87 ใบงานที่2.3 เฉลย เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ คำชี้แจง : ให้นักเรียนแสดงวิธีหาผลลัพธ์ของโจทย์ต่อไปนี้ 1) 7 2 7 - + = 9 3 18 2) 3 2 ×20+ = 9 3 3) 2 1 5× - = 5 15 4) 17 11 4 - - = 24 12 6 5) 9 3 1 - × = 12 6 2 6) 1 3 2 + × ÷ 4 = 6 12 3 วิธีท ำ 7 2 7 - + 9 3 18 = 7 7 2×3 - + 9 3×3 18 = ตอบ ๙ ๑๘ วิธีท ำ 2 1 5× - 5 15 = 2×3 1 5× - 5×3 15 = 6 1 5× - 15 15 = 5 5×15 ตอบ ๒ ๑ ๓ วิธีท ำ = 9 1 3×2 - × 12 6×2 2 = = 3 1 × 12 2 ตอบ ๑ ๘ 9 3 1 - × 12 6 2 วิธีท ำ 3 2 ×20+ 9 3 = 3×20 2 + 9 3 = 60 6 + 9 9 = 60 2×3 + 9 3×3 ตอบ ๑๗ ๓ วิธีท ำ 17 11 4 - - 24 12 6 = 17 11 4×2 - - 24 12 6×2 = 17 11 8 - - 24 12 12 = 17 3×2 - 24 12×2 ตอบ ๑๑ ๒๔ วิธีท ำ 1×2 3 2 + × ÷ 4 6×2 12 3 ตอบ ๕ ๗๒ = 1 7 + 9 18 9 6 1 - × 12 12 2 = 7 6 7 - + 9 9 18 = 9 18 = 5 3 = 2 1 3 = 3 24 = 1 8 = 66 9 = 1 7 3 17 3 - 24 12 = = 11 24 = 2 3 2 1 + × × 12 12 3 4 = 5 2 × 12 12 = 10 144 = 5 72 = 22 3 1 3
88 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ เวลา 3 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.5/5 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน 2 ขั้นตอน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) วิเคราะห์โจทย์ปัญหา และวางแผนแก้โจทย์ปัญหาจากโจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ ที่กำหนดให้ได้(K) 2) หาคำตอบของโจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละที่กำหนดให้ได้ (K) 3) เขียนแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละที่กำหนดให้ได้ (P) 4) ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบจากโจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ ที่กำหนดให้ได้ (P) 5) รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การแก้โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา การ วางแผนแก้โจทย์ปัญหา การแก้ปัญหาโดยเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธีทำเป็นลำดับขั้นตอน แล้วจึง หาคำตอบ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 2) ทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
89 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ ขั้นนำ ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากนั้นทบทวนความรู้เรื่อง การคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ โดยครูแจก กระดาษ Post it ให้นักเรียนคนละ 2 แผ่น แล้วให้นักเรียนเขียนโจทย์การคูณ การหารเศษส่วนและ จำนวนคละลงในกระดาษ Post it พร้อมกับเขียนคำตอบไว้ด้านหลังของแต่ละแผ่น 2. ครูให้นักเรียนนำกระดาษ Post it ที่เขียนโจทย์และคำตอบไว้เรียบร้อยแล้วไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อนคนอื่น ๆ จากนั้นให้นักเรียนเขียนแสดงวิธีทำอย่างละเอียด แล้วนำไปติดบนบอร์ดที่ครูเตรียมไว้ให้ เพื่อเป็นแหล่งการ เรียนรู้เพิ่มเติมให้กับเพื่อนในชั้นเรียน 3. ครูสุ่มหยิบกระดาษ Post it ออกมา 5-8 แผ่น จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของการเขียน แสดงวิธีทำ หากไม่ถูกต้อง ครูให้นักเรียนช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้อง ส่วนที่เหลือครูนำไปตรวจท้ายชั่วโมงเรียน 4. ครูให้นักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เรื่องโจทย์ปัญหาการหาร ที่เคยเรียนมาแล้วในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายขั้นตอนวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา จากนั้นครูเขียนคำตอบของ นักเรียนบนกระดาน และสรุปขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาต่าง ๆ ดังนี้ ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์โจทย์ปัญหา ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา ขั้นที่ 3 การแก้ปัญหา ขั้นที่ 4 การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 การจัดการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างที่ 18-21 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 68-72 จากนั้นครูให้ นักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา ดังนี้ ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์โจทย์ปัญหา - ครูให้นักเรียนร่วมกันบอกสิ่งที่โจทย์กำหนดให้และสิ่งที่โจทย์ถาม ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา - ครูขออาสาสมัครออกมาเขียนแผนภาพบาร์โมเดลบนกระดาน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นที่ 3 การแก้ปัญหา ชั ่วโมงที่ 1
90 - ครูสุ่มนักเรียนออกมาเขียนประโยคสัญลักษณ์และแสดงวิธีทำอย่างละเอียดบนกระดาน ขั้นที่ 4 การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ - ครูสุ่มนักเรียนออกมาอธิบายคำตอบที่ได้ว่าถูกต้องหรือไม่ 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันจัดโต๊ะออกเป็น 4 กลุ่ม ไว้บริเวณมุมห้องทั้ง 4 มุม จากนั้นอธิบายกติกาของกิจกรรม “โจทย์ปัญหา กริ๊ง กริ๊ง” โดยให้นักเรียนฟังตามขั้นตอน ดังนี้ 1) ครูเตรียมฐานกิจกรรมไว้ 4 ฐาน แต่ละฐานจะมีบัตรข้อความโจทย์ปัญหาการคูณหรือการหารเศษส่วน และจำนวนคละวางไว้3 ใบ ดังนี้ ฐานที่ 1 ฐานที่ 2 ฐานที่ 3 ฐานที่ 4 2) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยครูแจกใบบันทึกข้อมูลให้นักเรียนกลุ่มละ 1 ชุด จากนั้นครูให้นักเรียนจับฉลากว่ากลุ่มใดจะได้เริ่มต้นจากฐานกิจกรรมใด 3) เมื่อนักเรียนได้ยินเสียงสัญญาณ “เริ่ม” รอบที่ 1 ให้นักเรียนเรียงบัตรข้อความในฐานนั้น ๆ เป็นโจทย์ปัญหาให้ถูกต้อง จากนั้นบันทึกสิ่งที่โจทย์กำหนดให้ และสิ่งที่โจทย์ถามลงในใบบันทึกข้อมูล ให้เรียบร้อย 4) เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ “เริ่ม” รอบที่ 2 ให้นักเรียนเปลี่ยนกลุ่ม โดยย้ายไปฐานที่อยู่ทางขวามือของตนเอง จากนั้นเรียงบัตรข้อความในฐานนั้น ๆ เป็นโจทย์ปัญหาให้ถูกต้อง แล้วบันทึกสิ่งที่โจทย์กำหนดให้ และสิ่งที่โจทย์ถามลงในใบบันทึกข้อมูลให้เรียบร้อยเช่นเดิม และครูทำเช่นนี้อีก 2 ครั้ง (สัญญาณรอบที่ 3 และ 4) เพื่อให้นักเรียนได้บันทึกโจทย์ปัญหาในแต่ละฐานให้ครบถ้วน 5) ครูให้นักเรียนนั่งประจำโต๊ะของตนเอง จากนั้นร่วมกันอภิปรายสิ่งที่โจทย์กำหนดให้และสิ่งที่โจทย์ถาม มีเงาะ 30 กิโลกรัม น ามาบรรจุเป็นถุง ถุงละ 1 4 กิโลกรัม จะบรรจุได้กี่ถุง มีที่ดิน 3 8 4 ไร่ ต้องการแบ่งเป็นแปลง แปลงละ 1 1 4 ไร่ จะแบ่งที่ดินได้กี่ แปลง แม่ค้าอบขนมพาย 60 ชิ้น แต่ละกล่องมีขนมพาย 1 4 ของขนมพายทั้งหมดที่ อบ ถ้าแม่ค้าตั้งราคาขนมพายกล่องละ 50 บาท เมื่อขายขนมหมด แม่ค้าได้เงินกี่ บาท กรวุฒิมีต้นไม้จ านวนหนึ่ง แบ่งให้ เพื่อนไป 2 5 ของต้นไม้ทั้งหมด ยังเหลือต้นไม้อีก 60 ต้น เดิมกรวุฒิมีต้นไม้ ทั้งหมดเท่าใด
91 ด้วยการถาม-ตอบ หากกลุ่มใดทำถูกต้องมากที่สุด ครูให้คะแนนสะสมกลุ่มละ 1 คะแนน 6) เมื่อครูให้สัญญาณรอบที่ 5 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันวาดแผนภาพบาร์โมเดล เพื่อเป็นการวิเคราะห์ วิธีการแก้โจทย์ปัญหาลงในใบบันทึกข้อมูล เมื่อทุกกลุ่มทำเสร็จเรียบร้อย ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนออกมา นำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง หากกลุ่มใดทำถูกต้องสมบูรณ์จะได้รับคะแนน สะสม 7) เมื่อครูให้สัญญาณรอบที่ 6 ครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวิธีทำพร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผล ของคำตอบลงในใบบันทึกข้อมูล 8) เมื่อหมดเวลา ครูสุ่มนักเรียน 4 กลุ่ม ออกมานำเสนอวิธีการแก้โจทย์ปัญหาหน้าชั้นเรียน จากนั้นครูให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มตรวจสอบความถูกต้องของใบบันทึกข้อมูล โดยครูเป็นผู้ให้คะแนนสะสม 9) ครูให้รางวัลสำหรับกลุ่มที่มีคะแนนสะสมมากที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ำในสิ่งที่นักเรียนมักทำผิดพลาด ขั้นสรุป ขั้นที่ 3 สรุปและนำหลักการไปประยุกต์ใช้ 1. ครูให้นักเรียนจับคู่แล้วร่วมกันยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ จากนั้นเขียน ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา ลงในสมุด เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนแลกเปลี่ยนคำตอบกับคู่ของตนเอง สนทนา ซักถามจนเป็นที่เข้าใจร่วมกัน 2. ครูให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 72 ลงในสมุด เมื่อทำเสร็จแล้วครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ 3. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 1-3 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 73 เป็นการบ้าน 4. ครูถามคำถามเพื่อสรุปความรู้รวบยอดของนักเรียน ดังนี้ • ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหามีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง (แนวตอบ ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหามี 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์โจทย์ปัญหา ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา ขั้นที่ 3 การแก้ปัญหา และขั้นที่ 4 การตรวจสอบความสมเหตุสมผล ของคำตอบ) • นักเรียนสามารถระบุสิ่งใดได้บ้างในขั้นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา (แนวตอบ สิ่งที่โจทย์กำหนดให้ และสิ่งที่โจทย์ถาม) • นักเรียนสามารถเขียนประโยคสัญลักษณ์และแสดงวิธีทำในขั้นตอนใด (แนวตอบ ขั้นที่ 3 การแก้ปัญหา) ชั ่วโมงที่ 3 ชั ่วโมงที่ 2
