คะ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เสดจ็ ไปเสียจากโลกยี ธรรม
ถงึ โลกุตรธรรมอนั เป็ นอมตบท
พระองค์เสดจ็ ไปไหนๆ กเ็ พ่อื ปลดเปลือ้ งสัตว์จากทุกข์
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้บรรลุพระสัพพญั ญุตญาณแล้ว
ทานา้ มนต์ บริกรรมพร่าบ่น อย่าได้เมามัว ประพรมสนิ ค้า จงอย่ายมิ้ หวั
กาไรเกินตวั อย่ากลัวขาดทนุ . (ภาวนาเพ่อื ค้าขายกนิ รุ่งเรือง)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๕
โต
โตเสนโต วะระธัมเมนะ
โตสัฏฐาเน สิเว วะเร
โตสัง อะกาสิ ชันตนู ัง
โตละจติ ตงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๖
โต
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงโปรดสัตว์ให้แช่มช่ืนด้วยพระธรรม
ทรงก่อความยนิ ดีในพระนิพพาน
อนั เป็ นฐานท่คี วรยินดี ให้เกดิ มแี ก่สัตว์ทงั้ หลาย
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ มพี ระจติ เท่ยี งตรง
ภาวนาเสก มีคุณอย่างเอก เข้าหาเจ้าขุน มูลนายเจ้าพระยา
เมตตาอุดหนุน โปรดปรานการุณ เพราะคุณคาถา.
(ภาวนาเข้าสู่ขุนนางและท้าวพระยาทงั้ ปวงมีความสวสั ด)ี
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๖
โล
โลเภ ชะหะติ สัมพุทโธ
โลกะเสฏโฐ คุณากะโร
โลเภ สัตเต ชะหาเปติ
โลภะสันตงั นะมามิหงั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๗
โล
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็ นอากรแห่งคุณความดปี ระเสริฐสุดในโลก
ทรงละโลภะเสียได้ ทรงยงั สัตว์ทงั้ หลายให้ละโลภะด้วย
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้มีโลภะอนั ระงับแล้ว
ภาวนาเป่ า ศัตรูทกุ เหล่า แม้กริว้ โกรธา แต่พอได้เหน็ เอน็ ดเู มตตา
ปราณีนักหนา ดจุ ญาตขิ องตน. (ภาวนาทาให้ศัตรูกลับเป็ นมติ ร)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๗
กะ
กันโต โย สัพพะสัตตานัง
กตั วา ทุกขกั ขะยงั ชโิ น
กะเถนโต มะธุรัง ธัมมงั
กะถาสัณหงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๘
กะ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็ นผู้อนั สัตว์ทงั้ หลายรักใคร่
ทรงแสดงธรรมไพเราะ ทาความสนิ้ ทกุ ข์แห่งสรรพสัตว์
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระชินเจ้าพระองค์นัน้ ผู้มีพระวาจาละเอยี ดสุขมุ
เอาข้าวสารมา แล้วภาวนา เสกให้หลายหน เสร็จแล้วซดั ไป ไล่ผีบดั ดล
หนีไปไกลพ้น ไม่มาราวี. (ภาวนาเสกข้าวสารซัดผีเข้า)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๘
วิ
วินะยัง โย ปะกาเสติ
วิทธังเสตวา ตะโย ภะเว
วเิ สสัญญาณะ สัมปันโน
วปิ ปะสันนัง นะมามหิ งั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๙
วิ
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงประกาศพระวนิ ัย
ทรงทาลายไตรภพเสียแล้ว ทรงถึงพร้อมด้วยพระญาณอันวเิ ศษ
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้ใสสะอาดบริสุทธ์ิ
เสกขมนิ้ และว่าน เสกข้าวรับประทาน อย่คู งอย่างดี
อกี อย่างหน่ึงไซร้ ไล่ขับผี ภตู พิ รายไม่มี สิงสู่กายา.
