The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย ๔ คำอธิบายคัมภีร์แผนนวดเล่ม ๑-๒ ในตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จักรวาลพระเวทย์, 2023-11-06 08:36:36

ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย ๔ คำอธิบายคัมภีร์แผนนวดเล่ม ๑-๒ ในตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒

ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย ๔ คำอธิบายคัมภีร์แผนนวดเล่ม ๑-๒ ในตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒

190 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๒ ถึง ๓ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๔ ถึง ๕


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 191 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๖ ถึง ๗ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๘ ถึง ๙


192 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๑๐ ถึง ๑๑ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๑๒ ถึง ๑๓


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 193 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๑๔ ถึง ๑๕ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๑๖ ถึง ๑๗


194 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๑๘ ถึง ๑๙ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๒๐ ถึง ๒๑


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 195 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๒๒ ถึง ๒๓ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๒๔ ถึง ๒๕


196 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๒๖ ถึง ๒๗ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๒๘ ถึง ๒๙


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 197 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๓๐ ถึง ๓๑ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๓๒ ถึง ๓๓


198 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๓๔ ถึง ๓๕ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๓๖ ถึง ๓๗


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 199 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๓๘ ถึง ๓๙ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๔๐ ถึง ๔๑


200 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๔๒ ถึง ๔๓ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๔๔ ถึง ๔๕


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 201 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๔๖ ถึง ๔๗ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๔๘ ถึง ๔๙ จบเล่ม


202 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๗. จำแนกองค์ความรู้ใน คัมภีร์แผนนวดฯ เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ ส่วนความเรียง การจ�ำแนกความรู้ในคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ ประกอบด้วย ๑. บานแผนก พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ๒. อาการ ๓๒ ประการของมนุษย์ ๓. ฝีที่เกิดในอวัยวะต่างๆ ๔. ลม ๓๒ จ�ำพวก และน�้ำมันที่ใช้รักษา ๕. ป่วง ๑๒ ประการ และวิธีรักษาด้วยยา ๖. คัมภีร์โรคนิทาน ๗. ยามยาตรา ๑. บานแผนก พระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ๏ ศุภมัศดุลุศักราช ๑๒๓๓ อัศวสัมพัจฉรกติกามาศ ศุกระปักษ์จตุตถดิถี ครุวาร ปริจเฉทกาลก�ำหนด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามงกุฎ บุรุศยรัตนราชรวิวงษ์ วรุตมพงษ์บริพัต วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิ ราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราชบรมนารถบพิตร พระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราช บรมราชาภิเษกผ่านพิภพกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์มหินทรายุทธยามหาดิลก ภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน เสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหศวริยพิมาน โดยสถานอุตราภิมุข พร้อมด้วยพระบรมราชวงษานุวงษ์ แลข้าทูลละออง ธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย เฝ้าเบื้องบาทบงกชมาศ จึ่งพระบาทสมเด็จบรมนารถบพิตร พระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทด�ำรัสสั่งพระเจ้า ราชวรวงษเธอ กรมหมื่นภูบดีราชหฤทัย จางวางกรมแพทยา พระเจ้าราชวรวงษเธอ กรมหมื่นอักษรสาสน์โสภณ จางวางกรมอาลักษณ อักษรพิมพ์ ว่าต�ำรับคัมภีร์แพทย์ ส�ำหรับรักษาโรคต่างๆ เป็นคุณเป็นประโยชน์เป็นอันมาก แลต�ำรับแพทย์ซึ่งสร้างขึ้นไว้ ใช้สอยสืบกันมานั้นสูญหายไปเสียบ้าง ที่ยังมีอยู่ก็วิปลาสคลาดเคลื่อนไปบ้างให้กรมหมื่น ภูบดีราชหฤทัยจัดหารวบรวมฉบับคัมภีร์แพทย์ทั้งสิ้น มาช�ำระสอบสวนให้ถูกถ้วนดีแล้ว


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 203 ส่งมาให้กรมหมื่นอักษรสาสน์โสภณสร้างขึ้น เพื่อเป็นส่วน พระราชกุศลเป็นที่ เฉลิมพระเกียรติยศ แลส�ำหรับแผ่นดินสืบไป ข้าพระพุทธเจ้าได้ช�ำระตรวจคัมภีร์ถูกถ้วนดีแล้ว ส่งมอบมาให้กรมอาลักษณ์ ข้า พระพุทธเจ้าพระเจ้าราชวรวงษเธอกรมหมื่นอักษรสาสน์โสภณ และหลวงสารประเสริฐ ได้ ช�ำระตรวจอักษรถูกต้องแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขุนนิมิตอักษร เขียนอักษรไทยเส้นทองชุบ๑ อักษรไทยเส้นหรดาล๒ ทูลเกล้าฯ ถวาย ข้าพระพุทธเจ้าได้สอบทานถูกต้องแล้ว ๒. อาการ ๓๒ ประการ ของมนุษย์ การพรรณนาเรื่อง “ลม” นี้ พึงให้แพทย์ประกอบยาตามโรคตามธาตุทั้ง ๔ ดังกล่าวมานี้ โรคพยาธิอันบังเกิดนั้นก็จะระงับดับหายเที่ยงแท้ เว้นไว้แต่ว่ามีกรรมแต่ก่อน โพ้นจึงจะมิได้ถอยหาย แลจะถึงซึ่งกาลกิริยา(ความตาย) เป็นอันเที่ยงแท้แล กายแห่งเราท่านทั้งปวงนี้ สมเด็จพระสรรเพชญพุทธเจ้าตรัสเทศนาว่า ยาว ๑ วา กว้าง ๑ ศอก หนา ๑ คืบ นี้มิเที่ยงแท้ย่อมแปรปรวนไปมาเป็นทุกขังเป็นอนิจจังอนัตตา หาแก่นสารมิได้ทุกตัวทุกตน มีแต่อาการ ๓๒ ประการ ตั้งแต่เกศาเป็นต้น ๒.๑ ว่าด้วยธาตุดิน (ปถวีธาตุ) ๑๙ ประการ ๑) เกศา อยู่ในศีรษะทั้งปวงได้ ๕,๖๐๐,๐๐๐ เส้น ๒) ขน ทั่วสารพางค์ได้ ๙,๖๐๐,๐๐๐ เส้น ๓) เล็บ ทั้งปวงได้ ๒๐ ๔) ฟัน ทั้งหลายได้ ๓๒ บางคนได้ ๓๕ บางคนได้ ๓๖ บางคนได้ ๓๗ บางคนได้ ๓๘ ถ้าผู้มีบุญมีสมภาร ดังองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าจึงมีฟันครบถ้วน ๔๐ ทัศ๓ ๕) หนัง อันหุ้มทั่วสารพางค์นั้น ถ้าแลว่าจะเลิก๔ ออกจะปั้นเข้าให้กลมเท่า ผลพุทรา ๑ ชุบ - ท�ำให้เป็นตัวหนังสือ๒ เส้นหรดาล - เส้นสีเหลืองที่ได้จากแร่หรดาลผ่านกรรมวิธีเตรียมเพื่อเขียนตัวอักษร ๓ ทัศ - ถ้วน, ครบ ๔ เลิก - เปิด


204 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๖) เนื้อ ทั่วสารพางค์ตัวนั้นได้ ๓๐๐ ถ้วน ๗) เอ็น เอ็นใหญ่ได้ ๙๐๐ เอ็นน้อยได้ ๙๐๐ เส้น ๘) กระดูก อันว่ากระดูกทั้งตัวได้ ๓๐๐ ท่อน ๙) สมอง อันว่าสมองอยู่ในกระดูกนั้น (เยื่อในกระดูก) ๑๐) ม้าม อันว่าม้ามนั้นมีสันถานดังผลมะม่วง ๒ ผลติดขั้วเดียวกันนั้นแล ม้ามนั้นคาบหัวใจอยู่ ๑๑) หัวใจ อันว่าหัวใจนั้นมีสัณฐานดังดอกบุนนาคก็ว่า ดอกบัวตูมก็ว่า อันบุคคล ลอกกลีบเสีย ๒ กลีบ ๓ กลีบนั้นแลเอาปลายลงเบื้องต�่ำอยู่กลางอกนั้น อันว่าหัวใจบุคคล ผู้มีปัญญานั้น ปลายหัวใจแย้มสักหน่อย อันบุคคลมีปัญญาชั่วถ่อยเขลานั้นตูมอยู่ดังดอกบัว ตูม ๑๒) ตับ อันว่าบุคคลผู้มีปัญญานั้นชายตับนั้นแฉกเป็น ๒ กลีบ ๓ กลีบบ้าง ชาย ตับนั้นบางอ่อนอยู่ อันว่าบุคคลปัญญาเขลานั้นชายตับกลีบเดียวแลเหมือนแว่นหน้าใหญ่ ชายตับนั้นดุจดังฝักเพกาแล สีตับนั้นหม่นอยู่แล แลตับนั้นในโครงอกชูหัวใจอยู่เบื้องขวา ๑๓) พังผืด อันว่าพังผืดมี ๒ จ�ำพวก พังผืดจ�ำพวกหนึ่งนั้นหุ้มตับ ปอด และ ม้ามอยู่ พังผืดจ�ำพวกหนึ่งนั้นแทรกอยู่ในหว่างกลีบเนื้อทั้ง ๓๐๐ ชิ้นนั้น ๑๔) พุง อันว่าพุงนั้นมีสัณฐาน ๒ อัน คือ กระเพาะมูตรคูธ๕ ๑ กระเพาะคูธ นั้นมีสัณฐานดุจดังลิ้นลูกโคยาวประมาณ ๘ องคุลี ติดไส้ใหญ่ไกลตับแลดีอยู่ข้างซ้าย กระเพาะมูตรนั้นอยู่ข้างขวา มีสัณฐานประดุจดังเอาผึ่งคว�่ำไว้นั้น ๑๕) ปอด อันว่าปอดนั้นมีสัณฐานดังชิ้นเนื้อมีกลีบได้ ๓๒ กลีบ แขวนอยู่มีสัณฐาน ดังกระออมน�้ำเผย๖ ฝาเสีย สีแดงดังผลมะเดื่อสุก แลปกตับเบื้องซ้ายและเบื้องขวานั้น ๑๖) ไส้ใหญ่ อันว่าไส้ใหญ่นั้นถ้าผู้ชายยาวถึง ๓๒ ศอก ถ้าผู้หญิง ๒๘ ศอก มี สัณฐานประดุจดังงูอันคนตัดศีรษะตัดหางแล้วแลขดไว้ในอ่าง แลหัวไส้เบื้องบนอยู่ต่อล�ำคอ หัวไส้เบื้องต�่ำนั้นอยู่ต่อทวารหนัก แลมีขดได้ ๒๑ ขด อยู่ในโครงอกนั้น ๕ มูตร - ปัสสาวะ คูธ-อุจจาระ ๖ เผย - เปิด


