ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
แบบทดสอบวดั ผลการเร
ให้นักเรียนทำ�แบบทดสอบ ยี นรู้
ด้วยตนเองเมื่อจบการเรียนรู้
เพื่อทบทวนความรู้และทักษะ แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด
ตามตวั ชว้ี ัด ตามตัวชี้วัด
ได้ คะแนน
ตัวช้วี ดั บอกความหมายของสาำ นวน (ท ๔.๑ ป. ๔/๖) คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน
ให้นักเรียนนำาตัวอักษรหน้าข้อความทางขวามือไปใส่หน้าคำาพังเพยและสุภาษิต
ที่มีความหมายตรงกัน
คำ�พงั เพย-สุภ�ษติ คว�มหม�ย
ช ๑. ไดท้ ีขแี่ พะไล่ ก. พึ่งตนเองดีท่สี ุด
ก ๒. ตนเป็นที่พึง่ แหง่ ตน ข. เหน็ ผดิ เปน็ ชอบ
ฉ ๓. ช้าเปน็ การ นานเปน็ คุณ ค. ทาำ ตามธรรมเนียมประเพณี
ซ ๔. ยม้ิ ด้วยปาก ถากดว้ ยตา ง. มุ่งหวังจะสบายตอ้ งทำางาน
ข ๕. เห็นกงจกั รเปน็ ดอกบวั ถา้ เกียจครา้ นจะลาำ บากยากจน
ค ๖. เขา้ ตามตรอก
จ. คนรกั มีน้อย คนชงั มีมาก
ออกตามประตู ฉ. ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทาำ
จ ๗. คนรักเท่าผืนหนัง
ดกี ว่าด่วนทำา
คนชงั เทา่ ผืนเสือ่ ช. ซำา้ เติมเมื่อผอู้ ่ืนเพลีย่ งพลำา้
ฏ ๘. เดนิ ตามหลงั ผใู้ หญ่ ซ. เยาะเยย้ ดว้ ยกริ ิยาทา่ ทาง
หมาไม่กดั ฌ. พูดไมอ่ อกเพราะเกรงจะมีภยั
ญ ๙. หว่านพืชเช่นใด
แก่ตนหรอื ผู้อื่น
ย่อมไดผ้ ลเช่นน้นั ญ. เม่ือกระทาำ อะไรลงไป
ฎ ๑๐. ไฟในอยา่ นาำ ออก
ย่อมได้รบั สิ่งนั้นตอบแทน
ไฟนอกอยา่ นาำ เข้า ฎ. ไม่ควรนำาเร่อื งราวของ
ครอบครัวไปเลา่ ให้คนอน่ื รบั รู้
ฏ. ประพฤติตามอย่างผูใ้ หญ่
ยอ่ มปลอดภยั
ฐ. ไม่ไดผ้ ลตามต้องการ
๙๘ ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
สุดยอดคู่มือครู 98
แบบประเมินผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคหลน่อ่วงยเขกียานรคเลร่อียงนรู้เรื่อวงิเคสราำาะนห์คว�ำนตอบ Brain-based Learning
ม�ตรฐ�นก�รเรียนรู้ แบบฝึกหัด ผลสัมฤทธิ์ก�รเรียนของนักเรียน
และตัวชี้วัด คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้
บอกความหมายของสาำ นวน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๕ ๑๒
(ท ๔.๑ ป. ๔/๖)
ฟ้ืนฟคู วามรู้ ลองทาำ ดูสกั นดิ ๕
ความรู้แมน่ ยาำ หมัน่ ทำาแบบฝกึ หัด ๘
๑๐
ข้อ ๑ ๒๐
ขอ้ ๒
ขอ้ ๓ ๑๐
ข้อ ๔
แบบทดสอบวดั ผลการเรยี นรู้
ตามตัวชีว้ ดั
รวม ๖๕
เกณฑ์ก�รประเมินผล ผลก�รประเมินนักเรียน
ระดับคะแนน ระดับผลก�รเรียน คุณภ�พ หน่วยก�รเรียนรู้ที่ ๑๕
๕๒ - ๖๕
๔๘ - ๕๑ ๔ ดีเยี่ยม
๔๕ - ๔๗ ๓.๕ ดีมาก
๔๒ - ๔๔ ๓ ดี
๓๙ - ๔๑ ๒.๕ ค่อนข้างดี
๓๕ - ๓๘ ๒ ปานกลาง
๑.๕ พอใช้
๓๒ - ๓๔
๐ - ๓๑ ๑ ผ่านเกณฑ์ขั้นตำ่า
๐ ตำ่ากว่าเกณฑ์
ลงชื่อ ผู้ประเมิน
วันที่ เดือน พ.ศ.
คำาพังเพยและสุภาษิต...ใหข้ อ้ คดิ สอนใจ ๙๙
99 สุดยอดคู่มือครู
ห ่นว ยการเรียนรู้ ภาษาถิน่
เร่อื ง
ตัวชี้วดั เดก็ ๆ รู้หรอื ไม่
เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาไทยทใ่ี ช้ในแต่ละท้องถน่ิ มเี อกลักษณ์
ภาษาถ่ินได้ (ท ๔.๑ ป. ๔/๗) แตกตา่ งกนั
แผนผงั สาระการเรียนรู้
ภาษาไทย
ภาษาไทย ภาษาถิ่น เหนือ
มาตรฐาน อีสาน
ใต้
การเปรียบเทียบ
ภาษาไทยมาตรฐาน
กับภาษาถิ่น
สุดยอดคู่มือครู 100
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ห ่นวย๑๖การเรยี นรู้ที่ ภาษาไบทอยกมคาวตารมฐาเปนน็ -ภไทาษยาถน่ิ ...
ปร ะเมนิ ผลตัวชว้ี ดั ตัวช้ีวดั
เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่นได้ ท ๔.๑ ป. ๔/๗
ท ๔.๑ ป. ๔/๗ Brain-based Learning
ฟ้นื ฟูความรู้ ลองทำาดสู กั นดิ ๑. ครูตดิ บัตรภาพบนกระดาน
แลว้ ใหน้ ักเรียนออกมาเลือก
ใหน้ กั เรียนเลือกคำ�ไปเติมให้ตรงกับภ�พ แล้วอ่�นคำ� (๙ คะแนน) อ่านคล่อง บตั รคำ�ภาษาถน่ิ ไปตดิ ใต้ภาพ
บนกระดาน
นกแอ่น (นกนางแอ่น) บักจก (จอบ) มะเต้า (แตงโม) ๒. ใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสยี งค�ำ
ภาษาถน่ิ ใหถ้ ูกต้อง
ปากตู (ประตู) ป๋าหลิม (ปลาช่อน) เฮือน (บ้าน)
กาด (ตลาด) บักสีดา (ผลฝรั่ง) ขี้ลม (ก้อนเมฆ)
ภาษาถิ่นเหนือ
กาด มะเต้า ป๋าหลิม
ภาษาถิ่นอีสาน
บักสีดา เฮือน บักจก
ภาษาไทยมาตรฐาน-ภาษาถนิ่ ...บอกความเป็นไทย 101
101 สุดยอดคู่มือครู
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ภาษาถิ่นใต้
ขี้ลม นกแอ่น ปากตู
อ่านหนงั สอื เรยี น ความร้แู มน่ ยำา หม่ันทาำ แบบฝึกหัด
ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาความรู้ เรอ่ื ง ภาษาถนิ่ ๑. ให้นักเรียนพิจ�รณ�ภ�ษ�ถิ่นจ�กข้อคว�มที่กำ�หนดแล้วเปรียบเทียบ
จากหนังสือเรียน คว�มหม�ยกับภ�ษ�ไทยม�ตรฐ�น โดยโยงคำ�ที่มีคว�มหม�ยตรงกัน
หลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย
หนา้ ๗๙-๘๑ (๑๙ คะแนน)
Brain-based Learning ภาษาถิ่นเหนือ
๑. ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ เปน็ ๕ กลุ่ม แม่อุ๊ยหื้ออ้ายสินไปกาดหมั้วสื้อจิ้นงัวมาเยียะแกงอ่อม
ครขู ีดเส้นแบง่ กระดานเป็น แมอ่ ุ๊ย ให้
๕ ชอ่ ง แลว้ ตดิ บัตรคำ�ภาษาถิ่น
ไวช้ อ่ งละ ๑ ค�ำ เช่น ปสี้ าว ห้ือ ซ้ือ
ข้อย ไค้แดง๋ เฮา กาดหมัว้
๒. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ปรึกษากนั อ้าย ทาำ
และสง่ ตัวแทนออกไปค้นหา
บตั รคำ�ภาษาไทยมาตรฐาน กาดหมว้ั พ่ชี าย
แลว้ มาจบั คู่ใหต้ รงกับค�ำ ภาษาถน่ิ
บนกระดาน กลมุ่ ใดหาค�ำ มาตดิ สอื้ เนอ้ื ววั
บนกระดานไดก้ ่อนและถกู ตอ้ ง
เปน็ ฝ่ายชนะ จ้นิ งัว ตลาดสด
เยยี ะ ยาย
102 ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 102
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ภาษาถิ่นอีสาน เฮาย่างเมือเฮือนนำากัน
ที่
แม่มาฮับข้อยอยู่โรงเรียน ดว้ ยกนั
ฮบั รบั
ข้อย เดนิ
อยู่ ฉนั
เฮา เรา
ย่าง กลบั บา้ น
เมอื เฮอื น
นาำ กัน
ภาษาถิ่นใต้ อ่านคลอ่ ง เขียนคลอ่ ง
หร่อยเกาะ เหาะร้อย ฮ้อยไญ้ ไค้แด๋ง แหลงทำ่าหมะ รอ้ ยเกาะ เงาะอรอ่ ย หอยใหญ่
ไขแ่ ดง แหล่งธรรมะ
หรอ่ ยเกาะ เงาะอรอ่ ย เปน็ ค�ำ ขวญั ประจ�ำ จงั หวดั
เหาะรอ้ ย ร้อยเกาะ สุราษฎรธ์ านี
ฮ้อยไญ้ ไขแ่ ดง
ไค้แดง๋ แหลง่ ธรรมะ
แหลงทำ่าหมะ หอยใหญ่
ภาษาไทยมาตรฐาน-ภาษาถ่ิน...บอกความเป็นไทย 103
103 สุดยอดคู่มือครู
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning ๒. ให้นักเรียนค้นคว้�คำ�ภ�ษ�ถิ่น ๑ ภ�ค ที่นักเรียนมีคว�มรู้ ใบงาน
หรือสนใจต�มหัวข้อที่กำ�หนด แล้วเปรียบเทียบคว�มหม�ย
๑. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ เปน็ ๔ กลุ่ม กับภ�ษ�ไทยม�ตรฐ�น (๑๒ คะแนน) (ตัวอย่�งคำ�ตอบ)
โดยครแู บ่งหัวขอ้ ให้ ดังนี้
ชื่อพชื ผัก ชอ่ื ผลไม้ ชื่อสัตว์ ชื่อผลไม้
และช่อื ส่ิงของ
๒. ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มเขียน ภาษาถิน่ เหนือ ภาษาไทยมาตรฐาน
ค�ำ ภาษาถน่ิ ไมน่ ้อยกว่า ๒ ภาษา
ภาษาละ ๕ ค�ำ พร้อมทั้งบอก ๑) บ่าหน้อแหน้ ๑) น้อยหน่า
ความหมายในภาษาไทยมาตรฐาน ๒) บ่าต้อง ๒) กระท้อน
๓) บ่าก้วยเต้ด ๓) มะละกอ
ภายในเวลาท่ีครกู ำ�หนด
๓. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานำ�เสนอ ภาษาถิ่น เหนือ ชื่อสัตว์
คำ�ภาษาถิน่ หนา้ ช้นั เรียน ภาษาไทยมาตรฐาน
โดยนักเรยี นและครรู ่วมกนั ๑) นกแล
พจิ ารณาความถูกตอ้ ง ๒) ป๋าขาว ๑) นกแก้ว
๔. ใหน้ ักเรยี นทำ�ใบงานดว้ ยตนเอง ๓) กำ๋าเบ้อ ๒) ปลาตะเพียน
เปน็ รายบุคคล เพ่อื ประเมินผล ๓) ผีเสื้อ
ตามตัวชี้วดั
๕. ให้นกั เรยี นน�ำ ความเข้าใจท่ีเกิด เรียนรจู้ ากการทำา นาำ สู่หลกั เกณฑ์
จากการปฏิบตั มิ าสรา้ งองคค์ วามรู้
หรอื สรปุ เปน็ หลักการ การเปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่น ทำาให้นักเรียน
สรุปได้ดังนี้ วิธีคดิ แบบเปรียบเทียบ
(ตัวอย่�งคำ�ตอบ) เมื่อเปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่น
บางคำามีเสียงพยัญชนะต้น เสียงสระ หรือเสียงวรรณยุกต์แตกต่างกัน
แต่บางคำาก็เปลี่ยนคำาไปเลย
ผลการประเมนิ การสรุปความรู้ ผ่าน ไมผ่ ่าน
104 ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
สุดยอดคู่มือครู 104
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
แบบ ทดสอบวดั ผลการเร ให้นักเรียนทำ�แบบทดสอบ
ยี นรู้ ด้วยตนเองเม่ือจบการเรียนรู้
เพ่ือทบทวนความรู้และทักษะ
แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด ตามตัวชว้ี ดั
ตามตัวชี้วัด
ได้ คะแนน
ตวั ช้ีวัด เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถนิ่ ได้ (ท ๔.๑ ป. ๔/๗) คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน
ให้นักเรียนพิจ�รณ�คำ�ภ�ษ�ถิ่นจ�กข้อคว�มที่กำ�หนด แล้วเลือกภ�ษ�ไทยม�ตรฐ�น
ท�งขว�มือที่มีคว�มหม�ยตรงกับภ�ษ�ถิ่นนั้นเติมในช่ องว่�งท�งซ้�ยมือ
ภาษาถิ่นเหนือ
ถา้ ไผไปแอว่ บ้านเฮา จะปาเพน่ิ ไปผ่อดอยสเุ ทพ
๑. ใคร ไผ ดู
๒. เที่ยว แอ่ว เทยี่ ว
๓. บ้านฉัน บ้านเฮา ใคร
๔. พาเขา ปาเพนิ่ บา้ นฉัน
๕. ดู ผ่อ พาเขา
ภาษาถิ่นอีสาน สม้ ตำา
พ่ีสาว
เออื้ ยกนิ ตำาบักหุง่ กบั ปิ้งไก่ ไก่ย่าง
๖. พี่สาว เอ้ือย
๗. ส้มตำา ตำาบักหงุ่
๘. ไก่ย่าง ปง้ิ ไก่
ภาษาถิ่นใต้
คนหมู่บา้ นนีเ้ ขารักษาววั กนั ทั้งเพ
๙. เลี้ยง รกั ษา ทัง้ นน้ั
๑๐. ทั้งนั้น ทั้งเพ เลี้ยง
ภาษาไทยมาตรฐาน-ภาษาถิ่น...บอกความเปน็ ไทย 105
105 สุดยอดคู่มือครู
แบบประเมินผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่าหนนคล่ว่อยงกเขาียรนเครลีย่อนงรู้เรื่อวงิเคภราาะษห์คา�ำถติ่นอบ Brain-based Learning
มาตรฐานการเรียนรู้ แบบฝึกหัด ผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียน
และตัวชี้วัด คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้
เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐาน หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๖ ๙
กบั ภาษาถ่นิ ได้ (ท ๔.๑ ป. ๔/๗)
ฟื้นฟูความรู้ ลองทำาดสู ักนิด ๑๙
ความรูแ้ ม่นยาำ หมน่ั ทำาแบบฝกึ หัด ๑๒
ข้อ ๑ ๑๐
ขอ้ ๒
แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้
ตามตวั ช้ีวัด
รวม ๕๐
เกณฑ์การประเมินผล ผลการประเมินนักเรียน
ระดับคะแนน ระดับผลการเรียน คุณภาพ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๖
๔๐ - ๕๐
๓๗ - ๓๙ ๔ ดีเยี่ยม
๓๕ - ๓๖ ๓.๕ ดีมาก
๓๒ - ๓๔ ๓ ดี
๓๐ - ๓๑
๒๗ - ๒๙ ๒.๕ ค่อนข้างดี
๒ ปานกลาง
๑.๕ พอใช้
๒๕ - ๒๖
๐ - ๒๔ ๑ ผ่านเกณฑ์ขั้นตำ่า
๐ ตำ่ากว่าเกณฑ์
ลงชื่อ ผู้ประเมิน
วันที่ เดือน พ.ศ.
