อิติปิโสรัตนมาลา ๑๐๘ คาถา

พระคาถารัตนมาลา
( อิติปโิ ส๑๐๘)

อิ

อฏิ โฐ สัพพญั ญุตัญญานัง
อิจฉันโต อาสะวักขะยงั
อฏิ ฐัง ธัมมงั อะนุปปัตโต

อทิ ธิมันตงั นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑

อิ

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงปรารถนาพระสัพพญั ญุตญาณ
ทรงปรารถนาธรรมท่สี ิน้ อาสวะ กไ็ ด้ทรงบรรลุธรรมท่ที รงปรารถนาแล้ว

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ทรงมีความสาเร็จพระองค์นัน้
จงหม่ันภาวนา ป้องกนั ศาสตรา ห่อนต้องอินทรีย์
ทงั้ ให้แคล้วคลาด นิราศไพรี ศริ ิย่อมมี แก่ผู้ภาวนา.

(ภาวนาป้องกันอาวุธเช่น หอก ดาบ เหลน หลาว)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑

ติ

ตณิ โณ โย วฏั ฏะทกุ ขัมหา
ตณิ ณัง โลกานะมุตตะโม
ตสิ โส ภมู ี อะตกิ กันโต
ตณิ ณะโอฆงั นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒

ติ

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงข้ามพ้นจากทุกข์ในวัฏฏะแล้ว
เป็ นผู้ทรงพระคุณสูงสุดในไตรโลก

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า ผู้ข้ามโอฆะแล้วพระองค์นัน้
ถงึ บทนีไ้ ซร้ หม่ันภาวนาไว้ กนั ภยั นานา ภตู ผีปี ศาจ
มิอาจเข้ามา ทงั้ ปอบทงั้ ห่า ไม่มาหลอกหลอน.

(ภาวนาป้องกันภตู ผีปี ศาจ)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒

ปิ

ปิ โย เทวะมะนุสสานัง
ปิ โยพรฺ หมฺ า นะมุตตะโม
ปิ โย นาคะสุปัณณานัง
ปิ ณินทรฺ ิยงั นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓

ปิ

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็ นท่รี ักของเทวดาและมนุษย์ทงั้ หลาย
เป็ นท่รี ักสูงสุดของพรหมทงั้ หลาย

ตลอดไปจนถึงดริ ัจฉานมนี าคและครุฑ เป็ นอาทิ
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้มีอนิ ทรีย์อ่มิ พระองค์นัน้

ภาวนานึก สตติ รองตรึก อย่าทาร้อนใจ
สารพดั เมตตา อย่าได้อาวรณ์ ครูแต่เก่าก่อน เคยได้ใช้มา

เสกหมากรับประทาน เป็ นท่เี สน่หา แก่ชนทงั้ หลาย.

(ภาวนาเสกกระแจะ นา้ มันหอม หมากพลู สารพดั ท่กี นิ ท่ใี ช้ เป็ นเสน่ห์แก่คนทงั้ ปวง)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓

โส

โสกา วริ ัตตะจติ โต โย
โสภะนาโม สะเทวะเก
โสกปั ปัตเต ปะโมเทนโต
โสภะวณั ณัง นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔

โส

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด มีพระจติ คลายจากความโศกแล้ว
เป็ นผู้งดงามในโลกนีก้ ับทงั้ เทวโลก

ทรงยงั สัตว์ทงั้ หลายผู้เศร้าโศกให้หายโศก
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า ผู้มีพระฉวีวรรณงามพระองค์นัน้

ภาวนาทุกวัน ตามกาลังวัน ป้องกนั อนั ตราย
ทกุ ข์ภยั พบิ ตั ิ สารพดั เหล่าภยั ศัตรูทงั้ หลาย แคล้วคลาดห่างไกล.

