The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย ๔ คำอธิบายคัมภีร์แผนนวดเล่ม ๑-๒ ในตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จักรวาลพระเวทย์, 2023-11-06 08:36:36

ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย ๔ คำอธิบายคัมภีร์แผนนวดเล่ม ๑-๒ ในตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒

ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย ๔ คำอธิบายคัมภีร์แผนนวดเล่ม ๑-๒ ในตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒

140 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๙ ถึง ๑๐๒๔๑๏ชื่อลมดานตคุณแล๑๑ลมดานตะคุณเหนือสะดือเยื้องไปสีข้างด้านขวา ๓ นิ้วมือ๙ ถึง ๑๐๒๔๒๏ ชื่อลมหงายตมินแล๑๒ (แผนนวดวัดสุวรรณาราม “ชื่ออายตะหมิ้น”)ลมหงายตมิน (อายตะหมิ้น)ข้างสะดือด้านขวา ๓ นิ้วมือ (ใกล้หัวตะคาก)๙ ถึง ๑๐๒๔๓๏ ชือว่าเบญจสัญย่อมให้เสีย เท้าแลมือ๑๓(แผนนวดวัด สุวรรณารามชื่อเบญเส้น ย่อมให้เสียเท้าแลมือ) เบญจสัญ *** ไม่พบเส้น แผนนวดวัดสุวรรณารามตรงกัน เส้นที่ ๒๐ จุดใต้ฝ่าเท้า ๙ ถึง ๑๐๒๔๔๏ ๑๔ชืออายตโงกอ้ายตะโงกใต้เข่า สันหน้าแข้งด้านใน ๙ ถึง ๑๐๒๔๕๏ ๑๕ชื่อยาวมารีขึ้นมาแต่ขาถึง ฅอ เยาวมารีขึ้นมาแต่ขาถึงคอต้นขา แนวขาด้านใน ๙ ถึง ๑๐๒๔๖๏ ๑๖ชื่อชงคพาหะชงคพาหะกึ่งกลางหน้าแข้งด้านใน ๙ ถึง ๑๐๒๔๗๏ ๑๗ชื่อปัตฆาฏราทยักษปัตคาดราทธยักษ์เส้นที่เหนือสะดือเยื้องไปสีข้างด้านซ้าย ๓ นิ้วมือ ๙ ถึง ๑๐๒๔๘๏ ๑๘ชื่อพลายวาตขึ้นส้นเท้าพลายวาตขึ้นส้นเท้าส้นเท้า ใต้ตาตุ่มด้านซ้าย


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 141 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๙ ถึง ๑๐๒๔๙๏ ๑๙เส้นแสนแก้ผ์่าเท้าทั้ง ๒ข้าง เส้นแสนแก้ฝ่าเท้าทั้ง ๒ ข้างขอบกระดูกฝ่าเท้าด้านใน แนวนิ้วโป้ง ขาด้าน ซ้าย ๙ ถึง ๑๐๒๕๐๏ ๒๐ชื่อรัตคุณรัตนคุณเส้นที่ขอบกระดูกฝ่าเท้าด้านใน แนวนิ้วโป้ง ขาด้านขวา ๙ ถึง ๑๐๒๕๑๏ กล่าวมาดังนี้ให้พึงรู้จักเรื่อง ราวเส้นทั้งปวงให้รู้แท้ให้ แพทย์พึงก�ำหนดถ้าทางทั้ง ปวงแล ๑๑ ถึง ๑๒แผนหงาย ๑๑ ถึง ๑๒๒๕๒๏ แก้ลมให้ไหวตัวมิได้ต้นขาลมท�ำให้ไหวตัวไม่ได้ต้นขาจุดต้นขา ใต้ขาหนีบประมาณ ๒ นิ้วมือ ๑๑ ถึง ๑๒๒๕๓๏ แก้ลมให้นอนลงมิได้แลลมท�ำให้นอนลง (ราบ) ไม่ได้จุดต้นขา ใต้ขาหนีบประมาณ ๔ นิ้วมือ ๑๑ ถึง ๑๒๒๕๔๏ แก้ลมให้นอนมิได้นอนหลับแลลมท�ำให้นอนไม่หลับจุดเหนือเข่า ๑๑ ถึง ๑๒๒๕๕๏ แก้ลมชักให้บ์ากเบี้ยวอยู ่ ทรวงฅอลมชักท�ำให้ปากเบี้ยวอยู่ทรวงคอจุดกลางล�ำคอ


142 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๑๑ ถึง ๑๒๒๕๖๏ แก้ลมจุกอกขึ้นมาทั้ง๒ข้างคลายลมจุกอกขึ้นมาทั้ง ๒ ข้างจุดข้างสะดือ(ศูนย์รอบสะดือ)๑๑ ถึง ๑๒๒๕๗๏ แก้ลมเจบท้องแลหลังให้นั่ง ขัดสมาธิคว�่ำหงายแก้คลายแลลมเจ็บท้องและหลังจุดห่างจากหัวตะคากด้านขวา ๒ นิ้วมือ ทั้ง ๒ ข้าง ท่าบริหารร่างกาย ให้นั่งขัดสมาธิเท้าชิดก้น หลังตรงแล้วโน้มตัวไปด้านหน้าคว�่ำหน้าลง ต่อ มาตั้งตัวตรง แล้วหงายล�ำตัวแอ่นไปด้านหลัง บรรเทาอาการปวดได้ ๑๑ ถึง ๑๒๒๕๘๏ แก้ลมเกิดในไส้แลสบักทั้ง๒ลมเกิดในไส้และสะบักทั้ง ๒จุดแก้ที่สะบักทั้ง ๒ ๑๑ ถึง ๑๒๒๕๙๏ แก้ลมเกิดในอกแก้ริมสีฅอลมเกิดในอกแก้ริมสีคอจุดริมสะดือเยื้องลงมาด้านขวา ๑ นิ้วมือ ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๐๏ลมปัตฆาฏให้แก้เท้าทั้ง๒ (***ตรงกันหน้าต้น๓๙-๔๐) ลมปัตคาดจุดที่ฝ่าเท้า ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๑๏ลมเยนแก้ผ์่าเท้าทั้ง๒ลมเย็นแก้ฝ่าเท้าทั้ง ๒จุดที่ฝ่าเท้า


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 143 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๒๏ลมให้เสียดอกเสียดชายโครง ให้แก้ต้นฅอแลเกลียวฅอทั้ง ๒แก้ก�ำดันแลบั้นเอวแลท้อง ต่อชายโครงนั้นแลหายลมให้เสียดอก เสียดชายโครง ให้แก้ที่ต้นคอและเกลียวคอ ทั้ง ๒ แก้ที่จุดก�ำดัน บั้นเอว ท้อง ถึงชายโครงให้แก้ต้นคอและเกลียวคอทั้ง ๒ แก้ก�ำดันและบั้นเอวและท้องต่อชายโครงนั้น ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๓๏ ลมให้เท้าตายมือตายก็ดีท่าน ให้แก้เส้นบั้นเอวแลเส้นเท้า ทั้ง๒ข้างแลลมท�ำให้เท้าตายมือตาย ให้แก้ เส้นบั้นเอวและเส้นเท้าทั้ง ๒ ข้างเส้นบั้นเอวและเส้นเท้าทั้ง ๒ ข้าง ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๔๏ลมให้ตายไปจ�ำระตัวหนึ่งก็ดี เจรจามิได้ก็ดีคือลมอ�ำมพาธิ แก้ลิ้นแลคาง ลมอัมพาต ลมท�ำให้ตายไปซีก หนึ่งก็ดีพูดไม่ได้ แก้ที่ลิ้นและคางนวดจุดโคนลิ้น ใต้คาง ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๕๏ลมพรรดึกให้แก้ต้นขาต่อริม หัวตฆากลมพรรดึก ให้แก้ต้นขา ต่อริมหัว ตะคากจุดต้นขา และจุดริมหัวตะคาก ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๖๏ ลมขัดอกแลใจให้แก้ต้นฅอแล ไหล่ทั้ง๒ให้ขัดสมาธิเข้าไว้ แล้วแก้ ลมขัดอกและใจ ให้แก้ต้นคอและ ไหล่ทั้ง ๒ ให้ขัดสมาธิเข้า ไว้แล้ว แก้ท่านั่งสมาธิจุดต้นคอ และไหล่ทั้ง ๒


144 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๑๑ ถึง ๑๒๒๖๗๏ ลมให้ตามืดแก้สันหลังแลกะ บอกตาลมให้ตามืด แก้สันหลังและ กระบอกตาแก้สันหลังและกระบอกตา๑๑ ถึง ๑๒๒๖๘๏ ลมปวดขึ้นมาก็ดีแก้เส้นใต้ รักแร้ทั้ง๒ข้างแก้เส้นริมนาภีทั้ง๒ลมปะอกขึ้นมา แก้เส้นใต้รักแร้ ทั้ง ๒ ข้าง แก้เส้นริมสะดือทั้ง ๒ (แผนนวดวัดสุวรรณาราม)แก้เส้นริมนาภีทั้ง ๒ ๑๑ ถึง ๑๒๒๖๙๏ ลมให้เท้าตายมือตายให้แก้ใจ เท้าทั้ง๒ใจมือทั้ง๒แลแก้ ต้นแขนต้นสอกทั้ง๒แล ลมให้เท้าตายมือตาย ให้แก้ใจ เท้าทั้ง ๒ ใจมือทั้ง ๒ และแก้ต้น แขนต้นศอกทั้ง ๒นวดที่ฝ่าเท้าจุดเหนือส้นเท้าทั้ง ๒ ที่ฝ่ามือระหว่าง เนินนิ้วหัวแม่มือและเนินนิ้วก้อย ทั้ง ๒ ข้าง และแก้ต้นแขนต้นศอกทั้ง ๒ ข้าง ๑๑ ถึง ๑๒๒๗๐๏ ลมให้เจบนมให้แก้เข่าทั้ง๒ แล ลมท�ำให้เจ็บนม ให้แก้เข่าทั้ง ๒จุดเหนือเข่า ๑๑ ถึง ๑๒๒๗๑๏ลมพรรดึกแก้ไหล่แลริมตฆาก ทั้ง๒แลลลายน�้ำซ่มมขาม เบี์ยกเอาเกลือร�ำหัดลงน่อย หนึ่งให้กินก ่อนแล้วจึ่งแก้ พรรดึกแตกแล๚ะ ลมพรรดึก แก้ไหล่และริมหัว ตะคาก ทั้ง ๒ และละลายน�้ำส้ม มะขามเปียก เอาเกลือโรยหน่อย หนึ่งให้กินก่อนแล้วจึงนวดแก้ลม พรรดึกนวดจุดหัวไหล่และหัวตะคาก ด้านในมาทาง ช่องท้อง ทั้ง ๒ ข้าง ให้กินน�้ำส้มมะขามเปียก โรยเกลือกินเสียก่อนแล้วจึงนวดแก้