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 205 ๑๗) ไส้น้อย อันว่าไส้น้อยนั้นเกี่ยวพันไส้ใหญ่อยู่แลยาวดังกัน ๑๘) อาหารใหม่ อันว่าอาหารใหม่อันท�ำเป็นค�ำแลเคี้ยวด้วยฟันนั้น ย่อมแหลกปน กับเสมหะแลเขฬะกลืนเข้าไปนั้นพึงเกลียดยิ่งนัก ๑๙) อาหารเก่า อันว่าอาหารเก่านั้นตกเข้าไปอยู่ในกระเพาะคูธประมาณ ๘ องคุลี กว้างประมาณองคุลีหนึ่ง ประดุจดังดินแดงยัดใส่ในปล้องไม้ไผ่เป็นอันเบาในขุมอาจม เน่านั้น ๒.๒ ว่าด้วยธาตุน�้ำ (อาโปธาตุ) กล่าวไว้ ๘ ประการ จาก ๑๒ ประการ ๑) ดี อันว่าดีอยู่ในฝักห้อยอยู่ในใต้ตับนั้น แลแทรกตับอยู่ชื่อว่า พัทธปิตตะ ดี ประการ ๑ ชื่อ อพัทธปิตตะ นั้นเพราะซาบอยู่ทั่วทั้งตัว ๒) เสมหะ อันว่าเสมหะอยู่ในไส้ประมาณแต่สักบาทหนึ่ง ๓) บุพโพ อันว่าหนองนั้นจะมีอยู่ทุกเมื่อหามิได้ เมื่อไรต่อเป็นแผลบาดเจ็บแลฝี พุพอง หนองนั้นจึ่งบังเกิด ๔) โลหิต อันว่าโลหิตนั้นอยู่ในกายประมาณได้ ๑๐ ทะนาน ๕) เหงื่อ อันว่าเหงื่อ อยู่ทั่วตัวไหลอยู่ทั่วสารพางค์กายทุกขุมขน ๖) มันข้น อันว่ามันข้นนั้นมีอยู่ระหว่างกลีบเนื้อทั้ง ๓๐๐ ชิ้นนั้นแล ๗) น�้ำจักษุ อันว่าน�้ำจักษุนั้นมิได้มีอยู่ทุกเมื่อ ต่อเมื่อใดมีทุกข์โศกเจ็บปวดจึงมี น�้ำจักษุ ๘) มันเหลว อันว่ามันเหลวนั้นดังน�้ำมันงาอันใสซาบอยู่จมูกแลจงอยฝีปาก แล หน้าผากย่อมไหลซาบออกมา ๙) น�้ำเขฬะ อันว่าน�้ำเขฬะ๗ นั้นอยู่ในปุ่มแก้มทั้ง ๒ ข้าง ต่ออาหารตกถึงท่ามกลาง ลิ้นก็ไหลออกมารับเอาอาหารนั้น ย่อมมีอยู่ทุกรูปทุกนามทั้งหญิงทั้งชาย อันเกิดมาจะได้เว้นตัวคนนั้นหามิได้มีเหมือน กันแล ๗ เขฬะ - น�้ำลาย (ราชาศัพท์)


206 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ข้าพเจ้าเขียนแล้ว ณ วันพุธ เดือน ๑๒ ขึ้น ๑๓ ค�่ำ ปีระกาเอกศกฯ ข้าฯ นาย ทองอยู่เขียนไว้ ขอให้ได้กุศลส่วนบุญฯ ข้าฯ ผู้เขียนกึ่งหนึ่งเถิดอย่าให้มีโรคสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แก่ฯข้าฯนั้นเลย ขอให้เป็นผาสุกทุกๆ ชาติ ดับชาติทุกข์ ชราทุกข์ มรณทุกข์ในภาย ภาคหน้า นิพพานปัจโยโหตุเม เสร็จแล้วเท่านี้ ๓. ฝีที่เกิดในอวัยวะต่างๆ ปริพาชิกกัสสปแลสุยามเทพบุตรทั้งหลาย แลฤๅษีทั้งพันก็ชวนกันไปถึงเขาไกรลาศ นมัสการกับบาทพระอิศวร ผู้เป็นเจ้าจึงว่าแก่เทพดาและฤๅษีทั้งพันว่า ท่านมานี่ประสงค์ ด้วยสิ่งอันใด ฝ่ายฤๅษีและเทพดาจึ่งกราบทูลว่าดังนี้ ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอัน ประเสริฐ ท่านจงเอ็นดูแก่หญิงชายทั้งหลายอันเกิดมาในโลกประกอบด้วยโรคาพาธมารัน๘ ท�ำย�่ำยี มิทันแก่ก็มาถึงมรณะ ขอพระองค์จงทรงพระกรุณาเอ็นดูฝูงสัตว์โลกทั้งหลายอัน เป็นพยาธิหนักหนา สมเด็จพระอิศวรผู้เป็นเจ้า จึงมีเทวบัญชาว่าดูกรชาวเจ้าทั้งหลาย อันว่าฝูงสัตว์โลก ทั้งหลาย เมื่อแต่แรกจะปฏิสนธิและเกิดออกมาจากท้องแม่ ลมกัมมัชวาตพัดเอาเท้าขึ้น เอาศีรษะลง เมื่อมันออกทบลงมันให้คอนั้นระทกเอ็นคอนั้นหัก เมื่ออยู่นานมามันก็ให้เป็น ลูกหนูแล้วมันแปรเป็นคันทมาลา๙ ฝีนั้นขึ้นข้างขวาชื่อคันทสูตร เมื่อยืดมามันแก่เป็น สังกะตัม๑๐ ยาแก้ลูกหนูให้เอายาทั้งนี้ทา เอาปูนขาว ๑ ศีรษะขมิ้นอ้อย ๑ รากมูลกาแดง ๑ รากมะนาว ๑ น�้ำส้มสุรา ๑ ยาทั้งนี้เอามาคุลิการ๑๑กันทาลูกหนูหายมามากแล้ว ๘ รัน - ตี ๙ คันทมาลา - คัณฑมาลา ชื่อฝีชนิดหนึ่งที่ขึ้นเป็นแถวตามล�ำคอ๑๐ สังกะตัม - สังกีตัง ลักษณะที่ติดแน่นเป็นปมเหนียวที่ผมหรือที่ขนสัตว์สางไม่ออก ๑๑ คุลิการ - คลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้วปั้นเป็นก้อน


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 207 ๓.๑ ฝีคันทมาลานี้มีชื่อ ๗ ประการ ๑) คันทมาลา บรรจบเอารากขวัญ ๒) คันทณุรุต เกิดในคอ ๓) คันทชารต เกิดในกลางคอซ้าย ๔) คันทาสรพิษ เกิดให้ฟางตาข้างซ้าย ๕) คันทามรชิต เกิดในต้นหูข้างซ้าย ๖) คันทาพตทสร เกิดแต่คอข้างซ้าย ๗) สาคันทามรเบญจา เกิดในบังหึง๑๒ข้างซ้าย ๓.๒ การรักษาด้วยยา ต�ำรับยาแก้ฝี ๑) ยาแก้ฝีคันทมาลา ชุมเห็ด ๑ ชิงช้าชาลี ๑ ฟัก ๑ โคกกะออม ๑ ใบชิงชี่ ๑ ยา ๕ สิ่งนี้หุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากยาใช้พอกฝี ๒) ยาแก้ฝีคันทาณุรุต ใบสะแก ๑ เต่าเกียด ๑ เพกา ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากยาใช้พอกฝี ๓) ยาแก้ฝีคันทชารต สมี ๑ โสน ๑ ตับเต่า ๑ ลับแล ๑ ต�ำลึงตัวผู้ ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากยาใช้พอกฝี ๔) ยาแก้ฝีคันทาสรพิษ ยอดหมาก ๑ ใบเสนียด ๑ พุงแก ๑ หุงน�้ำมันกิน ส่วนกากใช้พอกฝี ๕) ยาแก้ฝีคันทามรชิต บอระเพ็ด ๑ หมากฝ่อ ๑ เปลือกเพกา ๑ เปลือก มะต้อง ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากยาใช้พอกฝี ๖) ยาแก้ฝีคันทานิกรม ใบสวาด ๑ บวบขม ๑ ละอองพระกฤษณ์ ๑ แสง พระงาม ๑ อ้ายเหนียว ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากยาใช้พอกฝี ๗) ยาแก้ฝีสาคันทามรเบญจา ใบพลูแก่ ๑ ตับเต่า ๑ ผักเสี้ยน ๑ กรอบแกรบ ๑ ต�ำลึงตัวผู้ ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากยาใช้พอกฝี ๑๒ บังหึง - ฟันกราม


208 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๘) ยาแก้ฝีคันทาพตทสร บอระเพ็ด ๑ อังกาบ ๑ ขาเรือน ๑ ยุงปัดฤๅษี ๑ หญ้ากองกอย ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากยาใช้พอกฝี ๙) ยาประกอบพอกฝีทั้งปวง เอาหญ้าแพรก ๑ ค้อนหมา ๑ เอาทองเหลือง ๑ หนังวัวแดง ๑ หนังแรด ๑ ยา ๕ สิ่งนี้เผาด้วยกัน ละลายด้วยน�้ำมันหมูเถื่อน แลพอก บนหัวฝีนั้นแล้วจึงเอาส้มป่อยบดให้ละเอียดพอกรอบนอก ๑๐) การหุงน�้ำมันทาฝี ล�ำโพง ๑ ใบรัก ๑ ใบเรียน ๑ กะหนาก ๑ พิษงูงอด ๑ เจตมูลดอกแดง ๑ ใบคนทีสอ ๑ ใบคนทีเขมา ๑ บอระเพ็ดทั้ง ๒ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ ผลกราย ๑ ยาด�ำ ๑ พิมเสน ๑ การบูร ๑ เกลือก�ำมือหนึ่ง น�้ำมันนี้ชื่อโมหิโถ ใช้เป็นยารักษาฝีทั้งปวงที่ขึ้นข้างซ้าย ๓.๓ ฝีเกิดในอวัยวะต่างๆ ๑) ฝีคัณทสูตร ฝีที่ขึ้นข้างขวา ๒) ฝีคัณฑสูญ เกิดขึ้นที่รากขวัญ ๓) ฝีคัณฑสร เกิดในต้นคอ ๔) ฝีคัณฑสี เกิดในล�ำคอชื่อ ๕) ฝีคัณฑสรร เกิดในหู ๖) ฝีคันธนู เกิดในต้นคาง ๗) ฝีคัณฑมัน เกิดในข้างคอ ๘) ฝีคัณฑเศียร เกิดในบังหึง ฝีอันขึ้นทนต์ขวา ๓.๔ น�้ำมันรักษาฝี ๑) ฝีคัณทสูญ เถาต�ำลึงตัวผู้ ๑ เถาน�้ำเต้านมนาง ๑ ต้นตับเต่า ๑ สายติ่ง ๑ เสมอภาคหุงเป็นน�้ำมันกิน ส่วนกากใช้พอก ๒) ฝีคัณทสร ใบพลูแก่ ๑ ใบมะเดื่อหลวง ๑ ใบจิงจ้อ ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ๓) ฝีคัณฑสี ถั่วแระ ๑ ถั่วพู ๑ รากขนุนส�ำมะลอ ๑ ทองหลางใบมน ๑ หุง เป็นน�้ำมันกิน


