บรหิ าร เชน่ เงนิ กรู้ ะยะยาวหรอื ระยะสนั้ หรอื ผลตอบแทนจากการลงทุนทค่ี าดหวงั ทจ่ี ะไดร้ บั เป็นตน้
3) การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ผลตอบแทน ฝา่ ยการเงนิ มหี น้าทต่ี ดั สนิ ใจเกย่ี วกบั วธิ กี ารกระจายการ
ลงทุน และการบรหิ ารผลกาไรทเ่ี กดิ ขน้ึ จากเงนิ ลงทนุ เหล่านนั้ ซง่ึ กาไรสทุ ธแิ บ่งออกได้ 2 ลกั ษณะ
3.1 เงนิ ปนั ผลทจ่ี ่ายใหผ้ ถู้ อื หุน้ และอตั ราการจา่ ยเงนิ ปนั ผลตอ้ งพจิ ารณาอย่างรอบคอบ
และเป็นธรรม
3.2 กาไรสะสม จะตอ้ งพจิ ารณาใหม้ ปี รมิ าณทเ่ี หมาะสม และเพยี งพอสาหรบั การวางแผนการขยาย
งานในอนาคตของธุรกจิ โดยตอ้ งมกี ารพจิ ารณารว่ มกบั ฝา่ ยการตลาด ฝา่ ยการผลติ และผบู้ รหิ ารระดบั สงู
7.ครอู ธบิ ายรายไดบ้ ุคคล หมายถงึ รายไดท้ งั้ หมดทค่ี รวั เรอื นไดร้ บั จากแหล่งต่างๆ ในรอบปี
ซง่ึ อาจจะไดม้ าจากเงนิ เดอื น ค่าจา้ งแรงงาน รายไดจ้ ากงานสว่ นตวั โบนสั ค่านายหน้า ดอกเบย้ี เงนิ ปนั ผล
ผลทไ่ี ดจ้ ากเงนิ ออมและการลงทนุ การจาหน่ายสนิ ทรพั ย์ และรายไดอ้ ่นื ๆ ซง่ึ รวมทงั้ หมดแลว้ จะเป็น
รายไดจ้ รงิ ทจ่ี ะได้ ไมใ่ ช่รายไดท้ ค่ี าดวา่ จะได้ และเป็นรายไดก้ ่อนหกั ภาษเี งนิ ได้ ปจั จยั ทก่ี าหนดรายไดข้ องบคุ คล
1) อายุ มคี วามสมั พนั ธต์ ่อการหารายไดข้ องบุคคล บุคคลทส่ี งู วยั และหนุ่มสาวเม่อื เรมิ่ ทางานก็
จะมรี ายไดไ้ มส่ งู มาก เม่อื เทยี บกบั ผทู้ อ่ี ยใู่ นวยั กลางคน ซง่ึ มอี ายรุ ะหวา่ ง 35- 55 ปี โดยทวั่ ไปในวยั น้จี ะมี
ความสามารถในการหารายไดส้ งู เน่อื งจากอยใู่ นวยั ทม่ี รี ่างกายแขง็ แรงในการทางาน
2) การศกึ ษา จะเป็นเคร่อื งกาหนดรายไดข้ องบคุ คล ผทู้ ส่ี าเรจ็ การศกึ ษาสงู ย่อมมรี ายไดส้ งู กว่า
ผมู้ กี ารศกึ ษาต่าหรอื ไมไ่ ดร้ บั การศกึ ษา
3) อาชพี การเลอื กอาชพี มคี วามสมั พนั ธก์ บั การศกึ ษาของบุคคล อาชพี บางอยา่ งจะตอ้ งผา่ นการ
ศกึ ษาเฉพาะดา้ น เชน่ แพทย์ นกั กฎหมาย สถาปนิก วศิ วกร เป็นตน้ แต่บางอาชพี ถงึ แมจ้ ะไมเ่ รยี นมา
โดยตรง กน็ าความรมู้ าประยกุ ตใ์ ชท้ างานได้ เช่น ผทู้ เ่ี รยี นสงั คมศาสตร์ อาจจะประกอบอาชพี ไดห้ ลายอยา่ ง
ไดแ้ ก่ อาจารย์ พนกั งาน พนกั งานของรฐั บาล รฐั วสิ าหกจิ ตลอดจนธุรกจิ เอกชนต่างๆ
4) คณุ สมบตั เิ ฉพาะตวั บุคคลแต่ละคนจะแตกต่างกนั โดยเฉพาะในสว่ นทเ่ี ป็นคุณสมบตั เิ ฉพาะตวั
เชน่ ความสามารถ (Abilities) ความชานาญ (Skills) บุคลกิ ภาพ (Personality) แรงกระตุน้ (Drive)
ทศั นคติ (Aptitudes) ขวญั และกาลงั ใจ (Motivation) และค่านยิ มต่างๆ (Value) ซง่ึ จะมอี ทิ ธพิ ลต่อการ
กาหนดระดบั รายไดข้ องบุคคลทงั้ สน้ิ
5) แหลง่ รายไดต้ ่างๆ ของบุคคล การทางานแต่ละอาชพี ยอ่ มมผี ลตอบแทน ไดแ้ ก่ เงนิ เดอื น คา่ จา้ ง
และสวสั ดกิ ารต่างๆ ในการพจิ ารณารายไดข้ องบุคคล นอกจากจะคานึงถงึ รายไดท้ เ่ี ป็นตวั เงนิ แลว้ ยงั ตอ้ ง
คานงึ ถงึ สวสั ดกิ ารหรอื ผลประโยชน์อน่ื ๆ ทค่ี วรจะไดร้ บั ดว้ ย
8.ครแู สดงการวดั รายไดส้ ว่ นบคุ คล สามารถทาได้ 2 วธิ ี ดงั น้ี
1) วธิ กี ารปรบั รายไดป้ ระชาชาตใิ หเ้ ป็นรายไดส้ ว่ นบุคคล
2) วธิ กี ารวดั รายไดส้ ว่ นบุคคลโดยตรง เป็นการวดั ผลรวมของรายไดเ้ ฉพาะทค่ี รวั เรอื นไดร้ บั รวม
กบั เงนิ โอนทค่ี รวั เรอื นไดร้ บั ในรอบปีนนั้ ๆ
9.ครสู าธติ การจดั ทางบการเงนิ สว่ นบุคคล เป็นงบสรุปผลการใชจ้ า่ ยเงนิ และชว่ ยวางแผนทางการเงนิ ในอนาคตซง่ึ
ประกอบดว้ ย งบแสดงฐานะการเงนิ งบรายไดร้ ายจา่ ยและบนั ทกึ ต่างๆ เป็นรปู แบบทป่ี ระชาชนทวั่ ไป
สามารถจดั ทาเองไดง้ ่าย โดยจะไมก่ ล่าวถงึ รายละเอยี ดทส่ี มบรู ณ์ของงบการเงนิ ตามมาตรฐานการบญั ชี
ฉบบั ท่ี 1 (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2552) งบการเงนิ สว่ นบคุ คลทน่ี ามาใชบ้ นั ทกึ รายการ มดี งั น้ี
1) งบรายไดแ้ ละรายจ่ายสว่ นบุคคล (Income Statement)
2) งบแสดงฐานะการเงนิ สว่ นบุคคล
3. การบนั ทกึ รายการทรพั ยส์ นิ สว่ นบคุ คล
4.บนั ทกึ รายการเสยี ภาษี
5) บนั ทกึ หลกั ฐานกรรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ ไมห่ มนุ เวยี น
6) บนั ทกึ หลกั ฐานการประกนั ภยั
7) บนั ทกึ หลกั ฐานการลงทนุ
8) บนั ทกึ หลกั ฐานสาคญั อน่ื ๆ
10.ครอู ธบิ ายและสาธติ การทางบประมาณ (Budgeting) คอื การวางแผนการทค่ี าดวา่ จะตอ้ งจา่ ย โดยการคดิ
ล่วงหน้าและแสดงขอ้ มลู ออกมาเป็นตวั เลขและอาจแสดงออกมาในรปู ของตวั เงนิ จานวนชวั่ โมงในการทางาน จานวน
ผลติ ภณั ฑจ์ านวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั ร คา่ สกึ หรอ คา่ โสหยุ้ เป็นตน้
11.ครสู าธติ การทางบประมาณสว่ นบคุ คล (Personal Budgets) หมายถงึ การวางแผนประมาณรายไดร้ ายจา่ ย
ล่วงหน้า เพ่อื จดั สรรเงนิ ทม่ี อี ย่อู ย่างจากดั ใหป้ ระสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมาย โดยจดั ทางบประมาณรายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่าย
ตามทไ่ี ดค้ าดการณ์ไว้ แลว้ จงึ นามาประกอบเป็นงบประมาณรายไดแ้ ละงบประมาณรายจา่ ย
รายเดอื นหรอื รายปี เพ่อื ควบคมุ คา่ ใชจ้ ่ายใหอ้ ยใู่ นกรอบของงบประมาณทไ่ี ดก้ าหนดกจ็ ะมเี งนิ เหลอื ใชเ้ งนิ สว่ นน้กี จ็ ะเป็นเงนิ
ออมในวนั ขา้ งหน้า
12.ครสู าธติ การทางบประมาณรายจา่ ยสว่ นบคุ คล
19. แบบฝึกหัด
1. การวางแผนทางการเงนิ หมายถึงอะไร และมลี ักษณะอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. จงบอกวตั ถปุ ระสงคทางการเงนิ สวนบคุ คล
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. วิธกี ารวางแผนทางการเงินสาหรับธุรกจิ มี 2 ลกั ษณะ คือ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. จงบอกวัตถุประสงคของการวางแผนทางการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. การวางแผนทางการเงนิ ที่มปี ระสิทธภิ าพมหี ลักการอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. ใครบางทม่ี ีสวนเก่ียวของกับการวางแผนทางการเงนิ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
7. เหตใุ ดจงึ ตองมกี ารจดั การทางการเงิน
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
8. จงบอกขอบเขตการดาเนินงานการจดั การทางการเงิน ตอบ ขอบเขตการดาเนนิ งาน มีดังน้ี
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
9. จงบอกวัตถุประสงคของการจัดการทางการเงนิ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
10. งบรายได-รายจาย และงบแสดงฐานะการเงนิ สวนบคุ คลแตกตางกนั อยางไร
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
เฉลยแบบฝึกหัด
1. การวางแผนทางการเงนิ หมายถงึ อะไร และมีลกั ษณะอยางไรบาง
ตอบ การวางแผนทางการเงิน หมายถึง การกาหนดการใชจายเงนิ ตางๆ ใหสอดคลองกบั แผนงานท่จี ดั ทา
ขนึ้ และระบุถึงแหลงทม่ี าของเงนิ และการใชไปของเงนิ ในกิจกรรมตางๆ แบงได 2 ลักษณะ ไดแก
1. การวางแผนการเงินสวนบุคคล
2. การวางแผนการเงนิ สาหรับธรุ กจิ
2. จงบอกวัตถปุ ระสงคทางการเงินสวนบุคคล
ตอบ วตั ถปุ ระสงคทางการเงินสวนบุคคล
1. รายจายประจาทตี่ องจายอยางสม่าเสมอ
2. เงินออมระยะสน้ั
3. เงนิ ออมระยะยาว
3. วิธกี ารวางแผนทางการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ มี 2 ลักษณะ คือ
ตอบ วิธกี ารวางแผนทางการเงินสาหรับธรุ กจิ มี 2 ลกั ษณะ คือ
1. การกาหนดเปาหมายรวมของธุรกิจ
2. การพยากรณของแตละฝาย
4. จงบอกวัตถุประสงคของการวางแผนทางการเงินสาหรับธุรกิจ
ตอบ วัตถปุ ระสงคของการวางแผนงานทางการเงนิ สาหรบั ธรุ กิจ เพ่อื ใหเกดิ ความคลองตัว (Liquidity)
และเพ่ือประโยชนในดานการทากาไร (Profi tability)
5. การวางแผนทางการเงินท่ีมปี ระสทิ ธิภาพมหี ลกั การอยางไรบาง
ตอบ หลักในการวางแผนทางการเงนิ ทมี่ ีประสทิ ธิภาพมีดงั น้ี
1. การประเมินสถานการณ เปนการเก็บขอมลู ตางๆ เก่ยี วกบั ตนเองและส่ิงแวดลอม เพราะจะชวย ให
สามารถประเมินรายรบั -รายจายได นอกจากน้ียงั สามารถประเมินสนิ ทรัพยท่ีมีได
2. กาหนดเปาหมาย คือ การวางแผนการเงนิ โดยกาหนดใหอยูในรูปของตวั เงนิ ระยะเวลาเทาไร และเปา
หมายท่ีเปนไปได โดยใหสอดคลองกับรายรับ-รายจาย และหนส้ี ินท่ีมอี ยู ท้ังนี้การวางแผนการเงิน ควรแยกเปนเปา
หมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพอื่ ใหปฏิบตั ิตามเปาหมายท่ีกาหนดไวอยางชัดเจน
3. การจดั ทาแผนทางการเงนิ ควรจดั ทาแผนดวยความละเอียดและรอบคอบ เพื่อใหปฏิบัตไิ ดจริง และ
ถกู ตองตามแผนท่ีกาหนดไว
4. การนาแผนไปปฏบิ ัติ เปนการทาตามแผนท่กี าหนดไว โดยตองมีวินยั ในการปฏบิ ตั ิอยางเครงครัด
