The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วิจัย ศึกษาแนวคิดทางการเมืองและสังคมเเละภาพสะท้อนสังคมจากเรื่องสั้นวรรณกรรมพานเเว่นฟ้า ปีพ.ศ.2560-2564

รวมเล่มสมบูรณ์

94 ตารางที่ 8 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์(ต่อ) ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2562 จำนวน 13 เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับสังคม แนวคิด เกี่ยวกับ อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง แนวคิด เกี่ยวกับการ มีส่วนร่วม ทางการ เมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง แนวคิดเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ พลเมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 8 แผนลดน้ำหนักครู ดาวเรือง - - - - 9 แมวดำตัวนั้น - - - 10 เสรีสิบสี่เส้น บรรทัด - - - - 11 อำนาจ - - - - 12 โอรังอัสลีกับผีร้าย แห่งเทือกเขา บรรทัด - - - - 13 The Selection : อุปกรณ์คัดแยก มนุษย์ - - - รวม 6 เรื่อง - 1 เรื่อง 3 เรื่อง 5 เรื่อง


95 จากการศึกษาวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2562 ได้เห็นถึงแนวคิด ทางการเมืองและสังคม โดยปรากฏแนวคิดทางการเมือง 2 ประเด็น คือ แนวคิดเกี่ยวกับการใช้อำนาจ ทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมืองและแนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้าน อุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง พร้อมทั้งยังมีแนวคิดทางสังคม 2 ประเด็น คือ แนวคิดเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่พลเมืองและแนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคล ทางสังคม โดยประกอบไปด้วยเรื่องสั้นทั้งหมด จำนวน 13 เรื่อง สามารถสรุปการวิเคราะห์แนวคิด เกี่ยวกับการเมืองและสังคม ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2562 ได้ดังนี้ วรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2562 ทำให้เห็นถึงการใช้อำนาจและพฤติกรรม ของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่ใช้กฎหมายหรือนโยบายในการนำมาใช้พัฒนาประเทศให้เกิดการ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่การพัฒนาประเทศกลับกลายเป็นโอกาสของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่ใช้ อำนาจทางการเมืองกระทำในสิ่งที่ผิด หาผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตนเองทั้งในด้านการทำงาน และทรัพย์ที่ได้มาจากการทุจริต ใช้อำนาจในการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ทำให้ระบบการบริหาร และการจัดการปัญหาในสังคมไม่เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง แต่สร้างผลกระทบและ ปัญหาให้กับประชาชนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเกิดการทุจริต ความเลื่อมล้ำทางสังคม การเลือกปฏิบัติกับ ประชาชน จึงเกิดความไม่สงบสุขภายในประเทศ อีกทั้งยังเห็นถึงการแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายของรัฐที่ต่างฝ่ายต่างเห็นต่าง วิจารณ์การ ทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมไปถึงการชุมนุมเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านหรือการไม่เห็น ด้วยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้บริหารประเทศ โดยการชุมนุมมักมีทั้งฝ่ายต่อต้านและฝ่ายที่ เห็นชอบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้บริหารจึงนำมาในการประท้วง การปะทะของฝ่าย สนับสนุนรัฐและฝ่ายต่อต้านรัฐในการบริหารและการจัดการประเทศ ส่งผลให้เกิดความรุนแรงที่นำมา ซึ่งความเสียหายของประเทศ สังคม ประชาชน รวมไปถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่เห็นต่างมากขึ้น ถึงขั้นแบ่งฝ่าย จนเกิดความไม่สงบภายในประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยและเกิด การสูญเสียถึงแก่ชีวิตได้ พร้อมทั้งยังเห็นการมีส่วนร่วมในสังคมของประชาชนทั้งในด้านการใช้สิทธิ์และการปกป้อง ผลประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ไม่ใช้สิทธิ์แสวงหาผลประโยชน์ให้กับพวกของตนหรือตนเอง รวมไปถึงไม่ ใช้เสรีภาพของตนในการสร้างผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับส่วนรวมและตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจ ตามมาได้ในอนาคต แต่การใช้สิทธิ์และเสรีภาพอันชอบธรรมของประชาชนที่สามารถกระทำได้กลับ ถูกครอบงำด้วยกฎหมายและนโยบายของรัฐที่ออกกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิ์และลิดรอนเสรีภาพของคน ในสังคมจึงเกิดปัญหาและเกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม


96 รวมไปถึงความขัดแย้งของอุดมการณ์ ทัศนคติของคนในสังคมที่แตกต่างกัน โดยการกระทำที่ แสดงออกทางความคิด และการกระทำที่แตกต่างกันออกไปตามปัจเจกบุคคลนั้นสามารถพึงกระทำได้ ตามระบบประชาธิปไตยของประเทศที่มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ หากทุกคนเคารพในสิทธิ์และเสรีภาพของผู้อื่นในสังคม อย่างไม่มีอคติ ไม่เบียดเบียนหรือนำไปสู่เหตุการณืที่รุนแรงในสังคม สังคมที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์และ การอยู่ร่วมกันในสังคมจะส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนด้วยสติปัญญาอันนำพาไปสู่ความเจริญทางการ ศึกษา สังคม และคุณภาพของคนในสังคมย่อมพัฒนาไปด้วย แต่หากสังคมเคารพสิทธิ์และเสรีภาพ ของบุคคลอื่นเพียงลมปาก แต่การกระทำกับย้อนแย้งกับสิ่งที่พูดก็ไม่ต่างกับ สัตว์เดรัจฉานที่เพียงส่ง เสียงตามสัญชาตญาณของตนหาใช่ส่งเสียงด้วยปัญญาไม่ โดยแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2562 ได้ปรากฏแนวคิดเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมืองมากถึง 6 เรื่อง ทำให้เห็นถึงการใช้อำนาจทางการเมืองและพฤติกรรมทางการเมืองที่เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติต่อ ประชาชนจนเกิดการประพลักดันไปสู่การเลือกตั้งในปี พ.ศ.2562 ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติจากรัฐบาล ชั่วคราวไปสู่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2560 นั้นเป็นรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช. ที่ร่างรัฐธรรมมาเพื่อเอื้อให้พวกของตนสามารถเป็น นายกรัฐมนตรีจากการลากตั้งได้ กล่าวคือ ออกกฎหมายการเลือกตั้งโดยให้อำนาจวุฒิสภาหรือสว. ที่ เกิดจากการสรรหาร่วมโหวตออกเสียงเลือกผู้บริหารประเทศได้ โดยมีสมาชิกวุฒิสภาในฐานการออก โหวตคะแนนเสียงให้กับพวกของคสช.อยู่แล้วถึง 250 คะแนนเสียง แต่พรรคการเมืองอื่นๆกลับไม่มี เพียงคะแนนเสียงเดียวในการเป็นฐานเสียงเพื่อเป็นตัวแทนของสังคมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคน ต่อไป จึงเกิดการสะท้อนการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมืองที่ปรากฏใน วรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2562 มากถึง 6 เรื่องสั้นนั่นเอง


97 3.4 วิเคราะห์แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัล พานแว่นฟ้า ประจำปี2563 3.4.1 แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง 3.4.1.1 แนวคิดเกี่ยวกับอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง แนวคิดอำนาจทางการเมือง หมายถึง ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับอำนาจ สถาบัน และรัฐบาล ที่ได้รับการยอมรับว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ควบคุมและครอบคลุมสังคมในการจัดตั้งและรักษาระเบียบ สังคม มีอำนาจที่จะนำมาซึ่งวัตถุประสงค์ร่วมกันของสมาชิกในสังคม และมีอำนาจในการ ประนีประนอมความคิดเห็นของคนต่างๆ ในสังคม ส่วนการปกครอง คือการใช้อำนาจหน้าที่ในการ จัดสรรสิ่งที่มีค่าต่อสังคมอย่างเป็นธรรม อำนาจทางการเมืองคือการใช้อำนาจของผู้ปกครองเหนือ ผู้ปกครองซึ่งเป็นอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง ที่รัฐใช้ในการควบคุมพฤติกรรมของบุคคลและ กลุ่มบุคคลในสังคม พฤติกรรมทางการเมือง เป็นการแสดงออกของผู้ที่มาอำนาจทางการเมือง โดยผู้ที่ เข้ามามีอำนาจทางการเมืองนั้นส่วนใหญ่มักจะใช้ประโยชน์จากอำนาจเพื่อตนเองและพวกพ้องโดยไม่ สนใจอุดมการณ์ทางการเมืองในอดีตของตน การเมืองจึงเป็นพฤติกรรมของคน จากคนที่มุ่งหวังเข้ามา เปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีขึ้น แต่กลับกลายเปนการเข้ามาใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่งไม่ต่างจากผู้มี อำนาจอยู่ก่อน อำนาจทางการเมืองจึงมีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงบุคคลให้ลุ่มหลง มัวเมาไปกับสิ่ง ที่สังคมเกรงกลัว จึงมีการใช้อำนาจอย่างไร้ขอบเขต ไร้ความเห็นอกเห็นให้ประชาชนจนหลงลืมไปว่า เมื่อหมดอำนาจ เขาเหล่านั้นก็ต้องกลับสู่สถานการณ์เป็นประชาชนธรรมดาสามัญ ดังนี้ ตัวอย่างที่88 “อาจจะอยู่ในรูสักแห่งใต้พุ่มไม้” หัวหน้าหน่วยเคลื่อนที่สันนิษฐานเอาไว้ “ในหลุมใต้พื้นบ้าน ก็น่าสงสัย” คนกลุ่มนั้นนั่งรออย่างเงียบเชียบข้างหมู่บ้าน เหมือนอสุรกายรอให้เหยื่อชะล่าใจ เมื่อแน่ใจว่าการข่มขู่กดดันไม่ได้ผล จึงตามมาด้วยการล้อมปราบผู้ร้ายที่ไม่มีอยู่จริง ทุกคนที่นั่น ยังจดจำแสงไฟฉายวิบวับที่สาดส่องไปทั่วกับเสียงปืนกราดยิงคำรามลั่น มันก้องไปมานับสิบนาที และให้รสขมปร่าในลำคอทุกครั้งที่ผุดขึ้นมาในความทรงจำ หมู่บ้านทุรกันดารถูกทำลายแทบจะ ย่อยยับในค่ำคืนนั้น สิ่งปลูกสร้างและข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ แทบไม่เหลือสภาพใช้งาน แม้ดูไม่มีราคา มากมาย แต่มันก็บรรจุความทรงจำยาวนานตั้งแต่บางคนจำความได้ (สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย: 28)


98 จะเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงในการควบคุมสถานการณ์และพยายามจัดการ กับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในสังคม ทั้งที่การตรวจสอบหรือตรวจค้นไม่สามารถพึงกระทำได้ ตามความต้องการของเจ้าหน้ารัฐในยามวิกาล อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจาก ไม่มีหลักฐานหรือหมายค้นในการเข้าตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังลอาวุธเข้าตรวจค้นจนนำมาซึ่ง ความเสียหายของทรัพย์สิน ดังนั้นเจ้าหน้ารัฐมีหน้าที่รักษากฎหมายและเคารพกฎหมาย สิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ตัวอย่างที่89 กระทรวงกีฬาจึงประกาศห้ามแสดงออกทางสัญลักษณ์การเมืองอย่างเด็ดขาด ทุกคน ต้องเคารพกติกาว่ามีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ แต่ไม่ใช่พื้นที่ของการแข่งขัน การแสดงออกทางการเมืองใดๆ จะทำให้นักกีฬาถูกปรับแพ้ แต่บิคิลาคิดอยู่เสมอว่า มันอาจคุ้มค่า หากเป็นโอกาสสำคัญที่จะส่งสาส์นบางอย่างออกไป เขาจะไม่รู้สึกเสียใจถ้ามันทวงคืนความเป็นธรรม ให้แก่หมู่บ้านได้ (สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย: 35-36) จะเห็นได้ว่า การเรียกร้องสิทธิ์และเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยในสังคมยังคงถูกจำกัด สิทธิ์ในการแสดงออกต่อการเมืองและความอิสระทางความคิด อีกยังยังเห็นถึงการใช้กฎหมาย หรือกฎในการควบคุมการใช้สิทธิ์และความยุติธรรมในสังคมโดยอ้างการเรียกร้องจะเป็นการละเมิด สิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น แต่อีกแง่การเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพหรือการแสดงเชิงสัญลักษณ์นั้น เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ตามกฎหมายและระบอบประชาธิปไตยและการจำกัดสิทธิทางสังคม ตัวอย่างที่ 90 เคยได้ยินแกโม้กับคนในซอยว่าเป็นทหารผ่านศึก แต่ดูจากสภาพแล้วน่าจะไปเหยียบอะไรเข้า จนแผลเน่าต้องตัดขาทิ้งเสียมากกว่า แกเป็นคนเก็บขยะในซอยข้างๆ (พลเมืองดี: 43) จะเห็นได้ว่า การที่เจ้าหน้ารัฐกระทำต่อผู้ใต้บังคับบัญชาเฉกเช่นเดียวกับทาสที่คอยรับใช้ เมื่อหมดผลประโยชน์หรือไม่สามารถใช้ประโยชน์จากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาจึงปล่อยปละละเลย


99 ไม่ให้ความสนใจหรือเห็นถึงความเป็นมนุษยธรรมที่ควรปฏิบัติกับบุคคลอื่นอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งควรจัดสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้เหมาะสมและเหมาะแก่การเสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ ในการที่เคยปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ตัวอย่างที่91 “โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องตามแผนพัฒนาของตัวแทนนายกอบต. ที่ทุกท่านได้เลือกมา ท่านนายกมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลจะให้ตำบลของเราหันมาปลูกฟักทอง เพื่อรายได้ที่ดีกว่าการปลูกข้าว แล้วทาง อบต. ก็พร้อมสนับสนุนการอบรมให้ชาวบ้านทุกคนให้ได้ผลผลิตที่ดี” (ขบวนการฟักทอง: 79) จะเห็นได้ว่า โครงการต่างๆ ที่เจ้าหน้ารัฐหรือผู้มีอำนาจเป็นผู้เสนอแนะเป็นโครงการ ที่ไม่ผ่านการเห็นชอบของประชาชน แต่เป็นการใช้อำนาจการบริหารของตนเองในการดำเนินโครงการ หรือการใช้อำนาจในการชี้ทางให้ประชาชนหลงเชื่อและปฏิบัติตามโดยไม่คำนึงผลที่จะตามมาว่าจะ เกิดข้อดีและข้อเสียอย่างไรกับประชาชนหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ดังนั้น เจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้มีอำนาจควรคำนึงและตระหนักผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญและยกตัวอย่างข้อดีและ ข้อเสียที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนเป็นทางเลือกในการตัดสินใจ ตัวอย่างที่92 นายก อบต. ก็ไม่ได้จัดประชุมประชาคมตำบลอีกครั้งตามที่พูดไว้ว่าจะมีการทบทวน แต่กลับ ออกเป็นแผนพัฒนาสนับสนุนการปลูกฟักทองอีก ชาวบ้านเลยดีใจกันยกใหญ่และหันไปปลูกฟักทอง แทนการปลูกข้าว แต่จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่เห็นมีวี่แววที่จะมีบริษัทเข้ามารับซื้อ (ขบวนการฟักทอง: 81) จะเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจในการโน้มน้าวใจและใช้ความเป็นผู้นำท้องถิ่น ในการใช้อำนาจของตนต่อการดำเนินนโยบายเพื่อหาผลประโยชน์เข้าหากลุ่มของตนโดยไม่คำนึงถึง ความรู้ความสามารถและศักยภาพหรือปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อกระบวนการปลูกและการนำสินค้า ไปจำหน่ายว่ามีตลาดในการรองรับผลิตทางการเกษตรจากชาวบ้านมากน้อยเพียงใด แต่กลับ


