เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 1
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 2
บนั ทึกหน่วยการจดั การเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง หลักและวธิ กี ารปฏบิ ัตินาฏศลิ ป์ เวลา 2 ช่ัวโมง
• มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน
ศ 3.1 : เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณ์คุณค่า
. นาฏศลิ ป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคดิ อยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในใน
.. ชวี ติ ประจำวนั
ตวั ชี้วดั
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงทา่ ทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศลิ ป์
• สาระสำคัญ
นาฏยศัพทแ์ ละภาษาท่าทางนาฏศลิ ปไ์ ทย เป็นการสือ่ ความหมายและความรสู้ กึ แทนคำพูด
โดยถ่ายทอดออกมาในลกั ษณะการร่ายรำทีอ่ ่อนชอ้ ยสวยงาม
• ความเขา้ ใจทคี่ งทน
นาฏยศพั ท์ เป็นคำท่ใี ชเ้ รียกท่าทางในการรา่ ยรำ เป็นพืน้ ฐานนาฏศิลป์ ภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ เปน็ สิง่ ท่ีใช้สอ่ื
ความหมายในการแสดง
• สาระการเรยี นรู้
1. นาฏยศพั ท์ : นาฏยศัพท์ส่วนเทา้
2. ภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทย : ภาษาท่าสอื่ อารมณ์
• คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้
ตวั ชว้ี ัดที่ 4.1 ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
• สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
ความสามารถในการคดิ
• ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
1. ชิ้นงานที่ 1 เรอ่ื ง นาฏยศพั ท์
2. ชน้ิ งานที่ 2 เรื่อง ภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทย
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 3
• การประเมิน
1. การประเมินผลตวั ช้วี ดั
1.1 ช้นิ งานท่ี 1 เรอ่ื ง นาฏยศัพท์
เกณฑก์ าร ระดับคะแนน
ประเมนิ 4 3 21
ปฏิบตั ินาฏย ปฏิบตั ินาฏยศพั ทร์ ่วม ปฏบิ ตั ินาฏยศัพทต์ ามท่ี ปฏบิ ตั ินาฏยศัพท์ ปฏบิ ัตนิ าฏยศัพท์ได้
ศัพท์ กับผู้อื่นในการ พฒั นา ตนเองไดค้ ดิ ข้นึ มาเอง ตามแบบไดถ้ ูกตอ้ ง ตามแบบอย่างหรือ
ให้เกดิ ประโยชนต์ ่อ เพอื่ ให้มีประสิทธภิ าพที่ และมีการดัดแปลงให้ ทำตามที่ครแู นะนำ
สว่ นรวมและสามารถ ดขี ้นึ กวา่ แบบอยา่ ง โดย เหมาะสมกับตนเอง เท่าน้นั
แก้ปญั หาในระหวา่ ง มคี รหู รือผู้อืน่ แนะนำ โดยมีครหู รือผูอ้ ืน่
ปฏิบตั ิได้ บ้าง แนะนำบา้ ง
1.2 ชนิ้ งานที่ 2 เรอื่ ง ภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ไทย
เกณฑ์การ ระดบั คะแนน
ประเมิน 4 3 21
ปฏบิ ตั ภิ าษาท่า ปฏบิ ตั ิภาษาท่าทาง ปฏิบัติภาษาทา่ ปฏบิ ัติภาษาทา่ ปฏบิ ตั ิภาษาทา่
ทางนาฏศิลป์ไทย นาฏศลิ ป์ไทยส่ือ ทางนาฏศลิ ปไ์ ทย ทางนาฏศลิ ป์ไทย ทางนาฏศลิ ปไ์ ทย
ส่ืออารมณ์ อารมณ์ร่วมกับผู้อน่ื ใน สือ่ อารมณ์ตามทต่ี นเองได้ สอ่ื อารมณ์ตามแบบได้ สอื่ อารมณไ์ ด้ตาม
การพัฒนาใหเ้ กดิ คิดข้ึนมาเอง ถกู ต้องและมกี าร แบบอยา่ งหรือ
ประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่อใหม้ ีประสิทธิภาพ ดัดแปลงให้เหมาะสมกับ ทำตามท่ีครูแนะนำ
และสามารถแกป้ ัญหา ทดี่ ีขน้ึ กว่าแบบอยา่ งโดยมี ตนเอง โดยมีครูหรอื เทา่ น้ัน
ในระหว่างปฏิบัติได้ ครหู รอื ผอู้ ืน่ แนะนำบ้าง ผอู้ นื่ แนะนำบา้ ง
2. การประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ใฝเ่ รียนรู้
ตวั ชว้ี ดั ท่ี 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ียม (3)
4.1.1 ตั้งใจเรยี น ไม่ต้ังใจเรียน ตงั้ ใจ เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรยี น เอาใจใส่และมี
4.1.2 เอาใจใส่และมีความเพียร ในการเรยี น และมคี วามเพยี ร- ความเพียรพยายามในการ
พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรยี น เรียนรู้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม
4.1.3 สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการ การเรียนรูต้ า่ ง ๆ
เรียนรู้ต่าง ๆ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 4
บนั ทกึ แผนการจัดการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศิลป์ รหสั วิชา ศ13101
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง หลักและวิธีการปฏิบัตินาฏศิลป์ เวลา 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง นาฏยศพั ท์ เวลา 1 ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏ ศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจา รณ์
คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ช่ืนชมและประยุกต์ใช้
ในชีวติ ประจำวัน
ตวั ชีว้ ดั
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศลิ ป์
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ่ตู วั ช้ีวัด
1. อธิบายเก่ยี วกบั ลักษณะของนาฏยศัพท์ (K)
2. ปฏิบัติท่านาฏยศัพท์ (P)
3. ชืน่ ชมในความสวยงามของนาฏยศัพท์ (A)
สาระสำคัญ
นาฏยศัพท์เป็นศัพท์ท่ีใช้เกี่ยวกับลักษณะท่ารำท่ีใช้ในการแสดงทางนาฏศิลป์ ทำให้การแสดงทาง
นาฏศิลปม์ คี วามออ่ นช้อย สวยงาม นา่ สนใจ
สาระการเรียนรู้
นาฏยศพั ท์ : นาฏยศัพทส์ ว่ นเทา้
ใฝเ่ รยี นรู้
ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ความสามารถในการคดิ
ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
1. แผนภาพแสดงนาฏยศัพท์
2. ชิ้นงานท่ี 1 เรอ่ื ง นาฏยศพั ท์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 5
3. คำถามท้าทาย
ถา้ นกั เรียนจะคดิ นาฏยศัพทข์ น้ึ มาใหม่ นักเรยี นจะคิดนาฏยศพั ท์อะไร
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ กั เรียนที่เคยมปี ระสบการณ์ในการรา่ ยรำ ออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกบั การรา่ ยรำให้
นกั เรยี นในช้ันเรยี นฟงั จากนั้นให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถาม ดงั น้ี
นักเรยี นเคยดูการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยหรอื ไม่ (เคย/ไม่เคย)
การแสดงนาฏศิลปม์ ีลักษณะทา่ ทางอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ อ่อนช้อย สวยงาม)
การแสดงนาฏศลิ ป์ดังกล่าวมกี ารใชน้ าฏยศพั ทท์ ่นี ักเรยี นรจู้ ักหรือไม่ ถ้าร้จู ักนักเรียนรูจ้ ัก
นาฏยศพั ทใ์ ดบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ มีการใชน้ าฏยศัพท์ นาฏยศัพท์ที่ร้จู กั คอื จีบหงาย ตัง้ วง)
2. ครใู หน้ ักเรยี นดูภาพนาฏยศพั ท์แลว้ รว่ มกันบอกวา่ เปน็ นาฏยศัพทใ์ ด จากน้นั ครสู าธติ
นาฏยศพั ทส์ ่วนเท้าใหน้ ักเรยี นดูและปฏิบัตติ ามทลี ะท่าจนถูกต้องพร้อมเพรียงกนั ดงั น้ี
กระทงุ้ เทา้ กระดกเทา้ กา้ วไขว้
ก้าวขา้ ง ก้าวหน้า
แลว้ ใหน้ ักเรียนตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถาม ดงั น้ี
นักเรียนชอบปฏบิ ัตินาฏยศัพท์ใดมากที่สดุ เพราะอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบท่ากระทุ้งเท้า
เพราะเปน็ ทา่ ทงี่ า่ ยและไมซ่ ับซอ้ น)
3. ครูนำแถบประโยคและบัตรคำนาฏยศพั ท์ติดบนกระดานแล้วใหน้ ักเรียนรว่ มกนั จับคบู่ ัตรคำกับแถบ
ประโยค โดยครูพานกั เรียนอ่านแถบประโยคและบัตรคำจำนวน 1 รอบ แล้วรว่ มกนั จับคู่โดยครเู ปน็ ผู้
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
กา้ วขา้ ง ยกเทา้ ไปดา้ นหลงั แลว้ หนีบน่อง
กระทุง้ เทา้ วางฝ่าเทา้ ดา้ นหนา้ โดยวางส้นเทา้ ลงก่อน
กระดกเทา้ วางเทา้ ดา้ นขา้ งปลายเทา้ เฉียงไปทางนิ้วกอ้ ย
กา้ วไขว้ กระแทกจมูกเทา้ กบั พ้นื เบา ๆ
กา้ วหนา้ ยกเทา้ ไขวก้ นั น้าหนกั ตวั อยทู่ ่ีเทา้ หนา้
4. ใหน้ กั เรียนจับคกู่ บั เพอ่ื นฝึกปฏิบัตนิ าฏยศัพท์ แลว้ ออกมาแสดงหน้าชน้ั เรยี นทีละ 5 คู่ โดยครูเปน็ ผู้
ตรวจสอบความถูกตอ้ งของท่ารำ และใหเ้ พื่อนท่เี หลือกล่าวช่นื ชมใหก้ ำลังใจ จากน้ันให้นกั เรียนร่วมกันตอบ
คำถามเกีย่ วกบั การปฏิบัตินาฏยศัพท์ โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
นกั เรยี นปฏบิ ัติทา่ นาฏยศพั ท์ใดได้ดี (ตวั อย่างคำตอบ กระทุ้งเท้า กระดกเทา้ )
