เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 51
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
1. ให้นักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอสิ ระ
2. ใหน้ กั เรียนวาดภาพการแสดงรำวงมาตรฐานอยา่ งอิสระ
สอ่ื การเรียนรู้
1. เครือ่ งเลน่ แถบบันทึกภาพ
2. แถบบันทึกภาพ
การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เครอ่ื งมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 52
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
1 สรุปผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้..................คน คิดเป็นร้อยละ..................
นักเรยี นนไ่ี มผ่ ่าน มีดงั นี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มุ่งมนั่ ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) มีวนิ ัย รกั ความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ติ เปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
.......................................................................................... การส่ือสาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปัญหา
การใช้ทักษะชวี ิต
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอื่ ....................................................
(นางสาวพชั รมัย อินอ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 53
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน แล้วมคี วามเหน็ ดังนี้
1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผูเ้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใช้ได้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชอ่ื .........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 54
บันทึกแผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศลิ ป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรียนที่ 1
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 4 ชวั่ โมง
เวลา 1 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง รำวงมาตรฐาน
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 8 เรื่อง ท่ารำในเพลงรำวงมาตรฐาน
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคิดอยา่ งอิสระ ชน่ื ชมและประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ตวั ชว้ี ดั
ศ 3.1 ป.3/1 สรา้ งสรรคก์ ารเคลอ่ื นไหวในรปู แบบตา่ ง ๆ ในสถานการณ์ส้นั ๆ
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศิลป์
จุดประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ ัวชี้วัด
1. อธิบายเกี่ยวกบั ลกั ษณะท่ารำท่ีใชใ้ นเพลงรำวงมาตรฐาน (K)
2. ปฏบิ ัตทิ ่ารำท่ใี ช้ในการแสดงรำวงมาตรฐาน (P)
3. เห็นคุณค่าและชืน่ ชมในท่ารำทีใ่ ช้ในการแสดงรำวงมาตรฐาน (A)
สาระสำคญั
ปัจจบุ ันเพลงทใ่ี ชใ้ นการรำวงมาตรฐานมกี ำหนดไว้ 10 เพลง และมีการกำหนดท่ารำท่เี หมาะสมกบั
เพลงทั้งหมด 14 ทา่ รำ เพ่ือนำไปใช้ใหเ้ หมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ
สาระการเรียนรู้
ทา่ รำในเพลงรำวงมาตรฐาน
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
รักความเป็นไทย
ตวั ชวี้ ดั ที่ 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญกู ตเวที
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 55
ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
แผนภาพแสดงทา่ รำท่ีใช้ในเพลงรำวงมาตรฐาน
คำถามทา้ ทาย
นักเรียนคดิ ว่า ทา่ รำที่ใช้ในเพลงรำวงมาตรฐานมคี วามสำคัญอยา่ งไร
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครเู ปิดแถบบนั ทึกเสียงเพลงรำวงมาตรฐานใหน้ ักเรียนฟงั เช่น เพลงงามแสงเดอื น เพลงรำซมิ ารำ
แลว้ ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
นกั เรียนเคยได้ยนิ เพลงนี้หรอื ไม่ (ตัวอย่างคำตอบ เคยได้ยนิ )
นักเรยี นรูจ้ กั เพลงนี้หรือไม่ ถา้ เคยเพลงน้ชี ่ือว่าอะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ รจู้ ัก ช่ือเพลง
งามแสงเดือน)
นักเรียนฟงั เพลงน้แี ลว้ รสู้ ึกอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ สนกุ สนานเพลดิ เพลิน)
2. ครใู ห้นักเรียนศึกษาความรู้เร่อื ง ท่ารำในเพลงรำวงมาตรฐาน แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคำถาม โดย
ครใู ชค้ ำถาม ดังนี้
เพลงรำวงมาตรฐานมีก่ีเพลง (ตัวอย่างคำตอบ มี 10 เพลง)
ท่ารำทีใ่ ช้ในเพลงรำวงมาตรฐานมีกีท่ า่ รำ (ตัวอยา่ งคำตอบ มที า่ รำ 14 ทา่ รำ)
3. ครนู ำบัตรคำเพลงรำวงมาตรฐานและท่ารำเพลงรำวงมาตรฐานตดิ บนกระดาน แล้วใหน้ กั เรยี น
ร่วมกันจบั คชู่ ่ือเพลงและทา่ รำ โดยครูเปน็ ผู้ตรวจสอบความถกู ต้อง
งามแสงเดือน ชกั แป้งผดั หนา้
หญิงไทยใจงาม สอดสร้อยมาลา
ชาวไทย ราส่าย
ราซิมารา สอดสร้อยมาลาแปลง
คืนเดือนหงาย พรหมส่ีหนา้ และยงู ฟ้อนหาง
4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเพื่อสรปุ ความรเู้ กย่ี วกับเพลงรำวงมาตรฐาน
โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
ท่ารำใดทใ่ี ชใ้ นเพลงงามแสงเดอื น (ท่ารำสอดสร้อยมาลา)
ท่ารำใดทใี่ ชใ้ นเพลงชาวไทย (ท่ารำชักแป้งผดั หนา้ )
ท่ารำใดที่ใช้ในเพลงรำซิมารำ (ทา่ รำรำสา่ ย)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 56
ทา่ รำใดที่ใช้ในเพลงคนื เดอื นหงาย (ทา่ รำสอดสร้อยมาลาแปลง)
ท่ารำใดทใ่ี ชใ้ นเพลงดวงจันทรว์ นั เพญ็ (ทา่ รำแขกเต้าเขา้ รงั และผาลาเพียงไหล่)
ท่ารำใดทใ่ี ช้ในเพลงดอกไมข้ องชาติ (ทา่ รำรำยั่ว)
ท่ารำใดท่ใี ชใ้ นเพลงหญิงไทยใจงาม (ท่ารำพรหมสห่ี นา้ และยงู ฟ้อนหาง)
ท่ารำใดท่ใี ชใ้ นเพลงดวงจนั ทรข์ วญั ฟา้ (ท่ารำช้างประสานงาและ
จนั ทร์ทรงกลดแปลง)
ทา่ รำใดทใ่ี ชใ้ นเพลงยอดชายใจหาญ (ทา่ รำชะนีรา่ ยไมแ้ ละจอ่ เพลิงกาฬ)
ท่ารำใดทใ่ี ชใ้ นการเพลงบชู านักรบ (ท่ารำขดั จางนางและจนั ทร์ทรงกลดใช้รำ เที่ยวแรก
และทา่ รำลอ่ แกว้ และท่าขอแก้วใชร้ ำเทย่ี วทีส่ อง)
เพลงทีใ่ ชใ้ นรำวงมาตรฐานมีกีเ่ พลง และมีทงั้ หมดก่ที า่ รำ (มี 10 เพลง 14 ท่ารำ)
จากน้ันครูนำคำตอบท่ไี ด้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ ง ดงั
ตวั อย่างต่อไปน้ี
ท่าราลอ่ แกว้ และขอแกว้
ทา่ ราชกั แป้งผดั หนา้ ใชร้ าเท่ียวท่ีสอง
ท่าราขดั จางนางและ
ท่าราสอดสร้อยมาลา เพลงชาวไทย จนั ทร์ทรงกลดใชร้ าเท่ียวแรก
เพลงงามแสงเดือน เพลงบูชารักรบ ท่าราสอดสร้อยมาลาแปลง
เพลงคืนเดือนหงาย
ราวงมาตรฐานมี 10 ท่าราในเพลง ทา่ ราแขกเตา้ เขา้ รัง
เพลง 14 ทา่ รา ราวงมาตรฐาน
เพลงดอกไม้ของชาติ เพลงดวงจันทร์วนั เพ็ญ
ท่ารารายว่ั เพลงหญงิ ไทยใจงาม เพลงราซิมารา
เพลงยอดชายใจหาญ ท่าราผาลาเพียงไหล่
ทา่ ราพรหมส่ีหนา้ เพลงดวงจนั ทร์ขวัญฟ้า ทา่ ราราส่าย
ท่ารายงู ฟ้อนหาง ท่าราชะนีร่ายไม้ ท่าราจ่อเพลิงกาฬ
ท่าราชา้ งประสานงา ท่าราจนั ทร์ทรงกลดแปลง
5. ครใู หน้ กั เรียนเลน่ เกมฉนั คู่ใคร โดยครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคนจับสลากท่ารำและบทเพลง
เม่อื นกั เรียนแตล่ ะคนจบั สลากครบทุกคนแลว้ ใหท้ ุกคนอา่ นสลากของตนเองวา่ เปน็ ท่ารำหรอื ช่ือเพลง จากน้ันให้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 57
นักเรยี นหาเพื่อนท่ีมีทา่ รำหรือช่อื เพลงทีถ่ ูกต้องกับตนเอง เช่น ถ้านกั เรียนจบั สลากได้คำว่าชาวไทย นักเรยี นตอ้ ง
หาเพ่อื นท่มี ที ่ารำชักแป้งผดั หน้ามาคู่กับตน หรือถ้านกั เรยี นจับสลากไดค้ ำว่า
“ทา่ รำช้างประสานงาและจนั ทรท์ รงกลดแปลง” นักเรียนจะต้องหาเพื่อนที่มชี ื่อเพลง “ดวงจันทร์ขวัญฟ้า” เม่ือ
นกั เรียนได้คู่ของตนเองแล้วให้นงั่ ลง จากนนั้ ครตู รวจสอบคำตอบว่าถูกตอ้ งหรือไม่ โดยให้นักเรียนแต่ละคบู่ อกชอ่ื
เพลงและท่ารำของคู่ตนเอง ถ้าจับค่ผู ิดจะต้องทำตามสงิ่ ท่เี พือ่ นในชั้นเรยี นบอกให้ทำ
หมายเหตุ ครูต้องทำสลากจับค่ใู หเ้ หมาะสมกบั จำนวนนักเรยี นในช้นั เรยี น
6. ให้นักเรียนและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้
ปัจจบุ ันเพลงที่ใช้ในการรำวงมาตรฐานมีกำหนดไว้ 10 เพลง และมีการกำหนดท่ารำที่
เหมาะสมกบั เพลงท้ังหมด 14 ทา่ รำ เพ่อื นำไปใชใ้ หเ้ หมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ
7. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดังนี้
นกั เรยี นคิดว่าท่ารำที่ใชใ้ นเพลงรำวงมาตรฐานมีความสำคญั อยา่ งไร
การจดั บรรยากาศเชิงบวก
1. ให้นักเรียนแสดงความคิดเหน็ อยา่ งอสิ ระ
2. ให้นักเรยี นเลน่ เกมอยา่ งอสิ ระ
สอ่ื การเรยี นรู้
1. เครือ่ งเล่นแถบบันทึกเสียง
2. แถบบันทึกเสยี งเพลงรำวงมาตรฐาน
3. บตั รคำ
4. สลากช่อื เพลงและทา่ รำที่ใช้ในเพลงรำวงมาตรฐาน
5. เกมฉันคูใ่ คร
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล
สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2. เครอ่ื งมือ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
3. เกณฑ์การประเมนิ
การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 58
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1 สรุปผลหลังการจดั การเรียนรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................
ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................
นักเรยี นนีไ่ มผ่ า่ น มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สัตยส์ ุจริต มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรียนมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี นิ ัย รกั ความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรยี นรู้ มีจติ เป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
.......................................................................................... การสอื่ สาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใช้ทกั ษะชวี ิต
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่อื ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 59
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน แล้วมคี วามเหน็ ดังนี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใช้ได้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชอ่ื .........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 60
บันทกึ แผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ภาคเรียนท่ี 1
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 4 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 เร่ือง รำวงมาตรฐาน เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 9 เร่อื ง การแตง่ กายในการแสดงรำวงมาตรฐาน
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคดิ อย่างอิสระ ชื่นชมและประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั
ตัวช้วี ดั
ศ 3.1 ป.3/1 สรา้ งสรรคก์ ารเคล่อื นไหวในรปู แบบตา่ ง ๆ ในสถานการณ์ส้ัน ๆ
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงทา่ ทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศลิ ป์
จุดประสงคก์ ารเรียนร้สู ตู่ ัวชี้วดั
1. อธิบายเกี่ยวกับลักษณะการแต่งกายทีใ่ ชใ้ นการแสดงรำวงมาตรฐาน (K)
2. จำแนกลักษณะการแตง่ กายที่ใช้ในการแสดงรำวงมาตรฐานรปู แบบตา่ ง ๆ (P)
3. เห็นคุณค่าและชืน่ ชมในลกั ษณะการแตง่ กายทใี่ ชใ้ นการแสดงรำวงมาตรฐาน (A)
สาระสำคัญ
การแสดงรำวงมาตรฐานมีลักษณะการแต่งกายในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีความสวยงาม สามารถเลือกใช้ได้
ตามโอกาสและความเหมาะสม
สาระการเรยี นรู้
การแตง่ กายในการแสดงรำวงมาตรฐาน
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
รักความเปน็ ไทย
ตัวชว้ี ดั ท่ี 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตัญญกู ตเวที
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการคดิ
ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
แผนภาพแสดงการแต่งกายในการแสดงรำวงมาตรฐาน
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 61
คำถามท้าทาย
ถ้านกั เรียนเปน็ นักออกแบบเสื้อผ้าระดบั โลก นกั เรยี นจะออกแบบเครื่องแต่งกายท่ีใชใ้ นการแสดงรำ
วงมาตรฐานที่มลี ักษณะอยา่ งไร
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครนู ำภาพการแต่งกายที่ใช้ในการแสดงรำวงมาตรฐานรูปแบบต่าง ๆ ให้นักเรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี น
รว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
นกั เรยี นเคยเหน็ การแต่งกายในภาพหรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
นักเรียนรู้สึกอยา่ งไรเกีย่ วกบั ลกั ษณะการแตง่ กายในภาพ (ตัวอยา่ งคำตอบ รูส้ กึ ถึงความ
เปน็ ไทย)
นกั เรยี นชอบการแต่งกายลกั ษณะน้ีหรอื ไม่ เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ ชอบ เพราะเปน็
ส่ิงทแี่ สดงถึงเอกลักษณ์ความเปน็ ไทย)
2. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาความรเู้ รอ่ื ง การแต่งกายทใ่ี ช้ในการแสดงรำวงมาตรฐาน แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกัน
ตอบคำถาม โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
การแตง่ กายฝา่ ยชายแบบชาวบ้านแตกตา่ งกับแบบรัชกาลที่ 5 อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ
ฝา่ ยชายแบบชาวบา้ นมีผ้าคาดเอว สวมเส้ือคอกลม ส่วนแบบรัชกาลที่ 5 นยิ มสวมชดุ ราชปะแตน)
การแตง่ กายของฝา่ ยชายแบบชาวบ้านแตกต่างกบั แบบราตรสี โมสรอย่างไร (ตัวอย่าง
คำตอบ แบบราตรีสโมสรจะสวมเส้ือทรงพระราชทาน สวมกางเกงขายาว)
การแต่งกายของฝ่ายหญิงแบบชาวบ้านแตกตา่ งกับแบบรชั กาลที่ 5 อย่างไร (ตัวอย่าง
คำตอบ ฝา่ ยหญงิ แบบชาวบา้ น น่งุ โจงกระเบน หม่ สไบ แบบรชั กาลท่ี 5 สวมเส้ือลกู ไมค้ อตง้ั )
การแต่งกายของฝ่ายหญิงแบบชาวบ้านแตกต่างกบั แบบราตรีสโมสรอย่างไร (ตัวอยา่ ง
คำตอบ แบบราตรีสโมสรแตง่ ชุดไทยพระราชนิยม)
3. ครนู ำแผ่นภาพแสดงการแต่งกายในรำวงมาตรฐาน จำนวน 6 แผน่ ภาพ ดังนี้
ภาพการแต่งกายแบบ ภาพการแตง่ กายแบบ ภาพการแตง่ กายแบบ
ชาวบา้ นของฝ่ายชาย รัชกาลที่ 5 ของฝ่ายชาย ราตรี สโมสรของฝ่ ายชาย
ภาพการแตง่ กายแบบ ภาพการแตง่ กายแบบ ภาพการแต่งกายแบบ
ชาวบา้ นของฝ่ายหญิง รัชกาลท่ี 5 ของฝ่ายหญิง ราตรี สโมสรของฝ่ ายหญิง
ครูติดแผน่ ภาพบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั บอกว่าการแตง่ กายภาพใดท่ีเป็นแบบชาวบ้าน แบบ
รัชกาลที่ 5 และแบบราตรสี โมสร โดยครเู ป็นผู้ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
4. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เพ่ือสรปุ ความรู้เก่ยี วกบั การแต่งกายท่ใี ชใ้ นการแสดงรำวง
มาตรฐาน โดยครูใชค้ ำถาม ดงั นี้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 62
การแตง่ กายท่ีใช้ในการแสดงรำวงมาตรฐานมกี ี่ประเภท ไดแ้ ก่อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ มี 3
ประเภท ไดแ้ ก่ แบบชาวบ้าน แบบรชั กาลท่ี 5 แบบราตรีสโมสร)
การแตง่ กายแบบชาวบา้ นมลี กั ษณะอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ฝ่ายชายนงุ่ ผา้ โจงกระเบน
สวมเส้ือคอกลมแขนสนั้ มีผ้าคาดเอวหอ้ ยชายดา้ นหนา้ ฝา่ ยหญิงนุ่งผา้ โจงกระเบน ห่มสไบอัดจีบ ประดับ
ดอกไมท้ ผี่ มดา้ นซา้ ย คาดเข็มขดั ใสเ่ ครือ่ งประดบั )
การแต่งกายแบบรชั กาลท่ี 5 มลี กั ษณะอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ฝา่ ยชายนุ่ง ผ้าโจงกระเบน
สวมเส้ือราชปะแตนใส่ถุงเท้า สวมรองเทา้ ฝ่ายหญิง สวมเสื้อลกู ไม้คอตั้ง แขนพอง น่งุ โจงกระเบน สไบ
พาดบ่า ผูกเป็นโบท้ิงชายไว้ข้างลำตัว ใสเ่ คร่อื งประดับมกุ สวมถุงน่อง สวมรองเท้า)
การแต่งกายแบบราตรีสโมสรมีลกั ษณะอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ฝ่ายชาย
สวมกางเกงขายาว สวมเสื้อพระราชทานแขนยาว ผ้าคาดเอว ห้อยชายดา้ นหน้า สวมรองเท้า ฝ่ายหญงิ
นงุ่ กระโปรงยาวจบี หน้านาง ใส่เสอ้ื จบี จับเดรป ชายผา้ ห้อยจากบา่ ลงไปทางดา้ นหลัง เปิดไหล่ขวา เกลา้ ผม
เปน็ มวยสูง ใสเ่ ก้ียวและเคร่ืองประดับ สวมรองเท้า)
จากนั้นครูนำคำตอบที่ได้มาเขียนสรปุ เป็นแผนภาพบนกระดาน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ฝ่ ายชาย นุ่งโจงกระเบน สวมเส้ือคอกลม ฝ่ ายหญิง สวมโจงกระเบน ห่มสไบอดั จีบ ประดบั
แขนส้ัน มีผา้ คาดเอวหอ้ ยชายดา้ นหนา้ ดอกไมท้ ่ีผมดา้ นซา้ ย คาดเขม็ ขดั ใส่เคร่ืองประดบั
ดา้ นหนา้ ฝ่ ายชาย นุ่งโจงกระเบนสวมเส้ือราช
แบบชาวบา้ น ปะแตน ใส่ถงุ เทา้ สวมรองเทา้
แบบราตรีสโมสร
ประเภทของการแต่งกาย การแต่งกายในการ แบบรัชกาลที่ 5
แสดงราวงมาตรฐาน
แบบชาวบา้ น ฝ่ ายหญงิ สวมเส้ือลูกไมค้ อต้งั แขนพอง
แบบรัชกาลที่ 5 แบบราตรีสโมสร นุ่งโจงกระเบน สไบพาดบ่าผกู เป็นโบทิง้ ชายไวข้ า้ ง
ลาตวั ใส่เคร่ืองประดบั มุก สวมถุงน่อง สวมรองเทา้
ฝ่ ายหญงิ สวมกางเกงขายาว สวมเส้ือทรง ฝ่ ายหญงิ นุ่งกระโปรงยาวจีบหนา้ ใส่เส้ือจีบจบั เดรป ชายผา้
พระราชทานแขนยาว ผา้ คาดเอวหอ้ ยชาย หอ้ ยจากบ่าลงไปทางดา้ นหลงั เปิ ดไหล่ขวา เกลา้ ผมเป็นมวย
ดา้ นหนา้ สวมรองเทา้ สูง ใส่เก้ียวและเคร่ืองประดบั สวมรองเทา้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 63
5. ครูแบง่ กลุ่มนักเรยี นออกเปน็ 3 กลมุ่ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มวาดภาพการแต่งกายในการแสดง รำวง
มาตรฐานแบบตา่ ง ๆ โดยครูใหแ้ ตล่ ะกลุม่ สง่ ผูแ้ ทนออกมาจับสลากเลอื กแบบการแต่งกายของกลมุ่ ตนเอง จากนัน้
ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั วาดภาพและระบายสี พร้อมตกแต่งให้สวยงาม แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งผูแ้ ทนกลมุ่ ละ 1-2 คน
ออกมาแสดงผลงานของกลมุ่ ตนเองหนา้ ชั้นเรียน
6. ให้นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี
การแสดงรำวงมาตรฐานมลี ักษณะการแตง่ กายในรูปแบบตา่ ง ๆ ที่มคี วามสวยงาม สามารถ
เลอื กใชไ้ ด้ตามโอกาสและความเหมาะสม
7. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้
ถา้ นักเรยี นเป็นนักออกแบบเสื้อผา้ ระดับโลก นกั เรียนจะออกแบบเคร่ืองแตง่ กายที่ใช้ใน
การแสดงรำวงมาตรฐานทีม่ ีลักษณะอย่างไร
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ กั เรยี นวาดภาพระบายสีโดยใชจ้ นิ ตนาการอย่างอิสระ
สอื่ การเรยี นรู้
1. ภาพการแตง่ กายในการแสดงรำวงมาตรฐาน
2. แผ่นภาพแสดงการแต่งกายในรำวงมาตรฐาน
3. สลาก
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
2. เครอ่ื งมอื
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 64
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน
ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................
ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................
นักเรยี นน่ีไมผ่ ่าน มีดงั น้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซอื่ สัตย์สุจรติ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรียนมีความรู้เกดิ ทักษะ (P) มีวนิ ัย รกั ความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝเ่ รียนรู้ มจี ติ เปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
.......................................................................................... การสือ่ สาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใชท้ ักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรยี นวัดชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 65
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน แล้วมคี วามเหน็ ดังนี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใช้ได้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชอ่ื .........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 66
บนั ทึกแผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวิชา นาฏศิลป์ รหสั วิชา ศ13101
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง รำวงมาตรฐาน เวลา 4 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 เรอื่ ง การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน เวลา 1 ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความรูส้ ึก ความคดิ อย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั
ตัวช้วี ัด
ศ 3.1 ป.3/1 สร้างสรรคก์ ารเคล่อื นไหวในรูปแบบตา่ ง ๆ ในสถานการณ์ส้ัน ๆ
ศ 3.1 ป.3/2 แสดงทา่ ทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศลิ ป์
จดุ ประสงค์การเรียนร้สู ู่ตวั ช้ีวดั
1. อธบิ ายเกย่ี วกบั การรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน (K)
2. ปฏบิ ตั ิทา่ รำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน (P)
3. เหน็ คุณคา่ และช่ืนชมในการแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน (A)
สาระสำคญั
ร ำ ว ง ม า ต ร ฐ า น เป็ น ศิ ล ป ะ ก า ร แ ส ด ง น า ฏ ศิ ล ป์ ข อ ง ไท ย ที่ ค น ไท ย ค ว ร อ นุ รั ก ษ์ ไว้ เพ่ื อ ใ ห้ เย า ว ช น
รนุ่ หลงั ได้รู้จกั และสืบทอดต่อไป
สาระการเรยี นรู้
การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
รกั ความเป็นไทย
ตวั ชวี้ ดั ที่ 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญกู ตเวที
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 67
ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้
1. แผนภาพแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดอื น
2. ชิ้นงานท่ี 5 เรอ่ื ง การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน
คำถามทา้ ทาย
นกั เรยี นอยากแสดงรำวงมาตรฐานเพลงใดอีกบ้างทนี่ อกเหนือจากเพลงงามแสงเดือน เพราะอะไรจึง
อยากแสดงเพลงนี้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครูเปิดแถบบันทึกเสียงเพลงงามแสงเดือนให้นกั เรยี นฟงั แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถาม โดยครูใช้
คำถาม ดังนี้
นักเรยี นเคยฟังเพลงงามแสงเดือนหรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ เคย/ไมเ่ คย)
ถ้านักเรียนเคยฟงั นกั เรียนรูส้ กึ อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ สนุกสนาน เพลดิ เพลนิ )
นกั เรยี นคิดว่าเพลงงามแสงเดือนมีความหมายเกย่ี วกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ
การรำเล่นเพ่อื ความสนกุ สนาน และผอ่ นคลายความเครียด)
2. ครูนำแผนภูมเิ พลงงามแสงเดอื นตดิ บนกระดานและร้องเพลงงามแสงเดือนให้นกั เรยี นฟงั และร้องตาม
จนถกู ต้องพร้อมเพรียงกัน
3. ครูแสดงทา่ รำสอดสร้อยมาลาให้นักเรียนดแู ละปฏบิ ตั ิตามจนถกู ต้องสวยงาม
และพร้อมเพรยี งกัน
4. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันร้องเพลงงามแสงเดือน พร้อมทั้งแสดงทา่ รำสอดสรอ้ ยมาลา ประกอบเพลง
โดยครเู ปน็ ผตู้ รวจสอบความถูกตอ้ ง
5. ครูและนกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเพื่อสรปุ ความร้เู ก่ียวกับรำวงมาตรฐาน เพลงงาม
แสงเดอื น โดยครใู ชค้ ำถาม ดังนี้
รำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือนใช้ท่ารำใด (ทา่ รำสอดสรอ้ ยมาลา)
เพลงงามแสงเดือนมีความหมายเก่ยี วกับส่ิงใด (ตัวอย่างคำตอบ การฟ้อนรำเพ่อื ความสุข
สนกุ สนาน ผ่อนคลายความทุกข์และเพื่อความสามัคคี)
นักเรยี นมวี ิธีการอนุรักษ์การแสดงรำวงมาตรฐานอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ศกึ ษา
เก่ียวกบั เร่ืองรำวงมาตรฐาน ฝกึ ซอ้ มการแสดงรำวงมาตรฐาน)
จากนน้ั ครนู ำคำตอบที่ได้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดาน และให้นกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความ
ถกู ต้อง ดังตวั อยา่ งต่อไปนี้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 68
เพลงงามแสงเดือนมีความหมายเก่ียวกบั การฟ้อนราเพอ่ื ความสุข
สนุกสนาน ผอ่ นคลายความทกุ ข์ และเพื่อความสามคั คี
ราวงมาตรฐาน ฝึกซอ้ มการแสดง
เพลงงามแสงเดือน ราวงมาตรฐาน
ใชท้ ่าราสอดสร้อยมาลา
วธิ ีการอนุรักษ์ ศึกษาเกี่ยวกบั
การแสดงราวงมาตรฐาน เร่ืองราวงมาตรฐาน
6. ครูให้นักเรยี นจับคูแ่ ละให้นักเรียนแตล่ ะครู่ ว่ มกนั ฝึกปฏิบตั ิทา่ รำสอดสร้อยมาลาให้ถูกต้อง จากนน้ั ให้
แตล่ ะคู่ออกมาแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือนหน้าชน้ั เรียนทีละ 5 คู่ โดยครูเป็น ผูต้ รวจสอบความ
ถูกต้องและให้คำแนะนำเพิ่มเตมิ
7. ให้นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี
รำวงมาตรฐานเปน็ ศลิ ปะการแสดงนาฏศิลป์ของไทยทค่ี นไทยควรอนรุ ักษ์ไว้เพ่ือให้เยาวชน
รุ่นหลังได้รู้จกั และสบื ทอดต่อไป
8. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังน้ี
นักเรียนอยากแสดงรำวงมาตรฐานเพลงใดอีกบ้างท่นี อกเหนือจาก
เพลงงามแสงเดือน เพราะอะไรจงึ อยากแสดงเพลงน้ี
9. ใหน้ ักเรียนทำชนิ้ งานที่ 5 เรือ่ ง การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน
การจัดบรรยากาศเชงิ บวก
ให้นักเรยี นฝกึ ปฏบิ ัติท่ารำวงมาตรฐานอย่างอสิ ระ
ส่ือการเรยี นรู้
1. แผนภูมเิ พลงงามแสงเดือน
2. ชนิ้ งานท่ี 5 เร่ือง การแสดงรำวงมาตรฐานเพลงงามแสงเดือน
3. แถบบันทกึ เสียงเพลงรำวงมาตรฐาน
4. เครือ่ งเลน่ แถบบนั ทึกเสียง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 69
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.2 ตรวจชิ้นงานที่ 5
2. เครอ่ื งมอื
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผา่ นตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 70
บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 สรุปผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู.้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................
ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .................คน คิดเป็นร้อยละ..................
นักเรยี นนี่ไม่ผา่ น มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษ์ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซือ่ สัตย์สุจรติ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรยี นมีความรู้เกดิ ทักษะ (P) มีวนิ ัย รกั ความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝเ่ รียนรู้ มีจติ เปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นกั เรยี นมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใช้ทักษะชวี ิต
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่อื ....................................................
(นางสาวพชั รมัย อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 71
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน แล้วมคี วามเหน็ ดังนี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใช้ได้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชอ่ื .........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 72
บนั ทกึ หนว่ ยการจัดการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรียนท่ี 1
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 5 ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง นาฏศิลปพ์ ืน้ เมือง
• มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็น
คณุ คา่ ของนาฏศลิ ปท์ เี่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
ตัวช้ีวดั
ศ 3.2 ป.3/1 เลา่ ถงึ การแสดงนาฏศิลป์ท่เี คยเหน็ ในทอ้ งถ่ิน
• สาระสำคญั
นาฏศิลปพ์ ื้นเมืองเปน็ สง่ิ ท่ีแสดงถึงวถิ ชี วี ิตความเป็นอยแู่ ละภมู ิปัญญาของคนในทอ้ งถ่นิ
เปน็ ศลิ ปวัฒนธรรมที่ควรอนุรักษ์สืบทอดใหค้ งอยู่ต่อไป
• ความเข้าใจทคี่ งทน (Enduring Understanding)
นาฏศิลปพ์ ื้นเมืองเปน็ สง่ิ ที่แสดงถงึ วถิ ีชีวิต วฒั นธรรม ประเพณขี องแตล่ ะท้องถิ่นทมี่ ีความแตกต่างกนั เป็น
มรดกท้องถน่ิ ท่ีควรได้รับการอนรุ ักษ์และสบื ทอดให้คงอยู่ต่อไป
• สาระการเรยี นรู้
1. การแสดงนาฏศิลป์พ้นื เมอื ง
2. นาฏศลิ ป์พ้นื เมอื งภาคเหนือ
3. นาฏศิลปพ์ ื้นเมอื งภาคกลาง
4. นาฏศิลป์พนื้ เมอื งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5. นาฏศลิ ป์พื้นเมืองภาคใต้
• คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รักความเป็นไทย
ตัวชีว้ ัดท่ี 7.3 อนุรักษ์และสบื ทอดภมู ปิ ัญญาไทย
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 73
• สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
ความสามารถในการคิด
• ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู
ชิ้นงานที่ 6 เรือ่ ง การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมือง
• การประเมนิ ผล
1. การประเมินผลตัวชวี้ ัด
ช้ินงานท่ี 6 เรอ่ื ง การแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นเมือง
เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดบั คะแนน 2 1
3
เหน็ ความสำคัญ เห็นความสำคัญและ เหน็ ความสำคัญและ เหน็ ความ เหน็ ความสำคญั
และยนิ ดีท่จี ะ ยินดที จ่ี ะอนรุ กั ษ์การ ยนิ ดีท่ีจะอนุรักษ์การ สำคญั และยนิ ดี และยินดที จี่ ะ
อนุรกั ษ์การแสดง แสดงนาฏศลิ ปพ์ ืน้ เมอื ง แสดงนาฏศลิ ปพ์ ื้นเมือง ท่จี ะอนรุ ักษ์การ อนรุ กั ษ์การแสดง
นาฏศิลปพ์ ้ืนเมือง เพ่อื ประ โยชน์ตอ่ คนใน เพ่อื ประ โยชนต์ ่อชุมชน แสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศิลปพ์ น้ื เมือง
สังคมมคี วามชน่ื ชม มีความเตม็ ใจท่ีจะ พน้ื เมืองและ และยนิ ดปี ฏิบัติ
ภาคภูมิใจในสง่ิ ท่ีปฏบิ ัติ ปรับปรงุ การปฏิบตั ใิ ห้ดี ยนิ ดปี ฏบิ ตั เิ พอ่ื เพือ่ ตนเอง
ข้นึ ผู้อืน่
2. การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
รกั ความเป็นไทย
ตัวช้ีวัดที่ 7.3 อนุรักษแ์ ละสบื ทอดภมู ปิ ัญญาไทย
พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม (3)
7.3.1 นำภมู ิปญั ญาไทย ไม่สนใจ บอกชื่อภมู ปิ ญั ญาไทย บอกชอ่ื ภูมิปัญญาไทย บอกชือ่ ภมู ิปญั ญาไทย
มาใช้ให้เหมาะสม ภมู ปิ ัญญาไทย ทีใ่ ชใ้ นท้องถิน่ ที่ใชใ้ นทอ้ งถ่ินของตน ท่ีใชใ้ นท้องถ่ินของตน
ในวถิ ีชีวติ ของตนได้ เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ รว่ มและชกั ชวน
7.3.2 ร่วมกจิ กรรม ทเี่ ก่ยี วข้องกบั คนในครอบครัว
ทเ่ี ก่ียวข้องกับ ภูมปิ ญั ญาไทย หรอื เพื่อนเขา้ รว่ ม
ภูมิปัญญาไทย กจิ กรรมท่ีเก่ยี วข้อง
7.3.3 แนะนำ กับภมู ิปัญญาไทย
มีส่วนรว่ มในการ
สืบทอดภูมิปัญญาไทย
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 74
• ส่อื การเรียนรู้
1. บตั รคำ
2. ชนิ้ งานท่ี 6 เรื่อง การแสดงนาฏศลิ ปพ์ นื้ เมือง
3. ภาพการแสดงนาฏศลิ ป์พื้นเมืองภาคเหนือ
4. ภาพการเล่นสาดนำ้ ในวนั สงกรานต์
5. ภาพขบวนแห่บงั้ ไฟในงานประเพณีบญุ บ้ังไฟ
6. ภาพหนงั ตะลุง
7. บัตรคำ
8. แถบประโยค
9. ภาพระบำชาวนา
10. ภาพเซง้ิ กระติบข้าว
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 75
บนั ทึกแผนการจัดการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศิลป์ รหสั วิชา ศ13101
ภาคเรยี นที่ 1
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 5 ชวั่ โมง
เวลา 1 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง นาฏศลิ ป์พื้นเมือง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 11 เรอ่ื ง การแสดงนาฏศิลปพ์ ืน้ เมอื ง
มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ป์ทเี่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิน่ ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ตวั ชว้ี ดั
ศ 3.2 ป.3/1 เล่าถึงการแสดงนาฏศลิ ปท์ ี่เคยเห็นในทอ้ งถิ่น
จุดประสงค์การเรยี นรูส้ ตู่ ัวช้ีวัด
1. อธิบายเกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์พน้ื เมือง (K)
2. จำแนกเกยี่ วกับการแสดงนาฏศลิ ป์พ้ืนเมืองแต่ละภาค (P)
3. เหน็ คณุ คา่ และชนื่ ชมในการแสดงนาฏศลิ ป์พื้นเมอื ง (A)
สาระสำคัญ
การแสด งน าฏ ศิลป์ พื้ น เมื องเป็ น การแสด งที่ สะท้ อน ให้ เห็ น ถึ งวิถีชีวิตขอ งค น ใน ท้ องถ่ิ น
และเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะของแต่ละท้องถ่นิ ท่ีมคี ุณค่า ควรค่าแกก่ ารอนุรักษส์ บื ไป
สาระการเรียนรู้
การแสดงนาฏศลิ ป์พื้นเมือง
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
รักความเป็นไทย
ตวั ชวี้ ัดท่ี 7.3 อนรุ ักษ์และสบื ทอดภมู ปิ ัญญาไทย
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 76
ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู
1. แผนภาพแสดงนาฏศลิ ป์พนื้ เมือง
