เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 101
ชื่อชดุ การแสดง
เปน็ การแสดงเกยี่ วกบั ส่ิงใด
สะท้อนใหเ้ ห็นถึงภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ดา้ นใด
5. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เพ่ือสรปุ ความรู้เกีย่ วกบั การแสดง นาฏศลิ ป์พนื้ เมืองภาคใต้
โดยครใู ชค้ ำถาม ดังน้ี
การแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้นื เมอื งภาคใต้ท่ีนักเรียนรู้จกั มีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคำตอบ รำมโนราห์
ระบำรอ่ นแร่ ระบำตารกี ปี สั หนังตะลุง)
การแสดงพ้นื เมอื งภาคใต้สะท้อนให้เหน็ สง่ิ ใดบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ สะท้อนใหเ้ ห็นถึงภมู ิ
ปญั ญาดา้ นอาชีพ พิธีกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวใต้ อุปนิสยั ที่สนกุ สนาน และมคี วาม
กระฉับกระเฉงของชาวใต้)
นกั เรยี นมวี ิธีการอนรุ ักษ์การแสดงพนื้ เมืองภาคใต้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ศกึ ษา
เกย่ี วกับการแสดงนาฏศลิ ป์พน้ื เมืองภาคใต้ จดั การแสดงนาฏศลิ ปพ์ นื้ เมอื งภาคใตใ้ นงานโรงเรยี น
หรอื งานเทศกาล)
จากนัน้ ครนู ำคำตอบที่ได้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดาน และใหน้ ักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี
ระบาร่อนแร่ สะท้อนให้เหน็ ถงึ ภูมิปัญญา
ด้านอาชีพ
ระบาตารีกีปัส
หนงั ตะลงุ สะท้อนให้เห็นถึงพธิ กี รรม
ทางศาสนาและวัฒนธรรม
ตัวอย่างการแสดง การแสดงนาฏศิลป์
นาฏศิลป์ พืน้ เมืองภาคใต้ พืน้ เมืองภาคใต้
รามโนราห์ สะท้อนให้เห็นถึงอปุ นิสัยที่
รองเงง็ วิธีการอนุรักษ์ สนุกสนานและมคี วาม
กระฉับกระเฉงของชาวใต้
ศึกษาเก่ียวกบั การแสดง จดั การแสดงนาฏศิลป์ พ้ืนเมือง
นาฏศิลป์ พ้ืนเมืองภาคใต้ ภาคใตใ้ นงานโรงเรียน หรืองานเทศกาล
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 102
6. ครูนำบัตรคำและแถบประโยคติดบนกระดาน ใหน้ กั เรียนร่วมกนั จับคู่บตั รคำและแถบประโยคให้
สมั พนั ธก์ นั
เซิ้งบ้งั ไฟ จดั ข้ึนโดยการนาตวั ตลกที่มีช่ือเสียงในหนงั ตะลงุ
มารวมกนั และแสดงร่วมกนั เป็นระบาชนิดหน่ึง
ระบานางสงกรานต์ สมมุติตนเองวา่ เป็นร่างของผีบรรพบุรุษเพอ่ื
ปัดเป่ ารักษาโรค
ระบาฉายานาฏกะ ฝนไมต่ กตามฤดูกาล ชาวบา้ นจะส่งขา่ วใหพ้ ระยาแถน
ทราบในช่วงเดือนหกหรือฤดูกาลเพาะปลูก
ฟ้อนผีมดผีเมง็ ลกู ท้งั 7 คน รองรับศีรษะของทา้ วกบิลพรหมทกุ ปี
เน่ืองจากถา้ ตกถึงพ้ืนโลกมนุษยจ์ ะเกิดภยั พบิ ตั ิ
จากน้ันนำคำตอบท่ีได้มาเขียนสรปุ เป็นแผนภาพบนกระดาน
7. ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี
การแสดงนาฏศลิ ป์พ้ืนเมอื งภาคใต้สะท้อนให้เหน็ ถงึ การดำเนนิ ชีวติ อาชพี
และภูมิปัญญาของคนในทอ้ งถ่ินท่ีควรอนุรักษ์ไวใ้ หค้ งอยู่คู่ท้องถนิ่ และชาติไทยสืบไป
8. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นโดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังน้ี
ถา้ นักเรยี นได้ไปตา่ งประเทศ นกั เรยี นจะนำการแสดงพนื้ เมืองใดไปแสดง
เพราะอะไร
การจดั บรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเหน็ และอภิปรายอยา่ งอิสระ
สือ่ การเรยี นรู้
1. ภาพหนังตะลงุ
2. บตั รคำ
3. แถบประโยค
4. ภาพระบำชาวนา
5. ภาพเซิง้ กระตบิ ข้าว
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 103
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เครื่องมอื
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 104
บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1 สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน
ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเป็นร้อยละ..................
ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................
นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ม่งุ ม่ันในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรยี นมีความรเู้ กดิ ทักษะ (P) มวี นิ ยั รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝเ่ รยี นรู้ มีจติ เป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใช้ทักษะชีวิต
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพัชรมัย อินอ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 105
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนร้ขู อง นางสาวพัชรมยั อนิ อ่อน แล้วมคี วามเห็นดงั น้ี
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2.การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
........................................................................................................................................................................ ............
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชอ่ื .........................................................
( นางฉัฐอติพา แช่มชมดาว )
ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 106
บนั ทกึ หน่วยการจดั การเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรยี นที่ 1
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 4 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่ือง การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย
• มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน
ศ 3.1 : เขา้ ใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณค์ ุณคา่ นาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคดิ ต่อนาฏศลิ ป์อย่างอิสระ ช่ืนชมและประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั
ตวั ชว้ี ัด
ศ 3.1 ป.3/3 เปรยี บเทยี บบทบาทหน้าที่ของผู้แสดงและผู้ชม
ศ 3.1 ป.3/4 มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการแสดงท่ีเหมาะสมกับวยั
มาตรฐาน
ศ 3.2 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างนาฏศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คณุ คา่ ของนาฏศิลป์ที่เปน็
มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถิ่น ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
ตัวช้ีวดั
ศ 3.2 ป.3/2 ระบสุ ิ่งท่ีเปน็ ลกั ษณะเด่นและเอกลักษณข์ องการแสดงนาฏศิลป์
ศ 3.2 ป.3/3 อธบิ ายความสำคัญของการแสดงนาฏศิลป์
• สาระสำคัญ
การแสดงนาฏศิลป์ไทยเป็นการแสดงที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ซ่ึงในการชม
การแสดงนาฏศิลป์ไทย ผู้ชมการแสดงจะต้องมีมารยาทในการชมการแสดงจะทำให้เข้าใจ ซาบซึ้งในการแสดง
และเป็นการอนุรักษ์การแสดงนาฏศิลปไ์ ทยใหค้ งอยู่สืบไป
• ความเขา้ ใจทีค่ งทน (Enduring Understanding)
1. การแสดงนาฏศิลป์ไทยเปน็ ศิลปะประจำชาตทิ คี่ วรอนรุ ักษ์และสืบทอดต่อไป
2. การมมี ารยาทในการชมการแสดงจะทำใหเ้ ขา้ ใจและซาบซึง้ ในการแสดงมากข้นึ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 107
• สาระการเรยี นรู้
1. ความสำคัญของนาฏศลิ ปไ์ ทย
2. ลกั ษณะเด่นและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
3. ประเภทของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
4. หลักในการชมการแสดง
• คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
รักความเปน็ ไทย
ตวั ชี้วดั ท่ี 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมคี วามกตญั ญู
กตเวที
มจี ติ สาธารณะ
ตวั ช้ีวัดท่ี 8.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเี่ ปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชน และสังคม
• สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการคิด
• สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้
1. ชนิ้ งานท่ี 7 เรอ่ื ง ประเภทของการแสดงนาฏศิลป์ไทย
2. ชนิ้ งานที่ 8 เร่ือง หลกั ในการชมการแสดง
3. ชิ้นงานท่ี 9 เรือ่ ง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการแสดงนาฏศลิ ป์
การวดั และประเมินผล
1. การประเมนิ ผลตัวช้ีวัด
1.1 ชน้ิ งานท่ี 7 เรอื่ ง ประเภทของการแสดงนาฏศิลป์ไทย
เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
เหน็ ความสำคัญของ
เหน็ ความสำคญั ของการ เหน็ ความสำคัญของ เหน็ ความสำคญั ของ เหน็ ความสำคัญของ การแสดงนาฏศิลป์-
ไทยและยนิ ดปี ฏบิ ัติ
แสดงนาฏศิลป์ไทย การแสดงนาฏศิลป์- การแสดงนาฏศลิ ป์- การแสดงนาฏศิลป์- เพอ่ื ประโยชน์ตอ่
ตนเอง
ไทยและยนิ ดีทจี่ ะ ไทยและยนิ ดีท่ีจะ ไทยและยนิ ดีปฏิบตั ิ
อนุรักษ์สบื สานเพ่ือ อนุรักษส์ บื สานเพื่อ เพือ่ ผู้อ่นื
ประโยชนต์ อ่ คนใน ประโยชน์ต่อชมุ ชนมี
สังคมมีความชื่นชม ความเตม็ ใจที่จะ
และภูมใิ จในส่ิงท่ี ปรับปรงุ การปฏิบตั ิ
ปฏิบตั ิ ใหด้ ขี ้ึน
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 108
1.2 ชิ้นงานที่ 8 เร่ือง หลกั ในการชมการแสดง
เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คะแนน
4 3 2 1
เขยี นอธบิ ายเปรียบเทยี บ เขียนอธิบาย เขยี นอธบิ าย เขียนอธิบาย เขยี นอธบิ าย
บทบาทหน้าที่ของ เปรียบเทยี บบทบาท เปรยี บเทยี บบทบาท
ผแู้ สดงและผู้ชมการแสดง เปรยี บเทียบบทบาท เปรยี บเทยี บบทบาท หน้าที่ของผ้แู สดง หนา้ ที่ของผแู้ สดง
และผูช้ มการแสดงได้ และผชู้ มการแสดงแต่
หน้าทีข่ องผู้แสดงและ หน้าทข่ี องผู้แสดง สอดคล้องกับข้อมลู ไมส่ อดคล้องกบั
มกี ารเขยี นขยาย ขอ้ มูลท่ีอา่ น
ผูช้ มการแสดง และผู้ชมการแสดง ความและมกี าร ไม่มีการอธิบาย
ยกตัวอย่างเพ่ิมเติม เพมิ่ เติม
ได้สมั พันธ์กัน มกี ารจำแนกข้อมูล ใหเ้ ขา้ ใจง่าย
มกี ารเชื่อมโยงให้ หรอื อธบิ ายใหเ้ หน็ ถงึ
เหน็ เป็นภาพรวม ความสัมพนั ธก์ ับ
แสดงให้เหน็ ถงึ ตนเองอยา่ งเป็นเหตุ
ความสมั พันธ์กับ เป็นผล
ตนเองและผู้อ่ืน
1.3 ชิ้นงานท่ี 9 เรื่อง การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมการแสดงนาฏศิลป์
เกณฑ์การประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
ปฏิบตั ติ นในการ ปฏบิ ตั ิตนในการ ปฏิบตั ติ นในการ ปฏบิ ัติตนในการ ปฏิบัติตนในการ
มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการ มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม มีส่วนรว่ มในกิจกรรม มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม มสี ่วนรว่ มในกิจกรรม
แสดงนาฏศลิ ป์ การแสดงนาฏศลิ ป์ การแสดงนาฏศิลป์ การแสดงนาฏศิลป์ตาม การแสดงนาฏศิลป์ได้
รว่ มกับผอู้ ื่นใน ตามท่ตี นเองได้ แบบไดถ้ ูกต้องและมี ตามแบบอยา่ งหรือ
การพัฒนาให้เกดิ คดิ ขึน้ มาเองเพ่ือให้ การดัดแปลงให้ ตามทค่ี รูแนะนำเท่านนั้
ประโยชนต์ อ่ ส่วนรวม มีประสทิ ธิภาพทดี่ ี เหมาะสมกบั ตนเอง
และ ขึ้นกวา่ แบบอยา่ ง โดยมคี รหู รือผู้อื่น
สามารถแก้ปัญหา โดยมคี รูหรือผ้อู ืน่ แนะนำบา้ ง
ในระหว่างการ แนะนำบา้ ง
ปฏบิ ัตไิ ด้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 109
2. การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
รกั ความเปน็ ไทย
ตัวชว้ี ัดที่ 7.1 ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตญั ญูกตเวที
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3)
7.1.1 แต่งกายและมีมารยาท ไมม่ สี ัมมาคารวะ ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มี ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มี ปฏบิ ตั ิตนเป็นผมู้ ี
งดงามแบบไทยมสี มั มาคารวะ ตอ่ ผใู้ หญ่ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย
กตัญญูกตเวทตี อ่ ผู้มีพระคุณ มสี มั มาคารวะ มีสัมมาคารวะ มสี ัมมาคารวะ
7.1.2 รว่ มกจิ กรรมทเี่ กี่ยวข้องกับ กตัญญูกตเวที กตญั ญูกตเวที กตัญญูกตเวที
ประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ตอ่ ผูม้ ีพระคุณ ต่อผู้มพี ระคุณ และ ต่อผมู้ ีพระคุณ และ
ไทย แตง่ กายแบบไทย แต่งกายแบบไทย
7.1.3 ชกั ชวน แนะนำให้ผู้อืน่ เข้ารว่ มในกจิ กรรม
ปฏิบัติตามขนบธรรมเนยี ม ท่ีเก่ียวข้องกับ
ประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรม ประเพณี ศลิ ปะ
ไทย และวฒั นธรรมไทย
มจี ติ สาธารณะ
ตวั ชี้วัดท่ี 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่เี ปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยีย่ ม (3)
8.2.1 ดแู ล รักษาสาธารณ- ไมส่ นใจดแู ล ดแู ล รักษา ดแู ล รกั ษา ดแู ล รกั ษา
สมบตั ิ และส่งิ แวดล้อม รกั ษาทรัพย์ ทรัพย์สมบตั แิ ละ ทรัพยส์ มบัติและ ทรพั ยส์ มบตั ิและ
ด้วยความเต็มใจ สมบัติและ สง่ิ แวดลอ้ มของ ส่งิ แวดล้อมของ สงิ่ แวดล้อมของ
8.2.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ี สิง่ แวดล้อมของ ห้องเรยี น โรงเรยี น หอ้ งเรยี น โรงเรียน ห้องเรยี น โรงเรียน
เป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น เขา้ รว่ มกจิ กรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม
โรงเรียน ชุมชน ของโรงเรยี น ของโรงเรียน
และสงั คม ดว้ ยความเต็มใจ
8.2.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพื่อ
แก้ปัญหา หรอื ร่วมสร้างสง่ิ ท่ีดี
งาม ของสว่ นรวมตาม
สถานการณ์ที่เกดิ ขึ้น
ดว้ ยความกระตอื รือรน้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 110
บันทึกแผนการจดั การเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวิชา นาฏศิลป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรยี นท่ี 1
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 4 ช่ัวโมง
เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เร่ือง การแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 16 เร่อื ง ความสำคัญและทม่ี าของนาฏศลิ ป์ไทย
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศิลปท์ ี่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน ภูมิปญั ญาไทยและสากล
ตวั ชว้ี ดั
ศ 3.2 ป.3/3 อธบิ ายความสำคญั ของการแสดงนาฏศิลป์
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ ัวชี้วัด
1. อธบิ ายเกยี่ วกบั ความสำคัญและท่ีมาของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย (K)
2. คน้ ควา้ เกยี่ วกบั ที่มาของการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยในรูปแบบต่าง ๆ (P)
3. ตระหนกั และเหน็ คุณค่าของนาฏศิลป์ไทย (A)
สาระสำคัญ
นาฏศลิ ป์เป็นศิลปวัฒนธรรมท่ีแสดงถึงความเปน็ ชาตทิ เ่ี จริญรุ่งเรอื งดา้ นวฒั นธรรม เป็นมรดกท่ีมคี ณุ ค่า
ควรอนรุ ักษ์ไวเ้ ป็นสมบัติของชาติตอ่ ไป
สาระการเรียนรู้
ความสำคัญและที่มาของนาฏศลิ ป์ไทย
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
รกั ความเป็นไทย
ตัวชีว้ ัดที่ 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตญั ญกู ตเวที
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการคิด
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 111
2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้
แผนภาพแสดงความสำคญั และทม่ี าของนาฏศิลป์ไทย
คำถามทา้ ทาย
สิง่ ใดบ้างท่ีอยู่รอบตัวนกั เรียนท่สี ามารถนำมาทำใหเ้ กิดการแสดงนาฏศลิ ป์ได้
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครคู ดั เลอื กผ้แู ทนนกั เรียน 2-3 คน แลว้ ครนู ำภาพสตั ว์ตา่ ง ๆ เชน่ กบ สุนัข ปลา และให้นกั เรยี น
ทำทา่ ทางเลียนแบบสัตวเ์ หล่าน้ัน โดยให้เพือ่ นทีเ่ หลือในชั้นเรยี นทาย แล้วให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น
โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
เพอ่ื นนกั เรยี นแสดงท่าทางอะไรบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ กบ สุนขั ปลา)
เพอ่ื นนักเรยี นแสดงทา่ ทางได้เหมือนหรือไม่ (เหมือน/ไมเ่ หมอื น)
ทา่ ทางท่เี พอ่ื นแสดงสามารถนำไปใชใ้ นการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ด้หรอื ไม่
(ตวั อยา่ งคำตอบ ได้)
2. ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรเู้ กีย่ วกับเรื่อง ความสำคญั ของนาฏศลิ ป์และที่มาของการแสดงนาฏศลิ ป์
แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถาม ดงั นี้
นาฏศลิ ปไ์ ทยมีความสำคัญอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เป็นศลิ ปวฒั นธรรมท่ีแสดงถงึ ความ
เปน็ ชาตทิ ่ีเจริญรุง่ เรอื งดา้ นวัฒนธรรม เป็นสงิ่ สรา้ งความสขุ ให้ผ้ชู ม และเป็นเอกลกั ษณข์ องชาติทค่ี วร
อนุรกั ษ์ไว้)
การแสดงนาฏศลิ ป์ทีเ่ ป็นการเลยี นแบบธรรมชาติ เป็นการเลยี นแบบจากอะไร (ตัวอย่าง
คำตอบ เลียนแบบกริ ิยาท่าทางของมนุษย์ สตั ว์ ธรรมชาติ อารมณ์ของมนุษย์)
เพราะเหตุใดจึงเกดิ การแสดงนาฏศลิ ป์ทมี่ าจากการละเล่นของชาวบ้าน (ตัวอย่างคำตอบ
เพราะหลังทำงานชาวบา้ นจะรอ้ งรำทำเพลงผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อย)
การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยได้รบั สงิ่ ใดจากอารยธรรมของอินเดยี บ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ ภาษา
ประเพณี รวมถงึ ระบำ ละคร และโขน)
เพราะเหตุใดการแสดงนาฏศิลปจ์ ึงเป็นการแสดงท่ีมีแบบแผนมาจนถงึ ปจั จุบัน (ตวั อยา่ ง
คำตอบ เพราะการถ่ายทอดวชิ าการแสดงจากครูอาจารยท์ างนาฏศิลปม์ าเป็นแบบแผนมาตรฐาน)
การบชู าสง่ิ ศกั ดส์ิ ิทธ์มิ ีความเกย่ี วข้องกบั การแสดงนาฏศิลปไ์ ทยอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ
เพราะมนษุ ย์มีความเช่ือในเรอื่ งสิ่งศกั ดส์ิ ิทธ์ิ จงึ มีการขอพร เมื่อได้ดังท่ขี อกจ็ ะมกี ารฟอ้ นรำถวายให้กับส่ิง
ศักดิส์ ิทธ์ิที่ตนนับถือเกดิ ความพอใจ)
3. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ 4 กล่มุ ร่วมกันศึกษาคน้ คว้าเกี่ยวกบั ทม่ี าของการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยท่ีรู้จักหรอื
เคยพบเห็น แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันคิดวา่ การแสดงนาฏศิลปท์ ร่ี จู้ ักหรอื เคยพบเห็นมที ่ีมาจากสงิ่ ใด อยา่ งไร
แลว้ ให้แตล่ ะกล่มุ สง่ ผแู้ ทนออกมานำเสนอหน้าช้นั เรียน โดยครเู ป็นผู้คอยให้คำแนะนำและตรวจสอบความถกู ต้อง
4. ครนู ำบตั รคำที่แสดงถึงทม่ี าของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยติดบนกระดาน ดังน้ี
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 112
การเลียนแบบธรรมชาติ การละเล่นของชาวบา้ นในทอ้ งถ่ิน การรับอารยธรรมจากอินเดีย
การแสดงเป็ นแบบแผน การบชู าส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ
จากน้นั ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กลุม่ ออกเปน็ 2 กลุ่ม โดยครูอา่ นข้อความเกีย่ วกบั ที่มาของนาฏศิลปใ์ ห้
นกั เรยี นฟงั 2 ครงั้ แลว้ เมื่อครูอ่านข้อความจบใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ยกมือตอบว่าเก่ียวกบั ท่ีมาของนาฏศลิ ปใ์ นบตั รคำ
ใด กลุม่ ใดยกก่อนมสี ทิ ธิตอบก่อนถ้าตอบถูกได้ 1 คะแนน ถา้ ตอบไม่ถูกให้อีกกลุ่มหนง่ึ ตอบ ถา้ ตอบถูกได้ 1
2
คะแนน กลุ่มใดตอบถูกและได้คะแนนมากที่สดุ เปน็ กลุม่ ชนะ โดยครูอ่านข้อความ ดังนี้
รับการแสดงประเภทระบำ ละคร โขนจากตา่ งชาติ
รอ้ งรำทำเพลงหลังจากทำงานเสรจ็
การทำท่าเหมือนคน สตั ว์ และสอ่ื อารมณแ์ ทนคำพูด
การไดร้ บั การถา่ ยทอดจากครูอาจารย์ทางนาฏศิลป์
การฟ้อนรำถวายสิ่งศักดิ์สิทธ์ใหเ้ กดิ ความพอใจเมื่อขอพรใหส้ ำเรจ็
5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเพ่ือสรปุ ความรู้เกยี่ วกบั ความสำคัญและทีม่ าของนาฏศิลป์
ไทย โดยครูใชค้ ำถามดังนี้
การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยมีความสำคญั ต่อคนในชาติอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นส่ิงทีท่ ำให้
คนในชาตไิ ดผ้ ่อนคลาย มคี วามสุขสนุกสนานเมอื่ ชมการแสดงนาฏศิลปไ์ ทย)
การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยแสดงใหเ้ หน็ ถึงความเจริญรงุ่ เรืองในด้านใด
(ตัวอยา่ งคำตอบ แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความเจริญรุ่งเรอื งดา้ นวัฒนธรรม)
การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยมีท่ีมาจากสิ่งใดบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ การเลียนแบบธรรมชาติ
การละเล่นของชาวบา้ นในท้องถน่ิ การรบั อารยธรรมของอินเดีย การแสดงเปน็ แบบแผน และการ
บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์)
จากนั้นครูนำคำตอบที่ได้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดาน และใหน้ ักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดงั ตวั อยา่ งต่อไปนี้ ความสาคัญและท่มี า นาฏศิลป์ ไทยเป็ นสิ่งท่ี
ของนาฏศิลป์ ไทย แสดงให้เห็นถึงความเจริญ
ทาให้คนในชาตผิ ่อนคลาย
มีความสุข สนุกสนาน รุ่งเรืองด้านวฒั นธรรม
การเลียนแบบธรรมชาติ ที่มาของการแสดงนาฏศิลป์ การบชู าส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ
การละเล่นของชาวบา้ น การแสดงเป็ นแบบแผน
ในทอ้ งถ่ิน
การรับอารยธรรม
ของอินเดีย
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 113
6. ใหน้ กั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
นาฏศิลป์เปน็ ศิลปวัฒนธรรมทีแ่ สดงถึงความเป็นชาติที่เจริญรงุ่ เรอื งดา้ นวฒั นธรรม เปน็
มรดกท่ีมคี ณุ ค่าที่ควรอนุรักษไ์ ว้เป็นสมบัตขิ องชาตติ ่อไป
7. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี
สง่ิ ใดบ้างท่อี ยู่รอบตวั นกั เรยี นทสี่ ามารถนำมาทำใหเ้ กิดการแสดงนาฏศิลป์ได้
การจดั บรรยากาศเชงิ บวก
ใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเห็นโดยใชค้ วามคิดอย่างอิสระ
ส่ือการเรยี นรู้
ภาพสัตว์ต่าง ๆ
1. บตั รคำ
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 114
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรียนจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู.้ .................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................
นักเรยี นนไี่ มผ่ า่ น มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1.2 นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซื่อสัตย์สุจริต ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรียนมคี วามรูเ้ กดิ ทักษะ (P) มวี นิ ัย รกั ความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรียนมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแก้ปัญหา
การใชท้ กั ษะชีวติ
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 115
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน แลว้ มีความเหน็ ดังน้ี
1.เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................
ลงช่อื .........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวดั ชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 116
บันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย เวลา 4 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 17 เรอื่ ง ลกั ษณะเด่นและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศิลป์ไทย เวลา 1 ชวั่ โมง
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ป์ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ภูมิปัญญาไทยและสากล
ตัวชีว้ ดั
ศ 3.2 ป.3/2 ระบสุ ิง่ ที่เป็นลักษณะเด่นและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์
จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้สู ตู่ วั ช้ีวดั
1. อธบิ ายเกี่ยวกบั ลักษณะเด่นและเอกลกั ษณ์ของนาฏศลิ ป์ไทย (K)
2. คน้ คว้าความรเู้ ก่ียวกบั ลักษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย (P)
3. เหน็ คุณค่าและชน่ื ชมในความงดงามของการแสดงนาฏศิลปไ์ ทย (A)
สาระสำคญั
ลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย คือ ความงามดา้ นต่าง ๆ ท่ีทำให้ผู้ชมเกดิ ความ
ซาบซึ้งและเข้าใจการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยมากขึน้
สาระการเรียนรู้
ลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
รักความเป็นไทย
ตวั ชว้ี ัดที่ 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญูกตเวที
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการคิด
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 117
ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร้)ู
แผนภาพแสดงลักษณะเด่นและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศิลป์
คำถามทา้ ทาย
ถา้ การแสดงนาฏศิลป์ขาดความงดงามด้านต่าง ๆ การแสดงนาฏศลิ ป์จะเป็นอย่างไร เพราะอะไร
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ใหน้ ักเรยี นดูภาพการแสดงโขน เช่น ตอนพระรามตามกวาง แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น
โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
ผแู้ สดงในภาพแตง่ กายสวยงามหรอื ไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ สวยงาม)
นกั เรียนชอบการแต่งกายของผแู้ สดงในภาพหรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ ชอบ เพราะเครื่อง
แตง่ กายสวยงาม)
นักเรยี นคิดวา่ ถ้าผแู้ สดงแตง่ กายดว้ ยชดุ ไปเทย่ี วจะสวยงามและเหมาะสมหรือไม่ เพราะ
อะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ สวยงามน้อยลง เพราะการแสดงนาฏศิลป์ควรแตง่ กายให้เหมาะสมกบั การ
แสดง)
จากภาพดังกลา่ ว นักเรียนคดิ วา่ การแสดงกล่าวถงึ เร่ืองใด (ตัวอย่างคำตอบ
การแสดงดังกล่าวแสดงถึงการไล่ล่ากวางโดยมธี นูเป็นอาวุธ)
2. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาค้นคว้าความรเู้ ร่ืองลักษณะเด่นและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศิลป์ไทย แล้วให้
นักเรียนรว่ มกันตอบคำถาม โดยครูใช้คำถาม ดังน้ี
ความไพเราะงดงามของบทกลอนควรมลี ักษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ มีสัมผสั นอก
สมั ผสั ในคล้ายคลงึ กัน มีการเล่นคำ ใช้สำนวนมคี วามหมาย)
ความงดงามของผูแ้ สดงและกระบวนทา่ รำควรมลี ักษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ มี
รูปรา่ งสวยงาม บุคลิกภาพเหมาะสมกบั บทบาททไี่ ด้รบั มีความสามารถในกระบวนท่ารำ)
ความงดงามของเพลงดนตรแี ละการขบั ร้องควรเป็นอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ นกั ดนตรี
สามารถบรรเลงไดม้ ีอรรถรสตรงกบั ความหมาย อารมณ์ ตามทบี่ ทประพันธ์
กำหนดไว้ ผรู้ ้องถ่ายทอดอารมณไ์ ด้ชดั เจน)
ความงดงามของฉาก แสง เวที และอุปกรณ์การแสดงมลี กั ษณะอย่างไร (ฉาก แสง สี
เสยี ง และอปุ กรณ์การแสดงควรมีคณุ ภาพสมจรงิ ตามลักษณะการแสดงหรือตามธรรมชาติ)
3. ครนู ำปา้ ยสถานการณ์เกีย่ วกบั การชมการแสดงนาฏศลิ ป์ตดิ บนกระดาน แล้วใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่ม
กลมุ่ ละ 5-8 คน แล้วครูแจกแผน่ ปา้ ยเอกลักษณ์และลักษณะเด่นของการแสดงนาฏศิลปต์ ่อไปน้ใี ห้แตล่ ะกลุม่
กลุ่มละ 1 ชุด
ความไพเราะของบทกลอน ความงดงามของฉาก แสง เสียง เวที
ความงดงามของกระบวนท่ารา ความงดงามของดนตรีและการขบั ร้อง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 118
จากนนั้ ครูอ่านป้ายสถานการณ์ให้นักเรยี นฟัง แลว้ เมื่อครูอ่านจบให้แต่ละกลมุ่ ยกป้ายคำตอบวา่
สถานการณด์ ังกลา่ ว ผู้ชมการแสดงรบั รู้ถงึ เอกลักษณ์และลักษณะเดน่ ของการแสดงนาฏศลิ ปใ์ นดา้ นใด กลมุ่ ใด
ยกป้ายได้ถกู ต้องได้ 1 คะแนน กลมุ่ ใดได้คะแนนมากทส่ี ุดเป็นกล่มุ ชนะ โดยป้ายสถานการณม์ ีดังน้ี
ช่อม่วง : การแสดงรากลองยาวเม่ือวานน้ีสวยมากเลย เธอคิดเหมือนเราไหม
ตงฉิน : มนั เป็นการรากลองยาวที่สวยงามมากเลยล่ะ
ช่อม่วง : เราจาบทกลอนท่ีใชป้ ระกอบการแสดงไดด้ ว้ ยนะ ไพเราะมากเลย
ตงฉิน : พ่ีคนที่ร้อง ร้องไดซ้ ้ึงกินใจจริง ๆ เลยนะ
ตงฉิน : ตอนน้ีกวางเขา้ ไปในป่ าเหมือนเราเขา้ ไปอยใู่ นป่ าเลยนะ
ช่อม่วง : เราก็คดิ เหมือนกนั นะ เหมือนอยใู่ นป่ าจริง ๆ
ตงฉิน : เด๋ียวเราจะไปฝึกตีระนาดใหเ้ หมือนกบั การแสดงเม่ือวานเลย
ช่อมว่ ง : ดนตรีสนุกจริง ๆ นะ
4. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเพื่อสรปุ ความรู้เก่ียวกบั ลักษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการ
แสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
ลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยจะต้องมคี วามงดงามดา้ นใดบา้ ง
(ความไพเราะงดงามของบทกลอน ความงดงามของผ้แู สดงและกระบวนทา่ รำ ความงดงามของ
เพลง ดนตรี และการขับร้อง ความงดงามของฉาก แสง เสียง เวที และอุปกรณก์ ารแสดง)
ถา้ ผู้ชมการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยไมเ่ ข้าใจลกั ษณะเด่นและเอกลกั ษณข์ องการแสดงนาฏศลิ ป์
ไทยจะเกดิ ผลอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ จะทำใหไ้ มเ่ ขา้ ใจการแสดง ไม่ซาบซึง้ ในความงดงามดา้ นต่าง
ๆ ของการแสดงนาฏศิลป)์
จากน้ันครูนำคำตอบท่ไี ด้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดาน และให้นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกต้องดงั ตวั อย่างต่อไปนี้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 119
ความไพเราะและงดงาม ความงดงามของผแู้ สดง ความงดงามของเพลง
ของบทกลอน และกระบวนท่ารา ดนตรี และการขบั ร้อง
ลกั ษณะเด่นและเอกลกั ษณ์ของ
การแสดงนาฏศิลป์
ความงดงามของฉาก แสง ถา้ ไม่เขา้ ใจลกั ษณะเด่นและเอกลกั ษณ์
เสียง เวที และอุปกรณ์การแสดง ของการแสดงจะทาใหไ้ ม่เขา้ ใจ
การแสดงและไมซ่ าบซ้ึงในความงดงาม
ดา้ นต่าง ๆ ของการแสดงนาฏศิลป์
5. ให้ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี
ลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย คือ ความงดงามดา้ นต่าง ๆ ท่ีทำให้
ผชู้ มเกดิ ความซาบซ้ึงและเขา้ ใจในการแสดงนาฏศิลป์ไทยมากขน้ึ
6. ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นโดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังน้ี
ถ้าการแสดงนาฏศลิ ป์ขาดความงดงามดา้ นตา่ ง ๆ การแสดงนาฏศิลปจ์ ะเป็นอย่างไร เพราะ