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 145 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๑๓ ถึง ๑๔แผนหงาย ๑๓ ถึง ๑๔๒๗๒๏ ลมจ�ำพวกหนึ่งชื่อมหาอัศดม จับหัวใจ ลมมหาอัสดมภ์ จับที่หัวใจจุดที่ขมับเหนือหู ทั้ง ๒ ข้าง ๑๓ ถึง ๑๔๒๗๓๏ลมจ�ำพวกหนึ่งชื่อมหาสดม จับเอาหัวตับไปเอากบอกตา หน่วงเอาเอนสดือลมมหาสดมภ์ จับที่หัวตับและ กระบอกตา และหน่วงที่เอ็น สะดือจุดนวดในแนวเส้นสุมนา จุดเหนือสะดือ (แผน นวดวัดสุวรรณาราม) ๑๓ ถึง ๑๔๒๗๔๏ ลมหนึ่งชื่อมูลล�ำภาเกิดด้วย กินผลไม้เกิดแต่มือก่อนไปเอา ไหล่แล้วมาบ่ามาอกมาหว่าง คิ้วให้แก้ไรผมแลทัดดอกไม้ ทั้ง๒แก้นาภีคลายแล ลมมูลล�ำภา เกิดเพราะกินผลไม้ เกิดอาการที่มือก่อน แล้วไปที่ ไหล่ บ่า อก ขึ้นมาระหว่างคิ้ว ให้ นวดแก้ที่ไรผม ทัดดอกไม้ ทั้ง ๒ และแก้ที่บริเวณสะดือ กดเหนือพับศอก ข้อต่อไหล่ แนวบ่า กดคลึง คลายร่องกระดูกซี่โครงช่วงอก จุดกึ่งกลาง ระหว่างคิ้ว ไรผมด้านหน้าและทัดดอกไม้ทั้ง ๒ ข้าง และจุดท้องเหนือสะดือเยื้องไปทางขวา ๑๓ ถึง ๑๔๒๗๕๏ ลมกล่อนให้ฟกฝักให้แก้ท้อง แล้วแก้ตะโพกขึ้นมาเทาถึง ไหล่ทั้ง๒แล้วไปเอาฝักจึ่ง ต�ำยากินส�ำรับโรคนั้นจงกิน ยาธรณีไหว ลมกล่อน ท�ำให้ลูกอัณฑะบวม ให้ แก้ท้องแล้ว แก้ที่สะโพกขึ้นมา ถึงหัวไหล่ทั้ง ๒ แล้วแก้ที่อัณฑะ ให้ยากินส�ำหรับโรคคือ ยาธรณี ไหว นวดท้องจุดต�่ำกว่าสะดือ ๔ นิ้วมือ ใต้ขาหนีบ ด้านสะโพก ใกล้หัวตะคากแล้วกินยาธรณีไหว


146 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๑๓ ถึง ๑๔๒๗๖๏ ลมชื่ออาพาธิทุกขเกิดในลึง คืออุปทมให้แต่งยากินแลลมอาพาธทุกข์ เกิดในลึงค์ คือ อุปทมให้ท�ำยากินโรคเกิดที่ล�ำลึงค์ ให้รักษาด้วยยา อาการฟกบวม เป็นน้อย ประคบเย็น คลึงเบาๆ ที่ฝีเย็บ๑๓ ถึง ๑๔๒๗๗๏ ลมสคริวนั้นให้สั่นทั่ว สารพางค์ตัวแล้วจับเอา ต้นคางทั้ง๒ลมตะคริว นั้นให้สั่นทั่วสารพางค์ ตัวแล้วจับเอาต้นคางทั้ง ๒จุดร่องรอยบุ๋มเหนือกราม นวดไล่ลงมา ๑๓ ถึง ๑๔๒๗๘๏ ลมจ�ำพวกหนึ่งชื่ออรรคิโรธ จับแต่นาภีขึ้นมาเอาหัวใจให้ กินยาปลุกโลหิตก ่อนจึ่งแก้ คลายและลมอรรคิโรธจับแต่นาภีขึ้นมาเอา หัวใจให้กินยาปลุกโลหิตก่อนจึง แก้คลายจุดข้างสะดือขวา ๑ นิ้วมือ (แผนนวดวัด สุวรรณาราม) ๑๓ ถึง ๑๔๒๗๙๏ ลมจ�ำพวกหนึ่งให้เสียบแทง น ่าหลังเปนเพื่อเสมหะแล โลหิตให้ประกอบยาแก้เสมหะ แลโลหิตแล้วจึ่งนวดแก้ลมท�ำให้เสียดแทงทั้งด้านหน้า และหลัง เพราะเสมหะและ โลหิต ให้ประกอบยากินแก้ เสมหะและโลหิต แล้วจึงนวดแก้จุดเหนือตัวตะคาก บริเวณจุดท้าวสะเอว ๑๓ ถึง ๑๔๒๘๐๏ ลมชื่อบาทคุณให้เมื่อยเท้าขึ้น มาถึงนาภีให้รมยานี้จึ่งคลายะลมบาทคุณ ให้เมื่อยเท้าขึ้นมาถึง สะดือให้รมยา จึงคลายจุดเหนือหัวหน่าว เยื้องไปทางซ้ายมือ (แผนนวด สุวรรณาราม)


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 147 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๑๓ ถึง ๑๔๒๘๑๏ ลมชื่อบาทเพลิงให้ร้อนแต่เท้า ไปถึงแค่งให้แก้แต่ส้นเท้าขึ้น ไปให้ประกอบยากินส�ำรับ คลาย ลมบาทเพลิง ให้ร้อนตั้งแต่เท้า จนถึงแข้ง ให้แก้ตั้งแต่ส้นเท้าขึ้น ไป และให้ประกอบยากินด้วยจึง คลายจุดส้นเท้าด้านใน นวดขึ้นไปแนวขาด้านใน ๒ แนวร่องตาตุ่ม (เหยียบกะลา) ๑๓ ถึง ๑๔๒๘๒๏ ลมชื่อชไสยรัตให้ประกอบยา ให้แก้กินส�ำรับแล้วจึ่งนวด แล๚ะ ๏ลมชไสยรัต (วาตไสยรัต) ให้ ประกอบยาให้กินหนึ่งส�ำรับ แล้วจึงนวด (สุวรรณาราม) จุดเยื้องสะดือลงมาทางด้าน ซ้าย-จุดมุตฆาต ๑๕ ถึง ๑๖แผนหงาย ๑๕ ถึง ๑๖๒๘๓๏ อนึ่งเส้นเอนอันชื่อว่าฆานทารี อยู่ในนาภีแล้วก็แตกออกจา กนาภีเปน๔เส้นแลเส้น๒ เส้นนั้นแล่นขึ้นไปตามกระดูก สันหลังแล้วไปแขนทั้ง๒ข้าง แล้วแล่นไปปลายนิ้วมือทั้ง๒ ข้างสิบนิ้วนั้นแล๚ เส้นชื่อ ฆานทารี (แผนนวดวัดสุ วรรณสราม “คาลทารี”) อยู่ใน สะดือแล้วก็แตกออกจากสะดือ เป็น ๔ เส้น และเส้น ๒ เส้น นั้นแล่นขึ้นไปตามกระดูกสันหลัง แล้วไปแขนทั้ง ๒ ข้างแล้วแล่น ไปปลายนิ้วมือทั้ง ๒ ข้าง สิบนิ้ว นั้นเริ่มจากจุดเหนือสะดือ ๑ นิ้วมือ แล้วก็แตกออก จากสะดือเป็น ๔ เส้น ๒ เส้น แล่นขึ้นไป ผ่าน ข้างราวนม ผ่านจุดรากขวัญ แล้วแล่นไปตาม ล�ำแขนทั้ง ๒ ข้าง ไปถึงข้อมือแล้วแตกแยกไป ถึงปลายนิ้วมือทั้ง ๕ นิ้ว ทั้ง ๒ ข้าง


148 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๑๕ ถึง ๑๖๒๘๔๏แล๒เส้นนั้นแล่นลงไปตามขาทั้ง๒แล้วแล่นลงไปเอา ปลายนิ้วเท้าทั้ง๒ข้าง๑๐นิ้วอนี้ชื่อเส้นกาลทวารีพึงรู้ ดังกล่าวไว้ดังนี้แล๚ะและ ๒ เส้นนั้นแล่นลงไปตามขา ทั้ง ๒ แล้วแล่นลงไปเอาปลาย นิ้วเท้าทั้ง ๒ ข้าง ๑๐ นิ้ว เส้นนี้ ชื่อเส้นกาลทารี พึงรู้ไว้อีก ๒ เส้นแล่นลงผ่านลงมาทางตามขา ผ่านขา หนีบแนวขาด้านในลงมาตามแนวเหนือตาตุ่ม แล้วแตกแยกไปถึง ๕ นิ้วเท้า ทั้ง ๒ ข้าง ๑๗ ถึง ๑๘แผนคว�่ำแผนนวดฉบับวัดสุวรรณาราม เรียกแผนปลิง ๑๗ ถึง ๑๘๒๘๕๏ แก้จักษุมืดแก้ต้องวางปลิง ๕ตัวจักษุมืด แก้ต้อ วางปลิง ๕ ตัว ศีรษะด้านหลัง ด้านเหนือหู ๔ นิ้วมือ ๑๗ ถึง ๑๘๒๘๖๏ แก้หูหนวกก็หายแลหูหนวกวางปลิง ๕ ตัว จุดบนศีรษะด้านหลังหู ๑๗ ถึง ๑๘๒๘๗๏ แก้ตามืดแก้เจบกะบอกตาตามืดเจ็บกระบอกตา วางปลิง ๕ ตัว จุดไรผม ด้านหลัง(บริเวณท้ายทอย)


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 149 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๑๗ ถึง ๑๘๒๘๘๏แก้ลมชักบ์ากเบี้ยวแลลมชักปากเบี้ยววางปลิง ๕ ตัวจุดมุมข้อไหล่ด้านหลัง จุดรอบขอบกระดูกสะบัก เริ่มจากกึ่งกลางกระดูกสะบัก แนวหลัง ๑ ทั้ง ๒ ข้าง ๑๗ ถึง ๑๘๒๘๙๏แก้ไหล่ตายและไหล่ตายวางปลิง ๕ ตัวจุดต้นแขนด้านหลัง จุดกล้ามเนื้อต้นแขนแนว หนีบรักแร้ จุดชิดกระดูกสันหลังช่องอก ชิ้นที่ ๑ ๑๗ ถึง ๑๘๒๙๐๏ แก้ปัตฆาฏเหมือนกันทั้ง๒ ข้าง ปัตคาดวางปลิง ๓ ตัว จุดรอบขอบสะบัก เริ่มจากจุดกึ่งกลางลงมา ๑๗ ถึง ๑๘๒๙๑๏ แก้เสมหะแลโลหิตตีขึ้นนั้นก็ดี แก้ลมเสียดแก้ตายประการ หนึ่งแล๚(จุดจากแผนนวด วัดสุวรรณาราม)โลหิตตีขึ้นวางปลิง ๓ ตัว เส้นตายวางปลิง ๓ ตัว นวดแนวสันหลัง ๑ เริ่มระดับปลายขอบสะบัก ล่าง นวดต่อมาจนถึง จุดร่องกระดูกกระเบน เหน็บ ชิ้นที่ ๔ ด้านขวา จุดร่องกระดูกกระเบน เหน็บ ชิ้นที่ ๔ ด้านซ้าย


