The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มรดกวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ : Soft power เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

มรดกวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ : Soft power เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

มรดกวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ : Soft power เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

จังหวัดขอนแกน่ แลว้ พบพันธข์ุ า้ วเจ้าด้วยแต่ไม่มาก ต่อมาในยุคหลัง พ.ศ. 1000 รบั ศาสนาพราหมณ์-พุทธ จึง
ไดร้ บั พันธข์ุ า้ วเจ้าจากอนิ เดยี 104

ดังนั้นการทำนาจึงเป็นอาชีพหลักของคนไทยมาตั้งแต่โบราณกาล จึงเป็นวัฒนธรรมและเป็นวิถีชีวิต
ของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสามารถพัฒนาให้เกิด “การท่องเที่ยววิถีชาวนา” เพื่อสร้างรายได้เสริม
ให้กับชาวนาไทย และเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเรียนรู้ประสบการณ์จากการ
เดินทางท่องเทีย่ ว โดยอาศัยจุดขายของประเทศไทยทีม่ ีฐานทรัพยากรของชุมชนทีห่ ลากหลาย นอกจากนี้ไทย
ยังมีข้าวหลายสายพันธุ์รวมถึงข้าวพันธุ์พื้นเมืองต่าง ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถ่ิน
เช่นเดียวกบั ประเทศอ่ืน ๆ ในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้

การวิจัยเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเท่ียววิถชี าวนาในภาคต่าง ๆ กับเมืองเที่ยวหลักในประเทศไทย
และในประเทศอินโดจีน นับเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์ พัฒนาการตลาดการท่องเที่ยววิถีชาวนา และ
ช่วยยกระดับการท่องเที่ยวในเมืองรองตามนโยบายของรัฐบาล การท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้วิถีชาวนาจึงเป็นการ
ท่องเทยี่ วเลือกที่มีแตกตา่ งจากการท่องเท่ียวจากกระแสหลัก ซงึ่ อาศยั ทุนทางธรรมชาติ สังคมและวัฒนธรรมที่
มีอยู่ภายในชมุ ชนมาเปลย่ี นเปน็ สนิ ค้าดา้ นการทอ่ งเทยี่ วโดยอาศยั กระบวนการมสี ่วนร่วมของผู้คนที่มอี ยู่ภายใน
ชุมชน ร่วมจัดการทรัพยากรร่วมกันและแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างเสมอภาค ซึ่งเป็นรูปแบบของการ
ท่องเที่ยวทางเลือกที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันที่ต้องการประสบการณ์
(local experience) และความรู้จากการเดินทางท่องเที่ยวนอกจากความสุนทรียภาพอื่นที่ได้รับระหว่างการ
เดินทาง ซึ่งการท่องเที่ยววิถีชาวนาได้ช่วยพัฒนาบุคลากรในชุมชนให้มีศักยภาพให้สามารถบริหารจัดการ
ทรพั ยากรท่มี อี ยู่ในชุมชนตนเองได้ รวมถงึ เป็นรปู แบบการท่องเทีย่ วทเ่ี ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม สรา้ งความย่ังยืน
ให้กับทรัพยากร นอกจากน้ีการท่องเที่ยววิถีชาวนายังเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจรายสาขาที่ถือว่าเป็นหน่วย
เล็กทสี่ ดุ แต่ใหป้ ระสิทธิภาพสงู สดุ ท้ังในดา้ นของการใช้ทรัพยากร การแบ่งปนั ผลประโยชนอ์ ยา่ งเปน็ ธรรม และ
เป็นการจัดการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หากมีการจัดการได้ดีและเป็นระบบสามารถยกระดับ
คุณภาพชวี ิตของผู้คนในชุมชนไดแ้ ละเปน็ การเพิม่ รายไดใ้ ห้กับชมุ ชนอย่างยง่ั ยืน

การเพิ่มมูลค่าจากคุณค่าของการทำนาโดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ จึงเป็นรูปแบบของการ
จัดการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์การพัฒนา
ประเทศ 20 ปี เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งในด้านของทรัพยากรทางธรรมชาติ ทรัพยากร
มนษุ ย์ ยกระดบั คุณภาพชวี ิตของผู้คนในประเทศเพ่ือกา้ วผ่านกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางเป็นประเทศที่
มรี ายได้สูง ซึ่งการทอ่ งเทยี่ วโดยชุมชนเป็นทางเลอื กหนงึ่ ที่สามารถนำพาประเทศส่คู วามมนั่ คง มงั่ คั่ง และย่ังยืน
ได1้ 05

สำหรับการเพาะปลูกขา้ วในอนาคตของประเทศไทยนั้น ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขามูลนิธิชัยพัฒนา
ได้กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเวทีข้าวไทยในปี 2563 ว่าในยุค Disruption การปลูกข้าว
จะทำแบบเดิมไม่ได้ การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องสำคัญ ดังที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ตรัสวา่ เราจะตอ้ งรเู้ ท่าทันโลกาภิวัตน์ และเตรียมตวั ใหท้ ันตอ่ การ
เปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมติ ิ ในอนาคตขา้ งหน้าตอ้ งแสวงหาทางออกของปญั หา ดงั นนั้ อนาคตขา้ วของไทยจึง

104 สจุ ติ ต์ วงษ์เทศ: “วฒั นธรรมร่วม” ในอษุ าคเนย์ รากเหง้าเก่าแกข่ องประชาคมอาเซยี น. เว็บไซต์ประชาไท 23 สงิ หาคม 2555.
105 รายงาน การพฒั นาการทอ่ งเทย่ี ววถิ ีชาวนาไทย เพอื่ ตลาดการท่องเท่ยี วระดับโลก. ปณต ประคองทรัพย์ สมาคมไทยแท่องเที่ยวอยา่ งรับผดิ ชอบ
และคณะ. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย ฝ่ายงานวจิ ยั เพอื่ ทอ้ งถ่ิน.

P a g e | 247

ตอ้ งมคี วามสามัคคีร่วมมือรว่ มใจกันทั้งถาครัฐ เอกชน และวชิ าการ อยบู่ นความร้แู ละมีความรักเป็นตัวผลักดัน
ในการหาทางออกร่วมกนั บนฐานของประโยชนส์ ุขของประชาชน106

2. สมุนไพร
สมุนไพรไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานควบคู่กับสังคมไทย ดังจะเห็นเป็นส่วนประกอบ
ในอาหารคาวหวาน เปน็ ยารักษาโรค ใช้ในการดแู ลสุขภาพและยาอายวุ ฒั นะ กระทัง่ การเสริมความงาม ซึ่งภูมิ
ปัญญาเหล่านี้ได้รับการสั่งสม สืบทอดและพัฒนาต่อเนื่อง สร้างคุณค่าและมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทยจนถึง
ปัจจุบัน จนอาจกล่าวได้ว่าผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยคือที่สุดแห่งภูมิปัญญาไทย กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์
ส่งออกสำคัญของประเทศ ด้วยความพร้อมทางด้านต้นทุนการผลิต ได้แก่ ภูมิประเทศ วัตถุดิบ กระบวนการ
ผลิต รวมถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยและช่องทางการตลาดท้ังในและต่างประเทศ จึงควร
คา่ แก่การส่งเสริมใหเ้ กดิ การพฒั นาสมนุ ไพรไทยสู่สากลตลอดท้งั ห่วงโซ่ ตง้ั แตต่ ้นทาง กลางทาง และปลายทาง
เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของภูมิภาค
อาเซียน และมูลค่าของวัตถุดบิ สมุนไพรและผลิตภัณฑส์ มนุ ไพรภายในประเทศเพิ่มขึ้น107 ตามยุทธศาสตร์ของ
แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยสมุนไพรไทยและโมเดลเศรษฐกิจ BCG รวมถึงแผนด้าน ววน. พ.ศ. 2566-2570
ยุทธศาสตร์ท่ี 1 การพฒั นาเศรษฐกจิ ไทยดว้ ยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ ใหม้ คี วามสามารถ
ในการแขง่ ขนั และพึ่งพาตนเองได้อย่างย่ังยืน พร้อมสู่อนาคต โดยใช้วทิ ยาศาสตร์ การวจิ ัยและนวตั กรรม โดย
มีประเด็นด้านสุขภาพและการแพทย์ เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่มุ่งให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มผู้นำของโลก
หรือภูมิภาค โดยมีผลลัพธ์สำคัญคือ ประเทศไทยมีมูลค่าทางเศรษฐกิจของยา สารสกัดจากสมุนไพร และ
เครือ่ งมอื แพทย์ ตามแนวทางของระบบเศรษฐกิจ BCG เพม่ิ มากข้นึ อย่างมีนัยสำคญั 108
สมนุ ไพรเปา้ หมายที่ ววน. ควรมุง่ เน้น
ขอ้ เสนอเกย่ี วกบั งานวจิ ัยและพฒั นาดา้ นสมนุ ไพร ประกอบดว้ ย
กลุม่ ที่ 1 สมุนไพรเปา้ หมายจากการมุง่ เนน้ ของคณะกรรมการทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั สมุนไพร ได้แก่ ฟ้าทะลาย
โจร กระชายดำ กญั ชา กัญชง และกระท่อม
กลุ่มที่ 2 สมุนไพรเปา้ หมายที่มาจาก Products Champions ไดแ้ ก่ ขมิ้นชนั บัวบก ไพล
กลุ่มที่ 3 สมุนไพรเป้าหมายอ่ืน ๆ อาทิ กระชาย มะขา้ มป้อม หญา้ หวาน ขิง พรมมิ ฯลฯ
โดยในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 จะสนับสนุนงบประมาณด้านการวจิ ัยและพัฒนาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
ขณะท่กี ลุ่มที่ 3 สนบั สนนุ งบประมาณไม่เกนิ รอ้ ยละ 20109
บทบาทหน้าทขี่ องหนว่ ยบริหารและจัดการทุนดา้ นสมนุ ไพร
1. ประเดน็ วจิ ยั และพัฒนา
งานต้นน้ำ ได้แก่ การพัฒนาวัตถุดิบสมุนไพรที่มีปริมาณสารสำคัญสูง เช่น ระบบการปลูกที่มี
เสถียรภาพ ส่งเสริมการปลุกในพื้นที่ที่เหมาะสม การพัฒนาสายพันธุ์ การจัดการวัตถุดิบสู่ผู้ผลิตกลางน้ำ เช่น
การรบั ซื้อ การรกั ษาคุณภาพ รวมถึงการพยากรณ์ผลผลิต
งานกลางน้ำ ได้แก่ ยาแผนไทย Functional food and drink สมุนไพรเสริมสุขภาพ เครื่องสำอาง
สารสกัดทางยา และยาสมุนไพร

106 ข่าวดร.สุเมธแนะหาทางออกอนาคตข้าวไทย. การประชุมเวทีขา้ วไทย ปี 2563 “อนาคตข้าว-อนาคตไทย”. เวบ็ ไซต์สำนักงานคณะกรรมการ
ส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม 18 ธันวาคม 2563.
107 แผนแม่บทแหง่ ชาตวิ ่าดว้ ยการพัฒนาสมนุ ไพรไทย ฉบับท่ี 1 พ.ศ. 2560-2564.
108 (รา่ ง) แผนดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม พ.ศ. 2566-2570 ฉบับเสนอสำนกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ
109 การประชมุ หารอื เรอ่ื ง “การบริหารจัดการทนุ ของหนว่ ยบรหิ ารและจดั การทนุ กล่มุ สมุนไพร ครงั้ ที่ 3/2564” วนั ท่ี 29 พฤศจกิ ายน 2564.