อะไร
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วิเคราะห์เร่ืองลักษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศิลป์ไทยให้นักเรียน
ร่วมกันใช้ความคดิ อยา่ งอสิ ระ
สือ่ การเรยี นรู้
1. ภาพการแสดงโขน
2. ป้ายสถานการณ์
3. แผน่ ปา้ ย
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวัดและประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 120
2. เครื่องมอื
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 121
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรียนจำนวน..................คน
ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................
ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
นกั เรยี นนีไ่ มผ่ า่ น มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1.2 นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซอื่ สัตย์สุจริต มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) มีวินยั รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตเป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
.......................................................................................... การส่อื สาร
.......................................................................................... การคิด
........................................................................... การแก้ปัญหา
การใชท้ กั ษะชวี ิต
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอื่ ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 122
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน แล้วมคี วามเห็นดังน้ี
1.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
นำไปใช้ไดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
....................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................... ..............................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................... .................................
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 123
บันทกึ แผนการจดั การเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรียนท่ี 1
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 4 ชั่วโมง
เวลา 1 ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 18 เรื่อง ประเภทของการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ป์ท่เี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
ตัวชวี้ ดั
ศ 3.2 ป.3/2 ระบุสงิ่ ที่เป็นลักษณะเด่นและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศลิ ป์
ศ 3.2 ป.3/3 อธิบายความสำคัญของการแสดงนาฏศิลป์
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สู่ตวั ช้ีวัด
1. อธบิ ายเก่ียวการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยแต่ละประเภท (K)
2. จำแนกประเภทของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย (P)
3. ตระหนกั และเหน็ คณุ ค่าของการแสดงนาฏศิลปไ์ ทย (A)
สาระสำคญั
การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยแต่ละประเภททำใหเ้ กิดความรื่นเรงิ สนกุ สนาน และเป็นศิลปวัฒนธรรมทแ่ี สดง
ถงึ เอกลกั ษณข์ องชาติที่ควรรักษาไว้
สาระการเรยี นรู้
ประเภทของการแสดงนาฏศิลป์ไทย
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
รักความเปน็ ไทย
ตวั ช้วี ดั ท่ี 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตญั ญกู ตเวที
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 124
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
ความสามารถในการคิด
ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
1. แผนภาพแสดงประเภทของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
2. ช้นิ งานที่ 10 เรือ่ ง ประเภทของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
คำถามทา้ ทาย
ถา้ นกั เรียนเปน็ นักจดั รายการโทรทัศนเ์ กีย่ วกับการแสดงนาฏศิลป์ นกั เรยี นจะจดั รายการเกยี่ วกบั
การแสดงนาฏศิลปป์ ระเภทใด เพราะอะไร
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครทู ำแผนภาพแสดงประเภทของการแสดงนาฏศิลป์ไทยลงบนกระดาษ เพื่อตดิ แสดงบนกระดาน
โขน
ระบา
ประเภทของการแสดง ละคร
นาฏศิลป์ ไทย
การแสดงพ้ืนเมือง รา
แล้วใหน้ ักเรยี นรว่ มกันตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถาม ดงั นี้
นกั เรียนรูจ้ ักการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยประเภทใดบ้าง (ตวั อยา่ งคำตอบ ระบำ รำ การ
แสดงพ้นื เมือง)
ประเภทการแสดงนาฏศิลป์ไทยทีน่ ักเรียนรู้จักมีการแสดงช่ืออะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ
ระบำ เช่น ระบำไก่ ระบำดอกบัว ระบำกฤดาภินิหาร)
นกั เรยี นชอบการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยประเภทใด เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ รำเพราะมี
ทา่ รำและการแต่งกายสวยงาม ดแู ลว้ มีความสุข)
2. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรู้เร่ืองประเภทของการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย แล้วใหน้ ักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถาม
โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
เอกลักษณ์ของโขนคือผู้แสดงจะต้องสวมหัวโขนใช่หรือไม่ (ใช่)
ละครเป็นการแสดงทเ่ี ป็นเรอื่ งราว มกี ารดำเนินเรือ่ งด้วยท่ารำและบทขบั รอ้ งใช่หรอื ไม่ (ใช่)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 125
รำคือการแสดงทม่ี ีผู้แสดง 1-2 คนหรอื มากกวา่ 2 คนขึน้ ไป มีกระบวนท่ารำ และแต่ง
กายตามรูปแบบการแสดงใช่หรือไม่ (ใช)่
ระบำเปน็ การแสดงทไ่ี ม่เปน็ เร่อื งราว และมีผู้แสดงตงั้ แต่ 2 คนขึ้นไปใชห่ รอื ไม่ (ใช่)
การแสดงพน้ื เมืองเปน็ การแสดงทเ่ี ป็นเอกลักษณ์ของแตล่ ะท้องถน่ิ ใชห่ รอื ไม่ (ใช่)
การแสดงประเภทฟอ้ นเป็นการแสดงพื้นเมืองของภาคเหนือใช่หรือไม่ (ใช่)
การแสดงพนื้ เมอื งภาคกลางเป็นการแสดงท่ีสะท้อนถึงวถิ ีชีวิตเกษตรกรรมใชห่ รอื ไม่ (ใช่)
การแสดงพื้นเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปน็ การแสดงท่มี จี งั หวะรวดเรว็ สนุกสนาน
และเปน็ การแสดงทม่ี ีอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมลาวและเขมรใช่หรอื ไม่ (ใช่)
การแสดงพ้ืนเมอื งภาคใต้เปน็ การแสดงที่มาจากวฒั นธรรมไทยมุสลมิ และ ไทยพทุ ธใช่
หรอื ไม่ (ใช่)
3. ครนู ำแถบประโยคติดบนกระดาน ดังนี้
เป็นการแสดงท่ีเป็นเร่ืองราว มีพฒั นาการมาจากนิทาน
เป็นการแสดงท่ีนามาจากวฒั นธรรมประเทศลาวและประเทศเขมร มีจงั หวะเร็วสนุกสนาน
เป็นนาฏศิลป์ ช้นั สูงแสดงในงานพระราชพธิ ีต่าง ๆ
ความสวยงามอยทู่ ่ีกระบวนทา่ ราแต่งกายตามรูปแบบการแสดง
เป็นการแสดงท่ีสอดคลอ้ งกบั วิถีชีวติ เกษตรกรรม
ไมเ่ ล่นเป็นเร่ืองราว มีผแู้ สดง 2 คนข้ึนไป
จากนั้นครพู านักเรยี นอ่านแถบประโยคจำนวน 1 รอบ แล้วให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน
และครูอ่านแถบประโยค เม่ือครูอา่ นแถบประโยคครบให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มยกมือตอบว่า
เป็นการแสดงนาฏศลิ ปป์ ระเภทใด กลุ่มใดยกมือก่อนมสี ิทธิตอบก่อน ถา้ ตอบถกู ได้ 1 คะแนน ถ้าตอบไม่ถูก
ใหก้ ลมุ่ ที่เหลือมีสทิ ธิตอบ แต่คะแนนจะเหลือ 1 คะแนน กล่มุ ใดได้คะแนนมากที่สดุ เป็นกลุม่ ชนะ
2
4. ครูและนกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพ่ือสรุปความรูเ้ กีย่ วกับประเภทของนาฏศิลปไ์ ทย โดยครูใช้
คำถาม ดังนี้
การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยมีก่ีประเภท (4 ประเภท)
การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยมีประเภทใดบา้ ง (โขน ละคร รำและระบำ
การแสดงพน้ื เมอื ง)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 126
การแสดงนาฏศิลป์ไทยแต่ละประเภทมีประโยชน์ตอ่ ผู้ชมอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำให้
ผู้ชมเกิดความสนกุ สนาน เพลิดเพลิน และไดค้ วามรจู้ ากการชมการแสดง)
จากนน้ั ครูนำคำตอบทไี่ ด้มาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดาน และให้นักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดังตวั อย่างต่อไปนี้
โขน ละคร
ราและระบา การแสดงพ้ืนเมือง
มี 4 ประเภท ประเภทของการแสดง
นาฏศิลป์ ไทย
ประโยชนข์ อง
การแสดงนาฏศิลป์ ไทย
ทาใหเ้ กิดความ ไดค้ วามรู้
สนุกสนานเพลิดเพลิน จากการชมการแสดง
5. ใหน้ กั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดังน้ี
การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยแต่ละประเภททำให้เกิดความร่ืนเรงิ สนุกสนาน และเป็น
ศิลปวฒั นธรรมทแ่ี สดงถึงเอกลักษณ์ของชาติท่ีควรรกั ษาไว้
6. ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังน้ี
ถ้านักเรยี นเป็นนกั จัดรายการโทรทศั น์เก่ยี วกับการแสดงนาฏศลิ ป์ นักเรียนจะจัดรายการ
เก่ียวกบั การแสดงนาฏศลิ ป์ประเภทใด เพราะอะไร
7. ให้นกั เรยี นทำชิน้ งานท่ี 10 เรอื่ ง ประเภทของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นและอภปิ ราย โดยใชค้ วามคิดอย่างอิสระ
สอ่ื การเรยี นรู้
1. แผนภาพประเภทของการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
2. ชน้ิ งานที่ 10 เร่อื ง ประเภทของการแสดงนาฏศิลปไ์ ทย
3. แถบประโยค
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 127
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
1.3 ตรวจช้ินงานที่ 7
2. เครือ่ งมอื
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรงุ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 128
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................
ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................
นักเรียนนไี่ ม่ผา่ น มีดงั น้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1.2 นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซอื่ สัตยส์ ุจริต มุ่งมน่ั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรียนมีความรเู้ กิดทักษะ (P) มีวนิ ยั รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตเป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมีเจตคติ คา่ นยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสอ่ื สาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแก้ปัญหา
การใช้ทกั ษะชีวิต
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอื่ ....................................................
(นางสาวพัชรมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 129
ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ท่ีได้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวพัชรมยั อินอ่อน แล้วมคี วามเห็นดังนี้
1.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2.การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผูเ้ รียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
............................................................ ................................................................................... .....................................
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
................................................................................................................... .....................
ลงชอื่ .........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 130
บันทึกแผนการจัดการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวชิ า นาฏศลิ ป์ รหสั วิชา ศ13101
ภาคเรียนท่ี 2
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 4 ชว่ั โมง
เวลา 1 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 19 เร่อื ง หลกั ในการชมการแสดง
• มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน
ศ 3.1 : เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ปอ์ ยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณคา่ นาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความรูส้ ึก ความคิดตอ่ นาฏศิลป์อย่างอสิ ระ ชื่นชมและประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ตวั ชว้ี ดั
ศ 3.1 ป.3/3 เปรียบเทียบบทบาทหน้าท่ีของผแู้ สดงและผู้ชม
ศ 3.1 ป.3/4 มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการแสดงทีเ่ หมาะสมกับวัย
• จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายเก่ยี วกบั หลักในการชมการแสดง (K)
2. จำแนกเกี่ยวกบั หลกั ในการชมการแสดงต่าง ๆ (P)
3. สนใจในหลักการชมการแสดงและเปน็ ผู้ชมทด่ี ีและมสี มาธิ (A)
• สาระสำคญั
การมีมารยาทที่ดีในการชมการแสดงจะทำให้ผู้แสดงมีสมาธิและแสดงได้ดี ทั้งยังส่งผลให้ผู้ชมได้รับ
ความสุขในการชมการแสดงอกี ด้วย
• สาระการเรยี นรู้
ความรู้
หลกั ในการชมการแสดง
ทักษะ / กระบวนการ
1. การอธิบาย/อภปิ ราย
2. อภปิ รายสรุปความรู้
3. การทำงานเปน็ กลุม่
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 131
• คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มจี ติ สาธารณะ
ตัวชว้ี ัดท่ี 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ ป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม
• สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
• อ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น
1. อธบิ ายเกยี่ วกับหลักในการชมการแสดง
2. จำแนกเกี่ยวกับหลักในการชมการแสดงตา่ ง ๆ
3. สนใจในหลกั การชมการแสดงและเป็นผชู้ มทด่ี ีและมสี มาธิ
• สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้
1.ชาร์ตแผนภาพประโยชนข์ องการชมการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
2.ชิน้ งานท่ี 11 เรอ่ื ง หลักในการชมการแสดง
3.ชน้ิ งานที่ 12 เรือ่ ง การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการแสดงนาฏศิลป์
4.ปา้ ยสถานการณ์ในการแสดงนาฏศลิ ป์
5. แถบประโยค
• กจิ กรรม / กระบวนการเรยี นรู้
กิจกรรมนำสกู่ ารเรียน
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั การแสดงนาฏศิลป์ แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น
โดยครูใชค้ ำถาม ดังน้ี
นักเรียนเคยชมการแสดงนาฏศิลป์อะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ รำกลองยาว ฟ้อนสาว
ไหม)
นกั เรยี นชอบการแสดงนาฏศิลป์ใดมากทส่ี ุด เพราะอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ฟ้อนสาวไหม
เพราะมีการแตง่ กายสวยงาม)
นกั เรยี นได้รับประโยชน์จากการชมการแสดงนาฏศลิ ปด์ ังกลา่ วหรอื ไม่ อย่างไร (ตัวอยา่ ง
คำตอบ ไดร้ บั ประโยชน์ความรู้เกย่ี วกับทา่ รำ จังหวะเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 132
กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้
2. ครูนำแถบประโยคต่อไปน้ีตดิ บนกระดาน
ก่อนการแสดงเริ่ม 15-20 นาที
ต้งั ใจชมการแสดงจนจบเรื่อง
การสวมกางเกงขายาว เส้ือเชิ้ต และสวมรองเทา้ ผา้ ใบ
กฎระเบียบของสถานท่ีท่ีชมการแสดง
พูดคุยเสียงดงั ในขณะชมการแสดง
การแสดงที่จะไปชมก่อน เช่น เน้ือเรื่องยอ่ และผแู้ สดง
การสวมกระโปรงยาว เส้ือเชิ้ตแขนส้นั และสวมรองเทา้ หุม้ ส้น
ผแู้ สดงแสดงจบหรือช่ืนชอบการแสดงในช่วงต่าง ๆ
จากนน้ั ครแู บง่ นักเรียนเปน็ 2 กลุ่ม นักเรยี นชาย 1 กลุ่ม และนกั เรยี นหญงิ 1 กลมุ่ แล้ว ครพู า
นกั เรยี นอา่ นแถบประโยค 1 รอบ จากนั้นครูแบง่ กระดานออกเป็น 2 ฝั่งและเขียนข้อความบนกระดาน ดงั น้ี
ฉนั จะแต่งกายดว้ ย ฉนั จะแตง่ กายดว้ ย
ผมจะไปถึง ฉนั จะศึกษา
ผมจะมีสมาธิและ ฉนั จะไม่
ผมจะปรบมือเม่ือ ฉนั จะปฏิบตั ิตาม
จากนั้นให้แตล่ ะกลุม่ เลือกแถบประโยคไปติดตอ่ ทา้ ยข้อความบนกระดานให้ถูกต้อง โดย ครูเปน็ ผู้
ตรวจสอบความถูกต้อง กล่มุ ใดตอบถกู ท้ังหมดเป็นฝา่ ยชนะ ให้นกั เรียนตดิ แถบประโยคภายในเวลา 5 นาที
แลว้ ครนู ำคำตอบทไ่ี ด้มาสรปุ เป็นแผนภาพบนกระดานอีกครั้ง
4. ครูนำป้ายสถานการณต์ ดิ บนกระดาน แล้วให้นักเรียนร่วมกนั บอกว่าผชู้ มการแสดงได้รับประโยชน์
จากการชมการแสดงนาฏศิลป์อย่างไร
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 133
การจดั แสดงนาฏศิลป์ ณ โรงละครแห่งหน่ึง มีผเู้ ขา้ ชมจานวนมาก
นง่ั ชมนาฏศิลป์ ดว้ ยความต้งั ใจ
พรสุดา : วงดนตรีที่ใชป้ ระกอบการแสดงช่ือวา่ อะไร เธอทราบไหมคะ
ก่ิงฉตั ร : วงปี่ พาทยเ์ ครื่องหา้ คะ่
พรสุดา : ฉากการแสดงเป็นทอ้ งพระโรงเหมาะสมกบั เน้ือเร่ืองเลยนะ
พรสุดาและก่งิ ฉตั รได้รับประโยชนจ์ ากการชมการแสดงนาฏศลิ ป์อยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ
รู้จักเครื่องดนตรีวงดนตรีไทย รู้องค์ประกอบในการแสดง เชน่ ฉาก แสง เสียง)
การแสดงราวงมาตรฐานในงานลอยกระทงของตาบลแห่งหน่ึง
มีผเู้ ขา้ ร่วมราวงมากมาย
ป่ิ นมณี : ดูคู่ราวงนนั่ สิกานดา ราสวยท้งั คูเ่ ลย
กานดา : จริงดว้ ยทาท่าสอดสร้อยมาลาไดส้ วยงามจริง ๆ
ปิ่ นมณี : เราวา่ ความสวา่ งของเวทีกด็ ูพอดีนะ ไม่มืดหรือสวา่ งเกินไป
กานดา : อยา่ งน้ีนี่เอง ราวงชุดน้ีจึงสวยงามมาก
ปิน่ มณีและกานดาได้รับประโยชนจ์ ากการชมการแสดงนาฏศลิ ป์อยา่ งไร (ตัวอยา่ ง
คำตอบ รู้กระบวนท่ารำ การแตง่ กาย ร้อู งค์ประกอบในการแสดง เช่น ฉาก แสง เสยี ง)
