วิชา กม. (LA) ๒๒๒๐๕
พระราชบญั ญตั ทิ ม่ี โี ทษทางอาญา
ตาํ ÃÒàÃÕ¹
ËÅÑ¡ÊÙμà ¹¡Ñ àÃÂÕ ¹¹ÒÂÊºÔ ตาํ ÃǨ
ÇªÔ Ò ¡Á. (LA) òòòðõ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ·èÕÁÕâ·É·Ò§ÍÒÞÒ
เอกสารนี้ “໚¹¤ÇÒÁÅºÑ ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÔ หา มมิใหผหู นึ่งผใู ดเผยแพร คดั ลอก ถอดความ
หรอื แปลสว นหนงึ่ สว นใด หรอื ทง้ั หมดของเอกสารนเี้ พอื่ การอยา งอน่ื นอกจาก “à¾Íè× ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒͺÃÁ”
ของขาราชการตํารวจเทานั้น การเปดเผยขอความแกบุคคลอื่นท่ีไมมีอํานาจหนาที่จะมีความผิดตาม
ประมวลกฎหมายอาญา
¡Í§ºÞÑ ªÒ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ สํา¹Ñ¡§Ò¹ตําÃǨá˧‹ ªÒμÔ
¾.È.òõöô
คํานํา
หลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจ (นสต.) เปนหลักสูตรการศึกษาอบรมท่ีมีเปาหมาย
เพื่อเสริมสรางใหบุคคลภายนอกผูมีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๖) หรือ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเทา ที่เขารับการฝกอบรมมีความรู ความสามารถ และ
ทักษะวิชาชีพตาํ รวจ รวมถึงพัฒนาบุคลิกภาพรางกายใหเหมาะสมสําหรับการปฏิบัติงานตํารวจ
ในกลุมสายงานปองกันปราบปราม ตลอดจนเตรียมความพรอมทางดานจิตใจและวุฒิภาวะใหมี
จติ สํานกึ ในการใหบ ริการเพอ่ื บําบัดทกุ ขบ ํารุงสขุ ของประชาชนเปน สาํ คญั
กองบัญชาการศึกษา ไดรวมกับ ครู อาจารย และครูฝก ในสังกัดกองบังคับการ
ฝกอบรมตาํ รวจกลาง และกลมุ งานอาจารย กองบัญชาการศึกษา ศูนยฝกอบรมตํารวจภูธรภาค ๑ - ๙
และกองบัญชาการตาํ รวจตระเวนชายแดน ตลอดจนผูทรงคุณวุฒิจากภายนอก จัดทําตาํ ราเรียน
หลกั สตู รนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจชดุ นี้ ซงึ่ ประกอบดว ยองคค วามรตู า งๆ ทจ่ี ําเปน ตอ การพฒั นาศกั ยภาพ
ของนกั เรยี นนายสบิ ตํารวจใหเ ปน ขา ราชการตาํ รวจทพี่ งึ ประสงคข องประชาชน เพอ่ื ใชส ําหรบั ประกอบ
การเรียนการสอนนักเรียนนายสิบตํารวจใหมีความพรอมทั้งดานความรู ความสามารถ กําลังกาย
และจติ ใจ จนสามารถเปน ขา ราชการตาํ รวจทป่ี ฏบิ ตั งิ านใหบ รกิ ารสงั คมและประชาชนไดอ ยา งตรงตาม
ความตอ งการอยางแทจ รงิ และมคี วามพรอมในการเขาสปู ระชาคมอาเซยี น
ขอขอบคุณครู อาจารย ครูฝก และผูทรงคุณวุฒิทุกทาน ที่ไดรวมกันระดมความคิด
ใหคาํ ปรึกษา คาํ แนะนาํ ประสบการณที่เปนประโยชน รวมถึงการถายทอดองคความรู
ที่เปนประโยชน จนทาํ ใหการจัดทําตาํ ราเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบตาํ รวจสําเร็จลุลวงไดดวยดี
ซ่ึงกองบัญชาการศึกษาหวังเปนอยางย่ิงวาตําราเรียนชุดน้ีคงเปนประโยชนตอการจัดการเรียน
การสอนและการจัดการฝกอบรมของครู อาจารย และครูฝก รวมตลอดถึงใชเปนคูมือการปฏิบัติงาน
ของขาราชการตํารวจ อันจะสงผลทาํ ใหสํานักงานตํารวจแหงชาติสามารถสรางความเชื่อมั่น ศรัทธา
และความผาสุกใหแ กประชาชนไดอ ยา งแทจ ริง
พลตํารวจโท
( อภิรตั นยิ มการ )
ผูบ ัญชาการศกึ ษา
ÊÒúÑÞ
ÇÔªÒ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμ·Ô èÕÁÕâ·É·Ò§ÍÒÞÒ Ë¹ŒÒ
º··Õè ñ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμ¡Ô Òþ¹¹Ñ ¾.È.òô÷ø ñ
- ความรทู ่วั ไปเก่ียวกับพระราชบญั ญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ๒
- ความผิดตามพระราชบัญญตั กิ ารพนัน ๓
- บทกําหนดโทษ ๘
º··èÕ ò ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÍÔ ÒÇظ»„¹ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊع»„¹ ÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´ ñù
´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§ ʧèÔ à·ÂÕ ÁÍÒÇظ»¹„ ¾.È.òôùð ๒๐
- ความรูทัว่ ไปเกี่ยวกบั พระราชบญั ญตั ิอาวธุ ปน เคร่ืองกระสนุ ปน ๒๗
วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ สง่ิ เทยี มอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๔๓
- ความผิดตามพระราชบัญญตั อิ าวุธปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ôù
วตั ถุระเบิด ดอกไมเพลงิ ส่งิ เทียมอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๕๐
- บทกาํ หนดโทษ ๕๑
๕๑
º··Õè ó ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÊÔ ¶Ò¹ºÃ¡Ô Òà ¾.È.òõðù ๕๒
- ความรูทวั่ ไปเกยี่ วกับพระราชบัญญตั สิ ถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ๕๒
- ฐานความผดิ ๕๒
- คณุ สมบัติ ๕๓
- สถานท่ี ๕๓
- ใบอนญุ าต ๕๕
- ใบอนุญาตชํารดุ ๕๖
- การปฏิบัตกิ ับพนักงาน ๕๙
- ขอปฏบิ ัติของสถานบรกิ าร
- อํานาจของเจาพนกั งาน
- โทษตาม พ.ร.บ.สถานบริการ
- ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั สิ ถานบรกิ าร พ.ศ.๒๕๐๙
˹ŒÒ
º··Õè ô ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô Ǻ¤ÁØ à¤ÃèÍ× §´è×ÁáÍÅ¡ÍÎÍÅ ¾.È.òõõñ öñ
- ความรูท ว่ั ไปเก่ียวกบั พระราชบัญญตั ิควบคมุ เครือ่ งดม่ื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๖๒
- การควบคมุ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอลตามพระราชบญั ญัติควบคมุ ๖๓
เครอื่ งดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๘๐
- ความผิดตามพระราชบญั ญตั คิ วบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล
พ.ศ.๒๕๕๑
º··èÕ õ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ»‡Í§¡Ñ¹áÅлÃÒº»ÃÒÁ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ¾.È.òõóù øó
- ความรทู วั่ ไปเกยี่ วกับพระราชบญั ญัตปิ อ งกันปราบปราม ๘๔
การคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๘๘
- นยิ าม ๘๘
- ฐานความผิด ๙๐
- มาตรการตามพระราชบัญญัตปิ อ งกันและปราบปราม ๙๒
การคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๙๔
- อํานาจหนา ทขี่ องพนกั งานเจาหนาที่
- ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ปิ อ งกันและปราบปรามการคาประเวณี
พ.ศ.๒๕๓๙
º··Õè ö ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô ¹à¢ÒŒ àÁ×ͧ ¾.È.òõòò ùõ
- ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกับพระราชบญั ญตั ิคนเขา เมอื ง พ.ศ.๒๕๒๒ ๙๖
- ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ิตรวจคนเขา เมือง พ.ศ.๒๕๒๒ ๙๗
ท่มี กี ารจบั กุมดําเนินคดี
º··Õè ÷ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ»Ò† äÁŒ ¾.È.òôøô ñðù
- ความรูท่ัวไปเก่ียวกบั พระราชบัญญตั ิปา ไม พ.ศ.๒๔๘๔ ๑๑๑
- การทาํ ไมแ ละเก็บหาของปา ๑๑๒
- การทาํ ไมห วงหา ม ๑๑๔
- ไมท ่ีมใิ ชไ มห วงหา ม ๑๑๖
- ของปา หวงหา ม ๑๑๗
- ตราประทบั ไม ๑๑๘
- ไมและของปาระหวา งเคล่อื นที่ ˹Ҍ
- การควบคมุ ไมในลาํ น้ํา ๑๑๘
- การควบคมุ การแปรรปู ไม ๑๒๐
- แผว ถางปา ๑๒๐
- เบ็ดเตลด็ ๑๒๒
- บทกาํ หนดโทษ ๑๒๓
- การรักษาการพระราชบญั ญตั ิ ๑๒๕
º··Õè ø ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÀÔ Ò¾Â¹μÃá ÅÐÇ´Õ ·Ô ÈÑ ¹ ¾.È.òõõð ๑๒๘
- ความรทู ั่วไปเก่ยี วกบั พระราชบัญญตั ภิ าพยนตรแ ละวดี ทิ ัศน พ.ศ.๒๕๕๐ ñòù
- การประกอบกิจการภาพยนตร ๑๓๐
- คุณสมบัตขิ องผขู ออนุญาตโรงภาพยนตร ๑๓๑
- ใบอนญุ าตประกอบกจิ การโรงภาพยนตร ๑๓๕
- การประกอบกจิ การวีดทิ ัศน ๑๓๕
- คณุ สมบตั ิผขู ออนญุ าต ๑๓๖
- ใบอนุญาตประกอบกจิ การวีดิทศั น ๑๓๖
- อาํ นาจเจา พนักงาน ๑๓๗
- ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ภิ าพยนตรแ ละวดี ิทศั น พ.ศ.๒๕๕๑ ๑๓๘
º··èÕ ù ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô ÇÒÁ¼Ô´à¡ÕèÂÇ¡ºÑ ¤ÍÁ¾ÔÇàμÍà ¾.È.òõõð ๑๔๑
- ความรูท่วั ไปเก่ียวกับพระราชบัญญัติฯ ñôó
- ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร พ.ศ.๒๕๕๐ ๑๔๕
- พนกั งานเจาหนา ท่ี ๑๔๕
º··èÕ ñð ¡®ËÁÒ·èÕà¡ÂèÕ Ç¢ŒÍ§¡ºÑ ¡ÒäҌ Á¹ÉØ Â ๑๕๐
- ความรูทั่วไปเกย่ี วกบั กฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ งกบั การคามนุษย ñõ÷
- บททัว่ ไป ๑๕๙
- ความผดิ ตามกฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ งกบั การคามนษุ ย ๑๖๐
- อํานาจพนกั งานเจา หนา ท่ี ๑๖๖
- บทกําหนดโทษ ๑๖๘
๑๖๙
º··Õè ññ ¡®ËÁÒ·àÕè ¡ÕèÂǢ͌ §¡ÑºÂÒàʾμÔ´ ˹Ҍ
- ความรทู ่ัวไปเกี่ยวกบั กฎหมายท่ีเก่ยี วขอ งกบั ยาเสพติด ñ÷ó
- ความผิดตามกฎหมายท่เี ก่ียวขอ งกบั ยาเสพตดิ ๑๗๕
๑๗๗
๑
º··Õè ñ
¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹ ¾.È.òô÷ø
ñ. ÇμÑ ¶Ø»ÃÐʧ¤¡ ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒ»Ù ÃШӺ·
๑.๑ เพ่อื ใหนกั เรยี นมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘
๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี
ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘
๑.๓ เพื่อใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม
พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘
ò. ÊÇ‹ ¹¹Ó
การพนันนับเปนปญหาแกสังคมปญหาหน่ึงเพราะเปนการมอมเมาประชาชนและเปน
บอเกิดของปญหาสังคม หรือปญหาอาชญากรรม ดังนั้น เพ่ือเปนการควบคุมมิใหการเลนการพนัน
แพรหลายจนเกินไปจนสรางปญหาใหสังคมจึงมีการตรา พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เพ่ือควบคุม
การเลนการพนนั ใหอยใู นกรอบไมกอ ใหเกิดปญ หาแกส งั คม
ó. à¹éÍ× ËÒμÒÁËÇÑ ¢ŒÍ
๓.๑ ความรูทั่วไปเกยี่ วกับ พ.ร.บ.การพนนั
๓.๒ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘
๓.๓ บทกาํ หนดโทษ
ô. ÊÇ‹ ¹ÊÃØ»
พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เปนกฎหมายท่ีมีความสําคัญฉบับหน่ึง เพราะเปน
กฎหมายท่ีคอยควบคุมดูแลไมใหประชาชนในสังคมถูกมอมเมาจากอบายมุข ซ่ึงถาผูบังคับใช
กฎหมายไดมีการบังคับใชกฎหมายอยางเครงครัดก็จะทําใหปญหาสังคมไดรับการแกไข อันจะนําไปสู
ความสงบสุขในสงั คมตอไป
õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó
ใหนักเรียนคนหาการพนันที่มีการจับกุมในปจจุบันวามีลักษณะอยางไรและรวมกัน
วเิ คราะหอ ภปิ รายในชนั้ เรียน
๒
การพนันเปนสิ่งท่ีพบเห็นกันอยูทั่วไปและเปนคดีความมาสูศาลมากที่สุดอยางหนึ่ง
ซง่ึ เชอ่ื กนั วา มกี าํ เนดิ มาจากประเทศจนี ลกุ ลามแพรข ยายเขา ไปในนานาประเทศ รวมทงั้ ประเทศไทยดว ย
เมอื่ ประชาชนมวั เมาอยกู บั การเลน การพนนั ยอ มไมค ดิ ทาํ มาหากนิ คอยแตเ ลน การพนนั เพราะไดเ สยี
รวดเร็วทําใหมีผูหวังรวยทางลัดอยูตลอดเวลา แตย่ิงเลนก็ย่ิงยากจนทุกที การพนันจึงเปนเหตุ
อยา งหนงึ่ ทก่ี อ ใหเ กดิ อาชญากรรมขนึ้ ในประเทศ ดงั นน้ั รฐั จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ขน้ึ
อยา งไรก็ตาม ไมว าจะไดม ีการปราบปรามการเลน การพนันอยา งไร ก็ปรากฏวาการเลน
การพนันยงั คงระบาดแพรห ลายอยตู ลอดเวลา
ñ. ¤ÇÒÁÌٷèÇÑ ä»à¡èÕÂÇ¡ºÑ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹Ñ¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø
แยกเปน ๒ ประการ คอื
๑.๑ ลกั ษณะของการพนนั
๑.๒ สาระสําคัญของพระราชบัญญัติการพนนั
ñ.ñ ÅѡɳТͧ¡Òþ¹Ñ¹ พระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ มิไดแยก
วิเคราะหศัพท “การพนนั ” ไวโ ดยเฉพาะ คงมเี พยี งมาตรา ๔ ทวิ บญั ญัตขิ ยายความหมายของคําวา
การเลน ในพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ใหห มายความรวมตลอดถงึ การเขา เลน เสย่ี งโชคซงึ่ ตอ งใชไ หวพรบิ
และฝมือมาพนันเอาทรัพยสินกัน จะโดยชอบหรือมิชอบดวยกฎหมายก็ได เชน การเลนพนัน
ไพป อก ไพผอ ง ไพนกกระจอก หรอื การท่บี คุ คล ๒ ฝายขน้ึ ไปถอื เอาเหตกุ ารณท ่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคต
อันไมแนนอนมาเปนเกณฑตัดสินแพชนะวา ถาเหตุการณเกิด ฝายหน่ึงจะแพและอีกฝายหน่ึง
จะชนะ ฝายแพจ ะตองเสียเงินใหฝา ยชนะตามท่ตี กลงกัน (โดยทง้ั ๒ ฝายไมม สี วนไดเสียแตอ ยางใด)
เชน ใครจะเปน นายกรัฐมนตรคี นตอ ไป เปนตน
ñ.ò ÊÒÃÐÊÓ¤ÞÑ ¢Í§¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹¹Ñ ¾·Ø ¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø
การพนนั มี ๒ ประเภท คือ
ประเภท ก. หมายถึง การพนันซึ่งเจาพนักงานตามพระราชบัญญัติฉบับน้ี
จะอนุญาตใหผูใดเลน หรือจัดใหมีการเลน หรือการพนันในการเลนไมไดเลย เวนไวแตรัฐบาลจะ
ออกกฎหมายอนญุ าตโดยเฉพาะ
ประเภท ข. หมายถึง การเลนจะตองไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานกอน
มฉิ ะน้นั มคี วามผดิ ตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั
การจัดใหมีรางวัลแถมพก หรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคในการประกอบกิจการคา
แมไ มใ ชการพนนั กต็ องขออนุญาตจากเจา พนกั งานตามพระราชบัญญตั ิการพนนั
สลากกินแบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลนอยางใดที่เสี่ยงโชค ตองขอ
อนุญาตจากเจา พนักงานตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั เชนกัน
๓
การฝาฝนพระราชบัญญัติการพนัน มีโทษคือจําคุก ปรับและริบทรัพยสิน และ
ผูนาํ จับตามพระราชบญั ญัติการพนนั มีสิทธิไดรับสนิ บนหรอื รางวลั นําจับตามกฎหมาย
ò. ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹
พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มีท้ังหมด ๑๗ มาตรา แตจะขอยกเพียงบาง
มาตราที่สาํ คญั มาอธบิ าย ดงั น้ี
ÁÒμÃÒ ô หา มมใิ หอ นญุ าตจดั ใหม หี รอื เขา เลน หรอื เขา พนนั ในการเลน อนั ระบไุ วใ นบญั ชี