P a g e | 248

งานปลายน้ำ ได้แก่ การพัฒนาตลาดและระบบรองรับ อาทิ พัฒนาตลาด/ระบบรองรับให้มีความ
ยั่งยืนเพื่อรักษาต้นน้ำและกลางน้ำไว้ได้ สร้างการรับรู้ของผู้บริโภค เช่น จดสิทธิบัตร การขึ้นทะเบียน
นอกจากนี้ยังมีการประเมินต้นทุนและกำหนดราคาออกสู่ตลาด การพัฒนาให้เกิดการตรวจสอบย้ อนกลับ
แพลตฟอรม์ การตรวจสอบยอ้ นกลบั การพัฒนาให้แขง่ ขนั ไดแ้ ละตอบโจทยค์ ุณภาพชีวติ ประชาชน

2. มาตรฐาน
งานต้นนำ้ ได้แก่ การปฏบิ ตั ิทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) มาตรฐานการ
ปลูกและการเก็บรวบรวมที่ดีของพืชสมุนไพร Good Agricultural and Collection Practices (GACP)
มาตรฐานเกษตรอินทรยี ์ (Organic Thailand)
งานกลางนำ้ ไดแ้ ก่ การปฏบิ ตั ิที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice: GMP) ระบบ
คุณภาพทชี่ ว่ ยจดั การห้องปฏิบัตกิ ารใหม้ ีมาตรฐาน (Good Laboratory Practice: GLP) ขอ้ กำหนดอนุสัญญา
ระหว่างประเทศ ด้านการตรวจประเมินยาแห่งสหภาพยุโรป (Pharmaceutical Inspection Convention
and Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme: PIC/S)
งานปลายน้ำ ได้แก่ การขน้ึ ทะเบยี นตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑส์ มุนไพร การประกาศในบัญชยี าหลกั
3. ผลผลิต
งานตน้ นำ้ ไดแ้ ก่ วัตถุดิบคุณภาพสงู พรอ้ มสง่ ต่อยังกระบวนการข้ันตอ่ ไป
งานกลางนำ้ ไดแ้ ก่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรทีไ่ ด้มาตรฐาน
ทั้งนี้ ให้มีการจดั กลุม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรระหวา่ งแผนงาน BCG เกษตรและอาหาร และแผนงาน BCG
การแพทย์และสุขภาพ โดยแผนงาน BCG เกษตรและอาหารจะต้องพัฒนากระบวนการผลิต กระบวนการ
ตลาด และผลิตภัณฑจ์ ากพืชและสัตว์เศรษฐกจิ หลกั ของประเทศตลอดห่วงโซค่ ุณค่า เพื่อเพิ่มมูลค่าและรายได้
ของประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์เศรษฐกิจหลักที่เป็นความ
มั่นคงด้านอาหาร หรือการส่งออกหลักของประเทศ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 20) ขณะที่แผนงาน BCG การแพทย์และ
สุขภาพ ต้องพัฒนาและผลิตยา สารสกัดจากสมุนไพรที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้เกิด
รายได้จากการขายยา สารสกัดสมุนไพรที่พัฒนาและผลิตโดยประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ต่อปี เช่น ยาที่
พฒั นาจากสมุนไพร และสารสกัดสมนุ ไพร (Medical grade)

การวิเคราะห์ผลิตภัณฑเ์ ปา้ หมายจากสมุนไพรทีม่ ีมูลคา่ สงู
Non-medical grade ได้แก่ ยาแผนไทย functional food and drink สมุนไพรเสริมสุขภาพ และ
เคร่อื งสำอาง ขณะที่ Medical grade ไดแ้ ก่ ยาสมุนไพร และสารสกดั ทางยา

P a g e | 249

นอกจากนี้สมุนไพรยังสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของ
การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ
ตามยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี ด้านการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขนั ยทุ ธศาสตร์ท่ี 4 กระต้นุ แรงจงู ใจการ
ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงามและการแพทย์แผนไทย และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น
การท่องเที่ยว 5 แผนย่อยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงามและแพทย์แผนไทย ตัวอย่างเช่น สมุนไพร
และกัญชาสเู่ ส้นทางการทอ่ งเทยี่ ว การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สุขภาพดา้ นสมุนไพร ดงั นน้ั อว.จงึ ต้องมีบทบาทในการเป็น
ส่วนหน่งึ ของการพัฒนาความรเู้ พอื่ สร้างมาตรฐานและการยอมรบั ในระบบสขุ ภาพของประเทศ110

3. การแพทย์พื้นบา้ น และการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
แม้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์จะรุดหน้า แต่ก็ส่งผลกระทบด้าน
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพที่สูงขึ้น อีกทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีเพียงพอที่จะนำพาไปสู่มีการมี
สุขภาพดีทั่วหน้าและทั่วโลกได้ จึงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากการแพทย์พื้นบ้านเพื่อช่วยให้สามารถบรรลุ
การมีสุขภาพดีทั่วหน้า ดังนั้นเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคต่าง ๆ จะต้องฟื้นฟูภูมิปัญญาของคน
ท้องถ่นิ ในการดูแลรักษาโรค
การแพทย์พื้นบ้านถือเป็นระบบวัฒนธรรมในการจัดการดูแลรักษาสุขภาพแบบพื้นบ้านที่มีการเรียนรู้
โดยอาศัยรากฐานประสบการณ์ ความเชื่อดั้งเดิมและคำสอนของศาสนาเป็นหลัก จึงมีเอกลักษณ์ของแต่ละ
ท้องถิ่น และมีวิวัฒนาการเป็นไปตามบริบทของตัวเอง จึงควรส่งเสริมให้เผยแพร่และขยายองค์ความรู้อย่าง
กว้างขวาง เพราะการแพทย์พื้นบ้านเป็นศาสตร์ที่รวมสหสาขาวิชาการ ไม่ติดอยู่กับสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง
แบบตายตัว การยกระดับการแพทย์พื้นบ้านจึงเป็นการเปิดโอกาสและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักวิจัยคนอี่น ๆ
ที่จะทำงานเพื่อผลักดันงานวิจัยให้ลงสู่สังคมได้โดยตรง รวมถึงการทำหน้าท่ีเป็น “ตัวกลาง” เพราะความรู้
มีหลายระบบทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทำให้เกิดการก้าวข้ามอคติและยอมรับภูมิปัญญาทาง
การแพทย์แบบด้ังเดิมของแต่ละท้องถิ่นท่ีมีมาแต่โบราณ

110 การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือกกบั การท่องเทยี่ วเชิงสุขภาพ เสรมิ รายไดเ้ ขา้ ส่ปู ระเทศ. พญ.อัมพร เบญจพลพทิ ักษ์ อธิบบดีกรมการ
แพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก.

P a g e | 250

เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุข ที่มุ่ง “เป็น
องค์กรด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อการพึ่งตนเองด้านสุขภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจ
อย่างยั่งยืน” ซึ่งมีพันธกิจในการพัฒนาวิชาการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยคุ้มครอง
อนุรักษ์และส่งเสริมภมู ิปญั ญาการแพทย์แผนไทย ส่งเสริมและพัฒนาการจัดระบบความรู้ และสร้างมาตรฐาน
ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้ทัดเทียมกับการแพทย์แผนปัจจุบันและนำไปใช้ในระบบ
สขุ ภาพอยา่ งมีคุณภาพและปลอดภยั เพือ่ เป็นทางเลือกแก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพ111 รวมถงึ ยุทธศาสตร์
การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (MEDICAL HUB) (พ.ศ.2560-2569)
ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาบริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบริการ
รักษาพยาบาลด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้มีความเป็นเลิศ โดดเด่น มีเอกลักษณ์ อัต
ลักษณ์ ตามภูมิปัญญาไทย วิถีชีวิต มีมูลค่าเพิ่ม มีชื่อเสียงในระดับโลก โดยมีเป้าหมาย 1. พัฒนาการแพทย์
แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ให้มีคุณภาพมาตรฐานสู่ระดับสากล และมีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
รองรับ 2. ประเทศไทยมีสถานบริการสุขภาพที่ให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่
ผ่านการรับประกันคุณภาพและมาตรฐานจนสามารถเป็นบริการรักษาพยาบาลหลักของประเทศ จึงมีความ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้การสนับสนุนงานวิจัยด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกอย่างเป็น
ระบบ112

รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวง
สาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ควรร่วมกันรวบรวมภูมิปัญญาและ
จัดทำฐานข้อมูลด้านการแพทย์พ้ืนบ้าน การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการ
จัดการความรู้ด้านการแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนไทยและแผนทางเลือก นำความรู้เดิมมาผ่านการปฏิบัติ
และตีความด้วยทฤษฎีสมัยใหม่เพื่อพิสูจน์ผล ยกระดับความรู้เดิม ตลอดจนการพัฒนาบุคลากร เสริมสร้าง
ความเชี่ยวชาญของนักวิจัยรองรบั การวิจัยและพัฒนาเพ่ือยกระดบั การแพทย์พืน้ บ้าน การแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือก ตลอดจนการได้มาซึ่งผลงานวิจัยที่ได้มาตรฐานและตอบสนองต่อความต้องการระดับ
นโยบายท่ีมีผลต่อการขับเคลื่อนระบบสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ สร้างสถาบัน เช่น วิทยาลัย
การแพทย์พื้นบ้าน การจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น เช่น ชนเผ่าต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นใน
โรงเรียนท้ังในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรี โท เอก ท่ีเปิด
สอนด้านการแพทย์และการแพทย์ทางเลือก รวมถึงการต่อยอดการแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือก เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ นอกจากนี้ยังต้องบูรณาการร่วมกับ
นักวิชาการด้านสมุนไพรไทยและสมุนไพรพื้นบ้าน เพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบในการดูแล ป้องกันและ
รักษาโรคตามแบบฉบับของการแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกด้วย

นอกจากน้ียังควรร่วมมือกับกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ความงามและแพทย์แผนไทย เพื่อให้ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขับเคลื่อนการนวดไทยเพื่อสร้าง
อาชีพและรายได้ ดังนั้นจึงต้องเร่งการพัฒนารูปแบบบริการสุขภาพและบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพให้มีขีด
ความสามารถในการแข่งขัน ประกอบด้วย บริการดึงดูดชาวต่างชาติ ได้แก่ ด้านการบริการรักษาพยาบาล
Wellness และบริการเพื่อส่งเสริมคุณภาพ เช่น สปาเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อสุขภาพ สอดคล้องกับแผน
แม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการท่องเที่ยว 5 แผนย่อยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงาม

111 แผนยุทธศาสตร์ชาตริ ะยะ 20 ปดี ้านสาธารณสขุ . กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.
112 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทย ใหเ้ ปน็ ศูนย์กลางสขุ ภาพนานาชาติ (MEDICAL HUB) (พ.ศ.2560 - 2569) กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ
กระทรวงสาธารณสขุ .

P a g e | 251

และแพทย์แผนไทย ซ่ึงจำเป็นต้องพัฒนาและยกระดับมาตรฐาน การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ ความงาม และ
แพทย์แผนไทย รวมถึงการใช้องค์ความรู้และภูมิปัญญาไทย พัฒนาต่อยอดกับความคิดสร้างสร รค์
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับจุดเด่นของการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ของประเทศไทย ซึ่งให้บริการท่ีมีคุณภาพ โดยในอนาคต อว.จะร่วมขับเคลื่อนสู่การยกระดับการพึ่งตนเอง
ด้านสุขภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจให้ยั่งยืน โดยการเสริมความรู้การแพทย์ทางเลือกและยกระดับ
Wellness พร้อมกับยกการนวดแผนไทยเป็นมรดกโลก การเพิ่มพูนทักษะความเช่ียวชาญ เพ่ิมมูลค่าบริการ
ครอบคลุมมิตป้องกัน ส่งเสริม รักษา ฟื้นฟู และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการ
นวดไทยของโลก (on site/on line) อัตลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก113

4. การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรา้ งสรรค์
ประเทศไทยเป็นศนู ยก์ ลางภูมริ ฐั ศาสตรข์ องเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ และมศี ักยภาพดานการทองเท่ียว
สูงมาก ดวยทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มีประชากรที่เป็น
กลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าต่าง ๆ จำนวนมาก จึงนับวามีโอกาสสูงที่จะพัฒนาใหเปนแหลงทองเที่ยวเชิงสราง
สรรคของประชาคมอาเซียน ทั้งการทองเที่ยวเชิงนิเวศ การทองเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ การทองเที่ยวเชิง
วัฒนธรรม การทองเที่ยวเชิงชาติพันธุ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวชายแดน และการท่องเที่ยว
ทางเลือก ที่จะสามารถดึงดูดนักทองเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวตางชาติทัง้ ในภูมภิ าคอาเซียนและภูมิภาคตาง ๆ
ของโลกให้เดินทางเขามาท่องเที่ยวและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ทั้งยังสามารถผสมผสานอัตลักษณของกลุ่ม
ชาติพันธุ์และชนเผ่าที่โดดเด่นทั้งเรื่องอาหาร ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ มาประกอบการบริหารจัดการ
ทอ่ งเทย่ี วให้มีความแตกต่างจากประเทศอ่ืนได้
เพื่อให้สอดคล้องกับแผนด้าน ววน. พ.ศ. 2566-2570 ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วย
เศรษฐกิจสร้างคณุ ค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มีความสามารถในการแข่งขนั และพึ่งพาตนเองไดอ้ ย่างยั่งยืน
พร้อมสู่อนาคต โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม ที่มุ่งให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มผู้นำของโลกหรือ
ภูมิภาคในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมีผลลัพธ์สำคัญ คือ มีนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่มาท่องเที่ยวในประเทศ
ไทยท่มี าเยอื นซำ้ มสี ัดส่วนสงู ขึน้ อย่างมนี ัยสำคญั และมีมูลค่าทางเศรษฐกจิ สร้างคุณคา่ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ด้านการท่องเที่ยวคุณภาพที่มุ่งเน้นคุณค่า การสร้างสรรค์ และความย่ังยืน ตามแนวทางของระบบเศรษฐกิจ
BCG สูงข้นึ อย่างมนี ัยสำคัญ114 หนว่ ยงานที่เก่ยี วข้องท้งั ภาครฐั ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม และภาควิชาการ
จะต้องร่วมกันพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว และออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวให้หลากหลายและโดดเด่น
ตามความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าช่วย อาทิ การเก็บ
รวบรวมข้อมลู ผ่าน Big data เพอ่ื ให้หน่วยงานท่เี ก่ียวข้องนำมาประกอบการวางแผนยทุ ธศาสตร์ โดยเชื่อมโยง
กบั แผนของจงั หวดั และชุมชนทอ้ งถ่ินแต่ละแหง่
ขณะที่แต่ละท้องถิ่นควรจะต้องพัฒนาเรื่องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการต่าง ๆ ให้เพิ่ม
มูลค่าและคุณค่า ซึ่งจะต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ในการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ การ
ออกแบบและพัฒนาสินค้า ของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น
ผลิตภัณฑ์สปาจากสมุนไพรไทยและสมุนไพรท้องถิ่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารหรือจัดทำสำรับอาหารที่มี
หน้าตาสวยงาม มีคุณค่าทางโภชนา ไปพร้อมกับรสชาติที่อร่อย ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยองค์ความรู้จากงานวิจัย

113 การแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือกกับการท่องเท่ยี วเชงิ สขุ ภาพ เสรมิ รายไดเ้ ข้าสปู่ ระเทศ. พญ.อมั พร เบญจพลพิทักษ์ อธิบบดกี รมการ
แพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก.
114 (ร่าง) แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม พ.ศ. 2566-2570 ฉบับเสนอสำนักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาต.ิ

P a g e | 252

เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รักสุขภาพหรือนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยซึ่งมี
แนวโนม้ เพมิ่ ขึ้นในอนาคต

นอกจากน้ีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนยังมีความท้าทายใหม่ในการร่วมกันบริหารจัดการและสราง
สรรคกิจกรรมการทองเที่ยวร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค เพื่อตอบสนองตอการเปนฐานการผลิต
เดียวกันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงการพัฒนาสมรรถนะผูประกอบการและองคกรชุมชนดานการท
องเที่ยวตามมาตรฐานอาเซียนและวิถีใหม่ (new normal) หลังวิกฤตโควิด-19 อีกด้วย เพื่อรองรับการ
ขยายตวั ดานเศรษฐกิจ การคมนาคมขนสง่ และการทองเท่ียวชายแดนในบริบทอาเซยี น ซ่ึงจะขยายตวั ตามเขต
พฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษที่รัฐบาลกำหนดเป็นนโยบายสำคญั ของการพัฒนาประเทศ ยกตัวอย่างเชน่

- เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ซึ่งเชื่อมต่อ
เส้นทางระเบียงเศรษฐกจิ ตะวันออก-ตะวนั ตก สามารถขยาย
มูลค่าทางธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แหล่ง
ทอ่ งเทีย่ วน่าสนใจ สนิ ค้า การบริการ115

- แผนความร่วมมือเชื่อมโยงการค้า การลงทุน
โลจิสติกส์ การท่องเที่ยวและไมซ์ ระเบียงเศรษฐกิจชายฝั่ง
ด้านใต้ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด
ของไทย จังหวัดเกาะกง-สีหนุวิลล์-กัมปอต-แกป ของ
กัมพูชา และจังหวัดเกียนยาง-กาเมา ของเวียดนาม ซึ่ง
สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่เขตเศรษฐกิจสำคัญอย่าง
โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และพื้นที่
เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จังหวัดตราด (เอสอี
แซท) พร้อมทั้งยังพัฒนาให้เชื่อมโยงกับ Belt and Road
Initiative (BRI) ของจีน โดยเฉพาะเส้นทางสายไหมทาง
ทะเล และยังส่งผลถึงกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดน อัน
จะนำไปสู่การขยายผลความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
โดยเฉพาะการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการ
บริการ ด้วยการเปลี่ยนธุรกิจภาคบริการแบบดั้งเดิมเป็น
High Value Services ยกระดับธุรกิจบริการที่มีศักยภาพ
มาสู่ธุรกิจที่มีมูลค่าสูงขึ้นด้วย creative economy และนำร่องด้านการท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างการผลักดัน
คือ การเปิดเส้นทางเดินเรือเพ่ือการท่องเที่ยวชายฝั่งระหว่างสามประเทศ116

