๑๑๓ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ การจัดสภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียน การจัดสภาพแวดล้อมภายในอาคาร ได้จัดที่ส าหรับเก็บของใช้ส่วนตัวของนักเรียนอย่างเป็นระเบียบ โดย จัดท าตู้ส าหรับเก็บของใช้ส่วนตัวของเด็กแต่ละคนเพื่อปลูกฝังความมีวินัย ความเป็นระเบียบ และการรู้จักเก็บรักษา ของใช้ของตนเอง บริเวณรอบๆ สถานศึกษา มีสนามเด็กเล่น พร้อมที่มีเครื่องเล่นสนามที่ปลอดภัยพร้อมใช้งานอยู่ เสมอ บ่อทราย เครื่องเล่นสนาม BBL บริเวณสนามหญ้าสามารถจัดกิจกรรมให้เด็กได้ท ากิจกรรมอย่างสะดวก รวมทั้ง มีปลูกต้นไม้บริเวณรอบๆอาคารเรียนเพื่อให้เกิดความร่มรื่น จัดกิจกรรมต้นไม้พูดโดยได้สอดแทรกคุณธรรม ชื่อต้นไม้ ต่างเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับเด็ก ปลูกดอกไม้รอบๆอาคารเรียนเพื่อให้เกิดความ สวยงามและมีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้เด็กเกิดการเรียนรู้ท่ามกลางธรรมชาติอย่างมีความสุข สื่อและแหล่งการเรียนรู้ โรงเรียนอนุบาลอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ได้จัดหาสื่อและแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริม พัฒนาการเด็กด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการตามวัย โดยจัดสื่อต่างๆ ดังนี้ ๑. สื่อที่ใช้ในการจัดกิจกรรม ๑.๑ กิจกรรมเสรี / เล่นตามมุม ๑. มุมบ้าน - ของเล่นเครื่องใช้ในครัวขนาดเล็ก หรือของจ าลอง เช่น เตา กระทะ ครก กาน้ า เขียง มีด พลาสติก หม้อ จาน ช้อน ถ้วยชาม กะละมัง - ตุ๊กตา เสื้อผ้าตุ๊กตา เปลเด็ก ตุ๊กตา ขวดนม - เครื่องแต่งกาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า หวี เป็นต้น - โทรศัพท์ ๒. มุมบล็อก - ไม้บล็อกหรือแท่งไม้ที่มีขนาดแลรูปร่างต่างๆ กัน - จัดเก็บไม้บล็อก หรือแท่งไม้อาจเป็นชั้น ลังไม้หรือพลาสติก แยกตามรูปทรง ขนาด ๓. มุมหนังสือ - หนังสือภาพนิทาน สมุดภาพ หนังสือภาพที่มีค าและประโยคสั้นๆพร้อมภาพ - วารสารต่างๆ - ชั้นหรือที่วางหนังสือ - อุปกรณ์ส าหรับการเขียน - บัตรภาพ บัตรค า ๔. มุมดนตรี - เครื่องดนตรีชนิดต่างๆ เช่น กลอง กรับ แทมบูรีน ไมโครโฟน ฉิ่ง ฉาบ ลูกแซก ระนาด ๕. มุมเครื่องเล่นสัมผัส - ตัวต่อพลาสติกขนาดต่างๆ รูปทรงต่างๆ - หุ่นจ าลอง เช่น หุ่นไดโนเสาร์ หุ่นสัตว์ - ลูกบอลนุ่มนิ่มขนาดเล็ก
๑๑๔ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ 6. มุมศิลปะ - สีไม้ สีเทียน สีน้ า - ทรายสี - กระดาษ - กาว - กระดาษสีต่างๆ - ไม้ไอศกรีม - ดินน้ ามัน - แผ่นรอง - แผ่นภาพฉลุ - กรรไกร 7. มุมเกมการศึกษา - เกมการศึกษาตามหน่วยการเรียนรู้ - จิ๊กซอว์ตัวเลข พยัญชนะ อักษรภาษาอังกฤษ - ไม้บล็อกภาพตัดต่อ ๑.๒ กิจกรรมสร้างสรรค์ ๑. การวาดภาพและระบายสี - สีเทียนแท่งใหญ่ สีไม้ สีน้ าโปสเตอร์ - พู่กันขนาดใหญ่ - กระดาษ - เสื้อคลุมหรือผ้ากันเปื้อน ๒. การเล่นกับสี - การเป่าสี มี กระดาษ หลอดกาแฟ สีน้ า - การหยดสี มี กระดาษ หลอดกาแฟ พู่กัน สีน้ า - การพับสี มี กระดาษ สีน้ า พู่กัน - การเทสี มี กระดาษ สีน้ า - การละเลงสี มี กนระดาษ สีน้ า แป้งเปียก ๓. การพิมพ์ภาพ - แม่พิมพ์ต่างๆ จากของจริง เช่น นิ้วมือ ใบไม้ ก้านกล้วย ฯลฯ - แม่พิมพ์จากวัสดุอื่นๆ เช่น เชือก เส้นด้าย ตรายาง ฯลฯ - กระดาษ ผ้าเช็ดมือ สีโปสเตอร์ ( สีน้ า สีฝุ่น ฯลฯ ) ๔. การปั้น เช่น ดินน้ ามัน ดินเหนียว แผ่นรองปั้น แม่พิมพ์รูปต่างๆ ไม้นวดแป้ง ฯลฯ ๕. การพับ ฉีก ตัดปะ เช่น กระดาษ หรือวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้พับ ฉีก ตัด ปะ กรรไกรขนาดเล็ก ปลายมน กาวน้ าหรือแป้งเปียก ผ้าเช็ดมือ ฯลฯ ๖. การประดิษฐ์เศษวัสดุ เช่น เศษวัสดุต่างๆ มีกล่องกระดาษ แกนกระดาษ เศษผ้า เศษไม้ กาว กรรไกร สี ผ้าเช็ดมือ ฯลฯ ๗. การร้อย เช่น ลูกปัด หลอดกาแฟ หลอดด้าย ฯลฯ ๘. การสาน เช่น กระดาษ ใบตอง ใบมะพร้าว ฯลฯ ๙. การเล่นพลาสติกสร้างสรรค์ พลาสติกชิ้นเล็ก ๆ รูปทรงต่าง ๆ ผู้เล่นสามารถน ามาต่อเป็น รูปแบบต่าง ๆ ตามความต้องการ
๑๑๕ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๑.๓ เกมการศึกษา ๑. เกมจับคู่ - จับคู่รูปร่างที่เหมือนกัน - จับคู่ภาพเงา - จับคู่สิ่งที่มีความสัมพันธ์กัน สิ่งที่ใช้คู่กัน - จับคู่ภาพชิ้นส่วนที่หายไป - จับคู่ภาพที่เป็นประเภทเดียวกัน - จับคู่ภาพสัมพันธ์แบบตรงกันข้าม ๒. เกมภาพตัดต่อ - ภาพตัดต่อที่สัมพันธ์กับหน่วยการเรียนต่าง ๆ เช่น ผลไม้ ผัก ฯลฯ ๓. เกมจัดหมวดหมู่ - ภาพสิ่งต่าง ๆ ที่น ามาจัดเป็นพวก ๆ - ภาพเกี่ยวกับประเภทของใช้ในชีวิตประจ าวัน ๔. เกมเรียงล าดับ - เรียงล าดับภาพเหตุการณ์ต่อเนื่อง - เรียงล าดับขนาด ๑.๔ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ / กิจกรรมในวงกลม สื่อที่ใช้ประกอบการจัดกิจกรรเสริมประสบการณ์ จะใช้สื่อที่เป็นของจริง ของจ าลอง บัตรภาพ บัตร ค า ที่สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ ๑.๕ กิจกรรมกลางแจ้ง ๑. เครื่องเล่นสนาม เช่น เครื่องเล่นส าหรับปีนป่าย เครื่องเล่นประเภทล้อเลื่อน เครื่องเล่น BBL ฯลฯ ๒. ที่เล่นทราย มีทรายละเอียด เครื่องเล่นทราย เครื่องตวง ฯลฯ ๓. ที่เล่นน้ า เสื้อคลุม หรือผ้ากันเปื้อนพลาสติก อุปกรณ์เล่นน้ า เช่น ถ้วยตวง ขวดต่าง ๆ สายยาง กรวยกรอกน้ า ตุ๊กตายาง ฯลฯ ๑.๖ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๑. เครื่องเคาะจังหวะ เช่น ฉิ่ง ฉาบ กรับ แทมบูรีน กลอ ลูกซัด ๒. อุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหว เช่น หนังสือพิมพ์ ริบบิ้น ห่วง กระดาษสี ฯลฯ ๒. สื่อเล่นน ้าเล่นทราย - กระบะทราย - รถตัก - ของเล่นส าหรับเล่นทราย - กะละมัง - ถังน้ า - ขันน้ า - ที่กรอกน้ าสาย - ยางใส - ขวดน้ า - กะลา - กระบอกไม่ไผ่
๑๑๖ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๒. แหล่งเรียนรู้ โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ได้จัดบรรยากาศทั้งภายในและภายนอก ห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งเป็น แหล่งเรียนรู้ให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กแต่ละวัยบูรณาการการ เรียนรู้ผ่านการเล่นที่สนุกสนาน ดังนี้ ๑. ภายในห้องเรียน เน้นความปลอดภัย สะอาด สวยงาม ภายในห้องมีมุมประสบการณ์ และสื่อ อุปกรณ์ ที่แข็งแรง สวยงาม ปลอดภัย และเพียงพอกับจ านวนเด็ก เพื่อให้เด็กเรียนรู้จากการสัมผัส ทั้ง ๕ มีห้องสื่อ มีมุมประสบการณ์ ได้แก่ มุมบ้าน มุมบล็อก มุมเครื่องเล่นสัมผัส มุมหนังสือ มุม ดนตรี มุมศิลปะ เป็นต้น ๒. ภายในสถานศึกษา จัดให้บรรยากาศที่สะอาด ร่มรื่น สวยงาม ปลอดภัย มีต้นไม้มากมายหลายชนิด พันธุ์ไม้ต่าง ๆ และห้องส าคัญต่าง ๆ ในโรงเรียน เช่น ห้องครัว ห้องธุรการ ห้องเรียน ห้องพยาบาล ห้องอาหารห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ และอื่น ๆ ๓. สนามเด็กเล่น มี ๒ ส่วนคือ ส่วนที่เป็นสนามหญ้าส าหรับให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายและส่วนที่เป็น สนามเด็กเล่น ได้แก่ เครื่องเล่นสนามต่างๆ เช่น ชิงช้า กระดานไม้หก นอกจากนี้จัดให้มีที่เล่นน้ า เล่นทราย เครื่องเล่นสนามแบบ BBL ๔. ภายนอกสถานศึกษา คือ สถานที่ต่าง ๆ ดังนี้ สถานที่ (ทิศเหนือ) ๑. ส านักงานเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ๒. ทุ่งนา ๓. ส านักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ดับเพลิง) ๔. คลินิกชุมชนเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ๕. วัดม่วงค า ๖. วัดวังแดง ๗. วัดป่าจี้ ๘. วัดอินทขิล ๙. แหล่งเตาเผาอินทขิล ๑๐. วัดบ้านปง ๑๑. วัดบ้านเด่น ๑๒. การท าขยะรีไซเคิลประจ าหมู่บ้าน
๑๑๗ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ สถานที่ (ทิศใต้) ๑. ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย “ทีปังกรการุณยมิตร” ๒. ทุ่งนา ๓. สวนกล้วยหอม สถานที่ (ทิศตะวันออก) ๑. ศูนย์เรียนรู้สายใยรักแห่งครอบครัวชุมชนเมืองแกน ๒. ทุ่งนา ๓. ร้านสะดวงซื้อ seven – ๑๑ ๔. กาดหลวงเมืองแกน ๕. เทสโก้โลตัส ๖. บิ๊กซีมาร์เก็ต ๗. วัดหนองออน ๘. โรงเรียนหนองออน ๙. แม่น้ าปิง ๑๐. วัดช่อแล ๑๑. โรงเรียนช่อแล ๑๒. ป้อมยามต ารวจ ๑๓. สถานีอนามัยช่อแล ๑๔. เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล สถานที่ (ทิศตะวันตก) ๑. ลานพระบรมราชานุเสาวรีย์พระเจ้าสามฝั่งแกน ๒. สวนสมุนไพรเศรษฐกิจพอเพียง ๓. โรงเรียนบ้านปลาดาว ๔. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านปง ๕. วัดอรัญวิเวก ๖. สวนสุขภาพ ๗. โรงพยาบาลแม่แตง ๘. ศูนย์ฝึกวิชาชีพคนพิการหยาดฝน ๙. ศูนย์วัยทอง ๑๐. ปศุสัตว์แม่แตง
๑๑๘ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ การประเมินพัฒนาการเป็นกระบวนการต่อเนื่องให้ครอบคลุมพัฒนาการเด็กทุกด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เพื่อน าผลมาใช้วางแผนจัดกิจกรรมให้เด็กแต่ละคนได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา จัดให้มีการประเมินอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม พัฒนาการทุกด้านเป็นการประเมินสถานการณ์ปกติขณะที่เด็กท ากิจกรรมประจ าวันและช่วงเวลาต่าง ๆ ได้แก่ การสังเกตการสัมภาษณ์ การสนทนา การบันทึกพฤติกรรมเด็กและวิเคราะห์ข้อมูล ผลงานที่เก็บอย่างเป็นระบบ แล้วน าข้อมูลจากการประเมินพัฒนาการมาสรุป เพื่อเขียนรายงานผลพัฒนาการลงในสมุดรายงานประจ าตัวเด็กทุก ภาคเรียน และรายงานให้ผู้ปกครองทราบอย่างชัดเจน และต่อเนื่องโดยด าเนินการต่อไปนี้ ก่อนเรียน จัดท าข้อมูลของเด็กเป็นรายบุคคล โดยให้ผู้ปกครองกรอกข้อมูลและสัมภาษณ์ผู้ปกครอง เช่น ข้อมูลทั่วไป ประวัติสุขภาพ ลักษณะนิสัย ระหว่างเรียน จัดท าเครื่องประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลายเหมาะสมกับเด็ก รวมทั้งใช้แหล่งข้อมูลหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ การสังเกต การบันทึกพฤติกรรม การสนทนา การสัมภาษณ์ การ วิเคราะห์ข้อมูล จากผลงานเด็กที่เก็บอย่างมีระบบ บันทึกการเรียน บันทึกสุขภาพ และบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว น าข้อมูลที่ได้มาจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาเด็กให้สอดคล้องกับความสามารถหรือพัฒนาการแต่ละด้านของเด็ก หลังเรียน มีการน าข้อมูลจากการประเมินพัฒนาการมารวบรวมสรุปและเขียนรายงานผลพัฒนาการลงใน สมุดรายงานประจ าตัวทุกภาคเรียน เกณฑ์การประเมินพัฒนาการ คือ การน าผลประเมินมาสรุปและจัดระบบพัฒนาการ ดังนี้ ๓ : ระดับ ดี หมายถึง ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง คล่องแคล่ว ชัดเจน ๒ : ระดับ พอใช้ หมายถึง ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง แต่ยังไม่คล่องแคล่ว ๑ : ระดับ ปรับปรุง หมายถึง ปฏิบัติได้บ้าง แต่ครูต้องให้ความช่วยเหลือ การจัดระดับคุณภาพของการประเมินผลพัฒนาการ มีดังนี ระดับคุณภาพ ๓ มีค่าเฉลี่ยระหว่าง ๒.๕๐ – ๓.๐๐ หมายความว่า ปฏิติบัติได้อย่างถูกต้อง คล่องแคล่ว ชัดเจน ระดับคุณภาพ ๒ มีค่าเฉลี่ยระหว่าง ๑.๕๐ – ๒.๔๙ หมายความว่า ปฏิติบัติได้อย่างถูกต้อง แต่ยังไม่คล่องแคล่ว ระดับคุณภาพ ๑ มีค่าเฉลี่ยระหว่าง ๑.๐๐ – ๑.๔๙ หมายความว่า ปฏิติบัติได้บ้าง แต่ครูต้องให้ความช่วยเหลือ การประเมินพัฒนาการ
๑๑๙ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ การประเมินผล การประเมินพัฒนาการระดับปฐมวัยแบ่งออกเป็น ๓ ระยะ ดังนี้คือ ๑. ประเมินพัฒนาการประจ า แต่ละกิจกรรม ๒. ประเมินผลประจ าวัน ๓. ประเมินพัฒนาการประจ าภาค / ปี วิธีประเมินผล ๑. การสังเกต คือ ครูสังเกตเด็กตลอดเวลา เช่น ขณะเรียน เล่น และร่วมกิจกรรมต่างๆ ของ สถานศึกษา การเรียนกิจกรรมเสรีทั้งเป็นกลุ่ม และรายบุคคลสม่ าเสมอ ๒. การสัมภาษณ์ คือ การสนทนากับเด็กเป็นรายบุคคล และเป็นกลุ่ม อาจจะมีการบันทึกการ สนทนาด้วยเพื่อหาวิธีการแก้ไข หรือท าให้ทราบว่าประสบผลส าเร็จหรือไม่ ๓. ตรวจผลงานและวิเคราะห์ข้อมูล ๔. แบบส ารวจ เช่น แบบบันทึกการตรวจสุขภาพประจ าวัน เป็นต้น ๕. การประเมินการเจริญเติบโตของเด็ก ได้แก่ น้ าหนัก ส่วนสูง โดยการประเมินทุกๆเดือน เดือนละ ๑ ครั้ง และมีการจดบันทึกลงในแบบบันทึกพัฒนาการและมีการน าผลการประเมิน การเจริญเติบโตมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ปกติ ในกราฟแสดงน้ าหนัก ส่วนสูง ของกระทรวง สาธารณสุข การจัดระดับคุณภาพของการประเมินผลพัฒนาการ มีดังนี้ ระดับคุณภาพ ๓ มีค่าเฉลี่ยระหว่าง ๒.๕๐ – ๓.๐๐ หมายความว่า ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง คล่องแคล่ว ชัดเจน ระดับคุณภาพ ๒ มีค่าเฉลี่ยระหว่าง ๑.๕๐ – ๒.๔๙ หมายความว่า ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง แต่ยังไม่คล่องแคล่ว ระดับคุณภาพ ๑ มีค่าเฉลี่ยระหว่าง ๑.๐๐ – ๑.๔๙ หมายความว่า ปฏิบัติได้บ้าง แต่ครูต้องให้ความช่วยเหลือ