ก. ทายพระราชบัญญตั ินี้ หรือการเลนซง่ึ มีลกั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลนอนั รา ยแรงอ่ืนใด ซึง่ รฐั มนตรี
เจาหนาท่ีออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมหามไว แตเมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นวา ณ สถานท่ีใดสมควร
จะอนญุ าตภายใตบังคับเง่อื นไขใดๆ ใหมกี ารเลนชนดิ ใด กอ็ นญุ าตไดโดยออกพระราชกฤษฎีกา
การเลนอันระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัตินี้หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน
หรือการเลนอ่ืนใดซึ่งรัฐมนตรีเจาหนาที่ไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวจะจัดใหมีขึ้นเพื่อเปนทาง
นํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดโดยทางตรงหรือทางออมได ตอเม่ือรัฐมนตรีเจาหนาท่ีหรือเจาพนักงาน
ผูออกใบอนุญาตเห็นสมควรและออกใบอนุญาตให หรือมีกฎกระทรวงใหจัดข้ึนไดโดยไมตองมี
ใบอนญุ าต
ในการเลนอันระบุไวในวรรค ๒ ขางตนน้ัน จะพนันกันไดเฉพาะเมื่อไดมีใบอนุญาตให
จัดมีขนึ้ หรือมกี ฎกระทรวงอนุญาตใหจดั ขึน้ ไดโ ดยไมต องมีใบอนญุ าต
การเลนหมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ในบัญชี ข. หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน
หรือการเลนอ่ืนใดซ่ึงรัฐมนตรีเจาหนาท่ีไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวน้ัน จะใหรางวัลตีราคา
เปนเงินไมได และหามมิใหผูใดรับรางวัลที่ใหไปแลวกลับคืนหรือรับซ้ือหรือแลกเปล่ียนรางวัลนั้น
ในสถานงานหรือการเลน หรือบริเวณตอ เน่อื งในระหวางมงี าน หรอื การเลน
ÁÒμÃÒ ô ·ÇÔ ในการเลน อ่ืนใดนอกจากทีก่ ลาวใน มาตรา ๔ จะพนันกันหรอื จะจัดใหม ี
เพอ่ื ใหพ นนั กันไดเ ฉพาะการเลนทีร่ ะบชุ ื่อและเงือ่ นไขไวในกฎกระทรวง
คาํ วา “การเลน” ในวรรคกอ น ใหหมายความรวมตลอดถึงการทายและการทาํ นายดวย
¤Ó͸ºÔ ÒÂ
การพนันที่ไมไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานแบงออกเปน ๒ ประเภทคือ การพนัน
ประเภทที่กฎหมายหามมิใหมีการเลนโดยเด็ดขาด และการพนันท่ีจะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจาก
เจาพนกั งาน
๑) การพนนั ประเภททกี่ ฎหมายหา มมใิ หม กี ารเลน โดยเดด็ ขาด เวน แตเ มอ่ื รฐั บาลเหน็ วา
ณ ท่ีใดสมควรจะอนุญาตภายใตบังคับเงื่อนไขใดๆ ใหมีการเลนชนิดใด ซ่ึงการอนุญาตใหมีการเลน
การพนนั ประเภทน้ีตองออกเปนพระราชกฤษฎกี า
๔
๒) การพนันที่จะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน เปนการพนันประเภท
ที่หามมิใหมีการเลน จนกวาจะไดใบอนุญาตใหจัดมีข้ึน หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้น
โดยไมตองมีใบอนุญาตคือ การเลนการพนันซึ่งระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัติการพนัน
พุทธศักราช ๒๔๗๘ หรือการเลน ซึ่งมลี กั ษณะคลา ยคลงึ กัน หรอื การเลน อืน่ ใด ซึ่งรัฐมนตรเี จา หนา ที่
ไดออกกฎกระทรวงระบุเพ่ิมเติมไว สําหรับการพนันประเภทนี้ยังมีเงื่อนไขเฉพาะตามกฎหมาย
กลา วคือ
ก. การเลน การพนันตามบัญชี ข. จะพนนั กันไดเ ฉพาะเม่อื ไดม ใี บอนุญาตใหม ขี ้นึ
หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้นโดยไมตองมีใบอนุญาต จะเห็นไดวาการเลนตามบัญชี ข. นั้น
กฎหมายมีวัตถุประสงคจะบังคับเฉพาะผูจัดใหมีข้ึน เพื่อเปนทางนํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดจะโดย
ทางตรงหรือทางออมก็ตอเมื่อไดรับอนุญาตเทาน้ัน แมวาการเลนน้ันจะมีการพนันหรือไมไมสําคัญ
ถาปรากฏขอเท็จจริงวาไดรับผลประโยชนก็จะตองไดรับอนุญาตกอนจึงจะเปดใหมีการพนันได
ถาไมไดรับอนุญาตถือวาเปนความผิดแลว เวนแตการเลนที่มีกฎกระทรวงอนุญาตไวเปนการเฉพาะ
วาไมต องขออนญุ าต เชน การเลน บริดจ วง่ิ ววั คน
ข. การเลนตามบัญชี ข. หมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ตามบัญชี ข. คือชี้รูป โยนหวง
โยนสตางค ตกเบด็ จับสลาก ยงิ เปา ปาหนาคน เตาขา มดา น หมากแกว หมากหัวแดง บิงโก เหลานี้
จะใหร างวลั ตรี าคาเปน เงนิ ไมไ ดแ ละหา มมใิ หผ ใู ดรบั รางวลั ทใ่ี หไ ปแลว กลบั คนื หรอื รบั ซอ้ื หรอื แลกเปลย่ี น
รางวลั นั้นในสถานงานหรอื การเลน หรอื บริเวณตอเน่อื งในระหวา งมงี านหรอื การเลน
ÁÒμÃÒ ñó “ผใู ดฝาฝน บทบญั ญตั มิ าตรา ๔ อันวา ดว ยการรับกลับคนื หรอื รบั ซ้อื หรือ
แลกเปลี่ยนรางวัลน้นั มคี วามผิดตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ ๓ เดอื น หรอื ปรับไมเ กิน ๕๐๐ บาท หรอื
ท้ังจําทัง้ ปรับ”
¤Ó͸ºÔ ÒÂ
ผูใดไมวาจะเปนผูจัดใหมีการเลน หรือบุคคลอื่นใดก็ตามจะรับรางวัลท่ีใหไปแลวกลับคืน
หรือรับซื้อ หรือแลกเปล่ียนรางวัลท่ีไดจากการเลนตามบัญชี ข. (ดูการพนันประเภท ข. ในความผิด
ตามมาตรา ๑๒) กลบั คนื ในสถานงานหรอื การเลน หรือบรเิ วณตอเน่ืองในระหวา งมงี าน หรือการเลน
ไมได เชน ในงานปใหม งานกาชาด มีการออกรานเลนการพนันประเภท ข. มากมาย อาทิ
การจับสลากพฤกษากาชาด การขายสลากกาชาดชิงรางวัลรถยนตญี่ปุน ปาเปา ยิงธนูเอารางวัล
หากมกี ารรบั ซ้ือแลกเปลยี่ นรางวัลทีล่ กู คา ไดไ ปแลว คนื ยอมมีความผิดตามมาตราน้ี
μÑÇÍ‹ҧ
การหามรับซ้ือของซึ่งเลนไดจากการพนันในสถานท่ีเลนการพนันนั้น กฎหมายหาม
ตลอดถงึ บุคคลท่วั ไปดวยหาไดหามเฉพาะเจาของรา นเทา นน้ั ไม (ฎ. ๑๐๘๐/๒๔๘๐)
ÁÒμÃÒ õ ผูใดจัดใหมีการเลน ซ่ึงตามปกติยอมพนันเอาเงินหรือทรัพยสินอยางอ่ืน
แกกัน ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ันจัดใหมีขึ้นเพ่ือนํามาซึ่งผลประโยชนแหงตน และผูใดเขาเลน
อยดู ว ยก็ใหสันนิษฐานไวกอนวา ผูนั้นพนันเอาเงินหรอื ทรพั ยสนิ อยา งอนื่
๕
ÁÒμÃÒ ö ผูใดอยูในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติน้ี หรือขัดตอ
ขอความในกฎกระทรวงหรือใบอนุญาตซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ัน
เลน ดว ย เวน แตผ ซู งึ่ เพยี งแตด กู ารเลน ในงานรนื่ เรงิ สาธารณะ หรอื งานนกั ขตั ฤกษห รอื ในทสี่ าธารณสถาน
¤Ó͸ԺÒÂ
การเขาเลนหรือเขาพนันในการเลน หมายถึง การเขาเส่ียงภัยโดยมีสวนไดเสียนั่นเอง
การพนันขันตอซ่ึงการเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนน้ี แมผูนั้นจะมิไดเขาเลนดวย หากแตกระทํา
การใดอันเขาขอสันนิษฐานของกฎหมายก็ใหถือวาเปนผูเลนดวย ผูนั้นยอมมีความผิดตามกฎหมาย
บญั ญัติ เวน แตจ ะนําสืบใหเ หน็ เปนอยา งอน่ื ได
ขอสันนิษฐานของกฎหมายตามพระราชบัญญัติการพนัน พระราชบัญญัติการพนัน
พ.ศ.๒๔๗๘ ไดว างขอ สนั นิษฐานไว ๒ มาตราคือ มาตรา ๕ และมาตรา ๖ ขางตน
ขอ สนั นษิ ฐานของกฎหมาย ๒ มาตรานเี้ กดิ จากการทเี่ จา หนา ทตี่ าํ รวจซง่ึ มหี นา ทร่ี กั ษาการ
ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้และยังมีหนาที่รักษาการตามกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติความผิดทางอาญา
ทุกประเภท บางคร้ังแมจับตัวผูตองหาไดแตหาหลักฐานฟองรองคดีไมไดเพราะเร่ืองที่จะจับได
ในขณะกระทําความผิดเปนไปไดยาก นักพนันสวนใหญจะเลนในหมูพวกตน เมื่อถูกจับก็ไมมีพยาน
ฝายเจาหนาท่ี คงมีแตต ัวผตู อ งหา สว นของกลางก็เปนของซ่งึ ไมใ ชของทม่ี ีไวเ ปน ความผิด หากจบั มา
ไดแลวขาดพยานหลักฐานกไ็ มอาจเอาผิดแกต ัวนกั การพนนั เหลา นนั้ ได ฉะนัน้ จึงจาํ ตองมีบทบญั ญตั ิ
ท้ัง ๒ มาตราน้ีไว เพ่ือประโยชนในการปองกันและปราบปรามผูกระทําความผิด เมื่อกรณีเขา
ขอสันนษิ ฐานของกฎหมายแลว ศาลยอ มลงโทษผนู นั้ ได
μÇÑ ÍÂÒ‹ §
๑) ยนื อยูใ นวงการพนนั โดยยืนชิดหรือหันหนาเขาวงเลน เขา ขอ สันนิษฐานวาเลน ดว ย
๒) เพยี งแตอ ยใู นหองเลนการพนนั ไมเขา ขอสันนิษฐานวา เลนดวย
๓) สําหรับผูจัดใหมีการเลนพนัน จะลงโทษฐานเปนผูจัดใหมีการเลนไดจะตองได
ความวาจาํ เลยเกย่ี วขอ งในการเลนพนนั นน้ั ในฐานะเปน ผจู ดั ใหม กี ารเลน ขึ้น และอยา งไรเปนความผิด
ตามขอ น้ี โปรดพิจารณาจากตัวอยา งตอ ไปนี้
- ผดู ูตน ทางมฐี านะเปน ผูจัดใหมีการเลน ดว ย
- จัดใหมีการเลนการพนันแลวไมมีความผิดฐานเปนผูสนับสนุนตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ อกี
- การจัดใหมีการเลนการพนันหลายวงในสถานท่ีเดียวกันและวาระเดียวกัน
เปนความผิดกรรมเดยี ว
- เจาของบานรูเห็นเปนใจในการเลนการพนันโดยเรียกเก็บคาตง ผิดตาม
มาตรา ๑๒ ดวย
๖
ÁÒμÃÒ ÷ ใบอนุญาตทุกฉบับตองกาํ หนด
(๑) ลกั ษณะขอ จํากัดและเงอ่ื นไขของการเลนพนันโดยชดั แจง
(๒) สถานท่ี วัน เดือน ป และกําหนดเวลาท่ีอนุญาตใหเลน ถาเปนใบอนุญาต
สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ และสวปี ใหร ะบจุ าํ นวนสลากทจี่ ะขายกบั สถานที่ วนั และเวลาทจ่ี ะออกดว ย
(๓) จาํ นวนบคุ คลผจู ะเขา เลน มกี าํ หนดหรอื ไมแ ละไมใ หบ คุ คลอายตุ าํ่ กวา ๒๐ ปบ รบิ รู ณ
หรอื ไมบ รรลุนิตภิ าวะเขา เลน ดว ย เวน แตการเลน ตามบญั ชี ข. หมายเลข ๑๖
ÁÒμÃÒ ø การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคโดยวิธีใดๆ ในการ
ประกอบกจิ การคาหรอื อาชีพ จะตอ งไดรับอนญุ าตจากเจาพนกั งานผูออกใบอนญุ าตกอนจงึ ทําได
ÁÒμÃÒ ñô “ผูใดฝาฝนบทบัญญัติมาตรา ๘ มีความผิดตองระวางโทษจําคุกไมเกิน
๑ ป หรอื ปรับตั้งแต ๕๐ บาทข้ึนไปจนถงึ ๒,๐๐๐ บาท หรือทง้ั จําทัง้ ปรับ”
¤Ó͸ԺÒÂ
การจัดแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคโดยวิธีการใดๆ ทางการคา ตองไดรับ
อนุญาตจากเจาพนักงานกอนจึงจะทําได หากทําไปโดยไมไดรับอนุญาตยอมมีความผิดท่ีกฎหมาย
บญั ญัติมาตรานข้ี ้นึ มจี ุดมงุ หมาย ๒ ประการ คอื
๑) การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคดวยวิธีใดๆ ในการประกอบ
กิจการคาหรืออาชีพนี้ ปกติผูเลนก็ซ้ือสินคาอยูแลว มีโอกาสไดเส่ียงโชคโดยไมตองเสียอะไรเพิ่มเติม
อีกเลย ถาพิจารณาโดยเครงครัดก็ไมถือวาเปนการเลนการพนัน เปนทางออกของผูจัดใหมีการเลน
อาจจะจัดใหมีการเลนเส่ยี งโชคทีก่ ฎหมายหา มเด็ดขาดคอื การเลนตามบญั ชี ก. ได
๒) เพ่ือเปดทางใหเจาหนาที่ควบคุมการจัดใหมีการเลนแถมพกหรือรางวัลดวยการ
เส่ียงโชค โดยวิธีใดๆ น้ีจัดใหมีการเลนอยูในขอบเขตแหงความยุติธรรม ไมเปนการเอาเปรียบ
หวังหลอกลวงประชาชนจนเกินไป และการจดั น้ีเจาหนา ทส่ี ามารถควบคมุ ไดดว ย
อยางไรจึงจะถือวาเปนการจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคท่ีมีความผิด
ซง่ึ ผูซ้ือ อาจไดหรอื ไมไ ดข องแถมหรอื รางวลั
μÑÇÍÂÒ‹ §
๑) ขายของทสี่ อดธนบตั รไวข า งใน (บางหอ ) ในราคาสงู กวา ทอ งตลาด (ฎ. ๑๕๒/๒๔๙๓)
๒) ขายของโดยแถมรูปภาพ หากผูซื้อสะสมรูปภาพไดครบจํานวนท่ีกําหนดจะนําไป
แลกของมีคา ได (ฎ. ๔๕๓/๒๔๘๓)
๓) ขายของโดยแถมบตั รสมนาคุณ ซึ่งมตี ัวเลขเหมอื นสลากกินแบงรฐั บาล หากใครได
บัตรตรงกบั เลขรางวลั สลากกนิ แบงทอ่ี อกจะไดร างวัล (ฎ. ๗๓๓/๒๔๙๘)
แตถาผูซื้อทุกคนมีสิทธิไดเหมือนกันหมดโดยไมตองเส่ียงโชค หรือเปนการใหเปลา
โดยไมตองซื้อยอมไมเปนความผิด เชน แจกบัตรแกทุกคนท่ีเขารานสําหรับทายสลากกินแบง
ผทู ายถกู จะไดรางวลั โดยไมจํากดั วาตอ งซ้ือสนิ คา หรือไมย อมไมมคี วามผดิ (ฎ. ๑๔๙๓/๒๔๗๙)
๗
ÁÒμÃÒ ù สลากกนิ แบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลน อยา งใดทเ่ี สยี่ งโชคใหเ งนิ
หรือประโยชนอยางอ่ืนแกผูเลนคนหน่ึงคนใดนั้น ตองสงสลากใหเจาพนักงานผูออกใบอนุญาต
ประทบั ตราเสยี กอ น จงึ นําออกจําหนา ยได
ถายังมิไดรับอนุญาตใหมีการเลนที่กลาวไวในวรรคกอน หามมิใหประกาศโฆษณา
หรอื ชกั ชวน โดยทางตรงหรือทางออ มใหบุคคลใดๆ เขารวมในการเลนนัน้
ÁÒμÃÒ ù ·ÇÔ หา มมใิ หผ ใู ดเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอี่ อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙
และท่ยี ังมิไดออกรางวลั เกนิ ราคาทก่ี าํ หนดในสลาก
ÁÒμÃÒ ù μÃÕ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๙ ทวิ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเกิน ๑ เดอื น หรือปรับ
ไมเ กนิ หนึ่งพนั บาท หรือทงั้ จาํ ทั้งปรับ
¤Ó͸ºÔ ÒÂ
การเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอ่ี อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙ หมายถงึ การเสนอขาย
สลากกินแบง สลากกินรวบและสวีป หรือการเลนอยางใดท่ีเส่ียงโชคดวยการใหเงินหรือประโยชน
อยางอื่นแกผูเลน เชน สลากกาชาดของกรมอัยการหรือจังหวัด สลากคุมเกลา เปนตน การขาย
สลากเหลาน้ีจะตองไดรับอนุญาตจากพนักงานเจาหนาที่กอน และการอนุญาตนั้น เจาพนักงาน
จะประทับตราอนุญาตลงในสลากนั้นๆ หรือประทับตราอนุญาตลงที่ตนขั้วสลาก และถายังไมไดรับ
อนุญาตดังกลาวกฎหมายหามมิใหมีการประกาศโฆษณาหรือชักชวนไมวาจะโดยทางตรง
หรอื ทางออ มใหบคุ คลใดๆ เขารวมในการเลน ดวย
สวนการขายสลากกินแบงเกินราคานั้น จะตองเปนกรณีท่ีสลากกินแบงน้ันยังมิไดออก
รางวัลจะเปนความผิดฐานน้ี เชน ขายสลากกินแบงรัฐบาลที่ยังไมออกรางวัลใบละ ๒๐ บาท ไปใน
ราคา ๒๒ บาท เปน ตน ถา สลากออกรางวลั แลว ไมว า จะถกู รางวลั หรอื ไม หากขายไปเกนิ ราคาทกี่ าํ หนด
มากนอยเทาใดยอ มไมเ ปน ความผดิ อกี
ÁÒμÃÒ ñð ทรัพยสินพนันกันซ่ึงจับไดในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัตินี้
หรือขัดตอขอความในกฎกระทรวง หรือใบอนุญาตซ่ึงออกตามพระราชบัญญัติน้ีใหริบเสียท้ังส้ิน
เวนแตทรพั ยสนิ ซ่ึงมไิ ดเอาออกพนัน
เครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ นการเลนน้นั ใหศาลมอี าํ นาจริบไดต ามกฎหมายลกั ษณะอาญา
¤Ó͸ºÔ ÒÂ
ทรพั ยส นิ ทจ่ี บั ไดใ นวงการเลน ซง่ึ เปน ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี กฎหมายบงั คบั
