The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาธูรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายวิจิตร พลเศษ, 2020-09-08 20:16:40

แผนการสอนวิชาธูรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

แผนการสอนวิชาธูรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น

1. จัดเตรียมห้องเรยี นให้เรยี บร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอุปกรณก์ ารเรียนให้พร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรียน และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรยี น
1. จัดทาใบงานทีม่ อบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จัดทาแบบทดสอบหลังเรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบตั ิตนในการเรยี นรู้อย่างเหมาะสมในชั้นเรียน

8.3 หลังเรียน
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหน้า
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่ีเกิดจากการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น

1. ใบงานท่มี อบหมาย
2. สมุดในการทาแบบฝึกหัด แบบฝกึ ปฏบิ ัติท้ายหนว่ ย
3. สรปุ ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บนั ทึกการสอนของครู
2. ใบเช็ครายช่อื
3. แผนการจัดการเรียนรู้
4. ใบความรู้ เนอ้ื งานในหนังสือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน

11. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธก์ บั รายวชิ าอนื่

1. รายวิชาภาษาไทย เพือ่ อ่าน ฟงั พูด เขียน และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวิชาสงั คมศกึ ษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ่วมกันในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวิชาภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาองั กฤษในหน่วยการเรยี นการสอน

12. หลกั การประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน

12.1.1 การประเมนิ การตรวจสอบรายชือ่ ผู้เข้าเรยี นในช่วั โมง (ด้านจติ พสิ ยั )
12.1.2 การประเมนิ การเตรียมความพร้อมในการเรียนของผเู้ รยี น อุปกรณ์การเรียน ตาราเรียน

สมุด ปากกา ไม้บรรทัด
12.1.3 การประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมินการมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏิบัติตน ขณะเรียน การทาแบบฝึกหดั ใบงาน
(แบบประเมนิ พฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน

12.3 หลังเรียน

12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรูแ้ ละสรุปผลการเรยี นรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นร้อยละ 50 หลังเรยี นรอ้ ยละ 70

12.3.2 เมือ่ ไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดใหม้ กี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มกี ารมอบหมายงาน ศึกษาเน้ือหาในหน่วยการเรียนถดั ไป และใบความรู้ (ถ้ามี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพิ่มเติมโดยการจดั ทารายงานกล่มุ หรือรายบุคคคล

13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน

จดุ ประสงค์ข้อท่ี 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วธิ กี ารประเมนิ : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมนิ : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............

จุดประสงคข์ ้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมิน : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................

14.,15. แบบทดสอบกอ่ นเรียนหลงั เรียน

หนว่ ยการสอนท่ี 7 ช่ือหน่วยการสอน รูปแบบและการจดั ทาธุรกจิ
วตั ถุประสงค์ เพื่อ ทดสอบความร้เู บอ้ื งตน้ ของผเู้ รยี น หลังการเรยี นการสอน
ขอ้ คาถาม

แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น

จงเลอื กคาตอบทถ่ี กู ต้องที่สุดเพียงข้อเดยี ว

1.“ลักษณะของธุรกิจเป็นธุรกิจกระบวนการขายไมย่ ุ่งยากซับซอ้ น ซึง่ จาหน่ายสินค้าแปรรูปสมุนไพรหลากหลาย

สะดวกตอ่ การใช้และเปน็ ท่ตี ้องการของลูกคา้ รนุ่ ใหม่” หมายถงึ ข้อใด

1. บทสรปุ ผ้บู รหิ าร

2. แนวคิดและขอบเขตของธุรกจิ

3. โอกาสของธุรกิจ

4. กลุ่มตลาดเป้าหมาย

5. สภาวะการแขง่ ขนั

2.“กลมุ่ ผซู้ ือ้ เครือ่ งดื่มสมุนไพรทีเ่ นน้ คณุ ภาพสินค้าเพ่อื สุขภาพได้แก่

• หญงิ ทีม่ สี ถานภาพแต่งงาน 9 อายุ 20 ถึง 49 ปี

• ขนาตครอบครวั ต้ังแต่ 3 คนขน้ึ ไป รายได้ / ครัวเรอื น 30,000 บาทตอ่ เดอื นข้ึนไป ”

จากขอ้ ความข้างตน้ มีความสอดคล้องกบั ข้อใด

1.โอกาสของธุรกจิ

2. คแู่ ขง่ ขนั

3. ตลาดเป้าหมาย

4.ขอบเขตของธุรกจิ

5. แนวคดิ ของธรุ กิจ

3.“ผู้บรโิ ภคใสใ่ จการดูแลสุขภาพมากข้นึ รัฐบาลสนบั สนุนอย่างเต็มที่ จงึ สร้างยอดขายและเสริมสร้างรายได้

เพ่มิ ข้ึน ...” หมายถงึ ข้อใด

1. แผนการตลาด

2. แผนการผลติ

3. แนวโนม้ ทางการตลาด

4. จดุ แขง็ ของธุรกิจ

5. โอกาสของธุรกิจ

4.“สรา้ งรายได้และความเขม้ แข็งใหช้ ุมชนมีผลตอบแทนการลงทุนสูง.” จากข้อความนีส้ ัมพันธก์ ับข้อใด
1. โอกาสทางธุรกิจ
2. จดุ แขง็ ของธุรกิจ
3. ความคมุ้ คา่ เชงิ ธรุ กิจ
4. การสรา้ งยอดขาย
5. การสร้างตลาดเปา้ หมาย

5 . ข้อใดเป็นปจั จยั ท่ีไม่สามารถควบคุมได้
1 . นโยบายของบรษิ ทั
2 . ผลิตภัณฑ์ ราคา สถานท่ีจัดจา้ หน่าย
3. การส่งเสริมการตลาด
4. ลกู คา้ ค่แู ขง่ ขนั
5 . การวิจัยและพัฒนาผลติ ภัณฑ์

6 . ขอ้ ใดเปน็ ปัจจยั ทส่ี ามารถควบคมุ ได้
1 . กลุ่มลกู ค้าเปา้ หมาย
2 . การแขง่ ขัน
3 . คา่ นยิ มการใช้สินคา้ มยี ีห่ ้อ
4 . สภาวะเศรษฐกจิ
5 . 4p's

7 . คากล่าวทีว่ ่า “ ฝนั ให้ไกส แลว้ ไปใหถ้ ึง ” ตรงกับข้อใด
1 . แผนธุรกจิ
2 . แผนการตลาด
3 . วสิ ยั ทศั น์
4 . พันธกจิ
5 . เป้าหมาย

8 . ข้อใดเปน็ การกาหนดกลยุทธผ์ ลิตภัณฑ์
1 . มีผลิตภัณฑ์สีเขียว เหลอื ง แดง ชมพู
2 . จาหน่ายสินค้าทีร่ า้ น 7 Eleven
3 . เป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันฟตุ บอล
4 . “ The Mall ลดกระหนา่ ” หรือ “ Central Midnight Sale ”
5 . “ เร่เข้ามา เร่เข้ามา ของดีราคาถูก ชดุ ละ 30 , 4 ชุด 100 ”

9 . ขอ้ ใดไม่ใช่วิธกี ารและกิจกรรมทใ่ี ช้ในการส่งเสริมการขาย
1 . “ เรเ่ ข้ามา เรเ่ ข้ามา ของดรี าคาถูก ชดุ ละ 30 , 4 ชุด 100 ”
2 . “ สบสู่ มุนไพรขนาดใหม่ เพียง 29 บาทเท่านัน้ ”
3 . " The Mall ลดกระหนา่ " หรือ " Central Midnight Sale "
4 . เม่อื ซ้อื สนิ ค้า 2 ช้นิ จะแถมให้ 1 ชนิ้
5 . จดั ทาป้ายโฆษณาบนทางดว่ น หรอื บนรถประจาทาง

10 . ถา้ กิจการสามารถทายอดขายได้ตามเปา้ หมาย แต่เกบ็ เงนิ จากลูกหน้ีไมไ่ ด้ จะสง่ ผลกระทบอย่างไร
1 . ทาให้เงนิ สดหมนุ เวียนขาดสภาพคล่อง
2 . ทาให้สินคา้ ผลิตไม่ทนั ตามคาสง่ั ซือ้ เน่ืองจากขาดแคลนวัตถุดบิ
3 . ทาให้มสี ินคา้ ในคลังเหลอื มาก
4 . ทาให้มีต้นทนุ การผลติ / การจัดการสงู กวา่ ท่ีคาดไว้
5 . ทาใหเ้ กดิ การชะงกั การเติบโตของท้ังอุตสาหกรรม

กระดาษคาตอบ กอ่ นเรียน – หลงั เรยี น

กิจกรรมการเรียนรู้
หน่วยท่ี 7 เร่อื ง รูปแบบและการจัดทาธรุ กจิ

กอ่ นเรยี น 5 หลงั เรยี น
ข้อ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรยี น รวมคะแนน หลงั เรียน

ช่ือ-สกลุ ...........................................................แผนก/หอ้ ง............เลขท.ี่ .............

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรยี น

กจิ กรรมการเรียนรู้
หน่วยท่ี 7 เร่อื ง รูปแบบและการจดั ทาธุรกจิ

กอ่ นเรยี น หลงั เรียน
ข้อ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3 4 5
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน กอ่ นเรียน 10 รวมคะแนน หลงั เรยี น 10

ชื่อ-สกุล...........................................................ผู้สอน/ผู้ตรวจ
(นายวิจติ ร พลเศษ)

หนว่ ยการสอนท่ี 7 ช่อื หนว่ ยการสอน รูปแบบแผนธุรกิจ
ช่ือหัวข้อเร่อื ง รปู แบบแผนธุรกิจ

16. ใบความรู้

แนวคิด

แผนธุรกจิ เป็นเครอ่ื งมอื ของธุรกจิ ทผ่ี ปู้ ระกอบการสามารถใชใ้ นการกาหนดขนั้ ตอน และวางแผนการดาเนินธุรกจิ
อย่างมรี ะบบ และมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื ใหบ้ รรลุวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าหมายตามทก่ี าหนดไว้ โดยแผนธุรกจิ ทด่ี นี นั้ ควรจะ
มคี วามถูกตอ้ ง ชดั เจนและกระชบั ครอบคลมุ เน้อื หาทส่ี าคญั ง่ายต่อการเขา้ ใจ และตอ้ งมคี วามเป็นไปไดใ้ นการนาไปใชใ้ น
การดาเนนิ ธรุ กจิ

ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวงั

1. บอกความหมายและความสาคัญของแผนธรุ กจิ
2. บอกองค์ประกอบของแผนธรุ กจิ
3. สามารถเขียนปกหน้า สารบญั และคานา
4. สามารถเขียนบทสรปุ ผ้บู ริหาร
5. สามารถเขียนประวัตกิ ิจการ หรือภาพรวมของกิจการ
6. สามารถวิเคราะหส์ ถานการณ์
7. สามารถจดั ทาแผนการบริหารจดั การและแผนการดาเนินงาน
8. สามารถจัดทาแผนการผลิต
9. สามารถจัดทาแผนการเงนิ
10. สามารถจดั แผนฉุกเฉิน
11. สามารถเขียนภาคผนวก

สาระการเรียนรู้
1. ความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ
2. องคป์ ระกอบของแผนธรุ กิจ
3. ปกหน้า สารบญั และคานา
4. บทสรปุ ผ้บู รหิ าร
5. ประวัตกิ ิจการ หรอื ภาพรวมของกิจการ
6. การวเิ คราะห์สถานการณ์
7. จัดทาแผนการบรหิ ารจดั การและแผนการดาเนนิ งาน

8. จดั ทาแผนการผลิต
9. แผนการเงนิ
10. แผนฉกุ เฉนิ
11. ภาคผนวก

1.ครกู ลา่ วถึงแผนธรุ กจิ เป็นแผนท่ีมีความสาคัญมากจะใหร้ ายละเอียดเกยี่ วกบั การเร่ิมตน้ ธุรกจิ ทาให้
ผปู้ ระกอบการมีเปา้ หมายชัดเจน กาหนดแนวทางของความคดิ และช่วยให้ผ้ปู ระกอบการมีความมัน่ คงต่อการใช้
ทรัพยากร และนาไปสู่เปา้ หมาย