(ภาวนาเพ่อื การแข่งพนันสารพัด)
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๒๙
ทู
ทเู ส สัตเต ปะหาเสนโต
ทรู ัฏฐาเน ปะกาสะติ
ทรู ัง นิพพานะมาคมั มะ
ทสู ะหนั ตงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๐
ทู
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ยังสัตว์ผู้โกรธเคืองประทษุ ร้าย
ให้ ร่ าเริงหายโกรธด้ วยธรรม
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใดมพี ระเกียรตคิ ุณปรากฏไปไกล
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ลุถงึ แดนไกลคือพระนิพพาน แล้วกาจัดความร้ายได้
ภาวนาบทนี้ เมตตาปราณี ไม่มโี ทสา หญงิ ชายทงั้ หลาย
รักใคร่หนักหนา ห่างไกลภยั ยา สนิ้ ทกุ ข์สดใส. (ภาวนาจะไปกด็ ี จะอย่กู ด็ )ี
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๐
อะ
อันตงั ชาตชิ ะราทนี ัง
อะกาสิ ทปิ ะทุตตะโม
อะเนกุสสาหะ จติ เตนะ
อัสสาเสนตงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๑
อะ
พระพุทธเจ้าผู้ทรงพระคุณสูงสุดในหมู่มนุษย์พระองค์ใด
ได้ทรงทาท่สี ุดแห่งทุกข์ มชี าตแิ ละชรา เป็ นต้นแล้ว
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้โปรดสัตว์ให้อุ่นใจ
ด้วยนา้ พระหฤทยั อุตสาหะเป็ นอันมาก
จงได้ตรองตรึก หม่ันพนิ ิจนึก ภาวนาไป
เหน็ หน้า เมตตารักใคร่ ภาวนาไว้ เป็ นศุภมงคล.
(ภาวนาให้ศัตรูกลับใจยนิ ด)ี
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๑
นุต
นุเทติ ราคะจติ ตานิ
นุทาเปติ ปะรัง ชะนัง
นุนะ อัตถงั มะนุสสานัง
นุสาสันตัง นะมามิหงั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๒
นุต
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงบรรเทาเสียได้ซ่งึ ราคะจิต
ทรงยงั คนอ่นื ให้บรรเทาด้วย
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ทรงพร่าสอนธรรมอนั เป็ นประโยชน์แน่แท้แก่มนุษย์ทงั้ หลาย
บทนีด้ เี หลือ ให้ใช้ในเม่ือ ถงึ คราวอับจน ป้องกนั ผู้ร้าย
โรคภยั เบยี ดตน พนิ าศปี้ป่ น ไม่ทนั รบกวน.
(ภาวนากันหลับแล)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๒
ตะ
ตะโนติ กุสะลัง กมั มัง
ตะโนติ ธัมมะเทสะนัง
ตัณหายะ วจิ ะรันตานัง
ตัณหาฆาฏัง นะมามหิ ัง.
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๓
ตะ
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงเผยแผ่ธรรมอนั เป็ นกุศล
ทรงขยายการแสดงธรรมให้กว้างขวางออกไป
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ทรงช่วยกาจัดตณั หาของสัตว์ทงั้ หลาย ผู้พล่านอย่ดู ้วยความอยากต่างๆ
ภาวนาเสก ปลุกตวั และเลข ว่านยาทงั้ มวล
อน่ึงใช้เสก เคร่ืองคลาดกค็ วร เม่ือรณศึกล้วน เป็ นศริ ิมงคล.
(ภาวนาเสกปลุกสารพัดทงั้ ปวง)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๓
โร
โรเสนโต เนวะ โกเปติ
โรเสเหวะ นะ กุชฌะติ
โรคานัง ราคะอาทนี ัง
โรคะหนั ตงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๔
โร
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ไม่ทรงโกรธผู้ท่โี กรธเอา
ไม่ทรงพลอยโกรธไปกบั พวกคนโกรธ
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ทรงกาจดั โรคแห่งโรคทงั้ หลาย มีราคะเป็ นอาทิ เสียได้
ภาวนาใช้เป็ นไร จากด้าวถ่นิ ตน ทงั้ ใช้ปลุกเสก ซ่งึ เคร่ืองคงทน
อย่าได้ฉงน แก้กันสรรพภยั . (ภาวนากนั ภยั เม่ือจะมีท่ไี ปแล)
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๔
ปุ
ปุณันตัง อตั ตะโน ปาปัง
ปุเรนตงั ทะสะปาระมี
ปุญญะวนั ตสั สะ ราชัสสะ
ปุตตะภตู งั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๕
ปุ
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ทรงขจดั บาปของพระองค์
ผู้ทรงบาเพญ็ พระบารมี ๑๐ ผู้เป็ นพระโอรสของพระราชาผู้มีบุญ
บทนีศ้ ักด์สิ ิทธ์ิ ภาวนาดบั พษิ สัตว์ร้ายทงั้ หลาย
ตะขาบแมลงป่ อง หากต้องเหล็กใน จงภาวนาไว้ พษิ ห่างบางเบา.