ทั้งนี้ ศ. ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ผู้อำนวยการสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กล่าวถงึ ฉากทัศน์การท่องเท่ียวไทยหลงั โควิด-19 วา่ การทอ่ งเท่ียวไทยจะไปต่อได้จะต้องมียุทธศาสตร์ที่ตอบรับ
ได้ทุกฉากทัศน์และทุกสถานการณ์ โดยล้อตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของประเทศ ประกอบด้วย 1)
เศรษฐกิจดิจิทัลและการใช้จ่ายออนไลน์ 2) เศรษฐกิจสีเขียวตามแนวทางของ BCG 3) การท่องเที่ยวที่มีความ
ปลอดภัยและมีสุขอนามัยท่ีดี 4) เศรษฐกิจชุมชนที่มีอัตลักษณ์และฐานราก 4) เพิ่มมูลค่าและมาตรฐาน โดย

115 รูปแบบการท่องเทยี่ วเชงิ ธุรกจิ การค้าชายแดน: เขตพฒั นาเศรษฐกจิ พเิ ศษตาก. สริ ิพรรณ สุขใยพฒั นา สาขาวชิ าการจดั การ มหาวทิ ยาลัยสยาม.
วารสารสงั คมศาสตร์วชิ าการ. ปีท่ี 12 ฉบบั ท่ี 2(2019): พฤษภาคม-สงิ หาคม 2562.
116 ขา่ ว ‘ระเบยี งเศรษฐกจิ ’ แหง่ ใหม่ เช่ือมออี ซี ี-กัมพชู า-เวยี ดนาม. เวบ็ ไซตก์ รงุ เทพธุรกจิ 31 ตลุ าคม 2563.
https://www.bangkokbiznews.com/news/905421

P a g e | 253

การท่องเที่ยวไทยจะต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ (New normal) จะต้องปรับฐานรากให้เป็นเศรษฐกิจ
ดิจิทัล เพิ่มเสาเข็มโดยบูรณาการกับเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจการผลิต และเศรษฐกิจสร้างสรรค์เข้าไว้
ด้วยกัน ตลอดจนบูรณาการสินค้าและบริการแบบขายพ่วงที่สามารถขายได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ใช่แค่ในประเทศ
ไทยเท่านั้น โดยการสร้างฉากทัศน์ระยะยาวมีปัจจัยขับเคลื่อนที่มีความสำคัญมาก ได้แก่ การกระจุกตัวเชิง
พื้นที่ของเมืองหลักและเมืองรอง รวมทั้งเศรษฐกิจเชิงเดี่ยวและเชิงหลากหลาย ซึ่งรูปแบบเศรษฐกิจท่องเทีย่ ว
ในอนาคตจะเปลี่ยนรูปแบบการผลิตจากการผลิตจำนวนมากไปเป็นการผลิตที่มีความหลากหลายตามความ
ต้องการของลูกค้า และเพิ่มโอกาสโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเปิดพื้นที่ใหม่ ขณะท่ีฉากทัศน์ระยะยาวของ
การท่องเที่ยวในมหานครกรุงเทพ เมืองหลวงของประเทศไทยนั้น จะต้องปรับระบบนิเทศการท่องเที่ยว
เน่อื งจากตกอยู่ในความเสี่ยงท่จี ะเกดิ อทุ กภัยใน 4 รูปแบบ ได้แก่ กรุงเทพฯ ไร้นำ้ ท่วม (ไมม่ ีนำ้ ท่วม) กรุงเทพฯ
เหมือนปัจจุบัน (น้ำท่วมระดับต่ำถึงสูง) กรุงเทพฯ ครึ่งบกครึ่งน้ำ (น้ำท่วมระดับสูงถึงรุนแรงมาก) และ
กรุงเทพฯ ใตบ้ าดาล (นำ้ ทว่ มระดบั วิกฤต)

ยุทธศาสตร์การทอ่ งเที่ยวทีแ่ ข็งแกรง่ จะต้องปรบั โครงสร้างใหม่ใหม้ ีความหลากหลาย เปลี่ยนผ่านไปสู่
ดจิ ทิ ัล สรา้ งหรือปรับแบรนด์ใหมใ่ ห้เป็นทจ่ี ดจำ ดำเนินการพว่ งกับเศรษฐกิจฐานรากโดยมีมหาวิทยาลัยวิจัยใน
พื้นที่ช่วยออกแบบของที่ระลึกให้มีความน่าสนใจ กำหนดมาตรฐานของสปาและมวยไทย รวมถึงการทูตด้าน
การท่องเที่ยว โดยปัจจุบันประเทศจีนเริ่มใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวต่อรองระหว่างประเทศ ดังนั้นประเทศไทย
จะต้องมีโอกาสในการเจรจาระดับสูงได้ สำหรับแนวทางหลักของยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวต่อจากน้ีไปจะต้อง
เป็นการผลิตสินค้าที่ยังมีปริมาณมากแต่สามารถจัดกลุ่มเฉพาะตามบุคลักษณ์ (persona) ของผู้บริโภค และ
มองการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจแพลตฟอร์มที่เน้นการใช้ข้อมูล เกิดดิจิทัลภิวัตน์ในทุกส่วนของห่วงโซ่มูลค่าและ
เส้นทางผ้บู รโิ ภค รวมถึงการใช้ soft power ให้เหมาะสมกับกลมุ่ ลูกค้า เกดิ พลงั และคณุ ภาพ โดยจะตอ้ งเข้าใจ
ให้เกียรติคุณค่าเดิมหรอื อัตลักษณ์เดิม และเติมมูลค่า พร้อมทั้งรู้จักต่อยอด soft power เช่น พรีเมียร์ลีกมวย
ไทย (บุรีรัมย์) ศูนย์กลางอาหารมังสวริ ตั ิ (เชียงใหม)่ ใช้มืออาชีพเพื่อให้เป็นจดุ เด่น เช่น ดิสนีย์แลนดท์ ี่มีรถเขา้
ได้ 5 หมื่นคัน/วัน การเป็น Digital currency center มกี องทนุ ฟ้ืนฟูในลักษณะของ BCG รักษ์โลก เชน่ การมี
ส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อม การทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากขึ้น ใช้ดิจิทัลมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างย่ิงการพฒั นาแอปพลเิ คชนั “เป๋าตังค์” ให้เป็นฐานการพาณิชย์อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-commerce
base) ของประเทศ เนื่องจากมีระบบจ่ายเงินอยู่แล้วแต่ทำอย่างไรจะไม่ถูกล้วงข้อมูล นอกจากนี้ยังต้องเสริม
พลังให้เอสเอ็มอีและชุมชนท่องเที่ยว หากต้องการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่หลากหลาย รวมถึงการใช้ข้อมูลเพื่อ
สรา้ งความสามารถในการแข่งขันในอนาคต117

5. งานวจิ ัยดา้ นสงั คมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์และศลิ ปกรรมศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ ง
นอกเหนือจาก 5 ประเด็นมุ่งเป้าสำคัญของธัชชาที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ยังมีประเด็นอื่น ๆ ท่ี
น่าสนใจ ซึ่ง ววน. ควรจะต้องสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนือ่ ง เพื่อให้มีองค์ความรู้และข้อมูลต่าง ๆ
ที่เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของคนไทย สร้างโอกาสให้คนไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่
ตอบสนองตอ่ โจทย์ทา้ ทายในอนาคต รวมถงึ การสง่ เสริมให้เกดิ การนำไปใชป้ ระโยชนอ์ ย่างเป็นรปู ธรรม ไดแ้ ก่
5.1 การจดั ระบบความร้สู งั คมศาสตร์

117 ฉากทศั น์อนาคต (Future Scenarios) การท่องเทีย่ วไทยหลังโควิด-19 โดย ศ. ดร.ม่งิ สรรพ์ ขาวสอาด. การประชุมเสวนาครงั้ ท่ี 1 ภาพอนาคต
ในภาพ ววน. ดา้ นทอ่ งเทีย่ วและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใตโ้ ครงการ การจดั การความรูแ้ ละบรู ณาการประเดน็ เชงิ ยทุ ธศาสตร์ เพือ่ พัฒนา
วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (ววน.) ดา้ นทอ่ งเทย่ี วและเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ของประเทศ. สำนกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วิจยั
และนวัตกรรม หนว่ ยบริหารและจดั การทนุ ดา้ นการเพ่มิ ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ วนั ท่ี 18 มกราคม 2565.

P a g e | 254

- การจัดโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กิจกรรมพื้นฐาน ได้แก่ กระบวนการผลิตความรู้
ไหลเวียนความรู้ และนำความรูไ้ ปสู่การใชป้ ระโยชน์ ตอ่ ยอดไปส่กู ารทำงานท่ที ้ายทายข้ึนได้ โดยไม่จำเป็นต้อง
รวมศูนย์ในองค์กรเดียว แต่อาจกระจายไปในหลายองค์กรในหลายระดับ และจะต้องมีการทบทวนหลักสูตร
และการเรียนการสอนสหวิทยาการ เชื่อมโยงกับปัญหาจริง และการเสริมทักษะใหม่ ในเชิงปฏิสัมพันธ์
(interactive) และความเป็นมนุษย์ที่รอบด้าน ความเป็นพลโลก ก็สำคัญมากขึ้นไม่แพ้ความเป็นวิชาการ โดย
ควรสนับสนุนเครือข่าย/สมาคมวิชาการในประเทศและระดับสากล การสนับสนุนการประชุมวิชาการ เพื่อให้
เกิดความต่อเนือ่ งและสานความสัมพันธ์ได้ นอกจากนี้ยังต้องให้การสนับสนนุ พืน้ ทีว่ ชิ าการขา้ มสาขาวิชา ข้าม
ในสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ รวมทั้งข้ามกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่วนการเชื่อมต่อ
การวิจัยกับนโยบายนั้น กระบวนการนโยบายสาธารณะจำต้องทบทวนตนเอง ไม่จำกัดอยู่ท่ีการบริหารรัฐกิจ
และกรอบการตีคา่ บนหลกั ฐานเทา่ นั้น แต่ต้องผนวกเอาคุณค่าท่หี ลากหลายในสงั คมเขา้ มาผนวก และมุ่งหมาย
การเปลี่ยนผ่านที่เกิดในระดับรากฐานที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและระยะยาว และใช้การขับเคลื่อนด้วย
ฐานความรู้ การเชื่อมต่อนี้จึงมีความสำคัญในฐานะการสร้าง “พื้นที่ร่วม” เสมือนเป็นสะพานพื้นที่กลางของ
การเรยี นรูห้ รือห้องทดลองทางนโยบาย (policy lab) โดยมไิ ด้มุ่งเปน็ เพียงคลงั สมอง (think tank) อันจำกดั ตัว
อยู่ท่ีการรวมกลุม่ ผ้เู ช่ยี วชาญ