5. การวัดผลและการปรับปรงุ แกไข เปนสิง่ ทจ่ี ะทาใหทราบวา แผนนัน้ สามารถปฏิบตั ิไดจริงตรงตาม เปาหมายหรอื
ไม และสามารถนาผลที่ไดไปพฒั นาและปรบั ปรงุ ผลการปฏิบตั ิในอนาคตได
6. ใครบางทม่ี ีสวนเก่ยี วของกับการวางแผนทางการเงิน
ตอบ บคุ คลท่เี กี่ยวของกบั การวางแผนทางการเงิน ไดแก
1. รัฐบาล (Government)
2. ธุรกิจ (Business)
3. ผบู ริโภค (Consumer)
7. เหตุใดจงึ ตองมกี ารจดั การทางการเงนิ
ตอบ เพราะการจัดการทางการเงิน เปนการวางแผนการจัดระเบยี บและการควบคุมกากับกิจกรรมทาง
การเงนิ เชน การจดั ซ้ือและการใชประโยชนจากเงินทุน ซ่ึงใชหลกั ทั่วไปของทรัพยากรทางการเงนิ ของธุรกจิ
8. จงบอกขอบเขตการดาเนินงานการจดั การทางการเงิน ตอบ ขอบเขตการดาเนินงาน มีดงั นี้
1. การตดั สินใจลงทนุ เปนสวนหนง่ึ ของการตดั สนิ ใจลงทุนเรยี กวาการทางานดานการตัดสินใจ ลงทนุ และ
จะมีความสาคญั มากสาหรับธรุ กิจทม่ี เี งินสดจานวนมากในแตละเดอื น หรือไตรมาส แตเปนเงนิ สด แบบหมุนเวียน
เร็ว การจดั การลงทุนระยะส้ันจะมคี วามสาคัญอยางมาก
2. การตัดสนิ ใจทางการเงนิ จะเปนการดาเนินงานเกย่ี วกับการระดมเงนิ ทนุ จากแหลงตางๆ ซ่งึ จะ ขน้ึ อยู
กับการตัดสินใจเกยี่ วกับชนิดของแหลงเงนิ ทนุ ท่ีมอี ยู และคาใชจายท่เี ปนตนทนุ ของเงนิ ทุนทีใ่ ชในการ บรหิ าร เชน
เงนิ กรู ะยะยาวหรอื ระยะสน้ั หรือผลตอบแทนจากการลงทุนทีค่ าดหวังจะไดรบั เปนตน
3. การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ผลตอบแทน ฝายการเงินมหี นาที่ตัดสนิ ใจเก่ยี วกบั วธิ ีการกระจายการลงทุน และ
การบรหิ ารผลกาไรทเี่ กดิ ขึ้นจากเงินลงทนุ เหลานน้ั ซ่ึงกาไรสทุ ธแิ บงออกได 2 ลักษณะ
9. จงบอกวตั ถุประสงคของการจัดการทางการเงิน
ตอบ วตั ถปุ ระสงคของการจัดการทางการเงิน สามารถแบงไดดังน้ี
1. เพอ่ื ใหมีเงินทนุ เพยี งพอทจี่ ะดาเนนิ ธรุ กิจไดอยางตอเน่ืองในระยะยาว
2. เพอ่ื ใหไดรับผลตอบแทนจากการลงทนุ ในโครงการตางๆ หรือเขาไปถือหุนในบริษทั ตางๆ ใน ตลาด
หลักทรพั ย ใหผลตอบแทนดานเงินปนผลทเี่ พยี งพอและคุมคากับการลงทนุ
3. เพอื่ ใหการลงทุนในโครงการตางๆ หรือกิจการตางๆ เปนไปอยางเหมาะสม และถูกตองตาม วัตถปุ ระ
สงคของการเบิกจายเงนิ ไปใช
4. เพือ่ ใหเงนิ ทนุ ทีม่ ีอยูถูกใชในธรุ กรรมตางๆ อยางเหมาะสม และถูกตองตามมาตรฐานการลงทนุ ทาง
การเงนิ และไดผลตอบแทนตามทีก่ าหนดไวลวงหนา
5. เพอ่ื ใหแผนการลงทนุ ตางๆ ทไี่ ดวิเคราะหแลว ไดดาเนนิ การตามท่ีวางแผนไว และไดรับผลตอบแทน คุ
มกับการวางแผนไวลวงหนา มคี วามถูกตองแมนยา หรือมีความผดิ พลาดในสวนใด จะไดนากลบั มาแกไข ปรบั ปรุง
สาหรบั การวางแผนทางการเงินในครั้งตอไป
10. งบรายได-รายจาย และงบแสดงฐานะการเงินสวนบคุ คลแตกตางกันอยางไร
ตอบ งบรายไดและรายจายสวนบคุ คล เปนงบสรุปรายละเอียดรายไดและรายจายในชวงระยะเวลาหนง่ึ ท่ี
ผานมา หรือเปนรายงานทีแ่ สดงท่ีมาของรายไดและท่ีไปของรายจาย เชน รายไดจากงานประจา งานพเิ ศษ รายได
จากการลงทนุ ในสินทรัพย บาเหนจ็ บานาญและสวัสดิการตางๆ และยงั เปนการจายเพอ่ื ซ้ือสิ่งของตางๆ งบแสดง
ฐานะการเงินสวนบุคคล เปนงบท่ีแสดงฐานะการเงนิ ของบุคคล ณ เวลาใดเวลาหน่งึ วามสี ินทรพั ย หนส้ี ิน และทนุ
จานวนเทาใด ประกอบดวยสินทรัพย หนส้ี นิ้ และสวนของเจาของ
17. ใบงาน
หน่วยการสอนท่ี 5
ชอ่ื หน่วยการสอน การจัดหาและวางแผนทางการเงิน
ชอ่ื หัวข้อเรือ่ ง การจัดหาและวางแผนทางการเงิน
จดุ ประสงค์ เพือ่
1. สร้างความรคู้ วามจาให้กบั ผูเ้ รียน
2. เพ่มิ การฝึกปฏิบัติแก่ผูเ้ รยี น
3. สร้างความรับผิดชอบ ความอดทน ความสนใจใฝ่เรยี นรู้
ลาดบั กิจกรรม/ลาดับการปฏบิ ัติ
1. ผู้เรยี นศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้
2. ผเู้ รยี นศกึ ษาหาความรู้จากตาราเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ยวงจร
คุณภาพ 20001-1003 สานกั พมิ พ์เอมพันธ์
3. หรอื ครผู ้สู อนบรรยายความรู้ เรือ่ ง การวางแผนเป้าหมายชีวติ ด้วยวงจรคุณภาพ
4. จดั ทาใบงานตามทีม่ อบหมาย (กาหนดเวลาจัดทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานทมี่ อบหมายก่อนหมดเวลาเรียน (10 นาที หรอื เป็นการบ้าน)
เกณฑ์การพิจารณา
1. สง่ งานตรงเวลานัดหมาย
2. จดั ทาครบทุกขอ้ ท่ีกาหนด
3. ทางานเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย
ใบงานที่ 5.1
เรือ่ ง งบรายได้-รายจา่ ย
ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขท.่ี ........ชน้ั ..........................
คาชี้แจง จงแสดงงบรายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล ตามข้อมลู ต่อไปนี้
คุณสมหวังและคณุ สมหญิงเป็นสามภี รรยากนั และไมม่ ีบุตร ซ่ึงคณุ สมหวงั ทางานในโรงงานมีรายได้จาก
เงินเดือนปลี ะ 300,000 บาท ส่วนคณุ สมหญิงทางานเป็นลูกจา้ งในบริษัทมีรายได้ปีละ 170,000 บาท ขณะที่คุณ
สมหญิงมกี ารฝึกอบรมเปน็ ระยะเพ่ือพฒั นาตนเอง ซึ่งมีคา่ ใช้จ่ายเกดิ ข้ึนปีละ 30,000 บาท ทั้งสองคนไดจ้ ดบนั ทกึ
รายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่ายในปี 2557 ดังน้ี
คา่ ผอ่ นบ้าน 20,000 บาท คา่ เบ้ยี ประกนั ชีวิต 48,000 บาท
คา่ ผอ่ นรถยนต์ 15,000 บาท คา่ เบ้ยี ประกันรถยนต์ 12,000 บาท
ค่าอาหาร 60,000 บาท ค่าเครื่องนุง่ หม่ 70,000 บาท
คา่ ใช้จ่ายส่วนตวั อนื่ ๆ 30,000 บาท คา่ ท่องเท่ยี ว 50,000 บาท
ภาษเี งนิ ได้-คุณปัญญา 50,000 บาท คา่ ใช้จา่ ยอืน่ ๆ 5,000 บาท
-คณุ เหมือนฝนั 30,000 บาท
ให้ทา จงแสดงงบรายได-้ รายจ่าย ในปี พ.ศ. 2557 ตามชอ่ งวา่ งข้างลา่ งน้ี
.............................................................................
...............................................................................
.................................................................................
.........................................................................................................................................................................
............................................ .......................................................................................... ...................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................ .................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
................................................ .......................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ใบงานที่ 5.2
เร่อื ง งบแสดงฐานะการเงิน
ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขท.่ี ........ช้นั .............. ............
คาชีแ้ จง ให้เขียนข้อมูลส่วนตัวในรปู ของงบแสดงฐานะการเงนิ สว่ นบุคคลดงั ต่อไปนี้
นางรุ่งฤดมี เี งินสด 18,000 บาท เครือ่ งตกแต่งตรี าคาตลาดได้ 12,000 บาท เงินฝากธนาคาร 11,000
บาท รถยนต์ 300,000 บาท กู้เงนิ จากนายมานะ 20,000 บาท และค้างชาระคา่ ไฟฟ้าอีก 1,500 บาท จงแสดง
ฐานะการเงินของนางสาวรุ่งฤดี
………………………………..
………………………………..
…………………………………….
สนิ ทรพั ย์ หนส้ี นิ และส่วนของเจ้าของ
....................................................................... ..................................................................
....................................................................... ..................................................................
....................................................................... ..................................................................
....................................................................... ..................................................................
....................................................................... ..................................................................
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
ใบงานท่ี 5.3
เรอ่ื ง การวางแผนทางการเงนิ
ชื่อ-สกุล............................................................................................เลขท่.ี ........ชน้ั .............. ............
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นวางแผนดา้ นการเงินของตนเองและครอบครัว ดังนี้
การวางแผนทางการเงิน
ของ......................................................................................
