The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาธูรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายวิจิตร พลเศษ, 2020-09-08 20:16:40

แผนการสอนวิชาธูรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

แผนการสอนวิชาธูรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

20.2 ปญั หาทพี่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา

ด้านการเตรยี มการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นส่ือ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวดั และประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านอ่นื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงชือ่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการเรียนรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรียนของผเู้ รยี น

ความต้ังใจของผเู้ รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
อปุ กรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรยี นรขู้ องผู้เรียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรยี นรู้  ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้

บนั ทกึ เพิ่มเตมิ

............................................................................................................................................... ..............

………………………………………………
(นายวิจติ ร พลเศษ)
ผูบ้ นั ทกึ การสอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหัสวิชา 20001-1003 วิชา ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ
หนว่ ยท่ี 9 ชอื่ หนว่ ย การประยกุ ต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเปน็
ชื่อเรือ่ ง การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการเป็น จานวน 6 ชั่วโมง สอนครั้งที่ 21,22

1. สาระสาคัญ

ผปู้ ระกอบการทพ่ี อเพยี งจะคานงึ ถงึ ความมนั่ คงและยงั่ ยนื ของการดาเนินธรุ กจิ มากกวา่ การแสวงหา
ผลประโยชน์ ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งมคี วามรอบรใู้ นธุรกจิ ทต่ี นดาเนนิ งานอยแู่ ละมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู ขา่ วสารตลอดเวลา
เพ่อื ใหส้ ามารถทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงต่างๆ มคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพอ่ื ป้องกนั
ขอ้ บกพรอ่ งเสยี หายไมใ่ หเ้ กดิ ขน้ึ และมคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพอ่ื ป้องกนั ขอ้ บกพรอ่ งไมใ่ ห้
เกดิ ขน้ึ และตอ้ งมคี ุณธรรม คอื มคี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ในการประกอบอาชพี ไมผ่ ลติ หรอื ซอ้ื ขายสนิ คา้ ทก่ี ่อ
โทษหรอื สรา้ งปญั หาใหก้ บั คนในสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม มคี วามขยนั หมนั่ เพยี ร อดทนในการพฒั นาธุรกจิ
ไมใ่ หบ้ กพรอ่ งและกา้ วหน้าไปอยา่ งต่อเน่อื ง โดยมกี ารพฒั นาประสทิ ธภิ าพ การผลติ ปรบั ปรงุ สนิ คา้ และ
คุณภาพใหท้ นั กบั ความตอ้ งการของตลาดและการเปลย่ี นแปลงในเทคโนโลยี ขณะเดยี วกนั ตอ้ งมคี วาม
รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ มทกุ ขนั้ ตอนของการดาเนินธุรกจิ

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

1. สามารถนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใชช้ ีวติ ประจาวนั ได้
2. สามารถอธบิ ายการประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดาเนินธรุ กจิ
3. สามารถทาบญั ชคี รัวเรอื น และนาภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ไทยไปประยุกตใ์ ช้ได้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป

3.1.1 มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจเก่ียวกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพยี ง

3.1.2 มคี วามรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั ทาบัญชคี รัวเรอื น และนาภูมิปัญญาท้องถ่ินไทย

3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
3.2.1.ประยกุ ตใ์ ชป้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนินธรุ กิจได้
3.2.2.เสนอแนะแนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตได้
3.2.3.แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การทาบัญชคี รวั เรือนได้
3.2.4.แสดงความรู้เกี่ยวกบั ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นไทยได้

3.2.5.มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ ความมวี ินัย
ความรบั ผิดชอบ ความซอื่ สัตยส์ ุจริต ความเชื่อมัน่ ในตนเอง การประหยดั
ความสนใจใฝร่ ู้ การละเวน้ สง่ิ เสพติดและการพนนั ความรักสามคั คี

4. เน้ือหาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ด้านความรู้
1.การประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดาเนนิ ธรุ กิจ
2.แนวทางการนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการดาเนินชีวิต
3.การทาบัญชีครัวเรือน
4.ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ไทย

4.2 ดา้ นทกั ษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. สามารถนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชช้ ีวิตประจาวนั ได้
2. สามารถอธิบายการประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดาเนินธุรกจิ
3.สามารถทาบัญชีครวั เรือน
4.นาภมู ิปญั ญาท้องถิ่นไทยไปประยกุ ต์ใช้ได้

4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ
พอเพียง

ดา้ นคณุ ธรรม/ จริยธรรม
1. มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ มีความรบั ผดิ ชอบ

ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์และบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. มุ่งมน่ั ในการทางาน มีจติ สาธารณะ อยู่อย่างพอเพียง
2. นาความรูเ้ กี่ยวกบั หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกต์ใชจ้ รงิ ในการดาเนินชีวิตและการ

เรียน

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้

ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ขนั้ ตอนการเรยี นหรือกิจกรรมของผเู้ รยี น

ขน้ั เตรียม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผูเ้ รียนเขา้ ห้องเรียน
5.1 นักเรียนทาความเคารพครผู สู้ อน 5.2 ครูผู้สอนตรวจสอบรายชอ่ื ผู้เรียน
5.2 ครผู ู้สอนทกั ทายผู้เรยี นและสารวจรายชือ่ ผู้เรียน 5.3 ผู้เรยี นรับใบความรู้ เรื่อง
5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ หรอื เตรียมอุปกรณ์ การประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งฯ
5.4 รบั ใบงาน อธิบายการทา
ในการสอนใหพ้ ร้อม และใบงาน
5.4 ผู้เรียนใบความรู้ เตรยี มตาราเรียนและสมุด
5.5 ผ้สู อนการจดั ทาใบงานท่ีมอบหมาย (20 นาที)

ขน้ั การสอน(จานวน....30.......นาท)ี

5.6 ครูผสู้ อนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.5 ผู้เรยี นทดสอบก่อนเรยี น ( 10 นาที)

5.7 อธบิ ายการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น มีจานวน

10 ขอ้ เวลาท่ใี ช้ 10 นาที (พร้อมส่งครบเวลา)

5.8 ครูผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาใบความรู้ หนว่ ยเนือ้ หา 5.6 ผเู้ รยี นศึกษาตาราเรียนหนว่ ยเน้ือหา ใบความรู้

ตาราเรียน การประยุกต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งฯ

5.9 ครผู ู้สอน ตงั้ คาถามเก่ียวกบั การวางแผนฯและ 5.7 ผู้เรียนรว่ มตอบคาถาม

(ผเู้ รยี นตอบคาถาม) 5.8 ผู้เรยี นรับฟงั การบรรยาย เกย่ี วกบั เนือ้ หา

5.10 ครูผสู้ อน อธบิ ายเนื้อหา ใบความรู้ เนอื้ หาใน การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯ

หน่วยการเรียนรู้ (เวลา 100 นาที) 5.9 ผเู้ รยี นจดั ทาใบงานท่มี อบหมาย (200 นาที)

5.11 ครผู ู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหัด

(เวลา 200 นาที)

