่ืนชวยแนะนําหรือ

กลมุ วัสดตุ ามสมบัติ ชี้แนะ

C4 การส่ือสาร การนาํ เสนอขอมลู สามารถนําเสนอขอมูลท่ี สามารถนําเสนอขอมูลที่ไดจา ไมสามารถนําเสนอขอมูลที่

ไดจากการทํากิจกรรม การทํากิจกรรมเร่ืองวัสดุแตละ ไดจากการทาํ กิจกรรมเร่ือง

เรื่องวัส ดุแตละช นิดมี ชนิดมีสมบัติอยางไร ในรูปแบบ วัสดุแตละชนิดมีสมบัติ

สมบัติอยางไรในรูปแบบที่ ทีช่ ดั เจนและเขา ใจงายโดยอาศัย อยางไร แมวาครูหรือผูอื่น

ชัดเจนและเขาใจงายได การชแ้ี นะจากครหู รือผอู ่นื ชว ยแนะนําหรือชแ้ี นะ

ดว ยตนเอง

C5 ความ การทํางานรวมมือ สามารถทํางานรวมกับ สามารถทาํ งานรวมกับผูอื่นและ ไมสามารถทํางานรวมกับ

รว มมอื กนั ในกลมุ ผูอื่นและรับฟงความ รับฟงความคิดเห็นของผูอื่น ผูอ่ืนอยางสรางสรรคใน

คิดเห็นของผูอื่นอยาง อยางสรางสรรคในการทํา การทํากิจกรรมเก่ียวกับ

สรางสรรคในการทํา กจิ กรรมเก่ียวกับวัสดุแตล ะชนิด วัสดุแตละชนิดมีสมบัติได

กิจกรรมเกี่ยวกับวัสดุแต มีสมบัติอยางไร ไดเปนบางครั้ง แมวาครูหรือผูอ่ืนชวย

ละชนดิ มสี มบตั อิ ยางไร โดยตองอาศัยการกระตุนจาก แนะนําหรือชี้แนะ

ต้ังแตเร่ิมตนจนเสร็จส้ิน ครูหรอื ผอู ่นื

กิจกรรม

สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

41 คูมือครูรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 สงิ่ ตาง ๆ รอบตวั เรา

เร่ืองที่ 2 วัสดุในชวี ติ ประจาํ วนั

ในเรอ่ื งน้ี นักเรียนจะไดเรียนรูเก่ียวกับวัสดุตาง ๆ ใน
ชวี ิตประจําวัน

จุดประสงคก ารเรียนรู

1. สงั เกตและบอกชนิดของวัสดทุ น่ี าํ มาใชท าํ วตั ถุตา ง ๆ
ในชีวติ ประจําวัน

เวลา 1.5 ชว่ั โมง

วัสดุ อุปกรณสาํ หรับทาํ กจิ กรรม

ไมบรรทัด กระเปานักเรียน รองเทานักเรียน วัตถุ
อ่ืนๆ รอบตัวอกี 3 รายการ

สื่อการเรียนรูและแหลง เรียนรู

1. หนังสอื เรียน ป.1 เลม 2 หนา 13-17
2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป.1 เลม 2 หนา 17-20

 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 ส่ิงตาง ๆ รอบตัวเรา 42

แนวการจดั การเรียนรู (30 นาที) ในการตรวจสอบความรู ครู
เพียงรับฟงเหตุผลของนักเรียนและ
ขนั้ ตรวจสอบความรู (5 นาที) ยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ แตชักชวน
ใหนักเรียนไปหาคําตอบดวยตนเอง
1. ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใชคําถามเพ่ือทบทวนความรูในกิจกรรมที่ผานมา จากการอานเนอ้ื เรอ่ื ง
เกย่ี วกบั ชนิดของวัสดทุ ่ีนํามาใชทําวัตถุ ดังนี้
1.1 สิ่งของท่ีนักเรียนสํารวจมาแลวมีอะไรบาง ทําจากวัสดุกี่ชนิด ยกตัวอยาง
(คําตอบอาจมีหลากหลาย เชน แกวน้ํา ทําจากวัสดุ 1 ชนิดคือแกว จาน
พลาสตกิ ทาํ จากวัสดุ 1 ชนิดคือพลาสติก)
1.2 สิ่งของแตในชีวิตประจําวันมีอะไรบาง ทําจากวัสดุก่ีชนิด (นักเรียนตอบได
ตามความเขาใจของตนเองแตครูยังไมบอกคําตอบท่ีถูกตอง ครูชักชวนให
นักเรียนหาคําตอบจากการอา นนําเรอื่ ง)