2.ครอู ภิปรายแผนธรุ กจิ ว่าเป็นเครอ่ื งมอื ที่แสวงหาเงนิ ทนุ จากผู้ร่วมลงทนุ จากกองทุนรว่ มลงทุน จาก
สถาบนั การเงินต่างๆ

3.ผเู้ รยี นยกตัวอยา่ งใหร้ ายละเอียดของกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การจดั หาเงินทนุ การพัฒนาผลติ ภัณฑ์
การตลาดและอ่นื ๆ ในการบริหารกจิ การ และใชเ้ พ่ือกาหนดการปฏบิ ตั ิงานทต่ี ่อเนื่องในอนาคตของกิจการ

4.ครูอธิบายความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ โดยแผนธรุ กิจ (Business Plan) หมายถึง
เครื่องมอื ทผ่ี ู้ประกอบการใช้กาหนดขั้นตอน และวางแผนการดาเนนิ ธุรกิจอย่างมรี ะบบ และมีประสิทธภิ าพ เพื่อให้
บรรลุวตั ถุประสงคต์ ามทก่ี าหนดไว้ ได้แก่ กาไรหรืออื่นๆ ท่ีคาดหวงั เอาไว้ สามารถใช้เปน็ เครอ่ื งมอื ในการนาเสนอ
ต่อหุน้ ส่วน หรอื สถาบันการเงินตา่ งๆ เพ่ือประโยชนใ์ นการพจิ ารณารว่ มลงทนุ หรือการพจิ ารณาเงนิ กู้

5.ผูเ้ รยี นบอกลักษณะของแผนธรุ กจิ ทดี่ ีควรมีลักษณะดังนี้
1) มคี วามถูกต้อง ชดั เจนและกระชับ
2) ครอบคลุมเนื้อหาท่ีสาคัญ
3) เนือ้ หาง่ายต่อการเข้าใจ
4) มคี วามเป็นไปไดจ้ รงิ ต่อการปฏบิ ตั ติ ามแผน

6.ครบู อกองคป์ ระกอบของแผนธุรกิจ ผูป้ ระกอบการจะต้องคานงึ ถึง “แผนธุรกจิ ” เป็นอนั ดับแรกซงึ่ จะ
เป็นประโยชน์ตอ่ การดาเนนิ งานในอนาคตของตนเอง สถาบนั การเงนิ และผู้ลงทนุ ภายนอกท่ีจะเปน็ แหลง่ เงนิ ทนุ
ใหแ้ ก่กิจการได้ โดยแผนธุรกจิ จะบอกให้ทราบวา่ ปจั จบุ ันธุรกจิ อยูต่ รงไหน และในอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้าง ตาม
องค์ประกอบดงั น้ี

1) ปกหนา้ สารบัญ และคานา
2) บทสรุปผูบ้ ริหาร
3) ประวตั ิกจิ การ หรือภาพรวมของกิจการ
4) การวเิ คราะหส์ ถานการณ์
5) แผนการตลาด
6) แผนการบรหิ ารจัดการและแผนการดาเนินงาน
7) แผนการผลิต
8) แผนการเงนิ
9) แผนฉกุ เฉิน
10) ภาคผนวก

7.ครอู ธบิ ายและแสดงตัวอย่างของปกหนา้ สารบัญ และคานา
ปกหนา้ เป็นสง่ิ แรกท่ผี ู้อ่านแผนธุรกจิ จะเหน็ จงึ ควรมชี ือ่ ของธุรกจิ รวมท้ังท่ีอยู่ หมายเลขโทรศัพท์
หมายเลขโทรสาร สัญลักษณ์ของธรุ กิจ นอกจากนน้ั อาจจะมชี อ่ื ท่ีอยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ประกอบการอยู่
ดว้ ย เพื่อความสะดวกในการตดิ ตอ่ กลบั
สารบญั มไี ว้เพ่ือความสะดวกในการคน้ หารายละเอยี ดของแผนธุรกิจไดเ้ ร็วขึ้น ซึง่ จะมปี ระโยชน์
ในการเจรจาต่อรองกับบุคคลภายนอก เพราะยืนยันข้อมูลโดยอา้ งองิ เอกสารซ่งึ กนั และกันไดง้ า่ ยข้ึน
คานา เป็นสว่ นที่อยู่ถัดจากหนา้ ปกใน ผเู้ ขยี นรายงานแผนธรุ กิจจะเป็นผเู้ ขียนเอง โดยกล่าวถงึ
วัตถปุ ระสงค์และขอบเขต รวมถงึ ปญั หาอปุ สรรคในการจดั ทาแผนธรุ กจิ ตลอดจนคาขอบคุณผูท้ ีใ่ ห้ความชว่ ยเหลอื
ในการรวบรวมข้อมูลหรือการเขยี นแผนธุรกจิ (ถ้าม)ี โดยให้ลงทา้ ยดว้ ยช่ือผู้จดั ทาแผนธุรกจิ และวันท่ีกากับ
8.ผู้เรยี นฝึกเขียนปกหน้า สารบญั และคานา

9.ครูอธบิ ายและยกตวั อยา่ งของบทสรุปผู้บรหิ าร ซง่ึ เป็นสว่ นท่ีมคี วามสาคญั ท่ีสดุ เพราะเป็นการสรปุ
รายละเอียดส้ันๆ ของแผนธรุ กิจท้ังหมดที่ไดด้ าเนนิ การ และเปน็ เอกสารทส่ี มบรู ณ์ ซึง่ ชี้ใหเ้ ห็นว่ามโี อกาสเกดิ ขนึ้
จริงได้ สามารถใชโ้ อกาสในตลาดให้เป็นประโยชนไ์ ด้อยา่ งไร ดงั นัน้ จงึ มคี วามจาเป็นต้องเขยี นให้เกิดความนา่ เชอ่ื
มคี วามเปน็ ไปได้ “บทสรปุ ผู้บริหาร” ควรเขียนใหส้ น้ั และกะทดั รดั ถึงแมว้ ่าบทสรุปผู้บริหารจะจดั ไว้อนั ดับแรก
แต่ใหเ้ ขยี นเปน็ อนั ดบั สุดท้ายในการเขยี นแผนทั้งหมด ดงั น้ี

1) แนวคิดและขอบเขตของธุรกจิ
2) โอกาสของธุรกิจ
3) กลุม่ ตลาดเปา้ หมาย
4) สภาวะการแข่งขัน
5) ความคุ้มคา่ เชงิ ธรุ กิจ (ผลกาไร)
6) ทมี ผู้บรหิ าร
7) ข้อเสนอแนะ

10.ผู้เรียนฝกึ เขียนบทสรปุ ผบู้ รหิ าร
11.ครูอธิบายการเขียนประวัติกจิ การ หรอื ภาพรวมของกจิ การ โดยประวตั ิกิจการ หรอื ภาพรวมของ
กจิ การ (Company Profile) ใหร้ ะบขุ ้อมูลเบ้ืองต้นเกย่ี วกบั ประวตั คิ วามเปน็ มาของการก่อต้งั ในดา้ นรูปแบบการ
จดั ต้ังหรือจดทะเบยี น ตลอดจนแนวคดิ และท่ีมาของการมองเหน็ โอกาสทางการตลาด การคิดคน้ และพัฒนาสินคา้ /
บริการท่ีต้องการนาเสนอให้กับลูกค้ากลมุ่ เป้าหมายควรให้ข้อมูลเกี่ยวกบั เป้าหมายที่ต้องการให้เปน็ ประโยชนใ์ น
อนาคตและอืน่ ๆ ที่เก่ยี วข้อง เช่น ผู้ก่อต้ังปีที่กอ่ ตั้ง ทุนจดทะเบียน ทุนที่ชาระแลว้ และประวตั ิความเปน็ มาของ
การดาเนินงานตั้งแต่อดตี จนถึงปัจจุบนั และกจิ กรรมท่ีเกิดขึ้น เช่น เพิม่ ทนุ ลงทุน ขยายธุรกจิ เปน็ ตน้
12.ผ้เู รียนฝกึ เขียนประวัติกจิ การ หรอื ภาพรวมของกิจการ
3.ครอู ธิบายความหมายการวิเคราะหส์ ถานการณ์ โดยการวเิ คราะห์สถานการณ์ (Current Situation
Analysis) หรอื “SWOT ANALYSIS” คือ การวเิ คราะหค์ วามเปน็ ไปไดข้ องธุรกิจ แบ่งออก 2 สว่ น ไดแ้ ก่
3.1 การวเิ คราะห์สถานการณ์ภายใน (Internal Situation Analysis) เปน็ การตรวจสอบ
ความสามารถ ความพร้อมของกิจการดา้ นตา่ งๆ ที่เปน็ จดุ แขง็ (Strengths) และจุดอ่อน (Weaknesses)
เปน็ การศึกษาวเิ คราะห์ปัจจัยที่เกดิ ขน้ึ จากการกระทากจิ การเอง ซึง่ ก่อให้เกดิ ผลกระทบต่อการดาเนินงาน
ทั้งด้านบวกเรียกวา่ “จุดแขง็ ” หรอื ดา้ นลบเรียกว่า “จุดอ่อน” เป็นปัจจยั ทสี่ ามารถควบคมุ ได้ เน่ืองจาก
ทราบปัญหาทเ่ี กิดขึน้ อย่างดี หากมกี ารวางแผนบริหารจดั การท่ีเปน็ ระบบและมปี ระสิทธิภาพ ก็สามารถ
เสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของธุรกิจได้

3.2 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ภายนอก เปน็ การประเมินสภาพแวดลอ้ มทีผ่ ูป้ ระกอบการไม่สามารถ
ควบคมุ หรอื เปลย่ี นแปลงได้ ในลักษณะทเี่ ป็นโอกาส (Opportunities) หรืออุปสรรค (Threats) ในปัจจบุ ัน
ผูป้ ระกอบการควรจะเรม่ิ วิเคราะห์ปัจจยั ภายนอกซงึ่ เป็นปจั จยั ทไ่ี มส่ ามารถควบคุมได้ ได้แก่

3.2.1 กลุม่ ลูกค้าเป้าหมายหรือตลาดเป้าหมาย (Target Group หรอื Market Group)
3.2.2 การแข่งขัน (Competition)
3.2.3 ค่านยิ มทางวฒั นธรรมของสังคม เชน่ การใชส้ นิ คา้ ท่ีมียี่หอ้
3.2.4 เทคโนโลยี (Technology)
3.2.5 เศรษฐกิจ (Economic)
3.2.6 กฎหมาย กฎ และระเบียบตา่ งๆ (Political & Legal)
3.2.7 กลมุ่ ผจู้ าหนา่ ยวัตถุดบิ กลุ่มผผู้ ลิต (Suppliers)

เป็นการวิเคราะห์ปัจจยั ภายนอกที่ส่งผลกระทบตอ่ ธุรกิจทกี่ าลงั ดาเนินงานอยู่ในดา้ นบวก
เรยี กวา่ “โอกาส” และด้านลบเรยี กว่า “อปุ สรรค” กิจการสามารถกาหนดกลยทุ ธ์เพ่ือให้ปรบั ตวั เข้ากบั
สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงภายนอกที่เกิดข้ึนได้ เพือ่ ใหก้ ิจการสามารถดารงอย่ไู ด้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพไดแ้ ก่

