หนา้ ปก
“สพั พะทา สลี ะสมั ปนั โน ปญั ญะวา สสุ ะมาหิโต
อารทั ธะวริ โิ ย ปะหติ ัตโต โอฆงั ตะระติ ทตุ ตะรัง”
ผ้ถู งึ พร้อมดว้ ยศลี มีปญั ญา มใี จม่ันคงดีแลว้
ปรารภความเพยี ร ต้ังตนไวใ้ นกาลทกุ เมือ่ ย่อมข้ามโอฆะท่ีข้ามยาก
(พุทธศาสนสุภาษติ )
ศลี
สมาธิ
ปัญญา
“ขออนโุ มทนากบั ผู้ที่กำ�ลงั
เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ผทู้ ก่ี �ำ ลงั
ปลกู ต้นศรทั ธา ก่อใหเ้ กดิ
ศาสนทายาท ผ้สู นใจปฏิบัติ
ธรรม ผ้แู สวงหาความสงบ
ผู้แสวงหาธรรมเพ่ือความ
พน้ ทุกข์ จงประสบอิฏฐผล
ตามปราถนา เทอญ”
พระอาจารยม์ หาตอง ธมมฺ วฑุ โฺ ฒ
คำ�ปรารภแรก
ประทีปธรรมส่องทางให้ญาติโยมสาธุชน ได้รู้จักวัดป่า
วชริ บรรพตเล่มน ้ี ก็เป็นอีกจดุ หน่ึงมาช่วยเพม่ิ พนู ข้อมลู เปน็ หนทาง
อีกทางหนึ่งสำ�หรับผู้ใคร่จะศึกษาเร่ืองราวในพระพุทธศาสนา
ท้ังภาคปฏบิ ตั ิและปริยตั ิ ตลอดระยะเวลา ๒๐ กวา่ ปที ผี่ า่ นมา
สาธุชนท้ังหลายที่เข้ามาสู่วัดป่าวชิรบรรพตแห่งน้ีก็มาอย่างตามๆ
กนั มา จากปากสู่ปาก ไดม้ าช่วยกนั คนละไมค้ นละมือ ใครมี
ความร้ทู างไหน มีความถนัดทางไหนกม็ าชว่ ยกนั อดุ หนนุ เปน็
ก�ำ ลัง คอยใหก้ �ำ ลงั ใจกนั และกนั จากแสงนอ้ ยๆ เหมือนหิ่งห้อย
ในเวลากลางวัน เม่ือแสงอาทิตย์คอ่ ยๆ หายไป หงิ่ หอ้ ยนอ้ ยใน
เวลากลางวนั กเ็ ร่ิมเปล่งประกาย ฉนั ใด วนั น้ีวัดปา่ วชิรบรรพตก็
เปรียบเหมือนห่งิ ห้อย ในเวลากลางคืนทพ่ี ระจันทรห์ ลับอยู่
เป็นท่ีน่ายินดีท่ีโยมผู้มีศรัทธาเห็นความสำ�คัญในหลักการ
ของวัดปา่ วชริ บรรพต ทเ่ี ปน็ มรดกตกทอดทางธรรม จากบรรพบุรษุ
ได้นำ�เรื่องราวแต่ในอดีต ปัจจุบัน มาร้อยเรียงเป็นเรื่องเล่าให้
ผู้ใครร่ ู้ใครศ่ ึกษา ได้มีโอกาสสัมผัส กว่าจะมาเปน็ รูปเลม่ หนงั สอื ได้
นน้ั ต้องใชว้ ริ ยิ ะ ขันติ สติปัญญาอยา่ งมาก เพราะเปน็ เล่มปฐม เร่มิ
จากหาขอ้ มูลตดิ ตามอยา่ งตอ่ เนื่องยาวนาน ตอ้ งอาศัยความร่วม
มือ แรงกายแรงใจ หลายๆ คนมาหล่อหลอม จนเปน็ ประทปี ธรรม
เลม่ น้ี
หวงั วา่ ประทปี ธรรมที่ท่านก�ำ ลังถอื อยูน่ ี ้ จะเป็นปจั จัยหน่งึ
ให้ศรัทธาที่กำ�ลังก่อตัวให้มีกำ�ลังชักนำ�ให้ พละ ๕ อินทรีย์ ๕
แข็งแรง มีกำ�ลังศึกษามรดกธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมา-
สัมพุทธเจ้าฝากไว้ให้
จากเนื้อหาภายในเล่ม จากประสบการณ์ ตลอดระยะเวลา
ทย่ี าวนานท�ำ ใหเ้ หน็ สัจจธรรม การเริม่ ก่อตวั เหน็ ความอดทนของ
ผ้บู ำ�เพ็ญบารมี โดยเฉพาะพระสัมมาสมั พทุ ธเจ้าของเรา กวา่ จะก่อ
ก�ำ เนิดพระพุทธศาสนา กวา่ จะมีวันนี้ กว่าจะร้เู ดียงสา กว่าจะเปน็
ผเู้ ปน็ คน
ขออนุโมทนากับผ้ทู ่กี �ำ ลงั เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ผู้ท่กี �ำ ลัง
ปลกู ตน้ ศรทั ธา กอ่ ใหเ้ กดิ ศาสนทายาท ผสู้ นใจปฏบิ ตั ธิ รรม ผแู้ สวง
หาความสงบ ผแู้ สวงหาธรรมเพอ่ื ความพน้ ทกุ ข ์ จงประสบอฏิ ฐผล
ตามปราถนา เทอญ
พระอาจารยม์ หาตอง ธมมฺ วฑุ โฺ ฒ
๒๒ สงิ หาคม ๒๕๕๒
คำ�ปรารภสอง
คำ�ปรารภสาม
ก็เปน็ ไปดังทห่ี วงั ไว้วา่ โอกาสหน้าถา้ มคี งพบกนั ใหม่ บัดนโ้ี อกาส
นนั้ ก็มาถึงแลว้ ประทีปธรรมเล่ม ๓ จงึ เกดิ ข้ึนด้วยหลักการของวัดปา่
วชริ บรรพตทเี่ ป็นมรดกตกทอดทางธรรมจากบรรพบรุ ุษ หลังจากศรัทธา
ท่ีค่อยๆเร่ิมกอ่ ตวั จนเป็นรูปธรรมปรากฏแกผ่ ู้ฝกั ใฝใ่ นธรรม แนะน�ำ เอาหลัก
การของวัดป่าวชิรบรรพต ไปประพฤติปฏิบัติ จนเป็นเหตุให้ผู้ใคร่ธรรม
มุ่งแสวงหาสัจจะธรรมของชีวติ มุ่งมาสวู่ ดั ป่าวชริ บรรพตเปน็ ระยะๆจน
ทำ�ใหห้ นังสือเลม่ ทีพ่ มิ พค์ ร้ังท่ี ๒ ใกลห้ มดลง ถ้าจะรอให้เหมือนเลม่ แรก
ความเน่นิ ชา้ กจ็ ะเกดิ ขน้ึ เพื่อตดั รอยเก่า การพมิ พ์คร้ังนจ้ี ึงเกดิ ข้ึน
ขออนุโมทนากับคณะศรัทธา ท่ีคอยชว่ ยเกือ้ หนนุ ค้ำ�จุนให้ประทปี
ธรรมเลม่ น้ี เปล่งประกายบนถนนคนอ่านหนังสอื เปรียบเหมือนหิ่งห้อย
น้อยโลดคะนองในคืนทพี่ ระจันทรห์ ลับอยู่
พระอาจารยม์ หาตอง ธมมฺ วฑุ โฺ ฒ
๒๔ กนั ยายน ๒๕๕๔
๒๓.๑๐ น.
วดั ป่าวชิรบรรพต
พิมพ์ครงั้ ท่ี 1 : 4 ตลุ าคม 2552 จ�ำ นวน 5,000 เลม่
พมิ พค์ ร้งั ท่ี 2 : 27 กรกฏาคม 2553 จำ�นวน 10,000 เลม่
พมิ พ์คร้ังที่ 3 : 4 ตุลาคม 2554 จำ�นวน 20,000 เลม่
ISBN : 111-111-111-111-1
พิมพท์ ี่
...............................