ขน้ั ฝกทกั ษะจากการอา น (20 นาที)

2. นกั เรียนอา นชือ่ เรอื่ ง และ คิดกอนอาน ในหนังสือเรยี นหนา 13 และลองตอบ
คําถามใน คิดกอนอาน ตามความเขาใจของตนเอง ครูรวบรวมคําตอบของ
นักเรยี นเพ่ือใชเ ปรยี บเทียบคาํ ตอบหลงั การอาน

3. ครใู หน กั เรยี นอานเนื้อเรือ่ ง โดยครูใชวธิ ฝี กการอา นทเี่ หมาะสม และตรวจสอบ
ความเขา ใจของนกั เรียนโดยใชคาํ ถามดังนี้
3.1 ส่ิงของท่ีนักเรียนพบในรานคา เปนสิ่งของท่ีนํามาใชกับสถานท่ีใดบาง
(หอ งนอน หอ งครัว)
3.2 เรานําผามาใชทาํ อะไรไดบาง (ผาใชทําโคมไฟ กระเปา รองเทา กางเกง)
3.3 เรานําพลาสติกมาใชท าํ อะไรไดบ าง (พลาสตกิ ใชท ําขวดนาํ้ เสอื้ กนั ฝน)
3.4 วัตถทุ ีใ่ ชง านอยางเดียวกนั แตทาํ จากวัสดุตางกันมีอะไรบาง (จานทําจาก
แกว พลาสติก กระเบื้อง)

ข้ันสรปุ จากการอา น (5 นาท)ี

4. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพ่ือใหไดขอสรุปวา วัตถุตางๆ ใน
ชีวิตประจําวันมีมากมาย บางอยางทําจากวัสดุชนิดเดียวกัน บางอยางทําจาก
วัสดุไดห ลายชนดิ

5. นักเรยี นตอบคําถามใน รหู รอื ยัง ในแบบบนั ทึกกจิ กรรม หนา 17
6. ครแู ละนกั เรียนรวมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียนในรูหรือ

ยงั กับคําตอบทีเ่ คยตอบและบนั ทึกไวใ นคิดกอนอา น
7. ครูเนนย้ําเกี่ยวกับคําถามทายเรื่อง ไดแก อยากรูไหมวาวัตถุแตละช้ินทําจาก

วสั ดกุ ี่ชนิด เพ่ือชกั ชวนใหนกั เรยี นไปหาคําตอบรว มกันในกิจกรรมตอ ไป

สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

43 คูม อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 สิง่ ตาง ๆ รอบตัวเรา

แนวคาํ ตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม

ผาใชท าํ โคมไฟ กระเปา รองเทา กางเกง พลาสติกใชทาํ ขวดนํา้ เส้ือกนั ฝน
จานทําจากวัสดตุ างชนิดกันไดแกแกว พลาสติก กระเบื้อง

 สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 ส่ิงตาง ๆ รอบตวั เรา 44

กจิ กรรมท่ี 2 วัตถตุ า ง ๆ ทําจากวสั ดุ
อะไรบา ง

กจิ กรรมนีน้ ักเรยี นจะไดส งั เกตชนิดของวสั ดทุ ่ีใชท ําวตั ถใุ น
ชีวติ ประจําวนั โดยสงั เกตวัตถตุ าง ๆ เพ่ือบอกชนดิ ของวัสดุ
ทใ่ี ชทาํ วตั ถแุ ตละช้นิ

เวลา 1 ชว่ั โมง

จุดประสงคการเรียนรู

สังเกตและบอกชนิดของวัสดุที่ใชนาํ มาใชทําวัตถุตาง ๆ
ในชีวติ ประจําวนั

วสั ดุ อุปกรณส ําหรบั ทาํ กจิ กรรม

ส่งิ ท่ีครูตองเตรยี ม/กลมุ

1. ไมบ รรทดั 1 อัน สอ่ื การเรยี นรูและแหลงเรียนรู
2. กระเปา นักเรยี น 1 ใบ
3. รองเทา นักเรยี น 1 คู 1. หนงั สอื เรียน ป.1 เลม 2
2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.1 เลม 2
สิ่งท่ีนกั เรียนตอ งเตรียม/กลุม หนา 15-16
หนา 18-20
1. วัตถุอน่ื ๆ รอบตวั 3 อยาง