- ยทุ ธศาสตร์ขับเคลื่อนสังคมศาสตร:์ แนวทาง “การร่วมคดิ ร่วมทำ” ระหวา่ งประชาคมวิชาการ ภาค
นโยบาย อววน. และสาธารณะ โดยยทุ ธศาสตรข์ ับเคล่อื นสำคัญ ไดแ้ ก่

➢ การสร้างความตระหนักถึงวัฒนธรรมการเรียนรู้และนโยบายความรู้ของสังคมท่ามกลาง
บริบททมี่ พี ลวัตและเศรษฐกิจความรู้ ตลอดจนความหวงั ต่ออนาคตรว่ มกันของสงั คม

➢ การกำหนดแนวทางการพัฒนาความรู้ขั้นแนวหน้า บุคลากร และโครงสร้างพื้นฐาน โดย
ร่วมกนั สำรวจ “โจทยอ์ นาคต” รา่ งภาพอนาคตของความรู้ท่ีมุ่งหมาย สำรวจพรมแดนความรู้ระดับสากล และ
ระบุช่องว่างของความรู้ที่ต้องปิด ระบุสาขาวิชาหรือสหวิทยาการที่ขาดแคลนบุคลากร ทักษะสำคัญที่พึง มีใน
อนาคต และโครงสร้างพื้นฐานทางความรู้ที่จำเป็นต้องมีให้บริบูรณ์หรือที่ต้องเพิ่มเติม รวมถึงความร่วมมือ
ระดับสากล แลว้ กำหนดเป็นแนวทางทไ่ี ดร้ ับการรบั รองในวงกวา้ ง มคี วามตอ่ เนื่องแต่ไมต่ ายตัว

➢ การสร้างพื้นที่ร่วมเรียนรู้กับภาคนโยบายและสาธารณะ โดยให้หน่วยงานในระบบ อววน.
ร่วมกับประชาคมรเิ รมิ่ เวทีการเรียนรูร้ ว่ มกบั หนว่ ยงานภายนอกและภาคส่วนตา่ ง ๆ ในสาธารณะ ในฐานะ “ระบบ
เปิด” ให้เกิดการไหลเวยี นของภาพสถานการณแ์ ละปญั หาจรงิ การถา่ ยเทความคาดหวงั โลกทัศน์ และความรู้และ
ความเช่ยี วชาญหลากหลายรปู แบบจากภายนอกให้ได้แลกเปล่ยี นกันในระบบ

➢ การยกระดบั ขีดความสามารถเพื่อการทำงานขับเคล่ือนการเปลี่ยนผา่ นและสหสาขาวิชา โดยให้
ระบบ อววน. สนับสนุนเป็นกระบวนระบบตั้งแต่การจัดตั้งเครือข่ายสหวิทยาการ กลุ่มวิจัย ไปจนกระทั่งการตั้ง
สถาบัน ทลายป้อมค่ายที่แบ่งแยกหลกั สูตร จำกัดการไหลเวียนของบุคลากรข้ามคณะ และกำหนดความก้าวหน้า
ในทางวชิ าชพี การวจิ ัยให้เป็นไปอยา่ งเฉพาะทาง118

ตวั อยา่ งงานวจิ ยั “การอนรุ ักษ์และการจดั การโบราณสถาน/เมืองเก่า”
- บูรณาการความรูด้ ้านตา่ ง ๆ อาทิ ประวตั ิศาสตร์ โบราณคดี สถาปตั ยกรรมศาสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์
วิทยาศาสตร์ ดุริงยางคศลิ ป์ คหกรรม เขา้ ไว้ด้วยกนั
- การถ่ายทอดองคค์ วามรแู้ ละสรา้ งเครือขา่ ยนักวิจยั ในภมู ภิ าครว่ มกบั มหาวทิ ยาลยั ในพ้นื ท่ี

118 สมดุ ปกขาว “ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายเพอื่ การยกระดับระบบบรหิ ารจัดการความรู้และการปรับปรงุ โครงสรา้ งพน้ื ฐานความรู้ทางสงั คมศาสตร์
ของประเทศไทย” เสนอต่อ สำนักงานสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม. สถาบันวิจยั สังคม จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั
และเครือข่ายความรว่ มมอื ตุลาคม 2564.

P a g e | 255

- จดั ให้มกี จิ กรรรมการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพ่ือพัฒนาขีดความสามารถของงานช่างฝีมือในท้องถิ่น
ตลอดจนการสง่ เสรมิ ให้มีการฝกึ อบรมเฉพาะทาง

- การเฝ้าระวังพื้นที่โบราณสถานที่มีชื่ออยู่ในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการ
แทรกแซงใด ๆ ต่อพื้นที่โบราณสถาน จะต้องอยู่บนหลักการของการอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์และคงไว้ซึ่ง
โครงสร้างทางกายภาพและเทคนคิ แบบด้งั เดมิ

- แจ้งต่อศูนย์มรดกโลก (World Heritage Centre) ถึงแผนการในอนาคตสำหรับการอนุรักษ์
โบราณสถานหรอื การก่อสร้างในพน้ื ท่ี ซ่งึ อาจก่อให้เกดิ ผลกระทบตอ่ คุณค่าความเป็นสากลอนั โดดเด่นของพื้นที่
โบราณสถาน

- การปรับปรุงแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์ โบราณสถาน รวมถึงยุทธศาสตร์
การปอ้ งกนั ความเสยี่ งจากภัยพิบัติ

- จัดกิจกรรมให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวฒั นธรรม และมีส่วน
ร่วมในการอนรุ ักษ์โบราณสถาน/เมอื งเกา่ ในท้องถน่ิ ของตน

- การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และต่อยอด การแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม
สถาปัตยกรรม รวมถึงการอนุรักษ์ ทำนุบำรุง และบูรณะเมืองเก่า/โบราณสถาน ตลอดจนเป็นข้อมูล
ประกอบการขอขนึ้ ทะเบียนมรดกโลก

- การเชื่อมโยงและต่อยอดการใช้ประโยชน์กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวง
การท่องเที่ยวและกฬี า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม

5.2 การวจิ ัยด้านมนุษยศาสตร์
- ผลกระทบของโควดิ -19 กบั สังคมไทยในมิติตา่ ง ๆ
สถานการณ์โรคระบาดจากไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนใน
สังคมไทย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจหรือช่องว่างของการพัฒนาระหว่างเมืองกับชนบท รวมทั้ง
ความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและบริการด้านสาธารณสุข จึงควรศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ
ประเด็นนีเ้ พื่อหาแนวทางในการประเมนิ ผลกระทบและเยียวยาผู้ได้รบั ผลกระทบกลุ่มตา่ ง ๆ รวมถึงการศึกษา
เปรียบเทียบกับประสบการณ์ของประเทศอื่น ๆ และแนวทางการปรับตัวของสังคมไทยในยุคหลังโควิด หรือ
สงั คมวถิ ีใหม่ (new normal) ดว้ ย
- การอยูร่ ่วมกันท่ามกลางความหลากหลาย
มนษุ ยศาสตร์ควรเสนอมุมมองเก่ยี วกับปัญหาและทางออกอยา่ งประนปี ระนอมสำหรับการอย่รู ่วมกนั
ในสังคมไทยรว่ มสมยั ที่มคี วามหลากหลายของช่วงวยั โดยเฉพาะสงั คมผสู้ งู อายุ และกลมุ่ ชาติพนั ธท์ุ ่ีเกิดจากการ
อพยพย้ายถ่ินของแรงงานและบรษิ ัทขา้ มชาติ
- การเรียนการสอนภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาต่างประเทศเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นในทุกสาขาอาชีพ
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานสำคัญสู่การสร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 สามารถเชื่อมโยงกับผู้คนต่างวัฒนธรรม
และเป็นเคร่อื งมือสำหรบั การเรียนร้ขู า้ มวัฒนธรรม
- มรดกทางวฒั นธรรม
มรดกทางวัฒนธรรมยังคงเป็นประเด็นที่ควรได้รับการสนับสนุน เพราะช่วยให้ถึงความเป็นมาของ
ชุมชน และการส่งต่อภูมิปัญญาและวิถีปฏิบัติของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากนี้องค์ความรู้เกี่ยวกับมรดกทาง
วัฒนธรรมยงั เปน็ พ้นื ฐานสำหรบั การตอ่ ยอดไปยงั การพฒั นาอตุ สาหกรรมสรา้ งสรรค์ เชน่ พพิ ิธภัณฑช์ ุมชน การ
ท่องเทยี่ วเชงิ วฒั นธรรม ผลิตภัณฑ์และสนิ คา้ จากทุนทางวัฒนธรรม

P a g e | 256

การปรับเปลี่ยนหรือยกระดับระบบบริหารจัดการความรู้และปรับปรุงโครงสร้างความรู้ทาง
มนษุ ยศาสตรข์ องประเทศไทย นอกจากขึ้นอย่กู บั วสิ ัยทัศนแ์ ละการเปิดใจรับฟังปัญหาของผบู้ รหิ ารแล้ว จำเป็น
อย่างยิ่งที่ต้องได้รับความร่วมมือและการสนองตอบจากประชาคมนักวิจัย รวมถึงการสื่อสารกับนักวิจัยสาย
มนษุ ยศาสตรใ์ หเ้ ข้าใจถงึ เป้าหมายและยุทธศาสตร์ของประเทศ และความจำเป็นในการปรับรปู แบบการทำงาน
ให้เข้ากับบริบทของสังคมท่ีเปลี่ยนไป ปัญหาหลักของระบบบรหิ ารงานวิจัยของไทยคือการขาดความเชื่อมโยง
และการบูรณาการของทกุ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการสร้างกลไกให้เกิดความเชื่อมโยงกันของทั้งระบบหรือ
ตัวกลางที่สามารถประสานการทำงานของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เช่น หน่วยประสานงานมนุษยศาสตร์
หรือการจัดตั้งเครือข่ายวิจัย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของ
ประชาคม และการสรา้ งบรรยากาศการทำงานทม่ี คี วามหลากหลายและครอบคลุม119