ขน้ั สรปุ (จานวน 30 นาที) 5.10 ผู้เรยี นรว่ มสรุปเนอื้ หา ใบความรู้ เนอื้ หาหนว่ ย
5.12 ครผู สู้ อนและผเู้ รียนสรุปเนือ้ หา หวั ข้อ การเรียนรู้ ตาราเรยี น
การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ข้อ
5.13 ครผู ้สู อนแจกแบบทดสอบหลงั เรียน หวั ขอ้ 5.11 ผเู้ รยี นจดั ทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ขอ้
(เวลา 10 นาที)
การประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งฯ
10ขอ้ (10 นาที) 5.12 มอบหมายงาน การจดั ทารายงาน รายบคุ คล
รายกลุ่ม 3-5 คน รายงานหนา้ ช้ันเรียน

6. ส่ือการสอน

สอ่ื สิ่งพมิ พ์

1. ตาราเรียน หนงั สอื ประกอบการเรียนการสอนวชิ า ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลศิ เกียรตวิ ิทยา สานักพมิ พ์เอมพนั ธ์

2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้

ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ ม)ี

1. power point ธุรกจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ 20001-1003 การประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง

2. VDO สื่อการสอน ประจาวชิ า ธุรกิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................

หนุ่ จาลองหรือของจรงิ (ถ้ามี)

1. ...................................................................................................................................

เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถา้ มี)
3. แบบทดสอบหลงั เรียน

แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้

1. ห้องสมุดวิทยาลยั การอาชพี สวา่ งแดนดนิ (ตาราเรียน)
2. หอ้ งอินเทอรเ์ นต็ วิทยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดิน การสืบคน้ ขอ้ มลู
3. Google แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ จากโทรศพั ท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กับวชิ าอืน่

1. วชิ าภาษาไทย การอา่ นและทาความเขา้ ใจในเนื้อหาหนว่ ยการเรียนรู้ ใบความรู้ ตคี วาม
2. วิชาสงั คมศึกษา การอยู่ในสงั คม การคบเพ่ือน
3. วิชาภาษาองั กฤษ เรื่องศัพท์เฉพาะในหนว่ ยการเรียนการสอน

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น

1. จัดเตรียมห้องเรยี นให้เรยี บร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอุปกรณก์ ารเรียนให้พร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรียน และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรยี น
1. จัดทาใบงานทีม่ อบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จัดทาแบบทดสอบหลังเรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบตั ิตนในการเรยี นรู้อย่างเหมาะสมในชั้นเรียน

8.3 หลังเรียน
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหน้า
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่ีเกิดจากการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น

1. ใบงานท่มี อบหมาย
2. สมุดในการทาแบบฝึกหัด แบบฝกึ ปฏบิ ัติท้ายหนว่ ย
3. สรปุ ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บนั ทึกการสอนของครู
2. ใบเช็ครายช่อื
3. แผนการจัดการเรียนรู้
4. ใบความรู้ เนอ้ื งานในหนังสือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน

11. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธก์ บั รายวชิ าอนื่

1. รายวิชาภาษาไทย เพือ่ อ่าน ฟงั พูด เขียน และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวิชาสงั คมศกึ ษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ่วมกันในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวิชาภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาองั กฤษในหน่วยการเรยี นการสอน

12. หลกั การประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน

12.1.1 การประเมนิ การตรวจสอบรายชือ่ ผู้เข้าเรยี นในช่วั โมง (ด้านจติ พสิ ยั )
12.1.2 การประเมนิ การเตรียมความพร้อมในการเรียนของผเู้ รยี น อุปกรณ์การเรียน ตาราเรียน

สมุด ปากกา ไม้บรรทัด
12.1.3 การประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมินการมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏิบัติตน ขณะเรียน การทาแบบฝึกหดั ใบงาน
(แบบประเมนิ พฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน

12.3 หลังเรียน

12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรูแ้ ละสรุปผลการเรยี นรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นร้อยละ 50 หลังเรยี นรอ้ ยละ 70

12.3.2 เมือ่ ไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดใหม้ กี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มกี ารมอบหมายงาน ศึกษาเน้ือหาในหน่วยการเรียนถดั ไป และใบความรู้ (ถ้ามี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพิ่มเติมโดยการจดั ทารายงานกล่มุ หรือรายบุคคคล

13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน

จดุ ประสงค์ข้อท่ี 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วธิ กี ารประเมนิ : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมนิ : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............

จุดประสงคข์ ้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมิน : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................

14. แบบทดสอบก่อนเรยี น 15 แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการสอนท่ี 9 ช่ือหน่วยการสอน การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษกจิ พอเพียงในธรุ กิจและการเปน็
ผ้ปู ระกอบการ
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรูเ้ บ้อื งตน้ ของผเู้ รยี น หลังการเรียนการสอน
ขอ้ คาถาม

แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียน

จงเลือกคาตอบทถี่ กู ต้องที่สุดเพยี งข้อเดยี ว

1.เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาทเ่ี นน้ ในเรื่องใดมากทีส่ ุด
1. การประพฤติปฏบิ ตั ิตนเป็นคนดี
2. การดาเนินไปบนทางสายกลาง
3. ความสามารถในการพึ่งตนเอง
4. ความมีความรู้ และการมีคุณธรรม
5. ความรอบรู้และมีภูมคิ ุ้มกันตนเอง

2ขอ้ ใดไมใ่ ช่การพิจารณาจากความสามารถในการพ่ึงตนเอง
1. พอประมาณ
2. มเี หตุผลและภูมิคุ้มกัน
3. รอบคอบ ระมดั ระวงั
4. ความพอดี
5. รักษาความสตั ย์ อดทนอดกล้นั

3. คุณธรรมท่ีทุกคนควรจะศกึ ษาและนามาปฏิบตั ไิ ด้แก่ขอ้ ใด
1. การรกั ษาความสตั ย์
2. การรูจ้ กั ขม่ ใจตนเอง
3. ความอดทน อดกลัน้ และอดออม
4. รจู้ กั ละวางความชัว่ และรจู้ ักเสยี สละ
5. ถกู ทกุ ขอ้

4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หลกั เกณฑใ์ นการประกอบธรุ กิจแบบเศรษฐกิจพอเพียง
1. มีตลาดทีห่ ลากหลายเพื่อลดความเสย่ี ง
2. ใหค้ วามสาคญั กับการสร้างกาไรสงู สุด
3. การดาเนนิ ธุรกิจทตี่ นเองมีความรจู้ ริง
4. มีเหตุผลในการขยายตลาด
5. มคี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ ริตในการประกอบการ

5. ข้อใดไม่ใช่การบริหารจดั การดว้ ยความพอเพียงนน้ั จะต้องเรม่ิ ท่ีเปา้ หมาย

1. ความสามารถบริหารงาน

2. ตอ้ งแสวงหาความรู้กบั สรา้ งความเข้มแข็ง

3. การมีเปา้ หมายด้านคณุ ภาพชวี ิต

4. ต้องรูจ้ ักพึ่งตนเอง

5. ขอ้ 1 - 2 - 4 ถูกต้อง

6. ข้อใดที่แสดงให้เห็นวา่ เป็นการร้จู ักใช้เงนิ ใหเ้ หมาะสม

1. รายไดจ้ ากการประกอบการธุรกิจ

2. เลอื กประกอบอาชีพเพ่ือหารายได้

3. การบรโิ ภคปจั จยั สอื่ ย่างเหมาะสม

4. ไม่ดื่มน้าเมา เทย่ี วกลางคืน เลน่ การพนนั

5. การทาบญั ชคี รัวเรอื น

7. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องการทาบญั ชีรายรับ - รายจ่าย

