194 หน้าที่ ถือเป็นการทำผิดกฎหมายและการใช้อำนาจทางการเมืองในการออกกฎหมายเป็นโดย ประชาชนไม่ยินยอมเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างที่45 “โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องตามแผนพัฒนาของตัวแทนนายกอบต. ที่ทุกท่านได้เลือกมา ท่านนายกมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลจะให้ตำบลของเราหันมาปลูกฟักทอง เพื่อรายได้ที่ดีกว่าการปลูกข้าว แล้วทาง อบต. ก็พร้อมสนับสนุนการอบรมให้ชาวบ้านทุกคนให้ได้ผลผลิตที่ดี” (ขบวนการฟักทอง: 79) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการออก นโยบายหรือกฎหมายโดยที่ประชาชนไม่ได้รับความยินยอมในการดำเนินการ ถือเป็นการใช้อำนาจ เพื่อหาผลประโยชน์จากโครงการหรือจากประชาชนโดยหวังให้โครงการของตนเองได้มีผลงานต่อ สาธารณะชน แต่กลับกันการเสนอหรือการดำเนินการใดๆของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีผลต่อประชาชนต้อง เคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการรับฟังและนำข้อเสนอของประชาชนนำไปปรับปรุงและ ต่อยอด พร้อมทั้งต้องศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นภายหลังการดำเนินงาน รวมทั้งในขณะที่ดำเนินการ ต้องสำรวจปัญหาและติดตามผลเป็นระยะเพื่อให้โครงการดำเนินไปได้อย่างถูกต้องและบรรลุ วัตถุประสงค์ แต่การทำงานของเจ้าหน้ารัฐกลับใช้นโยบายโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา เป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐในการพยายามทุจริต ดังนั้น การอำนาจที่มีผล เกี่ยวเนื่องกับประชาชนต้องให้ประชาชนมีสิทธิในการตัดสินใจ และไม่กระทำพฤติกรรมเว้นการปฏิบัติ หน้าที่ในการติดตามโครงการหรือนโยบายนั้นๆ ตัวอย่างที่46 หลังจากพี่เสหายตัวไปไม่นานเดือนก็มีข่าวรัฐประหารเกิดขึ้น จากนั้นอีกไม่กี่ปีต่อมาก็เกิด วิกฤตต้มยำกุ้ง ค่าเงินบาทลอยตัวคนทำธุรกิจล้มละลายกันไม่น้อย ปีนี้พี่เสกลับมาพร้อมกับวิกฤตไวรัส โควิด-19 ประชาชนทั่วโลกเสียชีวิตมากมาย เศรษฐกิจชะงักงัน เพราะไม่สามารถทำมาหากินได้เป็น ปกติ (ซากดึกดำบรรพ์ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ: 138)
195 จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อทำรัฐประหารหรือการใช้ นโยบายต่างๆ ของเจ้าหน้าที่รัฐมีผลต่อประชาชนและสังคม เนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหารไม่ได้ขจัด ความขัดแย้งในสังคมออกไปจริง เพราะทุกสังคมย่อมมีความแตกต่างทางความคิดจนเกิดความขัดแย้ง ขึ้นแต่การแก้ปัญหาต้องใช้วิธีที่สันติ ส่วนการออกนโยบายทางเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศเกิดการพัฒนา เป็นเรื่องที่ดี แต่การประกาศใช้กฎหมายหรือการใช้นโยบายต้องรอบครอบและศึกษา พร้อมกับ เตรียมพร้อมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น แต่การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐกลับเพียงประกาศใช้ กฎหมายหรือออกนโยบาย แต่ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง รวมไปถึงการใช้นโยบาย สาธารณสุขที่ประชาชนทุกคนควรได้รับสวัสดิการอย่างเท่าเทียมและสามารถมีสิทธิและเสรีภาพใน การรักษา โดยภาพสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการสะท้อนพฤติกรรมทางการเมืองที่ เจ้าหน้าที่รัฐพยายามใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ประชาชนเป็นเครื่อง ทดลองในการบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่รัฐเพียงเท่านั้นเอง ตัวอย่างที่47 คนส่งยิ้มแห้งๆ กลบเกลื่อนความไม่พอใจ ชิงชัยยังคงดูต่อไป แม้เขาชักจะหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง ก็ตาม “ถ้าเปลี่ยนให้ลุง ก็ต้องเปลี่ยนให้ชาวบ้านคนอื่นกันหมด ทำไม่ได้หรอก” เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง พยายามอธิบาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้แกละความพยายามแม้แต่น้อย “ก็เปลี่ยนมันให้หมดเลย แล้วมันไม่ดี เหอ ข้าวนิ่มๆ นั้น” ลุงตอบเสียงจิ๊จ๊ะเกิดขึ้นเบาๆ จากผู้ร่วมเหตุการณ์ คลิปวิดีโอนั้นยังคงดำเนินไป ภาพของลุงข้าวแข็ง เจ้าหน้าที่และถุงข้าวสิบกิโลกรัมของแก ถูกตัดสลับไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะไปจบที่ มุมไหน ใครบางคนในหมู่เจ้าหน้าที่เริ่มส่งเสียงขึ้นมาบ้างว่า “ลุงเอาไปเหอะ แข็งหน่อยก็ใส่น้ำเพิ่มเอา ใครๆ ก็กินได้แบบนี้” (แว่วข่าวคราวว่าข้าวแข็ง: 172) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนพฤติกรรมการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิบัติงาน เกิดขึ้นโดยการใช้อำนาจทางการเมืองโยไม่รับฟังปัญหาหรือข้อเสนอของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการ ยัดเยียดให้ประชาชนได้รับสิ่งของหรือสวัสดิการของรัฐอย่างไม่เท่าเทียมและไม่มีความโปร่งใสในการ ทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของประชาชนที่ต้องแบกรับภาระการกระจายอำนาจ หรือการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐอย่างไม่เท่าเทียมจนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับ เจ้าหน้าที่รัฐ หากรัฐบาลได้กระจายอำนาจในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างเท่าเทียมและมีสิทธิ ในการเลือกสรรสิ่งที่ดีให้กับตนเองและครอบครัวได้ ประชาชนผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับความ เดือดร้อนคงได้รับการเยียวยาจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างมคุณภาพ ดังนั้น การใช้อำนาจทางการเมืองใน
196 การให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการของรัฐต้องให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการเลือกสรรสิ่งที่ดี ที่สุดให้กับตนเอง พร้อมทั้งพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่เลือกปฏิบัติและรับฟังเสียงของ ประชาชน ตัวอย่างที่48 เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่อฝ่ายวิชาการเชิญผู้ปกครองไปพบแจ้งว่าทางโรงเรียนไม่มีบุคลากร เฉพาะทางที่จะทุ่มเวลาเอาใจใส่ เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนของกวางเอง มัสยาจึงติดต่อไปยัง โรงเรียนอื่นอีกหลายแห่งแต่ได้รับการปฏิเสธทุกที่ ด้วยเหตุผลเหมือนกันหมดว่าทางโรงเรียน ไม่มีความพร้อม (สุนัขนำทาง: 182) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนของพฤติกรรมทางการเมืองของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐต่อ ความรับผิดชอบต่อประชาชนยังเลือกปฏิบัติกับผู้ที่เดือดร้อนหรือผู้ที่เห็นต่างกับตนเอง อำนาจของ สถานศึกษาขึ้นอยู่กับผู้บริหารสถานศึกษา แต่ในกรณีที่ไม่รับผู้เรียนหรือเยาวชนให้ได้รับการศึกษานั้น ถือเป็นเรื่องที่ผิดและไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมการศึกษา การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิเสธให้ ความช่วยเหลือสำหรับเยาวชนหรือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ทั้งยังไม่ให้เข้าถึงระบบการศึกษา แน่นอนว่าเยาวชนย่อมได้รับการศึกษาที่ไม่เพียงพอ ทั้งยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของเด็กที่ต้องเผชิญ กับปัญหาด้านการศึกษา เนื่องจากการศึกษาถือเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและต่อยอดชีวิตของเด็ก เอง เพื่อให้คุณภาพชีวิตได้รับในสิ่งที่ดีและถูกต้อง การกีดกั้นการได้รับการศึกษาของประชาชนถือเป็น พฤติกรรมทางการเมืองที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะประชาชนทุกคนต้องได้รับการศึกษาและต้อง ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายหรือตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีพ.ศ.2551 ดังนั้น เจ้าหน้าที่รัฐจะใช้อำนาจในการปฏิเสธการรับประชาชนให้ได้รับการศึกษาไม่ได้ ถือเป็นภาพ สะท้อนการศึกษาของประเทศไทยที่ยังคงเลือกปฏิบัติต่อประชาชน ตัวอย่างที่49 หน่วยอารักขาความปลอดภัย ขยับปืนระแวดระวัง เชือกเส้นนั้นผูกมัดเธอไว้อีกครั้ง เพราะท่านรัฐมนตรีไม่ไว้ใจ เธออาจหนีไปเช่นครั้งอดีต เหมือนตอนหนึ่งของนิทานโบราณที่บอกเล่า กันมาจากแดนไกล (เสียงร่ำไห้จากป่าหิมพานต์: 202)
197 จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐต่อประชาชน ที่พยายามใช้ความรุนแรงบังคับให้ประชาชนหรือผู้ที่ตนเองคิดว่าเป็นศัตรูถูกจับกุมและไม่ให้ขัดขืน หลุดพ้นจากการใช้อำนาจของตนเองไปได้ การใช้ความรุนแรงหรือการบังคับเพื่อให้ประชาชนไม่ สามารถมีอิสระในการใช้ชีวิตถึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่หากประชาชนได้กระทำผิดซึ่งหน้า ต้องใช้กฎหมายและให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนและต้องไม่ใช้อำนาจทางการเมืองใน การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมและได้รับผลประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินชีวิต ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองในการจับกุมประชาชนถือเป็นการใช้อำนาจ ในทางที่ผิดและส่อให้เห็นถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐต่อประชาชนในการบังคับจับกุมประชาชน ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่รัฐยังคงใช้อำนาจในทางที่ผิดและทำพฤติกรรมที่ทำให้ประชาชนหมดศรัทธาหรือ เกิดความขัดแย้งย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมแน่นอน 4.4.1.2 ภาพสะท้อนการมีส่วนร่วมทางการเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญที่ได้กล่าวไว้ว่า ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการดำเนินชีวิต แต่ถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพในบางประการ เป็น หลักประกันจากรัฐธรรมนูญเพื่อให้สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข การมีส่วนร่วมทางการ เมืองของประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิการเลือกตั้ง แต่การมีส่วนร่วมในด้านอื่นๆ เช่น การ ชุมนุมประท้วงหรือแสดงออกผ่านการชุมนุมในการสะท้อนปัญหาในสังคมและการทำงานของ เจ้าหน้าที่รัฐ กลับเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศในสายตาของรัฐบาลที่พยายามอ้างกฎหมายและ ใช้กฎหมายใช้การควบคุมประชาชนเพื่อปิดปากไม่ให้ประชาชนสามารถออกมาเรียกร้องหรือชุมนุม เพื่อสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้ ทำให้ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องและใช้อำนาจสิทธิตาม รัฐธรรมนูญต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย การมีส่วนร่วมทางการเมืองถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจาก ประชาชนถือเป็นเจ้าของประเทศมีสิทธิและเสรีภาพให้การเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญไทย เพื่อให้ รัฐบาลได้รับฟังปัญหาและร่วมกันแก้ปัญหาของประชาชน หากการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ ประชาชนเป็นไปตามกฎหมายที่ประกาศบังคับใช้ควรให้สิทธิ เสรีภาพและไม่เลือกปฏิบัติกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้อำนาจของตนเองอย่างเท่าเทียมและมีอิสรภาพตามระบอบประชาธิปไตย ตัวอย่างที่50 มันเป็นสติ๊กเกอร์ที่เป็นโลโก้ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง มีคนนำมาติดบนกีตาร์ของหรรษา เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พรรคการเมืองต่างๆ กำลังหาเสียง ก่อนการเลือกตั้งปี 2564
198 เลขาของอดีต ส.ส. คนหนึ่ง เป็นเพื่อนกับหรรษาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมฯ ได้จ้างหรรษาไปเล่นดนตรี ในงานวันเกิดเจ้านาย (คราบที่ยังลอกออกไม่หมด: 93) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนที่พยายามเข้ามา มีส่วนในการรณรงค์การเลือกตั้ง แต่เป็นภาพสะท้อนให้เห็นการไม่ได้มีการจัดการเลือกตั้งตามระบอบ ประชาธิปไตยมาแล้วเกือบแปดปีที่เกิดการรัฐประหารและนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวของคณะ ปฏิวัติเพื่อควบคุมประเทศและประชาชน พร้อมทั้งฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอด อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ การที่ประชาชนมีความกระตือรือร้นในการเลือกตั้งหรือต้องการในการใช้สิทธิ การเลือกผู้แทนราษฎรในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความสนใจใน การเมืองภายในประเทศเพื่อให้ประเทศกลับสู่ประชาธิปไตยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้มีการจัดการ เลือกตั้งปีพ.ศ.2562 ก็เป็นการเลือกตั้งที่สร้างภาพว่าได้จัดการเลือกตั้ง เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ ได้ออกประกาศใช้ให้ส.ว.สามารถโหวตจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ที่มาของส.ว. 250 เสียง มาจากการลากตั้ง ของรัฐบาลทหารที่ร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ รวมไปถึงเจตนารมณ์ ของประชาชน 4.4.1.3 ภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง การเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง การเมือง เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของสังคมที่แต่ละบุคคลมีความคิดและอุดมการณ์ทาง การเมืองที่แตกต่างกัน โดยมีรากฐานทัศนะคติจากหลายปัจจัยจนหล่อหลอมเป็นความเชื่อหรือ อุดมการณ์ของตนเอง ตามระบอบประชาธิปไตยหรือตามระบบของสังคมย่อมมีความขัดแย้งทาง ความคิดหรือทัศนะ เนื่องจากการมีอิสระทางความคิด มีเสรีในการำดเนินชีวิตหรือการมีสิทธิในการ แสดงออกทางความคิด ความแตกต่างทางความคิดนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมทางอุดมการณ์ทาง การเมือง จนเกิดการแสดงออกผ่านพฤติกรรมที่พยายามบอกจุดยืนหรืออุดมการณ์ของตนเองผ่าน การชุมนุมหรือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผ่านสื่อหรือผ่านนโยบายของนักการเมือง ความขัดแย้ง เรื่องทัศนคติทางการเมืองของแต่บุคคลมีความแตกต่างกัน หากอุดมการณ์ของประชาชนเกิดจากการ เข้าใจและมีความรู้ในประชาธิปไตยอย่างทั่วถึงทุกคน คงไม่เกิดการปะทะของฝ่ายอำนาจของอดีต นักการเมืองกับฝ่ายทหาร การที่ประชาชนถูกจับกุมหรือเกิดความเสียหาญภายในประเทศมีเหตุจาก การที่ประชาชนคลั่งและชื่นชอบนักการเมืองบุคคลนั้นๆ จนลืมในเหตุและผล หลักของความเป็นจริง ในการทุจริต ด้วยเหตุนี้เองที่ความแตกต่างด้านความชื่นชอบนักการเมืองหรือพรรคร่วมแนวคิดของ