13.ผเู้ รียนฝกึ วิเคราะห์ SWOT ดงั นี้

14.ครูและผ้เู รยี นสรปุ โดยการฝกึ เขยี นการวิเคราะหส์ ถานการณ์
15.ครูอธบิ ายการเขยี นแผนการตลาด โดยแผนการตลาด (Marketing Plan) คอื การกาหนดแนวทางและ
ทศิ ทางในการดาเนนิ งานทางการตลาดใหเ้ ปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ และสัมพันธ์กับกลยทุ ธท์ างการตลาดท่ีกาหนดไว้
โดยตรวจสอบและประเมนิ ผลกิจกรรมทางการตลาดไวล้ ่วงหน้าได้ สิง่ สาคัญทสี่ ดุ ในการทาธรุ กจิ คือการมองดา้ น
การตลาด ผู้ประกอบการตอ้ งมองให้ออกวา่ ผบู้ ริโภคตอ้ งการอะไร แลว้ ผลิตสินค้าหรอื บริการเพ่ือสนองความ
ต้องการนัน้ กาไรทเ่ี กดิ ขน้ึ น้นั คือผลงานจากการทาให้ผบู้ ริโภคไดร้ ับความพึงพอใจสงู สุด
16.ผ้เู รยี นเขยี นวสิ ยั ทศั น์ (Vision) ซ่ึงหมายถึง ภาพรวมของกิจการทตี่ ้องการจะเป็นในอนาคต โดยมี
พืน้ ฐานอยูบ่ นความเป็นจริงในปัจจบุ ัน โดยจะนาเสนอจุดมุ่งหมายของผ้ปู ระกอบการเก่ยี วกบั การทาธุรกจิ ซง่ึ
ประกอบดว้ ยจุดมุ่งหมายท่เี ฉพาะเจาะจง สามารถวัดคา่ ได้ ดาเนนิ การให้บรรลผุ ลได้ เปน็ เหตเุ ปน็ ผลและตง้ั อยบู่ น
พนื้ ฐานของความเปน็ จรงิ และมีกรอบระยะเวลาเป็นเครื่องกาหนด ดังคาสุภาษติ ทวี่ า่ “ฝนั ใหไ้ กล แลว้ ไปให้ถงึ ”

17.ครอู ธิบายและใหผ้ เู้ รียนเขียนพนั ธกจิ (Mission) หมายถึง งานทีต่ อ้ งทาเพอ่ื ให้บรรลุวิสัยทศั นข์ อง
กจิ การ โดยจะอธิบายความเป็นไปได้ของธรุ กจิ /โครงการ ซง่ึ ครอบคลุม 5 ประการ คือ

1) สนิ คา้ และบริการของกจิ การคอื อะไร
2) ลกู คา้ ของกิจการเปน็ ใคร
3) คณุ คา่ ที่กจิ การมอบให้แกล่ ูกคา้ เปน็ อยา่ งไร
4) ขณะนก้ี ิจการเปน็ อยา่ งไร
5) ตอ่ ไปกิจการควรจะเป็นอย่างไร

18.ครูอธิบายและให้ผู้เรียนเขียนเปา้ หมาย (Goal) คอื การกาหนดผลลพั ธท์ ตี่ ้องการจากพันธกิจของ
กิจการ โดยเขยี นเปน็ ขอ้ ๆ แบ่งเป็นเปา้ หมายระยะสั้น (1 ปี) ระยะปานกลาง (3-5 ปี) และระยะยาว (5 ปีขึน้ ไป)
ซง่ึ เปา้ หมายแตล่ ะระยะเวลาควรสอดคลอ้ งกนั สามารถวดั ผลได้และระบุเวลาทีแ่ ลว้ เสรจ็ อยา่ งชัดเจน

19.ผู้เรยี นเขยี นแผนการตลาด โดยผู้ประกอบการตอ้ งทราบและเข้าใจเรอื่ งดังต่อไปนี้
1) เป้าหมายทางการตลาดทีต่ ้องการคอื เรื่องอะไรบ้าง
2) ใครคือลกู คา้ กลุ่มเปา้ หมาย
3) จะนาเสนอสนิ คา้ /บรกิ ารอะไรให้กล่มุ เป้าหมาย ในราคาเทา่ ใด และวธิ ีการใด
4) จะสร้างและรักษาความพึงพอใจให้กบั กลุ่มเปา้ หมายไดด้ ้วยวธิ กี ารใดบ้าง
5) ถา้ สถานการณ์ไมเ่ ปน็ ไปตามทีค่ าดหวังไว้ จะแก้ไขอยา่ งไร

20.ผู้เรยี นวางแผนด้านการตลาด “STP&4P’s” โดยมีขนั้ ตอนดงั นี้
1) การแบ่งส่วนตลาด (Segmentation)
2) การกาหนดลกู ค้าเปา้ หมายว่ากลุ่มไหนทจี่ ะเลือก (Targeting)

3) การสรา้ งภาพพจน์ในใจของลกู ค้า (Positioning)
4) ส่วนประสมทางการตลาด (4 P’s) ได้แก่ สนิ คา้ หรือบรกิ าร (Product) ราคา (Price)
ช่องทางการจาหน่าย (Place) และการสง่ เสริมทางการตลาด (Promotion)
5) ส่วนประสมทางการตลาดยคุ ใหม่ (4 C’s) เปน็ การมองดา้ นความต้องการของผู้บริโภคและควร
นามาใช้ในแผนปฏบิ ัตกิ ารทางการตลาดดว้ ย ดงั นี้

5.1 Consumer Need คือ ขายสนิ ค้าตามความต้องการของลกู ค้า
5.2 Customer Benefits คือ ประโยชน์ทล่ี ูกค้าจะได้รับ
5.3 Convenience คอื เป็นสินคา้ ที่สะดวก
5.4 Communication คอื การรับร้ขู ่าวสารสนิ ค้า
21.ครูกล่าวถงึ แผนการบรหิ ารจดั การและแผนการดาเนินงาน ซง่ึ เปน็ การกาหนดโครงสร้างองค์กร และ
ผู้บริหารท่ีสอดคล้องกับแผนการดาเนินธรุ กจิ ด้านอ่ืนๆของกิจการ มีแผนดา้ นทรัพยากรบุคคลที่ดี
22.ครอู ภิปรายถึงองคป์ ระกอบของแผนการบริหารจดั การและแผนการดาเนินงาน ไดแ้ ก่
1) สถานทีต่ ้งั
2) รปู แบบธุรกจิ
3) โครงสร้างองค์กร และผังบริหาร
4) ทมี ผู้บริหารและหลกั การบริหารงาน
5) แผนดา้ นบคุ ลากร จานวน เวลาทางาน คา่ ตอบแทน ความรู้ ความสามารถ ทักษะ
6) เครือ่ งมือ เครือ่ งจักร อปุ กรณ์ (ซอ้ื เชา่ หรอื เชา่ ซื้อ)
23.ครอู ธิบายแผนการบรหิ ารจดั การและแผนการดาเนินงาน โดยเปิดสือ่ VDO และสือ่ PowerPoint ให้
ผ้เู รียนไดพ้ ิจารณาแผนการบริหารจัดการและแผนการดาเนินงาน ประกอบดว้ ย
23.1 ทีมงานบริหาร ประกอบด้วยผู้จัดการ พนกั งาน ทมี่ ีสาคญั ตอ่ การดาเนินงาน และความสามารถ
ในด้านการบริหารทน่ี าธุรกจิ ไปสคู่ วามสาเร็จ ทมี งานที่ดีควรมีผู้บริหารครบในแต่ละดา้ น สาหรบั ธรุ กจิ ทเ่ี รม่ิ ตน้
ทมี งานผู้บริหารอาจประกอบไปดว้ ยคนจานวนนอ้ ย หรอื เพียงคนเดียวทางานเกือบทุกหน้าทีก่ ารเร่มิ ตน้ ธรุ กจิ
ผู้บริหารจะเนน้ ด้านการตลาดในช่วงกาลงั กอ่ ต้งั ทมี งานผบู้ ริหารแบบหา้ งหุ้นสว่ น จะมผี ู้ท่ีมีความแตกตา่ งกันแต่ละ
ดา้ น จะเปน็ การสรา้ งทีมงานทีด่ ีได้เชน่ เดยี วกันหลายคน เชน่ พนกั งานบัญชแี ละการเงิน กค็ วรจะเป็นคนละคนกนั
เพอ่ื ป้องกนั การทุจริต รายละเอียดทีมงานควรจะระบุถึง
1.1 โครงสรา้ งองค์กรและตาแหนง่ บริหารหลักโดยระบผุ ้รู ับผิดชอบงานแต่ละดา้ น
1.2 ผลตอบแทนท่ีให้แก่ผ้บู ริหารทง้ั ในรปู ของเงนิ เดอื น สว่ นแบ่งกาไร และสวสั ดกิ าร
1.3 ผูร้ ่วมลงทุนทไี่ ม่ใชผ่ ูบ้ ริหารและผลตอบแทนท่ีให้
1.4 ที่ปรึกษาและบริการด้านวชิ าชีพทีต่ อ้ งการใช้
23.2 แผนผงั องคก์ ร (Organization Chart) อาจจะรวมอยู่ในประวัตกิ จิ การ หรือภาพรวมของกิจการที่
กลา่ วมาแลว้ ข้างต้นก็ได้
3.3 กาหนดหนา้ ทตี่ ่างๆ ของกรรมการตาแหน่งตา่ งๆ
3.4 แผนดาเนนิ งานขององค์กร เช่น การประชมุ การอบรมพนกั งาน การศึกษาดูงาน เป็นต้น
3.5 สรุปคา่ ใช้จ่ายในการบริหารจดั การ

24.ผู้เรียนเขยี นแผนปฏิบัตกิ าร (Action Plan) คอื การกาหนดระยะเวลาของกิจกรรมที่จะดาเนินการตาม
แผนธรุ กิจที่วางไว้ เพ่ือตรวจสอบว่าได้ปฏบิ ตั ิตามระยะเวลาทกี่ าหนดหรอื ไม่ เช่น

25.ครแู ละผู้เรยี นอธบิ ายและเขียนแผนการผลิต โดยการจัดทาแผนธรุ กิจต้องคานึงถงึ กิจกรรมทัง้ หมดที่
เกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงวตั ถุดบิ เปน็ สินคา้ สาเรจ็ รูป แผนการผลติ ต้องเช่ือมโยงและสอดคลอ้ งกับแผนอ่ืนๆ เช่น
แผนการตลาด แผนการบรหิ ารและจัดการบุคลากรและแผนการเงิน ในการวางแผนการผลิตต้องพจิ ารณาคุณภาพ
การออกแบบสินคา้ และบรกิ าร กระบวนการผลิต การออกแบบระบบงาน การวางแผนกาลังคน การจดั สง่ สินค้า
สนิ ค้าคงคลัง กาหนดการผลิตและปฏิบัตกิ าร การดูแลรกั ษาเครอื่ งจักร แผนการผลิตท่ีดีจะต้องสะท้อน
ความสามารถของกิจการในการจดั การกระบวนการผลิตให้มปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล เพอื่ เพิม่ ศักยภาพใน
การแขง่ ขันให้กับธุรกจิ โดยเนน้ การจดั การกระบวนการแปลงสภาพวัตถุดิบและทรพั ยากรการผลติ ใหเ้ ปน็ ผลผลิต
ซง่ึ วัตถดุ บิ และทรัพยากร หมายถึง ปริมาณวตั ถดุ ิบทีใ่ ช้ชว่ั โมงแรงงานที่ผลติ หรือค่าใชจ้ ่ายรวมของทรัพยากรทุก
อยา่ งท่ีใช้ ไดแ้ ก่ คา่ วัตถุดบิ ค่าแรงงาน เงินลงทนุ และอืน่ ๆ ส่วนกระบวนการผลติ หมายถึง กระบวนการแปลง
สภาพวตั ถุดิบและทรพั ยากรการผลิตใหเ้ ป็นผลผลติ และผลผลติ หมายถงึ จานวนหรอื มูลค่าของสนิ ค้าและบริการท่ี
ผลิตได้

26.ผู้เรียนบอกข้ันตอนการผลิตสนิ ค้า

27.ผู้เรยี นบอกวัสดหุ รืออปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการผลติ

17. ใบงาน

หนว่ ยการสอนท่ี 7
ช่อื หน่วยการสอน รูปแบบแผนธุรกจิ

จุดประสงค์ เพอ่ื

1. สร้างความรูค้ วามจาใหก้ ับผู้เรียน
2. เพ่มิ การฝกึ ปฏิบัติแก่ผู้เรยี น
3. สร้างความรับผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝเ่ รียนรู้

ลาดับกิจกรรม/ลาดับการปฏิบตั ิ

1. ผู้เรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรู้
2. ผู้เรียนศึกษาหาความรู้จากตาราเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ รปู แบบแผนธุรกจิ