106 ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔
สุดยอดคู่มือครู 106
ห ่นว ยการเรียนรู้ การอ่าน
เร่ือง
ตัวช้วี ัด เด็ก ๆ รหู้ รอื ไม่
อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ การอ่านออกเสียงต้องออกเสียงคำาให้ชัดเจน
ถกู ตอ้ ง (ท ๑.๑ ป. ๔/๑) ถูกต้อง เว้นวรรคตอนหรือจังหวะให้ถูกต้อง
อธิบายความหมายของคำา ประโยค และ ตามเน้ือความของเร่ือง และลกั ษณะของ
สำานวนจากเรื่องทอี่ ่าน (ท ๑.๑ ป. ๔/๒) คำาประพนั ธ์
แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่าน การแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของเรื่อง
(ท ๑.๑ ป. ๔/๔) ท้ังจากการอ่าน การฟังและดู จะทำาให้ได้รับ
มมี ารยาทในการอา่ น (ท ๑.๑ ป. ๔/๘) ขอ้ มลู ที่แท้จรงิ ของเรอ่ื งน้ัน
จาำ แนกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเรอื่ งทฟ่ี งั
และดู (ท ๓.๑ ป. ๔/๑)
แผนผังสาระการเรยี นรู้
มารยาทในการอ่าน
การอ่านออกเสยี ง การอ่าน การอ่านจบั ใจความ
การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ คำาที่ใช้ ร ล การแยกขอ้ เท็จจรงิ
การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
- กลอนส่ี คำาที่มีอักษรควบ และข้อคดิ เห็น
- กลอนสุภาพ
- กลอนบทละคร คำาที่มีอักษรนำา
- โคลงส่สี ุภาพ
คำาประสม
อักษรย่อและ
เครื่องหมายวรรคตอน
107 สุดยอดคู่มือครู
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ห ่นวย๑๗การเรยี นรู้ท่ี อ่านไดค้ ลอ่ ง...ต้องรูว้ ธิ ี
ตัวช้วี ดั ะเมนิ ผลตัวช เร่อื งที่ ๑ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว
ปร ว้ี ดั
ท ๑.๑ ป. ๔/๑
ท ๑.๑ ป. ๔/๘ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
ท ๑.๑ ป. ๔/๑ มีมารยาทในการอ่าน
Brain-based Learning ท ๑.๑ ป. ๔/๘
๑. ให้นักเรียนจับคู่กบั เพ่อื น ๑. ให้นักเรียนจับคู่ผลัดกันอ่านเรื่องและตรวจสอบการอ่านออกเสียง
แล้วผลัดกันอ่านออกเสยี ง ของเพื่อน (๑๐ คะแนน)
บทรอ้ ยแก้ว เรื่อง พระโยคี
แห่งเกาะแก้วพสิ ดาร พระโยคีแห่งเกาะแก้วพิสดาร
๒. ให้นักเรียนตรวจสอบการอ่าน
ออกเสียงของเพ่ือน พระโยคีหรือพระฤๅษีแห่่งเกาะแก้วพิสดาร เป็นผู้ทรงศีล อาศัยอยู่ท่ี
เกาะแก้วพิสดาร ซึ่งมีคนเรือต่างชาติต่างภาษาที่รอดตายจากเรือแตกมาอาศัยอยู่
เป็นจำานวนมาก นางเงือกมารดาของสุดสาครเล่าว่าพระโยคีน้ีอายุพันปีเศษแล้ว
มีไม้เท้าวิเศษเป็นอาวุธซ่ึงต่อมามอบให้สุดสาครไป และยังมีเสียงระฆัง
เป็นสัญญาณประจำาตัว นอกจากนี้ ยังสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
และมีอาำ นาจเวทมนตรค์ าถา เชน่ เสกทรายขว้างไลน่ างผเี สื้อสมุทร
เกาะแก้วพิสดารไม่มีภูตผีปีศาจเข้ามาใกล้ได้ เพราะพระโยคีได้ลงคาถา-
อาคมไว้ นอกจากนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ุธัญญาหาร โดยเฉพาะ
อยา่ งย่งิ มขี ้าวสาลที เ่ี รยี กว่า โภชนาสาลี ออกรวงเปน็ ขา้ วสารพิสดารสมดงั ช่อื เกาะ
จากหนังสือ วรรณคดมี รดก ของ สทิ ธา พินจิ ภวู ดล
(ตัวอย่างคำาตอบ)
๑) เพอื่ นอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วไดด้ หี รอื ไม่ ยังไม่ค่อยดี
๒) นักเรียนพิจารณาจากอะไรบา้ ง อธิบายเปน็ ขอ้ ๆ
๑) การออกเสียง ร และคำาควบกลำ้า
๒) การแบ่งวรรคตอน
๓) ความคล่องแคล่วในการอ่าน
๔) นำ้าเสียงในการอ่าน
108 ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 108
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๒. ให้นักเรียนร่วมกันกำาหนดเกณฑ์ที่จะใช้ประเมินการอ่านออกเสียง Brain-based Learning
บทร้อยแก้ว (๑๐ คะแนน)
ารคิดสังเคราะห ๓. ให้นักเรียนร่วมกันกำ�หนดเกณฑ์
ก ์ การประเมินการอา่ นออกเสียง
(ตัวอย่างคำาตอบ) ๑) การออกเสียงตามอักขรวิธี บทร้อยแก้ว เชน่
๒) การแบ่งวรรคตอน • การออกเสียงตามอักขรวธิ ี
• การแบง่ วรรคตอน
๓) การใช้นำ้าเสียง • การใช้น้ําเสียง
• ความคลอ่ งแคล่วในการอ่าน
๔) ความคล่องแคล่วในการอ่าน ๔. ให้นักเรียนพิจารณาข้อบกพร่อง
๓. ให้นกั เรยี นพิจารณาการอ่านออกเสียงของตนเองจากข้อ ๑ ในการอา่ นบทรอ้ ยแกว้ ของตนเอง
ว่ามีข้อบกพร่องในเรื่องใดบ้าง (๑๐ คะแนน) ๕. ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสียงเร่ือง
พระโยคแี หง่ เกาะแกว้ พิสดาร
(ตัวอย่างคำาตอบ) เรื่องการแบ่งวรรคตอน และการใช้นำ้าเสียง โดยปฏบิ ัตทิ ีละขัน้ ตอน ดงั นี้
• อ่านส�ำ รวจในใจ แล้วบนั ทกึ
๔. ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงเรื่อง พระโยคีแห่งเกาะแก้วพิสดาร อีกครั้ง ค�ำ ท่ีนักเรยี นยังอ่านไม่ได้
โดยปฏิบัติทีละขั้นตอน (๒๐ คะแนน) หรือไม่แน่ใจว่าอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง
เพ่อื ตรวจสอบคำ�อ่าน
๑) อ่านสำารวจในใจ แล้วบันทึกคำาที่นักเรียนยังอ่านไม่ได้ หรือไม่แน่ใจ จากพจนานกุ รม
วา่ อ่านไดถ้ กู ต้อง เพือ่ ตรวจสอบคำาอ่านจากพจนานกุ รม • จบั ใจความจากเรอ่ื งว่ามี
สาระส�ำ คัญอะไร
(ตัวอย่างคำาตอบ) พิสดาร ภูต อุดมสมบูรณ์ พืชพันธุ์ธัญญาหาร
โภชนาสาลี
๒) จับใจความจากเรอ่ื งว่ามสี าระสำาคัญอะไร (ตัวอย่างคำาตอบ)
พระฤๅษีแห่งเกาะแก้วพิสดารมีเวทมนตร์คาถาและญาณวิเศษ
สามารถขับไล่นางผีเสื้อสมุทรได้ และมีไม้เท้าวิเศษเป็นอาวุธ
เกาะแห่งนี้มีข้าวสารพิสดารที่เรียกว่าโภชนาสาลีด้วย
อา่ นได้คล่อง...ตอ้ งรู้วธิ ี 10๙
อา่ นคล่อง เขยี นคล่อง
พิสดาร (อา่ นวา่ พิด - สะ - ดาน) หมายถงึ กวา้ งขวาง,
ละเอยี ดลออ, แปลกพิลกึ
ภตู หมายถึง ผี
อุดมสมบรู ณ์ หมายถึง มากมาย, บริบรู ณ์
109 สุดยอดคู่มือครู
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning ๓) ลองแบ่งวรรคตอนการอ่าน โดยเขียนเคร่ืองหมายแบบที่ตนเอง
เข้าใจลงในเน้ือเรื่อง แลว้ ฝกึ อ่านออกเสียงใหถ้ กู ตอ้ ง
๖. ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงอกี ครั้ง
โดยใชเ้ คร่อื งหมาย / พระโยคีแห่งเกาะแก้วพสิ ดาร
แบง่ วรรคตอนการอา่ นให้ถกู ตอ้ ง พระโยคีหรือพระฤๅษีแห่งเกาะแก้วพิสดาร เป็นผู้ทรงศีล อาศัยอยู่ที่
จากนั้นครูและนักเรยี นร่วมกนั เกาะแกว้ พิสดาร ซงึ่ มคี นเรือต่างชาตติ ่างภาษาที่รอดตายจากเรือแตกมาอาศยั อยู่
พิจารณาความถกู ตอ้ ง เป็นจำานวนมาก นางเงือกมารดาของสุดสาครเล่าว่าพระโยคีนี้อายุพันปีเศษแล้ว
๗. ใหน้ กั เรยี นสรปุ วธิ กี ารอา่ นออกเสยี ง มีไม้เท้าวิเศษเป็นอาวุธซึ่งต่อมามอบให้สุดสาครไป และยังมีเสียงระฆัง
บทรอ้ ยแกว้ เปน็ แผนภาพความคดิ เป็นสัญญาณประจำาตัว นอกจากน้ี ยังสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
และมอี ำานาจเวทมนตร์คาถา เช่น เสกทรายขวา้ งไลน่ างผีเส้อื สมทุ ร
เกาะแก้วพิสดารไม่มีภูตผีปีศาจเข้ามาใกล้ได้ เพราะพระโยคีได้ลงคาถา-
อาคมไว้ นอกจากน้ี ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ุธัญญาหาร โดยเฉพาะ
อยา่ งยงิ่ มขี า้ วสาลที เ่ี รยี กวา่ โภชนาสาลี ออกรวงเปน็ ขา้ วสารพสิ ดารสมดงั ชอื่ เกาะ
๔) การอา่ นออกเสยี งของนักเรียนดขี ้นึ กว่าครงั้ แรกหรือไม่
ดีข้นึ ในเร่อื งใด
(ตัวอย่างคำาตอบ) ดีขึ้น คือ แบ่งวรรคตอนของเนื้อเรื่องได้ดีขึ้น
ออกเสียงคำาต่าง ๆ ได้ถูกต้องมากขึ้น
110 ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
สุดยอดคู่มือครู 110
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๕. การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วทดี่ มี ีวธิ ีการอ่านอย่างไร ใหน้ ักเรียน
ลองคน้ ควา้ แลว้ เขียนลงในแผนภาพ (๑๐ คะแนน)
คี ิดแบบขั้นบันไ
(ตัวอย่างคำาตอบ)
วิธ าร
๔. อ่านออกเสียงโดยใช้นำ้าเสียงให้เหมาะสม อเพียง
และเว้นจังหวะการอ่านตามการแบ่งวรรคตอนที่ถูกต้อง ตามห ด
๓. ลองอ่านออกเสียง แล้วแบ่งวรรคตอนให้ถูกต้อง กิจ
๒. อ่านในใจอีกครั้งเพื่อจับใจความของเรื่อง
เมื่อเข้าใจเนื้อเรื่องจะทำาให้ใช้นำ้าเสียงได้เหมาะสม
๑. อ่านสำารวจเนื้อเรื่องในใจก่อน เพื่อหาคำายากที่อาจออกเสียงไม่ถูกต้อง
แล้วตรวจสอบคำาอ่านจากพจนานุกรม
๖. ใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วต่อไปนี้ อ่านคล่อง ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพ อ่านหนงั สอื เรียน
โดยปฏิบัติตามวิธีการที่ถูกต้อง จากนั้นประเมิน
การอ่านของตนเอง (๓๐ คะแนน) ด้านสิ่งแวดล้อม ให้นักเรียนศกึ ษาความรู้
เร่ือง การอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้
กรรมบูรณาก ใบงาน จากหนงั สอื เรยี น
หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย
ปจั จบุ นั หลายหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกาำ ลงั เรง่ หาทางชว่ ยกนั ลดภาวะโลกรอ้ น หนา้ ๘๓-๙๐
โดยจัดกิจกรรมและเร่งรณรงค์ให้ทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจไม่ท้ิงหรือเผาทำาลาย
เศษพลาสติก อาทิ ขวดนำ้า หลอดกาแฟ หรือแม้แต่เศษกระดาษเหลือใช้ Brain-based Learning
ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่าน้ีล้วนเป็นท่ีมาของการก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนตามมาในอนาคต
หากทุกฝ่ายยังไม่แก้ไขอย่างจริงจังแล้ว เช่ือว่าในวันข้างหน้าคงหาสภาวะอากาศ ๑. ให้นกั เรียนอ่านออกเสยี ง
และสิ่งแวดล้อมที่ดีได้ยาก ภาวะโลกร้อนที่มนุษย์กำาลังเผชิญอยู่ท่ัวโลกขณะนี้ บทรอ้ ยแก้ว
เราทุกคนสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ หากทุกคนร่วมมือกัน ช่วยกันคนละไม้- ๒. ให้นกั เรียนพจิ ารณาข้อบกพรอ่ ง
คนละมอื อย่างจรงิ จัง ในการอา่ นบทรอ้ ยแกว้ ของตนเอง
จากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ 111 สุดยอดคู่มือครู
อา่ นได้คลอ่ ง...ตอ้ งรูว้ ธิ ี 111
อา่ นคลอ่ ง เขียนคล่อง
รณรงค์ (อ่านว่า รน - นะ - รง) หมายถึง ตอ่ สู,้ โฆษณาชักชวน
อย่างต่อเนื่องโดยมเี จตนาท่จี ะต่อส้เู พือ่ ใหบ้ รรลุเปา้ หมาย
ตามท่ตี อ้ งการ
เผชิญ (อา่ นว่า ผะ - เชิน) หมายถงึ ชนกัน, ปะทะกนั
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning ตามห อเพียง
...ปุยนุน่ เลา่ ให้พมี่ ะเฟืองและส้มจี๊ดฟงั ว่า ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพ
๓. ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทรอ้ ยแกว้ อกี ครงั้
โดยปฏิบตั ทิ ีละขน้ั ตอน ดังน้ี ด้านวัฒนธรรม
• อา่ นสำ�รวจในใจ แล้วบนั ทกึ “ปุยนุ่นไปอยู่ท่ีเชียงใหม่ ตอนนั้นอายุราว ๆ ๕-๖ ขวบ ปุยนุ่นมีพี่เล้ียง
คำ�ท่นี กั เรียนยังอ่านไมไ่ ด้ ชื่อบัวตอง เขาเป็นคนใจดีมาก มักจะมีเร่ืองสนุก ๆ มาคุยมาเล่าให้ปุยนุ่นฟัง
หรือไม่แน่ใจวา่ อ่านไดถ้ ูกตอ้ ง เสมอ แตพ่ บ่ี วั ตองจะพดู คำาเมือง ปยุ น่นุ ก็เลยพอจำาคำาเหนอื ได้บ้าง”
เพื่อตรวจสอบคำ�อา่ น ปริศนาคำาทายของภาคเหนือหรือท่ีเรียกว่าล้านนา จะเร่ิมต้นด้วยคำาว่า
จากพจนานกุ รม อะหยังเอ๊าะ ซง่ึ หมายถึงอะไรเอย่ ทุกคร้ัง ลองฟงั ปรศิ นาขอ้ นี้
• จบั ใจความจากเร่อื งว่ามี “อะหยงั เอ๊าะ ไมด้ ้ามเดยี ว ปักกลางหนอง คนใดไปกถ็ อด มากถ็ อด”