1.มีหลักการวางแผนทางการเงนิ อยา่ งไรบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
2.มีการจดั การทางการเงนิ อย่างไรบา้ ง
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
3.มีการจัดการเงนิ สดและสนิ ทรัพยส์ ภาพคล่องอยา่ งไรบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
เฉลยใบงานท่ี 1
(ดลุ พนิ ิจของผู้สอน)
แบบสรปุ คะแนน
ชดุ ที่ 1
รายวิชา การจัดหาและวางแผนทางการเงิน
คะแนน กิจกรรมที่ ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
กอ่ นเรียน หลังเรียน ระหว่าง
123 1 เรยี น
คะแนนเต็ม ✓✓ 5 10 10 15
คะแนนทไ่ี ด้
คิดเป็นร้อย
ละ
หมายเหตุ : ✓ = ผา่ นกจิ กรรม = ไม่ผา่ นกจิ กรรม
(ลงชือ่ ) ....................................... ผปู้ ระเมิน
(นายวิจติ ร พลเศษ)
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการ
เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบก่อนเรยี นและแบบทดสอบหลงั เรยี น
ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ดี
ระดับ 4 9 - 10 คะแนน หมายถึง ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดบั 2 5 - 6 คะแนน
20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1
ด้านการเตรยี มการสอน
1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้
2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพสิ ยั
3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรูก้ ่อนเขา้ สอน
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
4. มวี ธิ ีการนาเข้าสู่บทเรยี นท่ีน่าสนใจ
5. มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ
6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ เพื่อหาคาตอบดว้ ยตนเอง
7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
8. จดั กิจกรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )
9. กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี
10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชีวิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม
11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม
12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน
14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างท่วั ถึง
15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด
ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
16. ใช้สอื่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น
17. ใช้สอ่ื แหลง่ การเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร
สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น
ดา้ นการวัดและประเมินผล
18. ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจติ พสิ ัย
20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ ี่เกย่ี วข้องมสี ่วนรว่ ม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยยี่ ม 4 = ปฏบิ ตั ดิ ี 3 = ปฏิบัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลยี่
20.2 ปญั หาทพี่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา
ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา
ด้านการเตรยี มการสอน
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นส่ือ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านการวดั และประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านอ่นื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ลงชือ่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)
ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................
บนั ทกึ หลงั การสอน
ผลการใช้แผนการเรยี นรู้
ความเหมาะสมของเวลา
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นการสอน
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………
ผลการเรยี นของผเู้ รยี น
ความต้ังใจของผเู้ รียน ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรุง
อปุ กรณ์การสอน
มาก ดี
การเรียนร้ขู องผเู้ รียน
มาก ดี
…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนรู้ ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้ ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้
บนั ทกึ เพ่ิมเตมิ
............................................................................................................................................... ..............
………………………………………………
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)
ผู้บนั ทกึ การสอน
แผนการจดั การเรียนรู้ แบบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รหสั วชิ า 20001-1003 วิชา ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ
หน่วยท่ี 6 กฎหมายที่เกยี่ วกบั ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
ชือ่ เรื่องกฎหมายทีเ่ กยี่ วกับธุรกิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ จานวน 6 ชว่ั โมง สอนครัง้ ท่ี 13-14
1. สาระสาคัญ
การประกอบธรุ กิจนน้ั ส่งิ ท่ีมีความสาคัญมากต่อผู้ประกอบการอกี อยา่ งหนงึ่ ก็คือผปู้ ระกอบการควรจะมี
ความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั กฎหมายท่เี กี่ยวข้องกับผูป้ ระกอบการ เน่ืองจากตอ้ งปฏบิ ัติตามข้อบังคับทางกฎหมายที่
ระบไุ ว้ใหป้ ฏิบัติตาม ซงึ่ กฎหมายที่มคี วามเกี่ยวข้องโดยตรงนน้ั มีหลายฉบับด้วยกัน เช่น กฎหมายแรงงาน เพราะ
เป็นกฎหมายท่ีบญั ญัติถงึ สทิ ธิและหน้าท่ีของนายจ้าง ลูกจ้าง องค์การของนายจา้ ง และองค์กรของลกู จ้าง รวมท้งั
มาตรการที่กาหนดใหน้ ายจ้าง ลูกจา้ งและองค์กรดงั กล่าวปฏิบัติตอ่ กันและรฐั ทง้ั นเี้ พื่อให้การจา้ งงาน และการใช้
งาน การประกอบกิจการและความสมั พันธร์ ะหว่างนายจ้างและลูกจา้ งเปน็ ไปโดยเหมาะสม นอกจากน้ยี งั มี
กฎหมายฉบบั อ่ืน ๆ ท่ีเก่ยี วข้องอีก
2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้
1. สามารถอธิบายเก่ยี วกับกฎหมายเกีย่ วกับการจัดตั้งธุรกิจและกฎหมายทเี่ ก่ยี วข้อง
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 จุดประสงค์ทั่วไป
3.1.1 มีความรแู้ ละเข้าใจเกย่ี วกับกฎหมายเก่ยี วกับการจดั ต้งั ธุรกจิ และกฎหมายทีเ่ ก่ียวข้องได้
3.2 จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
3.2.1 สามารถบอกการจดทะเบียนจดั ต้งั ธุรกิจ
3.2.2 อธบิ ายกฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากร
3.2.3 สามารถบอกกฎหมายอื่น ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง
3.2.4 อธบิ ายการจดทะเบียนสทิ ธบิ ตั ร
3.2.5 บอกเครื่องหมายการค้าได้
3.2.6 บอกกฎหมายประกนั สังคมได้
3.2.7 มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ความมีมนุษยสัมพันธ์ ความมวี ินัย ความ
รับผิดชอบ ความซ่ือสัตยส์ จุ ริต ความเชื่อมน่ั ในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการ
พนนั ความรักสามัคคี
4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้
4.1 ด้านความรู้
1. การจดทะเบยี นจดั ตงั้ ธุรกจิ
2. กฎหมายภาษีตามประมวลรษั ฎากร
3. กฎหมายอื่น ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง
4. การจดทะเบียนสิทธบิ ัตร
5. เคร่ืองหมายการค้า
6. กฎหมายประกันสงั คม
4.2 ด้านทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้
1. สามารถบอกการจดทะเบียนจัดตงั้ ธุรกจิ
2. อธิบายกฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากร
3. สามารถบอกกฎหมายอน่ื ๆ ท่เี กยี่ วข้อง
4. อธบิ ายการจดทะเบียนสทิ ธบิ ตั ร
5. บอกเครื่องหมายการค้าได้
6. บอกกฎหมายประกนั สังคมได้
4.3 ด้านคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์และบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพียง
ดา้ นคุณธรรม/ จริยธรรม
1. มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มีความรับผิดชอบ
ดา้ นคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์และบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. มุ่งมัน่ ในการทางาน มีจติ สาธารณะ อยู่อยา่ งพอเพียง
5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้
ขัน้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขนั้ ตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของผู้เรียน
ขน้ั เตรยี ม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผู้เรียนเขา้ ห้องเรียน
5.1 นักเรียนทาความเคารพครูผสู้ อน 5.2 ครผู สู้ อนตรวจสอบรายชือ่ ผู้เรยี น
5.2 ครูผู้สอนทกั ทายผูเ้ รยี นและสารวจรายชื่อผเู้ รยี น 5.3 ผู้เรียนรบั ใบความรู้ เร่ือง กฎหมายท่เี ก่ียวกับ
5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ หรอื เตรยี มอุปกรณ์
ธรุ กจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ
ในการสอนใหพ้ ร้อม และใบงาน 5.4 รบั ใบงาน อธบิ ายการทา
5.4 ผ้เู รยี นใบความรู้ เตรียมตาราเรยี นและสมดุ
5.5 ผสู้ อนการจดั ทาใบงานที่มอบหมาย (20 นาที)
ขน้ั การสอน(จานวน....300.........นาที)
5.6 ครูผู้สอนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.5 ผู้เรียนทดสอบก่อนเรียน ( 10 นาท)ี
5.7 อธิบายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มีจานวน
10 ขอ้ เวลาท่ีใช้ 10 นาที (พร้อมส่งครบเวลา)
5.8 ครผู ู้สอนใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษาใบความรู้ หนว่ ยเนอื้ หา 5.6 ผเู้ รียนศึกษาตาราเรยี นหนว่ ยเนอื้ หา ใบความรู้
ตาราเรียน การวางแผนเป้าหมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคณุ ภาพ
5.9 ครผู ู้สอน ตั้งคาถามเกีย่ วกับ การวางแผนฯและ 5.7 ผูเ้ รียนรว่ มตอบคาถาม
(ผู้เรยี นตอบคาถาม) 5.8 ผู้เรยี นรับฟังการบรรยาย เก่ยี วกับเนอ้ื หา
5.10 ครผู ้สู อน อธิบายเน้ือหา ใบความรู้ เน้อื หาใน การวางแผนเป้าหมายชวี ิตดว้ ยวงจรคุณภาพ
หนว่ ยการเรยี นรู้ (เวลา 100 นาที) 5.9 ผเู้ รียนจดั ทาใบงานทมี่ อบหมาย ( 200 นาที)
5.11 ครผู ู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั
(เวลา 200 นาที)
ขั้นสรปุ (จานวน 20 นาที) 5.10 ผู้เรยี นร่วมสรุปเนื้อหา ใบความรู้ เนอ้ื หาหน่วย
5.12 ครผู ้สู อนและผู้เรียนสรุปเนือ้ หา หวั ขอ้ บุคคล การเรียนรู้ ตาราเรยี น
ธรรมดา และนิติบุคคล เป็นขอ้ 5.11 ผู้เรยี นจัดทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ
5.13 ครผู สู้ อนแจกแบบทดสอบหลงั เรยี น หัวข้อ (เวลา 10 นาที)
กฎหมายทเ่ี กีย่ วกบั ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
5.12 มอบหมายงาน การจดั ทารายงาน รายบุคคล
10ข้อ (10 นาที) รายกลุม่ 3-5 คน รายงานหนา้ ชน้ั เรยี น
6. ส่ือการสอน
สอื่ สิ่งพมิ พ์
1. ตาราเรยี น หนงั สือประกอบการเรียนการสอนวิชา ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลศิ เกยี รตวิ ิทยา สานกั พมิ พ์เอมพันธ์
2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้
สื่อโสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
1. power point ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ 20001-1003 เร่ือง กฎหมายทเี่ ก่ียวกับธุรกิจ
และการเป็นผปู้ ระกอบการ
2. VDO สือ่ การสอน ประจาวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................
หุ่นจาลองหรอื ของจรงิ (ถ้ามี)
1. ...................................................................................................................................
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถ้ามี)
3. แบบทดสอบหลังเรยี น
แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้
1. ห้องสมดุ วิทยาลยั การอาชีพสว่างแดนดิน (ตาราเรียน)
2. หอ้ งอินเทอรเ์ นต็ วิทยาลยั การอาชีพสว่างแดนดนิ การสบื ค้นข้อมลู
3. Google แหลง่ เรียนรอู้ อนไลน์ จากโทรศัพท์มือถือ
การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวชิ าอืน่
1. วชิ าภาษาไทย การอ่านและทาความเข้าใจในเนอื้ หาหนว่ ยการเรยี นรู้ ใบความรู้ ตคี วาม
2. วชิ าสังคมศกึ ษา การอยู่ในสังคม การคบเพ่ือน
3. วิชาภาษาอังกฤษ เรื่องศัพท์เฉพาะในหนว่ ยการเรียนการสอน
8. งานทมี่ อบหมาย
8.1 ก่อนเรยี น
1. จัดเตรียมห้องเรยี นให้เรยี บร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอุปกรณก์ ารเรียนให้พร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรียน และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
8.2 ขณะเรยี น
1. จัดทาใบงานทีม่ อบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จัดทาแบบทดสอบหลังเรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบตั ิตนในการเรยี นรู้อย่างเหมาะสมในชั้นเรียน
8.3 หลังเรียน
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหน้า
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ใบงาน
9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่ีเกิดจากการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น
1. ใบงานท่มี อบหมาย
2. สมุดในการทาแบบฝึกหัด แบบฝกึ ปฏบิ ัติท้ายหนว่ ย
3. สรปุ ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย
10. เอกสารอา้ งอิง
1. บนั ทึกการสอนของครู
2. ใบเช็ครายช่อื
3. แผนการจัดการเรียนรู้
4. ใบความรู้ เนอ้ื งานในหนังสือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน
11. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธก์ บั รายวชิ าอนื่
1. รายวิชาภาษาไทย เพือ่ อ่าน ฟงั พูด เขียน และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวิชาสงั คมศกึ ษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ่วมกันในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวิชาภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาองั กฤษในหน่วยการเรยี นการสอน
12. หลกั การประเมินผลการเรียน
12.1 ก่อนเรียน
12.1.1 การประเมนิ การตรวจสอบรายชือ่ ผู้เข้าเรยี นในช่วั โมง (ด้านจติ พสิ ยั )
12.1.2 การประเมนิ การเตรียมความพร้อมในการเรียนของผเู้ รยี น อุปกรณ์การเรียน ตาราเรียน
สมุด ปากกา ไม้บรรทัด
12.1.3 การประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน
12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมินการมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏิบัติตน ขณะเรียน การทาแบบฝึกหดั ใบงาน
(แบบประเมนิ พฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน
12.3 หลังเรียน
12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรูแ้ ละสรุปผลการเรยี นรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นร้อยละ 50 หลังเรยี นรอ้ ยละ 70
12.3.2 เมือ่ ไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดใหม้ กี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มกี ารมอบหมายงาน ศึกษาเน้ือหาในหน่วยการเรียนถดั ไป และใบความรู้ (ถ้ามี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพิ่มเติมโดยการจดั ทารายงานกล่มุ หรือรายบุคคคล
13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน
จดุ ประสงค์ข้อท่ี 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วธิ กี ารประเมนิ : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมนิ : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............