(ภาวนาเพ่อื บรรเทาทกุ ข์โศกทงั้ ปวง)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔

ภะ

ภะชิตา เยนะ สัทธัมมา
ภคั คะปาเปนะ ตาทนิ า
ภะยะสัตเต ปะหาเสนโต
ภะยะสันตงั นะมามิหงั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๕

ภะ

พระสัทธรรมทงั้ หลาย อันพระพุทธเจ้าพระองค์ใด
ผู้มีบาปอนั หกั ทาลายแล้ว มีพระหฤทยั คงท่ี ทรงแจกแล้ว
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงยงั สัตว์ผู้กลัวภยั ให้หายกลัว
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า ผู้มีภยั อันระงบั แล้ว พระองค์นัน้

จงภาวนา กันโรคโรคา ไข้เจบ็ ทงั้ หลาย
ศัตรูมุ่งมาตร มิอาจทาได้ พนิ าศยบั ไป ด้วยพระคาถา.

(ภาวนาป้องกนั ศัตรูทาร้ายมิได้)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๕

คะ

คะมิโต เยนะ สัทธัมโม
คะมาปิ โต สะเทวะกงั
คัจฉะมาโน สิวัง รัมมัง
คะตะธัมมงั นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๖

คะ

พระสัทธรรม อนั พระพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงบรรลุแล้ว
ทรงยงั มนุษย์กับทงั้ เทวดาให้บรรลุด้วย
ทรงบรรลุถงึ พระนิพพานอนั ควรยินดี

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า ผู้มีธรรมอันบรรลุแล้วพระองค์นัน้
ถ้าหม่ันภาวนา โรคภยั โรคา ไม่มายายี จะค่อยบรรเทา

หากโรคเก่ามี มิช้ากายี สิน้ ทกุ ข์สุขา. (ภาวนาบรรเทาโรคาพยาธิ)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๖

วา

วานา นิกขะมิ โย ตัณหา
วาจัง ภาสะติ อุตตะมัง
วานะ นิพพาปะ นัตถายะ
วายะมนั ตงั นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๗

วา

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงออกจากวานะ (เคร่ืองร้อยรัด) คือตณั หาแล้ว
ทรงกล่าวพระวาจาอันเลศิ แล้ว เพ่อื ประโยชน์แก่การดบั ไฟคือวานะ

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า ผู้ทรงมีความเพยี รพยายามพระองค์นัน้
บทนีด้ ลี า้ ภาวนาซา้ ซา้ ป้องกันศัตรู

เหล่าโจรอาธรรม์ พากันหนียู้ ไม่คดิ ต่อสู้ ออกได้หายไป.
(ภาวนาป้องกนั โจรผู้ร้าย)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๗

อะ

อะนัสสา สะกะสัตตานัง
อสั สาสัง เทติ โย ชิโน
อะนันตะ คุณะสัมปันโน
อันตะคามิง นะมามหิ งั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๘

อะ

พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด
โปรดประทานความอุ่นใจแก่สัตว์ทงั้ หลายผู้ไม่มีความอุ่นใจ

พระองค์เป็ นผู้ถงึ พร้อมด้วยพระคุณหาท่สี ุดมไิ ด้
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระชินเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ทรงบรรลุถงึ ท่สี ุด (แห่งความทกุ ข์)

ให้ภาวนา กันเสือช้างม้า ทาร้ายรบกวน เป็ นมหาจงั งงั สิน้ ทงั้ ขบวน
จระเข้ประมวญ สัตว์ร้ายนานา. (ภาวนาป้องกันเสือและจระเข้)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๘

ระ

ระโต นิพพานะสัมปัตเต
ระโต โย สัตตะโมจะเน
รัมมาเปตีธะ สัตเต โย
ระณะจตั ตงั นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๙

ระ

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงยนิ ดแี ล้วในพระนิพพานสมบัติ
พระองค์ใดทรงยินดแี ล้วในอันปลดเปลือ้ งสัตว์ (จากทุกข์)
พระองค์ใดทรงยังสัตว์ทงั้ หลายในโลกนีใ้ ห้ยนิ ดี (ในการเปลือ้ งทกุ ข์นัน้ ด้วย)

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้สละข้าศึก (คอื กเิ ลส) เสียได้

ภาวนาไว้ คุณคนคุณไสย สารพัดพาลา ใช้ป้องกันได้ มใิ ห้เข้ามา
ถกู ต้องกายา พนิ าศสูญไป. (ป้องกนั การกระทาคุณผีและคุณคนทงั้ ปวง)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๙