100 ใช้งบประมาณกลางมาใช้อย่างสิ้นเปลือง โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนที่ตามมาจากการทำโครงการ ถือเป็นการใช้พฤติกรรมการเป็นผู้นำท้องถิ่นที่ไม่สมควรในการเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ตัวอย่างที่93 “มีชาวบ้าน 3 ใน 4 เลือกให้ผมมาเป็นนายก อบต. แต่พวกท่านที่มารวมตัวกันวันนี้ยังไม่ถึง ครึ่งเลย จะให้ผมฟังเสียงพวกท่านก็คงไม่ได้ เพราะผมเคารพในเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกผมมา ซึ่งผม เรียกว่า ประชาธิปไตย” (ขบวนการฟักทอง: 82) จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมของตัวละครเป็นพฤติกรรมและการแสดงทัศนะต่อระบอบ ประชาธิปไตยที่ผิดไปจากความเป็นจริงหรือขัดต่อระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพ อย่างเท่าเทียมกันและเราต้องฟังเสียงประชาชนทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งยังต้อง ไม่เลือกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ควรคำนึงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร ควรแก้ปัญหาของประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนทุกฝ่าย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี อีกทั้งเจ้าหน้ารัฐควรมีจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ ตัวอย่างที่94 ป้ายนั้นเป็นป้าย ‘หยุด’ พี่เสอธิบายว่าเห็นมันถูกรถชนหักกองอยู่ข้างทางนานเกือบสองเดือน ได้แล้ว ไม่เห็นมีใครสนใจ ก็เลยเข้าใจว่าทางการเขาทิ้งแล้วจึงเอาค้อนไปทุบเสาเอาเหล็กกับป้ายมา (ซากดึกดำบรรพ์ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ: 131) จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมทางการเมืองที่เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ ในการบำรุงและซ่อมแซมจนอาจเกิดผลกระทบที่ตามมาทั้งด้านความปลอยภัยต่อทรัพย์สินและชีวิต ของประชาชนที่สัญจรไปมา อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ ควรปฏิบัติหน้าที่ให้รอบคอบตรวจตราและแก้ปัญหา พร้อมทั้งคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตต่อประชาชนในทุกด้านอย่างถี่ถ้วน


101 ตัวอย่างที่95 หลังจากพี่เสหายตัวไปไม่นานเดือนก็มีข่าวรัฐประหารเกิดขึ้น จากนั้นอีกไม่กี่ปีต่อมาก็เกิด วิกฤตต้มยำกุ้ง ค่าเงินบาทลอยตัวคนทำธุรกิจล้มละลายกันไม่น้อย ปีนี้พี่เสกลับมาพร้อมกับวิกฤตไวรัส โควิด-19 ประชาชนทั่วโลกเสียชีวิตมากมาย เศรษฐกิจชะงักงัน เพราะไม่สามารถทำมาหากิน ได้เป็นปกติ (ซากดึกดำบรรพ์ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ: 138) จะเห็นได้ว่า การใช้อำนาจทางการเมืองของคณะรักษาความสงบภายในประเทศ เป็นข้ออ้างทางการเมืองเพื่อนำประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมที่ถูกกลุ่มผู้อำนาจในการ เข้ามาบริหารประเทศที่ไม่ชอบธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งยังลิดรอนสิทธิ์และเสรีภาพของประชาชน พร้อมใช้ความรุนแรงทางการปฏิบัติหน้าที่ใช้กฎหมายปิดปากประชนและนำประเทศไปสู่วิกฤต ทางเศรษฐกิจและวิกฤตเสถียรภาพในการต่อรองกับต่างชาติ เนื่องจากการเป็นผู้นำที่ไม่ให้ประชาชน เป็นผู้เลือกถือเป็นความอัปยศในการบริหารประเทศทั้งด้านการปกครองและความขัดแย้งในสังคม ตัวอย่างที่96 คนส่งยิ้มแห้งๆ กลบเกลื่อนความไม่พอใจ ชิงชัยยังคงดูต่อไป แม้เขาชักจะหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง ก็ตาม “ถ้าเปลี่ยนให้ลุง ก็ต้องเปลี่ยนให้ชาวบ้านคนอื่นกันหมด ทำไม่ได้หรอก” เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง พยายามอธิบาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้แกละความพยายามแม้แต่น้อย “ก็เปลี่ยนมันให้หมดเลย แล้วมันไม่ดี เหอ ข้าวนิ่มๆ นั้น” ลุงตอบ เสียงจิ๊จ๊ะเกิดขึ้นเบาๆ จากผู้ร่วมเหตุการณ์ คลิปวิดีโอนั้นยังคงดำเนินไป ภาพของลุงข้าวแข็ง เจ้าหน้าที่และถุงข้าวสิบกิโลกรัมของแก ถูกตัดสลับไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะไปจบ ที่มุมไหน ใครบางคนในหมู่เจ้าหน้าที่เริ่มส่งเสียงขึ้นมาบ้างว่า “ลุงเอาไปเหอะ แข็งหน่อยก็ใส่น้ำเพิ่ม เอา ใครๆ ก็กินได้แบบนี้” (แว่วข่าวคราวว่าข้าวแข็ง: 172) จะเห็นได้ว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่แสดงออกต่อประชาชนเป็นการใช้อำนาจ ทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่คำนึงผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการจัดสรรสวัสดิการของรัฐเพื่อบรรเทาความทุกข์ของประชาชน แต่ในทางกลับกันประชาชน กลับเดือดร้อนเพิ่มมากยิ่งขึ้น เหมือนเป็นการซ้ำเติมในขณะที่ประชาชนกำลังเผชิญกับปัญหา


102 แต่ต้องมีภาระเพิ่ม พร้อมทั้งยังใช้อำนาจของตนในทางที่ผิดต่อประชาชนโดยไม่รับฟังเหตุผล ของประชาชน ตัวอย่างที่97 เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่อฝ่ายวิชาการเชิญผู้ปกครองไปพบแจ้งว่าทางโรงเรียนไม่มีบุคลากร เฉพาะทางที่จะทุ่มเวลาเอาใจใส่ เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนของกวางเอง มัสยาจึงติดต่อไปยัง โรงเรียนอื่นอีกหลายแห่งแต่ได้รับการปฏิเสธทุกที่ ด้วยเหตุผลเหมือนกันหมดว่าทางโรงเรียน ไม่มีความพร้อม (สุนัขนำทาง: 182) จะเห็นได้ว่า บุคลากรทางการศึกษาที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และบุคคลต่างๆ ให้มี ความสามารถและศักยภาพให้มีพัฒนาการที่สูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นสถาบันทางการศึกษาที่เป็นสถานที่ คอยอบรม ชี้แนะแนวทาง และให้โอกาสทางการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพของชีวิตและสังคมให้มี ศักยภาพที่ดีและสูงขึ้นแต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับปิดกั้นการเข้าถึงทางการศึกษาและสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ทุกคน ควรได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ตัวอย่างที่98 ช่วงนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อฝ่ายค้านกดดันให้ยุบสภา ข่าวต่างประเทศ เผยแพร่ออกไปว่ารัฐบาลเลือกที่รักมักที่ชัง ใช้กำลังปราบจลาจลเฉพาะกับฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่มีมูลเหตุ น่าสงสัยว่าแผนก่อจลาจลมาจากฝ่ายผู้สนับสนุนรัฐทั้งสิ้น (สุนัขนำทาง: 184) จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมของเจ้าหน้ารัฐและรัฐบาลใช้ความรุนแรงในการควบ คุม กลุ่มผู้ชุมนุมรวมไปถึงการใช้อำนาจทางการเมืองในการเลือกปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยขัดต่อระบอบ ประชาธิปไตยในทางปฏิบัติและทางทฤษฎีที่ควรจะกระทำ ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐและรัฐบาลควรรับฟังทุก ฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมทั้งหาแนวทางวิธีในการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและสันติวิธี ตามระบอบประชาธิปไตยและกฎหมายสูงสุดของประเทศเพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่นำไปสู่ความสูญเสีย


103 ตัวอย่างที่99 หน่วยอารักขาความปลอดภัย ขยับปืนระแวดระวัง เชือกเส้นนั้นผูกมัดเธอไว้อีกครั้ง เพราะท่านรัฐมนตรีไม่ไว้ใจ เธออาจหนีไปเช่นครั้งอดีต เหมือนตอนหนึ่งของนิทานโบราณที่บอกเล่า กันมาจากแดนไกล (เสียงร่ำไห้จากป่าหิมพานต์ : 202) จะเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงทางอาวุธในการป้องกันและปราบปราม ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง แต่หากพิจารณาอย่างรอบคอบและไตร่ตรอง เป็นการควบคุมเหตุการณ์และความปลอดภัยเกินกว่าเหตุอันจำเป็น พร้อมทั้งยังเป็นการข่มขู่ กักขัง หน่วงเหนี่ยวประชาชนที่ไม่มีทางสู้ อีกทั้งยังเป็นการละเมิดสิทธิ์และเสรีภาพบุคคลอื่นโดยบุคคลนั้นยัง ไม่ใช่ผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ทั้งยังไม่สามารถควบคุมตัวหรือกระทำการใดๆ ต่อผู้ต้องสงสัยได้ 3.4.1.2 แนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นการมีส่วนร่วมในการปกครองของประชาชนตามสิทธิ ที่ระบบการเมืองและกฎหมายกำหนด เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยสมัครใจของประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้ มีอิทธิพลโน้มน้าวการกำหนดนโยบายของรัฐทั้งในด้านการเมืองและการปกครองทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ ดังนั้นการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ตัดสินใจและ กำหนดความต้องการของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้อำนาจแก่บุคคล กลุ่ม องค์กรชุมชนสามารถระดม ความสามารถในการจัดการทรัพยากรได้ การตัดสินใจและการกำกับดูแลกิจกรรมชุมชนมากกว่าการ ป้องกัน นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของประชาชนสามารถกำหนดชีวิตของตนเองเพื่อพัฒนาชีวิตตาม ความจำเป็นอย่างมีศักดิ์ศรี และสามารถพัฒนาศักยภาพของคนหรือชุมชนในด้านภูมิปัญญา ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และการจัดการและความตระหนักในการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ดังนี้ ตัวอย่างที่100 แต่จนแล้วจนรอดก็ต้องยอมจำนนไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ที่โหวตชนะด้วย 3 ต่อ 1 เสียง นั่นคือ เสียงของพ่อ แม่และพี่ชายของฉันที่โหวตเพื่อเลือกกินก๋วยเตี๋ยวไก่ (ขบวนการฟักทอง: 75)


104 จะเห็นได้ว่า การมีส่วนร่วมในการใช้สิทธิ์ออกเสียงในการแสดงความคิดเห็นทางการ เมืองถือเป็นหน้าที่และสิทธิ์ที่สามารถพึงกระทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนต้อง ยอมรับผลที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งไม่ควรทิ้งเสียงส่วนน้อย รับฟังอย่างเป็นกลางรับฟังข้อเสนอแนะที่เห็นต่าง ว่าเหตุและผลของการแสดงความคิดเห็นที่เห็นต่าง เพื่อนำข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะไปพิจารณา ต่อการสร้างความเข้าใจและหาแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคม ตัวอย่างที่101 มันเป็นสติ๊กเกอร์ที่เป็นโลโก้ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง มีคนนำมาติดบนกีตาร์ของหรรษา เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พรรคการเมืองต่างๆ กำลังหาเสียง ก่อนการเลือกตั้งปี 2564 เลขาของอดีต ส.ส. คนหนึ่ง เป็นเพื่อนกับหรรษาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมฯ ได้จ้างหรรษาไปเล่นดนตรี ในงานวันเกิดเจ้านาย (คราบที่ยังลอกออกไม่หมด: 93) จะเห็นได้ว่า การมีส่วนมีส่วนร่วมทางการเมืองในการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง และการหาเสียงอย่างสรุจิตใจถือเป็นการทำได้อย่างถูกต้องตามกระบวนการก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง แต่กระนั้นต้องไม่ให้ผลประโยชน์อื่นมาแอบแฝงต่อกระบวนการหาเสียง แต่กลับกลายเป็นการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงในก่อนการเลือกตั้ง ดังนั้นการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งหรือการหาเสียงเป็นสิ่งพึงกระทำได้ ตามกฎหมาย แต่ไม่ควรหาผลประโยชน์แอบแฝงในการเลือกตั้งหรือหาเสียง เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชันในการเดินไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง 3.4.1.3 แนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองคนในสังคมมีความคิดเห็นต่างกัน เนื่องจากมนุษย์มีความ หลากหลายทางความคิดเห็น จึงเป็นเรื่องปกติที่สังคมจะมีความคิดเห็นต่างกัน ความเห็นต่างกันจึงไม่ ขัดแย้งหรือแตกแยก แต่ความเห็นต่างกันอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง เพราะ ความขัดแย้งทางการเมือง เกิดขึ้นจากการมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในสังคมเนื่องจากเพราะทรัพยากร ในสังคมมีจำกัดในขณะที่ประชาชนมีความตองการทรัพยากรอย่างไม่จำกัด ความขัดแย้งทางการเมือง จึงเกี่ยวของกับความคิดเห็นของคนในสังคมที่ไม่เห็นด้วยหรือมีความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม มุมมอง


105 ทางการเมืองนี้เป็นที่ถกเถียงกันมาก หากไม่สามารถระงับข้อพิพาทได้ ประเทศก็จะตกอยู่ในความ โกลาหล ตอมามีมุมมองทางการเมืองใหม่เกี่ยวกับผลประโยชนที่ประนีประนอม เพื่อหลีกเลี่ยงความ ขัดแย้งจากการดำเนินการทางการเมืองที่ไม่มีทางแกไข ดังนี้ ตัวอย่างที่102 “เธอฝังใจแต่กับรัฐบาลนี้ เห็นดีเห็นชอบด้วยทุกอย่าง ลองมองให้ลึกสิ บ้านเมืองกำลังแย่ เศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนลำบากกันทั้งประเทศ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนห่างกันมาก ยิ่งมีรัฐมนตรี แบบนี้ ควรปลดได้แล้ว” “ประเทศกำลังลังปรับตัวต่างหาก” ลูกสาวผมแย้งขึ้นมา (แค่ผ้าเช็ดเท้า: 105) จะเห็นได้ว่า ทัศนะต่อการเมืองของแต่ละบุคคลต่างกันในทางความคิดและอุดมการณ์ ทางการเมืองนำไปสู่ความขัดแย้งภายในสังคมที่กำลังเกิดขึ้นและเกิดความไม่พึงพอใจในการอยู่ร่วมกัน ทางสังคม จึงต้องใช้รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายอย่างเป็นกลางไม่อคติต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งในด้าน การแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกทางพฤติกรรมเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต ดังนั้นต้องรับฟังทุกฝ่ายอย่างเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียมใช้เหตุผลในการพิจารณา ไตร่ตรอง ตัวอย่างที่103 เชื้อชาติ ศาสนา การเมือง หลังจากการวิจารณ์ผู้ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วน ตำบลในวันนั้นทำให้ทั้งมณีและพะแพงทะเลาะกันรุนแรงขนาดเกลียดหน้ากันทั้งๆ ที่ทั้งสองไม่มีความ ขัดแย้งอื่นนอกจากเรื่องการเมือง ทำให้ไพศาลและแพรวาต้องเข้าร่วมความขัดแย้งและต้องเลือกฝ่าย หลังจากนั้นทั้งสองร้านก็หาเรื่องขัดแย้งกันเรื่อยมา (ใครจะเก็บซากหมาตัวนั้น: 121-122) จะเห็นได้ว่า เมื่ออุดมการณ์ต่างกันย่อมเกิดความขัดแย้งทางการเมืองตามมาทั้งในด้าน การดำเนินชีวิตการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม การแสดงความคิดเห็นที่ทุกคนสามารถแสดงออกได้ อย่างสุจริตแต่จะกลายเป็นการเชื่อมโยงเข้าสู่ประเด็นการเมืองเสมอ เนื่องจากเกิดข้อพิพาทกัน