150 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๑๙ ถึง ๒๐แผนหงายบอกเส้นอิทา ๑ ปิงคลา ๑ สุมนา ๑ บอก ๓ เส้น๑๙ ถึง ๒๐๒๙๒๏เส้นอันชื่อว่าบิ์งคลานั้นออก มาแต่นาภีไปวงม้วนอยู่ใต้ต้น ขาข้างขวาแล้วผ่านแล่นออก ไปสันหลังแฝงแนบขึ้นไปตาม กระดูกสันหลังเบื้องขวาขึ้น ไปผ่านเอาศีศะแล้วกลับลงมา นาสิกเบื้องขวาอยู่ประจ�ำลม อันชื่อว่าสูญทกลาอยู่แล เส้นชื่อว่าปิงคลานั้นออกมาจาก สะดือ ไปวงม้วนอยู่ใต้ต้นขาข้าง ขวาแล้วผ่านแล่นออกไปสันหลัง แฝงแนบขึ้นไปตามกระดูก สันหลังเบื้องขวา ขึ้นไปผ่านเอา ศีรษะแล้วกลับลงมาจมูกเบื้อง ขวาอยู่ประจ�ำลมอันชื่อว่าสูญทกลา เส้นปิงคลาแล่นออกมาจากสะดือข้างขวา แล่น ลงไปทางต้นขา (แนวขาด้านใน) แล้วแล่นออก ไปที่สันหลัง แนบขึ้นไปตามกระดูกสันหลังข้าง ขวา แล่นขึ้นไปถึงศีรษะ แล้ววกกลับลงมาสิ้นสุด ที่จมูกข้างขวา ลมประจ�ำเส้นชื่อว่าสูญทกลา ๑๙ ถึง ๒๐๒๙๓๏ เส้นอันชื่อว่าสุสุมนานั้นออก มาแต ่นาภีแล้วแล ่นเข้าไป พายในอกต่ายไปตามล�ำฅอ แล้วออกมาเปนลิ้นแล เส้นชื่อว่า สุมนานั้นออกมาจาก สะดือแล้วแล่นเข้าไปภายในอก ขึ้นไปตามล�ำคอแล้วแล่นออกไป ถึงลิ้น เส้นสุมนา นั้นออกมาจากสะดือ ขึ้นไปเหนือ สะดือแล้วแล่นขึ้นไปภายในอก ขึ้นไปตามล�ำคอ สิ้นสุดที่โคนลิ้น


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 151 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๑๙ ถึง ๒๐๒๙๔๏ เส้นอันชื่อว่าอิทานั้นออกมา แต่นาภีแล้วไปวงอยู่ต้นขาข้าง ซ้ายแล้วผ่านไปเอาสันหลัง แนบแฝงขึ้นไปด้วยกระดูกสัน หลังซ้ายขึ้นไปผ่านเอาศีศะ ซ้ายแล้วลงมาเอานาสิกซ้าย อยู่ประจ�ำลมอันชื่อจันทกระ ลาแล๚ะ เส้นชื่อว่า อิทานั้นออกมาแต่ สะดือแล้วไปวงอยู่ที่ต้นขาข้าง ซ้าย แล้วผ่านไปที่สันหลังแนบ ขึ้นไปตามกระดูกสันหลังข้าง ซ้าย ขึ้นผ่านไปถึงศีรษะข้างซ้าย แล้วลงมาที่จมูกซ้ายอยู่ประจ�ำ ลมอันชื่อจันทกลา เส้นอิทาแล่นออกมาจากสะดือข้างซ้าย ข้าง สะดือ ๑ นิ้วมือ แล่นลงไปทางต้นขา (แนวขา ด้านใน) แล้วแล่นออกไปที่สันหลัง แนบขึ้นไป ตามกระดูกสันหลังข้างซ้ายแล่นขึ้นไปถึงศีรษะ แล้ววกกลับลงมาสิ้นสุดที่จมูกข้างซ้าย ลม ประจ�ำเส้นชื่อว่าจันทกลา คือเอนวงเข้าหาทั้งตัวเรานี้แลคือเอ็นวงเข้าหาทั้งตัวเรานี้เส้นเอ็น เลือด ลม มีทิศทางวงเข้าหาตัว ๒๑ ถึง ๒๒แผนคว�่ำ ๒๑ ถึง ๒๒๒๙๕๏ แก้ตามืดเปนต้อวางปลิง๕ ตัวแล ตามืดเป็นต้อวางปลิง ๕ ตัวแนวก�ำด้น กระหม่อมหลังด้านบน ๒๑ ถึง ๒๒๒๙๖๏ แก้หูตึงหูหนวกแลหูตึงหูหนวกหลังใบหูส่วนบน ด้านซ้าย ๒๑ ถึง ๒๒๒๙๗๏ แก้ปวดศีศะเจบกบอกจักษุปวดศีรษะเจ็บกระบอกตาเริ่มจากมุมสะบักด้านล่างนวดไล่ลงไปทีละร่อง ซี่โครงจนถึงแนวกระดูกสันหลัง


152 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๒๑ ถึง ๒๒๒๙๘๏แก้เอนชักอกเอ็นชักอก แนวเกลียวข้าง แนวร่องกระดูกซี่โครงจากมุม กระดูกสะบักถึงแนวกระดูกสันหลัง ๑๒๑ ถึง ๒๒๒๙๙๏ แก้ไข้จับไข้ตะเลียงตัวร้อนไข้จับไข้เจลียงตัวร้อน แนวเกลียวข้าง ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๐๏ แก้เสมหะเปนที่สุดนักแล่นถึง ตะโพกแลเสมหะเป็นที่สุดนัก แล่นถึง สะโพกแนวเกลียวข้าง แนวร่องกระดูกซี่โครงจากมุม กระดูกสะบักถึงแนวกระดูกสันหลัง ๑ ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๑๏ แก้ลมรัตบิ์ตหยิกมิเจบลมรัตตะปิตตะหยิกไม่เจ็บเหนือพับเข่า ๒ นิ้วมือ (แนวขาด้านใน ช่วงต้นขา) ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๒๏ แก้เปลี่ยวด�ำแลลมเปลี่ยวด�ำใต้ส่วนหัวของกระดูกหน้าแข้งด้านนอก (ส่วน น่อง) ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๓๏ แก้ลมจับน่องสั่นลมจับท�ำให้น่องสั่น แนวเหนือตาตุ่ม กึ่งกลางน่อง ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๔๏ แก้ไข้ตัวร้อนแก้ไข้รหายน�้ำ แก้ทั้ง๒เหมือนกันนั้นแล ไข้ตัวร้อนไข้กระหายน�้ำจุดชิดตาตุ่ม และจุดเหนือตาตุ่ม ๔ นิ้วมือ ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๕๏ แก้จักษุเปนหมอกแก้จักษุมัว มืดตาเป็นหมอก ตามัวมืดแนวก�ำด้น กระหม่อมหลังด้านบน ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๖๏ แก้จักษุมืดจักษุมัวนัดยาด้วยตามืดตามัว นัดยาด้วยหลังใบหูส่วนบน ด้านขวา


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 153 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๗๏ แก้เจบศีศะนักนัดยาด้วยเจ็บศีรษะนัก นัดยาด้วย ให้นับ จากสีข้างสุดขึ้นมา ๕ ซี่ เส้น หว่างสีข้างทั้ง ๒ นั้นถ้าแก้ถูก เส้นเมื่อไรคลายแนวร่องกระดูกซี่โครงระหว่างมุมกระดูกสะบัก กับแนวกระดูกสันหลัง ๑ การหาจุด ให้นับจาก สีข้างสุดขึ้นมา ๕ ซี่ เส้นระหว่างสีข้างทั้ง ๒ นั้น ถ้าแก้ถูกเส้นเมื่อไรจะคลาย นัดยาด้วย ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๘๏ ให้นับแต่สีข้างสุดขึ้นมา๕ซี่ เส้นหว่างสีข้างทั้ง๒นั้นถ้า แก้ถูกเส้นเมื่อไรคลายแล๚ ๒๑ ถึง ๒๒๓๐๙๏ แก้รัตบิ์ตมักเจบเอวนักดังเอว จะลุ่ยหลุดแลรัตตะปิตตะ เจ็บเอวมากดังเอว จะขาดเหนือพับเข่า ๔ นิ้วมือ (แนวขาด้านหลัง ๒ ช่วง ต้นขา) ๒๑ ถึง ๒๒๓๑๐๏แก้ตะโพกตายแลสะโพกตายใต้ส่วนหัวของกระดูกหน้าแข้งด้านนอก (ใต้หัว เข่า) ๒๑ ถึง ๒๒๓๑๑๏ แก้เท้าตายหยิกมิเจบเท้าตายหยิกไม่เจ็บแนวเหนือตาตุ่ม จุดกึ่งกลางน่อง ๒๑ ถึง ๒๒๓๑๒๏ แก้นอนมิหลับแกอรรตพฤก แขงอยู่แล๚ะลมอรรตพฤก ท�ำให้นอนไม่หลับ แก้อรรตพฤกแข็งอยู่จุดเหนือตาตุ่ม ๔ นิ้วมือ


154 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๒๑ ถึง ๒๒๓๑๓๏แก้เส้นผูกทวารทุกขสัดหนักให้ ออกมาแลเส้นท้องผูก ให้ถ่ายอุจจาระออกจุดปลายกระดูกก้นกบ ใช้หัวแม่มือกดช้อนขึ้น๒๓ ถึง ๒๔แผนหงาย๒๓ ถึง ๒๔๓๑๔๏ เมื่อยเสียดแทงให้วางปลิงที่ คางทั้ง๒ข้างข้างหนึ่ง๑๐ ข้างหนึ่ง๙ เมื่อยเสียดแทงให้วางปลิงที่คาง ทั้ง ๒ ข้าง ข้างหนึ่ง ๑๐ ตัว ข้าง หนึ่ง ๙ ตัว ด้านหน้าหูด้านล่าง ใต้โหนกแก้ม (เล่มวัดสุวรรณ จุดข้างมุมปาก) ๒๓ ถึง ๒๔๓๑๕๏ แก้ลมอัมพาธิราทยักษแก้หืด แก้ไอ๑๐ตัวลมอัมพาต ราทธยักษ์ หืด ไอ ๑๐ ตัวจุดร่องกึ่งกลางไหปลาร้า ๒๓ ถึง ๒๔๓๑๖๏ แก้ลมพิศม์๙ตัวลมพิษ ๙ ตัว คว�่ำแขน ข้างกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมด้านหน้า ๒๓ ถึง ๒๔๓๑๗๏ แก้เปนแช ๓ ตัว แก้เป็นแช ๓ ตัว เหนือสะดือ เยื้องขึ้นไปทางขวา ๓ จุด ๒๓ ถึง ๒๔๓๑๘๏ ท้องมารแลรัตบิ์ต๙ตัวท้องมานและรัตตะปิตตะ ๙ ตัวห่างจากสะดือ ๒ นิ้วมือ ๔ จุด ด้านบน ด้านล่าง ด้านซ้ายและขวา ๒๓ ถึง ๒๔๓๑๙๏ ลมชไสยแลดานตคุณปล่อย ๙ตัวลมกระษัยและดานตะคุณปล่อย ๙ ตัวเหนือสะดือ ๒ นิ้วมือ