๑๒๐ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ 1) หลักการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning Active Learning กับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ Active Learning คืออะไร ? คือ การเรียนเชิงรุกหรือการเรียนรู้แบบกระตือรือร้น (Active Learning) เป็นการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎี Constructivism ที่ให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ใหม่จากการมีปฏิบัติสัมพันธ์และ เชื่อมโยงจากความรู้เดิมด้วยตนเองจากการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง แสดงดังรูป ตารางแสดง : ความแตกต่างระหว่างการการจัดการเรียนรู้เชิงรุก กับการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับความรู้ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก การจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับข้อมูล - เน้นการท างานเป็นกลุ่ม - เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย - เน้นการร่วมมือระหว่างผู้เรียน - ผู้เรียนรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตน - ผู้สอนเป็นเพียงผู้ชี้แนะประสบการณ์และ อ านวยความสะดวกในการเรียนรู้ - ผู้เรียนเป็นเจ้าของความคิดและการท างาน - เน้นทักษะ การวิเคราะห์และการแก้ปัญหา - ผู้เรียนมีวินัยในตนเอง - ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนหลักสูตร - ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก - ใช้วิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย - เน้นการบรรยายจากผู้สอน - เป็นการสอนที่ใช้แหล่งความรู้เดียว - เน้นการแข่งขัน - ผู้สอนรับผิดชอบการเรียนรู้ของผู้เรียน - ผู้สอนเป็นผู้ชี้น าและจัดเนื้อหาเองทั้งหมด - ผู้สอนเป็นผู้ใส่ความรู้ลงในสมองของผู้เรียน - เน้นความรู้ในเนื้อหาวิชา - ผู้สอนเป็นผู้วางกฎระเบียบวินัย - ผู้สอนเป็นผู้วางแผนหลักสูตรแต่ผู้เดียว - ผู้เรียนเป็นฝ่ายรับความรู้ที่ผู้สอน ถ่ายทอดเพียง อย่างเดียว - จ ากัดวิธีการเรียนรู้และกิจกรรม ที่มา : Sheffield Hallam University. (๒๐๐๐). Active Teaching and Learning Approaches in Science: Workshop ORIC Bangkok. p. ๗. ทฤษฎีที่เลือกใช้ในการจัดการเรียนรู้
๑๒๑ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ จากรูปจะเห็นได้ว่า กรวยแห่งการเรียนรู้นี้ได้แบ่งเป็น ๒ กระบวนการ คือ ๑) กระบวนการเรียนรู้ Passive Learning กระบวนการเรียนรู้โดยการอ่านท่องจ าผู้เรียนจะจ าได้ในสิ่งที่เรียนได้เพียง ๑๐% การเรียนรู้โดยการฟังบรรยายเพียงอย่างเดียว โดยที่ผู้เรียนไม่มีโอกาสได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้วย กิจกรรมอื่นในขณะที่อาจารย์สอนเมื่อเวลาผ่านไปผู้เรียนจะจ าได้เพียง ๒๐% หากในการเรียนการสอนผู้เรียนมีโอกาสได้เห็นภาพประกอบด้วยก็จะท าให้ผลการเรียนรู้คงอยู่ได้ เพิ่มขึ้นเป็น ๓๐% กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้สอนจัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเพิ่มขึ้น เช่น การให้ดูภาพยนตร์ การสาธิต จัดนิทรรศการให้ผู้เรียนได้ดู รวมทั้งการน าผู้เรียนไปทัศนศึกษา หรือดูงาน ก็ท าให้ผลการเรียนรู้ เพิ่มขึ้นเป็น ๕๐% ๒) กระบวนการเรียนรู้ Active Learning การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์จนเกิดความรู้ ความเข้าใจ น าไปประยุกต์ใช้สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าหรือ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และพัฒนาตนเอง เต็มความสามารถ รวมถึงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เขาได้มีโอกาสร่วมอภิปรายให้มีโอกาสฝึก ทักษะการสื่อสาร ท าให้ผลการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ๗๐% การน าเสนองานทางวิชาการ เรียนรู้ในสถานการณ์จ าลอง ทั้งมีการฝึกปฏิบัติในสภาพจริง มีการ เชื่อมโยงกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งจะท าให้ผลการเรียนรู้เกิดขึ้นถึง ๙๐% ลักษณะของ Active Learning (อ้างอิงจาก :ไชยยศ เรืองสุวรรณ) ๑. เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา การน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ ๒. เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ๓. ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง ๔. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มีการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฎิสัมพันธ์ร่วมกัน และร่วมมือกัน มากกว่าการแข่งขัน ๕. ผู้เรียนได้เรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการท างาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบเป็น กระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิด ๖. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนเน้นทักษะการคิดขั้นสูง ๗. เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ และหลักการสู่การสร้างความคิดรวบยอด ๘. ผู้สอนจะเป็นผู้อ านวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง ๙. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรียน ๑๐.เน้นพัฒนาศักยภาพในการคิด การแก้ปัญหา ๑๑. เน้นการมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ๑๒.เน้นการสร้างองค์ความรู้ ๑๓.เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ๑๔. เน้นการท างานร่วมกัน ๑๕.เน้นกระบวนการสร้างให้ผู้เรียน ฟัง พูด คิด อย่างลุ่มลึก
๑๒๒ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีอะไรบ้าง ? ๑. การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนามาจาก แนวคิดในการจัดการเรียนการสอนที่เผยแพร่ในปลายศตวรรษที่ ๒๐ ที่เรียกว่าการเรียนรู้ที่เน้นบทบาทและการมีส่วน ร่วมของผู้เรียน หรือ “การเรียนรู้เชิงรุก” (Active Learning) ซึ่ง "ใช้กิจกรรมเป็นฐาน" หมายถึงการจัดการเรียนรู้โดย ใช้กิจกรรมเป็นที่ตั้งเพื่อที่จะฝึกหรือพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่ก าหนด กิจกรรมการเรียนรู้ที่นิยมใช้ มีดังนี้ ๑) การอภิปรายในชั้นเรียน (class discussion ) สนทนา ๒) การอภิปรายกลุ่มย่อย (Small Group Discussion) ๓) กิจกรรม “คิด-จับคู่-แลกเปลี่ยน” (think-pair-share) ๔) บทบาทสมมุติ (Role Play) ๕) การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์ (Situational Learning) ๖) การเรียนแบบกลุ่มร่วมแรงร่วมใจ (Collaborative learning group) ๗) เกมในชั้นเรียน (Game) ๘) แกลเลอรี่ วอล์ค (Gallery Walk) ๒. การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) เป็นกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนตั้งสมมติฐาน สาเหตุและกลไกของการเกิดปัญหา นั้น รวมถึงการค้นคว้าความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญหา เพื่อน าไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป โดยผู้เรียนอาจไม่มีความรู้ใน เรื่องนั้นๆ มาก่อน แต่อาจใช้ความรู้ที่ผู้เรียนมีอยู่เดิมหรือเคยเรียนมา นอกจากนี้ยังมุ่งให้ผู้เรียนใฝ่หาความรู้เพื่อแก้ไข ปัญหา ได้คิดเป็น ท าเป็น มีการตัดสินใจที่ดี และสามารถเรียนรู้การท างานเป็นทีม โดยเน้นให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ ด้วยตนเอง และสามารถน าทักษะจากการเรียนมาช่วยแก้ปัญหาในชีวิต การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเป็นการเรียนรู้ จากประสบการณ์ โดยเริ่มจากการได้ประสบการณ์ตรงจากโจทย์ปัญหา ผ่านกระบวนการคิดและการสะท้อนกลับ ไปสู่ ความรู้และความคิดรวบยอด อันจะน าไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ต่อไป การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานยังเป็นการ ตอบสนองต่อแนวคิด constructivism โดยให้ผู้เรียนวิเคราะห์หรือตั้งค าถามจากโจทย์ปัญหา ผ่านกระบวนการคิด และสะท้อนกลับ เน้นปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ผู้เรียนในกลุ่ม เน้นการเรียนรู้ที่มีส่วนร่วม น าไปสู่การค้นคว้าหาคาตอบหรือ สร้างความรู้ใหม่ บนฐานความรู้เดิมที่ผู้เรียนมีมาก่อนหน้านี้ ๓. การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning ) หมายถึง การเรียนรู้ที่จัดประสบการณ์ใน การปฏิบัติงาน ให้แก่ผู้เรียนเหมือนกับการท างานในชีวิตจริงอย่างมีระบบ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ ตรงได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา วิธีการหาความรู้ความจริงอย่างมีเหตุผลได้ท าการทดลองได้พิสูจน์สิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง รู้จักการวางแผนการท างาน ฝึกการเป็นผู้น า ผู้ตาม ตลอดจนได้พัฒนากระบวนการคิดโดยเฉพาะการคิดขั้นสูงและการ ประเมินตนเอง โดยมีผู้สอนเป็นผู้กระตุ้นเพื่อน าความสนใจที่เกิดจากตัวผู้เรียนมาใช้ในการท ากิจกรรมค้นคว้าหา ความรู้ด้วยตัวเอง น าไปสู่การเพิ่มความรู้ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติ การฟังและการสังเกตจากผู้รู้ โดยผู้เรียนมีการ เรียนรู้ผ่านกระบวนการท างานเป็นกลุ่ม ที่จะน ามาสู่การสรุปความรู้ใหม่ มีการเขียนกระบวนการจัดท าโครงงานและ ได้ผลการจัดกิจกรรมเป็นผลงานแบบรูปธรรม นอกจากนี้การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ยังเน้นการเรียนรู้ที่
๑๒๓ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ชีวิตขณะที่เรียน ได้พัฒนาทักษะต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับหลักพัฒนาการตามล าดับขั้น ความรู้ความคิดของบลูม ทั้ง ๖ ขั้น คือ ๑) ความรู้ความจ า ๒) ความเข้าใจ ๓) การประยุกต์ใช้ ๔) การวิเคราะห์ ๕) การ สังเคราะห์ และ ๖) การประเมินค่าและการคิดสร้างสรรค์ การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ถือได้ว่าเป็น การ จัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ เนื่องจากผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติเพื่อฝึกทักษะต่างๆ ด้วยตนเองทุกขั้นตอน โดยมี ผู้สอนเป็นผู้การส่งเสริม สนับสนุน บทบาทของครู กับ Active Learning ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ. ๒๕๕๐ ได้กล่าวถึง บทบาทของครูผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทาง ของ Active Learning ดังนี้ ๑. จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและ เน้นการน าไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้เรียน ๒. สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้สอนและ เพื่อนในชั้นเรียน ๓. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้นให้ผู้เรียน ประสบความส าเร็จในการเรียนรู้ ๔. จัดสภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน ๕. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย ๖. วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม ๗. ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของผู้เรียน ความสอดคล้องระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุกกับทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ ๑.๑ การจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (๒๕๖๐)และนักการศึกษา ได้อธิบายลักษณะของการจัดกิจกรรม Active Learning ไว้หลากหลาย ซึ่งได้สรุปลักษณะส าคัญไว้ดังนี้ ๒.๑.๑ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ โดยผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้และจัดระบบการ เรียนรู้ด้วยตนเอง ดังนี้ ๑) ผู้เรียนมีส่วนร่วม ในการตั้งค าถาม หาค าตอบ ๒) ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอธิปราย แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น การ สื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ๓) มีส่วนร่วมในการแก้ปัญญา ๔) การน าเสนอกิจกรรมการเรียนรู้และการน าเสนอชิ้นงาน ๕) การท างานเป็นกลุ่ม การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันการเป็นผู้น าผู้ตาม ๖) การอ่าน การเขียน ๗) การเขียนสรุปเนื้อหา
