สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3.1.6.1 ในกรณีท่ีทดสอบท่ีอณุ หภมู ิ 25 องศาเซลเซียส ใหใ้ ชเ้ ทอรโ์ มมิเตอรท์ ่ี
อ่านไดล้ ะเอียดถึง 0.1 องศาเซลเซียส ในช่วง 19 องศาเซลเซียส ถึง
27 องศาเซลเซียส และตัวเทอรโ์ มมิเตอรต์ อ้ งจุ่มลงในนา้ 15015
มม.
3.1.6.2 ในกรณีท่ีทดสอบท่ีอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ใหใ้ ชเ้ ทอรโ์ มมิเตอรท์ ่ี
อ่านไดล้ ะเอียดถึง 0.1 องศาเซลเซียส ในช่วง –8 องศาเซลเซียส ถึง
+32 องศาเซลเซียส และตวั เทอรโ์ มมิเตอรต์ อ้ งจมุ่ ลงในนา้ 15015
มม.
3.1.6.3 ในกรณีท่ีทดสอบท่ีอณุ หภูมิ 46.1 องศาเซลเซียส ใหใ้ ชเ้ ทอรโ์ มมิเตอร์
ท่ีอา่ นไดล้ ะเอียด ถงึ 0.1 องศาเซลเซียส ในชว่ ง 25 องศาเซลเซียส ถงึ
55 องศาเซลเซียส ตอ้ งจ่มุ ลงในนา้ 15015 มม. เน่ืองจากอณุ หภมู ิมี
ผลต่อค่าเพนิเทรชันอย่างมากดงั นนั้ เทอรโ์ มมิเตอรท์ ่ีใชจ้ ะต้องเป็น
ชนิดท่ีไดส้ อบเทียบ (CALIBRATE) ไวอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งแลว้
3.1.7 นาฬิกาจบั เวลา ชนิดอา่ นไดล้ ะเอียด ถงึ 0.1 วนิ าที
3.2 การเตรียมตวั อย่างการทดสอบ
3.2.1 ทาตัวอย่างให้เหลวโดยใช้ความรอ้ น การใหค้ วามรอ้ นตอ้ งคนตัวอย่าง อย่าง
สม่าเสมอ เพ่ือไม่ใหจ้ ุดหน่ึงจุดใดรอ้ นมากเกินไป จนตวั อย่างมีอุณหภูมิสูงกว่า
จุดอ่อนตัว (SOFTENING POINT) 80 องศาเซลเซียส ถึง 110 องศาเซลเซียส
สาหรับตัวอย่างวัสดุยางแอสฟัลต์ และสาหรับตัวอย่าง TAR-PITCH สูงกว่า
จุดอ่อนตวั ไม่มากกว่า 56 องศาเซลเซียส เทตวั อย่างลงในภาชนะบรรจตุ วั อย่าง
ใหม้ ีปรมิ าณมากพอท่ีเม่ือตวั อย่างเย็นลงจนถึงอณุ หภมู ิท่ีจะทดสอบแลว้ ความลึก
ของตวั อย่างในภาชนะจะตอ้ งมากกวา่ ความลึกท่ีคาดว่าเข็มมาตรฐานจะแทรกลง
ไปอยา่ งนอ้ ย 10 มม. สงั เกตดถู า้ มีฟองอากาศปะปนอยใู่ หค้ วามรอ้ นอีกเล็กนอ้ ย
แลว้ คนไลฟ่ องอากาศใหห้ มด
3.2.2 ปิดภาชนะบรรจุตัวอย่างเพ่ือป้องกันฝ่ ุน แล้วปล่อยให้เย็นลงในบรรยากาศท่ี
อณุ หภมู ิระหวา่ ง 20 องศาเซลเซียส ถึง 30 องศาเซลเซียส สาหรบั ตวั อยา่ งท่ีบรรจุ
ในภาชนะ ขนาด 175 มลิ ลิลิตร ปลอ่ ยใหเ้ ย็นลงในเวลาระหวา่ ง 1 1/2 ถึง 2 ช่วั โมง
ส่วนตวั อย่างท่ีบรรจุในภาชนะ ขนาด 90 มิลลิลิตร ใชเ้ วลาระหว่าง 1 ถึง 1 1/2
ช่ัวโมง หลังจากนั้นนาตัวอย่างและภาชนะย้ายตัวอย่างไปแช่ในอ่างน้าปรับ
อณุ หภมู ซิ ง่ึ มีอณุ หภมู คิ งท่ี ตามขอ้ กาหนดของการทดสอบ สาหรบั ตวั อยา่ งท่ีบรรจุ
151
สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ในภาชนะขนาด 175 มิลลลิ ติ ร ใชเ้ วลาแชร่ ะหวา่ ง 1 1/2 ถงึ 2 ช่วั โมง สว่ นตวั อยา่ ง
ท่ีบรรจใุ นภาชนะขนาด 90 มิลลลิ ติ ร ใชเ้ วลาระหวา่ ง 1 ถึง 1 1/2 ช่วั โมง
ในการทดสอบปกติ ซง่ึ ไมไ่ ดก้ าหนดเง่ือนไขใด ๆ ไว้ ใหใ้ ชอ้ ณุ หภมู ิทดสอบ
ท่ี 25 องศาเซลเซียส นา้ หนกั ลด 100 กรมั เวลา 5 วินาที เง่ือนไขท่ีกาหนดเป็น
อยา่ งอ่ืนสาหรบั การทดสอบพเิ ศษอาจเป็นไดด้ งั นี้
อุณหภมู ทิ ดสอบ น้าหนักกด เวลา
( .) (กรัม) (วนิ าท)ี
0
4 200 60
46.1 200 60
50 5
ถา้ เป็นกรณีดงั กลา่ วนี้ ตอ้ งรายงานเง่ือนไขการทดสอบใหช้ ดั เจน
3.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ. มทช.(ท) 609-2545
3.4 การทดสอบ
3.4.1 ถา้ ไมไ่ ดก้ าหนดเง่ือนไขของการทดสอบไว้ ใหใ้ ชน้ า้ หนกั ถ่วง 50 กรมั ถ่วงบนแกน
เพ่ือใหไ้ ดน้ า้ หนกั กดรวม 100 กรมั การทดสอบทาได้ 2 วธิ ี คือ
3.4.1.1 ไม่ยา้ ยภาชนะบรรจุตวั อย่างออกจากอ่างนา้ ปรบั อุณหภูมิทาไดโ้ ดยตงั้
เคร่ืองทดสอบเพนิเทรชนั ไวใ้ นอ่างนา้ ปรบั อณุ หภมู ิแลว้ วางภาชนะบรรจุ
ตวั อย่างลงบนท่ีตงั้ ของเคร่ืองมือท่ีจมอย่ใู นนา้ หรืออาจตงั้ เคร่ืองทดสอบ
เพนิเทรชนั ไวใ้ นอา่ งนา้ ปรบั อณุ หภมู ิแลว้ วางภาชนะบรรจตุ วั อย่างลงบน
ชนั้ ซ่งึ เตรยี มไวใ้ นอา่ งแลว้ และตอ้ งอยใู่ นตาแหนง่ ซง่ึ จะทาการทดสอบได้
ทงั้ สองกรณีดงั กลา่ วนีต้ อ้ งใหภ้ าชนะบรรจตุ วั อยา่ งจมอยใู่ นนา้ ตลอดเวลา
3.4.1.2 ยา้ ยภาชนะบรรจตุ วั อย่างออกจากอา่ งนา้ ปรบั อณุ หภมู ิโดยใชภ้ าชนะยา้ ย
ตวั อยา่ ง ตงั้ เคร่ืองทดสอบ เพนิเทรชนั ไวภ้ ายนอกอ่างนา้ ปรบั อุณหภูมิ
นาภาชนะบรรจตุ วั อย่างใส่ลงในภาชนะยา้ ยตวั อยา่ ง ซ่งึ บรรจนุ า้ จากอา่ ง
นา้ ปรบั อุณหภูมิอยู่เต็มวางภาชนะยา้ ยตวั อย่างบนท่ีตงั้ ของเคร่ืองมือ
แลว้ ทาการทดสอบทนั ที
ในแต่ละวิธีดงั กล่าวตอ้ งปรบั เคร่ืองใหเ้ ข็มมาตรฐานท่ีมีนา้ หนัก
กดตามระบสุ มั ผสั กบั ผิวของตวั อยา่ งพอดี ซง่ึ อาจทาไดโ้ ดยการปรบั ปลาย
152
สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
เข็มใหส้ มั ผสั กบั เงาของตวั เข็มซ่งึ เกิดจากการสะทอ้ นมาจากผิวหน้าของ
ตวั อย่าง โดยการตงั้ เคร่ืองมือใหไ้ ดร้ บั แสงสว่างท่ีพอเหมาะตงั้ หนา้ ปัทม์
ให้อ่านค่าทดสอบท่ีศูนย์ แล้วปล่อยเข็มให้แทรกลงบนตัวอย่างตาม
ระยะเวลาท่ีกาหนด จากนนั้ ปรบั หนา้ ปัทมใ์ หอ้ ่านคา่ ระยะทางท่ีเข็มแทรก
ลงไปในตัวอย่าง ในระหว่างท่ีปล่อยเข็มแทรกผ่านตวั อย่างถ้าภาชนะ
บรรจตุ วั อยา่ งเกิดการเคล่ือนท่ีใหถ้ ือวา่ การทดสอบนนั้ ใชไ้ มไ่ ด้
3.4.2 แต่ละตวั อย่างทาการทดลองอย่างนอ้ ย 3 ครงั้ โดยใหต้ าแหน่งท่ีจะใหเ้ ข็มกดลง
บนหนา้ ของตวั อย่างอยหู่ ่างจากรมิ ภาชนะไมน่ อ้ ยกว่า 10 มม. และจดุ ทดสอบแต่
ละจุดอยู่ห่างกันอย่างนอ้ ย 10 มม. ถ้าใชภ้ าชนะยา้ ยตวั อย่างในการทดสอบให้
เปล่ียนน้าในภาชนะย้ายตัวอย่างหลังการทดสอบแล้วทุกครั้ง เพ่ือควบคุม
อุณหภูมิก่อนการทดสอบทุกครัง้ ให้ทาความสะอาดเข็มมาตรฐาน โดยใช้ผ้า
สะอาดชุบคารบ์ อนเตรตระ- คลอไรด์ เช็ดวัสดุยางแอสฟัลตท์ ่ีติดอยู่ออกให้
หมดแล้วใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดอีกครั้งหน่ึง การทดสอบวัสดุท่ีมีค่าเพนิเทรชัน
มากกว่า 200 ใหใ้ ชเ้ ข็มอยา่ งนอ้ ย 3 อนั โดยทิง้ เข็มไวใ้ นตวั อย่างหลงั การทดสอบ
แตล่ ะจดุ แลว้ เรม่ิ ทดสอบดว้ ยเข็มอนั ใหมจ่ นกว่าจะทดสอบเสรจ็ ทกุ จดุ
4. การรายงาน ใหร้ ายงานตามแบบฟอรม์ ตามขอ้ 3.3
ใหร้ ายงานคา่ เฉล่ียของการทดสอบอยา่ งนอ้ ย 3 ครงั้ ความแตกตา่ งของคา่ ทดสอบ
จะตอ้ งไมเ่ กินขอ้ กาหนด ดงั นี้
ค่าเพนเิ ทรชนั 0 ถงึ 49 50 ถงึ 149 150 ถงึ 249 250 ขน้ ไป
คา่ แตกตา่ งระหวา่ งคา่ ทดสอบสงู สดุ และต่าสดุ 2 4 68
5. เกณฑต์ ัดสนิ และความคลาดเคลื่อนทย่ี อมให้
5.1 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากผทู้ ดสอบ ผลการทดสอบ 2 ครงั้ โดยผทู้ ดสอบคน
เดยี วกนั ตวั อยา่ งเดยี วกนั หอ้ งทดสอบ และเคร่ืองทดสอบเดยี วกนั จะตอ้ งตา่ งกนั ไมเ่ กินคา่ ตอ่ ไปนี้
วัสดทดสอบท่ี 25 . เพนเิ ทรชนั ค่าแตกตา่ งทยี่ อมให้
วสั ดยุ างแอสฟัลต์ ต่ากวา่ 50 1 หนว่ ย
153
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
วสั ดยุ างแอสฟัลต์ 50 และสงู กวา่ รอ้ ยละ 3 ของคา่ เฉลยี่
5.2 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากเคร่ืองมือทดสอบ ผลการทดสอบ จากหอ้ งทดสอบ
ตา่ งกนั ตวั อยา่ งเดียวกนั จะตอ้ งตา่ งกนั ไมเ่ กินคา่ ตอ่ ไปนี้
วัสดทดสอบที่ 25 . เพนเิ ทรชนั คา่ แตกตา่ งทยี่ อมให้
ต่ากวา่ 50 4 หนว่ ย
วสั ดยุ างแอสฟัลต์
วสั ดยุ างแอสฟัลต์ 50 หรอื มากกวา่ รอ้ ยละ 8 ของคา่ เฉลย่ี
6. ข้อควรระวัง
6.1 ในการเตรยี มตวั อยา่ ง โดยการใหค้ วามรอ้ นก่อนท่ีจะเทลงสภู่ าชนะบรรจตุ วั อยา่ งนนั้ ควรให้
ความร้อนอย่างสม่าเสมอ เม่ือเทลงสู่ภาชนะบรรจุตัวอย่างแล้ว ต้องสังเกตดูถ้ามี
ฟองอากาศปะปนอยกู่ ็ควรเพ่ิมความรอ้ นอีกเล็กนอ้ ย แลว้ คนไลฟ่ องอากาศใหห้ มด
6.2 ตอ้ งตรวจสอบนา้ หนกั ของแกน เข็ม และนา้ หนกั ถว่ งรวมกนั วา่ ครบตามระบุ เชน่ 100 กรมั
หรือไม่ หากไมถ่ กู ตอ้ ง ตอ้ งทาการแกไ้ ข
7. หนังสืออ้างอิง
7.2 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY OFFICAIALS “STANDARD
SPECIFICATIONS FOR HIGHWAY MATERIALS AND METHOD OF SAMPLING
AND TESTING” PART II AASHTO T. 49
7.3 THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS ASTM D. 5-73
154
สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
โครงการ.................................................. บฟ. มทช.(ท) 609-2545 ทะเบยี นทดสอบ.....................
ส านทกี่ ่อสร้าง.......……………………… (หน่วยงานท่ีทาการทดสอบ) ผู้ทดสอบ
การทดสอบหาคา่ เพนิเทรชัน ผตู้ รว สอบ
…………………………………………… ของวัสดยางแอส ัลต์ ผูร้ บั รอง
ผู้รบั า้ ง.................................................. ชนั้ คณ าพ...............................
ผู้นาส่ง……………………………………
ชนิดตัวอยา่ ง……………ทดสอบครัง้ ท…่ี
ทดสอบวันท…ี่ ………….…… แผ่นท…ี่ ..