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 155 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๐๏ ลมสคริวแลไข้ตัวร้อน๙ตัวลมตะคริวและไข้ตัวร้อน ๙ ตัวต้นขาด้านใน ๓ จุด เหนือเข่า ๓ นิ้วมือ ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๑๏ กล่อนแลอรรตพฤก๙ตัวกล่อนและอรรตพฤก ๙ ตัวชิดกระดูกสันหน้าแข้งด้านใน ช่วงกึ่งกลางขา ท่อนล่าง ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๒๏ มักเปนป่วงนัก๙ตัวมักเป็นป่วงนัก ๙ ตัวขอบกระดูกฝ่าเท้าด้านใน แนวนิ้วโป้ง ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๓๏ แก้ปวดศีศะกลางกระหม่อม แลทัดดอกไม้๓ตัวแก้ปวดศีรษะกลางกระหม่อม และทัดดอกไม้ ๓ ตัวเหนือไรผมด้านหน้า ๑ นิ้วมือ ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๔๏ เจบตัวแลไข้นานหาย๑๑ตัวเจ็บตัวและไข้นานหาย ๑๑ ตัวจุดกลางผาก (แสกหน้า) ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๕๏ ฤษดวง๑๑ตัวริดสีดวง ๑๑ ตัวล�ำคอด้านบน (เหนือกล่องเสียง) ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๖๏ ลมราทยักษหืดไอ๑๑ตัวลมราทธยักษ์หืดไอ ๑๑ ตัวกลางล�ำคอ ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๗๏ สคริวแลรัตบิ์ต๗ตัวตะคริวและรัตตะปิตตะ ๗ ตัวคว�่ำแขน ข้างกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมด้านหน้า ข้าง รอยหนีบรักแร้ ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๘๏ ลมล�ำโหก๙ตัวลมล�ำโฮก ๙ ตัวแนวกลางอก ๓ จุด ๒๓ ถึง ๒๔๓๒๙๏ แขนตายข้างแล๗ตัวแขนตายข้าง ๗ ตัว กลางต้นขาด้านใน จุดเหนือข้อมือ


156 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๒๓ ถึง ๒๔๓๓๐๏ อรรตพฤก๙ตัวอรรตพฤก ๙ ตัวชิดกระดูกสันหน้าแข้งด้านใน ช่วงกึ่งกลางขา ท่อนล่าง๒๓ ถึง ๒๔๓๓๑๏ ลมรัทวาต๙ตัวลมรัตตวาต ๙ ตัวกึ่งกลางน่อง ๓ จุด๒๓ ถึง ๒๔๓๓๒๏ ไข้ครั่นตัว๗ตัวไข้ครั่นตัว ๗ ตัวขาด้านใน เหนือข้อเท้า ๓ จุด๒๓ ถึง ๒๔๓๓๓๏ ลมป่วง๙ตัวลมป่วง ๙ ตัวรอบใต้ตาตุ่มด้านใน ๒๕ ถึง ๒๖แผนคว�่ำ ๒๕ ถึง ๒๖๓๓๔๏ แก้จักษุมืดแก้ต้อในจักษุให้ วางปลิง๕ตัวตามืด เป็นต้อวางปลิง ๕ ตัวศีรษะด้านหลัง ด้านเหนือหูซ้าย ๔ นิ้วมือ ๒๕ ถึง ๒๖๓๓๕๏ แก้หูหนวกแก้จักษุมืดมัวหูหนวก ตามืดมัว หลังใบหูด้านบนด้านซ้าย (เพียงหู) ๒๕ ถึง ๒๖๓๓๖๏ ให้นับแต่สีค่างกระดูกขึ้นมา๕ ซี่ต่อสันหลังหว่างนั้นแก้เอน ชักอกแล เอ็นชักอกจุดร่องกระดูกสันหลังช่วงอกบริเวณขอบสะบัก ล่าง การหาจุดให้จากซี่โครงสุดท้ายนับขึ้นมา ๕ ซี่ ให้นับจากกระดูกสันหลังขึ้นมาหาขอบสะบัก *** การนวดตามร่องซี่โครงให้นวดคลายไปตาม ร่อง จุดเน้นที่นวด ไม่ควรลงน�้ำหนักหรือนวด จากเบาไปหาหนัก ให้สังเกตสภาพอาการของ คนป่วย


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 157 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๒๕ ถึง ๒๖๓๓๗๏ แก้ไหล่ตายให้นับแต่โครงขึ้น มา๕ซี่หว่างนั้นแก้เถิดไหล่ตายให้จากซี่โครงขึ้นมา ๕ ซี่ นวดตามร่องซี่โครง ตั้งแต่ช่วงขอบสะบักล่างไล่ถึงขอบสะบักบน ๒๕ ถึง ๒๖๓๓๘๏ ให้นับแต่สีค่างสุดขึ้นมา๒ซี่ หว่างนั้นแก้ปัตฆาฏแล ปัตคาดให้นับจากสีข้างสุดขึ้นมา ๒ ซี่ นวดร่องกระดูก ซี่โครง ๒๕ ถึง ๒๖๓๓๙๏ ถ้าไข้ตเลียงให้แก้เส้นหัว ตฆากชิดคลายแลไข้เจลียงชิดหัวตะคาก และตามแนวขอบกระดูกเชิงกราน ด้านบน ๒๕ ถึง ๒๖๓๔๐๏ ลมชื่ออรรตพฤกให้แก้เส้นริม กระดูกสันหลังทั้ง๒คลาย แล ลมอรรตพฤกชิดกระดูกสันหลังช่วงเอวทั้ง ๒ ข้าง ช่วงขอบ กระดูกกระเบนเหน็บ ๒๕ ถึง ๒๖๓๔๑๏ แก้จักษุมืดแก้ต้อหมอกแก้ ด้วยนวดแลประกอบยานัด ด้วยคลายและจักษุมืด ต้อหมอกศีรษะด้านหลัง ด้านเหนือหูขวา ๔ นิ้วมือ ๒๕ ถึง ๒๖๓๔๒๏ แก้ลมให้จักษุมืดหูตึ์งคลายแลลมให้ตามืด หูตึงหลังใบหูด้านบนด้านขวา (เพียงหู)


158 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๒๕ ถึง ๒๖๓๔๓๏ แก้เจบกบอกจักษุแก้ปวดศีศะ แลให้นับแต่สีค่างสุดนนขึ้นมา ๕ซึ่แก้หว่างสีข้างนั้นปวด ศีศะคลายแลอนึ่งให้นับแต่ สีค่างสุดขึ้นมา ๒ซี่หว่าง สีค่างนั้นแก้ลมปัตฆาฏทั้ง ๒ ข้างดุจกันแลอนึ่งให้ปวดศีศะ ดังเสี้ยนยอกนอนมิหลับให้นับ แต่สีค่างสุดขึ้นมา ๓ซี่แก้เส้น รองสีค่างสุดขึ้นมา ๓ซี่นั้น คลายแลให้พิจารณาดูจง หนักทั้ง ๒ข้างให้แก้ทั้ง ๒ ข้างนั้นคลายแล ๚ เจ็บกระบอกตาปวดศีรษะ ลม ปัตคาดทั้ง ๒ ข้าง ปวดศีรษะดัง เสี้ยนยอกนอนไม่หลับแก้ปวดศีรษะ ให้นับแต่สีข้างสุดนั้นขึ้นมา ๕ ซี่ แก้ลมปัตคาดทั้ง ๒ ข้างนวดระหว่างสีข้างนั้น


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 159 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๒๗ ถึง ๒๘แผนหงาย ๒๗ ถึง ๒๘๓๔๔๏แก้ไข้ให้ปวดศีศะนักแล ๏ แก้ฤษดวงจมูกแลกระหม่อมปวดศีรษะ เมื่อเข้าเป็นริดสีดวง จมูกในกระหม่อมนวดศีรษะ นวดใบหน้า จุดเน้นกลางหน้าผาก เหนือไรผม และจุดกลางศีรษะ จุดจอมประสาท ๓๔๕๏ แก้ฤษดวงจมูกแลกระหม่อมริดสีดวงจมูกและกระหม่อม ๒๗ ถึง ๒๘๓๔๖๏ แก้จักษุวิงแลเจบจักษุไข้ตเลียง แลไข้ให้หยากน�้ำนักก็ดี ไข้เจลียง ให้กระหายน�้ำมาก มัก เป็นไข้ให้เจ็บตา ตาลาย กลางคิ้ว จุดเน้นหัวคิ้ว ๒๗ ถึง ๒๘๓๔๗๏ ชื่อสูญทกลาก็ว่าสรรนิบาตก็ ว่าปกังก็ว่ามักปวดศีศะเมื่อ เวลาเช้าเมื่อตวันขึ้นมักเจบ จักษุแลน�้ำจักษุตกสูญทกลา สันนิบาตลมปะกัง มัก ปวดศีรษะเมื่อเวลาเช้าเมื่อตะวัน ขึ้น มักเจ็บจักษุและน�้ำจักษุตกริมจมูกด้านขวา ๒๗ ถึง ๒๘๓๔๘๏ ชื่อสุสุมนาแล้วกลายเปนชิวหา สดมแล ่นไปจับเอาต้นลิ้น ดุจดังกันแลลมสุมนา กลายเป็นลมชิวหา สดมภ์แล่นไปจับเอาต้นลิ้นเริ่มจากจุดเริ่มต้นเส้นสุมนา เหนือสะดือต่อลง มาใต้สะดือเยื้องขวา ๔ นิ้วมือ กดไล่ขึ้นไปถึงจุด ข้างคอ และจุดโคนลิ้น เส้นนี้มีส่วนสัมพันธ์กับ เส้นรุช�ำ