๑๒๔ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๒.๑.๒ การพัฒนาทักษะการคิดให้ผู้เรียนคิดเป็น ดังนี้ ๑) การคิดวิเคราะห์ ๒) การคิดสร้างสรรค์และคิดสังเคราะห์ ๓) การคิดวิจารณญาณ ๔) การคิดประเมินค่า ๕) การคิดแก้ปัญหา ๒.๑.๓ ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง ๑) การค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ๒) การลงมือปฏิบัติจริง ๓) การสร้างสรรค์ชิ้นงาน ๔) ก ากับความก้าวหน้าในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ๕) ประเมินตนเองเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ ๒.๑.๔ การน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ ๑) น าความรู้ประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ ๒) น าความรู้ไปปรับใช้กับสภาพแวดล้อมใกล้ตัว ๓) น าความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาของชุมชน สังคม ประเทศชาติและสังคมโลก
๑๒๕ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๒) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กรอบแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ชี้น าถึงแนวทางการด ารงอยู่และปฏิบัติตนของ ประชาชนในทุกระดับ ทั้งในการพัฒนาและการบริหารประเทศให้ด าเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนา เศรษฐกิจเพื่อก้าวให้ทันต่อโลกในยุคโลกาภิวัตน์ เป้าหมาย เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งทางวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี ๑. หลักการของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกัน ในตัวที่ดีพอ สมควรต่อการมี ผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอก เงื่อนไขพื้นฐาน คือ คุณธรรม น าความรู้ ทั้งนี้ต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระวัดระวังอย่าง ยิ่งในการน าวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการด าเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้าง พื้นฐานจิตใจของคนในชาติ ให้มีความส านึกในคุณธรรม ความซื่อสัตว์สุตจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ด าเนิน ชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ มีปัญญาและความรอบคอบ ๒. แนวทางการน้าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในโรงเรียน การบริหารจัดการ - ก าหนดเป็นนโยบาย - วิสัยทัศน์ พันธกิจ ภารกิจ แผนปฏิบัติการ - งานวิชาการ งบประมาณ บุคคล บริหารทั่วไป ชุมชนสัมพันธ์ - น าหลักการทรงงาน มาปรับใช้ในการบริหารศึกษา - เน้นการบริหารทรัพยากรตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การมีส่วนร่วมรู้จักสามัคคี ไม่ประมาท หลักสูตรการเรียนการสอน สอนวิชา “เศรษฐกิจพอเพียง” ตามมาตรฐาน ๓.๑ เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง และสามารถน า หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ได้ จัดท ารายวิชาเพิ่มเติม/หลักสูตรท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับสภาพ และความต้องการ โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วิเคราะห์เพื่อก าหนดรายวิชา การเรียนการสอน จัดท าหน่วย/แผนการเรียนรู้ หรือสื่อการเรียนรู้ที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับสาระการ เรียนรู้ของกลุ่มสาระ แหล่งเรียนรู้ / ฐานเรียนรู้ สร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยพัฒนาและจัดการแหล่ง เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา
๑๒๖ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สถานศึกษาควรมุ่งส่งเสริมการเรียนรู้และปลูกฝัง เสริมสร้างให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการ ด าเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ มีความรู้ ความเข้าใจปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และตระหนักในความส้าคัญของ การด าเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้มีความรู้ ความเข้าใจในการด าเนินชีวิตตามแนว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความรู้ ความเข้าใจปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจ ทั่วไปเห็นประโยชน์ และตระหนักในความส าคัญของการด าเนินชีวิต ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการใช้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาตนเอง พัฒนากลุ่ม / โรงเรียน / ชุมชน และพัฒนาสังคมโดยรวม มี ความรู้และทักษะพื้นฐานในการด าเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการ ด ารงชีวิตและการพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละบุคคล และสอดคล้องกับภูมิสังคมต่าง ๆ เช่น การ ผลิต และจ าหน่ายสินค้าการให้บริการ การด าเนินธุรกิจต่าง ๆ การใช้จ่ายและการออม การเกษตร ฯลฯ เพื่อให้ สามารถอุ้มชูตัวเองและครอบครัวได้มีทักษะ ค่านิยม และจริยธรรมเบื้องต้นที่จ าเป็นในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม อย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เกื้อกูล ไม่เบียดเบียน น าไปสู่ความสันติสุข และรู้จักสามัคคีใช้และพัฒนาทรัพยากรและ สิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์และความสุข อย่างยั่งยืนสืบสานและพัฒนาศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น หวง แหนทรัพย์สมบัติของชาติรักและภาคภูมิใจในความเป็นไทยปฏิบัติตนและด าเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ดังนี้ ปฏิบัติตนให้มีความพอประมาณ รู้จักการประมาณตน รู้จักศักยภาพของตนที่มีอยู่ และรู้จักสภาพแวดล้อม ของชุมชน / สังคม ที่อาศัยอยู่ ปฏิบัติตนอย่างมีเหตุผล บนพื้นฐานความถูกต้อง โดยใช้สติ ปัญญา มีความรอบรู้และรอบคอบในการคิด พูด ท า โดยยึดทางสายกลางในการปฏิบัติ มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก ภายใต้ กระแสโลกาภิวัฒน์ มีความรอบรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง สามารถคิดวิเคราะห์และปฏิบัติด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ปฏิบัติตนและด าเนินชีวิตตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อดทน ขยันหมั่นเพียร แบ่งฟัน มีสติ ปัญญา มีวินัย พึ่งตนเอง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เกื้อกูล มีความรับผิดชอบและอยู่ ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ๔. แนวทางในการพัฒนาผู้เรียนตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ “อยู่อย่างพอเพียง” การพัฒนาหลักสูตร มีแนวทางด้าเนินการ ดังนี สถานศึกษาควรมีการพัฒนาหรือบูรณาการเนื้อหาสาระของเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปในหลักสูตรสถานศึกษา ตามขั้นตอนดังนี้ สถานศึกษาน าคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา พิจารณาปรับปรุงหรือเพิ่มเติม วิสัยทัศน์ เป้าหมายและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในหลักสูตร สถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปรับปรุง หรือเพิ่มเติมมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละช่วง ชั้น ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามแนวปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ของหลักสูตรสถานศึกษาที่ปรับปรุงหรือเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปรับปรุง เพิ่มเติม หรือจัดท าสาระการเรียนรู้หน่วยการ จัดการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ ตามล าดับ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้ แต่ละช่วงชั้น
๑๒๗ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ การจัดการเรียนการสอน สถานศึกษาควรจัดการเรียนการสอนตามเนื้อหาสาระที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรอย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิตของ ผู้เรียน เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ เน้นการปฏิบัติจริง เพื่อน าไปสู้การปฏิบัติตนที่เหมาะสมใน ชีวิตประจ าวัน โดยมีแนวทางด าเนินการดังนี้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการฝึกทักษะ กระบวนการคิด วิเคราะห์ การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ การ แก้ปัญหา ฯลฯ ที่เริ่มจากชีวิตประจ าวัน และเชื่อมโยงสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และสังคมโลก จัดกระบวนการการเรียนรู้โดยเน้นการทดลอง การปฏิบัติจริงทั้งในสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ภายนอก สถานศึกษา ทั้งในรูปของการจัดท าโครงการ โครงงาน และอื่นๆ ทั้งการศึกษารายบุคคล และเป็นกลุ่ม วัดและประเมินผลการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทั้ง ๓ ด้าน ได้แก่ ๑.ความรู้ (Knowledge) ๒.ทักษะกระบวนการ (Process) และ ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute) ๕. การจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษา สถานศึกษาควรจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ ปลูกฝัง หล่อหลอม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และเอื้อต่อกระบวนการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษา โดยมีแนวทางด าเนินการ ดังนี้ ๑. จัดอาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนที่เน้นความร่มรื่น ประโยชน์ใช้สอย เป็นแหล่งเรียนรู้ และ อนุรักษ์สืบสานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมของท้องถิ่น และภูมิปัญญา ไทย ๒. ก าหนดระเบียบ ธรรมเนียมปฏิบัติในสถานศึกษา ที่ส่งเสริมความมีระเบียบวินัย เคารพธรรมเนียมปฏิบัติ กฎ กติกาของสังคมส่วนรวมเช่นการมีวินัย การเข้าคิว การรับประทานอาหาร การแต่งกาย การใช้ทรัพยากร ร่วมกัน ฯลฯ ๓. ส่งเสริมพัฒนาบรรยากาศด้านคุณธรรม เช่นการท าบุญ การบริจาค การปฏิบัติทางศาสนา การฝึกอบรมจิต การเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา การยกย่องส่งเสริมผู้กระท าความดี การส่งเสริม การแบ่งปัน การช่วยเหลือ กันและกัน ฯลฯ ๔. ส่งเสริมการแสวงหาความรู้ และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การจัด นิทรรศการ การจัดการประกวดในรูปแบบต่างๆ การหาความรู้ผ่านสื่อเทคโนโลยีและอื่นๆ ๕. ส่งเสริมการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างของผู้บริหาร ครู และบุคลากรในสถานศึกษา ๖. จัดโครงการและกิจกรรมส่งเสริมการปฏิบัติตนและการด าเนินชีวิตตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๗. การให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา สถานศึกษาควรให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการด าเนินการจัดการศึกษาของสถานศึกษาใน ขั้นตอนส าคัญทุกขั้นตอน ตามแนวทางดังนี้ ๑. ร่วมก าหนดแนวนโยบาย และการวางแผน ๒. ร่วมให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะในกระบวนการพัฒนาหลักสูตร ๓. ร่วมจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการจัดสภาพและบรรยากาศภายในสถานศึกษา ๔. ส่งเสริมการเรียนรู้และการปฏิบัติตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา ที่บ้านและ สถานที่อื่นๆ ๕. ร่วมติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
๑๒๘ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ 3) ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ๑.๑ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ Bernie Trilling and Charles fade (๒๐๐๙) ได้กล่าวทักษะส าคัญในศตวรรษที่ ๒๑ คือ ๓Rs+ ๗Cs ๓ Rs หมายถึงทักษะการเรียนรู้ทีประกอบด้วย การอ่าน Reading การเขียน (W) Writing และคิดเลขเป็น (A) Rithmetic และ๗Cs ประกอบด้วย ๑. Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการ แก้ปัญหา) ๒. Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม) ๓. Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) ๔. Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การท างานเป็นทีม และ ภาวะผู้น า) ๕. Communications, Information, and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่า ทันสื่อ) ๖. Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ๗. Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้) ไพฑูรย์ สินลารัตน์และคณะ (๒๕๕๗) กล่าวว่า แนวคิดทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ มีอยู่ในทักษะกลุ่มหลัก ๗ กลุ่มส าคัญ ดังนี้ ๑. ทักษะด้านเทคโนโลยี (Computing and ICT Literacy) ๒. ความสนใจใครรู้และมีจินตนาการ (Curiosity and Imagination) ๓. การคิดวิจารณญาณและการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ๔. ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และพัฒนานวัตกรรม (Creativity and Innovation) ๕. ทักษะในการสื่อสารและการร่วมมือกัน (Communications and Collaboration) ๖. การคิดเชิงธุรกิจและทักษะประกอบการ (Corporate and entrepreneurial Spirit) ๗. ทักษะการเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรมและการสนใจต่อโลก (Cross- cultural and Global Awareness) วิจารณ์ พาณิช (๒๕๕๖) ได้กว่าวว่า ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ สามารถแจกแจงออกได้เป็น ๓Rs+ ๘Cs และ ๒Ls ดังนี้ ๓Rs คือ ๑) การอ่าน (Reading) ๒) การเขียน (W)riting ๓) คณิตศาสตร์ (A) Rithmetic