(ภาวนากันจระเข้ และแมลงป่ อง)
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๕
ริ
ริปุราคาทภิ ตู งั วะ
ริทธิยา ปะฏหิ ญั ญะติ
ริตตงั กัมมัง นะ กาเรตา
ริยะวังสัง นะมามหิ งั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๖
ริ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงกาจัดเสียได้ซ่งึ ส่งิ อันเป็ นข้าศึก มีราคะเป็ นต้น
ด้วยพระบุญฤทธ์ิ ไม่ทรงยงั สัตว์ให้ทากรรมท่เี ปล่าประโยชน์
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้เป็ นวงศ์อริยะ
บทนีภ้ าวนา รุ่งเรืองเดชา อานาจแก่เรา ทงั้ หญิงและชาย
พอได้เหน็ เรา คร่ันคร้ามไม่เบา เม่อื เข้าสมาคม.
(ภาวนาเพ่อื ให้มีความองอาจกล้าหาญในท่ามกลางคนทงั้ ปวง)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๖
สะ
สัมปันโน วะระสีเลนะ
สะมาธิปะวะโร ชโิ น
สะยมั ภญู าณะ สัมปันโน
สัณหะวาจงั นะมามิหงั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๗
สะ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงถึงพร้อมด้วยศลี
มพี ระสมาธอิ ันประเสริฐ ประกอบด้วยพระสยมั ภญู าณ
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระชินเจ้าพระองค์นัน้ ผู้มีพระวาจาละเอยี ดอ่อน
ภาวนาทกุ วนั หมู่เทพเทวญั ชวนกันระดม พทิ กั ษ์รักษา
เจตนารมณ์ มใิ ห้ระทม เดอื ดเนือ้ ร้อนใจ.
(ภาวนาสวดทกุ วัน เทวดามาฟัง)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๗
ทมั
ทนั โต โย สะกะจติ ตานิ
ทะมติ ะวา สะเทวะกัง
ทะทนั โต อะมะตัง เขมัง
ทนั ตนิ ทรฺ ิยงั นะมามิหงั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๘
ทมั
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงฝึ กจิตของพระองค์แล้ว
ทรงฝึ กมนุษย์กบั ทงั้ เทวดาด้วย
โปรดประทานอมตธรรมอนั เกษมแก่เขาทงั้ หลาย
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้มีพระอนิ ทรีย์อันฝึ กได้ท่แี ล้ว
บทนีภ้ าวนา สาหรับเสกผ้า โพกเศียรครรไร เจริญราศี
สวสั ดมี ีชัย เสก ณ ท่ไี ซร้ แมลงรูปบดั ดล.
(ภาวนาเสกผ้านุ่งห่ม)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๘
มะ
มะหสุ สาเหนะ สัมพทุ โธ
มะหนั ตัง ญาณะมาคะมิ
มะหติ ัง นะระเทเวหิ
มะโนสุทธัง นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๙
มะ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด
ได้บรรลุพระญาณอันใหญ่ด้วยพระอุตสาหะใหญ่
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้มีพระมโนบริสุทธ์ิ
อนั มนุษย์และเทวดาทงั้ หลายพากนั บชู าแล้ว
อาจารย์กล่าวไว้ ให้เสกดอกไม้ ทดั หขู องตน
มีสง่าราศี สวัสดมี งคล เสน่ห์เลศิ ล้น แก่คนทงั้ หลาย.