หงั

หญั ญะติ ปาปะเก ธัมเม
หงั สาเปติ ปะรัง ชะนัง
หงั สะมานัง มะหาวีรัง
หนั ตะปาปัง นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๐

หงั

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงกาจัดธรรมทงั้ หลายอันเป็ นบาปเสียได้
ยงั ชนอ่นื ให้ร่าเริง (ในธรรมอนั เป็ นกุศล)
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้

ผู้มีพระหฤทยั ร่าเริงกล้าหาญย่งิ ใหญ่กาจัดบาปได้
ให้ภาวนา เม่ือเวลา เข้าสู่สงคราม ข้าศกึ ศัตรู
ใจห่คู ร่ันคร้าม ไม่คดิ พยาบาท ทาร้ายเราแล.
(ภาวนาเพ่อื เข้าสู่ณรงค์สงคราม)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๐

สัม

สังขะตา สังขะเต ธัมเม
สัมมา เทเสสิ ปาณินัง
สังสารัง สังวิฆาเฏติ
สัมพุทธันตัง นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๑

สัม

พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงแสดงธรรมทงั้ ท่เี ป็ นสังขตะ ทงั้ ท่เี ป็ นอสังขตะ
แก่สัตว์ทงั้ หลายโดยถูกต้อง ทรงพฆิ าตสงสารวัฏเสียได้

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
ภาวนาตรึก ช่างดีพลิ กึ ท่านในราพรรณ

เม่ือจะเข้าสู้ เหล่าศัตรูสรรพ์ หมดสนิ้ ด้วยกนั พ่ายแพ้ฤทธี.
(ภาวนาถ้าจะเข้าสู่สงคราม หาผู้ทาร้ายมไิ ด้แล)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๑

มา

มาตาวะ ปาลิโต สัตเต
มานะถทั เธ ปะมทั ทโิ ต
มานิโต เทวะสังเฆหิ
มานะฆาฏงั นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๒

มา

พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงถนอมสตั ว์ทงั้ หลาย ดงั มารดาถนอมบุตร
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใดทรงกาหราบเสียได้ซ่งึ คนกระด้างเย่อหย่งิ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใดอนั หมู่เทวดานับถือแล้ว
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้กาจดั มานะได้
ภาวนาไว้ ถ้าหม่ันเสกใช้ ทกุ วนั ย่งิ ดี แก้คนใจแข็ง

มานะแรง มีใจอ่อนทนั ที ไม่มเี ย่อหย่งิ . (ภาวนาเพ่อื ทาคนแข็งให้อ่อน)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๒

สัม

สัญจะยงั ปาระมี สัมมา
สัญจติ ะวา สุขะมตั ตะโน
สังขารานัง ขะยัง ทสิ วา
สันตะคามงิ นะมามหิ งั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๓

สัม

พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงส่ังสมพระบารมีทงั้ หลายมาโดยชอบ
ทรงก่อสร้างความสุขแก่พระองค์ขนึ้ ได้

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ทรงเหน็ ความเส่ือมสิน้ แห่งสังขารทงั้ หลายแล้วได้บรรลุถงึ ธรรมอันรางบั

สาหรับบทนี้ ตารับกล่าวชี้ ว่าดจี ริง สาหรับเสกยา
ปัญญาดยี ่ิง สุดจะหาส่ิง ใดมาเปรียบปาน. (ภาวนาเสกของกิน มปี ัญญา)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๓

พทุ

พุชฌิตวา จะตุสัจจานิ
พุชฌาเปติ มะหาชะนัง
พชุ ฌาเปนตัง สวิ งั มัคคงั
พทุ ธะเสฏฐัง นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๔

พุท

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ตรัสรู้สัจจะทงั้ ๔ แล้ว ทรงยงั มหาชนให้รู้ด้วย
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐพระองค์นัน้
ผู้ทรงช่วยสัตว์ให้รู้ทางพระนิพพาน
ภาวนาไป เสนียดจัญไร มิได้พ้องพาน

อุปสรรคไรๆ ก็ไม่พะพาน แสนจะสาราญ ให้หม่นั ภาวนา.
(ภาวนาป้องกนั เสนียดจญั ไร อุปัททะทงั้ ปวง)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๔