จุดประสงคข์ ้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมิน : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................
14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 15 แบบทดสอบหลงั เรยี น
หน่วยการสอนที่ 6 ช่ือหน่วยการสอน กฎหมายที่เกย่ี วกบั ธุรกจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อ ทดสอบความรู้เบ้ืองตน้ ของผู้เรยี น หลงั การเรยี นการสอน
ข้อคาถาม
แบบทดสอบก่อน/หลงั เรยี น
จงเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องที่สดุ เพียงข้อเดียว
1.ผ้ปู ระกอบการต้องจดทะเบียนพาณชิ ยต์ ัง้ ใหมภ่ ายในก่วี ันนบั แตว่ ันเรมิ่ ประกอบพาณชิ ยกจิ :
1. 7วนั
2 .15 วัน
3 . 30 วนั
4 . 60 วนั
5 . 90 วัน ๆ
2.ถา้ ผูป้ ระกอบการไมจ่ ดทะเบียนพาณิชยต์ ามกฎหมายจะมีความผดิ อย่างไรบ้าง
1 . ปรบั ไมเ่ กิน 1 , 000 บาท
2 . ปรบั ไม่เกนิ 2000 บาท
3 . ปรบั ไม่เกิน 3 , 000 บาท
4 . ปรับไมเ่ กนิ 5 , 000 บาท
5 . ปรับไมเ่ กนิ 10 , 000 บาท
3 . ตามกฏหมายเงนิ ไดท้ ี่ต้องเสยี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเรียกว่าอะไร
1 . เงินได้พงึ ประเมนิ
2 . เงนิ ได้บุคคลธรรมดา
3 . เงนิ ไดน้ ิตบิ ุคคล
4 . เงนิ ไดส้ ทุ ธิ์
5 . เงนิ ได้ประจา
4 . ข้อใดเป็นเงินได้ประเภทท่ี 1
1 . เงินเดอื น ค่าจา้ ง
2 . เบ้ียประชมุ โบนสั
3 . ดอกเบี้ย เงินปันผล
4 . เงินได้จากการรับเหมา
5 . เงินได้จากการธรุ กิจ การพาณชิ ย์
5 . ในกรณีทีผ่ ู้มีเงนิ ไดพ้ ึงประเมินทุกประเภท ควรจะยนื่ แสดงรายการแบบใด
1 . ภ . ง . ด . 90
2 . ภ . ง . ด . 91
3 . ภ . ง . ด . 93
4 . ภ . ง . ด . 94
5 . ภ . ง . ด . 50 6 .
6.ผปู้ ระกอบการที่มีรายรบั จากการขายสินค้าหรอื ใหบ้ ริการไมเ่ กนิ จานวนเทา่ ใดท่ีต้องจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพม่ิ
1 . 150,000 บาทต่อปี
2 . 180,000 บาทต่อปี
3 . 1,000,000 บาทต่อปี
4 . 1,500,000 บาทต่อปี
5 , 1,800,000 บาทตอ่ ปี
7.อตั ราภาษมี ูลค่าเพ่ิมท่ีจัดเก็บในปัจจุบนั คือข้อใด
1 . รอ้ ยละ 1
2 . ร้อยละ 2
3 . รอ้ ยละ 5
4 . รอ้ ยละ 7
5 . ร้อยละ 10
8. กจิ การใดไม่ต้องเสยี ภาษีธุรกิจเฉพาะ
1 . ธนาคารไทยพาณิชย์
2 . โรงรบั จานาเม้งหงวน
3 . บริษทั ไทยประกนั ชวี ติ
4 . บริษัทในเครอื เจรญิ โภคภณั ฑ์
5 . บริษัทแลนด์แอนดเ์ ฮ้าส์ ( บ้านและท่ีดิน )
9 . กฎหมายกาหนดให้ลูกจา้ งทางานตามปกติ โดยทัว่ ไปไม่เกินกีช่ ั่วโมงต่อวัน
1 . 6 ชัว่ โมง 2 . 7 ชว่ั โมง
3 . 8 ช่ัวโมง 4 . 9 ช่ัวโมง
5 . 10 ช่ัวโมง
10. กรณีให้ลูกจ้างทางานล่วงเวลาตอ่ จากเวลาทางานปกติไม่น้อยกวา่ 2 ชวั่ โมง ตอ้ งจดั ให้ลูกจ้างพักก่อน เร่ิม
ทางานลว่ งเวลาไม่น้อยกวา่ ก่ีนาที
1. 5 นาที 2. 10 นาที
3. 15 นาที 4 .20 นาที
5 .30 นาที
กระดาษคาตอบ กอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น
กจิ กรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยที่ 6 เรอ่ื ง กฎหมายท่ีเกย่ี วกบั ธุรกกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ
กอ่ นเรยี น 5 หลงั เรียน
ขอ้ 1 2 3 4 ขอ้ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
รวมคะแนน กอ่ นเรียน รวมคะแนน หลังเรยี น
ช่ือ-สกุล...........................................................แผนก/ห้อง............เลขท.ี่ .............
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรียน
กจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยท่ี 6 เรอื่ ง กฎหมายท่ีเก่ียวกับธุรกกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
ก่อนเรยี น หลังเรียน
ข้อ 1 2 3 4 5 ข้อ 1 2 3 4 5
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10
รวมคะแนน ก่อนเรยี น 10 รวมคะแนน หลังเรยี น 10
ชอ่ื -สกุล...........................................................ผู้สอน/ผู้ตรวจ
(นายวิจิตร พลเศษ)
หนว่ ยการสอนที่ 6 ชือ่ หนว่ ยการสอน กฎหมายท่เี กยี่ วกับธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
ชอ่ื หัวข้อเร่อื ง กฎหมายทีเ่ กยี่ วกับธรุ กิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ
16. ใบความรู้
แนวคิด
การประกอบธุรกิจนั้นส่ิงท่ีมคี วามสาคัญมากตอ่ ผปู้ ระกอบการอกี อยา่ งหน่ึง ก็คือผปู้ ระกอบการควรจะมี
ความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับกฎหมายทีเ่ กยี่ วข้องกบั ผู้ประกอบการ เน่ืองจากตอ้ งปฏิบตั ิตามข้อบงั คบั ทางกฎหมายท่ี
ระบุไวใ้ ห้ปฏิบตั ติ าม ซึง่ กฎหมายทมี่ ีความเกี่ยวข้องโดยตรงน้นั มหี ลายฉบับด้วยกนั เชน่ กฎหมายแรงงาน เพราะ
เป็นกฎหมายที่บัญญัตถิ ึงสทิ ธิและหน้าที่ของนายจ้าง ลูกจ้าง องค์การของนายจ้าง และองค์กรของลูกจ้าง รวมทง้ั
มาตรการท่ีกาหนดให้นายจ้าง ลกู จา้ งและองค์กรดงั กล่าวปฏิบัตติ ่อกันและรัฐ ท้ังน้เี พ่ือให้การจ้างงาน และการใช้
งาน การประกอบกิจการและความสัมพันธร์ ะหวา่ งนายจา้ งและลกู จ้างเปน็ ไปโดยเหมาะสม นอกจากนย้ี ังมี
กฎหมายฉบับอ่ืน ๆ ที่เกีย่ วข้องอีก
ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง
1. สามารถบอกการจดทะเบยี นจัดต้งั ธรุ กจิ
2. อธิบายกฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากร
3. สามารถบอกกฎหมายอ่ืน ๆ ที่เก่ยี วข้อง
4. อธิบายการจดทะเบียนสทิ ธิบัตร
5. บอกเครื่องหมายการค้าได้
6. บอกกฎหมายประกันสังคมได้
สาระการเรียนรู้
1. การจดทะเบยี นจัดตงั้ ธรุ กจิ
2. กฎหมายภาษตี ามประมวลรษั ฎากร
3. กฎหมายอืน่ ๆ ท่เี ก่ียวข้อง
4. การจดทะเบียนสิทธบิ ตั ร
5. เครอ่ื งหมายการคา้
6. กฎหมายประกนั สงั คม
1. ครกู ล่าวถึงการประกอบกิจการของรา้ นค้าปลีกท่วั ไปที่ดาเนินโดยกิจการเจ้าของคนเดียวที่มีอยู่ทัว่ ไป
ของประเทศไทย จาเป็นตอ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ยต์ ามกฎหมายท่กี รมพัฒนาธรุ กิจการค้ากาหนด
2. ครกู ล่าวถงึ ผู้มีหนา้ ที่จดทะเบียนพาณิชย์ คือ บคุ คลธรรมดาคนเดยี วหรือหลายคน (หา้ งหุ้นสว่ น
สามญั ) หรือนิติบคุ คล รวมทง้ั นิตบิ คุ คลท่ตี ้ังข้นึ ตามกฎหมายต่างประเทศท่ีมาตงั้ สานกั งานสาขาในประเทศไทย
ซ่งึ ประกอบกิจการอันเป็นพาณชิ ยกจิ ตามทีก่ ระทรวงพาณิชยก์ าหนด
3.ครูอธิบายการจดทะเบียนพาณิชยข์ องผู้ประกอบการโดยใช้ส่อื PowerPoint ประกอบ
4.ครบู อกขน้ั ตอนการจดทะเบียนจัดต้ังธุรกจิ ดงั น้ี
5.ครูอธิบายถึงผู้ประกอบการดงั ต่อไปนี้ ตอ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์ดังนี้
1) ผูป้ ระกอบกิจการโรงสขี ้าวและโรงเลื่อยทใ่ี ชเ้ คร่ืองจักร
2) ผปู้ ระกอบกจิ การขายสินค้าไม่ว่าอย่างใดๆ อย่างเดียวหรือหลายอยา่ ง คดิ รวมท้ังสนิ้ ในวนั หนงึ่ ขาย
ไดเ้ ป็นเงนิ ตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป หรอื มสี ินค้าไวเ้ พื่อขายมีค่ารวมทัง้ ส้ินเปน็ เงินต้งั แต่ 500 บาทขนึ้ ไป
3) นายหนา้ หรือตัวแทนคา้ ตา่ งซึ่งทาการเกยี่ วกบั สนิ ค้าไม่ว่าอย่างใดๆ อยา่ งเดียวหรอื
หลายอย่างกต็ าม และสินค้านน้ั มีค่ารวมท้งั สน้ิ ในวันหนงึ่ วนั ใดเป็นเงนิ ตงั้ แต่ 20 บาทข้นึ ไป
4) ผู้ประกอบกิจการหัตถกรรมหรืออุตสาหกรรมไม่วา่ อย่างใดๆ อยา่ งเดียวหรือหลายอย่างก็ตาม
และขายสนิ ค้าทผี่ ลิตได้ คดิ ราคารวมทัง้ สิน้ ในวันหนึง่ วันใดเปน็ เงินตั้งแต่ 20 บาทขน้ึ ไป หรอื ในวนั หนง่ึ วนั ใดมี
สินค้าท่ีผลิตได้มรี าคารวมท้ังส้ินตัง้ แต่ 500 บาทขึ้นไป
5) ผู้ประกอบกิจการขนส่งทางทะเล การขนส่งโดยเรอื กลไฟหรือเรือยนตป์ ระจาทาง การขนสง่
โดยรถไฟ การขนส่งโดยรถราง การขนส่งโดยรถยนตป์ ระจาทาง การขายทอดตลาด การรบั ซอ้ื ขายท่ีดนิ