106 ในความคิดของการแสดงออกทางการเมืองที่คลุกกรุ่นไปด้วยความขัดแย้ง แต่ในแง่หนึ่งการแสดงออก ถึงจุดยืนว่าเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นสิ่งที่กระทำได้ ดังนั้นเราต้องอธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจและรับรู้ ถึงระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ตัวอย่างที่104 หลังวางสายจึงเปิดทีวีดูข่าวสาร เห็นกลุ่มขบวนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศกำลัง เคลื่อนตัวไปรวมกันที่หน้ารัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีลาออกภายในสิบห้าวัน ด้วยข้อกล่าวหา ทุจริตในหน้าที่ กักตุนผลผลิตทางการเกษตรเพื่อส่งออกและหาผลประโยชน์ให้พวกพ้อง ทั้งที่ ประชาชนในประเทศตกอยู่ในภาวะขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคอย่างหนักในช่วงภัยพิบัติน้ำท่วม (สุนัขนำทาง: 180) จะเห็นได้ว่า การแสดงออกทางการเมืองจากการประพฤติตนของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกิดขึ้น ย่อมนำไปสู่เหตุการณ์ประท้วงและการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงและหยุดพฤติกรรมการทุจริต และคดโกงที่เป็นบ่อเกิดปัญหาตามมาอีกมากมายทั้งยังเป็นการนำงบประมาณกลางหรือภาษี ของประชาชนมาใช้ไร้ประโยชน์ต่อประชาชน จึงเกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นระหว่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายประชาชนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองขัดแย้งกันจากพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ 3.4.2 แนวคิดเกี่ยวกับสังคม 3.4.2.1 แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมือง แนวคิดเรื่องสิทธิและหน้าที่เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ใน สังคม คำว่า สิทธิ หมายถึงอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายของพลเมืองที่กฎหมายรับรอง ในขณะที่คำว่า เสรีภาพหมายถึงความสามารถของบุคคล เลือกที่จะคิด กระทำ หรือพูดอย่างไรก็ได้ตามความพอใจใน ตัวเอง ซึ่งเป็นอำนาจที่กฎหมายรับรองว่ากระทำอย่างอิสระ โดยเสรีและสุจริต แต่ต้องไม่กระทบต่อ สิทธิของผู้อื่น พลเมืองจะแสดงออกถึงความกระตือรือร้นในการรักษาสิทธิต่างๆ ของตน รวมถึงการมี ส่วนร่วมทางการเมือง โดยการแสดงออกซึ่งสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ดังนี้


107 ตัวอย่างที่105 คำว่า “โอกาส” มีความหมายกับบิคิลามากมายนัก เด็กหนุ่มเริ่มคิดได้ในวันหนึ่งว่า มันไม่ใช่ แค่โอกาสจะเอาชนะการแข่งขัน แต่ยังหมายถึงโอกาสที่จะได้ทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่หมู่บ้าน อีกด้วย (สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย: 25) จะเห็นได้ว่า สิทธิ์และเสรีภาพให้เป็นพลเมืองที่ดีต้องทำหน้าที่โดยยึดถือผลประโยชน์ ของส่วนรวมเป็นสำคัญ เป็นสิ่งที่พลเมืองในสังคมต้องร่วมกันปฏิบัติและรักษาสิทธิ์ของคนส่วนใหญ่ มากกว่าส่วนตนและไม่สร้างความแตกแยกภายในสังคม อีกทั้งทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนรับผิดชอบ ไม่ควรจำกัดสิทธิ์และเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดและการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้ เกิดความเท่าเทียมกันในสังคมอย่างเสมภาคกัน ตัวอย่างที่106 ระหว่างนั้นก็ติดต่อแพทย์เพื่อเปลี่ยนขาเทียมที่ได้มาตรฐานให้แกใหม่ หลังออกจาก โรงพยาบาลก็ซื้อรถสามล้อแบบใช้เครื่องยนต์ให้ ไม่ต้องใช้แรงปั่นอีกต่อไป พร้อมกับค่าทำขวัญ อีกจำนวนไม่น้อย ทั้งสามคนซาบซึ้งใจ บอกว่าผมเป็นเทวดามาโปรดชีวิตอันยากไร้ของพวกเขาทั้งสาม นึกแล้วได้แต่หัวเราะ แท้ที่จริงผมคือปีศาจที่แฝงร่างมาในคราบเทวดา ปีศาจที่อยากกลบเกลื่อน อาชญากรรมที่ตนเองก่อขึ้นแต่ก็โชคดีแล้วที่เรื่องนี้จบลงด้วยดี (พลเมืองดี: 45) จะเห็นได้ว่า การชดใช้ค่าเสียหายหรือการรับผิดต่อทรัพย์สินและร่างกาย รวมไปถึง สภาพจิตใจของผู้รับเคราะห์ โดยผู้กระทำต้องติดตามผลที่ตนกระทำลงไปและไม่ใช้อำนาจเงิน ในการยุติการถูกฟ้องร้องและไม่ควรดูถูกผู้อื่นด้วยการใช้เงินในการทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้บิดเบือน ไปจากความเป็นจริง อีกทั้งผู้เสียหายต้องรักษาสิทธิ์ในการดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหาย ตามความเป็นจริงเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์อื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ผู้ร้ายอาจกลับมากระทำเหตุร้าย ต่อเราได้


108 ตัวอย่างที่107 แม้ชุมชนละแวกศาลเจ้า จะมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นส่วนน้อย แต่พวกเขาก็มีตัวตน มีรากเหง้า ที่ไม่ควรถูกเมินเฉย พวกเขามีสิทธิที่จะดำรงไว้ซึ่งความศรัทธาและวิถีวัฒนธรรมของตน จุดกึ่งกลางของการอยู่ร่วมกันจึงเป็นความเข้าอกเข้าใจ ...แต่ขณะเดียวกันสิทธิของปัจเจกก็ไม่ควร ถูกละเมิด (เส้นแบ่ง: 71) จะเห็นได้ว่า การใช้สิทธิ์ของแต่ละบุคคลสามารถพึงกระทำได้แต่การใช้สิทธิ์และเสรีภาพ ไม่ควรไปละเมิดสิทธิ์และเสรีภาพของผู้อื่น และควรเคารพความสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อไม่ให้สังคม เกิดความขัดแย้งในสังคมและเป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมที่ควรกระทำจึงจำมาซึ่งความสงบสุข และสังคมที่น่าอยู่ ไม่เกิดความรุนแรงที่อาจเกิดการปะทะอันใช้ความอาวุธหรือเกิดความเสียหาย ทั้งในด้านทรัพย์สินและทางร่างกายหรือแม้กระทั้งจิตใจ ดังนั้นสังคมจะดำรงอยู่ได้ต้องเคารพสิทธิ์ และเสรีภาพของผู้อื่นเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัติ ตัวอย่างที่108 เนื่องจากเป็นช่วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง การจัดงานเลี้ยงอาจสุ่มเสี่ยงและขัดต่อกฎหมาย เลือกตั้งได้ ในงานจึงไม่มีสัญลักษณ์หรือสิ่งใดๆ ที่เกี่ยวกับการเมือง เกี่ยวกับพรรคการเมืองหรือการ เลือกตั้งเลย (คราบที่ยังลอกออกไม่หมด: 99) จะเห็นได้ว่า การรักษาสิทธิ์และการเคารพกฎหมายที่กำหนดอย่างเคร่งครัดถือเป็นหน้าที่ ที่ทุกคนในสังคมพึงปฏิบัติและควรตระหนักพร้อมทั้งไม่ควรฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้เกิดความสงบ และไม่เกิดความรุนแรงที่อาจตามมา ทั้งด้านการแสดงออกทางการเมืองและการแสดงความคิด ถึงจุดยืนในการสงวนท่าทีในการแสดงอันจะนำพไปสู่การผิดกฎหมายและถูกจำกัดสิทธิ์และเสรีภาพ ในการแสดงออกทางการเมือง


109 ตัวอย่างที่109 “ใช้คนละผืนกันเลย ของใครของมันไม่ต้องข้องแวะกัน ข้อสำคัญทุกคนต่างต้องยอมรับของ กันและกัน แม่วางแผ่แบบของแม่ แม่มีห้องน้ำของตัวเองแล้วนี่ส่วนของลูกกับของพ่อคนละผืน แต่มี ข้อแม้ว่าแม่ต้องไม่มาวุ่นวายกับพ่อและลูก” (แค่ผ้าเช็ดเท้า: 111) จะเห็นได้ว่า การเคารพสิทธิ์และเสรีภาพของผู้อื่นเป็นหน้าที่ของคนในสังคมที่ทุกคน ต้องปฏิบัติและตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสิทธิ์และเสรีภาพของผู้อื่นอย่างสุจริตใจ ไม่สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคมและใช้เหตุและผลในการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ภายในสังคม หากไม่เคารพสิทธิ์และเสรีภาพของผู้อื่น ดังนั้นทุกคนต้องประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดีต่อสังคมและไม่สร้างความแตกแยกภายในสังคม ตัวอย่างที่110 เจ้าของร้านชำสองผัวเมียจึงไปลงทะเบียนเพื่อรับเงิน ทั้งๆ ที่ยังเปิดร้านขายของอยู่ทุกเมื่อ เชื่อวันเป็นปกติ ยังไม่นับรวมไอ้คนที่ขายพระเครื่องออนไลน์ที่กล่าวถึงนั่นอีก พลางคิดไปถึงผู้คน มากมายในภาพข่าวที่เดือดร้อนจริงๆ แต่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีและถูกตัดสิทธิ์ เพราะระบบเอไอมีปัญหา ในการคัดกรอง (ซากดึกดำบรรพ์ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ: 134) จะเห็นได้ว่า การรักษาสิทธิ์ในการเข้ารับการเยียวยาจากสวัสดิการของภาครัฐที่จัดสรร งบประมาณเพื่อช่วยเหลือกลุ่มประชาชนที่มีความเดือดร้อนในการทำมาหากินหรือรวมไปถึง การเข้ารับสวัสดิการในการบรรเทาทุกข์หรือความเดือดร้อนที่กำลังเผชิญอยู่นั้น ทุกคนมีสิทธิ์ ในการเข้าถึงได้ แต่ฝ่ายบริหารแก้ปัญหาไม่ตรงจุดเพราะการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือ ความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมทั้งควรจัดสรรให้ทุกคนได้รับการเยียวยาอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ถูกจำกัดสิทธิ์ เนื่องจากเข้าถึงการลงทะเบียนรับการเยียวยาไม่ได้เช่นนี้


110 ตัวอย่างที่111 ผมก็รู้สึกเบื่อกรุงเทพฯ เบื่อวิถีชีวิตอันเร่งรีบ แสงสี รถลา เบื่อตึกใหญ่โตที่รายล้อมห้องเช่า เล็กๆ ของผม เบื่อในความเจริญ เบื่อการเมือง เบื่อรัฐบาล เบื่อการชุมนุมของนักศึกษาที่เริ่มทยอยกัน ออกมาประณามและประท้วงรัฐบาล (นครลิง: 142) จะเห็นได้ว่า ความคิดเห็นของตัวละครเป็นสิ่งที่อันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากประชาธิปไตยในโลกเสรีนั้นทุกคนสามารถใช้สิทธิ์ในการเรียกร้องความเป็นธรรมและความ ต้องการขั้นพื้นฐานได้อย่างเท่าเทียมโดยไม่กระทำเหตุอันจะนำมาซึ่งความเสียหายไม่ว่าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งและการแสดงออกทางการเมืองเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้และผิดตามกฎหมาย แต่ต้องชุมนุม อย่างสงบปราศจากความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ตัวอย่างที่ 112 ทุกคนควรมีสิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรเหล่านั้นอย่างเท่าเทียมกัน ให้แบ่งกันเองคงแย่งชิงกันไม่ต่าง จากลิงพวกนี้ ใครสักคนจึงถูกเลือกให้มาเป็นตัวแทนทำหน้าที่จัดสรรทรัพยากรให้ทุกๆ คน แต่หาก ตัวแทนหักหลังเกิดคิดจะรวบทุกอย่างไว้เสียเอง ก็คงไม่ต่างจากนครลิงแห่งนี้ (นครลิง: 148) จะเห็นได้ว่า การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคนมีสิทธิ์และเสรีภาพ แม้กระทั่งสัตว์บนโลก ใบนี้ก็สามารถดำรงตนให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสุจริต โดยทุกคนควรรักษาน้ำใจในการอยู่ร่วมกัน ภายในสังคมและใช้เหตุและผลในการพูดคุยเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในสังคมอันจะเกิด ความรุนแรงภายในสังคม ดังนั้นทุกคนควรเคารพสิทธิ์และเสรีภาพของผู้อื่นและไม่ควรกระทำการใดๆ ที่จะเป็นบ่อเกิดของปัญหาที่จะตามมา ตัวอย่างที่ 113 ตอนมีดพลาดสับปลายนิ้วชี้ข้างซ้ายขาด ยายรวยคิดว่านั่นเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต ต่อมา ตอนที่แกต้องการขอขึ้นทะเบียนคนพิการเพื่อรับเบี้ยพิการเดือนละแปดร้อย แต่หมอไม่รับรอง


111 ให้ ด้วยเหตุผลว่า แกยังทำการทำงานได้ ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์ หญิงชราก็คิดว่านั่นคือความเจ็บปวดที่สุด ในชีวิตจริงๆ เจ็บเสียยิ่งกว่านิ้วขาดเป็นคนพิการที่ไม่มีสิทธิ์รับเบี้ยความพิการเสียอีก (เมล็ดพันธุ์: 155) จะเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐพยายามลิดรอนสิทธิ์และเสรีภาพของประชนที่ไปเรียกร้องสิทธิ์ ของตนในการรับการเยียวยาที่รัฐบาลเป็นผู้จัดสรรงบประมาณ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับตอกย้ำความจนของประชาชนที่ไม่ได้รับสวัสดิการของรัฐที่พึงได้แต่กลับ เลือกปฏิบัติในการสนับสนุนการเยียวยา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ์ของตนได้ ตัวอย่างที่114 ‘…ไม่ใช่แค่อีตื่นกับกูสองคนหรอก ลูกในท้องของมันด้วย’ ยายรวยสะท้านใจ ได้แต่คิด เวรกรรมอะไรของกูหนักหนา อีตื่นถูกข่มขืนวันนั้นยังไม่พออีกหรือ ชะตากรรมถึงส่งเด็กมาในท้องมัน อีก โธ่เอ๋ย ถ้ากูตายใครจะดูแลมึงกับลูก ในหมู่บ้านที่มีแต่คนแย่งชิงอาหารกัน (เมล็ดพันธุ์: 159) จะเห็นได้ว่า การเข้าถึงอาหารเป็นสิทธิ์และเสรีภาพของทุกคนที่สามารถเข้าถึงได้ แต่กลับถูกกลั่นแกล้งอ้างเป็นพื้นที่ของตนเองและใช้ความรุนแรงในการสร้างความขัดแย้งภายในสังคม โดยไม่คำนึงถึงหน้าที่ของตนที่ต้องดำรงตนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม เพียงเพราะอ้างสิทธิ์และเสรีภาพ ในพื้นที่ของตน โดยไม่พิจารณาและความเป็นพลเมืองของสังคมที่ต้องช่วยเหลือเอื้อเฟื่อซึ่งกันและกัน ของประชาชนอย่างเห็นคุณค่าของสิทธิมนุษยธรรมที่พึงปฏิบัติ ตัวอย่างที่ 115 ทั้งคู่ช่วยกันเลือกเสื้อผ้าเก่าเก็บไปบริจาค ข่าวว่าครอบครัวหนึ่งห่างจากบ้านเธอไปสี่เสาไฟฟ้า ถูกไฟไหม้จนย่อยยับ ผู้ประสบชะตากรรมเป็นครอบครัวพ่อลูกสองและยังมีตายายอยู่ในบ้านอีกด้วย ชาวบ้านละแวกนั้นต่างขอรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้ในทันที (แว่วข่าวคราวว่าข้าวแข็ง: 167)


112 จะเห็นได้ว่า การบริจาคสิ่งของสามารถพึงกระทำได้ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่พึงกระทำให้กับ บุคคลที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้และบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นในด้านปัจจัย 4 หรือเงินทุนที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน ที่ต้องช่วยเหลือกันและกัน ไม่ทอดทิ้งใครให้เดือดเนื้อร้อนใจ หรือต้องเผชิญกับปัญหา เพื่อบรรเทา ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นและภาครัฐควรจัดสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน 3.4.2.2 แนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางสังคม คนในสังคมมีความคิดเห็นต่างกัน เนื่องจากมนุษย์มีความหลากหลายทางความ คิดเห็น จึงเป็นเรื่องปกติที่สังคมจะมีความคิดเห็นต่างกัน ยิ่งคนบางกลุ่มต้องมาอยู่รวมกันในความต่าง ที่ไม่มีอะไรเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น ที่มา อาชีพ ฐานะ ที่เกิดจากความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้ สังคมเกิดความแตกแยก เนื่องจากมีความคิดเห็นที่ต่างกัน และต่างคนต่างมีทิฐิ แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้อง หาทางออกเพื่อให้สังคมก้าวข้ามความขัดแย้งนั้นไปได้ ด้วยการเข้าใจความแตกต่างของแต่ละบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม สังคมทุกสังคมย่อมหลีกเลี่ยงความขัดแย้งไม่ได้ ความขัดแย้งในสังคมจึงเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าความขัดแย้งดังกล่าวยังสามารถหาข้อยุติได้ในกรอบของกลไกที่มีอยู่สังคมนั้นก็สามารถ ดำเนินต่อไป หรือตราบเท่าที่ปัญหาความขัดแย้งอยู่ในสัดส่วนที่ไม่แผ่กระจายไปทั่วทั้งสังคม จนหาวิธีการหรือกลไกเพื่อยุติความขัดแย้งไม่ได้สังคมนั้นก็สามารถดำเนินต่อไป โดยในภาพรวมจะ ถือได้ว่าสังคมนั้นยังอยู่ได้อย่างมีความสมานฉันท์แต่เมื่อใดก็ตามที่ความขัดแย้งถึงจุดที่ไม่สามารถ จะแก้ไขเยียวยาได้ ทางเลือกของสังคมก็จะถูกจำกัดลง โดยมีทางออกอยู่สองทางคือ การพยายาม แก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี ด้วยการเจรจาหรือไกล่เกลี่ย หรือมิฉะนั้นก็คงต้องแก้ไขความขัดแย้ง ด้วยการใช้กำลังหรือความรุนแรง ผลที่ออกมาก็คือ การที่ฝ่ายหนึ่งชนะ อีกฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ ผู้ชนะ ก็จะสร้างระเบียบการเมืองขึ้นมาใหม่ และถ้าเป็นกรณีที่ไม่สามารถจะเอาชนะกันได้ก็อาจถึงกับ แตกแยกออกเป็น 2 ส่วน หรือ 3 ส่วน ของหน่วยชุมชนหรือหน่วยการเมืองใหม่แล้วแต่กรณี ดังนี้ ตัวอย่างที่116 เมื่อคิดถึงเส้นชัย บางห้วงขณะบิคิลากลับเห็นภาพของช่วงเช้าแห่งวินาศกรรมในเมืองบอสตัน ผลงานวางระเบิดงานวิ่งมาราธอนที่คนในโลกประชาธิปไตยเรียกว่าการก่อการร้าย แต่กลุ่มคนผู้เห็นดี-


