The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

NEW คู่มือ มทช.หมวดงานทดสอบ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

NEW คู่มือ มทช.หมวดงานทดสอบ

NEW คู่มือ มทช.หมวดงานทดสอบ

Keywords: กรม,ทางหลวงชนบท,ทช,วิเคราะห์ วิจัย,มาตรฐานงานทาง

สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

เม่ือ E = ปรมิ าตรของของเหลวท่ีกล่นั ได้ ณ อณุ หภมู ใิ ด ๆ ท่ีต่ากวา่ 175 องศาเซลเซียส
(347 องศาฟาเรนไฮต)์ มีหนว่ ยเป็นมลิ ลิลติ ร

F = ปรมิ าตรของตวั อยา่ งท่ีใช้ (200 มลิ ลิลิตร)
G = ปริมาตรของของเหลวท่ีกล่ันได้ ณ อุณหภูมิใด ๆ ท่ีสูงกว่า 175 องศา

เซลเซียส (347 องศาฟาเรนไฮต)์
3.3 ปรมิ าณรอ้ ยละของส่ิงท่ีเหลือจากการกล่นั ท่ีอณุ หภมู ิ 360 องศาเซลเซียส (680 องศาฟา

เรนไฮต)์ = F– D/F x 100

4. การรายงาน ใหร้ ายงานตามแบบฟอรม์ ใน ขอ้ 2.3

5. เกณฑต์ ัดสนิ และความคลาดเคลอ่ื นทย่ี อมให้
5.1 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากผูท้ ดสอบ ผลการทดสอบ 2 ครงั้ โดยผูท้ ดสอบคน
เดียวกนั ตวั อย่างเดียวกันหอ้ งทดสอบและเคร่ืองทดสอบเดียวกนั จะตอ้ งตา่ งกันไม่เกิน
รอ้ ยละ 1 ปรมิ าตรของตวั อยา่ งท่ีใช้
5.2 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากเคร่ืองมือทดสอบ ผลการทดสอบจากหอ้ งทดสอบ
ตา่ งกนั ตวั อยา่ งเดียวกนั จะตอ้ งตา่ งกนั ไมเ่ กินคา่ ตอ่ ไปนี้
5.2.1 ผลการทดสอบท่ีคานวณไดจ้ าก ขอ้ 3.2.1 ตอ้ งตา่ งกนั ไมเ่ กินรอ้ ยละ 3.5
5.2.2 ผลการทดสอบท่ีคานวณไดจ้ าก ขอ้ 3.2.2 ตอ้ งตา่ งกนั ไมเ่ กินรอ้ ยละ 2.0
5.2.3 ผลการทดสอบท่ีคานวณไดจ้ าก ขอ้ 3.3 ตอ้ งตา่ งกนั ไมเ่ กินรอ้ ยละ 2.0

6. ข้อควรระวัง
6.1 เวลาเทของท่ีเหลือจากการกล่นั ออกจากขวดกล่นั ตอ้ งระวงั ใหห้ ลอดตอ่ ดา้ นขา้ งของขวด
กล่นั อย่ใู นแนวราบ ทงั้ นีเ้ พ่ือปอ้ งกนั ไม่ใหน้ า้ มนั ท่ีคา้ งอย่ใู นหลอดนี้ไหลกลบั ลงไปในขวด
กล่นั อีก
6.2 ในระยะแรกของการกล่นั ไม่ควรเรง่ ไฟจนแรงเกินไป เพราะจะทาใหต้ วั อย่างเดือดจนลน้
ออกมาทางเคร่อื งควบแนน่
6.3 ในระหวา่ งการกล่นั หา้ มมิใหเ้ คล่ือนเทอรโ์ มมเิ ตอร์

7. หนังสืออ้างองิ
7.1 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY AND TRANSPORTATION
OFFICIALS “ STANDARD SPECIFICATION FOR TRANSPORTATION
MATERIALS AND METHOD OF SAMPLING AND TESTING” PART II AASHTO T.
78 - 78

101

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

7.2 STANDARD SPECIFICATION FOR DISTILLATION EQUIPMENT : ASTM
DESIGNATION : E 133-86

โครงการ.................................................. บฟ.มทช.(ท) 601-2545 ทะเบียนทดสอบ
ส านทก่ี ่อสรา้ ง.......…………………….. (หน่วยงานท่ที าการทดสอบ) ........................
การทดสอบการกล่นั วัสดยาง
…………………………………………….. คตั แบกแอส ัลต์ ผูท้ ดสอบ
(CUT – BACK ASPHALT)
ผรู้ ับ า้ ง................................................... ผู้
ผู้นาสง่ …………………………………….. ชั้นคณ าพ.................................... ตรว สอบ
ชนิดตัวอย่าง………….. ทดสอบครัง้ ท…ี่
ทดสอบวนั ท…ี่ ………….……. แผ่นท…่ี ผรู้ บั รอง

การทดสอบคร้ังที่ 1 ปรมิ าณท่ีกล่นั ไดเ้ ป็นรอ้ ยละ ปรมิ าณที่เหลือเป็นรอ้ ยละ
อณุ หภมู ิ ปรมิ าณตวั อยา่ งท่ีกล่นั ได้ เทียบกบั ปรมิ าณทงั้ หมด เทยี บกบั ปรมิ าณทงั้ หมด

(ซ) (มล.)

102

สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

175
225
260
316
360

การทดสอบครั้งท่ี 2 ปรมิ าณทีก่ ล่นั ไดเ้ ป็นรอ้ ยละ ปรมิ าณทเ่ี หลือเป็นรอ้ ยละ
อณุ หภมู ิ ปรมิ าณตวั อยา่ งทก่ี ล่นั ได้ เทยี บกบั ปรมิ าณทงั้ หมด เทยี บกบั ปรมิ าณทงั้ หมด

(ซ) (มล.)

175
225
260
316
360

สรุปผลการทดสอบ ปรมิ าณตวั อยา่ งท่กี ล่นั ได้ (มล.) ปรมิ าณเฉลยี่ ทก่ี ล่นั ไดเ้ ป็นรอ้ ยละ
อณุ หภมู ิ เทียบกบั ปรมิ าณเฉลย่ี ท่ีกล่นั ไดท้ ่ี 360 ซ.

(ซ.) การทดสอบ 1 การทดสอบ 2 คา่ เฉลยี่

175
225
260
316
360

มทช.(ท) 602-2545
มาตรฐานการทดสอบหา ดวาบไ และ ดตดิ ไ โดย ว้ ยเปิ ดคลี แลนด์

(CLEVELAND OPEN CUP)

1. ขอบข่าย

103

สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
มาตรฐานวิธีการทดสอบการหาจุดวาบไฟ (FLASH POINT) และติดไฟ (FIRE POINT) นีห้ าโดยถ้วย
เปิดคลีฟแลนด์ ของผลิตภัณฑป์ ิโตรเลียมและของเหลวทุกชนิด ยกเวน้ นา้ มนั เชือ้ เพลิง และสารอ่ืนท่ีมีจดุ
วาบไฟต่ากวา่ 79 องศาเซลเซียส

2 วธิ ีทา
2.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
2.1.1 ถว้ ยทดสอบทาดว้ ยทองเหลืองมีขนาดตามรูปท่ี 1 ซง่ึ อาจมีท่ีจบั หรือไมม่ ีก็ได้

มิลลเิ มตร นวิ้

ต่าสดุ สงู สดุ ต่าสดุ สงู สดุ
A 67.5 96 2.658 2.717
B 63 64 2.480 2.520
C 2.8 3.5 0.110 0.138
D-รศั มี 4 ระบุ 0.157 ระบุ
E 32.5 34 1.280 1.339
F 9 10 0.354 0.394
G 31 32.5 1.221 1.280
H 2.8 3.5 0.110 0.138
I 67 70 2.638 2.756
J 97 100 3.819 3.937

รูปท่ี 1 ้วยทดสอบคลี แลนด์ (CLEVELAND OPEN CUP)

2.1.2 ท่ีรองรับถ้วยทดสอบ (HEATING PLATE) เป็ นแผ่นโลหะ เช่น ทองเหลือง
เหล็กหลอ่ เหล็กเหนียว หรือเหล็กกลา้ มีรูตรงกลาง รอบรูนีม้ ีท่ีวางถว้ ยลดระดบั
ลงประมาณ 0.8 มม. รอบนอกบริเวณท่ีวางถ้วยทดสอบ มีแผ่นฉนวนความรอ้ น
ปิดบนแผ่นโลหะอีกชนั้ หน่ึง ขนาดของท่ีรองรบั ถว้ ยทดสอบนีแ้ สดงไวใ้ นรูปท่ี 2

104

สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ลกั ษณะของแผ่นโลหะอาจเป็นรูปส่ีเหล่ียมจตั รุ สั หรือแผ่นกลมก็ได้ แผ่นโลหะนี้
อาจมีขนาดใหญ่กว่าท่ีกาหนดเพ่ือตดิ ตงั้ ท่ีจดุ เปลวไฟทดสอบท่ีจบั เทอรโ์ มมิเตอร์
และป่มุ โลหะสาหรบั ใชเ้ ปรียบเทียบขนาดของเปลวไฟทดสอบ

รูปท่ี 2 ทรี่ องรับ ้วยทดสอบ (HEATING PLATE)

มลิ ลเิ มตร นวิ้

ต่าสด สงู สด ต่าสด สูงสด

A 6 7 0.260 0.276

B 0.5 1.0 0.020 0.039

C 6 7 0.236 2.276

D-เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 55 56 2.165 2.205

E-เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 69.5 70.5 2.736 2.776

F-เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 146 159 5.748 6.260

2.1.3 ท่ีจดุ เปลวไฟทดสอบ อาจเป็นแบบใดก็

ได้ท่ีเหมาะสม ตรงปลายควรมีขนาดเส้นผ่าน

ศนู ยก์ ลางประมาณ 1.6 มม. และมีรูกลวงขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 0.8

มม. ท่ีจุดเปลวไฟนี้อาจติดตั้งในลักษณะท่ีสามารถจะแกว่งไปมาได้ จุด

ศนู ยก์ ลางของรูในตาแหนง่ ท่ีจดุ เปลวไฟ จะตอ้ งอยใู่ นระดบั ท่ีสงู กวา่ ขอบของถว้ ย

ทดสอบไมเ่ กิน 2 มม. ควรมีป่ มุ โลหะขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 3.2-4.8 มม. ติดตงั้ ไว้

ในตาแหนง่ ท่ีเหมาะสมเพ่ือใชเ้ ปรียบเทียบขนาดของเปลวไฟทดสอบ

2.1.4 เคร่ืองใหค้ วามรอ้ นควรใชเ้ ตาไฟฟ้าท่ีควบคมุ อุณหภูมิได้ อาจใชเ้ ตาแก๊ส หรือ

ตะเกียงแอลกอฮอลห์ รืออย่างอ่ืนได้ แตจ่ ะตอ้ งไมม่ ีการลุกไหมห้ รือไม่มีเปลวไฟ

เกิดขึน้ รอบ ๆ ถ้วยทดสอบ จุดให้ความร้อนจะตอ้ งอยู่ตรงก่ึงกลางของถ้วย

ทดสอบถา้ ใชเ้ คร่อื งใหค้ วามรอ้ นแบบมีเปลวไฟ ตอ้ งปอ้ งกนั การแผร่ งั สีความรอ้ น

และลม โดยใชท้ ่ีบงั ท่ีเหมาะสม แตจ่ ะตอ้ งไมย่ ่ืนขนึ้ มาเหนือระดบั ผิวบนของแผน่

ฉนวนความรอ้ น

105

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
2.1.5 ท่ีจบั เทอรโ์ มมิเตอร์ ตอ้ งสามารถยึดเทอรโ์ มมิเตอรใ์ หอ้ ย่ใู นตาแหน่งท่ีตอ้ งการได้

ในระหวา่ งการทดสอบและสามารถนาออกจากถว้ ยทดสอบไดโ้ ดยง่าย
2.1.6 ขาตัง้ ท่ีรองรับถ้วยทดสอบต้องสามารถยึดท่ี
รองรบั ใหม้ ีระดบั คงท่ีและม่นั คงไดต้ ลอดการทดสอบ
2.1.7 ท่ีบังแสงและลม ใช้บังสามด้าน กว้างยาว
ประมาณดา้ นละ 500 มม. สงู ประมาณ 600 มม. สว่ น
หนา้ และสว่ นบนเปิด
2.1.8 เทอรโ์ มมิเตอรช์ นิดท่ีวัดไดล้ ะเอียดถึง 1 องศา
เซลเซียส และวดั ไดส้ งู สดุ ถึง 400 องศาเซลเซียส
2.2 การเตรียมตวั อยา่ งการทดสอบ

2.2.1 ตงั้ เคร่ืองมือบนโต๊ะท่ีม่นั คง และไมม่ ีลมพดั ผา่ น บงั ส่วนบนของเคร่ืองมือดว้ ยท่ี
บงั เพ่ือไมใ่ หม้ ีแสงสวา่ ง มากเกินไปในเวลาท่ีสงั เกตจดุ วาบไฟ

2.2.2 ใชต้ วั ทาละลายท่ีเหมาะสม เช่นนา้ มนั เบนซินหรือไตรคลอโรเอทเธอรีนลา้ งถ้วย
ทดสอบเม่ือกาจดั นา้ มนั วสั ดยุ างแอสฟัลต์ หรือส่ิงท่ีติดคา้ งอย่ใู นถว้ ยทดสอบ
จากการทดสอบครงั้ ก่อน ถา้ มีพวกคารบ์ อนตดิ อยตู่ อ้ งใชฝ้ อยโลหะถอู อก และใช้
นา้ เย็นลา้ งถว้ ยทดสอบเสียก่อน จึงนาไปลนไฟหรือใหค้ วามรอ้ น เพ่ือใหต้ วั ทา
ละลายและนา้ ท่ีคา้ งอยู่ระเหยไปให้หมด ปล่อยให้ถ้วยทดสอบเย็นลงจนถึง
อุณหภูมิท่ีต่ากว่าจุดวาบไฟท่ีคาดไวไ้ ม่นอ้ ยกว่า 60 องศาเซลเซียส จึงนาไปใช้
ทาการทดสอบได้

2.2.3 เสียบเทอรโ์ มมิเตอรก์ ับท่ียึดในแนวด่ิง ใหอ้ ยู่ในดา้ นตรงขา้ มกับท่ีจุดเปลวไฟ
ทดสอบปลายกระเปาะของเทอรม์ ิเตอรอ์ ย่ใู นถว้ ยเหนือกน้ ถว้ ยทดสอบ 6.0 มม.
ตาแหน่งของเทอรโ์ มมิเตอรอ์ ยหู่ ่างจากขอบถว้ ย 1 ใน 4 ของเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง
ถว้ ย (ดรู ูปท่ี 3)

106

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

อปุ กรณข์ องถว้ ยทดสอบ มิลลเิ มตร น้วิ
คลีฟแลนด์ (CLEVELAN OPEN CUP
APPARATUS)

ต่าสดุ สงู สดุ ตา่ สดุ สงู สดุ

A-เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง ม3.ิล2ลิเมตร 4.8 0.126 0.189
C-เสน้ ผา่Bน-รศศั นู มยี Aก์ ลาง 115.1620119.6 รรระะะ72บบบ0ุุุ .35143114-//480000/2....3002693634316 ระบุ
06.8933-.1220 ระบุ
DB 0.078
F-เสน้ ผ่านEศนู ยCDEก์ ลาง 0.276
ระบุ
F-รศั มี
G 0.8 1/32