คุณภาพ 20001-1003 สานักพมิ พ์เอมพันธ์
3. หรือ ครูผู้สอนบรรยายความรู้ เร่อื ง รูปแบบแผนธุรกิจ
4. จัดทาใบงานตามทม่ี อบหมาย (กาหนดเวลาจัดทา 50 นาท)ี
5. สง่ งานใบงานท่ีมอบหมายก่อนหมดเวลาเรียน (10 นาที หรือเป็นการบ้าน)

เกณฑ์การพจิ ารณา

1. ส่งงานตรงเวลานัดหมาย
2. จดั ทาครบทุกขอ้ ทก่ี าหนด
3. ทางานเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย

ใบงานท่ี 7.1

เรือ่ ง แนวคดิ ธรุ กจิ
ชื่อ-สกุล............................................................................................เลขที่.........ชนั้ ..........................
คาชแ้ี จง ให้เขียนแนวคิดธุรกจิ มาประมาณ 3 กิจการ (บางสว่ น)
………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………
………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………
………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………..……
…………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………
…………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………
…………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………..………

ใบงานท่ี 7.2

เรื่อง โอกาสของธรุ กิจ
ช่อื -สกุล............................................................................................เลขท.ี่ ........ชั้น.............. ............
คาชี้แจง ใหล้ องเขยี นโอกาสของธรุ กิจมาประมาณ 5 ข้อ
………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 7.3
เร่ือง ตลาดเป้าหมาย
ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขที.่ ........ชนั้ .............. ............
คาชแ้ี จง ให้ลองเขียนกลุ่มตลาดเปา้ หมายในธุรกิจมาประมาณ 3 ธรุ กิจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 7.4

เรือ่ ง ข้อไดเ้ ปรียบและข้อเสยี เปรียบในการแขง่ ขนั ของธุรกิจ
ชือ่ -สกุล............................................................................................เลขท่.ี ........ชนั้ .............. ............
คาช้แี จง ให้เขยี นขอ้ ไดเ้ ปรียบและขอ้ เสียเปรยี บของธรุ กิจ โดยเลือกธุรกิจท่ตี นเองรกั และชอบมา 1 ธุรกจิ

ข้อได้เปรียบ: ลองพิจารณาดูวา่ ธรุ กิจมจี ดุ เดน่ (เม่ือเปรียบเทยี บกบั คู่แขง่ ) ในด้านใด เช่น สินคา้ หรอื
บริการมอี ะไรพเิ ศษ สามารถดึงดดู ใจลกู ค้า ความสามารถและความชานาญของลกู จา้ ง เทคนิคในขบวนการขาย
ทีต่ ้ังของธรุ กิจอยู่ในจุดไดเ้ ปรียบอยา่ งไร เปน็ ตน้
……………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………
………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………

ขอ้ เสยี เปรียบ: ลองคน้ หาวา่ ธุรกิจ มีข้อเสียใดบา้ ง เช่น ข้อเสยี ดา้ นการเงิน ตาแหนง่ ทีต่ ง้ั คณุ ภาพสนิ ค้า
การบรกิ าร การสง่ มอบไม่ตรงเวลา สนิ ค้าที่นามาจาหนา่ ยไมม่ ีการพัฒนาผลิตภณั ฑ์ เป็นต้น
……………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………
………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………

ใบงานที่ 7.5

เรือ่ ง โครงสรา้ งองคก์ รและทีมผูบ้ รหิ ารในธุรกิจ
ชอื่ -สกุล............................................................................................เลขที่.........ชนั้ ..........................
คาช้แี จง ใหเ้ ขียนโครงสร้างองคก์ ร และหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบของทีมผูบ้ รหิ ารในธรุ กจิ (เลอื กธุรกจิ ที่ตนเองรัก

และชอบมา 1 ธรุ กจิ )
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เฉลยใบงานที่ 1-5

(ดลุ พินิจของผู้อน)

แบบสรุปคะแนน

ชดุ ท่ี 1
รายวิชา รปู แบบแผนธุรกิจ

คะแนน กจิ กรรมท่ี ใบงานที่ แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ระหว่าง
123 1 เรียน

คะแนนเต็ม ✓✓ 5 10 10 15

คะแนนท่ไี ด้
คดิ เปน็ รอ้ ย
ละ

หมายเหตุ : ✓ = ผ่านกจิ กรรม  = ไมผ่ ่านกจิ กรรม

(ลงชอื่ ) ....................................... ผปู้ ระเมิน
(นายวิจิตร พลเศษ)

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชานาญการ

เกณฑก์ ารประเมินแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและแบบทดสอบหลังเรียน

ระดบั คณุ ภาพ หมายถึง ดี
ระดบั 4 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
ระดบั 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 5 - 6 คะแนน

20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลักปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพสิ ยั

3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรูก้ ่อนเขา้ สอน

ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

4. มวี ธิ ีการนาเข้าสู่บทเรยี นท่ีน่าสนใจ

5. มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ เพื่อหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

8. จดั กิจกรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชีวิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม

11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างท่วั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใช้สอื่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใช้สอ่ื แหลง่ การเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมินผล

18. ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจติ พสิ ัย

20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ ี่เกย่ี วข้องมสี ่วนรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยยี่ ม 4 = ปฏบิ ตั ดิ ี 3 = ปฏิบัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลยี่

20.2 ปญั หาทพี่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา

ด้านการเตรยี มการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นส่ือ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวดั และประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านอ่นื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงชือ่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการใช้แผนการเรยี นรู้

ความเหมาะสมของเวลา
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นการสอน
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ผลการเรยี นของผเู้ รียน

ความต้งั ใจของผเู้ รียน  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
 ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
อุปกรณ์การสอน
 มาก  ดี

การเรยี นรขู้ องผเู้ รียน
 มาก  ดี

…………………………………………………………………………………………………………………………………….………
การสอนของครู

 มาก  ดี  ปานกลาง  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

กิจกรรมการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การ

เรียนรู้  ตรงตามแผนการจัดการเรยี นรู้  ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้

บนั ทกึ เพิม่ เตมิ

............................................................................................................................................... ..............

………………………………………………
(นายวิจติ ร พลเศษ)
ผูบ้ นั ทกึ การสอน

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมุง่ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั วิชา 20001-1003 วชิ า ธุรกิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ
หนว่ ยที่ 8 ช่อื หนว่ ย ชื่อหน่วย/เร่อื ง หลักเบื้องตน้ ในการบรหิ ารงาน คณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในองค์กร
ช่อื เร่อื งชอ่ื หนว่ ย/เรื่อง หลักเบือ้ งตน้ ในการบรหิ ารงาน คณุ ภาพและเพิ่มผลผลิตในองค์กร จานวน 6 ชว่ั โมง

สอนครง้ั ที่ 19,20

1. สาระสาคัญ

การบริหารงานคุณภาพในองค์กรเป็นกระบวนการบริหารงานทีป่ ระกอบดว้ ยนโยบาย
วตั ถุประสงค์ การวาแผนงาน ระบบการบริหารจดั การ ระบบการตรวจสอบหรอื การประเมนิ ผล และการปรบั ปรุง
อย่างต่อเน่ือง เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ พนักงานและของสงั คม ทาให้เข้าใจเกี่ยวกับหลกั การ
บรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตเบ้ืองตน้ และประยุกต์ใชห้ ลกั การบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

1. สามารถบอกการบรหิ ารงานคุณภาพการเพ่ิมผลผลิตเบอ้ื งตน้
2. นาความรู้หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการวางแผนและดาเนินงานประยกุ ต์ใช้

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 จุดประสงค์ท่ัวไป

3.1.1 มีความรู้และเขา้ ใจเกย่ี วกบั การบรหิ ารงานคุณภาพการเพ่ิมผลผลิตเบ้อื งต้น
3.1.2 มคี วามรูแ้ ละเข้าใจเก่ยี วกบั ประยกุ ต์ใชห้ ลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิตในการ
วางแผนและดาเนินงาน

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม

3.2.1. ความรู้เก่ยี วกับการบริหารงานคุณภาพเบื้องต้น
3.2.2. ความรเู้ กย่ี วกับการเพิ่มผลผลติ เบ้ืองต้น
3.2.3. ประยกุ ต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในการวางแผนและดาเนินงาน
3.2.4 มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมวี ินยั ความ
รบั ผดิ ชอบ ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต ความเชือ่ มนั่ ในตนเอง การประหยัด ความสนใจใฝร่ ู้ การละเว้นสงิ่ เสพตดิ
และการพนนั ความรักสามคั คี

4. เน้ือหาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้

1. การบรหิ ารงานคณุ ภาพเบ้ืองตน้
2. การเพิ่มผลผลิตเบ้อื งต้น
3. การประยกุ ต์ใชห้ ลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต

4.2 ดา้ นทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้

1. สามารถอธิบายการบรหิ ารงานคุณภาพเบ้ืองต้น
2. สามารถบอกการเพ่ิมผลผลิตเบื้องตน้
3. อธิบายการประยุกตใ์ ช้หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ

4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพยี ง

ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม
1. มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มีความรับผดิ ชอบ

ดา้ นคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. มุ่งมั่นในการทางาน มีจิตสาธารณะ อยู่อย่างพอเพยี ง
2. ด้านการประหยัด อดออม

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้

ขัน้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้นั ตอนการเรียนหรอื กจิ กรรมของผู้เรยี น

ขั้นเตรียม(จานวน 30 นาที) 5.1 ผู้เรยี นเข้าห้องเรยี น
5.1 นักเรียนทาความเคารพครูผูส้ อน 5.2 ครูผสู้ อนตรวจสอบรายชอื่ ผ้เู รียน
5.2 ครูผู้สอนทักทายผู้เรยี นและสารวจรายชือ่ ผูเ้ รยี น 5.3 ผเู้ รียนรบั ใบความรู้ เรื่อง หลักเบอ้ื งต้นในการ
5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ หรือ เตรียมอุปกรณ์
บริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตในองคก์ ร
ในการสอนให้พร้อม และใบงาน 5.4 รบั ใบงาน อธิบายการทา
5.4 ผู้เรยี นใบความรู้ เตรียมตาราเรียนและสมดุ
5.5 ผสู้ อนการจัดทาใบงานที่มอบหมาย ( 20 นาที)

ขนั้ การสอน(จานวน....300.......นาที)

5.6 ครูผูส้ อนแจกแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.5 ผู้เรยี นทดสอบก่อนเรยี น ( 10 นาที)

5.7 อธบิ ายการทาแบบทดสอบก่อนเรียน มีจานวน

10 ขอ้ เวลาท่ีใช้ 10 นาที (พร้อมส่งครบเวลา)

5.8 ครผู ู้สอนใหผ้ เู้ รยี นศึกษาใบความรู้ หนว่ ยเน้ือหา 5.6 ผู้เรยี นศึกษาตาราเรยี นหนว่ ยเน้ือหา ใบความรู้

ตาราเรยี น หลกั เบอ้ื งตน้ ในการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มฯ

5.9 ครผู ู้สอน ตง้ั คาถามเกีย่ วกบั การวางแผนฯและ 5.7 ผู้เรียนรว่ มตอบคาถาม

(ผูเ้ รยี นตอบคาถาม) 5.8 ผูเ้ รยี นรับฟงั การบรรยาย เก่ยี วกับเน้ือหา

5.10 ครูผูส้ อน อธิบายเน้ือหา ใบความรู้ เน้ือหาใน หลักเบ้อื งต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพิ่ม

ผลผลิตในองค์กร

หน่วยการเรียนรู้ (เวลา 100 นาที) 5.9 ผู้เรียนจดั ทาใบงานท่ีมอบหมาย (200 นาที)

5.11 ครูผู้สอนมอบหมายการทาใบงาน แบบฝึกหดั

(เวลา 200 นาที)

ขั้นสรปุ (จานวน 30 นาที)

5.12 ครผู ้สู อนและผเู้ รียนสรุปเนื้อหา หัวขอ้ บุคคล 5.10 ผูเ้ รียนร่วมสรปุ เนือ้ หา ใบความรู้ เนื้อหาหนว่ ย

ธรรมดา และนิติบุคคล เป็นข้อ การเรียนรู้ ตาราเรียน

5.13 ครผู ู้สอนแจกแบบทดสอบหลังเรียน หวั ข้อ 5.11 ผ้เู รียนจดั ทาแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ข้อ

หลักเบ้อื งตน้ ในการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่ิม (เวลา 10 นาที)

ผลผลิตในองคก์ ร

10ขอ้ (10 นาที) 5.12 มอบหมายงาน การจดั ทารายงาน รายบุคคล

รายกลมุ่ 3-5 คน รายงานหนา้ ช้นั เรยี น

6. ส่ือการสอน

สอ่ื สิ่งพมิ พ์

1. ตาราเรยี น หนงั สอื ประกอบการเรียนการสอนวชิ า ธุรกิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
อ.เพ็ญศรี เลศิ เกยี รติวิทยา สานักพมิ พ์เอมพนั ธ์

2. เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้

ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ ม)ี

1. power point ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ 20001-1003 บรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ
ผลผลติ ในองคก์ ร

2. VDO สื่อการสอน ประจาวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 20001-1003
3. ...................................................................................................