113 เห็นงามกับการกระทำอันโหดเหี้ยม กลับเรียกว่าเป็นการส่งสัญลักษณ์ถึงความไม่เท่าเทีย ม และการกดขี่รังแก (สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย: 34) จะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งในสังคมส่งผลต่อการก่อการร้ายอันน่าสะพรึงกลัวอันจะนำมา ซึ่งความเสียหายมาสู่ทรัพย์สินและชีวิตของกลุ่มผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเผชิญกับเคราะห์ร้ายจากกลุ่มคน ที่เรียกการใช้ความรุนแรงทางสังเป็นการเรียกร้องสิทธิ์และเสรีภาพจากรัฐบาล แต่ไม่คำนึงถึง ผลกระทบที่จะตาม ดังนั้นความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมควรใช้สันติวิธีในการเป็นเครื่องมือ หรือเป็นสื่อกลางในการเจรจาและรับฟังซึ่งกันและกัน เพื่อป้องกันเหตุร้ายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตัวอย่างที่ 117 ทุกคนทำให้สังคมขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ผมไม่ได้เรียกลุงแค่เพราะเขาอายุมากกว่าพ่อผม แต่นับถือเขาที่เป็นคนทำงานสุจริตคนหนึ่ง หากไม่มีลุงคอยเก็บขยะ ชุมชนจะสะอาดได้อย่างไร (พลเมืองดี: 50) จะเห็นได้ว่า อุดมการณ์ในสังคมมีความแตกต่างทางความคิดที่คิดแต่เรื่องของตนเอง และไม่คำนึงถึงผลจากการบริหารประเทศที่ไม่จัดสรรงบประมาณหรือนโยบายให้ครอบคลุม ไปถึงประชาชนที่มีรายได้น้อยหรือมีอาชีพที่ไม่มั่นคงและไม่มีการรับผิดชอบต่อระบบชีวิตของผู้คน ที่มีความลำบาก อีกทั้งยังเห็นถึงระบบของสังคมที่เห็นว่าการมีคนเก็บขยะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่นว่าเหตุใดจึงมีประชาชนที่ยากจนอยู่ในสังคม และจะหาวิธีแก้ไขปัญหา ในเรื่องความยากจนอย่างไร ตัวอย่างที่118 แต่สำคัญคือเรื่องงิ้ว ที่ส่งเสียงรบกวนเวลาพักผ่อนคนในละแวกใกล้เคียง แม้ในชุมชนจะมี คนเชื้อสายจีนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อย บางทีบางเรื่องก็จำต้องคำนึงถึงคนหมู่มาก ผมไม่แน่ใจ


114 ในเจตนาของประธานชุมชน พอรับรู้มาบ้างว่า พวกเขาถือหางพรรคการเมืองคนละขั้ว แต่ก็ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า มีคนในชุมชนไม่น้อยที่รู้สึกเช่นนั้นจริง (เส้นแบ่ง: 61) จะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งในสังคมที่มีเหตุจากการเมืองส่งผลต่อการดำเนินนโยบาย ที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่พยายามดำเนินนโยบายเพื่อให้ฝ่ายของตน ได้ผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว โดยผลกระทบที่ตามมานั่นคือปัญหาความขัดแย้งภายในสังคม ที่เห็นต่างในการดำเนินนโยบาย ดังนั้นการใช้อำนาจในการดำเนินนโยบายต่างๆ ควรสอบถามทุกฝ่าย ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรและควรดำเนินการหรือไม่ควรดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ลงมติ ตามระบอบประชาธิปไตย ตัวอย่างที่119 รถยนต์ตำรวจสองคันก็เข้าจอดเทียบพร้อมกับตั้งกรวยจราจรปิดกั้นเส้นทางที่มีเรื่อง เกิดปากเสียงระหว่างพ่อค้าแม่ค้าและคนขับรถสิบล้อ ฝ่ายคนขับรถสิบล้อต้องการหาเจ้าของสุนัข ที่วิ่งตัดหน้ารถ (ใครจะเก็บซากหมาตัวนั้น: 118) จะเห็นได้ว่า การเกิดความขัดย้งในสังคมเกิดขึ้นได้ในทุกๆ เรื่องหากสังคมมีความคิด ที่ต่างกันหรืออุดมการณ์ที่ไม่สอดคล้องจึงนำมาซึ่งการปะทะคารมกันจนเกิดการเกลียดชังกันในสังคม หรือรวมไปถึงการใช้ความรุนแรงทางสังคม โดยไม่คำนึงถึงหน้าที่ในการเป็นพลเมืองที่ดีในสังคม อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่สังคมหลายสังคมที่ใช้เป็นข้ออ้างในการแบ่งฝ่ายเพื่อโจมตีซึ่งกันและกัน ดังนั้น การอยู่ร่วมกันของคนในสังคมต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น พึ่งพาอาศัยกัน ตัวอย่างที่120 ใครๆ ก็รู้ดีว่าเรื่องดังกล่าวถูกกุขึ้นเพื่อใส่ร้ายเธอ ความฝันโง่ๆ ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการ กำจัดเธอให้พ้นทาง การบูชายัญหญิงต่างด้าว ผู้เป็นกาลกิณีจะทำให้บ้านเมืองรอดพ้นจากความ หายนะ...


115 คนโง่เขลาที่โง่เง่ากว่านี้ก็รู้ดีว่า บ้านเมืองจะอยู่รอดหรือฉิบหายเป็นเพราะผู้ปกครองเมือง หาใช่หญิง ลูกครึ่งหิมพานต์เช่นเธอไม่ (เสียงร่ำไห้จากป่าหิมพานต์: 201) จะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งในสังคมเกิดจากการไม่ใช้ความรอบคอบในการไตร่ตรอง หรือพิจารณาเหตุและผลอย่างถี่ถ้วน เมื่ออีกคนพูดอีกคนมักจะใช้เป็นข้ออ้างตามกันในการใช้ สนับสนุนความคิดของตนเอง โดยตามความเป็นจริงแล้วนั้นการจะทำให้ประเทศชาติล่มจมไม่ได้ว่า ใครมีความเชื่อในสิ่งที่ตนเองนับถืออย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของผู้บริหารที่บริหาร จัดการนโยบายว่ามีความโปร่งใสและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนมากน้อยเพียงใดในการ ดำเนินโครงการหรือนโยบายต่างๆ


116 แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2563 สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 9 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์ ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2563 จำนวน 13 เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับสังคม แนวคิด เกี่ยวกับ อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง แนวคิด เกี่ยวกับการ มีส่วนร่วม ทางการ เมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง แนวคิดเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ พลเมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 1 สิ่งที่รออยู่หลังเส้น ชัย - - 2 พลเมืองดี - - 3 เส้นแบ่ง - - - 4 ขบวนการฟักทอง - - - 5 คราบที่ยังลอก ออกไม่หมด - - - 6 แค่ผ้าเช็ดเท้า - - - 7 ใครจะเก็บซาก หมาตัวนั้น - - - 8 ซากดึกดำบรรพ์ใน พิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ - - -


117 ตารางที่ 9 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์(ต่อ) ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2563 จำนวน 13 เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับสังคม แนวคิด เกี่ยวกับ อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง แนวคิด เกี่ยวกับการ มีส่วนร่วม ทางการ เมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง แนวคิดเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ พลเมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 9 นครลิง - - - - 10 เมล็ดพันธุ์ - - - - 11 แว่วข่าวคราวว่า ข้าวแข็ง - - - 12 สุนัขนำทาง - - - 13 เสียงร่ำไห้จากหิม พานต์ - - - รวม 7 เรื่อง 2 เรื่อง 3 เรื่อง 9 เรื่อง 5 เรื่อง จากการศึกษาวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2563 ได้เห็นถึงแนวคิด ทางการเมืองและสังคม โดยปรากฏแนวคิดทางการเมือง 3 ประเด็น คือ แนวคิดเกี่ยวกับการใช้อำนาจ ทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง และแนวคิด เกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง พร้อมทั้งยังมีแนวคิด ทางสังคม 2 ประเด็น คือ แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมืองและแนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้ง หรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม โดยประกอบไปด้วยเรื่องสั้นทั้งหมด จำนวน


118 13 เรื่อง สามารถสรุปการวิเคราะห์แนวคิดเกี่ยวกับการเมืองและสังคม ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้น รางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2563 ได้ดังนี้ วรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี พ.ศ.2563 ทำให้เห็นถึงการใช้อำนาจและพฤติกรรม ของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองจากการใช้อำนาจทางการเมืองในการก่อรัฐประหารที่ไม่สนใจว่าจะมี ผลกระทบใดที่จะเกิดขึ้นในภายหลังหรือไม่ การทำรัฐบาลที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น ส่งผลต่อระบบ เศรษฐกิจ การเมือง สังคม รวมไปถึงเสถียรภาพการบริหารจัดการประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากการทำรัฐประหารถือเป็นการขโขยสิทธิ์และเสรีภาพของประชาชนและประชาธิปไตยจาก ระบอบการปกครอง โดยจัดตั้งรัฐบาลรัฐบาลชั่วคราวโดยอ้างว่าเป็นการรักษาความสงบของประและ นำประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย พร้อมร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ อีกทั้งยัง ใช้อำนาจในการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อออกกฎหมายให้วุฒิสภาสามารถเลือกผู้นำประเทศคนใหม่ในคราบ คณะทำงานคนเก่าจากรัฐบาลที่ลักขโมยสิทธิ์และเสรีภาพของประชาชน อีกทั้งยังเห็นถึงในปี พ.ศ. 2562 มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเป็นผู้แทนใน การโหวตคะแนนเลือกผู้บริหารประเทศ เป็นช่วงที่ทุกฝ่ายเริ่มต้นการพัฒนาการศึกษา สังคม ประเทศ ในทุกด้านอันจะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองภายในประเทศในการบริหารจัดการปัญหาของประเทศ แต่อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดเดิมภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ละฝ่ายต่างพยายามหาวิธี แก้รัฐธรรมที่มาจากในแต่ละฝ่ายที่เสนอมาทั้งฉบับจากพรรคการเมือง คณะรัฐบาล หรือองค์กรอิสระ เช่นการผลักดันกฎหมายพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม กัญชาเสรี เป็นต้น แต่การมีส่วนร่วมทางการเมืองของ ประชาชนกลับต้องหยุดชะงัก เนื่องจากการใช้สิทธิ์และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ การเมืองทั้งในด้านดีและข้อบกพร่อง ไม่มีความหมายต่อผู้นำประเทศ เพราะผู้บริหารประเทศที่มา จากการเลือกตั้งของประชาชนและคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญ จนเกิด เสียงพากย์วิจารณ์ในหลายแง่มุม ยังเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเกิดกระแสนิยมไปตามยุคตามสมัยอย่างรวดเร็วทั้ง ในความคิด ทัศนคติ การประพฤติตนของสังคมไทยที่พยายามตามกระแส เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มี กระแสในโลกอินเตอร์เน็ตก็แห่ติดตามและวิจารณ์ฝ่ายตรงข้ามจนขาดการไตร่ตรองถึงข้อมูล ข้อเท็จจริงในสังคม จิตใจของประชาชนในสังก็เปลี่ยนแปลงไปจากฝ่ายหนึ่งไปสู่ฝ่ายหนึ่งเพื่อให้ได้มา ในผลตอบแทนที่ตนเองจะได้ในการออกมาแสดงความคิดเห็นเกิดการแสดงความคิดเห็นในหลายกลุ่ม ชน โดยใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิ์และเสรีภาพของตนเอง แต่ความความที่ เกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจากการสร้างข้อมูลเพื่อใช้เสพและนำไปสู่การ โจมตีกันและกัน ข้อความที่เกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตหรือการจัดเวทีประท้องของแต่ละฝ่ายนำมาอ้าง กลับกลายเป็นวรรณกรรมน้ำเน่าที่มีแต่น้ำกับกลิ่นเน่าในของเก่าเอามาเล่าใหม่เพื่อให้ประชาชน


119 ออกมาปกป้องฝ่ายของตน แต่ไม่มีเนื้อหาสาระอื่นๆ ที่จะนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขในจุดบกพร่อง ต่าง ฝ่ายต่างไม่รับฟัง ไม่ยอมรับการกระทำของตนจนเกิดการปะทะระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทำ ให้มีความเสียหายเกิดขึ้นในสังคม พร้อมทั้งยังเห็นการใช้สิทธิและเสรีภาพที่ได้มาช่างเป็นสิทธิ์และเสรีภาพที่ยากยิ่งที่จะสามารถ ใช้ได้อย่างอิสระ เนื่องจากหลายครั้งที่ประชาชนออกมาเรียกร้องสิทธิ์ที่พึงมีในการใช้ชีวิตกลับถูก ปฏิเสธ เช่น การเรียกร้องสิทธิ์เรื่องสมรสเท่าเทียม แต่ถูกวิจารณ์จากนักการเมืองบางกลุ่ม ทัศนคติที่ มองกลุ่มหลากหลายทางเพศว่าเป็นบุคคลที่เรียกร้องสิทธิ์ของตนเองมากเกินไป จำกัดสิทธิ์ต่างๆ เพื่อ ไม่ให้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างสมบูรณ์ รวมไปถึงการวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหรือ รัฐบาล แต่ถูกลิดรอนสิทธิ์ในการเรียกร้องหรือวิจารณ์ โดยการใช้กฎหมายในการปิดปากประชาชน พร้อมทั้งใช้ความรุนแรงเพื่อยุติความเสรีในการแสดงออกของประชาชน รวมไปถึงความขัดแย้งที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายหลายข้อที่มีความเกี่ยวข้องใน การสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ออกกฎหมายเพื่อเอื้อต่อผลประโยชน์ให้กับ พวกพ้องของตนเองในการสืบทอดอำนาจในการขึ้นเป็นผู้บริหารประเทศ รวมไปถึงการใช้กฎหมายใน มาตรา 112 กลั่นแกล้งเหล่านักรบบนท้องถนนที่เรียกร้องให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนนำไปสู่การ จับกุมผู้ชุมนุมหรือนักเคลื่อนไหวสังคมที่ใช้สัญลักษณ์ สามนิ้ว นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลให้เกิดความ ขัดแย้งด้านอุดมการณ์และความคิดระหว่างบุคคลที่ต่างฝ่ายต่างออกมาแสดงจุดยืนทางสังค มที่ พยายามสร้างพลังของตนเองว่าอยู่ฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวาทางความคิด โดยแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2563 ได้ปรากฏแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิ์และหน้าที่พลเมืองมากถึง 9 เรื่อง ทำให้เห็นถึงการใช้สิทธิ์ และเสรีภาพของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตาม รัฐธรรมนูญปีพ.ศ.2560 เป็นกฎหมายที่ประชาชนถูกลิดรอนสิทธิ์ เนื่องจากการใช้สิทธิ์ในการเลือก ผู้บริหารประเทศเป็นกฎหมายที่ใช้เพื่อนำไปสู่การสืบทอดอำนาจจากยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รัฐบาลชั่วคราว และไปสู่ยุคการเลือกตั้งจากประชาชนและทหารสรรหา เนื่องจากรัฐธรรมนูญปีพ.ศ. 2560 ที่ประกาศออกมานั้นสว.สามารถมีสิทธิ์ในการโหวตจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่สว.มาจากการสรรหา ของรัฐบาลชั่วคราวโดยมีสมาชิกถึง 250 จึงเกิดรัฐบาลที่สว.และสส.ร่วมกันโหวตเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่ อธิปไตยของชาติยังไม่ถูกแก้กฎหมายเพื่อให้ประชาชนสามารถมีสิทธิ์เลือกผู้บริหารประเทศได้อย่าง แท้จริง ตามระบอบประชาธิปไตยที่พึงจะเป็น