PENETROMETER หมายเลข ........... ความละเอยี ด ................ มม. ต่อ 1 ชอ่ งขีดแบง่
นา้ หนกั กด ............... กรมั เวลา.............. วนิ าที อณุ หภมู ิ..................... องศาเซลเซยี ส
ค่าเพนิเทรชันทอี่ ่านได้
ตัวอย่างที่ ตาแหน่งที่ 1 ตาแหน่งที่ 2 ตาแหน่งที่ 3 ค่าเฉลยี่ หมายเหต
155
สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 610-2545
มาตรฐานการทดสอบคา่ การยดื ตัว (DUCTILITY) ของวัสดยางแอส ัลต์
1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบค่าการยืดตวั ของวสั ดยุ างแอสฟัลตน์ ีค้ รอบคลุมถึงการวัดระยะท่ี
แอสฟัลตส์ ามารถยืดออกไปได้ก่อนขาด โดยท่ีปลายทั้งสองข้างของตัวอย่างนั้น ยึดอยู่ในแบบ
มาตรฐาน แลว้ ดงึ ใหย้ ืดออกดว้ ยอตั ราความเรว็ และอณุ หภมู ิท่ีกาหนด
2. วธิ ีทา
2.1 เคร่อื งมือ และอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
2.1.1 แบบ (MOLD) มีขนาดและลักษณะดังแสดงในรูปท่ี 1 ทาดว้ ยทองเหลือง ส่วน
ปลาย B และ B’เรียกว่าตวั ยึด (CLIPS) และ A และ A’ เรียกว่าสว่ นขา้ งของแบบ
แบบนีจ้ ะตอ้ งมีขนาดท่ีจะทาใหต้ วั อย่างยางแอสฟัลตท์ ่ีหล่อออกมาจากแบบแลว้
มีขนาดดงั ตอ่ ไปนี้
ความยาวทงั้ หมด 75 0.5 มม.
ระยะหา่ งระหวา่ งตวั ยดึ 30 0.3 มม.
ความกวา้ งท่ีปากตวั ยดึ 20 0.2 มม.
ความกวา้ งของสว่ นท่ีแคบท่ีสดุ
(ณ ตาแหนง่ ก่ึงกลางระหวา่ งตวั ยดึ ) 10 0.1 มม.
ความหนา 10 0.1 มม
รูปท่ี 1 แบบ สาหรบั ทดสอบคา่ การยืดตวั
156
สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
2.1.2 อา่ งนา้ ปรบั อณุ หภมู ิ เป็นอา่ งนา้ ท่ีสามารถปรบั และควบคมุ อณุ หภมู ใิ หค้ งท่ีได้ โดย
ใหอ้ ณุ หภมู ขิ องนา้ คลาดเคล่ือนไมเ่ กิน 0.1 องศาเซลเซียส มีความจไุ มน่ อ้ ยกวา่ 10
ลิตร มีชนั้ โปรง่ สงู 50 มม. สาหรบั วางตวั อย่าง และตอ้ งใหน้ า้ ท่วมตวั อย่างไดไ้ ม่
นอ้ ยกวา่ 100 มม. นา้ ท่ีใชจ้ ะตอ้ งไมม่ ีนา้ มนั หรอื ส่ิงสกปรกปะปนในกรณีท่ีตอ้ งการ
ทดสอบท่ีอณุ หภมู ติ ่า อาจใชน้ า้ เกลือแทนนา้ ได้
2.1.3 เคร่ืองดงึ สาหรบั ดงึ ตวั อย่างท่ีหล่อแลว้ อาจจะใชเ้ คร่ืองมือใดก็ได้ สามารถดงึ ให้
ตวั ยดึ สองขา้ งแยกออกจากกนั ดว้ ยอตั ราความเรว็ สม่าเสมอตามท่ีกาหนด โดยไม่
มีการส่ันสะเทือน และในขณะทดสอบตัวอย่างจะตอ้ งจมอยู่ในนา้ ตลอดเวลา
ตามท่ีกาหนดไวใ้ นขอ้ 2.5
2.1.4 แผ่นทองเหลืองสาหรบั วางแบบหล่อตวั อย่าง ตอ้ งเป็นแผ่นแบน และเรียบสนิท
เพ่ือให้ดา้ นล่างของแบบเม่ือวางลงบนแผ่นทองเหลืองนีแ้ ล้ว สัมผัสกับแผ่น
ทองเหลืองไดแ้ นบสนิท
2.1.5 ตะแกรงเบอร์ 50
2.2 วสั ดทุ ่ีใชป้ ระกอบการทดสอบ
ใชป้ รอท หรือสบู่ กรดเกลือเจือจาง เกลือ และเมทลิ แอลกอฮอล์
2.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ มทช.(ท) 610-2545
2.4 การเตรียมตวั อยา่ งการทดสอบ
2.4.1 ฉาบปรอท หรือทาสบู่บนแผ่นทองเหลือง และส่วนขา้ งของแบบ ทางดา้ นใน (A
และ A’ ในรูปท่ี 1) แลว้ จึงประกอบแบบทงั้ หมดลงบนแผ่นทองเหลือง (ก่อนฉาบ
ปรอทหรอื ทาสบู่ ถา้ สงั เกตเห็นแผน่ ทองเหลืองและแบบสกปรกมากใหใ้ ชก้ รดเกลือ
เจือจางเชด็ ใหส้ ะอาดเสียก่อน)
2.4.2 ทาตวั อย่างใหเ้ หลว โดยใหค้ วามรอ้ นท่ีอณุ หภมู ิต่าท่ีสดุ (80 องศาเซลเซียส หรือ
145 องศาฟาเรนไฮต)์ การให้ความรอ้ นตอ้ งคนตัวอย่างโดยสม่าเสมอ เพ่ือให้
ตวั อยา่ งเป็นเนือ้ เดียวกนั และเพ่ือไมใ่ หจ้ ุดหน่งึ จุดใดรอ้ นมากเกินไป นาตวั อย่าง
ไปเทผา่ นตะแกรงเบอร์ 50 คนตวั อยา่ งใหท้ ่วั อีกครงั้ หน่งึ แลว้ เทตวั อยา่ งลงในแบบ
ท่ีเตรียมไว้ การเทตวั อย่างใหเ้ ทลงเป็นสายเล็ก ๆ โดยเทจากปลายขา้ งหน่งึ ไปถึง
ปลายอีกข้างหน่ึงของแบบ เทไปมาจนตวั อย่างเต็มลน้ ออกจากแบบเล็กน้อย
ระหว่างเทตัวอย่างลงในแบบจะต้องระวังไม่ให้แต่ละส่วนของแบบเกิดการ
เคล่ือนท่ี
2.4.3 ปลอ่ ยใหต้ วั อยา่ งเยน็ ลง ท่ีอณุ หภมู ิหอ้ งทดสอบ ระหวา่ ง 30-40 นาที แลว้ นาไปแช่
ในอา่ งนา้ ปรบั อณุ หภมู ิ ซ่งึ มีอณุ หภมู ิคงท่ีตามขอ้ กาหนดของการทดสอบ เป็นเวลา
157
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ประมาณ 30 นาที นาส่วนทงั้ หมดขึน้ จากนา้ ใชท้ ่ีปาดตวั อย่าง (SPATULA) เผา
ไฟใหร้ อ้ นพอประมาณตดั ปาดตวั อยา่ งส่วนท่ีเกินออกจากแบบ โดยใหผ้ ิวหนา้ ของ
ตวั อยา่ งในแบบมีระดบั เรียบเตม็ แบบพอดี
2.4.4 นาตวั อยา่ งท่ีเตรียมไดจ้ ากขอ้ 2.4.3 ไปแชใ่ นอา่ งนา้ ปรบั อณุ หภมู ิอีก โดยใชเ้ วลา
ประมาณ 90 5 นาที แลว้ ยกขนึ้ จากนา้ เอาแผน่ ทองเหลืองและส่วนขา้ งทงั้ สอง
ของแบบออก จากนนั้ นาไปทาการทดสอบทนั ที
2.5 การทดสอบ
2.5.1 การทดสอบ จะทาท่ีอณุ หภมู ิ 250.5 องศาเซลเซียส อตั ราความเร็วในการดึง
ตวั อย่างเท่ากับ 5 ซม. ต่อนาที 5 เปอรเ์ ซ็นต์ แต่ถ้าตอ้ งการหาค่าการยืดตัวท่ี
อณุ หภมู ติ ่าใหท้ ดสอบท่ีอณุ หภมู ิ 40.5 องศาเซลเซียส และอตั ราความเรว็ ในการ
ดงึ ตวั อยา่ งเทา่ กบั 1 ซม .ตอ่ นาที5 เปอรเ์ ซน็ ต์
2.5.2 เอาห่วงท่ีปลายของตัวยืด ทั้งสองข้างใส่ลงในขอเก่ียวของเคร่ืองดึงเสร็จแล้ว
เดินเคร่ืองเพ่ือดึงตวั ยืดออกจากกนั ดว้ ยอตั ราความเร็วสม่าเสมอ ตามท่ีกาหนด
จนกระท่งั เสน้ ของตวั อย่างท่ียืดออก ขาดจากกนั อ่านระยะทางท่ียืดออกทันทีท่ี
ตวั อยา่ งขาดเป็นเซนตเิ มตร คอื คา่ การยืดตวั ของวสั ดยุ างแอสฟัลต์
2.5.3 ถา้ ในระหวา่ งการทดสอบ เสน้ ของตัวอยา่ งท่ีถกู ดงึ ออกนนั้ ลอยขนึ้ มาท่ีผิวนา้ หรือ
สมั ผสั กบั พืน้ ล่างของอ่าง จะตอ้ งทาการปรบั ความถ่วงจาเพาะของนา้ ในอ่าง ถา้
เสน้ ตวั อยา่ งลอยขนึ้ มาท่ีผิวนา้ ใหเ้ ตมิ เมทิลแอลกอฮอลล์ งไปในนา้ เพ่ือทาใหน้ า้ มี
ความถ่วงจาเพาะนอ้ ยลง แตถ่ า้ เสน้ ตวั อยา่ งสมั ผสั กบั พืน้ ล่างของอ่างใหเ้ ตมิ เกลือ
ลงไปในนา้ เพ่ือทาใหน้ า้ มีความถ่วงจาเพาะมากขนึ้ ขอ้ สาคญั ตอ้ งใหเ้ สน้ ตวั อยา่ ง
อยใู่ นนา้ ตลอดเวลาของการทดสอบ
3 การรายงาน
ใหร้ ายงานตามแบบฟอรม์ ตาม ขอ้ 2.3
4 เกณฑต์ ดั สนิ และความคลาดเคล่ือนทย่ี อมให้
4.1 การทดสอบท่ีถูกตอ้ ง ตวั อยา่ งท่ีอย่รู ะหวา่ งตวั ยึดจะตอ้ งถกู ยืดออกจากกันเป็นเสน้ ซ่ึงเล็ก
มากจนพืน้ ท่ีหนา้ ตดั วดั ไมไ่ ด้ แลว้ เสน้ นนั้ จะขาดออกจากกนั ใหท้ าการทดสอบ 3 ครงั้ แลว้
รายงานคา่ เฉล่ียของผลการทดสอบ 3 ครงั้ นนั้
158
สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
4.2 ถา้ ทาการทดสอบ 3 ครงั้ แลว้ ไมเ่ ป็นไปตามขอ้ กาหนดดงั กลา่ ว เชน่ ตวั อยา่ งท่ีถกู ดงึ ออกไม่
เป็นเส้นเล็กมาก ในขณะขาดออกจากกัน หรือไม่สามารถทาให้ตัวอย่างอยู่ในนา้ ได้
ตลอดเวลา ใหร้ ายงานวา่ ทดสอบไมไ่ ด้ พรอ้ มกบั รายงานสภาวะในการทดสอบดว้ ย
5 ข้อควรระวัง
เพ่ือปอ้ งกนั อนั ตรายซ่ึงอาจจะเกิดจากพิษของปรอทท่ีใชฉ้ าบแผ่นทองเหลืองและแบบควรปฏิบตั ิ
ดงั นี้
5.1 เก็บปรอทไวใ้ นขวดท่ีปิดสนทิ และเก็บไวใ้ นท่ีเย็น
5.2 ระวงั อยา่ ใหป้ รอทหกออกจากขวด
5.3 ทาการฉาบปรอทในตคู้ วนั เพ่ือกาจดั ไอของปรอท
5.4 แผ่นทองเหลือง หรือแบบท่ีฉาบปรอทไวแ้ ลว้ จะตอ้ งไม่นาไปวางไวใ้ นท่ีท่ีอุณหภมู ิสงู กว่า
อณุ หภมู หิ อ้ งทดสอบ
6 หนังสืออ้างอิง
THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY OFFICIALS “STANDARD
SPECIFICATION FOR HIGHWAY MATERIALS AND METHOD OF SAMPLING AND
TESTING” PART II AASHTO T. 51
159
สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
โครงการ............................................... บฟ. มทช.(ท) 610-2545 ทะเบียนทดสอบ.....................
ส านทกี่ อ่ สร้าง.......…………………… ผู้ทดสอบ
…………………………………………… (หน่วยงานที่ทาการทดสอบ) ผู้ตรว สอบ
การทดสอบหาคา่ การยืดตวั ผูร้ บั รอง
ผู้รบั ้าง................................................
ผู้นาสง่ ………………………………… ของวสั ดยางแอส ัลต์
ชนิดตัวอย่าง…….……ทดสอบครัง้ ท…่ี
ทดสอบวนั ท…ี่ ……………….แผน่ ท…ี่ . ชนั้ คณ าพ..................................
ความเรว็ .................. ชม. ต่อ นาที อณุ หภูมิ ........................ องศาเซลเซียส
2 3 ค่าเฉลีย่
ตัวอย่างที่ การทดสอบครัง้ ที่ คา่ การยดื ตวั ( ม.)