92 • นักเรียนคิดว่าการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบสำคัญหรือไม่ (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น สำคัญ เพราะการ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ สามารถตรวจสอบว่าคำตอบที่เราคิดคำนวณได้ถูกต้องหรือไม่) 5. ครูแจกใบงานที่ 2.4 เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ ให้นักเรียนทำ จากนั้นครู แบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของประโยคสัญลักษณ์ที่เพื่อนเขียน หากมีเพื่อน คนใดทำไม่ถูกต้อง ให้ช่วยกันอภิปรายจนเพื่อนเข้าใจ 6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับสลากเพื่อเลือกโจทย์ปัญหาในใบงาน จากนั้นครูแจกกระดาษสี ต่าง ๆ ฟิวเจอร์บอร์ด และปากกาเมจิกให้นักเรียนกลุ่มละ 1 ชุด แล้วให้นักเรียนร่วมกันเขียนขั้นตอนการแก้ โจทย์ปัญหาที่จับสลากได้ลงในฟิวเจอร์บอร์ด โดยให้นักเรียนนำเสนอการวางแผนแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้ แผนภาพบาร์โมเดล ด้วยกระดาษสีที่ครูแจกให้เมื่อทำเสร็จแล้วครูสุ่มตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอ คำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 7. ครูให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 4-7 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 73 เมื่อทำเสร็จแล้วครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ 8. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ 1-2 ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 45-51 เป็นการบ้าน ขั้นที่ 4 วัดและประเมินผล 1. ครูประเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคลและการร่วมกันทำกิจกรรมกลุ่ม 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 2.4 เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำกิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 และทำแบบฝึกหัด ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและ จำนวนคละ - ตรวจใบงานที่ 2.4 - ตรวจกิจกรรม ฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2.4 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะ - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมินคุณลักษณะ - ระดับคุณภาพ 2
93 รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน อันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน อันพึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน 2) แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน 3) ใบงานที่ 2.4 เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ 4) กระดาษ Post it 5) ใบบันทึกข้อมูลกิจกรรม “โจทย์ปัญหา กริ๊ง กริ๊ง” 6) บัตรข้อความโจทย์ปัญหา 7) กระดาษสี 8) ปากกาเมจิก 9) ฟิวเจอร์บอร์ด 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน
94 ใบงานที่2.4 เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ คำชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนคำตอบที่ได้ลงในช่องว่าง 1. พ่อค้ามีปลาอยู่ 80 กิโลกรัม วันแรกขายปลาได้ 1 2 ของปลาที่มีอยู่ วันต่อมาขายได้อีก 1 2 ของปลาที่เหลือ พ่อค้าเหลือปลาอยู่เท่าใด 2. รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีด้านกว้าง 1 4 5 เซนติเมตร ยาว 2 6 3 เซนติเมตร รูปสี่เหลี่ยมรูปนี้มีพื้นที่เท่าใด 3. ปรอทหนักเป็น 3 135 เท่าของน้ำหนักของน้ำ ทองคำหนักเป็น 3 195 เท่าของน้ำหนักของน้ำ ทองคำหนักเป็น กี่เท่าของน้ำหนักของปรอท 4. แม่ค้าทำขนม 60 ชิ้น บรรจุใส่กล่อง แต่ละกล่องมีขนม 1 4 ของขนมทั้งหมด แม่ค้าตั้งราคาขนมไว้กล่องละ 100 บาท เมื่อขายขนมหมด แม่ค้าได้เงินกี่บาท ตอบ ตอบ ตอบ ตอบ
95 ใบงานที่2.4 เฉลย เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณ การหารเศษส่วนและจำนวนคละ คำชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนคำตอบที่ได้ลงในช่องว่าง 1. พ่อค้ามีปลาอยู่ 80 กิโลกรัม วันแรกขายปลาได้ 1 2 ของปลาที่มีอยู่ วันต่อมาขายได้อีก 1 2 ของปลาที่เหลือ พ่อค้าเหลือปลาอยู่เท่าใด 2. รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีด้านกว้าง 1 4 5 เซนติเมตร ยาว 2 6 3 เซนติเมตร รูปสี่เหลี่ยมรูปนี้มีพื้นที่เท่าใด 3. ปรอทหนักเป็น 3 135 เท่าของน้ำหนักของน้ำ ทองคำหนักเป็น 3 195 เท่าของน้ำหนักของน้ำ ทองคำหนักเป็น กี่เท่าของน้ำหนักของปรอท 4. แม่ค้าทำขนม 60 ชิ้น บรรจุใส่กล่อง แต่ละกล่องมีขนม 1 4 ของขนมทั้งหมด แม่ค้าตั้งราคาขนมไว้กล่องละ 100 บาท เมื่อขายขนมหมด แม่ค้าได้เงินกี่บาท ตอบ พ่อค้าเหลือปลาอยู่ 20 กิโลกรัม ตอบ รูปสี่เหลี่ยมรูปนี้มีพื้นที่ 28 ตารางเซนติเมตร ตอบ ทองค าหนักเป็น 15 1 34 เท่าของน ้าหนักของปรอท ตอบ เมื่อขายขนมหมด แม่ค้าได้เงิน 400 บาท
96 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ เวลา 3 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.5/5 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน 2 ขั้นตอน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) วิเคราะห์โจทย์ปัญหา และวางแผนแก้โจทย์ปัญหาจากโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน และจำนวนคละที่กำหนดให้ได้(K) 2) หาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละที่กำหนดให้ได้ (K) 3) เขียนแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละที่กำหนดให้ ได้ (P) 4) ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบจากโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน และจำนวนคละที่กำหนดให้ได้ (P) 5) รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การแสดงวิธีทำและหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา แก้โจทย์ปัญหาโดยเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธีทำเป็นลำดับขั้นตอน แล้วจึงหาคำตอบ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบและวิธีการหา คำตอบจากโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ หากมีเครื่องหมาย +, -, × และ ÷ อยู่ในประโยคสัญลักษณ์เดียวกันมีหลักการ ดังนี้ 1) หากมีวงเล็บให้คำนวณหาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อน 2) หากมีคำว่า “ของ” อยู่ด้วยให้นำมาหาผลลัพธ์ก่อน แล้วจึงดำเนินการกับเครื่องหมายอื่นในลำดับถัดไป
97 3) หากมีเครื่องหมายหารให้เปลี่ยนจากเครื่องหมายหารเป็นเครื่องหมายคูณก่อน จากนั้นคูณด้วย ส่วนกลับของเศษส่วนที่เป็นตัวหาร 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 2) ทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ขั้นนำ ขั้นที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม ครูทบทวนความรู้เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ โดยการถาม-ตอบ ดังนี้ • การหาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนใช้หลักการเดียวกับการหาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ เหมือนกัน คือ ถ้ามีวงเล็บให้หาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อน) • จากโจทย์ 3 1 4 2 × + 5 7 9 = มีลำดับการหาคำตอบอย่างไร (แนวตอบ ขั้นที่ 1 หาผลคูณในวงเล็บก่อน และขั้นที่ 2 นำผลลัพธ์ที่ได้บวกกับ 4 9 ) • ถ้าโจทย์ไม่มีวงเล็บและมีการดำเนินการทั้งบวก ลบ คูณ และหาร นักเรียนจะหาผลคูณหรือผลหารได้ อย่างไร (แนวตอบ ถ้าโจทย์ไม่มีวงเล็บและมีการดำเนินการทั้งบวก ลบ คูณ และหาร ให้หาผลคูณหรือผลหารจาก ซ้ายไปขวาก่อน แล้วจึงหาผลบวกหรือผลลบจากซ้ายไปขวา) ขั้นสอน ขั้นที่ 2 การแสวงหาความรู้ใหม่ 1. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม “ชูป้ายตามใจโจทย์” มีขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 1) ครูแจกกระดาษสีขนาด 5 × 10 เซนติเมตร ให้นักเรียนคนละ 4 สีโดยกำหนดให้สีแดงแทนเครื่องหมาย ชั ่วโมงที่ 1