120 3.5 วิเคราะห์แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัล พานแว่นฟ้า ประจำปี2564 3.5.1 แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง 3.5.1.1 แนวคิดเกี่ยวกับอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง แนวคิดอำนาจทางการเมือง หมายถึง ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับอำนาจ สถาบัน และรัฐบาล ที่ได้รับการยอมรับว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ควบคุมและครอบคลุมสังคมในการจัดตั้งและรักษาระเบียบ สังคม มีอำนาจที่จะนำมาซึ่งวัตถุประสงค์ร่วมกันของสมาชิกในสังคม และมีอำนาจในการ ประนีประนอมความคิดเห็นของคนต่างๆ ในสังคม ส่วนการปกครอง คือการใช้อำนาจหน้าที่ในการ จัดสรรสิ่งที่มีค่าต่อสังคมอย่างเป็นธรรม อำนาจทางการเมืองคือการใช้อำนาจของผู้ปกครองเหนือ ผู้ปกครองซึ่งเป็นอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง ที่รัฐใช้ในการควบคุมพฤติกรรมของบุคคลและ กลุ่มบุคคลในสังคม พฤติกรรมทางการเมือง เป็นการแสดงออกของผู้ที่มาอำนาจทางการเมือง โดยผู้ที่ เข้ามามีอำนาจทางการเมืองนั้นส่วนใหญ่มักจะใช้ประโยชน์จากอำนาจเพื่อตนเองและพวกพ้องโดยไม่ สนใจอุดมการณ์ทางการเมืองในอดีตของตน การเมืองจึงเป็นพฤติกรรมของคน จากคนที่มุ่งหวังเข้ามา เปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีขึ้น แต่กลับกลายเปนการเข้ามาใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่งไม่ต่างจากผู้มี อำนาจอยู่ก่อน อำนาจทางการเมืองจึงมีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงบุคคลให้ลุ่มหลง มัวเมาไปกับสิ่ง ที่สังคมเกรงกลัว จึงมีการใช้อำนาจอย่างไร้ขอบเขต ไร้ความเห็นอกเห็นให้ประชาชนจนหลงลืมไปว่า เมื่อหมดอำนาจ เขาเหล่านั้นก็ต้องกลับสู่สถานการณ์เป็นประชาชนธรรมดาสามัญ ดังนี้ ตัวอย่างที่121 วันที่มีคำสั่งให้เข้าเผชิญหน้า ผมคิดถึงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย วันที่มีคำสั่งให้จับอาวุธชิ้นนั้น ออกไป ผมคิดถึงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย วันที่ได้ยินคำสั่งยิง ผมคิดถึงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย เมื่อนิ้วผม สอดเข้าโกร่งไกปืน ผมจำเป็นต้องคิดถึงเพียงหน้าที่และจุดมุ่งหมาย (มือเย็น: 35) จะเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐพยายามใช้ความรุนแรงในการควบคุมประชาชน โดยไม่ คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมในการป้องกันและปราบปรามเหตุร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในสังคมจนนำไปสู่ การประท้วงที่มีความเสียหายเกิดขึ้นทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงความสามัคคีของคน


121 ในสังคม จนเกิดทัศนะภาพจำด้านลบต่อเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ อีกยังยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ ของประเทศที่ชาวต่างประเทศจะไม่กล้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ตัวอย่างที่122 วันนี้ผลนั่งลงใต้ร่มเงาของพ่อ มีเรื่องเล่าสถานการณ์อันน่าหวาดหวั่นประเทศเพื่อนบ้าน ของเราร้อนเป็นไฟ สังเวยชีวิตไปนับร้อยๆ ศพแล้ว ขณะที่ประเทศของเราเอง ก็กำลังตกอยู่ใน สถานการณ์การเผชิญหน้าอันคุกกรุ่น (มือเย็น: 37) จะเห็นได้ว่า การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของ ประเทศและการใช้ความรุนแรงนั้นเป็นวิธีที่ไม่สันติ เนื่องจากอาจเกิดผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทั้งในด้านประชาชนขาดความเชื่อมั่น ไม่มีเสถียรภาพในประเทศ ประชาชนเดือดร้อน เนื่องจากอาจ ทำให้ทรัพย์สินหรือชีวิตของประชาชนไม่มีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตต่อไป ดังนั้นทุกฝ่ายต้องใช้ หลักสิทธิมนุษยธรรมในการพูดคุย และเจรจาหาทางออกร่วมกัน ตัวอย่างที่123 จากการเป็นผู้นำชาวบ้านต่อสู้กับโครงการขนาดยักษ์ของภาครัฐที่กำลังรุกรานทำลายวิถีชีวิต ดั้งเดิมของชุมชน (นาฏกรรมบนผืนน้ำในค่ำคืนที่เสียงนั้นเลือนหายไป: 41) จะเห็นได้ว่า การใช้อำนาจทางการเมืองในการสนองนโยบายของฝ่ายบริหารโดยไม่ คำนึงถึงความเดือดร้อนถือเป็นการใช้อำนาจทางการเมืองในการกดขี่ข่มเหงประชาชนให้ยอมรับและ ไม่ให้มีสิทธิ์ในการเรียกร้องความเป็นธรรมในการดำเนินชีวิต เนื่องจากโครงการที่มีการจัดทำมานั้น เป็นโครงการที่สร้างความเดือดร้อนให้กันคนในสังคมและสร้างความเดือดร้อนให้กับธรรมชาติ และสัตว์ป่าอีกด้วย ดังนั้นฝ่ายบริหารควรคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและรับฟัง เหตุผลของชาวบ้านอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งไม่ใช้อำนาจในการบริหารจัดการ


122 ตัวอย่างที่124 หุ่นยนต์ตรงหน้าของผมกลายเป็นคนมากมายที่กำลังทำงานอย่างหนัก ร่างกายเต็มไปด้วย เหงื่อที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า และหน้าอิดโรย (คนละโลกเดียวกัน: 88) จะเห็นได้ว่า การใช้อำนาจทางการเมืองของคนในสังคมเกิดขึ้นโดยการใช้คนที่มีอำนาจ น้อยกว่าตนเองเป็นเหมือนทาสและพยายามสร้างภาพให้กับตัวเองว่าอยู่บนโลกที่สวยงาม อยู่ตลอดเวลาและไม่คำนึงถึงความเป็นอยู่ของประชาชนทุกคนที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และขับเคลื่อนสังคมเช่นเดียวกันกับคนอื่นในสังคม ต่างเพียงอายุ ฐานะ รวมไปถึงอาชีพ ดังนั้นเรา ไม่ควรใช้อำนาจในการสร้างภาพให้เกิดสังคมจอมปลอมแต่ต้องรับสารที่เป็นจริงและหาวิธีการ แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ตัวอย่างที่125 ภาพที่ผมเห็นก็ได้กลายเป็นคนจำนวนมากมายกำลังทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย พวกเขาไม่ใช่ หุ่นยนต์ สิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง เสียงของพวกเขาร้องขอความยุติธรรมจากการ ใช้ชีวิตที่ทุกข์ยาก สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาต่างออกไปจากชีวิตของผมอย่างสิ้นเชิง (คนละโลกเดียวกัน: 91) จะเห็นได้ว่า การใช้แรงงานเยี่ยงทาสเป็นการใช้อำนาจทางสังคมและการเมืองในการ กดขี่แรงงานทาสให้อยู่ใต้บังคับบัญชาและอยู่ภายใต้อำนาจของผู้มีอิทธิพล อีกทั้งยังเป็นการไม่ให้ ความเคารพสิทธิ์และเสรีภาพของผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงความเป็นเพื่อนร่วมโลกหรือความเป็นมนุษย์ ทั้งในด้านสาธารณสุขความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิตของชนชั้นแรงงานให้มีสิทธิ์และเสรีภาพให้เท่าเทียม


123 ตัวอย่างที่126 “จริงของมึงว่ะเพื่อน...กูเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้” ประชาบอกกับผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเพื่อน แก่กันมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะเบาๆ ในลำคอ “งั้นมึงก็รับๆ เงินไป แล้วพรุ่งนี้ก็อย่าลืม ออกมากาเบอร์หนึ่งด้วย” (ลึกลงไปใต้ระดับพื้นดิน: 123) จะเห็นได้ว่า การเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีความน่าเชื่อถือทั้งในด้านการงาน การมีตำแหน่ง หน้าที่ในสังคม แต่กลับใช้อำนาจการเมืองในการมีความน่าเชื่อถือในการเข้ามาแทรกแซงในการ เลือกตั้งโดยใช้อำนาจของตนเองมาใช้เป็นตัวกลางแจกจ่ายเงินเพื่อซื้อสิทธิ์ประชาชนโดยเอาความรู้มา ใช้ในทางที่ผิดทั้งในด้านจรรยาบรรณและไม่ใช้หน้าที่ รวมไปถึงการใช้หน้าที่ที่ตนควรหาวิธีการ ในการแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ตัวอย่างที่127 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง พ่อของหลินผู้มองเห็นแต่ต้นว่าฝ่ายคัดค้านถนนมีจำนวน มากกว่ากลับลำประกาศว่าหลังจากเดินสายคุยกับประชาชนทั่วถึง จึงตัดสินใจใหม่ร่วมคัดค้านการตัด ถนน อ้างว่าแม้ความคิดส่วนตัวของเขาถือว่าเลิศที่สุดแล้วก็ยังยอมเสียสละมาเห็นด้วยกับเสียงส่วน ใหญ่ของประชาชนคำว่า “เห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน” พลิกผู้ร้ายกลายเป็นพระเอกชั่ว ข้ามคืน เล่นเกมการเมืองแบบเหนือชั้นกว่า จึงชนะเลือกตั้ง “อั๊วยังเลือกเขาเลยคิดดูซี...” (เหลี่ยมหลอก: 192) จะเห็นได้ว่า เป็นการแสดงให้เห็นพฤติกรรมของนักการเมืองที่เป็นการหาประโยชน์ ให้กับตนเอง เพื่อผลประโยชน์ในอนาคต คำว่าเห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนนั้น เป็นการ พูดเพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าตนอยู่ข้างประชาชนเสมอ แต่ในขณะเดียวกัน นักการเมืองคนนั้นก็ หวังเพียงเพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น หรือที่เรียกกันว่าเกมการเมือง โดยมีนักการเมืองเป็นผู้เดิน เกมและมีประชาชนเป็นหมากในเกม การเดินเกมของนักการเมืองจึงสามารถเดินได้โดยง่าย เพื่อทำให้ ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจตน พฤติกรรมทางการเมืองของมนุษย์อยู่คู่กับสังคมการเมืองมาอย่างช้านาน การอยู่ร่วมกันในสังคมทำให้ประชาชนต้องเคารพกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนด แต่ก็ยังคนมีบางคนที่


124 ต้องการมีอำนาจเหนือผู้อื่น ต้องการเป็นผู้นำหรือผู้ปกครอง การแสวงหา หรือช่วงชิงอำนาจจนเกิด การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายจึงเกิดขึ้นกับทุกสังคม ตัวละครในเรื่องชี้ให้เห็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการ อำนาจจนเกิดการยึดถือตัวตนว่ามีความชอบธรรมเสมอมาจนเกิดการใช้อำนาจในทางมิชอบ สะท้อน พฤติกรรมของนักการเมืองผ่านตัวละครนักการเมืองที่ไม่ดีใช้อำนาจไปในทางมิชอบ แสวงหา ผลประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรม ส่งผลต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่พัฒนา ตัวอย่างที่128 “ผมมานั่งอยู่ตรงนี้เพื่อขอให้เราทุกคนช่วยกันประสานประโยชน์ คุณจะพูดเรื่องการเมืองก็ได้ แตะนิดหน่อยพอให้เรื่องมีรสชาติ แต่อย่าถึงขนาดโจมตีตัวบุคคลที่มีอยู่จริง เพราะลูกๆ นักศึกษาของ ผมอาจเดือดร้อน หรืออาจมีคนไม่หวังดีฟ้องหมิ่นประมาทเป็นเรื่องใหญ่โต คุณก็รู้ว่ายุคนี้อำนาจอยู่ใน มือใคร เขาจะสั่งยังไงก็ได้ ” (องก์ที่ 3: 210) จะเห็นได้ว่า ประเทศที่ให้ชื่อว่าทุกคนอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยโดยมีรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด กลับไม่สามารถวิพากษวิจารณ์หน่วยงานรัฐได้ เนื่องจากประชาชนไม่ได้มีอำนาจ มากพอเท่ารัฐบาล การวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานรัฐหรือกลุ่มคนบางกลุ่มจึงไม่สามารถกระทำได้ โดยตรง หรือกระทั่งไม่สามารถแตะต้องได้ การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเป็นการติชมตาม วิสัยที่ประชาชนพึงกระทำได้ การแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริตอันมีลักษณะเป็นการติชม ด้วยความเป็นธรรม ย่อมเป็นวิสัยที่ประชาชนจะพึงกระทำได้ ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ของรัฐบาลย่อมเป็นสิ่งที่ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจมีความชอบธรรมที่จะกระทำได้ และไม่ถือว่า เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทแต่อย่างใด ตัวอย่างที่ 129 “เขาไม่ได้อยู่ชมรมละครเพราะรักละคร ไม่ได้ทำละครการเมืองเพราะรักประชาธิปไตย เขา แค่ต้องการสื่อที่เข้าถึงง่ายสักอย่างหนึ่งไปต่อยอดชื่อเสียงว่าอยู่ข้างเดียวกับกระแสของคนรุ่นใหม่” (องก์ที่ 3: 215)


125 จะเห็นได้ว่า ตัวละครได้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมทางการเมือง เนื่องจากกระแสวัยรุ่น เป็นกระแสที่เข้าถึงได้ง่าย และสามารถเรียกกระแสให้ตนเองได้มากที่สุดทางหนึ่ง นักการเมือง ทั้งหลายจึงอยากจะได้กระแสจากคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ตนเองเป็นที่รู้จักและมีอำนาจมากขึ้น เพื่อผลประโยชน์ในภายภาคหน้า และไม่ได้ต้องการที่จะเรียกร้องประชาธิปไตยหรืออยู่ข้างประชาชน อย่างแท้จริง 3.5.1.2 แนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นการมีส่วนร่วมในการปกครองของประชาชนตามสิทธิ ที่ระบบการเมืองและกฎหมายกำหนด เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยสมัครใจของประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้ มีอิทธิพลโน้มน้าวการกำหนดนโยบายของรัฐทั้งในด้านการเมืองและการปกครองทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ ดังนั้นการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ตัดสินใจและ กำหนดความต้องการของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้อำนาจแก่บุคคล กลุ่ม องค์กรชุมชนสามารถระดม ความสามารถในการจัดการทรัพยากรได้ การตัดสินใจและการกำกับดูแลกิจกรรมชุมชนมากกว่าการ ป้องกัน นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของประชาชนสามารถกำหนดชีวิตของตนเองเพื่อพัฒนาชีวิตตาม ความจำเป็นอย่างมีศักดิ์ศรี และสามารถพัฒนาศักยภาพของคนหรือชุมชนในด้านภูมิปัญญา ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และการจัดการและความตระหนักในการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ดังนี้ ตัวอย่างที่130 ถนนสายนี้นับเป็นเหมือนถิ่นเก่าสำหรับนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างผม ถ้าต้นไม้ริมถนน เหล่านี้พูดได้ พวกมันคงจะกล่าวคำทักทายกับผมอย่างคนคุ้นเคย นั่นเพราะทุกครั้งที่มีการเดินขบวน เรียกร้องประชาธิปไตยบนถนนแห่งนี้ผมจะมาเข้าร่วมด้วยเสมอ จำได้ว่าครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2516 ตอนนั้นผมอายุเพียง 16 ปี ยังเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาๆ คนหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เป็น อุปสรรค ผมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย รวมกับนิสิตนักศึกษาและประชาชนมากมาย จนดอกไม้แห่งประชาธิปไตยขึ้นบนแผ่นดินไทย แต่แล้วไม่นานมันก็กลับร่วงโรยราลงไปอีก กระทั่ง วันนี้เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2535 เป็นอีกครั้งที่ผมกลับมายังถนนราชดำเนินมาร่วมกับผองเพื่อน มากมายเพื่อช่วยกันปลูกดอกไม้แห่งประชาธิปไตยขึ้นใหม่อีกครั้ง และตั้งใจว่าจะให้มันเติบโตและเบ่ง บานอย่างยั่งยืนไปอีกนานเท่านานประการต่อมาเป็นเรื่องที่น่ายินดี (หลักกิโลเมตรที่ประชาธิปไตย: 177)