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร

S1 การสังเกต
S4 การจําแนกประเภท
S8 การลงความเหน็ จากขอมูล

S13 การตคี วามหมายขอมูลและลงขอสรปุ

ทักษะแหง ศตวรรษที่ 21

C2 การคดิ อยา งมวี ิจารณญาณ

C4 การสื่อสาร
C5 ความรวมมือ

สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

45 คมู ือครูรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 ส่ิงตาง ๆ รอบตวั เรา

แนวการจดั การเรียนรู

1. ครูนาํ เขาสบู ทเรียนโดยใหน ักเรยี นดูรูปจักรยาน แลวถามนักเรียนวา นักเรียนอาจไมสามารถ
จักรยานทาํ จากวสั ดุกี่ชนดิ อะไรบาง (นักเรียนตอบตามความเขาใจ) ตอบคําถามหรืออภิปรายไดตาม
ครูชักชวนนักเรียนรวมกันสํารวจวัตถุรอบๆ ตัววาแตละชิ้นทําจาก แนวคําตอบ คุณครูควรใหเวลา
วัสดุอะไรบาง และวัสดุดังกลาวเหมือนวัสดุที่นักเรียนเคยเรียน นักเรียนคิด อยางเหมาะสม
มาแลว หรือไม อยางไร รอคอยอยางอดทน และรับฟง

2. นักเรยี น อา นชือ่ กิจกรรม และ ทําเปนคิดเปน ในหนังสือเรียนหนา แนวความคดิ ของนกั เรียน
15 ครูตรวจสอบความเขา ใจของนกั เรยี น โดยใชค าํ ถามดังนี้

2.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดเรียนเรื่องอะไร (วัสดุที่ใชทําวัตถุใน
ชีวิตประจําวัน)

2.2 นกั เรียนจะไดเ รียนเรื่องนี้ดวยวธิ ีใด (การสงั เกต)
2.3 เม่ือเรยี นแลวนักเรียนจะทําอะไรได (สามารถบอกชนิดของวัสดุท่ีใช

ทําวัตถุได)
3. นักเรียนอานสิ่งท่ีตองใชในหนังสือเรียนหนา 15 แลวชวยกัน

ตรวจสอบวัตถุทน่ี าํ มา
4. ครใู หนักเรียนอาน ทําอยางไร โดยครูใชวิธีการอานที่เหมาะสมตาม

ความสามารถของนักเรียน จากน้ันตรวจสอบความเขาใจเกี่ยวกับ
การทาํ กิจกรรมวา โดยใชค ําถามวา นกั เรียนตองทําอะไรบาง (สังเกต
ไมบรรทัด กระเปานักเรียน และรองเทานักเรียนแลวบอกชนิดของ
วัสดุท่ีนาํ มาใชท ําวตั ถุน้นั ๆ)
5. เมื่อจากนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมแลว ครูใหตัวแทน
นกั เรยี นมารับอุปกรณเรมิ่ ทํากจิ กรรม ตามขั้นตอน ดังนี้

• สังเกตไมบรรทัด กระเปานักเรียน รองเทานักเรียนและวัตถุอ่ืนๆ
จากน้นั บอกชนิดของวัสดุที่นาํ มาใชทําวตั ถนุ ัน้ ๆ บนั ทึกผล (S1) (S8)
(C5)

• นําเสนอผลการสังเกต (C4)

• อภปิ รายและลงขอสรุป (S4) (S13) (C2)

 สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 ส่งิ ตาง ๆ รอบตวั เรา 46

6. นักเรียนเก็บอุปกรณใหเรียบรอย เมื่อเสร็จส้ินการทํากิจกรรมและ
เตรยี มนําเสนอผลงาน

7. นักเรยี นอภปิ รายผลการทํากจิ กรรมตามแนวคาํ ถามดงั นี้
7.1 วตั ถุตา ง ๆ ทาํ จากวัสดุใดบา ง (คาํ ตอบขึ้นอยกู บั วัตถุที่นักเรียนนํามา

เชน วัตถอุ าจทาํ จากพลาสตกิ ผา โลหะ ยาง)
7.2 จดั กลมุ วตั ถุตามจํานวนของวสั ดุที่นํามาใชท ําวัตถุไดกี่กลุม อะไรบาง