2. ช้ินงานที่ 6 เรอ่ื ง การแสดงนาฏศลิ ป์พนื้ เมือง
คำถามท้าทาย
นักเรียนมีวธิ อี นุรกั ษ์การแสดงนาฏศิลป์พืน้ เมอื งของท้องถนิ่ นักเรยี นอยา่ งไร
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การแสดงนาฏศลิ ป์พนื้ เมืองในท้องถิ่นของตนเอง
แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถาม ดงั นี้
นักเรียนเคยชมการแสดงนาฏศิลป์พ้นื เมืองหรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
การแสดงนาฏศลิ ป์พน้ื เมอื งที่เคยชมเป็นการแสดงอะไร (ตวั อย่างคำตอบ ฟ้อนเล็บ
เซิ้งกระติบข้าว รำกลองยาว รำมโนราห์)
นกั เรียนรสู้ ึกอย่างไรเมื่อได้ชมการแสดงดงั กลา่ ว (ตัวอยา่ งคำตอบ รู้สึกสนุกสนาน
เพลดิ เพลิน มีความสขุ )
2. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาความร้เู กี่ยวกับการแสดงนาฏศลิ ป์พืน้ เมือง แลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั ตอบคำถาม
โดยครูใชค้ ำถาม ดังนี้
นาฏศิลปพ์ นื้ เมอื งทำให้คนในท้องถนิ่ เปน็ อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ทำให้คนในท้องถนิ่ มี
ความสนกุ สนาน สามคั คีกนั )
นาฏศลิ ป์พ้นื เมืองสะท้อนใหเ้ ห็นถึงสิ่งใดบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ สะทอ้ นให้เห็น วิถชี ีวิต
ขนบธรรมเนยี ม วฒั นธรรม และประเพณี รวมถึงลักษณะภูมิประเทศของแต่ละท้องถ่ิน)
3. ให้นกั เรยี นคดิ ว่า ถา้ นักเรียนเปน็ นกั แสดงนาฏศลิ ปช์ ื่อดัง และได้มีโอกาสเดินทางไปเผยแพร่
นาฏศิลปไ์ ทยทีต่ ่างประเทศ นกั เรยี นจะนำการแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองของภาคใดไปแสดง เพราะอะไร และเปน็
การแสดงใด แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคนนำเสนอความคดิ ของตนเองหน้าช้นั เรียน ตามหวั ข้อทค่ี รูกำหนด
ชือ่ การแสดง
การแสดงของภาค
นำไปแสดงเพราะ
4. ครทู ำบัตรคำเก่ียวกบั การแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื เมอื งภาคต่าง ๆ ดังนี้
ฟ้อนเทียน ฟ้อนเง้ียว รากลองยาว เตน้ การาเคยี ว ฟ้อนผีมดผีเมง็ ฟ้อนเลบ็
ระบานางสงกรานต์ เซ้ิงบ้งั ไฟ เซ้ิงสวงิ รามโนราห์ รองเง็ง ระบาดอกบวั ระบาฉายานาฏกะ
แลว้ ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เมื่อครูชบู ตั รคำ โดยให้นกั เรยี นบอกว่าการแสดงนาฏศลิ ป์
พื้นเมืองมีความสมั พนั ธ์กบั ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือหรอื ภาคใต้ โดยครูเป็นผู้ตรวจสอบ
ความถกู ต้องของคำตอบ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 77
5. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเพื่อสรุปความรู้เก่ียวกับการแสดงนาฏศิลป์พืน้ เมืองโดยครใู ช้
คำถาม ดังน้ี
การแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมืองแบ่งเป็นกภี่ าค ได้แก่ภาคอะไรบา้ ง (4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาค
กลาง ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ และภาคใต้)
นกั เรียนรู้จักการแสดงนาฏศิลปพ์ นื้ เมืองภาคเหนืออะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ ฟอ้ นเลบ็ ฟ้อน
เทียน ฟ้อนเง้ียว ฟ้อนผีมดผเี ม็ง)
นักเรยี นรู้จักการแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นเมืองภาคกลางมีอะไรบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ รำกลองยาว เตน้
กำรำเคยี ว ระบำดอกบัว ระบำนางสงกรานต์)
นกั เรยี นรจู้ กั การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ เซ้ิง
กระตบิ ข้าว เซงิ้ บ้ังไฟ เซ้ิงสวงิ )
นักเรียนรู้จักการแสดงนาฏศิลปพ์ ้นื เมืองภาคใต้อะไรบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ รำมโนราห์ รองเง็ง
ระบำฉายานาฏกะ)
นักเรียนจะอนุรักษ์การแสดงของนาฏศิลป์พื้นเมืองของไทยอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ศึกษาเกยี่ วกับ
การแสดงนาฏศลิ ป์พน้ื เมืองของแตล่ ะภาค เข้าร่วมชมการแสดงนาฏศลิ ป์พ้ืนเมือง)
จากนั้นครูนำคำตอบทไ่ี ด้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดานและใหน้ ักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความ
ถกู ต้อง ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ี
ระบานางสงกรานต์ เซิ้งกระติบขา้ ว เซิ้งบ้งั ไฟ
ระบาดอกบวั เซ้ิงสวงิ
เตน้ การาเคียว
รากลองยาว ภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
รามโนราห์
ฟ้อนผีมดผีเมง็ การแสดงนาฏศิลป์ รองเงง็
ฟ้อนเง้ียว ภาคเหนือ พื้นเมือง
ภาคใต้
ฟ้อนเทียน ฟ้อนเลบ็ วิธีการอนุรักษ์ ระบาฉายานาฏกะ
การแสดงนาฏศิลป์ พ้ืนเมือง
เขา้ ร่วมชมการแสดง
ศึกษาเกี่ยวกบั การแสดง นาฏศิลป์ พ้ืนเมือง
นาฏศิลป์ พ้ืนเมืองแตล่ ะภาค
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 78
6. ครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ ความรู้เกี่ยวกบั อาเซียน ดังนี้
เมโนราหรอื มโนห์รา เป็นละครรำท่ีพบในรฐั กลันตัน ประเทศมาเลเซียการเจรจาและรอ้ งตามบทใน
เวลาแสดงใชภ้ าษามาเลย์ ตวั ละครใช้ผู้ชายแสดงท้งั หมด การแต่งกายจะใสห่ นา้ กากรปู ทรง
แปลก ๆ ทาสสี ันฉดู ฉาดเป็นรูปหน้าคน หนา้ ยักษ์ เตน้ เข้าจังหวะดนตรี นยิ มเล่นบทละครพ้นื บ้าน
7. ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี
การแสดงนาฏศิลป์พนื้ เมอื งเปน็ การแสดงทส่ี ะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคน
ในท้องถ่ิน และเปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะของแต่ละท้องถิน่ ทมี่ ีคุณค่า ควรคา่ แก่การอนุรักษ์สืบไป
8. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังนี้
นักเรยี นมีวธิ ีอนุรักษ์การแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื เมืองของท้องถ่นิ นักเรียนอยา่ งไร
9. ใหน้ กั เรยี นทำชน้ิ งานที่ 6 เรอ่ื ง การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมอื ง
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
1. ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยใช้ความคิดอยา่ งอิสระ
2. ใหน้ กั เรียนนำเสนอความคิดของตนเองอย่างอสิ ระ
สือ่ การเรยี นรู้
1. บตั รคำ
2. ชิ้นงานท่ี 6 เรอื่ ง การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ืน้ เมือง
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม
1.2 ตรวจชิ้นงานท่ี 6
2. เคร่ืองมอื
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
3. เกณฑ์การประเมิน
การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 79
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1 สรุปผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1.1 นักเรยี นจำนวน..................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................