126 จะเห็นได้ว่า มีการเสนอแนวคิดเรื่องประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่เกิดเหตุการณ์ทาง การเมืองในอดีต นั่นคือ เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ชัยชนะของประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน คณาธิปไตย การชุมนุมครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม 2516 เกิดขึ้นด้วยความไม่พอใจต่อรัฐบาลเผด็จการ จากเหตุสะสมต่างๆ หลายประการ อันสืบเนื่องจากการใช้อำนาจโดยมิชอบ รัฐบาลทหารใช้กำลัง สลายผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย แต่สุดท้ายสิ้นอำนาจ ประชาชนได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา แต่ สุดท้ายประชาธิปไตยก็กลับหลุดมือประชาชนไปอีกครั้ง กระทั่งเดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ.2535 การ รัฐประหารของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) นำโดย พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ที่ยึด อำนาจจากรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อปี 2534 และเหตุการณ์พฤษภา 2535 เป็นสอง เหตุการณ์ที่แยกจากกันไม่ได้เพราะรัฐประหาร รสช. นำมาสู่การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่จบลง ด้วยการนองเลือดอันเป็นที่มาของคำว่า "พฤษภาทมิฬ" จากเหตุการณ์ที่กล่าวมานั้นตัวละครได้เป็น ส่วนร่วมในการเรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อให้ประเทศชาติกลับมามีอำนาจโดยมีประชาธิปไตยที่เกิด จากประชาชนอย่างแท้จริง ตัวอย่างที่131 นึกถึงคำบอกเล่าของเด็กหนุ่มเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองและการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย รวมถึงความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังปี พ.ศ. 2535 จนถึงการชุมนุมในวันนี้ ซึ่งทีแรกที่ได้ฟัง ผมเข้าใจเอาเองว่าเขานำมาจากนิยายเล่มไทนสักเล่ม แต่สิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็นวันนี้ ล้วนแต่เป็นประจักษ์พยานในการเดินทางของประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดี จนผมแทบทำใจให้ยอมรับ ไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น หากจะนับตามระยะเวลาแล้ว การเดินทางผ่านกาลเวลาของประชาธิปไตยไทยกิน เวลายาวนานล่วงมาแล้วถึง 8 ปี และถ้าหากจะนับตามระยะทาง ประชาธิปไตยไทยก็เดินทางผ่าน ตำราเรียนและการเลือกตั้งในระดับต่างๆ มาแล้วทั่วประเทศ แต่ถึงวันนี้ประชาธิปไตยของไทยกลับยัง ไม่ไปไหน ยังคงวนเวียนอยู่บนถนน เสียงเรียกร้องไม่เคยแผ่วเบาลงการต่อสู้กับความอยุติธรรมและ อำนาจรัฐที่ถูกอุปโลกน์ให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามไม่เคยจบสิ้น เราต่างโหยหาประชาธิปไตย แต่เมื่อเราได้มัน มา เรากลับไม่เคยคิดจะร่วมกันดูแลรักษามันไว้ให้ดี สุดท้ายเราก็สูญเสียมันไปอีก เป็นอยู่เช่นนี้ครั้ง แล้วครั้งเล่าตลอดเกือบเก้าสิบปีที่ผ่านมา เช่นนี้แล้วการชนะหรือแพ้ของผู้คนในวันนี้ล้วนไม่ก่อให้เกิด ประโยชน์ใดๆ การได้มันมาครอบครองไว้จะต่างอะไรกับการไม่ได้มา เพราะสุดท้ายมันคือเรื่องลัม เหลวโดยสิ้นเชิง หากเราทุกคนยังไม่ได้เข้าใจและรู้คุณค่าอย่างแท้จริงว่า 'ประชาธิปไตย' คืออะไรและ มีคุณค่าเพียงใด (หลักกิโลเมตรที่ประชาธิปไตย: 184-185)


127 จะเห็นได้ว่า ผู้แต่งต้องการสะท้อนให้เห็นว่าต่อให้เวลาผ่านไปนานเพียงใด ประชาธิปไตยที่ประชาชนเรียกร้องนั้นก็ยังคงเรียกร้องเรื่อยมา เพราะประเทศนี้ไม่เคยให้ ประชาธิปไตยโดยแท้จริงให้กับคนในประเทศ การออกมาเรียกร้องจึงเป็นสิ่งที่คนในประเทศสามารถ ทำได้มากที่สุด แต่การออกมาเรียกร้องในทุกครั้งย่อมต้องเกิดการสูญเสียหรือเกิดการทำร้ายจาก ฝ่ายรัฐบาลหรือทั้งสองฝ่าย เพราะอำนาจอยู่ในมือของรัฐบาล ทำให้ประเทศไทยในปัจจุบันกลับไม่ เดินหน้าพัฒนาตามที่ควรจะเป็น แต่เมื่อประชาชนได้ประชาธิปไตยกลับคืนมาแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับ การไม่ได้มา เพราะประชาชนทุกคนยังไม่เข้าใจและเห็นคุณค่าของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ดังนั้น ประชาชนจึงต้องเห็นความสำคัญและทำความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยที่เราเรียกร้องมาตลอดให้ เข้าใจเสียก่อน ประเทศจึงจะสามารถพัฒนาไปได้ 3.5.1.3 แนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองคนในสังคมมีความคิดเห็นต่างกัน เนื่องจากมนุษย์มีความ หลากหลายทางความคิดเห็น จึงเป็นเรื่องปกติที่สังคมจะมีความคิดเห็นต่างกัน ความเห็นต่างกันจึงไม่ ขัดแย้งหรือแตกแยก แต่ความเห็นต่างกันอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง เพราะ ความขัดแย้งทางการเมือง เกิดขึ้นจากการมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในสังคมเนื่องจากเพราะทรัพยากร ในสังคมมีจำกัดในขณะที่ประชาชนมีความตองการทรัพยากรอย่างไม่จำกัด ความขัดแย้งทางการเมือง จึงเกี่ยวของกับความคิดเห็นของคนในสังคมที่ไม่เห็นด้วยหรือมีความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม มุมมองทาง การเมืองนี้เป็นที่ถกเถียงกันมาก หากไม่สามารถระงับข้อพิพาทได้ ประเทศก็จะตกอยู่ในความโกลาหล ตอมามีมุมมองทางการเมืองใหม่เกี่ยวกับผลประโยชนที่ประนีประนอม เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งจาก การดำเนินการทางการเมืองที่ไม่มีทางแกไข ดังนี้ ตัวอย่างที่132 เรื่องของเรื่องเพียงแค่คนงานกลุ่มหนึ่งต้องการลาพักผ่อนเพื่อออกประท้วงกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่พวกผู้บริหารกลับไม่เห็นด้วยและไม่อนุญาต (นาฏกรรมบนผืนน้ำในค่ำคืนที่เสียงนั้นเลือนหายไป: 42) จะเห็นได้ว่า การใช้อำนาจทางสังคมและอำนาจทางการเมืองในการใช้อำนาจในการ ตัดสินผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลหรือรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นโดยไม่เคารพสิทธิ์และเสรีภาพของ


128 ผู้อื่นโดยไม่ใช้หลักการตามระบอบประชาธิปไตยในการลงประชามติและยุติความรุนแรงด้วยการ เจรจา หรือสันติวิธี ดังนั้นการเป็นเจ้านายของผู้คนจะต้องใช้หลักทศพิธราชธรรม และเคารพสิทธิ์ และเสรีภาพของผู้อื่นอย่างเสมอภาค ตัวอย่างที่133 เมื่อครั้งมีกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่ม็อบเสื้อเหลือง ปี 2548-2551 สลับกับม็อบเสื้อแดง ปี 2552- 2553 ซึ่งปรากฏภาพเหตุการณ์ความรุนแรง เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนจนทำให้มี ผู้บาดเจ็บหลายพันคน มีผู้เสียชีวิตเป็นร้อยคน (นาฏกรรมบนผืนน้ำในค่ำคืนที่เสียงนั้นเลือนหายไป: 43) จะเห็นได้ว่า การใช้ความรุนแรงทางสังคมที่ใช้อาวุธในการควบคุมการชุมนุมของฝูงชน เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม เนื่องจากการประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมหรือสิทธิ์ และเสรีสามารถพึงกระทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งการใช้ความรุนแรงกับเจ้าของประเทศ ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์และเสรีภพของผู้อื่นทั้งยังเป็นการนำพาไปสู่ความขัดแย้งที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่134 ปริซึมประชาธิปไตย ผมเอาแต่มองหาความหมายที่เป็นสากล จนหลงลืมความหมาย ที่ปัจเจกชนคนหนึ่งจะสามารถเข้าใจมันได้เช่นนี้เราจึงถูกหลอก แต่ที่จริงนั้นกลวงเปล่าไม่มีอะไรเลย ต่อให้สถาปัตยกรรมนี้จะพังทลายกลายเป็นเศษธุลี เราก็คงยังรับรู้การมีอยู่ของประชาธิปไตยได้ เพราะเรารับรู้ถึงการมีอยู่ไม่ใช่เพียงปรากฎให้เห็น (ประชาธิปไตยที่อยู่ในกล่อง: 62) จะเห็นได้ว่า ความคิดต่อระบอบประชาธิปไตยในความเป็นจริงหรือภายในโลกนี้ถึงตาม ทฤษฎีที่เรียนรู้หรือถูกบอกเล่ามานั้นเป็นเพียงทฤษฎีที่นำไปสู่โลกเสรีนิยมแต่ในแง่หนึ่งทุกประเทศ ที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยในการบริหารและการจัดการภายในประเทศไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตย ทั้งหมด โดยจะมีรบอบอื่นๆแทรกอยู่ไม่ว่าการใช้ประชานิยมในการดำเนินนโยบายของแต่ละประเทศ ดังนั้นประชาธิปไตยบนโลกบางครั้งไม่เห็นเป็นรูปธรรมแต่เรายังรับรู้ได้ว่ามีอยู่บนโลกใบนี้


129 ตัวอย่างที่135 การออกแบบโดยละเลยเงื่อนไขส่วนบุคคลนั้นย่อมมิอาจสร้างความยั่งยืนขึ้นมาได้ ในเมื่อมันก็ เหมือนประชาธิปไตยที่ปัจเจกชนทุกคนควรได้รับความเคารพในฐานะองคาพยพหนึ่งของสังคม (ประชาธิปไตยในกล่อง: 63) จะเห็นได้ว่า ระบอบประชาธิปไตยในสังคมเป็นสิ่งที่ที่ไม่ใช้เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็น เรื่องที่ทุกคนต้องตระหนักและให้คุณในความเป็นระบอบประชาธิปไตยทั้งยังต้องนำไปใช้ให้ถูกต้อง และได้มาซึ่งความชอบธรรมในการสร้างระบอบประชาธิปไตยโดยไม่เบียดเบียนบุคคลอื่นหรือการทำ ให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมทั้งยังต้องเคารพสิทธิ์และเสรีภาพของทุกคนในการใช้ระบอบประชาธิปไตย ให้มีความน่าเชื่อถือและไม่หาผลประโยชน์ในกระบวนทางสังคมในการใช้ระบอบประชาธิปไตย ตัวอย่างที่136 ตาเปี๊ยกตัดสินใจเรียกลูกกุญแจสำรองคืนจากลูกชาย แล้วเก็บมันไว้กับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่า ความเป็นผู้มีจิตสาธารณะของลูกชายตาเปี๊ยกไม่อาจยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ สองพ่อลูกจึงถกเถียงกันอย่าง รุนแรงจนตาเปี๊ยกถึงกับความดันขึ้น (กุญแจสำรอง: 71) จะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน และไม่รับฟังเหตุผลของแต่ละฝ่ายจึงทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง ที่อาจเกิดขึ้นหรือรวมไปถึงความไว้วางใจที่มีต่อกันไม่เกิดขึ้นได้อีกระหว่างบุคคลหรือคนในสังคม จนไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีได้ ดังการอยู่ร่วมกันทางสังคมหากทัศนคติทางการเมืองหรือการบริหาร ต่างกันจะต้องพูดคุยและใช้การเจรจาให้เกิดการแก้ปัญหาร่วมกันให้ได้


130 ตัวอย่างที่137 ยังจำการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านครั้งล่าสุดเมื่อสิบปีก่อนได้ดี ครั้งนั้นมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด รุนแรง ถึงขนาดชาวบ้านแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกระทบกระทั่งกันจนเลือดตกยางออก (ลึกลงไปใต้ระดับพื้นดิน: 114-115) จะเห็นได้ว่า การที่ทัศนะทางการเมืองต่างกันทั้งในด้านความคิดและการแสดงท่าทีต่างๆ ที่ทำให้เห็นถึงการแสดงออกทางการเมือง อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความรู้และเข้าใจในด้านระบอบ ประชาธิปไตยน้อย เพราะระบอบประชาธิปไตยสร้างมาให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการบริหารจัดการ เพื่อให้การเมืองเป็นของประชาชนทุกคน พร้อมทั้งให้ประชาชนอยู่ร่วมกัน อย่างให้เห็นต่างได้แต่ต้องใช้การรับฟังเหตุและผลของผู้อื่น เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ตัวอย่างที่138 ผมรู้จักยูกันดาจากชื่อเสียงของอีดี อามิน นายทหารอดีตผู้นำเผด็จการ ที่คร่าชีวิตประชาชนที่ ต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์ตนไปหลายแสน หลังอีดีหมดอำนาจผู้คนก็ยังอยู่ในความทุกข์ยาก (สเปโร โซนาตา บทเพลงของคนจร: 133) จะเห็นได้ว่า ผู้แต่งได้นำเอาเรื่องความขัดแย้งของประเทศยูกันดาที่เกิดจากภายใต้ การปกครองของประธานาธิบดี อีดี อามิน ที่เสรีภาพเรื่องการแสดงความคิดเห็นต่างพบเจอบ่อย ในประเทศที่มีเสรีภาพ ทว่าในบางพื้นที่บนโลก คำว่าการวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สังคมและการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องห้ามปราม ดังเช่นยุคหนึ่งของประธานาธิบดี อีดี อามิน ประเทศ ยูกันดา หลังทำรัฐประหารเขาให้คำมั่นว่าจะจัดการความวุ่นวายให้เรียบร้อย บอกว่าตัวเองเป็นทหาร ไม่ใช่นักการเมือง จะเร่งคืนประชาธิปไตยให้ปวงชน จะรีบจัดการเลือกตั้ง ทว่าการกระทำของเขากลับ สวนทางกับคำพูดทุกอย่าง ประธานาธิบดีอามินตัดสินใจฉีกรัฐธรรมนูญ เอาทหารมาปกครองด้าน ต่างๆ ของประเทศ อยู่ยาวไม่ยอมลงจากอำนาจตามที่แจ้งไว้กับประชาชน ประธานาธิบดีอามินเสพสุข กับเงินก้อนโต ส่วนชาวเมืองทั้งแรงงานไปจนถึงปัญญาชนที่เห็นต่างพากันหลบซ่อนตัว นอกจากไม่ สนใจความเป็นอยู่ของประชาชน ท่านผู้นำได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะเพื่อกำจัดคนคิดต่างทางการเมือง บีบบังคับสื่อไม่ให้เขียนข่าวโจมตี จับคนเห็นต่างมาทรมานด้วยวิธีการหลากหลายที่โหดร้าย รุนแรง