สาระสำ�คญั อะไร “พ่ีมะเฟืองกับพ่สี ม้ จีด๊ ฟังแลว้ เข้าใจไหมคะ” ปยุ นุ่นถามดว้ ยความไมม่ ั่นใจ
“ก็คดิ ยากเหมือนกันนะ ขอเวลาทาำ ความเขา้ ใจกอ่ น” มะเฟืองขอเวลาคิด
“ปุยนุ่นจะใบ้คำาทายให้นะคะ คำาตอบเป็นส่ิงของ แต่เป็นของใช้สำาหรับ
ผ้ใู หญ ่ เช่น คุณยายของพมี่ ะเฟืองกบั สม้ จี๊ด” ปยุ นุน่ แนะให้คดิ
“แสดงว่าเป็นของโบราณแน่ ๆ ถ้าเป็นของคุณยายใช้ละก้อ”
ส้มจี๊ดตปี ริศนา
“ใบ้ใหอ้ ีกนดิ นะปุยนนุ่ ”
“ของใชน้ ้ีคนยุคปจั จบุ ันเขาไมใ่ ชก้ ันแล้ว เพราะเด๋ียวนคี้ นไทยเลิกกนิ หมาก
กันหมดแล้ว ของช้นิ นี้เป็นอปุ กรณ์ในการกินหมากค่ะ” ปุยนนุ่ คอ่ ย ๆ
อธิบายขยายความ
“ออ๋ ! นกึ ออกแลว้ ไม้ควักปนู แน่ ๆ เลย”
“ไม้ด้ามเดยี วอยกู่ ลางหนอง หนองกค็ อื เตา้ ปูนใชไ่ หมจ๊ะ”
พีม่ ะเฟอื งย้ิมแป้นเพราะมัน่ ใจวา่ ทายถูกแน่ ๆ
“ถูกตอ้ งคะ่ พมี่ ะเฟืองนเ่ี กง่ จรงิ ๆ” ปุยนุ่นชมพ่มี ะเฟอื งท่แี กป้ รศิ นาได้
ฝึกปญั ญาด้วยปริศนาคำาทาย
จากหนังสือ ภมู ปิ ัญญาไทย มรดกไทย ของกระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๙
112 ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
อา่ นคลอ่ ง เขยี นคล่อง
หมาก หมายถึง ผลของพืชชนดิ หน่ึง มรี สฝาด
ใชเ้ คี้ยวกนิ กับปนู พลู
เตา้ ปนู หมายถงึ ภาชนะทมี่ ีรปู คล้ายนา้ํ เตา้ ไวส้ ำ�หรบั ใส่ปนู
สุดยอดคู่มือครู 112
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
คอหยักหยักสักแต่ว่าคน Brain-based Learning
ผทู้ ี่ไม่มีความคิด ไมม่ คี วามรบั ผิดชอบ ๔. ให้นกั เรียนประเมนิ ผล
สมัยก่อนเวลาเขียนคำาว่า “คน” จะใช้ ฅ หัวหยัก แต่ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว การอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้
ลักษณะ “คอหยักหยัก” ของอักษรตัวน้ีใช้เพ่ือประชดผู้ท่ีสักแต่ว่ามีรูปร่างหน้าตา ของตนเองโดยใชเ้ กณฑ์
เป็นคน แต่ไม่มคี วามคดิ และความรบั ผดิ ชอบ การประเมนิ ท่รี ว่ มกนั กำ�หนด
๕. ใหน้ กั เรยี นเขยี นเสนอวธิ กี ารแกไ้ ข
ตวั อยา่ ง ข้อบกพรอ่ ง และแนวทาง
การพฒั นาคุณภาพการอา่ น
“ท�ำ อะไรกท็ �ำ ใหจ้ ริง ๆ จัง ๆ อย�่ ให้เข�ว�่ ไดว้ �่ คอหยกั หยกั สกั แตว่ ่าคน” ของตนเอง
จากหนงั สอื สาำ นวนไทย ของกระทรวงศกึ ษาธิการ พิมพ์เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๓
๑) ให้นกั เรียนประเมินผลการอ่านออกเสยี งของตนเอง
โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมินทรี่ ว่ มกนั กำาหนด (ตัวอย่างคำาตอบ)
๑) อ่านออกเสียงตามอักขรวิธีได้ดี
๒) การแบ่งวรรคตอนยังมีผิดพลาดบ้าง และยังขาดความมั่นใจ
๓) การใช้นำ้าเสียงยังต้องฝึกฝนอีกมาก เพราะอ่านด้วยนำ้าเสียงเดียวกันตลอด
๔) ความคล่องแคล่วในการอ่านพอใช้ได้
๒) นักเรียนมีวธิ กี ารพัฒนาคุณภาพการอ่านของตนเองอย่างไร
(ตัวอย่างคำาตอบ) ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วอย่างสมำ่าเสมอ
โดยเลือกเรื่องหรือข้อความที่ชอบเพื่อเป็นแรงจูงใจให้อยากอ่าน
อา่ นได้คล่อง...ตอ้ งรู้วธิ ี 113
113 สุดยอดคู่มือครู
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ตวั ช้ีวัด ประเมนิ ผลตัวชว้ี ดั
ท ๑.๑ ป. ๔/๒
ท ๑.๑ ป. ๔/๒ อธิบายความหมายของคำา ประโยค และสำานวนจากเรื่องที่อ่าน
Brain-based Learning ๗. ให้นักเรียนบอกความหมายของคำา ประโยค หรือสำานวนท่ีกำาหนด
โดยใช้ดนิ สอระบายลงใน หนา้ คาำ ตอบที่ถูกตอ้ งใหเ้ ต็มวง
๑. ใหน้ กั เรียนอ่านบทรอ้ ยแกว้ (๑๐ คะแนน)
ให้ถูกต้องทกุ คำ�
๒. ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกคำ�ที่ไม่รู้ ภาวะโลกร้อนที่มนุษย์กำาลังเผชิญอยู่ท่ัวโลกขณะนี้
ความหมาย เราทุกคนสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ หากทุกคนร่วมมือกัน
๓. ให้นกั เรยี นช่วยกันอธิบาย
ความหมายของค�ำ แลว้ ตรวจสอบ ช่วยกนั คนละไม้คนละมืออยา่ งจรงิ จงั
ความถูกตอ้ งจากพจนานกุ รม
๑) ภาวะ มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด
๑ ฐานะ ๒ เวลา ๓ สภาพ ๔ เหตุการณ์
๒) เผชิญ มคี วามหมายตรงกบั ข้อใด
๑ เชอื้ เชญิ ๒ เดือดรอ้ น ๓ ตอ่ สู้ ๔ ประสบ
๓) คนละไม้คนละมอื หมายความวา่ อยา่ งไร
๑ ขยนั ทำางาน ๒ ช่วยกันทำางาน
๓ ผลดั กันทำางาน ๔ แยง่ กันทาำ งาน
เกาะแกว้ พิสดารมพี ชื พันธ์ุธัญญาหารอดุ มสมบูรณ์
๔) ธญั ญาหาร มคี วามหมายวา่ อยา่ งไร
๑ ข้าว ๒ ผัก ๓ ผลไม้ ๔ ตน้ ไม้
๕) สมบรู ณ์ มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด
๑ ครบถว้ น ๒ มากมาย
๓ หลากหลาย ๔ อ้วนทว้ น
114 ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
อ่านคล่อง เขียนคลอ่ ง
ภาวะ หมายถึง ความม,ี ความเปน็ , ความปรากฏ
ประสบ หมายถงึ พบ, พบปะ, พบเหน็
สุดยอดคู่มือครู 114
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ในยคุ ข้าวยากหมากแพงเช่นน้ี ทกุ คนต้องรู้จกั ชว่ ยกนั
รดั เขม็ ขัดเพื่อความอยูร่ อดของประเทศ
๖) ยคุ ข้าวยากหมากแพง มีความหมายตรงกับขอ้ ใด
๑ ภาวะน้าำ ท่วม ๒ ภาวะสงคราม
๓ ภาวะแห้งแล้ง ๔ ภาวะขาดแคลนอาหาร
๗) รัดเขม็ ขัด หมายความว่าอย่างไร
๑ เกบ็ ออม ๒ แกไ้ ข ๓ ใช้จ่าย ๔ ประหยดั
อา่ นปริศนาคาำ ทาย แล้วหาคาำ ตอบ วิเคราะหค์ �ำตอบ
๘) อะไรเอย่ ตน้ เทา่ ขา ใบวาเดียว ๘) ๒ อ้อย
๑ กลว้ ย ๒ ออ้ ย ๓ มะพร้าว ๔ ตะไคร้ อะไรเอ่ย
ต้นเทา่ แขน ใบแลน่ เส้ียว
๙) อะไรเอ่ย เขียวชอ่มุ พมุ่ ไสว ไมม่ ใี บ มแี ตเ่ ม็ด ๓ มะพรา้ ว
๑ ฝน ๒ นำา้ แข็ง ๓ น้ำาค้าง ๔ ลกู เหบ็ อะไรเอ่ย
แกเ่ รยี กหา้ ว สาวเรยี กออ่ น
๑๐) อะไรเอย่ ยงิ่ ตดั ยิง่ ยาว ๔ ตะไคร้
๑ ผม ๒ เลบ็ ๓ ถนน ๔ หญ้า อะไรเอ่ย
ตน้ เท่าครก ใบปรกดิน
อา่ นได้คลอ่ ง...ต้องรูว้ ิธี 115
115 สุดยอดคู่มือครู
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
เรอื่ งท่ี ๒ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเป็นทาำ นองเสนาะ
ตวั ชีว้ ดั ะเมนิ ผลตัวช
ปร ว้ี ดั
ท ๑.๑ ป. ๔/๑
ท ๑.๑ ป. ๔/๘ ท ๑.๑ ป. ๔/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
ท ๑.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการอ่าน
Brain-based Learning
๑. ใหน้ กั เรยี นจับคู่ผลัดกันอ่านบทร้อยกรองคนละ ๑ แบบ โดยแบ่งจังหวะ
๑. ใหต้ วั แทนนักเรียน ๒ คน ตามเครื่องหมายที่กำาหนด และอ่านออกเสียงเป็นทำานองที่นักเรียน
ออกมาอ่านบทรอ้ ยกรอง คิดว่าไพเราะ แล้วให้เพื่อนประเมินการอ่าน (๑๐ คะแนน)
เรื่อง พระอภัยมณี
แบบท่ี ๑ และแบบท่ี ๒ แบบที่ ๑ แบบท่ี ๒
หนา้ ชนั้ เรยี น พระทรงศิลป์/ยนิ สดุ /สาครบอก พระทรง/ศลิ ปย์ นิ /สดุ สาครบอก
๒. ใหเ้ พอื่ นตรวจสอบการอา่ นออกเสยี ง นกึ ไม่ออก/อะไรกดั /หรอื มจั ฉา นึกไม่ออก/อะไร/กัดหรอื มจั ฉา
บทร้อยกรองของตัวแทนนักเรียน จึงเล็งญาณ/ฌานชดิ /ด้วยฤทธา จงึ เลง็ /ญาณฌานชดิ /ดว้ ยฤทธา
ทงั้ ๒ คน แล้วรว่ มกนั กร็ วู้ ่า/ม้ามงั กร/สมจรกัน ก็รู้ว่าม้า/มังกร/สมจรกัน
แสดงความคดิ เหน็ คร้นั ลูกม/ี ศีรษะ/มันเหมอื นพอ่ คร้ันลูกม/ี ศรี ษะมัน/เหมือนพอ่
ตวั ตีนต่อ/จะเหมอื นแม่/ชา่ งแปรผนั ตัวตนี /ต่อจะเหมือนแม่/ชา่ งแปรผนั
หางเปน็ นาค/มาข้างพอ่ /มนั ต่อพันธ์ุ หางเปน็ นาค/มาข้างพอ่ /มันต่อพนั ธ์ุ
พระนกั ธรรม/์ แจง้ กระจา่ ง/ดว้ ยทางฌาน พระนกั ธรรม์แจง้ /กระจา่ ง/ด้วยทางฌาน
(ตัวอย่างคำาตอบ)
๑) เพอื่ นได้อ่านบทรอ้ ยกรองแบบใด แบบที่ ๒
๒) เพอื่ นอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองได้ดหี รอื ไม่ ยังไม่ค่อยดี
๓) นกั เรียนพิจารณาจากอะไรบา้ ง อธบิ ายเป็นข้อ ๆ
๑) การอ่านคำาถูกต้อง
๒) การแบ่งจังหวะของบทร้อยกรองแต่ละวรรค
๓) ความคล่องแคล่วในการอ่าน
๔) ทำานองการอ่าน
116 ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 116
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกันกำาหนดเกณฑ์ที่จะใช้ประเมินการอ่านออกเสียง Brain-based Learning
บทร้อยกรอง (๑๐ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
ก ารคิดสังเคราะห ์ ๓. ให้นักเรียนทกุ คนอ่านบทรอ้ ยกรอง
แบบทถี่ ูกตอ้ งพร้อมกัน
๑) การออกเสียงตามอักขรวิธี ๔. ใหน้ กั เรียนร่วมกันก�ำ หนดเกณฑ์
การประเมินการอา่ นออกเสยี ง
๒) การแบ่งจังหวะของบทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรอง เช่น
• การออกเสียงตามอักขรวิธี
๓) ทำานองการอ่าน และการใช้นำ้าเสียงแสดงอารมณ์ • การแบง่ จงั หวะของบทรอ้ ยกรอง
• ทำ�นองการอ่าน และการใช้
๔) ความคล่องแคล่วในการอ่าน นา้ํ เสยี ง
• ความคล่องแคลว่ ในการอา่ น
๓. ใหน้ กั เรยี นพิจารณาการอ่านออกเสียงของตนเองจากข้อ ๑ ๕. ให้นักเรยี นพจิ ารณาข้อบกพร่อง
ว่ามีข้อบกพร่องในเรื่องใดบ้าง (๑๐ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ) ในการอ่านบทร้อยกรองของตนเอง
๖. ให้นกั เรียนอ่านบทร้อยกรอง
การใช้นำ้าเสียงแสดงอารมณ์ และความไพเราะของท่วงทำานอง เร่อื ง พระอภยั มณี อกี คร้งั
โดยปฏิบตั ทิ ีละขัน้ ตอน ดังน้ี
๔. ใหน้ ักเรียนอ่านบทร้อยกรองจากเรื่อง พระอภัยมณี อีกครั้ง • อ่านส�ำ รวจในใจ แลว้ บันทกึ
โดยปฏิบัติทีละขั้นตอน (๒๐ คะแนน) คำ�ที่นกั เรียนยงั อ่านไมไ่ ด้
๑) อ่านสำารวจในใจ แล้วบันทึกคำาที่นักเรียนยังอ่านไม่ได้ หรือไม่แน่ใจ หรอื ไมแ่ น่ใจว่าอ่านได้ถกู ตอ้ ง
วา่ จะอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง เพอ่ื ตรวจสอบคาำ อา่ นจากพจนานุกรม เพ่ือตรวจสอบคำ�อ่าน
จากพจนานุกรม
(ตัวอย่างคำาตอบ) มัจฉา ญาณ ฌาน ฤทธา สมจร พระนักธรรม์ • จับใจความจากบทร้อยกรอง
วา่ มีสาระสำ�คญั อะไร
๒) จบั ใจความจากบทรอ้ ยกรองว่ามสี าระสาำ คญั อะไร • ใชเ้ คร่ืองหมายแบ่งจังหวะ
การอ่าน
(ตัวอย่างคำาตอบ) พระฤๅษีฟังสุดสาครเล่า จึงเล็งญาณดูก็รู้ว่าสัตว์ที่กัด • ฝกึ อ่านเปน็ ท�ำ นองเสนาะ
สุดสาครนั้นเป็นลูกของม้าที่ผสมพันธุ์กับมังกร จึงมีหัวและหาง
เป็นมังกรเหมือนพ่อ ส่วนลำาตัวและขาเป็นม้าเหมือนแม่ 117 สุดยอดคู่มือครู
๓) พจิ ารณาประเภทของบทรอ้ ยกรองแล้วแบ่งจงั หวะการอ่าน
โดยเขยี นเคร่อื งหมายแบบท่ตี นเองเข้าใจลงในบทร้อยกรอง
แล้วฝึกอ่านออกเสยี งแบบไม่ใส่ทำานองใหค้ ลอ่ ง
อา่ นไดค้ ลอ่ ง...ต้องร้วู ิธี 117
อา่ นคลอ่ ง เขยี นคลอ่ ง
มจั ฉา (อ่านว่า มดั - ฉา) หมายถึง ปลา
ญาณ (อา่ นวา่ ยาน) หมายถึง ปัญญาหย่งั ร้หู รือกำ�หนดรู้ท่ีเกิดจาก
อำ�นาจสมาธิ
ฌาน (อา่ นวา่ ชาน) หมายถึง ภาวะท่จี ิตสงบแน่วแน่เนอ่ื งมาจาก
การเพง่ อารมณ์
ฤทธา (อา่ นว่า รดิ - ทา) หมายถงึ อ�ำ นาจศักดส์ิ ทิ ธ์ิ
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning พระทรงศลิ ปย์ ินสุดสาครบอก วิธ ด
นกึ ไม่ออกอะไรกัดหรอื มัจฉา
๗. ให้นกั เรียนสรปุ วธิ กี ารอา่ น จึงเลง็ ญาณฌานชิดดว้ ยฤทธา
ออกเสียงบทร้อยกรองลงใน ก็รู้ว่าม้ามงั กรสมจรกัน
แผนภาพความคดิ ครน้ั ลกู มศี รี ษะมันเหมอื นพ่อ
๘. ใหน้ ักเรียนประเมนิ ผล ตัวตนี ตอ่ จะเหมือนแม่ชา่ งแปรผนั
การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง หางเปน็ นาคมาขา้ งพอ่ มันต่อพนั ธุ์