นักเรียนนไ่ี ม่ผ่าน มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1.2 นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษ์ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่ือสัตยส์ จุ รติ มุง่ มัน่ ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรยี นมคี วามรเู้ กดิ ทักษะ (P) มีวินัย รกั ความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรยี นรู้ มจี ติ เป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
.......................................................................................... การสอื่ สาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปัญหา
การใชท้ ักษะชีวิต
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพชั รมัย อนิ อ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 80
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แลว้ มีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
........................................................................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 81
บันทกึ แผนการจัดการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ภาคเรียนท่ี 1
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 5 ชว่ั โมง
เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรื่อง นาฏศลิ ป์พ้ืนเมือง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 12 เรื่อง การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ืน้ เมอื งภาคเหนือ
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ปท์ ่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ภมู ิปัญญาไทยและสากล
ตวั ชีว้ ดั
ศ 3.2 ป.3/1 เลา่ ถึงการแสดงนาฏศิลปท์ ่เี คยเห็นในท้องถิ่น
จุดประสงค์การเรียนรสู้ ่ตู วั ช้ีวดั
1. บรรยายเกีย่ วกบั การแสดงนาฏศิลปพ์ ้นื เมืองภาคเหนือ (K)
2. ค้นควา้ เกีย่ วกบั การแสดงนาฏศลิ ป์พน้ื เมืองภาคเหนือ (P)
3. เห็นคณุ ค่าและชืน่ ชมในการแสดงนาฏศิลปพ์ น้ื เมืองภาคเหนอื (A)
สาระสำคญั
การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคเหนือสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินชีวิต อาชีพ และภูมิปัญญาของคนใน
ท้องถน่ิ ท่ีควรอนรุ กั ษ์ไว้ใหค้ งอยู่สืบไป
สาระการเรยี นรู้
การแสดงนาฏศลิ ป์พน้ื เมืองภาคเหนือ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
รักความเปน็ ไทย
ตวั ชวี้ ัดท่ี 7.3 อนรุ กั ษ์และสืบทอดภมู ิปญั ญาไทย
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการคิด
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 82
ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู)้
แผนภาพการแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมืองภาคเหนือ
คำถามทา้ ทาย
การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองในทอ้ งถ่ินของนักเรยี นมลี ักษณะเดน่ หรือเอกลักษณ์อย่างไร
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครหู าภาพการแสดงนาฏศิลปพ์ น้ื เมอื งภาคเหนือ เชน่ ฟ้อนเทยี น ฟ้อนเลบ็ แลว้ ให้นักเรียนร่วมกนั
แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
นกั เรยี นเคยเห็นการแสดงในภาพหรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
การแสดงในภาพเป็นการแสดงอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ฟอ้ นเทียน)
นักเรียนชอบการแสดงนี้หรอื ไม่ เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ ชอบ เพราะเป็น การ
แสดงท่ีสวยงาม อ่อนช้อย)
การแสดงน้สี ะท้อนให้เห็นถงึ ลักษณะของคนในภาคเหนอื อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ออ่ นโยน
อ่อนหวาน )
2. ครูใหน้ กั เรยี นค้นคว้าศึกษาความรเู้ รือ่ งการแสดงนาฏศิลป์พนื้ เมืองภาคเหนือ เรือ่ ง ฟอ้ นผีมดผเี มง็
แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกันตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถาม ดังนี้
การแสดงฟ้อนผมี ดผเี มง็ เปน็ การแสดงเพือ่ อะไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นการแสดงเพอ่ื
สังเวยหรือแก้บนบรรพบุรุษที่รกั ษาอาการเจ็บป่วยของคนในทอ้ งถิน่ )
การแสดงฟ้อนผมี ดผีเมง็ สะทอ้ นใหเ้ ห็นภูมปิ ัญญาดา้ นใด (ตัวอยา่ งคำตอบ
การรักษาโรค)
การแสดงฟ้อนผมี ดผเี มง็ เปน็ การแสดงความกตญั ญูต่อใคร (ตวั อยา่ งคำตอบ บรรพบุรุษที่
ล่วงลับไปแลว้ )
การแสดงฟ้อนผมี ดผเี ม็งนิยมทำกันในเดือนใด (เดือน 8-9 หรือเดอื นพฤษภาคม -
มิถุนายน)
3. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม 3 กล่มุ เพอื่ ร่วมกนั อภิปรายเกยี่ วกับการแสดงนาฏศิลป์พ้นื เมืองภาคเหนือ โดย
ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลอื กการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคเหนือท่สี นใจแล้วให้แต่ละกลุ่มสง่ ผแู้ ทนออกมานำเสนอหน้าชน้ั
เรียน โดยครเู ปน็ ผกู้ ำหนดหัวข้อการอภิปราย ดังนี้
ช่อื ชุดการแสดง
เป็นการแสดงเกี่ยวกับส่ิงใด
สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ ภูมิปัญญาท้องถ่ินดา้ นใด
4. ครูและนักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เพ่ือสรปุ ความรเู้ กี่ยวกบั การแสดงนาฏศลิ ป์พื้นเมือง
ภาคเหนอื โดยครใู ชค้ ำถาม ดังน้ี
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 83
การแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมอื งภาคเหนือทนี่ ักเรียนรจู้ กั มีอะไรบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ ฟอ้ นเลบ็
ฟ้อนเทียน ฟ้อนเง้ยี ว ฟ้อนสาวไหม ฟอ้ นผีมดผีเม็ง)
การแสดงนาฏศลิ ป์พ้นื เมืองภาคเหนือสะทอ้ นให้เหน็ ถงึ สงิ่ ใดบ้าง (ตวั อย่างคำตอบสะท้อน
ใหเ้ หน็ ถงึ ภมู ิปัญญาดา้ นอาชีพ การรกั ษาโรค ความเป็นอยู่ อปุ นสิ ยั ออ่ นหวานนุม่ นวลของคน
ภาคเหนอื )
นกั เรยี นมีวธิ กี ารอนุรกั ษ์การแสดงพื้นเมืองภาคเหนือไดอ้ ย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ศึกษา
เกย่ี วกับการแสดงนาฏศิลป์พืน้ เมอื งภาคเหนอื ฝกึ การแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมอื งภาคเหนอื )
จากน้ันครูนำคำตอบทีไ่ ด้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดาน และใหน้ กั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดังตัวอย่างต่อไปน้ี
ฟ้อนเง้ียว สะท้อนให้เหน็ ถงึ
ภูมิปัญญาด้านอาชีพ
ฟ้อนสาวไหม
ฟ้อนผมี ดผีเมง็ สะท้อนให้เหน็ ถึงภูมปิ ัญญา
ด้านการรักษาโรค
ตัวอย่างการแสดง การแสดงนาฏศิลป์ สะท้อนให้เหน็ ถงึ วิถีชีวิต
นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาคเหนือ พืน้ เมืองภาคเหนือ ความเป็ นอยู่
ฟ้อนเลบ็ สะท้อนให้เห็นถงึ อปุ นสิ ัย
อ่อนหวานนุ่มนวลของคนภาคเหนือ
ฟ้อนเทียน วธิ ีการอนุรักษ์
ศึกษาเก่ียวกบั การแสดง ฝึ กแสดงนาฏศิลป์
นาฏศิลป์ พ้ืนเมืองภาคเหนือ พ้ืนเมืองภาคเหนือ
5. ให้นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดงั น้ี
การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้นื เมืองภาคเหนือสะทอ้ นให้เห็นถึงการดำเนนิ ชวี ติ อาชพี
และภมู ปิ ัญญาของคนในทอ้ งถิ่นทค่ี วรอนรุ ักษ์ไว้ใหค้ งอยูค่ ู่ท้องถ่ินและชาติไทยสบื ไป
6. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั นี้
การแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมอื งในท้องถ่นิ ของนักเรียนมีลักษณะเด่น หรือเอกลักษณอ์ ย่างไร
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 84
การจัดบรรยากาศเชงิ บวก
ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นและอภิปรายอย่างอิสระ
สื่อการเรียนรู้
ภาพการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคเหนือ
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผา่ นตัง้ แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรงุ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 85
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน
ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................
นกั เรยี นนไี่ มผ่ า่ น มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1.2 นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อยา่ งพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สัตย์สจุ รติ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรยี นมีความรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี ินัย รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มีจติ เปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นกั เรยี นมีเจตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
.......................................................................................... การสอ่ื สาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใช้ทกั ษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพชั รมัย อนิ อ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 86
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แลว้ มีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
........................................................................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 87
บันทึกแผนการจดั การเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรียนที่ 1
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 5 ชวั่ โมง
เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่อง นาฏศลิ ปพ์ ื้นเมือง
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 13 เร่อื ง การแสดงนาฏศิลป์พน้ื เมอื งภาคกลาง
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ท่ี
เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ภมู ิปัญญาไทยและสากล
ตวั ช้ีวัด
ศ 3.2 ป.3/1 เลา่ ถงึ การแสดงนาฏศลิ ป์ทีเ่ คยเหน็ ในทอ้ งถิ่น
จุดประสงค์การเรียนรูส้ ูต่ ัวช้ีวดั
1. บรรยายเก่ยี วกบั การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้นื เมืองภาคกลาง K)
2. ค้นคว้าเกี่ยวกบั การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองภาคกลาง (P)
3. เห็นคุณคา่ และชืน่ ชมในการแสดงนาฏศิลป์พน้ื เมอื งภาคกลาง (A)
สาระสำคัญ
การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองภาคกลางสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินชีวิต อาชีพ และภูมิปัญญาของคนใน