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 6
นกั เรียนปฏบิ ัติทา่ นาฏยศัพท์ใดได้พอใช้ (ตัวอย่างคำตอบ กา้ วข้าง กา้ วหน้า)
นักเรยี นควรปรบั ปรงุ การปฏบิ ตั ิท่านาฏยศัพทใ์ ดบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ กา้ วไขว้)
5.ครูและนักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เพ่ือสรปุ ความรู้เกี่ยวกับนาฏยศัพท์ แลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกัน
ตอบคำถาม โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
นาฏยศพั ทส์ ว่ นเทา้ ทนี่ ักเรยี นรูจ้ กั ได้แกน่ าฏยศัพทใ์ ดบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ กระทงุ้ เทา้
กระดกเท้า กา้ วไขว้ กา้ วขา้ ง กา้ วหนา้ )
นาฏยศพั ทม์ ีความสำคญั ตอ่ การแสดงนาฏศิลป์อย่างไร (ตวั อย่างคำตอบนาฏยศพั ท์เปน็ ส่ิง
ทีใ่ ช้สอื่ ความหมายในการแสดงทำใหก้ ารแสดงนาฏศิลป์มีความอ่อนช้อย สวยงาม น่าสนใจ)
จากน้นั ครนู ำคำตอบทไ่ี ด้มาเขียนสรุปเป็นแผนภาพบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนตรวจสอบความถกู ต้อง ดงั
ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้
นาฏยศพั ทเ์ ป็นส่ิงที่ใชส้ ่ือความหมาย กา้ วหนา้
ในการแสดงทาใหก้ ารแสดงนาฏศิลป์ มี
ความออ่ นชอ้ ย สวยงาม น่าสนใจ
กา้ วไขว้
นาฏยศัพท์
กา้ วขา้ ง กระทุง้ เทา้
กระดกเทา้
6. ใหน้ ักเรยี นและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี
นาฏยศัพท์เป็นศพั ทท์ ใี่ ชเ้ กี่ยวกับลักษณะทา่ รำท่ีใชใ้ นการแสดงทางนาฏศลิ ป์ ทำใหก้ าร
แสดงทางนาฏศลิ ป์มีความอ่อนชอ้ ย สวยงาม นา่ สนใจ
7. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั นี้
ถ้านักเรยี นจะคิดท่านาฏยศพั ท์ข้ึนมาใหม่ นกั เรียนจะคิดท่านาฏยศัพท์อะไร
8. ใหน้ ักเรยี นทำชนิ้ งานที่ 1 เรอ่ื ง นาฏยศพั ท์
การจัดบรรยากาศเชงิ บวก
1. ให้นักเรยี นฝกึ ปฏิบัตนิ าฏยศัพท์อย่างอิสระ
2. ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับนาฏยศัพท์อยา่ งอสิ ระ
สื่อการเรยี นรู้
1. ช้ินงานที่ 1 เร่ือง นาฏยศพั ท์
2. แถบประโยค
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 7
3. บัตรคำ
4. ภาพนาฏยศพั ท์
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
1.2 ตรวจชิ้นงานที่ 1
2. เคร่ืองมอื
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
3. เกณฑ์การประเมิน
การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 8
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ .....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................
นกั เรียนน่ีไม่ผ่าน มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษ์ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สตั ย์สุจรติ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรียนมคี วามรู้เกิดทักษะ (P) มวี นิ ยั รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝเ่ รียนรู้ มจี ติ เป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแกป้ ัญหา
การใช้ทกั ษะชีวิต
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอื่ ....................................................
(นางสาวพชั รมัย อินอ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 9
ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวพชั รมยั อินอ่อน แล้วมีความเห็นดังนี้
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2.การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................ ........................................................................................................... .............
................................................................................................................................. ...................................................
....................................................................................................................................................................................
................................................................................................................ ....................................................................
.
ลงชอื่ .........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 10
บันทกึ แผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2
เรื่อง หลักและวธิ ีการปฏิบัตินาฏศลิ ป์ เวลา 2 ช่ัวโมง
เร่ือง ภาษาทา่ ทางนาฏศิลปไ์ ทย เวลา 1 ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏ ศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจาร ณ์
คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่ นชมและประยุกต์ใช้
ในชวี ติ ประจำวัน
ตวั ชว้ี ดั
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศิลป์
จุดประสงค์การเรยี นรู้สตู่ ัวชี้วัด
1. อธิบายเก่ียวกับลักษณะภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ไทย (K)
2. ปฏิบัตภิ าษาทา่ ทางนาฏศิลป์ไทย (P)
3. ชืน่ ชมเกย่ี วกบั ภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ไทย (A)
สาระสำคัญ
ภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทยเป็นการส่ือความหมาย โดยการใช้กริ ิยาท่าทางหรอื การแสดงออกมาเป็นท่ารำ
เพือ่ ส่อื ความหมายแทนคำพดู และสามารถบ่งบอกอารมณ์ ความรู้สึกได้
สาระการเรียนรู้
ภาษาทา่ ทางนาฏศิลป์ไทย : ภาษาทา่ ส่อื อารมณ์
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้
ตัวช้ีวดั ที่ 4.1 ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 11
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
ความสามารถในการคดิ
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู)้
1. แผนภาพแสดงภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทย
2. ชน้ิ งานท่ี 2 เร่อื ง ภาษาท่าทางนาฏศิลปไ์ ทย
คำถามทา้ ทาย
นกั เรียนมีวิธฝี กึ ปฏิบัติภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทยใหส้ วยงามได้อย่างไร
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับการแสดงนาฏศิลป์ แลว้ ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็
โดยครูใชค้ ำถาม ดังนี้
นกั เรยี นเคยพบเห็นการแสดงนาฏศลิ ปห์ รอื ไม่ (ตัวอย่างคำตอบ เคยพบเห็น)
การแสดงดงั กล่าวท่นี ักเรยี นชมมคี วามสวยงามหรอื ไม่ (ตวั อยา่ งคำตอบ สวยงาม)
นักเรียนชอบการแสดงนาฏศลิ ปห์ รอื ไม่ (ชอบ/ไม่ชอบ)
2. ครคู ดั เลอื กผแู้ ทนนกั เรยี น 1-2 คน ออกมาแสดงท่าทางทแ่ี สดงถึงอารมณโ์ กรธหนา้ ชัน้ เรยี น แล้วให้
เพ่อื นท่เี หลอื ช่วยกันทายวา่ เป็นการแสดงถึงอารมณใ์ ด
3. ครูสาธติ ภาษาท่าทางนาฏศลิ ป์ไทยส่ืออารมณท์ า่ ตา่ ง ๆ ใหน้ ักเรียนดูและปฏบิ ตั ิตามทีละทา่
จนถกู ต้องพร้อมเพรียงกัน โดยครคู อยดแู ลแนะนำอย่างใกล้ชิด ดงั น้ี
ท่าโกรธ ทา่ รัก ทา่ ดใี จ
ท่าเสยี ใจ ทา่ ประชดประชัน ทา่ เยาะเยย้ ถากถาง
แลว้ ให้นักเรยี นตอบคำถาม โดยครใู ชค้ ำถาม ดงั น้ี
นักเรยี นชอบการปฏิบตั ิภาษาท่าทางนาฏศลิ ปไ์ ทยแสดงความรสู้ ึกท่าใดมากที่สุด เพราะ
อะไร (ตัวอย่างคำตอบ ท่าดีใจ เพราะสอดคลอ้ งกับการแสดงอารมณเ์ มื่อรสู้ กึ ดีใจในชีวิตประจำวนั
ทำใหเ้ ข้าใจง่าย)
4. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามเกีย่ วกบั การปฏบิ ตั ิภาษาท่าทางนาฏศลิ ป์ไทย โดยครูใช้คำถามดงั นี้
นกั เรยี นปฏบิ ตั ภิ าษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ไทยใดไดด้ ี (ตัวอย่างคำตอบ ทา่ รัก ทา่ ดีใจ)
นกั เรยี นปฏบิ ัติภาษาท่าทางนาฏศลิ ป์ไทยใดไดพ้ อใช้ (ตวั อย่างคำตอบ ทา่ โกรธ ท่า
เสยี ใจ)
นักเรยี นควรปรับปรงุ การปฏิบัตภิ าษาทา่ ทางนาฏศิลปไ์ ทยใดบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ ท่า
ประชดประชัน ท่าเยาะเย้ยถากถาง)
5. ครูนำภาพภาษาทา่ ทางนาฏศิลป์ไทยใหน้ ักเรยี นดู แล้วครนู ำแถบประโยคต่อไปนี้