98 บวก สีขาวแทนเครื่องหมายลบ สีฟ้าแทนเครื่องหมายคูณ และสีดำแทนเครื่องหมายหาร 2) ครูสุ่มนักเรียนออกมาหยิบซองโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ แล้วอ่านโจทย์ให้เพื่อนในชั้นเรียนฟัง จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่าโจทย์ดังกล่าวเป็นการบวก การลบ การคูณ หรือการหาร 3) เมื่อครูสั่งให้ยกกระดาษ ให้นักเรียนแต่ละคนยกกระดาษสีที่ตรงกับเครื่องหมายที่วิเคราะห์ได้ จากโจทย์ปัญหาที่เพื่อนอ่าน 4) ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์โจทย์ นักเรียนที่ตอบถูกต้องได้รับคะแนนสะสมข้อละ 1 คะแนน เมื่อครบ 10 ข้อ ครูรวมคะแนนและมอบรางวัลให้นักเรียนที่ทำได้คะแนนสูงสุด หมายเหตุ : ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมเช่นนี้ประมาณ 6-8 ครั้ง 2. ครูติดแถบโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละบนกระดาน ดังนี้ 3. ครูให้นักเรียนอ่านโจทย์ปัญหาพร้อมกัน จากนั้นครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ • สิ่งที่โจทย์กำหนดให้คืออะไร (แนวตอบ ไม้ท่อนหนึ่งยาว 3 6 4 เมตร ตัดปลายด้านหนึ่งออก 1 2 เมตร ที่เหลือนำมาตัดเป็น 5 ท่อน ยาวท่อนละเท่า ๆ กัน) • สิ่งที่โจทย์ถามคืออะไร (แนวตอบ จะได้ไม้แต่ละท่อนยาวกี่เมตร) • นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร (แนวตอบ 3 1 6 - ÷ 5= 4 2 ) 4. ครูสุ่มนักเรียนออกมาเขียนแสดงวิธีทำอย่างละเอียดบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนในชั้นร่วมกันตรวจสอบ ความถูกต้อง หากพบว่านักเรียนทำไม่ถูกต้อง ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น 5. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างที่ 22 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 74-75 จากนั้นครูถามคำถาม ดังนี้ • จากตัวอย่างที่ 22 สิ่งที่โจทย์กำหนดให้คืออะไร (แนวตอบ ป้านุ้ยมีมะเขือเทศ 1 5 2 กิโลกรัม แบ่งใส่ถุง ถุงละ 1 2 กิโลกรัม จากนั้นป้านุ้ยขายมะเขือเทศ ถุงละ 1 102 บาท) • จากตัวอย่างที่ 22 สิ่งที่โจทย์ถามคืออะไร (แนวตอบ ถ้าป้านุ้ยขายมะเขือเทศหมด ป้านุ้ยจะได้เงินกี่บาท) ไม้ท่อนหนึ่งยาว 3 6 4 เมตร ตัดปลายด้านหนึ่งออก 1 2 เมตร ที่เหลือน ามาตัดเป็น 5 ท่อน ยาวท่อนละเท่า ๆ กัน จะได้ไม้แต่ละท่อนยาวกี่เมตร
99 • จากตัวอย่างที่ 22 เขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร (แนวตอบ 1 1 1 5 ÷ ×10 = 2 2 2 ) ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน จากนั้นครูแจกบัตรโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของเศษส่วนและจำนวนคละ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 ข้อ โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย วิเคราะห์โจทย์ปัญหาและเขียนประโยคสัญลักษณ์ ซึ่งโจทย์ปัญหาต่าง ๆ มีดังนี้ แพรวมีเงิน 5,600 บาท พลอยมีเงินเป็น 3 1 4 เท่าของเงินแพรว และพราวมีเงินเป็น 4 5 ของเงินแพรว สามคนมีเงินรวมกันเท่าใด แม่ค้าขายน้ำตาลทรายให้ลูกค้า 3 154 กิโลกรัม ที่เหลือแบ่งใส่ถุงขนาด 1 1 2 กิโลกรัม ได้ 36 ถุง แม่ค้า มีน้ำตาลทรายทั้งหมดกี่กิโลกรัม พ่อค้ามีแป้งสาลีอยู่ 49 กิโลกรัม แบ่งขายไป 25 ถุง ถุงละ 3 1 4 กิโลกรัม พ่อค้าเหลือแป้งสาลีกี่กิโลกรัม สวนแห่งหนึ่งมีพื้นที่ 152 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงอกร่อง 3 8 ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นพื้นที่ปลูกมะม่วง เขียวเสวย 9 16 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ที่เหลือใช้ปลูกมะพร้าว สวนแห่งนี้ปลูกมะพร้าวทั้งหมดกี่ไร่ ป้าชุลีมีที่นา 1 252 ไร่ แบ่งให้ลูกไป 1 5 4 ไร่ ที่เหลือทั้งหมดขายไป ไร่ละ 60,000 บาท ป้าชุลีขายที่นา ได้เงินเท่าใด ถนนเส้นหนึ่งยาว 56 กิโลเมตร ราดยางไปแล้ว 3 4 ของระยะทางทั้งหมด เหลือถนนที่ยังไม่ราดยาง เป็นระยะทางเท่าใด 2. ครูให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาหน้าชั้นเรียน โดยให้นักเรียนที่เหลือ จดบันทึกสิ่งที่เพื่อนออกมานำเสนอลงในสมุด เมื่อนักเรียนนำเสนอเสร็จแล้วครูกล่าวชื่นชมและอธิบาย เพิ่มเติมในจุดที่ยังมีข้อบกพร่อง ขั้นที่ 4 การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายว่าสิ่งที่เพื่อนออกมานำเสนอถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าเพื่อนเกิด ข้อสงสัยให้สมาชิกภายในกลุ่มที่เหลืออธิบายเพิ่มเติมจนสมาชิกทุกคนเข้าใจตรงกัน 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบของโจทย์ปัญหาแต่ละข้อบนกระดาน หากครูพบว่านักเรียนมีข้อสงสัย หรือเข้าใจผิด ให้ครูอธิบายเพิ่มเติม ชั ่วโมงที่ 2
100 ขั้นที่ 5 การสรุปและจัดระเบียบความรู้ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ โดยครูถามคำถาม ดังนี้ • ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาขั้นแรกคืออะไร (แนวตอบ ขั้นแรก คือ การวิเคราะห์โจทย์ปัญหาว่า โจทย์กำหนดอะไรและโจทย์ถามอะไร) • ขั้นที่ 2 คืออะไร (แนวตอบ การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา โดยใช้แผนภาพบาร์โมเดล) • ขั้นที่ 3 คืออะไร (แนวตอบ การแก้ปัญหา โดยการเขียนประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธีทำอย่างละเอียด และเขียนคำตอบที่ได้) • ขั้นที่ 4 คืออะไร (แนวตอบ การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า “วิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน และจำนวนคละ หากมีเครื่องหมาย +, -, × และ ÷ อยู่ในประโยคสัญลักษณ์เดียวกันมีหลักการ ดังนี้ 1) หากมีวงเล็บให้คำนวณหาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อน 2) หากมีคำว่า “ของ” อยู่ด้วยให้นำมาหาผลลัพธ์ก่อน แล้วจึงดำเนินการกับเครื่องหมายอื่นในลำดับถัดไป 3) หากมีเครื่องหมายหารให้เปลี่ยนจากเครื่องหมายหารเป็นเครื่องหมายคูณก่อน จากนั้นคูณด้วย ส่วนกลับของเศษส่วนที่เป็นตัวหาร” ขั้นที่ 6 การปฏิบัติ และ/หรือการแสดงผลงาน 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน จากนั้นครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มค้นคว้าหาข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นโจทย์ปัญหาระคนของเศษส่วนและจำนวนคละกลุ่มละ 2 โจทย์ปัญหา โดยต้องเป็น โจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละที่ไม่ซ้ำกัน 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอโจทย์ปัญหา โดยเขียนโจทย์ปัญหาไว้บนกระดาน จากนั้นให้เพื่อน ๆ กลุ่มอื่น ๆ ช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ปัญหา เขียนประโยคสัญลักษณ์และหาคำตอบลงในสมุด 3. ครูให้กลุ่มที่คิดโจทย์ปัญหาออกมาเฉลยคำตอบ โดยเขียนแสดงวิธีทำอย่างละเอียดบนกระดาน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง หมายเหตุ : ครูให้นักเรียนผลัดกันออกมานำเสนอโจทย์ปัญหาและทำเช่นนี้จนครบทุกกลุ่ม ขั้นสรุป ขั้นที่ 7 การประยุกต์ใช้ความรู้ 1. ครูแจกใบงานที่ 2.5 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ ให้นักเรียน ทุกคนทำ จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ 2. ครูให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 1-5 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 77-78 ชั ่วโมงที่ 3
101 จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคู่ส่งตัวแทนออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 3. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน 4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ 1-2 ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 52-56 เป็นการบ้าน 5. ครูให้นักเรียนตอบคำถามท้าทายการคิดขั้นสูงและกิจกรรมเชื่อมโยงสู่ชีวิตประจำวัน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ป.5 เล่ม 1 หน้า 36 แล้วครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ 6. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำชิ้นงาน สมุดเล่มเล็ก เรื่อง การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของ เศษส่วน โดยตกแต่งให้สวยงาม แล้วนำมาส่งครูในชั่วโมงถัดไป 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจชิ้นงาน สมุดเล่มเล็ก เรื่อง การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของ เศษส่วน - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7.2 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของเศษส่วนและ จำนวนคละ - ตรวจใบงานที่ 2.5 - ตรวจกิจกรรม ฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2.5 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7.3 การประเมินหลังเรียน
102 รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน - แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน 2) แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การคูณ การหาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน 3) ใบงานที่ 2.5 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ 4) กระดาษสีขนาด 5 × 10 เซนติเมตร 5) บัตรโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน
103 ใบงานที่2.5 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ คำชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์จากโจทย์ปัญหาต่อไปนี้ 1. แพรวมีเงิน 5,600 บาท พลอยมีเงินเป็น 3 1 4 เท่าของเงินแพรว และพราวมีเงินเป็น 4 5 ของเงินแพรว สามคนมีเงินรวมกันเท่าใด เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 2. สวนแห่งหนึ่งมีพื้นที่ 152 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงอกร่อง 3 8 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ปลูกมะม่วงเขียวเสวย 9 16 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ที่เหลือปลูกมะพร้าว สวนแห่งนี้ปลูกมะพร้าวทั้งหมดกี่ไร่ เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 3. ไม้ท่อนหนึ่งยาว 3 6 4 เมตร ตัดปลายด้านหนึ่งออก 1 2 เมตร ที่เหลือนำมาตัดเป็น 5 ท่อน ยาวท่อนละเท่า ๆ กัน จะได้ไม้แต่ละท่อนยาวกี่เมตร เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 4. ถนนเส้นหนึ่งยาว 56 กิโลเมตร ราดยางไปแล้ว 3 4 ของระยะทางทั้งหมด เหลือถนนที่ยังไม่ราดยางเป็นระยะทาง เท่าใด เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 5. ที่ดินแปลงหนึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 30 ไร่ แบ่งปลูกบ้าน 1 5 ของเนื้อที่ทั้งหมด ขุดบ่อน้ำ 2 3 ของเนื้อที่ทั้งหมด อยากทราบว่ามีที่ดินเหลืออยู่กี่ไร่ เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์
104 ใบงานที่2.5 เฉลย เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ คำชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์จากโจทย์ปัญหาต่อไปนี้ 1. แพรวมีเงิน 5,600 บาท พลอยมีเงินเป็น 3 1 4 เท่าของเงินแพรว และพราวมีเงินเป็น 4 5 ของเงินแพรว สามคนมีเงินรวมกันเท่าใด เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 2. สวนแห่งหนึ่งมีพื้นที่ 152 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงอกร่อง 3 8 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ปลูกมะม่วงเขียวเสวย 9 16 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ที่เหลือปลูกมะพร้าว สวนแห่งนี้ปลูกมะพร้าวทั้งหมดกี่ไร่ เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 3. ไม้ท่อนหนึ่งยาว 3 6 4 เมตร ตัดปลายด้านหนึ่งออก 1 2 เมตร ที่เหลือนำมาตัดเป็น 5 ท่อน ยาวท่อนละเท่า ๆ กัน จะได้ไม้แต่ละท่อนยาวกี่เมตร เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 4. ถนนเส้นหนึ่งยาว 56 กิโลเมตร ราดยางไปแล้ว 3 4 ของระยะทางทั้งหมด เหลือถนนที่ยังไม่ราดยางเป็นระยะทาง เท่าใด เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 5. ที่ดินแปลงหนึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 30 ไร่แบ่งปลูกบ้าน 1 5 ของเนื้อที่ทั้งหมด ขุดบ่อน้ำ 2 3 ของเนื้อที่ทั้งหมด อยากทราบว่ามีที่ดินเหลืออยู่กี่ไร่ เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 3 4 3 1 ×5,600 + × 1 ×5,600 +5,600= 4 5 4 3 9 152- ×152 + ×152 = 8 16 3 1 6 - ÷ 5= 4 2 3 56- ×56 = 4 1 2 30- ×30 + ×30 = 5 3
105 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม เวลา 15 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้น จากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยม ป.5/8 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 2 ขั้นตอน 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม 2) ค่าประมาณของทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งที่เป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม 1 ตำแหน่งและ 2 ตำแหน่ง การใช้เครื่องหมาย 3) การประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 4) การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับทศนิยม 2.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เศษส่วนและทศนิยมมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งทศนิยมสามารถเขียนในรูปเศษส่วนและเศษส่วนสามารถเขียนใน รูปทศนิยมได้ทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งสามารถประมาณเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม 1 ตำแหน่งหรือทศนิยม 2 ตำแหน่งได้การบวกและการลบทศนิยมมีวิธีการเหมือนกับการบวกและการลบจำนวนนับ โดยตั้งหลักเลขและ จุด ทศนิยมให้ตรงกันแล้วบวกหรือลบกันเหมือนจำนวนนับและสามารถตรวจสอบคำตอบโดยใช้การประมาณได้ส่วน การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบทศนิยมต้องเริ่มจากการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา เขียนประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธีทำ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย
106 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการแปลความ 2) ทักษะการเชื่อมโยง 3) ทักษะการให้เหตุผล 4) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 5) ทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - สมุดเล่มเล็ก เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม 6. การวัดและการประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 6.1 การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจชิ้นงาน สมุดเล่มเล็ก เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6.2 การประเมิน ก่อนเรียน - แบบทดสอบ ก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง 6.3 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) ความสัมพันธ์ ระหว่างเศษส่วน และทศนิยม - ตรวจใบงานที่ 3.1 - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 3.1 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
107 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 2) การหาค่าประมาณ ของทศนิยมไม่เกิน สามตำแหน่ง - ตรวจใบงานที่ 3.2 - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 3.2 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) การบวกและ การลบทศนิยม ไม่เกินสาม ตำแหน่ง - ตรวจใบงานที่ 3.3 - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 3.3 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 4) โจทย์ปัญหา การบวกและ การลบทศนิยม ไม่เกินสาม ตำแหน่ง - ตรวจใบงานที่ 3.4 - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 3.4 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 5) การนำเสนอ ผลงาน/ผลการ ทำกิจกรรม - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน/ผลการ ทำกิจกรรม - แบบประเมินการ นำเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6) พฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6.4 การประเมิน หลังเรียน - แบบทดสอบ หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ ที่ 3 ทศนิยม และการบวก - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
108 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน การลบทศนิยม 7. กิจกรรมการเรียนรู้ • เรื่องที่ 1 : ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม เวลา 4 ชั่วโมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : ช่วยกันคิดช่วยกันเรียน • เรื่องที่ 2 : การหาค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง เวลา 4 ชั่วโมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : เทคนิคคู่คิด • เรื่องที่ 3 : การบวกและการลบทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง เวลา 4 ชั่วโมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • เรื่องที่ 4 : โจทย์ปัญหาการบวกและการลบทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง เวลา 3 ชั่วโมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : กระบวนการทางคณิตศาสตร์ (ทักษะการแก้ปัญหาโจทย์) (รวมเวลา 15 ชั่วโมง) 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม 2) แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม 3) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม 4) ใบงานที่3.2 เรื่อง การหาค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง 5) ใบงานที่3.3 เรื่อง การบวกและการลบทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง 6) ใบงานที่ 3.4 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง 7) แผนภาพ 8) บัตรตัวเลข 9) กระดาษบันไดงูค่าประมาณ 10) บัตรตัวเลขทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ทศนิยมสองตำแหน่ง และทศนิยมสามตำแหน่ง 11) กระดาษการ์ด 12) กระดานไวท์บอร์ด 13) บัตรตัวเลข 0-9 14) ชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ 15) แถบโจทย์ปัญหา 16) ปากกาเขียนไวท์บอร์ด 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน
109 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่3 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. 4 2 100 เขียนเป็นทศนิยมได้ตามข้อใด ก. 24 ข. 2.4 ค. 2.04 ง. 2.004 2. 0.452 เขียนเป็นเศษส่วนได้ตามข้อใด ก. 221 500 ข. 113 250 ค. 452 500 ง. 154 125 3. ข้อใดมีค่าเท่ากับ 8 5 ก. 0.8 ข. 1.2 ค. 1.4 ง. 1.6 4. ประมาณค่าใกล้เคียงของ 52.784 เป็นทศนิยม สองตำแหน่งได้ตามข้อใด ก. 52.77 ข. 52.78 ค. 52.79 ง. 52.80 5. ข้อใดไม่ถูกต้อง ก. 4.562 5 ข. 8.640 8.6 ค. 12.58 13 ง. 23.02 23.1 6. 99.162 + 161.276 มีค่าเท่ากับเท่าใด ก. 260.438 ข. 261.438 ค. 262.438 ง. 263.438 7. ข้อใดเป็นการประมาณค่าเป็นจำนวนเต็มของ 120.895 – 81.78 ก. 42 ข. 41 ค. 40 ง. 39 8. ข้อใดเป็นการประมาณค่าเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งของ 8.92 + 7.654 + 2.03 ก. 18.7 ข. 18.6 ค. 17.5 ง. 17.4 9. มายมีริบบิ้นเส้นแรกยาว 42.5 เซนติเมตร มีริบบิ้น เส้นที่สองยาว 37.6 เซนติเมตร มายมีริบบิ้นเส้นแรก ยาวกว่าเส้นที่สองกี่เซนติเมตร ก. 5.9 เซนติเมตร ข. 5.8 เซนติเมตร ค. 4.9 เซนติเมตร ง. 4.8 เซนติเมตร 10. โต้งหนัก 31.7 กิโลกรัม ต้นหนักกว่าโต้ง 5.8 กิโลกรัม ต้นหนักประมาณกี่กิโลกรัม (ประมาณคำตอบเป็นจำนวนเต็ม) ก. 36 กิโลกรัม ข. 37 กิโลกรัม ค. 38 กิโลกรัม ง. 39 กิโลกรัม เฉลย 1. ค 2. ข 3. ง 4. ข 5. ง 6. ก 7. ง 8. ข 9. ค 10. ค
110 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) (แผนฯ ที่ 5) การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) (แผนฯ ที่ 4) แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่3 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. 4 2 10 เขียนเป็นทศนิยมได้ตามข้อใด ก. 2.4 ข. 2.04 ค. 2.040 ง. 2.004 2. 0.045 เขียนเป็นเศษส่วนได้ตามข้อใด ก. 5 4 10 ข. 45 100 ค. 5 25 ง. 9 200 3. ข้อใดมีค่าเท่ากับ 105 125 ก. 0.84 ข. 0.85 ค. 1.840 ง. 1.850 4. ประมาณค่าใกล้เคียงของ 52.784 เป็นทศนิยม หนึ่งตำแหน่งได้ตามข้อใด ก. 52.7 ข. 52.8 ค. 52.9 ง. 53.0 5. ข้อใดถูกต้อง ก. 4.562 4.5 ข. 8.640 8.6 ค. 12.58 12 ง. 23.02 23.01 6. 909.162 – 161.276 มีค่าเท่ากับเท่าใด ก. 786.886 ข. 767.786 ค. 747.886 ง. 657.986 7. ข้อใดเป็นการประมาณค่าเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งของ 120.895 – 81.78 ก. 40.2 ข. 40.1 ค. 39.2 ง. 39.1 8. ข้อใดเป็นการประมาณค่าเป็นทศนิยมสองตำแหน่ง ของ 8.905 + 7.654 + 2.03 ก. 18.59 ข. 18.61 ค. 18.63 ง. 18.65 9. ริบบิ้นเส้นแรกยาว 42.5 เซนติเมตร ริบบิ้นเส้นที่สอง ยาวกว่าเส้นแรก 3.6 เซนติเมตร ริบบิ้นเส้นที่สองยาว กี่เซนติเมตร ก. 45.1 เซนติเมตร ข. 46.1 เซนติเมตร ค. 47.1 เซนติเมตร ง. 48.1 เซนติเมตร 10. นัดหนัก 41.8 กิโลกรัม นนท์หนักน้อยกว่านัด 5.2 กิโลกรัม นนท์หนักประมาณกี่กิโลกรัม (ประมาณคำตอบเป็นจำนวนเต็ม) ก. 35 กิโลกรัม ข. 36 กิโลกรัม ค. 37 กิโลกรัม ง. 38 กิโลกรัม เฉลย 1. ก 2. ง 3. ก 4. ข 5. ข 6. ค 7. ง 8. ก 9. ข 10. ค
111 แบบประเมินชิ้นงาน สมุดเล่มเล็ก เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1 รูปเล่ม/การสร้างผลงาน 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 ความถูกต้องของเนื้อหา 4 กำหนดเวลาส่งงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .............../.................../..............
112 เกณฑ์การประเมินชิ้นงาน สมุดเล่มเล็ก เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม (แผนฯ ที่ 4) รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. รูปเล่ม/การสร้าง ผลงาน ตกแต่งผลงานได้สวยงาม มีความคิดสร้างสรรค์ดีมาก ทำงานสะอาดและ เรียบร้อยดีมาก ตกแต่งผลงานได้สวยงาม มีความคิดสร้างสรรค์ดี ทำงานสะอาดและ เรียบร้อยดี ตกแต่งผลงานได้ค่อนข้าง สวยงามและมีความคิด สร้างสรรค์ แต่ทำงาน ไม่ค่อยสะอาด 2. ความคิดสร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็นระบบ ผลงานมีแนวคิด แปลกใหม่ แต่ยัง ไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิด แปลกใหม่ 3. ความถูกต้องของ เนื้อหา เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้อง ครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องบางประเด็น 4. กำหนดเวลาส่งงาน ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่ กำหนด ส่งชิ้นงานช้ากว่ากำหนด 1-2 วัน ส่งชิ้นงานช้ากว่ากำหนด เกิน 3 วันขึ้นไป เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11-12 ดีมาก 9-10 ดี 6-8 พอใช้ ต่ำกว่า 6 ปรับปรุง
113 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องทีตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
114 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
115 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ำใจ การมีส่วน ร่วมในการ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
116 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็น ประโยชน์ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่ โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ ครอบครัวมีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา - มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6 . มุ่ ง มั่ น ใน ก า ร ทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียน และโรงเรียน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ................/.............../................
117 เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 51-60 ดีมาก 41-50 ดี 30-40 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง
118 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม เวลา 4 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) เข้าใจหลักการเขียนเศษส่วนในรูปทศนิยม (K) 2) เข้าใจหลักการเขียนทศนิยมในรูปเศษส่วน (K) 3) เขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยมได้(P) 4) เขียนทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่งในรูปเศษส่วนอย่างต่ำได้ (P) 5) รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 10 สามารถเขียนเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง เศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 100 สามารถเขียน เป็นทศนิยมสองตำแหน่ง และเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 1,000 สามารถเขียนเป็นทศนิยมสามตำแหน่ง เศษส่วนที่มี ตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ 10, 100 และ 1,000 สามารถเขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมได้ และทศนิยมทุกจำนวน สามารถเขียนให้อยู่ในรูปของเศษส่วนได้ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการแปลความ 2) ทักษะการเชื่อมโยง 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
119 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : ช่วยกันคิดช่วยกันเรียน นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม ขั้นนำ 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและทบทวนความรู้เรื่องเศษส่วนและทศนิยมที่นักเรียนเคยเรียนมาแล้วใน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการถาม-ตอบ ดังนี้ • เศษส่วนแท้มีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ ตัวเศษน้อยกว่าตัวส่วน) • เศษเกินมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ ตัวเศษเท่ากับหรือมากกว่าตัวส่วน) • จำนวนคละมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ เขียนในรูปจำนวนนับกับเศษส่วนแท้) • เศษส่วนอย่างต่ำมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ เศษส่วนที่ไม่มีจำนวนนับใดที่มากกว่า 1 หารทั้งตัวเศษและตัวส่วนได้ลงตัว) • นักเรียนสามารถอ่านทศนิยมได้อย่างไร (แนวตอบ การอ่านทศนิยม เริ่มอ่านจากตัวเลขที่อยู่หน้าจุดทศนิยมโดยอ่านเหมือนจำนวนนับ และตัวเลขที่ อยู่หลังจุดทศนิยมให้อ่านเรียงตัวจากซ้ายไปขวา) • ทศนิยมหนึ่งตำแหน่งมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ มีตัวเลขหลังจุดทศนิยม 1 ตัว หรือ 1 ส่วนใน 10 ส่วน) • ทศนิยมสองตำแหน่งมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ มีตัวเลขหลังจุดทศนิยม 2 ตัว หรือ 1 ส่วนใน 100 ส่วน) • ทศนิยมสามตำแหน่งมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ มีตัวเลขหลังจุดทศนิยม 3 ตัว หรือ 1 ส่วนใน 1,000 ส่วน) 2. ครูให้นักเรียนทำเตรียมพร้อมก่อนเรียนในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 83 จากนั้นครู และนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ 3. ครูติดแผนภาพบนกระดาน จากนั้นถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ ชั ่วโมงที่ 1