๑๒๙ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๘Cs คือ ๑) Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะ ในการแก้ปัญหา) ๒) Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม) ๓) Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การท างานเป็นทีม และภาวะผู้น า) ๔) Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) ๕) Communications, Information, and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) ๖) Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร) ๗) Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้) ๘) Change (การเปลี่ยนแปลง) ๒Ls คือ ๑) Learning Skills (ทักษะการเรียนรู้) ๒) Leadership (ภาวะผู้น า) พิมพันธ์ เตชะคุปต์ และคณะ (๒๕๕๗) กล่าวถึง ทักษะศตวรรษที่ ๒๑ ของเด็กไทย ควรมีทักษะดังนี้ E (๔ R+ ๗C) โดยมีรายละเอียดดังนี้ - E คือ Ethical Person ผู้มีคุณธรรม จริยธรรม - ๔ R คือ Reading Writing Arithmetic และ Reasoning - ๗ C คือ ๑) Creative Problem Solving Skills ทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ๒) Critical Thinking Skills ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ๓) Collaborative Skills ทักษะการท างานร่วมกันอย่างมีพลัง ๔) Communicative skills ทักษะการสื่อสาร ๕) Computing Skills ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ๖) Career and Life Skills ทักษะอาชีพและทักษะการใช้ชีวิต ๗) Cross-cultural Skills ทักษะการใช้ชีวิตข้ามวัฒนธรรมข้าม แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ (๒๕๖๐) ระบุว่า ทักษะส าคัญในโลกแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ประกอบด้วย ๓Rs คือ ๑) การอ่าน (Reading) ๒) การเขียน (W)riting ๓) คณิตศาสตร์ (A) Rithmetic
๑๓๐ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๘Cs คือ ๑) ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ๒) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation ) ๓) ทักษะด้านความร่วมมือ การท างานเป็นทีม และภาวะผู้น า (Collaboration, Teamwork and Leadership ) ๔) ทักษะด้ านคว ามเข้ าใจคว ามต่ าง วัฒน ธ ร รม ต่ างก ร ะบวนทัศน์ ( Cross-cultural Understanding) ๕) ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy ) ๖) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)(Computing and ICT Literacy) ๗) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) ๘) ทักษะการเห็นอกเห็นใจ (Compassion) คือ มีความเมตตา กรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม ภาพแสดงกรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ที่มา : วิจารณ์ พาณิชย์. (๒๕๕๖). การสร้างการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ ๒๑. ส เจริญการพิมพ์ : นครปฐม.
๑๓๑ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๑. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง Active Learning กับทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ สุคนธ์ สินธพานนท์ (๒๕๖๐) ได้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง Active Learning กับทักษะของผู้เรียนใน ศตวรรษที่ ๒๑ ดังนี้ ๑. การมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังนี้ ๑) ผู้สอนออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการกิจกรรมการเรียนการสอน ตอบค าถาม ตั้งค าถาม อภิปราย น าเสนอ สอดคล้องกับทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ นั่นคือทักษะ C๕ ๒) ผู้เรียนน าเสนอกิจกรรมการเรียนรู้ การน าเสนอชิ้นงาน การท างานกลุ่ม การอ่าน การเขียน การสรุป เนื้อหา สอดคล้องกับทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ นั่นคือ ทักษะ C๒ C๓ C๔ C๘ R๑ R๒ ๓) การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา สอดคล้องกับทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ นั่นคือ ทักษะ C๑ ๒. การพัฒนาการเรียนรู้ให้ผู้เรียนคิดเป็นผู้สอนออกแบบจัดกิจกรรมที่เน้นให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ คิด สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ ประเมินค่า คิดแก้ปัญหา สอดคล้องกับทักษะของผู้เรียนในศตวรรษ ที่ ๒๑ นั่นคือ ทักษะ C๑ C๒ C๘ ๓. ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง ผู้สอนออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าความรู้จาก แหล่งเรียนรู้ด้วยตนเอง หาวิธีการและออกแบบการด าเนินกิจกรรมด้วยตนเอง ใช้กระบวนการกลุ่มที่สามารถก ากับ ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของตนเองได้ มีการประเมินการเรียนรู้ของตนเอง สร้างสรรค์ชิ้นงาน ผลงาน ตลอดจนการ สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สอดคล้องกับทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ นั่นคือ ทักษะ R๑ R๒ R๓ C๒ C๓ C๔ C๕ C๖ C๗ C๘ ๔. การน าไปประยุกต์ใช้ผู้สอนออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ โดยน าไปใช้ใน สถานการณ์ใหม่ ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้ตัว น าไปแก้ปัญหาในชุมชน สังคม ประเทศชาติและสังคมโลก สอดคล้องกับ ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ นั่นคือ ทักษะ R๑ R๒ R๓ C๑ C๒ C๓ C๔ C๕ C๖ C๗ C๘
๑๓๒ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ 4 ) การสอนแบบโครงงาน/โครงการ (Project Approach) การสอนแบบโครงการ หมายถึง การจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งซึ่งให้ความส าคัญกับเด็ก ส่งเสริมให้เด็ก แสวงหาค าตอบจากการเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึกเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยที่เด็กหรือครูร่วมกัน ก าหนดเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ แล้วด าเนินการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้อ านวยความ สะดวกให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและจากแหล่งเรียนรู้ ที่มาของการสอนแบบโครงการ การจัดการเรียนการสอนแบบโครงการได้เริ่มในประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ เป็นความคิด ริเริ่มของ William Heard Kilpatrick นักการศึกษาอเมริกัน ซึ่งพัฒนามาจากแนวคิดของ John Dewey ที่สนับสนุน ให้สร้างประสบการณ์ทางการศึกษาเพื่อช่วยให้เด็กเกิดความตระหนักในชุมชน น ามาประยุกต์ สอนเด็กถึงวิธีการใช้ โครงการที่เกี่ยวกับประสบการณ์จริงให้เป็นรากฐานส าคัญของการศึกษามากกว่าการเตรียมเด็กเพื่ออนาคต ในช่วงปี ค.ศ. ๑๙๓๔ Lucy Sprague Mitchell นักการศึกษาจาก The Bank Street College Of Education นครนิวยอร์ก ออกศึกษาสิ่งแวดล้อมและสอนครูให้รู้จักวิธีการใช้โครงการ ซึ่งเป็นวิธีสอนที่พัฒนาโดยวิทยาลัยการศึกษาแบงก์สตรีทมี ส่วนคล้ายคลึงอย่างมากกับการสอนแบบโครงการ ผลการทดลองใช้พบว่า เด็กเรียนรู้ได้ดีจากการวางแผนท างาน ร่วมกัน ได้ตัดสินใจและเรียนรู้ในสิ่งที่ต้องการเรียน ผลการเรียนรู้ส่งเสริมศักยภาพของเด็กทุกด้าน ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๙๔๕ หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ใน Villa Cella ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมือง Reggio Emilia ๒-๓ ไมล์ แม่บ้านกลุ่มหนึ่งร่วมมือกับ Malaguzzi นักการศึกษา และกลุ่มผู้ปกครองจัดการศึกษาให้เหมาะกับเด็กที่มีชีวิตอยู่ ท่ามกลางบ้านเรือนปรักหักพังเพราะผลจากสงครามโลก และท าการศึกษาค้นคว้าทฤษฎี บทความ งานวิจัย ข้อคิดเห็น จากศาสตร์สาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ทดลองปฏิบัติ แล้ววิเคราะห์ สะท้อนผลการปฏิบัติ ท าการปรับปรุงจน ได้แนวคิดและการปฏิบัติในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ส าหรับเด็กปฐมวัย และประสบผลส าเร็จจนเป็นที่รู้จักใน กลุ่มยุโรปอเมริกาเหนือ และอเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๘๐ Reggio Emilia ได้กลายเป็นชื่อของแนวคิดในการจัด การศึกษาส าหรับเด็กปฐมวัย และ การเรียนรู้อย่างลุ่มลึกจากงานของโครงการ (Projects) เป็นกิจกรรมการสอนที่ โดด เด่นในโรงเรียนตามแนวคิด Reggio Emilia การจัดประสบการณ์แบบโครงการได้รับการพัฒนารูปแบบให้ชัดเจนขึ้น โดย Katz ชาวอเมริกา และ Chard ชาวแคนาดา ที่ได้ไปศึกษาดูงานการเรียนการสอน Project Approach จาก โรงเรียนก่อนประถมศึกษาในเมือง Reggio Emilia ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี และทั้งสองก็ได้พิมพ์ เผยแพร่หนังสือชื่อว่า Engaging Children , s Mind : The Project Approach ซึ่งหนังสือเล่มนี้ ได้เป็นแนวทางใน การจัดประสบการณ์แบบโครงการในระยะต่อมา ส าหรับประเทศไทยมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนทางการศึกษาได้จัดหลักสูตรที่ก าหนดรายวิชา นวัตกรรม การศึกษา โดยให้นักศึกษาเรียนและทดลองจัดการสอนแบบโครงการให้แก่เด็กปฐมวัยเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่ต้องฝึก ปฏิบัติ ตลอดจนศึกษาวิจัยในหลักสูตรระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ส่วนสถานศึกษาระดับปฐม วัยทั้งภาครัฐและ เอกชนสนใจน านวัตกรรมการสอนแบบโครงการไปใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
๑๓๓ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ลักษณะการสอนแบบโครงการ การสอนแบบโครงการเป็นการจัดการเรียนการสอนที่มีลักษณะส าคัญดังนี้ ความคิดพื้นฐานเชื่อว่า การเรียนรู้ของเด็กมาจากการกระท า เด็กเป็นผู้ที่ต้องพัฒนา มีความคิด มีความ มุ่งหมาย ความต้องการที่จะเรียนรู้ท าอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นของตนเองต้องพึ่งตนเอง การสอนแบบ โครงการมุ่งพัฒนาทางร่างกายและจิตใจของเด็กไปพร้อมกัน วิธีจัดการเรียนการสอนมี ๔ ระยะ คือ - ระยะที่ ๑ เริ่มต้นโครงการ เด็กจะร่วมกันคิดเรื่องที่สนใจ - ระยะที่ ๒ ระยะวางแผนโครงการ เป็นช่วงเวลาที่ก าหนดจุดประสงค์ว่าต้องการเรียนรู้อะไร ก าหนด ขอบเขตเนื้อหา ระยะเวลาและวิธีการศึกษา - ระยะที่ ๓ ด าเนินโครงการตามที่ก าหนดไว้ ที่เน้นระบวนการแก้ปัญหา จัดเป็นหัวใจของการสอน แบบโครงการ เพราะเด็กจะได้รับข้อมูลใหม่จากประสบการณ์ตรงหรือเป็นแหล่งข้อมูลพื้นฐาน เพราะเด็กได้สนทนา พูดคุยกับบุคคล และสืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ ขณะเดียวกันเด็กสามารถค้น ความรู้จากแหล่งข้อมูลรอง (Secondary Sources) เช่น การดูวีดีทัศน์ การอ่านหนังสือ เป็นต้น - ระยะที่ ๔ สรุปโครงการ ครูและเด็กร่วมวางแผนสรุปโครงการ เป็นขั้นตอนการประเมินโครงการ ทบทวนการปฏิบัติ และวางแผนโครงการใหม่ วิธีการสรุปโครงการอาจจะให้เด็กน าผลงานที่ได้รับ มอบหมายมาแสดงต่อครูแล้วอภิปรายประเด็นปัญหา หรือให้เด็กน าเสนอผลงาน ในรูปของการจัด แสดง จัดเป็นนิทรรศการ หรือสาธิตผลงาน มีกิจกรรมหลักในโครงการ ๔ กิจกรรมคือ กิจกรรมสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในชั้นเรียน กิจกรรม ทัศนศึกษา กิจกรรมสืบค้น และกิจกรรมน าเสนอผลงาน กิจกรรมสืบค้นมีหลากหลายได้แก่ การรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการสังเกต การสัมภาษณ์ การปฏิบัติ ทดลอง การรวบรวมเอกสาร การรายงาน การจัดแสดงผลงานที่ได้จากโครงการ เป็นต้น เรื่องที่จะเรียนมาจากความสนใจของเด็กที่ต้องการเรียนอย่างลุ่มลึก เด็กจึงเป็นผู้วางแผนและร่วมคิด ร่วมมือสืบค้นกับผู้อื่น ครูเป็นผู้สนับสนุน สังเกตและอ านวยความสะดวก หากเรื่องนั้นมีความเป็นไปได้ มีแหล่งข้อมูลเพียงพอ พ่อแม่และชุมชนมีความพร้อมที่จะร่วมมือ ทักษะการเรียนรู้หนังสือจ านวน ให้บูรณาการในหัวเรื่องโครงการ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ภาษา ดังนั้น หัวเรื่องหนึ่งที่เด็กสนใจเรียนรู้นั้นต้องมีเวลาอย่างน้อย ๑ สัปดาห์และควรส ารวจที่โรงเรียน เหมาะกว่าที่บ้าน