1. ทาใหท้ ราบวา่ มที รัพยส์ ิน หนส้ี ิน และทนุ จานวนเทา่ ใด

2. เป็นหลกั ฐานในการตรวจสอบตัวเงินสดกับยอดบัญชีวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่

3. ช่วยใหม้ ีการบริหาร ควบคุม การทางบประมาณอย่างถูกต้อง

4. ช่วยเป็นหลกั ฐานในการบริหารงาน เพอื่ ป้องกันความผดิ พลาดที่เกิดขนึ้ อกี

5. ช่วยคานวณผลการดาเนนิ งานว่ามีกาไรหรือขาดทุนอย่างไร

8 . ข้อใดเป็นภมู ปิ ัญญา ประเภทงานศิลปวัฒนธรรมพืน้ บา้ น

1 . ผลติ ภณั ฑจ์ ากสมุนไพร

2 . การผลิตผลติ ภณั ฑ์จากไม้ หิน โลหะ

3 . การผลติ ผลติ ภัณฑจ์ ากเซรามกิ

4 . การฟ้อนราพ้นื บา้ น ละครพนื้ บา้ น

5 . การผลติ ผลติ ภณั ฑ์จากวัสดุเหลือใช้

9 . ขอ้ ใดเป็นการเลือกสรรภูมิปัญญาท่สี ญู หายไปแลว้ มาทาให้มีคณุ ค่าและสาคญั ต่อการดาเนนิ ชีวติ ในท้องถ่นิ

1 . การคน้ ควา้ วจิ ยั 2 . การอนรุ ักษ์

3 . การฟ้ืนฟู 4 . การพฒั นา 5 . การถ่ายทอด

10 . ขอ้ ใดสอดคล้องกับคาว่า “ การถ่ายทอด ”

1 . ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลภูมปิ ญั ญาของไทยดา้ นต่างๆของทอ้ งถน่ิ

2 . ปลกู จิตสานกึ ให้คนในทอ้ งถิน่ ตระหนกั ถึงคุณคา่ และความสาคญั ของภูมิปัญญาท้องถิ่น

3 . เลือกสรรภูมิปัญญาท่ีสญู หายแลว้ มาทาให้มีคณุ คา่ และสาคัญต่อการดาเนนิ ชวี ิตในท้องถน่ิ

4 . รเิ ร่มิ สร้างสรรค์และปรบั ปรุงภูมิปญั ญาให้เหมาะสมและเกดิ ประโยชน์

5 . น้าภูมิปัญญามาเลือกสรรกล่ันกรองด้วยเหตุและผลอย่างรอบคอบแล้วสื่อสารให้คนได้รับรู้เกิดความ

เข้าใจ

กระดาษคาตอบ กอ่ นเรียน – หลงั เรียน

กจิ กรรมการเรียนรู้

หนว่ ยที่ 9 เร่อื ง การประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาของเศรษกิจพอเพียงในธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ

ก่อนเรียน 5 หลงั เรียน 4 5
ขอ้ 1 2 3 4 ขอ้ 1 2 3
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรยี น รวมคะแนน หลงั เรยี น

ชื่อ-สกุล...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.ี่ .............

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน

กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยท่ี 9 เร่ือง การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษกิจพอเพียงในธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ

กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น 4 5
ขอ้ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10

รวมคะแนน ก่อนเรียน 10 รวมคะแนน หลังเรียน 10

ช่ือ-สกลุ ...........................................................ผู้สอน/ผู้ตรวจ
(นายวิจิตร พลเศษ)

หน่วยการสอนท่ี 9 ชื่อหนว่ ยการสอน การประยกุ ต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการเป็น
ชื่อหัวข้อเรอ่ื ง การประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเปน็

16. ใบความรู้

แนวคิด

ผปู้ ระกอบการทพ่ี อเพยี งจะคานงึ ถงึ ความมนั่ คงและยงั่ ยนื ของการดาเนินธรุ กจิ มากกว่าการแสวงหา
ผลประโยชน์ ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งมคี วามรอบรใู้ นธรุ กจิ ทต่ี นดาเนินงานอยแู่ ละมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู ขา่ วสารตลอดเวลา
เพ่อื ใหส้ ามารถทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงต่างๆ มคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพ่อื ป้องกนั
ขอ้ บกพรอ่ งเสยี หายไมใ่ หเ้ กดิ ขน้ึ และมคี วามรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครงั้ เพอ่ื ป้องกนั ขอ้ บกพรอ่ งไมใ่ ห้
เกดิ ขน้ึ และตอ้ งมคี ณุ ธรรม คอื มคี วามซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ในการประกอบอาชพี ไมผ่ ลติ หรอื ซอ้ื ขายสนิ คา้ ทก่ี ่อ
โทษหรอื สรา้ งปญั หาใหก้ บั คนในสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม มคี วามขยนั หมนั่ เพยี ร อดทนในการพฒั นาธุรกจิ
ไมใ่ หบ้ กพรอ่ งและก้าวหน้าไปอยา่ งต่อเน่อื ง โดยมกี ารพฒั นาประสทิ ธภิ าพ การผลติ ปรบั ปรงุ สนิ คา้ และ
คุณภาพใหท้ นั กบั ความตอ้ งการของตลาดและการเปลย่ี นแปลงในเทคโนโลยี ขณะเดยี วกนั ตอ้ งมคี วาม
รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมและสงิ่ แวดลอ้ มทกุ ขนั้ ตอนของการดาเนนิ ธุรกจิ

ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง

1. สามารถนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชช้ ีวติ ประจาวนั ได้
2. สามารถอธิบายการประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดาเนนิ ธรุ กิจ
3. สามารถทาบัญชีครัวเรือน
4. นาภมู ิปญั ญาท้องถ่ินไทยไปประยกุ ต์ใช้ได้

สาระการเรยี นรู้
1. การประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนนิ ธรุ กจิ
2. แนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ
3. การทาบญั ชีครัวเรอื น
4. ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ไทย

1.ครกู ล่าวถงึ เศรษฐกิจพอเพียง เปน็ ปรชั ญาท่ีชถ้ี ึงการดารงและปฏิบตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดับตัง้ แต่
ระดับบคุ คล ระดับครอบครัว ระดับชมุ ชนจนถงึ ระดับรัฐ ทง้ั ในการพัฒนาและการบรหิ ารประเทศใหด้ าเนิน
ไปบนทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกจิ เพื่อให้ก้าวทันตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ัตน์ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจ
ของทกุ คนและทุกอาชพี ซงึ่ การนาไปปฏิบตั ิก็ต้องเหมาะสมกับอาชีพของตนเองด้วย