199 ประชาชนจึงพยายามครอบคลุมความคิดของประชาชนด้วยการปลุกระดมเพื่อให้ประชาชนเป็นเกาะ ป้องกันภัยให้กับนักการเมือง ภาพสะท้อนความขัดแย้งในสังคมที่นำมาสู่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากนักการเมืองที่หาผลประโยชน์กับประชาชนโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและ ผลประโยชน์ต่อส่วนร่วม ความขัดแย้งอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมืองที่มีความแตกต่างจึงต้อง พยายามคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และไม่นำประชาชนไปเป็นเครื่องมือในการเป็นเกาะ ป้องกันให้ตนพ้นผิด ตัวอย่างที่51 “เธอฝังใจแต่กับรัฐบาลนี้ เห็นดีเห็นชอบด้วยทุกอย่าง ลองมองให้ลึกสิ บ้านเมืองกำลังแย่ เศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนลำบากกันทั้งประเทศ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนห่างกันมาก ยิ่งมีรัฐมนตรี แบบนี้ ควรปลดได้แล้ว” “ประเทศกำลังลังปรับตัวต่างหาก” ลูกสาวผมแย้งขึ้นมา (ผ้าเช็ดเท้า: 105) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนของสังคมที่มีความแตกต่างทางความคิดในอุดมการณ์ทาง การเมืองที่ส่อให้เห็นถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม เนื่องจากการชื่นชอบบุคคลทางการเมือง ที่แตกต่างกัน ความคิดที่แตกต่างหรืออุดมการณ์ณืทางการเมืองที่ไม่เหมือนกันถือเป็นเรื่องปกติของ สังคมระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนสามารถมีสิทธิและเสรีภาพในการใช้ชีวิตหรือสามารถคิดต่างได้ บุคคลทางการเมืองยังเป็นตัวชี้นำทางสังคมได้ด้วย เนื่องจากประชาชนได้รับอิทธิพลหรือนโยบายผ่าน รัฐบาลที่เป็นผู้บริหารประเทศและยังเป็นผู้นำของสังคมอีกด้วย ประชาชนมักใช้ตัวบุคคลทางการเมือง เพื่อสะท้อนการทำงานหรือการอุดมการณ์ทางการเมืองของรัฐบาลชุดนั้น การที่อุดมการณ์ทาง การเมืองของประชาชนหรือสังคมมีความขัดแย้งกันจนนำไปสู่การต่อสู้บนถนน สาเหตุหนึ่งเกิดจาก การใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการสร้างสถานะการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคม พร้อมทั้งเป็น การปลุกระดมมวลชนให้เกิดความขัดแย้งเพื่อให้รัฐบาลหรือบุคคลทางการเมืองได้รับความไม่วางใจ จากประชาชน ดังนั้น อุดมการณ์ทางการเมืองของบุคคลในสังคมจะตรงกับจุดยืนของบุคคลทางเมือง ท่านใดถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคนที่พึ่งกระทำได้ แต่ไม่ควรหาผลประโยชน์จาก ประชาชน
200 4.4.2 ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสังคม 4.4.2.1 ภาพสะท้อนสิทธิและหน้าที่พลเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมือง เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนใน ประเทศที่สามารถใช้สิทธิ มีเสรีภาพ และปฏิบัติตนตามหน้าที่ระบอบประชาธิปไตย การอยู่ร่วมกัน ของคนในสังคมย่อมมีปัญหาความขัดดเย้งที่เกิดข้นหลากหลายด้าน แต่การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และไม่รุกล้ำสิทธิและเสรีภาพซึ่งกันและกันถือเป็นเรื่องที่ต้องกระทำ ประชาชนทุกคนเมื่อมีสิทธิและ เสรีภาพ แน่นอนต้องไม่ลืมคำนึงถึงการทำหน้าที่ของตนเองในฐานะประชาชนคนหนึ่งในสังคม เพื่อให้ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ตามระบอบประชาธิปไตยประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญไทยที่ได้บัญญัติและคุ้มครองประชาชน แต่การทำตามหน้าที่ก็มีส่วนสำคัญในการ ดำเนินชีวิต รวมไปถึงการเคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น แต่ภาพสะท้อนสังคมในปัจจุบันสังคมยัง ไม่ให้ความสำคัญในหน้าที่ของตนเองที่ต้องปฏิบัติ แต่สังคมกลับมองแค่เรื่องสิทธิและเสรีภาพของ ตนเอง ทั้งยังเกิดการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ รวมไปถึงความเท่าเทียมของคนในสังคม ถือเป็นเรื่อง ที่ดีและน่ายกย่อง หากสังคมปฏิบัติตามกฎของสังคมทั้งการอยู่ร่วมกันหรือการแสดงพฤติกรรมต่างๆ ออกมา ตัวอย่างที่52 แม้ชุมชนละแวกศาลเจ้า จะมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นส่วนน้อย แต่พวกเขาก็มีตัวตน มีรากเหง้า ที่ไม่ควรถูกเมินเฉย พวกเขามีสิทธิที่จะดำรงไว้ซึ่งความศรัทธาและวิถีวัฒนธรรมของตน จุดกึ่งกลางของการอยู่ร่วมกันจึงเป็นความเข้าอกเข้าใจ ...แต่ขณะเดียวกันสิทธิของปัจเจกก็ไม่ควร ถูกละเมิด (เส้นแบ่ง: 71) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนของสังคมยังคงยึดมั่นในเรื่องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนใน ระบอบประชาธิปไตยที่มีอิสระในการกระทำของตนเองได้ แต่ประชาชนหรือสังคมกลับไม่เข้าใจใน หน้าที่ของการเป็นพลเมือง เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญของประเทศที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ได้ให้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนแต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนเองตามกฎหมายกำหนด ภาพสะท้อน ของสังคมหากทุกคนเคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น พร้อมทั้งรู้จักปฏิบัติหน้าที่ของการเป็นพลเมือง ที่ดีในสังคมอย่างเคร่งครัดแน่นอนว่า สังคมจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขและไม่เกิดการละเมิด สิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น หากประชาชนเข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รวมทั้งเข้าใจหน้าที่ ของตนเองสังคมย่อพัฒนาต่อไปได้ ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่ต้องกระกาย
201 ความรู้ให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิและเสรีภาพ พร้อมทั้งปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในสังคม พร้อมทั้งไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น และไม่สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม ตัวอย่างที่ 53 ทุกคนควรมีสิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรเหล่านั้นอย่างเท่าเทียมกัน ให้แบ่งกันเองคงแย่งชิงกันไม่ต่าง จากลิงพวกนี้ ใครสักคนจึงถูกเลือกให้มาเป็นตัวแทนทำหน้าที่จัดสรรทรัพยากรให้ทุกๆ คน แต่หาก ตัวแทนหักหลังเกิดคิดจะรวบทุกอย่างไว้เสียเอง ก็คงไม่ต่างจากนครลิงแห่งนี้ (นครลิง: 148) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการมีสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคน ตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญได้กล่าวไว้ แต่การเข้าถึงสวัสดิการของรัฐหรือการเข้าถึงทรัพยากรต้องมีความเท่าเทียมกัน ทุกคน ประชาชนสามารถใช้สิทธิตนเองในการใช้บริการนโยบายที่รัฐจัดสรรให้ โดยที่ไม่เลือกปฏิบัติต่อ ประชาชน เพื่อเป็นการให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม แต่การจัดสรรงบประมาณหรือนโยบายของ เจ้าหน้าที่รัฐต้องมีความโปร่งใส ยุติธรรมและสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น เข้าถึงได้อย่างอิสระตามสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ภาพสะท้อนสังคมในการเข้าถึงสวัสดิการของ รัฐหรือนโยบายของรัฐบาลยังคงไม่มีความเท่าเทียมและทั่วถึงทุกคน เพราะการด้เนินนโยบายของ เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีความโปร่งใสหรือมีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ ที่เสียเงินภาษีให้กับส่วนกลางหรือรัฐบายกลับได้รับสิทธิและเสรีภาพอย่างจำกัด จนเกิดปัญหาตามมา ดังนั้น ภาพสะท้อนของสังคมในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐตามนโยบายของเจ้าหน้าที่รัฐที่ออกมาใช้ กับประชาชนต้องไม่จำกัดสิทธิของประชาชน ทุกคนควรเข้าถึงได้และมีการกระจายอำนาจสู่ประชาชน ตัวอย่างที่ 54 ตอนมีดพลาดสับปลายนิ้วชี้ข้างซ้ายขาด ยายรวยคิดว่านั่นเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต ต่อมา ตอนที่แกต้องการขอขึ้นทะเบียนคนพิการเพื่อรับเบี้ยพิการเดือนละแปดร้อย แต่หมอไม่รับรอง ให้ ด้วยเหตุผลว่า แกยังทำการทำงานได้ ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์ หญิงชราก็คิดว่านั่นคือความเจ็บปวดที่สุด ในชีวิตจริงๆ เจ็บเสียยิ่งกว่านิ้วขาดเป็นคนพิการที่ไม่มีสิทธิ์รับเบี้ยความพิการเสียอีก (เมล็ดพันธุ์: 155)
202 จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนสังคมที่ยังถูกจำกัดสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐหรือการ เข้าถึงการช่วยเหลือของนโยบายของรัฐบาล การที่ประชาชนเรียกร้องหรือยื่นสิทธิในการเข้าถึง สวัสดิการของรัฐเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น ถือเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพของ ประชาชนที่พึงกระทำได้ตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศใช้ แต่การเข้าถึงสวัสดิการของรัฐกลับถูก เลือกปฏิบัติ ทำให้เห็นภาพสะท้อนปัญหาของประชาชนที่ยังคงไม่ได้รับสิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึง ความช่วยเหลือของรัฐได้อย่างจำกัดจากการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รัฐเพียงคนเดียว ถือเป็นการ ลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เนื่องจากประชาชนเป็นเจ้าของประเทศและเป็นผู้เสียภาษี ให้กับรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณ รวมไปถึงการกระจายอำนาจไปสู่ภาคประชาชน เพื่อให้ ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด ดังนั้น การเข้าถึงสวัสดิการของรัฐประชาชนทุกคนควรได้รับสิทธิ ในการการเข้าถึงโดยไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไขในการเข้าถึง เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่าง ทันท่วงที 4.4.2.2 ภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง สังคม ภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง สังคม แน่นอนว่าเมื่อมีการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมแบบประชาธิปไตยย่อมมีแนวคิดหรือทัศนคติ ที่แตกต่างกันของคนในสังคม เนื่องจากประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการคิดและแสดงออก โดยการกระทำนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงเกิดความคิดที่แตกต่างกันไปตามความเชื่อของตนเอง ความคิดที่แตกต่างไม่ใช่เรื่องที่ผิดในสังคมประชาธิปไตยแต่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ที่นำไปสู่ความ รุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ความขัดแย้งของสังคมควรใช้วิธีอย่างสันติในการ ตกลงหรือทำความเข้าใจซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดความเคารพสิทธิและเสรีภาพของคนในสังคมในการ อยู่ร่วมกัน สังคมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้กฎหมายเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจและปฏิบัติตาม หน้าที่ของตนเองตามกฎหมายที่พึ่งปฏิบัติ ตัวอย่างที่55 รถยนต์ตำรวจสองคันก็เข้าจอดเทียบพร้อมกับตั้งกรวยจราจรปิดกั้นเส้นทางที่มีเรื่อง เกิดปากเสียงระหว่างพ่อค้าแม่ค้าและคนขับรถสิบล้อ ฝ่ายคนขับรถสิบล้อต้องการหาเจ้าของสุนัข ที่วิ่งตัดหน้ารถ (ใครจะเก็บซากหมาตัวนั้น: 118)
203 จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนความขัดแย้งของสังคมที่เกิดจากการไม่คำนึงถึงส่วนร่วม โดยคำนึงเพียงผลประโยชน์ของตนเองจนกลายเป็นปัญหาของสังคมที่เกิดความแตกแยกในสังคม รวมไปถึงการอยู่ร่วมกันอย่างไม่มีความสุข ประชาชนกลับโยนปัญหาให้กันไปมาจนไม่มีใครรับผิดชอบ กับปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมทั้งยังไม่ได้แก้ไขในปัญหานั้นที่เกิดขึ้น หากสังคมอยู่ด้วยกันแบบแตกแยก และมีข้อขัดแย้งโดยไม่ได้รับการแก้ไขย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของบุคคลในสังคม ทั้งยังส่งผล ต่ออุดมการณ์ทางสังคมที่ต่างฝ่ายไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เนื่องจากอุดมการณ์หรือทิฐิของประชาชน ไม่รู้จักผ่อนปรนเพื่อให้สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้ ย่อมสร้างปัญหาความรุนแรงหรือเกิดผลกระทบต่อ ปัญหาที่อาจไม่สามารถแก้ได้ ดังนั้น การอยู่ร่วมกันในสังคม หากเกิดข้อแตกต่างทางความคิดจน นำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม ต้องมีการเจรจาและต้องได้รับการแก้ปัญหา เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ อย่างสันติสุข
204 ภาพสะท้อนทางสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2563 สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 15 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์ ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2563 จำนวน 13 เรื่อง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสังคม ภาพ สะท้อน อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง ภาพสะท้อน การมีส่วน ร่วมทางการ เมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง ภาพสะท้อน สิทธิและหน้าที่ พลเมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 1 สิ่งที่รออยู่หลังเส้น ชัย - - - - 2 พลเมืองดี - - - - 3 เส้นแบ่ง - - - - 4 ขบวนการฟักทอง - - - - 5 คราบที่ยังลอก ออกไม่หมด - - - - 6 แค่ผ้าเช็ดเท้า - - - - 7 ใครจะเก็บซาก หมาตัวนั้น - - - - 8 ซากดึกดำบรรพ์ใน พิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ - - - -
205 ตารางที่ 15 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์(ต่อ) ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2563 จำนวน 13 เรื่อง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสังคม ภาพ สะท้อน อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง ภาพสะท้อน การมีส่วน ร่วมทางการ เมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง ภาพสะท้อน สิทธิและหน้าที่ พลเมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 9 นครลิง - - - - 10 เมล็ดพันธุ์ - - - - 11 แว่วข่าวคราวว่า ข้าวแข็ง - - - - 12 สุนัขนำทาง - - - - 13 เสียงร่ำไห้จาก หิมพานต์ - - - - รวม 7 เรื่อง 1 เรื่อง 1 เรื่อง 3 เรื่อง 1 เรื่อง จากตารางข้างต้น ทำให้เห็นภาพสะท้อนสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัล พานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2563 นั้นมีทั้งหมด 5 ประเด็น ดังนี้ ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการเมือง 3 ประเด็น ได้แก่ ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง ภาพสะท้อนการมี ส่วนร่วมทางการเมืองและภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางการเมือง พร้อมทั้งยังมีภาพสะท้อนทางสังคม 2 ประเด็น ได้แก่ ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสิทธิ และหน้าที่พลเมืองและภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคล ทางสังคม โดยประกอบไปด้วยเรื่องสั้นทั้งหมด จำนวน 13 เรื่อง
206 ภาพสะท้อนการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2563 ทั้งหมด 13 เรื่อง ทำให้เห็น ภาพสะท้อนของการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ในระดับ ท้องถิ่นจนไปถึงการใช้สูงสุดผ่านรัฐบาล รวมไปถึงการใช้อำนาจรัฐประหารโดยอำนาจทางการทหาร ผ่านการอ้างข้ออ้างความมั่นคงของชาติ โดยการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับตนเอง ใน การที่สามารถอยู่ในอำนาจการเป็นรัฐบาลได้ต่อเนื่อง หลังการแต่งตั้งการเป็นรัฐบาลชั่วคราวของคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งยังเห็นภาพสะท้อนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนที่มีความ กระตือรือร้นต่อการใช้สิทธิในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน พร้อมทั้ง สืบทอดเจตนารมณ์ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งยังเห็นภาพสะท้อน ความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง อุดมการณ์ทางการเมืองของ ประชาชนมาจากบุคคลทางการเมืองหรือนโยบายทางการเมืองของการออกมาแสดงจุดยืนของพรรค การเมือง ที่เป็นส่วนสำคัญในการเป็นเครื่องชี้นำความคิดหรืออุดมการณ์ณืทางการเมือง แต่การ ออกมาแสดงจุดยืนของนักการเมืองกลับเป็นเรื่องโกหกต่อประชาชน เนื่องจากหลังได้รับการเลือกตั้ง กลับไปโหวตให้กับฝ่ายสืบทอดอำนาจเป็นผู้บริหารประเทศ ทั้งยังเห็นถึงภาพสะท้อนการใช้สิทธิและ หน้าที่พลเมืองในสังคม โดยการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามกฎหมายรัฐธรรมนูญถือเป็น เรื่องของการทำตามหน้าที่ของประชาชนที่สามารถใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเองได้ แต่การเข้าถึง สวัสดิการหรือนโยบายของรัฐบาลประชาชนกลับถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึงจากการ ทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และยังเห็นภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางสังคมที่มีความแตกต่างทางความคิดหรือการแสดงออกทางความคิด เพื่อบ่งบอกให้เห็นถึง เจตนารมณืของตนเอง โดยสังคมกลับอ้างสิทธิและเสรีภาพของตนเองเพียงอย่างเดียว คำนึงถึงเพียง ผลประโยชน์ของตนเองโดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม จนกลายเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ในสังคมละยากต่อการแก้ไข
207 4.5 ภาพสะท้อนทางสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2564 4.5.1 ภาพสะท้อนที่เกี่ยวกับการเมือง 4.5.1.1. ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมือง เป็นการใช้อำนาจจากฝ่ายบริหาร นั่นคือ รัฐบาล ที่มีส่วนสำคัญในการออกกฎหมาย รวมไปถึงนโยบายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้ ยอมรับและปฏิบัติตามกฎหมาย โดยออกกฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรกั่นกรองโดยวุฒิสภา การประกาศใช้กฎหมายหรือการประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นไปกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยที่เป็นระบอบการ บริหารและการปกครองของประเทศไทย แต่หากการใช้อำนาจทางการเมืองของรัฐบาลมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ หรือมีความยุติธรรม ความขัดแย้งและความรุนแรงคงไม่เกิดขึ้น การใช้อำนาจทาง การเมืองที่นำมาสู่พฤติกรรมทางการเมืองโดยการประกาศใช้รัฐธรรมนูญนั้น เป็นการร่างกฎหมายผ่าน อำนาจรัฐบาลจากการทำรัฐประหาร จนนำไปสู่การประกาศใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอด อำนาจรัฐบาลทหารที่มีส่วนในการฉีกรัฐธรรมนูญและแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นรัฐบาลในการเป็นผู้บริหาร และปกครองประเทศ การใช้อำนาจของรัฐบาลเป็นพฤติกรรมทางการเมืองที่ประชาชนยากที่จะคอย รับมือ เนื่องจากการร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่มีฝ่ายประชาชนเข้าไปร่างกฎหมายเพื่อประกาศใช้ในการ บริหารและปกครองประเทศนั้นถือเป็นระบอบเผด็จการที่แฝงอยู่ในเงามืดของประชาธิปไตย โดยอ้าง การรักษาความสงบภายใยประเทศ หรือรวมไปถึงการถ่วงเวลาในการประกาศใช้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ ฝ่ายของตนได้มีอำนาจและควบคุมประชาชนภายในประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ ตัวอย่างที่56 วันที่มีคำสั่งให้เข้าเผชิญหน้า ผมคิดถึงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย วันที่มีคำสั่งให้จับอาวุธชิ้นนั้น ออกไป ผมคิดถึงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย วันที่ได้ยินคำสั่งยิง ผมคิดถึงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย เมื่อนิ้วผม สอดเข้าโกร่งไกปืน ผมจำเป็นต้องคิดถึงเพียงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย (มือเย็น: 35) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการควบคุมหรือการสั่งการต่อ ประชาชนเป็นการใช้อำนาจทางกฎหมายที่พยายามไม่ให้ประชาชนได้ใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเอง
208 อย่างเต็มทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์หรือควบคุมประชาชนไว้ในอำนาจทาง การเมืองได้อย่างเบ็ดเสร็จ ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ รวมไปถึงการออกมาแสดง จุดยืนในการต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความมิชอบทาง กฎหมาย โดยเป็นการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อให้อำนาจของตนเองยังคงดำเนินต่อไปได้ แต่ภาพ สะท้อนที่เกิดขึ้นทำให้เห็นการใช้อาวุธต่อประชาชนที่สามารถสร้างความเสียหายหรือสร้างความ สูญเสียของประชาชนในสังคมได้ ดังนั้นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐควรเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือ กฎหมาย และไม่ควรหันกระบอกปืนเข้าหาประชาชน พร้อมต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม ตัวอย่างที่57 ภาพที่ผมเห็นก็ได้กลายเป็นคนจำนวนมากมายกำลังทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย พวกเขาไม่ใช่ หุ่นยนต์ สิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง เสียงของพวกเขาร้องขอความยุติธรรมจากการใช้ ชีวิตที่ทุกข์ยาก สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาต่างออกไปจากชีวิตของผมอย่างสิ้นเชิง (คนละโลกเดียวกัน: 91) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองที่พยายามบังคับประชาชนให้ ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยไม่ได้รับช่วยเหลือหรือสวัสดิการของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้สามารถมี แนวทางในการหารายได้หรือยกคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับกลายต้องตรากตรำลำบากกับภาวะทาง เศรษฐกิจที่ประชาชนเป็นเหยื่อของการสร้างปัญหาของรัฐบาลที่ไม่สามารถบริหารและกระจายรายได้ ไปสู่ประชาชนได้จนกลายเป็นความเหลื่อมล้ำทางรายได้ หากรัฐบาลบริหารจัดการเศรษฐกิจของ ประเทศได้อย่างมีคุณและเกิดเสถียรภาพย่อมไม่เกิดปัญหาที่ประชาชนต้องลำบากในการหาเงินเลี้ยง ชีพและคงมีรายได้ที่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองของ เจ้าหน้าที่รัฐต่อนโยบายเกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือปากท้องของประชาชนต้องกระจายอำนาจไปสู่ ประชาชนอย่างทั่งถึงและเท่าเทียมกันทุกคน เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและเพื่อแก้ปัญหาความ ยากจนให้กับประชาชนอย่างถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย
209 ตัวอย่างที่58 “จริงของมึงว่ะเพื่อน...กูเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้” ประชาบอกกับผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเพื่อน แก่กันมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะเบาๆ ในลำคอ “งั้นมึงก็รับๆ เงินไป แล้วพรุ่งนี้ก็อย่าลืม ออกมากาเบอร์หนึ่งด้วย” (ลึกลงไปใต้ระดับพื้นดิน: 123) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองในการนำเงินซื้อสิทธิของประชาชน ยังคงเกิดขึ้นในสังคม ยังเป็นภาพที่สะท้อนของนักการเมืองท้องถิ่นที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดต่อกฎหมาย รวมถึงพฤติกรรมของการเป็นผู้นำชุมชนที่ไม่ควรเกิดขึ้นในการแจกเงินให้กับประชาชนเพื่อซื้อสิทธิจาก ประชาชน พฤติกรรมของข้าราชการท้องถิ่นยังเป็นการใช้ความน่าเชื่อถือของตนเองในการรับรองของ นักการเมืองที่ตนเองกำลังนำเงินไปแจกจ่าย ภาพสะท้อนจากพฤติกรรมของข้าราชการท้องถิ่นถือเป็น การทุจริตที่เกิดขึ้นในสังคม พร้อมทั้งยังสะท้อนปัญหาด้านการซื้อสิทธิเพื่อให้ตนเองได้รับการเลือกตั้ง เป็นพฤติกรรมของนักการเมืองที่ส่อไปในทางคดโกง และเข้ามาเป็นตัวแทนของราษฎรเพื่อหวัง ผลประโยชน์ให้กับตนเอง ดังนั้น ภาพสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองที่พยายามซื้อสิทธิจาก ประชาชนหรือพฤติกรรมของข้าราชการท้องถิ่นพยายามใช้ความน่าเชื่อของตนเองในการแจกจ่ายเงิน เพื่อให้ประชาชนได้เลือกผู้แทนราษฎรตามที่ตนเองรับเงินมา ถือเป็นพฤติกรรมของการทุจริตและ คดโกงอย่างชัดเจน ตัวอย่างที่ 59 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง พ่อของหลินผู้มองเห็นแต่ต้นว่าฝ่ายคัดค้านถนนมีจำนวน มากกว่ากลับลำประกาศว่าหลังจากเดินสายคุยกับประชาชนทั่วถึง จึงตัดสินใจใหม่ร่วมคัดค้านการตัด ถนน อ้างว่าแม้ความคิดส่วนตัวของเขาถือว่าเลิศที่สุดแล้วก็ยังยอมเสียสละมาเห็นด้วยกับเสียงส่วน ใหญ่ของประชาชนคำว่า “เห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน” พลิกผู้ร้ายกลายเป็นพระเอกชั่ว ข้ามคืน เล่นเกมการเมืองแบบเหนือชั้นกว่า จึงชนะเลือกตั้ง “อั๊วยังเลือกเขาเลยคิดดูซี...” (เหลี่ยมหลอก: 192) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนพฤติกรรมของผู้สมัครการรับเลือกตั้งเพื่อให้ตนเองได้รับเสียง สนับสนุนเป็นการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อให้ตนเองได้มีอำนาจทางการเมือง โดยไม่คำนึง
210 ผลประโยชน์ของส่วน การใช้เสียงส่วนมากในการตัดสินใจกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องตาม ระบอบประชาธิปไตย แต่การที่ไม่รับฟังเสียงส่วนน้อยที่พยายามเรียกร้องสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นถือ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตย ภาพสะท้อนของการเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อหวัง ผลประโยชน์ของตนเอง ถือเป็นการแสดงจุนยืนทางการเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่มีอุดมการณ์และ ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม แทนที่จะเป้ฯกลางและหาทางตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิด ความขัดแย้งและเกิดความแตกแยกในสังคม ดังนั้น การใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อหาผลประโยชน์ จากการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นกลางและยุติธรรมใน สังคมเจ้าหน้าที่รัฐควรใช้อำนาจของตนเองในการสร้างข้อยุติความขัดแย้ง เพื่อเกิดความสงบสุข ตัวอย่างที่ 60 “ผมมานั่งอยู่ตรงนี้เพื่อขอให้เราทุกคนช่วยกันประสานประโยชน์ คุณจะพูดเรื่องการเมืองก็ได้ แตะนิดหน่อยพอให้เรื่องมีรสชาติ แต่อย่าถึงขนาดโจมตีตัวบุคคลที่มีอยู่จริง เพราะลูกๆ นักศึกษาของ ผมอาจเดือดร้อน หรืออาจมีคนไม่หวังดีฟ้องหมิ่นประมาทเป็นเรื่องใหญ่โต คุณก็รู้ว่ายุคนี้อำนาจอยู่ใน มือใคร เขาจะสั่งยังไงก็ได้ ” (องก์ที่ 3: 210) จะเห็นได้ว่า การใช้อำนาจทางการเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อควบคุมพฤติกรรมของ ประชาชน เนื่องจากรัฐบาลพยายามใช้กฎหมายในการสร้างบรรทัดฐานใหม่ทางสังคม จนประชาชน ที่มีสิทธิและเสรีภาพในการวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐกลับเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ภาพสะท้อน การไม่กล้าวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามปิดปาก ประชาชนด้วยการใช้กฎหมายหรือข้อบังคับ รวมไปถึงไม่อาจสามารถวิจารณ์สถาบันหลักของประเทศ ได้ ถือเป็นการใช้อำนาจทางการเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่อให้เห็นถึงพฤติกรรมในการเลือกปฏิบัติ หน้าที่ต่อประชาชน เพื่อลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นในความ หวาดหวั่นของประชาชนในการวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ตามระบอบ ประชาธิปไตยในเรื่องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนสามรถวิจารณืการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้ อย่างสุทธิ์จริตใจ แต่การที่ประชาชนกลัวต่อการวิจารณ์การเมืองนั้น เป็นผลมาจากการใช้อำนาจทาง การเมืองในการปิดปากประชาชนไม่ให้สามารถสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหรือสถาบันหลัก ของประเทศได้