120 • จากแผนภาพ เขียนแสดงเศษส่วนและทศนิยมได้อย่างไร (แนวตอบ 5 10 และ 0.5) ขั้นสอน 1. ครูติดแผนภาพต่อไปนี้บนกระดาน แล้วสุ่มนักเรียนออกมาเขียนเศษส่วนและทศนิยมจากแผนภาพ คนละ 1 ภาพ เขียนในรูปเศษส่วน 3 10 เขียนในรูปทศนิยม 0.3 เขียนในรูปเศษส่วน 18 100 เขียนในรูปทศนิยม 0.18 เขียนในรูปเศษส่วน 53 1,000 เขียนในรูปทศนิยม 0.053 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันตรวจสอบว่าเศษส่วนและทศนิยมที่เพื่อนเขียนถูกต้องหรือไม่ แล้วร่วมกันสังเกต ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยมบนกระดาน จากนั้นครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ • เศษส่วนและทศนิยมที่เพื่อนเขียนมีค่าเท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวตอบ เท่ากัน เพราะเป็นจำนวนที่ได้จากการแทนค่าของแผนภาพเดียวกัน) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 10, 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยมว่า “เศษส่วน ที่มีตัวส่วนเป็น 10 สามารถเขียนเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง เศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 100 สามารถเขียนเป็น ทศนิยมสองตำแหน่ง และเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 1,000 สามารถเขียนเป็นทศนิยมสามตำแหน่ง” 4. ครูให้นักเรียนจับคู่ศึกษาตัวอย่างที่ 1 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 85 5. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม “พิซซา หน้าเดียว” โดยครูอธิบายกติกาการเล่นเกมให้นักเรียนฟังว่า นักเรียนแต่ละ คนจะได้หยิบรูปพิซซาที่แสดงเศษส่วน ทศนิยม และรูปภาพ คนละ 1 ชิ้น เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณให้นักเรียน หาพิซซาที่มีค่าเท่ากันที่แสดงด้วยเศษส่วน ทศนิยม และรูปภาพมาวางประกอบกันเป็นพิซซาถาดใหญ่ที่ สมบูรณ์ เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณอีกครั้งให้นักเรียนพลิกหน้าพิซซาดูหากหน้าพิซซาเหมือนกันแสดงว่า
121 เศษส่วน ทศนิยม และรูปภาพนั้น ๆ มีค่าเท่ากัน หมายเหตุ : ครูให้นักเรียนสลับรูปชิ้นส่วนพิซซาแล้วทำกิจกรรม 3-4 รอบ 6. ครูให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 86 ลงในสมุด เมื่อทำเสร็จแล้วนำส่งครู 7. ครูทบทวนความรู้เรื่อง การเขียนเศษส่วนในรูปทศนิยม โดยสุ่มนักเรียนออกมาเขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 10, 100 หรือ 1,000 บนกระดาน แล้วให้นักเรียนเลือกเพื่อนออกมาเขียนทศนิยมที่มีค่าเท่ากับเศษส่วนนั้น ให้ถูกต้อง หมายเหตุ : ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมนี้ 4-5 ครั้ง 8. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาหยิบบัตรตัวเลข แล้วเเข่งขันกันหา จำนวนมาคูณกับจำนวนในบัตรตัวเลขที่ได้รับ โดยให้มีผลลัพธ์เป็น 10 หรือ 100 หรือ 1,000 อย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นให้นักเรียนในชั้นเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 9. ครูให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเกี่ยวกับการเขียนเศษส่วนที่มี 10, 100 หรือ 1,000 เป็นพหุคูณของตัวส่วน ในรูปทศนิยม ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 87-91 โดยให้สมาชิกแต่ละคนผลัดกันอธิบาย ความรู้จนเกิดความเข้าใจตรงกัน 10. ครูเขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นจำนวนที่อยู่บนบัตรตัวเลขบนกระดาน จากนั้นครูสุ่มถามนักเรียนว่า นักเรียนสามารถเขียนเศษส่วนให้มีตัวส่วนเป็น 10, 100 หรือ 1,000 ได้หรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ ได้ โดยหาจำนวนมาคูณกับตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วนนั้น เช่น ถ้าเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 5 แล้วต้องการทำตัวส่วนให้เป็น 10 ทำได้โดยนำ 2 มาคูณทั้งตัวเศษและตัวส่วน) 11. ครูสุ่มถามนักเรียนอีกว่า เศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นจำนวนเหล่านั้น สามารถทำให้อยู่ในรูปทศนิยมได้หรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ ได้ โดยเขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นจำนวนเหล่านั้น ให้มีตัวส่วนเป็น 10, 100 หรือ 1,000 จากนั้นจึงเขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ทศนิยมสองตำแหน่ง หรือทศนิยมสามตำแหน่ง) 12. ครูยกตัวอย่างเพิ่มเติมโดยนำบัตรตัวเลขติดบนกระดาน เช่น 11 9 7 , , 5 2 8 แล้วสุ่มเลือกนักเรียนออกมา เขียนเศษส่วนดังกล่าวในรูปทศนิยม 13. ครูให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 88, 89 และ 91 ลงในสมุด เมื่อทำเสร็จแล้วนำส่งครู 14. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ ชั ่วโมงที่ 2 ชั ่วโมงที่ 3 2 4 5 8 20 25 40 50 125 200 500
122 • ทศนิยมกับเศษส่วนมีความสัมพันธ์กันอย่างไร (แนวตอบ เศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 10 เมื่อเขียนในรูปทศนิยมจะเขียนได้เป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง เศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 100 เมื่อเขียนในรูปทศนิยมจะเขียนได้เป็นทศนิยมสองตำแหน่ง และเศษส่วนที่มี ตัวส่วนเป็น 1,000 เมื่อเขียนในรูปทศนิยมจะเขียนได้เป็นทศนิยมสามตำแหน่ง) • ทศนิยมสามารถเขียนให้อยู่ในรูปเศษส่วนได้หรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ ได้ โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม) 15. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากชั่วโมงที่แล้ว) โดยให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเกี่ยวกับการเขียน ทศนิยมในรูปเศษส่วน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 92 แล้วให้สมาชิกแต่ละคนผลัดกัน อธิบายความรู้จนเกิดความเข้าใจตรงกัน 16. ครูให้นักเรียนทุกกลุ่มเล่นเกม “คู่หู คู่เฮ” โดยอธิบายกติกาการเล่นให้นักเรียนฟังว่า เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเปิดบัตรทศนิยมที่ติดอยู่ด้านซ้ายของกระดาน แล้วให้สมาชิกอีกคนออกมาเปิด บัตรเศษส่วนที่ติดอยู่ทางด้านขวาของกระดาน หากบัตรทศนิยมและเศษส่วนที่เปิดมีค่าเท่ากันให้ร้อง “เฮ” แล้วเก็บบัตรคู่นั้นไว้แต่ละกลุ่มให้สมาชิกสลับกันออกมาหาคู่บัตรทศนิยมและเศษส่วนที่เท่ากันจนกว่าจะหมด เวลา กลุ่มที่จับคู่ทศนิยมและเศษส่วนที่เท่ากันได้มากที่สุดเป็นกลุ่มที่ชนะ 17. ครูให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 93 ลงในสมุด เมื่อทำเสร็จแล้วนำส่งครู 18. ครูให้นักเรียนทุกคนทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม จากนั้นครูสุ่มนักเรียน ออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 19. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน โดยให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับสลากหมายเลข 1-6 จากนั้นให้แต่ละกลุ่มร่วมกันทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 1-6 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ป.5 เล่ม 1 หน้า 94-95 ตามข้อที่กลุ่มของตนเองจับสลากได้ เมื่อแต่ละกลุ่มทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูขออาสาสมัคร ออกมาเขียนแสดงวิธีทำอย่างละเอียดบนกระดาน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นสรุป 1. ครูถามคำถามจากกรอบความรู้ที่ได้ ดังนี้ • 3 75 30 1 1 และ 1 4 100 40 เขียนเป็นทศนิยมที่เท่ากันได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น 3 75 1 1 4 100 และ 30 1 40 สามารถเขียนเป็นทศนิยมที่เท่ากันได้ เพราะเมื่อนำจำนวนคละที่โจทย์กำหนดให้ มาเขียนให้อยู่ในรูป ทศนิยมจะมีค่าเท่ากับ 1.75 ทั้งสามจำนวน) • 2.50 กับ 1 2 2 เท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด ชั ่วโมงที่ 4
123 (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น เท่ากัน เพราะเมื่อนำ 1 2 2 มาเขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมจะมีค่าเท่ากับ 2.50) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า “การเขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นพหุคูณของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยมทำได้โดย 1) ทำเศษส่วนให้เป็นเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็น 10 หรือ 100 หรือ 1,000 2) เขียนเศษส่วนในรูปทศนิยม 1 ตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง หรือ 3 ตำแหน่ง” 3. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ 1-6 ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 64-66 เป็นการบ้าน 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง 7.2 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) ความสัมพันธ์ระหว่าง เศษส่วนและทศนิยม - ตรวจใบงานที่ 3.1 - ตรวจกิจกรรม ฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 3.1 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
124 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม 2) แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม 3) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม 4) แผนภาพ 5) บัตรตัวเลข 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน
125 ใบงานที่3.1 เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม คำชี้แจง : เขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปทศนิยมและเขียนทศนิยมให้อยู่ในรูปเศษส่วน 1. เขียนเศษส่วนต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปทศนิยมสามตำแหน่ง 1) 9 2 2) 32 100 3) 3 8 4) 12 25 5) 184 250 6) 784 1,000 2. แสดงวิธีเขียนทศนิยมที่กำหนดให้ในรูปเศษส่วน 1) 2.115 2) 15.014 3) 5.21 4) 71.3