กดกฟดกดฟกดหกดกดกหดหกดหกดหกดกดหกดกหดกหดกดก
วัดป่าวชริ บรรพต
ตำ�บลหนองข้างคอก อำ�เภอเมือง จงั หวัดชลบุรี โทร.038-263282
www.watpahwachirabanpod.ob.tc
เกรน่ิ นำ�
วัดป่าวชิรบรรพต เมื่อกล่าวถึงชื่อวัดนี้ คงจะมีหลายคน
ที่มีบ้านอยู่ในจังหวัดชลบุรีบอกว่าไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยิน แต่พอ
มีโอกาสได้เข้ามาที่วัดแล้ว จะพบว่าภายในวัดมีบรรยากาศที่
สงบเงียบ เป็นสถานที่ที่สัปปายะแห่งหนึ่ง เหมาะสำ�หรับการ
ปฏิบัติเจริญกรรมฐานมาก และที่สำ�คัญคุณจะได้พบเจ้าของ
บ้าน หลวงพ่อมหาตอง ธมฺมวุฑฺโฒ ซึ่งปกติแล้วถ้าท่านไม่ได้
ติดธุระที่จำ�เป็นนอกวัด ท่านก็จะนั่งรับแขกอยู่ตรงที่ประจำ�
ของท่านในศาลา ผู้ที่มีโอกาสได้พบท่านในครั้งแรกจะสัมผัส
ได้ถึงความเมตตาของท่าน จนบางคนรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ส่ง
ผ่านมาถึงใจ ยิ่งถ้าผู้ที่มาสนใจจะมาปฏิบัติธรรมที่วัด จะได้
รับการต้อนรับจากหลวงพ่อด้วยความเป็นกันเอง และท่านก็
จะให้คำ�แนะนำ�โดยจะเป็นธรรมะง่ายๆ สำ�หรับผู้เริ่มต้น และ
จะต่อยอดความรู้ทางธรรมสำ�หรับผู้ที่เคยปฏิบัติมาบ้างแล้ว
“เสมือนว่าท่านได้เริ่มปลูกต้นกล้าธรรมะไว้ในใจสำ�หรับผู้เริ่มต้น
และช่วยตัดแต่งกิ่งใบสำ�หรับผู้ที่ต้นธรรมะกำ�ลังเติบโต”
ความเมตตาของหลวงพ่อไม่ได้หมดแค่นี้ ท่านยังเป็นที่
พึ่งสำ�หรับผู้ที่กำ�ลังเดือดเนื้อร้อนใจ เมื่อได้เดินทางมาถึงที่วัด
ผู้คนเหล่านั้นจะเหมือนกับได้รับน้ำ�เย็นช่วยชโลมใจคนละหนึ่ง
แก้ว แต่อย่าคิดว่าท่านจะสอนให้ดื่มน้ำ�เย็นทีเดียวหมดแก้ว
เพื่อแก้ไขความร้อนที่เกิดขึ้นในใจ ท่านกลับสอนให้พิจารณา
น้ำ�เย็นแก้วนี้ โดยจะอุปมาน้ำ�เย็นเหมือน “บุญ” บุญเป็นชื่อ
ของความสุข เมื่อได้รับแล้วต้องรู้จักใช้ประโยชน์ให้เป็นและ
รักษาบุญเอาไว้ให้ได้ โดยเรียนรู้ว่าบุญเกิดขึ้นได้จากอะไร
บุญ เกิดมาจากทาน ศีล สมาธิ ต้องรู้จักทำ�ให้เป็นบุญ โดยท่าน
จะสอนธรรมะด้วยการยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว เหมือน
ท่านเมตตาช่วยเขี่ยผงที่เข้าตา ให้แก่ผู้เดือดร้อนใจ และยัง
เมตตารดน้ำ�พรวนดินให้กับต้นธรรมะอีกหลายๆ ต้น ในเวลา
เดียวกัน
ผู้ที่สนใจศึกษาธรรมะจะมาฟังธรรมในตอนเช้าเวลา
ประมาณ 8.30 น. - 9.30 น. หรือถ้าสะดวกในช่วงบ่าย ก็
สามารถมาสนทนาธรรมกับหลวงพ่อได้ก่อนเวลา 18.00 น.
เพราะจะเป็นเวลาทำ�วัตรเย็น
“สากัจฉายะ ปัญญา เวทิตัพพา”
ปัญญารู้ได้ด้วยการสนทนา
(พุทธศาสนสุภาษิต)
คำ�นำ�สาม
การจดั พิมพ์หนังสอื “วัดปา่ วชิรบรรพต” ในครั้งทส่ี ามน้ี
หลวงพอ่ มหาตอง ธมฺมวฒุ โฺ ฑ ไดด้ ำ�รใิ ห้จดั พมิ พ์ขึน้ อกี ครัง้ เพื่อให้
ทา่ นผ้อู ่านได้ทราบถึงประวตั คิ วามเปน็ มาของวัด และเพือ่ เผยแผ่
ค�ำ สอนของพระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า เนือ้ หาในหนงั สอื เล่มนีย้ ังคงไว้
ซง่ึ ความหลากหลาย ไม่ว่าจะเปน็ เกรด็ ธรรมค�ำ สอนของหลวงพ่อ
มหาตอง ธมฺมวุฒฺโฑ ทไ่ี ดร้ วบรวมจากญาติโยม อกี ทัง้ ไดม้ ีการปรับ
เปลี่ยนเรียงร้อยเร่ืองราวใหม้ คี วามเปน็ ปจั จบุ นั มากยิ่งขน้ึ เพ่อื ใหผ้ ู้
ที่สนใจได้รับทราบเรื่องราวของสถานทแ่ี หง่ น้ี
หนงั สือเล่มน้ไี ดก้ ล่าวถึงประวัติของหลวงพ่อเชย และท่าน
อาจารย์สู ซ่งึ เปน็ บรรพบุรุษทางธรรมของสถานทแ่ี หง่ นี้ ท้งั ยังได้
เพม่ิ เติมข้อมลู เก่ียวกับความเป็นมาของ “กล่มุ ธรรมปาลี” เนื้อหาท่ี
บรรยายนน้ั ถา่ ยทอดด้วยภาษาทอ่ี ่านและเข้าใจงา่ ย ตามหลักธรรม
คำ�สอนของพระพุทธองค์ท่ีหลวงพ่อจะกล่าวสอนอยู่ตลอดเวลาใน
เรือ่ ง “ศีล สมาธิ ปัญญา” เปรียบเสมอื นประทปี ธรรมส่องแสง
สวา่ ง ให้กบั ผ้กู ้าวเดินทางธรรม เม่ือมคี วามเขา้ ใจที่ถกู ตอ้ งกจ็ ะ
สามารถบรรลุประโยชนท์ งั้ ในปจั จบุ ันและอนาคต
ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมหาตอง ธมฺมวุฒฺโฑ บิดา
มารดา คุณครูบาอาจารย์และกัลยาณมิตรทุกท่าน ที่ให้ความ
เมตตาช่วยเหลือ ให้หนังสือเล่มนี้สำ�เร็จลงได้
กศุ ลผลบญุ อนั เนอ่ื งจากการจดั พมิ พห์ นงั สอื ในครง้ั น้ี ขอนอ้ ม
ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บชู าคณุ บิดามารดา คุณครู
บาอาจารยท์ กุ ทา่ น
ขออานภุ าพแห่งพระรัตนตรยั น�ำ สิรมิ งคลอนั ประเสริฐ
ทงั้ ปวงจงมีแด่ทา่ นทงั้ หลายทไ่ี ดร้ ่วมแรงรว่ มใจ สืบทอดสายใยใน
พระพุทธศาสนา ขออานิสงสแ์ ห่งธรรมทานนี้จงเปน็ พลวปจั จัย เปน็
นสิ ยั ตามสง่ ให้เกดิ ปญั ญาญาณ จนถึงความพ้นทุกข์ด้วยเทอญ
ธรรมปาลี
30 กันยายน 2554
สารบัญ
23 ประวัติวดั ปา่ วชิรบรรพต