๑๓๔ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ส่วนที่ ๔ การบริหารหลักสูตร
๑๓๕ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา ครูผู้สอนในสถานศึกษาจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และคู่มือ หลักสูตร ปฐมวัย (เด็กอายุ ๓ – ๕ ปี) โดยด าเนินการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย มีดังนี้ ๑.การเตรียมความพร้อม - สร้างความตระหนัก - พัฒนาบุคลากร - จัดระบบสารสนเทศ - จัดระบบบริหารจัดการในรูปกรรมการ ๒. การจัดหลักสูตร - หลักสูตรของครูแต่ละคน (แผนการจัดประสบการณ์) - หลักสูตรชั้นปี (หน่วยการเรียนรู้/กิจกรรม) ๓. การสนับสนุนคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา - ระบบการประเมินพัฒนาการ - การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา - การพัฒนาและเลือกใช้สื่อ -การประกันคุณภาพภายในการศึกษา ๔. การบริหารจัดการ - ระบบบริหารทั่วไป - งบประมาณ - อาคารสถานที่ - วัสดุ อุปกรณ์ - ระบบประเมินตนเอง - บริหารบุคลากรทุกด้าน ๕. การนิเทศ ก ากับ ติดตาม ประเมินผล - คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพวิชาการ - หน่วยงานต้นสังกัด - คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ - คณะกรรมการสถานศึกษา ๖. สรุปและรายงาน - สรุปการประเมินตนเองของสถานศึกษา - รายงานคณะกรรมการสถานศึกษา - รายงานผู้ปกครอง/นักเรียน - รายงานชุมชน - รายงานหน่วยบังคับบัญชาเพื่อการสนับสนุน การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา
๑๓๖ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ ๗. การปรับปรุงและการพัฒนา - ปรับแผนปฏิบัติงานปีต่อไป - ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา - ปรับปรุงการบริหารจัดการ - ปรับปรุงระบบสนับสนุนคุณภาพ - ปรับปรุงแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ๘. แผนที่ความคิดในแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สิ่งที่เด็กรู้แล้วและสิ่งที่เด็กต้องการรู้ได้มาจาก การที่ ครูสนทนากับเด็กในหน่วยการเรียนรู้นั้น ๆ เพื่อทราบประสบการณ์เดิมและสิ่งที่เด็กสนใจเรียนรู้ เพื่อน ามา เป็นข้อมูล ในการออกแบบการจัดประสบการณ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็ก ๙. กิจกรรมสร้างสรรค์ในแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ครูผู้สอนสามารถออกแบบกิจกรรมได้มากกว่า ๒ กิจกรรมต่อหนึ่งวัน เพื่อให้เด็กได้เลือกปฏิบัติกิจกรรมอย่างหลากหลายตามความสนใจ กิจกรรมที่จัดขึ้น ควรเน้น การท างานเป็นกลุ่ม เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและการอยู่ร่วมกันในสังคม ๑๐. กิจกรรมเสรีในแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ครูผู้สอนควรจัดศูนย์การเรียนรู้และเตรียมสื่อ อุปกรณ์ให้สอดคล้องกับหน่วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ -การจัดศูนย์การเรียนรู้ควรจัดให้มีอย่างน้อย ๕ มุมหลัก คือ มุมบ้าน มุมบล็อก มุมหนังสือ มุมดนตรี มุมศิลปะ ๑๑. สาระการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ครูผู้สอนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ของโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกน พัฒนา สนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม ชุมชน ท้องถิ่น และปรับเปลี่ยนให้สอดคล้อง กับธรรมชาติ และการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย โดยมีจุดหมายคือ มุ่งให้เด็กมีพัฒนาทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างเหมาะสมกับวัย ความสามารถและความแตกต่างของบุคคล เพื่อพัฒนาเด็กให้เกิด ความสุขในการเรียนรู้ เกิดทักษะที่จ าเป็นต่อการด ารงชีวิต รวมทั้งการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึง ประสงค์แก่เด็ก
๑๓๗ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ เมื่อจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว โรงเรียนได้ด าเนินการ ดังนี้ ๑. ได้มีการชี้แจงการจัดท าหลักสูตรให้คณะครู คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียนได้ เข้าใจ ตลอดจนการส่งเสริม สนับสนุน เพื่อให้การจัดการศึกษาปฐมวัยในสถานศึกษาบรรลุผล เด็กมีคุณภาพตาม มาตรฐานที่ก าหนด ๒. ได้มีการตรวจสอบคุณภาพหลักสูตรก่อนน าหลักสูตรไปใช้ โดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา ปฐมวัย ตรวจสอบองค์ประกอบต่างๆ ของหลักสูตรที่จัดท า แล้วน าความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญ มาปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่อง ๓. มีการประเมินหลังการใช้หลักสูตรครบแต่ละช่วงอายุ ๓ - ๕ ปี เพื่อสรุปผลหลักสูตรที่จัดท า และจะได้ ปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น บทบาทหน้าที่ของผู้บริหาร ๑. จัดให้มีแผนพัฒนาสถานศึกษา เพื่อใช้ในการด าเนินการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ๒. เป็นผู้น าในการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษา โดยร่วมประสานกับบุคลากรทุกฝ่าย เพื่อก าหนดวิสัยทัศน์ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ตลอดจนสาระตามหลักสูตรของสถานศึกษา ๓. จัดให้มีการประชาสัมพันธ์หลักสูตรสถานศึกษา ๔. สนับสนุนการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออ านวยต่อการเรียนรู้ สนับสนุนให้บุคลากรทุกฝ่ายของสถานศึกษา ได้รับความรู้ และความสามารถในการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษา รวมทั้งพัฒนาบุคลากรให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ๕. จัดให้มีการนิเทศภายใน เพื่อนิเทศ ก ากับ ติดตามการใช้หลักสูตรอย่างมีระบบ ๖. ให้มีการประเมินการน าหลักสูตรไปใช้ เพื่อการปรับปรุงพัฒนาสาระของหลักสูตรสถานศึกษาให้ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก ผู้ปกครองและชุมชน บทบาทของครูผู้สอน ๑. ศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและหลักสูตรสถานศึกษา ๒. จัดท าแผนการจัดประสบการณ์ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ๓. ประเมินพัฒนาการเด็กให้ครอบคลุมทุกด้าน ๔. จัดท า จัดหา และพัฒนาสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ ๕. พัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลที่ใฝ่รู้ ทันต่อเหตุการณ์ ๖. เป็นแบบอย่างที่ดี มีคุณธรรม ปฏิบัติดีต่อเพื่อครูและเด็ก ๗. จัดสภาพแวดล้อมของห้องเรียนและสถานศึกษาให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ๘. จัดท าวิจัยในชั้นเรียนเพื่อการพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ ๙. ประสานสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษากับผู้ปกครอง
๑๓๘ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ บทบาทและหน้าที่ของผู้ปกครองตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ๑. มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ๒. ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมของสถานศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ ๓. จัดบรรยากาศในบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ๔. อบรมเลี้ยงดู เอาใจใส่ให้ความรัก ความอบอุ่น ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก ๕. สนับสนุนทรัพยากร เพื่อการศึกษาตามความเหมาะสมและจ าเป็น ๖. ร่วมมือกับครู และผู้เกี่ยวข้อง ประสานงานป้องกันและแก้ไขเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเด็ก ๗. ปฏิบัติตนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีความรู้คู่คุณธรรมเป็นแบบอย่างที่ดี ๘. มีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียนรู้ของเด็ก
๑๓๙ หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา พ.ศ.๒๕6๖ การวางแผนจัดประสบการณ์ ศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๐ และการจัดหลักสูตรของสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามกรอบหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยที่กระทรวงศึกษาธิการก าหนด จัดท าหลักสูตรสถานศึกษา น าสาระการเรียนรู้รายปีมาจัดท าหน่วยการเรียนรู้ ครูปฐมวัยน าหน่วยการเรียนรู้มาร่วมกันวางแผน เขียนแผนจัดประสบการณ์ตามที่สอนในแต่ละห้อง น าแผนการจัดประสบการณ์สู่การปฏิบัติตามตารางกิจกรรมประจ าวัน ประเมินการใช้แผนการจัดประสบการณ์ ปรับปรุง แก้ไข/พัฒนา
ภาคผนวก - คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร.ร.อนุบาลสานสายใยรักฯ - คณะผู้จัดท าหลักสูตร - แหล่งอ้างอิง - ค าสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ ร.ร.อนุบาลสานสายใยรักฯ - ผลการประเมินผลการใช้หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรัก ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๖๓ รายชื่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ๑. นายสมนึก ริยะกาศ ผู้ทรงคุณวุฒิ ประธานกรรมการ ๒. นางจิรพร โยธินสิริวัฒนา ผู้แทนผู้ปกครอง กรรมการ ๓. นางอ้อมฤทัย ต๊ะใจ ผู้แทนครู กรรมการ ๔. นายเดชด ารงค์ ยอดศรี ผู้แทนองค์กรชุมชน กรรมการ ๕. นายวิวัฒน์ ยิ่งโยชน์ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ ๖. ท่านพระครูปิยสีลธัช ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ กรรมการ ๗. ท่านพระครูถาวรสังฆกิจ ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ กรรมการ ๘. นายไพสิน โสภา ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๙. นายมิตร แก้วมณี ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๐. นายจ ารัส ธิพึง ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๑. นายศุภาโชค สิงหา ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๒. นางดวงเดือน พิเคราะห์งาน ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๓. นายสุวรรณ พิเคราะห์งาน ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๔. ผู้อ านวยการโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา กรรมการและเลขานุการ
คณะผู้จัดท า คณะที่ปรึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา อาจารย์ ดร.ชไมมน ศรีสุรักษ์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อาจารย์จันทรา แซ่ลิ่ว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ นางสาวณัฐธยาน์ สนินัด ผู้อ านวยการสถานศึกษา นางอนุศรา อุดทะ รองผู้อ านวยการสถานศึกษา คณะท างานพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ๑. นางเนตรนิรชา หลวงปัน หัวหน้าสายชั้นระดับอนุบาล ๒. นางสาวรุ่งทิวา ค าแดง หัวหน้างานวิชาการระดับอนุบาล ๓. นางสาวอ้อยทิพย์ ซาวสุภา ครู วิทยฐานะ ช านาญการพิเศษ ๔. นางสาววลัยรัตน์ ตาค า ครู วิทยฐานะ ช านาญการพิเศษ ๕. นางสุณี ดวงค า ครู วิทยฐานะ ช านาญการ ๖. นางสาวเพ็ญศรี เจริญกูล ครู คศ.๑ ๗. นางสาวศิริพร ก้องโลกา ครูจ้างสอน ๘. นางสาวณัฏฐาภรณ์ มูลอุด ครูจ้างสอน
อ้างอิง ชไมมน ศรีสุรักษ์ และคณะ.รายงานสรุปผลการสังเคราะห์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเมืองแกนพัฒนา.เชียงใหม่: ม.ราชภัฏเชียงใหม่,๒๕๕๒ ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา,ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐.พิมพ์ครั้งที่๑ ,๒๕๖๐. ส่วนวิชาการ,กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย.แนวการจัดกิจกรรมเตรียมประสบการณ์ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วน, ๒๕๔๖. ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๔๖(ส าหรับเด็กอายุ ๓ – ๕ ปี).พิมพ์ครั้งที่ ๑ กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว ,๒๕๔๗. ส่วนวิชาการ,กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย.แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การศึกษาปฐมวัย (อนุบาล) ปีที่ ๑ – ๓ ผู้เขียน: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุบผา เรืองรอง อาจารย์ประจ าคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช ร ะ ดั บ : ก่อ น อ นุ บ า ล . โ ค ร ง ง า น / ก า ร ส อ น แ บ บ โ ค ร ง ก า ร ( Project Approach).http://taamkru.com/th/โครงงาน/#article๑๐๓.๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๐
