1-22 บทที่ 1 นยิ ามและข้อกาหนดทวั่ ไป
ตารางที่ 1-2
ความลึก (Depth) ต่าสดุ ของที่วา่ งเพ่ือปฏิบตั ิงานกับบรภิ ัณฑ์ไฟฟ้า ระบบแรงสูง
แรงดนั ไฟฟา้ กรณีที่ 1 ความลกึ ตา่ สุด (เมตร) กรณที ่ี 3
วัดเทียบกบั ดิน (โวลต์) 0.90 กรณีท่ี 2 1.50
1.20 1.20 1.80
601-2,500 1.50 1.50 2.80
2,501-9,000 1.80 1.80 3.00
9,001-25,000 2.50
2,5001-75,000
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
กรณีท่ี 1 มสี ว่ นท่มี ีไฟฟ้าและเปิดโล่งอย่ทู างด้านหน่ึงของที่วา่ งเพื่อปฏบิ ตั งิ าน และอีกด้านหนึ่ง
ของที่วา่ งเพื่อปฏบิ ัติงานไมม่ ีท้ังสว่ นทม่ี ไี ฟฟ้าและเปิดโลง่ และสว่ นท่ีต่อลงดิน
หรือมีสว่ นที่มีไฟฟา้ และเปิดโล่งอยทู่ งั้ สองดา้ นของท่วี ่างเพื่อปฏิบัติงานแต่ได้มีการกั้น
ดว้ ยวัสดทุ ่เี หมาะสม เชน่ ไม้ หรอื วสั ดุฉนวนอืน่
สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนหรือบัสบาร์หุ้มฉนวนที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 300 โวลต์ ให้ถือว่า
เปน็ สว่ นที่ไม่มไี ฟฟ้า
กรณที ่ี 2 มีส่วนท่มี ไี ฟฟา้ และเปิดโล่งอยู่ทางด้านหน่ึงของที่ว่างเพื่อปฏิบัติงาน และอีกด้านหนึ่ง
ของท่วี า่ งเพือ่ ปฏิบัติงานเปน็ ส่วนท่ตี ่อลงดิน
กรณีท่ี 3 มีส่วนที่มีไฟฟ้าและเปิดโล่งอยู่ทั้งสองด้านของท่ีว่างเพื่อปฏิบัติงาน (ไม่มีการกั้นตาม
กรณีที่ 1) โดยผปู้ ฏบิ ัตงิ านจะอยู่ระหวา่ งนน้ั
ยกเว้น บริภณั ฑท์ ีเ่ ข้าถึงเพอ่ื ปฏบิ ตั ิงานจากด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านหลัง ไม่ต้องมีที่ว่างเพื่อปฏิบัติ
งานด้านหลังของบริภัณฑ์ก็ได้ ในท่ีซ่ึงต้องเข้าถึงทางด้านหลังเพื่อทางานในส่วนที่
ได้ปลดวงจรไฟฟ้าออกแล้ว ต้องมีท่ีว่างเพ่ือปฏิบัติงานในแนวนอนไม่น้อยกว่า 0.75
เมตร ตลอดแนวของบรภิ ณั ฑ์
1.102.9 แผงสวิตช์และแผงควบคุมท่ีมีความกว้างเกิน 1.80 เมตร ต้องมีทางเข้าทั้งสองข้าง
ของแผงสวิตช์ ยกเว้น เมื่อด้านหน้าของตู้อุปกรณ์ ไม่มีสิ่งกีดขวาง หรือมีที่ว่างเพ่ือปฏิบัติ งาน
เป็นสองเท่าของที่กาหนดไว้ในตารางท่ี 1-2 ยอมให้มีทางเข้าทางเดียว ส่วนท่ีมีไฟฟ้าและเปิดโล่ง
และอยูใ่ กล้กบั ทางเขา้ ท่ีวา่ งเพ่ือปฏบิ ตั ิงานต้องมีการก้ันอย่างเหมาะสมตามข้อ 1.103
บทท่ี 1 นิยามและข้อกาหนดทั่วไป 1-23
1.102.10 แสงสวา่ งเหนอื ที่วา่ งเพ่อื ปฏบิ ตั งิ าน
ต้องมีแสงสว่างอย่างพอเพียงเหนือพ้ืนที่ปฏิบัติงาน โดยที่ความส่องสว่างเฉล่ียไม่น้อยกว่า 200
ลักซ์ และจดั ให้สามารถซอ่ มหรอื เปลย่ี นดวงโคมไดโ้ ดยไมเ่ กิดอันตรายจากส่วนที่มีไฟฟา้
1.102.11 ส่วนท่มี ีไฟฟ้าและเปดิ โลง่
ส่วนท่ีมีไฟฟา้ และเปดิ โล่งซ่ึงไม่มีการก้ัน ถ้าอยู่เหนือพื้นท่ีปฏิบัติงานต้องติดต้ังอยู่ในระดับสูงไม่
นอ้ ยกวา่ ทก่ี าหนดในตารางท่ี 1-3
1.102.12 ทวี่ ่างเหนอื พื้นทเี่ พ่อื ปฏบิ ตั งิ าน (Headroom)
บริเวณท่ีว่างเพ่ือปฏิบัติงาน ต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร และส่วนบนของแผงสวิตช์
ต้องอยหู่ า่ งจากเพดานตดิ ไฟได้ไม่น้อยกว่า 0.90 เมตร หากเป็นเพดานไม่ติดไฟ หรือมีแผ่นก้ันที่
ไม่ติดไฟระหว่างแผงสวิตช์กับเพดาน ระยะห่างระหว่างส่วนบนของแผงสวิตช์และเพดานต้องไม่
นอ้ ยกว่า 0.60 เมตร
ตารางที่ 1-3
ระดับความสูงของสว่ นที่มีไฟฟา้ และไม่มที ี่ก้นั
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
แรงดันไฟฟ้าระหว่างสายเส้นไฟ (โวลต์) ระดับความสูง (เมตร)
1,000-7,500 2.80
7,501-35,000 2.90
>35,000
2.90 + 0.01 (เมตร/กโิ ลโวลต์)
1.103 เคร่อื งห่อหุม้ และการกนั้ ส่วนทม่ี ไี ฟฟ้า
ส่วนท่ีมีไฟฟา้ ของบริภัณฑท์ ี่มแี รงดันเกนิ 50 โวลตข์ ้ึนไป ต้องมีการกัน้ เพอ่ื ป้องกันการสัมผัสส่วน
ทมี่ ไี ฟฟา้ โดยบังเอญิ การกั้นอาจใชเ้ ครื่องห่อหุ้มหรือวธิ ีการใดวธิ กี ารหน่ึงทเี่ หมาะสมดังนี้
ตอน ก. สาหรบั ระบบแรงตา่
1.103.1 การก้นั
การกน้ั อาจใช้วิธีการหนึง่ วธิ กี ารใดดงั ตอ่ ไปนี้
1.103.1.1 อยูใ่ นหอ้ งหรือเคร่อื งห่อห้มุ ทมี่ ลี กั ษณะคล้ายกันซ่ึงอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะบุคคลที่มี
หน้าทเี่ กย่ี วขอ้ งเท่าน้นั
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-24 บทท่ี 1 นยิ ามและข้อกาหนดท่ัวไป
1.103.1.2 อยู่ในสถานทซี่ ง่ึ มีแผงหรือร้ัวตาข่ายก้ันที่ถาวรและเหมาะสม และการเข้าไปยังท่ีว่าง
ซ่ึงอาจสัมผัสส่วนที่มีไฟฟ้าได้นั้นทาได้เฉพาะบุคคลท่ีเกี่ยวข้องเท่านั้น ช่องเปิดใดๆ ของที่กั้น
หรือท่ีปิดบังต้องมีข น า ด ห รือ อ ยู่ใ น ตา แ ห น่ง ที่บุค ค ล อื่น ไ ม่อ า จ สัม ผัส ส่ว น ที่มี ไฟฟ้าได้โดย
บงั เอิญ หรือไมอ่ าจนาวัตถุซง่ึ เป็นตวั นาไฟฟ้าไปสัมผัสสว่ นทีม่ ีไฟฟา้ นนั้ ไดโ้ ดยบงั เอญิ
1.103.1.3 ติดต้ังแยกส่วนในพ้ืนท่ีหรือบริเวณ เพื่อไม่ให้บุคคลท่ีไม่มีหน้าท่ีเกี่ยวข้องเข้าไปได้ เช่น
ติดต้ังบนระเบียง บนกนั สาด หรอื บนนงั่ ร้าน
1.103.1.4 ติดตัง้ ยกขน้ึ เหนือพ้นื หรือพ้ืนทที่ างานไมน่ ้อยกว่า 2.40 เมตร
1.103.1.5 ในท่ีซ่ึงมีการติดต้ัง สวิตช์ หรือบริภัณฑ์อ่ืนในระบบแรงต่า ต้องมีการกั้นแยกออก
จากระบบแรงสูงด้วยแผ่นกั้น ร้ัว หรือตาข่ายที่เหมาะสม
ตอน ข. สาหรับระบบแรงสงู
1.103.2 การตดิ ตงั้ ทางไฟฟ้าในห้องทีป่ ดิ ลอ้ ม
การติดต้ังทางไฟฟ้าในห้องท่ีปิดล้อมหรือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกาแพง ผนัง หรือร้ัว โดยมีการ
ปดิ กัน้ ทางเขา้ ด้วยกุญแจ หรอื วธิ ีการอ่ืนทีไ่ ดร้ ับการรบั รองแล้ว ใหถ้ อื วา่ เป็นสถานที่เข้าได้เฉพาะ
บคุ คลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเท่าน้ัน ชนิดของเครื่องห่อหุ้มต้องออกแบบและสร้างให้สอดคล้องกับ
ประเภทและระดับของอันตรายทเี่ กี่ยวข้องกบั การติดต้งั
กาแพง ผนงั หรอื ร้วั ที่มคี วามสงู นอ้ ยกว่า 2.00 เมตรไม่ถือวา่ เป็นการป้องกันการเข้าถึง นอกจาก
จะมีสง่ิ อน่ื เพมิ่ เตมิ ทีท่ าใหก้ ารก้ันนนั้ มีคณุ สมบตั ิในการก้ันเทยี บเทา่ กาแพง ผนัง หรือรัว้ ทม่ี คี วาม
สงู ไม่นอ้ ยกวา่ 2.00 เมตร
1.103.3 การติดตัง้ ภายในอาคาร
ในสถานที่ทบี่ คุ คลทัว่ ไปเขา้ ถึงได้ การติดตง้ั ทางไฟฟ้าตอ้ งเป็นดังนี้
1.103.3.1 เป็นบริภณั ฑ์ทีอ่ ยูใ่ นเครื่องห่อห้มุ ท่ีเปน็ โลหะหรอื อย่ใู นหอ้ งหรือบรเิ วณที่ใส่กญุ แจ
ได้
1.103.3.2 สวิตช์เกียร์ที่อยู่ในเครื่องห่อหุ้มที่เป็นโลหะ หน่วยสถานีย่อย (unit substation) หม้อ
แปลง กลอ่ งดงึ สาย กล่องต่อสาย และบริภัณฑ์อ่ืนที่คล้ายกัน ต้องทาป้ายหรือเคร่ืองหมายเตือน
ภยั ทเ่ี หมาะสม
1.103.3.3 ช่องระบายอากาศของหม้อแปลงแบบแห้งหรือช่องของบริภัณฑ์อื่นที่คล้ายกัน ต้อง
ออกแบบให้วตั ถจุ ากภายนอกที่อาจลอดเขา้ ไปให้เบย่ี งเบนพ้นไปจากสว่ นทม่ี ไี ฟฟา้
บทที่ 1 นิยามและข้อกาหนดทั่วไป 1-25
1.103.4 การติดตง้ั ภายนอกอาคาร
ในสถานที่ท่ีบุคคลท่ัวไปเข้าถึงได้ การติดตั้งทางไฟฟ้าต้องอยู่ในเครื่องห่อหุ้ม หรือวิธีการอ่ืนท่ี
ไดร้ ับการรับรองแลว้ ว่าปลอดภัย
1.104 สถานทซี่ ่ึงบรภิ ัณฑไ์ ฟฟา้ อาจได้รับความเสยี หายทางกายภาพได้
ในสถานท่ซี ่งึ บริภัณฑไ์ ฟฟา้ อาจได้รบั ความเสียหายทางกายภาพได้ ต้องก้ันด้วยที่กั้นหรือเครื่อง
ห่อหุม้ ทมี่ ีความแข็งแรง ที่จะปอ้ งกนั ความเสยี หายน้ันได้
1.105 เครือ่ งหมายเตอื นภัย
ทางเข้าหอ้ งหรอื ทก่ี ั้นทม่ี ีส่วนที่มไี ฟฟา้ อยู่ภายในและเปิดโล่ง ต้องมีเคร่ืองหมายเตือนภัยท่ีชัดเจน
และเห็นได้งา่ ย เพอ่ื หา้ มบคุ คลทไี่ มม่ หี นา้ ท่ีเกยี่ วข้องเขา้ ไป
1.106 สว่ นทมี่ ีประกายไฟ
ส่วนของบริภัณฑ์ซ่ึงในขณะใช้งานปกติทาให้เกิดอาร์ก ประกายไฟ เปลวไฟ หรือโลหะ
หลอมเหลว ต้องมีการหุ้มหรือปดิ กั้นและแยกจากวสั ดุทีต่ ดิ ไฟได้
1.107 การทาเครือ่ งหมายระบเุ ครื่องปลดวงจร
เคร่ืองปลดวงจรท่ีใช้สาหรับมอเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สายเมน สายป้อนหรือวงจรย่อยทุกเครื่อง
ต้องทาเคร่ืองหมายระบุวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนติดไว้ท่ีเคร่ืองปลดวงจรหรือใกล้กับเคร่ืองปลด
วงจรน้ัน นอกจากว่าตาแหน่งและการจัดเคร่ืองปลดวงจรน้ันชัดเจนอยู่แล้ว เคร่ืองหมายต้อง
ชดั เจนและทนต่อสภาพแวดล้อม
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ตอน ง. ระยะหา่ งทางไฟฟา้ (Electrical Clearance) ในการตดิ ตั้งสายไฟฟา้
ระยะห่างทางไฟฟ้านี้ ครอบคลุมถึงระยะห่างทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสายจ่ายพลังงาน ไฟฟ้า
เหนือพื้นดนิ (overhead supply) สาหรบั การตดิ ตัง้ เพือ่ ใชง้ านทั้งแบบถาวรและชั่วคราว สาหรับ
กรณีพาดสายผ่านอาคารหรือส่ิงก่อสร้างใดๆ โดยที่สายไฟฟ้าไม่ได้ยึดติดกับอาคารหรือ
สงิ่ กอ่ สรา้ งนั้นๆ
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-26 บทท่ี 1 นยิ ามและข้อกาหนดทว่ั ไป
1.108 การวดั ระยะห่างทางไฟฟา้
การวัดระยะห่างทางไฟฟ้าให้วัดระยะในแนวตรงจากผิว (surface) ของส่วนท่ีมีแรงดันไฟฟ้า
(สายไฟ, ตวั นาไฟฟา้ และอุปกรณ์ไฟฟา้ ) ไปยังผิวของส่วนท่ีไม่มีแรงดันไฟฟ้าหรือไปยังส่ิงต่างๆ
ท่ีอยใู่ กล้ที่สดุ
1.109 ระยะหา่ งทางไฟฟา้
ระยะห่างทางไฟฟา้ ในการติดตัง้ สายไฟฟ้าตอ้ งมรี ะยะหา่ งไมน่ ้อยกว่าตามที่กาหนดดังตอ่ ไปนี้
1.109.1 ระยะหา่ งในแนวนอน (Horizontal Clearance)
ระยะหา่ งในแนวนอน ใหใ้ ชค้ ่าตามตารางที่ 1-4
1.109.2 ระยะหา่ งในแนวด่ิง (Vertical Clearance)
ระยะหา่ งในแนวดง่ิ ให้ใช้คา่ ตามตารางที่ 1-5
1.109.3 ระยะหา่ งในแนวเฉียง (Diagonal Clearance)
ระยะหา่ งในแนวเฉียง ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ กาหนดของแตล่ ะการไฟฟ้าฯ
หมายเหตุ 1) ระยะหา่ งตามตารางเป็นระยะห่างสาหรับอาคารหรือสิ่งก่อสร้างท่ีไม่มีการเข้าไปบารุงรักษา
หรอื ทางาน หากมคี วามจาเปน็ ต้องเข้าไปบารงุ รกั ษาหรอื ทางานในระยะห่างดังกล่าว ผู้ที่เข้า
ไปดาเนนิ งานจะ ตอ้ งมกี ารปอ้ งกนั ที่เหมาะสม
2) แรงดันไฟฟ้าในที่น้ี หมายถึง แรงดันไฟฟา้ ระหว่างสายเสน้ ไฟ (เฟส-เฟส)
3) ชื่อของสายไฟฟา้ ชนิดต่างๆ ในตารางเทยี บกบั สายไฟฟา้ ของการไฟฟ้าฯ ดงั นี้
3.1) สายหุม้ ฉนวนแรงตา่ ตีเกลยี วกบั สายนิวทรัลเปลือย
= Service drop Conductor
3.2) สายหุ้มฉนวนแรงต่า
= Weather proof Conductor
3.3) สายหมุ้ ฉนวนแรงสูงไมเ่ ตม็ พิกดั
= Partially insulated Conductor
3.4) สายหมุ้ ฉนวนแรงสูง 2 ชั้นไม่เต็มพิกัด
= Space aerial Cable
3.5) สายหุ้มฉนวนแรงสงู เตม็ พกิ ัดตีเกลียว
= Fully insulated Cable
4) ผนังด้านปิดของอาคาร คือ ผนังอาคารท่ีบุคคลไม่สามารถย่ืนส่วนของร่างกายหรือวัตถุมา
สัมผสั สายไฟฟา้ ได้ โดยพลัง้ เผลอ
บทที่ 1 นิยามและขอ้ กาหนดทว่ั ไป 1-27
5) ผนังด้านเปิดของอาคาร คือ ผนังอาคารท่ีบุคคลสามารถย่ืนส่วนของ ร่างกายหรือวัตถุมา
สมั ผัสสายไฟฟา้ ได้ โดยพล้งั เผลอ
6) ส่ิงก่อสร้างอื่นๆ หมายถึง ปล่องควัน ถังซึ่งบรรจุสารท่ีไม่ติดไฟ เสาอากาศโทรทัศน์-วิทยุ ท่ี
ติดต้ังอิสระ และรวมถึงเสาอากาศโทรทัศน์-วิทยุ ท่ีติดต้ังกับตัวอาคาร ซึ่งต้องไม่ล้าส่วนหน่ึง
สว่ นใดของอาคารใน แนวนอนเดียวกบั สายไฟฟ้านัน้
7) ระยะหา่ งน้ี กาหนดท่สี ภาพ Max. Final Sag ท่ีอุณหภมู ิใชง้ านสูงสุดของสายไฟฟา้
8) ทางสญั จร หมายถงึ ทางหลวง ถนน ตรอก ซอย ทีเ่ ปน็ ที่สาธารณะหรอื ทางส่วนบุคคลก็ตาม
หรือบริเวณท่ียานพาหนะใชผ้ า่ นอยแู่ ล้ว
9) หากเป็นทางสัญจรและพื้นที่ซึ่งไม่ได้จัดไว้สาหรับรถยนต์ หรือยาน พาหนะอื่นใดผ่าน
ระยะห่างต่าสุด สามารถลดลงไดเ้ หลอื 2.6 เมตร
10) ไม่อนุญาตให้ใช้สายดังกล่าวเดินสายใต้หลังคา ระเบียง ส่วนของอาคาร ป้าย เสาโทรทัศน์
- วิทยุ หรอื ถงั ซ่งึ บรรจุสารทไี่ มต่ ดิ ไฟ
11) อนญุ าตให้เดินสายช่ัวคราวได้โดยต้องขออนุญาตจากการไฟฟ้าทอ้ งถน่ิ ทงั้ นใ้ี ช้ระยะห่างดังนี้
11.1) 69 kV ระยะห่าง 2.2 เมตร
11.2) 115 kV ระยะห่าง 2.5 เมตร
11.3) 230 kV ระยะห่าง 3.2 เมตร
ขอ้ แนะนา ระยะห่างในการตดิ ต้งั ระบบไฟฟา้ กับระบบอน่ื ๆ ให้ดูภาคผนวก ค.