ไววาใหริบเสียทรพั ยสนิ ดังกลา ว แยกพจิ ารณาไดดงั นีค้ ือ
๑) ทรัพยสินพนัน หากจับไดในวงการเลนยอมเปนทรัพยสินที่ตองริบเสียท้ังสิ้น
โดยเด็ดขาด เชน เงินทอง ขาวของที่ใชเปนทรัพยสินพนัน แตถาทรัพยสินน้ันมิไดเอาออกพนัน
หากจับไดท ี่ตวั ผูตอ งหาในภายหลงั ยอมริบไมได
๘
๒) เครอื่ งมอื ท่ีใชใ นการเลนพนนั อยูในดลุ พนิ จิ ของศาลทีจ่ ะริบหรอื ไม อาทเิ ชน
- เส่ือและตะเกียงเปนของใชธรรมดา ไมมีสภาพเปนเคร่ืองมือเครื่องใชในการเลน
จะรบิ ไมได
- โทรทัศนที่ผูดูใชทาพนันผลการแขงขันชกมวยไมใชเครื่องมือเคร่ืองใชในการเลน
พนันชกมวย จะริบไมไ ด
- เสื่อที่ใชปูรองการเลนพนัน เปนเครื่องมือเครื่องใชในการกระทําผิดในการเลน
การพนัน ถือไดวาเปนทรัพยที่ใชในการกระทําผิด ศาลริบไดในฐานะท่ีใชเปน
เคร่ืองมอื ท่ีใชในการเลน
- โตะบิลเลียดไฟฟา ริบเปนอุปกรณใชในการเลนพนัน สล็อตแมชชีนที่จับไดใน
วงพนัน ศาลรบิ ได
การกระทาํ ความผดิ ฐานน้แี มไมม เี จตนาก็เปนความผดิ
ó. º·¡Ó˹´â·É
การกระทาํ ความผดิ ฐานนต้ี อ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ เดอื น หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๑,๐๐๐ บาท
หรอื ท้ังจําท้งั ปรับ
ÁÒμÃÒ ñò “ผูใดจัดใหมีการเลน หรือทําอุบายลอชวยประกาศโฆษณาหรือชักชวน
โดยตรงหรือออมใหผูอ่ืนเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนซ่ึงมิไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน หรือรับ
อนุญาตแลวแตเลนพลิกแพลง หรือผูใดเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนอันขัดตอบทแหงพระราช
บญั ญัตินีห้ รอื กฎกระทรวง หรอื ขอ ความในใบอนุญาต ผนู น้ั มีความผดิ ดงั ตอ ไปนี้
๑. ถาเปนความผดิ ในการเลน ตามบัญชี ก. หมายเลข ๑ ถึงหมายเลข ๑๖ หรอื การเลน
ตามบัญชี ข. หมายเลข ๑๖ เฉพาะสลากกนิ รวบ หรอื การเลน ซ่งึ มีลกั ษณะคลายกันน้ี ตอ งระวางโทษ
จาํ คุกต้งั แต ๓ เดอื นขน้ึ ไป จนถงึ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาทขนึ้ ไปจนถึง ๕,๐๐๐ บาท ดว ยอกี
โสดหนงึ่ เวน แตผ เู ขา เลน หรอื เขา พนนั ทเ่ี รยี กวา ลกู คา ใหจ าํ คกุ ไมเ กนิ ๓ ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๕,๐๐๐ บาท
หรือทั้งจําทั้งปรับ
๒. ถาเปนความผิดในการเลนอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน
๒ ป หรอื ปรบั ไมเ กิน ๒,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรบั เวน แตค วามผดิ ตามมาตรา ๔ ทวิ ตอ งระวางโทษ
จาํ คุกไมเกิน ๑ ป หรอื ปรบั ไมเกนิ ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําท้ังปรับ
¤Ó͸ºÔ ÒÂ
การจัดใหผูอื่นเขาเลนการพนัน หรือพนันในการเลน หมายถึง การเปนหัวหนาหรือ
ผนู ําในการเลนทีเ่ รียกกันท่ัวๆ ไปวาหัวหนาบอ นการพนนั หรอื นายวงการพนัน หรอื เจา มือ
การทําอุบายลอใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันหรือพนันในการเลน ไดแก การใชอุบายดวย
วิธีใดๆ ก็ไดเพ่ือชักชวนใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันดวย พวกทําอุบายลอน้ีรูจักกันดี ในช่ือวา หนามา
๙
เชน ก. จัดใหมีการเลนการพนัน ข. ตองการชวย ก. หาลูกคาในการเลนการพนัน จึงทําอุบายเปน
ลูกคาเลนการพนันกับ ก. เปนทํานองวาการเลนนั้นมีโอกาสจะไดมากกวาเสีย เพื่อใหนาย ค. กับ
นาย ง. ซ่ึงผานไปมาเขาเลนดวย ที่พบเห็นกันทั่วไป เชน การเลนพนันไพสามใบบนรถประจําทาง
มักจะมีหนามาทําอุบายชักชวนเสมอ และการเลนลูกเตา ไฮโล ก็มักจะมีผูกระทําตนเปนหนามา
หรอื นกตอ แกลง ทําเปน ชนะการพนันโดยรกู ันกบั เจา มือเพื่อหลอกใหลูกคา หลงเชอื่ เขา พนนั ดว ย
การชว ยประกาศโฆษณาหรอื ชกั ชวนโดยทางตรงทางออ ม กม็ ที าํ นองเดยี วกนั กบั ทาํ อบุ าย
ดังกลาวมาแลว
ÁÒμÃÒ ñõ นอกจากโทษทม่ี บี ญั ญตั ไิ วแ ลว ในพระราชบญั ญตั นิ ้ี ถา เปน กรณที ม่ี ผี นู าํ จบั
ผูกระทําผิด ใหพนักงานอัยการรองขอตอศาลใหจายสินบนแกผูนําจับดวย และใหศาลส่ังไวใน
คําพิพากษาใหผูกระทําผิดใชเงินสินบนแกผูนําจับก่ึงหน่ึงของจํานวนเงินคาปรับดวยอีกโสดหน่ึง
ถา ผกู ระทาํ ผดิ ไมช าํ ระสนิ บนดงั กลา วใหจ า ยจากเงนิ ทไ่ี ดจ ากของกลางซงึ่ ศาลสง่ั รบิ เมอื่ คดถี งึ ทสี่ ดุ แลว
หรือจายจากเงินคาปรบั ท่ไี ดชําระตอ ศาล
®¡Õ Ò·Õ蹋Òʹã¨
®¡Õ Ò·èÕ õõ/òõñð ในคดีท่ีเจาพนักงานตาํ รวจซึ่งเปนพยานโจทกเบิกความวา
ผูประสงคเงินสินบนนาํ จับมาแจงวา ท่ีบานจาํ เลยลักลอบเลนการพนัน ไดระบุถึงผูเลนและเลนอยู
ตรงสวนไหนของบาน ผูแจงบอกใหเขาทางหลังบาน เจาพนักงานตํารวจอีกผูหน่ึงก็ไดสอบถามผูมา
แจงตามขอเท็จจริง เชนนี้ ถือไดวาผูท ่มี าแจง น้ันเปน ผูน ําจบั ตามความใน พ.ร.บ.การพนนั แลว
®¡Õ Ò·èÕ ó÷ø/òõñö ศาลช้ันตนพิพากษาลงโทษจําเลยฐานเปนผูจัดใหมีการเลนพนัน
โดยเปนเจามอื จาํ คุก ๔ เดือน และปรับ ๖๐๐ บาท ศาลอุทธรณฟง วา จําเลยเปนผเู ขาเลนในฐานะ
ลูกคาเทานั้น พิพากษาแก ลงโทษปรับสถานเดียว ๖๐๐ บาท ดังน้ี แมจะเปนการแกไขมากก็อยูใน
บังคบั แหงมาตรา ๒๒๐ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ฎกี าในปญหาขอเทจ็ จรงิ ไมไ ด
®Õ¡Ò·Õè ñòóø/òõñ÷ เส่ือ แมโดยสภาพจะใชรองนั่งนอนก็ดี แตเม่ือจาํ เลยไดใช
ปูรองเลนการพนัน ก็เปนเครื่องมือท่ีใชในการกระทําผิดในวงเลนการพนัน ถือไดวาเปนทรัพยที่ไดใช
เปนเคร่ืองมือประกอบในการกระทําผิด ศาลยอมมีอํานาจริบได ตาม พ.ร.บ.การพนัน ๒๔๗๘
มาตรา ๑๐ ประกอบกับ ป.อ.มาตรา ๓๓(๑)
®¡Õ Ò·èÕ òöôö/òõòñ การท่ีผูดูโทรทัศนทาพนันผลของการแขงขันชกมวย หาได
ทําใหเคร่ืองรับโทรทัศนเปนเคร่ืองมือเคร่ืองใชในการเลนการพนันการชกมวยตามความหมายแหง
พระราชบญั ญตั กิ ารพนนั โดยแทจ ริงไม จึงไมรบิ เคร่ืองรบั โทรทศั นข องกลาง
®Õ¡Ò·èÕ ñøõù/òõò÷ ผูรองเปนเจาของรานคา ในวันเสารวันอาทิตยจะยก
เครื่องรับโทรทัศนของกลางจากชั้นบนลงมาเปดบริการลูกคาที่ชั้นลาง เพื่อใหลูกคาดูรายการมวย
จะฟงวาเพื่อสนับสนุนใหจาํ เลยเลนการพนันกันหาไดไม ผูท่ีดูมวยโดยไมเลนการพนันมีอยูไมนอย
โทรทศั นข องกลางจงึ ไมเ ปน เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ นการทา พนนั ผลการแขง ขนั การชกมวย ตอ งคนื แกผ รู อ ง
๑๐
®¡Õ Ò·èÕ òù/òõóñ เครื่องรับโทรทัศนซ่ึงใชในการถายทอดรายการมวยท่ีจาํ เลยที่ ๑
จัดใหจาํ เลยอื่นเลนการพนันนั้น มิใชอุปกรณที่มีสภาพหรือลักษณะที่ใชในการเลนการพนัน ดังน้ัน
การท่ีมีผูตกลงใชรายการใดรายการหนึ่งในการเผยแพรภาพทางเคร่ืองรับโทรทัศนมาใชเสี่ยงทาย
หรือเปนเงื่อนไขในการเลนการพนัน จึงไมทําใหเครื่องรับโทรทัศนเปนเครื่องมือเครื่องใชในการเลน
การพนนั ไปดวย
®Õ¡Ò·èÕ ñðòø/òõóñ ขณะเลนการพนันบิลเลียดเพ่ือความร่ืนเริงในสมาคมท่ีสมาคม
ผูรองซึ่งมีโตะบิลเลียดทั้งหมด ๕ โตะเรียกเก็บคาเกมตามสมควร ยอมอยูในบังคับของกฎกระทรวง
ทใ่ี หจ ดั ขน้ึ ไดโ ดยไมต อ งมใี บอนญุ าตอนั สามารถเลน การพนนั กนั ได ตามบทบญั ญตั แิ หง พระราชบญั ญตั ิ
การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔ วรรคสาม โตะบิลเลียด ลูกบิลเลียด และไมคิวของกลางท่ีผูรอง
ขอคืน จึงไมเปนเคร่ืองมือที่ใชในการเลนการพนัน โดยขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติดังกลาว
ซ่งึ มาตรา ๑๐ วรรคสอง บญั ญตั ิใหศาลมีอาํ นาจรบิ ได
®¡Õ Ò·Õè øõò/òõóò จําเลยสั่งจายเช็คพิพาทใหโจทกเพื่อชําระหนี้การเลนพนัน
สลากกนิ รวบเปน หนี้ท่ไี มส มบูรณ ฟอ งบงั คับไมไ ด
®Õ¡Ò·Õè ó÷ó÷/òõóò คาํ ฟองของโจทกท ่ีบรรยายวา จําเลยทั้งหมดกบั พวกไดร วมกัน
เลนการพนันปอกแปดเกาหรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายปอก มีวิธีการเลนซึ่งดัดแปลงมาจาก
การเลนแปดเกา อนั ระบไุ วใ นบญั ชี ก. อันดบั ที่ ๕ และการเลนปอกอันระบไุ วใ นบญั ชี ก. อันดบั ที่ ๑๑
ยอมเปนที่เขาใจไดแลววา จําเลยทั้งหมดกับพวกเขาพนันในการเลนอยางเดียว โดยมีวิธีการเลน
ทพ่ี ลกิ แพลงนาํ เอาการเลน แปดเกา กบั การเลน ปอ กเขา มารวมกนั แลว เรยี กชอ่ื ใหมว า ปอ กแปดเกา จาํ เลย
ใหการรับสารภาพตลอดขอหา แสดงวาเขาใจในวิธีการเลนการพนันตามท่ีโจทกกลาวในฟองแลว
เปนอยางดี คาํ ฟองของโจทกก ็ไมเ คลือบคลุม
®Õ¡Ò·èÕ ø÷ô/òõòò จาํ เลยท่ี ๑ เปนเจามือผูจัดใหมีการเลนการพนันสลากกินรวบ
ซึ่งเปนการพนันที่มอมเมาประชาชน เปนอบายมุขที่กอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติ
บานเมือง ของกลางที่ยึดไดเปนเงินสด ๑,๖๕๐ บาท และใบโพย ๑๓ แผน คิดเปนจาํ นวนเงินถึง
๒๐,๐๐๐ บาทเศษ แสดงวา จาํ เลยท่ี ๑ เปน เจา มอื รายใหญ ศาลยอมไมร อการลงโทษจาํ เลย
®Õ¡Ò·Õè ñóù/òõóó ฟองวา จาํ เลยบังอาจจัดใหมีการเลนเคร่ืองเลนไฟฟาจักรกล
(ว.ี ด.ี โอ.เกม) อนั เปน การพนนั ตามท่รี ะบุไวในบัญชี ข. ลาํ ดบั ท่ี ๒๘ ทา ย พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘
โดยจาํ เลยเกบ็ เงินจากผเู ขา เลน ในอตั ราชัว่ โมงละ ๑๐ บาท อนั เปนทางนาํ มาซ่ึงผลประโยชนแกจําเลย
ผจู ดั โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากเจา พนกั งาน ดงั นฟี้ อ งของโจทกไ ดบ รรยายถงึ การกระทําทงั้ หลายทอี่ า งวา
จาํ เลยไดกระทาํ ผิด อีกท้ังบุคคลและสิ่งของท่ีเก่ียวของพอสมควรท่ีจะใหจาํ เลยเขาใจขอหาไดดีแลว
ฟอ งโจทกจ ึงสมบูรณชอบดวย ป.ว.ิ อ. มาตรา ๑๕๘(๕) แลว
เม่ือจําเลยเปนผูจัดใหมีการเลนเครื่องเลนไฟฟาจักรกล (วี.ดี.โอ.เกม) อันเปนการพนัน
ตามที่ระบุไวในบัญชี ข. ลําดับท่ี ๒๘ เพ่ือนํามาซ่ึงผลประโยชนแกจําเลยโดยไมไดรับอนุญาตจาก
๑๑
เจาพนักงานจําเลยยอมมีความผิดตามท่ีโจทกฟอง โดยไมจําตองบรรยายฟองใหปรากฏวาผูเลน
จะไดเลนพนันเอาทรัพยสินกันหรือไม เพราะแมผูเลนจะไมไดเลนพนันเอาทรัพยสินกัน การกระทํา
ของจําเลยกเ็ ปนความผดิ
®Õ¡Ò·èÕ òðôù/òõóó การพนันสลากกินรวบเปนส่ิงที่มอมเมาประชาชน และเปน
อบายมุขที่กอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติบานเมือง สมควรแกการกาํ ราบปราบปราม
มิใหมีการเลนอีกตอไป เจาพนักงานจับจาํ เลยได พรอมดวยสมุดจดหมายเลขสลากกินรวบ ๒ เลม
แตละเลมจดรายการเลนการพนันดังกลาวหลายรายการ ถือไมไดวาจาํ เลยเปนผูเลนรายยอย จึงยัง
ไมสมควรที่จะรอการลงโทษจําคุกจาํ เลย เมื่อศาลไมไดลงโทษปรับจําเลย จึงไมอาจสั่งใหจาํ เลย
จายสนิ บนนําจับได
๑๒
ºÞÑ ªÕ ¡.
๑. หวย ก. ข. ๑๗. การเลน ซงึ่ มกี ารทรมานสตั วเชน เอามอื หรอื
๒. โปปน หนามผูกหรือวางยาเบื่อยาเมาใหสัตวชน
๓. โปกํา หรือตอสูกัน หรือสุมไฟบนหลังเตาใหว่ิง
๔. ถั่ว แขงขันหรือการเลนอ่ืนๆ ซ่ึงเปนการ
๕. แปดเกา ทรมานสัตว อันมีลักษณะคลายกับท่ีวา
๖. จับยก่ี ี มานี้
๗. ตอ แตม
๘. เบี้ยโบก หรอื คคู ี่ หรอื อโี จง ๑๘. บลิ เลยี ดรู ตีผี
๙. ไพส ามใบ ๑๙. โยนจม่ิ
๑๐. ไมส ามอัน ๒๐. สเ่ี หงาลัก
๑๑. ชางงา หรอื ปอ ก ๒๑. ขลุกขลกิ
๑๒. ไมด ํา ไมแ ดง หรอื ปลาดาํ ปลาแดง หรือ ๒๒. นํา้ เตาทุกๆ อยาง
๒๓. ไฮโล
อีดาํ อีแดง ๒๔. อกี อย
๑๓. อโี ปงครอบ ๒๕. ปนแปะ
๑๔. กําตดั ๒๖. อโี ปงซดั
๑๕. ไมหมุน หรอื ลอหมุนทกุ ๆ อยา ง ๒๗. บาการา
๑๖. หวั โตทายภาพ ๒๘. สลอ็ ตแมชชีน
๑๓
ºÑÞªÕ ¢.
๑. การเลนตา งๆ ซ่งึ ใหสัตวตอ สูหรอื แขง ขัน ๑๗. โตแตไลเซเตอร สําหรับการเลนอยางใด
เชน ชนโค ชนไก กัดปลา แขงมา ฯลฯ อยางหนง่ึ
นอกจากท่กี ลา วไวใ นหมายเลข ๑๗ แหง
บญั ชี ก. ๑๘. สวีป สาํ หรบั การเลนอยางใดอยา งหนึ่ง
๑๙. บกุ เมกงิ สาํ หรบั การเลน อยา งใดอยา งหนงึ่
๒. วง่ิ วัวคน ๒๐. ขายสลากกินแบง สลากกินรวบหรือสวีป
๓. ชกมวย มวยปล้ํา
๔. แขง เรือพุง แขง เรือลอ ซ่ึงไมใชออกในประเทศไทย แตไดจัดใหมี
๕. ช้ีรูป ข้ึนโดยชอบดวยกฎหมายของประเทศที่
๖. โยนหว ง จัดนนั้
๗. โยนสตางคห รอื วัตถใุ ดๆ ลงในภาชนะ ๒๑. ไพนกกระจอก ไพตอ แตม ไพตางๆ
๒๒. ดวด
ตางๆ ๒๓. บิลเลียด
๘. ตกเบ็ด ๒๔. ของออ ย
๙. จบั สลากโดยวิธใี ดๆ ๒๕. สะบา ทอย
๑๐. ยิงเปา ๒๖. สะบาชุด
๑๑. ปาหนาคน ปาสตั ว หรอื ส่ิงใดๆ ๒๗. ฟุตบอลโตะ
๑๒. เตา ขามดา น ๒๘. เครื่องเลนซ่ึงใชเคร่ืองกล พลังไฟฟา
๑๓. หมากแกว พลังแสงสวาง หรือพลังอ่ืนใดท่ีใชเลน
๑๔. หมากหัวแดง โดยวธิ สี มั ผสั เลอ่ื น กด ดดี ดงึ ดนั ยงิ โยน
๑๕. บงิ โก โยก หมุน หรือวิธีอ่ืนใดซ่ึงสามารถทําให
๑๖. สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ หรอื การเลน แพชนะกันได ไมวาจะโดยมีการนับแตม
หรอื เครอ่ื งหมายใดๆ หรือไมก ็ตาม
อยางใดท่ีเสี่ยงโชคใหเงินหรือประโยชน
อยา งอื่น แกผ เู ลน คนใดคนหนึง่
๑๔
¤Ó¢Í͹ØÞÒμ¨Ñ´ãËÁŒ Õ¡ÒÃàŹ‹ ¡Òþ¹Ñ¹
เขยี นท่ี..........................................
วันที.่ ............เดอื น...............................พ.ศ.................
ขา พเจา ..............................................................อาย.ุ ...............ป สญั ชาต.ิ ......................
บา นเลขท.ี่ ..................หมทู .่ี ........ตาํ บล.......................อาํ เภอ........................จงั หวดั .........................
ย่ืนคาํ ขอตอ เจา พนกั งานผูออกใบอนุญาต.......................................................................................
ดว ยขา พเจา มคี วามประสงคข อรบั ใบอนญุ าตจดั ใหม กี ารเลน การพนนั ............................
จาํ นวน...................มกี าํ หนด..................ณ ทหี่ รอื บา นเลขท.่ี ............................หมทู .ี่ .......................
ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวัด.........................................