หนุ่ จาลองหรือของจรงิ (ถ้ามี)

1. ...................................................................................................................................

เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้ ใบงาน (ใบมอบหมายงาน ถา้ มี)
3. แบบทดสอบหลงั เรียน

แหลง่ เรียนรู้
เรียนรู้

1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลัยการอาชพี สวา่ งแดนดนิ (ตาราเรียน)
2. หอ้ งอนิ เทอรเ์ นต็ วิทยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดิน การสืบค้นข้อมลู
3. Google แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ จากโทรศพั ท์มือถือ
การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กับวชิ าอืน่

1. วชิ าภาษาไทย การอา่ นและทาความเขา้ ใจในเนือ้ หาหนว่ ยการเรียนรู้ ใบความรู้ ตคี วาม
2. วชิ าสังคมศึกษา การอยู่ในสงั คม การคบเพ่ือน
3. วิชาภาษาอังกฤษ เรื่องศัพท์เฉพาะในหน่วยการเรียนการสอน

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น

1. จัดเตรียมห้องเรยี นให้เรยี บร้อยเป็นระเบยี บ รักษาความสะอาด (แบง่ เวร)
2. จดั เตรียมอุปกรณก์ ารเรียนให้พร้อม กอ่ นการเรียนการสอน
3. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรียน และสง่ ตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน

8.2 ขณะเรยี น
1. จัดทาใบงานทีม่ อบหมายตามกาหนดเวลาสง่ ที่กาหนดไว้
2. จัดทาแบบทดสอบหลังเรียน และส่งตามกาหนดเวลา 10 ข้อ 10 นาที 10 คะแนน
3. ปฏิบตั ิตนในการเรยี นรู้อย่างเหมาะสมในชั้นเรียน

8.3 หลังเรียน
1. การศกึ ษาเน้ือหากอ่ นล่วงหน้า
2. มอบหมายงานแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ใบงาน

9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่ีเกิดจากการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น

1. ใบงานท่มี อบหมาย
2. สมุดในการทาแบบฝึกหัด แบบฝกึ ปฏบิ ัติท้ายหนว่ ย
3. สรปุ ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
4. สรปุ ผลการสง่ งานทม่ี อบหมาย

10. เอกสารอา้ งอิง

1. บนั ทึกการสอนของครู
2. ใบเช็ครายช่อื
3. แผนการจัดการเรียนรู้
4. ใบความรู้ เนอ้ื งานในหนังสือเรียน
5. แบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน

11. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธก์ บั รายวชิ าอนื่

1. รายวิชาภาษาไทย เพือ่ อ่าน ฟงั พูด เขียน และตีความหมาย แปลความหมาย
2. รายวิชาสงั คมศกึ ษา สังคมไทย เพ่ือการอยรู่ ่วมกันในสังคม ในห้องเรยี น
3. รายวิชาภาษาอังกฤษ ที่มีภาษาองั กฤษในหน่วยการเรยี นการสอน

12. หลกั การประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน

12.1.1 การประเมนิ การตรวจสอบรายชือ่ ผู้เข้าเรยี นในช่วั โมง (ด้านจติ พสิ ยั )
12.1.2 การประเมนิ การเตรียมความพร้อมในการเรียนของผเู้ รยี น อุปกรณ์การเรียน ตาราเรียน

สมุด ปากกา ไม้บรรทัด
12.1.3 การประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เวลา 10 นาที 10 ข้อ 10 คะแนน

12.2 ขณะเรียน
12.2.1 การประเมินการมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอน การตอบ-ถาม (แบบประเมิน
พฤติกรรม)
12.2.2 การประเมินการสนใจใฝเ่ รียนรู้ การปฏิบัติตน ขณะเรียน การทาแบบฝึกหดั ใบงาน
(แบบประเมนิ พฤตกิ รรม)
12.2.3 การประเมนิ ดว้ ยการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เวลา 10 นาที 10 ขอ้ 10 คะแนน

12.3 หลังเรียน

12.3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรูแ้ ละสรุปผลการเรยี นรู้ แบบประเมนิ ผล
แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี นร้อยละ 50 หลังเรยี นรอ้ ยละ 70

12.3.2 เมือ่ ไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดใหม้ กี ารปรับปรุงแก้ไขต่อไป
12.3.3 มกี ารมอบหมายงาน ศึกษาเน้ือหาในหน่วยการเรียนถดั ไป และใบความรู้ (ถ้ามี)
12.3.4 มอบหมายงานศึกษาเนอื้ หาเพิ่มเติมโดยการจดั ทารายงานกล่มุ หรือรายบุคคคล

13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน

จดุ ประสงค์ข้อท่ี 1 ………………………………………………………………………………....................................………
1. วธิ กี ารประเมนิ : ……………………………………………………...........................…………….
2. เครือ่ งการประเมนิ : …………………………………………………………………............................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………............................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...............

จุดประสงคข์ ้อท่ี ……………………………………………………………………………………….....................................
1. วธิ กี ารประเมิน : …………………………………………………………………...........................
2. เครื่องการประเมิน : …………………………………………………………………...........................
3. เกณฑ์การประเมนิ : …………………………………………………………………...........................
4. เกณฑ์การผา่ น : …………………………………………………………………...........................

14. แบบทดสอบก่อนเรยี น 15 แบบทดสอบหลงั เรยี น

หน่วยการสอนที่ 8 ช่ือหน่วยการสอน หลกั เบ้ืองต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในองคก์ ร
วัตถุประสงค์ เพ่ือ ทดสอบความรเู้ บ้ืองตน้ ของผูเ้ รยี น หลังการเรียนการสอน
ขอ้ คาถาม

แบบทดสอบ/กอ่ น/หลังเรียน

จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกต้อง
1 . ขอ้ ใดไม่ใช่สว่ นท่เี ก่ียวข้องกับคาว่า “ คุณภาพ ”

1 . เหมาะสมกบั มาตรฐาน
2 . เหมาะสมกับประโยชน์ใชส้ อย
3 . เหมาะสมกบั ต้นทนุ
4 . เหมาะสมกบั ความต้องการท่แี ฝงเรน้
5 . เหมาะสมกบั ราคาสินค้าและบรกิ าร
2 . คุณภาพของผลิตภัณฑ์ สามารถพจิ ารณาไดจ้ ากข้อใด
1 . ความเข้าใจลกู คา้
2 . ความสุภาพ
3 . ความนา่ เช่ือถือ
4 . การเขา้ ถึงได้
5 . ความสวยงามและทนทาน
3 . คุณภาพของงานบริการ สามารถพิจารณาได้จากข้อใด
1 . สมรรถนะ
2 . ลักษณะเฉพาะ
3 . ความทนทาน
4 . ความสวยงาม
5 . การรับรู้คุณภาพ หรือชื่อเสยี งของสนิ ค้า
4 . คากล่าวทีว่ ่า “ เมื่อหัวนา หางก็ต้องตาม ” สอดคล้องกับหลักการบริหารงานคณุ ภาพข้อใด
1 . การใหค้ วามสาคัญกบั ลูกค้า
2 . ความเป็นผ้นู า
3 . การมีส่วนร่วมของบุคลากร
4 . กระบวนการดาเนินงาน
5 . การบริหารทีเ่ ปน็ ระบบ

5 . ขอ้ ใดเป็นการประยุกต์ใช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพที่ใหค้ วามสาคัญกบั ลกู คา้
1 . กาหนดกระบวนการบริหารงานใหเ้ กิดผลตามเป้าหมาย
2 . กาหนดจดุ เช่ือมโยงหรือประสานงานระหว่างหน่วยงาน
3 . ฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของพนักงาน
4 . กาหนดนโยบายเพื่อตอบสนองความพงึ พอใจของลูกค้า
5 . สรา้ งแรงจงู ใจใหบ้ คุ ลากรมีส่วนรว่ ม
6 . “ วสิ ัยทัศน์ : การท่องเที่ยวพักผอ่ นเปน็ สว่ นหน่งึ ในชวี ิต ขณะท่กี ารทาธรุ กิจท่บี า้ นผ่านเครอื ข่าย

อินเทอรเ์ น็ต มแี นวโนม้ ทีส่ งู ขึ้นและมปี ระสิทธภิ าพมากขนึ้ ” จากข้อความนส้ี อดคล้องกับหลกั การบรหิ ารงาน
คุณภาพ ข้อใด

1 . การใหค้ วามสาคัญกบั ลกู คา้
2 . ความเปน็ ผูน้ า
3 . การมีสว่ นรว่ มของบคุ ลากร
4 . การตดั สนิ ใจบนพ้นื ฐานของความเปน็ จริง
5 . กระบวนการดาเนนิ งาน
7 . การประยกุ ต์ใช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพที่เนน้ การมีส่วนรว่ มของบุคลากรคอื ขอ้ ใด
1 . สร้างการยอมรับใหเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ขององคก์ ร
2 . กาหนดกระบวนการบรหิ ารงานให้เกดิ ผลตามเปา้ หมาย
3 . ถ้าหนดแผนการประเมินผลงาน และเกณฑ์การประเมินผลที่ชดั เจน
4 . มกี ารวเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ถูกต้องและเช่ือถือได้
5 . การตัดสินใจควรใชข้ อ้ มลู จากการวเิ คราะห์ ประสบการณ์และสัญชาตญาณ
8 . ขอ้ ใดไมใ่ ช่ปัจจยั ในการเพ่ิมผลผลิต
1 . นโยบายสาธารณูปโภค ฐานภาษี
2 . ทรัพยากรธรรมชาติ และทรพั ยากรบุคคล
3 . ค่านยิ มการใช้สินค้าภายในประเทศ
4 . การตรงต่อเวลา
5 . การสรา้ งความเปน็ ธรรมใหอ้ งค์กร
9 . ข้อใดไมใ่ ช่องค์ประกอบในการเพิ่มผลผลิต
1 . คณุ ภาพ และต้นทนุ
2 . การส่งมอบ และความปลอดภัยในการทางาน
3 . ขวัญกาลังใจและส่ิงแวดล้อมในการทางาน
4 . ทุน แรงงาน วิธปี ฏบิ ัตกิ าร
5 . จรรยาบรรณในการดาเนินการทางธรุ กิจ

10 . ถ้าใช้คนที่มีความรู้ความสามารถทางานในสิง่ ทช่ี อบและมคี วามถนดั จะทาใหง้ านนัน้ มปี ระสทิ ธิภาพ และมี
ความพร้อมทจี่ ะทางานที่ไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ สอดคล้องกับข้อใดมากทสี่ ุด

1 . Right Man
2. Right Job
3. Right Tool
4 . Right Time
5. Right Time

กระดาษคาตอบ ก่อนเรียน – หลังเรยี น

กจิ กรรมการเรียนรู้

หน่วยที่ 8 เร่อื ง หลักเบื้องต้นในการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลิตในองค์กร

ก่อนเรียน 5 หลังเรยี น 4 5
ขอ้ 1 2 3 4 ขอ้ 1 2 3
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10

รวมคะแนน ก่อนเรียน รวมคะแนน หลังเรียน

ชื่อ-สกลุ ...........................................................แผนก/หอ้ ง............เลขท.ี่ .............