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
บทท่ี 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดทวั่ ไป 115 kV 230 kV 1-28
ของสายไฟฟ้ า
1-28 บทท่ี 1 นิยามและข้อกาํ หนดทั่วไป
ส่ิงท่ีอยู่ใกล้สายไฟฟ้ า
ายเปลือย
ด้า2น.ป3ิ0ดของอาค3า.ร040)
านลอยคนเดินข้ามถนน กรณีที่มีแผงหรือผนงั
ะหวา่ งสายไฟฟ้ ากบั สะพานลอย
โฆษณาที่ติดกบั อาคาร
ด้า2น.เ3ป0ิ ดของอาค3า.0ร05) เฉลียงระเบียงหรือบริเวณ
นเข้าถึงได้
านทกุ ชนิดสาํ หรับยานพาหนะ
ฟถนน เสาสญั ญาณไฟจราจรตา่ งๆ
อสร้ างอื่นๆ6)
ใช้ เพส่งิ ท่ีอยใู่ กลส้ ายไฟฟ้า ตารางท่ี 1-4 ตารางท่ี 1-4
่อื ก1.1 - ผนงั ด้านปดิ ของอาคาร4) ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวนอนระหว่างสายไฟฟ้ ากับส่งิ ก่อสร้าง เม่อื สายไฟฟ้ าไม่ได้ยดึ ตดิ กบั ส่งิ ก่อสร้าง (เมตร)
า- สะพานลอยคนเดินข้ามถนน กรณีท่ีมีแผงหรือผนังระยะหา่ งต่าสุดตามแนวนอนระหว่างสายไฟฟ้ากับสิ่งกอ่ สรา้ ง เมือ่ สายไฟฟ้าไมไ่ ด้ยดึ ตดิ กบั สิง่ ก่อสรา้ ง (เมตร)
(Minimum Horizontal Clearance) (Minimum Horizontal Clearance)
กน้ั ระหวา่ งสายไฟฟา้ กับสะพานลอย
ไมเ่ กิน 1 kV แรงดนั ไฟฟา้ 2) แรงต่าํ ตเี กลียว สายห้มุ ฉนวน 69 kV 115 kV 230 kV
ร- ป้ายโฆษณาทตี่ ิดกบั อาคาร 11 – 33 kV กับสายนิวทรัล ชนิดของสายไฟฟา้
ชนิดของสายไฟฟา้ศ1.2 - ผนงั ดา้ นเปิดของอาคาร5) เฉลียงระเบียงหรือบริเวณ 0.30 0.15
กึท่มี คี นเข้าถึงได้ ชนิดของสายไฟฟ้า เปลือย3) สายเปลือย
0.90 0.15
- สะพานทกุ ชนิดสาหรบั ยานพาหนะสายหุม้ ฉนวนสายหุ้มฉนวน สายห้มุ ฉนวน สายหมุ้ ฉนวน ชนิดของสายไฟฟ้ า1.80 2.30 3.00ไม่เกิน 1 kV
แรงสูงไม่เต็ม แรงสงู 2 ชน้ั แรงสูงเตม็
แรงต่าตเี กลยี วษ- เสาไฟถนน เสาสญั ญาณไฟจราจรต่างๆสายหุม้ ฉนวนสายเปลือย ไมเ่ ต็มพกิ ัด3) พิกดั ตเี กลียว3) สายห้มุ ฉนวน
กับสายนิวทรลัาเท่านัน้- สง่ิ กอ่ สร้างอนื่ ๆ6)แรงตา่ 3)1.50พิกัด3) แรงต่าํ 3)
0.15
เปลือย3) 1.80
0.30 0.15 0.60 0.30
สายเปลือย
1.50
1.80
0.90 0.15 1.50 0.90 0.60 2.13 2.30 3.00
1.50 0.90 0.60 2.13 2.30 0.60 0.30 สายหุ้มฉนวน แรงดนั ไฟฟ้ า2)
แรงสูงไม่เตม็ 11 – 33 kV
พกิ ัด3) ชนิดของสายไฟฟ้ า
สายหุ้มฉนวน
แรงสูง 2 ชนั้
ไม่เตม็ พกิ ัด3)
สายห้มุ ฉนวน
แรงสูงเตม็
พกิ ัดตีเกลียว3)
0.15
69 kV 115 kV
ชนิดของสาย
สายเปลือ
1.80 2.30
บทท่ี 1 นิยามแลบะขท้อทกี่ 1าํ หนนิยดาทม่ัวแไลปะข้อกาํ หนดท่ัวไป 1-29
บทที่ 1 นิยามและข้อกาหนดท่ัวไป 1-29 69 kV 115 kV 230 kV
ช ินดของสายไฟ ้ฟา
สายเป ืลอย
4.90 5.10 5.80
7.00 7.50 9.00
ตารางท่ี 1-5 ตารางท่ี 1-5 (ต่อ)
ระยะห่างต่าํ สุดตามรแะยนะวหด่า่งิ งรตะ่าํหสวุด่างตสาามยแไนฟวฟด้ า่งิ 7ร)กะบัหพว่านื้ งสแาหยลไ่งฟนฟํา้ าอ7)กาคับาพรนื้ หแรืหอสล่งิ กน่อํา้ สอรา้าคงาอร่นื หๆร(ือเมส่งติ กร่อ) สร้างอ่นื ๆ (เมตร)
(Minimum Vertical(CMlienaimraunmceV) ertical Clearance)
แรงดันไฟฟ้ า2) แรงดนั ไฟฟ้ า2)
รกรถสถแย่ไงิลนฟท้วต่อีห์สยหรูงือ่ใูรไกรือมถลย่เไก้สาฟินนาฟย้ าไฟ(เหแกฟส้นรับางือสเยตปร3าหะ่าํล.ย้มุ6ดตือนช0บัฉเี ยน9ิกวสน)3ทิลดไนั)วมรียขรนัล่าเวอกงง)นิ สา1ยสkไาVฟยแฟ2คแหกรส้ .วางร้ับุม9าาตง0สฉเยมต่ปาํ9าหน)ส3่าํล7ย)้มุวตงู .ือนช0นฉเีสยนิกวนงู 3ทิดลไส)วมรียขดุนัล่เวอขกองินสสงารา1ถยย4สไเkไ.ฟปา6Vฟยแ0หลฟหรรือ้ 7ือางุ้มย.ตร0ฉถ่าํ นไ3ฟ)วฟน้ าสแทารี่ใยงชพส้หใ4นกิูงุ้ม.ส6ไขชัดฉา0ม้อน3ยน่)เกิด9เต1วําป.ขม็01นหลอน–ืองดสย3น3าี ้ยไสkไแมไVมาฟร่เยก่เงฟตหินส4้สแม็าุ้ม.ูงา66รพฉย.0ง21พกสิหนช9กิัูดง้เุมวม.ันไ้ชัด03นฉม)ตน3น่)รเิดต1วหขม็1นาอกพ–สงรกิาแส3ถยัดร3าไ3หงยฟตสkไ.แส้ไมุ6หเีVมาฟรูงก0ฉรย่เเงื9ลอฟตตหน)ส้รีย9ม็า้ม็มุวูงถ.ว0พนฉไ23ฟ)กินชฟัดว้ ัน้า3น)อ่ืน64ใ9.ด9kท0พสV่ีมชกิาแีคยนัดรวหงิดตาส9ส้มุขเีม.าูงก01ฉอสยเ1ล5ตงงนูเ5.ียเปส1ม็วกว0kาลนิน3Vยือ) 6ไยฟ.1ฟเ้มา26ต3599ร0..85kใ0VkหVช้รักนษิดสาขาร1อยะ11งยเ50ปสะ.5kาลหVย่ืาอไงยฟตสายหุ้มฉนวน
แรงสูงเ ็ตม
ิพกัด ีตเก ีลยว3)
3.609)
ตาราง ่ีทใ ้ชเ ่พือการศึ1-5กษาเ ่ทา ัน้น 6.10 6.10 5.50
แรง ัดนไฟ ้ฟา2) สาย ้หุมฉนวน 4.60 4.60 17k.V0,011-303.1k5V7,.5609 1159ไ.kม0V่ 0และ
ระยะ ่หาง ่ตา ุสดตามแนว ่ิดงระห ่วางสายไฟ ้ฟา7)กับพื้น แหล่ง ้่นา อาคาร ห ืรอ ่ิสงก่อสร้างอื่นๆ (เมตร)11 – 33 kVแรงสูง 2 ้ัชน
(Minimum Vertical Clearance) ไม่เ ็ตม ิพกัด3)
มหน้สรทถิ่งี่มขยอียนงาตทน์แ่ีบพลราะรหทรนถุกะวิ่งผ่าน 5.50 เ5ท.ีย5บ0ก1บั .2ความสงู ของร6ถ.1ไ0ฟ0น.นั1้ 5เทา่ กบัชนิดของสายไฟ ้ฟา 0.9,62.1.ไ9ม0,อ่ 3น.4ญุ , า4ต.4 และ 56.4.1ไเม0มอ่ตนรญุ สําาหตรับแรงด5นั .ไ5ฟ0ฟ้2า.0ไมเ่ กิน kV, 230 kV ตาม
ไม่
อนญุ าต11) อนญุ าต11)
สาย ุห้มฉนวน
แรงสูงไม่เ ็ตม
พิ ักด3)
มารไฟับถผนิดนชอเสบาขสอญั งญาณไฟจราจรต่างๆ 0.6 0.6 1.4 1.4 1.4 0.6 1.9 2.4
ราชการ หรือเอก
มข้ อกําหนดของ
ราชการ หรือเอก สายเปลือย
ามารถแล่นผ่าน 4.60
านแบบปิ ด ณ ที่ 6.10
องสายไฟฟ้ ากับ แรงต่าตีเก ีลยว สายหุ้มฉนวน
ดลอดสูงสุดของ
โดยวดั ระยะเม่ือ แรงต่า3) 3.609) 2.909) 5.50 5.50
ไม่เกิน 1 kV ช ินดของสายไฟ ้ฟา
ความกว้ างของ
สายหุ้มฉนวน กับสายนิวท ัรลเป ืลอย3)
สิ่ง ่ีทอยู่ใก ้ลสายไฟ ้ฟา แหล่งน้า ดังต่อไปนี้
2.1 - เหนือทางสัญจร8) สาห ัรบคน, รถยนต์ ห ืรอยาน
พาหนะอื่นใด รวมสิ่งของที่บรรทุกแล้ว สูงไ ่มเ ิกน
2.45 เมตร ผ่าน
2.2 - เหนือทางสัญจร8) สาหรับไว้ให้รถยนต์และรถ
บรรทุก หรือยานพาหนะอื่นใดรวมส่ิงของที่บรรทุก
แ ้ลวสูงไ ่มเ ิกน 4.3 เมตร ผ่าน
2.3 - คลองหรือแหล่งน้าท่ีอ ู่ยในความรับผิดชอบของ
กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน หน่วยราชการ ห ืรอเอก
ชนท่ี ีมเ ืรอแล่นผ่านให้ปฏิ ับติตาม ้ขอกาหนดของ
กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน หน่วยราชการ ห ืรอเอก
ชน ตามความสูงของเ ืรอสูงสุดท่ีสามารถแล่นผ่าน
่รองน้า หรือจุดลอดสูงสุดของสะพานแบบปิด ณ ท่ี
น้ันๆได้ โดยให้ระยะห่างวัดจากท้องสายไฟ ้ฟากับ
จุดยอดสูงสุดใดๆของเรือห ืรอจุดลอดสูงสุดของ
สะพานไม่น้อยก ่วาค่าตามตารางโดย ัวดระยะเ ่ืมอ
ระดับน้า ้ึขนสูงสุดซึ่งกาหนดตามความก ้วางของ
115 kV 230 kV 1-30
ของสายไฟฟ้ า
ส่ิงท่อี ยู่ใกล้สายไฟฟ้ า
ายเปลือย
ไมเ่8ก.2ิน 50 เมตร 8.9
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่
เกิน 4.9 เมตร ผ่าน
เก1ิน0ก.ว7่า 50 เมต1ร1แ.4ตไ่ มเ่ กิน 500 เมตร
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่
เกิน 7.3 เมตร ผ่าน
เก1ิน2ก.ว5า่ 500 เม1ต3ร.2แตไ่ มเ่ กิน 5,000 เมตร
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่
เกิน 9.0 เมตร ผ่าน
มา1ก4ก.3วา่ 5,0001เ5ม.ต0ร
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่
เกิน 11.0 เมตร ผา่ น
ถh้ า+มีก3.า5รกําหนhด+ใ4ห.้ เ1รื อหรื อยานพาหนะที่มี
ความสงู (h) มากกวา่ ที่กําหนดตามข้อ 2.3.1 –
2.3.4 ผา่ น
บทท่ี 1 นิยามและข้อกาหนดทัว่ ไป
ใช้ เพสิ่งที่อยใู่ กล้สายไฟฟา้ ตารางท่ี 1-5 (ต่อ) ตารางท่ี 1-5 (ต่อ) 1-30 บทท่ี 1 นิยามและข้อกาํ หนดท่ัวไป
่อื ก2.3.1 - ไม่เกนิ 50เมตรระยะหา่ งต่าสุดตามแนวดง่ิ ระหว่างสายไฟฟ้า7)กับพ้นื แหล่งนา่้ อาคาร หรือสง่ิ กอ่ สร้างอื่นๆ (เมตร) ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวด่งิ ระหว่างสายไฟฟ้ า7)กบั พนื้ แหล่งนํา้ อาคาร หรือส่งิ ก่อสร้างอ่นื ๆ (เมตร)
าปกตใิ ห้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสูงไม่
(Minimum Vertical Clearance) (Minimum Vertical Clearance)
เกนิ 4.9 เมตร ผ่าน
ไม่เกนิ 1 kV แรงดันไฟฟา้ 2) แรงต่าํ ตเี กลียว สายหุ้มฉนวน 69 kV 115 kV 230 kV
ร2.3.2 - เกินกวา่ 50 เมตร แตไ่ ม่เกนิ 500 เมตร 11 – 33 kV กับสายนิวทรัล ชนิดของสายไฟฟา้
ศปกตใิ หถ้ อื วา่ เรอื หรือยานพาหนะมีความสูงไม่ชนิดของสายไฟฟ้าh + 2.113.1 12.9 11.3 11.1 สายเปลอื ย
กึเกนิ 7.3 เมตร ผ่าน ชนดิ ของสายไฟฟ้า เปลือย3)
9.4 9.3 7.0 6.8 ชนิดของสายไฟฟ้ า 7.9 8.2 8.9
2.3.3 - เกินกวา่ 500 เมตร แต่ไมเ่ กิน 5,000 เมตรสายหุ้มฉนวน สายหุ้มฉนวน สายหุ้มฉนวน สายหุม้ ฉนวน ไม่เกนิ 1 kV
แรงสงู ไมเ่ ต็ม แรงสูง 2 ชัน้ แรงสงู เตม็ 10.4 10.7 11.4
แรงตา่ ตีเกลียว สายหมุ้ ฉนวนษปกติใหถ้ ือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสูงไม่สายเปลือย ไมเ่ ตม็ พิกดั 3) พิกัดตีเกลียว3)
แรงต่า3) 7.7 พกิ ดั 3) 12.2 12.5 13.2
กบั สายนิวทรัลเกิน 9.0 เมตร ผา่ น 10.2 6.8 สายหุ้มฉนวน
เปลือย3) 12.0 แรงต่าํ 3) 14.0 14.3 15.0
า2.3.4 - มากกวา่ 5,000 เมตรh + 2.1 13.8
เปกติใหถ้ ือว่าเรอื หรือยานพาหนะมีความสูงไม่7.0 6.8 7.7 7.7 h + 3.2 h + 3.5 h + 4.1
ทเกิน 11.0 เมตร ผ่าน h + 2.9
่ า2.3.5 - ถ้ามีการกาหนดให้เรือหรือยานพาหนะท่ีมี
นความสงู (h) มากกวา่ ที่กาหนดตามขอ้ 2.3.1 –
ัน้2.3.4ผา่ น
9.4 9.3 สายเปลือย 9.3
7.7
10.2
12.0
13.8
h + 2.9
10.2 10.2
11.3 11.1 12.0 12.0 11.1
สายหุ้มฉนวน
h + 2.9 13.8 13.8 12.9 12.0 12.0 11.1 10.2 10.2 7.7 7.7 แรงสูงไม่เตม็ แรงดนั ไฟฟ้ า2)
11 – 33 kV
13.1 12.9 พกิ ัด3)
13.8 13.8 12.9 ชนิดของสายไฟฟ้ า
h + 2.1 h + 2.9 h + 2.9 h + 2.9 สายหุ้มฉนวน
แรงสูง 2 ชัน้
ไม่เตม็ พกิ ัด3)
h + 2.1 h + 2.9
h + 2.9 9.3 สายห้มุ ฉนวน
แรงสูงเตม็
พกิ ัดตีเกลียว3)
6.8
69 kV 115 kV
ชนิดของสาย
สายเปลือ
7.9 8.2
10.4 10.7
12.2 12.5
14.0 14.3
h + 3.2 h + 3.5
บทท่ี 1 นิยามแลบะขท้อทกี่ 1าํ หนนิยดาทมั่วแไลปะข้อกาํ หนดท่ัวไป 1-31
บทที่ 1 นิยามและ ้ขอกาหนดท่ัวไป 1-31 69 kV 115 kV 230 kV
ช ินดของสายไฟ ้ฟา
สายเป ืลอย
5.4 5.7 6.4
3.410) 3.610) 4.310)
4.910) 5.110) 5.810)
4.9 5.1 5.8
3.4 3.6 4.3
2.610) 2.910) 3.610)
ตารางท่ี 1-5 (ต่อ) ตารางท่ี 1-5 (ต่อ)
ระยะห่างต่าํ สุดตามระแยนะวหด่า่งิ งรตะ่าํหสวุด่างตสาามยแไนฟวฟด้ า่งิ 7ร)กะับหพว่านื้ งสแาหยลไ่งฟนฟํา้ าอ7)กาคบั าพรนื้ หแรืหอสล่งิ กน่อํา้ สอรา้าคงาอร่นื หๆร(ือเมส่งติ กร่อ) สร้างอ่ืนๆ (เมตร)
(Minimum Vertical(CMlienaimraunmceV) ertical Clearance)
แรงดนั ไฟฟ้ า2) แรงดนั ไฟฟ้ า2)
มเรอรสถักบ่ไิงชฟผทนิด่ีอหชทยรืออ่ีไ่ใู มกรบถม่ ลขไีเ้สอฟรือางฟย้ าไฟ(เหแกฟส้นรับางือสเยตปราหะ่าํล4ยุ้มดต.ือนช4บัฉเี ยนิกวสน3ทิลดไนั)วมรียขรนัล่าเวอกงง)ินสา1ยสkไาVฟยแฟคแหกรส้ 4วางร้ับมุ า.าตง3สฉเยมต่ปาํ าหนส3่าํล7ย)้มุวตงู .ือนช0นฉเีสยนิกวนงู 3ทิลดไส)วมรียขดุนัล่เวอขกองนิสสงารา1ถยยส5ไเkไฟปา.Vฟ2ยแหลฟหรรือ้ 7ือาง้มุ ย.ตร0ฉถ่าํ นไ3ฟ)วฟน้ าสแทาร่ีใยงชพส้หใ5นกิูง้มุส.ไขชัด2ฉาม้อน3ยน่)เกิด9เต1วําป.ขม็01นหลอน–ืองดสย3น3าี ้ยไสkไแมไVมาฟรเ่ ยก่เงฟตหินส้สแ5ม็าุ้มูงา6.ร2พฉย.ง21พกสิหนช9กิัูดง้เมุวม.นัไ้ชัด03นฉม)ตน3น่)รเิดต1วหขม็1นาอกพ–สงรกิาแส3ถยัดร3าไหงยฟตสk4ไแส้ไุมหเีVมา.ฟรูงก3ฉรย่เเงืลอฟตตหนส้รีย9ม็า้ม็ุมวูงถ.ว0พนฉไ23ฟ)กินชฟัดว้ นั้า3น)อื่น6ใ95ด.4kทพสV่ีมชกิาแีคยนัดรวหงิดตาส9สุ้มขเีม.าูงก01ฉอสยเ1ลตงงนู5เ5ียเปส.ม็วก7วkาลนิน3Vยือ) 6ไยฟ.1ฟเ้มา26ต399ร60..5kใ4VkหVช้รักนษิดสาขาร1อยะ11งยเ50ปสะ.5kาลหVย่ืาอไงยฟตสาย ุ้หมฉนวน
แรงสูงเ ็ตม
ิพกัดตีเก ีลยว3)
4.3
ตาราง ่ีทใ ้ชเ ่พือการศ1-5ึก( ่ตอ)ษาเ ่ทา ัน้น 3.010) 1.1 0.15 4.610) 3.5 2.4 4.6 3.5 2.4 1.1 0.15 2.410) 1.1 0.15
แรง ัดนไฟ ้ฟา2) สาย ุ้หมฉนวน 5.2 5.2 0.9,32.0.ไ91ม0,)อ่ 3น.4ญุ , า4ต.4 และ 5.14.ไ1เมมอ่ตนรญุ สําาหตรับแรงด0นั .ไ1ฟ5ฟ้2า.0ไมเ่ กิน 13k.4V1,01) 1-303.1k5V3.,66190) kV, 1154ไ.kม3V1่ 0)และ 230 kV
ระยะห่าง ่ตา ุสดตามแนว ิ่ดงระห ่วางสายไฟ ้ฟา7)กับ ้ืพน แหล่งน่้า อาคาร หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ (เมตร)11 – 33 kVแรงสูง 2 ชั้น ไม่
(Minimum Vertical Clearance) ไ ่มเ ็ตม ิพกัด3)
คนาทรี่มทีย่ีไมา่มนีคพนาหเดนินะว่งิ ผา่ น 1.1 เ0ท.ีย1บ5ก1บั .2ความสงู ของ3ร.ถ0ไ1ฟ0)0น.นั1้ 5เท่ากบัช ินดของสายไฟ ้ฟา ตาม
านไหฟรถือนสนามเสาราถสเขญั ้าญาณไฟจร3า.จ5รตา่ งๆ 2.4 0.6 สายหุ้มฉนวน 4.610) 0.6 4.610) 1.4 3.5 1.4 3.0 2.4 1.4 4.910) 0.65.110) อน51ญุ ..89า1ต0)11) อนญุ าต11)
แรงสูงไม่เต็ม 2.4
พิ ักด3) 4.6
ไมม่ ีหลงั คา 3.5 2.4 4.6 3.5 2.4 4.9 5.1 5.8
นน 1.1 0.15 3.0 3.0 1.1 0.15 3.4 3.6 4.3
สายเปลือย 0.15 2.610) 2.910) 3.610)
5.2
3.010)
4.610)
4.6
3.0
2.410)
ทย,ุ ถงั ซ่ึงบรรจุ 1.1 0.15 2.410) 2.410) 1.1
ไม่เกิน 1 kV ช ินดของสายไฟ ้ฟา สาย ุ้หมฉนวน 4.4 4.3 1.1 0.15
แรงต่า3) 3.5 2.4
3.5 2.4
สาย ุ้หมฉนวน แรง ่ตาตีเก ีลยว 1.1 0.15
กับสาย ินวท ัรล 1.1 0.15
เป ืลอย3)
่ิสง ี่ทอยู่ใก ้ลสายไฟ ้ฟา
2.4 - คลองห ืรอแหล่งน้าท่ีอ ู่ยในความ ัรบผิดชอบของ
หน่วยงานราชการ ห ืรอเ ็ปนของเอกชน ท่ีไ ่มมีเรือ
แล่นผ่าน
2.5 - เหนือหรือใต้หลังคาห ืรอส่วนของอาคารที่ไม่ ีมคนเดิน
ห ืรอไ ่มสามารถเ ้ขา ึถงได้
- เหนือหรือใต้หลังคาระเ ีบยงท่ีมีคนเดินหรือสามารถเ ้ขา
ึถงได้
2.6 - เหนือสะพานลอยคนเดิน ้ขามถนนท่ีไ ่มมีหลังคา
- เหนือหลังคาสะพานลอยคนเดิน ้ขามถนน
2.7 - เหนือห ืรอใต้ ้ปาย, เสาโทรทัศน์- ิวท ุย, ัถงซ่ึงบรรจุ
สารที่ไม่ติดไฟ
1-32 บทที่ 1 นิยามและข้อกาํ หนดท่ัวไป
บทที่ 1 นิยามและข้อกาหนดทั่วไป 1-32 ตารางท่ี 1-5 (ต่อ)69 kV 115 kV 230 kVชนิดของสายไฟ ้ฟาสายเป ืลอย10.5 11.5ความสูง สูงสุดของรถไฟห ืรอรถไฟ ้ฟาที่ใช้ในข้อกาหนดนี้ ไม่เ ิกน 6.1 เมตร หากรถไฟหรือรถไฟ ้ฟาอ่ืนใดท่ีมีความสูงเกิน 6.1เมตร ให้รักษาระยะห่าง ตามแนวดิ่ง เทียบ ักบความสูงของรถไฟน้ัน เท่า ักบ 0.9, 2.9, 3.4, 4.4 และ 5.4 เมตร สาห ัรบแรง ัดนไฟ ้ฟา ไ ่มเกิน 1 kV, 11-33 kV, 69 kV, 115 kV และ 230 kV ตามลาดับ ไ ่ม ไ ่ม ไ ่มอนุญาต11) อนุญาต11) อนุญาต11) 1.9 2.4 3.6
ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวด่งิ ระหว่างสายไฟฟ้ า7)กบั พนื้ แหล่งนํา้ อาคาร หรือส่งิ ก่อสร้างอ่ืนๆ (เมตร)
(Minimum Vertical Clearance)
แรงดันไฟฟ้ า2)
115 kV 230 kV ไม่เกนิ 1 kV 9.5 11 – 33 kV 69 kV 115 kV
ของสสา่ิงยทไ่อีฟยฟู่้ใากล้สายไฟฟ้ า
ชนิดของสายไฟฟ้ า ชนิดของสายไฟฟ้ า ชนิดของสาย
ายเปลือย
ตาราง ีท่ใ ้ชเ ่พือการศ1-5ึก( ่ตอ)ษาเ ่ทา ัน้นสายหุ้มฉนวนสายหุ้มฉนวน สายหุ้มฉนวน9.0 0.15 0.6สายหุ้มฉนวน สายห้มุ ฉนวน สายหุ้มฉนวน
ทา1ง0ร.ถ5ไฟ หรือรถ1ไ1ฟ.5ฟ้ า (เหนือระดบั สนั ราง) แรงต่าํ ตเี กลียว แรงสูงเต็ม แรงต่าํ 3) สายเปลือย แรงสูงไม่เตม็ แรงสูง 2 ชัน้ แรงสูงเตม็ สายเปลือ
ระยะห่าง ตามแนวด่ิง ระยะ ่หาง ่ตา ุสดตามแนว ิ่ดงระห ่วางสายไฟ ้ฟา7)กับพื้น แหล่ง ้่นา อาคาร หรือ ่สิงก่อสร้างอื่นๆ (เมตร)กับสายนิวทรัลิพกัด ีตเกลียว3) ไม่เตม็ พกิ ัด3) พกิ ัดตเี กลียว3)
230 kV ตามลาํ ดบั (Minimum Vertical Clearance) พกิ ัด3)
ะพาไนมท่ ี่มยี านพาหไมน่ะวิ่งผา่ น เปลือย3)
อนญุ าต11) อนญุ าต11)
อเส2า.ไ4ฟถนน เสา3ส.ญั 6 ญาณไฟจราจรตา่ งๆ 7.0 7.0 9.0 9.0 9.0 9.0 9.5 10.5
สายหุ้มฉนวน
แรงสูง 2 ชั้น
ไ ่มเต็ม ิพกัด3)
ความสงู สงู สดุ ของรถไฟหรือรถไฟฟ้ าท่ีใช้ในข้อกําหนดนี ้ไม่เกิน 6.1 เมตร หากรถไฟหรือรถไฟฟ้ าอื่นใดท่ีมีความสงู เกิน 6.1เมตร ให้รักษาระยะห่า
ชนิดของสายไฟ ้ฟา 9.0 2.0 1.4