ขาพเจาจะปฏิบัติตามกฎหมายวาดวยการพนันกับลักษณะขอจํากัด และเงื่อนไขของ
การเลนการพนนั ดังระบุไวหลังใบอนญุ าต
ลายมือช่อื .........................................ผูร องขอ
ลายมือชื่อ.........................................ผเู ขียน
๑๕
รับคาํ ขอวันท่.ี ............/............../..............
ลายมือชื่อ........................................................ผูรบั คาํ ขอ
ตําแหนง .................................................
คาํ ส่ัง....................................................
ลายมือช่ือ........................................................ชอ่ื เจา พนกั งานผอู อกใบอนญุ าต
วันท.ี่ ............./............../..............
ตาํ แหนง..........................................
กรณีการอนญุ าตตอ งไดรับอนุมัติจากผูบ ัญชาการตํารวจนครบาล
ผวู า ราชการจังหวดั หรือกระทรวงมหาดไทย
๑. เสนอ.................................................................................................................
..........................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
ลายมือชือ่ ........................................................เจา พนกั งานออกใบอนุญาต
วันท่.ี ............./............../..............
ตาํ แหนง ..........................................
๒. เสนอ................................................................................................................
..........................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
ลายมอื ชอ่ื ............................................
วนั ที่............../............../..............
ตําแหนง.........................................
๓. คาํ สงั่ ..................................................................................................................
......................................................................................................................................................
ลายมือช่อื ..............................................ผสู ั่ง
วันท.ี่ ................/................./..................
ตาํ แหนง .................................................
¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ÇŒ ¡Òþ¹¹Ñ ๑๖
ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ
๑. (๑) ผจู ดั ใหมกี ารเลน โดยไมไดรับอนญุ าต ๑.๑ บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จําคุกตั้งแต ๓ เดือนข้ึนไป จนถึง
(๒) ผูทําอุบายลอ ชวยประกาศโฆษณา หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาท
ชกั ชวนโดยตรง หรอื โดยออ มใหผ อู นื่ เขา เลน (เฉพาะสลากกนิ รวบ) ข้นึ ไป จนถึง ๕,๐๐๐ บาท
หรือเขาพนันในการเลนทีไ่ มไดร ับอนุญาต หรอื การเลน ซง่ึ มลี กั ษณะคลา ยกนั
(๓) ผูไดรบั อนญุ าตแลวแตเ ลน พลกิ แพลง ๑.๒ การเลนอ่นื ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จําคุกไมเกิน ๒ ป หรอื ปรับไมเกนิ
บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ทัง้ ปรบั
บัญชี ข. นอกจากหมายเลข ๑๖
หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั
ยกเวน การเลนในขอ ๑.๓
๑.๓ การเลนอื่นใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒) - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ ป หรือปรบั ไมเ กนิ
ในบัญชี ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทง้ั จาํ ทง้ั ปรบั
ก. และบัญชี ข. ที่มิไดระบุช่ือ
และเงอื่ นไขไวใ นกฎกระทรวง
(มาตรา ๔ ทว)ิ
๒. ผเู ขาเลน หรอื เขาพนนั ทีเ่ รียกวา “ลกู คา ” บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จาํ คกุ ไมเกิน ๓ ป หรอื ปรับไมเกิน
บญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ ๕,๐๐๐ บาท หรือทงั้ จําทั้งปรับ
(เฉพาะสลากกินรวบ)
หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั
¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇ‹Ò´ÇŒ ¡Òþ¹Ñ¹
ÅӴѺ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤»ÃСͺ¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ
๓. ผูเขาเลน หรอื เขา พนนั ในการเลน ทข่ี ัดตอ ๓.๑ การเลน อนื่ ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จําคกุ ไมเ กนิ ๒ ป หรอื ปรับไมเ กิน
- บทบญั ญตั ิแหง พระราชบัญญตั ิน้ี หรือ บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ท้งั ปรบั
- กฎกระทรวง หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ (เฉพาะ
- ขอความในใบอนญุ าต สลากกินรวบ) หรือการเลนซ่ึงมี - จาํ คุกไมเ กิน ๒ ป หรอื ปรับไมเ กนิ
ลกั ษณะคลา ยกัน ยกเวน การเลน ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จาํ ทง้ั ปรบั
ในขอ ๓.๒
๓.๒ การเลนอ่ืนใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒)
บัญชี ก. และบญั ชี ข. ทีม่ ไิ ดร ะบุ
ชื่อและเงื่อนไขไวในกฎกระทรวง
(มาตรา ๔ ทวิ)
๔. ผูฝา ฝน มาตรา ๔ วรรคสี่ โดย บญั ชี ข. หมายเลข ๕-๑๕ หรือการเลน มาตรา ๔ วรรคส่ี - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๓เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ
(๑) ใหร างวลั ตีราคาเปน เงิน หรือ ซง่ึ มลี กั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลน อนื่ ใด และมาตรา ๑๓ ๕๐๐ บาท หรอื ท้ังจาํ ทงั้ ปรบั
(๒) รับกลบั คนื รางวัล หรือ ซ่ึงรัฐมนตรีฯ ไดออกกฎกระทรวงระบุ
(๓) รบั ซ้ือรางวัล หรอื เพมิ่ เตมิ ไว
(๔) แลกเปลี่ยนรางวัล
ในสถานงาน หรอื การเลน หรอื บรเิ วณตอ เนอื่ ง
ในระหวางมีงาน หรอื การเลน
๕. ผเู สนอขาย หรอื ขายสลากกนิ แบง ทย่ี งั มไิ ดอ อก บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ สลากกนิ แบง มาตรา ๙ ทวิ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ
รางวัลเกินกวา ราคาทีก่ าํ หนดในสลาก และมาตรา ๙ ตรี ๑,๐๐๐ บาท หรือท้ังจําท้งั ปรบั
๑๗
¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇ‹Ò´ÇŒ ¡Òþ¹Ñ¹ ๑๘
ÅÓ´ºÑ ¢ÍŒ ËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ
๖. ผจู ดั ใหม กี ารแถมพก หรอื รางวลั ดว ยการเสย่ี งโชค แถมพก หรอื ใหร างวลั ดว ยการเสย่ี งโชค มาตรา ๘ และ - จําคุกไมเกิน ๑ ป หรือปรับต้ังแต
โดยวธิ ใี ดๆในการประกอบกจิ การคา หรอื อาชพี โดยวธิ ใี ดๆ มาตรา ๑๔ ๕๐ บาท ถึง ๒,๐๐๐ บาท หรือ
โดยไมไ ดร ับอนญุ าต ทง้ั จําท้งั ปรับ
๑๙
º··èÕ ò
¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÍÔ ÒÇظ»¹„ à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊع»¹„ ÇμÑ ¶ØÃÐàº´Ô ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§
ÊèÔ§à·ÂÕ ÁÍÒÇظ»¹„ ¾.È.òôùð
ñ. ÇÑμ¶»Ø ÃÐʧ¤¡ÒÃàÃչ̻٠ÃШӺ·
๑.๑ เพ่ือใหนักเรียนมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน
วตั ถุระเบดิ ดอกไมเพลงิ สิง่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐
๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี
ความผดิ ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ สงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐
๑.๓ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม
พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครือ่ งกระสุนปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง ส่งิ เทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐
ò. ʋǹ¹Ó
พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สิ่งเทียมอาวุธปน
พ.ศ.๒๔๙๐ เปนกฎหมายที่มีความสําคัญ เพราะเปนกฎหมายที่ควบคุม วัตถุท่ีใชประกอบ
อาชญากรรมท่ีมีความรายแรง โดยการนําเอาสิ่งเหลาน้ันเขามาสูระบบเพื่อควบคุมผูท่ีมีสิทธิที่จะถือ
อาวธุ หรอื ควบคมุ ความรา ยแรงของอาวธุ ซงึ่ จะทาํ ใหร ะดบั ความรนุ แรงของอาชญากรรมทเี่ กดิ ขนึ้ ลดลง
ó. à¹é×ÍËÒμÒÁËÑÇ¢ŒÍ
๓.๑ ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกบั พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเพลิง
ส่ิงเทยี มอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐
๓.๒ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง
สิ่งเทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐
๓.๓ บทกาํ หนดโทษ
ô. ʋǹÊÃØ»
เปนกฎหมายที่มีความสําคัญฉบับหนึ่ง เพราะเปนกฎหมายท่ีคอยควบคุมความรายแรง
ของอาชญากรรม เพราะหากความรายแรงของอาวุธขางตนถูกนํามาใชในการประกอบอาชญากรรม
กจ็ ะทาํ ใหเ กดิ ความสญู เสยี แกส งั คมอยา งมาก หากผบู งั คบั ใชก ฎหมายเขม งวดในการบงั คบั ใชก ฎหมายนี้
ก็เทากับไดควบคุมระดับความรุนแรงของสังคมไปในตัว ซ่ึงเปนหนาที่อันพึงปฏิบัติของพนักงาน
ฝา ยปกครองหรือตํารวจ
õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó
ใหนักเรียนคนหาการจับกุมตาม พ.ร.บ.อาวุธปนฯ และนําขอมูลมาวิเคราะหอภิปราย
รวมกันในชนั้ เรยี น
๒๐
¤ÇÒÁÃÙŒ·ÑèÇä»à¡ÂèÕ Ç¡Ñº ¾.Ã.º.ÍÒÇظ»¹„ Ï
โดยท่ีความผิดเก่ียวกับ พ.ร.บ.อาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง
และสิ่งเทียมอาวุธปนเปนความผิดท่ีกระทบกระเทือนตอชีวิตและทรัพยสินตลอดจนความสงบ
เรียบรอยของประชาชน รัฐบาลจึงใหความสนใจเปนพิเศษ จะเห็นไดจากการที่กระทรวงมหาดไทย
ไดเนนถึงการปราบปรามเก่ียวกับอาวุธปน เครื่องกระสุนปน ฯลฯ ที่ใชในราชการสงครามตลอดถึง
การปกปองอาชญากรรมในรูปแบบตางๆ ที่ไดใชอาวุธรายแรงเขาทําการประหัตประหารจนเกิด
อันตรายตอ ชวี ติ และทรพั ยสินของประชาชน จงึ จาํ เปน ที่จะตองมกี ฎหมายดงั กลาวบัญญตั ิขนึ้
º·¹ÂÔ ÒÁ
ÁÒμÃÒ ô (ñ) ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÁÒ¤ÇÒÁÃÇÁμÅÍ´¶§Ö ÍÒÇ¸Ø ·¡Ø ª¹´Ô «§èÖ ãªÊŒ §‹ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„
â´ÂÇÔ¸ÕÃÐàºÔ´ËÃ×ÍกําÅѧ´Ñ¹¢Í§á¡ÊËÃ×ÍÍÑ´ÅÁËÃ×Íà¤Ã×èͧ¡Åä¡Í‹ҧ㴫èÖ§μŒÍ§ÍÒÈÑÂอํา¹Ò¨¢Í§
¾Åѧ§Ò¹áÅÐʋǹ˹èÖ§ÊÇ‹ ¹ã´¢Í§ÍÒÇظ¹¹éÑ æ «èÖ§Ã°Ñ Á¹μÃàÕ Ë¹ç Ç‹Òสํา¤ÞÑ áÅÐä´ÃŒ кØänj㹡®¡ÃзÃǧ
สวนของอาวุธปนท่ีใหถือวาเปนอาวุธปนน้ัน ไดแก สวนใดสวนหน่ึงของอาวุธปน
ตามขอ ๑ แหงกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ.๒๔๙๑ ดงั น้ี
ก. ลาํ กลอ ง
ข. เครอ่ื งลูกเล่ือน หรอื สวนประกอบสาํ คัญของเครือ่ งลกู เล่อื น
ค. เคร่อื งล่นั ไกหรอื สวนประกอบสาํ คญั ของเคร่อื งลนั่ ไก และ
ง. เคร่อื งสง กระสุน ซองกระสุนหรือสวนประกอบสําคญั ของส่งิ เหลาน้ี
สวนใดสวนหนึ่งที่กําหนดไวในกฎกระทรวงน้ีเปนอํานาจของรัฐมนตรีวาการกระทรวง
มหาดไทย
®Õ¡Ò·èÕ ñùðó/òõòð ปนท่ีไมอาจใชยิงทําอันตรายแกชีวิตและวัตถุไดก็เปนอาวุธปน
ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ และเปนอาวธุ โดยสภาพ พาไปในเมืองเปน ความผิดตาม ม.๓๗๑
®Õ¡Ò·èÕ ñôõù/òõòó อาวุธปนไมมีลูกโมและแกนลูกโม ไมสามารถใชยิงได
เปนอาวุธโดยสภาพตาม ป.อ.ม.๑ (๕) จําเลยพาไปในทางสาธารณะโดยไมมีเหตุสมควร เปน
ความผดิ ตาม ป.อ. ม.๓๗๑ และ พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ ม.๘ ทวิ แกไขโดย ป.ร. ฉบบั ที่ ๔๔
ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ขอ ๓ ซึ่งเปนบทมโี ทษหนกั
ÁÒμÃÒ ô (ò) à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ หมายความรวมตลอดถึง กระสนุ โดด กระสนุ ปราย
กระสนุ แตก ลกู ระเบิด ตอรป โด ทุน ระเบดิ และจรวดท้งั ชนิดทม่ี หี รอื ไมมกี รด แกส เช้ือเพลิง เชื้อโรค
ไอพิษ หมอกหรอื ควนั หรือกระสนุ ระเบดิ ตอรปโด ทนุ ระเบิดและจรวด ที่มคี ณุ สมบตั คิ ลา ยคลึงกัน
หรือเครอื่ งหมายสง่ิ สําหรับอดั หรอื ใชป ระกอบเครื่องกระสนุ ปน
à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊع»¹„ ตามมาตรา ๔ (๒) หมายความดังนี้
(๑) เปนเครื่องหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบเคร่ืองกระสุนปน อันไดแก
ดินปนและลูกกระสุนปน และเคร่ืองจุดระเบิดของดินปน เปนสาระสําคัญของเคร่ืองกระสุนปน
๒๑
ดงั จะเหน็ ไดจ ากลกั ษณะของปน แกป ในยคุ แรกๆ จนกระทง่ั ไดพ ฒั นาเปน กระสนุ ลกู อดั เชน ขนาด .๓๘
หรอื ๑๑ มม.