การใหก้ ้ยู ืมเงนิ การรับแลกเปลี่ยน หรือซื้อขายเงินตราตา่ งประเทศ การซ้ือหรอื ขายต๋ัวเงิน การธนาคาร
การโพยก๊วน การทาโรงรับจานา และการทาโรงแรม
6) ขาย ให้เชา่ ผลติ หรือรบั จ้างผลิต แผน่ ซดี ี แถบบนั ทึก วีดิทัศน์ แผ่นวดี ิทัศน์ ดีวดี ี หรือแผน่ วดี ิ
ทศั น์ระบบดิจทิ ัล เฉพาะท่ีเก่ียวกับการบันเทงิ
7) ขายอญั มณี หรือเคร่ืองประดบั ซ่งึ ประดบั ด้วยอัญมณี
8) ซ้ือขายสินคา้ หรือบรกิ ารโดยวิธใี ชส้ ่ืออเิ ลก็ ทรอนิกสผ์ ่านระบบเครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต บริการ
อินเทอร์เนต็ ใหเ้ ช่าพนื้ ทีข่ องเครอื่ งคอมพวิ เตอร์แม่ข่ายบริการเปน็ ตลาดกลางในการซ้ือขายสินค้าหรอื บริการ โดย
วธิ ีการใชส้ ือ่ อิเลก็ ทรอนิกสผ์ า่ นระบบเครือข่ายอนิ เทอร์เนต็
9) การใหบ้ ริการเคร่ืองคอมพิวเตอรเ์ พ่ือใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต
10) การให้บริการฟงั เพลงและรอ้ งเพลงโดยคาราโอเกะ
11) การให้บริการเครื่องเลน่ เกม
12) การให้บริการตเู้ พลง
13) โรงงานแปรสภาพ แกะสลกั และหตั ถกรรมจากงาชา้ ง การค้าปลกี การคา้ ส่งงาช้างและผลติ ภัณฑ์
จากงาช้าง
6.ครอู ธิบายกฎหมายภาษีตามประมวลรษั ฎากร ไดแ้ ก่
6.1 ภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา คอื ภาษที จ่ี ัดเก็บจากบุคคลทั่วไป หรอื จากหน่วยภาษที ม่ี ีลกั ษณะ
พเิ ศษตามที่กฎหมายกาหนดและมรี ายได้เกิดขนึ้ ตามเกณฑ์ที่กาหนด โดยปกติจัดเกบ็ เป็นรายปี รายไดท้ ีเ่ กดิ ขนึ้ ในปี
ใดๆ ผูม้ รี ายได้มหี นา้ ท่ีต้องนาไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการภาษีทกี่ าหนดภายในเดือนมกราคมถึง
มีนาคมของปีถดั ไป สาหรบั ผู้มเี งินไดบ้ างกรณีกฎหมายยงั กาหนดใหย้ น่ื แบบฯ เสียภาษีตอนครง่ึ ปี สาหรบั รายได้ ที่
เกิดข้ึนจรงิ ในช่วงครึ่งปีแรก เพือ่ เป็นการบรรเทาภาระภาษีทีต่ ้องชาระและเงินได้บางกรณี กฎหมายกาหนดให้ ผู้
จ่ายทาหน้าทีห่ กั ภาษี ณ ที่จา่ ยจากเงินได้ทีจ่ ่ายบางสว่ น เพื่อให้มีการทยอยชาระภาษีขณะท่มี ีเงินได้เกิดขึ้นอกี ด้วย
6.2 ภาษเี งนิ ไดน้ ิติบุคคล โดยผมู้ หี นา้ ท่ีเสียภาษเี งินได้นิติบุคคล ไดแ้ ก่ บริษัทหรือหา้ งหุ้นส่วนนติ บิ คุ คลที่
จดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์รวมถึงนิติบุคคลอื่นๆ ที่ไมไ่ ดจ้ ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมาย
แพง่ และพาณิชย์
6.3 ภาษีมลู คา่ เพิ่ม ผู้ประกอบการทขี่ ายสนิ คา้ หรือให้บริการในทางธุรกจิ หรือวิชาชีพเปน็ ปกติธรุ ะ ไมว่ ่าจะ
ประกอบกิจการในรปู ของบุคคลธรรมดา คณะบคุ คลหรือห้างหนุ้ ส่วนสามัญท่ีมิใช่นติ บิ ุคคล หรอื นิตบิ คุ คลใดๆ หาก
มรี ายรบั จากการขายสนิ ค้าหรือใหบ้ ริการเกินกวา่ 1.8 ลา้ นบาทตอ่ ปี ต้องยนื่ คาขอจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพมิ่
โดยคานวณภาษที ่ีต้องเสียจากภาษีขายหักดว้ ยภาษีซ้ือ
6.4 ภาษีธรุ กิจเฉพาะ เปน็ ภาษีตามประมวลรัษฎากร ท่ีจัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง
แทนภาษกี ารคา้ ท่ีถูกยกเลิก ภาษีธรุ กิจเฉพาะเรมิ่ ใชบ้ งั คับใน พ.ศ. 2535 พร้อมกนั กับภาษีมลู คา่ เพ่ิม
7.ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั อธิบาย วเิ คราะหภ์ าษากฎหมายอื่นๆ ท่เี กย่ี วข้อง นอกจากการจดทะเบยี นจัดตั้ง
ธรุ กจิ และกฎหมายภาษตี ามประมวลรษั ฎากรแลว้ ผปู้ ระกอบการจาเป็นต้องศึกษากฎหมายอน่ื ๆ ที่เกยี่ วข้อง เชน่
ภาษเี งนิ ได้ ณ ท่ีจ่าย ภาษีป้าย อากรแสตมป์ รวมท้ังการคุ้มครองทรัพย์สนิ ทางปญั ญาต่างๆ อกี ดว้ ย
8.ครอู ธบิ ายการจดทะเบยี นสิทธิบตั ร โดยสทิ ธบิ ตั ร คือหนังสือสาคญั ที่ออกใหเ้ พือ่ ค้มุ ครองการประดิษฐ์
หรือการออกแบบผลติ ภัณฑ์การประดษิ ฐ์ คือ ผลงานสรา้ งสรรค์ เกีย่ วกบั การผลติ ผลิตภณั ฑ์ ซึง่ มี 2 ลกั ษณะ ดังนี้
8.1 ผลิตภัณฑ์ ไดแ้ ก่ ส่วนประกอบกันเป็นส่ิงของเครื่องใช้ต่างๆ และสว่ นผสมทางเคมี
8.2 กรรมวิธี ได้แก่ วิธกี ารผลติ การเกบ็ รักษา หรือการใช้ผลติ ภัณฑ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือผลงาน
สร้างสรรคเ์ กย่ี วกับลักษณะของผลติ ภัณฑ์ เช่น รูปร่าง ลวดลาย หรือสี
โดยสทิ ธิบตั รการประดษิ ฐ์ มอี ายุ 20 ปี นับแตว่ นั ยื่นขอรับสิทธิบัตรและสิทธิบัตรการออกแบบผลติ ภัณฑ์
มีอายุ 10 ปี นับแตว่ ันยนื่ ขอ
ผู้ทรงสิทธิบัตรต้องชาระค่าธรรมเนียมรายปีตงั้ แตป่ ีท่ี 5 เป็นตน้ ไปโดยให้ชาระภายใน 60 วนั
หลังจากส้นิ ปีที่ 4 หากการออกสิทธบิ ัตรใช้ระยะเวลาเกินกว่า 4 ปี ใหช้ าระค่าธรรมเนยี มรายปีภายใน 60
วัน นับแตว่ นั ท่มี ีการออกสิทธบิ ัตรให้
สถานทย่ี น่ื คาขอ สว่ นบริหารงานจดทะเบียน สานักสทิ ธบิ ัตร กรมทรัพย์สนิ ทางปัญญาหรือสานักงาน
พาณชิ ย์จังหวัด
9.ผู้เรียน Download แบบพิมพ์ (ทพ.) ท่ี www.dbd.go.th แลว้ นามากรอกข้อมลู เพ่ือฝึกทักษะในการ
จดทะเบยี นพาณิชย์ของผ้ปู ระกอบการ ตามคาแนะนาของเอกสาร
10.ผู้เรียนอ่านกรณี “แพนด้าพาโชค” แล้วแสดงความคิดเห็นว่าเหตกุ ารณน์ ้เี หมาะสมหรือไม่ อยา่ งไรบา้ ง
11. ครอู ธบิ ายและแสดงตวั อยา่ งรูปภาพเคร่อื งหมายการค้าให้ผู้เรียนดู โดยเคร่อื งหมายการคา้ หมายถงึ
เครอ่ื งหมายท่ีใช้หรอื จะใชเ้ ป็นทห่ี มายหรอื เกี่ยวขอ้ งกบั สนิ ค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าทใ่ี ช้เคร่ืองหมายของเจ้าของ
เครื่องหมายน้นั แตกต่างกับสนิ ค้าทใ่ี ช้เคร่ืองหมายการค้าของบุคคลอน่ื ซง่ึ เครื่องหมายการค้า อาจจะเป็นภาพถ่าย
ภาพวาด ภาพประดิษฐ์ ตรา ช่ือ คา ข้อความตัวหนงั สือ ตัวเลข ลายมอื ชอ่ื กลุม่ ของสี รปู รา่ ง หรือรปู ทรงของวัตถุ
หรอื ส่งิ เหลา่ นีอ้ ย่างใดหนึ่งหรือหลายอยา่ งรวมกนั
12. ครูบอกประเภทเครือ่ งหมายการคา้ มี 3 ประเภท ได้แก่
1) เครือ่ งหมายบริการ หมายถึง เครือ่ งหมายท่ีใชห้ รอื จะใช้เปน็ ทหี่ มายหรอื เก่ียวข้องกบั บรกิ ารเพ่ือแสดงวา่
บรกิ ารท่ใี ช้เครื่องหมายของเจ้าของบริการน้ันแตกต่างกับบรกิ ารท่ีใชเ้ ครื่องหมายบริการของบุคคลอนื่
2) เคร่ืองหมายรบั รอง หมายถึง เคร่อื งหมายท่เี จ้าของเคร่ืองหมายรับรองใชห้ รอื จะใช้เป็นท่ีหมายหรือ
เกยี่ วขอ้ งกับสนิ ค้าหรือบริการของบุคคลอื่น เพื่อเปน็ การรบั รอง แหล่งกาเนิด ส่วนประกอบ/วธิ กี ารผลติ คณุ ภาพ
หรอื คุณลักษณะสนิ คา้ น้ัน หรือเพื่อรับรองภาพ คุณภาพ ชนดิ หรือคุณลกั ษณะอน่ื ใดของบริการนั้น
3) เครอ่ื งหมายรว่ ม หมายถงึ เครื่องหมายการค้าหรอื เคร่ืองหมายบรกิ ารท่ีใช้หรือจะใชโ้ ดยบรษิ ัทหรือ
วสิ าหกจิ ในกล่มุ เดียวกัน หรือโดยสมาชกิ ของสมาคม สหกรณ์ สหภาพ สมาพันธ์ กลุ่มบุคคลหรือองคก์ รอน่ื ใดของ
รฐั หรอื เอกชน
13. ครูอธบิ ายกฎหมายประกันสังคม คือการสร้างหลักประกนั สงั คมในการดารงชวี ิตในกล่มุ ของสมาชิก
ท่มี ีรายได้และจา่ ยเงนิ สมทบเขา้ กองทุนประกนั สงั คมเพ่ือรับผดิ ชอบในการเฉลยี่ ความเสี่ยงทอี่ าจจะเกิดขนึ้ จากการ
เจบ็ ป่วยคลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพและการว่างงานเพ่ือใหไ้ ด้รับการรกั ษาพยาบาล และ
มีการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่อง
14.ครูอธบิ ายผปู้ ระกนั ตน หมายถงึ ลูกจ้างท่ีมีอายุไม่ตา่ กวา่ 15 ปีบริบรู ณ์ และไม่เกนิ 60 ปีบริบูรณ์ ในวัน
เขา้ ทางานและทางานอยู่ในสถานประกอบการที่มีลกู จ้างต้ังแต่ 1 คนขนึ้ ไป นายจ้างต้องแจ้งขึน้ ทะเบียนลกู จ้างเป็น
ผู้ประกันตนภายใน 30 วนั นับแต่วันท่ีรบั ลูกจา้ งเข้าทางาน มฉิ ะนัน้ จะมีความผิดต้องระวางโทษจาคุก
ไม่เกนิ 6 เดือน หรือปรับไมเ่ กิน 20,000 บาท หรอื ท้งั จาท้ังปรับ
15.ครอู ธบิ ายเงินสมทบกองทุนประกันสงั คม หมายถึง เงนิ ที่นายจา้ ง ลกู จา้ ง จะตอ้ งนาสง่ เขา้ กองทุน
ประกนั สังคมทุกเดือน โดยคานวณจากคา่ จา้ งจริงทลี่ ูกจา้ งไดร้ บั ตามบัญชดี งั นี้