ของตนเองโดยใช้เกณฑ์ พระนกั ธรรมแ์ จ้งกระจ่างดว้ ยทางฌาน
การประเมินที่ร่วมกันกำ�หนด
๔) ฝึกอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองเปน็ ทาำ นองเสนาะ
๕) การอา่ นทาำ นองเสนาะของนักเรียนดีขนึ้ กว่าครงั้ แรกหรือไม่
ดขี ้ึนในเรอ่ื งใดบา้ ง (ตัวอย่างคำาตอบ)
ดีขึ้นในเรื่องการออกเสียงคำายากได้ถูกต้อง เช่น ฤทธา พระนักธรรม์
ใช้นำ้าเสียงแสดงอารมณ์ได้ดีขึ้น
๕. การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองทดี่ มี วี ิธีการอา่ นอยา่ งไร
ใหน้ กั เรียนลองค้นควา้ แลว้ เขยี นลงในแผนภาพ (๑๐ คะแนน) คี ิดแบบขั้นบันไ
(ตัวอย่างคำาตอบ) ๕. ฝึกอ่านออกเสียงเป็นทำานองเสนาะ
๔. ฝึกอ่านออกเสียงแบบไม่ใส่ทำานองให้คล่อง
๓. พิจารณาประเภทของบทร้อยกรอง แล้วแบ่งจังหวะการอ่าน
๒. อ่านในใจอีกครั้งเพื่อจับใจความของบทร้อยกรอง การเข้าใจเนื้อความ
จะทำาให้แบ่งจังหวะได้ถูกต้อง และใช้นำ้าเสียงได้เหมาะสม
๑. อ่านสำารวจบทร้อยกรองในใจเพื่อหาคำายากที่ไม่แน่ใจคำาอ่าน
จะได้นำาไปตรวจสอบกับพจนานุกรม
118 ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 118
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๖. ให้นักเรียนอ่านบทร้อยกรองต่อไปนี้ให้ถูกต้องตามจังหวะการอ่าน อ่านหนังสอื เรยี น
โดยเขียนเครื่องหมายแบ่งจังหวะและอ่านเป็นทำานองเสนาะ
(๒๐ คะแนน) ให้นักเรยี นศึกษาความรู้
วิถีเด็กไทย เรื่อง การอ่านออกเสียง
เด็กเอ๋ยเด็กไทย ตั้งใจศึกษา ตามห อเพียง อ่านคล่อง บทรอ้ ยกรองเปน็ ท�ำ นองเสนาะ
ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพ จากหนงั สอื เรียน
หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย
ด้านวัฒนธรรม หน้า ๙๑-๙๓
เติบใหญ่ภายหน้า วิชาเลี้ยงตน ใบงาน อา่ นคล่อง เขียนคล่อง
แสงแห่งปัญญา มีค่ามากล้น
ส่องทางให้คน พ้นความลําเค็ญ กลอนส่ี ใชจ้ ังหวะการอา่ นเป็น ๒/๒
คิดดีทําดี ไม่มียากเข็ญ เหมือนกนั ทกุ วรรค
ชีวิตร่มเย็น เป็นสุขกายใจ
ขยันสรรค์สร้าง อยู่อย่างเป็นไทย กลอนสภุ าพ ใชจ้ งั หวะการอา่ นเป็น
รู้เก็บรู้ใช้ ทําในสิ่งดี ๓/๒/๓ หรือ ๓/๓/๓
ดํารงเอกลักษณ์ มีศักดิ์มีศรี ข้ึนอย่กู ับจ�ำ นวนค�ำ ในแต่ละวรรค
เสน่ห์ประเพณี มีอยู่คู่ไทย
ควรเห็นคุณค่า รักษาเอาไว้
มีความภูมิใจ ในชาติของเรา
มิ่งขวัญ กิตติวรรณกร
จาก บทอาขยานภาษาไทย ช่วงชั้นที่ ๑ - ช่วงชั้นที่ ๔
ของกระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๘
ชมทะเล
ครืน ครืน เสียงคลื่นกระทบฝั่ง นํ้ากระเซ็นเหมือนดั่งละอองฝน
ลมทะเลโชยชายล้อสายชล ทิวใบสนไกวแกว่งตามแรงลม
หาดทรายขาวราวปูด้วยปุยฝ้าย ฟองคลื่นคลุมผืนทรายคล้ายผ้าห่ม
เปลือกหอยสวยหลากสีที่ชวนชม ประดุจพรมปูลาดริมหาดทราย
นกนางนวลบินไปไกลลิบลิบ ขอบฟ้าขลิบทองงามเป็นความหมาย
ว่าชีวิตถ้าอดทนฝึกฝนกาย ในบั้นปลายย่อมเรืองรองดั่งทองงาม
จาก หนังสือเรียนภาษาไทย ชุดพื้นฐานภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เล่ม ๑
ของกระทรวงศึกษาธิการ
อา่ นได้คลอ่ ง...ตอ้ งรู้วธิ ี ๑๑๙
เอกลกั ษณ์ หมายถึง ลกั ษณะท่เี หมอื นกนั หรือมีร่วมกัน
ประเพณี หมายถึง สงิ่ ท่นี ิยมถอื ประพฤตปิ ฏิบตั สิ บื ๆ กันมาจนเป็น
แบบแผน ขนบธรรมเนียม หรือจารีตประเพณี
สายชล หมายถงึ สายนา้ํ
119 สุดยอดคู่มือครู
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
คิดให้รอบคอบ
เปน็ คนคิดแล้วจ่งึ เจรจา
อยา่ มลน* หลบั ตา แต่ได้
เลือกสรรหมั่นปญั ญา ตรองตรกึ
สตริ ิรอบให้ ถูกแล้วจึงทาำ ฯ
จาก โคลงโลกนิติ ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร
(*มลน อา่ นวา่ มะ-ลน หมายถึง รีบ)
อ่านคลอ่ ง เขียนคล่อง ๗. ใทหำาเ้นคักรเื่อรงยี หนมเาขยียแนบบ่งจทังกหลวอะนกทารี่ชออ่าบน ๓แล ้วบอท่า นจเาปก็นบททำาลนะอคงเรส นเราื่อะงให เ้ถงูกาะตป้อ่าง
กลอนบทละคร ลักษณะบงั คับของ (๑๐ คะแนน)
ค�ำ กลอน วรรคหนึ่งกำ�หนด ๖-๙ คำ� ตัวอย่าง
จงั หวะการอ่านจงึ ข้ึนอยู่กบั จ�ำ นวนค�ำ
ในแตล่ ะวรรค คือ ครั้นถึง/ซึ่งที่/มีบุปผา ดวงสุดา/ปรีดิ์เปรม/เกษมศรี
วรรคที่มี ๖ คำ� ใช้จังหวะ ๒/๒/๒ กรีดเล็บ/เก็บพวง/สุมาลี นารี/ขับเพลง/วังเวงใจ
วรรคท่มี ี ๗ ค�ำ ใชจ้ ังหวะ ๒/๒/๓
หรือ ๓/๒/๒ (ตัวอย่างคำาตอบ)
วรรคทม่ี ี ๘ ค�ำ ใช้จังหวะ ๓/๒/๓
วรรคที่มี ๙ คำ� ใชจ้ ังหวะ ๓/๓/๓ โอ้ว่า/ซมพลา/ของเมียเอ๋ย ไฉนเลย/มาสั่ง/ดังนี้ได้
พ่อเดาจิต/เมียผิด/เป็นพ้นไป ด้วยนึกว่า/วิสัย/เป็นนารี
คงกลัวตาย/หมายแต่/จะหาสุข ถึงยามทุกข์/เข้าสักหน่อย/ก็ถอยหนี
อันฝูงหญิง/จริงอยู่/ย่อมมากมี แต่ใจของ/น้องนี้/ไม่เหมือนกัน
พ่อตาย/ฤๅจะหมาย/มีผัวใหม่ ให้กินใจ/กันเป็นนิจ/คิดหวาดหวั่น
ว่าเคยสอง/คงปองสาม/ไม่ข้ามวัน รสรักนั้น/คงจะจาง/ด้วยหมางใจ
๘. ใหน้ กั เรยี นประเมินผลการอ่านทำานองเสนาะของตนเอง
โดยใช้เกณฑ์การประเมินที่ร่วมกันกำาหนด (๕ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
๑) อ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธีทุกคำา
๒) แบ่งจังหวะการอ่านได้ถูกต้อง
๓) ทำานองการอ่านถูกต้อง แต่ยังไม่ไพเราะและยังใช้นำ้าเสียงแสดงอารมณ์ได้ไม่ดี
๔) ความคล่องแคล่วในการอ่านพอใช้ได้ และมีความมั่นใจ
120 ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
บุปผา หมายถงึ ดอกไม้
สุดา หมายถงึ ลูกสาว
เกษม หมายถงึ ความสุขสบาย, ความปลอดภัย
นจิ หมายถึง เสมอไป, สมา่ํ เสมอ
สุดยอดคู่มือครู 120
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๙. นักเรียนมีวิธีการพัฒนาคุณภาพการอ่านทำานองเสนาะของตนเอง
อย่างไร (๕ คะแนน)
(ตัวอย่างคำาตอบ) ฝึกฝนอ่านอย่างสมำ่าเสมอโดยเลือกอ่านเรื่องที่ชอบ
เพื่อสร้างแรงจูงใจ
ะเมนิ ผลตัวช เรือ่ งที่ ๓ การแยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็
ท ๑.๑ ป. ๔/๔
ปรท ๑.๑ ป. ๔/๘ว้ี ดั แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ตัวชวี้ ัด
ท ๓.๑ ป. ๔/๑ มีมารยาทในการอ่าน
จำาแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู ท ๑.๑ ป. ๔/๔
ท ๑.๑ ป. ๔/๘
๑. ให้นกั เรยี นอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำาถาม (๑๐ คะแนน) ท ๓.๑ ป. ๔/๑
ยามเช้าตรู่พระอาทิตย์เพิ่งจะโผล่ขอบฟ้า ดอกพุดตานจะบานสะพรั่ง Brain-based Learning
เป็นสีขาวบริสุทธ์ิ ยามน้ีฉันมองเห็นว่ามันช่างสวยงามเสียจริง ๆ
เมื่อสายขึ้นดอกก็เริ่มขึ้นเป็นสีชมพูอ่อนปนอยู่กับสีขาว สวยเหมือน ๑. ใหน้ กั เรยี นอา่ นเรอ่ื ง ทอ้ งนาบา้ นเรา
ภาพวาดที่ระบายสีอย่างกลมกลืน ใกล้เท่ียงสีชมพูเข้มขึ้น ยามเท่ียงวัน ๒. ใหน้ กั เรยี นสงั เกตข้อความท่เี ป็น
พระอาทิตย์ตรงหัว มันเปลี่ยนเป็นสีชมพูทั้งดอก ไม่มีสีขาวอยู่เลย ข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็น
ใครที่พบเห็นดอกพุดตานยามน้ี แทบจะไม่เชื่อเลยว่าในเวลาเมื่อ และแยกให้ถกู ตอ้ ง
ไม่ก่ีช่ัวโมงท่ีผ่านมาน้ีดอกไม้ดอกนี้เป็นสีขาว จนกระท่ังล่วงเลยไปถึง
เวลาบ่าย สีชมพูจัดมากจนแทบเป็นสีแดง เวลาเย็นพระอาทิตย์ตกดิน
ดอกพดุ ตานก็หบุ ดอกมขี นาดเล็กลง แต่สีเกือบแดงทีเดยี ว
ดอกพุดตานจึงกลายเป็นนาฬิกาสาำ หรบั บา้ นเราอยา่ งดีไมน่ อ้ ย
ท้องนาบา้ นเรา ของ ส. พุ่มสุวรรณ
จาก สวิตา ฉบับท่ี ๕๘ มิถนุ ายน ๒๕๒๖
อ่านไดค้ ลอ่ ง...ต้องรูว้ ธิ ี 121
อา่ นคลอ่ ง เขยี นคลอ่ ง
สะพร่งั หมายถึง อาการทส่ี ง่ิ อยา่ งเดยี วกนั จ�ำ นวนมาก
ปรากฏพร้อม ๆ กนั
บริสทุ ธ์ิ หมายถึง แท,้ ไม่มีอะไรเจือปน
121 สุดยอดคู่มือครู
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning (ตัวอย่างคำาตอบ)
๓. ใหต้ ัวแทนนักเรียนออกมา ๑) ขอ้ มลู ใดเป็นความจริง เพราะเหตุใด
บอกขอ้ มลู ท่เี ป็นความจรงิ สีของดอกพุดตานที่เปลี่ยนไปในเวลาต่าง ๆ เพราะทุกคนสามารถ
๒ เร่ือง เห็นได้อย่างนั้นจริง
๔. ให้นักเรยี นร่วมกันแสดง ๒) ข้อมูลใดอาจไม่เป็นความจรงิ ก็ได ้ เพราะเหตุใด
ความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ความจรงิ ความรู้สึกของคนที่เห็นดอกพุดตาน เพราะแต่ละคนย่อมมีความคิด
ที่เพ่อื นออกมาพูด และความรู้สึกแตกต่างกัน
๕. ให้นกั เรยี นวเิ คราะห์ว่าความจรงิ
กับความคดิ เห็นแตกต่างกนั ๒. นกั เรยี นรู้ข้อมูลอะไรที่เป็นความจริงบ้าง บอกมา ๒ เรื่อง
อย่างไร พร้อมทงั้ บอกเหตุผล (๑๐ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
สนบั สนนุ ใหช้ ดั เจน
๑) นํ้าตกจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ตํ่า
๒) หนังสือต่าง ๆ มีข้อมูลอยู่ในนั้น
๓. นักเรียนมีความคิดเห็นอย่างไรกับความจริงดังกล่าว (๑๐ คะแนน)
(ตัวอย่างคำาตอบ)
๑) นํ้าตกที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ตํ่าเหมือนม่านบาง ๆ ที่พลิ้วไหว
ไปตามสายลม
๒) ข้อมูลในหนังสือต่าง ๆ มีทั้งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์
เราจึงควรเลือกอ่านหนังสือให้เหมาะสมกับตนเอง
๔. ความจรงิ กับความคดิ เหน็ แตกต่างกันอยา่ งไร (๕ คะแนน)
(ตัวอย่างคำาตอบ) ความจริงพิสูจน์ได้ มีหลักฐานชัดเจน ไม่มีข้อโต้แย้ง
ส่วนความคิดเห็นเป็นเพียงความคิดและความรู้สึกของคนใดคนหนึ่ง
ไม่สามารถนํามาใช้กับผู้อื่นได้
122 ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 122
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๕. ในชีวติ ประจาำ วันนกั เรยี นไดร้ บั ข้อมูลจากบคุ คลและสื่อใดบ้าง Brain-based Learning
(๕ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
๑) บุคคลทใ่ี ห้ข้อมลู เชน่ ครู พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ญาติ ๖. ให้นักเรียนส�ำ รวจวิธีการรับข้อมูล
คนรู้จัก จากสอื่ ในชีวิตประจ�ำ วนั
๒) สื่อทใ่ี ห้ขอ้ มูล เชน่ โทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต หนังสือพิมพ์
นิตยสาร ของนักเรยี น
๗. ใหน้ กั เรยี นตอบคำ�ถามว่า
๖. นกั เรียนทราบได้อยา่ งไรวา่ ข้อมูลท่ไี ด้รับขอ้ มูลใดเปน็ ความจริง นกั เรียนทราบได้อย่างไรว่าข้อมูล
ข้อมลู ใดเปน็ ความคิดเห็น (๑๐ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ) ที่ไดร้ ับเปน็ ความจริง
หรือความคดิ เห็น
พิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับ หากข้อมูลมีลักษณะที่เป็นจริงตามธรรมชาติ ๘. ให้นกั เรียนรว่ มกันสรปุ แนวทาง
สามารถตรวจสอบได้ เป็นเรื่องราวที่ได้รับการพิสูจน์แล้วคือความจริง การจำ�แนกขอ้ เท็จจริงกับ
แต่หากเป็นข้อมูลที่มีความรู้สึกส่วนตัวของผู้ส่งสารจะเป็นความคิดเห็น ข้อคิดเหน็ โดยครใู ห้คำ�แนะน�ำ
และอธบิ ายความรู้เพิม่ เตมิ
๗. ใหน้ กั เรียนแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากข้อความ
ที่กำาหนด (๒๐ คะแนน) อา่ นหนงั สือเรียน
การคิดวิเคราะห ์ ใบงาน
ให้นกั เรยี นศึกษาความรู้ เรอื่ ง
แก้วจอมแก่น แก้วจอมซน และขบวนการนกกางเขน เป็นบทพระราชนิพนธ์ใน การแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็