1
160
สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 101.1-2545
วธิ ีการทดสอบหาส่วนคละ (sieve analysis) ของวัสดมวลรวม (aggregate)
1. ขอบข่าย
วิธีการทดสอบนีค้ รอบคลมุ ถึงการหาการกระจายของขนาด (particle size distribution) ของวสั ดมุ วล
รวม ทงั้ มวลรวมละเอียดและมวลรวมหยาบ โดยใหผ้ ่านตะแกรงมาตรฐานจากขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็ก
แลว้ เปรยี บเทียบนา้ หนกั ท่ีผา่ นหรอื คา้ งตะแกรงขนาดตา่ ง ๆ กบั นา้ หนกั ทงั้ หมดของตวั อยา่ ง
2. นิยาม
การกระจายของขนาดวสั ดมุ วลรวม หมายถงึ การท่ีวสั ดมุ วลรวมประกอบดว้ ยเมด็ วสั ดหุ ลายขนาดตา่ ง
ๆ กนั เช่น ตงั้ แต่ 100 มิลลิเมตร ลงมาจนถึง 0.0002 มิลลิเมตร ซ่งึ สมบตั ิทางกายภาพของวสั ดมุ วลรวมจะ
ขนึ้ อยกู่ บั ขนาดของเม็ดวสั ดุ
การกระจายของขนาดเม็ดวสั ดมุ วลรวมแสดงดว้ ยกราฟความสมั พนั ธ์ ระหว่างขนาดเม็ดวสั ดใุ นสเกล
ลอการิทึม (logarithm scale) อยู่บนแกนนอน และรอ้ ยละโดยนา้ หนักของเม็ดท่ีมีขนาดเล็กกว่าท่ีระบุ
(percent finer) อยู่บนแกนตงั้ ซ่ึงเรียกว่ากราฟการกระจายของขนาดเม็ดวัสดุ (grain size distribution
curve)
3. วธิ ีทา
3.1 เคร่อื งมือท่ีใชท้ ดสอบประกอบดว้ ย
3.1.1ตะแกรงชอ่ งผา่ นเป็นส่ีเหล่ียมจตั รุ สั ขนาดชอ่ งผา่ นตา่ ง ๆ ตามตอ้ งการพรอ้ มเคร่อื งมือเขย่า
ตะแกรง และตะแกรงตอ้ งสามารถปอ้ งกนั ไมใ่ หว้ สั ดสุ ญู หายจากตะแกรงได้
3.1.2เคร่อื งช่งั สามารถช่งั ไดล้ ะเอียดถงึ รอ้ ยละ 0.2 ของตวั อยา่ งทงั้ หมด
3.1.3เตาอบสามารถควบคมุ อณุ หภมู ิใหค้ งท่ีได้ 110 5 องศาเซลเซียส
3.1.4เคร่อื งมือแบง่ ตวั อยา่ ง (sample splitter) ขนาดตา่ ง ๆ
3.1.5แปรงทาความสะอาดตะแกรงชนดิ ลวดทองเหลือง และแปรงขนหรอื แปรงพลาสตกิ
3.1.6ภาชนะสาหรบั ใชแ้ ชแ่ ละลา้ งตวั อย่างวสั ดุ ชนิดลา้ งตวั อย่างวสั ดุ ชนิดลา้ งดว้ ยมือหรือชนิด
ใชเ้ คร่อื งเขยา่
161
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3.1.7 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ.มทช.(ท) 101.1.1–2545 และ มทช.(ท) 101.1.2–2545 : วธิ ีการ
ทดสอบหาสว่ นคละ (sieve analysis) ของวสั ดรุ วม
3.2 การเตรยี มตวั อยา่ ง
3.2.1การเตรียมตวั อยา่ งโดยผ่านตะแกรงแบบไม่ลา้ ง นาตวั อยา่ งมาคลุกใหเ้ ขา้ กนั และแยกตวั
อยา่ งโดยใชเ้ คร่ืองแบง่ ตวั อยา่ งในขณะท่ีตวั อยา่ งมีความชืน้ เพ่ือลดการแยกตวั ถา้ ตวั อย่าง
ไมม่ ีสว่ นละเอียดอาจจะแบง่ ขณะท่ีตวั อย่างแหง้ อย่กู ็ได้ ถา้ มีสว่ นละเอียดจบั เป็นกอ้ นใหญ่
หรือมีสว่ นละเอียดจบั กนั เองเป็นกอ้ น ตอ้ งทาใหส้ ่วนละเอียดหลดุ ออกจากกอ้ นใหญ่ โดย
ใหท้ บุ แยกเม็ดวสั ดอุ อก เป็นเมด็ อสิ ระดว้ ยคอ้ นยาง แต่ตอ้ งระวงั อยา่ ใหแ้ รงมากจนเมด็ วสั ดแุ ตก
3.2.2การเตรียมตวั อย่างโดยผา่ นตะแกรงแบบลา้ ง นาตวั อยา่ งท่ีมีสว่ นละเอียดจบั กนั เป็นกอ้ นไม่
แยกออกจากกนั โดยใชค้ อ้ นยางทบุ แลว้ นาไปอบใหแ้ หง้ ท่ีอณุ หภมู ิ 110 5 องศาเซลเซียส
เพ่ือหานา้ หนกั ตวั อย่างแหง้ นาตวั อย่างใสภ่ าชนะสาหรบั ใชล้ า้ งตัวอย่าง โดยใชน้ า้ ยาลา้ ง
ส่วนละเอียด ซ่ึงเตรียมไดจ้ ากการละลายผลึกโซเดียมเฮคชะเมตตาฟอสเฟต (sodium
hexametaphoshate) ซ่ึงทาให้เป็นกลางด้วยโซเดียมคารบ์ อเนต (sodium carbonate)
จานวน 45.7 กรมั ละลายในนา้ 1,000 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร คนผสมกนั ใหท้ ่วั ตงั้ ทิง้ ไวอ้ ย่าง
นอ้ ย 4 ช่วั โมง แลว้ นาไปเขยา่ ประมาณ 20 นาที ขณะเขยา่ ระวงั อยา่ ใหน้ า้ กระฉอกออกจาก
ภาชนะ เทตวั อยา่ งในภาชนะลงบนตะแกรง เบอร์ 200 ถา้ หากมีตวั อยา่ ง ขนาดใหญ่ปนอยู่
มาก ควรใชต้ ะแกรงท่ีมีขนาดใหญ่กว่า เบอร์ 200 ซอ้ นไว้ ใชน้ า้ ลา้ งจนกว่าไม่มีวสั ดุผ่าน
ตะแกรง เบอร์ 200 อีก เทตัวอย่างลงในภาชนะ แล้วนาไปอบแห้งท่ีอุณหภูมิ 110 5
องศาเซลเซียส
3.3 การทดสอบ
3.3.1นาตวั อย่างท่ีไดจ้ ากการเตรียมตวั อย่าง 3.3.1 หรือ 3.3.2 แลว้ แต่ว่าจะตอ้ งการทดสอบ
แบบใดมา โดยประมาณใหไ้ ดต้ วั อยา่ งเม่ือแหง้ แลว้ ตารางท่ี 1
3.3.2 นาตวั อย่างไปเขย่าในตะแกรงขนาดต่าง ๆ ตามตอ้ งการ การเขย่านีต้ อ้ งใหต้ ะแกรง
เคล่ือนท่ีทั้งในแนวราบและแนวด่ิง รวมทั้งมีแรงกระแทกขณะเขย่าด้วย เขย่านาน
จนกระท่งั ตวั อย่างผ่านตะแกรงแต่ละชนิดใน 1 นาที ไม่เกินรอ้ ยละ 1 ของตวั อย่างใน
ตะแกรงนัน้ หรือใชเ้ วลาเขย่านานทัง้ หมดประมาณ 15 นาที เม่ือเขย่าเสร็จแลว้ ถ้ามี
ตวั อย่างกอ้ นใหญ่กวา่ ตะแกรงขนาด (เบอร์ 4) ตอ้ งมีตวั อย่างคา้ งตะแกรงแตล่ ะขนาดไม่
เกิน 6 กรมั ต่อ 1,000 ตารางมิลลิเมตร หรือไม่เกิน 200 กรมั สาหรบั ตะแกรงเสน้ ผ่าน
ศนู ยก์ ลาง 200 มิลลเิ มตร (8 นวิ้ ) นาตวั อยา่ งท่ีคา้ งแตล่ ะขนาดของตะแกรงไปช่งั
162
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ตารางท่ี 1
ขนาดตะแกรง นา้ หนกั ตวั อยา่ งไมน่ อ้ ยกวา่ (กิโลกรมั )
4.75 มิลลิเมตร (เบอร์ 4) 0.5
9.5 มิลลเิ มตร (3/8 นวิ้ ) 1.0
12.5 มลิ ลเิ มตร (1/2 นวิ้ ) 2.0
19.0 มิลลเิ มตร (3/4 นวิ้ ) 5.0
25.0 มิลลิเมตร (1 นิว้ ) 10.0
37.5 มลิ ลิเมตร (1 1/2 นวิ้ ) 15.0
50.0 มิลลเิ มตร (2 นิว้ ) 20.0
63.0 มลิ ลเิ มตร (2 1/2 นวิ้ ) 35.0
75.0 มลิ ลเิ มตร (3 นวิ้ ) 60.0
90.0 มิลลเิ มตร (3 1/2 นวิ้ ) 100.0
4. การคานวณ
4.1 หานา้ หนกั ท่ีคา้ งบนตะแกรง (weight retained) แตล่ ะขนาดโดยช่งั นา้ หนกั ของนา้ หนกั ของตวั อย่าง
วสั ดมุ วล ท่ีคา้ งบนตะแกรง และท่ีคา้ งบนถาดรอง (PAN) สว่ นนา้ หนกั ท่ีหายไป หาไดโ้ ดยเอานา้ หนกั
ของตวั อย่างท่ีคา้ งบนทุกตะแกรงและบนถาดรอง รวมกันแลว้ หกั ออกจากหนักออกจากนา้ หนัก
ตวั อยา่ งอบแหง้ หมด ซ่งึ ใชท้ ดสอบ
4.2 หานา้ หนกั ท่ีผ่านตะแกรง (weight passing) แตล่ ะขนาด โดยการนาเอาผลรวมของนาหนกั ตวั อย่าง
ท่ีคา้ งบนทกุ ตะแกรง และบนถาดรองมาหกั ออกดว้ ยนา้ หนกั ท่ีคา้ งตะแกรงชนั้ บนสดุ ก็จะเป็นนา้ หนกั
ของวัสดุท่ีผ่านตะแกรงชั้นบนสุดมาลบออกจาก นา้ หนักของวัสดุท่ีคา้ งตะแกรงชั้นล่างลงมา
ดาเนินการแบบท่ีกลา่ วมาแลว้ นนั้ ไปเร่ือย ๆ จนกระท่งั ครบทกุ ตะแกรง
4.3 คานวณหาคา่ รอ้ ยละของวสั ดทุ ่ีผา่ นตะแกรงโดยนา้ หนกั (percent passing) ไดด้ งั นี้
รอ้ ยละของวสั ดทุ ่ีผา่ นตะแกรงโดยนา้ หนกั = นา้ หนกั ของตวั อยา่ งท่ีผา่ นตะแกรงแตล่ ะขนาด x 100
นา้ หนกั ของตวั อยา่ งแหง้ ทงั้ หมดท่ีใชท้ ดสอบ
163
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
5. การรายงาน
ใหร้ ายงานคา่ รอ้ ยละของวสั ดขุ นาดต่าง ๆ โดยนา้ หนกั ดว้ ยทศนิยม 1 ตาแหน่ง ตามแบบฟอรม์ ท่ี บฟ.
มทช.(ท) 101.1.1-2545 : วธิ ีการทดสอบหาสว่ นคละ (sieve analysis) ของวสั ดมุ วลรวม
5.1 คา่ รอ้ ยละของวสั ดทุ ่ีผา่ นตะแกรงขนาดตา่ ง ๆ
5.2 คา่ รอ้ ยละของวสั ดทุ ่ีคา้ งตะแกรงขนาดตา่ ง ๆ
6. เกณฑก์ ารตัดสินและความคลาดเคลอ่ื นทยี่ อมให้
6.1 สาหรบั วสั ดมุ วลรวมละเอียด จะตอ้ งมีการกระจายของขนาดเม็ดวสั ดเุ ป็นตาม ตารางท่ี 2
ตารางที่ 2
ขนาดตะแกรง (ตามมาตรฐาน ASTME-11) รอ้ ยละของวสั ดมุ วลท่ีผา่ นตะแกรง
9.5 มิลลิเมตร (3/8 นวิ้ ) 100
4.75 มิลลิเมตร (no. 4) 95-100
2.36 มิลลเิ มตร (no. 8) 80-100
1.18 มลิ ลเิ มตร (no. 16) 50-85
600 ไมโครเมตร (no. 30) 25-60
300 ไมโครเมตร (no. 50) 10-30
150 ไมโครเมตร (no. 100) 2-10
6.1.1 ตอ้ งมีคา่ รอ้ ยละท่ีคา้ งโดยนา้ หนกั บนตะแกรงระหว่างตะแกรงเบอรใ์ ด ๆ ท่ีตดิ กนั ไดไ้ ม่เกินรอ้ ย
ละ 45 และตอ้ งมีคา่ พิกดั ความละเอียด (fineness modulus) ตงั้ แต่ 2.3 ถงึ 3.1
6.2 สาหรบั วสั ดมุ วลรวมหยาบ จะตอ้ งมีการกระจายของขนาดเม็ดวสั ดตุ ามท่ีแสดงไวใ้ น ตารางท่ี 3
164
สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ตารางที่ 3
ขนาด 12 357 สว่ นท่ีผา่ นตะแกรง รอ้ ยละโดยนา้ หนกั 8 3 4
ตะแกรง เขตการแบง่ ขนาด
100 - - - - -
รอ่ น - 467 57 67 7 - -
90- - - - -
100 100 100 ---- 100 -
มิลลเิ มตร - 100 95-100 90-100 100
- ----- 35-70 99-100
90 25-60 90-100 35-70 0-15 20-55
มิลลเิ มตร - ----- - 0-15
- 35-70 10-30 0-5 -
75 - ----- - 0-5
มิลลเิ มตร 0-15 0-15 0-5 - -
- 100 - - - - - -
63 --
มิลลเิ มตร 95-100 100 - - -
0-5 0-5
50 - 95-100 100 - -
มิลลเิ มตร --
37-70 - 90-100 100 -
37.5 --
มลิ ลเิ มตร - 25-60 - 90-100 100
--
25 10-30 - 20-55 40-70 85-100
มิลลเิ มตร --
0-5 0-10 0-10 0-15 10-30
18
มิลลเิ มตร - 0-5 0-5 0-5 0-10
12.5
มิลลเิ มตร
9.5
มิลลเิ มตร
4.75
มลิ ลเิ มตร
2.36
มลิ ลเิ มตร
165
สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
1.38 - - - - - - - 0-5 - -
มลิ ลเิ มตร
7. ข้อควรระวัง
7.1 การแบ่งตวั อย่างดว้ ยเคร่ืองแบง่ ตวั อย่าง ตอ้ งใชเ้ คร่ืองมือขนาดช่องกวา้ งประมาณ 1 ½ เท่าของ
กอ้ นโตท่ีสดุ
7.2 ตรวจดตู ะแกรงบอ่ ย ๆ ถา้ ชารุดตอ้ งซอ่ มกอ่ นใช้ โดยเฉพาะเบอร์ 200
7.3 หา้ มใสต่ วั อยา่ งลงในตะแกรงขณะท่ียงั รอ้ นอยู่
7.4 การทบุ ตวั อยา่ งดนิ ตอ้ งไมแ่ รงมากจนทาใหเ้ ม็ดวสั ดมุ วลรวมแตก
7.5 การเขยา่ อยา่ เขยา่ นานจนตวั อยา่ งกระแทกแตกเป็นผง
8. หนงั สืออา้ งอิง
8.1 The AMERICAN Society for Testing and Materials, ASTM. Designation : C 136 – 84
8.2 The AMERICAN Society for Testing and Materials, ASTM. Designation : C 33 – 86
166
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
โครงการ บฟ. มทช.(ท) 101.1.1-2545 ทะเบยี นทดสอบ
........................
................................................. (หนว่ ยงานท่ีทาการทดสอบ) ผทู้ ดสอบ
...................................................... การทดสอบหาขนาดเม็ดวสั ดุ ผู้
ตรวจสอบ
.. อนมุ ตั ิ
สถานท่ีก่อสรา้ ง หลมุ เจาะหมายเลข
...................................... ............................
..ห.ต..ม.ะ.า.แ.ย.ก.เ.ร.ล..ผง..ข..ร.ู้...บั.....จ....า้....ง......หต..น...(...ะรา.ก้...อืแ..ห.ร...ผ..กม.ัน...นูร้.).กั.ง.า....ส.....ง่........ตน..(+ะ.าก้.แ.หรด.ก.มัน.นิ ร)กั ง ป..ร.มิ..น.าท.ตาต.้ .(่ีคะห.กร.า้แแ.นร.งกบ.มักั.บคร.ลบ)ด.นงว.บน.ิ.า.....มซ....ล.ม....ก.ึ.ด..น..นิ..ตน....(ทะ...กข..ร่ีคแ..รออ.้เกา.้มมัง.ยง.ร)ต.ลบง.ร.ะน.. นน.รอ้ ยละ นน.รอ้ ยละ
ชนิดตวั อยา่ ง................ทดสอบครงั้ ของ ของ
ดนิ ท่ีมี
ดนิ ท่ีคา้ ง ขนาด
สะสม
เลก็ กวา่
ท่ี…..