ติดบนกระดาน
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 12
ใชฝ้ ่ามือซา้ ยถบู ริเวณใตใ้ บหูขา้ งซา้ ย
ใชม้ ือซา้ ยกรีดนิ้วและจีบท่ีระดบั ปาก
ปรบมือเขา้ หากนั สีหนา้ ยม้ิ เยาะ
กม้ หนา้ และสะดุง้ ตวั ใชน้ ิ้วแตะตาท้งั สองขา้ ง
จากน้ันครูพานักเรียนอ่านแถบประโยคจำนวน 1 รอบ แล้วให้ครูชภู าพภาษาท่าทางนาฏศลิ ป์ไทย
ให้นกั เรียนดู แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกันบอกว่าตรงกับแถบประโยคใด เม่ือรว่ มกันตอบแลว้ ให้ปฏิบัติทา่ รำพร้อมกัน
โดยครูเปน็ ผตู้ รวจสอบความถูกต้อง
6. ครูและนักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเพื่อสรุปความรเู้ กย่ี วกับภาษาท่าทางนาฏศลิ ปไ์ ทยแลว้ ให้
นกั เรยี นรว่ มกันตอบคำถาม โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
ภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทยทส่ี ่อื ถึงอารมณ์ความรสู้ กึ ได้แก่ทา่ อะไรบ้าง
(ตัวอย่างคำตอบ ท่าโกรธ ท่ารัก ทา่ เสยี ใจ ทา่ ดใี จ ท่าประชดประชนั ท่าเยาะเย้ย ถากถาง)
ภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ไทยมีความสำคญั ต่อการแสดงนาฏศลิ ปอ์ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ภาษาท่าทางนาฏศลิ ปไ์ ทยเปน็ ส่งิ ทีใ่ ช้สื่อความหมาย ถ่ายทอดความรสู้ ึก
แทนคำพดู ทำใหก้ ารแสดงสวยงามและผู้ชมสามารถเข้าใจการแสดงน้ันได้)
จากนั้นครูนำคำตอบที่ได้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดาน และใหน้ ักเรยี นตรวจสอบความถูกต้อง
ดงั ตัวอยา่ งต่อไปน้ี
ภาษาท่าทางนาฏศิลป์ ไทยเป็นสิ่งที่ใชส้ ื่อความหมาย
ถา่ ยทอดความรู้สึกแทนคาพูดทาใหก้ ารแสดงสวยงาม
และผชู้ มสามารถเขา้ ใจการแสดงน้นั ได้
ทา่ ดีใจ ภาษาท่าทาง ท่ารัก
ท่าเสียใจ นาฏศิลป์ ไทยสื่ออารมณ์ ท่าโกรธ
ท่าประชดประชนั ทา่ เยาะเยย้ ถากถาง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 13
7. ให้นกั เรียนจบั คูก่ บั เพื่อนเพอื่ ร่วมกันเลือกภาษาท่าทางนาฏศลิ ปไ์ ทยท่ชี อบคลู่ ะ 1 ท่า จากนน้ั ฝกึ
ปฏิบตั ิจนถูกต้อง สวยงามและออกมาปฏบิ ตั หิ นา้ ชัน้ เรยี น
8. ให้นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี
ภาษาท่าทางนาฏศลิ ป์ไทยเปน็ การส่ือความหมาย โดยการใช้กริ ิยาท่าทางหรือ
การแสดงออกมาเป็นท่ารำเพื่อส่ือความหมายแทนคำพูดและสามารถบ่งบอกอารมณ์ ความรู้สึกได้
9. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้
นกั เรยี นมีวธิ ฝี ึกปฏิบตั ิภาษาท่าทางนาฏศิลปไ์ ทยให้สวยงามได้อยา่ งไร
10. ใหน้ กั เรยี นทำช้นิ งานที่ 2 เรื่อง ภาษาทา่ ทางนาฏศิลป์ไทย
การจดั บรรยากาศเชิงบวก
1. ให้นักเรยี นฝกึ ปฏิบตั ิภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ปไ์ ทยอย่างอสิ ระ
2. ให้นักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับภาพภาษาท่าทางนาฏศิลป์ไทยอย่างอิสระ
สอ่ื การเรียนรู้
1. ช้นิ งานที่ 2 เรื่อง ภาษาทา่ ทางนาฏศิลปไ์ ทย
2. แถบประโยค
3. บัตรคำ
4. ภาพภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ไทย
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
1. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
1.2 ตรวจชิน้ งานท่ี 2
2. เคร่อื งมือ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
3. เกณฑ์การประเมิน
การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 14
บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1 สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
ไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ..................
นักเรียนนไ่ี ม่ผา่ น มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1.2 นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซือ่ สตั ย์สจุ ริต มุ่งม่ันในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรียนมีความรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี นิ ัย รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มีจติ เปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นกั เรยี นมีเจตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การส่อื สาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใชท้ กั ษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอื่ ....................................................
(นางสาวพัชรมัย อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวัดชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 15
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แลว้ มีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
........................................................................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 16
บันทกึ หนว่ ยการจดั การเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศิลป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรียนที่ 1
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 4 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง สรา้ งสรรคก์ ารเคลอื่ นไหว
• มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ัด
ศ 3.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณ์ คุณคา่
นาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคดิ อยา่ งอิสระ ช่นื ชมและประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน
ตัวชี้วดั
ศ 3.1 ป.3/1 สรา้ งสรรคก์ ารเคลื่อนไหวในรูปแบบตา่ ง ๆ ในสถานการณ์สั้น ๆ
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศิลป์
• สาระสำคัญ
การเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบทา่ ทางต่าง ๆ ชว่ ยทำให้รา่ งกายแข็งแรงและเปน็ การฝึกใช้จินตนาการ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ในการแสดงท่าทางในรปู แบบต่าง ๆ
• ความเขา้ ใจทค่ี งทน (Enduring Understanding)
การเคล่ือนไหวร่างกายประกอบทา่ ทางเป็นการฝกึ ความคิดสร้างสรรค์ และช่วยทำให้ร่างกายแขง็ แรง
เคลื่อนไหวไดค้ ล่องแคลว่
• สาระการเรยี นรู้
1. การเคล่ือนไหวประกอบท่าทาง
2. การเคลื่อนไหวประกอบเพลง : เพลงเดิน
3. การเคลื่อนไหวประกอบสถานการณส์ ั้น ๆ
4. การเคล่อื นไหวประกอบสถานการณ์ที่กำหนดให้
• คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้
ตวั ชีว้ ัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 17
• อ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น
1. อธิบายนาฏยศัพท์ได้
2. ปฏิบตั ินาฏยศพั ท์ได้
3. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าของนาฏยศัพท์
• สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
• ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้
ชน้ิ งานท่ี 3 เร่ือง การเคล่ือนไหวประกอบเพลง
ชน้ิ งานท่ี 4 เรือ่ ง การเคลื่อนไหวประกอบสถานการณส์ น้ั ๆ
• สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้
1.บตั รคำ
2 ภาพเกย่ี วกบั กริ ยิ าลกั ษณะของคน สตั ว์ สง่ิ ของ
3.ชน้ิ งานท่ี 3 เรือ่ ง การเคล่อื นไหวประกอบเพลง
4.บตั รประโยคสถานการณ์ตา่ ง ๆ
5.ชิน้ งานที่ 4 เร่ือง การเคลอื่ นไหวประกอบสถานการณ์ส้ัน ๆ
6.แผนภูมเิ พลงเดนิ
7.แบบบนั ทึกผลการแสดงท่าทางประกอบนิทานเรื่อง ราชสหี ก์ บั หนู
• การวัดและประเมนิ ผล
1. การประเมินผลตัวช้วี ัด
1.1 ชนิ้ งานท่ี 3 เร่ือง การเคลอื่ นไหวประกอบเพลง
เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32
ปฏิบตั ิการเคลอื่ นไหว ปฏิบตั ิการ ปฏิบัติการ ปฏิบัตกิ าร ปฏบิ ัติการ
ท่าทางประกอบเพลง เคล่ือนไหวท่าทาง เคล่อื นไหวทา่ ทาง เคลือ่ นไหวทา่ ทาง เคลอ่ื นไหวท่าทาง
ประกอบเพลง ประกอบเพลงตามที่ ประกอบเพลงตาม ประกอบเพลงได้
รว่ มกบั ผอู้ ื่นในการ ตนเองได้คดิ ข้ึนมา แบบไดถ้ ูกต้องและ ตามแบบอย่างหรือ
พฒั นาให้เกิด เอง เพื่อใหม้ ี มีการดัดแปลงให้ ทำตามท่ีครูแนะนำ
ประโยชนต์ ่อ ประสทิ ธภิ าพท่ดี ีขน้ึ เหมาะสมกับตนเอง เท่านั้น