211 4.5.1.2 ภาพสะท้อนการมีส่วนร่วมทางการเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญที่ได้กล่าวไว้ว่า ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการดำเนินชีวิต แต่ถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพในบางประการ เป็น หลักประกันจากรัฐธรรมนูญเพื่อให้สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข การมีส่วนร่วมทางการ เมืองของประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิการเลือกตั้ง แต่การมีส่วนร่วมในด้านอื่นๆ เช่น การ ชุมนุมประท้วงหรือแสดงออกผ่านการชุมนุมในการสะท้อนปัญหาในสังคมและการทำงานของ เจ้าหน้าที่รัฐ กลับเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศในสายตาของรัฐบาลที่พยายามอ้างกฎหมายและ ใช้กฎหมายใช้การควบคุมประชาชนเพื่อปิดปากไม่ให้ประชาชนสามารถออกมาเรียกร้องหรือชุมนุม เพื่อสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้ ทำให้ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องและใช้อำนาจสิทธิตาม รัฐธรรมนูญต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย การมีส่วนร่วมทางการเมืองถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจาก ประชาชนถือเป็นเจ้าของประเทศมีสิทธิและเสรีภาพให้การเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญไทย เพื่อให้ รัฐบาลได้รับฟังปัญหาและร่วมกันแก้ปัญหาของประชาชน หากการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ ประชาชนเป็นไปตามกฎหมายที่ประกาศบังคับใช้ควรให้สิทธิ เสรีภาพและไม่เลือกปฏิบัติกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้อำนาจของตนเองอย่างเท่าเทียมและมีอิสรภาพตามระบอบประชาธิปไตย ตัวอย่างที่ 61 นึกถึงคำบอกเล่าของเด็กหนุ่มเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองและการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย รวมถึงความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังปี พ.ศ. 2535 จนถึงการชุมนุมในวันนี้ ซึ่งทีแรกที่ได้ฟัง ผมเข้าใจเอาเองว่าเขานำมาจากนิยายเล่มไทนสักเล่ม แต่สิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็นวันนี้ล้วนแต่เป็น ประจักษ์พยานในการเดินทางของประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดี จนผมแทบทำใจให้ยอมรับไม่ได้กับสิ่งที่ เกิดขึ้น หากจะนับตามระยะเวลาแล้ว การเดินทางผ่านกาลเวลาของประชาธิปไตยไทยกินเวลา ยาวนานล่วงมาแล้วถึง 8 ปี และถ้าหากจะนับตามระยะทาง ประชาธิปไตยไทยก็เดินทางผ่านตำรา เรียนและการเลือกตั้งในระดับต่างๆ มาแล้วทั่วประเทศ แต่ถึงวันนี้ประชาธิปไตยของไทยกลับยังไม่ไป ไหน ยังคงวนเวียนอยู่บนถนน เสียงเรียกร้องไม่เคยแผ่วเบาลงการต่อสู้กับความอยุติธรรมและอำนาจ รัฐที่ถูกอุปโลกน์ให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามไม่เคยจบสิ้น เราต่างโหยหาประชาธิปไตย แต่เมื่อเราได้มันมา เรา กลับไม่เคยคิดจะร่วมกันดูแลรักษามันไว้ให้ดี สุดท้ายเราก็สูญเสียมันไปอีก เป็นอยู่เช่นนี้ครั้งแล้วครั้ง เล่าตลอดเกือบเก้าสิบปีที่ผ่านมา เช่นนี้แล้วการชนะหรือแพ้ของผู้คนในวันนี้ล้วนไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ใดๆ
212 การได้มันมาครอบครองไว้จะต่างอะไรกับการไม่ได้มา เพราะสุดท้ายมันคือเรื่องลัมเหลวโดยสิ้นเชิง หากเราทุกคนยังไม่ได้เข้าใจและรู้คุณค่าอย่างแท้จริงว่า 'ประชาธิปไตย' คืออะไรและมีคุณค่าเพียงใด (หลักกิโลเมตรที่ประชาธิปไตย: 184-185) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนของการใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนต่อ การทำงานของเจ้าหน้ารัฐกลับกลายเป็นการร่วมสะท้อนการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ พยายามใช้กฎหมายในการยัดเยียดให้ประชาชนเป็นผู้ร้ายในสังคม การใช้สิทธิและเสรีของประชาชน ในการออกมาเรียกร้องสิทธิและต่อต้านการทำงาน รวมไปถึงการสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม รัฐบาลกลับเห็นการกระทำของประชาชนมีผลต่อความมั่นคงของประเทศ การใช้กฎหมายเข้ามา ปิดปากประชาชนหรือเกิดการประท้วงการเรียกร้องแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับ ถือเป็นการจาบจ้วงสถาบันหลักของประเทศ ทั้งยังเป็นการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม การที่ประชาชนออกมาชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชนเป็นการกระทำที่เป็นสิทธิ ของประชาชน ตามกฎหมารัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ดังนั้น ภาพสะท้อนการมี ส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนเป็นการสะท้อนการทำงานรัฐบาล รวมไปถึงการสะท้อนความ ต้องการของประชาชนที่พยายามหาวิธีเปลี่ยนแปลวสังคมให้ดียิ่งขึ้น 4.5.1.3 ภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง การเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง การเมือง เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของสังคมที่แต่ละบุคคลมีความคิดและอุดมการณ์ทาง การเมืองที่แตกต่างกัน โดยมีรากฐานทัศนะคติจากหลายปัจจัยจนหล่อหลอมเป็นความเชื่อหรือ อุดมการณ์ของตนเอง ตามระบอบประชาธิปไตยหรือตามระบบของสังคมย่อมมีความขัดแย้งทาง ความคิดหรือทัศนะ เนื่องจากการมีอิสระทางความคิด มีเสรีในการำดเนินชีวิตหรือการมีสิทธิในการ แสดงออกทางความคิด ความแตกต่างทางความคิดนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมทางอุดมการณ์ทาง การเมือง จนเกิดการแสดงออกผ่านพฤติกรรมที่พยายามบอกจุดยืนหรืออุดมการณ์ของตนเองผ่านการ ชุมนุมหรือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผ่านสื่อหรือผ่านนโยบายของนักการเมือง ความขัดแย้งเรื่อง ทัศนคติทางการเมืองของแต่บุคคลมีความแตกต่างกัน หากอุดมการณ์ของประชาชนเกิดจากการเข้าใจ และมีความรู้ในประชาธิปไตยอย่างทั่วถึงทุกคน คงไม่เกิดการปะทะของฝ่ายอำนาจของอดีต นักการเมืองกับฝ่ายทหาร การที่ประชาชนถูกจับกุมหรือเกิดความเสียหาญภายในประเทศมีเหตุจาก การที่ประชาชนคลั่งและชื่นชอบนักการเมืองบุคคลนั้นๆ จนลืมในเหตุและผล หลักของความเป็นจริง
213 ในการทุจริต ด้วยเหตุนี้เองที่ความแตกต่างด้านความชื่นชอบนักการเมืองหรือพรรคร่วมแนวคิดของ ประชาชนจึงพยายามครอบคลุมความคิดของประชาชนด้วยการปลุกระดมเพื่อให้ประชาชนเป็นเกาะ ป้องกันภัยให้กับนักการเมือง ภาพสะท้อนความขัดแย้งในสังคมที่นำมาสู่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากนักการเมืองที่หาผลประโยชน์กับประชาชนโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและ ผลประโยชน์ต่อส่วนร่วม ความขัดแย้งอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมืองที่มีความแตกต่างจึงต้อง พยายามคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และไม่นำประชาชนไปเป็นเครื่องมือในการเป็นเกาะ ป้องกันให้ตนพ้นผิด ตัวอย่างที่62 เมื่อครั้งมีกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่ม็อบเสื้อเหลือง ปี 2548-2551 สลับกับม็อบเสื้อแดง ปี 2552- 2553 ซึ่งปรากฏภาพเหตุการณ์ความรุนแรง เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนจนทำให้มี ผู้บาดเจ็บหลายพันคน มีผู้เสียชีวิตเป็นร้อยคน (นาฏกรรมบนผืนน้ำในค่ำคืนที่เสียงนั้นเลือนหายไป: 43) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนความขัดแย้งอุดมการณืทางการเมืองที่เกิดขึ้นในอดีตยังคงเป็น ความทรงจำของหลายคนในสังคม เป็นภาพสะท้อนความแตกต่างทางความคิดที่นำไปสู่ความขัดแย้งที่ เกิดขึ้นในสัง ทั้งยังแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง แต่การแสดงจุดยืนทางการเมือง ของนักการเมืองยังคงใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อต่อรองกับอำนาจรัฐบาล การออกมาแสดงจุดยืน ทางการเมืองถือเป็นเรื่องที่สามารถพึงกระทำได้ แต่การใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการต่อรองหรือ เป็นตัวประกันทางการเมืองถือเป็นการนำประชาชนไปสู่ความตาย ความคิดที่แตกต่างของคนในสังคม ถือได้ว่าประชาชนทุกคนมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ขัดแย้งกันตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ภาพสะท้อนความแตกต่างทางความคิดหรือความขัดแย้งอุดมการณ์ทางการเมืองจนเกิดเป็นความ รุนแรง โดยการใช้ความน่าเชื่อถือและแรงศรัทธาจากประชาชนที่มีต่อนักการเมืองคนนั้นๆ เป็นเครื่อง ต่อรองกับรัฐบาลถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ตัวอย่างที่63 ปริซึมประชาธิปไตย ผมเอาแต่มองหาความหมายที่เป็นสากล จนหลงลืมความหมาย ที่ปัจเจกชนคนหนึ่งจะสามารถเข้าใจมันได้เช่นนี้เราจึงถูกหลอก แต่ที่จริงนั้นกลวงเปล่าไม่มีอะไรเลย
214 ต่อให้สถาปัตยกรรมนี้จะพังทลายกลายเป็นเศษธุลี เราก็คงยังรับรู้การมีอยู่ของประชาธิปไตยได้ เพราะเรารับรู้ถึงการมีอยู่ไม่ใช่เพียงปรากฎให้เห็น (ประชาธิปไตยที่อยู่ในกล่อง: 62) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนความแตกต่างทางความคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองต่อ มุมมองของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น อุดมการณ์ทางการเมืองของแต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกันตาม ความรู้หรือประสบการณ์ที่ตนเองสะสมมา แต่การชี้นำของนักการเมืองที่มีผลต่ออุดมการณ์ของ ประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากประชาชนมักรับสารจากนักการเมืองและพร้อมจะร่วม อุดมการณ์ทางการเมืองกับนักการเมืองที่ตนศรัทธาและชื่นชอบ โดยไม่ได้คำนึงถือเหตุและผลในการ ไตร่ตรองข้อมูลหรือสิ่งที่ตนเองเองเชื่อมั่นหรือยึดถือ ดังนั้น อุดมการณ์ทางการเมืองของประชาชนมัก ขึ้นอยู่กับนักการเมืองที่ตนเองชื่นชอบ ภาพสะท้อนมุมมองต่อการเมืองของประชาชนมีความแตกต่าง กันตามความเชื่อและเจ้าหน้าที่รัฐ หากประชาชนได้รับการศึกษาและได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง และไม่ถูกบิดเบือน แน่นอนว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของประชาชนจะไม่ถูกครอบงำจากนักการเมือง ตัวอย่างที่ 64 “สเปโร โซนาตา” เธอบอกชื่อเพลงด้วยท่าทีภูมิใจ “สเปโร แปลว่า ความหวัง” เธอว่าเธอใส่ บทเรียนจากโศกนาฏกรรมของรวันดาไว้ในบทเพลง ให้ผู้คนเท่าทันความเกลียดชังที่ถูกปลูกฝังในใจ และปลุกปลอบให้กำลังใจผู้คนที่กำลังโศกเศร้า เธออยากดึงพวกเขาออกจากเสียงปืนเสียงระเบิด เสียง แห่งการขัดแย้งฆ่าฟันในอดีต ให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ (สเปโร โซนาตา บทเพลงของคนจร: 138) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนความแตกต่างทางความคิด ทัศนคติของคนในสังคม รวมไปถึง อุดมการณ์ทางการเมืองของประชาชนมีความขัดแย้งกัน แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับต้องมาเผชิญกับ ความสูญเสียและความรุนแรงในสังคมที่เกิดขึ้น หากเจ้าหน้าที่รัฐยังคงเลือกปฏิบัติต่อประชาชน พร้อม ทั้งสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น ประชาชนผู้บริสุทธิ์ย่อมเป็นเหยื่อของความรุนแรงอยู่เรื่อยไป ความ ขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมควรได้รับการแก้ไขหรือหาข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดยให้เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยงานอิสระได้หาหรือและหาข้อยุติความขัดแย้ง ไม่ใช่การใช้ ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อความคุมประชาชน ดังนั้น ภาพสะท้อนความแตกต่างด้านความคิด หรืออุดมการณ์ของประชาชนในเรื่องการเมือง เป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย แต่การใช้ความ