16.ครูบอกสทิ ธิประโยชน์ ผทู้ ี่ทางานเป็นลกู จา้ งจะจ่ายเงินสมทบในกองทุนประกันสังคมทุกเดือน ในกรณที ี่
นายจา้ งมลี กู จา้ งต้ังแต่ 1 คนข้ึนไป ตอ้ งมีหนา้ ท่ีขึ้นทะเบยี นผปู้ ระกันตนให้ครบทกุ คนภายใน 30 วัน และส่งเงิน
สมทบใหค้ รบท้ังสว่ นของนายจา้ งและลกู จ้าง ทาใหล้ ูกจา้ งไดร้ ับสทิ ธิประโยชนจ์ ากกองทุนประกันสังคมที่ตน
ได้ร่วมจา่ ยเงนิ สมทบ ซง่ึ ในท่ีน้ีจะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ผ้ปู ระกนั ตนตามมาตรา 33 หมายถงึ ใหล้ ูกจา้ ง
อายุไม่ตา่ กวา่ 50 ปีบรบิ ูรณ์ และไม่เกนิ 60 ปีบรบิ รู ณ์ เป็นผ้ปู ระกันตน ถ้าอายุครบ 60 ปบี ริบรู ณแ์ ลว้ เป็นลกู จ้าง
อยู่ใหถ้ ือวา่ เป็นผปู้ ระกนั ตนต่อไป ซงึ่ ความส้นิ สุดของผ้ปู ระกันตนคือ (1) ตาย (2) สนิ้ สภาพการเป็นลูกจา้ ง)
16.ผ้เู รียนบอกหลักเกณฑแ์ ละสทิ ธปิ ระโยชน์ในการรักษาพยาบาล
17.ผเู้ รียน Download แบบพิมพ์ (ทพ.) ที่ www.dbd.go.th แลว้ นามากรอกข้อมลู เพ่ือฝึกทักษะในการ
จดทะเบยี นพาณชิ ยข์ องผู้ประกอบการ ตามคาแนะนาของเอกสาร
18.ผู้เรียนบอกสทิ ธิประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากกองทนุ ประกนั สงั คม โดยยกตวั อยา่ งคานวณจากฐานค่าจ้างที่
ลูกจ้างไดร้ บั เชน่ การคานวณเงนิ สมทบสาหรบั ผู้ประกนั สังคมท่ีมีรายได้ 15,000 บาทต่อเดอื นข้ึนไป (อ้างอิงอัตรา
เงินสมทบปี 2556 ตามประกาศกฎกระทรวง)
19.ผูเ้ รียนอา่ นกรณี “แพนด้าพาโชค” แล้วแสดงความคดิ เห็นว่าเหตุการณ์นี้เหมาะสมหรอื ไม่ อยา่ งไรบา้ ง
19. แบบฝึกหดั
1. ผมู ีหนาท่จี ดทะเบยี นพาณิชยไดแกใครบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. ผปู ระกอบการประเภทใดบางท่ไี ดรับการยกเวนไมตองจดทะเบยี นพาณชิ ย
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ผมู หี นาทต่ี องเสียภาษเี งินไดบคุ คลธรรมดา ไดแกใครบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. นิติบุคคลประเภทใดบางที่ไมตองเสยี ภาษีเงินได
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. ผปู ระกอบการทจี่ ดทะเบียนภาษมี ูลคาเพมิ่ มีหนาท่ีอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
6. สทิ ธิบตั รหมายถงึ อะไร และมีลกั ษณะอยางไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
7. เครอื่ งหมายการคาหมายถึงอะไร และแบงออกเปนกปี่ ระเภท ไดแกอะไรบาง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
8. กฎหมายแรงงานมีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ กฎหมายแรงงาน หมายถงึ กฎหมายทีบ่ ัญญัตถิ ึงสทิ ธิและหนาท่ีของนายจาง ลกู จาง องคกรของ
นายจางและองคกรของลกู จาง รวมทงั้ มาตรการที่กาหนดใหปฏิบัติตอกนั เพอื่ ใหการจางงานและการใชงาน การ
ประกอบกิจการและความสัมพนั ธระหวางนายจางและลูกจางเปนไปโดยเหมาะสม
9. จงใหคาจากัดความคาวา “การประกันสังคม ผูประกันตน และเงินสมทบกองทุนประกันสงั คม” มาใหเขาใจ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
10. จงสรปุ สาระสาคัญของสิทธปิ ระโยชนทจี่ ะไดรับจากกองทนุ ประกนั สังคมมาใหเขาใจ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………….
เฉลยแบบฝึกหดั
1. ผมู ีหนาทจ่ี ดทะเบยี นพาณิชยไดแกใครบาง
ตอบ ผูมีหนาทจี่ ดทะเบียนพาณชิ ย คือ บคุ คลธรรมดาคนเดียวหรอื หลายคน (หางหุนสวนสามัญ) หรือ นติ ิ
บคุ คล รวมท้ังนติ ิบุคคลท่ีตั้งข้ึนตามกฎหมายตางประเทศที่มาตงั้ สานกั งานสาขาในประเทศไทย ซึ่งประกอบ
กจิ การอนั เปนพาณิชยกิจตามที่กระทรวงพาณิชยกาหนด
2. ผปู ระกอบการประเภทใดบางทไ่ี ดรับการยกเวนไมตองจดทะเบียนพาณิชย
ตอบ ผูประกอบการที่ไดรับการยกเวนไมตองจดทะเบยี นพาณชิ ย ไดแก
1. การคาเร การคาแผงลอย
2. พาณชิ ยกจิ เพ่อื การบารุงศาสนาหรอื เพื่อการกศุ ล
3. พาณิชยกิจของนติ ิบุคคลซึ่งไดมีพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกาจดั ตง้ั ข้ึน
4. พาณิชยกิจของกระทรวง ทบวง กรม
5. พาณิชยกจิ ของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ
6. พาณชิ ยกจิ ซึง่ รฐั มนตรีไดประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ไดแก พาณชิ ยกจิ ซึ่งผูประกอบพาณิชยกิจเปน
บริษทั จากดั หางหุนสวนจากัด หางหุนสวนสามญั จดทะเบียนท่เี ปนนิตบิ ุคคล ตามประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ยวาดวยหนุ สวนและบริษทั และไดยน่ื แบบแสดงรายการเก่ียวกบั การประกอบธุรกิจของหางหุนสวนบรษิ ัทไว
แลวตอนายทะเบยี นหุนสวนบรษิ ทั ยกเวนกิจการทีเ่ ปนบริษัทจากัด หางหุนสวนจากัด และหางหุนสวนสามัญจด
ทะเบยี น
3. ผมู ีหนาที่ตองเสยี ภาษเี งินไดบุคคลธรรมดา ไดแกใครบาง
ตอบ ผูมหี นาท่ีเสียภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา ไดแก ผูทมี่ ีเงนิ ไดเกิดขึ้นระหวางปทีผ่ านมาโดยมสี ถานะ
อยางหนงึ่ อยางใด ดังน้ี
1. บคุ คลธรรมดา
2. หางหุนสวนสามัญหรือคณะบคุ คลท่ีมิใชนติ บิ ุคคล
3. ผถู ึงแกความตายระหวางปภาษี
4. กองมรดกทย่ี งั ไมไดแบง
5. วิสาหกจิ ชมุ ชน ตามกฎหมายวาดวยการสงเสรมิ วสิ าหกจิ ชมุ ชน เฉพาะที่เปนหางหุนสวนสามญั หรือ
คณะบุคคลที่มใิ ชนติ บิ ุคคล
4. นิติบคุ คลประเภทใดบางท่ีไมตองเสยี ภาษเี งินได
ตอบ นิติบคุ คลท่ีไมตองเสยี ภาษเี งินได นติ ิบุคคลอน่ื ๆ นอกจากที่กลาวมา และเฉพาะทีต่ ั้งข้ึนตามกฎหมาย
ไทย เชน กระทรวง ทบวง กรม องคการของรัฐบาลหรอื สหกรณ ไมมหี นาทต่ี องเสยี ภาษีเงินไดนิตบิ คุ คลแตอยางใด
อยางไรก็ตาม ยงั มนี ติ บิ ุคคลอีกบางประเภทที่เขาลักษณะตองเสยี ภาษเี งนิ ไดนิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร แตได
รับการยกเวนตามบทบญั ญตั ิของกฎหมายตางๆ ไดแก
1. บรษิ ทั หรอื หางหุนสวนนิติบุคคลตามขอผูกพันท่ีประเทศไทยมีอยูตามสญั ญาวาดวยความรวมมือ ทาง
เศรษฐกจิ หรือทางเทคนิคระหวางรัฐบาลไทยกบั รฐั บาลตางประเทศ
2. บริษัทจากดั ที่ไดรับการยกเวนภาษเี งินไดตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมการลงทนุ
3. บรษิ ทั จากดั และนิติบคุ คลทมี่ ีสภาพเชนเดียวกบั บริษัทจากดั ซงึ่ ต้ังขึ้นตามกฎหมายไทยหรอื กฎหมายต
างประเทศไดรบั การยกเวนภาษีเงินไดนิติบุคคลตามพระราชบัญญตั ภิ าษเี งินไดปโตรเลยี ม
4. บรษิ ัทหรือหางหุนสวนนติ ิบคุ คลท่ีอยูในประเทศที่มีอนสุ ญั ญาวาดวยการเวนการเกบ็ ภาษีซอน กบั
ประเทศไทย ตามเงื่อนไขที่กาหนดในอนุสัญญา
5. ผปู ระกอบการท่ีจดทะเบียนภาษมี ูลคาเพ่ิม มหี นาที่อยางไรบาง
ตอบ หนาท่ีของผูประกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลคาเพิม่
1. เรยี กเก็บภาษีมลู คาเพ่ิมจากผูซื้อสินคาหรือผูรับบริการ และออกใบกากบั ภาษเี พือ่ เปนหลักฐาน ในการ
เรียกเกบ็ ภาษีมูลคาเพม่ิ
2. จดั ทารายงานตามทก่ี ฎหมายกาหนด ซึง่ ไดแก
2.1 รายงานภาษซี ื้อ
2.2 รายงานภาษีขาย
2.3 รายงานสินคาและวัตถุดิบ
3. ย่นื แบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีตามแบบ ภ.พ.30
6. สทิ ธบิ ัตรหมายถงึ อะไร และมีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ สิทธบิ ตั ร คอื หนังสือสาคัญที่ออกใหเพ่ือคมุ ครองการประดษิ ฐ หรอื การออกแบบผลติ ภณั ฑการ
ประดิษฐ คือ ผลงานสรางสรรคเกยี่ วกบั การผลิตผลติ ภณั ฑ มี 2 ลกั ษณะ ดงั นี้
1. ผลติ ภัณฑ ไดแก โครงสรางหรอื สวนประกอบกนั เปนสิง่ ของเครือ่ งใชตางๆ และสวนผสม ทางเคมี
2. กรรมวธิ ี ไดแก วิธใี นการผลิต การเก็บรกั ษา หรอื การใชผลติ ภณั ฑ การออกแบบผลิตภณั ฑ คือ ผลงาน
สรางสรรคเกี่ยวกับลักษณะภายนอกของผลิตภณั ฑ เชน รปู ราง ลวดลาย หรือสีของผลิตภณั ฑ
7. เคร่ืองหมายการคาหมายถึงอะไร และแบงออกเปนก่ีประเภท ไดแกอะไรบาง