5.3 การวจิ ยั ด้านศิลปกรรมศาสตร์
นักวิชาการควรจะพัฒนาและสร้างองค์ความรู้อย่างมีส่วนร่วมกับชุมชนด้านภูมิปัญญาทางศิลปกรรม
และสถาปัตยกรรมให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นศิลปะและการออกแบบ ได้แก่ ศิลปกรรมและ
การออกแบบ วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ ประวัติศาสตร์ ทฤษฎี และการออกแบบทางสถาปัตยกรรมการผัง
เมอื ง การออกแบบชมุ ชน เคหะการและภูมิสถาปัตยกรรม ศิลปะสถาปตั ยกรรม สถาปัตยกรรมไทยและพื้นถิ่น
เทคโนโลยีนวัตกรรมและการบริหารจัดการทางสถาปัตยกรรม รวมถึงงานทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประติมากรรม
ดรุ ิยางคศิลป์
ท้ังนี้ ท่ีผ่านมาวงการศิลปะของไทยยังพฒั นาอย่างไมส่ มดุล ระหวา่ งฝ่ายทที่ ำผลงานสร้างสรรค์กับฝ่าย
ทฤษฎี (ประวัติศาสตรศ์ ิลป์ ทฤษฎีศิลป์ และศิลปวิจารณ์) นั่นคือฝ่ายวชิ าการก้าวไม่ทันฝ่ายสร้างสรรค์ผลงาน
ทำให้ผู้สรา้ งสรรค์ต้องทำหน้าที่อธิบายความศลิ ปะเชงิ วิชาการเอง ซ่ึงสถานการณ์เชน่ นยี้ ากท่ีจะพบในประเทศ
ที่พัฒนาการศึกษาด้านทัศนศิลป์ไปอย่างสมดุลทั้งฝ่ายปฏิบัติและฝ่ายทฤษฎี เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี
สวีเดน ญี่ปุ่น ดังนั้นจึงควรสมควรที่จะสนับสนุนเอื้อให้ศิลปินไทยสามารถทำงานวิชาการได้โดยไม่ฉุดร้ัง
ความคดิ ในการสรา้ งสรรค์ผลงานจนเกินไป120
ที่ผ่านมางานวิจยั เพ่ือพฒั นาศลิ ปกรรมศาสตร์หลายสาขายังมจี ำนวนค่อนขา้ งน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับ
ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนหลายประเทศ จำต้องส่งเสรมิ งานวิจัย งานสร้างสรรค์และงานนวัตกรรมทางดนตรี
ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อพัฒนานักวิชาการด้านเสียงและดนตรีให้สามารถสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพให้
เปน็ ที่ยอมรบั ในระดบั ชาตแิ ละนานาชาติ อกี ทัง้ อาจตอ้ งอาศัยศาสตร์อน่ื ร่วมพัฒนาด้วย เช่น วรรณกรรมดนตรี
หรอื บทประพนั ธ์เพลงในระดับคลาสสิกของประเทศไทย ซง่ึ ในวงการดนตรคี ลาสสิกมี 2 ประเภท คือ บทเพลง
ที่ประพันธ์ขึ้นใหม่เป็นบทเพลงร่วมสมัย และบทเพลงที่เรียบเรียงเพลงไทยบนพื้นฐานของเพลงไทยเดิมหรือ
เพลงไทยสากล อันเปน็ มรดกทางภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ เนื่องจากจำนวนนักแต่งเพลงคลาสสิกของไทยยังมี
จำกดั นอกจากนี้ยงั สามารถนำเทคนคิ การประพันธเ์ พลงของตะวนั ตกสำหรบั วงดนตรปี ระเภทตา่ ง ๆ โดยอาศยั
หลักวิศวกรรมศาสตร์มาหนุนเสริมพัฒนางานหนุนเสริมพัฒนางานดุริยางคศิลป์ เพื่อสร้างสรรค์ด้านการ
ประพันธ์เพลงเชิงอนุรักษ์ที่มีอัตลักษณ์ไทยชัดเจน ดังตัวอย่างงานสร้างสรรค์ดุริยางคศิลป์ วรรณกรรมเพลง
ไทยคลาสสิกแห่งกรงุ รัตนโกสินทร์ของ ศ. ดร.ณชั ชา เจรญิ พนั ธุ์ เมธวี จิ ัยอาวุโส สกว. ซ่ึงได้สร้างสรรค์ผลงานท่ี

119 สมุดปกขาว “ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการยกระดับระบบบริหารจัดการความรู้ และการปรับปรุงโครงสร้างความรู้ทางมนุษยศาสตร์ของ
ประเทศไทย ภายใตบ้ ันทกึ ความรว่ มมอื การพฒั นานโยบายดา้ นการอุดมศึกษา วิจัยและนวตั กรรม และระบบบริหารจัดการองคค์ วามรมู้ นษุ ยศาสตร์
ของประเทศ. คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย เสนอตอ่ สำนักงานสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรมแหง่ ชาติ
สงิ หาคม 2564.
120 รายงานวจิ ยั การสร้างกระบวนการในการวิจัยสรา้ งสรรคศ์ ิลปะ คณะวจิ ิตรศิลป์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม.่ สำนกั งานกองทุนสนับสนุนการวจิ ยั
ฝา่ ยวชิ าการ.

P a g e | 257

มีคุณภาพในระดับสมบัติของแผ่นดิน และสามารถเผยแพร่ศิลปะดนตรีข้ันสูงของไทยในระดับอาเซียนและ
ระดับโลกได้121

นอกจากนี้เพลงคลาสสิกที่มีความเป็นสากลแล้วแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังจะต้องส่งเสริมงานวิจัย
ด้านดนตรีพื้นบ้าน โดยรวบรวมองค์ความรู้จากปราชญ์พื้นบา้ น และลายเพลงต่าง ๆ ที่จำเป็นตอ้ งศึกษาในเชงิ
ลึก เพื่อนำมาถ่ายทอดในเชิงวิชาการสำหรับการธำรงรักษาและสืบสานสิ่งสร้างสรรค์จากปราชญ์พื้นบ้านให้
ยังคงอยู่และได้รับการศึกษาต่อไป อีกทั้งสามารถนำมาประยุกต์กับแนวเพลงสากลในปัจจุบัน เช่น นำดนตรี
พื้นบ้านที่มีความไพเราะ ผสมผสานกับวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และจิตวิญญาณของคนพื้นถิ่น มาเรียบเรียบใหม่
สำหรับเครื่องดนตรีที่ทั่วโลกยอมรับ เพื่อให้เกิดเป็นเพลงและดนตรีร่วมสมัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งคลาสสิก
แจ๊ส และป๊อบ ที่มีความเป็นสากลและเข้าถึงผู้ฟังกลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น รวมถึงการศึกษา
โครงสร้างและองค์ประกอบของดนตรีที่อาจมีเครื่องดนตรีบางชนิดที่เป็นวัฒนธรรมร่วมของคนในหลาย
ประเทศทง้ั เอเชยี อาคเนยแ์ ละเอเชียอุษาคเนย์ เชน่ จนี ญีป่ ุน่ เกาหลีใต้ เพือ่ สรา้ งสรรคบ์ ทเพลงใหม่ ๆ ต่อไป122

6. การสง่ เสริมวฒั นธรรมอาเซียน เพื่อสร้างสมั พนั ธ์อนั ดีระหว่างประเทศต่าง ๆ
การก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งใน
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นกลไกในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐกับรัฐ ซึ่งไกลจากวิถีชีวิต
ประชาชนโดยท่ัวไป ท้งั ในความเป็นจริงอาเซียนเป็นกลุ่มความรว่ มมือท่ีมีความหลากหลาย เช่น ด้านการเมือง
มีรูปแบบการเมืองต่าง ๆ ผสมผสานกันอยู่ในภูมิภาค ด้านเศรษฐกิจ อาเซียนประกอบด้วยกลุ่มประเทศท่ี
เจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ มีรายได้ต่อหัวของประชากรสูงกว่าประเทศตะวันตกที่พัฒนาแล้วบางประเทศ
ได้แก่ ประเทศสิงค์โปร์ ขณะเดียวกันมีประเทศที่ยากจนติดอันดับโลกลว้ นเป็นสมาชิกของอาเซียน ด้านสังคม
และวัฒนธรรม ประกอบด้วยประเทศที่มีความหลากหลายทางดา้ นเช้ือชาติ ศาสนา ภาษาและวฒั นธรรม ผู้นำ
อาเซียนมีความปรารถนาที่จะรวมตัวกันเป็น “ประชาคม” ทั้งที่ในความเป็นจริงพลเมืองในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ยังมีความรู้สึกแตกต่าง มีความเป็นชาตินิยม เชื้อชาตินิยม ศาสนานิยม ดังนั้นการมุ่งสูค่ วาม
เป็นประชาคมอาเซียนได้นั้นจึงจำเป็นที่ต้องมุ่งพัฒนาองค์ความรู้ด้านสังคมและวัฒนธรรม เพื่อให้เกิด
กระบวนการหลอมรวมมีความรสู้ ึกเป็นหนึง่ เดียวกันท่ามกลางความหลากหลายทางวฒั นธรรม
วัฒนธรรมเกี่ยวกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนของประเทศไทย มีประเด็นสำคัญที่สัมพันธ์กับ
วัฒนธรรมอาเซียน คือ ประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม ชาติพันธุ์และวิถีชีวิต ศาสนา ความเชื่อและพิธีกรรม ภาษา
วรรณกรรมและนิทานพื้นบ้าน ผลการศึกษาในงานวิจัยสถานภาพความรู้ด้าน “วัฒนธรรม” เกี่ยวกับกลุ่ม
ประเทศสมาชิกอาเซียนของประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. 2545-2560 พบว่าประเด็นด้านประวัติศาสตร์เป็น
ประเดน็ ทพ่ี บงานศึกษามากท่ีสดุ รองลงมาคือ ประเดน็ ด้านภาษา วรรณกรรมและนิทาน พ้นื บา้ น
ทั้งนี้ ความสนใจในการศึกษา “วัฒนธรรมอาเซียน” ก้าวหน้ามากขึ้นตามลำดับ ดังปรากฏเป็นองค์
ความรู้ในด้านต่างๆ อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังได้พัฒนาแนวความคิดและวิธีการศึกษาอย่างน่าสนใจ
โดยเฉพาะจากนกั สงั คมศาสตร์สาขาต่าง ๆ ท่หี ันมาให้ความสนใจศกึ ษาวัฒนธรรม อาเซยี นในมิตปิ ระวัตศิ าสตร์
มติ ิภาษาศาสตร์ มิติสงั คมวิทยา มติ ิมานุษยวิทยา มิติชาตพิ นั ธุ์ มากย่ิงขึ้น และในด้านประเด็นของการศึกษาจะ
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์และการขยายตัวของ
แนวคิดภูมิภาคนิยมควบคู่กับแนวคิดอาณาบริเวณ นับเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลให้การศึกษา