ทดสอบวนั ท่ี........................ แผน่
ท่ี........
167
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
168
โครงการ……………………………………………..… บฟ.มทช.(ท) 101.1.2- 2545 ทะเบียนทดสอบ………………………...
………………………………………………………….. ผทู้ ดสอบ
ผตู้ รวจสอบ
สถานทีก่ ่อสรา้ ง………………………………………. (หนว่ ยงานทท่ี าการทดสอบ) อนมุ ตั ิ
ผรู้ บั จา้ ง………………………………………………… การทดสอบหาขนาดเม็ดวสั ดุ การทดสอบหาสารอนิ ทรยี เ์ จือปน
ชนิดตวั อยา่ ง………………… ทดสอบครงั้ ที่………. แหลง่ วสั ด…ุ ………………………………………
ทดสอบวนั ที่…………………… แผน่ ท่ี…………….
ชนั้ คณุ ภาพ………………………………………..
Gravel Sand Silt Fines
Coarse to Fine Clay
MediumU.S.standard sieve sizes
U.S.standard sieve sizes
_ ¾ in.
- No.4 สีของสารละลายท่ไี ดจ้ ากการทดสอบ
- No.10 ( ) สีออ่ นกวา่ สีมาตรฐาน
- No.20
- No.40
_ No.100
_ No.200
100 สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
7
169
80 ( ) สีใกลเ้ คียงสีมาตรฐาน
60 ( ) สีแก่กวา่ สีมาตรฐาน
40 สรุปผลการทดสอบ
( ) เหมาะสมท่จี ะนามาใชง้ านได้
20 ( ) ไมเ่ หมาะสมท่จี ะนามาใชง้ าน
0
(diameter in mm.) 0.005
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 101.2-2545
วิธีการทดสอบหาความสกหรอของวัสดมวลรวมหยาบ (coarse aggregate)
โดยใช้เครื่องทดสอบ ลอสแองเ ลิส (los angeles)
1. ขอบข่าย
วิธีการทดสอบนีค้ รอบคลุมถึงการหาค่าความสึกหรอของวสั ดุมวลรวมหยาบ โดยใชเ้ คร่ือง
ทดสอบหาความสกึ หรอ ลอสแองเจลสิ
2. วธิ ีทา
2.1 เคร่อื งมือ ประกอบดว้ ย
2.1.1 เคร่ืองทดสอบหาความสึกหรอ ลอสแองเจลิส มีลักษณะขนาดตามรูปท่ี 1
ประกอบดว้ ยทรงกระบอกปิดหัวและทา้ ย มีเสน้ ผ่านศูนยก์ ลางภายใน 7115
มิลลิเมตร (280.2 นิ้ว) ความยาวภายใน 5085 มิลลิเมตร (200.2 นิ้ว)
ทรงกระบอกเหล็กนีต้ ดิ อยกู่ บั เพลา และหมนุ รอบแกนไดใ้ นแนวราบมีช่องสาหรบั
ใส่วสั ดพุ รอ้ มฝาเหล็ก ฝาเหล็กเม่ือปิดแลว้ ตอ้ งมีลกั ษณะผิวเหมือนกับผิวดา้ นใน
ของทรงกระบอกเหล็กและเสมอกัน ซ่ึงไม่ทาให้ แอบบราชิพ ชารจ์ (abrasive
charge) สะดดุ เวลากลิง้ ผ่านรอยต่อมีเหล็กขวางสงู 892 มิลลิเมตร (3.50.1
นิว้ ) ยาว 5085 มิลลิเมตร (200.2 นิว้ ) ติดแน่นตามยาวดา้ นในทรงกระบอก
เหล็ก ระยะจากเหล็กขวางถึงชอ่ งสาหรบั ใสว่ สั ดไุ มน่ อ้ ยกวา่ 1,270 มิลลิเมตร (50
นวิ้ ) วดั ตามความยาวเสน้ รอบวงภายนอกทรงกระบอกเหล็ก
หมายเหตุ เหลก็ ขวางควรมีหนา้ ตดั เป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผา้ ตดิ อยกู่ บั ผนงั ขอบทรงกระบอกเหล็กหรือ
อาจจะใชเ้ หล็กฉากแทน โดยติดท่ีริมฝาเหล็กช่องใส่วัสดุ ใหด้ า้ นนอกของเหล็กฉากหันไปตาม
ทิศทางท่ีหมนุ
2.1.2 ตะแกรงสาหรบั หาขนาดของวสั ดมุ วลรวมหยาบ ใชต้ ะแกรงมีชอ่ งแผน่ เป็นส่ีเหล่ียม
จตั รุ สั ขนาด 75.0 มิลลิเมตร (3 นิว้ ), 63.0 มิลลิเมตร (2 1/2 นิว้ ), 50.0 มิลลิเมตร
(2 นิว้ ), 19.0 มิลลิเมตร (3/4 นิว้ ), 6.3 มิลลิเมตร (1/2 นิว้ ), 4.75 มิลลิเมตร (เบอร์
4), 2.36 มิลลเิ มตร (เบอร์ 8), 1.70 มลิ ลเิ มตร (เบอร์ 12)
2.1.3 เคร่อื งช่งั ซ่งึ สามารถช่งั ได้ 15 กิโลกรมั ความละเอียดอา่ นไดถ้ งึ 1 กรมั
2.1.4 แอบบราซิพ ชารจ์ (abrasive charge) เป็นลกู เหล็กทรงกลมเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง
ประมาณ 46.8 มิลลิเมตร (1 27/32 นิว้ ) แต่ละลูกหนักระหว่าง 390-445 กรัม
170
สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
จานวนแอบบราซพิ ชารจ์ ขนึ้ อยกู่ บั ชนั้ (grading) ของตวั อยา่ งและชนั้ ของตวั อยา่ ง
ไดก้ าหนดไวใ้ น ตารางท่ี 1
ตารางที่ 1 านวนแอบบรา ิพ ชาร์ ทใี่ ช้ในการทดสอบแต่ละช้ัน
ช้ัน แอบบรา พิ ชาร์ นา้ หนักรวม (กรัม) หมายเหต
(ลูก)
A 12 5,00025 สาหรบั มวลรวมหยาบท่ีมีขนาด
B 11 4,58425 ใหญ่สดุ ไมเ่ กิน 19 มลิ ลเิ มตร
C 8 3,33025
D 6 2,50025
E 12 5,00025 สาหรบั มวลรวมหยาบท่ีมีขนาด
F 12 5,00025 ใหญ่สดุ เกินกวา่ 19 มลิ ลิเมตร
G 12 5,00025
2.2 แบบฟอรม์
ใหใ้ ชแ้ บบฟอรม์ เลขท่ี บฟ. มทช.(ท) 101.2-2545 : วิธีการทดสอบหาความสึกหรอของ
วสั ดมุ วลรวมหยาบโดยใชเ้ คร่อื งทดสอบลอสแองเจลิส
2.3 การเตรยี มตวั อยา่ ง
2.3.1 ถา้ ตวั อยา่ งมีดนิ เหนียวปน หรอื มีสว่ นละเอียดตดิ กอ้ นใหญ่แนน่ ใหน้ าตวั อยา่ งไปลา้ ง
นา้ เอาสว่ นท่ีผ่านตะแกรง เบอร์ 8 ออกทิง้ แลว้ นาส่วนท่ีคา้ งตะแกรง เบอร์ 8 มาอบ
จนแหง้ ท่ีอณุ หภมู ิ 105-110 องศาเซลเซียส
2.3.2 นาตวั อย่างไปแยกขนาดตามขนาด ในตารางท่ี 2 ถา้ เขา้ ไดห้ ลายขนาด ใหเ้ ลือกใช้
ตวั อยา่ งท่ีใกลเ้ คียงกบั ขนาดท่ีตอ้ งการใชง้ านมากท่ีสดุ
2.4 การทดสอบ
นาตวั อย่างท่ีเตรียมไวจ้ าก ขอ้ 2.3 และแอบบราซิพ ชารจ์ ตามจานวนลกู ในขอ้ 2.1.3
ใส่เขา้ ไปในเคร่ืองลอสแองเจลิส หมนุ เคร่ืองดว้ ยความเร็วท่ี 30-33 รอบตอ่ นาที ใหไ้ ดจ้ านวน
ตามตารางท่ี 1 เม่ือหมนุ ไดค้ รบตามกาหนดแลว้ ใหเ้ อาตวั อยา่ งออกจากเคร่ืองลา้ งส่วนท่ีผ่าน
ตะแกรงเบอร์ 12 ออกทิง้ นาส่วนท่ีคา้ งตะแกรงเบอร์ 12 มาอบท่ีอุณหภูมิ 105-110 องศา
เซลเซียส จนไดน้ า้ หนกั คงท่ี จงึ ช่งั หานา้ หนกั ตวั อยา่ งท่ีเหลือ
รูปที่ 1 : เครอ่ื งมือทดสอบความสกหรอ (แบบลอสแองเ อลีส)
171
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
172
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ตารางท่ี 2
ขนาดตะแกรง (มม.) นา้ หนกั (กรมั ) และ ชนั้ ของตวั อยา่ ง
ผา่ น คา้ ง AB CD E F G
75.0 63.0 500025
63.0 50.8 250050 500050 500025
50.8 37.5 500025
37.5 25.0 250050 1000050
25.0 19.0
19.0 12.5 250050
12.5 9.5
9.5 6.3 125025 250010
6.3 4.75 125025 250010
4.75 2.36 125010
นา้ หนกั ตวั อยา่ งรวม 125010
500010 500010 250010
250010
500010 500010 10000100 1000075
จานวนรอบ 500 1000
3. การคานวณ
ความสกึ หรอโดยใชเ้ คร่ืองลอสแองเจลิส = W1 – W2 x 100
W1
W1 นา้ หนกั ตวั อยา่ งทงั้ หมดท่ีใชท้ ดสอบ เป็นกรมั
W2 นา้ หนกั ท่ีคา้ งบนตะแกรง 1.70 มิลลเิ มตร (เบอร์ 12) เป็นกรมั
4. การรายงาน
ใหร้ ายงานคา่ ความสึกหรอโดยใชเ้ คร่ืองลอสแองเจลิส เป็นรอ้ ยละโดยมีความละเอียดเป็นทศนิยม 1
ตาแหนง่ ลงในแบบฟอรม์
5. เกณฑก์ ารตดั สินและความคลาดเคล่อื นทยี่ อมให้
ค่าความสึกหรอโดยใชเ้ คร่ืองลอสแองเจลิส (คิดเป็นรอ้ ยละ) ของวสั ดมุ วลหยาบท่ีใชใ้ นงานคอนกรีต
ตอ้ งมีคา่ ไมม่ ากกวา่ รอ้ ยละ 50
6. ข้อควรระวัง
173
สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
6.1 ใหท้ าการช่งั แอบบราชิพชารจ์ แตล่ ะลูกอย่างนอ้ ย 1 ครงั้ ทุก ๆ 6 เดือน เพ่ือตรวจสอบให้
เป็นไปตาม ขอ้ 2.1.4
6.2 ในกรณีท่ีเหล็กขวาง เป็นเหล็กฉากใหต้ ิดท่ีริมฝาเหล็กปิดช่องใส่วสั ดุ การติดตอ้ งใหด้ า้ น
นอกของเหล็กฉากหนั ไปในทิศทางท่ีเคร่ืองหมนุ
7. หนังสอื อ้างองิ
7.1 THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS, ASTM. STANDARD C
131
7.2 THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS, ASTM. STANDARD C
535
174
สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
โครงการ บ . มทช.(ท) 101.2-2545 ทะเบียนทดสอบ
.........................................…. (หน่วยงานที่ทาการทดสอบ) .....................
.. ผู้ทดสอบ
.............................................. การทดสอบหาคา่ การสกหรอของวสั ดมวลรวม ผู้ตรว สอบ
.......…….. หยาบโดยใชเ้ ครอื่ งทดสอบลอสแองเ ลสิ อนมตั ิ
(los angeles)
ส านทกี่ อ่ สรา้ ง
....................................
..............................................
...จ...า..น.…วน..ข.ผองรู้ ลบั กู เ้าหงลหก็ รทอื รงผกู้ ลม............................................ แหลง่ วสั ด.ุ ....................................................
นานสา้ ง่ ห..น..ก.ั ..ข..อ..ง..ล..กู..เ.ห...ล..ก็ ..ท..ร..ง.กลม......................................กรมั ชนั้ คณุ ภาพ...................................................