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรียน

กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยที่ 8 เร่อื ง หลกั เบื้องต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในองค์กร

ก่อนเรยี น หลงั เรียน 4 5
ข้อ 1 2 3 4 5 ขอ้ 1 2 3
1x 1
2x 2
3x 3
4x 4
5x 5
6x 6
7x 7
8x 8
9x 9
10 x 10

รวมคะแนน ก่อนเรยี น 10 รวมคะแนน หลังเรยี น 10

ชอ่ื -สกุล...........................................................ผู้สอน/ผตู้ รวจ
(นายวิจิตร พลเศษ)

หน่วยการสอนท่ี 8 ชอื่ หน่วยการสอน หลกั เบ้ืองต้นในการบริหารงาน คณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในองคก์ ร
ช่ือหัวข้อเรือ่ ง หลักเบื้องต้นในการบริหารงาน คุณภาพและเพิ่มผลผลิตในองคก์ ร

16. ใบความรู้

แนวคดิ
การบรหิ ารงานคุณภาพในองค์กรเป็นกระบวนการบรหิ ารงานท่ีประกอบดว้ ยนโยบาย

วัตถุประสงค์ การวาแผนงาน ระบบการบรหิ ารจัดการ ระบบการตรวจสอบหรือการประเมินผล และการปรบั ปรงุ
อย่างต่อเนอื่ ง เพ่ือตอบสนองความต้องการของลูกคา้ พนักงานและของสังคม ทาใหเ้ ขา้ ใจเก่ียวกับหลักการ
บริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตเบ้อื งตน้ และประยกุ ต์ใช้หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ

ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั
1. สามารถอธิบายการบริหารงานคุณภาพเบอื้ งตน้
2. สามารถบอกการเพิ่มผลผลติ เบ้ืองต้น
3. อธิบายการประยุกต์ใชห้ ลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพิม่ ผลผลติ

สาระการเรยี นรู้

1. การบรหิ ารงานคุณภาพเบื้องตน้
2. การเพม่ิ ผลผลติ เบื้องต้น
3. การประยกุ ต์ใช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลติ

1.ครกู ล่าวถึง “คุณภาพ” ตามพจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง ลักษณะเด่นของ

บคุ คลหรือส่งิ ของ จากความหมายน้สี รปุ ไดว้ า่ คุณภาพ (Quality) หมายถึง การดาเนินงานทม่ี ปี ระสิทธภิ าพเปน็ ไป

ตามข้อกาหนดทต่ี อ้ งการ โดยสนิ ค้าหรือบริการนัน้ ต้องสรา้ งความพึงพอใจใหล้ ูกคา้ และมีตน้ ทนุ การผลติ ที่

เหมาะสม เช่น คุณภาพของสินค้า ไดแ้ ก่ รปู รา่ งสวยงาม เชื่อถือได้ ทนทาน เหมาะสมกบั การใช้งานและชื่อเสยี ง

ของสนิ ค้า ส่วนคุณภาพการบรกิ าร ได้แก่ การสร้างความประทับใจใหล้ ูกค้าทม่ี าใชบ้ รกิ าร เป็นต้น แบ่งได้ดังน้ี

1) เหมาะสมกบั มาตรฐาน 2) เหมาะสมกบั ประโยชน์ใชส้ อย

3) เหมาะสมกบั ตน้ ทุน 4) เหมาะสมกบั ความตอ้ งการท่ีแฝงเรน้

2.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างธุรกิจท่ีได้รับคณุ ภาพ

3.ครูอธิบายการบริหารงานคุณภาพเบ้ืองต้น โดยคุณสมบัติของคณุ ภาพ สามารถพจิ ารณาไดด้ ังนี้

3.1 คณุ ภาพของผลติ ภัณฑ์ สามารถพจิ ารณาไดด้ ังนี้

a สมรรถนะ a ลักษณะเฉพาะ

a ความเชอ่ื ถือได้ a ความสอดคล้องตามท่ีกาหนด

a ความทนทาน a ความสามารถในการใหบ้ ริการ

a ความสวยงาม a การรับรคู้ ณุ ภาพ หรือชื่อเสียงของสินค้า

3.2 คุณภาพของงานบรกิ าร สามารถพจิ ารณาได้ดงั น้ี

a ความเช่อื ถือได้ a การตอบสนองความต้องการ

a ความสามารถ a การเขา้ ถึงได้

a ความสภุ าพ a การตดิ ตอ่ สื่อสาร

a ความนา่ เชือ่ ถือ a ความปลอดภัย

a ความเขา้ ใจลกู ค้า a สามารถรสู้ ึกได้ในบริการ

4.ครูอธบิ ายเพิ่มเติมการบริหารคณุ ภาพ (Quality Management) หมายถึง การบริหารงานท่เี กี่ยวกับ

การจัดการทุกอยา่ งในองค์กรให้มีคณุ ภาพตามนโยบายคุณภาพขององค์กร รวมถึงโครงสรา้ งองค์กร ความ

รบั ผดิ ชอบ วิธีการ กระบวนการ กิจกรรม แผนงานและทรพั ยากรทจี่ ะนามาใชใ้ นองค์กร เพ่ือสร้างความมั่นใจวา่

สนิ คา้ หรอื บรกิ ารที่ผลิตออกมาจะมีคณุ ภาพสอดคล้องกับข้อกาหนดและความต้องการของลกู คา้ และใหม้ ี

ผลตอบแทนตามเปา้ หมายการลงทนุ ขององค์กร

5.ผู้เรียนแสดงสญั ลกั ษณ์คุณภาพ เชน่

6.ครูบอกหลักการพน้ื ฐานของการบริหารงานคุณภาพที่สาคัญ ได้แก่
6.1 การใหค้ วามสาคัญกับลูกคา้ ธรุ กิจทุกประเภทจาเปน็ ต้องทาความเขา้ ใจกบั ความต้องการของลกู คา้ และ

ดาเนินการใหบ้ รรลคุ วามตอ้ งการของลูกค้า รวมท้ังพยายามทาให้เหนือความคาดหวังของลูกค้า โดยมหี ลกั การวา่
อะไรคือสิง่ ท่ีลูกค้าต้องการและคาดหวัง ซ่ึงต้องตอบสนองสิ่งท่ลี ูกค้าต้องการใหด้ ีท่ีสดุ เช่น การประกันสินคา้ การ
รอ้ งเรยี น เปน็ ต้น

6.2 ความเป็นผนู้ า ผ้นู าจะต้องแสดงความมุ่งมนั่ ที่จะพัฒนาองค์กรอย่างชดั เจน ต้องมีภาวะผ้นู าและสร้าง
บรรยากาศในการทางานทจ่ี ะเออ้ื อานวยให้บคุ ลากรมสี ว่ นรว่ มในการดาเนนิ งาน เพื่อให้บรรลผุ ลตามเป้าหมาย โดย
ภาวะผู้นากค็ ือ ความสามารถในการชักนา โน้มน้าวใหค้ นคล้อยตาม มีเป้าหมายท่ีชัดเจนและสามารถนาคนให้
ปฏิบัติกจิ กรรมให้ลลุ ่วงได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล โดยมีหลกั การเน้นให้ผนู้ าองค์กรมีภาวะผู้นา แสดง
การเป็นผนู้ าในการทางาน

6.3 การมีส่วนร่วมของบคุ ลากร การทบี่ ุคลากรมีส่วนร่วมในองค์กร จะทาให้ทุกคนไดใ้ ชค้ วามสามารถให้
เกดิ ประโยชนต์ อ่ สว่ นรวมมากท่สี ุด บคุ ลากรต้องเอาใจใส่ในงานทต่ี นได้รับมอบหมายไว้ โดยมีหลกั การคือ เนน้ ท่ี
พนักงานทุกฝา่ ยจะต้องอาศยั ความร่วมมือทุกระดบั และต้องมีการพฒั นาความสามารถอยา่ งสมา่ เสมอ

6.4 กระบวนการดาเนนิ งาน หมายถึง การนาเอาทรพั ยากรหรือปจั จัยการผลติ ปอ้ นเขา้ สู่ระบบการทางาน
เพอ่ื ให้บรรลเุ ป้าหมาย โดยมหี ลักการท่ีเน้นให้มองงาน กระบวนการและกจิ กรรมต่างๆ ที่ก่อใหเ้ กิดมูลค่าเพิ่มแก่
สินค้าหรอื เป็นกระบวนการสนบั สนุน จะอยใู่ นรูปของกระบวนการทม่ี ีท้งั ปจั จยั นาเข้า (Input) และปจั จัยนาออก
(ผลผลติ = Output)

6.5 การบรหิ ารทีเ่ ป็นระบบ การจดั การกระบวนการต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ จะช่วยให้องคก์ รบรรลุ
เป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิผลและประสิทธิภาพ โดยนากระบวนการต่างๆ มาเรียงลาดับและสัมพนั ธก์ ันซ่ึงจะ
กอ่ ให้เกดิ เป็นระบบ โดยหลกั การคือการกาหนดระบบความสัมพันธ์ของปัจจยั และกระบวนการดาเนินงานเพ่อื ให้
องค์กตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้าได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

6.6 การปรับปรงุ อย่างตอ่ เน่ือง เป็นกระบวนการท่ีเกดิ วงจรบริหารงานระบบคุณภาพ PDCA ได้แก่ การ
วางแผนการดาเนินงาน การดาเนนิ งาน การปรบั ปรงุ แกไ้ ข และการปรับปรุงอยา่ งตอ่ เน่ือง ทาให้เพ่ิมประสิทธภิ าพ
ข้นึ ซ่ึงควรถือเป็นเป้าหมายถาวรขององค์กร

6.7 การตดั สินใจบนพน้ื ฐานของความเปน็ จริง การตัดสนิ ใจทถ่ี ูกต้อง และเกิดประสทิ ธิภาพตอ่ การ
บรหิ ารงานต้องต้ังอย่บู นพ้นื ฐานของความจรงิ ที่ถกู ต้องและการวิเคราะห์ขอ้ มูลท่ีเปน็ ระบบตอ้ งมีข้อมลู หรือ
ข้อเท็จจริงสนบั สนุน ซงึ่ ขอ้ มลู ได้จากการเก็บและนามาวเิ คราะห์ทางสถติ ิ เพ่ือใชเ้ ป็นเครื่องมือ การตัดสินใจบน
พื้นฐานของความเป็นจริง การตัดสินใจที่ถกู ต้อง และเกิดประสิทธิภาพตอ่ การบริหารงานตอ้ งตงั้ อยบู่ นพ้นื ฐานของ
ความจรงิ ทีถ่ ูกต้องและการวเิ คราะหข์ ้อมูลที่เปน็ ระบบต้องมขี ้อมูลหรือข้อเท็จจริงสนับสนุน ซึ่งขอ้ มูลไดจ้ ากการ
เกบ็ และนามาวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ

6.8 ความสัมพันธก์ บั ผู้ขายเพ่ือประโยชนร์ ่วมกนั การสรา้ งสมั พนั ธภาพกับผูส้ ่งมอบควรอย่บู นพน้ื ฐานของ
ความเสมอภาคดา้ นผลประโยชน์ เพราะต่างต้องพึง่ พาซง่ึ กันและกัน ถา้ องค์กรและผูส้ ่งมอบมีความเข้าใจ และมี
ความสมั พันธ์อันดีตอ่ กัน ยอ่ มส่งผลใหเ้ กิดประโยชน์รว่ มกนั และจะชว่ ยเพิม่ ความสามารถในการสร้างคณุ ค่า
รว่ มกันของท้งั สองฝ่าย โดยมีหลักการที่เน้นการไดร้ บั ผลประโยชน์ร่วมกนั ทุกฝ่าย