9.5 3/8

เกจวดั ระดบั ตวั อยา่ ง
(FILLING LEVEL GAGE)

รูปท่ี 3 อปุ กรณถ์ ว้ ยทดสอบคลีฟแลนด์ และเกจวดั
ระดบั ตวั อยา่ ง

2.2.4 ถา้ ตวั อย่างเหนียวมากตอ้ งอ่นุ ใหเ้ หลว
พอท่ีจะเทไดส้ ะดวก แตอ่ ณุ หภมู ิท่ีใชใ้ นการอ่นุ จะตอ้ งต่ากว่าจดุ วาบไฟไม่นอ้ ย
กวา่ 60 องศาเซลเซียส
2.2.5 เทตวั อย่างลงในถ้วยทดสอบจนถึงขีดกาหนดถ้าตวั อย่างมากเกินใหใ้ ช้บิเปต
หรือเคร่ืองมืออ่ืนดดู ส่วนท่ีเกินออก แต่ถา้ ตวั อย่างไหลออกมาเลอะเทอะดา้ น
นอกของถว้ ยตอ้ งทาความสะอาดถว้ ยตามขอ้ 2.2.2 แลว้ บรรจตุ วั อยา่ งใหม่
2.2.6 ไลฟ่ องอากาศท่ีผิวหนา้ ของตวั อยา่ งโดยใชเ้ ปลวไฟจากตะเกียงบนเสน้ ผา่ น
ผิวหนา้ ของตวั อยา่ งจนไมเ่ ห็นฟองอากาศ (ประมาณ 2-3 ครงั้ )
2.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ.มทช.(ท) 602-2545
2.4 การทดสอบ
2.4.1 จุดไฟท่ีจุดเปลวไฟทดสอบ และปรบั ใหเ้ ปลวไฟนนั้ มีขนาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง
ประมาณ 3.2-4.8 มม. โดยเปรียบเทียบกบั ป่มุ โลหะท่ีตดิ อยบู่ นเคร่ืองมือ

107

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

2.4.2 ใหค้ วามรอ้ นกบั ตวั อย่าง ในระยะแรกใหม้ ีอตั ราการเพ่ิมของอณุ หภมู ิเป็น 14-15
องศาเซลเซียส ต่อนาที และเม่ือตวั อย่างมีอุณหภูมิต่ากว่าจุดวาบไฟท่ีคาดไว้
ประมาณ 60 องศาเซลเซียส ให้ลดความร้อนลง เพ่ือให้อัตราการเพ่ิมของ
อณุ หภูมิลดลงเป็น 5-6 องศาเซลเซียส ตอ่ นาที จนกระท่งั ตวั อยา่ งมีอณุ หภูมิต่า
กวา่ จดุ วาบไฟประมาณ 30 องศาเซลเซียส

2.4.3 เม่ือตัวอย่างมีอุณหภูมิท่ีต่ากว่าจุดวาบไฟประมาณ 30 องศาเซลเซียสแล้ว
เรม่ิ ตน้ ใชเ้ ปลวไฟเคล่ือนท่ีผา่ นถว้ ยทดสอบ และใหเ้ ปลวไฟผา่ นทกุ ครงั้ ท่ีอณุ หภูมิ
เพ่ิมขึน้ 2 องศาเซลเซียส การผ่านเปลวไฟใหผ้ ่านขา้ มจุดศูนยก์ ลางของถว้ ย
ทดสอบ และใหก้ า้ นของท่ีจดุ เปลวไฟอยใู่ นแนวราบเสมอ การเคล่ือนท่ีของเปลว
ไฟผา่ นถว้ ยทดสอบจะตอ้ งมีความเร็วสม่าเสมอ จะเป็นแนวเสน้ ตรงหรือเสน้ โคง้
ของวงกลมท่ีมีรศั มีอย่างนอ้ ย 150 มม. ก็ได้ จดุ ศนู ยก์ ลางของเปลวไฟท่ีเคล่ือน
ผ่านถว้ ยทดสอบจะตอ้ งอยใู่ นระดบั ท่ีสงู กว่าขอบของถว้ ยไม่เกิน 2 มม. และให้
ผ่านไปทางหน่ึงก่อนแล้วผ่านกลับมา ระยะเวลาท่ีเปลวไฟผ่านถ้วยทดสอบ
ประมาณ 1 วนิ าที

2.4.4 เม่ือเกิดไฟวาบขึน้ ท่ีจุดหน่ึงจุดใดบนผิวหน้าของตัวอย่าง อ่านอุณหภูมิจาก
เทอรโ์ มมิเตอร์ แลว้ บนั ทกึ เป็นจดุ วาบไฟแตต่ อ้ งแนใ่ จวา่ ไมใ่ ชไ่ ฟวาบท่ีเกิดขนึ้ จาก
รอบนอกของเปลวไฟท่ีใชท้ ดสอบ

2.4.5 ถ้าตอ้ งการหาจุดติดไฟ ใหค้ วามรอ้ นตวั อย่างต่อไปโดยให้อัตราการเพ่ิมของ
อณุ หภมู เิ ป็น 5-6 องศาเซลเซียส จนกระท่งั ตวั อยา่ งตดิ ไฟและเกิดการลกุ ไหมอ้ ยู่
นานอยา่ งนอ้ ย 5 วินาที อณุ หภมู ทิ ่ีจดุ นี้ คอื จดุ ตดิ ไฟ

3 การรายงาน ใหร้ ายงานตามแบบฟอรม์ ใน ขอ้ 2.3

4 เกณฑต์ ัดสินและความคลาดเคลือ่ นทยี่ อมให้
4.1 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากผูท้ ดสอบ ผลการทดสอบ 2 ครงั้ โดยผู้ทดสอบคน
เดียวกนั ดว้ ยตวั อยา่ งเดียวกนั หอ้ งทดสอบและเคร่ืองทดสอบเดยี วกนั จะเช่ือถือไดเ้ ม่ือผล
การทดสอบนนั้ แตกตา่ งกนั ไมเ่ กินคา่ ดงั ตอ่ ไปนี้
4.1.1 จดุ วาบไฟ 8 องศาเซลเซียส
4.1.2 จดุ ตดิ ไฟ 8 องศาเซลเซียส
4.2 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากเคร่ืองมือทดสอบ ผลการทดสอบจากหอ้ งทดสอบ
ตา่ งกนั จะเช่ือถือได้ เม่ือผลการทดสอบนนั้ แตกตา่ งกนั ไมเ่ กินคา่ ตอ่ ไปนี้
4.2.1 จดุ วาบไฟ 16 องศาเซลเซียส

108

สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
4.2.2 จดุ ตดิ ไฟ 14 องศาเซลเซียส
5. ข้อควรระวัง
5.1 ในการเทตวั อย่างลงถว้ ยทดสอบ ตอ้ งระวงั ไมใ่ หเ้ กิดฟองอากาศ โดยการเทตวั อย่างชา้ ๆ
อยา่ งสม่าเสมอใหค้ อ่ ย ๆ เพ่มิ ระดบั ขนึ้ มาจนถงึ ขีดเตม็
5.2 ในการทดสอบขณะท่ีอุณหภูมิสูงขึน้ จนถึงจุดท่ีต่ากว่าจุดวาบไฟประมาณ 20 องศา
เซลเซียส จะตอ้ งระมดั ระวงั ไมใ่ หเ้ กิดการรบกวนตอ่ ไอของตวั อยา่ งในถว้ ยทดสอบ โดยการ
กระทบกระเทือนหรอื จากลมหายใจใกลถ้ ว้ ยทดสอบ
6 หนังสืออ้างองิ
6.1 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY AND TRANSPORTATION
OFFICIALS “ STANDARD SPECIFICATION FOR HIGHWAY MATERIALS AND
METHOD OF SAMPLING AND TESTING” PART II AASHTO T. 48

109

สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

โครงการ.................................................. บฟ. มทช.(ท) 602-2545 ทะเบยี นทดสอบ.....................
ส านทก่ี ่อสร้าง
.......………………………………………… (หนว่ ยงานท่ที าการทดสอบ) ผทู้ ดสอบ
………………………….. การทดสอบหา ดวาบไ และ ผู้
ผูร้ บั า้ ง................................................... ดตดิ ไ โดยใช้วธิ ีคลี แลนด์ ตรว สอบ
ผนู้ าสง่ ……………………………………. (CLEVELAND OPEN CUP) ผู้รับรอง
ชนิดตัวอยา่ ง……………ทดสอบครัง้ ท…ี่
ทดสอบวันท…ี่ ………….…… แผน่ ท…่ี .. ชนั้ คณ าพ......................................

ลาดับ รายละเอยี ด ค่าทไี่ ด้ หมายเหตุ
1 จดุ วาบไฟ (FLASH POINT) ซ.
2 จดุ ติดไฟ (FIRE POINT) ซ.

110

สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

มทช.(ท) 603-2545
มาตรฐานการทดสอบค่าความหนืดของผลติ ณั ฑป์ ิ โตรเลียมโดยวธิ ีเ ยโ์ บลต์

(SAYBOLT)

1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบคา่ ความหนืดนี้ ครอบคลมุ ถงึ การวดั คา่ ความหนืดของผลติ ภณั ฑป์ ิโตรเลียม

โดยวิธีเซยโ์ บลต์ (SAYBOLT) ท่ีอณุ หภมู ิกาหนดใหร้ ะหวา่ ง 21.1 องศาเซลเซียส ถึง 98.9 องศาเซลเซียส (70
องศาฟาเรนไฮต์ ถงึ 210 องศาฟาเรนไฮต)์

2. วิธีทา
2.2 ความหนืด เซยโ์ บลต์ ยูนิเวอรแ์ ซล (SAYBOLT UNIVERSAL : SU.) หมายถึงเวลาเป็น
วินาทีท่ีตวั อย่างผลิตภัณฑป์ ิโตรเลียม 60 มิลลิลิตร ไหลผา่ นรูกลม (ORIFICE) ตามขนาด
ของยนู ิวเวอรแ์ ซล ซง่ึ ไดส้ อบเทียบ (CALIBRATED) ไวแ้ ลว้ ภายใตส้ ภาวะท่ีกาหนด
2.3 ความหนืด เซยโ์ บลต์ ฟูรอล (SAYBOLT FUROL : SF.) หมายถึงเวลาเป็นวินาทีท่ีตวั อย่าง
ผลิตภณั ฑป์ ิโตรเลียม 60 มลิ ลลิ ติ ร ไหลผา่ นรูกลมตามขนาดของฟรู อล (FUROL ORIFICE)
ซง่ึ ไดส้ อบเทียบไวแ้ ลว้ ภายใตส้ ภาวะท่ีกาหนด
ความหนืด เซยโ์ บลต์ ฟรู อล มีคา่ ประมาณ 1 ใน 10 ของความหนืด เซยโ์ บลต์ ยนู ิเวอรแ์ ซล
สาหรบั วสั ดขุ องแอสฟัลต์ ซง่ึ มีความหนืด เซยโ์ บลต์ ยนู เิ วอรแ์ ซล มากกวา่ 1000 วินาที ควร
ทาการทดสอบ เซยโ์ บลต์ ฟรู อล

3 วิธีทา
3.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
3.1.1 เคร่อื งมือหาความหนืด เซยโ์ บลต์ และอา่ งควบคมุ อณุ หภมู ิ
3.1.1.1 เคร่อื งมือหาความหนืด ทาดว้ ยโลหะผวิ เรียบ มีความตา้ นทานตอ่ การกดั
กรอ่ นมีรูปรา่ ง และขนาดดงั แสดงในรูปท่ี 1 ตรงสว่ นบนมี 2 ชนั้ ขอบบน
ของชั้นในเป็นขีดกาหนดในการบรรจุตัวอย่าง ส่วนผนังชั้นนอกใช้
สาหรับกันตัวอย่างท่ีล้นออกมา เคร่ืองมือนีป้ ระกอบติดกับก้นอ่าง
ควบคมุ อณุ หภมู ใิ นลกั ษณะตงั้ ตรงและขอบบนอยใู่ นแนวระดบั สว่ นลา่ ง
ของเคร่ืองมือมีเกลียวสาหรบั ใส่ชิน้ ส่วนท่ีมีรูกลม (ORIFICE TIP) ซ่ึง
สามารถเปล่ียนใสไ่ ดท้ งั้ แบบ ยนู ิเวอรแ์ ซลและฟรู อล ท่ีส่วนล่างสุดของ
ชอ่ งสาหรบั ใสจ่ กุ ไมค้ อรก์ เพ่ือปอ้ งกนั ไมใ่ หต้ วั อยา่ งไหลออกมาก่อนการ

111

สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ทดสอบ และท่ีจกุ ไมค้ อรก์ ตอ้ งมีโซ่เล็ก ๆ หรือเชือกตดิ ไว้ เพ่ือสะดวกใน
การดงึ จดุ ไมค้ อรก์ ออกในขณะทาการทดสอบ
3.1.1.2 อ่างควบคุมอุณหภูมิ ใชบ้ รรจุของเหลวซ่ึงเป็นตวั กลางในการควบคมุ
อณุ หภมู ิภายในอา่ งประกอบดว้ ยขดลวดใหค้ วามรอ้ น (ซง่ึ ควรจะอย่หู า่ ง
จากเคร่ืองมือหาความหนืดอย่างนอ้ ย 30 มม.) เคร่ืองอตั โนมตั ิในการ
ควบคมุ อุณหภูมิ และใบพดั สาหรบั กวนของเหลว เพ่ือทาใหอ้ ุณหภูมิ
สม่าเสมอ

รูปท่ี 1 เคร่ืองมือหาความหนืด เซยโ์ บลต์ รูกลมแบบ ยนู เิ วอรแ์ ซล และรูกลมแบบ ฟรู อล

112

สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3.1.2 หลอดดดู ตวั อยา่ งซ่งึ อาจใชบ้ ีเปตแทนกนั ได้ มีลกั ษณะดงั แสดงใน รูปท่ี 2

รูปท่ี 2 หลอดดดู ตวั อยา่ ง (WITHDRAWAL TUBE)
3.1.3 ท่ีจบั เทอรโ์ มมเิ ตอร์ มีลกั ษณะดงั แสดงใน รูปท่ี 3

รูปท่ี 3 ท่ีจบั เทอรโ์ มมเิ ตอร์ (THERMOMETER SUPPORT)
3.1.4 กรวยกรองตวั อยา่ ง มีรูปรา่ งและขนาดดงั แสดงใน รูปท่ี 4

113

สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

รูปท่ี 4 กรวยกรองตวั อยา่ ง
3.1.5 ถว้ ยกรองรบั ตวั อยา่ ง มีรูปรา่ งและขนาดดงั แสดงใน รูปท่ี 5

รูปท่ี 5 ถว้ ยรองรบั ตวั อยา่ ง
3.1.6 นาฬกิ าจบั เวลา ชนิดอา่ นไดล้ ะเอียดถึง 0.1 วนิ าที

3.1.7 เทอรโ์ มมิเตอร์ ใช้จานวน 2 อัน สาหรับอันแรกใช้วัดอุณหภูมิของตัวอย่างใน

เคร่ืองมือหาความหนืด และอนั ท่ีสองใชส้ าหรบั อณุ หภูมิในอ่างควบคมุ อุณหภูมิ

เทอรโ์ มมเิ ตอรท์ ่ีใชม้ ีชว่ งวดั อณุ หภมู ิท่ีเหมาะสม ขนึ้ อยกู่ บั อณุ หภมู ทิ ่ีกาหนดในการ