126 ใบงานที่3.1 เฉลย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม คำชี้แจง : เขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปทศนิยมและเขียนทศนิยมให้อยู่ในรูปเศษส่วน 1. เขียนเศษส่วนต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปทศนิยมสามตำแหน่ง 1) 9 2 2) 32 100 3) 3 8 4) 12 25 5) 184 250 6) 784 1,000 2. แสดงวิธีเขียนทศนิยมที่กำหนดให้ในรูปเศษส่วน 1) 2.115 2) 15.014 3) 5.21 4) 71.3 9 500 × 2 500 32 10 × 100 10 3 125 × 8 125 12 40 × 25 40 184 4 × 250 4 0.784 = = = = = 4,500 1,000 320 1,000 375 1,000 480 1,000 736 1,000 = = = = = 4.500 0.320 0.375 0.480 0.736 วิธี ท ำ วิธี ท ำ วิธี ท ำ วิธี ท ำ ตอ บ ตอ บ ตอ บ ตอ บ 2.115 = = = 115 2+ 1,000 115 2 1,000 23 2 200 ๒๓ ๒ ๒๐๐ 15.014 = = = 14 15+ 1,000 14 151,000 7 15500 ๗ ๑๕ ๕๐๐ 5.21 = = 21 5+100 21 5 100 ๒๑ ๕ ๑๐๐ 71.3 = = 3 71+10 3 7110 ๓ ๗๑ ๑๐
127 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 การหาค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง เวลา 4 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) เข้าใจหลักการประมาณค่าทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง (K) 2) เขียนค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่งเป็นจำนวนเต็มได้ (P) 3) เขียนค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่งเป็นทศนิยม 1 ตำแหน่งได้ (P) 4) เขียนค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่งเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่งได้ (P) 5) รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ค่าประมาณของทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งที่เป็น จำนวนเต็ม ทศนิยม 1 ตำแหน่งและ 2 ตำแหน่ง การใช้เครื่องหมาย พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การหาค่าประมาณของทศนิยม โดยพิจารณาว่าทศนิยมที่ต้องการประมาณค่าเป็นจำนวนเต็ม เป็นทศนิยม 1 ตำแหน่ง หรือเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง จากนั้นพิจารณาเลขโดดในหลักก่อนหน้า เช่น ถ้าต้องการประมาณค่าเป็น จำนวนเต็ม ให้พิจารณาเลขโดดในหลักส่วนสิบ ถ้าเลขโดดในหลักก่อนหน้ามีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 4 ให้ประมาณเป็น จำนวนที่น้อยกว่า ถ้าเลขโดดในหลักก่อนหน้ามีค่าตั้งแต่ 5 ถึง 9 ให้ประมาณเป็นจำนวนที่มากกว่า 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการแปลความ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
128 2) ทักษะการเชื่อมโยง 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : เทคนิคคู่คิด ขั้นนำ 1. ครูทบทวนความรู้เรื่อง การหาค่าประมาณของจำนวนนับ ที่นักเรียนเคยเรียนมาแล้วในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยเขียนเส้นจำนวนต่อไปนี้บนกระดาน จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “หลักการประมาณค่าเป็นจำนวนเต็มสิบ เต็มร้อย เต็มพัน เต็มหมื่น เต็มแสน และเต็มล้าน มีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 พิจารณาดูว่าจำนวนนับที่ต้องการประมาณค่าอยู่ระหว่างจำนวนเต็มอะไรกับจำนวนเต็มอะไร ขั้นที่ 2 พิจารณาเลขโดดในหลักก่อนหน้า เช่น ถ้าต้องการประมาณค่าจำนวนเต็มสิบ ให้พิจารณาเลขโดด ในหลักหน่วย ขั้นที่ 3 ถ้าเลขโดดในหลักก่อนหน้ามีค่าตั้งแต่ 5 ถึง 9 ให้ประมาณเป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า ถ้าเลขโดด ในหลักก่อนหน้ามีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 4 ให้ประมาณเป็นจำนวนเต็มที่น้อยกว่า” 2. ครูให้นักเรียนจับคู่ร่วมกันวิเคราะห์และตอบคำถาม ดังต่อไปนี้ • การหาค่าประมาณของ 33 เป็นจำนวนเต็มสิบทำได้อย่างไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การหาค่าประมาณ ของ 33 เป็นจำนวนเต็มสิบ โดยพิจารณาเลขโดดในหลักหน่วย ซึ่ง 33 มี 3 อยู่ในหลักหน่วย ซึ่งน้อยกว่า 5 จึงประมาณเป็น 30) • การหาค่าประมาณของ 285 เป็นจำนวนเต็มร้อยทำได้อย่างไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การหาค่าประมาณ ของ 285 เป็นจำนวนเต็มร้อย โดยพิจารณาเลขโดดในหลักสิบ ซึ่ง 285 มี 8 อยู่ในหลักสิบ ซึ่งมากกว่า 5 จึง ประมาณเป็น 300) • การหาค่าประมาณของ 2,514 เป็นจำนวนเต็มพันทำได้อย่างไร ชั ่วโมงที่ 1 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 พ ำเพะไดไxiปรกสำกน นกๆกฟหดด ำไ ปรกสำ xi พ ำเพะไดไ ประมาณเป็นจ านวนเต็มที่มากกว่า ประมาณเป็นจ านวนเต็มที่น้อยกว่า
129 (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การหาค่าประมาณ ของ 2,514 เป็นจำนวนเต็มพัน โดยพิจารณาเลขโดดในหลักร้อย ซึ่ง 2,514 มี 5 อยู่ในหลักร้อย ซึ่งเท่ากับ 5 จึงประมาณเป็น 3,000) • การหาค่าประมาณของ 34,567 เป็นจำนวนเต็มหมื่นทำได้อย่างไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การหาค่าประมาณ ของ 34,567 เป็นจำนวนเต็มหมื่น โดยพิจารณาเลขโดดในหลักพัน ซึ่ง 34,567 มี 4 อยู่ในหลักพัน ซึ่งน้อยกว่า 5 จึงประมาณเป็น 30,000) • การหาค่าประมาณของ 280,514 เป็นจำนวนเต็มแสนทำได้อย่างไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การหาค่าประมาณ ของ 280,514 เป็นจำนวนเต็มแสน โดยพิจารณาเลขโดดในหลักหมื่น ซึ่ง 280,514 มี 8 อยู่ในหลักหมื่น ซึ่งมากกว่า 5 จึงประมาณเป็น 300,000) • การหาค่าประมาณของ 3,402,514 เป็นจำนวนเต็มล้านทำได้อย่างไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การหาค่าประมาณ ของ 3,402,514 เป็นจำนวนเต็มล้าน โดยพิจารณาเลขโดดในหลักแสน ซึ่ง 3,402,514 มี 4 อยู่ในหลักแสน ซึ่งน้อยกว่า 5 จึงประมาณเป็น 3,000,000) ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนศึกษาการหาค่าประมาณเป็นจำนวนเต็ม ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ป.5 เล่ม 1 หน้า 96-97 จากนั้นให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนข้าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน สนทนาซักถามจนเป็นที่เข้าใจ ตรงกัน 2. ครูถามคำถาม ดังนี้ • ถ้าเลขโดดในหลักส่วนสิบน้อยกว่า 5 จะประมาณเป็นจำนวนเต็มที่น้อยกว่าหรือมากกว่าจำนวนนั้น (แนวตอบ น้อยกว่า เช่น 3.4 3 ) • ถ้าเลขโดดในหลักส่วนสิบมากกว่าหรือเท่ากับ 5 จะประมาณเป็นจำนวนเต็มที่น้อยกว่าหรือมากกว่า จำนวนนั้น (แนวตอบ มากกว่า เช่น 11.8 12 ) • การหาค่าประมาณของทศนิยมสองตำแหน่งเป็นจำนวนเต็ม ให้พิจารณาเลขโดดในหลักใด (แนวตอบ หลักส่วนสิบ) • การหาค่าประมาณของทศนิยมสามตำแหน่งเป็นจำนวนเต็ม ให้พิจารณาเลขโดดในหลักใด (แนวตอบ หลักส่วนสิบ) 3. ครูให้นักเรียนคู่เดิมร่วมกันทำกิจกรรม “ดอกไม้ค่าประมาณ” โดยครูติดกระดาษสีรูปวงกลมที่มีตัวเลขระบุไว้ บนกระดาน ดังนี้ 25 12 19 100
130 จากนั้นครูแจกกระดาษ A4 ให้นักเรียนแต่ละคู่ แล้วให้แต่ละคู่ส่งตัวแทนออกมาหยิบกระดาษสีรูปวงกลม ในกล่องที่ครูได้เตรียมไว้ให้แล้วให้แต่ละคู่ร่วมกันเขียนทศนิยมที่มีค่าประมาณเป็นจำนวนเต็มที่เท่ากับจำนวน ในรูปวงกลมที่ติดไว้บนกระดาน แล้วนำไปติดเป็นรูปดอกไม้ลงในกระดาษ A4 ที่ครูแจกให้ ดังตัวอย่าง 4. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คู่ ออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครูให้นักเรียนจับคู่ (คู่ใหม่) ทำกิจกรรมโดยใช้เทคนิคคู่คิด (Think Pair Share) ดังนี้ • ให้นักเรียนแต่ละคนคิดคำตอบของตนเองจาก กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 98 • ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนคำตอบ และสนทนาซักถามจนเป็นที่เข้าใจร่วมกัน • ครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 6. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 1 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 103 และทำแบบฝึกหัด ข้อ 1 ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 67 เป็นการบ้าน 7. ครูทบทวนความรู้เรื่อง การหาค่าประมาณเป็นจำนวนเต็ม โดยการถาม-ตอบ ดังนี้ • นักเรียนคิดว่าการหาค่าประมาณของทศนิยมสองตำแหน่ง และทศนิยมสามตำแหน่งให้เป็นจำนวนเต็ม เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น แตกต่างกัน เพราะ การหาค่าประมาณของทศนิยมสองตำแหน่ง ต้องพิจารณาเลขโดดในหลักส่วนสิบ แต่การหาค่าประมาณ ของทศนิยมสามตำแหน่งนั้น ต้องพิจารณาเลขโดดในหลักส่วนร้อย จากนั้นใช้หลักการเดียวกันกับการหา ค่าประมาณของทศนิยมหนึ่งตำแหน่งเป็นจำนวนเต็ม) 8. ครูให้นักเรียนจับคู่ศึกษาการหาค่าประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 98-100 โดยครูเขียนเส้นจำนวนต่อไปนี้บนกระดาน และขออาสาสมัครออกมาเติมจำนวนที่หายไป จากนั้นครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ • จำนวนที่หายไปมีจำนวนใดบ้าง ชั ่วโมงที่ 2 25 25.4 25.15 24.87 24.6 24.95 25.49 2.30 2.31 … 2.33 2.35 2.36 2.37 2.39 2.3 2.4 … …. … …. … ….