ชนิดตวั อยา่ ง............ทดสอบความเรว็ ของการหมนุ เครอ่ื ง...............................รอบ/นาที
คร้งั ที่.…... นา้ หนกั ของตวั อยา่ ง (กรมั ) หมายเหตุ
ทดสอบขนวานั ดทต.่ี .ะ..แ..ก..ร.ง...(.ม.....ม.แ.)ผน่ 12 3
ผา่ นที.่ ............. คา้ ง
175
สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 101.3-2545
วธิ ีการทดสอบหาสารอนิ ทรียเ์ อื ปน (organic impurities)
1. ขอบข่าย
วิธีการทดสอบนี้ ครอบคลุมถึงการหาวัสดุอินทรีย์ซ่ึงเป็ นสารผุพังท่ีปะปนอยู่ในวัสดุ
โดยประมาณ
2. วิธีทา
2.1 เคร่อื งมือ
เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการทดสอบประกอบดว้ ยขวดแก้วใสขนาดประมาณ 360 ลูกบาศก์
เซนติเมตร (12 ออนซ์) มีขีดแสดงความจุเป็ นลูกบาศก์เซนติเมตร หรือจะใช้ขีด
เคร่อื งหมายท่ีขวดแกว้ แทนก็ได้
2.2 วสั ดทุ ่ีใชป้ ระกอบการทดสอบ
2.2.1 สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide) เขม้ ขน้ รอ้ ยละ 3 เตรียมไดโ้ ดยช่งั
สารโซเดยี มไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide) 30 กรมั ผสมกบั นา้ สะอาดจนไดป้ รมิ าตร
1 ลิตร
2.2.2 แถบสีมาตรฐาน โดยกาหนดมาตรฐาน ดงั นี้
สีมาตรฐานของการด์ เนอร์ (gardner) สีของสารอินทรยี ์
หมายเลข หมายเลข
5 1
8 2
11 3 (มาตรฐาน)
14 4
16 5
2.2.3 ถา้ ไมม่ ีแถบสีมาตรฐานจะเตรยี มผสมสารละลายเพ่ือทาเป็นสีมาตรฐานแทนได้ ดงั นี้
ใหเ้ ตรยี มสารละลายชนิดแรกคอื นาโซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide) ท่ีเขม้ ขน้
รอ้ ยละ 3 แล้วนามาผสมกับสารละลายชนิดหลัง คือ กรดเทนนิค (tannic acid) ท่ี
เขม้ ขน้ ผสมในสารละลายของแอลกอฮอลก์ บั นา้ (มีแอลกอฮอล์ รอ้ ยละ 10) โดยเอากรด
เทนนิค 2 สว่ น ผสมกบั สารละลายแอลกอฮอลก์ บั นา้ ดงั กลา่ ว 98 ส่วน โดยปรมิ าตร ซ่งึ
176
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มีอัตราส่วนดังนี้ สารละลายชนิดแรกปริมาตร 97.5 ลูกบาศก์เซนติเมตร ผสมกับ
สารละลายชนิดหลงั ปริมาตร 2.5 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ใหไ้ ดป้ ริมาตร 100 ลูกบาศก์
เซนติเมตร เขย่าใหเ้ ขา้ กนั แลว้ ใส่ไวใ้ นขวดขนาด 360 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร (12 ออนซ)์
ใหเ้ ตรียมสารละลายมาตรฐาน เม่ือมีอายุ 241/2 ช่วั โมง นบั จากเร่ิมผสม ถา้ ต่ากว่า
กาหนดนีห้ า้ มใช้
2.3 การเตรียมตวั อยา่ ง
นาวสั ดทุ ่ีแหง้ มาแบง่ ส่ี หรือแบง่ ตวั อย่างดว้ ยเคร่ืองแบง่ ตวั อย่าง ใหไ้ ดน้ า้ หนกั ประมาณ
250 กรมั
2.4 แบบฟอรม์
ทาการบันทึกผลการทดสอบ ในแบบฟอรม์ เลขท่ี บฟ. มทช.(ท) 101.1.2-2545 : วิธี
ทดสอบสารอินทรียเ์ จือปน
2.5 การทดสอบ
2.5.1 เทวสั ดทุ ่ีเตรียมไวล้ งในขวดแกว้ ทดสอบจนไดป้ ริมาตร 133 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร
(ประมาณ 4 1/2 ออนซ)์
2.5.2 เติมสารละลายท่ีเตรียมไวต้ าม ขอ้ 2.2.1 ลงในขวดแกว้ ทดลองจนไดป้ ริมาตร
เป็น 207 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร (ประมาณ 7 ออนซ)์
2.5.3 เอาจกุ อุดปากขวดแลว้ เขย่าแรง ๆ จนเห็นว่าไม่มีฟองอากาศเหลืออยู่ ตรวจดู
อีกครงั้ ถา้ ระดบั สารละลายมีปริมาตรไม่ถึง 207 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ใหเ้ ติม
สารละลายเพ่ิมอีกจนไดป้ รมิ าตร 207 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร บนั ทกึ วนั และเวลา
2.5.4 ตงั้ ขวดทดสอบทงิ้ ไวน้ ่งิ ๆ หา้ มจบั หรือเคล่ือนยา้ ยจนครบ 24 ช่วั โมง
2.5.5 เม่ือครบ 24 ช่วั โมง แลว้ ใหเ้ ปรยี บเทียบกบั แถบสีมาตรฐาน ตามขอ้ 2.2.2 หรือ
กบั สารละลายมาตรฐานตาม ขอ้ 2.2.3
3. การรายงาน
ใหร้ ายงานในหวั ขอ้ หมายเหตุ ของแบบฟอรม์ ท่ีกลา่ วแลว้ ในขอ้ 2.4 ดงั นี้
3.1 ถา้ สีของสารละลายท่ีไดจ้ ากการทดสอบอ่อนกว่าสีของแถบสีมาตรฐานหมายเลข 3 หรือ
ออ่ นกวา่ สีของสารละลายมาตรฐานใหร้ ายงาน “สีออ่ นกวา่ สีมาตรฐาน”
3.2 ถา้ สีของสารละลายท่ีไดจ้ ากการทดสอบแก่กวา่ สีของแถบสีมาตรฐานหมายเลข 3 หรือแก่
กวา่ สีของสารละลายมาตรฐานใหร้ ายงานวา่ “สีแกก่ วา่ สีมาตรฐาน”
3.3 ถา้ สีของสารละลายท่ีไดจ้ ากการทดสอบใกลเ้ คียงกับสีของแถบสีมาตรฐานหมายเลข 3
หรือใกลเ้ คียงสีของสารละลายมาตรฐานใหร้ ายงานวา่ “สีใกลเ้ คียงสีมาตรฐาน”
177
สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
4. เกณฑก์ ารตัดสนิ และความคลาดเคลอื่ นทย่ี อมให้
ถา้ สีของสารละลายท่ีไดจ้ ากการทดสอบมีสีอ่อนกว่าสีของแถบสีมาตรฐาน หมายเลข 3
หรือมีสีเหมือนกับแถบสีมาตรฐาน หมายเลข 3 ถือว่าเหมาะสมท่ีจะนามาใชง้ านได้ ถา้ สีแก่กว่าสี
ของแถบสีมาตรฐาน หมายเลข 3 ถือวา่ ไมเ่ หมาะสมท่ีจะนามาใชง้ าน
5. ข้อควรระวัง
5.1 เม่ือตั้งขวดทิง้ ไว้แล้ว ห้ามกระทบกระเทือน และเม่ือเวลาอ่านเปรียบเทียบสี ห้าม
กระทบกระเทือนเช่นเดียวกนั เพราะจะทาใหผ้ งละเอียดลอยตวั ขนึ้ มา ซ่งึ จะทาใหไ้ ดส้ ีไม่
ถกู ตอ้ ง บางครงั้ สีท่ีไดจ้ ะใกลเ้ คียงมาตรฐานมาก พยายามเทียบใหไ้ ดว้ า่ แก่กว่าหรือออ่ น
กวา่
5.2 สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ เป็นสารท่ีมีพิษทาใหเ้ กิดการไหมท้ ่ีผิวหนงั และเย่ืออ่อนต่าง ๆ
เช่น ตา ปาก จมูก ถ้าสัมผัสถูกต้องรีบล้างบริเวณนั้นด้วยน้าสะอาดและทาด้วย
นา้ สม้ สายชู (vineger)
6. หนังสอื อ้างอิง
6.1 วิธีทดลองหา organic impurities กองวเิ คราะหแ์ ละวจิ ยั กรมทางหลวง
6.2 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGWHAY OFFICIALS. “STANDARD
SPECIFICATION FOR HIGHWAY MATERIALS AND METHOD OF SAMPING AND
METHOD OF SAMPING AND TESTING” AASHO T 21
THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS, ASTM STANDARD : C 40-84
178
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
179
โครงการ………………………………………….. บฟ.มทช.(ท) 101.1.2- 2545 ทะเบยี นทดสอบ………………………...
…สถ…า….นท…่ี ………………………………………… (หนว่ ยงานท่ีทาการทดสอบ) ผทู้ ดสอบ
ก…ผ่อรู้…สบั ร..า้ ง………………………………………... การทดสอบหาขนาดเม็ดวสั ดุ ผตู้ รวจสอบ
จทชทา้่ี…นดงดิส……ตอ……วบั อว….ย.นั า่…ทง่ี……………………………………………………………ทด…แสผ…อน่ บ…ค…รงั้ ……… อนมุ ตั ิ
ท่ี…………….. แหลง่
วสั ชดนั้ …ุ คณุ…ภ…า…พ……………………………………………………………………..
Gravel Sand Fines
Coarse to Fine Silt Clay
MediuUm.S.standard sieve sizes
U.S.standard sieve sizes การทดสอบหาสารอินทรยี เ์ จือปน
_ ¾ in.
- No.4
- No.10
- No.20
- No.40
_ No.100
_ No.200
สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
18
180
100 สีของสารละลายท่ไี ดจ้ ากการทดสอบ
80 ( ) สีอ่อนกวา่ สีมาตรฐาน
( ) สีใกลเ้ คียงสีมาตรฐาน
60 ( ) สีแก่กวา่ สีมาตรฐาน
40 สรุปผลการทดสอบ
20 ( ) เหมาะสมท่จี ะนามาใชง้ านได้
( ) ไมเ่ หมาะสมท่จี ะนามาใชง้ าน
0
0.005
ขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลางของเมดวสั ดเปนมิลลเิ มตร
(diameter in mm.)
สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 101.4-2545
วธิ ีการทดสอบหาค่าความ ว่ ง าเพาะ
และค่าความดูด มนา้ ของวัสดมวลรวมหยาบ
(coarse aggregate)
1. ขอบข่าย
วิธีการทดสอบนีค้ รอบคลมุ ถึงการหาคา่ ความถว่ งจาเพาะของวสั ดขุ นาดเม็ดโตกวา่ 4.75 มม.
แบบบลั ค์ (bulk specific gravity) และแบบแอพแพเรนท์ (apparent specific gravity) และการหา
คา่ ความดดู ซมึ นา้ (water absorption)
2. วิธีทา
2.1 เคร่อื งมือ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการทดสอบประกอบดว้ ย
2.1.1 เคร่อื งช่งั เป็นเคร่อื งช่งั แบบสมดลุ (balance) ท่ีสามารถช่งั วสั ดไุ ดไ้ มน่ อ้ ยกว่า 5
กิโลกรมั และสามารถอา่ นไดล้ ะเอียดถึง 0.5 กรมั
2.1.2 ตะกรา้ ลวดตาขา่ ย (wire basket) เป็นตะกรา้ ลวดตาข่ายท่ีมีชอ่ งขนาด 2.00-
3.00 มิลลิเมตร เป็นรูปทรงกระบอก ขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 200
มิลลิเมตร และสงู ประมาณ 200 มิลลเิ มตร หรือมีขนาดบรรจปุ ระมาณ 4,000 ถึง
7,000 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร
2.1.3 ถงั บรรจนุ า้ เป็นถงั ท่ีมีขนาดใหญ่พอท่ีจะนาเอาตะกรา้ ลวดตาขา่ ยใสล่ งไปได้ เพ่ือ
ทาการช่งั นา้ หนกั วสั ดใุ นนา้ ได้ และจะตอ้ งมีรูระบายนา้ ตอนบน เพ่ือรกั ษาระดบั
นา้ ใหค้ งท่ี
2.1.4 ภาชนะขนาดใหญ่ พอท่ีจะแชว่ สั ดปุ ระมาณ 5 กิโลกรมั ไวใ้ นนา้ ได้ โดยวสั ดทุ กุ
กอ้ นจะตอ้ งจมอยใู่ ต้ ระดบั นา้ ทงั้ หมด
2.1.5 เตาอบ สามารถควบคมุ อณุ หภมู ิใหค้ งท่ีไดท้ ่ี 1105 องศาเซลเซียส
2.2 แบบฟอรม์
ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ. มทช.(ท) 101.4-2545 : วธิ ีการทดสอบหาคา่ ความถว่ งจาเพาะ และ
คา่ ความดดู ซมึ นา้ ของวสั ดมุ วลรวมหยาบ
2.3 การเตรียมตวั อยา่ ง
นาวสั ดมุ าทาการเลือกตวั อย่างวสั ดุ โดยวธิ ีแบง่ ส่ี (quartering) หรอื ใชเ้ คร่ืองแบง่ ตวั อย่าง
(sample splitter) แลว้ จงึ นาตวั อยา่ งท่ีเลือกไดม้ าทาการรอ่ นผา่ นตะแกรง เบอร์ 4 (4.75 ม.ม.)
นาเฉพาะวสั ดตุ วั อยา่ งท่ีคา้ งบนตะแกรง เบอร์ 4 หนกั ประมาณ 5 กิโลกรมั มาทดสอบตอ่ ไป
2.4 การทดสอบ
181
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
2.4.1 นาวสั ดทุ ่ีเตรียมไดจ้ าก ขอ้ 2.3 มาทาการลา้ งใหฝ้ ่นุ หรือส่ิงสกปรกท่ีตดิ อยตู่ ามผวิ
ของวสั ดอุ อกใหห้ มด แลว้ จึงนามาอบใหแ้ หง้ ในเตาอบท่ีอุณหภมู ิ 1105 องศา
เซลเซียส ปลอ่ ยทงิ้ ไวใ้ หเ้ ยน็ ท่ีอณุ หภมู ปิ กติ แลว้ จงึ นาไปแชน่ า้ ในภาชนะท่ีเตรยี มไว้
เป็นเวลา 244 ช่วั โมง
2.4.2 นาวสั ดขุ นึ้ จากนา้ วางบนผา้ ซบั นา้ แลว้ คลงึ เช็ดวสั ดดุ ว้ ยผา้ ซบั นา้ จนกระท่งั นา้ ท่ี
เคลือบอยบู่ นผิววสั ดุ (visible film) ออกจนหมด ทาการช่งั หานา้ หนกั วสั ดทุ นั ที จะ
เป็นนา้ หนกั ในสภาพอ่มิ ตวั ผิวแหง้ (saturated surface dry) ในอากาศ การช่งั ให้
ช่งั ละเอียดถงึ 0.5 กรมั และระวงั อยา่ ใหเ้ กิดการระเหยในระหวา่ งการเช็คผิววสั ดใุ ห้
แหง้ และการช่งั นา้ หนกั
2.4.3 นาวสั ดทุ ่ีไดจ้ ากขอ้ 2.4.2 ไปช่งั ในถงั ใสน่ า้ โดยใสว่ สั ดไุ วใ้ นตะกรา้ ลวดตาขา่ ย
นา้ หนกั ท่ีอา่ นได้ คอื นา้ หนกั ของวสั ดใุ นนา้
2.4.4 นาวสั ดไุ ปอบใหแ้ หง้ ท่ีอณุ หภูมิ 1105 องศาเซลเซียส แลว้ ปลอ่ ยใหเ้ ยน็ ลงท่ี
อณุ หภมู ิหอ้ ง นาไปช่งั นา้ หนกั นา้ หนกั ท่ีไดเ้ ป็นนา้ หนกั วสั ดอุ บแหง้
3. การคานวณ
3.1 ความถว่ งจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอบแหง้ ) = W1
W2 - W3
3.2 ความถ่วงจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอ่มิ ตวั ผิวแหง้ )= W2
W2 - W3
3.3 ความถ่วงจาเพาะแบบแอพเพเรนท์ = W1
W1 - W3
3.4 ความดดู ซมึ นา้ = (W2 - W1) x 100%
W1
W1 = นา้ หนกั วสั ดอุ บแหง้ ในอากาศ, เป็นกรมั
W2 = นา้ หนกั วสั ดใุ นสภาพอ่มิ ตวั ผิวแหง้ (saturated surface dry) เป็นกรมั
W3 = นา้ หนกั วสั ดเุ พ่ือทาการช่งั ในนา้ , เป็นกรมั
อนง่ึ การคานวณคา่ ของความถ่วงจาเพาะใหใ้ ชถ้ งึ ทศนิยม 3 ตาแหนง่ สาหรบั การคานวณคา่ ความดดู
ซมึ นา้ ใหใ้ ชถ้ งึ ทศนยิ ม 2 ตาแหนง่
182
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
4. การรายงานผล
ใหร้ ายงานผลตามแบบฟอรม์ ท่ี บฟ. มทช.(ท) 101.4-2545 : วธิ ีการทดสอบหาคา่ ความ
ถ่วงจาเพาะและคา่ ความดดู ซมึ นา้ ของวสั ดมุ วลรวมหยาบ
5. เกณฑก์ ารตดั สินและความคลาดเคล่ือนท่ียอมให้
คา่ ความถว่ งจาเพาะของวสั ดมุ วลรวมหยาบท่ีใชใ้ นงานคอนกรีต ตอ้ งมีคา่ ไมน่ อ้ ยกวา่ 2.40
6. ข้อควรระวัง
6.1 การเชด็ นา้ ท่ีเคลือบอยบู่ นผิววสั ดุ และการช่งั นา้ หนกั วสั ดใุ นสภาพอ่มิ ตวั ผวิ แหง้
(saturated
surface dry) ใหก้ ระทาอยา่ งรวดเรว็ เพ่ือปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กิดการระเหยของนา้
6.2 การช่งั วสั ดใุ นนา้ ถา้ เกิดมีฟองอากาศเกาะอย่ตู ามผิววสั ดุ ใหท้ าการเขยา่ ตะกรา้ ลวดตา
ขา่ ย ขณะท่ีทาการจมุ่ ตะกรา้ ลงในนา้ ใหฟ้ องอากาศลอยขนึ้ จนหมดเสียกอ่ น
6.3 ในการนาวสั ดมุ าทาการอบแหง้ เพ่ือหานา้ หนกั วสั ดอุ บแหง้ ในอากาศ ตอ้ งคอยระวงั เอา
วสั ดอุ อกจากตะกรา้ ลวดตาข่าย
7. เอกสารอ้างองิ
7.1 THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS, ASTM
DESIGNATION : C 127-84
7.2 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY OFFICIALS, AASHO T 85-
70
7.3 STATE OF DALIFORNAI, DEPARTMENT OF PUBLIC WORKS, DIVISION OF
HIGHWAYS “MATERIAL MANUAL OF TESTING AND CONTROL PROCEDURES”
VOL. I TEST METHOD NO. COLIF. 206-C
183
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
โครงการ……………………… บ . มทช.(ท) 101.4-2545 ทะเบยี น
(หน่วยงานท่ีทาการทดสอบ) ทดสอบ………………
…………………………………
ส านทก่ี ่อสรา้ ง…...………… ผู้ทดสอบ
ผรู้ ับ ้างหรอื ผู้นาสง่ …………… การทดสอบหาค่าความ ว่ ง าเพาะ ผตู้ รว สอบ
ชนิดตวั อยา่ ง….ทดสอบครง้ั ท…ี่ . และ อนมตั ิ
ทดสอบวนั ท…่ี ……แผน่ ท…ี่ ……
คา่ ความดูด มน้าของวสั ดมวลรวม
วสั ด…ุ ………………………………แหลง่ วสั ด…ุ …………………..