จากหนังสือเรยี น
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นหนังสือท่ีมีคุณค่าย่ิงสําหรับ หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย
หนา้ ๙๔-๙๕
เยาวชนไทย อ่านได้ทุกเพศทุกวัย กล่าวคือ เด็กอ่านได้ความรู้ ผู้ใหญ่อ่านได้สาระ
เน่ืองจากพระองค์ทรงคํานึงถึงวัยธรรมชาต ิ ความสนใจและความต้องการของผู้อ่าน
ทรงนําเร่ืองยากมาทําให้เป็นเรื่องง่าย ทรงใช้ถ้อยคําท่ีผู้อ่านคุ้นเคยเป็นภาษาพูด
ที่เขา้ ใจง่าย เป็นประโยคสนั้ ๆ กะทดั รดั แต่ได้ใจความลึกซงึ้ เน้อื เรอื่ งแบ่งเปน็ ตอน ๆ
ให้ทั้งสาระและความบันเทิง ทรงนําเรื่องท่ีผู้อ่านไม่เคยทราบมาก่อนขยายให้
ความรูท้ นี่ ่าสนใจ สอดแทรกดว้ ยบทสนทนาทาํ ใหเ้ รือ่ งนา่ อ่าน เบาสมอง
แฝงมุกตลกในตอนจบทีบ่ างครงั้ ผูอ้ า่ นคาดไม่ถึง จึงเป็นเสน่หท์ ช่ี วนเพลิดเพลนิ
น่าตดิ ตาม
จากคอลัมน ์ สวนหนงั สอื
หนังสือพิมพ ์ เดลินวิ ส์ ฉบบั วนั อาทติ ยท์ ่ ี ๑๖ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๑
อ่านไดค้ ลอ่ ง...ต้องรูว้ ิธี 123
Brain-based Learning 123 สุดยอดคู่มือครู
๑. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนหาขา่ ว บทความ บทโฆษณา บทโนม้ นา้ วใจ
ค�ำ อธิบาย ความรใู้ นบทเรียนกลุ่มสาระการเรยี นรตู้ ่าง ๆ
หรือเรือ่ งเล่า น�ำ มาแลกกันอ่านหรอื ผลดั กนั เลา่
๒. ให้นกั เรียนวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเรอ่ื ง
๓. ให้นกั เรยี นท�ำ ใบงานด้วยตนเองเป็นรายบุคคล เพื่อประเมนิ ผล
ตามตัวชวี้ ดั
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น
๑ ) แก้วจอมแก่น แก้วจอมซนและ ๑ ) หนังสือที่มีคุณค่ายิ่งสําหรับ
ขบวนการนกกางเขน เป็นบทพระราช- เยาวชนไทย อ่านได้ทุกเพศทุกวัย
นิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ กล่าวคือ เด็กอ่านได้ความรู้
สยามบรมราชกุมารี ผู้ใหญ่อ่านได้สาระ
๒ ) เนื้อเรื่องแบ่งเป็นตอน ๆ ๒ ) เรื่องน่าอ่านเบาสมอง แฝงมุกตลก
ใช้ภาษาพูดเป็นประโยคสั้น ๆ ในตอนจบ ที่บางครั้งผู้อ่านคาดไม่ถึง
สอดแทรกด้วยบทสนทนา จึงเป็นเสน่ห์ที่ชวนเพลิดเพลิน
ตวั ชวี้ ดั น่าติดตาม
ท ๑.๑ ป. ๔/๘ ๘. นักเรยี นมีหลักในการแยกขอ้ เท็จจริงกบั ข้อคิดเห็นอยา่ งไร ารคิดสังเคราะห
เขยี นสรปุ เป็นประโยค (๑๐ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
อ่านหนงั สือเรียน
ข้อเท็จจริงมีหลักฐานพิสูจน์ได้จริง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาความรู้ เร่อื ง ก
มารยาทในการอา่ น จากหนังสือเรียน ว้ี ดั
หลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ปร
หน้า ๙๖ ์
ข้อคิดเห็นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ไม่สามารถนําของใครมาเป็นมาตรฐานได้
Brain-based Learning
เร่ืองที่ ๔ มารยาทในการอ่าน
๑. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษามารยาทในการอา่ น
ที่ควรปฏิบตั ิ ะเมนิ ผลตัวช
๒. ใหน้ กั เรยี น ๓-๕ คน ออกมา
สาธิตมารยาทในการอ่านทด่ี ี มีมารยาทในการอ่าน
หน้าช้นั เรียน
๓. ใหน้ กั เรยี นทกุ คนชว่ ยกนั เสนอแนะ ท ๑.๑ ป. ๔/๘
การกระท�ำ ทีแ่ สดงถงึ การมี
มารยาทในการอ่านเพิ่มเตมิ ให้นกั เรียนบอกมารยาทในการอ่านหนังสือที่คิดว่าสำาคัญที่สุด
๔. ให้นกั เรยี นทำ�ใบงานดว้ ยตนเอง ๔ ข้อ (๑๐ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
เปน็ รายบุคคล เพอ่ื ประเมนิ ผล
ตามตวั ชวี้ ดั ๑. อ่านหนังสืออย่างตั้งใจ มีสมาธิ ใบงาน
สุดยอดคู่มือครู 124 ๒. รู้จักอ่านสิ่งที่ตรงตามความต้องการ และเป็นประโยชน์ในการนําไปใช้
๓. อ่านหนังสือให้ถูกต้องตามกาลเทศะ
๔. ใช้หนังสือด้วยความระมัดระวัง ทะนุถนอม
124 ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
แบบทดสอบวดั ผลการเร
ยี นรู้ ให้นักเรียนทำ�แบบทดสอบ
ด้วยตนเองเม่ือจบการเรียนรู้
แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด เพื่อทบทวนความรู้และทักษะ
ตามตัวชี้วดั
ตามตัวชี้วัด
วเิ คราะห์คำ� ตอบ
ตวั ชว้ี ดั อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ตอ้ ง (ท ๑.๑ ป. ๔/๑) ได้ คะแนน
อธิบายความหมายของคํา ประโยค และสาํ นวนจากเรื่องท่อี า่ น (ท ๑.๑ ป. ๔/๒) คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ๑. ๓ ม้านิลมังกรเป็นสตั วล์ กู ผสม/
แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรอื่ งทอี่ า่ น (ท ๑.๑ ป. ๔/๔) พอ่ เปน็ มงั กร/แมเ่ ป็นม้า
มีมารยาทในการอ่าน (ท ๑.๑ ป. ๔/๘) เพราะเป็นการแบ่งวรรคตอน
จาํ แนกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเร่อื งที่ฟังและด ู (ท ๓.๑ ป. ๔/๑) ทท่ี ำ�ให้ประโยคมใี จความ
ถูกตอ้ ง สมบรู ณ์
ให้นักเรียนใช้ดินสอระบายลงใน หน้าคำาตอบที่ถูกต้องให้เต็มวง
๑. ข้อใดอ่านเว้นวรรคตอนไดถ้ ูกตอ้ ง
๑ ม้านิล/มงั กรเปน็ สัตว์ลกู ผสม/พ่อเป็นมังกร/แมเ่ ปน็ มา้
๒ มา้ นิลมังกรเปน็ สัตว์/ลกู ผสมพอ่ เป็นมงั กรแม่เปน็ มา้
๓ ม้านิลมังกรเป็นสัตว์ลูกผสม/พ่อเป็นมงั กร/แมเ่ ป็นมา้
๔ ม้านิลมงั กรเปน็ สตั ว์ลูกผสมพ่อ/เป็นมังกรแม่เป็นม้า
ข้อ ๒-๓ ขอ้ ใดแบ่งจังหวะการอา่ นบทร้อยกรองทีก่ ำาหนดให้ไดถ้ กู ต้อง
๒. ๑ ไทย/รกั เพ่ือนบ้าน// ไม่/รานรกุ ใคร//
ประ/สบภัยใด// หว่ ง/ใยช่วยเหลือ
๒ ไทยรกั /เพ่ือนบา้ น// ไมร่ าน/รุกใคร//
ประสบ/ภัยใด// ห่วงใย/ช่วยเหลือ
๓ ไทยรักเพ่ือน/บ้าน// ไม่รานรุก/ใคร//
ประสบภัย/ใด// ห่วงใยชว่ ย/เหลือ
๔ ไทยรักเพือ่ นบ้าน// ไมร่ านรกุ ใคร//
ประสบภยั ใด// หว่ งใยช่วยเหลือ
๓. ๑ แล้วสอนว่า/อย่าไว/้ ใจมนษุ ย/์ / มันแสนสดุ /ลกึ ลาํ้ /เหลอื กําหนด
๒ แลว้ สอน/ว่าอย่า/ไวใ้ จมนุษย์// มันแสน/สุดลึก/ล้าํ เหลอื กาํ หนด
๓ แลว้ สอนวา่ /อย่าไว้/ใจมนษุ ย์// มันแสน/สดุ ลกึ ล้ํา/เหลอื กาํ หนด
๔ แล้วสอนว่าอย่าไว้/ใจมนุษย/์ / มนั แสนสุดลกึ ลา้ํ /เหลือกาํ หนด
อ่านไดค้ ลอ่ ง...ต้องรูว้ ธิ ี 125
๒. ๒ ไทยรัก/เพ่อื นบ้าน// ไมร่ าน/รุกใคร//
ประสบ/ภยั ใด// ห่วงใย/ชว่ ยเหลอื
เพราะเป็นกลอนส ่ี มีจังหวะการอา่ น คือ ๒/๒
๓. ๑ แลว้ สอนว่า/อย่าไว/้ ใจมนุษย์// มนั แสนสดุ /ลกึ ลํ้า/เหลือกำ�หนด
เพราะเปน็ กลอนสภุ าพ มจี งั หวะการอ่าน คอื ๓/๒/๓ และขน้ึ อยกู่ บั
ความหมายของค�ำ
125 สุดยอดคู่มือครู
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
วิเคราะห์ค�ำตอบ ๔. สาํ นวน “รจู้ ักเก็บรู้จกั งาํ ” มีความหมายตรงกับข้อใด
๕. ๓ นา้ํ ขน้ึ ให้รีบตกั ๑ ร้จู กั สะสมข้าวของ ๒ ร้จู ักหาของทีห่ าย
๑ นํา้ ซึมบอ่ ทราย
คอื มรี ายไดม้ าเรอื่ ย ๆ ๓ รู้จักจดั ของให้เปน็ ระเบียบ ๔ รูจ้ กั เกบ็ รกั ษาข้าวของ
๒ นํา้ น่งิ ไหลลึก
คือ คนทมี่ ีทา่ หงมิ ๆ ๕. “มีโอกาสดีควรรีบทํา” ตรงกับสาํ นวนใด
มกั จะมคี วามคดิ ลึกซง้ึ
๔ นา้ํ เชย่ี วอย่าขวางเรือ ๑ นํ้าซมึ บ่อทราย ๒ นาํ้ น่ิงไหลลึก
คอื อยา่ ขวางผทู้ มี่ อี �ำ นาจหรอื
ผูท้ กี่ ำ�ลังโกรธจดั ๓ นํา้ ขน้ึ ใหร้ ีบตกั ๔ นํ้าเชยี่ วอย่าขวางเรือ
๑๐. ๓ ดอกพุดตานเปลย่ี นสีได้
ภายในวันเดียว เปน็ ข้อเท็จจรงิ ๖. “ทกุ คนช่วยกนั เตรียมสัมภาระในการเดนิ ทาง”
เพราะเป็นธรรมชาตขิ อง สมั ภาระ มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด
ดอกพุดตานทีส่ ามารถ ๑ เสื้อผา้ ๒ อาหาร ๓ พาหนะ ๔ ส่ิงของตา่ ง ๆ
พิสูจน์ได้
๗. “เลขเปน็ โทโบราณท่านสัง่ สอน เรง่ สงั วรเวย่ี ไวใ้ ช่วา่ เล่น”
เวีย่ มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด
๑ ฟงั ๒ ด ู ๓ จาํ ๔ ทาํ
ขอ้ ๘-๙ บอกคำาตอบของปริศนาคำาทาย
๘. อะไรเอย่ สงู เทยี มฟา้ ดไู ปดูมา ต่ํากวา่ หญ้านิดเดียว
๑ เมฆ ๒ ภเู ขา ๓ ตน้ ไม ้ ๔ เสาไฟฟา้
๙. อะไรเอย่ ส่ีคนหาม สามคนแห่ สองคนพดั คนหน่ึงปดั แส้
๑ ชา้ ง ๒ ม้า ๓ วัว ๔ ควาย
๑ ๐. ข้อใดเปน็ ขอ้ เท็จจรงิ
๑ ดอกพดุ ตานเปน็ ดอกไม้ทีส่ วยและแปลก
๒ ดอกพุดตานเปรียบเสมอื นนาฬกิ าดอกไม้
๓ ดอกพดุ ตานเปลยี่ นสีไดภ้ ายในวนั เดยี ว
๔ ดอกพุดตานคล้ายกบั อายุของคนในวัยต่าง ๆ
126 ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 126
แบบประเมินผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การอ่าน
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียน
มาตรฐานการเรียนรู้ แบบฝึกหัด คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้
และตัวชี้วัด
เรือ่ งท่ี ๑
๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ แบบฝึกหัดขอ้ ๑ ๑๐
และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ต้อง แบบฝึกหัดข้อ ๒ ๑๐
(ท ๑.๑ ป. ๔/๑) แบบฝกึ หัดข้อ ๓ ๑๐
๒. มมี ารยาทในการอ่าน แบบฝกึ หดั ขอ้ ๔ ๒๐
(ท ๑.๑ ป. ๔/๘) แบบฝึกหดั ข้อ ๕ ๑๐
แบบฝึกหดั ข้อ ๖ ๓๐
๓. อธิบายความหมายของคาํ ประโยค แบบฝกึ หัดข้อ ๗ ๑๐
และสาํ นวนจากเรือ่ งทอ่ี า่ น
(ท ๑.๑ ป. ๔/๒)
รวม ๑๐๐
เร่อื งที่ ๒ แบบฝกึ หดั ขอ้ ๑ ๑๐
๑. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว แบบฝกึ หัดข้อ ๒ ๑๐
และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง แบบฝกึ หดั ขอ้ ๓ ๑๐
(ท ๑.๑ ป. ๔/๑) แบบฝึกหดั ข้อ ๔ ๒๐
๒. มมี ารยาทในการอา่ น แบบฝึกหดั ข้อ ๕ ๑๐
(ท ๑.๑ ป. ๔/๘) แบบฝึกหัดข้อ ๖ ๒๐
แบบฝึกหัดข้อ ๗ ๑๐
แบบฝกึ หดั ข้อ ๘ ๕
แบบฝึกหัดขอ้ ๙ ๕
รวม ๑๐๐
เรอ่ื งที่ ๓ แบบฝึกหัดข้อ ๑ ๑๐
๑. แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ แบบฝกึ หดั ข้อ ๒ ๑๐
จากเรือ่ งทอี่ า่ น แบบฝกึ หดั ข้อ ๓ ๑๐
(ท ๑.๑ ป. ๔/๔) แบบฝึกหัดขอ้ ๔ ๕
๒. มีมารยาทในการอ่าน แบบฝึกหัดข้อ ๕ ๕
(ท ๑.๑ ป. ๔/๘) แบบฝกึ หดั ขอ้ ๖ ๑๐
๓. จําแนกขอ้ เทจ็ จริงและ แบบฝกึ หดั ข้อ ๗ ๒๐
ข้อคดิ เห็นจากเร่อื งท่ีฟงั แบบฝกึ หดั ข้อ ๘ ๑๐
และด ู (ท ๓.๑ ป. ๔/๑)
อา่ นได้คล่อง...ต้องร้วู ิธี 127
127 สุดยอดคู่มือครู
มาตรฐานการเรียนรู้ อ่านคล่อง เขียนคแลบ่อบงฝึกหัดวิเคราะห์ค�ำตอบผคละสแัมBนฤraนทinเธต-ิ์กb็มาaรseเรdียLนคeขaะอrแnงนiนnนgักทเรี่ไียดน้
ตัวชี้วัด แอล่าะนตหัวนชังสี้วือัดเรียน
เรื่องท่ี ๔ ๑๐
มมี ารยาทในการอ่าน แบบฝกึ หดั
(ท ๑.๑ ป. ๔/๘)
แบบทดสอบวัดผลการเรยี นร ู้
ตามตัวชี้วดั ๑๐
รวม ๑๐๐
เกณฑ์การประเมินผล ผลการประเมินนักเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๗
ระดับคะแนน ระดับผลการเรียน คุณภาพ เรื่องที่ ๑ เรื่องที่ ๒ เรื่องที่ ๓-๔
๘๐ - ๑๐๐ ๔ ดีเยี่ยม
๗๕ - ๗๙ ๓.๕ ดีมาก
๗๐ - ๗๔ ๓ ดี
๖๕ - ๖๙ ๒.๕
๖๐ - ๖๔ ๒ ค่อนข้างดี
ปานกลาง
๕๕ - ๕๙ ๑.๕ พอใช้
๕๐ - ๕๔ ๑
๐ - ๔๙ ๐ ผ่านเกณฑ์ขั้นตํ่า
ตํ่ากว่าเกณฑ์
เกณฑ์การประเมินผลโดยรวม ๓๐๐ คะแนน สรุปผลการประเมินนักเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๗
ระดับคะแนน ระดับผลการเรียน คุณภาพ รวมทั้งหมด คะแนน
๒๔๐ - ๓๐๐ ๔ ดีเยี่ยม
๒๒๕ - ๒๓๙ ๓.๕ ดีมาก
๒๑๐ - ๒๒๔ ๓ ดี
๑๙๕ - ๒๐๙
๑๘๐ - ๑๙๔ ๒.๕ ค่อนข้างดี
๒ ปานกลาง
๑๖๕ - ๑๗๙ ๑.๕ พอใช้
๑๕๐ - ๑๖๔ ๑
๐ - ๑๔๙ ๐ ผ่านเกณฑ์ขั้นตํ่า
ตํ่ากว่าเกณฑ์
ลงชื่อ ผู้ประเมิน
วันที่ เดือน พ.ศ.