เทียบกบั ความสงู ของรถไฟนนั ้ เทา่ กบั 0.9, 2.9, 3.4, 4.4 และ 5.4 เมตร สําหรับแรงดนั ไฟฟ้ า ไมเ่ กิน 1 kV, 11-33 kV, 69 kV, 115 kV และ 230 kV ต
แรงดันไฟ ้ฟา2) 11 – 33 kV
1.2 0.15 ไมอ่ นญุ าต ไมอ่ นญุ าต 2.0 0.15 ไม่ ไม่
อนญุ าต11) อนญุ าต1
สาย ุห้มฉนวน ไม่อนุญาต
แรงสูงไม่เต็ม
ิพ ักด3)
0.6 0.6 1.4 1.4 1.4 0.6 1.9 2.4
9.0 1.4
สายเปลือย 9.0 ไม่อนุญาต 1.4
ช ินดของสายไฟ ้ฟา สาย ุ้หมฉนวน 7.0 0.15 0.6
แรงต่า3)
ไ ่มเกิน 1 kV
สาย ุ้หมฉนวน
แรง ่ตา ีตเก ีลยว 7.0 1.2 0.6
กับสาย ินวท ัรล
เปลือย3)
ส่ิงที่อยู่ใกล้สายไฟ ้ฟา
2.8 - ้ขามทางรถไฟ ห ืรอรถไฟ ้ฟา (เหนือระดับสันราง)
2.9 - ใต้สะพานท่ี ีมยานพาหนะว่ิงผ่าน
2.10 - เหนือเสาไฟถนน เสาสัญญาณไฟจราจรต่างๆ
บทที่ 2 มาตรฐานสายไฟฟ้าและบรภิ ัณฑไ์ ฟฟ้า 2-1
บทท่ี 2
มาตรฐานสายไฟฟา้ และบริภัณฑ์ไฟฟ้า
บริภัณฑ์และสายไฟฟ้าทุกชนิด ต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
(มอก.) ฉบบั ลา่ สุด หรอื มาตรฐานทก่ี ารไฟฟา้ ฯ ยอมรับ เช่น มาตรฐาน IEC, BS, ANSI, NEMA,
DIN, VDE, UL, JIS, AS หรือเปน็ ชนิดทีไ่ ดร้ บั ความเห็นชอบจากการไฟฟ้าฯ กอ่ น โดยมาตรฐาน
ท่ีอา้ งอิงให้ยดึ ถอื ตามฉบบั ทปี่ รับปรงุ ลา่ สดุ มีรายละเอียดดังตอ่ ไปน้ี
2.1 มาตรฐานสายไฟฟ้า
2.1.1 สายไฟฟา้ ห้มุ ฉนวน
2.1.1.1 สายไฟฟา้ ทองแดงห้มุ ฉนวน พวี ซี ี เปน็ ไปตาม มอก. 11-2553
2.1.1.2 สายไฟฟา้ อะลมู ิเนยี มหมุ้ ฉนวน พีวซี ี เปน็ ไปตาม มอก. 293-2541
หมายเหตุ 1. การไฟฟา้ นครหลวง ห้ามใช้ในการเดินสายภายในของระบบไฟฟ้าแรงต่า
2. การไฟฟา้ สว่ นภูมิภาค อนุญาตใหใ้ ชส้ ายชนดิ นี้เป็นตัวนา่ ประธานได้ เฉพาะการ
เดินสายลอยในอากาศบนวสั ดฉุ นวน ภายนอกอาคาร
2.1.1.3 สายไฟฟ้าทองแดงหุ้มฉนวนครอสลิ้งกด์พอลิเอทิลีน เป็นไปตามมาตรฐาน IEC
60502 หรือ มาตรฐานที่กาหนดไว้ขา้ งตน้
2.1.1.4 สายไฟฟ้าตามมาตรฐานการไฟฟา้ นครหลวง หรือการไฟฟ้าสว่ นภมู ภิ าค
2.1.2 สายไฟฟ้าเปลอื ย
2.1.2.1 สายไฟฟา้ ทองแดงรีดแข็ง สาหรับสายไฟฟา้ เหนือดิน เป็นไปตาม มอก. 64-2517
2.1.2.2 สายไฟฟ้าอะลูมิเนยี มตีเกลยี วเปลือย เป็นไปตาม มอก. 85-2548
2.1.2.3 สายไฟฟ้าอะลูมเิ นียมตีเกลยี วเปลือยแกนเหลก็ เปน็ ไปตาม มอก. 85-2548
2.1.2.4 สายไฟฟ้าตามมาตรฐานการไฟฟา้ นครหลวง หรอื การไฟฟา้ ส่วนภูมิภาค
2.2 มาตรฐานตัวนาไฟฟา้
2.2.1 บัสบาร์ทองแดง (Copper Bus Bar) ต้องมีความบริสุทธ์ิของทองแดงไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 98
2.2.2 บัสบาร์อะลูมิเนียม (Aluminum Bus Bar) ต้องมีความบริสุทธ์ิของอะลมู ิเนยี มไม่
นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 98
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น2-2 บทที่ 2 มาตรฐานสายไฟฟ้าและบรภิ ณั ฑ์ไฟฟา้
2.2.3 บัสเวย์ (Busway) หรือบัสดัก (Bus Duct) ต้องเป็นชนิดที่ประกอบสาเร็จรูปจาก
บริษัทผู้ผลิตและ ได้มีการทดสอบแล้วตามมาตรฐานขา้ งตน้
2.3 มาตรฐานเครอ่ื งปอ้ งกันกระแสเกนิ และสวิตชต์ ดั ตอน
อุปกรณ์ตัดตอนและเครื่องป้องกันกระแสเกินต้องมีมาตรฐานและคุณสมบัติไม่น้อยกว่าท่ี
กาหนดดงั นี้
2.3.1 ตัวฟวิ ส์และขวั้ รับฟิวส์ เปน็ ไปตาม มอก. 506-2527 และ มอก. 507-2527
2.3.2 สวติ ช์ทท่ี างานดว้ ยมือ เป็นไปตาม มอก. 824-2531
2.3.3 สวิตชใ์ บมดี เป็นไปตาม มอก. 706-2530
2.3.4 อุปกรณ์ตัดตอนและเคร่ืองป้องกันกระแสเกิน ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐานท่ีการ
ไฟฟ้าฯ ยอมรับ เช่น UL, BS, DIN, JIS และ IEC
2.3.5 ฟิวส์และข้ัวรับฟิวส์ (Fuse and Fuse Holder) พิกัดกระแสของฟิวส์ต้องไม่สูงกว่า
ของข้ัวรับฟิวส์ ทาจากวัสดุท่ีเหมาะสม มีการป้องกันหรือหลีกเล่ียงการผุกร่อน (corrosion)
เน่ืองจากการใช้โลหะต่างชนิดกันระหว่างฟิวส์กับขั้วรับฟิวส์ และต้องมีเคร่ืองหมายแสดงพิกัด
แรงดันและกระแสให้เห็นได้อย่างชัดเจน
2.3.6 เซอรก์ ติ เบรกเกอร์ (Circuit Breaker)
2.3.6.1 ตอ้ งเป็นแบบปลดไดโ้ ดยอิสระ (trip free) และต้องปลดสับได้ด้วยมือ ถึงแม้ว่าปกติ
การปลดสับจะทาโดยวิธอี น่ื กต็ าม
2.3.6.2 ตอ้ งมีเคร่อื งหมายแสดงอยา่ งชดั เจนว่าอยู่ในตาแหนง่ สบั หรือปลด
2.3.6.3 ถ้าเป็นแบบปรับตั้งได้ต้องเป็นแบบการปรับตั้งค่ากระแสหรือเวลา โดยในขณะใช้
งานกระทาได้เฉพาะผทู้ ีม่ ีหน้าท่ีเกี่ยวข้อง
2.3.6.4 ตอ้ งมีเครอื่ งหมายแสดงพิกดั ของแรงดัน กระแส และความสามารถในการตัดกระแส
ที่เหน็ ได้ชัดเจนและถาวรหลงั จากติดต้งั แลว้ หรอื เหน็ ได้เม่อื เปดิ แผ่นกัน้ หรอื ฝาครอบ
2.3.6.5 เซอรก์ ิตเบรกเกอรส์ าหรบั ระบบแรงต่าใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานดังน้ี
2.3.6.5.1 เซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีใช้ในสถานท่ีอยู่อาศัยหรือสถานท่ีคล้ายคลึงกัน พิกัดไม่เกิน
125 แอมแปร์ ให้เปน็ ไปตาม IEC 60898 กรณีพิกัดกระแสเกิน 125 แอมแปร์ ให้เป็นไปตาม IEC 60947-2
2.3.6.5.2 เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ท่ใี ช้ในสถานที่อ่นื ๆ ใหเ้ ปน็ ไปตาม IEC 60947-2 หรอื IEC 60898
หมายเหตุ รายละเอยี ดเซอร์กติ เบรกเกอร์ใหด้ ใู นภาคผนวก ง. และ จ.
บทท่ี 2 มาตรฐานสายไฟฟา้ และบริภณั ฑ์ไฟฟา้ 2-3
2.3.7 เซฟตีสวิตช์ (Safety Switch) ต้องปลดหรือสับวงจรได้พร้อมกันทุกๆ ตัวนาเส้นไฟใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
และตอ้ งประกอบด้วยฟวิ ส์ตามข้อ 2.3.5 รวมอยใู่ นกล่องเดยี วกนั และจะเปิดฝาไดต้ ่อเม่ือได้ปลด
วงจรแลว้ หรอื การเปดิ ฝานน้ั เปน็ ผลใหว้ งจรถกู ปลดดว้ ย และตอ้ งสามารถปลดและสับกระแสใช้
งานในสภาพปกติได้ ในกรณีทใี่ ช้งานเป็นสวติ ชอ์ ย่างเดยี ว อนุญาตใหใ้ ชแ้ บบ Non-fuse ได้
2.3.8 เครือ่ งตัดไฟรัว่ (Residual Current Device หรอื RCD)
เครือ่ งตัดไฟรั่วที่ใช้ลดอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูด สาหรับแรงดันไม่เกิน 440 โวลต์ สาหรับบ้านอยู่
อาศัยหรือสถานที่คล้ายคลึงกันต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน IEC 60755, IEC 61008, IEC
61009, IEC 61543, มอก. 2425-2552 หรือ มอก. 909-2548 มรี ายละเอียดดังน้ี
2.3.8.1 เครื่องตัดไฟรั่วควรมีค่ากระแสรั่วที่กาหนด (rated residual operating current,
In) ไม่เกนิ 30 มิลลิแอมแปร์ และมชี ว่ งระยะเวลาในการตัด (break time หรอื operating time)
ไมเ่ กนิ 0.04 วินาที เม่ือกระแสร่ัวมีค่า 5 In (อาจใช้ค่า 0.25 แอมแปร์แทนค่า 5 In ก็ได้) และ
ไมท่ างานเมอ่ื กระแสรัว่ มคี ่า 0.5 In
2.3.8.2 เครอื่ งตัดไฟรวั่ ตอ้ งเปน็ ชนิดทป่ี ลดสายไฟเส้นท่ีมีไฟทุกเส้นออกจากวงจรรวมท้ังสาย
นิวทรัล (neutral) ยกเว้น สายนวิ ทรัลนนั้ มกี ารตอ่ ลงดนิ โดยตรงตามบทที 4 แลว้
2.3.8.3 ห้ามตอ่ วงจรลดั คร่อมผ่าน (by pass) เพื่อป้องกันเครอ่ื งตดั ไฟร่วั ปลดวงจรเมื่อไฟรัว่
2.4 มาตรฐานหลกั ดนิ และส่ิงที่ใชแ้ ทนหลกั ดนิ
2.4.1 แท่งเหล็กหุ้มด้วยทองแดง (copper-clad steel) หรือแท่งทองแดง (solid copper)
หรือแท่งเหล็กอาบสังกะสี (hot-dip galvanized steel) ต้องมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อย
กว่า 5/8 นิ้ว (ขนาดทางการค้า-รายละเอียดให้ดูหมายเหตุ) ยาวไม่น้อยกว่า 2.40 เมตร
- เหล็กที่ใช้เป็นแกนให้ทาจาก low carbon steel ท่ีมี tensile strength ขนาดไม่
น้อยกวา่ 600 นวิ ตนั ตอ่ ตร.มม.
- ทองแดงที่ใช้หุ้มมีความบริสุทธิ์ 99.9% และหุ้มอย่างแนบสนิทแบบ molecularly
bonded กบั แกนเหลก็ ความหนาของทองแดงที่หุ้มท่ีจุดใดๆต้องไม่น้อยกว่า 250
ไมโครเมตร
- ต้องผ่านการทดสอบการยึดแน่นและความคงทนของทองแดงท่ีหุ้มด้วยวิธี jacket
adherence test และ bending test ตามมาตรฐาน UL-467
- กรณีแท่งเหล็กอาบสังกะสีต้องมีความหนาเฉลี่ยของสังกะสีไม่น้อยกว่า 85
ไมโครเมตร
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น2-4 บทที่ 2 มาตรฐานสายไฟฟ้าและบริภัณฑไ์ ฟฟ้า
2.4.2 แผ่นตัวนาชนิดป้องกันการผุกร่อนที่มีพื้นผิวสัมผัสกับดินไม่น้อยกว่า 0.18 ตร.เมตร
ในกรณีท่ีเป็นเหล็กอาบโลหะชนิดกันการผุกร่อนต้องหนาไม่น้อยกว่า 6 มม. หากเป็นโลหะกัน
การผุกร่อนชนดิ อน่ื ทไี่ มใ่ ช่เหล็กตอ้ งหนาไม่น้อยกวา่ 1.50 มม.
2.4.3 ห้ามใช้วัสดุท่ีทาด้วยอะลูมิเนียมหรือโลหะผสมของอะลูมิเนียม เป็นหลักดินหรือสิ่งที่
ใชแ้ ทนหลกั ดนิ
2.4.4 ยอมให้ใช้อาคารที่เป็นโครงโลหะและมีการต่อลงดินอย่างถูกต้อง โดยมีค่าความ
ต้านทานของการต่อลงดินไมเ่ กนิ 5 โอห์ม
2.4.5 หลกั ดินชนิดอ่นื ๆ ตอ้ งได้รบั ความเห็นชอบจากการไฟฟา้ ฯ ก่อน
หมายเหตุ แทง่ หลักดินขนาด 5/8 นิ้ว หมายถึงขนาดโดยประมาณ 0.560 น้ิว หรือ 14.20 มม. ส่าหรับแท่ง
เหลก็ หมุ้ ด้วยทองแดง และ 0.625 น้ิว หรือ 15.87 มม. สา่ หรบั แทง่ เหลก็ อาบสังกะสี
2.5 มาตรฐานช่องเดินสาย และรางเคเบิล
2.5.1 ท่อร้อยสายไฟฟา้
2.5.1.1 ท่อเหล็กสาหรับใช้ร้อยสายไฟฟ้า ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน
ผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม มอก. 770-2533
2.5.1.2 ท่อพีวีซี.แข็งสาหรับใช้ร้อยสายไฟฟ้า ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 216-2524 หรือตามมาตรฐานท่อร้อยสายไฟฟ้าที่การไฟฟ้าฯ
ยอมรบั
2.5.1.3 ทอ่ เอชดีพีอี (HDPE) แข็งที่นามาใชร้ ้อยสายไฟฟ้าฝังดินโดยตรง ต้องมีคุณสมบัติ
ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 982-2533 หรือตามมาตรฐานท่อร้อยสายไฟฟ้าท่ี
การไฟฟา้ ฯ ยอมรับ
2.5.1.4 ทอ่ ร้อยสายชนดิ อนื่ ๆ ต้องได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟา้ ฯ กอ่ น
2.5.1.5 ขนาดของท่อท่ีกลา่ วถงึ นี้ หมายถงึ เส้นผา่ นศนู ย์กลางภายใน หรอื ขนาดทางการค้า
2.5.1.6 เครื่องประกอบการเดินท่อต้องเป็นชนิดที่ได้รับอนุญาตให้แสดงเคร่ืองหมาย
มาตรฐานผลติ ภัณฑ์อตุ สาหกรรม หรอื ตามมาตรฐานท่ีการไฟฟา้ ฯยอมรับ
2.5.2 รางเดนิ สาย (Wireways)
ตอ้ งมีคณุ สมบัตติ ามมาตรฐานท่ีการไฟฟ้าฯ ยอมรับ หรือท่ีได้รับความเห็น ชอบจากการไฟฟ้าฯ
(ดูภาคผนวก ฉ.)
บทที่ 2 มาตรฐานสายไฟฟ้าและบรภิ ณั ฑไ์ ฟฟา้ 2-5
2.5.3 รางเคเบิล (Cable Trays)
ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐานท่ีการไฟฟ้าฯยอมรับ หรือท่ีได้รับความเห็น ชอบจากการไฟฟ้าฯ
(ดูภาคผนวก ฉ.)
2.5.4 รางเคเบิลแบบบนั ได (Cable Ladders)
ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่การไฟฟ้าฯยอมรับ หรือท่ีได้รับความเห็น ชอบจากการไฟฟ้าฯ
(ดภู าคผนวก ฉ.)
2.6 มาตรฐานหม้อแปลง
หม้อแปลงชนิดฉนวนน้ามันต้องมีคุณสมบัติตาม มอก. 384-2543 หรือมาตรฐานท่ีกาหนดไว้
ข้างตน้ สาหรับหม้อแปลงชนดิ แหง้ ตอ้ งมคี ณุ สมบตั ติ ามมาตรฐานท่กี าหนดไว้ข้างตน้
2.7 มาตรฐานบรภิ ณั ฑ์และเครื่องประกอบอ่ืนๆ
บริภัณฑ์และเคร่ืองประกอบอ่ืนๆ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานท่ีการไฟฟ้าฯยอมรับ เช่น UL, IEC,
BS, DIN และ NEMA หรือทไี่ ดร้ ับความเห็นชอบจากการไฟฟา้ ฯ
2.8 มาตรฐานระดับการปอ้ งกนั ส่งิ ห่อหมุ้ บรภิ ัณฑ์ ให้เป็นไปตามตารางท่ี 2-1
มาตรฐานระดับการป้องกันแสดงด้วยสัญลักษณ์ IP ตามด้วยตัวเลข 1 หรือ 2 ตัว ตามประเภท
การป้องกัน หากการป้องกันประเภทใดไม่ได้กาหนด อาจแสดงด้วย “_” หรือ “x” หรือเว้น
ชอ่ งว่างไว้ เชน่ IPx3
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
2-6 บทที่ 2 มาตรฐานสายไฟฟ้าและบรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้า
ตารางที่ 2-1
ความหมายตัวเลขกากับระดับการป้องกนั หลงั สญั ลักษณ์ IP
ตัวเลขตัวท่ี 1 ตัวเลขตัวที่ 2
ประเภทการปอ้ งกันของเหลว
ประเภทการปอ้ งกันวตั ถุจากภายนอก เลข ระดบั การป้องกนั
0 ไม่มีการปอ้ งกัน
เลข ระดับการป้องกนั
1 ป้องกันหยดเฉพาะในแนวดิ่ง
0 ไมม่ กี ารปอ้ งกัน
ป้องกันวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 50
มิลลิเมตร เช่น สัมผสั ดว้ ยมือ
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1
2 ป้องกันวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 12 2 ปอ้ งกนั หยดและนา้ สาดทามมุ ไมเ่ กิน
มลิ ลิเมตร เชน่ นิว้ มอื 15 องศากับแนวด่ิง
3 ป้องกันวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 3 ป้องกันหยดและนา้ สาดทามมุ ไมเ่ กิน
มิลลเิ มตร เชน่ เครื่องมือ เสน้ ลวด 60 องศากับแนวด่ิง
ป้องกันวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 4 ป้องกันน้าสาดเข้าทกุ ทิศทาง
4 มิลลิเมตร เช่น เครื่องมือเล็กๆ เส้น
ลวดเลก็ ๆ
5 ปอ้ งกนั ฝุ่น 5 ปอ้ งกันน้าฉดี เข้าทุกทิศทาง
6 ผนกึ กันฝ่นุ 6 ปอ้ งกันน้าฉดี อย่างแรงเขา้ ทุกทิศทาง
7 ปอ้ งกันน้าท่วมชั่วคราว
8 ป้องกันน้าเม่ือใช้งานอยู่ใต้นา้
หมายเหตุ รายละเอียดเพิมเตมิ ให้ดูจาก IEC 60529 หรอื มอก.513-2553
2.9 มาตรฐานเตา้ รับ-เตา้ เสยี บ
เต้ารบั -เตา้ เสียบต้องเปน็ ไปตามมาตรฐาน มอก.166-2549 และ มอก. 2162-2547
2.10 มาตรฐานแผงสวติ ช์สาหรบั ระบบแรงตา่
แผงสวิตช์สาหรับระบบแรงต่าที่เป็นโลหะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.1436-2540 หรือท่ี
ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากการไฟฟ้าฯ
2.11 โคมไฟฟ้าแสงสวา่ งฉกุ เฉิน ตอ้ งเปน็ ไปตาม มอก.1102-2538
2.12 โคมไฟฟ้าปา้ ยทางออกฉุกเฉิน ตอ้ งเป็นไปตาม มอก. 2430-2552
บทที่ 3 ตัวนำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย 3-1
บทที่ 3
ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย
ในการออกแบบระบบไฟฟ้า ต้องเริ่มต้นจากวงจรย่อยซึ่งเป็นส่วนสาคัญท่ีจะต้องพิจารณาใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ตรวจสอบและกาหนดขนาดโหลดให้เหมาะสม เพื่อนาไปคานวณและออกแบบขนาดตัวนา
กาหนดขนาดอุปกรณ์ป้องกันของวงจรย่อย วงจรสายป้อน และวงจรประธาน ให้มีขนาด
เหมาะสมและทางานได้อย่างถูกต้องปลอดภัยกับผู้ใช้งาน ในบทนี้ได้กาหนดแนวทางในการ
คานวณโหลดและวิธีการเลอื กขนาดตัวนาและอุปกรณ์ป้องกันโดยพิจารณาที่ความปลอดภัยขั้น
ต่าเป็นเกณฑ์ กรณีท่ีต้องการออกแบบให้รองรับการขยายตัวของโหลดในอนาคตให้พิจารณา
เพ่ิมเตมิ จากเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้
3.1 วงจรย่อย
3.1.1 ขอบเขต
ให้ใช้กับวงจรย่อยสาหรับไฟฟ้าแสงสว่างหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือท้ังไฟฟ้าแสงสว่างและ
เครือ่ งใช้ไฟฟา้ รวมกนั ยกเว้นวงจรยอ่ ยสาหรบั มอเตอรไ์ ฟฟา้ (ดบู ทท่ี 6 เรอื่ งวงจรมอเตอร์)
3.1.2 ขนำดพิกัดวงจรยอ่ ย
ขนาดพิกัดวงจรย่อยให้เรียกตามขนาดพิกัดของเคร่ืองป้องกันกระแสเกินที่ใช้ตัดกระแสสาหรับ
วงจรน้นั ๆ วงจรย่อยซ่ึงมจี ดุ จา่ ยไฟฟา้ ตั้งแต่ 2 จุดขึน้ ไปตอ้ งมขี นาดไมเ่ กนิ 50 แอมแปร์ ยกเว้น
อนุญาตให้วงจรย่อยซึ่งมีจุดจ่ายไฟฟ้าตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไปท่ีไม่ใช่โหลดแสงสว่างมีพิกัดเกิน 50
แอมแปร์ ไดเ้ ฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมทีม่ ีบุคคลทมี่ ีคณุ สมบัติคอยดแู ล และบารุงรกั ษา
3.1.3 ขนำดตัวนำของวงจรย่อย
ตวั นาของวงจรย่อยต้องมขี นาดกระแสไมน่ อ้ ยกว่าโหลดสูงสุดทค่ี านวณได้ ตามข้อ 3.1.6 และต้อง
ไม่น้อยกว่าพิกัดของเครื่องป้องกันกระแสเกินของวงจรย่อย และกาหนดให้ขนาดตัวนาของวงจร
ย่อยต้องมีขนาดไมเ่ ลก็ กว่า 2.5 ตร.มม.