คณุ ลกั ษณะ ตวั อยา่ ง 2 3 4
1
นา้ หนกั ของวสั ดอุ บแหง้ (W1)
gm
นา้ หนกั ของวสั ดอุ ิม่ ตวั ผิวแหง้ (W2) gm
นา้ หนกั ของวสั ดใุ นนา้ (W3) gm
ความถว่ งจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอบแหง้ ) = W1
W2 - W3
ความถว่ งจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอิ่มตวั ผิวแหง้ ) = W2
W2 - W3
ความถว่ งจาเพาะแบบแอพแพเรนต์ = W1
W1 - W3
ความดดู ซมึ นา้ = ( W2 - W1 ) x 100%
W1
หมายเหตุ :
184
สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 101.5-2545
วิธีการทดสอบหาค่าความ ่วง าเพาะและค่าความดูด มนา้
ของวัสดมวลรวมละเอยี ด (fine aggregate)
1. ขอบข่าย
วธิ ีการทดสอบนีค้ รอบคลมุ ถึงการหาคา่ ความถ่วงจาเพาะแบบบลั ค์ (bulk specific gravity)
และแบบแอพแพเรนท์ (apparent specific gravity) และเป็นการหาคา่ ความดดู ซมึ นา้ (water
absorption) ของวสั ดุ มวลรวมละเอียดในงานผสมคอนกรตี
2. วธิ ีทา
2.1 เคร่อื งมือ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการทดสอบประกอบดว้ ย
2.1.1 เคร่อื งช่งั เป็นเคร่ืองช่งั ท่ีสามารถช่งั วสั ดไุ ดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 1 กิโลกรมั และสามารถอา่ นได้
ละเอียดถึง 0.1 กรมั
2.1.2 ขวดทดสอบ (flask) ขนาดความจปุ ระมาณ 500 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ท่ีไดท้ าการสอบ
เทียบ (calibration) แลว้ ท่ีอณุ หภมู ิ 20 องศาเซลเซียส
2.1.3 แบบรูปกรวย (conical mold) ทาดว้ ยโลหะมีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางดา้ นบนเทา่ กบั 1.5 นวิ้
และมีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางดา้ นลา่ งเทา่ กบั 3.5 นวิ้ และมีความสงู เทา่ กบั 2 7/8 นิว้
2.1.4 เหลก็ กระทงุ้ (tamping rod) ทาดว้ ยโลหะมีนา้ หนกั 0.34 กิโลกรมั มีขนาดเสน้ ผ่าน
ศนู ยก์ ลาง 25 มิลลเิ มตร (1 นวิ้ ) และปลายท่ีใชก้ ระทงุ้ มีลกั ษณะมน
2.2 แบบฟอรม์
ใชแ้ บบฟอรม์ บฟ. มทช.(ท) 101.5-2545 : วธิ ีการทดสอบหาคา่ ความถ่วงจาเพาะ
และคา่ ความดดู ซมึ นา้ ของวสั ดมุ วลรวมละเอียด
2.3 การเตรียมตวั อยา่ ง
นาวสั ดมุ วลรวมละเอียดท่ีจะนามาทดสอบ มาทาการเลือกตวั อยา่ งวสั ดโุ ดยวธิ ี
แบง่ ส่ี (quartering) ใหไ้ ดน้ า้ หนกั วสั ดตุ วั อย่างประมาณ 1 กิโลกรมั แลว้ นามาอบแหง้ ใน
เตาอบท่ีอณุ หภมู ิ 1105 องศาเซลเซียส ปลอ่ ยทงิ้ ไวใ้ หเ้ ย็นท่ีอณุ หภมู หิ อ้ งปกติ จากนนั้
นาตวั อยา่ งท่ีไดม้ าทาการแช่นา้ ในภาชนะท่ีเตรยี มไวเ้ ป็นเวลา 244 ช่วั โมง
2.4 การทดสอบ
2.4.1 วิธีการทดสอบหาสภาวะอ่มิ ตวั ผิวแหง้ (saturated surface dry) ของวสั ดมุ วลรวม
ละเอียดนาตวั อย่างท่ีเตรียมไวใ้ นขอ้ 2.3 ขนึ้ จากนา้ เพ่ือผ่งึ ลมหรือเป่าดว้ ยลมรอ้ น
2.4.2 นาตวั อย่างท่ีเร่มิ ผิวแหง้ ใสใ่ นแบบรูปกรวยพอหลวม ๆ และใชเ้ หลก็ กระทงุ้ กระทงุ้
25 ครงั้ ตรง ๆ แลว้ จงึ คอ่ ย ๆ ดงึ กรวยขนึ้ ถา้ วสั ดมุ วลรวมละเอียดยงั คงรูปอย่กู ็ให้
185
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ทาการทดสอบซ้าใหม่ โดยผ่ึงตัวอย่างหรือเป่ าลมร้อนให้น้าระเหยออกอีก
จนกระท่งั เม่ือดึงกรวยออกตรงๆ ถ้าวัสดุมวลรวมละเอียดเร่ิมทะลาย ใหถ้ ือเป็น
สภาวะอ่มิ ตวั ผวิ แหง้ ของวสั ดมุ วลรวมละเอียด
2.4.3 วิธีทดสอบหาความถ่วงจาเพาะของวัสดุมวลรวมละเอียด ซ่ึงนา้ หนักของขวด
ทดสอบ และนาตวั อยา่ งวสั ดมุ วลรวมละเอียดในสภาวะอ่ิมตวั ผิวแหง้ ท่ีไดจ้ ากขอ้
2.4.2 มา 500 กรมั
2.4.4 ใสว่ สั ดมุ วลรวมละเอียดลงในขวดทดสอบแลว้ เตมิ นา้ ถงึ ขีดท่ี กาหนดปรมิ าตร 500
ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร กลิง้ ขวดทดสอบไปมาบนพืน้ ราบใหฟ้ องอากาศลอยขึน้ ให้
หมด แลว้ นามาแชใ่ นนา้ ท่ีมีอณุ หภมู คิ งท่ี 20 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 ช่วั โมง
2.4.5 เตมิ นา้ ในขวดทดสอบ จนถึงขีดบอกปรมิ าตร 500 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร อีกครงั้ แลว้
จงึ นาไปช่งั นา้ หนกั นาวสั ดมุ วลรวมละเอียดออกจากขวด แลว้ นาไปอบแหง้ ในเตา
อบท่ีอณุ หภมู ิ 1105 องศาเซลเซียส แลว้ นามาช่งั นา้ หนกั
3. การคานวณ = W4
3.1 ความถว่ งจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอบแหง้ ) 500-(W3-W2-W1)
3.2 ความถ่วงจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอ่มิ ตวั ผวิ แหง้ ) = W2
500-(W3-W2-W1)
3.3 ความถ่วงจาเพาะแบบแอพเพเรนท์ = W4
500-(W3-W2-W1)-(W2-W4)
3.4 ความดดู ซมึ นา้ = W2-W4 x 100%
W4
เม่ือ W1 = นา้ หนกั ของขวดทดสอบ, เป็นกรมั
W2 = หนกั วสั ดมุ วลรวมละเอียดในสภาพอ่มิ ตวั ผิวแหง้ (500 กรมั )
W3 = นา้ หนกั ขวดทดสอบ + นา้ + วสั ดมุ วลรวมละเอียด, เป็นกรมั
W4 = นา้ หนกั ของวสั ดมุ วลรวมละเอียดอบแหง้ , เป็นกรมั
อน่งึ การคานวณคา่ ของความถ่วงจาเพาะใหใ้ ชถ้ งึ ทศนิยม 3 ตาแหนง่ และสาหรบั การคานวณ
คา่ ความดดู ซมึ นา้ ใหใ้ ชถ้ งึ ทศนยิ ม 2 ตาแหนง่ การช่งั นา้ หนกั ทกุ ครงั้ ใหล้ ะเอียด ถงึ 0.1 กรมั
4. การรายงานผล
186
สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ให้รายงานผลตามแบบฟอร์มท่ี บฟ. มทช.(ท) 101.5-2545 : วิธีการทดสอบหาค่าความ
ถว่ งจาเพาะและคา่ ความถว่ งจาเพาะและคา่ ความดดู ซมึ นา้ ของวสั ดมุ วลรวมละเอียด
5. เกณฑก์ ารตัดสนิ และความคลาดเคลื่อนท่ียอมให้
คา่ ความถ่วงจาเพาะของวสั ดมุ วลรวมละเอียด ตอ้ งมีคา่ ไมน่ อ้ ยกวา่ 2.40
6. ข้อควรระวัง
6.1 เม่ือทาการช่งั นา้ หนกั ตอ้ งกระทาในขณะท่ีมีอณุ หภมู สิ ม่าเสมอ
6.2 ตอ้ งระมดั ระวงั มิใหว้ สั ดมุ วลรวมละเอียดสญู หายไปในระหวา่ งเทลงในภาชนะเพ่ืออบให้
แหง้
6.3 การช่งั ขวดทดสอบตอ้ งคอยระวงั ใหร้ ะดบั นา้ ในขวดอยู่ท่ีขีดบอกปรมิ าตรเสมอ และตอ้ ง
เช็คนา้ จากภายนอกขวดใหห้ มดทกุ ครงั้ กอ่ นการช่งั
7. เอกสารอา้ งองิ
7.1 THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS, ASTM
DESIGNATION : C 128-84
7.2 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY OFFICIALS, AASHO T -
100
7.3 LAMBE T.W., 1957 “SOIL TESTING FOR ENGINEERS” JOHN WILEY AND SONS,
NEW YORK.
187
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
บ . มทช.(ท) 101.5-2545 ทะเบียนทดสอบ……………
โครงการ…………………... (หน่วยงานท่ที าการทดสอบ) ผ้ทู ดสอบ
.ส านทก่ี อ่ สร้าง…………………… การทดสอบหาค่าความ ว่ ง าเพาะ และ ผู้ตรว สอบ
ความดดู มนา้ ของวสั ดมวลรวมละเอียด
ผู้รบั ้างหรอื ผนู้ าสง่ …………………
ชนิดตวั อยา่ ง………ทดสอบครั้งท่ี…
ทดสอบวนั ท…่ี ………แผน่ ท…่ี …
อนมตั ิ
วสั ด…ุ ……………………………… ตวั อยา่ ง 4
แหลง่ วสั ด…ุ ………………….. 12 3
คณุ ลกั ษณะ
นา้ หนกั ของขวดทดสอบ (W1) gm.
นา้ หนกั ของวสั ดอุ ิ่มตวั ผิวแหง้ (W2) gm.
นา้ หนกั ของขวดทดสอบ + นา้ + วสั ดุ (W3) gm.
นา้ หนกั ของวสั ดอุ บแหง้ (W4) gm.
ความถว่ งจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอบแหง้ ) = W4
500-(W3-W2-W1)
ความถว่ งจาเพาะแบบบลั ค์ (สภาพอม่ิ ตวั ผิวแหง้ ) = W2
500-(W3-W2-W1)
ความถว่ งจาเพาะแบบแอพแพเรนต์ = W4
500-(W3-W2-W1)-(W2-W4)
ความดดู ซมึ นา้ = W2-W4 x 100%
W4
หมายเหตุ :
188
สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 101.6-2545
วธิ ีการทดสอบหาค่าความชืน้ ของวัสดมวลรวม (aggregate)
1. ขอบข่าย
วธิ ีการทดสอบนีค้ รอบคลมุ ถึงการหาคา่ ความชืน้ (total moisture content) ของวสั ดมุ วล
รวมทงั้ ชนิดมวลรวมหยาบและมวลรวมละเอียด โดยการอบใหแ้ หง้
2. วิธีทา
2.1 เคร่อื งมือ เคร่ืองท่ีใชใ้ นการทดสอบประกอบดว้ ย
2.1.1 เคร่อื งช่งั เป็นเคร่ืองช่งั ท่ีสามารถช่งั วสั ดใุ หม้ ีความละเอียดถึงรอ้ ยละ 0.1 ของ
นา้ หนกั ตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการทดสอบ
2.1.2 เตาอบ สามารถควบคมุ อณุ หภมู ใิ หค้ งท่ีไดท้ ่ี 1105 องศาเซลเซียส
2.1.3 กระป๋ องใส่ตวั อยา่ ง (sample container) เป็นกระป๋ องโลหะท่ีไมท่ าปฏิกรยิ าใด ๆ
เม่ือถกู ความรอ้ น และมีขนาดพอเหมาะท่ีจะใส่ตวั อยา่ งนนั้ ๆ
2.2 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ.มทช.(ท)101.6-2545:วธิ ีการทดสอบหาคา่ ความชืน้ ของ
วสั ดมุ วลรวม
2.3 การเตรียมตวั อย่าง ตวั อยา่ งท่ีตอ้ งการทาการทดสอบ (ระวงั อยา่ ใหค้ วามชืน้ ระเหยไป
ก่อนทาการทดสอบ) มาทาการเลือกตวั อยา่ งดว้ ยวธิ ีแบง่ ส่ี (quartering) ประมาณใหไ้ ด้
ตวั อยา่ งเม่ือแหง้ แลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ท่ีกาหนดตามตารางท่ี 1
189
สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ตารางที่ 1
ขนาดของตวั อย่าง (ผา่ นตะแกรง) นา้ หนกั ตวั อยา่ งกิโลกรมั (kg)
นวิ้ (in) มิลลเิ มตร (mm.)