ท้องถิ่นทค่ี วรอนรุ กั ษไ์ ว้ให้คงอยู่สืบไป
สาระการเรยี นรู้
การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลาง
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
รกั ความเปน็ ไทย
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 7.3 อนุรกั ษ์และสบื ทอดภูมปิ ญั ญาไทย
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 88
ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้
แผนภาพการแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื เมืองภาคกลาง
คำถามท้าทาย
นกั เรียนจะทำอยา่ งไรบา้ งเพ่ือใหก้ ารแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นเมอื งในท้องถ่นิ เป็นทร่ี จู้ กั แก่ ชาวไทยและ
ชาวต่างชาติ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครหู าภาพการเล่นสาดนำ้ ในวนั สงกรานตใ์ ห้นกั เรียนดูแล้วใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดง
ความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
คนในภาพกำลังทำอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เล่นสาดน้ำ
นกั เรียนเคยเลน่ เหมือนคนในภาพหรือไม่ (ตัวอย่างคำตอบ เคยเล่น)
การเลน่ ของคนในภาพตรงกับวันสำคัญใด (ตัวอยา่ งคำตอบ วนั สงกรานต์)
นักเรยี นเคยเหน็ การจัดกจิ กรรมใดบา้ งในวนั สำคญั ดังกลา่ ว (ตัวอย่างคำตอบ
การเล่นสาดนำ้ การรดน้ำขอพรผใู้ หญ่)
2. ครูให้นักเรียนศกึ ษาคน้ ควา้ เกย่ี วกบั การแสดงนาฏศลิ ป์พน้ื เมืองภาคกลาง เร่ือง ระบำนางสงกรานต์
แล้วให้นกั เรยี นร่วมกันตอบคำถาม โดยครใู ช้คำถาม ดงั น้ี
การแสดงระบำนางสงกรานต์เป็นการแสดงถงึ ส่ิงใด (ตัวอย่างคำตอบ เปน็ ให้เหน็ ถึง
วฒั นธรรมการละเล่นในวนั สงกรานต์)
นกั เรยี นรู้จกั นางสงกรานต์หรือไม่ (รูจ้ กั /ไม่ร้จู ัก)
นางสงกรานต์มที ้ังหมดกี่คน (7 คน)
เพราะเหตุใดจึงมกี ารแสดงระบำนางสงกรานต์ (ตัวอย่างคำตอบ เพราะเป็นการเผยแพร่
ใหผ้ ้ชู มไดร้ ้จู ักนางสงกรานต์ทงั้ 7 คน และเป็นการสืบสานประเพณสี งกรานต์)
3. ใหน้ กั เรียนแบ่งกล่มุ 3 กลุม่ เพ่ือรว่ มกนั อภิปรายเก่ียวกบั การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมือง
ภาคกลาง โดยใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลอื กการแสดงนาฏศลิ ป์พ้นื เมืองภาคกลางท่สี นใจแล้วให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทนออกมา
นำเสนอหน้าชนั้ เรยี น โดยครูเปน็ ผ้กู ำหนดหวั ขอ้ การอภปิ ราย ดังน้ี
ชอื่ ชุดการแสดง
เปน็ การแสดงเกย่ี วกับส่ิงใด
สะท้อนใหเ้ หน็ ถึงภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ดา้ นใด
4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เพ่ือสรุปความรู้เกยี่ วกบั การแสดงนาฏศิลป์พ้นื เมืองภาค
กลาง โดยครใู ชค้ ำถาม ดังนี้
การแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื เมอื งภาคกลางท่ีนักเรยี นร้จู กั มีอะไรบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ รำกลอง
ยาว เต้นกำรำเคยี ว ระบำดอกบัว ระบำชาวนา ระบำนางสงกรานต์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 89
การแสดงนาฏศิลป์พืน้ เมอื งภาคกลางสะทอ้ นให้เห็นถึงสง่ิ ใดบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ สะท้อน
ให้เห็นถึง ภมู ิปัญญาด้านอาชีพ การละเล่นตา่ ง ๆ ความเปน็ อย่ทู เี่ รียบงา่ ย อุปนสิ ัยท่ีรักความ
สนุกสนาน ความมีนำ้ ใจของคนภาคกลาง)
นกั เรียนมีวิธอี นรุ ักษ์การแสดงพ้ืนเมืองภาคกลางไดอ้ ย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ศกึ ษา
เกี่ยวกบั การแสดงนาฏศลิ ป์พืน้ เมืองภาคกลาง ฝกึ แสดงนาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมืองภาคกลาง)
จากนนั้ ครนู ำคำตอบทไี่ ด้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดานและใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถกู ต้อง ดงั ตวั อย่างต่อไปน้ี
ระบาดอกบวั สะท้อนให้เหน็ ถึง
ระบาชาวนา ภูมปิ ัญญาด้านอาชีพ สะท้อนให้เห็นถงึ
การละเล่นต่าง ๆ
ระบานางสงกรานต์
สะท้อนให้เห็นถึง
ตวั อย่างการแสดง ความเป็ นอยู่ที่เรียบง่าย
นาฏศิลป์ พื้นเมืองภาคกลาง
การแสดงนาฏศิลป์
พื้นเมืองภาคกลาง
รากลองยาว สะท้อนให้เห็นถึง
อุปนิสัยรักความสนุกสนาน
เตน้ การาเคยี ว วธิ กี ารอนุรักษ์ มนี ้าใจของคนภาคกลาง
ศึกษาเกี่ยวกบั การแสดง ฝึ กแสดง
นาฏศิลป์ พ้ืนเมืองภาคกลาง นาฏศิลป์ พ้นื เมืองภาคกลาง
5. ใหน้ กั เรียนวาดภาพการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลางท่ชี ่นื ชอบ พร้อมทงั้ อธิบายว่าการแสดงในภาพ
สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ สิ่งใด
6. ให้นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี
การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมืองภาคกลางสะท้อนใหเ้ หน็ การดำเนนิ ชีวติ อาชพี
และภมู ิปัญญาของคนในท้องถนิ่ ท่ีควรอนุรักษ์ไวใ้ ห้คงอยคู่ ู่ท้องถิน่ และชาติไทยสบื ไป
7. ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังน้ี
นักเรียนจะทำอยา่ งไรบา้ งเพ่ือให้การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองในทอ้ งถนิ่ เปน็ ทร่ี ู้จักแก่ชาวไทย
และชาวตา่ งชาติ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 90
การจดั บรรยากาศเชงิ บวก
1. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ และอภปิ รายอยา่ งอสิ ระ
2. ให้นกั เรียนวาดภาพนาฏศิลป์พนื้ เมืองภาคกลางอยา่ งอิสระ
ส่อื การเรียนรู้
ภาพการเลน่ สาดน้ำในวันสงกรานต์
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
2. เครอื่ งมอื
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 91
บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรียนจำนวน..................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................
ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คิดเป็นร้อยละ..................
นกั เรยี นน่ไี มผ่ า่ น มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต มุง่ มัน่ ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรียนมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มีวินัย รกั ความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ติ เป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแกป้ ัญหา
การใช้ทักษะชีวิต
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่อื ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อนิ อ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 92
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แลว้ มีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
........................................................................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 93
บนั ทกึ แผนการจัดการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศิลป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง นาฏศิลปพ์ ื้นเมือง เวลา 5 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 14 เรื่อง การแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมอื งภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื เวลา 1 ชว่ั โมง
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ป์ทีเ่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถิ่น ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ตัวชี้วดั
ศ 3.2 ป.3/1 เลา่ ถงึ การแสดงนาฏศิลป์ท่เี คยเห็นในทอ้ งถิ่น
จุดประสงค์การเรียนรสู้ ู่ตัวช้ีวัด
1. บรรยายเกีย่ วกับการแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ (K)
2. ค้นควา้ เกีย่ วกับการแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมืองภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ (P)
3. เหน็ คณุ คา่ และชื่นชมการแสดงนาฏศิลป์พนื้ เมอื งภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื (A)
สาระสำคญั
การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินชีวิต อาชีพ และภูมิ
ปัญญาของคนในทอ้ งถน่ิ ท่ีควรอนุรักษไ์ ว้ให้คงอยสู่ ืบไป
สาระการเรียนรู้
การแสดงนาฏศิลป์พนื้ เมืองภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
รักความเป็นไทย
ตัวชวี้ ดั ท่ี 7.3 อนุรักษแ์ ละสบื ทอดภูมปิ ัญญาไทย
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการคิด
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 94
ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้
แผนภาพการแสดงนาฏศลิ ป์พืน้ เมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำถามท้าทาย
ถ้านกั เรยี นเปน็ ผ้อู อกแบบการแสดง นักเรยี นจะออกแบบการแสดงนาฏศลิ ปพ์ นื้ เมืองอย่างไร และ
มีช่อื ชดุ การแสดงวา่ อะไร
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครหู าภาพขบวนแห่บั้งไฟในงานประเพณบี ุญบั้งไฟ แล้วใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดง
ความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถาม ดังน้ี
ในภาพเป็นขบวนแห่อะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ขบวนแหบ่ ั้งไฟ)
นักเรียนเคยเข้าร่วมขบวนแห่ในภาพหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)
ขบวนแห่ในภาพเปน็ ประเพณที จี่ ดั ขึ้นในเดือนอะไร (ตวั อย่างคำตอบ เดือน 6)
นกั เรียนเคยเห็นการจัดกจิ กรรมใดบา้ งในงานประเพณีดงั กล่าว (ตัวอยา่ งคำตอบ การ
ประกวดบงั้ ไฟ การจดุ บั้งไฟ)
2. ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาค้นคว้าเกย่ี วกับการแสดงนาฏศลิ ป์พน้ื เมืองภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื เรอื่ งเซ้ิงบัง้ ไฟ
แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกันตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถาม ดงั น้ี
การแสดงเซ้งิ บง้ั ไฟเปน็ การแสดงเกีย่ วกับเร่ืองใด (ตวั อย่างคำตอบ เปน็ การแสดงเก่ยี วกับ
การประกอบอาชพี การขอฝนให้ตกตามฤดกู าล)
ชาวอสี านเชือ่ ว่าใครทีส่ ามารถทำให้ฝนตกได้ เพราะอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ พระยา
แถน เพราะเป็นเทพทที่ ำใหเ้ กิดดนิ ฟ้า ฝน มีหนา้ ท่ใี ห้นำ้ ฝนแก่โลกมนษุ ย์)
เพราะเหตุใดจึงมกี ารแสดงเซง้ิ บัง้ ไฟ (ตัวอย่างคำตอบ เพราะชาวอสี านเชื่อวา่ บง้ั ไฟ
เปน็ วิธีการสอื่ สารสง่ ข่าวให้พระยาแถนรบั รคู้ วามเดอื ดร้อน เพื่อให้บันดาลนำ้ ฝนในการทำนาทำไร่