(๒) เครอ่ื งกระสนุ ปน ยงั หมายความรวมตลอดถงึ กระสนุ โดด กระสนุ ลกู ปราย กระสนุ แตก
ลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวด ซึ่งใชเปนเคร่ืองมือประหารหรือทําลายดวยแรงปะทะของ
กระสนุ ปน
(๓) เครือ่ งกระสุนปนดังกลา วในขอ (๒) ท่ีมกี รดแกส เชื้อเพลงิ เช้ือโรค ไอพษิ หมอก
หรอื ควัน เชน ปนแกสนา้ํ ตา ปนเพลิง ทีใ่ ชใ นการปราบจลาจล หรือปนท่ีใชยิงหมอกควันหรือแกส พษิ
สาํ หรบั ใชในการสงคราม เปน ตน
(๔) กระสุนของลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวดที่มีคุณสมบัติคลายคลึงกัน
ซ่ึงตามขอนี้ไดแก กระสุนปนรถถังหรอื ตอรป โ ดท่ยี งิ ไปจากเรอื ดาํ นาํ้ หรือจรวดที่ยิงจากฐานบนพืน้ ดนิ
หรอื จากเครอื่ งบนิ หรอื ทนุ ระเบดิ ทถี่ กู ยงิ จากเรอื รบไปปลอ ยไวใ นนา นนา้ํ ใดนา นนาํ้ หนงึ่ เพอื่ ดกั ทาํ ลาย
ฝา ยขา ศกึ เหลา นเี้ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ทยี่ งิ มาจากอาวธุ ปน แลว ไประเบดิ ดว ยตวั ของมนั เองอกี ชน้ั หนงึ่
®Õ¡Ò·Õè òö÷/òõò ปลอกกระสุนปนตามสภาพอาจเปนเคร่ืองหรือส่ิงสาํ หรับอัด
หรือทาํ หรือใชประกอบเครื่องกระสุนไดแตการมีอยูเพียง ๒ ปลอก และไดความวามีไวใชสวมปลอก
ไมตะพด ปลอกกระสุนปนน้ันก็ไมมีสภาพเปนเครื่องหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบ
เครอ่ื งกระสุนปนเสยี แลว
®¡Õ Ò·èÕ óõõó/òõòù ลูกระเบิดของกลางอยูในสภาพท่ีใชทาํ การระเบิดไมได เพราะ
ชนวนถกู ทําลายและวัตถุระเบดิ ท.ี เอ็น.ที ที่บรรจุอยูภายในลกู ถูกสํารอกออกหมดแลว และตวั เปลอื ก
ถูกตัดออกเปนชองสเี่ หลย่ี มจงึ ไมเ ปนวตั ถุระเบดิ ยอมไมเปนเครอ่ื งกระสนุ ปน ดวย
ÁÒμÃÒ ô (ó) ÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´ คือ วัตถุที่สามารถสงกําลังดันอยางแรงตอสิ่งหอมลอม
โดยฉับพลัน ในเมื่อระเบิดข้ึนโดยมีส่ิงเหมาะมาทําใหเกิดกําลังดัน หรือโดยการสลายตัวของ
วัตถุระเบิดนั้น ทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร กับหมายความรวมตลอดถึงเช้ือปะทุตางๆ หรือ
วัตถุอื่นใด อันมีสภาพคลายคลึงกันซ่ึงใชหรือทําขึ้นเพ่ือทําใหเกิดการระเบิด ซึ่งรัฐมนตรีไดประกาศ
ระบุไวในราชกจิ จานุเบกษา
วัตถุระเบดิ ตามมาตรา ๔ (๓) หมายความดังน้ี
(๑) คือวัตถุท่ีสามารถสงกําลังดันอยางแรงตอสิ่งหอมลอมโดยฉับพลันในเมื่อเกิด
ระเบดิ ขนึ้ โดยมสี งิ่ เหมาะมาทาํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั อนั เปน ระเบดิ ทที่ าํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั เชน เครอ่ื งระเบดิ หนิ
ระเบดิ ตึกทีใ่ ชใ นการกอสรา ง เปนตน
(๒) วัตถุระเบิดที่ทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร โดยการสลายตัวของวัตถุระเบิด
นัน้ เอง เชน ลูกระเบิดมอื กบั ระเบิดหรอื ระเบิดเวลา เปน ตน
(๓) วัตถุระเบิดดังกลาวในขอ (๑) และ (๒) น้ัน สวนมากเกิดระเบิดข้ึนจากการปะทุ
ของดินระเบิดทํานองเดียวกับเคร่ืองกระสุนปน แตพระราชบัญญัตินี้ยังเห็นวาไมเพียงพอกับ
ความกา วหนา ทางวทิ ยาศาสตรใ นปจ จบุ นั จงึ ไดก าํ หนดใหห มายความรวมตลอดถงึ เชอื้ ปะทตุ า งๆ หรอื
๒๒
วัตถุอื่นใดอันมีสภาพคลายคลึงกัน (กับเชื้อปะทุเหลาน้ัน) ซึ่งใชหรือทําขึ้นเพ่ือใหเกิดการระเบิด
ซ่ึงรัฐมนตรีจะไดประกาศระบุไวในราชกิจจานุเบกษา ในขอน้ีเปนการบัญญัติเผ่ือไวเพราะอาจมี
การคิดคนระเบิดแบบใหมๆ ขึ้นมา เมื่อรัฐมนตรีเห็นวาจําเปนตองควบคุมก็จะไดประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษาใหอ ยใู นบงั คบั ของพระราชบญั ญตั นิ ้ี เชน ลกู ระเบดิ ทเี่ กดิ จากนา้ํ มนั เชอื้ เพลงิ เปน ตน
จากบทบัญญัติดังกลาววัตถุที่สลายตัวทําใหเกิดการระเบิดจะตองใหมีแรงทําลายหรือ
แรงประหารเกดิ ข้ึนดว ย ดังนัน้ ในกรณีท่ไี มถ ึงขนาดแรงทําลายไดก ไ็ มใ ชวัตถุระเบดิ เชน แกป กระดาษ
เปนเม็ดเล็กๆ ติดกับกระดาษโตขนาดหัวไมขีดไฟบาง เล็กกวาบาง อยูหางๆ กัน เม่ือมีจํานวน
ไมมากพอจะทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหารขึ้นไดขณะระเบิดแลว ก็ยังไมถึงขนาดท่ีจะถือวาเปน
วตั ถุระเบิดได (ฎีกาท่ี ๑๕๖๐/๒๕๐๕)
®¡Õ Ò·Õè ñôóõ-ñôóö/òõðö ดินดาํ ของกลางในคดีน้ีซ่ึงฟงไดเพียงวาเปนวัตถุท่ีมี
สารเคมีผสมอยู คือ โปแตสเซียมไนเตรท กาํ มะถัน และถาน เทาน้ัน ไมปรากฏวามีอํานาจหรือ
คณุ สมบตั ิตามที่กฎหมายกําหนดไวเ ก่ียวกับความหมายของวตั ถรุ ะเบิด จึงมใิ ชวัตถุระเบิด
®¡Õ Ò·èÕ õøø/òõòò ลกู ระเบดิ ของกลางมเี รอื นชนวนถกู ทําลาย ใชข วา งจะไมเ กดิ ระเบดิ
ไมท าํ ใหม แี รงทําลายหรอื แรงประหาร จึงไมเปน วตั ถรุ ะเบดิ
´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ ตามมาตรา ๔(๔) ไดยกตัวอยางวาไดแก พลุ ประทัดไฟ ประทัดลม
ซ่ึงมีใชกันอยูทั่วไป นอกจากนั้นยังใหหมายความรวมตลอดถึงวัตถุอื่นใดอันมีสภาพคลายคลึงกันกับ
ทีก่ ลา วมานี้ เชน ลูกหนหู รอื ลกู รอกที่ใชจ ดุ เลน ตามงานวัด ก็เปน ดอกไมเพลงิ ตามนยั นี้
Êè§Ô à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »„¹ ตามมาตรา ๔(๕) หมายความวาส่งิ ซึ่งมีรปู และลักษณะอนั นา จะทาํ ให
“หลงเช่ือ” วาเปนอาวุธปน เชน ปนเด็กเลนที่มีขนาดและลักษณะเทาและเหมือนอาวุธปนจริงๆ
ท่คี นรา ยใชในการจแ้ี ละปลน ทรัพย เปนตน
ÁÒμÃÒ ô(ö) มหี มายความวา มกี รรมสทิ ธห์ิ รอื มไี วในครอบครอง แตไ มห มายความถึง
การมอี าวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ทม่ี ไี วโ ดยชอบดว ยกฎหมาย และตกอยใู นความครอบครอง
ของบคุ คลอน่ื ซง่ึ ไมต อ งหา มมาตรา ๑๓ แหง พระราชบญั ญตั นิ ้ี เทา ทจี่ าํ เปน เพอื่ รกั ษาสงิ่ ทวี่ า นม้ี ใิ หส ญู หาย
¡ÒÃÁäÕ ÇŒ ตามมาตรา ๔(๖) ใหหมายความวา
(๑) มีกรรมสิทธห์ิ รือมีไวในครอบครอง
(๒) การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองตาม (๑) นั้น ใชบังคับเฉพาะอาวุธปน
เครื่องกระสุนปน และวัตถุระเบิดเทานั้น (มาตรา ๗ และ ๓๘) ไมรวมถึงดอกไมเพลิงและสิ่งเทียม
อาวธุ ปนดวย (มาตรา ๔๗ และ ๕๒)
(๓) ขอยกเวน การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองดังกลาวใน (๑) และ (๒)
ไมหมายความรวมถึงการที่อาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิดท่ีมีไวโดยชอบดวยกฎหมาย
และตกอยูในความครอบครองของบุคคลอื่นซึ่งไมตองหามตามมาตรา ๑๓ แหงพระราชบัญญัติน้ี
เทา ที่จําเปน เพอ่ื รกั ษาส่งิ ท่ีวาน้มี ใิ หส ูญหาย
๒๓
บุคคลตามมาตรา ๑๓ คือบุคคลทต่ี อ งหามมิใหอ อกใบอนญุ าตใดๆ ตามพระราชบญั ญตั ิ
อาวุธปน ฯ
ตอนน้ีหมายความวา อาวุธปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วัตถรุ ะเบดิ ทีม่ ที ะเบียนหรือไดรบั
อนุญาตใหบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีไวแลว ตกไปอยูในความครอบครองของบุคคลท่ีไมตองหามตาม
มาตรา ๑๓ และบุคคลน้ันไดครอบครองอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดน้ันไวเทาที่
จําเปนเพื่อรักษาส่ิงที่วาน้ีไวมิใหสูญหาย เชน เก็บปนตกไดแลวถูกจับระหวางนําไปแจงตํารวจท่ี
โรงพักอยา งนีไ้ มผดิ เปน ตน
¡Ã³μÕ ÍŒ §ËŒÒÁ แยกกลาวดงั นี้
º¤Ø ¤ÅμÍŒ §ËÒŒ ÁÁãÔ ËÍŒ Í¡ãºÍ¹ÞØ Òμ เกย่ี วกบั อาวธุ ปน และเครอื่ งกระสนุ ปน สว นบคุ คล คอื
หามมิใหออกใบอนุญาตทํา ซ้ือ มี ใช สั่งหรือนําเขา ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว ใบอนุญาตให
มีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ (มาตรา ๑๑) ใบอนุญาตใหบุคคลอื่นมีและใชอาวุธปนหรือเครื่องกระสุนปน
เพ่ือรักษาทรัพยสินของตน (มาตรา ๑๔) ไดแก บุคคลที่มีลักษณะและพฤติการณดังตอไปน้ี
(มาตรา ๑๓)
๑. บุคคลซึ่งตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาดังตอ ไปนี้
(ก) มาตรา ๕๗ ถึงมาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๗๗ ถึง มาตรา ๑๘๓
มาตรา ๒๔๙ มาตรา ๒๕๐ หรอื มาตรา ๒๙๓ ถงึ มาตรา ๓๐๓
(ข) มาตรา ๒๕๔ ถึงมาตรา ๒๕๗ และพน โทษ ยังไมเกนิ ๕ ป นับแตว นั พน โทษ
ถึงวันย่ืนคําขอใบอนุญาต เวนแตในกรณีความผิดท่ีกระทําโดยความจําเปน หรือเพื่อปองกันหรือ
โดยถูกย่วั โทสะ
บทกฎหมายลักษณะอาญาดงั กลาว ตงั้ แตป พ.ศ.๒๕๐๐ เปน ตน มา ไดเ ปล่ียนเปน
ประมวลกฎหมายอาญาตามขอความท่ีเปนทํานองเดียวกัน กลาวคือในขอ (ก) ตรงกับประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา ๗๔-๑๑๑ ๑๓๘ ๒๐๙ ๒๑๕ ๒๘๘ ๒๘๙ ๓๓๕ ๓๔๐ ในขอ (ข) ตรงกบั
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕-๒๙๘
๒. บคุ คลซงึ่ ตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผดิ อนั เปน การฝา ฝน ตอ พระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน
เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด และดอกไมเพลิง พุทธศักราช ๒๔๗๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๒๒
มาตรา ๒๙ หรือมาตรา ๓๓ หรือพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๗ มาตรา ๒๔ มาตรา ๓๓ หรือ
มาตรา ๓๘
๓. บุคคลซึ่งตองโทษจําคุกต้ังแตสองคร้ังข้ึนไป ในระหวางหาปนับยอนขึ้นไปจาก
วนั ยน่ื คาํ ขอสําหรับความผดิ อยา งอน่ื นอกจากทีบ่ ญั ญัติไวใน (๑) และ (๒) เวนแตความผิดที่ไดกระทาํ
โดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ
๔. บุคคลซ่ึงยังไมบรรลุนิติภาวะ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยตามปกติอายุ
ย่สี บิ ปบรบิ รู ณ แตบ คุ คลอาจบรรลนุ ิตภิ าวะโดยสมรส หากชายอายุ ๑๗ ป หญิงอายุ ๑๗ ป
๒๔
๕. บุคคลซึ่งไมสามารถจะใชอาวุธปนไดโดยกายพิการหรือทุพพลภาพ เวนแตจะมีไว
เพ่ือเก็บตามมาตรา ๑๑
๖. บุคคลซึ่งเปนคนไรความสามารถหรือเปนคนเสมือนไรความสามารถหรือปรากฏวา
เปนคนวิกลจรติ หรอื จติ ฟนเฟอนไมสมประกอบ
๗. บคุ คลซ่ึงไมม อี าชพี และรายได
๘. บุคคลซง่ึ ไมม ที ่อี ยูเ ปน หลักแหลง
๙. บุคคลซ่ึงมีความประพฤติช่ัวอยางรายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบ
เรียบรอ ยของประชาชน
๑๐. สําหรับใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน หามมิใหออกใหแกบุคคลซึ่งมีช่ือใน
ทะเบียนบาน ตามกฎหมายวาดวยการทะเบียนราษฎร และมีถ่ินที่อยูประจําในทองท่ีที่บุคคลน้ัน
ขออนุญาตนอยกวาหกเดือน หมายความวาจะตองมีชื่อในทะเบียนบานและอยูประจําในทองที่
ท่ขี อรบั ใบอนุญาตเกินกวา หกเดือน จึงจะออกใบอนุญาตใหมแี ละใชอาวุธปน ใหได
จากคําวามี มาตรา ๔ (๖) น้ี กฎหมายเนนหนักการมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครอง
แตคาํ วา ครอบครอง เปนอยา งไรนั้นกฎหมายไมไ ดบัญญัติไว จงึ เปน เร่อื งท่ตี อ งอาศยั แนวคําพิพากษา
ของศาลฎกี าเปนตวั อยา งในการพจิ ารณาปญหาดงั กลาว ซง่ึ ศาลฎกี าไดว ินจิ ฉัยไวว า
เมื่อกฎหมายไมไดบัญญัติความหมายของการครอบครองไวเปนพิเศษ ตองถือวามี
ความหมายทั่วไปคือตอ งมเี จตนายึดถือเพ่อื ตน ดงั นน้ั การยึดถือปน อยูขณะหนง่ึ ไมไดยดึ ถือเพือ่ ตน
ไมเปน การครอบครอง (ฎกี าที่ ๗๑๑/๒๕๐๙, ๒๒๖๔/๒๕๒๑)
μÑÇÍ‹ҧคาํ ¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաÒ
®Õ¡Ò·èÕ ôðô/òôøù เก็บอาวุธปนได และต้ังใจจะสงแกเจาหนาที่ไมมีความผิด
ตาม พ.ร.บ.อาวุธปน ฯลฯ ถือวาไมม ีความผดิ เพราะไมม ีเจตนา
®¡Õ Ò·Õè ñó÷ö/òôùó ผูไดรับอนุญาตใหคาอาวุธปน รับซื้อจากเจาของผูไดรับ
อนุญาตใหมีไวโดยชอบดวยกฎหมายแลว เม่ือชําระเงินกันเสร็จแลว ก็รับปนที่ซื้อน้ันไวในราน
แลวดําเนินการทําคํารองขออนุญาตโอนตอนายทะเบียน แตถูกเจาพนักงานจับปนรายน้ีเสียกอน
ตอมาจึงไดร บั อนุมตั ิจากอธิบดีกรมตาํ รวจใหโ อนได ดงั นี้ ยอ มถือวา ผูรับซือ้ “ม”ี ปน ไวในครอบครอง
โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งทก่ี อ นมคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐
มาตรา ๗, ๗๒ และมคี วามผิดฐานมปี น ไวน อกบญั ชตี ามท่กี ําหนดไวใ นกฎกระทรวง ตามมาตรา ๒๘,
๘๑ ดวย
®Õ¡Ò·Õè ñöòô/òôùô บิดาไดรับอนุญาตใหมีอาวุธปน ๑ กระบอก เม่ือบิดาตาย
บุตรจึงไปแจงตอนายทะเบียนและขออนุญาตมีอาวุธปนกระบอกน้ัน แตนายทะเบียนไมอนุญาต
กลับสัง่ ใหขายปนนั้นเสียภายใน ๖ เดือน แตบ ตุ รขายปน นัน้ ไมได นายทะเบียนกม็ ิไดเ รยี กเอาปนนนั้
ไปขายทอดตลาดเสียเอง และมิไดสั่งอยางไรอีก ปนน้ันจึงคงอยูกับบุตรอยางเดิม ดังนี้ จะวาบุตร
มีอาวุธปน โดยไมรับอนญุ าต เปน การผดิ กฎหมายไมไ ด
๒๕
®Õ¡Ò·èÕ ñõ÷ø/òôùõ ใชใหคนไปหยิบอาวุธปนและกระสุนปนมาจากบานใหนาํ มา
สงใหแกตน ณ ท่ีแหงหนึ่งอันอยูหางกันประมาณ ๑๐ เสน เพ่ือมอบคืนใหแกเจาของผูมีไวโดยชอบ
ดวยกฎหมาย เชนน้ี ยังถือไมไดวาคนท่ีไปหยิบอาวุธปนและกระสุนไดมีอาวุธและกระสุนปนน้ันไว
ในความครอบครอง จึงยังไมเปนผิดฐานมีอาวุธปนและเคร่ืองกระสุนปนไวโดยไมไดรับอนุญาตตาม
พระราชบญั ญัติอาวธุ ปนฯ และผูใ ชใหไ ปหยิบก็ไมม ีความผิดดวย
®Õ¡Ò·èÕ ùøù/òõòù ความผิดฐานมีอาวุธปนที่นายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาต
ใหไดกับความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปนท่ีนายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาตใหได เปนความผิด
มาตราเดียวกันเปนวัตถุประเภทเดียวกัน การมีอาวุธปน และเครื่องกระสุนปนดังกลาวในขณะ
เดียวกนั จงึ เปน ความผิดกรรมเดียว
ÁÒμÃÒ ô (÷) ÊÑè§ หมายความวา ใหบุคคลใด สงหรือนาํ เขามาจากภายนอก
ราชอาณาจกั ร
(ø) นําà¢ŒÒ หมายความวา นาํ เขามาจากภายนอกราชอาณาจักรไมวา
โดยวิธใี ดๆ
(ù) Ã°Ñ Á¹μÃÕ หมายความวา รัฐมนตรีผูรกั ษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
๒๖
»ÃСÒÈ¡ÃзÃǧÁËÒ´ä·Âñ
àÃ×Íè § á싧μ§éÑ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ à¨ÒŒ ¾¹¡Ñ §Ò¹áÅÐà¨ÒŒ ˹ŒÒ·èÕ μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÔÍÒÇ¸Ø »„¹
à¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊع»¹„ ÇÑμ¶ÃØ Ðàº´Ô ´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ áÅÐʧÔè à·ÂÕ ÁÍÒÇظ»¹„ ¾.È.òôùð
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติอาวุธปน เครื่องกระสุนปน
วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ซงึ่ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน
เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปน ฉบับที่ ๗ (พ.ศ.๒๕๒๒) รัฐมนตรี
วาการกระทรวงมหาดไทยออกประกาศกระทรวงมหาดไทยไว ดงั ตอไปนี้
¢ÍŒ ñ ใหยกเลิกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง แตง ต้ังนายทะเบียน เจา พนักงาน
และเจา หนา ทอ่ี นื่ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี ม
อาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๔
¢ŒÍ ò ใหแตง ตงั้ ผูด าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน นายทะเบียน
(๑) อธิบดกี รมการปกครอง ในเขตกรุงเทพมหานคร
(๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอ่ืน
(๓) นายอาํ เภอ ในเขตอําเภอ
(๔) ปลัดอําเภอผเู ปน หวั หนา ประจําก่ิงอาํ เภอ ในเขตก่งิ อาํ เภอ
¢ŒÍ ó ใหแตงต้ังผูดํารงตําแหนงตอไปนี้ เปนเจาพนักงานผูมีอํานาจอนุมัติการออก
หนังสืออนุญาตพเิ ศษตามมาตรา ๑๔
(๑) ปลดั กระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร
(๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวดั อื่น
¢ÍŒ ô ใหแ ตง ตงั้ ผดู าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน เจา พนกั งานผมู อี าํ นาจออกหนงั สอื อนญุ าต