128 ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 128
ห ่นว ยการเรียนรู้ การเขียน
เร่ือง
ตวั ช้วี ดั เด็ก ๆ รู้หรอื ไม่
คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั และคร่งึ บรรทดั ตัวอักษรไทยส่วนใหญ่เป็นตัวอักษรท่ีมีหัว การเขียนตัวอักษร
(ท ๒.๑ ป. ๔/๑) ท่ีมีหัวจะเริ่มเขียนจากหัวตวั อักษรก่อนเสมอ
เขียนสื่อสารโดยใชค้ าำ ไดถ้ กู ตอ้ ง ชัดเจน การเขยี นคำาแนะนาำ เปน็ ขอ้ ๆ จะทาำ ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจงา่ ย
และเหมาะสม (ท ๒.๑ ป. ๔/๒) แผนภาพโครงเรอื่ งหรือแผนภาพความคดิ จะช่วยจัดความคิด
เขียนแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคิด ของเราใหช้ ดั เจนและเปน็ ระบบ เมอ่ื นาำ มาใชใ้ นงานเขยี นจะทาำ ให้
เพอ่ื ใชพ้ ัฒนางานเขียน (ท ๒.๑ ป. ๔/๓) เขยี นไดต้ รงประเด็น มรี ายละเอยี ดครบถว้ นและเป็นลาำ ดบั
เขียนย่อความจากเร่อื งส้นั ๆ (ท ๒.๑ ป. ๔/๔) การเขยี นย่อความต้องใช้พื้นฐานในการอา่ นจับใจความ
เขียนจดหมายถงึ เพ่ือนและบิดามารดา การสรปุ ความ และการเขียนสือ่ สาร
(ท ๒.๑ ป. ๔/๕) การเขียนจดหมายเป็นการเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านตัวหนังสือ
เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า การเลือกใช้คำาข้ึนตน้ คาำ ลงท้าย และคาำ สรรพนามได้เหมาะสม
(ท ๒.๑ ป. ๔/๖) แสดงถึงการมมี ารยาทและวฒั นธรรมในการเขียน
เขยี นเรอื่ งตามจนิ ตนาการ (ท ๒.๑ ป. ๔/๗) การบันทึกจากการศึกษาค้นคว้าช่วยยำ้าเตือนความจำา และ
มมี ารยาทในการเขียน (ท ๒.๑ ป. ๔/๘) สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ใชป้ ระกอบการศกึ ษาตอ่ ไปได้
การเขียนรายงานเป็นการนำาข้อมูลความรู้ที่ได้จากการศึกษา
ค้นคว้ามาเขียนเผยแพร่ให้ผู้อื่นทราบ ดังน้ัน การแลกเปล่ียน
รายงานกันศึกษา จะทำาให้การทำารายงานน้ันเกิดประโยชน์
มากย่งิ ขึน้
การเขียนเรือ่ งตามจินตนาการเปน็ การเขียนอยา่ งอสิ ระ
เพ่อื ฝึกทักษะการเขยี นให้มีประสทิ ธภิ าพ
แผนผงั สาระการเรยี นรู้
มารยาทในการเขียน การคัดลายมือ
การเขียนเรื่อง
ตามจินตนาการ การเขียนสื่อสาร
การเขียนรายงาน การเขียน การนำาแผนภาพโครงเรื่อง
การเขียนบันทึก และแผนภาพความคิด
ไปพัฒนางานเขียน
จากการศึกษาค้นคว้า
การเขียนย่อความ
การเขียนจดหมาย
ถึงเพื่อนและบิดามารดา
129 สุดยอดคู่มือครู
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ตวั ชวี้ ัด ห ่นวย๑๘การเรยี นรู้ที่ เขียนชาำ นาญ...งานสรา้ งสรรค์
ท ๒.๑ ป. ๔/๑ ะเมนิ ผลตัวช เร่ืองที่ ๑ การคดั ลายมือ
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ ปร ว้ี ดั
อ่านหนงั สือเรยี น ท ๒.๑ ป. ๔/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการเขียน
ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้ เรอื่ ง
การคัดลายมือ จากหนังสอื เรยี น ใหน้ ักเรยี นคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด (๕ คะแนน) เขียนคล่อง ใบงาน
หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย
หนา้ ๙๘-๙๙ ฉนั นั้นไม่สวย ไมร่ วยไม่เก๋
แถมยังไม่เท่ เสน่หท์ ี่จรงิ ใจ
Brain-based Learning ให้นักเรยี นคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด (๕ คะแนน)
๑. ใหต้ วั แทนนกั เรียน ๒ คน หนังสือเปน็ ตรีวิชาปญั ญาเลิศ เรยี นไปเถดิ รไู้ วไ้ ม่ไร้ผล
ออกมาเขยี นช่อื ของตนเอง
บนกระดาน จากน้ันให้เพ่ือน ยามยากแสนแค้นคับไม่อับจน ไดเ้ ลีย้ งตนด้วยวชิ าหาทรพั ย์ทวี
ร่วมกันประเมินว่าลายมือของใคร
130 ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
อ่านง่าย
๒. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั
วิธกี ารเขียนตวั อกั ษร
๓. ครูเลือกตัวแทนนักเรียนออกมา
เขียนตัวพยญั ชนะทีต่ นเองชอบ
แลว้ ให้เพ่อื นประเมินวา่
ใครเขียนสวยและถูกต้อง
๔. ให้นักเรียนทำ�ใบงานด้วยตนเอง
เปน็ รายบุคคล เพอ่ื ประเมนิ ผล
ตามตัวชีว้ ดั
สุดยอดคู่มือครู 130
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ะเมนิ ผลตัวช เรื่องที่ ๒ การเขยี นส่ือสาร ตวั ช้วี ัด
ก
ว้ี ดั ท ๒.๑ ป. ๔/๒
ปร ท ๒.๑ ป. ๔/๘
์
เขียนสื่อสารโดยใช้คำาได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม อ่านหนงั สอื เรียน
มีมารยาทในการเขียน ใหน้ กั เรียนศกึ ษาความรู้ เร่อื ง
ท ๒.๑ ป. ๔/๒ การเขียนส่อื สาร จากหนงั สือเรยี น
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย
หน้า ๙๙-๑๐๐
นกั เรยี นมีความรู้หรือประสบการณ์ในเรื่องใด เขียนคล่อง ารคิดสังเคราะห
ที่อยากแนะนำาเพื่อน เขียนคำาแนะนำานั้น Brain-based Learning
แล้วนำาไปให้เพื่อน ๆ อ่าน (๑๐ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ) ๑. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ เป็น ๔ กลมุ่
ชิ้นงาน แต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาจบั ฉลาก
เพอ่ื เขียนสอ่ื สาร ดังน้ี
คำาแนะนำาเรื่อง การชงนมผง กลุ่มที่ ๑ แนะนำ�การซือ้ อาหาร
กลมุ่ ที่ ๒ แนะน�ำ การใช้ห้องสว้ ม
การชงนมผงจะต้องใช้นำ้าที่อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป มิฉะนั้น นมจะเป็นเม็ด กลุม่ ท่ี ๓ เชญิ ชวนรักษาความ
ไม่น่ารับประทาน ดังนั้น ควรปฏิบัติดังนี้
สะอาดในห้องเรยี น
๑. เทนำ้าเดือดลงในแก้ว กลุ่มท ่ี ๔ เชญิ ชวนรักษาระเบียบ
๒. นำานำ้าต้มที่อุณหภูมิเย็นลงแล้วผสมพอประมาณ เพื่อให้นำ้าเดือดนั้น การแตง่ กายนักเรียน
กลายเป็นนำ้าอุ่น ๒. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มเขียนสอื่ สาร
๓. ใส่นมผงลงไป แล้วคนจนละลาย ใหต้ รงตามหวั ข้อทจ่ี ับฉลากได้
เพียงเท่านี้ก็จะได้นมชงอุ่น ๆ ที่แสนอร่อย ๓. ใหต้ ัวแทนกล่มุ ออกมานำ�เสนอผลงาน
หน้าชนั้ เรียน ครูและเพ่อื นฟงั
ะเมนิ ผลตัวช เรือ่ งที่ ๓ การนาำ แผนภาพโครงเรือ่ งและ หาขอ้ บกพรอ่ งเพื่อแกไ้ ขปรับปรงุ
แผนภาพความคิดไปพัฒนางานเขยี น ให้ถูกต้อง
ก
ว้ี ดั 131 สุดยอดคู่มือครู
ปร
์
เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน
มีมารยาทในการเขียน
ท ๒.๑ ป. ๔/๓
ท ๒.๑ ป. ๔/๘
ให้นักเรียนเขียนแผนภาพโครงเรื่องหรือแผนภาพความคิดจากหัวข้อ
ทก่ี ำาหนด หรอื ตามความสนใจ ๑ เรอื่ ง แลว้ นำามาเขยี นเร่อื ง ความยาวประมาณ
๖-๘ บรรทัด จากนน้ั ใช้กระบวนการเขยี น
พัฒนางานเขียนให้สมบูรณ์ (๑๐ คะแนน)
ารคิดสังเคราะห เขียนคล่อง ชิ้นงาน
อนาคตของฉัน
นิทาน เรื่อง
เขียนชำานาญ...งานสรา้ งสรรค์ 131
ตัวช้ีวดั
ท ๒.๑ ป. ๔/๓
ท ๒.๑ ป. ๔/๘
อ่านหนังสือเรียน
ให้นกั เรียนศึกษาความรเู้ รอ่ื ง การนำ�แผนภาพโครงเรือ่ ง
และแผนภาพความคิดไปพัฒนางานเขียน จากหนังสือเรยี น
หลักภาษาและการใช้ภาษาไทย หน้า ๑๐๑-๑๐๓
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning (ตัวอย่างคำาตอบ)
๑. ครตู ิดนิทาน เรอื่ ง ราชสีหก์ ับหนู แผนภาพ ความคิด
บนกระดาน
ทำากิจกรรม รับประทาน พลังใจ
นิทาน เรอื่ ง ราชสีหก์ บั หนู ร่วมกัน อาหารร่วมกัน
ราชสหี น์ อนหลบั อยใู่ ตต้ น้ ไม้ หนไู มท่ นั
สังเกตคิดว่าเป็นท่อนไม้ หนูไต่ข้ึนไป การสร้างความรัก จพากลคังรแอหบ่งครักรัว พลังจาก
บนจมูก ราชสีห์ต่ืนข้ึนด้วยความโกรธ ในครอบครัว สายใยรัก
มันตะปบหนูไว้ในอุ้งเล็บ ต้ังใจจะฆ่า พลังกาย พลังปัญญา
ให้ตาย หนูอ้อนวอนขอชีวิตและสัญญา พูดคุย ช่วยเหลือ เห็นใจ
วา่ จะตอบแทนบญุ คณุ ในภายหลงั ราชสหี ์ ปรึกษากัน ให้อภัย
เห็นหนูกลัวมากจึงปลอ่ ยไป
ต่อมาราชสีห์หลงป่าไปติดตาข่ายท่ี เรื่อง พลังแห่งรักจากครอบครัว
นายพรานดักไว้ จึงส่งเสียงร้องล่ันป่า
หนจู �ำ เสยี งราชสหี ไ์ ดจ้ งึ รบี วง่ิ มากดั ตาขา่ ย ครอบครัวเป็นบ่อเกิดของความรักและความดีทั้งปวง ที่ปลูกฝังอยู่กับสมาชิก
จนราชสีห์หลุดออกมาได้ ราชสีห์ขอบใจ ในครอบครัวทุกคน และจะนำาออกไปสู่สังคม
หนู ราชสีห์คิดในใจว่า “ผู้มีความกรุณา
ปรานียอ่ มมผี ู้ระลกึ ถงึ อยเู่ สมอ และสัตว์ ความรักในครอบครัวสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยการรับประทานอาหารร่วมกัน ทำากิจกรรม
ทุกตัวย่อมมีชีวิตเสมอกัน สัตว์ทุกตัว ต่าง ๆ ร่วมกัน พูดคุยปรึกษาหารือกัน รู้จักช่วยเหลือ เห็นใจ และให้อภัยกัน ความรัก
ควรท�ำ หนา้ ทใ่ี หด้ ีทส่ี ดุ ตามกำ�ลังของตน” ในครอบครัวจะสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ คือพลังใจที่เข้มแข็งไม่หวั่นไหวต่อความชั่ว พลังกาย
ที่จะทำาความดีอย่างไม่ย่อท้อ และพลังปัญญาที่จะแสวงหาแนวทางพัฒนาตนและสังคม
๒. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ แลว้ อา่ นนทิ าน
เรอ่ื ง ราชสีหก์ ับหนู ให้เข้าใจ ทุกคนสามารถมีพลังแห่งรักที่บริสุทธิ์ได้ หากช่วยกันสร้างความรักในครอบครัวแล้ว
สังคมนี้ก็จะเป็นสังคมที่มีความสงบสุข
๓. ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั
เขยี นแผนภาพโครงเรื่องนิทาน 132 ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
เรอ่ื ง ราชสีห์กับหนู
๔. ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานำ�เสนอ
ผลงานหน้าชั้นเรียน
และใหก้ ลมุ่ อ่นื รว่ มกนั
ประเมินผลงาน
สุดยอดคู่มือครู 132
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ะเมนิ ผลตัวช เรอื่ งท่ี ๔ การเขยี นย่อความ
ปร ว้ี ดั
ตัวชว้ี ัด
ท ๒.๑ ป. ๔/๔ เขียนย่อความจากเรื่องสั้น ๆ
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการเขียน ท ๒.๑ ป. ๔/๔
ท ๒.๑ ป. ๔/๘
ให้นกั เรียนอา่ นนทิ านเรอ่ื ง “ความดมี คี ่า” แล้วเขยี นยอ่ ความ ใบงาน
ใหถ้ กู ต้องตามรปู แบบของการเขยี นยอ่ ความ (๑๐ คะแนน) อา่ นหนังสอื เรยี น
เขียนคล่อง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาความรู้ เรื่อง
การเขียนย่อความ จากหนงั สอื เรยี น
ความดีมีค่า หลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย
หนา้ ๑๐๔-๑๐๕
หญิงม่ายคนหนงึ่ ฐานะยากจน แตเ่ ปน็ ผู้มคี ุณความดี มีใจกรณุ าเปน็ นจิ
นางมีความกรุณาต่อสัตว์เล้ียง ต่อเด็ก ๆ และคนชรา นางจะแบ่งปันอาหาร
และเสอื้ ผ้าแก่ผู้ยากไรอ้ ย่เู สมอ โดยมนี อ้ ยก็ใหน้ อ้ ยตามกาำ ลงั
วนั หนง่ึ มีหญิงแกค่ นหนึ่งมารอ้ งราำ พนั อยหู่ นา้ กระท่อมของหญงิ มา่ ย
“ยายหิว ยายเหน่อื ย โอย…ยายรู้สกึ จะเปน็ ลมอยูแ่ ลว้ ”
หญิงม่ายกำาลังนับเงินท่ีได้จากการขายผักผลไม้ที่ตลาดอยู่ พอได้ยิน
ก็รบี วางมอื จากการนับ รีบวิง่ ออกมาชว่ ยประคองหญิงแก่
แล้วนางก็พามาน่ังพักในที่ร่มเย็นด้านหลังกระท่อมซ่ึงสวยงามด้วย
ต้นไม้ดอกไม้ และมีลมพัดผ่านอย่างน่าสุขสบาย จากน้ันหญิงม่ายก็แบ่ง
อาหารให้หญิงแกร่ บั ประทานหนง่ึ จาน และตกั นำ้าสะอาดใหด้ มื่ หนึ่งถว้ ย
เม่ือหญงิ แกก่ นิ ขา้ วกนิ น้ำาเสร็จแลว้ กร็ อ้ งอวยพรใหห้ ญงิ ม่ายว่า
“ขอให้ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย เธอทำาการส่ิงใดอยู่เมื่อตอนที่ยายมา
ร้องเรยี ก ก็ขอใหจ้ งทาำ การสง่ิ น้นั สืบเนือ่ งไปตลอดวนั และคนื นีเ้ ถิด”
เขยี นชาำ นาญ...งานสร้างสรรค์ 133
อ่านคล่อง เขียนคลอ่ ง
กรณุ า หมายถงึ ความสงสารคิดจะช่วยใหพ้ น้ ทุกข์
ร�ำ พัน หมายถึง พรํ่าพรรณนาตามอารมณ์
ปราศจาก หมายถงึ พ้นไป, ไมม่ ี
133 สุดยอดคู่มือครู
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning หญิงม่ายได้ให้เสื้อผ้าสีน้ำาเงินแก่หญิงชราไปหนึ่งตัว แล้วก็กลับมานั่ง
นับเงินต่อ ส่วนหญิงแก่เม่ือเดินไปพ้นสายตาหญิงม่ายก็กลายเป็นเทพธิดา
๑. ครูพานักเรยี นไปหอ้ งสมุด ผู้สวยงาม จากนั้นก็อันตรธานจากโลกไปยังเมืองฟา้
๒. ให้นกั เรียนเลือกนทิ านทช่ี อบอ่าน
คนละ ๑ เรื่อง หญิงแก่ก็คือ เทพธิดาผู้เห็นคุณความดีของหญิงม่าย และค่าความดีน้ี
๓. ใหน้ กั เรยี นเขยี นยอ่ ความนทิ าน ก็กลายเป็นเงินท่ีหญิงม่ายนับไม่รู้จักจบตลอดวันและคืนน้ีดังคำาอวยพร
ลงในกระดาษ A4 ตามหลกั การ ของนางฟ้า
และรูปแบบท่ีถูกต้อง
๔. ใหน้ กั เรยี นจบั ค่กู บั เพื่อน หญิงม่ายจึงกลายเป็นเศรษฐีไปภายในวันและคืนนั้น เพราะมีเงิน
เพือ่ ประเมนิ ผลงาน มากมายเหลือคณาจากการนับ และนางเป็นเศรษฐีที่ประเสริฐกว่าเศรษฐี
๕. ให้นกั เรยี นท�ำ ใบงานด้วยตนเอง ทง้ั หลายคือเปน็ เศรษฐีใจบญุ
เปน็ รายบุคคล เพ่อื ประเมนิ ผล
ตามตวั ชว้ี ัด จากนิทานอีสป โดย “ลาำ จวน” สำานกั พิมพ์บนั ดาลสาสน์
พิมพเ์ ม่อื พ.ศ. ๒๕๑๔
ย่อนิทานเรื่อง ความดีมีค่า จากนิทานอีสป ของลำาจวน
สำานักพิมพ์บันดาลสาส์น ความว่า
หญิงม่ายผู้มีใจกรุณากำาลังนั่งนับเงินที่ได้จากการขายผักผลไม้อยู่ในกระท่อม
เธอได้ยินเสียงหญิงแก่ร้องเรียก จึงออกมาช่วยประคองพาไปนั่งหลังกระท่อม
แล้วหาข้าวหานำ้ามาให้หญิงแก่กิน เมื่อหญิงแก่กินเสร็จแล้วก็อวยพรให้หญิงม่าย
ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และได้ทำาสิ่งที่กำาลังทำาค้างอยู่นั้นตลอดวันและคืนนี้
หญิงม่ายให้เสื้อหญิงแก่ ๑ ตัว จากนั้นหญิงแก่ก็จากไปกลายเป็นนางฟ้า
ส่วนหญิงม่ายก็นั่งนับเงินมากมายตลอดวันและคืนนั้น เธอจึงกลายเป็นเศรษฐี
และเป็นเศรษฐีที่ใจบุญ
134 ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
สุดยอดคู่มือครู 134
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ะเมนิ ผลตัวช เรอ่ื งที่ ๕ การเขียนจดหมายถึงเพื่อนและบดิ ามารดา ตวั ชวี้ ดั
ก ท ๒.๑ ป. ๔/๕
ว้ี ดั ท ๒.๑ ป. ๔/๘
ปร
์ อ่านหนงั สือเรียน
ท ๒.๑ ป. ๔/๕ เขียนจดหมายถึงเพื่อนและบิดามารดา ให้นักเรยี นศึกษาความรู้ เรือ่ ง การเขียน