(ภาวนาเสกดอกไม้ทดั หเู ป็ นเสน่ห์)
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๓๙
สา
สารัง เทตธี ะ สัตตานัง
สาเรติ อะมะตงั ปะทงั
สาระถี วยิ ะ สาเรติ
สาระธัมมงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๐
สา
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด โปรดประทานธรรมอันเป็ นแก่นสาร
แก่สัตว์ทงั้ หลายในโลกนี้ ยังสัตว์ทงั้ หลายให้แล่นไปสู่ทางอมตะ
ดงั สารถยี ังม้าให้แล่นไปสู่ทางท่ปี ระสงค์ฉะนัน้
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้มีธรรมเป็ นสาระ
ภาวนาให้ม่ัน กนั ฝังอาถรรพ์ เวทย์มนต์ทงั้ หลาย
ทงั้ กนั กระทา มิให้ต้องกาย อกี อาวุธร้าย เม่ือเข้าณรงค์.
(ภาวนาป้องกนั อาถรรพ์ต่างๆ)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๐
ระ
รัมมะตาริยะ สทั ธัมเม
รัมมาเปติ สะสาวะกงั
รัมเม ฐาเน วะสาเปนตงั
ระณะหนั ตงั นะมามิหงั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๑
ระ
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงยินดใี นอริยสัทธรรม
ทรงยังสาวกของพระองค์ให้ยนิ ดดี ้วย
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ยงั สาวกให้ได้อย่ใู นฐานะอนั น่ายนิ ดี ผู้กาจดั ข้าศกึ คือกเิ สส
ใช้ภาวนา ป้องกันสัตว์ป่ า เสือช้างกสางดง
ทงั้ ควายแสะววั กระทงิ ตวั ยง ไม่กส้าอาจอง ตรงเข้าราวี.
(ภาวนาป้องกันสัตว์ร้าย เช่น เสือ ช้าง)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๑
ถิ
ถโิ ต โย วะระนิพพาเน
ถเิ ร ฐาเน สะสาวะโก
ถริ ัง ฐานัง ปะกาเสติ
ถติ งั ธัมเม นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๒
ถิ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด พร้อมทงั้ สาวกของพระองค์
ทรงตงั้ อยู่แส้วในฐานะอนั ม่ันคงคือพระนิพพาน
ทรงประกาศซ่งึ ฐานะอันม่นั คง (คอื พระนิพพานนัน้ )
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้ ผู้ตงั้ อย่ใู นธรรม
บทนีก้ ส้าหาญ เสกข้าวรับประทาน คงกระพนั ชาตรี
ศัตรูหมู่ภยั ไม่ร้ายราวี เป็ นสง่าราศี ไม่มีศัตรู.
(ภาวนาเสกข้าวกิน)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๒
สัต
สัทธัมมงั เทสะยติ วานะ
สันตะนิพพานะ ปาปะกัง
สะสาวะกงั สะมาหติ งั
สันตะจติ ตงั นะมามิหงั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๓
สัต
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า
พร้อมทงั้ สาวกของพระองค์ ผู้ทรงแสดงพระสัทธรรม
อนั ให้ถงึ พระนิพพานอนั รางบั แส้ว เป็ นผู้ตงั้ ม่ันสงบระงบั
เม่ือจะไสยา จงได้ภาวนา ตามคาคุณครู ป้องกันโจรร้าย
ไม่มีศัตรู ท่จี ะมาขู่ ข่มเหงนา้ ใจ. (ภาวนาป้องกันโจรผู้ร้าย)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๓
ถา
ถานัง นิพพานะสังขาตงั
ถาเมนาธิคะโต มุนิ
ถาเน สัคคะสเิ ว สัตเต
ถาเปนตงั ตัง นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๔
ถา
พระมุนีเจ้าพระองค์ใดได้บรรสุฐานะ
กส่าวคือพระนิพพาน ด้วยพระกาสังความเพียร
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ยังสัตว์ให้ตงั้ อยู่ในฐานะทงั้ ท่เี ป็ นสวรรค์แสะนิพพาน
ภาวนานึก เม่อื จะออกศกึ สงครามใดๆ แคส้วคสาดศาสตรา
ไม่มาต้องได้ คุ้มครองกนั ภยั ได้ดนี ักหนา.