215 รุนแรงในการเข้ามาสลายการชุมนุมถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ของประชาชนและสังคม หากเป็น ประชาธิปไตยจริง ต้องหาข้อยุติความขัดแย้งในสังคมด้วยการใช้สันติวิธี 4.3.2 ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสังคม 4.5.2.1 ภาพสะท้อนสิทธิและหน้าที่พลเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมือง เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนใน ประเทศที่สามารถใช้สิทธิ มีเสรีภาพ และปฏิบัติตนตามหน้าที่ระบอบประชาธิปไตย การอยู่ร่วมกัน ของคนในสังคมย่อมมีปัญหาความขัดดเย้งที่เกิดข้นหลากหลายด้าน แต่การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และไม่รุกล้ำสิทธิและเสรีภาพซึ่งกันและกันถือเป็นเรื่องที่ต้องกระทำ ประชาชนทุกคนเมื่อมีสิทธิและ เสรีภาพ แน่นอนต้องไม่ลืมคำนึงถึงการทำหน้าที่ของตนเองในฐานะประชาชนคนหนึ่งในสังคม เพื่อให้ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ตามระบอบประชาธิปไตยประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญไทยที่ได้บัญญัติและคุ้มครองประชาชน แต่การทำตามหน้าที่ก็มีส่วนสำคัญในการ ดำเนินชีวิต รวมไปถึงการเคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น แต่ภาพสะท้อนสังคมในปัจจุบันสังคมยัง ไม่ให้ความสำคัญในหน้าที่ของตนเองที่ต้องปฏิบัติ แต่สังคมกลับมองแค่เรื่องสิทธิและเสรีภาพของ ตนเอง ทั้งยังเกิดการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ รวมไปถึงความเท่าเทียมของคนในสังคม ถือเป็นเรื่อง ที่ดีและน่ายกย่อง หากสังคมปฏิบัติตามกฎของสังคมทั้งการอยู่ร่วมกันหรือการแสดงพฤติกรรมต่างๆ ออกมา ตัวอย่างที่65 การเคารพและไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญในสังคมประชาธิปไตย การรักษาสิทธิ์ของ ผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน แต่มันจะดียิ่งขึ้นไปอีก หากเราทุกคนรู้จักการเสียสละสิทธิ์อันพึงมีของเรา เพื่อประโยชน์ส่วนรวม (กุญแจสำรอง: 77) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนสังคมในเรื่องสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่ของประชาชนพลเมือง ของประเทศจากมุมมองของตัวละครทำให้เห็นถึงภาพสะท้อนการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชน แต่ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม การใช้อำนาจของต้องเองหรือสิทธิที่มีอยู่ถึงเป็นเรื่องที่สามารถ ทำได้อย่างอิสระ หากไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่สังคมไม่ได้มองถึงหน้าที่ของตนเองในการเป็นพลเมืองที่ดี ของสังคม ในการทำหน้าที่เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข ภาพสะท้อนของความคิดที่เกี่ยวกับสิทธิและ เสรีภาพของคนในสังคมเป็นการประพฤติตามความคิดของตนเอง จนกลายเป็นว่า ทุกคนหาเพียง
216 ผลประโยชน์ให้กับตนเอง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้น ภาพสะท้อนสังคมที่ต่างฝ่าย ต่างใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเองตามความพึงพอใจ แต่ไม่ยอมทำหน้าที่ของตนเองในการเป็น พลเมืองที่ดีต่อสังคม ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดในสังคมประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพ พร้อมทั้งต้องเป็นพลเมืองที่ดีต่อสังคมด้วย ตัวอย่างที่ 66 อธิบายเหตุผลว่าจะลองนั่งรถวีลแชร์เดินทางไปเลือกตั้งด้วยตัวของตัวเองให้ได้คุณป้าเลิกคิ้ว พยายามเข้าใจพลางย้ำให้ระวังเรื่องความปลอดภัย ยกมือหย่อนห้อยประกบกันพนมมือไหว้ขอบคุณ คุณลุงคุณป้า บานกระจกหน้าต่างเลื่อนปิดช้าๆ รถยนต์แซงขึ้นไปตามทางออกสู่ถนนใหญ่ สูดลม หายใจออกแรงหมุนกงล้อ ความมุ่งมั่นยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ประสาทสัมผัสตื่นตัวระวังภัยอันตราย ที่อาจโฉบผ่านมาโดยไม่คาดคิด (หนึ่งกิโลเมตรโดยประมาณ: 165) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนการออกมาแสดงการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนต่อการ เลือกตั้ง ทั้งยังเป็นการสะท้อนการทำหน้าที่ในฐานะการเป็นพลเมืองของคนในสังคม การใช้สิทธิใน การเลือกตั้งถือเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้และเป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องกระทำเพื่อให้เกิด เสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตย พร้อมทั้งยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของคนทั่วประเทศ อีกทั้งการ ใช้สิทธิและเสรีภาพถือเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ภาพสะท้อนการออกไปใช้สิทธิเพื่อใช้เสียงของ ตนเองต่อส่วนร่วมถือเป็นการใช้อำนาจที่ตนเองมีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของการเป็นพลเมืองของ เจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้น การใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยและเป็นภาพสะท้อนของคนในสังคมที่มี ความตระหนักถึงการออกไปใช้สิทธิของตนเอง 4.5.2.2 ภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง สังคม ภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง สังคม แน่นอนว่าเมื่อมีการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมแบบประชาธิปไตยย่อมมีแนวคิดหรือทัศนคติที่ แตกต่างกันของคนในสังคม เนื่องจากประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการคิดและแสดงออกโดย การกระทำนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงเกิดความคิดที่แตกต่างกันไปตามความเชื่อของตนเอง ความคิดที่แตกต่างไม่ใช่เรื่องที่ผิดในสังคมประชาธิปไตยแต่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ที่นำไปสู่ความ รุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ความขัดแย้งของสังคมควรใช้วิธีอย่างสันติในการ
217 ตกลงหรือทำความเข้าใจซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดความเคารพสิทธิและเสรีภาพของคนในสังคมในการ อยู่ร่วมกัน สังคมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้กฎหมายเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจและปฏิบัติตาม หน้าที่ของตนเองตามกฎหมายที่พึ่งปฏิบัติ ตัวอย่างที่ 67 มีอีกหลายจังหวะที่ผู้เล่นขอให้กรรมการตรวจเช็ก VAR เพื่อความยุติธรรม กลายเป็นว่าการ ตัดสินในระบบ VAR ทำให้นักเตะไม่เชื่อกรรมการ (ย้อนกลับไปดูภาพ VAR อีกครั้ง: 104) จะเห็นได้ว่า ภาพสะท้อนความแตกต่างทางความคิดและความขัดแย้งของสังคมจาก มุมมองที่แตกต่างกันออกไปของสังคม ทั้งยังมีความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคงทำให้ประชาชนต้องหา วิธีทางเพื่อยุติข้อขัดแย้งที่มีในสังคม การใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการตัดสินใจหรือเข้ามาช่วยในการ สร้างความเท่าเทียมหรือสร้างบรรทัดฐานความยุติธรรมให้เกิดขึ้น เพื่อให้สังคมเกิดความสันติสุข พร้อมทั้งยังใช้เทคโนโลยีที่มีความเที่ยงตรง โปร่งใสและพิสูจน์ได้โดยการควบคุมจากหน่วยงานอิสระ ที่ไม่ได้หาผลประโยชน์จากการทำงาน ดังนั้น ภาพสะท้อนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม มีทางออก หลากหลายวิธี แต่หากใช้ผู้ที่ไม่มีความยุติธรรมหรือเป็นกลางในการตัดสินถือเป็นการแก้ปัญหาที่อาจ ส่งผลร้ายแรงมากยิ่งขึ้น หากใช้เทคโนโลยีมีความเที่ยงตรง มีความยุติธรรมและพิสูจน์ได้ตามหลัก วิทยาศาสตร์ ก็ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่เชื่อได้ในการตัดสินเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้ง ตัวอย่างที่ 68 เห็นคนงานกำลังขนเหล็กขึ้นรถ กิริยาที่ลุงสุบินกำกับงานอย่างกระตือรือร้นทำให้เธอรู้สึก ผิดหวังกับนโยบายที่ไม่ได้เป็นคนกำหนด ส่วนเรื่องลูกเธอควรจะโล่งอก แต่ตอนนี้กลับไม่แน่ใจว่าหาก เพชรยังเรียนที่เดิมเป็นผลดีกับเขาหรือไม่ แต่ทั้งที่ไม่แน่ใจ เธอกลับพาลูกดั้นด้นเข้าหาฝั่งที่เชื่อว่าเป็น พื้นที่ของคนมีชีวิต ตะเกียกตะกายให้ตัวเองรอด เพื่อวันหนึ่งจะถูกโยนลงไปลอยคอปีนป่ายในน้ำ อีก ครั้ง และอีกครั้ง (สะพานสองฝั่ง: 156) ทำให้เห็นว่า ภาพสะท้อนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาภายในจิใจ เนื่องจากการกระทำของตนเอง ขัดต่ออุดมการณ์หรือความแตกต่างด้านความคิด ทั้งยังเป็นภาพสะท้อนมโนธรรมในใจของผู้คนใน
218 สังคมที่ต้องการแสดงออกให้เห็นถึงการกระทำที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการทำเพื่อบรรลุในหน้าที่ของตนเอง ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้คิดหรือเป็นผู้ออกนโยบาย แต่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามนโยบายของผู้มีอำนาจ ดังนั้น ภาพสะท้อนความขัดแย้งทางความคิดหรืออุดมการณ์ของประชาชนที่ไม่ต้องการให้เกิดความ เดือดร้อนกับตนเองและสังคม จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา จนกลายเป็นความ แตกต่างระหว่าความคิดและการกระทำของประชาชนในสังคม
219 ภาพสะท้อนทางสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2564 สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 16 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์ ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2564 จำนวน 13 เรื่อง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสังคม ภาพ สะท้อน อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง ภาพสะท้อน การมีส่วน ร่วมทางการ เมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง ภาพสะท้อน สิทธิและหน้าที่ พลเมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 1 มือเย็น - - - - 2 นาฏกรรมบนผืน น้ำในค่ำคืนที่เสียง นั้นเลือนหายไป - - - - 3 ประชาธิปไตยที่ อยู่ในกล่อง - - - - 4 กุญแจสำรอง - - - - 5 คนละโลกเดียวกัน - - - - 6 ย้อนกลับไปดูภาพ VAR กันอีกครั้ง - - - - 7 ลึกลงไปใต้ระดับ พื้นดิน - - - -
220 ตารางที่ 16 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์(ต่อ) ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2564 จำนวน 13 เรื่อง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการเมือง ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสังคม ภาพ สะท้อน อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง ภาพสะท้อน การมีส่วน ร่วมทางการ เมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง ภาพสะท้อน สิทธิและหน้าที่ พลเมือง ภาพ สะท้อน ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 8 สเปโร โซนาตา บทเพลงของคนจร - - - - 9 สะพานสองฝั่ง - - - - 10 หนึ่งกิโลเมตร โดยประมาณ - - - - 11 หลักกิโลเมตรที่ ประชาธิปไตย - - - - 12 เหลี่ยมหลอก - - - - 13 องก์ที่ 3 - - - - รวม 5 เรื่อง 1 เรื่อง 3 เรื่อง 2 เรื่อง 2 เรื่อง จากตารางข้างต้น ทำให้เห็นถึงภาพสะท้อนการเมืองและสังคมที่ปรากฏ ใน วรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้าปี พ.ศ.2564 นั้นมีทั้งหมด 5 ประเด็น ดังนี้ ภาพสะท้อน เกี่ยวกับการเมือง 3 ประเด็น ได้แก่ ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรม ทางการเมือง ภาพสะท้อนการมีส่วนร่วมทางการเมืองและภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความ แตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง พร้อมทั้งยังมีภาพสะท้อนทางสังคม 2 ประเด็น ได้แก่
221 ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมืองและภาพสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่าง ด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม โดยประกอบไปด้วยเรื่องสั้นทั้งหมด จำนวน 13 เรื่อง ภาพสะท้อนการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2564 ทั้งหมด 13 เรื่อง ทำให้เห็น ภาพสะท้อนของการใช้อำนาจในทางมิชอบของรัฐบาลที่ เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังคงมีการใช้อำนาจผ่านกฎหมายหรือผ่านนโยบายที่เป็นการชำอำนาจ เพื่อควบคุมประชาชนให้อยู่ภายใต้การบริหารและการปกครองของผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ พร้อมทั้งยังเกิดการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกิดความรุนแรงจากการทำงานของรัฐบาล ทั้งยังเห็น ภาพสะท้อนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการออกมาประท้วงหรือร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีสาเหตุจากการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐจนกลายเป็นปัญหาของสังคม ประชาชนที่ออกมาร่วมกระบวนการทางการเมืองกลับถูกมองว่า เป็นผู้ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ของประเทศ ทั้งยังเห็นภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง การเมือง ความแตกต่างอุดมการณ์หรือความคิดของประชาชนที่นำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมสาเหตุ หนึ่งเกิดจากการปลุกระดมของนักการเมืองที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อหรืออุดมการณ์ทางการเมืองของ ประชาชน จนเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของประชาชนบานปลายไปสู่ความรุนแรงที่เกิดขึ้น จนพบกับความสูญเสีย ทั้งยังเห็นถึงภาพสะท้อนการใช้สิทธิและหน้าที่พลเมืองในสังคม ถือเป็นการใช้ อำนาจของประชาชนพลเมืองที่ดีตามระบอบประชาธิปไตยในการเข้าร่วมการเลือกผู้แทนราษฎรหรือ ใช้สิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิและเสรีภาพตามระบอบ ประชาธิปไตย และยังเห็นภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง สังคม โดยเป็นผลมาจากการแสดงจุดยืนหรือการแสดงออกทางความคิดที่ไม่สอดคล้องกัน แต่ความ ขัดแย้งที่เกิดขึ้นควรได้รับข้อแก้ไขหรือข้อยุติจากการใช้สันติวิธี เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย
222 ภาพสะท้อนทางสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560- 2564 สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 17 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์โดยรวม วรรณกรรมเรื่องสั้นพานแว่นฟ้าปี พ.ศ. 2560 2561 2562 2563 2564 1 ภาพสะท้อนเกี่ยวกับการเมือง 1. อำนาจทางการเมืองหรือ พฤติกรรมทางการเมือง 2. การมีส่วนร่วมทางการเมือง - 3. ความขัดแย้งหรือความ แตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางการเมือง 2 ภาพสะท้อนเกี่ยวกับสังคม 1. สิทธิและหน้าที่พลเมือง 2. ความขัดแย้งหรือความ แตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางสังคม ภาพสะท้อนที่ปรากฏ