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 209 ๔) ฝีคัณฑสรร ถั่วแระ ๑ เถาต�ำลึงตัวเมีย ๑ ใบไผ่ ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ๕) ฝีคันธนู ตับเต่าหลวง ๑ หน่อกล้วยตีบ ๑ เอื้องหลวง ๑ เอื้องน�้ำ ๑ สลอด น�้ำ ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ๖) ฝีคัณฑมร ขมิ้น ๑ ผักเสี้ยนกิน ๑ ผักแว่น ๑ ต�ำลึงตัวผู้ ๑ ใบพลูแก ๑ หุงเป็นน�้ำมันกิน ถ้าจะหุงน�้ำมันขนานใด ให้เอาต�ำรานี้ด้วย เนียรภูสี ๑ ดีงูเหลือม ๑ ดีงูตะบองพล�ำ ๑ ไว้ส�ำหรับประจ�ำน�้ำมันทุกขนาน ถ้ามิชอบเอาน�้ำมันนี้เป็นพ่อน�้ำมันทั้งปวง ท่านให้เอา ใบสมี ๑ ใบสวาด ๑ ใบพุทรา ๑ ใบสะอม ๑ แทงทวย ๑ ซ้อง แมว ๑ กุ่มทั้ง ๒ อ้ายเหนียว ๑ หน่ออ้อย ๑ พรมคตทั้ง ๒ ขมิ้น ๑ ขัดมอน ๑ พันงู ๑ ใบท้าวยายม่อม ๑ จอกหูหลง ๑ กองกะเพือ ๑ กะทุงลาย ๑ ไคร้หางนาค ๑ มะเดื่อ หลวง ๑ ใบเข็ม ๑ สกดบาดาล ๑ พนมสวรรค์ ๑ จิงจ้อ ๑ กะถิน ๑ พิมาน ๑ สะเดา ๑ ฆ้อนกลอง ๑ พุงแก ๑ ยาทั้งนี้เอาเท่ากันหุงเป็นน�้ำมัน เบญกานี ๑ ยาด�ำ ๑ เนียรพูสี ๑ สังกรณี ๑ ยาฝิ่น ๑ ดีงูเหลือม ๑ ดีงู กระบองพล�ำ ๑ ดีเหี้ย ๑ ดีวัว ๑ ดีหมูเถื่อน ๑ สารส้ม ๑ หุงเป็นน�้ำมันประกอบฝีทั้ง ปวงนั้นหายแล แม้นขึ้นข้างซ้ายก็ดีขวาก็ดีขึ้นแห่งใด ๆ ก็ดี ให้เอาน�้ำมันทิพโสฬสหุงให้กินเถิดเป็น ยาประกอบฝีทั้งปวงหายแล ชื่อว่า ปฐมสูตรนี้จบเท่านี้ ๔. ลม ๓๒ จำ พวก และน้ำมันที่ใช้รักษา ทีนั้นพระฤๅษีปริพาทิกัศยน แลสุยามเทพบุตรทั้งหลายจึ่งทูลว่าเหตุฉันใด มนุษย์ ทั้งหลายมาบังเกิดฝีเหือดเลือดลมแลมิทันแก่ก็ตาย ขอพระองค์จงทรงพระกรุณาแก่มนุษย์ ทั้งหลายนี้เถิด จึ่งพระอิศวรผู้เป็นเจ้าจึงมีเทพบัญชาตรัสดังนี้ ดูกรชาวเจ้าทั้งหลายเราจะเล็งแลดูซึ่งธาตุทั้ง ๔ คือ เลือดและลมและน�้ำและไฟ ธาตุทั้ง ๔ เมื่อประชุมกันอยู่นั้นก็ให้สบายอยู่ และรูปกายมิได้เป็นอันตรายอยู่แล


210 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ แต่นี้จะพรรณนาลมอันเกิดแก่ชนทั้งหลายมี ๓๒ จ�ำพวก ผิจะใคร่รู้แท้โดยฎีกาให้ แจ้งดังนั้น ๔.๑ ลม ๓๒ จ�ำพวก ๑) ลมองคุลิวาต เกิดในนิ้วเท้าข้างขวา ๒) ลมบาทาวาต เกิดฝ่าตีน ๓) ลมชงฆวาต เกิดในหน้าแข้ง ๔) ลมอุรุตวาต เกิดต้นขา ๕) ลมกฏิกังวาต เกิดในสะเอว ๖) ลมอุทรวาต เกิดแต่ในท้อง ๗) ลมปิตติวาต เกิดในดี ๘) ลมนาภีวาต เกิดในสะดือ ๙) ลมคุณวาต เกิดในนม ๑๐) ลมหทัยวาต เกิดหัวใจ ๑๑) ลมกัจฉวาต เกิดในรักแร้ ๑๒) ลมอังษวาต เกิดในบ่า ๑๓) ลมกัณฐวาต เกิดในล�ำคอต่อ ๑๔) ลมพาหวาต เกิดแต่ในล�ำแขน ๑๕) ลมกรวาต เกิดในข้อศอก ๑๖) ลมหัตถวาต เกิดในข้อมือ ๑๗) ลมโสตวาต เกิดในโสตแล ๑๘) ลมกรรณวาต เกิดในใบโสต (ใบหู) ๑๙) ลมนาสิกวาต เกิดในจมูก ๒๐) ลมหณุกวาต เกิดในคาง ๒๑) ลมโอษฐวาต เกิดในปาก ๒๒) ลมจักขุวาต เกิดในจักษุ ๒๓) ลมสิรวาต เกิดในศีรษะ


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 211 ๒๔) ลมปกังษวาต เกิดในหน้าผากข้างขวาตกลงมาถึงหมวกโสต (ใบหู) ๒๕) ลมรัตปกังษวาต เกิดแต่หมวกโสต (ใบหู) ข้างขวาลงมาจนถึงก�ำด้น ๒๖) ลมปิศวาต เกิดแต่ใต้ลิ้นมาจนศีรษะแต่ข้างขวาแล ๒๗) ลมราทธยักษ์ บังเกิดให้โสตตึง จักษุเหลือง ปากเบี้ยว แต่เบื้องขวาแล ๒๘) ลมบาทเสี้ยนหทยะวาต เกิดแต่เท้าก็ให้เท้าสั่นมาจนถึงสีข้างและหลังแล้วให้ สลักเอาศีรษะ แล้วก็ให้อาเจียน ลมนี้รักษายากมาก ๒๙) ลมบาทอุทรวาต เกิดขึ้นมาแต่เท้าจนท้อง ครั้นนานมาตายแต่ท้องขึ้นมาจน ศีรษะ ๓๐) ลมเนตรวาต เกิดแต่เท้าขึ้นมาจนเข่า แล้วแล่นขึ้นมาถึงสันหลังแล้วแล่นมา ถึงต้นคอ แล้วแล่นมาจับที่ต่ แล้วชักจนมืองอเท้างอ ครั้นเมื่อยืดออกมาก็ท�ำให้ตายทั้งตัว (ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้) ๓๑) ลมรัตมณทล เกิดแต่หน้าผากข้างขวาเวียนไปก�ำด้นแล้วก็เวียนไปประจบกัน แล้วก็ให้ร้อนออกจากโสตจากจมูกจากจักษุแลปาก จึงลงมาจับทั่วร่างกายให้เจ็บดังปลาดุก ยอก๑๓ แต่ก�ำเนิดข้างขวา ๓๒ จ�ำพวกเท่านี้แล ๓๒) ลมลมลองสุลิวาต ให้เจ็บแต่นิ้วเท้า จึงแล่นมาจับเอาต้นคอ ท�ำให้อาเจียน เป็นลม ๔.๒ การท�ำยาและน�้ำมันรักษาลมต่างๆ ๑) น�้ำมันสุริยาทินกร รักษาลมลองสุลิวาต ต�ำรับยา รากพริกทะนาน ๑ ขิงทะนาน ๑ กระเทียมทะนาน ๑ ข่าทะนาน ๑ ผักแพวแดงทะนาน ๑ ยาทั้งนี้๑๔ ใส่ในหม้อทองแดง จึ่งเอาน�้ำมันใส่ลงที่ยานั้นแล้วเอายา นี้ปรุง ผลจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ การบูร ๑ น�้ำมัน นี้ชื่อสุริยาทิกร ๑๓ ปลาดุกยอก - ปัจจุบันใช้ว่า ปลาดุกยัก, ยัก แปลว่า แว้งแทงด้วยเงี่ยง ๑๔ ยาทั้งนี้ - หมายถึง ยาทั้งหมดนี้


212 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๒) น�้ำมันศรนารายณ์ รักษาลมบาทาวาต ลมชื่อบาทาวาตนั้นจับเท้าข้างขวาให้โตเท่ากระดองเต่า เมื่อแรกมันให้คันที่หลังแล้ว ให้เจ็บจมูก เมื่อกินยาไม่หาย มันแล่นมาทั้งหน้าแข้งนั้น ต�ำรับยา กุ่มน�้ำ ๑ กุ่มบก ๑ สายตะพดแม่ม่าย ๑ ช้าเลือด ๑ บวบขม ๑ น�้ำนม ราชสีห์ ๑ ใบหนาด ๑ ใบคนทีสอ ๑ หุงเป็นน�้ำมันปรุงด้วยยานี้ ผลจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ น�้ำมันนี้ชื่อศรนารายณ์ ๓) น�้ำมันสุรามฤต ต�ำรับยา ผักเสี้ยนผี ๑ หญ้าไทร ๑ ผักไห่ ๑ ส้มกบ ๑ เพกา ๑ กระทกรก ๑ ฟัก ๑ ผักแพวแดง ๑ เท่ายาทั้งหลายหุงเป็นน�้ำมัน ยาปรุงเอาผลจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ น�้ำมันชื่อสุรามฤต ๔) น�้ำมันฤทธิพระราม รักษาลมอุรุษาวาต ลมชื่ออุรุษาวาตนั้นให้เจ็บกระดูกขา มันให้แล่นจับเอาหัวหน่าว ต�ำรับยา เอื้องเพชรม้า ๑ ขอบชนาง ๑ ผักขวง ๑ คานชาย๑๕ ๑ สะเดา ๑ พิลังกาสา ๑ ผักคราด ๑ ผักโขมหิน ๑ กุ่มน�้ำ เท่ายาทั้งหลายหุงเป็นน�้ำมัน ยาปรุงเอา ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ เทียนขาว น�้ำมัน นี้ชื่อฤทธิพระราม ๕) น�้ำมันนารายณ์แผลงฤทธิ์ รักษา ลมกฏิกวาต ลมกฏิกวาตนั้นเกิดในสะเอวข้างขวา แล้วแล่นไปข้างซ้ายประดุจดังเขาเสียบ แล้ว แล่นมาเสียดเอาสันหลัง ต�ำรับยา กระดูกเสือ ๑ กระเทียม ๑ ขิง ๑ ข่า ๑ น�้ำมันแก้วกงจักรพระราม ๑ ละอองพระกฤษณ์ ๑ ดวงจ�ำยาม ๑ หุงเป็นน�้ำมัน ยาปรุงเอาผลจันทน์ ๑ กระเทียม ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ ดีปลี ๑ น�้ำมันนี้ชื่อ นารายณ์แผลงฤทธิ์ ๑๕ คานชาย - กระชา


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 213 ๖) น�้ำมันสนั่นพระพรหม รักษา ลมนาภีวาต ลมนาภีวาตนั้นเกิดในเถาเอ็นสะดือ แล้วมันให้ขดขึ้นมาเอาล�ำคอ แลเจ็บดุจดังเอา เกลือใส่ ต�ำรายา เชือกหนัง ๑ ไม้เท้ายายม่อม ๑ สลักบาดาล ๑ เถาหมากบ้า ๑ ชาลี ขม ๑ ผักเสี้ยน ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ขมิ้นเครือ ๑ พิลังกาสา ๑ ดองดึง ๑ เชือกเขาไฟ ๑ นมแมว ๑ เชือกเขายอดแดง ๑ เชือกเขายอดขาว ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาค๑๖ หุงเป็น น�้ำมัน เอายาปรุงนี้ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ ดีปลี ๑ พิมเสน ๑ น�้ำมันนี้ชื่อสนั่นพระพรหม ๗) น�้ำมันสกลชมพู รักษา ลมอาตนวาต ลมอาตนวาตนั้น เกิดในนมเบื้องขวานั้นมันให้คันนมแล้วมันหลบเข้าไปในหัวใจ เจ็บ ประดุจเอาไม้มาเสียบไว้ ต�ำรับยา บอระเพ็ด ๑ ถบถาบ๑๗ ๑ มะรุม ๑ เสนียด ๑ อังกาบ ๑ ขัดมอน ๑ กลอย ๑ มูลกาแดง ๑ พันงู ๑ ไคร้นางนาก ๑ แห้วหมู ๑ เอาเสมอภาคหุงเป็น น�้ำมัน ยาปรุงเอาผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ กระเทียม ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ น�้ำมันนี้ชื่อสกลชมพู ๘) ยานี้ชื่อฤๅษีสม รักษา ลมปิตตวาต ลมปิตตวาตนั้นเกิดในดี แล้วแล่นขึ้นไปบนหัวปอดนั้น แล้วมันกลับลงมาเข้าไปในไส้ ในพุง มันให้เจ็บประดุจดังภูติอยู่แล ต�ำรับยา เถาย่านาง ๑ พุงแก ๑ กระทุ่มหลวง ๑ ประยงค์ ๑ มะตูม ๑ ข่อยนา ๑ ส�ำโรง ๑ มะงั่ว ๑ มะนาว ๑ กุ่มน�้ำ ๑ กุ่มบก ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาคหุงเป็นน�้ำมัน ยาปรุงเอาเกลือสินเธาว์ ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ ยานี้ชื่อฤๅษีสม ๑๖ เสมอภาค - เท่ากัน ๑๗ ถบถาบ - ถอบแถบ