(คําตอบข้ึนอยูกับชนิดของวัสดุที่นํามาใชทําวัตถุท่ีนักเรียนสังเกตได
เชน แบง วัตถไุ ด 2 กลุม ไดแ ก กลมุ ท่ีทําจากวัสดุเพียงชนิดเดียว กับ
กลุมทที่ ําจากวสั ดุมากกวา 1 ชนิด)
8. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพ่ือใหไดขอสรุปวา วัตถุที่เราใชใน
ชีวิตประจําวัน บางชิ้นทําจากวัสดุเพียงชนิดเดียว บางช้ินทําจาก
วัสดุมากกวา หน่งึ ชนดิ
9. นักเรียนรวมกันอภิปรายคําตอบใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจเพ่ิมเติม
คาํ ถามในการอภิปรายเพ่อื ใหไดแ นวคําตอบตามคาํ ถามทายกิจกรรม
นี้
10. นักเรียนสรุปสิ่งท่ีไดเรียนรูในกิจกรรมนี้ดวยภาษาของตนเอง
จากน้ันครูใหนักเรียนอาน ส่ิงที่ไดเรียนรู และเปรียบเทียบกับ
ขอ สรปุ ของตนเอง
11. ครูชักชวนนักเรียนตอบคําถามใน นําเรอื่ ง วาวัตถุแตละอยางอาจทํา
จากวัสดุเพยี งชนดิ เดยี วหรือมากกวา หน่ึงชนดิ
12. ครูกระตุนใหนักเรียนตั้งคําถามใน อยากรูอีกวา ลงในแบบบันทึก
กิจกรรม จากนั้นครูสุมนักเรียน 2-3 คน นําเสนอคําถามของตนเอง
หนาชั้นเรยี น
13. ครูนําอภิปรายเพ่ือใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรและทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 ในข้ันตอน
ใดบา ง
13.1 นักเรียนรวมกันอานรูอะไรในเรื่องน้ี ในหนังสือเรียน หนา 17
ครนู ําอภปิ รายเพ่อื นําไปสูขอสรุปเกี่ยวกับสิ่งท่ีไดเรียนรูในเรื่องน้ี
จากน้นั ครูกระตุนใหน กั เรยี นตอบคําถามในชว งทา ยของเน้ือเร่ือง

สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

47 คูมอื ครูรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 สิ่งตา ง ๆ รอบตวั เรา
ดังนี้ “วัสดุใดบางท่ีมนุษยทําข้ึน” ครูและนักเรียนรวมกัน
อภิปรายแนวทางการตอบคําถาม เชน วัสดุท่ีมนุษยทําข้ึน เชน
พลาสติก แกว ดินเผา วัสดุบางชนิดเกิดเองตามธรรมชาติ เชน
หิน ไม เหล็ก ครูควรเนนใหนักเรียนตอบคําถามพรอมอธิบาย
เหตผุ ลประกอบ

 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 สง่ิ ตาง ๆ รอบตัวเรา 48

แนวคาํ ตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม

สังเกต บอก






 ผา



 ผา

หมายเหตุ ชนิดของวสั ดทุ ่ีใชท ําวัตถุตา งๆ อาจไมเ หมอื นกับแนวคาํ ตอบนี้ ใหต อบตามท่ีสังเกตได

สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

49 คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยท่ี 3 สิ่งตาง ๆ รอบตวั เรา

ขนึ้ อยกู บั วัตถทุ ี่
นักเรยี นนาํ มาสังเกต

ขน้ึ อยกู บั วตั ถุท่ี
นกั เรยี นนํามาสังเกต

ขึ้นอยูก ับวตั ถุที่
นกั เรยี นนํามาสังเกต

หมายเหตุ ชนิดของวสั ดทุ ี่นักเรียนนํามาอาจแตกตางกัน ใหทําเคร่อื งหมาย / ในตารางใหตรงตามสงั เกตได

ไมบ รรทัด

(หรือวตั ถุอนื่ ๆ ตามทส่ี ังเกตได)

 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่งิ ตาง ๆ รอบตวั เรา 50

กระเปา นักเรียน รองเทานักเรียน

(หรือวัตถุอน่ื ๆ ตามทส่ี งั เกตได)

เพยี งชนิดเดยี ว

ไมบ รรทดั

หลายชนิด
กระเปา นกั เรยี น รองเทานกั เรยี น

หนงึ่
หลาย

คําถามของนกั เรียนที่ต้ังตามความอยากรูข องตนเอง

สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

51 คูม ือครรู ายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 ส่ิงตา ง ๆ รอบตวั เรา

แนวการประเมินการเรียนรู

การประเมนิ การเรยี นรูของนักเรยี นทาํ ได ดงั นี้
1. ประเมินความรูเ ดิมจากการอภปิ รายในช้ันเรียน
2. ประเมนิ การเรียนรูจากคําตอบของนกั เรยี นระหวางการจดั การเรยี นรแู ละจากแบบบนั ทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรและทักษะแหง ศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรยี น