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการเขียน จดหมายถงึ เพื่อนและบดิ ามารดา
จากหนงั สือเรียน
๑. ใหน้ กั เรยี นเขยี นจดหมายถงึ เพอื่ น โดยเลา่ เรอ่ื งทพี่ บเหน็ และประทบั ใจ หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย
พร้อมเขียนจ่าหนา้ ซองจดหมาย (๑๐ คะแนน) หน้า ๑๐๖-๑๐๘
(ตัวอย่างคำาตอบ) ารคิดสังเคราะห
เขียนคล่อง ชิ้นงาน Brain-based Learning
๑. ให้นกั เรียนทม่ี ปี ระสบการณ์
๑๐๔ ซอยเพชรเกษม ๔๘ การเขยี นจดหมายถงึ เพือ่ นออกมา
แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ เลา่ ให้เพอ่ื นฟงั ว่าเขยี นจดหมาย
กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐ ถงึ ใคร ใชภ้ าษาอยา่ งไร ใชค้ ำ�ข้นึ ตน้
๑ มกราคม ๒๕๕๗
ฟ้า เพื่อนรัก และค�ำ ลงท้ายว่าอยา่ งไร
สวัสดีจ้ะ หวานเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่เมื่อวานนี้เอง จะรีบส่งของฝาก ๒. ครเู ตรียมบตั รค�ำ ดงั นี้
พร้อมจดหมายฉบับนี้ไปให้เลย หวานไปดอยอ่างขางมาจ้ะ สนุกมาก อากาศดีด้วย รกั และคิดถงึ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ทิวทัศน์สวย ระหว่างทางขึ้นดอยตื่นเต้นมากเพราะมีทางโค้งที่เรียกว่า โค้งหักศอก คุณพ่อ คุณแม่ ท่าน
หลายแห่ง คนขับรถจะต้องชำานาญ เขาใช้รถสองแถวพาขึ้นไป สองข้างทางจะเห็น ลกู ผม หนู
เพือ่ น เธอ คุณ
หน้าผา มีสายหมอกลอยบาง ๆ เห็นภูเขาลูกอื่นอยู่ลิบ ๆ บางลูกก็ตั้งตระหง่าน
..........เพื่อนรกั
อยู่เบื้องหลัง ทั้งหมดนี้เป็นภาพที่หวานไม่เคยเห็นเลย ผม ฉนั ดฉิ ัน เรา
กราบเท้าคุณพ่อคุณแม่
อากาศบนดอยเย็นมาก แต่เย็นแบบชุ่มชื้น บริสุทธิ์ ไม่เหมือนกรุงเทพฯ
หรอกจ้ะ คนที่นั่นชอบก่อไฟกันเพื่อไล่ความหนาว แต่หวานไม่ชอบเพราะเหม็น ที่เคารพ
ควันไฟ ทำาให้อากาศบริสุทธิ์ลดไปเยอะเลย
หวานต้องจบแล้วล่ะเพราะจะไปซื้อของกับแม่ หวานจะเขียนมาเล่าต่อนะจ๊ะ 135 สุดยอดคู่มือครู
รักและคิดถึง
หวาน
เขยี นชำานาญ...งานสร้างสรรค์ 135
๓. ใหต้ วั แทนนกั เรียนนำ�บตั รคำ�มาติดลงในแผนภาพความคดิ
บนกระดานให้ถกู ตอ้ งและสมบูรณ์
ตัวอย่างแผนภาพความคิด
เพอื่ น
๔. ให้นกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning ชื่อและที่อยู่ผู้ฝาก ดวงตรา
ไปรษณียากร
๑. ครนู �ำ ซองจดหมายหลาย ๆ แบบ วรนุช ภัทรปัญญา
ใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ครเู ขยี นรปู แบบ ๑๐๔ ซอยเพชรเกษม ๔๘ แขวงบางด้วน
ซองจดหมายบนกระดาน ดังนี้ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
ชื่อและท่ีอยผู่ ฝู้ าก ดวงตรา 10160
ไปรษณียากร
ชื่อและที่อยู่ผู้รับ
ชื่อและทอี่ ย่ผู ู้รบั
ฟ้าใส วิเชียรช่วง
๑๒๐ หมู่ ๗ ถนนสมเด็จ
ตำาบลปทุม อำาเภอเมือง
จังหวัดอุบลราชธานี
34000
136 ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๒. ให้ตวั แทนนกั เรยี นออกมาเตมิ
องคป์ ระกอบของซองจดหมาย
ให้ถกู ต้อง
๓. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ ง
๔. ครูใหค้ วามรเู้ พม่ิ เติมวา่
รหสั ไปรษณยี ์ให้เขยี นด้วย
ตัวเลขฮินดอู ารบิกและให้อยใู่ น
กรอบส่เี หลี่ยม เพือ่ ใหเ้ ครอ่ื ง
สามารถคดั แยกจดหมายได้
สุดยอดคู่มือครู 136
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๒. ใหน้ กั เรยี นเขียนจดหมายถึงบดิ ามารดาเพือ่ เลา่ ารคิดสังเคราะห Brain-based Learning
กิจกรรมสนุก ๆ ทน่ี ักเรียนปฏบิ ัตทิ โี่ รงเรียน เขียนคล่อง ก
์ ๑. ให้นกั เรียนทม่ี ีประสบการณ์
การเขยี นจดหมายถึงบดิ ามารดา
พรอ้ มทัง้ เขียนจา่ หนา้ ซองจดหมาย (๑๐ คะแนน) ออกมาเลา่ ใหเ้ พ่ือนฟังวา่
(ตัวอย่างคำาตอบ) เขียนจดหมายอยา่ งไร ใช้ภาษา
ชิ้นงาน ใช้คำ�ขน้ึ ตน้ และค�ำ ลงท้าย
วา่ อยา่ งไร
๑๐๔ ซอยเพชรเกษม ๔๘ ๒. ครเู ตรียมบตั รค�ำ ดังนี้
แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ
กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐ รักและคดิ ถึง
๑๐ มกราคม ๒๕๕๗
กราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ที่เคารพ ด้วยความเคารพอย่างสูง
สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ สบายดีไหมครับ ผมสบายดีมากเลยแต่คิดถึง
คุณพ่อคุณแม่ที่สุดในโลก คุณพ่อ คุณแม่ ท่าน
เมื่อวานนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมสนุกมาก เพราะที่โรงเรียนจัดงานวันเด็ก ผมได้กิน
ขนมอร่อย ๆ มีไอศกรีมด้วย และมีเกมสนุก ๆ เยอะแยะเลย มีเกมตอบคำาถาม ลูก ผม หนู
เกมแข่งขันต่าง ๆ ถ้าชนะก็จะได้รางวัลเป็นขนมบ้าง สมุด ดินสอ หรือหนังสือก็มี
แต่กิจกรรมที่ผมชอบมากที่สุดคือ การประกวดเล่านิทาน ทั้งสนุก ทั้งตื่นเต้น ทั้งขำา เพือ่ น เธอ คณุ
ลูกชายคนเก่งของคุณพ่อคุณแม่ก็สมัครเข้าประกวดกับเขาด้วยนะครับ ผมเล่านิทาน
เรื่อง เรื่องของลิง ฟังชื่อเรื่องแล้วคุณพ่อคุณแม่คงเข้าใจว่ามีลิงจอมซนอย่างผม ..........เพอื่ นรัก
เป็นพระเอกใช่ไหมล่ะ ผิดครับ ลิงเป็นพระเอกจริง แต่ลิงไม่ได้ซุกซนก่อเรื่องวุ่นวาย
ลิงตัวนี้เก่ง แต่เขาหวงของกิน เพื่อนก็เลยไม่คบ แต่ตอนสุดท้ายเขาก็แก้ไขตนเอง ผม ฉัน ดฉิ นั เรา
กลับไปขอโทษเพื่อน ๆ และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ซาบซึ้งดีไหมครับ
ผมเล่านิทานเรื่องนี้แบบครบรสเลยล่ะ สนุกสนาน ขำาขัน โศกเศร้า และมีความสุข กราบเท้าคุณพอ่ คณุ แม่
ก็เลยได้รับรางวัลที่ ๒ มาครอง ผมภูมิใจมากเลยครับ เพื่อน ๆ ปรบมือกัน ทเ่ี คารพ
เกรียวกราว คุณพ่อคุณแม่เริ่มภูมิใจในตัวผมแล้วล่ะสิ
ผมเล่าเสียยาวเลย คุณพ่อคุณแม่คงอ่านจนเหนื่อยแล้ว วันนี้ผมมีความสุข
ที่ได้เขียนจดหมายฉบับนี้ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ผมรักคุณพ่อคุณแม่เท่ากัน
(อย่าแย่งกันนะ) ผมจะเป็นเด็กดีครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ธีระชัย
เขียนชำานาญ...งานสร้างสรรค์ 137
๓. ใหต้ วั แทนนักเรียนนำ�บัตรค�ำ มาตดิ ลงในแผนภาพความคดิ 137 สุดยอดคู่มือครู
บนกระดานให้ถกู ต้องและสมบูรณ์
ตัวอย่างแผนภาพความคดิ
มบารดิ ดาา
๔. ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning ชื่อและที่อยู่ผู้ฝาก ดวงตรา
ไปรษณียากร
๑. ครนู ำ�ซองจดหมายหลาย ๆ แบบ ธีระชัย ผาสุก
ใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ครเู ขยี นรปู แบบ ๑๐๔ ซอยเพชรเกษม ๔๘ แขวงบางด้วน
เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
ซองจดหมายบนกระดาน ดังน้ี
10160
ช่อื และทีอ่ ยผู่ ูฝ้ าก ดวงตรา ชื่อและที่อยู่ผู้รับ
ไปรษณียากร
ยงยุทธ ผาสุก
ช่ือและที่อยู่ผ้รู บั ๑๐๔ ซอยเพชรเกษม ๔๘
แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ
กรุงเทพฯ
1 01 6 0
138 ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๒. ให้ตัวแทนนกั เรียนออกมาเตมิ อา่ นคลอ่ ง เขียนคล่อง
องคป์ ระกอบของซองจดหมาย
ใหถ้ กู ต้อง ดวงตราไปรษณียากร หรอื แสตมป์ (stamp) เปน็ หลกั ฐานการช�ำ ระ
๓. ให้นักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบ คา่ บริการไปรษณีย์ มักเปน็ กระดาษรปู สเ่ี หลยี่ มเพอ่ื ตดิ บนซองจดหมาย
ความถูกตอ้ ง จดหมายนาํ้ หนกั ไมเ่ กิน ๒๐ กรัม ติดแสตมปร์ าคา ๓ บาท
สุดยอดคู่มือครู 138
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ะเมนิ ผลตัวช เรอ่ื งที่ ๖ การเขียนบนั ทกึ จากการศึกษาค้นคว้า ตวั ชี้วดั
กิจ
ว้ี ดั ท ๒.๑ ป. ๔/๖
ปร ท ๒.๑ ป. ๔/๘
าร
ท ๒.๑ ป. ๔/๖ เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า อ่านหนังสือเรียน
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการเขียน
ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรู้ เรอื่ ง
ใหน้ กั เรยี นอ่านเร่ืองตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคำาถาม การเขียนบนั ทกึ จากการศกึ ษาคน้ ควา้
เพือ่ นำาไปเขียนบันทึก (๑๐ คะแนน) กรรมบูรณาก เขียนคล่อง จากหนงั สอื เรียน
ใบงาน หลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย
หน้า ๑๐๙-๑๑๒
แคร์รอต : ผักที่เป็นแหล่งสำาคัญของวิตามินเอ
Brain-based Learning
หลาย ๆ ทา่ นคงจะเคยนาำ เอาแครร์ อตมาทาำ อาหารหรอื รบั ประทานสด ๆ แครร์ อต
นี้มีลักษณะคล้ายหัวผักกาด โดยหัวด้านหนึ่งจะโตแล้วเรียวลง มีสีออกเหลืองส้ม ๑. ให้นักเรยี นออกมาเล่าเกีย่ วกับ
ดังนั้น บางคนจึงเรียกว่า หัวผักกาดเหลือง ประสบการณ์การเขียนบนั ทึก
ความรู้ หรอื การคัดลอกขอ้ ความ
ส่วนของแคร์รอตที่เรานำาเอามารับประทานนั้นก็คือ ส่วนของรากที่ทำาหน้าที่ ๒. ให้นกั เรียนร่วมกนั เสนอความคิด
สะสมอาหาร มีสีเหลืองส้มทั้งผิวนอกและเนื้อใน ใบของแคร์รอตมีลักษณะ และบอกประโยชน์ของการเขียน
เป็นฝอยคล้ายผักชี ซึ่งเรามักไม่ค่อยจะมีโอกาสได้เห็นกัน เพราะเวลาจะเอามาขาย บนั ทกึ ความรู้
ในท้องตลาดส่วนใหญ่นิยมตัดใบทิ้งไปเหลือแต่ก้านสั้น ๆ ซึ่งในบ้านเราปลูกกันมาก
ทางภาคเหนือ
ในหัวแคร์รอตนี้จะมีสารที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง คือ แคโรทีน ซึ่งจะมี
อยู่มากกว่าพืชผักอื่น ๆ และสารแคโรทีนนี้เองที่ทำาให้หัวแคร์รอตมีสีเหลืองส้ม
ผักชนิดนี้เมื่อเรารับประทานเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนสารแคโรทีนเป็นวิตามินเอ
ซึ่งมีความสำาคัญต่อการมองเห็น โดยเฉพาะเกี่ยวกับการปรับสายตาในที่มี
แสงสว่างน้อย ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันผิวหนังแห้งแตกได้ จึงมีผู้นำามาคั้น
เอานำ้าจากหัวแคร์รอตไปใช้เป็นเครื่องดื่ม เรียกว่า นำ้าแคร์รอต หรือนำาไปผสม
กับนำ้ามะนาวใช้ทาผิวหน้าเพื่อบำารุงผิวและลบรอยเหี่ยวย่นก็ได้ นอกเหนือจากนี้แล้ว
ในหัวแคร์รอตยังมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยให้ไตขับปัสสาวะได้ดีอีกด้วย จะเห็นว่า
แครร์ อตให้คุณค่าทางอาหารไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากนี้ แคร์รอตยังมีสีสันที่สวยงาม ดังนั้น จึงนิยมใช้เป็นส่วนประกอบ
ในอาหารต่าง ๆ รวมทั้งใช้ในงานศิลปะแกะสลักอาหารด้วย และในบางโอกาส
เมื่อหาผลมะละกอดิบมาทำาส้มตำาไม่ได้ ก็สามารถจะใช้หัวแคร์รอตแทนได้อย่างดี
ชมรมเทคโนโลยีทางอาหารและชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
จากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันพุธที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๖
เขียนชาำ นาญ...งานสร้างสรรค์ 13๙
139 สุดยอดคู่มือครู
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
Brain-based Learning ๑. แคร์รอตมีลักษณะอย่างไร
๑. ครพู านกั เรยี นไปห้องสมดุ คล้ายหัวผักกาด คือ หัวด้านหนึ่งจะโตแล้วเรียวลง มีสีเหลืองส้ม
๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มแล้วช่วยกัน
๒. ทำาไมแคร์รอตจึงมีสีเหลืองส้ม
ค้นหาหนังสอื ทีช่ อบอ่านกล่มุ ละ
๑ เลม่ มีสารแคโรทีน
๓. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั
อา่ นหนงั สือให้เข้าใจเนื้อหาทุกคน ๓. แคร์รอตมีประโยชน์อย่างไร
๔. ใหท้ กุ คนในกลุ่มเสนอความรู้
ทไี่ ด้รับ โดยตวั แทนกลมุ่ มีวิตามินเอมาก ซึ่งมีความสำาคัญต่อการมองเห็น และช่วยป้องกัน
เขียนบนั ทึกไว้ ผิวหนังแห้งแตกได้
๕. ให้แต่ละกลุ่มเรยี บเรยี ง
บนั ทึกความรใู้ ห้สมบูรณ์ ๔. การรับประทานแคร์รอตมีวิธีการอย่างไร
เพอ่ื ออกมาอา่ นให้เพ่อื นฟงั
หน้าชน้ั เรียน ทำาให้สุก รับประทานสด ๆ หรือนำาไปคั้นนำ้าทำาเครื่องดื่ม
๖. ให้นักเรยี นท�ำ ใบงานด้วยตนเอง
เป็นรายบคุ คล เพื่อประเมินผล ๕. เรื่องที่นักเรียนอ่านมีที่มาจากแหล่งข้อมูลใด
ตามตวั ชว้ี ดั
หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันพุธที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๖
บันทึกความรู้
เรื่อง แคร์รอต : ผักที่เป็นแหล่งสำาคัญของวิตามินเอ
(ตัวอย่างคำาตอบ)
แคร์รอตมลี กั ษณะเหมอื นหวั ผักกาดและมีสีเหลอื งส้มทีม่ าจากสารแคโรทีน
แคร์รอตมีวิตามินเอมาก ซึ่งมีความสำาคัญต่อการมองเห็นและช่วยป้องกัน
ผิวหนังแห้งแตก การรับประทานแคร์รอตจะรับประทานสด ๆ นำาไปคั้น
เป็นเครื่องดื่ม หรือทำาให้สุกก็ได้
บันทึกเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อมูลของชมรมเทคโนโลยี
ทางอาหารและชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
ฉบับวันพุธที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๖
140 ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 140
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ะเมนิ ผลตัวช เรอื่ งที่ ๗ การเขียนรายงาน ตวั ชวี้ ัด
ปร ปร กิจ ก ท ๒.๑ ป. ๔/๖
์ ารท ๒.๑ ป. ๔/๖ว้ี ดั ว้ี ดัเขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า ท ๒.๑ ป. ๔/๘
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการเขียน
ใหน้ กั เรยี นศึกษาค้นควา้ เกีย่ วกบั อาชีพท่สี นใจ ชิ้นงาน อา่ นหนังสือเรียน
๑ อาชีพ แลว้ นาำ มาเขยี นรายงาน (๑๐ คะแนน) กรรมบูรณาก ใหน้ ักเรียนศึกษาความรู้ เรือ่ ง
การเขยี นรายงาน จากหนงั สือเรียน
ะเมนิ ผลตัวช เรือ่ งที่ ๘ การเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการ หลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย
หน้า ๑๑๓-๑๑๕
เขียนเรื่องตามจินตนาการ
ท ๒.๑ ป. ๔/๗ มีมารยาทในการเขียน
ท ๒.๑ ป. ๔/๘
ให้นกั เรยี นเขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ ารคิดสังเคราะห เขียนคล่อง ชิ้นงาน Brain-based Learning
ความยาว ๖-๘ บรรทัด (๑๐ คะแนน)