131 ผู้นำโหดสังหารหมู่ประชาชนอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่สนใจเรื่องศีลธรรม เพราะเขาไม่มีมันตั้งแต่แรก การปกครองของประธานาธิบดีอามิน มีการสันนิษฐานว่าเขาสั่งสังหารประชาชนไปกว่าแสนคน เพียงเพราะไม่ถูกใจ เพียงเพราะคิดต่าง เพียงเพราะวิจารณ์การเมือง คนจำนวนมากที่ถูกทรมานและ ล้มหายตายจากเยอะยิ่งกว่าใบไม้ร่วงในช่วงสารท หลังจากที่ผู้นำอีดีหมดอำนาจ สิ่งที่อีดีได้กระทำการ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ส่งผลให้ประชาชนในประเทศเกิดความทุกข์ยาก ผู้คนต้องอยู่อย่างหวาดกลัวและ รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในประเทศบ้านเกิดของตนเอง ตัวอย่างที่139 พวกชนเผ่าฮูตูสุดโต่งที่ถูกนักการเมืองฉวยประโยชน์จากความเกลียดชัง ใช้สื่อวิทยุและ หนังสือพิมพ์ยั่วยุให้ไล่ล่าชาวทุตซี่ทั่วทุกที่ หรือแม้กระทั่งชาวฮูตูด้วยกันเองที่ไม่เห็นด้วยก็ถูกฆ่าตาย พวกเขาถูกปั่นหัวให้เกลียดชังกันเอง หลงกลข่าวลวงข่าวเท็จ เชื่อเพียงสิ่งที่ได้ยิน เพื่อนบ้านที่เคยเป็น มิตรกลับกลายเป็นทูตแห่งความตาย ผู้หญิง คนแก่ เด็กตัวน้อยไม่ละเว้น เราต่างถูกปลูกฝังความ เกลียดชัง เรามองเห็นสิ่งเหล่านี้ในประเทศของคนอื่น แต่กลับไม่เห็นในประเทศของตนเอง (สเปโร โซนาตา บทเพลงของคนจร: 136) จะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งระหว่างสองเผ่าพันธุ์นั้นเกิดจากการฉวยโอกาสของ นักการเมืองที่คอยปลุกปั่นให้สองเผ่าพันธุ์เกิดความแตกแยกและหันมาฆ่ากันเองในที่สุด เพราะต้องการเพียงผลประโยชน์ที่ตนต้องการ แต่สิ่งที่น่าโหดร้ายที่สุดคือความขัดแย้งระหว่างสอง เผ่าพันธุ์นี้ได้คร่าชีวิต ผู้หญิง คนแก่ เด็กน้อย ที่ต่างไม่ได้อยู่ในความขัดแย้งนี้โดยตรง แต่กลับต้องมา จบชีวิตจากความขัดแย้งที่ผู้มีอิทธิพลได้ปลุกปั่นให้คนในประเทศแตกแยกกันเอง ความขัดแย้งดังกล่าว นี้ทำให้ได้ย้อนกลับมาดูประเทศไทยที่มีความสอดคล้องกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำ รัฐประหาร การอยู่ภายใต้การปกครองของทหารภายใต้ความเป็นประชาธิปไตย ความขัดแย้งของคน ในประเทศที่เกิดจากการปลุกปั่นของคนบางกลุ่มที่ต้องการเอารัดเอาเปรียบหรือเอาผลประโยชน์จาก ประชาชน แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น สังคมทุกวันนี้แทบไม่เหลือความเป็นประชาธิปไตยอยู่เลย มีแต่ความ เผด็จการเข้ามาแทนที่ ความขัดแย้งของประชาชนล้วนเกิดจากรัฐบาลทั้งสั้น


132 ตัวอย่างที่140 "สเปโร โซนาตา" เธอบอกชื่อเพลงด้วยท่าทีภูมิใจ "สเปโร แปลว่า ความหวัง" เธอว่าเธอใส่ บทเรียนจากโศกนาฏกรรมของรวันดาไว้ในบทเพลง ให้ผู้คนเท่าทันความเกลียดชังที่ถูกปลูกฝังในใจ และปลุกปลอบให้กำลังใจผู้คนที่กำลังโศกเศร้า เธออยากดึงพวกเขาออกจากเสียงปืนเสียงระเบิด เสียง แห่งการขัดแย้งฆ่าฟันในอดีต ให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ (สเปโร โซนาตา บทเพลงของคนจร: 138) จะเห็นได้ว่า หลังจากสงครามความขัดแย้งของเผ่าพันธุ์ในรวันดาผู้คนต่างหวาดกลัว และโศกเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดนตรีจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะสามารถรวมจิตใจของคนในประเทศ ให้กลับมาเข้มแข็งและมีชีวิตต่อไปได้ภายใต้เรื่องราวในอดีตที่แสนโหดร้าย ในบทเพลงจึงมีเนื้อหาที่ให้ ผู้คนได้เท่าทันความเกลียดชังที่ถูกปลูกฝังในจิตใจและในขณะเดียวกันเนื้อหาในบทเพลงก็คอยปลอบ ให้กำลังผู้คนที่กำลังโสกเศร้าเช่นกัน ถือได้ว่าหลังช่วงที่ประเทศเกิดความขัดแย้ง ดนตรีจึงเป็นสิ่ง สำคัญที่ช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนได้ 3.5.2 แนวคิดเกี่ยวกับสังคม 3.5.2.1 แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่พลเมือง แนวคิดเรื่องสิทธิและหน้าที่เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ใน สังคม คำว่า สิทธิ หมายถึงอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายของพลเมืองที่กฎหมายรับรอง ในขณะที่คำว่า เสรีภาพหมายถึงความสามารถของบุคคล เลือกที่จะคิด กระทำ หรือพูดอย่างไรก็ได้ตามความพอใจใน ตัวเอง ซึ่งเป็นอำนาจที่กฎหมายรับรองว่ากระทำอย่างอิสระ โดยเสรีและสุจริต แต่ต้องไม่กระทบต่อ สิทธิของผู้อื่น พลเมืองจะแสดงออกถึงความกระตือรือร้นในการรักษาสิทธิต่างๆ ของตน รวมถึงการมี ส่วนร่วมทางการเมือง โดยการแสดงออกซึ่งสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ดังนี้ ตัวอย่างที่141 การเคารพและไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญในสังคมประชาธิปไตย การรักษาสิทธิ์ของ ผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน แต่มันจะดียิ่งขึ้นไปอีก หากเราทุกคนรู้จักการเสียสละสิทธิ์อันพึงมีของเรา เพื่อประโยชน์ส่วนรวม (กุญแจสำรอง: 77)


133 จะเห็นได้ว่า การใช้สิทธิ์และการมีเสรีภาพอันชอบธรรมเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถกระทำได้ โดยทุกคนมีหน้าที่ในการใช้สิทธิ์พร้อมทั้งเคารพเสรีภาพของผู้อื่น รวมไปถึงการทำตามกฎหมาย และการทำผลประโยชน์เพื่อส่วนรวม โดยสิทธิ์และเสรีภาพของประชาชนทุกคนต้องมีความเข้าใจ ถึงระบอบประชาธิปไตย ในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอีกทั้งต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ตัวอย่างที่ 142 ฟุตบอลคอมมิวนิตีชีลด์ เดิมคือแชริตีชีลด์ เตะก่อนเปิดฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก โดยนำทีม ที่ได้แชมป์ลีกมาแข่งขันกับแชมป์เอฟเอคัพ แฟนบอลหลายคนมักล้อว่าเป็นถ้วยที่ไม่สำคัญ เพราะเป็นรายการฟุตบอลการกุศล ไม่จริงจัง นำเงินรายได้จากการแข่งขันไปช่วยเหลือกิจกรรม ด้านสังคมและการกุศลทั่วประเทศ (ย้อนกลับไปดูภาพ VAR อีกครั้ง: 107) จะเห็นได้ว่า คนในสังคมมักมองข้ามสิทธิ์และหน้าที่ของตนเองในการเป็นพลเมืองใน สังคมทั้งในด้านการทำเพื่อส่วนรวมและในด้านการช่วยเหลือสังคม โดยเป็นสิ่งที่ควรกระทำให้เกิด ประโยชน์ในทุกด้าน เพื่อไม่ให้บุคลใดบุคคลหนึ่งหรือสังคมของตนเองต้องเดี่ยวดายท่ามกลางระบอบ ประชาธิปไตยที่มีระบบทุนนิยมเข้ามามีผลต่อการใช้ชีวิต ดังนั้นเราทุกคนต้องอยู่ร่วมกันด้วยความ เคารพและพึ่งพาอาศัยกันอย่างเห็นผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และทำหน้าที่ในการเป็น พลเมืองที่ดีในสังคม ตัวอย่างที่143 อธิบายเหตุผลว่าจะลองนั่งรถวีลแชร์เดินทางไปเลือกตั้งด้วยตัวของตัวเองให้ได้คุณป้าเลิกคิ้ว พยายามเข้าใจพลางย้ำให้ระวังเรื่องความปลอดภัย ยกมือหย่อนห้อยประกบกันพนมมือไหว้ขอบคุณ คุณลุงคุณป้า บานกระจกหน้าต่างเลื่อนปิดช้าๆ รถยนต์แซงขึ้นไปตามทางออกสู่ถนนใหญ่ สูดลม หายใจออกแรงหมุนกงล้อ ความมุ่งมั่นยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ประสาทสัมผัสตื่นตัวระวังภัยอันตราย ที่อาจโฉบผ่านมาโดยไม่คาดคิด (หนึ่งกิโลเมตรโดยประมาณ: 165)


134 จะเห็นได้ว่า ตัวละครในเรื่องสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นตัวอย่างที่ดีในแบบของการเป็น พลเมืองดีของสังคม กล่าวคือ สิทธิ์ในคูหาการเลือกตั้งอยู่ที่เราทุกคน การออกไปเลือกตั้งตามสิทธิ์ ที่ตนเองมีอยู่จึงเป็นการใช้สิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด ต่อให้ร่างกายไม่สมบูรณ์หรือมีอุปสรรค มากมายมากีดขวาง แต่การออกไปเลือกตั้งคือการดำรงตนเป็นแบบอย่างของพลเมืองที่ดีในระบอบ ประชาธิปไตย 3.5.2.2 แนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางสังคม คนในสังคมมีความคิดเห็นต่างกัน เนื่องจากมนุษย์มีความหลากหลายทางความ คิดเห็น จึงเป็นเรื่องปกติที่สังคมจะมีความคิดเห็นต่างกัน ยิ่งคนบางกลุ่มต้องมาอยู่รวมกันในความต่าง ที่ไม่มีอะไรเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น ที่มา อาชีพ ฐานะ ที่เกิดจากความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้ สังคมเกิดความแตกแยก เนื่องจากมีความคิดเห็นที่ต่างกัน และต่างคนต่างมีทิฐิ แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้อง หาทางออกเพื่อให้สังคมก้าวข้ามความขัดแย้งนั้นไปได้ ด้วยการเข้าใจความแตกต่างของแต่ละบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม สังคมทุกสังคมย่อมหลีกเลี่ยงความขัดแย้งไม่ได้ ความขัดแย้งในสังคมจึงเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าความขัดแย้งดังกล่าวยังสามารถหาข้อยุติได้ในกรอบของกลไกที่มีอยู่สังคมนั้นก็สามารถ ดำเนินต่อไป หรือตราบเท่าที่ปัญหาความขัดแย้งอยู่ในสัดส่วนที่ไม่แผ่กระจายไปทั่วทั้งสังคม จนหาวิธีการหรือกลไกเพื่อยุติความขัดแย้งไม่ได้สังคมนั้นก็สามารถดำเนินต่อไป โดยในภาพรวมจะ ถือได้ว่าสังคมนั้นยังอยู่ได้อย่างมีความสมานฉันท์ แต่เมื่อใดก็ตามที่ความขัดแย้งถึงจุดที่ไม่สามารถ จะแก้ไขเยียวยาได้ ทางเลือกของสังคมก็จะถูกจำกัดลง โดยมีทางออกอยู่สองทางคือ การพยายาม แก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี ด้วยการเจรจาหรือไกล่เกลี่ย หรือมิฉะนั้นก็คงต้องแก้ไขความขัดแย้ง ด้วยการใช้กำลังหรือความรุนแรง ผลที่ออกมาก็คือ การที่ฝ่ายหนึ่งชนะ อีกฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ ผู้ชนะ ก็จะสร้างระเบียบการเมืองขึ้นมาใหม่ และถ้าเป็นกรณีที่ไม่สามารถจะเอาชนะกันได้ก็อาจถึงกับ แตกแยกออกเป็น 2 ส่วน หรือ 3 ส่วน ของหน่วยชุมชนหรือหน่วยการเมืองใหม่แล้วแต่กรณี ดังนี้ ตัวอย่างที่144 ความขัดแย้งเรื่องนี้เกิดจากการที่ลูกชายผู้ใหญ่วิน นึกยังไงไม่รู้ไปบวขวัดท้ายคลอง หรือที่เราเรียกกันว่าวัดล่าง ทั้งที่หมู่บ้านเราอยู่ใกล้กับวัดหัวสะพานหรือวัดบน เหมือนแบ่งขอบเขตกัน


135 ไม่ว่าจะเป็นกิจนิมนต์ งานบุญ งานมงคล อวมงคลละแวกบ้านเราจะอ้างอิงพึ่งพิงกับวัดบน รวมถึง พื้นที่บิณฑบาตด้วย (มือเย็น: 28) จะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งในสังคมเกิดจากการมีความคิดเห็นที่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นความ เชื่อหรือในด้านการอยู่ร่วมกันในสังคมและการนับถือศาสนา ทั้งที่เป็นศาสนาเดียวมีหลักคำสอน เดียวกันแต่กลับขัดแย้งกัน พร้อมทั้งยังแบ่งวัดแบ่งขอบเขตนับถือของพระแต่ละวัด โดยเป็นการปฏิบัติ ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเนื่องจากการอยู่ร่วมกันในสังคมไม่ควรใช้ศาสนามาเป็นความขัดแย้งในสังคม อีกทั้งควรน้อมนำในหลักคำสอนตามพระไตรปิฎกที่สอนให้ประชาชนทุกคนเป็นคนดีมาปฏิบัติ ตัวอย่างที่ 145 มีอีกหลายจังหวะที่ผู้เล่นขอให้กรรมการตรวจเช็ก VAR เพื่อความยุติธรรม กลายเป็นว่าการ ตัดสินในระบบ VAR ทำให้นักเตะไม่เชื่อกรรมการ (ย้อนกลับไปดูภาพ VAR อีกครั้ง: 104) จะเห็นได้ว่า ความขัดแย้งในสังคมที่เกิดจากการไม่เคารพสิทธิ์และผลของการตัดสินของ ผู้อื่นในด้านการขอสิทธิ์เพื่อตรวจสอบความแม่นยำหรือการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ช่วยในการ ตรวจสอบ หรือช่วยในการตัดสิน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคมลดความขัดแย้งในสังคม เนื่องจาก การตัดสินพร้อมทั้งใช้หลักฐานเข้ามาช่วย อีกทั้งยังเป็นการสร้างสิ่งที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันลดการ ปะทะคารม และลดการเกิดความสงสัยต่อการตัดสินของกรรมการ แต่คนในสังคมต้องเคารพและยอม ผลการตัดสินด้วย ตัวอย่างที่146 เห็นคนงานกำลังขนเหล็กขึ้นรถ กิริยาที่ลุงสุบินกำกับงานอย่างกระตือรือร้นทำให้เธอรู้สึก ผิดหวังกับนโยบายที่ไม่ได้เป็นคนกำหนด ส่วนเรื่องลูกเธอควรจะโล่งอก แต่ตอนนี้กลับไม่แน่ใจว่าหาก เพชรยังเรียนที่เดิมเป็นผลดีกับเขาหรือไม่ แต่ทั้งที่ไม่แน่ใจ เธอกลับพาลูกดั้นด้นเข้าหาฝั่งที่เชื่อว่าเป็น


136 พื้นที่ของคนมีชีวิต ตะเกียกตะกายให้ตัวเองรอด เพื่อวันหนึ่งจะถูกโยนลงไปลอยคอปีนป่ายในน้ำ อีกครั้ง และอีกครั้ง (สะพานสองฝั่ง: 156) จะเห็นได้ว่า ตัวละครเกิดความขัดแย้งในจิตใจที่พยายามหาทางออกให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ที่สุด ทั้งในการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการที่ต้องคัดคนงานออกตามนโยบายของบริษัท แต่คนที่ตนไม่อยาก คัดออกนั้นกลับเป็นคนที่ตนสนิท และไม่อยากคัดออก ความลำบากใจจึงได้เกิดขึ้นในตัวละคร แต่ใน เวลาเดียวกันก็พยายามทำหน้าที่แม่ที่คอยสนับสนุนลูกให้ดีที่สุด