โธ

โธติ ราเค จะ โทเส จะ
โธติ โมเห จะ ปาณินัง
โธตะเกลสฺ ัง มะหาปุญญัง
โธตาสะวงั นะมามิหงั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๕

โธ

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงล้างเสียซ่งึ ราคะและโทสะ
ทรงล้างเสียซ่งึ โมหะของสัตว์ทงั้ หลาย

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้มีบุญมาก มีกเิ ลสอาสวะอันล้างแล้ว

ภาวนาไว้ กันเสือช้างได้ ทงั้ สุขหนา ใช้ป้องกนั บ้าง
สัตว์ร้ายนานา ไม่อาจเข้ามา ยายบี ีฑา.
(ภาวนาป้องกันสัตว์ร้ายเช่น ช้าง เสือ)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๕

วิช

วิเวเจติ อะสัทธัมมา
วจิ ติ ะวา ธัมมะเทสะนัง

วิเวเก ฐิตะจติ โต โย
วทิ ติ ันตัง นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๖

วชิ

พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงยังสัตว์ให้เลกิ ร้างห่างไกลจากอสัทธรรม
ทรงก่อการแสดงธรรมขนึ้ เป็ นผู้มีพระจติ ตงั้ อย่ใู นวเิ วก

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้เป็ นนักปราชญ์
สาหรับบทนี้ คุณาย่อมมี อตเิ รกนานา กนั พวกศัตรู
เหล่าหมู่พาลา ไม่อาจเข้ามา หลบหน้าหนีไป.
(ภาวนาป้องกนั ศัตรู ทาให้มีเมตตาจติ )

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๖

ชา

ชาตธิ ัมโม ชะราธัมโม
ชาตอิ ันโต ปะกาสโิ ต
ชาตเิ สฏเฐนะ พุทเธนะ
ชาตมิ ุตตงั นะมามิหงั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๗

ชา

ชาตธิ รรม ชราธรรม ธรรมอนั เป็ นท่สี ุดแห่งชาติ (คอื มรณธรรม)
พระพุทธเจ้าผู้ทรงมีพระชาตอิ ันประเสริฐทรงประกาศแล้ว
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ทรงพ้นจากชาตแิ ล้ว
ภาวนาไว้ คุณไสยอนันต์ ทามามไิ ด้ จงหม่นั ภาวนา
อย่าได้สงสัย อาจารย์กล่าวไว้ ดังได้อ้างมา.
(ภาวนาป้องกนั การกระทา จะไปทศิ านุทศิ ใดคนไม่ทาร้าย)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๗

จะ

จะเยติ ปุญญะสัมภาเร
จะเยติ สุขะสัมปะทงั
จะชันตงั ปาปะกมั มานิ
จะชาเปนตัง นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๘

จะ

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงก่อสร้างพระบญุ สมภารมา
จึงส่ังสมพระสุขสมบัติขนึ้ ได้

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้ทรงละทงิ้ เอง
และยงั สัตว์ทงั้ หลายให้ละทงิ้ ด้วย ซ่งึ บาปกรรมทงั้ หลาย
บทนีด้ ลี ้น เสกทานา้ มนต์ รดเกล้ากายา เสกมะกรูดส้มป่ อย

ถ้อยความมีมา ใช้สระเกศา ถ้อยความสูญไป.
(ภาวนาสระหวั หายถ้อยความ ไม่เป็ นเหตใุ ห้วิวาทกับใครๆ)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๘

ระ

ระมิตัง เยนะ นิพพานัง
รักขิตา โลกะสัมปะทา
ระชะโทสา ทเิ กลฺเสหิ
ระหติ นั ตัง นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๙

ระ

พระนิพพาน อันพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงยินดแี ล้ว
ความดสี าหรับโลกอันพระพทุ ธเจ้าพระองค์ใดทรงรักษาไว้แล้ว
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้ละเว้นจากกเิ ลสทงั้ หลาย

ภาวนา ศัตรูอาธรรพ์ สรรพโรคภยั กนั ได้หลายอย่าง
ทงั้ เสนียดจญั ไร ภาวนาไว้ อย่าได้กังขา.
(ภาวนากนั เสนียดจัญไรทงั้ ปวง)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๑๙