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 18
เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
ส่วนรวมและ 32
สามารถแก้ปญั หา
ในระหวา่ งปฏิบตั ิ กวา่ แบบอยา่ งโดยมี โดยมีครหู รือผู้อน่ื
ได้ ครหู รอื ผอู้ ื่นแนะนำ แนะนำบ้าง
บา้ ง
1.2 ช้นิ งานที่ 4 เร่ือง การเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์ส้นั ๆ
เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดับคะแนน 1
32 ปฏิบัตกิ าร
เคล่ือนไหวท่าทาง
ปฏบิ ัติการเคล่ือนไหว ปฏิบัตกิ าร ปฏิบัตกิ าร ปฏิบัติการ ประกอบ
สถานการณ์ส้ัน ๆ
ท่าทางประกอบ เคล่อื นไหวทา่ ทาง เคล่ือนไหวท่าทาง เคลอื่ นไหวทา่ ทาง ไดส้ มั พนั ธ์กบั หวั ขอ้
ทกี่ ำหนดตามท่ีครู
สถานการณส์ ้นั ๆ ประกอบ ประกอบ ประกอบ ยกตัวอย่าง
สถานการณ์สัน้ ๆ สถานการณส์ นั้ ๆ สถานการณส์ ้ัน ๆ
ได้สัมพันธ์กับหัวขอ้ ได้สมั พันธ์กบั หวั ขอ้ ไดส้ ัมพนั ธ์กบั หัวขอ้
ทก่ี ำหนดและ ท่กี ำหนดและ ทก่ี ำหนดตามทีค่ รู
แตกต่างจากท่ีครู แตกต่างจากท่ีครู ยกตวั อย่าง แต่มี
ยกตัวอยา่ ง มีการ ยกตัวอย่าง การดดั แปลงให้
เชื่อมโยงให้เห็นถงึ แต่เช่อื มโยงใหเ้ ห็น แตกตา่ ง
ความสัมพันธ์กับ เฉพาะตนเอง
ตนเองและผู้อื่น
2. การประเมนิ ผลคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝเ่ รียนรู้
ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3)
4.1.1 ตง้ั ใจเรยี น ไมต่ ัง้ ใจเรียน ตั้งใจ เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่
4.1.2 เอาใจใส่และมคี วามเพียร ในการเรยี น และมีความเพียร- และมีความเพียร-
พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการเรยี น พยายามในการเรียนรู้
4.1.3 สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการ เข้าร่วมกิจกรรม
เรียนรู้ต่าง ๆ การเรียนรู้ต่าง ๆ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 19
บันทกึ แผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศลิ ป์ รายวชิ า นาฏศิลป์ รหสั วิชา ศ13101
ภาคเรียนท่ี 1
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 4 ชั่วโมง
เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่อื ง สร้างสรรค์การเคลือ่ นไหว
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง การเคลอื่ นไหวประกอบทา่ ทาง
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรูส้ กึ ความคิดอย่างอิสระ ชืน่ ชมและประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
ตัวชีว้ ัด
ศ 3.2 ป.3/1 สร้างสรรค์การเคลือ่ นไหวในรูปแบบต่าง ๆ ในสถานการณส์ ั้น ๆ
ศ 3.2 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรปู แบบนาฏศิลป์
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้สตู่ ัวช้ีวัด
1. อธบิ ายเกีย่ วกับการเคลื่อนไหวประกอบท่าทางเลยี นแบบสงิ่ ตา่ ง ๆ (K)
2. ปฏบิ ัตกิ ารเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบทา่ ทางเลยี นแบบสิ่งต่าง ๆ (P)
3. เห็นประโยชนเ์ ก่ยี วกับการเคล่ือนไหวร่างกายประกอบท่าทางเลียนแบบสงิ่ ตา่ ง ๆ (A)
สาระสำคัญ
การเคล่ือนไหวประกอบท่าทางเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายเพ่ือเลียนแบบท่าทางของส่ิงต่าง ๆ เช่น คน
สัตว์ สิง่ ของ ด้วยการแสดงกริ ยิ าท่าทางเหลา่ นนั้ จะต้องใหเ้ ข้าใจตรงกนั ระหวา่ งผ้แู สดงกบั ผชู้ มใหม้ ากทส่ี ดุ
สาระการเรยี นรู้
การเคลื่อนไหวประกอบท่าทาง
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้
ตวั ชี้วดั ท่ี 4.1 ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 20
ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร้)ู
แผนภาพแสดงการเคลือ่ นไหวประกอบทา่ ทาง
คำถามทา้ ทาย
นกั เรียนจะแสดงท่าทางเลยี นแบบสิง่ ใด เพราะอะไร
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครคู ดั เลือกผ้แู ทนนักเรยี นออกมาแสดงทา่ ทางเลยี นแบบสตั วท์ ่คี รกู ำหนดใหจ้ ากน้ันครูใชค้ ำถามดังน้ี
นกั เรียนคิดว่า เพื่อนทำท่าเลียนแบบสัตวช์ นิดใด เหมือนหรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ ลิง
เหมอื น)
2. ครูอธิบายเกีย่ วกับการเคลื่อนไหวประกอบทา่ ทางว่า เป็นการเคล่ือนไหวเพื่อเลยี นแบบทา่ ทางของส่งิ
ต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ ซ่งึ จะมีความแตกตา่ งกันไปตามเหตกุ ารณห์ รือการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน
โดยการแสดงกริ ยิ าท่าทางเหล่านัน้ และต้องใหผ้ ้ชู มเข้าใจผู้แสดงมากทส่ี ดุ
3. ครนู ำบัตรคำตอ่ ไปนี้ติดบนกระดาน
กระต่ายกระโดด แมวเดิน คนทาอาหาร
นกั ร้อง คนอา่ นหนงั สือ
จากนนั้ ให้นักเรียนร่วมกนั ปฏิบตั ิทา่ ทางเลียนแบบบัตรคำทีละทา่ แล้วตอบคำถาม
นักเรยี นปฏิบัติท่ากระต่ายกระโดดได้เหมือนหรือไม่ (เหมือน/ไม่เหมือน)
นักเรียนปฏบิ ัตทิ ่าแมวเดินได้เหมือนหรือไม่ (เหมอื น/ไม่เหมอื น)
นักเรียนปฏิบัตทิ ่าคนทำอาหารไดเ้ หมือนหรือไม่ (เหมอื น/ไมเ่ หมือน)
นักเรียนปฏบิ ัติทา่ นกั ร้องได้เหมือนหรอื ไม่ (เหมือน/ไมเ่ หมือน)
นักเรียนปฏบิ ตั ทิ า่ คนอ่านหนงั สือไดเ้ หมอื นหรือไม่ (เหมือน/ไม่เหมือน)
4. ครูนำภาพเกีย่ วกับกริ ยิ าหรอื ลักษณะของคน สตั ว์ สิง่ ของต่าง ๆ เช่น คนแก่ สนุ ัขเดิน
ปลาวา่ ยน้ำ สะพานข้ามแมน่ ้ำ มาให้นกั เรยี นในช้นั ดู แลว้ ร่วมกนั แสดงทา่ ทางเลียนแบบสง่ิ ต่าง ๆ
ในภาพพร้อมกันทงั้ ชัน้ เรยี น โดยครเู ป็นผู้ดูแลและใหค้ ำแนะนำอยา่ งใกลช้ ิด
5. ครูและนักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเพ่ือสรุปความร้เู กยี่ วกบั การเคล่ือนไหวประกอบท่าทาง
โดยครใู ชค้ ำถาม ดังน้ี
นักเรยี นสามารถเคล่ือนไหวประกอบทา่ ทางเลยี นแบบส่งิ ใดไดบ้ ้าง
(ตัวอย่างคำตอบ คน สตั ว์ สิ่งของ)
การเคลือ่ นไหวประกอบท่าทางมีประโยชน์ตอ่ นักเรยี นอย่างไรบ้าง
(ตัวอยา่ งคำตอบ ทำให้รา่ งกายแขง็ แรง เคลื่อนไหวคล่องแคลว่ ฝกึ การคิดสรา้ งสรรค์
ฝึกจนิ ตนาการ)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 21
จากน้ันครูนำคำตอบทไ่ี ด้มาเขียนสรุปเปน็ แผนภาพบนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรยี นตรวจสอบความถูกต้อง
ดังตวั อย่างต่อไปน้ี
สัตว์ เคล่ือนไหวคล่องแคล่ว
ส่ิงของ ทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง
ตวั อย่างการเคล่ือนไหว การเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหว
ประกอบท่าทางเลยี นแบบ ประกอบท่าทาง ประกอบท่าทาง
คน ฝึกการคิดสร้างสรรค์ ฝึกจินตนาการ
6. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 4-5 คน รว่ มกันคิดทา่ ทางเลยี นแบบ คน สัตว์ สง่ิ ของ
กลุม่ ละ 2 ทา่ และใหเ้ พ่ือนกลุ่มทเี่ หลือรว่ มกนั ทายว่าแสดงทา่ ทางเลียนแบบอะไร โดยครูคอยตรวจสอบความ
ถูกต้องและแนะนำถ้ากลุ่มใดยังทำได้ไม่เหมอื น ถา้ ทำได้เหมือนใหเ้ พอ่ื น ๆ ในช้ันกลา่ วคำชืน่ ชม
7. ใหน้ กั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั นี้
การเคลื่อนไหวประกอบทา่ ทางเป็นการเคล่ือนไหวรา่ งกายเพ่ือเลียนแบบท่าทางของสิ่งตา่ ง
ๆ เชน่ คน สัตว์ สง่ิ ของ ด้วยการแสดงกริ ิยาท่าทางเหล่านัน้ จะต้องใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั ระหวา่ งผแู้ สดงกบั
ผชู้ มให้มากท่ีสุด
8. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้
นักเรยี นจะแสดงท่าทางเลียนแบบส่ิงใด เพราะอะไร
การจัดบรรยากาศเชงิ บวก
ใหน้ กั เรียนเคลอื่ นไหวประกอบท่าทางโดยใช้ความคิดจินตนาการอย่างอิสระ
สื่อการเรียนรู้
1. บัตรคำ
2. ภาพเกีย่ วกับกิรยิ าลกั ษณะของคน สตั ว์ สิง่ ของ
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 22
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เครื่องมอื
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 23
บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้......................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู.้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