5. ครูอธบิ ายความรูเ้ ร่อื งประโยชนข์ องการชมการแสดงนาฏศิลป์ไทยใหน้ ักเรียนฟัง โดยครูเขียนสรปุ
เปน็ แผนภาพชาร์ตแลว้ ตดิ บนกระดานให้นกั เรียนดู ดงั ตัวอย่างตอ่ ไปน้ี
ทราบเครื่องดนตรีไทย ประโยชน์ของการชม ทราบกระบวนทา่ รา
ที่ใชป้ ระกอบ การแสดงนาฏศิลป์ ไทย ในการแสดงนาฏศิลป์
การแสดงนาฏศิลป์
ทราบองคป์ ระกอบ
ในการแสดง เช่น
ฉาก แสง เสียง
6. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ กล่มุ 3-4 กลมุ่ รว่ มชมการแสดงที่จัดข้ึนในท้องถ่ิน พร้อมท้ังบนั ทึกผลว่า ชมการ
แสดงอะไร การแสดงมปี ระโยชนต์ ่อคนในท้องถนิ่ อย่างไร
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 134
7. ครูและนักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเพ่ือสรปุ ความรู้เก่ียวกบั หลักในการชมการแสดง โดยครใู ช้
คำถาม ดังนี้
ผู้แสดงทด่ี จี ะมลี ักษณะอย่างไร และส่งผลต่อการแสดงอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ผ้แู สดง
ท่ดี จี ะตอ้ งแสดงอยา่ งเต็มความสามารถ และภมู ิใจท่ไี ดร้ ับเลอื กแสดง มคี วามทุ่มเทต่อการแสดง และ
จะสง่ ผลใหก้ ารแสดงมีคุณภาพ เปน็ ท่ีชื่นชอบประทบั ใจแกผ่ ูช้ ม)
ผู้ชมการแสดงที่ดคี วรปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ แตง่ กายสุภาพเรียบรอ้ ย ไปถึง
สถานท่ีการแสดงก่อน 15-20 นาที ศกึ ษาข้อมลู การแสดงทีจ่ ะไปชม ไมค่ ุยหรือหวั เราะ
ขณะชมการแสดง มีสมาธิในการชมการแสดง ปรบมือให้กำลงั ใจแก่ผูแ้ สดง และปฏิบัตติ าม
กฎระเบียบของสถานท่ี)
นกั เรยี นได้รับประโยชนจ์ ากการชมการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยอยา่ งไร
(ตัวอย่างคำตอบ ได้รับความรูเ้ กีย่ วกบั การแสดงนาฏศิลป์และดนตรีรวมถึงองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ในการ
แสดง)
จากนั้นครนู ำคำตอบทีไ่ ด้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดานและใหน้ ักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี
ผแู้ สดงที่ดีจะส่งผลใหก้ ารแสดงมี ไดร้ ับความรู้เกี่ยวกบั การแสดง
คุณภาพ เป็นที่ช่ืนชอบประทบั ใจ แสดงอยา่ งเตม็ ความสามารถ นาฏศิลป์ และดนตรี รวมถึง
แก่ผชู้ ม
องคป์ ระกอบต่าง ๆ ในการแสดง
มีความทมุ่ เทต่อการแสดง ผแู้ สดงที่ดี ประโยชน์ในการชมการ
มีความภมู ิใจท่ีไดร้ ับเลือกแสดง แสดงนาฏศิลป์ ไทย
หลกั ในการชมการแสดง
แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานท่ี
ไปถึงสถานท่ีการแสดง ผชู้ มการแสดงที่ดี ปรบมือใหก้ าลงั ใจผแู้ สดง
ก่อน 15-20 นาที มีสมาธิในการชมการแสดง
ศึกษาขอ้ มูลการแสดงท่ีจะไปชม ไม่คุยหรือหวั เราะขณะชมการแสดง
7. ให้นกั เรียนร่วมกนั สรา้ งสรรคก์ ิจกรรมการแสดงท่เี หมาะสมกับวยั แล้วนำไปแสดงในงานโรงเรียน
กจิ กรรมรวบยอด
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 135
8. ให้นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี
การมมี ารยาททดี่ ใี นการชมการแสดงจะทำใหผ้ ู้แสดงมีสมาธแิ ละแสดงได้ดี
ทง้ั ยังส่งผลใหผ้ ชู้ มไดร้ ับความสุขในการชมการแสดง
9. ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังน้ี
ถ้าไดไ้ ปชมการแสดงคอนเสริ ต์ ทตี่ นเองชอบ จะปฏิบัติตนอยา่ งไร
10. ให้นักเรยี นทำช้ินงานท่ี 11 เร่อื ง หลกั ในการชมการแสดง, ช้ินงานท่ี 12 เรื่อง การมี
สว่ นรว่ มในกจิ กรรมการแสดงนาฏศิลป์
วิธีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
1.3 ตรวจชิ้นงานท่ี 20, 21
2. เครือ่ งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 136
การประเมนิ ช้ินงานที่ 11 ให้ผู้สอนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เรอ่ื ง
เขียนอธิบายเปรยี บเทียบบทบาทหนา้ ท่ีของผูแ้ สดงและผชู้ มการแสดง
เกณฑก์ ารประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
เขยี นอธิบาย เขียนอธบิ าย เขยี นอธิบาย เขยี นอธิบาย เขยี นอธบิ าย
เปรียบเทียบบทบาท เปรียบเทียบบทบาท เปรยี บเทียบบทบาท เปรยี บเทียบบทบาท เปรยี บเทียบบทบาท
หน้าท่ขี อง หนา้ ท่ีของผแู้ สดงและ หนา้ ทข่ี องผแู้ สดงและ หน้าที่ของผู้แสดงและ หน้าทขี่ องผแู้ สดงและ
ผ้แู สดงและผูช้ มการ ผ้ชู มการแสดงได้ ผู้ชมการแสดง มีการ ผชู้ มการแสดงได้ ผู้ชมการแสดงแต่ไม่
แสดง สัมพนั ธก์ ัน จำแนกข้อมลู หรือ สอดคลอ้ งกบั ข้อมูลมี สอดคลอ้ งกบั ข้อมลู ที่
มกี ารเชือ่ มโยงให้เห็น อธิบายใหเ้ ห็นถงึ การเขยี นขยายความ อ่าน
เป็นภาพรวมแสดงให้ ความสัมพนั ธก์ ับ และมีการยกตวั อย่าง ไมม่ ีการอธิบาย
เหน็ ถงึ ความสัมพนั ธ์ ตนเองอย่างเป็นเหตุ เพมิ่ เติมใหเ้ ข้าใจงา่ ย เพ่มิ เติม
กับตนเองและผู้อ่ืน เป็นผล
การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมินชนิ้ งานที่ 12 ใหผ้ ู้สอนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่อื ง
การมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการแสดงนาฏศลิ ป์
เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดับคะแนน 2 1
3
ปฏิบตั ิตนในการ ปฏบิ ัตติ นในการมสี ว่ น ปฏบิ ัตติ นในการมสี ว่ น ปฏิบตั ิตนในการมีส่วน ปฏิบตั ติ นในการ
มสี ว่ นร่วมใน
กจิ กรรมการแสดง รว่ มในกจิ กรรมการแสดง ร่วมในกจิ กรรมการแสดง รว่ มในกิจกรรมการแสดง มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม
นาฏศิลป์
นาฏศิลป์ร่วมกับผอู้ ืน่ ใน นาฏศิลปต์ ามท่ีตนเองได้ นาฏศลิ ป์ตามแบบได้ การแสดงนาฏศิลป์ได้
การ พัฒนาใหเ้ กิด คิดขนึ้ มาเองเพ่ือให้มี ถกู ต้องและมีการดดั ตามแบบอยา่ งหรือ
ประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม ประสทิ ธิภาพที่ดีข้ึนกวา่ แปลงให้เหมาะสมกบั ตามทีค่ รูแนะนำ
และสามารถแก้ปญั หา แบบอย่างโดยมีครูหรือ ตนเอง โดยมีครูหรือ เทา่ นัน้
ในระหวา่ งการ ผอู้ ่ืนแนะนำบ้าง ผู้อ่นื แนะนำบ้าง
ปฏบิ ัติได้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 137
บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
นกั เรยี นนี่ไมผ่ า่ น มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1.2 นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซอ่ื สตั ย์สุจรติ มุ่งม่ันในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นกั เรียนมีความรเู้ กิดทักษะ (P) มีวนิ ัย รกั ความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเป็นสาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรยี นมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
.......................................................................................... การส่ือสาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแก้ปญั หา
การใชท้ กั ษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรยี นวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 138
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน แล้วมคี วามเหน็ ดังน้ี
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผ้เู รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
ยงั ไม่เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
นำไปใช้ไดจ้ รงิ
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
........................................................................................................................................................................ ............
........................................................................................................................................ ............................................
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .............