7.ครูอธิบายการเพิม่ ผลผลิตเบือ้ งตน้ โดยการเพิ่มผลผลติ (Productivity) หมายถงึ กระบวนการในการ
ปฏบิ ตั ิงานให้ไดผ้ ลผลิตซึง่ อาจเป็นสนิ คา้ หรอื บริการ หรืองานท่มี คี ุณภาพตรงตามความต้องการของลกู คา้ ดว้ ย
วธิ กี ารในการลดตน้ ทนุ ลดการสญู เสยี ทกุ รูปแบบ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การใชเ้ ทคโนโลยที เี่ หมาะสม การ
พฒั นาศักยภาพของคนและการใชเ้ ทคนิควธิ กี ารทางานต่างๆ เข้ามาชว่ ยประสิทธิผล (Efficiency) หมายถึง
ความสามารถการบรรลุจุดมุง่ หมายโดยใช้ทรัพยากรต่าสุด คือ ใช้วธิ กี ารใหเ้ กดิ การจดั สรรทรพั ยากรท่ีสิ้นเปลอื ง
นอ้ ยที่สุด โดยมเี ป้าหมายคือ ประสิทธิผล

8.ครูกลา่ วถึงการประยกุ ต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดาเนนิ งาน
ควรจะอาศยั เทคนิค และเครื่องมอื พน้ื ฐานเพอ่ื ชว่ ยในการเพมิ่ ผลผลติ ในองค์กร

9.ผู้เรียนบอกกจิ กรรมท่ีมีการประยุกต์ใชห้ ลกั การบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิต ได้แก่
9.1 กจิ กรรมเพื่อความปลอดภยั หมายถึง กิจกรรมเสริมสรา้ งความรู้และทัศนคตเิ กี่ยวกับความ

ปลอดภยั ในการทางานให้กับพนักงาน
9.2 กจิ กรรม 5 ส หมายถึง กิจกรรมเพ่ือสรา้ งความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ยในสถานทที่ างาน
2.3 วงจร PDCA คือ วงจรเพ่ือการบรหิ ารและการปรับปรงุ งานอย่างต่อเน่ือง
9.4 กิจกรรมข้อเสนอแนะ คอื กจิ กรรมที่เปิดโอกาสให้พนกั งานมสี ่วนรว่ มในการเสนอความคิด

ใหมๆ่ ซึง่ สามารถปฏิบตั ิได้ และเป็นประโยชนต์ อ่ การปรบั ปรุงงานทปี่ ฏบิ ตั ิอยู่แล้วให้ดีข้ึน
9.5 กิจกรรมกลุ่มยอ่ ย (QCC = Quality Control Cycle) คอื กิจกรรมเพอ่ื การแก้ปัญหาและ

ปรบั ปรุงงานอยา่ งเปน็ ระบบ โดยการรวมกลุ่มของผปู้ ฏบิ ัติงานประมาณ 3-10 คน
10.ครผู ู้สอนอธบิ ายการประยุกต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ
11.ครอู ธบิ ายกิจกรรมเพื่อความปลอดภัย (Safety Control Circles=SCC) หมายถงึ การร่วมกนั ทา

กิจกรรมเพื่อการคน้ หาภยั อันตรายและแกไ้ ขปอ้ งกนั อุบัตเิ หตุ และการสรา้ งเสริมความปลอดภยั ในการทางาน
12.ผูเ้ รยี นวางแผนและดาเนินงานโดยใชก้ ิจกรรม 5 ส

13.ครูและผู้เรียนวางแผนและดาเนินงานโดยใช้เทคนิค PDCA คอื วงจรคุณภาพที่ใช้ในการบรหิ าร การ
วางแผน และการปฏบิ ตั ิเพื่อใหเ้ กดิ การปรบั ปรุงการทางานอย่างต่อเนื่อง ทาให้ทุกคนร้จู ักการวางแผนกอ่ นท่จี ะ
นาไปปฏบิ ตั ิ เม่ือปฏบิ ตั ิแลว้ ต้องมีการตรวจสอบหาข้อบกพร่องเพ่ือนาไปปรบั ปรุงแกไ้ ขต่อไป

14.ครูและผเู้ รียนวางแผนและดาเนินงานกจิ กรรมข้อเสนอแนะ (Suggest System) คือ การเปิดโอกาสให้
พนกั งานทุกระดับมารว่ มกันในการบริหาร โดยนาเสนอความคดิ เห็นของตนเองต่อฝ่ายบริหาร ซ่ึงมี 2 ลกั ษณะ คือ
1. แนวคิดหรือวธิ กี ารแก้ไขปัญหา และ 2. ช้ีใหเ้ หน็ ปัญหาหรอื จุดอ่อนของการทางาน

15.ครูและผเู้ รียนวางแผนและดาเนินงานโดยใชเ้ ทคนิค QCC (Quality Control Cycle) หมายถงึ การ
ควบคุมคุณภาพดว้ ยกจิ กรรมกลุ่ม โดยการควบคุมคณุ ภาพ คอื การบรหิ ารงานดา้ นวตั ถุดิบ กระบวนการผลติ และ
ผลผลติ ใหไ้ ด้คุณภาพตามความตอ้ งการของลกู ค้า ผเู้ กีย่ วข้องหรอื ข้อกาหนดตามมาตรฐานทีต่ ง้ั ไว้ เพ่ือป้องกนั และ
ลดปัญหาการสูญเสียวัตถดุ ิบ ตน้ ทุนผลิต เวลาการทางาน และผลผลิต

16.ครอู ธบิ าย และผูเ้ รยี นวางแผนและดาเนนิ งานกจิ กรรมการบริหารงานโดยยดึ วตั ถปุ ระสงค์
Management by Objective (MBO) เทคนิคการบริหารงานทีใ่ ห้โอกาสสมาชิกทุกคนมีสว่ นรว่ มในการกาหนด
วัตถุประสงค์ของ
องค์กรและใหท้ กุ คนปฏบิ ตั ิงานโดยยึดวตั ถปุ ระสงค์และเป้าหมายขององคก์ รเป็นหลัก

17. ใบงาน

หนว่ ยการสอนที่ 8
ชื่อหน่วยการสอน หลกั เบอ้ื งต้นในการบริหารงาน คณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตในองค์กร

จุดประสงค์ เพอ่ื

1. สร้างความรูค้ วามจาใหก้ บั ผู้เรียน
2. เพ่มิ การฝึกปฏบิ ัติแก่ผเู้ รยี น
3. สรา้ งความรับผดิ ชอบ ความอดทน ความสนใจใฝ่เรียนรู้

ลาดับกิจกรรม/ลาดับการปฏบิ ตั ิ

1. ผู้เรยี นศกึ ษาเน้อื หาจากใบความรู้
2. ผ้เู รยี นศกึ ษาหาความรู้จากตาราเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 หลกั เบ้ืองต้นในการบริหารงาน คุณภาพ
และเพ่ิมผลผลิตในองค์กร 20001-1003 สานักพิมพเ์ อมพันธ์
3. หรือ ครูผสู้ อนบรรยายความรู้ เรื่อง 8 หลกั เบอ้ื งต้นในการบริหารงาน คุณภาพและเพ่ิมผลผลิตใน
องค์กร
4. จัดทาใบงานตามที่มอบหมาย (กาหนดเวลาจดั ทา 50 นาท)ี
5. ส่งงานใบงานท่มี อบหมายกอ่ นหมดเวลาเรยี น (10 นาที หรือเป็นการบา้ น)

เกณฑ์การพจิ ารณา

1. สง่ งานตรงเวลานัดหมาย
2. จัดทาครบทกุ ข้อท่ีกาหนด
3. ทางานเป็นระเบยี บเรียบร้อย

ใบงานที่ 8.1

เร่ือง การให้บริการอย่างมคี ณุ ภาพ
ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขท่.ี ........ชน้ั ..........................
คาชีแ้ จง ใหผ้ ้เู รียนอ่านกรณีศึกษาเร่อื งนโยบำยของกิจกำรไม่ชดั เจน

การทาหน้าท่ีใหบ้ รกิ ารลกู ค้าตามนโยบายของบรษิ ัทตามเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ ถือเป็นแรงกดดันให้กบั
พนกั งานทีใ่ หบ้ รกิ ารลูกค้ามาก เพราะอาจจะขัดแยง้ กบั การใหบ้ ริการ ถา้ ใหบ้ ริการมากจนเกินไปก็จะทาให้ต้นทนุ
สงู ขึ้น แต่ถา้ ใหบ้ ริการน้อยจนเกนิ ไปกจ็ ะทาให้ลกู ค้าไม่พอใจ เช่น

นโยบายของบรษิ ัทมีการเปลยี่ นของภายใน 7 วนั ถา้ ลูกค้าจะเปลย่ี นเป็น 8 หรือ 9 วนั จะได้หรือไม่
ลกู ค้าต้องมใี บเสรจ็ มาดว้ ยเท่านั้นจึงจะเปลยี่ นได้ ถ้าลูกค้าจะส่งใบเสร็จให้ภายหลงั ได้หรือไม่
ลกู คา้ ไมส่ ะดวกรบั ของตอนเย็นขอเป็น 3 ทุ่ม พนักงานควรจะรอส่งหรอื ไม่
ลูกคา้ คิดวา่ ของมีตาหนแิ ต่ไมร่ ้เู กดิ ตอนไหน พนกั งานจะตัดสนิ ใจอย่างไรดี
คุณสรอ้ ยฟา้ ทางานเปน็ พนักงานให้บรกิ ารทดี่ ีของบริษทั แห่งหนึ่งและลกู คา้ ก็ชอบมาก เพราะเหน็
ความสาคัญในความต้องการของลูกค้าเปน็ ทส่ี ุด แต่ก็ได้รบั คาเตือนจากหวั หนา้ งานบอ่ ยคร้ังว่าอยา่ ใจดีกับลกู ค้า
จนเกินไป จึงทาใหน้ ้อยใจอยู่เสมอ ผเู้ รียนคดิ วา่ คุณสรอ้ ยฟ้าควรจะทาอยา่ งไรเพ่ือใหเ้ กดิ ความเหมาะสมและความ
พอดี
แนวทางท่คี ณุ สรอ้ ยฟ้าควรจะปฏิบัติต่อไป ได้แก่
............................................................................................. ............................................................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................ .............................................
............................................................................................... ..........................................................................
.........................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................. ...........................................
................................................................................................. ........................................................................
.........................................................................................................................................................................
................................................................................................................................ .........................................
................................................................................................... ......................................................................
.........................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................. .......................................
..................................................................................................... ....................................................................

ใบงานที่ 8.2

เรื่อง การบริหารงานอย่างมีคุณภาพ
ชอ่ื -สกุล............................................................................................เลขท่ี.........ชนั้ .............. ............
คาชแ้ี จง อา่ นกรณีศึกษาการบรหิ ารงานอย่างมีคุณภาพตอ่ ไปน้ี

คุณส่องหลา้ เป็นพนักงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงแหง่ หนงึ่ ในกรุงเทพฯ ซึ่งในปจั จบุ นั พนักงานทุกคนก็มกั จะมี
ปัญหาส่วนตัวอยา่ งมาก เชน่ รายไดไ้ ม่พอกับคา่ ใชจ้ ่าย ทะเลาะกบั แฟน บริษัทบตั รเครดิตตามทวงเงิน ปว่ ย เครยี ด
กับปญั หาตา่ ง ๆ อกี มากมาย โดยปกติคุณส่องหลา้ เป็นผู้ทีท่ าหนา้ ท่ีให้บรกิ ารลูกค้าเปน็ อย่างดี เป็นคนสนกุ สนาน
ทางานกบั บุคคลอนื่ ไดด้ ี มีกิริยาวาจาสภุ าพ สรา้ งความพึงพอใจใหก้ ับลกู คา้ ไดด้ มี าก ตอ่ มาคณุ ส่องหลา้ เปลย่ี นไป
จากเดิม หัวหน้างานจงึ เรียกเข้าไปพบ และสอบถามวา่ เปน็ อะไรจงึ ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีไม่ดีเทา่ กับท่ผี ่านมา หวั หน้างานจึง
ไดท้ ราบว่าเธอมปี ัญหาสว่ นตวั และไดต้ ักเตือนไปวา่ ใหเ้ ธอแยกเรื่องงานกบั เร่ืองส่วนตัวออกจากกัน เพราะจะส่งผล
กระทบกับงานอาชีพนนั้ ซ่ึงเธอก็เข้าใจดีและรับปากวา่ ต่อไปนจ้ี ะปรับปรงุ ตัวเองใหมใ่ ห้ดีกว่าเดมิ

อยำกทรำบวำ่ คณุ ส่องหล้ำ ควรจะดำเนนิ กำรอย่ำงไรเพ่ือให้กำรปฏิบัติงำนดเี หมือนเดิมหรอื ดกี วำ่ เดิม
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................