ตามมาตรา ๗๐
(๑) ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร
(๒) ผวู าราชการจงั หวดั ในเขตจงั หวัดอื่น
¢ÍŒ õ ใหผูดํารงตําแหนงตอไปนี้เปนเจาหนาที่ตรวจสอบ จํานวนอาวุธปน
เคร่อื งกระสุนปน วัตถุระเบดิ ดอกไมเ พลิง และสิง่ เทียมอาวธุ ปน ในรา นคาและรา นประกอบซอม
(๑) อธิบดีกรมการปกครอง หรือผูซึ่งอธิบดีกรมการปกครองแตงตั้ง ในเขต
กรุงเทพมหานคร
(๒) ผวู าราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอน่ื
(๓) นายอาํ เภอ หรอื ปลดั อาํ เภอผเู ปน หวั หนา ประจาํ กง่ิ อาํ เภอและปลดั อาํ เภอ
แหง ทองที่ในเขตอําเภอ หรอื เขตก่ิงอาํ เภอ
๑ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ โภคนิ พลกลุ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
๒๗
¤ÇÒÁ¼´Ô ·ÕèÁ¡Õ ÒèºÑ ¡ÁØ ดําà¹¹Ô ¤´Õ
ñ. ทาํ «Íé× ÁÕ ãªŒ ʧèÑ ËÃÍ× นาํ à¢ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹
·ŒÍ§·èÕ
ÁÒμÃÒ ÷ หามมใิ หผ ใู ดทาํ ซอื้ มี ใช สัง่ หรอื นําเขา ซง่ึ อาวธุ ปน หรอื เครอ่ื งกระสุนปน
เวน แตจ ะไดรบั ใบอนญุ าตจากนายทะเบียนทอ งท่ี
ÁÒμÃÒ ÷ò ÇÃäáá ผูใ ดฝาฝน มาตรา ๗ ตองระวางโทษจําคกุ ตงั้ แตหน่งึ ป ถงึ สิบป
และปรับต้งั แตสองพนั บาทถึงสองหม่นื บาท
¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา ซ้ือ มี ใช สั่งหรือนําเขาซ่ึงอาวุธปนหรือเครื่อง
กระสุนปนจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ีเสียกอน หากผูใดฝาฝนผูนั้นมีความผิดและ
ตอ งระวางโทษตามกฎหมาย
สําหรับกรณีท่ีส่ิงของดังกลาว เปนเพียงสวนหน่ึงสวนใดของอาวุธปน หรือเคร่ือง
กระสุนปนผูฝาฝนตองไดรับโทษนอยลง หรือกรณีเปนเพียงการมีอาวุธปนท่ีเปนของผูอื่นซ่ึงไดรับ
อนุญาตใหมีและใชตามกฎหมายหรือเปนการทําเครื่องกระสุนปนที่ทําดวยดินปนสําหรับใชเอง
โดยไมไ ดรับอนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งทีผ่ ูฝ า ฝนตองระวางโทษนอ ยลง
ò. ÁàÕ ¤Ã×Íè §¡ÃÐÊ¹Ø ª¹´Ô ͹è× «§èÖ ÁãÔ ª‹สาํ ËÃѺ㪌¡ºÑ ÍÒÇظ»„¹·μèÕ ¹ä´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμãËŒÁÕáÅÐ㪌
ÁÒμÃÒ ø หามมิใหผูใดมีเคร่ืองกระสุนปน ซึ่งมิใชสําหรับใชกับอาวุธปนที่ตนไดรับ
ใบอนญุ าต ใหม แี ละใช
หมายความวา ไดร บั อนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน ชนดิ ประเภทใด จะตอ งมเี ครอื่ งกระสนุ ปน
ชนิดประเภทนั้นควบคูกันไป หากมีเครื่องกระสุนปนชนิดประเภทอ่ืน ดังน้ี ใบอนุญาตใหมีและ
ใชอาวุธปน ไมคุมครอง เชน นาย ก. มีปนพกขนาด .๓๘ ไดรับใบอนุญาตใหมีและใชแลว
แตกลบั มกี ระสนุ ปน ขนาด ๑๑ มม. ไวอกี ดวย ดังนี้ถือวา ผดิ มาตรา ๘ เปน ตน
ÁÒμÃÒ õ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¹éÕ àǹŒ áμÁ‹ ÒμÃÒ ø ·ÇÔ ÁÔãˌ㪺Œ ѧ¤ºÑ á¡‹
(๑) อาวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และสง่ิ เทยี มอาวุธปน ของ
(ก) ราชการทหารและตาํ รวจทม่ี หี รือใชใ นราชการ
(ข) หนวยราชการที่มีหรือใชเพ่ือปองกันประเทศหรือรักษาความสงบเรียบรอย
ของประชาชน
(ค) หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชในการปองกันและรักษาทรัพยสิน
อันสําคัญของประชาชน
(ง) ราชการทหารและตํารวจตาม (ก) หรือหนวยราชการตาม (ข) ท่ีมอบให
ประชาชนมแี ละใชเ พอื่ ชว ยเหลอื ราชการของทหารและตาํ รวจ หรือของหนว ยราชการแลวแตก รณี
(๒) อาวธุ ปนและเคร่อื งกระสุนปน ประจาํ เรอื เดินทะเล รถไฟ และอากาศยานตามปกติ
ซ่ึงไดแสดงและใหพ นักงานศลุ กากรตรวจตามกฎหมายแลว
๒๘
(๓) ดอกไมเ พลงิ สัญญาณประจําเรือเดินทะเล อากาศยาน และสนามบินตามปกติ
หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามวรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) รวมท้ังชนิด ขนาดและ
การกําหนดจํานวน ตลอดจนการมีและใช การเก็บรักษา การพาติดตัว การซอมแซมหรือเปล่ียน
ลกั ษณะและการอยา งอื่นท่จี ําเปนเพ่ือการรกั ษาความปลอดภัยอันเกีย่ วกบั อาวุธปน เครือ่ งกระสนุ ปน
วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และส่ิงเทียมอาวุธปน ที่ใหหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจดังกลาวมีและใช
หรอื มอบใหป ระชาชนมีและใชเ พ่อื ชวยเหลอื ราชการน้นั ใหเ ปนไปตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง
ó. ¾ÒÍÒÇ¸Ø »¹„ ä»ã¹·Ò§ÊÒ¸ÒóÐâ´ÂäÁä‹ ´ŒÃºÑ ͹ÞØ ÒμãËÁŒ ÕÍÒÇ¸Ø »„¹μÔ´μÇÑ áÅÐäÁ‹ÁàÕ ËμÍØ Ñ¹¤ÇÃ
¡ÒÃÁÍÕ ÒÇ¸Ø »¹„ μ´Ô μÇÑ โดยขอ ๓ แหง คาํ สง่ั ของคณะปฏริ ปู การปกครองแผน ดนิ ฉบบั ที่ ๔๔
ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ใหเพิม่ มาตรา ๘ ทวิ ขึน้ ในพระราชบญั ญตั ิอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ดังน้ี
“ÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ หามมิใหผูใดพาอาวุธปนติดตัวไปในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ
โดยไมไ ดร ับใบอนญุ าตใหม ีอาวุธปนติดตวั เวน แตเปน กรณีที่ตองมตี ิดตวั เมื่อมีเหตจุ าํ เปน และเรง ดว น
ตามควรแกพ ฤตกิ ารณ
ไมวากรณีใด หามมิใหพาอาวุธปนไปโดยเปดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนท่ีไดจัดใหมีขึ้น
เพือ่ นมัสการ การรน่ื เริง การมหรสพ หรือการอ่นื ใด”
สวนความในวรรคสามของมาตรา ๘ ทวิ น้ีไดถูกยกเลิกและแกไขใหมโดยมาตรา ๕
แหง พระราชบญั ญตั ิอาวุธปน ฯ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ ดงั นี้
“ความในมาตราน้ี มใิ หใ ชบงั คับแก
(๑) เจาพนักงานผูมีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหารและตํารวจ
ซึ่งอยใู นระหวา งปฏิบัตหิ นา ท่ี
(๒) ขาราชการ พนักงานหรอื ลกู จา งของหนว ยราชการหรือรัฐวสิ าหกิจ ตามมาตรา ๕
วรรคหน่ึง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางปฏิบัติหนาท่ีเพื่อปองกันประเทศ หรือรักษาความสงบ
เรียบรอ ยของประชาชน หรือรักษาทรัพยส นิ อนั สําคญั ของรัฐ
(๓) ประชาชนผูไดรับมอบใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ง) ซึ่งอยูใน
ระหวา งการชวยเหลือราชการและมเี หตุจาํ เปนตอ งมีและใชอาวธุ ปนในการน้ัน”
สวนผูมีอํานาจอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว มีบัญญัติไวในมาตรา ๒๒ ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติม
โดยขอ ๕ แหง คาํ สงั่ ของคณะปฏิรปู การปกครองแผน ดนิ ฉบับท่ี ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ดังน้ี
“ÁÒμÃÒ òò ใหเจาพนักงานตอไปน้ี มีอํานาจออกใบอนุญาตใหแกบุคคลที่ไดรับ
ใบอนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน มีอาวธุ ปนติดตัวไปไดตามความทบ่ี ญั ญตั ไิ วใ นพระราชบญั ญัตนิ ้ี
(๑) อธิบดีกรมตาํ รวจ สําหรับในเขตกรงุ เทพมหานคร และท่ัวราชอาณาจกั ร
(๒) ผูวาราชการจังหวัด เฉพาะภายในเขตจังหวัดของตน และเฉพาะผูที่มีถ่ินที่อยูใน
เขตจังหวดั นัน้
๒๙
ËÅ¡Ñ สาํ ¤ÑޢͧÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ ¤×Í
(๑) การไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวตามมาตรา ๘ ทวินั้น มิใชวาจะคุมครอง
ผพู กพาไดใ นทกุ เวลาและสถานที่ กห็ าไม เพราะการพกพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในปา หรอื โดยสารเครอ่ื งบนิ
อาจไมตอ งรบั อนุญาตตามมาตรา ๘ ทวกิ ไ็ ด
คําʧÑè ÍÑ¡ÒÃʧ٠ÊØ´ä´ªŒ ¢éÕ Ò´¤ÇÒÁàËç¹áÂŒ§·Õè öô/òõòô Ç‹Ò (μ´Ô μÑÇ)
“การพาอาวธุ ปน ติดตวั ท่จี ะเปน ความผดิ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปน ฯ นน้ั จะตองเปนการ
กระทําทีผ่ ูต องหาน้นั อยูใ นวสิ ยั ทส่ี ามารถอาจใชอาวุธปนน้นั ไดใ นทันที หากตองการจะใชโดยไมต อง
เสยี เวลาในการเตรยี มการเพอื่ การใชใ ดๆ อกี ดงั นน้ั การทผี่ ตู อ งหานําอาวธุ ปน ไป โดยเกบ็ ไวท เี่ กบ็ ทา ยรถ
จงึ ไมใ ชเ ปน การพาอาวุธปนตดิ ตวั ไปตามความหมายของกฎหมาย”
(๒) มาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง ยังไดบัญญัติวา ไมวากรณีใด ซึ่งหมายความวาไมวา
เปนกรณีไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวหรือไมก็ตาม การพกอาวุธปนไปโดยเปดเผย
โดยไมจํากัดวาเปนเวลาและสถานที่ใดก็ดี การพาไปในชุมชนท่ีไดจัดใหมีขึ้นเพ่ือนมัสการ การร่ืนเริง
การมหรสพหรือการอ่ืนใดก็ดี ทั้งสองกรณีนี้ถือเปนการตองหามโดยเด็ดขาด แมผูไดรับใบอนุญาต
ใหม ีอาวธุ ปนตดิ ตวั ก็จะพาอาวุธปนเขา ไปในชมุ ชนทจ่ี ดั ใหม เี พอื่ นมัสการ การรนื่ เรงิ การมหรสพ หรอื
การอื่นใดมิได และนอกจากในสถานท่ีดังกลาวแลว ยังหามพาอาวุธปนไปโดยเปดเผยในสถานที่ใดๆ
อีกดวย หมายความวาการพกพาอาวุธปนโดยเปดเผยหรือประเจิดประเจอในที่สาธารณะหรือ
ในสภาพที่จะปรากฏแกสายตาของสาธารณะไดโดยงาย เปนการตองหามทั้งส้ิน ใบอนุญาตใหมี
อาวุธปนตดิ ตวั ไมคุม ครองดวย
(๓) ขอยกเวนตามมาตรา ๘ ทวิ มสี องประการคือ
๓.๑ ขอยกเวนใหมีอาวุธปนติดตัวได หากเปนกรณีที่ตองมีติดตัวเมื่อมีเหตุ
จําเปนและเรงดวนตามสมควรแกพฤติการณ หมายความวาตองเปนกรณีท่ีจําเปนตองมีอาวุธปน
ตดิ ตวั อยา งเรง ดว น คาํ วา จาํ เปน และเรง ดว นจะตอ งใชค วบคกู นั ไปในทกุ กรณี บางกรณมี แี ตค วามจาํ เปน
แตไมถึงกับรีบดวน เชน นาย ก. ตองขับรถสิบลอบรรทุกสินคาไปสงตางจังหวัด อยางนี้อาจถือวา
จําเปนตองมีอาวุธปนติดตัวไปได แตไมถือวาเปนกรณีเรงดวน เพราะการท่ีนาย ก. อางวา
เพ่ือปองกันการปลนรถบรรทุกของตนซึ่งเปนการจําเปนน้ัน เปนกรณีท่ีจําเปนที่มีอยูตลอดไป
กลาวคือการปลน รถบรรทุกสนิ คา อาจมหี รอื ไมมีเมื่อใดก็ได จึงไมถ อื เปน กรณเี รง ดวน
บางกรณีเปนการเรงดวน แตไมจําเปน เชน นาย ก. ตองนําภรรยา
ซ่ึงเจ็บทองจะคลอดลูกไปสงโรงพยาบาลในตอนดึก อยางน้ีเปนกรณีเรงดวน แตไมมีความจําเปน
ถึงกับตองพกพาอาวุธปนไปดวย เพราะตามปกติไมมีเหตุผลใดที่จะอางไดวาจําเปนตองพกพาไป
เพ่อื ปองกันตวั และทรัพยสินในกรณีเชนน้ี
กรณที ี่จาํ เปนและเรงดว นตามความหมายของมาตรา ๘ ทวิ กเ็ ชน “นาย ก.
เพ่ิงขายขาวไดเงินมาเกือบแสนบาท และจําเปนตองนําไปฝากธนาคารซึ่งอยูหางจากบานไปราว
๓๐
สิบกิโลเมตร ในวันนั้น เพ่ือความปลอดภัยจากโจรปลน ซึ่งในทองที่ของนาย ก. มีอยูบอยๆ ดังนั้น
การท่ีนาย ก. นําปน ที่ไดรับใบอนญุ าตใหมีและใชแลว แตย งั มไิ ดรบั ใบอนุญาตใหพ กตดิ ตวั ติดตวั ไป
พรอ มกับเงินท่ีจะตอ งนาํ ไปฝากธนาคารในวันนัน้ ดงั น้ีถือวา “จําเปน และเรงดว น” ได
อยางไรก็ดี “กรณีจําเปนและเรงดวน” ในที่นี้ยังจะตองคํานึงอีกดวยวา
เปนการสมควรแกพฤติการณแหงความจําเปนและเรงดวนน้ันดวยหรือไม กลาวคือจะตองคํานึงถึง
พฤติการณเ ปน เรื่องๆ ไป อยางกรณี นาย ก. พาปนตดิ ตัวพรอมดวยเงนิ แสนเพ่อื นาํ ไปฝากธนาคาร
ใหทันกอนธนาคารปดในวันน้ัน เพราะมีพฤติการณการจี้ปลนในทองท่ีนั้นอยูเปนประจํา ดังนี้ถือวา
พฤตกิ ารณแหงการจ้ีปลน ในทอ งทีท่ มี่ เี ปนประจํา เปนพฤติการณทสี่ มควรสาํ หรับกรณขี องนาย ก.
๓.๒ ขอยกเวนเก่ียวกับเจาพนักงาน ลูกจาง หรือผูชวยเจาพนักงานเก่ียวกับ
งานของรฐั ซ่ึงใหม ีสิทธพิ กพาอาวธุ ปนไดโดยมิตองมใี บอนญุ าตใหมีอาวธุ ปน ติดตวั ดงั น้ี
(๑) เจาพนักงานผูมีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหาร
และตํารวจซึง่ อยใู นระหวา งการปฏิบัตหิ นาที่
(๒) ขาราชการ พนักงานหรือลูกจางของหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางการปฏิบัติหนาที่เพื่อการปองกัน
ประเทศหรอื รักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน หรอื รกั ษาทรัพยส ินอนั สาํ คัญของรัฐ
บคุ คลตามมาตรา ๕ วรรคหนง่ึ (๑) (ข) หรือ (ค) ไดแกบ คุ คลทสี่ ังกดั
ก. หนวยราชการที่มีหรือใชอาวุธปน เพ่ือปองกันประเทศหรือ
รักษาความสงบเรยี บรอ ยของประชาชน
ข. หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชอาวุธปน ปองกันและ
รกั ษาทรพั ยสินอนั สําคญั ของรัฐ
(๓) ประชาชนผูไดรับมอบหมายใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑)
(ง) ซ่งึ อยใู นระหวา งการชว ยเหลือราชการและมเี หตุจําเปนตองมแี ละใชอาวธุ ปนในการนัน้
ประชาชนตามขอ น้ี ไดแก บุคคลทที่ างราชการทหารและตํารวจ หรอื
หนว ยราชการอน่ื ทมี่ หี นา ทป่ี อ งกนั ประเทศและรกั ษาความสงบเรยี บรอ ยของประชาชน มอบอาวธุ ปน
ใหมีและใชเพื่อชว ยเหลือราชการของทหารและตาํ รวจ หรอื ของหนวยราชการน้ันๆ แลวแตกรณี
การใหพกพาอาวุธปนโดยมิตองมีใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว
ในกรณีน้ีจํากัดเฉพาะกรณี “ซ่ึงอยูในระหวางการชวยเหลือราชการและมีเหตุจําเปนตองมีและใช
อาวุธปนในการนั้น” เทานั้น หากไมอยูในระหวางชวยเหลือราชการก็ดี หรืออยูในระหวางชวยเหลือ
ราชการแตย งั ไมมเี หตุจาํ เปน ตอ งมีและใชอ าวธุ ปน ก็ยังไมไดร ับการคมุ ครองตามนยั นี้
(๔) การออกใบอนญุ าตใหมอี าวธุ ปน ตดิ ตัวตามมาตรา ๒๒ มีขอจํากดั ดังนี้
๔.๑ ออกใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวไดเฉพาะแกบุคคลท่ีไดรับใบอนุญาต
ใหม ีและใชอ าวุธปนจากนายทะเบยี นทอ งท่แี ลวเทานั้น
๓๑
ตามนัยน้ีทําใหเห็นไดวา “ใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน” ไมคุมครองถึง
การพาอาวุธปนติดตัวไปใน “เมอื ง หมบู านหรือทางสาธารณะ”
หากผูรับใบอนุญาต “ใหมีและใชอาวุธปน” ตองการพาอาวุธปนติดตัวไป
“ในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ” ผูไดรับใบอนุญาตน้ันจะตองไดรับ “ใบอนุญาตใหมีอาวุธปน
ติดตวั ” อีกช้นั หนึ่ง
ในทางกลับกัน ผูมีอาวุธปนโดยไมไดรับอนุญาตพกพาอาวุธปนนั้นไปตาม
มาตรา ๘ ทวิ ก็มคี วามผดิ ฐานพกพาดวย
๔.๒ ขอบเขตอาํ นาจการอนญุ าตของอธบิ ดกี รมตาํ รวจ มอี ยา งกวา งขวางในเขตพนื้ ท่ี
คือ การขอใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวในเขตกรุงเทพมหานครก็ดี หรือตองการมีอาวุธปนติดตัว
ไปทั่วราชอาณาจักรก็ดี จะตองขอตออธิบดีกรมตํารวจแตผูเดียว ในกรณีน้ีทําใหเห็นไดวาหากผูใด
ไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวจากอธิบดีกรมตํารวจแลว บุคคลน้ันไมจําเปนตองขอรับ
ใบอนุญาตใหมีอาวธุ ปน ติดตัวจากผวู า ราชการจังหวัดทตี่ นมีถิ่นทอ่ี ยูในจังหวดั นน้ั อีกช้นั หนงึ่
๔.๓ ขอบเขตอํานาจของผูวาราชการจังหวัดมีเฉพาะออกใหไดภายในเขต
จังหวัดของตนและออกใหไดแตเฉพาะแกบุคคลที่มีถิ่นท่ีอยูในเขตจังหวัดที่ตนเปนผูวาราชการจังหวัด
น้ันเทา น้นั
®¡Õ Ò·Õè ñõøò/òõóñ (»ÃЪÁØ ãËÞ)‹ ความผดิ ฐานพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง หมบู า น
และทางสาธารณะโดยมไิ ดรบั อนญุ าตเปนความผดิ ท่ีรวมกระทาํ ดวยกนั ได
จาํ เลยท่ี ๒ รว มกับคนรา ย ๗-๘ คน ไปปลนทรพั ยโดยมอี าวุธปนติดตัวไป ๖ กระบอก
แมจะฟงไมไดวาจําเลยท่ี ๒ มีอาวุธปนติดตัวไปดวยก็ตาม แตการที่จําเลยท่ี ๒ รวมกับคนรายอื่น
ไปปลน ทรพั ยแ ละพยายามฆา เจา ทรพั ยโ ดยใชป น ยงิ เสรจ็ แลว กห็ ลบหนไี ปดว ยกนั แสดงวา จาํ เลยที่ ๒
มเี จตนากบั คนรา ยอนื่ มอี าวธุ ปน และเครอ่ื งกระสนุ ปน ไวใ นครอบครอง และพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง
หมบู าน และทางสาธารณะโดยไมไดร บั อนญุ าตดวย
®Õ¡Ò·Õè ñøó÷/òõóñ จาํ เลยกบั ร. ขูบงั คบั ผเู สียหายใหยอมรวมประเวณี โดยจาํ เลย
ใชอาวุธปนไมมีทะเบียนของจาํ เลยจ้ีผูเสียหาย เมื่อสามีผูเสียหายไปตามพลตํารวจ ส. มาจับกุม ส.
เอาปนดังกลาวจากเอว ร. มาเก็บไวโดยถอดอาวุธปนออกหมดแลวจาํ เลยเขาแยงเอาปนคืนจาก ส.