121 ขา่ ว ‘วรรณกรรมเพลงไทยคลาสสิคกรุงรตั นโกสินทร’์ ผลงานสรา้ งสรรคด์ ุริยางคศลิ ป์ผา่ นงานวิจัย. เว็บไซตส์ ำนักงานคณะกรรมการสง่ เสริม
วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม 24 พฤศจิกายน 2560.
122 รายงานสืบเน่อื งจากการประชุมวิชาการระดบั ชาติ ด้านเสยี งและดนตรแี ห่งมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ครง้ั ท่ี 1. 18-19 มถิ นุ ายน 2563
ณ คณะดรุ ิยางคศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร.

P a g e | 258

“วัฒนธรรมอาเซียน” ในประเทศไทย มีลักษณะผสมผสานและแทรกซึมอยู่ทุกภาค ส่วนของสหสาขาวิชาก็จะ
เชื่อมโยงวฒั นธรรมอาเซียนภายในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตเ้ ข้าด้วยกันและเช่ือมโยงวฒั นธรรมอาเซยี น
เข้ากับภมู ภิ าคข้างเคียง123

ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนามิติด้านวัฒนธรรม โดยการนำทุนทาง
วัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เกิดการพัฒนา
อย่างยั่งยืน ความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมจึงมีความสำคัญต่อการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของ
อาเซียนควบคู่ไปพร้อมกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมวิถีชีวิตของผู้คนในประชาคมอาเซียนด้วย โดยกรมส่งเสริม
วฒั นธรรมได้ใหท้ ุนอุดหนุนการวจิ ัยในหวั ข้อประชาคมอาเซยี นกับงานวฒั นธรรม เน้นงานวจิ ัยในหัวขอ้ "สร้างพ้ืนท่ี
วัฒนธรรม มรดกร่วมอาเซียน” ถือเป็นการให้ความสำคัญในความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสานต่อ
นโยบายของรัฐบาลในการเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของอาเซียน ตามแนวคิด "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”
โดยไทยเปน็ แกนหลกั สนบั สนนุ ให้เกดิ สันตสิ ขุ และความเจริญยัง่ ยืนในภมู ิภาคสบื ไป124

การสื่อสารมรดกร่วมอาเซียนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันรูปแบบของการสื่อสารและการสร้าง
ความหมายในสังคมไทยได้พัฒนาไปอย่างหลากหลาย แนวคิดและส่ือด้านการละครถูกนาํ ไปใช้อยา่ งกว้างขวาง
เพื่อวัตถุประสงค์ทั้งทางวัฒนธรรม สังคม การบันเทิง การค้า การเมือง รวมถึงการกําหนดตัวตนและบทบาท
ของบุคคลด้วย ทั้งนี้ศิลปะการละครเป็นเครื่องมือที่มศี ักยภาพสูงในการส่ือสารความคิดและความหมายต่าง ๆ
สู่สาธารณชน อีกทั้งยังเป็นสื่อที่สามารถปรับทัศนคติของคนในสังคมได้อย่างแนบเนียนและลึกซึ้ง การ
สร้างสรรค์งานศิลปะการละครที่มีที่มาจากกระบวนการวิจัย ย่อมส่งผลให้งานละครมีความแม่นตรงตาม
วตั ถปุ ระสงค์ของงานท่มี ตี อ่ กลุม่ เป้าหมายยิ่งขนึ้

หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจึงควรร่วมกันกำหนด “นโยบายการส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน” ผ่าน
วิธีการนำเสนอในรูปแบบการสื่อสารต่าง ๆ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดปัญญาและการเรียนรู้ผ่านสุนทรียะของ
ศิลปะการละครและภาพยนตร์ บทเพลงเล่าเรื่องแบบพื้นเมือง มหรสพการแสดง นวนิยายร่วมสมัย ไปจนถึง
การ์ตูนภาพและเกมคอมพิวเตอร์ล้ำยุค รวมทั้งการนําไปเปน็ ตัวอย่างอา้ งอิงในฐานะท่ีเป็นหลักธรรมและคติใน
การดํารงชวี ิต ตําราการปกครอง การบริหาร และการสงครามทีม่ ีประวตั ิศาสตร์และศลิ ปวฒั นธรรมร่วมกันของ
คนในภูมิภาค เพื่อวัตถุประสงค์ทั้งในเชิงศาสนา ปรัชญา การเมือง การปกครอง การสร้างสรรค์ศิลปะ การ
เยียวยาบําบัด ความบันเทิง และการพาณิชย์ อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่ลึกซึ้งและมี
รับผิดชอบทั้งต่อตนเองและต่อส่วนรวม สามารถดํารงตนอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างสร้างสรรค์ เกื้อกูล ไม่
ขัดแย้ง ปะทะ หรือทําร้ายทําลายกัน สิ่งนี้เองคือหลักคิดและแนวปฏิบัติอันเป็นคุณธรรมที่สังคมไทยร่วมสมัย
ต้องการ125 และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศสมาชิกในภูมิภาคซึ่งแสดงถึง
พลังของมรดกรว่ มแหง่ อาเซียนอีกด้วย

123 สถานภาพความรู้ด้าน “วฒั นธรรม” เกย่ี วกบั กลมุ่ ประเทศสมาชกิ อาเซียน ของประเทศไทย ระหว่าง พ.ศ. 2546-2560. สิทธิโชค อนจุ ันทร์ และ
คณะ. กรมส่งเสริมวฒั นธรรม กระทรวงวฒั นธรรม
124 ขา่ ว วธ.หนนุ งานวจิ ัยสร้างสรรค์ “สร้างพื้นที่วฒั นธรรม มรดกรว่ มอาเซียน” เวบ็ ไซตก์ ระทรวงวัฒนธรรม 21 สิงหาคม 2562.
125 รายงานวจิ ัย รามเกยี รต์ิ: ก้าวหน้าจากรากแกว้ ในชุดโครงการเวทวี ิจยั มนษุ ยศาสตรไ์ ทย. ปรดิ า มโนมยั พบิ ูลย์ คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัย. สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวิจยั งานมนุษยศาสตร์.

P a g e | 259

ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย

ประเทศไทยมีศลิ ปวฒั นธรรมแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ จนทำใหเ้ ป็นทีเ่ ล่ืองลือไปในนานา
ประเทศทีไ่ ดส้ ัมผัสและพบเห็นความงดงามและมีคณุ ค่าในศิลปวัฒนธรรมไทย อนั เป็นเอกลักษณ์ของความเป็น
ชาติ เป็นรากฐานของการสร้างสรรค์ความสามัคคี และความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตามปัจจุบันเอกลักษณ์
ของชาติไทยอาจจะถูกลดความสำคญั ลงเนื่องจากกระแสโลกาภิวัตน์ท่ีส่งผลกระทบกับศิลปวัฒนธรรมของไทย
ดังคำกล่าวของ ศาสตราจารย์ พล.ต. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ว่า “นาฏศิลป์ของไทยเป็นสมบัติที่ใหญ่โต
มหาศาล แต่เป็นสมบัติที่กำลังหลุดลอยจากตัวเราไป ตัวเราแต่ก่อนเป็นตัวใหญ่ เก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ได้เหมือนกับ
สิ่งเล็กน้อยใส่กระเป๋าไว้ก็ได้ไม่สูญไปไหน แต่คราวนี้ปริมาตรปริมาณมันใหญ่โตขึ้นมา เรากำลังจะฉุดไม่ไหว
เห็นภาพอย่างนั้นเห็นภาพทรัพย์สมบัติของเราเป็นกลุ่มก้อนใหญ่โตกำลังปลิวออกจากตัว และเราซึ่งพยายาม
รักษานาฏศิลป์ก็ตัวเล็กลง” ซ่ึงแสดงให้เห็นว่านาฏศิลป์ของไทยกำลังจะถูกแปรสภาพไปให้ต่างจากเดิมตาม
กระแสโลก126 ดังนัน้ จงึ เปน็ หน้าที่ของคนไทยทุกคน และทุกหน่วยงาน ท่จี ะต้องรว่ มกนั อนุรกั ษ์ศิลปวัฒนธรรม
ไทยอนั เป็นมรดกวฒั นธรรมทล่ี ้ำคา่ ใหค้ งอยูส่ บื ไป

ขณะท่ีการขับเคลื่อน Soft power ในมิติด้านวัฒนธรรม ทรัพยากรมนุษย์ การทูต เศรษฐกิจ และ
การเมือง พัฒนาให้เกิดชิ้นงานทางศิลปะ วัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์
สอดแทรกค่านิยม ความรู้ และวัฒนธรรมของไทย ผ่านเนื้อหา เรื่องราว และรูปแบบการนำเสนอได้อย่าง
เหมาะสม สะท้อนถึงความเป็นไทยในทางบวก หรือแสดงถึงคุณลักษณะทีเ่ ป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากประเทศ
อ่ืนได้นัน้ สกสว.มีข้อเสนอแนะเชงิ นโยบายดังตอ่ ไปน้ี

1. ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาวการณ์โลก ตลาด และพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อกำหนด
ยุทธศาสตร์ในการปรับตัวตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และวางแผนการพัฒนาให้สอดคล้องกับความ
ต้องการของตลาด

2. กำหนด Setting research agenda ของประเทศ โดยหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องจะต้องร่วมกันจัดทำ
แผนแมบ่ ทการพฒั นามรดกวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กำหนดโจทย์และเปา้ หมายในการขบั เคลื่อนให้
เป็น soft power สู่การเติบโตทางเศรษฐกจิ และการพัฒนาทย่ี ั่งยืน รวมทั้งแปลงทนุ ทางวัฒนธรรมทั้งหลายให้
เป็น “สนิ ทรพั ย”์ สร้างงานสร้างรายไดใ้ ห้คนรุน่ หลังในท้องถิน่ ได้

3. รวบรวมองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรม ภูมิปัญญาพื้นบ้านต่าง ๆ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลมรดกทาง
วัฒนธรรมที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ผ่านการจัดทำ ‘แผนที่ทางวัฒนธรรม’ (Cultural Mapping) เพื่อ
นำไปสู่การเสนอแนวทางการสร้าง ‘พื้นที่ทางวัฒนธรรม’ สำหรับการนำเสนอ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ตลอดจนการสร้างแรงบันดาลใจจากพื้นฐานทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่สั่งสมของสังคมอย่าง
ตอ่ เนือ่ ง

4. วางกลยุทธ์ในการพัฒนาและใช้ทุนมนุษย์รวมทั้งเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น ซึ่งเป็นสูตรสำคัญในการ
วางแผนอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับเกาหลีใต้ ท้ังน้ปี ระเทศไทยมีขอ้ ไดเ้ ปรยี บทม่ี ีอยู่ 2 ด้าน คือ ความหลากหลาย
ทางชีวภาพและความหลากหลายเชิงวัฒนธรรมที่สามารถขับเคลื่อนไปสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขัน
ขณะเดียวกันยังต้องเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่า
(Value added) ไปสู่การสร้างมูลค่า (High value) หรือการสร้างผลิตภาพ (Productivity) โดยสนับสนุนการวิจัย
และนวัตกรรมของประเทศ เพื่อยกระดับตลอดห่วงโซ่การผลิตสินค้าและบริการ

126 โขน: ศลิ ปะประจำชาตไิ ทยและสอื่ วฒั นธรรมในบริบทสังคมร่วมสมยั . ฐาปนีย์ สังสทิ ธวิ งศ์ หลกั สตู รปริญญาศิลปศาสตรดษุ ฎีบัณฑิต สาขาวิชา
ศิลปวัฒนธรรมวจิ ัย มหาวิทยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.

P a g e | 260

5. ส่งเสริม “วิสาหกจิ วฒั นธรรม” เพ่ือเช่ือมโยงศลิ ปนิ ที่สร้างสรรค์กับตลาด ผบู้ รโิ ภค การผลิตสินค้า
และบริการ ซง่ึ ขับเคลอื่ นดว้ ยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสรา้ งสรรค์ ภายใตต้ ้นทุนทางสังคมวัฒนธรรม
อันเปน็ รากฐานสำคญั ในการพัฒนา

6. สร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยภาครัฐจะต้องเข้ามามีบทบาทในการกำหนดนโยบาย
พฒั นาโครงสรา้ งพนื้ ฐานและสภาพแวดล้อมภายในประเทศ การจัดตั้งสถาบันที่เกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรม
เพื่อบ่มเพาะวัฒนธรรมผ่านกระบวนการต่าง ๆ ทั้งการศึกษา สนับสนุนการลงทุน การผลิตและส่งออกของ
ผู้ประกอบการ พร้อมกับส่งเสริมอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม อันเป็นมรดกและทรัพย์สินทางปัญญาอันล้ำค่า
รวมถึงการบรู ณาการการทำงานของทกุ หน่วยงานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง สนับสนุนให้ทุกชนชน้ั โดยเฉพาะชนช้ันแรงงานให้
เข้ามามบี ทบาทมากขึ้นในภาคธุรกิจสร้างสรรค์ สามารถเชื่อมโยงการทำงานกับพื้นท่ีทุกจังหวัดในประเทศไทย
ผ่านกลไกระดับชุมชน สร้างเครือข่ายทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็งทั่วประเทศ และการมีส่วนร่วมของประชาชนใน
พื้นท่ีซึ่งเปน็ เจ้าของหรือผสู้ บื ทอดมรดกทางวัฒนธรรม

7. พัฒนา ‘content marketing’ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยมี าใชใ้ นการสือ่ สารตลาดและสร้าง
ภาพลักษณ์ กำหนดตำแหน่งทางการตลาด สร้างตราสนิ ค้าของประเทศไทย สร้าง “แบรนด์ประเทศไทย” ให้
เป็นที่รู้จักและจดจำ เพื่อช่วยส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ชื่อเสียง ความนิยม และบารมีให้กับประเทศ
เช่นเดียวกับที่ประเทศเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จมาแล้ว รวมถึง ‘นวัตกรรมทางวัฒนธรรม’ สร้างวิธี
ขับเคลื่อนโดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย สื่อความหมายตรงตามความต้องการและเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย ใช้สื่อ
สร้างสรรคใ์ นรปู แบบตา่ ง ๆ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งส่ือออนไลนใ์ หเ้ ข้าถึงผบู้ รโิ ภคกลุ่มเปา้ หมาย เพ่ือประชาสัมพันธ์
และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้ทั่วโลก พร้อมทั้งปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมของคนในสังคมไทยให้
ภาคภมู ใิ จและรว่ มกนั สืบสานส่ิงดีงามของประเทศ

8. ต้องส่งเสริม “พลงั ของคนรุ่นใหม่” ให้มบี ทบาทและมีส่วนร่วมในการขบั เคลื่อนประเทศ ดังจะเห็น
ได้จากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United
Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP)
สมัยที่ 26 หรือ COP 26 ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสก๊อตแลนด์ ในเครือสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 1-12
พฤศจกิ ายน 2564 วง Black Pink ในฐานะทูตขององค์การสหประชาชาติ ไดร้ ว่ มประชาสมั พนั ธ์งานเพ่ือให้คน
ทั้งโลกตระหนักถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมโลก ทำให้เห็นถึงพลังของสื่อ วัฒนธรรม และผู้ทรงอิทธิพลต่อโลก ใน
โอกาสนี้ ‘ลิซ่า’ ได้กล่าวเป็นภาษาไทย เพื่อสื่อถึง Diversity as One World ด้วย โดยมีใจความว่า “ลิซ่า
ตระหนักถึงปญั หานี้มากขึน้ หลังจากที่ได้รูว้ ่ามลพิษทางอากาศเป็นอันตรายมากแค่ไหน โลกกำลังร้อนขึ้นอย่าง
รวดเร็ว พื้นที่ป่าไม้กำลังหายไปอย่างรวดเร็ว มหาสมุทรกำลังจะตาย ขยะสะสมมากขึ้น ถ้าปล่อยให้
สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นต่อไป อีกไม่นานเราอาจจะไม่มีโลกใบนี้ให้รักษา แต่เจเนอเรชั่นของพวกเราห่างไกล
จากคำว่าไร้พลงั Our Voices are impossible to ignore”127

9. การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้มรดกภูมิปัญญาไทยเข้าถึงคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันและ
อนาคตได้มากขึ้น เช่น การเรียนการสอนผ่านภาพเสมือน (metaverse) หรือบอร์ดเกม ก่อนที่จะสัมผัส
ประสบการณ์จริง

10. การอนุรักษ์นาฏศิลป์และศิลปวัฒนธรรมไทยในสังคมร่วมสมัยท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์
โดยเฉพาะการแสดงโขนและโนรา และการนวดไทย ซ่ึงเปน็ มรดกภูมปิ ัญญาของไทยท่ีไดร้ ับการข้ึนทะเบียนกับ
ยูเนสโก โดยการส่งเสริมรักษามรดกวัฒนธรรเหล่านี้ให้เข้มแข็ง กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสงวนรักษา

127 BLACKPINK Talks Climate Change | Dear Earth 24 ตุลาคม 2564. https://www.youtube.com/watch?v=Aq27eTQMBJA

P a g e | 261

และเผยแพร่ให้อนุชนรุ่นหลงั ไดส้ ืบทอดต่อไป ผา่ นการสร้างการมีส่วนรว่ มของศิลปิน ชมุ ชน สถาบันการศึกษา
และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการสืบทอดและขยายฐานผู้ปฏิบัติ ผู้ถือครองให้กว้างขวาง โดย
สร้างสรรค์ผ่านการปรับประยกุ ต์ให้เข้ากับยุคสมยั และเขา้ ถงึ คนทุกกลุ่มไดม้ ากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเนือ้ หาที่เข้ากบั
สถานการณ์ปัจจุบัน เพิ่มบทภาษาอังกฤษ รูปแบบการนำเสนอและเทคนิคประกอบการจัดแสดง อาทิ ฉาก
แสง สี เสียง ที่ทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ชมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอย่าง
แพร่หลาย

11. สนับสนุนการศึกษาวิจัยต่อเนื่องในงานศิลปวัฒนธรรมร่วมของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความคิดในการพัฒนารูปแบบการแสดงต่อไป และ
สนับสนนุ ให้มีโอกาสเปน็ ตวั แทนเผยแพร่วัฒนธรรมให้มากข้ึน เชน่ ผ่านการทูตวัฒนธรรม และงานรัฐพิธีต่าง ๆ

12. รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับค่าตอบแทนของผู้แสดงและบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้มีกำลังใจในการ
สรา้ งสรรค์งาน เพอ่ื รกั ษามรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมและเศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ให้เป็นทร่ี ู้จักแก่คนในประเทศ
และต่างประเทศมากขึ้น ตลอดจนจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมการ
สร้างสรรคผ์ ลงาน

P a g e | 262


Click to View FlipBook Version