1 ค ำน ำ โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา มีบทบาทหน้าที่ในการจัดการศึกษาปฐมวัย โดยยึด หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราชการ 2560 มาใช้เป็นแนวทางในการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาระดับ ปฐมวัย พุทธศักราช 2565 ของโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนาเพื่อน าไปใช้เป็นกรอบและ ทิศทางในการก าหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปัญญา เป็นคนดี มีวินัย ส านึกความเป็นไทยและมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และ ประเทศชาติในอนาคต อย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ขณะนี้โรงเรียนได้ด าเนินการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ส าหรับเด็กปฐมวัยมาอย่าง ต่อเนื่อง จนถึงสิ้นปีการศึกษา 2565 และโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ได้ประเมินการใช้ หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย พุทธศักราช 2565 การประเมินหลักสูตรสถานศึกษาเป็นกระบวนการในการวัด และเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อน ามาวิเคราะห์พิจารณาตัดสินคุณค่าของหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อน าผลไปสรุปและ รายงานการใช้และพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย ประจ าปีการศึกษา 2565และสามารถน าข้อมูลที่ได้มาใช้ ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัยในปีการศึกษาต่อไป โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา เมษายน 2566
2 สำรบัญ เรื่อง หน้ำ บทที่ 1 ข้อมูลพื้นฐำน - ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียน - วิสัยทัศน์ - อัตลักษณ์ - เอกลักษณ์ - ค าขวัญประจ าโรงเรียน - วิสัยทัศน์ - พันธกิจ - เป้าหมาย - ผลสัมฤทธิ์ในรอบปีการศึกษา 2565 - งาน/โครงการ/กิจกรรมส่งเสริมการจัดการศึกษาปฐมวัย 4 4 4 4 4 5 5 6 8 9 บทที่ 2 กำรบริหำรจัดกำรหลักสูตรสถำนศึกษำระดับปฐมวัย - คณะกรรมการบริหารหลักสูตรฯ - องค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย 19 20 บทที่ 3 ผลกำรพัฒนำและกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำ ระดับปฐมวัย - การพัฒนาและการใช้หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย - การจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย - ปัญหา/อุปสรรค ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาระดับ ปฐมวัย และแนวทางแก้ไข 32 32 34 34 บทที่ 4 ผลกำรประเมินพัฒนำกำรเด็ก - สรุปผลการประเมินพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน 36
3 สำรบัญ เรื่อง หน้ำ บทที่ 1 ข้อมูลพื้นฐำน บทที่ 5 สรุป อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ 40 - สรุป - อภิปรายผล - ข้อเสนอแนะ ภำคผนวก - ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดท าและพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาระดับปฐมวัย พุทธศักราช 2565
4 บทที่ 1 ข้อมูลพื้นฐำน ข้อมูลพื้นฐำนโรงเรียน โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ตั้งอยู่เลขที่ 9 หมู่ที่ 10 บ้านหนองออน ต าบล อินทขิล อ าเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50150 โทร 054-266141 สังกัดกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา อ าเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 ระดับชั้นอนุบาล 1 – 3 มีจ านวน 8 ห้องเรียน อำคำรเรียน อาคารเรียน จ านวน 4 หลัง อาคารประกอบ สนามเด็กเล่นพร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นสนาม 2 แห่ง หยดน้ าใหญ่ หมายถึง น้ าพระทัยของพระบรมวงศานุวงศ์ไทยสู่เด็กน้อย หัวใจ หมายถึง สายใยรักแห่งครอบครัว หยดน้ าเล็ก หมายถึง การน้อมน าพระราชด าริ “ เศรษฐกิจพอเพียง ” ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ฯ มาปรับใช้ในการด าเนินชีวิต ต้นกล้า หมายถึง ตัวเด็กเปรียบเสมือนต้นกล้าที่คอยได้รับการดูแลเอาใจใส่ ให้มีพัฒนาการ เติบโตสมวัย ได้รับการอบรมเลี้ยงดูบนพื้นฐานคุณธรรม และจริยธรรม นก หมายถึง เด็กสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม กล้าแสดงออกสมวัย มีความ รับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น สามารถด าเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ปรัชญำโรงเรียน : พัฒนาการเป็นเลิศ เชิดชูภูมิปัญญา รู้รักษาสิ่งแวดล้อม วิสัยทัศน์โรงเรียน : การศึกษาก้าวไกล ใส่ใจวัฒนธรรม น้อมน าเศรษฐกิจพอเพียง สร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน ด ารงตนอยู่ในระเบียบวินัย อัตลักษณ์โรงเรียน : ไหว้งามตามแบบไทย เอกลักษณ์โรงเรียน : สืบสานภูมิปัญญาไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ค ำขวัญประจ ำโรงเรียน : ส่งเสริมระเบียบวินัย ใส่ใจวัฒนธรรม น้อมน าเศรษฐกิจพอเพียง สร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน มุ่งสู่ความเป็นสากล
5 สีประจ ำโรงเรียน : “ ส้ม ฟ้า ” สีส้ม หมำยถึง แสงสว่างตอนพระอาทิตย์ขึ้นรุ่งอรุณเป็นสีแห่งการเริ่มต้นของชีวิต สีฟ้ำ หมำยถึง สีของท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ แสดงถึงความปลอดโปร่งสดใสของ ชีวิตซึ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างราบรื่นและสูงส่งด้วยภูมิปัญญา วิสัยทัศน์ โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนามุ่งส่งเสริมและพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มี พัฒนาการที่ดีรอบด้าน เป็นคนดี มีวินัย มีทักษะชีวิต มีจิตส านึก เห็นคุณค่าตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง และเรียนรู้อย่างมีความสุขตามประเพณี วัฒนธรรมวิถีล้านนาภายใต้บริบทชุมชนเมืองแกนโดยความ ร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการเด็ก พันธกิจ ๑. ส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยให้ครอบคลุมทุกด้านอย่างเป็นองค์รวม ผ่านการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) ให้เป็นคนดี มีคุณธรรม มีวินัย เติบโตอย่างมีคุณภาพตามบริบทของ ชุมชน (ผู้เรียน) ๒. ปลูกฝังทักษะชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีจิตส านึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามวัย ในรูปแบบของการบูรณาการวิถีชีวิตประจ าวัน (ผู้เรียน) ๓. ส่งเสริมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ผ่านการเล่นและการบูรณาการ SALAC สานสายใยรัก Model อย่างมี ความสุขบนวัฒนธรรมวิถีล้านนาภายใต้บริบทชุมชนเมืองแกนโดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัวและชุมชน (การจัดประสบการณ์) ๔. จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ที่อบอุ่น ปลอดภัย และมีความสุข วัฒนธรรมวิถีล้านนาภายใต้บริบท ชุมชนเมืองแกน (การจัดสภาพแวดล้อม) ๕. ส่งเสริมการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้และพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ของท้องถิ่นที่สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนอย่าง มีคุณภาพ (สื่อ/แหล่งเรียนรู้) ๖. พัฒนาบุคลากรมีความสุขและมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการจัด กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างหลากหลาย (บุคลากร) ๗. สร้างเครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ที่เข้มแข็งและ หลากหลายช่องทาง (บุคลากร) ๘. สร้างความรู้ความเข้าใจและประสานความร่วมมือระหว่าง สถานศึกษา ครอบครัว ท้องถิ่น ผู้ปกครองและทุก ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเด็ก (ผู้ปกครอง/ชุมชน)
6 เป้ำหมำย โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ได้ก าหนดจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาโรงเรียน อนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนาไว้ดังนี้ 1. ผู้เรียนมีพัฒนาการสมวัย มีวินัย มีทักษะชีวิต มีจิตส านึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ได้เล่นและ เรียนรู้อย่างมีความสุขภายใต้ความแตกต่างระหว่างบุคคล ร้อยละ ๘๐ ในระดับ ดีมาก 2. มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ แบบบูรณาการ SALAC สานสายใยรัก Model ผ่านการเล่นอย่างมี ความหมายและมีความสุขบนวัฒนธรรมวิถีล้านนาภายใต้บริบทชุมชนเมืองแกนโดยความร่วมมือระหว่าง สถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัวและชุมชน ร้อยละ ๗๕ ในระดับ ดี 3. มีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ที่ปลอดภัย สะอาด อบอุ่น มีความสุข ทั้งภายในและ ภายนอกห้องเรียน ร้อยละ ๘๐ ในระดับ ดีมาก 4. มีแหล่งเรียนรู้ในชุมชนบนพื้นฐานของวัฒนธรรมประเพณี ตามวัฒนธรรมวิถีล้านนาภายใต้บริบทชุมชน เมืองแกน ที่หลายหลากโดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัวและชุมชน ร้อยละ ๘๐ ในระดับ ดีมาก 5. มีสื่อที่สร้างสรรค์ขึ้นเองและน าสื่อจากท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนอย่าง คุณภาพ ร้อยละ ๗๕ ในระดับ ดี 6. บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเชิงรุก Active learning แบบบูรณาการ SALAC สานสายใยรัก Model การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่หลากหลายและมีคุณภาพ ชีวิตที่มีความสุข ร้อยละ ๗๕ ในระดับ ดี 7. ผู้ปกครอง และครอบครัว มีความรู้ความเข้าใจในการอมรมเลี้ยงดูเด็กและสามารถพัฒนาผู้เรียนร่วมกับ สถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ ๗๕ ในระดับ ดี 8. ได้รับความร่วมมือในการท างานร่วมกันระหว่างชุมชนกับโรงเรียน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และมี แหล่งเรียนรู้ในชุมชน/ท้องถิ่น ร้อยละ ๗๕ ในระดับ ดี 9. มีเครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ที่เข้มแข็งและ หลากหลายช่องทาง ร้อยละ ๗๐ ในระดับ ดี
7 คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ๑. นายสมนึก ริยะกาศ ผู้ทรงคุณวุฒิ ประธานกรรมการ ๒. นางจิรพร โยธินสิริวัฒนา ผู้แทนผู้ปกครอง กรรมการ ๓. นางอ้อมฤทัย ต๊ะใจ ผู้แทนครู กรรมการ ๔. นายเดชด ารงค์ ยอดศรี ผู้แทนองค์กรชุมชน กรรมการ ๕. นายวิวัฒน์ ยิ่งโยชน์ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ ๖. ท่านพระครูปิยสีลธัช ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ กรรมการ ๗. ท่านพระครูถาวรสังฆกิจ ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ กรรมการ ๘. นายไพสิน โสภา ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๙. นายมิตร แก้วมณี ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๐. นายจ ารัส ธิพึง ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๑. นายศุภาโชค สิงหา ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๒. นางดวงเดือน พิเคราะห์งาน ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๓. นายสุวรรณ พิเคราะห์งาน ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ๑๔. ผู้อ านวยการโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา กรรมการและเลขานุการ ข้อมูลบุคลากร ผู้บริหารและครูผู้สอนระดับปฐมวัย ที่ รายชื่อ ต าแหน่ง คุณวุฒิ วิชาเอก ๑ นางสาวณัฐธยาน์ สนินัด ผู้อ านวยการ สถานศึกษา ปริญญาโท การศึกษามหาบัณฑิต 2 นางอนุศรา อุดทะ รองผู้อ านวยการ สถานศึกษา ปริญญาเอก การบริหารการศึกษา 3 นางสาววลัยรัตน์ ตาค า ครูช านาญการ พิเศษ ปริญญาโท การบริหารการศึกษา ๒ นางสาวอ้อยทิพย์ ซาวสุภา ครูช านาญการ พิเศษ ปริญญาตรี การศึกษาปฐมวัย ๓ นางสาวเนตรนิรชา หลวงปัน ครูช านาญการ ปริญญาโท การบริหารการศึกษา ๔ นางสาวรุ่งทิวา ค าแดง ครูช านาญการ ปริญญาตรี การศึกษาปฐมวัย ๕ นางสุณี ดวงค า ครูช านาญการ ปริญญาโท การบริหารการศึกษา ๖ นางสาวเพ็ญศรี เจริญกูล ครู คศ.๑ ปริญญาตรี การศึกษาปฐมวัย ๗ นางสาวณัฎฐาภรณ์ มูลอุด ครูจ้างสอน ปริญญาตรี การศึกษาปฐมวัย ๘ นางสาวศิริพร ก้องโลกา ครูจ้างสอน ปริญญาตรี การศึกษาปฐมวัย
8 3. ข้อมูลนักเรียน จ ำนวนนักเรียนในโรงเรียนระดับชั้นปฐมวัย ทั้งสิ้น 128 คน ระดับชั้นเรียน จ ำนวนห้อง เพศ รวม จ ำนวนเฉลี่ย ชำย หญิง ต่อห้อง อนุบาลปีที่ 1 (3 ปี) 3 25 24 49 17 อนุบาลปีที่ 2 (4 ปี) 3 26 21 47 16 อนุบาลปีที่ 3 (5 ปี) 2 13 19 32 16 รวม 8 64 64 128 จ านวนเด็กพิเศษในโรงเรียน จ านวน 4 คน อัตราส่วนนักเรียน : ครูระดับอนุบาล = 17 : 1 เป็นไปตามเกณฑ์ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์