การประเมนิ จากการทาํ กิจกรรมที่ 2 วตั ถตุ า งๆ ทําจากวสั ดุอะไรบา ง

ระดบั คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง
3 คะแนน หมายถงึ ดี

รหสั สิ่งที่ประเมนิ คะแนน
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสงั เกต
S4 การจาํ แนกประเภท
S8 การลงความเห็นจากขอมลู
S13 การตคี วามหมายขอมลู และลงขอ สรปุ
ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21
C4 การสอ่ื สาร
C5 ความรว มมือ

รวมคะแนน

 สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูม ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 สง่ิ ตาง ๆ รอบตวั เรา 52

ตาราง แสดงการวิเคราะหท ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรยี น
โดยอาจใชเกณฑก ารประเมิน ดงั น้ี

ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร พอใช (2)

S1 การสังเกต สง่ิ ทส่ี ังเกตได สามารถใชป ระสาทสมั ผัส สามารถใชป ระสาทสัมผสั เก็บ ไมส ามารถใชประสาท
ประกอบดว ย เก็บรายละเอียดชนดิ ของ รายละเอียดชนิดของวสั ดทุ ี่ สมั ผัสเก็บรายละเอียดชนดิ
ชนดิ ของวสั ดุท่ีใช วัสดุท่นี ํามาใชท าํ วัตถแุ ต นาํ มาใชทาํ วัตถุแตละชิน้ ได ของวัสดุทน่ี าํ มาใชท ําวัตถุ
ทําวตั ถแุ ตล ะช้ิน ละชิน้ ไดถูกตอ งดวยตนเอง ถกู ตองโดยตอ งอาศัยการ แตละชน้ิ แมวาครูหรือผอู ืน่
โดยไมเ พ่ิมความคดิ เหน็ ชี้แนะของครหู รือผอู ืน่ หรือ ชว ยแนะนาํ หรอื ชี้แนะ

เพิ่มเติมความคิดเหน็

S4 การจาํ แนก การจดั กลมุ วัตถุ สามารถจดั กลุมวัตถตุ า ง ๆ สามารถจัดกลุมวตั ถุตา ง ๆ ไมส ามารถจัดกลุมวตั ถตุ าง ๆ
ประเภท ตามจํานวนวัสดุท่ี โดยใชเกณฑจ ํานวนของ โดยใชเ กณฑจ าํ นวนของวสั ดุที่ โดยใชเกณฑจ าํ นวนของ
ใชทําวตั ถุ วสั ดุที่นาํ มาใชทาํ วตั ถุได นํามาใชท ําวัตถุไดถูกตองโดย วสั ดุที่นาํ มาใชท ําวัตถแุ มว า
ถูกตองดวยตนเอง อาศยั การช้แี นะจากครูหรือ ครูหรอื ผอู ื่นชว ยแนะนํา
ผอู ื่น หรอื ช้แี นะ

S8 การลงความเห็น การระบุชนดิ ของ เพิ่มเติมความคิดเห็น เพิ่มเติมความคิดเหน็ เกย่ี วกับ ไมส ามารถแสดงความ

จากขอมูล วสั ดทุ ่นี าํ มาใชท ํา เก่ียวกบั ขอมูลที่มีอยูจาก ขอมูลที่มอี ยูจากการสงั เกต คิดเห็นเก่ยี วกบั ขอ มลู ทีม่ ีอยู

วตั ถแุ ตละชน้ิ การสงั เกตจาํ นวนชนิดของ จาํ นวนของวัสดทุ ่ีนํามาใชท าํ จากการสงั เกตจํานวนของ

วสั ดทุ ่นี ํามาใชท าํ วัตถุได วตั ถไุ ดโ ดยอาศัยการช้แี นะ วัสดุทน่ี ํามาใชท ําวัตถุ แมว า

อยางถูกตอง มเี หตผุ ลดวย จากครูหรือผูอ่ืน ครูหรือผอู ่นื ชวยแนะนําหรือ

ตนเอง ช้แี นะ

S13 การ การระบุชนดิ ของ สามารถตีความหมายจาก ครูหรอื ผูอ ืน่ ตองชว ยแนะนํา ไมสามารถตคี วามหมายจาก

ตีความหมายขอมลู วัสดุทีน่ าํ มาใชทาํ การสังเกต และลงขอสรุปได หรือชแ้ี นะจงึ จะสามารถ การสงั เกต และลงขอสรปุ ได

และลงขอสรุป วัตถุแตล ะชิ้น ดว ยตนเองวา วตั ถตุ าง ๆอาจ ตีความหมายจากการสงั เกต วาวตั ถตุ าง ๆอาจทําจากวัสดุ