ทดลองดงั แสดงไวใ้ น ตารางท่ี 1

ตารางท่ี 1 ชว่ งอณุ หภมู ขิ องเทอรโ์ มมเิ ตอร์

อณุ หภูมทิ กี่ าหนด เทอรโ์ มมิเตอร์

ชว่ งอณุ หภมู ิ ความละเอียด

ซ ฟ ซ ฟ ซ ฟ

21.1 70 19-27 66-80 0.1 0.2

25 77 19-27 66-80 0.1 0.2

37.8 100 34-42 94-108 0.1 0.2

50 122 49-57 120-134 0.1 0.2

54.4 130 29-57 120-134 0.1 0.2

98.9 210 95-103 204-218 0.1 0.2

114

สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

3.2 การเตรยี มตวั อยา่ งการทดสอบ
3.2.1 ตงั้ เคร่ืองมือในท่ีไมม่ ีลมพดั และไมม่ ีการเปล่ียนแปลงของอณุ หภมู อิ ยา่ งรวดเรว็
3.2.2 บรรจขุ องเหลว ท่ีใชเ้ ป็นตวั กลางลงในอา่ งควบคมุ อณุ หภมู ิ โดยใหร้ ะดบั ของเหลว
นั้นอยู่สูงกว่าขอบบนชั้นในของเคร่ืองมือหาความหนึด อย่างน้อย 6.5 มม.
ตวั กลางท่ีใชข้ นึ้ อยกู่ บั อณุ หภมู ทิ ่ีกาหนดในการทดสอบดงั แสดงไวใ้ น
ตารางท่ี 2

ตารางท่ี 2 ของเหลวท่ีใชเ้ ป็นกลางควบคมุ อณุ หภมู ิ

อณุ หภมู ิแตกตา่ ง อณุ หภมู แิ ตกตา่ งท่ี
เหมาะสมระหวา่ ง
อุณหภมู ิที่ สงู สดุ ระหวา่ ง อา่ งควบคมุ อณุ หภมู ิ
กาหนด
ของเหลวทใ่ี ช้เปนตัวกลาง อา่ งควบคมุ อณุ หภมู ิ กบั ตวั อย่าง
ซ ฟ กบั ตวั อย่าง ซ ฟ
21.1 70 0.03 0.05
25 77 ซ ฟ 0.03 0.05
37.8 100
นา้ 0.06 0.1 0.03 0.05
50 122
นา้ 0.06 0.1 0.03 0.05
54.4 130
นา้ หรอื นา้ มนั ท่มี ีคา่ ความหนืดแบบ เซยโ์ บลต์ 0.03 0.05
60 140
ยนู เิ วอรแ์ ซล(SU) ท่ี 100ฟ เท่ากบั 50-70 วนิ าที 0.14 0.25 0.06 0.1
82.2 180
นา้ หรือนา้ มนั ท่มี ีค่าความหนืดแบบ เซยโ์ บลต์ 0.06 0.1
98.9 210
ยนู เิ วอรแ์ ซล(SU) ท่ี 100ฟ เทา่ กบั 120-150 วนิ าที 0.28 0.5 0.06 0.1

นา้ หรอื นา้ มนั ท่มี ีคา่ ความหนืดแบบ เซยโ์ บลต์

ยนู เิ วอรแ์ ซล(SU) ท่ี 100ฟ เทา่ กบั 120-150 วนิ าที 0.28 0.5

นา้ หรือนา้ มนั ท่มี ีคา่ ความหนืดแบบ เซยโ์ บลต์

ยนู ิเวอรแ์ ซล(SU) ท่ี 100ฟ เท่ากบั 120-150 วนิ าที 0.56 1.0

นา้ หรอื นา้ มนั ท่มี ีคา่ ความหนืดแบบ เซยโ์ บลต์

ยนู เิ วอรแ์ ซล(SU) ท่ี 100ฟ เทา่ กบั 330-370 วนิ าที 0.83 1.5

นา้ มนั ท่มี ่ีค่าความหนืดแบบ เซยโ์ บลต์ ยนู ิเวอรแ์ ซล

(SU) เทา่ กบั 330-370 วนิ าที 1.11 2.0

3.2.3 ใส่ชิน้ ส่วนท่ีมีรูปกลม ท่ีส่วนของเคร่ืองมือ ถ้าตัวอย่างท่ีจะทดสอบเป็นน้ามัน
เชือ้ เพลิงหรือนา้ มันหล่อล่ืนใชช้ ิน้ ส่วนท่ีมีรูปกลมแบบ ยูนิเวอรแ์ ซล แต่ถ้าเป็น
ตวั อยา่ งวสั ดแุ อสฟัลต์ หรอื อยา่ งอ่ืนท่ีใชเ้ วลาในการไหลผา่ นชนิ้ สว่ นท่ีมีรูกลมแบบ
ยนู ิเวอรแ์ ซล มากกวา่ 1000 วินาที ใหใ้ ชช้ ิน้ สว่ นท่ีมีรูกลมแบบ ฟรู อล

115

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

3.2.4 ใชต้ วั ทาละลายท่ีเหมาะสมลา้ งเคร่อื งมือหาความหนืด แลว้ ปลอ่ ยใหแ้ หง้
3.2.5 เปิดสวิตช์ให้เคร่ืองทาความรอ้ นและเคร่ืองกวนทางาน ปรับอุณหภูมิในอ่าง

ควบคุมอุณหภูมิให้ได้ตามท่ีกาหนด ในการทดสอบอุณหภูมิของตัวอย่างจะ
คลาดเคล่ือนจากท่ีกาหนดไดไ้ มเ่ กิน 0.03 องศาเซลเซียส
3.2.6 ใส่จุกไมค้ อรก์ ตามขอ้ 3.1.1.1 ท่ีช่องส่วนล่างสดุ ของเคร่ืองมือจะตอ้ งปิดดว้ ยจุก
ไมค้ อรก์ ใหแ้ นน่ พอดไี มใ่ หต้ วั อยา่ งไหลซมึ ออกมา
3.2.7 ถ้าอุณหภูมิท่ีกาหนดในการทดสอบสูงกว่าอุณหภูมิห้อง ให้อุ่นตัวอย่างก่อน
ประมาณ 100 มิลลิลิตร โดยอณุ หภมู ิของตวั อย่างจะสงู กว่าอณุ หภูมิท่ีกาหนดได้
ไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส และจะตอ้ งต่ากว่าจุดวาบไฟไม่น้อยกว่า 27 องศา
เซลเซียส สาหรบั วัสดุยางแอสฟัลตท์ ่ีมีส่วนผสมของนา้ มันประเภทแข็งตัวเร็ว
(RC) และประเภทแข็งตวั เร็วปานกลาง (MC) ใหเ้ ทตวั อย่างลงในเคร่ืองมือหาค่า
ความหนืดท่ีอุณหภูมิห้อง หา้ มอุ่นตวั อย่างในภาชนะเปิด แต่ถ้าตวั อย่างเทไม่
สะดวกเน่ืองจากมีความหนืดสูง ใหน้ าตวั อย่าง ซ่ึงอย่ใู นภาชนะบรรจุตวั อย่างท่ี
ปิดฝาไปแชใ่ นอ่างนา้ อนุ่ ท่ีมีอณุ หภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3
นาที แลว้ จงึ เทตวั อยา่ งลงในเคร่อื งมือหาคา่ ความหนืด
3.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ. มทช.(ท) 603-2545
3.4 การทดสอบ
3.4.1 เทตวั อยา่ งท่ีเตรียมไวผ้ า่ นกรวยกรองลงส่เู คร่ืองหาคา่ ความหนืดจนเต็มถึงขอบบน
ชนั้ ใน ซง่ึ เป็นขีดกาหนดในการบรรจตุ วั อยา่ ง
3.4.2 กวนตวั อย่างดว้ ยความเร็ว 30-50 รอบต่อนาที จนตวั อย่างมีอุณหภูมิคงท่ีตาม
กาหนดและมีความคลาด เคล่ือนไดไ้ มเ่ กิน 0.03 องศาเซลเซียส ตอ้ งกวนตวั อย่าง
ตดิ ตอ่ กนั อยา่ งนอ้ ย 1 นาที หา้ มปรบั อณุ หภมู ิของตวั อยา่ งในเคร่อื งมือหาคา่ ความ
หนืด โดยการจมุ่ วสั ดทุ ่ีเยน็ หรือรอ้ นลงไป
3.4.3 นาเอาเทอรโ์ มมิเตอร์ ออกจากตวั อย่างแล้วรีบใช้หลอดดูดตัวอย่างปิเปตดูด
ตวั อย่างท่ีลม้ ออกมาอย่ทู ่ีชนั้ นอกของเคร่ืองมือ จนมีระดบั ต่ากว่าขอบบนชนั้ ใน
การดดู ตวั อย่างอย่าใหป้ ลายของหลอดดูดตวั อย่างหรือปิเปตสมั ผสั กับขอบบน
ชนั้ ใน เพราะจะทาใหร้ ะดบั ของตวั อยา่ งในเคร่อื งมือลดลง
3.4.4 วางถว้ ยรองรบั ตวั อยา่ งท่ีใตเ้ คร่อื งหาคา่ ความหนืดใหอ้ ยใู่ นตาแหนง่ ท่ีตวั อยา่ งไหล
ลงมากระทบกับคอถว้ ยพอดี ขีดกาหนดของถว้ ยรองรบั ตวั อย่างตอ้ งอยู่ต่ากว่า
สว่ นลา่ งสดุ ของเคร่อื งมือ 100-130 มม.

116

สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

3.4.5 ดงึ โซใ่ หจ้ กุ ไมค้ อรก์ หลุดออก ในขณะเดียวกนั ก็เร่มิ จบั เวลา เม่ือตวั อยา่ งไหลลงสู่
ถว้ ยรองรบั จนถึงขีดกาหนด แลว้ บนั ทกึ เวลาการไหลของตวั อย่างเป็นวินาที ระดบั
ของตวั อยา่ งในภาชนะรองรบั นีใ้ หด้ ทู ่ีโคง้ สว่ นลา่ ง

4 การคานวณ
4.1 การสอบเทียบเคร่ืองมือ ก่อนท่ีจะใชเ้ คร่ืองมือหาคา่ ความหนืดของตวั อย่างให้สอบเทียบ
เคร่อื งมือ โดยวิธีดงั ตอ่ ไปนี้
4.1.1 การสอบเทียบเคร่ืองมือหาคา่ ความหนืด ใหใ้ ชช้ ิน้ สว่ นท่ีมีรูกลมแบบ ยนู ิเวอรแ์ ซล
หาเวลาการไหลของนา้ มนั มาตรฐาน ตามตารางท่ี 3 ซ่งึ รูค้ า่ ความหนืดแนน่ อนท่ี
อณุ หภมู ิ 378 องศาเซลเซียส (100 องศาฟาเรนไฮต)์ และท่ี 98.9 องศาเซลเซียส
(210 องศาฟาเรนไฮต)์ โดยดาเนินวิธีการตามขอ้ 3.2 และ 3.4
4.1.2 การสอบเทียบเคร่ืองมือหาค่าความหนืดใหใ้ ชช้ ิน้ ส่วนท่ีมีรูกลมแบบ ฟูรอล หา
เวลาการไหลของนา้ มันมาตรฐานตามตารางท่ี 3 ซ่ึงรูค้ ่าความหนืดแน่นอนท่ี
อณุ หภมู ิ 50 องศาเซลเซียส (122 องศาฟาเรนไฮต)์ และมีเวลาการไหลอยา่ งนอ้ ย
60 วนิ าที โดยดาเนนิ วิธีการทดสอบตามขอ้ 3.2 และ 3.4
ตารางท่ี 3 นา้ มนั มาตรฐานท่ีใชส้ อบเทียบเคร่ืองมือหาความหนืด

ชนิดของนา้ มนั มาตรฐาน คา่ ความหนืด ยนู ิเวอร์แซล ค่าความหนืด ฟูรอล

มาตรฐาน (วนิ าท)ี (วนิ าท)ี
ASTM.
ที่ 37.8ซ ที่ 98.9ซ ที่ 50ซ
S3
S6 36 - -
S 20 45 - -
S 60 100 - -
S 200 290 - -
S 600 930 - -
- 150 120

4.1.3 เวลาในการไหลท่ีหาไดจ้ ะเท่ากบั คา่ ความหนืด ยนู ิเวอรแ์ ซล ของนา้ มนั มาตรฐาน
นั้น แต่ถ้าแตกต่างกันมาก กว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ ให้คานวณตัวแก้ความ
คลาดเคล่ือนของเคร่อื งนนั้ จากสตู ร

F = V/T

117

สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

เม่ือ F = ตวั แกค้ วามคลาดเคล่ือน
V = ความหนืด เซยโ์ บลต์ ของนา้ มนั มาตรฐาน เป็นวนิ าที
T = เวลาในการไหลท่ีวดั ได้ เป็นวินาที

4.2 การคานวณผลการทดสอบ
คา่ ความหนืด เซยโ์ บลต์ (วินาที) = เวลาในการไหลของตวั อย่าง คณู ดว้ ยคา่ ของ F

5 การรายงาน
5.1 ใหร้ ายงานตามแบบฟอรม์ ตามขอ้ 3.3
5.2 ใหร้ ายงานคา่ ท่ีแกค้ วามคลาดเคล่ือน โดยระบวุ ่าเป็นคา่ ความหนืด เซยโ์ บลต์ ยนู ิเวอรแ์ ซล
หรอื คา่ ความหนืด เซยโ์ บลต์ ฟรู อล และระบอุ ณุ หภมู ิท่ีทาการทดสอบดว้ ย
5.3 คา่ ความหนืดท่ีต่ากวา่ 200 วินาที ใหร้ ายงานเป็นจานวนเตม็

6 ข้อควรระวัง
6.1 เคร่ืองมือหาความหนืด ซ่ึงมีความคลาดเคล่ือนมากกว่า รอ้ ยละ 1 หา้ มนามาใชใ้ นการ
ทดสอบ
6.2 ตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑป์ ิโตรเลียมท่ีนามาใชใ้ นการทดสอบตอ้ งกรองใหส้ ะอาดเสียก่อน

7 หนังสืออ้างอิง
7.1 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY AND TRANSPORTATION
OFFICIALS.“STANDARD SPECIFICATION FOR TRANSPORTATION MATERIALS
AND METHOD OF SAMPLING AND TESTING” PART II AASHTO T. 72-78
7.2 หนงั สือวธิ ีการทดสอบวสั ดกุ ่อสรา้ งเลม่ ท่ี 3 กองวิเคราะหแ์ ละวจิ ยั กรมทางหลวง
7.3 THE AMERICAN SOCIETY OF TESTING METERIALS ASTM. D 88-56 (1973)

118

สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

โครงการ.................................................. บ . มทช.(ท) 603-2545 ทะเบยี นทดสอบ........................
ส านทกี่ ่อสร้าง.......………………………
(หนว่ ยงานท่ที าการทดสอบ) ผูท้ ดสอบ
…………………………………………… การทดสอบหาค่าความหนืด ผู้
ของผลิต ณั ฑป์ ิ โตรเลยี ม ตรว สอบ
ผู้รับ า้ ง................................................... โดยวธิ ีเ ยโ์ บลต์ (SAYBOLT) ผรู้ บั รอง
ผนู้ าส่ง…………………………………….
ชนิดตวั อย่าง……………ทดสอบครงั้ ท…ี่ ชัน้ คณ าพ....................................
ทดสอบวนั ท…ี่ ………….….. แผ่นท…ี่ …