47 ประวัตหิ ลวงพ่อมหาตอง ธมมฺ วุฑโฺ ฒ
55 หลวงพ่อเลา่ เร่ือง (ถอดเสียงเทศนาธรรม)
79 เกรด็ ธรรมค�ำ สอนของหลวงพ่อ
107 เรียงรอ้ ยเร่อื งราวในวัดปา่ วชิรบรรพต
151 ภาคผนวก
- หลวงพอ่ เชย
- อาจารยส์ ู พรหมเชยธีระ
- ธรรมปาลี
ประวัติ
วดั ป่า
วชิรบรรพต
1. ศาลาการเปรียญ
2. สระน้ำ�
3. ห้องน้ำ�
4. ที่พักอุบาสิกา
5. โบสถ์
6. ห้องเก็บของ
7. หอไตร
8. กุฎิ แผนผังวัดป่าวชิรบรรพต
9. แท็งค์น้ำ�
ประวัติวดั
วัดป่าวชิรบรรพต ตั้งอยู่เลขที่ 57/2 ตำ�บลหนอง
ข้างคอก อำ�เภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ได้ดำ�เนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์
พ.ศ.2545 โดยนายนพพร เทพสิทธา กระทรวงศึกษาได้
ประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ในเนื้อที่
ขนาด 7 ไร่ 86 ตารางวา โดยมีหลวงพ่อมหาตอง ธมฺมวุฑฺโฒ
เป็นเจ้าอาวาส
ปั จ จุ บั น วั ด ป่ า ว ชิ ร บ ร ร พ ต มี เ ส น า ส น ะ แ ล ะ ก า ร
สาธารณูปโภคเท่าที่จำ�เป็นต่อการอยู่อาศัยปฏิบัติธรรมสำ�หรับ
พระ เณร และฆราวาส ดังนี้
1. โบสถ์
2. ศาลาการเปรียญ
3. หอไตร
4. กุฏิ
5. เรือนพักอุบาสิกา
25 ประวัติวดั ป่าวชิรบรรพต
ศาลา
วดั ป่ าวชิรบรรพตมีเสนาสนะ เหมาะสำ� หรับการปลกี วเิ วกของผู้
ใคร่ในการปฏิบัติธรรม ในส่วนของการเผยแผ่พุทธศาสนาและการ
บริการชุมชน ทางวัดได้จัดให้มีการอบรมปฏิบัติธรรมแก่ นักเรียน
นักศึกษา ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนท่ัวไป ได้เข้ามาปฏิบัติธรรม
โดยการวางพื้นฐานให้เหมาะสมส�ำหรับผู้ปฏิบัติธรรมด้วยดีเสมอมา
เนน้ ใหม้ กี ารวางรากฐานสำ� หรบั ครอบครวั ปฏบิ ตั ธิ รรม โดยแนะน�ำให้พา
ลูกหลานเข้าวัดท�ำบุญ ต้ังแต่เด็กๆ เป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีให้แก่เด็ก
ท่ีส�ำคัญยังช่วยสร้างเสริมสัมพันธภาพท่ีดีให้กับครอบครัว จึงนับเป็น
วัดที่เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชาวพุทธในท้องถิ่นนี้ ตลอดท้ังเป็น
ศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาใหเ้ จรญิ รุ่งเรืองสบื ไป
ประวตั วิ ัดปา่ วชริ บรรพต 26
โบสถ์
กฏุ ิ ศาลา
27 ประวตั ิวัดปา่ วชริ บรรพต
หอไตร
Concept
น�ำปัญญาในอดีตมาใช้ในปัจจบุ นั โดยละทิง้ รูปแบบซง่ึ เป็นเพียง
เปลือกนอกโดยสนิ ้ เชิง
วสั ดแุ ละวิธีการก่อสร้างเลือกใช้แบบธรรมดาสามญั ที่พบเห็นได้
ทว่ั ไปในงานชาวบ้านแตอ่ าคารงามสงา่ ด้วยสดั สว่ น และเนือ้ แท้ของวสั ดุ
มีความสงบนิ่งแตท่ รงพลงั เชน่ จิตที่เดด็ เดี่ยวมนั่ คงแบบพทุ ธ
Description
โครงการเผยแพร่ธรรมมะของวัดเขาพุทธโคดมนัน้ มีหลายรูป
แบบ นอกเหนือจากกิจกรรมเชิงปฏิบตั แิ ล้ว การจดั ท�ำเอกสารเชิงวชิ าการ
ก็เป็นสว่ นหนง่ึ ท่ีเป็นนโยบาย ที่ทางวดั ให้ความส�ำคญั จงึ เป็นที่มาของ
การออกแบบและก่อสร้ างหอไตรเพื่อใช้ในการจัดเก็บหนังสือธรรมะ
ประวัติวดั ปา่ วชริ บรรพต 28
SCRIPTURE HALL
หลายร้อยเร่ือง จ�ำนวนกวา่ สามแสนเลม่ แตค่ วามสงู ชนั ของพืน้ ท่ี
ภายในวดั กลายเป็นข้อจ�ำกดั ท่ีท�ำให้ต้องย้ายท่ีตงั้ ไปยงั วดั ป่ าวชิรบรรพต
ซงึ่ เป็นวดั พี่วดั น้อง มีความชนั น้อยกวา่ เหมาะสมกบั อาคารขนาดใหญ่
สถาปนิกศกึ ษาลกั ษณะของหอไตรในเชิงประเพณี ท�ำให้ทราบ
วา่ ในสมยั ก่อนนนั้ ใช้จดั เก็บคมั ภีร์พระไตรปิ ฎก เฉกเชน่ ห้องสมดุ สำ� หรับ
พระ การสร้างตวั อาคารอยกู่ ลางน�ำ้ และใช้ไม้กระดานพาดเดินมีเหตผุ ล
เพื่อป้ องกนั แมลงเข้าไปแทะกดั หนงั สอื น�ำ้ ยงั ชว่ ยลดอณุ หภมู ิของอาคาร
ให้เกิดความเยน็ สบาย ที่เหมาะแก่การศกึ ษาเลา่ เรียน จงึ ต้องการน�ำ
ภมู ิปัญญาดงั้ เดมิ นนั้ มาใช้ให้เป็นประโยชน์
ภายในตวั อาคารผงั สี่เหลย่ี นผืนผ้า หอไตรแหง่ นีไ้ มม่ ีสว่ นประดบั
ตกแตง่ มากมายเฉกเชน่ หอไตรเชิงประเพณี องค์ประกอบตา่ งๆ ถกู ลด
ทอนลงเหลอื เทา่ ท่ีจ�ำเป็น ล�ำดบั การวางของต�ำแหนง่ ชอ่ งเปิ ดนนั้ มีความ
พ้องกบั ชอ่ งหน้าตา่ งหอไตรแบบดงั้ เดมิ การยกหลงั คาสงู และมีลกั ษณะ
เป็น Double roof เป็นอีกสว่ นหนง่ึ ท่ีชว่ ยลดความร้อน ภาพของหอไตรมี
ตงั้ ตระหงา่ นอยบู่ นเนินเตีย้ ๆ ที่ผา่ นการปรับพืน้ ที่ อยา่ งหยาบๆ มีฉาก
หลงั เป็นสเี ขียวเข้มของป่ าไม้ท่ียงั อดุ มสมบรู ณ์ บริบทและเส้นสายของ
อาคารท่ีตรงไปตรงมาเชน่ นี ้ท�ำให้อาคารดสู งบนิ่งและมีความสงา่ งาม
29 ประวตั วิ ดั ป่าวชริ บรรพต
เรือนพกั อบุ าสกิ า
Concept
แนวคดิ เชน่ เดียวกบั วทิ ยาศาสตร์ นกั วิทยาศาสตร์ศกึ ษาลกึ ลงไป
ในสงิ่ ท่ีเลก็ ที่สดุ เพ่ือการเข้าใจถงึ ความจริงทงั้ มวล ในทางพทุ ธให้เข้าใจ