131 (แนวตอบ 2.32, 2.34, 2.38 และ 2.40) • 2.33 อยู่ระหว่างจำนวนใด (แนวตอบ 2.33 อยู่ระหว่าง 2.3 และ 2.4) • 2.36 มีค่าใกล้เคียง 2.3 หรือ 2.4 (แนวตอบ 2.36 มีค่าใกล้เคียง 2.4 มากกว่า 2.3) • ค่าประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งของ 2.34 คือจำนวนใด (แนวตอบ ค่าประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งของ 2.34 คือ 2.3) • นักเรียนสามารถเขียนแสดงโดยใช้สัญลักษณ์ได้อย่างไร (แนวตอบ 2.34 2.3) 9. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “การหาค่าประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ถ้าเลขโดดในหลักส่วนร้อยน้อยกว่า 5 ให้ประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งที่น้อยกว่าจำนวนนั้น แต่ถ้าเลขโดดในหลักส่วนร้อยมากกว่าหรือเท่ากับ 5 ให้ประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งที่มากกว่าจำนวนนั้น” 10. ครูแจกกระดาษ A4 ให้นักเรียนแต่ละคู่ โดยให้นักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างการหาค่าประมาณของทศนิยม สามตำแหน่งเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง เมื่อทำเสร็จแล้วครูสุ่มนักเรียน 2 คู่ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 11. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “การหาค่าประมาณของทศนิยมสามตำแหน่งเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ให้พิจารณา เลขโดดในหลักส่วนร้อย จากนั้นใช้หลักการเดียวกันกับการหาค่าประมาณของทศนิยมสองตำแหน่งเป็น ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง” 12. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ร่วมกันทำกิจกรรม “บันไดงูค่าประมาณ” โดยครูแจกกระดาษบันไดงู ให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 แผ่น พร้อมลูกเต๋าและหมากเดิน แล้วอธิบายกติกาในการเล่นเกมให้นักเรียนฟังว่า ให้นักเรียนจับคู่ในกลุ่มของตนเอง จากนั้นแข่งขันกันโยนลูกเต๋าแล้วเดินหมากไปตามแต้มลูกเต๋าที่โยนได้ เมื่อหยุดที่ทศนิยมใดให้ประมาณค่าเป็นทศนิยม 1 ตำแหน่ง สลับกันเล่น หากคู่ใดประมาณค่าผิดจะต้องหยุด เล่น 1 ตา คู่ที่เดินเข้าเส้นชัยได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ 13. ครูให้นักเรียนจับคู่ (คู่เดิม) ทำกิจกรรมโดยใช้เทคนิคคู่คิด (Think Pair Share) ดังนี้ • ให้นักเรียนแต่ละคนคิดคำตอบของตนเองจาก กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 100 • ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนคำตอบ และสนทนาซักถามจนเป็นที่เข้าใจร่วมกัน • ครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 14. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 2 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 103 และทำแบบฝึกหัด ข้อ 2 ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 67-68 เป็นการบ้าน 15. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า “นทีชั่งน้ำหนักได้ 32.45 กิโลกรัม น้ำหนักของนทีมีค่าประมาณ เป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งเท่ากับเท่าใด” ชั ่วโมงที่ 3
132 (แนวตอบ น้ำหนักของนทีมีค่าประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่งเท่ากับ 32.5 กิโลกรัม) 16. ครูให้นักเรียนจับคู่ศึกษาการหาค่าประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่ง ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 101 โดยครูเขียนเส้นจำนวนต่อไปนี้บนกระดาน และขออาสาสมัครออกมาเติมจำนวนที่หายไป จากนั้นครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ • จำนวนที่หายไปมีจำนวนใดบ้าง (แนวตอบ 1.251, 1.252, 1.254, 1.255, 1.256 และ 1.258) • 1.253 อยู่ระหว่างจำนวนใด (แนวตอบ 1.253 อยู่ระหว่าง 1.25 และ 1.26) • 1.258 มีค่าใกล้เคียง 1.25 หรือ 1.26 (แนวตอบ 1.258 มีค่าใกล้เคียง 1.26 มากกว่า 1.25) • ค่าประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่งของ 1.256 คือจำนวนใด (แนวตอบ ค่าประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่งของ 1.256 คือ 1.26) • นักเรียนสามารถเขียนแสดงโดยใช้สัญลักษณ์ได้อย่างไร (แนวตอบ 1.256 1.26) 17. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “การหาค่าประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่ง ถ้าเลขโดดในหลักส่วนพันน้อยกว่า 5 ให้ประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่งที่น้อยกว่าจำนวนนั้น แต่ถ้าเลขโดดในหลักส่วนพันมากกว่าหรือเท่ากับ 5 ให้ประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่งที่มากกว่าจำนวนนั้น” 18. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่ร่วมกันทำกิจกรรมพัฒนาความรู้ ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 102 จากนั้นให้แต่ละคู่ส่งตัวแทนออกมารับกระดาษ A4 และบัตรตัวเลขจากครูคู่ละ 3 ชุด โดยบัตรตัวเลขเป็น ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ทศนิยมสองตำแหน่ง และทศนิยมสามตำแหน่งอย่างละ 1 ชุด แล้วสร้างเส้นจำนวน พร้อมหาค่าประมาณเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง และทศนิยมสองตำแหน่งจากบัตรตัวเลขแต่ละใบ ลงในกระดาษ A4 ที่ครูแจกให้เมื่อทำเสร็จแล้วครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบ ความถูกต้อง 19. ครูให้นักเรียนจับคู่ (คู่เดิม) ทำกิจกรรมโดยใช้เทคนิคคู่คิด (Think Pair Share) ดังนี้ • ให้นักเรียนแต่ละคนคิดคำตอบของตนเองจาก กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 102 • ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนคำตอบ และสนทนาซักถามจนเป็นที่เข้าใจร่วมกัน • ครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง 20. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 3 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 103 และทำแบบฝึกหัด ข้อ 3 ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 68-69 เป็นการบ้าน 1.250 … 1.253 1.257 1.259 1.25 1.26 … …. … …. 1.260 0 … …. … …. … ….
133 21. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า “บ้านของธารน้ำอยู่ห่างจากโรงเรียน 3.658 กิโลเมตร ระยะทางจากบ้านของธารน้ำถึงโรงเรียนมีค่าประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่งเท่ากับเท่าใด” (แนวตอบ ระยะทางจากบ้านของธารน้ำถึงโรงเรียนมีค่าประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่งเท่ากับ 3.66 กิโลเมตร) 22. ครูให้นักเรียนจับคู่ร่วมกันทำกิจกรรมโดยใช้เทคนิคคู่คิด (Think Pair Share) ดังนี้ • ให้นักเรียนแต่ละคนคิดคำตอบของตนเองจากใบงานที่ 3.2 เรื่อง การหาค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสาม ตำแหน่ง • ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนคำตอบ และสนทนาซักถามจนเป็นที่เข้าใจร่วมกัน • ครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า “การหาค่าประมาณของทศนิยม โดยพิจารณาว่าทศนิยมที่ต้องการประมาณค่า เป็นจำนวนเต็ม เป็นทศนิยม 1 ตำแหน่ง หรือเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง จากนั้นพิจารณาเลขโดดในหลักก่อนหน้า เช่น ถ้าต้องการประมาณค่าเป็นจำนวนเต็ม ให้พิจารณาเลขโดดในหลักส่วนสิบ ถ้าเลขโดดในหลักก่อนหน้า มีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 4 ให้ประมาณเป็นจำนวนที่น้อยกว่า ถ้าเลขโดดในหลักก่อนหน้ามีค่าตั้งแต่ 5 ถึง 9 ให้ประมาณเป็นจำนวนที่มากกว่า” 2. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ ข้อ 4-6 ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 103-104 และทำแบบฝึกหัด ข้อ 4-5 ในแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 69-70 เป็นการบ้าน 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) การหาค่าประมาณ ของทศนิยมไม่เกิน สามตำแหน่ง - ตรวจใบงานที่ 3.2 - ตรวจกิจกรรม ฝึกทักษะ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 3.2 - กิจกรรมฝึกทักษะ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอ ผลงาน/ผลการ ทำกิจกรรม - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน/ผลการ ทำกิจกรรม - แบบประเมินการ นำเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ชั ่วโมงที่ 4
134 รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 3) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม 2) แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบทศนิยม 3) ใบงานที่ 3.2 เรื่อง การหาค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง 4) กระดาษบันไดงูค่าประมาณ 5) บัตรตัวเลขทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ทศนิยมสองตำแหน่ง และทศนิยมสามตำแหน่ง 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน
135 ใบงานที่3.2 เรื่อง การหาค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง คำชี้แจง : ให้นักเรียนหาค่าประมาณของทศนิยมเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง และทศนิยมสองตำแหน่ง จากทศนิยมที่กำหนดให้ ข้อ ทศนิยม ค่าประมาณใกล้เคียงทศนิยม จำนวนเต็ม หนึ่งตำแหน่ง สองตำแหน่ง 1. 0.254 2. 1.234 3. 2.622 4. 3.105 5. 4.267 6. 8.217 7. 9.114 8. 12.054 9. 15.208 10. 20.328 11. 35.164 12. 42.627 13. 55.266 14. 62.197 15. 72.649
136 ใบงานที่3.2 เฉลย เรื่อง การหาค่าประมาณของทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง คำชี้แจง : ให้นักเรียนหาค่าประมาณของทศนิยมเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง และทศนิยมสองตำแหน่ง จากทศนิยมที่กำหนดให้ ข้อ ทศนิยม ค่าประมาณใกล้เคียงทศนิยม จำนวนเต็ม หนึ่งตำแหน่ง สองตำแหน่ง 1. 0.254 0 0.3 0.25 2. 1.234 1 1.2 1.23 3. 2.622 3 2.6 2.62 4. 3.105 3 3.1 3.11 5. 4.267 4 4.3 4.27 6. 8.217 8 8.2 8.22 7. 9.114 9 9.1 9.11 8. 12.054 12 12.1 12.05 9. 15.208 15 15.2 15.21 10. 20.328 20 20.3 20.33 11. 35.164 35 35.2 35.16 12. 42.627 43 42.6 42.63 13. 55.266 55 55.3 55.27 14. 62.197 62 62.2 62.20 15. 72.649 73 72.6 72.65