กรณีวงจรย่อยไฟฟ้าแสงสว่าง 3 เฟส 4 สาย ที่จ่ายโหลด 1 เฟส และเดินรวมในช่องเดินสาย
เดียวกัน อนุญาตให้ใช้ตัวนานิวทรัลร่วมกันได้ โดยโหลดแต่ละเฟสต้องมีโหลดใกล้เคียงกันและ
ขนาดตวั นานวิ ทรัลไมเ่ ล็กกวา่ ตวั นาเฟสยกเวน้ โหลดท่มี ฮี ารม์ อนิกสส์ งู
ขอ้ ควรระวัง หากสายนวิ ทรัลหลดุ อาจทาใหเ้ กิดแรงดนั เกินได้
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น3-2 บทท่ี 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรยอ่ ย
3.1.4 กำรป้องกันกระแสเกิน
3.1.4.1 อาคารท่มี คี วามสูงเกิน 1 ชนั้ ตอ้ งแยกวงจรยอ่ ยอยา่ งนอ้ ยช้ันละ 1 วงจร
ข้อแนะนำ สาหรบั วงจรย่อยชน้ั ลา่ งควรแบง่ วงจรอย่างนอ้ ยดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ไฟฟา้ แสงสวา่ งภายในอาคาร
2. เต้ารบั ภายในอาคาร
3 ภายนอกอาคาร
3.1.4.2 วงจรย่อยต้องมกี ารปอ้ งกนั กระแสเกิน โดยขนาดพิกัดเคร่ืองป้องกันกระแสเกินต้อง
สอดคล้องและไม่ตา่ กวา่ โหลดสูงสุดท่ีคานวณได้
3.1.5 โหลดสำหรับวงจรยอ่ ย
วงจรย่อยซึ่งมีจุดต่อไฟฟ้าต้ังแต่ 2 จุดขึ้นไป ลักษณะของโหลดต้องเป็นไปตามข้อกาหนด
ต่อไปน้ี
3.1.5.1 วงจรย่อยขนาดไม่เกิน 20 แอมแปร์ โหลดของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีติดตั้งถาวรหรือที่ใช้
เต้าเสียบแต่ละเครื่องจะต้องไม่เกินขนาดพิกัดวงจรย่อย กรณีมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เต้าเสียบ
รวมอยูด่ ้วยโหลดทตี่ ิดตั้งถาวรรวมกันแล้วจะตอ้ งไมเ่ กนิ ร้อยละ 50 ของขนาดพกิ ัดวงจรย่อย
3.1.5.2 วงจรย่อยขนาด 25 ถึง 32 แอมแปร์ ให้ใช้กับดวงโคมไฟฟ้าท่ีติดตั้งถาวรขนาดดวง
โคมละไม่ต่ากว่า 250 วัตต์ หรือใช้กับเคร่ืองใช้ไฟฟ้าซึ่งไม่ใช่ดวงโคม ขนาดของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า
ชนิดใชเ้ ตา้ เสยี บแต่ละเคร่ืองจะตอ้ งมขี นาดไม่เกนิ ขนาดพกิ ัดวงจรยอ่ ย
3.1.5.3 วงจรย่อยขนาดเกิน 32 ถึง 50 แอมแปร์ ให้ใช้กับดวงโคมไฟฟ้าท่ีติดต้ังถาวรขนาด
ดวงโคมละไม่ต่ากว่า 250 วัตต์หรือใช้กับเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทต่ี ดิ ตั้งถาวร
3.1.5.4 วงจรยอ่ ยขนาดเกนิ กว่า 50 แอมแปร์ ใหใ้ ช้กบั โหลดท่ไี ม่ใชแ่ สงสวา่ งเทา่ น้นั
3.1.6 กำรคำนวณโหลดสำหรับวงจรย่อย
โหลดสาหรับวงจรย่อยตอ้ งคานวณตามทีก่ าหนดดังต่อไปนี้
3.1.6.1 วงจรยอ่ ยตอ้ งมขี นาดไมน่ อ้ ยกว่าผลรวมของโหลดทัง้ หมดทต่ี อ่ อยูใ่ นวงจรนั้น
3.1.6.2 โหลดแสงสว่างและโหลดของเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่ืนที่ทราบแน่นอนให้คานวณตามที่
ติดตง้ั จรงิ
3.1.6.3 โหลดของเต้ารับใช้งานท่ัวไป ให้คานวณโหลดจุดละ 180 โวลต์แอมแปร์ ทั้งชนิด
เต้าเด่ียว (single) เต้าคู่ (duplex) และชนิดสามเต้า (triplex) กรณีติดตั้งชนิดตั้งแต่ 4 เต้า ให้
คานวณโหลดจุดละ 360 โวลต์แอมแปร์
3.1.6.4 โหลดของเต้ารับอื่นที่ไม่ได้ใช้งานทั่วไป ให้คานวณโหลดตาม ขนาดของ
เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ นน้ั ๆ
บทท่ี 3 ตัวนำประธำน สำยปอ้ น วงจรยอ่ ย 3-3
3.1.7 เต้ำรับใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
3.1.7.1 เต้ารับทอี่ ยใู่ นวงจรย่อยต้องเปน็ แบบมีขั้วสายดิน และต้องตอ่ ลงดินตามบทที่ 4
3.1.7.2 เต้ารับในสถานที่เดียวกันแต่ใช้แรงดันต่างกัน หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้
งานต่างกัน ตอ้ งจัดทาเพ่อื ใหเ้ ตา้ เสยี บไม่สามารถสลบั กนั ได้
3.1.8 กำรปอ้ งกันไฟฟ้ำดดู โดยใช้เคร่อื งตัดไฟรวั่ ในทอี่ ย่อู ำศัยและท่ีคลำ้ ยคลึงกนั
วงจรย่อยต่อไปนี้นอกจากมีสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าและติดตั้งตามบทที่ 4 แล้ว ต้องมีการ
ป้องกันโดยใช้เครื่องตัดไฟรั่ว ขนาด In ไม่เกิน 30 มิลลิแอมแปร์ เพ่ิมเติมด้วย คือ
ก) วงจรเต้ารบั ในบริเวณห้องน้า หอ้ งอาบน้า โรงจอดรถยนต์ หอ้ งครัว หอ้ งใตด้ ิน
ข) วงจรเต้ารับในบริเวณ อ่างล้างชาม อ่างล้างมือ (บริเวณพื้นที่เคาน์เตอร์ ท่ีมีการ
ตดิ ตัง้ เตา้ รับภายในระยะ 1.5 เมตร หา่ งจากขอบดา้ นนอกของอ่าง)
ค) วงจรไฟฟ้าเพื่อใช้จา่ ยภายนอกอาคาร และบรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้าท่ีอยใู่ นตาแหน่งท่ีบุคคล
สัมผสั ไดท้ ุกวงจร
ง) วงจรเต้ารับในบริเวณช้ันล่าง (ช้ัน 1) รวมถึงในบริเวณท่ีอยู่ต่ากว่าระดับผิวดิน ที่
อยใู่ นพนื้ ท่ีปรากฏวา่ เคยมีน้าทว่ มถึงหรืออยู่ในพนื้ ทตี่ า่ กว่าระดบั ทะเลปานกลาง
จ) วงจรย่อยสาหรบั เคร่ืองทานา้ อนุ่ เครอื่ งทาน้ารอ้ น อา่ งอาบนา้
หมำยเหตุ ตาแหน่งที่สัมผัสได้ หมายถึงอยู่ห่างจากพื้นหรือโลหะท่ีต่อลงดินไม่เกิน 2.4 เมตร
ในแนวดงิ่ หรอื 1.5 เมตร ในแนวระดับและบคุ คลสามารถเขา้ ถงึ ไดโ้ ดยไมต่ ้งั ใจ
3.1.9 กำรป้องกันไฟฟ้ำดูดโดยใช้เคร่ืองตัดไฟรั่วในสถำนประกอบกำรที่ไม่ใช่ท่ีอยู่
อำศัย
วงจรย่อยต่อไปน้ีนอกจากมีสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าและติดตั้งตามบทที่ 4 แล้ว ต้องมีการ
ป้องกันโดยใช้เคร่ืองตัดไฟรั่ว ขนาด In ไม่เกิน 30 มิลลิแอมแปร์ เพิ่มเติมด้วย คือ
ก) วงจรสาหรบั สระหรืออา่ งกายภาพบาบัด ธาราบาบัด อ่างน้าแร่ (spa) อ่างน้าร้อน
(hot tub) อ่างนวดตัว
ข) เครือ่ งทานา้ อนุ่ เครอ่ื งทาน้ารอ้ น และเคร่อื งทาน้าเย็น
ค) วงจรย่อยเต้ารับ ในบริเวณตอ่ ไปน้ี
1) ห้องน้า หอ้ งอาบน้า หอ้ งครวั
2) สถานทที่ างานก่อสรา้ ง ซ่อมบารุง บนดาดฟ้า อู่ซอ่ มรถ
3) ทา่ จอดเรอื โป๊ะจอดเรือ ท่ีทาการเกษตร พืชสวนและปศสุ ัตว์
4) การแสดงเพ่ือการพักผอ่ นในท่ีสาธารณะกลางแจง้
5) งานแสดงหรอื ขายสินคา้ และทค่ี ล้ายคลงึ กัน
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น3-4 บทท่ี 3 ตัวนำประธำน สำยปอ้ น วงจรยอ่ ย
6) วงจรเต้ารับท่ีอยู่ชั้นล่าง (ชั้น 1) ช้ันใต้ดิน รวมถึงวงจรเต้ารับที่อยู่ต่ากว่า
ระดับผิวดิน ที่อยู่ในพื้นท่ีปรากฏว่าเคยมีน้าท่วมถึงหรืออยู่ในพ้ืนท่ีต่ากว่า
ระดับทะเลปานกลาง ยกเวน้ มรี ะบบป้องกันนา้ ท่วม
หมำยเหตุ การติดตั้งเคร่ืองตัดไฟร่ัวตามข้อ 3.1.8 และข้อ 3.19 เป็นการติดต้ังเพ่ิมเติม
นอกเหนอื จากสายดนิ ของบรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้าตามบทท่ี 4
3.2 สำยป้อน
3.2.1 ขนำดตวั นำของสำยป้อน
สายป้อนต้องมีขนาดกระแสไม่น้อยกว่าโหลดสูงสุดท่ีคานวณได้และไม่น้อยกว่าขนาดพิกัดขอ ง
เครอื่ งป้องกันกระแสเกินของสายปอ้ น และกาหนดให้ขนาดตวั นาของสายป้อนต้องไม่เล็กกว่า 4
ตร.มม.
3.2.2 กำรปอ้ งกันกระแสเกนิ
สายป้อนต้องมีการป้องกันกระแสเกิน โดยขนาดพิกัดเครื่องป้องกันกระแสเกินต้องสอดคล้อง
และไมต่ ่ากว่าโหลดสงู สดุ ที่คานวณได้
3.2.3 กำรคำนวณโหลดสำหรับสำยป้อน
โหลดของสายป้อนตอ้ งคานวณตามท่กี าหนดดงั ต่อไปนี้
3.2.3.1 สายป้อนต้องมีขนาดกระแสเพียงพอสาหรับการจ่ายโหลดและต้องไม่น้อยกว่า
ผลรวมของโหลดในวงจรยอ่ ยเมอื่ ใชด้ มี านด์แฟกเตอร์
3.2.3.2 โหลดแสงสวา่ ง อนุญาตใหใ้ ช้ดีมานด์แฟกเตอรต์ ามตารางที่ 3-1
3.2.3.3 โหลดของเตา้ รบั อนญุ าตใหใ้ ชด้ มี านด์แฟกเตอรต์ ามตารางท่ี 3-2 ไดเ้ ฉพาะโหลดของ
เต้ารับทีม่ กี ารคานวณโหลดแต่ละเตา้ รบั ไม่เกิน 180 โวลตแ์ อมแปร์
3.2.3.4 โหลดเคร่ืองใช้ไฟฟ้าทั่วไป อนุญาตให้ใช้ดีมานด์แฟกเตอร์ตามตารางท่ี 3-3 ได้
3.2.3.5 เตา้ รับในอาคารทอี่ ยอู่ าศัยที่ต่อเคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่ทราบโหลดแน่นอนให้คานวณโหลด
จากเต้ารับที่มขี นาดสงู สดุ 1 เครอ่ื งรวมกบั ร้อยละ 40 ของขนาดโหลดในเตา้ รบั ท่ีเหลอื
3.2.3.6 ดมี านดแ์ ฟกเตอร์น้ใี หใ้ ช้กับการคานวณสายปอ้ นเท่าน้นั ห้ามใช้กบั การคานวณวงจรยอ่ ย
บทที่ 3 ตัวนำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย 3-5
ตำรำงท่ี 3-1
ดมี ำนด์แฟกเตอร์สำหรบั โหลดแสงสว่ำง
ชนดิ ของอำคำรใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นขนำดของไฟแสงสว่ำง ดีมำนดแ์ ฟกเตอร์
(โวลต์–แอมแปร์) (รอ้ ยละ)
ทพี่ กั อาศัย
ไมเ่ กิน 2,000 100
โรงพยาบาล* ส่วนเกิน 2,000 35
ไม่เกนิ 50,000 40
โรงแรม รวมถงึ ห้องชุด ส่วนเกิน 50,000 20
ทไี่ มม่ ีสว่ นให้ผู้อยู่อาศัย ไมเ่ กิน 20,000 50
20,001-100,000 40
ประกอบอาหารได้* สว่ นเกิน 100,000 30
โรงเก็บพสั ดุ ไม่เกิน 12,500 100
อาคารประเภทอืน่ สว่ นเกิน 12,500 50
100
ทกุ ขนาด
หมำยเหตุ * ดมี านดแ์ ฟกเตอรต์ ามตารางนี้ ห้ามใช้สาหรบั โหลดแสงสว่างในสถานที่บางแหง่ ของ
โรงพยาบาลหรือโรงแรม ซง่ึ บางขณะจาเป็นตอ้ งใช้ไฟฟ้าแสงสว่างพร้อมกนั เชน่ ใน
ห้องผา่ ตัด ห้องอาหารหรอื หอ้ งโถง ฯลฯ
ตำรำงท่ี 3-2
ดีมำนด์แฟกเตอร์สำหรบั โหลดของเตำ้ รับในสถำนท่ีไม่ใชท่ ่อี ยอู่ ำศัย
โหลดของเตำ้ รับรวม ดมี ำนด์แฟกเตอร์
(คำนวณโหลดเต้ำรับละ 180 VA) (ร้อยละ)
10 kVA แรก 100
สว่ นทีเ่ กิน 10 kVA 50
3-6 บทที่ 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย
ตำรำงที่ 3-3
ดีมำนดแ์ ฟกเตอร์สำหรบั เคร่ืองใชไ้ ฟฟำ้ ทั่วไป
ชนิดของอำคำร ประเภทของโหลด ดีมำนดแ์ ฟกเตอร์
เครอื่ งหุงต้มอาหาร
10 แอมแปร์ + รอ้ ยละ 30 ของ สว่ นทเ่ี กนิ 10
แอมแปร์
1. อาคารทีอ่ ยู่อาศัย เคร่อื งทานา้ รอ้ น กระแสใช้งานจรงิ ของสองตัวแรกทใ่ี ชง้ าน +
ร้อยละ 25 ของตวั ทเ่ี หลอื ทงั้ หมด
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นเครือ่ งปรับอากาศร้อยละ 100
กระแสใช้งานจรงิ ของตัวท่ีใหญ่ทส่ี ดุ
2. อาคารสานกั งาน เคร่ืองหงุ ต้มอาหาร + ร้อยละ 80 ของตัวใหญ่รองลงมา
และรา้ นค้ารวมถึง เครอ่ื งทาน้ารอ้ น + รอ้ ยละ 60 ของตัวทเ่ี หลอื ทัง้ หมด
ห้างสรรพสินค้า รอ้ ยละ 100 ของสองตัวแรกที่ใหญ่ท่สี ดุ
+ รอ้ ยละ 25 ของตวั ทเ่ี หลอื ทัง้ หมด
3. โรงแรมและ เครอ่ื งปรับอากาศ รอ้ ยละ 100
อาคารประเภทอน่ื เหมือนขอ้ 2
เครอ่ื งหุงตม้ อาหาร เหมือนขอ้ 2
เคร่ืองทาน้ารอ้ น
เครอื่ งปรับอากาศ รอ้ ยละ 75
ประเภทแยกแตล่ ะหอ้ ง
หมำยเหตุ สาหรับเคร่ืองปรับอากาศแบบส่วนกลาง (central) ให้ดูค่าดีมานด์แฟกเตอร์ท่ีแนะนาไว้
ในภาคผนวก ฌ.
3.2.4 ขนำดตัวนำนวิ ทรลั (Neutral)
ขนาดตัวนานิวทรัล ต้องมีขนาดกระแสเพียงพอท่ีจะรับกระแสไม่สมดุลสูงสุดที่เกิดข้ึน และต้องมี
ขนาดไมเ่ ล็กกวา่ ขนาดสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้าตามขอ้ 4.20
กรณรี ะบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ขนาดของตวั นานวิ ทรลั มขี อ้ กาหนดดงั นี้
3.2.4.1 กรณีสายเส้นไฟมีกระแสของโหลดไม่สมดุลสูงสุดไม่เกิน 200 แอมแปร์ ขนาด
กระแสของตวั นานวิ ทรัลตอ้ งไม่นอ้ ยกว่าขนาดกระแสของโหลดไม่สมดลุ สูงสดุ น้ัน
3.2.4.2 กรณีสายเส้นไฟมีกระแสของโหลดไม่สมดุลสูงสุดมากกว่า 200 แอมแปร์ ขนาด
กระแสของตัวนานิวทรัลต้องไม่น้อยกว่า 200 แอมแปร์ บวกด้วยร้อยละ 70 ของส่วนที่เกิน 200
แอมแปร์
บทที่ 3 ตัวนำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย 3-7
3.2.4.3 ไม่อนุญาตให้คานวณลดขนาดกระแสในตัวนานิวทรัลในส่วนของโหลดไม่สมดุลท่ีใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ประกอบดว้ ยหลอดชนิดปล่อยประจุ (electric discharge) (เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ เป็นต้น)
อุปกรณเ์ กี่ยวกบั การประมวลผลข้อมูล (data processing) หรืออปุ กรณ์อืน่ ที่มลี ักษณะคลา้ ยกนั
ท่ีทาใหเ้ กดิ กระแสฮารม์ อนิก (harmonic) ในตัวนานิวทรลั
หมำยเหตุ 1) กระแสของโหลดไม่สมดุลสูงสุดคือค่าสูงสุดที่คานวณได้จากโหลด 1 เฟส (single-phase
load) ทต่ี ่อระหวา่ งตวั นานวิ ทรัลและสายเส้นไฟเสน้ ใดเส้นหนงึ่
2) ในระบบไฟ 3 เฟส 4 สายทจ่ี ่ายใหก้ บั ระบบคอมพวิ เตอร์ หรือโหลดอเิ ล็กทรอนกิ ส์จะต้องเผ่ือ
ตัวนานิวทรัลให้ใหญ่ข้ึนเพื่อรองรับกระแสฮาร์มอนิกด้วย ในบางกรณีตัวนานิวทรัลอาจมี
ขนาดใหญ่กวา่ สายเสน้ ไฟ
3.3 กำรปอ้ งกันกระแสเกนิ สำหรบั วงจรยอ่ ยและสำยปอ้ น
วงจรย่อยและสายป้อนต้องมีการป้องกันกระแสเกิน และเครื่องป้องกันกระแสเกินต้องมี
รายละเอยี ดดังตอ่ ไปน้ี
3.3.1 เคร่ืองป้องกันกระแสเกินอาจเป็นฟิวส์ หรือเซอร์กิตเบรกเกอรก์ ็ได้
3.3.2 ฟิวส์ เซอร์กิตเบรกเกอร์หรือการผสมของทั้งสองอย่างน้ี จะนามาต่อขนานกันไม่ ได้
ยกเว้น เป็นผลิตภัณฑ์มาตรฐานท่ีประกอบสาเร็จมาจากโรงงานผู้ผลิต และเป็นแบบท่ีได้รับ
ความเห็นชอบวา่ เปน็ หน่วย (unit) เดยี วกัน
3.3.3 ในกรณีที่ติดต้ังเคร่ืองป้องกันกระแสเกินเพ่ิมเติมสาหรับดวงโคมหรือเคร่ืองใช้ไฟฟ้า
อ่ืนๆ เคร่ืองป้องกันกระแสเกินเพิ่มเติมเหล่าน้ี จะใช้แทนเครื่องป้องกันกระแสเกินของวงจรย่อย
ไม่ไดแ้ ละไม่จาเปน็ ต้องเขา้ ถึงไดท้ ันที
3.3.4 เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องสามารถป้องกันตัวนาทุกสายเส้นไฟและไม่ต้องติดต้ังใน
ตัวนาท่ีมกี ารตอ่ ลงดิน ยกเว้น อนญุ าตให้ติดตัง้ เครอ่ื งป้องกนั กระแสเกินในตัวนาที่มีการต่อลง
ดินได้ ถ้าเครื่องป้องกันกระแสเกินน้ันสามารถตัดวงจรทุกเส้นรวมทั้งตัวนาท่ีมีการต่อลงดินได้
พรอ้ มกัน
3.3.5 เครอ่ื งป้องกนั กระแสเกนิ ตอ้ งไม่ติดต้ังในสถานท่ซี ่งึ ทาให้เกิดความเสียหาย และต้องไม่
อยู่ใกลก้ ับวสั ดทุ ต่ี ดิ ไฟงา่ ย
3.3.6 เครื่องป้องกันกระแสเกิน ต้องบรรจุไว้ในกล่องหรือตู้อย่างมิดชิด (เฉพาะด้ามสับของ
เซอร์กิตเบรกเกอร์ ยอมให้โผล่ออกมาข้างนอกได้) ยกเว้น หากติดต้ังไว้ท่ีแผงสวิตช์หรือแผง
ควบคุม ซ่ึงอยู่ในห้องท่ีไม่มีวัสดุติดไฟง่ายและไม่มีความช้ืน เครื่องป้องกันกระแสเกินสาหรับ
บา้ นอยอู่ าศัยขนาดไมเ่ กิน 16 แอมแปร์ หนง่ึ เฟส ไมต่ อ้ งบรรจุไวใ้ นกล่องหรือตกู้ ็ได้
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น3-8 บทที่ 3 ตัวนำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย
3.3.7 กล่องหรือต้ทู บ่ี รรจุเครอื่ งปอ้ งกนั กระแสเกิน ซ่ึงติดต้ังในสถานท่ีเปียกหรือชื้นต้องเป็น
ชนดิ ท่ีไดร้ ับความเห็นชอบแล้ว และต้องมีช่องว่างระหวา่ งตูก้ บั ผนังหรอื พื้นทีร่ องรับไม่นอ้ ยกว่า 5
มม.
3.3.8 เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องติดตั้งในที่ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้สะดวก มีที่ว่าง
และแสงสว่างอย่างพอเพียง บริเวณหน้าแผงต้องมีท่ีว่างเพื่อปฏิบัติงานไม่น้อยกว่าที่กาหนดใน
บทท่ี 1
3.3.9 ตอ้ งติดตง้ั เครื่องป้องกันกระแสเกนิ ทกุ จุดต่อแยก
ข้อยกเว้นท่ี 1 กรณีเครื่องป้องกันกระแสเกินของสายป้อนสามารถป้องกันสายท่ีต่อแยกได้ไม่ต้องติดตั้ง
เครื่องป้องกนั กระแสเกินทุกจดุ ต่อแยก
ข้อยกเว้นท่ี 2 สายที่ต่อแยกจากสายป้อนเปน็ ไปตามทุกขอ้ ดังนี้
2.1) ความยาวของสายท่ีตอ่ แยกไม่เกนิ 7.5 เมตร
2.2) ขนาดกระแสของสายทตี่ ่อแยกไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ใน 3 ของขนาดกระแสสายป้อน
2.3) จดุ ปลายของสายต่อแยกตอ้ งมเี คร่อื งป้องกนั กระแสเกิน 1 ตวั
2.4) สายทีต่ อ่ แยกตอ้ งตดิ ต้ังในชอ่ งเดนิ สาย
3.3.10 เครื่องป้องกันกระแสเกินของวงจรย่อยและสายป้อนในแผงสวิตช์ต่าง ๆ ต้องระบุ
โหลดทจ่ี า่ ยใหช้ ดั เจนติดไว้ตามขอ้ 1.107
3.4 ตัวนำประธำน (Service Conductor)
ตัวนาประธานต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรับโหลดท้ังหมดได้ และตัวนาประธานที่จ่ายไฟฟ้าให้กับ
อาคารหลงั หนึ่งๆ หรือผูใ้ ชไ้ ฟฟา้ รายหนึง่ ต้องมชี ุดเดยี ว
ขนาดตัวนานิวทรัล ต้องมีขนาดกระแสเพียงพอท่ีจะรับกระแสไม่สมดุลสูงสุดที่เกิดขึ้นตามที่
คานวณได้ในข้อ 3.2.4.1 ถึง 3.2.4.3 และต้องมีขนาดไม่เล็กกว่าขนาดสายต่อหลักดินของระบบ
ไฟฟ้าตามข้อ 4.19 และไม่เล็กกว่าร้อยละ 12.5 ของตัวนาประธานขนาดใหญ่ที่สุดแต่ไม่
จาเปน็ ตอ้ งใหญก่ ว่าสายเฟสนอกจากเผ่ือสาหรบั ปญั หาฮาร์มอนกิ
ยกเว้น ยอมให้มีตวั นาประธานมากกว่า 1 ชุดได้ โดยมีข้อกาหนดดังตอ่ ไปน้ี
1) สาหรบั เคร่ืองสูบน้าดบั เพลิง ซึ่งต้องการแยกระบบประธาน
2) สาหรับระบบไฟฟา้ ฉุกเฉินและระบบไฟฟ้าสารอง
3) ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีอาคารมากกว่า 1 หลัง อยู่ในบริเวณเดียวกันและจาเป็นต้องใช้
ตัวนาประธานแยกกันภายใต้เงอื่ นไขดังนี้
บทที่ 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย 3-9
3.1) อาคารทุกหลังตอ้ งมบี รภิ ัณฑ์ประธานโดยขนาดของเคร่ืองป้องกันกระแส
เกินของบริภัณฑ์ประธานรวมกันต้องไม่เกินขนาดพิกัดเครื่องป้องกัน
กระแสเกินของเครื่องวัดหนว่ ยไฟฟ้า
3.2) ตัวนาประธานจากเครื่องวัดฯ ถึงจุดแยกเข้าแต่ละอาคารต้องมีขนาด
กระแสไม่น้อยกว่าขนาดของเคร่ืองป้องกันกระแสเกินของอาคารทุกหลัง
รวมกัน
3.3) จุดต่อแยกตัวนาประธานไปยังอาคารหลังอื่นต้องอยู่ในบริเวณของผู้ใช้
ไฟฟ้า
4) เป็นอาคารท่ีรับไฟจากหม้อแปลงไฟฟ้ามากกว่า 1 ลูก หรือท่ีการไฟฟ้า
กาหนดใหต้ อ้ งจา่ ยไฟฟ้ามากกว่า 1 แหลง่ จา่ ย
5) เม่อื ต้องการตัวนาประธานทร่ี ะดับแรงดันตา่ งกัน
6) เปน็ อาคารชดุ อาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ที่จาเป็นต้องใช้ตัวนา
ประธานมากกว่า 1 ชุด โดยจะตอ้ งได้รบั ความเหน็ ชอบจากการไฟฟา้ ฯ กอ่ น
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ตอน ก. สำหรับระบบแรงตำ่
3.4.1 ตัวนำประธำนอำกำศสำหรับระบบแรงต่ำ ต้องเป็นสายทองแดงหุ้มฉนวนที่
เหมาะสมและตอ้ งมขี นาดไมเ่ ลก็ กว่า 4 ตร.มม. การไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาคยอมให้ใช้สายอะลูมิเนียม
หุ้มฉนวนที่เหมาะสมเป็นตัวนาประธานได้เฉพาะการเดินสายลอยในอากาศบนวัสดุภายนอก
อาคาร แต่ท้งั น้ีขนาดต้องไมเ่ ลก็ กวา่ 10 ตร.มม.
3.4.2 ตัวนำประธำนใต้ดินสำหรับระบบแรงต่ำ ต้องเป็นสายทองแดงหุ้มฉนวนชนิดที่
เหมาะสมกบั ลกั ษณะการตดิ ต้ัง และต้องมีขนาดไม่เลก็ กว่า 10 ตร.มม.
หมำยเหตุ 1) การติดตั้งใต้ดิน ต้องมีแผนผังแสดงแนวสายไฟฟ้าใต้ดินไว้พร้อมที่จะตรวจสอบได้และต้อง
ทาป้ายระบุแนวของสายไฟฟ้าและบอกความลึกของสายบนสุด ป้ายต้องเห็นได้ชัดเจน
ระยะหา่ งระหว่างป้ายไมเ่ กนิ 50 เมตร
2) การตดิ ตง้ั ใตด้ นิ ที่มีหลายวงจร ทป่ี ลายสายและสายทอ่ี ยใู่ นช่วงชอ่ งเปดิ ของ แ ต่ ล ะ ว ง จ ร
จะตอ้ งมเี คร่ืองหมายแสดงใหเ้ ห็นความแตกตา่ งติดอยอู่ ยา่ งถาวร
3) อนุญาตให้ใช้สายเมนขนาดไม่เล็กกว่า 4 ตร.มม. ได้กรณีจ่ายโหลดผ่านเครื่องวัดฯ ขนาด
5(15)A 1 เฟส 2 สาย โดยโหลดเป็นลักษณะ fixed-load และอยู่บริเวณทางเดินริมถนน
(sidewalk)
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น3-10 บทที่ 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย
ตอน ข. สำหรับระบบแรงสูง
3.4.3 ตัวนำประธำนอำกำศสำหรับระบบแรงสูง เป็นสายเปลอื ยหรอื สายห้มุ ฉนวนก็ได้
3.4.4 ตัวนำประธำนใต้ดินสำหรับระบบแรงสูง ต้องเป็นสายทองแดงหุ้มฉนวนชนิดท่ี
เหมาะสมกับลักษณะการติดต้ังโดยจะตอ้ งทาป้ายระบุแนวของสายใต้ดินและบอกความลึกของ
สายบนสุด ป้ายต้องเห็นได้ชัดเจน ระยะห่างระหว่างป้ายไม่เกิน 50 เมตร และต้องมีแผนผัง
แสดงแนวสายใต้ดินเก็บรักษาไวพ้ ร้อมทีจ่ ะตรวจสอบได้
3.5 บริภณั ฑ์ประธำนหรือเมนสวติ ช์ (Service Equipment)
อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต้องติดต้ังบริภัณฑ์ประธานเพื่อปลดวงจรทุกสายเส้นไฟออกจากตัวนา
ประธาน ทั้งน้ีบริภัณฑ์ประธานประกอบด้วยเครื่องปลดวงจร (disconnecting means) และ
เครือ่ งป้องกันกระแสเกิน (overcurrent protective device) ซ่งึ อาจประกอบเปน็ ชุดเดยี วกันหรือ
เป็นตวั เดยี วกันกไ็ ด้
ตอน ก. สำหรบั ระบบแรงต่ำ
อาคารหรอื ส่งิ ปลกู สร้างที่ต้องรบั ไฟฟ้าแรงตา่ จากการไฟฟ้าฯ ต้องติดต้ังบริภัณฑ์ประธานแรงต่า
หรือแผงสวิตช์แรงต่า หลังเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้า เพื่อปลดวงจรทุกสายเส้นไฟออกจากตัวนา
ประธาน และมีการป้องกนั กระแสเกนิ สาหรบั ระบบจา่ ยไฟฟ้าของผใู้ ช้ไฟฟา้ ทง้ั นี้จะต้องติดต้ังใน
ตาแหน่งท่ีเข้าถึงได้โดยสะดวกและมีลักษณะตามรายละเอียดและข้อกาหนดการติดตงั้ ดงั น้ี
3.5.1 เคร่อื งปลดวงจรของบรภิ ัณฑ์ประธำน
รายละเอยี ดและข้อกาหนดการติดตัง้ มีดังนี้
3.5.1.1 เครื่องปลดวงจรชนิดหน่ึงเฟสท่ีมีขนาดต้ังแต่ 50 แอมแปร์ขึ้นไป และชนิดสามเฟส
ทุกขนาดต้องเป็นชนิดสวิตช์สาหรับตัดโหลด (load-break) ขนาดที่ต่ากว่าที่กาหนดข้างต้นไม่
บังคบั ให้เปน็ ชนิดสวิตช์สาหรบั ตัดโหลด
3.5.1.2 เคร่ืองปลดวงจรต้องสามารถปลดวงจรทุกสายเส้นไฟ (สายเฟส) ได้พร้อมกัน และ
ต้องมีเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่าอยู่ในตาแหน่งปลดหรือสับ หรือตาแหน่งท่ีปลดหรือสับน้ัน
สามารถเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจน กรณีที่สายตัวนาประธานมิได้มีการต่อลงดินตามบทที่ 4 เคร่ืองปลด
วงจรต้องสามารถปลดสายเสน้ ไฟและสายนิวทรลั ทกุ เสน้ พร้อมกัน
3.5.1.3 เคร่ืองปลดวงจรต้องมีพิกัดไม่น้อยกว่าพิกัดของเคร่ืองป้องกันกระแสเกินขนาดมาก
ทส่ี ดุ ทใ่ี สไ่ ดห้ รือปรบั ตง้ั ได้
บทท่ี 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย 3-11
3.5.1.4 เคร่ืองปลดวงจรต้องสามารถปลดวงจรได้สะดวกและไม่มีโอกาสสัมผัสกับส่วนท่ีมีใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ไฟฟา้
ข้อแนะนำ บริภัณฑ์ประธานสาหรับอาคารควรอยู่บนชั้นลอยหรือชั้นสอง หากเป็นอาคารช้ันเดียวขอบล่าง
ของบรภิ ัณฑป์ ระธานควรอย่สู งู จากพ้ืนไม่ตา่ กว่า 1.6 เมตร
3.5.1.5 อนุญาตใหต้ ดิ ต้ังเครอ่ื งปลดวงจรไดท้ ั้งภายในหรือภายนอกอาคาร แต่ต้องเป็นชนิด
ท่ีเหมาะสมกับสภาพการติดตั้งและควรติดต้ังให้อยู่ใกล้กับแหล่งจ่ายไฟมากที่สุดและเข้าถึงได้
โดยสะดวก
3.5.1.6 ห้ามให้ต่อบริภัณฑ์ไฟฟ้าทางด้านไฟเข้าของเคร่ืองปลดวงจร ยกเว้น เป็นการต่อ
เพ่ือเข้าเครื่องวัด คาปาซิเตอร์ สัญญาณต่างๆ อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จวงจรระบบไฟฉุกเฉินระบบ
เตอื นและป้องกันอัคคีภัย ระบบป้องกันกระแสรั่วลงดิน หรือเพ่ือใช้ในวงจรควบคุมของบริภัณฑ์
ประธานที่ตอ้ งมไี ฟเมอ่ื เครือ่ งปลดวงจรอย่ใู น ตาแหนง่ ปลด
3.5.1.7 ในอาคารท่ีมีผู้ใช้พื้นที่หลายราย ผู้ใช้แต่ละรายต้องสามารถเข้าถึงเครื่องปลดวงจร
ของตนเองได้โดยสะดวก
3.5.1.8 ต้องจดั ใหม้ ีท่ีวา่ งเพื่อปฏิบตั ิงานท่เี คร่ืองปลดวงจรได้อย่างพอเพียง และต้องมีที่ว่าง
เพื่อปฏิบตั ิงานดา้ นหน้าไม่น้อยกว่าท่กี าหนดในบทที่ 1
3.5.1.9 ในกรณีท่ีจาเป็นต้องใช้เครื่องปลดวงจรเป็นสวิตช์สับเปลี่ยน (transfer switch)
ด้วย ต้องจดั ใหม้ ีอนิ เตอรล์ ็อค (interlock) ปอ้ งกนั การจ่ายไฟชนกนั จากหลายแหล่งจ่าย
3.5.2 เครื่องปอ้ งกนั กระแสเกนิ ของบริภณั ฑป์ ระธำน
แตล่ ะสายเสน้ ไฟท่ีตอ่ ออกจากเคร่ืองปลดวงจรของบริภัณฑ์ประธานต้องมีเคร่ืองป้องกันกระแส
เกิน
1) กำรไฟฟ้ำนครหลวง กาหนดพกิ ัดสงู สดุ ของเคร่อื งปอ้ งกนั กระแสเกนิ ไวต้ าม
ตารางท่ี 3-4
2) กำรไฟฟ้ำส่วนภูมิภำค กาหนดพิกัดสูงสุดของเคร่ืองป้องกันกระแสเกินไว้ตาม
ตารางท่ี 3-5
3.5.2.1 ไม่อนุญาตให้ติดต้ังเครื่องป้องกันกระแสเกินในสายที่มีการต่อลงดิน ยกเว้น
เคร่ืองป้องกันกระแสเกินที่เป็นเซอร์กิตเบรกเกอร์ซ่ึงตัดวงจรทุกสายของวงจรออกพร้อมกันเม่ือ
กระแสไหลเกิน
3-12 บทท่ี 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรยอ่ ย
ตำรำงท่ี 3-4
พกิ ัดสงู สุดของเครอื่ งป้องกนั กระแสเกินและโหลดสูงสุดตำมขนำดเครื่องวัดหน่วยไฟฟำ้
(สำหรบั กำรไฟฟ้ำนครหลวง)
ขนำดเครอ่ื งวัดหน่วยไฟฟำ้ พิกดั สงู สุดของเครื่องปอ้ งกันกระแสเกนิ โหลดสงู สุด
(แอมแปร์)
(แอมแปร์) (แอมแปร์)
5 (15) 16 10
15 (45)
30 (100) 50 30
50 (150) 100 75
200 125 100
400 200 150
250 200
300 250
400 300
500 400
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
หมำยเหตุ พิกัดของเครื่องป้องกันกระแสเกิน มีค่าต่ากว่าที่กาหนดในตารางได้ แต่ท้ังนี้ต้องไม่น้อยกว่า
1.25 เทา่ ของโหลดท่ีคานวณได้
ตำรำงที่ 3-5
ขนำดสำยไฟฟำ้ เซฟตีสวิตช์ คัตเอำต์ และคำร์ทริดจ์ฟวิ ส์สำหรบั ตวั นำประธำน
(สำหรับกำรไฟฟ้ำส่วนภูมิภำค)
ขนำด โหลด ขนำดตัวนำประธำน เซฟตสี วิตช์หรือ บริภัณฑป์ ระธำน เซอร์กติ
เคร่อื งวัด สงู สุด เล็กทสี่ ุดที่ยอมใหใ้ ชไ้ ด้ โหลดเบรกสวติ ช์ คัตเอำตใ์ ชร้ ว่ มกบั เบรกเกอร์
หน่วยไฟฟำ้ (แอมแปร์) คำรท์ ริดจ์ฟิวส์
(แอมแปร์) (ตร.มม.) ขนำด
12 ขนำดสวติ ช์ ขนำดฟิวส์ ขนำดคัท ขนำดฟวิ ส์ ปรับต้งั
5 (15) 36 สำย สำย ต่ำสดุ สงู สุด เอำตต์ ำ่ สุด สูงสดุ สงู สุด
15 (45) 80 อะลูมเิ นียม ทองแดง (แอมแปร์) (แอมแปร์)
30 (100) (แอมแปร์) (แอมแปร์) (แอมแปร์)
10 4 15-16
25 10 30 15 20 16
50 35 - 40-50
60 40-50 - -
100
100 100 -
หมำยเหตุ 1) สาหรับตัวนาประธานภายในอาคารใหใ้ ชส้ ายทองแดง
2) ขนาดสายในตารางน้ีสาหรับวิธีการเดินสายลอยในอากาศวัสดุฉนวนภายนอกอาคาร หากวิธี
เดินสายแบบอื่นให้พิจารณาขนาดตัวนาประธานในบทท่ี 5 แต่ทั้งนี้ ขนาดตัวนาประธานต้อง
รบั กระแสไดไ้ มน่ ้อยกว่า 1.25 เท่าของโหลดตามตาราง
บทที่ 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรยอ่ ย 3-13
3.5.2.2 อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินต้องป้องกันวงจรและอุปกรณ์ท้ังหมด อนุญาตให้ติดต้ัง
ทางด้านไฟเข้าของเคร่ืองป้องกันกระแสเกิน เฉพาะวงจรของระบบฉุกเฉินต่างๆ เช่นเคร่ืองแจ้ง
เหตุเพลิงไหม้ ระบบสัญญาณป้องกันอันตราย เครื่องสูบน้าดับเพลิง นาฬิกา เครื่องป้องกัน
อันตรายจากฟ้าผา่ คาปาซิเตอร์ เคร่อื งวดั ฯ และวงจรควบคุม
3.5.2.3 เคร่ืองป้องกันกระแสเกิน ต้องสามารถตัดกระแสลัดวงจรค่ามากที่สุดที่อาจเกิดข้ึนท่ี
จุดต่อไฟด้านไฟออกของเคร่ืองป้องกันกระแสเกินได้ โดยคุณสมบัติยังคงเดิม ทั้งน้ีค่าพิกัด
กระแสลดั วงจรไม่ตา่ กวา่ 10 กโิ ลแอมแปร์ ยกเวน้ ในบางพน้ื ที่ที่การไฟฟ้าฯ กาหนดเป็นกรณี
พิเศษ
3.5.2.4 การป้องกันกระแสเกิน ต้องเป็นไปตามท่ีกาหนดในข้อ 3.3 สาหรับข้อที่นามาใช้ได้
ดว้ ย
3.5.2.5 อนุญาตให้ใช้เคร่ืองป้องกันกระแสเกินที่มีคุณสมบัติตามข้อ 3.5.1 ทาหน้าท่ีเป็น
เครอ่ื งปลดวงจรได้
3.5.2.6 กรณรี ะบบที่นิวทรลั ของระบบวาย (wye) ตอ่ ลงดินโดยตรง บริภัณฑป์ ระธานแรงตา่ ท่ี
มขี นาดต้งั แต่ 1,000 แอมแปรข์ ้ึนไป ตอ้ งตดิ ตั้งเคร่ืองป้องกันกระแสร่ัวลงดินของบรภิ ณั ฑ์
ระบบป้องกันกระแสร่ัวลงดินต้องมีการทดสอบการทางานเมื่อติดตั้งครั้งแรก ณ ที่ติดตั้งโดย
ทดสอบตามคาแนะนาท่ีให้มากับบริภัณฑ์ ผลการทดสอบน้ีต้องบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
เพื่อแจง้ ให้เจ้าหน้าทีผ่ ูม้ ีอานาจตรวจสอบทราบ
ข้อยกเวน้ ที่ 1 ข้อบังคับตามข้อนี้ไม่ใช้กับเคร่ืองปลดวงจรประธานของกระบวนการทาง
อุตสาหกรรมแบบต่อเนื่อง ซ่ึงหากมีการหยุดทางานอย่างกะทันหันจะทาให้
เกดิ ความเสยี หายมาก
ขอ้ ยกเว้นที่ 2 ขอ้ บงั คับตามขอ้ น้ีไม่ใช้กบั เครือ่ งสูบน้าดับเพลงิ
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ตอน ข. สำหรบั ระบบแรงสงู
อาคารหรอื สงิ่ ปลูกสร้างท่ีตอ้ งรับไฟฟา้ แรงสูงจากการไฟฟ้าฯ ต้องติดต้ังบริภัณฑ์ประธานแรงสูง
หรือแผงเมนสวิตช์แรงสูง หลังเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าเพ่ือปลดวงจรทุกสายเส้นไฟออกจากตัวนา
ประธานแรงสูง และต้องมีการป้องกันระบบไฟฟ้าและบริภัณฑ์ไฟฟ้าแรงสูงอื่นๆ ของผู้ใช้ไฟฟ้า
โดยจะต้องตดิ ตง้ั ในตาแหน่งทเ่ี ขา้ ถึงไดโ้ ดยสะดวก และในบรเิ วณใกล้กับหมอ้ แปลงหรอื บริภณั ฑ์
แรงสูงอน่ื ๆ ในระยะทม่ี องเห็นกันได้
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น3-14 บทที่ 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรยอ่ ย
กรณีที่ต้องรับไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ประกาศเป็นระบบสายป้อนใต้ดินของการไฟฟ้าฯ
จะตอ้ งจัดเตรยี มสถานที่สาหรับติดต้ังเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้าและอุปกรณ์ป้องกันแรงสูงของ
การไฟฟ้าโดยสถานที่ต้องอยู่ในตาแหน่งท่ีเจ้าหน้าท่ีของการไฟฟ้าสามารถเข้าออกได้
ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถขนย้ายอุปกรณไ์ ฟฟา้ ไดส้ ะดวก
ทงั้ นี้ต้องมีลักษณะตามรายละเอยี ดและขอ้ กาหนดการติดต้งั ดังนี้
3.5.3 สวติ ชแ์ ยกวงจร (Isolating Switches)
ต้องติดตั้งสวิตช์แยกวงจรทางด้านไฟเข้าของเคร่ืองปลดวงจรด้วย เมื่อใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ทา
หนา้ ทเี่ ปน็ เครื่องปลดวงจรของบรภิ ัณฑ์ประธาน ยกเว้น สาหรับสวิตช์เกียร์ท่ีใช้ก๊าซเป็นฉนวน
(gas-insulated switchgear) ไมบ่ ังคับให้ติดตัง้ สวิตชแ์ ยกวงจรทางดา้ นไฟเขา้
สวิตชแ์ ยกวงจรต้องมรี ายละเอียดตามข้อ 3.5.3.1 ถงึ ข้อ 3.5.3.3
3.5.3.1 สวิตช์แยกวงจรต้องมีอินเตอร์ล็อกให้สับ-ปลดได้เฉพาะเม่ือบริภัณฑ์ประธานอยู่ใน
ตาแหน่งปลด และต้องมีป้ายเตือนที่เห็นได้ชัดเจนไม่ให้สับ-ปลดขณะบริภัณฑ์ประธาน อยู่ใน
ตาแหน่งสบั
3.5.3.2 ทางด้านโหลดของสวิตช์แยกวงจรต้องมีอุปกรณ์สาหรับต่อลงดินเมื่อปลดวงจรออก
จากแหล่งจา่ ยไฟ
3.5.3.3 เซอร์กติ เบรกเกอรช์ นิดชกั ออก (draw-out) ถอื ว่ามีสวิตชแ์ ยกวงจรอย่แู ล้ว
3.5.4 เครื่องปลดวงจรของบรภิ ัณฑป์ ระธำน
3.5.4.1 เคร่ืองปลดวงจรต้องปลดสายเส้นไฟทั้งหมดพร้อมกันได้และต้องสับวงจรได้ขณะท่ี
เกดิ กระแสลัดวงจรค่ามากท่ีสุดท่ีอาจเกิดข้ึน เมื่อติดต้ังฟิวส์สวิตช์หรือฟิวส์ประกอบกัน ฟิวส์น้ัน
จะต้องมีคุณสมบัติที่สามารถตัดกระแสลัดวงจรขณะที่สับเคร่ืองปลดวงจรได้โดยเคร่ืองปลด
วงจรนี้ไม่เสียหาย
3.5.4.2 กรณีทีใ่ ชฟ้ วิ ส์จากดั กระแส (current limiting fuse) ทาหน้าที่บังคับให้สวิตช์สาหรับ
ตัดโหลดปลดวงจรออกทั้งสามเฟสเมื่อฟิวส์เส้นใดเส้นหน่ึงขาด พิกัดกระแสขณะตัดวงจร
(breaking current) ของสวติ ชส์ าหรับตดั โหลด ต้องมีค่าไม่น้อยกว่า 7 เท่าของพิกัดกระแสฟิวส์
(ตามมาตรฐาน IEC 60420)
3.5.4.3 กรณีที่เคร่ืองปลดวงจรเป็นชนิดคัตเอาต์พร้อมฟิวส์ (fuse cutout) ชนิดฟิวส์ขาดตก
(drop out) ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าหรือโครงสร้างอ่ืนท่ีทาหน้าท่ีเช่นเดียวกับเสาไฟฟ้า ไม่บังคับให้
ปลดวงจรทุกสายเส้นไฟได้พรอ้ มกัน นอกจากการไฟฟา้ ฯจะกาหนดไว้เปน็ อยา่ งอ่ืน
บทที่ 3 ตัวนำประธำน สำยปอ้ น วงจรย่อย 3-15
3.5.5 เครอ่ื งปอ้ งกันกระแสเกนิใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องตดิ ตั้งและมีลกั ษณะเฉพาะ ดังน้ี
3.5.5.1 ต้องติดตั้งเครอื่ งป้องกนั กระแสเกินในสายเสน้ ไฟทกุ เสน้
3.5.5.2 เมื่อบริภัณฑ์ประธานติดตั้งในห้องสวิตช์เกียร์ หรือเป็นตู้สวิตช์เกียร์โลหะ เคร่ือง
ปอ้ งกนั กระแสเกินและเครอ่ื งปลดวงจรต้องเปน็ ดังตอ่ ไปน้ี
ก) สวิตช์น้ามันชนิดไม่อัตโนมัติ คัตเอาต์ชนิดฟิวส์ใช้น้ามันหรือสวิตช์สาหรับ
ตัดโหลดชนิดใช้อากาศ (air–load-interrupter switch) ต้องใช้กับฟิวส์
ความสามารถในการปลดวงจรของสวติ ชด์ งั กลา่ วตอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ ขนาดกระแส
ใช้งานตอ่ เนือ่ งของฟวิ ส์
ข) เซอร์กิตเบรกเกอร์ต้องมีพิกัดกระแสและพิกัดตัด กระแสลัดวงจรที่
เหมาะสมกับการใช้งาน
3.5.5.3 เม่ือบริภัณฑ์ประธานไม่ได้ติดต้ังในห้องสวิตช์เกียร์หรือไม่ได้เป็นตู้สวิตช์เกียร์โลหะ
เครือ่ งป้องกันกระแสเกนิ และเครื่องปลดวงจรต้องเป็นดงั ตอ่ ไปน้ี
ก) สวติ ชต์ ดั กระแสโหลดชนิดใช้อากาศ หรือสวติ ชอ์ ื่นทสี่ ามารถตัดกระแสโหลดที่
กาหนดของวงจรได้ ต้องใช้ร่วมกับฟิวส์ที่ติดอยู่บนเสาหรือบนโครงสร้างที่
ยกขึ้นให้สูงและอยู่ภายนอกอาคาร และสวิตช์นี้ต้องสับ-ปลดโดยบุคคลที่มี
หนา้ ท่เี กย่ี วข้อง
ข) เซอรก์ ติ เบรกเกอร์ต้องมีพิกัดกระแสและพิกัดตัดกระแส ลดั วงจรทีเ่ หมาะสมและ
ถ้าต้องติดตั้งไว้ภายนอกอาคารให้ติดใกล้กับจุดท่ีตัวนาประธานเข้าอาคาร
มากทสี่ ุดเทา่ ที่จะทาได้
3.5.5.4 ฟิวส์ ต้องมีพิกัดตัดกระแสลัดวงจรไม่น้อยกว่ากระแสลัดวงจรค่ามากท่ีสุดท่ีอาจ
เกดิ ขน้ึ ท่ีจุดตอ่ สายด้านไฟออก โดยต้องมีค่าพิกัดกระแสต่อเนื่องไม่เกิน 3 เท่าของขนาดกระแส
ของตวั นา
3.5.5.5 เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ ต้องเป็นแบบปลดได้โดยอิสระ เซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีทาหน้าที่เป็น
บรภิ ณั ฑป์ ระธานต้องมีเครอ่ื งหมายแสดงให้เหน็ ชัดเจนว่าอยู่ในตาแหน่งสับหรือปลด และต้องมี
พกิ ัดตัดกระแสลัดวงจรไม่น้อยกว่ากระแสลัดวงจรค่ามากที่สุดท่ีอาจจะเกิดขึ้นที่จุดต่อสายด้าน
ไฟออก โดยต้องมขี นาดปรับตงั้ การตดั สงู สุดไมเ่ กิน 6 เท่าของขนาดกระแสของตัวนา
3.5.5.6 เคร่ืองป้องกันกระแสเกิน ต้องสามารถทางานสัมพันธ์กับอุปกรณ์ป้องกันของการ
ไฟฟ้าฯ
3-16 บทที่ 3 ตวั นำประธำน สำยปอ้ น วงจรยอ่ ย
3.5.5.7 ต้องจัดทา Wiring Diagram ของระบบป้องกันต้ังแต่ด้านรับไฟฟ้า(Incoming)
จนถึงด้านจ่ายไฟออก(Outgoing)ของบริภัณฑ์ประธานแรงสูง แผงเมนสวิตช์แรงสูง หม้อแปลง
ไฟฟ้า และบรภิ ณั ฑท์ ่ีสาคญั อ่ืน ท่ีคงทนถาวรและเหน็ ได้ชัดเจนติดตั้งไว้ในห้องท่ีติดต้ังแผงสวิตช์
ทกุ หอ้ ง
3.6 แรงดนั ตกสำหรบั ระบบแรงตำ่
3.6.1 กรณรี บั ไฟแรงตา่ จากการไฟฟา้ แรงดันตกคดิ จากเครือ่ งวดั ฯ จนถงึ จดุ ใชไ้ ฟจุดสุดทา้ ย
รวมกนั ตอ้ งไม่เกิน 5% จากระบบแรงดนั ท่รี ะบุ
3.6.2 กรณรี บั ไฟแรงสงู จากการไฟฟ้าแรงดันตกคิดจากบริภัณฑ์ประธานแรงต่าจนถึงจุดใช้
ไฟจดุ สุดทา้ ยรวมกันตอ้ งไม่เกิน 5% จากระบบแรงดันทร่ี ะบุ
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
บทที่ 4 การตอ่ ลงดนิ 4-1
บทที่ 4
การตอ่ ลงดนิ
ข้อกำหนดในบทน้ีเก่ียวกับกำรต่อลงดิน สำหรับวงจรและระบบไฟฟ้ำ กำรเลือกขนำดสำยใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
วิธีกำรติดต้ัง และคำ่ ควำมตำ้ นทำนระหวำ่ งหลกั ดนิ กบั ดิน
4.1 วงจรและระบบไฟฟ้ากระแสสลับที่ต้องต่อลงดิน
วงจรและระบบไฟฟำ้ กระแสสลับตำมท่ีกำหนดไว้ในข้อ 4.1.1 ถึง 4.1.2 ต้องต่อลงดิน ส่วนวงจร
และระบบอืน่ นอกจำกน้ี อำจต่อลงดินกไ็ ด้
4.1.1 ระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน 50 โวลต์ แต่ไม่เกิน 1,000 โวลต์ ต้องต่อลง
ดินเมอื่ มสี ภำพตำมขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ ดงั ต่อไปน้ี
ก) เป็นระบบ 1 เฟส 2 สำย
ข) เป็นระบบ 1 เฟส 3 สำย
ค) เปน็ ระบบ 3 เฟส 3 สำย
ง) เป็นระบบ 3 เฟส 4 สำย
4.1.2 วงจรและระบบไฟฟ้าท่ีมีแรงดันไฟฟ้าเกิน 1,000 โวลต์ ข้ึนไป ถ้ำจ่ำยไฟให้
บริภัณฑ์ไฟฟ้ำชนิดเคลื่อนท่ีได้จะต้องต่อลงดิน แต่ถ้ำจ่ำยไฟให้บริภัณฑ์ไฟฟ้ำอ่ืนๆ อนุญำตให้
ตอ่ ลงดินได้แตต่ ้องไมข่ ดั กับขอ้ กำหนดข้ออ่นื ๆ
ยกเวน้ ระบบท่ีมีตัวจ่ายแยกต่างหาก (separately derived systems) โดยเฉพาะระบบ
ไฟฟ้าท่ีรับพลังงานจากเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า คอนเวอร์เตอร์ท่ีมี
ขดลวด ซึ่งมจี ุดประสงค์เพื่อจ่ายไฟให้ระบบไฟฟ้าพิเศษและไม่มีการต่อทางไฟฟ้ากับ
วงจรระบบอ่ืน ไม่บังคับให้ต่อลงดิน หากต้องการต่อลงดินตามข้อ 4.1.1 ข้างต้น
จะต้องปฏิบัติตาม ข้อ 4.6 ด้วย
4.2 วงจรและระบบไฟฟ้าทีห่ า้ มต่อลงดนิ
4.2.1 วงจรของปั้นจั่นที่ใช้งำนอยู่เหนือวัสดุเส้นใยที่อำจลุกไหม้ได้ ซึ่งอยู่ในบริเวณ
อนั ตรำย
4.2.2 วงจรในสถำนดูแลสุขภำพ (health care facility) เช่น วงจรในห้องผ่ำตัดสำหรับ
โรงพยำบำล หรือ คลินกิ
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น4-2 บทท่ี 4 การตอ่ ลงดนิ
4.3 การตอ่ ลงดนิ ของระบบประธาน
4.3.1 ระบบไฟฟ้ำของผู้ใช้ไฟฟ้ำที่ต้องต่อลงดินตำมข้อ 4.1 จะต้องต่อลงดินท่ีบริภัณฑ์
ประธำนแต่ละชุด จุดต่อลงดินต้องอยู่ในจุดที่เข้ำถึงสะดวกท่ีปลำยตัวนำประธำน หรือบัส หรือ
ข้ัวต่อที่ต่อเข้ำกับตัวนำนิวทรัลของตัวนำประธำนภำยในบริภัณฑ์ประธำน ในกรณีหม้อแปลง
ไฟฟ้ำติดต้ังภำยนอกอำคำรจะต้องต่อลงดินเพ่ิมอีกอย่ำงน้อย 1 จุด ทำงด้ำนไฟออกของหม้อ
แปลงไฟฟ้ำ ณ จดุ ท่ีติดตั้งหม้อแปลงหรือจุดอ่ืนที่เหมำะสม ห้ำมต่อลงดินที่จุดอื่นๆ อีกทำงด้ำน
ไฟออกของบรภิ ัณฑ์ประธำน
ขอ้ ยกเวน้ ที่ 1 ถ้าอาคารนั้นรับไฟจากตัวนาประธานมากกว่า 1 ชุดซึ่งอยู่ภายในสิ่งห่อหุ้มเดียวกัน หรือ
ตดิ ตั้งแยกคนละส่งิ ห่อหุ้มแต่อยู่ติดกันและต่อถึงกันทางด้านไฟออกท่ีจุดต่อถึงกันน้ีสามารถ
ต่อตัวนานวิ ทรลั หรอื สายท่มี กี ารตอ่ ลงดินของตวั นาประธานลงหลกั ดินเพยี งชุดเดียวกไ็ ด้
ขอ้ ยกเว้นท่ี 2 ในกรณีที่มีการต่อฝาก ระหว่างบัสบาร์นิวทรัลกับบัสบาร์ต่อลงดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าที่
บริภัณฑ์ประธานตามข้อ 4.15.6 สามารถต่อสายต่อหลักดินเข้ากับบัสบาร์ต่อลงดินของ
บรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้าทีม่ กี ารตอ่ ฝากนนั้ ได้
4.3.2 ระบบไฟฟำ้ กระแสสลบั ท่มี ีแรงดนั ไฟฟำ้ ไมเ่ กิน 1,000 โวลต์ ท่ีมีกำรต่อลงดินที่จุดใดๆ
จะต้องเดินสำยที่มีกำรต่อลงดินนั้นไปยังบริภัณฑ์ประธำนทุกชุด และต้องต่อฝำกเข้ำกับส่ิง
หอ่ หมุ้ ของบริภณั ฑ์ประธำน สำยดังกล่ำวจะต้องเดินร่วมไปกับสำยเส้นไฟด้วย
4.4 การต่อลงดินของวงจรท่ีมีบริภัณฑ์ประธานชุดเดียวจ่ายไฟให้อาคาร 2 หลัง
หรือมากกวา่
4.4.1 แต่ละอำคำรต้องมีหลกั ดินเพ่ือต่อสำยทมี่ ีกำรต่อลงดินของวงจรและระบบไฟฟำ้
กระแสสลับและเครื่องห่อหุ้มของเคร่ืองปลดวงจรลงดนิ
4.4.2 อนุญำตให้ไม่ต้องทำหลักดินของแต่ละอำคำรตำมข้อ 4.4.1 ก็ได้ ถ้ำมีสภำพตำมข้อ
ใดขอ้ หน่งึ ตอ่ ไปน้ี
4.4.2.1 ในอำคำรมีวงจรย่อยชุดเดียวและไม่ได้จ่ำยไฟให้แก่บริภัณฑ์ที่ต้องต่อลงดิน และ
อำคำรทั้งสองไมต่ อ่ ถงึ กนั ทำงไฟฟ้ำ
4.4.2.2 มีกำรเดินสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำร่วมกับตัวนำอ่ืนของวงจร เพื่อไปต่อส่วนที่ไม่
เปน็ ทำงเดนิ ของกระแสไฟฟ้ำของบริภัณฑไ์ ฟฟำ้ ระบบทอ่ โลหะภำยในและโครงสร้ำงของอำคำร
ท่ีตอ้ งกำรตอ่ ลงดิน
บทที่ 4 การต่อลงดนิ 4-3
4.5 ตัวนาทตี่ ้องมกี ารตอ่ ลงดนิ ของระบบไฟฟ้ากระแสสลบัใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
สำหรบั ระบบไฟฟ้ำกระแสสลบั ท่ใี ช้ภำยในอำคำร สำยตัวนำของระบบต้องมีกำรต่อลงดิน ตัวนำท่ี
มีกำรต่อลงดินต้องมีกำรกำหนด สีหรือทำเคร่ืองหมำย กำรต่อลงดินต้องทำตำมข้อใดข้อหน่ึง
ดังน้ี
ก) ระบบ 1 เฟส 2 สำย กำหนดให้ตวั นำนวิ ทรัลเป็นสำยทต่ี ่อลงดนิ
ข) ระบบ 1 เฟส 3 สำย กำหนดใหต้ ัวนำนิวทรัลเป็นสำยท่ีตอ่ ลงดิน
ค) ระบบ 3 เฟส 3 สำย กำหนดใหส้ ำยตวั นำเสน้ ใดเสน้ หน่งึ ต่อลงดิน
ง) ระบบ 3 เฟส 4 สำย กำหนดใหต้ ัวนำนวิ ทรลั เป็นสำยที่ตอ่ ลงดนิ
4.6 การตอ่ ลงดนิ สาหรบั ระบบไฟฟ้ากระแสสลบั ที่มีตัวจ่ายแยกตา่ งหาก
ระบบไฟฟ้ำกระแสสลบั ท่มี ตี ัวจำ่ ยแยกตำ่ งหำกต้องปฏบิ ัติตำมขอ้ กำหนดดังตอ่ ไปนี้
4.6.1 ต้องใช้สำยต่อฝำกลงดิน (ที่มีขนำดตำมข้อ 4.15.6 ค) ซ่ึงกำหนดขนำดจำกสำยเส้น
ไฟของระบบท่ีมีตัวจ่ำยแยกต่ำงหำก) เช่ือมต่อสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำ (ของระบบที่มีตัวจ่ำย
แยกต่ำงหำก) เข้ำกับสำยตัวนำที่มีกำรต่อลงดินของระบบไฟฟ้ำ กำรต่อฝำกให้ทำท่ีจุดใดก็ได้
ระหวำ่ งระบบที่มตี วั จ่ำยแยกต่ำงหำกกบั เคร่ืองป้องกนั กระแสเกนิ ตัวแรกเทำ่ น้นั
4.6.2 สำยต่อหลักดินที่เชื่อมต่อหลักดินเข้ำกับสำยตัวนำท่ีมีกำรต่อลงดินของระบบท่ีมีตัว
จำ่ ยแยกต่ำงหำกให้ใช้ขนำดตำมข้อ 4.19 ซึ่งกำหนดขนำดจำกสำยเส้นไฟของระบบท่ีมีตัวจ่ำย
แยกต่ำงหำก
4.6.3 หลกั ดนิ ต้องเป็นไปตำมข้อ 2.4 และต้องอยู่ใกล้จดุ ตอ่ ลงดินมำกท่สี ุดเทำ่ ทจ่ี ะทำได้
4.7 การต่อลงดินของเครื่องห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสายที่เป็นโลหะของตัวนา
ประธานและของบริภัณฑ์ประธาน
เครื่องห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสำยท่ีเป็นโลหะของตัวนำประธำนและของบริภัณฑ์ประธำนต้อง
ต่อลงดนิ
4.8 การต่อลงดินของเคร่ืองห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสายที่เป็นโลหะของสาย
ตัวนา
เคร่ืองหอ่ หมุ้ และ/หรือช่องเดินสำยทีเ่ ป็นโลหะของสำยตัวนำ ตอ้ งต่อลงดนิ
ขอ้ ยกเว้นท่ี 1 เครื่องห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสายที่เป็นโลหะช่วงสั้นๆ ซ่ึงใช้ป้องกันความเสียหายทาง
กายภาพทมี่ กี ารตอ่ สายเคเบลิ หรอื ใช้จับยดึ สาย ไมบ่ งั คับใหต้ อ่ ลงดิน
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น4-4 บทท่ี 4 การตอ่ ลงดนิ
ข้อยกเว้นที่ 2 เครื่องห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสายที่เป็นโลหะของสายที่ต่อจากการติดต้ังเดิมทีเป็นการ
เดินสายแบบเปิดเดินสายบนตุ้มหรือใช้สายที่มีเปลือกนอกไม่เป็นโลหะไม่จาเป็นต้องต่อลง
ดินถ้าระยะเดินสายที่เพ่ิมมีความยาวไม่เกิน 8 เมตร ไม่สัมผัสกับดินหรือโลหะที่ต่อลงดิน
หรอื วสั ดทุ ่ีเป็นตัวนา และมีการปอ้ งกนั ไมใ่ หบ้ คุ คลสมั ผสั
4.9 การต่อลงดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าชนิดยึดติดกับที่ หรือชนิดท่ีมีการเดินสาย
ถาวร
บริภัณฑ์ไฟฟ้ำชนิดยึดติดกับที่ หรือชนิดท่ีมีกำรเดินสำยถำวร ส่วนท่ีเป็นโลหะที่เปิดโล่งและ
ไม่ได้เป็นทำงเดินของกระแสไฟฟ้ำของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำดังกล่ำวต้องต่อลงดินเม่ือมีสภำพตำมข้อ
ใดข้อหนงึ่ ดงั ตอ่ ไปน้ี
ก) ห่ำงจำกพื้นหรือโลหะที่ต่อลงดินไม่เกิน 2.4 เมตรในแนวดิ่ง หรือ 1.5 เมตรในแนว
ระดบั และบคุ คลอำจสัมผัสได้โดยบงั เอญิ
ข) อย่ใู นสถำนทเี่ ปยี กหรอื ชนื้ และไม่ไดม้ ีกำรแยกอยู่ตำ่ งหำก
ค) มกี ำรสมั ผสั ทำงไฟฟ้ำกบั โลหะ
ง) อยใู่ นบริเวณอันตรำย
จ) รับไฟฟ้ำจำกสำยชนิดหุ้มส่วนนำกระแสไฟฟำ้ ด้วยโลหะ (metal-clad, metal-sheath)
หรอื สำยท่เี ดนิ ในท่อสำยโลหะเวน้ แต่ท่ไี ดย้ กเว้นในขอ้ 4.8
4.10 การตอ่ ลงดินของบรภิ ัณฑไ์ ฟฟ้าชนิดยดึ ติดกับทท่ี กุ ขนาดแรงดัน
บริภัณฑ์ไฟฟ้ำชนิดยึดติดกับท่ีทุกขนำดแรงดัน ส่วนที่เป็นโลหะเปิดโล่งและไม่เป็นทำงเดินของ
กระแสไฟฟำ้ บริภณั ฑ์ไฟฟำ้ ตอ่ ไปนี้ต้องตอ่ ลงดิน
ก) โครงของแผงสวิตช์
ข) โครงของมอเตอร์ชนิดยดึ ติดกบั ที่
ค) กล่องของเครอื่ งควบคุมมอเตอร์ ยกเวน้ ฝำครอบสวิตช์ ปดิ -เปดิ ที่มีฉนวนรองด้ำนใน
ง) บรภิ ัณฑ์ไฟฟ้ำของลฟิ ต์และปั้นจ่ัน
จ) บริภัณฑ์ไฟฟ้ำในอู่จอดรถ โรงมหรสพ โรงถ่ำยภำพยนตร์ สถำนีวิทยุและโทรทัศน์
ยกเว้น โคมไฟแบบแขวน
ฉ) ปำ้ ยท่ใี ช้ไฟฟำ้ รวมทั้งอุปกรณ์ประกอบ
ช) เครื่องฉำยภำพยนตร์
ซ) เคร่อื งสูบนำ้ ทใ่ี ชม้ อเตอร์
บทที่ 4 การต่อลงดนิ 4-5
4.11 การตอ่ ลงดินของบริภัณฑ์ซึง่ ไม่ไดร้ บั กระแสไฟฟ้าโดยตรงใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
บริภัณฑซ์ ง่ึ ไม่ไดร้ บั กระแสไฟฟำ้ โดยตรง สว่ นที่เปน็ โลหะของบรภิ ัณฑต์ อ่ ไปนีต้ ้องต่อลงดิน
ก) โครงและรำงของปั้นจ่นั ท่ใี ช้ไฟฟ้ำ
ข) โครงของตโู้ ดยสำรลิฟต์ท่ไี ม่ไดข้ บั เคลื่อนด้วยไฟฟ้ำแตม่ สี ำยไฟฟำ้ ติดอยู่
ค) ลวดสลิงซงึ่ ใช้ยกของดว้ ยแรงคนและลวดสลงิ ของลิฟต์ที่ใช้ไฟฟ้ำ
ง) สิ่งก้ันท่ีเป็นโลหะ รั้ว หรือส่ิงห่อหุ้มของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำท่ีมีแรงดันระหว่ำงสำยเส้นไฟ
เกิน 1,000 โวลต์
จ) โครงสรำ้ งโลหะท่ีใชต้ ดิ ต้งั บริภณั ฑไ์ ฟฟำ้
4.12 การตอ่ ลงดินของบรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ ทมี่ สี ายพรอ้ มเต้าเสยี บ
บริภัณฑ์ไฟฟ้ำที่มีสำยพร้อมเต้ำเสียบ ส่วนท่ีเป็นโลหะเปิดโล่งของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำจะต้องต่อลง
ดินถำ้ มีสภำพตำมขอ้ ใดข้อหน่งึ ดังตอ่ ไปน้ี
4.12.1 ใชใ้ นบรเิ วณอันตรำย
4.12.2 ใชแ้ รงดันไฟฟำ้ วดั เทยี บกบั ดนิ เกิน 150 โวลต์
ขอ้ ยกเวน้ ที่ 1 มอเตอร์ที่มีการก้ัน
ข้อยกเว้นที่ 2 โครงโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้าทางความร้อน ซึ่งมีฉนวนกั้นระหว่างโครงโลหะกับดินอย่าง
ถาวร
ขอ้ ยกเวน้ ท่ี 3 บริภัณฑ์ไฟฟ้าที่ระบุว่าเป็นฉนวน 2 ช้ันหรือเทียบเท่า ซ่ึงมีเครื่องหมายแสดงชัดเจนว่าไม่
ต้องตอ่ ลงดนิ
4.12.3 เคร่ืองใช้ไฟฟำ้ ทใ่ี ชใ้ นสถำนทอ่ี ยอู่ ำศยั ต่อไปน้ี
ก) ตูเ้ ย็น ตแู้ ช่แขง็ เคร่อื งปรบั อำกำศ
ข) เคร่ืองซักผ้ำ เครื่องอบผ้ำ เคร่ืองล้ำงจำน เคร่ืองสูบน้ำ เคร่ืองใช้ไฟฟ้ำในตู้เลี้ยง
ปลำ
ค) เคร่ืองมือชนิดมอื ถอื ทท่ี ำงำนดว้ ยมอเตอร์ (hand-held motor-operated tools)
ง) เคร่ืองใช้ไฟฟ้ำท่ีทำงำนด้วยมอเตอร์ เช่น เคร่ืองเล็มต้นไม้ เครื่องตัดหญ้ำ เคร่ือง
ขดั ถชู นดิ ใชน้ ำ้
จ) ดวงโคมไฟฟำ้ ชนิดหยิบยกได้
ยกเวน้ บริภัณฑ์ไฟฟ้าทรี่ ะบุวา่ เปน็ ฉนวน 2 ชั้น หรอื เทยี บเทา่ ซ่ึงมีเคร่ืองหมายแสดงชัดเจนว่า
ไม่ตอ้ งตอ่ ลงดิน
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น4-6 บทท่ี 4 การตอ่ ลงดนิ
4.12.4 เครื่องใช้ไฟฟำ้ ทไี่ ม่ได้ใช้ในสถำนทอ่ี ยอู่ ำศัย ตอ่ ไปน้ี
ก) ตู้เย็น ตแู้ ช่แข็ง เครอื่ งปรับอำกำศ
ข) เครื่องซักผ้ำ เคร่ืองอบผ้ำ เคร่ืองล้ำงจำน เคร่ืองสูบน้ำ เคร่ืองประมวลผลข้อมูล
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟำ้ ในต้เู ล้ียงปลำ
ค) เครอื่ งมอื ชนดิ มอื ถือทท่ี ำงำนดว้ ยมอเตอร์
ง) เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้ำทที่ ำงำนดว้ ยมอเตอร์ เชน่ เครอ่ื งเล็มตน้ ไม้ เครอื่ งตัดหญ้ำเคร่ืองขัด
ถชู นดิ ใชน้ ำ้
จ) เครื่องใช้ไฟฟ้ำท่ีมีสำยพร้อมเต้ำเสียบใช้ในสถำนท่ีเปียกหรือชื้น หรือบุคคลที่ใช้ยืน
อยบู่ นพน้ื ดินหรือพ้ืนโลหะ หรอื ทำงำนอยู่ในถังโลหะหรือหม้อนำ้
ฉ) เครอื่ งมือท่อี ำจนำไปใชใ้ นที่เปยี ก หรือ ใช้ในบริเวณทน่ี ำไฟฟ้ำได้
ช) ดวงโคมไฟฟ้ำชนดิ หยบิ ยกได้
ขอ้ ยกเวน้ ท่ี 1 เคร่ืองมือและดวงโคมไฟฟ้าชนิดหยิบยกได้ ที่อาจนาไปใช้ในที่เปียกหรือใช้ในบริเวณที่นา
ไฟฟา้ ได้ ไม่บังคับใหต้ ่อลงดนิ ถ้ารับพลังไฟฟ้าจากหม้อแปลงนิรภัยที่ขดลวดด้านไฟออกม
แรงดนั ไฟฟา้ ไมเ่ กิน 50 โวลต์ และไมต่ ่อลงดนิ
ข้อยกเว้นที่ 2 บริภัณฑ์ไฟฟ้าท่ีระบุว่าเป็นฉนวน 2 ช้ันหรือเทียบเท่าซ่ึงมีเครื่องหมายแสดงชัดเจนว่าไม่
ต้องต่อลงดนิ
4.13 ระยะหา่ งจากตวั นาระบบลอ่ ฟ้า
ชอ่ งเดินสำยเครอื่ งหอ่ หมุ้ โครงโลหะ และส่วนโลหะอื่นของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำ ที่ไม่เป็นทำงเดินของ
กระแสไฟฟ้ำต้องมีระยะห่ำงจำกตัวนำระบบล่อฟ้ำไม่น้อยกว่ำ 1.80 เมตร หรือต้องต่อฝำกเข้ำ
กับตัวนำระบบล่อฟำ้
4.14 วิธตี ่อลงดิน
4.14.1 กำรต่อสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำที่มีตัวจ่ำยแยกต่ำงหำกโดยเฉพำะ ต้องปฏิบัติ
ตำมท่ไี ด้กำหนดไว้ในข้อ 4.6.1 กำรต่อสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำท่ีบริภัณฑ์ประธำนต้องปฏิบัติ
ดังน้ี
ก) ระบบไฟฟ้ำท่ีมีกำรต่อลงดิน ให้ต่อฝำกสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำเข้ำกับตัวนำ
ประธำนทม่ี กี ำรตอ่ ลงดนิ และสำยต่อหลกั ดิน ยกเว้น กรณีต่อลงดินของห้องชุด
ในอาคารชุดใหเ้ ปน็ ไปตามทีก่ าหนดในบทที่ 9
ข) ระบบไฟฟ้ำท่ีไม่มีกำรต่อลงดิน ให้ต่อฝำกสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำเข้ำกับสำย
ตอ่ หลกั ดิน
บทที่ 4 การตอ่ ลงดนิ 4-7
4.14.2 ทางเดนิ สดู่ นิ ท่ีใช้ไดผ้ ลดีใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ทำงเดนิ สู่ดินจำกวงจร บริภัณฑไ์ ฟฟำ้ และเคร่ืองหอ่ หุ้มสำยท่ีเปน็ โลหะ ต้องมลี ักษณะดังน้ี
ก) เป็นชนิดตดิ ตงั้ ถำวรและมีควำมตอ่ เน่ืองทำงไฟฟำ้
ข) มขี นำดเพียงพอสำหรับนำกระแสลดั วงจรทกุ ชนิดทอ่ี ำจเกิดข้ึนได้อยำ่ งปลอดภยั
ค) มอี ิมพีแดนซ์ต่ำเพยี งพอทจ่ี ะจำกัดแรงดนั ไฟฟ้ำวัดเทียบกับดินไม่ให้สูงเกินไป และ
ชว่ ยให้เครอ่ื งปอ้ งกันกระแสเกินในวงจรทำงำนไดอ้ ยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ
4.14.3 การใชห้ ลกั ดินร่วมกัน
ถ้ำระบบไฟฟ้ำกระแสสลับมีกำรต่อลงดินเข้ำกับหลักดินภำยในอำคำรหรือสถำนที่ตำมที่ได้
กำหนดไว้ในข้อ 4.3 และข้อ 4.4 แล้ว ต้องใช้หลักดินนั้นสำหรับต่อเคร่ืองห่อหุ้มสำยและส่วนท่ี
เป็นโลหะของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำลงดินด้วย สำหรับอำคำรท่ีรับไฟจำกแหล่งจ่ำยไฟแยกกันต้องใช้
หลักดินร่วมกัน หลกั ดินสองหลักหรอื มำกกวำ่ ทต่ี อ่ ฝำกเขำ้ ดว้ ยกันอย่ำงใช้ได้ผลดีถือว่ำเป็นหลัก
ดินหลกั เดียว
4.14.4 การต่อของบริภัณฑไ์ ฟฟา้ ชนิดยึดติดกบั ท่ี หรือชนดิ ทีม่ กี ารเดินสายถาวร
ส่วนท่ีเป็นโลหะของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำและไม่ได้เป็นทำงเดินของกระแสไฟฟ้ำถ้ำต้องกำรต่อลงดิน
จะต้องตอ่ โดยวธิ ใี ดวธิ หี นึง่ ตอ่ ไปนี้
ก) โดยใช้สำยดนิ ของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้ำประเภทต่ำงๆ ตำมทีไ่ ดก้ ำหนดไวใ้ นข้อ 4.17
ข) โดยใช้สำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำเดินสำยร่วมไปกับสำยวงจรภำยในท่อสำย
เดียวกันหรือเป็นส่วนหน่ึงของสำยเคเบิลหรือสำยอ่อน สำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำ
อำจหุ้มฉนวนหรือไม่หุ้มฉนวนก็ได้ ฉนวนหรือเปลือกของสำยดินต้องเป็นสีเขียว
หรอื สเี ขียวแถบเหลอื ง
ข้อยกเวน้ ที่ 1 สายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าชนิดหุ้มฉนวนขนาดใหญ่กว่า 10 ตร.มม. อนุญาตให้ทา
เครื่องหมายที่ถาวรเพ่ือแสดงว่าเป็นสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าท่ีปลายสายและ ทุกแห่งท่ี
เข้าถึงได้ การทาเคร่อื งหมาย ต้องใชว้ ธิ หี นงึ่ วิธใี ดดงั ต่อไปนี้
1.1) ปอกฉนวนหรอื เปลอื กส่วนทมี่ องเหน็ ทง้ั หมดออก
1.2) ทาใหฉ้ นวนหรอื เปลอื กสว่ นท่ีมองเห็นเปน็ สีเขยี ว
1.3) ทาเคร่ืองหมายบนฉนวนหรือเปลือกส่วนท่ีมองเห็นด้วยเทปพันสายหรือแถบกาวสี
เขยี ว
ข้อยกเว้นท่ี 2 ถ้าการบารงุ รักษากระทาโดยผ้มู หี นา้ ทเ่ี กี่ยวข้อง อนุญาตให้ทาเคร่ืองหมายถาวรที่ปลายสาย
และทุกแห่งที่เข้าถึงได้ที่ฉนวนของตัวนาในเคเบิลหลายแกนเพ่ือแสดงว่าเป็นสายดินของ
บริภัณฑไ์ ฟฟ้า การทาเครอื่ งหมายต้องใช้วธิ หี นึ่งวธิ ใี ดดงั ตอ่ ไปน้ี
2.1) ปอกฉนวนหรอื เปลอื กส่วนท่มี องเห็นท้ังหมดออก
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น4-8 บทท่ี 4 การต่อลงดนิ
2.2) ทาให้ฉนวนหรือเปลือกส่วนท่มี องเห็นเปน็ สเี ขยี ว
2.3) ทาเคร่ืองหมายบนฉนวนหรือเปลือกส่วนท่ีมองเห็นด้วยเทปพันสายหรือแถบกาวสี
เขียว
4.14.5 บรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้าทถี่ ือว่ามีการต่อลงดินอย่างใชไ้ ด้ผลดี
ส่วนท่ีเป็นโลหะของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำซ่ึงไม่ได้เป็นทำงเดินของกระแสไฟฟ้ำ เม่ือมีสภำพดังต่อไปนี้
ถือวำ่ มีกำรตอ่ ลงดินแลว้
ก) บริภัณฑ์ไฟฟ้ำกระแสสลับที่ยึดแน่นและสัมผัสทำงไฟฟ้ำกับโครงสร้ำงโลหะท่ี
รองรับ และโครงสร้ำงโลหะนั้นต่อลงดินตำมที่ได้กำหนดไว้ในข้อ 4.14.4 แล้วไม่
อนุญำตให้ใช้โครงสรำ้ งโลหะของอำคำรแทนสำยดนิ ของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้ำนัน้
ข) โครงโลหะของตโู้ ดยสำรลิฟต์ท่ีแขวนกับลวดสลิง ซึ่งคล้องหรือพันรอบเพลำกว้ำน
ของมอเตอรล์ ิฟต์ที่ต่อลงดินตำมทไ่ี ดก้ ำหนดไว้ในข้อ 4.14.4 แล้ว
4.14.6 บริภณั ฑไ์ ฟฟา้ ท่ีมีสายพรอ้ มเตา้ เสยี บ
ส่วนทีเ่ ป็นโลหะของบริภณั ฑไ์ ฟฟำ้ ทม่ี ีสำยพร้อมเต้ำเสียบ ซ่ึงไม่ได้เป็นทำงเดินของกระแสไฟฟ้ำ
ถ้ำตอ้ งต่อลงดนิ ให้ใชว้ ิธหี น่ึงวิธใี ดดังต่อไปนี้
ก) โดยใช้สำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำเดินสำยร่วมกับสำยวงจรอยู่ภำยในสำยเคเบิล
หรือสำยอ่อนเดียวกัน และปลำยสำยต่อเข้ำกับขำดินของเต้ำเสียบชนิดขำดิน
ตำยตัว (fixed grounding contact) สำยดนิ ของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำอำจไม่หุ้มฉนวนก็
ได้ ถ้ำหุ้มฉนวนสีของฉนวนต้องเปน็ สเี ขยี วหรอื สีเขียวแถบเหลอื ง
ข) โดยใช้สำยอ่อนหรือแถบโลหะแยกต่ำงหำกอำจจะหุ้มฉนวนหรือไม่หุ้มฉนวนก็ได้
แต่ตอ้ งมกี ำรปอ้ งกนั ควำมเสยี หำยทำงกำยภำพ
4.15 การตอ่ ฝาก
กำรต่อฝำกมีจุดประสงค์เพ่ือให้แน่ใจว่ำมีควำมต่อเนื่องทำงไฟฟ้ำ และสำมำรถรับกระแส
ลดั วงจรใดๆ ที่อำจเกิดขน้ึ
4.15.1 การต่อฝากที่บริภัณฑ์ประธาน
ส่วนที่เปน็ โลหะซงึ่ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ทำงเดินของกระแสไฟฟำ้ ของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำตอ่ ไปนตี้ อ้ งมีกำรตอ่ ฝำก
ถงึ กนั อยำ่ งใช้ได้ผลดี
ก) ท่อสำย รำงเคเบลิ และเปลือกนอกท่ีเปน็ โลหะของตัวนำประธำน
ข) เครือ่ งหอ่ ห้มุ ของบรภิ ณั ฑ์ประธำน
ค) ท่อสำยโลหะของสำยตอ่ หลักดนิ
บทที่ 4 การตอ่ ลงดนิ 4-9
4.15.2 วธิ ตี ่อฝากท่บี รภิ ณั ฑ์ประธานใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
กำรตอ่ ถงึ กันทำงไฟฟำ้ ท่บี รภิ ณั ฑ์ประธำนตอ้ งปฏิบตั ิตำมข้อใดขอ้ หนง่ึ ต่อไปนี้
ก) ต่อฝำกตู้บริภัณฑ์ประธำนเข้ำกับตัวนำประธำนเส้นที่มีกำรต่อลงดินตำมวิธีท่ีได้
กำหนดไว้ในข้อ 4.22 ยกเว้น บริภัณฑ์ประธานของห้องชุดให้เป็นไปตามข้อ
9.1.12
ข) โดยใช้ข้อต่อแบบมีเกลียวต่อเข้ำกับกล่องหรือสิ่งห่อหุ้มที่ทำเกลียวในเม่ือใช้ท่อ
โลหะหนำหรอื ทอ่ โลหะหนำปำนกลำงกำรต่อให้ใช้ประแจขันใหแ้ นน่
ค) โดยใชข้ อ้ ตอ่ แบบไม่ตอ้ งทำเกลียวตอ่ กับทอ่ ใหแ้ นน่ สนทิ เม่ือใชท้ อ่ โลหะบำง
ง) ใช้สำยต่อฝำกหรืออุปกรณ์อืน่ ท่ีมีคณุ สมบัตเิ หมำะสมรอบรอยต่อที่ช่องน็อกเอ้ำต์
(knockout) เพอ่ื ให้กำรตอ่ ลงดนิ มคี วำมตอ่ เน่อื งทำงไฟฟ้ำ
จ) ใชอ้ ุปกรณ์อนื่ ๆ เช่น ใชบ้ ุชชงิ แบบมขี วั้ ต่อสำยดินพร้อมกับลอ็ กนตั
4.15.3 การตอ่ ขัว้ ต่อสายดนิ ของเตา้ รับเขา้ กับกลอ่ งโลหะ
ตอ้ งใช้สำยตอ่ ฝำกตอ่ ระหวำ่ งขัว้ ต่อสำยดนิ ของเต้ำรับชนิดมีสำยดินกับกล่องโลหะที่มีกำรต่อลง
ดินไว้แล้ว
ขอ้ ยกเวน้ ที่ 1 กล่องโลหะเป็นแบบติดตั้งบนพื้นผิว การสัมผัสโดยตรง ระหว่างกล่องกับ
เต้ารับถือได้ว่าเป็นการต่อลงดินของเต้ารับเข้ากับกล่อง ข้อยกเว้นนี้ไม่ใช้กับ
เต้ารับทตี่ ดิ ตั้งบนฝาครอบท่ีไดร้ ะบวุ า่ มคี วามต่อเนื่องทางไฟฟ้าเพียงพอระหว่าง
กลอ่ งกบั เต้ารับ
ขอ้ ยกเว้นที่ 2 อุปกรณ์สัมผัสหรือก้านยื่นซึ่งได้ออกแบบและระบุว่าให้ใช้ร่วมกับสกรูยึดเพ่ือ
เปน็ วงจรต่อลงดนิ ระหว่างเตา้ รบั กับกลอ่ งชนดิ ตดิ ตัง้ เสมอผิว
ขอ้ ยกเวน้ ท่ี 3 กล่องแบบติดต้ังบนพ้ืนผิวซึ่งได้ออกแบบและระบุว่ามีความต่อเน่ืองลงดินทาง
ไฟฟา้ ระหว่างกลอ่ งกบั อุปกรณ์
ขอ้ ยกเว้นที่ 4 ในกรณที ่ตี อ้ งการลดการรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในวงจรสายดิน อาจใช้
เต้ารับชนิดท่ีมีฉนวนค่ันระหว่างขั้วต่อลงดินกับส่ิงที่ใช้ยึดหรือติดตั้งเต้ารับ โดย
ต่อข้ัวต่อสายดินของเต้ารับเข้ากับสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าซ่ึงเป็นสายหุ้ม
ฉนวนเดินร่วมไปกับสายของวงจร สายดนิ ของบริภัณฑ์ไฟฟ้าน้ีอาจเดินผ่านแผง
ยอ่ ยแผงเดียวหรือหลายแผงโดยไมต่ อ้ งต่อกบั ตวั แผงก็ได้แล้วไปต่อเข้ากับข้ัวต่อ
สายดนิ ของบรภิ ัณฑ์ประธานด้านไฟออก
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น4-10 บทที่ 4 การต่อลงดนิ
4.15.4 การต่อฝากเครอ่ื งห่อหุ้มอ่ืนๆ
ท่อสำยทเี่ ปน็ โลหะ รำงเคเบลิ เครือ่ งหอ่ หุ้ม โครงเคร่ืองประกอบในกำรตดิ ต้งั และส่วนท่เี ป็นโลหะ
อนื่ ๆ ที่ไม่ได้เปน็ ทำงเดนิ ของกระแสไฟฟำ้ ถำ้ ส่งิ เหลำ่ น้ที ำหน้ำที่แทนสำยดินต้องมีกำรต่อถึงกัน
ทำงไฟฟ้ำและสำมำรถทนกระแสลัดวงจรใดๆ ที่อำจเกิดข้ึนได้ เกลียวและหน้ำสัมผัสให้ขูดสี
หรือสิ่งเคลือบอื่นๆที่ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้ำออกก่อนทำกำรต่อ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์กำรต่อที่ออกแบบ
ไว้โดยเฉพำะ
4.15.5 การตอ่ ฝากในบรเิ วณอันตราย
ส่ ว น ท่ี เ ป็ น โ ล ห ะ ข อ ง บ ริ ภั ณ ฑ์ ไ ฟ ฟ้ ำ แ ล ะ ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น ท ำ ง เ ดิ น ข อ ง ก ร ะ แ ส ไ ฟ ฟ้ ำ ที่ ทุ ก ร ะ ดั บ
แรงดันไฟฟ้ำ ซึ่งอยู่ในบริเวณอันตรำยต้องต่อถึงกันทำงไฟฟ้ำตำมวิธีที่ได้กำหนดไว้ในข้อ
4.15.2 ข) - 4.15.2 จ) โดยเลอื กวิธใี ห้เหมำะกับกำรเดนิ สำย
4.15.6 สายต่อฝากลงดนิ และสายต่อฝากของบริภัณฑ์ไฟฟ้า
ก) สำยต่อฝำกลงดนิ และสำยต่อฝำกของบรภิ ัณฑ์ไฟฟ้ำต้องเป็นชนดิ ตวั นำทองแดง
ข) สำยต่อฝำกลงดิน และสำยต่อฝำกของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำต้องติดตั้งตำมที่ได้กำหนด
ไว้ในข้อ 4.22 เมอื่ เป็นสำยต่อลงดินของวงจรหรอื บริภณั ฑไ์ ฟฟ้ำ และข้อ 4.24 เมื่อ
เปน็ สำยตอ่ หลกั ดนิ
ค) สำยต่อฝำกของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำทำงด้ำนไฟเข้ำของบริภัณฑ์ประธำนและสำยต่อ
ฝำกลงดิน ต้องมีขนำดไม่เล็กกว่ำขนำดของสำยต่อหลักดินที่ได้กำหนดไว้ใน
ตำรำงที่ 4-1 ถ้ำสำยเส้นไฟของตัวนำประธำนมีขนำดใหญ่กว่ำที่กำหนดไว้ใน
ตำรำงท่ี 4-1 ให้ใช้สำยต่อฝำกขนำดไม่เล็กกว่ำร้อยละ 12.5 ของตัวนำประธำน
ขนำดใหญ่ที่สุดถ้ำใช้ตัวนำประธำนเดินในท่อสำย หรือเป็นสำยเคเบิลมำกกว่ำ 1
ชุดขนำนกัน แต่ละท่อสำยหรือสำยเคเบิลให้ใช้สำยต่อฝำกที่มีขนำดไม่เล็กกว่ำที่
ได้กำหนดไว้ในตำรำงดังกลำ่ วโดยคำนวณจำกขนำดของสำยในแต่ละท่อสำยหรือ
สำยเคเบลิ
ง) สำยต่อฝำกของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำด้ำนไฟออกของบริภัณฑ์ประธำนต้องมีขนำดไม่
เล็กกว่ำขนำดของสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำทไี่ ดก้ ำหนดไวใ้ นตำรำงที่ 4-2
4.16 ชนิดของสายตอ่ หลักดิน
สำยตอ่ หลกั ดินตอ้ งเป็นตัวนำทองแดง เป็นชนิดตัวนำเด่ียวหรือตัวนำตีเกลียวหุ้มฉนวนและต้อง
เป็นตัวนำเส้นเดียวยำวตลอดโดยไม่มีกำรต่อ แต่ถ้ำเป็นบัสบำร์อนุญำตให้มีกำรต่อได้ ยกเว้น
จุดทดสอบตามที่กาหนดไว้ในมาตรฐานฯ
บทที่ 4 การต่อลงดนิ 4-11
4.17 ชนดิ ของสายดินของบรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
สำยดินของบรภิ ณั ฑไ์ ฟฟำ้ ท่ีเดนิ สำยรว่ มไปกบั สำยของวงจรตอ้ งเปน็ ดงั ตอ่ ไปน้ี
ก) ตวั นำทองแดง ห้มุ ฉนวนหรอื ไมห่ ุ้มฉนวนกไ็ ด้
ข) เปลอื กโลหะของสำยเคเบลิ ชนิด AC, MI และ MC
ค) บสั เวย์ท่ไี ดร้ ะบใุ ห้ใช้แทนสำยสำหรบั ต่อลงดนิ ได้
4.18 วิธกี ารตดิ ต้ังสายดนิ
4.18.1 สำยต่อหลักดินหรือเครื่องห่อหุ้มต้องยึดแน่นกับส่ิงรองรับสำยน้ีจะต้องร้อยในท่อ
สำยไฟฟ้ำหรือใช้เคเบลิ แบบมีเกรำะเม่ือใช้ในสถำนที่ทีอ่ ำจเกดิ ควำมเสียหำยทำงกำยภำพ
4.18.2 เคร่ืองห่อหุ้มโลหะของสำยต่อหลักดินจะต้องมีควำมต่อเน่ืองทำงไฟฟ้ำนับตั้งแต่จุดที่
ต่อกับตู้ หรือบริภัณฑ์ไฟฟ้ำจนถึงหลักดิน และต้องมีกำรต่อเข้ำกับหลักดินอย่ำงม่ันคงด้วยแค
ลมป์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เหมำะสม ถ้ำเครื่องห่อหุ้มน้ีไม่ต่อเนื่องทำงไฟฟ้ำให้ใช้สำยต่อฝำกที่
ปลำยทั้งสองของเคร่ืองห่อหมุ้
4.18.3 สำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำท่ีเป็น เกรำะหุ้มสำยเคเบิล เปลือกนอกโลหะของสำย
เคเบิลหรือเป็นสำยเดินแยกในช่องเดินสำยหรือแกนๆ หนึ่งในเคเบิลต้องติดต้ังโดยใช้เคร่ือง
ประกอบ หัวต่อ ข้อต่อที่ได้รับกำรรับรองสำหรับกำรเดินสำยวิธีนั้นๆ ในกำรติดต้ังต้องใช้
เคร่อื งมอื ทเ่ี หมำะสมและต้องขันใหแ้ น่น
4.19 ขนาดสายต่อหลกั ดนิ ของระบบไฟฟ้ากระแสสลบั
สำยต่อหลักดินตอ้ งมีขนำดไม่เล็กกวำ่ ที่ได้กำหนดไว้ในตำรำงท่ี 4-1
4.20 ขนาดสายดนิ ของบรภิ ณั ฑไ์ ฟฟา้
4.20.1 กำหนดให้สำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำ ต้องมีขนำดไม่เล็กกว่ำท่ีได้กำหนดไว้ในตำรำง
ท่ี 4-2
4.20.2 ในกรณีเดินสำยควบ ถ้ำมีสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำ ให้เดินขนำนกันไปในแต่ละท่อ
สำย และให้คำนวณขนำดสำยดินจำกพิกัดหรือขนำดปรับตั้งของเครื่องป้องกันกระแสเกินของ
วงจรนนั้
ในกรณีเดินสำยหลำยวงจรในทอ่ สำยเดยี วกนั แตใ่ ชส้ ำยดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้ำร่วมกันในท่อสำย
นัน้ ให้คำนวณขนำดสำยดนิ จำกพกิ ัดหรือขนำดปรับตั้งของเคร่ืองป้องกันกระแสเกินที่ใหญ่ที่สุด
ทป่ี อ้ งกนั สำยในท่อสำยนนั้
4-12 บทที่ 4 การต่อลงดนิ
ในกรณีเครื่องปอ้ งกนั กระแสเกินเป็นชนิดอัตโนมัติปลดวงจรทันที หรือเป็นเคร่ืองป้องกันกระแส
ลดั วงจรของมอเตอร์ขนำดสำยดินของบริภัณฑไ์ ฟฟ้ำนั้น ใหเ้ ลอื กตำมพิกัดของเครือ่ งป้องกันกำร
ใชง้ ำนเกินกำลงั ของมอเตอร์
ขอ้ ยกเว้นที่ 1 สาหรับสายพร้อมเต้าเสียบของบริภัณฑ์ไฟฟ้า ซึ่งใช้ไฟฟ้าจากวงจร ซึ่งมีเครื่องป้องกัน
กระแสเกินที่มีขนาดไม่เกิน 20 แอมแปร์ สายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้าซ่ึงเป็นตัวนาทองแดง
และเป็นแกนหนึง่ ของสายออ่ น อาจมขี นาดเล็กกว่าท่ีกาหนดไว้ในตารางที่ 4-2 ได้แต่ต้องไม่
เลก็ กวา่ ขนาดสายตัวนาของวงจรและไมเ่ ลก็ กวา่ 1.0 ตร.มม.