ความจริงท่ียิ่งใหญ่อนั เป็นธรรมะ ผ้ปู ฏิบตั ธิ รรมเพ่ือศกึ ษาและเรียนรู้โดย
ไมผ่ า่ นค�ำ (Verbal) เชน่ การพดู อา่ น เขียน หรือฟัง แตใ่ ช้การศกึ ษา
ลกึ ลงไปภายในตวั เอง (กระบวนการโยนิโสมนสกิ าร) เพื่อศกึ ษาตรวจ
สอบและรับรู้จิตไปสตู่ ้นทางของความจริง พลงั (กฎไตรลกั ษณ์) และเพื่อ
เข้าใจความสมั พนั ธ์นนั้ กับทุกอย่างอนั เป็ นความจริง(ปฏิจจสมปุ บาท)
หรือธรรมะ ตวั อาคารถกู ออกแบบมาเป็นยานพาหนะท่ีน�ำพาผ้ปู ฏิบตั ิ
ธรรม การมีประสบการณ์จริงภายในอาคารจะโน้มน�ำให้ปฏิบตั ธิ รรม
ซาบซงึ ้ ในความงามและความย่ิงใหญ่ของธรรมชาตอิ นั เป็นธรรมะ
โดยแนวคดิ หลกั ของการออกแบบ คือ การไมแ่ สวงหาเคร่ืองมือ
มาแก้ปัญหา แตป่ ัญหานนั้ คือทางออกของปัญหาเหลา่ นนั้ นน่ั เอง
ประวัติวัดป่าวชริ บรรพต 30
Description
อาคารถูกสร้ างขึน้ เพ่ือกุศโลบายผ่านองค์ประกอบทาง
สถาปัตยกรรมหลายรูปแบบ เพ่ือเอือ้ ให้ผ้ปู ฏิบตั ธิ รรมได้สมั ผสั กบั ความ
งามแหง่ ธรรมชาตคิ วบคไู่ ปกบั การฝึกตน
เน่ืองจากระยะหลงั มีสถาบนั การศกึ ษา และหนว่ ยงานเข้ามา
ตดิ ตอ่ เพ่ือให้บคุ ลากรเข้ามาปฏิบตั ธิ รรมจ�ำนวนมากขนึ ้ ทกุ วนั หลวงพอ่
ทา่ นมีวิธีการสอนลกู ศษิ ย์โดยให้ธรรมชาตเิ ป็นแก่น ทา่ นอยากให้อาคาร
เปรียบเสมือนบ้านหลงั ที่สองของพทุ ธศาสนิกชน มีความอบอนุ่ สงบ
สบาย คงสภาพท่ีมีอยเู่ ดมิ ไว้ให้มากท่ีสดุ เพราะวดั เป็นท่ียดึ เหน่ียวจิตใจ
ทงั้ สว่ นบคุ คล ครอบครัว และสงั คม โดยท�ำหน้าท่ีผสานกาย จิต และ
วญิ ญาณให้เป็นหนง่ึ
อาคารสองชนั้ ขนาดกวา่ 2,000 ตารางเมตร แตถ่ กู อ�ำพรางไว้
เนื่องจากปกคลมุ ด้วยแมกไม้ที่มีขนาดใหญ่และหนาแนน่ เป็น แตเ่ มื่อ
ก้าวแรกท่ีผา่ นซ้มุ ประตกู ่ออิฐเลก็ ๆ กบั โครงสร้างไม้ท่ีประกอบเรียบงา่ ย
ด้านหน้าอาคารผา่ นสระน�ำ้ เลก็ ๆ สองด้านมีการตดิ ตงั้ ประตมิ ากรรมรูป
ทรงคล้ายเมล็ดข้าวสีทองและผ่านเส้นน�ำสายตาบนพืน้ ที่เกิดจากการ
สกดั ผิวพืน้ แกรนิต ที่นอกจากจะชว่ ยกนั ลื่นแล้วยงั กลายเป็นเส้นน�ำ
สายตาพ่งุ เข้าสดู่ ้านในอยา่ งรุนแรงและหยดุ กระทนั หนั ด้วยก้อนหินภเู ขา
ขนาดใหญ่ซงึ่ มีอยเู่ ดมิ และสถาปนิกต้องการรักษาไว้เพื่อให้สมั ผสั ได้ถงึ
เรื่องราวของดนิ ในชว่ งเวลาสนั้ ๆ นีเ้องท่ีเราจะรู้สกึ ได้ถงึ การเปลี่ยนแปลง
ของพืน้ ที่อยา่ งฉบั พลนั (shock of space)
เป็นลกั ษณะเดียวกบั การเดนิ เข้าไปในอโุ บสถหรือวหิ าร หาก
เพียงแต่ภาพของพระประธานท่ีเราอาจจะคาดหวงั จะได้เห็นนัน้ ได้ถูก
แทนท่ีด้วยภาพของป่ าธรรมชาตสิ เี ขียวขจี และแนวสนั เขาของที่ตงั้ โดย
31 ประวัตวิ ดั ป่าวชริ บรรพต
โถงความสงู ของชนั้ ท�ำหน้าท่ีเป็ นกรอบภาพขนาดใหญ่ที่เน้นความงาม
และความย่ิงใหญ่ของธรรมชาตใิ นสว่ นของการใช้สอยนนั้ แบง่ พืน้ ที่พกั
ญาติโยมผ้ ูหญิงให้ เกิดความเหมาะสมด้ านกาลเทศะระหว่างฆราวาส
และบรรพชิต โดยรวมแล้วแบง่ เป็นสองสว่ นอยา่ งชดั เจน คือ พืน้ ที่
ส�ำหรับการใช้งานกลางวนั และกลางคืน
พืน้ ที่ชัน้ ล่างนัน้ มีชานไม้ ย่ืนโครงสร้ างออกไปลอยตัวอยู่
ทา่ มกลางต้นไม้ ท�ำให้บรรยากาศในการนง่ั สมาธินนั้ เงียบสงบ รวมทงั้ มี
ห้องรวมส�ำหรับผ้สู งู อายทุ ี่ไมส่ ามารถเดนิ ขนึ ้ ลงบนั ไดชนั ได้สะดวก การ
เปิ ดโล่งและยกพืน้ ชัน้ ล่างคล้ายใต้ถุนโดยปราศจากเฟอร์นิเจอร์ใดๆ
ท� ำให้ ผิวมันเงาของพื น้ แกรนิ ตนัน้ สะท้ อนองค์ ประกอบทาง
สถาปัตยกรรมราวกบั ผืนน�ำ้ พืน้ ที่ชนั้ ลา่ งจะมีญาตโิ ยมมาใช้งานเป็น
จ�ำนวนมาก แม้จะเป็นฤดรู ้อนแตอ่ ณุ หภมู ิภายในเพิงพกั แหง่ นีก้ ลบั ท�ำให้
เกิดสภาวะสบายที่ยงั คงเอือ้ ให้เกิดกิจกรรมได้หลายอยา่ ง เชน่ การเดนิ
จงกรม นงั่ อา่ นหนงั สือ และนง่ั สมาธิ อนั เนื่องมาจากบริบทรอบด้าน
และความโปร่งโล่งของตวั อาคารพืน้ ที่ชนั้ บนถูกออกแบบมาเพื่อการใช้
งานในเวลากลางคืน คือ การนอนพกั ผอ่ น การฝึกสมาธิ การจดั วางผงั
ชนั้ บนแบง่ เป็ นห้องนอนรวมสองฝ่ังท่ีโอบล้อมพืน้ ท่ีใช้สอยสว่ นกลางที่ชนั้
ลา่ งและถกู เชื่อมตอ่ ด้วยพืน้ ท่ีจดั เก็บ และห้องอา่ นหนงั สือ ซง่ึ สามารถ
ปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ นอกจากนีย้ งั ได้มีห้องนอนขนาดไมเ่ ทา่ กนั
เพ่ือความเหมาะสมในการใช้งานแตล่ ะครัง้ และการดแู ลรักษาในระยะ
ยาว บริเวณด้านหลงั ของอาคารได้มีการออกแบบโครงสร้างทอ่ เหลก็
สำ� หรับการตากผ้าอยา่ งเป็นระเบียบ ในขณะท่ีสว่ นของห้องอาบน�ำ้ และ
ห้องสขุ า ก็มีการออกแบบเป็นจ�ำนวนมากเพื่อเพียงพอตอ่ จ�ำนวนผ้ใู ช้