ลงชอื่ .........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวดั ชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 139
บันทกึ หนว่ ยการจดั การเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศลิ ป์ รายวชิ า นาฏศิลป์ รหสั วชิ า ศ13101
ภาคเรียนที่ 1
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 1 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอ่ื ง บรู ณาการนาฏศลิ ปก์ ับกลุม่ สาระการเรียนร้อู ืน่
• มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ คุณค่านาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั
ตัวชี้วดั
ศ 3.1 ป.3/5 บอกประโยชน์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ในชวี ติ ประจำวัน
• สาระสำคัญ
การนำกลุม่ สาระการเรยี นรู้อื่น ๆ มาบรู ณาการกับนาฏศลิ ป์เปน็ การเชอ่ื มโยงความรู้มาใชใ้ นชีวิตประจำวัน
• ความเข้าใจทค่ี งทน (Enduring Understanding)
การบูรณาการนาฏศิลปก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ ๆ ทำให้เกิดประโยชนต์ อ่ การแสดง และสามารถนำไป
ปรับใช้ในชวี ติ ประจำวันได้
• สาระการเรียนรู้
บรู ณาการนาฏศลิ ป์กบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่ืน : ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศกึ ษา
ศาสนา และวัฒนธรรม สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ ศิลปะ : ทัศนศิลป์
• คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
อยู่อย่างพอเพยี ง
ตวั ชี้วดั ท่ี 5.1 ดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม
• สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 140
• ส่อื การเรียนรู้
1. ปา้ ยสถานการณ์
2. แบบบันทึกการแสดงนาฏศลิ ป์
3. ชิน้ งานท่ี 13 เร่อื ง บูรณาการนาฏศิลปก์ บั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่
• ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
ช้นิ งานที่ 13 เร่ือง บูรณาการนาฏศลิ ป์กับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่นื
• การประเมินผล
1. การประเมินผลตัวช้ีวัด
ชิ้นงานท่ี 13 เรอ่ื ง บรู ณาการนาฏศิลป์กบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อ่นื
เกณฑ์การประเมิน 4 ระดับคะแนน 1
32
บูรณาการนาฏศลิ ป์ บรู ณาการนาฏศลิ ป์ บรู ณาการนาฏศลิ ป์ บูรณาการนาฏศลิ ป์ บรู ณาการนาฏศิลป์
กับกลุม่ สาระการเรียนรู้ กับกลุ่มสาระการ- กับกลุม่ สาระการ- กบั กล่มุ สาระการ- กับกล่มุ สาระการ-
อ่นื และบอกประโยชน์ของ เรียนรู้อน่ื และบอก เรียนรอู้ น่ื และบอก เรยี นรอู้ น่ื และบอก เรียนรอู้ ื่นและบอก
การแสดงนาฏศิลปใ์ น ประโยชน์ของการ ประโยชนข์ องการ ประโยชน์ของการ ประโยชน์ของการ
ชวี ิตประจำวนั แสดงนาฏศิลป์ใน แสดงนาฏศลิ ปใ์ น แสดงนาฏศลิ ปใ์ น แสดงนาฏศิลป์ใน
ชีวิตประจำวนั ได้ ชวี ิตประจำวันได้ ชีวติ ประจำวนั ได้ ชีวติ ประจำวันไดแ้ ต่ไม่
สมั พนั ธก์ ัน มกี าร มีการจำแนกข้อมลู สอดคล้องกับข้อมลู สอดคลอ้ งกับข้อมลู
เชอื่ มโยงให้เห็นเป็น หรอื อธิบายใหเ้ ห็นถงึ มีการเขยี นขยายความ เขยี นตามข้อมลู ที่อ่าน
ภาพรวมแสดงให้เหน็ ความสมั พนั ธข์ อง และมีการยกตวั อย่าง ไม่มีการอธบิ ายเพ่ิมเติม
ถงึ ความสมั พันธ์ของ ตนเองอยา่ งเป็นเหตุ เพ่มิ เติมให้เข้าใจงา่ ย
ตนเองและผูอ้ ืน่ เป็นผล
2. การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
อยู่อยา่ งพอเพียง
ตัวช้ีวดั ท่ี 5.1 ดำเนินชวี ิตอย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม
พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม (3)
5.1.1 ใช้ทรัพย์สนิ ของตนเอง เช่น ใชเ้ งินและของ ใชเ้ งินและของใช้ ใช้เงิน ของใชส้ ว่ น ใช้เงนิ ของใช้สว่ นตัว
เงิน ส่งิ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่าง ใชส้ ว่ นตวั อย่าง สว่ นตวั อย่าง ตวั และของสว่ น และของส่วนรวมอยา่ ง
ประหยัดคมุ้ ค่า และเก็บรักษา ไม่ประหยัด ประหยดั รวมอยา่ งประหยัด ประหยัดคมุ้ คา่ เก็บ
ดแู ลอย่างดรี วมทั้งการใชเ้ วลา และเก็บรักษา รกั ษาดแู ล อย่างดี
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 141
อย่าง เหมาะสม ดแู ลอยา่ งดี ตดั สนิ ใจอย่าง
5.1.2 ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวม ตัดสินใจอย่าง มเี หตุผลไมเ่ อาเปรยี บ
มีเหตุผล ผอู้ ื่น
อยา่ ง ประหยดั คุม้ คา่
และเกบ็ รักษาดูแล อยา่ งดี
5.1.3 ปฏิบตั ิตนและตดั สนิ ใจ ด้วย
ความรอบคอบมีเหตุผล
5.1.4 ไม่เอาเปรียบผอู้ ่ืนและไม่ทำให้
ผ้อู นื่ เดือดร้อนพร้อมใหอ้ ภยั เม่อื
ผู้อ่ืนกระทำผิดพลาด
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 142
บันทกึ แผนการจดั การเรียนรู้
สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ รายวชิ า นาฏศิลป์ รหสั วชิ า ศ13101
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง บูรณาการนาฏศลิ ป์กับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 20 เร่ือง บรู ณาการนาฏศลิ ปก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู นื่ เวลา 1 ชั่วโมง
• มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน
ศ 3.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อยา่ งสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ คณุ ค่านาฏศลิ ป์
ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคิดอยา่ งอสิ ระ ชืน่ ชม และประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน
ตัวช้ีวัด
ศ 3.1 ป.3/5 บอกประโยชน์ของการแสดงนาฏศิลป์ในชีวิตประจำวัน
• จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายเก่ียวกบั การบรู ณาการนาฏศลิ ปก์ ับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื (K)
2. เขียนแผนภาพการบูรณาการนาฏศิลปก์ ับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื (P)
3. เหน็ ประโยชน์ของการบูรณาการนาฏศลิ ป์กับกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน (A)
• สาระสำคัญ
การนำกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน ๆ มาบูรณาการกบั นาฏศลิ ป์เปน็ การเชื่อมโยงความร้มู าใชใ้ นชีวิตประจำวัน
และเปน็ การสรา้ งสรรค์นาฏศลิ ปใ์ ห้มกี ารพฒั นาและมเี อกลักษณโ์ ดดเดน่ มากข้ึน
• สาระการเรียนรู้
บูรณาการนาฏศิลป์กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน : ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศกึ ษา
ศาสนา และวัฒนธรรม สขุ ศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ ศลิ ปะ :
ทัศนศลิ ป์
• คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
อยอู่ ย่างพอเพียง
ตัวชี้วัดท่ี 5.1 ดำเนินชีวิตอยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มคี ุณธรรม
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 143
• อา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน
1. อธบิ ายเกี่ยวกบั การบรู ณาการนาฏศิลปก์ ับกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ นื่
2. เขียนแผนภาพการบูรณาการนาฏศลิ ป์กบั กลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน
3. เหน็ ประโยชนข์ องการบรู ณาการนาฏศลิ ป์กับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่ืน
• สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
ความสามารถในการคดิ
• สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้
1. ป้ายสถานการณ์
2. แบบบันทกึ การแสดงนาฏศิลป์
3. ชนิ้ งานที่ 13 เรื่อง บรู ณาการนาฏศิลปไ์ ทยกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่นื
• กิจกรรม / กระบวนการเรียนรู้
กิจกรรมนำสู่การเรยี น
1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั การแสดงนาฏศิลป์ประกอบเพลง โดยครใู ช้คำถาม
ดังนี้
นักเรียนเคยชมการแสดงนาฏศลิ ป์ประกอบเพลงหรอื ไม่ (เคย/ไม่เคย)
ลักษณะทา่ ทางของผู้แสดงนาฏศิลป์เป็นอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ อ่อนช้อย น่มุ นวล)
นักเรยี นร้สู ึกอยา่ งไรที่ได้ชมการแสดงนาฏศิลป์ประกอบเพลง (ตัวอย่างคำตอบ
มีความสุข สนุกสนาน)
กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
2. ครอู ธบิ ายเกยี่ วกับการบรู ณาการนาฏศิลป์กบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อนื่ ใหน้ ักเรยี นฟัง จากนนั้ ครนู ำปา้ ย
สถานการณ์เกย่ี วกับนาฏศิลป์มาตดิ บนกระดานแล้วอ่านให้นกั เรยี นฟังเพื่อใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ ว่า
เป็นการบูรณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้ใด ดังนี้
สถานการณ์ท่ี 1
นกั เรียนในช้นั เรียนร่วมกนั ศึกษาประวตั ิความเป็นมา
ของการแสดงโขน
แลว้ ครูใช้คำถามเพ่อื ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี
จากสถานการณ์เปน็ การนำนาฏศลิ ป์ไปบูรณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนร้ใู ด (สงั คมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 144
สถานการณ์ที่ 2
คณุ ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั คน้ หาวรรณคดีแสดงเร่ือง
พระอภยั มณีเพื่อนาไปแสดงนาฏศิลป์
แลว้ ครใู ชค้ ำถามเพ่ือให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ ดังนี้
จากสถานการณ์เป็นการนำนาฏศิลป์ไปบรู ณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรใู้ ด (ภาษาไทย)
สถานการณ์ท่ี 3
คุณครูแบง่ กลุ่มใหน้ กั เรียนร่วมกนั ออกแบบและ
ประดิษฐ์อปุ กรณ์ประกอบการแสดงระบาดอกบวั
แล้วครูใชค้ ำถามเพอ่ื ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดงั น้ี (การงาน
จากสถานการณ์เปน็ การนำนาฏศิลปไ์ ปบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนร้ใู ด
อาชีพและเทคโนโลยี)
สถานการณ์ที่ 4
นงนุชและเพื่อนในกลุ่มร่วมกนั นบั จงั หวะในการแสดง
และนบั จานวนผแู้ สดงท่ีใชใ้ นการแปรแถว
แล้วครใู ช้คำถามเพ่ือใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี
จากสถานการณ์เป็นการนำนาฏศลิ ป์ไปบูรณาการกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้ใด
(คณิตศาสตร์)
สถานการณ์ท่ี 5
จิรวฒั นท์ ารายงานในหวั ขอ้ เรื่อง ผลดีของการ
เคล่ือนไหวร่างกายในการแสดงนาฏศิลป์ ไทย
แล้วครูใช้คำถามเพื่อให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ดังน้ี
จากสถานการณเ์ ปน็ การนำนาฏศลิ ปไ์ ปบรู ณาการกับกลมุ่ สาระการเรยี นรูใ้ ด (สุขศึกษา
และพลศึกษา)
3. ครูเปดิ แถบบันทึกภาพการแสดงนาฏศลิ ป์เซ้ิงกระตบิ ขา้ วหรอื ระบำชาวนาใหน้ ักเรียนดู แลว้ ให้
นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ แล้วบันทึกผลลงในแบบบันทึกที่
ครูแจกให้ ดังตวั อยา่ งต่อไปนี้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 145
แบบบนั ทกึ การแสดงนาฏศิลป์
1. การแสดงนาฏศิลป์ ชุดน้ีชื่อวา่ เซิ้งกระติบขา้ ว ระบาชาวนา
2. การแสดงชุดน้ีบูรณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้ใดไดบ้ า้ ง (ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ )
ภาษาไทย คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ภาษาตา่ งประเทศ ศิลปะ : ทศั นศิลป์
3. เป็นการบูรณาการในเรื่องใด (ตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ )
ภาษา เน้ือเร่ือง วฒั นธรรม ประเพณี
การประดิษฐ์ การออกกาลงั กาย
การแปรแถว การใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้าประกอบการแสดง
อื่น ๆ ......................................................