9 ผลสัมฤทธิ์ในรอบปีที่ผ่ำนมำ 1. ผลงำนดีเด่นพนักงำนครูและบุคลำกรระดับปฐมวัย 2. ผลงำนดีเด่นนักเรียนระดับปฐมวัย ชื่อ – นำมสกุล รำงวัลทีได้รับ กิจกรรม หน่วยงำนที่ให้ นางสาวรุ่งทิวา ค าแดง ครูดีเด่น ด้านการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมเปิดบ้านสาน สายใยรัก วันที่ 28 ก.พ. 2566 เทศบาลเมืองเมืองแกน พัฒนา นางสาวณัฎฐาภรณ์ มูลอุด ครูดีเด่น ด้านส่งเสริมการ เรียนรู้แก่ผู้เรียน นางสาวอ้อยทิพย์ ซาวสุภา ครูดีเด่น ด้านการบริหารจัดการชั้น เรียนจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อ ต่อการเรียนรู้ ชื่อ – นำมสกุล รำงวัลทีได้รับ กิจกรรม หน่วยงำนที่ให้ เด็กชายณัฏฐนนท์ เชษฐธง รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดระบายสีภาพด้วย สีเทียน ระดับชั้นอนุบาล 1 กิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี โรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณิชนันทน์ จันทร์สว่าง รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงณัฐรินีย์ ราษฎร์นิยม รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงสิรนทรา กันธิยะ รางวัลชมเชย เด็กหญิงกัลยวรรธน์ คีรีแก้ว รางวัลชมเชย เด็กหญิงกัลยรัตน์ ขยัน รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดระบายสีภาพด้วย สีเทียน ระดับชั้นอนุบาล 2 กิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี โรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณัฐธิดา พวงมณี รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กชายพงศกร ดวงต๋า รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงกัญญารัตน์ สุวรรณ์ รางวัลชมเชย เด็กหญิงณดา อนันต์ รางวัลชมเชย เด็กหญิงณัฐณิชา เสนรังษี รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดระบายสีภาพด้วย สีไม้ ระดับชั้นอนุบาล 3 กิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี โรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณัฏฐณิชา จอมค า รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงพุทธิมารินทร์ เก่งกาจ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กชายวีรยุทธ ศิริ รางวัลชมเชย เด็กหญิงภัทรวรินทร์ อินทรเทพ รางวัลชมเชย
10 ชื่อ – นำมสกุล รำงวัลทีได้รับ กิจกรรม หน่วยงำนที่ให้ เด็กหญิงธัญญารัตน์ กันทะ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสี ระดับชั้นอนุบาล 1 กิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ์ พระวรชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณัฐรินีย์ ราษฎร์นิยม รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงจินดารัตน์ แก่นโพธิ์ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงกัลยวรรธน์ คีรีแก้ว รางวัลชมเชย เด็กหญิงณิชนันทน์ จันทร์สว่าง รางวัลชมเชย เด็กหญิงชนาภา ทองทิพย์ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดฉีก ปะภาพ ระดับชั้นอนุบาล 2 กิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ์ พระวรชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงกัลยรัตน์ ขยัน รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงชณิฎาร์ เจริญสุข รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กชายธนาธิป ยานะ รางวัลชมเชย เด็กหญิงบุญยาพร แปงใจ รางวัลชมเชย เด็กชายรัฐศาสตร์ กันธิยะ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดระบายสีภาพด้วยสี ไม้และคัดข้อความ ระดับชั้นอนุบาล 3 กิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ์ พระวรชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กชายวีระยุทธ ศิริ รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงณัฏฐณิชา จอมค า รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงนิชานาถ ทวีธนากร รางวัลชมเชย เด็กหญิงภัทรวรินทร์ อินทรเทพ รางวัลชมเชย เด็กหญิงณิชนันทน์ จันทร์สว่าง รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสี ระดับชั้นอนุบาล 1 กิจกรรมวันภาษาไทย โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงธัญญารัตน์ กันทะ รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงณัฐรินีย์ ราษฎร์นิยม รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงสุทธิดา เรืองฤทธิ์ รางวัลชมเชย เด็กหญิงนลิญา สุยะ รางวัลชมเชย เด็กหญิงกัลยรัตน์ ขยัน รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสี ระดับชั้นอนุบาล 2 กิจกรรมวันภาษาไทย โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงชณิฎาร์ เจริญสุข รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงธีร์วรา ถาอินทร์ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงณัฐธิดา พวงมณี รางวัลชมเชย เด็กชายภราวิชญ์ มารินทร์ รางวัลชมเชย
11 ชื่อ – นำมสกุล รำงวัลทีได้รับ กิจกรรม หน่วยงำนที่ให้ เด็กหญิงอรวรา อินต๊ะรักษา รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสี ระดับชั้นอนุบาล 3 กิจกรรมวันภาษาไทย โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงนิชานาถ ทวีธนากร รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงศรัณยา บุญจู รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กชายวัชรกรณ์ ปิงเมือง รางวัลชมเชย เด็กหญิงภัทรวรินทร์ อินทรเทพ รางวัลชมเชย เด็กหญิงกัญญารัตน์ สุวรรณ์ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสีด้วยสี เทียน ระดับชั้นอนุบาล 1 กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณิชนันทน์ จันทร์สว่าง รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงธัญญารัตน์ กันทะ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กชายกมลภพ ดวงสี รางวัลชมเชย เด็กหญิงอัญญารีย์ อัตรา รางวัลชมเชย เด็กหญิงธีร์วรา ถาอินทร์ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสี ระดับชั้นอนุบาล 2 กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณัฐธิดา พวงมณี รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กชายภราวิชญ์ มารินทร์ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงอชิรญา ปากาบ รางวัลชมเชย เด็กหญิงอลิชา จันทกูล รางวัลชมเชย เด็กหญิงพุทธิมารินทร์ เก่งกาจ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการวาดภาพ ระบาย ระดับชั้นอนุบาล 3 กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงภัทรวดี ผันผิง รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงฐิติกา โปธิ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงณัฏฐณิชา จอมค า รางวัลชมเชย เด็กชายรัฐศาสตร์ กันธิยะ รางวัลชมเชย เด็กชายธนวรรธน์ หาญธนฐิตินันท์ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสี ระดับชั้นอนุบาล 1 กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณัฐรินีย์ ราษฎร์นิยม รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กชายประดิพัทธ์ เมฆโปธิ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงจินดารัตน์ แก่นโพธิ์ รางวัลชมเชย เด็กหญิงกัญญาภัค แสนสุข รางวัลชมเชย เด็กชายธนะดิฐ วรชวัลพัชร รองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันจรวดแสนสนุก ระดับชั้นอนุบาล 2 กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงกัลยรัตน์ ขยัน รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงชณิฎาร์ เจริญสุข รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กชายคุณาธิป สายเทพ รางวัลชมเชย เด็กชายปกรณ์เกียรติ ศรีบาล รางวัลชมเชย
12 ชื่อ – นำมสกุล รำงวัลทีได้รับ กิจกรรม หน่วยงำนที่ให้ เด็กชายวีระยุทธ ศิริ รองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันจรวดพลังลม ระดับชั้นอนุบาล 3 กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กชายพีระพงษ์ พวงมาลา รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กชายณัฐวัฒน์ อินทรส รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กชายวชิราภรณ์ จันทิมา รางวัลชมเชย เด็กหญิงภัทรวรินทร์ อินทรเทพ รางวัลชมเชย เด็กหญิงจินดารัตน์ แก่นโพธ์ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการระบายสีภาพ ระดับชั้นอนุบาล 1 กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กชายปดิพัทธ์ เมฆโปธิ รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กชายธนวรรธน์ หาญธนฐิตินันท์ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงณิชนันทน์ จันทร์สว่าง รางวัลชมเชย เด็กหญิงกัญญาพัชร์ ภูสุวรรณ์ รางวัลชมเชย เด็กชายธนาธิป ยานะ เด็กชายจุฑาเทพ บ่อค า เด็กหญิงกัญญารัตน์ สุรรณ์ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดปั้นดินน้ ามัน ระดับชั้นอนุบาล 2 กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กชายปภังกร ป่วนครบุรี เด็กชายสืบสกุล สิงห์ทัศน์ เด็กหญิงเยาวเรศ ศรีวิชัย รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กชายกฤดนัย ชัยวงค์ เด็กชายพลวรรธ ค ายาว เด็กหญิงบุญยาพร แปงใจ รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงภัทรวรินทร์ อินทรเทพ รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดการวาดภาพระบาย ระดับชั้นอนุบาล 3 กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงพุทธิมารินทร์ เก่งกาจ รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงอรวรา อินต๊ะรักษา รองชนะเลิศอันดับ 3 เด็กหญิงณัฏฐณิชา จอมค า รางวัลชมเชย เด็กหญิงฐิติกา โปธิ รางวัลชมเชย เด็กหญิงกัญญารัตน์ สุวรรณ์ ระดับชั้นอนุบาล 1/1 เกียรติบัตรหนูน้อยคนเก่ง กิ จก ร ร มม อบ วุ ฒิบัต ร แ ล ะ ประกาศนียบัตร โรงเ รียนอนุบาลส าน สายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา เด็กหญิงณิชนันทน์ จันทร์สว่าง ระดับชั้นอนุบาล 1/2 เด็กหญิงกัลยวรรธน์ คีรีแก้ว ระดับชั้นอนุบาล 1/3 เด็กหญิงกัลยรัตน์ ขยัน ระดับชั้นอนุบาล 2/1 เด็กหญิงณัฐธิดา พวงมณี ระดับชั้นอนุบาล 2/2 เด็กชายปภังกร ป่วนครบุรี ระดับชั้นอนุบาล 2/3 เด็กหญิงภัทรวดี ผันผิง ระดับชั้นอนุบาล 3/1 เด็กหญิงพุทธิมารินทร์ เก่งกาจ ระดับชั้นอนุบาล 3/2
13 ชื่อ – นำมสกุล รำงวัลทีได้รับ กิจกรรม หน่วยงำนที่ให้ เด็กหญิงพุทธิมารินทร์ เก่งกาจ เด็กหญิงชนิตสิริ สุขประทุม เด็กหญิงอรวรา อินต๊ะรักษา เกียรติบัตร ระดับเหรียญทอง การประกวดการสร้างภาพด้วย การฉีก ตัด ปะ กระดาษ ระดับปฐมวัย งานศิลปะหัตกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ประจ าปีการศึกษา 2565 ผู้อ านวยการส านักงาน เ ข ต พื้ น ที่ ก า ร ศึ ก ษ า ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 เด็กหญิงภัทรวดี ผันผิง เด็กหญิงฐิติกา โปธิ เด็กหญิงภัทรวรินทร์ อินทรเทพ เกียรติบัตร ระดับเหรียญทอง การประกวดการปั้นดินน้ ามัน งานศิลปะหัตกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70 ประจ าปีการศึกษา 2565 ผู้อ านวยการส านักงาน เ ข ต พื้ น ที่ ก า ร ศึ ก ษ า ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 เด็กชายวีรยุทธ ศิริ เด็กหญิงกัญวรา สุขคง เด็กชายปรเมษฐ์ ละออกิจ เกียรติบัตร เหรียญทอง การแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภาคเหนือ กิจกรรมการต่อตัวต่อเสริม ทักษะ ระดับอนุบาล 5-6 ปี กรมส่งเสริมการปกครอง ส่ วนท้ อง ถิ่น ร่ ว ม กับ อง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น จังหวัดเชียงใหม่ เด็กหญิงภัทรวรินทร์ อินทรเทพ เด็กชายรัฐศาสตร์ กันธิยะ เกียรติบัตร เหรียญทอง การแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภาคเหนือ กิจกรรมการแข่งขันทายซิเสียง อะไรเอ่ย ระดับอนุบาล 5-6 ปี กรมส่งเสริมการปกครอง ส่ วนท้ อง ถิ่น ร่ ว ม กับ อง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น จังหวัดเชียงใหม่ เด็กหญิงพุทธิมารินทร์ เก่งกาจ เด็กหญิงณัฎฐณิชา เสนรังษี เกียรติบัตร เหรียญทอง การแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภาคเหนือ กิจกรรมการวาดภาพระบายสี ระดับอนุบาล 5-6 ปี กรมส่งเสริมการปกครอง ส่ วนท้ อง ถิ่น ร่ ว ม กับ อง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น จังหวัดเชียงใหม่