ณะ

นะมโิ ตเยวะ พรหเมหิ
นะระเทเวหิ สัพพะทา
นะทนั โต สีหะนาทงั โย
นะทนั ตัง ตงั นะมามิหงั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๐

ณะ

พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด อนั พรหมและเทวดา มนุษย์ทงั้ หลาย
นอบน้อมอยู่ทกุ เม่ือ พระพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงบนั ลือสีหนาท
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้ทรงบนั ลือสีหนาทอยู่

บทนีเ้ ป็ นเอก มีคุณเอนก สุดจะพรรณนา
ระงับดบั โศก กนั โรคผีห่า อันจะมาคร่า ชนมายุไซร้.

(ภาวนาป้องกันห่าลงแล)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๐

สัม

สังขาเร ตวิ เิ ธ โลเก
สัญชานาติ อะนิจจะโต
สัมมา นิพพานะสัมปัตติ
สัมปันโน ตงั นะมามหิ งั .

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๑

สัม

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงกาหนดรู้สังขารทงั้ หลายในสามโลก
โดยความเป็ นของไม่เท่ยี ง ทรงถึงพร้อมด้วยพระนิพพานสมบตั โิ ดยชอบ

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
สาหรับบทนี้ ท่านอาจารย์ แนะนากล่าวไว้ ใช้เป็ นเสน่ห์
สมคะเนดงั ใจ อย่าได้สงสัย ดีย่งิ นักหนา. (ภาวนาเป็ นเสน่ห์)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๑

ปัน

ปะกะโต โพธิสัมภาเร
ปะสัฏโฐ โย สะเทวะเก
ปัญญายะ อะสะโม โหติ
ปะสันนัง ตัง นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๒

ปัน

พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงก่อสร้างโพธิสมภารมา
จงึ ได้เป็ นผู้ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์กบั ทงั้ เทวดา

หาผู้เสมอมิได้ด้วยพระปัญญาธิคุณ
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้ผ่องใส
บทนีส้ ามารถ กนั ภตู ปี ศาจ ไม่อาจเข้ามา หลอกหลอนเราได้

ท่านให้ภาวนา จงได้อุตส่าห์ ท่องให้ขนึ้ ใจ.
(ภาวนาป้องกนั ภตู ผีปี ศาจทงั้ ปวง)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๒

โน

โน เทติ นิระยัง คันตุง
โน จะ ปาปัง อะการะยิ
โน สะโม อัตถิ ปัญญายะ
โนนะธัมมงั นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๓

โน

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ป้องกนั สัตว์ไว้มิให้ไปนรก
และมใิ ห้ทาบาป ผู้เสมอพระองค์ด้วยปัญญาหามีไม่
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้หาความบกพร่องมิได้

บทนีภ้ าวนา ป้องกนั ฟ้าผ่า และช้างม้าภยั
มจี ิตจานง ประสงค์ส่งิ ใด ลงของกไ็ ด้ ใช้ตามปรารถนา.

(ภาวนาป้องกนั ช้าง)

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๓

สุ

สุนทะโร วะระรูเปนะ ๒๔
สุสะโร ธัมมะภาสะเน
สุทุททะสัง ทสิ าเปติ
สุคะตันตัง นะมามหิ งั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์

สุ

พระพุทธเจ้าพระองค์ใด มีพระรูปงาม ทรงแสดงธรรมเล่ากม็ ีพระเสียงดี
โปรดเวไนยชนให้เหน็ ธรรมอันเหน็ ได้ยาก

ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้เสดจ็ ไปดแี ล้ว
ภาวนากนั คุณว่านยา อันเขากระทามาทงั้ อาวุธ และเคร่ืองศาสตรา
แม้ถกู กายา กม็ เิ ป็ นไร. (ภาวนาป้องกนั การกระทาและอาคมทงั้ ปวง)

วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๔

คะ

คัจฉันโต โลกยิ า ธัมมา
คจั ฉันโต อะมะตงั ปะทงั
คะโต โส สัตตะโมเจตุง
คะตัญญาณัง นะมามิหงั .

วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๕