การทดสอบความหนืดแบบ..............................................................
คา่ ทใี่ ชแ้ กค้ วามคลาดเคลือ่ น (F) = …………………………

การทดสอบที่ ปรมิ าตรของตวั อยา่ ง อณุ หภมู ขิ องตวั อยา่ ง เวลา หมายเหตุ
(มล.) ( ) (วินาท)ี

สรุปผลการทดสอบ
คา่ ความหนืดแบบเซยโ์ บลต์ = ……………. วนิ าที

119

สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

มทช.(ท) 604-2545
มาตรฐานการทดสอบค่าความหนืดของวัสดยางแอส ัลต์ อิมัลชัน

(ASPHALT EMULSION) โดยวิธีเ ยโ์ บลต์

1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบนีค้ รอบคลมุ ถึงการหาค่าความหนืด ของวสั ดยุ างแอสฟัลต์ อิมลั ชนั โดยวิธีเซย์
โบลต์ (SAYBOLT) ท่ีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส (77 องศาฟาเรนไฮต)์ และท่ีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส
(112 องศาฟาเรนไฮต)์

2. นิยาม
วสั ดยุ างแอสฟัลต์ อมิ ลั ชนั นี้ หมายถึงวสั ดยุ างแคตอิออนิกแอสฟัลต์ อิมัลชนั ท่ีแตกตวั เป็นอนภุ าค เลก็
ๆ กระจายอยู่ในสารละลาย ซ่ึงประกอบดว้ ยนา้ อิมัลซิไฟอิงเอเจนตแ์ ละอ่ืน ๆ ซ่ึงอนุภาคของวัสดุยาง
แอสฟัลต์ มีประจไุ ฟฟ้าบวก

3. วธิ ีการ
3.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
3.1.1 เคร่อื งมือหาความหนืดแบบเซยโ์ บลต์ (SAYBOLT) ตามท่ีกาหนดไวใ้ นวิธีการ
ทดสอบคา่ ความหนืด โดยวิธีเซยโ์ บลต์ มทช.(ท) 603-2545
3.1.2 ตะแกรง หรือแผน่ กรองเบอร์ 20 (0.850 มม.) ท่ีทาดว้ ยโลหะ
3.1.3 เทอรโ์ มมิเตอร์
3.1.3.1 ในกรณีทดสอบท่ีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ใหใ้ ชเ้ ทอรโ์ มมิเตอรท์ ่ีอ่าน
ไดล้ ะเอียดถึง 0.1 องศาเซลเซียส ในช่วง 19 องศาเซลเซียส ถึง 27 องศา
เซลเซียส
3.1.3.2 ในกรณีทดสอบท่ีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ใหใ้ ชเ้ ทอรโ์ มมิเตอรท์ ่ีอ่าน
ไดล้ ะเอียดถึง 0.1 องศาเซลเซียส ในช่วง 49 องศาเซลเซียส ถึง 57 องศา
เซลเซียส
3.1.4 อา่ งนา้ ท่ีสามารถควบคมุ อณุ หภมู ขิ องนา้ ใหค้ งท่ีไดต้ ามตอ้ งการ

120

สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

3.2 การเตรียมตวั อยา่ งการทดสอบ
3.2.1 เตรียมเคร่ืองมือหาคา่ ความหนืดเชน่ เดียวกบั ในวิธีการทดสอบคา่ ความหนืด โดย
วิธีเซยโ์ บลต์ มทช.(ท) 603-2545
3.2.2 การทดสอบท่ีอณุ หภมู ิ 25 องศาเซลเซียส
กวนตวั อยา่ งใหท้ ่วั โดยไมใ่ หเ้ กิดฟอง แลว้ เทตวั อยา่ งลงในขวด ขนาด 100
มิลลิลิตร นาขวดท่ีบรรจตุ วั อย่างนีไ้ ปแช่ในอ่างนา้ ซ่ึงควบคุมอณุ หภูมิของนา้ ได้
คงท่ี 25 องศาเซลเซียส โดยมีความคลาดเคล่ือนในทางบวกหรือลบไม่เกิน 0.2
องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที แลว้ กลบั ขวดคว่าขนึ้ ลงชา้ ๆ หลาย ๆ ครงั้ เพ่ือให้
อณุ หภูมิตวั อย่างเท่ากนั ตลอด ระวงั อยา่ ใหเ้ กิดฟอง เทตวั อย่างผา่ นตะแกรง หรือ
แผน่ กรองเบอร์ 20 ลงในเคร่ืองหาคา่ ความหนืด ซ่งึ ไดป้ รบั อุณหภูมิใหค้ งท่ีตามท่ี
กาหนดแลว้ ปลอ่ ยใหต้ วั อยา่ งไหลผา่ นเคร่อื งออกมาเล็กนอ้ ยจงึ ปิดดว้ ยจกุ ไมค้ อรก์
ท่ีชอ่ งตรงสว่ นลา่ งสดุ ของเคร่อื ง เตมิ ตวั อยา่ งใหเ้ ตม็ ถึงขอบบน
3.2.3 การทดสอบท่ีอณุ หภมู ิ 50 องศาเซลเซียส
กวนตวั อย่างใหท้ ่วั ระวงั อย่าใหเ้ กิดฟองอากาศแลว้ เทตวั อย่างประมาณ
100 มิลลิลิตร ลงในบีเกอรข์ นาด 400 มิลลิลิตร นาบิเกอรน์ ีไ้ ปแช่ในอ่างควบคมุ
อุณหภูมิของน้า ซ่ึงมีอุณหภูมิ 703 องศาเซลเซียส ให้บีเกอร์อยู่ลึกในน้า
ประมาณ 50 มม. จบั บีเกอรใ์ หต้ งั้ ตรง ใชเ้ ทอรโ์ มมิเตอรก์ วนตวั อย่างเป็นวงดว้ ย
อัตราประมาณ 60 รอบต่อนาที เพ่ือใหอ้ ุณหภูมิของตวั อย่างเท่ากันตลอดระวงั
อย่าใหเ้ กิดฟองอากาศ เม่ือตวั อย่างมีอุณหภูมิสูงขึน้ ถึง 510.3 องศาเซลเซียส
รีบเทตวั อยา่ งผ่านตะแกรง หรือแผนกรองเบอร์ 20 ลงสเู่ คร่ืองหาคา่ ความหนืด ซ่งึ
อดุ ดว้ ยจุกคอรก์ ท่ีช่องตรงล่างสุดของเคร่ืองมือหาคา่ ความหนืดไวแ้ ลว้ จนเต็มถึง
ขอบบน ให้กวนตัวอย่างด้วยอัตราประมาณ 60 รอบต่อนาที ระวังไม่ให้เกิด
ฟองอากาศเม่ือตวั อย่างมีอณุ หภูมิคงท่ี ท่ี 500.05 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1
นาที เอาเทอรโ์ มมเิ ตอรอ์ อกจากตวั อยา่ ง แลว้ รบี ใชห้ ลอดดดู หรือปิเปตดดู ตวั อย่าง
ท่ีลน้ ออกมาอยทู่ ่ีชนั้ นอกของเคร่ืองมือออก

3.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ มทช.(ท) 604-2545
3.4 การทดสอบ

ดาเนินการทดสอบตามมาตรฐานการทดสอบคา่ ความหนืดโดยวิธีเซยโ์ บลต์ มทช.(ท) 603-
2545

4. การคานวณ

121

สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ทาการคานวณตามวิธีเดียวกบั มาตรฐานการทดสอบคา่ ความหนืด โดยวธิ ีเซยโ์ บลต์ มทช.(ท) 603-
2545

5. การรายงาน

ใหท้ ารายงานตามแบบ อรม์ ในขอ้ 3.3

6. เกณฑต์ ัดสนิ และความคลาดเคลือ่ นทยี่ อมให้
6.1 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากผทู้ ดสอบ ผลการทดสอบหลาย ๆ ครงั้ โดยผทู้ ดสอบคน
เดียวกนั หอ้ งทดสอบและเคร่อื งทดสอบเดียวกนั จะตอ้ งแตกตา่ งกนั ไมเ่ กินขอ้ กาหนดตอ่ ไปนี้

อณุ หภูมทิ ที่ ดสอบ คา่ ความหนดื คา่ แตกตา่ งทยี่ อมให้

(องศาเ ลเ ียส) (วนิ าท)ี ไม่มากกว่า
25 20 ถงึ 100 รอ้ ยละ 5 ของตวั กลาง
(Mean)
50 75 ถงึ 400 รอ้ ยละ 9.6 ของตวั กลาง
(Mean)

6.2 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากเคร่ืองมือทดสอบ ผลการทดสอบจากหอ้ งทดสอบตา่ งกนั
จะตอ้ งแตกตา่ งกนั ไมเ่ กินคา่ ดงั ตอ่ ไปนี้

อณุ หภมู ทิ ที่ ดสอบ คา่ ความหนดื คา่ แตกตา่ งทยี่ อมให้

(องศาเ ลเ ียส) (วินาท)ี ไม่มากกว่า
25 20 ถงึ 100 รอ้ ยละ 15 ของตวั กลาง
(Mean)
50 75 ถึง 400 รอ้ ยละ 21 ของตวั กลาง
(Mean)

7. หนังสืออ้างอิง

122

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

7.1 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY AND TRANSPORTATION
OFFICIALS “STANDARD SPECIFICATION FOR HIGHWAY MATERIALS AND
METHOD OF SAMPLING AND TESTING” PART II AASHTO T. 59-78

7.2 มาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม มอก. 371 แคตออิ อนิกแอสฟัลตอ์ ิมลั ชนั สาหรบั ถนน
7.3 วิธีการทดสอบวสั ดกุ ่อสรา้ ง เล่มท่ี 3 เดือนสิงหาคม 2524 กองวิเคราะหแ์ ละวิจยั กรมทาง

หลวง

โครงการ............................................... บฟ. มทช.(ท) 604-2545 ทะเบยี นทดสอบ.....................
ส านทกี่ อ่ สร้าง……………………….. ผ้ทู ดสอบ
(หนว่ ยงานท่ที าการทดสอบ) ผตู้ รวจสอบ
…..……………………………………… การทดสอบหาค่าความหนืด ผู้รับรอง
ของวัสดยางแอส ัลต์ อมิ ัลชนั
ผ้รู บั ้าง................................................ โดยวิธีเ ยโ์ บลต์ (SAYBOLT)
ผนู้ าส่ง……………………………………
ชนิดตัวอยา่ ง………….ทดสอบครงั้ ท…่ี ชนั้ คณุ ภาพ......................................
ทดสอบวันท…่ี …………….แผน่ ท…ี่ ….

การทดสอบความหนืดแบบ..............................................................
คา่ ท่ใี ชแ้ กค้ วามคลาดเคลอื่ น (F) = …………………………

การทดสอบที่ ปรมิ าตรของตวั อยา่ ง อณุ หภมู ิของตวั อยา่ ง เวลา หมายเหตุ
(มล.) ( ) (วินาท)ี

123

สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

สรุปผลการทดสอบ
คา่ ความหนืดแบบเซยโ์ บลตท์ อี่ ณุ หภมู ิ 25 = ……………. วินาที
คา่ ความหนืดแบบเซยโ์ บลตท์ ีอ่ ณุ หภมู ิ 50 = ................. วนิ าที

มทช.(ท) 605-2545
มาตรฐานการทดสอบประ ไ ้าของวัสดยางแอส ัลต์ อมิ ัลชัน

(ASPHALT EMULSION)

1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบนีค้ รอบคลมุ ถึงการตรวจสอบประจไุ ฟฟ้าบวกของวสั ดยุ างแคตอีออนิกแอสฟัลต์
อิมลั ชนั
2. นิยาม
วสั ดยุ างแอสฟัลต์ อมิ ลั ชนั นี้ หมายถงึ วสั ดยุ างแคตอีออนิกแอสฟัลต์ อมิ ลั ชนั ท่ีแตกตัวเป็นอนภุ าคเลก็
ๆ กระจายอยใู่ นสารละลาย ซ่งึ ประกอบดว้ ยนา้ อมิ ลั ชีไฟองิ เอเจนต์ และอ่ืน ๆ ซง่ึ อนภุ าคของยางแอสฟัลต์ มี
ประจไุ ฟฟา้ บวก
3. วธิ ีทา

3.1 เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย

124

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3.1.1 แหลง่ ไฟฟา้ กระแสไฟตรง 12 โวลต์ มลิ ลแิ อมป์ มเิ ตอร์ และตวั ตา้ นทานปรบั คา่ ไดต้ าม

วงจรไฟฟ้าใน รูปท่ี 1

รูปที่ 1 แผนภาพวงจรเคร่อื งทดสอบประจอุ นภุ าค
3.1.2 ขั้วไฟฟ้า เป็นแผ่นเหล็กไร้สนิม (STAINLESS STEEL) ขนาด 25.4x101.6 มม.

จานวน 2 แผน่ ฉนวนแยกจากกนั วางขนานหา่ งกนั 12.7 มม.
3.1.3 บเี กอร์ (BEAKER) ขนาด 150 หรอื 250 มิลลิลติ ร

125

สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

รูปท่ี 2 เคร่อื งมือทดสอบประจอุ นภุ าคของอิมลั ชิไฟตแ์ อสฟัลต์

3.2 การเตรียมตวั อยา่ งการทดสอบ
3.2.1 เทยางแอสฟัลตอ์ ิมลั ชนั ลงในบีเกอร์ ใหม้ ีปริมาณมากพอท่ีจะจ่มุ แผ่นขวั้ ลงไปได้
ลกึ ประมาณ 25.4 มม. (1 นวิ้ )
3.2.2 ทาความสะอาดขวั้ ไฟฟา้ แลว้ เช็ดใหแ้ หง้ ตอ่ สายเขา้ กบั แหลง่ ไฟฟ้า

3.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ มทช.(ท) 605-2545
3.4 การทดสอบ

3.4.1 จมุ่ ขวั้ ไฟฟา้ ลงในตวั อยา่ งใหล้ กึ ประมาณ 25.4 มม. (1 นวิ้ ) แลว้ ปรบั กระแสไฟฟ้าให้
ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 8 มิลลแิ อมป์ และเรม่ิ ตน้ จบั เวลาเป็นวินาที กระแสไฟฟ้า 8 มลิ ลิแอมป์
นีเ้ ป็นคา่ กระแสท่ีต่าสุด อาจจะกาหนดใหใ้ ช้กระแสไฟฟ้าท่ีสงู กว่านีไ้ ด้ ใหบ้ นั ทึก
คา่ กระแสไฟฟ้าไวด้ ว้ ย

3.4.2 เม่ือกระแสไฟฟ้าตกลงถึง 2 มลิ ลิแอมป์ หรือเม่ือครบเวลา 30 นาที แลว้ แตอ่ ยา่ งไหน
จะถึงก่อนใหต้ ดั กระแสไฟฟา้ ออก นาขวั้ ไฟฟา้ ไปลา้ งโดยวิธีใหน้ า้ ไหลผา่ นเบา ๆ

3.4.3 สงั เกตยางแอสฟัลตท์ ่ีเกาะขวั้ ไฟฟ้า ถา้ ยางแอสฟัลตจ์ บั อย่ทู ่ีข่วั ไฟฟ้าบวกสะอาดไม่
มีแอสฟัลตเ์ กาะอยจู่ ะเป็นยางแคตออิ อนิกแอสฟัลต์ อิมลั ชนั