160 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๒๗ ถึง ๒๘๓๔๙๏ ชื่อองควาตแลลมองควาตไม่ระบุจุดนวด๒๗ ถึง ๒๘๓๕๐๏ ลมพหิตวาตจับดังพิศม์งู ลายสาบขบแลลมพหิตวาต จับดังพิษงูลายสาบ ขบจุดใต้สะดือ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๑๏ ลมชื่อพุทยักษก็ว่าลมสรรนิบาต ก็ว่าดุจกันแลลมพุทธยักษ์ ลมสันนิบาตจุดเหนือตาตุ่มด้านใน ข้างขวา ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๒๏ แก้ปวดศีศะแลเจ็บกบอกจักษุ ให้จักษุวิงกลางคืนแลจับไข้ แลเจบท้องแลเจบสันหลังและปวดศีรษะเจ็บกระบอกตา ตาลายตอนกลางคืน และจับไข้ และเจ็บท้อง เจ็บสันหลัง จุดหัวคิ้ว ด้านซ้าย ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๓๏ ชื่อจันทกลาจับบ์ากเบี้ยวแล จับจักษุนั้นมืดก�ำเดาก็ว ่า ย่อมเจบตวันเยนนั้นแลลมจันทกลา ท�ำให้ปากเบี้ยว ตามืดมัว ริมจมูก ด้านซ้าย ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๔๏ แก้ลมจุกอกเจบหลังแลลมจุกอกเจ็บหลังใต้ลิ้นปี่ ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๕๏ แก้ลมเสียดแทงให้มือตายเท้า ตายจุกอกเจบหลังะลมเสียดแทง ให้มือตายเท้าตาย จุกอกเจ็บหลัง ใต้ลิ้นปี่ (คลายเส้นจากสีข้างเข้าหาสะดือ)


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 161 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๖๏ ชื่ออิทาก็ว่าลมพหิก็ว่าจับดัง พิศม์งูลายสาบขบะลมอิทาลมพหิ จับดังพิษงู ลายสาบขบ เริ่มจากจุดเริ่มต้นเส้นอิทาข้างสะดือซ้าย ๑ นิ้วมือ ต่อลงมาใต้สะดือเยื้องซ้าย ๔ นิ้วมือ ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๗๏ ชื่อสหัศรังสีสหัศรังสีจุดเน้นจุดกึ่งกลางน่องแนวสันหน้าแข้งด้านใน ๒๗ ถึง ๒๘๓๕๘๏ชื่อกาลทารีแลสรรนิบาตใบ้ก็ ว่าแล้วกลายมาเปนลมจับ นั้นแลให้พึงพิจารณาจงหนัก จึ่งจะเหนโรคแล๚กาลทารีและสันนิบาตใบ้ก็ว่า แล้วกลายมาเปนลมจับนั้นและ ให้พึงพิจารณาจงหนักจึงจะเห็น โรคจุดเหนือตาตุ่มด้านใน ข้างซ้าย ๒๙ ถึง ๓๐แผนคว�่ำ ๒๙ ถึง ๓๐๓๕๙๏ ๒๐เส้นชักให้บ์ากเบี้ยวไปให้ แก้เส้นอยู่ใต้หูนั้นถูกคลายแล๒๐ ชักให้ปากเบี้ยวไปให้แก้เส้น อยู่ใต้หูนั้นถูกคลายจุดใต้หู รอยบุ๋มที่ขากรรไกร ๒๙ ถึง ๓๐๓๖๐๏ ๔๐เส้นให้แขนตายแก้ข้างนอก๔๐ แขนตายแนวขอบสะบักหลัง และขอบกล้ามเนื้อ สามเหลี่ยมด้านหลังช่วงใต้รักแร้ ๒๙ ถึง ๓๐๓๖๑๏ ๖๐เส้นลมอ�ำมพาธินั้นเปนที่ สุดแล ๖๐ เส้นลมอัมพาตนั้นเป็นที่สุดแนวชิดกระดูกสันหลังช่วงอก (ฉบับวัดสุวรรณาราม จุดต้นขา)


162 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๒๙ ถึง ๓๐๓๖๒๏ ๘๐เส้นกล่อนเส้นหนึ่งให้แก้ แต่ตาเท้าทั้ง๒ข้างเปนที่สุดแล๘๐ เส้นกล่อนเส้นหนึ่งให้แก้ ตั้งแต่ตาตุ่มทั้ง ๒ ข้างเป็นที่สุดนวดตั้งแต่ตาตุ่ม นวดขึ้นมาถึงกึ่งกลางน่อง แนวขาด้านนอก ๒ ทั้ง ๒ ข้าง๒๙ ถึง ๓๐๓๖๓๏๙๐เส้นโรหิณีแล๙๐ เส้นโรหิณีจุดที่ก้นปลายกระดูกก้นกบ๒๙ ถึง ๓๐๓๖๔๏ ถ้าแก้เส้นถูกดังว่าไว้นี้คลาย ให้ได้ถ้าผิดที่มิฟังแล๚ถ้าแก้เส้นถูกดังว่าไว้นี้คลายให้ได้ ถ้านวดผิดที่ไม่หาย ๒๙ ถึง ๓๐๓๖๕๏ ๑๐เส้นให้ปวดศีศะแก้เพรียง หูทั้ง๒ข้างคลายแล๑๐ ปวดศีรษะแก้เพรียงหูทั้ง ๒ ข้างเพรียงหู ๒๙ ถึง ๓๐๓๖๖๏ ๓๐เส้นก�ำด้นนั้นแก้ปวด ศีศะเปนที่สุดแล๓๐ เส้นก�ำด้นนั้นแก้ปวดศีรษะเป็นที่สุดจุดก�ำด้น ๒๙ ถึง ๓๐๓๖๗๏ ๑๐๐แก้สคริวหัวเข่าเส้นหนึ่ง เปนที่สุดแล๑๐๐ ตะคริวหัวเข่า เส้นหนึ่งเป็น ที่สุดข้อต่อข้างเข่า ขาด้านอก ๒๙ ถึง ๓๐๓๖๘๏ ๕แก้เส้นปัตฆาฏเส้นหนึ่งเปน ที่สุดและ๕ เส้นปัตคาดเส้นหนึ่งเป็นที่สุดแนวชิดกระดูกสันหลังช่วงอก (นวดกระดูกหลัง ทั้งแนว) ๒๙ ถึง ๓๐๏ ให้ดูเลขให้ถูกกันตามที่นี้เถิด ทุกคนแล๚ะให้ดูเลขให้ถูกกันตามที่นี้เถิด ทุกคน


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 163 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๓๑ ถึง ๓๒แผนหลังที่นั่งยองค�ำอธิบายในแผนนวดไม่ได้ก�ำกับ เลขไว้ ดูเลขค�ำอธิบายจากแผน นวดวัดสุวรรณาราม ๓๑ ถึง ๓๒๓๖๙๑๏ ลมปัตฆาฏจับตะโพกทั้ง๒ จับไหล ่ทั้ง๒ข้างจับ ทรวงอกทั้ง๒แลก�ำด้น ลมปัตคาดจับสะโพกทั้ง ๒ จับ ไหล่ทั้ง ๒ ข้าง จับทรวงอกทั้ง ๒ และก�ำด้นจุดหัวไหล่ทั้งซ้าย-ขวา จุดข้างคอทั้งซ้ายขวา จุดใต้ไรผมทั้งสองข้าง ๓๑ ถึง ๓๒๓๗๐๏ ลมชื่อมางษอาพาธิให้ท้องนั้น ใหญ่นักให้กินยารุแล้วจงกิน ยาส�ำรับลมมางอาพาธ ท�ำให้ท้องใหญ่ให้ กินยารุแล้วจึงกินยาส�ำรับให้กินยารุถ่าย และยาต�ำรับรักษาโรค ๓๑ ถึง ๓๒๓๗๑๏ ยังมีพยาธิอนึ่งชื่อทุพลพาธิให้ ผอมเหลืองให้ท้องใหญ่กินยา ประจก่อนแล้วจึ่งกินยาดอง ส�ำรับ โรคพยาธิชื่อทุพลพาธิให้ผอม เหลืองให้ท้องใหญ่ให้กินยาประจุก่อน แล้วจึงกินยาดอง


164 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๓๑ ถึง ๓๒๓๗๒ ๏ลมกล่อนให้ฟักฝักแล้วให้คัน แก้ท้องก่อนจึ่งแก้ตะโพกแก้ หัวเหน่าแล้วแก้แม่เท้าทั้ง ๒ แก้หัวตฆากแล ลมกล่อนให้ฟกฝัก แล้วให้คันแก้ ท้องก่อน จึงแก้สะโพก แก้หัว หน่าวแล้ว แก้แม่เท้าทั้ง ๒ แก้หัว ตะคากจุดข้างสะโพก สลักเพชร (วัดจากหัวตะคากมา ๕ นิ้ว) จุดชิดกระดูกสันหลังช่วงกระเบนเหน็บ ทั้ง ๒ ข้าง แก้สะโพก แก้หัวหน่าว จุดร่อง กระดูกนิ้วหัวแม่เท้าทั้ง ๒ ข้าง แก้แม่เท้าทั้ง ๒ และจุดหัวตะคากทั้ง ๒ ข้าง ๓๑ ถึง ๓๒๓๗๓๏ ลมจ�ำพวกหนึ่งชื่อปัตฆาฏจับ แต่ข้อเท้าขึ้นไปให้คับอกนัก กินอาหารมิได้ให้แน่นทรวงอก อยู่นักให้แก้แล้วให้กินยาชื่อ ทิพโสตแล(แผนนวดวัสุวรรณา รามใช้ชิ่มปัทบา) ลมปัตคาด จับตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นไป ให้คับอก กินอาหารไม่ได้แน่น ทรวงอกมากให้นวดแก้แล้วให้กิน ยาชื่อ “ทิพโสต”จุดข้อเท้า ขอบอุ้งเท้าโคนนิ้วก้อย แก้แล้วกินยา


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 165 หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่ สังคายนาเบื้องต้น ค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด ๓๑ ถึง ๓๒๓๗๔๏ อันนี้ลมจ�ำพวกหนึ่งชื่อราทยักษ จับย่อมให้ชักทั่วทั้งกายให้ยัก ไปมาให้สบัดต้นฅอแลบ์ากให้ แก้ต้นคางแลกระบอกจักษุจง ได้ร้สึกตัวแลลมราทธยักษ์ จับย่อมให้ชักเกร็ง ทั่วทั้งร่างกายให้ชักไปมา สะบัด ต้นคอและปาก ให้แก้ที่ต้นคาง และกระบอกตาจนรู้สึกตัวต้นคางและกระบอกตา นวดแนวบ่า ๒ ใต้ไรผม นวดขึ้นไปหากระบอกตา ๓๑ ถึง ๓๒๓๗๕๏ ยังมีลมจ�ำพวกหนึ่งชื่ออ�ำม พาธินั้นย่อมจับเอาก้นกบขึ้น ไปถึงราวค่างจับเอาหัวใจแล้ว ให้ซึมมึนแล้วขึ้นไปราวบ่าทั้ง ๒ขึ้นไปจับเอาต้นลิ้นเจรจา มิได้มิชัดแล ลมชื่ออัมพาต จับเอาก้นกบขึ้นไป ถึงราวข้างจับเอาหัวใจแล้วให้ซึม มึนแล้วขึ้นไปราวบ่าทั้ง ๒ ขึ้นไป จับเอาต้นลิ้น เจรจาไม่ได้ไม่ชัดหัวตะคาก ทั้ง ๒ ข้าง ๓๑ ถึง ๓๒๓๗๖๏ ลมจ�ำพวกหนึ่งชื่อจิตรบาทา จับแต่ส้นเท้าขึ้นมาถึงหัวเข่า นั้นให้ขัดยอดอกดังเอาไม้แทง ไว้แลลมจิตรบาทา จับแต่ส้นเท้าขึ้นมา ถึงหัวเข่านั้นให้ขัดยอดอกดังเอา ไม้แทงไว้จุดแรก ร่องระหว่าง นิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วชี้ จุดที่ ๒ จุดส้นเท้า