2.ครแู นะนาให้ผเู้ รยี นทเี่ ป็นผู้ประกอบการจึงควรจะดาเนินธรุ กจิ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง ซึง่ เป็น
แนวความคดิ ที่มากกวา่ การมุ่งเนน้ ธรุ กิจและสังคม เพราะเป็นแนวความคิดที่คานงึ ถึงความมีสานกึ ในคณุ ธรรม
ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ ความรอบคอบ ใหเ้ กิดความสมดลุ และพรอ้ มต่อการรองรบั การเปลยี่ นแปลง ทั้งดา้ นวัตถุ สังคม
สง่ิ แวดล้อมและวัฒนธรรมจากโลกภายนอก

3.ครอู ธิบายการประยกุ ตใ์ ช้ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาเนินธรุ กจิ สามารถพจิ ารณาได้ดังต่อไปน้ี
1) พจิ ารณาจากความสามารถในการพงึ่ ตนเอง ทเ่ี นน้ ความสมดลุ ทั้ง 3 คณุ ลักษณะ คือพอประมาณ มีเหตุมี
ผลและมีภูมคิ มุ้ กัน มาประกอบการตัดสินใจเร่ืองตา่ งๆ อยา่ งเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบ ระมัดระวัง พจิ ารณาถงึ
ความพอดี พอเหมาะ พอควรและพร้อมรับการเปล่ยี นแปลงที่ครอบคลมุ ทั้ง 5 ประการ คือ
1.1 ดา้ นจติ ใจ มจี ติ ใจเข้มแข็ง ฝึกฝนตนเองได้ มจี ติ สานึกที่ดี เอ้อื อาทร ประนีประนอมและนึกถึงประโยชน์
ส่วนรวมเป็นหลัก
1.2 ดา้ นสงั คม มีความช่วยเหลอื เก้ือกูลกนั ร้รู ักสามัคคี สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวและชมุ ชน รู้จกั ผนกึ
กาลัง มกี ระบวนการเรียนร้ทู เ่ี กิดจากรากฐานทมี่ นั่ คงแขง็ แรง
1.3 ด้านเศรษฐกิจ ดารงชวี ิตอยอู่ ย่างพอดี พอมี พอกิน สมควรตามอัตภาพ และฐานะของตนประกอบ
อาชีพสุจริต (สมั มาอาชีวะ) ด้วยความขยันหมั่นเพียร อดทนใช้ชีวิตเรยี บง่าย โดยไมเ่ บียดเบียนตนเองและผอู้ ่ืน มี
รายได้สมดลุ กบั รายจ่าย รู้จักการใช้จา่ ยของตนเองและครอบครัวอยา่ งมเี หตผุ ลเทา่ ทจี่ าเป็น ประหยดั รจู้ กั การเกบ็
ออมเงินและแบง่ ปนั ผู้อนื่
1.4 ดา้ นเทคโนโลยี รู้จกั ใชเ้ ทคโนโลยที เี่ หมาะสม สอดคลอ้ งกับความต้องการและภมู นิ ิเวศ พัฒนา
เทคโนโลยจี ากภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
1.5 ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม รู้จักใช้และจดั การอย่างฉลาดและรอบคอบสามารถเลอื กใช้
ทรัพยากรทม่ี ีอยใู่ หเ้ กิดความย่ังยืนสงู สุด
2) พจิ ารณาความรคู้ ู่คุณธรรม มกี ารศึกษาเรยี นร้แู ละพฒั นาตนเองอย่างต่อเน่อื ง (ทง้ั ทฤษฎแี ละการปฏบิ ตั ิ
จริง) ในวิชาการตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วกบั การดารงชวี ิต โดยใช้สติปัญญาในการตัดสนิ ใจตา่ งๆ อย่างรอบรู้ รอบคอบ และมี
เหตุผลทจี่ ะนาความรู้ต่างๆ มาปรับใชอ้ ยา่ งมีขนั้ ตอนและระมัดระวัง ในการปฏิบตั ิ มีความตระหนักในคุณธรรม มี
ความซอื่ สตั ยส์ จุ ริต มีความเพียรความอดทน และใชส้ ติปัญญาอย่างชาญฉลาดในการดาเนินชวี ิตบนทางสายกลาง
4.ครอู ธิบายการประยุกต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดาเนินงานพอประมาณ มี
เหตุผล สร้างภมู ิคมุ้ กนั และมีบทบาทในการชว่ ยเหลือกันภายในประเทศ การบริหารจดั การด้วยความพอเพยี งน้ัน
จะตอ้ งเรมิ่ ที่เป้าหมาย ได้แก่
1) ความสามารถในการบรหิ ารงาน โดยต้องสอดคล้องกบั โลกภายนอกโดยไมข่ ยายตวั เกินกวา่ กาลังท่ีมีอยู่
หรือต้องมปี ระสิทธผิ ลในทางการตลาดหรือการตามทันกับการเปล่ียนแปลงท่เี กิดขน้ึ ซึ่งต้องมีสตแิ ละความรู้

2) ต้องแสวงหาความรกู้ บั สรา้ งความเข้มแขง็ หรือเพมิ่ ความขยนั ขนั แข็งในการทางานโดยมกี ารติดตาม
เทคนคิ วทิ ยาการ แล้วรจู้ กั เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีและเอามาประยกุ ตใ์ ช้เพื่อประโยชน์ในการผลติ และการทางานให้มี
ประสทิ ธภิ าพดีขนึ้ หรือก็คือการเพมิ่ ผลผลิตอย่างมปี ระสิทธิภาพ

3) การมีเป้าหมายดา้ นคณุ ภาพชีวิต คอื การรูจ้ ักใช้จา่ ยบรโิ ภคตามความจาเป็นและอย่างมเี หตผุ ลเพ่ือชวี ิตท่ี
อยดู่ ีมีสุข ใชช้ ีวติ อยา่ งมคี ุณค่า มกี ารเรียนรู้ โดยมคี วามสขุ สมดุลทัง้ กายและใจพร้อมกับมีการออมเพ่ือความ
ปลอดภยั ด้วย

5.ครแู ละผเู้ รยี นบอกแนวทางการนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในการดาเนินชวี ิต โดยการดาเนินชีวิต
ของแตล่ ะบคุ คลยอ่ มตอ้ งอาศัยหลกั และแนวคิดเพ่ือใหก้ ารดาเนนิ ชีวติ เปน็ ไปอย่างราบร่ืน ซึ่งอาจจะไดร้ ับการ
ปลกู ฝงั มาจากสถาบันครอบครัว (ปู่ ยา่ ตา ยาย พ่อ แม่) สถาบนั การศกึ ษา สถาบันทางสังคม เปน็ ต้น

6.ครอู ธบิ ายและแสดงการทาบญั ชคี รัวเรอื น โดยการทาบัญชคี รัวเรอื น คือ การจดบนั ทกึ ข้อมูลเก่ยี วกับ
เงื่อนไขปัจจยั ในการดารงชวี ติ ของตนเอง ครอบครวั ชุมชน และประเทศ ข้อมูลที่ได้จากการบันทึกจะเป็นตวั บ่งช้ี
อดีต ปัจจบุ ัน และอนาคตของชวี ิต สามารถนาขอ้ มลู อดีตมาบอกปัจจบุ นั และอนาคตได้ ขอ้ มลู ท่ีได้ที่บันทกึ ไว้ จะ
เป็นประโยชน์ตอ่ การวางแผนชีวิตและกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ครอบครัว ชุมชน และประเทศได้