4 การรายงาน
ใหร้ ายงานผลการทดสอบ ตามแบบฟอรม์ ใน ขอ้ 3.3

5 หนังสืออ้างอิง

126

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
5.1 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY AND TRANSPORTATION

OFFICIALS “STANDARD SPECIFICATION FOR HIGHWAY MATERIALS AND
METHOD OF SAMPLING AND TESTING” PART II AASHTO T. 59-78
5.2 วธิ ีการทดสอบวสั ดกุ ่อสรา้ ง เลม่ ท่ี 3 กองวิเคราะหแ์ ละวิจยั กรมทางหลวง

127

สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

โครงการ............................................... บ . มทช.(ท) 605-2545 ทะเบยี นทดสอบ........................
ส านทก่ี อ่ สรา้ ง.......……………………
(หนว่ ยงานท่ีทาการทดสอบ) ผทู้ ดสอบ
…………………………………………… การทดสอบหาประ ไ ้า ผู้
ของวสั ดยางแอส ัลต์ อมิ ัลชัน ตรว สอบ
ผรู้ บั ้าง................................................ ผู้รับรอง
ผ้นู าส่ง…………………………………… ชนั้ คณุ ภาพ......................................
ชนิดตวั อยา่ ง………… ทดสอบครงั้ ท…ี่
ทดสอบวันท…่ี ………….…แผน่ ท…่ี …

 เป็นวสั ดยุ างแคตออี อนิกแอสฟัลต์ อิมลั ชนั
 ไมเ่ ป็นวสั ดยุ างแคตอีออนิกแอสฟัลต์ อมิ ลั ชนั

128

สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

มทช.(ท) 606-2545
มาตรฐานการทดสอบปริมาณนา้ ในวัสดยางแอส ัลต์ อิมัลชัน

(ASPHALT EMULSION)

1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบนีค้ รอบคลมุ ถึงการหาปรมิ าณนา้ ท่ีผสมอยใู่ นวสั ดยุ างแอสฟัลต์ อมิ ลั ชนั

2. นิยาม
วสั ดยุ างแอสฟัลต์ อมิ ลั ชนั นี้ หมายถึงวสั ดยุ างแคตออิ อนิกแอสฟัลต์ อิมลั ชนั ท่ีแตกตวั เป็นอนภุ าค เลก็
ๆ กระจายอยใู่ นสารละลาย ซง่ึ ประกอบดว้ ยนา้ อิมลั ชีไฟอิงเอเจนต์ และอ่ืน ๆ ซ่งึ อนภุ าคของวสั ดยุ าง
แอสฟัลต์ มีประจไุ ฟฟ้าบวก

3. วิธีทา
3.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
3.1.1 หมอ้ กล่นั ชนิดโลหะ เป็นรูปทรงกระบอกตงั้ ตรง สว่ นใหญ่ทาดว้ ยทองแดง ตอนบน
มีขอบย่ืนออกมา เพ่ือใหฝ้ าปิดไดส้ นิท พรอ้ มทงั้ มีตวั ยดึ ฝาปิด ฝาปิดทาดว้ ยโลหะ
อาจจะเป็น ทองเหลืองหรอื ทองแดง มีรูเจาะขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางภายใน 25.4
มิลลิเมตร ขนาดและลกั ษณะของหมอ้ กล่นั แสดงไวใ้ น รูปท่ี 1

รูปที่ 1 หมอ้ กล่นั ชนิดโลหะ

129

สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3.1.2 หมอ้ กล่นั ชนิดแกว้ เป็นขวดแกว้ กน้ กลม คอสนั้ ทาดว้ ยแกว้ ทนไฟ ขนาดความจุ

ประมาณ 500 มิลลลิ ติ ร ดงั แสดงไวใ้ น รูปท่ี 2

A = 45 ถึง 55 มม.
B = 14 ถึง 16 มม.
C = 12 ถึง 16 มม.

D = 235 ถงึ 255 มม.
E = 25 ถงึ 38 มม.
F = 186 ถึง 194 มม.
H = 18 ถึง 19 มม.

C เสน้ ผา่ นศ.ก.ภายใน

รูปท่ี 2 หมอ้ กล่นั ชนิดแกว้ รูปท่ี 3 ท่ีกกั นา้

3.1.3 เคร่อื งควบแนน่ (CONDENSER) เป็นแบบหลอดแกว้ ใชน้ า้ เย็นผ่านหลอดแกว้ หมุ้
ชั้นนอกยาวไม่นอ้ ยกว่า 400 มิลลิเมตร หลอดควบแน่นชัน้ ในมีขนาดเส้นผ่าน
ศนู ยก์ ลาง ภายนอก 9.5 ถึง 12.7 มิลลิเมตร และปลายหลอดตอ้ งตดั หรือฝนให้

เรยี บ เฉียงทามมุ 305 องศา กบั แกนตงั้ ของเคร่อื งควบแนน่
3.1.4 ท่ีกกั นา้ ทาดว้ ยแกว้ ทนไฟ มีขนาดและรูปรา่ งตามรูปท่ี 3 มีขีดแบง่ ในชอ่ ง 0 ถึง 1

มิลลิลิตร อ่านไดล้ ะเอียดถึง 0.1 มิลลิลิตร และในช่วง 1 ถึง 20 มิลลิลิตร อ่านได้
ละเอียด ถึง 0.2 มิลลลิ ติ ร

130

สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

3.2 วสั ดทุ ่ีใชป้ ระกอบการทดสอบ
ใช้ XYLENE เป็นตวั ทาละลาย หรือจะใชผ้ ลิตภณั ฑป์ ิโตรเลียมอ่ืนๆ ซ่งึ มีคณุ สมบตั ิกล่าวคือ
กล่นั ท่ีอุณหภูมิ 120-250 องศาเซลเซียส ไดร้ อ้ ยละ 98 การกล่นั ใหเ้ ป็นไปตามวิธีการกล่ัน
ผลิตภณั ฑป์ ิโตรเลียม AASHTO T. 115

3.3 การเตรยี มตวั อยา่ งการทดสอบ
3.1.1 ถา้ ตวั อย่างท่ีจะทดสอบมีนา้ นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 25 ใหใ้ ชต้ วั อย่างหนกั 1000.1 กรมั
ถ้าตวั อย่างมีนา้ มากกว่ารอ้ ยละ 25 ใหใ้ ชต้ วั อย่าง 500.1 กรมั ช่งั ตวั อย่างใส่ใน
หมอ้ กล่นั แลว้ เตมิ ตวั ทาละลายปริมาณเทา่ กบั ตวั อยา่ งลงไปกวนใหเ้ ขา้ กนั โดยระวงั
ไมใ่ หเ้ กิดการสญู หายของตวั อยา่ ง
3.1.2 นาหมอ้ กล่นั ท่ีกกั นา้ และเคร่ืองควบแนน่ มาประกอบเขา้ ดว้ ยกนั โดยใชจ้ กุ ไมค้ อรก์ ท่ี
แนน่ พอดี ดงั แสดงไวใ้ นรูปท่ี 1 หรอื 2 ถา้ ใชห้ มอ้ กล่นั ชนิดโลหะใหใ้ ชก้ ระดานหนารูป
วงแหวน ซ่ึงทาใหช้ ืน้ ดว้ ยตวั ทาละลายสอดไวร้ ะหว่างฝาปิดกับขอบท่ีย่ืนออกมา
ก่อนจะขนั เกลียวฝาปิด ใชก้ อ้ นสาลีอุดไวท้ ่ีปลายบนของหลอดควบแน่น ทงั้ นีเ้ พ่ือ
ปอ้ งกนั การควบแนน่ ของความชืน้ ในอากาศ

3.2 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ มทช.(ท) 606-2545
3.3 การทดสอบ

ถา้ ใชห้ มอ้ กล่นั ชนิดโลหะ ตงั้ ตะเกียงวงแหวนใหอ้ ยู่สูงจากส่วนล่างสุดของหมอ้
กล่นั ประมาณ 72 มลิ ลิเมตร แลว้ คอ่ ย ๆ เล่ือนตะเกียงวงแหวนนีล้ งทีละนอ้ ย ในขณะท่ีทาการ
กล่นั พรอ้ มทงั้ ปรบั ความรอ้ นใหเ้ กิดการควบแน่นท่ีปลายหลอดควบแน่น ในอตั รา 2 ถึง 5
หยดต่อวินาที ดาเนินการกล่ันตามอัตราท่ีกาหนดนี้ จนกระท่ังมองไม่เห็นนา้ ในเคร่ือง
ควบแน่น และปริมาตรของนา้ ในท่ีกักนา้ คงท่ีกาจดั นา้ ท่ีอาจคา้ งอย่ใู นหลอดควบแน่นออก
โดยการเรง่ อตั ราการกล่นั เป็นเวลาประมาณ 2-3 นาที

ถา้ ใชห้ มอ้ กล่นั ชนิดแกว้ ใหด้ าเนินการกล่นั โดยปรบั ความรอ้ นใหเ้ กิดการควบแนน่
ในอตั ราเชน่ เดยี วกบั หมอ้ กล่นั ชนิดโลหะ

4 การคานวณ
จานวนปรมิ าณนา้ หาไดจ้ ากสมการตอ่ ไปนี้
ปรมิ าณนา้ เป็นรอ้ ยละ = (A/B) x 100
เม่ือ A = ปรมิ าณนา้ ในท่ีกกั นา้ เป็นมิลลลิ ติ ร
B = นา้ หนกั ของตวั อยา่ งเป็นกรมั

131

สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

5 การรายงาน
ใหร้ ายงานปรมิ าณนา้ เป็นรอ้ ยละ ในแบบฟอรม์ ใน ขอ้ 3.4

6 เกณฑต์ ัดสินและความคลาดเคล่อื นทย่ี อมให้
6.1 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากผทู้ ดสอบ ผลการทดสอบ 2 ครงั้ โดยผทู้ ดสอบคนเดียวกนั
สาหรบั ตวั อยา่ งท่ีมีปรมิ าณนา้ รอ้ ยละ 30-50 จะตอ้ งแตกตา่ งกนั ไมเ่ กินรอ้ ยละ 0.8
6.2 เกณฑค์ วามคลาดเคล่ือนเน่ืองจากเคร่ืองมือทดสอบ ผลการทดสอบจากหอ้ งทดสอบต่างกนั
สาหรบั ตวั อยา่ งท่ีมีปรมิ าณนา้ รอ้ ยละ 30-50 จะตอ้ งแตกตา่ งกนั ไมเ่ กินรอ้ ยละ 2.0

7 หนังสอื อ้างองิ

7.1 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY AND TRANSPORTATION

OFFICIALS “STANDARD SPECIFICATION FOR HIGHWAY MATERIALS

AND METHOD OF SAMPLING AND TESTING” PART II AASHTO T. 59-78

7.2 มาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม มอก. 371 แคตอีออนกิ แอสฟัลตอ์ ิมลั ชนั สาหรบั ถนน

7.3 วิธีการทดสอบวสั ดกุ ่อสรา้ ง เลม่ ท่ี 3 เดือนสิงหาคม 2524 กองวิเคราะหแ์ ละวิจยั กรมทาง

หลวง

132

สำนักวเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

โครงการ............................................ บฟ. มทช.(ท) 606-2545 ทะเบียนทดสอบ.....................
ส านทก่ี อ่ สร้าง.......………………….
(หนว่ ยงานทท่ี าการทดสอบ) ผูท้ ดสอบ
………………………………………… การทดสอบหาปริมาณนา้ ผู้
ในวสั ดยางแอส ัลต์ อิมัลชัน ตรว สอบ
ผรู้ ับ ้าง............................................. ผู้รบั รอง
ผ้นู าส่ง………………………………… ชนั้ คณุ ภาพ......................................
ชนิดตวั อยา่ ง……….ทดสอบครงั้ ท่ี
ทดสอบวันท…ี่ ………….แผน่ ท…ี่ …

ปรมิ าณนา้ เป็นรอ้ ยละ = ........................

133

สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

มทช.(ท) 607-2545
มาตรฐานการทดสอบแอส ัลตค์ อนกรตี โดยวธิ ีมารแ์ ชลล์

(MARSHALL)

1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบแอสฟัลตค์ อนกรีตนี้ครอบคลุมถึงการหาคุณภาพของวัสดุแอสฟัลต์

คอนกรตี ท่ีใชเ้ ป็นผิวทางหรือพืน้ ทางแบบ แอสฟัลตค์ อนกรตี

2. นิยาม
แอสฟัลตค์ อนกรีต หมายถงึ สว่ นผสมของวสั ดยุ างแอสฟัลต์ กบั วสั ดชุ นิดเม็ด (AGGREGATE) ท่ีใชท้ า
ผวิ จราจร โดยมีมาตรฐานตาม มทช. 230-2545

3 วธิ ีทา
3.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
3.1.1 กะละมังเคลือบหรือภาชนะโลหะท่ีมีขอบสูงประมาณ 7 เซนติเมตร เส้นผ่าน
ศนู ยก์ ลางระหวา่ งขอบประมาณ 25 เซนตเิ มตร ใชส้ าหรบั ใสว่ สั ดชุ นิดเม็ด
3.1.2 ภาชนะโลหะมีขอบสูงประมาณ 15 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของขอบ
ประมาณ 30 เซนตเิ มตร สาหรบั ใชผ้ สมวสั ดชุ นดิ เม็ด กบั วสั ดยุ างแอสฟัลต์
3.1.3 เตาอบท่ีสามารถใหอ้ ณุ หภมู สิ งู ถึง 150 องศาเซลเซียส ใชส้ าหรบั อบวสั ดชุ นดิ เม็ด
3.1.4 เตาแบบ HOT PLATE ท่ีสามารถใหอ้ ุณหภูมิไดส้ ูงถึง 200 องศาเซลเซียส ใช้
สาหรบั ใหค้ วามรอ้ นยางแอสฟัลต์ และเคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการบดทบั
3.1.5 หม้อโลหะสาหรบั ใส่ยางแอสฟัลต์ เพ่ือให้ความรอ้ นขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลาง
ประมาณ 20 เซนตเิ มตร
3.1.6 เกรยี งใชผ้ สมวสั ดชุ นิดเม็ดกบั ยางแอสฟัลต์
3.1.7 เทอรโ์ มมเิ ตอรช์ นิดมีกา้ นเป็นโลหะ สามารถวดั อณุ หภมู ิไดถ้ ึง 250 องศาเซลเซียส
3.1.8 เคร่ืองช่งั สามารถช่งั นา้ หนกั ได้ 5 กิโลกรมั มีความละเอียด 1 กรมั ใชส้ าหรบั วสั ดุ
ชนิดเมด็ และยางแอสฟัลต์
3.1.9 เคร่ืองช่งั สามารถช่งั นา้ หนกั ได้ 2 กิโลกรมั มีความละเอียด 0.1 กรมั ใชส้ าหรบั
วสั ดแุ อสฟัลตค์ อนกรตี ท่ีบดทบั แลว้
3.1.10 อ่างตม้ นา้ (BOILING WATER BATCH) มีตะแกรงลวดสาหรบั วางวสั ดแุ อสฟัลต์
คอนกรีต ท่ีบดทบั แลว้ สามารถควบคมุ อณุ หภมู ิตามท่ีตอ้ งการได้

134

สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3.1.11 แท่นรอง (COMPACTION PEDESTAL) ประกอบด้วยฐานไม้ขนาดประมาณ