นกั เรยี นนี่ไม่ผ่าน มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1.2 นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซอ่ื สตั ย์สุจรติ มุ่งม่นั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรยี นมีความร้เู กิดทักษะ (P) มวี นิ ัย รกั ความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝเ่ รยี นรู้ มีจิตเปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
.......................................................................................... การส่ือสาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใช้ทักษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่อื ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรยี นวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 24
ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรูข้ อง นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แล้วมีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 25
บันทกึ แผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรยี นท่ี 1
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 4 ช่ัวโมง
เวลา 1 ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง การเคลอ่ื นไหวประกอบเพลง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง สร้างสรรค์การเคลือ่ นไหว
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความร้สู ึก ความคดิ อย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน
ตวั ช้ีวดั
ศ 3.2 ป.3/1 สรา้ งสรรค์การเคลอ่ื นไหวในรปู แบบต่าง ๆ ในสถานการณส์ ้นั ๆ
ศ 3.2 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศลิ ป์
จุดประสงคก์ ารเรยี นรูส้ ตู่ วั ชี้วดั
1. อธิบายเกีย่ วกับการเคลื่อนไหวประกอบเพลง (K)
2. ปฏิบัตกิ ารเคล่อื นไหวประกอบเพลง (P)
3. เหน็ ประโยชน์เก่ียวกับการเคล่อื นไหวประกอบเพลง (A)
สาระสำคญั
ก า ร เค ล่ื อ น ไห ว ป ร ะ ก อ บ เพ ล ง เป็ น ก า ร เค ล่ื อ น ไห ว ร่ า ง ก า ย เพื่ อ สื่ อ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง บ ท เพ ล ง
โดยการเคลือ่ นไหวร่างกายนั้นจะตอ้ งมีท่าทางที่เขา้ กบั เนือ้ หา จังหวะ และทำนองของบทเพลง
สาระการเรยี นรู้
การเคลอื่ นไหวประกอบเพลง : เพลงเดิน
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้
ตัวชีว้ ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 26
ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
1. แผนภาพแสดงการเคลื่อนไหวประกอบเพลง
2. ชิ้นงานที่ 3 เรอ่ื ง การเคลื่อนไหวประกอบเพลง
คำถามท้าทาย
นักเรยี นจะแสดงการเคลือ่ นไหวประกอบเพลงใดมากท่สี ดุ เพราะอะไร
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครสู าธิตการเดนิ ตามจงั หวะเพลงให้นักเรยี นดู และปฏิบัติตามจนถูกตอ้ งพร้อมเพรยี งกนั แล้วให้
นกั เรยี นร่วมกันตอบคำถาม โดยครใู ชค้ ำถาม ดังน้ี
การเดินตามจังหวะเพลงอยา่ งพร้อมเพรยี งมคี วามสวยงามหรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ
สวยงาม)
ถา้ นกั เรยี นเดนิ ไม่ตรงตามจังหวะเพลงจะเป็นอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ
ไม่สวยงาม ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ไม่พรอ้ มเพรียงกัน)
2. ครอู ธิบายเก่ียวกบั การเคล่ือนไหวประกอบเพลงว่า เปน็ การเคล่ือนไหวรา่ งกายในทา่ ทาง
ต่าง ๆ ใหเ้ ขา้ กับเน้อื หา จงั หวะและทำนองของบทเพลง ซึ่งการเคล่ือนไหวประกอบเพลงอาจมกี ารออกแบบ
สร้างสรรค์ทา่ ทางต่าง ๆ ให้ดูสวยงาม
3. ครนู ำแผนภมู เิ พลงพรปีใหมต่ ิดบนกระดานแลว้ ครูร้องเพลงพรปใี หมใ่ ห้นักเรียนฟงั และ
รอ้ งตามทีละท่อนพรอ้ มทั้งปรบมอื ประกอบจังหวะจนถูกต้องและพร้อมเพรยี งกนั แลว้ ใหน้ ักเรียนร่วมกันตอบ
คำถามโดยครูใช้คำถาม ดังน้ี
เพลงพรปีใหม่มเี นื้อหาของเพลงเก่ียวกับสิ่งใด (ตัวอย่างคำตอบ การอวยพรในวันปีใหม่)
เพลงพรปีใหม่ใหค้ วามรู้สึกอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ มีความสุข)
นักเรยี นสนกุ สนานหรือไม่ เมอื่ ร้องเพลงพรปใี หม่ (ตัวอย่างคำตอบ สนุกสนาน)
นกั เรียนรอ้ งเพลงพรปใี หม่ไดถ้ ูกต้องพร้อมเพรียงกันหรือไม่ (ตัวอย่างคำตอบพร้อมเพรียง
กนั )
4. ครูสาธติ การเคลอื่ นไหวทา่ ทางประกอบเพลงพรปใี หม่ใหน้ ักเรยี นดแู ละปฏิบัติตามทลี ะท่าจนถกู ต้อง
พรอ้ มเพรยี งกนั
5. ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ฝึกปฏิบัติการเคลือ่ นไหวท่าทางประกอบเพลงพรปีใหม่ แลว้ ใหแ้ ต่
ละกลมุ่ ออกมาแสดงหน้าชน้ั เรียน โดยครแู ละเพ่ือน ๆ กลุ่มอ่นื ดแู ละตรวจสอบความถกู ตอ้ ง หากพบข้อบกพร่อง
ให้ครูและเพื่อนแนะนำข้อแก้ไขเพ่ือนำไปปรบั ปรุง แต่ถ้าแสดงได้ดใี ห้กลา่ วคำช่ืนชมและให้แต่ละกลมุ่ ประเมนิ ผลการ
แสดงของกลมุ่ ตนเองว่าเปน็ อยา่ งไร ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี
ถกู ต้อง พร้อมเพรยี ง ไม่ถูกตอ้ ง แตพ่ ร้อมเพรยี ง
ถกู ตอ้ ง แต่ไม่พรอ้ มเพรียง ไมถ่ ูกต้อง และไม่พรอ้ มเพรียง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 27
6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เพื่อสรปุ ความรู้เก่ยี วกบั การเคลอ่ื นไหวประกอบเพลง โดยครู
ใชค้ ำถาม ดังนี้
นกั เรียนสามารถเคล่ือนไหวประกอบเพลงอะไรได้บ้าง (ตัวอย่างคำตอบ เพลงเดนิ เพลง
ชา้ ง เพลงวหิ คเหินลม)
การเคลื่อนไหวประกอบเพลงมีประโยชน์ต่อนักเรยี นอย่างไรบา้ ง
(ตัวอย่างคำตอบ ทำให้รา่ งกายแขง็ แรง มีความคดิ สร้างสรรค์ ทำให้มีสมาธิ)
จากนัน้ ครูนำคำตอบที่ได้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดาน และให้นักเรียนร่วมกนั
ตรวจสอบความถูกต้อง ดงั ตัวอยา่ งต่อไปนี้
ทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง ฝึกความคดิ สร้างสรรค์
เพลงวหิ คเหินลม ประโยชน์ของการ
เคลื่อนไหวประกอบเพลง
เพลงชา้ ง การเคล่ือนไหว
ประกอบเพลง ฝึ กจินตนาการ
ทาใหม้ ีสมาธิ
ตวั อย่างเพลงที่ใช้
เคลื่อนไหวประกอบเพลง
เพลงพรปี ใหม่
7. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้
การเคล่อื นไหวประกอบเพลงเปน็ การเคล่ือนไหวร่างกายเพอ่ื ส่ือความหมายของบทเพลง
โดยการเคลอื่ นไหวร่างกายนัน้ จะต้องมที ่าทางทเี่ ข้ากับเน้อื หา จงั หวะ และทำนองของบทเพลง
8. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี
นกั เรยี นจะแสดงการเคลื่อนไหวประกอบเพลงใดมากท่ีสุด เพราะอะไร
9. ให้นกั เรียนทำชน้ิ งานท่ี 3 เรอ่ื ง การเคลือ่ นไหวประกอบเพลง
การจัดบรรยากาศเชงิ บวก
ใหน้ กั เรียนเคลอื่ นไหวประกอบเพลงโดยใชค้ วามคดิ และจินตนาการอยา่ งอสิ ระ
สื่อการเรียนรู้
1. แผนภูมเิ พลงเดนิ
2. ชน้ิ งานที่ 3 เรอ่ื ง การเคล่อื นไหวประกอบเพลง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 28
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1.วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
1.3 ตรวจชิ้นงานที่ 3
เกณฑ์การประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
ปฏบิ ัติการเคลอื่ นไหว ปฏิบัตกิ าร ปฏบิ ัตกิ าร ปฏบิ ัติการ ปฏิบัติการ
ทา่ ทางประกอบเพลง
เคล่ือนไหวทา่ ทาง เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง เคล่อื นไหวท่าทาง
ประกอบเพลง ประกอบเพลงตามท่ี ประกอบเพลงตาม ประกอบเพลงได้
ร่วมกบั ผู้อ่ืนในการ ตนเองไดค้ ดิ ขน้ึ มา แบบได้ถูกต้องและ ตามแบบอยา่ งหรือ
พัฒนาใหเ้ กิด เอง เพ่ือให้มี มีการดัดแปลงให้ ทำตามที่ครูแนะนำ
ประโยชน์ตอ่ ประสิทธิภาพท่ีดีขึ้น เหมาะสมกบั ตนเอง เท่าน้ัน
สว่ นรวมและ กว่าแบบอยา่ งโดยมี โดยมคี รหู รือผอู้ ่ืน
สามารถแก้ปัญหา ครูหรือผู้อน่ื แนะนำ แนะนำบ้าง
ในระหวา่ งปฏบิ ตั ิ บ้าง
ได้
2. เคร่ืองมอื
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ ่าน
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรงุ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 29
บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
1 สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
ไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ..................