จึงมีการเซิ้งในการแหบ่ ั้งไฟเกดิ ข้นึ )
3. ให้นักเรียนแบง่ กล่มุ 3 กลุ่มเพ่ือรว่ มกันอภิปรายเก่ยี วกบั การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้นื เมอื ง ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนอื โดยให้แต่ละกลมุ่ เลือกการแสดงนาฏศิลป์พนื้ เมืองภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือทสี่ นใจแล้วให้
แตล่ ะกลมุ่ ส่งผู้แทนออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรยี น โดยครเู ปน็ ผู้กำหนดหัวข้อการอภิปราย ดงั นี้
ชื่อชุดการแสดง
เป็นการแสดงเกยี่ วกับส่ิงใด
สะท้อนให้เหน็ ถงึ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ินด้านใด
4. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเพ่ือสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกับการแสดง
นาฏศิลป์พนื้ เมืองภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื โดยครูใช้คำถาม ดงั นี้
การแสดงนาฏศิลป์พืน้ เมืองภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือที่นักเรียนรู้จักมีอะไรบา้ ง (ตัวอย่าง
คำตอบ เซิ้งกระตบิ ขา้ ว เซ้ิงสวิง เซิ้งกะโป๋ เซ้ิงบั้งไฟ ฟ้อนผู้ไทย(ภูไท))
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 95
การแสดงนาฏศลิ ปพ์ นื้ เมอื งภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือสะท้อนใหเ้ หน็ ถงึ ส่งิ ใดบา้ ง(ตัวอย่าง
คำตอบ สะท้อนให้เหน็ ถึงภมู ิปัญญาดา้ นการประกอบอาชพี พธิ กี รรมทางศาสนา ความเชื่อเร่อื งส่ิง
ศกั ดิ์สทิ ธ์ิ ความเป็นอยู่ทีเ่ รยี บง่าย อปุ นิสัยท่รี ักความสนุกสนาน รักความอิสระของคนภาค
ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ)
นกั เรียนมวี ธิ ีการอนรุ กั ษ์การแสดงพืน้ เมืองภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ได้อยา่ งไร (ตัวอยา่ ง
คำตอบ ศึกษาเกี่ยวกบั การแสดงนาฏศิลป์พน้ื เมืองภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ จดั การแสดงนาฏศลิ ป์
พ้ืนเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือในงานโรงเรียน)
จากนั้นครูนำคำตอบท่ีได้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดาน และใหน้ กั เรียนร่วมกันตรวจสอบความ
ถกู ต้อง ดังตวั อยา่ งต่อไปน้ี
เซิ้งกะโป๋ สะท้อนให้เหน็ ภูมิปัญญา
ด้านประกอบอาชีพ
เซิ้งบ้งั ไฟ
ฟ้อนผไู้ ทย (ภไู ท)
สะท้อนให้เห็นความเช่ือ
ตวั อย่างการแสดง เรื่องส่ิงศักด์ิสิทธ์ิ พธิ ีกรรม
นาฏศิลป์ พื้นเมือง ทางศาสนา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การแสดงนาฏศิลป์
พื้นเมืองภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ สะท้อนให้เห็น
เซิ้งกระติบขา้ ว ความเป็ นอยู่ท่เี รียบง่าย
เซ้ิงสวงิ
วิธกี ารอนุรักษ์ สะท้อนให้เหน็ ถึงอุปนสิ ัยที่รัก
ความสนุกสนาน รักความอสิ ระ
ศึกษาเก่ียวกบั การแสดงนาฏศิลป์ พ้นื เมือง จดั การแสดงนาฏศิลป์ พ้นื เมือง
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือในงานโรงเรียน
5. ให้นกั เรียนเลือกการแสดงนาฏศิลป์พนื้ บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ทตี่ นเองชน่ื ชอบและประทบั ใจ
พรอ้ มทง้ั บอกเหตผุ ลทช่ี อบวา่ ชอบเพราะอะไร และการแสดงนั้นมลี กั ษณะเด่นอยา่ งไร
โดยใหน้ กั เรยี นบรรยายความชื่นชอบและประทบั ใจแบบส้ัน ๆ ง่าย ๆ ทีละคนหน้าชน้ั เรียน
6. ใหน้ ักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดังน้ี
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 96
การแสดงนาฏศิลป์พ้นื เมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือสะทอ้ นให้เหน็ การดำเนนิ ชีวติ อาชพี
และภมู ปิ ัญญาของคนในทอ้ งถิน่ ทค่ี วรอนรุ ักษ์ไว้ใหค้ งอยู่คู่ท้องถ่ินและชาติไทยสบื ไป
7. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดงั นี้
ถ้านกั เรียนเป็นผู้ออกแบบการแสดง นักเรียนจะออกแบบการแสดง
นาฏศิลปพ์ ืน้ เมืองอยา่ งไร และมชี อ่ื ชดุ การแสดงว่าอะไร
การจดั บรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเหน็ และอภปิ รายอยา่ งอิสระ
สอื่ การเรยี นรู้
ภาพขบวนแหบ่ ้งั ไฟในงานประเพณีบญุ บ้ังไฟ
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วธิ ีการวัดและประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
2. เครื่องมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผา่ นตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 97
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
1 สรุปผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนร้.ู .................คน คิดเป็นร้อยละ..................
นักเรียนน่ไี ม่ผา่ น มีดงั น้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1.2 นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สตั ย์สจุ รติ มงุ่ มั่นในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรียนมคี วามร้เู กิดทักษะ (P) มวี นิ ัย รกั ความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มีจิตเป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
.......................................................................................... การสอ่ื สาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแก้ปัญหา
การใชท้ ักษะชีวติ
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพชั รมัย อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 98
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แลว้ มีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
........................................................................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 99
บนั ทึกแผนการจดั การเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้นาฏศิลป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรยี นที่ 1
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 5 ชวั่ โมง
เวลา 1 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรื่อง นาฏศลิ ปพ์ น้ื เมือง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 15 เรอื่ ง การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมอื งภาคใต้
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศิลป์ท่เี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
ตวั ชว้ี ดั
ศ 3.2 ป.3/1 เล่าถึงการแสดงนาฏศลิ ป์ทีเ่ คยเห็นในทอ้ งถ่ิน
จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ูต่ ัวช้ีวัด
1. บรรยายเกย่ี วกับการแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองภาคใต้ (K)
2. คน้ ควา้ เกีย่ วกับการแสดงนาฏศิลป์พน้ื เมืองภาคใต้ (P)
3. เหน็ คณุ ค่าและชนื่ ชมในการแสดงพนื้ เมืองภาคใต้ (A)
สาระสำคัญ
การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองภาคใต้สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินชีวิต อาชีพ และภูมิปัญญาของคนใน
ทอ้ งถนิ่ ท่ีควรอนุรักษไ์ วใ้ ห้คงอยู่สืบไป
สาระการเรียนรู้
การแสดงนาฏศิลป์พนื้ เมืองภาคใต้
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รักความเปน็ ไทย
ตวั ชวี้ ัดที่ 7.3 อนุรักษ์และสบื ทอดภูมิปัญญาไทย
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการคดิ
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
แผนภาพการแสดงนาฏศลิ ปพ์ ื้นเมืองภาคใต้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 100
คำถามท้าทาย
ถา้ นักเรยี นได้ไปต่างประเทศ นักเรียนจะนำการแสดงพน้ื เมืองใดไปแสดง เพราะอะไร
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครหู าภาพหนังตะลงุ หลาย ๆ แบบให้นักเรยี นดูแลว้ ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้
คำถาม ดังน้ี
นกั เรยี นร้จู ักการแสดงในภาพหรอื ไม่ ถ้ารจู้ กั การแสดงนี้เรยี กว่าอะไร
(ตวั อย่างคำตอบ ร้จู กั เรียกหนังตะลุง)
นักเรยี นเคยชมการแสดงในภาพหรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
นกั เรยี นคิดว่าการแสดงดงั กลา่ วเป็นการแสดงในงานใดบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ งานวัด
งานบุญ งานเทศกาลต่าง ๆ )
2. ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาค้นคว้าเก่ยี วกับการแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นเมอื งภาคใต้ เรอ่ื งระบำฉายานาฏกะ แล้ว
ให้นักเรียนร่วมกนั ตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถาม ดงั น้ี
การแสดงระบำฉายานาฏกะเปน็ การแสดงเพอ่ื จุดประสงคใ์ ด (ตัวอย่างคำตอบ เป็นการ
แสดงเพื่อสร้างความบันเทิงในยามค่ำคืน)
การแสดงหนงั ตะลงุ เป็นการแสดงที่มีลกั ษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เปน็ การแสดงที่
เล่าเรอ่ื งราวทเ่ี ป็นนยิ าย ดำเนินเรอ่ื งดว้ ยการขับร้องท่ีเป็นภาษาท้องถิ่น)
การแสดงระบำฉายานาฏกะ เป็นการนำตัวหนงั ตะลงุ มาแสดงอย่างไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ เป็นการนำตัวตลกของทุกคณะมาร่วมกันเป็นการแสดงแบบระบำ)
เพราะเหตใุ ดจงึ มีการแสดงระบำฉายานาฏกะ (ตัวอย่างคำตอบ เพราะหนงั ตะลุงเป็น
ศลิ ปะที่โดดเด่นและเปน็ สญั ลักษณข์ องภาคใต้ ทคี่ วรค่าแก่การอนรุ กั ษ์)
3. ครูนำภาพการแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นเมอื งระบำชาวนาและเซ้ิงกระตบิ ขา้ วใหน้ ักเรยี นดู แล้วใหน้ กั เรยี น
ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
ภาพที่ 1 เปน็ การแสดงอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ระบำชาวนา)
ภาพนเ้ี ป็นการแสดงนาฏศิลปพ์ น้ื เมืองของภาคใด (ตัวอย่างคำตอบ ภาคกลาง)
ภาพนส้ี ะท้อนชวี ติ ของคนในท้องถิ่นด้านใด (ตวั อยา่ งคำตอบ
การประกอบอาชพี )
ภาพที่ 2 เปน็ การแสดงอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เซิ้งกระติบขา้ ว)
ภาพนี้เป็นการแสดงนาฏศิลปพ์ ้ืนเมืองของภาคใด (ตัวอย่างคำตอบ
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื )
ภาพน้ีสะทอ้ นชีวิตของคนในทอ้ งถิ่นดา้ นใด (ตัวอย่างคำตอบ การรับประทานอาหาร)
4. ให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ 3 กลุ่มเพอื่ รว่ มกันอภปิ รายเก่ียวกับการแสดงนาฏศิลป์พ้นื เมืองภาคใต้ โดยให้
แตล่ ะกลุ่มเลือกการแสดงนาฏศิลปพ์ นื้ เมืองภาคใตท้ สี่ นใจแลว้ ให้แต่ละกลมุ่ ส่งผ้แู ทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน
โดยครูเป็นผู้กำหนดหวั ขอ้ การอภิปราย ดังน้ี