ทําจากวสั ดเุ พียงชนดิ เดียว และลงขอสรุปไดวาวัตถตุ าง ๆ เพยี งชนดิ เดียวหรือหลาย

หรือหลายชนดิ อาจทําจากวสั ดุเพยี งชนิด ชนิด

เดียวหรือหลายชนิด

สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

53 คูมอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 ส่งิ ตา ง ๆ รอบตวั เรา

ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ตามระดบั ความสามารถของนกั เรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังน้ี

ทกั ษะแหง รายการประเมนิ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1)
ศตวรรษที่ 21 สามารถนาํ เสนอผลการลง พอใช (2) ไมสามารถนาํ เสนอผล
C4 การสอื่ สาร การนําเสนอผลการ ความเห็นจากขอมูล การลงความเหน็ จาก
ลงความเห็นจาก เกี่ยวกับสิ่งท่ีอยูในถุง สามารถนาํ เสนอผลการลง ขอ มลู เกย่ี วกับสิ่งท่ีอยู
C5 ความ ขอ มูลเกี่ยวกับส่งิ ท่ี ปริศนา ไดอยา งถูกตอง ความเห็นจากขอมลู ในถงุ ปรศิ นาได
รวมมอื อยใู นถงุ ปรศิ นา ครบถวน เกยี่ วกับสงิ่ ท่ีอยใู นถุง
มสี ว นรว มในการสงั เกตรูป ปริศนา ไดอยางถูกตอง แต ไมมีสว นรวม
การมสี วนรวม และการสงั เกตส่ิงท่ีอยใู น ไมค รบถวน ในการสงั เกตรูปและ
ในการสงั เกตรูป ถุงปริศนาต้งั แตเร่ิมตนจน มีสว นรวมในการสงั เกตรปู การสังเกตสงิ่ ที่อยใู นถงุ
และการสงั เกต สาํ เร็จลุลว ง หรอื การสังเกตสิง่ ที่อยใู นถุง ปรศิ นา
สังเกตสิง่ ที่อยใู นถุง ปริศนาเปน บางขณะ
ปรศิ นา

 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 ส่ิงตา ง ๆ รอบตัวเรา 54

กจิ กรรมทา ยบทท่ี 1 วสั ดุรอบตัวเรา ( 2 ชัว่ โมง)

1. นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปส่ิงที่ไดเรียนรูจากบทน้ี ในแบบบันทึก
กิจกรรม หนา 21

2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ
แผนภาพในหวั ขอ รอู ะไรในบทน้ี ในหนังสือเรยี น หนา 18

3. นักเรียนกตรวจสอบคําตอบของตนเองในสํารวจความรูกอนเรียน ใน
แบบบันทึกกิจกรรม หนา 2-5 อีกครั้ง หากคําตอบไมถูกตองใหขีดเสน
ทับขอความเหลานั้น แลวแกไขใหถูกตอง หรืออาจแกไขคําตอบดวย
ดนิ สอสี

4. นักเรียนทํา แบบฝกหัดทายบทท่ี 1 นําเสนอคําตอบหนาช้ันเรียน ถา
คําตอบยงั ไมถ ูกตอ งครูนําอภิปรายหรือใหสถานการณเพ่ิมเติมเพื่อแกไข
แนวคดิ คลาดเคลอ่ื นใหถ กู ตอ ง

5. นักเรยี นรวมกันทาํ กจิ กรรม รว มคิด รว มทํา

สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

55 คมู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 สิง่ ตาง ๆ รอบตัวเรา

แนวคาํ ตอบในแบบฝก หดั ทา ยบท

×
×
×
×
×

×
×

×

 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่งิ ตา ง ๆ รอบตัวเรา 56

ตกุ ตา หมอน ฟองน้ํา
ขวดนม ชอ น กระทะ

แข็ง ไมยืด ทึบ

หนิ มีผวิ ไมม นั วาว แตโลหะมีผวิ มันวาว

สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

57 คูมือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 สิ่งตา ง ๆ รอบตัวเรา
คาํ ตอบขน้ึ อยูกบั ผลการสาํ รวจของนกั เรียน

 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 สิ่งตา ง ๆ รอบตัวเรา 58
คาํ ตอบขึ้นอยูกับนกั เรยี น

สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

59 คูมอื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 ส่ิงตาง ๆ รอบตวั เรา

บทท่ี 2 เสยี งในชีวติ ประจาํ วัน

จดุ ประสงคก ารเรียนรูป ระจําบท

เมอ่ื เรียนจบบทนี้ นักเรยี นสามารถ
1. บรรยายการเกิดเสียง
2. บรรยายทิศทางการเคลือ่ นท่ีของเสยี งจาก