ยกขึ้นจองยิงท่ีหนาอก ส. ดังแชะสามครั้ง ดังนี้ พฤติกรรมที่จาํ เลยกับ ร. ผลัดกันใชอาวุธปน
ของกลางเชนนี้ ถือวารวมกันมีอาวุธปนของกลางไวในครอบครอง และการกระทําของจําเลยเปน
ความผิดฐานพยายามฆาเจาพนักงานซ่ึงกระทาํ การตามหนาที่โดยไมสามารถบรรลุผลอยางแนแท
เพราะเหตปุ จ จัยทใ่ี ชในการกระทาํ ผิดอกี กระทงหนงึ่
¢ŒÍÊѧà¡μ ในกรณีท่ีเปนอาวุธปนของทางราชการมอบใหครอบครอง กรณีน้ีไมเปน
ความผิด เพราะมาตรา ๕ ไดบัญญัติยกเวนไว แตถาหากผูครอบครองไมมีอํานาจหนาที่ดังกลาว
กเ็ ปน ความผดิ
๓๒
®¡Õ Ò·èÕ ñùõø/òôùò จําเลยซึ่งรับราชการทหาร มีอาวุธปนของทางราชการทหาร
เพ่ือนําไปปฏิบัติหนาที่สารวัตรน้ัน ถือวาจาํ เลยมีไวทางราชการทหาร ไมมีความผิดฐานมีอาวุธปน
และเครอ่ื งกระสนุ ปน ไวใ นความครอบครองโดยมไิ ดร บั อนญุ าต แมจ ะเอาปน นน้ั ไปเพอื่ กอ การรา ยกต็ าม
®Õ¡Ò·èÕ ñõõñ/òõñö ของกลางซึ่งเปนอาวธุ ปน ท่ีใชเ ฉพาะในการสงครามเปน ของทาง
ราชการทหาร แตไดหายไป จําเลยเปนทหารแตไมมีอาํ นาจหรือหนาท่ีครอบครองอาวุธปนของกลาง
การครอบครองของจาํ เลยไมใ ชก ารครอบครองในราชการทหาร จาํ เลยจงึ มคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิ
อาวธุ ปน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘
®¡Õ Ò·èÕ ñùöñ/òõòø จําเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปนของกรมตํารวจซ่ึงจําเลยมีสิทธิ
พาอาวุธปนไดทั่วราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน ไมอยูในบังคับแหง พ.ร.บ.อาวุธปนฯ
มาตรา ๘ ทวิ จําเลยยอมไมมีความผิดตาม มาตรา ๗๒ ทวิ เม่ือปรากฏแกศาลฎีกาวาการกระทํา
ของจําเลย ไมเ ปนความผดิ ศาลฎีกายอ มมอี าํ นาจยกฟอ งไดตาม ป.ว.อ.มาตรา ๑๘๕, ๒๑๕, ๒๒๕
®Õ¡Ò·èÕ ñóöñ/òõóð จําเลยเปนสมาชิก อพป. มีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยใน
หมูบานไดรับแจกอาวุธปนคารบินและกระสุนปนของกลาง ซ่ึงเปนของทางราชการไวใชประจาํ ตัว
เพอื่ ปฏบิ ตั หิ นา ทร่ี กั ษาความสงบเรยี บรอ ยในหมบู า น จําเลยจงึ ไมม คี วามผดิ ฐานมอี าวธุ ปน กระสนุ ปน
ที่นายทะเบียนไมสามารถออกใบอนุญาตไวในครอบครอง และไมมีความผิดฐานพาอาวุธปนไปใน
หมูบา นและทางสาธารณะ
¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ มาตรา ๑๒ ยงิ อาวธุ ปน ทไ่ี ดร บั อนญุ าตใหม ไี วเ พอ่ื เกบ็ และมเี ครอ่ื งกระสนุ ปน
สาํ หรับอาวุธปน ท่ไี ดร ับอนุญาตใหม ไี วเ พื่อเกบ็
การมีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ ตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่ตามมาตรา ๗
ภายใตข อบงั คับตอ ไปนี้
(๑) ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนไวเพ่ือเก็บ ใหออกไดสําหรับ (ก) อาวุธปนท่ี
นายทะเบียนเห็นวาชํารุดจนใชยิงไมได หรือ (ข) อาวุธปนแบบพนสมัย หรือ (ค) อาวุธปนซึ่งไดรับ
เปน รางวัลจากการแขง ขนั ยงิ ปนในทางราชการ (มาตรา ๑๑)
(๒) อาวุธปนซ่ึงไดรับอนุญาตใหมีไวเพ่ือเก็บน้ันตอง (ก) หามมิใหยิง และ (ข)
หา มมิใหมีเครอ่ื งกระสุนปนไวสําหรบั อาวธุ ปน นั้นดวย (มาตรา ๑๒)
ô. äÁ‹á¨Œ§àËμ¼Ø ÅáÅÐʧ‹ ÁͺãºÍ¹ØÞÒμÍÒÇ¸Ø »¹„ ¶¡Ù ·Òí ÅÒ ËÃÍ× ÊÞÙ ËÒÂμÍ‹ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹
ÁÒμÃÒ òñ ถาอาวุธปนท่ีไดรับอนุญาตแลวถูกทาํ ลายหรือสูญหายโดยเหตุใดๆ ก็ดี
ใหผ รู บั ใบอนญุ าตแจง เหตแุ ละผลสง มอบใบอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทซ่ี ง่ึ ตนอยหู รอื ทเ่ี กดิ เหตภุ ายใน
สิบหา วนั นบั แตว ันทราบเหตุ
ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝา ฝน มาตรา ๒๑ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกินหนงึ่ พนั บาท
¼ŒÙã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามท่ีอาวุธปนของตนที่ไดรับอนุญาตน้ันสูญหายหรือ
ถูกทาํ ลายโดยเหตุใดๆ ก็ตาม ใหผูรับใบอนุญาตแจงเหตุและสงมอบใบอนุญาตตอนายทะเบียน
๓๓
ทองที่ภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ทราบถึงเหตุการณ บุคคลใดฝาฝนตองมีความผิด และตอง
ระวางโทษตามกฎหมาย
õ. ทํา »ÃСͺ «Í‹ Áá«Á à»ÅÂÕè ¹Å¡Ñ É³Ð Ê§Ñè นําà¢ÒŒ ÁËÕ ÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ สาํ ËúÑ
¡ÒÃทําâ´ÂäÁä‹ ´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹
ÁÒμÃÒ òô หามมิใหผูใด ทาํ ประกอบ ซอมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นาํ เขา มีหรือ
จาํ หนายซ่ึงอาวุธปนหรือเคร่ืองกระสุนปนสําหรับการคา เวนแตจะไดรับใบอนุญาตจากนายทะเบียน
ทอ งที่
ÁÒμÃÒ ÷ó ผูใดฝาฝน มาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสองปถึงยี่สิบป
และปรับต้ังแตส พ่ี ันบาทถงึ สห่ี มื่นบาท
¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่จะทาํ ประกอบ ซอม มี หรือจําหนายอาวุธปน
เครื่องกระสุนปนเพ่ือการคาจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่ หากบุคคลใดฝาฝน
ไมปฏิบัติตามมีความผิดและตองระวางโทษตามกฎหมาย
ใบอนุญาตใหทาํ ประกอบ ซอมแซม เปลี่ยนลักษณะ มี หรือจําหนายอาวุธปนหรือ
เครอื่ งกระสนุ ปนสําหรบั การคานั้น เม่ือไดรับอนุมตั จิ ากรัฐมนตรแี ลว จงึ ใหน ายทะเบียนทองที่ออกให
ใบอนญุ าตนี้ มีอายุ ๑ ป นบั แตว นั ออก
ö. ÃÒŒ ¹¤ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ จํา˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ ãËጠ¡¼‹ ·ŒÙ äèÕ Áä‹ ´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ÞØ ÒμãË«Œ Íé× ËÃÍ× ÁÕ
áÅÐ㪌
ÁÒμÃÒ óô หามมิใหจาํ หนายอาวุธปน หรือเครื่องกระสุนปนแกผูท่ีไมไดรับ
ใบอนุญาตใหซอื้ หรอื มแี ละใชอาวุธปน และเครือ่ งกระสนุ ปน
ÁÒμÃÒ ÷ó ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๓๔ ตองระวางโทษจาํ คุกตั้งแตหกเดือนถึงสิบป
และปรบั ต้ังแตห นงึ่ พนั บาทถงึ สองหม่นื บาท
เจา ของรา นคา อาวธุ ปน หมายถงึ บคุ คลซงึ่ เปน เจา ของรา นคา อาวธุ ปน จะจําหนา ยอาวธุ ปน
และกระสุนปนไดเฉพาะกับบุคคลท่ีไดรับใบอนุญาตใหซ้ือหรือมีและใชเทานั้น หากบุคคลซ่ึงเปน
เจา ของรา นคา อาวุธปนฝา ฝน ตองถือวา บคุ คลนน้ั มคี วามผิดและตอ งระวางโทษตามกฎหมาย
÷. ทาํ «Íé× ÁÕ Ê§Ñè นาํ à¢ÒŒ ÁÒ¤ÒŒ ËÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÇμÑ ¶ÃØ Ðàº´Ô â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹·ÍŒ §·èÕ
ÁÒμÃÒ óø หามมิใหผูใด ทํา ซื้อ มี ใช สั่ง นาํ เขา คาหรือจาํ หนายดวยประการใด
ซึ่งวตั ถรุ ะเบดิ เวน แตไ ดร บั ใบอนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งที่
ÁÒμÃÒ ÷ô ผูใดฝาฝนมาตรา ๓๘ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหน่ึงปถึงยี่สิบป และ
ปรบั ตง้ั แตสองพันบาทถึงสี่หมน่ื บาท
¼ŒÙã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ในการท่ีจะ ทาํ ซ้ือ มี ใช สั่ง นาํ เขามา หรือคาวัตถุ
ระเบิดตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่กอน ผูใดฝาฝนตองมีความผิดและตองรับโทษตาม
กฎหมาย
๓๔
ø. ÂŒÒÂÇÑμ¶ÃØ ÐàºÔ´¨Ò¡·Õèá˧‹ ˹§èÖ ä»ÍÕ¡á˧‹ ˹֧è â´ÂÁäÔ ´ÃŒ Ѻ͹ÞØ Òμ
ÁÒμÃÒ ôó หามมิใหยายวัตถุระเบิดจากที่แหงหนึ่ง เวนแตไดรับหนังสืออนุญาตจาก
เจาพนกั งานซึ่งรัฐมนตรกี ําหนดให และในการยา ยตองปฏบิ ัตติ ามเงื่อนไขในหนงั สืออนญุ าตน้นั แลว
ÁÒμÃÒ øð ผใู ดฝา ฝนมาตรา ๔๓ ตอ งระวางโทษปรบั ต้งั แตหา รอ ยบาทถึงหา พนั บาท
¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ถาจะทําการยายวัตถุระเบิดจะตองขออนุญาตจาก
เจาพนักงาน ซ่ึงรัฐมนตรีกําหนดไว ในกรณีท่ียายโดยไดรับอนุญาต จะตองปฏิบัติตามเง่ือนไขท่ี
กําหนดไวในหนังสืออนุญาตนั้นดวย ซึ่งถาหากผูใดฝาฝน ถือวาบุคคลน้ันมีความผิด และตอง
ระวางโทษตามทก่ี ฎหมายกําหนด
ù. ทํา Êѧè นาํ ࢌÒËÃÍ× ¤ÒŒ ´Í¡äÁŒà¾Å§Ô â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ Ѻ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹·ÍŒ §·èÕ
ÁÒμÃÒ ô÷ หา มมใิ หผ ใู ดทาํ สงั่ นาํ เขา หรอื คา ซงึ่ ดอกไมเ พลงิ เวน แตจ ะไดร บั ใบอนญุ าต
จากนายทะเบียนทองที่
ÁÒμÃÒ ÷÷ ผูใดฝาฝนมาตรา ๔๗ ตองระวางโทษจาํ คุกไมเกินหนึ่งเดือน หรือ
ปรับไมเ กินหนงึ่ พนั บาทหรือทัง้ จาํ ทัง้ ปรับ
¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา สั่ง นําเขาหรือคาดอกไมเพลิง จะตองไดรับ
อนญุ าตจากนายทะเบียนทอ งทเ่ี สยี กอน บคุ คลใดฝา ฝน บุคคลนน้ั ตอ งมคี วามผดิ และตองระวางโทษ
ตามกฎหมายกาํ หนด
ñð. ã˼Œ ͌٠è׹㪌ãºÍ¹ÞØ ÒμÍÒÇ¸Ø »„¹¢Í§μ¹
ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตท่ีออกใหตามความในพระราชบัญญัตินี้ ใหใชไดเฉพาะตัวผูรับ
ใบอนญุ าต
ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใ ดฝา ฝน มาตรา ๕๘ ตองระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กินสบิ ปหรือปรับไมเกิน
สองหม่นื บาทหรอื ทงั้ จําทง้ั ปรับ
¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามท่ีมีใบอนุญาต ยินยอมใหผูอ่ืนนําใบอนุญาตอาวุธปน
ของตนไปใชโดยเจตนา บคุ คลน้นั มคี วามผิดตอ งระวางโทษตามกฎหมาย
ññ. â͹ÍÒÇظ»¹„ à¤Ã×Íè §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ËÃÍ× ÇμÑ ¶ØÃÐàº´Ô ãˌ᡼‹ ŒÙ·èÕÁÔä´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ØÞÒμ
ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูท่ีมิไดรับ
ใบอนญุ าต
ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๕๙ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑๐ ป หรือ
ปรับไมเกินสองหมืน่ บาทหรอื ทงั้ จาํ ท้งั ปรับ
¼ãÙŒ ´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามท่ีจะโอนอาวุธปน เครื่องกระสนุ ปน หรือวตั ถุระเบิดใหกบั
ผูใดน้ันผูรับโอนจะตองเปนบุคคลที่ไดรับใบอนุญาตเทาน้ัน ถาหากบุคคลใดโอนอาวุธปน
เคร่ืองกระสุนปนหรือวัตถุระเบิดใหกับบุคคลท่ีไมมีใบอนุญาต การกระทําของผูนั้นถือวาเปน
ความผดิ ตอ งระวางโทษตามกฎหมาย
๓๕
ñò. ¼·ŒÙ èÕä´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ØÞÒμãËÁŒ ÕáÅÐ㪌ÍÒÇظ»¹„ ŒҶèÔ¹·ÍÕè Âã‹Ù ˌᨧŒ ÂŒÒÂá¡‹¹Ò·ÐàºÂÕ ¹
ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถิ่นที่อยูใหแจงการยายแก
นายทะเบียนทองที่ ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ ใหแจงการยายแก
นายทะเบียนทองทีใ่ หมใหท ราบภายในสิบหา วนั นับแตว ันที่ยายไปถงึ อกี ดวย
ÁÒμÃÒ øó ผูใ ดฝาฝน ตองระวางโทษปรับไมเกนิ หนึ่งพันบาท
ñó. äÁä‹ »Âè¹× ¤íÒ¢ÍÃºÑ ãºá·¹ãºÍ¹ÞØ Òμ·ÊÕè ÞÙ ËÒÂËÃ×ÍźàÅ×͹ÍÒ‹ ¹äÁÍ‹ Í¡μ‹Í¹Ò·ÐàºÂÕ ¹
ÁÒμÃÒ öù เมื่อใบอนุญาตสูญหาย เปนอันตราย หรือลบเลือนอานไมออก ใหผูรับ
ใบอนญุ าตยนื่ คาํ ขอรบั ใบแทนใบอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทภ่ี ายในสามสบิ วนั ทน่ี บั แตท ราบเหตนุ นั้
ถานายทะเบียนเห็นวามีเหตุผลเปนที่เชื่อถือไดใหออกใบแทนใหตามเงื่อนไขของใบอนุญาตเดิม
แตถาใบอนุญาตท่ีสูญหายไดคืนในภายหลัง ก็ใหสงใบแทนน้ันแกนายทะเบียนทองที่ภายในกาํ หนด
สิบหาวันนบั แตวนั ทีไ่ ดค นื
ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝาฝนมาตรา ๖๙ ตองระวางโทษปรับไมเกินหนงึ่ พันบาท
¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม เมื่อใบอนุญาตสูญหายหรือลบเลือนอานไมออกตอง
ย่ืนขอใบแทนตอนายทะเบียนทองที่ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันทราบเหตุ ถาหากไมยื่นขอรับใบแทน
จนพนกําหนด ผนู น้ั มีความผิดตองระวางโทษตามกฎหมาย
แตถาใบอนุญาตท่ีสูญหายแลวน้ันไดคืนภายหลัง ผูน้ันจะตองสงใบแทนท่ีเจาหนาท่ี
ออกใหคืนแกนายทะเบียนทองที่ภายในกําหนด ๑๕ วัน นับแตวันไดคืน ผูใดละเลยมีความผิด
และตอ งรบั โทษตามกฎหมาย
๓๖
ẺãºÍ¹ÞØ ÒμμÒ‹ §æ
¼¹Ç¡ ¡.
Ẻ ».ñ
เรอื่ ง.......................................................................
เขยี นที.่ ...................................................
วนั ที.่ .........เดือน..............................พ.ศ..................
ขาพเจา.......................................................................................อายุ......................ป
เชอื้ ชาต.ิ ..........................สญั ชาต.ิ ..........................ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท.่ี ........................หมทู .่ี ............
ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวดั ...........................................
ยนื่ คาํ ขอตอ นายทะเบยี นทอ งทป่ี ระจาํ ...............................................................................................
ดว ยขา พเจา มคี วามประสงค. ...........................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
(ลงชอื่ )..........................................................
ผขู ออนุญาต
๓๗
¼¹Ç¡ ¢.
Ẻ ». ò
ãºÍ¹ÞØ ÒμãËŒÊѧè ËÃÍ× ¹Òí à¢ÒŒ «§èÖ ÍÒÇظ»¹„
à¤Ã×èͧ¡ÃÐÊع»„¹ ÇμÑ ¶ØÃÐàºÔ´ ´Í¡äÁŒà¾Å§Ô ËÃ×ÍÊÔ§è à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »¹„
ใบอนุญาตท่ี
สถานท่อี อกใบอนุญาต
วัน เดอื น ป ท่ีออก
วนั เดือน ป ที่ส้ินอายุ
ชอื่ อายุ ผูรับใบอนุญาต
เช้ือชาติ สญั ชาติ
ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูที่ ตําบล
อําเภอ จังหวดั
ชนดิ ขนาด จํานวน ทไี่ ดรับอนุญาต
ใหส ่ัง หรือนําเขา
ส่งั หรือนาํ เขาจาก
คาธรรมเนยี ม
.................................................................
นายทะเบียนทอ งท่ี
ประทับตราประจําตาํ แหนง
๓๘
¼¹Ç¡ ¤.
Ẻ ». ó
ãºÍ¹ØÞÒμãË«Œ Í×é ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃ×Íà¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊع»¹„ ÊÇ‹ ¹ºØ¤¤Å
ãËÁŒ ÍÕ ÒÇ¸Ø »„¹ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ÊíÒËÃѺ¡ÒäŒÒ
ใบอนญุ าตท่ี
สถานที่ออกใบอนญุ าต
วนั เดอื น ป ท่อี อก
วัน เดอื น ป ท่สี ิน้ อายุ
ช่อื อายุ ผรู ับใบอนญุ าต
เชือ้ ชาติ สัญชาติ
ภูมิลาํ เนาบา นเลขที่ หมทู ี่ ตําบล
อาํ เภอ จังหวดั
ชนิด ขนาด จํานวน
ทีไ่ ดรบั อนญุ าต หรือมี
จาก
คาธรรมเนยี ม
................................................................. (แบบนม้ี ี ๓ ตอน)
นายทะเบียนทองท่ี
ประทับตราประจาํ ตําแหนง
๓๙
¼¹Ç¡ §.