166 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔หน้าต้น/ หน้าปลายที่ล�ำดับค�ำที่สังคายนาเบื้องต้นค�ำ/ข้อความเดิมค�ำชื่อโรค/อาการ/เส้น/ลม/ สมุฏฐานค�ำอธิบายจุดในแผนนวด๓๑ ถึง ๓๒ ๓๗๗๏ มีลมอันหนึ่งชื่อสันพ์้าผ่าจับ เท้าขึ้นไปเอาราวตะโพกให้แก้ แต่ปลายเท้าขึ้นไปแล๚ะลมชื่อสันฟ้าผ่า จับเท้าขึ้นไปเอา ราวสะโพกให้แก้ตั้งแต่ปลายเท้า ขึ้นไปเริ่มจากจุดปลายเท้า นวดขึ้นไปหาสะโพก๏ แผนตัวอย ่างเส้นที่มีอยู ่ใน กายชายทั้งปวงกายหญิงทั้ง ปวงนี้ต่าง ๆกันดังนี้


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 167 ๕. คำอธิบายความรู้เกี่ยวกับเส้นประธานสิบและลมในคัมภีร์แผนนวดฯเล่ม๑ “คัมภีร์แผนนวด” เล่ม ๑ เลขที่ ๑๐๐๘ ใน “ต�ำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕” หน้าปลายที่ ๓๓-๕๑ การอธิบายความรู้ เรื่อง เส้นประธานสิบ และลม คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑ หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ ๓๓๏ ทีนี้จะกล่าวนามแห่งเส้นที่เรียกชื่อต่างๆกันแลกล่าวสรรพยา ส�ำรับแก้ต่อไป๚ะ๛ ทีนี้จะกล่าวเรื่องเส้นที่เรียกชื่อต่างๆ กัน และกล่าวเรื่องยา ส�ำหรับแก้โรคทั้งหลายต่อไป ๓๔โกมารแพทยอันพิเสศรู้ประเภทมาแต่ก่อนโพนสืบๆมาพิจารณา ก�ำเนิดเอนทั้งหลายอันบังเกิดในกายแห่งเรายาววาหนึ่งกว้าง สอกหนึ่งหนาคืบหนึ่งให้รู้ส่องแท้อย่าให้เคลื่อนคลาจุลาจลได้แล ลมอันอยู่ประจ�ำนาภีนั้นฤกประมาณ๑๒องคุลีแล้วจึ่งมีเอน เกี่ยวกระหวัดอยู่ในนาภีนั้นเปนอันมากถึง๗๒๐๐๐เส้นแลมีเอน ๑๐เส้นเปนประธานแก่เอนทั้งหลายและ โกมารแพทย (อาจหมายถึงหมอชีวกโกมารภัจน์) มีความรู้ สมุฏฐานโรคมาแต่โบราณสืบเนื่องต่อกันมา พิจารณาก�ำเนิดของ เส้นเอ็นทั้งหลายที่เกิดในร่างกายของคนเรา ยาว ๑ วา กว้าง ๑ ศอก หนา ๑ คืบ แท้แน่นอนอย่างไม่คลาดเคลื่อน มีลมอยู่ประจ�ำ ที่สะดือลึกประมาณ ๑๒ องคุลี และมีเอ็นเกี่ยวพันอยู่ในสะดือ มากถึง ๗๒๐๐๐ เส้น และมีเส้นเอ็น ๑๐ เส้นเป็นประธานแก่เส้น ทั้งหลาย


168 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ๓๕๑๏ เอนเส้นหนึ่งชื่อว่าอิทานั้นแล่นออกมาแต่นาภีแล้วไปเอาหัวเหน่าไปเอาต้นขาเบื้องซ้ายแล้วไปเอาสันหลังแนบขึ้นไปตามกระดูกสันหลังซ้ายแล้วแล่นผ่านกระหวัดขึ้นไปบนศีศะแล้ว กลับลงมาเอานาสิกซ้ายอยู่ประจ�ำลมจมูกอันว่าจันทกลาเบื้องซ้ายนั้นแลเส้นอิทา แล่นออกมาจากสะดือแล้วไปถึงหัวหน่าว ผ่านไปทาง ต้นขาข้างซ้ายแล้ว แล่นไปทางสันหลัง แนบชิดขึ้นไปตามกระดูก สันหลังข้างซ้ายแล้ว แล่นผ่านขึ้นไปถึงบนศีรษะ แล้วกลับลงมา ด้านหน้าไปสิ้นสุดที่จมูกด้านซ้าย ลมประจ�ำเส้น ลมจมูกเบื้องซ้ายอันชื่อว่า ลมจันทกลา ๓๕๒๚ เอนเส้นหนึ่งอันชื่อว่าบิ์งคลานั้นแล่นออกมาแต่นาภีแล้ววงลง ไปเอาต้นขาเบื้องขวาแล้วเกี่ยวกระหวัดไปเอาสันหลังแฝง แนบขึ้น เส้นปิงคลานั้นแล่นออกมาจากสะดือแล้วแล่นเป็นวงลงไปถึง ต้นขาข้างขวา แล้วเกี่ยวตวัดขึ้นไปถึงสันหลังแนบขึ้น ๓๖ไปตามกระดูกสันหลังเบื้องขวาแล้วแล่นขึ้นไปเกี่ยวเอาศีศะแล้ว ลงมานาสิกขวาอยู่ประจ�ำลมอันชื่อว่าสูญทกลาเบื้องขวานั้น แล ๓๚เอนเส้นหนึ่งชื่อว่าสุมนานั้นแล่นออกมาแต่นาภีแล้ว ก็เข้าไปในพายในอกตามล�ำฅอขึ้นไปเปนลิ้นแล ขึ้นไปตามกระดูกสันหลังข้างขวา แล้วแล่นขึ้นไปถึงศีรษะแล้ว กลับลงมาสิ้นสุดที่นาสิกข้างขวา เส้นสุมนา แล่นออกมาจาก สะดือแล้ว เข้าไปภายในอกขึ้นไปตามล�ำคอขึ้นไปถึงลิ้น ๓๖๔๚ เอนเส้นหนึ่งชื่อว่ากาลทารีนั้นแล่นออกมาแต่นาภีแล้วแตก ออกเปน๔เส้นสองเส้นนั้นแล่นขึ้นไปโดยทั้งสองแล้วไป เอาล�ำแขนทั้ง๒ตลอด เส้นกาลทารี แล่นออกจากสะดือแล้วแตกออกเป็น ๔ เส้น ๒ เส้นนั้นแล่นขึ้นไปตลอดล�ำแขนทั้ง ๒ ข้าง


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 169 คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑ หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ ๓๗ลงไปถึงนิ้วมือทั้ง๑๐นั้นแล๒เส้นนั้นเล่าแล่นลงไปต้นขาทั้ง๒ ลงไปตามล�ำแค่งทั้ง๒ตลอดลงไปถึงนิ้วเท้าทั้ง๑๐นั้นแล แล้วลงไปถึงนิ้วมือทั้ง ๑๐ นิ้ว อีก ๒ เส้นนั้นแล่นลงไปทางต้นขา ทั้ง ๒ ข้างลงไปตลอดตามล�ำแข้งทั้ง ๒ ข้าง ไปสิ้นสุดที่นิ้วเท้า ทั้ง ๑๐ ๓๗๕๚ เอนเส้นหนึ่งชื่อสหัศรังสีนั้นแล่นออกมาแต่นาภีนั้นแล้วะ ก็แล่นลงไปตามต้นขาไปตลอดเท้าทั้ง๒ข้างซ้ายแล้วก็กลับ ย้อนขึ้นมาตามแค่งซ้ายแล้วขึ้นไปเอาหัวนมซ้ายแล้วแล่น เข้าไปใต้คางแล้วขึ้นไปแตกออกเปนรากจักษุเบื้องซ้ายและ เส้นสหัศรังสี แล่นออกมาจากสะดือแล้วก็แล่นลงไปตามต้นขา ลงไปตลอดเท้าทั้ง ๒ ข้างซ้ายแล้วก็กลับย้อนขึ้นมาตามหน้าแข้ง ซ้ายขึ้นไปถึงหัวนมซ้ายแล้วแล่นเข้าไปใต้คาง แล้วขึ้นไปแตกออก เป็นรากตาข้างซ้าย ๓๘๖๏ เอนเส้นหนึ่งชื่อว่าทวารีนั้นแล่นออกมาจากนาภีแล้วตลอด ลงไปเอาเท้าขวาแล้วกลับขึ้นมาตามแค่งผ่านขึ้นไปตามนม ขวาแล่นเข้าไปใต้คางขวาแล้วแล้วแตกออกเปนรากจักขุขวาแลเส้นทวารี แล่นออกมาจากสะดือแล้ว แล่นตลอดลงไปทางเท้า ข้างขวาแล้วกลับขึ้นมาตามหน้าแข้งขวาผ่านขึ้นไปตามนมขวา แล้วแล่นเข้าไปใต้คางขวาแล้วแตกออกเป็นรากตาขวา ๓๘๗๚เอนเส้นหนึ่งชื่อว่าลาวุสังนั้นแล่นออกมาแต่นาภีขึ้นไปราวนม ซ้ายแล่นไปข้างซ้ายแล้วไปหูซ้ายออกเปนรากหูซ้ายนั้นและเส้นลาวุสัง (จันทภูสัง) แล่นออกมาจากสะดือขึ้นไปราวนมซ้าย แล่นไปข้างซ้ายไปถึงหูซ้าย ออกเป็นรากหูซ้ายนั้น ๓๘๘๏ เอนเส้นหนึ่งชื่ออุลังกนั้นออกแต่นาภีข้างขวาขึ้นไปราวนมขวา แล่นเข้าไปใต้คางแล้วออกเปนรากหูขวาแลฯเส้นอุลังกะ (รุช�ำ) ออกจากนาภีข้างขวาขึ้นไปทางราวนมขวา แล่นเข้าไปใต้คางแล้วออกเป็นรากหูขวา