แหลงกาํ เนดิ เสียง

แนวคดิ สําคญั

เสียงเกิดจากการส่ันของแหลงกําเนิดเสียง เสียง
เคล่ือนทอ่ี อกจากแหลงกําเนดิ เสยี งทกุ ทิศทาง

สอื่ การเรียนรแู ละแหลง เรียนรู บทน้ีมอี ะไร

1. หนงั สอื เรยี น ป.1 เลม 2 หนา 23-35 เรื่องที่ 1 เสียงรอบตัวเรา
2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.1 เลม 2 หนา 26-39 คาํ สําคญั แหลงกําเนดิ เสยี ง (sound source)
กิจกรรมที่ 1.1 เสยี งเกดิ ไดอยางไร

กิจกรรมที่ 1.2 เสยี งเคล่อื นท่ีไปทิศทางใด

 สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยที่ 3 ส่งิ ตา ง ๆ รอบตัวเรา 60

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21

รหัส ทักษะ กจิ กรรมท่ี
12

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร

S1 การสงั เกต 

S2 การวดั

S3 การใชจ ํานวน

S4 การจําแนกประเภท

S5 การหาความสัมพนั ธร ะหวา ง

 สเปซกับสเปซ

 สเปซกับเวลา

S6 การจดั กระทาํ และสือ่ ความหมายขอ มลู

S7 การพยากรณ 

S8 การลงความเหน็ จากขอมูล 

S9 การตง้ั สมมติฐาน

S10 การกาํ หนดนยิ ามเชิงปฏบิ ัตกิ าร

S11 การกําหนดและควบคุมตวั แปร

S12 การทดลอง

S13 การตคี วามหมายขอมลู และลงขอ สรุป

S14 การสรางแบบจาํ ลอง 

ทักษะแหงศตวรรษที่ 21

C1 การสรางสรรค 

C2 การคดิ อยางมวี ิจารณญาณ

C3 การแกป ญหา

C4 การสอ่ื สาร 

C5 ความรวมมือ 

C6 การใชเ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร

สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

61 คมู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 ส่ิงตาง ๆ รอบตัวเรา

แนวคดิ คลาดเคลอ่ื น

ครบู นั ทกึ แนวคิดที่ไดจากการฟงการสนทนาและการอภิปราย เพ่ือนําไปใชใ นการจดั การเรียนรใู หส ามารถแกไขแนวคดิ
คลาดเคลอ่ื นและตอยอดแนวคดิ ที่ถูกตอ ง

แนวคดิ คลาดเคล่ือน แนวคิดท่ถี ูกตอ ง

เสียงเคล่อื นท่ีไดใ นทศิ ทางเดยี วโดยมีลักษณะเหมือนลาํ แสง เสยี งเคลอื่ นท่ีออกจากแหลง กําเนดิ เสยี งทกุ ทศิ ทาง
ไฟฉาย (Standriff, 2011)

 สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนวยท่ี 3 สง่ิ ตา ง ๆ รอบตัวเรา 62

บทนเ้ี รม่ิ ตน อยา งไร (1 ชวั่ โมง)

1. ครแู บง นักเรยี นออกเปน กลุม กลมุ ละ 4 คน แตละกลุมกําหนดเสียง ค รู รั บ ฟ ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง
ประจํากลุม เชน เสียงมา เสียงแมว เสียงรถพยาบาล เมื่อครูช้ีไปที่ นักเรียนเปนสําคัญ ครูยังไม
กลุมใด ใหกลุมนั้นสงเสียงรองพรอม ๆ กัน จากนั้นครูนําอภิปราย เฉลยคําตอบใด ๆ แตชักชวนให
โดยใชค าํ ถามเพอ่ื ตรวจสอบความรเู ดิมของนักเรียน ดังนี้ หาคาํ ตอบท่ีถูกตองจากกิจกรรม
1.1 เสียงที่แตละกลุมทําข้ึน เกิดขึ้นไดอยางไร (นักเรียนตอบ ตาง ๆ ในบทเรยี น้ี
ตามความเขา ใจของตนเอง)

1.2 นักเรียนไดยินเสียงไดอยางไร (นักเรียนตอบตามความ
เขาใจของตนเอง)

2. ครูชักชวนนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับเสียงในชีวิตประจําวัน โดยให
นักเรียนอานหนังสือเรียน บทที่ 2 ของหนวยที่ 3 เริ่มจากการอาน
ชื่อหนวย ชื่อบท และจดุ ประสงคการเรยี นรปู ระจําบท จากนั้นครูใช
คาํ ถาม ดังน้ี