Ẻ ». ô
ãºÍ¹ØÞÒμãËŒÁáÕ ÅÐ㪌ÍÒÇظ»„¹ ãËÁŒ ÕÍÒÇظ»¹„ äÇàŒ ¾Í×è ࡺç
ãËÁŒ áÕ ÅÐ㪌ÍÒÇ¸Ø »¹„ áÅÐà¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ªÑèǤÃÒÇ
ใบอนญุ าตที่
สถานทอ่ี อกใบอนุญาต
วนั เดือน ป ทอี่ อก
วนั เดือน ป ทีส่ ้ินอายุ
ชือ่ อายุ ผรู ับใบอนุญาต
เชอ้ื ชาติ สญั ชาติ
ภูมลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูท่ี
ตําบล อําเภอ จังหวดั
ชนิด ขนาด อาวุธปน
เลขหมายประจาํ ปน และช่อื ผูทาํ ปน
เคร่อื งหมายทะเบียน
ไดมาโดยซือ้ สง่ั นาํ เขา หรือมี
โดยซอื้ หรอื รับโอนจากใคร ทีใ่ ด
คา ธรรมเนียม
..................................................
นายทะเบียนทองท่ี
ประทบั ตราประจําตาํ แหนง
๔๐
àºç´àμÅç´
*ÁÒμÃÒ õõ “ประเภท ชนดิ และขนาดของอาวธุ ปน เคร่อื งกระสนุ ปนหรือวัตถุระเบิดท่ี
นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตใหไดตามมาตรา ๗ มาตรา ๒๔ หรือ มาตรา ๓๘ ใหเปนไปตามท่ี
กําหนดในกฎกระทรวง”
ÁÒμÃÒ õö รฐั มนตรมี อี าํ นาจหา มมใิ หอ อกใบอนญุ าตอาวธุ ปน หรอื เครอ่ื งกระสนุ ปน
เฉพาะบางชนิดในบางทองทีห่ รือทัว่ ราชอาณาจกั รตามที่กําหนดไวใ นกฎกระทรวง
ÁÒμÃÒ õ÷ ในคราวมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจําเปนเพ่ือรักษาความสงบเรียบรอย
ของประชาชน รัฐมนตรีมีอํานาจออกคําส่ังหามหรือจํากัดการออกใบอนุญาตทุกประเภท หรือ
บางประเภทในช่ัวระยะเวลาที่กําหนดจะออกคําสั่งโดยประกาศ หรือแจงเปนหนังสือ ใหผูรับ
ใบอนุญาตสงมอบอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดแกเจาพนักงาน เพ่ือเก็บรักษาไวหรือ
จะสั่งใหจําหนายเสียก็ได ในกรณีท่ีส่ังใหจําหนายใหนํามาตรา ๖๗ มาใชบังคับโดยอนุโลมและ
ถาไมอ าจปฏิบัติตามทกี่ ลาวแลว จะส่งั ใหจ าํ หนา ยแกทางราชการในราคาอนั สมควรกไ็ ด
คาํ สั่งนจ้ี ะกาํ หนดใหใ ชบ งั คบั ในบางทอ งท่ีหรอื ท่ัวราชอาณาจักรกไ็ ด
ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตที่ออกใหตามความในพระราชบัญญัติน้ี ใหใชเฉพาะตัวผูรับ
ใบอนุญาต
ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูที่มิไดรับ
ใบอนญุ าต
ÁÒμÃÒ öð เมอื่ ผรู บั ใบอนญุ าตไดร บั อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ
หรือสิ่งเทียมอาวุธปน ซึ่งไดสงเขามาตามใบอนุญาตใหส่ัง ฉบับใดพนจากอารักขาของเจาพนักงาน
ศุลกากรแลว แมวา ผูรับใบอนุญาตจะมิไดส ง่ั อาวุธปน เคร่ืองกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง หรือ
สิ่งเทียมอาวุธปนเชนวาน้ีเขามาครบตามที่อนุญาตไวในใบอนุญาตก็ดี ใบอนุญาตฉบับนั้นเปนอัน
ใชสง่ั ไมไ ดอีกตอไป
ÁÒμÃÒ öñ อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ หรอื สง่ิ เทยี มอาวธุ ปน
ท่ีสั่งเขามาในราชอาณาจักรโดยไมมีผูรับใบอนุญาต ใหสั่งใหตกเปนของแผนดินแตถาภายในสี่เดือน
นับแตวันท่ีของเขามาถึง ผูสั่งไดยื่นคํารองขอสงกลับออกนอกราชอาณาจักร รัฐมนตรีวาการ
กระทรวงการคลงั จะสง่ั อนญุ าตก็ได เมือ่ เปน ที่พอใจวา ผสู ัง่ ไมม ีสวนในการกระทาํ ผิดกฎหมาย
ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถ่ินที่อยูใหแจงการยายแก
นายทะเบียนทองที่ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ใหแจงการยายแก
นายทะเบียนทอ งที่ใหมใ หท ราบภายในสบิ หา วนั นบั แตว ันทีย่ ายไปถึงอกี ดว ย
*มาตรา ๕๕ น้ี แกไ ขหลงั สุดโดย พ.ร.บ.อาวธุ ปน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ นัย ม.๖
สวนของอาวุธปน ซง่ึ ถอื วา เปน “อาวุธปน” ตาม ม.๕๖ ดกู ฎกระทรวง ฉ.๓ การแจง ยา ยถนิ่ ที่อยู ตาม ม.๖๒
ดกู ฎกระทรวง ฉ.๑ ขอ ๑๐
๔๑
ÁÒμÃÒ öó ถานายทะเบียนทองท่ีปฏิเสธการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
ผูย่ืนคําขออนุญาตอาจอุทธรณตอรัฐมนตรีภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันท่ีไดรับแจง
การปฏเิ สธเปน หนงั สอื คาํ อทุ ธรณใ หย น่ื ตอ นายทะเบยี นทอ งท่ี และใหน ายทะเบยี นเสนอคาํ อทุ ธรณน น้ั
ตอ รฐั มนตรี โดยมิชักชา คาํ วินจิ ฉัยของรฐั มนตรีใหแจงเปนหนังสือไปยงั ผูย ่ืนคําขอใบอนุญาต
ในกรณีท่ีมีการอุทธรณ ระยะเวลาที่กําหนดไวในพระราชบัญญัติน้ี เพื่อการปฏิบัติตาม
คําสั่งของนายทะเบียนทองที่ใหสงกลับออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งอาวุธปนหรือเคร่ืองกระสุนปน
ตามมาตรา ๑๗ หรือใหจัดการจําหนายอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดตามมาตรา ๖๔
ใหนับแตวันที่ผูยื่นคําขอใบอนุญาตไดรับหนังสือแจงคําวินิจฉัยของรัฐมนตรีและเมื่อไดยื่นอุทธรณตอ
รฐั มนตรีแลว การปฏบิ ัติตามคําสัง่ ของนายทะเบยี นทอ งทนี่ น้ั ใหพ กั ไวจ นถึงวันท่ผี ูย ื่นคําขอใบอนุญาต
ไดร บั หนังสือแจง คําวนิ จิ ฉยั ของรัฐมนตรี
คําวนิ จิ ฉัยของรัฐมนตรใี หเ ปน ทสี่ ดุ
ÁÒμÃÒ öô ถา ผไู ดร บั อนญุ าตตาย ใหผ ซู ง่ึ มอี าวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ
หรือใบอนุญาตของผูตายอยูในความครอบครอง แจงการตายตอนายทะเบียนทองท่ีซ่ึงตนอยู หรือ
นายทะเบียนทองที่ท่ีออกใบอนุญาตหรือนายทะเบียนทองท่ีท่ีผูรับใบอนุญาตตายภายในกําหนด
สามสบิ วนั นบั แตว ันท่ีทราบการตายของผูร ับใบอนญุ าต
นายทะเบียนมีอํานาจส่ังใหเก็บรักษาอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดของ
ผรู ับใบอนุญาตที่ตายไวอ ยางไร และ ณ ท่ีใดก็ไดต ามควรแกกรณีและถามีขอ โตเ ถยี งถงึ เรอื่ งสิทธขิ อง
ทายาท กใ็ หเก็บรักษาไวจนกวา ขอโตเ ถียงนน้ั ถึงทสี่ ดุ
ภายในกําหนดหกเดือนนับแตวันที่ผูรับใบอนุญาตตาย หรือถามีขอโตเถียงถึงเร่ืองสิทธิ
ของทายาทนับแตวันท่ีขอโตเถียงน้ันถึงท่ีสุด ผูจัดการมรดกหรือทายาทในกรณีที่ไมมีผูจัดการมรดก
อาจขอใบอนญุ าตใหมไ ด เมอื่ นายทะเบยี นไดอ อกใบอนญุ าตใหแ ลว ใหม อบอาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน
หรือวัตถุระเบิดนั้นแกผูรับใบอนุญาตใหม ถาไมออกใบอนุญาตใหใหม ก็ใหแจงความใหผูขอ
ทราบและสั่งใหผูจัดการจําหนายส่ิงเหลานั้นภายในกําหนดหกเดือน นับแตวันรับคําส่ัง มิฉะน้ัน
ใหนายทะเบียนทองท่ีมีอํานาจจัดการขายทอดตลาดสิ่งเหลาน้ัน ไดเงินจํานวนสุทธิเทาใดใหสงมอบ
แกผ มู ีสทิ ธิ
ÁÒμÃÒ öõ ผูรับใบอนุญาตคนใดตกเปนผูซึ่งจะออกใบอนุญาตใหไมไดตามความใน
พระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหแ จงพฤตกิ ารณน ัน้ และสง มอบอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวตั ถรุ ะเบิด และ
ใบอนุญาตใหแกนายทะเบียนทองที่โดยไมชักชา และใหนายทะเบียนทองที่หรือรัฐมนตรีส่ังเพิกถอน
ใบอนุญาตนนั้ เสยี
ถา ผรู บั ใบอนุญาตเปนคนไรค วามสามารถ หรอื เปน คนเสมอื นไรค วามสามารถ หรือเปน
คนวิกลจริต หรือจิตฟนเฟอนไมสมประกอบ ใหผูอนุญาต ผูพิทักษ หรือผูควบคุมดูแล แลวแตกรณี
มหี นา ที่ตองปฏิบัติตามความในวรรคกอ น
ÁÒμÃÒ öö ถาปรากฏวาผูที่ไดรับใบอนุญาตตามความในพระราชบัญญัติน้ีเปนผูซ่ึง
จะออกใบอนญุ าตใหไ มไ ด ใหน ายทะเบยี นทอ งทห่ี รอื รฐั มนตรสี ง่ั เพกิ ถอนใบอนญุ าตนนั้ เสยี เมอื่ ไดร บั
๔๒
คําสั่งเพิกถอนใบอนุญาตแลว ใหผูรับใบอนุญาตสงมอบอาวุธปน เครื่องกระสุนปนหรือวัตถุระเบิด
และใบอนญุ าตแกนายทะเบียนทอ งท่โี ดยไมชักชา
ถาผูรับใบอนุญาตเปนคนไรความสามารถ หรือเปนคนเสมือนไรความสามารถหรือเปน
คนวิกลจริต หรือฟนเฟอนไมสมประกอบ ใหผูอนุบาล ผูพิทักษ หรือผูควบคุมดูแลแลวแตกรณี
มหี นาทตี่ อ งปฏิบัติตามความในวรรคกอ น
ÁÒμÃÒ ö÷ อาวุธปน เครือ่ งกระสนุ ปน หรือวัตถุระเบิด ซึง่ สงมอบไวต ามมาตรา ๖๕
หรือมาตรา ๖๖ นั้น ใหผูสงมอบจัดการโอนเสียภายในเกาสิบวัน นับแตวันท่ีสงมอบ ถาโอนได
นายทะเบียนทองท่ีท่ีมอบแกผูรับโอนไป แตถาโอนไมไดใหนายทะเบียนจัดการขายทอดตลาด
ภายหลังทไี่ ดป ระกาศและแจงใหผูสง มอบทราบแลวตามสมควร ไดเงนิ สทุ ธิเทาใดมอบใหแ กผมู สี ิทธิ
ÁÒμÃÒ öø เมอ่ื พฤตกิ ารณอ นั สมควรสงสยั วา ผรู บั ใบอนญุ าตคนใดจะเปน ผตู อ งหา ม
ในการออกใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓(๘) หรือ (๙) นายทะเบียนทองที่มีอํานาจเรียกประกันหรือ
ทัณฑบน จากผนู ้นั ได
ถาผูรับใบอนุญาตดังกลาวแลวหาประกันใหเปนท่ีเช่ือถือไมได หรือไมยอมทําทัณฑบน
ภายในเวลาอันสมควรตามท่ีนายทะเบียนไดกําหนดให ซ่ึงตองไมนอยกวาสามสิบวัน ใหถือวาผูรับ
ใบอนุญาตนั้นเปนผูซ ึ่งจะออกใบอนุญาตใหไมไ ด และใหนาํ มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ มาใชบงั คับ
โดยอนุโลม
ÁÒμÃÒ öù เม่ือใบอนุญาตสูญหายเปนอันตรายหรือลบเลือนอานไมออก ใหผูรับ
ใบอนญุ าต ยน่ื คาํ ขอรบั ใบแทนอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทภี่ ายในสามสบิ วนั นบั แตว นั ทท่ี ราบเหตนุ นั้
ถานายทะเบียนเห็นวามีเหตุผลเปนที่เช่ือถือไดก็ใหออกใบแทนใหตามเงื่อนไขของใบอนุญาตเดิม
แตถาใบอนุญาตที่สูญหายไดคืนในภายหลัง ก็ใหสงใบแทนนั้นแกนายทะเบียนทองท่ีภายในกําหนด
สิบหาวันนบั แตว ันท่ไี ดคืน
ÁÒμÃÒ ÷ð หามไมใหผูใดนําอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดผาน
ราชอาณาจกั ร เวน แตจ ะไดร บั หนงั สอื อนญุ าตจากรฐั มนตรี หรอื เจา พนกั งานซงึ่ รฐั มนตรแี ตง ตง้ั เพอื่ การนี้
ผูน าํ หนงั สืออนญุ าตใหนําอาวธุ ปน เคร่อื งกระสุนปน หรอื วตั ถุระเบิดผา นราชอาณาจกั ร
จะนําสิ่งเชนวานั้นผานราชอาณาจักรไดเฉพาะแตทางดานศุลกากรซึ่งรัฐมนตรีกําหนดไว และตอง
แจง ความตามแบบพิมพข องกรมศลุ กากรแกพ นักงานศลุ กากร
เม่ือพนักงานศุลกากรไดรับแจงความตามวรรคกอนแลว ใหแจงเร่ืองใหนายทะเบียน
ทองท่ีทราบ ถานายทะเบียนทองท่ีเห็นเปนการจําเปนเพ่ือความปลอดภัยของประชาชนจะจัดการ
ควบคุม อาวุธปน หรือวัตถุระเบิด ในระหวางท่ีอยูในราชอาณาจักรก็ได และผูรับหนังสืออนุญาต
เปน ผอู อกคา ใชจ า ยในการนน้ั
ÁÒμÃÒ ÷ñ ใหรัฐมนตรีมีอํานาจจํากัดจํานวนรานคา และกําหนดจํานวนชนิดและ
ขนาดอาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปนสําหรับการคา
ตามท่ีเหน็ สมควร
๔๓
º·¡Ó˹´â·É
*ÁÒμÃÒ ÷ò “ผูใดฝาฝนมาตรา ๗ ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตหน่ึงปถึงสิบป และ
ปรบั ตั้งแตสองพนั บาทถึงสองหม่นื บาท
ถาการฝาฝนตามวรรคหนึ่งเปนเพียงกรณีเกี่ยวกับสวนหน่ึงสวนใดของอาวุธปนตามที่
กําหนดไวในกฎกระทรวง หรือเปนกรณีมีเครื่องกระสุนปน ผูฝาฝนตองระวางโทษจําคุกไมเกินสิบป
หรอื ปรับไมเ กนิ สองหมื่นบาทหรือทัง้ จําทั้งปรับ
ถาการฝาฝนตามวรรคหน่ึงเปนเพียงการมีอาวุธปนที่เปนของผูอ่ืนซึ่งไดรับใบอนุญาต
ใหมีและใชตามกฎหมาย ผูฝาฝนตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหกเดือนถึงหาป และปรับตั้งแต
หนง่ึ พนั บาทถงึ หน่งึ หมืน่ บาท”
“ถา การฝา ฝน ตามวรรคหนงึ่ เปน การทาํ เครอื่ งกระสนุ ปน ทท่ี าํ ดว ยดนิ ปน มคี วนั สําหรบั ใชเ อง
โดยไมไ ดรบั อนุญาตจากนายทะเบยี นทอ งที่ ผูฝาฝนตองระวางโทษปรับไมเกินหนง่ึ พันบาท”
®¡Õ Ò·Õè ÷øðó/òõôó รับจํานาํ ปน มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐
มาตรา ๗๒ วรรคสาม
*ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๘ มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสาม
มาตรา ๒๐ มาตรา ๕๘ มาตรา ๕๙ มาตรา ๖๕ มาตรา ๖๖ หรอื มาตรา ๗๐ วรรคหนึ่ง หรอื วรรคสอง
ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเกินสบิ ป หรือปรบั ไมเกนิ สองหมน่ื บาทหรอื ท้งั จาํ ท้งั ปรับ
ผูใดฝาฝนมาตรา ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหาปหรือปรับไมเกิน
หน่ึงหมื่นบาท หรือท้ังจําทั้งปรับ ถาผูน้ันฝาฝนมาตรา ๘ ทวิ วรรคสองดวย ตองระวางโทษจําคุก
ต้งั แตห กเดอื นถงึ หา ป และปรบั ตงั้ แตห น่ึงพนั บาทถงึ หนึง่ หม่นื บาท
ผูไดรับใบอนญุ าตใหมีอาวุธปนติดตวั ผใู ดฝาฝนมาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง ตองระวางโทษ
จําคกุ ไมเ กนิ หนึ่งป หรือปรบั ไมเ กนิ สองพนั บาท หรอื ทงั้ จาํ ทั้งปรบั
*ÁÒμÃÒ ÷ó ผูใดฝาฝนมาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตสองปถึงยี่สิบปและ
ปรบั ตั้งแตสพ่ี ันบาทถงึ ส่หี มน่ื บาท
*ÁÒμÃÒ ÷ó ·ÇÔ ผใู ดฝา ฝนมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ หรอื มาตรา ๓๔ ตอ งระวางโทษ
จาํ คุก ตง้ั แตหกเดอื นถงึ สบิ ป และปรับตงั้ แตห นง่ึ พนั บาทถึงสองหมื่นบาท
*ÁÒμÃÒ ÷ô ผูใดฝาฝนบทบัญญัติเกี่ยวกับวัตถุระเบิดตามมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่งหรือ
วรรคสาม ซ่ึงไดนํามาใชบังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๔๑ หรือฝาฝนมาตรา ๓๘ ตองระวางโทษ
จาํ คกุ ตัง้ แตห นง่ึ ปถึงยส่ี ิบป และปรับตั้งแตส องพันบาทถงึ ส่ีหมืน่ บาท
* มาตรา ๗๒ แกไขหลงั สดุ ตามคาํ สงั่ ของคณะปฏริ ูปฯ (ฉ.๔๔) พ.ศ.๒๕๑๙ นัยขอ ๖
* มาตรา ๗๒ วรรคส่ี เพมิ่ เตมิ พ.ร.บ.อาวธุ ปน (ฉ.๗) พ.ศ.๒๕๒๒ นยั ม.๗ เจา พนกั งานอนมุ ตั ิ ม.๗๐ ดรู ะเบยี บกรมตาํ รวจ ขอ ๒
* มาตรา ๗๒ ทวิ-๗๗ แกไ ขหลงั สุดตามคาํ สงั่ ของคณะปฏิรูปฯ (ฉ.๔๔) พ.ศ.๒๕๑๙ นัยขอ ๗, ๘ และ ๙ ตามลาํ ดับ