๑. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ แตล่ ะกลุ่ม
(ตัวอย่างคำาตอบ) ถ้าฉันเป็น ผู้ใหญ่ จะไดร้ ับบัตรค�ำ จากครู กลุม่ ละ ๖ ใบ
ดงั นี้
ถ้าฉันเป็นผู้ใหญ่ ฉันจะซื้อขนมแจกเด็ก ๆ ให้พวกเขามีแต่รอยยิ้ม
ฉันจะสร้างสวนสนุกให้เด็กทุกคนมีแต่เสียงหัวเราะ ฉันจะเป็นครูที่สอนให้เด็ก หนา้ ปก
แต่ละคนได้เรียนรู้ในสิ่งที่อยากเรียน ได้ทำาสิ่งที่อยากทำา ฉันจะท่องเที่ยวไป หน้าปกในหรอื หนา้ ช่ือเรือ่ ง
ตามที่ต่าง ๆ เพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ พบเจอผู้คนใหม่ ๆ แล้วนำามา
บอกเล่าให้เด็ก ๆ ฟัง ถ่ายทอดประสบการณ์ของฉันให้ผู้อื่นได้รู้ และฉัน ค�ำ นำ� สารบัญ
จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีเป็นผู้ใหญ่ที่มีประโยชน์ต่อคนรอบข้าง ทุกคนจะได้รักฉัน เน้อื เรือ่ ง บรรณานุกรม
และฉันจะรักทุกคน
เขยี นชำานาญ...งานสร้างสรรค์ 141 ๒. ให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั
เรยี งลำ�ดบั บตั รค�ำ ส่วนประกอบรปู แบบ
การเขยี นรายงานให้ถูกตอ้ งภายใน
เวลาที่ครูก�ำ หนด กลุม่ ใดเรียงลำ�ดับ
ไดถ้ กู ตอ้ งและรวดเรว็ ทส่ี ดุ เปน็ ฝา่ ยชนะ
Brain-based Learning อา่ นหนงั สือเรียน ตวั ช้ีวัด
ท ๒.๑ ป. ๔/๗
๑. ให้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ นำ�เร่ืองจากจนิ ตนาการ ใหน้ กั เรยี นศึกษาความรเู้ รอื่ ง ท ๒.๑ ป. ๔/๘
ทแ่ี ตล่ ะคนเขยี นมาคัดเลือกเรื่องทีช่ นะใจ การเขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ
จากหนังสอื เรียน 141
สมาชกิ ในกล่มุ
๒. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ�เร่ืองจากจินตนาการ หลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย
มาช่วยกันเขียนบทละคร แล้วออกมาแสดง หน้า ๑๑๖-๑๑๗
หน้าชั้นเรียน สุดยอดคู่มือครู
ตัวชี้วัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ตัวชีว้ ัด ประเมนิ ผลตัวช เร่ืองที่ ๙ มารยาทในการเขยี นว้ี ดั
ท ๒.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการเขียน ใบงาน
อ่านหนงั สอื เรียน ท ๒.๑ ป. ๔/๘
ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรู้ เรื่อง ๑. ให้นกั เรยี นบอกมารยาทในการเขยี นท่ีสามารถปฏบิ ตั ติ าม
มารยาทในการเขยี น จากหนงั สอื เรยี น ได้อยา่ งแนน่ อน ๓ ข้อ (๓ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
หลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย
หนา้ ๑๑๘ ๑) เขียนด้วยลายมือบรรจง อ่านง่าย เป็นระเบียบ
Brain-based Learning ๒) ลบให้สะอาดเมื่อเขียนผิด
๑. ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม แตล่ ะกลุ่ม ๓) ไม่ขีดเขียนในที่สาธารณะ
ออกมาแสดงบทบาทสมมุติ
การมีมารยาทในการเขยี น ๒. ใหน้ ักเรียนบอกมารยาทในการเขยี นที่ปฏบิ ตั ยิ ากท่ีสุด ๑ ขอ้
และการไม่มมี ารยาทในการเขียน และอธบิ ายเหตผุ ลประกอบ (๗ คะแนน) (ตัวอย่างคำาตอบ)
๒. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั วิเคราะห์ผล
ทเี่ กดิ จากการมมี ารยาทในการเขยี น ฉนั คดิ ว่ามารยาทในการเขยี นทป่ี ฏบิ ัตยิ ากทส่ี ุด คอื
และการไม่มมี ารยาทในการเขียน
๓. ให้นกั เรยี นท�ำ ใบงานด้วยตนเอง เขียนสะกดคำาให้ถูกต้อง
เป็นรายบุคคล เพ่อื ประเมินผล
ตามตวั ช้ีวดั เพราะ คำาบางคำาเป็นชื่อเฉพาะ หรือเป็นคำาทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีตัวสะกด
ไม่ตรงมาตรา หรือมีตัวการันต์ มีการสะกดคำาที่แตกต่างจากคำาปกติ
ฉันจะพยายามฝกึ มารยาทขอ้ น้ี โดยฝึกเขียนบ่อย ๆ และสังเกตอยู่เสมอ
เมื่อพบคำาเหล่านั้นตามที่ต่าง ๆ จะช่วยให้จำาได้และเขียนไม่ผิด
142 ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
สุดยอดคู่มือครู 142
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
เรยี นรจู้ ากการทำา นำาส่หู ลักเกณฑ์ Brain-based Learning
การฝกึ ทักษะการเขยี น ทำาใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรู้หรอื ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั จาก ๔. ใหน้ ักเรียนน�ำ ความเขา้ ใจทเ่ี กดิ
เรื่องต่าง ๆ ได้ดังนี้ (ตัวอย่างคำาตอบ) จากการปฏบิ ตั มิ าสรา้ งองคค์ วามรู้
หรอื สรุปเปน็ หลักการ
๑. การคัดลายมือ ทำาให้เขียนหนังสือสวยและเป็นระเบียบ ถ้าฝึกฝนอยู่เสมอ
จะทำาให้ลายมือสวยโดยไม่ต้องฝืนเวลาเขียน
๒. การเขียนสื่อสาร ทำาให้รู้จักเรียบเรียงประโยคและข้อความเพื่อสื่อสาร
ความรู้และความคิดให้ผู้อื่นเข้าใจได้ชัดเจน
๓. การนำาแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดไปพัฒนา
งานเขียน แผนภาพช่วยจัดระบบความคิด ทำาให้ความคิดชัดเจน ต่อเนื่อง
เมื่อเขียนถ่ายทอดออกมาจึงตรงตามความต้องการ เขียนได้กระชับ
สื่อความหมายชัดเจน ครบถ้วน
๔. การเขียนย่อความ ฝึกทักษะการสรุปความรู้ สรุปสาระสำาคัญ
และฝึกทักษะการเขียนให้ใช้ภาษากระชับ สื่อความหมายชัดเจน ถูกต้อง
๕. การเขียนจดหมาย ฝึกทักษะการเขียนเล่าเรื่อง และการใช้ภาษา
ให้เหมาะกับกาลเทศะและบุคคล
๖. การเขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า ให้รู้จัก
จดบันทึกและนำาเสนอความรู้ ซึ่งเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ในระดับสูงขึ้นไป
๗. การเขียนเรื่องตามจินตนาการ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
ปลูกฝังให้กล้าคิด กล้าเขียนในสิ่งที่ถูกต้อง
๘. มารยาทในการเขียน ทำาให้มีทักษะการเขียนที่ดี
สามารถสื่อสารได้ถูกต้อง ตรงตามวัตถุประสงค์
ผลการประเมนิ การสรปุ ความรู้ ผา่ น ไมผ่ า่ น
เขยี นชำานาญ...งานสร้างสรรค์ 143
143 สุดยอดคู่มือครู
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
ให้นักเรียนทำ�แบบทดสอบ แบบทดสอบวดั ผลการเร
ด้วยตนเองเม่ือจบการเรียนรู้ ยี นรู้
เพ่ือทบทวนความรู้และทักษะ
ตามตัวช้วี ัด แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด
วิเคราะหค์ �ำตอบ ตามตัวชี้วัด
๑. ๔ ผมเปน็ กรรมการเวรวนั จันทร์ ตัวชว้ี ดั คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและครึง่ บรรทัด (ท ๒.๑ ป. ๔/๑) ได้ คะแนน
เพราะเปน็ การเขยี นทช่ี ดั เจนทสี่ ดุ เขยี นสื่อสารโดยใชค้ ำาได้ถกู ตอ้ ง ชดั เจน และเหมาะสม (ท ๒.๑ ป. ๔/๒) คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน
๒. ๑ ก�ำ หนดชือ่ เร่อื ง
เปน็ ขั้นตอนที่ ๑ เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคิดเพอื่ ใชพ้ ฒั นางานเขยี น (ท ๒.๑ ป. ๔/๓)
ของการเขยี นแผนภาพความคดิ
๒ กำ�หนดหวั ขอ้ ย่อย เขียนย่อความจากเรื่องสน้ั ๆ (ท ๒.๑ ป. ๔/๔)
เป็นขั้นตอนท่ี ๒
๓ จดั กลุม่ ข้อมูล เขยี นจดหมายถงึ เพือ่ นและบดิ ามารดา (ท ๒.๑ ป. ๔/๕)
เปน็ ข้ันตอนที่ ๔
๔ หาข้อมลู ความรู้ เขียนบันทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาค้นคว้า (ท ๒.๑ ป. ๔/๖)
เปน็ ข้นั ตอนท่ี ๓
๓. ๒ เร่ืองส้นั เพราะมีการดำ�เนนิ เขียนเรอ่ื งตามจินตนาการ (ท ๒.๑ ป. ๔/๗)
เร่อื ง ตวั ละคร และฉาก
มมี ารยาทในการเขยี น (ท ๒.๑ ป. ๔/๘)
ให้นักเรียนใช้ดินสอระบายลงใน หน้าคำาตอบที่ถูกต้องให้เต็มวง
๑. ข้อใดเปน็ การเขียนส่อื สารโดยใชค้ าำ ได้ถูกตอ้ งชัดเจน
๑ ผมเปน็ เวรวนั จนั ทร์ ๒ ผมเวรวนั จันทร์
๓ ผมทาำ เวรวนั จันทร์ ๔ ผมเปน็ กรรมการเวรวนั จันทร์
๒. ขอ้ ใดเป็นขัน้ ตอนแรกของการเขียนแผนภาพความคดิ
๑ กำาหนดชือ่ เรื่อง ๒ กำาหนดหัวข้อย่อย
๓ จดั กลมุ่ ขอ้ มูล ๔ หาข้อมูลความรู้
๓. เรื่องประเภทใดควรใช้แผนภาพโครงเร่ือง
๑ รายงาน ๒ เร่ืองสน้ั
๓ เรียงความ ๔ บทความ
๔. ขอ้ ใดคือการพัฒนางานเขียน
๑ การไดร้ บั รางวลั จากการเขยี น
๒ การเขียนเรอ่ื งใหม่ไดด้ ยี ง่ิ ข้ึน
๓ การปรับปรุงงานเขยี นใหส้ มบูรณ์
๔ การเขยี นเรอ่ื งใหม่ท่มี ีความยาวมากกวา่ เร่อื งเดมิ
144 ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๔. ๓ การปรับปรุงงานเขยี นให้สมบรู ณ์ เพราะ
การปรับปรงุ คอื การแกไ้ ขให้เรยี บร้อยย่ิงขนึ้
การปรบั ปรงุ จึงเป็นการพฒั นางานเขยี นใหด้ ีขึ้นกวา่ เดิม
สุดยอดคู่มือครู 144
ตัวช้ีวัด อ่านหนังสือเรียน อ่านคล่อง เขียนคล่อง วิเคราะห์ค�ำตอบ Brain-based Learning
๕. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยชนข์ องการใชแ้ ผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคดิ วิเคราะหค์ �ำตอบ
๑ รวบรวมขอ้ มูลในการเขยี นเป็นระบบ
๒ เขียนเรื่องได้ตรงตามจุดประสงค์ ๕. ๔ ใชค้ ำ�และสำ�นวนภาษา
๓ เขียนเรอ่ื งได้ครบถ้วนสมบรู ณ์ ได้เหมาะสม เพราะการเขยี น
๔ ใชค้ าำ และสาำ นวนภาษาไดเ้ หมาะสม แผนภาพโครงเรือ่ ง
และแผนภาพความคดิ
๖. ข้อใดไมส่ ามารถเปล่ยี นแปลงไดใ้ นการย่อความ เปน็ การเขยี นเพือ่ ให้
รจู้ ักรวบรวม จดั ขอบเขต
๑ เน้ือเร่ือง ๒ สำานวนภาษา ความรู้ ความคิด
๓ ข้อความทเ่ี ปน็ คาำ พูด ๔ คำาสรรพนามบุรุษที่ ๑, ๒ อยา่ งเปน็ ระบบ
๖. ๑ เน้ือเรือ่ ง เพราะการยอ่ ความ
๗. ขอ้ ใดคอื คำาข้ึนตน้ ในจดหมายถงึ บดิ ามารดา เปน็ การสรปุ สาระสำ�คญั
จากเน้อื เรื่อง ดังนนั้ เน้ือเร่อื ง
๑ เรียน ๒ กราบ จึงเปล่ียนแปลงไม่ได้
๓ กราบเรียน ๔ กราบเท้า ๗. ๔ กราบเท้า ใชก้ ับบดิ ามารดา
๑ เรียน ใชก้ บั ครู
๘. ขอ้ ใดคอื คาำ ลงท้ายในจดหมายถงึ เพ่ือน ๓ กราบเรยี น ใชก้ บั
ประธานองคมนตรี
๑ รกั เสมอ ๒ รักและคิดถงึ นายกรฐั มนตรี ประธานรัฐสภา
๘. ๒ รกั และคดิ ถึง ใชก้ ับเพอื่ น
๓ คิดถงึ ๔ คิดถึงเสมอ ๙. ๔ นริ าศเมืองแกลง เปน็ นิราศ
เรื่องแรกของสุนทรภู่
๙. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นบนั ทึกความรู้ เพราะเป็นเรื่องทางวิชาการ
๑ เชา้ วันน้ีอากาศสดชื่นเย็นสบาย ท่ไี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ คว้า
๒ ฉันไปทัศนศกึ ษาท่ีพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ
๓ นกั เรียนรบี ต่นื แต่เช้าเพือ่ ไปโรงเรียน ๑๐. ๓ อนาคตของฉนั เพราะเปน็ เรอื่ ง
๔ นริ าศเมืองแกลงเป็นนริ าศเรอ่ื งแรกของสุนทรภู่ ทเ่ี กิดจากความคดิ ยงั ไม่ใช่
เร่ืองจริง
๑๐. ข้อใดเป็นการเขยี นเรอื่ งตามจินตนาการ
๑ ประวตั ิของฉัน ๒ โรงเรียนของฉัน
๓ อนาคตของฉนั ๔ งานอดิเรกทฉ่ี ันชอบ
เขยี นชาำ นาญ...งานสร้างสรรค์ 145
145 สุดยอดคู่มือครู
แบบประเมินผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การเขียน
ตัวช้ีวัด มาตรอฐ่าานนหกนาังรสเือรเียรนียนรู้ อ่านคล่อง เขียนคแลบ่อบงฝึกหัดวิเคราะห์ค�ำตอบผคละสแัมBนฤraนทinเธต-ิ์กb็มาaรseเรdียนLคeขaะอrแnงนiนnนgักทเรี่ไียดน้
และตัวชี้วัด
๑. คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด แบบฝึกหัดเร่ืองที่ ๑ ๑๐
และครงึ่ บรรทดั
(ท ๒.๑ ป. ๔/๑)
๒. เขียนสือ่ สารโดยใชค้ ำาไดถ้ กู ตอ้ ง แบบฝกึ หัดเร่ืองท่ี ๒ ๑๐
ชดั เจน และเหมาะสม
(ท ๒.๑ ป. ๔/๒)
๓. เขียนแผนภาพโครงเรือ่ งและ แบบฝกึ หดั เรอ่ื งที่ ๓ ๑๐
แผนภาพความคิดเพือ่ ใชพ้ ฒั นา
งานเขียน (ท ๒.๑ ป. ๔/๓)
๔. เขยี นย่อความจากเร่ืองสน้ั ๆ แบบฝึกหดั เร่อื งที่ ๔ ๑๐
(ท ๒.๑ ป. ๔/๔)
๕. เขยี นจดหมายถึงเพ่อื นและ แบบฝึกหดั เรอ่ื งท่ี ๕ ๒๐
บิดามารดา (ท ๒.๑ ป. ๔/๕)
๖. เขยี นบนั ทกึ และเขียนรายงาน แบบฝึกหัดเร่ืองท่ี ๖ ๑๐
จากการศกึ ษาคน้ คว้า แบบฝึกหัดเรื่องท่ี ๗ ๑๐
(ท ๒.๑ ป. ๔/๖)
๗. เขยี นเรือ่ งตามจินตนาการ แบบฝึกหดั เรื่องที่ ๘ ๑๐
(ท ๒.๑ ป. ๔/๗)
๘. มีมารยาทในการเขียน แบบฝกึ หัดเรื่องท่ี ๙ ๑๐
(ท ๒.๑ ป. ๔/๘) แบบทดสอบวัดผลการเรยี นรู้
ตามตัวชี้วัด ๑๐
รวม ๑๑๐
เกณฑ์การประเมินผล ผลการประเมินนักเรียน
ระดับคะแนน ระดับผลการเรียน คุณภาพ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๘
๘๘ - ๑๑๐ ๔ ดีเยี่ยม
๘๒ - ๘๗ ๓.๕ ดีมาก
๗๗ - ๘๑
๗๑ - ๗๖ ๓ ดี
๖๖ - ๗๐ ๒.๕ ค่อนข้างดี
๖๐ - ๖๕ ๒ ปานกลาง
๕๕ - ๕๙ ๑.๕ พอใช้
๐ - ๕๔ ๑ ผ่านเกณฑ์ขั้นตำ่า
๐ ตำ่ากว่าเกณฑ์
146 ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ลงชื่อ ผู้ประเมิน
วันที่ เดือน พ.ศ.
สุดยอดคู่มือครู 146
ห ่นว ยการเรียนรู้
เร่อื ง การฟัง การดู และการพดู
ตวั ชีว้ ัด เดก็ ๆ ร้หู รอื ไม่
พู ด ส รุ ป ค ว า ม จ า ก ก า ร ฟั ง แ ล ะ ดู ก า ร พู ด ส รุ ป ค ว า ม ค ว ร พู ด ใ ห้ ก ร ะ ชั บ
(ท ๓.๑ ป. ๔/๒) แต่ได้ใจความครบถว้ น
พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และ การพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และ
ความรู้สึกเก่ียวกับเรื่องที่ฟังและดู ความรู้สึกให้น่าเชื่อถือ ต้องมีเหตุผล
(ท ๓.๑ ป. ๔/๓) หรือยกตวั อยา่ งประกอบ
ต้ังคำาถามและตอบคำาถามเชิงเหตุผล การต้ังคำาถามและตอบคำาถามเชิงเหตุผล
จากเร่อื งท่ีฟังและดู (ท ๓.๑ ป. ๔/๔) ทำาใหเ้ ขา้ ใจเรอื่ งท่ีฟังและดูไดด้ ยี ่งิ ข้นึ
รายงานเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษา การพูดรายงานต้องนำาเสนอข้อมูลท่ีถูกต้อง
ค้นคว้าจากการฟัง การดู และ หากมภี าพหรือสื่อประกอบจะทำาให้
การสนทนา (ท ๓.๑ ป. ๔/๕) การพดู รายงานน้นั นา่ สนใจมากยง่ิ ข้นึ
มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู
(ท ๓.๑ ป. ๔/๖)
แผนผงั สาระการเรยี นรู้
การพูดสรุปความ การฟัง การดู การพูดแสดงความรู้
จากการฟังและดู และการพูด ความคิดเห็น และความรู้สึก
มารยาทในการฟัง
การดู และการพูด เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู
การตั้งคำาถามและตอบคำาถาม
เชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู
การพูดรายงาน
147 สุดยอดคู่มือครู