7.ครูอธิบายรูปแบบการบันทึกการทางานหรอื ทาบัญชรี ายรับ-รายจ่าย อาจแตกต่างกนั ไปขน้ึ อยู่กับสภาพ
ความเปน็ อยู่ของแตล่ ะบุคคล ทง้ั นี้ไม่ได้กาหนดรปู แบบทีต่ ายตัว ใหย้ ืดหยุ่นได้ตามสภาพความเป็นอยู่ทเี่ หมาะสม
และการใช้งานนนั้ ซึ่งอาจบนั ทึกในรปู แบบและหวั ข้อต่อไปน้ี

1) การบันทึกเกีย่ วกบั การใช้เครอ่ื งมือและวัสดอุ ุปกรณ์ เพื่อจะได้ทราบวา่ ในการทางานจาเป็นตอ้ งใช้
เครอ่ื งมืออะไรบ้าง จานวนเท่าใด ถา้ จาเป็นจะต้องซื้อจะเสียคา่ ใช้จา่ ยมากนอ้ ยเพยี งใด

2) การบนั ทึกการปฏบิ ัติงาน เป็นการบนั ทึกข้อมลู ในการปฏบิ ัตงิ าน เพ่ือจะได้ทราบวา่ การปฏบิ ัติงานในแต่ละวัน
หรอื แตล่ ะสัปดาห์มีงานอะไรบ้าง มีปญั หาในการดาเนินงานอย่างไร และได้แก้ปัญหานนั้ อย่างไรควรมีการลงช่ือ
ผู้ปฏบิ ัตงิ านดว้ ย

3) การบนั ทึกบัญชรี ายรับ-รายจา่ ย มีความสาคญั มาก เนื่องจากเป็นแหล่งข้อมูลที่ตอ้ งการใช้
ในการกาหนดรายได-้ รายจา่ ย การจดั ทาแผนงบประมาณและอ่นื ๆ ท่เี กย่ี วข้อง

8.ครอู ธิบายภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ไทย โดยภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ไทย (Wisdom) คือ ความรู้ความชานาญ วธิ ีการ
หรือเทคโนโลยีท่มี ีการสบื ทอดต่อกันมาจากอดตี ส่ปู จั จบุ ัน รวมท้ังงานสร้างสรรค์ของกล่มุ คนในชุมชนบนพนื้ ฐาน
วัฒนธรรม และสรา้ งสรรค์ข้นึ เพ่ือประโยชนข์ องกลุ่ม โดยสะท้อนความคิดและความคาดหวังของชุมชนนั้น ดว้ ย
เปน็ การแสดงออกซงึ่ เอกลักษณ์ทางสงั คมและวัฒนธรรม มาตรฐานและคุณค่าของชมุ ชน อาจใชภ้ าษาหรือไมใ่ ช้
ภาษาหรือผสมผสานระหว่างใช้ภาษาและไมใ่ ชภ้ าษาเป็นส่ือ

9.ครบู อกประเภทของภูมิปัญญาท้องถ่ินไทย เปน็ องคค์ วามรู้ของกลุม่ บุคคลในท้องถิน่ รวมถงึ งาน
ศลิ ปวัฒนธรรมพนื้ บา้ นที่มีอยู่ในทกุ ภาคของประเทศ ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท

1) ภมู ปิ ญั ญาประเภทองค์ความรขู้ องกลมุ่ บุคคลท้องถิน่ เชน่ การผลิตอาหารและเคร่ืองดื่ม การผลติ
ผลติ ภณั ฑจ์ ากสมุนไพร การผลติ ผลติ ภณั ฑจ์ ากวสั ดเุ หลอื ใช้ และการผลิตผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ หนิ โลหะ แก้ว เซรามิก
ดนิ เผา เครอื่ งหนงั เป็นต้น
2) ภมู ปิ ญั ญาประเภทงานศลิ ปวัฒนธรรมพืน้ บ้าน เช่น เร่ืองเล่าพ้นื บา้ น กวีนิพนธ์พ้นื บ้าน ปรศิ นาพนื้ บา้ น เพลง
พ้ืนบ้าน ดนตรพี ้ืนบ้าน ละครพนื้ บ้าน จิตรกรรมพน้ื บา้ น ประตมิ ากรรมพืน้ บา้ น หัตถกรรมพืน้ บา้ น เครื่องแต่งกาย
พื้นบา้ น เปน็ ต้น

19. แบบฝกึ หัด

1. จงอธิบายการประยุกตใชปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาเนนิ ธรุ กิจ โดยการพิจารณาจากความสามารถ
ในการพ่ึงตนเอง วามีลักษณะอยางไรบาง

ตอบ.......................................................................................................... ...........................................

2. ผปู ระกอบการควรนาคุณธรรมมาใชในการดาเนินธุรกิจตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยางไรบาง
ตอบ.................................................................................................................... .................................

3. หลักเกณฑในการประกอบธรุ กจิ แบบเศรษฐกิจพอเพียง มลี กั ษณะอยางไรบาง
ตอบ.......................................................................................................................... ...........................

4. ผปู ระกอบการสามารถปรับตวั เองใหเขากบั สภาพแวดลอมท่ีเปลยี่ นแปลงไปไดอยางไรบาง
ตอบ.......................................................................................................................... ...........................

5. การประกอบอาชีพแบบเศรษฐกิจพอเพยี งสามารถทาไดอยางไรบาง
ตอบ.......................................................................................................................... ...........................

6. การบริหารจดั การดวยความพอเพยี งนน้ั จะตองเริม่ ทเ่ี ปาหมายใดบาง
ตอบ.......................................................................................................................... ...........................

7. ผปู ระกอบการสามารถนาแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชในการจดั การกับชีวิตไดอยางไรบาง
ตอบ.......................................................................................................................... ...........................

8. การทาบญั ชีครัวเรือนหมายถึงอะไร จงอธิบาย
ตอบ.....................................................................................................................................................

9. ภมู ปิ ญญาทองถ่ินไทย (Wisdom) หมายถงึ อะไร
ตอบ...................................................................................................................... ...............................

10. ภมู ปิ ญญาทองถ่นิ ไทยแบงออกเปนก่ีประเภท อะไรบาง
ตอบ.......................................................................................................................... ...........................