223 จากการศึกษาภาพสะท้อนทางสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพาน แว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 สามารถกล่าวสรุปได้ดังนี้ วรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า มีวัตถุประสงค์เพื่อพันธกิจทางการเมือง อาจเป็นการ วิพากษ์นโยบายรัฐ การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ความขัดแย้งในสังคมที่เกิดจากการเมือง นอกจากนี้ วรรณกรรมการเมืองมีความสัมพันธ์กับวิวัฒนาการของสังคมอย่างใกล้ชิด และเป็นเสมือนกระจกเงา ที่สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่และความเป็นไปของสังคมการเมืองนั้น จากการศึกษาพบว่า ภาพสะท้อนทางสังคมที่ปรากฏในสังคม มีภาพสะท้อนทางสังคมที่ปรากฏในเรื่องสั้นรางวัลพานแว่น ฟ้า 5 ประเด็น คือ ภาพสะท้อนเรื่องอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง, ภาพสะท้อน เรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมือง, ภาพสะท้อนเรื่องความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางการเมือง ภาพสะท้อนเรื่องสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง รวมไปถึงภาพสะท้อนเรื่องความ ขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม โดยประกอบไปด้วยเรื่องสั้นทั้งหมด จำนวน 65 เรื่อง ในช่วงปีพ.ศ.2560 ภาพสะท้อนที่เด่นชัดเป็นเรื่องของการใช้อำนาจทางการเมือง หรือพฤติกรรมทางการเมือง เนื่องจากในช่วงปีพ.ศ.2560 ประชาชนเรียกร้องให้เกิดการจัดการ เลือกตั้งเพื่อให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยตามระบอบการปกครองหลังการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น แต่เจ้าหน้าที่รัฐกับสร้างสถานการณ์ให้เกิดความล่าช้าเพื่อที่จะอยู่ในอำนาจการปกครอง อีกทั้งยังเห็น ภาพสะท้อนสิทธิและหน้าที่พลเมือง จะเห็นได้ว่าประชาชนเริ่มเคลื่อนไหวออกมาชุมนุมเพื่อให้รัฐบาล ชั่วคราวที่มาจากการทำรัฐประหารได้คืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับประชาชน แต่การชุมนุมเรียกร้อง ก็ไม่เป็นผล เห็นได้ว่าประชาชนพยายามสู้เพื่อได้มาซึ่งอำนาจประชาธิปไตยของตน ในช่วงปีพ.ศ.2561 ภาพสะท้อนที่เด่นชัดเป็นเรื่องของการใช้อำนาจทางการเมืองหรือ พฤติกรรมทางการเมือง เนื่องด้วยการเข้าสู่สนามการเลือกตั้งของนักการเมืองหรือการคืออำนาจให้กับ ประชาชนนั้น รัฐบาลได้ใช้อำนาจในการร่างกฎหมายเพื่อให้ตนเองได้อยู่ในอำนาจการบริหารและ การปกครองประเทศต่อไป โดยใช้สมาชิกวุฒิสภาเป็นฐานเสียงสำคัญในการโหวตให้กับตนเองเพื่อเป็น รัฐบาล ทั้งยังเห็นภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง ที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่เข้าร่วมกับฝ่ายรัฐประหารหรือฝ่ายที่สืบทอดอำนาจ แต่หลังการเลือกตั้ง เสร็จสิ้นนักการเมืองกลับย้ายขั้วอำนาจทางการเมืองจนเกิดความขัดแย้งในสังคมและอุดมการณ์ของ นักการเมือง
224 ในช่วงปีพ.ศ.2562 ภาพสะท้อนที่เด่นชัดเป็นเรื่องของการใช้อำนาจทางการเมืองหรือ พฤติกรรมทางการเมืองที่พยายามยุบพรรคการเมืองหรือตัดสิทธิ์ทางการเมือง รวมไปถึงการใช้อำนาจ ทางการเมืองโหวตให้กับผู้ที่ลากตนเองมานั่งเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา ถือเป็นการไม่เคารพประชาชน ใช้อำนาจที่ตนเองมีโหวตให้กับฝ่ายที่มาโดยการทำรัฐประหาร อีกทั้งยังเห็นภาพสะท้อนความขัดแย้ง หรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม เนื่องจากประชาชนหรือสังคมมีความคิด ทัศนคติที่แตกต่างกันจนกลายเป็นความขัดแย้งในสังคม จากการแสดงจุดยืนในเรื่องของการ อยู่ร่วมกันในสังคม พร้อมทั้งยังขัดแย้งเกี่ยวความคิดในการแสดงออกทางความคิดด้านการบริหาร จัดการประเทศของรัฐบาล ในช่วงปีพ.ศ.2563 ภาพสะท้อนที่เด่นชัดเป็นเรื่องของการใช้อำนาจทางการเมือง หรือพฤติกรรมทางการเมือง โดยเจ้าหน้าที่รัฐได้ควบคุมการชุมนุมหรือจัดการกับนิสิตนักศึกษาและ ประชาชนโดยการยัดเยียดข้อหาในมาตรา 112 กับประชาชนจนต้องถูกดำเนินคดี โดยไม่รับฟังเหตุ และผลของผู้ประท้วง รวมไปถึงยังเห็นภาพสะท้อนสิทธิและหน้าที่พลเมือง เห็นได้จากการเรียกร้อง ปฏิรูปสถาบันของกลุ่มประชาชนจากหลายฝ่าย เพื่อแก้ไขกฎหมายและรัฐธรรมนูญหลายมาตรา รวมไปถึงมาตรา 112 ที่ประชาชนต้องการให้เกิดการปรับให้สถาบันอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง และสามารถวิจารณ์ได้อย่างสุจริตใจ ในปีพ.ศ.2564 ภาพสะท้อนที่เด่นชัดเป็นเรื่องของการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรม ทางการเมืองที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนจากการบริหารจัดการกับไวรัสโคโรน่าที่ประชาชนต้องล้ม ตามเป็นจำนวนมาก แต่การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐกับปล่อยปะละเลยจนประเทศต้องเจอกับภาวะ เศรษฐกิจล้ม รวมไปถึงการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ในการสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา อีกทั้งยังเห็น ภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง หลังจากการ เลือกตั้ง ปีพ.ศ.2562 ที่มีส.ส.ในฝ่ายร่วมรัฐบาลเพียง 254 เสียง แต่หลังจากเปิดประชุมสภากลับมีการ ย้ายพรรคย้ายขั้วอำนาจทางการเมืองจนฝ่ายรัฐบาลมีพรรคร่วมรัฐบาลและส.ส.มากว่า 270 เสียง ทำให้เห็นว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของนักการเมืองเปลี่ยนแปลงไปตามผลประโยชน์ของตนเอง ที่จะได้รับหลังการเลือกตั้งและเกิดความขัดแย้งด้านอุดมการณ์ทางการเมืองในพรรคการเมืองเอง ดังนั้น วรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่น จึงเป็นวรรณกรรมร้อยแก้วที่มีเนื้อหาเน้นหนักไป ในทางการเมืองและสังคม โดยการสะท้อนให้ผู้อ่านทราบถึงภาพสะท้อนทางการเมืองและสังคมของ ผู้แต่งผ่านเนื้อเรื่องที่มีความสัมพันธ์กับวิวัฒนาการของสังคมการเมืองอย่างใกล้ชิดเสมือนกระจกเงา ที่สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่และความเป็นไปของสังคมการเมืองไทย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน วรรณกรรมมีประเด็นสำคัญทางสังคม เมื่อผู้อ่านได้อ่านวรรณกรรมการเมืองเรื่องสั้นรางวัลพานแว่น ก็จะพบภาพสะท้อนที่สำคัญดังที่กล่าวไว้ข้างต้นของสังคมการเมืองได้เป็นอย่างดี
225 นอกจากนี้ยังพบว่า วรรณกรรมที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้ามีการนำเสนอการวิพากษ์ในหลาย มิติ ทั้งในการวิพากษ์โดยตรงและโดยอ้อม ซึ่งจากการวิเคราะห์ก็จะพบว่าวรรณกรรมที่ได้รับรางวัล พานแว่นฟ้า ถ้ามีการวิพากษ์การเมืองในระดับท้องถิ่นที่ผู้เขียนมักจะนำเสนอการวิพากษ์ทางตรง มากกว่าทางอ้อม เป็นการนำเสนออย่างตรงไปตรงมาและวิพากษ์อย่างชัดเจน แต่ถ้าเป็นการวิพากษ์ การเมืองในระดับของภาครัฐมักจะเป็นการนำเสนอการวิพากษ์การเมืองทางอ้อมมากกว่าการวิพากษ์ ทางตรง และมักจะใช้สัญลักษณ์เข้ามาเพื่อลดทอนความรุนแรงในการวิพากษ์อีกทั้งวรรณกรรม เรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ยังเป็นการเชิดชูวรรณกรรมทางการเมือง ในฐานะที่มีบทบาทต่อการ พัฒนาการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงส่งเสริมให้ ประชาชน ได้แสดงออกถึงสิทธิ หน้าที่ ความเสมอภาค เสรีภาพ ตามระบอบประชาธิปไตยหรือตาม รัฐธรรมนูญ ในการแสดงออกทางการเมืองและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อสืบสาน วรรณกรรมการเมือง พร้อมปลุกจิตสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้ง ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมโดยผ่านการสะท้อน มุมมองผ่านเรื่องสั้น เพื่อให้เห็นถึงปัญหา เหตุการณ์ รวมไปถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2560-2564 โดยภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นเป็นการสะท้อนเหตุการณ์ในอดีตที่ส่งผลมาสู่ปัจจุบันทั้งยังเป็น เครื่องยืนยันถึงปัญหาการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมืองของรัฐบาลและทหาร ที่พยายามเข้ามายึดอำนาจประชาชน พร้อมทั้งยังใช้อำนาจในการทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
226 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ในการศึกษางานวิจัยเรื่อง การศึกษาแนวคิดทางการเมือง สังคมและภาพสะท้อนสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ เพื่อศึกษาแนวคิดทางการเมืองและสังคมจากเรื่องในเรื่องสั้นวรรณกรรมรางวัลพาน แว่นฟ้า ปีพ.ศ.2560-2564 และเพื่อศึกษาภาพสะท้อนการเมืองและสังคมในเรื่องสั้นวรรณกรรม รางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2560-2564 จำนวนเรื่องสั้นทั้งหมด 65 เรื่อง ซึ่งในบทที่ 5 ผู้วิจัยสามารถ สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ 5.1 สรุปผลการวิจัย ผลการศึกษาสรุปได้ว่าการศึกษาแนวคิดทางการเมือง สังคมและภาพสะท้อนสังคมที่ปรากฏ ในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 สะท้อนให้ผู้อ่านได้มองเห็นถึง สถานการณ์ด้านการเมืองและด้านสังคมไทยโดยรวมว่า บรรยากาศทางการเมืองเป็นไปด้วยความตึง เครียด และมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ประชาชนในสังคมแตกแยกแบ่งพวกกัน และ ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากการพัฒนาของประเทศชาติได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นแล้วยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกอีกด้วย การศึกษาแนวคิดทางการเมือง แบ่งออกเป็น 5 ประเด็น ดังนี้ แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง 3 ประเด็น ได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม ทางการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง ส่วนแนวคิดเกี่ยวกับสังคม 2 ประเด็น ได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมือง แนวคิดเกี่ยวกับ ความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม และภาพสะท้อนทางสังคมที่ ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า แบ่งออกเป็น 5 ประเด็น ดังนี้ ภาพสะท้อนสังคม เกี่ยวกับการเมือง 3 ประเด็น ได้แก่ ภาพสะท้อนสังคมอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทาง การเมือง ภาพสะท้อนสังคมการมีส่วนร่วมทางการเมือง ภาพสะท้อนสังคมความขัดแย้งหรือความ แตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง ส่วนภาพสะท้อนสังคมเกี่ยวกับสังคม 2 ประเด็น ได้แก่ ภาพสะท้อนสังคมสิทธิและหน้าที่พลเมือง ภาพสะท้อนสังคมความขัดแย้งหรือความแตกต่าง ด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม
227 จากการวิเคราะห์เรื่องสั้นวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2560-2564 จำนวน 5 เล่ม โดยเล่มแรกจากเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้าในปีพ.ศ.2560 คือ ภาพที่คอมโพสิชั่น (ไม่เคย) ลงตัว โดยมีเรื่องสั้นทั้งหมด 13 เรื่อง ได้แก่ ภาพที่คอมโพสิชั่น (ไม่เคย) ลงตัว ชัยชนะของบุญยืน เหตุการณ์สามัญ (กรณีศึกชิงปลากระป๋อง) กล่องสมบูรณ์ แบบคนคิดเลข ใครผิด? ใจในใจ นายหน้า กับที่ดินบนดวงจันทร์ ในหมอก มือฉกภาพเขียน รูรั่วที่พื้นรองเท้าผ้าใบ สารภีตีครูและอะไรก็ช่าง เล่มต่อมา จากเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้าในปีพ.ศ.2561 คือ เสื้อคลุมของผู้พัน โดยมีเรื่องสั้นจำนวน 13 เรื่อง ได้แก่ เสื้อคลุมของผู้พัน ไม่มีหมาป่าตัวไหนเป็นมังสวิรัติ เราอยู่ที่สี่แยกไฟแดงวิฑูรอุทิศ 4 เกี่ยวกับฟันซี่นั้น คฤหาสน์ของพยาธิตาบอด จำรัสรอรัก ชายชรากับปลาในลำธาร ชิ้นส่วนของความ ขัดแย้ง ดาวส่องเมือง ยินดีต้อนรับสู่ประภาคาร โรงงานทอผ้าของมะลิ อย่าขวางประตูและอวนจับ นาค เล่มถัดมาจากเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้าในปีพ.ศ.2562 คือ โลกที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง โดยมี เรื่องสั้นจำนวน 13 เรื่อง ได้แก่ โลกที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง ซอยตัน ปลากัดลายธงชาติ คำสั่งจาก ดวงวิญญาณ คำอธิบายรายวิชาเช้าวันอาทิตย์ที่แสนเศร้า บนรอยต่อของเปลือกโลก แผนลดน้ำหนัก ครูดาวเรือง แมวดำตัวนั้น เสรีสิบสี่เส้นบรรทัด อำนาจ โอรังอัสลีกับผีร้ายแห่งเทือกเขาบรรทัด และThe selection : อุปกรณ์คัดแยกมนุษย์เล่มถัดมาจากเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้าในปีพ.ศ.2563 คือ สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย โดยมีเรื่องสั้นจำนวน 13 เรื่อง ได้แก่ สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย พลเมืองดี เส้นแบ่ง ขบวนการฟักทอง คราบที่ยังลอกออกไม่หมด แค่ผ้าเช็ดเท้า ใครจะเก็บซากหมาตัวนั้น ซากดึกดำบรรพ์ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ นครลิง เมล็ดพันธุ์ แว่วข่าวคราวว่าข้าวแข็ง สุนัขนำทาง และ เสียงร่ำไห้จากหิมพานต์ และในเล่มสุดท้ายจากเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้าในปีพ.ศ.2564 คือ มือเย็น โดยมีเรื่องสั้นจำนวน 13 เรื่อง ได้แก่ มือเย็น นาฏกรรมบนผืนน้ำในค่ำคืนที่เสียงนั้นเลือนหายไป ประชาธิปไตยที่อยู่ในกล่อง กุญแจสำรอง คนละโลกเดียวกัน ย้อนกลับไปดูภาพา VAR อีกครั้ง ลึกลงไปใต้ระดับพื้นดิน สเปโร โซนาเต บทเพลงของคนจร สะพานสองฝั่ง หนึ่งกิโลเมตรโดยประมาณ หลักกิโลเมตรที่ประชาธิปไตย เหลี่ยมหลอก องก์ที่ 3 สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ 5.1.1 การศึกษาแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้น รางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 ผลการศึกษาการวิเคราะห์แนวคิดทางการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้น รางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 มีแนวคิดทางการเมือง 3 ประเด็นและมีแนวคิดทาง สังคม 2 ประเด็น โดยแนวคิดทางการเมืองประเด็นแรกคือ แนวคิดเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการเมือง หรือพฤติกรรมทางการเมือง โดยพฤติกรรมทางการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจ ทางการเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่ใช้อำนาจในทางมิชอบกระทำต่อประชาชนที่เป็น เจ้าของประเทศตามระบอบประชาธิปไตย แต่ประชาชนกลับถูกกระทำจากการใช้อำนาจทางการเมือง