137 แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2564 สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 10 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์ ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2564 จำนวน 13 เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับสังคม แนวคิด เกี่ยวกับ อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง แนวคิด เกี่ยวกับการ มีส่วนร่วม ทางการ เมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง แนวคิดเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ พลเมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 1 มือเย็น - - - 2 นาฏกรรมบนผืน น้ำในค่ำคืนที่เสียง นั้นเลือนหายไป - - - 3 ประชาธิปไตยที่ อยู่ในกล่อง - - - - 4 กุญแจสำรอง - - - 5 คนละโลกเดียวกัน - - - - 6 ย้อนกลับไปดูภาพ VAR กันอีกครั้ง - - 7 ลึกลงไปใต้ระดับ พื้นดิน - - -


138 ตารางที่ 10 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์(ต่อ) ที่ เรื่องสั้น วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2564 จำนวน 13 เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับสังคม แนวคิด เกี่ยวกับ อำนาจทาง การเมือง หรือ พฤติกรรม ทาง การเมือง แนวคิด เกี่ยวกับการ มีส่วนร่วม ทางการ เมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้งหรือ ความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทาง การเมือง แนวคิดเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ พลเมือง แนวคิด เกี่ยวกับ ความ ขัดแย้ง หรือความ แตกต่าง ด้าน อุดมการณ์ ของบุคคล ทางสังคม 8 สเปโร โซนาตา บทเพลงของคนจร - - - - 9 สะพานสองฝั่ง - - - - 10 หนึ่งกิโลเมตร โดยประมาณ - - - - 11 หลักกิโลเมตรที่ ประชาธิปไตย - - - - 12 เหลี่ยมหลอก - - - - 13 องก์ที่ 3 - - - - รวม 6 เรื่อง 1 เรื่อง 5 เรื่อง 3 เรื่อง 3 เรื่อง จากตารางข้างต้น ทำให้เห็นถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองเพื่อให้ ตนเองและพวกของตนได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินนโยบาย เป็นการกระทำทุจริต คดโกงความ ไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนที่เลือกตัวแทนที่ตนเองให้ความเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาประเทศให้มี ความเจริญ รุ่งเรือง เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ แต่กลับทรยศความหวังประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ นานา เช่น การวางตัวในการออกมาชี้แจงข้อสงสัย


139 ของประชาชนก็ชี้แจงด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ไม่มีสาระ ใช้อารมณ์ของตนเหนือเหตุผลมาชี้แจง ทำให้ ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่น และยังใช้กฎหมายข่มขู่ประชาชนที่ออกมาวิพากษ์ต่อการทำงานของ รัฐบาล จนประชาชนหลายร้อยคนที่ออกมาต่อสู้กลางถนนต้องถูกดำเนินคดีจากการยัดเยียดข้อหา ให้กับประชาชน อีกทั้งยังเห็นถึงการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนนั้นถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐจนนำไปสู่การออกนโยบายที่พยายามกีดกันประชาชนให้เข้าถึงข้อมูลและ ข้อเท็จจริงของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ประชาชนต้อวการตรวจสอบ หลายหน่วยงาน หลาย บุคคลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำความผิด ประชาชนต่างถกเถียงออกมาเรียกร้องการแก้ กฎหมายและตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต การใช้อำนาจ ในทางที่ผิด แต่การที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหรือ นักการเมืองนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากการจะตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐต้อง เป็นไปตามกฎหมาย และกระบวนการทางกฎหมาย แต่มีอำนาจที่เหนือกฎหมาย กระบวนการ ยุติธรรม คือ คณะผู้บริหารประเทศ ยังเห็นถึงการออกนโยบายของส่วนกลาง และการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่งผลต่อสังคม และความเป็นอยู่ของประชาชน จนกลายเป็นฉนวนในการออกมาโจมตีซึ่งกันและกันระหว่างฝ่าย สนับสนุนรัฐบาลกับฝ่ายเห็นต่างการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการแสดงออกทางความคิดของแต่ละ บุคคลในสังคมเป็นเรื่องไม่ผิดและสามารถกระทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทัศนคติขิงเจ้าหน้าที่ รัฐต่อฝ่ายเห็นต่างต่อการทำงานของตนเองกลับมองว่าพวกเขาคือ ศัตรูของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนิน นโยบาย แต่มองฝ่ายที่สนับสนุนตนเองว่าเป็น นักรบที่ออกมาปกป้องประเทศชาติ แต่ประชาชนที่มี มุมมองต่อฝ่ายเห็นต่างต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ทำเพื่อ ประชาชนและผลประโยชน์ส่วนรวมที่ออกมาเสียสละเพื่อปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ พร้อมทั้งยังเห็นการใช้สิทธิ์ในการเรียกร้องประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างแท้จริง อีก ทั้งในเรื่องเสรีภาพของประชาชนที่สามารถกระทำการใดๆได้ตามกฎหมายรองรับ เสรีภาพในการดำรง อยู่ไม่ว่าคุณจะมีความแตกต่างทางความคิด แตกต่างทางการเรียนรู้หรือความแตกต่างในการ แสดงออก รวมไปถึงความเสมอภาคในสังคมที่ควรเกิดขึ้นกับประชาชนทุกคน พร้อมทั้งประชาชนต้อง ปฏิบัติหน้าที่พลเมืองดีตามกฎหมายเพื่อให้สังคมเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเกิดประชาธิปไตยใน สังคม แต่ในหลายช่วงเวลาที่เกิดการประท้วงหรือการชุมนุมเพื่อสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติต่อประชาชนในสังคมเป็นการใช้กฎหมายเพื่อปิดปาก ประชาชน


140 รวมไปถึงความขัดแย้งที่เกิดจากความคิดเห็นต่างกัน มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกันออกไปตามจิต ใต้สำนึกของแต่ละบุคคล ด้วยเหตุการณ์ณืทางการเมืองนำไปสูงความขัดแย้งด้านอุดมการณ์ของบุคคล ในสังคมทั้งในด้านนโยบายของรัฐที่มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายเห็นต่าง ที่พยายามแสดงออกให้เห็นถึง ผลกระทบจากการใช้นโยบายหรือการดำเนินนโยบายของเจ้าหน้ารัฐเป็นการปฏิบัติเพื่อเอื้อ ผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุน จนประชาชนเกิดการตั้งคำถามต่อการบริหารประเทศของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมไปถึงการแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนที่ไร้การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังการ กระจายอำนาจไม่เกิดขึ้นในสังคม ประชาชนที่เห็นต่างจึงพยายามเรียกร้องสิทธิ์และเสรีภาพ โดยแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปีพ.ศ.2564 ได้ปรากฏแนวคิดเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมืองมากถึง 6 เรื่อง ทำให้เห็นถึงการใช้อำนาจทางการเมืองที่พยายามแทรกแซงอำนาจทางการเมืองทั้งใน กระบวนการยุติธรรมที่พยายามโยนข้อหาม.112 ให้กับผู้ชุมนุมจนกระทั้งเกิดวิกฤตทางการเมือง โดย การใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของประชาชน จนเกิดการบาดเจ็บ ทั้งที่ทางออกในการยุติความ ขัดแย้งที่เกิดขึ้นมีหลากหลายวิธี แต่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐกับใช้อำนาจที่ตนเองมีในการกระทำ ต่อผู้ที่มาชุมนุม ทั้งยังยัดเหยียดข้อหาหมิ่นสถาบันให้กับผู้ชุมนุม จนเกิดเป็นความโกรธแค้น ขุ่นเคือง ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและลามไปถึงสถาบันของชาติ จากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ พยายามแทรกแซง โดยใช้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ขนาดนี้มีส่วนคนที่ถูกจัดตั้งจากรัฐบาลชั่วคราวที่สืบทอดอำนาจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ยึด อำนาจรัฐบาลพลเรือน ฉีกรัฐธรรมนูญและร่างรัฐธรรมนูญที่ออกกฎเกณฑ์ให้กับพรรคพวกของตนเอง จนเกิดรัฐบาลในปี พ.ศ.2562 ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและลากตั้งของวุฒิสมาชิกที่เกิดจาก อำนาจทหาร จะเห็นได้ว่าการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐพยายามใช้นโยบายเพื่อลิดรอนสิทธิและ เสรีภาพของประชาชน รวมไปถึงสร้างความขัดแย้งในสังคมให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังลามไปถึง สถาบันอันเป็นเสาหลักของประเทศจากการใช้อำนาจในทางที่ผิดของรัฐบาล


141 แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่าง พ.ศ.2560-2564 สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 11 ตารางสรุปผลการวิเคราะห์โดยรวม วรรณกรรมเรื่องสั้นพานแว่นฟ้าปี พ.ศ. 2560 2561 2562 2563 2564 1 แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง 1. อำนาจทางการเมืองหรือ พฤติกรรมทางการเมือง 2. การมีส่วนร่วมทางการเมือง - 3. ความขัดแย้งหรือความ แตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางการเมือง 2 แนวคิดเกี่ยวกับสังคม 1. สิทธิและหน้าที่พลเมือง 2. ความขัดแย้งหรือความ แตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางสังคม แนวคิดที่ปรากฏ


142 จากการศึกษาแนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพาน แว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 สามารถกล่าวสรุปได้ดังนี้ จากการศึกษาพบว่าแนวคิดทางการเมืองที่ปรากฏในสังคมมีแนวคิดสอดคล้องกับแนวคิด ทางการเมืองที่ปรากฏในเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า มี5 ประเด็น คือ แนวคิดเรื่องอำนาจทาง การเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง, แนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมือง, แนวคิดเรื่องความ ขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมือง แนวคิดเรื่องสิทธิและหน้าที่ของ พลเมือง รวมไปถึงแนวคิดเรื่องความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางสังคม โดยประกอบไปด้วยเรื่องสั้นทั้งหมด จำนวน 65 เรื่อง สามารถสรุปการวิเคราะห์แนวคิดเกี่ยวกับ การเมืองและสังคม ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 ได้ดังนี้ แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2560 ปรากฏแนวคิดสิทธิและหน้าที่พลเมือง และแนวคิดความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของ บุคคลทางสังคมมากที่สุด แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพาน แว่นฟ้า ปี 2561 ปรากฏแนวคิดอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง และแนวคิดความ ขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมืองมากที่สุด แนวคิดทางการเมืองและ สังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2562 ปรากฏแนวคิดอำนาจทางการเมือง หรือพฤติกรรมทางการเมือง และแนวคิดความขัดแย้งหรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทาง สังคมมากที่สุด แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2563 ปรากฏแนวคิดอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง และแนวคิดสิทธิและหน้าที่ พลเมืองมากที่สุด แนวคิดทางการเมืองและสังคม ที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2564 ปรากฏแนวคิดอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง และแนวคิดความขัดแย้ง หรือความแตกต่างด้านอุดมการณ์ของบุคคลทางการเมืองมากที่สุด 1. แนวคิดเกี่ยวกับการเมือง 1.1 แนวคิดเกี่ยวกับอำนาจทางการเมืองหรือพฤติกรรมทางการเมือง ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยเกิดจากที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและนักการเมืองมีการใช้ อำนาจในทางที่ผิดเป็นเรื่องอันตราย หากใช้อำนาจในทางมิชอบ อำนาจของบุคคลเหล่านี้ใช้ไปใน ทางการทุจริต คอร์รัปชันและผลประโยชน์ที่ซับซ้อน เพียงเพราะอ้างว่าเป็นตัวแทนมาจากประชาชน แต่ขั้นตอนการดำเนินการ พิสูจน์ได้ยากว่ามีการใช้อำนาจเพื่อซื้อเสียง การใช้อำนาจรัฐเพื่อให้ชนะ การเลือกตั้ง เล่นพรรคเล่นพวกหรือไม่อย่างไร เมื่อก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแล้ว อำนาจในมือจึงเป็นดาบ สองคมที่ขึ้นอยู่กับบุคคล เพราะผู้ที่มีอำนาจมักจะมีคนคอยเอาใจทุกอย่าง จนอาจหลงผิดคิดว่าตัวเอง


143 เป็นผู้วิเศษ จะคิดหรือทำอะไรก็คิดว่าถูกต้องทุกอย่างจึงไม่แปลกที่จะเห็นนักการเมืองหรือข้าราชการ บางคน เปลี่ยนพฤติกรรม แสวงหาอำนาจกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 ได้นำเสนอแนวคิดนี้ไว้ทั้งหมด 29 เรื่อง ได้แก่ ภาพที่คอมโพสิชั่น (ไม่เคย) ลงตัว โดย ปะการัง เหตุการณ์สามัญ (กรณีศึกชิงปลากระป๋อง) โดย นพดล พลกูล กล่องสมบูรณ์แบบ โดยวุฒินันท์ ชัยศรี เสื้อคลุมของผู้พัน โดย ศิริพงศ์ หนูแก้ว คฤหาสน์ของพยาธิตาบอด โดย กวี ศรีธรรมานุกูล ชายชรากับปลาในลำธาร โดย ชิด ชยากร ชิ้นส่วนของความขัดแย้ง โดย ธารา ศรีอนุรักษ์ ดาวส่องเมือง โดย รมณ กมลนาวิน ยินดีต้อนรับสู่ประภาคาร โดย เจษฎา กลิ่นยอ อวนจับนาค โดย รติธรณ ใจห้าว โลกที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง โดย โศภนิศ นามศิริ บนรอยต่อของ เปลือกโลก โดย เสาวรี แผนลดน้ำหนักครูดาวเรือง โดย ถนอม ขุนเพ็ชร์ เสรีสิบสี่เส้นบรรทัด โดย พัชรพร ศุภผล อำนาจ โดย วุฒินันท์ ชัยศรี โอรังอัสลีกับผีร้ายแห่งเทือกเขาบรรทัด โดย กวี ศรีธรรมานุกูล สิ่งที่รออยู่หลังเส้นชัย โดย วิโรจน์ สุทธิสีมา พลเมืองดี โดย วุฒินันท์ ชัยศรี ขบวนการ ฟักทอง โดย โต้หมู ซากดึกดำบรรพ์ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีชื่อ โดย จักษณ์ จันทร แว่วข่าวคราวว่าข้าวแข็ง โดย พัชรพร ศุภผล สุนัขนำทาง โดย แพรพลอย วนัช เสียงร่ำไห้จากหิมพานต์ โดย รตี รติธรณ มือเย็น โดย วัฒน์ ยวงแก้ว นาฏกรรมบนผืนน้ำในค่ำคืนที่เสียงนั้นเลือนหายไป โดย วสุวัต คนละโลก เดียวกัน โดย โต้หมู ลึกลงไปใต้ระดับพื้นดิน โดย อุเทน พรมแดง เหลี่ยมหลอก โดย ถนอม ขุนเพ็ชร์ และองก์ที่ 3 โดย วุฒินันท์ ชัยศรี 1.2 แนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นการมีส่วนร่วมในการปกครองของประชาชนตามสิทธิที่ระบบ การเมืองและกฎหมายกำหนดให้กระทำ เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นจากความสมัครใจของประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายของรัฐทั้งในทางการเมืองการปกครองทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ฉะนั้น การมีส่วนร่วมของประชาชน จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นฝ่ายตัดสินใจ กำหนดปัญหาความต้องการของตนเองอย่างแท้จริงซึ่งเป็นการเสริมพลังอำนาจให้แก่ประชาชน กลุ่ม องค์กรชุมชนให้สามารถระดมขีดความสามารถในการจัดการทรัพยากร การตัดสินใจและการ ควบคุมดูแลกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนมากกว่าที่จะเป็นฝ่ายตั้งรับ นอกจากนี้การมีส่วนร่วมของ ประชาชนยังสามารถกำหนดการดำรงชีวิตได้ด้วยตนเองให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามความจำเป็นอย่าง มีศักดิ์ศรีและสามารถพัฒนาศักยภาพของประชาชน ทักษะความรู้ความสามารถและการจัดการและ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ซึ่งเรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า ระหว่างพ.ศ.2560-2564 ได้นำเสนอแนวคิดนี้ไว้ทั้งหมด 6 เรื่อง ได้แก่ เหตุการณ์สามัญ (กรณีศึกชิงปลากระป๋อง) โดย นพดล พลกูล เสื้อคลุมของผู้พัน โดย ศิริพงศ์ หนูแก้ว ชิ้นส่วนของความขัดแย้ง โดย ธารา ศรีอนุรักษ์


Click to View FlipBook Version