งานซงึ่ บางวาระที่ผ้ใู ช้งานกวา่ 350 คนตอ่ วนั
ประวตั ิวัดปา่ วชิรบรรพต 32
๑๑๑๓๑๒๙๑๘.๐๗..๖.พ.๕.เ.๔พพ.๓หลอแ.๒บอ.พ๑องน็.จสเอ.พไขเอ.มถสกกึลดกก้าดไูอ้ีเาีกเห้ขทินปคปงคมอกงบาิน่ี่มนแขารกสิานลอ่ืมอลหีอสโกจกีแานก้งีทวเถลนาาลเข้รนหนพาอาพกก้า่าวาบวนงย่ังศดร็ทงหกหยรก�อปำหขเงิน�ำลลหล็คีะคกกอวเทบเัใรยบวิดัารงคั็ปงีา่ยนสียงสกัญขจตนรอกรนกอมลละะานยวเวิทวางคสรภัเุดยีมาา่ร้ีาหย่ยเงราีกมยทรามบกอควเรียจลกปีดางณิัเงวค์จกะ็จงวงีกนดคา่ะตล้ฟบวา่าฑรเงเัฤสชาป่ภดวีััชขิญดัเบหรหบ่ีดยัะราอ้าาสัชมตว�ำวมงตงถีเชเนอือวดัสพหโ์ายนาดัปียญ็ญลปขู่จอร้าฏดวุดกปฐั งปิิบจสงรวิวยตัรตพัดั ตะัตัวิ ทอ่ร์ิ ดั เดิม
จากหนังสือ มัคกลีผล
33 ประวัตวิ ดั ปา่ วชริ บรรพต
กว่าจะเป็นวัดป่าวชริ บรรพต
จากสถานปฏิบตั ธิ รรมของหลวงพอ่ เชย และ เต่ีย (อาจารย์ส)ู
บนเขาปากแรต ได้กอ่ ตงั้ เป็นทพ่ี กั สงฆ์ และ เป็น“สำ� นกั สงฆว์ ชริ ธรรมบรรพต”
โดยการช่วยเหลือสนับสนุนของพระโสภณวชิรธรรม(พระอาจารย์
ศรีนวล)อดีตเจ้าอาวาสวดั วชิรธรรมสาธิต (วดั ทงุ่ สาธิต) ซง่ึ เป็นศษิ ยท์ ่ี
เตย่ี รกั มากทสี่ ดุ รูปหนง่ึ และท้ายสดุ สามารถสร้างเป็น “วดั ป่ าวชริ บรรพต”
ได้ส�ำเร็จ โดยพระอาจารย์ตอง ธมมฺ วฑุ ฺโฒ ซงึ่ เป็นผ้บู กุ เบกิ ริเริ่ม และ
เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกจนถงึ ปัจจบุ นั นบั วา่ สถานท่ีท่ีเหมาะสมแก่การ
ปฏิบตั ิธรรม และเป็ นสถานท่ีที่ผ้ปู ฏิบตั ิดีปฏิบตั ิชอบได้ทิง้ ไว้ให้คน
รุ่นหลงั ด�ำเนินตามแหง่ นี ้ ได้ผนวกอยใู่ นพทุ ธอาณาจกั รอยา่ งถกู ต้อง
สมบรู ณ์ โดยได้มีการดแู ลรักษาอยา่ งเหมาะสม และใช้เป็นที่ส�ำหรับ
เผยแพร่ธรรม สืบตอ่ พระพทุ ธศาสนา ยงั ประโยชน์ให้แก่พทุ ธบริษัททงั้
หลายบรรลตุ ามเจตนารมณ์ของเต่ียทกุ ประการแล้ว
เมื่อหลวงพอ่ เชยมรณภาพ เตี่ยได้สร้างเจดีย์บรรจพุ ระธาตสุ ว่ น
หนงึ่ ของหลวงพอ่ เชยไว้บนเขาปากแรต บริเวณหน้ากฏุ ขิ องหลวงพอ่ เชย
และ ได้สร้างเจดีย์เพิ่มเตมิ อีก 2 จดุ จดุ หนง่ึ บรรจอุ ฐั ิของหลวงพอ่ เขมร
ท่ีธดุ งค์ผา่ นมา และหยดุ ปฏิบตั ธิ รรมจนมรณภาพอยบู่ นเขาปากแรต
อีกจดุ หนงึ่ ส�ำหรับสกั การะไต้ต่ี เทพแหง่ บรรพตและเป็นเทพผ้พู ิทกั ษ์
พระพทุ ธศาสนา เตี่ยบอกพวกเราวา่ ท่ีนี่เป็นสถานท่ีศกั ดิ์สทิ ธ์ิ มีฮวงจ้ยุ
ประวตั วิ ดั ปา่ วชิรบรรพต 34
ที่ดีมาก ลกู หลานคนใดได้มากราบไหว้เจดีย์ของหลวงพอ่ เชย หลวงพอ่
เขมร และ ไต้ตี่ เป็นประจ�ำทกุ ปี จะมีแตค่ วามเจริญรุ่งเรือง ยิ่งถ้าได้มา
ปฏิบตั ธิ รรมบนนีอ้ ยา่ งจริงจงั ก็จะส�ำเร็จดงั่ ที่ตงั้ ใจ
เม่ือเต่ียบวชและต้องการขึน้ มาปฏิบัติธรรมบนเขาปากแรต
คณุ ประสาน จงรุ่งเรือง สามีของเจ๊บ้วย (นางฉวีวรรณ จงรุ่งเรือง)
ลกู สาวคนโตของเต่ีย ก็ได้สร้างกฏุ ิขนึ ้ ใหมเ่ ป็นตกึ สองชนั้ ตามความ
ต้องการของเต่ีย ที่ต้องการสร้างสถานท่ีท่ีมน่ั คงพอสมควร เผื่อไว้
ส�ำหรับคนรุ่นหลังได้ใช้อาศัยเมื่อขึน้ มาปฏิบัติธรรมบนเขาปากแรต
หลงั จากที่เต่ียสกึ ลงจากเขาไปอยทู่ ี่บ้านในตวั เมืองชลบรุ ี ก็ยงั คงมา
สักการะเจดีย์ทัง้ สามเป็ นประจ�ำทุกวันเช็งเม้งของทุกปี ไม่ได้ขาด
2 -3 ปี ก่อนท่ีเต่ียจะจากพวกเราไป เตี่ยเป็นหว่ งสถานท่ีบน
เขาปากแรตมาก จงึ ได้ปรึกษาพระโสภณวชิรธรรม (หรือท่ีพวกเราเรียก
วา่ ทา่ นอาจารย์สาธิต) และได้ข้อสรุปวา่ ควรจะยกสถานท่ีแหง่ นีใ้ ห้เป็น
ถาวรวตั ถใุ นพระพทุ ธศาสนา โดยในตอนแรกควรจดั ตงั้ เป็นท่ีพกั สงฆ์
ก่อนจากนนั้ ก็ตงั้ เป็นส�ำนกั สงฆ์ ซงึ่ ทา่ นอาจารย์สาธิตก็ได้ด�ำเนินการ
ขออนญุ าต และสนบั สนนุ ทกุ อยา่ งอยา่ งเตม็ ท่ี จนสามารถจดั ตงั้ เป็น
“สำ� นักสงฆ์วชริ ธรรมบรรพต” ได้ส�ำเร็จ เม่ือตงั้ เป็นสำ� นกั สงฆ์แล้ว
35 ประวัติวดั ปา่ วชริ บรรพต
เตี่ยได้ซือ้ ที่ดนิ บริเวณทางขนึ ้ เขา และ สร้างศาลาไม้ขนึ ้ 1 หลงั ขนาด
ไมใ่ หญ่นกั ส�ำหรับให้พระภิกษุไมก่ ่ีรูป ใช้เป็นที่จ�ำวดั ฉนั ภตั ตาหาร
และท�ำวตั รสวดมนต์ เต่ียได้ผนวกสถานที่บนเขาปากแรต ที่ดนิ และ
ศาลาบริเวณเชิงเขา เป็นส�ำนกั สงฆ์ และเต่ียได้มอบหมายให้เฮียฮวั้
(นายอภิชาติ พรหมเชยธีระ) ลกู ชายคนที่สองของเต่ีย เป็นผ้ดู แู ล
ส�ำนกั สงฆ์ และ คอยอ�ำนวยความสะดวกให้แก่พระภิกษุที่มาพกั อยทู่ ่ี
ส�ำนกั สงฆ์แหง่ นี ้ เมื่อจดั การเรื่องสำ� นกั สงฆ์เสร็จ เตี่ยก็หมดภาระ
หมดหว่ ง พร้อมท่ีจะจากไปได้ทกุ เมื่อ ซง่ึ ตอนนนั้ พวกเราก็ไมไ่ ด้เฉลียว
ใจในเรื่องนีเ้ ลย
เมื่อเตี่ยจากพวกเราไปในปี 2522 ทา่ นอาจารย์สาธิต เป็นผ้นู �ำ