228 ของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง โดยแสดงออกผ่านการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง เพื่อให้ตนเองและพวกของตนได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินนโยบาย เป็นการกระทำทุจริต คดโกง ความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนที่เลือกตัวแทนที่ตนเองให้ความเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาประเทศให้ มีความเจริญ รุ่งเรือง เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ แต่กลับทรยศความหวังประชาชน ประเด็นถัดมาเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง เนื่องจากในปี พ.ศ. 2562 มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเป็นผู้แทนในการโหวตคะแนนเลือกผู้บริหารประเทศ เป็นช่วงที่ทุกฝ่ายเริ่มต้นการพัฒนาการศึกษา สังคม ประเทศในทุกด้านอันจะทำให้เกิดความ เจริญรุ่งเรืองภายในประเทศในการบริหารจัดการปัญหาของประเทศ แต่อยู่ภายใต้การบริหารของ รัฐบาลชุดเดิมภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ละฝ่ายต่างพยายามหาวิธีแก้รัฐธรรมที่มาจากในแต่ละ ฝ่ายที่เสนอมาทั้งฉบับจากพรรคการเมือง คณะรัฐบาล หรือองค์กรอิสระ เช่นการผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม กัญชาเสรี เป็นต้น แต่การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนกลับต้อง หยุดชะงัก เนื่องจากการใช้สิทธิ์และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น วิจารณ์การเมืองทั้งในด้านดี และข้อบกพร่อง ไม่มีความหมายต่อผู้นำประเทศ เพราะผู้บริหารประเทศที่มาจากการเลือกตั้งของ ประชาชนและคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญ จนเกิดเสียงพากย์วิจารณ์ ในหลายแง่มุม อีกทั้งเกิดเหตุการณ์การ ชู 3 นิ้ว ที่ฝ่ายผู้ประท้วงต้องการแก้กฎหมายมาตรา 112 ที่เกิดเป็นประเด็นทางสังคมมีการถกเถียงถึงสถาบันของประเทศที่เป็นเสาหลักของประเทศว่าต้องแก้ รัฐธรรมนูญหรือไม่ เกิดการจับกุมผู้ประท้วงหลายคนที่ต้องการแก้กฎหมายมาตรา 112 อีกทั้งยังมีการ ประท้วงไม่ยอมรับรัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนคนลายพรางทั้งการเข้าถวายสัตย์ ปฏิญาณตนไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนด โดยประเด็นสุดท้ายของแนวคิดทางการเมืองคือแนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความ แตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสังคมมีรากฐาน ปัญหาจากอุดมการณ์ทางการเมืองของแต่ละบุคคลในสังคมที่พยายามแสดงออกให้เห็นถึงทัศนคติของ ตนเองต่อผู้บริหารประเทส การออกนโยบายของส่วนกลาง และการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่งผลต่อ สังคมและความเป็นอยู่ของประชาชน จนกลายเป็นฉนวนในการออกมาโจมตีซึ่งกันและกันระหว่าง ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลกับฝ่ายเห็นต่างการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการแสดงออกทางความคิดของ แต่ละบุคคลในสังคมเป็นเรื่องไม่ผิดและสามารถกระทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทัศนคติของ เจ้าหน้าที่รัฐต่อฝ่ายเห็นต่างต่อการทำงานของตนเองกลับมองว่าพวกเขาคือ ศัตรูของเจ้าหน้าที่รัฐใน การดำเนินนโยบาย แต่มองฝ่ายที่สนับสนุนตนเองว่าเป็น นักรบที่ออกมาปกป้องประเทศชาติ แต่ประชาชนที่มีมุมมองต่อฝ่ายเห็นต่างต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นคนที่มีอุดมการณ์ทาง การเมืองที่ทำเพื่อประชาชนและผลประโยชน์ส่วนรวมที่ออกมาเสียสละเพื่อปกป้องประชาธิปไตย
229 ของประเทศ เราจะเห็นมุมมองของแต่ละฝ่ายที่มีความแตกต่างด้านความคิดและการอุดมการณ์ ทางการเมือง แต่สิทธิ์และเสรีภาพของประชาชนที่สามารถกระทำได้นั้นมีเพียงการเรียกร้องและ ปกป้องกระบวนการประชาธิปไตย แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับเป็นผู้ใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อให้เกิดความ ขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านการสลายการชุมนุม การยัดเยียดข้อหาให้กับประชาชน ที่ออกมาแสดงความคิดกลางถนน โดยไม่รับฟังเหตุและผลของประชาชนอย่างมีวิจารณญาณ จนนำไปสู่ความขัดแย้งที่แฝงไปด้วยการหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่พยายามใช้ ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียง อำนาจที่ประชาชนจะเห็นด้วยกับการ กระทำของตนและนำประชาชนมาปกป้องตนเองในยามที่ตนเองต้องตกอยู่ภาวะต้องโทษทางการเมือง แต่ในยามประชาชนต้องตกอยู่ในภาวะลำบากทางการเมืองจากการใช้อำนาจทางการเมืองในการ จับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐคนที่เรียกตนเองว่าอยู่เคียงข้างกับประชาชนกลับหลบซ่อนอยู่ภายใต้ความสุข สบายที่ประชาชนต้องอาบน้ำตาในกรงขัง ประเด็นต่อมา แนวคิดทางสังคมในประเด็นแรก คือ แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมือง ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์และเสรีภาพของตนโดยชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่การใช้สิทธิและเสรีภาพที่ได้มาช่างเป็นสิทธิ์และเสรีภาพที่ยาก ยิ่งที่จะสามารถใช้ได้อย่างอิสระ เนื่องจากหลายครั้งที่ประชาชนออกมาเรียกร้องสิทธิ์ที่พึงมีในการใช้ ชีวิตกลับถูกปฏิเสธ เช่น การเรียกร้องสิทธิ์เรื่องสมรสเท่าเทียม แต่ถูกวิจารณ์จากนักการเมืองบางกลุ่ม ทัศนคติที่มองกลุ่มหลากหลายทางเพศว่าเป็นบุคคลที่เรียกร้องสิทธิ์ของตนเองมากเกินไป จำกัดสิทธิ์ ต่างๆ เพื่อไม่ให้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างสมบูรณ์ รวมไปถึงการวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ รัฐหรือรัฐบาล แต่ถูกลิดรอนสิทธิ์ในการเรียกร้องหรือวิจารณ์ โดยการใช้กฎหมายในการปิดปาก ประชาชน พร้อมทั้งใช้ความรุนแรงเพื่อยุติความเสรีในการแสดงออกของประชาชน อีกทั้งการเป็น พลเมืองที่ดีประชาชนหลายคนพยายามทำหน้าที่เพื่อเคารพสิทธิ์และเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ คำนึงว่าจะเป็นเพศไหน อายุเท่าไหร่ หรือเชื้อชาติใด แต่พลเมืองของประเทศกลับถูกเลือกปฏิบัติจาก เจ้าหน้าที่รัฐ การมีสิทธิ์และเสรีภาพของประชาชนบางครั้งเป็นเพียงคำพูดหรือตัวหนังสือที่หยิบยกขึ้น มาในบางครั้งที่ต้องการหาผลประโยชน์จากประชาชนเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมกลับมี เพียงบางเบาต่อการใช้สิทธิ์และเสรีภาพของประชาชน เนื่องมาจากการใช้สิทธิ์ในการสะท้อนการ ทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐไม่เป็นที่พึงพอใจต่อผู้บริหารประเทศ จึงเกิดการไม่ยอมรับฟังเหตุและผลของ ประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศในการบอกถึงข้อบกพร่องและชี้หนทางไปสู่ความเจริญ เจ้าหน้าที่รัฐ กลับเห็นเป็นเพียงการต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและการก่อความไม่สงบของประเทศ ประเด็นสุดท้ายในประเด็นเกี่ยวกับแนวคิดทางสังคม คือ แนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือ ความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม ภายใต้รัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของ ประเทศ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่าง
230 ชอบธรรม และสามารถอยู่ร่วมกันได้ในอุมการณ์ที่แตกต่างกันของบุคคลในสังคม ด้วยเหตุความ ขัดแย้งที่เกิดจากความคิดเห็นต่างกัน มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกันออกไปตามจิตใต้สำนึกของแต่ละ บุคคล ด้วยเหตุการณ์ณืทางการเมืองนำไปสูงความขัดแย้งด้านอุดมการณ์ของบุคคลในสังคมทั้งในด้าน นโยบายของรัฐที่มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายเห็นต่าง ที่พยายามแสดงออกให้เห็นถึงผลกระทบจากการ ใช้นโยบายหรือการดำเนินนโยบายของเจ้าหน้ารัฐเป็นการปฏิบัติเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่ม นายทุน จนประชาชนเกิดการตั้งคำถามต่อการบริหารประเทศของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมไปถึงการ แก้ปัญหาความยากจนของประชาชนที่ไร้การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังการกระจายอำนาจไม่ เกิดขึ้นในสังคม ประชาชนที่เห็นต่างจึงพยายามเรียกร้องสิทธิ์และเสรีภาพ แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับไม่ เข้าใจและไม่ยอมรับฟังปัญหาหรือการแสดงออกของประชาชนที่พยายามเรียกร้อง จนเกิดความ ขัดแย้งที่บานปลาย ยากต่อการเจรจาต่อรองอย่างสันติวิธีกับประชาชน รวมไปถึงการความขัดแย้ง ด้านความแตกต่างระหว่างบุคคลที่หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติ ทั้งในด้านการเข้าสวัสดิการ ของรัฐที่ใครมีทรัพย์สินหรือมีอำนาจทางการเงินมากจะสามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างเต็มที่ ด้วยชนชั้นทางสังคมที่แตกต่างกันจึงเกิดการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐในการเลือกปฏิบัติ จนเกิดความ ขัดแย้งทางสังคมที่เลือกปฏิบัติต่อประชาชนจากความแตกต่างระหว่างบุคคลทางสังคม โดยเฉพาะ อำนาจทางการเงินที่มีบทบาทเข้ามาทำให้ประชาชนทุกคนต้องเผชิญกลไกทางสังคมที่อยู่ภายใต้ อำนาจเงินทุน เกิดการหาผลประโยชน์เข้าหาตนเองของทุกฝ่าย แต่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนร่วมที่ จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญ และเกิดการพัฒนาประเทศในทุกด้านทั้งสาธารณูปโภค การศึกษา หรือความเสมอภาคทางสังคม ด้วยเหตุนี้ประชาชนจึงพยายามเรียกร้องสิทธิ์และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รวมไปถึงความเสมอภาคในการดำรงอยู่ภายในสังคมระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ระหว่างบุคคลทางสังคมจะต้องเคารพสิทธิ์และเสรีภาพระหว่างบุคคล รวมไปถึงความเสมอภาคอย่าง เป็นรูปธรรม 5.1.2 การวิเคราะห์ภาพสะท้อนการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้น รางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 ผลการศึกษาการวิเคราะห์ภาพสะท้อนการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้น รางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 มีแนวคิดทางการเมือง 3 ประเด็นและมีแนวคิดทาง สังคม 2 ประเด็น ดังนี้ภาพสะท้อนของการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ในระดับท้องถิ่นจนไปถึง การใช้สูงสุดผ่านรัฐบาล รวมไปถึงการใช้อำนาจรัฐประหารโดยอำนาจทางการทหารผ่านการอ้าง ข้ออ้างความมั่นคงของชาติ โดยการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับตนเอง ในการที่สามารถ อยู่ในอำนาจการเป็นรัฐบาลได้ต่อเนื่อง หลังการแต่งตั้งการเป็นรัฐบาลชั่วคราวของคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ ทั้งยังเห็นภาพสะท้อนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนที่มีความกระตือรือร้น
231 ต่อการใช้สิทธิในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน พร้อมทั้งสืบทอด เจตนารมณ์ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งยังเห็นภาพสะท้อนความ ขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง อุดมการณ์ทางการเมืองของ ประชาชนมาจากบุคคลทางการเมืองหรือนโยบายทางการเมืองของการออกมาแสดงจุดยืนของพรรค การเมือง ที่เป็นส่วนสำคัญในการเป็นเครื่องชี้นำความคิดหรืออุดมการณ์ณืทางการเมือง แต่การ ออกมาแสดงจุดยืนของนักการเมืองกลับเป็นเรื่องโกหกต่อประชาชน เนื่องจากหลังได้รับการเลือกตั้ง กลับไปโหวตให้กับฝ่ายสืบทอดอำนาจเป็นผู้บริหารประเทศ ทั้งยังเห็นถึงภาพสะท้อนการใช้สิทธิและ หน้าที่พลเมืองในสังคม โดยการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามกฎหมายรัฐธรรมนูญถือเป็น เรื่องของการทำตามหน้าที่ของประชาชนที่สามารถใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเองได้ แต่การเข้าถึง สวัสดิการหรือนโยบายของรัฐบาลประชาชนกลับถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึงจากการ ทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และยังเห็นภาพสะท้อนความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางสังคมที่มีความแตกต่างทางความคิดหรือการแสดงออกทางความคิด เพื่อบ่งบอกให้เห็นถึง เจตนารมณืของตนเอง โดยสังคมกลับอ้างสิทธิและเสรีภาพของตนเองเพียงอย่างเดียว คำนึงถึงเพียง ผลประโยชน์ของตนเองโดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม จนกลายเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ในสังคม ละยากต่อการแก้ไข 5.2 อภิปรายผลการวิจัย จากการวิเคราะห์แนวคิดทางการเมือง สังคมและภาพสะท้อนสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรม เรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 พบว่า เรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้าเป็น วรรณกรรมปัจจุบันที่น่าอ่าน มีสาระ นอกจากให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่านแล้วยังสะท้อนภาพความเป็น จริงของสังคมที่ร่วมสมัยกับผู้อ่าน สามารถกระตุ้นให้ผู้อ่านตระหนักถึงปัญหาของสังคม เพราะเรื่องสั้น เหล่านี้ นอกจากมีองค์ประกอบและเอกลักษณ์ของวรรณกรรมเรื่องสั้นสมบูรณ์แล้วยังถ่ายทอด เหตุการณ์หรือความเป็นไปของสังคม ซึ่งเป็นประสบการณ์ของนักเขียนในฐานะเป็นสมาชิกผู้เป็นส่วน หนึ่งของสังคม รวมทั้งแสดงความคิดเห็นของตนเองและเป็นตัวแทนของประชาชนไว้ในเรื่องสั้นต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเกี่ยวกับวรรณกรรมกับสังคมที่ เจตนา นาควัชระ (2514: 20) กล่าวถึงวรรณกรรมกับสังคมไว้ตอนหนึ่งว่า วรรณกรรมนอกจากจะถ่ายทอดความเป็นจริงในสังคม แล้ว วรรณกรรมยังช่วยสะท้อนให้เห็นถึงมโนธรรมของมนุษย์ในสังคมอีกด้วย วรรณกรรมเปรียบ เหมือนเข็มทิศชี้แนะแนวทางให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ตลอดจนพัฒนาคุณภาพของชีวิตและ สังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านจริยธรรม ด้านการปกครอง ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น