นกั เรยี นนี่ไมผ่ ่าน มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1.2 นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ (K) รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อยา่ งพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่ือสัตย์สุจริต มุ่งม่นั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรียนมคี วามร้เู กดิ ทักษะ (P) มวี ินัย รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
.......................................................................................... การสอื่ สาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแกป้ ญั หา
การใชท้ กั ษะชีวิต
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 30
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรูข้ อง นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แล้วมีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 31
บันทกึ แผนการจดั การเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง สร้างสรรค์การเคลื่อนไหว เวลา 4 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 5 เรื่อง การเคลอื่ นไหวประกอบสถานการณ์ส้ัน ๆ เวลา 1 ชัว่ โมง
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคิดอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั
ตัวชีว้ ัด
ศ 3.2 ป.3/1 สรา้ งสรรค์การเคลื่อนไหวในรปู แบบตา่ ง ๆ ในสถานการณส์ ั้น ๆ
ศ 3.2 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรปู แบบนาฏศิลป์
จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ วั ช้ีวัด
1. อธบิ ายเกีย่ วกับการเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณส์ ้นั ๆ (K)
2. ปฏิบตั กิ ารเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์ส้นั ๆ (P)
3. เห็นประโยชนเ์ กี่ยวกับการเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณ์สัน้ ๆ (A)
สาระสำคญั
การเคลื่อนไหวประกอบสถานการณ์สนั้ ๆ เปน็ การแสดงทา่ ทางเพอ่ื ถา่ ยทอดเร่ืองราวให้ผู้อ่ืนรับรู้ว่าเกิด
เหตุการณ์อะไร ทีไ่ หน อยา่ งไร
สาระการเรยี นรู้
การเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณส์ ั้น ๆ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝ่เรียนรู้
ตัวชี้วัดที่ 4.1 ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
สมรรถนะผเู้ รยี น
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 32
ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
1. แผนภาพแสดงการเคล่ือนไหวประกอบสถานการณส์ ้ัน ๆ
2. ชิน้ งานที่ 4 เร่อื ง การเคลือ่ นไหวประกอบสถานการณ์ส้ัน ๆ
คำถามทา้ ทาย
นกั เรียนจะนำสถานการณใ์ ดมาแสดงเปน็ การเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์ เพราะอะไร
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูคัดเลือกผแู้ ทนนักเรียนออกมา 2 คน โดยให้ออกมาแสดงประกอบสถานการณส์ ้ัน ๆ ตาม
สถานการณ์ทีค่ รกู ำหนดให้ เชน่ ไปพบหมอเพอื่ รักษาอาการป่วย จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็
โดยครใู ช้คำถาม ดังน้ี
เพอ่ื นของนักเรยี นแสดงเป็นใครบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ หมอและคนไข้)
นักเรยี นคิดวา่ สถานการณ์นี้เป็นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ คนไข้ปว่ ยจงึ ต้องไปหาหมอ)
เพอื่ นในชัน้ เรียนทายสถานการณถ์ ูกต้องหรือไม่ (ตวั อย่างคำตอบ ถูกตอ้ ง)
2. ครูอธบิ ายเกีย่ วกับการเคลื่อนไหวประกอบสถานการณ์สั้น ๆ วา่ เปน็ การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบ
สถานการณ์สั้น ๆ เปน็ การแสดงท่าทางสีหนา้ นำ้ เสยี งเพื่อถา่ ยทอดเรื่องราวให้ผูอ้ ่นื รบั รู้ว่า
เกดิ เหตุการณ์อะไรข้ึน ท่ีไหน กับใคร
3. ครูนำบตั รประโยคสถานการณต์ า่ ง ๆ ตดิ บนกระดาน แล้วใหน้ กั เรยี นอ่านตามทลี ะสถานการณ์
สถานการณ์ท่ี 1 สถานการณ์ท่ี 2 สถานการณ์ที่ 3
ซ้ือกบั ขา้ วในตลาด ไปหาหมอฟัน นกั ร้องแสดงคอนเสิร์ต
สถานการณ์ที่ 4 สถานการณ์ที่ 5 สถานการณ์ท่ี 6
ตารวจจบั ผูร้ ้ายวง่ิ ราว ครูสอนนกั เรียน ชาวนากาลงั ทานา
กระเป๋ า
4. ให้นักเรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็น 6 กลมุ่ แล้วให้แต่ละกล่มุ ส่งผู้แทนออกมาจับฉลากเลือกสถานการณ์
ตามทคี่ รูกำหนดใหบ้ นกระดาน จากนน้ั ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั คิดท่าทางการเคลื่อนไหวประกอบสถานการณ์ตาม
หวั ข้อที่ได้ แลว้ รว่ มกันฝกึ ปฏิบัติ
5. ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมาแสดงทา่ ทางการเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์สนั้ ๆ
หนา้ ชัน้ เรยี น โดยครูเปน็ ผตู้ รวจสอบความถกู ต้องและให้คำแนะนำเพิ่มเติม หากพบข้อบกพรอ่ ง
ถ้าแสดงไดด้ ีให้เพื่อน ๆ กลมุ่ อ่ืนกล่าวชื่นชมใหก้ ำลังใจ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 33
6. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเพื่อสรปุ ความรู้เก่ียวกับการเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณ์
ส้นั ๆ โดยครใู ชค้ ำถาม ดังนี้
นกั เรียนสามารถเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์สั้น ๆ ใดได้บา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ ไปหา
หมอฟัน ซื้อกบั ข้าวในตลาด นักรอ้ งแสดงคอนเสริ ต์ ตำรวจจับผูร้ า้ ยว่ิงราวกระเป๋า ครูสอนนักเรยี น
ชาวนากำลังทำนา)
การเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณ์ส้ัน ๆ มปี ระโยชน์ต่อนกั เรียนอย่างไรบ้าง (ตัวอย่าง
คำตอบ ทำให้รา่ งกายแขง็ แรง ฝกึ ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้มสี มาธิ ฝึกการจินตนาการ)
จากนน้ั ครูนำคำตอบที่ได้มาเขียนสรปุ เป็นแผนภาพบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ดงั ตวั อยา่ งต่อไปนี้
ตารวจจบั ผรู้ ้ายว่ิงราวกระเป๋ า ฝึ กความคิดสร้างสรรค์
ครูสอนนกั เรียน ทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง
ชาวนากาลงั ทานา
ตวั อย่าง การเคล่ือนไหวประกอบ ประโยชน์ของการเคล่ือนไหว
สถานการณ์ส้ัน ๆ สถานการณ์ส้ัน ๆ ประกอบสถานการณ์ส้ัน ๆ
ซ้ือกบั ขา้ วในตลาด ฝึ กสมาธิ
นกั ร้องเล่นคอนเสิร์ต ฝึ กจินตนาการ
ไปหาหมอฟัน
7. ให้นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี้
การเคลื่อนไหวประกอบสถานการณส์ ัน้ ๆ เป็นการแสดงท่าทางเพ่ือถา่ ยทอดเรื่องราวให้
ผู้อน่ื รับรูว้ ่าเกดิ เหตุการณ์อะไร ท่ีไหน อยา่ งไร
8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดงั นี้
นักเรยี นจะนำสถานการณ์ใดมาแสดงเป็นการเคลือ่ นไหวประกอบสถานการณ์ เพราะอะไร
9. ให้นกั เรียนทำชนิ้ งานท่ี 4 เรอื่ ง การเคลือ่ นไหวประกอบสถานการณส์ น้ั ๆ
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ ักเรียนเคลือ่ นไหวประกอบสถานการณส์ นั้ ๆ โดยใชค้ วามคดิ และจนิ ตนาการอิสระ
สื่อการเรียนรู้
1. บัตรประโยคสถานการณ์ต่าง ๆ
2. ชิ้นงานที่ 4 เรื่อง การเคล่ือนไหวประกอบสถานการณส์ ้ัน ๆ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 34
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธีการวัดและประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
1.3 ตรวจชิน้ งานที่ 4
2. เครื่องมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมนิ ชน้ิ งานท่ี 4 ให้ผูส้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่อื ง
ปฏิบตั กิ ารเคล่อื นไหวทา่ ทางประกอบเพลง
เกณฑก์ าร ระดับคะแนน
ประเมนิ 4 321
ปฏบิ ตั ิการ ปฏบิ ัติการเคล่ือนไหว ปฏบิ ัติการเคลอ่ื นไหว ปฏิบัติการเคล่ือน ไหว ปฏบิ ตั ิการเคลอ่ื นไหว
เคล่ือนไหว ทา่ ทางประกอบเพลง ทา่ ทางประกอบเพลง ทา่ ทางประกอบเพลง ทา่ ทางประกอบเพลงได้
ท่าทาง ร่วมกบั ผู้อนื่ ในการพัฒนา ตามทีต่ นเองได้คดิ ขึน้ มา ตามแบบได้ถูกต้องและ ตามแบบอย่างหรือทำ
ประกอบ ใหเ้ กดิ ประ โยชน์ตอ่ เอง เพื่อให้มี มกี ารดดั แปลงให้ ตามที่ครูแนะนำเทา่ นั้น
เพลง สว่ นรวมและสามารถ ประสทิ ธภิ าพท่ีดีขน้ึ กวา่ เหมาะสมกบั ตนเอง
แกป้ ญั หาใน ระหวา่ ง แบบอย่างโดยมีครหู รือ โดยมีครหู รอื ผู้อนื่
ปฏบิ ัติได้ ผู้อ่ืนแนะนำบ้าง แนะนำบ้าง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 35
การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้
ตัวชีว้ ัดที่ 4.1 ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3)
4.1.1 ตงั้ ใจเรยี น ไมต่ ้งั ใจเรียน ตัง้ ใจ เอาใจใส่ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ต้ังใจเรียน เอาใจใส่
4.1.2 เอาใจใส่และ ในการเรียน และมีความเพียร- และมีความเพยี ร-
มีความเพียรพยายาม พยายามในการเรียน พยายามในการเรียนรู้
ในการเรียนรู้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม
4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม การเรียนรู้ตา่ ง ๆ
กิจกรรมการเรียนรู้
ต่าง ๆ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 36
ใบงานท่ี 4
โรงเรยี นวดั ชินวราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์ อำเภอเมอื ง จงั หวัดปทุมธานี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ หนว่ ยท่ี 1 เร่อื งการเคลอื่ นไหวประกอบเพลง (มฐ.ตวั ชวี้ ดั ศ.3.2 ป.3/2)
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
ชอ่ื ………………………………….…นามสกุล………………………ชัน้ ป.3/……. เลขท…่ี …
ให้นกั เรียนจบั คู่และรว่ มกันเคลื่อนไหวท่าทางประกอบสถานการณส์ นั้ ๆ ได้________คะแนน
ท่กี ำหนดให้ แล้วบนั ทึกผลโดยเขยี นเครอ่ื งหมาย ลง คะแนนเตม็ 10 คะแนน
สถานการณ์ ผลการปฏบิ ตั ิ
1. ตำรวจไลจ่ ับผ้รู ้าย เหมือน ไม่เหมือน
2. นักเรียนชว่ ยครถู อื ของ
3. วัยร่นุ พาคนแก่ข้ามถนน
4. หมอฉีดยาคนไข้
5. แม่ป้อนอาหารให้ลกู
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 37
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน
ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้..................คน คิดเป็นร้อยละ..................
นกั เรียนน่ีไมผ่ ่าน มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษ์ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อยา่ งพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต มุ่งม่นั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ (P) มีวินยั รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแกป้ ญั หา
การใชท้ ักษะชวี ิต
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อนิ อ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรยี นวัดชนิ วราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 38
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แล้วมีความเห็นดังนี้
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2.การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................... .............................................................................
ลงชอ่ื .........................................................