พวกเราและศิษยานศุ ษิ ย์ของเต่ียในการจดั การงานศพให้เตี่ย ทา่ น
อาจารย์สาธิตได้ด�ำเนินการขอพระราชทานเพลงิ ศพ เป็นกรณีพิเศษ
ซงึ่ ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคณุ จากพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั อยา่ ง
ท่ีพวกเราไมเ่ คยคาดคดิ มาก่อน
ในวนั พระราชทานเพลงิ มีผ้คู นมากมายทงั้ ท่ีพวกเรารู้จกั และ
ไมร่ ู้จกั มาร่วมงาน มาจากทกุ ทิศทกุ ทาง มากจนไมน่ า่ เชื่อ นี่คืออีกสงิ่
หนงึ่ ที่เตี่ยสอนพวกเรา ให้มนั่ คงในการท�ำความดี ท�ำประโยชน์ให้แก่
สงั คม และตอบแทนแผน่ ดนิ คืนให้กบั แผน่ ดนิ ไมใ่ ชจ่ ะคืนก็ตอ่ เม่ือ
ตายไปแล้ว คือ คืนเฉพาะแตส่ งั ขารร่างกาย
เต่ีย คือ คนจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาพงึ่ พระบรมโพธิสมภาร มี
ประวตั ิวดั ปา่ วชิรบรรพต 36
ครอบครัวเจริญรุ่งเรืองอยใู่ นประเทศไทย ดงั นนั้ ในบนั้ ปลายของชีวิต
เตี่ยได้ใช้เวลาทงั้ หมด อทุ ิศตนบ�ำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ สงั คม เพื่อตอบ
แทนคณุ ของแผน่ ดนิ ไทยท่ีสอนให้เตี่ยได้เข้าใจ เข้าถงึ และ พฒั นาทาง
ธรรม ด้วยการน�ำธรรมะท่ีเตี่ยเรียนรู้มา คืนให้กบั คนในแผน่ ดนิ ไทย
เต่ียแนะน�ำธรรมะให้กบั ทกุ คนท่ีสนใจและตงั้ ใจศกึ ษา อยา่ งไมร่ ู้จกั
เหน็ดเหนื่อยแม้นจะจากไปแล้ว เต่ียก็ยงั ทิง้ ค�ำสอนไว้ให้พวกเราอีก
พวกเราได้ตกลงกนั น�ำอฐั ิของเต่ียสว่ นหนง่ึ ไปบรรจไุ ว้ในเจดีย์ท่ีสร้าง
ขนึ ้ ใหมบ่ นเขาปากแรต บริเวณต�่ำลงมาจากเจดีย์ของหลวงพอ่ เชย
เพื่อท่ีพวกเราและผ้ทู ่ีเคารพศรัทธาในคณุ ธรรมของเตี่ยจะได้ไปสกั กา
ระ และศกึ ษาธรรมะที่เต่ียฝากไว้เป็นปริศนาธรรม 3 บท จารึกอยบู่ น
เจดีย์ของเต่ีย 3 ด้าน
เน่ืองจากที่ดนิ ที่ซือ้ ไว้ มีขนาดไมใ่ หญ่พอท่ีจะสร้างเป็นวดั ตอ่
มาหลงั จากที่เต่ียจากพวกเราไปไมก่ ี่ปี ก็ได้มีการซือ้ ที่ดนิ เพิ่ม 2 แปลง
จากนายฮ้วน และ ยายเจือ และ มีผ้บู ริจาคที่ดนิ เพ่ิมอีก 1 แปลง คือ
คณุ สราวธุ โอภาพงพนั ธ์ ด้วยจิตศรัทธาที่ต้องการสนบั สนนุ การสร้าง
วดั ให้เกิดขนึ ้ ในบริเวณนี ้ ท�ำให้มีที่ดนิ เพียงพอที่จะขออนญุ าตก่อตงั้
เป็นวดั ได้ส�ำเร็จในภายหลงั
เมื่อมีท่ีดินเพียงพอแล้ว ลกู ๆและลกู ศษิ ย์ของเตี่ยก็ได้ปรึกษา
กนั และ เหน็ วา่ ควรสร้างโบสถ์และกฏุ ิขนึ ้ จ�ำนวนหนง่ึ เพ่ือให้มี
เสนาสนะท่ีเหมาะสมพร้อมท่ีจะจดั ตงั้ เป็นวดั คณุ ทวี บตุ รสนุ ทร และ
คณุ บนั ลือ กมั ปนาทแสนยากร คือ บคุ คลส�ำค¬ั ที่สดุ ท่ีชว่ ยเหลือพวก
37 ประวตั วิ ดั ป่าวชิรบรรพต
เราให้สามารถสร้างโบสถ์ได้สำ� เร็จ ท่ีสำ� คญั ทงั้ สองทา่ นยงั แนะน�ำให้
พวกเราได้รู้จกั คณุ ชชั วาลย์ พริง้ พวงแก้ว เจ้าของบริษัทดีไซน์ 103 ที่
เล่ืองช่ือในด้านการออกแบบ คณุ ชชั วาลย์ ได้มาส�ำรวจสถานที่ ด้วย
ตนเอง และเสนอให้สร้างโบสถ์บนเนินเขา ซงึ่ เป็นจดุ ที่มีท�ำเลเหมาะ
สมที่สดุ สามารถมองไปไกล เหน็ ได้ทงั้ ตวั เมืองชลบรุ ีและทะเล โดยมี
ด้านหลงั เป็นเขาปากแรต คณุ ชชั วาลย์ได้กรุณาออกแบบโบสถ์ให้โดย
ไมค่ ดิ คา่ ใช้จา่ ยและได้ก�ำหนดรูปแบบให้เป็นโบสถ์แบบประยกุ ต์ เพ่ือ
ให้เหมาะสมกบั ภมู ิทศั น์และสภาพแวดล้อม สะดวกตอ่ การดแู ลรักษา
และคา่ ก่อสร้างไมส่ งู เป็นท่ีนา่ ปลาบปลืม้ ที่โบสถ์สามารถสร้างได้เสร็จ
ภายในเวลา 2 ปี ด้วยจิตศรัทธาของศษิ ยานศุ ษิ ย์ของเต่ีย ท่ีชว่ ยกนั
ระดมทนุ และบริจาคเงิน มากบ้างน้อยบ้างตามความเหมาะสม เพ่ือ
สร้างมหากศุ ลจากการสร้างโบสถ์ และ บ�ำเพญ็ กศุ ล อทุ ิศให้แก่เตี่ย
ด้วยความกตญั ญกู ตเวที
ในชว่ งแรกๆ เมื่อทา่ นอาจารย์สาธิตยงั มีชีวติ อย ู่ ทา่ นได้สง่
พระภิกษุมาอยทู่ ี่สำ� นกั สงฆ์วชิรธรรมบรรพต แตก่ ็ไมม่ ีภิกษุรูปใดที่ต้อง
การจะอยปู่ ระจ�ำ มีแตไ่ ปๆ มาๆ เมี่อทา่ นอาจารย์สาธิตมรณภาพ หลงั
จากที่เต่ียจากพวกเราไปสกั ระยะหนง่ึ พวกเราก็รับหน้าที่หาพระ
ภิกษุมาอยู่ และพยายามสรรหาเจ้าอาวาสท่ีเหมาะสม มีพระภิกษุ
หลายรูปมาขออยู่ ทงั้ ชวั่ คราวและตลอดพรรษา แตส่ ดุ ท้ายก็ไมม่ ีผ้ใู ด
ต้องการอยปู่ ระจ�ำ
ประวัตวิ ดั ป่าวชริ บรรพต 38
สาเหตหุ นง่ึ เป็นเพราะ ตวั สถานที่ ซงึ่ เมื่อก่อนถือวา่ คอ่ นข้าง
ทรุ กนั ดาร เข้ามายาก ถนนเป็นลกู รัง มีไฟฟ้ าแตไ่ มม่ ีน�ำ้ ประปา ไมใ่ ช่
วดั เมือง แตใ่ นขณะเดียวกนั ก็ไมใ่ ชว่ ดั ป่ า เพราะมีต้นไม้น้อย มีแตห่ ลมุ
ลกู รังท่ีถกู ขดุ ไปขาย และมีชาวบ้านตงั้ บ้านเรือนอยชู่ ิดวดั ท�ำให้พืน้ ที่
บริเวณเชิงเขา ไมม่ ีความสงบร่มร่ืนเหมาะแก่การปฏิบตั ธิ รรมเทา่ ท่ีควร