20x20x45 เซนติเมตร (8x8x18 นิ้ว) มีแผ่นโลหะขนาดประมาณ 30x30x2.5
เซนติเมตร (12x12x1 นิว้ ) ติดอย่ทู ่ีขอบบนของฐานไม้ ฐานไมค้ วรเป็นไมท้ ่ีมีความ
แน่นแห้งประมาณ 0.65-0.80 กรัมต่อมิลลิลิตร (42-48 ปอนดต์ ่อลูกบาศก์ฟุต)
แผน่ เหล็กจะตอ้ งยดึ แนน่ กบั ฐานไม้ ดงั รูปท่ี 1
3.1.12 แบบสาหรับบดทับ (COMPACTION MOLD) ประกอบด้วยแผ่นฐาน (BASE
PLATE) แบบ (MOLD) และปลอก (COLLAR EXTENSION MOLD) มีเส้นผ่าน
ศนู ยก์ ลางภายใน 10.16 เซนตเิ มตร (4 นวิ้ ) สงู 7.62 เซนตเิ มตร (3 นวิ้ ) ดงั รูปท่ี 1

รูปที่ 1 แบบสาหรบั บดทบั คอ้ น และทอ่ นรอง
3.1.13 ค้อน (COMPACTION HAMMER) ประกอบด้วยแผ่นเหล็กกลมหนา 1.27

เซนติเมตร (0.5 นิว้ ) มีเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 9.842 เซนติเมตร (3.875 นิว้ ) ติดกับ
กา้ นเหลก็ ซง่ึ มีแทน่ เหลก็ หนกั 4,536 กรมั (10 ปอนด)์ เล่ือนขนึ้ ลงไดอ้ ิสระสาหรบั
ทิง้ นา้ หนกั ลงบนแผ่นเหล็กกลม ในขณะบดอดั ระยะตกกระทบของแท่งนา้ หนัก
เทา่ กบั 45.72 เซนตเิ มตร (18 นวิ้ ) ดงั รูปท่ี 1
3.1.14 ท่ีจบั แบบ (MOLD HOLDER) ใชส้ าหรบั บงั คบั ใหแ้ บบบดทบั อยกู่ บั ท่ี ดงั รูปท่ี 1
3.1.15 เคร่อื งดนั ตวั อยา่ ง (SAMPLE EXTRUDER)

135

สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
3.1.16 ถงุ มือกนั ความรอ้ น ใชส้ าหรบั หยิบเคร่อื งมือและอปุ กรณท์ ่ีรอ้ น
3.1.17 ถงุ มือชนิดหนงั หรอื ยาง สาหรบั หยบิ ตวั อยา่ งท่ีแชใ่ นนา้
3.1.18 เคร่ืองทดสอบ มาร์แชลล์ (MARSHALL TESTING MACHINE) ใช้สาหรับ

ทดสอบหาค่าเสถียรภาพ (STABILITY) เป็นเคร่ืองกดท่ีสามารถรบั แรงกดไดไ้ ม่
นอ้ ยกว่า 3,000 กิโลกรมั (6,000ปอนด)์ เป็นแบบฉดุ ดว้ ยมอเตอรไ์ ฟฟ้ อตั ราเร็ว
ของมอเตอรท์ ่ีหมนุ ฉดุ ตอ้ งทาใหฐ้ านหรือท่อนกดเคล่ือนท่ีดว้ ยความเรว็ ประมาณ
5 เซนติเมตรตอ่ นาที (2 นิว้ ต่อนาที) เคร่ืองกดนีจ้ ะตอ้ งมี PROVING RING อ่าน
คา่ แรงกด หรอื แรงกดอ่ืนใดท่ีมีคณุ สมบตั เิ ทียบเทา่ ดงั รูปท่ี 2

รูปที่ 2 เคร่ืองทดสอบมารแ์ ชลล์
3.1.19 แบบทดสอบ เสถียรภาพ (STABILITY MOLD) ใชส้ าหรบั ใส่ตวั อย่างทดสอบหา

คา่ เสถียรภาพ ดงั รูปท่ี 2
3.1.20 เคร่ืองวดั การไหล (FLOW METER) ใชส้ าหรบั ทดสอบหาคา่ การไหลของตวั อย่าง

ระหวา่ งกด อา่ นคา่ ไดเ้ ป็น 0.25 มลิ ลิเมตร (0.01 นวิ้ ) ดงั รูปท่ี 2
3.2 การเตรียมตวั อยา่ งการทดสอบ ดาเนินการดงั นี้

136

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

3.2.1 ทดสอบหาขนาดวสั ดชุ นิดเม็ดหยาบ โดยวิธีการทดสอบหาขนาดเม็ดของวสั ดโุ ดย
ผา่ นตะแกรงแบบไมล่ า้ ง ตาม มทช.(ท) 501.8-2545

3.2.2 ทดสอบหาขนาดวสั ดชุ นิดเม็ดละเอียด โดยวิธีการทดสอบหาขนาดเม็ดของวัสดุ
โดยผา่ นตะแกรงแบบลา้ ง ตาม มทช.(ท) 501.8-2545

3.2.3 ทดสอบหาความถ่วงจาเพาะของวัสดุมวลหยาบ โดยวิธีการทดสอบหาความ
ถ่วงจาเพาะของวสั ดมุ วลหยาบ ตาม มทช.(ท) 101.4-2545

3.2.4 ทดสอบหาค่าความถ่วงจาเพาะของวสั ดมุ วลละเอียด โดยวิธีการทดสอบหาค่า
ความถว่ งจาเพาะวสั ดมุ วลละเอียด ตาม มทช.(ท) 101.5-2545

3.2.5 หาอตั ราสว่ นผสมของวสั ดชุ นิดเมด็ เม่ือรวมกนั แลว้ ไดข้ นาดตามท่ีตอ้ งการ
3.2.6 นาวสั ดชุ นิดเม็ด ตามอตั ราสว่ นท่ีหาไดจ้ ากขอ้ 3.2.5 หนกั 1,200 กรมั เม่ือบดทบั

แล้วตัวอย่างจะหนาประมาณ 6.35 เซนติเมตร หรือประมาณ 2.5 นิว้ ใส่ใน
กะละมงั เคลือบนาไปอบในเตา อบใหไ้ ดอ้ ณุ หภมู ิสงู ถึง 1605 องศาเซลเซียส
3.2.7 นาแบบสาหรบั บดทบั และคอ้ นไปวางบนแผน่ ใหค้ วามรอ้ น ท่ีมีอณุ หภมู ิระหวา่ ง 90
ถงึ 150 องศาเซลเซียส
3.2.8 นาวัสดุยางแอสฟัลต์ท่ีจะใช้ผสมไปให้ความร้อนจนมีอุณหภูมิ ท่ีทาให้ยาง
แอสฟัลต์ มีค่าความหนืด (VISCOSITY) เท่ากับ 8510 วินาที เชยโ์ บลตฟ์ ูรอล
(สาหรบั ยางแอสฟัลต์ AC. 80-100 ตอ้ งใหค้ วามรอ้ นถึง 1455 องศาเซลเซียส)
3.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ มทช.(ท) 607-2545
3.4 การทดสอบ
3.4.1 นากะละมงั ใส่ตวั อย่างวสั ดุชนิดเม็ดจากขอ้ 3.2.6 ออกจากเตาอบแลว้ เทลงใน
ภาชนะโลหะสาหรบั ผสมวสั ดชุ นิดเม็ดกบั ยางแอสฟัลต์ ใชเ้ กรียงผสมใหว้ สั ดชุ นิด
เม็ดแต่ละขนาดคละกนั ใหท้ ่วั ทิง้ ไวใ้ หอ้ ณุ หภูมิลดลง ถึง 1455 องศาเซลเซียส
(เม่ือใชย้ างแอสฟัลต์ AC. 80-100) ใชเ้ กรยี งเกล่ียตรงกลางวสั ดใุ หเ้ ป็นแอง่ แลว้ เท
แอสฟัลต์ท่ีเตรียมไว้ใน ข้อ 3.2.8 ตามปริมาณท่ีต้องการลงในแอ่งตัวอย่าง
ดงั กลา่ ว
3.4.2 นาภาชนะโลหะท่ีไดจ้ าก ขอ้ 3.4.1 ขนึ้ ตงั้ บนแผ่นใหค้ วามรอ้ น ใชเ้ กรียงผสมวสั ดุ
ชนิดเม็ดและยางแอสฟัลต์ให้เข้ากันโดยเร็วท่ีสุดโดยปกติประมาณ 1 นาที
พยายามใหย้ างแอสฟัลตเ์ คลือบวสั ดทุ กุ เม็ด
3.4.3 นาแบบสาหรบั บดทบั จาก ขอ้ 3.2.7 มาประกอบเขา้ ท่ี
3.4.4 เทตวั อยา่ งวสั ดผุ สมลงในแบบท่ีประกอบแลว้ ใชเ้ กรียงแชะรอบ ๆ ตวั อยา่ งดา้ นใน
แบบประมาณ 15 ครงั้ และแชะเขา้ ไปในตวั อยา่ งอีก 10 ครงั้ ทงิ้ ไวใ้ หอ้ ณุ หภมู ิของ

137

สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

ตวั อยา่ งลดลง จนแอสฟัลต์ มีความหนืดเท่ากบั 14015 วินาที เซยโ์ บลตฟ์ ูรอล
(สาหรบั ยางแอสฟัลต์ AC.80-100 ใหท้ ิง้ ตวั อย่างไว้ จนอณุ หภมู ิลดลงถึง 1405
องศาเซลเซียส)
3.4.5 วางคอ้ นลงบนตวั อย่างในแบบ ทาการบดทับตัวอย่างโดยการยกนา้ หนักและ
ปล่อยใหน้ า้ หนักตกลงบนแผ่นเหล็ก จานวนครงั้ ขึน้ อยู่กับการออกแบบซ่ึงแบ่ง
ออกเป็น
3.4.5.1 แอสฟั ลต์ติกคอนกรีตสาหรับถนนท่ีมีการจราจ รน้อย (LIGHT

TRAFFIC) และปานกลาง (MEDIUM TRAFFIC) ให้ใช้การปล่อย
นา้ หนกั มาตรฐาน 50 ครงั้
3.4.5.2 แอสฟัลตค์ อนกรีต สาหรับถนนท่ีมีการจราจรหนาแน่น (HEAVY
TRAFFIC) และคับค่ัง (VERY HEAVY TRAFFIC) ให้ใช้การปล่อย
นา้ หนกั มาตรฐาน 75 ครงั้
3.4.6 เม่ือครบจานวนการบดทบั แลว้ ทาการกลบั ตวั อยา่ งโดยการกลบั แบบ เอาดา้ นลา่ ง
ขนึ้ ดา้ นบน แลว้ ทาการบดทบั เชน่ เดยี วกบั ขอ้ 3.4.5
3.4.7 ทิง้ ตวั อย่างบดทบั เรียบรอ้ ยแลว้ ไวใ้ นแบบ จนกระท่งั อุณหภูมิของตวั อย่างลดลง
ต่ากว่า 60 องศาเซลเซียส จึงนาตัวอย่างออกจากแบบ โดยการใช้เคร่ืองดัน
ตวั อยา่ ง ทิง้ ตวั อยา่ งไวใ้ นบรรยากาศปกติ ไมน่ อ้ ยกว่า 16 ช่วั โมง จงึ นาไปทาการ
ทดสอบขนั้ ตอ่ ไป
3.4.8 ในปริมาณของการผสมโดยใชย้ างแอสฟัลตเ์ ปอรเ์ ซ็นตอ์ ันหน่ึงอันใด ใหเ้ ตรียม
ตวั อยา่ งอย่างนอ้ ย 3 ตวั อยา่ ง สาหรบั การออกแบบใหใ้ ชต้ วั อยา่ งแตล่ ะเปอรเ์ ซ็นต์
ของยางแอสฟัลต์ อยา่ งนอ้ ย 5 คา่ และแตล่ ะคา่ ตา่ งกนั รอ้ ยละ 0.5
3.4.9 ทาการทดลองหาความแนน่ ของตวั อย่างโดยวธิ ี
3.4.9.1 นาตวั อยา่ งไปช่งั หานา้ หนกั ในอากาศ (d) และ
3.4.9.2 นาตวั อยา่ งไปแชใ่ นนา้ ธรรมดาประมาณ 5 นาที นาตวั อย่างขนึ้ เช็ดผวิ
ใหแ้ หง้ ช่งั หานา้ หนกั ในอากาศ (d1) และ
3.4.9.3 นาตวั อยา่ งจาก ขอ้ 3.4.9.2 ไปช่งั หานา้ หนกั ในนา้ (e)
3.4.10 ทาการทดสอบหาคา่ เสถียรภาพ และการไหล
3.4.10.1 นาตวั อย่างท่ีเสร็จจากการทดสอบแลว้ ตามขอ้ 3.4.9 ไปแช่ในนา้ ท่ีมี
อณุ หภมู ิ 601 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที ในอา่ งตม้ นา้

138

สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

3.4.10.2 เม่ือนาตวั อยา่ งตม้ นา้ ครบ 30 นาที แลว้ นาตวั อยา่ งขนึ้ เช็ดใหแ้ หง้ แลว้
นาไปใสใ่ นแบบทดสอบ เสถียรภาพ เพ่ือไปกดหาคา่ เสถียรภาพ และ
คา่ การไหล

3.4.10.3 นาแบบทดสอบเสถียรภาพ ท่ีได้จากข้อ 3.4.9.2 ไปวางบนเคร่ือง
ทดสอบ มารแ์ ชลลใ์ ห้แบบทดสอบเสถียรภาพ อยู่ใตก้ ระบอกกด
(PISTON) ซ่งึ ตดิ กบั PROVING RING สาหรบั อา่ นนา้ หนกั กด

3.4.10.4 เดนิ เคร่อื งใหแ้ บบทดสอบ เสถียรภาพ เคล่ือนไปสมั ผสั กบั กระบอกกด
จนกระท่งั เข็มของ DIAL GUAGE ท่ีติดกบั PROVING RING ขยบั ตวั
หยดุ เคร่อื งแลว้ ทาการตงั้ เข็มของ DIAL GUAGE ใหอ้ ยู่ ณ เลข 0

3.4.10.5 นาเคร่อื งวดั การไหล ไปวางบนแกนท่ีสาหรบั ทดสอบหาคา่ การไหล ซ่งึ
ติดกับแบบทดสอบเสถียรภาพ ตงั้ เข็ม DIAL GUAGE ของเคร่ืองวดั
การไหล ใหอ้ ยู่ ณ เลข 0 ใชม้ ือจบั เคร่อื งวดั การไหล ใหน้ ่ิงอยกู่ บั ท่ี

3.4.10.6 เดินเคร่ืองทดสอบหาค่าเสถียรภาพ โดยอ่านค่านา้ หนักสูงสุดท่ีกด
จาก PROVING RING เป็นค่าท่ีอ่านได้ (MEASURED) ซ่ึงตอ้ งปรบั
คา่ (ADJUST) สาหรบั ตวั อยา่ งมาตรฐานท่ีหนา 6.35 เซนตเิ มตร (2.5
นวิ้ ) ตามตารางท่ี 1

3.4.10.7 ขณะท่ีทาการทดสอบหาค่า เสถียรภาพ เข็ม DIAL GUAGE ของ
เคร่ืองวดั การไหลจะเคล่ือนท่ีอ่านค่าการไหล จาก DIAL GUAGE ท่ี
นา้ หนกั กดสงู สดุ