4. นกั เรียนไดร้ ับประโยชน์อยา่ งไรเกี่ยวกบั การแสดงนาฏศิลป์ (ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ )
ทาใหม้ ีความคิดสร้างสรรค์ ทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง
ทาใหร้ ู้ประวตั ิของการแสดงต่าง ๆ ทาใหม้ ีรายไดเ้ พมิ่ ข้ึน
5. นกั เรียนจะนาประโยชน์ของการแสดงนาฏศิลป์ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร
.........................................................................................................................................
จากนั้นใหแ้ ต่ละกล่มุ ส่งผแู้ ทนกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน โดยครเู ปน็ ผูต้ รวจสอบความ
ถกู ต้อง
4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเพื่อสรปุ ความรูเ้ กย่ี วกบั บรู ณาการนาฏศิลป์กับกล่มุ สาระการ
เรียนรอู้ ื่น โดยครูใชค้ ำถาม ดังน้ี
นกั เรียนสามารถบูรณาการนาฏศิลป์กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้ใดได้บ้าง (ภาษาไทย
คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
การงานอาชพี และเทคโนโลยี ภาษาตา่ งประเทศ และศลิ ปะ: ทัศนศลิ ป์)
ถา้ นักเรียนสามารถนำนาฏศิลปไ์ ปบูรณาการกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น ๆ ได้ จะเกิด
ประโยชนอ์ ยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ทำให้มีความร้มู ากยิ่งขน้ึ )
จากนน้ั ครนู ำคำตอบทีไ่ ด้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพบนกระดาน และให้นกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดังตวั อย่างต่อไปนี้
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 146
สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ทาใหไ้ ดค้ วามรู้
วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา เพมิ่ มากข้นึ
คณิตศาสตร์ บูรณาการนาฏศิลป์ กบั ประโยชน์ที่ไดร้ ับ
ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ศิลปะ : ทศั นศิลป์
ภาษาตา่ งประเทศ
การงานอาชีพและเทคโนโลยี
5. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่ม 2-3 กลมุ่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เลือกการแสดงท่สี นใจ 1 การแสดง จากนัน้ ประดิษฐ์
อปุ กรณ์การแสดงจากวัสดุเหลอื ใชป้ ระกอบการแสดง แลว้ ฝกึ ซ้อมการแสดง จากน้นั นำมาแสดงหน้าชัน้ เรยี น และ
ร่วมกันบอกว่าแต่ละกลมุ่ เกดิ ปัญหาใดขณะทำการแสดงบา้ งและรว่ มกนั แกป้ ัญหาอย่างไร แล้วครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะ
กลุม่ นำการแสดงไปแสดงในงานโรงเรยี น
กิจกรรมรวบยอด
6. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้
การนำกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ อน่ื ๆ มาบรู ณาการกบั นาฏศิลป์เปน็ การเชอ่ื มโยงความรู้มาใช้
ในชีวิตประจำวนั และเป็นการสร้างสรรคน์ าฏศิลปใ์ หม้ ีการพัฒนาและมเี อกลักษณโ์ ดดเด่นมากขึ้น
7. ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดังน้ี
นกั เรียนจะนำความรจู้ ากกลุ่มสาระการเรียนร้ตู ่าง ๆ ไปบรู ณาการกับชวี ิตประจำวนั ของ
นกั เรยี นอยา่ งไร
8. ให้นักเรียนทำชิน้ งานที่ 13 เรอ่ื ง บรู ณาการนาฏศิลป์ไทยกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื
การวดั และประเมนิ ผล
1. วิธกี ารวดั และประเมินผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ
1.3 ตรวจช้นิ งานท่ี 13
2. เครอ่ื งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 147
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรงุ
การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมนิ ช้นิ งานที่ 13 ใหผ้ ู้สอนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
เร่อื ง บูรณาการนาฏศลิ ป์กบั กลุม่ สาระการเรียนรอู้ ื่นและบอกประโยชนข์ องการแสดงนาฏศิลป์ในชีวิตประจำวนั
เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
บูรณาการนาฏศลิ ป์ บูรณาการนาฏศิลป์ บรู ณาการนาฏศลิ ป์ บูรณาการนาฏศลิ ป์ บรู ณาการนาฏศิลป์
กบั กลมุ่ สาระการ กับกล่มุ สาระการ กบั กลุ่มสาระการ กับกลุ่มสาระการ กบั กล่มุ สาระการ
เรียนรอู้ นื่ และบอก เรียนรู้อน่ื และบอก เรยี นร้อู ่นื และบอก เรียนร้อู ่นื และบอก เรียนรู้อ่นื และบอก
ประโยชน์ของการ ประโยชน์ของการ ประโยชนข์ องการ ประโยชน์ของการ ประโยชนข์ องการ
แสดงนาฏศลิ ป์ใน แสดงนาฏศิลป์ใน แสดงนาฏศลิ ปใ์ น แสดงนาฏศิลป์ใน แสดงนาฏศิลป์ใน
ชวี ติ ประจำวัน ชีวิตประจำวันได้ ชวี ติ ประจำวันได้ ชวี ติ ประจำวันได้ ชีวิตประจำวนั ไดแ้ ต่ไม่
สัมพนั ธ์กนั มกี าร มกี ารจำแนกข้อมลู สอดคล้องกบั ข้อมลู สอดคลอ้ งกบั ข้อมลู
เชอ่ื มโยงให้เห็นเปน็ หรอื อธบิ ายให้เหน็ ถึง มีการเขยี น เขยี นตามข้อมูล ท่ีอา่ น
ภาพรวมแสดงให้เห็น ความสัมพนั ธ์ของ ขยายความและมีการ ไม่มีการอธบิ าย
ถึงความสัมพนั ธข์ อง ตนเองอยา่ ง ยกตัวอย่างเพม่ิ เติมให้ เพ่มิ เติม
ตนเองและผู้อนื่ เป็นเหตเุ ป็นผล เขา้ ใจงา่ ย
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 148
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 สรุปผลหลังการจดั การเรียนรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร้.ู .....................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..................
นักเรยี นนีไ่ ม่ผา่ น มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สัตยส์ ุจริต มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
...........................................................................
1.3 นักเรยี นมีความรเู้ กดิ ทักษะ (P) มีวินัย รักความเป็นไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
...........................................................................
1.4 นักเรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
.......................................................................................... การส่ือสาร
.......................................................................................... การคดิ
........................................................................... การแก้ปัญหา
การใช้ทักษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชือ่ ....................................................
(นางสาวพัชรมัย อินอ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบันทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 149
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ท่ีได้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นางสาวพชั รมัย อินอ่อน แล้วมีความเห็นดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2.การจดั กิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จริง
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................................
........................................................................................................................................
ลงช่อื .........................................................
( นางฉฐั อติพา แช่มชมดาว )
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวัดชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 150
ชอ่ื ______________________ นามสกุล_______________ เลขท_ี่ _____ ชนั้ ______ไ_ด.้ .....................
ให้ระบายคำตอบทีถ่ ูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกใหเ้ ต็มวง (ห้ามระบายนอกวง) คะแนน
1. ขอ้ ใดคือประโยชน์ที่ไดร้ ับจากการนำกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษามาบูรณาคกะาแรกนับนนเตาม็ฏศ1ลิ0ปค์ ะแนน
1 ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
2 ทำใหม้ ีหนา้ ตาสวยงาม
3 ทำใหม้ ีรูปร่างสวยงาม
4 ทำใหผ้ วิ พรรณดี
2. การนำรำกลองยาวไปแสดงในงานบวชเป็นการบูรณาการในด้านใด
1 การแสดงพ้ืนเมือง
2 วัฒนธรรมไทย
3 การละเลน่ ไทย
4 ประเพณไี ทย
3. ข้อใดเป็นการนำนาฏศลิ ป์ไปบรู ณาการได้ถกู ต้อง
1 แสดงฟ้อนเงย้ี วในงานศพ
2 แสดงรำอวยพรในงานวันเกดิ
3 แสดงบทบาทสมมุติในวันลอยกระทง
4 แสดงระบำไก่ประกอบเรื่องพระอภยั มณี
4. การเขียนชือ่ ตัวละครเปน็ ภาษาอังกฤษเปน็ การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรยี นร้ใู ด
1 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
2 วิทยาศาสตร์
3 ภาษาตา่ งประเทศ
4 ภาษาไทย
5. ข้อใดจบั คู่วธิ ีการบรู ณาการกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้ไม่ถูกต้อง
1 การออกแบบเครื่องแต่งกาย การงานอาชีพและเทคโนโลยี
2 การเคลอื่ นไหวทา่ ทางประกอบการแสดง คณิตศาสตร์
3 จดั ฉาก แสง เสียง วิทยาศาสตร์
4 แต่งบทประพันธ์ ภาษาไทย