ใบงานที่ 8.3

เรือ่ ง การบรหิ ารงานอาชีพ
ชอ่ื -สกุล............................................................................................เลขที.่ ........ชั้น.............. ............
คาช้ีแจง อา่ นกรณศี กึ ษาการบรหิ ารงานอาชีพต่อไปนี้

บรษิ ัท มิ่งเมือง จากัด จัดตั้งในปี พ.ศ.2541 มีนายไชโยเปน็ เจา้ ของและมีพนกั งานทัง้ หมด 5 คน แต่ใน
ปจั จบุ ัน (พ.ศ.2556) มีพนกั งาน 30 คน เนอ่ื งจากกจิ การเจรญิ เตมิ โตขึน้ อย่างช้า ๆ แตม่ ีกาไรสทุ ธใิ นแตล่ ะปที ีผ่ ่าน
มาสงู มาก ส่วนคุณไชโยกเ็ ป็นกันเองกบั พนักงานทกุ คนมบี คุ ลกิ เปน็ คนคดิ เรว็ และทาเร็ว ทาให้การทางานราบร่นื ถ้า
มปี ัญหาก็พดู คุยกนั และแก้ไขปญั หาได้ดี เม่ือมีการประชุมกันภายในบริษัทก็มพี นักงานสว่ นหน่งึ ได้แสดงความ
คดิ เห็นและถามประธานบริษัท (คุณไชโย) ดงั น้ี

ทิศทางของบริษัทในอนาคตจะเป็นอย่างไร พันธกิจของบรษิ ัทคืออะไร
เปา้ หมาย และวัตถุประสงค์จะเปน็ อยา่ งไรกลยุทธท์ ่ีจะใช้ในการดาเนนิ ธรุ กจิ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
โครงสร้างองค์กรทช่ี ดั เจนเป็นอย่างไร เรอื่ งอน่ื ๆ ท่เี กีย่ วข้องกับบริษทั
ท้งั น้ี คุณไชไยกลบั ไม่สนใจในการแสดงความคิดเหน็ ของพนักงาน ต่อมาเริม่ รู้สกึ วา่ พนกั งานไม่ไดท้ างาน
อยา่ งเตม็ ความสามารถ พนักงานมปี ัญหาขัดแยง้ กนั เสมอ บางครัง้ ก็ทะเลาะกนั ในระหว่างทางาน ขาดความสามัคคี
กนั ซึง่ คณุ ไชโยจะเป็นผู้แก้ปัญหาและตดั สินใจในปัญหาทุกอย่างดว้ ยตวั เอง
ให้ผู้เรยี นช่วยแนะนาคณุ ไชโยว่าเขาควรจะเปล่ียนแปลงตวั เองในเรื่องใดบา้ ง เพื่อใหบ้ ุคลากรในบรษิ ทั ของ
เขามีการทางานเป็นทมี งาน มีความชดั เจนในการทางานมากข้นึ
 ปญั หำท่ีเกิดข้ึน ได้แก่
1............................................................................................................................ ................................
2............................................................................................................................................................
3........................................................................................................................... .................................
 เทคนคิ กำรแกป้ ัญหำ ได้แก่
1............................................................................................................................ ................................
2............................................................................................................................................................
3............................................................................................................................ ................................
 แนวทำงในกำรดำเนนิ งำนที่จะนำไปปฏิบตั ิ ไดแ้ ก่
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
....................................................................................................................... .......................................
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................

ใบงานท่ี 8.4

เรื่อง การเพ่ิมผลผลิต
ชื่อ-สกุล............................................................................................เลขที่.........ช้นั .............. ............
คาชี้แจง อา่ นกรณีศึกษาบริษัท น้าพริกไทย จากัด

คณุ ยนิ ดีเป็นผูจ้ ัดการของบรษิ ัท นา้ พริกไทย จากัด ตรา “น้าพริกไทย” โดยมนี โยบายใหเ้ พิ่มปรมิ าณการ
ผลติ ต่อวันให้มากข้ึน เน่อื งจากมคี าสั่งซื้อเข้ามาจานวนมาก แต่บรษิ ัทไมส่ ามารถตอบสนองต่อคาสง่ั ซื้อได้ทั้งหมด
คณะกรรมการให้เพม่ิ การบรรจภุ ัณฑ์ให้ได้ 20%ภายใน 2 สปั ดาห์ บรษิ ัทเป็นผู้ผลติ นา้ พริกสาเรจ็ รูปรายย่อยใน
ประเทศไทย ตั้งอยใู่ นกรงุ เทพฯ และขายน้าพริกโดยส่งไปจาหน่ายตามโมเดิลเทรดต่างๆ เนื่องจากการเจริญเติบโต
ของตลาดน้าพริกสาเร็จรปู ในประเทศเป็นสินคา้ ท่ีอยู่ในระดับสนิ คา้ คณุ ภาพสูง เปน็ ท่ีต้องการของผู้บริโภคจานวน
มาก จงึ ทาให้ไดร้ บั คาสง่ั ซื้อจานวนมาก จนในปจั จบุ นั บริษทั พบว่าไมส่ ามารถตอบสนองต่อคาส่ังซื้อของลกู คา้ ได้
ทง้ั หมด ซง่ึ นอกจากจะทาให้บริษัทเสียโอกาสทางการค้าแล้ว ยงั ทาใหข้ าดความน่าเชอ่ื ถือของบริษัท ที่จะ
ตอบสนองตอ่ ตลาดลดต่าลงด้วย จะสง่ ผลต่อภาพลกั ษณแ์ ละชื่อเสยี งของบริษทั ต่อโมเดลิ เทรดตา่ งๆ

บรษิ ทั มีกระบวนกำรบรรจุโดยใชเ้ ครือ่ งบรรจุอัตโนมตั ิ โดยนาเข้าเคร่ืองบรรจุจากญีป่ นุ่ ซ่ึงมรี าคาแพงมาก
โดยนาวัตถดุ บิ มาจากแหลง่ ผ้จู ดั จาหนา่ ยผา่ นการลา้ ง ฆ่าเช้ือตา่ ง ๆ ก่อนป้อนเข้าสเู่ ครอื่ งอัตโนมัติ เม่อื ถูกป้อนเขา้
เครอ่ื งอตั โนมัตแิ ล้วและถูกลาเลียงต่อไปผา่ นข้นั ตอนการฆ่าเช้อื ด้วยแสงยูวีและถูกลาเลียงผ่านตอ่ ไปท่ีข้นั ตอนการ
บรรจลุ งบรรจภุ ณั ฑ์ต่อไป ปัญหำของกระบวนกำรผลิตและบรรจุภณั ฑ์คือการเพม่ิ เติมรสชาติ สี กลนิ่ รส จะสง่ ผล
ให้มโี อกาสสงู มากที่น้าพริกสาเรจ็ รปู จะดอ้ ยคณุ ภาพ จะถูกส่งไปขายให้ลูกคา้ และส่งผลต่อชื่อเสียงของบริษัทมาก
ปัญหาทส่ี าคญั อีกประการคือกระบวนการบรรจภุ ัณฑข์ องบริษทั ไมส่ ามารถบรรจุไดต้ ามความสามารถท่ีแทจ้ รงิ ของ
เคร่ืองบรรจุอตั โนมัติ กล่าวคือตามข้อกาหนดของเคร่อื งบรรจไุ ข่ไก่อัตโนมตั ิ เม่ือผจู้ ัดการใหเ้ พ่มิ ผลผลติ ตอ่ วนั ให้ได้
ซง่ึ ตามปกตเิ คร่ืองจกั รต้องผลิตสินคา้ ไดต้ ามเปา้ หมาย แตข่ ้อมลู ปจั จุบนั พบวา่ ผลผลติ ท่ไี ด้ยงั ไม่เป็นไปตาม
เป้าหมาย และบริษทั กาลงั ประสบปญั หาการส่งสนิ ค้าไมท่ ันคาสัง่ ซ้ือของลูกคา้ ผจู้ ดั การทราบดวี า่ กระบวนการผลิต
สามารถปรบั ปรุงได้ แต่ปัจจุบันยังไม่ทราบวา่ จะปรบั ปรงุ หรือพฒั นาจดุ ใดก่อน จากข้อมูลของฝ่ายผลิตทราบวา่
เครอื่ งจักรอตั โนมตั ิก็เดินเครือ่ งอัตโนมัติที่ความเร็วทต่ี งั้ ไวต้ ลอดทงั้ 8 ชั่วโมงแล้ว และมีการบารงุ รกั ษาเคร่อื งจกั ร
นอกเหนือจากเวลาบรรจุ 8 ชวั่ โมง จึงไมส่ ามารถเพิม่ ความเรว็ ในการเดินเคร่ืองได้ ผจู้ ัดการจึงคิดวา่ ถ้าต้องการเพม่ิ
ผลผลติ แนวทางที่งา่ ยท่ีสุด คือ การกาหนดให้เคร่ืองอัตโนมัตินท้ี างานล่วงเวลานานขึน้ ซ่งึ ก็สามารถทาไดเ้ ลย แต่ก็
กงั วลวา่ แนวทางแก้ไขปัญหานี้จะไดร้ บั การยอมรบั จากคณะกรรมการได้อย่างไร เพราะสาเหตุที่แท้จรงิ ของปัญหา
ยังไม่ได้รับแก้ไข ผู้จดั การจงึ ตัดสนิ ใจให้เจา้ หนา้ ท่ีฝ่ายผลิตบันทกึ ภาพของเครื่องจกั รอตั โนมัติตลอดทั้งกระบวนการ
และนามาเข้าทปี่ ระชุมฝา่ ยผลติ โดยวางแผนจะให้เกดิ การระดมสมองเพอื่ หวังว่าจะหามาตรการเพ่ิมผลผลติ ท่ดี ีและ
นาไปชีแ้ จงกบั คณะกรรมการได้

จากกรณีศึกษานี้จงหาสาเหตุของปัญหาและแนวทางแกไ้ ข
..............................................................................................................................................................
จากกรณีศกึ ษานี้ ผู้จัดการมีการตดั สินใจอย่างไร
............................................................................................................................. ..............................

เฉลยใบงานท่ี 1-4

(ใช้ดลุ พินจิ ของผสู้ อน)

แบบสรปุ คะแนน

ชุดที่ 1
รายวิชา การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรคุณภาพ 20001 1003

คะแนน กิจกรรมที่ ใบงานท่ี แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนน
ก่อนเรยี น หลงั เรียน ระหวา่ ง
123 1 เรยี น

คะแนนเตม็ ✓✓ 5 10 10 15

คะแนนทีไ่ ด้
คดิ เปน็ ร้อย
ละ

หมายเหตุ : ✓ = ผ่านกิจกรรม  = ไมผ่ า่ นกิจกรรม

(ลงชอ่ื ) ....................................... ผปู้ ระเมนิ
(นายวจิ ติ ร พลเศษ)

ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการ

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบก่อนเรยี นและแบบทดสอบหลังเรียน

ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ดี
ระดบั 4 9 - 10 คะแนน หมายถึง ปานกลาง
ระดับ 3 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 5 - 6 คะแนน

20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลักปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจิตพสิ ยั

3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ ส่ือ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรูก้ ่อนเขา้ สอน

ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

4. มวี ธิ ีการนาเข้าสู่บทเรยี นท่ีน่าสนใจ

5. มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ เพื่อหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

8. จดั กิจกรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีเ่ ชื่อมโยงกบั ชีวิตจรงิ โดยนาภูมิปญั ญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม

11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รียน อย่างท่วั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

16. ใช้สอื่ ทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใช้สอ่ื แหลง่ การเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมินผล

18. ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทกั ษะ และจติ พสิ ัย

20. ครู ผเู้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ ี่เกย่ี วข้องมสี ่วนรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยยี่ ม 4 = ปฏบิ ตั ดิ ี 3 = ปฏิบัตพิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลยี่


Click to View FlipBook Version