4 การคานวณ
คานวณหาค่าความถ่วงจาเพาะรวม (BULK SPECIFIC GRAVITY), V.M.A. (VOIDS

INMINERAL AGGREGATE), ช่องว่างอากาศ (AIR VOID), และช่องว่างท่ีบรรจุบิทูเมน (VOIDS
FILLED WITH BITUMEN) ซ่งึ คานวณไดด้ งั นี้
4.1 คานวณหาปรมิ าณแอสฟัลตป์ ระสิทธิผล (EFFECTIVE ASPHALT BY WEIGHT OF MIX)

สตู ร b1 = b - x (100-b) / 100

เม่ือ b1 = แอสฟัลตป์ ระสทิ ธิผล (เป็นรอ้ ยละ)
b = รอ้ ยละ แอสฟัลตโ์ ดยนา้ หนกั ของสว่ นผสม
= แอสฟัลตท์ ่ีถกู ดดู ซมึ โดยมวลรวม
x
(1 กรมั ของแอสฟัลต์ /100 กรมั ของมวลรวม)

139

สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
4.2 คานวณหาความถ่วงจาเพาะรวมของก้อนตัวอย่าง (BULK SPECIFIC GRAVITY OF

SPECIMEN)
สตู ร g = d / (d1 – e)

เม่ือ g = ความถ่วงจาเพาะรวมของกอ้ นตวั อยา่ ง
d = นา้ หนกั ของกอ้ นตวั อยา่ งช่งั ในอากาศ (กรมั )
d1 = นา้ หนกั ของกอ้ นตวั อย่างสภาพอ่มิ ตวั ผิวแหง้ (กรมั )
e = นา้ หนกั ของกอ้ นตวั อยา่ งสภาพอ่มิ ตวั ช่งั ในนา้ (กรมั )

4.3 คานวณหารอ้ ยละปริมาตรของแอสฟัลตป์ ระสิทธิผล (PERCENT TOTAL VOLUME OF
EFFECTIVE ASPHALT)
สตู ร i = b1g / Gac

เม่ือ i = ปรมิ าตรของแอสฟัลตป์ ระสิทธิผล (เป็นรอ้ ยละ)
Gac = ความถ่วงจาเพาะรวมของแอสฟัลต์

4.4 คานวณหารอ้ ยละของมวลรวมในกอ้ นตวั อยา่ ง
สตู ร j = (100-b)g / Gag

เม่ือ j = รอ้ ยละของมวลรวมในกอ้ นตวั อยา่ ง
Gag = ความถ่วงจาเพาะรวมของมวลรวม

4.5 คานวณหาคา่ รอ้ ยละชอ่ งวา่ งอากาศในกอ้ นตวั อยา่ ง

สตู ร Air Voids = 100 - i - j

4.6 คานวณหา V.M.A. (VOIDS IN MINERAL AGGREGATE)

สตู ร V.M.A. = 100 – j

4.7 คานวณหา สตู ร V.F.B. (VOIDS FILLED WITH BITUMEN V.F.B.)

140

สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
สตู ร V.F.B. = 100

4.8 นาคา่ ตา่ ง ๆ ท่ีคานวณไดไ้ ปเขียนกราฟแสดงความสมั พนั ธ์ ดงั นี้
4.8.1 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง เสถียรภาพกบั รอ้ ยละ แอสฟัลตโ์ ดยนา้ หนกั ของมวลรวม
4.8.2 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง การไหลกบั รอ้ ยละ แอสฟัลตโ์ ดยนา้ หนกั ของมวลรวม
4.8.3 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ความหนาแนน่ ของสว่ นผสมกบั รอ้ ยละ แอสฟัลตโ์ ดยนา้ หนกั
ของมวลรวม
4.8.4 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง รอ้ ยละ ชอ่ งว่างอากาศกบั รอ้ ยละ แอสฟัลตโ์ ดยนา้ หนกั ของ
มวลรวม
4.8.5 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง รอ้ ยละ V.M.A. กบั รอ้ ยละ แอสฟัลตโ์ ดยนา้ หนกั ของมวลรวม
4.8.6 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง รอ้ ยละ V.F.B. กบั รอ้ ยละ แอสฟัลตโ์ ดยนา้ หนกั ของมวลรวม

5 การรายงาน
ใหร้ ายงานตามแบบฟอรม์ ใน ขอ้ 3.3 และ CURVE แสดงความสมั พนั ธ์ ตามขอ้ 4.8

6 ข้อควรระวัง
6.1 อณุ หภมู ขิ องวสั ดผุ สมตาม ขอ้ 3.4.8 ท่ีถกู ตอ้ งมีดงั นี้
6.1.1 ถา้ ต่ากว่าใหเ้ พ่ิมความรอ้ นใหไ้ ดต้ ามท่ีกาหนด (1455 องศาเซลเซียส เม่ือใชย้ าง
แอสฟัลต์ AC. 80-100)
6.1.2 ถ้าอุณหภูมิสูงกว่าใหท้ ิง้ ไวใ้ หไ้ ดอ้ ุณหภูมิตามท่ีกาหนด (1455 องศาเซลเซียส
เม่ือใชย้ างแอสฟัลต์ AC. 80-100)
6.2 เวลาท่ีทาการทดสอบตามขอ้ 3.4.10 ตอ้ งไมเ่ กิน 40 นาที เพ่ือกนั มิใหอ้ ณุ หภมู ิของตวั อย่าง
ต่ากวา่ ท่ีตอ้ งการ

7 หนังสืออ้างองิ
7.1 AMERICAN SOCIETY OF TESTING MATERIALS ASTM. STANDARD D. 1559
7.2 THE ASPHALT INSTITUTE “MIX DESIGN METHODS FOR ASPHALT CONCRETE
AND THE HOT-MIX TYPES” MANUAL SERIES NO. 2 (MS-2)

141

สำนักวิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

ตารางท่ี 1

STABILITY CORRELATION RATIOS

ปรมิ าตรของตวั อยา่ ง (cc.) ความหนาของตวั อย่าง (ประมาณ) (cm.) (CORRELATION RATIOS)
200 – 213 2.54 5.56
5.00
214 – 225 2.70 4.55
4.17
226 – 237 2.85 3.85
238 – 250 3.01
3.57
251 – 264 3.18 3.33
3.03
265 – 276 3.33 2.78
2.50
277 – 283 3.49
2.27
290 – 301 3.65 2.08
1.92
302 – 316 3.81 1.79
1.67
317 - 328 3.97
1.56
329 – 340 4.13 1.47
1.39
341 – 353 4.29 1.32
354 – 367 4.45 1.25
1.19
368 – 379 4.60 1.14
1.09
380 - 392 4.76 1.04
1.00
393 – 405 4.92
0.96
406 – 420 5.08 0.93
0.89
421 – 431 5.24 0.86
0.83
432 – 443 5.40 0.81

444 – 456 5.56 142

457 – 470 5.71

471 – 482 5.87

483 – 495 6.03
496 – 508 6.19

509 - 522 6.35

523 – 535 6.51

536 – 546 6.67

547 – 559 6.83
560 – 573 6.98

574 - 585 7.14

586 – 598 7.30

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

599 – 610 7.46 0.78
611 - 625 7.62 0.76

หมายเหต

1. ค่า STABILITY ท่ีอ่านไดต้ ามขอ้ 3.4.10 คูณดว้ ย CORRELATION RATIOS สาหรบั ความหนาหรือ
ปรมิ าตรของตวั อยา่ ง คอื คา่ ทไี่ ดแ้ กไ้ ขสาหรบั ตวั อยา่ งมาตรฐาน หนา 6.35 เซนติเมตร (2 ½ นวิ้ )

2. ความเกี่ยวขอ้ งระหว่างความหนาและปริมาตรตามตารางขา้ งบนนี้ ใช้สาหรบั ตวั อย่างท่ีมีเสน้ ผ่าน
ศนู ยก์ ลาง 10.16 เซนตเิ มตร (4 นวิ้ )

โครงการ................................................... บ . มทช.(ท) 607-2545 ทะเบยี นทดสอบ.......................
ส านทกี่ ่อสรา้ ง.......……………………… (หน่วยงานทท่ี าการทดสอบ) ผู้ทดสอบ
ผู้ตรว สอบ
…………………………………………….. การทดสอบแอส ัลตค์ อนกรีต ผรู้ บั รอง
โดยวธิ ีมารแ์ ชลล์
ผรู้ บั า้ ง....................................................
ผนู้ าส่ง……………………………………… ชัน้ คณ าพ......................................
ชนิดตวั อยา่ ง……………ทดสอบครัง้ ท…่ี
ทดสอบวนั ท…่ี ………….…. แผ่นท…ี่ …

Weight – grams Density Volume-% Total Voids-% Unit Stability-Lbs.

Wgt.

% % AC. Spec Bulk gm/cc
AC. Spec. Hgt.
Spec. No. cm. Vol. .
No.
Sat.. cc. Flow
Meas. Adjust 1/10
In Sur. In Bulk Max. AC. Agg. Void Agg. Filled Total
air water Theor. mm.

Dry

a b b1 c d d1 e f gh i j k lmn Opq r
% % AC. % Eff.
AC. by by d1-e d/f (b1-g) (100- 100-i- 100-j i/j 100- G *
by Wgt. Wgt. Gac. b)g j (100g)
Wgt. of of Gag.
Of Mix. Mix. h
Agg.

* ดตู ารางที่ 1 % Effective A.C. = b – [x(100-b)]/100
where x = bitumen absorption. 1 kg. Of AC./100 kg. Of Agg.

143

สำนกั วิเครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

มทช.(ท) 608-2545
มาตรฐานการทดสอบคา่ สูญเสียของวัสดยางแอส ัลตเ์ มื่อใหค้ วามร้อน

(LOSS ON HEATING)

1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบคา่ สูญเสียของวสั ดยุ างแอสฟัลตเ์ ม่ือใหค้ วามรอ้ น เป็นวิธีการทดสอบนา้ หนกั ท่ี
หายไป ในสารประกอบยางแอสฟัลตเ์ ม่ือทาใหร้ อ้ น ทงั้ นีไ้ มร่ วมนา้ หนกั ของนา้ ท่ีหายไป

2. นิยาม
2.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
2.1.1 เตาอบตอ้ งมีผนัง 2 ชนั้ ใหค้ วามรอ้ นดว้ ยระบบไฟฟ้ามีขนาดภายในดงั นี้ สูงไม่
นอ้ ยกวา่ 290 มิลลิเมตร (ไมร่ วมส่วนท่ีติดตงั้ อปุ กรณส์ าหรบั ทาใหเ้ กิดความรอ้ น)
กวา้ ง และลกึ ไม่นอ้ ยกว่า 300 มิลลิเมตร มีประตดู า้ นหนา้ ปิดไดส้ นิทแนน่ ท่ีประตู
นีม้ ีช่องกระจกใสส่ีเหล่ียมขนาดกวา้ งยาวดา้ นละ 100 มิลลิเมตร เป็นอย่างนอ้ ย
ช่องกระจกดงั กล่าวประกอบดว้ ยกระจกใส 2 แผ่น ประกบดา้ นนอกและดา้ นใน
ของประตรู ะหว่างกระจกสองแผ่นเป็นชอ่ งว่าง ช่องกระจกนีส้ าหรบั อ่านอณุ หภมู ิ
จากเทอรโ์ มมิเตอร์ ซ่งึ เสียบไวใ้ นเตาอบไดโ้ ดยไม่ตอ้ งเปิดประตู หรือประตขู องเตา
อบอาจจะมี 2 ชั้น โดยท่ีประตูชั้นในเป็ นกระจกเพ่ือท่ีจะอ่านอุณหภูมิจาก
เทอรโ์ มมิเตอรไ์ ดโ้ ดยเปิดเฉพาะประตชู นั้ นอก
ในเตาอบจะตอ้ งมีช่องใหอ้ ากาศเขา้ และช่องสาหรบั อากาศรอ้ นและไอ
นา้ ผา่ นออกได้ เพ่ือทาใหเ้ กิดการระบายโดยการหมนุ เวียนของอากาศ ชอ่ งสาหรบั
ให้อากาศเข้าอยู่ท่ีผนังดา้ นในด้านล่าง หรือดา้ นข้างส่วนล่างของเตาอบ ใน
ตาแหน่งท่ีจะทาใหอ้ ากาศท่ีเขา้ ไปหมนุ เวียนผ่านอุปกรณก์ าเนิดความรอ้ นดว้ ย
ชอ่ งทางเดนิ ของอากาศนีจ้ ะตอ้ งมีพืน้ ท่ีทงั้ หมดไม่นอ้ ยกว่า 1.3 ตารางเซนติเมตร
ส่วนช่องระบายอากาศรอ้ นและไอนา้ ตอ้ งอยู่ท่ีผนงั ดา้ นใน และตอ้ งอยู่ดา้ นบน

144

สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

หรือด้านข้างส่วนบนของเตาอบจะตอ้ งมีพืน้ ท่ีทั้งหมดไม่น้อยกว่า 1.3 ตาราง
เซนตเิ มตร และไมม่ ากกวา่ 12 ตารางเซนตเิ มตร

ภายในเตาอบมีชนั้ สาหรบั วางตวั อย่าง ทาดว้ ยแผ่นโลหะกลมขนาดเสน้
ผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 250 มิลลิเมตร เจาะเป็นรูกลมเล็ก ๆ โดยรอบ ชนั้ สาหรบั
วางตวั อยา่ งนีต้ ิดตงั้ ไวต้ รงกลางเตาอบ โดยยึดแขวนไวด้ ว้ ยแกนโลหะ ซ่งึ สามารถ
หมนุ รอบตวั เองไดใ้ นอตั รา 3 ถงึ 6 รอบตอ่ นาที
2.1.2 เทอรโ์ มมิเตอร์ ชนิดมีช่วงท่ีสามารถอ่านไดร้ ะหว่าง 155-170 องศาเซลเซียส มี
ความละเอียดอา่ นไดถ้ งึ 1 องศาเซลเซียส
2.1.3 ในเตาอบมีท่ีจบั เทอรโ์ มมิเตอร์ ย่ืนออกมาจากแกนหมนุ ของชนั้ วางตวั อย่าง เพ่ือ
จับเทอรโ์ มมิเตอรใ์ หต้ งั้ ตรงอยู่ในแนวด่ิง และอยู่ห่างจากขอบนอกของชนั้ วาง
ตวั อยา่ งเขา้ มาขา้ งในประมาณ 20 มิลลิเมตร โดยใหป้ ลายกระเปาะอย่สู งู จากชนั้
วางตวั อยา่ งประมาณ 6 มลิ ลเิ มตร
2.1.4 ภาชนะบรรจุตัวอย่าง เป็นโลหะหรือแก้วรูปทรงกระบอกก้นแบนมีเส้นผ่าน
ศนู ยก์ ลางภายใน 55 มลิ ลิเมตร ลกึ 35 มิลลเิ มตร
2.1.5 เคร่อื งช่งั อา่ นไดล้ ะเอียดถงึ 0.01 กรมั
2.2 การเตรียมตวั อยา่ งการทดสอบ
นาตวั อย่างมาคนใหเ้ ขา้ กัน ใหค้ วามรอ้ นเล็กนอ้ ยถ้าจาเป็น แลว้ ตรวจดูว่ามีนา้
หรือไม่ถ้าพบว่ามีนา้ ปนอยู่ในตัวอย่าง จะต้องทาการกาจัดนา้ ออกเสียก่อนโดยวิธี ท่ี
เหมาะสม เชน่ ใหค้ วามรอ้ นเพ่มิ ขนึ้ จนนา้ ระเหยไปหมด โดยไมม่ ีนา้ เดือดกระเดน็ ออกมาให้
เห็น แล้วจึงนาตัวอย่างท่ีปราศจากนา้ มาทาการทดสอบหาค่าสูญเสียของวัสดุยาง
แอสฟัลตเ์ ม่ือใหค้ วามรอ้ นตอ่ ไป