232 ดังที่รัญจวน อินทรกำแหง (2539: 28–33) ได้แสดงความคิดเห็นว่าศิลปะวรรณกรรมและ สังคมมีความสัมพันธ์กันโดยวรรณคดีเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสะท้อนถึงชีวิตมนุษย์ในสังคม วรรณคดีจึงไม่ใช่สิ่งที่ล่องลอยอยู่กลางเวหา แต่เป็นสิ่งที่ต้องสัมพันธ์กับชีวิต สะท้อนชีวิตและสรุป บทเรียนให้กับชีวิตที่มีส่วนหนุนช่วยเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดียิ่งขึ้นของชีวิตมนุษย์ วรรณคดีจึงเป็นสิ่งที่ สะท้อนให้เห็นถึงสังคมตามความเป็นจริงแสดงออก ซึ่งความเป็นจริงและบันทึกความเป็นจริง วรรณกรรมการเมืองเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้าได้สะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น จริงในช่วงระยะเวลาพ.ศ. 2560-2564 และช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่มี ความผันผวน และยังมีผลทำให้คนในสังคมมีความคิดทางการเมืองที่แตกแยกกัน อย่างไรก็ตาม นอกจากแนวคิดทางการเมือง สังคมแล้ว ผู้เขียนยังได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหา ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมอีกด้วย โดยสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีต่อการ พัฒนาของเศรษฐกิจและสังคม ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมส่วนใหญ่เป็นความ เดือดร้อน การไม่ได้รับความเป็นธรรม การถูกเอารัดเอาเปรียบ และความยากจนของประชาชน ผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นปัญหาของประชาชนที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางความขัดแย้งของคนในชาติและเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง ผู้เขียนวรรณกรรมการเมืองก็ได้แสดงความคิดเห็นที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งที่เป็น ของตนเองและของประชาชนไว้ในเรื่องสั้นต่างๆ ทั้งโดยตรงและทางอ้อมโดยผ่านคำพูด ความคิดของ ตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ เรียกร้องให้คนในชาติรู้รักสามัคคี ร่วมกันนำพาประเทศชาติให้ฝ่าวิกฤติ ทางการเมืองไปให้ได้ และเรียกร้องให้ยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อส่วนรวม นอกจากนี้ผู้เขียนได้สะท้อนให้ เห็นถึงสาเหตุที่เป็นปัญหาสังคมที่มีต่อสื่อมวลชน นักการเมือง รวมถึงชนชั้นที่มีบทบาทสำคัญทาง การเมือง โดยชี้ให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองของคนในสังคม คือ ความคิดเห็นที่มีต่อนักการเมือง จากการวิเคราะห์เรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้าจำนวน 65 เรื่อง ผู้วิจัยมีข้อสังเกตว่า เรื่องสั้นเหล่านี้มีเรื่องราวที่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เหตุการณ์การเคลื่อนไหวทางสังคม และการเมืองได้มีอิทธิพลต่อโครงเรื่องเนื้อหา ตัวละคร ฉาก และแนวคิดของเรื่องสั้นเหล่านี้เป็น อย่างมาก โดยผู้เขียนได้นำภาพเหตุการณ์ในสังคม และแทรกความคิดเห็นทั้งของตนเอง และ ประชาชนถ่ายทอดไว้ในเรื่องสั้นต่างๆ โดยผ่านคำพูด ความคิดของตัวละคร ฉากและบรรยากาศใน เรื่องได้อย่างกลมกลืน แสดงให้เห็นว่า ผู้เขียนมีประสบการณ์ มีความเข้าใจการเมือง และสังคมไทย ทุกแง่ทุกมุมอย่างแท้จริง และมีประสบการณ์ได้สัมผัสความรู้สึกความคิดเห็นของประชาชน รวมทั้ง สามารถวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาการเมือง สังคม และถ่ายทอดบันทึกไว้ในวรรณกรรมบันเทิงคดีได้ อย่างลึกซึ้ง น่าประทับใจ
233 5.3 ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาแนวคิดทางการเมือง สังคม และภาพสะท้อนสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรม เรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 ทำให้ผู้วิจัยพบแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติมได้ ดังนี้ 5.3.1 ศึกษาวิเคราะห์แนวความคิดทางการเมืองที่ปรากฎในบทกวีที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า เพื่อจะได้เห็นมุมมองทางด้านการเมือง สังคม ที่หลากหลายยิ่งขึ้น 5.3.2 ศึกษาวิเคราะห์กลวิธีการนำเสนอแนวคิดทางการเมืองในเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ใน แต่ละปี เพื่อที่จะได้เห็นถึงความแตกต่าง และสามารถนำมาเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพ สะท้อนสังคม 5.3.3 ศึกษาบริบทสังคมเพิ่มเติม เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ภาพสะท้อนและแนวคิดในงานวิจัย ได้อย่างถูกต้อง
234 บรรณานุกรม กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์และจันทิมา เอียมานนท์. (2549). มองสังคมผ่านวาทกรรม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กาญจนา นาคสกุล และคณะ. (2521). การใช้ภาษา. กรุงเทพฯ: เคล็ดไทย. ขวัญชนก นัยจรัญ. (2561). การวิเคราะห์ภาพสะท้อนวิถีชีวิตประชาธิปไตยในเรื่องสั้นรางวัลพาน แว่นฟ้า พ.ศ.2545-2556. วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 15(3), 39-55. เจตนา นาควัชระ. (2514). วรรณคดีและการศึกษาวรรณคดีในวรรณไวทยากร. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. เจือ สตะเวทิน. (2510). ศิลปะการประพันธ์. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์. ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร. (2553). ว่าด้วยความคิดทางการเมืองของ ฌาคส์ ร็องซิแยร์ การเมือง ของสุนทรียศาสตร์/กวีนิพนธ์ของความรู้. กรุงเทพฯ: สมมติ. ตรีศิลป์ บุญขจร. (2523). นวนิยายกับสังคมไทย. กรุงเทพฯ: บางกอกการพิมพ์. . (2542). นวนิยายกับสังคมไทย พ.ศ.2475-2500. กรุงเทพฯ: โครงตำราคณะอักษร ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ถวัลย์ มาศจรัส. (2540). เคล็ดลับการเขียนเรื่องสั้น. กรุงเทพฯ: ออฟเซทเพรส. . (2545). เรื่องสั้นและการเขียนเรื่องสั้น. กรุงเทพฯ: ธารอักษร. เถกิง พันธุ์เถกิงอมร. (2526). การอ่านทั่วไป. พิมพ์ครั้งที่ 2. นครศรีธรรมราช: โครงการตำราและ เอกสาร วิชาการวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช. . (2541). นวนิยายและเรื่องสั้น การศึกษาเชิงวิเคราะห์และวิจารณ์. สงขลา: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏสงขลา. ธงชัย แซ่เจี่ย. (2555). แนวคิดประชาธิปไตยในกวีนิพนธ์การเมืองรางวัลพานแว่นฟ้า พ.ศ.2546- 2553. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาภาษาไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ. (2530). “In the Mirror: วรรณกรรมและการเมืองไทยในยุคอเมริกัน”. ถนนหนังสือ, 5(6), 77. ธวัช ปุณโณทก. (2527). แนวทางการศึกษาวรรณกรรมปัจจุบัน. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
235 บรรณานุกรม (ต่อ) ธัญญา สังขพันธานนท์. (2539). วรรณกรรมวิจารณ์. ปทุมธานี: นาคร. ธิดา โมสิกรัตน์. (2525). วรรณคดีสื่ออารมณ์ขัน ภาษาไทย 4. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช. นพพร ประชากุล. (2552). ยอกอักษร ย้อนความคิด เล่ม 1 ว่าด้วยวรรณกรรม. กรุงเทพฯ: อ่าน. นันทวัลย์สุนทรภาระสถิต. (2549). 3 ปี เรื่องสั้นการเมืองรางวัลพานแว่นฟ้า : การตีโจทย์ การเมืองกับการ มีส่วนร่วมในประชาธิปไตย ในภาษาและวรรณกรรมกับสังคม. นครปฐม: ภาควิชาภาษา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. นิศานาจ โสภาพล. (2557). แนวคิดทางการเมืองที่ปรากฏในเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า. วารสาร มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 7(1), 195-207. บำรุง สุวรรณรัตน์ และชูศักดิ์ เอกเพชร. (2523). วรรณกรรมสังคมและการเมือง. กรุงเทพฯ: เจริญวิทย์การพิมพ์. ประทีป วาทิกทินกร และสมพันธุ์ เลขะพันธุ์. (2522). การอ่านพิจารณาวรรณกรรม. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์. เปลื้อง ณ นคร. (2514). คำบรรยายวิชาการประพันธ์และหนังสือพิมพ์. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. . (2515). ประวัติวรรณคดีไทยสำหรับนักศึกษา. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. . (2515). อ่านวรรณคดี. กรุงเทพฯ: รวมสาส์น. . (2541). ศิลปะแห่งการประพันธ์. กรุงเทพฯ: ข้าวฟ่าง. พรศักดิ์ พรหมแก้ว. (2521). วรรณกรรมการเมืองของเทียนวรรณ. วิทยานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. พลศักดิ์ จิรไกรศิริ. (2522). วรรณกรรมการเมือง. กรุงเทพฯ: กราฟิคอาร์ต. พัชรินทร์ อนันต์ศิริวัฒน์. (2541). รายงานการวิจัยเรื่องวิเคราะห์แนวคิดทางการเมืองใน วรรณกรรมไทย ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2475 - 2519. พิษณุโลก : มหาวิทยาลัยนเรศวร.
236 บรรณานุกรม (ต่อ) ไพโรจน์ บุญประกอบ. (2526). การวิเคราะห์เรื่องสั้นแนวทางการเมืองและสังคมในช่วง 14 ตุลาคม 2516- 6 ตุลาคม 2518. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรี นครินทรวิโรฒ. มาโนช ดินลานสกูล. (2547). การอ่านและการเขียนบันเทิงคดี. สงขลา: ภาควิชาภาษาไทยและ ภาษาตะวันตก มหาวิทยาลัยทักษิณ. รัญจวน อินทรกำแหง. (2518). การเลือกหนังสือและโสตทัศนศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย รามคำแหง. . (2539). วรรณกรรมวิจารณ์. กรุงเทพฯ: ต้นอ้อ แกรมมี่. รื่นฤทัย สัจจพันธุ์. (2526). ความรู้ทั่วไปทางภาษาไทย (ภาควรรณคดีไทย). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง. . (2547). วรรณกรรมปัจจุบัน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง. วิภา กงกะนันทน์. (2523). วรรณคดีศึกษา. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. สมพร มันตะสูตร. (2525). วรรณกรรมสังคมและการเมือง. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. สันติ ทิพนา. (2562). ปรากฏการณ์ทางการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัล พานแว่นฟ้า ประจำปี 2561. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุบลราชธานี, 10(1), 119-139. สายทิพย์ นุกุลกิจ. (2534). วรรณกรรมไทยปัจจุบัน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). ภาพที่คอมโพสิชั่น (ไม่เคย) ลงตัว. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2560. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2561). เสื้อคลุมของผู้พัน. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร.
237 บรรณานุกรม (ต่อ) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2562). โลกที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง. กรุงเทพฯ: สำนักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2563). สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย. กรุงเทพฯ: สำนักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2564). มือเย็น. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร. สิริรัตน์ พุ่มเกิด. (2537). “อัศวพาหุ” กับการใช้วรรณกรรมเพื่อเผยแพร่แนวความคิดและ อุดมการณ์ทางการเมือง. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. สุชาติ สวัสดิ์ศรี. (2518). “บทกล่าวนำ ความเป็นมาและกลุ่มความคิดของเรื่องสั้นไทยสมัยใหม่”, ใน ถนนสายที่นําไปสู่ความตาย. กรุงเทพฯ: ดวงกมล. สุดารัตน์ เสรีวัฒน์. (2520). วิวัฒนาการของเรื่องสั้นในเมืองไทยตั้งแต่แรกจนถึง พ.ศ. 2475. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สุริวงศ์ พงศไพบูลย์. (2520). การอ่านและพิจารณาหนังสือ. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. เสาวนีย์ สิกขาบัณฑิต. (2540). การเขียนสำหรับสื่อการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: ดวงกมล จำกัด. เสาวรี เอี่ยมลออ. (2557). วิเคราะห์การเมืองไทยผ่านวรรณกรรมการเมืองรางวัลพานแว่นฟ้า ในช่วง พ.ศ.2545-2551. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะศาสตร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. อานันท์ กาญจนพันธ์. (2564). ก้าวข้ามวาทกรรมสู่พื้นที่ความรู้. กรุงเทพฯ: สยามปริทัศน์. อิงอร สุพันธุ์วณิช. (2547). วรรณกรรมวิจารณ์. กรุงเทพฯ: ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. Hongbo Qin. (2554). วิเคราะห์ภาพสะท้อนสังคมไทยจากเรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า พ.ศ.2550 - 2553. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารภาษาไทยเป็น ภาษาที่สอง บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.
238 ประวัติผู้วิจัย
239 ประวัติผู้วิจัย นางสาวกุลธิดา แสนวันดี รหัสนักศึกษา 62100101120 สำเร็จการศึกษาระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต โรงเรียนสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัด สกลนคร ปัจจุบันเป็นนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ค.บ.4/1 หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายพินิจนันนท์ ซุยกระเดื่อง รหัสนักศึกษา 62100101107 สำเร็จการศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต โรงเรียนภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ค.บ.4/1 หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี