The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ศิลปะพื้นฐาน(นาฏศิลป์) ศ22101

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Phakhin Phudin 63040105120, 2024-02-10 14:46:14

แผนการจัดการเรียนรู้ ศิลปะพื้นฐาน(นาฏศิลป์) ศ22101

แผนการจัดการเรียนรู้ ศิลปะพื้นฐาน(นาฏศิลป์) ศ22101

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา ศิลปะพื้นฐาน (นาฏศิลป์) ศ22101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที 2 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อุดรธานี นายภาคิณ ภูดิน รหัสนักศึกษา 63040105120 สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา ศิลปะพื้นฐาน (นาฏศิลป์) ศ22101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที 2 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อุดรธานี นายภาคิณ ภูดิน รหัสนักศึกษา 63040105120 สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 รหัสวิชา ED16401 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1) สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี


หลักสูตรแกนกลางศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จากการศึกษาหลักสูตรแกนกลางศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ พบว่ามีองค์ประกอบที่ สำคัญ คือ ทำไมต้องเรียนศิลปะ เรียนรู้อะไรในศิลปะ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ศิลปะ และคุณภาพผู้เรียน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ (กระทรวงศึกษาธิการ,2551:167-182) 1.1 ทำไมต้องเรียนศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มี จินตนาการทางศิลปะ ชื่นชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กิจกรรมทางศิลปะช่วย พัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจน การ นําไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ผู้เรียน มีความเชื่อมั่นในตนเอง อันเป็นพื้นฐาน ในการศึกษาต่อหรือ ประกอบอาชีพได้ 1.2 เรียนรู้อะไรในศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะวิธีการทางศิลปะ เกิด ความซาบซึ้งในคุณค่าของศิลปะ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงออกอย่างอิสระในศิลปะแขนงต่าง ๆ ประกอบด้วย สาระสําคัญ คือ • ทัศนศิลป์ มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ สร้างและนําเสนอผลงาน ทาง ทัศนศิลป์จาก จินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถใช้เทคนิค วิธีการ ของศิลปินใน การสร้างงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ เข้าใจความสัมพันธ์ ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรม เห็นคุณค่างานศิลปะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิ ปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล ชื่นชม ประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจําวัน • ดนตรี มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ทางดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจําวัน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าดนตรี ที่เป็น มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ร้อง เพลง และเล่นดนตรี ในรูปแบบต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเสียงดนตรี แสดงความรู้สึกที่มีต่อดนตรีในเชิงสุนทรียะ เข้าใจความสัมพันธ์ ระหว่างดนตรีกับประเพณีวัฒนธรรม และเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ • นาฏศิลป์ มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบนาฏศิลป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์ อย่าง สร้างสรรค์ ใช้ศัพท์เบื้องต้นทาง นาฏศิลป์ วิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ สร้างสรรค์การเคลื่อนไหวใน รูปแบบต่าง ๆ ประยุกต์ใช้นาฏศิลป์ ในชีวิตประจําวัน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์กับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เห็น คุณค่า ของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล


สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่3 สาระนาฏศิลป์ ศ 3.1 เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน มาตรฐาน ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล สาระที่ 3 นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1.อธิบายอิทธิพลของนักแสดงชื่อดัง ที่มีผลต่อการโน้มน้าวอารมณ์หรือความคิด ของผู้ชม การปฏิบัติของผู้แสดงและผู้ชม ประวัตินักแสดงที่ชื่นชอบ การพัฒนารูปแบบของการแสดง อิทธิพลของนักแสดงที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ชม 2.ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ในการแสดง นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ในการแสดง ภาษาท่า และการตีบท ท่าทางเคลื่อนไหวที่แสดงสื่อทางอารมณ์ ระบําเบ็ดเตล็ด รําวงมาตรฐาน 3.แสดงนาฏศิลป์และละครในรูปแบบง่าย ๆ รูปแบบการแสดงนาฏศิลป์ -นาฏศิลป์ -นาฏศิลป์พื้นบ้าน -นาฏศิลป์นานาชาติ 4.ใช้ทักษะการทํางานเป็นกลุ่ม ในกระบวนการผลิตการ แสดง บทบาทและหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ ในการจัดการแสดง การสร้างสรรค์กิจกรรมการแสดงที่สนใจ โดยแบ่งฝ่าย และหน้าที่ให้ชัดเจน 5.ใช้เกณฑ์ง่าย ๆ ที่กําหนดให้ในการ พิจารณาคุณภาพการแสดงที่ชม โดยเน้นเรื่องการใช้เสียงการแสดงท่า และ การเคลื่อนไหว หลักในการชมการแสดง


ม.2 1.อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่น ๆ กับการแสดง ศิลปะแขนงอื่น ๆ กับการแสดง -แสง สี เสียง ฉาก-เครื่องแต่งกาย-อุปกรณ์ 2.สร้างสรรค์การแสดงโดยใช้องค์ประกอบ นาฏศิลป์และ การละคร หลักและวิธีการสร้างสรรค์การแสดง โดยใช้ องค์ประกอบนาฏศิลป์และการละคร 3.วิเคราะห์การแสดงของตนเองและผู้อื่น โดยใช้นาฏย ศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ที่ เหมาะสม หลักและวิธีการวิเคราะห์การแสดง 4.เสนอข้อคิดเห็นในการปรับปรุงการแสดง วิธีการวิเคราะห์ วิจารณ์การแสดง นาฏศิลป์ และการละคร รําวงมาตรฐาน 5. เชื่อมโยงการเรียนรู้ระหว่างนาฏศิลป์และการละคร กับสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ความสัมพันธ์ของนาฏศิลป์หรือการละครกับสาระการ เรียนรู้อื่น ๆ ม.3 1.ระบุโครงสร้างของบทละครโดยใช้ศัพท์ทางการละคร องค์ประกอบของบทละคร -โครงเรื่อง -ตัวละครและ การวางลักษณะนิสัยของตัว ละคร -ความคิดหรือแก่น ของเรื่อง -บทสนทนา 2.ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ที่เหมาะสม บรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกิริยาของผู้คนใน ชีวิตประจําวันและในการแสดง ภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ ภาษาท่าที่มาจากธรรมชาติ ภาษาท่าที่มาจากการประดิษฐ์ รําวงมาตรฐาน 3.มีทักษะในการใช้ความคิดในการพัฒนา รูปแบบการ แสดง รูปแบบการแสดง -การแสดงเป็นหมู่ -การแสดงเดี่ยว -การแสดงละคร -การแสดงเป็นชุดเป็นตอน 4.มีทักษะในการแปลความและการสื่อสารผ่านการ แสดง การประดิษฐ์ท่ารําและท่าทางประกอบ -การแสดง -ความหมาย -ความเป็นมา -ท่าทางที่ใช้ในการประดิษฐ์ท่ารํา 5.วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ที่มีความแตกต่างกัน โดยใช้ความรู้เรื่ององค์ประกอบนาฏศิลป์ องค์ประกอบนาฏศิลป์ -จังหวะทํานอง -การเคลื่อนไหว -อารมณ์และความรู้สึก -ภาษาท่า นาฎยศัพท์ -รูปแบบของการแสดง -การแต่งกาย


6.ร่วมจัดงานการแสดงในบทบาทหน้าที่ต่าง ๆ วิธีการเลือกการแสดง -ประเภทของงาน -ขั้นตอน -ประโยชน์และคุณค่าของการแสดง 7.นําเสนอแนวคิดจากเนื้อเรื่องของการแสดงที่สามารถ นําไปปรับใช้ในชีวิตประจําวัน ละครกับชีวิต ม.4-6 1.มีทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบ รูปแบบของการแสดง -ระบํา รํา ฟูอน -การแสดง พื้นเมืองภาคต่าง ๆ-การละครไทย -การละครสากล 2.สร้างสรรค์ละครสั้นในรูปแบบ ที่ชื่นชอบ ละครสร้างสรรค์-ความเป็นมา -องค์ประกอบของ ละครสร้างสรรค์ละครพูด -ละครโศกนาฏกรรม -ละคร สุขนาฏกรรม -ละครแนวเหมือนจริง -ละครแนวไม่ เหมือนจริง 3.ใช้ความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ และหมู่ การประดิษฐ์ท่ารําที่เป็นคู่และหมู่ -ความหมาย -ประวัติความเป็นมา -ท่าทางที่ใช้ในการประดิษฐ์ท่ารํา -เพลงที่ใช้ 4.วิจารณ์การแสดงตามหลักนาฏศิลป์และการละคร หลักการสร้างสรรค์และการวิจารณ์หลักการชมการ แสดงนาฏศิลป์ และละคร 5.วิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และการละครที่ ต้องการสื่อความหมาย ใน การแสดง ประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์ -และการละคร - วิวัฒนาการ -ความงามและคุณค่า 6.บรรยาย และวิเคราะห์ อิทธิพลของ เครื่องแต่งกาย แสง สี เสียง ฉากอุปกรณ์และสถานที่ที่มีผลต่อการ แสดง เทคนิคการจัดการแสดง -แสงสีเสียง -ฉาก -อุปกรณ์ สถานที่ -เครื่องแต่งกาย 7.พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการ ประเมินการ แสดง การประเมินคุณภาพของการแสดง -คุณภาพด้านการ แสดง -คุณภาพองค์ประกอบการแสดง 8.วิเคราะห์ท่าทาง และการเคลื่อนไหวของผู้คนใน ชีวิตประจําวันและนํามา ประยุกต์ใช้ในการแสดง การสร้างสรรค์ผลงาน -การจัดการแสดงในวันสําคัญ ของโรงเรียน -ชุดการแสดงประจําโรงเรียน


สาระที่ 3 นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดก ทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1.อธิบายอิทธิพลของนักแสดงชื่อดัง ที่มีผลต่อการโน้มน้าวอารมณ์หรือความคิด ของผู้ชม การปฏิบัติของผู้แสดงและผู้ชม ประวัตินักแสดงที่ชื่นชอบ การพัฒนารูปแบบของการแสดง อิทธิพลของนักแสดงที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ชม 2.ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ในการแสดง นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ในการแสดง ภาษาท่า และการตีบท ท่าทางเคลื่อนไหวที่แสดงสื่อทางอารมณ์ ระบําเบ็ดเตล็ด รําวงมาตรฐาน 3.แสดงนาฏศิลป์และละครในรูปแบบง่าย ๆ รูปแบบการแสดงนาฏศิลป์ -นาฏศิลป์ -นาฏศิลป์พื้นบ้าน -นาฏศิลป์นานาชาติ 4.ใช้ทักษะการทํางานเป็นกลุ่ม ในกระบวนการผลิตการ แสดง บทบาทและหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ ในการจัดการแสดง การสร้างสรรค์กิจกรรมการแสดงที่สนใจ โดยแบ่งฝ่าย และหน้าที่ให้ชัดเจน 5.ใช้เกณฑ์ง่าย ๆ ที่กําหนดให้ในการ พิจารณาคุณภาพการแสดงที่ชม โดยเน้นเรื่องการใช้เสียงการแสดงท่า และ การเคลื่อนไหว หลักในการชมการแสดง ม.2 1.อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่น ๆ กับการแสดง ศิลปะแขนงอื่น ๆ กับการแสดง -แสง สี เสียง ฉาก-เครื่องแต่งกาย-อุปกรณ์ 2.สร้างสรรค์การแสดงโดยใช้องค์ประกอบ นาฏศิลป์และ การละคร หลักและวิธีการสร้างสรรค์การแสดง โดยใช้ องค์ประกอบนาฏศิลป์และการละคร 3.วิเคราะห์การแสดงของตนเองและผู้อื่น โดยใช้นาฏย ศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ที่ เหมาะสม หลักและวิธีการวิเคราะห์การแสดง 4.เสนอข้อคิดเห็นในการปรับปรุงการแสดง วิธีการวิเคราะห์ วิจารณ์การแสดง นาฏศิลป์ และการละคร รําวงมาตรฐาน


5. เชื่อมโยงการเรียนรู้ระหว่างนาฏศิลป์และการละคร กับสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ความสัมพันธ์ของนาฏศิลป์หรือการละครกับสาระการ เรียนรู้อื่น ๆ ม.3 1.ระบุโครงสร้างของบทละครโดยใช้ศัพท์ทางการละคร องค์ประกอบของบทละคร -โครงเรื่อง -ตัวละครและ การวางลักษณะนิสัยของตัว ละคร -ความคิดหรือแก่น ของเรื่อง -บทสนทนา 2.ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ที่เหมาะสม บรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกิริยาของผู้คนใน ชีวิตประจําวันและในการแสดง ภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ ภาษาท่าที่มาจากธรรมชาติ ภาษาท่าที่มาจากการประดิษฐ์ รําวงมาตรฐาน 3.มีทักษะในการใช้ความคิดในการพัฒนา รูปแบบการ แสดง รูปแบบการแสดง -การแสดงเป็นหมู่ -การแสดงเดี่ยว -การแสดงละคร -การแสดงเป็นชุดเป็นตอน 4.มีทักษะในการแปลความและการสื่อสารผ่านการ แสดง การประดิษฐ์ท่ารําและท่าทางประกอบ -การแสดง -ความหมาย -ความเป็นมา -ท่าทางที่ใช้ในการประดิษฐ์ท่ารํา 5.วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ที่มีความแตกต่างกัน โดยใช้ความรู้เรื่ององค์ประกอบนาฏศิลป์ องค์ประกอบนาฏศิลป์ -จังหวะทํานอง -การเคลื่อนไหว -อารมณ์และความรู้สึก -ภาษาท่า นาฎยศัพท์ -รูปแบบของการแสดง -การแต่งกาย 6.ร่วมจัดงานการแสดงในบทบาทหน้าที่ต่าง ๆ วิธีการเลือกการแสดง -ประเภทของงาน -ขั้นตอน -ประโยชน์และคุณค่าของการแสดง 7.นําเสนอแนวคิดจากเนื้อเรื่องของการแสดงที่สามารถ นําไปปรับใช้ในชีวิตประจําวัน ละครกับชีวิต ม.4-6 1.มีทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบ รูปแบบของการแสดง -ระบํา รํา ฟูอน -การแสดง พื้นเมืองภาคต่าง ๆ-การละครไทย -การละครสากล


2.สร้างสรรค์ละครสั้นในรูปแบบ ที่ชื่นชอบ ละครสร้างสรรค์-ความเป็นมา -องค์ประกอบของ ละครสร้างสรรค์ละครพูด -ละครโศกนาฏกรรม -ละคร สุขนาฏกรรม -ละครแนวเหมือนจริง -ละครแนวไม่ เหมือนจริง 3.ใช้ความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ และหมู่ การประดิษฐ์ท่ารําที่เป็นคู่และหมู่ -ความหมาย -ประวัติความเป็นมา -ท่าทางที่ใช้ในการประดิษฐ์ท่ารํา -เพลงที่ใช้ 4.วิจารณ์การแสดงตามหลักนาฏศิลป์และการละคร หลักการสร้างสรรค์และการวิจารณ์หลักการชมการ แสดงนาฏศิลป์ และละคร 5.วิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และการละครที่ ต้องการสื่อความหมาย ใน การแสดง ประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์ -และการละคร - วิวัฒนาการ -ความงามและคุณค่า 6.บรรยาย และวิเคราะห์ อิทธิพลของ เครื่องแต่งกาย แสง สี เสียง ฉากอุปกรณ์และสถานที่ที่มีผลต่อการ แสดง เทคนิคการจัดการแสดง -แสงสีเสียง -ฉาก -อุปกรณ์ สถานที่ -เครื่องแต่งกาย 7.พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการ ประเมินการ แสดง การประเมินคุณภาพของการแสดง -คุณภาพด้านการ แสดง -คุณภาพองค์ประกอบการแสดง 8.วิเคราะห์ท่าทาง และการเคลื่อนไหวของผู้คนใน ชีวิตประจําวันและนํามา ประยุกต์ใช้ในการแสดง การสร้างสรรค์ผลงาน -การจัดการแสดงในวันสําคัญ ของโรงเรียน -ชุดการแสดงประจําโรงเรียน


คำรายวิชา ศิลปะพื้นฐาน (นาฏศิลป์) รหัสวิชา ศ 22101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จำนวน 0.5 หน่วยกิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 เวลา 2 ชั่วโมง / สัปดาห์ เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรียน ..................................................................................................................................................................................................... คำอธิบายรายวิชา ศึกษาความรู้โดยการ อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง สร้างสรรค์การแสดงโดยใช้ องค์ประกอบ นาฏศิลป์และการละคร วิเคราะห์การแสดงของตนเองและผู้อื่น โดยใช้นาฏศัพท์หรือศัพท์ทางการ ละครที่เหมาะสม เสนอ ข้อคิดเห็นในการปรับปรุงการแสดง เชื่อมโยงความรู้ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับ สาระการเรียนรู ้อื่นๆ เปรียบเทียบ ลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฏศิลป์จากวัฒนธรรมต่างๆ ทักษะการแสดงของ นักแสดง ระบการแสดงนาฏศิลป์ ละครไทย ละครพื้น้การแสดงมหรสพในวัง ละครนอก ละครใน ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน อธิบายอิทธิพลของวัฒนธรรมทมผลต่อเนื้อหา ของละคร ใช้ศัพท์เบื้องต้นทางนาฏศิลป์ วิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ สร้างสรรค์การเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ ประยุกต์ใช้นาฏศิลป์ในชีวิตประจำวัน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์กับ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เห็นคุณค่า ของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ตัวชี้วัด ศ 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5 ศ 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 รวมทั้งหมด 8 ตัวชี้วัด


ตารางโครงสร้างหลักสูตร รายวิชาศิลปะพื้นฐาน (นาฏศิลป์) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 1.0 หน่วยกิต เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรียน ลำดับที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 หลักและวิธี สร้างสรรค์การ แสดงนาฏศิลป์ ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 2 รำเดี่ยว การแสดงรำ มโนราห์ บูชายัญ ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 3 รำเดี่ยว การแสดง ฉุยฉาย พราหมณ์ ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 4 รำเดี่ยว การแสดง ฉุยฉายเบญกาย ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน 1


ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 5 รำคู่ การแสดง เมขลา-ราสูร ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 6 รำคู่ การแสดง พระลอตามไก่ ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 7 รำคู่ การแสดง พระรามตาม กวาง ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 8 รำหมู่ การแสดง รำสีนวล ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 9 รำหมู่ การแสดง รำซัดชาตรี ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน 1


ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 10 รำหมู่ การแสดง รำโคม ศ 3.1 ม.2/1 นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมี จุดประสงค์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการใช้ ภาษาท่ารำการรำตีบทโดยใช้สรีระต่างๆของร่างกาย เพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดของการแสดง ยกตัวอย่างการแสดงระบำรำฟ้อนหรือการแสดงโขน ละครซึ่งเป็นนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้นมีหลักวิชาที่ ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนชัดเจน 1 11 นาฏศิลป์ไทย มาตรฐานระบำ กฤดาภินิหาร ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 นาฏศิลป์ไทยมาตรฐานเป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทย ตามแบบแผนดั้งเดิมที่ปรมาจารย์ทางด้านนาฏศิลป์ ไทยได้กำหนดไว้เพื่อให้ปฏิบัติสืบทอดกันต่อมาอย่าง เคร่งครัดซึ่งกระบวนท่ารำลักษณะการแต่งกาย รูปแบบการแสดงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดังนั้นผู้ที่ ฝึกหัดนาฏศิลป์ไทยทุกคนจำเป็นต้องมีความรู้อย่าง แม่นยำ 4 12 รำวงมาตรฐาน ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 นาฏศิลป์ไทยมาตรฐานเป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทย ตามแบบแผนดั้งเดิมที่ปรมาจารย์ทางด้านนาฏศิลป์ ไทยได้กำหนดไว้เพื่อให้ปฏิบัติสืบทอดกันต่อมาอย่าง เคร่งครัดซึ่งกระบวนท่ารำลักษณะการแต่งกาย รูปแบบการแสดงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดังนั้นผู้ที่ ฝึกหัดนาฏศิลป์ไทยทุกคนจำเป็นต้องมีความรู้อย่าง แม่นยำ 6 13 ความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับการ แสดงนาฏศิลป์ พื้นเมือง ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 14 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมือง ภาคเหนือ ฟ้อนขันดอก ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1


15 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมือง ภาคเหนือ ฟ้อนเล็บ ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 16 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาค อีสาน รำบายศรีสู่ขวัญ ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 17 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาค อีสาน เซิ้งกระติ๊บข้าว ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 18 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาค อีสาน เซิ้งบั้งไฟ ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 19 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาค กลาง เต้นกำรำเคียว ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 20 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาค กลาง รำกลองยาว ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ 1


ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 21 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาคใต้ ลิเกฮูลู ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 22 การแสดง นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาคใต้ หนังตะลุง ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในแต่ละภาคจะสะท้อน ให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นจะ ประกอบไปด้วยเพลงพื้นเมืองและการฟ้อนรำ พื้นเมืองของชาติพันธ์นั้น 1 23 หลักการ สร้างสรรค์การ ละคร ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/4 ละครเป็นศิลปะการแสดงที่มนุษย์สร้างขึ้นจากการนำ ภาพประสบการณ์และจินตนาการของมนุษย์มาผูก เป็นเรื่องและนำเสนอในรูปแบบของการแสดงโดยมีผู้ แสดงเป็นผู้สื่อความหมายที่เป็นเรื่องราวต่อผู้ชม นอกจากนี้ละครยังทำหน้าที่สืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมของชาติแสดงให้เห็นถึงแนวคิด ของประชาชน 1 24 ละครนอก ละครใน โขน ศ 3.1 ม.2/2 ศ 3.1 ม.2/3 ละครเป็นศิลปะการแสดงที่มนุษย์สร้างขึ้นจากการนำ ภาพประสบการณ์และจินตนาการของมนุษย์มาผูก เป็นเรื่องและนำเสนอในรูปแบบของการแสดงโดยมีผู้ แสดงเป็นผู้สื่อความหมายที่เป็นเรื่องราวต่อผู้ชม นอกจากนี้ละครยังทำหน้าที่สืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมของชาติแสดงให้เห็นถึงแนวคิด ของประชาชน 1


กำหนดการสอน รายวิชาศิลปะพื้นฐาน (นาฏศิลป์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่1 จำนวน 1.0 หน่วยกิต เวลา 40 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จำนวนคาบ / ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่7 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ 1 หลักและวิธีการสร้างสรรค์ การแสดงนาฏศิลป์ 1 2 รำเดี่ยว การแสดงรำมโนราห์บูชายัญ 1 3 รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายพราหมณ์ 1 4 รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายเบญกาย 1 5 รำคู่ การแสดงเมขลา-รามสูร 1 6 รำคู่ การแสดงพระลอตามไก่ 1 7 รำคู่ การแสดงพระรามตามกวาง 1 8 รำหมู่ การแสดงรำสีนวล 1 9 รำหมู่ การแสดงรำซัดชาตรี 1 10 รำหมู่ การแสดงรำโคม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่8 การแสดงนาฏศิลป์ไทยมาตรฐาน 11 นาฏศิลป์ไทยมาตรฐาน ระบำกฤดาภินิหาร 4 12 รำวงมาตรฐาน 6 หน่วยการเรียนรู้ที่9 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมือง 13 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแสดง นาฏศิลป์พื้นเมือง 1 14 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคเหนือ ฟ้อนขันดอก 1 15 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคเหนือ ฟ้อนเล็บ 1 16 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคอีสาน รำบายศรีสู่ขวัญ 1


17 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคอีสาน เซิ้งกระติ๊บข้าว 1 18 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคอีสาน เซิ้งบั้งไฟ 1 19 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลางเต้นกำรำเคียว 1 20 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลาง รำกลองยาว 1 21 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคใต้ ลิเกฮูลู 1 22 การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคใต้ หนังตะลุง 1 หน่วยการเรียนรู้ที่10 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการละคร 23 หลักการสร้างสรรค์การละคร 1 24 ละครนอก ละครใน โขน 1 รวม 40 วัน 40 ชั่วโมง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่3 รหัสวิชา ศ22101 หน่วยการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ เวลา 10 ชั่วโมง เรื่อง หลักการและวิธีการสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์ เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครูผู้สอน นายภาคิณ ภูดิน 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง (ศ 3.1 ม. 2/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ได้ (K) 2. อธิบายความเป็นมาของนาฏศิลป์ได้(K) 3. วิเคราะห์และสรุปความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ได้ (P) 4. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A) 4. สาระสำคัญ นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมีจุดประสงค์ตรงที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย การ ใช้ภาษาท่ารำ การตีบท โดยใช้สรีระต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดในรูปแบบของการ แสดงเป็นชุดระบำ รำ ฟ้อน หรือการแสดงโขน ละคร ซึ่งการแสดงนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้น มีหลักหลักวิชา นากศิลป์ที่ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนโดยเน้นความเป็นเอกภาพในลีลาท่ารำ การแต่งกายลักษณะรูปแบบ การแสดง แม้แต่การบรรจุเพลงที่ได้คัดสรรด้วยด้วยความประณีต ซึ่งการแสดงระบำ รำ ฟ้อน ก็จะมีลักษณะเฉพาะ อย่างที่แตกต่างกันออกไป


5. สาระการเรียนรู้ ศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง แสง สี เสียง ฉาก เครื่องแต่งกาย และ อุปกรณ์ 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. รักความเป็นไทย 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. บันทึกเนื้อหาที่เรียน เรื่อง หลักการและวิธีการสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์ลงในสมุด 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถามนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักคำว่านาฏศิลป์หรือไม่ 2. ครูอธิบายคำว่า นาฏศิลป์ ให้นักเรียนนักเรียนฟัง โดยจะอธิบายดังนี้ นาฏศิลป์ (นาดตะสิน) คือ ศิลปะแห่งการละครหรือการฟ้อนรำ 3. ครูอธิบายความหมายของวิชานาฏศิลป์ให้นักเรียนฟังดังนี้ นาฏศิลป์ไทยเป็นการเล่นเครื่องดนตรีหลาย ๆ ชนิดการละครฟ้อนรำและดนตรีอันมีคุณสมบัติตามคัมภีร์นาฏะหรือนาฏยะกำหนดว่า ต้องประกอบไปด้วย 3 ประการ คือ การฟ้อนรำ การดนตรี และการขับร้อง รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ เป็นอุปนิสัยของคนมาแต่ดึกดำ บรรพ์ นาฏศิลป์ไทยมีที่มาและเกิดจากสาเหตุแนวคิดต่าง ๆ เช่น เกิดจากความรู้สึกกระทบกระเทือนทางอารมณ์ไม่ ว่าจะอารมณ์แห่งสุข หรือความทุกข์และสะท้อนออกมาเป็นท่าทางแบบธรรมชาติและประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นท่าทาลีลา การฟ้อนรำ หรือเกิดจากลัทธิความเชื่อในการนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเจ้า โดยแสดงความเคารพบูชาด้วยการเต้นรำ ขับร้องฟ้อนรำให้เกิดความพึงพอใจ เป็นต้น


ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูอธิบายถึง หลักการและวิธีสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์ โดยจะเล่าถึง การสร้างสรรค์ผลงาน นาฏศิลป์ จัดเป็นหนึ่งในการพัฒนาความสามารถของมนุษย์ในด้านสุนทรียศาสตร์ความคิดริเริ่มในสิ่งแปลกใหม่จาก ประสบการณ์ การสั่งสมความรู๎ การแก๎ไขสถานการณ์การประยุกต์ การสะท้อนสังคม การประยุกต์ปรับเปลี่ยนให้ ทันกับสังคม วัฒนธรรมในโลกปัจจุบันกระบวนการสร้างสรรค์นาฏศิลป์เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยพัฒนาความ งอกงามทางวัฒนธรรมอันหลากหลาย ให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 2. หลักการและวิธีสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์จะมีวิธีการดังนี้ - 2.1 การกำหนดวัตถุประสงค์ - 2.2 การกำหนดรูปแบบ 3. ครูอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับ การกำหนดวัตถุประสงค์และ การกำหนดรูปแบบ โดยใช้เนื้อหาจากหนังสือ เรียนรายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม.2 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัดให้นักเรียนฟัง ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเรื่อง หลักการและวิธีการสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์ ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ 1. นักเรียนนำความรู้เรื่อง หลักการและวิธีการสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์ไปประยุกต์ในการเรียน นาฏศิลป์ในระดับสูงต่อไป 2. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนไปชมการแสดงนาฏศิลป์ที่นักเรียนสนใจ มาหนึ่งการแสดงจาก อินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูลลงนสมุดบันทึกแล้วให้นำความรู้ที่ ได้มาอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ของตนเอง 10. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม.2 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 2. อินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ 3. www.youtube.com


11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (A) 1. อธิบายความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับนาฏศิลป์ได้ (K) 2. อธิบายความเป็นมาของ นาฏศิลป์ได้ (K) 1. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความ สนุกสนานเพลิดเพลิน (A) 1. วิเคราะห์และสรุปความรู้ ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ได้ (P)


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่3 นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ22101 หน่วยการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ เวลา 10 ชั่วโมง เรื่อง รำเดี่ยว การแสดงรำมโนราห์บูชายัญ เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครูผู้สอน นายภาคิณ ภูดิน 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง (ศ 3.1 ม. 2/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความเป็นมาของการแสดงพอสังเขปได้ (K) 3. วิเคราะห์และสรุปความรู้เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (P) 4. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A) 4. สาระสำคัญ นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมีจุดประสงค์ตรงที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย การ ใช้ภาษาท่ารำ การตีบท โดยใช้สรีระต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดในรูปแบบของการ แสดงเป็นชุดระบำ รำ ฟ้อน หรือการแสดงโขน ละคร ซึ่งการแสดงนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้น มีหลักหลักวิชา นากศิลป์ที่ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนโดยเน้นความเป็นเอกภาพในลีลาท่ารำ การแต่งกายลักษณะรูปแบบ การแสดง แม้แต่การบรรจุเพลงที่ได้คัดสรรด้วยด้วยความประณีต ซึ่งการแสดงระบำ รำ ฟ้อน ก็จะมีลักษณะเฉพาะ อย่างที่แตกต่างกันออกไป 5. สาระการเรียนรู้ ศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง แสง สี เสียง ฉาก เครื่องแต่งกาย และ อุปกรณ์


6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. รักความเป็นไทย 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ให้นักเรียนหาการแสดงรำเดี่ยวที่นักเรียนชอบมากที่สุด 1 การแสดงและบันทึกลงในสมุด 2. บันทึกเนื้อหาที่เรียน เรื่อง รำเดี่ยว การแสดงรำมโนราห์บูชายัญ ลงในสมุด 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถามนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักการแสดงรำเดี่ยวหรือไม่ 2. ครูอธิบายการแสดงรำเดี่ยว ให้นักเรียนนักเรียนฟัง โดยจะอธิบายดังนี้ การรำเดี่ยว คือ การแสดงที่ใช้ผู้แสดงเพียงคนเดียว มีจุดมุ่งหมายเพื่ออวดฝีมือการร่ายรำที่ประณีตงดงาม ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูอธิบายถึง การรำเดี่ยว คือ การแสดงที่ใช้ผู้แสดงเพียงคนเดียว มีจุดมุ่งหมายเพื่ออวดฝีมือการร่ายรำ ที่ประณีตงดงาม การรำเดี่ยว คือ การแสดงที่ใช้ผู้แสดงเพียงคนเดียว มีจุดมุ่งหมายเพื่ออวดฝีมือการร่ายรำที่ ประณีตงดงาม ผู้แสดงรำเดี่ยวจึงต้องมีทักษะในการรำและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี การรำเดี่ยว ได้แก่ มโนราห์บูชายัญ ในเรื่องพระสุธนมโนราห์รำพลายชุมพลในเรื่องขุนช้างขุนแผน ฯลฯ ซึ่งเป็นการรำที่มีลีลากรีด กราย ท่วงทีงดงามใส่ความรู้สึกบนใบหน้า ท่าทางและการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการรำฉุยฉายซึ่งมีอยู่หลายชุด เช่น ฉุยฉายพราหมณ์ ฉุยฉายทศกัณฐ์ เป็นต้น ส่วนใหญ่สอดแทรกอยู่ในการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ แต่ละเพลง ผู้แสดงจะต้องรำด้วยลีลาการเคลื่อนไหวไปตามบุคลิกเฉพาะของตัวละครในบทนั้นๆ ด้วย เช่น รำมโนราห์บูชายัญ


2. ครูยกตัวอย่างการรำเดี่ยวมา 1 การแสดง คือ รำมโนราห์บูชายัญและอธิบายประวัติการแสดงให้นักเรียนได้ เข้าใจ ดังนี้ รำมโนราห์บูชายัญ เป็นการรำเดี่ยวที่มีลีลาอ่อนช้อยงดงาม ของนางกินรีที่มีชื่อว่า "มโนราห์" ในตอน หนึ่งของละครเรื่องมโนราห์ที่กรมศิลปากรปรับปรุงขึ้นใหม่ กล่าวถึงนางมโนราห์ถูกปุโรหิตผู้ริษยากราบทูลยุยงท้าว อาทิตยวงศ์ ให้พระสุธนไปปราบศึกจับนางกินรีมโนราห์มาบูชายัญ เพื่อสะเดาะพระเคราะห์ท้าวอทิตยวงศ์ นาง มโนราห์จึงอุบายทูลขอปีกหางและนำมาสวมใส่ แล้วรำตามแบบกินรีให้ทอดพระเนตรเป็นครั้งสุดท้าย การรำ ตอนนี้เองที่เรียกว่า "มโนราห์บูชายัญ" จากนั้นนางก็บินหนีกลับไปยังนครไกรลาศ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเรื่อง รำเดี่ยว การแสดงรำมโนราห์บูชายัญ ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ 1. นักเรียนนำความรู้เรื่อง รำเดี่ยว การแสดงรำมโนราห์บูชายัญ ไปประยุกต์ในการเรียนนาฏศิลป์ใน ระดับสูงต่อไป และการออกกำลังกายยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ เข้าใจสรีระของตัวเอง 2. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนไปชมการแสดง รำมโนราห์บูชายัญ จากอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูลลงนสมุดบันทึกแล้วให้นำความรู้ที่ได้มาอภิปรายตามความรู้ ความ เข้าใจ และประสบการณ์ของตนเอง 10. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม.2 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 2. รูปภาพการแสดง รำมโนราห์บูชายัญ 3. www.youtube.com


11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ค่านิยม (A) 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการ รำเดี่ยวได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความ เป็นมาของการแสดงพอ สังเขปได้ (K) 1. วิเคราะห์และสรุปความรู้ เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (P) 1. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความ สนุกสนานเพลิดเพลิน (A)


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่3 นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ22101 หน่วยการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ เวลา 10 ชั่วโมง เรื่อง รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายพราหมณ์ เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครูผู้สอน นายภาคิณ ภูดิน 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง (ศ 3.1 ม. 2/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความเป็นมาของการแสดงพอสังเขปได้ (K) 3. วิเคราะห์และสรุปความรู้เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (P) 4. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A) 4. สาระสำคัญ นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมีจุดประสงค์ตรงที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย การ ใช้ภาษาท่ารำ การตีบท โดยใช้สรีระต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดในรูปแบบของการ แสดงเป็นชุดระบำ รำ ฟ้อน หรือการแสดงโขน ละคร ซึ่งการแสดงนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้น มีหลักหลักวิชา นากศิลป์ที่ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนโดยเน้นความเป็นเอกภาพในลีลาท่ารำ การแต่งกายลักษณะรูปแบบ การแสดง แม้แต่การบรรจุเพลงที่ได้คัดสรรด้วยด้วยความประณีต ซึ่งการแสดงระบำ รำ ฟ้อน ก็จะมีลักษณะเฉพาะ อย่างที่แตกต่างกันออกไป 5. สาระการเรียนรู้ ศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง แสง สี เสียง ฉาก เครื่องแต่งกาย และ อุปกรณ์


6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. รักความเป็นไทย 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ให้นักเรียนสืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงฉุยฉายพราหมณ์ 2. บันทึกเนื้อหาที่เรียน เรื่อง รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายพราหมณ์ลงในสมุด 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถามนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักการแสดงรำเดี่ยวหรือไม่ 2. ครูอธิบายการแสดงรำเดี่ยว ให้นักเรียนนักเรียนฟัง โดยจะอธิบายดังนี้ การรำเดี่ยว คือ การแสดงที่ใช้ผู้แสดงเพียงคนเดียว มีจุดมุ่งหมายเพื่ออวดฝีมือการร่ายรำที่ประณีตงดงาม ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูอธิบายถึง การรำเดี่ยว คือ การแสดงที่ใช้ผู้แสดงเพียงคนเดียว มีจุดมุ่งหมายเพื่ออวดฝีมือการร่ายรำ ที่ประณีตงดงาม การรำเดี่ยว คือ การแสดงที่ใช้ผู้แสดงเพียงคนเดียว มีจุดมุ่งหมายเพื่ออวดฝีมือการร่ายรำที่ ประณีตงดงาม ผู้แสดงรำเดี่ยวจึงต้องมีทักษะในการรำและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี การรำเดี่ยว ได้แก่ มโนราห์บูชายัญ ในเรื่องพระสุธนมโนราห์รำพลายชุมพลในเรื่องขุนช้างขุนแผน ฯลฯ ซึ่งเป็นการรำที่มีลีลากรีด กราย ท่วงทีงดงามใส่ความรู้สึกบนใบหน้า ท่าทางและการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการรำฉุยฉายซึ่งมีอยู่หลายชุด เช่น ฉุยฉายพราหมณ์ ฉุยฉายทศกัณฐ์ เป็นต้น ส่วนใหญ่สอดแทรกอยู่ในการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ แต่ละเพลง ผู้แสดงจะต้องรำด้วยลีลาการเคลื่อนไหวไปตามบุคลิกเฉพาะของตัวละครในบทนั้นๆ ด้วย เช่น รำมโนราห์บูชายัญ


2. ครูยกตัวอย่างการรำเดี่ยวมา 1 การแสดง คือ ฉุยฉายพราหมณ์ เป็นการร่ายรำที่งดงามของตัวละคร พระ เป็นการแสดงชุดหนึ่งในบทละครเบิกโรง เรื่องพระคเณศเสียงา บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระ มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นจากตำนานของเทพเจ้าโดยพระนารายณ์แปลงเป็นพราหมณ์น้อยไป เฝ้าพระอิศวรและพระอุมามีลีลาท่ารำของตัวพระที่มีลักษณะของความเป็นหนุ่มน้อยที่มีความงดงามและท่าที่นวย นาดกรีดกรายแต่สง่างาม แต่โบราณการรำฉุยฉายพราหมณ์จัดแสดงเฉพาะในการแสดงเบิกโรงเท่านั้นไม่นิยมนำ ออกมาแสดงรำเดี่ยว แต่ในปัจจุบันการรำฉุยฉายพราหมณ์เป็นที่นิยมจึงทำให้พบเห็นได้ในโอกาสงานต่างๆ โดยทั่วไป โดยมีประวัติความเป็นมา ดังนี้ การรำฉุยฉายพราหมณ์ เนื้อเรื่องกล่าวถึงปรศุรามผู้ปกครองบรรดานัก สิทธิ์วิทยาต่างๆ เป็นที่โปรดปรานของพระอิศวร ทรงให้เข้าเฝ้าได้ทุกเวลา วันหนึ่งพระอิศวรและพระอุมากำลัง บรรทมอยู่ในพระที่ โดยมีพระคเณศผู้เป็นโอรสคอยดูแลอยู่ ปรศุรามเดินทางมาเข้าเฝ้าพระอิศวร แต่ถูกพระคเณศ ขัดขวางไม่ให้เข้าเฝ้า จึงเกิดต่อสู้กัน ปรศุรามโกรธมาก จึงใช้ขวานเพชรที่พระอิศวรประทานให้ขว้างออกไป พระ คเณศเห็นขวานก็จำได้ว่าเป็นของพระบิดาจึงตรงเข้ารับขวานถูกงาหัก พระอิศวรและพระอุมาได้ยินเสียงอึกทึก จึง ออกมาดูพบพระคเณศงาหัก พระอุมาโกรธมาก จึงสาปปรศุรามให้สิ้นฤทธิ์ ร่างกายแข็งเป็นท่อนไม้ล้มลงนอน พระ อิศวรทรงเมตตา แนะนำให้ตั้งจิตน้อมบูชาระลึกถึงพระนารายณ์ พระนารายณ์ทราบเรื่องจึงแปลงร่างเป็นพราหมณ์ หนุ่มน้อยออกมาร่ายรำเมื่อพระอุมาทอดพระเนตรเห็นก็ทรงชื่นชอบให้ความเมตตา ตรัสประทานพรให้ตามที่เจ้า พราหมณ์จะขอ พระนารายณ์แปลงประทานขอกำลังคืนให้ปรศุรามกึ่งหนึ่ง และอีกกึ่งหนึ่งมอบให้พระคเณศ การ แสดงชุดนี้จึงมีชื่อว่า ฉุยฉายพราหมณ์โดยจะมีบทร้องดังนี้ บทร้อง บทร้องฉุยฉายพราหมณ์อยู่ในบทละครเบิกโรง เรื่องพระคเณศเสียงา บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ปี่พาทย์ทำเพลงรัว - ร้องเพลงฉุยฉาย - ฉุยฉายเอย ช่างงามขำช่างรำโยกย้าย สะเอวแสนอ่อนอรชรช่วงกาย วิจิตรยิ่งลายที่คนประดิษฐ์ สองเนตรคมขำแสงดำมันขลับ ชม้อยเนตรจับช่างสวยสุดพิศ ฯ สุดสวยเอย ยิ่งพิศยิ่งเพลินเชิญให้งงงวย งามหัตถ์งามกรก็อ่อนระทวย ช่างนาดช่างนวยสวยยั่วนัยนา ทั้งหัตถ์ทั้งกรก็ฟ้อนถูกแบบ ดูยลดูแยบสวยยิ่งเทวา


- ร้องแม่ศรี – น่าชมเอย น่าชมเจ้าพราหมณ์ ดูทั่วตัวงาม ไม่ทรามจนนิด ดูผุดดูผ่อง เหมือนทองทาติด ยิ่งเพ่งยิ่งพิศ ยิ่งคิดชมเอย ฯ น่ารักเอย น่ารักดรุณ เหมือนแรกจะรุ่น จะรู้เดียงสา เจ้ายิ้มเจ้าแย้ม แก้มเหมือนมาลา จ่อจิตติดตา เสียจริงเจ้าเอย - ปี่พาทย์ทำเพลงเร็ว - ลา – 3. ดนตรีวงปี่พาทย์ไม้แข็งหรือปี่พาทย์เครื่องห้า ประกอบด้วย ระนาด ฆ้องวง ตะโพน กลองทัด ฉิ่ง และ ปี่ใน เพลงที่ใช้ประกอบการแสดง ได้แก่ เพลงรัว เพลงฉุยฉาย เพลงแม่ศรี เพลงเร็ว และเพลงลา เพลงรัว เป็นเพลง หน้าพาทย์เบื้องต้น ใช้สำหรับการแสดงฤทธิ์หรือการเกิดปรากฏการณ์โดยฉับพลัน เช่น เมื่อพระนารายณ์แปลงเป็น พราหมณ์ ใช้เพลงรัวเพื่อให้ผู้แสดงวิ่งออกมาจากหลังเวทีเพลงฉุยฉาย เป็นเพลงหน้าพาทย์ที่ใช้ประกอบกิริยาของตัวโขนและละครแสดงถึงความภาคภูมิใจในความงามที่พระ นารายณ์แปลงกายเป็นพราหมณ์น้อย เพลงแม่ศรี เป็นเพลงหน้าพาทย์ที่ใช้ประกอบการแสดงกิริยาสนุกสนาน ร่า เริง แสดงอารมณ์และความภาคภูมิใจในความงาม เพลงรัว เป็นเพลงหน้าพาทย์ที่ใช้ประกอบการแสดงกิริยาการ เดินอย่างนวยนาด เพลงลา เป็นเพลงหน้าพาทย์ที่บรรเลงต่อจากเพลงเร็ว เมื่อจบการรำ การแต่งกาย ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเรื่อง รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายพราหณ์ ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ 1. นักเรียนนำความรู้เรื่องรำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายพราหณ์ไปประยุกต์ในการเรียนนาฏศิลป์ในระดับสูง


2. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนไปชม การแสดงฉุยฉายพราหณ์จากอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูลลงนสมุดบันทึกแล้วให้นำความรู้ที่ได้มาอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ของตนเอง 10. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม.2 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 2. รูปภาพการแสดง การแสดงฉุยฉายพราหณ์ 3. www.youtube.com 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ค่านิยม (A) 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการ รำเดี่ยวได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความ เป็นมาของการแสดงพอ สังเขปได้ (K) 1. วิเคราะห์และสรุปความรู้ เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (P) 1. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความ สนุกสนานเพลิดเพลิน (A)


แผนการจัดการเรียนรู้ที่4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่3 นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ22101 หน่วยการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ เวลา 10 ชั่วโมง เรื่อง รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายเบญกาย เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครูผู้สอน นายภาคิณ ภูดิน 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง (ศ 3.1 ม. 2/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความเป็นมาของการแสดงพอสังเขปได้ (K) 3. วิเคราะห์และสรุปความรู้เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (P) 4. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A) 4. สาระสำคัญ นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมีจุดประสงค์ตรงที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย การ ใช้ภาษาท่ารำ การตีบท โดยใช้สรีระต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดในรูปแบบของการ แสดงเป็นชุดระบำ รำ ฟ้อน หรือการแสดงโขน ละคร ซึ่งการแสดงนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้น มีหลักหลักวิชา นากศิลป์ที่ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนโดยเน้นความเป็นเอกภาพในลีลาท่ารำ การแต่งกายลักษณะรูปแบบ การแสดง แม้แต่การบรรจุเพลงที่ได้คัดสรรด้วยด้วยความประณีต ซึ่งการแสดงระบำ รำ ฟ้อน ก็จะมีลักษณะเฉพาะ อย่างที่แตกต่างกันออกไป 5. สาระการเรียนรู้ ศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง แสง สี เสียง ฉาก เครื่องแต่งกาย และ อุปกรณ์การแสดง


6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. รักความเป็นไทย 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ให้นักเรียนสืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงฉุยฉายเบญกาย 2. บันทึกเนื้อหาที่เรียน เรื่อง รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายเบญกาย ลงในสมุด 3. บันทึก บทร้องฉุยฉายเบญกาย ลงในสมุด 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถามนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักการแสดงฉุยฉายเบญกาย หรือไม่ 2. ครูอธิบายประวัติแสดงฉุยฉายเบญกาย ให้นักเรียนฟังพอสังเขปโดยจะอธิบายเนื้อหาดังนี้ ฉุยฉาย เบญกาย เป็นชุดการแสดงรำเดี่ยวตัวนางที่สวยงามชุดหนึ่ง อยู่ในการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนนางลอย กล่าวถึงนางเบญกายแปลงกายเป็นนางสีดาเมื่อแปลงกายใหม่จึงเกิดความภาคภูมิใจในร่างแปลงที่แต่งองค์ ทรงเครื่องสวยงดงาม และท่วงทีกิริยางดงามเหมือนนางสีดาจึงเข้าเฝ้าทศกัณฐ์เพื่ออวดความงามของตนทำให้ ทศกัณฐ์หลงเชื่อและเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนางสีดาจึงเข้ามาเกี้ยวพาราสี ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูเล่าถึงประวัติความเป็นมา ของการแสดงฉุยฉายเบญกาย ดังนี้ นางเบญกายเป็นบุตรีของพิเภกกับ นางตรีชฎา เป็นหลานของทศกัณฐ์เจ้ากรุงลงกา ทศกัณฐ์ได้คิดกลอุบายและมอบหมายให้นางเบญกายแปลงเป็นสี ดา เพื่อลวงให้พระรามเข้าใจผิดคิดว่านางสีดาตายแล้วจะได้ยกทัพกลับไปและเพื่อมิให้เกิดความผิดพลาด ก่อนการ แปลงกาย ทศกัณฐ์ได้ให้นางเบญกายเข้าไปเฝ้านางสีดาที่ตำหนักอุทยานเมืองลงกา สังเกตดูรูปร่าง ลักษณะท่าทาง


ของนางสีดาอย่างละเอียดและเมื่อจำถี่ถ้วนดีแล้วได้ออกมาแปลงกายเป็นนางสีดาเข้าเฝ้าทศกัณฐ์ในท้องพระโรง เพื่อให้ทศกัณฐ์ดูว่าเหมือนนางสีดาหรือไม่ ทศกัณฐ์เห็นนางจำแลงไม่ทันพิจารณา คิดว่าเป็นนางสีดาก็เกี้ยวพาราสี นางเบญกายเขินอายจึงคืนกลับร่างเดิมทำให้ทศกัณฐ์ตกตะลึงเก้อเขิน แล้วตรัสสั่งให้นางเบญกายรีบไปทำการ โดยเร็ว คือให้นางทำเป็นตายลอยทวนน้ำไปพลับพลาที่ประทับของพระราม เมื่อพระราม พระลักษณ์ลงสรงน้ำได้ เห็นนางแปลงคิดว่านางสีดาตายแล้วก็โศกเศร้าเสียพระทัยยิ่งนัก ครั้นคลายโศกก็กริ้วหนุมานว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าส หัสกุมารและเผาเมืองลงกา ทำให้ทศกัณฐ์แค้นเคืองจึงฆ่านางสีดา หนุมานจึงกราบทูลว่า ศพนี้มิใช่นางสีดาเพราะ ไม่มีกลิ่นและลอยทวนน้ำมาจึงขอพิสูจน์ โดยนำร่างนางแปลงที่ลอยทวนน้ำมาขึ้นมาเผาไฟ สุครีพจึงสั่งตั้งเชิง ตะกอนและยกศพนางสีดาแปลงขึ้นวางแล้วจุดไฟ นางสีดาแปลงทนความร้อนไม่ได้ก็เหาะหนีตามเกลียวควันหนุ มานเห็นจึงไล่ตามจับตัวมาถวายให้พระราม พระรามจึงทราบว่านางเป็นธิดาของพิเภกจึงสั่งให้พิเภกพิพากษาแทน พิเภกสั่งลงโทษให้ประหารชีวิต แต่พระรามเห็นว่าไม่ใช่ความผิดของนางเบญกายจึงยกโทษให้ และให้หนุมานพา นางเบญกายไปส่งยังกรุงลงกา หนุมานก็พานางไปส่งและในระหว่างทางหนุมานก็ได้นางเบญกายเป็นเมียมีบุตรชื่อ ว่า อสุรผัด 2. ครูอธิบายบทร้องฉุยฉายเบญกายให้นักเรียนฟัง โดยมีบทร้องดังนี้ บทร้องฉุยฉายเบญกาย อยู่ในบท ละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอนนางลอย พระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ปี่พาทย์ทำเพลงรัว - ร้องเพลงฉุยฉาย - ฉุยฉายเอย จะเข้าไปเฝ้าเจ้าก็กรีดกราย เยื้องย่างเจ้าช่างแปลงกาย ให้ละเมียดละม้ายสีดานงลักษณ์ ถึงพระรามเห็นทรามวัย จะฉงนพระทัยให้อะเหลื่ออะหลัก งามนักเอย ใครเห็นพิมพ์พักตร์ก็จะรักจะใคร่ หลับก็จะฝันครั้นตื่นก็จะคิด อยากจะเห็นอีกสักนิดหนึ่งให้ชื่นใจ งามคมดุจคมศรชัย ถูกนอกทะลุในให้เจ็บอุรา - ร้องแม่ศรี – แม่ศรีเอย แม่ศรีรากษสี แม่แปลงอินทรีย์ เป็นแม่ศรีสีดา ทศพักตร์มาลักเห็น จะตื่นเต้นในวิญญา เหมือนล้อเล่นให้เป็นบ้า ระอาเจ้าแม่ศรีเอย ฯ อรชรเอย อรชรอ้อนแอ้น


เอวขาแขนแมน แม้นเหมือนกินนรี ระทวยนวยนาด วิลาสจรลี ขึ้นปราสาทมณี เฝ้าพระปิตุลาเอย ฯ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเรื่อง รำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายเบญกาย ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ 1. นักเรียนนำความรู้เรื่องรำเดี่ยว การแสดงฉุยฉายเบญกาย ไปประยุกต์ในการเรียนนาฏศิลป์ในระดับสูง 2. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนไปชม การแสดงฉุยฉายเบญกาย จากอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูลลงนสมุดบันทึกแล้วให้นำความรู้ที่ได้มาอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ของตนเอง 10. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม.2 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 2. รูปภาพการแสดง การแสดงฉุยฉายเบญกาย 3. www.youtube.com 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ค่านิยม (A) 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการ รำเดี่ยวได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความ เป็นมาของการแสดงพอ สังเขปได้ (K) 1. วิเคราะห์และสรุปความรู้ เกี่ยวกับการรำเดี่ยวได้ (P) 1. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความ สนุกสนานเพลิดเพลิน (A)


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่3 นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ22101 หน่วยการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนาฏศิลป์ เวลา 10 ชั่วโมง เรื่อง รำคู่ การแสดงเมขลา-รามสูร เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครูผู้สอน นายภาคิณ ภูดิน 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง (ศ 3.1 ม. 2/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการรำคู่ได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความเป็นมาของการแสดงพอสังเขปได้ (K) 3. วิเคราะห์และสรุปความรู้เกี่ยวกับการรำคู่ได้ (P) 4. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A) 4. สาระสำคัญ นาฏศิลป์เป็นวิชาว่าด้วยการฟ้อนรำและการละครมีจุดประสงค์ตรงที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย การ ใช้ภาษาท่ารำ การตีบท โดยใช้สรีระต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อสื่อความหมายแทนคำพูดในรูปแบบของการ แสดงเป็นชุดระบำ รำ ฟ้อน หรือการแสดงโขน ละคร ซึ่งการแสดงนาฏศิลป์ในรูปแบบต่างๆนั้น มีหลักหลักวิชา นากศิลป์ที่ปรมาจารย์ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนโดยเน้นความเป็นเอกภาพในลีลาท่ารำ การแต่งกายลักษณะรูปแบบ การแสดง แม้แต่การบรรจุเพลงที่ได้คัดสรรด้วยด้วยความประณีต ซึ่งการแสดงระบำ รำ ฟ้อน ก็จะมีลักษณะเฉพาะ อย่างที่แตกต่างกันออกไป 5. สาระการเรียนรู้ ศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง แสง สี เสียง ฉาก เครื่องแต่งกาย และ อุปกรณ์


6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 3. รักความเป็นไทย 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ให้นักเรียนสืบค้นหาข้อมูลการแสดงรำคู่ที่นักเรียนชอบมากที่สุดมา 1 การแสดงและบันทึกลงในสมุด 2. บันทึกเนื้อหาที่เรียน เรื่อง รำคู่ การแสดงเมขลา-รามสูร ลงในสมุด 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถามนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักการแสดงรำคู่หรือไม่ 2. ครูอธิบายการแสดงรำคู่ ให้นักเรียนนักเรียนฟัง โดยจะอธิบายดังนี้การรำคู่ คือ การรำที่ใช้ผู้แสดง 2 คน ลักษณะการรำคู่มี 2 ประเภท คือ การรำคู่เชิงศิลปะการต่อสู้ และการรำคู่ชุดสวยงาม ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูอธิบายถึง การรำคู่ มี 2 ประเภท โดยจะอธิบายดังนี้ 1.1 การรำคู่เชิงศิลปะการต่อสู้ เป็นการรำที่ไม่มีบทร้อง ผู้รำทั้งคู่ต้องมีท่ารำที่สัมพันธ์กันอย่างดี ในเชิง ศิลปะการต่อสู้ที่หวาดเสียวกับความสวยงามในทางนาฏศิลป์ เป็นการอวดลีลาท่ารำเพราะการต่อสู้มีทั้งรุกและรับ ผู้แสดงทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันด้วยลีลาคนละแบบ ดังนั้นผู้แสดงจึงต้องฝึกทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน มักใช้แสดง สลับฉากหรือในโอกาสต่างๆ ตามความเหมาะสม ได้แก่ รำกระบี่กระบอง รำดาบสองมือ รำทวน รำโล่ รำดาบ รำกริช เป็นต้น 1.2 การรำคู่ชุดสวยงาม คนมักนิยมดูกันมากเพราะเป็นร่ายรำตามบทร้อง หรือที่เรียกว่า "การรำใช้ บท" หรือ "รำทำบท" หมายถึง การใช้ลีลาท่ารำตามบทที่วางไว้ ทำให้ท่ารำมีความหมายตามบท ในการแสดง รำคู่นี้ผู้แสดงจะรำคนละบทลีลาท่ารำจะแตกต่างกัน มุ่งเน้นแสดงลีลาการร่ายรำอย่างสวยงามตลอดทั้งชุด เช่น


รำรจนาเสี่ยงพวงมาลัย รำหนุมานจับสุพรรณมัจฉา รำพระลอตามไก่ พระรามตามกวาง เมขลารามสูร รถเสน จับม้า รำประเลง รำกิ่งไม้เงินทอง เป็นต้น 2. ครูยกตัวอย่างการรำคู่มา 1 การแสดง คือ การแสดงเมขลา-รามสูร และอธิบายประวัติการแสดงให้ นักเรียนได้เข้าใจ ดังนี้ เมขลา-รามสูร เป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทย มีมาแต่โบราณ สำหรับแสดงเบิกโรงก่อนที่จะ แสดงนาฏศิลป์ เมขลา เป็นชื่อของนางฟ้าประจำทะเล คือ สมุทรเทวี ส่วนรามสูร เป็นชื่อของยักษ์ถือขวาน เข้าใจว่าเพี้ยนมาจาก “รามปรศุ” เรื่องที่เล่ากันมาแต่โบราณว่าเมื่อถึงฤดูฝน ฝูงเทพบุตรเทพธิดาต่างก็ออกจาก วิมานของตนๆ แล้วมาชุมนุมกันเล่นนักษัตรจับระบำรำฟ้อนกันสนุกสนาน มีเทวดาองค์หนึ่ง ชื่อ อรชุน มีพระ ขรรค์เป็นอาวุธคู่มือก็ออกจากวิมานของตนมาร่วมสนุก นางเมขลามีดวงแก้วเป็นคู่มือ ก็มาร่วมขับร้องเพลงและ โยนแก้วมณีเล่นเป็นแสงแวววับ ในขณะเดียวกันนั้น รามสูรยักษ์จรจัดไม่มีวิมานอยู่เที่ยวอาศัยอยู่ตามกลีบเมฆ มี ขวานเป็นอาวุธคู่มือ ก็จะมาร่วมสนุกกับเขาบ้าง แต่พอมาเห็นนางมณีเมขลาโยนแก้วเล่น ก็อยากได้แก้ว จึงวิ่ง ตามไล่จับ คิดจะแย้งเอาดื้อๆ นางเมขลาก็เยาะเย้าทำท่าจะให้แก้ว แล้วก็ไม่ให้ ผละหนีไปเสีย พอรามสูรตามใกล้ จะทันก็โยนแก้วฉายแสงเข้าตารามสูรให้ตาฟางตามหานางไม่พบ รามสูรก็โกรธ พอหายมัวตา ก็ขว้างขวานดัง ครื้นครั่น ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเรื่อง รำคู่การแสดงเมขลา-รามสูร ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ 1. นักเรียนนำความรู้เรื่อง รำคู่การแสดงเมขลา-รามสูร ไปประยุกต์ในการเรียนนาฏศิลป์ในระดับสูงต่อไป 2. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนไปชมการแสดงเมขลา-รามสูร จากอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูลลงนสมุดบันทึกแล้วให้นำความรู้ที่ได้มาอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ของตนเอง 10. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม.2 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 2. รูปภาพการแสดงเมขลา-รามสูร 3. www.youtube.com


11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ค่านิยม (A) 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการ รำคู่ได้ (K) 2. อธิบายความประวัติความ เป็นมาของการแสดงพอ สังเขปได้ (K) 1. วิเคราะห์และสรุปความรู้ เกี่ยวกับการรำคู่ได้ (P) 1. ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความ สนุกสนานเพลิดเพลิน (A)


Click to View FlipBook Version