170 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ๓๙๙๏เอนเส้นหนึ่งชื่อนันทกระหวัดนั้นออกมาแต่นาภีนั้นไปเกี่ยวเอาบ์ากเภาะทวารคูถทวารมูตรนั้นและเส้นนันทกระหวัด (สุมนา) ออกจากสะดือ ไปยังปากกระเพาะทวารหนัก ทวารเบา๓๙๑๐๏ เอนเส้นหนึ่งชื่อว่าคิชนั้นออกแต่นาภีแล่นไปเอาหัวเหน่าลงไปล�ำลึงนั้นแล๚ะเส้นคิช (สิกขิณึ) ออกจากสะดือแล่นไปทางหัวหน่าวลงไปถึงอวัยวะเพศชาย๓๙๏ แลเอนทั้ง๑๐เส้นนี้เปนใหญ่กว่าเอ็นทั้งปวงแลฯเอนสุสุมนา นั้นออกแต่นาภีไปเปนลิ้นแลฯเอนชื่อสิกขินีแล่นแต่นาภี ออกไปเบื้ององคชาตแล๚๛ เส้นที่ง ๑๐ เป็นใหญ่กว่าเส้นทั้งปวง เส้นสุมนานั้น ออกจาก สะดือไปถึงลิ้น เส้นสิกขินี แล่นออกจากสะดือไปถึงอวัยวะ เพศชาย ๔๐อาจาริยกล่าวไว้ว่ายังมีลมจ�ำพวกหนึ่งเกิดแต่นาภีขึ้นไปเบื้องบน แล้วลงมาเบื้องต�ำ ๑๐องคุลีแลมีเอนทั้งหลายได้๗๒๐๐๐เส้น อันอยู่นาภีสดือนั้นแล้วแลมีเอน๖เส้นนั้นเปนรากแก่เอน ทั้งหลาย๗๒๐๐๐เส้นอันอยู่ในนาภีเปนรากเกี่ยวกระหวัดอยู่ใน นาภีนั้นแล อาจารย์กล่าวไว้ว่า ยังมีลมพวกหนึ่งเกิดจากสะดือขึ้นไปเบื้องบน แล้วลงมาเบื้องต�่ำ ๑๐ องคุลี และมีเส้น ๗๒๐๐๐ เส้นอยู่ใน สะดือและมีเส้น ๖ เส้น นั้นเป็นรากของเส้นทั้ง ๗๒๐๐๐ เส้นที่ อยู่ในสะดือ เป็นรากเกี่ยวพันอยู่ในสะดือ ๏ แลมีเอน๑๐เส้นอุดมกว่าเอนทั้งหลายแลเอน๑๐เส้นนั้น มีชื่อดังนี้ะ มีเอ็น ๑๐ เส้นที่เป็นประธานแก่เส้นทั้งหลาย เส้นทั้ง ๑๐ เส้นนั้น มีชื่อดังนี้


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 171 คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑ หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ ๔๑ชื่อว่าอิทา๑บิ์งคลา๑สุมนา๑ฆานทารี๑หัศถดี๑กงจกร ๑กุขุง๑สรวนิ๑ทวาธารี๑สักคิณี๑เปน๑๐ด้วยกันดังนี้ แลฯอาจารยกล่าวว่าเส้นอิทาแลเส้นบิ์งคลานั้นออกแต่นาภีลง ไปขาซ้ายขาขวาแลแล่นไปเอาสันหลังแล้วแอบขึ้นไปตามกระดูก สันหลังทั้ง๒ข้างแล่นไปตามศีศะแล้วลงมาตามนาสิกทั้งซ้าย ขวาแลแลนาสิกซ้ายนั้นชื่อจันทกลาแลนาสิกขวา ชื่อว่าอิทา ๑ ปิงคลา ๑ สุมนา ๑ ฆานทารี ๑ หัศถดี ๑ กงจกร ๑ กุขุง ๑ สรวนิ ๑ ทวาธารี ๑ สักคิณี ๑ เป็น ๑๐ เส้นด้วยกัน อาจารย์กล่าวว่า เส้นอิทา และเส้นปิงคลานั้นออกแต่สะดือลง ไปขาซ้ายและขาขวา แล้วเล่นไปเอาสันหลังแล้วแอบขึ้นไปตาม กระดูกสันหลังทั้ง ๒ ข้าง แล่นไปตามศีรษะแล้วลงมาตามจมูก ทั้งซ้ายและขวา จมูกซ้ายนั้นชื่อจันทกลา และจมูกขวา ๔๒ชื่อสูญทกลาแลฯแลลมอันชื่อว่าบิ์งคลาเมื่อแรกบังเกิดจับนั้น ให้หน้าตาแดงขึ้นทั่วตัวมักจับในวันพฤหัศบดีนั้นเปนอาทิแลฯ ชื่อสูญทกลาลมชื่อปิงคลา เมื่อแรกบังเกิดจับนั้นให้หน้าตาแดง ขึ้นทั่วตัวมักจับในวันพฤหัสบดี ๔๒ลมอันชื่อสุมนานั้นชื่อว่าลมดานตคุณก็ว่าลมชื่อมหาอัศดมก็ว่า มักจับในวันอาทิตยเปนอาทิแลฯลมชื่อสุมนานั้นชื่อว่าลมดานตะคุณก็ว่า ชื่อลมมหาอัศดมภ์ก็ว่า มักเกิดในวันอาทิตย์ ๔๒ลมอันชื่อว่ากาลทารีนั้น๔เส้นถ้าจับให้เยนเปนเหนบไปะเหตุ ว่ากินของผิดส�ำแลงนักมักกินของอันแสลงนักเปนต้นว่าขนมจีน แลข้าวเหนียวหนักมักจับในวัน ลมกาลทารี นั้นมี ๔ เส้น ถ้าเป็นลมนี้ จะท�ำให้ตัวเย็นเป็นเหน็บ สาเหตุเนื่องจากชอบกินของผิดส�ำแดง ของแสลง เช่น ขนมจีน และข้าวเหนียว มักเป็นวัน


172 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ๔๓อาทิตย์แลฯลมอันชื่อว่าสหัศรังสีมักเกิดลมอัคนิวาตคุณเหตุว่ามักกินของเปนต้นว่าหวานแลมันนักจึ่งบังเกิดลมจ�ำพวกนี้มักจับจับในวันศุกรนั้นแล๚อาทิตย์ ลมสหัศรังสี มักเกิดลมอัคนิวาตคุณ เหตุเพราะชอบกินของหวานและของมัน จึงเกิดลมจ�ำพวกนี้ขึ้น มักเป็นในวันศุกร์๔๓ลมอันชื่อว่าฆานทารีนั้นมักเกิดลมปัตฆาฏนักเหตุว่ามักกินมพร้าวนักมักจับในวันอังคารแล๚ลมฆานทารี มักเกิดลมปัตคาด เหตุเพราะกินมะพร้าวมากมักเป็นในวันอังคาร ๔๓ลมหนึ่งชื่อจันทกสังฆเพราะด้วยอาบน�้ำนักมักจับในวันพุธนั้น แล๚ ลมจันทกสังฆ เกิดเพราะอาบน�้ำมากมักเป็นในวันพุธ ๔๓ลมอันชื่อว่ากุขุงนั้นเหตุเพื่อกินของอันมันในวันอาทิตย์นักมักให้ เจบท้องแลฯ ลมกุขุง เหตุเพราะกินของมันในวันอาทิตย์มากเกินไปจึงท�ำให้ เจ็บท้อง ๔๔ลมอันชื่อว่าสังขินั้นมักให้เสียดสีค่างสุดทั้ง๒ข้างนั้นย่อมเกิด ราทยักษวาโยถ้าจะเกิดๆในองคชาตนั้นเปนเพื่อกามราคนั้น หน่วงเอนถ้าสัตรีเปนเพื่อโลหิตก็ดีเอนในมดลูกนั้นวิการให้เจบ เกี่ยวไปเอาสีค่างสุดแล่นไปเอาท้องแล้วๆรึงไปเอาเข่าทั้ง๒ข้าง ให้นวดแต่ล�ำลึงเอนจึ่งคลายแลฯ ลมสังขิ มักท�ำให้เสียดสีข้างทั้ง ๒ ข้าง และย่อมท�ำให้เกิด ลมราทธยักษ์วาโย ถ้าเกิดในองคชาติ เหตุเพราะกามราคท�ำให้ หน่วงดึงเส้นเอ็นให้ตึง ถ้าสตรีเป็นเพราะโลหิต หรือเพราะเอ็น ในมดลูกพิการ ให้เจ็บมากไปถึงสีข้างสุด และเจ็บที่ท้อง ท�ำให้ เส้นรัดตึงไปถึงเข่าทั้ง ๒ ข้างให้นวดเส้นเอ็นบริเวณหัวหน่าว อวัยวะเพศเอ็นจึงคลาย


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 173 คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑ หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ ๔๔ลมอันชื่อสรรนิบาตนั้นให้เจบศีศะเปนก�ำลังนักลมสันนิบาต ท�ำให้เจ็บศีรษะมากเกือบจะทนไม่ได้ ๔๕ให้แก้รากขวันแล้วให้แก้เกียวฅอทั้ง๒ให้แก้เถาหลังทั้ง๒ให้แก้ เถาราวคางทั้ง๒คลายและ ให้แก้ที่รากขวัญและเกลียวคอ แนวหลัง และแนวราวคาง ทั้ง ๒ ข้าง ๔๕๏ ลมจ�ำพวกหนึ่งชื่อว่าคัพภาหะเมื่อจับนั้นออกสองหูตึงมิได้ยิน ศับทส�ำเนียงให้แก้บนหูซ้ายนั้น ลมคัพภาหะ เมื่อเป็นนั้นท�ำให้สองหูตึงไม่ได้ยินเสียง ให้แก้บนหู ซ้าย ๔๕ถ้าลมย่อมจับให้นอนไซ้ชื่อว่าธารตรณให้แก้บนหูขวาคลายแลฯลมธารตรณ ลมจับให้นอน ให้แก้บนหูขวาคลายหายได้ ๔๕ลมอันหนึ่งมักจับแลไอมิออกนั้นชื่อว่าลมราทยักษย่อมกลายแปร ไปให้แก้เส้นเกลียวฅอทั้ง๒ข้างแลก�ำด้นบั้นเอวแลท้องต่อ ชายโครงแลฯ ลมราทธยักษ์ ลมที่จับท�ำให้ไอไม่ออก ให้แก้เส้นเกลียวคอทั้ง ๒ ข้าง ก�ำด้น บั้นเอวและท้องต่อชายโครง ๔๖ลมอันหนึ่งมักจับไหล่ตายข้างซ้ายนั้นก็ดีถ้าซ้ายชื่อปัตฆาฏราท ยักษ ลมปัตคาดราทธยักษ์ ลมจับไหล่ข้างซ้ายตาย ๔๖ถ้าขวาชื่อชิวหาสดมแลให้แก้ต้นแขนแลเถาบ่าทั้ง๒เหมือนกัน แลราวข้างทั้ง๒ข้างถ้าสอกซ้ายก็ดีขวาก็ดีตายให้แก้สอกทั้ง๒ ข้างคลายแลฯ ลมชิวหาสดมภ์ ลมจับไหล่ข้างขวาตาย ให้แก้ที่ต้นแขนและแนว บ่าทั้ง ๒ ข้าง และแก้ที่ราวข้างทั้ง ๒ ข้าง ถ้าศอกซ้ายหรือศอก ขวาตาย ให้แก้ที่ข้อศอกทั้ง ๒ ข้างให้คลาย