2.1 เมื่อเรียนจบบทนี้ นักเรียนสามารถทําอะไรไดบาง
(บรรยายวาเสียงเกิดขึ้นไดอยางไร และเสียงเคลื่อนท่ีออก
จากแหลงกําเนิดเสยี งในทิศทางใด)

3. นักเรียนอานชื่อบท และแนวคิดสําคัญ ในหนังสือเรียน หนา 24
โดยครูอาจใชค าํ ถาม ดังน้ี

3.1 ในบทนี้จะไดเรียนเร่ืองอะไรบาง (การเกิดเสียงและทิศ
ทางการเคลอื่ นทข่ี องเสยี ง)

4. นักเรียนอานเนื้อเรื่องในหนังสือเรียน หนา 24 โดยครูใชวิธีฝกการ
อานท่ีเหมาะสมกับนักเรียน จากน้ันครูถามคําถามเพ่ือตรวจสอบ
ความรูเดมิ ของนกั เรียนโดยใชค ําถาม ดังน้ี

4.1 นกั เรียนสงั เกตเห็นอะไรบาง (นักเรียนตอบตามความเขาใจ
ของตนเอง เชน เหน็ คนเลน ดนตรแี ละมีคนนัง่ ฟง)

สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

63 คมู ือครูรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.1 เลม 2 | หนว ยที่ 3 สิ่งตา ง ๆ รอบตวั เรา

4.2 นกั เรยี นเคยชมการแสดงดนตรีเหมอื นในรูปหรือไม การเตรยี มตัวลว งหนาสาํ หรับครู
(นกั เรยี นตอบตามประสบการณข องตนเอง) เพอ่ื จดั การเรยี นรูใ นครงั้ ถดั ไป

4.3 เสยี งจากเคร่ืองดนตรีตา ง ๆ เกิดขน้ึ ไดอ ยางไร (นักเรยี น ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะไดอานเรื่อง
ตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน เกิดจากการเปา การสี ท่ี 1 เสียงรอบตัวเรา ครูควรเตรียมสื่อ
การตี การดดี ) ห รื อ ตั ว อ ย า ง ที่ ห ล า ก ห ล า ย เ กี่ ย ว กั บ
แหลงกําเนิดเสียงตามธรรมชาติ และ
4.4 นกั เรยี นคดิ วา จะตองน่ังทต่ี าํ แหนง ใด จงึ จะไดยินเสียงจาก แหลงกําเนิดเสียงท่ีมนุษยสรางขึ้น โดย
เคร่อื งดนตรี (นกั เรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน อาจจะนําตัวอยางที่เปนของจริงหรือ
ขางหนา ขา ง ๆ หรือทกุ ตาํ แหนง) ภาพประกอบเพื่อใหนักเรียนเขาใจเนื้อหา
ไดด ียิ่งข้ึน
5. ครชู กั ชวนนักเรยี นทาํ สํารวจความรูกอนเรยี นในแบบบันทกึ กจิ กรรม
หนา 26 จากน้ันครูตรวจสอบความเขา ใจของนักเรยี นถึงวิธีการตอบ
คําถามแตล ะขอ จนแนใจวา นักเรียนสามารถทําไดดว ยตนเอง จึงให
นกั เรยี นตอบคําถามตามความเขา ใจของตนเอง ในการบนั ทึกคาํ ตอบ
ของแตละคนอาจแตกตางกันได และอาจตอบถูกหรือผดิ ก็ได

6. ครูสังเกตการตอบคําถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบวานักเรียนมี
แนวคิดเกี่ยวกับการเกิดเสียงและทิศทางการเคลื่อนท่ีของเสียง
อยางไรบาง ครูอาจสุมใหนักเรียน 2 – 3 คน นําเสนอคําตอบของ
ตนเองหนาชั้นเรียน โดยครูยังไมเฉลยคําตอบท่ีถูกตอง แตนักเรียน
จะตองกลับมาตรวจสอบคําตอบของตนเองอีกคร้ังหลังเรียนจบบท
นี้แลว ท้ังน้ีครูอาจบันทึกคําตอบของนักเรียนหรือแนวคิด
คลาดเคล่ือนไวเปนขอมูลเพื่อนํามาออกแบบการจัดการเรียน
การสอนและเพอื่ แกไ ขแนวคดิ ท่ีคลาดเคลื่อนน้นั ใหถูกตอง

 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version