( นางฉัฐอติพา แช่มชมใดาว )
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวัดชนิ วราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 39
บนั ทึกแผนการจดั การเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศลิ ป์ รายวชิ า นาฏศิลป์ รหสั วิชา ศ13101
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง สรา้ งสรรคก์ ารเคลื่อนไหว เวลา 4 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6 เร่ือง การเคลื่อนไหวประกอบสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ เวลา 1 ชวั่ โมง
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคดิ อย่างอิสระ ช่ืนชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวัน
ตัวชี้วดั
ศ 3.2 ป.3/1 สรา้ งสรรคก์ ารเคล่ือนไหวในรปู แบบต่าง ๆ ในสถานการณส์ ั้น ๆ
ศ 3.2 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศิลป์
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้สู ตู่ ัวชี้วดั
1. อธบิ ายเกย่ี วกับการเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณ์ที่กำหนดให้ (K)
2. ปฏบิ ัตกิ ารเคลื่อนไหวประกอบสถานการณ์ท่กี ำหนดให้ (P)
3. เหน็ ประโยชน์เก่ยี วกับการเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณท์ ี่กำหนดให้ (A)
สาระสำคัญ
การเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์ท่ีกำหนดให้ เป็นการแสดงท่าทางประกอบสถานการณ์ที่มีการ
กำหนดเร่อื งราวหรอื สถานการณ์เอาไว้แลว้
สาระการเรียนรู้
การเคลือ่ นไหวประกอบสถานการณท์ ่ีกำหนดให้
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝ่เรียนรู้
ตัวช้วี ัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 40
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้
แผนภาพแสดงการเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์ท่กี ำหนดให้
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครคู ดั เลอื กผูแ้ ทนนกั เรยี นออกมา 2 คน โดยให้ออกมาแสดงท่าทางเลยี นแบบตวั ละครตามทีค่ รู
กำหนดให้ เช่น ใหน้ กั เรียนทำท่าประกอบนิทานเรอื่ งกระตา่ ยกับเต่า จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความ
คิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถาม ดังน้ี
เพื่อนของนักเรียนแสดงเปน็ สัตว์อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ กระต่ายและเต่า)
นักเรียนคิดวา่ เพ่ือนแสดงทา่ ทางประกอบนทิ านเรอ่ื งใด (ตวั อย่างคำตอบ กระตา่ ยกบั เต่า)
เพ่อื นในชั้นเรยี นทายการแสดงได้ถูกต้องหรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ ถูกตอ้ ง)
2. ครอู ธิบายเกยี่ วกบั การเคล่ือนไหวประกอบสถานการณ์ที่กำหนดใหว้ า่ เปน็ การเคลอ่ื นไหวท่าทาง
ประกอบสถานการณท์ ี่มีการกำหนดเร่ืองราวหรอื สถานการณ์เอาไวแ้ ลว้ แล้วเคล่ือนไหวท่าทางประกอบสถานการ
นั้น เช่น การเคลอ่ื นไหวทา่ ทางประกอบนิทานจะเป็นการเคล่ือนไหวท่าทางตามตวั ละครของนทิ าน
3. ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ร่วมกนั แสดงท่าทางประกอบนทิ านเร่ือง ราชสีห์ กบั หนูใหแ้ ต่
ละกล่มุ ฝึกปฏิบตั ิแลว้ ออกมาแสดงหนา้ ชน้ั เรยี นทลี ะกลุ่ม ให้ครูและเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ
ดูและใหค้ ำแนะนำหากพบข้อบกพร่อง และชื่นชมถา้ ทำได้ดี และใหแ้ ต่ละกลมุ่ บันทึกผลการแสดงของตนเองใน
แบบบันทกึ
แบบบันทกึ การแสดงท่าทางประกอบนิทานเรื่อง ราชสีห์กบั หนู
1. นกั เรียนไดแ้ สดงเป็น ...........................................................................................
2. นกั เรียนเคล่ือนไหวท่าทางไดเ้ หมือนตวั ละครที่นกั เรียนแสดงหรือไม่
เหมือน ไมเ่ หมือน
3. นกั เรียนไดข้ อ้ คดิ อะไรจากนิทานเร่ืองน้ี (ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ )
ไมด่ ูถูกผทู้ ี่ดอ้ ยกวา่
ผทู้ ่ีมีความกรุณาปรานีย่อมมีผนู้ ึกถึงเสมอ
ความพยายามอยทู่ ่ีไหน ความสาเร็จอยทู่ ่ีนนั่
4. นิทานเร่ือง ราชสีห์กบั หนู ส่งเสริมคุณธรรมดา้ นใด
ความเมตตากรุณา ความรับผดิ ชอบ ความสามคั คี
4. ครูและนักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับการเคลือ่ นไหวประกอบสถานการณ์ที่กำหนดให้
เร่ือง ราชสีห์กับหนู โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 41
นักเรียนสามารถแสดงไดส้ มบทบาทหรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ สมบทบาท)
นกั เรียนร้สู กึ อย่างไร ที่ได้แสดงการเคล่อื นไหวประกอบนิทาน เร่อื ง ราชสหี ์ กับหนู
(ตวั อยา่ งคำตอบ สนุกสนาน เพลดิ เพลิน)
นกั เรียนไดข้ ้อคิดอะไรบ้าง จากการแสดงการเคล่ือนไหวประกอบนิทานเรื่อง ราชสีห์กบั หนู
(ตัวอย่างคำตอบ ไดข้ ้อคดิ ว่า ผู้ที่มีความกรณุ าปรานยี อ่ มมผี ู้ระลกึ ถึงเสมอและไม่ควรดถู ูก
ความสามารถผู้ที่ดอ้ ยกวา่ )
5. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเพื่อสรุปความรู้เกี่ยวกบั เรอ่ื ง การเคลื่อนไหวประกอบ
สถานการณ์ที่กำหนดให้ โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
นกั เรยี นสามารถแสดงการเคล่ือนไหวประกอบสถานการณท์ ก่ี ำหนดให้เกี่ยวกับ
สิ่งใดได้บา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ แสดงประกอบนทิ าน)
การเคลอื่ นไหวประกอบสถานการณ์ทก่ี ำหนดให้ มปี ระโยชนต์ อ่ นักเรยี นอย่างไรบ้าง
(ตัวอย่างคำตอบ ทำใหร้ า่ งกายแขง็ แรง เคลอื่ นไหวคลอ่ งแคล่ว มคี วามคดิ สร้างสรรค์
ฝกึ จนิ ตนาการ ได้ข้อคิดจากเรอ่ื ง)
จากน้ันครูนำคำตอบท่ไี ด้มาเขียนสรุปเป็นแผนภาพบนกระดาน แล้วให้นักเรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี ทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง
ตวั อย่างการเคล่ือนไหว ฝึกจินตนาการ เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว
ประกอบสถานการณ์ท่ีกาหนดให้
การเคลื่อนไหวประกอบ ประโยชน์ของการเคลื่อนไหว
นิทาน สถานการณ์ทกี่ าหนดให้ ประกอบสถานการณ์ที่กาหนดให้
ไดข้ อ้ คดิ จากเร่ือง
ฝึกความคดิ สร้างสรรค์
6. ให้นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี้
การเคล่อื นไหวประกอบสถานการณ์ท่ีกำหนดให้ เป็นการเคล่อื นไหวทา่ ทางประกอบ
สถานการณ์ทีม่ กี ารกำหนดเรื่องราวหรอื สถานการณ์เอาไวแ้ ล้ว เป็นการฝกึ ความคดิ จนิ ตนาการและทำให้
รา่ งกายแข็งแรง เคล่ือนไหวคล่องแคลว่
7. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี
นักเรยี นจะแสดงการเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณ์ท่กี ำหนดใหเ้ รื่องใด
เพราะอะไร และอยากแสดงเป็นอะไรในเร่ืองนนั้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 42
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ กั เรียนเคลอ่ื นไหวประกอบสถานการณท์ ี่กำหนดให้ โดยใช้ความคดิ และจินตนาการ
อยา่ งอสิ ระ
สอ่ื การเรียนรู้
แบบบันทกึ ผลการแสดงทา่ ทางประกอบนิทานเร่ือง ราชสหี ์กับหนู
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวดั และประเมินผล
1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
2. เคร่ืองมอื
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 43
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
1 สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรียนจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
ไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................