174 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ๔๖ลมอรรตพฤกจับนั้นให้ยอกสบักซ้ายก็ดีขวาก็ดีให้แก้ข้อแม่มือแม่เท้าคลายแลฯลมอรรตพฤก จับให้ยอกสะบักซ้ายก็ดีขวาก็ดี ให้แก้ข้อแม่มือแม่เท้าให้คลาย๔๖ลมสรรนิบาตจ�ำพวกหนึ่งให้จับไข้ตัวร้อนนักให้แก้เกลียวมือลมสันนิบาต ให้จับไข้ตัวร้อน ให้แก้เกลียวมือ๔๗แลหลังมือต่อกันทั้ง๒ข้างถ้าแลให้เจบทั่วสารพางค์แลให้ท้องแขงเปนดานให้แก้รอบสดือชื่อว่าลมอันตคุณก็ว่าถ้าแลให้เสียด เข่าชื่อว่าลมจะโปงสะคริวก็ว่าถ้าลมกล่อนให้แก้ตาเท้าทั้ง๒ข้าง ถ้าลมอรรตพฤกให้แก้ส้นเท้าทั้ง๒ต้นเท้าทั้ง๒ต่อริมเกือก ทั้ง๒ข้างคลายแล๚อันนี้บอกแผนหงายแล๚ลมอันชื่อว่า ราทยักษนั้นจับให้ฅอแขงให้แก้ต้นฅอแลสองเกลียวฅอจง ลมอันตคุณ ลมให้เจ็บทั่วสารพางค์ และให้ท้องแข็งเป็นดาน ให้ แก้รอบสะดือ ลมจับโปงตะคริว ลมให้เสียดเข่า ลมกล่อน ให้ แก้ตาตุ่มทั้ง ๒ ข้าง ลมอรรตพฤก ให้แก้ส้นเท้าทั้ง ๒ ต้นเท้าทั้ง ๒ และต่อด้วยริมขอบฝ่าเท้าทั้ง ๒ ข้างคลาย (ลักษณะการนวด แผนหงาย) ลมราทธยักษ์ นั้นจับให้คอแข็ง ให้แก้ต้นคอ และ เกลียวคอ ทั้ง ๒ ข้าง ๔๘ได้แลชื่อว่าราทยักษก็ว่าชิวหาสดมก็ว่าให้เจรจามิได้ย่อมมักให้ เจบสบักแลหัวผานสบักทั้ง๒ข้างนั้นชื่อว่าลมปัตฆาฏก็ว่าผู้นั้น มักนั่งนักลุกนั่งมิได้ก็ดีให้แก้ส้นเท้าทั้ง๒แลแก้เส้นแถวหลังทั้ง ๒แลแก้เส้นบั้นเอวทั้ง๒ข้างชื่อว่าลมแถกกลออมนั้นให้แก้ หัวเหน่าแลทั้งะแลรอบสดือแลบั้นเอวแลสันหลังนั้นคลายแลฯ ลมเนตนั้นครั้นจับให้บิดตัวดังพิศม์งูนั้น ลมราทธยักษ์ก็ว่า ลมชิวหาสดมภ์ก็ว่า ท�ำให้พูดไม่ได้ย่อมท�ำให้ เจ็บสะบักและขอบสะบักทั้ง ๒ ข้างนั้น ลมปัตคาดก็ว่า ผู้นั้นมัก นั่งนัก ลุกนั่งไม่ได้ก็ดี ให้แก้ส้นเท้าทั้ง ๒ และแก้เส้นแนวหลังทั้ง ๒ ข้าง และแก้เส้นบั้นเอวทั้ง ๒ ข้าง ลมแถกกลออม ให้แก้ที่ หัวหน่าว ท้อง รอบสะดือ บั้นเอว และสันหลังนั้นคลายและ ลมเนตร ครั้นจับให้บิดตัวดังพิษงูนั้น ให้แก้ที่หน้า หลัง และขา ทั้ง ๒ ข้าง


คำ�อธิบายคัมภีร์แผนนวด เล่ม ๑-๒ ในตำ�ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒ 175 คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑ หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ ๔๙ให้แก้หน้าแลหลังแลขาทั้ง๒ข้างคลายแลฯลมสะคริวจ�ำพวก หนึ่งเล่าให้จับแขนนั้นก็ดีเท้านั้นก็ดีให้แก้สันน่าแค่งทั้ง๒จงได้ คลายแลฯถ้าแลไข้ให้หยากน�้ำนักะเหตุว่าให้ร้อนพายในนัก จึ่งกระหายน�้ำ ชื่อว่าลมสรรนิบาตก็ว่าลมปัตฆาฏนั้นก็ว่าให้แก้ เส้นจักษุทั้ง๒แลแก้ส้นเท้าทั้ง๒แลตาเท้าทั้ง๒ข้างจงได้คลาย แลฯอนึ่งลมอรรตพฤกมีลักขณ ลมตะคริว ให้จับแขน หรือเท้านั้น ให้แก้สันหน้าแข้ง ทั้ง ๒ ถ้า ไข้ให้กระหายน�้ำ เพราะร้อนภายในจึงท�ำให้กระหายน�้ำ ชื่อลม สันนิบาตหรือลมปัตคาด ให้แก้เส้นจักษุทั้ง ๒ แก้ส้นเท้าทั้ง ๒ และตาตุ่มทั้ง ๒ ข้าง จึงจะคลาย ๕๐สี่จ�ำพวกพวกหนึ่งนั้นเปนเพื่อปถวีธาตุให้ท้องแขงเปนดานหยิก มิเจบถ้าแลเปนเพื่อวาโยธาตุนั้นเพราะเหตุเพื่อโลหิตแล น�้ำเหลืองถ้าแลเปนเพื่อเตโชธาตุเหตุว่าไฟธาตุนั้นหย่อนให้หน้า แลจักษุแดงก�่ำ ถ้าแลเปนเพื่ออาโปธาตุนั้นให้เยนเมื่อยขบทั่วตัว แลเจบท้องนักะประการหนึ่งว่านอนด้วยสัตรีแล้วแลกลั้น กามราคไว้ให้นานตกแลฯผิแลเปนเพื่อปถวีธาตุ์ ลมอรรตพฤต มีลักษณะสี่จ�ำพวก ๑.เป็นเพื่อปถวีธาตุให้ท้องแข็งเป็นดานหยิกไม่เจ็บ ๒.เป็นเพื่อวาโยธาตุนั้น เพราะเหตุเพื่อโลหิตและน�้ำเหลือง ๓.เป็นเพื่อเตโชธาตุ เหตุว่าไฟธาตุนั้นหย่อนให้หน้าและจักษุแดงก�่ำ ๔.เป็นเพื่ออาโปธาตุ ให้เย็นเมื่อยขบทั่วตัวและเจ็บท้องนัก สาเหตุอีกประการหนึ่ง นอน (ร่วมเพศ) กับสตรีแล้วกลั้นน�้ำกาม ไว้นาน ไม่ให้หลั่งออก หากเป็นเพราะปถวีธาตุ


176 ชุดการสังคายนาภูมิปัญญาการนวดไทย: ๔คัมภีร์แผนนวดในเล่ม ๑หน้า ปลายที่ข้อความเดิมอธิบายความ๕๑แลวาโยธาตุ์มักให้บังเกิดลมอ�ำมพาธิราทยักษชิวหาสดมดานตคุณแลให้จับแต่ใจเท้าแลใจมือทั้ง๒แลให้กลัดอกกลัดใจเปนเหตุว่าลมปัตฆาฏนั้นจับเส้นสันในเปนเค้ามูละแลลมทั้ง๔จ�ำพวกนี้เมื่อแรกจับนั้นให้มึนตึงก่อนให้แก้จักษุแลรากขวันแลริมผมข้างหลังแลสบักทั้ง๒ข้างแลเส้นใต้โครงสุดสันหลังทั้ง๒ข้างคลาย แล๚ะ๛ วาโยธาตุ มักให้บังเกิดลมอัมพาตราทธยักษ์ ชิวหาสดมภ์ ดานตะคุณ และให้เจ็บกลางใจเท้าและกลางใจมือทั้ง ๒ และให้กลัดอกกลัดใจ สาเหตุเพราะลมปัตคาดนั้นจับเส้นสันใน และลมทั้ง ๔ จ�ำพวกนี้ เมื่อแรกจับนั้นท�ำให้มึนตึงก่อน ให้แก้ที่ ตาและรากขวัญ และริม ผมข้างหลัง และสะบักทั้ง ๒ ข้าง และเส้นใต้โครงสุดสันหลังทั้ง ๒ ข้าง จึงคลาย จบคัมภีร์แผนนวดเล่ม๑


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 177 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๑ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๒ ถึง ๓ ๖. รูปต้นฉบับสมุดไทยดำา คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ จำานวน ๙๕ หน้า


178 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๔ ถึง ๕ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๖


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 179 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๗ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๘ ถึง ๙


180 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๑๐ ถึง ๑๑ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๑๒ ถึง ๑๓


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 181 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๑๔ ถึง ๑๕ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๑๖ ถึง ๑๗


182 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๑๘ ถึง ๑๙ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๒๐ ถึง ๒๑


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 183 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๒๒ ถึง ๒๓ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๒๔ ถึง ๒๕


184 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๒๖ ถึง ๒๗ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๒๘ ถึง ๒๙


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 185 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๓๐ ถึง ๓๑ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๓๒ ถึง ๓๓


186 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๓๔ ถึง ๓๕ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๓๖ ถึง ๓๗


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 187 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๓๘ ถึง ๓๙ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๔๐ ถึง ๔๑


188 ชุดการสังคายนาภูมิปญญาการนวดไทย: ๔ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๔๒ ถึง ๔๓ คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๔๔ ถึง ๔๕


คําอธิบายคัมภีรแผนนวด เลม ๑-๒ ในตําราเวชศาสตรฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เลม ๒ 189 คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าต้น ที่ ๔๖ จบหน้าต้น คัมภีร์แผนนวด เล่ม ๒ เลขที่ ๑๐๐๕ หน้าปลาย ที่ ๑


Click to View FlipBook Version