เฉลยแบบฝึกหัด

1. จงอธบิ ายการประยุกตใชปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดาเนินธรุ กิจ โดยการพจิ ารณาจากความสามารถ
ในการพึ่งตนเอง วามีลักษณะอยางไรบาง

ตอบ การพจิ ารณาจากความสามารถในการพ่ึงตนเองท่ีเนนความสมดุลทั้ง 3 คุณลกั ษณะ คอื พอประมาณ
มีเหตมุ ีผลและมีภมู ิคุมกนั มาประกอบการตัดสนิ ใจเรือ่ งตางๆ อยางเปนข้ันเปนตอน รอบคอบ ระมดั ระวงั
พจิ ารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควร และพรอมรับการเปล่ยี นแปลงท่คี รอบคลมุ ทั้ง 5 ประการ คือ

1. ดานจิตใจ มจี ิตใจเขมแขง็ ฝกฝนตนเองได มจี ติ สานึกที่ดี เออ้ื อาทร ประนปี ระนอมและนกึ ถึง
ประโยชนสวนรวมเปนหลกั

2. ดานสงั คม มคี วามชวยเหลือเก้ือกลู กัน รูรกั สามัคคี สรางความเขมแข็งใหครอบครัวและชุมชน
รจู ักผนึกกาลงั มีกระบวนการเรยี นรทู ่ีเกดิ จากรากฐานท่ีม่นั คงแขง็ แรง

3. ดานเศรษฐกิจ ดารงชีวติ อยูอยางพอดี พอมี พอกิน สมควรตามอตั ภาพ และฐานะของตน
ประกอบอาชีพสุจรติ (สัมมาอาชีวะ) ดวยความขยันหมัน่ เพียร อดทนใชชวี ติ เรยี บงาย โดยไมเบยี ดเบยี น
ตนเองและผูอนื่ มรี ายไดสมดุลกบั รายจาย รูจักการใชจายของตนเองและครอบครวั อยางมเี หตผุ ลเทาท่จี าเปน
ประหยดั รูจักการเกบ็ ออมเงินและแบงปนผูอน่ื

4. ดานเทคโนโลยี รจู ักใชเทคโนโลยที ่ีเหมาะสม สอดคลองกับความตองการและภูมนิ ิเวศ พฒั นา
เทคโนโลยีจากภูมปิ ญญาทองถนิ่ มาใชใหเกดิ ประโยชนตอตนเองและสงั คม

5. ดานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอม รูจกั ใชและจดั การอยางฉลาดและรอบคอบ สามารถเลอื ก
ใชทรพั ยากรท่มี ีอยูใหเกิดความยง่ั ยืนสงู สุด

2. ผปู ระกอบการควรนาคุณธรรมมาใชในการดาเนนิ ธรุ กิจตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอยางไรบาง
ตอบ พจิ ารณาความรูคูคุณธรรม มกี ารศึกษาเรียนรูและพฒั นาตนเองอยางตอเน่ืองในวชิ าการตางๆ ที่

เก่ยี วกบั การดารงชวี ติ โดยใชสตปิ ญญาตดั สนิ ใจอยางรอบรู รอบคอบ และมีเหตผุ ลที่จะนาความรูตางๆ มาปรบั ใช
อยางมีข้นั ตอนและระมัดระวังในการปฏบิ ัติ มคี วามตระหนักในคุณธรรม มีความซ่ือสตั ยสจุ รติ มคี วามเพียร
ความอดทน และใชสติปญญาอยางชาญฉลาดในการดาเนนิ ชีวติ ในทางสายกลาง คุณธรรมท่ที ุกคนควรจะศึกษา
และนามาปฏบิ ัติมีดงั น้ี

1. การรักษาความสัตย ความจริงใจตอตนเองที่ประพฤติปฏิบัติสง่ิ ทมี่ ีประโยชนและเปนธรรม
2. การรจู ักขมใจตนเอง ฝกใจตนเองใหประพฤติปฏิบตั ิอยูในสัจจะความดนี น้ั
3. ความอดทน อดกลน้ั และอดออมท่จี ะไมประพฤตลิ วงความสัตยสุจริตไมวาดวยเหตุใด
4. การรจู กั ละวางความช่วั ความทุจริต และรูจักสละประโยชนสวนนอยของตนเพื่อบานเมอื ง

3. หลกั เกณฑในการประกอบธุรกิจแบบเศรษฐกจิ พอเพียง มีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ หลักเกณฑในการประกอบธุรกิจแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีดงั น้ี
1. การบริหารความเสี่ยงทางการตลาดท่ชี ดั เจน โดยมคี วามรูจรงิ ในการทาตลาด และมีตลาดท่ี

หลากหลายเพอ่ื ลดความเส่ยี ง
2. ไมใหความสาคัญกบั การสรางกาไรสงู สดุ เพือ่ เพ่ิมมูลคาใหกับผูถือหุนแตเพียงอยางเดยี ว

แตคานึงถงึ ผทู เี่ ก่ียวของท้งั หมดของธุรกิจ
3. การดาเนนิ ธรุ กจิ ทตี่ นเองมีความรูจรงิ ไมแขงขันในตลาดท่ีตนเองไมมีความชานาญ
4. มเี หตผุ ลในการขยายตลาด แบบคอยเปนคอยไป รูจกั วางแผนอยางรอบคอบ
5. มีความซอ่ื สตั ยสุจรติ ในการประกอบการ ไมเอารัดเอาเปรียบผูบริโภคและผูใชแรงงาน
6. การใหบริการลูกคาอยางจรงิ ใจและโปรงใส อยางสม่าเสมอ
7. ไมมีความโลภมากเกนิ ไป และไมเนนกาไรในระยะสั้นเปนหลกั

4. ผปู ระกอบการสามารถปรับตัวเองใหเขากบั สภาพแวดลอมทเี่ ปลย่ี นแปลงไปไดอยางไรบาง
ตอบ ผูประกอบการสามารถปรบั ตัวเองใหเขากบั สภาพแวดลอมทเี่ ปล่ียนแปลงไปไดดงั น้ี
1. การปฏบิ ตั ติ อผูเกี่ยวของอยางเปนธรรม ผูที่เกี่ยวของประกอบดวยเจาของธรุ กจิ หุนสวน และ
ประชาชนในฐานะผูบริโภค ทุกคนที่เกี่ยวของควรไดรับความเปนธรรมจากการดาเนนิ ธรุ กิจ
2. มีการกาหนดนโยบายที่มคี วามชัดเจน และดาเนนิ การตามนโยบายทีก่ าหนดไว ซึ่งสะทอนใหเหน็

ถงึ ประสทิ ธิภาพในการดาเนนิ งานของบรษิ ัท
3. ดาเนินงานอยางโปรงใส ควรเปดเผยขอมลู อยางถูกตองสม่าเสมอ ทันเวลา และมรี ะบบ

ทต่ี รวจสอบขอมูลได ซึ่งจะสงผลใหผูถือหุน ลูกคา คูคา สถาบนั การเงนิ และนกั ลงทุน มีความเชอ่ื ถือมากข้นึ
องคการสามารถหาพนั ธมติ รธุรกจิ ไดงาย สงผลตอการเพ่มิ ศักยภาพการแขงขันทางธรุ กจิ ได

4. ดาเนินธุรกจิ แบบมีวิสยั ทัศน โดยการคดิ แบบกวางไกล มองการณไกล จะชวยใหธุรกจิ เติบโตและ
ขยายตวั ไปอยางมีทศิ ทางมเี ปาหมายทาใหธรุ กจิ ดาเนินงานไปไดอยางมน่ั คงและย่งั ยืน