ข้อยกเว้นที่ 2 สายดินของบรภิ ณั ฑ์ไฟฟา้ ไม่จาเป็นตอ้ งใหญ่กว่าสายตัวนาของวงจรของบริภัณฑ์ไฟฟ้าน้ัน
ข้อยกเวน้ ที่ 3 ในกรณีท่ีใช้เกราะหุ้มสายเคเบิลหรือเปลือกหุ้มสายเคเบิล เป็นสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้า
ตามทอ่ี นุญาตในข้อ 4.17 ข)
4.21 จุดต่อของสายตอ่ หลกั ดนิ (เข้ากบั หลักดิน)
จดุ ตอ่ ของสายต่อหลักดนิ เขา้ กับหลักดินตอ้ งอยใู่ นทีเ่ ข้าถึงได้ โดยต้องเลือกจุดต่อและวิธีการต่อ
เพ่ือให้มีความคงทนและใช้ได้ผลดี ยกเว้น จุดต่อกับหลักดินท่ีอยู่ในคอนกรีต หรือฝังอยู่ในดิน
ไมจ่ าเปน็ ต้องอยู่ในท่ีซง่ึ เข้าถงึ ได้
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ตารางที่ 4-1
ขนาดตา่ สดุ ของสายตอ่ หลักดนิ ของระบบไฟฟา้ กระแสสลบั
ขนาดตัวนาประธาน ขนาดต่าสุดของสายตอ่ หลกั ดิน
(ตัวนาทองแดง) (ตวั นาทองแดง)
(ตร.มม.) (ตร.มม.)
ไม่เกนิ 35 10*
เกนิ 35 แตไ่ ม่เกนิ 50 16
เกนิ 50 แตไ่ มเ่ กนิ 95 25
เกิน 95 แตไ่ ม่เกิน 185 35
เกนิ 185 แต่ไม่เกิน 300 50
เกนิ 300 แต่ไมเ่ กิน 500 70
95
เกิน 500
หมายเหตุ * แนะนาให้ตดิ ต้ังในท่อโลหะหนา ทอ่ โลหะหนาปานกลาง ท่อโลหะบาง หรือ
ทอ่ อโลหะ และการติดตงั้ สอดคล้องตามข้อ 5.4 และ 5.8
4.22 การตอ่ สายดนิ เขา้ กบั สายหรอื บริภัณฑ์ไฟฟ้า
กำรต่อสำยดินและสำยต่อฝำก ต้องใช้วิธีเช่ือมด้วยควำมร้อน (exothermic welding) หรือใช้
หัวตอ่ แบบบบี ประกบั จับสำย หรือสงิ่ อ่ืนทร่ี ะบุให้ใชเ้ พ่ือกำรน้ี ห้ำมต่อโดยใช้กำรบัดกรีเป็นหลัก
บทที่ 4 การตอ่ ลงดนิ 4-13
ตารางที่ 4-2
ขนาดตา่ สดุ ของสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้า
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นพกิ ดั หรอื ขนาดปรบั ตงั้ ของขนาดต่าสดุ ของสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟา้
เคร่อื งปอ้ งกนั กระแสเกนิ ไมเ่ กนิ (ตัวนาทองแดง)
(ตร.มม.)
(แอมแปร์)
2.5*
20 4*
40 6
70
100 10
200 16
400
500 25
800 35
1000 50
1250
2000 70
2500 95
4000
6000 120
185
240
400
หมายเหตุ * หากความยาวของวงจรย่อยเกิน 30 เมตร ให้พิจารณาขนาดสายดินของ
บริภัณฑ์ไฟฟ้า โดยคานึงถึงค่า earth fault loop impedance ของวงจร ที่แสดง
ในภาคผนวก ญ
4.23 การตอ่ สายดนิ เขา้ กบั กลอ่ ง
ในแต่ละกล่อง ถ้ำมีสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำอยู่หลำยเส้น แต่ละเส้นต้องต่อถึงกันทำงไฟฟ้ำ
เป็นอย่ำงดี และต้องจัดให้กำรต่อลงดินมีควำมต่อเน่ืองโดยไม่ขำดตอนแม้ว่ำจะถอดหรือปลด
วงจรเครื่องประกอบ หรือส่ิงอ่ืนทีร่ บั ไฟฟำ้ จำกกลอ่ งนัน้
4.23.1 กล่องโลหะ
ต้องต่อสำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำที่มีอยู่ในกล่องโลหะ ซ่ึงอำจเป็นสำยเดียวหรือหลำยสำยเข้ำ
กับกล่องโลหะ โดยต่อที่สลักเกลียวสำยดิน (grounding screw) ซึ่งห้ำมใช้งำนหน้ำที่อื่น หรือ
ต่อโดยใชอ้ ปุ กรณ์ที่ได้ระบุให้ใชส้ ำหรบั กำรต่อลงดิน
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น4-14 บทที่ 4 การตอ่ ลงดนิ
4.23.2 กล่องอโลหะ
สำยดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำที่อยู่ในกล่องอโลหะต้องต่อเข้ำกับขั้วต่อสำยดินของเต้ำเสียบหรือ
อุปกรณป์ ระกอบทต่ี ดิ ตัง้ ไวใ้ นกลอ่ งน้ี
4.24 วธิ กี ารตอ่ สายตอ่ หลักดนิ (เขา้ กบั หลกั ดิน)
กำรต่อสำยต่อหลักดินเข้ำกับหลักดินต้องใช้วิธีเชื่อมด้วยควำมร้อน (exothermic welding) หู
สำย หัวตอ่ แบบบีบอัด ประกับต่อสำย หรือส่ิงอื่นท่ีระบุให้ใช้เพื่อกำรนี้ ห้ำมต่อโดยใช้กำรบัดกรี
เป็นหลัก อุปกรณ์ที่ใช้ต่อต้องเหมำะสมกับวัสดุท่ีใช้ทำหลักดินและสำยต่อหลักดิน ห้ำมต่อสำย
ตอ่ หลกั ดนิ มำกกวำ่ 1 เส้นเขำ้ กับหลกั ดนิ นอกจำกอปุ กรณ์ที่ใช้ในกำรต่อเป็นชนิดที่ออกแบบมำ
ใหต้ ่อสำยไดม้ ำกกวำ่ 1 เส้น
4.25 การปอ้ งกนั การยดึ ติด (สายต่อหลกั ดนิ และสายดนิ )
ประกับสำยต่อหลักดินและสำยดินหรือส่ิงต่ออ่ืนๆ ต้องเป็นชนิดใช้งำนได้ทั่วไปโดยไม่ต้องมีกำร
ปอ้ งกนั หรอื มกี ำรป้องกนั ควำมเสยี หำยทำงกำยภำพด้วยวิธีหนึ่งวธิ ีใดดงั ต่อไปนี้
ก) ตดิ ตงั้ ในทซ่ี ึ่งจะไมเ่ กิดควำมเสยี หำยทำงกำยภำพ
ข) ใช้โลหะ ไม้ หรือสิง่ ครอบอย่ำงอ่นื เป็นเคร่ืองห่อหุ้ม
4.26 ความสะอาดของผิวของสงิ่ ท่จี ะตอ่ ลงดิน
เกลียวและหน้ำสัมผัสของบริภัณฑ์ไฟฟ้ำที่จะต่อลงดิน ต้องขูดสิ่งเคลือบที่ไม่เป็นตัวนำเช่น สี
หรอื แลกเกอร์ออก เพ่ือใหเ้ ปน็ ท่แี นใ่ จวำ่ มีควำมต่อเนือ่ งทำงไฟฟ้ำอยำ่ งดี
4.27 ความต้านทานการต่อลงดิน (Resistance to Ground)
คำ่ ควำมต้ำนทำนกำรตอ่ ลงดนิ ต้องไม่เกนิ 5 โอหม์
ยกเวน้ พื้นที่ท่ียากในการปฏิบัติและการไฟฟ้าฯ เห็นชอบ ยอมให้ค่าความต้านทานของหลัก
ดนิ กับดนิ ต้องไม่เกิน 25 โอห์ม หากทาการวัดแลว้ ยังมคี า่ เกิน ให้ปกั หลกั ดินเพ่มิ อกี 1 แท่ง
4.28 การตอ่ ลงดนิ ของเคร่ืองมอื วัด มิเตอร์ และรเี ลย์
4.28.1 วงจรหมอ้ แปลงของเครอื่ งวัด
วงจรดำ้ นทุตยิ ภูมิหม้อแปลงกระแสและหม้อแปลงแรงดันของเครอ่ื งวดั ต้องต่อลงดิน เม่ือขดลวด
ด้ำนปฐมภูมิต่อเข้ำกับระบบไฟฟ้ำที่มีแรงดันไฟฟ้ำเทียบกับดินตั้งแต่ 220 โวลต์ขึ้นไป หรือเมื่อ
หม้อแปลงเครื่องวัดตดิ ต้ังอยู่บนแผงสวิตช์โดยไมต่ อ้ งคำนงึ ถงึ ขนำดแรงดันไฟฟ้ำ
บทท่ี 4 การตอ่ ลงดนิ 4-15
ยกเวน้ ว ง จ ร ไ ฟ ฟ ้า ท่ี ด้ า น ป ฐ ม ภู มิ ห ม้ อ แ ป ล ง ข อ ง เ ค รื่ อ ง วั ด ต่ อ เ ข้ า กั บ ร ะ บ บ ไ ฟ ฟ้ า ท่ี มี
แรงดันไฟฟ้าเทียบกับดินต่ากว่า 600 โวลต์ ซึ่งไม่มีส่วนที่มีไฟฟ้าและเปิดโล่ง หากมี
ส่วนท่ีมีไฟฟ้าและเปิดโล่งต้องติดตั้งในพื้นที่หรือบริเวณที่เข้าถึงได้เฉพาะบุคคลท่ีมี
หน้าทีเ่ กย่ี วข้องเทา่ น้ัน
4.28.2 เปลือกหมุ้ หม้อแปลงเคร่ืองวัด
เปลอื กหุม้ หม้อแปลงเครอื่ งวัดต้องตอ่ ลงดินถ้ำบคุ คลทว่ั ไปเข้ำถึงได้
4.28.3 เปลือกหุ้มเคร่ืองมือวัด มิเตอร์ และรีเลย์ ท่ีใช้งานกับระบบไฟฟ้าที่มี
แรงดันไฟฟา้ เทยี บกบั ดินตา่ กวา่ 600 โวลต์
เปลือกหุ้มเคร่ืองมือวัด มิเตอร์ และรีเลย์ ท่ีใช้งำนกับระบบไฟฟ้ำท่ีมีแรงดันไฟฟ้ำเทียบกับดินต่ำ
กวำ่ 600 โวลต์ ต้องตอ่ ลงดนิ ตำมข้อใดข้อหนึ่งดังตอ่ ไปน้ี
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ก) เครื่องมือวัด มิเตอร์ และรีเลย์ ท่ีไม่ได้ติดต้ังอยู่บนแผงสวิตช์ เมื่อใช้งำนกับระบบ
ไฟฟ้ำท่ีมแี รงดันไฟฟ้ำเทียบกบั ดินต้ังแต่ 220 โวลต์ขึ้นไปและบุคคลทั่วไปเข้ำถึง
ได้ เปลอื กหุ้มและสว่ นท่ีเป็นโลหะตอ้ งตอ่ ลงดิน
ข) เคร่ืองมือวัด มิเตอร์ และรีเลย์ ท่ีติดตั้งอยู่บนแผงสวิตช์ชนิดด้ำนหน้ำไม่มีไฟ
(dead-front) เปลอื กหุ้มต้องตอ่ ลงดนิ
ค) เครื่องมือวัด มิเตอร์ และรีเลย์ ท่ีติดตั้งอยู่บนแผงสวิตช์ชนิดด้ำนหน้ำมีไฟ (live-
front) และเปดิ โล่งติดตั้งอยู่ด้ำนหน้ำแผงสวิตช์ เปลือกหุ้มต้องไม่ต่อลงดิน และ
หำกตดิ ต้งั ใชง้ ำนกบั ระบบไฟฟำ้ ที่มแี รงดนั ไฟฟ้ำเทยี บกับดินต้งั แต่ 220 โวลต์ขน้ึ
ไป ต้องจดั หำฉนวนยำงหรือทำฉนวนทพ่ี ื้นสำหรับรองรับพื้นท่ปี ฏิบัตงิ ำนดว้ ย
4.28.4 เปลือกหุ้มเครื่องมือวัด, มิเตอร์ และรีเลย์ ที่ใช้งานกับระบบไฟฟ้าท่ีมี
แรงดันไฟฟา้ เทียบกับดินต้งั แต่ 600 โวลต์ ขน้ึ ไป
เปลือกหุ้มเครื่องมือวัด มิเตอร์ และรีเลย์ ที่ใช้งำนกับระบบไฟฟ้ำท่ีมีแรงดันไฟ-ฟ้ำเทียบกับดิน
ต้งั แต่ 600 โวลต์ขน้ึ ไป ต้องแยกกำรตดิ ตง้ั เคร่อื งมอื วดั มเิ ตอร์ และรีเลย์ โดยกำรยกระดับ หรือ
ใช้กำรก้ันที่เหมำะสม (หำกเป็นโลหะต้องต่อวัสดุท่ีกั้นลงดิน) หรือใช้ฉนวนหุ้ม และเปลือกหุ้ม
ต้องไมต่ อ่ ลงดนิ
4.28.5 สายดนิ เครื่องมอื วดั
สำยดินท่ีใช้ต่อลงดินด้ำนทุติยภูมิหม้อแปลงเคร่ืองวัดและสำยดินท่ีใช้ต่อลงดินของเปลือกหุ้ม
เคร่ืองมือวัดต้องเป็นตัวนำทองแดงขนำดไม่เล็กกว่ำ 4 ตร.มม. เปลือกหุ้มหม้อแปลงเคร่ืองวัด
4-16 บทท่ี 4 การต่อลงดนิ
เครือ่ งมือวัด มเิ ตอร์ และรีเลย์ ให้ถือว่ำได้ต่อลงดินแล้ว เม่ือติดตั้งกับส่วนท่ีเป็นโลหะท่ีต่อลงดิน
แลว้ หรอื เมื่อติดตง้ั กับแผงสวติ ชซ์ งึ่ ส่วนที่เป็นโลหะไดต้ ่อลงดินแล้ว
ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
บทที่ 5 ข้อกำหนดกำรเดนิ สำยและวสั ดุ 5-1
บทที่ 5
ข้อกำหนดกำรเดินสำยและวสั ดุ
ข้อก่ำหนดในบทน้ีเก่ียวกับกำรเดินสำยในระบบแรงต่ำ แรงสูง วิธีกำรเดินสำยแบบต่ำงๆ และใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น
ขนำดกระแสของสำยสำ่ หรบั วธิ ีกำรเดนิ สำยตำ่ งๆ รวมถึงกล่องส่ำหรับงำนไฟฟ้ำ แผงสวิตช์ แผง
ย่อยและสำยไฟฟ้ำ ซึ่งเป็นข้อก่ำหนดโดยท่ัวไป กำรใช้จะต้องดูแต่ละเรื่องที่เก่ียวข้อง
ประกอบดว้ ย
5.1 ขอ้ กำหนดกำรเดินสำยสำหรบั ระบบแรงต่ำ
5.1.1 ขอบเขต
ขอ้ กำ่ หนดนีค้ รอบคลมุ กำรเดินสำยทง้ั หมด ยกเวน้ การเดินสายที่เป็นส่วนประกอบภายใน
ของบริภัณฑ์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ แผงควบคุมและแผงสวิตช์ต่างๆ ซึ่งประกอบสาเร็จรูปจาก
โรงงาน การเดินสายนอกเหนือจากที่กล่าวในบทนี้อนุญาตให้ทาได้แต่ต้องได้รับความเห็นชอบ
จากการ ไฟฟา้ ฯ ก่อน
5.1.2 กำรเดินสำยไฟของระบบไฟฟำ้ ท่มี ีแรงดันต่ำงกนั
5.1.2.1 ไฟฟ้ำแรงต่ำทั้งระบบกระแสสลบั และกระแสตรง อนุญำตใหต้ ดิ ตั้งสำยไฟรวมกันอยู่
ภำยในช่องร้อยสำยหรือเคร่ืองห่อหุ้มเดียวกันได้ ถ้ำฉนวนของสำยทั้งหมดท่ีติดต้ังนั้นเหมำะสม
กบั ระบบแรงดนั สูงสุดทใี่ ช้
5.1.2.2 ห้ำมติดตั้งสำยไฟท่ีใช้กับระบบแรงต่ำรวมกับสำยไฟท่ีใช้กับระบบแรงสูงในท่อร้อย
สำย บ่อพักสำย หรือเคร่ืองห่อหุ้มเดียวกัน ยกเว้น ในแผงสวิตช์หรือเครื่องห่อหุ้มอื่นท่ีไม่ได้ใช้
เพ่ือการเดินสาย
5.1.3 กำรป้องกนั ควำมเสียหำยทำงกำยภำพของสำยไฟ
5.1.3.1 กำรเดินสำยผำ่ นโครงสร้ำงไม้ทตี่ อ้ งเจำะรูผ่ำนกลำงโครงสร้ำง รูที่เจำะต้องห่ำงจำก
ขอบไมน่ อ้ ยกว่ำ 30 มม. หำกรทู เ่ี จำะห่ำงจำกขอบน้อยกวำ่ 30 มม. หรือเดินสำยในช่องบำกต้อง
ปอ้ งกนั ไม่ใหต้ ะปูหรอื หมดุ เกลียวถูกสำยได้
5.1.3.2 กำรเดนิ สำยทมี่ เี ปลอื กนอกไมเ่ ป็นโลหะ ผ่ำนโครงสร้ำงโลหะที่เจำะเป็นช่องหรือรู ต้องมี
บุชชิงยำง (bushing grommet) ยึดติดกับช่องหรือรูเพ่ือป้องกันฉนวนของสำยช่ำรุด ยกเว้น
ชอ่ งหรือรทู ่มี ีขอบมนและผวิ เรียบ