สาเหตปุ ระการท่ีสอง คือ เรื่องอาหาร ในสมยั แรกๆ พระภิกษุ
จะต้องบณิ ฑบาตเลีย้ งชีพเอง และต้องเดนิ เป็นระยะทางไกลพอสมควร
ได้อาหารมากบ้างน้อยบ้าง ถ้าไมใ่ ชน่ กั ปฏิบตั ิที่แท้จริง ถือวา่ มีความ
ยากล�ำบากในเร่ืองอาหาร
และสาเหตปุ ระการท่ีสาม ก็คือ พวกเราได้ก�ำหนดกตกิ างา่ ยๆ
ขนึ ้ 3 ข้อ เพ่ือให้มนั่ ใจวา่ พระภิกษุที่ตงั้ ใจจะมาอยทู่ ่ีนี่ตอ่ ไป เป็นผ้ทู ี่
ศกึ ษาธรรมและปฏิบตั ิธรรมอยา่ งแท้จริง ตามเจตนารมณ์ของเตี่ย
กตกิ าดงั กลา่ วได้ก�ำหนดให้พระภิกษุที่มาอยใู่ นส�ำนกั สงฆ์แหง่ นี ้ หน่ึง
ต้องบณิ ฑบาตเลีย้ งชีพ สอง ต้องฉันมือ้ เดยี ว สาม ต้องไม่จบั
และมีปัจจยั หรือเงนิ ไว้ในครอบครอง พวกเราได้สร้างกลอ่ งบริจาค
เงินเพื่อให้ญาติโยมท่ีต้องการท�ำบญุ ใส ่ ไมอ่ นญุ าตให้มีการถวายกบั
พระภิกษุโดยตรง และ เงินในกลอ่ งก็ถือวา่ เป็นเงินของวดั เป็นเงินของ
สงฆ์สว่ นรวม ไมใ่ ชข่ องรูปใดรูปหนงึ่ เม่ือพระภิกษุต้องการใช้ในเรื่อง
ใดผ้ดู แู ลก็จะจดั การให้ โดยไมต่ ้องให้พระภิกษุถือเงินไปใช้เอง
39 ประวตั วิ ัดปา่ วชิรบรรพต
ไมน่ า่ เช่ือวา่ กตกิ างา่ ยๆนี ้ เมื่อรวม
กบั ข้อจ�ำกดั สามประการข้างต้นจะสามารถ
กรองพระภิกษุที่จะมาอย่ทู ี่วดั นีไ้ ด้อย่างดีดี
จนแทบจะหาพระภิกษุมาอยู่ไม่ได้พวกเรา
เคยเถียงกนั วา่ สมควรเปลี่ยนกติกานีห้ รือไม่
สดุ ท้ายก็สรุปวา่ ถ้าต้องการพระภิกษุผู้
ปฏิบตั ดิ ี ปฏิบตั ชิ อบต้องคงกตกิ าทงั้ สามข้อ
นีไ้ ว้มิฉะนนั้ จะมีพระภิกษุท่ีมีเจตนาอ่ืนแฝง
กายเข้ามาอย่ใู นที่นีแ้ ละอาจจะสร้างปัญหา
ได้ในอนาคต พวกเราเฝ้ ารอผู้ปฏบิ ตั ดิ ี
ปฏิบัติชอบอยู่นานแม้ นว่ าจะเห็นว่ า
เป็ นเร่ืองท่ียากมากแต่พวกเราก็ไม่เคย
หมดหวังเพราะพวกเราเช่ือม่ันในค�ำ
พยากรณ์ของเต่ยี ท่วี ่า “สักวันหน่ึงจะมี
พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาเป็ นเจ้า
อาวาสและน�ำพาญาติโยมสร้ างสถานท่ี
แห่งนีใ้ ห้เป็ นวัดท่ีเจริญรุ่งเรืองในทาง
ธรรมอย่างแน่นอน”
ในปี 2530 ทา่ นอาจารย์ตองได้
ธดุ งค์ผา่ นมา และเหน็ วา่ เป็นสถานที่หมาะ
สมท่ีจะปฏิบตั ิธรรม จงึ เข้ามาขออยปู่ ฏิบตั ิ
ประวตั วิ ัดปา่ วชริ บรรพต 40
ธรรมสกั ระยะหนงึ่ ตอนนนั้ พวกเราก็ยงั ไมไ่ ด้สนใจมากนกั เพราะคดิ วา่
จะเหมือนกบั รูปอื่นท่ีผา่ นมา แล้วก็ผา่ นไป พวกเรายงั คงรักษากตกิ า
ไว้อยา่ งเคร่งครัด และเริ่มแปลกใจเม่ือเหน็ ทา่ นอยนู่ าน มาถามทา่ น
ทา่ นก็บอกวา่ อยแู่ ล้ว ได้ฝึกตวั เองและ สามารถปฏิบตั ธิ รรมได้
ก้าวหน้าดีพวกเราบางคนได้เคยเข้ามานอนค้างวดั เป็ นลกู ศิษย์วดั เดิน
ตามทา่ นอาจารย์ตองไปบณิ ฑบาต เหน็ วา่ มีชาวบ้านศรัทธาเล่อื มใส
ใสบ่ าตรมากขนึ ้ กวา่ เดมิ ชาวบ้านท่ีอยบู่ ริเวณรอบวดั ก็เข้าวดั มา
ท�ำบญุ มากขนึ ้ โดยเฉพาะในวนั พระ มีชาวบ้านมาท�ำบญุ กนั จนแนน่
ศาลาไม้ บางครัง้ บางคนต้องนง่ั อยดู่ ้านลา่ งศาลา เพราะ เป็นศาลาที่
ไมใ่ หญ่มากนกั นอกจากนีก้ ็ยงั เหน็ ความ เปลย่ี นแปลงอีกหลายเรื่อง
มีชาวบ้ านและพุทธศาสนิกชนจากท่ีอ่ืนเข้ ามาร่ วมท�ำวัตรสวดมนต์
และ เวียนเทียนในวนั ส�ำคญั ๆ พอทา่ นอาจารย์ตองเร่ิมอบรมธรรมะ ก็
มีผ้สู นใจเข้ามาปฏิบตั แิ ละทะยอยเพ่ิมขนึ ้ เรื่อยๆ มีทงั้ ชาวบ้านบริเวณ
ใกล้เคียง พนกั งานการไฟฟ้ าฝ่ ายผลติ บางปะกง และพทุ ธศาสนิกชน
จากจงั หวดั ตา่ งๆ ทกุ คนมาแบบปากตอ่ ปาก เม่ือได้เหน็ ปฏิปทาของ
ทา่ นอาจารย์ตองเชน่ นี ้ พวกเราก็เกิดความเคารพศรัทธา เริ่มดีใจและมี
ความหวงั วา่ สถานที่แหง่ นีก้ �ำลงั จะได้ผ้ปู ฏิบตั ดิ ีปฏิบตั ชิ อบมาอยตู่ าม
ค�ำพยากรณ์ของเต่ียแล้ว
พวกเราได้มาอาราธนาขอให้ท่านอาจารย์ตองเป็ นเจ้าอาวาส
และอยทู่ ี่นีต้ อ่ ไป ในตอนแรกทา่ นอาจารย์ไมร่ ับปาก ทา่ นบอกวา่ “ยงั
41 ประวตั วิ ดั ปา่ วชิรบรรพต
ไมแ่ น่ ขอดกู ่อน” แตไ่ ด้ปรารภวา่ ศาลาไม้ที่มีอยคู่ อ่ นข้างจะแคบ จะขนึ ้
ไปใช้โบสถ์ทกุ วนั ก็ไมส่ ะดวกและไมค่ วรใช้โบสถ์เป็นศาลา ตอนนนั้
พวกเราก็ยงั สองจิตสองใจวา่ จะสร้างศาลาใหมด่ ีหรือไม่ เพราะเกรงวา่
เมื่อสร้างแล้ว ทา่ นอาจารย์ตองไมอ่ ยู่ ก็เปลา่ ประโยชน์ และจะกลาย
เป็นผลเสยี เพราะ เม่ือมีเสนาสนะมากขนึ ้ เกิดความเจริญทางด้านวตั ถุ
แตข่ าดผ้นู �ำทางด้านจิตวญิ ญาณ ก็จะไมเ่ ป็นไปตามเจตนารมณ์ของ
เต่ีย นอกจากนี ้ ความเจริญทางด้านวตั ถุ จะดงึ ดดู พระภิกษุผ้สู นใจแต่
ความเจริญความสะดวกสบายทางกาย ไมส่ นใจกบั การฝึกจิตใจ เข้า
มาอยทู่ �ำให้ผ้สู นใจปฏิบตั ธิ รรมไมส่ ะดวกใจที่จะเข้ามาอยรู่ ่วมด้วย ใน