214 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๙) น�้ำมันสงสาร รักษา ลมหทัยวาต ลมหทัยวาต มันจับแต่ในหัวใจแล้วแล่นลงไปจับเอาลึงค์ ท�ำให้ลึงค์หดเข้าไปสิ้นทุกทีแล ต�ำรับยา มันเสือ ๑ เถาย่านาง ๑ กันเตรา๑๘ ๑ สหัสคุณ ๑ พิษงูงอด ๑ ผัก เสี้ยนผี ๑ พญายา ๑ กุ่มน�้ำ๑ กุ่มบก๑ กระชาย๑ แฝกหอม๑ ผลจันทน์๑ ดอกจันทน์๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ผลกราย ๑ เทียนเยาวพานี ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ น�้ำมันนี้ชื่อสงสาร ๑๐) น�้ำมันละอองพระสมุทร รักษาลมอัควาต อนึ่งชื่อลมอัควาตมันให้เจ็บในรากขวัญข้างขวา แล้วมันแล่นมาเอาลิ้นคาปากอยู่ แล้วแล่นขึ้นไปจับที่ตา ให้ตานั้นแข็ง เมื่อใดเบาออกมาได้แรงสักหน่อย ต�ำรับยา ผักบุ้งขัน ๑ พระเพชฉลูกรรม์ (หรือเพ็ศณุกรรม์) ๑ หิวการ ๑ ผลเค ลา ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ พิษงูงอด ๑ ใบบัวขม ๑ ข่าลิง ๑ เสงตวา๑๙ ๑ พรมมิ ๑ ตรด๒๐ ๑ เชือกเขาไฟ ๑ ยาทั้งนี้เท่ากันหุงน�้ำมันแล้วเอายานี้ปรุง ชราด�ำ ๑ เยาวพานี ๑ หญ้า คา ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียน ขาว ๑ เอาเท่ากันสิ่งละ ๑ บาท น�้ำมันทะนาน ๑ น�้ำมันชื่อละอองพระสมุทร ๑๑) น�้ำมันสุดสงสาร รักษาลมชื่อกัจฉะวาต ลมชื่อกัจฉะวาต ท�ำให้รักแร้ข้างขวาเสียด ลมแล่นไปรักแร้ข้างขวาท�ำให้อาเจียน เป็นลมเปล่าและเจ็บประดุจฝี ต�ำรับยา ใบสมอ ๑ ใบสัก ๑ ใบทอง ๑ ใบอินทนิล ๑ ใบมะม่วงคัน ๑ ช้าง แก้ว ๑ ใบซาก ๑ ตูดหมู ๑ กระถิน ๑ ใบแสงพร้า ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาคหุงเป็นน�้ำมัน ยาปรุงเกลือสินเธาว์ ๑ เกลือกะตัง ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ สิ่งละ ๑ บาท น�้ำมันนี้ชื่อสุดสงสาร ๑๘ กันเตรา - กันเกรา เพราะ ก กับ ต มักใช้แทนกัน ๑๙ เสงตวา - สันตะวา ๒๐ ตรด - กรด


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 215 ๑๒) น�้ำมันพุทธิโย รักษา ลมอังษวาต ลมอังษวาต จับในบ่าข้างขวา ท�ำให้มืองอเข้ามาแล้วชักให้เท้างอเข้ามาด้วย ท�ำให้ เจ็บอย่างมาก ต�ำรับยา ขิง ๑ กระเทียม ๑ ผักแพวทั้ง ๒ ข่า ๑ มะรุม ๑ ทองหลาง ๑ บอ ระเพ็ดทั้ง ๒ กะเพรา ๑ แมงลัก ๑ หญ้าไซ ๑ ผักเสี้ยน ๑ หญ้าหนวดแมว ๑ ยาทั้งนี้ เอาเท่ากันหุงเป็นน�้ำมัน ยาปรุง ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ น�้ำมันนี้ชื่อพุทธิโย ๑๓) น�้ำมันสว่างโลกอมฤต ลมกะโถวาต ท�ำให้เจ็บเส้นคอข้างขวาแล้วแล่นมาจับเอาล�ำคอข้างซ้าย แล้วมัน แล่นไปจับเอาสมองศีรษะท�ำให้เจ็บร้อนออกมาอย่างมาก ต�ำรับยา เชือกเขาไฟ ๑ เชือกเขาคัน ๑ มุงกระต่าย ๑ หญ้าไซ ๑ หางนก พระยาลอ๒๑ ๑ เชือกเขาด้ายดิบ ๑ ตานหม่อน ๑ ขอบชนาง ๑ มะนาวดอกเหลือง ๑ ชิงช้าชาลี ๑ ว่านร่อนทอง ๑ เถามะกล�่ำ ๑ ต�ำลึงตัวผู้ ๑ ต้นขี้ซ้อน ๑ พิลังกาสา ๑ สะเดา ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาคหุงเป็นน�้ำมันแล้วยาปรุงลง๒๒ เอาเกลือแก้ว ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียนขาว ๑ น�้ำมันนี้ชื่อสว่างโลก อมฤตแล ๑๔) น�้ำมันสว่างโลก แก้ลมภัคโถวาต ลมอนึ่งชื่อภัคโถวาต ท�ำให้เจ็บแสกตัวข้างขวา แล้วก็แล่นจับเอาล�ำคอข้างซ้าย แล้วก็จับสมองศีรษะ เจ็บร้อนออกมาทั่วสารพางค์ใช่สามานย์ ต�ำรับยา เชือกเขาไฟ ๑ เชือกเขาคัน ๑ มุงกระต่าย ๑ หญ้าไซ ๑ หางนกพระ ยาลอ ๑ มะนาวดอกเหลือง ๑ ชิงช้าชาลี ๑ ว่านร่อนทอง ๑ เถามะกล�่ำ ๑ ต�ำลึงตัวผู้ ๑ ต้นขี้ซ้อน ๑ พิลังกาสา ๑ สะเดา ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาคหุงเป็นน�้ำมันยา ปรุงเกลือ แก้ว ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ เทียนด�ำ ๑ เทียน ขาว ๑ น�้ำมันนี้ชื่อสว่างโลกแล ๒๑ นกพระยาลอ - น่าจะหมายถึง ไก่ฟ้าพระยาลอ ๒๒ แล้วยาปรุงลง - แล้วน�ำไปปรุงผสมกับยาสมุนไพร


216 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๑๕) ยาหนุมานแผลงฤทธิ์ แก้ลมสาหุวาต ลมอนึ่งชื่อสาหุวาต เกิดในต้นแขน ท�ำให้เจ็บประดุจดังว่าไม้มาเสียบไว้ ต�ำรับยา เอากรุงเขมา ๑ น�้ำเต้าขม ๑ ขมิ้น ๑ หีบลม ๑ ล�ำเจียก ๑ แก่น ประดู่ ๑ ยาทั้งนี้เอาเท่ากันหุงเป็นน�้ำมันแล้วเอายาปรุงลง เอาผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ๑๖) น�้ำมันพระเพชรเจ็ดองค์ แก้ลมกรวาต ลมกรวาตมันเกิดในข้อศอก ท�ำให้เจ็บในกระดูกข้อศอกประดุจดังเอาไม้เสียบไว้แล ต�ำรับยา เอาทองหลางใบมน ๑ พรมคช ๑ พิษนาคราช ๑ ปู่เจ้าสิบแพน ๑ พญามือเหล็ก ๑ เฉียงพร้า ๑ พระพรหมสีมา ๑ พญาลิงลม ๑ ผ้าห่มสีดา ๑ คัดเค้า ๑ เพกา ๑ ตานหม่อน ๑ พุทรา ๑ แห้วหมู ๑ ชุมเห็ด ๑ ส้มซ่า ๑ ยาทั้งนี้หุงเป็น น�้ำมัน ชื่อพระเพชรเจ็ดองค์แล ๑๗) ยาเพชรอาวุธ แก้ลมหัตถ์วาต ลมอนึ่งชื่อหัตถ์วาตมันเกิดในข้อมือข้างขวา ให้เจ็บศีรษะแม่มือ๒๓ประดุจตะขาบขบ ต�ำรับยา น�้ำมัน ผิจะยาเอาบวบขม ๑ น�้ำเต้าขม ๑ น�้ำนมราชสีห์ ๑ ขมิ้น ๑ อังกาบ ๑ บุนนาค ๑ เชือกเขาน�้ำ ๑ บัวบก ๑ ฃชีล้อม ๑ ชีลา ๑ เอาเสมอภาคหุง เป็นน�้ำมัน ยาปรุงเอาเกลือแก้ว ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ ต�ำเป็นผงใส่ในน�้ำมันหุงขึ้นด้วยกัน น�้ำมันนั้นกินเอากากพอกนอกแล ยาร้อน ถ้าจะท�ำยาร้อนให้เอาบุก ๒ ต�ำลึง เจตมูล ๒ ต�ำลึง ใบกัญชาเทศ ๒ ต�ำลึง ขิงแห้ง ๒ ต�ำลึง ๑ บาท จิงจ้อใหญ่ ๑ ต�ำลึง ๓ บาท กระดาษแดง ๑ ต�ำลึง อุตพิด ๑ ต�ำลึง กลอย ๑ ต�ำลึง ๓ บาท ดีปลี ๒ บาท ๒ สลึง กระวาน ๑ บาท กานพลู ๑ บาท ผลจันทน์ ๑ บาท ดอกจันทน์ ๑ บาท โกฏสอ ๑ บาท ผลกราย ๑ บาท เทียนด�ำ ๑ บาท เทียนขาว ๒ บาท กระเทียม ๑ บาท รากตองแตก ๑ บาท สหัสคุณ ๑ บาท ดองดึง ๑ บาท พริก ๑ ต�ำลึง ๒ บาท โกฏเขมา ๑ บาท ตากให้ แห้งต�ำเป็นผงละลายน�้ำผึ้งรวงกินบ�ำบัดพยาธิพันจ�ำพวก ยานี้ชื่อเพชรอาวุธพิเศษนักแล ๒๓ ศีรษะแม่มือ - หัวแม่มือ