14 3. งำน / โครงกำร / กิจกรรม / ผลงำนที่ประสบควำมส ำเร็จจนได้กำรยอมรับ หรือเป็นตัวอย่ำงกำรปฏิบัติ ที่ ชื่อ งำน/โครงกำร /กิจกรรม/ฯลฯ วัตถุประสงค์ ผลกำรด ำเนินงำน หรือระดับควำมส ำเร็จ 1 โครงการวันส าคัญของ ชาติ (กิจกรรมพิธีไหว้ครู) 1. เพื่อให้นักเรียนเห็นความส าคัญ และ มีส่วนร่วมในกิจกรรมพิธีไหว้ครู 2. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตส านึก มีความกตัญญูกตเวทีต่อครูบาอาจารย์ 3. เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้นักเรียนเกิดความกตัญญูต่อ ครูบาอาจารย์ เชิงปริมำณ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักฯ จ านวน 372 คน เข้าร่วมกิจกรรม จ านวน 332 คน คิดเป็นร้อยละ 89.25 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน คณะครูและบุคลากร ได้ตอบแบบประเมิน ความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 91.80 2 โครงการ หนูน้อยคนเก่ง ประจ าปีการศึกษา 1. เพื่อให้เด็กมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 2. เพื่อให้เด็กมีมารยาทปฏิบัติตน ตามวัฒนธรรม 3. เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการเด่น ทั้ง 4 ด้าน เชิงปริมำณ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักฯ จ านวน 128 คน เข้าร่วมโครงการทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมครูและ นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ได้ตอบแบบ ประเมินความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรมมีความ พึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 91.38 3 โครงการ นิทานสาน สัมพันธ์ 1. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะใน การแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 2. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสร้างลักษณะ นิสัยที่ดีในการอ่าน 3. เพื่อส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ ที่ดีในครอบครัว เชิงปริมำณ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล โรงเรียน อนุบาลสานสายใยรักฯ จ านวน 128 คน เข้า ร่วมโครงการทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมผู้ปกครอง และนักเรียนได้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจ ที่มีต่อกิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 85.10 4 โครงการพัฒนาสื่อการ เรียนการสอนส่งเสริมการ เรียนรู้ของเด็ก 1. เพื่อให้ครูใช้ความรู้ความสามารถ ผลิตสื่อที่มีความหลากหลายมาใช้ ประกอบการเรียนการสอน 2. เพื่อให้ครูได้สร้างสื่อนวัตกรรมใหม่ๆ 3. เพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัยและน ามาพัฒนา สื่อการเรียนรู้ให้ได้มาตรฐาน 4. เพื่อให้ครูได้ใช้สื่อการเรียนรู้ที่ หลากหลาย มาปรับใช้ในการเรียนการ สอนให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน เชิงปริมำณ คุณครูได้มีการผลิตสื่อ ประกอบการเรียนการสอนและส่งสื่อ จ านวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เชิงคุณภำพ คุณครูตอบแบบประเมิน โครงการ จ านวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 84.16
15 ที่ ชื่อ งำน/โครงกำร /กิจกรรม/ฯลฯ วัตถุประสงค์ ผลกำรด ำเนินงำน หรือระดับควำมส ำเร็จ 5 โครงการ วันส าคัญทาง ศาสนา(วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา) 1. เพื่อให้นักเรียนท ากิจกรรมบ าเพ็ญ ประโยชน์สถานที่ส าคัญและ ศาสนสถานในเขตเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา พร้อมในการปฏิบัติ กิจกรรมทางศาสนา 2. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี 3. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีค่านิยมที่ดี และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของ ชาวไทย เชิงปริมำณ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักฯ จ านวน 373 คน เข้าร่วมกิจกรรม จ านวน 367 คน คิดเป็นร้อยละ 93.39 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน คณะครูและบุคลากร ได้เข้าร่วมกิจกรรม ส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรมของไทยอย่าง เหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 94.16 6 โครงการสานสัมพันธ์บ้าน ฉันบ้านเธอ 1. เพื่อสร้างความร่วมมือและ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียน กับผู้ปกครองนักเรียน 2. เพื่อให้ครูผู้สอนได้รับทราบข้อมูล พื้นฐาน เห็นสภาพความเป็นอยู่ของ นักเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการ ช่วยเหลือ และพัฒนานักเรียน เชิงปริมำณ ครูเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล - มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา จ านวน 374 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เชิงคุณภำพ ผู้ปกครองได้ตอบแบบประเมิน ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อ สถานศึกษา มีค่าเฉลี่ย 4.21 คิดเป็นร้อยละ 84.05 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก 7 โครงการ วันส าคัญของ ชาติ (กิจกรรมวันแม่ แห่งชาติ) 1. เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 2. เพื่อให้นักเรียนเห็นความส าคัญ และ มีส่วนร่วมในกิจกรรมของ วันแม่แห่งชาติ 3. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตส านึก มีความกตัญญูกตเวทีต่อแม่ ผู้ให้ก าเนิด เชิงปริมำณ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักฯ จ านวน 372 คน เข้าร่วม กิจกรรม จ านวน 341 คน คิดเป็นร้อยละ 91.67 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน ได้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ กิจกรรมมีความ พึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 89.58
16 ที่ ชื่อ งำน/โครงกำร /กิจกรรม/ฯลฯ วัตถุประสงค์ ผลกำรด ำเนินงำน หรือระดับควำมส ำเร็จ 8 โครงการวันส าคัญของชาติ (กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ) 1. เพื่อให้นักเรียนเห็นความส าคัญ มีส่วนร่วมในกิจกรรมและถ่ายทอด ประเพณีวัฒนธรรมที่ส าคัญของชาติ 2. เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3. เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักและอนุรักษ์ ประเพณี ขนบธรรมเนียมต่างๆ ของชาติ เชิงปริมำณ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักฯ จ านวน 369 คน เข้าร่วมกิจกรรม จ านวน 335 คน คิดเป็นร้อยละ 90.79 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน ครูและบุคลากร ได้ตอบแบบประเมินความพึง พอใจที่มีต่อกิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็น ร้อยละ 96.40 9 โครงการวันวิทยาศาสตร์ 1. เพื่อจัดนิทรรศการแสดงความรู้และ ผลงานด้านวิทยาศาสตร์ 2. เพื่อแข่งขันทักษะทางวิชาการด้าน วิทยาศาสตร์ 3. เพื่อฝึกให้นักเรียนได้ร่วมกันคิดอย่าง มีระบบ คิดอย่างมีเหตุผลตาม หลักการวิทยาศาสตร์เกิดความ สนุกสนานควบคู่กับการได้รับความรู้ ในสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เชิงปริมำณ นักเรียนระดับชั้นอนุบาลจ านวน 109 คน คิดเป็นร้อยละ 86.51 นักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษา จ านวน 178 คน คิด เป็นร้อยละ 95.70 นักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษา จ านวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 สรุปจ านวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม ร้อยละ 91.67 ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ร้อยละ 80 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน ได้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ กิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 85.93 10 วันส าคัญของชาติ (กิจกรรมวันเฉลิมพระ ชนมพรรษาสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินี ) 1. เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 2. เพื่อให้นักเรียนเห็นความส าคัญ และ มีส่วนร่วมในกิจกรรมวันเฉลิม พระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า สุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตส านึก มีความกตัญญูกตเวทีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ เชิงปริมำณ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักฯ จ านวน 372 คน เข้าร่วม กิจกรรม จ านวน 328 คน คิดเป็นร้อยละ 88.17 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน ได้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ กิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 93.78
17 ที่ ชื่อ งำน/โครงกำร /กิจกรรม/ฯลฯ วัตถุประสงค์ ผลกำรด ำเนินงำน หรือระดับควำมส ำเร็จ 11 โครงการ วันส าคัญของ ชาติ (กิจกรรมวันเฉลิม พระชนมพรรษา ร.10) 1. เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร 2. เพื่อให้นักเรียนเห็นความส าคัญ และ มีส่วนร่วมในกิจกรรมวันเฉลิมพระ ชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทร เทพยวรางกูร 3. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตส านึก มีความกตัญญูกตเวทีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ เชิงปริมาณ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลสาน สายใยรักฯ จ านวน 372 คน เข้าร่วมกิจกรรม จ านวน 352 คน คิดเป็นร้อยละ 94.62 เชิงคุณภาพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียนได้ ตอบแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ กิจกรรมมีความ พึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 93.66 12 โครงการ เปิดบ้านสาน สายใยรัก 1. เพื่อให้นักเรียนได้จัดแสดงผลงาน ทางวิชาการและกิจกรรมส่งเสริม การเรียนรู้ แสดงความสามารถ พิเศษทางด้านวิชาการของผู้เรียน ภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน อย่างเต็มตามศักยภาพ เหมาะสมกับวัย 2. เพื่อฝึกทักษะกระบวนการเรียนรู้ ที่บูรณาการตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ของนักเรียน 3. เพื่อแนะแนวการศึกษาต่อให้กับ นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ในการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น สร้างเจตคติที่ดีต่อระบบ การจัดการศึกษาของโรงเรียน เชิงปริมำณ นักเรียนระดับชั้นอนุบาลทุก คนได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 100.00 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ได้ตอบแบบประเมินความพึง พอใจที่มีต่อกิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็น ร้อยละ 81.81 13 โครงการ ส่งเสริม ประสิทธิภาพการจัดการ เรียนรู้ปฐมวัย 1. เพื่อให้เด็กได้รับการส่งเสริม การเรียนรู้ ให้มีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน เป็นไปตามวัย 2. เพื่อให้มีสื่อนวัตกรรมเทคโนโลยี วัสดุ อุปกรณ์การจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก เชิงปริมำณ นักเรียนระดับชั้นอนุบาลทุกคน ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คิดเป็น ร้อยละ 100.00 เชิงคุณภำพ ภาพรวมของกิจกรรมนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ได้ตอบแบบประเมินความพึง พอใจที่มีต่อกิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็น ร้อยละ 89.45
18 3. โค รงกำร/กิจก รรมพิเศษ ที่ด ำเนินกำรตำมนโยบำยชำติ นโยบ ำยกระทรว งศึกษำธิกำ ร กระทรวงมหำดไทย กรมส่งเสริมกำรปกครองท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จุดเน้น แนวทำงปฏิรูป กำรศึกษำ ฯลฯ ที่ ชื่อ งำน/โครงกำร /กิจกรรม/ฯลฯ หนังสือ/ค ำสั่งตำม นโยบำย เรื่อง 1 กิจกรรม Big cleaning ที่ ชม. 0023.6/ว 32350 ป้องกันควบคุมโรคมือ เท้า ปากในสถานศึกษาและ ขอความร่วมมือเร่งรัดด าเนินการป้องกันควบคุมการ ระบาดของโรคติดต่อในสถานศึกษา 2 กิจกรรมหนึ่งคนหนึ่งต้นไม้ - โครงการลดโลกร้อน 3 หนูน้อยปลูกผักรักษ์โลก ที่ ชม 0023.3/ว 2934 โครงการโรงเรียนพอเพียงท้องถิ่น “ปลูกผักรักษ์โลก” เพื่อ ด าเนินการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในสถานศึกษา 4 กิจกรรมร าวงมหาดไทย ที่ มท 0816.4/ว 915 การบูรณาการกิจกรรม ร าวงมหาดไทยเพื่อคนไทย ในกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อปลูกฝังอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมไทย 5 หนูน้อยจิตอาสา/จิต สาธารณะ นโยบายโรงเรียนอนุบาล สานสายใยรักเทศบาล เมืองเมืองแกนพัฒนา ตามนโยบายและมาตรฐานของสถานศึกษาพอเพียง 6 กิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน - ตามนโยบายและมาตรฐานของสถานศึกษาพอเพียง