(ภาวนาเพ่อื เข้าไปสู่สงคราม)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๔
เท
เทนโต โย สัคคะนิพพานัง
เทวะ มะนุสสะ ปาณินัง
เทนตงั ธัมมะวะรัง ทานัง
เทวะเสฏฐัง นะมามิหงั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๕
เท
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ประทานสมบัตคิ อื สวรรค์
แสะพระนิพพานแก่หมู่สัตว์ทงั้ เทวดาแสะมนุษย์
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้เป็ นเทพใหญ่ประทานพระธรรมเป็ นทาน
บทนีก้ เ็ อก ใช้สาหรับเสก ธูปเทยี นบปุ ผา บชู าพระเจ้า
พทุ ธัมสัมฆา จะมีสง่า ราศผี ่องใส.
(ภาวนาเสกเทยี นเป็ นสวัสดี)
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๕
วะ
วันตะราคัง วนั ตะโทสัง
วนั ตะโมหงั อะนาสะวงั
วันทติ งั เทวะพรฺ หเฺ มหิ
มะหติ ันตงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๖
วะ
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า
ผู้คายราคะ คายโทสะ คายโมหะแส้ว หาอาสวะมไิ ด้
อนั เทวดาแสะพรหมทงั้ หสายกราบไหว้แส้ว
บทนีด้ ีย่งิ ใช้เสกมาสี สบิ เก้าคาบไซร้
เอามาทดั หู คนดรู ักใคร่ บชู าพระไซร้ ย่อมเป็ นมงคส.
(ภาวนาเสกดอกไม้ทดั หเู ป็ นเสน่ห์)
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๖
มะ
มะหะตา วริ ิเยนาปิ
มะหนั ตัง ปาระมงิ อะกา
มะนุสสะ เทวะพรหเมหิ
มะหติ นั ตงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๗
มะ
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงสร้างพระบารมีอันใหญ่
ด้วยพระวิริยะอันใหญ่เหมือนกนั
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้อนั มนุษย์ เทวดาแสะพรหมทงั้ หสายบชู าแส้ว
เม่ือสงนาวา ขบั ข่ีช้างม้า ยาตราจรดส
หรือขนึ้ เรือนใหม่ อย่าได้ฉงน เสก 19 หน จะมเี ดชา.
(ภาวนาขนึ้ ช้างสงม้า ขนึ้ เรือนสงเรือน)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๗
นุส
นุนะธัมมงั ปะกาเสนโต
นุทะนัตถายะ ปาปะกัง
นุนะ ทกุ ขาธิปันนานัง
นุทาปิ ตงั นะมามิหงั .
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๘
นุส
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงประกาศธรรมอนั แน่แท้
เพ่อื บรรเทาเสียซ่งึ บาปของสัตว์ทงั้ หสายผู้จมทกุ ข์อยู่เตม็ แปส้
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้โปรดสัตว์ให้บรรเทาบาปของตนได้ด้วย
ภาวนาบ่น ประเสริฐเสศิ ส้น อย่าได้กงั ขา ชนช้างกด็ ี
หรือข่ีอาชา มีเดชแกส้วกส้า ไชยาสวสั ด.ี
(ภาวนาขนึ้ ช้างสงม้า มตี บะเดชะ)
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๘
สา
สาวะกานัง นุสาเสติ
สาระธัมเม จะ ปาณินัง
สาระธัมมัง มะนุสสานัง
สาสิตันตงั นะมามหิ งั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๙
สา
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใด ทรงพร่าสอนสารธรรม
แก่พระสาวกทงั้ หสายแสะแก่สัตว์ท่วั ไปด้วย
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพทุ ธเจ้าพระองค์นัน้
ผู้ทรงสอนธรรมอนั เป็ นสาระแก่มนุษย์ทงั้ หสาย
บทนีด้ ีมาก เม่อื จะกนิ หมาก เสก ๑๗ ที
ทงั้ แป้งนา้ มนั จวงจันทร์มาสี ทดั กรรณกด็ ี มีเสน่ห์ย่งิ ยง.
(ภาวนาเสกเม่ือกนิ เส้น)
วัดป่ าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๔๙
นัง
นันทนั โต วะระสัทธัมเม
นันทาเปติ มะหามุนิ
นันทะภเู ตหิ เทเวหิ
นันทะนียัง นะมามิหงั .
วัดป่ าบวั แก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ๕๐