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 217 ๑๘) ยานารายณ์จักร แก้ริดสีดวง ๑๖ ประการ ต�ำรับยา ขนานหนึ่งให้เอาบุก ๑ ต�ำลึง กลอย ๑ ต�ำลึง กระดาษแดง ๑ ต�ำลึง อุตพิด ๑ ต�ำลึง ขิงแห้ง ๑ ต�ำลึง จิงจ้อใหญ่ ๑ ต�ำลึง กัญชา ๑ ต�ำลึง ดองดึง ๑ ต�ำลึง เจตมูลเพลิง ๑ ต�ำลึง ดีปลี ๑ ต�ำลึง กานพลู ๑ บาท เบญจเทียนสิ่งละ ๑ บาท สมุลแว้ง ๑ บาท ผลจันทน์ ๑ บาท ดอกจันทน์ ๑ บาท โกฎสอ ๑ บาท โกฎเขมา ๑ บาท กระวาน ๑ บาท พริกเทศเท่ายาทั้งหลายละลายน�้ำผึ้งรวงกินเท่าผลมะขามป้อมเช้า ค�่ำก็ได้ ดองเหล้าไว้กินก็ได้ บ�ำบัดริดสีดวง ๑๖ ประการ ยานี้ชื่อนารายณ์จักรพิเศษดี นักแล ๑๙) ยาแก้จุกเสียด ดีเสียด ไอ ต�ำรับยา ต�ำราลมจุกก็ดีเสียดก็ดี ไอก็ดี เอาผลจันทน์ ๑ บาท ดอกจันทน์ ๑ บาท กระวาน ๑ บาท กานพลู ๑ บาท ดีปลี ๑ บาท เทียนด�ำ ๑ บาท เทียนขาว ๑ บาท พริกทะนาน ๑ น�้ำผึ้งทะนาน ๑ เจตมูลเพลิง ๑ ต�ำลึง ต�ำปั้นเอาน�้ำใส่ปั้นสามหน เคี่ยวให้งวด แล้วจึงเอาน�้ำผึ้งใส่ลงเคี่ยวให้เป็นเหงือกปลาหมอ แล้วเอายาผงทั้งหลายใส่ ลงเคี่ยวให้ข้นแต่พอปั้นได้ กินเท่าผลพุทราถ้าท�ำมากให้ทวีขึ้น ถ้าท�ำน้อยลดลงตามแต่จะท�ำ กินเถิดดีนักเป็นยากวนแล ๕. ป่วง ๑๒ ประการ และวิธีรักษาด้วยยา ฝ่ายปริพาทิกกัสปะ แลสุยามเทพบุตรทั้งหลายจึ่งทูลถามต่อไป เทวะข้าแต่พระองค์ จงทรงพระกรุณา มนุษย์อันเกิดมาแลเป็นฝีมีพิษเพื่อเหตุดังฤๅ ปางทีเป็นป่วงลม อันมี พิษต่างๆ เป็นเหตุเพื่อดังฤๅพระพุทธเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดแก่มนุษย์ทั้ง หลายในโลกนี้เถิด พระอิศวรผู้เป็นเจ้าเธอจี่งมีวาจาว่าดูกร ฝูงเทพบุตรทั้งหลายเราจะแจ้งแห่งธาตุทั้ง ๔ นั้นมีเสมอกันอยู่ ก็ให้สบายในรูปกายอยู่มิได้เป็นอันใดเลย ครั้นบางทีเกิดลมทั้งหลาย กล้าขึ้นมาแรงแล้วก็ให้เหงื่อนั้นแตกออกมา ให้กลุ้มหน้าตาวิงเวียน ให้ลงให้รากบ้าง ลม ปางตายมีมาจึงชื่อว่าป่วงแล


218 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ป่วงนี้มีอยู่ ๑๒ ประการ คือ ป่วงม้า ป่วงวัว ป่วงควาย ป่วงลิง ป่วงกวาง ป่วงขี้ ป่วงลม ป่วงหมา ป่วงหมู ป่วงแรด ป่วง ๑๒ ประการนี้๒๔ต่างๆ กันแล ถ้าให้ ทาน�้ำมันต้องตายแล ๑) ป่วงช้าง ต�ำรับยา เอามูลช้างต้ม ๓ เอา ๑ พริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗ เกลือ ๗ กิน จ�ำเพาะป่วงช้างแล ๒) ป่วงม้า ต�ำรับยา เอามูลม้าต้ม ๓ เอา ๑ พริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗ เกลือ ๗ เมื่อ เป็นครางดังเสียงม้าแล ๓) ป่วงวัว ต�ำรับยา เอามูลวัวต้ม ๓ เอา ๑ พริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗ เกลือ ๗ เมื่อ เป็นครางดังเสียงวัวแล ๔) ป่วงควาย ต�ำรับยา เอามูลควายต้ม ๓ เอา ๑ พริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗ เกลือ ๗ เมื่อเป็นร้องดังเสียงควายแล ๕) ป่วงลิง ต�ำรับยา เอาหมากกรอก ๑ หูกระแชง ๑ เถ้ากลางใจไฟ ๑ ต้ม ๓ เอา ๑ พริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗ เกลือ ๗ กินแก้ป่วงลิงแล ๖. คัมภีร์โรคนิทาน ๖.๑ ประโยชน์ของคัมภีร์โรคนิทาน อันว่าข้า จักกล่าวบัดนี้ซึ่งคัมภีร์อันชื่อว่าโรคนิทานนี้ มีคุณเป็นอันมาก อันจะส�ำแดง ยาบ�ำบัดพยาธิ ให้แพทย์ทั้งหลายเข้าใจโดยนัยสารโศลกดังนี้แล ๒๔ ป่วง ๑๒ ประการนี้ - ชื่อป่วงในที่นี้ไม่ครบ ๑๒ ประการ ยังขาดป่วงช้างและป่วงงู


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 219 อันว่าแพทย์ผู้ใดแลมิได้เรียนซึ่งคัมภีร์โรคนิทานนี้ไซร้ อันว่าแพทย์ผู้นั้นจะได้เป็นคน รู้นั้นหามิได้ ด้วยมิได้รู้จักลักษณะแห่งไข้มีในฤดูปีเดือนนั้น มักวางยาให้ผิดไข้นั้น ไข้นั้นมัก ก�ำเริบหนักยิ่งขึ้นไป อาศัยเพราะมิได้รู้ในโรคนิทานนี้ อันว่าแพทย์ผู้ใดแลได้เรียนซึ่งโรคนิทานนี้แล้ว อันว่าแพทย์ผู้นั้นครั้นแลวางยาไซร้ เสมือนให้กินน�้ำอมฤตนั้นแล ๑) ปถวีธาตุ ในเดือน ๕ เดือน ๗ เดือน ๙ สามเดือนนี้เป็นโลษ๒๕ อาการ ลักษณะปถวีธาตุ ไข้ให้ตัวเหลืองออกนักไคลคาว๒๖ ให้เลือกตัว๒๗ ให้จุก เสียดขึ้นด้วยดี ให้เป็นคลื่นในท้อง ไข้ดังนี้ให้กินยาในฤดูนี้เถิด ต�ำรับยา ให้เอากระเทียม ๑ ใบสะเดา ๑ ใบคนทีสอ ๑ สน ๑ กระท�ำเป็นจุณ ละลายน�้ำร้อนกิน บ�ำบัดโรคเป็นเพื่อปถวีธาตุแล ๒) เตโชธาตุ เดือน ๖ เดือน ๘ เดือน ๑๐ สามเดือนนี้เป็นโทษเพื่อเตโชธาตุแล อาการ ถ้าไขมันให้ท้องร้อนประดุจดังน�้ำต้ม ให้เมื่อยเท้า เมื่อยมือให้ไอ เป็นเหตุ ไข้เพื่อเตโชธาตุ ให้กินยาในฤดูนี้เถิด ให้เอาดีปลี ๑ ต�ำรับยา พริก ๑ ขิง ๑ ว่านเปราะ ๑ แห้วหมู ๑ กระท�ำเป็นจุณบ�ำบัดโรค เป็น เพื่อเตโชธาตุให้วิการแล ๓) วาโยธาตุ เดือน ๑๒ เดือน ๒ เดือน ๔ สามเดือนนี้เป็นโทษเพื่อวาโยธาตุแล อาการ ถ้าไข้ให้ผอมให้มือ ให้เท้าประดุจไฟเผาก็ดี เมื่อลุกขึ้นนั่งให้มืดหน้ามัวจักษุ ประดุจดังเมาสุรา เป็นลักษณะแห่งวาโยธาตุ ต�ำรับยา ถ้าแพทย์จะรักษาเอาพริก ๑ เยาวภานี ๑ ผลผักชี ๑ เปลือกมูกมัน ๑ กระท�ำเป็นจุณละลายน�้ำร้อนกิน บ�ำบัดโรคเพื่อวาโยแล ๒๕ โลษ - ที่ถูกต้องเป็น โทษะ สันนิษฐานว่าเขียนผิด ๒๖ไคคาว - ไคลคาว หมายถึงไคลตัวมีกลิ่นคาว ๒๗ให้เลือกตัว - ให้เหนียวตัว


220 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๔) เตโชธาตุ เดือน ๕ เดือน ๖ เดือน ๗ สามเดือนนี้ คนเป็นไข้เพราะกินอาหารอันบูดอัน เหม็น อาการ จึ่งบังเกิดเป็นโทษเพราะเตโชธาตุ คือให้เย็นแลจะลุกนั่งมิเป็นสุข ให้ป่วน อยู่ในท้อง คือ หัวใจให้ร้อนกระหนกระหาย ลมแล่นในไส้ให้ไส้นั้นพอง แล้วให้มือเท้านั้น สั่นอยู่แล แพทย์พึงรู้ว่าเตโชธาตุให้โทษ ต�ำรับยา ให้ประกอบยาในฤดูนี้แก้ เอาผลเอ็น ๑ โกฎสอ ๑ โกฎพุงปลา ๑ ว่าน น�้ำ ๑ ดีปลี ๑ แห้วหมู ๑ เปลือกมูกมัน ๑ ขิงแห้ง ๑ ว่านเปราะ ๑ เอาสะค้านเท่า ยาทั้งหลาย ท�ำเป็นผลละลายด้วยน�้ำเย็น ให้กินบ�ำบัดโรคเป็นเพราะเตโชธาตุแล ๕) วาโยธาตุ เดือน ๘ เดือน ๙ เดือน ๑๐ สามเดือนนี้ คนเป็นไข้เพราะกินน�้ำเน่าแลท�ำโทษ จึงเกิดพยาธิเพื่อวาโยธาตุ อาการ แลให้ไข้ผอมเหลืองซีดไปบางทีผอมเหลือง บางทีผอมแห้ง บางทีให้แสบ ริมสีปากนัก ให้เหม็นปากนักแลตัวก็ดี คือไข้ให้หัวใจกระบัดร้อนกระบัดเย็นก็ดี คือกินเข้า (ข้าว) กินน�้ำมิได้รู้รส ให้เหม็น คือไข้ให้โสต(หู) นั้นเป็นโลหิตเป็นหนองออกมาแล ให้เป็น ไข้จับก็ดี แพทย์พึงรู้ด้วยวาโยให้โทษ ต�ำรับยา ถ้าจะแก้ให้ท�ำยานี้กิน เอาดีปลี ๑ แฝกหอม ๑ พริก ๑ ว่านเปราะ ๑ แห้วหมู ๑ อ�ำพัน ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณละลายน�้ำร้อนกิน แก้โรคเป็นเพื่อ วาโยธาตุแล ๖) อาโปธาตุ เดือน ๑๑ เดือน ๑๒ เดือน ๑ สามเดือนนี้ คนเป็นไข้เพราะกินอาหารผิดส�ำแลง เป็นลักษณะแห่งอาโปธาตุแล อาการ คนผู้ไข้แลมักโกรธมากนักก็ดี จะใคร่กินของอันแสลงนั้นก็ดี ให้เกิดโลหิต นักก็ดี ไอนักก็ดี ไข้ผอมแห้งก็ดี มักให้เท้ามือฟกแลเจ็บที่คอนั้น แลให้ลงท้องนักแลจะนอน มิหลับ ไข้ให้กายนั้นผอมแห้งลง แพทย์พึงรู้ว่าอาโปธาตุให้โทษ