5. การประกอบอาชีพแบบเศรษฐกิจพอเพยี งสามารถทาไดอยางไรบาง
ตอบ การประกอบอาชพี แบบเศรษฐกจิ พอเพียงสามารถทาได ดงั น้ี
1. ทาไรทานาสวนผสมผสาน เพือ่ เปนจุดเร่ิมตนเศรษฐกิจพอเพียง
2. ปลกู ผกั สวนครัว เพ่อื ลดรายจายดานอาหารในครอบครัว
3. ใชปุยคอกและทาปุยหมักใชรวมกบั ปุยเคมี เพอ่ื ลดรายจายและชวยปรบั ปรุงบารุงดนิ
4. เพาะปลูกเห็ดฟางจากฟางขาวและเศษวสั ดุเหลือใชในไรนา
5. ปลูกผลไมสวนหลงั บานและปลกู ตนไมใชสอย
6. ปลกู พชื สมนุ ไพรชวยสงเสรมิ สุขภาพอนามยั
7. เล้ียงปลาในรองสวน ในนาขาวและสระนา้ เพอ่ื เปนอาหารและรายไดเสรมิ
8. เลี้ยงไกพ้ืนเมืองและไกไข เพอื่ เปนอาหารโปรตีนและรายไดเสริมโดยใชขาวเปลือกราปลายขาว

จากการทานา ขาวโพดเลย้ี งสัตวจากการปลกู พืชไร พืชผักจากการปลกู ในสวน
9. ทากาซชวี ภาพจากมูลสุกรหรอื ววั เพอื่ ใชเปนพลงั งานในครัวเรอื น
10. ทาสารสกดั ชีวภาพจากเศษพืชผักผลไม และพืชสมุนไพรทใ่ี ชในไรนา

6. การบรหิ ารจดั การดวยความพอเพียงน้นั จะตองเร่ิมท่เี ปาหมายใดบาง
ตอบ การบริหารจดั การดวยความพอเพยี งนน้ั จะตองเร่ิมทเ่ี ปาหมายดงั นี้
1. ความสามารถบริหารงาน โดยตองสอดคลองกับโลกภายนอกโดยไมขยายตัวเกนิ กวากาลงั

ทม่ี อี ยู หรือตองมปี ระสิทธิผลในทางการตลาดหรือการตามทันกบั การเปลี่ยนแปลงที่เกดิ ข้ึน ซ่งึ ตองมสี ติความรู
2. ตองแสวงหาความรูกบั สรางความเขมแข็งหรือเพ่ิมความขยนั ขันแข็งในการทางาน โดยมีการ

ติดตาม เทคนิควิทยาการ แลวรูจกั เลือกใชเทคโนโลยกี ับนาเอามาประยกุ ตใชเพ่ือประโยชนในการผลิตและ
การทางานใหมปี ระสิทธภิ าพดีขึน้ ซงึ่ ก็คอื การเพิม่ ผลผลิตอยางมปี ระสทิ ธิภาพ

3. การมเี ปาหมายดานคณุ ภาพชีวิต คือการรูจักใชจายบริโภคตามความจาเปนและอยางมีเหตผุ ล
เพือ่ ชีวติ ท่ีอยูดีมีสุข ใชชวี ิตอยางมคี ุณคา มีการเรยี นรู โดยมีความสขุ สมดุลทง้ั กายและใจ

7. ผปู ระกอบการสามารถนาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปใชในการจัดการกับชีวติ ไดอยางไรบาง
ตอบ ผูประกอบการสามารถนาแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงไปใชในการจัดการกบั ชีวติ ไดดังนี้
1. รจู กั ใชเงินใหเหมาะสม ในการหารายไดของบุคคลมีทม่ี า 4 ดาน ดังนี้
1.1 รายไดจากการเปนลูกจาง
1.2 รายไดจากการประกอบอาชีพอสิ ระ
1.3 รายไดจากการเปนผูประกอบการธรุ กิจ
1.4 รายไดจากการลงทุน
2. รจู กั เลือกใหเหมาะสม
3. รจู กั การบรโิ ภคที่เหมาะสม
4. หลีกเลยี่ งอบายมุข

8. การทาบญั ชีครวั เรอื นหมายถึงอะไร จงอธิบาย
ตอบ การทาบญั ชคี รวั เรือน คือ การจดบนั ทึกขอมูลเกี่ยวกับเง่อื นไขปจจยั ในการดารงชวี ิตของตนเอง

ครอบครัว ชมุ ชน และประเทศ ขอมูลทไี่ ดจากการบันทึกจะเปนตัวบงชี้อดีตปจจบุ นั และอนาคตของชวี ิต
สามารถนาขอมลู อดีตมาบอกปจจบุ นั และอนาคตได ขอมลู ทีไ่ ดบนั ทึกไว จะเปนประโยชนตอการวางแผนชีวิต
และกิจกรรมตางๆ ในชวี ติ ครอบครัว ชุมชน และประเทศได

9. ภูมิปญญาทองถิ่นไทย (Wisdom) หมายถงึ อะไร
ตอบ ภมู ิปญญาทองถิน่ ไทย (Wisdom) คือ ความรูความชานาญ วธิ กี ารหรือเทคโนโลยที ีม่ กี ารสบื ทอด

ตอกนั มาจากอดีตสูปจจบุ นั รวมทั้งงานสรางสรรคของกลุมคนในชมุ ชนบนพืน้ ฐานวัฒนธรรม และสรางสรรค
ข้นึ เพ่ือประโยชนของกลุม โดยสะทอนความคดิ และความคาดหวังของชมุ ชนนัน้ ดวยเปนการแสดงออกซึ่ง
เอกลกั ษณทางสังคมและวฒั นธรรม มาตรฐานและคุณคาของชุมชน อาจใชภาษาหรอื ไมใชภาษาหรอื ผสม
ผสานระหวางใชภาษาและไมใชภาษาเปนส่ือ

10. ภมู ปิ ญญาทองถน่ิ ไทยแบงออกเปนก่ีประเภท อะไรบาง
ตอบ ภมู ปิ ญญาทองถน่ิ สามารถแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก
1. ภมู ิปญญาฯประเภทองคความรูของกลุมบุคคลทองถ่ิน เชน การผลิตอาหารและเคร่ืองดม่ื

การผลติ ผลติ ภณั ฑจากสมนุ ไพร การผลติ ผลติ ภัณฑจากวัสดุเหลอื ใช และการผลติ ผลิตภัณฑจากไม หนิ โลหะ
แกว เซรามกิ ดนิ เผา เครื่องหนงั เปนตน

2. ภมู ปิ ญญาฯประเภทงานศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบาน เชน เรอื่ งเลาพื้นบาน กวีนิพนธพนื้ บาน
ปรศิ นาพนื้ บาน เพลงพื้นบาน ดนตรีพน้ื บาน การฟอนราพ้ืนบาน ละครพนื้ บาน จิตรกรรมพ้นื บาน ประติมากรรม
พื้นบาน หตั ถกรรมพื้นบาน เครื่องแตงกายพื้นบาน และสง่ิ ทอพ้ืนบาน เปนตน

17. ใบงาน

หนว่ ยการสอนท่ี 9
ชื่อหน่วยการสอน การประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการเป็น

จุดประสงค์ เพื่อ

1. สรา้ งความร้คู วามจาใหก้ ับผูเ้ รยี น
2. เพม่ิ การฝกึ ปฏบิ ตั ิแกผ่ ู้เรียน
3. สรา้ งความรับผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝ่เรียนรู้

ลาดับกิจกรรม/ลาดับการปฏบิ ัติ

1. ผู้เรยี นศึกษาเนอื้ หาจากใบความรู้
2. ผู้เรียนศกึ ษาหาความรู้จากตาราเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ การประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง 20001-1003 สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์
3. หรือ ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เร่อื ง การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการเป็น
4. จัดทาใบงานตามทมี่ อบหมาย (กาหนดเวลาจัดทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานท่ีมอบหมายก่อนหมดเวลาเรียน (10 นาที หรอื เป็นการบา้ น)

เกณฑ์การพิจารณา

1. ส่งงานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทกุ ขอ้ ทกี่ าหนด
3. ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย

ใบงานท่ี 9.1

เร่ือง การประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดาเนนิ งาน
ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขท่.ี ........ชน้ั ..........................
คาชแ้ี จง นักเรยี นสามารถนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชใ้ นการวางแผนและดาเนินงานของ
ธรุ กจิ ได้อยา่ งไรบ้าง
.................................................................................................................................................................. ..................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .

ใบงานที่ 9.2

เรอ่ื ง การประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนินธรุ กิจ
ชื่อ-สกุล............................................................................................เลขท.ี่ ........ชนั้ .............. ............
คาชี้แจง ให้นาขอ้ มูลเก่ยี วกับเศรษฐกิจพอเพียงจากสอื่ อนิ เทอรเ์ น็ต/หนงั สอื พิมพ์/ส่งิ ตีพิมพอ์ ื่น ๆ มาคนละ
3 เรือ่ ง โดยปฏบิ ตั ดิ ังน้ี

เรอ่ื งท่ี 1.................................................................................................................................
อา้ งอิงแหลง่ ที่มา................................................................................................................................
1.เรอ่ื งทศี่ ึกษามคี วามสัมพันธ์กบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งอย่างไร
...........................................................................................................................................................
2.แนวคดิ ที่ได้จากการศกึ ษา.................................................................................................................
........................................................................................................................................................ ...

เรอ่ื งที่ 2.................................................................................................................................
อ้างอิงแหล่งทมี่ า............................................................................................................................. ..
1.เรอ่ื งท่ีศึกษามคี วามสัมพนั ธ์กบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอย่างไร
...........................................................................................................................................................
2.แนวคดิ ทไี่ ดจ้ ากการศึกษา.................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................

เรือ่ งท่ี 3.................................................................................................................................
อา้ งอิงแหล่งทีม่ า............................................................................................................................. ..
1.เรื่องท่ศี ึกษามีความสมั พนั ธ์กบั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร
............................................................................................................................. ..............................
2.แนวคดิ ที่ไดจ้ ากการศึกษา.................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................

ใบงานที่ 9.3

เรื่อง การทาบัญชคี รวั เรอื น

ชอ่ื -สกุล............................................................................................เลขท่ี.........ช้ัน..........................

คาช้แี จง ให้บันทกึ รายรบั -รายจ่ายในครัวเรอื นของตนเอง ตลอดภาคเรยี นนต้ี ามแบบฟอร์มที่กาหนดให้

สมุดบันทึก รายรับ-รายจ่าย ในครัวเรือน

ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................

ประจาภาคเรียนท.ี่ ../........ระหวา่ งเดอื น..................ถงึ เดอื น................พ.ศ. ........

วัน เดือน ปี รายการ รายรบั รายจ่าย คงเหลอื

หมายเหตุ: 1.ถ้าไม่พอใหใ้ ช้กระดาษ A-4 ตีแบบฟอรม์ เพม่ิ เตมิ ได้
2.ครผู สู้ อนอาจให้บนั ทึกเป็นวัน/อาทติ ย/์ เดือนแล้วสรุปเปน็ ภาคเรยี น.../....กไ็ ด้

สรปุ ....................................................................................................................................................
............................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. ...............................
ขอ้ เสนอแนะ......................................................................................................................................
............................................................................................................... .............................................
.................................................................................................................................. ..........................

ใบงานท่ี 9.4

เร่ือง แนวทางการนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในการประกอบธุรกิจ
ชอื่ -สกุล............................................................................................เลขท่.ี ........ชั้น..........................
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกธุรกจิ ที่ตนเองรกั และสนใจที่จะประกอบอาชีพเม่ือจบการศึกษามา 1 อาชีพ
แลว้ กาหนดแนวทางการนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการประกอบธุรกจิ โดยวางแผนเปน็ ข้นั เป็นตอน โดย
ใหศ้ ึกษาความเปน็ ไปได้ของธรุ กจิ นน้ั ๆ ใหร้ อบคอบและสามารถปฏบิ ตั ิได้จริง
.................................................................................. .................................................... ..............................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................. ...................
........................................................................................................................................................................ ............
...................................................................................................... ..............................................................................
........................................................................................................................ .......................................................... ..
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 9.5
เรอ่ื ง การวางแผนและการดาเนินงานท่ีสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ช่อื -สกุล............................................................................................เลขท.่ี ........ช้ัน..........................
คาชแ้ี จง ใหเ้ ลอื กประกอบธรุ กิจมา 1 ชนดิ โดยใหว้ างแผนและดาเนินงานให้สอดคล้องกบั ปรชั ญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง ตามตารางขา้ งนี้

การวางแผนและการดาเนนิ งานทส่ี อดคลอ้ งกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ความพอประมาณ

ความมีเหตุผล

การมีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี

เง่อื นไขความรู้

เงอื่ นไขคุณธรรม

เฉลยใบงานท่ี 1-5

(ดุลพนิ ิจของผสู้ อน)

แบบสรุปคะแนน

ชุดที่ 1
รายวชิ า การประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการเป็ น

คะแนน กิจกรรมที่ ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
กอ่ นเรียน หลงั เรียน ระหว่าง
123 1 เรยี น

คะแนนเต็ม ✓✓ 5 10 10 15

คะแนนที่ได้
คิดเปน็ ร้อย
ละ

หมายเหตุ : ✓ = ผา่ นกิจกรรม  = ไม่ผ่านกจิ กรรม

(ลงชือ่ ) ....................................... ผปู้ ระเมิน
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)

ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ

เกณฑก์ ารประเมินแบบทดสอบกอ่ นเรียนและแบบทดสอบหลังเรยี น

ระดบั คณุ ภาพ หมายถงึ ดี
ระดบั 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 5 - 6 คะแนน

20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลักปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพสิ ยั

3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรูก้ ่อนเขา้ สอน

ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

4. มวี ธิ ีการนาเข้าสู่บทเรยี นท่ีน่าสนใจ

5. มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ เพื่อหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

8. จดั กิจกรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชีวิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม

11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างท่วั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใช้สอื่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใช้สอ่ื แหลง่ การเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมินผล

18. ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจติ พสิ ัย

20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ ี่เกย่ี วข้องมสี ่วนรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยยี่ ม 4 = ปฏบิ ตั ดิ ี 3 = ปฏิบัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลยี่

20.2 ปญั หาทพี่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา

ด้านการเตรยี มการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นส่ือ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวดั และประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านอ่นื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงชือ่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

บนั ทกึ หลงั การสอน

ผลการใช้แผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรุง

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรยี นของผเู้ รยี น

ความต้ังใจของผเู้ รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรับปรงุ
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
อุปกรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรียนร้ขู องผเู้ รียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้  ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้

บนั ทกึ เพ่ิมเตมิ

............................................................................................................................................... ..............

………………………………………………
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)
ผู้บนั ทกึ การสอน


Click to View FlipBook Version