ตอบ เครื่องหมายการคา หมายถงึ เครือ่ งหมายที่ใชหรือจะใชเปนทหี่ มายหรือเกย่ี วของกับสินคาเพ่ือแสดง
วาสินคาทใี่ ชเคร่ืองหมายของเจาของเครอ่ื งหมายนน้ั แตกตางกับสินคาที่ใชเครือ่ งหมายการคาของบคุ คลอ่นื ซง่ึ
เครอ่ื งหมายการคา อาจจะเปนภาพถาย ภาพวาด ภาพประดษิ ฐ ตรา ช่ือ คาขอความตัวหนังสอื ตัวเลข ลายมอื ชอ่ื
กลมุ ของสี รูปราง หรอื รูปทรงของวัตถุ หรือส่งิ เหลานอี้ ยางใดอยางหน่ึงหรือหลายอยางรวมกัน เครื่องหมาย
การคามี 3 ประเภท ไดแก
1. เครอื่ งหมายบริการ หมายถึง เคร่อื งหมายที่ใชหรือจะใชเปนทห่ี มายหรอื เกี่ยวของกับบรกิ ารเพ่ือ
แสดงวาบรกิ ารที่ใชเครือ่ งหมายของเจาของบริการนัน้ แตกตางกบั บริการท่ใี ชเคร่ืองหมายบริการของบุคคลอน่ื
2. เคร่อื งหมายรบั รอง หมายถงึ เครื่องหมายท่ีเจาของเคร่ืองหมายรับรองใชหรือจะใชเปนทหี่ มาย หรอื
เก่ียวของกบั สินคาหรือบรกิ ารของบุคคลอน่ื เพื่อเปนการรบั รอง แหลงกาเนิด สวนประกอบ/วิธีการผลติ คุณภาพ
หรือคุณลักษณะสนิ คานั้น หรือเพ่ือรับรองภาพ คุณภาพ ชนดิ หรือคณุ ลกั ษณะอนื่ ใดของบริการนัน้
3. เคร่ืองหมายรวม หมายถงึ เคร่ืองหมายการคาหรอื เครอ่ื งหมายบรกิ ารที่ใชหรอื จะใชโดยบรษิ ัท หรอื
วิสาหกิจในกลุมเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม สหกรณ สหภาพ สมาพนั ธ กลมุ บุคคลหรือองคกร อ่ืนใดของ
รัฐหรือเอกชน
8. กฎหมายแรงงานมีลักษณะอยางไรบาง
ตอบ กฎหมายแรงงาน หมายถงึ กฎหมายที่บัญญตั ถิ ึงสทิ ธิและหนาทขี่ องนายจาง ลูกจาง องคกรของ
นายจางและองคกรของลกู จาง รวมทง้ั มาตรการทก่ี าหนดใหปฏิบัติตอกันเพื่อใหการจางงานและการใชงาน การ
ประกอบกิจการและความสมั พนั ธระหวางนายจางและลูกจางเปนไปโดยเหมาะสม
9. จงใหคาจากัดความคาวา “การประกันสงั คม ผูประกันตน และเงินสมทบกองทนุ ประกนั สงั คม” มาใหเขาใจ
ตอบ การประกนั สงั คม คือการสรางหลกั ประกันสงั คมในการดารงชีวติ ในกลุมของสมาชิกท่ีมรี ายไดและ
จายเงนิ สมทบเขากองทนุ ประกนั สงั คมเพอ่ื รบั ผิดชอบในการเฉลี่ยความเสย่ี งท่ีอาจจะเกิดขึ้นจากการเจ็บปวย
คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะหบุตร ชราภาพและการวางงาน เพื่อใหไดรบั การรักษาพยาบาล และ มีการ
ทดแทนรายไดอยางตอเนื่อง ผูประกันตน หมายถึง ลกู จางทม่ี อี ายุไมต่ากวา 15 ปบรบิ ูรณ และไมเกิน 60 ป
บรบิ ูรณในวันเขาทางาน และทางานอยูในสถานประกอบการทมี่ ีลูกจางต้ังแต 1 คนขนึ้ ไป นายจางตองแจงข้ึน
ทะเบยี นลกู จางเปน ผูประกันตนภายใน 30 วัน นบั แตวันทรี่ บั ลูกจางเขาทางาน มฉิ ะนัน้ จะมีความผดิ ตองระวาง
โทษจาคกุ ไมเกนิ 6 เดอื น หรือปรบั ไมเกนิ 20,000 บาท หรอื ท้งั จาท้ังปรับ เงินสมทบกองทุนประกนั สงั คม
หมายถึง เงนิ ท่นี ายจาง ลกู จาง จะตองนาสงเขากองทนุ ประกันสังคม ทุกเดือน โดยคานวณจากคาจางจริงทลี่ กู จาง
ไดรบั
10. จงสรุปสาระสาคญั ของสิทธปิ ระโยชนท่จี ะไดรับจากกองทุนประกนั สงั คมมาใหเขาใจ
ตอบ สิทธปิ ระโยชนที่ไดรบั จากกองทนุ ประกันสังคมโดยสรปุ มีดังนี้ ผูท่ที างานเปนลูกจางจะจายเงินสมทบ
เขากองทนุ ประกันสงั คมทุกเดือน ในกรณีทนี่ ายจางมลี กู จางตง้ั แต 1 คนขึ้นไป ตองมีหนาที่ข้นึ ทะเบยี นผูประกัน
ตนใหครบทุกคนภายใน 30 วัน และสงเงินสมทบใหครบทงั้ สวน ของนายจางและลกู จาง ทาใหลกู จางไดรับสทิ ธิ
ประโยชนจากกองทุนประกนั สงั คมที่ตนไดรวมจายเงินสมทบ ซ่ึงในทน่ี ้ีจะเปนผูประกันตนตามมาตรา 33 (ผูประกัน
ตนตามมาตรา 33 หมายถึง ลูกจางอายุไมต่ากวา 15 ปบริบูรณและไมเกนิ 60 ปบริบรู ณเปนผูประกันตน ถาอายุ
ครบ 60 ปบรบิ รู ณแลวยังเปนลกู จางอยูใหถอื วา เปนผูประกนั ตนตอไป ซึ่งความสนิ้ สดุ ของผูประกนั ตนคือ (1) ตาย
(2) ส้นิ สภาพการเปนลูกจาง) สาหรบั ผูทีท่ างานถือวาเปนผูประกนั ตนตามมาตรา 33 ซ่ึงท้ังนายจางและลกู จาง
มีหนาทีส่ งเงินเขา กองทุนประกนั สงั คมทุกเดอื น โดยคานวณจากฐานคาจางทล่ี กู จางไดรับ เชน การคานวณเงนิ
สมทบสาหรับ ผูประกันสังคมท่มี ีรายได 15,000 บาทตอเดือนข้นึ ไป (อางอิงอตั ราเงนิ สมทบป 2556 ตามประกาศ
กฎกระทรวง)
17. ใบงาน
หนว่ ยการสอนท่ี 6
ชอ่ื หน่วยการสอน กฎหมายทีเ่ ก่ียวกับธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ
จุดประสงค์ เพ่ือ
1. สรา้ งความรคู้ วามจาให้กับผเู้ รยี น
2. เพ่มิ การฝกึ ปฏิบตั ิแก่ผ้เู รยี น
3. สรา้ งความรับผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝ่เรียนรู้
ลาดับกิจกรรม/ลาดับการปฏบิ ัติ
1. ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้
2. ผู้เรยี นศกึ ษาหาความรู้จากตาราเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจร
คณุ ภาพ 20001-1003 สานักพมิ พ์เอมพันธ์
3. หรือ ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เรือ่ ง การวางแผนเป้าหมายชวี ิตดว้ ยวงจรคณุ ภาพ
4. จดั ทาใบงานตามท่ีมอบหมาย (กาหนดเวลาจดั ทา 50 นาที)
5. ส่งงานใบงานท่ีมอบหมายก่อนหมดเวลาเรยี น (10 นาที หรือเป็นการบา้ น)
เกณฑก์ ารพิจารณา
1. ส่งงานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทุกข้อที่กาหนด
3. ทางานเป็นระเบียบเรยี บร้อย
ใบงานที่ 6.1
เรอื่ ง การจดทะเบยี นพาณชิ ย์ของผู้ประกอบการ
ชือ่ -สกุล............................................................................................เลขที่.........ช้นั ..........................
คาชีแ้ จง ให้ Download แบบพมิ พ์ (ทพ.) ที่ www.dbd.go.th แลว้ นามากรอกข้อมูล เพ่ือฝึกทักษะใน
การจดทะเบยี นพาณิชย์ของผู้ประกอบการ ตามคาแนะนาของเอกสาร
ใบงานท่ี 6.2
เรือ่ ง สิทธิประโยชน์ท่ไี ด้รับจากกองทุนประกันสังคม
ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขท.่ี ........ชั้น.............. ............
คาชแ้ี จง ใหบ้ อกสิทธปิ ระโยชน์ทไี่ ดร้ ับจากกองทนุ ประกนั สังคม โดยยกตัวอย่างคานวณจากฐานค่าจา้ งที่
ลูกจา้ งไดร้ บั เช่น การคานวณเงนิ สมทบสาหรบั ผปู้ ระกนั สงั คมท่ีมรี ายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึน้ ไป (อ้างอิงอตั รา
เงนิ สมทบปี 2556 ตามประกาศกฎกระทรวง)
เงนิ สมทบ
สทิ ธปิ ระโยชน์ ลูกจ้าง นายจา้ รฐั บาล สิทธิจะไดร้ ับ
ง
1.ประสบ
อนั ตราย
เจ็บป่วย
2.ทพุ พลภาพ
3.ตาย
4.คลอดบุตร
5.สงเคราะห์
บุตรชราภาพ
6.การว่างงาน
รวม
ใบงานท่ี 6.3
เรือ่ ง แพนดา้ พาโชค
ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขท.ี่ ........ชัน้ ..........................
คาช้แี จง ใหอ้ ่านกรณี “แพนด้าพาโชค” แลว้ แสดงความคิดเห็นวา่ เหตุการณ์น้ีเหมาะสมหรือไม่ อย่างไรบ้าง
หลงั จากน้องปลายฟ้าเปน็ ผูโ้ ชคดไี ด้รับรางวลั เงินสด 1 ล้าน รถเก๋ง
ฮอนดา้ แจส๊ 1 คัน และแพคเกจทอ่ งเทย่ี วประเทศจนี อกี 3 วนั 4 คนื น้อง ปลาย
ฟ้าและคณุ ยายกต็ ้องทุกขใ์ จกับภาษีท่ีตอ้ งชาระให้สรรพากรตั้งแตว่ ันที่รับ
รางวัล สรรพากรชี้แจงวา่ รางวลั ทไ่ี ดต้ ้องหักภาษี ณ ท่ีจา่ ย 5% ทาให้เงนิ ที่ได้ เหลอื
เพยี ง 9 แสนกวา่ และนาไปฝากธนาคาร หลงั จากน้ันสรรพากรทอ้ งท่ีก็มาแจ้ง ว่า
ต้องเสยี ภาษเี พม่ิ เติมในสิน้ ปอี ีกประมาณ 2 แสนบาท คณุ ยายไม่เข้าใจในการ เสีย
ภาษแี ละไม่รู้เร่ืองอีกท้ังมีข่าวทางสื่ออยา่ งแพรห่ ลายในลักษณะตา่ ง ๆ ทานองว่าเป็นการรังแกคุณยายกับหลาน
และไดร้ ้องเรยี นกบั รฐั มนตรผี ูเ้ กย่ี วข้อง และสื่อต่าง ๆ ให้เขา้ มาดแู ล แต่ก็ไม่ได้ผลในทส่ี ดุ คุณยายและน้องปลายก็
ตอ้ งจา่ ยภาษตี ามที่รัฐเรียกร้องโดยกรมสรรพากร จากกรณีศกึ ษานี้ ใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เหน็
............................................................................................................................. ............................................