เบอร์ 4 4.75 0.5
3/8 9.50 1.5
2
½ 12.5 3
¾ 19.0 4
1 25.0 6
1 ½ 37.5 8
2 50.0 10
2 ½ 63.0 13
3 75.0 16
3 ½ 90.0 25
4 100.0 50
6 150.0
2.4 การทดสอบ
2.4.1 ทาการช่งั กระป๋ องใสต่ วั อยา่ งท่ีเตรียมไวแ้ ลว้ นาตวั อยา่ ง ท่ีเตรยี มไดจ้ ากขอ้ 2.3
นามาใสใ่ นกระป๋ องใส่ตวั อย่าง เพ่ือนาขนึ้ ช่งั หานา้ หนกั โดยช่งั ใหม้ ีความละเอียด
ถงึ รอ้ ยละ 0.1 ของนา้ หนกั ท่ีทาการช่งั
2.4.2 นากระป๋ องใสต่ วั อย่างท่ีบรรจวุ สั ดมุ วลรวมท่ีตอ้ งการหาคา่ ปรมิ าณความชืน้ เขา้
เตาอบ เพ่ืออบใหแ้ หง้ ท่ีอณุ หภมู ิ 1105 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอยา่ งนอ้ ย 154
ช่วั โมง
2.4.3 นากระป๋ องใสต่ วั อย่างท่ีอบแหง้ แลว้ นามาช่งั หานา้ หนกั โดยช่งั ใหม้ ีความละเอียด
ถงึ รอ้ ยละ 0.1 ของนา้ หนกั ตวั อยา่ ง
3. การคานวณ
คา่ ความชืน้ ของวสั ดมุ วลรวม สามารถหาได้ ดงั นี้
190
สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
รอ้ ยละความชืน้ (total moisture content)
ของวสั ดมุ วลรวม = W2-W3 x 100%
W3-W1
เม่ือ W1 = นา้ หนกั ของกระป๋ องในตวั อย่าง (samle container), เป็นกรมั
W2 = นา้ หนกั ของกระป๋ อง + วสั ดมุ วลรวมเปียก, เป็นกรมั
W3 = นา้ หนกั ของกระป๋ อง + วสั ดมุ วลรวมอบแหง้ , เป็นกรมั
การคานวณรอ้ ยละความชืน้ ของวสั ดมุ วลรวม ใหม้ ีความละเอียดถึงทศนิยม 2 ตาแหนง่
4. การรายงานผล
ใหร้ ายงานผลตามแบบฟอรม์ ท่ี บฟ. มทช.(ท) 101.6-2545 : วิธีการทดสอบหาคา่ ความชืน้ ของ
วสั ดมุ วลรวม
5. ข้อควรระวัง
5.1ในระหวา่ งการช่งั นา้ หนกั ตอ้ งรบี กระทา เพ่ือมิใหน้ า้ ระเหยไปในระหวา่ งการทดสอบ
5.2ทาความสะอาดกระป๋ องใส่ตวั อยา่ งใหส้ ะอาดและแหง้ สนิทกอ่ นการทดสอบทกุ ครงั้
6. เอกสารอ้างอิง
THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS, ASTM DESIGNATION : C 566-84
191
สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
โครงการ…………………. บ . มทช.(ท) 101.6-2545 ทะเบียน
……………………………… ทดสอบ……………
ส านทก่ี ่อสร้าง………..……. (หน่วยงานทที่ าการทดสอบ)
ผู้รับ ้างหรือผู้ การทดสอบหาค่าความชนื้ ของวัสด ผู้ทดสอบ
นาส่ง……………….
ชนิดตวั อย่าง…..ทดสอบครั้ง มวลรวม ผู้
ท…่ี …. ตรว สอบ
ทดสอบวันท…่ี …….แผ่น
ท…่ี ………. อนมัติ
วสั ด…ุ ……………………………
แหลง่ วสั ด…ุ …………………..
คณุ ลกั ษณะ 1 ตวั อยา่ ง 4
23
นา้ หนกั ของกระป๋ องใสต่ วั อยา่ ง (W1) gm.
นา้ หนกั ของกระป๋ อง + วสั ดมุ วลรวมเปียก (W2) gm.
นา้ หนกั ของกระป๋ อง + วสั ดมุ วลรวมอบแหง้ (W3) gm.
รอ้ ยละความชืน้ ของมวลรวม = W2-W3 x 100%
W3-W1
หมายเหตุ :
192
สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 101.7-2545
วธิ ีการทดสอบหากอ้ นดนิ เหนียว (clay lump)
1. ขอบข่าย
วิธีการทดสอบนี้ ครอบคลมุ ถงึ การหาคา่ ของกอ้ นดนิ เหนียว และวสั ดรุ ว่ น (friable) ท่ีปะปนใน
วสั ดมุ วลรวม (aggregate)
2. วิธีทา
2.1 เคร่อื งมือ
2.1.1 เคร่อื งช่งั ช่งั ไดล้ ะเอียดถึงรอ้ ยละ 0.1 ของนา้ หนกั ของตวั อยา่ ง
2.1.2 ภาชนะบรรจุ เป็นภาชนะท่ีไมเ่ ป็นสนิม และมีขนาดกวา้ ง
2.1.3 ตะแกรงมาตรฐาน ขนาด 37.5 มิลลิเมตร (1 ½ นวิ้ ), 19 มิลลเิ มตร (3/4 นิว้ ), 9.5
มิลลิเมตร (3/8 นวิ้ ), เบอร์ 4 (4.75 มิลลิเมตร), เบอร์ 16 (1.18 มิลลเิ มตร)
2.1.4 เตาอบ สามารถควบคมุ อณุ หภมู ไิ ดท้ ่ี 1105 องศาเซลเซียส
2.2 การเตรยี มตวั อยา่ ง
2.2.1 ตวั อยา่ งจะตอ้ งอบใหแ้ หง้ ท่ีอณุ หภมู ิ 1105 องศาเซลเซียส จนนา้ หนกั คงท่ี
2.2.2 ตวั อยา่ งของวสั ดมุ วลรวมละเอียดท่ีมีขนาดใหญ่กวา่ ตะแกรง เบอร์ 16 (1.18
มิลลิเมตร) ควรหนกั ไมน่ อ้ ยกวา่ 25 กรมั
2.2.3 ตวั อยา่ งของวสั ดมุ วลรวมหยาบ ควรมีขนาดกระจาย และมีนา้ หนกั ของวสั ดมุ วล
ไมน่ อ้ ยกวา่ ท่ีกาหนดในตารางท่ี 1
ตารางท่ี 1
ขนาดของเมด็ ตวั อยา่ งท่นี ามาทดสอบ นา้ หนกั ของตวั อยา่ ง
(กรมั )
2.75 – 9.5 มม. (เบอร์ 4 – 3/8 นวิ้ )
9.5 – 19.0 มม. (3/8 – ¾ นวิ้ ) 1000
19.0 – 37.5 มม. (3/4 – 1 ½ นวิ้ ) 2000
มากกวา่ 37.5 มม. (1 ½ นวิ้ ) 3000
5000
193
สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
2.2.4 ในกรณีท่ีตวั อยา่ งมีทงั้ วสั ดมุ วลรวมละเอียด (fine aggregate) และมวลรวมหยาบ
(coarse aggregate) ใหร้ อ่ นผา่ นตะแกรง เบอร์ 4 (4.75 มม.) ถา้ คา้ งตะแกรง เบอร์
4 เป็นวสั ดมุ วลรวมหยาบท่ีผา่ นตะแกรง เบอร์ 4 เป็นวสั ดมุ วลรวมละเอียด จากนนั้
นาตวั อยา่ งไปทาตามขอ้ 2.4.1 และ 2.4.2 ตอ่ ไป
2.3 แบบฟอรม์ ใหบ้ นั ทึกผลการทดสอบในแบบฟอรม์ เลขท่ี บฟ. มทช.(ท) 101.7-2545 :
วธิ ีการทดสอบหากอ้ นดนิ เหนียว
2.4 การทดสอบ
2.4.1 นาตวั อยา่ งมาแผ่กระจายในภาชนะใหบ้ าง เทนา้ ทว่ มตวั อยา่ งแชไ่ วเ้ ป็นเวลา
244 ช่วั โมง จากนนั้ ใชน้ วิ้ หวั แมม่ ือและนิว้ ชีค้ อ่ ย ๆ บีบหรือกลงิ้ บนนวิ้ มือ เพ่ือทา
ใหเ้ มด็ ของตวั อยา่ งหลดุ ออกจากกนั อยา่ ใชเ้ ล็บหรือวสั ดแุ ขง็ อ่ืน ๆ จากนนั้ นาไป
รอ่ นผา่ นตะแกรงดงั ตารางท่ี 2 โดยวิธีลา้ ง
ตารางที่ 2
ขนาดของเม็ดตวั อย่างท่ีนามาทดสอบ ขนาดของตะแกรง สาหรบั แยกสว่ น
เป็นเมด็ ดนิ เหนียวและเมด็ วสั ดรุ ว่ น
1.18 มม. (เบอร์ 16)
4.75 – 9.5 มม. (เบอร์ 4 – 3/8 นวิ้ ) 850 ไมโครเมตร (เบอร์ 20)
9.5 – 19.0 มม. (3/8 – ¾ นิว้ ) 2.36 มม. (เบอร์ 8)
19.0 – 37.5 มม. (3/4 – 1 ½ นวิ้ ) 4.75 มม. (เบอร์ 4)
มากกวา่ 37.5 มม. (1 ½ นวิ้ ) 4.75 มม. (เบอร์ 4)
4.75 มม. (เบอร์ 4)
2.4.2 นาตวั อยา่ งท่ีคา้ งบนตะแกรงแตล่ ะตะแกรงไปอบใหแ้ หง้ ท่ีอณุ หภมู ิ 1105 องศา
เซลเซียส แลว้ นาไปช่งั นา้ หนกั ใหล้ ะเอียดรอ้ ยละ 0.1 ของนา้ หนกั ตวั อยา่ ง (ก่อน
นาไปอบควรนาวสั ดมุ วลรวมออกจากตะแกรงใหห้ มดเสียกอ่ น โดยการลา้ งแลว้ จงึ
ไปอบใหแ้ หง้ )
194
สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3. การคานวณ
3.1 ในการหาคา่ รอ้ ยละของกอ้ นดนิ เหนียว และวสั ดรุ ว่ นนนั้ จะหาคา่ รอ้ ยละของกอ้ นดนิ
เหนียวและวสั ดดุ นิ รว่ นแตล่ ะตะแกรงเทา่ นนั้
P = (W – R) / W x 100
P= คา่ รอ้ ยละกอ้ นดินเหนียวและวสั ดรุ ว่ นของวสั ดมุ วลรวม
R= นา้ หนกั ของวสั ดมุ วลรวมคา้ งตะแกรง เบอร์ N จากขอ้ 2.4.2 (นา้ หนกั หลงั
การทดลองในขอ้ 2)
W= นา้ หนกั ของวสั ดมุ วลรวมท่ีคา้ งตะแกรง เบอร์ N จากขอ้ 2.2.2 และ 2.2.3
(นา้ หนกั กอ่ นการทดสอบในขอ้ 2)
N= ตะแกรงเบอรท์ ่ีกาลงั พจิ ารณา
3.2 ในกรณีของวัสดุมวลรวมหยาบ หลังจากทาการทดสอบหาขนาดเม็ดของวสั ดแุ ลว้ ถ้า
ตวั อยา่ งในตะแกรง มีนา้ หนกั นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 5 เม่ือเปรียบเทียบกบั นา้ หนกั ในขอ้ 2.4.1
ไม่จาเป็นตอ้ งนามาทดสอบใหเ้ อาค่ารอ้ ยละของส่วนท่ีเป็นเม็ดดินเหนียวและวสั ดุร่วน
ของ ตวั อยา่ งท่ีมีขนาดใหญ่กวา่ หรอื เล็กกว่ามาใชแ้ ทนได้
4. การรายงานผล
ใหร้ ายงานผลในแบบฟอรม์ โดยใหม้ ีความละเอียดถึงทศนยิ มตาแหนง่ ท่ี 2 ลงใน บฟ.
มทช.(ท) 101.7-2545 : วธิ ีการทดสอบหากอ้ นดินเหนียว
5. เกณฑต์ ดั สนิ และความคลาดเคล่ือนทยี่ อมให้
คา่ รอ้ ยละของกอ้ นดนิ เหนียวและวสั ดรุ ว่ น ของวสั ดมุ วลรวมท่ีใชใ้ นงานคอนกรีตตอ้ งมีคา่ ไม่
เกินรอ้ ยละ 3
6. หนังสืออ้างองิ
6.1 THE AMERICAN SOCIETY OF TESTING MATERIALS, ASTM STANDARD : C 142-
78
195
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
โครงการ…………………….… บ . มทช.(ท) 101.7-2545 ทะเบยี นทดสอบ……………
…………………………….....
ส านท่ี (หน่วยงานทที่ าการทดสอบ) ผู้ทดสอบ
ก่อสร้าง………………….. การทดสอบหาก้อนดนิ เหนียว ผู้ตรว สอบ
ผู้รับ ้างหรอื ผู้ อนมัติ
นาส่ง………………… (clay lump)
ชนิดตวั อย่าง….ทดสอบครั้ง
ท…ี่ …ทดสอบวันท…ี่ ……….
แผ่นท…่ี …….
ชนดิ ตวั อย่าง………………………………………………………..
ขนาดของตวั อยา่ ง……………………… มม. ถึง ………………………………………….…. มม.
นา้ หนกั แหง้ (W) = ……………………………………………………………………………….กรมั
ขนาดของตะแกรง สาหรบั รอ่ นดนิ เหนียวและวสั ดรุ ว่ น………………………………………….. มม.