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 221 ต�ำรับยา ถ้าจะแก้ให้เอายาฤดูนี้เถิด เอาเจตมูลเพลิง ๑ โกฎก้านพร้าว ๑ ผลมูกมัน(โมกมัน) ๑ ขิงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ เสมอภาคท�ำเป็นจุณละลาย น�้ำร้อนกินตามก�ำลังแก้โรคเป็นเพื่อวาโยธาตุแล ๗) สันนิบาต ปถวีธาตุให้โทษ เดือน ๒ เดือน ๓ เดือน ๔ สามเดือนนี้เป็นไข้เพราะนอนนัก จึ่งเกิดเป็นเพื่อ สันนิบาต อาการ เป็นเพื่อปถวีธาตุให้โทษแล ไข้จะใคร่กินข้าวกินน�้ำแลกินมิได้เลย คือไข้ให้ เกิดก�ำเดาแลเสลดแลให้จุกเสียดขึ้นมานัก คือไข้ให้เป็นอติสาร๒๘ก็ดี คือไข้ให้หาแรงมิได้ก็ ดี เหตุธาตุทั้ง ๔ นี้เป็นไปแล ต�ำรับยา ถ้าแพทย์จะแก้โรคนี้ไซร้ ให้ประกอบยาตามฤดูนี้เถิด ให้เอากระเทียม ๑ ใบสะเดา ๑ มูลกาแดง ๑ ใบคนทีสอ ๑ สน ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณละลาย น�้ำขิงกินบ�ำบัดโรคอันเกิดเพื่อปถวีธาตุแล ต�ำรับยา แก้ลมเท้าตายมือตาย เมื่อยขบ เอาผักหนอก ๑ เปลือกมะยม ๑ ต้ม ใส่น�้ำ ๓ บวย๒๙ หมาก ๓ ก�ำ เบี้ย ๓ เบี้ย ต้ม ๓ เอา ๑ เอาน�้ำผลสลอดจอก ๑ น�้ำมันงาจอก ๑ หุงให้คงแต่น�้ำมัน จึ่งปรุงด้วยดินประสิวขาว ถ้าลมเท้าตายมือตาย เมื่อย ขบหายแล ต�ำรับยาท�ำให้เสียงเพราะ ถ้าจะให้เสียงเพราะ เอาบัวบก ๑ ชะเอม ๑ บด ละลายน�้ำผึ้งกิน มีปัญญาอายุยืน ดับพยาธิตีค่าไว้ ๑๐๐๐ ทองแล เอาพริก ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ ผลช้าพลู ๑ ว่านน�้ำ ๑ ชะเอม ๑ พรมมิ ๑ ยาทั้งนี้เอาเท่ากัน ต�ำเป็นผง ละลายน�้ำผึ้งกินเช้าก่อนงาย เสียงเพราะมีปัญญาเนื้อเกลี้ยงพึงใจผู้หญิงแล ต�ำรับยา แก้โลหิตละลายตามธาตุ แก้โลหิตแก้ลม แก้หืดไอ แก้สรรพทั้งปวง เอาก้านสะเดา ๑ แฝกหอม ๑ บอระเพ็ด ๑ สมอทั้ง ๓ รากช้าพลู ๑ กระดอม ๑ ราก จิงจ้อ ๑ แห้วหมู ๑ ว่านน�้ำ ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ต�ำผงละลายตามธาตุ แก้โลหิตแก้ลมแก้ หืดไอ แก้สรรพทั้งปวง เด็กผู้ใหญ่กินได้ ดีนักแล ๒๘ อติสาร - อาการเจ็บไข้ที่เข้าขั้นเพียบหนักเข้าขีดอันตรายถึงตายหรืออาการลงแดง๒๙ บวย - กระบวย, ภาชนะส�ำหรับตักน�้ำ เดิมท�ำด้วยกะลามะพร้าวมีด้ามถือ


222 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ อาการที่เกิดจากปถวีธาตุ อันว่าปถวีธาตุมีโทษอยู่ ๑๒ ประการ ให้โทษเป็นดังฤๅ๓๐ ๑) ให้เจ็บในท้องในอก ๒) ให้ปวดศีรษะ ๓) ให้ผมหล่น ๔) ให้ขนลุกขนพอง ๕) ให้เส้นมือเท้าเขียว ๖) ให้ริมฟันแดง ๗) ให้หนังแตก ๘) ให้เจ็บในมือ ๙) ให้เจ็บเอ็น ๑๐) ให้เจ็บในสมองกระดูก อาการที่เกิดจากเตโชธาตุ อันว่าเตโชธาตุ มีโทษอยู่ ๑๐ ประการ เป็นดังฤๅ ๑) ให้นอนแล้วจะหลับมิได้ ๒) ให้หนักตัวก็ดี ๓) ให้กระหนกกระหายนัก จะใคร่กินของแสลงอันคาว ๔) กินอาหารมิได้อยู่ท้อง ๕) ให้ตัวเย็นนักนอนมิหลับ ในกลางคืนให้อึงคะนึงในหัวใจ ๖) ให้เป็นดังบ้าหมูแล อาการที่เกิดจากอาโปธาตุ อันว่าอาโปธาตุมีโทษอยู่ ๑๑ ประการ เป็นดังฤๅ ๑) ไข้เพื่อดี ๒) ไข้เพื่อเสลด ๓) ไข้เพื่อหนอง ๓๐ ฤๅ - เช่นไร, ไฉน


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 223 ๔) ไข้เพื่อขนลุก ๕) ไข้ให้โลหิตออกมาก ๖) ไข้ให้เหงื่อออกมาก ๗) ให้คาวปาก ๘) ให้น�้ำเขฬะมาก ๙) ให้น�้ำมาก ๑๐) ให้น�้ำมูกมาก ๑๑) ให้ไปเบานักแล๓๑ อาการที่เกิดจากวาโยธาตุ อันว่าวาโยธาตุมีโทษอยู่ ๑๔ ประการ เป็นดังฤๅ ๑) ลมพัดขึ้นเบื้องบน ๒) ลมพัดลงเบื้องต�่ำ ๓) ลมในท้องลมเสียดสันหลัง ๔) ลมเกิดแต่หน้าผาก ๕) ลมแล่นทั้งตัว ๖) ลมเย็นทั้งตัว ๗) ลมหายใจเข้าออกกล้านัก ๘) ลมเท้าตายมือตาย ๙) ลมทั่วสารพางค์ ๑๐) ลมประดุจน�้ำไหลในตัว ๑๑) ลมให้สะท้านสดุ้งให้ไหวทั้งตัว ๑๒) ลมอันเกิดภายนอกตัวแล ๓๑ ให้ไปเบานักแล - ให้ปัสสาวะบ่อยมาก


224 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๗. ยามยาตรา๓๒ สิทธิการิย ถ้าจะยาตรา๓๓ ไปแห่งใดๆ เมื่อจะไปนั้นฤกษ์ดีแล้วจึงไปมิได้มีอันตรายเลย ๑) วัน ๑ (วันอาทิตย์) ครั้นรุ่งขึ้นวัน ๑ เดินทางมักผิดอย่าได้ยาตรา ได้เมื่อทศกัณฐ์หวนหันวางมา ลัก ดวงสีดาได้แล้วพาหนี กินแล้วสายบ่ายหน้าจึงดี พระอาทิตย์ภูมีเล่นด้วยเทวา เมื่อจะเดิน ทางไปข้างหนบูรพา ได้ลาภหนักหนา ยามนี้มีศรี ครั้นสายแก่ไปหนทักษิณดี ได้เมื่อพิเภกครองราชสมบัติชื่นชมยินดีแล งายแก่น้อง เพล๓๔ ไปหนหรดี๓๕ได้ลาภมีศรีเพราะท่านผู้ใหญ่ เมื่อพระอังคารเธอส�ำราญใจ เป็นชู้รัก ใคร่กับโฉมนางจันทร์ ครั้นว่าบ่ายโมงด้วยพลัน เร่งให้ผายผันลาภนั้นเกิดมีนานา จักไปอย่าได้อยู่ช้า เร่ง ให้ยาตรายามนี้มีศรี วัน ๑ ห้ามเที่ยงมิดี บ่ายควายอัปรีย์ ภายค�่ำมิดีแลนา ๒) วัน ๒ (วันจันทร์) รุ่งขึ้นวัน ๒ ห้ามนักกวดขันอย่าได้ยาตรา ได้เมื่อพระอาทิตย์เดินทางเวหา ราหู จรคลาพบแล้วยายี ยามนี้มิดีห้ามว่าอย่าไป บ่ายแล้วจี่งไปข้างหนบูรพ์ ได้ลาภเพิ่มพูนสิ่งของนานา บ่ายควายภายเร่งให้ยาตรา มีผู้จะมาให้ลาภเนืองนอง ได้เมื่อพระรามเธอจองถนน เสนีรี้พลพร้อมกันหนักหนา วัน ๒ ห้ามเช้า เที่ยง งายแก่ มิดีแล ๓) วัน ๓ (วันอังคาร) ครั้นรุ่งวัน ๓ ยามนี้กล้าหาญอย่าได้ยาตรา ได้เมื่อพระรามโศกเศร้าถึงเจ้าสีดา จึ่งใช้พระลักษมณ์ไปหาล�ำบากนักหนา ยาตราพอดี ๓๒ ส�ำหรับการดูฤกษ์รักษา - คณะท�ำงาน๓๓ ยาตรา - เดิน ในที่นี้หมายถึง เดินทาง, ออกจากที่อยู่ไปท�ำภารกิจต่างๆ


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 225 งายแล้วจึ่งไปข้างเหนือดี คนรักจักมีให้ของชอบใจ งายแก่อย่าได้ยาตรา ได้เมื่อ ทรพีสู้กับพาลี มิดีนักหนา ล�ำบากแทบตาย บ่ายควายได้ลาภเหลือหลาย เพราะไปหนเหนือ วัน ๓ ห้ามงายแก่ เที่ยง ภายค�่ำ มิดีแล ๔) วัน ๔ (วันพุธ) รุ่งขึ้นวัน ๔ ฤกษ์ดีที่สุด เร่งให้ยาตรา ได้เมื่อพระเจ้า (พระพุทธเจ้า) ไปเทศนา ฝูงเทวดามานั่งฟังธรรม เวลาน้องเพลยาตราจงพลัน ได้ลาภทุกอันต่างๆ นาๆ ได้เมื่อ พระเจ้าไปเทศนา ฝูงคนบูชาวิเศษทุกอัน บ่ายควายภายค�่ำ เร่งให้ผายผัน เทวาพร้อมกันเล่นด้วยพระราม พระศุกร์ลืมความ ชื่นชมยินดี วัน ๔ ห้ามสายงายแก่ เที่ยง ชาย มิดีแล ๕) วัน ๕ (วันพฤหัสบดี) รุ่งขึ้นวัน ๕ พระศุกร์ปฏิบัติ จ�ำศีลภาวนา ถ้าไปทิศเหนือ อุดมนักหนา ข้าวน�้ำซ�้ำ ปลาอาหารมากมี งายแก่น้องเพล ไปหนตะวันตกเฉียงใต้ ได้ลาภถ้วนถี่ต่างๆ นาๆ ได้เมื่อพระกุศราช ไปเล่นสะกา พระยาครุฑพามาได้แก้วแหวนเงินทอง ภายค�่ำไปหนเหนือโดยปอง ได้ลาภเข้า (ข้าว) ของ เงินทองนานา ได้เมื่อพิเภก เป็นเอกเสนา พระรามให้หามาให้รางวัล วัน ๕ ห้ามสายงายแล้ว เที่ยงชาย บ่ายควาย มิดีแล ๖) วัน ๖ (วันศุกร์) รุ่งขึ้นวัน ๖ เดินทางอย่าทุกข์ ให้ไปหนบูรพ์ จะได้เข้าของ เงินทองมากมูล พระ ศุกร์บริบูรณ์ได้เป็นพระยา งายแก่น้องเพล เร่งให้ยาตรา ได้เมื่อราชาอาทิตย์ภูบาล เธอไปเที่ยวเล่น ในท้อง วิมาน ได้ลาภอาหาร สมบัตินานา ตะวันเที่ยงสาย เดินได้ดังใจปอง ท้าวจะพบน้องแต่กลางหนทาง ได้เมื่อพระศุกร์ ไปเที่ยวหานาง เดินไปกลางทางพบพระฤๅษี


226 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ วัน ๖ ห้ามบ่ายควาย ภายค�่ามิดี ข้าวของมากมี ฉิบหายขายตน ทุกสิ่งมิดีแล ๗) วัน ๗ (วันเสาร์) รุ่งขึ้นวัน ๗ พระอาจารย์เจ้า ห้ามอย่าได้ยาตรา ไปหนทางไกลจะเกิดเหตุใหญ่ แต่ในกลางทาง ได้เมื่อพระเสาร์ ติดตามไปเล่าไม่ละไม่วาง อื้ออึงโผงผาง เธอจับอังคาร งายแล้วสาย ๆ บ่ายหน้าส�าราญ พระจันทร์ฉวยฉาบ กับนางเทวี เป็นชู้ด้วยกัน ชื่นชมยินดี หัสมุขมีศรี ติดตามพระจันทร์ งายแก่น้องเพล ห้ามนักกวดขัน จะตายจากกัน อย่าได้ยาตรา ได้เมื่อพระเสาร์ ติดตามไปเล่า จับได้ตัวมา ฆ่านางนั้นเสีย ตะวันชายมิช้า พระลักษมณ์อนุชา ไม่มีลูกเมีย จึงละสมบัติไปบวชเป็นชี ท�าสักการะบูชา บ่ายควายภายค�่า อย่าได้ยาตรา ข้าศึกจะมาท�าโทษฉิบหาย ถ้าตัวมิตาย ล�าบาก นักหนา วัน ๗ ถ้าจะมีที่ไป งายแล้วสาย ๆ ตะวันชายจึงไป นอกกว่านี้ไซร้ มิดีเลยแล ท่านทั้งหลายเอย.