2.3 แบบฟอรม์ ใชแ้ บบฟอรม์ ท่ี บฟ มทช.(ท) 608-2545
2.4 การทดสอบ

2.4.1 นาตวั อยา่ งท่ีไดเ้ ตรียมไวแ้ ลว้ ตามขอ้ 2.2 ใสใ่ นภาชนะบรรจตุ วั อยา่ ง ถา้ ตวั อยา่ งมี
อุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิห้อง จะตอ้ งปล่อยให้เย็นลงก่อนแลว้ ทาการช่ังให้ได้
นา้ หนกั ของตวั อยา่ ง 500.50 กรมั

2.4.2 จดั เตรยี มเตาอบใหม้ ีอณุ หภมู ิ 163 องศาเซลเซียส แลว้ นาภาชนะบรรจตุ วั อยา่ งไป
วางบนพืน้ สาหรบั วางตวั อย่างในเตาอบ โดยวางใหช้ ิดกบั เสน้ รอบวงดา้ นนอกของ
ชนั้ วางนนั้ แตถ่ า้ ทาการทดสอบหลายตวั อย่างใหว้ างถัดเขา้ ไปดา้ นในของชนั้ วาง
นนั้ ได้ เสร็จแลว้ ปิดประตเู ตาอบเดินเคร่ืองใหช้ นั้ วางตวั อย่างหมุนรอบตวั เองใน

145

สำนกั วิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
อตั รา 5 ถึง 6 รอบ ตอ่ นาที และชนั้ นีจ้ ะตอ้ งหมุนอยู่ตลอดเวลาท่ีทาการทดสอบ
ตวั อยา่ งจะตอ้ งอย่ใู นเตาอบ ซ่งึ มีอณุ หภมู ิคงท่ี ท่ี 1631 องศาเซลเซียส เป็นเวลา
5 ช่วั โมง โดยระยะเวลา 5 ช่วั โมงนีใ้ หน้ บั เวลาหลงั จากท่ีนาตวั อย่างเขา้ ไปในเตา
อบ และอณุ หภูมิในเตาอบสงู ขึน้ ถึง 162 องศาเซลเซียส ไม่ว่ากรณีใด ๆ ตวั อย่าง
จะตอ้ งอยใู่ นเตาอบไม่เกิน 5 ช่วั โมง 15 นาที นบั แตเ่ ร่มิ นาตวั อย่างเขา้ เตาอบ ถา้
ไมเ่ ป็นไปตามนีใ้ หท้ าการทดสอบใหม่
2.4.3 เม่ือครบเวลาท่ีกาหนด นาตวั อย่างออกจากเตาอบ ทิง้ ไวใ้ หเ้ ย็นแลว้ ช่งั นา้ หนัก
นา้ หนกั ท่ีช่งั ไดเ้ ป็นนา้ หนกั ภายหลงั อบ
2.4.4 ถา้ ตอ้ งการหาเพนิเทรช่นั หรือคณุ สมบตั ิอ่ืนของตวั อย่างหลังจากท่ีอบแลว้ สว่ นท่ี
เหลือในภาชนะจะตอ้ งนามาทาใหเ้ หลวท่ีอณุ หภมู ิต่าท่ีสดุ เทา่ ท่ีสามารถจะคนให้
เขา้ กันได้ ระวงั ไม่ใหม้ ีฟองอากาศอยู่ในตัวอย่าง หลังจากนนั้ จึงนาตวั อย่างไป
ดาเนินการทดสอบตามวธิ ีการท่ีตอ้ งการตอ่ ไป

3. การคานวณ
คา่ สญู เสียของวสั ดยุ างแอสฟัลต์ เม่ือใหค้ วามรอ้ นคดิ เป็นรอ้ ยละ

(นา้ หนกั ของตวั อยา่ งกอ่ นอบ-นา้ หนกั ของตวั อยา่ งภายหลงั อบ) x 100
นา้ หนกั ของตวั อย่างตวั อยา่ งกอ่ นอบ

4. การรายงาน
ใหร้ ายงานตามแบบฟอรม์ ใน ขอ้ 2.3

5. เกณฑต์ ัดสนิ และความคลาดเคลือ่ นทยี่ อมให้
5.1 เกณฑ์ความคลาดเคล่ือนเน่ืองจากเคร่ืองมือทดสอบ ผลการทดสอบจากห้องทดสอบ
ตวั อยา่ งเดียวกนั ตอ้ งตา่ งกนั ไมเ่ กินคา่ ตอ่ ไปนี้
5.1.1 ถ้าทดสอบแลว้ ค่าสูญเสียของวสั ดุยางแอสฟัลตไ์ ม่เกินรอ้ ยละ 5 ผลทดสอบท่ีได้
ตา่ งกนั ไมเ่ กิน 0.5 ถือวา่ ใชไ้ ด้
5.1.2 ถา้ ทดสอบแลว้ คา่ สญู เสียของวสั ดยุ างแอสฟัลตเ์ กินรอ้ ยละ 5 ผลทดสอบท่ีถือวา่ ใชไ้ ด้
ยอมใหค้ ลาดเคล่ือนเพ่ิม 0.01 สาหรับทุก ๆ ค่าสูญเสียท่ีเพ่ิมรอ้ ยละ 0.5 ดงั ใน
ตารางตอ่ ไปนี้

146

สำนักวิเครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

(ร้อยละ) ส่วนทต่ี า่ งกนั (ร้อยละ)

5.0  0.50 4.50-5.50
5.5  0.51 4.99-6.01
6.0  0.52 5.48-6.52
10.0  0.60 9.40-10.60
15.0  0.70 14.30-15.70
25.0  0.90 24.10-25.90
40.0  1.20 38.80-41.20

6. ข้อควรระวัง
6.1 สาหรบั ตวั อยา่ งซ่งึ มีอตั ราการระเหยในสภาวะเดียวกนั ใกลเ้ คียงกนั ใหท้ าการทดสอบพรอ้ ม
กนั ในเตาอบเดียวกนั ได้ แตต่ วั อยา่ งท่ีมีอตั ราการระเหยตา่ งกนั มาก ในสภาวะเดียวกนั ไมใ่ ห้
ทาการทดสอบพรอ้ มกัน ถ้าตอ้ งการผลท่ีถูกตอ้ งแน่นอนแลว้ ควรจะแยกทาการทดสอบ
ตวั อยา่ งแตล่ ะชนดิ ในการทดสอบแตล่ ะครงั้ โดยใช้ 2 ตวั อยา่ ง เพ่ือตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
6.2 ในระหวา่ งการทดสอบ ถา้ มีฟองเกิดขนึ้ ในตวั อยา่ งมาก ผลการทดสอบนนั้ ถือวา่ ใชไ้ มไ่ ด้

7. หนังสอื อ้างองิ
7.1 THE AMERICAN ASSOCIATION OF STATE HIGHWAY AND TRANSPORTATION
OFFICAIALS “STANDARD SPECIFICATION FOR HIGHWAY MATERIALS AND
METHOD OF SAMPLING AND TESTING” PART II AASHTO T. 47

147

สำนกั วเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

โครงการ.................................................. บฟ. มทช.(ท) 608-2545 ทะเบยี นทดสอบ
ส านทก่ี อ่ สร้าง.......……………………. (หน่วยงานท่ที าการทดสอบ) ....................

ผู้รบั า้ ง............................................... การทดสอบหาคา่ สญู เสียของ ผทู้ ดสอบ
ผนู้ าสง่ ……………………………………ชนิด วสั ดยางแอส ัลต์ เม่อื ใหค้ วามร้อน
ตวั อย่าง……………ทดสอบครงั้ ที่… ผู้ตรว สอบ
ทดสอบวันท…่ี ………….…. แผน่ ท…ี่ … ชนั้ คณ าพ......................................
ผ้รู บั รอง

คา่ สญู เสียของวสั ดยุ างแอสฟัลตเ์ มื่อใหค้ วามรอ้ นคิดเป็นรอ้ ยละ = ........................

148

สำนกั วเิ ครำะห์ วจิ ัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท

มทช.(ท) 609-2545
มาตรฐานการทดสอบค่าเพนิเทรชัน (PENETRATION) ของวัสดยางแอส ัลต์

1. ขอบข่าย
มาตรฐานการทดสอบคา่ เพนเิ ทรชนั (PENETRATION) ของวสั ดยุ างแอสฟัลตน์ ีค้ รอบคลมุ ถึงการหาคา่
ระยะจมตวั ตามแนวด่งิ ของเข็มมาตรฐาน ท่ีจมลงในตวั อยา่ งวสั ดยุ างแอสฟัลตท์ ่ีอยู่ในสภาพแข็ง (SOLID)
หรอื ก่งึ แขง็ (SEMI SOLID) ภายใตน้ า้ หนกั กด เวลา และอณุ หภมู ทิ ่ีกาหนด

2 นิยาม
2.1 วสั ดยุ างแอสฟัลต์ หมายถึง แอสฟัลตซ์ ีเมนต์ (ASPHALT CEMENT) ซ่งึ มีคณุ สมบตั ิตาม
มทช. 210-2545
2.1 ค่าเพนิเทรชนั หมายถึง ค่าจมตวั ของเข็มมาตรฐานในวัสดุตวั อย่างยางแอสฟัลต์ โดย
กาหนดให้ 1 เพนิเทรชนั เทา่ กบั 0.1 มลิ ลเิ มตร

3. วธิ ีทา
3.1 เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ประกอบดว้ ย
3.1.1 เคร่อื งทดสอบเพนิเทรชนั ประกอบดว้ ยแกนท่ีเคล่ือนขนึ้ ลงไดต้ ามแนวด่งิ โดยมี
ความเสียดทานนอ้ ยท่ีสดุ และอา่ นคา่ ไดล้ ะเอียดถึง 1 เพนิเทรชนั เข็มมาตรฐาน
จะประกอบตดิ กบั แกน โดยมีปากจบั นา้ หนกั ของแกนเทา่ กบั 47.500.05 กรมั
เม่ือรวมนา้ หนกั ของเข็มมาตรฐานแลว้ ตอ้ งหนกั 50.000.10 กรมั เคร่อื งทดสอบ
นี้ต้องมีน้าหนักถ่วง 50.000.50 กรัม และ 100.00 0.05 กรัม เพ่ือให้ได้
นา้ หนกั กด 100 กรมั และ 200 กรมั ตามลาดบั
3.1.2 เข็มมาตรฐานประกอบดว้ ย เข็มดงั แสดงไวต้ ามรูปท่ี 1 ทาดว้ ยเหล็กกลา้ ไรส้ นิม
ชบุ แข็ง มีคา่ ROCKWELL HARDNESS จาก C 57 ถึง 60 ยาวประมาณ 50 มม.
( 2 นิว้ ) เสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 1.00-1.02 มม. ปลายขา้ งหน่ึงเสีย้ มแหลมเป็นรูป
กรวย มีมมุ แหลม 8.7 องศา ถึง 9.7 องศา ปลายกรวยแหลมนี้ ตดั ในแนวตงั้ ฉาก
กบั แกนของเขม็ โดยมีความคลาดเคล่ือนไมม่ ากกวา่ 2 องศา ใหป้ ลายตดั นีม้ ีเสน้
ผ่านศนู ยก์ ลาง 0.14-0.16 มม. มุมท่ีปลายตดั ตอ้ งคมและปราศจากรอยบ่ิน ผิว

149

สำนักวเิ ครำะห์ วิจัยและพัฒนำ กรมทำงหลวงชนบท
ของปลายตดั ตอ้ งมีความเรียบถึง 0.3 ไมโครเมตร ปลายอีกขา้ งหน่งึ ของเข็มตอ้ ง
ยึดกับแท่งโลหะทรงกระบอกท่ี ทาดว้ ยทองเหลือง หรือ เหล็กกลา้ ไรส้ นิมแท่ง
ทรงกระบอกนีจ้ ะตอ้ งมีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 3.18 มม. ยาว 38.1 มม. โดยประมาณ

เข็มกบั แทง่ กระบอกจะตอ้ งยึดตดิ กนั แนน่ และอยใู่ นแกนเดียวกนั โดยเขม็
โผลอ่ อกจากแทง่ ทรงกระบอก ยาวประมาณ 41.26 มม. นา้ หนกั รวมของเขม็ และ
แท่งทรงกระบอกเท่ากับ 2.50.05 กรมั (ในการควบคมุ นา้ หนักใหไ้ ดต้ ามระบุ
อาจเจาะรูท่ีปลายแทง่ ทรงกระบอกได้
3.1.3 ภาชนะบรรจตุ วั อยา่ ง ทาดว้ ยโลหะหรอื แกว้ ลกั ษณะเป็นรูปทรงกระบอกแบน ถา้
ใชบ้ รรจวุ สั ดยุ างแอสฟัลตท์ ่ีมีคา่ เพนิเทรชนั ไม่มากกว่า 200 จะตอ้ งมีความจุ 90
มิลลิลิตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 55 มม. ลึก 35 มม. วัสดุยาง
แอสฟัลต์ ท่ีมีค่าเพนิเทรชนั มากกว่า 200 จะตอ้ งมีความจุ 175 มิลลิลิตร และมี
เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางภายใน 70 มม. ลกึ 45 มม.
3.1.4 อ่างนา้ ปรบั อุณหภูมิ เป็นอ่างนา้ ท่ีสามารถปรบั และควบคมุ อุณหภูมิใหค้ งท่ีได้
โดยมีคา่ อณุ หภมู ิของนา้ คลาดเคล่ือนไมเ่ กิน 0.1 องศาเซลเซียส มีความจไุ มน่ อ้ ย
กว่า 10 ลิตร มีชนั้ โปร่งสาหรบั วางภาชนะบรรจตุ วั อย่าง สูง 50 มม.และตอ้ งให้
นา้ ทว่ มตวั อยา่ งไดไ้ ม่นอ้ ยกวา่ 100 มม. นา้ ท่ีใชจ้ ะตอ้ งไมม่ ีนา้ มนั หรือส่ิงสกปรก
ปะปน อาจใชน้ า้ เกลือแทนนา้ ไดใ้ นกรณีท่ีตอ้ งการทดสอบท่ีอณุ หภมู ติ ่า

รูปท่ี 1 เขม็ สาหรบั การทดสอบเพนิเทรชนั

3.1.5 ภาชนะยา้ ยตวั อย่าง (TRANSFER DISH) ควรเป็นภาชนะทรงกระบอกกน้ แบน
ทาดว้ ยแกว้ โลหะ หรือพลาสติก เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางภายในไม่นอ้ ยกว่า 90 มม.
และลึกไม่นอ้ ยกว่า 55 มม. ภาชนะนีต้ อ้ งมี ท่ีกนั้ เพ่ือกันภาชนะบรรจุตวั อย่าง
เคล่ือนไปมาในเวลาทดสอบ

3.1.6 เทอรโ์ มมิเตอร์ ขนาดตา่ ง ๆ มีดงั ตอ่ ไปนี้

150


Click to View FlipBook Version