ชว่ งแรกๆ พวกเราจงึ ระมดั ระวงั อยา่ งมากในเรื่องการสร้างถาวรวตั ถุ
ประวตั ิวัดป่าวชริ บรรพต 42
ในปี 2539 อาเนของพวกเรา (นางสนุ นั ท์ พรหมเชยธีระ ภรรยา
ของทา่ นอาจารย์ส)ู ได้จากพวกเรา เม่ือเผาศพของอาเนและน�ำอฐั ิไป
บรรจไุ ว้ในเจดีย์บนเขาปากแรตแล้วเสร็จ พวกเราก็ตกลงกนั วา่ จะ
สร้างศาลาหลงั ใหมข่ นึ ้ ที่ส�ำนกั สงฆ์วชิรธรรมบรรพต ในที่ดนิ บริเวณ
ด้านหน้า ท่ีมีผ้บู ริจาคมา เพ่ืออทุ ิศกศุ ลและเป็นอนสุ รณ์ให้แก่อาเน
พวกเราได้ กราบเรียนทา่ นอาจารย์ตองวา่ พวกเราจะสร้างเฉพาะแต่
โครงสร้างหลกั เทา่ นนั้ สว่ นการตกแตง่ และท�ำให้เสร็จสมบรู ณ์ต้องขอ
ให้ทา่ นอาจารย์เป็นธรุ ะ บอกศรัทธาญาตโิ ยมให้มาชว่ ยกนั สร้างศาลา
แหง่ ใหม่ เพ่ือให้เป็นศาลาที่สร้างโดยสว่ นรวม ไมใ่ ชส่ ร้างโดยพวกเรา
ทา่ นอาจารย์ก็ตกลงและขอให้สร้างเป็นสองชนั้ เพ่ือที่ชนั้ บนจะได้ใช้
43 ประวตั ิวดั ปา่ วชริ บรรพต
เป็นสถานที่ปฏิบตั ธิ รรมในที่สดุ ศาลาแหง่ ใหมก่ ็ได้สร้างส�ำเร็จลง สวยงาม
กว้างขวางเพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ตามวตั ถุประสงค์ของท่านอาจารย์
และ ทา่ นอาจารย์ได้ใช้สถานทน่ี ี ้ ยงั ประโยชน์ให้แกพ่ ทุ ธศาสนกิ ชนอยา่ งเตม็ ท่ี
ด้วยการอบรมเผยแพร่ธรรมอยา่ งจริงจงั ตามท่ีทา่ นอาจารย์ตงั้ ใจไว้
ท�ำให้พวกเราชื่นชมในบารมี และ ศรัทธาในปฏิปทาของทา่ นอาจารย์มากขนึ ้
ตอ่ จากนนั้ ทา่ นอาจารย์ก็ได้ปรับพืน้ ท่ีด้านหลงั ศาลาให้เป็นโรงครัว และ
ปรับปรุงพืน้ ที่ด้านหน้าให้ร่มร่ืน เปล่ียนจากพืน้ ดนิ แห้งแล้งทรุ กนั ดารให้เป็น
ดนิ แดนแหง่ ความสงบร่มเยน็ ชว่ ยโน้มน้าวใจให้ระงบั จากปัญหาและทกุ ข์
ตา่ งๆชว่ั คราว เกิดกศุ ลจิตที่จะแสวงหาทางที่น�ำไปสคู่ วามสะอาด สวา่ ง สงบ
อยา่ งถาวรตอ่ ไป
เม่ือทา่ นอาจารย์ตองปรารภกบั พวกเราวา่ ต้องการจะสร้างเป็นวดั ให้
ถกู ต้องสมบรู ณ์ พวกเราดีใจอยา่ งมาก เพราะนน่ั คือ ทา่ นอาจารย์ตกลงจะ
อยทู่ ี่นี่ตอ่ ไป และเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวดั นีอ้ ยา่ งแนน่ อนแล้ว ลกู ศษิ ย์
ของทา่ นอาจารย์ตองทงั้ ท่ีชลบรุ ีและที่ตา่ งๆ กบั พวกเราชว่ ยกนั เตรียมการ
และด�ำเนินการอยา่ งเตม็ ที่ ทกุ หนทางทกุ รูปแบบ ที่จะขออนญุ าตสร้างเป็นวดั
ให้ได้ ในที่สดุ ก็ส�ำเร็จ ได้รับการจดทะเบียนจดั ตงั้ เป็นวดั ท่ีถกู ต้องในปี
2545 ช่ือวา่ “วดั ป่ าวชิรบรรพต” โดยทา่ นอาจารย์ตองเป็นผ้รู ิเร่ิม บกุ เบกิ และ
เป็ นเจ้ าอาวาสรูปแรก
ประวัติวัดป่าวชริ บรรพต 44
พวกเราลกู หลานของเต่ีย ถือวา่ ได้ปฏิบตั ภิ ารกิจที่เต่ียมอบหมายเสร็จ
สมบรู ณ์ พวกเราดีใจที่ได้มอบทกุ อยา่ งท่ีเต่ียเตรียมไว้คืนไว้ให้กบั แผน่ ดนิ และ
พทุ ธอาณาจกั ร เพื่อประโยชน์ของพทุ ธศาสนิกชนทว่ั ไป และความเจริญ
รุ่งเรืองของพระพทุ ธศาสนา พวกเราได้ถอยออกจากการเป็นผ้ดู แู ล มาเป็น
เหมือนพทุ ธศาสนิกชนอื่นท่ีเข้าวดั ป่ าวชิรบรรพต เพ่ือมาท�ำบญุ และศกึ ษา
ธรรม ด้วยความเคารพและศรัทธาอยา่ งแรงกล้าใน
เพราะท่านอาจารย์ตอง คำ� ว่า “ สำ� นักวปิ ัสสนาวชริ ธรรมบรรพต
(พรหมเชยธีระอุปถมั ภ์)” กจ็ ะมลายหายไป
กลายเป็ น “วัดป่ าวชริ บรรพต”
ที่มีท่านอาจารย์ตองเป็ นผ้นู �ำร่วมกบั คณะสงฆ์นบั ว่าเจตนารมณ์ของ
เต่ียที่จะหมุนกงล้ อแห่งธรรมจักรสืบต่อจากท่ีหลวงพ่อเชยได้ น� ำ
กงล้อแหง่ ธรรมจกั รมาประดษิ ฐานไว้ ณ เขาปากแรต เป็นรูปแรกได้บรรลุ
แล้ว โดยมีทา่ นอาจารย์ตอง ผ้ไู ด้บ�ำเพญ็ ตบะบารมีจนเตม็ เป่ี ยม เป็นผู้
รับชว่ งและเป็นผ้นู �ำในการหมนุ กงล้อแหง่ ธรรมจกั ร ณ สถานที่แหง่ นี ้
เพ่ือเผยแพร่ธรรมของพระพทุ ธองค์ให้แก่พทุ ธศาสนิกผ้เู วียนว่ายอย่ใู นทะเล
แหง่ วฏั สงสารได้พากนั ปฏิบตั ธิ รรมเพ่ือความพ้นทกุ ข์ตอ่ ไป
45 ประวตั วิ ัดปา่ วชิรบรรพต
เจดยี ์หลวงพ่อเชย
บริเวณบน
เขาปากแรต
ทพี่ ักพระสงฆ์ เจดยี ์อาจารยส์ ู
ละครปดิ ฉาก ลงเรือข้ามฟาก
ท่ีน่ีเรยี บเรียบ ฝากให้ร้ขู ่าว
เซยี นสู
ประวตั ิ
หลวงพอ่ มหาตอง
ประวัติย่อและปฏิปทา
หลวงพ่อมหาตอง ธมมฺ วฑุ โฺ ฒ
หลวงพอ่ มหาตอง ธมฺมวฑุ โฺ ฒ ทา่ นเกิดเม่ือ
เมื่อวนั ที่ 20 กนั ยายน พ.ศ. 2492 บวชเมื่อปี
พ.ศ. 2517 หลงั จากบวชได้ 1 พรรษา ทา่ น
เร่ิมศกึ ษาภาษาบาล ี พระอภิธรรมเบือ้ ง
ต้น ท่ีส�ำนกั วดั เขาพทุ ธโคดม อ.ศรีราชา
จ.ชลบรุ ี หลงั จากนนั้ ทา่ นได้ไปอยทู่ ่ี
กรุงเทพ เพื่อศกึ ษาพระปริยตั ติ อ่
พอเรียนจบสอบได้เปรียญ 6 ทา่ น
ได้รับพดั ยศก็ถวายพระอาจารย์
ของทา่ น ในชว่ งที่ก�ำลงั ศกึ ษา
อยเู่ ริ่มมีความคิดจะออกธดุ งค์
ประวตั หิ ลวงพอ่ มหาตอง 50