๑. ค�าสั่งกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ ๕๙๕/๒๕๕๗ เรื่อง “แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสังคายนา ภูมิปัญญาการนวดไทยในต�าราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” ๒. ค�าสั่งกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ ๗๘/๒๕๕๘ เรื่อง “แต่งตั้งคณะท�างานเพื่อด�าเนินการสังคายนา ภูมิปัญญาด้านการนวดไทยในต�าราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” ๓. ประวัติย่อคณะท�างานสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยฯ ภาคผนวก ๑. ค�าสั่งกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ ๕๙๕/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สังคายนาภูมิปัญญา การนวดไทยในต�าราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ๒. ค�าสั่งกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ ๗๘/๒๕๕๘ เรื่อง แต่งตั้งคณะท�างานเพื่อ ด�าเนินงานสังคายนา ภูมิปัญญาด้านการนวดไทยในต�าราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ๓. ประวัติย่อคณะท�างานสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยฯ ๔. ดัชนีค�าศัพท์ตามต�าราที่ใช้ประกอบการค้นคว้าอ้างอิง ๕. ค�าอธิบายศัพท์เพิ่มเติมจากคณะท�างาน (คทง.)


ภาคผนวก 229 ค าสั่งกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ 595/๒๕๕7 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยในต าราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ อนุสนธิ ตามค าสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1546/2557 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอ านวยการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (Thai Traditional Digital Knowledge: TTDK) โดยมีบทบาทหน้าที่เพื่อก าหนดทิศทางและนโยบายในการ พัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของประเทศไทย ก าหนดกรอบ และ แนวทางการด าเนินงานการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์ความรู้ดิจิตอลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของ ประเทศไทย เพื่ออ านวยการ ก ากับ ติดตามการด าเนินการ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และคณะท างานต่างๆ เพื่อด าเนินงานตามความเหมาะสม เพื่อให้การด าเนินการ ด าเนินไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ จึงขอแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยในต าราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติโดยมีองค์ประกอบและ อ านาจหน้าที่ ดังนี้ ๑. องค์ประกอบ 1.1 เภสัชกรปรีดา ตั้งตรงจิตร ที่ปรึกษา สมาคมแพทย์แผนโบราณและอายุรเวท วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 1.2 ดร.อุษา กลิ่นหอม ที่ปรึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ 1.3 นางสาวพิมพ์พรรณ ไพบูลย์หวังเจริญ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์ ส านักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปกร 1.4 นายชุบ แป้นคุ้มญาติ ที่ปรึกษา แพทย์แผนไทย จังหวัดนครปฐม 1.5 นายแพทย์ประพจน์ เภตรากาศ ประธาน มูลนิธิพัฒนาการแพทย์แผนไทย 1.6 นายสันติสุข โสภณศิริ อนุกรรมการ แพทย์แผนไทย มูลนิธิสุขภาพไทย 1.7 ดร.เภสัชกรยงศักดิ์ ตันติปิฎก อนุกรรมการ ส านักวิจัยสังคมและสุขภาพ 1.8 นายส าอาง เสาวมาลย์ อนุกรรมการ ชมรมแพทย์แผนไทย วัดหนองหญ้านาง จังหวัดอุทัยธานี 1.9 นางสาวิตรีศิริวุฒิ อนุกรรมการ สมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแห่งประเทศไทย 1.10 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุสุมา ศรียากูล อนุกรรมการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 1.11 นายวีรพงษ์ เกรียงสินยศ มูลนิธิสุขภาพไทย อนุกรรมการ 1.12 เภสัชกร...


230 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ -2- 1.12 เภสัชกรพินิต ชินสร้อย อนุกรรมการ โรงพยาบาลวังน้ าเย็น จังหวัดสระแก้ว 1.13 ผู้แทนโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม อนุกรรมการ 1.14 ผู้แทนสมาคมวิชาชีพการนวดไทย อนุกรรมการ 1.15 ผู้แทนสมาคมแพทย์แผนไทย จังหวัดชุมพร อนุกรรมการ 1.16 ผู้แทนโรงเรียนเพ็ญแขแพทย์แผนไทย อนุกรรมการ 1.17 ผู้แทนมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ อนุกรรมการ 1.18 ผู้แทนสมาคมส่งเสริมการนวดแผนไทยคนตาบอด อนุกรรมการ 1.19 ผู้แทนศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอดปากเกร็ด อนุกรรมการ 1.20 ผู้แทนโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อนุกรรมการ 1.21 ผู้แทนศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาสุขภาพภาคประชาชน ภาคใต้ อนุกรรมการ 1.22 หัวหน้ากลุ่มงานนวดไทยหรือผู้แทน อนุกรรมการ 1.23 ผู้อ านวยการส านักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยหรือผู้แทน อนุกรรมการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 1.24 ผู้อ านวยการส านักงานข้อมูลและประเมินผล อนุกรรมการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 1.25 นายวิชัย จันทร์กิติวัฒน์ อนุกรรมการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 1.26 นางสุดารัตน์ สุวรรณพงศ์ อนุกรรมการ นักวิชาการอิสระ และเลขานุการ 1.27 นางกัญญา อินแพง อนุกรรมการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และเลขานุการร่วม 1.28 นางสาวศรัณยา จันษร อนุกรรมการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผู้ช่วยเลขานุการ 1.29 นางสาวสุนิสา สมโรย อนุกรรมการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผู้ช่วยเลขานุการ ๒. อ ำนำจหน้ำที่ 2.1 ร่วมกันจัดท ากรอบการจ าแนก วิเคราะห์ แผนภาพนวดไทย รูปปั้น/ภาพฤๅษีดัดตน 2.2 ร่วมกันสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยในคัมภีร์แผนนวดและจารึกฯ และภูมิปัญญา ฤๅษีดัดตน 2.3 จัดท าต้นแบบระบบสังคายนาองค์ความรู้ภูมิปัญญาการนวดไทยของประเทศ 2.4 จัดท าข้อเสนอแนะในการขยายผลการด าเนินการอย่างต่อเนื่อง 2.5 ร่วมกันพัฒนาเครือข่ายการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย 2.6 นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕7 (นายธวัชชัย กมลธรรม) อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก


ภาคผนวก 231 คําสั่งกรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ที่ 78/๒๕๕7 เรื่อง แตงตั้งคณะทํางานเพื่อดําเนินงานสังคายนาภูมิปญญาดานการนวดไทยในตําราการแพทยแผนไทยแหงชาติ อนุสนธิคําสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1546/2557 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ไดแตงตั้งคณะกรรมการอํานวยการพัฒนาระบบสารสนเทศองคความรูดิจิตอลภูมิปญญาการแพทยแผนไทย (Thai Traditional Digital Knowledge: TTDK) โดยมีบทบาทหนาที่เพื่อกําหนดทิศทางและนโยบายในการ พัฒนาระบบสารสนเทศองคความรูดิจิตอลภูมิปญญาการแพทยแผนไทยของประเทศไทย กําหนดกรอบ และ แนวทางการดําเนินงานการพัฒนาระบบสารสนเทศองคความรูดิจิตอลภูมิปญญาการแพทยแผนไทยของ ประเทศไทย เพื่ออํานวยการ กํากับ ติดตามการดําเนินการ แตงตั้งคณะอนุกรรมการ และคณะทํางานตางๆ เพื่อดําเนินงานตามความเหมาะสม เพื่อใหการดําเนินการ ดําเนินไปดวยความเรียบรอยและบรรลุวัตถุประสงค จึงขอแตงตั้ง คณะทํางานเพื่อดําเนินงานสังคายนาภูมิปญญาดานการนวดไทยในตําราการแพทยแผนไทยแหงชาติ โดยมีองคประกอบและอํานาจหนาที่ ดังนี้ ๑. องคประกอบ ๑.๑ นายแพทยประพจน เภตรากาศ ประธาน มูลนิธิพัฒนาการแพทยแผนไทย ๑.๒ นายสันติสุข โสภณศิริ คณะทํางาน แพทยแผนไทย มูลนิธิสุขภาพไทย ๑.๓ ดร.เภสัชกรยงศักดิ์ ตันติปฎก คณะทํางาน สํานักวิจัยสังคมและสุขภาพ ๑.๔ ภก.พินิต ชินสรอย คณะทํางาน โรงพยาบาลวังน้ําเย็น จ.สระแกว ๑.๕ นายสําอาง เสาวมาลย คณะทํางาน ชมรมอพทยแผนไทยวัดหนองหญานาง จ.อุทัยธานี ๑.๖ นางสาวิตรี ศิริวุฒิ คณะทํางาน สมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแหงประเทศไทย ๑.๗ นายระวี รักษแกว คณะทํางาน ผูแทนโรงเรียนแพทยแผนโบราณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ๑.๘ นายวิโรจน มณฑา คณะทํางาน สมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแหงประเทศไทย ๑.๙ ส.ต.นิโรจน นิลสถิตย คณะทํางาน ผูแทนสมาคมแพทยแผนไทยคน จ.ชุมพร ๑.๑๐นางกรกมล เอี่ยมธนะมาศ คณะทํางาน ผูแทนมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ 1.11 นางสนิท... ที่ ๗๘/๒๕๕๘


232 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ -2- ๑.๑๑ นางสนิท วงษกะวัน คณะทํางาน ผูแทนสมาคมสงเสริมการนวดแผนไทยคนตาบอด ๑.๑๒ นายถวิล อภัยนิคม คณะทํางาน ผูแทนมูลนิธิโรงพยาบาลเจาพระยาอภัยภูเบศร ๑.๑๓ นายธงชัย ออนนอม คณะทํางาน ผูแทนโรงเรียนเพ็ญแขแพทยแผนไทย ๑.๑๔ นางศุภณี เมธารินทร คณะทํางาน ผูแทนศูนยฝกอบและพัฒนาสุขภาพภาคประชาชนภาคใต จ.นครศรีธรรมราช ๑.๑๕ นางรัชนี ราษฎรจําเริญสุข คณะทํางาน หัวหนากลุมงานนวดไทย สถาบันการแพทยแผนไทย ๑.๑๖ นางสุดารัตน สุวรรณพงศ คณะทํางาน นักวิชาการอิสระ และเลขานุการ ๑.๑๗ นางสาวสุนิษา สมโรย คณะทํางาน แพทยแผนไทย และผูชวยเลขานุการ ๒. อํานาจหนาที่ 2.1 การจําแนก วิเคราะหแผนภาพนวดไทย ในตําราการแพทยแผนไทยแหงชาติ 2.2 การสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทยในคัมภีรแผนนวดและจารึกฯ 3 เลม 2.3 การออกรหัสมาตรฐานและการบันทึกรหัสมาตรฐาน 2.4 อื่นๆ ที่ไดรับมอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแตบัดนี้เปนตนไป สั่ง ณ วันที่ 9 กุมภาพันธพ.ศ. ๒๕๕8 (นายปภัสสร เจียมบุญศรี) รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดี กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก


ภาคผนวก 233 ประวัติคณะทำงานผู้ทรงคุณวุฒิและครูหมอนวดไทย ที่ดำ เนินงานสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทยและฤๅษีดัดตน ๑. นายแพทย์ประพจน์ เภตรากาศ ประธานคณะท�ำงาน สถานที่ปฏิบัติงาน อดีตรองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รักษาการในต�ำแหน่ง นายแพทย์ ๑๐ วช. (ด้านสาธารณสุข สาขาพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์) ประวัติการรับราชการ ๒๕๓๖ รองผู้อ�ำนวยการ ฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ๒๕๔๒ นายแพทย์ ๙ วช. สาขาเวชกรรมฟื้นฟู โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ๒๕๔๖ นายแพทย์ ๙ วช. (ด้านสาธารณสุข) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ๒๕๕๐ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ๒๕๕๑ รองอธิบดี รักษาการในต�ำแหน่ง นายแพทย์ ๑๐ วช. (ด้านสาธารณสุข สาขาพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์) ประวัติการท�ำงานอื่นๆ • ประธานสมาพันธ์แพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย • ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ • ประธานมูลนิธิสุขภาพไทย • รองประธานมูลนิธิพัฒนาการแพทย์แผนไทย • กรรมการมูลนิธิหมอชาวบ้าน • กรรมการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก • กรรมการมูลนิธิโกมล คีมทอง


234 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๒. ดร.ภก.ยงศักดิ์ ตันติปิฎก ที่อยู่ปัจจุบัน ๑๒๘/๑๓๕ ซอยนนทรี ๑๔ ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพ ๑๐๑๒๐ สถานที่ปฏิบัติงาน นักวิชาการอิสระ และนักวิจัยในเครือข่ายของ สํานักวิจัยสังคมและสุขภาพ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย กรรมการสภาการเเพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๐ เวชกรรมไทย บ.ว ๑๓๔๙๘ และเภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๔๓๖๘ ๓. อาจารย์สันติสุข โสภณสิริ ที่อยู่ปัจจุบัน ๑๙/๗ หมู่ ๓ ซ.ข้างวัดญาณเวศกวัน ต.บางกะทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม ๗๓๒๑๐ สถานที่ปฏิบัติงาน กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย เวชกรรมไทย บ.ว.๑๓๗๘๕ และเภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๔๖๓๒ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เวชกรรมไทยทั่วไป ๔. อาจารย์ถวิล อภัยนิคม ที่อยู่ปัจจุบัน ๓๘/๒๘ เทิดไท ๖๑ ถ.เทอดไท แขวงบางหว้าง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐ สถานที่ปฏิบัติงาน ครูประจ�ำหลักสูตรวิชาชีพการนวดไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย การนวดไทย พท.น. ๑๖ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ครูสอนการนวดไทย การนวดไทยแผนโบราณ รักษาอาการด้วยองค์ความรู้เส้นประธานสิบ


ภาคผนวก 235 ๕. สิบตรีนิโรจน์ นิลสถิตย์ ที่อยู่ปัจจุบัน ๖๗ หมู่ ๔ ต.นากะตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ๘๖๑๔๐ สถานที่ปฏิบัติงาน นายกสมาคมแพทย์แผนไทย จังหวัดชุมพร ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย เวชกรรมไทย บ.ว. ๑๒๕๓๕ เภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๐๙๔๑ และการนวดไทย พท.น. ๑๘ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ครูสอนเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย และนวดไทย อัมพฤกษ์และอัมพาต ๖. อาจารย์ส�ำอาง เสาวมาลย์ ที่อยู่ปัจจุบัน ๗๕ หมู่ ๕ ถนน หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี ๖๑๐๐๐ สถานที่ปฏิบัติงาน หมอนวดไทย วัดหนองหญ้านาง จังหวัดอุทัยธานี ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย การนวดไทย พท.น. ๖๔ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ครูสอนการนวดไทย อัมพฤกษ์อัมพาต และการนวดเหยียบเหล็กแดง ๗. อาจารย์ธงชัย อ่อนน้อม ที่อยู่ปัจจุบัน ๘๔/๑ ม.๑ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี สถานที่ปฏิบัติงาน ร.ร.เพ็ญแขเเพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย การนวดไทย พท.น. ๑๘ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การนวดรักษาโรค ครูสอนการนวดไทย


236 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๘. อาจารย์วิโรจน์ มณฑา (ถึงแก่กรรม ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘) ที่อยู่ปัจจุบัน ๑๓๘ หมู่ ๑ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สถานที่ปฏิบัติงาน ครูผู้รับมอบตัวศิษย์ สาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทการนวดไทย ประจ�ำสมาคมวิชาชีพการนวดไทย ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย การนวดไทย พท.น. ๕๐ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การวิเคราะห์โรคด้วยการจับชีพจร การใช้หลักการรักษาด้วยวิธีการเปิดประตูลม สามารถนวดรักษาโรคลม โรคภายใน ภายนอก โรคเรื้อรัง ๙. อาจารย์กรกมล เอี่ยมธนะมาศ ที่อยู่ปัจจุบัน ๒๕/๑ ถ.รามอินทรา ๑๙(๑) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ๑๐๒๒๐ สถานที่ปฏิบัติงาน มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย เวชกรรมไทย บ.ว. ๑๓๘๘๘ เภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๔๕๙๒ และการนวดไทย พท.น. ๑๘๙ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต เด็ก คนชรา ผู้พิการ โรคสตรี การดูแล มารดาก่อนและหลังคลอด นวดหน้า นวดศีรษะ ครูสอนการนวดไทย


ภาคผนวก 237 ๑๐. อาจารย์สนิท วงษ์กะวัน ที่อยู่ปัจจุบัน ๒๓๓/๑๒๒ หมู่บ้าน ซ.สรรพาวุธ ถ.สรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ ๑๐๒๖๐ สถานที่ปฏิบัติงาน ครูรับมอบตัวศิษย์ สมาคมส่งเสริมการนวดแผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย เวชกรรมไทย บ.ว. ๑๓๙๙๘ เภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๐๖๘๑ การผดุงครรภ์ไทย บ.ผ. ๒๕๑๕ และการนวดไทย พท.น. ๕๔ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง นวดหญิงหลังคลอด นวดประคบสมุนไพรและ เข้ากระโจมอบสมุนไพร นวดทับหม้อเกลือ และ นวดฟื้นฟู อัมพฤกษ์ อัมพาต ครูสอนการนวดไทย ๑๑. อาจารย์ศุภณี เมธารินทร์ ที่อยู่ปัจจุบัน ๑๔ หมู่ ๓ ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ปฏิบัติงาน เจ้าพนักงานเวชกรรมฟื้นฟู ช�ำนาญงาน โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย การนวดไทย พท.น. ๕๔ เภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๗๗๐๒ และเวชกรรมไทย บ.ว. ๑๔๕๕๓ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ฟื้นฟูอัมพาต อัมพฤกษ์ อัมพาตหน้า นวดไทย นวดไทยในเด็กพิการ โรคสตรี นวดสตรีวัยทอง ดูแลมารดาก่อนคลอด หลังคลอด นวดดัดท้อง ปวดศีรษะ คอ ปวดไหล่ ไหล่ติด ปวดหลัง ปวดเข่า ข้อเท้าแพลง และครูสอนการนวดไทย


238 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔ ๑๒. อาจารย์สาวิตรี ศิริวุฒิ ที่อยู่ปัจจุบัน ๑๑๘๐/๑๒ ซ.เสนานิคม ๒๖ ถ.เสนานิคม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ สถานที่ปฏิบัติงาน นายกสมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย เวชกรรมไทย บ.ว. ๑๔๑๒๔ เภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๕๗๕๗ และการผดุงครรภ์ไทย บ.ผ. ๒๓๖๑ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การผดุงครรภ์ไทย การรักษาโรคด้วยน�้ำมันหอมระเหย ๑๓. อาจารย์ระวี รักษ์แก้ว ที่อยู่ปัจจุบัน ๑๘/๑๐๗ ม.๒ ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี ปทุมธานี สถานที่ปฏิบัติงาน ครูสอนนวด และวิทยากร วัดโพธิ์ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย เภสัชกรรมไทย บ.ภ. ๑๕๖๕๒ การผดุงครรภ์ไทย บ.ผ. ๓๐๒๑ และการนวดไทย พท.น. ๔๔ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง นวดรักษาโรค และครูสอนการนวดไทย ๑๔. อาจารย์สุดารัตน์ สุวรรณพงศ์ ที่อยู่ปัจจุบัน ๗๗ ถนนอัศวพิเชษฐ์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ สถานที่ปฏิบัติงาน นักวิชาการอิสระ ด้านการนวดไทย ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย การนวดไทย พท.น. ๖๔๘ และการผดุงครรภ์ไทย บ.ผ. ๕๙๙๐ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง นวดรักษาโรค และครูสอนการนวดไทย


ภาคผนวก 239 ดัชนีคำ ศัพท์ตามตำราที่ใช้ประกอบการค้นคว้าอ้างอิง ก กระษัยกล่อน (๑/น. ๑๓), (๒/น. ๓) กระหายน�้ำ (ดู กระหาย) (๔/น. ๖๒) กล่อนน�้ำ (๒/น. ๑๐) กล่อนแห้ง (๒/น. ๑๑) กษัยดาน (๑/น. ๑๖) ข ขไสย (ดู กษัย) (๑/น. ๑๒) แขนตาย (๒/น. ๒๘) ไข้ครั่นตัว (ดู ไข้) (๑/น. ๗๕) ไข้จับ (๒/น. ๓๓) ไข้เจลียง (๑/น. ๘๒) ไข้ตัวร้อน (๒/น. ๓๖) ไข้ปวดศีรษะ (๒/น. ๓๙) ค คูถ (๑/น. ๑๑๙) ฆ ฆานทารี (ดู เส้นฆานทารี) (๒/น. ๒๓๖) จ จักษุเปนต้อ (ดู ต้อ) (๑/น. ๑๘๒) จักษุมืด (ดู ตามืด) (๑/น. ๑๙๖) จักษุมืดจักษุมัว (๑/น. ๑๙๖) (ดู ตามืด, ตามัว) จักษุมืดเปนหมอก (ดู ตาหมอก) (๑/น. ๑๙๖) จักษุมืดมัว (ดู ตามืด, ตามัว) (๑/น. ๑๙๖) จักษุเหลือก (๔/น. ๓๐๙), (๔/น. ๑๓๕๐) (ดู เหลือก) จันทกลา (๑/น. ๑๒๘) จับโปง (๑/น. ๑๓๒) จุกเสียด (๒/น. ๕๗) จุกอก (๑/น. ๑๓๕) เจบกบอกจักษุ (ดู กระบอก ๑) (๔/น. ๔๖) ต ต้อ (๑/น. ๑๘๒) ต้อหมอก (๑/น. ๑๙๒) ตะโพกตาย (๒/น. ๘๗) ตามืด (๑/น. ๑๙๖) ท ท้องขึ้นท้องพอง (ดูท้องขึ้น) (๒/น. ๙๕) ท้องมาน (๑/น. ๒๐๔) ทิพยจักษุ (ดู ทิพจักษุ) (๒/น. ๑๘๙) เท้าตาย (๒/น. ๙๘) บ บาทเพลิง (ดู ลมบาทเพลิง) (๒/น .๑๙๒) ป ปิตคุณ (ดู ลมปิตคุณ) (๒/น. ๑๙๔) ป่วง (๑/น. ๒๖๙) ปวดกะบอกจักษุ (ดู กระบอกตา) (๔/น. ๔๖) ปวดท้อง (๒/น. ๑๑๙) ปวดศีรษะ (๒/น. ๑๒๐)


Click to View FlipBook Version