นา้ หนกั ท่ีคา้ งบนตะแกรง(R)……………………………………………………………………….กรมั
รอ้ ยละของกอ้ นดนิ เหนียวและวสั ดรุ ว่ น (P) = (W – R) / W x 100
P = …………………………(รอ้ ยละ)
196
สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มทช.(ท) 102-2545
มาตรฐานการเกบตวั อย่างคอนกรีตในหน้างาน และการนาไปบารงรัก า
1. ขอบข่าย
มาตรฐานนีค้ รอบคลุมถึงการจัดเก็บตัวอย่างคอนกรีตในหน้างาน และการนาไป
บารุงรักษา เพ่ือใช้เป็นตัวอย่างสาหรับการทดสอบความต้านแรงอัดของแท่งคอนกรีต
(compressive strength of concrete) และการรบั แรงดดั ของคอนกรีต (flexural strength of
concrete)
2. วธิ ีทา
2.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณป์ ระกอบดว้ ย
2.1.1 แบบหลอ่ มาตรฐาน เป็นแบบโลหะแข็งแรง คงรูป เม่ือประกอบยึดเป็นรูปแบบแลว้
ตอ้ งสนิทนา้ ปนู ร่วั ไหลไม่ไดแ้ ละไม่เสียรูปทรงขณะทาการหล่อกอ้ นตวั อย่าง หรือ
เคล่ือนยา้ ย หรือเป็นวสั ดอุ ่ืนท่ีไมด่ ดู ซมึ นา้ และไมท่ าปฏิกิรยิ ากบั ปนู ซีเมนต์ มีขนาด
ตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้
(ก) สาหรบั การทดสอบความตา้ นแรงอดั
(1) ลูกบาศก์ ขนาด 15x15x15 เซนติเมตร ใชส้ าหรบั คอนกรีตท่ีมีส่วนผสมของ
มวลรวมหยาบ (coarse aggregate) ขนาดโตกว่า 1.9 เซนติเมตร(3/4 นิว้ )
แตไ่ มเ่ กิน 5 เซนตเิ มตร (2นวิ้ )
(2) ลูกบาศก์ ขนาด 10x10x10 เซนติเมตร ใชส้ าหรบั คอนกรีตท่ีมีส่วนผสม
ของมวลรวมหยาบขนาดเลก็ กวา่ 1.9 เซนตเิ มตร (3/4 นวิ้ )
(3) ทรงกระบอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เซนติเมตร (6 นิว้ ) สูง 30
เซนตเิ มตร (12 นิว้ ) ใชส้ าหรบั คอนกรีตท่ีมีส่วนผสมของมวลหยาบขนาด
โต ไมเ่ กิน 5 เซนตเิ มตร (2 นวิ้ )
(4) ทรงกระบอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เซนติเมตร (8 นิว้ ) สูง 40
เซนตเิ มตร (16 นิว้ ) แตไ่ ม่เกิน 6.25 เซนตเิ มตร (2 ½ นิว้ ) แตส่ าหรบั มวล
รวมหยาบท่ีใหญ่กวา่ นีเ้ สน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางของทรงกระบอกไม่ควรจะนอ้ ย
กวา่ 3 หรอื 4 เทา่ ของขนาดใหญ่ท่ีสดุ ของมวลหยาบ
(ข) สาหรบั การทดสอบการรบั แรงดดั
(1) ชิน้ ตวั อย่างคอนกรีตสาหรบั การทดสอบแรงดดั ซ่งึ มีลกั ษณะเป็นรูปคาน
ควรจะมีขนาดลึกอย่างน้อย 15 เซนติเมตร และกว้าง 15 เซนติเมตร
197
สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
สาหรบั มวลรวมหยาบท่ีมีขนาดใหญ่ท่ีสุด 5 เซนติเมตร (2 นิว้ ) หรือนอ้ ย
กว่านนั้ สาหรบั มวลรวมหยาบขนาดใหญ่กว่านี้ ขนาดหนา้ ตดั ท่ีนอ้ ยท่ีสดุ
ไม่ควรจะนอ้ ยกว่า 3 เทา่ ของขนาดใหญ่ท่ีสดุ ของมวลรวมหยาบ สาหรบั
การทดสอบแบบคานจะใชน้ า้ หนกั กดลงตรงจดุ แบง่ สาม ตามการทดสอบ
การรับแรงดัด มทช.(ท) 105.2-2545 : มาตรฐานการรับแรงดัดของ
คอนกรตี คานนนั้ ตอ้ งมีชว่ งคาน (span length) ประมาณ 3 เทา่ ของดา้ น
ลึกท่ีใชท้ ดสอบ (ดา้ นขา้ ง) และความยาวของคานตอ้ งยาวกว่าช่วงคาน
อยา่ งนอ้ ย 5 เซนตเิ มตร (2 นวิ้ ) ความเบ่ยี งเบนจากขนาดท่ีกาหนดจะตอ้ ง
ไม่เกิน 3.2 มิลลิเมตร สาหรบั ขนาดกวา้ งหรือลึกเกิน 15 เซนติเมตร (6
นวิ้ ) ขนึ้ ไป และไมเ่ กิน 1.6 มลิ ลเิ มตร สาหรบั ขนาดเล็กกวา่ นนั้
2.1.2 เหลก็ กระทงุ้ (tamping rod)
(ก) แท่งเหล็กหนกั 1.8 กก. (4 ปอนด)์ ยาว 375 มิลลิเมตร (15 นิว้ ) ปลายท่ีใช้
กระทุ้งคอนกรีตมีลักษณะมน ขนาด 625 ตารางมิลลิเมตร (1 ตารางนิว้ )
สาหรบั การหลอ่ กอ้ นตวั อยา่ งคอนกรีตรูปส่ีเหล่ียมลกู บาศก์
(ข) แทง่ เหลก็ ขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 16 มลิ ลิเมตร (5/8 นวิ้ ) ยาวประมาณ 610
มลิ ลิเมตร (24 นวิ้ ) ปลายท่ีใชก้ ระทงุ้ คอนกรีตมีลกั ษณะมนสาหรบั การหล่อ
กอ้ นตวั อยา่ งคอนกรตี รูปทรงกระบอก และตวั อยา่ งคอนกรีตรูปคาน
2.2 การเตรียมตวั อยา่ งการทดสอบ
2.2.1 เกณฑใ์ นการเก็บตวั อย่างคอนกรีตเพ่ือการทดสอบ ให้เก็บทุกวนั เม่ือมีการทดสอบ
คอนกรีตและอย่างนอ้ ยตอ้ งเก็บ 3 ก้อน เพ่ือทดสอบกาลงั คอนกรีตเม่ืออายุ 28 วนั
โดยใชว้ ธิ ีการเก็บดงั นี้
(ก) ใหเ้ ก็บเม่ือหลอ่ คอนกรตี แตล่ ะสว่ นของโครงสรา้ ง เชน่ ฐานราก เสาคาน และพืน้
(ข) เก็บทุกครงั้ ท่ีมีการเทคอนกรีตทุก ๆ 50 ลูกบาศกเ์ มตร และเศษของ 50 ลูกบาศก์
เมตร
(ค) เก็บทกุ ครงั้ เม่ือมีการเปล่ียนแหลง่ ทราย หรือหนิ -กรวด
2.2.2 การเก็บตวั อยา่ งจากลกั ษณะการผสมกระทา ดงั นี้
(ก) จากเคร่ืองผสม (โม่) ท่ีประจาอยู่ในท่ีก่อสรา้ งให้เก็บตัวอย่างจากประมาณ
ตอนกลาง ๆ ของปรมิ าณคอนกรีตท่ีเทลงในภาชนะรองรบั (กระบะหรือรถเข็นปนู )
(ข) จากเคร่ืองผสมสาหรบั ทาพืน้ ถนน ใหเ้ ก็บหลงั จากท่ีเคร่ืองผสมไดเ้ ทคอนกรีตลง
บนพืน้ ท่ีเตรียมไว้ โดยเก็บตัวอย่างคอนกรีตจากหลาย ๆ แห่งพอท่ีจะใช้เป็น
ตวั แทนได้
198
สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
(ค) จากเคร่ืองผสมแบบถังหมุนตั้งบนรถบรรทุก (ready mixed concrete) เก็บ
ตวั อย่างคอนกรีต อย่างนอ้ ย 3 ส่วน เป็นระยะ ๆ อย่างสม่าเสมอตลอดเวลาท่ี
ปลอ่ ย คอนกรีตในรถผสมลงสภู่ าชนะท่ีรองรบั
2.3 การทดสอบ
2.3.1 การหลอ่ ชิน้ ตวั อยา่ งคอนกรีต
2.3.1.1 ก่อนหล่อแท่งคอนกรีตจะตอ้ งทาความสะอาดแบบหล่อใหเ้ รียบรอ้ ย ทา
นา้ มนั ใหท้ ่วั บรเิ วณท่ีจะสมั ผสั กบั คอนกรีต
2.3.1.2 ตอ้ งทาการทดสอบคา่ ความยบุ ตวั ของคอนกรีต (slump test) ทกุ ครงั้ ตาม
มทช.(ท) 103.1-2545 วิธีการทดสอบค่าการยุบตวั ของคอนกรีต ก่อนเร่ิม
การหลอ่ กอ้ นตวั อยา่ งคอนกรีตมาตรฐาน
2.3.1.3 การหลอ่ คอนกรีตตอ้ งกระทาโดยเรว็ ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน 15 นาที นบั ตงั้ แต่
เร่มิ เก็บตวั อยา่ ง
2.3.1.4 ทาการเทคอนกรตี ลงในแบบหลอ่ และทาการกระทงุ้ ดงั รายละเอียด ดงั นี้
(ก) สาหรบั ตวั อยา่ งคอนกรีตส่ีเหล่ียมลกู บาศก์ ขนาด 15x15x15
เซนตเิ มตร ใหใ้ ชเ้ หล็กกระทงุ้ ตามขอ้ 2.1.2 (ก) โดยบรรจคุ อนกรีต 3
ชนั้ ชนั้ ละประมาณ 5 เซนตเิ มตร แตล่ ะชนั้ กระทงุ้ 35 ครงั้ เม่ือคา่
ความยบุ ตวั นอ้ ยกวา่ 3.75 เซนตเิ มตร (1 ½ นวิ้ ) และ 25 ครงั้
เม่ือมีคา่ การยบุ ตวั ตงั้ แต่ 3.75 เซนตเิ มตร ขนึ้ ไป
(ข) สาหรบั ตวั อยา่ งคอนกรีตส่ีเหล่ียมลกู บาศก์ ขนาด 10x10x10
เซนตเิ มตร ใหใ้ ชเ้ หล็กกระทงุ้ ตามขอ้ 2.1.2 (ก) โดยบรรจคุ อนกรีต 3
ชนั้ ชนั้ ละเทา่ ๆ กนั แตล่ ะชนั้ กระทงุ้ 25 ครงั้
(ค) สาหรบั ตวั อยา่ งคอนกรตี รูปทรงกระบอก ขนาด 15x30 เซนตเิ มตร
ใหใ้ ชเ้ หล็กกระทงุ้ ตามขอ้ 2.1.2 (ข) โดยบรรจคุ อนกรีต 3 ชนั้ ชนั้ ละ
ประมาณ 10 เซนตเิ มตร แตล่ ะชนั้ กระทงุ้ 25 ครงั้
(ง) สาหรบั ตวั อย่างคอนกรีต รูปทรงกระบอก ขนาด 20x40 เซนติเมตร
ใหใ้ ชเ้ หล็กกระทงุ้ ตามขอ้ 2.1.2 (ข) โดยบรรจุคอนกรีต 3 ชนั้ ชนั้ ละ
เทา่ ๆ กนั แตล่ ะชนั้ กระทงุ้ 50 ครงั้
(จ) สาหรบั ตวั อย่างคอนกรีตรูปคานขนาดความลึกตงั้ แต่ 15 เซนติเมตร
ถึง 20 เซนติเมตร ให้ใช้เหล็กกระทุ้งตามข้อ 2.1.2 (ข) โดยบรรจุ
คอนกรีต 2 ชนั้ ชนั้ ละเท่า ๆ กัน แต่ละชนั้ กระทงุ้ 50 ครงั้ ทกุ ๆ พืน้ ท่ี
ตามแนวราบ 930 ตารางเซนตเิ มตร
199
สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
(ฉ) สาหรบั ตวั อยา่ งคอนกรตี รูปคาน ขนาดความลกึ 20 เซนตเิ มตร ขนึ้ ไป
ใหใ้ ชเ้ หล็กกระทงุ้ ตามขอ้ 2.1.2 (ข) โดยบรรจคุ อนกรีต 3 ชนั้ ชนั้ ละ
เทา่ ๆ กนั แตล่ ะชนั้ กระทงุ้ 50 ครงั้ ทกุ ๆ พืน้ ท่ี ตามแนวราบ 930
ตารางเซนตเิ มตร
2.3.1.5 ในขณะท่ีกาลงั บรรจคุ อนกรีตลงแบบนนั้ ตอ้ งเทคอนกรีตจากทศิ ทางตา่ ง
ๆ กนั เพ่ือมิใหม้ วลรวมหยาบรวมตวั อยดู่ า้ นเดียว ผปู้ ฏิบตั กิ ารตอ้ งแก้
การแยกแยะของมวลรวมหยาบท่ีปรากฎชดั เจน ถา้ จาเป็นอาจจะใชม้ ือก็ได้
2.3.1.6 ตอ้ งปาดคอนกรีตท่ีล้นปากแบบหล่อออกให้เสมอปากแบบหล่อดว้ ย
เคร่ืองมือขอบตรง และแตง่ ผิวหนา้ ดว้ ยเกรียงใหเ้ รียบ แลว้ ปล่อยทิง้ ไว้
ประมาณ 1 ช่ัวโมง ให้ผิวหนา้ คอนกรีตตวั อย่างแข็งตัวพอหมาดๆจึง
เขียนเคร่ืองหมายหรือวันเดือนปี ท่ีทาการหล่อบนหนา้ คอนกรีตไวเ้ ป็น
หลกั ฐาน
2.3.2 การบม่ และการบารุงรกั ษากอ้ นตวั อยา่ งคอนกรีต
2.3.2.1 การบ่มระยะแรก เม่ือทาการหล่อก้อนคอนกรีตตวั อย่างตามขอ้ 2.3.2
แลว้ ภายในระยะเวลา 24ช่วั โมงแรก ตวั อยา่ งท่ีทาในสนามท่ีจะบม่ ตาม
แบบมาตรฐานนนั้ ใหเ้ ก็บรกั ษาคอนกรีตตวั อย่างไวใ้ นหีบท่ีสรา้ ง และ
ตดิ ตงั้ ไวท้ ่ีหนา้ งาน อณุ หภมู ขิ องอากาศ เม่ือบรรจชุ นิ้ ตวั อยา่ งคอนกรีตไว้
จะอยรู่ ะหวา่ ง 16-27 องศาเซลเซียส (60-80 องศาฟาเรนไฮซ)์ หรอื จะใช้
วิธีอ่ืนท่ีจะให้มีสภาพอุณหภูมิเช่นเดียวกันก็ได้ ในการทาการบ่มควร
ระมดั ระวงั หา้ มกระทบกระแทกหรอื ส่นั สะเทือนแบบหลอ่
2.3.2.2 การบม่ ในระยะตอ่ ไป เม่ือกอ้ นคอนกรีตตวั อยา่ งมีอายคุ รบ 24 ช่วั โมง แลว้
ใหน้ าชิน้ ตวั อยา่ งออกจากแบบดว้ ยความระมดั ระวงั อยา่ ใหก้ อ้ นคอนกรีต
ตวั อย่างถกู ระทบกระแทกหรือชารุดเสียหายแลว้ ทาการบม่ โดยการนาไป
แชใ่ นนา้ ปนู ขาวอ่ิมตวั โดยใหน้ า้ ปนู ขาวอ่ิมตวั หลอ่ อยทู่ ุก ๆ ดา้ นของกอ้ น
ตัวอย่างคอนกรีตตลอดเวลาหรือจะบ่มโดยคลุมปิดในทรายชืน้ หรือ
กรรมวิธีอ่ืนท่ีเหมาะสมเพ่ือรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 231.7 องศา
เซลเซียส (73.43 องศาฟาเรนไฮซ)์ จนกวา่ จะถงึ อายทุ ่ีจะทาการทดสอบ
2.3.2.3 สาหรบั คานทดสอบท่ีบม่ ในสนามภายในระยะเวลา 24 ช่วั โมงแรก ใหเ้ ก็บ
และบ่มตวั อย่างคอนกรีตระยะแรกเช่นเดียวกับการบ่มตามขอ้ 2.3.2.1
แลว้ จงึ นาไปทงั้ แบบยงั สถานท่ีใกล้ ๆ กบั หอ้ งทดลองสนาม ถอดออกจาก
แบบและเก็บรกั ษาโดยวางคาน นนั้ ไวบ้ นพืน้ ใหอ้ ยู่ในลักษณะเดียวกับ
200