........................................................................................................................................................... ...............
..........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................................
.......................................................................................................................................................... ................
..........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................................
......................................................................................................................................................... .................
..........................................................................................................................................................................
เฉลยใบงานที่
(ดลุ พินิจของผสู้ อน)
แบบสรปุ คะแนน
ชดุ ท่ี 1
รายวชิ า กฎหมายทีเ่ กี่ยวกบั ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ
คะแนน กิจกรรมท่ี ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ระหวา่ ง
123 1 เรยี น
คะแนนเต็ม ✓✓ 5 10 10 15
คะแนนท่ไี ด้
คดิ เป็นรอ้ ย
ละ
หมายเหตุ : ✓ = ผา่ นกิจกรรม = ไมผ่ า่ นกจิ กรรม
(ลงชอื่ ) ....................................... ผปู้ ระเมนิ
(นายวจิ ิตร พลเศษ)
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ
เกณฑก์ ารประเมินแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและแบบทดสอบหลงั เรียน
ระดบั คุณภาพ หมายถงึ ดี
ระดับ 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดับ 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดบั 2 5 - 6 คะแนน
20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1
ด้านการเตรยี มการสอน
1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้
2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพสิ ยั
3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรูก้ ่อนเขา้ สอน
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
4. มวี ธิ ีการนาเข้าสู่บทเรยี นท่ีน่าสนใจ
5. มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ
6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ เพื่อหาคาตอบดว้ ยตนเอง
7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
8. จดั กิจกรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )
9. กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี
10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชีวิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม
11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม
12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน
14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างท่วั ถึง
15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด
ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
16. ใช้สอื่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น
17. ใช้สอ่ื แหลง่ การเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร
สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น
ดา้ นการวัดและประเมินผล
18. ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจติ พสิ ัย
20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ ี่เกย่ี วข้องมสี ่วนรว่ ม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยยี่ ม 4 = ปฏบิ ตั ดิ ี 3 = ปฏิบัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลยี่
20.2 ปญั หาทพี่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา
ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา
ด้านการเตรยี มการสอน
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นส่ือ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านการวดั และประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านอ่นื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ลงชือ่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)
ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................
บนั ทกึ หลงั การสอน
ผลการใช้แผนการเรยี นรู้
ความเหมาะสมของเวลา
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรุง
ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นการสอน
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………
ผลการเรยี นของผเู้ รยี น
ความต้ังใจของผเู้ รียน ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรุง
อปุ กรณ์การสอน
มาก ดี
การเรียนร้ขู องผเู้ รียน
มาก ดี
…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู
มาก ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนรู้ ตรงตามแผนการจัดการเรียนรู้ ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้
บนั ทกึ เพ่ิมเตมิ
............................................................................................................................................... ..............
………………………………………………
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)
ผู้บนั ทกึ การสอน
แผนการจดั การเรียนรู้ แบบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหัสวชิ า 20001-1003 วิชา ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ
หน่วยที่ 7 ชือ่ หน่วย รูปแบบแผนธุรกิจ
ชือ่ เรื่อง รูปแบบแผนธุรกิจ จานวน 12 ชว่ั โมง สอนครง้ั ที่ 15,16,17,18
1. สาระสาคญั
แผนธุรกจิ เปน็ เคร่อื งมือของธรุ กิจทผี่ ้ปู ระกอบการสามารถใช้ในการกาหนดขัน้ ตอน และวางแผนการ
ดาเนนิ ธรุ กิจอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุวิสัยทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าหมายตามท่ีกาหนดไว้ โดย
แผนธุรกิจที่ดนี นั้ ควรจะมีความถูกต้อง ชัดเจนและกระชบั ครอบคลุมเน้ือหาทีส่ าคญั ง่ายต่อการเขา้ ใจ และต้องมี
ความเป็นไปได้ในการนาไปใช้ในการดาเนนิ ธรุ กจิ
2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้
1. สามารถเขียนแผนธุรกจิ ตามรปู แบบแผนธุรกิจ
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป
3.1.1 มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกบั รปู แบบของแผนธุรกิจ
3.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม
3.2.1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของแผนธรุ กิจ
3.2.2. แสดงความร้เู ก่ยี วกบั องค์ประกอบของแผนธุรกจิ
3.2.3. จัดทาปกหน้า สารบัญ และคานา
3.2.4. จดั ทาบทสรุปผูบ้ รหิ าร
3.2.5. จดั ทาประวัติกจิ การ หรอื ภาพรวมของกจิ การ
3.2.6. วเิ คราะห์สถานการณ์
3.2.7. จัดทาแผนการตลาด
3.2.8. จัดทาแผนการบริหารจัดการและแผนการดาเนนิ งาน
3.2.9. จัดทาแผนการผลติ
3.2.10. จัดทาแผนการเงนิ
3.2.11. จัดทาแผนฉกุ เฉิน
3.2.12. แสดงความรู้เกี่ยวกับภาคผนวก
3.2.13 มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรมค่านยิ ม ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความมีวินยั ความ
รบั ผดิ ชอบ ความซื่อสัตยส์ จุ ริต ความเช่อื ม่ันในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝ่รู้ การละเว้นสิ่ง
เสพติดและการพนัน ความรักสามคั คี
4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้
1. ความหมายและความสาคัญของแผนธรุ กจิ
2. องค์ประกอบของแผนธุรกิจ
3. ปกหน้า สารบญั และคานา
4. บทสรุปผ้บู รหิ าร
5. ประวัตกิ จิ การ หรือภาพรวมของกิจการ
6. การวิเคราะหส์ ถานการณ์
7. จัดทาแผนการบรหิ ารจัดการและแผนการดาเนินงาน
8. จดั ทาแผนการผลิต
9. แผนการเงิน
10. แผนฉกุ เฉิน
11. ภาคผนวก
4.2 ด้านทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. บอกความหมายและความสาคัญของแผนธรุ กจิ
2. บอกองคป์ ระกอบของแผนธุรกจิ
3. สามารถเขยี นปกหนา้ สารบัญ และคานา
4. สามารถเขียนบทสรปุ ผู้บริหาร
5. สามารถเขยี นประวัตกิ ิจการ หรือภาพรวมของกจิ การ
6. สามารถวเิ คราะห์สถานการณ์
7. สามารถจดั ทาแผนการบรหิ ารจดั การและแผนการดาเนนิ งาน
8. สามารถจดั ทาแผนการผลติ
9. สามารถจัดทาแผนการเงิน
10. สามารถจดั แผนฉุกเฉิน
11. สามารถเขยี นภาคผนวก
4.3 ด้านคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม
1. มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มคี วามรบั ผิดชอบ ตรงต่อเวลา
ดา้ นคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
1. มงุ่ มนั่ ในการทางาน มจี ิตสาธารณะ อยู่อยา่ งพอเพยี ง
2. เขียนแผนโดยประยุกต์เศรษฐกจิ พอเพยี งได้อยา่ งเหมาะสม
5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้
ขนั้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ขน้ั ตอนการเรียนหรอื กิจกรรมของผูเ้ รยี น
ขน้ั เตรยี ม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผ้เู รยี นเข้าห้องเรยี น
5.1 นักเรียนทาความเคารพครผู ้สู อน 5.2 ครผู ู้สอนตรวจสอบรายชือ่ ผ้เู รยี น
5.2 ครูผู้สอนทักทายผเู้ รียนและสารวจรายชื่อผู้เรยี น 5.3 ผเู้ รียนรับใบความรู้ เรอ่ื ง รปู แบบและการจัดทา
5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ หรือ เตรยี มอุปกรณ์
แผนธรุ กิจ
ในการสอนใหพ้ รอ้ ม และใบงาน 5.4 รบั ใบงาน อธิบายการทา
5.4 ผู้เรียนใบความรู้ เตรียมตาราเรยี นและสมดุ
5.5 ผู้สอนการจัดทาใบงานท่ีมอบหมาย (20 นาที)
ขั้นการสอน(จานวน....660........นาที)
5.6 ครูผูส้ อนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.5 ผู้เรียนทดสอบก่อนเรียน ( 10 นาที)
5.7 อธิบายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มจี านวน
10 ข้อ เวลาทใี่ ช้ 10 นาที (พร้อมส่งครบเวลา)
5.8 ครผู ู้สอนให้ผูเ้ รียนศกึ ษาใบความรู้ หน่วยเนอื้ หา 5.6 ผ้เู รียนศกึ ษาตาราเรียนหนว่ ยเนอ้ื หา ใบความรู้
ตาราเรียน รูปแบบและการจัดทาแผนธุรกจิ
5.9 ครผู ู้สอน ตั้งคาถามเก่ียวกับ การวางแผนฯและ 5.7 ผู้เรียนร่วมตอบคาถาม
(ผู้เรยี นตอบคาถาม) 5.8 ผูเ้ รยี นรับฟังการบรรยาย เกย่ี วกับเนือ้ หา
5.10 ครผู ู้สอน อธิบายเน้ือหา ใบความรู้ เน้อื หาใน รูปแบบและการจัดทาแผนธุรกจิ
หนว่ ยการเรียนรู้ (เวลา 240 นาท)ี 5.9 ผู้เรยี นจดั ทาใบงานทีม่ อบหมาย ( 420 นาที)
5.11 ครูผู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหัด
(เวลา 420 นาที)
ข้นั สรปุ (จานวน 30 นาที) 5.10 ผ้เู รียนรว่ มสรปุ เนอื้ หา ใบความรู้ เน้อื หาหนว่ ย
5.12 ครผู ู้สอนและผ้เู รียนสรุปเน้อื หา หวั ข้อ บุคคล การเรยี นรู้ ตาราเรยี น
ธรรมดา และนติ บิ คุ คล เป็นข้อ 5.11 ผูเ้ รยี นจดั ทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ
5.13 ครผู สู้ อนแจกแบบทดสอบหลังเรียน หัวขอ้ (เวลา 10 นาท)ี
10ขอ้ (10 นาที) 5.12 มอบหมายงาน การจดั ทารายงาน รายบุคคล
รายกลุ่ม 3-5 คน รายงานหน้าช้นั เรียน
6. สือ่ การสอน
ส่ือสง่ิ พมิ พ์
1. ตาราเรยี น หนงั สือประกอบการเรียนการสอนวิชา ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ 20001-1003
อ.เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์
2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้
สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ มี)
1. power point ธรุ กิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ 20001-1003 รูปแบบและการจดั ทาแผนธรุ กิจ
2. VDO สือ่ การสอน ประจาวชิ า ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................
หุน่ จาลองหรือของจริง (ถา้ มี)
1. ...................................................................................................................................
เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถ้ามี)
3. แบบทดสอบหลงั เรยี น
แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้
1. ห้องสมดุ วทิ ยาลยั การอาชพี สว่างแดนดิน (ตาราเรียน)
2. ห้องอินเทอร์เน็ตวิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดนิ การสืบคน้ ขอ้ มูล
3. Google แหล่งเรยี นรอู้ อนไลน์ จากโทรศพั ท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กบั วิชาอนื่
1. วชิ าภาษาไทย การอา่ นและทาความเข้าใจในเนือ้ หาหน่วยการเรียนรู้ ใบความรู้ ตีความ
2. วชิ าสังคมศกึ ษา การอย่ใู นสังคม การคบเพื่อน
3. วิชาภาษาอังกฤษ เร่ืองศัพท์เฉพาะในหน่วยการเรียนการสอน