นกั เรยี นนี่ไมผ่ ่าน มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1.2 นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่ือสตั ย์สุจรติ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรยี นมีความรู้เกิดทักษะ (P) มวี ินัย รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรยี นรู้ มจี ติ เปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นกั เรียนมีเจตคติ คา่ นยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแกป้ ญั หา
การใชท้ กั ษะชวี ิต
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 44
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรูข้ อง นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แล้วมีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 45
บนั ทึกหนว่ ยการจดั การเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวิชา นาฏศิลป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรยี นที่ 1
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 4 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง รำวงมาตรฐาน
• มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน
ศ 3.1 : เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
. นาฏศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ในใน
.. ชวี ติ ประจำวนั
ตวั ชวี้ ดั
ศ 3.1 ป.3/1 สร้างสรรคก์ ารเคล่ือนไหวในรูปแบบต่าง ๆ ในสถานการณส์ ้นั ๆ
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรปู แบบนาฏศลิ ป์
• สาระสำคัญ
รำวงมาตรฐานเป็นศิลปะการแสดงนาฏศิลป์ของไทยทีม่ ีความสวยงาม เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่คน
ไทยทุกคนควรอนรุ กั ษ์ไวเ้ พื่อใหเ้ ยาวชนรุน่ หลงั ได้รจู้ กั และสืบทอดต่อไป
• ความเขา้ ใจทค่ี งทน (Enduring Understanding)
รำวงมาตรฐานเปน็ ศลิ ปะการแสดงนาฏศิลปท์ ่เี ปน็ เอกลักษณ์ของชาติ ทคี่ วรค่าแกก่ ารอนรุ ักษ์
และสบื ทอดตอ่ ไป
• สาระการเรยี นรู้
1. ประวตั ิความเปน็ มาของรำวงมาตรฐาน
2. ท่ารำในเพลงรำวงมาตรฐาน
3. การแต่งกาย
4. การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน
• คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
รกั ความเปน็ ไทย
ตวั ชีว้ ดั ที่ 7.1 ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตญั ญกู ตเวที
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 46
• สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการคดิ
• สอื่ การเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้
1. แถบบันทกึ ภาพ
2. เครื่องเล่นแถบบนั ทกึ ภาพ
3. เครอื่ งเลน่ แถบบันทึกเสียง
4. แถบบนั ทึกเสยี งเพลงรำวงมาตรฐาน
5. บตั รคำ
6. สลากช่อื เพลงและท่ารำที่ใชใ้ นเพลงรำวงมาตรฐาน
7. เกมฉันคู่ใคร
8. ภาพการแต่งกายในการแสดงรำวงมาตรฐาน
9. แผนภาพการแตง่ กายในการแสดงรำวงมาตรฐาน
10. สลาก
11. แผนภมู ิเพลงงามแสงเดือน
12. ช้นิ งานท่ี 5 เรอื่ ง การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน
• การวัดและประเมินผล
1. การประเมนิ ผลตวั ชีว้ ดั
ชนิ้ งานที่ 5 เร่อื ง การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน
เกณฑก์ ารประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32
ปฏิบตั ิท่ารำวงเพลง ปฏิบัติท่ารำวงเพลง ปฏบิ ตั ิท่ารำวง ปฏิบัตทิ ่ารำวงเพลง ปฏบิ ตั ิท่ารำวงเพลง
งามแสงเดือน งามแสงเดือนร่วมกบั เพลงงามแสง งามแสงเดือนรว่ ม งามแสงเดือนร่วมกบั
ผู้อน่ื ได้และสามารถ เดอื นร่วมกบั ผู้อ่นื กับผู้อน่ื ได้ถกู ตอ้ ง ผอู้ นื่ ได้ตามท่ีครู
แกป้ ญั หาในระหว่าง ได้ถูกตอ้ งตาม ตามแบบอย่าง โดยมี แนะนำเท่านนั้
การปฏิบัตไิ ด้ แบบอย่าง ครหู รือผู้อื่นแนะ นำ
บ้าง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 47
2. การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
รกั ความเปน็ ไทย
ตัวชว้ี ัดท่ี 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตญั ญูกตเวที
พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3)
7.1.1 แต่งกายและ ไมม่ ีสัมมา ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้มู ี ปฏิบัติตนเป็นผ้มู ี ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูม้ ี
มมี ารยาทงดงาม คารวะ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย
แบบไทย ต่อผู้ใหญ่ มสี ัมมาคารวะ มีสมั มาคารวะ มีสัมมาคารวะ
มีสมั มาคารวะ กตญั ญูกตเวที กตัญญูกตเวที กตญั ญูกตเวที
กตญั ญูกตเวที ตอ่ ผมู้ ีพระคุณ ตอ่ ผู้มพี ระคุณ และ ต่อผ้มู พี ระคุณ และ
ตอ่ ผูม้ ีพระคุณ แตง่ กายแบบไทย แต่งกายแบบไทย
7.1.2 ร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมในกจิ กรรม
ทีเ่ ก่ยี วข้องกับ ท่ีเกยี่ วข้องกับ
ประเพณี ศิลปะ ประเพณี ศลิ ปะ
และวฒั นธรรมไทย และวัฒนธรรมไทย
7.1.3 ชกั ชวน แนะนำ
ใหผ้ อู้ น่ื ปฏบิ ตั ติ าม
ขนบธรรมเนียม
ประเพณี ศิลปะ
และวัฒนธรรมไทย
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 48
บันทึกแผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ ง รำวงมาตรฐาน เวลา 4 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 7 เรือ่ ง ประวัตคิ วามเปน็ มาของรำวงมาตรฐาน เวลา 1 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคดิ อยา่ งอิสระ ช่ืนชมและประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวัน
ตวั ชีว้ ดั
ศ 3.1 ป.3/1 สรา้ งสรรคก์ ารเคล่อื นไหวในรูปแบบตา่ ง ๆ ในสถานการณ์สั้น ๆ
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศิลป์
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้สตู่ ัวชี้วดั
1. อธบิ ายเกย่ี วกับประวตั ิความเปน็ มาของรำวงมาตรฐาน (K)
2. แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับประวัตคิ วามเปน็ มาของรำวงมาตรฐาน (P)
3. เห็นคุณค่าและช่นื ชมในการแสดงรำวงมาตรฐาน (A)
สาระสำคัญ
รำวงมาตรฐานพัฒนาจากการเล่นรำโทนท่ีนิยมกันอย่างแพร่หลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการ
แสดงท่ีมคี วามสนุกสนาน ควรค่าแกก่ ารอนุรักษไ์ ว้
สาระการเรียนรู้
ประวัตคิ วามเปน็ มาของรำวงมาตรฐาน
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
รักความเป็นไทย
ตวั ช้ีวัดท่ี 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตัญญูกตเวที
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 49
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ความสามารถในการคิด
ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
แผนภาพแสดงประวตั คิ วามเป็นมาของรำวงมาตรฐาน
คำถามทา้ ทาย
นกั เรยี นมีวิธกี ารอนรุ กั ษ์รำวงมาตรฐานหรือไม่ อย่างไร
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครหู าเปดิ แถบบันทึกภาพการแสดงรำวงมาตรฐานใหน้ ักเรยี นดู แล้วใหน้ ักเรียนรว่ มกันตอบคำถาม
โดยครูใชค้ ำถาม ดังนี้
นักเรยี นเคยเหน็ การแสดงน้ีหรอื ไม่ (เคย/ไม่เคย)
นกั เรยี นพบเหน็ การแสดงในภาพจากงานใดบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ งานปีใหม่
งานสงกรานต์)
การแสดงในภาพมชี ือ่ เรียกวา่ อะไร (ตัวอย่างคำตอบ รำวงมาตรฐาน)
นักเรยี นเคยเข้าร่วมการแสดงเหมือนกบั ในภาพหรอื ไม่ ถา้ เคยรู้สึกอย่างไร (ตัวอย่าง
คำตอบ เคยเขา้ ร่วม รู้สกึ สนุกสนาน เพลดิ เพลิน)
2. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง ประวัตคิ วามเปน็ มาของรำวงมาตรฐาน แล้วให้นกั เรียนรว่ มกันแสดง
ความคิดเห็น โดยครูใชค้ ำถาม ดงั นี้
ในสมัยอดตี รำวงมาตรฐานนยิ มเล่นกันในชว่ งใด (ตัวอยา่ งคำตอบ
ช่วงสงครามโลกครงั้ ที่ 2)
รำวงมาตรฐานมกี ารพัฒนามาจากการเลน่ รำโทนใช่หรอื ไม่ (ใช่)
เครอ่ื งดนตรที ี่ใช้ในการเลน่ รำโทนมีเครอ่ื งดนตรีใดบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ โทน)
3. ครูให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 2 กลมุ่ ให้แตล่ ะกลุ่มร่วมกันวาดภาพการแสดง รำวงมาตรฐานใน
สมัยอดีตพรอ้ มทั้งระบายสใี ห้สวยงามลงในกระดาษชาร์ต และใหแ้ ตล่ ะกลุ่มสง่ ผู้แทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชน้ั
เรียน กลมุ่ ละ 1-2 คน
4. ครูและนกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เพื่อสรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั เรื่องประวตั ิความเป็นมาของรำวง
มาตรฐาน โดยครใู ช้คำถาม ดงั น้ี
รำวงมาตรฐานเป็นการพฒั นามาจากการแสดงใด (การเลน่ โทน)
การเลน่ รำโทนในโคราชมีวธิ ีการเล่นอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ มีการตีโทนประกอบ ชาย
หญงิ จบั คู่รำวงเปน็ วงกลมในลานกลางแจ้ง)
การเล่นรำโทนในสมยั จอมพล ป.พิบูลสงคราม มวี ิธีการเล่นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ มีการ
จัดเวทีสวยงาม จัดซุ้มดอกไมก้ ลางวงรำ เลน่ ในเวลากลางวัน ผู้รำแต่งกายตามยุคสมัยนิยม)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 50
หลงั จบสงครามโลกครั้งท่ี 2 จบลง การเล่นรำโทนมีวธิ ีการเลน่ อยา่ งไร
(ตัวอยา่ งคำตอบ มีการจัดต้ังคณะรำวงเป็นอาชีพ ผูร้ ำจะตอ้ งซอ้ื บตั รเพื่อขน้ึ ไปรำบนเวที)
เพลงรำวงมาตรฐานมีก่ีเพลงและมีทง้ั หมดกที่ ่ารำ (มเี พลง 10 เพลง
มที ่ารำ 14 ทา่ รำ)
จากน้นั ครูนำคำตอบท่ีได้มาเขียนสรุปเป็นแผนภาพบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง ดงั ตัวอย่างต่อไปนี้
ชายหญิงจบั คู่ราวงเป็น จดั ซุม้ ดอกไมก้ ลางวงรา
วงกลมในลานกลางแจง้
เล่นในเวลากลางวนั
การตีโทนประกอบ จดั เวทีสวยงาม
การเลน่ ราโทนในโคราช การเลน่ ราโทนในสมยั
จอมพล ป.พิบลู สงคราม
ประวัติความเป็ นมาของ
พฒั นามาจากการเลน่ ราโทน ราวงมาตรฐาน
เพลงราวงมาตรฐานและท่ารา การเล่นราโทนหลงั
สงครามโลกคร้ังที่ 2
มีเพลง 10 เพลง ผรู้ าตอ้ งซ้ือบตั รข้ึน
มีทา่ รา 14 ท่ารา มีการจดั ต้งั คณะราวงเป็นอาชีพ ไปราบนเวที
5. ให้นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี
รำวงมาตรฐานพัฒนาจากการเล่นรำโทนทีน่ ยิ มกันอย่างแพรห่ ลายใน
ช่วงสงครามโลกครงั้ ที่ 2 เปน็ การแสดงท่ีมีความสนุกสนาน ควรค่าแก่การอนุรักษไ์ ว้
6. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังน้ี
นักเรยี นมีวิธีการอนรุ ักษ์รำวงมาตรฐานหรอื ไม่ อย่างไร